Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หนังสือเรียนวิชาแผนชีวิตและครอบครัวทช 32004

หนังสือเรียนวิชาแผนชีวิตและครอบครัวทช 32004

Published by กศน.ตำบลท้ายทุ่ง, 2021-05-31 05:53:28

Description: หนังสือเรียน หลักสูตร กศน. 2551

Search

Read the Text Version

แผนการจัดการเรียนรู้ รายสัปดาห์ ภาคเรยี นที่ ระดับมัธยมศกึ ษาตอนปลาย 1/2562 พต31001 วิชาภาษาองั กฤษเพ่อื ชีวติ และสังคม อช31003 วิชาพัฒนาอาชพี ให้มีความม่ันคง สค31002 วิชาศาสนาและหน้าที่พลเมือง สค31003 วิชาการพฒั นาตนอง ชุมชน สงั คม ทช32004 วิชาชวี ิตและครอบครวั อช33519 วิชาการขายออนไลน์ อช33095 วิชาการเพาะเหด็ ฟางในตะกร้า ทช33065 วิชาการบริหารจัดการขยะอยา่ งมีคุณค่า ศูนย์การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั อาเภอคลองหลวง สานกั งาน กศน.จงั หวดั ปทมุ ธานี สานกั งานปลดั กระทรวงศกึ ษาธกิ าร กระทรวงศกึ ษาธกิ าร

แผนการจัดการเรยี นรู้ ภาคเรยี นท่ี 1/2562 ระดับชั้นมธั ยมศกึ ษาตอนปลาย ครั้งท.ี่ .........1.......... วนั ท.ี่ .........เดือน.........................พ.ศ. 2562 รปู แบบการจดั การเรยี นรู้ แบบพบกลุม่ จานวน 6 ชวั่ โมง ปฐมนเิ ทศนกั ศกึ ษา กศน. ภาคเรยี นท่ี 1/2562 ตัวชี้วัด มคี วามรู้ความเข้าใจเกย่ี วกับกฎระเบียบตา่ งๆ การลงทะเบยี นเรียน หลกั สูตร การพบกลมุ่ การสอบ เนือ้ หา 1. การปฐมนิเทศนกั ศึกษาภาคเรียนที่ 1 ปีการศกึ ษา 2562 2. การใช้หลักสูตรสถานศึกษานอกระบบระดับการศกึ ษาขน้ั พืน้ ฐาน พุทธศกั ราช 2551 3. กจิ กรรมพฒั นาคณุ ภาพชีวิต (กพช.) 4. วธิ กี ารจดั กระบวนการเรยี นการสอน 5. การเทยี บโอนผลการเรียน 6. การวดั ผลประเมนิ ผล 7. การจบหลักสตู ร 8. คุณธรรม จรยิ ธรรม 11 ประการ การจดั กระบวนการเรยี นรู้ 1. ครูทกั ทายผู้เรยี นและสนทนาเตรียมการและวางแผนในการดาเนินกจิ กรรม และให้ความรคู้ วามเขา้ ใจใน การจดั กิจกรรมการปฐมนเิ ทศผูเ้ รยี นประจาภาคเรียน 2. ครเู ตรยี มความพรอ้ มเคร่อื งมอื ส่อื การเรยี นรู้ ปฏทิ ินการเรยี นรู้ ฯลฯ 3. ครูแจกคมู่ ือการปฐมนิเทศผูเ้ รยี น แจ้งกรอบรายละเอยี ดเน้อื หาปฏทิ ินการเรยี นร้ใู นแต่ละสปั ดาห์ชแ้ี จง รายละเอียดให้ผเู้ รียนชแ้ี จงชอ่ งทางการสื่อสารระหว่างครกู ับผเู้ รียน การทากิจกรรมพัฒนาคุณภาพชวี ิต (กพช.) การ ทาโครงงานการวัดผลและประเมินผล 4. ช้ีแจงการจัดการเรยี นหลักสูตรนอกระบบระดับการศกึ ษาขนั้ พนื้ ฐาน พุทธศกั ราช 2551 - หลกั การของหลกั สตู ร - จดุ มุ่งหมายของหลักสตู ร - สาระการเรยี นรู้

5. การจดั กจิ กรรมพฒั นาคุณภาพชีวิต 6. วิธกี ารจดั กระบวนการเรียนรู้ - การเรยี นรู้แบบบูรณาการ - การเรียนรู้ด้วยตนเอง การเรยี นโดยการสอนเสริม 7..โครงงาน 8. การเทียบโอนผลการเรยี น 9. การวัดผลประเมนิ ผล 10. การจบหลกั สูตร การมอบหมายงานใหผ้ ู้เรยี นไปเรยี นรู้ด้วยตัวเอง -ความร้คู วามเข้าใจในการจัดกิจกรรมการปฐมนิเทศ มอบปฏิทินการเรยี นของผ้เู รียนของผ้เู รยี นแจกสอ่ื การเรยี นรู้ และนดั หมายการเรยี นรู้ผู้เรยี นครงั้ ต่อไป ส่อื และแหล่งเรยี นรู้ 1.คูม่ อื ผู้เรยี น 2.ปฏทิ ินการเรียนรขู้ องผูเ้ รยี นประจาภาคเรยี น การวัดและประเมนิ ผล 1. สงั เกตพฤติกรรมการมสี ่วนร่วมของผูเ้ รยี นในการแลกเปลย่ี นเรียนรู้ ความตัง้ ใจ ความสนใจ 2. การถามตอบ การตอบคาถาม

แผนการจดั การเรียนรู้ ภาคเรียนที่ 1/2562 รายวิชา ชีวิตและครอบครวั ทช32004 ระดบั ช้ันมัธยมศกึ ษาตอนปลาย จานวน 3 หน่วยกติ ครั้งที่..........2.......... วันที.่ .........เดือน.........................................พ.ศ. 2562 รปู แบบการจัดการเรยี นรู้ แบบพบกลุม่ จานวน 3 ชั่วโมง เร่อื ง การเจรญิ เติบโตและพัฒนาการของมนษุ ย์ ตัวชีว้ ัด 1. อธบิ ายกระบวนการสรา้ งเสริมและดารงประสิทธิภาพการทางานของระบบอวยั วะตา่ ง ๆ 2. อธบิ ายวิธีการวางแผนการดูแลสขุ ภาพ และปฏบิ ตั ิตนตามแผนใหเ้ หมาะสมตามภาวะการเจริญเติบโต และพฒั นาการของตนเองและครอบครัว เนอ้ื หา 1. การสร้างเสริมและดารงประสิทธภิ าพการทางานของระบบต่าง ๆ 1.1 อวยั วะภายนอก 1.2 อวัยวะภายใน 2. พัฒนาการตามวยั ของมนษุ ย์ 3. ปจั จัยท่มี ผี ลตอ่ การเจริญเติบโตและพฒั นาการของมนุษย์ 4. การวางแผนการดูแลสุขภาพ 1.1 การออกกาลงั กายสมา่ เสมอ 1.2 ตรวจสขุ ภาพประจาปี ขนั้ ตอนการจดั กระบวนการเรยี นรู้ ข้นั ตอนที่ 1 การกาหนดสภาพ ปญั หา ความตอ้ งการในการเรียนรู้ (O : Orientation) 1. ครแู จง้ วัตถุประสงค์ในการเรียนให้ผู้เรยี นได้รบั ทราบ 2. ครูใหน้ กั ศกึ ษาทาแบบทดสอบก่อนเรียน 10 ขอ้ 3. ครูทักทายผเู้ รยี นและชวนคิดชวนคยุ เกย่ี วกบั การทางานของระบบอวยั วะต่าง ๆ ของร่างกายมนษุ ย์ ประเดน็ ที่ 1 อวัยวะภายนอก ประเดน็ ท่ี 2 อวัยวะภายใน 2. ครแู ละผู้เรียนสนทนาเก่ยี วกบั พฒั นาการตามวัยของมนุษย์ ปัจจัยทีม่ ผี ลต่อการเจรญิ เตบิ โตและพฒั นาการของ มนษุ ย์ การวางแผนการดแู ลสุขภาพและการตรวจร่างกายประจาปี 3. ครูและผู้เรยี นสรุปสิง่ ทีไ่ ด้เรยี นรรู้ ่วมกนั และผูเ้ รยี นบันทกึ สรปุ สงิ่ ที่ได้เรยี นร้ลู งในสมดุ บันทกึ กจิ กรรม

ขัน้ ตอนที่ 2 การแสวงหาขอ้ มลู และจดั การเรียนรู้ (N : New ways of learning) 1.ครเู ชอ่ื มโยงสิ่งที่ได้เรยี นรใู้ นขั้นท่ี 1 โดยแบ่งผเู้ รียนออกเปน็ 5 กลมุ่ กลมุ่ ละเทา่ ๆ กัน (มีการกาหนด บทบาทหนา้ ท่ีของประธาน เลขานุการ และผู้นาเสนอ) หลังจากนั้นให้ผู้เรยี นศึกษาหนงั สือแบบเรียนบทท่ี 1 หน้าที่ 1-10 การเจรญิ เตบิ โตและพัฒนาการของมนุษย์ 1. การเสริมสร้างและดารงประสทิ ธิภาพการทางานของระบบต่าง ๆ 1.1 อวยั วะภายนอก 1.2 อวยั วะภายใน 2. พัฒนาการตามวัยของมนุษย์ 3. ปัจจัยที่มผี ลต่อการเจรญิ เติบโตและพฒั นาการของมนษุ ย์ 4. การวางแผนการดแู ลสุขภาพ หลงั จากนัน้ ให้แต่ละกลุ่มตอบคาถามในประเด็น ประเดน็ ท่ี 1 ความแตกตา่ งของอวัยวะภายนอกและอวยั วะภายใน ประเดน็ ที่ 2 พัฒนาการแตล่ ะชว่ งวัยของมนุษย์ ประเดน็ ท่ี 3 ปจั จยั ที่ผลตอ่ การเจริญเตบิ โตและพัฒนาการของมนุษย์ ประเด็นท่ี 4 การวางแผนการดูแลสุขภาพ 5. ให้ผแู้ ทนของแต่ละกลมุ่ นาเสนอผลงาน 6. ครูสรุปเนือ้ หาเรือ่ งการเจริญเติบโตและพฒั นาการของมนษุ ย์ 7. ครแู ละผูเ้ รียนสรปุ ส่ิงที่ได้เรียนร้รู ว่ มกนั และผเู้ รียนบันทึกสรุปสง่ิ ทไี่ ด้เรียนรลู้ งในสมุดบนั ทกึ กจิ กรรม ขน้ั ตอนที่ 3 การปฏิบัตแิ ละนาไปประยกุ ตใ์ ช้ (I : Implementation) 1. ให้ผู้เรียนกลุ่มเดมิ ในขน้ั ตอนที่ 2 วางแผนการดูแลสุขภาพและการออกกาลงั กายของตัวเอง 2. ให้ผู้เรยี นแสดงความคิดเห็นเพ่มิ เตมิ จากการนาความรเู้ ร่ืองการเจริญเตบิ โตและพัฒนาการของมนษุ ย์ 3. ครูและผเู้ รียนสรุปสง่ิ ทไ่ี ด้เรียนรรู้ ว่ มกัน และผู้เรียนบนั ทกึ สรปุ ส่งิ ที่ไดเ้ รยี นรลู้ งในสมดุ บันทึกกิจกรรม ขั้นตอนท่ี 4 การประเมินผล (E : Evaluation) 1.ครสู ุม่ ผู้เรียนประมาณ 3-5 คน ให้ตอบคาถามในประเด็น ผเู้ รยี นจะนาสิ่งท่ีไดเ้ รยี นรู้เรอ่ื งการเจรญิ เตบิ โตและพฒั นาการของมนษุ ย์ไปประยุกตใ์ ช้ในชีวิตประจาวันของ ผเู้ รยี น ครอบครัว ได้อยา่ งไร 2. ให้ผ้เู รยี นทาแบบฝกึ หดั เรื่อง การเจริญเตบิ โตและพฒั นาการของมนุษย์ 3. ครแู ละผูเ้ รียนสรปุ สงิ่ ที่ได้เรยี นรู้ร่วมกัน และผ้เู รียนบนั ทกึ สรุปส่ิงท่ีไดเ้ รยี นรลู้ งในสมดุ บันทกึ กจิ กรรม 4. แบบทดสอบหลังเรียน การมอบหมายงานให้ผเู้ รียนไปเรียนร้ดู ้วยตวั เอง ครมู อบหมายงานให้ผ้เู รยี นไปเรยี นรู้ด้วยตนเองและนดั หมายการส่งงานท่รี บั ผิดชอบ ตามรายวชิ าและ เน้ือหา ดงั นี้

รายวชิ า/หวั เรอื่ ง ชีวติ และครอบครวั ทช32004 ชวี ิตและครอบครวั ตวั ชี้วัด 1. อธิบายบทบาทของครอบครวั เพ่อื น สังคม และวัฒนธรรมทม่ี ีต่อพฤตกิ รรมทางเพศ และการดาเนนิ ชีวิต ได้ 2. มีทักษะในการสร้างเสรมิ สัมพันธภาพทด่ี ตี อ่ กัน เน้อื หา (กรต.) 1. ทักษะท่จี าเปน็ ต่อชวี ติ 2. การวางแผนชีวติ และครอบครัว สื่อและแหลง่ การเรยี นรู้ 1. หนังสือแบบเรยี นวิชาชวี ิตและครอบครัว ทช32004 ระดบั ม.ปลาย หน้าที่ 1-10 2. สมุดบนั ทึกกจิ กรรม 3. ใบงานที่ 1 การเจรญิ เติบโตและพัฒนาการของมนษุ ย์ 4. แบบฝึกหัด การเจรญิ เตบิ โตและพัฒนาการของมนษุ ย์ 5. แบบทดสอบกอ่ นเรยี น-หลังเรยี น การวดั และประเมินผล 1. สังเกตพฤติกรรมการมสี ว่ นรว่ มของผเู้ รียนในการแลกเปลย่ี นเรยี นรู้ ความตัง้ ใจ ความสนใจ 2. ผลงาน/ช้นิ งาน 3. แบบทดสอบก่อนเรยี น-หลงั เรียน

ใบงานที่ 1 เรอ่ื ง การเจริญเติบโตและพฒั นาการของมนุษย์ จงอธิบายข้อความต่อไปนีใ้ หถ้ กู ต้อง 1. จงยกตัวอย่างลักษณะสาคญั และการทางานของอวยั วะภายนอกมา 5 ขอ้ ชอื่ อวัยวะ ลักษณะสาคัญ ทาหนา้ ที่ วิธกี ารดูแลรักษา 1. 2. 3. 4. 5. แหล่งที่มาของขอ้ มูล............................................................................................................................. 2. จงยกตัวอย่างระบบการทางานของอวยั วะภายใน ความสาคญั และวิธกี ารดูแลรักษามา 2 ระบบ ระบบอวยั วะภายใน ความสาคญั วิธีการดแู ลรกั ษา แหลง่ ทม่ี าของข้อมลู ..................................................................................................................................

3. ปจั จัยท่มี ีผลกระทบตอ่ การเจรญิ เตบิ โตของมนษุ ย์มอี ะไรบา้ ง ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... แหลง่ ทม่ี าของขอ้ มลู ........................................................................................................... 4. นกั ศึกษามีการวางแผนการดูแลสขุ ภาพของตนเองอยา่ งไรบา้ ง 4.1 ขอ้ มลู สุขภาพและโรคประจาตวั ของนกั ศกึ ษา ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... 4.2 แผนการดแู ลสขุ ภาพประจาปี 2562 ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................................

แบบฝึกหดั เรอ่ื ง การเจรญิ เติบโตและพฒั นาการของมนษุ ย์ คาช้ีแจง ให้ผู้เรียนทาเครื่องหมาย × ทบั ตวั อักษรหน้าคาตอบที่ถกู ที่สดุ 1. อวยั วะท่ีเก่ยี วกบั ระบบหายใจคอื ขอ้ ใด 6. ไต เปน็ อวัยวะที่เกยี่ วขอ้ งกับระบบใด ก. ปาก จมูก ปอด ข. คอหอย กล่องเสยี ง หลอดลม ก. ระบบขับถา่ ยอจุ จาระ ค. จมูก หลอดอาหาร หวั ใจ ข. ระบบการขบั ถา่ ยเหงื่อ ง. รจู มกู กลอ่ งเสียง กระเพาะอาหาร ค. ระบบการขบั ถ่ายปัสสาวะ 2. ตัวการท่กี าหนดอัตราการหายใจเข้าออกคือข้อใด ง. ระบบการขับถา่ ยแกส๊ คาร์บอนไดออกไซด์ ก. ปริมาณแก๊สออกซเิ จน 7. ลาไสเ้ ลก็ เป็นอวยั วะทอ่ี ย่ตู ่อจากกระเพาะอาหารมี ข. ปริมาณแกส๊ ไนโตรเจน ความยาวประมาณเทา่ ใด ค. ปริมาณแกส๊ คาร์บอนไดออกไซด์ ง. ปริมาณแก๊สคลอรีน ก. 2-4 เมตร ข. 3-4 เมตร 3. ขอ้ ใดเปน็ หน้าที่ของระบบหายใจ ค. 4-6 เมตร ก. การถ่ายเทแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์และแก๊สออกซิเจน ง. 6-8 เมตร ข. การนาแกส๊ ออกซิเจนจากอากาศภายนอกเขา้ สรู่ ่างกาย 8. ระบบยอ่ ยอาหาร ประกอบด้วยอวยั วะทสี่ าคญั คือ และถา่ ยเทแก๊สคารบ์ อนไดออกไซด์ออกมา ก. ปาก หลอดอาหาร หลอดลม ลาไสเ้ ลก็ ลาไส้ใหญ่ ค. การหายใจผา่ นหลอดลม ข. ลาไสเ้ ล็ก ลาไส้ใหญ่ หลอดลม หลอดอาหาร ง. การขยายช่องออก เพือ่ ใหป้ อดพองโต ค. ปาก หลอดลม หลอดอาหาร กระเพาะอาหาร ลาไส้ 4. การหายใจถกู ควบคุมโดย ก. จมกู ใหญ่ ข. หลอดลม ค. ปอด ง. ปาก หลอดอาหาร ลาไส้เล็ก ลาไสใ้ หญ่ ง. กะบงั ลม 9. ไตเป็นอวยั วะท่ีมีหนา้ ที่ขบั ถา่ ยส่ิงไหนออกจาก 5. ตอ่ มใตส้ มองเป็นตอ่ มท่คี วบคมุ ต่อมไรท้ ่อตา่ ง ๆ ยกเว้น ร่างกาย ข้อใด ก. การขับถ่ายปสั สาวะ ข. การขับถ่ายอุจจาระ ก. ตอ่ มไทรอยด์ ค. การขบั ถา่ ยเหงื่อ ข. ต่อมพาราไทรอยด์ ง. การขบั ถ่ายแกส๊ คารบ์ อนไดออกไซด์ ค. ต่อมหมวกไต ง. ตอ่ มเพศ 10. ข้อใดเปน็ หน้าท่ีของเยื่อบุจมกู และขนออ่ นในจมูก ก. หายใจเข้า-ออก ข. กรองฝุ่นละออง ค. แลกเปล่ยี นแกส๊ ออกซเิ จนและแก๊ส คาร์บอนไดออกไซด์ ง. ไอ จาม เฉลยแบบฝกึ หัด 1. 2. 3. 4. 5. 6. 7. 8. 9. 10. ขคขง ขค ง ง กข

แผนการจัดการเรยี นรู้ ภาคเรียนที่ 1/2562 รายวชิ า ชวี ิตและครอบครวั ทช32004 ระดบั ช้ัน ม.ปลาย จานวน 3 หนว่ ยกิต รูปแบบการจัดการเรยี นรู้ แบบพบกลุ่ม จานวน 3 ชั่วโมง เรอ่ื ง เพศศกึ ษา ตวั ช้ีวัด 3. มีคา่ นิยมทด่ี ีในเร่อื งเพศและเขา้ ใจในธรรมชาตขิ องการเกิดอารมณท์ างเพศ 4. อธบิ ายวฒั นธรรมที่มีผลต่อพฤตกิ รรมทางเพศและสามารถจัดการได้ถูกต้องเหมาะสม 5. หลกี เลีย่ งและป้องกนั ตนเองจากความเส่ยี ง ตอ่ การตดิ โรคทางเพศสมั พันธ์ เน้อื หา 1. พฤตกิ รรมเบ่ยี งเบนทางเพศ 2. อทิ ธิพลของสังคมและวฒั นธรรมตอ่ พฤตกิ รรมทางเพศ 3. โรคติดต่อทางเพศสมั พันธ์ 3.1 เอดส์ 3.2 กามโรค ขัน้ ตอนการจัดกระบวนการเรยี นรู้ ขัน้ ตอนท่ี 1 การกาหนดสภาพ ปญั หา ความตอ้ งการในการเรยี นรู้ (O : Orientation) 1. ครแู จง้ วัตถปุ ระสงค์ในการเรยี นใหผ้ ูเ้ รียนไดร้ บั ทราบ 2. ครูใหน้ กั ศึกษาทาแบบทดสอบกอ่ นเรียน 10 ขอ้ 3. ครทู ักทายผูเ้ รียนและชวนคดิ ชวนคุยเกีย่ วกับเพศศกึ ษา 4. ครแู ละผ้เู รียนสนทนาเกย่ี วกบั - พฤตกิ รรมเบย่ี งเบนทางเพศ - อทิ ธิพลของสงั คมและวัฒนธรรมต่อพฤตกิ รรมทางเพศ - โรคติดตอ่ ทางเพศสัมพนั ธ์ - เอดส์ - กามโรค 5. ครแู ละผเู้ รียนสรุปสง่ิ ทไี่ ด้เรียนรรู้ ่วมกนั และผเู้ รียนบนั ทกึ สรุปสงิ่ ท่ีไดเ้ รยี นร้ลู งในสมุดบนั ทึก กจิ กรรม ขัน้ ตอนท่ี 2 การแสวงหาข้อมลู และจัดการเรียนรู้ (N : New ways of learning) 1.ครเู ชือ่ มโยงสิ่งทไี่ ดเ้ รียนรูใ้ นขนั้ ที่ 1 โดยแบ่งผู้เรียนออกเป็น 3 กลมุ่ กลุ่มละเทา่ ๆ กัน (มีการกาหนด บทบาทหน้าทีข่ องประธาน เลขานกุ าร และผู้นาเสนอ) หลงั จากนัน้ ใหผ้ ู้เรียนศึกษาหนงั สอื แบบเรียนบทที่ 1 หนา้ ท่ี 50-66 ชีวิตและครอบครวั 1. พฤตกิ รรมเบยี่ งเบนทางเพศ 2. อิทธิพลของสงั คมและวัฒนธรรมต่อพฤติกรรมทางเพศ 3. โรคติดตอ่ ทางเพศสมั พันธ์ 3.1 เอดส์ 3.2 กามโรค

2. ใหผ้ ู้แทนของแต่ละกลมุ่ นาเสนอผลงาน 3. ครูสรุปเน้ือหาเร่อื งเพศศกึ ษา 4. ครูและผูเ้ รียนสรปุ สงิ่ ทไี่ ด้เรยี นรรู้ ่วมกนั และผเู้ รยี นบนั ทึกสรปุ ส่งิ ที่ไดเ้ รียนรู้ลงในสมุดบันทึกกิจกรรม ข้ันตอนท่ี 3 การปฏบิ ัติและนาไปประยกุ ต์ใช้ (I : Implementation) 1. ให้ผู้เรียนกลุ่มเดิมในขน้ั ตอนท่ี 2 อธิบายเกี่ยวกบั เพศศึกษา 2. ให้ผู้เรยี นแสดงความคิดเหน็ เพม่ิ เติมจากความรู้เรอ่ื งเพศศกึ ษา 3. ครแู ละผู้เรยี นสรปุ สง่ิ ท่ีไดเ้ รยี นรู้รว่ มกัน และผู้เรยี นบันทกึ สรปุ สงิ่ ท่ีได้เรยี นรูล้ งในสมุดบันทกึ กิจกรรม ขนั้ ตอนที่ 4 การประเมินผล (E : Evaluation) 1.ครสู ุม่ ผเู้ รียนประมาณ 3-5 คน ให้ตอบคาถามในประเดน็ ผเู้ รียนจะนาสง่ิ ท่ีได้เรียนรเู้ รื่อง - พฤติกรรมเบ่ยี งเบนทางเพศ - อิทธิพลของสังคมและวฒั นธรรมต่อพฤตกิ รรมทางเพศ - โรคตดิ ต่อทางเพศสมั พันธ์ ไปใชใ้ นชวี ติ ประจาวนั ได้อย่างไร 2. ใหผ้ ู้เรียนทาใบงานท่ี 3 เรอื่ ง เพศศกึ ษา 3. ครูและผูเ้ รยี นสรปุ ส่ิงที่ได้เรยี นรู้ร่วมกนั และผเู้ รยี นบนั ทกึ สรุปสิ่งที่ไดเ้ รยี นรู้ลงในสมุดบนั ทึกกิจกรรม 4. แบบทดสอบหลังเรยี น การมอบหมายงานใหผ้ ้เู รยี นไปเรียนร้ดู ว้ ยตัวเอง ครมู อบหมายงานใหผ้ ู้เรยี นไปเรยี นรดู้ ้วยตนเองและนัดหมายการส่งงานท่รี ับผดิ ชอบ ตามรายวชิ าและ เนอื้ หา ดงั นี้ รายวชิ า/หวั เรอื่ ง ชวี ิตและครอบครัว ทช32004 การออกกาลงั กายและการเล่นกีฬาทัง้ ประเภทบุคคลและประเภท ทีมกีฬาไทยและกีฬาสากล ตัวช้ีวัด 6. เล่นกฬี าประเภทบุคคล กฬี าประเภททีม การเคล่ือนไหวท่สี ร้างสรรค์ ในการเข้าร่วมกิจกรรม นันทนาการและการทางานต่าง ๆ 7. สรปุ ความคิดรวบยอดและการเปรียบเทยี บเก่ียวกับการเคล่ือนไหวแบบต่าง ๆ และนาไปใช้ในการเล่น กฬี า 8. ยอมรบั และเห็นคุณค่าการสร้างเสรมิ วิถีชวี ติ ทีม่ ีสขุ ภาพดี โดยการออกกาลงั กายและเล่นกีฬาเป็น ประจาสมา่ เสมอ 9. ถ่ายทอดความรเู้ ก่ยี วกบั สทิ ธิ กฎ กตกิ า ความปลอดภัยและกลวธิ ใี นการเล่น การแขง่ ขันแกผ่ ู้อนื่ และ นาไปใช้ในชวี ิตประจาวนั 10. แสดงความรับผิดความของตนเอง ทักษะและให้ความร่วมมอื ประยกุ ตห์ ลักการรกุ การป้องกนั และ การให้ความรว่ มมอื ในการเขา้ รว่ มกิจกรรม การเล่นกีฬาเป็นกลุ่ม 11. แสดงความมีนา้ ใจนกั กีฬามีจิตวิญญาณ ชน่ื ชมในสุนทรยี ภาพของการเลน่ การชม และการแข่งขันกีฬา

เนอื้ หา (กรต.) 1. หลกั การ รปู แบบวธิ กี ารออกกาลังกาย 2. ทกั ษะการเคลื่อนไหวและประเภทของกฬี า 2.1 วา่ ยน้า 2.2 กรฑี า สื่อและแหล่งการเรียนรู้ 1. หนงั สือแบบเรียนวิชาชวี ติ และครอบครัว ทช32004 ระดบั ม.ปลาย หนา้ ที่ 50-66 2. สมดุ บันทกึ กิจกรรม 3. ใบงานท่ี 3 เพศศึกษา 4. แบบทดสอบกอ่ นเรยี น-หลงั เรยี น การวดั และประเมนิ ผล 1. สังเกตพฤตกิ รรมการมีส่วนรว่ มของผเู้ รียนในการแลกเปล่ยี นเรียนรู้ ความต้ังใจ ความสนใจ 2. ผลงาน/ช้นิ งาน 3. แบบทดสอบก่อน-หลังเรียน

ใบงานท่ี 2 เร่อื ง ชวี ิตและครอบครัว จงอธบิ ายข้อความตอ่ ไปนใ้ี ห้ถกู ตอ้ ง 5. คา่ นิยมทางเพศที่ดแี ละเหมาะสมกับสังคมและวัฒนธรรมไทย ทน่ี ักศึกษาสามารถปฏิบตั ิได้คือ ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... 6. ความผิดปกติทางเพศ หมายถึง ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... จงยกตวั อย่างโรคติดตอ่ ทางเพศสมั พันธ์ และการป้องกนั มา 3 โรค ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................................. ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ผู้ท่เี ป็นโรคตดิ ต่อทางเพศสัมพนั ธต์ อ้ งปฏิบตั ติ นอยา่ งไร ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................................

7. จงบอกวธิ ีปอ้ งกันตวั เองไมใ่ หต้ ดิ เชื้อเอดส์ ..................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... 8. วัฒนธรรมท่ีมีผลต่อพฤติกรรมทางเพศ 9.1 จงอธิบายและบอกเหตุผลว่าทาไมวฒั นธรรมตะวนั ตกจงึ มีบทบาทตอ่ พฤติกรรมทางเพศของคนไทย ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... 9.2 จงอธบิ ายและยกตัวอย่าง วิธกี ารจัดการในเร่ืองพฤติกรรมทางเพศทถี่ ูกตอ้ งเหมาะสม (ศึกษาจากหนงั สอื เรยี นหนา้ ที่ 57-58) ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................................

แผนการจดั การเรียนรู้ ภาคเรยี นที่ 1/2562 รายวิชา ชวี ติ และครอบครวั ทช32004 ระดับช้ันมธั ยมศกึ ษาตอนปลาย จานวน 3 หนว่ ยกติ ครง้ั ท.่ี ........3........... วนั ท่.ี .........เดอื น.........................พ.ศ. 2562 รปู แบบการจัดการเรยี นรู้ แบบพบกล่มุ จานวน 3 ช่ัวโม เรื่อง ชีวติ และครอบครัว ตวั ช้วี ัด 1. อธบิ ายบทบาทของครอบครัวเพอื่ น สงั คม และวฒั นธรรมที่มตี ่อพฤติกรรมทางเพศ และการดาเนินชวี ติ ได้ 2. มที กั ษะในการสรา้ งเสรมิ สัมพันธภาพทดี่ ีต่อกนั เน้ือหา 1. ทกั ษะทีจ่ าเปน็ ต่อชีวิต 2. บทบาทและหน้าที่ของตนเองทีม่ ีต่อชุมชนและสังคม 3. การสง่ เสริมสมั พนั ธภาพที่ดีในชวี ติ ครอบครัวและชมุ ชน 4. การวางแผนชีวติ และครอบครัว 5. การต้งั ครรภ์และการดแู ล 6. คา่ นยิ มเกย่ี วกบั ชวี ิตครอบครัวและพฤตกิ รรมทางเพศ 7. การจดั การกับปัญหาชวี ติ 8. การจดั การกบั ปญั หาชวี ิตและครอบครวั ขั้นตอนการจดั กระบวนการเรยี นรู้ ข้นั ตอนท่ี 1 การกาหนดสภาพ ปัญหา ความต้องการในการเรยี นรู้ (O : Orientation) 1. ครแู จง้ วตั ถปุ ระสงคใ์ นการเรียนใหผ้ ูเ้ รยี นได้รบั ทราบ 2. ครใู หน้ กั ศึกษาทาแบบทดสอบกอ่ นเรยี น 10 ขอ้ 3. ครูทกั ทายผู้เรยี นและชวนคิดชวนคุยเกยี่ วกับชีวติ และครอบครัว 4. ครูและผเู้ รยี นสนทนาเกย่ี วกบั - ทกั ษะท่ีจาเปน็ ต่อชวี ิต - บทบาทและหนา้ ที่ของตนเองทม่ี ีตอ่ ชมุ ชนและสังคม - การสง่ เสรมิ สมั พันธภาพท่ดี มี นชีวิต ครอบครวั และชมุ ชน - การวางแผนชีวติ และครอบครวั - การตงั้ ครรภ์ และการดแู ล - คา่ นิยมเก่ียวกบั ชีวิตครอบครวั และพฤตกิ รรมทางเพศ - การจัดการกบั ปัญหาชีวติ - การจัดการกับปญั หาชีวิตและครอบครวั - การจดั การกับปัญหาชีวติ และครอบครวั 5. ครูและผเู้ รยี นสรปุ สิ่งทไี่ ด้เรียนรู้ร่วมกัน และผเู้ รียนบนั ทกึ สรุปสงิ่ ท่ีได้เรียนรลู้ งในสมุดบันทกึ กจิ กรรม

ขน้ั ตอนท่ี 2 การแสวงหาข้อมลู และจัดการเรยี นรู้ (N : New ways of learning) 1.ครูเชือ่ มโยงสง่ิ ที่ได้เรยี นรู้ในขัน้ ที่ 1 โดยแบ่งผ้เู รียนออกเป็น 6 กลมุ่ กลุ่มละเท่า ๆ กนั (มีการกาหนด บทบาทหนา้ ท่ีของประธาน เลขานกุ าร และผู้นาเสนอ) หลังจากน้ันใหผ้ ู้เรยี นศกึ ษาหนังสือแบบเรยี นบทท่ี 1 หนา้ ท่ี 20-46 ชวี ติ และครอบครวั 1. ทักษะทจี่ าเปน็ ต่อชวี ิต 2. บทบาทและหน้าที่ของตนเองทม่ี ีตอ่ ชุมชนและสังคม 3. การส่งเสริมสัมพันธภาพทีด่ มี นชีวติ ครอบครวั และชุมชน 4. การวางแผนชวี ิตและครอบครัว 5. การตั้งครรภ์ และการดูแล 6. ค่านยิ มเก่ยี วกบั ชีวติ ครอบครวั และพฤตกิ รรมทางเพศ 7. การจดั การกบั ปญั หาชวี ิต 8. การจดั การกบั ปัญหาชีวติ และครอบครัว 2. ให้ผ้แู ทนของแต่ละกล่มุ นาเสนอผลงาน 3. ครูสรปุ เน้อื หาเรอ่ื งชีวติ และครอบครวั 4. ครแู ละผเู้ รยี นสรปุ ส่ิงท่ไี ดเ้ รยี นรู้รว่ มกนั และผ้เู รยี นบนั ทกึ สรปุ ส่ิงที่ได้เรียนรูล้ งในสมดุ บนั ทึกกจิ กรรม ข้ันตอนที่ 3 การปฏบิ ัตแิ ละนาไปประยกุ ตใ์ ช้ (I : Implementation) 1. ให้ผเู้ รียนกลุ่มเดมิ ในขัน้ ตอนท่ี 2 อธิบายบทบาทของครอบครัว เพื่อน สงั คม และวัฒนธรรมท่ีมีตอ่ พฤติกรรมทางเพศ และการดาเนนิ ชีวิต 2. ใหผ้ ้เู รยี นแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติมจากความรู้เรอ่ื งชีวิตและครอบครวั 3. ครแู ละผ้เู รยี นสรุปสง่ิ ท่ไี ดเ้ รยี นรู้ร่วมกัน และผู้เรยี นบันทึกสรปุ ส่ิงท่ไี ด้เรยี นรลู้ งในสมุดบนั ทึกกจิ กรรม ขั้นตอนท่ี 4 การประเมนิ ผล (E : Evaluation) 1.ครสู ุม่ ผูเ้ รียนประมาณ 3-5 คน ให้ตอบคาถามในประเด็น ผูเ้ รยี นจะนาส่ิงทไ่ี ดเ้ รียนรู้เร่อื ง - ทักษะทีจ่ าเป็นต่อชีวติ - บทบาทและหน้าท่ขี องตนเองที่มีต่อชุมชนและสังคม - การสง่ เสริมสมั พนั ธภาพท่ีดีมนชีวิต ครอบครัวและชุมชน - การวางแผนชีวิตและครอบครวั - การตงั้ ครรภ์ และการดูแล - ค่านิยมเกีย่ วกบั ชีวิตครอบครวั และพฤตกิ รรมทางเพศ - การจัดการกับปญั หาชีวิต - การจัดการกบั ปญั หาชวี ิตและครอบครวั - การจดั การกับปัญหาชีวิตและครอบครัว ไปใชใ้ นชีวติ ประจาวันได้อย่างไร 2. ใหผ้ เู้ รยี นทาใบงานที่ 2 เรอ่ื งชีวิตและครอบครวั 3. ครูและผูเ้ รยี นสรปุ ส่ิงทไ่ี ด้เรยี นรรู้ ว่ มกนั และผู้เรยี นบนั ทกึ สรปุ ส่งิ ท่ีได้เรียนรลู้ งในสมดุ บันทึกกิจกรรม 4. แบบทดสอบหลังเรียน

การมอบหมายงานให้ผู้เรียนไปเรียนร้ดู ว้ ยตัวเอง ครมู อบหมายงานใหผ้ ้เู รียนไปเรยี นรูด้ ว้ ยตนเองและนัดหมายการสง่ งานทีร่ ับผดิ ชอบ ตามรายวชิ าและ เน้ือหา ดงั น้ี รายวชิ า/หัวเร่อื ง ชวี ิตและครอบครัว ทช32004 เพศศึกษา ตวั ชีว้ ัด 12. มคี ่านิยมที่ดีในเรอ่ื งเพศและเข้าใจในธรรมชาติของการเกิดอารมณท์ างเพศ 13. อธิบายวฒั นธรรมทีม่ ผี ลตอ่ พฤติกรรมทางเพศและสามารถจัดการไดถ้ ูกต้องเหมาะสม 14. หลกี เล่ียงและป้องกนั ตนเองจากความเสย่ี ง ต่อการตดิ โรคทางเพศสมั พันธ์ เนื้อหา (กรต.) 1. พฤตกิ รรมเบยี่ งเบนทางเพศ 2. โรคตดิ ตอ่ ทางเพศสมั พนั ธ์ สื่อและแหลง่ การเรียนรู้ 1. หนงั สือแบบเรียนวชิ าชีวติ และครอบครวั ทช32004 ระดับ ม.ปลาย หนา้ ท่ี 20-46 2. สมุดบนั ทกึ กจิ กรรม 3. ใบงานที่ 2 ชีวิตและครอบครัว 4. แบบทดสอบกอ่ นเรยี น-หลังเรยี น การวดั และประเมินผล 1. สงั เกตพฤติกรรมการมสี ว่ นร่วมของผู้เรยี นในการแลกเปลย่ี นเรียนรู้ ความตั้งใจ ความสนใจ 2. ผลงาน/ชนิ้ งาน 3. แบบทดสอบก่อน-หลงั เรยี น

ใบงานที่ 3 เรือ่ ง ชวี ติ และครอบครัว จงอธบิ ายข้อความตอ่ ไปนใี้ หถ้ กู ตอ้ ง จงอธบิ ายทักษะท่จี าเป็นต่อชีวิตและยกตัวอยา่ งทักษะทีน่ ักศึกษามีความจาเปน็ ตอ้ งเสริมสร้างใหเ้ กิดขน้ึ กบั ตนเอง 1. ทกั ษะการตระหนักรู้และเหน็ คุณคา่ ในตนเองและผูอ้ นื่ ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... 2. ทักษะการคิดวิเคราะห์ ตัดสนิ ใจ และแกป้ ัญหาอยา่ งสร้างสรรค์ ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... 3. ทักษะการจดั การกบั อารมณ์และความเครยี ด ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... 4. ทักษะการสรา้ งสัมพันธภาพท่ดี ีกับผู้อน่ื ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................................

5. บทบาทหนา้ ทีข่ องตนเองทมี่ ตี ่อชุมชนและสงั คมมีอะไรบา้ ง ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... 6. นกั ศึกษามกี ารเสริมสรา้ งสมั พนั ธภาพในชีวิตครอบครวั ของนักศกึ ษาอย่างไร ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... 7. ถา้ นักศึกษามีครอบครวั จะมกี ารวางแผนชวี ิตครอบครวั อยา่ งไร ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................................

แผนการจัดการเรยี นรู้ ภาคเรยี นท่ี 1/2562 รายวชิ า ชวี ติ และครอบครัว ทช32004 ระดับชั้น ม.ปลาย จานวน 3 หนว่ ยกิต รูปแบบการจัดการเรียนรู้ แบบพบกลุ่ม จานวน 3 ชว่ั โมง เรือ่ ง การออกกาลังกายและการเล่นกฬี าท้ังประเภทบคุ คลและประเภททีมกฬี าไทยและกฬี าสากล ตัวช้ีวัด 15. เลน่ กฬี าประเภทบุคคล กฬี าประเภททีม การเคลื่อนไหวทส่ี ร้างสรรค์ ในการเขา้ ร่วมกิจกรรม นนั ทนาการและการทางานตา่ ง ๆ 16. สรุปความคิดรวบยอดและการเปรยี บเทยี บเก่ียวกับการเคล่ือนไหวแบบต่าง ๆ และนาไปใช้ในการเล่น กฬี า 17. ยอมรบั และเหน็ คณุ ค่าการสร้างเสริมวถิ ีชวี ิตท่มี ีสุขภาพดี โดยการออกกาลังกายและเลน่ กฬี าเป็น ประจาสมา่ เสมอ 18. ถา่ ยทอดความรูเ้ ก่ยี วกบั สิทธิ กฎ กติกา ความปลอดภัยและกลวธิ ใี นการเลน่ การแข่งขนั แก่ผู้อน่ื และ นาไปใชใ้ นชีวิตประจาวัน 19. แสดงความรบั ผิดความของตนเอง ทกั ษะและให้ความร่วมมือ ประยกุ ตห์ ลกั การรกุ การปอ้ งกัน และ การใหค้ วามร่วมมือในการเข้าร่วมกิจกรรม การเล่นกีฬาเป็นกลุ่ม 20. แสดงความมนี ้าใจนกั กีฬามจี ิตวญิ ญาณ ช่ืนชมในสนุ ทรียภาพของการเล่นการชม และการแข่งขนั กีฬา เนอ้ื หา 1. หลกั การ รปู แบบวธิ ีการออกกาลงั กาย 2. ประเภทของกิจกรรมพลศึกษา เกม และชนดิ ของกฬี า 2.1 ประเภทบุคคลกฬี าไทย เช่น หมากรกุ หมากฮอส เป็นต้น 2.2 ประเภททมี เชน่ ตะกรอ้ ลอดบว่ ง เซปกั ตะกรอ้ เปน็ ตน้ 2.3 กฬี าสากล ฟุตบอล วอลเลย์บอล เทเบิลเทนนสิ วา่ ยน้า ฯลฯ 2.4 กฬี าพื้นบ้าน กฬี าพนื้ เมือง 3. ทกั ษะการเคลอ่ื นไหวเฉพาะประเภทกฬี า 3.1 ว่ายนา้ 3.2 กรฑี า 4. ประโยชน์ของการออกกาลังกายและการเล่นกฬี า 5. กฎ กตกิ า และมารยาทในการเลน่ เกมและกฬี าประเภทต่าง ๆ 6. ออกกาลงั กาย โดยการเล่นเกม และเลน่ กีฬาเป็นกลมุ่

ข้นั ตอนการจัดกระบวนการเรยี นรู้ ข้ันตอนท่ี 1 การกาหนดสภาพ ปญั หา ความต้องการในการเรียนรู้ (O : Orientation) 1. ครูแจง้ วัตถุประสงคใ์ นการเรียนให้ผเู้ รียนไดร้ บั ทราบ 2. ครูใหน้ กั ศกึ ษาทาแบบทดสอบกอ่ นเรยี น 10 ข้อ 3. ครทู กั ทายผ้เู รยี นและชวนคดิ ชวนคยุ เก่ียวกับการออกกาลงั กายและการเล่นกีฬาทงั้ ประเภทบุคคลและ ประเภททมี กฬี าไทยและกีฬาสากล 4. ครแู ละผเู้ รียนสนทนาเกี่ยวกับ - หลักการ รูปแบบวธิ ีการออกกาลงั กาย - ประเภทของกจิ กรรมพลศึกษา เกม และชนิดของกฬี า - ประเภทบุคคลกีฬาไทย เช่น หมากรกุ หมากฮอส เปน็ ต้น - ประเภททีม เชน่ ตะกร้อลอดบว่ ง เซปักตะกร้อ เป็นตน้ - กีฬาสากล ฟุตบอล วอลเลย์บอล เทเบิลเทนนสิ ว่ายนา้ ฯลฯ - กฬี าพืน้ บา้ น กฬี าพน้ื เมือง - ทักษะการเคลอ่ื นไหวเฉพาะประเภทกีฬา - ว่ายนา้ - กรีฑา - ประโยชนข์ องการออกกาลังกายและการเลน่ กีฬา - กฎ กตกิ า และมารยาทในการเลน่ เกมและกฬี าประเภทตา่ ง ๆ - ออกกาลังกาย โดยการเลน่ เกม และเล่นกฬี าเป็นกลมุ่ - ครูและผู้เรยี นสรปุ สง่ิ ท่ีไดเ้ รยี นรรู้ ่วมกัน และผเู้ รียนบันทึกสรุปส่ิงท่ีได้เรียนร้ลู งในสมุดบันทึก กจิ กรรม ข้นั ตอนท่ี 2 การแสวงหาขอ้ มูลและจดั การเรียนรู้ (N : New ways of learning) 1.ครเู ชอ่ื มโยงสิ่งทีไ่ ด้เรียนรใู้ นขัน้ ท่ี 1 โดยแบ่งผู้เรียนออกเป็น 3 กลมุ่ กลุ่มละเท่า ๆ กนั (มกี ารกาหนด บทบาทหนา้ ที่ของประธาน เลขานุการ และผู้นาเสนอ) หลงั จากนั้นให้ผู้เรียนศึกษาหนงั สอื แบบเรยี นบทท่ี 1 หนา้ ที่ 70-177 การออกกาลงั กายและการเล่นกฬี าท้ังประเภทบุคคลและประเภททีมกีฬาไทยและกฬี าสากล 1. หลักการ รปู แบบวิธกี ารออกกาลงั กาย 2. ประเภทของกจิ กรรมพลศึกษา เกม และชนิดของกฬี า 2.1 ประเภทบุคคลกฬี าไทย เชน่ หมากรกุ หมากฮอส เป็นต้น 2.2 ประเภททีม เชน่ ตะกรอ้ ลอดบว่ ง เซปกั ตะกรอ้ เปน็ ตน้ 2.3 กีฬาสากล ฟุตบอล วอลเลย์บอล เทเบิลเทนนสิ ว่ายน้า ฯลฯ 2.4 กฬี าพ้นื บา้ น กฬี าพื้นเมือง 3. ทกั ษะการเคล่อื นไหวเฉพาะประเภทกีฬา 3.1 วา่ ยน้า 3.2 กรฑี า 4. ประโยชนข์ องการออกกาลังกายและการเล่นกีฬา 5. กฎ กตกิ า และมารยาทในการเล่นเกมและกีฬาประเภทต่าง ๆ 6. ออกกาลังกาย โดยการเลน่ เกม และเล่นกฬี าเป็นกลมุ่

2. ใหผ้ ู้แทนของแต่ละกลุ่มนาเสนอผลงาน 3. ครสู รปุ เนื้อหาเร่ืองการออกกาลงั กายและการเลน่ กีฬาทัง้ ประเภทบุคคลและประเภททมี กีฬาไทยและ กีฬาสากล 4. ครูและผเู้ รียนสรุปสงิ่ ที่ไดเ้ รยี นรู้รว่ มกนั และผเู้ รยี นบนั ทึกสรุปสิ่งท่ไี ด้เรียนรูล้ งในสมุดบันทกึ กิจกรรม ข้นั ตอนที่ 3 การปฏิบตั ิและนาไปประยุกต์ใช้ (I : Implementation) 1. ใหผ้ ู้เรยี นกลมุ่ เดมิ ในขั้นตอนที่ 2 อธบิ ายเกี่ยวกับการออกกาลังกายและการเล่นกีฬาท้ังประเภทบุคคล และประเภททมี กฬี าไทยและกฬี าสากล 2. ให้ผ้เู รียนแสดงความคิดเห็นเพม่ิ เติมจากความรู้เรือ่ งการออกกาลังกายและการเล่นกีฬาทัง้ ประเภทบุคคล และประเภททมี กฬี าไทยและกฬี าสากล 3. ครูและผูเ้ รียนสรุปสงิ่ ท่ีไดเ้ รยี นรรู้ ว่ มกนั และผู้เรยี นบันทึกสรปุ ส่งิ ท่ไี ดเ้ รยี นรู้ลงในสมุดบนั ทึกกจิ กรรม ขั้นตอนที่ 4 การประเมินผล (E : Evaluation) 1.ครสู มุ่ ผูเ้ รียนประมาณ 3-5 คน ให้ตอบคาถามในประเดน็ ผเู้ รยี นจะนาส่ิงทไี่ ด้เรียนรู้เร่ือง - หลักการ รปู แบบวธิ ีการออกกาลงั กาย - ประเภทของ - ทักษะการเคล่ือนไหวเฉพาะประเภทกฬี า - ประโยชน์ของการออกกาลังกายและการเล่นกีฬา - กฎ กติกา และมารยาทในการเล่นเกมและกฬี าประเภทต่าง ๆ - ออกกาลังกาย โดยการเล่นเกม และเลน่ กีฬาเป็นกล่มุ ไปใชใ้ นชีวติ ประจาวนั ได้อยา่ งไร 2. ใหผ้ เู้ รียนทาใบงานท่ี 4 เรื่อง การออกกาลังกายและการเล่นกีฬาทงั้ ประเภทบุคคลและประเภททมี กีฬา ไทยและกีฬาสากล 3. ครูและผเู้ รียนสรุปสิ่งที่ได้เรยี นรรู้ ว่ มกัน และผเู้ รียนบันทึกสรปุ สิง่ ทไ่ี ดเ้ รยี นรู้ลงในสมดุ บนั ทกึ กิจกรรม 4. แบบทดสอบหลงั เรียน การมอบหมายงานให้ผูเ้ รยี นไปเรียนร้ดู ว้ ยตวั เอง ครูมอบหมายงานใหผ้ ้เู รยี นไปเรียนรู้ด้วยตนเองและนดั หมายการสง่ งานท่รี บั ผิดชอบ ตามรายวชิ าและ เนอื้ หา ดังน้ี รายวชิ า/หัวเรอ่ื ง ชวี ติ และครอบครัว ทช32004 การประยุกตห์ ลกั วิทยาศาสตร์การเคลื่อนไหวในการเลน่ กีฬา การ ทดสอบและสร้างเสริมสรรถภาพทางกายเพ่อื การออกกาลงั กายและการเล่นกฬี า รวมถึงการออกแบบโปรแกรมสร้าง เสรมิ สมรรถภาพกลไกและสมรรถภาพทางกายของตนเองและผู้อ่นื

ตัวชีว้ ัด 1. ประยกุ ต์ความคดิ รวบยอดจากหลักวิทยาศาสตร์การเคลือ่ นไหวในการออกกาลังกายและการเล่นกีฬาได้ อยา่ งมปี ะสิทธิภาพ 2. ทดสอบและสรา้ งเสริมสมรรถภาพทางกาย เพือ่ การออกกาลงั กายและเล่นกฬี าของตนเองและผูอ้ นื่ 3. ประยุกตห์ ลกั การรุก การป้องกันและการใหค้ วามรว่ มมอื ในการเลน่ การแข่งขนั กีฬาสีและการทางานเป็น กลุ่มไดอ้ ย่างเหมาะสม เน้ือหา (กรต.) 1. ความหมายและความสาคญั ของสมรรถภาพทางกาย 2. สมรรถภาพทางกายท่เี หมาะสมตามเกณฑม์ าตรฐานของเพศและระดับอายุ สือ่ และแหล่งการเรยี นรู้ 1. หนงั สอื แบบเรยี นวิชาชวี ติ และครอบครวั ทช32004 ระดบั ม.ปลาย หนา้ ท่ี 70-117 2. สมดุ บนั ทกึ กิจกรรม 3. ใบงานท่ี 4 การออกกาลงั กายและการเลน่ กีฬาท้งั ประเภทบุคคลและประเภททมี กีฬาไทยและกฬี าสากล 4. แบบทดสอบก่อนเรยี น-หลงั เรยี น การวัดและประเมินผล 1. สงั เกตพฤตกิ รรมการมีส่วนร่วมของผเู้ รยี นในการแลกเปล่ยี นเรยี นรู้ ความต้ังใจ ความสนใจ 2. ผลงาน/ชน้ิ งาน 3. แบบทดสอบกอ่ น-หลงั เรียน

ใบงานท่ี 4 เรือ่ ง การออกกาลงั กายและการเลน่ กฬี าทง้ั ประเภทบุคคลและประเภททีมกฬี าไทยและกีฬาสากล จงอธิบายข้อความตอ่ ไปนี้ใหถ้ ูกตอ้ ง 1. หลักการและรปู แบบการออกกาลงั กายประกอบไปด้วย 4 ข้ันตอน มอี ะไรบา้ ง (หนงั สือเรยี นหน้า 73) ....................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................... 2. จงยกตัวอย่างประเภทของกจิ กรรมพละศึกษา เกม และชนดิ ของกีฬาท่ีนักศึกษาเคยชมในทวี ี หรือ สนามกฬี าจังหวัด 2.1 ประเภทของกิจกรรมพละศึกษา ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... 2.2 ประเภทของเกม ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... 2.3 ชนิดของกีฬา ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................................

3. การออกกาลงั กายและการเล่นกีฬา มีประโยชน์อยา่ งไร ...................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................... 4. การเล่นกฬี ากบั กลุ่มคนมาก ๆ เราควรปฏบิ ตั ติ นอยา่ งไร ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................. 5. จงเลอื กประเภทของกีฬาและการออกกาลงั กายมา 1 ประเภท พรอ้ มบอกเหตผุ ลที่นักศึกษาชอบ ......................................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................................

แผนการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ ภาคเรยี นท่ี 1/ 2562 วชิ าศาสนาและหนา้ ทพี่ ลเมอื ง สค 31002 ระดับชน้ั มัธยมศกึ ษาตอนปลาย จานวน 2 หนว่ ยกิต พบกลมุ่ ครงั้ ท.่ี ..4.....วันท.ี่ ..................เดือน........................พ.ศ.2562 รปู แบบการจดั การเรยี นรู้ แบบพบกล่มุ จานวน 3 ช่วั โมง เรอ่ื ง ศาสนา วัฒนธรรม ประเพณี ตวั ชี้วัด 1. มีความรู้ ความเขา้ ใจ ศาสนาท่ีสาคัญๆในโลก 2. มคี วามรู้ ความเขา้ ใจ ในหลักธรรมสาคัญของแต่ละศาสนา 3. เห็นความสาคัญในการอย่รู ่วมกบั ศาสนาอ่นื อย่างสนั ตสิ ุข เนือ้ หา 1. ศาสนาต่างๆ - กาเนิดศาสนาตา่ งๆ - ศาสดาของศาสนาต่างๆ 2. หลักธรรมสาคญั ของศาสนาตา่ งๆ - การเผยแพรศ่ าสนาต่างๆ - ความขัดแย้งในศาสนาต่างๆ ซ่งึ กอ่ ใหเ้ กิดผลเสยี ในสังคม (กรณีตัวอย่าง) 3.การปฏิบตั ติ นใหอ้ ยู่ร่วมกนั อย่างสันติสุข ขั้นตอนการจดั กระบวนการเรยี นรู้ ข้นั ตอนท่ี 1 การกาหนดสภาพ ปญั หา และความตอ้ งการในการเรยี นรู้ (O) 1. ครแู ละผเู้ รยี นรว่ มกนั อภิปรายถงึ ศาสนาท่ีนบั ถือและศาสนาอนื่ ๆทร่ี ู้จักในสังคม ว่ามีอิทธพิ ลตอ่ วิถีการ ดาเนนิ ชีวติ ของคนในสังคมอยา่ งไร 2. ครูและผู้เรียนร่วมกันกาหนดเน้อื หาที่จะเรียนรู้ และจดั ทาแผนการเรยี นร้รู ่วมกันว่าเนือ้ หาใดท่ีเรียนรู้ แบบพบกลุ่มและจะนาส่วนใดไป กรต. 1. ศาสนาต่างๆ - กาเนดิ ศาสนาตา่ ง - ศาสดาของศาสนาต่างๆ 2. หลักธรรมสาคญั ของศาสนาต่างๆ - การเผยแพรศ่ าสนาต่างๆ - ความขัดแย้งในศาสนาตา่ งๆ ซง่ึ ก่อใหเ้ กดิ ผลเสยี ในสังคม (กรณตี ัวอย่าง) 3.การปฏิบตั ติ นให้อย่รู ว่ มกนั อย่างสันตสิ ขุ ขั้นตอนที่ 2 การแสวงหาข้อมูลและจัดการเรียนรู้ (N : New ways of learning) 3. ครูและผู้เรียนวางแผนวิธกี ารเรยี นรเู้ น้อื หาทก่ี าหนด 4. ครแู บ่งกลุ่มผูเ้ รยี น 5. ครแู จกใบความรู้เร่ือง ศาสนา 6. ครแู จกใบงานท่ี1 การวเิ คราะห์ความแตกต่างและความสอดคลอ้ งของแต่ละศาสนา)

7. ผเู้ รียนนาเสนอและแลกเปลีย่ นความรูจ้ ากใบงาน 8. ครแู ละผเู้ รียนสรปุ ผงั ความคดิ รว่ มกัน ขัน้ ตอนที่ 3 การปฏบิ ตั ิและนาไปประยุกต์ใช้ (I : Implementation) 9. ครมู อบหมายให้ผ้เู รยี นไปศึกษาค้นควา้ ในเรือ่ งท่ตี นเองได้วางแผนไว้ (ตนเอง) แลว้ สรุปส่ง ในวันท่ี 10. ครแู จกใบงานท่ี 2 (เร่ืองหนา้ ทช่ี าวพทุ ธและมารยาทชาวพุทธ หรอื หน้าท่ีของผู้ท่ีสง่ เสรมิ ศาสนา) ข้นั ตอนที่ 4 การประเมินผล (E : Evaluation) 11. ผู้เรียนนาใบงานเรอ่ื งหน้าทช่ี าวพทุ ธ และมารยาทชาวพุทธ ฯลฯ นาเสนอกบั ครู อีกครั้งและเกบ็ ใสไ่ ว้ใน แฟ้มสะสมผลงาน 12. ครูและผ้เู รียนประเมนิ ผล - ด้านการสรุปความรู้จากใบงาน - ด้านการปฏบิ ตั งิ านกล่มุ การมีสว่ นร่วม แฟ้มสะสมงาน - ด้านความพึงพอใจของผเู้ รียนจากการประเมนตนเอง ครูควรสอดแทรกคุณธรรมที่เก่ียวข้องกับเน้ือหาในบทเรียนนั้นมาจัดการเรียนรู้ด้วย พร้อมกับให้มีการประเมิน คณุ ธรรมนั้นๆ ดว้ ย การมอบหมายงานใหผ้ เู้ รียน เรียนร้ดู ว้ ยตนเอง 1. วธิ ีปฏิบตั ิพฒั นาจิตในแต่ละศาสนา 2. การพัฒนาตนเองให้มีสตปิ ญั ญาในการแกไ้ ขปญั หาตา่ งๆ ส่อื และแหล่งการเรยี นรู้ - ข่าว - ใบงานที่ 1 (การวเิ คราะห์ความแตกตา่ งและความสอดคล้องของแตล่ ะศาสนา) - ใบความรูเ้ รือ่ ง ศาสนาพธิ ี - ใบงานท่ี 2 (เรอื่ งหน้าทช่ี าวพทุ ธและมารยาทชาวพุทธ หรือหนา้ ท่ขี องผทู้ ี่ส่งเสรมิ ศาสนา) การวัดผลและประเมนิ ผล 1. การสังเกตพฤติกรรมการมสี ว่ นร่วมของผ้เู รยี น 2. ผลงาน/ ช้นิ งาน

ใบงานท่ี 5 เร่อื ง ศาสนา วฒั นธรรม ประเพณี 1. คาสง่ั ..ให้ผ้เู รยี นบนั ทกึ ข้อมลู ใส่ในตารางเปรยี บเทียบศาสนา ช่ือศาสนา ศาสดา ฉายาพระองค์ คัมภีร์ สญั ลกั ษณ์ หลกั ธรรมคาสอน พระพทุ ธศาสนา ศาสนาอิสลาม ครสิ ต์ศาสนา ศาสนา พราหมณ์-ฮนิ ดู ศาสนาซกิ ข์ 2. ให้ยกตัวอยา่ งความขัดแยง้ ในศาสนาต่าง - พระพทุ ธศาสนา ....................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... .....................................................................................................................................................................................

- ศาสนาอิสลาม ....................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................... - ครสิ ตศ์ าสนา ....................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................... - ศาสนาพราหมณ์-ฮนิ ดู ....................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................... - ศาสนาซิกข์ ....................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................... 3.เสนอแนะแนวทางการปฏิบตั ิตนให้อยรู่ ว่ มกนั อย่างสนั ตสิ ุข ....................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... .....................................................................................................................................................................................

แผนการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ ภาคเรียนท่ี 1/ 2562 วิชาศาสนาและหนา้ ท่พี ลเมอื ง สค 31002 ระดับชั้นมธั ยมศึกษาตอนปลาย จานวน 2 หนว่ ยกติ รูปแบบการจัดการเรยี นรู้ แบบพบกลมุ่ จานวน 3 ช่ัวโมง เร่ือง ศาสนา วฒั นธรรม ประเพณี ตัวช้ีวัด 1. ประพฤติปฏบิ ตั ิตนท่ีส่งผลใหส้ ามารถอยรู่ ่วมกบั ศาสนาอืน่ อย่างสันติสุข 2. ฝกึ ปฏบิ ัตพิ ัฒนาจติ เพอ่ื ใหส้ ามารถพัฒนาตนเองให้มีสติปญั ญาในการแก้ปัญหาตา่ งๆ และพัฒนาตนเอง ครอบครวั สังคม ชุมชน เนอื้ หา 1. วธิ ีฝึกปฏบิ ตั ิพฒั นาจติ ในแต่ละศาสนา 2. การพัฒนาตนเองให้มีสตปิ ัญญาในการ แก้ปญั หาต่างๆ และการพัฒนาตนเองครอบครัว ชุมชน สังคม ขน้ั ตอนการจัดกระบวนการเรยี นรู้ ขัน้ ตอนที่ 1 การกาหนดสภาพ ปัญหา และความตอ้ งการในการเรียนรู้ (O) - ครูทบทวนการพบกลมุ่ คร้ังทแ่ี ลว้ และชีแ้ จงตวั ช้ีวัดของหน่วยการเรียนรู้ 1.ครพู าผ้เู รียนทาสมาธิด้วยเพลง”ด่งั ดอกไม้บาน”พรอ้ มทาท่าประกอบ 2. ครแู ละผ้เู รยี นสนทนาร่วมกนั “ไดอ้ ะไรบา้ งจากการฝกึ สมาธิ” และสรุปร่วมกนั ข้นั ตอนที่ 2 การแสวงหาข้อมลู และจัดการเรยี นรู้ (N : New ways of learning) 3.ครูและผู้เรียนรว่ มกนั วางแผนวธิ ีการเรยี นรเู้ นื้อหาทีก่ าหนด - วธิ ีฝึกปฏบิ ตั ิพฒั นาจิตในแต่ละศาสนา - การพัฒนาสติปญั ญาในการ แกป้ ญั หาตา่ งๆ และการพัฒนาตนเองครอบครวั ชุมชน สงั คม 4. ครใู หผ้ ู้เรียนดูภาพข่าวหรอื อา่ นขา่ วปญั หาสงั คมทีเ่ กิดข้นึ ในปัจจบุ นั พร้อมทั้งให้ผู้เรียนรว่ มกนั ตัดสนิ ว่าดี หรือไม่ดี 5. ครแู บ่งกลมุ่ ผู้เรยี น 6. ผู้เรียนศึกษากรณีตัวอย่าง เร่ืองความขดั แย้งในสังคมท่ีครูนามาให้ผูเ้ รยี นศึกษาพรอ้ มทาใบงานท่ี 1 (วเิ คราะห์และปัจจัยท่ที าให้เกิดความขัดแยง้ ) 7. ครูและผูเ้ รียนรว่ มอภปิ รายแนวทางแกไ้ ขหรอื ลดความขดั แยง้ ทเ่ี กิดข้นึ ในสงั คม 8. ครูและผูเ้ รยี นสรุปร่วมกัน ขั้นตอนท่ี 3 การปฏิบตั ิและนาไปประยุกตใ์ ช้ (I : Implementation) 9. ครูมอบให้ผู้เรียนศึกษาคน้ ควา้ เก่ียวกับเร่อื งประเพณแี ละวัฒนธรรมทางศาสนา 10. ศึกษาหลักธรรมทางศาสนาท่ีคนนบั ถอื และบันทึกเหตกุ ารณท์ ี่เป็นปัญหาแลว้ แก้ไขปญั หาโดย ใช้ หลกั ธรรมในระยะเวลา 2 สปั ดาห์ (ไม่ตา่ กวา่ 5 เหตุการณ์)

ตวั อยา่ ง เหตุการณ์ หลักธรรม คร้ังที่ ว/ด/ป 11. ใหผ้ ู้เรียนฝกึ ปฏิบัติพัฒนาจติ ตามหลักศาสนาที่ตนนับถอื ในแต่ละศาสนา เชน่ การน่ังสมาธิ การกาหนดลม หายใจเข้าออกของตนเองฯลฯแลว้ บนั ทึกการปฏบิ ัติลงสมุดบันทึกการเรียนรู้ ขัน้ ตอนท่ี 4 การประเมินผล (E : Evaluation) 13. ผ้เู รียนนางานที่รับมอบหมายสง่ และนาเสนอกบั ครู อกี ครั้งและเก็บใสไ่ ว้ในแฟ้มสะสมผลงาน 14. ครูและผ้เู รียนประเมินผล - ดา้ นการสรปุ ความรู้ จากรายงานแฟม้ สะสมงาน - ดา้ นการปฏบิ ัติงานกลุม่ จาการมีส่วนร่วม - ดา้ นความพงึ พอใจของผ้เู รียน จากแบบประเมินตนเอง - ครูควรสอดแทรกคุณธรรมที่เกีย่ วข้องกับเนื้อหาในบทเรยี นนั้นมาจัดการเรียนรู้ดว้ ย พร้อมกับให้ มกี ารประเมิน การมอบหมายงานใหผ้ เู้ รียน เรียนรดู้ ว้ ยตนเอง 1. วฒั นธรรมประเพณีในประเทศไทย 2. วัฒนธรรมประเพณีในประเทศต่างๆในโลก สอื่ และแหล่งการเรยี นรู้ - เพลงดงั่ ดอกไมบ้ าน - ข่าว -บคุ คล เชน่ พระ ผูร้ ู้ ฯลฯ - กรณีตัวอยา่ ง เร่อื งความขดั แยง้ ในสงั คม - ใบงานที่ 2 2.1 มอบใหผ้ ู้เรียนศึกษาค้นคว้าเก่ยี วกบั เรือ่ งประเพณีและวฒั นธรรมทางศาสนา 2.2 ศกึ ษาหลักธรรมทางศาสนาทีค่ นนบั ถือและบันทกึ เหตุการณ์ท่ีเป็นปัญหาแล้วแก้ไขปัญหาโดย ใช้ หลักธรรมในระยะเวลา 2 สปั ดาห์(ไม่ต่ากวา่ 5 เหตุการณ์) การวัดและประเมินผล 1. สังเกตพฤติกรรมการมีสว่ นรว่ มของผู้เรยี นในการแลกเปล่ยี นเรียนรู้ ความตง้ั ใจ ความสนใจ 2. ผลงาน/ชิ้นงาน

ใบงานท่ี 6 เรอื่ ง ศาสนา วฒั นธรรม ประเพณี 1. จงอธิบาย หลักธรรมกับการนาไปใช้ในชีวติ ประจาวัน ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………….………………………….… 2. จงยกตัวอย่างประโยชนข์ องวิธฝี ึกปฏิบัตพิ ฒั นาจิตในด้านต่างๆ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. จงอธิบายความหมาย การฝึกจิตให้บริสทุ ธิ์ มาเป็นขอ้ ๆ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 4. การพฒั นาตนเองครอบครวั ชุมชน สังคม สัมพนั ธ์กบั การพฒั นาสติปัญญาอยา่ งไร ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

แผนการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ ภาคเรียนท่ี 1/ 2562 วิชาศาสนาและหน้าทพี่ ลเมอื ง สค 31002 ระดับชน้ั มัธยมศึกษาตอนปลาย จานวน 2 หน่วยกติ พบกลมุ่ คร้งั ที.่ ...5....วันที่...................เดอื น........................พ.ศ.2562 รปู แบบการจัดการเรียนรู้ แบบพบกลุ่ม จานวน 3 ชวั่ โมง เร่ือง ศาสนา วฒั นธรรม ประเพณี ตวั ชี้วัด 6. มีความรู้ ความเขา้ ใจในวัฒนธรรมประเพณขี องประเทศไทยและประเทศต่างๆในโลก 7. ตระหนกั ถึงความสาคญั ในวัฒนธรรมประเพณีของประเทศไทย และประเทศตา่ ง ๆ ในโลก 8. มสี ว่ นร่วมสืบทอดวัฒนธรรมประเพณีไทย เนอ้ื หา 6. วฒั นธรรมประเพณใี นประเทศไทยและประเทศตา่ ง ๆ ในโลก - ภาษา - การแตง่ กาย - อาหาร - ประเพณีที่สาคัญๆ ฯลฯ 7. การอนุรักษ์ และสบื ทอดวัฒนธรรมประเพณี (กรณีตวั อย่าง) 8.ขอ้ ปฏบิ ัติในการมสี ว่ นรว่ ม สบื ทอด ประพฤตปิ ฏิบตั ติ นเปน็ แบบอยา่ งในการอนรุ กั ษ์วฒั นธรรมประเพณี อนั ดงี ามของสังคมไทย ขน้ั ตอนการจดั กระบวนการเรียนรู้ ขนั้ ตอนที่ 1 การกาหนดสภาพ ปญั หา และความตอ้ งการในการเรียนรู้ (O) - ครูทบทวนการพบกลุ่มครั้งทแ่ี ลว้ และชแ้ี จงตัวช้ีวัดของหนว่ ยการเรยี นรู้ 1.ครใู หผ้ ู้เรียนส่งรายงานการศกึ ษาค้นควา้ เร่ืองประเพณีและวฒั นธรรมและสุม่ ถามถงึ บันทึกเหตกุ ารณท์ ่ี เป็นปัญหาและแกไ้ ขปัญหาโดยใช้หลักธรรมที่ได้รับมอบหมายใหไ้ ปศึกษาในการพบกล่มุ คร้งั ท่แี ล้ว 2.ทดสอบความรคู้ วามเขา้ ใจผูเ้ รียนในเรอื่ งที่เรยี นร้ไู ปแล้วโดยใหผ้ เู้ รียนตอบคาถามสั้น ๆ 5 ขอ้ สง่ ทางอเี มล ของครู (INTERNET) 3. ครแู ละผู้เรียนร่วมกนั กาหนดเนือ้ หาทจี่ ะเรยี นรู้ และจดั ทาแผนการเรยี นรรู้ ่วมกนั ว่าเนือ้ หาใดทจี่ ะเรียนรู้ แบบพบกลมุ่ และเนอ้ื หาใดจะนาไปเรยี นรดู้ ว้ ยตนเอง - วัฒนธรรมประเพณีในประเทศไทยและประเทศต่าง ๆ ในโลก - ภาษา - การแต่งกาย - อาหาร - การอนรุ กั ษ์ และสืบทอดวฒั นธรรมประเพณี - ข้อปฏิบัติในการมสี ว่ นร่วม สบื ทอด ประพฤตปิ ฏิบัติตนเป็นแบบอยา่ งในการอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณี อันดงี ามของสังคมไทย

ขนั้ ตอนท่ี 2 การแสวงหาขอ้ มูลและจดั การเรียนรู้ (N : New ways of learning) 4. ครูและผู้เรยี นวางแผนวธิ ีการเรียนรตู้ ามเนอื้ หาทีก่ าหนด 5. ครแู บ่งกลุ่มผเู้ รียน ให้ร่วมกนั อภปิ รายในหัวขอ้ “ เอกลกั ษณ์ทางวฒั นธรรมทแี่ สดงวา่ เราเป็นคนไทย คอื อะไรบ้าง” แล้วนาคาตอบทีไ่ ด้มาขยายความเพิ่มเตมิ เช่น เรอ่ื งภาษาพูด ภาษาเขียน การแตง่ กาย มารยาท อาหาร และการดาเนนิ ชีวติ ที่มีพุทธศาสนาเปน็ พ้ืนฐาน 6. ผ้เู รียนนาเสนอและแลกเปล่ยี นความรจู้ ากใบงาน 7. ครแู ละผู้เรยี นสรปุ ผังความคิดรว่ มกัน ข้นั ตอนท่ี 3 การปฏิบตั ิและนาไปประยุกต์ใช้ (I : Implementation) 8. ครูมอบหมายใหผ้ ู้เรียนไปศกึ ษาคน้ คว้าในเรอื่ งท่ีตนเองได้วางแผนไว้ (ตนเอง) แลว้ สรปุ สง่ ในวนั ที่......... 9. ครูใหผ้ ู้เรยี นแบ่งกลุ่ม 5 กลุ่ม จัดทารายงานเก่ียวกับปัญหาสงั คมไทย โดยแต่ละเร่ืองให้ครอบคลุม สถานการณ์ ปัจจุบนั สาเหตุ ผลกระทบ และแนวทางการปอ้ งกนั แก้ไขแลว้ ให้มานาเสนอ สนั้ ๆ กลุ่มละ 5 นาที ใน การพบกล่มุ คร้ังต่อไปจากหวั เร่อื งต่างๆ ดังนี้ - ปัญหายาเสพติด - ปัญหาโรคเอดส์ - ปญั หามลภาวะด้านสิง่ แวดล้อม - ปัญหาความไม่สงบในภาคใต้ - ปัญหาจราจร ข้นั ตอนท่ี 4 การประเมินผล (E : Evaluation) 10. ผ้เู รียนทาใบงาน พร้อม นาเสนอกับครู อีกครงั้ และเก็บใส่ไวใ้ นแฟม้ สะสมผลงาน 11. ครแู ละผ้เู รยี นประเมนิ ผล - ด้านการสรุปความรู้ - ด้านการปฏิบัตงิ านกลุ่ม - ด้านความพึงพอใจของผูเ้ รยี น **หมายเหตุ**- ครคู วรสอดแทรกคุณธรรมท่ีเก่ียวข้องกบั เน้อื หาในบทเรียนนั้นมาจัดการเรียนรู้ดว้ ย พรอ้ มกับให้ มีการประเมนิ คณุ ธรรมนน้ั ๆ ด้วย การมอบหมายงานให้ผู้เรียน เรยี นรดู้ ้วยตนเอง 1. คา่ นิยมที่พงึ ประสงคข์ องสงั คมไทย 2. ค่านยิ มท่ีพึง่ ประสงค์ของประเทศต่างๆในโลก สอ่ื และแหล่งการเรียนรู้ - แบบทดสอบ - ใบงาน - ใบความรู้ - บคุ คล เชน่ ผ้รู ู้ ฯลฯ - อเี มลของครู (INTERNET) การวัดและประเมินผล 1. สงั เกตพฤตกิ รรมการมสี ่วนรว่ มของผู้เรียนในการแลกเปล่ียนเรยี นรู้ ความตงั้ ใจ ความสนใจ 2. ผลงาน/ชิน้ งาน

ใบงานท่ี 7 เรือ่ ง ศาสนา วัฒนธรรม ประเพณี 1.ผเู้ รียนควรประพฤติปฏบิ ัติตนใหเ้ ป็นแบบอย่างทดี่ ใี นการอนรุ ักษว์ ฒั นธรรมประเพณีอย่างไรบา้ ง 1.1.วัฒนธรรมประเพณีในประเทศไทย ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... 1.2.วัฒนธรรมประเพณีประเทศตา่ งๆในโลก ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... 2. ผู้เรียนมแี นวทางการเลือกปรับใชว้ ฒั นธรรมต่างชาติให้เหมาะสมกับตนเองอย่างไร ...................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................... 3. ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการอนรุ กั ษ์วฒั นธรรมประเพณใี นหม่บู า้ นหรอื ชมุ ชนอยา่ งไรบ้าง (ให้ระบวุ นั ที่ กิจกรรมที่เขา้ รว่ ม และผลทีไ่ ด้รบั จากการเข้ารว่ มกิจกรรมสบื ทอดในคร้ังนี้) ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................................

แผนการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ ภาคเรยี นที่ 1/ 2562 วิชาศาสนาและหนา้ ท่ีพลเมอื ง สค 31002 ระดบั ชน้ั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย จานวน 2 หนว่ ยกติ รูปแบบการจัดการเรยี นรู้ แบบพบกลุม่ จานวน 3 ชั่วโมง เรอื่ ง หนา้ ทพ่ี ลเมอื ง ตวั ชี้วัด 9. ประพฤตติ นเป็นแบบอย่างของผู้ทมี่ ีวัฒนธรรมประเพณอี นั ดงี ามของสงั คมไทยและเลอื กรับ ปรบั ใช้วฒั นธรรมจากต่างชาตไิ ด้อย่างเหมาะสมกับตนเองและสังคมไทย 10.ประพฤติปฏบิ ัตติ ามค่านิยมที่พึงประสงค์ของสังคมโลก 11. เปน็ ผนู้ าในการปอ้ งกัน และแกไ้ ขปัญหาพฤตกิ รรมตามคา่ นิยมทไี่ มพ่ งึ ประสงคข์ องสังคมไทย เนือ้ หา 9.1 แนวทางในการเลือกรบั ปรบั ใชว้ ัฒนธรรมตา่ งชาตไิ ด้อยา่ งเหมาะสมกับตนเองและสังคมไทย (กรณตี ัวอย่าง) 9.2 ค่านยิ มทีพ่ งึ ประสงค์ของสังคมไทย - ความเอ้ือเฟอ้ื เผือ่ แผ่ - การยิ้มแยม้ แจม่ ใส - การให้อภยั 10. ค่านิยมที่พงึ ประสงค์ของประเทศตา่ งๆ ในโลก - การตรงต่อเวลา - ความมีระเบียบ ฯลฯ 11. วิธปี ฏิบัติในการประพฤตติ นเป็นผนู้ าร่วมในการป้องกนั และแก้ไขปญั หาพฤตกิ รรมท่ีไมพ่ ึง ประสงคใ์ นสังคมไทย ข้ันตอนการจัดกระบวนการเรียนรู้ ขนั้ ตอนท่ี 1 การกาหนดสภาพ ปัญหา และความตอ้ งการในการเรยี นรู้ (O) - ครูทบทวนการพบกลมุ่ ครั้งท่แี ล้ว และช้ีแจงตวั ช้ีวดั ของหนว่ ยการเรียนรู้ 1. ให้ผู้เรยี นสง่ รายงาน (ตนเอง) ที่ได้รับมอบหมายใหศ้ กึ ษาเรอ่ื งกฎหมายที่ควรรู้ ครูส่มุ ให้ผู้เรียน 2 – 3 คน นาเสนอรายงานและสรปุ สาระสาคัญร่วมกับผ้เู รียน 2. ครชู วนผู้เรียนสนทนาร่วมกนั เกีย่ วกบั สถานการณ์ทเ่ี กดิ ขนึ้ ในสงั คมไทย เช่น ความเปน็ อย่ใู น สงั คมไทย เรอื่ งของความสัมพนั ธ์ระหวา่ งเยาวชน การปฏบิ ตั ติ น ตามคา่ นิยมที่ไมพ่ ึงประสงค์ เช่น เปน็ แต่ผู้บริโภค ไมเ่ ป็น ผูผ้ ลิต 3. รว่ มกนั วิเคราะห์เพื่อกาหนดและวางแผนการเรยี นรูก้ ารเลือกรบั ปรับใชว้ ฒั นธรรมตา่ งชาติให้ เหมาะสมกับตนเองและสงั คมรวมถงึ การปลกู ฝังค่านิยม อันพึงประสงค์ ตามเนือ้ หาดังน้ี - แนวทางในการเลือกรับ ปรับ ใชว้ ัฒนธรรมตา่ งชาติได้อย่างเหมาะสมกับตนเองและสังคมไทย (กรณตี ัวอย่าง) - ค่านิยมทีพ่ งึ ประสงคข์ องสังคมไทย - ความเอือ้ เฟ้อื เผื่อแผ่ - การย้มิ แย้มแจม่ ใส - ให้อภัย ฯลฯ - คา่ นิยมที่พึงประสงคข์ องประเทศต่างๆ ในโลก

- การตรงต่อเวลา - ความมีระเบยี บ ฯลฯ - วธิ ปี ฏิบัติในการประพฤติตนเปน็ ผนู้ ารว่ มในการป้องกัน และแก้ไขปัญหาพฤติกรรมที่ไมพ่ งึ ประสงค์ในสังคมไทย ขนั้ ตอนที่ 2 การแสวงหาข้อมลู และจัดการเรยี นรู้ (N : New ways of learning) 4. ครสู ุม่ ให้ผเู้ รียนบอกถึงค่านิยมของวัยร่นุ ไทยปัจจบุ นั มสี าเหตมุ าจากเรือ่ งใดบอกถงึ ข้อดขี ้อเสยี และ แนวทางปอ้ งกัน 5. ครอู ธบิ ายเรื่องความสาคัญของวัฒนธรรม คา่ นยิ ม ประเพณี วัฒนธรรมของไทยและประเทศ ตา่ ง ๆ การเลือกรับวัฒนธรรม และการอยรู่ ว่ มกนั กบั ผตู้ ่างวฒั นธรรมอยา่ งสันตสิ ขุ และแนวทางอนรุ กั ษว์ ฒั นธรรม ประเพณไี ทย โดยยกกรณตี ัวอยา่ ง เหตกุ ารณ์ สถานการณท์ ีเ่ กดิ ขึน้ ในสังคม 6. ครูแบง่ กลมุ่ ให้ผู้เรยี นไดอ้ ภิปรายแลกเปลี่ยนความคดิ เหน็ 7. ผ้เู รียนนาเสนอและแลกเปล่ยี นความรู้ 8. ครแู ละผู้เรียนสรุปร่วมกัน ขนั้ ตอนท่ี 3 การปฏิบตั ิและนาไปประยกุ ตใ์ ช้ (I : Implementation) 9. ครูให้ผู้เรียนแสวงหาความรตู้ ามแผนการเรยี นรู้ นาเสนอและแลกเปลี่ยนเรยี นรู้ และประยกุ ต์ใช้ ด้านการหาวิธกี ารปอ้ งกันและการแกไ้ ขการปลูกฝงั ค่านยิ มอนั พึงประสงค์ในรปู แบบการทาโครงงาน ขนั้ ตอนท่ี 4 การประเมินผล (E : Evaluation) 10. ผูเ้ รยี นทาใบงาน พร้อม นาเสนอกับครู 11. ครูและผู้เรยี นประเมินผล - ดา้ นการสรุปความรู้ - ดา้ นการปฏิบัตงิ านกลุ่ม - ด้านความพงึ พอใจของผู้เรยี น *หมายเหตุ ครูควรสอดแทรกคุณธรรมทีเ่ ก่ียวข้องกบั เนือ้ หาในบทเรียนน้นั มาจัดการเรียนรดู้ ว้ ย พร้อมกับให้มีการ ประเมินคุณธรรมนั้นๆ ดว้ ย การมอบหมายงานให้ผเู้ รียน เรยี นรูด้ ้วยตนเอง 1. วธิ ปี ฏิบัตพิ ฒั นาจิตในแตล่ ะศาสนา 2. บทบาทหน้าท่อี งค์กรคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน 3. กฎหมายระหวา่ งประเทศท่วี ่าดว้ ยการคุม้ ครองสิทธดิ ้านบคุ คล ส่อื และแหล่งการเรียนรู้ - แบบทดสอบ - ใบงาน - ใบความรู้ - บุคคล เชน่ ผู้รู้ ฯลฯ - อเี มลของครู (INTERNET) - แฟ้มสะสมผลงาน การวดั และประเมินผล 1. สังเกตพฤตกิ รรมการมสี ่วนรว่ มของผู้เรียนในการแลกเปลี่ยนเรยี นรู้ ความตั้งใจ ความสนใจ 2. ผลงาน/ชิ้นงาน

ใบงานท่ี 8 เรอื่ ง หน้าท่พี ลเมือง 1.ใหผ้ ้เู รยี นอภิปรายถงึ ค่านิยมท่ีพงึ ประสงคข์ องสังคมไทยมาพอสังเขป.. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2. ใหผ้ เู้ รยี นวเิ คราะหค์ ่านยิ มของตา่ งชาติทส่ี อดคล้องกับค่านยิ มไทยมา 1 เรือ่ ง พรอ้ มอธิบาย ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………... 3. ให้ผู้เรยี นยกตวั อยา่ งคา่ นยิ มที่ไมพ่ ่ึงของสังคมไทย มา 1 เรอื่ ง พร้อมอธบิ าย ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….... 4. ใหผ้ เู้ รยี นบอกพฤติกรรมในการปฏบิ ัตติ นเปน็ ผู้นาร่วมปอ้ งกันและแกไ้ ขปญั หาทไี่ ม่พง่ึ ประสงคข์ องสังคมไทยที่ ปฏิบัตใิ นชวี ิตประจาวนั พร้อมยกตัวอย่าง ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….…….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

แผนการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ ภาคเรียนที่ 1/ 2562 วิชาศาสนาและหนา้ ท่ีพลเมอื ง สค 31002 ระดบั ช้นั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย จานวน 2 หนว่ ยกติ พบกลมุ่ ครง้ั ท่ี...6.....วันท่.ี ..................เดอื น........................พ.ศ.2562 รปู แบบการจดั การเรยี นรู้ แบบพบกลุม่ จานวน 3 ช่วั โมง เร่ือง หนา้ ที่พลเมือง ตวั ชี้วัด 4. รแู้ ละเขา้ ใจหลกั สิทธิมนษุ ยชน 5. อธบิ ายหลกั สิทธิมนุษยชนใหผ้ ู้อื่นได้ 6. ปฏิบตั ติ นตามหลักสิทธิมนุษยชน เน้ือหา 4. หลักสิทธิมนุษยชนและบทบาทหน้าที่ความรับผิดชอบของคณะกรรมการสิทธิ์ 5. กฎหมายระหว่างประเทศทวี่ ่าด้วยการคุม้ ครองสทิ ธิด้านบุคคล 6. การปฏบิ ัติตามหลกั สิทธิมนษุ ยชน ขัน้ ตอนการจัดกระบวนการเรียนรู้ ขัน้ ตอนที่ 1 การกาหนดสภาพ ปัญหา และความตอ้ งการในการเรียนรู้ (O) - ครทู บทวนการพบกลมุ่ คร้งั ที่แล้ว และชแ้ี จงตัวช้ีวัดของหนว่ ยการเรียนรู้ 1. ครแู ละผู้เรยี นร่วมกันอภิปรายถงึ สภาพปญั หาของการถกู ละเมิดสทิ ธ์ขิ องคนในชุมชน สังคม โดย ยกตวั อย่างหรอื กรณศี ึกษามาเป็นหัวขอ้ / ประเด็นการอภปิ รายจากข่าว หนังสอื พมิ พ์ เก่ียวกับ เรอื่ งเดก็ เรร่ ่อน,เดก็ ถกู ทารา้ ยจากผดู้ แู ล, คนทาแทง้ ฯลฯ 2. ครแู ละผู้เรียนรว่ มกันกาหนดเนือ้ หาท่ีจะเรียนรู้ พรอ้ มจัดทาแผนเรยี นรรู้ ว่ มกัน ข้นั ตอนท่ี 2 การแสวงหาขอ้ มูลและจดั การเรยี นรู้ (N : New ways of learning) 3. ครูจดั ให้มีวิทยากรมาให้ความรใู้ นเรอ่ื ง - หลกั สิทธมิ นุษยชนและบทบาทหน้าท่ีความรบั ผิดชอบของคณะกรรมการสิทธิ์ - กฎหมายระหวา่ งประเทศท่วี า่ ด้วยสทิ ธิ์ด้านบคุ คล 4. ให้ผเู้ รียนแบง่ กลุ่มๆ ละ 5 -6 คนชว่ ยกนั ทาใบงานท่ี 1 เร่อื ง - ความหมาย ,ความสาคญั - หลักการของหลกั สิทธมิ นุษยชน - ประโยชน์ของการรูก้ ฎหมายเก่ยี วกบั หลักสิทธมิ นษุ ยชน 5. ให้ผูแ้ ทนแตล่ ะกลุม่ นาเสนอผลงานและแลกเปลี่ยนเรยี นร้ซู ึง่ กนั และกนั 6. ครู – วิทยากร – ผเู้ รยี น ร่วมกนั สรปุ เนือ้ หาเติมเต็ม ขัน้ ตอนที่ 3 การปฏบิ ตั แิ ละนาไปประยกุ ต์ใช้ (I : Implementation) 7. ใหผ้ ูเ้ รยี นจบั กล่มุ ไปศึกษากรณีท่มี ีการละเมิดสิทธมิ นษุ ยชน ข้ามชาตใิ นประเดน็ เกี่ยวกับ 1) ละเมดิ สทิ ธิส่วนบุคคล / ชมุ ชน 2) สง่ิ แวดลอ้ ม 3) แรงงาน โดยให้เลอื ก ทามา 1 หวั ขอ้ ตามความสนใจ

8. ใหแ้ ต่ละกลุม่ สง่ ตัวแทนออกมานาเสนอผลงานพร้อมอภปิ รายแลกเปลยี่ นเรยี นรู้ และสรปุ เป็นองคค์ วามรู้ นาเสนอในรูปแบบรายงาน /แฟม้ สะสมงาน ขน้ั ตอนท่ี 4 การประเมินผล (E : Evaluation) -จากผลงาน -จากการมสี ่วนรว่ ม การมอบหมายงานให้ผ้เู รยี น เรยี นรดู้ ว้ ยตนเอง 1. บทบญั ญัตขิ องรฐั ธรรมนญู ท่ีมผี ลต่อการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและมีผลต่อฐานะของประเทศในในสังคม โลก สอ่ื และแหล่งการเรียนรู้ -ขา่ ว -กรณศี กึ ษา -ใบงาน -ใบความรู้ การวัดและประเมนิ ผล 1. สังเกตพฤตกิ รรมการมสี ่วนร่วมของผู้เรียนในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ความต้ังใจ ความสนใจ 2. ผลงาน/ชิ้นงาน

ใบงานท่ี 9 เรอื่ ง หนา้ ทีพ่ ลเมือง 1.จงอธบิ ายลักษณะของสิทธิมนุษยชนทีส่ าคัญ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2.จงอธิบายของสาเหตุทม่ี นษุ ย์ต้องไดร้ ับความคุ้มครองสทิ ธมิ นุษยชน ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. จงอธบิ ายการคุ้มครองสิทธมิ นุษยชนในประเทศไทย พอสงั เขป ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

4. จงยกตัวอย่างองคก์ รท่ีเก่ยี วขอ้ งกบั สิทธิมนษุ ยชนในประเทศไทย ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 5. จงอธิบายองค์ประกอบของสิทธิมนษุ ยชนข้ันพื้นฐาน ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 6. แนวทางปฏบิ ตั แิ ละมาตรฐานสิทธิมนษุ ยชนระหวา่ งประเทศ ว่าด้วยอย่างไร ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ….……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

แผนการจัดการเรยี นรู้ ภาคเรยี นท่ี 1/2562 วิชา การพัฒนาตนเอง ชุมชน สังคม สค31003 ระดับชน้ั มัธยมศกึ ษาตอนปลาย จานวน 3 หน่วยกติ รปู แบบการจัดการเรยี นรู้ แบบพบกลมุ่ จานวน 3 ชั่วโมง เร่อื ง พัฒนาตนเอง ชมุ ชน สังคม ตวั ช้ีวัด 1. เกดิ ความตระหนกั และมีส่วนร่วมในการจดั ทาแผนพฒั นาชุมชน สงั คม 2. สามารถกาหนดแนวทางการพัฒนาตนเอง ครอบครัว ชมุ ชน สงั คม เนอื้ หา 1. การมีสว่ นร่วมในการวางแผนพฒั นาตนเอง ครอบครัว ชุมชน สงั คม 2. เทคนคิ การมีสว่ นรว่ มในการจดั ทาแผน เช่น - การสมั มนา - การเขียนรายงาน - การเขยี นโครงงาน ฯลฯ ขั้นตอนการจดั กระบวนการเรยี นรู้ ขัน้ ที่ 1 กาหนดสภาพ ปัญหา ความตอ้ งการในการเรยี นรู้ (O: Orientation) 1.ครูและผ้เู รียนร่วมกันสนทนา ทบทวนบทเรยี นในสาระสาคญั เรือ่ งทผ่ี า่ นมาเกี่ยวกบั การพัฒนาตนเอง ชมุ ชน สังคม ข้อมูลชุมชน แล้วเชอ่ื มโยงสู่เนือ้ เรื่องการมีส่วนรว่ มในการวางแผนพัฒนาตนเอง ครอบครัว ชุมชน สงั คม 2. ครแู ละผู้เรยี นวางแผนการเรียนรู้รว่ มกนั ในเนอื้ หาการมสี ่วนร่วมในการวางแผน พฒั นาตนเอง ครอบครวั ชุมชน เทคนคิ การมสี ว่ นรว่ มในการจัดทาแผน (การจดั ทาเวทปี ระชาคม การประชุมกลุ่มย่อย การ สัมมนา การสารวจประชามติ การประชาพจิ ารณ์ ฯลฯ )และแจกใบความรใู้ หก้ บั ผเู้ รียนเพิ่มเติม การจัดทาแผน การเผยแพร่สู่การปฏบิ ตั ิ สร้างข้อตกลงรว่ มกนั ระหวา่ งครูและผ้เู รยี นวา่ เม่อื พบวทิ ยากรสอนเสริมแล้ว ผูเ้ รียนต้อง ศกึ ษาหาความรจู้ ากวทิ ยากรสอนเสรมิ ซักถามในส่ิงท่สี งสยั ศึกษาเรียนรู้ด้วยตนเองจากสอื่ ตา่ งๆ เช่นหนังสืออน่ื ๆ สื่ออนิ เทอร์เนต็ และหนงั สือประกอบการเรียนรูด้ ว้ ย ขัน้ ที่ 2 ขน้ั แสวงหาข้อมูลและจัดการเรียนรู้ (N : New ways of learning) 3.ครมู อบหมายใบงานที่ 1 ใบงานที่ 2 ให้ผ้เู รียนได้ใชเ้ ป็นแนวทางในการแสวงหาความรดู้ ้วยตนเอง และพบ วทิ ยากรสอนเสริม 4.ผ้เู รยี นแสวงหาความรู้พบผ้รู ู้ (วิทยากรสอนเสริม) และศึกษาเรยี นรูด้ ้วยตนเอง ตามแผนที่กาหนด จากใบงาน ข้ันที่ 3 ขน้ั ปฏบิ ตั ิและนาไปประยกุ ตใ์ ช้ ( I : Implementation) 5.ผู้เรยี นสรุปข้อมูลทไ่ี ด้จากการพบวิทยากรสอนเสริมและศึกษาเรียนรดู้ ว้ ยตนเองสรปุ ความรเู้ รือ่ งการ พัฒนาตนเอง หลกั การแนวทางพัฒนาตนเอง ประโยชน์ท่ไี ดจ้ ากการพฒั นาตนเอง การพัฒนาชมุ ชน หลกั การ แนวทางการพัฒนาชมุ ชน ประโยชน์ท่ีได้จากการพัฒนาชุมชน เทคนิคการจัดทาแผนแบบ มสี ่วนรว่ ม แนวทางการจัดทาแผน การเผยแพร่แผนสูก่ ารปฏบิ ัติ ให้ผูเ้ รยี นจัดทารายงานส่งครู

ขัน้ ที่ 4 การประเมนิ ผลการเรียนรู้ (E : Evaluation) 6.ตรวจสอบชน้ิ งานใบงานที่ 1 ใบงานที่ 2 หมายเหตุ : ผูเ้ รียนเรยี นรู้ด้วยตนเอง (จานวน 2 ชั่วโมง ) 1. ครใู ห้ผู้เรียนศกึ ษาค้นควา้ เพ่มิ เติมในเรือ่ งการนาเสนอโครงงาน 2. ผู้เรียนนาเสนอต่อ กลุม่ ใหญเ่ พ่ือสรุปองค์ความรูท้ ่ีไดจ้ าก การศกึ ษาเรียนรแู้ ละทาแบบฝึกหัดเพิม่ เตมิ การมอบหมายงานให้ผู้เรยี นไปเรียนรู้ให้ตนเอง ตวั ช้ีวัด 2. สามารถกาหนดแนวทางการพัฒนาตนเอง ครอบครัว ชุมชน สังคม เนื้อหา 2. เทคนิคการมสี ว่ นรว่ มในการจดั ทาแผน เช่น - การสัมมนา - การเขียนรายงาน ส่อื และแหล่งการเรยี นรู้ ใบความรู้ ใบงานที่1 เรอ่ื งโครงการ ใบงานที่ 2 เร่อื งการกาหนดแนวทางการพฒั นาตนเอง การวัดผลประเมินผล 1.สังเกตพฤติกรรมการมีสว่ นร่วมของผู้เรยี นในการแลกเปล่ียนเรยี นรู้ ความตั้งใจความสนใจ 2.ใบงาน การเขียนโครงการ

ใบงานที่ 10 เร่อื ง การกาหนดแนวทางการพฒั นาตนเอง คาช้ีแจง ให้ผู้เรียนตอบคาถามตอ่ ไปน้ี 1.การพัฒนาตนเองหมายถงึ ....................................................................................................................................... ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2.ผเู้ รียนมีแนวทางในการพฒั นาตนเองอย่างไรบ้าง ตอบมาอย่างน้อย 5 ขอ้ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3.จงบอกประโยชนท์ ่ีเกดิ ขนึ้ จากการพัฒนาตนเอง จากคาตอบในขอ้ 2 ว่าประโยชน์ท่เี กิดข้นึ กบั ตนเองและ ประโยชน์ท่เี กดิ กบั บคุ คลอืน่ และสงั คม มีอะไรบา้ ง ประโยชน์ที่เกิดข้ึนกับตนเองได้แก่ ตอบมาอยา่ งนอ้ ย 3 ขอ้ วนั ที่พัฒนาตนเองวัน วนั ท.่ี ............เดือน...............พ.ศ.ถึงวนั ท่ี ...............เดอื น...............พ.ศ. .......... ชือ่ กิจกรรมทพ่ี ฒั นาตนเอง.................................................................. ประโยชนท์ เ่ี กดิ ขึน้ กับตนเอง ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ประโยชน์ทเี่ กดิ ข้ึนกับบคุ คลอน่ื และสงั คม ได้แก่ ตอบมาอยา่ งนอ้ ย 3 ข้อ วันทพ่ี ฒั นาตนเองวนั วนั ที.่ ............เดือน...............พ.ศ.ถึงวนั ท่ี ...............เดอื น..............พ.ศ. .......... ชอ่ื กจิ กรรมที่พัฒนาสงั คม.................................................................. ประโยชน์ท่ีเกิดขนึ้ กบั สงั คม ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ใบงานท่ี 11 เรอื่ งการเขียน โครงการพฒั นาตนเอง ชุมชน สังคม คาชีแ้ จง; ให้ผเู้ รียนใชแ้ บบฟอรม์ โครงการดงั ตอ่ ไปน้ีในการเขียนโครงพัฒนาตนเอง ชุมชน สังคม 1 โครงการ (รายบคุ คล) 1. ช่อื โครงการ .................................................................................... 2. ผรู้ ับผดิ ชอบโครงการ . 2.1 ....................................................................................................................................................... 2.2 ....................................................................................................................................................... 2.3 ....................................................................................................................................................... 2.4 ....................................................................................................................................................... 2.5 ....................................................................................................................................................... 3. หลักการและเหตุผล ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 4. วัตถุประสงค์ 4.1. ……………………………………………………………………………………………............................................................................ 4.2. ……………………………………………………………………………………………............................................................................ 4.3. ……………………………………………………………………………………………............................................................................ 5. เป้าหมาย ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... 6. ระยะเวลาดาเนินการ ...................................................................................................................................................................................... 7. กิจกรรม ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

8. ขน้ั ตอนการดาเนนิ การ ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... .9. สถานท่ดี าเนินการ ..................................................................................................................................................................................... 10. งบประมาณ ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... 11. ปญั หาและอปุ สรรคทีค่ าดวา่ จะเกดิ ข้นึ 11.1 ............................................................................................................................................................. 11.2. ............................................................................................................................................................ 11.3.............................................................................................................................................................. 11.4.............................................................................................................................................................. 12. ผลท่คี าดวา่ จะได้รับ 12.1 ............................................................................................................................................................ 12.2 ............................................................................................................................................................ 12.3 ............................................................................................................................................................ 13. การติดตามและประเมินผล ..................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................. ลงชอื่ .................................................ผ้เู สนอโครงการ (……………………………………) ตาแหนง่ ...........................................................

แผนการจดั การเรยี นรู้ ภาคเรียนท่ี 1/2562 วิชา การพัฒนาตนเอง ชุมชน สังคม สค31003 ระดับช้นั ม.ปลาย จานวน 3 หนว่ ยกิต รูปแบบการจดั การเรียนรู้ แบบพบกลุ่ม จานวน 3 ชั่วโมง เรอ่ื ง พฒั นาตนเอง ชุมชน สังคม ตัวช้วี ัด 2. มีความรู้ ความเขา้ ใจ และเห็นความสาคัญของขอ้ มูลตนเอง ครอบครัว ชุมชน สงั คม 3. วิเคราะห์ขอ้ มูล เนื้อหา 2. ความหมาย ความสาคัญ ประโยชน์ ของขอ้ มลู ดา้ น - ภูมศิ าสตร์ - ประวัติศาสตร์ - เศรษฐศาสตร์ - การเมือง การปกครอง - ศาสนา วัฒนธรรม ประเพณี - หนา้ ท่พี ลเมือง - ทรัพยากร สง่ิ แวดลอ้ ม - สาธารณสุข - การศกึ ษา 3.วิธีการจัดเกบ็ วิเคราะหข์ อ้ มูลดว้ ยวิธที ี่หลากหลายและเผยแพรข่ อ้ มลู ข้ันตอนการจดั กระบวนการเรียนรู้ ข้ันที่ 1 กาหนดสภาพ ปัญหา ความตอ้ งการในการเรียนรู้ (O: Orientation) 1. ครแู ละผเู้ รยี นรว่ มกนั สนทนา ทบทวนบทเรียนในสาระสาคญั เรื่องทผี่ ่านมาเกีย่ วกบั การพัฒนาตนเอง ชุมชน สังคม จากบทเรียนเชื่อมโยงส่เู นื้อหาความหมาย ความสาคญั ประโยชน์ของข้อมูลดา้ นต่างๆของชมุ ชน 2. ครูและผูเ้ รยี นร่วมกนั กาหนดเนอ้ื หาและวางแผนการเรียนรูใ้ หค้ รอบคลุมเน้อื หาตามกรอบสาระตลอดจนข้อตกลง ร่วมกนั โดยผ้เู รยี นจะต้องศึกษาเรยี นรูด้ ว้ ยตนเองในเรอื่ งความหมาย ความสาคัญ ประโยชนข์ องข้อมลู ดา้ นต่างๆ ภมู ิศาสตร์ ประวัตศิ าสตร์ เศรษฐศาสตร์ การเมือง การปกครอง ศาสนา วฒั นธรรม ประเพณี หน้าที่พลเมือง ทรพั ยากร สิง่ แวดล้อม สาธารณสขุ การศึกษา และวธิ กี ารจดั เก็บข้อมลู การวเิ คราะหแ์ ละเผยแพร่ข้อมลู ตลอดจน นาเสนอขอ้ มลู ตามใบงานทีไ่ ด้รับ สรปุ สาระสาคัญทไี่ ด้ส่งครตู ามใบงานที่ได้รบั มอบหมาย ขน้ั ที่ 2 ข้ันแสวงหาขอ้ มลู และจดั การเรียนรู้ (N : New ways of learning) 1. แบ่งกลมุ่ ๆละไม่เกนิ 6 คน 2. แบ่งกลุ่มผเู้ รยี นกลมุ่ ละไม่เกิน 6 คนนาแบบสารวจขอ้ มลู ทีไ่ ดไ้ ปวางแผนเก็บขอ้ มลู ในชุมชนของตนเอง ผเู้ รียน 1 คน รับผิดชอบสารวจขอ้ มูลคนละ 3 ครวั เรอื น ซงึ่ การสารวจขอ้ มลู ครัวเรือนในชุมชนนั้นต้องไม่จดั เกบ็ ขอ้ มูลทซี่ ้าซอ้ นกนั 3. นาข้อมูลทไี่ ด้จากการสารวจมาสรุปผลรวมกัน วิเคราะหข์ ้อมูลชุมชน โดยใช้ค่าสถติ ิอยา่ งง่าย และนาเสนอ ในรูปของตาราง ตลอดจนนาเสนอในการพบกล่มุ ครั้งตอ่ ไป 4. ครสู ุ่มตัวอยา่ งให้ผเู้ รยี นนาเสนอกจิ กรรมตามใบงานท่ี 2 ประมาณ 2-3 กลุ่ม โดยผูเ้ รียนนาเสนอผลทไ่ี ด้ จากการอภปิ รายกลุ่มให้ทกุ คนได้รับทราบ 5. ครเู ปิดโอกาสให้ผเู้ รยี นไดอ้ ภปิ รายเพิ่มเตมิ ในส่วนทกี่ ลุ่มอนื่ มีขอ้ มลู ที่แตกต่างไปจากกลมุ่ ทีน่ าเสนอ จากน้นั ครูเสริมเตมิ เต็มเพอื่ ให้สาระครบถ้วน

6. ครูนาสือ่ หนังสอื พิมพ์รายวนั เน้อื หาท่ีเกยี่ วกบั ขอ้ มลู ด้านการศกึ ษา ศาสนา วฒั นธรรมประเพณี สงิ่ แวดลอ้ ม สาธารณสขุ ฯลฯ เพื่อเปน็ กรณีศกึ ษาให้ผู้เรียนร่วมกนั แลกเปลย่ี นเรียนรถู้ ึงสภาพการณ์ชมุ ชนดา้ นต่างๆ ในปจั จบุ นั โดยสะท้อนความคิดเหน็ เพือ่ เชือ่ มโยงเข้าสู่การให้เหน็ ความสาคัญ ของข้อมูลในดา้ นต่างๆทมี่ ีต่อตนเอง ครอบครัว ชุมชน สังคมได้อย่างไร (อาจนาเสนอเปน็ รูปลักษณะแผนภูมิตน้ ไม้ หรือ Mind Map ขณะเดยี วกันให้ ผู้เรยี นสะท้อนขอ้ มลู ชมุ ชนของตนเองในแตล่ ะดา้ นดงั กล่าวว่าเป็นอยา่ งไร ข้อมลู ชมุ ชนน้นั มคี วามสาคญั และมี ประโยชน์กับชุมชนอยา่ งไร จากน้นั มอบหมายให้ผู้เรยี นตอบคาถามตามใบงานท่ี 3 ส่งงานให้ครทู าง INTERNET 7. ครูและผู้เรยี นรว่ มกนั อภิปรายถงึ การไดม้ าซึ่งขอ้ มูลของชุมชนตลอดจนการด้วยวิธีการที่หลากหลาย เชน่ เทคนิคการจัดเก็บขอ้ มูล การสารวจ การสอบถาม สัมภาษณ์ เปน็ ตน้ โดยครแู จกใบความรูท้ ่ี 2 (ตัวอย่างแบบสอบถาม) ใบความรู้ที่ 3 (ข้อคดิ และการปฏิบตั ิตนเม่อื เข้าไปสารวจข้อมูล ชมุ ชน) ใบความรูท้ ่ี 4 (ปัญหาและแนวทางแก้ไขในการเกบ็ ข้อมลู ในชุมชน) ใบความรู้ที่ 5 (ตัวอย่างแบบสัมภาษณ์) ใหผ้ ้เู รียนได้ศึกษา 8. ครทู บทวนผูเ้ รยี นเรื่องการวิเคราะหข์ อ้ มลู ดว้ ยสถิตอิ ยา่ งงา่ ย เช่น คา่ ร้อยละ คา่ เฉลย่ี ฐานนยิ ม เพื่อให้ผเู้ รียนไดใ้ ช้ประโยชนส์ าหรับการวิเคราะห์ข้อมูล ข้ันที่ 3 ขน้ั ปฏิบตั ิและนาไปประยกุ ตใ์ ช้ ( I : Implementation) 9. แบ่งผู้เรียนกลุ่มละไมเ่ กิน 10 คน ครมู อบหมายงานใบงานท่ี 4 ให้สารวจขอ้ มูลชมุ ชน โดยผ้เู รยี น 1 คน รับผดิ ชอบสารวจข้อมูลชมุ ชนของตนเองคนละ 3 ครอบครวั ไมใ่ หม้ ีการสารวจซ้าซอ้ นกัน และนาขอ้ มลู ท่ไี ด้มา รวมกัน จดั กล่มุ ขอ้ มูลและวเิ คราะห์ข้อมลู ดว้ ยสถิตอิ ย่างงา่ ย พร้อมนาเสนอข้อมูลด้วยตาราง 10. ผเู้ รยี นนาเสนอขอ้ มูลทไี่ ด้มาจากการจัดเก็บขอ้ มลู ด้านตา่ งๆในชุมชน จากนน้ั ครแู ละผูเ้ รียนร่วมกนั แลกเปลีย่ นเรยี นรรู้ ว่ มกนั ระดมความคิดเกี่ยวกับข้อมูลท่ีได้มาวา่ มีความครบถ้วน ถกู ต้อง น่าเช่อื ถอื และข้อมลู ที่ ไดม้ ปี ระโยชนอ์ ยา่ งไร สะท้อนจุดเดน่ จุดด้อย โอกาส อปุ สรรค ต่อการพฒั นาตนเอง ชมุ ชน สังคมอย่างไรและ ข้อมลู ทีไ่ ด้จะนาไปใชเ้ ปน็ ขอ้ มลู ในการพัฒนาตนเอง ชมุ ชน สังคมไดอ้ ย่างไร พร้อมกับครเู สริมเตมิ เตม็ ในส่วนท่ขี าด ให้สาระครบถ้วน 11. ให้ผู้เรียนสรุปขอ้ มูลชุมชนดา้ นตา่ งๆ รวบรวมเปน็ สารสนเทศเผยแพรใ่ ห้ประชาชน ทวั่ ไปในชมุ ชนได้รับทราบตลอดจน มอบหมายให้ผเู้ รียนจัดนทิ รรศการเผยแพร่ขอ้ มูลของชุมชน ขัน้ ที่ 4 การประเมนิ ผลการเรียนรู้ (E : Evaluation) 12. สงั เกตการมีส่วนรว่ มของผูเ้ รียนในการอภิปรายในหวั ขอ้ เร่อื งต่างๆ 13. สอบถามผูเ้ รยี นในขณะพบกลุ่มในเรื่องการอภปิ รายสถานการณ์ในชมุ ชน เทคนิคการจัดเก็บขอ้ มูลดา้ น ต่างๆ 14. ตรวจสอบชิน้ งานตามใบงานทผี่ ้เู รยี นไดร้ ับ 15. ตรวจสอบผลงานการจัดนิทรรศการ หมายเหตุ : ผเู้ รยี นเรยี นร้ดู ้วยตนเอง (จานวน 2 ชั่วโมง ) 1. ครูใหผ้ ู้เรียนศกึ ษาคน้ คว้าเพ่มิ เตมิ ในเร่ืองการนาเสนอโครงงาน 2. ผู้เรยี นนาเสนอต่อ กล่มุ ใหญเ่ พื่อสรปุ องค์ความร้ทู ไ่ี ด้จาก การศกึ ษาเรยี นรู้และทาแบบฝึกหัดเพ่ิมเตมิ

ส่อื และแหลง่ เรยี นรู้ ใบงาน ใบความรู้ สื่อจากอนิ เทอรเ์ น็ต หนังสอื พิมพร์ ายวนั การวดั ผลประเมินผล - คะแนนการตรวจแบบการเกบ็ ขอ้ มูล - การเสนอแบบรายงาน - การเสนอแบบโครงงาน การมอบหมายงานให้ผู้เรยี น ศกึ ษาเรยี นรดู้ ้วยตนเอง ตวั ชว้ี ดั 3. วเิ คราะหข์ อ้ มลู เนื้อหา 3. วิธีการจัดเก็บวเิ คราะห์ข้อมลู ดว้ ยวธิ ีทห่ี ลากหลายและเผยแพรข่ อ้ มลู วัดผลประเมนิ ผล การสังเกต พฤติกรรมการผเู้ รียนการมสี ว่ นร่วม/การแสดงความคิดเหน็ การเกบ็ แบบสารวจขอ้ มลู