แผนการจดั การเรยี นรู้ กลมุ่ สาระสงั คมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม รายวิชา ส 13102 วชิ าประวัติศาสตร์ ชัน้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 3 ภาคเรยี นที่ 2 ปกี ารศกึ ษา 2565 นายพงศธร อยสู่ ุข ผู้สอน โรงเรยี นบา้ นนาวงั อำเภอบางละมุง จงั หวดั ชลบรุ ี สำนกั งานเขตพื้นทก่ี ารศึกษาประถมศึกษาชลบรุ ี เขต 3
ตารางวเิ คราะหค์ วามสมั พันธร์ ะหว่างตัวช้ีวดั กบั สาระการเรยี นรู้ ช้ันประถมศึกษาปที ่ี ๓ สาระท่ี ๔ ประวัติศาสตร์ มาตรฐาน ส ๔.๒ เข้าใจพัฒนาการของมนุษย์จากอดีตจนถงึ ปัจจุบนั ในด้านความสมั พันธ์และการเปล่ยี นแปลงของเหตกุ ารณ์ อยา่ งตอ่ เน่อื ง ตระหนกั ถึงความสำคญั และสามารถวิเคราะหผ์ ลกระทบทีเ่ กดิ ขนึ้ ตวั ชี้วดั สาระการเรยี นรู้ ๑. ระบุปัจจยั ทีม่ ีอิทธพิ ลต่อการตง้ั ถน่ิ ฐานและพฒั นาการ • ปจั จยั การตั้งถ่ินฐานของชุมชนซึ่งขึน้ อยูก่ ับปจั จัยทาง ของชุมชน ภูมศิ าสตร์และปัจจยั ทางสังคม เช่น ความเจริญทาง เทคโนโลยีการคมนาคม ความปลอดภัย • ปจั จยั ทมี่ อี ิทธิพลตอ่ พฒั นาการของชุมชนทั้งปัจจัยทาง ภมู ศิ าสตร์และปัจจัยทางสังคม ๒. สรุปลักษณะท่ีสำคญั ของขนบธรรมเนยี ม ประเพณี • ขนบธรรมเนียมประเพณแี ละวฒั นธรรมชุมชนของตนท่ี และวฒั นธรรมของชุมชน เกิดจากปจั จัยทางภมู ศิ าสตร์และปัจจัยทางสังคม ๓. เปรยี บเทียบความเหมอื นและความตา่ งทางวฒั นธรรม • ขนบธรรมเนยี มประเพณีและวัฒนธรรมของชมุ ชน ของชมุ ชนตนเองและชมุ ชนอื่นๆ ใกล้เคียง ท่มี ีความเหมอื นและความต่างกับชุมชนของ ตนเอง สาระที่ ๔ ประวัตศิ าสตร์ มาตรฐาน ส ๔.๓ เข้าใจความเปน็ มาของชาตไิ ทย วัฒนธรรม ภมู ปิ ญั ญาไทย มคี วามรกั ความภูมิใจ และธำรงความเป็น ไทย ตัวช้วี ดั สาระการเรียนรู้ ๑. ระบพุ ระนามและพระราชกรณยี กิจโดยสังเขป • พระราชประวัติ พระราชกรณียกจิ โดยสงั เขปของพอ่ ขุนศรี ของพระมหากษตั รยิ ์ไทยทป่ี ็นผสู้ ถาปนา อินทราทิตย์ สมเด็จพระรามาธิบดีที่ ๑ (พระเจา้ อู่ทอง) อาณาจักรไทย สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชและพระบาทสมเด็จพระพทุ ธ ยอดฟา้ จุฬาโลกมหาราช ผู้สถาปนาอาณาจกั รสโุ ขทยั อยธุ ยา ธนบรุ ี และรตั นโกสินทรต์ ามลำดบั ๒. อธบิ ายพระราชประวตั ิและพระราชกรณียกิจ • พระราชประวตั ิและพระราชกรณยี กจิ ของพระบาทสมเด็จ ของพระมหากษัตรยิ ใ์ นรัชกาลปัจจุบนั พระเจ้าอยู่หัวภูมพิ ลอดลุ ยเดช และสมเด็จพระนางเจ้าสริ กิ ติ ์ิ โดยสงั เขป พระบรมราชนิ นี าถ โดยสงั เขป ๓. เล่าวีรกรรมของบรรพบุรษุ ไทยที่มีส่วนปกปอ้ ง • วรี กรรมของบรรพบรุ ษุ ไทยทมี่ ีส่วนปกปอ้ งประเทศชาติ เชน่ ประเทศชาติ ท้าวเทพสตรี ทา้ วศรีสุนทร ชาวบ้านบางระจนั พระยาพิชัย ดาบหกั สมเด็จพระนเรศวรมหาราช สมเด็จพระเจา้ ตากสิน มหาราช
คำอธบิ ายรายวิชา ส13102 ประวัตศิ าสตร์ ส13102 ประวัติศาสตร์ รายวิชาพ้นื ฐาน กลุ่มสาระการเรยี นรสู้ งั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี 3 เวลา 40 ช่วั โมง ศกึ ษาวเิ คราะห์เกยี่ วกบั ความหมายและทม่ี าของศักราชที่ปรากฏในปฏทิ ิน วธิ ีการเทียบครสิ ตศักราช กับ พทุ ธศกั ราช และใช้ศกั ราชในการบันทกึ เหตกุ ารณส์ ำคญั ทเี่ ก่ียวขอ้ งกบั ตนเองและครอบครวั วิธีสบื ค้นเหตกุ ารณ์ สำคญั ของโรงเรยี น และชุมชนโดยใชห้ ลกั ฐานและแหล่งขอ้ มูลทเ่ี กยี่ วขอ้ ง สามารถใช้เส้นเวลา (Timeline) ลำดับ เหตุการณท์ ีเ่ กิดขึน้ ในโรงเรยี นและชมุ ชน ปัจจยั ทีม่ ีอิทธิพลตอ่ การต้งั ถ่ินฐานและพฒั นาการของชมุ ชน ปจั จัยทที่ ำให้ เกดิ วฒั นธรรมและประเพณีในชมุ ชน ซงึ่ ประกอบดว้ ยปจั จยั ทางภมู ศิ าสตร์ และปัจจัยทางสงั คม พระราชประวตั ิและ พระราชกรณียกิจโดยสงั เขปของพระมหากษตั ริยผ์ สู้ ถาปนาอาณาจกั รสโุ ขทัย อยุธยา ธนบุรี และรตั นโกสินทร์ ตามลำดบั พระราชประวัตแิ ละพระราชกรณยี กจิ ของพระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยู่หวั ภมู พิ ลอดลุ ยเดช และสมเดจ็ พระ นางเจ้าสิรกิ ติ ์ิพระบรมราชนิ นี าถโดยสังเขป วรี กรรมของบรรพบรุ ุษไทยท่มี สี ว่ นปกป้องประเทศชาติ โดยใช้ทักษะการเปรยี บเทยี บ การคำนวณ การเชื่อมโยง การอธิบาย การสำรวจ การสงั เกต การสอบถาม การอา่ น การฟงั การสรุปความ การเขยี น และการเล่าเร่ือง เหน็ คุณค่ามีเจตคติทด่ี ตี ่อความรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ รักในความ เป็นไทย มีความมุ่งมั่นในการทำงาน มวี ินยั ในตนเอง ใฝเ่ รียนรู้ มีความซ่ือสตั ยส์ จุ รติ ใช้ชีวติ ความเป็นอยอู่ ยา่ ง พอเพียง มจี ติ สาธารณะ ดว้ ยคุณธรรม และค่านิยมทเี่ หมาะสม รหสั ตวั ชว้ี ัด ส 4.1 ป.3/1, ป.3/2, ป.3/3 ส 4.2 ป.3/1, ป.3/2, ป.3/3 ส 4.3 ป.3/1, ป.3/2, ป.3/3 รวมทัง้ สิน้ 9 ตวั ช้วี ดั
โครงสรา้ งรายวชิ า วิชาประวตั ิศาสตร์ ( ส 13102 ) ช้นั ประถมศกึ ษาปีที่ 3 กลุ่มสาระการเรยี นรู้สังคมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม มาตรฐานการ เวลา นำ้ หนัก (ชวั่ โมง) คะแนน ลำดบั ชอ่ื หนว่ ยการเรียน เรยี นรู้/ตวั ชวี้ ัด สาระสำคญั 10 ท่ี 1 การสถาปนา ส 4.3 ป.3/1 พระราชประวตั ิและพระราช อาณาจกั รไทย กรณียกิจของพระมหากษตั ริยไ์ ทยท่ี เปน็ ผสู้ ถาปนาอาณาจักรไทย - พอ่ ขุนศรอี นิ ทราทิตย์ - สมเด็จพระรามาธบิ ดีที่ 1 (พระ เจา้ อทู่ อง) - สมเด็จพระเจา้ ตากสนิ มหาราช - พระบาทสมเดจ็ พระพุทธยอด ฟ้าจฬุ าโลกมหาราช 2 บคุ คลสำคัญของไทย ส 4.3 ป.3/2 1. พระราชประวตั แิ ละพระราช 9 ส 4.3 ป.3/3 กรณยี กิจของพระบาทสมเดจ็ พระวชริ เกลา้ เจา้ อยูห่ วั (รัชกาลท่ี 10) - ดา้ นการทหาร - ดา้ นการแพทย์ - ดา้ นสาธารณสุข - ดา้ นเกษตรกรรม - ดา้ นการศกึ ษา 2. วีรกรรมของบรรพบรุ ุษไทยท่ี ปกปอ้ งประเทศชาติ
แผนการจัดการเรียนร้ทู ่ี 1 กลุ่มสาระการเรยี นรู้สังคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม ส 13102 ชั้นประถมศึกษาปที ่ี 3 หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 4 การสถาปนาอาณาจกั รไทย ภาคเรียนที่ 2/2565 เรอ่ื ง อาณาจกั รไทย เวลา 1 ชว่ั โมง สอนวันที่ 4 เดอื น พฤศจิกายน พ.ศ. 2565 ครูผ้สู อน นายพงศธร อยู่สขุ …………………………………….............…………………………………………………………………………………………… มาตรฐานการเรียนร้/ู ตวั ชวี้ ัด มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ส 4.3 เขา้ ใจความเป็นมาของชาตไิ ทย วฒั นธรรม ภูมปิ ญั ญาไทย มีความรกั ความภูมใิ จ และธำรงความเป็นไทย ตัวชี้วดั ส 4.3 ป.3/1 ระบุพระนามและพระราชกรณยี กจิ โดยสังเขปของพระมหากษตั ริยไ์ ทยทเี่ ป็น ผู้สถาปนาอาณาจกั รไทย จดุ ประสงค์การเรียนรสู้ ตู่ วั ชว้ี ัด 1. อธิบายเกีย่ วกบั ประวตั ขิ องอาณาจกั รไทยโดยสงั เขป (K) 2. วิเคราะหพ์ ัฒนาการของอาณาจกั รไทย (P) 3. เห็นความสำคญั ของการศึกษาการสถาปนาอาณาจกั รไทย (A) สาระสำคัญ อาณาจกั รมพี ัฒนาการมายาวนาน โดยแตล่ ะอาณาจกั รได้สถาปนาราชธานีหรอื ศูนย์กลางการปกครอง ในชว่ งเวลาตา่ ง ๆ กนั ตามลำดบั ได้แก่ อาณาจกั รสโุ ขทยั อาณาจกั รอยธุ ยา อาณาจกั รธนบุรี และอาณาจกั ร รัตนโกสนิ ทร์ สาระการเรยี นรู้ อาณาจกั รไทย สมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี น 1. ความสามารถในการสอ่ื สาร 2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ิต
คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. รกั ชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ 2. ใฝ่เรยี นรู้ ชนิ้ งานหรือภาระงาน (หลกั ฐาน รอ่ งรอยแสดงความรู)้ - คำถามทา้ ทาย นักเรยี นได้ประโยชนจ์ ากการศกึ ษาพฒั นาการของอาณาจกั รไทยอยา่ งไร การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ •ขัน้ •สัง•เก•ต ร•วบ• ร•วม•ข้อ•มลู • (G• a•th•eri•ng•) 1. นักเรียนร่วมกันสนทนาเกยี่ วกบั ประวตั คิ วามเป็นมาของอาณาจกั รไทยโดยการตอบคำถาม ดงั น้ี • นักเรยี นอาศยั อยู่ในประเทศใด (ประเทศไทย) • นักเรียนทราบประวัตคิ วามเปน็ มาของประเทศไทยหรอื ไม่ (ตัวอยา่ งคำตอบ ยังไมท่ ราบ) • นักเรียนอยากทราบหรือไมว่ า่ ประเทศไทยมีประวตั ิความเปน็ มาอยา่ งไร (ตวั อย่างคำตอบ อยากทราบ) 2. นักเรยี นฟงั ประวตั คิ วามเป็นมาของประเทศไทยโดยสงั เขป ดังนี้ ประเทศไทย มชี อ่ื อย่างเป็นทางการวา่ ราชอาณาจกั รไทย เปน็ รัฐชาติอันตง้ั อยใู่ นภูมิภาค เอเชยี ตะวันออกเฉียงใต้ เดิมมชี ่อื วา่ “สยาม” และรัฐบาลประกาศเปล่ยี นชื่อเปน็ ประเทศไทยอยา่ งเปน็ ทางการต้งั แต่ พ.ศ. 2482 ตรงกับ ค.ศ. 1939 นักประวัตศิ าสตร์ถือว่าอาณาจักรสุโขทยั เป็นจุดเริม่ ต้นของประวัติศาสตรไ์ ทย เมอ่ื พ.ศ. 1792 และมพี ัฒนาการเร่ือยมาและสน้ิ สุดลงเมื่อถกู รวมเข้าเป็นสว่ นหนง่ึ ของอาณาจกั รอยธุ ยา อาณาจกั รอยธุ ยา กอ่ ตั้งข้ึนเมอ่ื พ.ศ. 1893 เป็นยุคท่ีมคี วามเจริญรุ่งเรอื งเพราะมีการคา้ ขายกับตา่ งชาตดิ ว้ ยพระปรชี าสามารถของ พระมหากษตั รยิ ์ อาณาจกั รอยธุ ยาสิน้ สุดลงอันเนอ่ื งมาจากพ่ายแพ้ตอ่ สงครามกบั พมา่ ใน พ.ศ. 2310 และมีการ ก่อต้งั อาณาจกั รธนบรุ ีในเวลาตอ่ มา เมอ่ื พ.ศ. 2310 ซึง่ ดำรงอย่ไู ดเ้ พียง 15 ปี ก็ส้นิ สุดลง และเร่มิ ตน้ อาณาจักร รัตนโกสินทร์ เมือ่ พ.ศ. 2325 จนถึงปจั จบุ ัน จากน้ันร่วมกันสนทนา โดยการตอบคำถาม
• ประเทศไทย มชี ่ืออย่างเป็นทางการวา่ อะไร (ราชอาณาจกั รไทย) • อาณาจกั รเร่มิ ต้นของไทยคืออาณาจักรใด (อาณาจักรสโุ ขทัย) • หลงั จากอาณาจกั รสโุ ขทยั สน้ิ สุดลง อาณาจักรตอ่ มาคอื อาณาจักรใด (อาณาจักรอยธุ ยา) • อาณาจกั รอยธุ ยาเร่ิมตน้ ขึ้นเม่ือ ค.ศ. ใด (ค.ศ. 1350) • อาณาจกั รอยธุ ยามีระยะเวลารวมท้ังหมดกป่ี ี (417 ป)ี • หลงั จากอาณาจกั รอยุธยาส้นิ สุดลง อาณาจกั รตอ่ มาคืออาณาจักรใด (อาณาจกั รธนบรุ )ี • อาณาจกั รธนบรุ กี ่อตัง้ ขนึ้ ใน ค.ศ. ใด (ค.ศ. 1767) • อาณาจกั รธนบุรมี รี ะยะเวลารวมทัง้ หมดก่ีปี (15 ปี) • หลังจากอาณาจกั รธนบุรสี น้ิ สดุ ลง อาณาจกั รตอ่ มาคอื อาณาจักรใด (อาณาจักรรตั นโกสินทร)์ • อาณาจกั รรัตนโกสินทร์เรม่ิ ตน้ ขน้ึ เมื่อ ค.ศ. ใด (ค.ศ. 1782) • นกั เรยี นอยใู่ นยคุ สมยั ของอาณาจกั รใด (อาณาจักรรัตนโกสนิ ทร)์ 3. นกั เรียนศกึ ษาและรวบรวมขอ้ มลู เกย่ี วกบั อาณาจกั รไทย จากหนงั สือเรยี นและแหล่งการเรียนรู้ อืน่ ๆ เพิ่มเตมิ •(ขG้ัน•aคt•ดิhวe•เิ rคinร•าg)ะ•หแ์•ล•ะส•รปุ •คว•าม•รู้ •(P•ro•ce•ssi•ng•) 4•. •นกั เรยี นรว่ มกนั สรปุ พัฒนาการของอาณาจกั รไทย โดยใช้แผนภาพเส้นเวลา ดงั ตวั อยา่ ง อาณาจกั รสโุ ขทัย อาณาจกั รอยธุ ยา อาณาจกั รธนบุรี อาณาจกั รรัตนโกสนิ ทร์ พ.ศ. 1792 พ.ศ. 1893 พ.ศ. 2310 พ.ศ. 2325 5. นกั เรยี นคิดประเมนิ เพือ่ เพ่ิมคณุ คา่ แลว้ สรุปเปน็ ความคิดรวบยอด โดยการตอบคำถาม ดังน้ี • นกั เรยี นไดป้ ระโยชนจ์ ากการศกึ ษาพฒั นาการของอาณาจกั รไทยอยา่ งไร (ตวั อยา่ งคำตอบ ไดท้ ราบว่าประเทศไทย หรืออาณาจักรไทยมปี ระวตั คิ วามเปน็ มาอย่างไร ซ่ึงจะทำให้สามารถนำเสนอข้อมลู ได้อย่างถกู ต้อง)
• ข•ั้น•ปฏ•บิ ตั•แิ ล• ะส• รปุ• ค•วา•มร•ู้หล•ังก•าร•ปฏ•ิบัต• ิ (•A•pp•lyi•ng• an• d•C•on•str•uc•tin• g•th•e •Kn•ow•le•dg•e)• ••••• 6. นักเรียนแบ่งกลุ่มศกึ ษาอาณาจกั รไทย 1 อาณาจกั ร แลว้ ตอบคำถามลงในแบบบันทึก ดงั ตัวอยา่ ง แบบบนั ทึก • อาณาจกั รไทยทศี่ กึ ษา คอื (อาณาจกั รอยธุ ยา) • ก่อตง้ั ข้ึนเมอ่ื พ.ศ. (1893) ตรงกบั ค.ศ. (1350) • ใครเปน็ ผ้สู ถาปนาอาณาจักร (สมเด็จพระรามาธบิ ดีที่ 1 (พระเจา้ อทู่ อง)) • อาณาจกั รสิ้นสุดลงเมอ่ื พ.ศ. (2310) ตรงกับ ค.ศ. (1767) • อาณาจกั รดารงอยไู่ ด้ทง้ั หมดกปี่ ี (417 ปี) หลงั จากสิ้นสุดอาณาจกั รจนถงึ ปจั จุบัน ผา่ นมาแลว้ ก่ีปี (252 ป)ี 7. นักเรยี นตรวจสอบความถูกตอ้ งและความเรยี บรอ้ ยของผลงาน หากพบขอ้ ผิดพลาดควรปรับปรุงแก้ไขให้ ถูกตอ้ ง 8. นักเรียนร่วมกนั สรุปสงิ่ ทเี่ ขา้ ใจเป็นความรูร้ ว่ มกนั ดงั น้ี อาณาจกั รมพี ัฒนาการมายาวนาน โดยแต่ละอาณาจกั รไดส้ ถาปนาราชธานหี รอื ศนู ยก์ ลางการปกครอง ในช่วงเวลาตา่ ง ๆ กนั ตามลำดับ ได้แก่ อาณาจกั รสโุ ขทัย อาณาจักรอยธุ ยา อาณาจกั รธนบุรี และอาณาจกั ร รตั นโกสินทร์ • ข•น้ั ส•อื่ ส•าร•แล•ะน•าเ•สน•อ •(A•pp•ly•ing• th• e•Co• m• m• u•nic•at•ion• S•kil•l)• •• 9. นักเรียนนำเสนอผลงานการศกึ ษาอาณาจักรไทยหน้าชน้ั เรยี น กิจกรรมนสี้ รา้ งเสริมทักษะศตวรรษท่ี 21 ดา้ นการสอื่ สาร 10. นักเรยี นรว่ มกันอภิปรายสรปุ เก่ียวกบั วิธีการทำงานให้เหน็ การคิดเชิงระบบและวธิ ีการทำงาน ที่มแี บบแผน
• ข•ั้นป•ระ•เม•ินเ•พ่ือ•เพ•ิ่มค•ุณ•คา่ •บร•ิกา•รส•งั ค•มแ•ละ•จ•ิตส•าธ•าร•ณะ• (S•el•f-R•eg•ul•at•ing•) 1•1.•นัก•เร•ยี นประเมินตนเอง โดยเขยี นแสดงความรู้สึกหลงั การเรียน ในประเดน็ ต่อไปนี้ • สิ่งที่นักเรียนได้เรียนรใู้ นวนั น้คี ืออะไร • นักเรียนมสี ่วนรว่ มกจิ กรรมในกลุ่มมากนอ้ ยเพยี งใด • เพื่อนนักเรยี นในกลุ่มมสี ่วนรว่ มกจิ กรรมในกลมุ่ มากนอ้ ยเพียงใด • นักเรยี นพอใจกบั การเรียนในวนั นีห้ รอื ไม่ เพียงใด • นักเรียนจะนำความรู้ทีไ่ ดน้ ้ีไปใช้ให้เกดิ ประโยชน์แกต่ นเอง ครอบครวั และสงั คมทั่วไป ไดอ้ ยา่ งไร จากนนั้ แลกเปลี่ยนตรวจสอบขั้นตอนการทำงานทุกขน้ั ตอนวา่ จะเพมิ่ คุณค่าไปสู่สังคม เกิดประโยชนต์ อ่ สังคมให้มากขึ้นกว่าเดมิ ในข้ันตอนใดบา้ ง สำหรับการทำงานในครัง้ ตอ่ ไป ส่ือการเรียนรู้ 1. หนงั สือเรยี นรายวชิ าพ้ืนฐาน ประวตั ิศาสตร์ ช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี 3 ของสถาบนั พฒั นาคุณภาพวชิ าการ (พว.) 2. ประวัตคิ วามเป็นมาของอาณาจกั รโดยสงั เขป 3. แหลง่ การเรียนรูท้ ัง้ ภายในและภายนอกโรงเรยี น การวดั และประเมินผลการเรียนรู้ 1. วธิ กี ารวดั และประเมนิ ผล 1. ประเมนิ ความรู้ เร่ือง อาณาจักรไทย (K) ดว้ ยแบบทดสอบ 2. ประเมนิ กระบวนการทำงานกลุม่ (P) ด้วยแบบประเมิน 3. ประเมินคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ ดา้ นรักชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ ใฝ่เรยี นรู้ (A) ดว้ ยแบบประเมิน 2. เครื่องมือ แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเข้ารว่ มกจิ กรรม 3. เกณฑก์ ารประเมนิ การประเมนิ พฤติกรรมการเข้ารว่ มกจิ กรรม ผา่ นต้ังแต่ 2 รายการ ถือว่า ผา่ น ผ่าน 1 รายการ ถือว่า ไมผ่ า่ น
แบบประเมินกระบวนการทำงานกลมุ่ รายการการ ระดับคณุ ภาพ ประเมิน กระบวนการ 4321 ทำงานกลุ่ม มกี ารกำหนดบทบาท มกี ารกำหนดบทบาท มีการกำหนดบทบาท ไม่มกี ารกำหนด สมาชิกชดั เจน สมาชิกชดั เจน เฉพาะหัวหน้า บทบาทสมาชกิ และมกี ารช้ีแจง มีการชแ้ี จงเป้าหมาย ไม่มีการชแี้ จง และไม่มกี ารช้ีแจง เปา้ หมาย อยา่ งชัดเจนและ เปา้ หมาย เปา้ หมาย สมาชิก การทำงาน ปฏิบตั งิ านรว่ มกนั อย่างชดั เจน ตา่ งคนตา่ งทำงาน มกี ารปฏบิ ตั ิงาน แต่ไม่มีการประเมนิ ปฏิบัตงิ านรว่ มกัน ร่วมกนั เปน็ ระยะ ๆ ไมค่ รบทกุ คน อย่างร่วมมือรว่ มใจ พรอ้ มกบั การประเมิน เป็นระยะ ๆ
แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 2 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้สงั คมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม ส 13102 ช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ 3 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 4 การสถาปนาอาณาจกั รไทย ภาคเรียนท่ี 2/2565 เรอื่ ง พ่อขุนศรอี ิทราทิตย์ 1 เวลา 1 ชวั่ โมง สอนวันท่ี 11 เดือน พฤศจิกายน พ.ศ. 2565 ครูผสู้ อน นายพงศธร อยู่สุข …………………………………….............…………………………………………………………………………………………… มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ช้ีวดั มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ส 4.3 เข้าใจความเปน็ มาของชาตไิ ทย วัฒนธรรม ภูมปิ ญั ญาไทย มคี วามรกั ความภมู ิใจ และธำรงความเป็นไทย ตวั ชี้วดั ส 4.3 ป.3/1 ระบพุ ระนามและพระราชกรณยี กจิ โดยสังเขปของพระมหากษตั รยิ ไ์ ทยท่ีเปน็ ผู้สถาปนาอาณาจักรไทย จดุ ประสงค์การเรียนร้สู ตู่ วั ชว้ี ดั 1. ระบุพระนามของพระมหากษตั ริย์ผ้สู ถาปนาอาณาจกั รสโุ ขทัย (K) 2. วิเคราะห์พระราชประวัตขิ องพ่อขนุ ศรีอนิ ทราทติ ย์ (P) 3. เหน็ ความสำคญั ของการศกึ ษาพระราชประวัตขิ องพระมหากษตั รยิ ผ์ สู้ ถาปนาอาณาจักรไทย (A สาระสำคญั อาณาจกั รสุโขทัยถือเปน็ อาณาจกั รเร่มิ ต้นของอาณาจักรไทย ซ่ึงมกี ารสถาปนาโดยพอ่ ขุนศรีอนิ ทราทติ ย์ ใน พ.ศ. 1792 สาระการเรยี นรู้ พระราชประวตั ขิ องพ่อขุนศรีอนิ ทราทิตย์ สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น 1. ความสามารถในการสอ่ื สาร 2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ติ
คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 1. รกั ชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ 2. ใฝ่เรยี นรู้ ชิน้ งานหรือภาระงาน (หลกั ฐาน รอ่ งรอยแสดงความรู้) - คำถามท้าทาย นักเรยี นได้ประโยชน์จากการศกึ ษาพระราชประวตั ิของพอ่ ขุนศรีอินทราทติ ย์อยา่ งไร การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ •ขัน้ •สงั •เก•ต ร•วบ• ร•วม•ขอ้ •มลู • (G• a•th•eri•ng•) •ข้นั •สัง•เก•ต ร•วบ• ร•วม•ข้อ•มลู • (G• a•th•eri•ng•) 1. นักเรยี นสงั เกตภาพ พระบรมราชานสุ าวรยี พ์ อ่ ขนุ ศรีอินทราทิตย์ จากนั้นรว่ มกันสนทนา โดยการตอบคำถาม ดังนี้ • บคุ คลในภาพคือใคร (พอ่ ขนุ ศรีอนิ ทราทติ ย)์ • พ่อขุนศรีอนิ ทราทิตย์คอื ใคร (ผู้สถาปนาหรือผู้ก่อตง้ั อาณาจักรสุโขทยั ) • อาณาจกั รสุโขทยั มีความสำคญั อยา่ งไร (ตวั อยา่ งคำตอบ เป็นจุดเร่ิมตน้ ของอาณาจกั รไทย) 2. นกั เรียนศึกษาและรวบรวมขอ้ มลู เกี่ยวกบั พระราชประวตั ขิ องพ่อขุนศรีอนิ ทราทติ ย์ จากหนังสอื เรียนและแหล่งการเรยี นรอู้ ื่น ๆ เพ่ิมเตมิ
•(ขGนั้•aคt•ิดhวe•ิเrคinร•าg)ะ•หแ์•ล•ะส•รปุ •คว•าม•รู้ •(P•ro•ce•ssi•ng•) 3•. •นักเรยี นแบง่ กลุ่ม ศึกษาขอ้ มลู พระราชประวัติของพ่อขนุ ศรีอนิ ทราทิตย์ทกี่ ำหนด แลว้ สรุปขอ้ มลู พระ ราชประวตั ขิ องพระองค์เปน็ แผนภาพความคดิ ดังตวั อยา่ ง พอ่ ขนุ ศรีอนิ ทราทิตย์ทรงเป็นพระมหากษตั รยิ ร์ ชั กาลท่ี 1 แห่งราชวงศ์ พระรว่ ง กรุงสุโขทัย เสวยราชสมบตั ติ ง้ั แต่ พ.ศ. 1792 ถึงปีใดไมป่ รากฏ พระนามเดมิ ของพระองค์ คือ พ่อขุนบางกลางหาว มมี เหสี คือ พระนางเสอื ง มพี ระราชโอรส 3 พระองค์ พระราชธิดา 2 พระองค์ พระราชโอรสองคใ์ หญ่ สิ้นพระชนม์ต้งั แตท่ รงพระเยาว์ ส่วนพระราชโอรสองคท์ ี่ 2 และ 3 คอื พอ่ ขนุ บานเมือง และพ่อขนุ รามคำแหงมหาราช ซ่งึ ครองราชยต์ อ่ มาตามลำดับ เดมิ พอ่ ขุนบางกลางหาวทรงเปน็ เจ้าเมืองอยูท่ ใ่ี ดไม่ปรากฏ แต่ข้อความในศิลาจารึกหลักที่ 2 ทำให้ทราบวา่ อยู่ใต้เมืองบางยางลงไป มีพระมเหสี คอื พระนางเสอื ง พระนามเดมิ ของพระองค์ คือ พ่อขุนบางกลางหาว ทรงครองราชสมบตั ติ ้ังแต่ พระราชประวตั ขิ อง ทรงเป็นเจ้าเมืองอยูใ่ ต้ พ.ศ. 1792 ถึงปใี ดไม่ทราบ พ่อขุนศรอี ินทราทติ ย์ เมอื งบางยาง ตามศลิ าจารกึ แนช่ ัด หลกั ท่ี 2 มีพระราชโอรสและพระราชธิดา เป็นพระมหากษัตริยร์ ชั กาลที่ 1 รวมแล้ว 5 พระองค์ พระราชโอรส แหง่ ราชวงศพ์ ระรว่ ง องคท์ ่ี 2 และ 3 คือ พอ่ ขนุ บานเมอื ง และพอ่ ขนุ รามคาแหงมหาราช 4. นกั เรยี นคดิ ประเมินเพื่อเพ่มิ คุณคา่ แล้วสรุปเป็นความคิดรวบยอด โดยการตอบคำถาม ดังนี้ • นักเรียนได้ประโยชน์จากการศกึ ษาพระราชประวตั ิของพอ่ ขุนศรีอินทราทติ ย์อย่างไร (ตวั อยา่ งคำตอบ ทำใหท้ ราบว่าพระมหากษตั ริยพ์ ระองคใ์ ดทรงสถาปนาอาณาจักรสุโขทยั ซ่ึงเป็น จุดเร่มิ ตน้ ของอาณาจักรไทย)
• ข•ัน้ •ปฏ•บิ ัต•ิแล• ะส• รุป• ค•วา•มร•ู้หล•งั ก•าร•ปฏ•บิ ตั• ิ (•A•pp•lyi•ng• an• d•C•on•str•uc•tin• g•th•e •Kn•ow•le•dg•e)• ••••• 5. นักเรียนศึกษาเกี่ยวกับอาณาจกั รสโุ ขทยั แลว้ บันทึกคำตอบลงในแบบบนั ทกึ ดงั ตวั อยา่ ง แบบบนั ทกึ อาณาจกั รสุโขทัย • อาณาจกั รสโุ ขทยั ต้งั อยจู่ งั หวัดใด (จงั หวัดสโุ ขทยั ) • อาณาจกั รสโุ ขทยั ตั้งอยู่บริเวณใด (ตง้ั อย่บู นทร่ี าบลุ่มแม่น้ายม) • อาณาจกั รสโุ ขทัยมกี ารสถาปนาข้ึนเม่อื พทุ ธศตวรรษท่ีเทา่ ใด (ราวพทุ ธศตวรรษท่ี 18) • อาณาเขตของอาณาจกั รสโุ ขทัยตดิ กับเมืองใด ทศิ เหนือตดิ กับเมือง (แพร)่ ปัจจุบนั คือ จงั หวดั (นครสวรรค์) ทิศตะวนั ตกติดกับเมอื ง (ฉอด) ปจั จบุ นั คือ จงั หวัด (ตาก) ทศิ ตะวนั ออกตดิ กับเมือง (สะค้าใกลแ้ ม่นา้ โขง) ปจั จบุ นั คือ จังหวดั (ในเขตภาคอีสานตอนเหนอื ) • ประวัติการสถาปนาอาณาจักรสโุ ขทยั ทราบไดจ้ ากหลกั ฐานใด (ศลิ าจารึกหลักท่ี 2 ศลิ าจารึกวดั ศรชี มุ ) 6. นักเรยี นตรวจสอบความถูกตอ้ งและความเรยี บรอ้ ยของผลงาน หากพบข้อผิดพลาดควรปรบั ปรงุ แกไ้ ขให้ ถูกต้อง 7. นักเรียนรว่ มกนั สรปุ ส่ิงทเี่ ขา้ ใจเป็นความรู้ร่วมกนั ดงั นี้ อาณาจกั รสโุ ขทัยถอื เป็นอาณาจกั รเริม่ ตน้ ของอาณาจักรไทย ซง่ึ มกี ารสถาปนา โดยพ่อขนุ ศรอี นิ ทราทติ ย์ ใน พ.ศ. 1792 • ข•ั้นส•ือ่ ส•าร•แล•ะน•าเ•สน•อ •(A•pp•ly•ing• th• e•Co• m• m• u•nic•at•ion• S•kil•l)• •• 8. นกั เรียนนำเสนอผลงานการศกึ ษาเก่ยี วกบั อาณาจักรสุโขทัยหนา้ ชั้นเรียน กิจกรรมน้ีสรา้ งเสรมิ ทกั ษะศตวรรษท่ี 21 ดา้ นการส่อื สาร
9. นกั เรยี นรว่ มกนั อภิปรายสรุปเกีย่ วกับวิธกี ารทำงานให้เห็นการคิดเชงิ ระบบและวิธีการทำงาน ท่ีมแี บบแผน • ข•ัน้ ป•ระ•เม•ินเ•พื่อ•เพ•ิ่มค•ุณ•คา่ •บร•ิกา•รส•ังค•มแ•ละ•จ•ิตส•าธ•าร•ณะ• (S•el•f-R•eg•ul•at•ing•) 10•. •นัก•เร•ียนประเมนิ ตนเอง โดยเขียนแสดงความรสู้ กึ หลังการเรยี น ในประเดน็ ตอ่ ไปน้ี • สิ่งทนี่ กั เรยี นได้เรียนรู้ในวันนีค้ ืออะไร • นักเรยี นมสี ว่ นรว่ มกจิ กรรมในกลุ่มมากน้อยเพยี งใด • เพ่อื นนกั เรยี นในกลมุ่ มีสว่ นร่วมกิจกรรมในกลุ่มมากน้อยเพียงใด • นักเรยี นพอใจกบั การเรยี นในวันนหี้ รือไม่ เพียงใด • นกั เรยี นจะนำความรู้ทไ่ี ด้นีไ้ ปใชใ้ หเ้ กดิ ประโยชน์แก่ตนเอง ครอบครวั และสังคมทวั่ ไป ไดอ้ ย่างไร จากนัน้ แลกเปลยี่ นตรวจสอบขนั้ ตอนการทำงานทุกข้นั ตอนว่าจะเพ่มิ คุณคา่ ไปส่สู ังคม เกิดประโยชน์ต่อสงั คมให้มากข้นึ กว่าเดิมในขั้นตอนใดบ้าง สำหรับการทำงานในครั้งต่อไป ส่อื การเรยี นรู้ 1. หนงั สือเรยี นรายวชิ าพนื้ ฐาน ประวตั ิศาสตร์ ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 3 ของสถาบนั พฒั นาคุณภาพวิชาการ (พว.) 2. ภาพพอ่ ขุนศรีอินทราทติ ย์ 3. ขอ้ มูลพระราชประวตั ขิ องพอ่ ขนุ ศรีอนิ ทราทิตย์ 4. แหลง่ การเรยี นรทู้ ้งั ภายในและภายนอกโรงเรยี น การวดั และประเมินผลการเรียนรู้ 1. วธิ ีการวดั และประเมินผล 1. ประเมินความรู้ เรื่อง พระราชประวตั ขิ องพอ่ ขนุ ศรีอนิ ทราทิตย์ (K) ดว้ ยแบบทดสอบ 2. ประเมินกระบวนการทำงานกล่มุ (P) ดว้ ยแบบประเมิน 3. ประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ดา้ นรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ใฝ่เรียนรู้ (A) ดว้ ยแบบประเมิน 2. เคร่ืองมือ แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเข้ารว่ มกิจกรรม 3. เกณฑ์การประเมิน การประเมินพฤติกรรมการเข้ารว่ มกจิ กรรม
ผ่านต้งั แต่ 2 รายการ ถอื ว่า ผ่าน ผา่ น 1 รายการ ถอื ว่า ไมผ่ า่ น แบบประเมินกระบวนการทำงานกลมุ่ รายการการ ระดับคุณภาพ ประเมนิ กระบวนการ 4321 ทำงานกลุ่ม มีการกำหนดบทบาท มีการกำหนดบทบาท มีการกำหนดบทบาท ไม่มีการกำหนด สมาชิกชดั เจน สมาชิกชดั เจน เฉพาะหวั หนา้ บทบาทสมาชกิ และมกี ารชแ้ี จง มีการชีแ้ จงเป้าหมาย ไม่มกี ารชแี้ จง และไม่มกี ารชแ้ี จง เป้าหมาย อยา่ งชดั เจนและ เปา้ หมาย เป้าหมาย สมาชิก การทำงาน ปฏบิ ตั งิ านร่วมกนั อยา่ งชดั เจน ต่างคนตา่ งทำงาน มกี ารปฏบิ ตั ิงาน แตไ่ มม่ ีการประเมนิ ปฏบิ ัตงิ านร่วมกัน รว่ มกัน เปน็ ระยะ ๆ ไมค่ รบทกุ คน อยา่ งรว่ มมือร่วมใจ พรอ้ มกับการประเมิน เป็นระยะ ๆ
แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 3 กลุ่มสาระการเรยี นรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม ส 13102 ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ 3 หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 4 การสถาปนาอาณาจักรไทย ภาคเรียนท่ี 2/2565 เรือ่ ง พ่อขุนศรีอิทราทิตย์ 2 เวลา 1 ชวั่ โมง สอนวันท่ี 18 เดือน พฤศจิกายน พ.ศ. 2565 ครูผสู้ อน นายพงศธร อยู่สขุ …………………………………….............…………………………………………………………………………………………… มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ช้ีวัด มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ส 4.3 เข้าใจความเปน็ มาของชาตไิ ทย วัฒนธรรม ภมู ิปญั ญาไทย มีความรกั ความภมู ใิ จ และธำรงความเปน็ ไทย ตวั ชีว้ ดั ส 4.3 ป.3/1 ระบพุ ระนามและพระราชกรณียกจิ โดยสงั เขปของพระมหากษตั รยิ ไ์ ทยท่ีเปน็ ผู้สถาปนาอาณาจักรไทย จุดประสงคก์ ารเรียนรู้สตู่ ัวชวี้ ัด 1. อธบิ ายเกย่ี วกบั พระราชกรณียกิจท่ีสำคญั ของพอ่ ขุนศรอี ินทราทติ ย์ (K) 2. วิเคราะห์พระราชกรณียกิจทีส่ ำคญั ของพอ่ ขนุ ศรีอนิ ทราทิตย์ (P) 3. เห็นความสำคญั ของการศกึ ษาพระราชกรณยี กิจทีส่ ำคัญของพระมหากษตั รยิ ผ์ ูส้ ถาปนาอาณาจกั รไทย (A) สาระสำคญั พอ่ ขนุ ศรอี ินทราทติ ยท์ รงเปน็ พระมหากษตั รยิ ท์ ่ีประกอบพระราชกรณียกจิ ท่ีสำคัญ โดยการสถาปนาอาณาจักร สุโขทัยข้ึนเปน็ แห่งแรกของอาณาจกั รไทย และทรงตอ่ สูก้ ับศตั รูเพ่ือรกั ษาแผน่ ดนิ ไทย สาระการเรยี นรู้ พระราชกรณียกจิ ของพอ่ ขุนศรอี นิ ทราทติ ย์ สมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รียน 1. ความสามารถในการส่อื สาร 2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ิต
คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. รกั ชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ 2. ใฝเ่ รียนรู้ ชิ้นงานหรอื ภาระงาน (หลักฐาน รอ่ งรอยแสดงความร)ู้ - คำถามท้าทาย ในฐานะท่ีนกั เรียนเปน็ พลเมืองของชาติ นกั เรยี นจะปฏบิ ัติเพอื่ แสดงออกถึงความรักชาติอยา่ งไร การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ •ข้ัน•สัง•เก•ต ร•วบ• ร•วม•ขอ้ •มลู • (G• a•th•eri•ng•) 1. นักเรยี นสงั เกตแผนที่ประเทศไทย จากน้นั รว่ มกนั สนทนา โดยการตอบตอบคำถาม ดังนี้ • แผนทน่ี ้ีคือแผนท่ีอะไร (แผนที่ประเทศไทย) • จากแผนท่ี อาณาจกั รสุโขทยั ต้งั อยบู่ รเิ วณใด (จงั หวัดสโุ ขทัย) • จังหวัดสุโขทยั มีความสำคัญต่ออาณาจักรไทยอยา่ งไร (ตัวอยา่ งคำตอบ เป็นทต่ี ัง้ ของอาณาจักรสโุ ขทัยในอดตี )
2. นกั เรียนรว่ มกันสนทนาเกี่ยวกับผู้สถาปนาอาณาจักรสุโขทยั เพือ่ ทบทวนความรู้เดิม โดยการตอบคำถาม ดงั น้ี • ใครคอื ผ้สู ถาปนาอาณาจกั รสุโขทัยเป็นราชธานี (พอ่ ขนุ ศรีอนิ ทราทติ ย์) • พ่อขนุ ศรีอินทราทติ ยท์ รงสถาปนาอาณาจกั รสโุ ขทยั เป็นราชธานีเม่อื พ.ศ. ใด (พ.ศ. 1792) • การสถาปนาอาณาจกั รสโุ ขทัยส่งผลต่ออาณาจักรไทยอย่างไร (ตวั อยา่ งคำตอบ เปน็ การเรมิ่ ต้นของอาณาจักรไทย) 3. นักเรียนศกึ ษาและรวบรวมขอ้ มลู เก่ยี วกับพระราชกรณยี กิจของพอ่ ขุนศรีอนิ ทราทติ ย์ จากหนังสือเรียนและแหลง่ การเรยี นรอู้ ่ืน ๆ เพ่ิมเติม •(ขGั้น•aคt•ดิhวe•เิ rคinร•าg)ะ•หแ์•ล•ะส•รปุ •คว•าม•รู้ •(P•ro•ce•ssi•ng•) 4•. •นักเรียนร่วมกนั อ่านเหตกุ ารณ์สำคัญก่อนการสถาปนาอาณาจักรสโุ ขทยั ดงั นี้ อาณาจกั รสุโขทัยเป็นอาณาจกั รของไทยที่ได้รับการสถาปนาขึ้นใน พ.ศ. 1792 ก่อนหน้าทจ่ี ะมกี ารสถาปนาอาณาจักรสุโขทัยขึน้ มานั้น สโุ ขทยั เปน็ เมืองเกา่ แกท่ ี่มีความเจรญิ รุ่งเรอื งมาก่อน จากการตีความในศลิ าจารึกหลกั ท่ี 2 (วัดศรีชุม) สรุปความไดว้ า่ เมอื งสุโขทยั แตเ่ ดิมมีผู้นำช่ือ พ่อขนุ ศรีนาวนำถม เป็นเจ้าเมอื งปกครองอยู่ เมอื่ พระองค์สิ้นพระชนม์ ขอมสะบาดโขลญลำพง ขุนนางขอมไดน้ ำกำลังเขา้ ยึดกรงุ สุโขทัยไว้ได้ เมอ่ื พวกขอมเริ่มเสอื่ มอำนาจลง ใน พ.ศ. 1780 ได้มีบุคคลท่เี ปน็ ผนู้ ำ คอื พ่อขุน บางกลางหาวและพ่อขนุ ผาเมอื ง ไดร้ ว่ มมือกนั รวบรวมกำลังเข้าขบั ไล่ขอมออก จากดนิ แดนแถบนแ้ี ละตัง้ ตนเป็นอสิ ระ พร้อมกับสถาปนา กรงุ สุโขทยั เปน็ ราชธานี และได้สถาปนาพอ่ ขุนบางกลางหาวขึ้นเปน็ กษัตริย์ ปกครองกรุงสโุ ขทัย ทรงพระนามวา่ พ่อขุนศรีอนิ ทราทติ ย์ นับเปน็ ปฐมกษัตรยิ แ์ หง่ ราชวงศส์ โุ ขทัยหรือราชวงศพ์ ระรว่ ง นับตั้งแต่ พ.ศ. 1792 เป็นต้นมา จากนน้ั รว่ มกันแสดงความคิดเห็น โดยการตอบคำถาม ดงั น้ี • ใครคือเจา้ เมืองก่อนการสถาปนาอาณาจักรสโุ ขทยั (พ่อขุนศรนี าวนำถม) • ก่อนการสถาปนาอาณาจกั รสุโขทยั บ้านเมอื งเปน็ อยา่ งไร (ตวั อยา่ งคำตอบ เป็นเมืองเก่าแก่ทมี่ ีความเจรญิ รงุ่ เรืองมาก่อน) • หลังจากท่พี ่อขนุ ศรนี าวนำถมส้ินพระชนม์ มีเหตกุ ารณ์สำคัญใดเกิดข้นึ
(ตวั อยา่ งคำตอบ ขอมสะบาดโขลญลำพง ขนุ นางขอมได้นำกำลังเข้ายึดกรงุ สุโขทยั ) • เหตกุ ารณ์สำคญั ดงั กลา่ วส่งผลตอ่ กรงุ สโุ ขทยั อยา่ งไร (ตัวอยา่ งคำตอบ ทำให้สโุ ขทยั อยภู่ ายใตก้ ารปกครองของขอม) • ใครคือผ้ขู บั ไล่ขอมออกจากกรุงสุโขทัยหลงั จากทข่ี อมเส่ือมอำนาจลง (พ่อขนุ บางกลางหาว และพ่อขุนผาเมอื ง ท่ีไดร้ ว่ มมือรวบรวมกำลังพลเข้าขับไล่ขอมและตงั้ ตน เปน็ อสิ ระ พรอ้ มสถาปนาอาณาจกั รสุโขทยั เปน็ ราชธาน)ี 5. นักเรยี นแบ่งกล่มุ ศกึ ษาพระราชกรณยี กจิ ท่สี ำคัญของพอ่ ขนุ ศรอี ินทราทติ ยห์ ลงั จากสถาปนา กรงุ สุโขทยั เปน็ ราชธานี พร้อมสรุปพระราชกรณยี กจิ ของพระองค์เปน็ แผนภาพความคดิ ดงั ตวั อยา่ ง เมื่อตัง้ กรงุ สุโขทยั ข้ึนเปน็ ราชธานแี ล้ว พ่อขนุ ศรีอนิ ทราทติ ยไ์ ด้ดำเนนิ การปกครองบ้านเมืองตาม แบบอยา่ งที่เคยปกครองมาแลว้ แบบไทยเดิม คอื พอ่ ปกครองลกู คนไทยทกุ คนมีส่วนร่วมในการก่อตง้ั และช่วยเหลือ กัน เพ่ือปอ้ งกันการรุกรานจากขอม ซ่ึงขัดแย้งกันอยูอ่ นั เน่ืองมาจากไทยแย่งชงิ เอาหวั เมอื งสำคญั ๆ พอ่ ขนุ ศรอี นิ ทราทติ ย์ใชว้ ธิ ีในการป้องกนั บา้ นเมอื งจากศตั รู ดงั น้ี ทศิ เหนือ พระองคใ์ ชว้ ิธผี กู มิตรกันไว้ เพอื่ ไม่ใหร้ วมกันมารกุ รานได้ ได้แก่ แคว้นหริภุญไชย แคว้นเงินยาง และแควน้ พะเยา ทศิ ใต้และทศิ ตะวันออก มดี ินแดนตดิ กบั ขอมตอ้ งมกี ารป้องกนั พิเศษ ทศิ ตะวนั ตก ได้มกี ารยกกองทพั ไปทำสงครามกบั แคว้นฉอดได้รับชยั ชนะ เจา้ เมืองฉอด ต้องเสยี เมอื งใหแ้ กส่ ุโขทัย สมยั พอ่ ขนุ ศรีอินทราทิตย์ไม่ได้มกี ารขยายอาณาเขตใหก้ วา้ งขวางนกั เพราะแคว้นต่าง ๆ มอี ำนาจและมี อิสระ แคว้นบางแคว้นมไี มตรีตอ่ กนั เมืองบางเมอื งเป็นพระสหายกัน พระราชกรณียกิจ เป็นผู้สถาปนาอาณาจักรสโุ ขทัยเปน็ ราชธานี ที่สาคัญของ ดาเนนิ การปกครองบา้ นเมอื งแบบพอ่ ปกครองลูก มีพระปรชี าสามารถในการทาสงครามกับเจ้าเมืองฉอด พอ่ ขนุ ศรอี ินทราทิตย์ มีการขยายดินแดนการปกครองไปอย่างกว้างขวางซ่ึงเป็นผลจากการทาสงคราม มีกลยุทธ์ในการป้องกนั บา้ นเมืองจากศัตรูดว้ ยการผูกมติ รไมตรกี บั แคว้นตา่ ง ๆ 6. นกั เรยี นคิดประเมินเพอ่ื เพ่มิ คณุ ค่า แล้วสรุปเป็นความคิดรวบยอด โดยการตอบคำถาม ดังนี้ • ในฐานะทีน่ กั เรียนเป็นพลเมืองของชาติ นักเรยี นจะปฏบิ ัตติ นเพ่ือแสดงถึงความรกั ชาติอย่างไร (ตัวอย่างคำตอบ ปฏบิ ตั ิตนเปน็ คนดีของสังคม ต้ังใจเรยี น เป็นเด็กดขี องพ่อแม่และครูอาจารย)์
• ข•น้ั •ปฏ•ิบตั•ิแล• ะส• รปุ• ค•วา•มร•ูห้ ล•งั ก•าร•ปฏ•ิบตั• ิ (•A•pp•lyi•ng• an• d•C•on•str•uc•tin• g•th•e •Kn•ow•le•dg•e)• ••••• 7. นกั เรียนพจิ ารณาขอ้ ความเก่ียวกับการสถาปนาอาณาจกั รสโุ ขทยั โดยใส่เครื่องหมาย ✓ หนา้ ข้อความท่ี ถกู ต้อง และใสเ่ คร่ืองหมาย หนา้ ข้อความท่ีไมถ่ ูกต้อง ดังตัวอย่าง (✓) 1. อาณาจกั รสโุ ขทยั เป็นอาณาจกั รแรกของคนไทย (✓) 2. พ่อขนุ ศรีอนิ ทราทิตย์ไดส้ ถาปนาขึ้นเป็นพระมหากษัตริย์ เมือ่ ค.ศ. 1249 () 3. คาว่า “พระรว่ ง” เปน็ ช่อื ราชวงศข์ องอาณาจักรไทย (✓) 4. แควน้ เมอื งฉอดมีขนุ สามชนเปน็ เจ้าเมือง เป็นแคว้นทีเ่ ป็นอรกิ บั สุโขทยั () 5. กษัตรยิ พ์ ระองค์แรกของราชวงศ์พระรว่ ง คือ พอ่ ขนุ รามคาแหงมหาราช (✓) 6. พอ่ ขุนศรีอนิ ทราทติ ย์ มพี ระนามเดิมวา่ พอ่ ขุนบางกลางหาว (✓) 7. จงั หวัดอยุธยา เดมิ เปน็ ทต่ี ัง้ ของอาณาจกั รสุโขทัย () 8. “ขอมสะบาดโขลญลาพง” เป็นตาแหนง่ ขา้ หลวงของอาณาจกั รสโุ ขทยั () 9. พอ่ ขนุ ศรอี ินทราทิตย์มพี ระราชธิดา คอื พระนางเสอื ง (✓) 10. พอ่ ขนุ ศรอี นิ ทราทติ ยใ์ ช้วธิ กี ารผกู มติ รไมตรกี บั แคว้นต่าง ๆ เพ่ือปอ้ งกันการรุกราน 8. นักเรยี นตรวจสอบความถูกต้องและความเรียบรอ้ ยของผลงาน หากพบข้อผดิ พลาดควรปรบั ปรงุ แกไ้ ขให้ ถูกต้อง 9. นกั เรียนร่วมกันสรุปส่ิงทเ่ี ข้าใจเปน็ ความรรู้ ว่ มกัน ดงั นี้ พ่อขุนศรอี นิ ทราทติ ยท์ รงเป็นพระมหากษัตริยท์ ี่ประกอบพระราชกรณยี กจิ ท่ีสำคัญ โดยการสถาปนา อาณาจกั รสุโขทัยขน้ึ เป็นแหง่ แรกของอาณาจกั รไทย และทรงต่อสกู้ ับศัตรเู พ่ือรกั ษาแผ่นดินไทย • ข•ั้นส•อื่ ส•าร•แล•ะน•าเ•สน•อ •(A•pp•ly•ing• th• e•Co• m• m• u•nic•at•ion• S•kil•l)• •• 10. นักเรยี นนำเสนอผลงานหนา้ ช้ันเรียน กจิ กรรมนี้สรา้ งเสรมิ ทกั ษะศตวรรษท่ี 21 ดา้ นการสือ่ สาร 11. นักเรียนร่วมกันอภิปรายสรปุ เกยี่ วกับวิธกี ารทำงานให้เหน็ การคิดเชิงระบบและวธิ กี ารทำงาน ที่มแี บบแผน
• ข•ัน้ ป•ระ•เม•ินเ•พอ่ื •เพ•ิม่ ค•ณุ •ค่า•บร•ิกา•รส•งั ค•มแ•ละ•จ•ติ ส•าธ•าร•ณะ• (S•el•f-R•eg•ul•at•ing•) 12•. •นกั •เร•ยี นประเมินตนเอง โดยเขยี นแสดงความรสู้ กึ หลงั การเรียน ในประเดน็ ตอ่ ไปนี้ • สิ่งทน่ี ักเรยี นได้เรยี นรใู้ นวนั น้ีคอื อะไร • นกั เรยี นมีส่วนรว่ มกจิ กรรมในกล่มุ มากน้อยเพียงใด • เพ่ือนนกั เรยี นในกลมุ่ มีสว่ นรว่ มกิจกรรมในกลมุ่ มากน้อยเพยี งใด • นักเรียนพอใจกบั การเรยี นในวนั นห้ี รือไม่ เพียงใด • นกั เรยี นจะนำความรู้ท่ีไดน้ ้ไี ปใชใ้ ห้เกิดประโยชน์แก่ตนเอง ครอบครัว และสังคมท่ัวไป ไดอ้ ย่างไร จากน้ันแลกเปล่ียนตรวจสอบขน้ั ตอนการทำงานทกุ ข้ันตอนวา่ จะเพ่มิ คณุ ค่าไปสสู่ งั คม เกิดประโยชน์ตอ่ สังคมให้มากขนึ้ กว่าเดิมในข้ันตอนใดบา้ ง สำหรบั การทำงานในคร้งั ตอ่ ไป สอื่ การเรียนรู้ 1. หนังสือเรียนรายวิชาพน้ื ฐาน ประวตั ิศาสตร์ ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 3 ของสถาบนั พัฒนาคุณภาพวชิ าการ (พว.) 2. ภาพแผนทป่ี ระเทศไทย 3. ขอ้ มลู เหตกุ ารณ์สำคญั กอ่ การสถาปนาอาณาจักรสโุ ขทัย 4. ข้อมลู พระราชกรณยี กจิ ของพอ่ ขนุ ศรอี ินทราทติ ย์ 5. แหลง่ การเรียนรู้ทั้งภายในและภายนอกโรงเรยี น การวดั และประเมินผลการเรียนรู้ 1. วธิ กี ารวดั และประเมนิ ผล 1. ประเมนิ ความรู้ เร่ือง พระราชกรณยี กจิ ของพ่อขนุ ศรอี ินทราทติ ย์ (K) ดว้ ยแบบทดสอบ 2. ประเมนิ กระบวนการทำงานกล่มุ (P) ด้วยแบบประเมนิ 3. ประเมินคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ดา้ นรักชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ ใฝเ่ รยี นรู้ (A) ดว้ ยแบบประเมิน 2. เคร่ืองมือ แบบสงั เกตพฤติกรรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรม 3. เกณฑ์การประเมนิ การประเมินพฤตกิ รรมการเข้าร่วมกจิ กรรม ผ่านตั้งแต่ 2 รายการ ถอื ว่า ผ่าน ผา่ น 1 รายการ ถือว่า ไมผ่ า่ น
แบบประเมินกระบวนการทำงานกลมุ่ รายการการ ระดับคณุ ภาพ ประเมิน กระบวนการ 4321 ทำงานกลุ่ม มกี ารกำหนดบทบาท มกี ารกำหนดบทบาท มีการกำหนดบทบาท ไม่มกี ารกำหนด สมาชิกชดั เจน สมาชิกชดั เจน เฉพาะหัวหน้า บทบาทสมาชกิ และมกี ารช้ีแจง มีการชแ้ี จงเป้าหมาย ไม่มีการชแี้ จง และไม่มกี ารช้ีแจง เปา้ หมาย อยา่ งชัดเจนและ เปา้ หมาย เปา้ หมาย สมาชิก การทำงาน ปฏิบตั งิ านรว่ มกนั อย่างชดั เจน ตา่ งคนตา่ งทำงาน มกี ารปฏบิ ตั ิงาน แต่ไม่มีการประเมนิ ปฏิบัตงิ านรว่ มกัน ร่วมกนั เปน็ ระยะ ๆ ไมค่ รบทกุ คน อย่างร่วมมือร่วมใจ พรอ้ มกบั การประเมิน เป็นระยะ ๆ
แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 4 กลุ่มสาระการเรยี นรู้สังคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม ส 13102 ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ 3 หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี 4 การสถาปนาอาณาจักรไทย ภาคเรียนท่ี 2/2565 เรือ่ ง สมเด็จพระรามาธบิ ดที ่ี 1 (พระเจ้าอ่ทู อง) 1 เวลา 1 ชว่ั โมง สอนวนั ท่ี 25 เดือน พฤศจกิ ายน พ.ศ. 2565 ครูผู้สอน นายพงศธร อยู่สุข …………………………………….............…………………………………………………………………………………………… มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชีว้ ดั มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ส 4.3 เขา้ ใจความเปน็ มาของชาตไิ ทย วัฒนธรรม ภูมิปญั ญาไทย มคี วามรกั ความภูมใิ จ และธำรงความเปน็ ไทย ตัวช้ีวดั ส 4.3 ป.3/1 ระบพุ ระนามและพระราชกรณยี กจิ โดยสังเขปของพระมหากษตั ริย์ไทยที่เป็น ผู้สถาปนาอาณาจักรไทย จดุ ประสงค์การเรียนรู้สตู่ ัวชวี้ ดั 1. ระบพุ ระนามพระมหากษัตริยท์ ่ีทรงสถาปนาอาณาจกั รอยธุ ยา (K) 2. วิเคราะห์พระราชประวตั ขิ องสมเดจ็ พระรามาธบิ ดที ่ี 1 (พระเจา้ อู่ทอง) (P) 3. เหน็ ความสำคัญของการศกึ ษาพระราชประวตั ขิ องพระมหากษตั ริย์ผ้ทู รงสถาปนาอาณาจกั รไทย (A) สาระสำคญั อาณาจกั รอยธุ ยาเป็นอาณาจกั รท่ีถกู สถาปนาโดยสมเดจ็ พระรามาธบิ ดีท่ี 1 (พระเจ้าอทู่ อง) เมือ่ พ.ศ. 1893-1912 ซงึ่ มคี วามเจรญิ ร่งุ เรืองมากในยคุ สมัยของพระองค์ สาระการเรยี นรู้ พระราชประวตั ขิ องสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 (พระเจ้าอทู่ อง) สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 1. ความสามารถในการส่อื สาร 2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ติ
คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ 1. รกั ชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ 2. ใฝเ่ รียนรู้ ชนิ้ งานหรอื ภาระงาน (หลกั ฐาน ร่องรอยแสดงความร้)ู - คำถามท้าทาย ในฐานะทีน่ กั เรียนเป็นพลเมืองของชาติ นักเรยี นจะปฏบิ ตั ิเพอ่ื แสดงออกถงึ ความรักชาติอยา่ งไรนกั เรยี นมวี ธิ ีใน การแสดงความจงรกั ภกั ดตี อ่ สถาบนั พระมหากษตั ริยไ์ ทยอยา่ งไร การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ •ขน้ั •สัง•เก•ต ร•วบ• ร•วม•ข้อ•มลู • (G• a•th•eri•ng•) 1. นักเรียนสงั เกตภาพพระบรมราชานสุ าวรียส์ มเด็จพระรามาธบิ ดีท่ี 1 (พระเจา้ อทู่ อง) จากน้นั รว่ มกัน สนทนาโดยการตอบคำถาม ดังนี้
• บุคคลในภาพคือใคร (สมเดจ็ พระรามาธิบดที ี่ 1 (พระเจา้ อ่ทู อง)) • สมเด็จพระรามาธิบดีท่ี 1 (พระเจา้ อ่ทู อง) คอื ใคร (ผ้สู ถาปนากรุงศรอี ยธุ ยาเป็นราชธาน)ี • นกั เรียนคิดวา่ กรุงศรอี ยุธยามคี วามสำคญั กับอาณาจักรไทยอย่างไร (ตวั อย่างคำตอบ เป็นอาณาจักรที่ 2 หลงั จากอาณาจกั รสโุ ขทัยสิน้ สดุ ลง) 2. นักเรียนศึกษาและรวบรวมขอ้ มลู เกีย่ วกับพระราชประวัติของสมเดจ็ พระรามาธบิ ดที ี่ 1 (พระเจ้าอทู่ อง) จากหนังสือเรยี นและแหล่งการเรยี นรูอ้ ืน่ ๆ เพ่ิมเติม •(ขGน้ั•aคt•ิดhวe•ิเrคinร•าg)ะ•หแ์•ล•ะส•รปุ •คว•าม•รู้ •(P•ro•ce•ssi•ng•) 3•. •นกั เรียนแบ่งกล่มุ ศึกษาขอ้ มูลพระราชประวตั ิของสมเด็จพระรามาธิบดีท่ี 1 (พระเจ้าอู่ทอง) แลว้ สรปุ ข้อมลู พระราชประวตั ขิ องพระองค์เป็นแผนภาพความคิด ดังนี้ สมเดจ็ พระรามาธบิ ดีท่ี 1 หรือพระเจ้าอทู่ อง เป็นพระปฐมบรมกษัตรยิ แ์ หง่ อาณาจกั รอยธุ ยา เสดจ็ พระราชสมภพเมอ่ื พ.ศ. 1855 ทรงสถาปนากรงุ ศรีอยธุ ยาเป็นราชธานขี องอาณาจกั รอยุธยา เมอ่ื จุลศกั ราช 712 ปขี าล โทศก วันศกุ ร์ เดอื นห้า ขน้ึ หกค่ำ (ตรงกับ พ.ศ. 1893) มีพระนามเต็มว่า สมเด็จ พระรามาธบิ ดศี รสี มทุ ร บรมบพิตร พระเจ้าอยหู่ ัว และเสดจ็ สวรรคตเมื่อ ปีระกา เอกศก จลุ ศักราช 731 (ตรงกับ พ.ศ. 1912) ครองราชสมบตั ิ 19 ปี ผสู้ บื ราชบัลลังกต์ อ่ คือ สมเดจ็ พระราเมศวร สวรรคตเมื่อ พ.ศ. 1912 ทรงเปน็ พระมหากษัตริยพ์ ระองค์แรก ครองราชสมบตั ิ 19 ปี ในราชวงศ์อูท่ อง และเป็นปฐมกษัตรยิ ์ (พ.ศ. 1893-1912) ของกรงุ ศรีอยุธยา พระราชประวตั ิ สมเดจ็ พระรามาธบิ ดีท่ี 1 (พระเจ้าอู่ทอง) เป็นผสู้ ถาปนาอาณาจักรอยุธยา พระนามเต็ม คือ สมเด็จพระรามาธิบดี- เปน็ ราชธานี พ.ศ. 1893 ศรีสุนทร บรมบพิตร พระเจ้าอยู่หัว มพี ระราชโอรส คอื สมเดจ็ พระราเมศวร
4. นกั เรยี นคดิ ประเมนิ เพื่อเพมิ่ คุณคา่ แล้วสรุปเป็นความคดิ รวบยอด โดยการตอบคำถาม ดังน้ี • นักเรยี นมวี ธิ ีในการแสดงความจงรกั ภักดีตอ่ สถาบนั พระมหากษตั รยิ ์ไทยอยา่ งไร (ตวั อยา่ งคำตอบ ปฏิบตั ติ นเปน็ คนดี เคารพและเทดิ ทูนสถาบนั พระมหากษตั ริย์) • ข•นั้ •ปฏ•ิบัต•ิแล• ะส• รุป• ค•วา•มร•้หู ล•งั ก•าร•ปฏ•ิบตั• ิ (•A•pp•lyi•ng• an• d•C•on•str•uc•tin• g•th•e •Kn•ow•le•dg•e)• •5.• น•กั เร•ียน• แบ่งกลมุ่ ศกึ ษาเกี่ยวกบั อาณาจกั รอยุธยา โดยการตอบคำถามลงในแบบบนั ทึก ดังตัวอยา่ ง แแบบบบบบัันนททึกกึ • อาณาจกั รอยธุ ยาตง้ั อยจู่ งั หวัดใดในปัจจุบัน (จงั หวัดพระนครศรีอยุธยา) • อาณาจกั รอยธุ ยาต้ังอยู่บริเวณใดในอดตี (อยใู่ นบรเิ วณลมุ่ น้าเจ้าพระยา) • ลักษณะทางภมู ิศาสตรข์ องอาณาจกั รอยธุ ยาเป็นอย่างไร (มสี ภาพเปน็ เกาะซึง่ มแี มน่ า้ 3 สาย ลอ้ มรอบ) • แมน่ า้ 3 สาย ท่ลี อ้ มรอบอาณาจกั รอยธุ ยาแต่ละทศิ มแี มน่ า้ ใดบ้าง • ทิศเหนอื (แมน่ า้ ลพบุรี) • ทศิ ตะวันออก (แมน่ ้าป่าสัก) • ทิศตะวันตก (แมน่ ้าเจ้าพระยา) • ทศิ ใต้ (แม่น้าเจ้าพระยา) • การทอ่ี าณาจักรอยธุ ยามลี กั ษณะทางภมู ศิ าสตรเ์ ปน็ เกาะเกิดจากสาเหตใุ ด (ตวั อย่างคาตอบ พระเดจ็ พระรามาธิบดที ่ี 1 (พระเจ้าอูท่ อง) ทรงดาริให้ขุดคูเชื่อมแมน่ า้ 3 สาย เพอื่ ใหเ้ ปน็ ปราการธรรมชาติปอ้ งกนั ข้าศกึ ) 6. นักเรียนตรวจสอบความถูกตอ้ งและความเรยี บรอ้ ยของผลงาน หากพบข้อผิดพลาดควรปรับปรงุ แกไ้ ขให้ ถกู ต้อง 7. นกั เรียนร่วมกันสรปุ ส่งิ ทเี่ ขา้ ใจเปน็ ความรรู้ ว่ มกนั ดังน้ี อาณาจกั รอยธุ ยาเปน็ อาณาจกั รทีถ่ กู สถาปนาโดยสมเดจ็ พระรามาธบิ ดที ่ี 1 (พระเจา้ อทู่ อง) เมื่อ พ.ศ. 1893-1912 ซ่ึงมีความเจรญิ รุ่งเรอื งมากในยุคสมยั ของพระองค์
• ข•น้ั ส•ือ่ ส•าร•แล•ะน•าเ•สน•อ •(A•pp•ly•ing• th• e•Co• m• m• u•nic•at•ion• S•kil•l)• •• 8. นกั เรียนนำเสนอผลงานการศกึ ษาอาณาจกั รอยธุ ยาหนา้ ชนั้ เรียน กจิ กรรมนส้ี ร้างเสรมิ ทกั ษะศตวรรษท่ี 21 ดา้ นการสอื่ สาร 9. นกั เรยี นรว่ มกันอภิปรายสรุปเกี่ยวกับวธิ กี ารทำงานให้เหน็ การคดิ เชงิ ระบบและวิธกี ารทำงาน ที่มแี บบแผน • ข•้ันป•ระ•เม•นิ เ•พอื่ •เพ•มิ่ ค•ุณ•คา่ •บร•ิกา•รส•ังค•มแ•ละ•จ•ิตส•าธ•าร•ณะ• (S•el•f-R•eg•ul•at•ing•) 10•. •นัก•เร•ียนประเมินตนเอง โดยเขยี นแสดงความรู้สกึ หลงั การเรียน ในประเดน็ ต่อไปนี้ • ส่งิ ที่นักเรียนได้เรยี นรูใ้ นวนั น้ีคอื อะไร • นักเรยี นมสี ว่ นรว่ มกจิ กรรมในกล่มุ มากน้อยเพยี งใด • เพื่อนนักเรียนในกลมุ่ มีส่วนรว่ มกิจกรรมในกลุ่มมากน้อยเพยี งใด • นกั เรียนพอใจกับการเรียนในวนั นีห้ รอื ไม่ เพยี งใด • นกั เรยี นจะนำความร้ทู ไ่ี ด้น้ีไปใชใ้ ห้เกดิ ประโยชนแ์ ก่ตนเอง ครอบครัว และสงั คมทว่ั ไป ได้อย่างไร จากน้นั แลกเปล่ียนตรวจสอบข้ันตอนการทำงานทกุ ขัน้ ตอนว่าจะเพิ่มคุณคา่ ไปสสู่ ังคม เกดิ ประโยชนต์ อ่ สงั คมใหม้ ากขึ้นกว่าเดมิ ในขน้ั ตอนใดบา้ ง สำหรบั การทำงานในครง้ั ต่อไป สอ่ื การเรียนรู้ 1. หนังสอื เรียนรายวิชาพืน้ ฐาน ประวตั ศิ าสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ 3 ของสถาบันพัฒนาคุณภาพวชิ าการ (พว.) 2. ภาพสมเด็จพระรามาธบิ ดีท่ี 1 (พระเจ้าอทู่ อง) 3. ข้อมูลพระราชประวัติของสมเดจ็ พระรามาธิบดที ่ี 1 (พระเจ้าอ่ทู อง) 4. แหลง่ การเรยี นร้ทู ้งั ภายในและภายนอกโรงเรยี น
การวดั และประเมินผลการเรียนรู้ 1. วิธกี ารวดั และประเมนิ ผล 1. ประเมินความรู้ เร่อื ง พระราชประวตั ขิ องสมเด็จพระรามาธิบดที ี่ 1 (พระเจา้ อทู่ อง) (K) ดว้ ยแบบทดสอบ 2. ประเมินกระบวนการทำงานกลุ่ม (P) ดว้ ยแบบประเมิน 3. ประเมนิ คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ ดา้ นรักชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ ใฝ่เรยี นรู้ (A) ด้วยแบบประเมิน 2. เคร่ืองมือ แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเข้ารว่ มกจิ กรรม 3. เกณฑ์การประเมิน การประเมินพฤตกิ รรมการเข้าร่วมกจิ กรรม ผ่านต้งั แต่ 2 รายการ ถอื วา่ ผ่าน ผา่ น 1 รายการ ถือว่า ไมผ่ า่ น แบบประเมนิ กระบวนการทำงานกลมุ่ รายการการ ระดับคณุ ภาพ ประเมิน กระบวนการ 4321 ทำงานกล่มุ มีการกำหนดบทบาท มกี ารกำหนดบทบาท มกี ารกำหนดบทบาท ไมม่ กี ารกำหนด สมาชกิ ชดั เจน สมาชิกชดั เจน เฉพาะหัวหน้า บทบาทสมาชกิ และมีการชี้แจง มีการช้แี จงเปา้ หมาย ไม่มีการชีแ้ จง และไม่มีการช้ีแจง เปา้ หมาย อย่างชัดเจนและ เปา้ หมาย เป้าหมาย สมาชิก การทำงาน ปฏิบัติงานรว่ มกนั อย่างชดั เจน ต่างคนตา่ งทำงาน มีการปฏิบตั ิงาน แต่ไมม่ ีการประเมิน ปฏิบัติงานร่วมกัน ร่วมกัน เป็นระยะ ๆ ไมค่ รบทุกคน อย่างรว่ มมอื รว่ มใจ พรอ้ มกับการประเมนิ เป็นระยะ ๆ
แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 5 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้สงั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ส 13102 ช้ันประถมศึกษาปที ่ี 3 หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 4 การสถาปนาอาณาจักรไทย ภาคเรยี นที่ 2/2565 เรอื่ ง สมเด็จพระรามาธบิ ดที ่ี 1 (พระเจา้ อ่ทู อง) 2 เวลา 1 ชว่ั โมง สอนวนั ท่ี 2 เดือน ธันวาคม พ.ศ. 2565 ครูผู้สอน นายพงศธร อยู่สขุ …………………………………….............…………………………………………………………………………………………… มาตรฐานการเรียนรู/้ ตวั ชีว้ ดั มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ส 4.3 เข้าใจความเปน็ มาของชาตไิ ทย วัฒนธรรม ภมู ิปญั ญาไทย มีความรกั ความภมู ิใจ และธำรงความเป็นไทย ตวั ช้ีวัด ส 4.3 ป.3/1 ระบพุ ระนามและพระราชกรณียกจิ โดยสังเขปของพระมหากษตั รยิ ไ์ ทยทีเ่ ป็น ผู้สถาปนาอาณาจกั รไทย จดุ ประสงคก์ ารเรียนรสู้ ตู่ วั ชวี้ ัด 1. อธบิ ายเกย่ี วกับพระราชกรณยี กจิ ทีส่ ำคญั ของสมเด็จพระรามาธบิ ดที ี่ 1 (พระเจา้ อ่ทู อง) (K) 2. วิเคราะห์พระราชกรณยี กจิ ทส่ี ำคัญของสมเดจ็ พระรามาธบิ ดีที่ 1 (พระเจ้าอู่ทอง) (P) 3. เห็นความสำคัญของการศกึ ษาพระราชกรณยี กิจท่ีสำคญั ของพระมหากษตั ริยผ์ ูส้ ถาปนาอาณาจักรไทย (A) สาระสำคัญ อาณาจกั รอยธุ ยาถูกสถาปนาขึ้นเปน็ ราชธานีโดยสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 (พระเจ้าอู่ทอง) พระราชกรณยี กจิ ท่ีสำคัญ คือ การวางรากฐานการปกครองไวเ้ ปน็ ปึกแผน่ มัน่ คง มีการทำการคา้ กับหัวเมอื งและชาวตา่ งชาติ และ พระองคย์ งั มีพระปรีชาสามารถในการทำสงครามกบั กษตั รยิ ข์ อมจนได้ชยั ชนะ สาระการเรยี นรู้ พระราชกรณยี กจิ ของสมเด็จพระรามาธบิ ดีท่ี 1 (พระเจ้าอ่ทู อง) สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวติ
คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ 1. รักชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ 2. ใฝ่เรียนรู้ ช้ินงานหรอื ภาระงาน (หลักฐาน ร่องรอยแสดงความรู้) - คำถามท้าทาย เพราะเหตใุ ดกรงุ ศรอี ยุธยาในยุคของสมเดจ็ พระรามาธบิ ดีท่ี 1 (พระเจา้ อทู่ อง) จงึ ไดช้ ื่อว่าเปน็ ศนู ยก์ ลาง ทางการค้า การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ •ขนั้ •สัง•เก•ต ร•วบ• ร•วม•ขอ้ •มลู • (G• a•th•eri•ng•) 1. นักเรียนสงั เกตแผนทีป่ ระเทศไทย จากนัน้ รว่ มกนั สนทนา โดยการตอบคำถาม ดงั น้ี • จากแผนท่ี อาณาจกั รอยธุ ยาตงั้ อย่บู ริเวณใด (จงั หวัดพระนครศรีอยธุ ยา) • นกั เรยี นเคยไปเทีย่ วจงั หวดั พระนครศรีอยธุ ยาหรอื ไม่ (ตัวอย่างคำตอบ ยังไม่เคย) • นักเรียนคดิ ว่าจงั หวัดพระนครศรอี ยธุ ยามคี วามสำคัญกับชาติไทยอยา่ งไร
(ตวั อย่างคำตอบ เปน็ เมืองทางประวัตศิ าสตรข์ องไทย) 2. นักเรียนรว่ มกันสนทนาเก่ียวกับผสู้ ถาปนาอาณาจักรอยุธยา เพอื่ ทบทวนความรู้เดมิ โดยการ ตอบคำถาม ดงั น้ี • ใครคอื ผสู้ ถาปนาอาณาจกั รอยธุ ยาเปน็ ราชธานี (สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 (พระเจา้ อทู่ อง)) • สมเดจ็ พระรามาธบิ ดีที่ 1 (พระเจา้ อูท่ อง) ทรงสถาปนาอาณาจักรอยธุ ยาเป็นราชธานเี มื่อ พ.ศ. ใด (พ.ศ. 1893) • สมเดจ็ พระรามาธิบดีที่ 1 (พระเจ้าอูท่ อง) ทรงครองราชสมบตั ิท้ังหมดกีป่ ี (19 ปี) 3. นกั เรยี นรว่ มกันศกึ ษาเกย่ี วกบั พระราชกรณียกิจของสมเดจ็ พระรามาธบิ ดที ี่ 1 (พระเจ้าอทู่ อง) จากหนังสอื เรยี นและแหล่งการเรียนรอู้ น่ื ๆ เพิ่มเตมิ ขั้นคิดวเิ คราะห์และสรปุ ความรู้ (Processing) •(G•at•he•rin•g)• • • • • • • • • • • • • 4•. •นักเรียนสังเกตแผนที่แสดงตำแหน่งทตี่ งั้ ของกรงุ ศรีอยุธยา จากนั้นร่วมกนั แสดงความคดิ เหน็ โดยการตอบคำถาม ดงั นี้ แผนท่แี สดงตาแหนง่ ทตี่ ง้ั ของกรุงศรอี ยธุ ยา • จากแผนท่ี สมเดจ็ พระรามาธิบดที ่ี 1 (พระเจา้ อทู่ อง) ทรงสรา้ งพระราชวงั ขน้ึ ท่ใี ด (ตำบลหนองโสน หรอื บงึ พระราม)
• จากแผนท่ี ทำเลทีต่ ัง้ ของกรงุ ศรอี ยธุ ยาอยใู่ นบรเิ วณใด (บริเวณลมุ่ น้ำเจ้าพระยาตอนล่าง) • แมน่ ำ้ สายสำคัญทไี่ หลผา่ นกรุงศรอี ยธุ ยามแี ม่น้ำสายใดบา้ ง (แมน่ ำ้ เจ้าพระยา แมน่ ำ้ ปา่ สกั และแม่น้ำลพบรุ ี ซงึ่ ไหลมาบรรจบกัน) • ถ้าสังเกตจากแผนทีจ่ ะเห็นวา่ ลักษณะภูมปิ ระเทศของกรงุ ศรอี ยุธยาเป็นอยา่ งไร (ลักษณะพืน้ ทขี่ องกรุงศรอี ยธุ ยาจะเป็นเกาะ โดยมีแมน่ ้ำลอ้ มรอบ) • นักเรียนคดิ ว่าการมลี กั ษณะพื้นทเ่ี ป็นเกาะ ล้อมรอบดว้ ยแม่น้ำส่งผลดีตอ่ กรงุ ศรอี ยธุ ยาหรอื ไม่ อย่างไร (ตวั อยา่ งคำตอบ ส่งผลดี เพราะจะเปน็ ปอ้ มปราการอยา่ งดใี ห้กับกรุงศรอี ยธุ ยาในการศึกสงคราม) 5. นักเรยี นรว่ มกันวิเคราะหเ์ ก่ยี วกับทำเลท่ตี ้งั ของกรงุ ศรอี ยุธยา โดยการตอบคำถาม ดงั น้ี • ปจั จยั ใดทที่ ำใหส้ มเด็จพระรามาธิบดีท่ี 1 (พระเจา้ อู่ทอง) ทรงเลือกต้งั ราชธานบี รเิ วณล่มุ น้ำ เจา้ พระยาตอนล่าง โดยบนั ทกึ คำตอบของนักเรยี นเปน็ แผนภาพความคดิ บนกระดาน ดังตวั อย่าง มีความเหมาะสมดา้ นยทุ ธศาสตร์เนอื่ งจาก มีความอุดมสมบรู ณ์ เหมาะแก่การ มลี กั ษณะภูมิประเทศเป็นเกาะ ซงึ่ มแี ม่นา้ เพาะปลกู โดยเฉพาะการปลูกข้าว ล้อมรอบเปรียบเสมอื นปราการธรรมชาติ ซ่งึ เป็นอาหารหลกั ของคนไทย เพ่ือป้องกันข้าศึก ปัจจยั ทีท่ าให้ เลอื กตั้งราชธานี บรเิ วณลุ่มน้า เจ้าพระยาตอนลา่ ง มีแม่น้าสายสาคญั ไหลผา่ นหลายสาย ทาให้สะดวกแก่การคมนาคมขนสง่ และ ติดตอ่ คา้ ขายกับหวั เมอื งต่าง ๆ และ เรือสินค้าตา่ งชาติสามารถแล่นมาค้าขายได้ เพราะอยูไ่ ม่ไกลจากทะเล
6. นักเรียนแบ่งกล่มุ ศึกษาเก่ียวกับพระราชกรณยี กจิ ของสมเด็จพระรามาธบิ ดที ี่ 1 (พระเจ้าอูท่ อง) หลงั จากท่ีสถาปนากรุงศรอี ยุธยาเปน็ ราชธานีท่กี ำหนดให้ แลว้ รว่ มกนั สรุปพระราชกรณยี กิจทส่ี ำคญั ของพระองค์ เป็นแผนภาพความคดิ ดงั ตัวอยา่ ง ในสมยั สมเด็จพระรามาธบิ ดที ี่ 1 พระองค์ทรงเจรญิ สมั พันธไมตรกี ับแว่นแคว้นต่าง ๆ มากมาย แมก้ ระทง่ั ขอม ซ่ึงก็เป็นมาดว้ ยดจี นกระทั่งกษัตริย์ขอมสวรรคต พระราชโอรสนาม พระบรมลำพงศ์ ทรงข้ึนครองราชย์ ซ่งึ พระบรมลำพงศก์ แ็ ปรพกั ตร์ไม่เป็นไมตรีดงั แตก่ อ่ น สมเดจ็ พระรามาธิบดที ่ี 1 จงึ มีบัญชาใหส้ มเด็จพระราเมศวรยก ทัพไปตีกัมพชู า และให้สมเด็จพระบรมราชาธริ าชที่ 1 หรือขุนหลวงพะงว่ั ทรงยกทพั ไปช่วย จึงสามารถตีเมอื งนคร ธมแตกได้ พระบรมลำพงศ์สวรรคตในศกึ ครง้ั น้ี สมเด็จพระบรมราชาธริ าชที่ 1 จึงแต่งตัง้ ปาสตั พระราชโอรสของพระบรมลำพงศเ์ ป็นกษัตรยิ ข์ อม และพระองคไ์ ดท้ รงวางรากฐานการปกครองไว้ เปน็ ปกึ แผน่ ม่นั คง โดยนำรปู แบบการปกครองแบบจตสุ ดมภ์มาใช้ในการบริหารบ้านเมอื ง และแบ่งการปกครองหัวเมืองตา่ ง ๆ เปน็ เมอื งลูกหลวง หัวเมืองชน้ั ใน หวั เมอื งช้ันนอก และเมืองประเทศราช และ จากทำเลที่ต้งั ของกรุงศรอี ยุธยา พระปรีชาสามารถของพระเจา้ อู่ทองทำใหม้ ีชาวตา่ งชาติไม่วา่ จะเป็นจนี อนิ เดีย ชวา มลายู เขา้ มาติดตอ่ ทำการคา้ จำนวนมาก และพระองคท์ รงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สรา้ ง วดั ตา่ ง ๆ สรา้ งวดั พุทไธศวรรย์ เม่ือ พ.ศ. 1876 วดั ป่าแก้ว เมื่อ พ.ศ. 1900 วัดพระราม เม่อื พ.ศ. 1912 ทรงทาการค้ากบั จนี อนิ เดีย ชวา มลายู ทาให้กรุงศรอี ยุธยาเป็นศนู ยก์ ลางทางการคา้ ด้านการค้า สร้างวดั พทุ ไธศวรรยเ์ มอื่ พ.ศ. 1876 ทรงทาสงคราม ดา้ นสงคราม พระราชกรณยี กิจของ ดา้ นศาสนา สร้างวดั ป่าแกว้ ชนะขอมและไดน้ ครธม สมเดจ็ พระรามาธิบดีที่ 1 เม่อื พ.ศ. 1900 เปน็ เมืองขน้ึ (พระเจา้ อู่ทอง) ดา้ นการปกครอง สร้างวดั พระรามเมอ่ื พ.ศ. 1912 การปกครองแบบจตุสดมภ์ เมืองลูกหลวง หัวเมืองชน้ั ใน หัวเมืองช้ันนอก เมืองประเทศราช (เมืองข้นึ )
7. นกั เรยี นคิดประเมินเพือ่ เพมิ่ คุณคา่ แล้วสรุปเปน็ ความคดิ รวบยอด โดยการตอบคำถาม ดงั น้ี เพราะเหตใุ ดกรงุ ศรอี ยุธยาในยคุ ของสมเดจ็ พระรามาธิบดที ่ี 1 (พระเจา้ อทู่ อง) จึงได้ช่ือวา่ เปน็ ศูนยก์ ลางทางการคา้ (ตัวอยา่ งคำตอบ เพราะพระปรีชาสามารถของพระเจ้าอู่ทองในการเลอื กทำเลที่ตงั้ เมืองท่ีทำใหส้ ามารถ ทำการคา้ กับเมอื งต่าง ๆ ไดส้ ะดวก โดยการใช้แมน่ ้ำในการคมนาคม และท่สี ำคญั ทำเลทตี่ ้ังก็อยไู่ มไ่ กลจากทะเล ทำ ให้มีชาวตา่ งชาติทั้งจากเอเชยี และยโุ รปเขา้ มาตดิ ตอ่ คา้ ขายจำนวนมาก) ขัน้ ปฏบิ ัตแิ ละสรุปความรู้หลงั การปฏิบตั ิ (Applying and Constructing the Knowledge) • • • • • • • • • • • • • • • • •• • • • • • • • • • • • • • • • • • • •8.• น•ักเร•ยี น• ศกึ ษาเกี่ยวกบั การสถาปนาอาณาจกั รอยธุ ยาทก่ี ำหนด แลว้ เลือกพยญั ชนะหนา้ ขอ้ ความ มาเตมิ ลงใน ให้ถกู ตอ้ งสมบูรณ์ ดงั ตวั อยา่ ง (ค) 1. กรุงศรีอยธุ ยามีลกั ษณะเปน็ เกาะ ก. การปกครอง (จ) 2. มแี มน่ า้ สายสาคัญไหลผา่ น 3 สาย คือ ข. การคมนาคม ค. ลักษณะภมู ิประเทศ แมน่ ้าเจ้าพระยา แม่น้าปา่ สัก ง. แม่น้าลพบุรี แม่น้าลพบุรี จ. ทรัพยากรธรรมชาติ (ฉ) 3. ปฐมกษัตริยแ์ หง่ ราชวงศอ์ ู่ทอง ฉ. สมเด็จพระรามาธิบดที ่ี 1 (ก) 4. เมืองลูกหลวง หัวเมืองช้นั ใน ช. แม่นา้ เจ้าพระยา หัวเมืองช้นั นอก เมอื งประเทศราช ซ. พอ่ ขนุ ศรีอินทราทติ ย์ (ง) 5. แมน่ า้ ทางทศิ เหนือ ฌ. นครธม (ข) 6. อยธุ ยาสามารถตดิ ตอ่ ทาการคา้ กับ ญ. พระราเมศวร เมอื งตา่ ง ๆ และทาการคา้ กบั ชาวต่างชาติ (ฌ) 7. เมืองข้นึ ของกรงุ ศรอี ยธุ ยา 9. นักเรยี นตรวจสอบความถูกต้องและความเรียบรอ้ ยของผลงาน หากพบข้อผดิ พลาดควรปรับปรุงแก้ไขให้ ถกู ต้อง 10. นักเรียนร่วมกันสรุปสิง่ ทเ่ี ข้าใจเป็นความรรู้ ว่ มกนั ดงั น้ี อาณาจกั รอยธุ ยาถกู สถาปนาข้นึ เป็นราชธานีโดยสมเดจ็ พระรามาธิบดที ี่ 1 (พระเจ้าอทู่ อง) พระราชกรณยี กจิ ท่ีสำคญั คอื การวางรากฐานการปกครองไวเ้ ปน็ ปึกแผ่นมนั่ คง มีการทำการคา้ กับหวั เมอื งและ ชาวตา่ งชาติ และพระองค์ยังมพี ระปรชี าสามารถในการทำสงครามกบั กษตั รยิ ์ขอมจนไดช้ ยั ชนะ
• ข•้ันส•่ือส•าร•แล•ะน•าเ•สน•อ •(A•pp•ly•ing• th• e•Co• m• m• u•nic•at•ion• S•kil•l)• •• 11. นักเรยี นนำเสนอผลงานหนา้ ชนั้ เรยี น กิจกรรมน้ีสร้างเสริมทกั ษะศตวรรษท่ี 21 ดา้ นการสือ่ สาร 12. นกั เรยี นรว่ มกนั อภปิ รายสรุปเกย่ี วกบั วิธกี ารทำงานใหเ้ ห็นการคิดเชิงระบบและวิธกี ารทำงาน ทม่ี แี บบแผน • ข•น้ั ป•ระ•เม•นิ เ•พ่อื •เพ•่มิ ค•ณุ •ค่า•บร•กิ า•รส•งั ค•มแ•ละ•จ•ิตส•าธ•าร•ณะ• (S•el•f-R•eg•ul•at•ing•) 13•. •นกั •เร•ยี นประเมนิ ตนเอง โดยเขียนแสดงความรูส้ กึ หลงั การเรยี น ในประเดน็ ต่อไปน้ี • สิง่ ทนี่ ักเรยี นได้เรียนรใู้ นวันนคี้ อื อะไร • นกั เรียนมีส่วนรว่ มกจิ กรรมในกลมุ่ มากนอ้ ยเพยี งใด • เพอ่ื นนกั เรียนในกลุม่ มีส่วนร่วมกจิ กรรมในกลมุ่ มากน้อยเพยี งใด • นกั เรียนพอใจกับการเรียนในวนั นห้ี รือไม่ เพยี งใด • นกั เรยี นจะนำความร้ทู ีไ่ ดน้ ีไ้ ปใช้ใหเ้ กดิ ประโยชนแ์ ก่ตนเอง ครอบครัว และสงั คมทวั่ ไป ไดอ้ ยา่ งไร จากนั้นแลกเปลีย่ นตรวจสอบขัน้ ตอนการทำงานทกุ ขน้ั ตอนวา่ จะเพม่ิ คณุ ค่าไปสู่สังคม เกิดประโยชน์ตอ่ สงั คมให้มากข้ึนกว่าเดิมในขน้ั ตอนใดบา้ ง สำหรับการทำงานในครัง้ ตอ่ ไป สื่อการเรยี นรู้ 1. หนงั สือเรียนรายวิชาพื้นฐาน ประวตั ศิ าสตร์ ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 3 ของสถาบันพัฒนาคุณภาพวชิ าการ (พว.) 2. แผนทป่ี ระเทศไทย 3. แผนทแ่ี สดงท่ีตงั้ ของกรุงศรอี ยธุ ยา 4. แหล่งการเรยี นรทู้ ัง้ ภายในและภายนอกโรงเรียน
การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้ 1. วธิ กี ารวดั และประเมินผล 1. ประเมนิ ความรู้ เรอื่ ง พระราชกรณียกจิ ของสมเดจ็ พระรามาธิบดีที่ 1 (พระเจา้ อทู่ อง) (K) ด้วยแบบทดสอบ 2. ประเมินกระบวนการทำงานกลุม่ (P) ดว้ ยแบบประเมิน 3. ประเมนิ คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ ดา้ นรกั ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ใฝเ่ รียนรู้ (A) ด้วยแบบประเมิน 2. เครื่องมือ แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกิจกรรม 3. เกณฑ์การประเมนิ การประเมนิ พฤตกิ รรมการเข้ารว่ มกจิ กรรม ผา่ นต้ังแต่ 2 รายการ ถอื ว่า ผ่าน ผา่ น 1 รายการ ถือว่า ไมผ่ า่ น แบบประเมินกระบวนการทำงานกลมุ่ รายการการ ระดับคณุ ภาพ ประเมนิ กระบวนการ 4321 ทำงานกลุ่ม มกี ารกำหนดบทบาท มีการกำหนดบทบาท มกี ารกำหนดบทบาท ไมม่ ีการกำหนด สมาชิกชดั เจน สมาชกิ ชดั เจน เฉพาะหัวหน้า บทบาทสมาชิก และมกี ารชแี้ จง มกี ารชแ้ี จงเปา้ หมาย ไม่มีการช้ีแจง และไม่มกี ารชแ้ี จง เป้าหมาย อย่างชดั เจนและ เป้าหมาย เปา้ หมาย สมาชกิ การทำงาน ปฏบิ ตั งิ านร่วมกัน อย่างชดั เจน ตา่ งคนตา่ งทำงาน มกี ารปฏบิ ตั งิ าน แต่ไม่มีการประเมิน ปฏิบัติงานร่วมกนั รว่ มกนั เปน็ ระยะ ๆ ไมค่ รบทุกคน อย่างรว่ มมือรว่ มใจ พรอ้ มกบั การประเมนิ เป็นระยะ ๆ
แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 6 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม ส 13102 ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 3 หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 4 การสถาปนาอาณาจักรไทย ภาคเรยี นที่ 2/2565 เรื่อง สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช 1 เวลา 1 ชวั่ โมง สอนวันที่ 9 เดือน ธนั วาคม พ.ศ. 2565 ครูผู้สอน นายพงศธร อยู่สขุ …………………………………….............…………………………………………………………………………………………… มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชี้วัด มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ส 4.3 เขา้ ใจความเป็นมาของชาติไทย วฒั นธรรม ภมู ปิ ญั ญาไทย มีความรกั ความภูมใิ จ และธำรงความเป็นไทย ตัวชวี้ ดั ส 4.3 ป.3/1 ระบพุ ระนามและพระราชกรณยี กจิ โดยสังเขปของพระมหากษตั ริย์ไทยที่เป็น ผู้สถาปนาอาณาจกั รไทย จุดประสงคก์ ารเรียนรสู้ ตู่ วั ชว้ี ัด 1. ระบุพระนามของพระมหากษตั ริย์ผูส้ ถาปนาอาณาจักรธนบรุ ี (K) 2. วิเคราะห์พระราชประวัตขิ องสมเด็จพระเจ้าตากสนิ มหาราช (P) 3. เหน็ ความสำคญั ของการศกึ ษาพระราชประวัตขิ องพระมหากษตั ริยผ์ สู้ ถาปนาอาณาจักรไทย (A) สาระสำคญั สมเดจ็ พระเจ้าตากสินมหาราชทรงเป็นพระมหากษตั รยิ ์ผกู้ ่อตงั้ อาณาจกั รธนบรุ ี และเปน็ พระมหากษัตรยิ ์ พระองค์เดียวของราชอาณาจักรธนบรุ ี สาระการเรยี นรู้ พระราชประวตั ขิ องสมเดจ็ พระเจา้ ตากสนิ มหาราช สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวติ
คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ 1. รกั ชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ 2. ใฝเ่ รียนรู้ ชิน้ งานหรือภาระงาน (หลกั ฐาน ร่องรอยแสดงความร)ู้ - คำถามทา้ ทาย ถา้ นักเรียนอยากเป็นคนเรยี นเก่ง มคี วามฉลาดรอบรู้เชน่ เดียวกบั สมเดจ็ พระเจา้ ตากสินมหาราช นักเรียนจะ ปฏิบตั ิตนอย่างไร การจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ •ขัน้ •สัง•เก•ต ร•วบ• ร•วม•ขอ้ •มลู • (G• a•th•eri•ng•) 1. นักเรยี นสงั เกตภาพเกย่ี วกบั สมเด็จพระเจ้าตากสนิ มหาราช จากน้ันร่วมกนั สนทนา โดยการตอบคำถาม ดังนี้
• บคุ คลในภาพคือใคร (สมเดจ็ พระเจ้าตากสนิ มหาราช) • สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชคอื ใคร (ผสู้ ถาปนาอาณาจักรธนบุรเี ปน็ ราชธานี) • อาณาจกั รธนบรุ เี ปน็ อาณาจกั รท่เี ทา่ ใดของอาณาจักรไทย (อาณาจักรที่ 3 ของอาณาจักรไทย หลังการสิ้นสุดของอาณาจักรกรุงศรีอยธุ ยา) • นกั เรยี นทราบพระราชประวตั ขิ องสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชหรือไม่ (ตวั อย่างคำตอบ ยังไม่ทราบ) 2. นักเรียนศกึ ษาและรวบรวมข้อมลู เกี่ยวกับพระราชประวตั ิของสมเดจ็ พระเจ้าตากสินมหาราช จากหนงั สอื เรียนและแหล่งการเรียนรอู้ ่นื ๆ เพิม่ เติม •(ขG้ัน•aคt•ดิhวe•เิ rคinร•าg)ะ•ห์แ•ล•ะส•รุป•คว•าม•รู้ •(P•ro•ce•ssi•ng•) 3•. •นักเรียนแบง่ กลมุ่ ศึกษาเกยี่ วกบั พระราชประวัติของสมเดจ็ พระเจา้ ตากสินมหาราชทกี่ ำหนด จากนน้ั ร่วมกนั สรุปพระราชประวตั ิของพระองค์เปน็ แผนภาพความคดิ แล้วนำเสนอดังตัวอยา่ ง สมเดจ็ พระเจ้าตากสินมหาราช พระราชสมภพเมอื่ วนั อาทติ ย์ เดือน 5 ข้นึ 15 คำ่ ปีขาล ฉศก จุล ศกั ราช 1096 ตรงกบั วนั ท่ี 17 เมษายน พ.ศ. 2277 ในแผน่ ดนิ สมเดจ็ พระเจ้าอยูห่ วั บรมโกศ พระมหากษตั รยิ แ์ หง่ กรุงศรอี ยธุ ยา มพี ระนามเดมิ ว่า สิน พระราชบิดาเปน็ ชาวจนี ชือ่ นายไหฮอง เปน็ นายอากรบ่อนเบ้ยี มบี รรดาศกั ด์ิ มารดาชือ่ นางนกเอ้ยี ง เมอื่ ยังทรงพระเยาว์เจ้าพระยาจักรีได้ขอ สมเด็จพระเจ้าตากสนิ มหาราชไปเลีย้ งเป็นบตุ รบุญธรรม และไดต้ ้ังชอ่ื พระองค์ท่านว่า สิน พอนายสินอายไุ ด้ 9 ขวบ เจ้าพระยาจักรกี น็ ำไปฝากใหเ้ ล่าเรียนหนงั สอื อยู่ในสำนกั ของพระอาจารยท์ องดี วัดโกษาวาส ครั้นอายไุ ด้ 13 ปี เจา้ พระยาจกั รีไดน้ ำนายสินเข้าถวายตัวรบั ราชการเปน็ มหาดเล็ก ในสมเดจ็ พระเจ้าอยหู่ วั บรมโกศ ตามประเพณีของการรบั ราชการในสมยั น้ัน ในระหว่างรบั ราชการเปน็ มหาดเล็กนายสินได้พยายามศึกษาหาความรู้ทางด้านภาษาตา่ งประเทศหลายภาษา มภี าษาจนี ภาษาญวน และภาษาแขก จนสามารถพดู ได้ 3 ภาษา อยา่ งชำนิชำนาญ เนอ่ื งจากนายสินเป็นผฉู้ ลาดรอบรู้ ขนบธรรมเนียมราชกิจตา่ ง ๆ โดยมาก จงึ ได้รบั พระกรณุ าโปรดเกล้าโปรดกระหมอ่ มให้นายสนิ เปน็ มหาดเล็กรายงาน ดว้ ยราชการท้ังหลายในกรมมหาดไทยและกรมวงั ศาลหลวง นายสินไดป้ ฏิบัติราชการดว้ ย ความวริ ยิ อุตสาหะและมคี วามดคี วามชอบมาก จงึ ได้รับพระกรุณาโปรดเกลา้ ฯ ให้เป็นหลวงยกกระบัตรเมอื งตาก ช่วยราชการอยกู่ บั พระยาตาก ครัน้ เมอ่ื พระยาตากถงึ แกก่ รรมลงก็ทรง พระกรณุ าโปรดเกล้าฯ ให้เลื่อนหลวงยกกระบตั ร (สิน) เปน็ พระยาตาก ปกครองเมืองตากแทน พ.ศ. 2308 พระยาตาก (สนิ ) ไดร้ บั พระกรุณาโปรดเกลา้ ฯ ให้เขา้ มาชว่ ยราชการสงครามเพอ่ื ป้องกนั พมา่ ในกรุงศรอี ยุธยา พระยาตาก (สิน) มฝี ีมอื การรบป้องกันพระนครอย่างเข้มแขง็ มคี วามดีความชอบมาก จงึ ไดร้ ับพระกรณุ าโปรด เกล้าฯ ให้เลอื่ นตำแหนง่ ขน้ึ เป็นพระยาวชริ ปราการ (สนิ ) สำเรจ็ ราชการเมืองกำแพงเพชรแทนเจา้ เมอื งเดมิ ท่ี ถึงแกก่ รรม พระองค์เสดจ็ สวรรคตเมอ่ื วันที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2325
เมอ่ื พระชนมพรรษา 48 พรรษา หลงั ถูกสมเด็จเจา้ พระยามหากษัตรยิ ์ศึกซง่ึ เป็นพระสหายสำเร็จโทษ และ สบื ราชสมบัตติ อ่ เป็นตน้ ราชวงศ์จกั รใี นปัจจุบนั รวมเวลาครองราชย์ 15 ปี เปน็ บตุ รบญุ ธรรมของพระยาจกั รี ศกึ ษาเวลาเรยี นอยู่ท่ีโกษาวาส พระนามเดิมวา่ สิน เรยี นเก่ง มคี วามเฉลียวฉลาด รอบรู้ กอ่ นรับราชการ บิดา คือ ไหฮอง รบั ราชการในสมัยพระเจา้ อย่หู วั บรมโกศ เปน็ ชาวจีน พระราชประวตั ิ บดิ า มารดา ของสมเดจ็ พระเจา้ - การรบั ราชการ เปน็ พระยาตาก ปกครองเมอื งตาก มารดา คือ นางนกเอี้ยง ตากสินมหาราช การครองราชย์ เป็นพระยาวชริ ปราการปกครองเมอื ง กาแพงเพชร สถาปนากรุงธนบรุ ีเป็นราชธานี ครองราชย์ พ.ศ. 2310 ครองราชย์ 15 ปี สวรรคต พ.ศ. 2325 4. นักเรียนคดิ ประเมนิ เพ่ือเพม่ิ คณุ ค่า แลว้ สรุปเปน็ ความคดิ รวบยอด โดยการตอบคำถาม ดังนี้ • ถา้ นักเรยี นอยากเปน็ คนเรียนเก่ง มคี วามฉลาดรอบรู้เช่นเดยี วกบั สมเด็จพระเจ้าตากสนิ -มหาราช นักเรยี นจะปฏบิ ัติตนอยา่ งไร (ตัวอย่างคำตอบ ตัง้ ใจเรยี นหนงั สือ หมั่นทบทวนบทเรยี น ถามเมือ่ ไม่เขา้ ใจในบทเรียน)
• ข•้นั •ปฏ•บิ ัต•แิ ล• ะส• รปุ• ค•วา•มร•ูห้ ล•งั ก•าร•ปฏ•บิ ัต• ิ (•A•pp•lyi•ng• an• d•C•on•str•uc•tin• g•th•e •Kn•ow•le•dg•e)• •5.• น•ักเร•ียน• แบง่ กลุ่มศึกษาเกยี่ วกบั อาณาจักรธนบรุ ี โดยการตอบคำถามลงในแบบบันทึก ดังตัวอยา่ ง แบบบนั ทกึ • อาณาจกั รธนบุรตี งั้ อยูท่ ่ีใด (กรุงเทพมหานคร) • อาณาจกั รธนบุรตี ั้งอย่บู รเิ วณใด (ฝั่งตะวันตกของแม่น้าเจา้ พระยา) • ลกั ษณะทางภูมศิ าสตรข์ องอาณาจักรธนบรุ เี ปน็ อย่างไร (เปน็ เมอื งหนา้ ด่านชายทะเล มีพ้ืนที่ ไม่กวา้ งมากนกั และอยู่ปากแม่น้า สามารถเดินเรือเขา้ ออกได้สะดวก) • ปัจจยั ใดที่ทาใหส้ มเดจ็ พระเจ้าตากสินมหาราชทรงเลือกรงุ ธนบุรเี ปน็ ราชธานี (1. กรงุ ธนบรุ ีเปน็ เมืองขนาดเลก็ เหมาะสมกบั กาลงั ปอ้ งกันทัง้ ทางบกและทางนา้ 2. กรงุ ธนบุรีต้งั อยู่ปากแมน่ า้ เจ้าพระยา สะดวกในการตดิ ตอ่ คา้ ขายกบั ต่างประเทศ 3. สะดวกในการควบคุมการลาเลยี งอาวธุ และเสบียงตา่ ง ๆ ไปตามหวั เมอื ง เมอื่ เกดิ ศึกสงคราม 4. หากข้าศึกยกกาลงั มามากเกนิ กว่าทีก่ าลงั ของกรงุ ธนบรุ จี ะต้านทานได้ กส็ ามารถย้ายไปตง้ั ม่นั ที่จนั ทบรุ ีได้ 5.กรุงธนบุรีมีปอ้ มปราการอยสู่ องปากแม่นา้ สามารถใชใ้ นการป้องกันขา้ ศึกได้ คือ ป้อมวิไชยประสิทธ์ิ และปอ้ มวิไชยเยนทร)์ 6. นกั เรียนตรวจสอบความถูกต้องและความเรยี บรอ้ ยของผลงาน หากพบข้อผดิ พลาดควรปรบั ปรงุ แก้ไขให้ ถูกต้อง 7. นกั เรียนรว่ มกนั สรุปสิ่งทเ่ี ขา้ ใจเป็นความรูร้ ว่ มกัน ดงั น้ี สมเดจ็ พระเจ้าตากสนิ มหาราชทรงเป็นพระมหากษตั รยิ ผ์ ูก้ ่อต้งั อาณาจกั รธนบุรี และเป็น พระมหากษตั ริยพ์ ระองคเ์ ดยี วของราชอาณาจกั รธนบุรี • ข•น้ั ส•่อื ส•าร•แล•ะน•าเ•สน•อ •(A•pp•ly•ing• th• e•C•om• m• u•nic•at•ion• S•kil•l)• •• 8. นกั เรยี นนำเสนอผลงานการศกึ ษาอาณาจักรธนบรุ ีหน้าช้ันเรียน กจิ กรรมนีส้ รา้ งเสรมิ ทกั ษะศตวรรษท่ี 21 ดา้ นการสือ่ สาร
9. นักเรียนรว่ มกันอภิปรายสรุปเกี่ยวกับวธิ กี ารทำงานใหเ้ หน็ การคิดเชงิ ระบบและวธิ กี ารทำงาน ที่มแี บบแผน • ข•น้ั ป•ระ•เม•ินเ•พ่ือ•เพ•มิ่ ค•ณุ •คา่ •บร•ิกา•รส•ังค•มแ•ละ•จ•ิตส•าธ•าร•ณะ• (S•el•f-R•eg•ul•at•ing•) •••• 10. นักเรียนประเมินตนเอง โดยเขยี นแสดงความรู้สกึ หลังการเรยี น ในประเดน็ ต่อไปน้ี • สิ่งทีน่ ักเรียนได้เรยี นรูใ้ นวันน้ีคอื อะไร • นักเรยี นมสี ่วนรว่ มกิจกรรมในกลมุ่ มากนอ้ ยเพียงใด • เพอ่ื นนกั เรียนในกลมุ่ มสี ่วนรว่ มกิจกรรมในกลุ่มมากนอ้ ยเพยี งใด • นกั เรียนพอใจกับการเรียนในวนั นห้ี รือไม่ เพยี งใด • นกั เรยี นจะนำความรู้ที่ได้นไ้ี ปใช้ให้เกิดประโยชนแ์ ก่ตนเอง ครอบครวั และสังคมทว่ั ไป ได้อยา่ งไร จากนัน้ แลกเปลี่ยนตรวจสอบขน้ั ตอนการทำงานทกุ ขน้ั ตอนวา่ จะเพมิ่ คณุ คา่ ไปสูส่ งั คม เกดิ ประโยชน์ต่อสงั คมใหม้ ากข้นึ กว่าเดิมในขน้ั ตอนใดบา้ ง สำหรบั การทำงานในคร้ังตอ่ ไป สือ่ การเรยี นรู้ 1. หนงั สือเรียนรายวิชาพน้ื ฐาน ประวตั ศิ าสตร์ ชัน้ ประถมศึกษาปที ่ี 3 ของสถาบันพัฒนาคุณภาพวิชาการ (พว.) 2. ภาพสมเดจ็ พระเจ้าตากสินมหาราช 3. ขอ้ มูลพระราชประวัตขิ องสมเดจ็ พระเจ้าตากสนิ มหาราช 4. แหล่งการเรยี นรูท้ ัง้ ภายในและภายนอกโรงเรยี น การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้ 1. วธิ ีการวดั และประเมินผล 1. ประเมินความรู้ เรื่อง พระราชประวตั ขิ องสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช (K) ดว้ ยแบบทดสอบ 2. ประเมนิ กระบวนการทำงานกลมุ่ (P) ด้วยแบบประเมนิ
3. ประเมินคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ ดา้ นรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ใฝเ่ รยี นรู้ (A) ด้วยแบบประเมิน 2. เคร่ืองมือ แบบสงั เกตพฤติกรรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรม 3. เกณฑ์การประเมิน การประเมินพฤตกิ รรมการเข้าร่วมกจิ กรรม ผ่านตง้ั แต่ 2 รายการ ถือว่า ผ่าน ผ่าน 1 รายการ ถอื ว่า ไมผ่ า่ น แบบประเมนิ กระบวนการทำงานกลมุ่ รายการการ ระดับคุณภาพ ประเมนิ กระบวนการ 4321 ทำงานกลุ่ม มีการกำหนดบทบาท มีการกำหนดบทบาท มกี ารกำหนดบทบาท ไมม่ ีการกำหนด สมาชิกชดั เจน สมาชิกชดั เจน เฉพาะหัวหน้า บทบาทสมาชกิ และมีการชแ้ี จง มีการชแ้ี จงเป้าหมาย ไม่มกี ารชี้แจง และไมม่ ีการชีแ้ จง เปา้ หมาย อย่างชัดเจนและ เปา้ หมาย เป้าหมาย สมาชิก การทำงาน ปฏบิ ตั งิ านรว่ มกนั อยา่ งชัดเจน ต่างคนตา่ งทำงาน มีการปฏิบัติงาน แต่ไมม่ ีการประเมิน ปฏบิ ตั ิงานร่วมกัน รว่ มกนั เปน็ ระยะ ๆ ไม่ครบทุกคน อยา่ งร่วมมอื รว่ มใจ พร้อมกับการประเมนิ เป็นระยะ ๆ
แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 7 กลุ่มสาระการเรยี นรู้สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม ส 13102 ช้ันประถมศกึ ษาปีที่ 3 หน่วยการเรยี นรู้ที่ 4 การสถาปนาอาณาจักรไทย ภาคเรยี นที่ 2/2565 เร่อื ง พระบาทสมเด็จพระพทุ ธยอดฟา้ จุฬาโลกมหาราช 1 เวลา 1 ชว่ั โมง สอนวันท่ี 23 เดอื น ธันวาคม พ.ศ. 2565 ครูผสู้ อน นายพงศธร อยู่สขุ …………………………………….............…………………………………………………………………………………………… มาตรฐานการเรียนร้/ู ตวั ชีว้ ัด มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ส 4.3 เขา้ ใจความเปน็ มาของชาติไทย วัฒนธรรม ภูมปิ ญั ญาไทย มคี วามรกั ความภูมิใจ และธำรงความเปน็ ไทย ตวั ชวี้ ัด ส 4.3 ป.3/1 ระบุพระนามและพระราชกรณียกจิ โดยสังเขปของพระมหากษตั รยิ ไ์ ทยทเ่ี ป็น ผู้สถาปนาอาณาจักรไทย จุดประสงคก์ ารเรียนรู้สตู่ วั ชวี้ ัด 1. ระบุพระนามของพระมหากษัตริย์ผสู้ ถาปนากรงุ รตั นโกสินทร์ (K) 2. วเิ คราะหพ์ ระราชประวัตขิ องพระบาทสมเดจ็ พระพุทธยอดฟา้ จุฬาโลกมหาราช (P) 3. เหน็ ความสำคัญของการศกึ ษาพระราชประวตั ขิ องพระมหากษตั รยิ ์ผ้สู ถาปนาอาณาจกั รไทย (A) สาระสำคัญ พระบาทสมเดจ็ พระพุทธยอดฟ้าจฬุ าโลกมหาราชทรงเปน็ พระมหากษัตริยผ์ สู้ ถาปนากรุงรัตนโกสนิ ทร์ เป็นราชธานี เมอ่ื พ.ศ. 2325 และเป็นพระมหากษัตรยิ พ์ ระองคแ์ รกแหง่ ราชวงศจ์ กั รี สาระการเรยี นรู้ พระราชประวตั ิของพระบาทสมเด็จพระพทุ ธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน 1. ความสามารถในการส่อื สาร 2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ิต คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ 1. รักชาติ ศาสน์ กษตั ริย์
2. ใฝ่เรียนรู้ ชิ้นงานหรือภาระงาน (หลักฐาน รอ่ งรอยแสดงความร)ู้ - คำถามทา้ ทาย นกั เรียนคิดว่าอาณาจักรไทยในปจั จบุ นั อยูใ่ นยคุ ของอาณาจกั รใด และมีพระมหากษตั ริย์พระองค์ใดปกครอง การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ •ขนั้ •สัง•เก•ต ร•วบ• ร•วม•ข้อ•มลู • (G• a•th•eri•ng•) 1. นักเรยี นสังเกตภาพเก่ยี วกบั พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟา้ จฬุ าโลกมหาราช จากน้นั รว่ มกนั สนทนา โดยการตอบคำถาม ดังนี้ • บุคคลในภาพคอื ใคร (พระบาทสมเดจ็ พระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช) • พระบาทสมเด็จพระพทุ ธยอดฟา้ จฬุ าโลกมหาราชมคี วามสำคญั ต่ออาณาจกั รไทยอยา่ งไร (เป็นผูส้ ถาปนากรงุ รัตนโกสนิ ทรเ์ ปน็ ราชธานี)
• นกั เรยี นทราบพระราชประวตั ิของพระบาทสมเดจ็ พระพุทธยอดฟา้ จุฬาโลกมหาราชหรอื ไม่ (ตวั อยา่ ง คำตอบ ยังไม่ทราบ) 2. นกั เรยี นศึกษาและรวบรวมขอ้ มลู เกี่ยวกับพระราชประวตั ิของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟา้ - จุฬาโลกมหาราช จากหนงั สอื เรียนและแหล่งการเรียนรู้อืน่ ๆ เพ่มิ เตมิ •ข(G้นั•aคt•ดิhวe•เิ rคinร•าg)ะ•หแ์•ล•ะส•รปุ •คว•าม•รู้ •(P•ro•ce•ssi•ng•) 3•. •นักเรียนแบ่งกลมุ่ ศึกษาเก่ยี วกับพระราชประวัติของพระบาทสมเดจ็ พระพทุ ธยอดฟา้ จฬุ าโลก-มหาราชที่ กำหนด จากนัน้ รว่ มกันสรุปพระราชประวตั ิของพระองค์เปน็ แผนภาพความคดิ ดงั ตวั อยา่ ง พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจฬุ าโลกมหาราช องคป์ ฐมกษัตริยแ์ หง่ ราชวงศ์จักรี มีพระนามเดิมวา่ ดว้ ง เปน็ บตุ รคนที่ 4 จากทัง้ หมด 5 คน ของนายทองดี หรอื ต่อมาได้เปน็ หลวงพินิจอกั ษร กบั นางดาวเรอื ง (หยก) เสดจ็ พระ ราชสมภพเมอ่ื วันที่ 20 มนี าคม พ.ศ. 2279 ในรชั กาลสมเด็จพระเจ้าอยู่หวั บรมโกศ ตอ่ มาไดท้ รงรับราชการเป็นมหาดเลก็ ในเจา้ ฟา้ อทุ ุมพร กรมขุนพรพนิ ิต เมื่อพระชนมพรรษาครบ 21 พรรษา ไดท้ รงผนวช ณ วัดมหาทลาย 1 พรรษา หลงั จากทรงลาผนวชแลว้ ทรงกลบั เขา้ รับราชการเป็นมหาดเลก็ หลวงอกี ครง้ั ครน้ั พระชนมพรรษาได้ 25 พรรษา สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวสุริยาศน์อมรนิ ทรท์ รงพระกรณุ าโปรดเกลา้ ฯ แต่งตง้ั เป็นหลวงยกกระบตั ร ออกไปรับราชการท่ีเมืองราชบรุ ี และได้สมรสกับคุณนาค (ภายหลังไดร้ ับ การสถาปนาเป็นสมเด็จพระอมรนิ ทราบรมราชนิ )ี ธิดาในตระกูลเศรษฐมี อญทม่ี ีรกรากอยู่ทีบ่ า้ นอมั พวา เมืองสมุทรสงคราม หลังจากเสยี กรุงศรอี ยธุ ยาแก่พม่าใน พ.ศ. 2310 แลว้ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช กรงุ ธนบุรี ได้กอู้ ิสรภาพ และสร้างกรุงธนบรุ ขี ้ึนเป็นราชธานี พระบาทสมเด็จพระพทุ ธยอดฟ้าฯ ไดเ้ ข้ารับราชการกับสมเดจ็ พระ เจา้ ตากสินมหาราช ทรงพระปรชี าสามารถในการรบจนเป็นทโ่ี ปรดปราน นับเปน็ ขุนพลค่พู ระทัยฝา่ ยขวา ไดร้ ับ แต่งตัง้ ใหเ้ ปน็ แมท่ ัพในสงครามครัง้ สำคญั หลายครงั้ และไดเ้ ลอื่ นบรรดาศกั ดิ์เปน็ พระยาจักรี ใน พ.ศ. 2314 และใน พ.ศ. 2319 ไดเ้ ลอ่ื นบรรดาศกั ดเ์ิ ปน็ สมเดจ็ เจ้าพระยามหากษัตรยิ ์ศกึ ใน พ.ศ. 2325 เกดิ จลาจลขนึ้ ในบ้านเมอื ง พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟา้ ฯ ทรงปราบปรามจนราบคาบ ข้าราชการทง้ั หลาย จึงพร้อม ใจกนั อญั เชิญข้ึนปราบดาภเิ ษกเปน็ กษัตรยิ ์ พระบาทสมเดจ็ พระพทุ ธยอดฟา้ จฬุ าโลกมหาราชทรงปกครองพระราชอาณาจักรดว้ ยพระวริ ยิ -อตุ สาหะ แมท้ รงเจรญิ พระชนมพรรษามากแลว้ ทรงออกวา่ ราชการมไิ ด้ขาด ตราบเสดจ็ สวรรคต เม่ือ วันที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2352 พระชนมพรรษา 73 พรรษา เสดจ็ อยใู่ นราชสมบัติ 27 ปี
20 มีนาคม พ.ศ. 2279 บดิ าคอื นายทองดี (หลวงพินจิ อักษร) ในรชั กาลสมเด็จพระเจา้ อยู่หัวบรมโกศ มารดาคือนางดาวเรอื ง บดิ า มารดา วันพระราชสมภพ (หยก) พระราชประวตั ิ ผนวช สวรรคต พระบาทสมเด็จ- พระพทุ ธยอดฟ้าจฬุ าโลกมหาราช ทรงเสดจ็ สวรรคตเม่อื การรับราชการ พระชนมพรรษาครบ 21 พรรษา วันที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2352 ไดท้ รงผนวช ณ วัดมหาทลาย 1 พรรษา พระชนมพรรษา 73 พรรษา เสดจ็ อยูใ่ นราชสมบตั ิ 27 ปี รับราชการเป็นมหาดเล็ก ในเจา้ ฟ้าอทุ ุมพร กรมขนุ พรพนิ ิต พ.ศ. 2319 ไดเ้ ลอื่ นบรรดาศกั ดิ์ เปน็ สมเด็จเจ้าพระยามหากษตั ริย์ศึก พ.ศ. 2314 ได้เลอ่ื นบรรดาศกั ด์เิ ปน็ พระชนมพรรษา 25 พรรษา ได้รับพระกรุณา พระยาจกั รี โปรดเกลา้ ฯ แตง่ ตัง้ เปน็ หลวงยกกระบตั ร 4. นกั เรียนคดิ ประเมนิ เพือ่ เพิ่มคุณค่า แล้วสรุปเปน็ ความคิดรวบยอด โดยการตอบคำถาม ดงั น้ี • นักเรยี นคิดวา่ อาณาจกั รไทยในปัจจบุ นั อยู่ในยคุ ของอาณาจกั รใด และมีพระมหากษัตรยิ ์พระองคใ์ ด ปกครอง (อาณาจกั รรตั นโกสนิ ทร์ ซงึ่ มพี ระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจา้ อยู่หวั รัชกาลท่ี 10 ปกครอง) • ข•้นั •ปฏ•บิ ัต•ิแล• ะส• รปุ• ค•วา•มร•ูห้ ล•งั ก•าร•ปฏ•บิ ตั• ิ (•A•pp•lyi•ng• an• d•C•on•str•uc•tin• g•th•e •Kn•ow•le•dg•e)• •••••
5. นกั เรยี นแบ่งกลุ่มศกึ ษาเก่ียวกบั รายพระนามของพระมหากษตั ริย์แหง่ ราชวงศ์จักรที ี่กำหนดให้ จากนน้ั เรียงลำดบั พระนามพระมหากษตั ริยแ์ หง่ ราชวงศจ์ กั รลี งใน ให้ถกู ตอ้ ง พระบาทสมเดจ็ พระพุทธยอดฟ้า- พระบาทสมเดจ็ พระนั่งเกล้าเจา้ อยูห่ ัว จุฬาโลกมหาราช พระบาทสมเดจ็ พระจอมเกลา้ เจา้ อยู่หวั พระบาทสมเด็จพระพุทธเลศิ หล้านภาลัย พระบาทสมเด็จพระมงกฎุ เกลา้ เจา้ อยู่หวั พระบาทสมเด็จพระจลุ จอมเกลา้ เจ้าอยหู่ วั พระบาทสมเด็จพระวชิรเกลา้ เจ้าอยู่หัว พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานนั ท- มหดิ ล พระบาทสมเด็จพระปกเกลา้ เจ้าอย่หู วั พระบาทสมเด็จพระมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช- มหาราช บรมนาถบพิตร (พระบาทสมเด็จพระพทุ ธ- (พระบาทสมเด็จพระพทุ ธ- (พระบาทสมเด็จพระน่งั เกล้าเจ้าอย่หู วั ) ยอดฟ้าจฬุ าโลกมหาราช) เลศิ หลา้ นภาลยั ) (พระบาทสมเดจ็ - (พระบาทสมเด็จ- (พระบาทสมเดจ็ - พระจอมเกล้าเจา้ อยหู่ ัว) พระมงกุฎเกลา้ เจา้ อยู่หวั ) พระจุลจอมเกลา้ เจา้ อยู่หวั ) (พระบาทสมเดจ็ พระมหา- (พระบาทสมเด็จ- (พระบาทสมเด็จพระปรเมนทร- ภูมพิ ลอดุลยเดชมหาราช พระปกเกลา้ เจา้ อยหู่ ัว) มหาอานนั ทมหิดล) บรมนาถบพติ ร) 6. นกั เรียนตรวจสอบความถกู ตอ้ งและความเรยี บรอ้ ยของผลงา(พนรหะาบกาพทบสขมอ้เดผ็จิดพพรละาวดชคริ ว-รปรับปรงุ แกไ้ ขให้ ถูกตอ้ ง เกล้าเจ้าอย่หู ัว) 7. นักเรยี นร่วมกันสรุปสิ่งทเ่ี ข้าใจเปน็ ความรรู้ ่วมกัน ดังน้ี
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130