แนวความคดิ ทางจิตวทิ ยา 46 Viewpoint Psychology แนวคิดชีวะ - จิตวิทยา (Biopsychology) และประสาทจิตวิทยา (Neuropsychology) ความรู้ด้านชีววิทยา กายวิภาคและระบบประสาท มีส่วนสาคัญกับจิตวิทยามาโดยตลอด นบั ตงั้ แตก่ ่อนการเป็ นศาสตร์จิตวิทยา ชว่ งปลายทศวรรษที่ 1950 จนถงึ ช่วงต้น 1960 ได้มีการพฒั นายา เพื่อควบคุมอาการของโรคจิตเวช เช่น โรคจิตเภท (Schizophrenia) และโรคซึมเศร้ า (Depression) ความสาเร็จที่เกิดขึน้ จากการรักษาด้วยยา ทาให้เกิดความสนใจในเรื่องความเช่ือมโยงระหวา่ งปัจจยั ทาง ชีววทิ ยากบั พฤตกิ รรม อารมณ์ และกระบวนการคิดของมนษุ ย์ การศึกษาด้านชีวะ-จิตวิทยาได้พัฒนาขึน้ อย่างมาก ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและศาสตร์ การแพทย์ยังช่วยให้นักจิตวิทยา นักวิทยาศาสตร์ และนกั วิจัยทาการศึกษาสมองและระบบประสาทได้ ก้าวหน้าย่ิงกว่าท่ีเคยเป็ นมา การพัฒนาของ PET scan MRI scan functional MRI (fMRI) scan ช่วย ให้นกั วทิ ยาศาสตร์เข้าใจโครงสร้างการทางานของสมองได้ดียิ่งขึน้ งานด้ านชีวะ-จิตวิทยา (Biopsychology) มุ่งเน้ นการศึกษาสาเหตุทางกายภาพ (Physical cause) วา่ มคี วามสมั พนั ธ์ตอ่ พฤตกิ รรมและกระบวนการทางานของจิตใจอย่างไร เชน่ การศกึ ษาพนั ธกุ รรม (Genetics) ชีวเคมี (Biochemical) และระบบประสาทและสมอง ซึ่งมีช่ือเรียกเฉพาะเป็ นประสาท จิตวทิ ยา (Neuropsychology) เอมคโตDชออดีัสาa่นกกrมเมเาwลไดมแสปือiียnนตใก)วนิฐวเนกนกกาคคนัอใักิดานิลดนกรธเวงัปแอทจร่คาก็ลยนราาวลกม่รูกงะแาไอลกชมแแนกดไลนารนวทกแู้ดตบัคววาทลิจิคววกงคาิทะิทาจิดนัิดงสมัลิตยชจกืหบควีาวิมตาาิตทิดชะหวรก่อ-ยกาิทาจคพวเาลวผิยตัดอใฤมุ่ทิ ่าาดวเังตจยลพิททก(ิกิตาืPอยนัี่ชฤลรวsากว่ธษรัยิทy์ยุขมตเแcยกอใมนาลhาหษงามนัoะว้้สมตใlปิวลธoิ่งชนรฒัดรรgม้ศใษุ ะรiโนีชานcอยมสสีวกaา์กแาชิตตlากกทาารpชรา้สไจ์ตวนrรขoกิติเิิดป(คc(าวEnนัญeรริทvaนัาsอ้ ยoหtsะยulาพeาuห่rูรแsatฤอ์พเi)ลloพตดฤ้sกวnิ่มิกขeตa็มโรอlยlิกอeีกรงPังcมรกรสมsรtะานi่ิงyมoีแบสมนัc้nนกวีhกชโ)วดนาขoี็วจครยกlอิตะoอิดมาถงgยพวรชกูอy่รูิวคฤา)รงอฒััดัตกวลนด่เิาษก์สนักแลราจลพาือรดไิกตะกฤมวาสาว้ตตนรหริทืบ์าิกันว้รยต(มิรนือกEา่อรธไ็จvใมเ(ดรoนะผCร้ใรlถ่กาuมดhับพูกลtaชเiกoพคม่นุัlาeาnัดิ่มธตนsร)์ุิี ้ กลไกนนั้ ก็จะถกู รักษาไว้ และถกู สง่ ตอ่ ไปยงั รุ่นลกู หลาน หมดอายวุ นั ที่ 11-10-2564
47 งานทดลองของ คอนราด ลอเรนซ์ (Konrad Lorenz) ซงึ่ ถือเป็นนกั ธรรมชาติวทิ ยา (Ethologist) ในปี ค.ศ. 1935 เร่ืองพฤติกรรมการเรี ยนรู้แบบฝั งใจ (Imprinting Behavior) ซ่ึงพบว่าลูกห่านที่ฟักออกจาก ไข่ จะยดึ สงิ่ ที่เคลอ่ื นไหว ท่ีเห็นเป็นสงิ่ แรก วา่ เป็นแม่ ในปั จจุบันมีความพยายามท่ีจะนาแนวคิดด้ าน ชีววิทยาและทฤษฏีวิวฒั นาการมาอธิบายพฤติกรรม มนุษย์ ในเร่ือง ความรัก ความผูกพัน การเลือกค่คู รอง ความแตกตา่ งของเพศชายและเพศหญิง เป็นต้น คอนราด ลอเรนซ์ ท่มี าของภาพ : https://klf.univie.ac.at/ research/history/konrad-lorenz/ แนวคิดจิตพลวตั (Psychodynamic perspective) ขซวแป(Sเิองลึ่รคiทะgงะรพสาmมาจบฤะีอuิตตกหnิทวกิาใแ์มdธิเคนรรคนาิพณFรลชกรวมrลงัา่ว์e่ใอคคะอนงuแนิวดหปยวdลาีจ์รกยั่า)ะมควิบตเังบใรดม.มนผพศดู้คุ ก็ท้าชบูจิล.ลงักแ้่วทิา1กิ แวลงตบ9ัลภพัตตะ่4อดัา้ทมนค0สเพมพยหวศังีข–ทา์ื่าอตคนอม่ีวม1สวมงกัทิ9สรอ่ืาบใว5รยมัสจนคุชิษ0าพาาาคเลทรวนักกลัยก่ีลทธาแ1เบั ์การรฤ9นจะนษษผวซิหตัตน้้ทูฏคง่ึใวรมตาีิจา่ดศง้ง่สงุิตนจาาสบาสวิักตนนนคุิเตจวทคใคกึริิตเจ่ีเรขล์คกาบศอ่ียร(ะกึางiาวnหตษบขะt์ขนeัาด้อหอrกเแงp์องรก(ทeงฟะPบัใrบบsรsนจyทอoวกิตcnนุยกาวhaกดครทิolสา์นarยกรรenต้าภลาla้aองาาหltสงyยยiรoเรsืใเอคnรiปนsแคsย็)นจมh์ผผิตโทi้แลp่าดใ่ีรตงsนต้ยูจา่ศ)้กสักนิเลซาพาอปิกนร่ือยิ นฝมึกอ่าึ หกันธงอฝริบกดิทือนาว์ ธน้ยฟาดิพกังส้ารลเขานอขขวเียจยหาอินตดตงง์ุ อิทธิพลจากทฤษฏีจิตวิเคราะห์ของฟรอยด์กระต้นุ ให้เกิดการศึกหษมาดบอุคาลยิกภวุ าันพทข่ีอ1ง1ม-น1ุษ0ย-์ 2แล5ะ64 ก่อให้เกิดแนวคิดด้านจิตวิทยาอื่น ๆ ขึน้ ตามมา และยังเร่งให้มีการค้นคว้าวิจัยพฤติกรรมเด็กอย่าง
แนวความคิดทางจติ วทิ ยา 48 Viewpoint Psychology กว้างขวางในยุคนนั้ เพื่อหาแนวทางอบรมเลีย้ งดเู ด็กอย่างถูกวิธี ทงั้ ยงั ได้รับการกล่าวถึงและถูกนาไปใช้ อ้างองิ ทงั้ ในแวดวงจิตวิทยา และสาขาอนื่ ที่เก่ียวข้อง เชน่ ด้านการศกึ ษา วรรณกรรม และมานษุ ยวิทยา ทฤษฏีจิตวิเคราะห์ยงั คงมีอิทธิพลมาจนถงึ ปัจจบุ นั ในปัจจบุ นั มีสถาบนั ฝึ กอบรมด้านจิตวิเคราะห์ ในสหรัฐอเมริกา ซงึ่ ได้รับการรับรองจากสมาคมจิตวิเคราะห์อเมริกนั ประมาณ 35 แห่ง และนกั จิตวิเคราะห์ มากกว่า 3,000 คนปฏิบัติงานท่ัวสหรัฐอเมริกา นอกจากนีย้ ังมีสมาคมนักจิตวิเคราะห์นานาชาติ (International Psychoanalytical Association : IPA) ซงึ่ ทาหน้าที่รับรองการฝึกอบรมด้านจิตวเิ คราะห์ใน หลาย ๆ ประเทศ เชน่ ฝรั่งเศส เยอรมนี ออสเตรีย อิตาลี สวิตเซอร์แลนด์ และเซอร์เบีย ในปัจจบุ นั แนวคิดจิตพลวตั สามารถแบ่งได้เป็น 4 กลมุ่ หลกั คือ (1) กล่มุ ท่ีให้ความสาคญั กบั อีโก้ (Ego Psychology) (2) กลุ่มที่ให้ ความสาคัญกับทฤษฎีความสัมพันธ์ในช่วงแรกของชีวิต (Object Relations Theory) (3) กลุ่มเน้นเร่ืองความเป็ นตัวตน ( Self Psychology) และ (4) กลุ่มจิตวิเคราะห์ที่ เน้นเรื่องสมั พนั ธภาพ ( Relational Psychoanalysis) แนวคิดการรคู้ ิด (Cognitive perspective) การรู้คิด (Cognition) มีความหมายถึงกระบวนการทางานของจิตใจ (Mental processes) และ การตระหนกั ที่เกิดจากการรับรู้ ได้แก่ การคิด การประมวลผลข้อมูล การตดั สินใจ การวางแผน การจา และ คคพจโดินววฤยาาตตมมนนิกคคัการดิากรจดมแนกาิตคลรหาักวเละรชวิจทงัพกง่ันิตยคาัฒเววากรปิาทรสน็รนมับะยาาตรรบมาคู้้้ดูโนกวลาอิจนารกมทิ ถรกตแพลั ราเตวัู้ิปควรมอกเิใดรหยตตชียส่าาอา่้เบนวหงงรเิท์จเใตใชทนาจยผุ่นียกาชบลลคบ่ใวทนยักนงรบเทูกาปทการาศ่ีไแษททมรวบตอคาไ่รรบดธงรวศ้ิาบเษกาปานามา็สน1ขยรสตโ9อปโรารร5งคร์คค0คะซัญซวเมมึ ึปมาขเว็มเศนอลศทรสงร้ผา้ร่วากอลงนลยแจขหไ้า่นาอกนงวมกไก่ึงครูลาาทิดรขรี่ทกพทอาาฒั างใรงคหรน้าู้คอเานกิดมขิดขสอพกอนงิวางภใเจรจตาศิตวษอึกา่ใราจษ์ผ(ทคา้Iปู nี่วมด่ วfา้ีาอoยมนrิทซmเกชธมึ aาิ่ืพอเtศรiลoรแรู้้ตnคาล่ิมอดะ–ี processing model) กบั กระบวนการรู้คิดของมนษุ ย์ ได้เป็นภาพท่ีชดั เจนแหลมะเดข้าอใจาไยดวุ้งนัา่ ยทมี่า1ก1ขนึ-้ 10-2564 นกั จิตวิทยาและนกั วิทยาศาสตร์ได้นาความรู้นีม้ าพฒั นาปัญญาประดิษฐ์ (Artificial intelligence หรือ AI) โดยมีการพยายามให้คอมพิวเตอร์มีสติปัญญาอย่างแท้จริงเหมือนกับมนุษย์ โดยไม่ต้องอาศัย
49 มนษุ ย์ป้ อนข้อมลู เพ่ือสงั่ การ มีความสามารถในการรู้คิด เช่น การคิด การแก้ปัญหา การตดั สินใจ และการ เรียนรู้ส่ิงใหม่ด้วยตนเอง เป็ นต้นและเลียนแบบพฤติกรรมของมนุษย์ เช่น สามารถเคล่ือนไหว โต้ตอบ สอื่ สาร และมีประสาทรับสมั ผสั เหมือนมนษุ ย์ การพัฒนาปัญญาประดิษฐ์เป็ นประโยชน์อย่างมหาศาล ทัง้ ในทางการแพทย์และการอานวย ความสะดวกในชีวิตประจาวนั ในด้านจิตวทิ ยาสามารถนาปัญญาประดิษฐ์มาช่วยในการวิเคราะห์ข้อมลู ขนาดใหญ่ทางสังคม (Big Data) ช่วยในการวินิจฉัยโรคเบือ้ งต้น การสร้ างโปรแกรมปรับและติดตาม พฤตกิ รรม เช่น การออกกาลงั กาย การนอนหลบั การดื่มนา้ รวมไปถึงการจดั การความวติ กกงั วลและความ เศร้ า ผ้มู บี ทบาทในแนวคดิ การรู้คิด ได้แก่ ฌอง เพียเจท์ (Jean Piaget : ค.ศ. 1896 – 1980) นักจิตวิทยาชาวสวิส ผู้ศึกษาพัฒนาการด้านการรู้คิดของเด็ก และทาให้เกิดสาขาจิตวิทยาพฒั นาการ เฮ อ ร์ เบิ ร์ ต ไซ ม อ น (Herbert Simon : June 15, 1916 – ฌอง เพียเจท์ February 9, 2001) เป็ นผ้พู ฒั นาแนวคิดปัญญาประดิษฐ์ และการ ที่มาของภาพ : https://en.wikipedia. ใใงคหปทนนาอนรฤนปปมะงึ่ ษีีวใยพคคิจนฎุกิว.ย.ัผีอศศเต้ทตบูง.เ.์ใฮคคี่ใอ1กุ 1ชชอ์กล9รเ้9้แบ์ครา7ังก7์นเคิกรว8บา5าวดวริแรมา้ครา์บตลม่วรนิดร้ะูรหมไปิหจรูด้ซลกัญาาิติจมาับงรทิวญกอวภิทลัอลสันาาลัยสาคปมไขเงูารหดรลสาัฐกะ้ารนรดุดาัวบ่กวดรทิษินมรา้ารยีาเฐร้กูคนวจ์งานักลิคดลวดั ทาลอัยัก(รงัมเโA้าตกดนพlรงดlษ้ัาเeาิวบแนสตnนเลลนิตรวNวะศิทสอใิจรจeารายัฐั์ยสwขาก“ศตขeTาศาารluเอารlศส์rแสง:iรตnกเตMษขรg้ปร์aาฐ์กัญArเถศขcาwืหอารhาaสาเรเปป้1ูrคตd็็9นนิดร”,์ org/wiki/Jean_Piaget#/media/File: Jean_Piaget_in_Ann_Arbor.png 1927 – July 19, 1992) นักวิจัยในด้านคอมพิวเตอร์และจิตวิทยา การรู้คดิ หมดอายวุ นั ที่ 11-10-2564 เฮอร์เบิร์ต ไซมอน ท่ีมาของภาพ : https://i2.wp.com/article 1000.com/wpontent/uploads/2017 /08/download.jpg?w=384&ssl=1
แนวความคิดทางจติ วทิ ยา 50 Viewpoint Psychology นอม ชอมสกี ้(Noam Chomsky : ค.ศ. 1928 – ปัจจบุ นั ) ได้รับยกยอ่ งเป็นบิดาภาษาศาสตร์สมยั ใหม่ และศกึ ษาด้าน การรู้คดิ ของมนษุ ย์ นอม ชอมสกี้ อารอน เบค (Aaron Temkin Beck : ค.ศ. 1921 – ปัจจบุ นั ) ที่มาของภาพ : https://www.britannica. จิตแพทย์ชาวอเมริกัน ผู้ได้รับยกย่องให้เป็ นบิดาด้านการ com/biography/NoamChomsky/med บาบัดแบบรู้คิด (Cognitive therapy) เป็ นผู้นาในการบาบัดโรค ซึมเศร้ า และวิตกกังวล เขาได้พัฒนาแบบรายงานตนเอง Beck ia/1/114218/232747 Depression Inventory (BDI) ซึ่งใช้ ประเมินอาการซึมเศร้ าด้วย ตนเองมาจนถึงปั จจุบัน และผสานแนวคิดการรู้คิดเข้ ากับ พฤติกรรมบาบัด เกิดเป็ นการบาบัดพฤติกรรมผ่านการรู้คิด (Cognitive Behavior Therapy) อารอน เบค แดเนียล คานาแมน (Daniel Kahneman : ค.ศ.1934 – ท่ีมาของภาพ http://grawemeyer.org/wp- ปั จจุบัน) นักจิตวิทยา-เศรษฐศาสตร์ เป็ นผู้นาแนวคิดด้ าน content/uploads/2015/07/beck.jpg มหาวทิ ยาลยัครเใศนาเวกงรเาษรวษมื่อลัตเฐงโชรนศศ่ือคจเาเาบวดาสสาลมิกตตมรแทร่วรไน์่ีว์มรพา่ว้ เดมหคฤ้านดิตตนขษุุผิกเอศยลรง์รเใรรคษนมาาฐกเนป(ศาB็านารแeตสสมhตตดัั aนวรสv์ใ์ทิทนiนoี่มาใrปเีaจใีหหlขคต้eนอ.ผุศcกังลo.เมศn2นoร0ุษษm02ฐยicศ์ จsซาา)่ึงสกขตเขัดขร้อแ์ยาคยไคุ ้น้ดงใพ้กหรับับบม่ คลังความรูด้ ิจทิ ลั หันมาให้ความสาคญั กับการตดั สินใจบนพืน้ ฐานของปัจจัยด้าน แดเนียล คานาแมน จิตวิทยา เช่น อารมณ์ แรงจูงใจ ความคาดหวงั เป็ นต้น เกิดการ ทมี่ าของภาพ : https://upload.wiki ทดลองทางสังคม (Social Experiments) เพื่อทาความเข้าใจกับ พฤตกิ รรมของผ้บู ริโภค ซง่ึ อาจถกู ชหกั มจดงู ดอ้วายยธรุวรันมทชาี่ ต1ขิ 1อ-ง1ม0น-ุษ2ย5์ ท6ี่ 4 media.org/wikipedia/commons มีความไร้เหตผุ ล และเทคนิคทางการตลาด ทาให้เกิดการตดั สินใจ /c/c8/Daniel_KAHNEMAN.jpg ในการบริโภคและการใช้ชีวติ อยา่ งไมช่ าญฉลาด
51 แนวคิดพฤติกรรมนิยม (Behavioral perspective) แนวคิดท่ีสาคัญ ของกลุ่มพฤติกรรมนิยมคือ พฤติกรรมของมนุษย์ทัง้ พฤติกรรมภายใน และพฤติกรรมภายนอก เกิดจากการเรียนรู้ ซงึ่ อาจเป็นพฤตกิ รรมท่ีเหมาะสม (Adaptive Behavior) หรือไม่ เหมาะสม (Maladaptive Behavior) ก็ได้ พฤติกรรมท่ีไม่เหมาะสมสามารถปรับแก้หรือเปล่ียนแปลงได้ โดยการทาให้เกิดการเรียนรู้ใหม่ การเสริมแรง (reinforcement) เป็ นปัจจยั สาคญั ท่ีทาให้เกิดกระบวนการ เรียนรู้ แนวคดิ พฤติกรรมนิยมเกิดขนึ ้ ในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 และต้นศตวรรษท่ี 20 ผ้กู ่อตงั้ แนวคิด พฤตกิ รรมนิยม คือ จอห์น บี วตั สนั และ บี เอฟ สกนิ เนอร์ เป็นท่ีรู้จกั ในช่ือ พฤตกิ รรมนิยมแบบสดุ ขวั้ (Radical Behavirism) มงุ่ ความสนใจไปท่ีพฤติกรรมภายนอกท่ีสามารถวดั ได้ (Measurable) จดั ปรับได้ (Operable) โดยให้ความสาคญั กบั การให้แรงเสริม เกิดเป็นสาขาจิตวทิ ยาในช่ือ Applied behavior analysis (ABA) ซงึ่ นาทฤษฏีการเรียนรู้มาประยกุ ต์ใช้ในด้านการจดั การการศกึ ษา เช่น การปรับพฤตกิ รรม ในชนั้ เรียน การสร้างวนิ ยั การสร้างแรงจงู ใจ การปรับแก้ไขพฤตกิ รรมท่ีเป็นปัญหา (Behavior Modification) รวมถงึ การประยกุ ต์ใช้ในด้านธุรกิจ และอตุ สาหกรรม เช่น การโฆษณา ในยคุ แรกของแนวคิดพฤตกิ รรมนิยม ถกู วิพากษ์วจิ ารณ์ว่ามีจดุ ด้อยท่ีให้ความสาคญั เฉพาะสงิ่ เร้า และการตอบสนอง ขาดการอธิบายกระบวนการภายในของมนษุ ย์ โดยละเลยสง่ิ ที่เกิดขนึ ้ ภายในจิตใจ เชน่ แรคแดพผู้ค้้ลนปูววฤิด่ยาะววตมกคผยิก(Cตรนิดทระ้อรใวoาบนมกงงgตวกคจกขแnอ่ นิาตลาอนiมtรกรงัiเงวvาวบคมาคอeแชวรานาดินคBาบโรษุกวมดิดeมดั าคยรยhกณขร์อดิู้ดเaารอฉา์ิจพ้vูรคคงพจิทiเฤอิดoขวเาลัตกrล้ัทาาะิกิTดเมใามโบจhรรจงรหิ้รรคูeสสา(์ตามcrซงกกัึ วaนoคมึกเิทpคอgิยมเาyยศลวnมร)า(ารลiเไSt้ลรมาiดสิvียoัยค้ถeวcนเ(ิดติกกูAipรa้กษเูlดคrlbสoก้ตวcวeรcงัยริoามrวeศtกมgใลsEาาหnเsชสlร้iโเl)tiื่อขสรตisvมค้มงรั eแ:ีอกเ์แกลคทิtลขhตะ.ธว็งัศeปจิขพ.o(ารนึPล้r1ะกyแhต9สต)ลo1อ่บวขั bะ3แแกอถiรaบ–างือง)อรบ2จวณลั0ใงูา่ ไเนใ0เ์เมบปจฉ7ชจ่็ิรแนพ)่ือ์ตาลยแาเกะปแะคุลาพ็ตบนทะรฤนอนต่ีสบตา้ดออาริกงงรูบอามขรดันรอีปใพมงนเรฤขบพะกอตคสฤางกิบตรใมรอกินกนรธรากมษุิบรราผมณยาร่านย์บ์ตนิยวาแรกา่มบงลาดัะร ในปัจจบุ นั พฤติกรรมนิยมเข้าสยู่ คุ ท่ีสาม โดยให้ความสนใจกบั มิตหกิ มารดเจอราิญยเวุตบิันโทตดี่ 1้าน1จ-ิต10-2564 วญิ ญาณของศาสนาพทุ ธ มีผ้บู าบดั ที่นาเอาแนวคิดการฝึกสตแิ ละการรู้ตวั ทวั่ พร้อม (Awareness) มาใช้ เสริมในกระบวนการ ของการทาพฤตกิ รรมบาบดั ผา่ นการรู้คิด เช่น มาช่า ลนิ แฮน (Marsha M. Linehan :
แนวความคิดทางจิตวทิ ยา 52 Viewpoint Psychology ค.ศ. 1943 – ปัจจบุ นั ) นกั จิตวิทยาชาวอเมริกนั ซงึ่ พฒั นาโปรแกรมพฤตกิ รรมบาบดั แบบวิภาษวธิ ี (Dialectical behavior therapy: DBT) เพื่อใช้กบั ผ้ปู ่ วยกลมุ่ บคุ ลกิ ภาพแบบคาบเส้น (Boderline) ซงึ่ มกั มี ปัญหาการทาร้ายตนเอง ฆ่าตวั ตาย และการใช้สารเสพตดิ โดยเน้นการฝึกการควบคมุ อารมณ์และการ ตรวจสอบความจริง การอดทนตอ่ ความทกุ ข์ การยอมรับ การสานกึ รู้อย่างมีสติ มาช่า ลินแฮน ท่ีมาของภาพ : http://grawemey er.org/wpcontent/uploads/2016/ 11/Marsha-Linehan-2014-jpg- e1479919746738.jpg แนวคิดประสบการณ์นิยม (Phenomenological perspective) แบคผแเช้นลนูนคุ ่ือะวาคคใกคแนลือลนิดศกซมุ่วใากั งึ่นคนแแรยแคกิดนนกพั ภมลลควจวัฒ้าใังคมุ่คือิตนพคนิดิดนบสควขปาีจจาา้ถาอไิบตมะรรางปะ์ปลรวดันมสสูด้ิทรตกนรบู่กะิจยาอาุษกทิกามารเยรจอาลัมณแต์อรบนน์มณเรเรไดวุษนะสหป์นปีย้นยห์าดแิยวรวนคน้วัลชกมิทิวยักยญะนั ยามแอห2มาาแลบัมลเอสตกปะรยัาตัา็ล่ลใานเยมถชฮกะ่มุแถ้ิภาศมบัษหนึงรากัุคตลวถมวแยรคคกัใะานศภนลิดสนคาวากกทโิยสือคลพ็อา่ีใมติดวรหาขกร์พท(จ้อลค์Eม่ีฒัใง่มุวxหตีปาiจนs้คมนริตtาะวeสอวขาสnายิทอมtบค่าiยงaสกงญับาlาเามpคุตกครsนค็มณบัญั yลษุคศc์แกแยวกhัลับลานoดะมะมtิยิ์ศกhเสมุมชรeาีามื่อรrค(aมตวอHณุpาอา่งuyรเบคmปแ)ถ้ส่าลาaขน(หะnSออปiมesงงราtlคทifะcย-วี่aแสขาpcตบอมstกuงกyเตปมaาc็า่lนนรhizงณoุษมaกlนo์tสยนั iogษุ์ท่วไnyปนุยก))์ ให้การปรแึกนษวคาิดทจาิตงจวิทิตยวิาทมยนาษุทยี่สนาิยคมัญไดค้ถือูกCปlรieะnยtุก-Cตe์ใnช้tทeงัr้ eในdดT้าhนeงrาaนpyบาหบรหืัดอมดC้าดoนอuจnาิตsยวeทิ ุวliยnนั gาทเกแ่ี ิด1ลเะ1ปก-็น1าแร0นบ-วา2กบ5าัดร64 ครอบครัวแนวประสบการณ์ (Experiential Family Therapy) ของเวอร์จิเนีย ซาเทียร์ (Virginia Satir : ค.ศ. 1916 – 1988) ในด้านการศึกษาเกิดแนวทางการเรียนการสอนแบบให้นกั เรียนเป็ นศนู ย์กลาง (Student
53 centered) และในด้านการเมืองการปกครอง เกิดความตระหนักถึงการให้ความสาคัญกับการเคารพ คณุ คา่ ศกั ดิ์ศรีการเป็นมนษุ ย์ และสิทธิมนษุ ยชน (Human right) แนวคิดปรัชญาอตั ถิภาวะนิยม มาจากกล่มุ นกั คดิ ชาวยุโรปในช่วงศตวรรษที่ 19 โดยแนวคิดนีเ้ช่ือ วา่ มนุษย์ต้องการความสมั พันธ์ และการมีความหมายต่อผู้อื่น แต่สดุ ท้ายจะต้องตระหนกั ว่าคุณค่าของ ตนเองต้องมาจากการยอมรับตนเอง แนวคิดนีถ้ ูกนามาใช้โดยนกั จิตบาบดั ในศตวรรษที่ 20 โดยผ้บู าบดั ต้องเข้าใจถึงปรัชญาชีวิตของผู้รับการบาบัด และช่วยให้ผู้รับการบาบัดตระหนักถึงเสรีภาพในการเลือก ดาเนินชีวิต การตดั สินใจ และรับผิดชอบตอ่ การเลือกของตนเอง ผ้บู าบดั ในแนวคิดนีไ้ ด้แก่ ไอร์วิน ดี ยา ลอม (Irvin D. Yalom : 13 June 1931 – ปัจจบุ นั ) จิตแพทย์ชาวอเมริกนั แนวคิดทัง้ 2 กลุ่มนี ้ ได้ นาไปสู่แนวทางการศึกษาวิจัยเชิงคุณภาพ (qualitative research methodology) ซงึ่ ให้ความสาคญั กบั การเข้าใจสนามประสบการณ์ชีวิตของบคุ คล ยาลัยเกษตรศาสตร์เวอร์จิเนีย ซาเทยี ร์ ไอร์วนิ ดี ยาลอม มหาวิทท่มี าของภาพ : ทม่ี าของภาพ : https://upload.wikimedia.org/wikipe https://miro.medium.com/max/700/1*zM YErC1YWHVNGVqmLbuDlg.jpeg คลงั ความรดู้ ิจิทัลdia/commons/1/14/VirginiaSatir.jpg e1479919746738.jpg หมดอายวุ ันท่ี 11-10-2564
แนวความคิดทางจติ วทิ ยา 54 Viewpoint Psychology แนวคิดจิตวิทยาทางบวก (Positive psychology perspective) จากอิทธิพลของแนวคิดมนษุ ยนิยม ทาให้เกิดแนวคดิ ใหมค่ อื แนวคดิ จิตวทิ ยาทางบวก (Positive Psychology) ก่อตงั้ ขนึ ้ โดยนกั จิตวิทยาชาวอเมริกนั มาร์ตนิ เซลิกแมน (Martin Seligman ค.ศ. 1942 – ปัจจบุ นั ) และเอด็ ไดย์เนอร์ (Ed diener) เมื่อมาร์ติน เซลิกแมน ได้รับเลือกเป็ นประธานสมาคมจิตวิทยาชาวอเมริกนั ในปี ค.ศ.1998 และ กาหนดเป้ าหมายการทางานในวาระของตนเองให้มงุ่ ดแู ลและสง่ เสริมคนทวั่ ไปในสงั คมมากกวา่ เน้นเฉพาะ โรคทางจิตเวช และเกิดการประชมุ นานาชาติหวั ข้อจิตวิทยาเชิงบวกครัง้ แรกในปี ค.ศ. 2002 และเริ่มเป็ นที่ รู้จกั โดยทว่ั ไปเม่ือมหาวิทยาลยั ฮาร์วาร์ดมีการสอนวิชาจิตวิทยาเชิงบวกในปี ค.ศ. 2006 และมีการประชุม the First World Congress on Positive Psychology ขนึ ้ ที่มหาวทิ ยาลยั เพนซเิ วเนีย ในปี ค.ศ.2009 แนวคิดจิตวิทยาทางบวกมุ่งเน้นพัฒนาเทคนิคการบาบัดท่ีส่งเสริมความเป็ นอยู่ท่ีดีของบุคคล มากกวา่ การม่งุ หาวิธีการบรรเทาโรคทางจิตเวช ให้ความสาคญั กบั อารมณ์ทางบวก (positive emotions) สุขภาพจิตท่ีดี ลกั ษณะบุคลิกภาพทางบวก (positive individual traits) และความเป็ นอยู่ที่ดีของมนุษย์ (well-being) รวมไปถึงการสนับสนุนสถาบันทางสังคมที่ให้การช่วยเหลือบุคคลและชุมชนให้มีความ เป็นอย่ทู ี่ดีย่ิงขนึ ้ ยมาอกงลโลากบใาหนคกวั แลข(งงัR้อ่ดคeคีวs(วาOiาlมipeมรntสู้ดimcิจนeiทิใs)จmัลขจ)มอดุ หงแคจาขววิตง็าทิ วมย(ิทCสายhลรา้aายั ทงrเaกาสcงษรบtรตeควรrก์ศs(Cาtไrสดereต้nแaรgกt์ti่ hvคistวy)า)มแสคลุขวะขาปอมัญงสบญาุคมาคา(ลรWถ(iใsPนdeกorsาmoร)nฟaื น้ lตhวัaเpมpื่อinเผeชsิญs)ควกาามร หมดอายวุ ันที่ 11-10-2564 มาร์ตนิ เซลิกแมน ท่มี าของภาพ : http://totallyhistory.com/wp- content/uploads/2013/10/Martin-Seligman.jpg
55 แนวคิดจิตวิทยาตะวนั ออก (Eastern psychology) จิตวิทยาตะวนั ออกเป็ นสิ่งอยู่ในหลกั การประพฤติปฏิบตั ิของคนเอเชียซงึ่ ให้ความสาคญั การอยู่ ร่วมกันอย่างสนั ติและความกลมเกลียวเป็ นอนั หนึ่งอนั เดียวกัน (harmony) ดงั ปรากฏอยู่ในคาสอนทาง ศาสนาและแนวคิดทางปรัชญาที่เกิดขนึ ้ ในแถบทวีปเอเชีย คือ ศาสนาพทุ ธ เตา๋ -ขงจ๊ือ เซน็ กลมกลนื อยใู่ น วฒั นธรรม ประเพณี และวถิ ีชีวติ ของคนเอเชีย ตา่ งจากจิตวทิ ยาในตะวนั ตกซง่ึ แยกจากปรัชญาและศาสนา มาเป็นศาสตร์เฉพาะ ซง่ึ ให้ความสาคญั กบั การสร้างองค์ความรู้โดยเน้นหลกั การทางวทิ ยาศาสตร์ ความพยายามในการผสานจิตวิทยาตะวนั ออกเข้ากับศาสตร์จิตวิทยามีมาตงั้ แต่ยุคแรกที่เกิด ศาสตร์จิตวิทยาจนในปัจจุบนั ทงั้ จากนักจิตวิทยาชาวตะวนั ตกและตะวนั ออก ซึง่ มกั เป็ นการนามาใช้ใน เชิงประยกุ ต์โดยไมเ่ น้นความเชื่อของศาสนา เช่น คาร์ล กุสตาฟ จุง ผู้ให้ความสนใจกับบทบาทของศาสนาและศกึ ษาปรัชญาศาสนาต่างๆทงั้ คริสต์ พทุ ธ ฮินดู ยิว และเต๋า โดยชีว้ า่ ความเชื่อความศรัทธาในศาสนาเป็ นส่วนหนึ่งที่นาไปส่คู วามเป็ นมนุษย์ที่ สมบรู ณ์ ไดเซ็ตซึ เทอิทาโร ซูซูกิ (Daisetsu Teitaro Suzuki : ค.ศ. 1870 – 1966) ผู้เขียนและเผยแพร่แนวคิด พุทธศาสนานิกายเซ็น (ZEN) และนิกายสุขาวดี เป็ นจานวนมาก โดยหนังสือที่สาคัญของเขาชื่อ “An เIอnรกี นtrหoฮลdอาuรยc์นทtiาคoา่ ยลnนงั จ(tคKoดั วaงาZrามeeนnรnสดู้ HมัBิจoมิทurนdลัndาeมปhyห)iฏsาแmิบวลตัิท”ะกิยซอาาง่ึ รลีรคหิคัยาวัเรฟกข์ล้ษรอกอตสุม\"รZตศมeาา์ n(สฟEตBrจiรucงุ์ dhเขdFียhrนiosmคmาmนanิย:dมคใ.Pศหs.้ y1ใcน9h0ปo0ีaค-n1.aศ9l8.y0s1i)9s5\"แ7ทล่ีปเะขรนาะกัไเดทจ้ริตศ่ววเมมิเคกก็ รบซั าิโะกคหา์ หมดอายวุ ันท่ี 11-10-2564 คาร์ล กุสตาฟ จุง ไดเซ็ตซึ เทอทิ าโร ซูซูกิ ท่ีมาของภาพ : https://cdn.britannica.com ทม่ี าของภาพ : https://en.wikipedia.org /28/182628-050-F8B519A4.jpg /wiki/D._T._Suzuki
แนวความคดิ ทางจิตวทิ ยา 56 Viewpoint Psychology มาช่า ลินแฮน นักจิตวิทยาอเมริกนั ผู้พฒั นาพฤติกรรมบาบดั แบบวิภาษวิธี ซง่ึ นาหลกั การฝึ ก สติ (mindfulness) มาใช้ ในการจัดการกับอารมณ์ และความคิด โดยเฉพาะผู้มีปั ญหา บคุ ลกิ ภาพผิดปกติแบบคาบเส้น (Borderline Personality Disorder) นายแพทย์โซมะ โมริตะ (Shoma Morita, 1874–1938) จิตแพทย์ชาวญี่ป่ นุ ผ้พู ฒั นาการบาบดั แบบมอริตะจากพุทธศาสนานิกายเซน ซง่ึ สอนให้ยอมรับสิ่งท่ีเราควบคุมไม่ได้ แต่เน้นให้ลงมือ กระทาในสิ่งท่ีควบคมุ ได้ และการมวี ินยั โยชิโมโต ไอชิน (Yoshimoto Ishin : ค.ศ. 1916 - 1988) ผู้พัฒนาการทาสมาธิแบบไนกัน (Naikan) เป็ นแนวทางบาบัดท่ีพัฒนามาจากพุทธศาสนานิกายโจโด (Jodo Shinshu) หรือ สุขาวดี (Pure land Buddhism) เน้นการสารวจตนเองจากภายใน ทาให้บุคคลตระหนักใน ความเกือ้ หนนุ ท่ีได้รับจากสง่ิ รอบตวั และตระหนกั ถงึ ความสมั พนั ธ์ที่ตนเองมตี อ่ คนรอบข้าง ในปัจจุบัน นอกจากงานด้านการบาบัดแล้วได้มีการนาการฝึ กสติ (mindfulness) มาใช้ในงาน จิตวิทยาอย่างแพร่หลายมากขนึ ้ เช่น ด้านส่งเสริมพฒั นาการเด็ก การสง่ เสริมสมดลุ ชีวิตและการทางาน การเพ่ิมคณุ ภาพชีวิตผ้ปู ่ วยเรือ้ รังและระยะสดุ ท้าย เป็นต้น คลงั ความhtรนtpู้ดาsย:จิ //แcทิ oพทัลmี่มทาmยมขo์โอnหซงsภมา.wาะวพikทิโi:mมยeรdาิตiลaะ.oัยเกษตรศาสตร์ โยชโิ มโต ไอชนิ rg/wiki/File:Dc_morita.jpg ท่ีมาของภาพ : https://ramakrishna.de/japan/ naikanห.pมhpดอายุวนั ที่ 11-10-2564
57 แนวคิดด้านสงั คมวฒั นธรรม (Socio-Cultural perspective) แนวคิดสงั คมวฒั นธรรม เป็ นแนวคิดที่มองวา่ มนษุ ย์อย่ใู นบริบททางสงั คมและวฒั นธรรม ดงั นนั้ พฤติกรรมและกระบวนการทางจิตใจของมนุษย์ไม่วา่ จะเป็ นวิธีการสื่อสาร ความเข้าใจ การแสดงออกทาง อารมณ์ การสร้ างความสัมพันธ์และการปรับตัวกับผู้อ่ืน สามารถมองได้ภายในกรอบแนวคิดสังคม วฒั นธรรม โดยองค์ประกอบทางสงั คมวฒั นธรรมหมายรวมถงึ เชือ้ ชาติ สญั ชาติ เพศ อายุ และเศรษฐานะ ทางสงั คม ระบบการเมืองการปกครอง นกั จิตวิทยาในสายสงั คมวฒั นธรรม มองวา่ พฤติกรรมของมนษุ ย์สว่ นหน่งึ เป็นผลมาจากความเป็ น ปัจเจกบุคคล ร่วมกบั สถานการณ์แวดล้อม สงั คม และวฒั นธรรม โดยขณะเดียวกนั พฤติกรรมของแต่ละ บคุ คลกม็ ีผลกระทบตอ่ สถานการณ์แวดล้อม สงั คม และวฒั นธรรม ด้วยเชน่ กนั นกั จิตวทิ ยาที่เสนอแนวคิด นี ้ได้แก่ เลฟ ไวกอตสกี ้(Lev Vygotsky : ค.ศ. 1896 –1934) และแคโรล แกลิแกน (Carol Gilligan ค.ศ. 1936 – ปัจจบุ นั ) เลฟ ไวกอตสกี ้ นักจิตวิทยาชาวรัสเชีย ซึ่งศึกษาด้านพัฒนาการเด็กและด้านการศึกษาใน ช่วงเวลาใกล้เคียงกบั ฌอง เพียเจท์ แตท่ ฤษฏีของเขาไมเ่ ป็ นท่ีรู้จกั ในช่วงท่ีเขายังมีชีวิตอยู่ งานของเขาให้ ความสาคญั กบั พฒั นาการทางภาษาและศิลปะ ไวกอตสกีม้ ีความเห็นว่า กระบวนการเรียนรู้ทกั ษะของ เดก็ ไมไ่ ด้เกิดขนึ ้ เอง แตจ่ ะต้องอาศยั ความช่วยเหลือจากผ้อู ื่นอนั ได้แก่ พ่อแม่ ครู ผู้ใหญ่ใกล้ชิด และเพื่อน จจควตใน่ารราาิิวยผยอมยั้ธูธธหวเิบรฒรัญดรราียนมมิงยแวธใมทคโคกนรตีล่ีพแนรัโ้แดงัตรมัฒ้ยคาลก้งวนนกตกาแกาา่มาบัการกงรทเลราจรดู้ ดฤิแียราจิ ษแูทกนกทิ ลฏานรผลั ู้ขงีพู้ช(นจอมeฒัางรหtักยhิเยนาจดicธวาิตก็ sทิกรผเวราก้ยoูหิทมริาดfญทยไลcขปายัาิaนึง้ งไเชใrอกจeมหายษร)่้ถควิยา่ตใึงอวงธนรขเคารศขมัน้รมอ่ าณมรสยสสิกขูงเะาตปันอสทคร็นงุใด์ี่ผญั นคลเู้ชทอส่กอา่ายับวายผ์เไยคใรปู้ชหสนวแา้คตาซลยม์วรโะีานครตัมบิโลยอ่ ดสผเมเบยนาิดิรเ่ืคอ(ช์ธกFงญัออe(บmเLกสหaแับ่ิiง็nนwทลคiวsr่ีเะวeร่tาคียาnPผวมนcs้าูหeยyร้มูอcญุตKhสาิธoิงจoัมรhมlแoรพlีมตbมgันeกุมy(ธrต)มeg์ า่tอ)ผhงซทง้iูกเ่ึงcดสี่บนัเs้ปานอไ็oนปนกอf justice) หมดอายุวนั ท่ี 11-10-2564 การศกึ ษาถึงความแตกตา่ งระหวา่ งเพศ พบว่าสงั คมวฒั นธรรมเป็ นปัจจยั ท่ีสาคญั ตอ่ สขุ ภาพจิตที่ แตกต่างกันของผู้ชายและผู้หญิง โดยสงั คมส่วนใหญ่มกั เป็ นวฒั นธรรมที่ผู้ชายเป็ นใหญ่ ผู้หญิงจะถูก
แนวความคดิ ทางจิตวิทยา 58 Viewpoint Psychology กดดันให้ต้องปฏิบัติตามกรอบวฒั นธรรมประเพณีมากกว่าผู้ชาย ผู้หญิงจึงมีความเครียดและปัญหา สขุ ภาพจิตสงู กวา่ ผ้ชู าย แนวคดิ การบาบดั ของนกั จิตวทิ ยาในกลมุ่ สตรีนิยมจงึ เน้นการสร้างความตระหนกั รู้ ถงึ กรอบแนวคิดที่จากดั และการสร้างความตระหนกั ถงึ พลงั อานาจในตนเอง (Empowerment) แนวคิดสงั คมวฒั นธรรมมบี ทบาทในเชิงการกระต้นุ ให้เกิดพฤติกรรมการมีสว่ นร่วมทางสงั คม และ การเปล่ียนแปลงสงั คมเพื่อให้เกิดความเท่าเทียมกนั ให้ความสาคญั กบั การอยู่ร่วมกนั ในสงั คมท่ีมีความ หลากหลาย และลดอคติของสงั คม โดยผ่านกิจกรรมการรณรงค์ทางการเมือง การขับเคล่ือนเพื่อแก้ไข กฎหมายท่ีไมเ่ ป็นธรรม จากแนวความคดิ ทางจิตวิทยาในปัจจบุ นั ซง่ึ สามารถแบ่งได้หลายกลมุ่ ดงั ได้กล่าวมาทงั้ หมดแล้ว จะเห็นได้วา่ ทุกแนวคิดต่างสามารถนามาใช้ในการอธิบายพฤติกรรมมนุษย์และประยุกต์ใช้เพ่ือการเข้าใจ และช่วยส่งเสริมคณุ ภาพชีวิตของบุคคล และไม่มีแนวคิดใดที่สามารถอธิบายมนุษย์ได้ครอบคลมุ ทกุ ด้าน จงึ อาจสรุปได้วา่ นกั จิตวิทยาอาจจากดั ขอบเขตการทางานตามความสนใจและความต้องการของตนเองได้ แตจ่ ะไมส่ ามารถละเลยแนวคิดทางจิตวิทยากลมุ่ ใดกลมุ่ หนงึ่ ได้ คลงั ความรู้ดจิ ทิ ลั มหาวทิ ยาลยั เกษตรศาสตร์ หมดอายวุ ันที่ 11-10-2564
บทท่ี 4 ความก้าวหน้าของวิชาชีพจิตวิทยา ความก้าวหน้าของวิชาชีพจิตวิทยา อาจเห็นได้แนวโน้มความต้องการนกั จิตวิทยาเข้าไปมีส่วนใน การทางานในภาคส่วนตา่ งในสถานการณ์ของโลกและสภาพสงั คมในปัจจบุ นั ๆ โดยมีการรวมตวั กนั ของ นักจิตวิทยาท่ีทางานในสายงานนนั้ ๆ และการเกิดขึน้ ของจิตวิทยาสาขาใหม่ ๆ ซงึ่ แสดงให้เห็นถึงการนา ศาสตร์จิตวิทยาไปประยุกต์ใช้อย่างกว้างขวาง รวมถึงการจดั ตงั้ องค์กรทางจิตวิทยา ท่ีเกิดขึน้ ในประเทศ ต่าง ๆ อันเป็ นผลสืบเน่ืองมาจากความตระหนักของสังคมถึงความสาคัญของวิชาชีพจิตวิทยา และ ผลกระทบท่ีอาจเกิดขนึ ้ ซง่ึ จาเป็นต้องมีหนว่ ยงานในการกากบั ดแู ลนกั วิชาชีพ ในบทนีเ้นือ้ หาจะครอบคลมุ ถงึ (1) แนวโน้มความต้องการนกั จิตวิทยาในสถานการณ์ของโลกและสภาพสงั คมในปัจจบุ นั (2) สาขาของวิชาจิตวิทยา และ (3) การจดั ตงั้ องค์กรด้านจิตวทิ ยาทงั้ ในตา่ งประเทศและในประเทศไทยองวชิ าจติ คเ1ก..่ียศว.2ขบ0้อท1งก9บกวบคั าบาทิ ลเรทรทสงั่ืยอบตคาแงา่าวอรตนวทาา่กจมนงวาขๆรกัรโดู้อจดรนงิจิัตกงัส้ทิมนวษมลัีิท้คาายมสควาห่มงิ าไแานมมววกั่วิทดต่าจยแจิลต้อาะ้วอลลงอิทมยัะกยยเสู่ใกาานอษภรสเตนาม่วรรพนักศิกใาสัจนดสขิงตัตซอคึ่งรวงท์ มิโทาลใอยกนยมา่าปีแใงนนตัจว่อจสโเนนบุถ้ม่ือนาัทงนท่ีจะุกกตปา้ีอสรงรปณุปฏไ์ขิบด้ัตวอ่าิงงใานโนลปวีิชกคา.ชศีพ. 2จ0ิต1ว8ิทยแาลทะ่ี บทบาทของนักจิตวิทยาด้านส่ิงแวดล้อม คือ การสร้างความตหระมหดนักอตา่อยปวุ ัญนั หทาี่ ภ1า1ว-ะ1โ0ลก-2ร้อ5น64 สภาพอากาศท่ีเปลี่ยนแปลงไป และปัญหามลภาวะ ส่งผลกระทบต่อสุขภาพจิตของมนุษย์ และความ ปรับตวั หรือเปล่ียนแปลงพฤติกรรมเพ่ือเป็ นส่วนหน่ึงในการชะลอ หรือแก้ไขปัญหาส่ิงแวดล้อมที่เกิดขึน้
แนวความคดิ ทางจิตวทิ ยา 60 Viewpoint Psychology รวมทงั้ การเป็ นสื่อกลางการประสานงานระหว่างองค์กรต่าง ๆ นกั วิชาชีพ นกั วิชาการ ชุมชนและสงั คม เพ่ือให้เกิดความร่วมมือในการแก้ไขปัญหา ตวั อย่างเช่น ช่วยองค์กรกาหนดนโยบายลดการใช้พลงั งาน คิดโครงการสร้างแรงจงู ใจลดการใช้พลาสติก 2. บทบาทในการยกระดบั คุณภาพชวี ิตของผู้ป่ วย นกั จิตวิทยามีทางานด้านสขุ ภาพ มีบทบาทต่อการยกระดบั คณุ ภาพชีวิตของผู้ป่ วย โดยเฉพาะ กลมุ่ ผ้ปู ่ วยที่มีอาการปวดเรือ้ รัง (Chronic Pain) โรคไมต่ ิดต่อเรือ้ รัง ได้แก่ โรคเบาหวาน โรคหลอดเลือด สมองและหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง โรคถุงลมโป่ งพอง โรคมะเร็ง โรคอ้วนลงพุง ซึ่งเป็ นปัญหา สขุ ภาพที่รบกวนคุณภาพชีวิตของผ้ปู ่ วย การใช้ยาเพื่อรักษาอาการของโรคเหล่านี ้ไม่ได้แก้ปัญหาอย่าง แท้จริง และการใช้ยาแก้ปวดกล่มุ มอร์ฟี นซง่ึ เป็ นสารเสพติดเพื่อลดอาการปวด ก่อให้เกิดปัญหาใหมเ่ ช่น การเสพติด และโรคที่เกิดจากการใช้ยา ซึ่งถือเป็ นภาระงบประมาณด้านสาธารณสุขที่สาคญั ในทุก ประเทศ ทาให้เกิดความต้องการในการบาบดั รักษาผ้ปู ่ วยโดยไมใ่ ช้ยา นกั จิตวิทยาด้านสขุ ภาพจงึ มีบทบาทในการให้ความรู้ทางจิตวิทยา(Psychoeducation) และสร้าง แรงจูงใจในการปรับเปลี่ยนวิถีชีวิต การสอนทกั ษะการดแู ลตนเอง การฝึ กทักษะการผ่อนคลายและการ จดั การความเครียด 3. บทบาทด้านการดแู ลผู้สูงอายุ และผู้ป่ วยระยะยาว (Long-Term care) แร4ปรโราว.ลรงยมะะพไถเปดดยบงึัญ้าน็กทบอสาหเบกาารานาคีฬชดลาคส่ือลีพทแูาญัขงุงั ใหลนจดภคนขคราก้ัวาาอืปอกณุากนพงัสจคมีฬจเสภถจรรนางติัืาอาดู้บุ้มจคพวรนจินัอีงึมังทิชิทดกไายีวยมแูัลลยคุติลาไ่ายุ มใขดกผยืนหห้อเ้สูาเยปมปงารงู็า็่นผวนวกว้นทิปูเยัทีฬขพ่กยัวี่นนึี้ยาาจยิยกลงิตตผมากัย้วิดสู ราเิทแงเูใกรตหอยมษนยี้าาค้วตนังยจาว่ รทจุงึอาศมนงึมแาามบีชาลรสู้แกมีีพทะตกาากนบรร่คกา์ีจา้เขรรททะอเนึ ้มต่าใบนนวีรกคียกงนัา้ รจมารัวแรรดตชจตแูวั ีวดัส่กลติตกาาสาทิจมรยขุ ดี่สกาภแูนรัร้ารถลพมแเสปลแสขุ ็ละนาภอะหอาสาราพจับวชขนสัีผพอดา้สูทงมิกงูผี่นวาา้สูายซรั ไงูผงใึ่ ปว้นอสู ยัสาชงู แ่ชูกวมุ ลื่อยัาชะเจรนสผเงึ จี้ยดูเบ็ปงแู ็แปนล่ลวะย นกั จิตวิทยาการกีฬามีสว่ นในการดแู ลสขุ ภาพจิตของนกั กีฬา เช่นหกมาดรจอดั ากยารวุ คันวทาม่ี ว1ิต1ก-ก1งั 0วล-2แล5ะ64 ความเครียดในช่วงการแข่งขนั ประเด็นอ่อนไหวส่วนบุคคลของนักกีฬา ปัญหาการใช้ความรุนแรงแล ะ อารมณ์โกรธ รวมถงึ ประเดน็ การคกุ คามทางเพศซงึ่ นกั กีฬาอาจเป็นผ้กู ระทาหรือถกู กระทา
61 5. บทบาทการดแู ลด้านโภชนาการ อาหารและโภ ชน าการมี ผลต่อสุขภ าพ จิต ดังค ากล่าวที่ ว่า “You are what you eat” นักจิตวิทยามีบทบาทเป็ นหนึ่งในทีมสุขภาพ เพ่ือปรับทัศนคติในเร่ืองอาหาร ปรับเปล่ียนนิสัยการ รับประทานอาหาร ปรับนโยบายอาหารกลางวนั ของโรงเรียนและองค์กร 6. บทบาทด้านการส่งเสริมความเท่าเทยี มทางสังคม นักจิตวิทยามีบทบาทในการสร้ างความตระหนักของสังคมถึงความสาคัญในการเห็นคุณค่า ศกั ดิ์ศรีความเป็ นมนุษย์ ส่งเสริมความเท่าเทียมในสงั คม เพ่ือลดการละเมิด การคุกคาม การใช้ความ รุนแรงทัง้ ทางกายและทางวาจา ซึ่งรวมถึงลดการรังแกทัง้ โดยตรงและในสื่อสังคมออนไลน์ (Cyberbullying) การกีดกันโดยไม่เป็ นธรรม และการมีส่วนรณรงค์ให้เกิดการเปล่ียนแปลงกฎหมายเพ่ือ สร้างความเทา่ เทียมทางสงั คม 7. บทบาทต่อการพฒั นาและการใช้เทคโนโลยี คอมพวิ เตอร์ และอนิ เตอร์เน็ต พฤติกรรมของมนุษย์มีความซบั ซ้อน ความก้าวหน้าของคอมพิวเตอร์ทาให้สามารถวิเคราะห์ ข้อมูลขนาดใหญ่ ตัวแปรจานวนมาก และมีความซับซ้อนสูง ช่วยให้ เกิดความก้าวหน้ าในการวิจัย พฤติกรรมมนุษย์ และเห็นภาพในวงกว้าง นอกจากนนั้ การทาการวิจัยโดยเก็บข้อมลู ทางอินเตอร์เน็ตยัง ชว่ ยลดระยะเวลาการเก็บข้อมลู และเข้าถงึ ผ้ตู อบได้งา่ ยขนึ ้ เด(ผพบทS้้ใาูรฤeคชิกนตl้โfาสกิ-นกรmขุรโดารภลo้ารมนนnยานอคตพiีกกัั tอสลดิoจจกขุใังrมเิติตiหคภแชnือวว้วคบ่านgถิทิทาพว)บือมยยาจกเรามกาิตราดู้ยมตมรวรไ้จิูงัดดมีมดิบเมิทพ้้างถเีสทกีสลัน่า่ือึงว่บมยว่สกกนมานขขุาาใหทนึสใรภ้รนานใศง่ใากวนผหกกึพทิา้สลาบษรจยร่เวรอาิสตาชนิกอลีย่วกลกากัยตยารดาเแอ่เรปกรหคบสกพษรวลบราึกตัฒา้ือารแษมรดงผนอศเแา้าทูคปาาอทเ่ีมรนสเพปทาียีปตินลงพคดัรญชจิเล์โคีวิคตนหิเิตชคววโาปนั่ลาิทชจมรทยนั่ยาะกี่ีใกาชจแชงัอก่วาล้วงยอาวาะลรเนนันกหใหไไชากลลรด้รเาือือทน้สงรดป่า์ครเซ้้รายราโียง่ึันนบงขชนคโสึพน้่ลววขุแฤยยตาภลตใีอรมาะหิกงยเพก้ตรขบ่าาร้าาุงคซมรใมไคท่ึงขจมคชลาอใ่ถ่ววงนมงูกายาผีผชตมนต้ใู่อล้อตชิดงกง้้ดอตอทร้วงเาาะาชกยมกทง่นาตาขเบขรน้รผอข้ขาเ้เทูมสออถอ่ีมพูลงงึงงี ติดเทคโนโลยียงั เก่ียวข้องกับภาวะความเครียด ซึมเศร้า และวิตกกังวลหอมีกดทังอ้ กาายรใุวชัน้สท่ือสี่ 1ังค1ม-1ออ0น-2ไล5น6์ 4 (Social media) อย่างไมเ่ หมาะสม
แนวความคดิ ทางจติ วิทยา 62 Viewpoint Psychology สาขาของวิชาจิตวิทยา การเกิดของกลุ่มสาขาใหม่ ๆ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการนาศาสตร์จิตวิทยาไปประยุกต์ใช้อย่าง กว้างขวาง การแบง่ สาขาของจิตวทิ ยาในปัจจบุ นั มีความหลากหลายเน่ืองจากนกั จิตวิทยาสามารถนาความรู้ ด้านจิตวิทยามาประยุกต์ใช้และเข้าไปมีบทบาทในงานทุกภาคส่วน ดังจะเห็นได้จากการจัดแบ่งกลุ่ม สมาชิกของสมาคมจิตวิทยาอเมริกนั (The American Psychological Association : APA) และสมาคม จิตวิทยาแคนาดา (The Canadian Psychological Association : CPA) โดยชื่อกลุ่มอาจเป็ นสาขาหรือ หวั ข้อทางจิตวทิ ยา ตามบทบาทหน้าที่ ความชานาญ และความสนใจของสมาชิกในกลมุ่ นนั้ ๆ การแบง่ กล่มุ สาขาของสมาคมจิตวิทยาอเมริกนั (Divisions in APA) สมาคมจิตวิทยาอเมริกัน ปัจจุบันประกอบด้วยสมาชิก 54 กลุ่มสาขา (divisions) ซ่ึงเป็ นการ รวมกลมุ่ ตามความสนใจและการปฏิบตั ิงานของสมาชิก โดยเมอ่ื เร่ิมต้นในปี ค.ศ. 1944 สมาคมมสี มาชิก 19 กลมุ่ สาขา และเนื่องจากมีการยกเลิกและควบรวมของบางกล่มุ จงึ เหลือ 17 กลมุ่ สาขา (Psychometric SทจกPาoลsาyกcมุ่งcชiสสehว่ ังtาoyงคขtปhซากจมี คeทึ่งาคลทลrเน่ี.ุ่aมี่ป5ไศังวpด็0ค.สนน้yรว1าจกขับา9ไิขตอลมป6ควงาุ่มร0รวกิททดู้วสาถลยมี่ิจเามงึ่มกุาิทกขสิกสคดบลัั าานา.ขกศทมรขใึลน้เ.่ีหาจส4มุ่2ใเาเพพสห0พวตต0่ิมาทิิ่มมัดข7ดิขย่มสานึสาม้(ทิานลSอะีกี่กัยใoย1ทลจขเc่า2้มกุ่อึไนiง้eษสCมนชtาตเ้y่lาเใiชขขnรหoๆ่้นาiศา้cfเเราหaพAก่สวใl็่ินมdลมตนPdขถุ่รมชsแนึi์ึ้่yวงcจลอcงกtิตiปีกhะoาวีonกร3คิทloลเP4.ยตศgุ่มsกิาบ.yyสลผ)c1โา้มุู่h9หตขo6ญขราl0วoอทิงมgมง่ี ใy(ี1กกนS)1ลาปoแมุ่รcัAจลทสiจbeะาาบุtnบขyงoนั าาาfrมoเงmนพกrที aดิ่มลtงั้hl้ สขามุ่ Peนึนิน้แ้sPอสจy5sีกcิดต4yhง3วcกoถิhทลกlึงooยมป่ลุ gloามุ่สรygะาเแayเขชดnลาo่นน็dะf Women) หมดอายวุ นั ท่ี 11-10-2564
63 เนื่องจากการแปลช่ือสาขาต่างๆของสมาคมจิตวิทยาอเมริกัน อาจไม่สามารถสื่อได้ตรงตาม ความหมายและวัตถุประสงค์ของกลุ่มได้ ชัดเจนเพียงพอ จึงขอแสดงรายช่ือแต่ละ สาขาตามชื่อ ภาษาองั กฤษ สมาคมจิตวทิ ยาอเมริกนั 54 สาขา โดยเรียงตามตวั เลข 1 Society for General Psychology 23 Society for Consumer Psychology 2 Society for the Teaching of Psychology 24 Society for Theoretical and Philosophical 3 Society for Experimental Psychology and Psychology Cognitive Science 25 Behavior Analysis 5 Quantitative and Qualitative Methods 26 Society for the History of Psychology 6 Society for Behavioral Neuroscience and 27 Society for Community Research and Comparative Psychology Action: Division of Community Psychology 7 Developmental Psychology 28 Psychopharmacology and Substance 8 Society for Personality and Social Abuse Psychology 29 Society for the Advancement of 9 Society for the Psychological Study of Psychotherapy Social Issues (SPSSI) 30 Society of Psychological Hypnosis 10 Society for the Psychology of Aesthetics, 31 State, Provincial and Territorial 12 EPSSSSSPSCoodosoocsreyyคcchcccuccaoiiiiicลeeeeehhtoaังitttttvooyyyyyltคiillPotoooofofวyoonsggfffาrrayaมCCCiyscnMIlnรoolthdPisndiดู้nuolsiiuitจิnstclnyhaosusิทcaergPtleyhlrtัลyiuiAlPonaiPnbrมglslosgtlyasหiygcPcnPcาyshdShsวyoyeoิทcOlcrlohoยvhrgoggiาocylyaลoleongยั giyเzyกaษtioตnรaศlาสตร์ 32 Psychological Association Affairs 13 33 Society for Humanistic Psychology 14 Intellectual and Developmental 34 Disabilities/Autism Spectrum Disorder 15 Society for Environmental, Population and 16 35 Conservation Psychology 17 36 Society for the Psychology of Women 18 Society for the Psychology of Religion and 19 37 Spirituality Society for Child and Family Policy and 20 Adult Development and Aging Practice. หมดอายุวันท่ี 11-10-2564 21 Applied Experimental and Engineering 38 Society for Health Psychology Psychology 39 Psychoanalysis 22 Rehabilitation Psychology 40 Society for Clinical Neuropsychology
แนวความคิดทางจิตวิทยา 64 Viewpoint Psychology 41 American Psychology-Law Society 49 Society of Group Psychology and Group 42 Psychologists in Independent Practice Psychotherapy 43 Society for Couple and Family Psychology 50 Society of Addiction Psychology 44 Society for the Psychology of Sexual 51 Society for the Psychological Study of Men Orientation and Gender Diversity and Masculinities 45 Society for the Psychological Study of 52 International Psychology Culture, Ethnicity and Race 53 Society of Clinical Child and Adolescent 46 Society for Media Psychology and Psychology Technology 54 Society of Pediatric Psychology 47 Society for Sport, Exercise and 55 American Society for the Advancement of Performance Psychology Pharmacotherapy 48 Society for the Study of Peace, Conflict 56 Trauma Psychology and Violence: Peace Psychology Division กลุ่มสาขาอาจมีความคาบเก่ียวกัน หรือบางกลุ่มสาขาอาจทางานซึ่งครอบคลุมประเด็นด้าน จิตวิทยาหลายหวั ข้อ สมาคมจิตวิทยาอเมริกนั จงึ ได้จดั แบ่งหวั ข้อทางจิตวทิ ยาและระบุให้เห็นวา่ สมาชิกใน กลมุ่ สาขาใดบ้างท่ีอาจมีความเกี่ยวข้องกบั หวั ข้อนนั้ ๆ โดยด้านซ้ายจะเป็ นหวั ข้อทางจิตวิทยาเรียงตาม AAAAAAอAgspdddrกั tsdivpusษneหeliltgcisreรัวdttsdiiขosemA้อinvenesexgถnlpoคtงึepลrmZimังeคenวntแtาaลมl ะรดู้ด้จิานทิ ขัลวมาหเปา็9นว|เทิ 1ล2ย25ข81า||ล7|1ล11ก223า0723|ยัล18ด2่|ุมเ|0|กบ2ั1507ษข0|อต3งร8กศลาสมุ่ ตสรา์ ขCCCCCCCาoooooroimunmnnmหssfnlpmiuuinsัวcamleauขttrilln้narอienjeigturtigsyvsoetilcuetion กลุ่ม 27 6 9 | 48 13 23 17 9 | 18 Behavior analysis 25 Developmental disabหilitมiesดอายุวนั ท่ี 173|132-010-2564 Developmental Child, youth, and family services 9 | 17 | 27 | 37 Children 7 | 9 | 12 | 16 | 27 | 37 | 38 | 53 | 54 Disability 9 | 22 | 33 Clinical 12 | 38 | 39 | 40 Eating disorders 38 | 50 Clinical child 12 | 38 | 53 Education 7 | 9 | 15 | 16 | 17 | 27
65 หวั ข้อ กลุ่ม หัวข้อ กลุ่ม Engineering 21 Pediatric 12 | 38 | 54 Environmental 9 | 34 Perception 6 Ergonomics 14 | 21 | 34 Personality 8 | 20 Ethnic minorities 9 | 12 | 17 | 27 | 35 | 38 | 45 Pharmacotherapy 55 Evaluation 5 | 27 Philosophical 24 Exercise 38 | 47 Physiology 6 | 38 Experimental 3 | 21 Police and public safety 18 Experimental analysis of behavior 25 Population 9 | 34 Family issues 9 | 16 | 37 | 43 Psychoanalysis 39 Forensic 41 Psychopharmacology 28 General 1 Psychotherapy 12 | 17 | 29 Group 9 | 17 | 49 Public service 18 Health 9 | 17 | 38 Quantitative Methods and Qualitative Methods 5 History 26 Rehabilitation 17 | 22 | 38 Human factors 21 Religion 36 Human resources 13 | 14 School 16 | 17 Humanistic 32 Social 8|9 Hypnosis 30 Social policy issues 7 | 9 | 17 | 27 | 34 Independent practice 17 | 42 | 35 | 37 | 44 | 45 | 48 Industrial and organizational 13 | 14 Spirituality 36 International 9 | 17 | 27 | 52 Sport 38 | 47 ตรศาสตร์Law and psychology 31 9 | 41 State association affairs 5 Lesbian, gay, bisexual, and Statistics transgender issues 9 | 17 | 44 Substance abuse 28 | 38 | 50 | 55 5 Teaching 2 | 15 ยาลยั เกษMeasurement 46 Testing 5 | 14 Theoretical 24 Media 9 | 17 | 51 Therapy 33 Trauma 17 | 29 | 39 | 49 มหาวทิMen and masculinity 19 Veterans affairs 56 ัลMental retardation 40 Vocational 18 คลังความรูด้ ิจิทMilitary 17 6 | 38 Neuropsychology Neuroscience Peace 9 | 48 Women 9 | 12 | 17 | 27 | 35 | 38 หมดอายวุ ันที่ 11-10-2564
แนวความคดิ ทางจติ วทิ ยา 66 Viewpoint Psychology การแบ่งกล่มุ สาขาของสมาคมจิตวิทยาแคนาดา สมาคมจิตวิทยาแคนาดาจะประกอบด้วยสมาชิกแต่ละกล่มุ ตามหวั ข้อทางจิตวิทยาซงึ่ เป็ นความ สนใจร่วมกนั ของสมาชิก กล่มุ ต่าง ๆ อาจมีการเปลี่ยนแปลงไปตามสถานการณ์และช่วงเวลา โดยใน ปัจจบุ นั กลมุ่ ท่ีมีฐานะทางกฎหมายภายใต้สมาคมจิตวทิ ยาแคนาดาทงั้ หมด 32 กลมุ่ ได้แก่ Addiction Psychology International and Cross-Cultural Adult Development and Aging Psychology Brain and Cognitive Sciences Psychologists in Hospitals and Clinical Psychology Health Centres Clinical Neuropsychology Psychology in the Military Community Psychology Psychologists and Retirement Counselling Psychology Psychopharmacology Criminal Justice Psychology Quantitative Methods Developmental Psychology Quantitative Electrophysiology Educational and School Psychology Rural and Northern Psychology Environmental Psychology Sexual Orientation and Gender IIHEMHFnnaxeieddstmardtuigeoคliistlcrmehลytyirnงัniiPPsaaoคessmlunว/yyOdsาccaมrPhhPgnรoeohdaู้ดlolinoolิจTopiggทิzesleyyaลัrosrtapoi'มonhrPnหidyssaาmySBlวcPeทิehcshยoytaาilcoovลhnigัยooyเulกorษaglตyรศาสตร์ Identity Social and Personality Section Sport and Exercise Psychology Students Teaching of Psychology Traumatic Stress Section Section for Women And Psychology (SWAP) หมดอายุวันที่ 11-10-2564
67 การจดั ตงั้ องคก์ รด้านจิตวิทยา ในหลาย ๆ ประเทศได้มีการจดั ตงั้ องค์กรด้านจิตวิทยาขึน้ โดยมีวตั ถุประสงค์คล้ายคลึงกัน คือ เพื่อเป็ นศูนย์รวมของนักวิชาชีพและนักวิชาการด้านจิตวิทยา เผยแพร่ความรู้ให้แก่สาธารณะ ส่งเสริม ความก้าวหน้าด้านวชิ าการ การศกึ ษา การวิจยั และยกระดบั มาตรฐานวิชาชีพ โดยในบางประเทศองค์กร ด้านจิตวิทยาจะมีบทบาทในการกากบั ดแู ลนักวิชาชีพ การขึน้ ทะเบียนและการออกใบอนุญาตประกอบ วิชาชีพนกั จิตวิทยาตามกฎหมาย ซึ่งเป็ นประโยชน์ คือ (1) ปกป้ องคุ้มครองผู้รับบริการด้านจิตวิทยาให้ ได้รับบริการโดยนกั วชิ าชีพที่มคี วามรู้ความสามารถ (2) ก่อให้เกิดสร้างความเชื่อมน่ั ในวชิ าชีพนกั จิตวิทยา องค์กรด้านจิตวิทยาท่ีมีบทบาทสาคญั ในต่างประเทศ ได้แก่ สมาคมจิตวิทยาอเมริกนั สมาคม จิตวิทยาแคนาดา สมาคมจิตวิทยาอังกฤษ และ สภาวิชาชีพด้ านสุขภาพ และการดูแล แห่ง สหราชอาณาจกั ร ส่วนองค์กรท่ีมีบทบาททางด้านจิตวิทยาในประเทศไทย ได้แก่ สมาคมนักจิตวิทยา คลินิกไทย คณะกรรมการวิชาชีพสาขาจิตวิทยาคลินิก และ สมาคมจิตวิทยาแห่งประเทศไทย โดยขอ นาเสนอภาพรวมขององค์กรเหลา่ นีพ้ อสงั เขปดงั นี ้ สมาคมจิตวิทยาอเมริกนั ปจสีีห.ครส.ัฐศแอ.ตเ1มน8สกรคล9าิกมล2ีรยาากงั ์ใทคคอ่ฮนี่มวตมอขาหงณัล้จมาสิรตะวมเู้ดนิทปวาิจ็นยิัทคน้ Tทิ ามยปไhลัลดจาeรยั้แมิตะอแAกหวธเพ่ิทามmานวยนรeทิซิากสrิลยอiันเมcาเวมลกaาเรัยน่nอคิกเียตกมนPั ษังเ้sคปตขyน็นรึนc้ แศสhใราว่ oนสกนlปตoหสีรgนค์มi่งึ c.าขศaคอl.งมAก1จ8sาัด9รsเ2กoปcาลโiรย่ีaดปนtยiรแoมะปnีชสลุ(มมงAคคาPรรชัAง้ัง้ิกใ)แหเรรญิ่กม่ทใแนี่เกรเิกดดขือ3นึ้ น1ในธคันปนรวะาแเคทลมศะ สงั คมเกิดความต้องการผ้เู ช่ียวชาญเฉพาะด้านท่ีผ่านการฝึ กฝนเข้ามาปฏิบตั ิงานวิชาชีพ และบริหารภาครัฐโดยใช้หลกั เหตผุ ล เพื่อให้การบริหารมหปี มระดสอทิ าธยิผลุวมันาทกขี่ 1นึ้ 1-10-2564 การเกิดศาสตร์สาขาวิชาใหม่ๆ เช่น จิตวิทยา เศรษฐศาสตร์ รัฐศาสตร์ ชีวเคมี และ สรีรวิทยา ซงึ่ มีการเรียนการสอนในระดบั ปริญญาและสงู กว่า ถือเป็ นความก้าวหน้า
แนวความคดิ ทางจติ วทิ ยา 68 Viewpoint Psychology ของการเคลอ่ื นไหวทางการเมอื งและสงั คม ในการสร้างผ้เู ช่ียวชาญแตล่ ะสาขา ทาให้เกิด ความเชื่อถือและเป็ นท่ียอมรับจากสังคม ลดการทุจริต เพิ่มประสิทธิภาพ และเกิด ระเบียบในสงั คม ภายหลงั สงครามโลกครัง้ ท่ีสอง สมาคมจิตวิทยาอเมริกันได้มีการปรับแผนองค์กรโดยรวบรวม สมาคมท่ีเกี่ยวกบั จิตวิทยาทกุ แขนงมาอย่ภู ายใต้องค์กรเดยี วกนั เพ่ือลดความสบั สนของสาธารณะตอ่ งาน ด้านจิตวิทยา ทาให้เกิดความเข้มแข็งขององค์กร และเป็ นศูนย์รวมของนักวิชาการและนักวิชาชีพด้าน จิตวทิ ยา ทหารผ่านศึกเป็ นกลุ่มที่มีความต้ องการบริการด้ านจิตวิทยาเป็ นอ ย่างมาก การผ่าน พระราชบัญญัติทหารผ่านศึก ทาให้เกิดสถาบันสขุ ภาพจิตแห่งชาติ (the National Institute of Mental Health : NIMH) และหลักสูตรจิตวิทยาคลินิกเพ่ือทหารผ่านศึก ทาให้จิตวิทยากลายเป็ นท่ีสนใจ และ ได้รับทนุ ทงั้ ทางด้านการฝึกสอนและงานวิจยั ซง่ึ ถือเป็นยคุ ทองของจิตวิทยาในประเทศสหรัฐอเมริกา สมาคมได้เติบโตขึน้ อย่างรวดเร็วภายหลงั สงครามโลกครัง้ ที่สอง มีจานวนสมาชิกเพ่ิมขึน้ จาก 4,183 คน ในปี ค.ศ. 1945 เป็น 30,839 คน ในปี ค.ศ. 1970 ปัจจบุ นั สมาคมมีสมาชิกกวา่ 115,700 คน (\"About APA\". APA.org. Retrieved 12 September 2018) โดยเป็นสมาชิก 88,500 คน และสมาชิกสมทบ 70,500 คน ส21สค..มมลาางั ชiสสเมชnคกิกมมากิsวี่ยขแtาาาขiวอลtมชชuอข้งวิรกิกt้งสอiอดู้oสสมงย(ิจnมMมจา่าิท)ทาคงeาลั นบกคmม้อมสมแb(ยหบถAeา่งาsr2ว)เsบปิทปoัน็ีนยcตใกiา้นอa9ลาtงดeปรัยเ้าศ)ปเรนก็ะึกนษจเผษผภิตตู้จ้าูจทวรบทิทบศตกี่ไายกาดาสาามร้ตรหรศคับรรศึณกุ์ือกึกษสาสษาารมาขรรบรัะบาะตัทดรดิข่ีเบัอกอับปง่ียงปรรวสะิญรขมิดญ้อาญับงชญภาิกจาโูมาคทเกิภออื สหากถรคดืาอ้าบ(กrนนัeาจgลกิตiาังoวรศnศิทกึaกึยlษlษyาาาหaปทcรรื่ีไอcิญดrส้eรญาับdขiากtาeโาททdร่ี รับรองระดบั ภมู ภิ าค 3. สมาชิกสมทบจากนานาชาติ (International Affiliate) ตห้ อมงดเปอ็ นาผยู้เวุ ปนั็ นทสี่ม1า1ช-ิก1ส0ม-า2ค5ม64 จิตวิทยาในประเทศที่ตนอาศยั อยู่ หรือต้องแสดงหลกั ฐานวา่ มีคณุ สมบตั ิเหมาะสม
69 4. ส ม าชิ ก ส ม ท บ ซ่ึงเป็ น นัก ศึก ษ าระดับ ห ลังป ริ ญ ญ า (Graduate student Affiliate) ต้องเป็นผ้ลู งทะเบียนเรียนวชิ าจิตวทิ ยา 5. สมาชิกสมทบซง่ึ เป็นนกั ศกึ ษาระดบั ปริญญาตรี (Undergraduate student Affiliate) ต้องเป็นผ้ลู งทะเบียนเรียนวชิ าจิตวิทยา 6. สมาชิกสมทบซง่ึ เป็นนกั เรียนชนั้ มธั ยมปลาย (High school student Affiliate) 7. สมาชิกสมทบซึ่งเป็ นอาจารย์ผู้สอนจิตวิทยาในวิทยาลัยชุมชน (Community college teacher Affiliate) ซงึ่ เป็นหลกั สตู รอยา่ งน้อย 2 ปี 8. สมาชิกสมทบซ่ึงเป็ นอาจารย์ผู้สอนจิตวิทยาระดับมัธยมปลาย (High school teacher Affiliate) 9. สมาชิกตลอดชีพ (Life status) สมาชิกท่ีมีอายุ 65 ปี ขึน้ ไป และเป็ นสมาชิกสมาคมมานาน กวา่ 25 ปี ขนึ ้ ไป สมาคมจิตวิทยาอเมริกันดาเนินงานโดยคณะกรรมการผู้บริหารสมาคม (Board of Directors) และสภาผ้แู ทนสมาชิก (Council of Representatives) ซึง่ มาจากสมาคมจิตวิทยาในแต่ละภาคสว่ น และ ประธานสมาคม (President) ซง่ึ มาจากการเลอื กตงั้ โดยสมาชิกสามญั ที่เข้าประชมุ ประจาปี บทบาทท่ีสาคญั สว่ นหนงึ่ ของสมาคมจิตวทิ ยาอเมริกนั ก็คือ การควบคมุ การประกอบวชิ าชีพและ การออกใบอนญุ าตประกอบวชิ าชีพนกั จิตวทิ ยาในสหรัฐอเมริกา โดยแตล่ ะมลรัฐจะมขี ้อกาหนดเฉพาะ สแรเCปผขับ้ามลูรo้าิใญหdสีะสบรeิทกกู่ญัอบธาาoนกาิใรรfญนุเาศสเCอรครกกึมีกายรoลาษตาับจnนังรคาไาdใคสกวนใกมuวม้ทนาสอcไาคัรี่ขรดมนถtะส)รนั้้กราญุสดคอตู้ดบาอบัมู่านา่จิหนับตปรอืิทนทะเรปกรลัชดั่ีบไดิญารด่นหใบัะมร้รญบเกลปหับจขออกัาราียกรนิบญเวเรนาอกญุิทวยรเกญณชิอยราาับากาาบฑตชลโรสเ์รใทีอพยัพานรงเรื่อณกกมโวแปดษาชิาวตรยรตาติชกะ่ปทกรรกาเ็ ศรฐวั่าปชอะไราา็นีบปพเพสนพไวหตจฤปื่ออชิลริตตตเาา์กัผิปวาจชสยิทมฏมีพตูแเยิบีบใกรพนาาัตรณรฐงะิใ่แ(มฑาดนEลนลบั์กขtะhะรอปาเiัฐนอcรงรทaสทกกัิญ่ีกlสมจาญPางิาตาหrารควาiอnนนิทมโ้cาทดดยจงi้มาpราิตอะนกlัวeงิตดเจิทs้ปอ(บัิตยP็งนoกวาuจfหาิทอbบPรลเยlกศsมiกัcาyากึรสacริกกษtตูศhiนัาoารoกึ รnผเlษพทo้มูmgา่ือาีสใiงaเsิทตนาntธรsรนuียะิสaวaดมอิlจnบัoบัยdf the American Psychological Association) นอกจากนีย้ ังมีการตีพิมหพ์เมผดยอแพารย่วุวานั รสทาี่ ร1ว1ิชา-1ก0าร-ด2้า5น64 จิตวิทยาจานวนมาก
แนวความคดิ ทางจติ วิทยา 70 Viewpoint Psychology เว็บไซต์ทางการของสมาคมจิตวทิ ยาอเมริกัน ท่ีมา : https://www.apa.org เข้าถึงเม่อื 4 ตลุ าคม 2561 คลังความรู้ดิจิทลั มหาวทิ ยาลัยเกษตรศาสตร์ ค่มู ือการเขียนรายงานเอกสารอ้างองิ ตามแบบ APA จรรยาบรรณวชิ าชีพจติ วทิ ยา ทม่ี า : https://www.apa.org/ ทฉ่มีบาับ:พhมิ ttพps์ค:/ร/ัwง้ ทw่ี w6.aหpaม.oดrg/อpuาbยs/bวุ ooันksท/4ี่2010106-610-2564 ethics/code/ethics-code-2017.pdf .aspxchiatrists/practice/dsm/history-of-the-dsm
71 ตวั อย่างวารสารวิชาการของสมาคมจติ วทิ ยาอเมริกัน ทม่ี า : https://www.apa.org/pubs/journals/browse.aspx?query=Title:*&type=journal คลังความร้ดู ิจิทลั มหาวิทยาลยั เกษตรศาสตร์ ตวั อย่างวารสารวิชาการของสมาคมจติ วทิ ยาอเมริกัน ตพี ิมพ์ในรูปหแบมบดอิเอลก็าทยรวุอนนั ิกทส์ ่ี 11-10-2564 ท่มี า : http://psycnet.apa.org/PsycARTICLES/journal/abn/127/6 เข้าถงึ เมอื่ 4 ตลุ าคม 2561
แนวความคิดทางจิตวทิ ยา 72 Viewpoint Psychology สมาคมจิตวิทยาแคนาดา The Canadian Psychological Association (CPA) สมาคมจิตวิทยาแคนาดา เป็ นองค์กรท่ีจัดตงั้ ขึน้ ตงั้ แต่ปี ค.ศ. 1939 และได้รับการรับรองตาม กฎหมายในปี ค.ศ. 1950 เพื่อเป็ นตวั แทนของนกั จิตวิทยาทว่ั ทงั้ แคนาดา โดยทางานร่วมกบั องค์กรด้าน สขุ ภาพ สุขภาพจิต การศึกษา และการวิจยั ภายในประเทศแคนาดา และสมาคมนักจิตวิทยาอเมริกัน (APA) นอกจากนีส้ มาคมยังมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเตรียมความพร้ อมและการรับมือในสถานการณ์ ฉกุ เฉิน หรือภยั พิบตั ิ ทงั้ ในประเทศแคนาดา และระดบั นานาชาติ ตราสัญลกั ษณ์สมาคมจติ วทิ ยาแคนาดา ทีม่ า : https://www.cpa.ca วัตคถล2314ุปัง....รคะวดสสสใสาห้งงาน่่มง้บเเนับครสสรจู้ด์ขสรริกิติิจิมมนอาทิวคดุนงรทิัล้าวทสคยนาี่มมมวามสีคาหากขุมณุคา้าภวเมวภปาทิ หจ็พานยนติพแเา้ลาวแลลแิศทิกะยั ลแส่คยเกะลมวาพษะาแาฒตัมผชครลเิกนนปศง็าานาากดสอนาตายสรร่ทูรใ์้าน่ีดงกีขสอารรงรปชคาร์ใะวนยแกคกุ าตนร์ใาวชดิจ้คายั วากมารรู้ทศากึ งษจาิตวแทิลยะาการดาเนินงาน สมาชกิ ของสมาคมจติ วิทยาแคนาดา หมดอายุวนั ที่ 11-10-2564 สมาชิกของสมาคมจิตวิทยาแคนาดา ซึ่งเป็ นนักจิตวิทยาที่อาศัยในประเทศแคนาดา หรือ สหรัฐอเมริกา โดยแบง่ ออกได้เป็น 3 ประเภท ได้แก่
73 1. สมาชิกสามญั (Full member) สมาชิกซงึ่ จบการศกึ ษาระดบั ปริญญาโท หรือปริญญาเอก ทางด้านจิตวทิ ยา 2. สมาชิกเกษียณ (Retired member) สมาชิกซงึ่ เดมิ เป็นสมาชิกสามญั แตป่ ัจจบุ นั เกษียณแล้ว 3. สมาชิกกิตติมศกั ดิ์ตลอดชีพ (Honorary life fellow/Honorary life member) ต้องเป็ นผู้ที่มีอายุ 70 ปี และเป็ นสมาชิกสามญั มาแล้วอย่างน้อย 25 ปี และได้รับการ เสนอช่ือ สมาคมจิตวทิ ยาแคนาดาปัจจบุ นั มจี านวนทงั้ สิน้ 32 กลมุ่ โดยกลมุ่ มีสิทธิตามกฎหมายดงั ตอ่ ไปนี ้ 1. ริเริ่มและทากิจกรรมที่เกี่ยวข้องสมาชิกกลมุ่ 2. ร่างข้อเสนอที่เกี่ยวข้องกบั หวั ข้อของกลมุ่ 3. เสนอนโยบายท่ีเกี่ยวกบั ความเช่ียวชาญของกลมุ่ 4. จดั การประชมุ ในประเดน็ ของกลมุ่ ภายใต้การประชมุ ประจาปี ของสมาคม 5. ให้ข้อเสนอแนะในการแต่งตัง้ ผู้แทนสมาคมจิตวิทยาแคนาดาเพื่อเข้าร่วมประชุมกับ หน่วยงานและองค์กรภายนอก 6. เป็ นตวั แทนเข้าร่วมประชุมกับหน่วยงานและองค์กรภายนอกหากได้รับความเห็นชอบ นคอลกังจคาวกาสสสจม21มมามร..กู้ดาาาคชชชิจสสปิิกกณิกิทมมรสสสลัิญะาามมากชมชมญททริกหิกญับบรสาามสขขตแมวกมออรลิททาีงงท้วยหบรออบาบรยพงงลือซคครงัิเยัิสศหม่ึง์์กกเงูษเาสีรรกปกรซซมษ็(วนงง่ึ่ึSาตา่เไนชpปรมใิกั็กeศนไ่นสcดาศผสสiม้เึ้กaทูปถตทlษ่ีอ็านรaบาบา์ผfอศfนั้ทูi(lกียัiทSี่อaใ2่ีไtาtนueดศปปd)้รยั eัรบรใะะnเกนปเเtาภทป็นaรทศรfผรfะแับ้iทูไlเคiดทaร่ีมน้อแtศีคeางกแว)ด่คาามนตหสา้อดรนงือาใเสจปหหใ็ นรนรือนัศฐสัอกาหสเศมรตึกัฐรริกษอ์จาเาิตมใวรนิทิกรยาะาดับ 1. สมาชิกสมทบนานาชาติ (International affiliate) เปหิดมรับดนอกั าจยติ ุวนัิทยทา่ีจ1า1กท-1กุ 0-2564 ประเทศ 2. สมาชิกสมทบซง่ึ เป็นนกั ศกึ ษานานาชาติ (International student affiliate)
แนวความคดิ ทางจติ วิทยา 74 Viewpoint Psychology การเผยแพร่ ข้ อมูลข่ าวสารของสมาคม สมาคมจิตวิทยาแคนาดา มีการตพี ิมพ์ข้อมลู วารสาร นิตยสาร และจดหมายขา่ วออนไลน์ ดงั นี ้ วารสาร Canadian Journal of Behavioural Science วารสาร Canadian Journal of Experimental Psychology วารสาร Canadian Psychology แมก็ กาซนี Psynopsis จดหมายข่าวออนไลน์ Mind Pad Psychology Works Fact Sheets เป็นเอกสารข้อเทจ็ จริง (informative brochures) เพ่ือเผยแพร่แก่สาธารณะ นอกจากนี ้สมาคมจิตวทิ ยาแคนาดายงั ได้กาหนดให้เดอื นกมุ ภาพนั ธ์เป็นเดอื นแห่งจิตวิทยา (Psychology Month) และสนบั สนนุ ให้มกี ารเผยแพร่ความรู้เก่ียวกบั จิตวทิ ยาแกส่ าธารณะ คลงั ความรู้ดิจทิ ลั มหาวิทยเวาบ็ ลไยัซตเก์ทษทาง่ีมตการา:รศhขtาtอpสงsสต:/ม/รwา์wคwม.จcติpaว.ทิcยa/าแคนาดา หมดอายวุ นั ที่ 11-10-2564 วารสารวชิ าการของสมาคมจติ วทิ ยาแคนาดา ท่มี า : http://psycnet.apa.org/PsycARTICLES
75 แม็กกาซีน Psynopsis Psynopsis ฉบับฤดูร้อน ปี ค.ศ. 1996 Psynopsis ฉบับท่ี 1 ปี ค.ศ. 2019 ทมี่ า : https://pbs.twimg.com/media ท่มี า : https://cpa.ca/docs/File /CmyhdwuWcAA8pBf.jpg /Psynopsis/2019-Vol41-1/index.html การประกอบวิชาชีพและใบอนุญาตประกอบวิชาชพี ในแคนาดา ในแคนาดา การให้บริการด้านจิตวิทยาจะถูกคุ้มครองโดยกฎหมาย ผู้ที่จะเรียกตนเองว่า นักจิตวิทยา หรือ ให้บริการท่ีเก่ียวข้องกับจิตวิทยา จะต้องเป็ นสมาชิกของสมาคมนักจิตวิทยาและต้อง ได้รับใบอนุญาตประกอบวชิ าชีพ (License) โดยในแต่ละจงั หวดั และเขตปกครองของประเทศแคนาดาจะ แผโผภรมดะ้้ลมููรีาสดับยยะีคมับกใมใณุ ตบาาปีเ้สกรกปครสมาิณญรมอรคบะคบญลฑจกตั วังสิอ์ติเสาบคหมับเอวควมอภวิาทดมุกาิชามะดคหยษารสแูลชรูด้าณมืลอ้ีพิจอใ์ปเขปทินจทงอารกลัิต่าทงิกญันบว้นมเอิทนปัญกส้ัหงยจลจมาาถึงาา่ิตวโาิ่จใทนทิทวคนะงทิัย้เสเมใ(ปายขตนา็ลจาตนามดยัิอตหม้าาสเาวกรรขน่ววืิอทถ้ษอกโุ นจใสยตกาหังทรราา(้บหปศsหี่แกวรuาฏนคิกดัาสpิบดนาตใeกตัรใดารrับดนvงิ์แดi้าาแsดลานนoตู้วแแrจ่ล)ลลิตเะหอพะวกพยาดทิ่ือาืกนา่้้ายเงรมทนปานอีก็่ี)ไจน้อดอารแยก้รรลกยยาซ1้วใ้าารงึ่ บปยนบคี ้ยถอุรอมแริ่ันกงลนคณตจทะุร้ญอาี่ตออเกงม้ยองามจ่ือ่งูขสตะีปผ้ไาาตดร่าปมธ้อ้ะรนเราับงสขกะจรตกบาณบกาหรกกสรอราะขาืออรบวนึรบ้จณ่าศทวังขเ์กึิทะ้ชหอฉษเาวเาพบขงาดัชียียาาใี นพนนนผะู้ ประกอบวิชาชีพนกั จิตวทิ ยาต้องปฏิบตั ติ ามข้อกาหนดของสมาคมจิตวิทยาที่กากบั ดแู ลในพืน้ ที่ใหมท่ ี่ตนจะ ย้ายไป หมดอายุวันท่ี 11-10-2564
แนวความคดิ ทางจิตวิทยา 76 Viewpoint Psychology องคก์ รท่ีเก่ียวข้องกบั วิชาชีพจิตวิทยาในสหราชอาณาจกั ร ในสหราชอาณาจกั รมีองค์กรสาคญั ท่ีเกี่ยวข้องกบั วชิ าชีพจิตวทิ ยา 2 องคก์ ร คือ [1] สภาวิชาชีพด้านสุขภาพและการดแู ล (The Health and Care Professions Council : HCPC) ตราสัญลักษณ์ HCPC ที่มา : http://www.hcpc-uk.org/ ในปี ค.ศ. 2002 สหราชอาณาจกั รได้มีการออกพระราชบญั ญัติ “The National Health Service Reform and Health Care Professions Act 2002” ให้ The Health and Care Professions Council (HCPC) เป็ นองค์กรซง่ึ ทาหน้าท่ีควบคมุ ดแู ลการขึน้ ทะเบียนผู้ประกอบวิชาชีพนกั จิตวิทยา และวิชาชีพ ด้านการให้บริการและดแู ลสุขภาพอื่น ๆ รวม 16 กลุ่ม โดยมีเหตุผลเพื่อคุ้มครองประชาชน ยกระดับ มาตรฐานการให้บริการและการดูแลสขุ ภาพ ให้การรับรองสถาบันการศกึ ษาและฝึ กอบรม และจดั ทา รายนามนกั วชิ าชีพและหนว่ ยงานที่ได้มาตรฐาน จากพระราชบญั ญตั ิข้างต้น วิชาชีพจิตวิทยาเป็นหนง่ึ ในวิชาชีพที่ได้รับความค้มุ ครองตามกฎหมาย และอย่ภู ายใต้การดแู ลของ The Health and Care Professions Council การอ้างตวั เป็นนกั จิตวิทยา หรือ อปารญะกาอบโดวคยิชลคาังาชควีพวา่ ใานนมกั รฐจนนนนนู้ดาิติจกกกกกััััันวทิจจจนจะิทิิิิตตตตลัิตนยววววิจักามทิทิทิทิิตคจหยยยยวิตราาาาาิทอววสใกคยบทิิทหาขลุาคย้ยกรภินลา(ศาาาFิกลมุรโกึพoดัยปถ(ษrCเยeร(งึกาHึกlnไiษnม(eษsEตiia่ไcาcdรดlatศu(้phขlCcาspึน้poสayssทutcตyiyonะhรccns์oเhhบealoooีllยllgloiponนigssggiyt(is)srpctet)hs)gyoicslothegorilesotdg))isถt)ือเป็ นความผิดตามกฎหมาย นกั จิตวทิ ยาด้านอาชีวบาบดั (Occupational psychoหloมgดistอ) ายวุ ันที่ Practitioner psychologist 11-10-2564 Registered psychologist นกั จิตวิทยาการกีฬาและการออกกาลงั กาย (Sport and exercise psychologist)
77 [2] สมาคมจติ วิทยาอังกฤษ (British Psychological Society : BPS) ตราสญั ลกั ษณ์สมาคมจิตวิทยาองั กฤษ ทีม่ า : https://www.bps.org.uk/ สมาคมจิตวิทยาอังกฤษ (British Psychological Society : BPS) เดิมเป็ นองค์กรท่ีทาหน้ าท่ี ควบคมุ ดแู ลนกั จิตวิทยาในสหราชอาณาจกั ร แต่เนื่องจากสมาคมนีด้ าเนินการในรูปแบบเป็ นองค์กรการ กุศล ทาให้ มีข้อจากัดในการดาเนินงานบางประการ เช่น ไม่สามารถดาเนินกิจกรรมด้านการเมือง นอกจากนี ้องค์กรมีสมาชิกทงั้ ที่เป็ นนกั จิตวิทยาและอาจารย์ผ้สู อนจิตวิทยา ต่อมาเม่อื มีการเปล่ียนแปลง ท างก ารเมื อ ง แล ะมี ก ารออ ก พ .ร.บ . “The National Health Service Reform and Health Care Professions Act 2002” ซง่ึ ทาให้สภาวิชาชีพด้านสขุ ภาพและการดูแล ได้กลายเป็ นหน่วยงานที่ทาหน้าท่ี กากบั ดแู ลการประกอบวิชาชีพจิตวิทยา รวมถงึ การออกใบอนญุ าตประกอบวิชาชีพให้แก่นกั จิตวิทยา แต่ สมาคมจิตวทิ ยาองั กฤษก็ยงั คงมบี ทบาทในการเป็ นองค์กรตวั แทนด้านจิตวิทยาและนกั จิตวทิ ยา และดแู ล สง่ เสริมมาตรฐานและจรรยาบรรณในด้านการสอน การวิจยั และการปฏิบตั ิงานทางจิตวทิ ยา สมาคมได้มี การจดั ทามาตรฐานจรรยาบรรณ (Code of Ethics and Conduct) และแนวทางการปฏิบตั ิงาน (Practice Guidelineคsล)งัเพคว่ือาเปม็รนดู้ กจิ รทิอบลั ใมนหกาาวรทิปยฏาิบลตัยั ติเกนษสตารหศราับสนตกั รจ์ ิตวิทยาชาวองั กฤษ หมดอายวุ ันที่ 11-10-2564 มาตรฐานจรรยาบรรณโดยสมาคมจติ วทิ ยาองั กฤษ แนวทางการปฏิบัตงิ านของสมาคมจติ วทิ ยาองั กฤษ ฉบบั ปี ค.ศ. 2018 ฉบบั ปี ค.ศ. 2018
แนวความคดิ ทางจิตวิทยา 78 Viewpoint Psychology องคก์ รด้านจิตวิทยาในประเทศไทย ในประเทศไทย มีองค์กรด้านจิตวิทยาท่ีจัดตงั้ และยังคงดาเนินการอยู่จนถึงปัจจุบัน 3 องค์กร ได้แก่ สมาคมนักจิตวิทยาคลินิกไทย (The Thai Clinical Psychologist Association – TCPA) สมาคม จิตวิทยาแห่งประเทศไทย (The Thai Psychological Association - T.P.A.) และคณะกรรมการวิชาชีพ สาขาจิตวทิ ยาคลินิก [1] สมาคมนักจติ วทิ ยาคลนิ ิกไทย (The Thai Clinical Psychologist Association – TCPA) ตราสญั ลกั ษณ์สมาคมนกั จิตวทิ ยาคลนิ ิกไทย ที่มา : www.thaiclinicpsy.org/ สมาคมนักจิตวิทยาคลินิกไทยเร่ิมจากการก่อตงั้ เป็ น ชมรมนักจิตวิทยาคลินิก ในปี พ.ศ. 2512 โดยมีอาจารย์สมทรง สุวรรณเลิศ เป็ นประธานชมรม ต่อมาเลื่อนฐานะจากชมรมขึน้ เป็ นสมา คม นกศปิตาักรสะตจสตมิิตพรศวากิัทจร1ว2ดัยตคาตั..์ิ ารลนถยคังาปุเปส์คนพลกร่งฏวา่ืิอนะรเิบาสยเสิกมพแตัแรงไรพิิ่มมิแคพทู้ดลพทแ์ขทยจิ ะอลนูยยทิใวง์ะคหน์ฝลัชิสควญนปามมาวีกิามงแหบพาคคสราคร.ู้แมุณศวงุมลิทนส.หคะิยงกั2ปุณญแาจ5ลกริต1ิภงะ้ัยวว9สสาเิทศกุภพบโยษดาากงาสตยาาคมตรมนรลาศณรีดนินลาา้์าราิสกจาะนงตไากหสทจรรุลวยยา์ิตา่์วแหวไงอลมดิทสุ่น้ะแ่อยมนกเมาาร่าชืคหอยิกลลนแินวอพงิกาตทแ้ไยุ ยลพ์ปชะพุจมรัสะิตสตสวาริทิทย์ ธเยศปิ์ าห็านแสะนกตร่าสินรยมาสกจาุตสาชรเิมกปยทา็์นนคัง้ าทดมยี่ป้าแแนรพึกลกทษะายมรา์ี 3. เพ่ือร่วมมือกันผลิตผลงานวิจยั ทางด้านจิตวิทยาคลินิกและหสมุขดภาอพาจยิตวุ ใันห้เทป็่ีน1ป1ร-ะ1โย0ช-น2์ต5่อ64 ชมุ ชน 4. เพ่ือเผยแพร่ความรู้ด้านจิตวิทยาคลนิ ิกและสขุ ภาพจิตแกป่ ระชาชน
79 5. ร่วมมือกับสมาคมและสถาบันอื่นๆ ท่ีมีวัตถุประสงค์คล้ายคลึงกันทัง้ ในประเทศและ ตา่ งประเทศ 6. ไมเ่ ก่ียวข้องกบั การเมือง ในปี พ.ศ. 2526 สมาคมนกั จิตวทิ ยาคลินิกไทยมีการประกาศจรรยาบรรณของนกั จิตวิทยาคลินิก และจดั พิมพ์เผยแพร่แก่สมาชิกสมาคม และในปี พ.ศ. 2534 สมาคมนกั จิตวิทยาคลินิก โดยการดาเนินการ ภายใต้กองสขุ ภาพจิต กรมการแพทย์ ขณะนนั้ ได้จัดทามาตรฐานการปฏิบัติงานของวิชาชีพจิตวิทยา คลินิก และมีการปรับปรุงหลายครัง้ หลายสมยั ต่อเนื่องมา และเมื่อมีการตราพระราชกฤษฎีกากาหนดให้ สาขาจิตวิทยาคลินิกเป็ นสาขาการประกอบโรคศิลปะ ตามพระราชบัญญัติการประกอบโรคศิลปะ พ.ศ. 2546 ณ วนั ท่ี 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2546 จึงได้จัดทาเป็ นมาตรฐานการประกอบโรคศิลปะสาขาจิตวิทยา คลินิก ภายใต้การดาเนินการของคณะกรรมการวิชาชีพสาขาจิตวิทยาคลินิก และ กองประกอบโรคศิลปะ กระทรวงสาธารณสขุ การบริหารสมาคมนักจิตวิยาคลินิกไทยจะใช้การเลือกตงั้ นายกสมาคม วาระละ 2 ปี กิจกรรม ของสมาคมท่ีทาต่อเนื่องกันมาทุกปี คือ การประชุมวิชาการประจาปี และจัดทาวารสาร โดยปัจจุบัน วารสารจิตวิทยาคลินิก (Journal of clinical psychology) มีกาหนดออก ปี ละ 2 ฉบบั มีจุดม่งุ หมาย เพ่ือ เผยแพร่ความรู้ทางจิตวิทยาคลินิก จิตเวชศาสตร์ สขุ ภาพจิต และศาสตร์อ่นื ๆ ที่ใกล้เคียง และรายงานการ เคลอ่ื นไหวคใลนังวคงวกาามรรจูด้ิติจวทิทิ ลัยามคหลาินวิกทิ ยาลยั เกษตรศาสตร์ หมดอายวุ ันที่ 11-10-2564 เวบ็ ไซต์ทางการของสมาคมนักจติ วทิ ยาคลินิกไทย ทม่ี า : www.thaiclinicpsy.org/
แนวความคดิ ทางจิตวิทยา 80 Viewpoint Psychology วารสารจติ วทิ ยาคลินิกของสมาคมนักจิตวทิ ยาคลินิกไทย (ซ้าย) ปี 2553 ฉบบั ท่ี 2 (ขวา) ปี 2558 ฉบบั ที่ 2 ทีม่ า : www.thaiclinicpsy.org/ [2] คณะกรรมการวิชาชีพสาขาจติ วิทยาคลนิ ิก พในรปะรราะชเทบคคศญัคณณไลทญะะงั ยคกกตั วตรรกิ รราาาม123มมมร...กรกปพู้ดาารรจิรรผผปะะววทิ้้กแแููรรชิิชะลัททอาาาธชบนนชชมากโกกีพีพหนรฤรรคมาสรมมษาวศาาสสฏชิทจขลิ ขนุวีกยาาปภบิทักาาจะากลยสติตพพัยาานววั หลจเแ.ิทนุ กศิตยัทนยบษ.จ2นดารติต5ิคใกขรห4แอลาศ้2พสรงินาสสาทิสกพขุขถยตเภา.า์แรปศจบา์ห็.นิตพ2นัง่ คว5ปตณทิ4า่ร6ยะงะๆาเบทคไุคศลดคไิน้แทลิกกยท่เป่ีท็นาหสนา้ขาาทกี่ดาแู รลปวรชิ ะากชอีพบจโิตรควศิทิลยปาคะลตินามิก 4. ผ้แู ทนหนว่ ยงานในสถาบนั อดุ มศกึ ษาท่ีจดั การศกึ ษหาหมลดกั อสตูารยจวุิตนัวทิ ทยี่า1ค1ล-นิ 1ิก0-2564 5. ผ้ทู รงคณุ วฒุ ิท่ีรัฐมนตรีแตง่ ตงั้
81 6. ผู้แทนซึ่งมาจากการเลือกตงั้ ของผู้ประกอบโรคศิลปะสาขาจิตวิทยาคลินิกจานวน เทา่ กบั สมาชิกข้อ 1 - 5 7. ผ้อู านวยการกองประกอบโรคศลิ ปะ ทาหน้าที่เป็นกรรมการเลขานกุ าร ในการทางานของคณะกรรมการวิชาชีพสาขาจิตวิทยา กาหนดให้มีคณะอนุกรรมการวิชาชีพ 4 ชดุ ซงึ่ มาจากนกั จิตวทิ ยาคลินิกในหน่วยงานตา่ งๆ ทาหน้าท่ี พิจารณาขนึ ้ ทะเบียนและจดั สอบความรู้ พฒั นาวชิ าการและมาตรฐานวชิ าชีพสาขาจิตวิทยาคลนิ ิก จรรยาบรรณวชิ าชีพสาขาจิตวิทยาคลนิ ิก ตรวจประเมินสถาบนั การศกึ ษา คทสเอาม่ีลกขาสังา:าคจรhติ วมtวtาาpิทต:มย/ร/mารฐคู้ดาrdลนจิ -นิกhทิิกาsรsลั ป.mรมะoกpหอhาบ.gวโoริทค.thศย/ลิrาoปลkะsัยilเกษตรศาสตร์ แนวทางการตรวจวินิจฉยั ทางจติ วทิ ยาคลนิ กิ คณะกรรมการวิชาชีพสาขาจติ วิทยาคลนิ กิ สานกพยาบาลและการ /doc_standard/มาตรฐาน%จค.pdf ประกอบโรคศลิ ปะ กรมสนบั สนนุ บริการสขุ ภาพ กระทรวง สาธารณสขุ , 25ห60มดอายวุ นั ที่ 11-10-2564
แนวความคิดทางจติ วทิ ยา 82 Viewpoint Psychology การสอบความรู้เพ่ือขอขนึ ้ ทะเบียนและรับใบอนญุ าตเป็นผ้ปู ระกอบโรคศลิ ปะสาขาจิตวิทยาคลินิก มาตรา ๓๓(๕) แห่งพระราชบัญญัติการประกอบโรคศิลปะ พ.ศ. ๒๕๔๒ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดย พระราชบัญญัติการประกอบโรคศิลปะ (ฉบับท่ี ๔) พ.ศ. ๒๕๕๖ ได้กาหนดให้ผู้ท่ีได้รับปริญญาสาขา จิตวิทยาคลินิก หรือที่ศึกษากระบวนวิชาจิตวิทยาคลินิกเป็ นวิชาเอก และได้ผ่านการฝึ กปฏิบัติงานใน โรงพยาบาล หรือองค์กรใดที่คณะกรรมการวิชาชีพสาขาจิตวิทยาคลินิกรับรองมาแล้วไมน่ ้อยกว่า ๖ เดือน มีสิทธิขอขนึ ้ ทะเบียนและรับใบอนญุ าตเป็ นผ้ปู ระกอบโรคศิลปะสาขาจิตวิทยาคลินิก และต้องสอบความรู้ ตามหลกั เกณฑ์ วธิ ีการและเง่ือนไขท่ีคณะกรรมการวชิ าชีพสาขาจิตวทิ ยาคลนิ ิกกาหนด ในแต่ละปี คณะกรรมการวิชาชีพสาขาจิตวิทยาคลินิก จะออกประกาศคณะกรรมการวิชาชีพ สาขาจิตวิทยาคลินิก เร่ืองการรับสมคั รและการสอบความรู้ เพื่อขอขึน้ ทะเบียนและรับใบอนุญาตเป็ นผู้ ประกอบโรคศลิ ปะสาขาจิตวิทยาคลนิ ิก โดยกาหนดรายละเอียด ดงั นี ้ คณุ สมบตั แิ ละความรู้ในวชิ าชีพ ผ้มู ีสิทธิขอสอบความรู้เพื่อขอขนึ ้ ทะเบียนและรับใบอนญุ าตเป็ นผ้ปู ระกอบโรคศิลปะสาขา จิตวทิ ยาคลินิก ต้องมคี ณุ สมบตั ิและไมม่ ีลกั ษณะต้องห้าม ดงั ตอ่ ไปนี ้ ๑ มีอายไุ มต่ ่ากวา่ ๒๐ ปี บริบรู ณ์ (นบั ถงึ วนั สดุ ท้ายของการสมคั รสอบ) เพไปกสดวฏ.ยี้ศรา่ ิบับเ.ก๖ตัป๒ียิงเรร๕าดิญตน๕อื คศิ ญใน๒ลกนั งัาดโซคสริ์แ่ึงงวา๔๒๓หพแาข่งมกไไเยาวปมม้รไจาิช็ขู้ดนเเ่่บิตาคปเิจผาชวพ็ยนทิ้มูลิทีพ่ิตมผลัีคหย้อ้เมู วตรามงคีืาอคิมโหมวทอลตาารษงิวน้ามูใคทิจินมกป์กายวพรรหคาิชะใรลรกุาดพะือยัโชทรฤดทเีพาก่ีคตย่ีศชตษณิเคึกสบาตาษะยีมัญรพกดามศิพญรกาาารายรสตัมตกะตรซิกกษบารง่ึาาาว์ ค๓รรถนวณป๓งึวิชรทิชะ(าะ๕่ีสกาชก)ดจุรีพอริแตใสมบนหวากคโิท่งขราพดยคารทีราจวศะค่ีคิิชติลรลณาวาปิชนิทชะะีพิกยบก(เเาญัรหฉปคร็็นบนญมลวับวกนิตัา่ิชาทิกิกจารี่ราะวเ๔ัอบรนิชป)กราาอพรชมแะงีพ.าลมศกซเะอาห.งึ่ ผแบ๒คน็ ่าลโวว๕นร้วาา่ ค๕กไมอมศา๖าเส่นิลรจฝ้อื่คปอจึ กมืยอะะ นามาซงึ่ ความเสือ่ มเสยี เกียรติศกั ดิแ์ ห่งวชิ าชีพ หมดอายุวันท่ี 11-10-2564 ๕ ไมเ่ ป็นผ้ตู ิดยาเสพติดให้โทษ ๖ ไมเ่ ป็นคนวกิ ลจริต หรือจิตฟั่นเฟื อนไมส่ มประกอบ ๗ ไมเ่ ป็นโรคท่ีคณะกรรมการวชิ าชีพประกาศกาหนดวา่ ไมส่ มควรให้ประกอบโรคศลิ ปะ
83 การสอบ การสอบแบ่งเป็ น 2 ภาค คือการสอบข้อเขียน และการสอบสมั ภาษณ์ โดยเนือ้ หาท่ีสอบมีทงั้ ด้าน วชิ าชีพและด้านกฎหมาย ได้แก่ o การตรวจวนิ ิจฉยั ทางจิตวทิ ยาคลินิก o การบาบดั ทางจิตวิทยาคลินิก o จรรยาบรรณแหง่ วิชาชีพของผ้ปู ระกอบโรคศิลปะ o การศกึ ษาค้นคว้าวิจยั ทางจิตวิทยาคลนิ ิก o การประยกุ ต์จิตวทิ ยาคลนิ ิกเข้าสชู่ มุ ชนและศาสตร์อน่ื ๆ ที่เก่ียวข้อง o วชิ ากฎหมายที่เกี่ยวกบั วชิ าชีพ - พระราชบญั ญตั ิการประกอบโรคศลิ ปะ พ.ศ. 2542 และท่ีแก้ไขเพ่ิมเตมิ - พระราชบญั ญตั สิ ถานพยาบาล พ.ศ. 2541 และที่แก้ไขเพิ่มเตมิ ในปั จจุบันมีนักจิตวิทยาคลินิกท่ีผ่านการสอบและได้รับการอนุมัติให้ ขึน้ ทะเบียนและรับ ใบอนุญาตเป็ นผู้ประกอบโรคศิลปะสาขาจิตวิทยาคลินิกมีจานวนทัง้ สิน้ 954 คน (ข้อมูล ณ วนั ท่ี 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2562) [3] สมาคคมลจงั ติ คววทิ ามยราดู้แิจหิท่งัลปมระหเาทวศิทไยทาตลยรายัส(ญัเTกทลhษ่ีมกั ษeาตณ:รTh์สtศtมhpาาa:/คส/wiมตwจPิตwรsว.์tิทyhยaciาphแsoหy่ง.lcปooรgmะเiทcศaไlทยAssociation, T.P.A.) สมาคมจิตวทิ ยาแห่งประเทศไทยก่อตงั้ ขนึ ้ เมือ่ วนั ท่ี 9 สงิ หาคม พ.ศ.2504 โดยมศี าสตราจารย์ ดร. หม่อมหลวงตุ้ย ชุมสาย เป็ นนายกสมาคมคนแรก (พ.ศ.2504-2506) หต่อมมดาอศาาสยตวุ รันาทจา่ี ร1ย1์น-า1ย0แ-พ2ท5ย6์ 4 ประสพ รัตนากร ผ้เู ป็ นแพทย์เฉพาะทางประสาทวิทยาและจิตวิทยาคนแรกของไทยได้รับหน้าที่เป็ นนายก สมาคมฯคนท่ี 2 โดยดารงตาแหน่งตงั้ แต่ พ.ศ.2507 ถงึ พ.ศ.2531 จนมาถึงรองศาสตราจารย์ ดร. ประสาร
แนวความคดิ ทางจิตวิทยา 84 Viewpoint Psychology มาลากลุ ณ อยธุ ยา อดตี คณบดีคณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลยั ได้รับเลือกตงั้ เป็นนายก สมาคม ฯ คนท่ี 3 2531 ถึง 2536 ศาสตราจารย์ ดร.ดวงเดือน พันธุมนาวิน มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร เป็นนายกสมาคมฯ คนท่ี 4 ในปี พ.ศ.2536 ตอ่ เน่ืองมาจนภายหลงั จงึ มีการหมนุ เวียนกนั ทา หน้าที่บริหารงานสมาคมฯ โดยอาจารย์ผู้ทรงคุณวฒุ ิจากสถาบันการศึกษาซึ่งมีการเรียนการสอนด้าน จิ ต วิท ย า คื อ จุ ฬ าล งก รณ์ ม ห าวิท ย าลัย ม ห าวิท ย าลัย ศ รี น ค ริ น ท รวิโรฒ ป ระ ส าน มิ ต ร มหาวิทยาลยั ธรรมศาสตร์ มหาวิทยาลยั เกษตรศาสตร์ และมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ ราชวิทยาลยั (มจร.) สมาคมจิตวทิ ยาแหง่ ประเทศไทย ระบภุ ารกจิ ของสมาคมไว้ 3 ประการ คือ 1. การประชมุ ใหญส่ ามญั ประจาปี 2. การประชมุ วิชาการทางจิตวิทยาระดบั มหาวิทยาลยั ระดบั ชาติ และระดบั นานาชาติ 3. กิจกรรมเพ่ือสาธารณะ จิตอาสา จิตปัญญา คลงั ความรู้ดิจิทัล มหาวิทยาลยั เกษตรศาสตร์ เวบ็ ไซต์ของสมาคมจติ วทิ ยาแห่งประเทศไทย หมดอายวุ นั ที่ 11-10-2564 ท่มี า : http://www.thaipsy.com
บทท่ี 5 จรรยาบรรณในวิชาชีพจิตวิทยา (Code of Professional Ethics) วิชาชีพนกั จิตวิทยาถือวา่ การมีมาตรฐานจรรยาบรรณวิชาชีพเป็ นการยกระดบั วิชาชีพให้มีความ เป็นมาตรฐาน และแสดงการมีความรับผิดชอบตอ่ สงั คม ในประเทศไทย นักจิตวิทยาทุกสาขาจะศึกษาและใช้ มาตรฐานจรรยาบรรณของสมาคม นักจิตวิทยาอเมริกนั เป็ นแนวทางในการปฏิบตั ิงาน และเฉพาะผู้ปฏิบตั ิงานในสาขาจิตวิทยาคลินิกต้อง ยดึ ถือตามระเบียบกระทรวงสาธารณสขุ ว่าด้วยการรักษาจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพของผ้ปู ระกอบโรคศิลปะ พ.ศ. 2559 และมาตรฐานการประกอบโรคศิลปะสาขาจิตวทิ ยาคลินิก พ.ศ. ในบทนี ้จะประกอบไปด้วยข้อมลู 2 ตอน ตอนท่ีหน่งึ เป็น มาตรฐานจรรยาบรรณนกั จิตวทิ ยาของ สมาคมนกั จิตวทิ ยาอเมริกนั ซง่ึ ประกาศใช้ครัง้ แรกในปี ค.ศ. 2003 โดยมกี ารแก้ไขเพ่ิมเตมิ 2 ครัง้ ครัง้ ที่ 1 ในปี ค.ศ. 2010 และครัง้ ล่าสุดในปี ค.ศ. 2016 มีผลบังคับใช้ตัง้ แต่ วันท่ี 1 มกราคม ค.ศ. 2017 โดย ผ้เู ขียนได้แปลภาษาไทย และตอนท่ีสอง เป็ นระเบียบกระทรวงสาธารณสขุ ว่าด้วยการรักษาจรรยาบรรณ แ46ห่งงวิชหานช้ีพาคลข1งัอ-5คงวผา้ปูลมงรรวะู้ดนักจิ ทอิทบี่ ัล1โ9รมคกหศมุ าิลภวปทิาพยะานัพลธ.ยั ์ศ2เ.ก52ษ55ต95ร9ศาซสงต่ึ ปร์ระกาศในราชกิจจานุเบกษา เลม่ ท่ี 133 ตอนพิเศษ หมดอายวุ นั ท่ี 11-10-2564
แนวความคดิ ทางจติ วิทยา 86 Viewpoint Psychology มาตรฐานจรรยาบรรณนักจิตวิทยา สมาคมนักจิตวิทยาอเมริกนั ค.ศ. 2017 บทนาและการประยุกต์ใช้ หลักจรรยาบรรณและเกณ ฑ์ปฏิบัติของสมาคมจิตวิทยาอเมริกัน ซึ่งเรียกอย่างสัน้ ๆ ว่า จรรยาบรรณ ประกอบด้วยบทนา คาปรารภและหลกั การทวั่ ไป 5 ข้อ (A-E) และมาตรฐานจรรยาบรรณ เฉพาะ ในส่วนของบทนาจะกล่าวถึง จดุ มงุ่ หมาย องค์กร ขนั้ ตอนในการพิจารณา และขอบเขตในการใช้ จรรยาบรรณ คาปรารภและหลักการทวั่ ไป มีจดุ ม่งุ หมายที่จะให้แนวทางแก่นกั จิตวทิ ยาเพ่ือมงุ่ สจู่ ิตวิทยา ในอดุ มคติที่สงู สุด แม้วา่ คาปรารภและหลกั การทว่ั ไปโดยตวั มนั เองไมใ่ ช่กฎเกณฑ์ท่ีใช้บงั คบั โดยตรง แต่ นกั จิตวิทยาก็พึงพิจารณาด้วยเพ่ือให้สามารถปฏิบตั ิตามจรรยาบรรณได้ มาตรฐานจรรยาบรรณกาหนด กฎเกณฑ์ความประพฤติของนกั จิตวิทยา ส่วนใหญ่จะเขียนอย่างกว้าง ๆ เพื่อให้สามารถประยุกต์ใช้กบั นักจิตวิทยาที่มีบทบาทต่าง ๆ กันไป แม้ว่าการใช้เกณฑ์จรรยาบรรณอาจจะเปล่ียนแปลงไปตามบริบท มาตรฐานจรรยาบรรณไม่สมบูรณ์หรือครอบคลมุ ได้ทงั้ หมด ในกรณีท่ีการกระทานนั้ มิได้ระบุไว้ในเกณฑ์ มาตรฐานก็ไมไ่ ด้หมายความวา่ การกระทานนั้ จะถกู ต้องหรือผิดตามหลกั จรรยาบรรณ จรรยาบรรณครอบคลุมเฉพาะใช้ กับกิจกรรมของนักจิตวิทยาซ่ึงเป็ นส่วนหนึ่งของงานด้าน ใกเตดวคจคติท้รฎาลา่ ร้รกนงยินเื่อยกานาิกๆงาณรศิตมบนสาเิกเืฑอรวชิมเสารกทช์ก่คนาณรตาศรลใชรรกะนหังใ์ิกปงาบคก้นีจค้ขารรวาวะราออนะาานรไปเองมมบศยมกรกรค่ึบกAรึกิานู้ดแิกรษPุรคษบิจอกตาAคาาิทบบาร่าลัลแสครแงแกปลลลาลๆมาทรธะะมุรหะาะปาสทถกบางเรรมงึามวไาทณะกงปิทารินเบาาไชมรยะกนมราษิกาินากทด่รกลณสโ้รูรห้าาใคัยกะมนีนรยรเรทรืทกอพ์งวจะาษเกบิชิโตัทฒขซทาตาซว้าาง่ึ รรรนชิทึ่งเใศปจศีพแเจายป็ิพตัานลผนาใ็สนวกทนะิดใโติทนกยนิจ์ฐใรยกานโบัอกา์รรราเินนเางบรรรกเยเะื่ีอมยรรตานีิงยหสนรอมกักนาวศ่ตราาจรน์เ้ึกอนตริตงตจษงจ็ตารววรัปาฐัดนิรทขฏแายวกกอยลนิบาจิงาาาบะจยันรัตรทใรรแกัิตรงหรราทจวาาณย้คงิตมนรมาสากนวทสมบญัปิทแีคอัง้้ารรยซแรญนรตึกอาตงณรษกาบท่ไฐณไามาคาามรใ่จลงอนกน่สสามุิเจาาอลกังกกมรง็กคัดิจรบัคาทมกเย์รดกฉรราถแาูกพอรบใรลมานาชรแรใกะ้ิกอรนพลิใจ้ณสาบนะัฒกง์อผแรงเรื่นพิ้บนาอูลรนม่ือยทาะๆู่ ตอ่ ส้ใู นการถกู ฟ้ องร้องเรื่องประพฤติผิดจรรยาบรรณได้ หมดอายวุ ันท่ี 11-10-2564 กระบวนการในการฟ้ อง สอบสวน และแก้ไขข้อร้องเรียนเร่ืองความประพฤติที่ผิดจรรยาบรรณมีระบุ ไว้ในกฎและขัน้ ตอนของคณะกรรมการจรรยาบรรณของ APA (APA ethics committee) อาจใช้วิธีการ
87 จัดการกับสมาชิกท่ีละเมิดกฎเกณฑ์ รวมถึงการยกเลิกสมาชิกภาพของAPA และแจ้งต่อหน่วยงานและ บุคคลที่เกี่ยวข้ องถึงผลการตัดสินนัน้ การกระทาท่ีละเมิดมาตรฐานจรรยาบรรณ อาจใช้ การตัด ความสัมพันธ์ (sanction) นักจิตวิทยาหรือนักศึกษาไม่ว่าผู้นัน้ จะเป็ นสมาชิกของ APA โดยผ่านทาง องค์การอน่ื ซง่ึ รวมถงึ สมาคมนกั จิตวิทยาของรัฐ กลมุ่ วิชาชีพอืน่ คณะกรรมการจิตวิทยาหนว่ ยงานของรัฐ อ่ืน และผู้จ่ายคา่ บริการสขุ ภาพ นอกจากนี ้APA อาจดาเนินการกับสมาชิกซงึ่ ต้องโทษในฐานหลอกลวง โดยอาจขบั ออกจากการเป็ นสมาชิกหรือ ระงบั สมาชิกภาพสมาคม หรือ ระงบั หรือยดึ ใบอนุญาตประกอบ วชิ าชีพ จรรยาบรรณเป็นแนวทางการปฏิบตั ิในทางวิชาชีพสาหรับนกั จิตวิทยาของ APA และหนว่ ยงานอื่นท่ี เลือกท่ีจะใช้เกณฑ์จรรยาบรรณนี ้ จรรยาบรรณไม่ได้มงุ่ ถึงความรับผิดทางแพ่ง การละเมิดจรรยาบรรณ ของนกั จิตวิทยาไม่ได้ชีถ้ งึ การที่นกั จิตวิทยานนั้ จะต้องรับผิดในทางแพ่ง หากมีการดาเนินการในศาลหรือ สามารถในการบงั คบั ใช้สญั ญาหรือจะมผี ลตอ่ เน่ืองในทางกฎหมายเกิดขนึ ้ หรือไม่ การปรับใช้จรรยาบรรณบางข้อตามเหตผุ ลอนั สมควร ตามความเหมาะสมและตามโอกาส อาจทา ได้ หาก 1) ชว่ ยให้นกั จิตวทิ ยาสามารถใช้วิจารณญาณในทางวิชาชีพ 2) ขจดั ความอยตุ ธิ รรม หรือความไมเ่ ท่าเทียมกนั ที่จะเกิดขนึ ้ หากไมม่ กี ารปรับแก้ 3) ช่วยให้ครอบคลมุ กิจกรรมตา่ ง ๆ ที่กระทาโดยนกั จิตวิทยา เปนคนชีาักร้่นแึกนจเลษดิึตงะถียาวใใยึกงิวทนนังขกบัยจกตค้อนัผารร้ลอม้จอรูะังงยูละบยนค4ปาตแ่ใูว)วกั บฏน้อนลาจชริวบมงกะิตรว่ิชปรแัาตณวยูด้ารฏนทิิตปชกิจนิ้บวยาีอพิทาีท้าัตมคงรลัเอาดิตตกากืน่งวมีนยดัาัฎทา่กมหวสไหมจ็ากามินอมงะใ่วนัยใาหวทาิทจต่าิ้ทมยายเงรกหเยีกแเาฐชป่ียาลฎาลาน่็วนกัยศเะนนกกเจเาหหทกนบััณร้สนี่ตษสรเพตฑหย่ผุวงูตฤรมกา์ทยลร์ตแบอืศวี่เงิก(คล่านาารrรeระสรนกร่งaณหทตนัทมคsราานี่ใกรo์กงนัดหีnมา้วคทซาaกีมิชวกง่ึาbับาาาองมlตeชดมวาคี )รีพิชูจแรวฐหัาบไลแาามชมผลดมนเ่ีพาิ้ดหะรากยู้หมชนมนาถรอโาจรกั ืงึอนกบะิตจคกกสรทิตววะาบัาิวทารรทนยิทงรคยาู้ดึคใุกยาาทน้าสสาด่ีสขนตม่วไณงู้ดจอนยั ก้รวงใะตวรนคา่นนา่นยาเภันทว้าักนลา่ีกเบจงึชยาฎถริต่นตใรหงึตวอเ่ณจมดิ้ทสมรีาขยถยรายดัยาาวกนแากจาบยกับะห้งารตกรนกร้อาณณับดงร์ กฎหมาย กฎระเบียบ หรือหน่วยงานอื่น ที่มีอานาจตามกฎหมาย นักหจิตมวดิทอยาาจยะวุ ตนั ้อทงแ่ี ส1ด1ง-ใ1ห0้เห-2็น5ถึง64 ความพร้ อมม่ันที่จะปฏิบัติตามจรรยาบรรณ และกระทาการท่ีจะแก้ไขความขัดแย้งนัน้ อย่างมีความ รับผิดชอบ โดยยดึ หลกั การพืน้ ฐานในเร่ืองสิทธิมนษุ ยชน
แนวความคิดทางจติ วทิ ยา 88 Viewpoint Psychology คาปรารภ นกั จิตวิทยาพร้ อมมน่ั ในการเพ่ิมพูนความรู้ทางวิทยาศาสตร์และวิชาชีพด้านพฤติกรรมและความ เข้าใจตนเองและผู้อื่นของบุคคล และการใช้ความรู้นัน้ เพ่ือปรับปรุงเงื่อนไขบุคคล องค์การและสังคม นักจิตวิทยาเคารพและปกป้ องสิทธิมนุษยชนและสิทธิส่วนบุคคล และให้ความสาคญั กับเสรีภาพในการ ถามและแสดงความคิดเห็นในงานวจิ ยั งานสอน และงานพิมพ์เผยแพร่ นักจิตวิทยามงุ่ ให้ข้อมูลเกี่ยวกบั พฤติกรรมมนษุ ย์ เพื่อสาธารณะจะได้ใช้วิจารณญาณในการตดั สินใจและเลือกดาเนินการ นกั จิตวิทยาจงึ อาจมหี ลายบทบาท เชน่ เป็นนกั วจิ ยั เป็นนกั การศกึ ษา เป็นผ้ใู ห้การวนิ ิจฉยั เป็นผ้ใู ห้การบาบดั เป็นผ้นู ิเทศ เป็นที่ปรึกษา เป็นผ้บู ริหาร เป็นผ้นู าในทางสงั คม การเปลย่ี นแปลง และเป็นพยานผ้เู ช่ียวชาญ จรรยาบรรณนีม้ ่งุ ที่จะระบุถึงมาตรฐานเฉพาะท่ีครอบคลุมสถานการณ์ส่วนใหญ่ท่ีนกั จิตวิทยาจะ เผชิญ โดยมีจุดประสงค์เพ่ือประโยชน์และปกป้ องบุคคลหรือกลุ่ม ซงึ่ นกั จิตวิทยาทางานด้วย และเพื่อ การศกึ ษาของสมาชิก นกั ศกึ ษาและสาธารณชน ในเรื่องเกณฑ์มาตรฐานจรรยาบรรณ การพฒั นาเกณฑ์จรรยาบรรณ สาหรับการกระทาในหน้าที่การงานของนกั จิตวิทยาให้เป็ นพลวตั จาเป็ นต้องมีความพร้อมมนั่ ที่จะยึดถือจรรยาบรรณนีใ้ นสว่ นบุคคลและเป็ นความพยายามอย่างต่อเน่ือง ตลอดชีวิต ท่ีจะกระทาตามจรรยาบรรณ ส่งเสริมให้นกั ศกึ ษา ผู้อยู่ในกากบั ดแู ล ลกู จ้าง เพ่ือนร่วมงาน พฤตกิ รรมตามเกณฑ์จรรยาบรรณ และปรึกษาผ้อู นื่ ในเรื่องปัญหาจรรยาบรรณ หลักการท่วั ไป หตอผหชด้ีวาาูกาลลิจตนมีพกักไขเหเันกดศลอน้ขรารี่ยง้ับาษอรงผนททผงหฐ้คูอกันี่วล่กีรลื่นจิชือักกิจ1ังิตาในจรคปหชวะิตวกั:ั้ิีทพทจเาวจกเจยมบิทพิติดยัารโยว่อือด้ดูมสแิทานัยปจิงงลุ่ั ยตใิทคเหะรนหารมลัคะร้้นแาเือโวกปยลมยคมาิดันหะจชวมีขป้ทอจาาน้ปอรวมยยัา์แลกะิทงดทผองัโลวย้าาี่ยสวดิทะานสชดุลภไลยกอุนมยัยัาง์เตน่กแเขนศคกอ่กั่ลออื่าอ์กษผจงะสใงา้ตทูสิตสหจตรรต่ีัตวิาท้เรแศิกวทก์นจธลา์ทกดิยิทงึขสะดตาาออาตป้รลจองงันรัจใาอบะง์หตจนมงพคุ้คยัรใีคยคนวาดใวาลายง้หาายมาท้นกมนาเี่ตกา(หตมวBนรา็นื่นิจแดeรปยทัตกเnแู มฏ้าไeวัลิือขสเงแfเมiวงพคcมัลื่อิชeว่ือพะมทาnาไปันชcีข่ี้จมมอธ้eีพอะใ่ข์งดหขนขัดaก้ว้ดัเอาnแนักยไแงdยิดปปทนย้งอัNส้จางกันนัรงจ่กูoจนัะ้วตยnัาิตหิชอรmรสวาวยใา่ิวทaชา่ชย่านย้lงอีพeงใหาบิทมfนiอแนcุคธีเกหาeล้าิพคาจnทตะลลรมcผี่ตุผกใe้ีผปูอนาลร)ลัม่ืนจะทเพตขทจซา้่ือ่ออยังึ่าง ที่ผิด นกั จิตวิทยาพยายามท่ีจะตระหนกั ถึงความเป็นไปได้ ท่ีสขุ ภาพกายแหลมะสดขุ อภาายพุวจิตันขทอ่ีง1ต1นจ-1ะม0ีผ-2ลต5่อ64 ความสามารถในการช่วยผ้ทู ี่ตนทางานด้วย
89 หลักการท่ี 2 : การซ่ือสัตย์ และความรับผิดชอบ (Fidelity and Responsibility) นกั จิตวิทยาสร้างสมั พนั ธภาพกบั ที่ผู้ตนทางานด้วย บนพืน้ ฐานของความไว้วางใจ นักจิตวิทยา ตระหนักในความรับผิดชอบทางวิชาชีพและทางวิทยาศาสตร์ที่มีต่อสงั คม และต่อชมุ ชนที่ตนทางานด้วย นกั จิตวิทยาจะรักษามาตรฐานความประพฤติตามจรรยาบรรณวิชาชีพ มีความกระจ่างในบทบาทและข้อ ผกู พนั ทางวชิ าชีพ ยอมรับความรับผิดชอบที่เหมาะสมสาหรับพฤติกรรมของตน และพยายามท่ีจะบริหาร ความขัดแย้งด้านผลประโยชน์ ซึง่ อาจนาไปส่กู ารเอาเปรียบหรือก่อให้เกิดอนั ตราย นักจิตวิทยาให้การ ปรึกษา สง่ ตอ่ หรือร่วมมอื กบั นกั วชิ าชีพอ่ืน หรือองค์กรอ่ืนตามจาเป็น เพื่อให้เกิดประโยชน์สงู สดุ ตอ่ ผ้ทู ี่ตน ทางานด้วย นกั จิตวิทยาจะใส่ใจในข้อร้องเรียนที่มีตอ่ เพ่ือนร่วมงานของตน บคุ คล การอทุ ิศเวลาบางส่วน ในทางวิชาชีพนีม้ ไิ ด้ทาเพื่อผลตอบแทนหรือเพ่ือประโยชน์สว่ นตน หลักการท่ี 3 : ศักด์ศิ รีในวชิ าชพี (Integrity) นกั จิตวิทยามงุ่ สง่ เสริมความถูกต้อง ความซ่ือตรง และความเป็ นจริงในด้านวิทยาศาสตร์ การสอน และปฏิบตั ิงานทางจิตวิทยา ในกิจกรรมเหลา่ นี ้ นกั จิตวิทยาจะไม่ขโมย โกง หรือทาการปลอมแปลง หรือ จงใจที่จะบิดเบือนข้อเท็จจริง นักจิตวิทยามุ่งท่ีจะรักษาสญั ญา และหลีกเล่ียงการให้คามน่ั ในส่ิงท่ีไม่ ชดั เจนหรือไม่เหมาะสม ในกรณีท่ีจาเป็ นต้องใช้สถานการณ์ลวงเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดและอนั ตราย น้อยสดุ นกั จิตวิทยามีหน้าที่ผกู พนั ท่ีจะต้องจดั การแก้ไขความเข้าใจผิดหรือผลตอ่ เน่ือง หรืออนั ตรายอน่ื ใด ท่ีอาจเกิดจากการใช้เทคนิคดงั กลา่ ว หหดวคDิจ้าวiลลgานาัักกnรคมiกกณtวyเาาาทญ)รรม่นาททาคเเกัช่่ณีีทลจี่ย45ังียอิตวคยม::ชววา่ิาทใาคคงญนมยสววรากขมาู้ดาเรอหมเมิจะหง็นทิยเตบตคคัลุตนผุววาธิ มลนารรจแหมกพระลาสามไใวะมรานทิรค(น่ ะศJยขญัามuาักัไน้sลดัขปดtตยัรiอส์cิศะเองeกหู่ วรกน)ษรงีัแาือเแตพลรมลรท่ืะอีสศะ่ีบสใาว่ กหคุสินท้าแคตทธรนรลาิขบ่ใ์ เใจขอหร้ิวาก้งเ่ากถบาิดึงอรุคแกทคคลา่ีตรรละับิกไแดจร(ลRะ้ราะทับeกขsาปอนpทรบักe่ีไะเcมจขโtยเ่ิตตปชคfว็นoนิทวธr์จายรามรPากมสeจาoนิตมpักวาleิทจร'ถsิยตแาวลRิทะแigยขลh้าอะtจจไดาะa้กรใnับดชัd้ ส่วนตวั คนวกั าจมิตลวบัิทยแาลเคะากราพรใกนาศหกั นดดิ์ศเลรีแือลกะดค้วณุ ยตคนา่ ขเอองงคนนกั ทจิตกุ ควิทนยาแตลระะสหิทนธกัิขหถอมงงึ บคดวคุ อาคมาลจยใานวุ เกปันา็นทรทที่ ่ีอ่ีจ1าะ1จม-ตีค1้อว0งาม-ม2ีกเป5า็นร64 ป้ องกนั สิทธิและประโยชน์สขุ ของบุคคลและชมุ ชนซง่ึ อย่ใู นภาวะอ่อนไหวซง่ึ ทาให้ไม่สามารถตดั สินใจด้วย ตนเองได้อย่างเป็ นอสิ ระ นกั จิตวทิ ยาตระหนกั และให้ความเคารพตอ่ วฒั นธรรม ความเป็ นเอกบคุ คล และ
แนวความคิดทางจติ วิทยา 90 Viewpoint Psychology ความแตกตา่ งกนั ในบทบาท รวมถงึ อายุ เพศ อตั ลกั ษณ์ในทางเพศ เชือ้ ชาติ เผ่าพนั ธ์ุ วฒั นธรรม ประเทศ ที่มา ศาสนา แนวโน้มทางเพศ ความพิการ ภาษา สถานภาพทางเศรษฐกิจ สงั คมและพิจารณาถึงปัจจัย ต่างๆ เหล่านีใ้ นขณะปฏิบัติงาน นักจิตวิทยาพยายามกาจัดอคติท่ีอาจเกิดจากปัจจัยเหล่านีซ้ ่ึงอาจมี ผลกระทบตอ่ การทางานและจะไมเ่ ข้าร่วม หรือมีสว่ นในกิจกรรมของผ้อู ื่นที่มอี คตดิ งั กลา่ ว มาตรฐานจรรยาบรรณ (Ethical standards) 1. การแก้ไขปัญหาด้านจรรยาบรรณ 1.01 การนาผลงานของนักจติ วิทยาไปใช้อย่างไม่ถูกต้อง ถ้านกั จิตวิทยาได้ทราบถงึ การนาผลงานของตนไปใช้อยา่ งไมถ่ กู ต้องหรือมีการนาเสนองานของตน ที่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด พวกเขาจะดาเนินการตามขนั้ ตอนที่เหมาะสมเพื่อแก้ไข หรือเพ่ือทาให้การใช้ ผลงานอย่างไมถ่ กู ต้อง หรือการนาเสนองานที่ผิดลดน้อยลง 1.02 ความขัดแย้งระหว่างจรรยาบรรณและกฎหมาย กฎระเบียบ หรือหน่วยงานอ่นื ๆ ของรัฐท่ี มีหน้าท่ตี ามกฎหมาย ถ้าความรับผิดชอบทางจรรยาบรรณของนักจิตวิทยาขัดแย้งกับกฎหมาย กฎระเบียบ หรือ หน่วยงานอน่ื ๆ ของรัฐที่มีหน้าที่ตามกฎหมาย นกั จิตวิทยาต้องทาความเข้าใจถงึ ความขดั แย้งนนั้ และแสดง โใเส1พจหดห.รอร0ต้ยร้เดอ3หยผุสคม็นาลอลมบถหถดค้อั่น้ึงรราควงืครอทคคกลาณเว่ีลจว้มบัพอาังาะงหข่ือนมคมปกลดัปวักพตบัฏกักแาจ้รอหิมบก้ปยิอต้งรลาัต้องมวก้ดูรกัริงติทมาทิจกะกายรั่นวทิ่ัหาาขมาไขลัรรวปอตหลอท่า้งมแอะลง่ัวงอลหงเพักไจมงทะปาวจรคดิมวาแกรร์กิทสาคลรยเิทาขตยวยะาราารธาามบทฐลติมมบาร่ีายัน่อนเตรรนขเักหุษกรร้ณาจจณลษฐยใริกตกัาจชตรบัวนจดยถนริทศราจึงาคไรมบคยาเรวยนสรว่รวาายาินราต่าทมบณภารมกาตบ์ราขงาแ้อรยราัดรหณรงในแแง่ณตกกอแวย้สา้ชิไ้ลแยงรถขาหน่ะูหขาปชแ่งนัร้นอีัพญืวกอกงแิช้ไมมอาหลขาีครางชาปะณตวคนีพแัญาร์ก์ใสัน้ฐมดหมาดตาสราางๆนามันตใมนหพรัน้ีจล้ฐ้เันตหะาาาธไ็นดนม์มอับชนใ่ลยดัีชจขู้่เา้เเกัะน้ดจพิไดทนบัื่อมข่ีควอข่ใดั ่้วชนัาา้ แ้รงเนทพจยเักป่ีค้ื่อะง็จนวกอทิตรเ้ับาาหจวงหตะิทโเดปลทผุย็ยกันลาา หรือเพ่ือปกป้ องการละเมดิ สทิ ธิมนษุ ยชนไมว่ า่ ภายใต้สถานการณ์ใด ๆ หมดอายุวันท่ี 11-10-2564
91 1.04 การแก้ไขการละเมิดจรรยาบรรณอย่างไม่เป็ นทางการ เมื่อนักจิตวิทยาเชื่อว่า นกั จิตวิทยาผู้อื่นละเมิดจรรยาบรรณ ก็จะดาเนินการแก้ไขโดยการพดู คยุ กับนักจิตวิทยาผู้ละเมิดจรรยาบรรณนัน้ หากสามารถจะทาได้และไม่เป็ นการละเมิดสิทธิในการรักษา ความลบั 1.05 การรายงานการละเมิดจรรยาบรรณ ถ้าการละเมิดจรรยาบรรณก่อให้เกิดความเสียหายอย่างมาก หรือมีโอกาสที่จะก่อให้เกิด ความเสียหายอย่างมากแก่บุคคลหรือองค์กร และไม่สามารถท่ีจะแก้ไขอย่างไม่เป็ นทางการตามข้อ 1.04 หรือแก้ไขแล้วแต่ไม่ได้ผลตามต้องการ นกั จิตวิทยาจะต้องดาเนินการขนั้ ต่อไปให้เหมาะกบั สถานการณ์ การดาเนินการดงั กลา่ วอาจรวมไปถงึ การแจ้งไปยงั คณะกรรมการแห่งชาติในเร่ืองของจรรยาบรรณวิชาชีพ คณะกรรมการที่ให้ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ หรือสถาบนั ท่ีเหมาะสมและเก่ียวข้อง จรรยาบรรณข้อนีจ้ ะ ไม่ใช้กบั การกระทาอนั จะไปละเมิดสิทธิในการเก็บความลบั หรือเม่ือนกั จิตวิทยาเป็ นผู้พิจารณางานของ นกั จิตวทิ ยาผ้อู ื่นซงึ่ อาจมปี ัญหาด้านการทางานในวิชาชีพ (ให้ดมู าตรฐานข้อ 1.02 ประกอบ) 1.06 ความร่วมมือของคณะกรรมการท่วี ่าด้วยจรรยาบรรณ นักจิตวิทยาให้ความร่วมมือต่อการสอบสวนด้านจรรยาบรรณ กระบวนการและผลการสอบสวน ตามที่ระบไุ ว้ในข้อบงั คบั ทางจรรยาบรรณ องค์กรทางจิตวิทยาที่ตนเป็ นสมาชิกอยู่ โดยต้องเน้นถึงประเดน็ การเก็บรักษาความลบั การไม่ให้ความร่วมมือจากสมาชิกถือเป็ นการละเมิดจรรยาบรรณ อย่างไรก็ตาม 1กขห1้..อาร00ือรร78้รอห้องกั งเนลกรขขีย้กัาาอ้อคนงจรขไลิรแนต้อด้งัอวนบัก้้วคิทงไล่าง่ วมเยแขา่รา่พ้าวอยีมยหจิจกรกนะาาลู้ดอทไกราจิ่ มยณ่ไี่อวทิ ่ม่ยาหนัลางื่น่เาใถไหหมนงึม้มหคหขนั้่เ้รวาอาปไือมาวะเ็ นทิทมสสเ่ ป็ธจรนยม็่จวนราบั มรรลจสิงมมัยรนิงเือตหกนุ ไ่อษรมใือผหตถ่ เู้้ทมรือจศ่รีีกตว้าอา่านสเรงาปตยเท็นรรื่น่ีจีย์กขะนา้อเรพหรไ้อิกมรงืเอใ่ ฉเหรผยี้ยคู้ทตนว่ถีอ่ ากขูกมล้อรรา่ ้่เวอวทมงโจ็ ทมเจรษอื รียิทงนาซงงึ่ ดข้้าอนเทจ็จรจรยริงานบนั้รรอณาจพโดิสยจู ทนี่์ นักจิตวิทยาไม่ควรปฏิเสธการจ้างงาน โอกาสก้าวหน้า การรับเข้าศึกษาต่อในสถานศึกษาหรือ โครงการอื่นๆ การเลื่อนตาแหน่ง โดยอย่บู นพืน้ ฐานท่ีวา่ ผ้นู นั้ เคยร้องเรียนหหมรืดอถอกู ารย้องวุ เนัรียทน่ีเร1่ือ1ง-ก1า0รท-2าผ5ิด64 จรรยาบรรณ แต่ทงั้ นีน้ กั จิตวิทยาท่ีจะดาเนินการตอ่ ไปตามผลการพิจารณาการร้องเรียนนนั้ หรือพิจารณา จากข้อมลู อน่ื ๆที่เหมาะสม
แนวความคดิ ทางจติ วทิ ยา 92 Viewpoint Psychology 2. ความสามารถ 2.01 ขอบเขตความสามารถของนักจติ วทิ ยา (a) นักจิตวิทยาให้การบริการสอน และควบคุมการทาวิจัยเกี่ยวกับประชากร และเร่ืองอื่นๆท่ี เกี่ยวข้องกับประชากรภายใต้ขอบเขตความสามารถท่ีนักจิตวิทยามี ซึ่งขึน้ อยู่กับระดับการศึกษา การ ฝึกอบรม ประสบการณ์การจดั การ การให้คาปรึกษา การค้นคว้าหรือประสบการณ์ในวิชาชีพ (b) ความรู้ทางวิทยาศาสตร์และในวิชาชีพสาขาวิชาจิตวิทยานนั้ จะเกิดขนึ ้ มาได้โดยต้องเข้าใจใน ปัจจยั เหลา่ นี ้คือ อายุ เพศ ความบกพร่องทางภาษา หรือเศรษฐฐานะ ซงึ่ เป็ นสว่ นสาคญั ในการให้บริการ และการวิจัย นักจิตวิทยาต้ องมีหรือได้ รับการฝึ กฝนประสบการณ์ การปรึกษา หรือจาเป็ นต้ องมี ความสามารถเพียงพอที่จะให้บริการ หรือจะส่งต่ออย่างเหมาะสม เว้นแต่ ภายใต้เง่ือนไขท่ีกล่าวในข้อ 2.02 ซง่ึ เป็นการให้บริการในภาวะฉกุ เฉิน (c) นกั จิตวิทยาที่จะให้บริการ สอน หรือดาเนินการวิจยั ซงึ่ เกี่ยวกับประชากร เนือ้ หา เทคนิค หรือเทคโนโลยีที่เป็ นเรื่องใหม่สาหรับตน ต้องทาการศกึ ษา ฝึ กอบรม ทางานอย่ภู ายใต้การกากบั ดแู ลของ นกั จิตวทิ ยาผ้เู ชี่ยวชาญในเร่ืองนนั้ ๆ (d) เมอื่ นกั จิตวิทยาถูกขอให้จดั การบริการให้แกบ่ คุ คลซง่ึ ไมส่ ามารถรับบริการทางด้านสขุ ภาพจิต จากหน่วยงานอื่นๆที่เหมาะสม และนกั จิตวิทยายงั ไมม่ ีความสามารถท่ีเพียงพอ นกั จิตวิทยาท่ีเคยผ่านการ ฝึ กฝนหรือมีประสบการณ์ใกล้เคียงในเร่ืองนนั้ อาจให้บริการเพ่ือไม่ให้สิทธิในการรับบริการนนั้ ถกู ปฏิเสธ โดยต้องใช้ความพยายามที่สมเหตสุ มผลเพ่ือให้ได้มาซง่ึ ความสามารถที่จาเป็น โดยใช้ข้อมลู งานจากวิจยั ท่ี นเเขผ2กก้.อูใกั 0ี่่ียยชงจ2วว้ตบิตขขนรว้้ออิกกิทงงา((าจยกfeครร)าา)าลใกคนใรใหงันอวักฝนค้บนกรัึเกกวดราตรอาีรยาริกรมณบนเทาารนรยีาทรดู้มผินงใี่เจิู้ชกปากนิท่ว็านนาภลัยรรดเอาฝปร้มาวื่ยึอกรนหะ่างึกงนาฉงทษาวเิตุ่ีกยนหิทาิเังเหมวยหฉใชราาหรินือละือนมผสัยก่ัแก้เมูชากลจ่วเรษพิะตศยตยื่อวกึใริังทนทษศไยงาามาาใาส่มหนตต้ีมแ้วอรนาิจง์ ต่ใัยศจรกึ ผวฐษ้่าูเาขามน้ากีคสรฎว่วาาหหมมมรกสับาาายกรมวหาาิจรรรืัยอฝถึ กลใรฝนะกู นเกคบาท้าียรี่เขทบปอ็าทนงง่ีคทอา่ีรยงนอคอนบ์กมนั้ ครรับลเแพมุโลื่อดบะปยผทกทู้อบปัว่ ื่น้าไอททปงี่ ในภาวะฉุกเฉิน เมื่อนกั จิตวิทยาให้บริการด้านสุขภาพจิตกบั บุคหคมลทด่ีไอมา่สยามุวานั รทถไี่ ป1ร1ับ-บ1ร0ิก-า2ร5ได6้ 4 และนักจิตวิทยาไม่ได้รับการฝึ กอบรมท่ีจาเป็ น การบริการควรยุติลงทันทีที่ภาวะฉุกเฉินสิน้ สุดลงหรือ สามารถหาบริการท่ีเหมาะสมให้ได้
93 2.03 การคงไว้ซ่งึ ความสามารถในทางวิชาชีพ นกั จิตวทิ ยาต้องพยายามอย่างตอ่ เน่ืองที่จะพฒั นาและคงไว้ซงึ่ ความสามารถในทางวิชาชีพ 2.04 พนื้ ฐานของการใช้วิจารณญาณในทางวทิ ยาศาสตร์และทางวิชาชีพ นกั จิตวิทยาต้องทางานอย่บู นพืน้ ฐานของความรู้ในทางวิทยาศาสตร์และในทางวิชาชีพ (ดทู ี่ ข้อ 2.01e และ ข้อ 10.01b ประกอบ) 2.05 การมอบหมายงานให้ผู้อ่ืนทา นกั จิตวทิ ยาผ้มู อบหมายงานให้แก่ลกู จ้าง นิสิตฝึกงาน หรือผ้ชู ว่ ยในงานวิจยั หรือผ้ชู ่วยสอน หรือ นกั จิตวิทยาท่ีใช้บริการของผ้อู ่ืน เชน่ ให้ผ้อู ่ืนชว่ ยในการแปล ควรดาเนินการอยา่ งเหมาะสมในเรื่อง (1) หลีกเลี่ยงที่จะมอบหมายงานกบั บคุ คลที่มีความสมั พนั ธ์หลายบทบาท ซง่ึ อาจทาให้เป็ นการ เอาเปรียบ หรือสญู เสยี ความเป็นกลาง (2) มอบความรับผิดชอบเฉพาะแก่บุคคลท่ีคาดว่าจะมีความสามารถโดยดูจากการศกึ ษา การ ฝึ กอบรม หรือ ประสบการณ์ของพวกเขา ไม่ว่าจะให้ดาเนินการโดยอิสระ หรืออยู่ภายใต้การ กากบั ดแู ลก็ตาม และ (3) ตรวจสอบวา่ ผ้ไู ด้รับมอบหมายงานมีความสามารถในการปฏิบตั ิงานตามที่ได้รับมอบหมาย (ดเู พิ่มเติมได้ในข้อมาตรฐานข้อท่ี 2.02 ข้อ 3.05 ข้อ 4.01 ข้อ 9.01 ข้อ 9.03 และข้อ 9.07 ปคจ2.ะวฏ0รติบ6ท้อตั ่ีจงิงะดปาจาั((นญabาคเตปนก))ลหารินดันเงัาะมมคกักสกหหื่อวาจ่วอยนนาริตนบดุม้ใาักวห)ตพทรจิท้้ดูเี่ัวไกัิตหดิจยแชวม้ิทอาว่ัลิทายัลจคะยะ่าะรคามสงารตวเหวมะตารางหม็มะวับรคหเทิขืชกอวนยัด่นยาาาักแตุรมลขวรยกิสัย่อิาเ้งาารเปคกิ่รมมัญาทษาทปาตรหางรถรากึากศสนิจษา่วใกสานนรตหหตรรรมน์วืัอ้ขาใคดทอวๆี่งาตมหนชา่วอกยาร้เูจวห่าจลปะือัสญจ่งาหผกลาผสตู้เ่ว่อชน่ีกยวาตชรัวปาจญฏะิบทแัตาลใิหะหนพ้ไ้ามิจท่สาี่กราาณมรางาารวนถ่า หมดอายวุ นั ที่ 11-10-2564
แนวความคิดทางจติ วิทยา 94 Viewpoint Psychology 3. ความสัมพนั ธ์ระหว่างบุคคล 3.01 การแบ่งแยกโดยไม่เป็ นธรรม ในการทางานของนักจิตวิทยาจะไม่แบ่งแยกบุคคลอย่างไม่เป็ นธรรมจากอายุ เพศ เชือ้ ชาติ เผา่ พนั ธ์ุ วฒั นธรรม ประเทศ ศาสนา แนวโน้มทางเพศ ความพิการ เศรษฐฐานะ หรือส่ิงอน่ื ๆ ท่ีถูกห้ามโดย กฎหมาย 3.02 การคุกคามทางเพศ นกั จิตวิทยาไม่ควรเข้าไปเก่ียวข้องกบั การคกุ คามทางเพศ การคกุ คามทางเพศ คือการเชือ้ เชิญหรือ การรบเร้าทางเพศ การล่วงเกินทางร่างกาย หรือการกระทาทงั้ ด้วยวาจาและมิใช่ด้วยวาจาที่ส่อไปในทาง เพศ ซง่ึ เกิดขนึ ้ ขณะที่นกั จิตวิทยาปฏิบตั ิงานในหน้าท่ีหรืออย่ใู นบทบาทของนกั จิตวิทยา และมีลกั ษณะใด ลกั ษณะหนงึ่ ดงั ตอ่ ไปนี ้ (1) เม่ือผู้อ่ืนไม่ยินยอม เป็ นการทาให้ผู้อ่ืนเกิดความขุ่นเคืองใจ หรือสร้ างความไม่พึงพอใจให้กับ ผ้อู ่ืน ทาให้เกิดบรรยากาศท่ีไม่เป็ นมิตรในสถานท่ีทางานหรือในสถานศกึ ษา และนกั จิตวิทยารู้หรือได้ถูก บอกให้รู้จากผ้อู น่ื แล้ว (2) อาจจะเป็ นการกระทาที่ไม่เหมาะสมร้ ายแรงพอท่ีจะถือได้ว่าเป็ นการคกุ คาม การคุกคามทาง เพศอาจเป็ นการกระทาท่ีไม่เหมาะสมอย่างร้ ายแรง เพียงครัง้ เดียว หรือหลายครัง้ หรือทาติดต่อกนั มา นาน คขเ33ผอ้..ใอูว00กชาง43ล้บมบกัสรุคิษกน(ากaกคามณกัา)าลรคาจรน์รททรลิคนตหักถาังี่นวุกกั งคลจทิภเัคกเิวตรีกพยาีาจยาวเศษามิมตลนิทจารด่ีวยชยะนดู้ ้ิาทนหงตาจิกันครชย้ดอทิศืออวาางาัลกึเตา่ไนืตเศษมนมิม้ๆรอเิ่เานกเษหขงส่ียก้าผฐเาียขวว้าไฐทู ้หทิปากรา่ีอไอบยัเานยกปยายชะ่ใู่ียลส่านตวัยังม้กกขเเพกลา้หอรษ่มุังนมคกตนธาวบัร้์อะดบศพย้สวคาฤมยสวมุ ตใฒัตดซนิกรแู่ึงนรก์ ลปรธามัรจรผรกทจ้เูมขา่ีัยจ้ราสะขครญหั่อวกุ มลงคชบีใกาานุเมคตลกิคี่หยศาลรรงาืวอทกสิจกี่านตยัาร้าอกรผงกก่อ้คใู ารใชะารห้บปทน้เรกราึงิกับทิถดาต่ีเึงครปไวัทว็ นดทา่ีเ้กแปาม็างกนเรเส่หพลอียนศดาห่วคยกายุณุ ายเงพราแคไนศก่าร้ ่ หรือกล่มุ องค์กร และบุคคลอ่ืน ๆ ที่นกั จิตวทิ ยาทางานด้วย ในกรณีท่ีเล็งหเหม็นดถึงอคาวยามวุ เนั สียทห่ี า1ย1ท-ี่จ1ะ0เก-ิด2ข5นึ้64 และไมส่ ามารถหลีกเลี่ยงได้ นกั จิตวิทยาจะต้องดาเนินการให้เกิดความเสยี หายน้อยท่ีสดุ
95 (b) นกั จิตวิทยาจะไม่มีส่วนร่วม เอือ้ อานวย ให้การช่วยเหลือ หรือเข้าไปมีส่วนในการทรมาน ด้วย การกระทาใด ๆ ท่ีทาให้เกิดความเจ็บปวดหรือทุกข์ทรมานอย่างรุนแรง ทงั้ ในด้านร่างกายหรื อจิตใจ ซง่ึ จง ใจให้เกิดแก่บุคคล หรือการกระทาอื่นใดที่โหดร้ าย ไร้ มนุษยธรรม หรือลดคุณค่าความเป็ นมนุษย์ต่อ บคุ คลในข้อ 3.04(a). 3.05 ความสัมพนั ธ์หลายบทบาท (a) ความสมั พนั ธ์หลายบทบาทเกิดขนึ ้ เมื่อนกั จิตวิทยาอยใู่ นบทบาททางวิชาชีพกบั บคุ คลหนงึ่ และ 1) ในเวลาเดยี วกนั ก็มีบทบาทอืน่ กบั บคุ คลนนั้ ด้วย 2) ในเวลาเดียวกนั ก็มีความสมั พนั ธ์กบั บุคคลที่ใกล้ชิดกบั ผ้ทู ี่นกั จิตวทิ ยามคี วามสมั พนั ธ์ทาง วชิ าชีพด้วย หรือ 3) สญั ญาว่าจะมีความสัมพันธ์อ่ืนใดด้วยในอนาคตกับบุคคลนัน้ หรือบุคคลท่ีใกล้ชิดกับ บคุ คลนนั้ นักจิตวิทยาจะไม่เข้าไปมีความสมั พันธ์หลายบทบาท ถ้ามีความเป็ นไปได้ว่าความสมั พันธ์หลาย บทบาทจะทาให้ความเป็ นกลาง ความสามารถ หรือการปฏิบตั ิงานในหน้าที่นกั จิตวทิ ยาเกิดความบกพร่อง หรืออาจเกิดความเสี่ยงต่อการเอาเปรียบ หรือเกิดความเสียหายแก่บุคคลซง่ึ นักจิตวิทยามีความสมั พันธ์ ทางวชิ าชีพอยู่ การมีความสมั พนั ธ์หลายบทบาทไม่ถือวา่ ผิดจรรยาบรรณ หากไม่มีความเป็ นไปได้ท่ีความสมั พนั ธ์ นนั้ จะเป็ นสาเหตุที่ทาให้เกิดความบกพร่อง หรือความเสี่ยงต่อการหาผลประโยชน์ส่วนตวั หรือการเกิด สคจคครวาวถรดารายมดหบาเาวันบส((เงั bcนยีรให)ร)หนินคณรหถแากลือ้ยาาตาังกนคล่รสนอกัวะถายบักจามิ่ตาจทนรงิตวบกู้ดเิทวหาจิาิทยทมทิรายใณาัลหพาะ์้พชมบสดัิีหบเวมศเา่าทจทษวคบน่ีจิทวแาะเยาชลทแาม่นะมกลสข้ไายั ใมัอขกเนกพบวทษโเนั่าขดาตหธตงยร์นหศขคศึ่งลอาาาบางลสนยกทตึงหาบบรถร์รทาึงรือทปบักษารกโะทาาดโคทรยยบว่ีเชเกาปรนิมิดห็ น์สลขาขูงึบนัร้้อสเอกนมุดาาัื่อกขจหมอจกนิกีงต่อบดาวใรขุหคิทเอ้ปคเยกงลลาิดก่ียจอฎนแะนัหลแตตม้ปะอราปลงายชงฏยนีแินบ้ นนัจ้โัตกัยๆงิตถจบาิตึงามควยหิทวขลายอักมงา 3.06 นกัการจขิตัดวิแทยย้งาใจนะผระลงปับรบะทโยบชานท์ ทางวิชาชีพหากสามารถคาดการณห์ไมด้วด่าอคาวยามวุ สนั ัมทพ่ี ัน1ธ1์ท-ี่1เป0็ น-เ2รื่อ5ง64 สว่ นตวั ทางวทิ ยาศาสตร์ ทางวิชาชีพ กฎหมาย การเงินหรือผลประโยชน์อ่นื ๆ อาจ
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158