Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 13 ทศวรรษ 130 ปี กระทรวงศึกษาธิการ

13 ทศวรรษ 130 ปี กระทรวงศึกษาธิการ

Published by thiwadon jirapunyo, 2022-06-24 14:30:41

Description: กระทรวงศึกษาธิการ
พิมพ์ที่ บริษัท อมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง จำกัด (มหาชน)

Search

Read the Text Version

ท�ำ เนียบผู้บรหิ าร นายสทุ นิ แก้วพนา นายวรวรงค์ รักเรืองเดช เลขาธกิ าร ผู้อ�ำ นวยการ สำ�นักงานลกู เสอื แหง่ ชาติ โรงเรยี นมหดิ ลวทิ ยานสุ รณ์ (องค์การมหาชน) ผูช้ ่วยศาสตราจารยศ์ ริ ิดา บุรชาติ นางสาวนนั ทา หงวนตดั ผอู้ �ำ นวยการ รักษาการผู้อำ�นวยการ สถาบันทดสอบทางการศึกษาแหง่ ชาติ สำ�นักงานรบั รองมาตรฐาน และประเมนิ คุณภาพการศกึ ษา (องค์การมหาชน) (องคก์ ารมหาชน) ๑๓ ทศวรรษ : ๑๓๐ ปี กระทรวงศกึ ษาธิการ 47

๑๓ ทศวรรษ เส้นทางววิ ฒั น์การจดั การศึกษาไทย



๑๓ ทศวรรษ เส้นทางววิ ัฒน์การจดั การศกึ ษาไทย เด็กเอย๋ เดก็ น้อย ความรู้เรายงั ด้อยเรง่ ศกึ ษา เมอ่ื เตบิ ใหญ่เราจะไดม้ วี ิชา เป็นเครื่องหาเลีย้ งชพี ส�ำหรับตน ได้ประโยชนห์ ลายสถานเพราะการเรยี น จงพากเพียรไปเถิดจะเกดิ ผล ถึงล�ำบากตรากตรำ� ก็จ�ำทน เกดิ เปน็ คนควรหม่นั ขยนั เอย บทร้อยกรองข้างต้นไม่ปรากฏนามผู้แต่ง เป็นบทหน่ึงในหนังสือ ดอกสร้อย สภุ าษติ ของ กรมวชิ าการ กระทรวงศกึ ษาธกิ าร จดั พมิ พเ์ มอ่ื พ.ศ. ๒๕๑๕ บทดอกสรอ้ ยนี้ และอกี บางบทไดก้ ำ� หนดเป็นบทอาขยาน ซง่ึ ยงั คงท่องจำ� แพร่หลายมาจนถงึ ปจั จบุ ัน สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาด�ำรงราชานุภาพ คร้ังทรงด�ำรงพระยศ เปน็ พระเจา้ บรมวงศเ์ ธอ กรมหมน่ื ดำ� รงราชานภุ าพ และทรงบงั คบั บญั ชากรมศกึ ษาธกิ าร ตรัสชวนเหล่ากวใี นกรมดงั กล่าวแต่งบทดอกสรอ้ ย รวม ๓๔ บท เม่อื พ.ศ. ๒๔๓๑ ให้ช่ือ หนงั สอื วา่ ดอกสร้อยสภุ าสิต๑ สำ� หรับให้เยาวชนอ่านเปน็ คติสอนใจ กระทรวงธรรมการ กราบทูลขออนญุ าตพมิ พเ์ ป็นแบบสอนอ่านคร้งั แรก เมอ่ื พ.ศ. ๒๔๕๔ ชื่อ กระทรวงศึกษาธิการ, กรมศึกษาธิการ, และกระทรวงธรรมการ ซ่ึงยกมา อธบิ ายความเปน็ มาของบทรอ้ ยกรองนี้ คนรนุ่ ปจั จบุ นั อาจฉงนวา่ หนว่ ยงานทร่ี บั ผดิ ชอบ การจัดการศึกษามีวิวัฒนาการมาอย่างไร จึงได้มีการเปลี่ยนแปลงทั้งชื่อหน่วยงาน ทง้ั บทบาทความรับผดิ ชอบ เร่อื งราวนา่ สนใจและมผี ลกระทบเกยี่ วข้องกับกลุ่มคนทกุ คน ทกุ วยั หรือไม่ อยา่ งไร หนังสอื ดอกสรอ้ ยสภุ าสติ ครัง้ กรมราชบัณฑิต จดั พิมพ์ 50 ๑๓ ทศวรรษ : ๑๓๐ ปี กระทรวงศึกษาธิการ

พระบาทสมเด็จ (ชพ่ว.งศป.ร๒ะม๔า๓ณ๕ ๓- พท.ศศว.ร๒รษ๔แ๖ร๑กเป: น็กเรวะลทาร๒ว๖งธปร)ีรมการ พระจุลจอมเกลา้ เจา้ อย่หู ัว การจัดการศึกษาของไทย ถือได้ว่ามีมาช้านาน แต่คร้ังกรุงสุโขทัยเป็นราชธานี หรืออาจก่อนหน้านั้น และเจริญรอยสืบมาจนถึงต้นสมัยรัตนโกสินทร์ เป็นการจัด การศึกษาที่สอดคล้องกับสภาพบ้านเมือง และความเป็นอยู่ของพลเมือง นอกจากบิดา มารดา และญาตพิ ่นี อ้ งในครอบครวั มหี น้าท่สี ่งั สอนบตุ รหลานเรอ่ื งความประพฤติ และ การงานอาชพี แลว้ ส�ำนักเรยี นส่วนใหญ่ คือ วดั สอนบตุ รหลานราษฎรทวั่ ไป มีพระภิกษุ ทำ� หนา้ ทอี่ บรมสงั่ สอนศษิ ยข์ องตนตามความสามารถทจ่ี ดั ได้ สำ� นกั เรยี นอกี แหง่ หนงึ่ คอื ส�ำนักราชบัณฑิต มักอยู่ในพระราชวัง บ้านผู้รู้ ผู้เป็นนักปราชญ์ ส่วนใหญ่สอนเจ้านาย บุตรหลานของขนุ นางและข้าราชการ ครน้ั ถงึ รชั กาลพระบาทสมเดจ็ พระจลุ จอมเกลา้ เจา้ อยหู่ วั ๒ พระองคม์ พี ระราชดำ� ริ วา่ การศกึ ษาเปน็ เรอ่ื งทสี่ ำ� คญั ทสี่ ดุ และมพี ระราชปณธิ านทจ่ี ะทรงพฒั นา บำ� รงุ การศกึ ษา ของชนในชาติทุกหมู่เหล่าอย่างจริงจัง ดังเห็นได้จากพระราชด�ำรัสตอนหน่ึงในท่ีประชุม พระบรมวงศานุวงศ์และข้าราชการเน่ืองในโอกาสเสด็จพระราชด�ำเนินไปทอดพระเนตร โรงเรยี นพระต�ำหนกั สวนกุหลาบ เมื่อ พ.ศ. ๒๔๒๗ วา่ “… วชิ าหนังสือเป็นวิชาทนี่ ับถอื แลเปน็ ทสี่ รรเสริญ แต่โบราณว่าเป็นวชิ าอยา่ งประเสรฐิ ซึ่งผูท้ ่เี ป็นใหญย่ ง่ิ นับแตพ่ ระมหากษัตริย์ เปน็ ต้น จนตลอดราษฎรพลเมือง สมควรแลจำ� เปน็ จะต้องรู้ เพราะเป็นวชิ าท่ีอาจท�ำใหก้ าร ท้งั ปวงสำ� เร็จไปไดท้ ุกสิง่ ทกุ อยา่ ง… เจ้านายราชตระกูล ต้ังแต่ลกู ฉนั เป็นตน้ ลงไป ตลอด จนถงึ ราษฎรท่ตี ่ำ� ท่สี ดุ จะให้ได้โอกาสเลา่ เรยี นไดเ้ สมอกนั ไมว่ ่าเจา้ วา่ ขนุ นาง วา่ ไพร่ เพราะฉะนัน้ จงึ ขอบอกได้วา่ การเลา่ เรยี นในบา้ นเมอื งเรานี้จะเปน็ ขอ้ ส�ำคญั ที่หนง่ึ ซ่งึ ฉนั จะอุตสาหจ์ ดั ใหเ้ จริญข้ึนจงได”้ ๓ พระองคท์ รงปฏริ ูปราชการแผ่นดินคร้ังส�ำคัญ จดั ใหม้ ีกรม และกระทรวง ดแู ล กิจการงานของบ้านเมือง ก่อนการตั้งกระทรวงธรรมการ การพระศาสนา พิพิธภัณฑ์ การศกึ ษา และการพยาบาล มฐี านะเปน็ กรมอยใู่ นสงั กดั ตา่ ง ๆ มากอ่ น กลา่ วคอื กรมธรรมการ เป็นกรมเก่าแต่ครั้งกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี พิพิธภัณฑสถานตั้งเม่ือ พ.ศ. ๒๔๒๓ กรมศึกษาธิการตั้งเมอ่ื พ.ศ. ๒๔๓๐ และกรมพยาบาลต้ังเม่ือ พ.ศ. ๒๔๓๑ ๑๓ ทศวรรษ : ๑๓๐ ปี กระทรวงศกึ ษาธิการ 51

กล่าวเฉพาะ กรมศึกษาธิการ ซ่ึงเป็นหน่วยงานรับผิดชอบการศึกษา และได้ ยกระดับเป็นกระทรวงต่อมา เม่ือพิจารณาจากพระบรมราชโองการในพระบาทสมเด็จ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ประกาศตั้ง กรมศึกษาธิการ เพ่ือ “เป็นแบบแผนให้แพร่หลาย…ส�ำหรับบังคับบัญชาราชการฝ่าย การเลา่ เรยี น” เปน็ ทนี่ า่ สงั เกตวา่ คำ� ศกึ ษา ใชใ้ นชอื่ หนว่ ยงานและตำ� แหนง่ ผบู้ รหิ ารสงู สดุ ของกรมครงั้ นน้ั คอื ขา้ หลวงผบู้ ญั ชาการศกึ ษา ทง้ั คำ� ทมี่ คี วามหมายใกลเ้ คยี งกบั คำ� ศกึ ษา หลายแหง่ ปรากฏในประกาศ ใชแ้ ต่ คำ� การเลา่ เรยี น ไมใ่ ช้ คำ� ศกึ ษา ความตามประกาศ ดงั น้ี ประกาศตั้งกรมศึกษาธิการ สมเดจ็ ฯ กรมพระยาดำ� รงราชานภุ าพ ผู้บัญชาการศกึ ษาคนแรก มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศจงทราบทั่วกัน ของกรมศึกษาธิการ การเล่าเรียนวิชาเป็นการส�ำคัญของราชการบ้านเมือง แต่ก่อนมายังหาได้ จัดต้ังขึ้นเป็นแบบแผนให้แพร่หลาย และยังหาได้มีเจ้าพนักงานส�ำหรับ บังคับบัญชาราชการฝ่ายการเล่าเรียนทั้งปวงไม่ บัดนี้ได้ทรงท�ำนุบ�ำรุง การเลา่ เรยี นใหเ้ ป็นแบบอยา่ งเจริญรุ่งเรืองขึน้ ไดม้ าก และได้ทรงพระกรุณา โปรดเกล้าฯ ให้มีเจ้าพนักงานรับกระแสพระราชด�ำริจัดการนั้นตลอดมา เมอ่ื การเล่าเรียนเจริญขนึ้ ผู้ซึง่ รับราชการในการเลา่ เรียน คอื เจ้าพนักงาน สำ� หรบั บงั คบั จดั การเลา่ เรยี น และอาจารยผ์ ฝู้ กึ สอนวชิ าเปน็ ตน้ นนั้ กม็ มี ากขนึ้ โดยล�ำดับ ผู้ซึ่งรับราชการในต�ำแหน่งการทั้งปวงเหล่านี้ ก็เป็นข้าราชการ รับราชการแผ่นดินสนองพระเดชพระคุณในส่วน ๑ เหมือนกับข้าราชการ กรมอนื่ ๆ แตย่ งั หาไดม้ ตี ำ� แหนง่ ในราชการไม่ เพราะราชการฝา่ ยการเลา่ เรยี น ยงั ไมไ่ ดต้ งั้ สงั กดั ขน้ึ เปน็ กรม ๑ เหมอื นกบั ประเทศอนื่ ๆ บดั นที้ รงพระกรณุ า โปรดเกลา้ ฯ ใหเ้ จา้ พนกั งานซง่ึ สำ� หรบั จดั การเลา่ เรยี นทงั้ ปวงรวมเปน็ กรม ๑ เรียกว่า กรมศกึ ษาธิการ ซึ่งผไู้ ดร้ ับกระแสพระราชด�ำรเิ ปน็ หวั หน้าพนกั งาน จัดการเล่าเรียน เป็นต�ำแหน่ง ข้าหลวงผู้บัญชาการศึกษา และให้ผู้ซ่ึง รบั ราชการอยใู่ นพนกั งานจดั การเลา่ เรยี นทงั้ ปวง สงั กดั ขน้ึ อยใู่ นกรมศกึ ษาธกิ าร ตามต�ำแหน่งซึ่งได้รับราชการนั้นทุกคน ให้กรมศึกษาธิการน้ีเป็นกรม ๑ ในราชการฝ่ายพลเรือนเหมือนกบั กรมอ่ืนๆ สืบไป ประกาศมา ณ วนั ศกุ ร์ เดอื น ๖ ขนึ้ ๑๕ คำ่� ปีกุน นพศก จุลศกั ราช ๑๒๔๙ (พ.ศ. ๒๔๓๐)๔ 52 ๑๓ ทศวรรษ : ๑๓๐ ปี กระทรวงศึกษาธิการ

ยกฐานะกรมธรรมการเป็นกระทรวงธรรมการ เบ้ืองต้นใน พ.ศ. ๒๔๓๒ ไดร้ วมกรมศกึ ษาธิการมาสังกัดกรมธรรมการ และปี ถัดมาได้ยกกรมธรรมการให้มีฐานะเป็นกระทรวง แต่ยังไม่ได้ประกาศชื่อเป็นกระทรวง เสนาบดี สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาด�ำรงราชานุภาพ๕ ทรงด�ำรงต�ำแหน่ง อธิบดีกรมธรรมการคร้ังนั้น ต่อมาวันที่ ๑ เมษายน พ.ศ. ๒๔๓๕ ทรงพระกรุณา โปรดเกล้าฯ ให้ยกฐานะกรมธรรมการ เป็นกระทรวงธรรมการ เเละโปรดเกล้าฯ ให้ เจา้ พระยาภาสกรวงษ์ (พร บุนนาค) ขณะเป็นพระยาภาสกรวงษ์ ด�ำรงต�ำแหนง่ เสนาบดี กระทรวง เมอื่ แรกตง้ั กระทรวงธรรมการมกี รมในสงั กดั รวม ๕ กรม คอื กรมธรรมการกลาง, กรมสงั ฆการ,ี กรมศกึ ษาธกิ าร, กรมพยาบาล, และกรมพพิ ธิ ภณั ฑ์ ชอื่ กระทรวงธรรมการ สะท้อนถึงการให้ความส�ำคัญแก่คุณภาพชีวิตทางปัญญา สุขภาพทางกายและจิตใจ เจา้ พระยาภาสกรวงษ์ (พร บนุ นาค) อนั เป็นการวางรากฐานสำ� คัญเพอื่ ความเจรญิ ของประเทศ เสนาบดคี นแรกของกระทรวงธรรมการ พระยาศรีสนุ ทรโวหาร อาคารกรมศึกษาธิการในอดตี (นอ้ ย อาจารยางกูร) ตง้ั อยู่ริมประตพู มิ านไชยศรี ผแู้ ต่งแบบเรยี นหลวง ๖ เลม่ ด้านตะวันออก พ.ศ. ๒๔๓๒ - ๒๔๔๑ ปัจจุบนั เป็นสำ� นกั งานพระคลังขา้ งท่ี เรม่ิ จัดตง้ั โรงเรยี นทั้งในพระนครและหวั เมือง โรงเรียนแห่งแรกของประเทศไทย ตามลักษณะค�ำว่า “โรงเรียน” ในปัจจุบัน พระบาทสมเดจ็ พระจุลจอมเกลา้ เจา้ อยหู่ ัวทรงพระกรณุ าโปรดเกลา้ ฯ • ให้ตั้ง “โรงเรียนหลวง” ข้ึน เมื่อ พ.ศ. ๒๔๑๔ บริเวณพระบรมมหาราชวัง พระยาศรสี ุนทรโวหาร (นอ้ ย อาจารยางกูร)๖ เปน็ อาจารยใ์ หญ่ • จัดตั้งโรงเรียนหลวงแห่งแรกส�ำหรับราษฎร คือ โรงเรียนวัดมหรรณพาราม ใน พ.ศ. ๒๔๒๗ • ตงั้ โรงเรยี นฝกึ หดั ครแู หง่ แรกทโ่ี รงเรยี นเบญจมราชทู ศิ เรยี กวา่ โรงเรยี นฝกึ หดั อาจารย์ เมอื่ พ.ศ. ๒๔๓๕ และ โรงเรยี นฝกึ หดั ครสู ตรแี หง่ แรกทโี่ รงเรยี นเบญจมราชาลยั เมอ่ื พ.ศ. ๒๔๕๖ • อปุ ถมั ภโ์ รงเรยี นของราษฎร โรงเรยี นราษฎรแ์ หง่ แรกของประเทศไทยทคี่ นไทย ตั้งขน้ึ ช่อื โรงเรียนบำ� รุงวชิ า พ.ศ. ๒๔๔๒ (เลกิ กจิ การ พ.ศ. ๒๔๖๘) • ตง้ั โรงเรยี นสตรขี องรฐั บาลแหง่ แรก คอื โรงเรยี นบำ� รงุ สตรวี ทิ ยา พ.ศ. ๒๔๔๔ ๑๓ ทศวรรษ : ๑๓๐ ปี กระทรวงศึกษาธกิ าร 53

สนบั สนนุ การตงั้ โรงเรยี นวชิ าชีพและวิชาเทคนิคตา่ ง ๆ ทุกดา้ นตามท่บี ้านเมือง สมเดจ็ พระมหาสมณเจา้ ขณะน้ันต้องการ เช่น โรงเรียนนักเรียนแผนที่ นักเรียนการคลอง นักเรียนเพาะปลูก กรมพระยาวชริ ญาณวโรรส นักเรียนป่าไม้ ฯลฯ สว่ นการจัดการศึกษาในหวั เมอื ง เพอื่ เปน็ รากฐานสำ� คญั ของการพัฒนาประเทศ พระบาทสมเดจ็ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรณุ าโปรดอาราธนาสมเด็จพระมหา สมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส๗ ให้ทรงเป็นผู้อ�ำนวยการจัดการศึกษา ด้วยพระ ปรีชาญาณยิ่ง สมเด็จพระมหาสมณเจ้าพระองค์นั้นทรงวาง “แบบการจัดการศึกษา หัวเมือง” ท�ำให้เกิดโรงเรียนประถมข้ึนตามวัดทั่วพระราชอาณาจักร เป็นระบบเดียวกัน มีพระเถรานุเถระ ๑๔ รูป เป็นผู้อ�ำนวยการศึกษามณฑลต่าง ๆ การกระจายการจัด การศึกษาระยะเริม่ แรกของประเทศเปน็ ไปอยา่ งรวดเร็วและกวา้ งขวาง ใน พ.ศ. ๒๔๒๙ มโี รงเรยี นที่จดั ตง้ั ถงึ ๓๔ แห่ง โรงเรียนราษฎร์หรือโรงเรยี นท่เี อกชนจัดต้งั ขึ้น เดิมเรยี กว่า โรงเรยี นเชลยศกั ดิ์ หากเปิดสอนภาษาต่าง ๆ เรียกวา่ โรงเรียนวิเศษเชลยศักดิ์ คณะสอนศาสนาคริสตไ์ ด้เรม่ิ จดั ตง้ั โรงเรยี นประเภทนตี้ ง้ั แต่ พ.ศ. ๒๓๙๑ รชั กาลพระบาทสมเดจ็ พระจอมเกลา้ เจา้ อยหู่ วั และได้จัดตั้งอีกหลายโรงเรียนท้ังในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค เช่น โรงเรียนมิชชันนารี ชายแห่งแรกของสยาม ต่อมาเปลี่ยนเป็นโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย ตั้งเมื่อ พ.ศ. ๒๔๔๓ ซ่ึงพัฒนาแต่แรกเร่ิมเมื่อ พ.ศ. ๒๓๙๕ โรงเรียนน่านคริสเตียนศึกษา จงั หวดั นา่ น ตงั้ เมอ่ื พ.ศ. ๒๔๔๗ โรงเรยี นวัดมหรรณพาราม จัดตงั้ เมอ่ื พ.ศ. ๒๔๒๗ เปน็ โรงเรยี นหลวงแห่งแรกสำ� หรบั ราษฎร โรงเรยี นกรงุ เทพคริสเตยี นวทิ ยาลยั โรงเรียนน่านครสิ เตียนศึกษา 54 ๑๓ ทศวรรษ : ๑๓๐ ปี กระทรวงศกึ ษาธกิ าร

ต้ังธรรมการจังหวัดท่วั พระราชอาณาจักร เมอื่ การจดั การศกึ ษาไดก้ ระจายมากขน้ึ สหู่ วั เมอื ง ซง่ึ ปจั จบุ นั เรยี กวา่ สว่ นภมู ภิ าค จงึ จำ� เป็นตอ้ งจัดตั้งหนว่ ยงานระดบั จังหวดั ชอ่ื วา่ ธรรมการจงั หวดั ใน พ.ศ. ๒๔๕๒ เพ่อื ดูแลโรงเรียนในหัวเมืองให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์และโดยเรียบร้อย ต�ำแหน่งธรรมการ จังหวัด ถือเป็นตัวแทนกระทรวงธรรมการ มีภารกิจครอบคลุม ๓ ด้าน คือ การศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม โดยเฉพาะงานดา้ นศกึ ษามขี อบขา่ ยกวา้ งขวาง ดแู ลตงั้ แตป่ ระถม ศึกษา มธั ยมศึกษา อาชีวศึกษา รวมถงึ การฝกึ หดั ครใู นจงั หวัดท่ีมีโรงเรยี นฝกึ หัดครู ตึกสนุ ันทาลัย ในโรงเรยี นราชนิ ปี ัจจุบนั ท่ีท�ำการกระทรวงธรรมการ พ.ศ. ๒๔๔๘ - ๒๔๕๒ เคยเปน็ ทที่ ำ� การกระทรวงธรรมการ เปน็ ตึกสร้างใหมท่ พี่ ระราชวงั บวรสถานมงคล และต่อมาเป็นทต่ี ้ังโรงละครแหง่ ชาติ เมอ่ื พ.ศ. ๒๔๔๐ - ๒๔๔๘ จัดทำ� แผนการศึกษาแห่งชาติ ราชการแผน่ ดินหรอื กจิ การส�ำคัญ ๆ จ�ำเป็นต้องก�ำหนดแผน และนโยบายแตล่ ะ ช่วงเวลา น�ำไปสู่การปฏิบัติ แผนการศึกษาแห่งชาติ ถือเป็นบทบัญญัติเพ่ือเป็นแนว ดำ� เนนิ การสำ� หรบั การจดั การศกึ ษาของรฐั อยา่ งไรกต็ าม ระยะแรกของการจดั ตงั้ หนว่ ยงาน รับผิดชอบการจดั การศึกษา ใน พ.ศ. ๒๔๓๐ ยงั ไมม่ ีแผนการศกึ ษาท่ีแน่นอน พระบาท สมเดจ็ พระจลุ จอมเกลา้ เจา้ อยหู่ วั โปรดเกลา้ ฯ ใหเ้ จา้ พระยาพระเสดจ็ สเุ รนทราธบิ ดี (หมอ่ ม ราชวงศ์เปีย มาลากุล)๘ คร้ังด�ำรงยศและบรรดาศักดิ์เป็นพระยาวิสุทธสุริยศักดิ์ เป็น ผรู้ บั ผดิ ชอบดำ� เนนิ การรว่ มกบั บรรดาขา้ ราชการในกรมศกึ ษาธกิ าร จดั ทำ� โครงการศกึ ษา สำ� เร็จและแพร่หลายเม่ือ พ.ศ. ๒๔๔๑ เจ้าพระยาพระเสดจ็ สุเรนทราธบิ ดี โครงการศกึ ษาฉบบั นีถ้ อื เป็น “แผนการศกึ ษา (แห่งชาต)ิ ” ฉบับแรก ซ่ึงเข้าใจว่า (หม่อมราชวงศ์เปีย มาลากลุ ) ได้แบบอย่างจากประเทศอังกฤษ เป็นนโยบายการด�ำเนินงานจัดการศึกษาทุกด้านของ กระทรวงธรรมการทงั้ สว่ นกลาง และสว่ นภมู ภิ าค ตงั้ แตข่ นั้ มลู ศกึ ษาถงึ ระดบั มหาวทิ ยาลยั ๑๓ ทศวรรษ : ๑๓๐ ปี กระทรวงศึกษาธิการ 55

ระหวา่ ง พ.ศ. ๒๔๔๕ - ๒๔๖๑ รชั กาลพระบาทสมเดจ็ พระจลุ จอมเกลา้ เจา้ อยหู่ วั และตน้ รชั กาลพระบาทสมเดจ็ พระมงกฎุ เกลา้ เจา้ อยหู่ วั ๙ ราชการไดป้ รบั ปรงุ เปลยี่ นแปลง และประกาศใช้ แผนการศกึ ษา หรอื โครงการศกึ ษา รวม ๔ ฉบบั ตามลำ� ดบั ดงั นี้ แผนการ ศึกษา พ.ศ. ๒๔๔๕, พ.ศ. ๒๔๕๐, พ.ศ. ๒๔๕๒, โครงการศึกษา พ.ศ. ๒๔๕๖ และแกไ้ ข ฉบับ พ.ศ. ๒๔๕๘ การก�ำหนดแผนการศึกษาแต่ละฉบับ มีผลให้เกิดการเปล่ียนแปลงการจัดการ ศึกษา และหลกั สูตรการศึกษาทีส่ �ำคญั หลายประการ เชน่ • ลดมงุ่ การศึกษาเพ่อื เข้ารับราชการเป็นสำ� คญั • เรมิ่ นโยบายการจดั การศกึ ษาขน้ั ตน้ ใหเ้ ดก็ ทกุ คนทว่ั พระราชอาณาจกั รไดเ้ รยี น พระบาทสมเดจ็ พระมงกุฎเกลา้ เจ้าอย่หู วั จงึ มอบใหก้ ระทรวงมหาดไทยรบั ผดิ ชอบการศกึ ษาตามมณฑล และกระทรวงนครบาลรบั จดั การศกึ ษาเบอ้ื งตน้ ในกรงุ เทพฯ ใน พ.ศ. ๒๔๕๓ • สนับสนุนส่งเสริมอาชีวศกึ ษาและหตั ถศึกษา จดั การแสดงศลิ ปหตั ถกรรมของ นกั เรียนครง้ั แรก และเปดิ โรงเรยี นเพาะช่าง พ.ศ. ๒๔๕๖ เพ่อื เตรยี มครูดา้ นนี้ • ประกาศใชพ้ ระราชบญั ญตั ิโรงเรยี นราษฎร์ พ.ศ. ๒๔๖๑ จฬุ าลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในช่วงแรกสถาปนา มี ๔ คณะ คือ แพทยศาสตร์ รฏั ฐประศาสนศาสตร์ อักษรศาสตร์ และวทิ ยาศาสตร์ เพอื่ ใหน้ โยบายการจดั การศกึ ษาขน้ั สงู สมั ฤทธผิ์ ลมปี ระสทิ ธภิ าพ ไดร้ วมโรงเรยี น ราชแพทยาลัยเข้ากับโรงเรียนข้าราชการพลเรือน ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้า เจ้าอยู่หัว สถาปนาเป็นจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เมื่อวันท่ี ๒๖ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๕๙ สงั กดั กระทรวงธรรมการ, โปรดเกลา้ ฯ ใหต้ งั้ กรมมหาวทิ ยาลยั ขนึ้ ตรงตอ่ กระทรวงธรรมการ ใน พ.ศ. ๒๔๕๙ เพือ่ ใหก้ ารบริหารราชการเป็นไปด้วยดี ต้องพระราชอธั ยาศยั พระบาทสมเดจ็ พระมงกฎุ เกลา้ เจา้ อยหู่ วั ทรงพระกรณุ าโปรดเกลา้ ฯ ใหแ้ ยกหนา้ ทรี่ าชการ กระทรวงธรรมการออกเป็น ๒ ภาค คือ กรมพระศาสนา และกรมศึกษาธิการ จัดเป็น กรมใหญ่ แต่ละกรมมอี ธบิ ดีเปน็ ผู้บงั คบั บญั ชา และมกี รมย่อยในสังกดั กรมศึกษาธิการ ใน พ.ศ. ๒๔๖๐ แบ่งส่วนราชการ เป็น ๗ หน่วยงาน คือ กองบญั ชาการ, กองสารบรรณ, กองตรวจการ (เปลยี่ นชอื่ เปน็ กองสอบไล่ ใน พ.ศ. ๒๔๖๑) กรมราชบัณฑติ , กรมวิสามญั ศึกษา, กรมสามญั ศกึ ษา, และพนักงานจดั การโรงเรียน 56 ๑๓ ทศวรรษ : ๑๓๐ ปี กระทรวงศึกษาธิการ

ผลกระทบชว่ งแรกของการจดั การศึกษา การพฒั นาประเทศดา้ นการศกึ ษาซงึ่ เปน็ เรอื่ งสำ� คญั ยอ่ มมผี ลกระทบทง้ั ดา้ นบวก และด้านลบมาทกุ กาลสมัย ช่วงระยะน้ไี ดม้ บี นั ทึกไว้ ขอเสนอบางประการ ดังนี้ • โรงเรียนหลวงแห่งแรกส�ำหรับราษฎรท่ีตั้งขึ้นที่วัดมหรรณพาราม เม่ือ พ.ศ. ๒๔๒๗ น้นั พอตั้งขึน้ ก็มขี ่าวลือให้คนพาเข้าใจผิด ถึงแกต่ อ้ งมีพระบรมราชโองการ โปรดเกล้าฯ ใหม้ ี ประกาศตง้ั โรงเรียน เมอ่ื พ.ศ. ๒๔๒๘ ทราบท่วั กัน ชแี้ จงจดุ มงุ่ หมาย ของการศึกษาว่า “การวชิ าหนังสอื เป็นตน้ ทางวชิ าความรทู้ งั้ ปวง สมควรทจ่ี ะทะนบุ �ำรงุ ใหเ้ จรญิ ร่งุ เรอื งย่งิ ข้นึ ไป” และชกั ชวนใหร้ าษฎรนยิ มการเรียนหนงั สือ ดงั ความตอนหน่ึง ในประกาศ ดงั น้ี “บัดนี้ทรงทราบใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทว่า ราษฎร ตนื่ เลา่ ลือกันว่า ซึง่ โปรดเกล้าฯ ให้ตง้ั โรงเรยี นนัน้ พระราชประสงค์ จะเกบ็ เดก็ นกั เรยี นเปน็ ทหาร ผทู้ จี่ ะสง่ บตุ รหลานเขา้ มาเรยี นหนงั สอื ก็มักจะพากันหวาดหวั่นคร่ันคร้ามว่าบุตรหลานจะต้องเป็นทหาร เปน็ อนั มาก …ผทู้ เี่ ลา่ ลอื โจษกนั อยา่ งนน้ั เหมอื นเปน็ คนไมม่ กี ตญั ญู ไม่รู้พระเดชพระคุณในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อันทรง พระมหากรณุ าทรงพระราชดำ� รจิ ดั การจะใหเ้ ปน็ ประโยชนแ์ กร่ าษฎร ทัว่ ไปในพระราชอาณาจักร”๑๐ การศกึ ษาไทยระยะแรกทีม่ พี ระสงฆเ์ ป็นผูส้ อนหนังสือในวัด • ด้วยการจัดการศึกษาไทยระยะแรกที่แพร่หลายทั่วพระราชอาณาจักร มี พระพุทธศาสนาเป็นพ้ืนฐาน พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ตราประกาศ พระบรมราชโองการใน พ.ศ. ๒๔๔๑ เรื่อง การขยายการศึกษาตามหัวเมืองโดยอาศัย คณะสงฆว์ า่ “ใหจ้ ดั การตพี มิ พห์ นงั สอื เรยี นแบบหลวงทง้ั ในสว่ นทจี่ ะสอนธรรมปฏบิ ตั แิ ละ วิชาความรู้อย่างอ่ืนข้ึนเป็นอันมาก เพ่ือจะพระราชทานแก่ภิกษุสงฆ์ท้ังหลายไว้ส�ำหรับ ฝึกสอนกุลบุตรทั่วไป” และใน พ.ศ. ๒๔๔๕ ได้มีพระราชบัญญัติลักษณะปกครองสงฆ์ ร.ศ. ๑๒๑ มีความวา่ “พระสงฆ์ คณะสงฆ์ทุกระดับชั้น ต้องมีหนา้ ท่ีบ�ำรงุ การศึกษาในวดั การศกึ ษาเป็นหนา้ ทป่ี ระการหนง่ึ ท่วี ดั จะพึงจัด” ๑๓ ทศวรรษ : ๑๓๐ ปี กระทรวงศกึ ษาธกิ าร 57

ตามพระด�ำริของสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส ท่ีว่า “ความรู้ทางโลกกับความรู้ทางธรรมต้องไปด้วยกัน จึงจะท�ำให้การศึกษาเป็นผลดี” ท้ังพระองค์ยังทรงน�ำวิธีและวิชาการแบบใหม่เข้ามาสอนพระสงฆ์ในหลักสูตร พระปริยัติธรรมด้วย กล่าวได้ว่า การศึกษาท้ังสองเส้นทางเร่ิมเป็นระบบ มีพิกัดหรือ หลักสตู รสำ� หรับการศกึ ษา กระทรวงธรรมการ พ.ศ. ๒๔๓๕ มีช้นั เรียน และมกี ารสอบไล่ การเล่าเรียนลกั ษณะทไี่ มเ่ ป็นแบบแผนในอดตี ไดค้ ่อย ๆ เปล่ียนไป กอปรดว้ ย มชิ ชนั นารไี ดเ้ รมิ่ เขา้ มาตง้ั ถนิ่ ฐานในพระนครและตา่ งจงั หวดั กจิ การการแพทย์ การพมิ พ์ และการศกึ ษาเรมิ่ ขยายมากขนึ้ วทิ ยาการตา่ ง ๆ กา้ วหนา้ ขนึ้ วฒั นธรรมไทยเรมิ่ เบย่ี งเบน ไปจากเดิม การพัฒนาการศึกษาของประเทศให้ทันกาลสมัยช่วงเวลาน้ัน ได้พยายาม รักษาสบื ทอดวัฒนธรรมไว้ดว้ ย ทท่ี �ำการกระทรวงธรรมการ และกระทรวงศึกษาธิการในอดตี พ.ศ. ๒๔๖๒ - ๒๔๘๓ ในพื้นทีเ่ ดิมของบา้ นเจา้ พระยารตั นาธิเบศร์ ริมคลองโอ่งอา่ ง ปจั จบุ ันเป็นพิพิธภัณฑ์ศาลรฐั ธรรมนญู 58 ๑๓ ทศวรรษ : ๑๓๐ ปี กระทรวงศึกษาธกิ าร

(ชพ่ว.งศป.ร๒ะม๔า๖ณ๒ท-ศว๒ร๔ร๖ษ๘ท่ี ๓ : ๓๓ ๖ปีปก)ี ระทรวงศกึ ษาธกิ าร เปน็ เวลา พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจา้ อยู่หวั ทรงมีโอกาสศกึ ษา และไดป้ ระทับนาน ถึง ๙ ปี ณ สหราชอาณาจักร ซึ่งเป็นประเทศท่ีรุ่งเรืองสูงสุดในโลกขณะน้ัน รวมท้ังได้ เสดจ็ ประพาสทอดพระเนตรความเจรญิ ทางดา้ นวทิ ยาการของอารยประเทศอนื่ ๆ ชว่ งเวลา หนึง่ ท�ำใหท้ รงมเี วลาเตรียมพระองค์ส�ำหรบั การขึน้ ครองราชย์ อันเน่อื งจากสถานการณ์ ท้งั ภายในและภายนอกประเทศ ทรงวางพระบรมราโชบายการปกครองประเทศ เน้นการ สร้างจิตใจและความรู้สึกนึกคิดร่วมกันของเยาวชนในชาติ พระองค์มิได้มีพระราชด�ำริ เพยี งธำ� รงรักษาเอกราชของชาตเิ ท่านน้ั แตท่ รงมเี ป้าหมายสู่ระดบั ยกเกียรตภิ มู ิของชาติ ให้เสมอนานาอารยประเทศ พระองคท์ รงแสดงพระราชปณธิ านไวใ้ นพระราชหตั ถเลขา และในพระราชนพิ นธ์ เป็นอันมาก ทรงพยายามสั่งสอนพสกนิกรทุกวัยของพระองค์ ซ่ึงถือว่า ยังคงใช้ได้ดีใน ปจั จุบัน เชน่ • เป็นขา้ ราชการ หาใช่เปน็ นายประชาชนไม่ • นักเรยี นชั้นกลาง การกินการนอนเปน็ เวลายงั เป็นความจ�ำเป็น ... นอกจากนคี้ วรมเี วลาเลน่ กฬี า และออกกำ� ลงั กายทกุ วนั วนั ละเลก็ นอ้ ยกพ็ อ • นักเรียนชั้นผู้ใหญ่ …ควรอ่านหนังสือ “กันป่วย” …เม่ือออกจากโรงเรียน ไปแลว้ อยา่ เหน็ เป็นโอกาสท่จี ะตามใจตวั ไดท้ กุ ประการ • ครู..หม่ันส่ังสอนตักเตือนให้กุลบุตรรู้จักบริหารตัว อย่าให้เผลอเลินเล่อได้ โดยทำ� ตวั อยา่ งอันดี • ขา้ ไมต่ อ้ งการนกั เรียนตัวอย่างท่สี อบไลไ่ ด้คะแนนข้ันเกยี รตนิ ยิ มทกุ ๆ ครงั้ ขา้ ไม่ต้องการต�ำราเรยี นทเ่ี ดินได๑้ ๑ เปลีย่ นช่ือกระทรวงและเปล่ียนแนวคิดบทบาทรับผดิ ชอบ พ.ศ. ๒๔๖๒ โปรดเกลา้ ฯ ใหย้ า้ ยกรมธรรมการไปรวมอยใู่ นสำ� นกั พระราชวงั ตาม ประเพณเี ดมิ เพอื่ ความสะดวกและเหมาะสมทที่ รงเปน็ พทุ ธศาสนปู ถมั ภก และเปลย่ี นชอ่ื กระทรวงธรรมการ เป็น กระทรวงศึกษาธิการ เพ่ือให้มีหน้าท่ีจัดการศึกษาโดยตรง ทกุ ระดบั จนถงึ อดุ มศกึ ษา ตามทมี่ พี ระราชดำ� รแิ ยกการบรหิ ารกระทรวงธรรมการ เปน็ ๒ ภาค มาแต่ พ.ศ. ๒๔๖๐ ส่วนราชการสังกัดกระทรวงศึกษาธิการคร้ังน้ัน มีกองบัญชาการ กรมมหาวิทยาลัย และกรมศึกษาธิการ ซ่ึงกรมหลังนี้ควบคุมดูแลกองสารบรรณ, กองสอบไลว่ ชิ า, กรมราชบณั ฑติ (เปลย่ี นชอ่ื เปน็ กรมตำ� รา ใน พ.ศ. ๒๔๖๓) กรมวสิ ามญั ศึกษา และกรมสามญั ศกึ ษา ๑๓ ทศวรรษ : ๑๓๐ ปี กระทรวงศึกษาธกิ าร 59

มวี ิวัฒนาการสำ� คัญบางประการ ทศวรรษที่ ๓ น้ี วงการศกึ ษาไทยมวี วิ ฒั นาการอนั ควรแกก่ ารจารกึ คอื ประกาศใช้ พระราชบญั ญตั ปิ ระถมศกึ ษา พ.ศ. ๒๔๖๔ มผี ลบงั คบั ใชต้ งั้ แตว่ นั ที่ ๑ ตลุ าคม พ.ศ. ๒๔๖๔ สาระสำ� คญั คอื บงั คบั ใหเ้ ดก็ ทกุ คนทมี่ อี ายตุ งั้ แต่ ๗ ปบี รบิ รู ณ์ เรยี นหนงั สอื อยใู่ นโรงเรยี น จนอายุ ๑๔ ปบี รบิ ูรณ์ โดยไม่เสียค่าเลา่ เรยี น รวมท้งั กำ� หนดโครงการศกึ ษา พ.ศ. ๒๔๖๔ แบ่งการศึกษาออกเป็น ๒ ประเภท คอื สามัญศกึ ษา และวสิ ามญั ศกึ ษา ใน พ.ศ. ๒๔๖๒ - ๒๔๖๘ มีการเปลย่ี นแปลงส�ำคญั อีกบางประการ คอื สมเดจ็ สมเดจ็ พระมหิตลาธเิ บศร พระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก๑๒ ครั้งทรงด�ำรงพระยศสมเด็จ อดลุ ยเดชวิกรม พระบรมราชชนก พระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้ากรมขุนสงขลานครินทร์ ด�ำรงต�ำแหน่งเป็นอธิบดีกรม มหาวทิ ยาลัย กองสอบไลว่ ชิ า (เปลย่ี นเปน็ กองสอบไล)่ ในกรมศกึ ษาธกิ าร ตง้ั กองศกึ ษากสกิ รรม ข้ึนในกรมวิสามญั ศกึ ษา มีหน้าทีจ่ ัดการศกึ ษาแผนกกสกิ รรมทั้งประเทศ ผลกระทบชว่ งเปลย่ี นเป็นกระทรวงศึกษาธกิ ารคร้งั แรก • ผลการจดั การศกึ ษาซงึ่ เจา้ พระยาธรรมศกั ดม์ิ นตรี (สนนั่ เทพหสั ดนิ ณ อยธุ ยา) เสนาบดกี ระทรวงศกึ ษาธกิ าร แจง้ แกท่ ปี่ ระชมุ อปุ ราช และสมหุ เทศาภบิ าล แผนกกระทรวง ศกึ ษาธกิ าร ความวา่ ยงั ไมส่ ามารถจดั ตง้ั โรงเรยี นไดค้ รบตามทก่ี ำ� หนด จงึ กำ� หนดโครงการ ศึกษาหรอื แผนการศกึ ษา พ.ศ. ๒๔๖๔ แบ่งการศกึ ษาเปน็ ๒ ประเภท คอื ประถมศกึ ษา ภาคบงั คบั ทุกคนตอ้ งเรียนทั้งฝา่ ยสามญั และวสิ ามัญ ส่วนการศกึ ษาภาคพเิ ศษ เรยี กว่า มธั ยมศึกษา ไม่จ�ำเป็นตอ้ งเรียน อย่างไรกต็ าม แม้ประกาศพระราชบญั ญตั ปิ ระถมศึกษา พ.ศ. ๒๔๖๔ แลว้ ก็มสิ ามารถบงั คบั ให้เด็กอายุ ๗ ปที ุกคนเข้าศกึ ษาในโรงเรยี นได้ทัว่ ถงึ • สภาพการมี การเป็นโรงเรียนรัฐบาลคร้ังกระนั้น หลาย ๆ โรงเรียนน่าจะมี ลกั ษณะคลา้ ย ๆ กนั ขอยกตวั อยา่ งโรงเรยี นแหง่ หนงึ่ ในจงั หวดั สมทุ รปราการทมี่ ผี บู้ นั ทกึ ไว้ เพื่อให้คนรุ่นใหม่พอมองเห็นภาพได้พอควรว่า แม้ทางราชการและราษฎรในท้องถิ่น จะพยายามร่วมมือรว่ มใจกนั อย่างเต็มที่ก็ตาม อปุ สรรคเบื้องตน้ กห็ นกั สาหัสไม่น้อย “พ.ศ. ๒๔๕๘ (ปที กี่ ระทรวงธรรมการมคี ำ� สงั่ เปดิ การสอนโรงเรยี น วดั สาขลา) มผี ปู้ กครองนำ� เดก็ มาฝากเรียน จำ� นวน ๑๒๕ คน ทางโรงเรียน ได้อาศัยศาลาการเปรียญของวัดสาขลาหลังเก่าเป็นศาลาเตี้ย ๆ นักเรียน ทเ่ี ขา้ เรยี นในปนี ี้ บางคนไดเ้ คยเรยี นมาแลว้ บา้ งกเ็ รยี นกบั ภกิ ษใุ นวดั บางคน กเ็ รยี นมาจากบา้ นซง่ึ มคี รสู อนแบบโรงเรยี นราษฎร…์ ศาลาเปดิ โลง่ ไมม่ หี อ้ ง จัดชั้นเรียนเป็น ๒ ห้องเรียน ครูน่ังบนอาสน์สงฆ์ท�ำการสอน ไม่มีโต๊ะครู และเก้าอ้ี นักเรียนนง่ั ลงกับพื้น มีมา้ รองเขียนตวั หนงึ่ ยาว ๓ เมตร เมื่อสน้ิ ปกี ารศึกษา ๒๔๕๘ นักเรียนสอบไล่ปลายปแี ลว้ ได้เลือ่ นชัน้ ข้นึ เรียนชั้นใหม่ …การเรียนการสอนในโรงเรียนไม่ราบเรียบเพราะช้ันเรียน มมี าก ครผู สู้ อนมนี อ้ ย มนี กั เรยี น ๗ ชน้ั เรยี น… พ.ศ. ๒๔๖๔ นกั เรยี นมนี อ้ ยมาก เดก็ เข้าใหม่มนี ้อย ทง้ั โรงเรียนมีครคู นเดยี วเปน็ ท้งั ครูใหญค่ รนู อ้ ย”๑๓ 60 ๑๓ ทศวรรษ : ๑๓๐ ปี กระทรวงศกึ ษาธกิ าร

(ชพว่ .งศป.ร๒ะม๔า๖ณ๙ท-ศ๒วร๔ร๘ษ๓ท่ี ๔ : ๔๘ ๑ป๔ี กปร)ีะทรวงธรรมการ เป็นเวลา พิธีพระราชทานปรญิ ญาบตั รคร้ังแรกแห่งกรุงสยาม พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว๑๔ เสด็จขึ้นครองราชสมบัติ เนื่องด้วย พระสถานะตำ� แหนง่ รัชทายาทตามกฎมนเทยี รบาลว่าดว้ ยการสบื สนั ตติวงศ์ แมเ้ บ้อื งตน้ มไิ ดเ้ ตม็ พระราชหฤทยั กต็ าม หากบรรดาพระบรมวงศานวุ งศพ์ รอ้ มถวายความชว่ ยเหลอื จงึ ทรงยอมรับราชสมบตั ิ เม่ือ พ.ศ. ๒๔๖๘ โดยมพี ระราชปรารภว่า “พวกเจา้ นายทรงแสดงพระองคว์ า่ รกั ชาติ และทกุ ๆ องคน์ กึ ถงึ แต่ชาติ ไมม่ ีพระองคใ์ ดนกึ ถึงประโยชน์สว่ นพระองค์เลย ทกุ ๆ พระองค์ ท่านดีแก่ฉันอย่างเหลือจะอธิบายได้ ท�ำให้ฉันคิดอยู่ว่า ถ้าเจ้านายยังมี ความรู้สึกได้เช่นนี้ แม้สภาพการณ์จะดูเต็มเพียบก็จริง พระราชวงศ์จักรี จะยงั ลม่ จมมิได้ ”๑๕ เมื่อพระองค์เสด็จข้ึนครองราชสมบัติแล้ว ปรากฏว่า ทรงเป็นนักปกครองท่ีมี พระราชหฤทัยกว้างอย่างท่ีสุด และแม้จะทรงประสบปัญหาวิกฤตอย่างไร ก็ทรงใช้ พระปรชี าญาณแกไ้ ขสถานการณด์ ว้ ยดตี ลอดมา ทรงพระราชดำ� รเิ กย่ี วกบั การจดั การศกึ ษา ว่า การศกึ ษาไมค่ วรแยกจากวัด กรมธรรมการ จงึ ได้กลบั มารวมกับกระทรวงศกึ ษาธกิ าร ใน พ.ศ. ๒๔๖๙ และเปลย่ี นช่อื เป็น กระทรวงธรรมการ ดงั เดมิ มอี ำ� นาจหน้าที่เกย่ี วกบั การศึกษา ธรรมการ และศิลปกรรม มีหน่วยงานในสงั กดั คือ กองบญั ชาการกระทรวง, กรมศึกษาธิการ (ประกอบด้วยกรมสามัญศึกษา, กรมวิสามัญศึกษา, และกรมต�ำรา) กรมมหาวทิ ยาลยั , และกรมธรรมการ กระทรวงธรรมการไดต้ ง้ั กรมวชิ ชาธกิ าร เมอ่ื พ.ศ. ๒๔๗๒ มสี ว่ นราชการในสงั กดั คือ กองกลาง, กองสถิติและรายงาน, กองสอบไล่, กองแบบเรียน, และกองโรงพิมพ์ เน้นไปทางวิชาการ ตา่ งกบั กรมศกึ ษาธกิ าร ท่ีมีหนา้ ที่จดั การศกึ ษาของชาติ ๑๓ ทศวรรษ : ๑๓๐ ปี กระทรวงศกึ ษาธิการ 61

พิธีพระราชทานปริญญาบัตรครั้งแรกแห่งกรุงสยาม ก�ำเนิดข้ึนจากพระมหา กรุณาธิคุณ พระราชด�ำริในพระมหากษัตริย์พระองค์น้ี วาระแรกได้เสด็จพระราชด�ำเนิน มาพระราชทานปริญญาบัตรเวชศาสตร์ (ต่อมาเปล่ียนช่ือเป็น แพทยศาสตรบัณฑิต) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในวันที่ ๒๕ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๗๓ ส่งผลให้เกิดประเพณี อันดีงามแกส่ ถาบนั ต่าง ๆ สืบมา พ.ศ. ๒๔๗๔ โปรดให้ยุบกรมสามัญศึกษาและกรมวิสามัญศึกษา แต่คงงานไว้ ในกรมศกึ ษาธกิ ารตามเดมิ ดว้ ยวิกฤตทางเศรษฐกิจ พ.ศ. ๒๔๗๕ ภายหลังการยึดอำ� นาจ และเปล่ียนแปลงการปกครองจากระบอบ สมบรู ณาญาสทิ ธริ าชย์ มาเปน็ ระบอบประชาธปิ ไตย อนั มพี ระมหากษตั รยิ ท์ รงเปน็ ประมขุ คณะราษฎร ได้ก�ำหนดหลักการจัดการศึกษาว่า “จะให้การศึกษาอย่างเต็มท่ีแก่ราษฎร” และประกาศใช้แผนการศกึ ษาแหง่ ชาติ พ.ศ. ๒๔๗๕ แบ่งประถมศกึ ษา เปน็ ๖ ปี สามญั ศึกษา ๔ ช้ัน วิสามญั ศึกษา ๒ ชั้น สรุปสาระส�ำคญั คอื • จะประกาศใชพ้ ระราชบญั ญัตปิ ระถมศึกษาท้ังกรุงเทพฯ และหัวเมอื ง • จัดต้งั ฝกึ หดั ครทู กุ ประเภททุกชน้ั จนพอ • จดั ตง้ั โรงเรยี นวสิ ามญั ศกึ ษา ทง้ั แผนกกสกิ รรม อตุ สาหกรรม และพาณชิ ยกรรม • จัดให้มหาวิทยาลัยท้ังในกรุงเทพฯ และหัวเมืองสอนขั้นปริญญาได้ทัดเทียม กบั นานาประเทศ • จดั เคร่อื งอปุ กรณ์การศึกษาใหแ้ พรห่ ลาย • จะอปุ ถมั ภศ์ าสนาอันเป็นปัจจัยในการอบรมมนุษยธรรม พ.ศ. ๒๔๗๖ มพี ระราชบญั ญตั ปิ รบั ปรงุ กระทรวง ทบวง กรม กระทรวงธรรมการ แบง่ สว่ นราชการเปน็ สำ� นักเลขานุการรฐั มนตรี,ส�ำนกั งานปลัดกระทรวง, กรมธรรมการ, กรมพลศกึ ษา, กรมมหาวทิ ยาลยั , รวมทงั้ โอนโรงเรยี นประชาบาลทีอ่ ยูใ่ นเขตเทศบาลให้ เทศบาลรบั ไปจดั การศกึ ษา พ.ศ. ๒๔๗๘ ประกาศใชพ้ ระราชบญั ญตั ปิ ระถมศกึ ษาทกุ ตำ� บล และ พ.ศ. ๒๔๗๙ ประกาศใช้แผนการศึกษาแห่งชาติ จัดประถมเป็น ๔ ปี จัดมัธยมตอนต้น ๓ ปี มัธยม ตอนปลาย ๓ ปี ส่วนผู้ที่ประสงค์จะเรียนต่อระดับอุดมศึกษาและมหาวิทยาลัย ให้เรียน เตรียมอดุ มศึกษา ๒ ปี และจัดใหอ้ าชวี ศึกษารบั ช่วงจากสามญั ศึกษาทกุ ระดับ ภายหลังการเปล่ียนแปลงการปกครอง คณะรัฐมนตรีโดยความเห็นชอบของ สภาผู้แทนราษฎรได้กราบทูลเชิญพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอฐั มรามาธบิ ดนิ ทร ขณะดำ� รงพระอสิ รยิ ยศพระวรวงศเ์ ธอ พระองคเ์ จา้ อานนั ทมหดิ ล พระชนมพรรษาเพียง ๙ พรรษา เสด็จขึ้นครองราชสมบัติใน พ.ศ. ๒๔๗๘ สืบต่อจาก พระบาทสมเดจ็ พระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวที่ทรงสละราชสมบัติ เมอ่ื พ.ศ. ๒๔๗๗ 62 ๑๓ ทศวรรษ : ๑๓๐ ปี กระทรวงศกึ ษาธกิ าร

พ.ศ. ๒๔๘๒ ได้มีพระราชบัญญัติยุบเลิกกรมศึกษาธิการ และตั้งกรมวิชาการ (มหี นา้ ทีด่ แู ลทั้งด้านวิชาการและอาชวี ศึกษา) และต้ังกรมสามญั ศึกษาขนึ้ ใหม่ พ.ศ. ๒๔๘๓ จดั ตง้ั การศกึ ษาผใู้ หญเ่ ปน็ หนว่ ยงานระดบั กอง สงั กดั งานปลดั กระทรวง และประกาศใช้พระราชบัญญัติบ�ำรุงวัฒนธรรมแห่งชาติ พ.ศ. ๒๔๘๓ ในปีน้ีได้ย้าย กระทรวงธรรมการมาอยวู่ งั จนั ทรเกษม กระทรวงธรรมการ เม่อื แรกย้ายมาท่ีวงั จนั ทรเกษม พ.ศ. ๒๔๘๓ ผลกระทบทม่ี ตี อ่ การจัดการศึกษาช่วงวิกฤตของบ้านเมือง • เนอ่ื งดว้ ยชว่ งเวลานเ้ี ศรษฐกจิ ตกตำ่� ทว่ั โลก รวมทง้ั ประเทศไทยดว้ ย มผี ลกระทบ ท่สี ำ� คญั เชน่ ยุบโรงเรยี นบางแห่ง ดุลขา้ ราชการและผบู้ รหิ ารโรงเรียนออกจากราชการ ก่อนก�ำหนด พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงแสดงความห่วงใยข้าราชการ และราษฎรตลอดมา ดงั พระราชด�ำรสั ตอนหนึ่งว่า “รู้สึกวา่ เป็นเคราะห์กรรมของตัวท่ีต้องท�ำเช่นนัน้ เสมอ แม้ในขณะนีก้ ไ็ ด้พยายามทุกอย่างทีจ่ ะไม่ตัด แต่ก็พน้ วสิ ัย ท่ีจรงิ การที่จะปลดจะตัดคราวนี้รสู้ กึ หนักใจกวา่ คราวกอ่ น มาก …และรสู้ กึ สงสารทส่ี ดุ สำ� หรบั ผู้ทีต่ อ้ งออกไป ”๑๖ การทรงลดรายได้ท่ีรัฐบาลถวายพระคลังข้างที่ ทรงลดเงินเสด็จประพาส และ ทรงลดบ�ำเหน็จบ�ำนาญในพระราชส�ำนัก ถือว่าทรงเป็นแบบอย่างท่ีดีแก่ข้าราชการและ ราษฎรให้เห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าส่วนตน อย่างไรก็ตาม พระองค์โปรดให้ เลิกเก็บ เงินศึกษาพลี ที่เคยเก็บจากราษฎร โดยรัฐบาลจะจ่ายเงินอุดหนุนแก่โรงเรียน ประชาบาลเอง • ปที มี่ กี ารเปลยี่ นแปลงการปกครองนน้ั จากการสำ� รวจ ผลจากการประกาศใช้ พระราชบญั ญตั ปิ ระถมศกึ ษา พบวา่ จำ� นวนตำ� บลทมี่ กี ารศกึ ษาภาคบงั คบั ๔,๒๖๓ ตำ� บล จากทงั้ หมด ๔,๘๐๖ ต�ำบล และพบวา่ ผ้เู รียนในระดบั มัธยม และอุดมศกึ ษาทัว่ ประเทศ ค่อนข้างน้อย ระดับมัธยม เพียงร้อยละ ๓.๗๕ รัฐบาลจึงถือเป็นภารกิจเร่งด่วน แต่ก็มี อปุ สรรคอยา่ งมากทางเศรษฐกิจ ๑๓ ทศวรรษ : ๑๓๐ ปี กระทรวงศกึ ษาธกิ าร 63

ช(พ่ว.งศท.ศ๒ว๔รร๘ษ๔ท่ี-๔๒-๕๑๘๕: เ๘ป๐็นเวปลี ากร๓ะ๑ทรปว)ี งศึกษาธิการ กจิ การลกู เสอื มมี าชา้ นาน บางชว่ งเวลาซบเซา ระหว่าง พ.ศ. ๒๔๘๔ - ๒๔๙๔ บางช่วงเวลามกี ารร้ือฟื้น ปลายปี พ.ศ. ๒๔๘๔ ถึงกลางปี พ.ศ. ๒๔๘๘ ได้เกดิ สงครามโลกคร้งั ที่ ๒ ซ่งึ มี ให้ดำ� รงอยู่ ผลกระทบตอ่ ประเทศไทยทกุ ดา้ นเปน็ อนั มาก การจดั การศกึ ษา รวมทง้ั ดา้ นอนื่ ๆ รฐั บาล ตอ้ งพยายามประคบั ประคอง ปรบั ปรุงในระหว่างนแ้ี ละฟน้ื ฟภู ายหลงั สงครามสงบ วิกฤตของประเทศได้ถาโถมซำ้� อยา่ งหนักท่สี ดุ อีก คอื ใน พ.ศ. ๒๔๘๙ พระบาท สมเดจ็ พระปรเมนทรมหาอานนั ทมหดิ ล พระอฏั ฐมรามาธบิ ดนิ ทร เสดจ็ สวรรคตกะทนั หนั ถือเป็นประการหนึ่งท่สี �ำคญั ใหร้ ะยะ ๘ ปี จาก พ.ศ. ๒๔๘๕ - ๒๔๙๓ มีรัฐบาลเข้ามา บรหิ ารราชการแผน่ ดนิ ถึง ๑๔ ชุด บางรฐั บาลมีเวลาบรหิ ารราชการเพียง ๑๗ วัน ระหว่างน้ีมีการเปล่ียนแปลงการจัดการศึกษาบางประการ ที่ควรกล่าวถึงคือ ประกาศใช้ พระราชบัญญตั ิปรบั ปรงุ กระทรวง ทบวง กรม พุทธศกั ราช ๒๔๘๔ มผี ลให้ • เปลยี่ นช่ือ กระทรวงธรรมการ เปน็ กระทรวงศกึ ษาธกิ าร • ยุบ กรมวิชาการ เปลี่ยนเป็น กรมอาชีวศึกษา เพื่อดูแลจัดการอาชีวศึกษา เพยี งด้านเดยี วใหก้ า้ วหน้าขึน้ • เปล่ียนชอื่ กรมธรรมการ เป็น กรมการศาสนา • มหี นว่ ยงานในสังกดั ๘ กรม คอื ส�ำนักงานเลขานกุ ารรัฐมนตรี, สำ� นกั งาน ปลดั กระทรวง, กรมการศาสนา, กรมพลศกึ ษา, กรมมหาวทิ ยาลยั , กรมศลิ ปากร (โอนไป สงั กดั สำ� นกั นายกรฐั มนตรี เม่ือ พ.ศ. ๒๔๘๕) กรมสามัญศกึ ษา, และกรมอาชวี ศึกษา • ประกาศใช้ พระราชบญั ญตั คิ รู พ.ศ. ๒๔๘๘ เปน็ ฉบบั แรก และจดั ตง้ั ครุ สุ ภา ขน้ึ ลกู เสอื เปน็ กจิ กรรมหนง่ึ ทสี่ ง่ เสรมิ สนบั สนนุ ความเปน็ พลเมอื งดใี หส้ มบรู ณพ์ รอ้ ม ปรากฏวิวัฒนาการมาแต่ พ.ศ. ๒๔๕๔ และมีประกาศข้อบังคับลักษณะปกครอง ครงั้ แรก ใน พ.ศ. ๒๔๖๑ รวมทง้ั ไดม้ ปี ระกาศใชพ้ ระราชบญั ญตั ลิ กู เสอื แหง่ ชาติ พ.ศ. ๒๔๙๐ เป็นฉบับแรก การบริหารงานกิจการลูกเสือส่วนใหญ่อยู่ในสังกัดกองบัญชาการ กระทรวงธรรมการ ต่อมาเป็นส�ำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ บางช่วงเวลา เปน็ กองหน่ึงสังกัดกรมพลศกึ ษา จาก พ.ศ. ๒๔๙๓ มีการพฒั นาการจัดการศึกษาท่ีส�ำคัญอกี บางประการ เช่น • โรงเรียนพลศึกษากลาง เปล่ียนช่ือเป็น โรงเรียนฝึกหัดครูพลศึกษา ใน พ.ศ. ๒๔๙๓ • ประกาศใชแ้ ผนการศึกษาชาติ พ.ศ. ๒๔๙๔ ก�ำหนดให้กุลบุตรกุลธิดาได้รับ การศึกษาอยู่ในโรงเรียนจนอายุย่างเข้าปีท่ี ๑๕ เป็นอย่างน้อย และจัดการศึกษาให้มี จรยิ ศกึ ษา พลศึกษา พุทธศึกษา โดยเพ่ิมหัตถศกึ ษา • จดั ตง้ั กรมประชาศกึ ษา โดยยกฐานะจากกองโรงเรยี นประชาบาล ตามประกาศใช้ พระราชบญั ญตั ิปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม (ฉบับท่ี ๑๓) พ.ศ. ๒๔๙๔ 64 ๑๓ ทศวรรษ : ๑๓๐ ปี กระทรวงศึกษาธกิ าร

หม่อมหลวงปนิ่ มาลากุล ระหวา่ ง พ.ศ. ๒๔๙๕ - ๒๕๑๕ กรมวิชาการในอดตี ระยะเวลา ๒๐ ปี น้ี การจดั การศกึ ษาของไทยมกี ารปรบั ปรงุ และพฒั นาในทกุ ดา้ น ทุกระดับ ภายหลังที่การประกาศใช้ แผนการศึกษาชาติ พ.ศ. ๒๔๙๔ มีผลให้แบ่ง การศกึ ษาออกเปน็ ๕ ข้ัน ได้แก่ อนุบาล, ประถมศึกษา (ป. ๑ - ๔) มธั ยมศกึ ษา แบ่งเปน็ ๓ สาย คือ สามัญศกึ ษา (๓ ปี) วสิ ามัญศกึ ษา (ตอนต้น ๓ ป,ี ตอนปลาย ๒ ปี) มัธยม อาชีวศกึ ษา (ตอนละไม่เกิน ๓ ปี) เตรียมอดุ มศึกษา (๒ ป)ี การแสวงหารูปแบบการพัฒนาการศึกษาช่วงเวลานี้ ได้รับความช่วยเหลือจาก ต่างประเทศ ซึ่งด�ำเนินการในลักษณะโครงการพัฒนาการศึกษาต่าง ๆ หลายโครงการ ต่อเนื่องกันมา และบางโครงการเกิดขึ้นหลัง พ.ศ. ๒๕๐๓ รวมทั้งช่วงเวลานี้รัฐบาลส่ง ขา้ ราชการและบคุ ลากรจำ� นวนมากไปศกึ ษาตอ่ ตา่ งประเทศ เพอื่ รว่ มกนั พฒั นาการศกึ ษา ของไทย มีการเปล่ียนแปลงการจัดการศึกษาที่ส�ำคัญ ระหว่าง พ.ศ. ๒๔๙๕ - ๒๕๑๕ หลงั จากประกาศใช้ พระราชบัญญัตปิ รบั ปรงุ กระทรวง ทบวง กรม พ.ศ. ๒๔๙๕ มีผลให้ • จดั ต้ัง กระทรวงวฒั นธรรม ข้นึ และโอน กรมการศาสนา ไปสังกัดกระทรวง วฒั นธรรม ใน พ.ศ. ๒๔๙๕ • จัดตง้ั กรมวิชาการ๑๗ ขึน้ ใหมอ่ กี ครง้ั ใน พ.ศ. ๒๔๙๕ เพ่อื บรหิ ารงานดา้ น วชิ าการโดยเฉพาะ หมอ่ มหลวงปน่ิ มาลากลุ ๑๘ ครง้ั ดำ� รงตำ� แหนง่ ปลดั กระทรวงศกึ ษาธกิ าร ได้รักษาการในต�ำแหน่งอธิบดีกรมวิชาการคนแรก เบ้ืองต้นการก่อตั้ง แบ่งส่วนราชการ ออกเป็น ๕ กอง ได้แก่ ส�ำนักงานเลขานกุ ารกรม, กองการวจิ ยั , กองอุปกรณ์การศึกษา, กองเผยแพร่การศึกษา, และกองตำ� รา • เปลี่ยนชื่อ กรมประชาศึกษา เป็นกรมสามัญศึกษา ส่วนกรมสามัญศึกษา เปลีย่ นชื่อเปน็ กรมวิสามญั ศึกษา • มพี ระราชกฤษฎกี าจดั ตงั้ ภาค รวม ๙ ภาค แตง่ ตง้ั ขา้ หลวงตรวจการศกึ ษาธกิ าร เปน็ หัวหน้าสว่ นราชการประจำ� ภาค และตอ่ มาก�ำหนดท้องทีจ่ งั หวัดตา่ ง ๆ ขน้ึ เปน็ หนว่ ย สำ� หรบั ราชการของผูต้ รวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ ๑๒ หนว่ ย เรียกว่า ภาคศึกษา ใน พ.ศ. ๒๕๐๐ ใน พ.ศ. ๒๔๙๕ กระทรวงศึกษาธิการมีหน่วยงานในสังกัด คือ ส�ำนักงาน เลขานกุ ารรฐั มนตร,ี สำ� นกั ปลดั กระทรวง, กรมพลศกึ ษา, กรมวชิ าการ, กรมมหาวทิ ยาลยั , กรมสามัญศึกษา, กรมวิสามญั ศกึ ษา และกรมอาชวี ศกึ ษา หลงั จากนนั้ ไดป้ รับปรงุ เปล่ยี นแปลงอีกหลายดา้ น เช่น • จัดต้ัง กรมการฝึกหัดครู และตั้งวิทยาลัยวิชาการศึกษา เพ่ือผลิตครูระดับ ปรญิ ญา เม่อื พ.ศ. ๒๔๙๗ • ประกาศใช้ พระราชบญั ญตั ิโรงเรียนราษฎร์ พทุ ธศักราช ๒๔๙๗ ๑๓ ทศวรรษ : ๑๓๐ ปี กระทรวงศกึ ษาธกิ าร 65

พ.ศ. ๒๕๐๑ มพี ระราชบญั ญตั ยิ บุ เลกิ กระทรวงวฒั นธรรม โอนงานของกระทรวง วัฒนธรรม ไดแ้ ก่ กรมศาสนา และกรมศลิ ปากร มาสังกดั กระทรวงศกึ ษาธิการตามเดมิ ยุบกรมวัฒนธรรม เป็นกองวัฒนธรรม สังกัดส�ำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ในปีน้ี กระทรวงศึกษาธิการได้แบ่งส่วนราชการ เป็น ๑๓ หน่วยงาน ได้แก่ ส�ำนักงาน เลขานุการรัฐมนตรี, ส�ำนักงานปลัดกระทรวง, กรมสามัญศึกษา, กรมวิสามัญศึกษา, กรมอาชีวศึกษา, กรมการฝึกหัดครู, กรมพลศึกษา, กรมวิชาการ, กรมศิลปากร, กรมศาสนา, กรมมหาวทิ ยาลยั , มหาวทิ ยาลัยศิลปากร, และมหาวทิ ยาลัยธรรมศาสตร์ พ.ศ. ๒๕๐๒ ได้มีการจัดต้ังหน่วยงานทางการศึกษาเพื่อวางแผนการศึกษา ทกุ ระดบั คอื สภาการศกึ ษาแหง่ ชาติ ขึ้น และโอนกรมมหาวทิ ยาลยั ไปสงั กดั สำ� นักนายก รฐั มนตรี หลักสูตรการศึกษา พทุ ธศกั ราช ๒๕๐๓ พ.ศ. ๒๕๐๓ - ๒๕๐๕ เป็นชว่ งปที ีส่ ำ� คญั ทางการวางแผนการศกึ ษา และด้าน วชิ าการ คอื ประกาศใชแ้ ผนการศกึ ษาแหง่ ชาติ พ.ศ. ๒๕๐๓ ปรบั ปรงุ หลกั สตู รการศกึ ษา พุทธศักราช ๒๕๐๓ ทกุ ระดบั และขยายการศึกษาภาคบังคับเปน็ ๗ ปี มกี ารจดั ทดลอง โรงเรียนมัธยมแบบประสม ส่วนการเพ่ิมพูนความรู้ความสามารถของครูได้ยกเลิกสอบ วิชาครูพเิ ศษมูล (พ.) และครพู ิเศษประถม (พ.ป.) ใน พ.ศ. ๒๕๐๔ และเปลีย่ นมาสอบ วิชาครปู ระกาศนยี บัตรวิชาการศึกษา (พ.กศ.) จดั อบรมครูฤดูร้อน (อ.ศ.ร.) และจดั สอบ วชิ าครทู างไปรษณยี แ์ ละสอบครูประจ�ำการท่ไี มม่ วี ฒุ ิ ใน พ.ศ. ๒๕๐๕ พ.ศ. ๒๕๐๔ - ๒๕๐๙ มีความพยายามที่ชัดเจนในการกระจายการบริหาร จัดการศึกษาระดับประถมศึกษาให้องค์กรส่วนท้องถิ่นดูแล โดยโอนโรงเรียนประชาบาล ในเขตเทศบาลกรงุ เทพฯ และเทศบาลนครธนบรุ ี ใหเ้ ทศบาลทง้ั สองแหง่ ดำ� เนนิ การตงั้ แต่ พ.ศ. ๒๕๐๔ ตอ่ มาโอนโรงเรียนประชาบาลในเขตเทศบาลทว่ั ประเทศให้เทศบาลจดั การ บรหิ ารใน พ.ศ. ๒๕๐๖ และโอนการประถมศกึ ษาจากกระทรวงศกึ ษาธกิ ารไปสงั กดั องคก์ าร บรหิ ารสว่ นจังหวดั กระทรวงมหาดไทย ใน พ.ศ. ๒๕๐๙ 66 ๑๓ ทศวรรษ : ๑๓๐ ปี กระทรวงศึกษาธกิ าร

สถาบนั สง่ เสริมการสอน วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ช่วง พ.ศ. ๒๕๑๕ และก่อนหน้าน้ัน กระทรวงศึกษาธิการมีการเปลี่ยนแปลง การจดั การศกึ ษาทีส่ ำ� คัญ เช่น • มหี นว่ ยงานในสงั กดั เพมิ่ ขน้ึ อกี คอื สำ� นกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาเอกชน, สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และจัดต้ังวิทยาลัยพลศึกษา ส่วนภมู ภิ าค • รวมกรมสามัญศึกษาและกรมวสิ ามญั ศึกษาเขา้ ดว้ ยกัน จดั ตง้ั เปน็ กรมสามญั ศกึ ษา • จดั ตงั้ ทบวงมหาวทิ ยาลยั ของรฐั ขน้ึ แลว้ โอนการศกึ ษาระดบั อดุ มศกึ ษาซงึ่ เดมิ มอบใหส้ ภาการศกึ ษาแห่งชาตริ บั ผดิ ชอบไปเป็นหนา้ ท่ีของทบวงมหาวิทยาลัยของรัฐ • ส่วนภาคเอกชนสนใจการจัดการศึกษาระดับมัธยมศึกษา และอุดมศึกษา มากข้ึน แทนระดับประถมศึกษา ได้มีประกาศ พระราชบัญญัติวิทยาลัยเอกชน พ.ศ. ๒๕๑๒ เพือ่ ใหเ้ อกชนจัดการศึกษาในระดบั อุดมศึกษาได้ • การฝึกหัดครูเป็นไปในลักษณะตอบสนองความต้องการของครูในภาวะท่ี ขาดแคลน และจดั ตง้ั มหาวทิ ยาลยั ขนึ้ หลายแหง่ อยา่ งไรกต็ าม นบั แต่ พ.ศ. ๒๕๐๓ - ๒๕๑๕ และอีกหลายปีต่อจากนี้ มีการผลิตนักเรียนหรือนักศึกษาฝึกหัดครูจ�ำนวนมาก แต่เมื่อ สำ� เรจ็ การศกึ ษา จ�ำนวนไมน่ อ้ ยไมม่ งี านท�ำ จึงลดความนิยมลง • สายอาชีวศึกษา ใน พ.ศ. ๒๕๐๓ - ๒๕๑๗ มีผู้สนใจเข้าศึกษาน้อยมาก พ.ศ. ๒๕๑๒ สถานศึกษาสายอาชีวศึกษา ได้ยกระดับเป็นวิทยาลัย เปฺิดสอนถึงระดับ ประกาศนียบัตรวิชาชพี ชั้นสูง (ปวส.) พ.ศ. ๒๕๑๗ - ๒๕๒๙ มีผูส้ นใจเรยี นมากขึ้น ๑๓ ทศวรรษ : ๑๓๐ ปี กระทรวงศึกษาธกิ าร 67

(ชพ่ว.งศท.ศ๒ว๕รร๑ษ๖ท-่ี ๙๒๕- ๔๑๕๑ เ:ป๑็น๑เว๐ลาป๒ี ก๙ระปท)ี รวงศกึ ษาธิการ คูม่ ือหลกั สูตรประโยค มัธยมศกึ ษาตอนปลาย ระหวา่ ง พ.ศ. ๒๕๑๖ - ๒๕๑๙ ไดเ้ กิดการเปล่ียนแปลงทางความคดิ อยา่ งสำ�คญั พุทธศกั ราช ๒๕๑๘ กล่าวคือ นักเรียนมัธยมศึกษาตอนปลาย นิสิต นักศึกษาส่วนมากในวิทยาลัย และ มหาวทิ ยาลยั ทวั่ ประเทศใหค้ วามสนใจเหตกุ ารณบ์ า้ นเมอื ง ซง่ึ บางสว่ นไดร้ บั การสนบั สนนุ จากตา่ งประเทศ การสรู้ บของกองกำ�ลงั บางกลมุ่ กบั ฝา่ ยรฐั บาลดำ�เนนิ ไปอยา่ งสรา้ งความ วติ กกงั วลของคนไทยทัง้ ประเทศ การจัดการศึกษาระหว่างช่วงเวลาดังกล่าวและหลังจากนั้น จำ�เป็นต้องเร่งด่วน ตอ้ งปรบั เปลยี่ นองคก์ ร แผนการศกึ ษาแหง่ ชาติ การพฒั นาหลกั สตู รการศกึ ษา และอนื่ ๆ ให้ทันกระแสของสังคมและเยาวชนไทยในครั้งน้ัน เชน่ พ.ศ. ๒๕๑๖ มพี ระราชกฤษฎกี าแบง่ ทอ้ งทก่ี ระทรวงศกึ ษาธกิ าร เปน็ ๑๒ เขต พ.ศ. ๒๕๑๗ มกี ารโอนหนว่ ยงานเพอ่ื การควบคมุ ดแู ลใหม้ ปี ระสทิ ธภิ าพขน้ึ เชน่ • โอนสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า และวิทยาลัยวิชาการศึกษาจาก กระทรวงศกึ ษาธิการ ไปสงั กัดทบวงมหาวทิ ยาลยั ของรัฐ • โอนสำ�นักงานเยาวชนแห่งชาติ จากสำ�นักนายกรัฐมนตรี มาสังกัด กระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ. ๒๕๑๗ และยุบเลิกสำ�นักงานส่งเสริมเยาวชน (ชื่อท่ีเปลี่ยน ใหม่ในกระทรวงศกึ ษาธกิ าร) ใน พ.ศ. ๒๕๑๙ • โอนงานวทิ ยาลยั เอกชนซง่ึ อยใู่ นความควบคมุ ดขู องสำ�นกั งานคณะกรรมการ การศึกษาเอกชน กระทรวงศึกษาธกิ าร ไปอยูใ่ นความดแู ลของทบวงมหาวทิ ยาลยั ของรฐั พ.ศ. ๒๕๑๘ กระทรวงศึกษาธิการประกาศใช้ หลักสูตรประโยคมัธยมศึกษา ตอนปลาย พุทธศกั ราช ๒๕๑๘ กอ่ นหลกั สตู รระดับอืน่ ๆ เพอื่ ให้ทันตอ่ การเปล่ยี นแปลง ทางสังคม พ.ศ. ๒๕๑๘ วิทยาลัยเทคโนโลยีและอาชีวศึกษา ได้รับการสถาปนาขึ้นเป็น สถาบนั เทคโนโลยแี ละอาชวี ศกึ ษา มฐี านะเทยี บเทา่ กรม ตอ่ มาไดร้ บั พระราชทานนามใหม่ ว่า “สถาบันเทคโนโลยีราชมงคล” ตามประกาศใน ราชกิจจานุเบกษา ฉบับพิเศษ วันที่ ๑๘ สิงหาคม ๒๕๓๒ พ.ศ. ๒๕๑๙ รวมสถานศึกษาสังกัดอาชีวศึกษา ประเภทโรงเรียนเทคนิค โรงเรียนการช่าง และโรงเรียนอาชีวศึกษา ท่ีอยู่ในจังหวัดเดียวกัน จัดตั้งเป็นวิทยาลัย อาชีวศกึ ษา 68 ๑๓ ทศวรรษ : ๑๓๐ ปี กระทรวงศึกษาธกิ าร

หลักสูตรประถมศึกษา พ.ศ. ๒๕๒๐ ประกาศใช้ แผนการศกึ ษาแหง่ ชาติ พ.ศ. ๒๕๒๐ จดั ระบบการศกึ ษา พุทธศกั ราช ๒๕๒๑ เปน็ ๖ : ๓ : ๓ คอื ประถมศกึ ษา (๖ ป)ี มธั ยมศกึ ษาตอนตน้ (๓ ป)ี มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย หลกั สตู รมัธยมศกึ ษาตอนต้น (๓ ป)ี รวมทง้ั มีพระราชกฤษฎกี าแบง่ ท้องทีก่ ระทรวงศึกษาธกิ าร ออกเป็น ๑๓ เขต หลกั สูตรมธั ยมศึกษาตอนปลาย พ.ศ. ๒๕๒๑ ประกาศใช้ หลกั สตู รประถมศกึ ษา พทุ ธศกั ราช ๒๕๒๑ และหลกั สตู ร พุทธศักราช ๒๕๒๔ มธั ยมศกึ ษาตอนต้น พทุ ธศกั ราช ๒๕๒๑ พ.ศ. ๒๕๒๒ จัดตั้งหน่วยงานระดับกรม ๒ หน่วยงาน คือ ๑) กรมการศึกษา นอกโรงเรียน (กศน.) โดยยกฐานะกองการศึกษาผู้ใหญ่ สังกัดสำ�นักงานปลัดกระทรวง ขน้ึ เป็นหน่วยงานระดบั กรม และ ๒) สำ�นักงานคณะกรรมการวฒั นธรรมแห่งชาติ (สวช.) มีหน้าทป่ี รับปรุงกฎหมายเก่ียวกบั วัฒนธรรม เผยแพร่วฒั นธรรมไทย ท้ังในประเทศและ ต่างประเทศ พ.ศ. ๒๕๒๓ จัดตั้งหน่วยงานระดับกรม ๒ หน่วยงาน คือ ๑) สำ�นักงาน คณะกรรมการข้าราชการครู (กค.) ทำ�หน้าที่บริหารงาน วิเคราะห์มาตรฐานงานของ ข้าราชการครู และจัดระบบบริหารราชการการศึกษาให้เหมาะสมมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ๒) สำ�นกั งานคณะกรรมการการประถมศึกษาแหง่ ชาติ (สปช.) โดยรบั โอนงานการศึกษา ประชาบาล ท่ีเคยโอนไปยังองค์การบริหารส่วนจังหวัด กระทรวงมหาดไทย กับรับโอน โรงเรยี นประถมศกึ ษาบางแห่งทีเ่ คยสงั กดั กรมสามญั ศึกษา มารวมอยูใ่ นหน่วยงานใหมน่ ้ี ของกระทรวงศึกษาธิการ ในปี ๒๕๒๓ กระทรวงศกึ ษาธิการ แบง่ ส่วนราชการเปน็ ดังนี้ : สำ�นักงานปลดั กระทรวง, กรมการศาสนา, กรมพลศึกษา, กรมวิชาการ, กรมศิลปากร, กรมสามัญ ศึกษา, กรมอาชีวศึกษา, กรมการฝึกหดั คร,ู กรมการศึกษานอกโรงเรยี น, สำ�นักงานคณะ กรรมการการศกึ ษาเอกชน, สำ�นกั งานคณะกรรมการวฒั นธรรมแหง่ ชาต,ิ สำ�นกั งานคณะ กรรมการการประถมศกึ ษาแหง่ ชาต,ิ สำ�นกั งานคณะกรรมการขา้ ราชการคร,ู และสถาบนั เทคโนโลยีและอาชวี ศกึ ษา ส่วนสำ�นักงานเลขานุการรัฐมนตรี จัดอยู่ในบังคับบัญชาของรัฐมนตรีว่าการ กระทรวงศึกษาธิการ คุรุสภา เป็นสภาในกระทรวงศึกษาธิการ และสถาบันส่งเสริม การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เป็นสถาบันของรัฐ และถือเป็นนิติบุคคลใน กระทรวงศกึ ษาธิการ หลังจากการประกาศใช้หลักสูตรประโยคมัธยมศึกษาตอนปลาย พุทธศักราช ๒๕๑๘ แล้ว กระทรวงศึกษาธิการ โดยกรมวิชาการ เป็นผู้ดำ�เนินการเห็นความจำ�เป็น ตอ้ งจดั ทำ�หลกั สตู รมธั ยมศกึ ษาตอนปลาย ๒๕๒๔ ใหส้ อดคลอ้ งกบั หลกั การ และแนวปฏบิ ตั ิ ของหลักสูตรประถมศึกษา พุทธศักราช ๒๕๒๑ และหลักสูตรมัธยมศึกษาตอนต้น พุทธศกั ราช ๒๕๒๑ ๑๓ ทศวรรษ : ๑๓๐ ปี กระทรวงศกึ ษาธกิ าร 69

ในการจัดทำ�หลักสูตร และหนังสือเรียนช่วงเวลานี้ และช่วงเวลาถัดมา จัดทำ�ในลักษณะคณะกรรมการ ท่านหนึ่งท่ีมีบทบาทและคุณูปการสำ�คัญยิ่งอันควร กล่าวถงึ คือ หมอ่ มหลวงบญุ เหลอื เทพยสวุ รรณ๑๙ มีการเปลย่ี นแปลงการจัดทำ�หลักสูตรท้ัง ๓ ระดบั อีก ถึงปัจจบุ นั รวม ๓ ฉบบั ได้แก่ ฉบับปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๓๓, หลักสูตร พุทธศักราช ๒๕๔๔, และหลักสูตร พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ ต่อมา กระทรวงศึกษาธิการมีส่วนราชการในสังกัด ตามพระราชบัญญัติ แบง่ สว่ นราชการ แกไ้ ขเพมิ่ เตมิ ประกาศของคณะปฏวิ ตั ิ ฉบบั ๒๑๖ ลงวนั ที่ ๑๙ กนั ยายน ๒๕๑๕ ฉบบั ท่ี ๓๐ พ.ศ. ๒๕๓๒ มกี ารเปลยี่ นแปลงจาก พ.ศ. ๒๕๒๓ กลา่ วคอื วทิ ยาลยั เทคโนโลยแี ละอาชวี ศกึ ษา ยกสถานะเปน็ สถาบนั เทคโนโลยรี าชมงคล และราชบณั ฑติ ยสถาน มีฐานะเป็นกรมอยูใ่ นบงั คับบญั ชาของรัฐมนตรีวา่ การกระทรวงศกึ ษาธกิ าร ท้งั น้ี ใน พ.ศ. ๒๕๓๘ กรมการฝกึ หัดครู ไดเ้ ปลยี่ นเป็น สำ�นกั งานสภาสถาบนั ราชภัฏ ตามพระราชบัญญัตสิ ถาบนั ราชภัฏ พ.ศ. ๒๕๓๘ ช(พว่ .งศท.ศ๒ว๕รร๔ษ๖ท-ี่ ๑ป๒จั จ-บุ ปันัจ)จุบนั : ๑๓๐ ปี กระทรวงศึกษาธิการ หมอ่ มหลวงบญุ เหลอื เทพยสวุ รรณ กล่าวได้ว่า พลังสำ�คัญยิ่งในพัฒนาการศึกษาไทยให้วิวัฒน์ได้ถึงทุกวันนี้ ก็ด้วย พระมหากรณุ าธคิ ณุ ของพระมหากษตั รยิ ไ์ ทยนบั แตอ่ ดตี โดยเฉพาะในพระบรมราชจกั รวี งศ์ และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ ซ่ึงทรงตระหนักในความสำ�คัญของการศึกษา ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจ พระกรณียกิจทางการศึกษาเป็นอันมาก ทรงส่งเสริม การจัดการศึกษาให้ทัดเทียมอารยประเทศ และช่วยเหลือในบางพื้นท่ี ในบางถ่ิน ซง่ึ ทรุ กนั ดารเปน็ พเิ ศษ จนเปน็ ทปี่ ระจกั ษใ์ นนานาประเทศ องคก์ ารการศกึ ษา วทิ ยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) ได้ประกาศยกย่องพระเกียรติคุณ๒๐ มาโดยลำ�ดับ อย่างไรก็ตาม ไมว่ า่ ประเทศไทยจะปกครองด้วยระบอบใด ระบอบสมบรู ณาญา- สิทธริ าชย์ หรือระบอบประชาธปิ ไตย อนั มพี ระมหากษตั ริยท์ รงเปน็ ประมขุ ในการปฏิรปู การศึกษาซ่ึงขับเคลื่อนการจัดการศึกษาอย่างเร่งด่วน ท่ีผ่านมาน้ัน เกิดขึ้นทุกกาลสมัย ตามความจำ�เป็นเพ่ือให้การจัดการศึกษามีประสิทธิภาพยิ่งข้ึน ท้ังปฏิรูปปรับเปลี่ยน การแบง่ สว่ นราชการ หนว่ ยงานรบั ผดิ ชอบ ปฏริ ปู แผนการศกึ ษาแหง่ ชาติ จดั ทำ�โครงการ สำ�คัญ ๆ ฯลฯ 70 ๑๓ ทศวรรษ : ๑๓๐ ปี กระทรวงศึกษาธิการ

การปฏริ ปู ระบบราชการกระทรวงศกึ ษาธกิ ารครงั้ สำ� คญั ในชว่ งทศวรรษนี้ เกดิ จาก การปรับปรุงโครงสร้างส่วนราชการตาม พระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม พ.ศ. ๒๕๔๕ มีผลบงั คบั ใช้ตงั้ แตว่ นั ที่ ๓ ตุลาคม ๒๕๔๕ เปน็ ต้นมา มกี ารเปลย่ี นแปลง จัดตั้งกระทรวงแบ่งออกเป็น ๒๐ กระทรวง เพ่ือลดความซ�้ำซ้อนของงาน ให้ระบบ การบรหิ ารงานมีประสิทธิภาพ และประสทิ ธิผล ตาม พระราชบัญญตั ิระเบียบบริหารราชการกระทรวงศกึ ษาธกิ าร พ.ศ. ๒๕๔๖ ได้ส่งผลให้เกิดการเปล่ียนแปลงการบริหารและการจัดการศึกษาทั้งระบบ นับตั้งแต่วันที่ ๗ กรกฎาคม ๒๕๔๖ เปน็ ตน้ ไป โครงสรา้ งของกระทรวงศกึ ษาธกิ ารเดมิ เปน็ ๕ องคก์ รหลกั ประกอบด้วย ๑. สำ�นกั งานปลดั กระทรวงศึกษาธกิ าร ๒. สำ�นักงานเลขาธิการสภาการศึกษา ๓. สำ�นกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขัน้ พืน้ ฐาน ๔. สำ�นกั งานคณะกรรมการการอุดมศกึ ษา ๕. สำ�นักงานคณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา ในการนี้ ได้ปรับโครงสร้างหน่วยงานระดับสำ�นัก เพื่อมีภารกิจเช่ือมโยงกับ ยุทธศาสตร์ของกระทรวงศึกษาธิการ มีระบบบริหารงานที่ทันสมัย มีกลไกการทำ�งาน รว่ มกับระหวา่ งองค์กรหลกั และหน่วยงานท่เี ก่ยี วขอ้ ง ๑๓ ทศวรรษ : ๑๓๐ ปี กระทรวงศึกษาธิการ 71

ผลกระทบภายหลงั การเปลย่ี นแปลงสังคม และการปรับปรงุ โครงสร้างสว่ นราชการ • บทบาทศกึ ษาธกิ ารจงั หวดั พ.ศ. ๒๕๕๙ - ๒๕๖๐ ไดเ้ รม่ิ ตน้ มกี ารเปลย่ี นแปลง การบริหารงานในส่วนภูมิภาคอย่างท่ีคนในวงการศึกษาหลายคนได้หยิบยกมาสนทนา กนั อย่างกวา้ งขวาง จากอดีต มีการต้ังหน่วยงานเสมือนตัวแทนกระทรวงทางด้านการศึกษา ระดับ จังหวดั ชอื่ ว่า ธรรมการจังหวัด เมือ่ พ.ศ. ๒๔๕๒ และเปลย่ี นชื่อเปน็ ศกึ ษาธิการจังหวดั และศึกษาธิการอ�ำเภอในช่วงเวลาท่ี ช่ือกระทรวง เปล่ียนเป็น กระทรวงศึกษาธิการ คร้ันกระทรวงศึกษาธิการโอนงานการประถมศึกษาไปยังองค์การบริหารส่วนจังหวัด ใน พ.ศ. ๒๕๐๙ มีหัวหน้าส่วนการศึกษาจังหวัด ดูแลในระดับจังหวัด และหัวหน้า การประถมศึกษาอ�ำเภอดูแลในระดับอ�ำเภอ ศึกษาธิการจังหวัด และศึกษาธิการอ�ำเภอ จึงมีบทบาทการบริหารเฉพาะโรงเรียนมัธยมศึกษา และโรงเรียนเอกชน (ครั้งน้ัน เรียก โรงเรียนราษฎร์) ต่อมามีการโอนโรงเรียนประถมศึกษา ท่ีสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดมาให้ หนว่ ยงานทตี่ งั้ ใหม่ ของกระทรวงศกึ ษาธกิ าร คอื สำ� นกั งานคณะกรรมการการประถมศกึ ษา แหง่ ชาติ รปู แบบการบรหิ ารงานมคี ณะกรรมการระดบั ชาติ จงั หวดั อำ� เภอ และกลมุ่ โรงเรยี น บทบาทของศึกษาธิการจังหวัดเป็นกรรมการ อกค.จังหวัดโดยต�ำแหน่ง ระยะต่อมา มีส�ำนกั งานสามญั ศกึ ษาจังหวดั ในทุกจงั หวัด ดูแลโรงเรียนมัธยมศึกษาของจงั หวัด พ.ศ. ๒๕๔๒ มีพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒ ก�ำหนดให้มี เขตพื้นที่การศึกษารับผิดชอบการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน ระยะแรกรับผิดชอบท้ัง ประถมศึกษา และมัธยมศึกษา โดยยุบต�ำแหน่งศึกษาธิการจังหวัด ผู้อ�ำนวยการ ประถมศกึ ษาจงั หวัด (เดิมเรยี ก หัวหน้าสว่ นการศกึ ษาจงั หวัด) และสามญั ศึกษาจงั หวดั พ.ศ. ๒๕๕๓ ส�ำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพ้ืนฐานได้แยกการบริหาร โรงเรยี นสองระดบั ออกจากกนั จดั ตงั้ สำ� นกั งานเขตพนื้ ทกี่ ารศกึ ษาประถมศกึ ษา (ปจั จบุ นั มี ๑๘๓ เขต) และส�ำนกั งานเขตพนื้ ท่กี ารศกึ ษามัธยมศึกษา (ปัจจบุ ันมี ๖๒ เขต) จากคำ� ส่ังหวั หนา้ คณะรกั ษาความสงบแหง่ ชาติ ที่ ๑๙ / ๒๕๖๐ เรื่อง การปฏิรปู การศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการในภูมิภาค ก�ำหนดให้แต่ละจังหวัดมีคณะกรรมการ ศกึ ษาธกิ ารจงั หวดั โดยผวู้ า่ ราชการจงั หวดั หรอื รองผวู้ า่ ราชการจงั หวดั ทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย เป็นประธานกรรมการศึกษาธิการ ศึกษาธิการจังหวัดเป็นกรรมการและเลขานุการ รบั ผดิ ชอบการบรหิ ารงานการศกึ ษาขนั้ พนื้ ฐานทง้ั หมด ทงั้ ยงั มี ศกึ ษาธกิ ารภาค ๑๘ ภาค ดูแลกรอบนโยบาย วางระบบในการบริหารงานระดับภาค การแบ่งส่วนราชการใหม่คร้ังนี้ หากมีการพิจารณาขอบข่ายการปฏิบัติงาน ให้ชดั เจน ไมซ่ ้�ำซ้อนกนั เพ่อื เกดิ ผลดี มีความก้าวหนา้ แก่การศึกษาสว่ นภมู ภิ าค กจ็ ะเปน็ เรอื่ งที่ดีงามสมเจตนารมณ์ จงึ ควรไดต้ ดิ ตามตอ่ ไป 72 ๑๓ ทศวรรษ : ๑๓๐ ปี กระทรวงศกึ ษาธิการ

• หน่วยงานที่เคยมีบทบาทดูแลการศึกษาระดับอุดมศึกษา หรือมหาวิทยาลัย ที่ผ่านมา บางชว่ งเวลาสังกัดกรมมหาวทิ ยาลยั กระทรวงศกึ ษาธิการ บางชว่ งเวลาสังกดั สำ� นกั นายกรฐั มนตรี และตอ่ มาไดส้ งั กดั ทบวงมหาวทิ ยาลยั อยา่ งไรกต็ าม งานอดุ มศกึ ษา ได้กลับมาสังกัดกระทรวงศึกษาธิการอีกคร้ัง ต้ังขึ้นเป็นส�ำนักงานคณะกรรมการ การอุดมศึกษา เมือ่ พ.ศ. ๒๕๔๖ รวมเป็น ๑ ใน ๕ องคก์ รหลกั ของกระทรวง คงมีเหตุผลนานาประการ เช่น ลักษณะเฉพาะของสถาบันการศึกษาต่างจาก สถานศึกษาระดับอื่น ๆ เหมาะสมท่ีจะเป็นอิสระ แยกออกจากกระทรวงศึกษาธิการ ปจั จบุ นั ใน พ.ศ. ๒๕๖๒ จงึ ไดป้ รบั เปลยี่ นการแบง่ สว่ นราชการโดยรวมกบั สำ� นกั งานทางดา้ น วจิ ยั และนวตั กรรม ตง้ั เปน็ กระทรวงใหมช่ อ่ื วา่ กระทรวงการอดุ มศกึ ษา วทิ ยาศาสตร์ วจิ ยั และนวัตกรรม ปัจจบุ นั กระทรวงศึกษาธิการ มอี งคก์ รหลัก ๔ องค์กร คอื ๑. สำ� นกั งานปลดั กระทรวง ซงึ่ มหี นว่ ยงานสำ� คญั ระดบั กรมอยใู่ นสงั กดั มผี บู้ รหิ าร สูงสดุ เป็นตำ� แหน่งเลขาธิการ ได้แก่ ๑) สำ� นกั งานคณะกรรมการข้าราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศกึ ษา ๒) สำ� นกั งานส่งเสริมการศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั ๓) ส�ำนกั งานคณะกรรมการสง่ เสรมิ การศกึ ษาเอกชน อย่างไรก็ตาม หน่วยงานข้างต้นมีแนวโน้มจะแยกการบริหารราชการออกจาก สำ� นกั งานปลดั กระทรวงศกึ ษาธกิ าร เชน่ กรมการศกึ ษานอกโรงเรยี น (เดมิ ) หรอื สำ� นกั งาน สง่ เสรมิ การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั (ปจั จบุ นั ) คาดวา่ จะมพี ระราชบญั ญตั ิ จดั ตัง้ สว่ นราชการใหม่ ใหต้ รงตามภารกิจและเหมาะสมย่งิ ขนึ้ ๒. สำ� นกั งานเลขาธกิ ารสภาการศึกษา ๓. สำ� นกั งานคณะกรรมการการศึกษาข้นั พืน้ ฐาน ๔. ส�ำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา รวมทั้งมีองคก์ รในก�ำกับ ได้แก่ - สำ� นักงานเลขาธกิ ารครุ สุ ภา - ส�ำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากร ทางการศึกษา - สำ� นกั งานลกู เสอื แหง่ ชาติ - สถาบนั สง่ เสริมการสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี - สถาบันทดสอบทางการศกึ ษาแหง่ ชาติ (องค์การมหาชน) - โรงเรียนมหิดลวิทยานสุ รณ์ (องคก์ ารมหาชน) - สำ� นักงานรบั รองมาตรฐานและประเมนิ คุณภาพการศึกษา (องค์การมหาชน) กระทรวงศึกษาธิการในปัจจุบันมีประวัติสืบเน่ืองจากกระทรวงธรรมการ ซึ่งมี ภารกิจด้านการศกึ ษา จดั การเรียนรูแ้ กเ่ ดก็ เยาวชน และบคุ คลทกุ ระดับ ทกุ วัย อนั เปน็ หนทางไปสกู่ ารมปี ัญญาพัฒนาตนเอง สงั คม และประเทศชาติ มาอย่างยาวนาน การศึกษาและเข้าใจประวัติเร่ืองราวใดๆ ย่อมช่วยให้ประจักษ์ความเป็นปัจจุบัน ว่ามีท่ีมาและเหตุปัจจัยใด อย่างไร จึงเป็นอยู่ ดำ�รงอยู่เช่นนี้ รวมท้ังอาจช่วยสร้างวิสัย ทศั นแ์ กผ่ มู้ บี ทบาทเกย่ี วขอ้ ง รว่ มกนั ววิ ฒั นเ์ สน้ ทางการจดั การศกึ ษาไทย ใหร้ งุ่ เรอื งสบื ไป ๑๓ ทศวรรษ : ๑๓๐ ปี กระทรวงศึกษาธกิ าร 73

เชงิ อรรถ ๑ หนังสืออ้างอิงบางเล่มอ้างว่า คร้ังน้ันทรงด�ำรงพระยศ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวง ดำ� รงราชานภุ าพ หนงั สอื ดอกสรอ้ ยสภุ าษติ ฉบบั ทพ่ี ระองคท์ รงรวบรวม เมอ่ื ร.ศ. ๑๓๐ บทดอกสรอ้ ย บทแรกข้ึนต้นว่า “บทเอ๋ย บทดอกสร้อย” และไม่มีบทที่ขึ้นต้นว่า “เด็กเอ๋ย เด็กน้อย” ตามฉบับท่ี กรมวชิ าการพมิ พเ์ มอ่ื พ.ศ. ๒๕๑๕ ๒ พระบาทสมเดจ็ พระจลุ จอมเกลา้ เจา้ อยหู่ วั ทรงไดร้ บั ยกยอ่ งจากยเู นสโก เมอ่ื พ.ศ. ๒๕๔๖ วา่ เปน็ บคุ คลสำ� คญั ของโลกดา้ นการศกึ ษา วฒั นธรรม สงั คมศาสตร์ มนษุ ยศาสตร์ และการพฒั นาสงั คม ๓ กระทรวงศกึ ษาธกิ าร, ๑๒๐ ปี กระทรวงศกึ ษาธกิ าร. พมิ พเ์ ปน็ ทรี่ ะลกึ วนั คลา้ ยวนั สถาปนา ครบรอบ ๑๒๐ ป,ี กรงุ เทพฯ : อมรนิ ทรพ์ ร้นิ ต้ิงแอนดพ์ บั ลิชชงิ่ ๒๕๕๕, หน้า ๒๗. ๔ กระทรวงศึกษาธกิ าร, ประวตั ิกระทรวงศกึ ษาธิการ ๒๔๓๕ - ๒๕๐๗. พิมพเ์ ป็นทีร่ ะลึก ในวนั ครบรอบเจด็ สบิ สองปขี องกระทรวง วนั ท่ี ๑ เมษายน พทุ ธศกั ราช ๒๕๐๗. พระนคร : โรงพมิ พค์ รุ สุ ภา, ๒๕๐๗, หนา้ ๕๑ - ๕๒. ๕ สมเด็จพระเจา้ บรมวงศ์เธอ กรมพระยาด�ำรงราชานภุ าพ ทรงดำ� รงต�ำแหน่งผ้บู ญั ชาการ ศกึ ษา หรอื อธิบดีกรมศึกษาธิการพระองค์แรก ทรงเป็นคนไทยพระองคแ์ รกทย่ี เู นสโกประกาศยกย่อง เมื่อ พ.ศ. ๒๕๐๕ วา่ เปน็ บุคคลสำ� คัญของโลก ในฐานะพระบิดาแหง่ ประวัติศาสตร์ไทย พระกรณียกจิ ของพระองค์ได้เปน็ มรดกทางปัญญาของคนไทย ทง้ั ในดา้ นการศึกษา สาธารณสุข ประวตั ิศาสตรแ์ ละ โบราณคดี ๖ พระยาศรีสุนทรโวหาร (น้อย อาจารยางกูร) เป็นผู้แต่งแบบเรียนหลวง รวม ๖ เล่ม ใน พ.ศ. ๒๔๑๔ ไดแ้ ก่ มลู บทบรรพกจิ , วาหนติ น์ิ ิกร, อกั ษรประโยค, สงั โยคพิธาน, ไวพจนพ์ จิ ารณ์ และพศิ าลการนั ต์ ทา่ นไดร้ บั การยกยอ่ งจากยเู นสโกวา่ เปน็ บคุ คลสำ� คญั ของโลก ปี ๒๕๖๕ ดา้ นการศกึ ษา และวฒั นธรรม เนอ่ื งในโอกาสเฉลมิ ฉลองวนั ครบรอบ ๒๐๐ ปี ชาตกาล ๗ สมเดจ็ พระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส เป็นสมเดจ็ พระสังฆราช องค์ที่ ๑๐ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ทรงรับพระภาระการจัดระเบียบการปกครองคณะสงฆ์และพระภาระการจัด การศึกษาข้ันพ้ืนฐานของราษฎรให้ท่ัวถึงและเท่าเทียมกัน เพื่อสนองรัฐประศาสโนบายในรัชสมัย พระบาทสมเดจ็ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอย่หู วั ซ่ึงเปน็ ชว่ งเวลาที่สยามและประเทศเพ่ือนบา้ นตา่ งประสบ ปัญหาหลายด้าน ทรงได้รับยกย่องจากยูเนสโกว่าเป็นบุคคลส�ำคัญของโลกเนื่องในโอกาส เฉลมิ พระเกียรติคณุ วาระครบ ๑๐๐ ปี แหง่ การสิ้นพระชนม์ พ.ศ. ๒๕๖๔ ๘ เจ้าพระยาพระเสด็จสุเรนทราธิบดี (หม่อมราชวงศ์เปีย มาลากุล) ท่านได้รับยกย่อง จากยูเนสโก เมื่อ พ.ศ. ๒๕๖๐ ว่าเป็นบุคคลส�ำคัญของโลก ในฐานะผู้มีบทบาทด้านการศึกษาไทย ในสมยั รตั นโกสนิ ทร์ โดยจดั ทำ� โครงการศกึ ษา เมอ่ื พ.ศ. ๒๔๔๑ ซง่ึ ถอื เปน็ “แผนการศกึ ษา (แหง่ ชาต)ิ ” ฉบับแรกของไทย ๙ พ.ศ. ๒๕๒๔ ยูเนสโกได้ยกย่องพระเกียรติคุณของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้า เจา้ อยหู่ วั วา่ ทรงเปน็ บคุ คลสำ� คญั ของโลก ผมู้ ผี ลงานดเี ดน่ ดา้ นวฒั นธรรม ในฐานะทท่ี รงเปน็ นกั ปราชญ์ นกั ประพันธ์ กวี และนกั แตง่ บทละครไว้เป็นจำ� นวนมาก ๑๐ กรมวชิ าการ, “เอกสารรชั กาลที่ ๕” ใน แนวพระราชดำ� รเิ กา้ รชั กาล. กรงุ เทพฯ: โรงพมิ พ์ คุรสุ ภาลาดพร้าว, ๒๕๒๗, หนา้ ๑๖๒ - ๑๖๓. ๑๑ กรมวชิ าการ, “เอกสารรชั กาลท่ี ๖” ใน แนวพระราชดำ� รเิ กา้ รชั กาล. กรงุ เทพฯ: โรงพมิ พ์ ครุ ุสภาลาดพร้าว, ๒๕๒๗, หน้า ๒๑๓, ๒๑๕, ๒๑๗. 74 ๑๓ ทศวรรษ : ๑๓๐ ปี กระทรวงศึกษาธิการ

๑๒ สมเดจ็ พระมหติ ลาธเิ บศร อดลุ ยเดชวกิ รม พระบรมราชชนก ทรงไดร้ บั การถวายพระสมญั ญา “พระบดิ าแหง่ การแพทยไ์ ทย” ทรงไดร้ บั ยกยอ่ งจากยเู นสโกวา่ เปน็ บคุ คลสำ� คญั ของโลกดา้ นการศกึ ษา วิทยาศาสตร์การแพทย์ การพยาบาลและการสาธารณสขุ เม่อื พ.ศ. ๒๕๓๕ ๑๓ “ประวตั โิ รงเรยี นวดั สาขลา” ใน ครบรอบ ๑๐๐ ปี โรงเรยี นชมุ ชนวดั สาขลา. ม.ป.ท., ๒๕๕๗, หน้า ๑๔ - ๑๙. ๑๔ พระบาทสมเดจ็ พระปกเกล้าเจ้าอยหู่ ัว ทรงไดร้ ับยกย่องจากยเู นสโก เม่อื พ.ศ. ๒๕๕๖ เน่ืองในโอกาสฉลองวันพระราชสมภพครบ ๑๒๐ ปี ให้เป็นบุคคลส�ำคัญของโลก ในฐานะ “กษัตริย์ นักประชาธิปไตย” ทรงมีผลงานดีเด่นด้านการศึกษา วิทยาศาสตร์ วัฒนธรรม สังคมศาสตร์ และ ส่อื สารมวลชน ๑๕ กรมวชิ าการ, “เอกสารรชั กาลท่ี ๗” ใน แนวพระราชดำ� รเิ กา้ รชั กาล. กรงุ เทพฯ: โรงพมิ พ์ ครุ สุ ภาลาดพรา้ ว, ๒๕๒๗, หนา้ ๒๓๓. ๑๖ กรมวชิ าการ, “เอกสารรชั กาลที่ ๗” ใน แนวพระราชดำ� รเิ กา้ รชั กาล. กรงุ เทพฯ: โรงพมิ พ์ คุรุสภาลาดพร้าว, ๒๕๒๗, หน้า ๒๔๗. ๑๗ กรมวชิ าการ แม้ประวัติการกอ่ ต้ังจะระบุว่าเป็น พ.ศ. ๒๔๙๕ ก็ตาม แตแ่ ทท้ ่จี รงิ แลว้ ความเปน็ หนว่ ยงานวชิ าการ ระดบั กอง ระดบั กรมมมี าชา้ นาน ดงั ปรากฏชอื่ กองสอบไล่ ใน พ.ศ. ๒๔๖๑ กรมราชบัณฑิต เปลี่ยนช่ือเป็น กรมต�ำรา ใน พ.ศ. ๒๔๖๓ กรมวิชชาธิการ ต้ังเมื่อ พ.ศ. ๒๔๗๒ มสี ว่ นราชการในสงั กดั คอื กองกลาง, กองสถติ แิ ละรายงาน, กองสอบไล,่ กองแบบเรยี น, กองโรงพมิ พ,์ และมขี อ้ มลู วา่ ยบุ กรมวชิ าการ เปลย่ี นเปน็ กรมอาชวี ศกึ ษา เพอ่ื ดแู ลจดั การอาชวี ศกึ ษาเพยี งดา้ นเดยี ว เมื่อ พ.ศ. ๒๔๘๔ จงึ เขา้ ใจวา่ ช่ือหนว่ ยงานน้เี คยใชร้ ่วมกับงานดา้ นอาชวี ศกึ ษามากอ่ น ๑๘ พ.ศ. ๒๕๔๖ ยเู นสโกไดย้ กย่องหมอ่ มหลวงปิ่น มาลากุล เป็นบคุ คลสำ� คญั ของโลกดา้ น การศกึ ษาวทิ ยาศาสตร์ วฒั นธรรม สงั คมศาสตร์ และสอื่ สารมวลชน เนอื่ งในโอกาสชาตกาลครบ ๑๐๐ ปี ท่านดำ� รงตำ� แหนง่ ปลัดกระทรวงศึกษาธกิ าร พ.ศ. ๒๔๘๙ - ๒๕๐๐ และดำ� รงตำ� แหน่งรัฐมนตรวี า่ การ กระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ. ๒๕๐๐ - ๒๕๑๒ ๑๙ หมอ่ มหลวงบญุ เหลอื เทพยสวุ รรณ ได้รับการยกย่องจากยเู นสโก เม่ือ พ.ศ. ๒๕๕๕ วา่ เปน็ บคุ คลสำ� คญั ของโลกดา้ นการศกึ ษา วฒั นธรรม ภาษา และวรรณคดี การสง่ เสรมิ สถานภาพสตรี และสง่ เสริมสันตภิ าพ เนอื่ งในโอกาสชาตกาลครบ ๑๐๐ ปี ๒๐ พ.ศ. ๒๕๓๙ ยเู นสโกไดท้ ลู เกลา้ ฯ ถวายเหรยี ญฟเิ ล แดพ่ ระบาทสมเดจ็ พระบรมชนกาธเิ บศร มหาภมู พิ ลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพติ ร เน่ืองในโอกาสฉลองสริ ริ าชสมบัติครบ ๕๐ ปี ในฐานะ ท่ีทรงอุทิศพระองค์เพ่ือการพัฒนาชนบท และความเปน็ อย่ทู ่ดี ขี องประชาชน สมเดจ็ พระศรนี ครนิ ทราบรมราชชนนี ทรงไดร้ บั การยกยอ่ งจากยเู นสโก เมอ่ื พ.ศ. ๒๕๔๓ เน่ืองในวาระฉลองวันพระราชสมภพครบ ๑๐๐ พรรษา ทรงได้รับยกย่องเป็นบุคคลส�ำคัญของโลก ด้านการศกึ ษา วทิ ยาศาสตรป์ ระยกุ ต์ การพฒั นามนษุ ย์ สังคมและส่ิงแวดล้อม สมเดจ็ พระเจา้ พนี่ างเธอ เจา้ ฟา้ กลั ยาณวิ ฒั นา กรมหลวงนราธวิ าสราชนครนิ ทร์ ทรงกอ่ ตง้ั สมาคมครูภาษาฝร่ังเศสแห่งประเทศไทยข้ึน ใน พ.ศ. ๒๕๒๐ และทรงได้รับการเทิดทูนพระเกียรติ จากรัฐบาลและองค์กรต่างประเทศหลายแห่ง อาทิ รัฐบาลฝรั่งเศส และยูเนสโก ด้านการศึกษา วิทยาศาสตรส์ ขุ ภาพ บทความ ๑๓ ทศวรรษ เส้นทางวิวัฒนก์ ารจัดการศึกษาไทย นางปราณี ปราบริปู เรยี บเรียง นายอิทธพิ ทั ธ์ ราชกิจจา และนางสาวปิยะพชั ร พินจิ รว่ มเรียบเรียง ๑๓ ทศวรรษ : ๑๓๐ ปี กระทรวงศึกษาธกิ าร 75

กระทรวงศกึ ษา พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทร มหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้พระราชทาน คุณค่าคู่ฟา้ ไทย พระบรมราโชบาย ดา้ นการศกึ ษาเพอ่ื มงุ่ สรา้ งพนื้ ฐานใหแ้ กผ่ เู้ รยี น ให้ผู้เกี่ยวข้องได้น้อมน�ำไปปฏบิ ตั ใิ หบ้ งั เกดิ ผล ซง่ึ ประกอบดว้ ย 76 ๑๓ ทศวรรษ : ๑๓๐ ปี กระทรวงศึกษาธิการ แนวพระบรมราโชบาย ๔ ประการ คอื ประการแรก การมที ศั นคติ ทถ่ี กู ตอ้ งตอ่ บา้ นเมือง ประการทส่ี อง การมีพนื้ ฐานชีวิตท่มี ัน่ คง - มีคุณธรรม ประการที่สาม การมงี านทำ� - มีอาชีพ และประการ สุดท้าย คือ การเป็นพลเมืองดี ซึ่งสอดคล้องกับความมุ่งหมาย และหลักการของการจัดการศึกษาที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติ การศกึ ษาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒ และทแี่ ก้ไขเพม่ิ เตมิ (ฉบบั ที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๕ ว่าการจดั การศกึ ษา ตอ้ งเปน็ ไปเพอื่ พัฒนาคนไทย ให้เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ทั้งร่างกายและจิตใจ สติปัญญา ความรู้ และคณุ ธรรมมจี รยิ ธรรม และวฒั นธรรมในการดำ� รงชวี ติ สามารถ อยรู่ ว่ มกบั ผอู้ น่ื อยา่ งมคี วามสขุ ทงั้ น้ี กระทรวงศกึ ษาธกิ ารไดก้ ำ� หนด นโยบาย ใหห้ นว่ ยงานทางการศกึ ษาในสงั กดั ไดน้ ำ� ไปเปน็ หลกั ในการ ขบั เคลอ่ื นสกู่ ารปฏิบัติให้ประสบผลสำ� เร็จ

กระทรวงธรรมการ มีหน้าท่ีส่งเสริมการศึกษาให้ทั่วถึง การศึกษาในยุคของพระบาทสมเด็จพระปรมินทร เทา่ เทยี ม เสมอภาค สรา้ งโอกาสทางการศกึ ษา มหี นว่ ยงานในสงั กดั มหาประชาธิปก พระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเน้นสร้างและอบรม คอื ครูดีให้มีเพ่ิมขึ้นจ�ำนวนมาก ทั้งครูประถมและครูมัธยม จัดหา ต�ำราเรียนภาษาไทยให้เพียงพอ แก้หลักสูตรให้นับถือตัว ๑. กรมธรรมการกลาง และประเทศชาติ สามารถประกอบอาชีพให้เป็นคุณประโยชน์ ๒. กรมศกึ ษาธกิ าร เลย้ี งตวั เองต่อไปไดใ้ นภายภาคหน้า ๓. กรมพยาบาล ๔. กรมพพิ ิธภณั ฑ์ ต่อมารัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทร ๕. กรมสงั ฆการี มหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร แม้เป็นเพียงช่วง เมอื่ พทุ ธศกั ราช ๒๔๖๒ ไดเ้ ปลย่ี นชอ่ื กระทรวงธรรมการ ระยะเวลาสนั้ ๆ แตพ่ ระองคส์ นพระราชหฤทยั ในการศกึ ษา โดยทรงให้ เปน็ กระทรวงศึกษาธิการ ตอ่ มาพทุ ธศักราช ๒๔๖๙ ได้เปลย่ี นช่อื ความส�ำคัญกับการศึกษาตลอดชีวิต และมุ่งมั่นให้ผลิตแพทย์ กลับมาเป็นกระทรวงธรรมการอกี คร้งั จนถงึ พุทธศักราช ๒๔๘๔ เพ่มิ มากขึน้ เพื่อใหเ้ พยี งพอแก่ประชาชน รชั สมยั ของพระบาทสมเดจ็ พระปรเมนทรมหาวชริ าวธุ ฯพระมงกฎุ เกลา้ เจา้ อยหู่ วั ไดเ้ ปลย่ี นชอ่ื มาเปน็ กระทรวงศกึ ษาธกิ าร จนถงึ ปจั จบุ นั ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร จากพระบรมราโชบาย การใหก้ ลุ บตุ ร กลุ ธดิ า ทกุ หมเู่ หลา่ มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พระองค์ทรงให้ ได้รับการศึกษาอย่างเท่าเทียมกัน ด้วยสายพระเนตรท่ีกว้างไกล ความส�ำคญั ในเร่อื งของการศกึ ษาเปน็ อย่างยิ่ง มพี ระราชปรารภ และทรงเล็งเห็นว่าการศึกษาเป็นหัวใจส�ำคัญของการพัฒนา ให้การศึกษาเป็นพื้นฐานการประกอบอาชีพ มีบทบาทในการ ประเทศ ประเทศชาติใดที่มีทรัพยากรมนุษย์ที่ได้รับการศึกษา พัฒนาทรัพยากรมนุษย์ให้มีคุณภาพและมีคุณธรรม เพ่ือสร้าง อยา่ งพอเพยี ง กจ็ ะนำ� พาประเทศไปสคู่ วามรงุ่ เรอื ง ผคู้ นอยรู่ ว่ มกนั สงั คมแหง่ การเรยี นรใู้ นการพฒั นาประเทศ ทรงใหโ้ อกาสการเรยี นรู้ อยา่ งเปน็ สขุ ประเทศชาตใิ ดทมี่ ที รพั ยากรมนษุ ยท์ ไี่ มไ่ ดร้ บั การศกึ ษา ส�ำหรับผู้เรียนที่อยู่ห่างไกลในถ่ินทุรกันดาร กลุ่มชาติพันธุ์ กลุ่ม อยา่ งเพยี งพอ กจ็ ะนำ� พาประเทศไปสู่ความล้าหลังและล่มสลาย ผู้ด้อยโอกาสและขาดทุนทรัพย์ทางการศึกษา พระราชทาน ผู้คนยากไร้ และจะขาดความสุข พระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ก่อตั้งมูลนิธิ โครงการ และ กระทรวงศึกษาธิการในแต่ละยุคสมัย จึงได้สนอง พระราชกรณียกจิ เช่น โครงการศึกษาทุนพระราชทาน โครงการ พระบรมราโชบายดา้ นการศกึ ษาของราชวงศจ์ กั รเี รอ่ื ยมา ยคุ สยู่ คุ มูลนิธิพระดาบส โรงเรียนราชประชาสมาสัย โครงการจัดสร้าง รุ่นสู่รุ่น เพ่ือสร้างเด็กและเยาวชนของชาติให้เจริญก้าวทัน โรงเรยี นเจา้ พอ่ หลวงอปุ ถมั ภ์ มลู นธิ ทิ างไกลผา่ นดาวเทยี ม มลู นธิ ิ อารยประเทศ ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปรมินทร ช่วยครูอาวุโสในพระบรมราชูปถัมภ์ พระราชกรณียกิจ และ มหาจฬุ าลงกรณ พระจลุ จอมเกลา้ เจา้ อยหู่ วั ทรงเนน้ จดั การศกึ ษา พระบรมราโชวาททพ่ี ระราชทานแกบ่ ณั ฑติ โครงการสารานกุ รมไทย ให้พัฒนาคนรอบด้าน ให้มีความรู้พื้นฐาน ความสามารถ สำ� หรบั เยาวชนตามพระราชประสงค์ นาคหลวง เปน็ ตน้ พระปรชี า ในการประกอบสัมมาชีพการงาน เข้าใจศิลปะในการด�ำรงชีวิต สามารถของพระองคเ์ กดิ ข้นึ อยา่ งต่อเนือ่ งสบื มาจวบจนปจั จบุ ัน และการมีศีลธรรมจรรยาบรรณ เพ่ือความสงบสุขของชาติ บา้ นเมอื ง ตอ่ มารชั สมยั ของพระบาทสมเดจ็ พระรามาธบิ ดศี รสี นิ ทร มหาวชิราวธุ พระมงกฎุ เกลา้ เจ้าอย่หู วั ทรงเน้นสร้างใหพ้ ลเมือง ต้องรู้หนังสือก่อน โดยฝึกสอนเด็กหลายอย่าง ฝึกฝนศิลปวิทยา รอบตวั พฒั นาท้ังกายและจิตใจ ๑๓ ทศวรรษ : ๑๓๐ ปี กระทรวงศึกษาธกิ าร 77

พระราชปณธิ านในสมเดจ็ พระบรมชนกนาถ ไดถ้ า่ ยทอด ๓. มงี านท�ำ - มีอาชีพ มายังพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทร (๑) การเลี้ยงดูลูกหลานในครอบครัว หรือ มหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงสืบสาน รักษา ต่อยอด พระราชทานพระบรมราโชบายด้านการศึกษาเพ่ือ การฝึกฝนอบรมในสถานศึกษา ต้องมุ่งให้ ม่งุ สรา้ งพืน้ ฐานให้แกผ่ เู้ รยี นและผ้เู กี่ยวขอ้ ง ได้น้อมนำ� ไปปฏบิ ัติ เด็กและเยาวชน รกั งาน สูง้ าน ทำ� จนงาน ใหบ้ งั เกดิ ผล พระองคท์ รงใหค้ วามสำ� คญั กบั การศกึ ษาเพอื่ มงุ่ สรา้ ง ส�ำเรจ็ พน้ื ฐานใหผ้ เู้ รยี น ๔ ดา้ น ดงั น้ี (๒) การฝึกฝนอบรมทั้งในหลักสูตรและนอก หลักสูตร ต้องมีจุดมุ่งหมายให้ผู้เรียน ๑. มที ศั นคตทิ ่ีถูกต้องตอ่ บา้ นเมอื ง ท�ำงานเป็น และมีงานทำ� ในท่สี ดุ (๑) มีความร้คู วามเขา้ ใจต่อชาติบา้ นเมือง (๓) ต้องสนับสนุนผู้ส�ำเร็จหลักสูตรมีอาชีพ (๒) ยดึ ม่นั ในศาสนา มีงานท�ำ จนสามารถเล้ียงตัวเอง และ (๓) มนั่ คงในสถาบนั พระมหากษตั ริย์ ครอบครวั (๔) มีความเอ้ืออาทรต่อครอบครัวและชุมชน ๔. เป็นพลเมืองดี ของตน (๑) การเปน็ พลเมอื งดี เป็นหนา้ ทีข่ องทกุ คน ๒. มีพน้ื ฐานชีวิตที่มนั่ คง - มีคุณธรรม (๒) ครอบครวั - สถานศกึ ษาและสถานประกอบการ (๑) รู้จกั แยกแยะสงิ่ ท่ผี ดิ - ชอบ/ชว่ั - ดี ต้องส่งเสริมให้ทุกคนมีโอกาสท�ำหน้าท่ี (๒) ปฏิบัติแตส่ ิง่ ที่ชอบ ส่งิ ทีด่ ีงาม เป็นพลเมอื งดี (๓) ปฏเิ สธส่งิ ท่ผี ิด สงิ่ ท่ีชวั่ (๓) การเปน็ พลเมอื งดคี อื “เหน็ อะไรทจี่ ะทำ� เพอื่ (๔) ช่วยกันสรา้ งคนดใี หแ้ ก่บ้านเมอื ง บา้ นเมอื งไดก้ ต็ อ้ งทำ� ” เชน่ งานอาสาสมคั ร งานบ�ำเพ็ญประโยชน์ งานสาธารณกุศล ใหท้ ำ� ดว้ ยความมนี ำ้� ใจ และความเออื้ อาทร จะเห็นได้ว่า กระทรวงศึกษาธิการเป็นหน่วยงานท่ีด�ำรงอยู่ยาวนานมาถึง ๑๓๐ ปี มีอ�ำนาจหน้าท่ีเก่ียวกับการส่งเสริม และ กำ� หนดหนา้ ทดี่ แู ลการจดั การศกึ ษา ทกุ ระดบั ทกุ ประเภท รวมถงึ การกำ� หนดนโยบาย แผน และมาตรฐานการศกึ ษา สนบั สนนุ ทรพั ยากร เพ่ือการศึกษา การติดตาม ตรวจสอบ และประเมินผลการจัดการศึกษา ถือว่าเป็นกระทรวงที่มีความส�ำคัญมาก เน่ืองจากเป็นองค์กร ท่ีมีหน้าท่ีโดยตรงในการขับเคล่ือนระบบการศึกษาของประเทศ ซ่ึงเก่ียวข้องกับการพัฒนาคน ประชากร ทรัพยากรบุคคลของประเทศ ใหม้ คี ุณภาพ เพื่อเป็นพลเมืองทีด่ ขี องชาติตามพระบรมราโชบายของพระบรมราชจักรวี งศ์ตลอดมา บทเพลงเสมาคฟู่ า้ ไทย ถกู แตง่ ขนึ้ เพอื่ เปน็ อนสุ รณค์ วามเปน็ มาของกระทรวงศกึ ษาธกิ าร ซง่ึ ในรชั สมยั พระบาทสมเด็จพระปรมินทร มหาจฬุ าลงกรณ พระจลุ จอมเกลา้ เจา้ อยหู่ วั สมยั นนั้ มมี ลู เหตหุ ลายประการทต่ี อ้ งปฏริ ปู การปกครอง เชน่ ภยั คกุ คามจากประเทศมหาอำ� นาจ อำ� นาจการบรหิ ารตกอยทู่ ข่ี นุ นางผใู้ หญ่ และได้รบั อิทธิพลจากเจ้านายและขา้ ราชการท่ไี ดไ้ ปศึกษามาจากตะวันตก มกี ารยกเลกิ ตำ� แหนง่ สมุหนายก สมหุ พระกลาโหม ยกเลกิ การปกครองระบบจตสุ ดมภ์ มกี ารตง้ั กระทรวงบรหิ ารราชการแผน่ ดนิ ๑๒ กระทรวง ประกอบดว้ ย ๑. กลาโหม ๗. ยทุ ธนาธิการ ๒. นครบาล ๘. โยธาธกิ าร ๓. วัง ๙. ยุติธรรม ๔. เกษตรพานิชการ ๑๐. มรธุ าธร ๕. พระคลังสมบัติ ๑๑. มหาดไทย ๖. การต่างประเทศ ๑๒. ธรรมการ วีระ แข็งกสิการ เรยี บเรยี ง 78 ๑๓ ทศวรรษ : ๑๓๐ ปี กระทรวงศึกษาธิการ

เสมาค่ฟู า้ ไทย ปลายธงพลิว้ ล่วิ ลมโชยสะบดั งามเด่นชดั คณุ ค่าสมศักดิศ์ รี สองสี่สามห้าธงเสมาเริม่ ต้นมี มงุ่ หมายหนา้ ที่สร้างชาตแิ ละสร้างคน กล้วยไม้งามออกช้าแลวไิ ล การศกึ ษางดงามไปทุกแหง่ หน แม้ไกลสดุ แควน้ แดนกันดารล้านต�ำบล ทัว่ ทกุ แหง่ หนเยาวชนตอ้ งไดเ้ รียน วงั จันทรเกษมกระทรวงศึกษาธิการ งามตระหง่านอุดมการณม์ แิ ปรเปล่ยี น ราโชบายจักรีวงศ์สถติ เสถยี ร เพอ่ื ยุวชนได้เล่าเรียนเพยี รวชิ า ปลายธงพล้วิ ไหวโบยยง่ั ยืนนาน เพอ่ื สบื สานตำ� นานการศกึ ษา สามคั คี รว่ มกนั สรา้ งสรรคผ์ ่านกาลเวลา กระทรวงศกึ ษาคุณค่าคฟู่ า้ ไทย เนื้อรอ้ งและท�ำนอง วีระ แขง็ กสิการ รับชมวดี ทิ ศั นเ์ พลง เสมาคฟู่ า้ ไทย อา้ งองิ กระทรวงศึกษาธิการ. สํานักงานเลขาธิการสภาการศึกษา. เรียนรูจากกระแสพระราชดํารัสพระบาทสมเด็จพระเจาอยู่หัว พระราชทานเมอื่ วนั ท่ี๔ธนั วาคม๒๕๔๖ทเี่ กย่ี วขอ งกบั การศกึ ษา.กรงุ เทพฯ:สำ� นกั งานเลขาธกิ ารสภาการศกึ ษา,๒๕๔๗. (PL ๔๒๐๙.๕ ภ๗๓ศ๖๒ร๘). สำ� นกั งานเลขาธกิ ารสภาการศึกษา. รายงานการศึกษาไทย พ.ศ.๒๕๖๑ (Education in Thailand 2018). กรงุ เทพฯ : ๒๕๖๑. ๑๓ ทศวรรษ : ๑๓๐ ปี กระทรวงศกึ ษาธกิ าร 79

เดก็ ไทย ไมแ่ พช้ าติใด 80 ๑๓ ทศวรรษ : ๑๓๐ ปี กระทรวงศึกษาธกิ าร

เมื่อวันท่ี ๗ ธันวาคม ๒๕๖๔ กระทรวงศึกษาธิการ ประกาศผลการคัดเลือกเด็กและเยาวชนดีเด่น เด็กและเยาวชน ที่นำ�ช่ือเสียงมาสู่ประเทศชาติ ประจำ�ปี ๒๕๖๕ โดยในปีนี้ มีเด็กและเยาวชนดีเด่นท่ีได้รับรางวัลจำ�นวนทั้งส้ิน ๕๕๐ คน เด็กและเยาวชนท่ีนำ�ชื่อเสียงมาสู่ประเทศ จำ�นวน ๓๒๔ คน รวมท้ังสิ้น ๘๗๔ คน ซึ่งเด็กและเยาวชนที่ได้รับรางวัล ผ่านการคัดเลือกจากคณะกรรมการผู้เช่ียวชาญในแต่ละด้าน ซึ่งเป็นเด็กท่ีชนะการแข่งขันระดับนานาชาติและระดับประเทศ มาแล้ว โดยแบ่งเป็น ๕ ด้าน คือ ๑) ด้านวิชาการ ๒) ด้านศิลปวัฒนธรรมและดนตรี ๓) ด้านทักษะฝีมือวิชาชีพ ๔) ด้านกีฬานันทนาการ และ ๕) ด้านศีลธรรม คุณธรรม และจริยธรรม ส่วนหนึ่งจากความภาคภูมิใจของเด็กและเยาวชนไทย ที่ได้รับรางวัลจากการแข่งขันประเภทต่าง ๆ ที่น�ำชื่อเสียงมาสู่ ประเทศชาติ ประจ�ำปี ๒๕๖๕ น้ี จึงฝากเรื่องราวความประทับใจ และเส้นทางแห่งความฝนั ไว้กบั กระทรวงศกึ ษาธิการ ๑๓ ทศวรรษ : ๑๓๐ ปี กระทรวงศึกษาธิการ 81

เด็กและเยาวชนส่วนหนงึ่ ท่ีนำ� ชือ่ เสยี งมาสู่ประเทศชาติ ประจำ� ปี ๒๕๖๕ ดา้ นวชิ าการ ประเภททมี ๓ คน นายดวิษ บญุ ยกิจโณทัย อายุ ๑๘ ปี โรงเรยี นกำ� เนิดวทิ ย์ จงั หวัดระยอง คิดวา่ เป็นจดุ พลิกผันชีวติ ของผมเลยครบั รางวัล second award จาก Regeneron ISEF ถอื เปน็ รางวัลที่ใหญม่ าก ๆ ครบั เปน็ ส่งิ ทีภ่ มู ิใจที่สดุ ในชวี ติ ทผ่ี มเคยไดม้ า ผมชอบเรียนคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ โดยส่วนตัว การแขง่ ISEF ในโอกาสตา่ ง ๆ ทผี่ มคดิ วา่ เปลย่ี นแปลงเยอะทสี่ ดุ ผมชอบวิชาเคมีที่สุด เน่ืองจากเคมีเป็นวิชาที่ใช้ท้ังการจ�ำ น่าจะเป็นเรื่องการเรียนต่อในมหาวิทยาลัยครับ ผมเริ่มคิด และการคำ� นวณ ผมรสู้ ึกสนกุ กบั การดปู ฏิกริ ิยาเคมี และโรงเรยี น ที่จะไปเรียนต่อท่ีสหรัฐอเมริกา เน่ืองจากรางวัล ISEF ถือเป็น ก�ำเนิดวิทย์ได้เปิดโอกาสให้เด็กนักเรียนได้เลือกท�ำงานวิจัย ใบเบกิ ทางทด่ี ใี นการเขา้ มหาวิทยาลยั ทีใ่ ฝฝ่ ัน ในสาขาท่ีชอบได้ และโรงเรียนมีห้องแล็บ พร้อมทั้งเครื่องมือ ท่ีทันสมัยมาก ๆ ผมจึงเลือกท�ำโครงงานกับเพื่อนสนิทสองคน ผมวางแผนเรียนต่อในสาขาวิศวกรรมเคมีที่ประเทศ ที่ชอบเคมีเหมือนกัน และมีอาจารย์สุรนันท์ อาจารย์สอนเคมี สหรัฐอเมริกา หรือประเทศแคนาดาครับ ที่ผมตัดสินใจเรียน ที่โรงเรียน และอาจารย์กนกอร อาจารย์เคมีท่ีมหาวิทยาลัย วิศวกรรมเคมี เพราะผมชอบกระบวนการผลิตในโรงงาน เทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี เปน็ ท่ีปรึกษาโครงงานครบั และยงั ไดเ้ รยี นวชิ าเคมที เี่ ราชอบ แตไ่ ดอ้ ยใู่ นบรบิ ททเ่ี ปลย่ี นแปลงไป เนื่องจากมีการประยุกต์มากขึ้น โดยในตอนนี้ผมอยากเรียน คิดว่าเป็นจุดพลิกผันชีวิตของผมเลยครับ รางวัล ปรญิ ญาตรีและปริญญาโทในสาขาวิศวกรรมเคมี และต่อปริญญา second award จาก Regeneron ISEF ถอื เปน็ รางวลั ทใี่ หญม่ าก ๆ โทสาขาบริหารธุรกิจอีกหน่ึงใบ หลังเรียนจบผมจะเปิดธุรกิจเป็น เป็นสิ่งที่ภูมิใจท่ีสุดในชีวิตที่ผมเคยได้มา รางวัลน้ีท�ำให้ผม ของตัวเองที่ประเทศไทย โดยใช้ความรู้วิศวกรรมเคมีและธุรกิจ เรมิ่ มนั่ ใจในตวั เองวา่ เรากม็ ศี กั ยภาพ มคี วามสามารถ นอกจากนี้ ทีเ่ รยี นมา สร้างโรงงานผลติ ผลิตภณั ฑ์อาหารแบรนด์ของตัวเอง ทาง YSC ได้เชิญผมและเพ่ือน ๆ ไปพดู เกยี่ วกบั การทำ� โครงงาน 82 ๑๓ ทศวรรษ : ๑๓๐ ปี กระทรวงศกึ ษาธิการ

นายกจิ การ นำ� สว่างรุ่งเรือง อายุ ๑๘ ปี โรงเรยี นกำ� เนิดวิทย์ จงั หวดั ระยอง เราเกดิ มามแี คช่ วี ิตเดยี ว การท่มุ เทใหก้ ับสิง่ ท่เี ราชอบน่าจะเป็นสง่ิ ที่ดีที่สดุ ผมชอบวิชาเคมีมาต้ังแต่ช้ันมัธยมศึกษาปีที่ ๓ โลกมนุษย์มันโหดร้ายครับ เพราะคนภายนอกจะตัดสิน เพราะบงั เอญิ ไดเ้ ขา้ คา่ ย สอวน.เคมี คา่ ยครงั้ นน้ั ไดเ้ ปดิ ประสบการณ์ เราจากแค่ผลงานของเรา ไม่ใช่การกระท�ำของเรา พอผมได้รับ ให้กับผมมากครับ ได้เรียนท้ังภาคทฤษฎีและก็ภาคปฏิบัติ รางวัลน้ี จึงเหมือนเป็นเคร่ืองพิสูจน์ความชอบเคมีของผม ท�ำให้ผมชอบความเป็นเหตุเป็นผลของวิชาน้ี และหน่ึงในวิชา ใหค้ นภายนอกไดร้ บั รู้ ผมไมต่ อ้ งไปบอกใครตอ่ ใครวา่ ผมชอบอะไร ทยี่ ากทสี่ ดุ คอื วชิ าเคมอี นิ ทรยี ์ ผมเลยใชเ้ วลา 1 ปี ทมุ่ เทใหก้ ารเรยี น เพราะรางวัลน้ีเป็นเครื่องการันตีอย่างดีเยี่ยม ผลงานคร้ังน้ีท�ำให้ วิชาเคมอี นิ ทรีย์ หลังจากเรียนไปเรอ่ื ย ๆ จากความรู้สกึ ท่ีวา่ ยาก ผมไดร้ บั การชนื่ ชมอยา่ งลน้ หลาม เพราะเปน็ รางวลั ทปี่ ระเทศไทย กลายเป็นว่าผมรู้สึกหลงรักอย่างบอกไม่ถูก เพราะเป็นศาสตร์ ไมไ่ ด้มานานหลายปี ที่เป็นเหตุเป็นผล ด้วยความพยายามท�ำให้ผมคว้าเหรียญทอง ในการแข่งขันเคมีโอลิมปิกระดับชาติ คร้ังที่ 16 ได้ส�ำเร็จ ผมไม่มีแนวทางการด�ำเนินชีวิตเท่าไร แค่อยากใช้ชีวิต ผมเลยไมล่ งั เลที่จะท�ำโครงงานเกี่ยวกับเคมอี ินทรยี ์ เม่ือเพือ่ น ๆ ใหส้ นกุ โดยไมอ่ อกนอกลนู่ อกทาง การใชช้ วี ติ ใหส้ นกุ นา่ จะสำ� คญั ทม่ี คี วามสามารถและมคี วามสนใจคล้าย ๆ กนั จงึ ชวนกนั มาทำ� กว่าชีวิตท่ีตึงเครียด เพราะเราเกิดมามีแค่ชีวิตเดียว การทุ่มเท โครงงานครง้ั นี้ ใหก้ บั สงิ่ ทเี่ ราชอบนา่ จะเปน็ สง่ิ ทด่ี ที สี่ ดุ แตถ่ า้ พจิ ารณาปจั จยั อนื่ ๆ ด้วยแล้ว คงจะต้องหาอาชีพที่มน่ั คง ทำ� ให้สามารถเล้ยี งดูตนเอง และครอบครัวได้ นายธิติ เถลิงบุญสริ ิ อายุ ๑๘ ปี โรงเรียนกำ� เนดิ วทิ ย์ จงั หวัดระยอง สำ� หรับผมแลว้ คณิตศาสตรแ์ ละวทิ ยาศาสตร์เปน็ วิชาทีม่ เี สนห่ ค์ รับ ผมชอบในหลักการ ทุกอยา่ งสามารถอธบิ ายไดด้ ว้ ยหลักของเหตผุ ล มหี ลักฐานยืนยันและมเี หตมุ ผี ลท่เี ชือ่ ถือได้ ส�ำหรับผมแล้วคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์เป็นวิชา การทำ� โครงงานนไ้ี มไ่ ดเ้ กย่ี วขอ้ งกบั การแขง่ ขนั แตอ่ ยา่ งใด ที่มีเสน่ห์ครับ ผมชอบในหลักการ ทุกอย่างสามารถอธิบายได้ ผมท�ำโครงงานนี้ขึ้นมา เพราะสนใจและอยากทจี่ ะศึกษาเก่ียวกบั ด้วยหลกั ของเหตผุ ล มีหลักฐานยืนยนั และมีเหตมุ ีผลทเ่ี ชื่อถือได้ ศาสตรใ์ นสาขาน้ี การแขง่ ขนั และรางวลั ทไี่ ดร้ บั เปน็ เหมอื นคณุ คา่ และชอบที่จะท�ำโครงงาน มันคือการท่ีเราจะได้เรียบเรียง ทโี่ ครงงานนม้ี อบกลบั มาให้ ในทางกลบั กนั ผมรสู้ กึ วา่ การเขา้ รว่ ม ความรทู้ เี่ รามี นำ� มาประยกุ ตใ์ ชเ้ พอ่ื แกป้ ญั หาตา่ ง ๆ ได้ การไดเ้ ขา้ รายการแข่งขันและได้ชมโครงงานของคนอื่นเป็นส่ิงท่ีสร้าง โรงเรียนก�ำเนิดวิทย์เป็นเหมือนกุญแจส�ำคัญที่ท�ำให้ผมได้ท�ำ ความเปลยี่ นแปลงใหก้ บั ชวี ติ การทไี่ ดม้ โี อกาสไปแขง่ Regeneron ในสิ่งท่ีต้องการ เพราะมีอาจารย์ท่ีมีทั้งความรู้และประสบการณ์ ISEF 2021 ท�ำให้ผมได้เจอกับเพื่อนต่างชาติท่ีมีไอเดีย มีเคร่ืองมือและอปุ กรณ์การทดลองต่าง ๆ รวมท้งั มีเพื่อนท่สี นใจ ทางวิทยาศาสตร์ท่ีหลากหลาย ผมได้พบเห็นมุมมองความคิด อยากท�ำในส่ิงเดียวกัน ผมได้เจอเพื่อนอีกสองคนที่รู้สึกสนใจ ที่แตกต่างท้ังจากผู้เข้าแข่งคนอ่ืน และจากกรรมการที่มาตัดสิน ในปฏิกิริยาของสารอินทรีย์เหมือนกัน เราได้เร่ิมท�ำโครงงาน สิ่งนี้จุดประกายและเป็นแรงบันดาลใจให้ผมอยากที่จะสรรค์สร้าง เพื่อสร้างชุดเครื่องตรวจจับไอออนโลหะหนัก โดยใช้สารอินทรีย์ แนวคดิ ทางวิทยาศาสตร์ออกมาให้มากข้ึน รวมทงั้ ยงั ทำ� ใหส้ นใจ เป็นเซนเซอร์ตรวจจับ การทไ่ี ด้ท�ำในสิ่งทส่ี นใจและชอบ ถือเป็น วทิ ยาศาสตร์สาขาอืน่ มากขึ้นด้วยครบั ประสบการณท์ ่ีดีมากจรงิ ๆ ๑๓ ทศวรรษ : ๑๓๐ ปี กระทรวงศกึ ษาธิการ 83

ด้านวชิ าการ ประเภทเดี่ยว ด้านวิชาการ ประเภทเด่ยี ว เดก็ ชายพิพชิ ชญะ ศรีดำ� อายุ ๑๔ ปี โรงเรียนนานาชาตบิ ลูมสเ์ บอร่ีหาดใหญ่ จังหวดั สงขลา รสู้ กึ ตื่นเตน้ ทุกครงั้ ก่อนการสอบ และสนกุ ไปกบั การแข่งขนั ครบั ครงั้ น้ผี มไดม้ ีโอกาสลงแข่งขัน ในสนามท่ยี ่งิ ใหญ่ทส่ี ดุ ในวงการการแข่งขันคณติ ศาสตร์ ผมเปน็ คนหาดใหญค่ รบั และเปน็ เดก็ ตา่ งจงั หวดั พอ่ และแม่ หลังจากได้รางวัลมาแล้วรู้สึกโล่งอย่างบอกไม่ถูก ของผมเป็นหมอทั้งคู่ ผมเริ่มรู้สึกชอบในวิชาคณิตศาสตร์ เหมือนกบั ว่าสงิ่ ทที่ �ำมาทงั้ หมดประสบความส�ำเร็จ ผมรูส้ ึกพอใจ ตอนประถมศึกษาปีท่ี ๒ ตอนน้ันทางโรงเรียนได้มีการเชิญชวน กับผลลัพธ์ที่ได้ และการท่ีผมได้ท�ำเป้าหมายที่วางไว้ให้ส�ำเร็จ นักเรียนไปแข่งขันคณิตศาสตร์ระดับประเทศ ทางครอบครัว ช่วยให้ผมมีความมั่นใจมากข้ึน ส่วนชีวิตประจ�ำวันไม่ได้มีอะไร เหน็ วา่ ผมชอบ จงึ พยายามสง่ เสรมิ ผมในดา้ นนี้ การแขง่ ขนั ครงั้ แรก เปลี่ยนแปลงมากเท่าไหร่ จะมีก็แค่ผมอาจไม่ได้ท�ำโจทย์บ่อย ผมไดเ้ หรยี ญทองแดงครบั แต่ผมไมไ่ ดร้ ู้สกึ เสียใจอะไร กลบั รสู้ ึก อยา่ งทเี่ คย เพราะผมลองพยายามใหเ้ วลากบั เรอื่ งอนื่ ๆ หรอื ลองอะไร สนุกมากกว่า นับแต่น้ันมาผมก็ฝึกฝนตัวเองโดยมีพ่อแม่ ใหม่ ๆ ดบู ้าง และครคู อยชว่ ยเหลอื ชแ้ี นะแนวทาง ตอ่ มาเมอ่ื ผมศกึ ษาอยปู่ ระถม ศึกษาปีท่ี ๕ ก็ได้ย้ายไปเรียนที่โรงเรียนนานาชาติ เพ่ือท่ีจะมา ถ้าเป็นไปได้ ผมอยากท่ีจะไปศึกษาต่อที่ประเทศ พฒั นาศกั ยภาพของตวั เอง พอขนึ้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี ๑ กไ็ ดม้ โี อกาส สหรัฐอเมริกา ในสาขาวิชาท่ีผมชอบและสนใจ ส่วนเรื่องอาชีพ เขา้ รว่ มโครงการโอลิมปกิ และผมกไ็ ด้รบั คัดเลือกมาเปน็ ตวั แทน ตอนน้ี ผมยงั ไม่มีอาชีพในฝัน คดิ วา่ ต้องหาสง่ิ ทชี่ อบจริง ๆ และ ประเทศไทยไปแข่งคณิตศาสตร์โอลิมปิกระหว่างประเทศ พยายามสรา้ งอาชพี จากสงิ่ นนั้ แตเ่ ปน็ อาชพี ทเี่ กยี่ วขอ้ งกบั ความ สง่ิ หนง่ึ ทผ่ี มรสู้ กึ ไดว้ า่ ไมเ่ ปลยี่ นไปเลยในตวั ผม คอื จะรสู้ กึ ตน่ื เตน้ กา้ วหนา้ ในด้านเทคโนโลยี ทุกคร้ังก่อนการสอบและสนุกไปกับการแข่งขันครับ คร้ังนี้ผม ได้มีโอกาสลงแข่งขันในสนามท่ีย่ิงใหญ่ท่ีสุดของวงการแข่งขัน คณิตศาสตร์ ผมจึงรู้สึกต่ืนเต้นเป็นพิเศษ ผมต้องท�ำสมาธิ เพอ่ื สงบสติอารมณ์ก่อนเขา้ หอ้ งสอบ 84 ๑๓ ทศวรรษ : ๑๓๐ ปี กระทรวงศึกษาธกิ าร

ดา้ นวิชาการ ประเภทเดย่ี ว นายณัชพล วงศธ์ นะเกียรติ อายุ ๑๗ ปี โรงเรยี นมหดิ ลวิทยานสุ รณ์ จังหวัดนครปฐม ชีวติ เปล่ยี นไประดบั หน่ึง จากความส�ำเรจ็ ในครง้ั นเี้ ป็นแรงบนั ดาลใจใหผ้ ม เริม่ เข้าแขง่ ขนั รายการอ่นื ๆ มากย่ิงข้ึน ผมรู้สึกกังวลก่อนเข้าแข่งขัน เพราะตระหนักถึงภาระ หลังจากได้รับรางวัลแล้ว ชีวิตเปลี่ยนไประดับหน่ึง หนา้ ทใี่ นการเปน็ ตวั แทนประเทศไทย ไปแขง่ ขนั ชวี วทิ ยาโอลมิ ปกิ จากความส�ำเร็จในคร้ังน้ีเป็นแรงบันดาลใจให้ผมเร่ิมเข้าแข่งขัน ระหวา่ งประเทศ ผมพยายามแบง่ เวลาใหด้ ี เพอ่ื ใหส้ ามารถฝกึ ฝน รายการอนื่ ๆ มากยง่ิ ขนึ้ เพอ่ื เพมิ่ พนู ประสบการณ์ และฝกึ ฝนความรู้ ตนเอง ทงั้ การอ่านหนังสือ ท�ำแบบฝึกหัดตา่ ง ๆ ให้ได้มากที่สุด ของตนเองเสมอ ให้สามารถเข้าใจและจดจ�ำความรเู้ หล่านน้ั ได้ และในขณะเดยี วกนั ผมกพ็ กั ผอ่ นใหเ้ พยี งพอ เพอื่ ใหส้ ขุ ภาพแขง็ แรง ส�ำหรับการแข่งขนั นั้น รวมถงึ ทำ� กจิ กรรมนันทนาการอื่น ๆ ดว้ ย ในอนาคตผมจะคอยหมน่ั ทบทวนความรขู้ องตนเอง และ เพื่อไม่ให้เครียดจนเกินไป ในช่วงเวลาการเตรียมตัวเข้าแข่งขัน คน้ หาในสง่ิ ทช่ี อบ เพอ่ื ศกึ ษาตอ่ ในระดบั อดุ มศกึ ษาทม่ี คี วามสนใจ มคี ณาจารยท์ ค่ี อยชว่ ยเหลอื และใหค้ วามรเู้ พม่ิ เตมิ ซง่ึ เปน็ หนงึ่ ใน และถนดั รวมถงึ ผมจะพยายามทำ� กจิ กรรมตา่ ง ๆ ภายในโรงเรยี น ปัจจัยความส�ำเร็จของผม ผมจึงขอขอบคุณอาจารย์ทุก ๆ ท่าน ให้มากขึ้น เพ่ือสั่งสมประสบการณ์ ทักษะต่าง ๆ ในการท�ำงาน ที่ได้ส่งั สอนและชว่ ยเหลือผม ร่วมกบั ผู้อื่น และเพ่มิ ความเปน็ ผูน้ �ำมากย่งิ ข้ึน ๑๓ ทศวรรษ : ๑๓๐ ปี กระทรวงศึกษาธิการ 85

ด้านศิลปวฒั นธรรมและดนตรี ประเภททมี ๓ คน dancing ผู้ร่วมทีมประกอบด้วย เด็กหญิงณัฎชารีย์ ขยิ่ม อายุ ๑๓ ปี เดก็ หญงิ พชิ ามญช ์ุ ลมิ ะเสถยี รอายุ๑๓ปีและเดก็ หญงิ กลุ จริ าชาตวิ นพงศา ปจั จบุ นั ทง้ั ๓ คน กำ� ลงั ศกึ ษาอยโู่ รงเรยี นสาธติ จฬุ าลงกรณม์ หาวทิ ยาลยั ฝ่ายมัธยม ได้รับรางวัลเด็กและเยาวชนที่น�ำชื่อเสียงมาสู่ประเทศชาติ ประเภททีม ดา้ นศลิ ปวัฒนธรรมและดนตรีประจ�ำปี ๒๕๖๕ เดก็ หญงิ ณฎั ชารยี ์ ขย่มิ อายุ ๑๓ ปี โรงเรยี นสาธิตจฬุ าลงกรณ์มหาวทิ ยาลัย ฝา่ ยมธั ยม กรงุ เทพมหานคร รสู้ ึกอบอุน่ ใจทุกครัง้ ทไี่ ดเ้ ต้น กบั เพอ่ื น ๆ นอ้ ง ๆ ในทีม ดฉิ นั อยชู่ มรม cud dancing club ของโรงเรยี นมาตงั้ แต่ หลงั จากไดร้ บั รางวลั แลว้ การใชช้ วี ติ ไมม่ คี วามเปลย่ี นแปลง เรม่ิ กอ่ ตงั้ ชมรมปแี รก ชมรมของเรากอ่ ตงั้ มาเพอื่ แสดงในกจิ กรรม เกิดข้ึนสักเท่าไหร่ แต่จะมีเพื่อน ๆ และรุ่นน้องหลายคน ต่าง ๆ ท้ังภายในโรงเรียนและจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ทงั้ ในโรงเรยี นและตา่ งโรงเรยี นสอบถามขอ้ มลู เรอื่ งการรบั รางวลั นี้ หลังจากนั้นจึงเริ่มเข้าแข่งขันเวทีต่าง ๆ ในฐานะทีมโรงเรียน และก็ยังคงฝึกซ้อมเพ่ือความพร้อมส�ำหรับการแข่งขันเต้น รู้สึกภูมิใจท่ีได้เป็นส่วนหน่ึง การเต้นให้ทีมโรงเรียนสอน ในเวทีตา่ ง ๆ ที่จะมาถงึ ทัง้ แบบขนึ้ เวทจี ริงและแบบ virtual ในหลาย ๆ เรือ่ ง ทง้ั เรอื่ งความสามัคคี การแบ่งเวลา และการใช้ เวลาว่างให้เกดิ ประโยชน์ การฝกึ ซอ้ มเตน้ ทำ� ใหร้ า่ งกายแขง็ แรง และสามารถพฒั นา บคุ ลิกภาพใหส้ งา่ งามไดด้ ้วย รู้สึกตื่นเต้นทุกครั้งส�ำหรับการแข่งขัน ชอบการขึ้นเวที แขง่ ขนั และรสู้ กึ อบอนุ่ ใจทกุ ครงั้ ทไี่ ดเ้ ตน้ กบั เพอ่ื น ๆ นอ้ ง ๆ ในทมี ครูผู้ฝึกซ้อมทีมจะให้พวกเราท�ำสมาธิก่อนการแข่งขัน และจะคอยบอกให้เราเต็มท่ีไม่ว่าผลการแข่งขันจะเป็นเช่นไร ก็พร้อมท่ีจะยอมรบั และเรยี นรทู้ ุกครั้ง 86 ๑๓ ทศวรรษ : ๑๓๐ ปี กระทรวงศกึ ษาธิการ

เด็กหญงิ พิชามญชุ์ ลิมะเสถยี ร อายุ ๑๓ ปี โรงเรียนสาธติ จฬุ าลงกรณม์ หาวทิ ยาลยั ฝา่ ยมัธยม กรุงเทพมหานคร จะมุง่ ม่ันตงั้ ใจเรียนหนงั สอื และพฒั นาความสามารถให้กา้ วหนา้ ย่ิงขน้ึ เรมิ่ เรยี นเตน้ บลั เลต่ ต์ ง้ั แตอ่ นบุ าล และไดม้ โี อกาสเขา้ รว่ ม ทม่ี ชี อ่ื เสยี งและชน่ื ชอบ เพอ่ื นำ� ไปพฒั นาและปรบั ปรงุ ทกั ษะตา่ ง ๆ กิจกรรมชมรมปอมปอมของโรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์ ของตนเองให้ดขี ึ้น มหาวิทยาลัย ฝ่ายประถม ท�ำให้รู้สึกรักและชื่นชอบการเต้น จึงขยันฝึกซ้อมและเรียนเพิ่มเติม ท�ำให้มีโอกาสได้เข้าร่วม ภูมิใจและดีใจกับรางวัลท่ีได้รับ ชีวิตไม่ได้มีการ การแข่งขนั ทัง้ ในประเทศและต่างประเทศ เปลี่ยนแปลงไปมากนัก ยังคงเรียนและหม่ันฝึกซ้อมในสิ่งท่ีรัก อยู่เสมอ เพื่อพัฒนาตนเองใหก้ า้ วหน้าตอ่ ไป เตรียมความพร้อมให้ตัวเอง หม่ันฝึกซ้อมสม่�ำเสมอ ไม่ว่าจะมีการแข่งขันหรือไม่ และออกก�ำลังกายดูแลสุขภาพ จะมุ่งม่ันตั้งใจเรียนหนังสือ และพัฒนาความสามารถ ให้แข็งแรง เรียนรู้การเต้นจากการดูคลิปวิดีโอของนักเต้น ให้ก้าวหน้าย่ิงข้ึน เพื่อการไปศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัย และน�ำความรูค้ วามสามารถไปประกอบอาชีพได้ในอนาคต เดก็ หญงิ กุลจิรา ชาติวนพงศา อายุ ๑๓ ปี โรงเรยี นสาธิตจุฬาลงกรณม์ หาวิทยาลัย ฝา่ ยมัธยม กรุงเทพมหานคร รู้สกึ ตื่นเตน้ ทุกคร้ังก่อนข้ึนเวที แต่กส็ ามารถรวบรวม สมาธไิ ด้ กอ่ นท่จี ะเข้าแข่งขันก็จะเปดิ เพลง เพอ่ื ซ้อมและทบทวน ตอนที่เรียนอยู่ช้ันประถมศึกษาปีท่ี ๒ ได้เข้าประกวด รู้สึกต่ืนเต้นทุกคร้ังก่อนขึ้นเวที แต่ก็สามารถรวบรวม ปอมปอมเชียร์ลีดเดอร์ และได้เข้าชมรม CUD DANCING สมาธไิ ด้ กอ่ นทจ่ี ะเขา้ แขง่ ขนั กจ็ ะเปดิ เพลง เพอื่ ซอ้ มและทบทวน ตอ่ มาไดเ้ ขา้ ประกวดรายการแขง่ เตน้ ประเภท JAZZ ของรายการ ท่าเต้นพร้อมกับเพอ่ื น ๆ ในทมี ATOD และได้รบั รางวัลในปี ๒๐๑๙ ได้ไปแข่ง ATOD ทีป่ ระเทศ ออสเตรเลีย จึงได้รับรางวัลเยาวชนที่น�ำชื่อเสียงมาสู่ประเทศ หลงั จากไดร้ บั รางวลั แลว้ สงิ่ ทไี่ ดค้ อื ความรสู้ กึ ภาคภมู ใิ จ ซงึ่ ปีนเี้ ปน็ ปที ่ี ๓ แล้วคะ่ กบั สงิ่ ทท่ี �ำ คดิ วา่ ตอ่ ไปจะตอ้ งแบง่ เวลาระหวา่ งเรอื่ งเรยี นและกจิ กรรม พยายามท�ำให้ดีทุกด้านและพยายามพัฒนาแต่ละด้านให้ดีข้ึน กวา่ เดิม ๑๓ ทศวรรษ : ๑๓๐ ปี กระทรวงศึกษาธิการ 87

ด้านทกั ษะฝมี อื อาชพี ประเภทเด่ยี ว ดา้ นทักษะฝีมืออาชีพ ประเภทเด่ยี ว นวัตกรรม เดก็ ชายวรญั ญู กิตติถาวรกุล อายุ ๑๑ ปี โรงเรียนสาธิตจฬุ าลงกรณม์ หาวิทยาลัย ฝา่ ยมัธยม กรงุ เทพมหานคร ผมจะพฒั นาความรู้ ความสามารถของตนเองต่อไป เร่อื ย ๆ เพือ่ ใช้เป็นเครือ่ งน�ำทางในการศึกษาต่อในอนาคต กิจกรรมที่ชอบและสนใจเป็นพิเศษ คือ การประกอบ หุ่นยนต์ การเขียนโปรแกรม Scratch และ Python รวมถึง การสร้างสรรค์งานนวัตกรรมด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ไดเ้ ขา้ รว่ มการแขง่ ขนั และทำ� กจิ กรรมตา่ ง ๆ ตงั้ แตร่ ะดบั ชน้ั ประถม ศึกษาตอนต้น ได้รับเหรียญรางวัลและใบประกาศเกียรติคุณ ทง้ั ระดบั ประเทศและระดับนานาชาติ ทกุ กจิ กรรมและการแขง่ ขนั ผมจะรสู้ กึ ตนื่ เตน้ และกงั วลใจ เล็กน้อย แต่ก็พยายามควบคุมตนเองและคิดเสมอว่า ผมไดศ้ กึ ษาคน้ ควา้ เรยี นรู้ฝกึ ฝน และเตรยี มตวั ในเรอ่ื งตา่ งๆ สำ� หรบั การแข่งขันมาอย่างดีท่ีสุดแล้ว ไม่ว่าผลลัพธ์จะเป็นเช่นไร อย่างน้อยส่ิงท่ีผมได้คือประสบการณ์อันล้�ำค่าที่จะน�ำมาปรับใช้ และพัฒนาตนเองต่อไปในอนาคต ท�ำให้ผมมีวินัย ความเพียรพยายาม และความมุ่งม่ัน ในการเรียน และการด�ำเนินชีวิตมากข้ึน เน่ืองจากการเข้าร่วม การแข่งขันและการทำ� กจิ กรรมตา่ ง ๆ จนกระทงั่ ได้รบั รางวลั และ ความส�ำเร็จ จ�ำเป็นต้องมีความเพียรพยายาม ความมุ่งม่ัน และลงมอื ทำ� อย่างจรงิ จงั จงึ จะสามารถน�ำพาเราไปถึงเปา้ หมาย ทีต่ ้ังใจไว้ได้ ผมจะพัฒนาความรู้ ความสามารถของตนเองต่อไป เรื่อย ๆ เพื่อใช้เป็นเคร่ืองน�ำทางในการศึกษาต่อในอนาคต และอาชีพที่ต้ังเป้าหมายไว้ คือ ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ หรือสาขาอนื่ ๆ ที่เกย่ี วขอ้ ง 88 ๑๓ ทศวรรษ : ๑๓๐ ปี กระทรวงศกึ ษาธิการ

ดา้ นทักษะฝีมอื อาชีพ ประเภทเดยี่ ว นำ�้ หอมหยดลดกลนิ่ ไมพ่ งึ ประสงค์ในชกั โครก นางสาวอรวรรณ จวบจันทร์ผล อายุ ๑๗ ปี วทิ ยาลยั เทคนิคพังงา จงั หวดั พงั งา ดฉิ นั วางแผนทจี่ ะเขา้ ศกึ ษาต่อในมหาวทิ ยาลัยทีใ่ ฝฝ่ ัน เพอ่ื ประกอบอาชีพนกั วิทยาศาสตรใ์ นสถาบันวิจยั จากการเรียนในโครงการวิทยาลัยเทคโนโลยีฐาน แต่ผลงานของนักเรียนจากสถาบันศึกษาในประเทศไทย วทิ ยาศาสตร์ ซง่ึ เปน็ การเรยี นรใู้ นรปู แบบ Project-based learning มีค่อนข้างเยอะ เพ่ือน ๆ ทุกคนในทีมท้ัง ๓ คน มีความต้ังใจ ทมี่ ีการบูรณาการ STEAM Education มกี ารน�ำเอาองคค์ วามรู้ ในการแข่งขันครั้งน้ีมาก คาดหวังท่ีจะได้รางวัลในการแข่งขัน ทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี กระบวนการทางวิศวกรรม และ จงึ ตัง้ ใจในการฝกึ ซอ้ มออกมาใหด้ ีทสี่ ดุ และก็สามารถคว้ารางวลั คณติ ศาสตร์ รวมทงั้ ไดเ้ พม่ิ Art หรอื ศลิ ปะมาบรู ณาการในการทำ� มาไดอ้ ย่างท่ตี ้งั เปา้ หมายไว้ โครงงาน ท่ีเชื่อมโยงกับวิชาชีพในสาขาเทคโนโลยีการท่องเท่ียว โดยได้ท�ำโครงงานท่ีน�ำมาใช้ในการแก้ไขปัญหาในชีวิตประจ�ำวัน หลังจากทไ่ี ดร้ ับรางวัล มคี นสนใจในเรื่องของผลติ ภณั ฑ์ โดยพบว่าในโถชักโครกมักจะมีกลิ่นไม่พึงประสงค์ ทางกลุ่มของ นำ้� หอมหยดลดกลน่ิ ไมพ่ งึ ประสงคใ์ นชกั โครกและไดร้ บั การตอบรบั ดิฉันจึงได้คิดค้นผลิตภัณฑ์น�้ำหอมหยดลดกล่ินไม่พึงประสงค์ เป็นอย่างดี ทั้งในเร่ืองของความเป็นมา รูปแบบของผลิตภัณฑ์ ในชักโครก โดยการน�ำดอกไม้และพืชที่หาได้ง่ายในท้องถิ่น และการใช้ประโยชน์ต่าง ๆ ซ่ึงเราทุกคนในทีมยินดีท่ีจะมอบ มาสร้างมูลค่าเพ่ิม โดยมีชื่อว่า “ANSHIN” ซ่ึงแปลว่า โล่งใจ ความรู้ให้กับผู้ท่ีสนใจและต้องการน�ำโครงงานของเราไปต่อยอด สบายใจ หรือจิตใจสงบ เพื่อเป็นผลิตภัณฑ์ส�ำหรับบ้านเรือน ในอนาคต และจากผลของการได้รับรางวัล ท�ำให้สามารถ หรือสถานประกอบการด้านการท่องเที่ยวและโรงแรม ยน่ื Portfolio ในการเข้าศึกษาตอ่ ในมหาวทิ ยาลัยตา่ ง ๆ ได้หลาย ซง่ึ ผลติ ภณั ฑ์ ANSHIN สามารถใชท้ ดแทนผลติ ภณั ฑน์ ำ�้ หอมดบั กลนิ่ มหาวทิ ยาลัย เพราะผลงานมีความโดดเด่นระดบั นานาชาติ ชักโครกทีม่ รี าคาสูงในทอ้ งตลาดท่วั ไปได้ หลังจากจบการศึกษาจากระดับช้ันประกาศนียบัตร เนื่องจากในปี ๒๕๖๔ เป็นช่วงที่มีการแพร่ระบาด วิชาชีพ (ปวช.) ชั้นปีที่ ๓ แล้ว ดิฉันวางแผนท่ีจะเข้าศึกษาต่อ ของโรคตดิ เชอื้ ไวรสั โคโรนา 2019 (COVID-19) จงึ เปน็ การนำ� เสนอ ในมหาวิทยาลัยท่ีใฝ่ฝัน เพื่อประกอบอาชีพนักวิทยาศาสตร์ ผลงานในรูปแบบออนไลน์ การน�ำเสนอผลงานเป็นการท�ำ ในสถาบันวิจัย และเป็นอาจารย์สอนวิชาเคมีในมหาวิทยาลัย คลิปวิดีโอในการน�ำเสนอ มีความรู้สึกตื่นเต้นท่ีน้อยกว่า เพราะดิฉันมีความช่ืนชอบในด้านวิทยาศาสตร์ ชอบคิดและ การนำ� เสนอตอ่ หนา้ คณะกรรมการโดยตรง แตก่ ารตอบขอ้ ซกั ถาม ทดลองสิ่งใหม่ ๆ อีกท้ังยังชอบส่งต่อความรู้ให้กับผู้อื่นอีกด้วย ของกรรมการเป็นการไลฟ์สด ในการตอบข้อซักถามของ ในอนาคตดิฉันสามารถน�ำผลิตภัณฑ์น�้ำหอมหยดลดกล่ินไม่พึง กรรมการ ดฉิ นั และเพือ่ น ๆ ค่อนข้างตน่ื เต้น เพราะต้องตอบเปน็ ประสงค์ในชักโครก “ANSHIN” ไปพัฒนาในสถาบันวิจัยให้มี ภาษาอังกฤษ กลัวว่าจะตอบค�ำถามได้ไม่ชัดเจน แต่ทุกอย่าง ประสทิ ธภิ าพมากยง่ิ ขนึ้ หรอื เพอื่ ใหค้ วามรแู้ กผ่ ทู้ สี่ นใจ และนำ� ไป ก็ผ่านไปได้ด้วยดี ในปีน้ีมีผู้เข้าแข่งขันจากต่างประเทศไม่มาก ตอ่ ยอดในอนาคตได้ ๑๓ ทศวรรษ : ๑๓๐ ปี กระทรวงศึกษาธกิ าร 89

ดา้ นศิลปวัฒนธรรมและดนตรี ประเภททมี ๒ คน เดก็ ชายวิชมัย นกุ ลู วฒุ โิ อภาส อายุ ๑๓ ปี โรงเรียนนานาชาตริ ีเจน้ ทก์ รุงเทพ เดก็ ชายเตชนิ ท์ นกุ ลู วฒุ โิ อภาส อายุ ๑๑ ปี โรงเรยี นนานาชาตริ เี จน้ ทก์ รงุ เทพ 90 ๑๓ ทศวรรษ : ๑๓๐ ปี กระทรวงศึกษาธิการ

เราตนื่ เต้นมากทกุ คร้ังท่ีแข่งขัน เพราะการแข่งขนั เปียโน ห้ามดโู นต้ เพลง ตอ้ งเลน่ ด้วยความจำ� ทกุ ครัง้ และการที่จะไดร้ างวัลชนะเลศิ หา้ มเลน่ ผดิ แมแ้ ต่ตวั เดยี ว เรม่ิ เรยี นเปยี โนครงั้ แรก เมอื่ อายุ ๓ ปี และฝกึ ฝนเรอ่ื ยมา รางวัลชนะเลิศ ห้ามเล่นผิดแม้แต่ตัวเดียว นอกจากต้องแม่นย�ำ โดยปัจจุบันมีครูผู้สอนเปียโน คือ ดร. พรพรรณ บันเทิงหรรษา ในการดีด ยังต้องสามารถส่ืออารมณ์เพลงให้ผู้ฟังคล้อยตาม และ ดร. ครสิ โตเฟอร์ จนั วอง แมคคิแกน ไดเ้ ข้ารว่ มการแขง่ ขัน ไปกับเสียงเพลง ซงึ่ ตอ้ งใช้การฝึกซ้อมและมวี ินัยสูง คือต้องซอ้ ม เปยี โนตงั้ แตอ่ ายุ ๖ ปี โดยไดร้ บั ทนุ การศกึ ษาดา้ นดนตรที โ่ี รงเรยี น ทกุ วัน ไม่นอ้ ยกว่าวนั ละ ๑ ชัว่ โมง ไมเ่ วน้ แมแ้ ต่วนั หยดุ ราชการ นานาชาติรีเจนท์กรุงเทพ และได้รางวัลสูงสุด ท้ังในประเทศ เพราะนวิ้ มือจะตอ้ งได้รับการฝกึ ซ้อมใหถ้ นัดทุกวัน และต่างประเทศ หลายรางวลั เชน่ ไดร้ างวลั ชนะเลศิ การแขง่ ขนั เปยี โนเดย่ี วทป่ี ระเทศฮอ่ งกง รายการ HKPCA ไดร้ างวลั เหรยี ญทอง หลงั จากแขง่ ขนั เสรจ็ เราจะรู้สึกผ่อนคลายและดใี จมาก การแขง่ ขนั เปยี โนเดยี่ ว ทป่ี ระเทศเบลเยยี ม รายการ Grand prize ทุกครั้งที่ได้รับรางวัล หรือหากไม่ได้รับรางวัลก็จะบอกกับตัวเอง Virtuoso Brussel Belgian ได้รางวัลสูงสูด ชนะเหรียญทอง ว่าไม่เป็นไร แล้วกลับไปตั้งใจฝึกซ้อม หลังจากผ่านการแข่งขัน หลายรางวัล จากการแข่งขันเปียโนเดี่ยว รายการ World และไดร้ บั รางวลั มา ทำ� ใหร้ สู้ กึ วา่ ตนเองมคี วามสามารถดา้ นเปยี โน Championship of Performing Arts, USA พ.ศ. ๒๕๖๒ ที่โดดเด่น ส่งผลให้ได้รับโอกาสดี ๆ มากมาย เช่น ได้รับทุน และลา่ สดุ ลงแขง่ ขนั เปยี โนคู่ พ.ศ. ๒๕๖๔ ชนะเลศิ หลายรายการ การศกึ ษาที่โรงเรียนนานาชาตริ ีเจ้นท์ กรงุ เทพ เราตน่ื เตน้ มากทกุ ครง้ั ทแี่ ขง่ ขนั เพราะการแขง่ ขนั เปยี โน ในอนาคตคิดว่าจะเรียนต่อทางด้านที่เกี่ยวกับดนตรี ห้ามดูโน้ตเพลง ต้องเล่นด้วยความจ�ำทุกคร้ัง และการท่ีจะได้ เพ่ือใชค้ วามสามารถดนตรีตอ่ ยอดไปได้ ๑๓ ทศวรรษ : ๑๓๐ ปี กระทรวงศกึ ษาธิการ 91

ด้านศิลปวฒั นธรรมและดนตรี ประเภทเดี่ยว เคร่อื งดนตรสี ากล ประเภทเปยี โน เดก็ ชายวรี ท์ วิ ัตถ์ ศริ วิ ัฒนากร อายุ ๑๔ ปี โรงเรยี นกรุงเทพครสิ เตยี นวิทยาลัย กรุงเทพมหานคร ชีวิตผมไมไ่ ดเ้ ปลี่ยน แต่ผมอยากเปลย่ี นชวี ิตของคนในสงั คมมากกวา่ ครับ ผมเร่ิมเรียนเปียโนต้ังแต่อายุ ๔ ปี จากสถาบันดนตรี ไม่ว่าจะเป็นการแข่งขันทีมโครงงานชีวะ ประเทศเกาหลีใต้ ยามาฮา่ มาจนตอนนี้ จบเกรด ๕ (ใบประกาศวชิ าชพี คร)ู เรมิ่ เรยี น ดา้ นวชิ าการหรอื การเปน็ Influencer NSM Junior ระดบั มธั ยมศกึ ษา เปยี โนสำ� หรบั การแขง่ ขนั กบั ดร.พรพรรณ บรรเทงิ หรรษา หรอื ครอู ร ตอนต้นขององค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) ตอนประถมศกึ ษาปีที่ ๑ จากการแข่งขันเปยี โนนานาชาติ ครูอร รวมถึง Young Yamaha Artist ของสถาบันดนตรียามาฮ่า เห็นศักยภาพของผมจงึ สอนผมเลน่ เปยี โนมาจนถึงปจั จบุ นั เพอ่ื เปน็ แรงบนั ดาลใจและแรงผลกั ดนั พรอ้ มเปน็ ตวั อยา่ งทด่ี ใี หน้ อ้ ง ๆ และเยาวชนท่วั ไปครบั “ชีวิตผมไม่ได้เปลีย่ น แต่ผมอยากเปล่ียน ตอนเด็กผมมีความฝันอยากเก่งเปียโนและเล่นเพลง ชีวิตของคนในสงั คมมากกว่า” ในยคุ ตา่ ง ๆ ได้เหมอื นครูและพ่ีโต๋ ศกั ดสิ์ ทิ ธ์ิ หลงั จากทผ่ี มตัง้ ใจ ฝกึ ซอ้ ม เรยี นรู้ และเพยี รพยายาม ผมเรมิ่ เขา้ สกู่ ารแขง่ ขนั เปยี โน บ่อยครั้งท่ีคนมักถามผมว่า อนาคตผมคือนักเปียโน ของสถาบันดนตรียามาฮ่า โดยเริ่มการแข่งขันภายในประเทศ ที่มีชื่อเสียงใช่หรือไม่ ค�ำตอบผมคือ ไม่ใช่ ผมอยากเป็นหมอ และการแขง่ ขนั ในตา่ งประเทศ ชว่ งแรกเปน็ การแขง่ ในแถบอาเซยี น ผมอยากช่วยเหลือคนเจ็บไข้ไดป้ ่วยมากกวา่ แต่ผมกไ็ มท่ งิ้ ทกั ษะ และญปี่ ุน่ ต่อมาเป็นประเทศสหรัฐอเมริกาและโซนภาคพ้นื ยุโรป ทางด้านเปียโนที่ผมมี ผมจะน�ำทักษะด้านดนตรีที่มีเข้ามาใช้ การแข่งขันมีแบบรอบเดียวจบหรือ ๒ - ๓ รอบ และบางคร้ัง ในการบ�ำบัดผูป้ ่วยด้านจิตใจซง่ึ ทุกวนั นก้ี เ็ ปน็ สง่ิ ส�ำคัญมากครับ กเ็ ปน็ การแขง่ ขนั รว่ มกบั วง Chamble (๔ เครอื่ งดนตรี : ๒ ไวโอลนิ ๑ วโิ อลา่ ๑ เชลโล)่ , วง Orchestra ขนาดใหญพ่ รอ้ มคอนดกั เตอร์ เม่ือยังเด็ก ผมใฝ่ฝันอยากเป็นนักเปียโนท่ีมีช่ือเสียง ต่อมาผมเริ่มฝันอยากเป็นคอนดักเตอร์ที่โด่งดัง จนผมได้เร่ิมไป การแขง่ ขนั ทำ� ใหผ้ มไดพ้ ฒั นาตวั เองทง้ั ดา้ นรา่ งกาย และ เลน่ ดนตรีตามสถานทส่ี าธารณะต่าง ๆ เช่น โรงพยาบาลของรัฐ ด้านจิตใจ การที่ผมได้เดินทางไปแข่งขันต่างประเทศบ่อยคร้ัง ห้างสรรพสินค้า มูลนิธิเด็กและมูลนิธิช่วยผู้พิการทางสายตา ในฐานะตัวแทนประเทศไทย ท�ำให้ผมรู้สึกภาคภูมิใจท่ีสามารถ ผมเริ่มสังเกตเห็นว่า เสียงดนตรีท�ำให้ผู้ป่วยได้ผ่อนคลาย นำ� ชอื่ เสยี งมาสปู่ ระเทศชาตไิ ด้ กระทรวงศกึ ษาธกิ ารกย็ งั ใหค้ วาม ความเจบ็ ป่วย คนทีก่ ำ� ลังทุกข์ใจได้มเี วลาหยุดเพอื่ ฟังเสียงดนตรี ส�ำคัญกบั เด็ก ๆ ในหลาย ๆ ดา้ น เพ่ือเปน็ ขวัญและก�ำลงั ใจให้ผม แม้กระทั่งผู้พิการทางสายตา เสียงดนตรีก็สามารถสัมผัสได้ถึง ส�ำหรับการสสู้ �ำหรบั การแข่งขันปตี อ่ ๆ ไปดว้ ย จิตใจของผู้ฟัง ผมจึงตัดสินใจเลือกเดินและวางอนาคตไว้ว่า จะพยายามตงั้ ใจเรยี นและสานฝนั การเปน็ คณุ หมอนกั เปยี โนใหไ้ ด้ การฝึกซ้อมอย่างสม�่ำเสมอ คือ การแบ่งความรับผิด ชอบเรอ่ื งวนิ ยั รบั ผดิ ชอบตอ่ การเรยี นควบคไู่ ปกบั หนา้ ทท่ี ต่ี อ้ งทำ� ไมล่ ะเลยในหน้าที่ หลังจากได้รับรางวัลทั้งจากการแข่งขันต่าง ๆ รวมถึง รางวัลเด็กและเยาวชนน�ำชื่อเสียงสู่ประเทศชาติ ผมรู้สึกภูมิใจ และมกี ำ� ลงั ใจสำ� หรบั การเดนิ ตามความฝนั และเปา้ หมายใหป้ ระสบ ผลส�ำเร็จ ชีวิตของผมยังคงเป็นเหมือนเดิมคือต้ังใจเรียนรู้และ วางแผนการฝึกซ้อมอยเู่ สมอ ไมป่ ดิ กนั้ โอกาสตา่ ง ๆ ทีไ่ ด้เขา้ มา 92 ๑๓ ทศวรรษ : ๑๓๐ ปี กระทรวงศึกษาธกิ าร

ดา้ นทกั ษะฝมี ืออาชีพ ตัวแทนประเภททีม ๓ คน การสกดั น้�ำมันหอมระเหยจากดอกจ�ำปนู นางสาวพรปรียา ณ ตะก่ัวทงุ่ อายุ ๑๗ ปี วทิ ยาลัยเทคนคิ พังงา จังหวดั พังงา พวกเรารูส้ ึกภูมิใจและดีใจเปน็ อย่างมาก ท่ที ำ� ใหจ้ ังหวัดพงั งาเปน็ ทีร่ ูจ้ ักเพิม่ มากขนึ้ ถอื ไดว้ า่ เปน็ การกระตุน้ การท่องเทย่ี วจดุ เล็ก ๆ อีกจุดหนง่ึ เลยกว็ า่ ได้ ก่อนที่พวกเราจะเข้าร่วมการแข่งขัน ทุกคนภายในทีม ไดม้ กี ารเตรยี มความพรอ้ ม และมคี วามมงุ่ มน่ั ตง้ั ใจทจี่ ะทำ� โครงงาน ให้ออกมาดีที่สุด มีการต้ังเป้าหมาย วางแผนที่จะท�ำโครงงานน้ี โดยเรมิ่ ตง้ั แตก่ ารศกึ ษาหาขอ้ มลู เกยี่ วกบั สรรพคณุ ของดอกจำ� ปนู ไปจนถงึ กระบวนการสกดั และมกี ารทดลองอยหู่ ลายครง้ั เพอ่ื ทจ่ี ะ สกดั นำ้� มนั ใหอ้ อกมามปี ระสทิ ธภิ าพ กอ่ นเขา้ รว่ มการแขง่ ขนั ทกุ คน ในทีมได้มีการฝึกซ้อมการน�ำเสนอ โดยมีจุดประสงค์ คือให้ กรรมการและทุก ๆ คนเห็น และเข้าใจกระบวนการสกัดน้�ำมัน หอมระเหยจากดอกจ�ำปูน ที่เป็นดอกไม้ในท้องถ่ินซ่ึงน�ำมาเพิ่ม มูลค่าได้ พวกเรามีความต้ังใจและคาดหวังกับการแข่งขันนี้ เป็นอย่างมาก เพราะการท�ำงานของเราสามารถบรรลุเป้าหมาย อยา่ งทท่ี กุ คนในทมี ตง้ั ไวแ้ ละมน่ั ใจวา่ “ผลติ ภณั ฑน์ ำ้� มนั หอมระเหย จากดอกจ�ำปูน” เป็นผลงานที่มีคุณภาพมากพอท่ีจะเข้าร่วม การแขง่ ขนั นี้ หลงั จากทไ่ี ดร้ บั รางวลั ชนะเลศิ จากการนำ� เสนอโครงงาน วิทยาศาสตร์ ระดับนานาชาติ ดอกจ�ำปูนเร่ิมเป็นที่รู้จักมากขึ้น มบี คุ คลเรม่ิ ใหค้ วามสนใจกบั ดอกจำ� ปนู จนไปถงึ การมาทอ่ งเทยี่ ว ในจังหวัดพังงา เพ่ือมาสัมผัสความหอมของดอกจ�ำปูนในฤดูฝน จากสิ่งท่ีได้รับ ท�ำให้พวกเรารู้สึกภูมิใจและดีใจเป็นอย่างมาก ทท่ี ำ� ใหจ้ งั หวดั พงั งาเปน็ ทร่ี จู้ กั เพม่ิ มากขนึ้ ถอื ไดว้ า่ เปน็ การกระตนุ้ การทอ่ งเท่ยี วจดุ เล็ก ๆ อีกจุดหนึง่ เลยกว็ ่าได้ เมื่อส�ำเร็จการศึกษาพวกเรามีความต้ังใจอย่างยิ่งท่ีจะ พัฒนาผลิตภัณฑ์น้�ำมันหอมระเหย ท้ังรูปแบบของผลิตภัณฑ์ สตู รของนำ้� หอม และจะศกึ ษาคน้ ควา้ เพม่ิ เตมิ เกย่ี วกบั ดอกไมห้ อม ในเมืองไทย เพื่อยกระดับ เพิ่มมูลค่า และมีการจัดจ�ำหน่าย ผ่านชอ่ งทางออนไลน์ ๑๓ ทศวรรษ : ๑๓๐ ปี กระทรวงศึกษาธิการ 93

ด้านทักษะฝีมอื อาชพี ประเภททมี ๔ คน แกะสลกั หิมะ ผรู้ ว่ มทมี ประกอบดว้ ย นางสาวนรศิ รา พรกิ นนุ่ อายุ ๑๙ ปี นางสาวชนากานต์ ใจงาม อายุ ๑๗ ปี นายพัชรพล สารภี อายุ ๑๗ ปี นายติสรณ์ ไสลจิตร อายุ ๑๙ ปี ก�ำลังศึกษาอยู่ที่ วิทยาลัยอาชีวศึกษาสุราษฎร์ธานี จังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้รับรางวัลชนะเลศิ อันดบั ๑ Awards of First-Prize for Design Creativity การแข่งขันแกะสลักหิมะนานาชาติ พ.ศ.๒๕๖๕ ณ มหาวิทยาลัยวิศวกรรมฮาร์บ้ิน เมืองฮาร์บิ้น สาธารณรัฐ ประชาชนจีน The 14th Internationnal Collegiate Snow Sculpture Contest (ICSSC 2022) นางสาวนรศิ รา พรกิ นนุ่ อายุ ๑๙ ปี วิทยาลัยอาชีวศกึ ษาสรุ าษฎรธ์ านี จังหวัดสรุ าษฎร์ธานี ตั้งเปา้ หมายไวว้ ่าอยากเรยี นครู หรือคณะศลิ ปศึกษา เพ่อื ท่จี ะได้น�ำความรูต้ า่ ง ๆ ที่ไดร้ บั ไปเผยแพร่ ฝกึ ฝนให้กบั รนุ่ หลงั ความสนใจในการเขา้ ประกวดแขง่ ขนั คอื ตอ้ งการคน้ หา การวางแผนส�ำหรับดิฉันแล้ว เม่ือจบการศึกษาจาก ประสบการณใ์ หม่ ๆ ไดเ้ รียนรูใ้ นส่ิงใหม่ ๆ และไดฝ้ ึกทักษะให้กบั วิทยาลัยอาชีวศึกษาสุราษฎร์ธานีแล้ว ตั้งเป้าหมายไว้ว่าอยาก ตนเอง ได้ฝึกทักษะในส่งิ ที่ตนเองไมเ่ คยรู้ ไดค้ ้นหาตวั เองว่าชอบ เรยี นครู หรอื คณะศลิ ปศกึ ษา เพอื่ ทจี่ ะไดน้ �ำความรตู้ า่ ง ๆ ทไ่ี ดร้ บั ในดา้ นไหน จึงทำ� ใหด้ ิฉนั ไดเ้ ขา้ มาประกวดแกะสลักหิมะ ไปเผยแพร่ ฝึกฝนให้กับรุ่นหลัง ดิฉันหวังว่าจะได้สอบเข้า มหาวิทยาลัยท่ีดิฉันหวังไว้ แต่เมื่อถึงวันท่ีไปสมัครสอบแล้ว หลังจากได้รับรางวัลแล้ว มีคนรู้จักเพิ่มข้ึนมีคนชื่นชม ผลจะออกมาเป็นเชน่ ไร ดิฉนั ก็ภมู ใิ จทไี่ ด้ลงมอื ท�ำอยา่ งท่ตี ้งั ใจไว้ ท�ำให้ตัวเรามีความมั่นใจมากขึ้น เพราะก่อนการแข่งขันน้ัน มีความกังวลว่าตนเองจะท�ำออกมาได้ไม่ดี จนเมื่อผลลัพธ์ ออกมาทำ� ให้ดฉิ ันภาคภูมใิ จ และมน่ั ใจในตวั เองมากข้นึ 94 ๑๓ ทศวรรษ : ๑๓๐ ปี กระทรวงศึกษาธกิ าร

นางสาวชนากานต์ ใจงาม อายุ ๑๗ ปี นายพชั รพล สารภี อายุ ๑๗ ปี วิทยาลัยอาชวี ศึกษาสุราษฎร์ธานี วทิ ยาลยั อาชีวศึกษาสุราษฎร์ธานี จังหวัดสุราษฎร์ธานี จังหวดั สุราษฎรธ์ านี ความสนใจเขา้ ประกวดแขง่ ขนั เพราะคดิ วา่ เปน็ การแขง่ ขนั ความสนใจท่ีเข้าร่วมประกวดคอื อยากหาประสบการณ์ ประติมากรรมที่น่าสนใจ ได้เปิดประสบการณ์ใหม่ ๆ ให้ตัวเอง ในการแกะสลกั หมิ ะ มนั เป็นความทา้ ทาย และเพือ่ น ๆ ความรู้สึกก่อนเข้าร่วมเเข่งขัน มีความภาคภูมิใจที่ได้ ความรสู้ กึ กอ่ นทจี่ ะเขา้ แขง่ ขนั รสู้ กึ ตน่ื เตน้ กงั วลเลก็ นอ้ ย โอกาสเข้าร่วมเเข่งขัน และก็มีความกังวล เพราะตัวผมเอง และได้วางแผนงานก่อนที่จะลงมือท�ำจริง ตั้งเป้าหมายให้กับ ประสบการณ์ยังน้อย กลัวจะท�ำออกมาได้ไม่ดีอย่างท่ีต้ังใจไว้ ตัวเองเพื่อทจ่ี ะท�ำให้ได้ตามเป้าหมายทว่ี างไว้ และจะเปน็ ทีถ่ ูกใจของคณะกรรมการหรือไม่เพียงใด หลงั จากไดร้ บั รางวลั แลว้ ภาคภมู ใิ จดใี จ และมคี นชน่ื ชม ดีใจมากอย่างน้อยคร้ังหนึ่ง ผมได้รับรางวัลใหญ่ ๆ มีคนรู้จักมากข้ึน ได้เป็นท่ียอมรับจากผู้ใหญ่หลาย ๆ ท่าน แบบนี้ มันมีความภาคภูมิใจ มีคนเเสดงความยินดีช่ืนชม อีกอย่างยังทำ� ใหด้ ิฉันน้นั มีความม่ันใจมากยง่ิ ขน้ึ และยงั เปน็ ทร่ี จู้ ักมากข้นึ ห ลั ง จ า ก จ บ ก า ร ศึ ก ษ า จ า ก วิ ท ย า ลั ย อ า ชี ว ศึ ก ษ า เมื่อจบจากวิทยาลัยอาชีวศึกษาสุราษฎร์ธานีแล้ว สรุ าษฎรธ์ านแี ลว้ ดฉิ นั ตงั้ เปา้ หมายไวห้ ลกั ๆ คอื อยากจะศกึ ษาตอ่ ผมอยากจะเรยี นในสาขาทเ่ี ราชอบ ในมหาวทิ ยาลยั ทอี่ ยากจะเรยี น มหาวทิ ยาลยั ที่ใฝ่ฝัน เพอ่ื ทจ่ี ะได้ต่อยอดในอนาคตตอ่ ไป เช่น มหาวิทยาลัยศิลปากร ผมอยากเรียนสายนี้ให้เต็มที่ไปเลย ให้พ่อกบั เเม่ภูมิใจ เเลว้ กท็ ำ� งานในสงิ่ ทเ่ี รารัก อยู่กับสิ่งท่ีเราชอบ เเละคนท่ีเรารกั ครับ นายติสร ไสลจติ ร อายุ ๑๙ ปี เข้าร่วมการแข่งขันในครั้งนี้ เพราะอยากท�ำในสิ่งที่ ไม่เคยท�ำ ได้เรยี นร้ทู ักษะใหม่ ๆ รู้สกึ ตน่ื เต้นและท้าทายมากครบั วทิ ยาลัยอาชีวศกึ ษาสุราษฎรธ์ านี เพราะเป็นการแขง่ ขันครัง้ แรกของผมเลย จงั หวัดสรุ าษฎรธ์ านี หลงั จากทผี่ มไดร้ บั รางวลั รสู้ กึ ภมู ใิ จและดใี จมาก มคี นรจู้ กั เพ่ิมมากขึ้น มีคนชื่นชมในผลงานท่ีท�ำออกมา และยังช่วย เพ่มิ ความม่นั ใจตวั เองอกี ดว้ ย เมอ่ื จบจากวทิ ยาลยั อาชวี ศกึ ษาสรุ าษฎรธ์ านี ผมตงั้ เปา้ หมาย ไว้ว่า อยากจะเรียนในมหาวิทยาลัยท่ีใฝ่ฝัน และได้เรียนในคณะ ทต่ี นเองสนใจ เพอื่ เปน็ เปา้ หมายในการประกอบอาชพี เลย้ี งครอบครวั ต่อไปได้ ๑๓ ทศวรรษ : ๑๓๐ ปี กระทรวงศกึ ษาธิการ 95

ด้านกีฬานันทนาการ ประเภททมี ๕ คน กีฬาสแตค็ ผู้ร่วมทีมประกอบด้วย เด็กหญิงปัณชยา ยุทธหาญ เด็กหญิงณิชมน ฉิมพาลี เด็กหญิงเกวลิน วงษาเจริญ เด็กชายอาทริ ทชั ร โกสนิ ทร์ และเดก็ หญงิ พชิ ญาสนิ ี ศรวี เิ ชยี รรกั ษ์ รางวัลท่ีได้รับ ปี ๒๕๖๔ การแข่งขันกีฬาสแต็คชิงแชมป์โลก ประจำ� ปี๒๐๒๑(Online)WorldSportStackingChampionships2021 (Online) ได้รับรางวัล ชนะเลิศประเภททีม Time ๓-๖-๓ Relay รนุ่ ๘ U ปี ๒๕๖๕ ไดร้ บั การคดั เลอื กเปน็ เดก็ และเยาวชน ทนี่ ำ� ชอ่ื เสยี งมาสปู่ ระเทศชาติ ดา้ นกฬี าและนนั ทนาการ (ประเภททมี ๕ คน) วนั เดก็ แหง่ ชาติ ประจำ� ปี ๒๕๖๕ เด็กหญงิ ปัณชยา ยทุ ธหาญ อายุ ๙ ปี โรงเรียนวดั ท่าเกวยี น (สัยอทุ ิศ) จังหวดั ฉะเชงิ เทรา สงิ่ ท่ีเปลี่ยนไปคือ ได้รับค�ำชนื่ ชมจากผ้ใู หญห่ ลาย ๆ ทา่ น ทำ� ให้มีความสขุ มีพลงั ทจ่ี ะฝึกฝนตนเอง ในการแข่งขันครง้ั ตอ่ ๆ ไป จากการเป็นนักกีฬาสแต็คทีมชาติไทย หรือนักกีฬา ท�ำให้หนูเข้าใจและยอมรับผลการแข่งขันได้ เพ่ือกลับมาฝึกฝน เรียงแก้ว ได้เข้าร่วมแข่งขันทั้งในประเทศและต่างประเทศ และพฒั นาตนเอง เพอ่ื เตรยี มพรอ้ มลงแข่งครงั้ ตอ่ ไป ผลการแขง่ ขนั มที ง้ั แพ้ ชนะ ทำ� ใหไ้ ดป้ ระสบการณจ์ ากการแขง่ ขนั มากมาย กีฬาสแต็คเป็นกีฬาประเภทแรกที่เล่น โดยเริ่มเล่น หลงั จากไดร้ บั รางวลั แลว้ สงิ่ ทเ่ี ปลย่ี นไปคอื ไดร้ บั คำ� ชนื่ ชม กีฬาสแตค็ มาตง้ั แต่อนบุ าลจนถึงปัจจุบันเป็นระยะเวลากว่า ๔ ปี จากผใู้ หญห่ ลาย ๆ ทา่ น ทำ� ใหม้ คี วามสขุ มพี ลงั ทจี่ ะฝกึ ฝนตนเอง กีฬาสแตค็ ประเภททีมจะมเี พอ่ื นร่วมกันหลายคน ท�ำใหไ้ ดเ้ รยี นรู้ ในการแขง่ ขันครัง้ ต่อ ๆ ไป การท�ำงานเป็นทีมท่ีทุกคนพยายามต้ังใจฝึกซ้อม และปฏิบัติ ตามกฎกติกา ท�ำให้มีความสามัคคีและแบ่งกันเล่นตามแผน จากประสบการณต์ า่ ง ๆ ทไี่ ดร้ บั ไดเ้ รยี นรู้ และไดน้ ำ� ไปใช้ ท่ีวางไว้ ชอบกีฬาสแต็คเพราะสนุก ท�ำให้มีความมุ่งม่ัน ในชวี ิตประจ�ำวัน ท้ังการเรยี นรวมถึงการทำ� งาน คือความมวี นิ ัย พยายาม แม้ว่าแก้วจะล้มซักก่ีครั้งก็ต้องเรียงแก้วใหม่ให้จบเกม ตอ่ ตวั เอง ความรบั ผดิ ชอบ สามารถแกไ้ ขปญั หาได้ ไมท่ อ้ แทแ้ ละ และแม่จะบอกเสมอว่าแข่งร้อยคร้ังไม่มีใครชนะร้อยคร้ัง ไมเ่ สยี ใจกบั สง่ิ ทผ่ี ดิ หวงั รจู้ กั เขม้ แขง็ อดทนไมย่ อมแพ้ และหมน่ั ฝึกฝนและพัฒนาตนเองอยา่ งตอ่ เน่ือง 96 ๑๓ ทศวรรษ : ๑๓๐ ปี กระทรวงศึกษาธกิ าร


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook