อานาปานสติ ๑๓๗ มาเถิด ภิกษุ ! เธอจงเปนผูมีปกติ ตามเห็นธรรมในธรรมท้ังหลายอยู แตอยาตรึกซึ่งวิตกอันเขาไปประกอบอยกู บั ธรรมเลย” ดังน.้ี ภิกษนุ น้ั เพราะเขา ไปสงบระงับเสยี ไดซงึ่ วิตกและวจิ าร จงึ เขา ถึงทตุ ิยฌาน อนั เปน เครอื่ งผอ งใสแหง ใจในภายใน นําใหสมาธิเปนธรรมอันเอกผุดมีข้ึน ไมมีวิตกไมม วี จิ าร มีแตป ต แิ ละสุขอันเกิดจากสมาธิ แลวแลอย.ู(...แลวไดตรัสถึง ตติยฌาน ...จตุตถฌาน ...ปุพเพนิ-วาสานุสสตญิ าณ ...จุตูปปาตญาณ ...อาสวกั ขยญาณจนกระทัง่ วิมุตติญาณ ตามหลักทมี่ ีกลาวอยใู นบาลที ่วั ๆไปทก่ี ลา วถึงเรื่องนี)้ ทนั ตสตู ร อุปริ. ม. ๑๔/๒๖๘ - ๒๗๐/๓๙๖ - ๔๐๑.
138 พุทธวจน ฉบับ ๖ อานาปานสติ
อานาปานสติ ๑๓๙ เหตุปจจยั ทพ่ี ระศาสนาจะตั้งอยูนาน ภายหลงั พทุ ธปรนิ พิ พาน “ขา แตพ ระโคดมผูเจริญ ! อะไรเปนเหตุ อะไรเปน ปจ จัยท่เี ม่อื พระตถาคตปรนิ พิ พานแลว พระสทั ธรรมจะไมต ้ังอยนู าน ?ขาแตพระโคดมผูเจริญ ! อะไรเปนเหตุ อะไรเปนปจจัย ที่เม่ือพระตถาคตปรินิพพานแลว พระสทั ธรรมจะต้ังอยนู าน พระเจา ขา !” พราหมณ ! เพราะไมมีการทําใหเจริญ เพราะไมมีการกระทําใหมากซึ่งสติปฏฐานท้ังสี่ ในเมื่อตถาคตปรินิพพานแลว สทั ธรรมยอ มไมต งั้ อยูน าน. แตพราหมณเอย ! เพราะมีการกระทําใหเจริญมีการกระทําใหมาก ซึ่งสติปฏฐานทั้งสี่ ในเมื่อตถาคตปรินิพพานแลว สัทธรรมยอมตั้งอยูนาน. สติปฏฐานส่ีอยางไรเลา ? พราหมณ ! ภิกษุในกรณีนี้ เปนผูมีปกติตามเห็นกายในกายอยูเปนประจํา มีความเพียรเผากิเลส มีสัมปชัญญะมีสติ นาํ ออกเสยี ไดซง่ึ อภชิ ฌาและ โทมนสั ในโลก;
๑๔๐ พุทธวจน เปนผูตามเห็นเวทนาในเวทนาท้ังหลายอยูเปนประจํา มีความเพียรเผากิเลส มีสัมปชัญญะ มีสตินาํ ออกเสยี ไดซึง่ อภิชฌาและโทมนัสในโลก; เปนผูตามเห็นจิตในจิตอยูเปนประจาํ มีความเพียรเผากิเลส มีสัมปชัญญะ มีสติ นาํ ออกเสียไดซึ่งอภิชฌาและโทมนัสในโลก; เปนผูตามเห็นธรรมในธรรมทั้งหลายอยูเปนประจํา มีความเพียรเผากิเลส มีสัมปชัญญะ มีสตินาํ ออกเสียไดซึ่งอภิชฌาและโทมนัสในโลก. พราหมณ ! เพราะไมมีการทําใหเจริญ เพราะไมมีการกระทําใหมากซึ่งสติปฏฐานทั้งสี่เหลานี้แล ในเมื่อตถาคตปรินิพพานแลว สัทธรรมยอมไมตั้งอยูนาน.แตเพราะมีการกระทําใหเจริญ มีการกระทําใหมาก ซึ่งสติปฏฐานทั้งส่ีเหลานี้แล ในเม่ือตถาคตปรินิพพานแลวสทั ธรรมยอ มตง้ั อยนู าน, ดังน้.ี พราหมณสตู ร มหาวาร. ส.ํ ๑๙/๒๓๒/๗๗๘ - ๗๗๙.
อานาปานสติ ๑๔๑ อานสิ งสแ หงกายคตาสติ ภกิ ษุ ท. ! กายคตาสติอันภิกษุรูปใดรูปหน่ึงเจริญแลว กระทําใหมากแลว กุศลธรรมอยางใดอยางหน่ึง ซึ่งเปนไปในสวนวิชชา ยอมหยั่งลงในภายในของภิกษุน้ัน เปรียบเหมือนมหาสมุทรอันผูใดผูหนึ่งถูกตองดวยใจแลว แมน้ํานอยสายใดสายหน่ึงซึ่งไหลไปสูสมุทรยอ มหยง่ั ลงในภายในของผูน้ันฉะน้ัน; ภกิ ษุ ท. ! ธรรมขอ หนงึ่ อนั บุคคลเจริญแลวกระทาํ ใหม ากแลว เปนไปเพื่อความสังเวชมาก เปนไปเพ่ือประโยชนม าก เปนไปเพ่ือความเกษมจากโยคะมากเปนไปเพ่ือสตแิ ละสมั ปชญั ญะ เปน ไปเพือ่ ไดญาณทสั สนะเปนไปเพ่อื อยเู ปนสขุ ในปจ จุบัน เปน ไปเพ่อื ทําใหแ จงซงึ่ผล คอื วชิ ชาและวมิ ตุ ติ ธรรมขอ หน่งึ คอื อะไร คอื กายคตาสต.ิ ภิกษุ ท. ! ธรรมขอ หนึ่งน้แี ล อันบคุ คลอบรมแลวกระทําใหมากแลว ยอมเปนไปเพ่ือความสังเวชมาก
๑๔๒ พุทธวจนยอ มเปน ไปเพอ่ื ประโยชนม าก ยอมเปนไปเพ่อื ความเกษมจากโยคะมาก ยอมเปนไปเพ่ือสติและสัมปชัญญะยอมเปน ไปเพอื่ ไดญ าณทสั สนะ ยอมเปน ไปเพือ่ อยเู ปนสขุในปจจุบัน ยอมเปนไปเพ่ือทาํ ใหแจงซ่ึงผล คือ วิชชาและวมิ ุตต;ิ ภิกษุ ท. ! ธรรมขอหน่งึ อันบุคคลเจริญแลวกระทาํ ใหมากแลว แมกายก็สงบ แมจิตก็สงบ แมวิตกวิจารก็สงบ ธรรมที่เปนไปในสวนแหงวิชชาแมท้ังส้ินกถ็ งึ ความเจริญบรบิ ูรณ ธรรมขอ หนึง่ คอื อะไร คือ กายคตาสติ. ภิกษุ ท. ! ธรรมขอ หนงึ่ นแี้ ล อันบุคคลเจริญแลวกระทาํ ใหม ากแลว แมก ายกส็ งบ แมจ ิตกส็ งบ แมว ติ กวิจารก็สงบ ธรรมที่เปนไปในสวนแหงวิชชาแมท้ังสิ้นก็ถึงความเจรญิ บรบิ รู ณ; ภิกษุ ท. ! ธรรมขอหนงึ่ อนั บคุ คลเจรญิ แลวกระทําใหมากแลว อกุศลธรรมทย่ี งั ไมเกิด ยอมไมเ กดิ ข้ึนไดเลย และอกศุ ลธรรมท่ีเกดิ ข้ึนแลว ยอมละเสียได ธรรมขอหน่ึง คอื อะไร คือ กายคตาสติ.
อานาปานสติ ๑๔๓ ภกิ ษุ ท. ! ธรรมขอหนึ่งน้แี ล อนั บคุ คลเจรญิ แลวกระทําใหมากแลว อกุศลธรรมที่ยังไมเ กดิ ยอมไมเกิดขนึ้ไดเ ลย และอกุศลธรรมท่ีเกิดขน้ึ แลว ยอมละเสียได; ภกิ ษุ ท. ! ธรรมขอหน่ึง อันบุคคลเจริญแลวกระทําใหมากแลว กุศลธรรมท่ียังไมเกิด ยอมเกิดข้ึน และกุศลธรรมที่เกิดข้ึนแลว ยอมเปนไปเพื่อความเจริญ ไพบูลยยิ่ง ธรรมขอหนึง่ คอื อะไร คือ กายคตาสต.ิ ภิกษุ ท. ! ธรรมขอ หนงึ่ นแ้ี ล อันบุคคลเจริญแลวกระทาํ ใหมากแลว กุศลธรรมที่ยังไมเกิด ยอมเกิดข้ึนและกุศลธรรมที่เกิดข้ึนแลว ยอมเปนไปเพื่อความเจริญไพบลู ยย ิง่ ; ภกิ ษุ ท. ! ธรรมขอ หน่ึง อนั บคุ คลเจริญแลวกระทําใหมากแลว ยอมละอวชิ ชาเสยี ได วิชชายอมเกิดขนึ้ยอมละอัส๎มิมานะเสียได อนุสัยยอมถึงความเพิกถอนยอ มละสังโยชนเสียได ธรรมขอหน่ึง คืออะไร คือ กายคตาสติ. ภกิ ษุ ท. ! ธรรมขอหน่งึ นแี้ ล อนั บุคคลเจริญแลวกระทําใหมากแลว ยอมละอวชิ ชาเสียได วชิ ชายอมเกิดขนึ้
๑๔๔ พุทธวจนยอมละอัส๎มิมานะเสียได อนุสัยยอมถึงความเพิกถอนยอ มละสงั โยชนเสยี ได; ภิกษุ ท. ! ธรรมขอหน่ึง อันบุคคลเจริญแลวกระทาํ ใหมากแลว ยอมเปน ไปเพื่อความแตกฉานแหง ปญญายอมเปนไปเพ่อื อนุปาทาปรินิพพาน ธรรมขอหนึง่ คืออะไร คอื กายคตาสต.ิ ภกิ ษุ ท. ! ธรรมขอหน่ึงนีแ้ ล อันบุคคลเจรญิ แลวกระทาํ ใหม ากแลว ยอ มเปน ไปเพอื่ ความแตกฉานแหง ปญญายอมเปนไปเพื่ออนุปาทาปรินิพพาน; ภิกษุ ท. ! ธรรมขอหนึง่ อันบคุ คลเจรญิ แลวกระทําใหมากแลว ยอมมีการแทงตลอดธาตุมากหลายยอมมีการแทงตลอดธาตตุ า ง ๆ ยอมมีความแตกฉานในธาตุมากหลาย ธรรมขอหนึง่ คอื อะไร คอื กายคตาสต.ิ ภิกษุ ท. ! ธรรมขอ หนึ่งนแ้ี ล อนั บคุ คลเจรญิ แลวกระทาํ ใหมากแลว ยอมมีการแทงตลอดธาตุมากหลายยอ มมกี ารแทงตลอดธาตุตาง ๆ ยอมมีความแตกฉานในธาตุมากหลาย;
อานาปานสติ ๑๔๕ ภิกษุ ท. ! ธรรมขอหน่งึ อันบุคคลเจริญแลวกระทําใหมากแลว ยอ มเปนไปเพือ่ ทาํ โสดาปตตผิ ลใหแจงยอมเปนไปเพอื่ ทําสกทาคามผิ ลใหแ จง ยอมเปน ไปเพื่อทําอนาคามผิ ลใหแ จง ยอ มเปน ไปเพอื่ ทําอรหัตตผลใหแ จง ธรรมขอ หน่งึ คอื อะไร คอื กายคตาสติ. ภิกษุ ท. ! ธรรมขอหน่ึงน้ีแลอันบุคคลเจริญแลวกระทําใหมากแลว ยอมเปนไปเพ่ือทําโสดาปตติผลใหแจงยอมเปน ไปเพ่ือทาํ สกทาคามผิ ลใหแจง ยอมเปนไปเพือ่ ทาํอนาคามิผลใหแจง ยอ มเปน ไปเพื่อทําอรหัตตผลใหแ จง ; ภกิ ษุ ท. ! ธรรมขอหนึ่ง อันบุคคลเจริญแลวกระทาํ ใหม ากแลว ยอมเปนไปเพ่ือไดปญญา ยอมเปนไปเพื่อความเจริญแหงปญญา ยอมเปนไปเพื่อความไพบูลยแหงปญญา ยอมเปนไปเพื่อความเปนผูมีปญญาใหญยอมเปนไปเพื่อความเปนผูมีปญญามาก ยอมเปนไปเพ่ือความเปนผูมีปญญาไพบูลย ยอมเปนไปเพื่อความเปนผูมีปญญาลึกซึ้ง ยอมเปนไปเพ่ือความเปนผูมีปญญาสามารถย่ิง ยอมเปนไปเพื่อความเปนผูมีปญญากวางขวางยอมเปนไปเพ่ือความเปนผูมากดวยปญญา ยอมเปนไป
๑๔๖ พทุ ธวจนเพือ่ ความเปนผูมีปญญาวองไว ยอมเปนไปเพ่ือความเปนผูมีปญญาเร็ว ยอมเปนไปเพื่อความเปนผูมีปญญาราเริง ยอมเปนไปเพื่อความเปนผูมีปญญาแลนยอมเปนไปเพื่อความเปนผูมีปญญาคม ยอมเปนไปเพ่ือความเปนผูมีปญญาชาํ แรกกิเลส ธรรมขอ หน่งึ คืออะไร คือ กายคตาสต.ิ ภกิ ษุ ท. ! ธรรมขอหนึง่ นแี้ ล อนั บคุ คลเจรญิ แลวกระทาํ ใหมากแลว ยอมเปนไปเพื่อไดปญญา ฯลฯยอมเปนไปเพื่อความเปนผูมีปญญาชาํ แรกกิเลส; ภกิ ษุ ท. ! ชนเหลาใดไมบริโภคกายคตาสติชนเหลานน้ั ชอ่ื วายอ มไมบรโิ ภคอมตะ. ภิกษุ ท. ! ชนเหลาใด บริโภคกายคตาสติชนเหลานั้นช่ือวายอมบริโภคอมตะ; ภิกษุ ท. ! กายคตาสติอนั ชนเหลา ใดไมบ ริโภคแลวอมตะชอ่ื วาอนั ชนเหลานน้ั ไมบ ริโภคแลว . ภกิ ษุ ท. ! กายคตาสติอันชนเหลาใดบริโภคแลวอมตะชอื่ วา อนั ชนเหลา นัน้ บริโภคแลว ;
อานาปานสติ ๑๔๗ ภกิ ษุ ท. ! กายคตาสติของชนเหลาใดเสื่อมแลวอมตะของชนเหลา นน้ั ชื่อวา เสอื่ มแลว . ภกิ ษุ ท. ! กายคตาสติของชนเหลาใดไมเส่ือมแลวอมตะของชนเหลา น้นั ช่ือวา ไมเ สือ่ มแลว; ภิกษุ ท. ! กายคตาสติอันชนเหลาใดเบ่ือแลวอมตะชอื่ วา อนั ชนเหลานนั้ เบอื่ แลว. ภกิ ษุ ท. ! กายคตาสติอันชนเหลาใดชอบใจแลวอมตะชื่อวาอนั ชนเหลา น้นั ชอบใจแลว ; ภิกษุ ท. ! ชนเหลา ใดประมาทกายคตาสติ ชนเหลา น้นั ชือ่ วาประมาทอมตะ. ภกิ ษุ ท. ! ชนเหลาใดไมประมาทกายคตาสติ ชนเหลานั้นชอื่ วาไมประมาทอมตะ; ภกิ ษุ ท. ! กายคตาสติอันชนเหลาใดหลงลืมอมตะชื่อวาอันชนเหลานัน้ หลงลมื . ภิกษุ ท. ! กายคตาสตอิ นั ชนเหลา ใดไมหลงลืมอมตะชอื่ วา อันชนเหลานน้ั ไมหลงลมื ;
๑๔๘ พุทธวจน ภกิ ษุ ท. ! กายคตาสติอันชนเหลา ใดไมสองเสพแลวอมตะชือ่ วา อันชนเหลานั้นไมสอ งเสพแลว. ภิกษุ ท. ! กายคตาสติอันชนเหลาใดสองเสพแลวอมตะช่อื วา อนั ชนเหลานั้นสอ งเสพแลว ; ภิกษุ ท. ! กายคตาสติอันชนเหลาใดไมเจริญแลวอมตะชอื่ วาอนั ชนเหลานนั้ ไมเ จริญแลว; ภิกษุ ท. ! กายคตาสติอันชนเหลาใดเจริญแลวอมตะช่อื วา อันชนเหลานน้ั เจริญแลว; ภิกษุ ท. ! กายคตาสติอันชนเหลาใดไมทําใหมากแลว อมตะช่อื วา อนั ชนเหลา นัน้ ไมท าํ ใหมากแลว; ภิกษุ ท. ! กายคตาสติอันชนเหลาใดทําใหมากแลวอมตะชอ่ื วา อนั ชนเหลานน้ั ทาํ ใหม ากแลว ; ภิกษุ ท. ! กายคตาสติอันชนเหลาใดไมรูดวยปญญาอันย่ิง อมตะชื่อวาอันชนเหลานั้นไมรูดวยปญญาอนั ยงิ่ ; ภิกษุ ท. ! กายคตาสติอันชนเหลาใดรูดวยปญญาอันยงิ่ อมตะชอ่ื วาอนั ชนเหลา นน้ั รดู วยปญ ญาอนั ยงิ่ ;
อานาปานสติ ๑๔๙ ภกิ ษุ ท. ! กายคตาสติอันชนเหลาใดไมกําหนดรูแ ลว อมตะชอื่ วา อนั ชนเหลานน้ั ไมก ําหนดรแู ลว ; ภิกษุ ท. ! กายคตาสติอันชนเหลาใดกําหนดรูแลวอมตะชอื่ วา อันชนเหลาน้นั กาํ หนดรูแลว ; ภกิ ษุ ท. ! กายคตาสติอันชนเหลาใดไมทําใหแจงแลว อมตะชื่อวาอันชนเหลานั้นไมทําใหแจงแลว; ภิกษุ ท. ! กายคตาสติอันชนเหลาใดทําใหแจงแลว อมตะชอื่ วา อนั ชนเหลานั้นทําใหแจง แลว , ดงั น.้ี ปสาทกรธัมมาทบิ าลี เอก. อํ. ๒๐/๕๕ - ๖๐/๒๒๕ - ๒๔๖.
มลู นิธิพุทธโฆษณ มลู นิธแิ หง มหาชนชาวพุทธ ผซู ึ่งชัดเจน และมนั่ คงในพุทธวจน เริ่มจากชาวพุทธกลุมเล็กๆกลุมหน่ึง ไดมีโอกาสมาฟงธรรมบรรยายจากทา นพระอาจารยค กึ ฤทธิ์ โสตฺถิผโล ทเ่ี นนการนําพทุ ธวจน (ธรรมวินัยจากพทุ ธโอษฐ ท่ีพระพทุ ธองคท รงยืนยันวา ทรงตรสั ไวด ีแลว บริสุทธิ์บรบิ ูรณส้ินเชงิ ท้งั เนอื้ ความและพยัญชนะ)มาใชในการถายทอดบอกสอน ซึ่งเปนรูปแบบการแสดงธรรมท่ีตรงตามพุทธบัญญัติตามที่ทรงรับส่ังแกพระอรหันต ๖๐ รูปแรกท่ีปาอิสิปตนมฤคทายวัน ในการประกาศพระสทั ธรรม และเปนลักษณะเฉพาะท่ภี กิ ษใุ นครง้ั พุทธกาลใชเปนมาตรฐานเดียว หลกั พุทธวจนน้ี ไดเขามาตอบคําถาม ตอความลงั เลสงสัย ไดเขามาสรางความชัดเจน ตอความพรา เลอื นสับสน ในขอธรรมตางๆ ทีม่ ีอยใู นสงั คมชาวพุทธ ซง่ึทงั้ หมดน้ี เปนผลจากสาเหตุเดยี วคอื การไมใ ชคําของพระพุทธเจา เปนตวั ต้งั ตน ในการศึกษาเลา เรียน ดวยศรทั ธาอยา งไมหวนั่ ไหวตอองคสมั มาสัมพุทธะ ในฐานะพระศาสดา ทา นพระอาจารยค กึ ฤทธ์ิ ไดป ระกาศอยา งเปน ทางการวา “อาตมาไมม คี าํ สอนของตวั เอง” และใชเ วลาท่มี อี ยู ไปกับการรบั สนองพทุ ธประสงค ดว ยการโฆษณาพุทธวจน เพ่ือความตงั้ ม่ันแหง พระสัทธรรม และความประสานเปน หน่งึ เดียวของชาวพทุ ธ เมื่อกลับมาใชหลกั พทุ ธวจน เหมือนทีเ่ คยเปนในครงั้ พุทธกาล สง่ิ ที่เกิดขนึ้คือ ความชดั เจนสอดคลอ งลงตัว ในความรคู วามเขาใจ ไมว าในแงข องหลกั ธรรม ตลอดจนมรรควธิ ีที่ตรง และสามารถนําไปใชป ฏบิ ัติใหเกิดผล รูเ หน็ ประจักษไดจรงิ ดว ยตนเองทนั ที ดวยเหตนุ ้ี ชาวพุทธท่ีเหน็ คุณคา ในคําของพระพทุ ธเจา จงึ ขยายตัวมากข้นึ เร่ือยๆเกิดเปน “กระแสพทุ ธวจน” ซ่ึงเปน พลังเงยี บทีก่ ําลงั จะกลายเปน คล่ืนลูกใหม ในการกลบัไปใชระบบการเรียนรูพระสทั ธรรม เหมือนดังครง้ั พุทธกาล
ดว ยการขยายตัวของกระแสพทุ ธวจนนี้ สอ่ื ธรรมท่เี ปนพทุ ธวจน ไมว าจะเปนหนังสือ หรอื ซีดี ซึ่งแจกฟรีแกญาตโิ ยมเร่มิ มไี มพอเพยี งในการแจก ทั้งน้ี เพราะจาํ นวนของผูทีส่ นใจเหน็ ความสาํ คญั ของพุทธวจน ไดขยายตัวมากขึน้ อยา งรวดเรว็ ประกอบกบั วาทานพระอาจารยคึกฤทธ์ิ โสตฺถิผโล เครงครัดในขอวัตรปฏิบัติตามแนวทางของทานพระโพธิญาณเถร (ชา สุภฺทโท) ภายใตวินัยอันเปนพุทธบัญญัติ การเผยแพรพุทธวจนทผ่ี านมา จึงเปน ไปในลกั ษณะสันโดษตามมีตามได เม่อื มโี ยมมาปวารณาเปนเจาภาพในการจดั พมิ พ ไดม าจาํ นวนเทาไหร ก็ทยอยแจกไปตามทีม่ เี ทาน้ัน เม่อื มีมา ก็แจกไปเมือ่ หมด ก็คือหมด เน่ืองจากวา หนาที่ในการดํารงพระสัทธรรมใหตง้ั มน่ั สืบไป ไมไดผ กู จํากดัอยแู ตเพยี งพุทธสาวกในฐานะของสงฆเทา นน้ั ฆราวาสกลุมหน่งึ ซ่ึงเห็นความสําคัญของพุทธวจน จึงรวมตัวกันเขามาชวยขยายผลในส่ิงที่ทานพระอาจารยคึกฤทธิ์ โสตฺถิผโลทําอยแู ลว นั่นคือ การนําพุทธวจนมาเผยแพรโ ฆษณา โดยพิจารณาตดั สนิ ใจจดทะเบียนจัดตงั้ เปนมูลนธิ อิ ยา งถูกตองตามกฏหมาย เพื่อใหก ารดาํ เนินการตางๆ ทงั้ หมด อยใู นรูปแบบทโ่ี ปรง ใส เปดเผย และเปด กวา งตอ สาธารณชนชาวพุทธทั่วไป สาํ หรับผูที่เห็นความสําคัญของพุทธวจน และมีความประสงคที่จะดาํ รงพระสัทธรรมใหต้งั ม่ัน ดว ยวิธขี องพระพุทธเจา สามารถสนับสนนุ การดาํ เนินการตรงน้ีไดดวยวิธีงายๆ นั่นคือ เขามาใสใจศึกษาพุทธวจน และนาํ ไปใชปฏิบัติดวยตนเอง เมื่อรูประจักษ เห็นไดดวยตนแลว วามรรควิธีท่ีไดจากการทาํ ความเขาใจ โดยใชคาํ ของพระพุทธเจาเปนตัวต้ังตนน้ัน นําไปสูความเห็นท่ีถูกตอง ในหลักธรรมอันสอดคลองเปนเหตุเปนผล และเชื่อมโยงเปนหนึ่งเดียว กระท่ังไดผลตามจริง ทาํ ใหเกิดมีจิตศรัทธา ในการชวยเผยแพรขยายสื่อพุทธวจน เพียงเทานี้ คุณก็คือหน่ึงหนวยในขบวน“พทุ ธโฆษณ“ แลว นี่คือเจตนารมณของมูลนิธิพุทธโฆษณ นั่นคือเปนมูลนิธิแหงมหาชนชาวพุทธ ซง่ึ ชดั เจน และมนั่ คงในพุทธวจน
ผูที่สนใจรบั สอ่ื ธรรมที่เปน พทุ ธวจน เพอื่ ไปใชศกึ ษาสว นตัว หรือนําไปแจกเปน ธรรมทาน แกพอ แมพีน่ อง ญาติ หรอื เพื่อน สามารถมารบั ไดฟ รี โดยไมมีเงอ่ื นไข ท่ีวัดนาปาพง หรอื ตามทพ่ี ระอาจารยคึกฤทธ์ิไดรับนิมนตไ ปแสดงธรรมนอกสถานท่ีสาํ หรบั รายละเอยี ดกจิ ธรรมตา งๆ ภายใตเ ครอื ขายพุทธวจนโดยวัดนาปา พง คน หาขอ มูลไดจาก www.watnapp.com หากมีความจํานงท่จี ะรับไปแจกเปนธรรมทานในจํานวนหลายสบิ ชุด ขอความกรุณาแจงความจํานงไดท ี่ มลู นธิ ิพุทธโฆษณ สาํ นักงานใหญ : ๑๖/๘๘ ชัน้ ๒ ซอยสุขุมวทิ ๖๘ ถนนสุขุมวิท แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพมหานคร ๑๐๑๒๐ โทรศพั ท ๐๒-๗๔๔-๘๓๖๐ - ๑ โทรสาร ๐๒-๓๙๘-๒๑๘๔ เวบไซด : www.buddhakos.org อเี มล : [email protected] ประสานงานและเผยแผ : มลู นธิ ิพทุ ธโฆษณ อาคารภคินท ๙ ถนนรชั ดาภเิ ษก แขวงดนิ แดง, เขตดินแดง กรงุ เทพมหานคร ๑๐๔๐๐ โทร.๐๘๕-๐๕๘-๖๘๘๘, ๐๘๑-๕๑๓-๑๖๑๑ สนบั สนุนการเผยแผพ ทุ ธวจนไดท ี่ชอื่ บัญชี “มูลนธิ พิ ุทธโฆษณ” ธนาคารกสกิ รไทย สาขา ยอยตลาดไท ประเภท บญั ชีออมทรพั ย เลขทีบ่ ญั ชี ๔๘๔-๒-๑๐๘๗๗-๘
ขอกราบขอบพระคณุ แด่พระอาจารยค์ ึกฤทธิ์ โสตฺถิผโล และคณะสงฆว์ ดั นาป่าพงที่กรณุ าใหค้ ำปรกึ ษาในการจัดทำหนงั สอื เล่มนี้ตดิ ตามการเผยแผพ่ ระธรรมคำสอนตามหลักพทุ ธวจนโดยพระอาจารย์คกึ ฤทธ์ิ โสตฺถิผโล ไดท้ ่ี• media.watnapahpong.org , www.nap-tv.com , www.watnapp.com (ธรรมบรรยายคำ่ วันเสาร์) ทั้งภาพและเสียงตงั้ แต่ ๑๙.๐๐ น.• คลืน่ ส.ว.พ. FM ๙๑.๐ MHz ทุกวันพระ เวลา ๑๖.๔๐ น. , FM ๑๐๖.๐ MHz (คลน่ื ครอบครัวขา ว) จนั ทร- ศุกร เวลา ๐๕.๐๐ - ๐๕.๓๐ น.• ทีวีดาวเทยี มชอ่ ง A I Biz Net Tong Hua เวลา ๐๕.๐๐ - ๐๕.๓๐ น. และ เวลา ๐๖.๐๐ - ๐๗.๐๐ น. แผนทว่ี ัดนาป่าพง ลงสะพานคลอง๑๐ไปย เู ทริ น์ แรกม า แล้วเลย้ี วซ ้ายก ่อนข ึ้นส ะพาน ๐๒-๕๔๙-๒๑๗๔ ๐๘๑-๕๑๓-๑๖๑๑ ๐๘๔-๐๙๖-๘๔๓๐ ลงสะพานคลอง ๑๐ เล้ยี วซ้ายคอสะพาน
บรรณานุกรม พระไตรปฎิ กบาลีอกั ษรไทยฉบับสยามรฐั พระไตรปิฎกไทยฉบบั สยามรัฐ พุทธวจน ฉบบั ธรรมโฆษณ์ (ชุดจากพระโอษฐ์ ผลงานแปลพุทธวจนโดยท่านพทุ ธทาสภกิ ขุ) พุทธวจน ฉบับตรวจแก้ (จัดพมิ พโ์ ดยมลู นิธิพุทธโฆษณ)์ ร่วมจดั ทำโดย กลมุ ละนันท,ิ กลมุ พุทธโอษฐ, กลุมธรรมะสขี าว, กลุมสมณะศากยะปตุ ตยิ ะ, กลุมพนักงานตอ นรับบนครือ่ งบินบรษิ ัทการบนิ ไทย, กลมุ มหาวทิ ยาลยั สงขลานครนิ ทร, กลุม วิทยาเขต-หาดใหญ่, ชมรมพุทธบริษทั ศากยบตุ ร, คณุ สธุ ี วชิระสมบรู ณ,์ คุณสายทิพย์ ยวุ เทพากร, คณุ อมฤต ชยั บตุ ร, คุณพิมจนั ทร์ วิมุกตานนท,์ คณุ วิจิตรา คปุ ตัษเฐยี ร, คณุ วงสริ ิ เอ่ียวเหล็ก คณุ มานพ พุ่มเข็ม และครอบครวั , คณุ ดนัย วงศาโรจน์ และครอบครัว, คณุ สุเทพ กุลสิงห์ และครอบครวั , คณุ วราภรณ์ ศกั ดี และครอบครัว นายกเทศมนตรบี างคูวดั คุณพสษิ ฐ์ มะลิ,บรษิ ัท หา้ งพระจันทร์โอสถ จำกดั , บรษิ ัท ไทยควอลิตี้ แลนด์ แอนด์ เฮา้ ส์ จำกดั ,
ภิกษุ ท. ! อานาปานสติสมาธินี้แล เป็นธรรมอันเอก ซึ่งเมื่อบุคคลเจริญแล้ว ทำให้มากแล้ว ย่อมทำสติปัฏฐานทั้ง ๔ ให้บริบูรณ์;สติปัฏฐานทั้ง ๔ อันบุคคลเจริญแล้ว ทำให้มากแล้ว ย่อมทำโพชฌงค์ทั้ง ๗ ให้บริบูรณ์;โพชฌงค์ทั้ง ๗ อันบุคคลเจริญแล้ว ทำให้มากแล้ว ย่อมทำวิชชาและวิมุตติ ให้บริบูรณ์ได้ มหาวาร. สํ. ๑๙ /๔๒๔ /๑๔๐๒ - ๑๔๐๓.
!\"#\"$\"#%&'-\"*,&\"%&' !#\" $% &. ! '()*+,-#.)+ /.-0)*12'34)5.6.-0)*12,,#/+)'798 #)*,:909=<; > 19?((@)#)*&:A=0.)*...!\"#$9% :9A *+,-B,<C /+)'798 D4EF)-'09G #)*19#)*,*+'E 7897(62H !#\" $% &. ! B9'0.)+ 1@I-?+ (\"J!K#)*KF)LF\"B9'0.+)9:A9B,<C /+)*+,-I-+?(\"J!K,-F6 !#\" $% &. ! B9'0.)+ 1@?(\"J!K#)*KF)LF\"B9'0.+)9:A9B<,C /+)*+,-?(J\" !K,-F6 !#\" $% &. ! #)*KF)LF,\" :9B9'0.)+ 1@I-+L4,='LM5./4,-F6BC<,/)+ ,:9B9'0.)+ 9A9: I-L+ ,4 ='LM5./4 !\"#$% &. ! #)*KF)LF,\" 9: B9'0.)+ 1@L4,='LM5.4/,-F6B<C,/+),:9B9'0.+)9:A9L,4 ='LM5.4/ !\"#$% &. ! B9'0.)+ 1@7(6-)&#)*KF)LF\"B9'0.)+ 9A9: BC,< /)+ 7(6-)&,-F6 !\"#$% &. ! B9'0.)+ 1@I-7+ (6-)&#)*KF)LF\"B9'0.+)99:A B,<C /+)I-+7(6-)&,-F6...,7% (\". -. NO / NPQ / RSP. , ',#. ,T. RU / QP / RVQ,RVP.!\"#$%&&'()*+ ,-./012\"#$3&(456)7/89:8&;<:=8!>?!8%8&@6)13A)%&&'/8) BCD!C/%FEC )GH)IJ-J)*+K.H&-J:8&!9L)KLH K'?!9L)!C/%CEF):8&,-./0,8:GH)IJ-J 12#$\" 1M5NM?F)/O::&@* F):8&,-./0P&\"$1M5NM? 43&.F6HQL8'B(1$*5.&$JQ$J 12\"#$&-:=8QL8'R>:GH$9D$9DH$'>B D$Q03&<:=8.H8)DH$'>BF):8&,-./012\"#$ 104.1848843 QL8'!(.L:NB(3&(P5.- G.C G$? K./H #Q* O@;&68 4/&. STU-VUW-UXUU P&$\" QO@$8&L* &&@ 4/&. STV-SVT-XTTT!\"#!$%&$'()*+),-'./''%01234!$%567&-89/:;4 <#*-'.3$;$'*=0>&?9/\"@ <2!AB\")<6 C#D9EF media.watnapahpong.org | www.nap-tv.com | www.watnapp.com (/''%G''*$*0F1:74(2$'=) 97HIJ$-+6.(2E*I !7HI+!, 19.00 4. | 06KF4 2.:.-. FM 91.0 MHz 98&:74-'. (:6$ 16.40 4. | FM 106.0 MHz (:6$ 05.00-05.30 4. | 9E:E#$:(9E*% L,3I A I Biz Net Tong Hua (:6$ 05.00-05.30 4. +6. 06.00-07.00 4.
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172