27 กรอบแนวคดิ ในการวจิ ัย การศึกษาเร่ืองความสมั พนั ธ์ระหวา่ งลกั ษณะเด่นของบุคลิกภาพ ความฉลาดทางวฒั นธรรม และความพึงพอใจในงาน ท่ีมีต่อผลการปฏิบตั ิงานมคั คุเทศกข์ องบรัษทั นาเที่ยวในประเทศไทย มี ตวั แปรอิสระ คือ ลกั ษณะเด่นของบุคลิกภาพ ตวั แปรตาม คือ ความฉลาดทางวฒั นธรรม ความพึง พอใจในงาน และผลการปฏิบตั ิงาน จากสมมติฐานท้งั 4 ขอ้ ขา้ งตน้ ที่ไดจ้ ากผลการทบทวนแนวคิด ทฤษฏี และผลงานการวจิ ยั ที่เกี่ยวขอ้ งสามารถสร้างกรอบแนวคิดการวจิ ยั ไดด้ งั น้ี ความฉลาดทางวฒั นธรรม (Cultural Quotient) H1 ลกั ษณะเด่นของบุคลิกภาพ H3 ผลการปฏิบตั ิงาน (Big 5 of Personality) (Performance) H2 H4 ภาพท่ี 5 กรอบแนวคิดการวจิ ยั ความพึงพอใจในงาน (Job Satisfaction)
บทที่ 3 วธิ ีการวจิ ัย การวิจยั คร้ังวิจยั เชิงปริมาณ (Quantitative research) ในรูปแบบของการวิจยั เชิงสารวจ (Survey research) ดว้ ยการออกแบบสอบถามทาการเก็บขอ้ มูลจากกลุ่มตวั อยา่ งตามวตั ถุประสงคท์ ่ี ได้กาหนดไว้ ให้กลุ่มตัวอย่างเป็ นผู้กรอกแบบสอบถามด้วยตนเอง (Self-Administrated Questionnaires) จากน้นั จะทาการรวบรวมแบบสอบถาม ตรวจสอบความถูกตอ้ ง ลงรหสั และนา ขอ้ มูลมาวเิ คราะห์ผลทางสถิติ ตามลาดบั ประชากรและกล่มุ ตวั อย่าง ประชากรที่ศึกษา คือ มคั คุเทศกข์ องบริษทั นาเท่ียวในประเทศไทย ที่ให้บริการนาเที่ยวกบั นักท่องเท่ียวต่างชาติประเภทนักท่องเท่ียวที่เดินทางเขา้ มาในประเทศ (Inbound Tourism) และ นักท่องเที่ยวไทยที่เดินทางออกนอกประเทศ (Outbound Tourism) โดยมีจานวนท้ังหมดใน ฐานขอ้ มูล 55,156 คน ซ่ึงมคั คุเทศกท์ ี่มีช่องทางติดต่อผา่ นจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (E-mail) จานวน 34,472 คน (กรมการท่องเท่ียว, 2559) ในการศึกษาคร้ังน้ีผูว้ ิจยั ได้มีเป้าหมายอยากศึกษากบั ประชากรท้งั หมดแต่มคั คุเทศก์ท่ีมี ช่องทางติดต่อมีเพียง 34,472 คน ดงั น้นั ผูว้ ิจยั ไดท้ าการส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (E-mail) ให้กบั มคั คุเทศกต์ ามจานวนที่ระบุในฐานขอ้ มูลน้นั และไดม้ ีแบบสอบถามท่ีทาการตอบกลบั และมีความ สมบูรณ์จานวน 400 ฉบบั ดงั น้นั ผวู้ จิ ยั จึงใชเ้ ป็นจานวนตวั อยา่ งในการวจิ ยั โดยจานวนแบบสอบถาม ท่ีไดร้ ับการตอบกลบั มาและเป็นแบบสอบถามท่ีมีความสมบูรณ์มีจานวนท้งั สิ้น 400 ฉบบั เครื่องมือทใ่ี ช้ในการเกบ็ บรวบรวมข้อมูล เคร่ืองมือท่ีจะใชใ้ นการเก็บรวบรวมขอ้ มูลโดยใชแ้ บบสอบถามท่ีผวู้ จิ ยั สร้างข้ึน ที่ไดศ้ ึกษา เอกสาร แนวคิด ทฤษฎี และงานวิจยั ที่เกี่ยวขอ้ งกบั ลกั ษณะเด่นของบุคลิกภาพ ความฉลาดทาง วฒั นธรรม ความพึงพอใจในงาน และผลการปฏิบตั ิงาน โดยมีความครอบคลุมตามเน้ือหา และ วตั ถุประสงคใ์ นการวิจยั ในการวจิ ยั คร้ังน้ีผูว้ ิจยั ไดแ้ ปลแบบสอบถามมาจากงานวิจยั ท่ีเก่ียวขอ้ งซ่ึง แบบสอบถามแบง่ ออกเป็น 5 ส่วน ดงั น้ี
29 ส่วนท่ี 1: แบบสอบถามเก่ียวกบั ข้อมูลส่วนบุคคล และขอ้ มูลบริษทั นาเที่ยวของผูต้ อบ แบบสอบถาม ประกอบดว้ ย ขอ้ คาถามเกี่ยวกบั เพศ อายุ รายได้ ระดบั การศึกษา ระยะเวลาในการ ทางานกบั องคก์ าร และ สถานภาพสมรส ซ่ึงมีจานวนขอ้ คาถาม 6 ขอ้ ส่วนที่ 2: แบบสอบถามเกี่ยวกบั ลกั ษณะเด่นของบุคลิกภาพ ผวู้ จิ ยั เลือกใชแ้ บบวดั ลกั ษณะ เด่นของบุคลิกภาพของ John (2008) โดยพิจารณาใน 5 องค์ประกอบหลักซ่ึงประกอบไปด้วย (1)บุคลิกภาพแบบแสดงตวั (2)บุคลิกภาพแบบประนีประนอม (3)บุคลิกภาพแบบมีจิตสานึก (4)บุคคลิกภาพแบบหวน่ั ไหว (5)บุคลิกภาพแบบเปิ ดรับประสบการณ์ ซ่ึงมีจานวนขอ้ คาถาม 40 ขอ้ ตารางที่ 1 รายละเอียดคะแนนมาตราส่วนประมาณคา่ 5 ระดบั ระดับความเห็น เกณฑ์ คะแนนมาตราส่ วน เกณฑ์ คะแนนมาตราส่ วน เห็นดว้ ยอยา่ งยง่ิ ประมาณค่าเชิงบวก ประมาณค่าเชิงลบ เห็นดว้ ยเลก็ นอ้ ย 5 1 4 2 เฉยๆ 3 3 ไม่เห็นดว้ ยเล็กนอ้ ย 2 4 ไม่เห็นดว้ ยอยา่ งยง่ิ 1 5 ส่วนท่ี 3: แบบสอบถามเกี่ยวกบั ความฉลาดทางวฒั นธรรม ข้นั ตอนในการพฒั นาเครื่องมือ แบบวดั ความฉลาดทางวฒั นธรรม แบบวดั ความฉลาดทางวฒั นธรรมในการวิจยั คร้ังน้ี ผูว้ ิจยั ได้ เลือกใชแ้ บบวดั ของ Ang et al. (2007) ซ่ึงประกอบดว้ ย 4 ดา้ น และขอ้ คาถามจานวน 20 ขอ้ ตารางท่ี 2 รายละเอียดคะแนนมาตราส่วนประมาณค่า 7 ระดบั ระดบั ความคดิ เห็น เกณฑ์ คะแนนมาตราส่ วนประมาณค่ า เห็นดว้ ยอยา่ งยงิ่ 7 6 เห็นดว้ ยในระดบั ปานกลาง 5 เห็นดว้ ยเล็กนอ้ ย 4 เห็นดว้ ย ไมเ่ ห็นดว้ ย เท่ากนั
30 ตารางท่ี 2 (ต่อ) ระดับความคดิ เห็น เกณฑ์ คะแนนมาตราส่ วนประมาณค่ า ไมเ่ ห็นดว้ ยเล็กนอ้ ย 3 ไม่เห็นดว้ ยในระดบั ปานกลาง 2 ไม่เห็นดว้ ยอยา่ งยงิ่ 1 ส่วนที่ 4: แบบสอบถามความพึงพอใจในงาน ใชแ้ บบสอบถามความพึงพอใจในงานของ Spector (1997) ดว้ ยการประเมินความพึงพอใจในแง่มุมเกี่ยวกบั งาน 9 ดา้ นไดแ้ ก่ (1) ค่าตอบแทน (2) โอกาสในความก้าวหน้า (3) ผูบ้ งั คบั บญั ชา (4) สวสั ดิการ (5) ผลประโยชน์ตอบแทน (6) ผลประโยชนต์ อบแทน (7) เพ่ือนร่วมงาน (8) ลกั ษณะงาน และ(9) การติดตอ่ สื่อสาร ซ่ึงมีจานวนขอ้ คาถาม 36 ขอ้ ตารางที่ 3 รายละเอียดคะแนนมาตราส่วนประมาณคา่ 6 ระดบั ระดบั ความคดิ เหน็ เกณฑ์ คะแนนมาตราส่ วน เกณฑ์คะแนนมาตราส่ วน เห็นดว้ ยอยา่ งยงิ่ ประมาณค่าเชิงบวก ประมาณค่าเชิงลบ เห็นดว้ ยในระดบั ปานกลาง 6 1 5 2 เห็นดว้ ยเล็กนอ้ ย 4 3 ไม่เห็นดว้ ยเลก็ นอ้ ย 3 4 ไมเ่ ห็นดว้ ยในระดบั ปานกลาง 2 5 ไม่เห็นดว้ ยอยา่ งยง่ิ 1 6 ส่วนท่ี 5: แบบสอบถามผลการปฏิบตั ิงาน ของ Welbourne, Johnson and Erez (1998) เพื่อ วดั ผลการปฏิบตั ิงานตามบทบาท (The Role - Based Performance) โดยประกอบด้วยบทบาทที่ สาคญั 5 บทบาท จานวนขอ้ คาถาม 20 ขอ้
31 ตารางท่ี 4 รายละเอียดคะแนนมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดบั ระดับความคิดเห็น เกณฑ์ คะแนนมาตราส่ วนประมาณค่ า เห็นดว้ ยอยา่ งยง่ิ 5 เห็นดว้ ยเล็กนอ้ ย 4 เฉยๆ 3 ไมเ่ ห็นดว้ ยเล็กนอ้ ย 2 ไมเ่ ห็นดว้ ยอยา่ งยงิ่ 1 การสร้างและการทดสอบเครื่องมือทใี่ ช้ในการศึกษา ผูว้ ิจยั ไดส้ ร้างแบบสอบถามตามกรอบการวิจยั และทดสอบความเท่ียงตรง ความเชื่อมนั่ ตามข้นั ตอน ดงั น้ี 1. ผวู้ จิ ยั ไดท้ าการศึกษา คน้ ควา้ และรวบรวมเอกสาร แนวคิด ทฤษฎี วารสารทางวชิ าการ และงานวจิ ยั ท่ีเกี่ยวขอ้ งเพือ่ นามาเป็นแนวทางในการสร้างแบบสอบถาม 2. นาเสนอต่ออาจารยท์ ี่ปรึกษาวิทยานิพนธ์ เพื่อตรวจสอบความครอบคลุมของเน้ือหา และลกั ษณะการใชภ้ าษา จากน้นั นามาปรับปรุงตามการแนะนาของอาจารยท์ ี่ปรึกษา 3. นาแบบสอบถามที่ผา่ นการปรับปรุงตามคาแนะนาของอาจารยท์ ี่ปรึกษาแลว้ ไปทาการ ตรวจสอบความเท่ียงตรงดา้ นเน้ือหา (Content Validity) โดยให้ผทู้ รงคุณวุฒิที่มีประสบการณ์และ ความเช่ียวชาญ คือ อาจารยส์ านกั วชิ าการจดั การ มหาวทิ ยาลยั วลยั ลกั ษณ์ จานวน 3 ท่าน ไดแ้ ก่ ดร. รุ่งรวี จิตภกั ดี ดร.สุขมุ าล กล่าแสงใส และ คุณธนาภา ช่วยแกว้ หลงั จากน้นั นามาวเิ คราะห์คา่ ความ เท่ียงตรงของแบบสอบถาม พบวา่ มีค่าความเที่ยงตรงของแบบสอบถามส่วนใหญ่ผา่ นเกณฑ์ 0.5 ข้ึน ไป (Turner and Carson, 2003) และมีบางส่วนที่ไม่ผ่านเกณฑ์ซ่ึงได้นามาแก้ไขปรับปรุงตาม คาแนะนาของผูท้ รงคุณวุฒิ และนาเสนอต่ออาจารย์ที่ปรึกษาพิจารณาต่อการปรับปรุงดงั แสดง รายละเอียดไวใ้ นตารางผนวกท่ี 1-4 (ภาคผนวก ข)
32 4. นาแบบสอบถามไปทาการทดสอบหาค่าความเช่ือมั่น (Reliability) โดยการนา แบบสอบถามไปทดสอบกบั กลุ่มตวั อย่างจริง จานวน 57 ชุด เพ่ือทดสอบว่าคาถามแต่ละข้อใน แบบสอบถามสามารถส่ือสารความหมายได้ตรงกับส่ิงท่ีผูว้ ิจยั ตอ้ งการท่ีจะวิจยั หรือไม่ จากผล วิเคราะห์ขอ้ มูลทางสถิติค่าสัมประสิทธ์ิแอลฟ่ าของครอนบาค (Cronbach’s Alpha Coefficient) พบวา่ ค่าความเชื่อมน่ั ของแบบสอบถามแต่ละดา้ นมีค่าอยู่ระหวา่ ง 0.660 – 0.939 ซ่ึงอยใู่ นเกณฑ์ที่ ยอมรับคือ ตอ้ งมีค่า 0.6 ข้ึนไป (Sekaran and Bougie, 2010) ดงั แสดงรายละเอียดไวใ้ นตารางผนวก ที่ 5-27 (ภาคผนวก ข) การเกบ็ รวบรวมข้อมูล 1. ข้อมูลทุติยภูมิ (Secondary Data) ผู้วิจัยได้ทาการรวบรวม แนวคิดและทฤษฏี จาก การศึกษา คน้ ควา้ และรวบรวมขอ้ มูลจากเอกสาร ตารา บทความวิทยานิพนธ์ งานวจิ ยั ท่ีเกี่ยวขอ้ งกบั ลกั ษณะเด่นของบุคลิกภาพ ความฉลาดทางวฒั นธรรม ความพึงพอใจในงานและผลการปฏิบตั ิงาน ของมคั คุเทศกบ์ ริษทั นาเที่ยว ในประเทศไทย 2. ข้อมูลปฐมภูมิ (Primary Data) ผู้วิจัยได้ทาการเก็บรวบรวมข้อมูลโดยการส่ ง แบบสอบถามกบั กลุ่มประชากรคือ มคั คุเทศก์ของบริษทั นาเที่ยวในประเทศไทย ท่ีให้บริการนา เที่ยวกบั นกั ท่องเที่ยวต่างชาติประเภทนกั ท่องเท่ียวที่เดินทางเขา้ มาในประเทศและนกั ท่องเที่ยวไทย ท่ีเดินทางออกนอกประเทศ มคั คุเทศกท์ ่ีมีช่องทางติดต่อมีเพยี ง 34,472 คน ดงั น้นั ผวู้ จิ ยั ไดท้ าการส่ง จดหมายอิเลก็ ทรอนิกส์ (E-mail) ใหก้ บั มคั คุเทศกต์ ามจานวนท่ีระบุในฐานขอ้ มูลน้นั และไดจ้ านวน แบบสอบถามที่สมบูรณ์ 400 ฉบบั วธิ ีการวเิ คราะห์ข้อมูล 1. ผูว้ ิจยั นาแบบสอบถามที่ได้รับคืนมาจากผูต้ อบแบบสอบถาม มาตรวจสอบความ ถูกตอ้ ง ความครบถว้ นสมบูรณ์ของการตอบแบบสอบถาม และนาแบบสอบถามที่มีความสมบูรณ์ มาลงรหสั ตามที่ผวู้ จิ ยั ไดก้ าหนดไวล้ ่วงหนา้ 2. นาขอ้ มูลไปวิเคราะห์ดว้ ยเครื่องคอมพิวเตอร์ โดยใชโ้ ปรแกรมสาเร็จรูปทางสถิติเพ่ือ คานวณคา่ สถิติท่ีใชใ้ นการพรรณนาและอภิปรายผลการวจิ ยั
33 สถิติทใี่ ช้ในการวเิ คราะห์ข้อมูล 1. สถิติเชิงพรรณาการวิเคราะห์ปัจจยั ส่วนบุคคลของกลุ่มตวั อย่างจะใช้สถิติค่าร้อยละ (Percentage)และการวเิ คราะห์ขอ้ มูลลกั ษณะเด่นของบุคลิกภาพ ความฉลาดทางวฒั นธรรม ความพึง พอใจในงาน และผลการปฏิบตั ิงาน จะใช้ค่าสถิติซ่ึงประกอบด้วย ค่าเฉล่ีย (Mean) และส่วน เบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) 2. สถิติเชิงอนุมานการทดสอบสมมติฐานการวิจยั ในคร้ังน้ี ใชก้ ารทดสอบค่าสถิติต่างๆ ดังน้ีการทดสอบสมมติฐานท้งั 4 ขอ้ ใช้สถิติการวิเคราะห์โมเดลสมการโครงสร้าง (Structural Equation Modeling : SEM) เพ่ือวิเคราะห์ความสัมพนั ธ์ระหวา่ งลกั ษณะเด่นของบุคลิกภาพ ความ ฉลาดทางวฒั นธรรม และความพึงพอใจในงาน ท่ีมีต่อผลการปฏิบตั ิงานของมคั คุเทศก์บริษทั นา เท่ียว ในประเทศไทย
บทท่ี 4 ผลการวจิ ัยและข้อวจิ ารณ์ การวิจยั เรื่องความสัมพนั ธ์รหว่างลกั ษณะเด่นของบุคลิกภาพ ความฉลาดทางวฒั นธรรม และความพึงพอใจในงาน ท่ีมีต่อผลการปฏิบตั ิงานของมคั คุเทศก์บริษทั นาเท่ียว ในประเทศไทย ผวู้ จิ ยั ไดน้ าเสนอผลการวเิ คราะห์ขอ้ มูลออกเป็น 8 ส่วนดงั น้ี ส่วนท่ี 1 ขอ้ มูลส่วนบุคคลของกลุ่มตวั อยา่ ง ส่วนที่ 2 ขอ้ มูลความคิดเห็นเก่ียวกบั ลกั ษณะเด่นของบุคลิกภาพ ส่วนท่ี 3 ขอ้ มูลความคิดเห็นเกี่ยวกบั ความฉลาดทางวฒั นธรรม ส่วนท่ี 4 ขอ้ มูลความคิดเห็นเกี่ยวกบั ความพงึ พอใจในงาน ส่วนที่ 5 ขอ้ มูลความคิดเห็นเกี่ยวกบั ผลการปฏิบตั ิงาน ส่วนท่ี 6 การวเิ คราะห์องคป์ ระกอบเชิงยนื ยนั ของตวั แปร ส่วนที่ 7 การวเิ คราะห์เส้นทางความสมั พนั ธ์ ส่วนท่ี 8 ผลการทดสอบสมมติฐานและขอ้ วจิ ารณ์
35 ส่วนที่ 1 ข้อมูลส่วนบุคคลของกลุ่มตวั อย่าง เมื่อพิจารณาเก่ียวกับข้อมูลส่วนบุคคลของมัคคุเทศก์บริษัทนาเท่ียว ในประเทศไทย รายละเอียดประกอบด้วย เพศ อายุ สถานภาพสมรส ระดบั การศึกษา รายได้ ระยะเวลาในการ ทางานกบั บริษทั นาเท่ียว ซ่ึงผลการวเิ คราะห์มีดงั น้ี 1.เพศ กลุ่มตวั อยา่ งส่วนใหญ่เป็ นเพศหญิง มีจานวน 278 คน คิดเป็ นร้อยละ 69.5และเพศชาย มี จานวน 122 คน คิดเป็นร้อยละ 30.5 ดงั ตารางที่ 5 ตารางท่ี 5 จานวนและร้อยละของมคั คุเทศกบ์ ริษทั นาเท่ียวในประเทศไทยจาแนกตามเพศ (n=400) เพศ จานวน (คน) ร้อยละ ชาย 122 30.5 หญิง 278 69.5 รวม 400 100 2. อายุ กลุ่มตวั อยา่ งท่ีมีสัดส่วนมากท่ีสุดอยูใ่ นช่วงอายุ 31-40 ปี จานวน 144 คน คิดเป็ นร้อยละ 36.0 รองลงมา คือ อายุ 41-50 ปี จานวน 102 คน คิดเป็ นร้อยละ 25.5 ลาดบั ต่อมา คือ อายุ 51-60 ปี คิดเป็นร้อยละ15.0 อายุ 21-30 ปี จานวน 59 คน คิดเป็นร้อยละ 14.7 และ อายุ 61 ปี ข้ึนไป จานวน 35 คน คิดเป็นร้อยละ 8.8 ตามลาดบั ดงั ตาราท่ี 6
36 ตารางท่ี 6 จานวนและร้อยละของมคั คุเทศกบ์ ริษทั นาเท่ียวในประเทศไทย จาแนกตามอายุ (n=400) อายุ จานวน (คน) ร้อยละ 21-30 ปี 59 14.7 31-40 ปี 144 36.0 41-50 ปี 102 25.5 51-60 ปี 60 15.0 61 ปี ข้ึนไป 35 8.8 รวม 400 100 3. สถานภาพสมรส กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่มีสถานภาพโสด 283 คน คิดเป็ นร้อยละ 70.7 รองลงมา คือ สถานภาพสมรส 92 คน คิดเป็ นร้อยละ 23.0 และ สถานภาพหย่าร้าง 25 คน คิดเป็ นร้อยละ 6.3 ตามลาดบั ดงั ตารางที่ 7 ตารางท่ี 7 จานวนและร้อยละของมคั คุเทศกบ์ ริษทั นาเท่ียวในประเทศไทย จาแนกตามสถานภาพ สมรส (n=400) สถานภาพสมรส จานวน (คน) ร้อยละ โสด 283 70.7 สมรส 92 23.0 หยา่ ร้าง 25 6.3 รวม 400 100 4. ระดบั การศึกษา กลุ่มตวั อยา่ งส่วนใหญ่มีระดบั การศึกษาปริญญาตรี 240 คน คิดเป็นร้อยละ 60.0รองลงมา คือ ระดบั การศึกษาสูงกวา่ ปริญญาตรี 145 คน คิดเป็นร้อยละ 36.2 และ ต่ากวา่ ปริญญาตรี 15 คน คิด เป็นร้อยละ 3.8 ตามลาดบั ดงั ตารางที่ 8
37 ตารางท่ี 8 จานวนและร้อยละของมคั คุเทศกบ์ ริษทั นาเท่ียวในประเทศไทย จาแนกตามระดบั การศึกษา (n=400) ระดับการศึกษา จานวน (คน) ร้อยละ ต่ากวา่ ปริญญาตรี 15 3.8 ปริญญาตรี 240 60.0 สูงกวา่ ปริญญาตรี 145 36.2 รวม 400 100 5. รายได้ กลุ่มตวั อยา่ งที่มีสัดส่วนมากท่ีสุดซ่ึงมีรายไดต้ ่อเดือนอยทู่ ่ี 20,001-30,000 บาท จานวน 131 คน คิดเป็ นร้อยละ 32.7 รองลงมา คือ 10,001-20,000 บาท จานวน 111 คน คิดเป็ นร้อยละ 27.7 มากกว่า 40,000 บาทข้ึนไป จานวน 84 คน คิดเป็ นร้อยละ 21.0 มีรายได้ต่อเดือน 30,001-40,000 บาท จานวน 61 คน คิดเป็ นร้อยละ 15.3 และ ต่ากวา่ 10,001 บาท จานวน 13 คน คิดเป็ นร้อยละ 3.3 ตามลาดบั ดงั ตารางท่ี 9 ตารางท่ี 9 จานวนและร้อยละของมคั คุเทศกบ์ ริษทั นาเท่ียวในประเทศไทย จาแนกตามรายได้ (n=400) อายุ จานวน (คน) ร้อยละ ต่ากวา่ 10,001 บาท 13 3.3 10,001-20,000 บาท 111 27.7 20,001-30,000 บาท 131 32.7 30,001-40,000 บาท 61 15.3 มากกวา่ 40,001 บาทข้ึนไป 84 21.0 รวม 400 100
38 6. ระยะเวลาในการทางานกบั บริษทั นาเที่ยว กลุ่มตวั อย่างท่ีมีสัดส่วนมากท่ีสุดซ่ึงมีอายุงาน 1-5 ปี จานวน 154 คน คิดเป็ นร้อยละ 38.5 รองลงมา 6-10 ปี จานวน 86 คน คิดเป็นร้อยละ 21.4 มากกวา่ 11 ปี ข้ึนไป จานวน 81 คน คิดเป็นร้อย ละ 20.3 และ นอ้ ยกวา่ 1 ปี จานวน 79 คน คิดเป็นร้อยละ 19.8 ตามลาดบั ดงั ตารางที่ 10 ตารางที่ 10 จานวนและร้อยละของมคั คุเทศกบ์ ริษทั นาเท่ียวในประเทศไทย จาแนกตามระยะเวลา ในการทางานกบั บริษทั นาเที่ยว (n=400) ระยะเวลาการทางานในองค์การ จานวน (คน) ร้อยละ นอ้ ยกวา่ 1 ปี 79 19.8 1 – 5 ปี 154 38.5 6 – 10 ปี 86 21.4 มากกวา่ 11 ปี ข้ึนไป 81 20.3 รวม 400 100 ส่วนท่ี 2 ข้อมูลความคดิ เห็นเกย่ี วกบั ลกั ษณะเด่นของบุคลกิ ภาพ จากความคิดเห็นของตนเองท่ีเก่ียวกบั ลกั ษณะเด่นของบุคลิกภาพในส่วนน้ีแสดงระดับ ความคิดเห็นของมคั คุเทศก์ของบริษทั นาเที่ยวในประเทศไทยเกี่ยวกบั ลกั ษณะเด่นของบุคลิกภาพ พบวา่ มคั คุเทศก์มีความคิดเห็นเกี่ยวกบั ลกั ษณะเด่นของบุคลิกภาพดา้ นแสดงตวั มีค่าเฉลี่ยสุงสุดอยู่ ที่ 4.29 (S.D. = 0.393) ด้านบุคลิกภาพแบบประนีประนอม มีค่าเฉลี่ย 3.47 (S.D. = 0.396) ด้าน บุคลิกภาพแบบมีจิตสานึก มีค่าเฉล่ีย 2.78 (S.D. = 0.428) ดา้ นบุคลิกภาพแบบหวนั่ ไหว มีค่าเฉล่ีย 2.58 (S.D. = 0.484) และดา้ นบุคลิกภาพแบบเปิ ดรับประสบการณ์ มีคา่ เฉลี่ย 4.04 (S.D. = 0.488)เมื่อ เทียบเปรียบเทียบท้งั 5 ดา้ น พบว่าดา้ นบุคลิกภาพแบบแสดงตวั มีค่าเฉล่ียสูงสุด รองลงมาคือดา้ น บุคลิกภาพแบบเปิ ดรับประสบการณ์ ตารางที่ 11
39 ตารางท่ี 11 คา่ เฉล่ีย ส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐาน และระดบั ความคิดเห็นของมคั คุเทศกบ์ ริษทั นาเที่ยว ในประเทศไทยเก่ียวกบั ลกั ษณะเด่นของบุคลิกภาพ ลกั ษณะเด่นของบุคลกิ ภาพ ���̅��� S.D. 1. ดา้ นบุคลิกภาพแบบแสดงตวั 4.29 0.393 2. ดา้ นบุคลิกภาพแบบประนีประนอม 3.47 0.396 3. ดา้ นบุคลิกภาพแบบมีจิตสานึก 2.78 0.428 4. ดา้ นบุคลิกภาพแบบหวนั่ ไหว 2.58 0.484 5. ดา้ นบุคลิกภาพแบบเปิ ดรับประสบการณ์ 4.04 0.488 รวม 3.43 0.438 ส่วนที่ 3 ข้อมูลความคดิ เห็นเกยี่ วกบั ความฉลาดทางวฒั นธรรม จากความคิดเห็นท่ีเก่ียวกบั ความฉลาดทางวฒั นธรรมในส่วนน้ีแสดงระดบั ความคิดเห็น ของมัคคุเทศก์ของบริษัทนาเท่ียวในประเทศไทยเกี่ยวกับความฉลาดทางวฒั นธรรม พบว่า มคั คุเทศก์มีความคิดเห็นเก่ียวกบั ความฉลาดทางวฒั นธรรมโดยรวมมีค่าเฉล่ียอยู่ท่ี 6.03 (S.D. = 0.764) และเมื่อพิจารณาในแต่ละด้าน พบว่า มคั คุเทศก์มีความคิดเห็นเก่ียวกบั ความฉลาดทาง วฒั นธรรมด้านอภิปัญญา มีค่าเฉลี่ยสุงสุดอยู่ท่ี 6.25 (S.D. = 0.665) ด้านภูมิปัญญา มีค่าเฉล่ีย 5.62(S.D. = 0.857) ดา้ นแรงจูงใจมีค่าเฉล่ีย 6.17 (S.D. = 0.744) และดา้ นพฤติกรรม มีค่าเฉลี่ย 6.07 (S.D. = 0.790) เม่ือเทียบเปรียบเทียบท้งั 4 ดา้ น พบว่าดา้ นภูมิปัญญามีค่าเฉล่ียต่าสุด รองลงมาคือ ดา้ นพฤติกรรมดงั ในตารางที่ 12
40 ตารางท่ี 12 ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และระดบั ความคิดเห็นของมคั คุเทศกบ์ ริษทั นาเท่ียว ในประเทศไทยเกี่ยวกบั ความฉลาดทางวฒั นธรรม ความฉลาดทางวฒั นธรรม ���̅��� S.D. 1. ดา้ นอภิปัญญา 6.25 0.665 2. ดา้ นภูมิปัญญา 5.62 0.857 3. ดา้ นแรงจูงใจ 6.17 0.744 4. ดา้ นพฤติกรรม 6.07 0.790 รวม 6.03 0.764 ส่วนที่ 4 ข้อมูลความคิดเหน็ เกยี่ วกบั ความพงึ พอใจในงาน จากความคิดเห็นที่เกี่ยวกบั ความพึงพอใจในงานในส่วนน้ีแสดงระดบั ความคิดเห็นของ มคั คุเทศกข์ องบริษทั นาเที่ยว ในประเทศไทยเกี่ยวกบั ความพึงพอใจในงาน พบวา่ มคั คุเทศกม์ ีความ คิดเห็นเกี่ยวกบั ความพึงพอใจในงานโดยรวมมีค่าเฉล่ียอยทู่ ี่ 3.53 (S.D. = 0.530) และเมื่อพิจารณา ในแต่ละดา้ น พบว่า มคั คุเทศก์มีความคิดเห็นเกี่ยวกบั ความพึงพอใจในงานดา้ นค่าตอบแทน มี ค่าเฉลี่ยสุงสุดอยทู่ ี่ 3.85 (S.D. = 0.486) ดา้ นโอกาสในความกา้ วหนา้ มีค่าเฉลี่ย 3.90 (S.D. = 0.633) ดา้ นผบู้ งั คบั บญั ชา มีคา่ เฉล่ีย 3.06 (S.D. = 0.521) ดา้ นสวสั ดิการ มีค่าเฉล่ีย 3.44 (S.D. = 0.450) ดา้ น ผลประโยชน์ตอบแทน มีค่าเฉล่ีย 3.15 (S.D. = 0.539) ดา้ นกฏระเบียบในการทางาน มีค่าเฉลี่ย 3.10 (S.D. = 0.534) ดา้ นเพื่อนร่วมงาน มีค่าเฉล่ีย3.76 (S.D. = 0.495)ดา้ นลกั ษณะงาน มีค่าเฉลี่ย 4.62 (S.D. = 0.607) และดา้ นการติดต่อส่ือสาร มีค่าเฉลี่ย 2.93 (S.D. = 0.509) เม่ือเทียบเปรียบเทียบท้งั 9 ดา้ น พบวา่ ดา้ นการติดตอ่ ส่ือสารมีคา่ เฉลี่ยต่าสุด รองลงมาคือดา้ นกฏระเบียบในการทางานดงั ตาราง ท่ี 13
41 ตารางท่ี 13 คา่ เฉล่ีย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และระดบั ความคิดเห็นของมคั คุเทศกบ์ ริษทั นาเที่ยว ในประเทศไทยเกี่ยวกบั ความพึงพอใจในงาน ความพงึ พอใจในงาน ���̅��� S.D. 1.ดา้ นคา่ ตอบแทน 3.85 0.486 2.ดา้ นโอกาสในความกา้ วหนา้ 3.90 0.633 3.ดา้ นผบู้ งั คบั บญั ชา 3.06 0.521 4.ดา้ นสวสั ดิการ 3.44 0.450 5.ดา้ นผลประโยชน์ตอบแทน 3.15 0.539 6.ดา้ นกฏระเบียบในการทางาน 3.10 0.534 7.ดา้ นเพ่ือนร่วมงาน 3.76 0.495 8.ดา้ นลกั ษณะงาน 4.62 0.607 9.ดา้ นการติดต่อสื่อสาร 2.93 0.509 รวม 3.53 0.530 ส่วนที่ 5 ข้อมูลความคดิ เหน็ เกย่ี วกบั ผลการปฏบิ ตั ิงาน จากความคิดเห็นท่ีเก่ียวกับผลการปฏิบตั ิงานในส่วนน้ีแสดงระดับความคิดเห็นของ มคั คุเทศก์ของบริษทั นาเที่ยว ในประเทศไทยเกี่ยวกบั ผลการปฏิบตั ิงาน พบวา่ มคั คุเทศก์มีความ คิดเห็นเก่ียวกบั ผลการปฏิบตั ิงานโดยรวมมีค่าเฉลี่ยอยูท่ ่ี 4.44 (S.D. = 0.564) และเม่ือพิจารณาในแต่ ละดา้ น พบวา่ มคั คุเทศกม์ ีความคิดเห็นเกี่ยวกบั ความพึงพอใจในงานดา้ นบทบาทในงาน มีคา่ เฉลี่ยสุ งสุดอยูท่ ี่ 4.56 (S.D. = 0.522) ดา้ นบทบาทในอาชีพ มีค่าเฉลี่ย 4.30 (S.D. = 0.628) ดา้ นบทบาทการ เป็ นผูส้ ร้างนวตั กรรม มีค่าเฉลี่ย 4.38 (S.D. = 0.571) ดา้ นบทบาทการเป็ นสมาชิกในทีม มีค่าเฉลี่ย 4.46 (S.D. = 0.550) และดา้ นบทบาทการเป็ นสมาชิกองคก์ าร มีค่าเฉลี่ย 4.50 (S.D. = 0.549) เมื่อ เทียบเปรียบเทียบท้งั 5 ดา้ น พบวา่ ดา้ นบทบาทในอาชีพ รองลงมาคือดา้ นบทบาทการเป็ นผูส้ ร้าง นวตั กรรม ดงั ตารางที่ 14
42 ตารางที่ 14 ค่าเฉลี่ย ส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐาน และระดบั ความคิดเห็นของมคั คุเทศกบ์ ริษทั นาเที่ยว ในประเทศไทยเก่ียวกบั ผลการปฏิบตั ิงาน ผลการปฏิบตั ิงาน ���̅��� S.D. 1. ดา้ นบทบาทในงาน 4.56 0.522 2. ดา้ นบทบาทในอาชีพ 4.30 0.628 3. ดา้ นบทบาทการเป็ นผสู้ ร้างนวตั กรรม 4.38 0.571 4. ดา้ นบทบาทการเป็ นสมาชิกในทีม 4.46 0.550 5. ดา้ นบทบาทการเป้นสมาชิกองคก์ าร 4.50 0.549 รวม 4.44 0.564 ส่วนที่ 6 การวเิ คราะห์องค์ประกอบเชิงยืนยนั ของตวั แปร ในการวิเคราะห์องค์ประกอบเชิงยืนยนั (Confirmatory Factor Analysis: CFA) ผลการ ทดสอบความเหมาะสมของโมเดลจาเป็ นต้องให้ค่าดชั นีช้ีวดั ความเหมาะสมอยู่ในเกณฑ์การ พิจารณาความสอดคลอ้ งกลมกลืนของโมเดล จะทาให้โมเดลน้นั ถูกยอมรับ โดยการตรวจสอบการ แจกแจงของขอ้ มูล โดยมีเกณฑก์ ารพจิ ารณาดงั ตารางที่ 15 ตารางที่ 15 เกณฑก์ ารพจิ ารณาความสอดคลอ้ งกลมกลืนของโมเดล ค่าดัชนี เกณฑ์ ค่าสถิติไค-สแควร์(Chi-Square: χ2) p ≥ 0.05 คา่ ไค-สแควร์สมั พนั ธ์(2/df) ≤3.00 คา่ ดชั นีวดั ระดบั ความกลมกลืน(GFI) ≥0.90 คา่ ดชั นีวดั ระดบั ความกลมกลืนท่ีปรับแกแ้ ลว้ (AGFI) ≥0.90
43 ตารางที่ 15 (ต่อ) ค่าดัชนี เกณฑ์ ค่าดชั นีวดั ความสอดคลอ้ งกลมกลืนเชิงสมั พทั ธ์(CFI) ≥0.90 คา่ ดชั นีค่ารากท่ีสองของค่าเฉล่ียกาลงั สอง(RMR) ≤ 0.08 ค่ารากท่ีสองของค่าเฉลี่ยของส่วนเหลือคลาดเคลื่อนกาลงั สอง ≤0.08 ของการประมาณค่า(RMSEA) ค่าดชั นีความสอดคลอ้ งความสมั พนั ธ์(NFI) ≥0.90 ท่ีมา: ยทุ ธ ไกยวรรณ์ (2556: 161) ผูว้ ิจยั ไดท้ าการตรวจสอบขอ้ มูลแบบสอบถามของผูว้ ิจยั ในการตรวจสอบความสมบูรณ์ ของขอ้ มูล จากน้นั นามาทดสอบการกระจายตวั ของขอ้ มูลโดยพบวา่ แบบสอบถามของผูว้ ิจยั มีการ แจกแจงแบบปกติ โดยความปกติของขอ้ มูลสามารถดูไดจ้ ากตวั เลขสถิติหรือกราฟ ในกรณีการวดั ค่าสถิติจะดูไดจ้ ากค่าการกระจายสมมาตร (Skewness) และค่าความสูงของการกระจาย (Kurtosis) ค่าลบและค่าบวกจะแสดงทิศทางของขอ้ มูล กล่าวว่าช่วงค่าตวั เลข -3.0 ถึง +3.0 จะแสดงถึงการ กระจายของขอ้ มูลแบบปกติ (Kline, 2005 อา้ งใน กริช แรงสูงเนิน, 2554: 101) ผลการวเิ คราะห์องค์ประกอบเชิงยืนยันของตัวแปรลกั ษณะเด่นของบุคลกิ ภาพ 1. ดา้ นบุคลิกภาพแบบแสดงตวั การวิเคราะห์โมเดลการวดั ตวั แปรลกั ษณะเด่นของบุคลิกภาพดา้ นบุคลิกภาพแบบแสดง ตวั (BF_E) โดยใชว้ ธิ ีการวิเคราะห์องคป์ ระกอบเชิงยืนยนั (CFA) ดว้ ยโปรแกรมสาเร็จรูปทางสถิติ ประกอบด้วยตวั แปรสังเกตที่ได้จากขอ้ คาถาม BF1, BF6, BF11, BF16, BF21, BF26, BF31 และ BF36
44 ผลการวิเคราะห์พบว่า โมเดลการวดั ความสอดคล้องกับข้อมูลเชิงประจกั ษ์ในการ วิเคราะห์พบว่า มีค่าไค – สแควร์ (χ2) เท่ากบั 15.367 ค่าองศาอิสระ (df) เท่ากบั 8 ส่งผลให้ค่าp- value มีค่าเทา่ กบั 0.052 และคา่ RMSEA เทา่ กบั 0.048 ผลการวิเคราะห์องค์ประกอบเชิงยืนยนั ของโมเดล (Structural Model) ของตวั แปร ลักษณะเด่นของบุคลิกภาพ พบว่า น้าหนักองค์ประกอบ (Factor Loading) ทุกค่าผ่านเกณฑ์ที่ กาหนด คือ ตอ้ งมีค่ามากกวา่ ±0.3(Kim and Mueller, 1978อา้ งใน ยุทธ ไกยวรรณ์, 2556: 104)โดย ตวั แปรสังเกตที่ 4 ของลกั ษณะเด่นของบุคลิกภาพด้านบุคลิกภาพแสดงตวั (BF16)มีค่าน้าหนัก องค์ประกอบมากท่ีสุดเท่ากับ 0.76 และน้อยท่ีสุด คือ ตวั แปรสังเกตท่ี 3 ของลักษณะเด่นของ บุคลิกภาพด้านบุคลิกภาพแสดงตวั (BF11) มีค่าเท่ากับ 0.36 เม่ือพิจารณาค่าความคาดเคลื่อน มาตรฐาน (SE) และค่าสถิติ t พบวา่ น้าหนกั องคป์ ระกอบแต่ละค่าแตกต่างจาก 0 อยา่ งมีนยั สาคญั ทางสถิติที่ระดบั .001 ส่วนค่า R2พบว่า ตวั แปรสังเกตท่ี 4 ของลักษณะเด่นของบุคลิกภาพด้าน บุคลิกภาพแสดงตวั (BF16) มีค่า R2มากที่สุดเท่ากบั 0.59 และนอ้ ยที่สุด คือ ตวั แปรสังเกตท่ี 3 ของ ลกั ษณะเด่นของบุคลิกภาพดา้ นบุคลิกภาพแสดงตวั (BF11) มีค่าเท่ากบั 0.13 ดงั ภาพท่ี 6 และตาราง ท่ี 16 Chi-Square = 15.367,df = 8,p-value = 0.052, RMSEA = 0.048 ภาพที่ 6 การวเิ คราะห์องคป์ ระกอบเชิงยนื ยนั ของโมเดลการวดั ตวั แปรลกั ษณะเด่นของบุคลิกภาพ ดา้ นบุคลิกภาพแบบแสดงตวั
45 ตารางที่ 16 ผลการวเิ คราะห์องคป์ ระกอบเชิงยนื ยนั ของตวั แปรลกั ษณะเด่นของบุคลิกภาพดา้ น บุคลิกภาพแบบแสดงตวั ตวั แปรสังเกตได้ นา้ หนักองค์ประกอบ ค่าสัมประสิทธ์ิ t-value R2หรือความเทย่ี ง Loading SE BF1 0.60 - - 0.36 BF6 0.49 0.138 7.618*** 0.24 BF11 0.36 0.90 6.299*** 0.13 BF16 0.76 0.133 8.843*** 0.59 BF21 0.50 0.139 6.735*** 0.25 BF26 0.55 0.155 6.821*** 0.30 BF31 0.54 0.130 6.912*** 0.29 BF36 0.68 0.152 8.044*** 0.46 2 = 15.367, df = 8, 2/df =1.920, p-value = 0.052, GFI = 0.991, AGFI = 0.958, NFI = 0.983, CFI = 0.991, RMSEA = 0.048, RMR = 0.011 หมายเหตุ: *** หมายถึง นยั สาคญั ทางสถิติท่ีระดบั .001 – หมายถึง โปรแกรมไม่รายงานพารามิเตอร์บงั คบั บนเส้นซ่ึงเป็ นค่าคงที่ 2. ดา้ นบุคลิกภาพแบบประนีประนอม การวิเคราะห์โมเดลการวดั ตัวแปรลกั ษณะเด่นของบุคลิกภาพด้านบุคลิกภาพแบบ ประนีประนอม (BF_A)โดยใช้วิธีการวิเคราะห์องค์ประกอบเชิงยืนยนั (CFA) ด้วยโปรแกรม สาเร็จรูปทางสถิติ ประกอบดว้ ยตวั แปรสังเกตที่ไดจ้ ากขอ้ คาถาม BF2, BF7, BF12, BF17, BF22, BF27, BF32, BF37 และ BF42 ผลการวิเคราะห์พบว่า โมเดลการวดั ความสอดคล้องกับข้อมูลเชิงประจกั ษ์ในการ วิเคราะห์พบวา่ มีค่าไค – สแควร์ (χ2) เท่ากบั 26.053 ค่าองศาอิสระ (df) เท่ากบั 19 ส่งผลให้ค่า p- value มีค่าเทา่ กบั 0.129 และคา่ RMSEA เทา่ กบั 0.031
46 ผลการวิเคราะห์องค์ประกอบเชิงยืนยนั ของโมเดล (Structural Model) ของตวั แปร ลักษณะเด่นของบุคลิกภาพ พบว่า น้าหนักองค์ประกอบ (Factor Loading) ทุกค่าผ่านเกณฑ์ท่ี กาหนด คือ ตอ้ งมีค่ามากกวา่ ±0.3(Kim and Mueller, 1978 อา้ งใน ยทุ ธ ไกยวรรณ์, 2556: 104) โดย ตวั แปรสังเกตท่ี 6 ของลกั ษณะเด่นของบุคลิกภาพดา้ นบุคลิกภาพแบบประนีประนอม (BF27) มีค่า น้าหนกั องคป์ ระกอบมากท่ีสุดเท่ากบั 0.99 และน้อยท่ีสุด คือ ตวั แปรสังเกตท่ี 4 ของลกั ษณะเด่น ของบุคลิกภาพดา้ นบุคลิกภาพแบบประนีประนอม (BF17) มีค่าเท่ากบั 0.33 เมื่อพิจารณาค่าความ คาดเคล่ือนมาตรฐาน (SE) และค่าสถิติ t พบวา่ น้าหนกั องคป์ ระกอบแต่ละค่าแตกต่างจาก 0 อยา่ งมี นยั สาคญั ทางสถิติที่ระดบั .001 ส่วนค่า R2 พบวา่ ตวั แปรสงั เกตที่ 6 ของลกั ษณะเด่นของบุคลิกภาพ ดา้ นบุคลิกภาพแบบประนีประนอม (BF27) มีค่า R2 มากที่สุดเท่ากบั 0.56 และนอ้ ยที่สุด คือ ตวั แปรสังเกตท่ี 4 ของลกั ษณะเด่นของบุคลิกภาพดา้ นบุคลิกภาพแบบประนีประนอม (BF17) มีค่า เท่ากบั 0.11 ดงั ภาพที่ 7 และตารางที่ 17 Chi-Square = 26.053,df = 19,p-value = 0.129, RMSEA = 0.031 ภาพที่ 7 การวเิ คราะห์องคป์ ระกอบเชิงยนื ยนั ของโมเดลการวดั ตวั แปรลกั ษณะเด่นของบุคลิกภาพ ดา้ นบุคลิกภาพแบบประนีประนอม
47 ตารางท่ี 17 ผลการวเิ คราะห์องคป์ ระกอบเชิงยนื ยนั ของตวั แปรลกั ษณะเด่นของบุคลิกภาพดา้ น บุคลิกภาพแบบประนีประนอม ตวั แปรสังเกตได้ นา้ หนักองค์ประกอบ ค่าสัมประสิทธ์ิ t-value R2หรือความเทย่ี ง Loading SE BF2 0.61 - - 0.36 BF7 0.48 0.119 8.854*** 0.23 BF12 0.59 0.096 9.870*** 0.34 BF17 0.33 0.076 6.244*** 0.10 BF22 0.79 0.065 18.478*** 0.61 BF27 0.75 0.099 12.540*** 0.56 BF32 0.99 0.098 14.370*** 0.97 BF37 0.75 0.089 12.453*** 0.55 BF42 0.50 0.086 9.164*** 0.25 2 = 26.053, df = 19, 2/df =1.371, p-value = 0.129, GFI = 0.986, AGFI = 0.966, NFI = 0.988, CFI = 0.997, RMSEA = 0.031, RMR = 0.019 หมายเหตุ: *** หมายถึง นยั สาคญั ทางสถิติที่ระดบั .001 – หมายถึง โปรแกรมไมร่ ายงานพารามิเตอร์บงั คบั บนเส้นซ่ึงเป็ นค่าคงท่ี 3. ดา้ นบุคลิกภาพแบบมีจิตสานึก การวิเคราะห์โมเดลการวดั ตวั แปรลกั ษณะเด่นของบุคลิกภาพดา้ นบุคลิกภาพแบบมี จิตสานึก (BF_C)โดยใชว้ ิธีการวิเคราะห์องคป์ ระกอบเชิงยืนยนั (CFA) ดว้ ยโปรแกรมสาเร็จรูปทาง สถิติ ประกอบดว้ ยตวั แปรสังเกตท่ีได้จากขอ้ คาถาม BF3, BF8, BF13, BF18, BF23, BF28, BF33, BF38 และ BF43 ผลการวิเคราะห์พบว่า โมเดลการวดั ความสอดคล้องกับข้อมูลเชิงประจกั ษ์ในการ วิเคราะห์พบว่า มีค่าไค – สแควร์ (χ2) เท่ากบั 21.637 ค่าองศาอิสระ (df) เท่ากบั 13 ส่งผลให้ค่าp- value มีค่าเทา่ กบั 0.061 และคา่ RMSEA เทา่ กบั 0.048
48 ผลการวิเคราะห์องค์ประกอบเชิงยืนยนั ของโมเดล (Structural Model) ของตวั แปร ลกั ษณะเด่นของบุคลิกภาพด้านบุคลิกภาพแบบมีจิตสานึก พบว่า น้าหนักองค์ประกอบ (Factor Loading) ทุกคา่ ผา่ นเกณฑท์ ่ีกาหนด คือ ตอ้ งมีค่ามากกวา่ ±0.3(Kim and Mueller, 1978 อา้ งใน ยทุ ธ ไกยวรรณ์, 2556: 104) โดย ตวั แปรสังเกตท่ี 5 ของลกั ษณะเด่นของบุคลิกภาพดา้ นบุคลิกภาพแบบ มีจิตสานึก (BF23) มีค่าน้าหนกั องคป์ ระกอบมากที่สุดเท่ากบั 0.82 และนอ้ ยที่สุด คือ ตวั แปรสังเกต ท่ี 1ของลักษณะเด่นของบุคลิกภาพด้านบุคลิกภาพแบบมีจิตสานึก (BF3) มีค่าเท่ากบั 0.30 เม่ือ พิจารณาค่าความคลาดเคล่ือนมาตรฐาน(SE) และค่าสถิติ t พบว่า น้าหนักองค์ประกอบแต่ละค่า แตกต่างจาก 0 อย่างมีนัยสาคญั ทางสถิติที่ระดับ .001 ส่วนค่า R2พบว่า ตวั แปรสังเกตท่ี 5 ของ ลกั ษณะเด่นของบุคลิกภาพดา้ นบุคลิกภาพแบบมีจิตสานึก (BF23) มีค่า R2 มากท่ีสุดเท่ากบั 0.67 และนอ้ ยท่ีสุดคือ ตวั แปรสังเกตท่ี 1 ของลกั ษณะเด่นของบุคลิกภาพดา้ นบุคลิกภาพแบบมีจิตสานึก (BF3) มีค่าR2เทา่ กบั 0.09ดงั ภาพท่ี 8 และตารางที่ 18 Chi-Square = 21.637,df = 13,p-value = 0.061, RMSEA = 0.048 ภาพที่ 8 การวเิ คราะห์องคป์ ระกอบเชิงยนื ยนั ของโมเดลการวดั ตวั แปรลกั ษณะเด่นของบุคลิกภาพ ดา้ นบุคลิกภาพแบบมีจิตสานึก
49 ตารางที่ 18 ผลการวเิ คราะห์องคป์ ระกอบเชิงยนื ยนั ของตวั แปรลกั ษณะเด่นของบุคลิกภาพดา้ น บุคลิกภาพแบบมีจิตสานึก ตัวแปรสังเกตได้ นา้ หนักองค์ประกอบ ค่าสัมประสิทธ์ิ t-value R2หรือความเทยี่ ง Loading SE BF3 0.30 - - 0.09 BF8 0.37 0.308 4.412*** 0.14 BF13 0.38 0.386 3.794*** 0.15 BF18 0.52 0.412 4.781*** 0.27 BF23 0.82 0.686 4.568*** 0.67 BF28 0.39 0.410 3.615*** 0.15 BF33 0.77 0.701 4.588*** 0.60 BF38 0.31 0.379 3.249*** 0.10 BF43 0.57 0.509 4.682*** 0.32 2 = 21.637, df = 13, 2/df=1.664, p-value = 0.061, GFI = 0.984, AGFI = 0.945, NFI = 0.976, CFI = 0.990, RMSEA = 0.048, RMR = 0.021 หมายเหตุ: *** หมายถึง นยั สาคญั ทางสถิติท่ีระดบั .001 – หมายถึง โปรแกรมไมร่ ายงานพารามิเตอร์บงั คบั บนเส้นซ่ึงเป็นคา่ คงที่ 4. ดา้ นบุคลิกภาพแบบหวนั่ ไหว การวิเคราะห์โมเดลการวดั ตวั แปรลกั ษณะเด่นของบุคลิกภาพด้านบุคลิกภาพแบบ หวนั่ ไหว (BF_N)โดยใชว้ ธิ ีการวิเคราะห์องคป์ ระกอบเชิงยืนยนั (CFA) ดว้ ยโปรแกรมสาเร็จรูปทาง สถิติ ประกอบดว้ ยตวั แปรสังเกตท่ีได้จากขอ้ คาถาม BF4, BF9, BF14, BF19, BF24, BF29, BF34 และ BF39 ผลการวิเคราะห์พบว่า โมเดลการวดั ความสอดคล้องกับข้อมูลเชิงประจกั ษ์ในการ วิเคราะห์พบว่า มีค่าไค – สแควร์ (χ2) เท่ากบั 20.109 ค่าองศาอิสระ (df) เท่ากบั 12ส่งผลให้ค่า p- value มีคา่ เท่ากบั 0.065 และคา่ RMSEA เท่ากบั 0.041
50 ผลการวิเคราะห์องค์ประกอบเชิงยืนยนั ของโมเดล (Structural Model) ของตวั แปร ลกั ษณะเด่นของบุคลิกภาพด้านบุคลิกภาพแบบหวนั่ ไหว พบว่า น้าหนักองค์ประกอบ (Factor Loading) ทุกค่าผา่ นเกณฑท์ ี่กาหนด คือ ตอ้ งมีค่ามากกวา่ ±0.3(Kim and Mueller, 1978 อา้ งใน ยทุ ธ ไกยวรรณ์, 2556: 104) โดย ตวั แปรสังเกตท่ี 1 ของลกั ษณะเด่นของบุคลิกภาพดา้ นบุคลิกภาพแบบ หวน่ั ไหว (BF4) มีค่าองคป์ ระกอบน้าหนกั มากท่ีสุดเท่ากบั 0.73 และนอ้ ยท่ีสุด คือ ตวั แปรสังเกตท่ี 5 ของลกั ษณะเด่นของบุคลิกภาพดา้ นบุคลิกภาพแบบหวนั่ ไหว (BF24) มีค่าเท่ากบั 0.33 เม่ือพิจารณา คา่ ความคลาดเคล่ือนมาตรฐาน (SE) และคา่ สถิติ t พบวา่ น้าหนกั องคป์ ระกอบแต่ละค่าแตกตา่ งจาก 0 อยา่ งมีนยั สาคญั ทางสถิติที่ระดบั .001 ส่วนค่า R2 พบวา่ ตวั แปรสังเกตที่ 1 ของลกั ษณะเด่นของ บุคลิกภาพดา้ นบุคลิกภาพแบบหวน่ั ไหว (BF4) มีคา่ R2 เท่ากบั 0.54 และนอ้ ยที่สุดคือ ตวั แปรสงั เกต ท่ี 5 ของลกั ษณะเด่นของบุคลิกภาพดา้ นบุคลิกภาพแบบหวนั่ ไหว (BF24) มีคา่ เทา่ กบั 0.11 ดงั ภาพที่ 9 และตารางท่ี 19 Chi-Square = 20.109,df = 12,p-value = 0.065, RMSEA = 0.041 ภาพท่ี 9 การวเิ คราะห์องคป์ ระกอบเชิงยนื ยนั ของโมเดลการวดั ตวั แปรลกั ษณะเด่นของบุคลิกภาพ ดา้ นบุคลิกภาพแบบหวน่ั ไหว
51 ตารางที่ 19 ผลการวเิ คราะห์องคป์ ระกอบเชิงยนื ยนั ของตวั แปรลกั ษณะเด่นของบุคลิกภาพดา้ น บุคลิกภาพแบบหวนั่ ไหว ตวั แปรสังเกตได้ นา้ หนักองค์ประกอบ ค่าสัมประสิทธ์ิ t-value R2หรือความเทย่ี ง Loading SE BF4 0.73 - - 0.54 BF9 0.47 0.078 6.653*** 0.22 BF14 0.40 0.76 6.117*** 0.16 BF19 0.37 0.071 5.857*** 0.14 BF24 0.33 0.96 5.344*** 0.11 BF29 0.38 0.089 4.882*** 0.14 BF34 0.65 0.112 7.373*** 0.43 BF39 0.43 0.083 6.289*** 0.18 2 = 20.109, df = 12, 2/df=1.675, p-value = 0.065, GFI = 0.988, AGFI = 0.963, NFI = 0.965, CFI = 0.985, RMSEA = 0.041, RMR = 0.019 หมายเหตุ: *** หมายถึง นยั สาคญั ทางสถิติที่ระดบั .001 – หมายถึง โปรแกรมไม่รายงานพารามิเตอร์บงั คบั บนเส้นซ่ึงเป็นค่าคงท่ี 5. ดา้ นบุคลิกภาพแบบเปิ ดรับประสบการณ์ การวิเคราะห์โมเดลการวดั ตวั แปรลกั ษณะเด่นของบุคลิกภาพด้านบุคลิกภาพแบบ เปิ ดรับประสบการณ์ (BF_O) โดยใชว้ ธิ ีการวเิ คราะห์องคป์ ระกอบเชิงยืนยนั (CFA) ดว้ ยโปรแกรม สาเร็จรูปทางสถิติ ประกอบดว้ ยตวั แปรสังเกตท่ีไดจ้ ากขอ้ คาถาม BF5, BF10, BF15, BF20, BF25, BF30, BF35, BF40, BF41 และ BF44 ผลการวิเคราะห์พบว่า โมเดลการวดั ความสอดคล้องกับข้อมูลเชิงประจกั ษ์ในการ วเิ คราะห์พบวา่ มีค่าไค – สแควร์ (χ2) เท่ากบั 20.654 ค่าองศาอิสระ (df) เท่ากบั 20 ส่งผลให้ค่า p- value มีค่าเท่ากบั 0.418 และค่า RMSEA เทา่ กบั 0.009 ผลการวิเคราะห์องค์ประกอบเชิงยืนยนั ของโมเดล (Structural Model) ของตวั แปร ลกั ษณะเด่นของบุคลิกภาพดา้ นบุคลิกภาพแบบเปิ ดรับประสบการณ์พบว่า น้าหนกั องค์ประกอบ
52 (Factor Loading) ทุกคา่ ผา่ นเกณฑท์ ี่กาหนด คือ ตอ้ งมีค่ามากกวา่ ±0.3(Kim and Mueller, 1978 อา้ ง ใน ยุทธ ไกยวรรณ์, 2556: 104) โดย ตวั แปรสังเกตที่10 ของลักษณะเด่นของบุคลิกภาพด้าน บุคลิกภาพแบบเปิ ดรับประสบการณ์ (BF44) มีค่าน้าหนกั องค์ประกอบมากที่สุดเท่ากบั 0.72 และ น้อยที่สุด คือตัวแปรสังเกตท่ี 7 ของลักษณะเด่นของบุคลิกภาพด้านบุคลิกภาพแบบเปิ ดรับ ประสบการณ์ (BF35) มีคา่ เท่ากบั 0.34 เมื่อพิจารณาคา่ ความคลาดเคล่ือนมาตรฐาน (SE) และคา่ สถิติ t พบวา่ น้าหนกั องคป์ ระกอบแต่ละคา่ แตกต่างจาก 0 อยา่ งมีนยั สาคญั ทางสถิติท่ีระดบั .001 ส่วนค่า R2พบว่า ตัวแปรสังเกตที่ 10 ของลักษณะเด่นของบุคลิกภาพด้านบุคลิกภาพแบบเปิ ดรับ ประสบการณ์ (BF44) มีค่าR2มากที่สุดเท่ากบั 0.52 และนอ้ ยที่สุดคือ ตวั แปรสังเกตที่ 7 ของลกั ษณะ เด่นของบุคลิกภาพดา้ นบุคลิกภาพแบบเปิ ดรับประสบการณ์ (BF35) มีค่าเท่ากบั 0.33ดงั ภาพที่ 10 และตารางที่ 20 Chi-Square = 20.654,df = 20, p-value = 0.418, RMSEA = 0.009 ภาพที่ 10 การวเิ คราะห์องคป์ ระกอบเชิงยนื ยนั ของโมเดลการวดั ตวั แปรลกั ษณะเด่นของบุคลิกภาพ ดา้ นบุคลิกภาพแบบเปิ ดรับประสบการณ์
53 ตารางที่ 20 ผลการวเิ คราะห์องคป์ ระกอบเชิงยนื ยนั ของตวั แปรลกั ษณะเด่นของบุคลิกภาพดา้ น บุคลิกภาพแบบเปิ ดรับประสบการณ์ ตวั แปรสังเกตได้ นา้ หนักองค์ประกอบ ค่าสัมประสิทธ์ิ t-value R2หรือความเทย่ี ง Loading SE BF5 0.49 - - 0.24 BF10 0.60 0.202 7.405*** 0.35 BF15 0.67 0.146 9.443*** 0.45 BF20 0.46 0.149 6.798*** 0.22 BF25 0.38 0.202 5.952** 0.15 BF30 0.58 0.207 6.609*** 0.33 BF35 0.34 0.150 5.85*** 0.11 BF40 0.58 0.151 7.156*** 0.34 BF41 0.54 0.155 6.944*** 0.29 BF44 0.72 0.256 7.897*** 0.52 2 = 20.654, df = 20, 2/df = 1.032, p-value = 0.418, GFI = 0.990, AGFI = 0.973, NFI = 0.982, CFI = 0.999, RMSEA = 0.009, RMR = 0.020 หมายเหตุ: *** หมายถึง นยั สาคญั ทางสถิติท่ีระดบั .001 – หมายถึง โปรแกรมไมร่ ายงานพารามิเตอร์บงั คบั บนเส้นซ่ึงเป็นค่าคงที่ ผลการวเิ คราะห์องค์ประกอบเชิงยืนยนั ของตัวแปรความฉลาดทางวฒั นธรรม 1. ดา้ นอภิปัญญา การวิเคราะห์โมเดลการวดั ตวั แปรความฉลาดทางวฒั นธรรมด้านอภิปัญญา (CQ_M) โดยใช้วิธีการวิเคราะห์องค์ประกอบเชิงยืนยัน ( CFA) ด้วยโปรแกรมสาเร็จรู ปทางสถิติ ประกอบดว้ ยตวั แปรสงั เกตท่ีไดจ้ ากขอ้ คาถาม MC1, MC2, MC3 และ MC4
54 ผลการวิเคราะห์พบว่า โมเดลการวดั ความสอดคล้องกับข้อมูลเชิงประจกั ษ์ในการ วเิ คราะห์พบวา่ มีคา่ ไค – สแควร์ (χ2) เท่ากบั 2.592 ค่าองศาอิสระ (df) เทา่ กบั 2 ส่งผลใหค้ า่ p-value มีค่าเท่ากบั 0.274 และค่า RMSEA เท่ากบั 0.027 ผลการวิเคราะห์องค์ประกอบเชิงยืนยนั ของโมเดล (Structural Model) ของตวั แปรความ ฉลาดทางวฒั นธรรมดา้ นอภิปัญญา พบวา่ น้าหนกั องคป์ ระกอบ (Factor Loading) ทุกค่าผา่ นเกณฑ์ ที่กาหนด คือ ตอ้ งมีค่ามากกว่า ±0.3 (Kim and Mueller, 1978 อา้ งใน ยุทธ ไกยวรรณ์, 2556: 104) โดย ตัวแปรสังเกตท่ี 3 ของความฉลาดทางวฒั นธรรมด้านอภิปัญญา (MC3) มีค่าน้ าหนัก องค์ประกอบมากที่สุดเท่ากับ 0.93 และน้อยที่สุด คือ ตวั แปรสังเกตท่ี 4 ของความฉลาดทาง วฒั นธรรมดา้ นอภิปัญญา (MC4) มีค่าเท่ากบั 0.55 เม่ือพิจารณาค่าความคลาดเคล่ือนมาตรฐาน (SE) และค่าสถิติ t พบวา่ น้าหนกั องคป์ ระกอบแต่ละค่าแตกต่างจาก 0 อยา่ งมีนยั สาคญั ทางสถิติที่ระดบั .001 ส่วนค่า R2 พบวา่ ตวั แปรสังเกตท่ี 3 ของความฉลาดทางวฒั นธรรมดา้ นอภิปัญญา (MC3) มีค่า R2มากท่ีสุดเท่ากบั 0.86 และนอ้ ยท่ีสุดคือ ตวั แปรสังเกตท่ี 4 ของความฉลาดทางวฒั นธรรมดา้ นอภิ ปัญญา (MC4) มีค่าเท่ากบั 0.30 ดงั ภาพที่ 11 และตารางที่ 21 Chi-Square = 2.592,df = 2,p-value = 0.274, RMSEA = 0.027 ภาพท่ี 11 การวเิ คราะห์องคป์ ระกอบเชิงยนื ยนั ของโมเดลการวดั ตวั แปรความฉลาดทางวฒั นธรรม ดา้ นอภิปัญญา
55 ตารางที่ 21 ผลการวเิ คราะห์องคป์ ระกอบเชิงยนื ยนั ของตวั แปรความฉลาดทางวฒั นธรรมดา้ นอภิ ปัญญา ตัวแปรสังเกตได้ นา้ หนักองค์ประกอบ ค่าสัมประสิทธ์ิ t-value R2หรือความเทย่ี ง Loading SE MC1 0.65 - - 0.42 MC2 0.79 0.097 13.194*** 0.62 MC3 0.93 0.126 13.581*** 0.86 MC4 0.55 0.127 9.728*** 0.30 2 = 2.592, df = 2, 2/df = 1.296, p-value = 0.274, GFI = 0.997, AGFI = 0.984, NFI = 0.996, CFI = 0.999, RMSEA = 0.027, RMR = 0.013 หมายเหตุ: *** หมายถึง นยั สาคญั ทางสถิติที่ระดบั .001 – หมายถึง โปรแกรมไม่รายงานพารามิเตอร์บงั คบั บนเส้นซ่ึงเป็นค่าคงท่ี 2. ดา้ นภูมิปัญญา การวิเคราะห์โมเดลการวดั ตวั แปรความฉลาดทางวฒั นธรรมดา้ นภูมิปัญญา (CQ_C) โดยใช้วิธีการวิเคราะห์องค์ประกอบเชิงยืนยัน ( CFA) ด้วยโปรแกรมสาเร็จรู ปทางสถิติ ประกอบดว้ ยตวั แปรสงั เกตที่ไดจ้ ากขอ้ คาถาม COG1, COG2, COG3, COG4, COG5 และ COG6 ผลการวิเคราะห์พบว่า โมเดลการวดั ความสอดคล้องกับข้อมูลเชิงประจกั ษ์ในการ วเิ คราะห์พบวา่ มีค่าไค – สแควร์ (χ2) เท่ากบั 0.335 ค่าองศาอิสระ (df) เท่ากบั 5 ส่งผลใหค้ ่า p-value มีค่าเทา่ กบั 0.997 และค่า RMSEA เท่ากบั 0.000 ผลการวเิ คราะห์องคป์ ระกอบเชิงยนื ยนั ของโมเดล (Structural Model) ของตวั แปรความ ฉลาดทางวฒั นธรรมดา้ นภูมิปัญญา พบวา่ น้าหนกั องคป์ ระกอบ (Factor Loading) ทุกค่าผา่ นเกณฑ์ ที่กาหนด คือ ตอ้ งมีค่ามากกว่า±0.3 (Kim and Mueller, 1978 อา้ งใน ยุทธ ไกยวรรณ์, 2556: 104) โดย ตัวแปรสังเกตท่ี 4 ของความฉลาดทางวฒั นธรรมด้านภูมิปัญญา (COG4) มีค่าน้าหนัก องค์ประกอบมากท่ีสุดเท่ากับ 0.92 และน้อยท่ีสุด คือ ตวั แปรสังเกตที่ 3 ของความฉลาดทาง วฒั นธรรมด้านภูมิปัญญา (COG3) มีค่าเท่ากบั 0.67 เมื่อพิจารณาค่าความคลาดเคล่ือนมาตรฐาน
56 (SE) และค่าสถิติ t พบวา่ น้าหนกั องคป์ ระกอบแต่ละค่าแตกต่างจาก 0 อยา่ งมีนยั สาคญั ทางสถิติท่ี ระดับ .001 ส่วนค่า R2 พบว่า ตวั แปรสังเกตที่ 4 ของความฉลาดทางวฒั นธรรมด้านภูมิปัญญา (COG4) มีค่าR2 มากท่ีสุดเท่ากบั 0.84 และน้อยท่ีสุดคือ ตวั แปรสังเกตท่ี 3 ของความฉลาดทาง วฒั นธรรมดา้ นภูมิปัญญา (COG3) มีค่าเท่ากบั 0.45 ดงั ภาพท่ี 12 และตารางที่ 22 Chi-Square = 0.335,df = 5,p-value = 0.997, RMSEA = 0.000 ภาพท่ี 12 การวเิ คราะห์องคป์ ระกอบเชิงยนื ยนั ของโมเดลการวดั ตวั แปรความฉลาดทางวฒั นธรรม ดา้ นภูมิปัญญา
57 ตารางท่ี 22 ผลการวิเคราะห์องคป์ ระกอบเชิงยนื ยนั ของตวั แปรความฉลาดทางวฒั นธรรมดา้ นภูมิ ปัญญา ตัวแปรสังเกตได้ นา้ หนักองค์ประกอบ ค่าสัมประสิทธ์ิ COG1 Loading SE t-value R2หรือความเทย่ี ง COG2 COG3 0.82 - - 0.67 COG4 COG5 0.82 0.033 27.665*** 0.66 COG6 0.67 0.049 14.490*** 0.45 0.92 0.047 21.694*** 0.84 0.84 0.048 19.694*** 0.71 0.76 0.055 16.816*** 0.57 2 =0.335, df = 5, 2/df = 0.067, p-value = 0.997, GFI = 1.000, AGFI = 0.999, NFI = 1.000, CFI = 1.000, RMSEA = 0.000, RMR = 0.002 หมายเหตุ: *** หมายถึง นยั สาคญั ทางสถิติที่ระดบั .001 – หมายถึง โปรแกรมไม่รายงานพารามิเตอร์บงั คบั บนเส้นซ่ึงเป็นค่าคงที่ 3. ดา้ นแรงจูงใจ การวิเคราะห์โมเดลการวดั ตวั แปรลัความฉลาดทางวฒั นธรรมดา้ นแรงจูงใจ (CQ_O) โดยใช้วิธีการวิเคราะห์องค์ประกอบเชิงยืนยัน ( CFA) ด้วยโปรแกรมสาเร็จรู ปทางสถิติ ประกอบดว้ ยตวั แปรสังเกตท่ีไดจ้ ากขอ้ คาถาม MOT1, MOT2, MOT3, MOT4 และ MOT5 ผลการวิเคราะห์พบว่า โมเดลการวดั ความสอดคล้องกับข้อมูลเชิงประจกั ษ์ในการ วเิ คราะห์พบวา่ มีค่าไค – สแควร์ (χ2) เท่ากบั 6.820 ค่าองศาอิสระ (df) เท่ากบั 3 ส่งผลใหค้ ่า p-value มีคา่ เท่ากบั 0.078 และค่า RMSEA เท่ากบั 0.056 ผลการวเิ คราะห์องคป์ ระกอบเชิงยนื ยนั ของโมเดล (Structural Model) ของตวั แปรความ ฉลาดทางวฒั นธรรมดา้ นแรงจูงใจ พบวา่ น้าหนกั องคป์ ระกอบ (Factor Loading) ทุกค่าผา่ นเกณฑ์ที่ กาหนด คือ ตอ้ งมีคา่ มากกวา่ ±0.3 (Kim and Mueller, 1978 อา้ งใน ยทุ ธ ไกยวรรณ์, 2556: 104) โดย ตวั แปรสังเกตที่ 2 ของความฉลาดทางวฒั นธรรมดา้ นแรงจูงใจ (MOT2) มีค่าน้าหนกั องคป์ ระกอบ
58 มากท่ีสุดเท่ากับ 0.93 และน้อยที่สุด คือ ตวั แปรสังเกตที่ 1 ของความฉลาดทางวฒั นธรรมด้าน แรงจูงใจ (MOT1) มีค่าเท่ากบั 0.74 เม่ือพิจารณาค่าความคลาดเคลื่อนมาตรฐาน (SE) และค่าสถิติ t พบวา่ น้าหนกั องคป์ ระกอบแต่ละค่าแตกต่างจาก 0 อยา่ งมีนยั สาคญั ทางสถิติท่ีระดบั .001 ส่วนค่า R2 พบวา่ ตวั แปรสงั เกตที่ 2 ของความฉลาดทางวฒั นธรรมดา้ นแรงจูงใจ (MOT2) มีคา่ R2 มากท่ีสุด เท่ากับ 0.86 และน้อยที่สุดคือ ตวั แปรสังเกตที่ 1 ของความฉลาดทางวฒั นธรรมด้านแรงจูงใจ (MOT1) มีค่าเทา่ กบั 0.55 ดงั ภาพท่ี 13 และตารางที่ 23 Chi-Square = 6.820,df = 3,p-value = 0.078, RMSEA = 0.056 ภาพที่ 13 การวเิ คราะห์องคป์ ระกอบเชิงยนื ยนั ของโมเดลการวดั ตวั แปรความฉลาดทางวฒั นธรรม ดา้ นแรงจูงใจ
59 ตารางท่ี 23 ผลการวิเคราะห์องคป์ ระกอบเชิงยนื ยนั ของตวั แปรความฉลาดทางวฒั นธรรมดา้ น แรงจูงใจ ตัวแปรสังเกตได้ นา้ หนักองค์ประกอบ ค่าสัมประสิทธ์ิ t-value R2หรือความเทย่ี ง Loading SE MOT1 0.74 - - 0.55 MOT2 0.93 0.070 19.200*** 0.86 MOT3 0.80 0.049 21.745*** 0.63 MOT4 0.92 0.061 21.770*** 0.85 MOT5 0.91 0.076 18.763*** 0.82 2 = 6.820, df = 3, 2/df =2.273, p-value = 0.078, GFI = 0.993, AGFI = 0.966, NFI = 0.996, CFI = 0.998, RMSEA = 0.056, RMR = 0.008 หมายเหตุ: *** หมายถึง นยั สาคญั ทางสถิติท่ีระดบั .001 – หมายถึง โปรแกรมไมร่ ายงานพารามิเตอร์บงั คบั บนเส้นซ่ึงเป็นคา่ คงท่ี 4. ดา้ นพฤติกรรม การวิเคราะห์โมเดลการวดั ตวั แปรความฉลาดทางวฒั นธรรมดา้ นพฤติกรรม (CQ_B) โดยใช้วิธีการวิเคราะห์องค์ประกอบเชิงยืนยัน ( CFA) ด้วยโปรแกรมสาเร็จรู ปทางสถิติ ประกอบดว้ ยตวั แปรสงั เกตที่ไดจ้ ากขอ้ คาถาม BEH1, BEH2, BEH3, BEH4 และ BEH5 ผลการวิเคราะห์พบว่า โมเดลการวดั ความสอดคล้องกับข้อมูลเชิงประจกั ษ์ในการ วเิ คราะห์คร้ังแรก โดยพบวา่ มีค่าไค – สแควร์ (χ2) เท่ากบั 4.217 ค่าองศาอิสระ (df) เท่ากบั 3 ส่งผล ใหค้ า่ p-value มีคา่ เทา่ กบั 0.239 และคา่ RMSEA เทา่ กบั 0.032 ผลการวเิ คราะห์องคป์ ระกอบเชิงยืนยนั ของโมเดล (Structural Model) ของตวั แปรความ ฉลาดทางวฒั นธรรมดา้ นดา้ นพฤติกรรม พบวา่ น้าหนกั องคป์ ระกอบ (Factor Loading) ทุกค่าผา่ น เกณฑท์ ี่กาหนด คือ ตอ้ งมีค่ามากกวา่ ±0.3 (Kim and Mueller, 1978 อา้ งใน ยทุ ธ ไกยวรรณ์, 2556: 104) โดย ตวั แปรสังเกตท่ี 4 ของความฉลาดทางวฒั นธรรมดา้ นพฤติกรรม (BEH4) มีค่าน้าหนกั องค์ประกอบมากที่สุดเท่ากับ 0.93 และน้อยท่ีสุด คือ ตวั แปรสังเกตท่ี 1 ของความฉลาดทาง
60 วฒั นธรรมด้านพฤติกรรม (BEH1) มีค่าเท่ากบั 0.48 เมื่อพิจารณาค่าความคลาดเคลื่อนมาตรฐาน (SE) และค่าสถิติ t พบวา่ น้าหนกั องคป์ ระกอบแต่ละค่าแตกต่างจาก 0 อยา่ งมีนยั สาคญั ทางสถิติท่ี ระดับ .001 ส่วนค่า R2 พบว่า ตวั แปรสังเกตท่ี 4 ของความฉลาดทางวฒั นธรรมด้านพฤติกรรม (BEH4) มีค่า R2 มากที่สุดเท่ากบั 0.86 และนอ้ ยที่สุดคือ ตตั วั แปรสังเกตที่ 1 ของความฉลาดทาง วฒั นธรรมดา้ นพฤติกรรม (BEH1) มีค่าเทา่ กบั 0.23 ดงั ภาพท่ี 14 และตารางท่ี 24 Chi-Square = 4.217,df = 3,p-value = 0.239, RMSEA = 0.032 ภาพท่ี 14 การวเิ คราะห์องคป์ ระกอบเชิงยนื ยนั ของโมเดลการวดั ตวั แปรความฉลาดทางวฒั นธรรม ดา้ นพฤติกรรม
61 ตารางท่ี 24 ผลการวิเคราะห์องคป์ ระกอบเชิงยนื ยนั ของตวั แปรความฉลาดทางวฒั นธรรมดา้ น พฤติกรรม ตวั แปรสังเกตได้ นา้ หนักองค์ประกอบ ค่าสัมประสิทธ์ิ t-value R2หรือความเทยี่ ง Loading SE BEH1 0.48 - - 0.23 BEH2 0.87 0.145 10.592*** 0.76 BEH3 0.91 0.166 10.016*** 0.83 BEH4 0.93 0.162 10.066*** 0.86 BEH5 0.57 0.092 10.860*** 0.32 2 = 4.217, df = 3, 2/df = 1.405, p-value = 0.239, GFI = 0.996, AGFI = 0.979, NFI = 0.997, CFI = 0.999, RMSEA = 0.032, RMR = 0.010 หมายเหตุ: *** หมายถึง นยั สาคญั ทางสถิติที่ระดบั .001 – หมายถึง โปรแกรมไมร่ ายงานพารามิเตอร์บงั คบั บนเส้นซ่ึงเป็นค่าคงท่ี ผลการวเิ คราะห์องค์ประกอบเชิงยืนยันของตวั แปรความพึงพอใจในงาน 1. ดา้ นค่าตอบแทน การวเิ คราะห์โมเดลการวดั ตวั แปรความพึงพอใจในงานดา้ นค่าตอบแทน (JS_P) โดยใช้ วิธีการวิเคราะห์องคป์ ระกอบเชิงยืนยนั (CFA) ดว้ ยโปรแกรมสาเร็จรูปทางสถิติ ประกอบดว้ ยตวั แปรสงั เกตที่ไดจ้ ากขอ้ คาถาม JS1, JS10, JS19 และ JS28 ผลการวิเคราะห์พบว่า โมเดลการวดั ความสอดคล้องกับข้อมูลเชิงประจกั ษ์ในการ วิเคราะห์คร้ังแรก โดยพบวา่ มีค่าไค – สแควร์ (χ2) เท่ากบั 1.893 ค่าองศาอิสระ (df) เท่ากบั 1 ส่งผล ใหค้ า่ p-value มีคา่ เท่ากบั 0.169 และค่า RMSEA เท่ากบั 0.047 ผลการวิเคราะห์องค์ประกอบเชิงยืนยนั ของโมเดล (Structural Model) ของความพึง พอใจในงานด้านค่าตอบแทน พบว่า น้าหนักองค์ประกอบ (Factor Loading) ทุกค่าผ่านเกณฑ์ที่ กาหนด คือ ตอ้ งมีค่ามากกว่า ±0.3 (Kim and Mueller, 1978 อา้ งใน ยุทธ ไกยวรรณ์, 2556: 104)
62 โดย ตวั แปรสังเกตที่ 3 ของความพึงพอใจในงานดา้ นค่าตอบแทน (JS19) มีคา่ น้าหนกั องคป์ ระกอบ มากที่สุดเท่ากับ 0.76 และน้อยที่สุด คือ ตัวแปรสังเกตที่ 2 ของความพึงพอใจในงานด้าน ค่าตอบแทน (JS10) มีคา่ เท่ากบั 0.33 เม่ือพจิ ารณาค่าความคลาดเคล่ือนมาตรฐาน (SE) และค่าสถิติ t พบวา่ น้าหนกั องคป์ ระกอบแต่ละค่าแตกต่างจาก 0 อยา่ งมีนยั สาคญั ทางสถิติที่ระดบั .001 ส่วนค่า R2 พบวา่ ตวั แปรสังเกตที่ 3 ของความพึงพอใจในงานดา้ นค่าตอบแทน (JS19) มีค่า R2 มากที่สุด เท่ากบั 0.58 และนอ้ ยที่สุดคือ ตวั แปรสังเกตที่ 2 ของความพึงพอใจในงานดา้ นค่าตอบแทน (JS10) มีค่าเทา่ กบั 0.11 ดงั ภาพที่ 15 และตารางที่ 25 Chi-Square = 1.893,df = 1,p-value = 0.169, RMSEA = 0.047 ภาพที่ 15 การวเิ คราะห์องคป์ ระกอบเชิงยนื ยนั ของโมเดลการวดั ตวั แปรความพึงพอใจในงานดา้ น ค่าตอบแทน
63 ตารางที่ 25 ผลการวิเคราะห์องคป์ ระกอบเชิงยนื ยนั ของตวั แปรความพงึ พอใจในงานดา้ น คา่ ตอบแทน ตัวแปรสังเกตได้ นา้ หนักองค์ประกอบ ค่าสัมประสิทธ์ิ t-value R2หรือความเทย่ี ง Loading SE JS1 0.37 - - 0.14 JS10 0.33 0.290 4.818*** 0.11 JS19 0.76 0.420 5.349*** 0.58 JS28 0.66 0.372 5.700*** 0.44 2 = 1.893, df = 1, 2/df= 1.893, p-value = 0.168, GFI = 0.998, AGFI = 0.976, NFI = 0.991, CFI = 0.996, RMSEA = 0.047, RMR = 0.012 หมายเหตุ: *** หมายถึง นยั สาคญั ทางสถิติที่ระดบั .001 – หมายถึง โปรแกรมไม่รายงานพารามิเตอร์บงั คบั บนเส้นซ่ึงเป็นคา่ คงท่ี 2. ดา้ นโอกาสในความกา้ วหนา้ การวิเคราะห์โมเดลการวดั ตวั แปรความพึงพอใจในงานดา้ นโอกาสในความกา้ วหน้า (JS_PR)โดยใช้วิธีการวิเคราะห์องค์ประกอบเชิงยืนยนั (CFA) ด้วยโปรแกรมสาเร็จรูปทางสถิติ ประกอบดว้ ยตวั แปรสงั เกตที่ไดจ้ ากขอ้ คาถาม JS2, JS11, JS20 และ JS33 ผลการวิเคราะห์พบว่า โมเดลการวดั ความสอดคล้องกับข้อมูลเชิงประจกั ษ์ในการ วิเคราะห์คร้ังแรก โดยพบวา่ มีค่าไค – สแควร์ (χ2) เท่ากบั 0.487 ค่าองศาอิสระ (df) เท่ากบั 1 ส่งผล ใหค้ า่ p-value มีคา่ เท่ากบั 0.485 และคา่ RMSEA เท่ากบั 0.000 ผลการวิเคราะห์องค์ประกอบเชิงยืนยนั ของโมเดล (Structural Model) ของความพึง พอใจในงานดา้ นโอกาสในความกา้ วหนา้ พบวา่ น้าหนกั องคป์ ระกอบ (Factor Loading) ทุกคา่ ผา่ น เกณฑท์ ่ีกาหนด คือ ตอ้ งมีค่ามากกวา่ ±0.3 (Kim and Mueller, 1978 อา้ งใน ยทุ ธ ไกยวรรณ์, 2556: 104) โดย ตวั แปรสังเกตท่ี 4 ของความพึงพอใจในงานดา้ นโอกาสในความกา้ วหน้า (JS33) มีค่า น้าหนกั องคป์ ระกอบมากที่สุดเท่ากบั 0.87 และนอ้ ยที่สุด คือ ตวั แปรสังเกตที่ 2 ของความพึงพอใจ ในงานดา้ นโอกาสในความก้าวหน้า (JS11) มีค่าเท่ากบั 0.55 เม่ือพิจารณาค่าความคลาดเคล่ือน
64 มาตรฐาน (SE) และค่าสถิติ t พบวา่ น้าหนกั องคป์ ระกอบแต่ละค่าแตกต่างจาก 0 อยา่ งมีนยั สาคญั ทางสถิติท่ีระดบั .001 ส่วนค่า R2 พบวา่ ตวั แปรสังเกตท่ี 4 ของความพึงพอใจในงานดา้ นโอกาสใน ความกา้ วหนา้ (JS33) มีค่า R2 มากท่ีสุดเท่ากบั 0.76 และนอ้ ยท่ีสุดคือ ตวั แปรสังเกตที่ 2 ของความ พงึ พอใจในงานดา้ นโอกาสในความกา้ วหนา้ (JS11) มีคา่ เทา่ กบั 0.30ดงั ภาพที่ 16 และตารางที่ 26 Chi-Square = 0.487,df = ,p-value = 0.485, RMSEA = 0.000 ภาพท่ี 16 การวเิ คราะห์องคป์ ระกอบเชิงยนื ยนั ของโมเดลการวดั ตวั แปรความพงึ พอใจในงานดา้ น โอกาสในความกา้ วหนา้
65 ตารางที่ 26 ผลการวเิ คราะห์องคป์ ระกอบเชิงยนื ยนั ของตวั แปรความพงึ พอใจในงานดา้ นโอกาสใน ความกา้ วหนา้ ตัวแปรสังเกตได้ นา้ หนักองค์ประกอบ ค่าสัมประสิทธ์ิ t-value R2หรือความเทย่ี ง Loading SE JS2 0.62 - - 0.38 JS11 0.55 0.091 10.172*** 0.30 JS20 9.69 0.103 10.682*** 0.48 JS33 0.87 0.192 10.488*** 0.76 2 = 0.487, df = 1, 2/df = 0.487, p-value = 0.485, GFI = 0.999, AGFI = 0.994, NFI = 0.999, CFI = 1.000, RMSEA = 0.000, RMR = 0.006 หมายเหตุ: *** หมายถึง นยั สาคญั ทางสถิติที่ระดบั .001 – หมายถึง โปรแกรมไม่รายงานพารามิเตอร์บงั คบั บนเส้นซ่ึงเป็นค่าคงที่ 3. ดา้ นผบู้ งั คบั บญั ชา การวเิ คราะห์โมเดลการวดั ตวั แปรความพึงพอใจในงานดา้ นผบู้ งั คบั บญั ชา (JS_S)โดย ใชว้ ธิ ีการวเิ คราะห์องคป์ ระกอบเชิงยืนยนั (CFA) ดว้ ยโปรแกรมสาเร็จรูปทางสถิติ ประกอบดว้ ยตวั แปรสงั เกตที่ไดจ้ ากขอ้ คาถาม JS3, JS12, JS21 และ JS30 ผลการวิเคราะห์พบว่า โมเดลการวดั ความสอดคล้องกับข้อมูลเชิงประจกั ษ์ในการ วเิ คราะห์พบวา่ มีคา่ ไค – สแควร์ (χ2) เทา่ กบั 2.268 ค่าองศาอิสระ (df) เท่ากบั 1 ส่งผลใหค้ ่า p-value มีค่าเทา่ กบั 0.132 และคา่ RMSEA เท่ากบั 0.056 ผลการวิเคราะห์องค์ประกอบเชิงยืนยนั ของโมเดล (Structural Model) ของความพึง พอใจในงานดา้ นผูบ้ งั คบั บญั ชา พบวา่ น้าหนกั องคป์ ระกอบ (Factor Loading) ทุกค่าผา่ นเกณฑ์ท่ี กาหนด คือ ตอ้ งมีค่ามากกว่า ±0.3 (Kim and Mueller, 1978 อา้ งใน ยุทธ ไกยวรรณ์, 2556: 104) โดย ตวั แปรสังเกตท่ี 4 ของความพงึ พอใจในงานดา้ นผบู้ งั คบั บญั ชา(JS30) มีค่าน้าหนกั องคป์ ระกอบ มากท่ีสุดเท่ากับ 0.75 และน้อยท่ีสุด คือ ตัวแปรสังเกตที่ 3 ของความพึงพอใจในงานด้าน ผบู้ งั คบั บญั ชา (JS21) มีคา่ เทา่ กบั 0.48 เมื่อพิจารณาคา่ ความคลาดเคลื่อนมาตรฐาน (SE) และค่าสถิติ
66 t พบวา่ น้าหนกั องคป์ ระกอบแต่ละค่าแตกต่างจาก 0 อยา่ งมีนยั สาคญั ทางสถิติที่ระดบั .001 ส่วนคา่ R2 พบวา่ ตวั แปรสังเกตท่ี 4 ของความพึงพอใจในงานดา้ นผบู้ งั คบั บญั ชา (JS30) มีค่า R2 มากท่ีสุด เทา่ กบั 0.75 และนอ้ ยที่สุดคือ ตวั แปรสงั เกตท่ี 3 ของความพึงพอใจในงานดา้ นผบู้ งั คบั บญั ชา (JS21) มีคา่ เทา่ กบั 0.23 ดงั ภาพที่ 17 และตารางที่ 27 Chi-Square = 2.268,df = 1,p-value = 0.132, RMSEA = 0.056 ภาพท่ี 17 การวเิ คราะห์องคป์ ระกอบเชิงยนื ยนั ของโมเดลการวดั ตวั แปรความพงึ พอใจในงานดา้ น ผบู้ งั คบั บญั ชา
67 ตารางท่ี 27 ผลการวเิ คราะห์องคป์ ระกอบเชิงยนื ยนั ของตวั แปรความพึงพอใจในงานดา้ น ผบู้ งั คบั บญั ชา ตัวแปรสังเกตได้ นา้ หนักองค์ประกอบ ค่าสัมประสิทธ์ิ t-value R2หรือความเทย่ี ง Loading SE JS3 0.72 - - 0.51 JS12 0.68 0.129 7.753*** 0.46 JS21 0.48 0.093 8.905*** 0.23 JS30 0.75 0.145 8.200*** 0.56 2 = 2.268, df = 1, 2/df =2.268, p-value = 0.132, GFI = 0.997, AGFI = 0.972, NFI = 0.993, CFI = 0.996, RMSEA = 0.056, RMR = 0.019 หมายเหตุ: *** หมายถึง นยั สาคญั ทางสถิติที่ระดบั .001 – หมายถึง โปรแกรมไมร่ ายงานพารามิเตอร์บงั คบั บนเส้นซ่ึงเป็นค่าคงที่ 4. ดา้ นสวสั ดิการ การวิเคราะห์โมเดลการวดั ตวั แปรความพึงพอใจในงานดา้ นสวสั ดิการ (JS_B)โดยใช้ วิธีการวิเคราะห์องค์ประกอบเชิงยืนยนั (CFA) ดว้ ยโปรแกรมสาเร็จรูปทางสถิติ ประกอบดว้ ยตวั แปรสังเกตที่ไดจ้ ากขอ้ คาถาม JS4, JS13, JS22 และ JS29 ผลการวิเคราะห์พบว่า โมเดลการวดั ความสอดคล้องกับข้อมูลเชิงประจกั ษ์ในการ วเิ คราะห์พบวา่ มีค่าไค – สแควร์ (χ2) เทา่ กบั 3.721 คา่ องศาอิสระ (df) เท่ากบั 2 ส่งผลใหค้ า่ p-value มีคา่ เท่ากบั 0.156 และค่า RMSEA เท่ากบั 0.046 ผลการวิเคราะห์องค์ประกอบเชิงยืนยนั ของโมเดล (Structural Model) ของความพึง พอใจในงานดา้ นผูบ้ งั คบั บญั ชา พบวา่ น้าหนกั องคป์ ระกอบ (Factor Loading) ทุกค่าผ่านเกณฑ์ที่ กาหนด คือ ตอ้ งมีค่ามากกว่า ±0.3 (Kim and Mueller, 1978 อา้ งใน ยุทธ ไกยวรรณ์, 2556: 104) โดย ตวั แปรสังเกตที่ 3 ของความพึงพอใจในงานดา้ นสวสั ดิการ(JS22) มีค่าน้าหนกั องค์ประกอบ มากที่สุดเท่ากบั 0.99 และนอ้ ยที่สุด คือ ตวั แปรสังเกตท่ี 2 ของความพึงพอใจในงานดา้ นสวสั ดิการ (JS13) มีค่าเท่ากบั 0.36 เม่ือพิจารณาค่าความคลาดเคลื่อนมาตรฐาน (SE)และค่าสถิติ t พบว่า
68 น้าหนกั องค์ประกอบแต่ละค่าแตกต่างจาก 0 อย่างมีนยั สาคญั ทางสถิติท่ีระดับ .001 ส่วนค่า R2 พบวา่ ตวั แปรสังเกตท่ี 3 ของความพึงพอใจในงานดา้ นสวสั ดิการ(JS22) มีค่า R2 มากท่ีสุดเท่ากบั 0.97 และน้อยที่สุดคือ ตวั แปรสังเกตที่ 2 ของความพึงพอใจในงานด้านสวสั ดิการ (JS13) มีค่า เท่ากบั 0.54 ดงั ภาพที่ 18 และตารางที่ 28 Chi-Square = 3.721,df = 2,p-value = 0.156, RMSEA = 0.046 ภาพท่ี 18 การวเิ คราะห์องคป์ ระกอบเชิงยนื ยนั ของโมเดลการวดั ตวั แปรความพงึ พอใจในงานดา้ น สวสั ดิการ
69 ตารางที่ 28 ผลการวิเคราะห์องคป์ ระกอบเชิงยนื ยนั ของตวั แปรความพึงพอใจในงานดา้ นสวสั ดิการ ตวั แปรสังเกตได้ นา้ หนักองค์ประกอบ ค่าสัมประสิทธ์ิ t-value R2หรือความเทย่ี ง Loading SE JS4 0.73 - - 0.54 JS13 0.36 0.071 7.107*** 0.12 JS22 0.99 0.073 16.041*** 0.97 JS29 0.71 0.062 14.662*** 0.51 2 = 3.721, df = 2, 2/df=1.860, p-value = 0.156, GFI = 0.995, AGFI = 0.977, NFI = 0.994, CFI = 0.997, RMSEA = 0.046, RMR = 0.014 หมายเหตุ: *** หมายถึง นยั สาคญั ทางสถิติที่ระดบั .001 – หมายถึง โปรแกรมไม่รายงานพารามิเตอร์บงั คบั บนเส้นซ่ึงเป็นคา่ คงท่ี 5. ดา้ นผลประโยชน์ตอบแทน การวิเคราะห์โมเดลการวดั ตวั แปรความพึงพอใจในงานด้านผลประโยชน์ตอบแทน (JS_R) โดยใช้วิธีการวิเคราะห์องค์ประกอบเชิงยืนยนั (CFA) ดว้ ยโปรแกรมสาเร็จรูปทางสถิติ ประกอบดว้ ยตวั แปรสังเกตท่ีไดจ้ ากขอ้ คาถาม JS5, JS14, JS23 และ JS32 ผลการวิเคราะห์พบว่า โมเดลการวดั ความสอดคล้องกับข้อมูลเชิงประจกั ษ์ในการ วเิ คราะห์พบวา่ มีค่าไค – สแควร์ (χ2) เท่ากบั 1.742 ค่าองศาอิสระ (df) เท่ากบั 1 ส่งผลให้ค่า p-value มีคา่ เทา่ กบั 0.187 และคา่ RMSEA เท่ากบั 0.043 ผลการวเิ คราะห์องคป์ ระกอบเชิงยนื ยนั ของโมเดล (Structural Model) ของตวั แปรความ พึงพอใจในงานดา้ นผลประโยชน์ตอบแทนพบวา่ น้าหนกั องค์ประกอบ (Factor Loading) ทุกค่า ผ่านเกณฑ์ที่กาหนด คือ ตอ้ งมีค่ามากกว่า ±0.3 (Kim and Mueller, 1978 อา้ งใน ยุทธ ไกยวรรณ์, 2556: 104) โดย ตวั แปรสังเกตท่ี 3 ของความพึงพอใจในงานดา้ นผลประโยชน์ตอบแทน (JS23) มี ค่าน้าหนักองค์ประกอบมากท่ีสุดเท่ากบั 0.87 และน้อยที่สุด คือ ตวั แปรสังเกตท่ี 1 ของความพึง พอใจในงานดา้ นผลประโยชน์ตอบแทน (JS5) มีค่าเท่ากบั 0.31 เมื่อพิจารณาค่าความคลาดเคล่ือน มาตรฐาน (SE) และค่าสถิติ t พบวา่ น้าหนกั องค์ประกอบแต่ละค่าแตกต่างจาก 0 อยา่ งมีนยั สาคญั
70 ทางสถิติที่ระดับ .001 ส่วนค่า R2 พบว่า ตัวแปรสังเกตที่ 3 ของความพึงพอใจในงานด้าน ผลประโยชน์ตอบแทน (JS23) มีค่า R2 มากท่ีสุดเท่ากบั 0.75 และนอ้ ยที่สุดคือตวั แปรสังเกตที่ 1 ของความพึงพอใจในงานดา้ นผลประโยชน์ตอบแทน (JS5) มีค่าเท่ากบั 0.09 ดงั ภาพท่ี 19 และ ตารางที่ 29 Chi-Square = 1.742, df =1, p-value = 0.187, RMSEA = 0.043 ภาพท่ี 19 การวเิ คราะห์องคป์ ระกอบเชิงยนื ยนั ของโมเดลการวดั ตวั แปรความพงึ พอใจในงานดา้ น ผลประโยชนต์ อบแทน
71 ตารางท่ี 29 ผลการวิเคราะห์องคป์ ระกอบเชิงยนื ยนั ของตวั แปรความพงึ พอใจในงานดา้ น ผลประโยชนต์ อบแทน ตัวแปรสังเกตได้ นา้ หนักองค์ประกอบ ค่าสัมประสิทธ์ิ t-value R2หรือความเทย่ี ง Loading SE JS5 0.31 - - 0.09 JS14 0.58 0.386 5.559*** 0.34 JS23 0.87 0.531 5.024*** 0.75 JS32 0.60 0.419 5.214*** 0.36 2 = 1.742, df = 1, 2/df = 1.742, p-value = 0.187, GFI = 0.998, AGFI = 0.978, NFI = 0.994, CFI = 0.997, RMSEA = 0.043, RMR = 0.011 หมายเหตุ: *** หมายถึง นยั สาคญั ทางสถิติท่ีระดบั .001 – หมายถึง โปรแกรมไมร่ ายงานพารามิเตอร์บงั คบั บนเส้นซ่ึงเป็นค่าคงที่ 6. ดา้ นกฏระเบียบในการทางาน การวิเคราะห์โมเดลการวดั ตวั แปรความพึงพอใจในงานดา้ นกฏระเบียบในการทางาน (JS_O)โดยใช้วิธีการวิเคราะห์องค์ประกอบเชิงยืนยนั (CFA) ด้วยโปรแกรมสาเร็จรูปทางสถิติ ประกอบดว้ ยตวั แปรสงั เกตที่ไดจ้ ากขอ้ คาถาม JS6, JS15, JS24 และ JS31 ผลการวิเคราะห์พบว่า โมเดลการวดั ความสอดคล้องกับข้อมูลเชิงประจกั ษ์ในการ วเิ คราะห์พบวา่ มีคา่ ไค – สแควร์ (χ2) เทา่ กบั 3.320 ค่าองศาอิสระ (df) เทา่ กบั 1 ส่งผลใหค้ ่า p-value มีคา่ เท่ากบั 0.068 และค่า RMSEA เทา่ กบั 0.076 ผลการวเิ คราะห์องคป์ ระกอบเชิงยืนยนั ของโมเดล (Structural Model) ของตวั แปรความ พึงพอใจในงานดา้ นกฏระเบียบในการทางาน พบวา่ น้าหนกั องคป์ ระกอบ (Factor Loading) ทุกค่า ผ่านเกณฑ์ที่กาหนด คือ ตอ้ งมีค่ามากกว่า ±0.3 (Kim and Mueller, 1978 อา้ งใน ยุทธ ไกยวรรณ์, 2556: 104) โดย ตวั แปรสงั เกตที่ 4 ของความพึงพอใจในงานดา้ นกฏระเบียบในการทางาน (JS31) มี ค่าน้าหนกั องค์ประกอบมากท่ีสุดเท่ากบั 0.77 และน้อยที่สุด คือ ตวั แปรสังเกตท่ี 1 ของความพึง พอใจในงานดา้ นกฏระเบียบในการทางาน (JS6) มีค่าเทา่ กบั 0.35 เมื่อพิจารณาค่าความคลาดเคล่ือน
72 มาตรฐาน (SE) และค่าสถิติ t พบวา่ น้าหนกั องคป์ ระกอบแต่ละค่าแตกต่างจาก 0 อยา่ งมีนยั สาคญั ทางสถิติที่ระดบั .001 ส่วนค่า R2 พบวา่ ตวั แปรสงั เกตท่ี 4 ของความพงึ พอใจในงานดา้ นกฏระเบียบ ในการทางาน (JS31) มีค่า R2 มากที่สุดเท่ากบั 0.59 และนอ้ ยที่สุดคือ ตวั แปรสังเกตท่ี 1 ของความ พงึ พอใจในงานดา้ นกฏระเบียบในการทางาน (JS6) มีค่าเท่ากบั 0.12 ดงั ภาพที่ 20 และตารางท่ี 30 Chi-Square = 3.320,df = 1,p-value = 0.068, RMSEA = 0.076 ภาพที่ 20 การวเิ คราะห์องคป์ ระกอบเชิงยนื ยนั ของโมเดลการวดั ตวั แปรความพงึ พอใจในงานดา้ น กฏระเบียบในการทางาน
73 ตารางท่ี 30 ผลการวิเคราะห์องคป์ ระกอบเชิงยนื ยนั ของตวั แปรความพึงพอใจในงานดา้ นกฏ ระเบียบในการทางาน ตวั แปรสังเกตได้ นา้ หนักองค์ประกอบ ค่าสัมประสิทธ์ิ t-value R2หรือความเทยี่ ง Loading SE JS6 0.35 - - 0.12 JS15 0.54 0.421 4.942*** 0.29 JS24 0.76 0.363 5.420*** 0.57 JS31 0.77 0.390 6.149*** 0.59 2 = 3.320, df = 1, 2/df = 3.320, p-value = 0.068, GFI = 0.996, AGFI = 0.959, NFI = 0.988, CFI = 0.992, RMSEA = 0.076, RMR = 0.033 หมายเหตุ: *** หมายถึง นยั สาคญั ทางสถิติท่ีระดบั .001 – หมายถึง โปรแกรมไมร่ ายงานพารามิเตอร์บงั คบั บนเส้นซ่ึงเป็นคา่ คงที่ 7. ดา้ นเพอ่ื นร่วมงาน การวเิ คราะห์โมเดลการวดั ตวั แปรความพึงพอใจในงานดา้ นเพื่อนร่วมงาน (JS_C)โดย ใชว้ ธิ ีการวเิ คราะห์องคป์ ระกอบเชิงยืนยนั (CFA) ดว้ ยโปรแกรมสาเร็จรูปทางสถิติ ประกอบดว้ ยตวั แปรสังเกตที่ไดจ้ ากขอ้ คาถาม JS7, JS16, JS25 และ JS34 ผลการวิเคราะห์พบว่า โมเดลการวดั ความสอดคล้องกับข้อมูลเชิงประจกั ษ์ในการ วเิ คราะห์พบวา่ มีค่าไค – สแควร์ (χ2) เทา่ กบั 0.213 คา่ องศาอิสระ (df) เท่ากบั 1 ส่งผลใหค้ ่า p-value มีคา่ เท่ากบั 0.644 และคา่ RMSEA เท่ากบั 0.000 ผลการวเิ คราะห์องคป์ ระกอบเชิงยนื ยนั ของโมเดล (Structural Model) ของตวั แปรความ พึงพอใจในงานดา้ นกฏระเบียบในการทางาน พบวา่ น้าหนกั องคป์ ระกอบ (Factor Loading) ทุกค่า ผ่านเกณฑ์ที่กาหนด คือ ตอ้ งมีค่ามากกว่า ±0.3 (Kim and Mueller, 1978 อา้ งใน ยุทธ ไกยวรรณ์, 2556: 104) โดย ตวั แปรสงั เกตที่ 4 ของความพึงพอใจในงานดา้ นเพื่อนร่วมงาน (JS34) มีค่าน้าหนกั องคป์ ระกอบมากท่ีสุดเท่ากบั 0.88 และนอ้ ยที่สุด คือ ตวั แปรสังเกตท่ี 2 ของความพึงพอใจในงาน ดา้ นเพื่อนร่วมงาน (JS16) มีค่าเท่ากบั 0.45 เมื่อพิจารณาค่าความคลาดเคล่ือนมาตรฐาน (SE) และ
74 ค่าสถิติ t พบวา่ น้าหนกั องคป์ ระกอบแต่ละค่าแตกต่างจาก 0 อยา่ งมีนยั สาคญั ทางสถิติที่ระดบั .001 ส่วนค่า R2 พบวา่ ตวั แปรสังเกตท่ี 4 ของความพึงพอใจในงานดา้ นเพื่อนร่วมงาน (JS34) มีค่า R2 มากท่ีสุดเท่ากับ 0.77 และน้อยที่สุดคือ ตวั แปรสังเกตท่ี 2 ของความพึงพอใจในงานด้านเพ่ือน ร่วมงาน (JS16) มีคา่ เท่ากบั 0.20 ดงั ภาพท่ี 21 และตารางท่ี 31 Chi-Square = 0.213,df = 1,p-value = 0.644, RMSEA = 0.000 ภาพที่ 21 การวเิ คราะห์องคป์ ระกอบเชิงยนื ยนั ของโมเดลการวดั ตวั แปรความพงึ พอใจในงานดา้ น เพื่อนร่วมงาน
75 ตารางท่ี 31 ผลการวเิ คราะห์องคป์ ระกอบเชิงยนื ยนั ของตวั แปรความพงึ พอใจในงานดา้ นเพ่อื น ร่วมงาน ตัวแปรสังเกตได้ นา้ หนักองค์ประกอบ ค่าสัมประสิทธ์ิ t-value R2หรือความเทย่ี ง Loading SE JS7 0.70 - - 0.49 JS16 0.45 0.120 7.135*** 0.20 JS25 0.79 0.130 9.118*** 0.62 JS34 0.88 0.166 11.146*** 0.77 2 = 0.213, df = 1, 2/df = 0.213, p-value = 0.644, GFI = 1.000, AGFI = 0.997, NFI = 1.000, CFI = 1.000, RMSEA = 0.000, RMR = 0.003 หมายเหตุ: *** หมายถึง นยั สาคญั ทางสถิติที่ระดบั .001 – หมายถึง โปรแกรมไม่รายงานพารามิเตอร์บงั คบั บนเส้นซ่ึงเป็นคา่ คงที่ 8. ดา้ นลกั ษณะงาน การวเิ คราะห์โมเดลการวดั ตวั แปรความพึงพอใจในงานดา้ นลกั ษณะงาน (JS_W)โดยใช้ วิธีการวิเคราะห์องค์ประกอบเชิงยืนยนั (CFA) ดว้ ยโปรแกรมสาเร็จรูปทางสถิติ ประกอบดว้ ยตวั แปรสังเกตที่ไดจ้ ากขอ้ คาถาม JS8, JS17, JS27 และ JS35 ผลการวิเคราะห์พบว่า โมเดลการวดั ความสอดคล้องกับข้อมูลเชิงประจกั ษ์ในการ วเิ คราะห์พบวา่ มีคา่ ไค – สแควร์ (χ2) เท่ากบั 0.109 คา่ องศาอิสระ (df) เทา่ กบั 1 ส่งผลใหค้ า่ p-value มีค่าเทา่ กบั 0.741 และคา่ RMSEA เท่ากบั 0.000 ผลการวเิ คราะห์องคป์ ระกอบเชิงยืนยนั ของโมเดล (Structural Model) ของตวั แปรความ พึงพอใจในงานดา้ นลกั ษณะงานพบวา่ น้าหนกั องค์ประกอบ (Factor Loading) ทุกค่าผา่ นเกณฑ์ที่ กาหนด คือ ตอ้ งมีค่ามากกว่า ±0.3 (Kim and Mueller, 1978 อา้ งใน ยุทธ ไกยวรรณ์, 2556: 104) โดย ตวั แปรสงั เกตท่ี 3 ของความพงึ พอใจในงานดา้ นลกั ษณะงาน (JS27) มีคา่ น้าหนกั องคป์ ระกอบ มากท่ีสุดเท่ากบั 0.86 และน้อยที่สุด คือ ตวั แปรสังเกตท่ี 1 ของความพึงพอใจในงานดา้ นลกั ษณะ งาน (JS8) มีค่าเท่ากบั 0.37 เม่ือพิจารณาค่าความคลาดเคลื่อนมาตรฐาน (SE) และค่าสถิติ t พบว่า
76 น้าหนกั องค์ประกอบแต่ละค่าแตกต่างจาก 0 อย่างมีนยั สาคญั ทางสถิติท่ีระดบั .001 ส่วนค่า R2 พบวา่ ตวั แปรสงั เกตที่ 3 ของความพึงพอใจในงานดา้ นลกั ษณะงาน (JS27) มีค่า R2 มากท่ีสุดเทา่ กบั 0.73 และน้อยที่สุดคือ ตวั แปรสังเกตท่ี 1 ของความพึงพอใจในงานดา้ นลกั ษณะงาน (JS8) มีค่า เทา่ กบั 0.14 ดงั ภาพที่ 22 และตารางท่ี 32 Chi-Square = 0.109,df = 1,p-value = 0.741, RMSEA = 0.000 ภาพที่ 22 การวเิ คราะห์องคป์ ระกอบเชิงยนื ยนั ของโมเดลการวดั ตวั แปรความพงึ พอใจในงานดา้ น ลกั ษณะงาน
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196