99
100
101
102
เปน็ ประธานในการทอดกฐนิ ณ วดั เทพสรธรรมาราม 103
104
105
106
107
108
109
110
111
112
113
114
115
116
117
อาลัยรกั พ่นี อ้ ย ผมเจอคุณยายคร้งั แรกตอนอายุ ๒๔ ปี ทบ่ี รษิ ทั โฟรโ์ มสตอ์ าหารนม (กรงุ เทพฯ) จำ� กดั คณุ ยายอยแู่ ผนกบญั ชี ผมเปน็ หัวหน้าแผนกจัดซ้อื รจู้ ักกันมา ๔ ปกี วา่ ผมลาออกไปเป็นลกู จา้ ง ทอี่ ื่น ๓ ปี หลงั จากน้ันตงั้ บรษิ ัทขายสินคา้ หลายย่ีหอ้ ซึง่ รวมทั้ง “สุขุม” และ “เอม็ ไพร”์ ตอนนน้ั ยห่ี อ้ สขุ ุมมีผลติ ภัณฑ์สช่ี นิด คอื สลดั แซนดว์ ิชสเปรด ซอสพริก และนำ�้ พรกิ เผา ต่อมาโรงงาน สุขุมขายกิจการ ผมชวนคุณยายซ้ือกิจการซึ่งมีเฉพาะเครื่องปั่นสลัด และเคร่ืองจักรบางช้ิน โดยขออาศัยพื้นท่ีเดิมท�ำการผลิต คุณยายรับผิดชอบด้านการผลิต ผมรับผิดชอบด้านการขาย เริ่มจากโรงงานเล็กๆ พนักงาน ๖-๗ คน จดทะเบียนบริษัทปี พ.ศ.๒๕๒๖ ตั้งมาสามเดือนได้ ไปซื้อยห่ี อ้ เอ็มไพร์ โดยเป็นการซอ้ื เฉพาะสตู ร ยห่ี อ้ และเครื่องไมเ้ คร่ืองมอื ในการผลิต ระยะแรก จึงเช่าโรงงานเอ็มไพร์ผลิต ผลิตอยู่หน่ึงปีเจ้าของโรงงานเอ็มไพร์อยากได้โรงงานคืน เลยมาหาที่ ตรงปจั จุบนั พืน้ ที่ ๒ ไร่ ๘ ตารางวา ใช้เวลากอ่ สรา้ ง ๑ ปเี ศษ ไดโ้ รงงานใหม่ พ.ศ.๒๕๒๙ และ ขยายโรงงานมาตลอด คุณยายมีพรสวรรค์ในการท�ำอาหารและขนม โดยเฉพาะเค้กคุณยายท�ำอร่อยมาก คุณยายมักจะท�ำมาให้น้องๆ ท่ีบริษัท โฟร์โมสต์ ทานเสมอ คุณยายเก่งมากในการชิมและผลิต รวมถึงคิดค้นผลิตภัณฑ์ต่างๆ เป็นคนขยัน แม้อายุมากก็ไม่ยอมหยุด ท�ำจนวาระสุดท้าย ผม ประทับใจคุณยายตรงท่ีไม่เคยท้ิงพี่ๆ น้องๆ ทุกคน เป็นห่วงกันและกันมาตลอด รู้จักกันมา ๕๐ ปี มีเร่ืองราวผูกพันกันมามากมาย ผ่านสุขทุกข์มาด้วยกัน คุณยายเป็นคนใจดี ใจบุญ ใจกศุ ล อาทรถงึ เพือ่ นๆ ทุกคน ทำ� ใหค้ ณุ ยายเปน็ ทร่ี กั ของพๆ่ี น้องๆ เพ่ือนๆ ทุกคน แม้จะจาก ท่ีท�ำงานเก่ามานานแค่ไหน เพ่ือนๆ ก็ยังไปมาหาสู่ประจ�ำ เพราะคุณยายเป็นที่รักใคร่ของผู้คน ที่ได้รูจ้ ักคุณยาย คุณยายจากไปผมรู้สึกเสียใจ แต่ก็ดีใจที่คุณยายจากไปอย่างสงบ ขอให้คุณยายไปสู่ ภพหน้าทดี่ ี มคี วามสขุ อยูบ่ นสรวงสวรรค์ สุดทา้ ยด้วยรกั และอาลยั ผมจะตรงึ คณุ ยายไวใ้ นหัวใจตลอดไป อาจวิ (อภญิ ญา วลยั เสถียร) 118
แด่แมย่ วง...........สุดยอดแมย่ าย ๒๒ ตุลาคม ๒๕๐๙ เวลาประมาณ ๑๘.๐๐ น. ข้าพเจ้าพร้อมด้วยเพ่ือนนักเรียน นายรอ้ ยตำ� รวจรวม ๕ นาย ในชดุ เครื่องแบบขาวคาดกระบ่ี ซ่งึ เปน็ วนั แรกในชีวติ ของนกั เรียน นายร้อยต�ำรวจท่ีได้แต่งเคร่ืองแบบชุดนี้ ได้ปรากฏตัวที่บ้านของแม่ยวง ซึ่งขณะน้ันอยู่ท่ีบริเวณ สะพานมอญ ส่ีแยกบ้านแขก ฝั่งธนบุรี โดยการแนะน�ำของเพื่อนนักเรียนนายร้อยต�ำรวจ ซ่ึงเป็นชาวเชียงใหม่และรู้จักกับแม่ยวงเพราะเป็นคนบ้านเดียวกัน เพื่อติดต่อขอซื้ออาหารและ ผลติ ภัณฑจ์ ากบรษิ ทั โฟรโ์ มสต์ ในขณะน้ัน เพอื่ น�ำไปจำ� หน่ายทส่ี โมสรโรงเรียนนายรอ้ ยตำ� รวจ การพบกันครั้งแรกระหว่างข้าพเจ้าและแม่ยวงในวันนั้น ไม่เพียงแต่ได้พบกับแม่ยวง เท่าน้ัน แต่ยังได้พบกับสุภาพสตรีวัยรุ่นผู้หนึ่งซ่ึงเป็นลูกสาวของแม่ยวง นามว่า “คุณนิลบล หรือ ตุ๊” เธอเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่.....ในวันน้ันแม่ยวงใช้สรรพนามแทนตัวเองว่า “พ่ีน้อย” ข้าพเจ้าไปมาหาสู่ครอบครัวของแม่ยวงบ่อยข้ึน ในที่สุดความสนิทสนมระหว่างข้าพเจ้า กับครอบครัวของแม่ยวงก็พัฒนาไปอย่างรวดเร็ว และสรรพนามแทนช่ือแม่ยวงก็ได้พัฒนา ไปด้วยคอื จากพี่.....เป็นแม.่ .....จากแม่เปน็ คณุ ยาย และสดุ ทา้ ยเป็นคุณทวดในท่สี ดุ ข้าพเจ้าแต่งงานคนแรกของรุ่น หลังจากแต่งงานแล้วได้รับค�ำสั่งแต่งต้ังให้ไปรับราชการ ในภาคอีสาน จังหวัดแรกคืออุบลราชธานี ในต�ำแหน่งผู้บังคับหมวด สถานีต�ำรวจภูธรเมือง อุบลราชธานี และวนเวียนอยู่ในอีกหลายจังหวัดในภาคอีสาน จนกระทั่งเกษียณอายุราชการท่ี จังหวดั สกลนคร แม่ยวงเป็นผู้ท่ีมีวิสัยทัศน์กว้างและยาวไกลในทุกด้าน เช่น ด้านการศึกษา เศรษฐกิจ สังคม เทคโนโลยี วฒั นธรรมและการพระศาสนา แม่ยวงเป็นผู้ใฝ่รู้ใฝ่เรียนเป็นอย่างมาก เรียนภาษาอังกฤษจบขั้นแอดวานซ์จากสถาบัน สอนภาษา AUA สามารถพูดภาษาอังกฤษกับชาวต่างชาติได้โดยไม่ต้องมีล่ามแปล ชนิดท่ี คนจบดอ็ กเตอรต์ ้องอาย 119
ด้วยเกรงว่าหลานชาย (ต้น) และหลานสาว (ต่อ) จะได้รับการศึกษาไม่ดีเท่าท่ีควร อาจสู้นักเรียนในกรุงเทพฯ ไม่ได้ เพระสภาพแวดล้อมท่ีแตกต่างกันระหว่างต่างจังหวัดและ กรุงเทพฯ จึงรับเอาต้นและต่อเข้ามาเรียนในกรุงเทพฯ ตั้งแต่เรียนชั้นอนุบาล ส่งเสีย เล้ียงดู อบรม ให้ได้รับการศึกษาอย่างดีที่สุดเท่าที่ความสามารถของหลานท้ังสอนจะเรียนได้ และ สดุ ทา้ ยตน้ จบจากโรงเรยี นนายรอ้ ยต�ำรวจ ตอ่ จบธรรมศาสตร์ ต่อจากน้ันแม่ยวงได้ส่งหลานท้ังสองคนไปเรียนต่อท่ีประเทศสหรัฐอเมริกาโดยแม่ยวง และอาจิว (คุณอภิญญา วลัยเสถียร) ซึ่งเปรียบเสมือนพ่อคนที่สองของต้นและต่อเป็น ผูร้ ับผดิ ชอบค่าใชจ้ ่ายทั้งหมด ขอบคุณอาจิวเป็นอย่างสงู ไว้ ณ โอกาสน้ี ในด้านเศรษฐกิจ แม่ยวงได้เตรียมความพร้อมไว้ให้ลูกหลานมากมายเกินความจ�ำเป็น ท่ีคนเป็นแม่และยายจะพึงมอบให้ ด้วยเกรงว่าลูกหลานจะล�ำบากและเดือดร้อน (ปรากฏตาม พินยั กรรม) ในด้านสังคม แม่ยวงเป็นผู้มีจิตใจโอบอ้อมอารี มีเมตตาต่อคนท้ังปวง ช่วยเหลือ เพือ่ นมนษุ ย์ด้วยความเต็มใจเสมอ ไมเ่ คยปฏิเสธเมือ่ มคี นมาขอความช่วยเหลือ ในด้านความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี แม่ยวงก้าวทันเสมอ แม้วัย ๙๐ ปีเศษแล้วยัง เล่นไลน์เป็นประจ�ำ เพ่อื ตติ ตามข้อมูลข่าวสารทกุ ดา้ น ในดา้ นศิลปวัฒธรรม เน่อื งจากแม่ยวงเปน็ คนมีรูปร่างหนา้ ตาสวย จนได้รับเชญิ ให้แสดง เป็นนางเอกในภาพยนตร์เร่ือง “ทางเปล่ียว” ซ่ึงปรากฏหลักฐานอยู่ที่หอภาพยนตร์ (องค์การ มหาชน) พรอ้ มกบั ได้พมิ พม์ อื ไวเ้ ป็นหลกั ฐานด้วยในฐานะเปน็ ดาราภาพยนตร์ 120
ด้านการพระศาสนา แม่ยวงมีจิตเป็นกุศล ใจบุญสุนทาน ท�ำบุญเพื่อบุญไม่ใช่ท�ำบุญ เอาหน้า เป็นท่ีประจักษ์ชัด แม้เมื่อเสียชีวิตไปแล้วยังได้รับเชิญให้เป็นประธานทอดกฐินที่ วดั หนองขนาน อำ� เภอขนุ หาญ จงั หวัดศรสี ะเกษ เมอื่ วนั ท่ี ๗ พฤศจกิ ายน ๒๕๖๔ ส�ำหรับข้าพเจ้าถือว่าเป็นบุญและโชคมหาศาลท่ีได้เกิดมาเป็น “ลูกเขย” ของแม่ยวง หากชาติหนา้ มีจรงิ ขอเกดิ เป็นลูกเขยแม่ยวงตลอดไปครบั กล่าวส�ำหรับแม่ยวง.....เป็นแม่ยายที่สุดประเสริฐในทุกด้าน เป็นคนที่มีจิตใจเมตตาต่อ คนท้ังปวง จิตเป็นกุศล ใจบุญ รักลูกหลานและเป็นห่วงทุกคน.....ท�ำงานหนักตลอดชีวิตเพ่ือ เตรียมความพร้อมเก่ียวกับทรัพย์สมบัติไว้ให้ลูกหลาน สอนให้ลูกหลานรู้จักบุญคุณคนและมี ความกตัญญูต่อผู้มีพระคุณ อันเป็นหลักในการด�ำเนินชีวิตท่ีแม่ยวงได้ฝากไว้และพร�่ำสอนเสมอ เรียกได้ว่าชีวิตของแม่ยวงเกิดมาเพื่อ “เป็นผู้ให้” โดยแท้ เป็นบุคคลที่มีความเป็นมนุษย์สูงยิ่ง อาจเรียกได้ว่าเป็น “อรยิ มนษุ ย์” ซ่ึงหาได้ยากในสงั คมมนุษย์ยคุ ปจั จุบัน ลูกหลานจงึ ขนานนาม แม่ยวงว่า “เทวดาบนดิน” เม่ือแม่ยวงจากไปแล้วลูกหลานขอให้สัญญาว่า จะประกอบแต่ คุณงามความดี เพอ่ื เปน็ การระลกึ ถึงและตอบแทนความดขี องแมย่ วงตลอดไป ด้วยรักและอาลัย ลูกเขยแม่ยวงครับ (พล.ต.ต.ณฐั กณฑ์ การปลกู ) 121
คณุ แม่กบั เรือ่ งราวในความทรงจ�ำของผม คุณแม่เป็นคนเรียนเก่งสอบได้ท่ี ๑ มาตลอด เสียดายคุณตาให้เรียนแค่ ช้ัน ป.๔ พอ คุณแม่อายุได้ ๑๕ ปี คุณตาก็ให้แต่งงานกับคุณพ่อ คุณแม่เป็นคนท�ำกับข้าวอร่อย เปิดร้าน ห้องแถวที่คุณยายเป็นเจ้าของ รับตัดเสื้อผ้าและท�ำหมวกอยู่ฝั่งตรงกันข้ามกับศาลาหอประชุม อ�ำเภอแม่ริม ในอดตี คุณยายเป็นเจา้ ของท่ีดนิ ห้องแถว และบา้ นเช่าหลายหลงั อยู่ตรงกนั ข้าม กับท่ีว่าการอ�ำเภอแม่ริม ชาวบ้านจะเรียกคุณยายว่า “เจ้าป้ายวงค�ำ” เน่ืองจากมีเชื้อสาย สืบเนื่องมาจากเจ้าเมืองเชียงใหม่ คุณแม่เป็นคนทันสมัย แต่งกายดี มีเพ่ือนและคนรู้จักมาก ชว่ งเย็นๆ จะไปตแี บดมินตันท่สี นามหญ้าหน้าอาคารท่ีว่าการอ�ำเภอแม่รมิ บรรดาผ้มู าตีแบดมนิ ตนั คอ่ นข้างจะมีหนา้ มีตาในระดบั อำ� เภอ จะเรยี กวา่ เป็นระดบั ไฮโซเทยี บกับสมัยปจั จุบนั กไ็ ด้ บางคน เปน็ ลูกหลานผู้มีฐานะในอำ� เภอ เป็นขา้ ราชการในอ�ำเภอบา้ ง นายร้อยต�ำรวจตระเวนชายแดนบ้าง ตอนท่ีผมอายุ ๔-๕ ขวบ คุณพ่อกับคุณแม่แยกทางกัน ผมถูกส่งไปเรียนหนังสือที่ โรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัย และอยู่กับคุณปู่คุณย่าในตัวเมืองเชียงใหม่ ท่ีบ้านประตูท่าแพซ่ึงอยู่ ตรงกันข้ามกับก�ำแพงเมืองประตูท่าแพในปัจจุบัน ส่วนพ่ีสาวคนเดียวของผม “พ่ีตุ๊” หรือ “นิลบล การปลูก” (ปัจจุบันเสียชีวิต) อยู่กับคุณตาคุณยาย ที่อ�ำเภอแม่ริม ตอนหลังคุณแม่ ก็แต่งงานใหม่ที่กรุงเทพฯ กับ “พันเอกพิเศษ อ�ำนาจ แสงสุข” ซึ่งผมจะเรียกว่า “คุณตา” ตามหลานๆ เรียก (ปจั จุบนั เสียชีวติ ) สำ� หรับ “พตี่ ุ๊” (นิลบล การปลกู ) เรียนหนงั สือทโ่ี รงเรียน พระหฤทยั ภายหลังไปเรยี นตอ่ ม.ปลาย ทีโ่ รงเรยี นดาราวิทยาลยั และเข้าเรยี นทค่ี ณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ วิชาเอกภาษาอังกฤษต่อมาได้แต่งงานกับ พล.ต.ต.ณัฐกณฑ์ การปลูก อดีตผู้บังคับการต�ำรวจภูธรจังหวัดสกลนคร มีบุตรด้วยกันสองคน คือ “ต้น” (พ.ต.อ.ดร.นิมิต การปลกู ) และ “ตอ่ ” (นิลวรรณ วานิชานันท)์ ช่วงปิดเทอมตอนเรียนระดับประถมและมัธยม ผมจะมาเย่ียมพี่สาวที่แม่ริม ป้ามูล ซึ่งเปน็ คนเชอื้ ชาตขิ มุ เคยดูแลผมกับพ่ีสาวเมอื่ ครง้ั คณุ พอ่ ยงั อย่กู ับคณุ แม่ กลางวันกจ็ ะพาพี่สาว กบั ผมไปจับปูนาในนาขา้ วหลังบา้ นจนตัวด�ำ กลางคืนก็จะใชต้ ะเกียงน�้ำมนั ก๊าดไปสอ่ งจบั แมงนนู คืนไหนทีค่ ณุ ตาบุญปัน๋ “บุญป๋ัน พงษป์ ระดษิ ฐ”์ รว่ มวงใช้ตะเกียงเจา้ พายุซ่งึ มแี สงสวา่ งแรงมาก เข้าลอ่ จบั ก็จะจบั ได้มากเปน็ ถงั ๆ ชวี ิตของผมกบั พสี่ าวกม็ ีความสขุ สนุกกนั ตามประสาเดก็ และ แลว้ วนั หนงึ่ กม็ รี ถโฆษณาฉายหนงั ประกาศวา่ มหี นงั ฉายเรอ่ื ง “ทางเปลย่ี ว” ทวี่ กิ หนงั อำ� เภอแมร่ มิ ดาราหรือนางเอกชื่อ ยวงพร พงษ์ประดิษฐ์ ก็เป็นคนแม่ริมนี่เอง คนในอ�ำเภอต่ืนเต้นกันใหญ่ 122
ผมก็ตื่นเต้นเพราะรู้ว่านางเอกเป็นแม่ของผม ตอนนั้นจ�ำไม่ได้ว่าใครเป็นคนบอก หนังเรื่อง ทางเปลี่ยวน้ีเป็นหนังภาพยนตร์ซีนีมาสโคป (จอกว้าง) คร้ังแรกของเมืองไทย และยังเป็นการ พากย์เสียงอัดลงในฟิลม์ด้วย ซ่ึงภาพยนตร์ก่อนนั้น ต้องมีคนพากย์แถมยังมีคนก�ำกับเคร่ืองดนตรี จ�ำพวกระนาดและบรรเลงตอนบทบู๊หรือบทส�ำคัญ อยู่ด้านข้างวิก ใกล้หน้าจอหนัง สภาพ วิกหนัง เปน็ วิกหลงั คามงุ จาก ทนี่ งั่ กจ็ ะเปน็ แคร่เตย้ี ๆ โดยใช้ไมไ้ ผ่เพยี งแค่สามล�ำพาดใหน้ ง่ั แทน ไม้กระดาน ไม้ไผ่จะมีขนาดไม่สม่�ำเสมอ บางช่วงข้อไผ่เล็กบางช่วงข้อไผ่ใหญ่ ไม่ได้เรียบแบน แบบไม้กระดานพาด คนดูหนังจึงน่ังปวดที่ก้นไปตามๆ กัน หน�ำซ�้ำท่ีน่ังมีระดับเตี้ยเท่ากัน คน ตัวโตนั่งแถวหน้าก็จะบังคนนั่งแถวหลัง หนังวันนั้นราคาตั๋วเดิมสองบาทก็ข้ึนราคาแพงเป็น สามบาท คนมาดกู ันถล่มทลายจนตวั๋ หมด ผา่ นไประยะหน่งึ เกือบปี “ทางเปล่ียว” กถ็ กู นำ� มา ฉายอีกครั้งเป็นหนังขายยา ฉายกลางแปลงที่วัดดอนแก้ว ห่างจากบ้านราว ๕-๖ กิโลเมตร “ป้ามูล” ก็น�ำทีมพี่สาวผมกับผมและคณะเพื่อนบ้านเดินมาดู ดูจบกว่าจะกลับถึงบ้านก็เกือบ เที่ยงคนื ช่วงนผ้ี มนา่ จะเรียนหนังสืออยรู่ าวชัน้ ป.๕ ป.๖ ต่อมาหนงั เรือ่ ง “ทางเปล่ยี ว” กลบั มา ฉายอกี ครง้ั ตอนผมอยมู่ ธั ยม ๖ ภาพยนตร์ “ทางเปลย่ี ว” กลับมาฉาย ในตัวเมอื งเชยี งใหมค่ รงั้ นี้ ที่ “โรงภาพยนตร์ศรีวิศาล” ผมไม่กล้าชวนเพื่อนๆ มาดูเพราะกลัวเพื่อนจะล้อว่าแม่ถูกจูบ ขนาดผมดูเองคนเดยี วก็ยงั รู้สกึ เขินๆ ชอบกลท่แี ม่ถกู จบู หนังกลบั มาฉายครงั้ น้ี มีการเพิ่มเพลง “ทางสายเปลีย่ ว” ซึ่งขับรอ้ งโดย “ชาญ เย็นแข” แทรกเขา้ ไปตอนหนงั ใกลจ้ บ ภายหลังผมคดิ ได้ว่าหนังได้รับรางวัลผู้ก�ำกับตุ๊กตาทองครั้งแรกของเมืองไทยก็เพราะคงมีการตัดต่อใหม่น่ีเอง ผมจ�ำได้ว่าหนังจบ ผมเดินออกจากโรงหนังแบบซึมๆ หนังแม้จะจบแบบแฮ้ปปี้เอนดิ้ง แต่ก็มี โทนเศร้าของชีวิตแฝงอยู่ ผมเดินไปตามถนนท่าแพ กลับบ้านท่ีประตูท่าแพ ตอนน้ันเป็นเวลา ราว ๔ โมงเย็น ฟ้ามีสีสลวั แบบผตี ากผา้ อ้อม ผมเดนิ ไปตามถนนหลบก้อนขีว้ ัวกลางถนนเพราะ บางช่วงยังไม่มีฟุตบาทและสมัยน้ันยังใช้เกวียนเทียมวัวลากบรรทุกข้าวหรือสินค้าไปขายท่ีตลาด ต้นลำ� ไย รถยนต์มนี อ้ ย นานๆ ว่ิงผ่านมาสกั คัน ต่อมาไม่นานก็มีภาพยนตร์ที่คุณแม่แสดงเป็นนางเอกอีกครั้ง ช่ือเร่ือง “ม่วยในฝัน” แสดงคูก่ ับ “ชนะ ศรอี ุบล” เสยี ดายท่ผี มดูไมท่ นั เพราะภาพยนตรห์ ยุดฉาย ออกโรงไปเสียกอ่ น จำ� ไดว้ า่ ราว ๒๐ หรือ ๓๐ ปที ่แี ลว้ เคยมกี ารน�ำภาพยนตรไ์ ทยเกา่ ๆ มาฉายรำ� ลกึ ที่มหาวิทยาลยั ธรรมศาสตร์ ก็มีเรื่อง “ม่วยในฝัน” ด้วย แต่ตอนนั้นผมเป็นอาจารย์สอนหนังสืออยู่ที่ มหาวิทยาลยั สงขลานครินทร์ จึงไมส่ ามารถมาดูได้ เคยมีหลายคนอยากทราบว่าคุณแม่มาเป็นดารานักแสดงได้อย่างไร คุณแม่เคยเล่าไว้ ผมจำ� รายละเอียดไม่คอ่ ยได้ ก็ขอเลา่ คร่าวๆ วา่ ตอนทคี่ ณุ แม่มาพกั อาศยั อยู่กบั ญาติ “ปา้ จิตร”์ (สดุ จติ ร์ จนิ ตกานนท)์ และ “ลงุ สมยั ” (สมัย จินตกานนท์) ทีก่ รงุ เทพฯ กม็ กี ลุม่ ผู้ก�ำกับสร้างหนงั 123
มาเล่นไพ่ที่บ้าน คุณแม่เข้าไปเสริฟน้�ำ พอเห็นคุณแม่ เขาก็บอกว่า “ไอ้ยวง หน่วยก้านมันดี ให้มันมาแสดงหนังดีกว่า” คุณแม่ก็รอแต่ก็ไม่มีใครติดต่อมา จนกระท่ังกลับบ้านท่ีเชียงใหม่ วันหนี่งปั่นจักรยานมาท่ีหน้าโรงหนังศรีพิงค์ ก็มีกลุ่มผู้ก�ำกับสร้างหนังเช่นกันมาเห็นเข้า สะดุดตา กเ็ ข้ามาถามว่า “จะไปไหน” คุณแม่ก็บอกว่า “มารอนอ้ งสาว” พอดพี วกเขาก�ำลงั หาคนทจ่ี ะมา เป็นดาราท่ีมีบุคลิกตามบทบาทในหนังไม่ได้ หนังจึงยังไม่ได้สร้างเก็บเร่ืองไว้อยู่นาน จึงบอกให้ คุณแม่ไปแคสต้ิงท่ีกรุงเทพฯ คุณแม่จึงเดินทางไปกรุงเทพและไปเข้าแคสต้ิง ทดลองแสดง บทบาท และเทสหน้ากล้อง และก็ได้เป็นดาราในท่ีสุด คุณแม่นอกจากแสดงภาพยนตร์แล้ว ยังรับแสดงเป็นนางเอกทีวีช่องส่ี บางขุนพรหมด้วย ส่วนสาเหตุท่ีเลิกรับการแสดง ก็เนื่องจาก แตง่ งานกบั คณุ ตาอ�ำนาจ คณุ ตาอำ� นาจไม่อยากใหร้ ับงานการแสดง ก็เลยเลิก ยังมีอกี เร่อื งหนง่ึ ทผี่ มภมู ิใจมากกค็ ือ แมว้ า่ คณุ แม่จะเลกิ แสดงหนงั ไปแล้ว แต่รา้ นถ่ายรปู ทเ่ี ชียงใหมย่ ังตดิ รปู ถ่าย คณุ แม่โชวไ์ วห้ นา้ รา้ นอย่หู ลายร้าน มที ่หี นา้ ร้านถา่ ยรูปใกลห้ น้าโรงภาพยนตรศ์ รีพิงค์ ริมสะพาน แมข่ า ๑ ร้าน ทถี่ นนท่าแพ มรี า้ นถ่ายรปู โชว์รปู คณุ แมถ่ งึ ๓ ร้าน โดยเฉพาะร้านถ่ายรปู “ฉายา แสงอรณุ ” เป็นรา้ นที่มชี ือ่ เสียงที่สุดในยคุ น้นั โชว์รปู คณุ แมน่ านเกอื บ ๑๐ ปี เพราะผมเดินผา่ น หน้าร้านตง้ั แต่เด็กจนโตเปน็ วัยรุน่ ก็ยังเหน็ รปู โชว์อยู่ คุณแม่ถึงแม้จะอยู่ห่างไกล แต่ก็ห่วงใยผมเสมอ คุณแม่จะส่งของฝากจากกรุงเทพฯ มาให้บ่อยคร้ัง เช่นส่งขนมเยลล่ีกระป๋อง ส่งหน้ากากด�ำ ปืนเด็กเล่นและเข็มขัดคาดปืน ก็ช่วงนั้นหนังคาวบอยอเมริกันเร่ืองหน้ากากด�ำขี่ม้าขาวกับตอนโต้ผู้ช่วยพระเอกก�ำลังฮิตแรง หนังออกโรงแล้วก็ยังกลับมาฉายเป็นหนังขายยากลางแปลงตามวัดและงานประจ�ำปีของจังหวัด อีกหลายคร้ัง บางทีคุณแม่ก็ส่งแอปเปิ้ลเป็นกล่องใหญ่ทางไปรษณีย์มาให้ท่ีโรงเรียน มีคร้ังหนึ่ง ส่งทุเรียนทางไปรษณีย์มาให้ที่บ้านประตูท่าแพ ผมจึงเดินไปส่งข่าวนัดแนะให้พี่สาว “พ่ีตุ๊” ทราบ เนื่องจากโรงเรียนอยู่ใกล้กัน พ่ีตุ๊ก็เลยถือโอกาสมานอนที่บ้านประตูท่าแพด้วย ผมเอา ทุเรียนแอบซ่อนไว้ใต้ถุนบ้าน พอมืดก็แอบเอาทุเรียนไปฉีกกินกันนอกบ้าน ที่ใต้ต้นสนริมคูเมือง แต่เหตุการณ์น้ี แอบยังไง น้าๆ ป้าๆ เขารู้กัน เพราะกล่ินทุเรียนลอดใต้ถุนข้ึนมาบนบ้าน จนพากันบ่นว่า หอมทุเรียน ใครท่ีไหนเอาทุเรียนมากิน ช่วงท่ีผมเรียนชั้นมัธยมคุณแม่กลับมา แม่ริมบ่อย ผมกับพ่ีสาวจึงมีโอกาสอยู่กับคุณแม่มากขึ้น ช่วงปิดเทอมใหญ่ตอนเรียนอยู่ท้ังที่ โรงเรียนมงฟอรต์ วทิ ยาลยั และวิทยาลยั ครเู ชียงใหม่ ผมมโี อกาสมากรุงเทพฯหลายครัง้ ตอนน้นั บ้านคุณแม่อยู่ที่หน้าวัดประดิษฐาราม (วัดมอญ) ส่ีแยกบ้านแขก ต�ำบลหิรัญรูจี คุณแม่เล่าว่า น�ำเงินจากการแสดงภาพยนตร์มาปลูกบ้านบนที่ดินที่เช่าเขาอยู่ ตอนเช้าคุณแม่ก็จะไปท�ำงานท่ี บรษิ ัทโฟรโ์ มสต์ บางรัก ยานนาวา ตอนเยน็ ก็เรยี นภาษาอังกฤษทเี่ อยเู อ ใกล้สวนลมุ พนิ ี คณุ ตา อำ� นาจท�ำงานที่ศูนย์ปฏิบัตกิ ารข่าว (ศปข.) เลิกงาน กม็ ารบั ผม พากนั ไปรับคณุ แม่ ทเ่ี ลกิ เรยี น ราวหนง่ึ ทมุ่ จากน้ันบางทกี ไ็ ปทานอาหารที่สวนลุมพนิ ี ผมจำ� ได้วา่ ทีร่ ้านอาหารมีสนามกอล์ฟเลก็ 124
ส�ำหรับเด็กหรือผู้ใหญ่มาเช่าตีกอล์ฟลงหลุม ผมชอบมากเพราะไม่เคยเล่นมาก่อน คุณแม่เรียน เอยูเอ จนจบ ๑๒ คอร์ส พูดอังกฤษส�ำเนยี งดมี าก คุณแมเ่ ลา่ ว่า ฝรงั่ โทรศพั ทม์ าทีบ่ ริษัทจะคุย จีบคุณแม่และชมว่า พูดเพราะ ส�ำเนียงดี คุณแม่ถือว่าตนเองมีการศึกษาน้อยก็มุเรียนจนสอบ จบมัธยมปีท่ีหกโรงเรียนอมาตย์ศึกษา จากนั้นก็ไปเรียนการบัญชี จากสถาบันการบัญชีอาจารย์ เกรกิ สมัยนน้ั อย่ทู ส่ี ี่แยกคอกววั ภายหลงั ยกระดบั เปน็ มหาวิทยาลยั ผมถอื วา่ เป็นอะไรที่ยอดเยี่ยม มากสำ� หรับผหู้ ญงิ ร่นุ เกดิ ปี พ.ศ.๒๔๗๓ บอ่ ยครงั้ ทุกวันศกุ รห์ รือวันเสารค์ ุณตาอำ� นาจและคุณแม่ จะพาผมไปสวางคนิวาส บางปู ไปปูเส่ือกินข้าวกันตอนเย็น ก็จะมีหลายครอบครัว นิยมน�ำ อาหารจากบ้าน มาปูเสื่อกินข้าวเป็นครอบครัวเช่นกัน ท่ีนั่นลมแรงมากขนาดนั่งกินข้าว หมวกปลิว ชอ้ นท่ตี กั ข้าวเข้าปากกแ็ ทบจะปลิวตามลมทั้งชอ้ นท้ังข้าว คณุ แม่เป็นคนทำ� กบั ข้าวเก่ง ที่ผมชอบมากก็จะเป็นปูผัดผงกะหรี่ ผัดหอยลาย ผัดเปร้ียวหวานซ่ึงเคยกินครั้งแรกก็ฝีมือคุณแม่ น่ีแหละ พะแนงไกก่ อ็ รอ่ ยมาก ทกุ วันเสาร์คณุ แม่จะทำ� ความสะอาดบ้าน ท�ำความสะอาดตู้เยน็ ทุกคร้ังท่ีผมมาเยี่ยมก็เป็นหน้าที่ของผมต้องท�ำความสะอาดบ้าน ซักผ้า ล้างตู้เย็น ละลาย น�้ำแข็งในช่องแข็ง เป็นคร้ังแรกที่เด็กบ้านนอกมีตู้เย็นใช้ ก็เลยทดลอง แช่แข็งสารพัด ต้ังแต่ กล้วยหอม ไข่ต้ม องุ่น มะม่วง ล้ินจี่ ข้าวโพด ทุเรียน เรียกว่าผลไม้ ของกินแทบทุกชนิดผม น�ำมาแช่แข็งหมด ช่วงบ่ายวันเสาร์หรือวันอาทิตย์หากผมหายไปคุณแม่กับคุณตาก็จะไปตามหา ผม และพบตัวเสมอทสี่ นามหลวง สมยั ก่อนจะมีร้านยิงปืนยิงตุ๊กตาอยูห่ ลายรา้ น บางคร้งั คุณแม่ กับคุณตาอ�ำนาจก็จะพาผมมาปูเสื่อกินข้าวกลางสนามหลวง ดูชาวบ้านเล่นว่าว ที่สนามหลวง ผมเพิ่งเคยกินกระเพาะปลาหาบเร่เป็นคร้ังแรก อร่อยมาก ผมชอบนั่งรถเมล์มาเอง บางคร้ัง ก็จะนั่งรถรางจากสะพานพุทธมาท่ีสนามหลวง บางคร้ังก็โหนรถเมล์ห้อยตรงประตูรถร่วมกับ ผู้โดยสารคนอน่ื ๆ ถือว่าเทม่ าก หลังจากเรยี นจบจากวทิ ยาลยั ครูเชียงใหม่ ผมกต็ ดั สินใจมาอยกู่ ับคณุ แม่ทีก่ รุงเทพฯ ซ่ึง คุณแม่ก็สนับสนุนให้ผมเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยรามค�ำแหง เผอิญเปิดเป็นปีแรกพอดี ประจวบ กบั ท่ีบรษิ ัทโฟรโ์ มสต์ยา้ ยส�ำนกั งานมาอยทู่ ีห่ ลกั สี่ คณุ แม่กับคณุ ตาอำ� นาจจึงต้องขายบ้านยา้ ยมา อยู่ที่แฟลต ศปข. สะพานใหม่ดอนเมือง คุณแม่เป็นคนอดทน มีวินัยมาก สมัยก่อนคุณแม่ ติดบุหรี่ตามเพ่ือนฝูงในสังคมวงการบันเทิง คุณแม่มีมาดสูบบุหรี่ท่ีเท่มาก ผมจะถูกใช้ให้ไปซ้ือ ซองบุหร่ี ทุกครั้งที่ผมซ้ือกลับมาก็จะแกล้งพูดดังๆ ว่า “ความตายผ่อนส่งมาแล้ว” ภายหลัง คุณแม่จึงเลิกสูบ คุณแม่เล่าให้ผมฟังหลายปีต่อมาว่า เอาเรื่องที่ผมพูดไปเล่าให้เพื่อนฟังและ เลิกสูบ พอปลายปีก็ไปซ้ือเฟอร์นิเจอร์ให้ตนเองเป็นรางวัลจากการที่ไม่ต้องใช้เงินไปใช้ในการซื้อ บุหรี่มาสูบ ต่อมาคุณแม่มาซ้ือท่ีดินปลูกบ้านอยู่ท่ีหมู่บ้านชินเขต คุณแม่เล่าว่าคุณตาอ�ำนาจเอง ก็แปลกใจไม่ทราบว่าคุณแม่เอาเงินจากไหนมาปลูกบ้าน คุณแม่บอกว่าก็เป็นเงินเดือนที่คุณตา อ�ำนาจให้มาและคุณแม่เก็บสะสมมาตลอด ช่วงเวลาที่ย้ายมาอยู่บ้านชินเขตผมเป็นนักศึกษา 125
เป็นนักกิจกรรมชมรมภาษาอังกฤษ เพื่อนจัดกิจกรรมก็ต้องมีการเล้ียงของว่างทานกัน พอ เพอ่ื นๆ ทราบว่าคณุ แมท่ �ำขนมเค้กเก่ง กเ็ ลยขอรอ้ งใหค้ ณุ แมร่ บั ทำ� เคก้ เลยี้ งในกลุ่ม คณุ แม่เปน็ คนมีฝีมือในการท�ำเค้กมาก ผมเคยกินเค้กมะตูมครั้งแรกในชีวิตจากฝีมือคุณแม่ จากน้ันมา ไมเ่ คยกนิ เคก้ ท่ีไหนอร่อยเทา่ พูดถึงฝมี ือในการเยบ็ ผ้าคุณแม่ก็เก่งมาก ครั้งหน่ึงคุณแม่ได้รบั เชิญ ไปงานเล้ียง คุณแม่ก็จะน�ำผ้ามาตัดเย็บเองออกมาคล้ายชุดราตรีสวยมาก บอกได้เลยว่ามีคลาส ไม่เชย ตัดเย็บเสรจ็ ในวันเดียว วันร่งุ ขน้ึ กใ็ สไ่ ปงานเลย ผมงี้ภูมใิ จแทนมาก คณุ แมม่ ีจุดเปลีย่ นสำ� คัญในชวี ติ เมือ่ “อาจวิ ” คณุ “อภญิ ญา วลยั เสถียร” (นอ้ งชาย ดร.สวุ รรณ วลยั เสถียร อดีต รมต. ชว่ ยว่าการกระทรวงพาณิชย์ฯ และ ดร.สธุ รรม วลัยเสถียร กงศลุ ใหญก่ ติ มิ ศกั ดิ์ ประเทศชลิ ี ประจ�ำประเทศไทย) ซึ่งถือวา่ เป็นสมาชกิ ในครอบครัวและเปน็ เสาหลักของครอบครัวคนหนึ่ง ได้ชวนคุณแม่ให้ออกจากบริษัทโฟรโมสต์มาร่วมลงทุนท�ำกิจการ บริษัทสุขุมพาณิชย์ และบริษัทเอ็มไพร์ ท�ำผลิตภัณฑ์ น้�ำสลัด น้�ำพริกเผา แซนด์วิชสเปรด ซอสพริก แยมผลไม้ สังขยา เยลลี่ และคุณแม่ได้พัฒนา ออกผลิตภัณฑ์ใหม่หลายชนิด เช่น น้ำ� ปรุงรสสำ� หรับราดผัก ฯลฯ ซึ่งไดร้ ับรางวัลผลติ ภณั ฑ์ดเี ดน่ และขายดเี ปน็ ทน่ี ยิ มมาก กิจการ เจริญก้าวหน้าเป็นไปด้วยดี ขณะเดียวกันคุณแม่ได้เข้าร่วมกิจกรรมทางสังคมช่วยเหลือสังคม หลายด้าน เคยด�ำรงต�ำแหน่งรองประธานฝ่ายวัฒนธรรมและ ท่ีปรึกษากิตติมาศักด์ิ สภา อุตสาหกรรม จังหวัดนนทบุรี ในส่วนของโรตารี จังหวัดนนทบุรี เคยท�ำหน้าท่ีอุปนายกสโมสร และเหรญั ญิก คณุ แม่ไดร้ ับตำ� แหน่งสตรดี ีเดน่ หลายครง้ั เชน่ ปี ๒๕๓๒ ไดร้ บั ประกาศเกยี รติคณุ รางวลั เกียรติยศ “นักธรุ กิจดีเดน่ ” จาก ศ.จ.ดร.อกุ ฤษ มงคลนาวนิ ปี ๒๕๔๒ ไดร้ ับเกยี รตเิ ปน็ สตรีดเี ดน่ โดยมีท่านผหู้ ญงิ บุญเรือน ชุณหะวณั เป็นประธาน ปี ๒๕๔๕ ไดร้ บั เข็มเครอ่ื งหมาย พระปรมาภไิ ธยย่อ ป.ป.ร. และใบประกาศเกียรตคิ ณุ จาก พลตรีฦาฤทธิ์ จุลกรังคะ ผู้บญั ชาการ กองพลทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยาน ปี ๒๕๔๗ ได้รับประกาศเกียรติคุณเป็นสตรีไทยดีเด่น จากสภาสตรีไทยแห่งชาติในพระบรมราชินูปถัมภ์ ความส�ำเร็จของคุณแม่ถือได้ว่าเป็นความภูมิใจ ของครอบครัวเป็นอย่างมาก เมื่อพ่ีตุ๊และคุณตาอ�ำนาจได้เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งทั้งสองคน แม้จะเสียใจคุณแม่ก็ท�ำใจ จัดกิจกรรม ท�ำบุญอุทิศกุศลให้อย่างเต็มที่ คุณแม่ไม่ใช่คนตระหนี่ ท่ีจะท�ำบุญ ไม่ว่าจะเป็นการให้ทุนการศึกษาแก่โรงเรียน และมหาวิทยาลัย คุณแม่ก็ท�ำบุญให้ การช่วยเหลืออย่างดี คุณแม่เป็นประธานทอดกฐินแก่วัดหลายแห่ง หลายคร้ัง ช่วยเหลือเพื่อน และญาติที่เดือดร้อน คุณแม่เคยสอนผมถึงเรื่องกตัญญูรู้คุณคน ขณะเดียวกันก็ปฏิบัติตนเป็น ตัวอย่างท่ีดี เช่น เมื่อคุณยายยวงค�ำ และคุณตาบุญปั๋น ไม่สบาย ก็จะเดินทางจากกรุงเทพฯ มาเชียงใหม่ เพื่อดูแลทุกอาทิตย์ โดยนั่งรถบัสมาวันศุกร์กลับวันอาทิตย์เย็น วันจันทร์เช้าก็ เข้าทำ� งาน คณุ แมจ่ ะปฏบิ ัติหนา้ ที่เปน็ ลูกทดี่ ีเช่นน้อี ยา่ งสมำ่� เสมอ จนกระทัง่ คุณตาบุญปนั๋ และ คุณยายยวงค�ำทั้งสองท่านเสียชีวิต ผมจ�ำส่ิงที่คุณแม่สอน และยึดไว้ในใจเสมอ เรื่องกตัญญูนี่ 126
มีจังหวะมีโอกาส ถงึ คราวสุกงอมทชี่ ว่ ยคนทีเ่ คยช่วยเราไว้ ก็จะช่วยทันที สมัยเรยี นวทิ ยาลยั ครู ผมไมเ่ ก่งคณติ ศาสตรแ์ ตก่ ย็ ังเลือกเรยี นเป็นวชิ าโท ผมขอใหเ้ พื่อนคนหน่งึ ท่ีเก่งคณิตศาสตรต์ วิ ให้ เขาไม่ค่อยเต็มใจเท่าไร แต่ก็ติวจนช่วยให้ผมผ่าน เพ่ือนคนนี้อายุส้ันเสียชีวิตเร็ว ผมไม่มีโอกาส ตอบแทนบุญคุณเขา ก็ใช้วิธีสวดมนต์ให้ทุกคืนนานเกือบสามสิบปีมาแล้ว ปัจจุบันก็ยังสวดให้ เขาอยู่ทุกวัน บ่อยคร้ังผมชอบน้อยใจคุณแม่ แต่เมื่อนึกย้อนดู ที่จริงแล้วคุณแม่รักและห่วงผม มาก ถึงอยู่ห่าง คุณแม่ก็ดูแลตั้งแต่เด็กๆ ส่งเงิน ส่งของใช้ ไปให้ คุณแม่ส่งเสียให้เรียนจนจบ จากมหาวิทยาลัยรามค�ำแหง และจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จบแล้วมีแฟนแต่งงานกับภรรยา “ต๋ิว” ผศ.ดร.สุวลัย มหากันธา (อดีตรองคณบดีฝ่ายประกันคุณภาพและบริการวิชาการ คณะ ศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี) ก็ซื้อทาวน์เฮ้าส์ให้เป็นของขวัญ ในวันแต่งงาน ผมไปเรียนจบที่ University of Missouri Columbia, U.S.A. คุณแม่กส็ ง่ เสีย ค่าเล่าเรียนให้ รวมทั้งส่งค่าเล่าเรียนให้ต๋ิว จนเรียนจบจาก University of Kentucky, Lexington, U.S.A. เช่นกัน เม่ือผมกลับมาสอนท่ีมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ หลังเกษียณ ราชการคุณแม่ก็ให้เงินซื้อที่ดินปลูกอาคารสามช้ันท�ำเป็นห้องสูทให้เช่า คิดๆ แล้วชีวิตของผม คล้ายกับที่ “พี่อึ่ง” ลูกสาวของ “ป้าเง็ก” เพ่ือนคุณแม่ท่ีเคยบอกว่า ชีวิตของผมเหมือน ปลากระป๋อง ไม่ต้องท�ำอะไร เปิดปุ๊บก็กินป๊บั สบายไปทุกอย่าง ปจั จุบนั น้ี คุณแม่ไดจ้ ากไปแลว้ แต่พระคุณของคุณแม่น้ันล้นเหลือสุดพรรณนา ผมยังไม่ได้ตอบแทนพระคุณคุณแม่เลย มีโอกาสก็จะขอท�ำบุญให้สังคม อุทิศบุญให้คุณแม่ไปตลอดครับ อนาคตก็คงจะขอบวชยาว อุทิศบุญใหแ้ มอ่ กี ครั้ง นะครบั แม่ครับ ... ดว้ ยรัก จากลกู อภชิ าติ มหากนั ธา ๑๙ พฤศจิกายน ๒๕๖๔ 127
แด่ คุณแมบ่ ญุ ยวง แสงสขุ ดว้ ยรักแท้คณุ แม่ดูแลลกู จิตพันผกู ปลกู ฝงั เปน็ ฝง่ั ฝา ใหม้ ั่นคงถึงหลานเหลนพัฒนา วงศ์ตระกลู ก้าวหน้าสถาพร ทง้ั ยงั มไี มตรจี ติ ถงึ มติ รญาติ ความเอ้อื เฟอื้ มไิ ด้ขาดหรือถ่ายถอน คนยากไรไ้ ด้พึ่งพาเอือ้ อาทร ช่วยคนจนคนจรใหอ้ ยดู่ ี จติ ม่ันคงในชาตศิ าสน์กษัตริย์ คณุ ธรรมเด่นชัดจรัสศรี ตลอดชพี แม่กระท�ำแตก่ รรมด ี สะสมบุญบารมีเสมอมา เป็นคณุ ยายยา่ ทวดวยั เก้าสิบ เห็นวิมานลว่ิ ลิบอยูเ่ บอื้ งหนา้ เชญิ คณุ แม่สู่จุดหมายเถิดแม่จ๋า เหน็ สวรรค์ชน้ั ฟา้ อย่รู �ำไร ขอกุศลผลบุญคุณแม่ท�ำ ชว่ ยค�้ำจุนหนนุ น�ำสแู่ ดนใหม่ สขุ หรรษาตลอดกาลเนนิ่ นานไป สู่แดนทิพย์ศวิ ิไลซค์ ุณแม่เทอญ ดว้ ยรัก...จากลกู ตอ้ + ติ๋ว ประพันธโ์ ดย ผ้ชู ว่ ยศาสตราจารย์อาภรณ์ ชวนตุ ม์ 128
คุณทวดในความทรงจ�ำ การเขียนคำ� ไวอ้ าลยั คณุ ทวด เปน็ เรื่องยากทีจ่ ะอธบิ ายเล่าถงึ ความทรงจ�ำดๆี ท่พี วกเรา มตี ่อทวด เป็นตัวหนงั สอื ได้หมด ส่ิงต่างๆ มากมายๆ ท่ีต้นสัมผัสรับรู้ได้ตั้งแต่เป็นเด็กน้อย เติบใหญ่ จนถึงวันที่มี ครอบครัวของตัวเอง มีส่ิงหนึ่งที่ชัดเจน สม�่ำเสมอ เม่ือนึกถึงทวดคือ การ “มีจิตของผู้ให้” ทวดให้ความรัก ให้ความเมตตา ให้ความห่วงใย (อาจเป็นเสียงบ่นบ้าง เป็นบางครา ส่วนใหญ่ เพราะความไม่เอาไหนของพวกเรา) ความรัก ความเมตตา ความห่วงใยนี้เผ่ือแผ่ไปยังลูกหลาน เหลน ญาตพิ ่ีน้อง คนรจู้ ักมกั คุ้น รวมทง้ั พนกั งานลูกหลานชาวสขุ มุ ฯ ทุกๆ คน ทวดจะปฏบิ ตั ิ ต่อทกุ คนด้วยจติ เมตตาอาทร แมก้ ระทง่ั ชว่ งไมส่ บายหนกั พักรกั ษาตวั ยงั คอยสอบถามถงึ ความเป็นไป ความสขุ ความ ทุกข์ของทุกคนอยู่เสมอ พวกเราจะรับรู้ได้ถึงความสุขใจอารมณ์ดีของทวดเมื่อได้ดูแลคนรอบข้าง เสมอมา บุญคุณที่ทวดมีต่อลูกหลานคงเกินจะกล่าวได้หมด และจะคงอยู่ในใจของทุกๆ คน ตลอดไป หากมวี าสนาคงได้ตามไปทดแทนในภพชาติหนา้ นะครับทวด ทวดครับ ทวดเหนด็ เหนือ่ ยมาทั้งชวี ิตกบั การทำ� งาน และการเมตตาดูแลคนรอบข้างมา ยาวนานเหลือเกิน ถึงเวลาที่ไม่ต้องทนทรมานกับสังขารน้ีอีกแล้ว ได้เวลาที่ต้องเดินทางไปยัง ภพภมู ทิ ป่ี ระเสรฐิ สุข ไดไ้ ปเจอคนทีท่ วดคิดถงึ อยทู่ กุ วนั แลว้ หละ่ ... ลกู หลานจะคดิ ถึงทวดตลอดไปครบั พอ่ ตน้ แมอ่ ยุ๋ เจ้าโร่ (ปล. แล้วคอ่ ยเจอกันนะครับทวด รักครับ) 129
หนาวนไี้ มม่ ที วด อากาศเร่ิมเย็น ใกล้หน้าหนาวแล้ว กลิ่นดอกไม้อ่อนๆ โชยมา คุณยายชอบดอกไม้ ทุกชนิดโดยเฉพาะดอกไมก้ ลิน่ หอมๆ ถ้าคุณยายอยคู่ งมโี อกาสไดช้ ืน่ ชมบรรยากาศด้วยกัน ปกติ ทุกปีช่วงใกล้ปีใหม่เราจะขึ้นเชียงใหม่ ไปใช้เวลาที่บ้านแม่ริม คุณยายรักและผูกพันกับที่น่ี มคี วามสขุ ทุกครั้งท่ีขึ้นมาเชยี งใหม่ คณุ ยายไม่ค่อยไปไหน สว่ นมากจะใช้เวลาอยบู่ า้ นกับไปเย่ยี ม ญาติพนี่ ้องรวมถงึ ผู้ใหญท่ เี่ คารพนบั ถือ ช่วงหน้าหนาวถ้าปีไหนอากาศเย็น ตอนกลางคนื คณุ ยาย ชอบให้ก่อกองไฟนั่งผิงไฟทุกคืน คืนสุดท้ายของปีคุณยายจะนั่งผิงไฟอยู่จน COUNTDOWN รงุ่ เชา้ จะไปใส่บาตรวนั ขึ้นปใี หม่ท่ที วี่ า่ การอำ� เภอแม่รมิ คณุ ยายใหค้ วามสำ� คัญกบั การทำ� บุญมาก จะส่ังให้ตระเตรียมของไปใส่บาตรให้เรียบร้อย สิ่งที่ขาดไม่ได้คือ น�้ำพริกคลุกข้าว “สุขุม” คณุ ยายรักการท�ำบญุ ชอบชว่ ยเหลือคน ความสขุ ของคณุ ยายคือการให้ คุณยายบอกวา่ “ทวด ให้แล้วทวดมีความสุข” ความรักความเมตตาคุณยายไม่ได้มีให้เฉพาะลูกหลาน แต่ยังเผื่อแผ่ ไปยงั คนรอบข้าง พนกั งานท่ที �ำงานกบั คุณยายตงั้ แต่สมยั ตงั้ โรงงานใหมๆ่ เลา่ ว่า “พวกเราอย่กู นั แบบครอบครัว ทกุ เช้าเวลามาทำ� งานคุณยายจะทักคำ� แรกว่า “ทานขา้ ว รึยัง” คุณยายดูแลพนกั งานทุกอย่าง ตงั้ แตอ่ าหารการกิน จะผูกปิน่ โตมอ้ื เชา้ กับเย็นให้พนักงาน ส่วนมือ้ กลางวนั จะมีรถก๋วยเต๋ยี วมาขาย แต่คณุ ยายจะเตรียมเคร่ืองปรงุ น้�ำส้ม น้ำ� ตาล พริกปน่ ให้เพราะกลัวไม่สะอาด คุณยายทำ� อาหารง่ายๆ ใหพ้ นักงานทาน เชน่ ไขแ่ ตกเหลือจากทำ� สลดั คุณยายท�ำเป็นไข่เจียว ซ่ึงพนักงานบอกว่า ไข่เจียวคุณยายอร่อยมากฟูสวยไม่เหมือนใคร ถ้าวันไหนมีโอทีคุณยายจะต้มข้าวต้มทรงเครื่องให้ ขนมหวานคุณยายจะใช้ไข่ขาวเหลือจากการ ท�ำสลัดท�ำเป็นไข่หวาน (เหมือนบัวลอยไข่หวาน) แล้วเติมขิง เป็นของหวานง่ายๆ เท่าที่พอจะ หาวัตถุดิบได้ ขนมท่ีคุณยายท�ำอร่อยทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็น กล้วยบวชชี กล้วยเชื่อม ถ่ัวแดง ตม้ น�ำ้ ตาล เค้กกลว้ ยหอม เอแคลร์ พอเลิกงานคณุ ยายจะใหร้ ถไปสง่ พนกั งานท่ีบา้ น ถา้ ออกไป ข้างนอกโรงงานกลับมาคุณยายจะมีขนมติดไม้ติดมือมาฝากพนักงานเสมอ บางคร้ังวันอาทิตย์ ถ้าคุณยายมาโรงงาน จะพาไปทานก๋วยเตี๋ยวแถวปากเกร็ด บางคร้ังซ้ือของใช้ให้ด้วย คุณยาย จะมีสมุดลายไทยเล่มนึง ท�ำเป็นสมุดเงินเดือนให้พนักงาน ในเล่มนี้จะมีรายช่ือเด็กพนักงาน ทุกคน ใครรับเงิน ใครเบิกเงินเท่าไร ถ้าใครเบิกกลางเดือนคุณยายก็จะสอนไม่ให้ใช้เงินเยอะ พอส้ินเดือนคุณยายจะไปส่งธนาณัติกลับบ้านให้ทุกคน เด็กๆ พนักงานทุกคนไม่สบายคุณยาย จะพาไปหาหมอ หน้าหนาวก็ซ้ือเสื้อไหมพรมให้คนละตัว มีอยู่ครั้งหน่ึงพนักงานร้องไห้อยาก 130
กลับบ้าน แต่กลับไม่เป็นเพราะตอนมามากับบริษัทจัดหางาน คุณยายอุตส่าห์หาคนท่ีไว้ใจได้ พาเด็กพนักงานกลับบ้านและพากลับ พนักงานพูดว่า อยู่กับคุณยายมากกว่าอยู่กับพ่อกับแม่ คุณยายท�ำใหพ้ วกเราทุกอยา่ ง” สมัยก่อนคุณยายมีสวนแถวแปดริ้ว คุณยายรักการปลูกต้นไม้เลยไปปลูกมะม่วง ตั้งใจ เก็บเกี่ยวผลผลิตไว้เป็นรายได้ยามเกษียณ เวลาไปสวนคุณยายจะเอากล้วยน้�ำว้าเป็นเครือ มาฝากพนักงานท่ีหารายได้เสริมด้วยการท�ำขนมท�ำกับข้าวขายพนักงานด้วยกัน แล้วคุณยาย กซ็ ือ้ ขนมนีแ่ หละแจกพนักงานทานกนั คณุ ยายใสใ่ จถงึ ความเดอื ดรอ้ นของพนกั งานถงึ ขนาดสรา้ งบา้ นพกั ใหพ้ นกั งานทส่ี ามขี เ้ี มา อยู่แยกออกมา แสดงให้เห็นถึงความละเอียดอ่อนที่คุณยายมีให้พนักงาน นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่ง ทคี่ ณุ ยายมใี ห้คนรอบข้าง หนูโตมากบั คณุ ยาย ส�ำหรับหนคู ณุ ยายเป็นทุกส่ิงในชีวติ ..... คณุ ยายเป็นครสู อนหนังสอื ตอนเขา้ มาอยกู่ รงุ เทพฯเรม่ิ เรียนช้นั ประถมปที ี่ ๑ ความท่ี มาจากต่างจังหวัด ภาษาอังกฤษ คณิตศาสตร์จึงอ่อน คุณยายจะสอนให้ตั้งแต่ one two three …..Sunday Monday….สูตรคูณแม่ต่างๆ ทุกเย็นต้องหัดอ่านเขียนให้คล่อง สอนจน เรียนทันเพื่อน คุณยายเป็นแม่ครัวช้ันเลิศ ต้ังแต่เด็กจนโต คุณยายท�ำอาหารให้ทานท้ังคาวหวาน อุดมสมบูรณ์เหลือเกิน วันว่างคุณยายจะท�ำขนมสารพัด เช่น เค้ก คุกกี้ ครองแครง บัวลอย ท๊อฟฟี่ และอีกหลายเมนู แต่ละคนที่มาอยู่บ้านนี้อ้วนท้วนกันทุกคน อาหารคุณยายอร่อย ทุกอย่าง ทานก่ีครั้งรสชาติก็เหมือนเดิม สวยงามน่าทาน หน้าตาดูก่ีครั้งก็รู้ว่าเป็นฝีมือคุณยาย เพราะคุณยายมีความประณีตในการท�ำอาหาร ต้ังแต่การห่ัน ขนาดช้ินต้องเหมาะกับอาหาร แต่ละเมนู ไมว่ า่ จะต้ม ผัด แกง จะบรรจงทำ� ใหส้ วยงามนา่ ทานและจะชมิ จนแนใ่ จว่าอรอ่ ยก่อน ตักใส่จาน ไม่แปลกใจเลยว่าท�ำกี่ครั้งรสชาติก็เหมือนเดิม คุณยายเล่าว่า เจ้าคุณปู่เคยดูลายมือ คุณยายแลว้ ทกั วา่ คุณยายจะได้ดีเพราะฝีมอื การท�ำอาหาร 131
คุณยายเป็นหมอประจ�ำตัว หนูข้ีโรคเป็นโรคภูมิแพ้ คุณยายต้องพาไปหาหมอเป็น ประจ�ำ เวลาเจอควันบุหร่ี จะไอจนคุณยายต้องต่ืนมาดูตลอด หนูเป็นโรคผิวหนัง เวลา ทานอาหารท่ีแสลงจะคัน นอนเอาเท้าสีกันจนคุณยายนอนไม่ได้ ต้องต่ืนมาทายาให้ สมัยก่อน รอบๆ บ้านเป็นทุ่ง ลมแรง ดึกๆ อากาศเย็น หนจู ะไอเพราะลมลอดชอ่ งหน้าต่างเขา้ มา คณุ ยาย แก้ปัญหาด้วยการเอาดินน้�ำมันอุดตามช่องหน้าต่าง ถึงได้นอนกันได้ คุณยายจะมีวิธีแก้ปัญหา สารพัด คุณยายเป็นช่างตัดเส้ือประจ�ำตัว ตอนเด็กๆ คุณยายจะตัดชุดสวยๆ ให้ใส่เป็นประจ�ำ ท้ังชุดกระโปรง เสื้อ กางเกง เส้ือกันหนาวคุณยายจะถักให้ทุกคน ผลงานช้ินโบว์แดงคือ หมวกไหมพรม คุณยายเล่าให้ฟังว่า เวลาถักหมวกไหมพรมให้หนู กว่าจะเสร็จซักใบรื้อ หลายรอบ เพราะหวั หนทู ยุ ถกั ยากเหลอื เกนิ คุณยายเป็นคนขับรถ ช่วงเรียนช้ันประถม คุณยายจะขับรถรับส่งเราสองคนพี่น้อง ไปกลับโรงเรยี นทุกวนั เวลาโรงเรยี นเลกิ ตอนเย็นจะมี นม ไอศกรมี ติดใส่รถมาใหป้ ระจ�ำ บางวนั ก่อนกลับบ้าน คุณยายจะพาไปจ่ายกับข้าวที่ตลาดอมรพันธ์ ท่ีถูกใจเด็กๆอย่างเราคือ คุณยาย จะพาไปทานสลิ่มทบั ทมิ กรอบเจ้าอรอ่ ยแถวนนั้ วนั หยุดทานจะพาไปดูหนงั บา้ ง เท่ยี วสวนสตั วบ์ ้าง มีความสุขตามประสาเดก็ คุณยายไม่ได้ใส่ใจแค่การเรียน แต่พยายามเสริมทักษะด้วยการพาไปเรียนว่ายน�้ำ แบดมินตนั เทนนิส เรียนดนตรที ี่สยามกลการ ให้เลือกเอาที่สนใจ หนเู ลือกอิเล็กโทน แต่ด้วย ความไมเ่ อาไหน ขีเ้ กยี จฝกึ ซอ้ ม เรยี นได้ไม่ก่คี ร้ังกเ็ ลิกเรยี น ทำ� เอาคุณยายเสยี เงินไปเปลา่ ๆ คุณยายเป็นช่างภาพ คุณยายชอบถ่ายภาพ รูปในอัลบ้ัมเป็นฝีมือคุณยายแทบทั้งนั้น เวลาไปเที่ยวไหนคุณยายจะมกี ลอ้ งคลอ้ งคอตลอดเวลา เปน็ ภาพทเ่ี ท่เหลือเกินสำ� หรบั หนู คุณยายเป็นครูสอนขับรถ คุณยายมีวลีเด็ดท่ีท�ำให้หนูกล้าขับรถจนเป็นคือ “ขับไปเลย ต่อ ถนนไม่ใช่ของใครคนเดียว เค้าไม่กล้าชนเราหรอก” คร้ังนึงคุณยายเคยเปรยระหว่างขับรถ ให้คุณยายน่ังว่า “นถ่ี ้าตกงานจากสขุ ุม ไปขับแทก็ ซี่ไดเ้ ลยนะ” หนูจะถอื เปน็ ค�ำชมนะคะ 132
คุณยายเป็นผู้เก็บบันทึกความทรงจ�ำ หนูเจอจดหมายที่คุณยายเขียนถึงพ่อกับแม่ สมัยก่อนต่างจังหวัดยังไม่มีโทรศัพท์ใช้ คุณยายจะเขียนจดหมายทุกเดือนเดือนละหลายฉบับ เล่าเรื่องหนูกับพี่ชายทั้งเร่ืองสุขภาพ การเรียน ความประพฤติ วีรกรรมต่างๆ ให้พ่อกับแม่ ทราบอย่างละเอียด อ่านแล้วเห็นภาพชัดเจน ถึงรู้ว่าคุณยายต้องเหนื่อยกับพวกเราแค่ไหน ใสใ่ จดูแลเล้ยี งดพู วกเราอยา่ งเต็มก�ำลังความสามารถ ท้ังกำ� ลังกาย ก�ำลงั ใจ และกำ� ลงั ทรัพย์ คุณยายสอนแนวทางการด�ำเนินชีวิต ทั้งจากค�ำพูดและการกระท�ำ คุณยายให้ความ ส�ำคัญกับความกตัญญู คุณยายบอกว่า “ทวดวัดความดีของคนท่ีความกตัญญู” คุณยายเล่าว่า สมัยก่อนท่ีคุณทวดผู้หญิง (แม่ของคุณยาย) ยังอยู่ ช่วงท่ีคุณทวดไม่สบาย ทุกเย็นวันศุกร์หลัง เลิกงานคุณยายจะน่ังรถทัวร์ขึ้นไปเชียงใหม่เพ่ือไปดูแลคุณทวด และนั่งรถกลับมาท�ำงานให้ทัน เช้าวันจันทร์ คุณยายแสดงความกตัญญูให้เห็นเป็นประจ�ำ ผู้หลักผู้ใหญ่ท่ีคุณยายเคารพ เคย มบี ุญคณุ กบั คณุ ยาย คุณยายจะไปมาหาสปู่ ระจำ� วนั สงกรานตค์ ุณยายจะเตรยี มของขวญั ไปไหว้ รดนำ�้ ขอพรเสมอ หนโู ชคดเี หลอื เกนิ ที่ได้เกิดมาเป็นหลานทวด ไดร้ บั การเล้ยี งดูอุ้มชอู ยา่ งไมข่ าดตกบกพรอ่ ง กระทั่งค�ำส่ังเสียสุดท้ายก็ยังแสดงถึงความรักที่ทวดมีให้อย่างไม่เส่ือมคลาย เคยอ่านเจอค�ำกล่าว ท่ีว่า “สิ่งที่เจ็บปวดท่ีสุดของการสูญเสียคนท่ีเรารักไม่ใช่การเอ่ยลา แต่เป็นการเรียนรู้ท่ีจะอยู่ โดยไม่มีคนท่ีเรารัก” ตลอดสี่สิบกว่าปีที่อยู่กับทวดมา ภาพความทรงจ�ำเกี่ยวกับทวดมีมากมาย ไม่ใช่เร่ืองง่ายเลยที่จะอยู่โดยไม่มีทวดอยู่เคียงข้าง หนูสัญญาจะเข้มแข็ง ประคองชีวิตให้อยู่ได้ ตามที่ทวดคาดหวงั หนูขอกราบขอบพระคุณทวด สัญญาว่าจะจดจดค�ำส่ังสอนทวดไปใช้ในการด�ำเนินชีวิต ตลอดไป ขอให้คุณงามความดีที่ทวดประกอบมาตลอดชีวิต ส่งให้ดวงวิญญาณทวดไปสู่สุคติใน สมั ปรายภพ หนกู ราบลานะคะทวด ขอให้ทวดหลับให้สบาย หนจู ะรอวันทีเ่ ราจะได้พบกันอกี ด้วยรักและอาลยั ติด๊ ต่อ 133
ย่งิ รู้จกั ...ย่ิงรักทวด คุณยายบุญยวง แสงสุข นิดเรียกว่า คุณยายบ้าง ทวดบ้าง แต่ส่วนใหญ่จะเรียกว่า “ทวด” อยากบอกทวดว่า “ยิ่งรู้จัก ยิ่งรักทวด” บอกตรงๆ ค่ะ ความรู้สึกท่ีมีต่อทวด มีสอง ความรู้สึก ความรู้สึกแรก ไม่อยากรู้จัก ไม่อยากรักทวด เพราะจะได้ไม่ต้องผูกพัน ไม่ต้องมี ความรู้สึกเจ็บปวด เม่ือเวลาท่ีต้องสูญเสียคนท่ีเรารัก ความรู้สึกท่ีสอง นิดโชคดีท่ีได้มีโอกาสได้ รูจ้ ัก ไดร้ กั และได้รับความเมตตาจากทวด ถึงแม้จะเปน็ ระยะเวลาสัน้ ๆ ก็ตาม นิดเปน็ คนมโี ลกสว่ นตวั สูง เวลาเขา้ กรงุ เทพฯ ชอบไปอยคู่ อนโด ทวดชวนนดิ เข้ามาอยู่ บ้านทวด หลังจากนิดกับท่านผู้การสูญเสียแม่ทั้งสองฝ่าย เราร�ำลึกเสมอว่า “ทวดเป็นแม่ ของเรา” ค�ำว่า “แม”่ เป็นสง่ิ ท่มี คี ่ามาก ไมม่ ขี ายในเซเวน่ ท�ำให้เราสองคนมุง่ มน่ั ตงั้ ใจจะทำ� ทุกอย่างให้ทวดสบายใจ และให้ได้ดังใจตามท่ีทวดปรารถนา เราสุขใจทุกคร้ังที่ได้ท�ำอะไรให้ ทวด ทกุ ครัง้ ท่ไี ปทำ� งานต่างจงั หวัด เรามคี วามรู้สกึ อยากกลับบ้านเรว็ ๆ เพราะมีแมย่ วง (ทวด) คอยอยู่ วันที่ ๕ มีนาคม ๒๕๖๔ ช่วงบ่าย คุณต่อไปส่งของฝากให้คุณอาในหมู่บ้าน นิดจึง ท�ำหน้าท่ีเฝ้าทวดแทนคุณต่อ วันนั้นได้นวดให้ทวด และทวดก็ได้เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับชีวิตของ ทวด นิดก็ได้เล่าเรื่องราวของชีวิตนิด เหมือนเราสองคนจะรู้ว่าเวลาเหลือน้อย ต้องรีบท�ำความ รู้จักซ่ึงกันและกัน ทวดและนิดคุยความในใจให้กันและกันฟัง ทวดน่ารักมากแคร์ความรู้สึกนิด กับเรื่องบางเรื่อง ซ่ึงนิดได้บอกกับทวดว่าไม่ต้องกังวล นิดรักทวดทุกอย่างไม่มีผลต่อความรู้สึก นดิ ทวดเปน็ คนละเอียดอ่อน มีน�ำ้ ใจและเอ้ือเฟื้อ ไมล่ ะเลยตอ่ ความร้สู ึกของทกุ คน เราสองคน ยม้ิ ให้กนั ทวดเป็นคนยิม้ สวยมาก 134
ประทับใจที่สุดตอนปีใหม่ท่ีได้มีโอกาสไปเชียงใหม่ด้วยกัน ช่วงที่อยู่เชียงใหม่มีความสุข มากๆ เลยค่ะ นดิ (คณุ ต่อเรยี ก ‘พจมาน’ มาอย่บู า้ นทวด ‘บ้านทรายทอง’) วันที่ ๒ มกราคม ๒๕๖๔ นิดกับท่านผกู้ ารนั่งรถแอมบูแลนซน์ �ำคุณยายบญุ ยง่ิ นอ้ งสาวของทวดไปส่งโรงพยาบาล ทวดรักและดูแลเอาใจใส่น้องสาวตัวเองอย่างดีมาก นิดรู้สึกประทับใจ ความรัก ความเอาใจใส่ ท่ีทวดมีต่อน้องสาวเป็นที่สุด นิดได้ท�ำเร่ืองโก๊ะๆ หลายอย่างเป็นท่ีเฮฮา สร้างความปวดหัวให้ ทุกคน ทวดได้แต่อมยิ้ม ไม่ต�ำหนินิดเลย ทุกคืนเราผิงไฟด้วยกัน คุยกันเรื่องจิปาถะ ยัง ประทบั ใจไมล่ มื เลือน ทวดเปน็ ผ้หู ญงิ เก่ง ผูห้ ญิงแกรง่ ทวดเป็นคนอ่อนโยน แต่ไมอ่ อ่ นแอ ทวดเป็นคนสภุ าพ ทวดมีความรัก ความเมตตากรุณาต่อทุกคน ทวดเป็นคนมีความจ�ำดีมาก ทวดเล่าเหตุการณ์ วันที่เจอนิดครั้งแรก บอกได้เลยว่า ถ้าใครรู้จัก จะรักผู้หญิงคนนี้ ทวดเป็นนางเอกท้ังในจอ (“อัญชลี” ในเรอื่ ง “ทางเปลี่ยว”) และนอกจอ นิดได้ยินเสียงทวดครง้ั สดุ ทา้ ยทางโทรศพั ท์ ทวดถามวา่ “คุณนิดไมถ่ ามถงึ ทวดเลยนะ” วันน้ันถึงได้คุยกันเป็นครั้งสุดท้าย แต่นิดจ�ำไม่ได้ว่าคุยอะไรกัน เพราะมัวแต่ดีใจ ทวดรู้ไหม วันน้นั เปน็ วันทนี่ ดิ สขุ ใจมาก “ที่ได้คยุ กบั แม่ยวง” ขอบพระคุณทวดอย่างสูงที่เมตตานดิ วันที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๖๔ ได้รับข่าวจากอาบ่อ (คุณต่อ) ว่าทวดอาการไม่ดี เรารีบ เดินทางทันที ระหว่างเดินทาง นิดอธิษฐานภาวนา ขอให้ส่ิงศักดิ์สิทธิ์ลดอายุนิดให้สั้นลง แล้ว ไปต่อชีวิตทวดให้ยืนยาวข้ึน ค�ำอธิษฐานไม่เป็นผล ทวดจากไปอย่างสงบในเวลา ๒๐.๓๐ น. ในวันท่ี ๒ เมษายน ๒๕๖๔ “ความรักก็เหมอื นเทียนไข ให้แสงสวา่ งแตก่ ม็ ีน้�ำตา” รกั และรำ� ลึกถงึ แมย่ วงเสมอ นิด 135
ร�ำลึกถงึ คุณยาย นุชกบั ตุ้ยพูดกันอยู่เสมอ วา่ พวกเราโชคดที ่ีมีโอกาสได้รูจ้ ักกับคุณยาย ทกุ ครัง้ ท่ีมีโอกาส ไปที่บ้านรังตอ่ พวกเราไดร้ ับความเมตตาเสมอื นเป็นลกู หลานคนหนึ่ง นุชยังนึกถึงวันท่ีไปดูหนังท่ีคุณยายแสดง คิดถึงรอยย้ิมอบอุ่น และเสียงหัวเราะของ คณุ ยายเสมอ จากน้ีคุณยายคงเดินทางไกลสู่ความสงบนิรันดร์แล้ว ได้ไปเป็นนางเอกตัวจริง ที่หนัง เรือ่ งนน้ั มตี อนจบที่แสนสขุ แลว้ นะคะ นชุ กบั ตุ้ยจะระลึกในความเมตตาของคณุ ยายบญุ ยวงเสมอ ตลอดไปนะคะ รักและเคารพค่ะ นุช & ตุ้ย ๒๘ ตลุ าคม ๒๕๖๔ 136
รำ� ลึกถงึ พีน่ ้อย ดว้ ยความอาลัยย่ิง ใจหาย เมื่อต๊ิดต่อแจ้งข่าวมาว่า พ่ีน้อยได้จากไปแล้ว ทั้งๆ ที่รู้ว่าพี่อายุมากและก�ำลัง เจ็บป่วยด้วยโรคภัยไข้เจ็บที่โอกาสหายมีน้อย พยายามท�ำใจแต่ก็อดใจหายไม่ได้ ในช่วงวัยเด็ก และวัยรุ่น นายได้ใช้ชีวิตใกล้ชิดกับพ่ีน้อยมากเป็นช่วงยาวพอสมควร จึงมีความหลังฝังใจอยู่กับ พี่นอ้ ยมากมาย เราเป็นพี่นอ้ งตา่ งมารดา อายุหา่ งกนั ถึงหนึ่งรอบปีนกั ษัตร (๑๒ ป)ี ในวัยเด็กนายรักและภูมิใจในตัวพ่ีน้อยมาก พ่ีน้อยท้ังสวยท้ังเก่งและใจดี นายติดแจ อยู่กบั พ่นี อ้ ย อยกู่ นั คนละบา้ น แต่ทกุ ๆ คนื นายจะไปนอนคา้ งกบั พนี่ ้อยท่ีบ้านของเจา้ ปา้ ยวงค�ำ แมข่ องพี่น้อย ฝา่ ยพ่ีนอ้ ยก็รักนายอยไู่ มน่ ้อย คอยส่ังสอน ไปท่ีไหนก็พาไปด้วย ไมว่ า่ จะไปเที่ยว หรือไปธุระ นายชอบและมคี วามสุขมากที่ไดต้ ดิ สอยหอ้ ยตามไป ทกุ ตำ� แหนง่ แหง่ ท่ี พีน่ อ้ ยเป็นคนหวั ก้าวหนา้ ชอบเรยี นรูส้ ิ่งใหม่ๆ อยเู่ สมอ มรี สนยิ มดี พี่น้อยถกั ไหมพรม เป็นและสอนให้น้อง พี่น้อยรู้จักการท�ำขนมไทย รวมถึงขนมและอาหารฝร่ังหลายอย่างตั้งแต่ นายยังเด็ก (ประมาณ ๗๐ ปีมาแล้ว) ซ่ึงนายก็ได้เรียนรู้ งานฝีมือพ่ีน้อยก็เก่ง พ่ีน้อยเรียน เย็บผ้าจนเป็นมืออาชีพและเป็นครูสอนต่อได้ มีคนมาเรียนเย็บผ้ากับพ่ีน้อยด้วย แม้แต่การ ท�ำดอกไม้ประดิษฐ์จากขี้ผึ้ง ท่ีคนทั่วไปในสมัยน้ันยังไม่รู้จักกัน ไม่รู้ว่าพี่น้อยไปเอาความรู้ มาจากไหน พยายามสอนน้อง แตไ่ ม่ส�ำเรจ็ พ่ีนอ้ ยเองท�ำได้สวย ผลงานเป็นช่อดอกแกลดิโอลสั ตา่ งสี สวยงามหลายชอ่ ปกั แจกันไว้ 137
ในวัยรุ่นวัยเรียน ท่ีต้องเข้ามาเรียนที่กรุงเทพ นายก็ได้พี่น้อยนี่แหละอ้าแขนรับเป็น ผู้อนุเคราะห์ให้อาศัยอยู่ด้วย เล้ียงดูให้ความอบอุ่น เป็นเวลายาวนานถึง ๔ ปี ทั้งๆ ท่ีเป็น ช่วงเวลาพน่ี ้อยและพ่ีเหยน่ (พ.อ.พเิ ศษ อำ� นาจ แสงสขุ ) เพง่ิ แต่งงานและก�ำลังกอ่ ร่างสร้างตัว ในช่วงท้ายๆ หลังจากที่นายเรียนจบ กลับไปใช้ชีวิตท่ีเชียงใหม่บ้านเกิด ไม่ค่อยจะได้ เข้ากรุงฯ บ่อยนัก พี่น้อยได้ใช้ชีวิตในกรุงเรื่อยมา มานะบุกบั่นฝ่าฟัน ผ่านการท�ำงานหลาย อาชีพ จนประสบความส�ำเร็จเป็นนักธุรกิจสตรีแนวหน้าอย่างเป็นท่ียอมรับกันในวงการ การ ใช้ชีวิตของเราท้ังสองจึงห่างไกลกันออกไป แต่อย่างไรก็ตามเรายังเจอกันอยู่อย่างน้อยปีละ สองครั้ง แต่ละปีพี่น้อยจะถือเป็นหน้าที่ท่ีจะต้องข้ึนไปเชียงใหม่ ในวาระฉลองปีใหม่สากล กับ ช่วงสงกรานต์ “ปี๋ใหม่เมือง” ชึ่งตามประเพณีจะเป็นช่วงของการแสดงความคารวะ “ด�ำหัว” ญาติผู้ใหญ่ ผู้อาวุโสที่นับถือ และท�ำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้บรรพบุรุษท่ีล่วงลับไปแล้ว งานน้ี ถือเป็นการพบปะรวมญาติมิตรไปในตัวด้วย วาระนี้พ่ีน้อยถือเป็นเรื่องเคร่งครัดมาก รับเป็น เจ้าภาพงานประจ�ำทุกปี นายกับพ่ี ศรีนวล (ลูกพ่ีลูกน้องของพี่น้อย) มีหน้าท่ีประจ�ำในการ บอกเล่านัดหมายญาติสนิทมิตรสหายท้ังหลาย ย่ิงรวบรวมญาติมาท�ำบุญด้วยได้มากเท่าไหร่ พี่น้อยก็จะดมู คี วามสุขมากขน้ึ เทา่ นนั้ ตามลำ� ดบั พีน่ ้อยมคี วามกตญั ญูเป็นเลศิ นายรสู้ ึกและเหน็ ได้ชัดเจน จากการแสดงออก ท่มี ตี ่อแม่ ของนาย เจา้ จ�ำรัส (ณ เชียงใหม)่ พงษป์ ระดิษฐ์ ตลอดมาต้ังแตท่ า่ นยงั มชี วี ติ อยู่ แมจ้ นกระท่ัง ทา่ นได้ลว่ งลบั จากไป การจากไปของพี่น้อย ท�ำให้นายหวนร�ำลึกถึงพระคุณของพี่น้อยที่มีต่อนาย และ คุณงามความดีท้ังหลาย ที่ผนึกอยู่ในตัวพ่ีน้อย อย่างไม่รู้ลืม นายเชื่อว่าด้วยคุณงามความดีของ ตวั พ่ีนอ้ ยเอง และประกอบกบั แรงอธฐิ านจากนาย ลกู หลานและญาตมิ ิตรที่รัก เคารพนับถอื ใน ตัวพ่ีน้อย พวกเราขอกราบบังคมทูลคุณพระศรีรัตนตรัย จงได้โปรดดลบรรดาลให้วิญญาณ อันบริสทุ ธข์ิ องพี่นอ้ ยได้ไปสถิตย์อยู่ในสรวงสวรรคช์ ้นั ฟ้า อย่างมคี วามสขุ เกษมสำ� ราญย่ิง ด้วยรักและอาลัย นาย (เบญจวรรณ ทองศริ )ิ ๒๗ พฤษภาคม ๒๕๖๔ 138
ปา้ ยวงเป็นผใู้ หเ้ สมอมา นับตั้งแต่จ�ำความได้ เกษร์อายุประมาณห้าหกขวบ เกษร์ได้ทราบว่าเกษร์มีป้ายวง ซึ่งเป็นพี่สาวคนเดียวของแม่ ซ่ึงก่อนหน้านั้นเกษร์ไม่เคยรู้เลยว่าแม่มีพ่ีสาว แม่ภูมิใจในตัว ป้ายวงมาก ป้ายวงเป็นคนสวยมาก แม่เล่าให้ฟังเสมอวา่ ปา้ ยวงเปน็ คนสวย และเก่งในทุกๆ ด้าน ไมว่ า่ จะเปน็ การฝีมือ เยบ็ ปกั ถกั ร้อย การบา้ นการเรือน ปา้ ยวงเป็นคนขยนั รกั ความก้าวหน้า มีความมานะอดทน สามารถสร้างเนื้อสร้างตัวจนมีฐานะมั่นคงร�่ำรวย แม่เล่าว่าป้ายวงเคย ท�ำขนมขายต้ังแต่ยังเด็ก แม่ชอบเล่าเรื่องราวชีวิตวัยเด็กของป้ายวง-แม่-ป้าศรีนวลและ น้าเบญจวรรณให้เกษร์ฟังเสมอ เป็นเรื่องราวสนุกๆ น่ารักๆ ป้ายวงชอบท�ำบุญและเป็นคน มีน้�ำใจคอยช่วยเหลือแม่เสมอ เพราะแม่เป็นน้องที่ตอนเด็กซุกซนมากๆ เหมือนเด็กผู้ชาย แม่ บอกวา่ ความซนของแม่ ปา่ นน้ใี นอ�ำเภอแมร่ ิม ยังคงไมม่ ใี ครลบสถิติของแมไ่ ด้เลย จวบจนต่างคนต่างมีครอบครัว แม่แต่งงานกับพ่อมาอยู่อ�ำเภอสันก�ำแพง ชุดเจ้าสาว ท่แี ม่ใสเ่ ป็นฝมี อื ของป้ายวงตัดเย็บให้ จนแก่เฒ่าป้ายวงก็ยังคอยช่วยเหลือแม่ตลอดมา ป้าส่งเสีย เงินให้แม่ไว้ใช้จ่ายค่ายาและหาหมอเดือนละสามพันบาท เป็นเวลาหลายปี เกษร์ทราบว่าไม่ใช่ แค่แม่ที่ป้ายวงดูแลยังมีญาติพี่น้องอีกหลายคนท่ีป้ายวงอุปการะดูแลอยู่ เกษร์รู้สึกซาบซึ้งใน ความกรุณาของป้ายวงมาก เพราะเท่ากับว่าป้าได้แบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในครอบครัวของแม่ และเกษร์ได้ประมาณหนงึ่ แม่ป่วยเข้า-ออกโรงพยาบาลแมคคอร์มิคหลายครั้ง ป้ายวงก็ช่วยออกค่ารักษาพยาบาล ให้ทุกคร้ังไป หลังสุดเม่ือเดือนมกรา ปี ๖๔ นี้เอง ป้ายวงทราบว่าแม่ป่วยอีก ป้าก็พาแม่ไป นอนโรงพยาบาลแมคคอรม์ คิ อีก เกือบย่สี บิ วนั และอยากให้แม่ได้นอนเตยี งผู้ป่วยทีส่ ะดวกสบาย ป้าก็ซื้อให้แม่ไม่ว่าจะแพงแค่ไหน เกษร์คุยกับป้าว่า อยากจะสร้างบ้านให้แม่อยู่ ให้มันใหญ่โต กว่าน้ี เพราะบ้านทอ่ี ย่เู ปน็ บา้ นหลังเลก็ ท่ีแม่สรา้ งไว้ใหอ้ า้ ยอง๋ (ลูกชายคนโต) เวลามาพัก ป้าก็มี น้�ำใจออกเงินสร้างให้ แต่ก�ำลังเริ่มสร้างแม่ก็เสีย เกษร์ก็เกรงใจ ถามป้าว่าจะอนุญาตให้สร้าง ต่อไหม ปา้ ยวงก็อนญุ าตใหส้ รา้ งต่อได้ หลังจากแมเ่ สียได้ไม่กีว่ ันเกษรก์ ็ทราบขา่ วว่าป้ายวงก็เสยี ตามแม่ไป เกษร์ตกใจมากไม่คิดว่าป้ายวงจะเสียเร็วขนาดน้ี คิดว่าป้ายวงคงอยู่อีกนาน เพราะ ป้ายวงเป็นคนรกั สขุ ภาพมาก เอาใจใสต่ ัวเองตลอดมา การจากไปคร้ังนี้เปน็ การสูญเสียครัง้ ใหญ่ ในชีวิตของเกษร์ เพราะสูญเสียทั้งแม่และป้าในเวลาใกล้เคียงกัน ป้ายวงเปรียบเสมือนแม่ผู้ให้ 139
ก�ำเนิดเกษร์คนหน่ึง ป้ายวงชอบท�ำบุญมาก ขอกุศลผลบุญที่ป้ายวงได้สร้างมา ตลอดจน บุญกุศลท่ีลูกหลานญาติมิตรได้ร่วมกันท�ำอุทิศให้ในคร้ังนี้ จงเป็นพลัง ส่งให้ป้ายวงไปสถิตเสวย อดุ มสขุ ในทพิ ย์วมิ านสคุ ติสถานในสมั ปรายภพด้วยเทอญ. ด้วยความเคารพรกั และอาลัยยงิ่ ก่งิ เกษร์ เพยี รกศุ ล ๒๖ ต.ค. ๖๔ อาลัยคุณปา้ บุญยวง การจากไปของคุณปา้ เป็นการสญู เสียครัง้ ย่งิ ใหญ่ เมื่อคร้ังยังมชี ีวิตอยู่ คุณป้าเปน็ ผูท้ ีม่ ี อัธยาศัยดี โอบอ้อมอารี เมตตากรุณา เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่กับหลานๆ เป็นท่ีเคารพรักนับถือของ หลานๆ บัดนี้ คุณป้าได้จากพวกเราไปแล้ว แต่ความรัก ความผูกพัน ความเมตตา ที่คุณป้ามี ให้กบั หลานๆ จะยังประทับแน่นอยใู่ นหวั ใจอยา่ งไมม่ วี นั ลมื เลือน ขอให้คุณป้าไปสู่สรวงสวรรคอ์ ย่างเป็นสุขด้วยเทอญ ดว้ ยความเคารพรักและอาลัยยิง่ สรุ ภี ทองหลอม พจนา อินตา พมิ ทอง คุณา 140
แคเ่ ส้ยี ว....ของความคิดถึง ปา้ นอ้ ยเป็นป้าคนเดียวของฉัน ถงึ ปา้ นอ้ ยจะเป็นสะใภแ้ ตก่ เ็ ป็นผู้หญงิ คนเดยี วทฉ่ี นั เรียก ว่าปา้ แม่ฉนั เป็นลูกสาวคนโตของบา้ น ฉันเลยมนี า้ หลายคน ป้าน้อยจงึ เป็นหนงึ่ เดยี วเสมอมา ถ้าจะย้อนถามว่าฉันมีความคิดถึงอะไรเก่ียวกับป้าน้อยบ้าง ก็ต้องขอย้อนเวลากลับเม่ือ ๖๐ ปีก่อนตอนท่ีฉันยังเด็ก อย่างแรกเลยป้าน้อยท�ำงานที่บริษัท โฟร์โมสต์ ออกจะเป็นเร่ือง แปลกสำ� หรบั ผู้หญงิ สมัยนนั้ ท่ีท�ำงาน อันทีจ่ รงิ มผี หู้ ญงิ ออกไปทำ� งานนอกบา้ นก็เยอะอยู่ แตก่ จ็ ะ เป็นครูหรืออยู่ธนาคาร แต่ป้าน้อยท�ำงานที่บริษัทฝร่ังพูดภาษาอังกฤษได้ เลยดูเป็นเร่ืองเก๋ไก๋ หรืออาจจะเปน็ เพราะฉันยังเดก็ โลกของฉนั จะยังแคบนักรจู้ กั คนรู้จักอาชีพไม่มากก็เป็นได้ เวลาน้นั ฉนั ไม่รู้หรอกวา่ ป้าน้อยเคยเปน็ ดาราภาพยนตรม์ ากอ่ นท่ีจะมาแต่งงานกับคุณลุง ของฉัน รู้แต่ว่าป้าน้อยสวยมากไม่เคยมีใครปฏิเสธค�ำช่ืนชมนี้ได้ สวยอย่างธรรมชาติ สวยอย่าง ไม่มีที่ติ คุณลุงของฉันช่างโชคดีนักท่ีมีภรรยาสวยขนาดนี้ คุณลุงของฉันไม่ได้หล่อแต่ก็สง่างาม เสียงดังบุคลิกห้าวหาญสมเป็นชายชาติทหาร ยังจ�ำสายตาที่คุณลุงมองป้าน้อย ทุกครั้งช่างเต็ม ไปด้วยความรักอ่อนหวาน คิดถึงท่ีแอบเห็นครั้งคุณลุงก็เอาน้ิวโป้งเข่ียแก้มป้าน้อยเบาๆ แล้วก็ หอมแก้มตรงรอยแมโ่ ปง้ ป้านอ้ ยน่ังยม้ิ อายๆ ฉนั ก็ย้มิ ไปดว้ ย เดก็ ตวั แคน่ ้นั ยังเรียนอยชู่ ั้นประถม เลยออกจะตื่นเต้นไมน่ ้อย จ�ำภาพทไ่ี ด้เหน็ มาจนทกุ วันน้ี คิดถึงขนมเค้กปอนด์แรกที่ป้าน้อยตั้งอกตั้งใจอบมาให้ฉัน ขนมเค้กแบบฝร่ังไม่ได้หากิน ได้ง่ายๆ เหมอื นสมัยน้ี เยน็ วนั หนึ่งป้าน้อยกับคุณลงุ มาหาพอ่ แม่ฉนั จำ� ได้วา่ ตน่ื เต้นกบั เค้กกอ้ นนี้ มาก พอปา้ น้อยเดินมาบอกพร้อมรอยยม้ิ ประทบั ใจว่า “ป้าท�ำเค้กมาฝาก” แคน่ ัน้ ฉนั ก็วง่ิ ไปสวสั ดี และคว้ากล่องเค้กแล้วก็วิ่งกลับเข้าบ้าน จนแม่ต้องตะโกนให้กลับมาขอบคุณก่อน น่ันแหละ ถงึ ได้วงิ่ กลับมายกมือกล่าวขอบคุณแล้วถึงว่งิ เข้าบา้ นไป คิดถึงไส้อั่วที่ป้าน้อยเคยสอนให้ฉันท�ำ ตอนน้ันโตท�ำงานแล้ว คุณลุงกับป้าน้อยย้ายมา อยู่ท่ีบ้านชินเขตหลังที่อยู่ปัจจุบันน้ี แต่ก่อนมีแค่บ้านหลังดั้งเดิมหลังเดียว ก่อนท่ีจะขยายมา เป็นหลายๆ หลังเหมือนวันนี้ คุณลุงเร่ิมไม่สบาย ฉันไปเยี่ยมมีแรงจูงใจคือป้าน้อยบอกว่าจะ สอนทำ� ไสอ้ ัว่ และป้านอ้ ยกส็ อนครบทกุ ขั้นตอนจนส�ำเร็จไดก้ ิน และยงั เอากลับมาเผ่ือพอ่ กับแม่ อีก คิดถึงค�ำพูดของป้าน้อยที่พูดกับแม่บ้านท่ียืนช่วยงานอยู่ข้างๆ ใช้ค�ำพูดที่อ่อนหวาน คะขา เรียกตัวเองว่าคุณยาย ฟังแล้วเหมือนไม่ใช่เร่ืองแปลกท่ีคนเราจะใช้มธุรสวาจาใส่กัน แต่ส�ำหรับ 141
ฉันมันแปลก เพราะปกติเราไม่คะขา หรือแม้จะทอดหางเสียงให้แม่บ้าน ทุกคำ� พูดคือค�ำส่ัง แต่ป้าน้อยใช้ค�ำพูดท่ีละมุนหูราวกับพูดกับลูกหลานในบ้าน ฉันประทับใจในความงาม ความ ออ่ นหวานอบอนุ่ และความเมตตาที่ป้านอ้ ยมีให้ฉนั และผูค้ นที่อยรู่ อบตัว คิดถึงวันท่ีรู้ข่าวว่าป้าน้อยซ้ือกิจการสุขุมพาณิชย์ ผลิตอาหารส�ำเร็จรูป เป็นผลิตภัณฑ์ ท่ีมีช่ือเสียงอยู่แล้ว ฉันต่ืนเต้นภูมิใจกับการที่มีป้าเป็นนักธุรกิจหญิงท่ีมีช่ือเสียง มีกิจการใหญ่โต ได้รบั รางวัลดีเด่นหลายรางวลั เปน็ สภุ าพสตรที ป่ี ระสบความส�ำเร็จเปน็ ทน่ี ับหนา้ ถอื ตา ฉนั เทย่ี ว อวดใครๆ เขาไปทว่ั ด้วยความภาคภมู ิใจ ไดห้ นา้ ไดต้ าไปดว้ ย นี่เป็นแค่เส้ียวหน่ึงของความคิดถึง ยังมีเรื่องราวประทับใจให้คิดถึงป้าน้อยอีกมากมาย จะให้บรรยายก็คงต้องเขียนกันเป็นเล่ม ป้าน้อยหน่ึงเดียวคนนี้ของฉันสวยงาม สวยด้วยกาย วาจา ใจ นับแต่วันนั้นจนวันท่ีป้าน้อยจากไป ไม่ว่าป้าน้อยจะไปอยู่ท่ีภพภูมิใด ขอให้ป้าน้อย มคี วามสุขสงบ เผอ่ื แผ่รอยยิม้ แววตาแหง่ ความเมตตา และความงดงามทงั้ หมดทง้ั ปวงท่ปี ้าน้อย มี ไปยงั ทกุ สรรพสง่ิ และทุกผ้ทู ุกตนในภพภมู ิน้นั ด้วย ศศธิ ร สันตยานนท์ 142
ระลกึ ถงึ ป้าน้อยท่รี กั และนบั ถอื ของพวกเราทกุ คน ข่าวการจากไปของป้าน้อยโดยไม่คาดฝันยังความโศกเศร้าอาดูรให้ทุกคนที่รู้จักป้าน้อย เป็นอย่างย่ิง เพราะป้าน้อยเป็นที่รักของพวกเราทุกคนมาโดยตลอดในช่วงหลายทศวรรษท่ีรู้จัก ป้าน้อยมา ป้าน้อยเป็นคนที่มีครอบครัวที่อบอุ่น เป็นนายจ้างที่ดีของลูกจ้างทุกคนอย่าง สม่ำ� เสมอทีโ่ รงงาน ดูแลทุกขส์ ุขของทกุ คนมาอยา่ งต่อเนื่อง ในด้านธุรกิจและสังคม ป้าน้อยยังเป็นท่ีรู้จักเป็นอย่างดีเป็นที่รักใคร่นับถือในวงการ ธุรกิจไม่เฉพาะแต่ในจังหวัดที่ป้าน้อยท�ำธุรกิจแต่รวมไปถึงจังหวัดอื่นๆ ด้วย โดยเฉพาะอย่างย่ิง ป้าน้อยเป็นคนท่ีมีใจบุญสุนทานเพราะเป็นผู้ที่มีความเล่ือมใสในพระพุทธศาสนาท�ำบุญท�ำทาน มาโดยตลอด คงจะเป็นการยากท่ีจะบรรยายถึงป้าน้อยในทุกด้านของท่านแต่ขอสรุปว่า ป้าน้อยเป็น ทร่ี ักใคร่ของทุกคนทรี่ ู้จักทา่ น ขอใหด้ วงวิญญาณของป้านอ้ ยของพวกเราไปสู่ที่สุคตแิ ละให้ความ คุ้มครองลกู หลานและพวกเราตลอดไปดว้ ยครบั So dearly loved So sadly missed So proudly remembered จาก ครอบครวั วลยั เสถียร มถิ นุ ายน ๒๕๖๔ 143
Remembering the beloved and respected Auntie Noi of all of us, The unexpected news of Auntie Noi's passing brings great sadness to everyone who knows her because she has always been loved by all of us over the past decades that she has been known to us. Auntie Noi has a warm family and is a respectable employer with kind heart for all employees at the factory in taking good care of everyone's happiness and welfare. In business and in society, Auntie Noi is equally well known and respected in the business world, not only in the provinces where Auntie Noi does business but also in other locations. Auntie Noi is a Philanthropist because she has always been benevolently devoted to Buddhism with great dedication. It would be difficult to elaborate about Auntie Noi in all aspects of her, but let us sum up with modesty that Auntie Noi has always been loved and respected by everyone who knew her. May her soul Rest In Peace and protect her children and us forever. So dearly loved So sadly missed So proudly remembered With love, respect and always remembering our dearly beloved Auntie Noi. In all sincerity from the hearts of all of the Valaisathien Family. Bangkok, June 2021 144
รักและอาลยั คุณยายบุญยวง แสงสขุ เป็นระยะเวลาเกินกว่าคร่ึงศตวรรษ ที่ครอบครัว “การปลูก” มีโอกาสได้สัมผัสกับ ครอบครัวของคุณยายบุญยวง ซึ่งเป็นผู้ที่มีบุญวาสนาบารมี ในช่วงเวลาน้ันเราได้รับเพียงข้อมูล จากพช่ี าย ผูเ้ ปน็ ลกู เขยของทา่ น คือ พล.ต.ต.ณัฐกณฑ์ การปลูก พ่ชี ายมักจะเลา่ ให้ฟงั เสมอว่า คุณยายเป็นผู้ที่มีบุญบารมีและมีจิตใจกว้างเหมือนน�้ำในมหาสมุทร เราก็ได้เพียงแต่รับฟัง เน่ืองจากพวกเราอยู่ห่างไกลและด�ำเนินชีวิตอยู่ต่างจังหวัด คุณยายบุญยวงเป็นผู้ที่มีความรู้ ความสามารถมีประสบการณ์ ในการบริหารจัดการธุรกิจและครอบครัวจนประสบความส�ำเร็จ เน่ืองจากท่านได้ยึดหลักธรรมท่ีเรียกว่า “อิทธิบาท ๔” ซ่ึงเป็นแนวทางที่น�ำไปสู่ความส�ำเร็จใน การงานและในการด�ำเนินชีวิต และย่ิงส�ำคัญไปกว่านั้น ท่านยังมีการบริหารจัดการธุรกิจ โดย ยึดหลักธรรมาภิบาลและหลกั ธรรม “พรหมวหิ าร ๔” จึงสง่ ผลให้ผสู้ มั ผัสใกล้ชิดมคี วามพงึ พอใจ เล่ือมใสศรทั ธาและมีความสุข เหล่าลูกหลาน “การปลูก” ทั้งหลายนับได้ว่ามีบุญวาสนามากเหลือเกิน เพียงในช่วง ท้ายชีวิตของท่าน ได้มีโอกาสมาเย่ียมเยียน กราบคารวะ ขอความเมตตาจากท่าน และเป็น ก�ำลังใจให้กับท่าน และสัมผัสได้ว่าท่านมีความจริงใจ มีความเมตตาเป็นคุณแม่ที่สมบูรณ์แบบ เปน็ “เพชรน้ำ� หนงึ่ ” ในใจของครอบครวั “การปลูก” อมตะนิรันดรก์ าล ทา่ นปรารถนาอยากให้ ทกุ คนมคี วามสุข และเราเปรยี บทา่ นเป็นเสมือนญาติผู้ใหญ่ของตระกูล “การปลูก” อีกคนหน่งึ ในการจากไปของคุณยายคร้ังน้ี นับเป็นการสูญเสียที่ย่ิงใหญ่ท่ีสุดในชีวิต คุณยายเป็น ผู้ใหโ้ ดยตลอดมา ทา่ นจากเราไปด้วยอาการอนั สงบ ท่ามกลางความโศกเศร้าเสียใจของลกู หลาน ทุกคนต่างก็รักเคารพและบูชาท่าน แม้ว่าท่านจากไปก็เป็นเพียงร่างกาย แต่คุณงามความดีของ ท่านยังอยู่ในความทรงจ�ำของลูกหลานทุกคน โดยเฉพาะครอบครัว “การปลูก” ได้จารึกไว้ใน หัวใจตลอดกาล ขอกราบอาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัย ช่วยปกป้องรักษา คุ้มครองให้คุณยาย เดินทางสูสุคติ สัมปรายภพด้วยความสงบสุข ขอให้ดวงวิญญาณของคุณยายบุญยวง แสงสุข เป็นสะพานนำ� กศุ ลผลบุญทที่ า่ นไดส้ ร้างและสะสมมาตลอดชีวิต ไปสู่พบภมู ทิ ีส่ ูงสดุ ด้วยเทอญ ความดีคนเรานี่ ดีใด ดนี ำ�้ ใจท่ใี หแ้ ก่คน ทงั้ ปวง อภัยรู้แตใ่ หไ้ ป ไมห่ วง รู้กลืนกลำ้� เลิศลำ้� ความเปน็ ยอดคน ชื่นชอบตอบผล ร้อยคนมหี นึ่งเท่านน้ั เอย จากครอบครวั “การปลูก” 145
พี่นอ้ ยผเู้ ปน็ พี่สาวทร่ี ักยง่ิ ณ ปจั จบุ ันนพ้ี วกหนู ๓ สาว (ต๋ิม ต๋อย และมกุ ) อยู่ในวัยเกษียณอายงุ านกนั ทัง้ ๓ คน มานานแล้ว แต่เราก็มีการสังสรรค์กันบ่อยคร้ัง และหัวข้อหน่ึงท่ีเราจะพูดถึงก็คือ บริษัท โฟร์โมสตอ์ าหารนม (กรุงเทพ) จ�ำกัด อนั เปน็ ทีร่ ักทม่ี ีพ่ีน้อยและ ๓ สาว ทำ� งานรว่ มกันหลายปี เนื่องจากโฟร์โมสต์ฯ บริษัทท่ีมีระบบการท�ำงานท่ีดี ผู้ร่วมงานที่เป็นกันเอง ส่งผลให้ บรรยากาศในการทำ� งานเป็นไปอย่างราบรน่ื และอบอ่นุ มาก แมจ้ ะเกษียณฯ มานานเกิน ๑๐ ปี แล้ว ท�ำให้พวกเรามีความผูกพันกัน จนมีการนัดสังสรรค์กันบ่อยครั้ง และสถานที่ท่ีพวกเรา นัดสังสรรค์คือบ้าน “พี่น้อย” ซึ่งเป็นผู้ร่วมงานอันเป็นที่รักของพวกเรา ทั้งน้ีเน่ืองจาก พ่ีน้อย เป็นคนสวยที่พูดจาอ่อนหวาน และใจดี ยามไปเท่ียวด้วยกันพี่น้อยก็จะบริการเร่ืองอาหารและ ขนมหวานอันแสนจะอร่อยจนเป็นท่ีประทับใจไปท่ัวทุกคน และหลังจากพี่น้อยลาออกจาก บรษิ ทั โฟรโ์ มสต์ฯ เพื่อออกมาทำ� ที่ บรษิ ทั สุขมุ ฯ อนั เปน็ ธรุ ะกจิ ของพ่ีน้อยเอง เรากย็ ่งิ สนิทสนม กันมากข้ึน เพราะพ่ีน้อยจะชวนพวกเรา-สาวสาวสาวไปทานอาหารที่บ้านซ่ึงปรุงโดยฝีมือของ พี่น้อยเอง และเราก็จะอยู่คุยกันอย่างสนุกสนานจากเช้ายันค่�ำ บางครั้งพ่ีน้อยก็จะชวนพวกเรา ไปดูละครฯ และไปฟังคอนเสิร์ต แต่งานท่ีพวกหนู-สาวสาวสาวจะไม่เคยพลาดเลยก็คือ งาน ครบรอบวันคล้ายวันเกิดพ่ีน้อย วันท�ำบุญบริษัทและงานปีใหม่ประจ�ำปีของบริษัทสุขุม และ ชว่ งวันหยุดยาวปใี หม่ พี่นอ้ ยกจ็ ะชวนสามสาวไปรว่ ม countdown กันทบี่ า้ น “แมร่ มิ เชียงใหม”่ ของพี่น้อยทุกปี ซ่ึงกิจกรรมเหล่าน้ียิ่งท�ำให้ความผูกพันระหว่างพ่ีน้อยกับสามสาวมากขึ้น ประกอบกับพี่น้อยจะห่วงใยและดูแลสารทุกข์สุกดิบของพวกหนูสาวสาวสาวอยู่ตลอดเวลา จนร้สู ึกว่าพ่ีน้อยเปน็ เสมอื นหนึง่ พ่ีสาวแทๆ้ ที่คอยห่วงใยความเปน็ อยู่ของน้องๆ ค่ะ การจากไปของพี่น้อยเป็นการสูญเสียอย่างใหญ่หลวงของลูกหลานและญาติๆ ของ พ่ีน้อย แต่ส�ำหรับพวกหนูสาวสาวสาวท่ีมิใช่ญาติทางสายเลือดก็รู้สึกว่าการสูญเสียคร้ังนี้ ความ รู้สึกก็ไมไ่ ด้นอ้ ยกว่ากันเลย พวกหนูสาวสาวสาวมีความเช่ือว่า ผู้ท่ีมีธรรมะและจิตใจงดงามท่ีมีแต่ให้อย่างพี่น้อย ขณะนี้ได้ข้ึนไปอย่บู นสวรรค์อนั เปน็ ภพภมู ทิ ด่ี ีและสวยงามแล้วคะ่ พวกหนูทั้งสามสาวจะมีพ่ีน้อยซ่ึงเป็นท้ังเพ่ือนรุ่นพี่และพ่ีสาวที่แสนดีอยู่ในความทรงจ�ำ ท่ีประทับใจและมีความสุขของพวกเราตลอดไปคะ่ รกั พนี่ อ้ ยมากค่ะ สาวสาวสาว (ติ๋ม ตอ๋ ย มุก) 146
ระลกึ ถงึ วนั เก่าๆ เม่อื เรามี ........พน่ี ้อย ดิฉันรู้จักพ่ีน้อยมาต้ังแต่อายุ ๒๗ ปี ปัจจุบันดิฉันอายุ ๗๓ ปี เมื่อลองบวกลบดูแล้ว เทา่ กบั ดฉิ นั รู้จกั พีน่ ้อยมาประมาณ ๔๖ ปี ดิฉนั ไดม้ โี อกาสท�ำงานทเ่ี ดียวกับพ่ีน้อยแต่คนละแผนก พ่ีน้อยเป็นผู้หญิงสวย สง่า อ่อนหวาน แถมยังมีอัธยาศัยเอื้อเฟื้อ เผ่ือแผ่ จึงไม่ประหลาดใจที่ พี่น้อยเป็นที่รักของคนในแผนกและต่างแผนก มาทราบภายหลังว่าพ่ีน้อยเคยแสดงภาพยนต์ มาก่อนจึงการันตีความงามของเธอได้ คุณสมบัติอันเป็นเลิศอีกอย่างหนึ่งคือ พ่ีน้อยชื่นชอบใน การท�ำอาหาร และท�ำอาหารอร่อยมาก ท้ังคาวและหวาน สมัยท่ีท�ำงานร่วมกัน พี่น้อยมักจะ ท�ำอาหารเช้าใส่กล่องมาทานที่ท�ำงาน ดิฉันและเพื่อนๆ มีโอกาสได้ทานหลายคร้ัง ยังจ�ำได้ว่า อาหารท่ีเพ่ือนๆ หลายคนชื่นชอบ คือผัดถ่ัวงอกใส่เลือดหมูที่ทานกันจนเกล้ียง ไม่เหลือแม้แต่ น้�ำในผัด ข้าวผัดใส่ไข่ท่ีแสนธรรมดาสุดๆ ทานกันไม่เหลือแม้กระท่ังเคร่ืองเคียง คือ แตงกวา และผกั ชี ขนมหวานสมัยนน้ั พี่นอ้ ยชอบท�ำเคก้ ทดลองหาสตู รใหม่ๆ มาปรับปรงุ โดยมีดิฉันและ เพ่อื นๆ รับเป็นหนูทดลองอย่างเต็มใจ เค้กที่อร่อยเป็นเลศิ อันหนึ่งคอื เคก้ ไสฝ้ กั ทอง “สตู รพน่ี ้อย” ท่ีดิฉันยกให้เป็นท่ีหน่ึงในบรรดาเค้กทั้งหมด หาทานท่ีไหนไม่ได้ แล้วมีอยู่ปีหนึ่ง พ่ีน้อยท�ำเค้ก ไส้ฝกั ทองใหด้ ิฉันในวันคลา้ ยวนั เกิดครบรอบ ๔๑ ปี ตนื่ เตน้ และซาบซง้ึ มาจนถงึ ทกุ วนั น้ี ต่อมาพ่ีน้อยได้ผันตัวเองออกจากการเป็นลูกจ้างไปเป็นเจ้าของกิจการ ซื้อต่อกิจการ สุขุมพาณิชย์ บริษัทที่ผลิตอาหารร่วมกับ “คุณอภิญญา วลัยเสถียร” หรือท่ีพวกเราเรียกกัน ติดปากว่าปู่จิว ตามเหลน “ฮีโร่” (คุณภูมิธรรม การปลูก) เหลนคนเดียวของพี่น้อย นิสัยท่ีดี ของพี่นอ้ ยอีกอยา่ งหนงึ่ คือ พ่นี อ้ ยเป็นคนขยัน มงุ่ มน่ั มานะอดทน โรงงานแหง่ แรกท่ซี ือ้ กิจการ มา เปน็ โรงงานเล็กๆ อยูใ่ นซอยเสนา ต่อมาไม่นานโรงงานได้ยา้ ยไปอยู่ที่ โรงงานท่ี ๒ ในซอย ประชุมพร เมอื งทองธานี ๑ โรงงานท่ี ๒ นีม้ ีพนกั งานประมาณสบิ กว่าคน เปน็ โรงงานอตั โนมอื เหมอื นกับโรงงานแรก คือใชแ้ รงงานมนษุ ยผ์ ลติ ล้วนๆ ทน่ี ่ี ดิฉันไดม้ ีโอกาสไปเยีย่ มเธอทโี่ รงงาน อยู่หลายครั้งเพราะใกล้ที่ท�ำงาน ภาพที่เห็นคือพี่น้อยอยู่ในชุดสะอาด มีผ้ากันเปื้อน และ ผ้าคลุมผม ในมือถือทัพพี ก�ำลังคนหม้อใบใหญ่ท่ีต้ังอยู่บนเตาขนาดใหญ่ หน้าแดงก่�ำเพราะ ความร้อน เมอื่ ได้ผรู้ ่วมงานที่เช่ยี วชาญ ขยนั ลุยงานเต็มทอ่ี ย่าง “ป่จู วิ ” ภายในเวลาไม่ถึง ๓ ปี จากโรงงานผลติ ที่ ๒ กไ็ ด้ย้ายมาอยทู่ ีโรงงานสขุ มุ ฯ ปจั จุบัน ทม่ี ีพนกั งานประมาณร่วม ๑๐๐ คน พร้อมเครื่องมือผลิตและบรรจุอัตโนมัติ ที่ทันสมัย ในกลุ่มของเรา ยังมีเพ่ือนสนิทมากๆ อีก ๒ คนคือ คุณมุกดา และคุณต๋อย ท่ีพ่ีน้อยต้ังช่ือกลุ่มน้ีว่า “กลุ่มสามสาว” ส่วนหลาน “ต่อ” หรือที่เราเรียกติดปากตาม “ฮีโร่” ว่า “อาบ่อ” (คุณนิลวรรณ วานิชานันท์) “ติ่งของพ่ีน้อย” 147
หลานยายตัวติดกันของพี่น้อย เห็นพี่น้อยท่ีไหนก็ต้องเห็น “อาบ่อ” ท่ีน้ัน จะเรียกกลุ่มเราว่า “กลุ่มสามยาย” ๑๐ ปีกว่ามาน้ี เรามีการนัดพบกันที่บ้านพี่น้อยบ่อยขึ้น และเมื่อไหร่ที่มากัน ครบชุด “สามสาว” ก็จะมีเรื่องเม้าท์มอยสนุกสนานตั้งแต่เช้ายันค�่ำ ตอนนั้นพี่น้อยยังแข็งแรง พี่น้อยก็จะลงมือท�ำกับข้าวอร่อยๆ ให้พวกเราทานทุกครั้ง อาหารที่พ่ีน้อยท�ำ อร่อยถูกใจเรา ไปหมด อาหารเหนือที่ข้ึนชื่อของพ่ีน้อยท่ีเราชอบกันหนักหนาคือ ขนมจีนน้�ำเง้ียว พร้อม เครอื่ งเคยี งครบชุด (หลายๆ ทา่ นทีร่ จู้ ักพี่น้อยก็คงได้ล้มิ ลองกนั มาแล้ว) ของหวานสว่ นใหญ่กจ็ ะ เป็นข้าวเหนียวเปียกล�ำไย ท่ีมีให้ทานกันทั้งปี เพราะพี่น้อยเอาล�ำไยมาจากสวนหลังบ้านแม่ริม มาแกะเปลือกแล้ว Freeze ไว้ ถ้าต้องการทานเม่ือไหร่ก็น�ำมาท�ำได้ทันที และแถบทุกคร้ังที่ พ่ีน้อยลงมือท�ำกับข้าวให้เราทาน ก็มักถือโอกาสท�ำแจกเพื่อนบ้านไปด้วย ก็ต้องท�ำหม้อใหญ่ๆ พอท�ำเสร็จแจกจ่ายเพ่ือนบ้านแล้ว พี่น้อยก็จะมาน่ังหอบหายใจแฮกๆ หมดแรง ให้เราได้เห็น และอมย้มิ กันทุกครัง้ และนคี่ ืออีกหน่งึ ความสุขของพ่นี อ้ ย อาหารท่ีดฉิ นั ชอบและทำ� เป็น เพราะ พีน่ อ้ ยสอน ก็คอื กระหร่ีพัฟไสไ้ ก่ ข้าวตงั หน้าตง้ั สาคูไส้หมู ผักโขมอบชสี พ่นี ้อยอยากสอนให้ ท�ำอีกหลายอย่าง แต่ดิฉันเป็นประเภทชอบรับประทานมากกว่า เลยมาน่ังเสียดายตอนนี้ ส่วนขนมจีนน�้ำเงี้ยวพี่น้อยเพิ่งสอนได้ครั้งเดียวยังไม่ได้ลองท�ำเองจริงๆ พี่น้อยก็มาป่วยเสียก่อน เลยยังคุยไมไ่ ด้ว่าท�ำเป็นแลว้ งานประจ�ำปที จ่ี ดั ขึน้ ท่โี รงงานซ่ึงหลายๆ ท่านได้รบั เชิญกันอย่างสม่ำ� เสมอ และพวกเรา ไม่ค่อยพลาด คืองานท�ำบุญเลี้ยงพระท่ีโรงงาน งานฉลองครบรอบวันเกิดพ่ีน้อย งานฉลอง ส่งท้ายปีเก่า ซึ่งเป็นงานเล้ียงพนักงานและเพื่อนๆ ของพ่ีน้อยและ “ปู่จิว” สัปดาห์ที่มีวันหยุด ยาวๆ ของหนา้ ร้อน พี่น้อยก็มกั ชวนพวกเราไปพกั ทีค่ อนโด ระยอง ไปเปลยี่ นบรรยากาศ หรือ ท่ีเราเรยี กวา่ เปลี่ยนที่กินทน่ี อน ไปทานอาหารทะเล ทรี่ ิมทะเล ช่วงสง่ ท้ายปเี กา่ ฉลองรบั ปใี หม่ ของทุกปี พ่นี อ้ ยจะชวนเราไปพักทีบ่ า้ น อ.แมร่ ิม จ.เชยี งใหม่ ทริปแมร่ มิ จะเปน็ ทรปิ ยาว ๕-๖ วัน สมัยก่อนเราทั้งหมดเดินทางโดยรถตู้ที่พี่น้อยจัดไว้ โดยมีคุณประสิทธ์ ท่ีดิฉันต้ังสมญานามว่า “พนักงานเอนกประสงค์” ท่ีท�ำได้เกือบทุกหน้าท่ี ต้ังแต่ขับรถไปจนถึงพนักงานโรงงาน พนักงานส่งของ พนักงานท�ำสวน ฯลฯ คิดอะไรไม่ออกบอกประสิทธ์ หลังๆ มาน้ี พี่น้อยและ อาบอ่ จะเดนิ ทางโดยเครือ่ งบนิ เพราะสะดวกรวดเร็วกว่า ส่วนพวกเราและบางครั้งก็มี “ป่จู ิว” ไปรถตู้กับคุณประสิทธ์ เช่นเดิม นอกจากรถตู้ที่ขนพวกเราแล้ว พ่ีน้อยยังบรรทุกเสื้อกันหนาว ผ้าห่ม สินค้าสุขุม เพ่ือเอาไปแจกจ่ายพี่น้องและผู้ขาดแคลนทางภาคเหนือด้วย ในสายตาของ เพื่อนๆ และดิฉันแล้ว พ่ีน้อยคือผู้ให้อย่างแท้จริง คืนวันส่งท้ายที่แม่ริม พี่น้อยก็จะให้ช่วยกัน ทำ� อาหารทานกันเองทบี่ า้ น อาหารทีม่ ักทำ� ประจ�ำคอื บาร์บคี ิว อาหารป้ิงย่าง และจิม้ จมุ่ พรอ้ ม น้�ำจ้ิมแซ่บๆ ช่วงน้ันอากาศท่ีแม่ริมค่อนข้างหนาวเย็น พ่ีน้อยจะให้ก่อกองไฟหน้าบริเวณบ้าน ทานเสร็จพวกเราก็มาน่ังล้อมกองไฟ ปิ้งข้าวหลามของทางเหนือ ท่ีมีแต่ข้าวเหนียวไม่มีหน้า 148
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384