Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore คู่มือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เล่ม 1 (ปรับปรุงเดือนธ.ค.64)

คู่มือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เล่ม 1 (ปรับปรุงเดือนธ.ค.64)

Published by Warasinee Prasarnsieng, 2023-07-21 14:59:06

Description: คู่มือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เล่ม 1 (ปรับปรุงเดือนธ.ค.64)

Search

Read the Text Version

คู่มือครูรายวิชาพื้นฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เลม่ 1 | หน่วยท่ี 3 หินและซากดกึ ดาบรรพ์ บทท่ี 1 หิน วัฏจักรหิน และซากดกึ ดาบรรพ์ จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ประจาบท เมือ่ เรียนจบบทนี้ นักเรยี นสามารถ 1. เปรียบเทียบกระบวนการเกิดหินทั้งสามประเภท ได้แก่ หนิ อคั นี หนิ ตะกอน และหินแปร จากแบบจาลอง 2. อธิบายกระบวนการเปลี่ยนแปลงของหินแต่ละ ประเภทท่เี กดิ ข้นึ เปน็ วฏั จักรจากแบบจาลอง 3. ยกตัวอย่างการใช้ประโยชน์ของหินและแร่ ในชวี ิตประจาวนั 4. อธบิ ายการเกดิ ซากดกึ ดาบรรพจ์ ากแบบจาลอง 5. อธบิ ายประโยชนข์ องซากดึกดาบรรพ์ เวลา 15 ชั่วโมง แนวคดิ สาคญั หินส่วนใหญ่ประกอบด้วยแร่ที่รวมตัวกัน สามารถจาแนก หนิ ตามกระบวนการเกิดได้เปน็ 3 ประเภท ไดแ้ ก่ หนิ อคั นี หินตะกอน และหินแปร หินแต่ละประเภทมีการเปลี่ยนแปลง บทน้มี อี ะไร ไปมา โดยมกี ระบวนการเปล่ียนแปลงเป็นแบบรูปและต่อเนื่อง เร่ืองท่ี 1 กระบวนการเกิดหิน วัฏจักรหิน และ การนาหินและแรไ่ ปใชป้ ระโยชน์ เป็นวัฏจักร หินและแร่แต่ละชนิดมีลักษณะและสมบัติที่ กจิ กรรมท่ี 1.1 องคป์ ระกอบของหนิ มอี ะไรบา้ ง แตกต่างกันจึงนามาใช้ประโยชน์ได้แตกต่างกัน ในหินตะกอน กิจกรรมที่ 1.2 กระบวนการเกิดหินและวัฏจักรหิน อาจพบซากดึ กด าบร รพ์ ท่ี ใช้ เป็ นห ลั กฐ าน ใน กา ร ศึ ก ษ า เป็นอยา่ งไร กจิ กรรมท่ี 1.3 หินและแรม่ ีประโยชนอ์ ยา่ งไรบ้าง สภาพแวดลอ้ มในอดีตของพื้นท่ีหน่ึง ๆ ได้ เรือ่ งที่ 2 การเกิดซากดึกดาบรรพ์และการ สื่อการเรียนร้แู ละแหลง่ เรียนรู้ นาไปใชป้ ระโยชน์ กจิ กรรมท่ี 2.1 ซากดึกดาบรรพ์เกดิ ขึ้นได้อย่างไร 1. หนงั สือเรยี น ป.6 เล่ม 1 หน้า 64-119 กิจกรรมที่ 2.2 ซากดกึ ดาบรรพ์มปี ระโยชน์อย่างไร 2. แบบบันทกึ กิจกรรม ป.6 เล่ม 1 หนา้ 62-105 3. ชดุ ตวั อยา่ งหิน ไดแ้ ก่ หินอัคนี หนิ ตะกอน และหินแปร 4. แหล่งหินตามธรรมชาติในทอ้ งถนิ่ 5. พพิ ิธภณั ฑ์ทางธรณวี ทิ ยา 6. เวบ็ ไซตก์ รมทรพั ยากรธรณี http://www.dmr.go.th 7. เวบ็ ไซตส์ ารานุกรมสาหรับเยาวชน http://saranukromthai.or.th 160 สถาบันสง่ เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

คมู่ ือครรู ายวิชาพ้นื ฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เลม่ 1 | หนว่ ยท่ี 3 หนิ และซากดึกดาบรรพ์ ทกั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตรแ์ ละทักษะแห่งศตวรรษท่ี 21 กิจกรรมที่ 2.2 รหัส ทักษะ  1.1 1.2 1.3 2.1  ทกั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์   S1 การสงั เกต    S2 การวดั   S3 การใชจ้ านวน S4 การจาแนกประเภท S5 การหาความสมั พันธร์ ะหวา่ ง   สเปซกับสเปซ   สเปซกับเวลา S6 การจัดกระทาและส่ือความหมายขอ้ มลู S7 การพยากรณ์ S8 การลงความเหน็ จากขอ้ มลู  S9 การต้งั สมมติฐาน S10 การกาหนดนิยามเชิงปฏบิ ตั ิการ S11 การกาหนดและควบคมุ ตวั แปร S12 การทดลอง S13 การตคี วามหมายขอ้ มลู และลงขอ้ สรปุ  S14 การสรา้ งแบบจาลอง  ทกั ษะแห่งศตวรรษท่ี 21 C1 การสร้างสรรค์ C2 การคดิ อย่างมีวจิ ารณญาณ  C3 การแกป้ ญั หา C4 การสอ่ื สาร  C5 ความร่วมมอื  C6 การใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่ือสาร  หมายเหตุ : รหสั ทักษะท่ปี รากฏน้ี ใช้เฉพาะหนงั สอื คมู่ ือครเู ล่มน้ี สถาบันสง่ เสรมิ การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 161

คู่มือครรู ายวิชาพ้ืนฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เลม่ 1 | หน่วยที่ 3 หินและซากดกึ ดาบรรพ์ แนวคิดคลาดเคล่ือน แนวคิดคลาดเคล่ือนท่ีอาจพบและแนวคดิ ทีถ่ ูกต้องในบทท่ี 1 หนิ วัฏจักรหิน และซากดกึ ดาบรรพ์ มีดังตอ่ ไปนี้ แนวคดิ คลาดเคลอื่ น แนวคดิ ทถ่ี ูกตอ้ ง หินไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ (OSU, 2019; หินเปลี่ยนแปลงได้โดยปัจจัยต่าง ๆ ตามธรรมชาติ UCI, 2019) (Hamblin & Christiansen, 2001; Plummer, McGeary & Carlson, 2001; Skinner & Porter, 1989; Tarbuck, Lutgens & Tasa, 2012) หินและแรค่ อื ส่งิ เดยี วกัน (King, 2010) แร่เป็นส่วนประกอบของหิน หินส่วนใหญ่ประกอบดว้ ยแร่ ต้ังแต่ 1 ชนิดข้ึนไป (Allaby & Allaby, 1991; Hamblin & Christiansen, 2001; Plummer, McGeary & Carlson, 2001; Skinner & Porter, 1989; Tarbuck, Lutgens & Tasa, 2012) หินแกรนิตเกิดมาจากการระเบิดของภูเขาไฟ หินแกรนิตเป็นหินอัคนีที่เกิดจากการเย็นตัวและตกผลึก (King, 2010) ของแมกมาบริเวณใต้ผิวโลก (Allaby & Allaby, 1991; Hamblin & Christiansen, 2001; Plummer, McGeary & Carlson, 2001; Skinner & Porter, 1989; Tarbuck, Lutgens & Tasa, 2012) ตะกอนแข็งตัวเป็นหินตะกอนได้เพราะเกิดจาก ตะกอนแข็งตัวเป็นหินตะกอนได้ ไม่ได้เกิดจากการที่ การที่ตะกอนต่าง ๆ ถูกบีบอัดโดยน้าหนักของ ตะกอนต่าง ๆ ถูกบีบอัดโดยน้าหนักของตะกอนหรือวัสดุ ตะกอนหรือวัสดทุ ีว่ างตัวอยู่ด้านบนของตะกอน ที่วางตัวอยู่ด้านบนของตะกอนที่สะสมตัวในบริเวณ เพยี งอยา่ งเดยี ว (King, 2010) แอ่งสะสมตะกอนเพยี งอยา่ งเดียว แต่ตะกอนเหลา่ น้ันอาจ ถูกเชื่อมประสานด้วยสารเช่ือมประสานตามธรรมชาติ จนกระท่ังตะกอนและสารเช่ือมประสานทั้งหมดแข็งตัว ก ล า ย เ ป็ น หิ น ต ะ ก อ น ( Allaby & Allaby, 1991; Hamblin & Christiansen, 2001; Plummer, McGeary & Carlson, 2001; Skinner & Porter, 1989; Tarbuck, Lutgens & Tasa, 2012) ลักษณะช้ัน ๆ ที่พบในหินตะกอน เกิดข้ึนจาก ลักษณะชนั้ ๆ ทีพ่ บในหนิ ตะกอน เกิดจากช้ันของการสะสมตัว การที่หินน้ันได้รับความดันสูงตามธรรมชาติ ของตะกอนในช่วงเวลาท่ีแตกต่างกัน (Hamblin & (King, 2010) Christiansen,2001; Plummer, McGeary & Carlson, 2001; Skinner & Porter, 1989; Tarbuck, Lutgens & Tasa, 2012) 162 สถาบนั สง่ เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี

คูม่ อื ครูรายวิชาพ้ืนฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เลม่ 1 | หน่วยที่ 3 หนิ และซากดึกดาบรรพ์ แนวคิดคลาดเคล่ือน แนวคิดท่ถี ูกต้อง ซากดึกดาบรรพ์พบได้ในหินทุกประเภท ซากดกึ ดาบรรพส์ ่วนใหญ่พบในหินตะกอน (USGS, 2018) (USGS, 2018) ซากดึกดาบรรพ์เป็นส่ิงท่ีมนุษย์สร้างข้ึน มนุษยไ์ มส่ ามารถสร้างซากดกึ ดาบรรพ์ได้ เพราะซากดึกดาบรรพ์ (ESLI, 2009) เป็นซากส่ิงมีชีวิตในอดีตท่ีถูกเก็บรักษาไว้ในหินหรือเป็น ร่องรอยของส่ิงมีชีวิตในอดีตในหิน ซ่ึงการเกิดซากดึกดาบรรพ์ ส่ิงมีชีวิตทุกชนิดที่ตายลงจะกลายเป็น ต้องอาศัยปัจจัยต่าง ๆ ตามธรรมชาติ และใช้เวลาในการเกิดที่ ซากดึกดาบรรพ์* ยาวนาน (Hamblin & Christiansen, 2001; Jeannie Evers, 2013; Plummer, McGeary & Carlson, 2001; Skinner & Porter, 1989; Tarbuck, Lutgens & Tasa, 2012) ส่ิงมีชีวิตทุกชนิดท่ีตายลงอาจไม่ได้กลายเป็นซากดึกดาบรรพ์ เพราะอาจถูกน้า ลม หรือส่ิงมีชีวิตอ่ืน ๆ ทาให้โครงร่างหรือ ซากของส่ิงมีชีวิตถูกนาพาหรือทาให้กระจัดกระจายไปจาก แหล่งบริเวณที่เหมาะสมท่ีจะมีกระบวนการต่าง ๆ ท่ีจะทาให้ โครงร่างหรือซากส่ิงมชี วี ิตดังกล่าวกลายเป็นซากดึกดาบรรพ์ได้ (Allaby & Allaby, 1991; Hamblin & Christiansen, 2001; Plummer, McGeary & Carlson, 2001; Skinner & Porter, 1989; Tarbuck, Lutgens & Tasa, 2012) ถา้ ครพู บว่ามีแนวคดิ คลาดเคล่อื นใดทยี่ ังไม่ไดแ้ ก้ไขจากการทากจิ กรรมการเรียนรู้ ครคู วรจัดการเรียนรู้เพ่ิมเติมเพื่อแก้ไข ต่อไปได้ * ข้อมูลท่ีได้จากการสังเกตชัน้ เรยี นในการทดลองใช้หนังสือเรียนของ สสวท. สถาบันส่งเสรมิ การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 163

คมู่ อื ครรู ายวิชาพ้ืนฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เลม่ 1 | หน่วยท่ี 3 หนิ และซากดกึ ดาบรรพ์ บทน้เี รมิ่ ต้นอย่างไร (1 ชั่วโมง) ในการทบทวนความรู้พ้ืนฐาน ครูควรให้เวลานักเรียนคิดอย่าง 1. ครูกระตุ้นให้นักเรียนเกิดความอยากเรียนรู้ เรื่องหิ นและ เหมาะสม รอคอยอย่างอดทน ซากดึกดาบรรพ์ โดยอาจนาหินจริงหรือรูปหินท่ีมีลักษณะแตกต่าง นักเรียนต้องตอบคาถามเหล่านี้ได้ กัน หรือที่มีลักษณะแปลกตามาให้นักเรียนดู ลักษณะของหินท่ี ถูกต้อง หากตอบไม่ได้หรือลืม แตกต่างกนั เชน่ สี รปู ทรง ลวดลาย เนอ้ื หิน ความวาว ความมรี ูพรุน ครตู ้องให้ความรู้ทถี่ กู ตอ้ งทันที และอาจนารูปซากดึกดาบรรพ์ที่อยู่ในหินมาให้นักเรียนดูเพ่ิมเติม (อาจใช้รูปในหนังสือเรียน หน้า 64-65 ซ่ึงเป็นรูปซากดึกดาบรรพ์ ในการตรวจสอบความรู้เดิม ปลาทีอ่ ยู่ในหนิ ) ทง้ั น้ีถ้าครใู ชร้ ูปซากดึกดาบรรพ์อื่น ๆ มาให้นักเรียน ครูรับฟังเหตุผลของนักเรียนเป็น ศึกษา ครูควรศึกษาชนิดของซากดึกดาบรรพ์อ่ืน ๆ ท่ีหามา สาคัญ ครูยังไม่เฉลยคาตอบใด ๆ เผื่อนักเรียนท่ีมีความสนใจอาจถามถึงชนิดของซากดึกดาบรรพ์ แต่ชักชวนให้หาคาตอบที่ถูกต้อง ดังกลา่ ว จากนัน้ ใหน้ กั เรียนร่วมกนั อภปิ ราย โดยใชค้ าถามดังนี้ จากกิจกรรมต่าง ๆ ในบทเรยี นนี้ 1.1 หินแต่ละก้อนมีลักษณะเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร (นักเรียนตอบตามความเขา้ ใจ) 1.2 หินเหล่านเี้ กิดขนึ้ มาไดอ้ ย่างไร (นักเรียนตอบตามความเข้าใจ) 1.3 ซากดึกดาบรรพ์ท่ีอยู่ในหินเป็นซากดึกดาบรรพ์ของอะไร และเกิดอยู่ในหินได้อย่างไร (นักเรยี นตอบตามความเข้าใจ) 2. ครูทบทวนความรู้พ้ืนฐานเก่ียวกับลักษณะของหิน ซึ่งนักเรียน เคยเรียนมาแลว้ ในชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี 1 โดยใชค้ าถามดังนี้ 2.1 ลักษณะภายนอกของหินที่สังเกตได้มีอะไรบ้าง (สี รูปทรง เน้อื หิน ความวาว ความมีรพู รนุ ) 2.2 หินท่ีพบในธรรมชาติ มีลักษณะเหมือนหรือแตกต่างกัน อย่างไร บ้าง (หินแต่ละก้อนอาจมีลักษณะต่าง ๆ ทั้งท่ีเหมือนกันและ แตกต่างกัน เช่น สี เนอ้ื หิน รปู ทรง ความวาว ความมีรูพรุน) 3. ครูตรวจสอบความรเู้ ดมิ ของนักเรยี นเกี่ยวกบั หนิ และซากดกึ ดาบรรพ์ โดยใช้คาถามดงั น้ี 3.1 ภายในหินประกอบด้วยสิ่งใดบ้าง (นักเรียนตอบตามความเข้าใจ ของตนเอง เช่น หินประกอบด้วยวัสดุที่เป็นของแข็ง บางก้อนมี ก้อนกรวดขนาดตา่ ง ๆ หรอื บางก้อนมีเศษหินปะปนอย่)ู 3.2 หินและแร่คืออะไร (นักเรียนตอบตามความเข้าใจของตนเอง เชน่ หินและแร่ คือวสั ดุทเ่ี ป็นของแข็ง) 3.3 หินมีกี่ประเภท ได้แก่อะไรบ้าง และแต่ละประเภทเกิดข้ึนได้ อย่างไร (นักเรียนตอบตามความเข้าใจของตนเอง เช่น หินมี 3 ป ร ะ เ ภ ท ไ ด้ แ ก่ หิ น อั ค นี หิ น ต ะ ก อ น แ ล ะ หิ น แ ป ร 164 สถาบนั สง่ เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

คู่มอื ครรู ายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เลม่ 1 | หน่วยที่ 3 หินและซากดกึ ดาบรรพ์ หินบางประเภทเกิดจากการเย็นตัวและตกผลึกของแมกมาใต้ ผิวโลก บางประเภทเกิดจากการเย็นตัวและแข็งตัวของลาวาบน ผิวโลก) 3.4 วัฏจักรหินคืออะไร (นักเรียนตอบตามความเข้าใจของตนเอง เช่น วัฏจักรหินเป็นการเปลี่ย นแปลงของหินจ าก หิน ประเภทหน่ึงไปเป็นหินอีกประเภทหน่ึง และสามารถ เปลีย่ นแปลงกลับไปเป็นหินประเภทเดมิ ได)้ 3.5 ส่ิงใดบ้างทาจากหินและสิ่งใดบ้างทาจากแร่ (นักเรียนตอบตาม ความเข้าใจของตนเอง เช่น ครกทามาจากหิน หินลับมีดทามา จากหิน กระจกทามาจากแร่ ไส้ดนิ สอทามาจากแร)่ 3.6 ซากดึกดาบรรพ์คืออะไร (นักเรียนตอบตามความเข้าใจของ ตนเอง เช่น ซากดึกดาบรรพ์เป็นโครงร่างหรือร่องรอยของ สง่ิ มชี วี ติ ในอดตี ทีป่ รากฏอยใู่ นหนิ ) 4. ครูชักชวนนกั เรียนศกึ ษาเร่อื งหนิ และซากดึกดาบรรพ์ โดยใหอ้ า่ นช่ือ หน่วย และอ่านคาถามสาคัญประจาหน่วย ในหนังสือเรียน หน้า 64 ดังนี้ - หินและซากดึกดาบรรพ์เกิดขึ้นได้อย่างไร และมีประโยชน์ อยา่ งไร ครูให้นักเรียนตอบคาถาม โดยยังไม่ต้องเฉลยคาตอบ แต่จะให้ นกั เรียนย้อนกลับมาตอบอกี ครง้ั หลงั จากเรยี นจบหน่วยนี้แลว้ 5. ครูให้นักเรียนอ่านชื่อบท และจุดประสงค์การเรียนรู้ประจาบทใน หนังสือเรยี น หน้า 65 จากนน้ั ครใู ช้คาถามวา่ 5.1 บ ท นี้ จ ะ ไ ด้ เ รี ย น เ ร่ื อ ง อ ะ ไ ร ( เ รื่ อ ง หิ น วั ฏ จั ก ร หิ น และซากดกึ ดาบรรพ)์ 5.2 จากจุดประสงค์การเรียนรู้เม่ือเรียนจบบทเรียน นักเรียน สามารถทาอะไรได้บ้าง (สามารถเปรียบเทียบกระบวนการเกิด หินอัคนี หินตะกอน และหินแปร อธิบายกระบวนกา ร เปล่ียนแปลงของหินแต่ละประเภทที่เกิดขึ้นเป็นวัฏจักรหิน ยกตัวอย่างการใช้ประโยชน์ของหินและแร่ในชีวิตประจาวัน อธิบายการเกิดซากดึกดาบรรพ์ และอธิบายประโยชน์ของ ซากดกึ ดาบรรพ์) สถาบนั ส่งเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี 165

คมู่ ือครรู ายวิชาพน้ื ฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เลม่ 1 | หนว่ ยท่ี 3 หนิ และซากดกึ ดาบรรพ์ 6. นักเรียนอ่านชื่อบทและแนวคิดสาคัญ ในหนังสือเรียน หน้า 66 ความรเู้ พิ่มเติมสาหรับครู จากนั้นครูใช้คาถามว่า จากการอ่านแนวคิดสาคัญ นักเรียนจะได้ เรียนเก่ียวกับเรื่องอะไรบ้าง (เรียนเรื่องหิน แร่ วัฏจักรหิน รูปซากดึกดาบรรพ์ท่ีปรากฏอยู่ ซากดกึ ดาบรรพ์ ประโยชน์ของหิน แร่ และซากดกึ ดาบรรพ์) ในหิน ในหนังสือเรียน หน้า 66 เป็น ซากดึกดาบรรพ์สัตว์ทะเลที่มีหลาย 7. ครูชักชวนให้นักเรียนสังเกตรูป และอ่านเนื้อเร่ืองในหนังสือเรียน ขนาด ลกั ษณะมีเปลือกขดแนน่ เป็นวง หน้า 66 โดยครูฝึกทักษะการอ่านตามวิธีการอ่านท่ีเหมาะสมกับ ความสามารถของนักเรียน ครูตรวจสอบความเข้าใจจากการอ่าน การเตรียมตัวลว่ งหนา้ สาหรบั ครู โดยใชค้ าถาม ดังนี้ เพื่อจัดการเรยี นรู้ในครงั้ ถัดไป 7.1 รูปในหนังสือเรียนหน้า 66 เป็นรูปอะไร (รูปซ้ายมือเป็นรูปหิน ซ่ึงมีสีน้าตาลและมีซากดึกดาบรรพ์ปรากฏอยู่ และรูปขวามือ ในครั้งถัดไป นักเรียนจะได้เรียน เป็นรูปภูเขาหินซ่ึงอยู่ใกล้แหล่งน้า และมีก้อนหินขนาดใหญ่ เร่ืองที่ 1 กระบวนการเกิดหิน วัฏจักรหิน หลายก้อนอยูร่ มิ แหล่งนา้ ) และการนาหนิ และแรไ่ ปใช้ประโยชน์ โดย 7.2 ซ า ก ดึ ก ด า บ ร ร พ์ จ ะ พ บ ใ น หิ น ทุ ก ป ร ะ เ ภ ท ห รื อ ไ ม่ ครูเตรยี มการสอน ดังนี้ (ซากดึกดาบรรพ์จะพบในหินบางประเภทเท่านั้น) 1. ให้นักเรียนเก็บหินที่บ้านมาคนละ 1 7.3 นกั เรียนเคยพบซากดกึ ดาบรรพห์ รือไม่ และเป็นซากดึกดาบรรพ์ ของอะไร (นักเรียนตอบตามความเข้าใจ หรือตามประสบการณ์ กอ้ น กอ้ นขนาดกาป้ันมือ เพอ่ื นามาใช้ เดิม) ในช่วงขั้นตรวจสอบความรู้ ท้ังน้ีครู ควรเตรียมหินมาเผื่อเอาไว้ในกรณีท่ี 8. ครูชักชวนนักเรียนตอบคาถามเก่ียวกับหิน วัฏจักรหิน และ นักเรียนบางคนไม่ไดเ้ ตรียมหินมา ซากดึกดาบรรพ์ ในสารวจความรู้ก่อนเรียน ในแบบบันทึกกิจกรรม 2. ครูจัดเตรียมส่ิงของเครื่องใช้หรือรูป หน้า 64-66 โดยนักเรียนอ่านคาถามแต่ละข้อ ครูตรวจสอบความ ส่ิงของเคร่ืองใช้ท่ีทามาจากหินและแร่ เข้าใจของนักเรียน จนแน่ใจว่านักเรียนสามารถทาได้ด้วยตนเอง เช่น ครก แป้งทาตัว แว่นขยาย จึงให้นักเรียนตอบคาถาม ซ่ึงคาตอบของแต่ละคนอาจแตกต่างกัน กระจก แก้ว บีกเกอร์ แท่งแก้วคน และคาตอบอาจถกู หรือผิดกไ็ ด้ ก ร ะ ด า ษ ท ร า ย ปู น ป ล า ส เ ต อ ร์ หินลับมีด จานหรือชามกระเบื้อง 9. ครูสังเกตการตอบคาถามของนักเรียนเพื่อตรวจสอบว่านักเรียนมี กระป๋องเครื่องด่ืม ดินสอดา (ให้ แนวคิดเกย่ี วกบั หนิ วฏั จกั รหนิ และซากดึกดาบรรพ์อย่างไร โดยอาจ นักเรียนสังเกตไส้ดินสอดา) ช้อนหรือ สุ่มให้นกั เรียน 2-3 คน นาเสนอคาตอบของตนเอง ครูยงั ไมต่ อ้ งเฉลย ส้อมที่ทามาจากโลหะ กรรไกร เพื่อ คาตอบ แตจ่ ะใหน้ ักเรียนย้อนกลับมาตรวจสอบอีกคร้งั หลังจากเรียน นามาใช้ในขน้ั ตรวจสอบความรู้ จบบทน้ีแล้ว ทั้งนี้ครูควรบันทึกแนวคิดคลาดเคลื่อนหรือแนวคิดที่ น่าสนใจของนักเรียน แล้วนามาใช้ในการออกแบบการจัดการเรียนรู้ เ พื่ อ แ ก้ ไ ข แ น ว คิ ด ค ล า ด เ ค ลื่ อ น ใ ห้ ถู ก ต้ อ ง แ ล ะ ต่ อ ย อ ด แ น ว คิ ด ท่ี นา่ สนใจของนักเรยี น 166 สถาบันสง่ เสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

คมู่ ือครรู ายวิชาพ้ืนฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เลม่ 1 | หนว่ ยที่ 3 หนิ และซากดกึ ดาบรรพ์ แนวคาตอบในแบบบนั ทกึ กจิ กรรม การสารวจความรู้ก่อนเรยี น นักเรียนอาจตอบคาถามถกู หรือผิดก็ไดข้ ้นึ อยกู่ ับความรู้เดมิ ของนักเรยี น แตเ่ ม่ือเรียนจบบทเรียนแลว้ ให้นกั เรียนกลบั มาตรวจสอบคาตอบอกี ครั้งและแก้ไขให้ถูกต้อง ดงั ตัวอยา่ ง ค. ข. ง. ช. ข. ค. ค. ก. ก. ก. ข. ก. จ. ฉ. สถาบันสง่ เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี 167

คู่มอื ครูรายวิชาพ้ืนฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เลม่ 1 | หน่วยที่ 3 หนิ และซากดึกดาบรรพ์     168 สถาบนั ส่งเสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

ค่มู อื ครรู ายวิชาพนื้ ฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เล่ม 1 | หนว่ ยที่ 3 หนิ และซากดกึ ดาบรรพ์      สถาบันสง่ เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี 169

คูม่ อื ครูรายวิชาพน้ื ฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เลม่ 1 | หนว่ ยที่ 3 หินและซากดกึ ดาบรรพ์ เรอ่ื งท่ี 1 กระบวนการเกิดหิน วัฏจกั รหิน และการนาหิน และแรไ่ ปใช้ประโยชน์ ในเรื่องน้ีนักเรียนจะได้เรียนรู้เก่ียวกับองค์ประกอบ ของหิน กระบวนการเกิดหินอัคนี หินตะกอน และหินแปร วัฏจักรหิน และการนาหินและแร่ชนิดต่าง ๆ ไปใช้ประโยชน์ ในการทาสง่ิ ต่าง ๆ จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ สอื่ การเรียนรู้และแหล่งเรยี นรู้ หน้า 69-91 หนา้ 67-88 1. รวบรวมขอ้ มูลและอธิบายองค์ประกอบของหนิ 1. หนงั สอื เรียน ป.6 เล่ม 1 2. สังเกตและอธิบายลักษณะทางกายภาพของหินอัคนี 2. แบบบันทกึ กิจกรรม ป.6 เลม่ 1 หินตะกอน และหนิ แปร 3. รวบรวมข้อมูล อธิบายและเปรียบเทียบกระบวนการ เกิดหินอคั นี หนิ ตะกอน และหนิ แปร จากแบบจาลอง 4. รวบรวมข้อมูลและอธิบายกระบวนการเปลี่ยนแปลง ของหินในวัฏจกั รหินจากแบบจาลอง 5. รวบรวมข้อมูลและอธิบายการใช้ประโยชน์จากหิน และแร่ เวลา 9 ชว่ั โมง วสั ดุ อุปกรณส์ าหรบั ทากิจกรรม ชุดตัวอย่างหิน 3 ประเภท ได้แก่ หินอัคนี หินตะกอน และหินแปร แว่นขยาย กรรไกร ชุดเกม Rocks & Minerals ชดุ เกม Rocks Dominoes 170 สถาบนั ส่งเสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

ค่มู ือครูรายวิชาพนื้ ฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เล่ม 1 | หน่วยที่ 3 หินและซากดกึ ดาบรรพ์ แนวการจัดการเรยี นรู้ (60 นาท)ี ในการตรวจสอบความรู้เดิม ครูเพียงรับฟังเหตุผลของนักเรียน ข้ันตรวจสอบความรู้ (15 นาท)ี และยังไม่เฉลยคาตอบใด ๆ แต่ ชกั ชวนใหน้ ักเรียนไปหาคาตอบด้วย 1. ครูตรวจสอบความรู้เดิมของนักเรียนเกี่ยวกับหิน กระบวนการเกิดหิน ตนเองจากการอา่ นเนอื้ เร่ือง วัฏจักรหิน และการนาหินและแร่ไปใช้ประโยชน์ โดยนาหินท่ีนักเรียน เตรียมมาจากบ้าน หรือท่ีครูเตรียมมา นามารวมกันเพ่ือให้นักเรียน สังเกต โดยอาจแบ่งหินให้นักเรียนสังเกตกลุ่มละจานวนเท่า ๆ กัน หรอื กลุ่มละประมาณ 5 กอ้ น จากน้ันครูนาอภปิ ราย โดยใชค้ าถามดงั นี้ 1.1 ในหินมีอะไรอยู่บ้าง (นักเรียนตอบตามความเข้าใจของตนเอง เช่น ในหินสว่ นใหญ่มแี ร่ และอาจพบเศษหนิ หรือเม็ดกรวด) 1.2 หินแต่ละประเภทมีกระบวนการเกิดแตกต่างกันหรือไม่ (นักเรียน ตอบตามความเข้าใจ ของตนเอง เช่น หินแต่ประเภ ท มีกระบวนการเกดิ แตกต่างกนั ) 1.3 หินประเภทหนึ่งสามารถเปลี่ยนไปเป็นหินอีกประเภทหนึ่ง และ เปล่ียนกลับไปเป็นหินประเภทเดิมได้หรือไม่ อย่างไร (นักเรียน ตอบตามความเข้าใจของตนเอง เช่น หินประเภทหนึ่งสามารถ เปลี่ยนแปลงไปเป็นหินอีกประเภทหน่ึงและเปล่ียนแปลงกลับไป เป็นหินประเภทเดิมได้ โดยอาศัยกระบวนการทางธรณีวิทยา ตา่ ง ๆ) จากนั้นครูนาสิ่งของเครื่องใช้หรือรูปส่ิงของเคร่ืองใช้ที่ทามาจาก หินและแร่ จานวน 2-3 อย่าง เช่น ครก แป้งทาตัว แว่นขยาย กระจก แก้ว บกี เกอร์ แทง่ แกว้ คน กระดาษทราย ปูนปลาสเตอร์ หนิ ลบั มดี จาน หรือชามกระเบ้ือง กระป๋องเครื่องด่ืม ดินสอดา (ให้นักเรียนสังเกต ไส้ดินสอดา) ช้อนหรือส้อมที่ทามาจากโลหะ กรรไกร มาให้นักเรียน สังเกต จากนนั้ ให้นักเรยี นรว่ มกันอภิปรายโดยใชค้ าถาม ดังน้ี - สิ่งของหรือรปู ส่ิงต่าง ๆ เหลา่ น้ีทามาจากอะไร (นกั เรียนตอบตาม ความเข้าใจของตนเอง เช่น ครก หินลับมีด ทามาจากหิน ส่วน แป้งทาตัว แว่นขยาย กระจก แก้ว บีกเกอร์ แท่งแก้วคน กระดาษทราย ปูนปลาสเตอร์ จานหรือชามกระเบ้ือง กระป๋อง เคร่ืองดื่ม ไส้ดินสอดา ช้อนหรือส้อมที่ทาจากโลหะ กรรไกร ทามาจากแร)่ - หินที่นักเรียนนามาจากบ้าน สามารถนามาทาครกหรือนามาทาหิน ลับมีดได้หรือไม่ เพราะเหตุใด (นักเรียนตอบตามความเข้าใจ ของตนเอง เช่น หินบางชนิดท่ีนามาจากบ้านสามารถนามาใช้ทา สถาบนั สง่ เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี 171

คมู่ อื ครรู ายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เลม่ 1 | หน่วยท่ี 3 หินและซากดกึ ดาบรรพ์ ครกได้ เพราะเปน็ หนิ ที่มีความแข็งมาก หินบางชนดิ นามาใช้ทาครก หากนักเรียนไม่สามารถตอบ ไม่ได้เพราะเนื้อหินสามารถกะเทาะออกได้ หรือหินบางชนิด คาถามหรืออภิปรายได้ตามแนว สามารถนามาทาหินลับมีดได้ เพราะเนื้อหินเป็นเม็ดตะกอน มีเนื้อ คาตอบ ครูควรให้เวลานักเรียนคิด หยาบ) อย่างเหมาะสม รอคอยอย่างอดทน 2. ครูเชื่อมโยงความรู้เดิมของนักเรียนสู่การเรียนเร่ืองกระบวนการเกิดหิน แ ล ะ รั บ ฟั ง แ น ว ค ว า ม คิ ด ข อ ง วัฏจักรหิน และการนาหินและแร่ไปใช้ประโยชน์ โดยใช้คาถามว่า นกั เรียน นักเรียนรู้หรือไม่ว่า หินคืออะไรและเกิดข้ึนได้อย่างไร แร่คืออะไร วัฏจักรหินเป็นอย่างไร และหินและแร่นาไปใช้ประโยชน์ในด้านใดบ้าง จากนัน้ ครูชักชวนนักเรยี นหาคาตอบจากการอ่าน เร่อื งกระบวนการเกิด หิน วัฏจักรหิน และการนาหนิ และแร่ไปใช้ประโยชน์ ขัน้ ฝกึ ทักษะจากการอ่าน (30 นาท)ี 3. นักเรียนอ่านช่ือเร่ือง และคาถามในคิดก่อนอ่าน ในหนังสือเรียน หน้า 69 แล้วร่วมกันอภิปรายเพื่อหาคาตอบและนาเสนอ ครูบันทึกคาตอบ ของนักเรียนบนกระดานเพื่อใช้เปรียบเทียบคาตอบภายหลังการ อา่ นเร่อื ง 4. นักเรียนอ่านคาสาคัญ ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ (หากนักเรียน อ่านไม่ได้ ครูควรสอนอ่านให้ถูกต้อง) จากน้ันครูชักชวนให้นักเรียน อธิบายความหมายของคาสาคญั ตามความเขา้ ใจของตนเอง 5. นักเรียนอ่านเน้ือเร่ืองในหนังสือเรียน หน้า 69-70 โดยครูฝึกทักษะการ อ่านตามวิธีการอ่านท่ีเหมาะสมกับความสามารถของนักเรียน ครูใช้ คาถามเพื่อตรวจสอบความเข้าใจจากการอ่าน โดยใชค้ าถามดังน้ี 5.1 ลักษณะของหินมีอะไรบ้าง (ลักษณะของหิน เช่น มีลวดลาย สี ผิวสัมผสั ความแขง็ ) 5.2 หินคืออะไร และหินเป็นส่ิงท่ีมนุษย์สร้างข้ึนได้หรือไม่ (หินเป็น ของแขง็ ที่เกิดข้ึนเองตามธรรมชาติ มนุษย์ไม่สามารถสรา้ งขน้ึ ได้) 5.3 องคป์ ระกอบของหินมอี ะไร (โดยท่ัวไปมแี รเ่ ป็นองคป์ ระกอบ) 5.4 แร่คืออะไร (แร่เป็นสารท่ีเกิดข้ึนเองตามธรรมชาติ เกิดจากการ ตกผลึก ซึ่งการตกผลึกของสารเป็นกระบวนการที่สารในสถานะ แก๊ส ของเหลว หรือของแข็งท่ีมีโครงสร้างไม่เป็นระเบียบ มีการ จัดเรียงตัวของอนุภาคใหม่ให้เป็นผลึกของแข็ง ซ่ึงมีโครงสร้างทีเ่ ปน็ ระเบยี บ มรี ปู ทรงทางเรขาคณติ ทแี่ น่นอนเฉพาะตัว) 5.5 นักวิทยาศาสตร์จาแนกหินได้เป็นก่ีประเภท อะไรบ้าง และใช้อะไร เป็นเกณฑ์ (นักวิทยาศาสตร์จาแนกหินออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่ 172 สถาบนั ส่งเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี

ค่มู ือครรู ายวิชาพ้นื ฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เลม่ 1 | หน่วยที่ 3 หนิ และซากดกึ ดาบรรพ์ หนิ อัคนี หินตะกอน และหินแปร โดยใชก้ ระบวนการเกิดเปน็ เกณฑ์ หากนักเรียนไม่สามารถตอบ ในการจาแนก) คาถามหรืออภิปรายได้ตามแนว 5.6 หินอัคนี หินตะกอน และหินแปร สามารถเปลี่ยนแปลงไปเป็นหิน คาตอบ ครูควรให้เวลานักเรียนคิด ประเภทอ่ืนได้หรือไม่ อย่างไร (หินท้ังสามประเภทสามารถ อย่างเหมาะสม รอคอยอย่างอดทน เปล่ียนแปลงจากหินประเภทหนึ่งไปเป็นหินอีกประเภทหน่ึงและ แ ล ะ รั บ ฟั ง แ น ว ค ว า ม คิ ด ข อ ง เปลี่ยนแปลงกลับไปเป็นหินประเภทเดิมได้ โดยผ่านกระบวนการทาง นักเรยี น ธรณีวิทยาต่าง ๆ ซึ่งมีกระบวนการเปล่ียนแปลงคงที่เป็นแบบรูปและ ต่อเน่อื งเป็นวัฏจกั รหิน) 5.7 นักเรียนเคยใช้สิ่งใดบ้างที่ทามาจากหินและแร่ (คาตอบของนักเรียน จะแตกต่างกันออกไป เช่น นักเรียนบางคนเคยใช้แป้งทาตัวซ่ึงมี แร่ทัลก์เป็นส่วนผสมหลัก หรือใช้เลนส์ในการดูรายละเอียดของวัสดุ หรือวัตถุขนาดเล็ก ซ่ึงเลนส์ทามาจากแร่ควอตซ์ หรือใช้กระจกเพ่ือ ส่องหน้า ซึ่งกระจกทามาจากแร่ควอตซ์) ข้นั สรุปจากการอ่าน (15 นาท)ี 6. ครูให้นักเรียนร่วมกันสรุปเรื่องที่อ่านซ่ึงควรสรุปได้ว่า หินเป็นของแข็งท่ี เกิดข้ึนเองตามธ รรมช าติ โ ดยทั่ว ไปมีแร่เป็นองค์ปร ะ ก อ บ นักวิทยาศาสตรจ์ าแนกหนิ ตามกระบวนการเกิดไดเ้ ปน็ 3 ประเภท ไดแ้ ก่ หินอัคนี หินตะกอน และหินแปร หินทั้งสามประเภทมีการเปลีย่ นแปลง จากหินประเภทหนึ่งไปเป็นหินอีกประเภทหนึ่งและเปลย่ี นแปลงกลบั ไป เป็นหินประเภทเดิมได้ โดยผ่านกระบวนการทางธรณีวิทยาต่าง ๆ ซ่ึงมี กระบวนการเปลี่ยนแปลงคงท่ีเป็นแบบรูปและต่อเนื่องเป็นวัฏจักรหิน หินและแร่เป็นทรัพยากรธรรมชาติที่มีคุณค่าและมีประโยชน์มากมาย ปัจจบุ นั มนษุ ยใ์ ชเ้ ทคโนโลยีในการแปรรูปหินและแร่มาเป็นวัตถุหรือเป็น ผลิตภณั ฑต์ ่าง ๆ เพอื่ นามาใชป้ ระโยชน์ 7. นกั เรียนตอบคาถามในรหู้ รอื ยัง ในแบบบันทกึ กจิ กรรม หนา้ 67 8. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายเพื่อเปรียบเทียบคาตอบของ นักเรียนใน รหู้ รือยัง กับคาตอบท่ีเคยตอบและบันทึกไว้ในคิดก่อนอา่ น 9. ครใู ห้นักเรียนตอบคาถามทา้ ยเรื่องที่อ่าน ดงั น้ี 9.1 หินแต่ละก้อนมีชนิดของแร่ท่ีเป็นองค์ประกอบมากน้อยเพียงใด (นกั เรียนตอบตามความเขา้ ใจของตนเอง) 9.2 นอกจากมีแร่เป็นองค์ประกอบแล้ว หินยังประกอบด้วยอะไร อกี บา้ ง (นักเรียนตอบตามความเข้าใจของตนเอง) ครูยงั ไม่เฉลยคาตอบ แตช่ กั ชวนใหน้ ักเรยี นหาคาตอบจากการทากจิ กรรม สถาบนั ส่งเสรมิ การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 173

คู่มือครูรายวิชาพน้ื ฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เล่ม 1 | หน่วยที่ 3 หินและซากดึกดาบรรพ์ ความรเู้ พ่มิ เตมิ สาหรับครู หินบางก้อนท่ีประกอบด้วยแร่ชนิดเดียวจะเห็นหินก้อนน้ันมีสีเด่นชัดเพียงสีเดียว เช่น หินอ่อนบางก้อนมีสี เด่นชัดเป็นสีขาวหรือสีเทาอ่อน ดังรูปท่ี 1 หินบางก้อนที่ประกอบไปด้วยแร่หลายชนิดและมีผลึกแร่ขนาดเล็กมาก อาจจะทาให้เห็นหินก้อนดังกล่าวมีสีเดียวผสมกลืนกันไป เช่น หินปูนบางก้อนท่ีมองเห็นเป็นสีเทา ดังรูปท่ี 2 และหิน บางก้อนท่ีประกอบไปด้วยแร่หลายชนิดและมีผลึกแร่ขนาดใหญ่ที่ตามองเห็นได้ จะเห็นหินก้อนน้ันมีสีเด่นชัดหลายสี ปนกันอยู่ภายในก้อนเดยี วกัน เช่น หนิ แกรนิตจะมีแร่หลายชนิดปนกันอยู่ภายในก้อนเดียวกนั ทาให้เหน็ หินแกรนิตมีสี เด่นชดั หลายสี เช่น สชี มพู สดี า และอาจมแี รท่ ี่ใส ไมม่ สี ีปนอยดู่ ้วย ดังรูปที่ 3 รูปท่ี 1 หนิ อ่อนทม่ี ีสีขาว รปู ที่ 2 หนิ ปนู ทม่ี ีสเี ทา แร่มีลักษณะใส ไมม่ ีสี แรม่ สี ีดา แรม่ สี ีชมพู รูปท่ี 3 หินแกรนิตทป่ี ระกอบไปดว้ ยแรห่ ลายชนิด 174 สถาบนั สง่ เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

คู่มอื ครรู ายวิชาพนื้ ฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เล่ม 1 | หน่วยท่ี 3 หนิ และซากดกึ ดาบรรพ์ ความรเู้ พมิ่ เติมสาหรบั ครู (ตอ่ ) แร่ชนิดต่าง ๆ ในธรรมชาติมีผลึกเป็นรูปทรงเรขาคณิต ซึ่งอาจสังเกตเห็นรูปทรงผลึกแร่ได้ชัดเจน เช่น ผลึกแร่เฮไลต์ มีลักษณะเป็นลูกบาศก์ ดังรูปท่ี 4 หรือผลึกแร่ควอตซ์ มีลักษณะเป็นแท่ง ดังรูปที่ 5 แต่ถ้าแร่ชนิด ต่าง ๆ พบอยู่ในลักษณะที่เป็นแร่ประกอบอยู่ในหิน ผลึกแร่ต่าง ๆ จะจับตัวกันแน่นทาให้มองเห็นผลึกแร่ไม่ชัด ดงั รูปที่ 6 นอกจากน้ีแร่ชนดิ เดยี วกันอาจพบไดห้ ลายสี เชน่ แร่ควอตซม์ ที ั้งสีม่วง สีชมพู สีเขยี ว หรือใสไมม่ ีสี รูปท่ี 4 ผลกึ แรเ่ ฮไลต์มลี ักษณะเปน็ ลกู บาศก์ รปู ที่ 5 ผลึกแรค่ วอตซม์ ีลักษณะเปน็ แท่ง รปู ที่ 6 หนิ ท่ีประกอบไปดว้ ยผลึกแรท่ จ่ี บั ตวั กนั แน่น 175 สถาบนั ส่งเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

คู่มือครรู ายวิชาพืน้ ฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เล่ม 1 | หนว่ ยท่ี 3 หนิ และซากดึกดาบรรพ์ การเตรยี มตวั ลว่ งหนา้ สาหรบั ครเู พือ่ จัดการเรียนรใู้ นคร้ังถดั ไป  ในคร้ังถัดไป นักเรียนจะได้ทากิจกรรมที่ 1.1 องค์ประกอบของหินมีอะไรบ้าง ซ่ึงจะมีการฝึกทักษะการสังเกต โดยใช้แว่นขยายเป็นเคร่ืองมือช่วยในการสังเกต ในการทากิจกรรมครูควรเตรียมแว่นขยายให้เพียงพอกับ จานวนกลุ่มของนักเรยี น และเตรียมชดุ ตัวอย่างหินจานวน 3 ประเภท ได้แก่ หินอัคนี หินตะกอน และหินแปร พรอ้ มตดิ ชือ่ และประเภทของหนิ แตล่ ะก้อน - หนิ อคั นี เชน่ หินแกรนิต หนิ ไดออไรต์ หนิ บะซอลต์ หนิ พมั มิซ - หนิ ตะกอน เช่น หินกรวดมน หนิ ทราย หินดนิ ดาน หนิ ปนู - หนิ แปร เช่น หินไนส์ หนิ ชนวน หินออ่ น หินควอรต์ ไซต์ ในเบ้ืองต้นจานวนชนิดของหินที่จัดหาได้อาจไม่ครบตามจานวนท่ีระบุไว้ ซึ่งข้ึนอยู่กับสภาพแวดล้อมของ ท้องถ่ินท่ีสามารถพบหินชนิดต่าง ๆ ดังกล่าว ซ่ึงครูอาจต้องใช้เวลาในการสะสมตัวอย่างหิน ครูอาจขอคาปรึกษา เกี่ยวกับการจัดเตรียมหินท้ังสามประเภทจากนักธรณีวิทยาหรือผู้เชี่ยวชาญทางด้านธรณีวิทยาท่ีประจาอยู่ใน ท้องถ่ินหรือในจังหวัด และครูอาจเก็บตัวอย่างหินในท้องถ่ินมาให้นักเรียนศึกษา โดยเข้าไปศึกษาชนิดของหินใน ทอ้ งถ่นิ จากแผนทธ่ี รณวี ทิ ยา จากเว็บไซตข์ องกรมทรพั ยากรธรณี ดัง URL ตอ่ ไปนี้ http://www.dmr.go.th/more_news.php?cid=296&filename=index ในช่วงแรกท่ีครูยังสะสมหินได้ไม่มากพอ ครูอาจหารูปหินชนิดต่าง ๆ จากแหล่งเรียนรู้ต่าง ๆ มาให้ นักเรียนศึกษาแทนหนิ จริงกอ่ นได้  ครูเตรียมชุดเกม Rocks & Minerals สาหรับใช้ในการทากิจกรรมท่ี 1.1 องค์ประกอบของหินมีอะไรบ้าง โดยดาวน์โหลดชุดเกมโดยการสแกน QR code ในหนังสือเรียน หน้า 71 หรือจากเว็บไซต์ http://ipst.me/10917 แล้วนามาพมิ พ์ ในการพมิ พส์ ามารถพิมพ์ได้ทง้ั แบบสีหรือขาวดา จากน้นั ครดู าเนินการดังนี้ - ศึกษาคู่มือการเลน่ เกมให้เข้าใจ โดยศกึ ษาจากเอกสารคมู่ อื การเลน่ เกมทด่ี าวน์โหลดไว้ - เตรียมชุดเกมที่จะให้นักเรียนทากิจกรรม โดยจัดกิจกรรมได้ท้ังรายกลุ่มหรือรายคน โดยจัดเตรียม สงิ่ ต่าง ๆ ดังน้ี 1) การ์ด Rocks & Minerals 1 ใบต่อกลมุ่ หรือตอ่ คน 2) ภาพองค์ประกอบของหิน 1 ชดุ (15 ภาพ) ต่อกลุม่ หรอื ตอ่ คน และจดั แต่ละชดุ ใสซ่ องแยกไว้ 3) ภาพแร่ แก้วภูเขาไฟ และเศษหิน จัดเตรยี มเพยี ง 1 ชดุ (16 ภาพ) เพื่อใหผ้ คู้ วบคุมเกมใชใ้ นการสมุ่ - เตรยี มวตั ถุแทนเบีย้ ในการเลน่ เกม เชน่ เหรียญ กระดุม เมด็ กรวด หรอื เศษหนิ ขนาดเลก็ - เตรียมเอกสารคู่มือการเล่นเกมให้นักเรียนศึกษาด้วยวิธีการต่าง ๆ ที่เหมาะสม เช่น จัดเตรียมเป็น เอกสาร (พิมพข์ าวดาได)้ หรอื เตรยี มฉายเอกสารค่มู ือการเล่นเกมขน้ึ บนจอท่ีหนา้ ชัน้ เรียน 176 สถาบันสง่ เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี

คมู่ ือครรู ายวิชาพน้ื ฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เลม่ 1 | หน่วยที่ 3 หนิ และซากดึกดาบรรพ์ แนวคาตอบในแบบบันทกึ กจิ กรรม หินเปน็ ของแขง็ ที่เกิดขนึ้ เองตามธรรมชาติ โดยทัว่ ไปมแี รเ่ ปน็ องคป์ ระกอบ นักวิทยาศาสตร์จาแนกหินตามกระบวนการเกิดได้เป็น 3 ประเภท ได้แก่ หินอคั นี หนิ ตะกอน และหนิ แปร วัฏจักรหินเป็นการเปลีย่ นแปลงของหินทั้งสามประเภท ได้แก่ หินอัคนี หินตะกอน และหินแปร โดยมีการเปลี่ยนแปลงจากหินประเภทหน่ึงไปเป็นหินอีกประเภทหนง่ึ และเปล่ียนแปลงกลับไปเป็นหินประเภทเดิม โดยผ่านกระบวนการทางธรณีวิทยา ต่าง ๆ ซ่ึงมีกระบวนการเปลี่ยนแปลงคงทีเ่ ปน็ แบบรปู และตอ่ เนอื่ งเป็นวฏั จักรหิน ในอดีตมนุษย์ใชห้ นิ ทาขวานหนิ สาหรับใชล้ า่ สัตว์และปอ้ งกันตัว ปัจจุบันมนุษย์ใช้ เทคโนโลยีในการแปรรูปหินและแร่มาเป็นวัตถุหรือเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ เช่น นามาเป็นส่วนผสมของเคร่ืองสาอาง นามาทาเลนส์ กระจก ซีเมนต์ สถาบันสง่ เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี 177

คมู่ อื ครรู ายวิชาพน้ื ฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เลม่ 1 | หนว่ ยท่ี 3 หินและซากดึกดาบรรพ์ กจิ กรรมที่ 1.1 องคป์ ระกอบของหินมอี ะไรบ้าง กิ จ ก ร ร ม น้ี นั ก เ รี ย น จ ะ ไ ด้ ร ว บ ร ว ม ข้ อ มู ล แ ล ะ อ ธิ บ า ย องค์ประกอบของหนิ เวลา 2 ชวั่ โมง จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ รวบรวมข้อมลู และอธบิ ายองคป์ ระกอบของหิน วสั ดุ อุปกรณ์สาหรบั ทากิจกรรม สิ่งที่ครูตอ้ งเตรยี ม/กลมุ่ 1. ชดุ ตวั อย่างหนิ 3 ประเภท ได้แก่ 1 ชดุ หนิ อคั นี หินตะกอน และหนิ แปร 2. แว่นขยาย 1 อัน 3. ชดุ เกม Rocks & Minerals 1 ชุด สอ่ื การเรยี นรแู้ ละแหล่งเรยี นรู้ หมายเหตุ: เตรียมชุดเกมท่ีจะให้นักเรียนทากิจกรรม 1. หนงั สือเรียน ป.6 เลม่ 1 หน้า 71-73 2. แบบบันทึกกิจกรรม ป.6 เล่ม 1 หนา้ 68-72 สามารถใหน้ ักเรยี นเลน่ ไดท้ ั้งเปน็ รายกลุ่มหรือรายคน 3. ชดุ เกม Rocks & Minerals ทักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ http://ipst.me/10917 S1 การสังเกต S8 การลงความเหน็ จากขอ้ มูล S13 การตคี วามหมายข้อมูลและลงข้อสรปุ ทักษะแห่งศตวรรษท่ี 21 C2 การคดิ อย่างมีวิจารณญาณ C4 การสอ่ื สาร C5 ความร่วมมือ 178 สถาบนั สง่ เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

คูม่ ือครรู ายวิชาพน้ื ฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เลม่ 1 | หน่วยที่ 3 หินและซากดกึ ดาบรรพ์ แนวการจัดการเรยี นรู้ ในการทบทวนความรู้พื้นฐาน ครูควรให้เวลานักเรียนคิดอย่าง 1. ครูทบทวนความรู้พ้ืนฐานของนักเรียนเก่ียวกับลักษณะของหิน โดย เหมาะสม รอคอยอย่างอดทน ใชค้ าถามดงั ตอ่ ไปน้ี นักเรียนต้องตอบคาถามเหล่าน้ีได้ 1.1 หินแต่ละก้อนมีลักษณะเหมือนหรือแตกต่างกันหรือไม่ อย่างไร ถูกต้อง หากตอบไม่ได้หรือลืมครู (หนิ แต่ละกอ้ นอาจมลี ักษณะท้งั ที่เหมือนกนั และแตกตา่ งกัน) ต้องให้ความร้ทู ีถ่ ูกต้องทันที 2. ครูตรวจสอบความรู้เดิมของนักเรียนเก่ียวกับองค์ประกอบของหิน ในการตรวจสอบความรู้เดิม โดยใหน้ กั เรียนสังเกตตัวอย่างหินทคี่ รูจัดเตรยี มไว้ จากน้ันใหน้ กั เรยี น ครูเพียงรับฟังเหตุผลของนักเรียน รว่ มกนั อภปิ ราย โดยใช้คาถามดังนี้ เป็นสาคัญ ครูยังไม่เฉลยคาตอบ 2.1 จากการสงั เกตลักษณะของหนิ หนิ ประกอบด้วยสิง่ ใดบ้าง (หนิ ใด ๆ แต่ชกั ชวนใหห้ าคาตอบด้วย ประกอบด้วยวสั ดุท่ีมีสถานะเป็นของแข็ง บางกอ้ นอาจมีวัสดุที่ ตนเองจากการทากจิ กรรม เป็นของแข็งหลายสีปนอยู่ด้วยกัน บางก้อนมีกรวดหรือมี เศษหินขนาดต่าง ๆ ปนอยู่ หรือหินประกอบด้วยแร่) 3. ครูใชค้ าถามเพื่อเชื่อมโยงความร้เู ดิมของนักเรียนเข้าสู่กิจกรรมที่ 1.1 โดยใช้คาถามว่า หินแต่ละก้อนมีองค์ประกอบเหมือนหรือแตกต่าง กนั อยา่ งไร 4. นักเรียนอ่านชื่อกิจกรรม และทาเป็นคิดเป็น จากนั้นร่วมกัน อภิปรายเพื่อตรวจสอบความเข้าใจเก่ียวกับจุดประสงค์ในการทา กิจกรรม โดยใชค้ าถามดงั นี้ 4.1 กจิ กรรมนีน้ กั เรียนจะไดเ้ รียนเรอื่ งอะไร (องค์ประกอบของหิน) 4.2 นกั เรียนจะไดเ้ รยี นรูเ้ รอื่ งนดี้ ้วยวธิ ใี ด (รวบรวมข้อมูล) 4.3 เมื่อเรียนแล้วนักเรียนจะทาอะไรได้ (อธิบายองค์ประกอบของ หนิ ได)้ 5. นักเรียนบันทึกจุดประสงค์ลงในแบบบันทึกกิจกรรม หน้า 68 และ อา่ นสิง่ ทตี่ อ้ งใช้ในการทากจิ กรรม 6. นักเรียนอ่านทาอย่างไร โดยฝึกอ่านตามความเหมาะสม จากน้ัน ร่วมกันอภิปรายเพ่ือสรุปข้ันตอนการทากิจกรรม โดยใช้คาถาม ต่อไปนี้ 6.1 นักเรียนต้องสังเกตส่ิงใดของหิน สังเกตหินกี่ประเภท อะไรบ้าง (สังเกตเนื้อหินของหินแต่ละก้อนจากชุดตัวอย่างหิน 3 ประเภท ได้แก่ หินอคั นี หินตะกอน และหินแปร) 6.2 นกั เรียนใชอ้ ุปกรณ์อะไรช่วยในการสงั เกตเน้ือหนิ (ใชแ้ ว่นขยาย) สถาบันสง่ เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี 179

คมู่ ือครรู ายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เล่ม 1 | หน่วยท่ี 3 หินและซากดึกดาบรรพ์ 6.3 เมื่อสังเกตลักษณะเน้ือหินของหินแต่ละประเภทแล้วให้ร่วมกัน ขอ้ เสนอแนะเพ่ิมเตมิ บันทึกข้อมูลท่ีใด และอภิปรายเก่ียวกับอะไร (บันทึกข้อมูลหิน ท้ัง 3 ประเภทเก่ียวกับช่ือหิน และบันทึกลักษณะเน้ือหินตามท่ี  ก่อนท่ีนักเรียนจะเล่นเกม ควรให้นักเรียน สังเกตได้ลงในแบบบันทึกกิจกรรม ตาราง 1 หน้า 68-69 อ่านคู่มือการเล่นเกม Rocks & Minerals จากน้ันนาข้อมูลจากตาราง 1 มาร่วมกันอภิปรายเกี่ยวกับ และครูนาอภิปรายกับนักเรียนให้เข้าใจ องค์ประกอบของหินว่าจากการสังเกตลักษณะเน้ือหินแล้ว พบ เกย่ี วกบั กติกาการเล่น ว่าเมื่อใดที่จะมผี ู้ชนะ ส่ิงใดที่เป็นองค์ประกอบของหินบ้าง และเม่ืออภิปรายเสร็จแล้ว และเม่อื ใดที่จะจบเกม ให้บนั ทกึ ขอ้ มูลลงในแบบบนั ทกึ กจิ กรรม ทา้ ยตาราง 1 หน้า 69)  หิ น แ ต่ ล ะ ช นิ ด ใ น ธ ร ร ม ช า ติ อ า จ มี 6.4 หลังจากอภิปรายและบันทึกข้อมูลเก่ียวกับองค์ประกอบของหนิ องค์ประกอบแตกต่างจากท่ีแสดงไว้ในเกม แล้ว นักเรยี นตอ้ งทาสง่ิ ใดต่อไป (อ่านคูม่ อื การเล่นเกม Rocks & Rocks & Minerals Minerals ใหเ้ ขา้ ใจ และจากนัน้ ให้เลน่ เกม Rocks & Minerals) ข้อเสนอแนะเพิ่มเตมิ 6.5 หลังจากเล่นเกมเสร็จแล้ว นักเรียนต้องบันทึกส่ิงใด (บันทึก ข้อมูลองค์ประกอบของหินที่ได้จากการเล่นเกม จานวน 15 ครูควรแนะนานักเรียนเกี่ยวกับการบันทึกผล กอ้ น ลงในแบบบนั ทึกกจิ กรรม ตาราง 2 หน้า 70) ลักษณะเนื้อหินในแบบบันทึกกิจกรรม หน้า 68-69 ว่า ใหน้ ักเรียนสังเกตและบันทึกลักษณะเนอื้ หิน เช่น มเี นือ้ 6.6 เมื่อนักเรียนบันทึกข้อมูลที่ได้จากการเล่นเกมเสร็จแล้ว ต้องทา ละเอียด เน้ือหยาบถึงปานกลาง เนื้อหยาบ เน้ือแก้ว ส่ิงใดต่อไป (อภิปรายข้อมูลเก่ียวกับลักษณะเน้ือหินของหิน เน้ือหินมีรูพรุน เนื้อหินมีเศษหินปะปนอยู่ หรือเน้ือหิน แต่ละก้อนอีกครั้งหนึ่ง โดยเปรียบเทียบขอ้ มูลจากที่สังเกตไดก้ ับ ประกอบไปดว้ ยเมด็ ตะกอนและเม็ดตะกอนอาจมหี ลาย ข้อมูลในแบบบันทึกกิจกรรม ตาราง 2 และนาข้อมูลท่ีได้ไป สีหรือหลายขนาด และให้สังเกตและบันทึกจานวนสี ปรับปรุงข้อมูลเก่ียวกับองค์ประกอบของหินที่บันทึกไว้ใน ข อ งวัสดุ แ ข็ งท่ีป ระ กอ บกันอยู่ในเน้ือ หิน เช่น แบบบันทึกกจิ กรรม หนา้ 69 ใหถ้ ูกต้องยิ่งขึ้น) ประกอบด้วยวัสดุแข็งประมาณ 2-3 สี เกาะอยู่รวมกนั หรือหินประกอบด้วยวัสดุแข็งขนาดเล็กมากเกาะอยู่ ครูอาจเขียนสรุปเป็นขั้นตอนสั้น ๆ บนกระดาน เพอ่ื เปน็ แนวทางให้ รวมกัน โดยรวมมองเห็นเป็นสีดา สีเทาเข้ม หรือ นักเรยี นทากิจกรรมตามลาดับ สนี า้ ตาล 7. เม่ือนักเรียนเข้าใจวิธีการทากิจกรรมในทาอย่างไรแล้ว ครูแจกวัสดุ อปุ กรณ์ และให้นกั เรียนลงมอื ปฏิบตั ิตามขั้นตอน แ นะ นา นัก เรียนเก่ียว กับ การอภิปราย 8. หลังจากทากิจกรรมแล้ว ครูนาอภิปรายผลการทากิจกรรม โดยใช้ องค์ประกอบของหิน โดยใช้ข้อมูลจากการสังเกต คาถามดังต่อไปน้ี ลกั ษณะเนือ้ หนิ (ก่อนทากจิ กรรมโดยการเล่นเกม) ดังนี้ 8.1 ลักษณะเน้ือหินท้ังสามประเภท ได้แก่ หินอัคนี หินตะกอน - หินบางก้อนมีเน้ือหยาบ หรือเนื้อหยาบถึงปานกลาง และหินแปร มีลักษณะคล้ายคลึงหรือแตกต่างกันอย่างไร องค์ประกอบทที่ าให้หินมเี นอ้ื หยาบ หรือเนือ้ หยาบถงึ ( เ น้ื อ หิ น ทั้ ง ส า ม ป ร ะ เ ภ ท มี ลั ก ษ ณ ะ ท้ั ง ท่ี ค ล้ า ย ค ลึ ง กั น แ ล ะ ปานกลางอาจพบว่าเป็นวัสดุแข็ง ซึ่งวัสดุแข็งนั้นอาจ แตกต่างกัน ดังนี้ มีหลายสีหรือมีเพียงสีเดียว และอาจมีองค์ประกอบ - เนื้อหินท่ีมีลักษณะคล้ายคลึงกัน เช่น มีเน้ือละเอียดหรือมี พวกเศษหนิ กรวด หรือทรายปะปนอยู่ - หินบางก้อนมีเน้ือละเอียด องค์ประกอบท่ีทาให้หินมี เนอ้ื หยาบคล้ายคลงึ กัน เน้ือละเอียด อาจพบว่าเป็นวัสดุแข็งท่ีมีขนาดเล็กที่ เกาะอยู่รวมกัน - หินบางก้อนเนื้อหินมีลักษณะคล้ายเนื้อ แ ก้ ว องค์ประกอบท่ีทาให้หินมีเน้ือแก้วอาจพบเป็นวัสดุ แขง็ ท่ีมีลักษณะมนั วาว เมือ่ สมั ผัสเน้อื หินจะล่นื มอื ท้ั ง นี้ เ มื่ อ นั ก เ รี ย น ไ ด้ ท า กิ จ ก ร ร ม ผ่ า น ก า ร เลน่ เกมแล้ว นักเรียนจะทราบชือ่ องคป์ ระกอบของหนิ ที่ ถูกตอ้ งอกี ครัง้ 180 สถาบันส่งเสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

คู่มือครรู ายวิชาพ้นื ฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เลม่ 1 | หนว่ ยท่ี 3 หินและซากดกึ ดาบรรพ์ - เนื้อหินท่ีมีลักษณะแตกต่างกัน เช่น บางก้อนมีเนื้อแก้ว ข้อเสนอแนะเพิ่มเตมิ บางก้อนมีรูพรุน บางก้อนมีลักษณะเป็นชั้น ๆ บางก้อนมี ผลึกแร่เรียงตัวขนานกันเป็นแถบ บางก้อนเนื้อหินเป็นเม็ด เม่ือนักเรียนเล่นเกมเสร็จแล้ว ให้นักเรียน ตะกอน บางก้อนประกอบด้วยวัสดุแข็งท่ีมีสีจานวน 1 สี พิจารณาข้อมูลองค์ประกอบของหินแต่ละชนิด หรือบางก้อนประกอบด้วยวัสดุแข็งที่มีสีจานวนมากกว่า ในการ์ด Rocks & Minerals และท่ีวางไว้ 1 ส)ี ข้าง ๆ การ์ด Rocks & Minerals ที่ได้จากการ เล่นเกม หรือจากภาพองค์ประกอบของหินท้ัง 8.2 องค์ประกอบของหินจากท่ีสังเกตได้แตกต่างจากท่ีได้จากการ 15 ภาพ และนาข้อมูลองค์ประกอบของหิน เล่มเกมหรือไม่ อย่างไร (องค์ประกอบของหินจากท่ีสังเกตได้ แต่ละชนิดไปบันทึกลงในแบบบันทึกกิจกรรม อาจแตกต่างจากที่ได้จากการเล่นเกม เพราะข้อมูลที่ได้จาก หนา้ 70 ใหค้ รบถ้วน การสงั เกตหนิ อาจไม่ละเอยี ดหรือไมช่ ัดเจนเท่ากับที่ได้จากการ เลม่ เกม ขอ้ มลู จากการเลม่ เกมจะทาให้ทราบองคป์ ระกอบของ ทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตรแ์ ละ หินแต่ละก้อนอย่างละเอียด ว่าหินบางก้อนประกอบด้วยแร่ ทกั ษะแหง่ ศตวรรษที่ 21 ทน่ี ักเรียนจะได้ บางก้อนประกอบด้วยแก้วภูเขาไฟ และบางก้อนอาจมีเศษหิน ปะปนอยู่ในหิน และหินบางก้อนที่ประกอบด้วยแร่ ก็จะทาให้ ฝกึ จากการทากจิ กรรม ทราบชอ่ื แรท่ ่ีเปน็ องค์ประกอบของหิน) S1 สงั เกตลักษณะเนอื้ หินของหินแตล่ ะกอ้ น 9. ครูเปิดโอกาสให้นักเรียนซักถามในสิ่งท่ีอยากรู้เพ่ิมเติมเก่ียวกับ S8 ลงความเห็นเกี่ยวกับลักษณะเน้ือหินและ องค์ประกอบของหิน จากน้ันร่วมกันอภิปรายและลงข้อสรุปว่า หินส่วนใหญ่ประกอบด้วยแร่ต้ังแต่ 1 ชนิดขึ้นไป หินบางชนิดมี องค์ประกอบของหิน องค์ประกอบเป็นแก้วภูเขาไฟ และบางชนิดมีเศษหินเป็น C2 เปรียบเทียบลักษณะเนื้อหินของหินแต่ละก้อน องคป์ ระกอบ (S13) โดยใช้ขอ้ มูลจากการสังเกตกับขอ้ มูลทไ่ี ดจ้ ากการ 10. นักเรียนตอบคาถามในฉันรู้อะไร และร่วมกันอภิปรายเพ่ือให้ได้ เล่นเกม และนาไปปรับปรุงข้อมูลองค์ประกอบ แนวคาตอบท่ถี กู ต้อง ของหิน C4 อภิปรายลักษณะเนื้อหินและองค์ประกอบของ 11. นักเรียนสรุปสิ่งที่ได้เรียนรู้ในกิจกรรมน้ี จากนั้นครูให้นักเรียนอ่าน หิน สงิ่ ทไ่ี ดเ้ รียนรู้ และเปรยี บเทยี บกับขอ้ สรุปของตนเอง C5 ร่วมมือในการอภิปรายลักษณะเนื้อหินและ องคป์ ระกอบของหนิ และรว่ มกันเล่นเกม Rocks 12. ครูกระตุ้นให้นักเรียนฝึกตั้งคาถามเกี่ยวกับเร่ืองท่ีสงสัยหรืออยากรู้ & Minerals เพม่ิ เติมในอยากรู้อกี วา่ จากนัน้ ครอู าจส่มุ นักเรียน 2-3 คน นาเสนอ คาถามของตนเองหน้าช้ันเรียน และให้นักเรียนร่วมกันอภิปราย ถ้าครูพบว่านักเรียนยังมีแนวคิด เกย่ี วกับคาถามที่นาเสนอ คลาดเคลื่อนเกีย่ วกบั องคป์ ระกอบของ หิน ให้ร่วมกันอภิปรายจนนักเรียนมี 13. ครูนาอภิปรายเพื่อให้นักเรียนทบทวนว่าได้ฝึกทักษะกระบวนการ ทางวิทยาศาสตร์และทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 อะไรบ้างในข้ันตอน แนวคดิ ทถ่ี กู ตอ้ ง ใด แล้วบันทึกลงในแบบบันทกึ กจิ กรรม หน้า 72 สถาบนั สง่ เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี 181

คมู่ อื ครรู ายวิชาพนื้ ฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เล่ม 1 | หน่วยท่ี 3 หนิ และซากดึกดาบรรพ์ การเตรยี มตัวล่วงหน้าสาหรบั ครเู พ่ือจัดการเรยี นร้ใู นครง้ั ถัดไป ในครั้งถดั ไป นักเรียนจะได้ทากิจกรรมท่ี 1.2 กระบวนการเกิดหินและวฏั จักรหนิ เป็นอย่างไร โดยครู เตรยี มสอื่ การสอน ดังน้ี  เตรียมตัวอย่างหิน 3 ประเภท ได้แก่ หินอัคนี หินตะกอน และหินแปร พร้อมติดชื่อประเภทของหินแต่ละ ก้อนใหช้ ัดเจน หรอื จดั กลุ่มประเภทของหินให้แยกออกจากกนั อย่างชดั เจน เพื่อให้นกั เรียนสังเกต อภิปราย และบันทึกขอ้ มูลไดถ้ ูกต้อง - หนิ อัคนี เช่น หนิ แกรนติ หนิ ไดออไรต์ หนิ บะซอลต์ หินพมั มซิ - หนิ ตะกอน เชน่ หนิ กรวดมน หนิ ทราย หินดนิ ดาน หินปูน - หนิ แปร เช่น หินไนส์ หินชนวน หินออ่ น หนิ ควอรต์ ไซต์  เตรียมชุดเกม Rocks Dominoes สาหรับใช้ในการทากิจกรรมท่ี 1.2 โดยดาวน์โหลดชุดเกมโดยการ สแกน QR code ในหนังสือเรียน หน้า 74 หรือจากเว็บไซต์ http://ipst.me/10918 แล้วนามาพิมพ์ ในการพิมพ์สามารถพิมพไ์ ด้ท้งั แบบสีหรือขาวดา เม่ือดาวน์โหลดชุดเกมมาแลว้ จะพบขอ้ มลู ต่าง ๆ ดังนี้ 1) ค่มู ือการเลน่ เกม Rocks Dominoes 2) การ์ดต่าง ๆ จานวน 5 กลุ่ม ดังน้ี - การด์ กล่มุ ท่ี 1 การด์ ภาพรวมหิน 3 ประเภท จานวน 3 ใบ - การด์ กลมุ่ ที่ 2 การ์ดประเภทของหนิ จานวน 18 ใบ - การ์ดกล่มุ ท่ี 3 การด์ วสั ดุ จานวน 12 ใบ - การ์ดกลมุ่ ท่ี 4 การด์ กระบวนการทางธรณวี ิทยา จานวน 30 ใบ - การ์ดกลุ่มที่ 5 การด์ ชนิดหนิ จานวน 15 ใบ ท้ังนีใ้ นจดั เตรยี มการ์ดให้แต่ละกลุ่ม แตล่ ะกลุ่มจะไดก้ าร์ดกลุ่มท่ี 1-5 อย่างละ 1 ชุด (แตล่ ะกลุ่มจะได้การ์ด รวมทงั้ ส้ิน 78 ใบ) และเพ่อื ความสะดวกในการเลน่ เกม ครูควรเตรียมซองกระดาษจานวน 3 ซอง ซองท่ี 1 ใส่การด์ กลมุ่ ที่ 1 ซองท่ี 2 ใสก่ ารด์ กล่มุ ที่ 2-4 และซองที่ 3 ใส่การ์ดกลุม่ ท่ี 5 จากน้ันครูดาเนนิ การดงั นี้ ศึกษาคู่มือการเล่นเกม Rocks Dominoes ให้เข้าใจ โดยศึกษาจากเอกสารคู่มือการเล่นเกม หรือจากวีดิทัศน์ วธิ ีการเลน่ เกมทเี่ ว็บไซต์ http://ipst.me/11376 - เตรยี มเอกสารคู่มือการเลน่ เกมให้นักเรยี นศึกษาดว้ ยวธิ ีการตา่ ง ๆ ทเี่ หมาะสม เชน่ จดั เตรียมเป็นเอกสาร (พิมพ์ ขาวดาได)้ หรือฉายเอกสารคมู่ ือการเลน่ เกม หรอื ฉายวีดิทศั นว์ ธิ กี ารเลน่ เกมข้ึนบนจอท่ีหน้าชน้ั เรียน - ถา้ นักเรยี นมจี านวนมาก อาจให้นักเรยี นจับคู่ หรอื รวมกลุม่ ประมาณ 3 คน แทนผู้เลน่ แตล่ ะหมายเลข - ขนาดโตะ๊ ท่ีใชเ้ ล่นเกม Rocks Dominoes ควรมขี นาดความกวา้ งประมาณ 150 เซนตเิ มตร และความยาวประมาณ 200 เซนตเิ มตร - ถ้านักเรียนตอ้ งตัดการ์ดเอง ควรจัดเตรียมกรรไกรให้มีจานวนเพียงพอ 182 สถาบันสง่ เสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

ค่มู อื ครรู ายวิชาพืน้ ฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เล่ม 1 | หนว่ ยท่ี 3 หินและซากดึกดาบรรพ์ แนวคาตอบในแบบบันทกึ กิจกรรม รวบรวมขอ้ มลู และอธบิ ายองค์ประกอบของหิน หินแกรนติ หนิ มีเนอ้ื หยาบ ประกอบดว้ ยวสั ดแุ ขง็ ประมาณ 3-4 สี หนิ ไดออไรต์ เกาะรวมกัน หินบะซอลต์ หินพมั มซิ หนิ มเี น้ือหยาบ ประกอบดว้ ยวัสดุแข็งประมาณ 2-3 สี หนิ กรวดมน เกาะรวมกนั หินทราย หนิ มีเนอ้ื ละเอียด ประกอบด้วยวัสดแุ ขง็ เกาะรวมกนั บางกอ้ นอาจมี หนิ ดนิ ดาน รพู รนุ โดยรวมหนิ มสี ดี า สเี ทาเขม้ หรือสีนา้ ตาลเข้ม หนิ ปูน หนิ มีเนอ้ื แก้ว มีรพู รนุ สว่ นใหญ่โดยรวมหนิ มสี ขี าวปนเหลอื ง หรอื สเี ทาออ่ น หินมีเนื้อหยาบ มีลกั ษณะเปน็ เมด็ ตะกอนขนาดใหญ่เกาะรวมกนั อาจมี เศษหินขนาดต่าง ๆ ปะปนอยูใ่ นเนือ้ หิน เมด็ ตะกอนอาจมไี ดห้ ลายสี หนิ มเี น้อื หยาบถงึ ปานกลาง มลี ักษณะเปน็ เม็ดตะกอนขนาดปานกลางหรือขนาดเมด็ ทรายเกาะรวมกัน อาจมเี ศษหนิ ปะปน เนอ้ื หินอาจมีลกั ษณะเป็นชน้ั ๆ เมด็ ตะกอนอาจมีหลายสี เชน่ สนี ้าตาล สีเหลือง หนิ มเี นือ้ ละเอียด มลี ักษณะเปน็ เมด็ ตะกอนขนาดเล็กเกาะรวมกนั เนื้อหนิ มลี กั ษณะเปน็ ช้ัน ๆ มหี ลายสี เชน่ สนี ้าตาล สเี ทา สีดา หนิ มเี นื้อละเอยี ด ประกอบดว้ ยวัสดแุ ขง็ ขนาดเลก็ มากเกาะอยรู่ วมกนั แน่น เนอ้ื หนิ อาจมลี กั ษณะเปน็ ชนั้ ๆ โดยรวมทัง้ ก้อนเปน็ สเี ทาอ่อน หรือสเี ทาเข้ม สถาบันสง่ เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี 183

คมู่ อื ครูรายวิชาพนื้ ฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เลม่ 1 | หน่วยท่ี 3 หนิ และซากดึกดาบรรพ์ หนิ ไนส์ หินมีเนอื้ หยาบ ประกอบดว้ ยวสั ดแุ ขง็ เกาะรวมกนั มีการเรียงตวั ของวสั ดแุ ขง็ เปน็ แถบ อาจพบการสลับแถบสขี องวัสดแุ ขง็ เป็นแถบสขี าวสลบั สีดา หนิ ชนวน หินมีเน้ือละเอียด ประกอบด้วยวสั ดแุ ข็งเกาะรวมกัน มกี ารเรียงตัวของวสั ดุแข็ง เป็นแถบ สามารถแซะหรือกะเทาะออกเป็นแผ่นได้ หินมีสีดาหรือสีเทา หินออ่ น หนิ มเี นื้อละเอียดถงึ หยาบ ประกอบด้วยวสั ดแุ ขง็ เกาะรวมกนั โดยรวมภายใน หน่ึงกอ้ นมสี ีเดยี ว เช่น สขี าว สีเทา สีน้าตาล อาจพบลวดลายในเนอื้ หิน หนิ ควอรต์ ไซต์ หนิ มเี น้อื ละเอียด ประกอบดว้ ยวสั ดแุ ข็งเกาะรวมกนั โดยรวม ภายในหนึง่ ก้อนมสี ีเดยี ว เช่น สขี าว สเี ทาอ่อน สีชมพู - ตัวอยา่ งผลการอภิปรายกอ่ นเลน่ เกม เชน่ วัสดุแข็ง เศษหิน กรวด ทราย - ตัวอยา่ งผลการอภปิ รายหลงั เล่นเกม เชน่ แร่ แก้วภูเขาไฟ เศษหิน 184 สถาบนั สง่ เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

คู่มือครรู ายวิชาพ้นื ฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เล่ม 1 | หน่วยที่ 3 หนิ และซากดกึ ดาบรรพ์                        สถาบันสง่ เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี 185

คู่มอื ครูรายวิชาพน้ื ฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เล่ม 1 | หนว่ ยที่ 3 หินและซากดกึ ดาบรรพ์ แร่ แกว้ ภูเขาไฟ เศษหนิ หนิ อ่อน หนิ ควอรต์ ไซต์ หินแกรนติ หินไดออไรต์ หนิ บะซอลต์ หินกรวดมน หนิ ทราย หินดินดาน หินทรายแปง้ หนิ ปูน หินไนส์ หนิ ชนวน หินฟิลไลต์ หนิ พัมมิซ หนิ ออบซเิ ดยี น หนิ กรวดมน หนิ ทราย หินส่วนใหญ่ประกอบด้วยแร่ต้ังแต่ 1 ชนิดขึ้นไป บางก้อนประกอบด้วยแร่ เพียงชนิดเดียว บางก้อนประกอบด้วยแก้วภูเขาไฟ และบางก้อนมีเศษหิน ปะปนอยู่ในเนอ้ื หนิ การท่ีหนิ มีองคป์ ระกอบแตกตา่ งกัน ทาใหเ้ นือ้ หนิ ทีป่ รากฏ มีลกั ษณะแตกต่างกนั ไปด้วย เช่น มเี นื้อหยาบ เน้อื ละเอยี ด เน้อื แก้ว 186 สถาบันส่งเสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

คู่มือครูรายวิชาพืน้ ฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เลม่ 1 | หน่วยที่ 3 หนิ และซากดกึ ดาบรรพ์ หินส่วนใหญ่ประกอบด้วยแร่ต้ังแต่ 1 ชนิดขึ้นไป หินบางชนิดมี องคป์ ระกอบเปน็ แกว้ ภูเขาไฟ และบางชนดิ มเี ศษหนิ เป็นองคป์ ระกอบ คาถามของนกั เรียนทต่ี งั้ ตามความอยากร้ขู องตนเอง      สถาบนั สง่ เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี 187

คมู่ อื ครูรายวิชาพืน้ ฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เลม่ 1 | หนว่ ยท่ี 3 หินและซากดกึ ดาบรรพ์ แนวการประเมินการเรียนรู้ การประเมนิ การเรียนรูข้ องนกั เรยี นทาได้ ดงั น้ี 1. ประเมินความรูเ้ ดมิ จากการอภิปรายในช้นั เรียน 2. ประเมินการเรยี นรจู้ ากคาตอบของนักเรียนระหว่างการจัดการเรยี นร้แู ละจากแบบบันทึกกจิ กรรม 3. ประเมินทกั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และทักษะแหง่ ศตวรรษท่ี 21 จากการทากิจกรรมของนกั เรยี น การประเมินจากการทากิจกรรมท่ี 1.1 องคป์ ระกอบของหินมีอะไรบ้าง รหัส สิง่ ทปี่ ระเมิน คะแนน ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ S1 การสงั เกต S8 การลงความเห็นจากขอ้ มูล S13 การตคี วามหมายข้อมูลและลงข้อสรปุ ทักษะแห่งศตวรรษท่ี 21 C2 การคิดอย่างมีวจิ ารณญาณ C4 การสอ่ื สาร C5 ความร่วมมอื รวมคะแนน 188 สถาบนั สง่ เสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

คมู่ อื ครรู ายวิชาพื้นฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เลม่ 1 | หนว่ ยที่ 3 หินและซากดึกดาบรรพ์ ตาราง รายการประเมนิ และเกณฑ์การประเมินทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ทกั ษะ เกณฑ์การประเมนิ กระบวนการทาง รายการประเมิน ดี (3) พอใช้ (2) ควรปรับปรุง (1) วทิ ยาศาสตร์ S1 การสงั เกต การบรรยาย สามารถใช้ประสาท สามารถใช้ประสาท ใช้ประสาทสมั ผัสเก็บ รายละเอยี ดเกีย่ วกับ สัมผสั เกบ็ รายละเอยี ด สัมผัสเกบ็ รายละเอียด รายละเอยี ดขอ้ มูล S8 การลงความ ลักษณะเนอื้ หนิ ของ ขอ้ มูลเก่ียวกบั ลกั ษณะ ข้อมูลเกยี่ วกบั ลักษณะ เกยี่ วกับลักษณะ เหน็ จากข้อมลู หนิ แตล่ ะก้อน เน้ือหินของหนิ แตล่ ะ เน้ือหนิ ของหนิ แต่ละ เนอ้ื หินของหินแต่ละ กอ้ นได้ด้วยตนเอง โดย ก้อนได้ จากการชีแ้ นะ ก้อนได้เพยี งบางสว่ น ไม่เพิม่ เตมิ ความคิดเหน็ ของครหู รือผอู้ ่ืน หรือมี แมว้ ่าจะได้รบั คา การเพิ่มเติมความ ช้ีแนะจากครหู รือ การลงความเห็นจาก สามารถลงความเห็นจาก คิดเห็น ผูอ้ น่ื ขอ้ มูลไดว้ ่า หนิ บาง ขอ้ มลู ไดถ้ ูกต้องดว้ ย สามารถลงความเหน็ สามารถลงความเห็น จากข้อมลู ได้ถกู ต้องจาก จากข้อมูลได้แต่ไม่ ชนดิ ประกอบด้วยแร่ ตนเองวา่ หินบางชนิด การชแ้ี นะของครหู รือ ครบถ้วนสมบูรณ์ ผอู้ น่ื ว่า หนิ บางชนิด แม้ว่าจะไดร้ บั คา 1 ชนดิ บางชนดิ ประกอบด้วยแร่ 1 ชนิด ประกอบด้วยแร่ 1 ชนิด ชแ้ี นะจากครูหรือ บางชนิดประกอบดว้ ย ผอู้ ่ืนว่า หินบางชนดิ ประกอบด้วยแร่ บางชนดิ ประกอบด้วยแร่ แรม่ ากกวา่ 1 ชนดิ บาง ประกอบด้วยแร่ 1 ชนดิ ประกอบดว้ ยแกว้ ชนิด บางชนดิ มากกว่า 1 ชนิด บาง มากกว่า 1 ชนดิ บาง ภูเขาไฟ และบางชนิดมี ประกอบดว้ ยแร่ เศษหนิ เปน็ มากกวา่ 1 ชนิด บาง ชนิดประกอบดว้ ย ชนิดประกอบด้วยแก้ว องคป์ ระกอบอยู่ดว้ ย ชนิดประกอบดว้ ย การท่ีหินมีองคป์ ระกอบ แก้วภูเขาไฟ และ แกว้ ภูเขาไฟ และ ภูเขาไฟ และบางชนดิ มี แตกต่างกนั ทาให้เนื้อ บางชนิดมีเศษหนิ หินท่ปี รากฏมลี กั ษณะ เป็นองค์ประกอบอยู่ บางชนิดมเี ศษหนิ เศษหนิ เปน็ องคป์ ระกอบ แตกตา่ งกนั ดว้ ย การที่หินมี องคป์ ระกอบ เปน็ องคป์ ระกอบอยู่ อย่ดู ้วย การท่ีหินมี แตกตา่ งกนั ทาให้ เนื้อหินทปี่ รากฏมี ดว้ ย การทห่ี นิ มี องค์ประกอบแตกต่างกัน ลกั ษณะแตกตา่ งกนั องคป์ ระกอบ ทาใหเ้ น้อื หินท่ีปรากฏมี แตกต่างกนั ทาให้ ลกั ษณะแตกต่างกัน เนือ้ หนิ ท่ีปรากฏมี ลักษณะแตกตา่ งกัน สถาบนั ส่งเสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี 189

คมู่ อื ครรู ายวิชาพ้ืนฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เลม่ 1 | หนว่ ยท่ี 3 หนิ และซากดกึ ดาบรรพ์ ทักษะ เกณฑ์การประเมิน กระบวนการทาง รายการประเมนิ ดี (3) พอใช้ (2) ควรปรับปรงุ (1) วทิ ยาศาสตร์ S13 การตีความ ตคี วามหมายข้อมูล สามารถตคี วามหมาย สามารถตคี วามหมาย สามารถตคี วามหมาย หมายข้อมูลและ จากการสงั เกต ข้อมลู จากการสังเกต ขอ้ มูลจากการสังเกต ข้อมลู จากการสังเกต ลงข้อสรปุ รวบรวมขอ้ มลู และ รวบรวมขอ้ มูล และจาก รวบรวมข้อมูล และจาก รวบรวมขอ้ มลู และ จากการอภปิ ราย การอภปิ ราย และลง การอภปิ ราย และลง จากการอภิปราย และลงข้อสรปุ ได้ว่า ข้อสรุปได้ถกู ต้องด้วย ข้อสรุปได้ถูกต้อง จาก และลงข้อสรปุ ได้ไม่ หินสว่ นใหญ่ ตนเองวา่ หินสว่ นใหญ่ การชแ้ี นะของครหู รอื ครบถ้วนว่า หนิ ส่วน ประกอบด้วยแร่ ประกอบด้วยแร่ตง้ั แต่ 1 ผู้อ่นื วา่ หินส่วนใหญ่ ใหญป่ ระกอบดว้ ยแร่ ตัง้ แต่ 1 ชนิดขึน้ ไป ชนิดขึ้นไป หินบางชนิดมี ประกอบดว้ ยแร่ตั้งแต่ 1 ตั้งแต่ 1 ชนิดขนึ้ ไป หินบางชนิดมี องคป์ ระกอบเปน็ ชนิดขนึ้ ไป หนิ บางชนิดมี หนิ บางชนิดมี องคป์ ระกอบเป็น แก้วภเู ขาไฟ และบางชนิด องคป์ ระกอบเป็น องคป์ ระกอบเปน็ แก้วภเู ขาไฟ และ มีเศษหนิ เปน็ องค์ประกอบ แกว้ ภูเขาไฟ และบาง แกว้ ภูเขาไฟ และบาง บางชนิดมีเศษหิน ชนิดมีเศษหินเป็น ชนิดมีเศษหนิ เป็น เปน็ องค์ประกอบ องคป์ ระกอบ องคป์ ระกอบ แมว้ า่ จะได้รบั คาชแ้ี นะจาก ครหู รือผอู้ ่ืน ตาราง รายการประเมินและเกณฑ์การประเมนิ ทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 ทกั ษะแห่ง รายการประเมิน เกณฑก์ ารประเมิน ศตวรรษท่ี 21 ดี (3) พอใช้ (2) ควรปรบั ปรงุ (1) C2 การคิดอย่างมี วิจารณญาณ การวิเคราะห์และ สามารถวเิ คราะห์และ สามารถวเิ คราะหแ์ ละ สามารถวเิ คราะห์ อภปิ รายข้อมูล อภิปรายขอ้ มลู และ อภิปรายขอ้ มูล และ และอภปิ รายข้อมลู และอธิบายเกย่ี วกับ อธบิ ายองคป์ ระกอบของ อธิบายเกีย่ วกับ และอธบิ ายเก่ียวกับ องคป์ ระกอบของ หิน ได้ถูกต้องและ องค์ประกอบของหิน ได้ องค์ประกอบของหนิ หิน สมเหตสุ มผลด้วยตนเอง ถกู ต้องและสมเหตุสมผล ไดถ้ ูกตอ้ งและ จากการช้แี นะของครูหรือ สมเหตุสมผล ผู้อ่ืน บางส่วน แม้วา่ จะได้ รับคาชี้แนะจากครู หรอื ผูอ้ น่ื 190 สถาบันสง่ เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

คู่มือครรู ายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เลม่ 1 | หน่วยที่ 3 หินและซากดกึ ดาบรรพ์ ทกั ษะแห่ง รายการประเมิน เกณฑก์ ารประเมนิ ศตวรรษท่ี 21 C4 การส่อื สาร การนาเสนอข้อมลู ดี (3) พอใช้ (2) ควรปรับปรงุ (1) จากการสังเกต C5 ความรว่ มมือ รวบรวมขอ้ มลู และ สามารถนาเสนอข้อมลู จาก สามารถนาเสนอขอ้ มลู สามารถนาเสนอ จากการอภิปราย ข้อมูลจากการสงั เกต เก่ียวกับลกั ษณะ การสังเกต รวบรวมข้อมูล จากการสงั เกต รวบรวม รวบรวมขอ้ มูล และ เนื้อหินและ จากการอภิปราย องคป์ ระกอบของ และจากการอภปิ ราย ขอ้ มลู และจากการ เก่ยี วกับลักษณะ หนิ โดยใช้คาพดู เน้อื หินและ เพอื่ ให้ผู้อนื่ เข้าใจ เกี่ยวกับลักษณะเนื้อหนิ อภิปรายเกีย่ วกับลักษณะ องค์ประกอบของหิน โดยใชค้ าพูดเพอ่ื ให้ การทางานร่วมกับ และองค์ประกอบของหนิ เนอื้ หินและองค์ประกอบ ผอู้ ่นื เขา้ ใจได้เพียง ผอู้ น่ื และการแสดง บางสว่ น แมว้ ่าจะได้ ความคิดเห็นในการ โดยใชค้ าพดู เพ่ือให้ผู้อนื่ ของหิน โดยใชค้ าพูด รับคาชแี้ นะจากครู สังเกตและอภปิ ราย หรอื ผู้อ่ืน ลกั ษณะเน้อื หนิ และ เขา้ ใจได้ดว้ ยตนเอง เพ่ือให้ผ้อู ่นื เขา้ ใจได้ โดย องค์ประกอบของ สามารถทางาน หิน และในการเลน่ อาศัยการชี้แนะจากครู ร่วมกบั ผ้อู น่ื ไดบ้ ้าง เกม Rocks & แตไ่ ม่คอ่ ยแสดง Minerals รวมท้งั หรือผอู้ ่นื ความคิดเหน็ ในการ ยอมรับความ สังเกตและอภิปราย คิดเห็นของผู้อื่น สามารถทางานร่วมกับ สามารถทางานร่วมกบั ลักษณะเนื้อหนิ และ ผ้อู นื่ และการแสดงความ ผอู้ น่ื และการแสดงความ องคป์ ระกอบของหนิ คดิ เหน็ ในการสงั เกตและ คดิ เห็นในการสังเกตและ และในการเลน่ เกม อภิปรายลกั ษณะเน้ือหนิ อภิปรายลักษณะเน้ือหิน Rocks & Minerals และองคป์ ระกอบของหนิ และองค์ประกอบของหนิ รวมทัง้ ไม่แสดงความ และในการเลน่ เกม Rocks และในการเลน่ เกม สนใจต่อความ & Minerals รวมท้ัง Rocks & Minerals คิดเห็นของผูอ้ ืน่ ยอมรับความคดิ เห็นของ รวมท้ังยอมรับความ ท้ังนตี้ อ้ งอาศัยการ ผอู้ ืน่ ต้ังแตเ่ ร่มิ ต้นจนสาเรจ็ คดิ เห็นของผู้อ่ืนในบาง กระตุน้ จากครหู รือ ผูอ้ ่นื ช่วงเวลาท่ที ากจิ กรรม สถาบันสง่ เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี 191

ค่มู ือครรู ายวิชาพนื้ ฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เลม่ 1 | หนว่ ยท่ี 3 หินและซากดึกดาบรรพ์ กจิ กรรมที่ 1.2 กระบวนการเกดิ หนิ และวฏั จักรหินเป็นอยา่ งไร กิจกรรมน้ีนักเรียนจะได้สังเกต รวบรวมข้อมูล และอธิบายลักษณะ ทางกายภาพของหินอัคนี หินตะกอน และหินแปร เปรียบเทียบ กระบวนการเกดิ หินแตล่ ะประเภท และอธิบายกระบวนการเปล่ยี นแปลง ของหินในวฏั จกั รหินจากแบบจาลอง เวลา 4 ช่วั โมง จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ สือ่ การเรยี นรูแ้ ละแหลง่ เรียนรู้ 1. สังเกตและอธิบายลักษณะทางกายภาพของหินอัคนี หินตะกอน และหินแปร 2. รวบรวมข้อมูล อธิบายและเปรยี บเทียบกระบวนการเกิดหินแต่ละ ประเภท จากแบบจาลอง 3. รวบรวมข้อมูลและอธิบายกระบวนการเปลี่ยนแปลงของหินใน วัฏจักรหิน จากแบบจาลอง วสั ดุ อุปกรณส์ าหรับทากิจกรรม 1. หนงั สอื เรียน ป.6 เลม่ 1 หน้า 74-78 ส่งิ ท่ีครตู ้องเตรยี ม/กลมุ่ 2. แบบบันทึกกจิ กรรม ป.6 เลม่ 1 หน้า 73-83 1. ชดุ ตัวอยา่ งหิน 3 ประเภท ได้แก่ 1 ชดุ 3. ชุดเกม Rocks Dominoes หินอัคนี หนิ ตะกอน และหนิ แปร 2. แว่นขยาย 1 อนั 3. ชุดเกม Rocks Dominoes 1 ชดุ 4. กรรไกร 1 อัน ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ http://ipst.me/10918 4. วดี ทิ ัศน์วิธีการเล่นเกม Rocks Dominoes S1 การสังเกต S8 การลงความเห็นจากข้อมลู S13 การตีความหมายขอ้ มลู และลงขอ้ สรปุ S14 การสรา้ งแบบจาลอง ทักษะแหง่ ศตวรรษท่ี 21 C2 การคิดอยา่ งมวี จิ ารณญาณ C4 การส่ือสาร http://ipst.me/11376 C5 ความรว่ มมอื 192 สถาบนั สง่ เสรมิ การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

คูม่ ือครูรายวิชาพ้ืนฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เลม่ 1 | หน่วยที่ 3 หนิ และซากดกึ ดาบรรพ์ แนวการจัดการเรียนรู้ ในการทบทวนความรู้พ้ืนฐาน คุณครูควรให้เวลานักเรียนคิดอย่าง 1. ครูทบทวนความรู้พื้นฐานของนกั เรียนเก่ียวกับองค์ประกอบของหนิ เหมาะสม รอคอยอย่างอดทน โดยใช้คาถามดังตอ่ ไปน้ี นักเรียนต้องตอบคาถามเหล่าน้ีได้ 1.1 องค์ประกอบของหินมีอะไรบ้าง (แร่ แก้วภเู ขาไฟ เศษหิน) ถูกต้อง หากตอบไม่ได้หรือลืม 1.2 หินแต่ละก้อนมีองค์ประกอบแตกต่างกันหรือไม่ อย่างไร ครูตอ้ งให้ความรู้ทถี่ ูกตอ้ งทันที (หินแต่ละก้อนอาจมีองค์ประกอบแตกต่างกัน บางก้อน ประกอบด้วยแร่ บางก้อนประกอบด้วยแก้วภูเขาไฟ บางก้อนมี ในการตรวจสอบความรู้เดิม องค์ประกอบเปน็ เศษหนิ ปะปนอยู่ดว้ ย) ค รู เ พี ย ง รั บ ฟั ง เ ห ตุ ผ ล ข อ ง นกั เรยี นเปน็ สาคัญ ครยู งั ไม่เฉลย 2. ครูตรวจสอบความรู้เดิมของนักเรียนเกี่ยวกับกระบวนการเกิดหิน คาตอบใด ๆ แต่ชัก ช ว นให้ และวฏั จกั รหนิ โดยใช้คาถามดงั นี้ นักเรียนหาคาตอบด้วยตนเอง 2.1 เพราะเหตใุ ดหนิ บางก้อนจึงมีองค์ประกอบเป็นแร่ (นกั เรียนตอบ จากการทากจิ กรรม ตามความเข้าใจ เช่น หินบางก้อนมีองค์ประกอบเป็นแร่ เพราะ อาจเกิดจากการเย็นตัวและตกผลกึ ของแมกมาบริเวณใต้ผวิ โลก) 2.2 เพราะเหตุใดหินบางก้อนจึงมีองค์ประกอบเป็นแก้วภูเขาไฟ (นักเรียนตอบตามความเข้าใจ เช่น หินบางก้อนมีองค์ประกอบ เป็นแก้วภูเขาไฟ เพราะเกิดจากการเย็นตัวและแข็งตัวของลาวา บนผิวโลก) 2.3 เพราะเหตุใดหินบางก้อนจึงมีเศษหินเป็นองค์ประกอบอยู่ด้วย (นักเรียนตอบตามความเข้าใจของตนเอง เช่น หินบางก้อนมี เศษหินเป็นองค์ประกอบอยู่ด้วย เพราะหินดังกล่าวเกิดจากการ สะสมตัวของตะกอนและมีการเช่ือมประสานตะกอน ซ่ึงตะกอน ที่มาสะสมตวั และถูกเช่อื มประสานอาจมีเศษหนิ ปะปนอยดู่ ว้ ย) 2.4 หินอัคนี หินตะกอน และหินแปร มีกระบวนการเกิดแตกต่างกนั หรือไม่ (นักเรียนตอบตามความเข้าใจของตนเอง เช่น หินทั้งสามประเภทมกี ระบวนการเกิดแตกต่างกนั ) 2.5 หินอัคนี หินตะกอน และหินแปร มีลักษณะใดแตกต่างกันบ้าง (นักเรียนตอบตามความเข้าใจของตนเอง เช่น หินอัคนีอาจ มเี น้อื แกว้ และมีรูพรนุ ในเนื้อหิน หินตะกอนอาจมเี ศษหนิ ปะปน อยู่ในเน้ือหิน และหินแปรอาจมีผลึกแร่เรียงตัวขนานกัน เป็นแถบ) 2.6 หินอัคนี หินตะกอน และหินแปร สามารถเปล่ียนแปลงไปเป็น หินประเภทอ่ืนและเปลี่ยนแปลงกลับมาเป็นหินประเภทเดิมได้ หรือไม่ (นักเรียนตอบตามความเข้าใจของตนเอง เช่น หินอัคนี สถาบันส่งเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี 193

ค่มู อื ครรู ายวิชาพ้นื ฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เลม่ 1 | หน่วยที่ 3 หนิ และซากดกึ ดาบรรพ์ หินตะกอน และหินแปร สามารถเปล่ียนแปลงไปเป็นหิน ทักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ ประเภทอ่นื และเปลย่ี นแปลงกลับมาเป็นหินประเภทเดมิ ได้) และทกั ษะแหง่ ศตวรรษท่ี 21 ท่ี 3. ครใู ชค้ าถามเพื่อเช่ือมโยงความร้เู ดิมของนักเรียนเขา้ สู่กิจกรรมท่ี 1.2 โดยใช้คาถามวา่ นกั เรยี นจะได้ฝกึ จากการทากิจกรรม 3.1 หินอัคนี หินตะกอน และหินแปรมีกระบวนการเกิดแตกต่างกัน อยา่ งไร S1 สังเกตลกั ษณะของหนิ แต่ละประเภท 3.2 หินอัคนี หินตะกอน และหินแปร สามารถเปล่ียนแปลงไปเป็น S8 ลงความเห็นว่าหินอัคนี หินตะกอน และหินแปร หินประเภทใหม่ และเปลี่ยนแปลงกลับมาเป็นหินประเภทเดิม ไดอ้ ยา่ งไร มีกระบวนการเกิดแตกต่างกัน ทาให้ลักษณะทาง 4. นักเรียนอ่านชื่อกิจกรรม และทาเป็นคิดเป็น จากน้ันร่วมกัน กายภาพของหินท้งั สามประเภทมีลักษณะบางอย่าง อภิปรายเพื่อตรวจสอบความเข้าใจเกี่ยวกับจุดประสงค์ในการทา แตกต่างกัน หินอัคนี หินตะกอน และหินแปร กจิ กรรม โดยใช้คาถามดังน้ี สามารถเปล่ียนแปลงไปเป็นหินประเภทอ่ืน และ 4.1 กิจกรรมนี้นักเรียนจะได้เรียนเร่ืองอะไร (ลักษณะทางกายภาพ เปล่ียนแปลงกลับไปเป็นหินประเภทเดิมได้โดย ของหนิ กระบวนการเกดิ หนิ และวัฏจักรหิน) อาศยั กระบวนการทางธรณวี ทิ ยาต่าง ๆ 4.2 นักเรียนจะได้เรียนรู้เร่ืองนี้ด้วยวิธีใด (สังเกต รวบรวมข้อมูล S14 สร้างแบบจาลองเพ่ือเปรียบเทียบและอธิบาย และสร้างแบบจาลอง) กระบวนการเกิดและลกั ษณะของหินแต่ละประเภท 4.3 เมื่อเรียนแล้วนักเรียนจะทาอะไรได้ (อธิบายลักษณะทาง แ ล ะ อ ธิ บ า ย ก ร ะ บ ว น ก า ร เ ป ลี่ ย น แ ป ล ง ข อ ง หิ น กายภาพของหินอัคนี หินตะกอน และหินแปร อธิบายและ ทกุ ประเภทเป็นวฏั จกั รหิน เปรียบเทียบกระบวนการเกิดหินแต่ละประเภท และอธิบาย C2 การวิเคราะห์และเปรียบเทียบกระบวนการเกิดและ กระบวนการเปล่ียนแปลงของหินทีท่ าให้เกดิ วฏั จักรหนิ ได้) ลักษณะของหินแต่ละประเภท และ อธิบาย 5. นักเรียนบันทึกจุดประสงค์ลงในแบบบันทึกกิจกรรม หน้า 73 และ ก ร ะ บ ว น ก า ร เ ป ลี่ ย น แ ป ล ง ข อ ง หิ น ทุ ก ป ร ะ เ ภ ท อา่ นส่งิ ทต่ี อ้ งใช้ในการทากจิ กรรม เปน็ วัฏจกั รหิน จากแบบจาลอง 6. นักเรียนอ่านทาอย่างไร โดยฝึกอ่านตามความเหมาะสม จากนั้นร่วมกัน C4 อภิปรายเก่ียวกับกระบวนการเกิดและลักษณะของ อภปิ รายเพ่อื สรปุ ขัน้ ตอนการทากิจกรรม โดยใชค้ าถามตอ่ ไปนี้ หินแต่ละประเภท และกระบวนการเปลี่ยนแปลง 6.1 นักเรียนต้องสังเกตและบันทึกส่ิงใดของหินแต่ละประเภท ของหนิ ทุกประเภทเป็นวฏั จกั รหิน (สังเกตและบันทึกลักษณะของหินแต่ละประเภท ลงใน C5 ร่วมมือในการอภิปรายและร่วมกันเล่นเกม Rocks แบบบันทกึ กิจกรรม หนา้ 73-74) Dominoes 6.2 เมื่อสังเกตและบันทึกลักษณะของหินแต่ละประเภทแล้วให้ ร่วมกันอภิปรายเกี่ยวกับประเด็นอะไร และทาส่ิงใดต่อไป (อภปิ รายเปรยี บเทียบกระบวนการเกิดหนิ แต่ละประเภท โดยใช้ ข้อมูลลักษณะของหินแต่ละประเภทที่บันทึกไว้ และอภิปราย เหตุผลว่าหนิ แตล่ ะประเภทมกี ระบวนการเกดิ แตกต่างกนั หรือไม่ เพราะเหตุใด จากนน้ั จึงเลน่ เกม Rocks Dominoes) 194 สถาบนั ส่งเสรมิ การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

คูม่ ือครรู ายวิชาพ้ืนฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เลม่ 1 | หนว่ ยท่ี 3 หินและซากดึกดาบรรพ์ 6.3 หลงั เล่นเกมแลว้ นกั เรียนจะตอ้ งทาอยา่ งไร (หลังเลน่ เกมต้องนา ขอ้ เสนอแนะเพม่ิ เตมิ ข้อมลู ที่ได้มาบันทึกลงในแบบบันทกึ กจิ กรรม หนา้ 73-79 ดังนี้ ครูควรแนะนานักเรียนเก่ียวกับการสังเกต - บันทึกกระบวนการเกิดและลักษณะของหินอัคนี หินตะกอน และบันทึกผลลักษณะของหินแต่ละประเภท ใน และหินแปร ลงในผังมโนทัศน์ในแบบบันทึกกิจกรรม แบบบันทึกกิจกรรม หน้า 73-74 ว่าให้นักเรียนสังเกต หนา้ 75-77 และบนั ทกึ ลกั ษณะของหิน เช่น - หินมีลักษณะเป็นผลึกแร่ขนาดใหญ่เกาะอยู่ - บันทึกกระบวนการทางธรณีวิทยาท่ีทาให้หินประเภทหน่ึง เปล่ียนแปลงไปเป็นหินประเภทหนึ่งและเปลย่ี นแปลงกลับไป รวมกนั หินมีเนือ้ หยาบ เปน็ หินประเภทเดมิ ลงในแบบบันทกึ กจิ กรรม หน้า 78 - หินมลี กั ษณะเปน็ ผลกึ แร่ขนาดเล็กเกาะอยู่รวมกัน - บันทกึ การเกดิ วฏั จกั รหนิ ลงในแบบบันทกึ กิจกรรม หนา้ 79 หนิ มีเนอ้ื ละเอียด - หินมีลกั ษณะเปน็ เนอื้ แก้ว - นาตัวอย่างหินแต่ละประเภทมาสังเกตลักษณะของหิน - การพบรพู รุนในเนื้อหิน อีกครั้ง โดยใช้ข้อมูลจาการเล่นเกมประกอบการสังเกต และ - หินมีลักษณะเป็นเม็ดตะกอนขนาดใหญ่เกาะอยู่ บันทึกผลลักษณะของหินแต่ละประเภทหลังจากการเลน่ เกม ลงในแบบบันทึกกิจกรรม หน้า 73-74 ตาราง 1 ในช่อง รวมกนั อาจมเี ศษหนิ ปะปนอยู่ หนิ มีเนือ้ หยาบ คอลมั น์หลังเลน่ เกม) - หินมีลักษณะเป็นเม็ดตะกอนขนาดเล็กเกาะอยู่ 6.4 หลังจากบันทึกข้อมูลลกั ษณะของหินในตาราง 1 ในช่องคอลัมน์ รวมกนั หินมีเนือ้ ละเอยี ด หลังเล่นเกม ในแบบบันทึกกิจกรรม หน้า 73-74 เรียบร้อยแล้ว - เน้ือหินมลี กั ษณะเปน็ ชน้ั ๆ ให้ทาส่ิงใดต่อไป (นาข้อมูลท่ีได้จากการเล่นเกมมาอภิปราย - เน้ือหินมีผลึกแร่เรียงตัวขนานกันเป็นแถบ และ เปรียบเทียบกระบวนการเกิดหินแต่ละประเภทอีกคร้ัง และ บนั ทึกขอ้ มูลลงในแบบบนั ทึกกจิ กรรม หน้า 74 ตาราง 2 ในช่อง แถบในเนื้อหินบางชนิดอาจแซะหรือกะเทาะ คอลัมนห์ ลงั เล่นเกม) ออกเปน็ แผ่นได้ ครูควรแนะนานักเรียนเก่ียวกับคาว่าผลึกแร่ เพื่อ 6.5 การร่วมกันอภิปรายข้อมูลเก่ียวกับการเปล่ียนแปลงของหิน ใช้เป็นข้อมูลในการสังเกต และการอภิปรายผลการทา ประเภทหน่งึ ไปเป็นหนิ อีกประเภทหนง่ึ และเปลี่ยนแปลงกลับไป กิจกรรม ดงั น้ี เป็นหินประเภทเดิม ต้องอภิปรายการเปล่ียนแปลงของหิน - ผลึกแร่ เป็นผลึกของแข็งที่มีการจดั เรียงอนุภาคท่ี จานวนกี่คู่ อะไรบ้าง (อภิปรายการเปลี่ยนแปลงของหินท้ังหมด มีโครงสร้างเป็นระเบียบ มีรูปทรงทางเรขาคณิตที่ จานวน 15 คู่ ไดแ้ ก่ แน่นอนเฉพาะตัว ผลึกแร่ที่ประกอบกันอยู่ในหินจะ - หินอัคนี เปล่ียนเป็นหินตะกอนเนื้อเม็ด หินตะกอนเน้ือผลกึ เกาะอยู่รวมกัน ทาให้มองเห็นรูปทรงของผลึกได้ หินแปร หนิ อคั นีพุ และหนิ อคั นแี ทรกซอน ค่อนข้างยาก ในการสังเกตขนาดผลึกแร่จาเป็นต้องใช้ - หินตะกอน เปล่ียนเป็นหินอัคนีพุ หินอัคนีแทรกซอน แวน่ ขยายช่วยในการสังเกต หนิ แปร หินตะกอนเนอ้ื เม็ด และหินตะกอนเนอ้ื ผลกึ - หินแปร เปลี่ยนเป็นหินอัคนีพุ หินอัคนีแทรกซอน แนะนานักเรยี นเกย่ี วกับการนาข้อมลู ลักษณะ หินตะกอนเนอ้ื เมด็ หินตะกอนเนือ้ ผลึก และหนิ แปร) ของหินมาอภิปรายเปรียบเทียบกระบวนการเกิดหิน แต่ละประเภท (ก่อนเล่นเกม Rocks Dominoes) ว่า จากการสังเกตหินแต่ละประเภท ลักษณะของหิน แต่ละประเภทมีลักษณะบางอย่างแตกต่างไปจากหิน ประเภทอ่นื หรอื ไม่ ถา้ มี ลักษณะของหนิ ท่ีแตกตา่ งจาก หินประเภทอื่นน้ันเกิดข้ึนได้อย่างไร เก่ียวข้องกับ กระบวนการเกิดหินแต่ละประเภทหรือไม่ อย่างไร ซ่ึงนักเรียนจะได้อภิปรายร่วมกันในประเด็นนี้อีกครั้ง หลังจากได้เลน่ เกม Rocks Dominoes แลว้ สถาบันส่งเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี 195

คูม่ ือครูรายวิชาพน้ื ฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เล่ม 1 | หนว่ ยท่ี 3 หนิ และซากดึกดาบรรพ์ 6.6 การอภิปรายข้อมูลเกี่ยวกับการเกิดวัฏจักรหินให้อภิปรายข้อมูล ขอ้ เสนอแนะเพ่ิมเติม ในประเด็นใด และบันทึกข้อมูลในลักษณะใด (อภิปรายเก่ียวกบั กระบวนการทางธรณีวิทยาที่ใช้ในการเปลี่ยนแปลงของหิน ก่อนเล่นเกม ครูควรนานักเรียน ประเภทหนง่ึ ไปเป็นหินอีกประเภทหนึง่ และเปล่ียนแปลงกลับไป อภิปรายรายละเอียดคาบรรยายและรูปท่ี เป็นหินประเภทเดิมเป็นวัฏจักรหิน และบันทึกข้อมูล อยู่ในการ์ดทุกกลุ่มและทุกใบก่อนเล่นเกม ก ร ะ บ ว น ก า ร ท า ง ธ ร ณี วิ ท ย า ดั ง ก ล่ า ว ล ง ใ น แ ผ น ภ า พ ใ น เพื่อให้นักเรียนทราบว่าการ์ดแต่ละกลุ่ม แบบบันทกึ กจิ กรรมหน้า 79) และแต่ละใบมีรายละเอียดเก่ียวกับส่ิงใด ครูอาจเขียนสรุปเป็นขั้นตอนส้ัน ๆ บนกระดาน เพื่อเป็น เช่น ประเภทของหิน วัสดุท่ีปรากฏอยู่ใน แนวทางให้นกั เรียนทากจิ กรรมตามลาดับ ดงั ตวั อยา่ ง วัฏจักรหิน กระบวนการทางธรณีวิทยา ต่าง ๆ ที่ปรากฏในวัฏจักรหิน และชนิดหิน ต่าง ๆ และอภิปรายกับนักเรียนให้เข้าใจ เกี่ยวกับกติกาการเล่น ว่าเม่ือใดที่จะมี ผูช้ นะ และเม่อื ใดที่จะจบเกม ข้อเสนอแนะเพ่มิ เติม ก า ร บั น ทึ ก ก ร ะ บ ว น ก า ร ท า ง ธรณีวิทยาที่ทาให้หินเกิดการเปลี่ยนแปลง ไปเป็นหินประเภทใหม่หรือเปล่ียนกลับมา เป็นหินประเภทเดิม ในแบบบันทึก กิจกรรม หน้า 78 ตาราง 3 นักเรียนอาจ บั น ทึ ก ก ร ะ บ ว น ก า ร เ ป ล่ี ย น แ ป ล ง ท า ง ธ ร ณี วิ ท ย า ท่ี ท า ใ ห้ หิ น แ ต่ ล ะ คู่ เ กิ ด ก า ร เปลี่ยนแปลงไปได้ไม่ครบถ้วนทุกเส้นทาง ครูอาจจะนาข้อมูลที่นักเรียนบันทึกได้ใน แต่ละคู่มาอภิปรายร่วมกัน ว่าหินในแต่ละ คู่สามารถเปล่ียนแปลงไปเป็นหินประเภท ใหม่หรือเปลี่ยนกลับมาเป็นหินประเภท เดิมได้ และมีเส้นทางการเปลี่ยนแปลง อยา่ งไรไดบ้ า้ ง 196 สถาบันส่งเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

คมู่ ือครูรายวิชาพ้ืนฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เล่ม 1 | หนว่ ยที่ 3 หินและซากดกึ ดาบรรพ์ ตัวอยา่ งการเขยี นสรุปขน้ั ตอนการทากิจกรรมเป็นขน้ั ตอนสั้น ๆ และการบนั ทึกผลลงบนกระดาน มีดังน้ี วิธกี ารทากิจกรรม การบนั ทึกผล สงั เกตลกั ษณะของหนิ แตล่ ะประเภท แบบบันทกึ กิจกรรม หน้า 73-74 ตาราง 1 คอลัมน์ก่อนเลน่ เกม  สังเกตลกั ษณะของหินแต่ละประเภทอีกครงั้ แบบบนั ทึกกจิ กรรม หนา้ 74 ตาราง 2 คอลมั น์กอ่ นเล่นเกม โดยใชแ้ ว่นขยายช่วยในการสงั เกต แบบบนั ทกึ กจิ กรรม หนา้ 75-77  แบบบันทกึ กิจกรรม หนา้ 73-74 ตาราง 1 อภปิ รายเปรยี บเทียบว่าหินแตล่ ะประเภทมี คอลัมน์หลงั เลน่ เกม กระบวนการเกดิ แตกตา่ งกันหรอื ไม่ เพราะเหตใุ ด แบบบนั ทกึ กิจกรรม หน้า 74 ตาราง 2 คอลมั นห์ ลงั เลน่ เกม  อ่านคูม่ ือการเล่นเกม และกติกาการเลน่ เกม แบบบนั ทึกกจิ กรรม หนา้ 78 Rocks Dominoes ให้เข้าใจ แบบบนั ทกึ กิจกรรม หนา้ 79  เลน่ เกม Rocks Dominoes  รวบรวมข้อมูลท่ีไดจ้ ากการเล่นเกม และอภิปรายเก่ยี วกับ กระบวนการเกิดและลกั ษณะของหินอัคนี หินตะกอน และหินแปร  สงั เกตลักษณะของหนิ ท้งั สามประเภทอีกคร้งั โดยใชข้ อ้ มลู จากการเลน่ เกมมาประกอบการสังเกต  อภปิ รายเปรยี บเทียบกระบวนการเกิดหนิ แตล่ ะประเภทอีกคร้ัง  รวบรวมขอ้ มูลท่ีไดจ้ ากการเล่นเกม และอภิปรายเกีย่ วกับ การเปล่ยี นแปลงของหินประเภทหน่ึงไปเปน็ หินอีกประเภท หนึง่ และเปลยี่ นแปลงกลบั ไปเป็นหนิ ประเภทเดิม  รวบรวมขอ้ มลู ที่ไดจ้ ากการเล่นเกม และอภิปรายเก่ียวกับ การเปลี่ยนแปลงของหนิ ประเภทหนึ่งไปเป็นหินอีกประเภท หนึ่ง และเปลี่ยนแปลงกลบั ไปเป็นหินประเภทเดมิ ในวัฏจักรหิน สถาบันส่งเสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี 197

คมู่ ือครรู ายวิชาพน้ื ฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เลม่ 1 | หน่วยท่ี 3 หนิ และซากดึกดาบรรพ์ 7. เมื่อนักเรียนเข้าใจวิธีการทากิจกรรมในทาอย่างไรแล้ว ครูแจกวัสดุ หากนักเรียนไม่สามารถตอบ อุปกรณ์ และให้นักเรยี นลงมอื ปฏบิ ตั ติ ามขัน้ ตอน คาถามหรืออภิปรายได้ตามแนว - เมื่อเล่นเกมเสร็จแล้ว ให้นักเรียนร่วมกันอภิปรายข้อมูลจาก คาตอบ ครูควรให้เวลานักเรียนคิด การด์ ทเี่ รียงไว้ ทไ่ี ด้จากการเลน่ เกม ในประเด็นตา่ ง ๆ ดงั นี้ อย่างเหมาะสม รอคอยอย่างอดทน - ร่วมกันอภิปรายว่าหินมีก่ีประเภท อะไรบ้าง (ให้พิจารณา และรบั ฟงั แนวความคิดของนกั เรียน จากการด์ กลมุ่ ที่ 2 ที่ได้จากการเลน่ เกม) - ร่วมกันศึกษาข้อมูลลักษณะของหินจากการ์ดกลุ่มที่ 5 ที่เป็นการ์ดชนิดของหิน จานวน 15 ชนิด และให้ร่วมกัน อภิปรายว่าหินแต่ละชนิดเป็นหินประเภทใด (ให้พิจารณา สัญลักษณ์ที่ปรากฏบนการ์ดกลุม่ ที่ 5 และให้นาไปเทียบกับ สัญลักษณ์บนการ์ดกลุ่มท่ี 2 ที่เป็นการ์ดประเภทของหิน จะพบว่าหินแต่ละชนิดเป็นหินประเภทใด จากนั้นให้ ตรวจสอบวา่ ตรงกบั ท่ไี ด้ร่วมกนั อภปิ รายไว้หรือไม่) - อภิปรายลักษณะของหินอัคนี หินตะกอน และหินแปร (พิจารณาจากการ์ดกลุ่มที่ 2 และกลุ่มที่ 5 ท่ีได้จากการเลน่ เกม) - อภิปรายกระบวนการทางธรณีวิทยาท่ีทาให้หินมี การเปลี่ยนแปลงว่ามีกระบวนการอะไรบ้าง (พิจารณาจาก การ์ดกลมุ่ ท่ี 4 ทีไ่ ด้จากการเลน่ เกม) - อภิปรายว่ากระบวนการเกิดหินอัคนี หินตะกอน และ หินแปร ต้องอาศัยกระบวนการทางธรณีวิทยาใดบ้าง (พิจารณาจากการ์ดทุกกลุ่มท่ีเรียงต่อกัน ที่ได้จากการเล่น เกม) - อภิปรายเปรียบเทียบกระบวนการเกิดหินแต่ละประเภท (พิจารณาจากการ์ดทุกกลุ่มที่เรียงต่อกัน ท่ีได้จากการ เลน่ เกม) - อภิปรายการเปล่ียนแปลงของหินประเภทหน่ึงไปเป็นหิน อีกประเภทหนึ่ง ต้องอาศัยกระบวนการทางธรณีวิทยา ใดบ้าง (พิจารณาจากการ์ดทุกกลุ่มท่ีเรียงต่อกัน ท่ีได้จาก การเล่นเกม) - อภิปรายการเปล่ียนแปลงของหินประเภทหนึ่งจน เปลี่ยนแปลงกลับมาเป็นหินประเภทเดิม ต้องอาศัย 198 สถาบันส่งเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี

ค่มู อื ครูรายวิชาพนื้ ฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เลม่ 1 | หนว่ ยท่ี 3 หนิ และซากดกึ ดาบรรพ์ กระบวนการทางธรณีวิทยาใดบ้าง (พิจารณาจากการ์ด ข้อเสนอแนะเพิ่มเติม ทุกกลมุ่ ที่เรียงตอ่ กนั ทไ่ี ดจ้ ากการเลน่ เกม) - อภิปรายการเปลี่ยนแปลงของหินอัคนี หินตะกอน และ กรณีมีเวลาน้อยสาหรับใช้ในการอภิปราย หินแปรเป็นวัฏจักรหิน ต้องอาศัยกระบวนการทาง ข้อมูลท่ีได้จากการเล่นเกม เม่ือเล่นเกมเสร็จแล้วอาจ ธรณีวิทยาใดบ้าง (พิจารณาจากการ์ดทุกกลุ่มท่ีเรียงต่อกัน จาเป็นต้องเก็บหลักฐานการ์ดที่วางเรียงต่อไว้เพ่ือ ที่ได้จากการเล่นเกม) นาไปใช้ในการอภิปรายในคร้งั ต่อไป อาจเก็บหลักฐาน จ า ก นั้ น น า ข้ อ มู ล ที่ ไ ด้ จ า ก ก า ร อ ภิ ป ร า ย ม า บั น ทึ ก ล ง ใ น การเล่นเกมโดยเกบ็ การด์ แยกเปน็ 4 ซอง (ซอง A B C แบบบนั ทึกกิจกรรม หนา้ 73-79 ให้ครบถว้ น และ D) โดยแต่ละซองให้เก็บการ์ดเรียงตามท่ีเรียงต่อ 8. หลังจากทากิจกรรมแล้ว นกั เรียนร่วมกนั อภปิ รายผลการทากจิ กรรม กันไวต้ ามลาดับกอ่ นหลงั โดยใชค้ าถามดงั ต่อไปนี้ - ซอง A เป็นซองท่ีประกอบด้วยการ์ดท่ีเริ่มด้วยหิน 8.1 หินแต่ละประเภทมีลักษณะอย่างไร (หินอัคนีแทรกซอนมี ลกั ษณะเป็นผลึกแรข่ นาดใหญเ่ กาะอยรู่ วมกัน มีเนอื้ หยาบ หนิ ทุกประเภท และต่อด้วยการ์ดกระบวนการท่ีเป็น อั ค นี พุ มี ลั ก ษ ณ ะ เ ป็ น ผ ลึ ก แ ร่ ข น า ด เ ล็ ก เ ก า ะ อ ยู่ ร ว ม กั น การหลอมเหลว และการ์ดอ่นื ๆ ท่เี รียงต่อไว้ มีเนื้อละเอียด บางก้อนเป็นเนื้อแก้ว บางก้อนมีรูพรุนใน - ซอง B เป็นซองท่ีประกอบด้วยการ์ดที่เริ่มด้วยหิน เน้ือหิน หินตะกอนมีลักษณะเป็นเม็ดตะกอนขนาดใหญ่ ทุกประเภท และต่อด้วยการ์ดกระบวนการท่ีเป็น เกาะอยู่รวมกัน มีเนื้อหยาบ บางก้อนมีลักษณะเป็นเม็ด การ์ดการผุพัง และการด์ อ่ืน ๆ ทเี่ รยี งตอ่ ไว้ ตะกอนขนาดเล็กเกาะอยู่รวมกัน มีเนื้อละเอียด บางก้อน - ซอง C เป็นซองท่ีประกอบด้วยการ์ดท่ีเริ่มด้วยหิน มีเศษหินปะปนอยู่ บางก้อนเน้ือหินมีลักษณะเป็นชั้น ๆ ทุกประเภท และต่อด้วยการ์ดกระบวนการท่ีเป็น และหินแปรมีลักษณะเป็นผลึกแร่เกาะอยู่รวมกัน บางก้อน การแปรสภาพ และการ์ดอื่น ๆ ท่เี รียงต่อไว้ ผลึกแร่เรียงตัวขนานกันเป็นแถบ และแถบของเนื้อหินบาง - ซอง D เป็นซองที่ประกอบด้วยการ์ดชนิดของหิน ชนิดแซะหรือกะเทาะออกเปน็ แผ่นได้) โดยแยกเปน็ ชนิดของหินอัคนี ชนิดของหนิ ตะกอน 8.2 หินแต่ละประเภทมีลักษณะเฉพาะอะไรบ้างที่แตกต่างจาก และชนิดของหินแปร (แยกเป็น 3 ประเภทภายใน หินประเภทอ่ืน ซองเดยี วกัน) (- หินอัคนีมีลักษณะเฉพาะท่ีแตกต่างจากหินประเภทอ่ืน เมื่อต้องการนาการ์ดมาอภิปรายข้อมูลต่อ ให้นา ได้แก่ บางก้อนจะเป็นเน้อื แกว้ และมีรูพรุน การ์ดในซองท้ัง 4 ซองมาเรียงแผ่ตามแถว เป็น 3 แถว - หินตะกอนมีลักษณะเฉพาะที่แตกต่างจากหินประเภทอ่ืน เช่นเดิม (ให้เหมือนการ์ดที่เคยเรียงต่อกันเมื่อตอนจบ ได้แก่ เนื้อหินประกอบด้วยเม็ดตะกอน และอาจพบ เกม) แล้วให้ร่วมกันอภิปรายและบันทึกข้อมูลต่อจน การวางตัวของเน้ือหินเป็นชนั้ ๆ แล้วเสร็จ หรืออาจจัดเก็บผลการเล่นเกมโดยบันทึก - หินแปรมีลักษณะเฉพาะท่ีแตกต่างจากหินประเภทอื่น เป็นภาพถ่ายและนาภาพดังกล่าวฉายบนจ อ ได้แก่ การมีผลึกแร่เรียงตัวขนานกันเป็นแถบ และแถบ หน้าช้ันเรียนเพื่อใช้ในการอภิปรายผลการทากิจกรรม ดังกลา่ วของหนิ แปรบางชนิดอาจแซะหรือกะเทาะออกเป็น ในคร้งั ตอ่ ไป หรอื จัดเกบ็ การด์ ทีเ่ รยี งต่อไว้จากการเล่น แผ่นได)้ เกมโดยติดลงบนแผ่นพลาสติกลูกฟูกหรือบนกระดาน หรือบนกระดาษแข็งด้วยวิธีการต่าง ๆ ซ่ึงไม่ควรติด กาวแบบถาวร เพราะเม่ือนักเรียนทากิจกรรมเสร็จ เรียบรอ้ ยแล้วและต้องการดึงการด์ ออก จะทาใหก้ าร์ด ชารดุ เสียหาย ไมส่ ามารถนามาใช้เลน่ ในครง้ั ต่อไปได้ สถาบันสง่ เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี 199

ค่มู อื ครรู ายวิชาพนื้ ฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เลม่ 1 | หน่วยที่ 3 หนิ และซากดกึ ดาบรรพ์ 8.3 การเกิดหินแต่ละประเภทมีกระบวนการเกิดเหมือนหรือ หากนักเรียนไม่สามารถตอบ แตกต่างกันหรือไม่ อย่างไร (หินแต่ละประเภทมีกระบวนการ คาถามหรืออภิปรายได้ตามแนว เกิดแตกต่างกันดังน้ี หินอัคนีเกิดจากการเย็นตัวและตกผลึก คาตอบ ครูควรให้เวลานักเรียนคิด จากแมกมา หรือเกิดจากการเย็นตัวและตกผลึกของลาวา อย่างเหมาะสม รอคอยอย่างอดทน หรือเกิดจากการเย็นตัวและแข็งตัวของลาวา หินตะกอนเกิด และรบั ฟงั แนวความคดิ ของนักเรยี น จากการสะสมตัวของตะกอนและการเชื่อมประสานตะกอน หรือเกิดจากการตกผลึกหรือตกตะกอนของสารบางชนดิ และ หินแปรเกิดจากหินทุกประเภทมีการแปรสภาพโดยความร้อน ความดัน และปฏิกิรยิ าเคมี) 8.4 เพราะเหตุใดหินแต่ละประเภทจึงมีลักษณะแตกต่างกัน (หนิ แตล่ ะประเภทมกี ระบวนการเกดิ แตกตา่ งกนั ) 8.5 กระบวนการเปลี่ยนแปลงของหินต่าง ๆ ไปเป็นหินอัคนี มีกระบวนการเปลี่ยนแปลงคงที่เป็นแบบรูปหรือไม่ อย่างไร (มกี ารเปลีย่ นแปลงคงท่เี ป็นแบบรูป เชน่  หินตะกอนจะเปลี่ยนไปเป็นหินอัคนีพุ ต้องผ่านการ แปรสภาพ การหลอมเหลว และการเย็นตัวและตกผลึก ของลาวา หรอื การเย็นตัวและแข็งตัวของลาวา  หรือหินตะกอนจะต้องผ่านการหลอมเหลว และการเย็น ตัวและตกผลึกของลาวา หรือการเย็นตัวและแข็งตัวของ ลาวา) 8.6 กระบวนการเปล่ียนแปลงของหินต่าง ๆ ไปเป็นหินตะกอน มีกระบวนการเปล่ียนแปลงคงที่เป็นแบบรูปหรือไม่ อย่างไร (มีการเปล่ยี นแปลงคงท่เี ป็นแบบรูป เช่น  หินแปรจะเปล่ียนไปเป็นหินตะกอนชนิดที่เน้ือเป็นเม็ด ตะกอน ต้องผ่านการหลอมเหลว การเย็นตัวและตกผลึก ของแมกมา การผุพัง และการสะสมตัวของตะกอนและ การเช่อื มประสานตะกอน  หรือหินแปรจะต้องผ่านการผุพัง และการสะสมตัวของ ตะกอนและการเชือ่ มประสานตะกอน) 8.7 กระบวนการเปล่ียนแปลงของหินต่าง ๆ ไปเป็นหินแปร มีกระบวนการเปล่ียนแปลงคงที่เป็นแบบรูปหรือไม่ อย่างไร (การเปลี่ยนแปลงคงที่เปน็ แบบรูป เชน่ 200 สถาบนั ส่งเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี

ค่มู ือครรู ายวิชาพืน้ ฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เล่ม 1 | หนว่ ยท่ี 3 หินและซากดึกดาบรรพ์  หินอัคนีจะเปล่ียนไปเป็นหินแปรต้องผ่านการแปรสภาพ หากนักเรียนไม่สามารถตอบ หรอื ตอ้ งผา่ นการผุพงั การตกผลึกหรือตกตะกอนของสาร คาถามหรืออภิปรายได้ตามแนว บางชนดิ และการแปรสภาพ คาตอบ ครูควรให้เวลานักเรียนคิด อย่างเหมาะสม รอคอยอย่างอดทน  หรือหินอัคนีจะต้องผ่านการผุพัง การสะสมตัวของ และรบั ฟังแนวความคิดของนักเรยี น ตะกอนและการเช่ือมประสานตะกอน และการ แปรสภาพ) 8.8 กระบวนการทางธรณีวิทยาท่ีทาให้หินประเภ ทหนึ่ง เปลี่ยนแปลงไปเป็นหินอีกประเภทหนึ่งหรือเปล่ียนแปลง กลับไปเป็นหินประเภทเดิมมีกระบวนการเปล่ียนแปลงคงท่ี เป็นแบบรูปหรือไม่ อย่างไร (มีกระบวนการเปล่ียนแปลงคงท่ี เป็นแบบรูป เชน่ - การท่ีหินอัคนีจะเปล่ียนไปเป็นหินแปรจะผ่านกระบวนการ ทางธรณีวิทยาต่าง ๆ เช่น หินอัคนีจะผ่านกระบวนการ แปรสภาพกลายเป็นหินแปร หรือ หินอัคนีจะผ่าน กระบวนการผุพังกลายเป็นตะกอนก่อน จากน้ันตะกอนจะ ผ่ า น ก ร ะ บ ว น ก า ร ส ะ ส ม ตั ว ข อ ง ต ะ ก อ น แ ล ะ ก า ร เช่ือมประสานตะกอนกลายเป็นหินตะกอน และจากนั้น หินตะกอนจะผ่านกระบวนการแปรสภาพกลายเป็นหินแปร การเปล่ียนแปลงจากหินอัคนีไปเป็นหินแปร ดังตัวอย่างจะ มีการเปล่ียนแปลงคงทเ่ี ปน็ แบบรูป - การท่ีหินตะกอนจะเปลี่ยนไปเป็นหินอัคนีจะผ่าน กระบวนการทางธรณีวิทยาต่าง ๆ เช่น หินตะกอนจะถูก แปรสภาพกลายเป็นหินแปรก่อน แลว้ หนิ แปรจะหลอมเหลว กลายเป็นแมกมาหรือลาวา จากนั้นแมกมาหรือลาวาจะผ่าน การเย็นตัวและตกผลึก หรือผ่านการเย็นตัวและแข็งตัว กลายเป็นหินอัคนี หรือหินตะกอนจะหลอมเหลวกลายเป็น แมกมาหรือลาวาก่อน จากน้ันแมกมาหรือลาวาจะผ่าน การเย็นตัวและตกผลึก หรือการท่ีลาวาจะผ่านการเย็นตัว และแข็งตัวกลายเป็นหินอัคนี การเปลี่ยนแปลงจากหิน ตะกอนไปเป็นหินอัคนีดังตัวอย่างจะมีการเปลี่ยนแปลงคงที่ เปน็ แบบรูป) - การที่หินแปรจะเปลี่ยนแปลงกลับมาเป็นหินแปรอีกครั้ง อาจผ่านกระบวนการทางธรณีวิทยาต่าง ๆ เช่น หินแปรมี สถาบันส่งเสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี 201

คูม่ อื ครรู ายวิชาพืน้ ฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เลม่ 1 | หน่วยที่ 3 หนิ และซากดกึ ดาบรรพ์ การผุพังกลายเป็นตะกอน จากนั้นผ่านการสะสมตัวและ ถ้ า ค รู พ บ ว่ า นั ก เ รี ย น ยั ง มี การเชื่อมประสานตะกอนกลายเป็นหินตะกอน และ แนวคิดคลาดเคลื่อนเกี่ยวกับ หินตะกอนจะถูกกระบวนการแปรภาพกลายเป็นหินแปร กระบวนการเกิดหิน ลักษณะ การเปลี่ยนแปลงของหินแปรให้กลับมาเป็นหินแปรใหม่ ท า ง ก า ย ภ า พ ข อ ง หิ น แ ล ะ อีกคร้ังดังตวั อยา่ ง จะมีการเปลีย่ นแปลงคงทเี่ ปน็ แบบรปู วัฏจักรหิน ให้ร่วมกันอภิปราย - การที่หินตะกอนจะเปลี่ยนแปลงกลับมาเป็นหินตะกอน จนนกั เรยี นมแี นวคิดทถ่ี ูกตอ้ ง อีกครั้ง หินตะกอนอาจผ่านกระบวนการหลอมเหลว กลายเป็นแมกมา จากน้ันแมกมามีการเย็นตัวและตกผลึก กลายเป็นหินอัคนี หินอัคนีมีการผุพังกลายเป็นตะกอนหรือ สารบางชนิด จากนั้นสารบางชนิดจะมีการตกผลึกหรือ ตกตะกอนเป็นหินตะกอนอีกคร้ัง การเปลี่ยนแปลงจาก หิ น ต ะ ก อ น ไ ป เ ป็ น หิ น ต ะ ก อ น ดั ง ตั ว อ ย่ า ง จ ะ มี การเปล่ยี นแปลงคงท่ีเปน็ แบบรปู ) 8.9 การเปลี่ยนแปลงของหินเป็นวัฏจักรหินมีลักษณะเป็นอย่างไร (เป็นการเปล่ียนแปลงของหินอัคนี หินตะกอน และหินแปร จากหินประเภทหน่ึงเปล่ียนแปลงไปเป็นหินอีกประเภทหน่ึง หรือเปลี่ยนแปลงกลับไปเป็นหินประเภทเดิม โดยมี กระบวนการเปลี่ยนแปลงคงที่เป็นแบบรูปและต่อเนื่องเป็น วัฏจักร) 9. ครูเปิดโอกาสให้นักเรียนซักถามในสิ่งที่อยากรู้เพิ่มเติมเก่ียวกับ กระบวนการเกิดหิน ลักษณะทางกายภาพของหิน และวัฏจักรหิน จากนัน้ ร่วมกนั อภิปรายและลงข้อสรปุ ว่า - หินอัคนี หินตะกอน และหินแปร มีกระบวนการเกิดแตกต่างกัน และมีลกั ษณะทางกายภาพบางอยา่ งแตกตา่ งกัน ดงั นี้  หนิ อคั นเี กิดจากการเย็นตัวและตกผลึกของแมกมาใต้ผิวโลก และเกิดจากการเย็นตัวและตกผลึก หรอื เกดิ จากการเย็นตัว และแข็งตัวของลาวาบนผิวโลก เนื้อหินมีลักษณะเป็นผลึก มีท้ังผลึกขนาดใหญ่และขนาดเล็ก และบางชนิดอาจเป็น เน้ือแก้ว และอาจมีรูพรนุ ในเน้อื หนิ  หินตะกอนเกิดจากการสะสมตัวของตะกอนและการ เช่อื มประสานตะกอนในแอง่ สะสมตะกอน หรอื เกดิ จากการ ตกผลึกหรือตกตะกอนโดยเฉพาะส่วนใหญ่จากน้าทะเล หินตะกอนท่ีเกิดจากการสะสมตัวของตะกอนหรือเศษหิน 202 สถาบนั สง่ เสรมิ การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

คู่มือครรู ายวิชาพืน้ ฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เล่ม 1 | หนว่ ยท่ี 3 หินและซากดกึ ดาบรรพ์ เศษแร่จากหินท่ีผุพังมา เน้ือหินส่วนใหญ่มีลักษณะเป็น การเตรยี มตัวลว่ งหน้าสาหรับครู เม็ดตะกอน มีทั้งเน้ือหยาบและละเอียด ส่วนหินตะกอนที่ เพ่อื จัดการเรยี นรใู้ นครง้ั ถดั ไป เกิดจากการตกผลึกหรือตกตะกอนจากสารบางชนิด เน้ือหินจะเป็นเนื้อผลึก หินตะกอนบางชนิดมีลักษณะเป็น ในครั้งถัดไป นักเรียนจะไ ด้ท า ชน้ั ๆ บางครัง้ ในอดีตจงึ เรียกหนิ ตะกอนว่า หนิ ชัน้ กิจกรรมที่ 1.3 หินและแร่มีประโยชน์ อย่างไรบ้าง ครูเตรียมสิ่งของเคร่ืองใช้  หินแปรเกิดจากการแปรสภาพของหินเดิมซ่ึงอาจเป็น หรือรูปที่ทามาจากหินหรือแร่ เพ่ือนามา หินอัคนี หินตะกอน หรือหินแปร โดยการกระทาของ กระตุ้นนักเรียนในการนาเข้าสู่กิจกรรม ความร้อน ความดัน และปฏิกิริยาเคมีท่ีเกิดข้ึนใต้ผิวโลก ตัวอย่างส่ิงของเคร่ืองใช้หรือรูปที่ทามา ทาให้หินแปรบางชนิดมีผลึกแร่เรียงตัวขนานกันเป็นแถบ จากหินและแร่ เช่น หินลับมีด หินขัดตัว บางชนิดเน้ือหินจะมีรอยแยกเป็นแผ่น ๆ ซ่ึงรอยแยกนี้อาจ ก ร ะ เ บื้ อ ง ปู พื้ น ห รื อ ผ นั ง แ ก้ ว น้ า แซะหรือกะเทาะออกเป็นแผ่นหินใหญ่ ๆ ได้ บางชนิดเป็น เคร่อื งสาอาง แป้งทาตัว ไสด้ ินสอดา และ เนอ้ื ผลึกท่มี คี วามแขง็ มาก เตรียมแหล่งสืบค้นข้อมูลต่าง ๆ เพื่อให้ นักเรียนสืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับการนาหิน  หินท้ังสามประเภทมีการเปลี่ยนแปลงจากหินประเภทหน่ึง และแร่ไปใช้ประโยชน์ ตัวอย่างแหล่ง ไปเป็นหินอีกประเภทหนึ่งและเปลี่ยนแปลงกลับไปเป็นหิน สืบค้นข้อมูล เช่น เว็บไซต์กรมทรัพยากร ประเภทเดิมได้ โดยมีกระบวนการเปล่ียนแปลงคงที่เป็น ธรณี http://www.dmr.go.th แบบรูปและและตอ่ เนื่องเปน็ วัฏจกั รหิน (S13) 10. นักเรียนตอบคาถามในฉันรู้อะไร จากนั้นร่วมกันอภิปรายเพื่อให้ได้ แนวคาตอบทถ่ี ูกตอ้ ง 11. นักเรียนสรุปสิ่งที่ได้เรียนรู้ในกิจกรรมน้ี จากน้ันครูให้นักเรียนอ่าน สงิ่ ทไ่ี ด้เรียนรู้ และเปรียบเทยี บกับข้อสรุปของตนเอง 12. ครูอาจให้นักเรียนศึกษากระบวนการเกิดหินและวัฏจักรหินเพิ่มเติม โดยสแกน QR code ในหนังสือเรียน หน้า 77 หรือดาวน์โหลด ข้อมูลจากเว็บไซต์ http://ipst.me/10924 เม่ือสแกนหรือ ดาวน์โหลดข้อมูลไปแล้วจะพบสื่อประกอบเพิ่มเติม เป็นสื่อ แ อ นิ เ ม ชั น เ กี่ ย ว กั บ ก ร ะ บ ว น ก า ร เ กิ ด หิ น แ ต่ ล ะ ป ร ะ เ ภ ท แ ล ะ การเปลี่ยนแปลงของหินเป็นวัฏจักรหิน หรืออาจดาวน์โหลดข้อมูล จากเว็บไซต์ http://ipst.me/10925 เม่ือดาวน์โหลดไปแล้วจะพบ ส่ือ e-poster เรื่องกระบวนการเกิดหินและวัฏจักรหิน ครูอาจให้ นักเรียนหาเวลาว่างเข้าไปศึกษาส่ือประกอบท้ังสอง และอาจให้ นักเรียนนาเสนอข้อมูลท่ีได้จากการศึกษาในรูปแบบต่าง ๆ ท่ี นา่ สนใจ 13. ครูกระตุ้นให้นักเรียนฝึกต้ังคาถามเก่ียวกับเร่ืองท่ีสงสัยหรืออยากรู้ เพ่ิมเติมในอยากรู้อีกว่า จากนน้ั ครูอาจสมุ่ นักเรียน 2-3 คน นาเสนอ สถาบันส่งเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี 203

คมู่ ือครรู ายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เล่ม 1 | หน่วยท่ี 3 หินและซากดึกดาบรรพ์ คาถามของตนเองหน้าชั้นเรียน และให้นักเรียนร่วมกันอภิปราย เกยี่ วกบั คาถามที่นาเสนอ 14. ครูนาอภิปรายเพ่ือให้นักเรียนทบทวนว่าได้ฝึกทักษะกระบวนการ ทางวิทยาศาสตร์และทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 อะไรบ้างในขั้นตอน ใด แลว้ บันทึกลงในแบบบันทกึ กิจกรรม หนา้ 83 204 สถาบนั ส่งเสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

คมู่ ือครรู ายวิชาพ้ืนฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เล่ม 1 | หน่วยที่ 3 หนิ และซากดกึ ดาบรรพ์ แนวคาตอบในแบบบันทึกกจิ กรรม 1. สงั เกตและอธิบายลกั ษณะทางกายภาพของหินอคั นี หินตะกอน และหนิ แปร 2. รวบรวมข้อมลู อธิบาย และเปรยี บเทียบกระบวนการเกดิ หนิ แต่ละประเภท จากแบบจาลอง 3. รวบรวมข้อมลู และอธิบายกระบวนการเปลยี่ นแปลงของหนิ ในวัฏจักรหนิ จากแบบจาลอง มีวสั ดุแขง็ สตี ่าง ๆ รวมตัวกัน บาง พบทัง้ ท่ีมีลกั ษณะเป็นผลึกแร่ขนาด ก้อนหินมีเนื้อหยาบ บางก้อนมีเนื้อ ใหญ่เกาะอยู่รวมกันมีเนื้อหยาบ ละเอียด ถ้าหินมีเนื้อละเอียดจะ และพบลักษณะเป็นผลึกแร่ขนาด มองเห็นหินทั้งก้อนมีสีเดียว หิน เล็กเกาะอยู่รวมกันมีเนื้อละเอียด บางก้อนเป็นเน้ือแก้ว บางก้อนหินมี และหินบางก้อนเป็นเน้ือแ ก้ว รูพรุนในเนอ้ื หนิ บางก้อนหินมรี พู รุนในเนอ้ื หิน พบเมด็ ตะกอนเกาะอย่รู วมกัน มที ง้ั พบทั้งท่ีมีลักษณะเป็นเม็ดตะกอน เ น้ื อ ห ย า บ แ ล ะ เ น้ื อ ล ะ เ อี ย ด ขนาดใหญ่เกาะอยู่รวมกัน มี บางก้อนมีเศษหินปะปน บางก้อน เน้ือหยาบ และ หินบางก้อนมี เนื้อหินมีลักษณะเป็นช้นั ๆ ลักษณะเป็นเม็ดตะกอนขนาดเล็ก เกาะอยู่รวมกัน มีเน้ือละเอียด บ า ง ก้ อ น มี เ ศ ษ หิ น ป ะ ป น อ ยู่ บ า ง ก้ อ น เ น้ื อ หิ น มี ลั ก ษ ณ ะ เ ป็ น ชั้น ๆ สถาบันสง่ เสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี 205

คมู่ ือครูรายวิชาพืน้ ฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เลม่ 1 | หน่วยท่ี 3 หินและซากดึกดาบรรพ์ หินประกอบด้วยวัสดุแข็งขนาด หินมีลักษณะเปน็ ผลึกแรข่ นาดใหญเ่ กาะอยู่ ต่าง ๆ เกาะอยู่รวมกัน บางก้อน รวมกนั มีเนื้อหยาบ บางก้อนมีลกั ษณะเป็น วัสดุแข็งจะเรียงตัวขนานกันเป็น ผลึกแ ร่ข นาดเ ล็กเกาะอยู่รวม กัน มี แถบสี และบางก้อนสามารถแซะ เน้ือละเอียด บางก้อนเนื้อหินมีผลึกแร่เรียง หรือกะเทาะออกเป็นแผ่นได้ ตัวขนานกันเป็นแถบ และแถบในเน้ือหิน บางชนิดแซะหรือกะเทาะออกเป็นแผน่ ได้  ตัวอย่างผลการอภิปราย เช่น ลักษณะของ หินอัคนี เกิดจากการเยน็ ตวั และตกผลกึ ของแมกมาหรอื เกดิ หินอัคนี หินตะกอน และหินแปร มีลักษณะ จากการเย็นตัวและตกผลึกของลาวา หรือเกิดจากการเย็นตัว บางอย่างแตกต่างกัน เช่น การพบเน้ือแก้ว และแข็งตัวของลาวา หินตะกอนเกิดจากการสะสมตัวของ และรพู รนุ ในหินอัคนกี ารพบเม็ดตะกอนและ ตะกอนและการเชื่อมประสานตะกอน หรือเกิดจากการ ตกผลึก เศษหินในหินตะกอน และพบการเรียงตัว และตกตะกอนของสารบางชนิด และหินแปรเกิดจากหิน ของวัสดุแข็งท่ีเรียงตัวขนานกันแถบในหิน ทุกประเภทมีการแปรสภาพโดยความร้อน ความดัน และ แปร ลักษณะบางอย่างของหินแต่ละ ปฏิกริ ยิ าเคมบี รเิ วณใตผ้ วิ โลก ประเภทที่แตกต่างกันน้ี เกิดจากหินแต่ละ ประเภทมกี ระบวนการเกิดแตกต่างกัน การท่ีหนิ แต่ละประเภทมีกระบวนการเกิดแตกตา่ งกัน จึงทา ให้ลักษณะทางกายภาพของหินแต่ละประเภทอาจมีลักษณะ บางอยา่ งแตกต่างกนั 206 สถาบันส่งเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

คูม่ อื ครรู ายวิชาพ้ืนฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เลม่ 1 | หน่วยท่ี 3 หนิ และซากดึกดาบรรพ์ แมกมา ลาวา รวดเรว็ ทนั ทีทันใด ช้า ๆ รวดเรว็ ใหญ่ เลก็ แกว้ ภูเขาไฟ หยาบ ละเอยี ด แก้ว แกรนติ บะซอลต์ พัมมิซ ออบซิเดยี น สถาบันสง่ เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี 207

คมู่ อื ครรู ายวิชาพืน้ ฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เล่ม 1 | หนว่ ยที่ 3 หินและซากดึกดาบรรพ์ สะสมตวั ของตะกอนในแอง่ ตกผลกึ และตกตะกอนของสารบางชนิด สะสมตะกอน แรงกดทับไปที่ตะกอนและมี ผลึก การเชื่อมประสานตะกอน ปนู แข็งตัวกลายเปน็ หนิ ใหญ่ เล็ก หยาบ ละเอียด กรวดมน ดินดาน ทราย ทรายแป้ง 208 สถาบันส่งเสรมิ การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

คู่มือครรู ายวิชาพน้ื ฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เล่ม 1 | หน่วยที่ 3 หินและซากดึกดาบรรพ์ การแปรสภาพ ความรอ้ น ความดัน และปฏกิ ิรยิ า เคมี ผลกึ แร่เรียงตัว ผลึก ขนานกนั ควอร์ตไซต์ ไนส์ อ่อน ฟิลไลต์ ชนวน สถาบันสง่ เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี 209