วิชาภาษาอังกฤษ

48 ที่ หวั เรือ่ ง ตวั ชี้วดั เนือ้ หา จํานวน (ช่วั โมง) - Do I have to send the application form? - Should I also send the resume/ reference? - When/Where will the interview take place? - What kind of goods are available? - How much does it cost? - How can I send the order? - Is there any discount? - How about the present promotion? - How about the quality? - Where/When can I buy this product? - What is the product’s significance? - Please let me know if............................ - I’m interested in........................... - That’s very interesting. - I’m very appreciated......................... - When will I receive the product? - How should I pay for the product? - By cash/check /credit. - Thanks for your interest /kindness/ information. - It’s my pleasure. - You’re welcome. - Sorry. /I’m sorry. 4 Cultural 1. ปฏบิ ตั ิตน 1. การใชภาษาในการส่อื สารไดเหมาะสมตาม 10 Difference ตามมารยาท มารยาททางสังคมและวฒั นธรรมของเจาของภาษา วัฒนธรรมและ การใชภาษา น้ําเสยี งและภาษาทาทางได ประเพณตี าง ๆ อยางเหมาะสมกับบุคคล เวลา สถานที่และโอกาส เช ไดอยางถกู ตอง น การสมั ผสั มอื การโบกมือ

49 ท่ี หัวเร่อื ง ตัวชวี้ ัด เนอื้ หา จาํ นวน (ชั่วโมง) 2.เปรยี บเทียบ การใชสหี นาทาทาง และน้ำเสียงประกอบการ ความแตกตาง พูด การแนะนําตัวเอง การแสดงความรสู กึ ใน ระหวาง โอกาสตาง ๆ การแตงกาย การรบั ประทาน วฒั นธรรม อาหาร รวมงานงานเลี้ยง งานสงั สรรค และ องั กฤษกบั กิจกรรมทางสงั คมตาง ๆ วัฒนธรรมไทย ตวั อยาง เชน - Blow a kiss. (สงจูบ) I love you. (ภาษาใบ) - Be quiet. (เงยี บ) - That’s bad. (ยกหวั แมมอื ช้ลี งไปที่พื้น)

50 ท่ี หวั เร่อื ง ตัวชว้ี ดั เนื้อหา จาํ นวน - How’s everything? (ชว่ั โมง) - How have you been? - What’s going on with your life? - How’s life? - What’s up? - May I introduce myself? - Let me introduce myself, .............. - Allow me to introduce................ to................ - Have you met......................? - Congratulations on........................ - Happy Birthday. - Merry Christmas. - Happy New Year. - I’m sorry for......................... - May god bless you. - May god be with you. - I feel sorry............................... - Please pass my warm regards to..................... - Toast! - I wish you................................... - Would you mind.................. - Please let me know............... - Would you please................... - May I have................................... - Can you help me..................... - You look smart. - How nice............................... - I wonder if.............................. - How to cook.............................. etc.

51 ท่ี หัวเรือ่ ง ตวั ช้ีวดั เนือ้ หา จํานวน (ชวั่ โมง) 2. ความเชือ่ และขนบธรรมเนียม ประเพณี 5 ของเจาของภาษา ความเปนมาของความเช่ือ ขนบธรรมเนยี มและ ประเพณตี าง ๆ ในสงั คมของเจาของภาษา การทํา กิจกรรมตามความเชอ่ื ขนบธรรมเนียมและ ประเพณีตาง ๆ ในดาน บทเพลง การแตงกาย อาหาร เคร่ืองดมื่ และการประกอบ พธิ ีกรรมทเ่ี กย่ี วของ ไดแก วันคริสตมาส วันขอบคุณพระเจา วันวาเลนไทนและวันพอ 3. การเปรยี บเทยี บโครงสรางภาษาไทยกับ 5 ภาษาองั กฤษ เปรยี บเทยี บลกั ษณะคาํ ทม่ี าของคาํ ความหมาย และการประยุกตคําในภาษาอังกฤษใชใน ภาษาไทยและ คาํ ในภาษาไทย ท่ีนาํ ไปในภาษาอังกฤษ ตวั อยาง เชน - ศพั ทของภาษาไทยสวนใหญมาจากภาษาบาล/ี สนั สกฤตในขณะทศี่ พั ทของภาษาองั กฤษ สวนใหญจากภาษากรีกและโรมัน - คาํ ในภาษาองั กฤษท่ีนํามาใชในภาษาไทย เชน กโิ ลกรัม กิโลเมตร เซนติเมตร คาํ ในภาษาไทยที่ นําไปใชในภาษาอังกฤษ เชน Tom Yam Kung,Muai Thai เปนตน โครงสรางของประโยคตางๆ - ประโยคความเดียว (Simple Sentence) - ประโยคความรวม (Compound Sentence) - ประโยคความซอน (Complex Sentence) - ประโยคความผสม (Compound-Complex Sentence) - ประโยคความซอน (Complex Sentence)

52 ท่ี หวั เรอ่ื ง ตัวชว้ี ัด เนอ้ื หา จาํ นวน (ชวั่ โมง) - ประโยคความผสม (Compound-Complex 5 Sentence) - การใช Transitive / intransitive/ auxiliary verbs - Tense ตางๆ - ลกั ษณะของประโยคคําถาม - ประโยคเงอื่ นไข - การใชสันธาน (Conjunction) และบุพบท(Preposition) etc. 4. เปรยี บเทยี บ สาํ นวน คาํ พงั เพย สภุ าษติ บท กลอน ภาษาไทยและภาษาองั กฤษ 4.1 คําและสํานวนทไี่ ดรบั อิทธพิ ลจากศาสนา เชน - Oh, god! = คุณพระชวย - Oh, my god! = พุทโธ ธัมโม สงั โฆ etc. 4.2 คาํ พังเพย สุภาษิตท่ีมักจะใชใน ชีวติ ประจาํ วัน เชน - It’s a piece of cake. = ปลอกกลวยเขาปาก - Silence is gold. = นงิ่ เสียตําลงึ ทอง - Time and tide wait for no one. = เวลาและวารไี มเคยคอยใคร ลักษณะของบทกลอนภาษาไทยกับภาษาองั กฤษที่ เหมอื นและแตกตางกัน แรงบนั ดาลใจของกวใี น การแตงคําประพนั ธพรอมตวั อยางท่ีมกั ไดยนิ เสมอ ๆ เชน Roses are red, violets are blue,sugar is sweet, but not as sweet as you.

53 ที่ หัวเรอ่ื ง ตวั ชวี้ ัด เนือ้ หา จาํ นวน (ชั่วโมง) แมเนอ้ื เยน็ เปนหวงมหรรณพ จะขอพบศรีสวสั ดิเ์ ปนมัจฉา แมเปนบัวตวั พีเ่ ปนภมุ รา เชยผกาโกสุมภประทุมทอง แมเปนถํา้ อําไพใครเปนหงส จะรอนลงสงิ สเู ปนคสู อง จะตดิ ตามทรามสงวนนวลละออง เปนคูครอง พสิ วาส ทกุ ชาติไป etc. - Subj. + V1 - Subj. + V3 - Subj. + to + V1 - Subj. + V. ing Noun phrase

54 ท่ี หัวเรอื่ ง ตวั ชวี้ ัด เน้ือหา จํานวน (ชั่วโมง) 6 Self - 1. ศกึ ษาคนคว้า 1. บทความเกี่ยวกบั เศรษฐกจิ พอเพียงจาก 2 Sufficiency ความรู้และขอมลู หนงั สอื หนังสือพมิ พ หรือ Website 2 Economy จากสอ่ื ตาง ๆ ทเ่ี กี่ยวของ 2 2 3.สบื คนขอมลู ใน 2. คําศัพท วลี สํานวน ทเ่ี กยี่ วของกับ 2 เศรษฐกจิ พอเพียง เชน moral , 4.ดานตาง ๆ 2 moderation,reasonable, 5.จาก Internet knowledge, saving เปนตน 3. เขาใจและใช ประโยคซับซอนใน 3. โครงสราง Conditional sentence สถานการณตาง ๆ (If -clause) 4. การแลกเปลี่ยน 4. โครงสราง Imperative ขอมลู ขาวสาร 5. การนาํ เสนอการนําเศรษฐกจิ พอเพยี งมาใชใน ความรู รูปแบบตาง ๆ เชน การติดคาํ ขวญั การสมั ภาษณ การทํา Poster เปนตน 6. การเลนเกม Cross word 55

ท่ี หวั เรอ่ื ง ตัวชวี้ ดั เนอื้ หา จํานวน (ช่วั โมง) 7 Have you 1. ศกึ ษาคนคว้า 1. แบบสอบถาม (Questionnaire) 2 2 exercised ความรูและขอมลู เกยี่ วกับการดแู ลสุขภาพจากหนังสือหรอื 2 today? จากสอื่ ตาง ๆ Website เกี่ยวของ 2 4 2. สบื คนขอมลู ใน 2. การอานออกเสียง คาํ ศพั ท สาํ นวน วลี ดานตาง ๆ จาก ทเี่ ก่ียวของกับสขุ ภาพ เชน aerobics, Internet once, relaxed, health, healthy, firm, 3. เขาใจและใช have a headache เปนตน ประโยคซบั ซอนใน 3. ประโยคทเี่ ขียนดวย Modal Verb สถานการณตาง ๆ เชน should, must, ought to, had 6.4. ใช Tense ท่ี better, will เปนตน 7.ยุงยาก และซบั ซอน 4. Present Perfect Tense 5. แลกเปล่ยี นขอมูล 5. การสาํ รวจแบบสอบถามเกย่ี วกบั ขาวสารความรู สุขภาพ บุคคลใกลชดิ แลวนําเสนอขอมูล ทง้ั อยางเปนทางการ เปนรูปกราฟหรอื แผนภูมิ และไมเปนทางการ 8 Shall we 1. ศกึ ษาคนควาความ 1. บทความเกี่ยวกบั การประหยดั พลงั งาน 2 save the 2 energy? รู และขอมูลจากส่ือ (Energy Saving) จากหนงั สอื หนังสือพมิ พ 2 ตาง ๆ หรอื Website ทเี่ ก่ยี วของ 2. สบื คนขอมูลในดาน 2. เสยี ง คาํ ศัพท วลี สาํ นวนที่เก่ยี วของกับ ตาง ๆ จาก Internet การประหยดั พลงั งาน เชน reuse, 3. เขาใจและใชประโยค recycle, plug in, unplug, turn on, ซบั ซอนในสถานการณ turn off, reduce เปนตน ตาง ๆ ไดอยางถกู ตอง 3. โครงสราง เรือ่ ง Imperative + V1 4. ใช Tense ทย่ี งุ ยาก และซับซอนไดอยาง don’t + V1 + ........................... ถกู ตอง 5. แลกเปลยี่ นขอมูล ขาวสารความรทู ้ังอยาง เปนทางการและไมเปน ทางการ

56 ที่ หวั เร่ือง ตัวชวี้ ัด เนอ้ื หา จํานวน (ชวั่ โมง) 9 What have 1. ศกึ ษาคนควาความรู 1. บทสนทนาเก่ยี วกบั การไปตัดเส้ือ 2 I done? และขอมลู จากส่ือตาง ๆ 2. การอานออกเสยี ง คําศัพท วลี สํานวน 2 2. อานออกเสยี งคาํ ศพั ท ท่ีเกย่ี วของกบั การไปตดั เส้ือ เชน 2 วลี สาํ นวน ไดอยาง measure,sleeves, seam, shorten 2 ถกู ตอง เปนตน 2 3. เขาใจและใชประโยค 3. โครงสราง have something done ซบั ซอนในสถานการณ 4. โครงสราง Reported Speech ตาง ๆ 5. การเลาเร่อื ง (สถานการณ) 4. ใช Tense ทย่ี ุงยาก และซับซอน 5. แลกเปล่ียนขอมลู ขาวสารความรู 10 What is 1. การสบื คนขอมลู 1. การขอมี e-mail 2 your 1 e-mail ดานตาง ๆ จาก 2. การเปด/ปด e-mail 2 address? 2 Internet และรับสง 3. ภาษา e-mail 1 11 Natural 1 Disaster e-mail 4. บทอานแนะนาํ ตนเองทีพ่ มิ พมาจาก 1 2. ศึกษาคนควา e-mail 2 ความรู และขอมลู 5. การสรางประโยคคาํ ถามจากคาํ ตอบท่ี จากสอื่ ตาง ๆ ใหมา 3. เขาใจและใช 6. การถามและการตอบขอมูลการ ประโยคซับซอนใน เปรียบเทยี บ สถานการณตาง ๆ 7. การเขียนแนะนาํ ตนเองถงึ Pen pal 4. แลกเปล่ยี นขอมูล โดยสงทาง e-mail ขาวสารความรู ท้งั อยางเปนทางการ และไมเปนทางการ 1. ศึกษา คนควา 1. บทอานเกยี่ ว Earthquake, ความรู และขอมลู จาก Tornado หรือ Flood จากหนงั สือพิมพ สือ่ ตาง ๆ หรือ Website ของ หนังสือพิมพ The 2. สบื คนขอมลู ในดาน Nation หรอื Bangkok Post ตาง ๆ จาก Internet

ท่ี หัวเรื่อง ตัวชว้ี ดั เนอ้ื หา 57 จาํ นวน 3. เขาใจและใช 2. คําศพั ท วลี สาํ นวนทเ่ี ก่ยี วของ เชน (ช่ัวโมง) ประโยคทซี่ ับซอนใน kill,injured, die, homeless, help, shelter, 1 สถานการณตาง ๆ ได landslide เปนตน 3 อยางถกู ตอง 3. Past Simple Tense, Past Continuous 2 4. การใช Tense Tenseและ Past Perfect Tense. 1 ทยี่ ุงยากและซบั ซอน 4. Compound Sentence และ 5. แลกเปลยี่ นข้อมลู Complex Sentence ขาวสารความรู 5. การถามและการตอบคําถามจากบทอาน ทัง้ เปน ทางการ 5. การแสดงบทบาทสมมตุ ิ (Role Play) เปนผู และไมเปนทางการ ส่ือขาว นําเสนอขาวทีเ่ ก่ยี วกับ Natural Disaster 12 Let’s 1. ศึกษาคนควา 1. ตารางเวลาของ Bus, Train, Airplane, Boat 2 Travel 2 ความรูและขอมูลจาก หรือ Subway จากส่ือ 2 สื่อตาง ๆ ตาง ๆ เชน แผนพับ หนังสอื พิมพ หรือ Website ท่ี 2. สบื คนขอมูลในดาน เกี่ยวของ ตาง ๆ จาก Internet 2. Asking & giving Information เชน และรบั สง E-mail - Could you please tell me.................? 3. เขาใจและใช - Please tell me.............................. ประโยคที่ซบั ซอนใน - Excuse me. Do you know...................? สถานการณตาง ๆ 3. การบอกทศิ ทาง (Direction) เชน 4. ใช Tense ทีย่ งุ ยาก - Go straight. และซบั ซอนได - Keep walking to.......................... 5. แลกเปล่ยี นขอมูล - Walk past.................................. ขาวสารความรู - It’s at the opposite of.......................... - Next to....................................

58 ที่ หวั เร่อื ง ตัวชวี้ ัด เนือ้ หา จาํ นวน (ชว่ั โมง) 4. Past Simple Tense และ Past Simple 2 Tense 2 5. การเขยี นเลาเร่ืองหรือประสบการณใน การทองเท่ียวการวางแผนการเดินทางทองเทย่ี ว 13 Will it rain 1. ศกึ ษาคนควา 1. บทอาน การพยากรณอากาศ 2 1 tomorrow? ความรูและขอมลู จาก (WeatherForecast) ทงั้ ในประเทศและ 2 ส่อื ตางๆ เชน หนังสอื ตางประเทศ 2 1 พิมพภาษาองั กฤษและ 2. การถาม-ตอบ คําถามจากบทอาน Website การพยากรณอากาศ (Weather Forecast) 2. แลกเปลี่ยนขอมลู 3. การถามและการขอขอมูล (Asking & ขาวสารความรู้ GivingInformation) เสียง คาํ ศัพท วลี ทั้งอยางเปนทางการ สาํ นวนทม่ี กั ใชบอยๆ ในขาวพยากรณอากาศ และไมเปนทางการ เชน shower, windy,heavy, scatter, 3. เขาใจและใช stormy, sunrise, sunset,maximum, ประโยคที่ซับซอนใน minimum, Northeast สถานการณตาง ๆ ได 4. Parts of Speech การทาํ คาํ นาม Noun อยางถูกตอง ใหเปน Adjective 4. สบื คนขอมลู ในดาน 5. Website ทเี่ กย่ี วกบั การพยากรณอากาศ ตาง ๆ จาก Internet Role play เปนผูประกาศขาวการพยากรณ์ อากาศ 14 Global 1. ศกึ ษาคนควา 1. บทความเกีย่ วกบั ภาวะโลกรอน 2 Warming 2 ความรูและขอมลู จาก (GlobalWarming) สาเหตขุ องภาวะโลกรอน สอื่ ตาง ๆ หรอื ผลกระทบของภาวะโลกรอนจากหนังสอื 2. สบื คนขอมลู ในดาน หรือหนังสือพมิ พหรือWebsite ทเ่ี กยี่ วของ ตางๆ จาก Internet 2. การอานออกเสียงคาํ ศัพท วลี สํานวน 3. เขาใจและใช ที่เกีย่ วของ เชน temperature, increase, ประโยคซบั ซอนใน melt,burn, earth, hot เปนตน สถานการณตาง ๆ

59 ท่ี หัวเรือ่ ง ตัวชี้วัด เน้อื หา จํานวน (ชวั่ โมง) 4. ใช Tense 3. โครงสราง Passive Voice 2 ท่ียุงยากและซบั ซอน Subj + V to be + V3 2 5. แลกเปล่ียนขอมลู 4. บทสนทนาทเี่ กี่ยวกบั การปองกันหรอื ลด 2 ภาวะโลกรอน ขาวสารความรทู ้ัง อยางเปนทางการ 5. Mind map แสดงเหตผุ ลและผลกระทบ และไมเปนทางการ ของภาวะโลกรอน 15 Urgently 1. ศึกษาคนควา 1. โฆษณาตําแหนงงาน (Job 2 Wanted ความรูและขอมูลจาก Advertisement) จากหนังสอื หนงั สือพมิ พ สือ่ ตาง ๆ หรอื Website เก่ยี วของ 2. สบื คนขอมูลใน 2. คาํ ศัพท สํานวน วลี โครงสรางที่ 2 ดานตาง ๆ จากInternet เกย่ี วของ เชน qualification, salary, และรบั สง e-mail graduation, age,photo, apple เปนตน 3. เขาใจและใช 3. การเขยี นประวตั ิ (Resume) เพอ่ื สมคั ร 2 ประโยคซับซอนใน งานการสง e-mail สมัครงาน สถานการณตาง ๆ 4. การแลกเปล่ียน ขอมลู ขาวสารความรู ทัง้ อยางเปนทางการ และไมเปนทางการ 16 ภาษาอังกฤ 1. ใชคําศพั ทเกยี่ วกบั 1.คําศพั ทเก่ยี วกับการใหบรกิ ารนวดแผน 5 ษ สําหรบั การใหบริการนวด แผนไทย ไทย เชน massage, relax etc. พนักงาน ไดถกู ตอ้ ง 2. สํานวนภาษาการกลาวเชญิ ชวน 2 นวด แผน 2. ใชสํานวนภาษาในการ ลูกคา การนัดหมายลกู คา การใหขอมลู ไทย เชญิ ชวน นัดหมายลูกค เกีย่ วกับการ บรกิ ารนวดแผนไทย เชน า และ การใหขอมลู Come this way to the massage room. เกย่ี วกบั การนวดแผนไทย Please straight out your foot. Please check your belongings before you leave.Would you like to return for another massage later?

60 ที่ หวั เร่ือง ตัวชว้ี ัด เนือ้ หา จาํ นวน (ชั่วโมง) 17 ภาษาอังกฤษ สําหรับ 1. ผเู รยี นสามารถใช 1. การโตตอบและชักชวนลกู คา 2 พนกั งานขาย 2 ถอยคาํ สาํ นวน เขาชมรานขายของทร่ี ะลึก 4 2 และประโยคตอบ 2. การฝกสนทนาในสถานการณที่ 2 โตในการบอกขอมูล กาํ หนดและการฝกเรียงลําดบั ประโยค ความประสงคใน 3. การตอรองราคาสินคาในรานคา การซ้อื สินคาได 4. การฝกเรียงลําดับบทสนทนา ในสถานการณดังน้ี 5. การจองต๋วั รถโดยสาร รถไฟ 1.1 การทักทาย เครื่องบิน เชญิ ชวนลูกคา 6. การฝกเรยี งลําดบั บทสนทนา 1.2 เจรจาซื้อขาย 7. แบบทดสอบทายบท และตอรองราคาสินคาได 1.3 โตตอบในการ ซ้อื ขายต๋วั โดยสารบอก จดุ หมายปลายทาง สาํ หรบั รถโดยสารรถไฟ และเครื่องบินได 1.4 มคี วามรคู วาม เขาใจและสามารถนํา ความรูเกยี่ วกบั การ เจรจาซอ้ื ขายไปใชไดทกุ สถานการณ์

61 อธิบายรายวิชาเลอื ก และรายละเอยี ดคำอธบิ ายรายวิชา ระดับประถมศึกษา มธั ยมศึกษาตอนตน้ มัธยมศกึ ษาตอนปลาย

62 คำอธบิ ายรายวชิ า พต 12001 ภาษาองั กฤษอา่ น-เขียนเบ้ืองตน้ จำนวน 2 หน่วยกติ ระดับประถมศึกษา มาตรฐานการเรยี นรู้ระดับ มีความรู้ ความเข้าใจ ทักษะและเจตคติเก่ียวกับ การฟัง พูด อ่าน เขียน ภาษาต่างประเทศ เพ่ือการส่ือสารในชีวิตประจำวัน ได้ถูกต้องตาม หลักภาษาและวัฒนธรรมของ เจ้าของภาษา ศกึ ษาและฝกึ ทักษะเกีย่ วกับเร่อื งตอ่ ไปน้ี ตัวอักษร สระ การสะกดคำ คำสั่ง คำขอร้อง ข้อมูลส่วนบุคคล (Personality Information) สัญลกั ษณ์ (Sign) ให้ถูกต้องตามหลักการอ่าน ตรงตามหลักภาษา และวัฒนธรรม ของเจา้ ของภาษา การจัดประสบการณก์ ารเรยี นรู้ ฝึกอ่าน เขียน ตัวอักษร การสะกดคำ คำสั่ง คำขอร้อง ข้อมูลส่วนตัว สัญลักษณ์ ท่ีสามารถนำไปใชใ้ นชีวิตประจำวนั ได้ การวัดและประเมนิ ผล ตรวจสอบด้วยวิธีการที่เหมาะสมและแสดงให้เห็นว่า สามารถนำไปใช้ในชีวิตจรงิ ได้จาก การสงั เกต สอบถาม สมั ภาษณ์ และทดสอบ

63 รายละเอียดคำอธบิ ายรายวิชา พต 12001 ภาษาอังกฤษอา่ น-เขยี นเบอ้ื งตน้ จำนวน 2 หน่วยกิต ระดับประถมศึกษา มาตรฐานการเรียนรรู้ ะดบั มคี วามรู้ ความเข้าใจ ทักษะและเจตคติเกีย่ วกบั การฟัง พูด อ่าน เขยี น ภาษาตา่ งประเทศ เพือ่ การส่ือสารในชีวติ ประจำวัน ไดถ้ ูกต้องตาม หลกั ภาษาและวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา ที่ หัวเรอื่ ง ตัวช้ีวัด เน้ือหา จำนวน 1 อักษร และ (ชวั่ โมง) สระภาษา 1. อ่านตวั อกั ษรและสระ ตวั อักษรและสระภาษาอังกฤษ 15 องั กฤษ ภาษาอังกฤษได้ (A-Z) ทง้ั พิมพ์ใหญแ่ ละพมิ พเ์ ลก็ 2 การสะกด คำศพั ท์ 2. เขียนตวั อักษรและสระ 3 คำส่ัง ภาษาองั กฤษได้ คำขอร้อง 1. อา่ นคำศพั ท์ง่าย ๆ ได้ คำศัพท์เก่ียวกบั ครอบครัว โรงเรียน 20 2. เขยี นสะกดคำศัพท์ สถานศึกษา สิง่ แวดลอ้ ม อาหาร งา่ ย ๆ ได้ เครือ่ งดม่ื เวลาว่าง นนั ทนาการ สุขภาพสวสั ดกิ าร การซอ้ื ขายและ ลมฟ้าอากาศ 1. อ่านประโยคคำส่ังและ ประโยคคำสง่ั 15 คำขอรอ้ งง่าย ๆ ได้ Look at the ...../here/over 2. เขยี นประโยคคำสงั่ และ there. คำขอร้องง่าย ๆ ได้ Say it again./Read and draw./Put a/an ..in/on/under a/an.../Don’t go over there. ประโยคคำขอร้อง Please look up the meaning in a dictionary. Please take a queue./Can/Could you help me.

64 ท่ี หวั เรอ่ื ง ตัวชวี้ ัด เน้ือหา จำนวน (ช่ัวโมง) 4 ขอ้ มูลสว่ น 1. อ่านคำศพั ทเ์ กย่ี วกบั คำศพั ทเ์ ก่ียวกับข้อมูลส่วนตวั 10 บุคคล ขอ้ มลู ส่วนตวั ได้ Name, age, sex, address, 20 (Personality 2. เขียนคำศพั ทเ์ กยี่ วกับ nationality, hobby Information) ข้อมลู ส่วนตัวได้ 5 สัญลักษณ์ 1. ระบสุ ญั ลักษณ์หรอื กล่มุ คำ ประโยคเดี่ยว สัญลกั ษณ์ (Sign) เคร่อื งหมายของ เครือ่ งหมายเกีย่ วกับตนเอง ประโยค ข้อความสั้น ๆ ครอบครัว โรงเรยี น สิ่งแวดลอ้ ม ทอี่ า่ นได้ อาหารเคร่ืองดมื่ เวลาวา่ งและ 2. วาดภาพ สญั ลกั ษณ์ นนั ทนาการ สขุ ภาพและสวสั ดกิ าร หรอื เครอื่ งหมายของ การซ้อื ขาย และลมฟ้าอากาศ ประโยค ข้อความสั้นๆ ที่อา่ นได้

65 คำอธิบายรายวิชา พต12002 วชิ าภาษาอังกฤษฟัง – พูดเบื้องต้น จำนวน 2 หนว่ ยกติ ระดบั ประถมศึกษา มาตรฐานการเรยี นร้รู ะดบั มีความรู้ ความเขา้ ใจ ทกั ษะและเจตคติเกยี่ วกับ การฟัง พูด อา่ น เขยี น ภาษาต่างประเทศ เพื่อการสอ่ื สารในชวี ติ ประจําวนั ได้ถูกต้องตาม หลักภาษาและวฒั นธรรมของเจ้าของภาษา ศกึ ษาและฝึกทกั ษะเกยี่ วกบั เร่อื งตอ่ ไปน้ี การใชป้ ระโยคคําสงั่ คาํ แนะนํา (Introduction) คาํ ขอรอ้ งท่ใี ช้ในหอ้ งเรียน (Request) การ พูดโต้ตอบการสื่อสารระหว่างบุคคล การแสดงความตอ้ งการ การบอกความรสู้ กึ ของตนเองเกี่ยวกับ เรอ่ื งต่าง ๆ ใกล้ตวั รวมทงั้ การพดู ขอ และใหข้ อ้ มูลงา่ ย ๆ เกยี่ วกับตนเองและเพ่ือน การจดั ประสบการณ์การเรียนรู้ ฝกึ การใช้ประโยคต่างๆ โดยการ ฟงั พูด ในเรอื่ งการทักทาย การแนะนาํ และการแนะนาํ ผอู้ ่นื การเสนอขอความชว่ ยเหลอื เพอ่ื แสดงความตอ้ งการ สามารถนําไปปรบั ใช้ ให้สอดคลอ้ งกับ ชวี ติ ประจําวนั ไดอ้ ย่างถกู ตอ้ งและเหมาะสม การวัดและประเมนิ ผล ตรวจสอบการใชป้ ระโยค คําแนะนํา คาํ ขอรอ้ ง และการพูดโตต้ อบการสื่อสารระหวา่ ง บุคคลให้ถูกตอ้ งตามสถานการณ์

66 รายละเอยี ดคำอธบิ ายรายวชิ า พต12002 วิชาภาษาอังกฤษฟัง-พดู เบ้อื งตน้ จ านวน 2 หนว่ ยกติ ระดับประถมศึกษา มาตรฐานการเรยี นรูร้ ะดบั มคี วามรู้ ความเขา้ ใจ ทกั ษะและเจตคตเิ กย่ี วกบั การฟัง พดู อา่ น เขยี น ภาษาต่างประเทศ เพอ่ื การส่ือสารในชวี ติ ประจาํ วัน ได้ถกู ต้องตาม หลักภาษาและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา ที่ หัวเรือ่ ง ตัวช้ีวัด เน้อื หา จำนวน (ชั่วโมง) 1 คาํ สั่ง ปฏิบตั ติ ามคาํ สง่ั ง่าย ๆ ที่ คําสง่ั ในห้องเรียนเชน่ Stand up./ 5 ฟงั ได้ Sit down./Listen./Repeat./Quiet!./ Stop! 2 คําแนะนาํ ฟงั และพูดคำแนะนําทใ่ี ช้ คําแนะนาํ เชน่ You should read 10 (Instruction) ในห้องเรยี นและ everyday./Think before you คำแนะนำ ในการเลน่ เกม speak./Start./You turn./My การวาด ภาพหรือการ turn./Roll the dice./Count the ทำอาหารและ เครือ่ งดื่ม number./Finish. ได้ 3 คําขอรอ้ ง ที่ ฟังและพูดคาํ ขอรอ้ งท่ีใช้ คําขอรอ้ ง เชน่ Please take a 10 ใช้ใน ในหอ้ งเรียนและคำ queue./Can/Could you help หอ้ งเรยี น ขอร้อง ในการเล่นเกม me. (Request) การวาด ภาพหรือการ ทาํ อาหาร และเครื่องดื่ม ได้

67 ท่ี หัวเร่ือง ตวั ชวี้ ัด เนอ้ื หา จำนวน (ชว่ั โมง) 4 การ สื่อสาร ฟงั และพดู โตต้ อบด้วยคํา บทสนทนาในการทกั ทายกล่าวลา ระหว่าง ส้นั ๆง่ายๆ ในการสือ่ สาร ขอบคุณ ขอโทษ และประโยค/ บุคคล ระหวา่ งบคุ คลได้ ข้อความที่ใช้แนะนําตนเอง เชน่ Hi/Hello/Good morning./Good afternoon./Good evening./I am sorry./How are you./I’m fine, thank you. And you?./Nice to see you too./Good bye./See you soon./ later. /Thanks./Thank you. Thank you very much./You’re welcome. 5 การบอก ความ ฟงั และบอกความต้องการ คําศพั ท์ สาํ นวนภาษาและประโยคท่ี 5 ตอ้ งการ ง่าย ๆ ของตนเองได้ ใชบ้ อกความ ตอ้ งการ เช่น Please ...../May I go out? /May I come in? 6 ข้อมลู ง่ายๆ ฟงั แล้วพดู ขอและให้ คําศพั ท์ สาํ นวนภาษาและประโยคที่ 20 เกีย่ วกับ ขอ้ มูล ง่าย ๆ เกีย่ วกบั ใช้ขอและให้ ขอ้ มลู เก่ยี วกบั ตนเอง ตนเอง และ ตนเองและ เพือ่ นได้ และเพอื่ น เชน่ What’s your เพ่อื น name? My name is....... How are you? I’m fine. What time is it? It is one o’clock. What is this? It is a/an..... How many are there? There is a/an... There is an/an..../There are ..... Who is ....? He/ She ....................

68 ท่ี หัวเรื่อง ตัวช้ีวัด เน้อื หา จำนวน (ชัว่ โมง) 7 การบอก ฟังและบอกความรสู้ ึก คาํ และประโยคท่ใี ช้แสดงความรู้สกึ ความรู้สกึ ของ ตนเองเก่ยี วกับสิ่ง เชน่ ดีใจ เสียใจ ชอบ ไม่ชอบ เช่น 10 ตา่ งๆ ใกล้ตวั หรอื Yeah!/Cool!/I’m happy./ I like กจิ กรรมต่าง ๆ ได้ cats./ I don’t like snake. 8 การพดู แสดง พูดแสดงความรสู้ กึ ของ คําและประโยคที่ใชแ้ สดงความรู้สกึ 10 ความรู้สกึ ตนเองเกย่ี วกับเรื่องต่าง ๆ และการให้ เหตผุ ลประกอบ เช่น ใกลต้ ัว กิจกรรมต่าง ๆ ชอบ ไมช่ อบ ดีใจ เสยี ใจ มคี วามสขุ พรอ้ มท้งั ใหเ้ หตผุ ลสน้ั ๆ เศร้า หวิ รสชาติ สวย นา่ เกลยี ด ประกอบได้ เสยี งดงั ดี ไมด่ ี เชน่ I’m ....../He/ She/It is.../You /We/ /They are ......... I/You/We/ They like ......./ He/ She likes....because...... I/You/We/They love.....He/ She loves.......because........ He /She doesn’t like /love / feel....because..... He/ She We/They feel .....because......

69 คำอธิบายรายวชิ า พต 12003 ภาษาอังกฤษหรรษา จำนวน 2 หนว่ ยกิต ระดบั ประถมศึกษา มาตรฐานการเรยี นร้รู ะดบั มคี วามรู้ ความเขา้ ใจ ทักษะและเจตคติเกีย่ วกับ การฟงั พดู อา่ น เขยี น ภาษาตา่ งประเทศ เพื่อการสือ่ สารในชีวติ ประจำวัน ไดถ้ กู ต้องตาม หลักภาษาและวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา ศึกษาและฝึกทักษะเกี่ยวกบั เรอ่ื งตอ่ ไปน้ี การพูดเขา้ จังหวะ (Chants) การร้องเพลงภาษาองั กฤษ การแสดงบทบาทสมมุติ กิจกรรม เทศกาลวันสำคัญ งานฉลอง และชีวติ ความเป็นอยู่ของเจา้ ของภาษา รวมถึงเกมทางภาษา นิทานและ เรื่องเลา่ พาเพลนิ การจัดประสบการณก์ ารเรียนรู้ ฝึกการพดู เขา้ จงั หวะ การร้องเพลงภาษาอังกฤษ สาธติ การแสดงบทบาทสมมุติ นทิ านและ เร่อื งเล่าพาเพลิน ตลอดจนการใช้เกมทางภาษา การวัดและประเมินผล พิจารณาความสามารถในการนำความรู้ และทกั ษะไปใช้ในชีวติ จริงได้ จากการสงั เกต และ สอบถาม

70 รายละเอียดคำอธบิ ายรายวิชา พต 12003 ภาษาอังกฤษหรรษา จำนวน 2 หน่วยกติ ระดับประถมศึกษา มาตรฐานการเรยี นรูร้ ะดับ มคี วามรู้ ความเข้าใจ ทักษะและเจตคตเิ ก่ยี วกบั การฟัง พูด อ่าน เขียน ภาษาตา่ งประเทศ เพอ่ื การสื่อสารในชวี ิตประจำวนั ไดถ้ กู ต้องตาม หลกั ภาษาและวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา ที่ หวั เร่ือง ตวั ชว้ี ัด เนือ้ หา จำนวน (ชั่วโมง) 1 บทพูด เข้าจงั หวะ พดู เข้าจังหวะ (Chants) พูดเขา้ จังหวะตามหลักการพูดเขา้ 10 (Chants) งา่ ย ๆ ถกู ตอ้ งตามหลกั การ จงั หวะ เช่น ออกเสียงได้  การออกเสียงพยญั ชนะต้นคำ และพยญั ชนะท้ายคำ  การออกเสียงเน้นหนัก-เบาในคำ และกลุ่มคำ  การออกเสยี งตามระดบั เสียง สงู -ต่ำในประโยค ตวั อย่างบทพูดเข้าจงั หวะ (Chant) I love my dogs and my dogs love me. I feed my dog under the mango tree. My dog goes “bowwow”. I love my cat and my cat loves me. I feed my cat under the mango tree. My cat goes “miaow, miaow”

71 ที่ หวั เร่ือง ตวั ชีว้ ัด เนือ้ หา จำนวน (ชัว่ โมง) เปลย่ี นช่ือสตั ว์และเสยี งรอ้ งของสัตว์ Hen – Cluck, cluck Duck- Quack, quack Pig- Oink, oink 2 การร้อง เขา้ ร่วมกจิ กรรมทางภาษา การร้องเพลงโดยใชถ้ อ้ ยคำ นำ้ เสยี ง 20 เพลงภาษา และวฒั นธรรมดว้ ยการรอ้ ง กรยิ าท่าทางตามมารยาทสงั คมและ องั กฤษ เพลง วฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา เช่น การขอบคุณ ขอโทษ การใชส้ หี น้า ท่าทางประกอบการรอ้ งเพลง ร้องเพลง ตามเทศกาลวันสำคญั งานฉลองและชีวิตความ เป็นอย่ขู อง เจา้ ของภาษา เช่น วันครสิ ตม์ าส วนั วาเลนไทน์ 3 การแสดง พดู และทำท่าประกอบตาม มารยาทสังคม /วฒั นธรรมของ 10 บทบาท มารยาทสังคม/วัฒนธรรม เจา้ ของภาษา เช่น การขอบคุณ สมมุติ ของเจ้าของภาษา ขอโทษ การใชส้ หี น้าทา่ ทาง ประกอบการพูดขณะแนะนำตนเอง การสมั ผสั มือ การโบกมือ การแสดง ความรู้สึกชอบ/ ไมช่ อบ การกลา่ ว อวยพร การแสดงอาการตอบรับ หรือปฏิเสธ 4 เทศกาล /วัน ให้ข้อมูลเกี่ยวกบั เทศกาล / ขอ้ มลู เก่ยี วกบั เทศกาล /วนั สำคญั / 10 สำคญั / งาน วันสำคญั / งานฉลอง /ชวี ิต งานฉลอง /ชีวิตความเป็นอยขู่ อง ฉลอง /ชีวิต ความเปน็ อยขู่ องเจา้ ของ เจ้าของภาษา เชน่ วันครสิ ต์มาส ความเปน็ อยู่ ภาษา วนั ข้ึนปีใหม่ วนั วาเลนไทน์ ของเจา้ ของ เคร่ืองแตง่ กาย ฤดกู าล อาหาร ภาษา เครอื่ งดมื่

72 ท่ี หัวเร่ือง ตวั ชว้ี ัด เนอ้ื หา จำนวน 5 เกมทาง (ชวั่ โมง) ภาษา เข้าร่วมกจิ กรรมทางภาษา กิจกรรมเกมทางภาษาโดยการเล่น 10 6 นิทานและ ด้วยการเลน่ เกมโดยระบุ/ เกมทางภาษาในการจบั คู่วาดภาพ เร่ืองเลา่ วาดภาพ สัญลักษณ์หรือ สัญลักษณ์ หรอื เครอ่ื งหมายของคำ เคร่อื งหมายของคำศพั ท์ ประโยคเกย่ี วกบั ตนเอง ครอบครวั และประโยค โรงเรยี น สงิ่ แวดลอ้ ม อาหาร เครอ่ื งดมื่ เวลาว่างและนนั ทนาการ สขุ ภาพและสวสั ดิการ การซ้ือ-ขาย และลมฟา้ อากาศ บอกใจความสำคัญ ตอบ นทิ านหรอื เรือ่ งเล่า คำถามเกีย่ วกบั 20 คำถามจากการฟัง การอ่าน ใจความสำคญั ของเรอ่ื ง เชน่ ใคร ทำ นิทานง่ายๆ และเรอ่ื งเล่า อะไร ท่ไี หน เมอ่ื ไหร่ อยา่ งไร ทำไม Yes/No Question เชน่ Is/Are Can.....? Yes, Is Are/ Can. No,....isn’t./aren’t./can’t. Do/Does/Can/Is/Are...?Yes./No. Wh-Question เช่น Who is/are .....? He/ She is ..../They are .....What.....? Where.....? It is ...They are.... What...doing?....is, am, are...... Or-Question เช่น Is this/It is a /an .....or a/an ...? It is a/an..... Is/Are/Was/Were/Did...or ...

73 รายละเอียดรายวิชา พต12005 วชิ าภาษาอังกฤษเพ่อื การสื่อสาร จำนวน 2 หน่วยกิต ระดบั ประถมศึกษา มาตรฐานการเรยี นร้รู ะดับ มคี วามรู้ ความเขา้ ใจ ทกั ษะและเจตคตเิ กี่ยวกบั การฟงั พดู อา่ น เขยี น ภาษาต่างประเทศ เพอื่ การส่ือสารในชวี ิตประจาํ วนั ได้ถูกต้องตาม หลกั ภาษาและวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา ศกึ ษาและฝกึ ทกั ษะเกีย่ วกบั เรอ่ื งตอ่ ไปน้ี การใช้ภาษาทา่ ทางในการสอ่ื ความหมาย การส่ือสารงา่ ย ๆ ระหวา่ งบคุ คล การโตต้ อบใน การสอ่ื สารระหวา่ งบุคคล การใชป้ ระโยคคําสั่ง คําแนะนาํ วิธกี ารพูดแสดงความคิดเห็น ความ ตอ้ งการ และการเสนอให้ความช่วยเหลือในสถานการณต์ ่าง ๆ รวมทง้ั การเรียนรปู้ ระเพณีและ วฒั นธรรมเจา้ ของภาษา การจัดประสบการณ์การเรยี นรู้ ฝึกฟงั พดู อ่าน เขยี น จากสถานการณ์จาํ ลองโดยใช้สอ่ื ตา่ ง ๆ ที่เหมาะสมและสอดคลอ้ ง กับ สถานการณ์ การวัดและประเมินผล สามารถใช้ภาษาในการสือ่ สารไดถ้ กู ตอ้ งและเหมาะสมกบั สถานการณ์

74 รายละเอยี ดรายวิชา พต12005 ภาษาอังกฤษเพื่อการส่อื สาร จำนวน 2 หน่วยกิต ระดับประถมศึกษา มาตรฐานการเรียนรู้ระดับ มีความรู้ ความเข้าใจ ทักษะและเจตคตเิ กย่ี วกับ การฟัง พดู อา่ น เขียน ภาษาตา่ งประเทศ เพือ่ การสือ่ สารในชีวติ ประจําวัน ไดถ้ ูกตอ้ งตาม หลักภาษาและวฒั นธรรมของเจ้าของภาษา ที่ หวั เรอื่ ง ตัวชว้ี ัด เนือ้ หา จำนวน 1 การสอื่ สาร ฟังแล้วพูดโต้ตอบด้วยคํา บทสนทนาทใี่ ช้ในการทกั ทาย กล่าวลา (ช่วั โมง) สนั้ ๆ ง่าย ๆ ในการสอ่ื สาร ขอบคณุ ขอโทษ และประโยค/ขอ้ ความท่ี งา่ ย ๆ ระหว่างบุคคลได้ ใช้ ในการแนะนาํ ตนเอง เช่น Hi/Hello 10 ระหวา่ ง /Good morning /Good บุคคล พดู -เขยี นโตต้ อบในการ afternoon./Good evening./ I’m 15 สือ่ สารระหวา่ งบุคคลได้ sorry./How are you? I’m fine, thank 2 การโตต้ อบ you. And you? Nice to see ในการ you./Nice to see you, too. Good ส่ือสาร bye./ Bye./See you soon./ See you ระหว่าง later./Thank you. /Thank you very บุคคล much./ You’re welcome. บทสนทนาท่ีใชใ้ นการทกั ทาย กล่าวลา ขอบคณุ ขอ โทษ ชมเชย การพดู แทรก อย่างสุภาพ ประโยค/ ขอ้ ความท่ีใชใ้ นการ แนะนําตนเอง เพอื่ น บคุ คลใกล้ ตัวและสาํ นวนการตอบรบั เชน่ Hi/Hello /Good morning /Good afternoon./Good evening./I’m sorry./How are you? I’m fine, thank you. And you?/Hello. I am …./Hello ….I am….This is my sister. Her name is …./Hello…/

75 ที่ หวั เรอ่ื ง ตัวชี้วดั เนือ้ หา จำนวน (ชว่ั โมง) 3 คาํ สัง่ คํา ปฏบิ ตั ติ ามคาํ สงั่ คาํ คาํ สง่ั คาํ ขอรอ้ ง ภาษาทา่ ทางและ ขอรอ้ งและ ขอรอ้ งและคาํ แนะนําได้ คาํ แนะนํา การ วาดภาพ การทาํ อาหาร 15 คําแนะนํา เครอื่ งดม่ื และการประดิษฐ์ - คําสั่ง เชน่ Look at the …./here./over there./Say it again./Read and draw. /Put a/an….in/on/under a/an /Don’t go over there. - คําขอรอ้ ง เชน่ Please look up the meaning in a dictionary./ Look up the meaning in a dictionary, please./ Can Could you help me, please. - คําแนะนาํ เช่น You should read everyday./ Think before you speak. - คาํ บอกลําดับข้นั ตอน First.. Second. Next.. Then.. Finally…

76 ท่ี หัวเร่ือง ตัวช้วี ัด เน้ือหา จำนวน (ชัว่ โมง) 4 -การแสดง 1. พูดและเขยี นแสดงความ คําศัพท์ สาํ นวนภาษา และประโยคทใ่ี ช้ 10 ความ ต้องการในสถานการณ์ บอกความต้องการ ขอความชว่ ยเหลอื ตอ้ งการ ง่าย ๆ ได้ ตอบรบั และปฏเิ สธการใหค้ วามชว่ ยเหลอื -การให้ 2. ให้ความชว่ ยเหลือ ขอ เชน่ Please …./May…? I need../Help ความ ความชว่ ยเหลอื ใน me! Can/Could..?/Yes,…/No,…… ช่วยเหลอื ใน สถานการณ์ง่าย ๆ ได้ สถานการณ์ 3. ตอบรับและปฏเิ สธการ ง่าย ๆ ให้ความชว่ ยเหลอื ใน สถานการณ์ง่าย ๆ ได้ 5 การขอและ 1. พูดเพอ่ื ขอและให้ขอ้ มลู 10 การให้ เกย่ี วกบั ตนเอง เพอ่ื น คาํ ศพั ท์ สาํ นวนภาษา และประโยคทีใ่ ช้ ครอบครัวและเรือ่ งใกล้ตวั ขอและใหข้ ้อมลู เกีย่ วกับตนเอง เพือ่ น ขอ้ มูล 2. เขยี นเพอื่ ขอและให้ ครอบครวั และเรอื่ งใกล้ ตวั เช่น What ขอ้ มลู เกย่ี วกบั ตนเอง เพอ่ื น do you do? I’m a/a…… What is he / ครอบครัวและเร่ืองใกลต้ วั she? ……is a/an/ (อาชีพ) How old/tall …..? I’m …. Is/Are.. going to or …?…is / are going to.. 6 การแสดง 1. พูดแสดงความรสู้ ึกของ คําและประโยคทใ่ี ชแ้ สดงความร้สู กึ และ 10 ความรสู้ ึก ตนเองเกยี่ วกับเรอื่ งตา่ ง ๆ การใหเ้ หตผุ ลประกอบ เชน่ ชอบ ไม่ชอบ ใกล้ตวั และกจิ กรรมตา่ ง ๆ ดใี จ เสียใจ มี ความสขุ เศร้า หวิ รสชาติ ได้ สวย น่าเกลยี ด เสียงดงั ดี ไมด่ ี เช่น I’m 2. ใหเ้ หตผุ ลสัน้ ๆประกอบ ....../He/ She/It is.../You /We/ /They ในสถานการณ์ง่าย ๆ ได้ are ......... I/You/We/ They like ......./ He/ She likes....because...... I/You/We/They love.....He/She loves.......because........ He /She doesn’t like /love / feel....because..... He/ She We/They feel .....because......

77 ที่ หวั เรื่อง ตวั ช้ีวดั เน้ือหา จำนวน (ชว่ั โมง) 7 การเรยี นรู้ 1. ตอบคําถามเกย่ี วกับ ขอ้ มูลและความสําคญั ของ ประเพณี เทศกาล/วนั สาํ คญั /งาน เทศกาล/วนั สําคัญ/งาน ฉลอง 10 และ วฒั นธรรม ฉลองและชวี ติ ความ เป็นอยู่ และชวี ิตความเปน็ อยขู่ อง เจา้ ของ ง่ายๆของเจ้าของ ภาษาได้ เจ้าของภาษา เชน่ วันครสิ ต์มาส ภาษา 2. บอกความสําคัญของ วันข้ึนปใี หม่ วันวาเลนไทน์ เทศกาล/วันสําคญั /งาน เครื่องแตง่ กาย ฤดกู าล อาหาร ฉลองและชีวิตความ เป็นอยู่ และ เครื่องดม่ื งา่ ย ๆ ของ เจา้ ของภาษาได้

78 รายละเอยี ดรายวิชา พต12006 วิชาไวยากรณ์ภาษาอังกฤษน่ารู้ จำนวน 2 หน่วยกิต ระดบั ประถมศึกษา มาตรฐานการเรยี นร้รู ะดบั มีความรู้ ความเข้าใจ ทกั ษะและเจตคตเิ ก่ียวกบั การฟงั พดู อ่าน เขียน ภาษาต่างประเทศ เพ่ือการส่ือสารในชีวิตประจาํ วัน ได้ถกู ต้องตาม หลกั ภาษาและวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา ศึกษาและฝึกทกั ษะเก่ยี วกบั เรือ่ งตอ่ ไปนี้ -Alphabets -การใชค้ าํ นาํ หน้านาม (Article) -คํานาม (Noun) -คาํ สรรพนาม (Pronoun) -คาํ คุณศัพทแ์ ละคํากรยิ าวิเศษณ์(Adjective and Adverb) -คาํ บพุ บท (Preposition) -คําถาม (Question Words) -กาล (Tense) การจดั ประสบการณก์ ารเรียนรู้ ฝึกฟงั พูด อา่ น เขียน การใช้ประโยคตา่ ง ๆ คํานาํ หน้านาม คาํ นาม คาํ สรรพนาม คาํ คุณศัพท์ และกริยาวเิ ศษณ์ คาํ บพุ บท คําถาม ให้สอดคลอ้ งกับชวี ติ ประจําวนั และการประกอบ อาชีพ การวดั และประเมินผล -ทกั ษะในการปฏิบัติ -การทดสอบ -การมีส่วนร่วม

79 รายละเอียดรายวิชา พต12006 ไวยากรณ์ภาษาองั กฤษน่ารู้ จำนวน 2 หน่วยกิต ระดับประถมศึกษา มาตรฐานการเรยี นรรู้ ะดบั มีความรู้ ความเขา้ ใจ ทักษะและเจตคตเิ ก่ยี วกบั การฟัง พดู อา่ น เขยี น ภาษาต่างประเทศ เพ่ือการส่อื สารในชวี ิตประจําวนั ได้ถกู ต้องตาม หลักภาษาและวฒั นธรรมของเจ้าของภาษา ที่ หัวเรื่อง ตัวชว้ี ดั เนอ้ื หา จำนวน 1 Alphabets (ชัว่ โมง) ระบุตัวอักษร สระและ เสยี ง ตัวอักษร สระและเสียงตัวอกั ษรของ 2 การใช้คํา ตัวอักษรของ ภาษาตา่ งประเทศและภาษาไทย 5 นาํ หน้านาม ภาษาต่างประเทศและ เช่น b = บ, d = ด, f = ฟ au = (article ) ภาษาไทยได้ สระอัว 5 บอกหลกั การและใช้ (article) คาํ นาํ หน้านาม (article) a, an, the 3 คํานาม ได้ (Noun) คํานาม (Noun) เอกพจน์ ( 10 บอกหลักการและใช้ คาํ นาม Singular) พหพู จน์ (Plural) คาํ นาม (Noun)ได้ นบั ได้ (Countable Noun) 4 คําสรรพนาม บอกหลักการและใช้ คาํ สรรพ คําสรรพนาม ( Pronoun ) Object 10 ( Pronoun) นาม ( Pronoun )ได้ Pronoun Subject pronoun 5 คาํ คณุ ศัพท์ บอกหลกั การและใช้ คาํ คุณศัพท์และคาํ กรยิ าวิเศษณ์ 10 และ คาํ กรยิ า คาํ คณุ ศัพท์และคํากรยิ า (Adjective and Adverb) วิเศษณ์ วิเศษณ์ (Adjective and Adjective Adverb)ได้ and Adverb

80 ท่ี หัวเร่ือง ตัวช้วี ดั เน้อื หา จำนวน (ชั่วโมง) 6 คาํ บพุ บท บอกหลักการและใช้ คาํ บุพบท คําบพุ บท (Preposition) การใช้ in, Preposition (Preposition) ได้ on, at, near, next to, behind, 10 between, opposite, above 7 คําถาม บอกหลกั การและใช้ คาํ ถาม Yes/No Question เชน่ Is/Are 10 (Question Words) ได้ 20 (Question Can.....? Yes, Is Are/ Can. Words) No,....isn’t./aren’t./can’t. Do/Does/Can/Is/Are......?Yes./N 8 กาล (Tense) บอกหลักการและใช้ กาล (Tense)ได้ o. Wh-Question เชน่ Who is/are .....? He/ She is ..../They are ..... What.....? Where.....? It is ...They are.... What...doing> ....is, am, are...... Or-Question เช่น Is this/It is a /an .....or a/an ...? It is a/an..... Is/Are/was/Were/Did...or ... กาล (Tense) Present Simple Tense Present Continuous Tense Past Tense Future Simple Tense

81 รายละเอียดคำอธบิ ายรายวิชา พต22002 วิชา ภาษาองั กฤษฟัง–พูด จำนวน 2 หน่วยกิต ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนต้น มาตรฐานการเรียนรู้ระดับ มคี วามรู้ ความเข้าใจ ทกั ษะและเจตคติเกย่ี วกบั ภาษาท่าทาง การฟงั พดู อา่ น เขยี น ภาษาตา่ งประเทศ ดว้ ยประโยคทซี่ ับซอ้ นในชวี ิตประจาํ วนั และงานอาชีพของตน ไดถ้ ูกตอ้ งตาม หลกั ภาษาวัฒนธรรม และกาลเทศะของเจ้าของภาษา ศึกษาและฝึกทกั ษะเกี่ยวกบั เร่ืองตอ่ ไปน้ี การใชป้ ระโยคคําส่งั คําแนะนํา (Introduction) คําขอรอ้ งทใ่ี ชใ้ นหอ้ งเรยี น (Request) ใจความสาํ คัญ (Main Idea) หวั ขอ้ เร่ือง (Topic) คาํ อธิบาย รายละเอยี ดสนบั สนนุ (Supporting Detail) พดู โต้ตอบการส่อื สารระหวา่ งบุคคล บอกความตอ้ งการ พดู ขอและใหข้ ้อมลู ง่าย ๆ เก่ียวกบั ตนเองและผอู้ ่นื รวมถึงการบอกความรู้สกึ ของตนเองเกีย่ วกบั ส่ิงต่าง ๆ ใกลต้ ัวหรอื กจิ กรรมตา่ ง ๆ แสดงความรสู้ ึกของตนเองเกย่ี วกบั เรื่องราวต่าง ๆ ทีอ่ ยู่ใกลต้ วั กิจกรรมต่าง ๆ พรอ้ มทง้ั ใหเ้ หตผุ ลส้นั ๆ ประกอบ สามารถเปรยี บเทยี บ (Comparison) เหตกุ ารณ์ตา่ ง ๆ ได้ การจดั ประสบการณก์ ารเรยี นรู้ ฝกึ ฟัง-พดู การใช้ประโยคคาํ สง่ั คาํ แนะนํา (Introduction) คําขอรอ้ งท่ใี ชใ้ นหอ้ งเรียน (Request) สามารถจบั ใจความสาํ คญั จากหัวข้อเรอื่ ง และอธบิ ายรายละเอยี ด พดู โตต้ อบการสื่อสาร ระหว่างบุคคลใหส้ อดคล้องกบั ชีวติ ประจําวันและการประกอบอาชีพ การวดั และประเมนิ ผล พจิ ารณาความสามารถในการนําความรู้ และทกั ษะการฟังพดู ไปใชใ้ นชีวติ จรงิ ได้ จากการ สงั เกต และสอบถาม

82 คำอธบิ ายรายวชิ า พต22003 วิชาภาษาองั กฤษหรรษา จำนวน 2 หน่วยกติ ระดับมัธยมศึกษาตอนตน้ มาตรฐานการเรยี นรรู้ ะดับ มีความรู้ ความเข้าใจ ทักษะและเจตคติเก่ียวกับ ภาษาท่าทาง การฟัง พูด อ่าน เขียน ภาษาต่างประเทศ ด้วยประโยคท่ีซับซ้อนในชีวิตประจําวัน และงานอาชีพของตน ได้ถูกต้องตาม หลกั ภาษาวฒั นธรรม และกาลเทศะของเจา้ ของภาษา ศึกษาและฝึกทกั ษะเกย่ี วกบั เรื่องตอ่ ไปน้ี รูปแบบพฤติกรรมและการใช้ถ้อยคํา สํานวนง่าย ๆ การพูดเข้าจังหวะ (Chants) และบท ร้อยกรอง (Poem) การร้องเพลงภาษาอังกฤษ การแสดงบทบาทสมมุตใิ นการตดิ ต่อปฏิสัมพนั ธ์ตาม วัฒนธรรมของเจ้าของภาษา รวมทง้ั รจู้ กั ขนบธรรมเนยี ม ประเพณี เทศกาล ในวฒั นธรรมของ เจา้ ของ ภาษา และวฒั นธรรม ประเพณีในทอ้ งถิ่น การจดั ประสบการณ์การเรยี นรู้ ฝึกฟัง พูด อา่ น เขียน โดยการใช้ส่อื จัดกจิ กรรมการเรยี นรทู้ สี่ อดคลอ้ งกบั เนอื้ หา และเรยี นรู้ ขนบธรรมเนียมประเพณี เทศกาล ในวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และวฒั นธรรม ประเพณีใน ทอ้ งถิน่ การวัดและประเมินผล -ทกั ษะในการปฏบิ ตั ิ -การทดสอบ -การมสี ่วนรว่ ม

83 รายละเอียดคำอธบิ ายรายวิชา พต22003 วิชาภาษาอังกฤษหรรษา จำนวน 2 หน่วยกิต ระดับมัธยมศึกษาตอนตน้ มาตรฐานการเรียนรรู้ ะดับ มีความรู้ ความเข้าใจ ทักษะและเจตคตเิ กยี่ วกบั ภาษาท่าทาง การฟัง พูด อ่าน เขยี น ภาษาต่างประเทศ ดว้ ยประโยคทซ่ี บั ซอ้ นในชีวติ ประจาํ วัน และงานอาชพี ของตน ไดถ้ ูกตอ้ งตาม หลกั ภาษาวฒั นธรรม และกาลเทศะของเจ้าของภาษา ท่ี หวั เร่ือง ตัวชวี้ ัด เนือ้ หา จำนวน 1 การ รอ้ งเพลง เขา้ รว่ มกจิ กรรม (ชว่ั โมง) ทางภาษาและ ภาษาอังกฤษ วัฒนธรรมด้วยการ การรอ้ งเพลงโดยใช้ถ้อยคาํ นำ้ เสยี ง 15 รอ้ งเพลงได้ 2 การแสดง บทบาท กรยิ าท่าทางตาม มารยาทสงั คมและ สมมตุ ิ พดู และทําทา่ ประกอบตาม วฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา เช่น การ มารยาทสงั คม/ วัฒนธรรมของ ขอบคุณ ขอโทษ การใช้สีหน้าท่าทาง เจา้ ของภาษาได้ ประกอบการ ร้องเพลง รอ้ งเพลงตาม เทศกาลวนั สําคญั งานฉลอง และชีวิต ความเป็นอยขู่ องเจา้ ของภาษา เช่น วนั ครสิ ตม์ าส วนั วาเลนไทน์ มารยาทสงั คม /วฒั นธรรมของ 15 เจา้ ของภาษา เชน่ การ ขอบคุณ ขอโทษ การใชส้ หี นา้ ท่าทาง ประกอบการพูด ขณะแนะนําตนเอง การสมั ผสั มอื การโบกมอื การ แสดง ความร้สู ึกชอบ/ไม่ชอบ การกลา่ วอวย พร การ แสดงอาการตอบรับหรือ ปฏิเสธ 3 กจิ กรรมภาษาและ เขา้ รว่ มกจิ กรรม กิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรม 15 เชน่ การเลน่ เกม การร้องเพลง การ วฒั นธรรม ทางภาษาและ เลา่ นทิ าน บทบาทสมมุติ วนั ขอบคณุ วฒั นธรรมตาม พระเจ้า วันคริสต์มาส วันข้ึนปใี หม่ วันวาเลนไทน์ ความสนใจได้

84 ที่ หวั เรื่อง ตัวช้วี ัด เนือ้ หา จำนวน (ชั่วโมง) 4 นิทาน และเร่ืองเลา่ บอกใจความสำคัญ นทิ านหรอื เรื่องเล่า คำถามเกย่ี วกบั 5 ตอบคำถามจาก ใจความสำคญั ของเรอื่ ง เชน่ ใคร ทำ การฟัง การอา่ น อะไร ทีไ่ หน เมอื่ ไหร่ อยา่ งไร ทำไม นิทานงา่ ยๆ และ Yes/No Question เช่น Is/Are เรอื่ งเล่าได้ Can….? Yes, Is Are/Can No,..isn’t./can’t. Do/Does/Can/Is/Are…? Yes./No. Wh-Question เชน่ who is/are…? He/ She is…/They are…What…? Where…? It is…They are… What…doing> is am are 5 กิจกรรมทาง ภาษา เข้าร่วมกจิ กรรม กิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรม 15 และ วัฒนธรรม ทางภาษาและ เชน่ การเล่นเกม การ ร้องเพลง การ วฒั นธรรมตาม เล่านทิ าน บทบาทสมมตุ ิ วนั ขอบคุณ ความสนใจได้ พระเจ้า วันคริสต์มาส วันข้ึนปใี หม่ วันวาเลนไทน์ 7 นิทานและ เรือ่ งเล่า บอก ใจความ นทิ านหรอื เรือ่ งเลา่ คาํ ถามเกย่ี วกบั 5 สําคญั ตอบคําถาม ใจความสําคัญของ เร่ือง เชน่ ใคร ทาํ จากการฟัง การ อะไร ทีไ่ หน เมอ่ื ไหร่ อย่างไร ทาํ ไม อ่าน นิทาน งา่ ย ๆ Yes/No Question เชน่ Is/Are และเรอื่ งเลา่ ได้ Can.....? Yes, Is Are/ Can. No,....isn’t./aren’t./can’t. Do/Does/Can/Is/Are......?Yes./No. Wh-Question เช่น Who is/are .....? He/ She is ..../They are ..... What.....? Where.....? It is ...They are.... What...doing> ....is, am, are...... Or-Question เช่น Is this/It is a /an .....or a/an ...? It is a/an..... Is/Are/was/Were/Did...or ...

85 คำอธิบายรายวิชา พต22004 วิชาการอา่ นภาษาอังกฤษเพ่อื ความเพลิดเพลิน จำนวน 2 หน่วยกติ ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น มาตรฐานการเรยี นรู้ระดบั มคี วามรู้ ความเข้าใจ ทกั ษะและเจตคตเิ กย่ี วกับ ภาษาท่าทาง การฟงั พดู อา่ น เขยี น ภาษาตา่ งประเทศ ด้วยประโยคทซี่ บั ซอ้ นในชีวิตประจาํ วนั และงานอาชพี ของตน ได้ถูกตอ้ งตาม หลกั ภาษาวฒั นธรรม และกาลเทศะของเจ้าของภาษา ศึกษาและฝึกทักษะเกี่ยวกบั เรอื่ งตอ่ ไปนี้ -การอ่านออกเสยี ง อักษร สระ คาํ ประโยคข้อความ -การอ่านตามบทพูดเข้าจงั หวะ (Chants) -การอ่านขอ้ ความ การอ่านนทิ าน บทรอ้ ยกรอง ข่าว โฆษณาส้นั ๆ รายการทีวี -การอา่ นบทสนทนา (Dialogue) เรอ่ื งต่าง ๆ ใกลต้ ัว (Authentic things) สถานการณ์ ต่าง ๆ (Situation) -การอ่านไปรษณยี บตั ร (Postcard) ป้ายประกาศ (Poster) บัตร (Card) การจัดประสบการณก์ ารเรยี นรู้ ฝกึ ฟงั พูด อา่ น เขยี น โดยการใชส้ อ่ื จัดกจิ กรรมการเรียนรู้ทสี่ อดคลอ้ งกบั เนือ้ หา การวัดและประเมินผล -ทกั ษะในการปฏิบตั ิ -การทดสอบ -การมสี ่วนร่วม

86 รายละเอียดคำอธบิ ายรายวชิ า พต22004 วิชาการอ่านภาษาองั กฤษเพอื่ ความเพลดิ เพลิน จำนวน 2 หน่วยกิต ระดับมธั ยมศึกษาตอนตน้ มาตรฐานการเรยี นรูร้ ะดับ มีความรู้ ความเข้าใจ ทักษะและเจตคติเก่ียวกับ ภาษาท่าทาง การฟัง พูด อ่าน เขียน ภาษาต่างประเทศ ด้วยประโยคท่ีซับซ้อนในชีวิตประจําวัน และงานอาชีพของตน ได้ถูกต้องตาม หลักภาษาวัฒนธรรม และกาลเทศะของเจา้ ของภาษา ท่ี หัวเร่ือง ตวั ชี้วดั เนอ้ื หา จำนวน ที่ หัวเรอื่ ง ตัวช้วี ดั เนอ้ื หา จำนวน (ชัว่ โมง) 1 การอ่านออก เสียงอกั ษร อา่ นออกเสียง ตวั อักษร สระ การสะกดคํา ประโยค 5 ขอ้ ความ หลักการอา่ นออกเสยี ง เชน่ สระ คํา ประโยคและ ตวั อกั ษร สระ การ ขอ้ ความ สะกดคํา ประโยค -การออกเสยี งพยัญชนะต้นคําและพยัญชนะ ทา้ ยคาํ และข้อความได้ -การออกเสียงเนน้ หนกั -เบาในคํา และ กลุ่มคาํ -การออกเสยี งตามระดบั เสียงสูง-ต่ำ ในประโยค 2 การอา่ นตามบทพูดเข้า อา่ นตามบทพูดเข้า พูดเข้าจังหวะตามหลักการพูดเข้า จงั หวะ 5 จังหวะ (Chants) จังหวะ (Chants) เช่น งา่ ย ๆ ถกู ต้องตาม -การออกเสยี งพยัญชนะตน้ คําและพยญั ชนะ หลกั การ อ่านออก ทา้ ยคาํ เสยี งได้ -การออกเสียงเน้นหนัก-เบาในคาํ และ กลมุ่ คาํ -การออกเสยี งตามระดบั เสียงสูง-ต่ำ ใน ประโยค ตวั อย่างบทพดู เขา้ จงั หวะ (Chant) I love my dog and my dogs love me. I feed my dog under the

87 ท่ี หวั เรอ่ื ง ตัวชว้ี ดั เนือ้ หา จำนวน (ช่ัวโมง) 3 การอ่าน สนทนาและเขยี น ภาษาทใี่ นการสอ่ื สารระหว่างบคุ คล -บทสนทนา 15 (Dialogue) โตต้ อบข้อมลู เกี่ยวกบั เช่นการทกั ทาย กลา่ วลา ขอบคณุ ขอโทษ -เร่ืองต่าง ๆ เรอื่ งต่าง ๆ ใกลต้ ัว ชมเชยการพูดแทรกอยา่ งสุภาพ การ ใกล้ตัว สถานการณ์ ท่ีอยู่ใน ชกั ชวน การแลกเปล่ียนขอ้ มลู เก่ยี วกับ (Authentic things) -สถานการณ์ ความสนใจของสงั คม ตนเอง เร่อื งใกล้ตัว ต่างๆ (Situation) และสอ่ื สารอย่าง สถานการณ์ตา่ ง ๆ ในชวี ิตประจําวนั ตอ่ เนอ่ื งแลเหมาะสม การสนทนา/เขียนข้อมลู เกยี่ วกับตนเอง ได้ และบคุ คลใกลต้ ัว สถานการณ์ เร่ืองท่ี อย่ใู นความสนใจในชีวติ ประจําวัน 4 การอา่ น 1. อ่านออกเสียง ไปรษณียบัตร (Postcard) 15 -ไปรษณยี บตั ร ข้อความให้ถูกต้อง ปา้ ยประกาศ (Poster) (Postcard) 2. มกี ระบวนการ บัตร (Card) -ป้ายประกาศ(Poster) อา่ นสอ่ื ประเภทตา่ งๆ -บัตร (Card) และสามารถถ่ายโอน เป็นขอ้ ความทใ่ี ช้ ถอ้ ยคําของตนเอง 3. มีทกั ษะในการ อา่ นขอ้ มูล ไปรษณยี บัตร (Postcard) ป้ายประกาศ (Poster) บัตร (Card)

88 คำอธบิ ายรายวิชา พต22005 วชิ าการอา่ นภาษาอังกฤษเพือ่ การศึกษาตอ่ จำนวน 2หน่วยกิต ระดับมัธยมศกึ ษาตอนตน้ มาตรฐานการเรยี นรูร้ ะดบั มคี วามรู้ ความเขา้ ใจ ทกั ษะและเจตคติเก่ยี วกับ ภาษาท่าทาง การฟงั พูด อ่าน เขยี น ภาษาตา่ งประเทศ ด้วยประโยคทซ่ี บั ซ้อนในชีวติ ประจาํ วนั และงานอาชีพของตน ไดถ้ กู ตอ้ งตาม หลกั ภาษาวฒั นธรรม และกาลเทศะของเจ้าของภาษา ศกึ ษาและฝกึ ทักษะเกี่ยวกับเร่อื งตอ่ ไปนี้ - โครงสรา้ งทางภาษา (Structure) - คาํ ศพั ท์ (Vocabulary) - การอ่านเพอื่ จบั ใจความ (Reading comprehension) - การอ่านกราฟ การต์ นู ตาราง สัญลกั ษณ์ สถิติ - การทาํ ขอ้ สอบแบบเวน้ ช่องว่างอย่างมรี ะบบ (Cultural Background ขา่ ว (News) เพลงและโคลง(Song and Poetry) การใช้พจนานกุ รม (Using dictionary) การตรวจจบั ทผี่ ดิ (Error- Detection) การจัดประสบการณ์การเรยี นรู้ อ่านและเขยี นคาํ ศัพท์ อา่ นกราฟ การ์ตนู ตาราง สญั ลกั ษณ์ สถิติ ดัชนี สารบญั และการทํา ข้อสอบแบบเว้นชอ่ งว่างอย่างมรี ะบบ อ่านข่าว ร้องเพลงและอ่านโคลง ตลอดจนการใชพ้ จนานกุ รม ในการตรวจสอบคาํ ผดิ การวัดและประเมนิ ผล ตรวจสอบการใช้ประโยคทถี่ ูกตอ้ งตามสถานการณ์ใหส้ อดคลอ้ งกบั การนําไปใชใ้ นชวี ิต จริงได้ จากการสงั เกต สอบถาม สัมภาษณ์ และทดสอบ

89 รายละเอียดคำอธบิ ายรายวิชา พต22005 วชิ าการอ่านภาษาองั กฤษเพ่ือการศกึ ษาตอ่ จำนวน 2 หน่วยกติ ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนตน้ มาตรฐานการเรียนรรู้ ะดับ มคี วามรู้ ความเข้าใจ ทักษะและเจตคติเกยี่ วกับ ภาษาท่าทาง การฟัง พูด อ่าน เขียน ภาษาต่างประเทศ ด้วยประโยคทซ่ี บั ซอ้ นในชีวติ ประจําวนั และงานอาชพี ของตน ไดถ้ ูกต้องตาม หลักภาษาวัฒนธรรม และกาลเทศะของเจา้ ของภาษา ท่ี หวั เรอ่ื ง ตัวชีว้ ัด เนอ้ื หา จำนวน (ชั่วโมง) 1 โครงสรา้ งทาง 1.ใช้ภาษาต่างประเทศ โครงสรา้ ง(Structure) ทางภาษา 10 ภาษา(Structure) เป็นเครอื่ งมือในการจัดการ หน้าท่ที างภาษา(Function) เช่น หนา้ ทีท่ างภาษา ด้านการเรียน การแสวงหา - การทักทาย (Greeting) (Function) ความรู้ - การกล่าวลา (Good bye) คําศพั ท์(Vocabulary) ก า ร เ ข้ า สู่ สั ง ค ม แ ล ะ - การขอบคุณ (Thank you) การอ่านเพ่อื จบั การศึกษาตอ่ ได้ - การแนะนาํ ตวั เอง (Introducing) ใจความ 2. เชอื่ มโยความรู้ - การขอรอ้ ง (Request) 15 (Reading ทางด้านภาษาต่างประเทศกับ - การขอและให้คําแนะนาํ ปรึกษา comprehension) กลุม่ สาระการเรยี นรู้ อื่น ๆ(Asking and Giving Advice) การอา่ นกราฟ การ์ตูน ได้ใชภ้ าษาต่างประเทศ - การถามทิศทาง (Asking for ตาราง สญั ลกั ษณ์ สถติ ิ เป็นเครอื่ งมือในการจัดการ Direction)คําศพั ท์(Vocabulary) ดชั น(ี Reading : ด้านการเรยี น - การอา่ นเพื่อจบั ใจความ Graph/Cartoon/ การแสวงหาความรู้ (Reading comprehension) Table/Sign/Statistic/ การเข้าสสู่ ังคมและ กราฟ การ์ตูน ตารางสญั ลักษณ์ สถิติ Index) การศึกษาต่อ รวมทั้ง ดชั นี บรรณานุกรม (Reading : เช่ือมโยงความรู้ทางด้าน Graph/Cartoon/Table/Sign/Statis ภาษาตา่ งประเทศกบั กลมุ่ tic/Index/ Biography) สาระการเรียนรูอ้ ่ืนได้ ขอ้ สอบแบบเวน้ ชอ่ งวา่ งอย่างมรี ะบบ (Cloze Test) 2 การทาํ ขอ้ สอบแบบเวน้ ภูมิหลงั เจา้ ของภาษาวัฒนธรรม 5 ชอ่ งวา่ งอยา่ งมรี ะบบ (Cultural Background) (Cloze Test) ขา่ ว (News) ภมู หิ ลงั เจ้าของภาษา เพลงและโคลง (Song and Poetry) วัฒนธรรม (Cultural การใชพ้ จนานกุ รม (Using

90 ที่ หัวเรอ่ื ง ตวั ชี้วดั เนอ้ื หา จำนวน (ชั่วโมง) Background) ขา่ ว (News) dictionary) เพลงและโคลง (Song and Poetry) การตรวจจับท่ีผิด(Error Detection) การใชพ้ จนานกุ รม (Using dictionary) การตรวจจับทผี่ ดิ (Error Detection)

91 คำอธิบายรายวชิ า พต22006 วชิ าภาษาอังกฤษมัคคุเทศก์ จำนวน 2หน่วยกติ ระดบั มัธยมศึกษาตอนต้น มาตรฐานการเรียนรูร้ ะดบั มคี วามรู้ ความเขา้ ใจ ทกั ษะและเจตคตเิ ก่ียวกบั ภาษาท่าทาง การฟัง พดู อ่าน เขียน ภาษาต่างประเทศ ด้วยประโยคทซ่ี ับซอ้ นในชีวิตประจําวนั และงานอาชพี ของตน ได้ถูกต้องตาม หลักภาษาวฒั นธรรม และกาลเทศะของเจ้าของภาษา ศึกษาและฝกึ ทกั ษะเกี่ยวกับเรอ่ื งตอ่ ไปน้ี - คําศพั ท์ (Vocabulary) - ประโยค (Sentence) - บทสนทนา (Dialogue) - หนา้ ทที่ างภาษา (Function) - สญั ลกั ษณ์ (Sign) - การพูดในที่สาธารณะ (Public Speech) - มารยาททางสังคมและวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา (Social Manner and Culture) การจัดประสบการณก์ ารเรียนรู้ ให้ผเู้ รยี นฟงั พูด อา่ น เขยี น และศกึ ษาคําศพั ท์ ประโยค บทสนทนา หนา้ ทที่ างภาษา สญั ลกั ษณ์ การพดู ในที่สาธารณะ รวมถึงมารถงึ มารยาททางสังคมและวฒั นธรรมของเจ้าของภาษา

92 รายละเอยี ดคำอธบิ ายรายวิชา พต22006 วชิ าภาษาองั กฤษมัคคุเทศก์ จำนวน 2 หน่วยกิต ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนตน้ มาตรฐานการเรยี นรู้ระดับ มีความรู้ ความเข้าใจ ทักษะและเจตคตเิ กีย่ วกับ ภาษาทา่ ทาง การฟงั พูด อา่ น เขยี น ภาษาต่างประเทศ ด้วยประโยคทซ่ี ับซอ้ นในชวี ิตประจําวัน และงานอาชีพของตน ไดถ้ กู ตอ้ งตาม หลกั ภาษาวัฒนธรรม และกาลเทศะของเจ้าของภาษา ที่ หวั เรื่อง ตวั ชี้วดั เนือ้ หา จำนวน (ชั่วโมง) 1 คําศัพท์ (Vocabulary) บอกและอธบิ าย คําศัพท์ สาํ นวน ภาษาท่ีใชใ้ นการ อธิบายขอ้ มลู การทอ่ งเท่ยี วของท้องถิ่น 5 คาํ ศัพท์ และ ความหมายได้ 2 ประโยค (Sentence) บอกและอธิบาย ประโยด ภาษาที่ใชใ้ นการอธบิ าย 15 ประโยค ขอ้ มูลการท่องเทย่ี วของทอ้ งถน่ิ 15 20 และความหมายของ ประโยคท่เี ก่ียวกบั การท่องเทีย่ วได้ 3 บทสนทนา(Dialogue) โตต้ อบการสนทนาที่ บทสนทนาท่ีใชใ้ นการอธบิ ายข้อมูล เกยี่ วข้องอยา่ ง การทอ่ งเทย่ี วของทอ้ งถ่นิ เหมาะสม 4 หน้าท่ที าง บอก อธิบายและ หน้าทีท่ างภาษา(Function) เช่น ภาษา เลอื กใช้รูปแบบการ - การทกั ทาย (Greeting) (Function) ใชง้ านให้เหมาะสม - การกล่าวลา (Good bye) กบั สถานการณไ์ ด้ - การขอบคณุ (Thank you) - การแนะนาํ ตวั เอง (Introducing)

93 ท่ี หวั เร่ือง ตวั ชว้ี ดั เน้อื หา จำนวน (ชั่วโมง) 5 สญั ลกั ษณ์ (Sign) -การขอรอ้ ง (Request) 15 6 การพดู ในท่ี -การขอและใหค้ ําแนะนาํ ปรึกษา สาธารณะ (Public Speech ) (Asking and Giving Advice) -การถามทศิ ทาง (Asking for Direction) และ อื่น ๆ อ่าน บอกและอธิบาย การตคี วาม/ถ่ายโอนขอ้ มลู ให้ สมั พนั ธ์ นําไปใชใ้ นสถาน กบั สอ่ื ทีไ่ ม่ใชค่ วามเรยี ง เช่น ภาพ การณ์จรงิ ได้ แผนผัง กราฟแผนภูมิ ตาราง อักษรยอ่ โดยใช้ Comparison of adjectives/ Adve rbs/ Contrast: but, although, however, in spite of.../ Logical connectives เช่น caused by/ followed by/ consist of etc. พดู และอธิบายขอ้ มลู ขั้นตอนการนาํ เสนอการพดู ในที่ สถานที่ท่องเท่ียวใน สาธารณะ (Public Speech ) ท้องถนิ่ ไดอ้ ยา่ ง ขอ้ มลู เกย่ี วกบั สถานทที่ อ่ งเที่ยวประจาํ เหมาะสม ท้องถ่ิน (Background Knowledge และนา่ สนใจ

94 คำอธบิ ายรายวิชา พต22007 วชิ าภาษาอังกฤษสำหรับสถานประกอบการในโรงงาน จำนวน 2 หน่วยกติ ระดบั มธั ยมศึกษาตอนต้น มาตรฐานการเรยี นรรู้ ะดบั มีความรู้ ความเข้าใจ ทักษะและเจตคติเก่ียวกับ ภาษาท่าทาง การฟัง พูด อ่าน เขียน ภาษาต่างประเทศ ด้วยประโยคที่ซับซ้อนในชีวิตประจำวัน และงานอาชีพของตน ได้ถูกต้องตาม หลักภาษาวฒั นธรรม และกาลเทศะของเจา้ ของภาษา ศึกษาและฝกึ ทกั ษะเก่ียวกับเรอ่ื งตอ่ ไปนี้ - คำศัพท์ (Vocabulary) - ขอ้ ความและประโยค (Phrase and Sentence) - บทสนทนา (Dialogue) - หนา้ ทท่ี างภาษา (Function) - สัญลักษณ์ (Sign) - คำสัง่ (Imperative) - คำแนะนำ (Instruction) - คำอธิบาย (Explanation) - ข้อห้ามและข้อควรระวงั (Caution) - มารยาททางสังคมและวฒั นธรรมของเจ้าของภาษา (Social Manner and Culture) การจดั ประสบการณก์ ารเรียนรู้ ฝึกฟัง พูด อ่าน เขียน คำศพั ท์ (Vocabulary) ขอ้ ความและประโยค (Phrase and Sentence) บทสนทนา (Dialogue) หนา้ ทท่ี างภาษา (Function) สญั ลกั ษณ์ (Sign) คำสั่ง (Imperative) คำแนะนำ (Instruction)คำอธบิ าย (Explanation)ข้อหา้ มและขอ้ ควรระวัง (Caution) มารยาททางสงั คม และวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา (Social Manner and Culture) การวัดและประเมินผล - ทักษะในการปฏบิ ัติ - การทดสอบ - การมสี ่วนรว่ ม

95 คำอธิบายรายวชิ า พต22007 วชิ าภาษาอังกฤษสำหรับสถานประกอบการในโรงงาน จำนวน 2 หน่วยกติ ระดับมธั ยมศึกษาตอนต้น มาตรฐานการเรยี นรู้ระดับ มีความรู้ ความเข้าใจ ทักษะและเจตคติเกี่ยวกับ ภาษาท่าทาง การฟัง พูด อ่าน เขียน ภาษาต่างประเทศ ด้วยประโยคท่ีซับซ้อนในชีวิตประจำวัน และงานอาชีพของตน ได้ถูกต้องตาม หลักภาษาวฒั นธรรม และกาลเทศะของเจา้ ของภาษา ท่ี หวั เรื่อง ตวั ช้วี ดั เนื้อหา จำนวน (ช่วั โมง) 1 คำศัพท์ (Vocabulary) อ่าน บอกและอธิบาย คำศพั ท์ สำนวน ภาษาในการอธิบาย 15 คำศัพทแ์ ละ ขอ้ มูลทใ่ี ชใ้ นสถานประกอบการ ความหมาย โรงงาน ทอ่ี ่านได้ 2 ขอ้ ความและประโยค อ่าน บอกและอธิบาย ข้อความและประโยค สำนวน ภาษา 20 (Phrase and Sentence) ข้อความ/ประโยคและ ในการอธิบายขอ้ มลู ทใ่ี ชใ้ นสถาน ความหมายทอี่ า่ นได้ ประกอบการโรงงาน 3 สญั ลักษณ์ (Sign) อ่าน บอกและอธิบาย การตคี วาม/ถ่ายโอนขอ้ มลู ใหส้ ัมพันธ์ 15 นำไปใช้ในสถานการณ์ กับสอื่ ทไ่ี ม่ใช่ความเรยี ง เช่น ภาพ จริงได้ แผนผงั กราฟ แผนภมู ิ ตาราง อกั ษรย่อ โดยใช้ Comparison of adjectives/ Adverbs/ Contrast: but, although, however, in spite of.../Logical connectives เช่น caused by/ followed by/ consist of etc. 4 - คำส่ัง (Imperative) อ่าน บอก อธิบาย ใช้ คำสง่ั (Imperative) เช่น 25 - คำแนะนำ (Instruction) คำสง่ั คำแนะนำ Do not enter. คำแนะนำ คำอธบิ าย ข้อหา้ มและ (Instruction)

96 ที่ หัวเรอ่ื ง ตัวชว้ี ัด เนื้อหา จำนวน (ชั่วโมง) - คำอธิบาย(Explanation) ข้อควรระวัง Mind your head. - ขอ้ หา้ มและขอ้ ควรระวงั ได้อย่างเหมาะสม คำอธบิ าย (Explanation) (Caution) Put on only the factory mask before entry this zone.ข้อหา้ ม และขอ้ ควรระวงั (Caution) Beware slippery floor. 5 มารยาททางสงั คมและ เลือกใชภ้ าษา น้ำเสยี ง การเลอื กใชภ้ าษา นำ้ เสียงและกริ ิยา 5 วัฒนธรรมของเจ้าของ และกิริยาทา่ ทาง ทา่ ทางในการสนทนาตามมารยาท ภาษา (Social Manner เหมาะสมกับบุคคล สังคมและวัฒนธรรมของเจา้ ของ and Culture) และโอกาสตาม ภาษา เชน่ การขอบคุณ ขอโทษ การ มารยาทสังคมและ ชมเชย การใช้สหี นา้ ท่าทาง วฒั นธรรมได้ ประกอบการพูดขณะแนะนำตนเอง การสมั ผสั มือ การโบกมือ การแสดง ความรสู้ ึกชอบ/ไม่ชอบ การกล่าว อวยพร การแสดงอาการตอบรับหรอื ปฏเิ สธ

97 คำอธิบายรายวิชา พต 22010 ภาษาองั กฤษใกล้ตวั จำนวน 1 หน่วยกติ ระดับมัธยมศึกษาตอนตน้ มาตรฐานการเรียนรู้ระดับ มคี วามรู้ ความเข้าใจ ทกั ษะและเจตคตเิ ก่ียวกับภาษาทา่ ทาง การฟงั พดู อา่ น เขยี นภาษาต่างประเทศ ด้วยประโยคท่ซี ำ้ ซอ้ นในชวี ิตประจำวัน และงานอาชีพของตนได้ถูกต้องตามหลักภาษาวฒั นธรรมและ กาลเทศะของเจ้าของภาษา ศึกษาและฝกึ ทักษะเก่ยี วกับเรอ่ื งตอ่ ไปน้ี 1. ภาษาที่เป็นประโยชนแ์ ละเกย่ี วขอ้ งกบั อาชพี ของตนเอง และชมุ ชน 2. ภาษาเพ่ือสอื่ สารกบั บคุ คลในชมุ ชนและสงั คม 3. ศัพท์ และสำนวนทีใ่ ชใ้ นการแสวงหาความรทู้ ี่สมั พันธก์ ับรายวชิ าตา่ งๆ 4. กจิ กรรมสง่ เสรมิ ภาษาองั กฤษในรปู แบบตา่ งๆ การจดั ประสบการณก์ ารเรยี นรู้ 1. ฝึกฟงั พดู อ่าน เขยี น ภาษาองั กฤษในสถานการณ์ตา่ งๆ โดยใช้สถานการณ์จำลอง และ/ หรอื สือ่ ทเ่ี หมาะสม 2. ฝกึ ฟัง พดู อ่าน เขียน จากสถานการณจ์ ำลองโดยใช้สอื่ ตา่ งๆ ท่ีเหมาะสม และสอดคล้อง กับสถานการณ์ การวัดและประเมินผล 1. ตรวจสอบจากการนำไปใชไ้ ด้ถูกตอ้ งและเหมาะสมตามสถานการณ์ 2. สามารถใช้ภาษาในการสอ่ื สารไดถ้ ูกต้องและเหมาะสมกบั สถานการณ์