Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนวิทยาการคำนวณ สสวท-ป-3

แผนวิทยาการคำนวณ สสวท-ป-3

Published by kru johnny, 2021-05-23 13:20:30

Description: แผนวิทยาการคำนวณ สสวท-ป-3

Search

Read the Text Version

สารบญั หน้า เรือ่ ง 1 4 มาตรฐานและตวั ชี้วัด 5 คำอธบิ ายรายวชิ า 6 โครงสร้างรายวชิ า 7 โครงสร้างหน่วยการเรียนรู้ บูรณาการหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง 9 15 แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 1 เรื่อง ใช้เหตุผลเชิงตรรกะในการแก้ปญั หา 21 แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 2 เรอ่ื ง เขียนโปรแกรมอยา่ งงา่ ยโดยใช้ซอฟตแ์ วรห์ รือสอื่ 26 แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 3 เรอื่ ง ใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัยและเหมาะสม 30 แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 4 เรอ่ื ง ใช้อินเทอร์เน็ตหาความรู้ และประมวลผลขอ้ มูลอย่างง่าย 34 แผนการจดั การเรียนร้ทู ี่ 5 เรอ่ื ง ใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย 40 แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 6 เรื่อง นำเสนอข้อมูลโดยใช้ซอฟตแ์ วรต์ ามวตั ถุประสงค์ 45 แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 7 เรอ่ื ง แสดงวิธีการแก้ปญั หาอย่างเป็นระบบ 51 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 8 เรื่อง เขียนโปรแกรมท่ีทำงานแบบวนซ้ำโดยใชบ้ ัตรคำสง่ั 56 แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 9 เรื่อง คน้ หาความรู้ 61 แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 10 เร่ือง ใชอ้ นิ เทอร์เนต็ อยา่ งมมี ารยาท แผนการจัดการเรยี นรูท้ ่ี 11 เรื่อง ประโยชนข์ องเทคโนโลยีคอมพวิ เตอรใ์ นชวี ติ ประจำวัน

1 มาตรฐาน/ตวั ชี้วัด วชิ า วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.3 สาระที่ 1วทิ ยาศาสตร์ชวี ภาพ มาตรฐาน ว 1.2 เข้าใจสมบัติของสิ่งมชี ีวิต หน่วยพื้นฐานของส่ิงมชี วี ติ การลำเลยี งสารผา่ นเซลล์ความสัมพันธ์ ของโครงสร้าง และหน้าท่ีของระบบตา่ ง ๆ ของสัตว์และมนุษย์ทีท่ ำงานสมั พันธก์ ัน ความสัมพนั ธข์ องโครงสรา้ ง และ หน้าทีข่ องอวัยวะต่าง ๆ ของพชื ที่ทำงานสัมพันธก์ นั รวมทั้งนำความรู้ไปใช้ประโยชน์ ตัวชี้วัด ว 1.2 ป.3/1 บรรยายส่งิ ท่ีจำเป็นต่อการดำรงชีวิตและการเจริญเติบโตของมนุษยแ์ ละสตั ว์ โดยใชข้ ้อมลู ท่ี รวบรวมได้ ว 1.2 ป.3/2 ตระหนักถึงประโยชน์ของอาหาร น้ำ และอากาศ โดยการดแู ลตนเองและสตั ว์ใหไ้ ดร้ บั สงิ่ เหล่าน้อี ย่างเหมาะสม ว 1.2 ป.3/3 สรา้ งแบบจำลองท่ีบรรยายวัฏจักรชีวติ ของสัตว์ และเปรยี บเทยี บ วฏั จกั รชวี ิตบางชนิด ว 1.2 ป.3/4 ตระหนกั ถงึ คุณค่าของชวี ติ สัตว์ โดยไมท่ ำใหว้ ฏั จักรชีวิตของสัตวเ์ ปลย่ี นแปลง สาระท่ี 2วิทยาศาสตร์กายภาพ มาตรฐาน ว 2.1 เขา้ ใจสมบัติของสสาร องค์ประกอบของสสาร ความสมั พันธร์ ะหวา่ งสมบตั ิของสสารกับโครงสร้าง และแรงยึดเหน่ียวระหวา่ งอนุภาค หลักและธรรมชาติของการเปลี่ยนแปลงสถานะของสสาร การเกิดสารละลาย และ การเกดิ ปฏิกริ ยิ าเคมี ตวั ช้ีวัด ว 2.1 ป.3/1 อธิบายว่าวตั ถุประกอบขึ้นจากช้นิ ส่วน ยอ่ ย ๆ ซึ่งสามารถแยกออกจากกนั ได้และประกอบกัน เปน็ วตั ถชุ ิน้ ใหม่ได้ โดยใชห้ ลักฐานเชงิ ประจักษ์ ว 2.1 ป.3/2 อธิบายการเปลี่ยนแปลงของวสั ดุเมื่อทำใหร้ ้อนขึน้ หรอื ทำใหเ้ ยน็ ลง โดยใช้หลักฐานเชงิ ประจกั ษ์ มาตรฐาน ว 2.2 เขา้ ใจธรรมชาติของแรงในชวี ติ ประจำวัน ผลของแรงท่ีกระทำต่อวัตถุ ลกั ษณะการเคลือ่ นท่แี บบ ต่างๆ ของวัตถุ รวมทัง้ นำความร้ไู ปใชป้ ระโยชน์ ตวั ช้ีวัด ว 2.2 ป.3/1 ระบุผลของแรงทีม่ ตี อ่ การเปล่ยี นแปลง การเคลือ่ นท่ีของวตั ถุจากหลักฐานเชงิ ประจักษ์ ว 2.2 ป.3/2 เปรยี บเทียบและยกตัวอยา่ งแรงสมั ผสั และแรงไม่สัมผสั ทมี่ ีผลตอ่ การเคล่ือนท่ีของวัตถโุ ดยใช้ หลักฐานเชิงประจักษ์ ว 2.2 ป.3/3 จำแนกวัตถุโดยใชก้ ารดึงดูดกบั แมเ่ หลก็ เปน็ เกณฑ์จากหลกั ฐานเชิงประจกั ษ์ ว 2.2 ป.3/4 ระบขุ ้ัวแม่เหลก็ และพยากรณ์ผลที่เกดิ ข้ึนระหว่างขั้วแมเ่ หล็กเม่ือนำมาเข้าใกลก้ นั จาก หลกั ฐานเชิงประจักษ์

2 สาระท่ี 2วทิ ยาศาสตรก์ ายภาพ มาตรฐาน ว 2.3 เขา้ ใจความหมายของพลังงาน การเปล่ียนแปลงและการถ่ายโอนพลงั งาน ปฏสิ ัมพันธร์ ะหวา่ ง สสารและพลงั งาน พลังงานในชวี ติ ประจำวนั ธรรมชาติของคล่ืน ปรากฏการณท์ ่ีเกยี่ วขอ้ งกบั เสียง แสง และคลืน่ แม่เหล็กไฟฟ้า รวมทัง้ นำความรูไ้ ปใชป้ ระโยชน์ ตวั ช้ีวัด ว 2.3 ป.3/1 ยกตัวอย่างการเปล่ียนพลังงานหน่งึ ไปเปน็ อกี พลังงานหนงึ่ จากหลักฐานเชงิ ประจักษ์ ว 2.3 ป.3/2 บรรยายการทำงานของเคร่ืองกำเนดิ ไฟฟา้ และระบแุ หล่งพลงั งานในการผลติ ไฟฟา้ จากข้อมลู ที่รวบรวมได้ ว 2.3 ป.3/3 ตระหนกั ในประโยชนแ์ ละโทษของไฟฟ้าโดยนำเสนอวิธกี ารใช้ไฟฟ้าอยา่ งประหยดั และ ปลอดภัย สาระที่ 3วทิ ยาศาสตร์โลกและอวกาศ มาตรฐาน ว 3.1 เขา้ ใจองคป์ ระกอบ ลกั ษณะ กระบวนการเกิด และวิวฒั นาการของเอกภพ กาแลก็ ซี ดาวฤกษ์ และ ระบบสรุ ิยะ รวมทง้ั ปฏสิ ัมพันธ์ภายในระบบสุรยิ ะท่ีส่งผลต่อสิ่งมีชวี ิตและการประยุกต์ใชเ้ ทคโนโลยี อวกาศ ตวั ชี้วัด ว 3.1 ป.3/1 อธบิ ายแบบรปู เสน้ ทางการข้ึน และตกของ ดวงอาทติ ยโ์ ดยใช้หลักฐานเชงิ ประจกั ษ์ ว 3.1 ป.3/2 อธบิ ายสาเหตุการเกิดปรากฏการณ์ การขน้ึ และตกของดวงอาทติ ย์ การเกดิ กลางวนั กลางคืน และการ กำหนดทิศ โดยใช้ แบบจำลอง ว 3.1 ป.3/3 ตระหนกั ถงึ ความสำคัญของ ดวงอาทิตย์ โดย บรรยายประโยชน์ของดวงอาทติ ยต์ ่อส่งิ มีชวี ิต มาตรฐาน ว 3.2 เข้าใจองคป์ ระกอบ และความสัมพันธ์ของระบบโลก กระบวนการเปล่ียนแปลงภายในโลก และบนผิวโลก ธรณพี บิ ัติภัย กระบวนการเปลีย่ นแปลงลมฟา้ อากาศและภมู ิอากาศโลกรวมทั้งผลต่อส่งิ มชี ีวติ และ ส่ิงแวดลอ้ ม ตัวชว้ี ัด ว 3.2 ป.3/1 ระบุส่วนประกอบของอากาศ บรรยายความสำคัญของอากาศ และผลกระทบของมลพิษทาง อากาศ ตอ่ สง่ิ มีชีวติ จากขอ้ มูลที่รวบรวมได้ ว 3.2 ป.3/2 ตระหนักถงึ ความสำคัญของอากาศ โดยนำเสนอแนวทางการปฏิบัตติ นในการลดการเกดิ มลพษิ ทางอากาศ ว 3.2 ป.3/3 อธบิ ายการเกิดลมจากหลักฐานเชงิ ประจกั ษ์ ว 3.2 ป.3/4 บรรยายประโยชนแ์ ละโทษของลมจากขอ้ มูลท่รี วบรวมได้

3 สาระที่ 4 เทคโนโลยี มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใชแ้ นวคิดเชิงคำนวณในการแก้ปัญหาท่ีพบในชีวติ จริงอย่างเป็นขนั้ ตอนและเป็นระบบ ใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสารในการเรียนรู้ การทำงาน และการแก้ปัญหาได้อยา่ งมีประสิทธิภาพ รู้เทา่ ทนั และมจี ริยธรรม ตัวช้วี ัด ว 4.2 ป. 3/1 แสดงอลั กอรทิ ึมในการทำงานหรอื การแกป้ ญั หาอยา่ งงา่ ยโดยใชภ้ าพ สัญลักษณ์ หรอื ขอ้ ความ ว 4.2 ป. 3/2 เขยี นโปรแกรมอย่างงา่ ย โดยใชซ้ อฟตแ์ วร์หรอื ส่ือ และตรวจหาข้อผิดพลาดของโปรแกรม โปรแกรม ว 4.2 ป. 3/3 ใชอ้ ินเทอรเ์ น็ตคน้ หาความรู้ ว 4.2 ป. 3/4 รวบรวม ประมวลผล และ นำเสนอข้อมูล โดยใชซ้ อฟตแ์ วรต์ ามวัตถปุ ระสงค์ ว 4.2 ป. 3/5 ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภยั ปฏิบัตติ ามขอ้ ตกลงในการใช้อินเทอรเ์ นต็

4 คำอธิบายรายวิชา กลุ่มสาระการเรยี นร้วู ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวิชา วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) ช้ันประถมศึกษาปที ี่ 3 รหัสวชิ า ว 13101 เวลา 20 ชั่วโมง / ปี ............................................................................................................................................................. ศึกษาความรูเ้ บ้อื งต้นเกย่ี วกับการแสดงอัลกอริทึมในการทำงาน แก้ปัญหาโดยใช้ภาพ สญั ลกั ษณ์หรือข้อความ การ เขียนโปรแกรมอย่างง่าย จากการใช้สื่อซอฟต์แวร์ และใช้อินเทอร์เน็ตในการค้นหาความรู้ และรวบรวมประมวลผล และ นำเสนอข้อมูลโดยใช้ซอฟต์แวร์ ตลอดจนสามารถใช้เทคโนโลยีสารสนเทศได้อย่างปลอดภัย ปฏิบัติตามข้อตกลงในการใช้ คอมพวิ เตอร์ร่วมกนั ดูแลรักษาอุปกรณ์เบ้ืองต้น ใช้งานอย่างเหมาะสม โดยใช้กระบวนการคิดวิเคราะห์และการแก้ปัญหา เช่ือมโยงความรู้สกู่ ารนำไปใช้จริง รวมท้ังสามารถใช้เทคโนโลยี เปน็ เครื่องมือในการเรยี นร้วู ทิ ยาศาสตร์ คณติ ศาสตร์ และศาสตรอ์ ืน่ ๆที่เกยี่ วขอ้ ง รหสั ตัวชี้วดั มาตรฐาน ว 4.2 ป.3/1 , ป.3/2 , ป.3/3 , ป.3/4 , ป.3/5 รวม 5 ตวั ชวี้ ัด

5 โครงสร้างรายวชิ า รายวชิ า วิทยาศาสตร์เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ 3 รหัสวิชา ว13101 เวลา 20 ช่วั โมง / ปี ชื่อหนว่ ยการเรยี นรู้ รหสั ตวั ช้ีวัด จำนวน บทท่ี 1 สไลเดอรเ์ ส่ยี งทาย - ใช้เหตผุ ลเชิงตรรกะในการแกป้ ญั หา (ชั่วโมง) บทที่ 2 เงอ่ื นไขใส่ซอง ปูดองใสค่ รก - เขียนโปรแกรมอยา่ งง่ายโดยใชซ้ อฟต์แวรห์ รือส่ือ ว4.2 ป.3/1 2 - ตรวจหาขอ้ ผดิ พลาดของโปรแกรม บทท่ี 3 ยืนงงในพงไพร ว4.2 ป.3/2 2 - ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภยั และเหมาะสม บทที่ 4 พับไดโนเสาร์ให้คุณป้า แลว้ พบั เสอื้ ผ้าใส่กระเปา๋ ว4.2 ป.3/5 2 - ใช้อินเทอร์เนต็ คน้ หาความรู้ 3 - ประมวลผลข้อมูลอยา่ งงา่ ย ว4.2 ป.3/3, ป.3/4, - ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอยา่ งปลอดภัย ป.3/5 บทท่ี 5 คนท่ีใช่ สไลด์ที่ชอบ - นำเสนอขอ้ มูลโดยใชซ้ อฟตแ์ วรต์ ามวัตถุประสงค์ ว4.2 ป.3/4 2 - ประมวลผลขอ้ มูลอย่างงา่ ย บทท่ี 6 ไตรกีฬา สมาคมพ่อค้าไข่ ว4.2 ป.3/1 2 - แสดงวธิ กี ารแกป้ ัญหา - แก้ปัญหาอยา่ งเปน็ ระบบ ว4.2 ป.3/2 2 บทท่ี 7 ลม้ ลุกคลุกฝนุ่ วิง่ ว่นุ วนไป - เขียนโปรแกรมทมี่ กี ารทำงานแบบวนซ้ำโดยใช้บัตรคำส่ัง ว4.2 ป.3/3, ป.3/5 3 - ตรวจหาขอ้ ผิดพลาดของโปรแกรม บทที่ 8 ตลาดโบราณ กบั แก๊งจกั รยานโบว์แดง ว4.2 ป.3/5 2 - ใช้อนิ เทอรเ์ น็ตค้นหาความรู้ - บอกองค์ประกอบของผลการคน้ หา - ใช้งานอนิ เทอร์เน็ตอย่างมมี ารยาท - บอกข้อดขี อ้ เสียของการใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศ บทที่ 9 เอ...อารไ์ รนะ - บอกประโยชน์ของเทคโนโลยคี อมพวิ เตอร์ในชีวติ ประจำวนั - ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอยา่ งปลอดภยั สอบปลายภาคเรยี น รวม 5 20

โครงสรา้ งหนว่ ยการเรียนรู้ ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 3 6 เวลา 20 ชว่ั โมง / ปี รายวชิ า วิทยาศาสตร์เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) เวลา รหัสวชิ า ว13101 ชวั่ โมง บท บทท่/ี แผนการจัดการเรียนรู้ 2 ท่ี 2 2 1 บทที่ 1 สไลเดอร์เสยี่ งทาย 2 แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 1 เรอ่ื ง ใชเ้ หตุผลเชิงตรรกะในการแกป้ ญั หา 2 2 2 บทที่ 2 เงอื่ นไขใสซ่ อง ปดู องใสค่ รก 3 แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 2 เร่อื ง เขยี นโปรแกรมอยา่ งง่ายโดยใช้ซอฟต์แวรห์ รอื สือ่ 2 1 3 บทที่ 3 ยืนงงในพงไพร 2 แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 3 เรอ่ื ง ใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภยั และเหมาะสม 2 2 4 บทท่ี 4 พบั ไดโนเสารใ์ ห้คุณป้า แล้วพับเส้ือผา้ ใสก่ ระเปา๋ 2 แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 4 เรอ่ื ง ใชอ้ นิ เทอรเ์ นต็ หาความรู้ และประมวลผลขอ้ มูลอย่างงา่ ย 2 แผนการจัดการเรียนร้ทู ี่ 5 เรื่อง ใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศอยา่ งปลอดภัย 2 3 5 บทท่ี 5 คนท่ใี ช่ สไลดท์ ช่ี อบ 2 แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 6 เรื่อง นำเสนอขอ้ มูลโดยใช้ซอฟตแ์ วรต์ ามวตั ถุประสงค์ 1 2 6 บทท่ี 6 ไตรกีฬา สมาคมพ่อคา้ ไข่ 2 แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 7 เร่อื ง แสดงวิธกี ารแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ 7 บทท่ี 7 ล้มลกุ คลุกฝุ่น วิ่งวุ่นวนไป แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 8 เรื่อง เขียนโปรแกรมที่ทำงานแบบวนซ้ำโดยใชบ้ ัตรคำสง่ั 8 บทที่ 8 ตลาดโบราณ กับแกง๊ จกั รยานโบวแ์ ดง แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 9 เร่ือง ค้นหาความรู้ แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 10 เร่ือง ใชอ้ ินเทอร์เนต็ อย่างมีมารยาท 9 บทที่ 9 เอ...อารไ์ รนะ แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 11 เรอ่ื ง ประโยชน์ของเทคโนโลยคี อมพิวเตอร์ในชวี ิตประจำวนั

7 บูรณาการหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง สำหรับครู ความพอประมาณ ความมีเหตผุ ล การมภี มู ิคมุ้ กนั ในตวั ทดี่ ี 1. ศกึ ษาแนวทางการจดั การเรยี นรลู้ ว่ งหนา้ 1.ออกแบบการจัดกจิ กรรม ตรง 1.ออกแบบการเรยี นรู้ส่งเสรมิ กระบวนการ 2. จดั เตรียมการวัดผลประเมินผล และแบบ สังเกตพฤติกรรมนักเรียน ตามตวั ชว้ี ัด คดิ เง่ือนไขคณุ ธรรม 2. เลือกส่อื แหลง่ เรยี นรเู้ หมาะสม 2. ใช้เทคนิคการจัดการเรยี นรู้ทีห่ ลากหลาย 1. มคี วามขยัน เสียสละ และมงุ่ ม่ันในการ จัดหาสอื่ มาพฒั นานักเรียนให้บรรลุตาม 3. วัดผลประเมินผลตรงตาม จุดประสงค์ 2. มีความอดทนเพอื่ พฒั นานักเรียนโดยใช้ เนือ้ หา เทคนิคการสอนทห่ี ลากหลาย เงอื่ นไขความรู้ 1. รู้จักเทคนคิ การสอนทส่ี ง่ เสรมิ กระบวนการคดิ และนกั เรยี นสามารถเรยี นรู้ได้ อย่างมคี วามสขุ 2. มคี วามรู้เกยี่ วกบั การแสดงอลั กอรทิ ึมในการทำงาน แก้ปญั หาโดยใช้ภาพ สัญลกั ษณห์ รอื ขอ้ ความ การเขียนโปรแกรมอยา่ งงา่ ย จากการใช้สือ่ ซอฟต์แวร์ และใช้อินเทอรเ์ นต็ ในการคน้ หาความรู้ และรวบรวมประมวลผล และนำเสนอ ขอ้ มูลโดยใช้ซอฟตแ์ วร์ ตลอดจนสามารถใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศไดอ้ ย่าง ปลอดภัย ปฏิบัติตามข้อตกลงในการใชค้ อมพิวเตอร์ร่วมกัน ดูแลรกั ษาอุปกรณ์ เบอ้ื งต้น ใชง้ านอยา่ ง ตลอดจนสามารถใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศได้อยา่ งปลอดภัย ปฏิบตั ติ ามขอ้ ตกลงในการใช้คอมพิวเตอรร์ ่วมกัน ดูแลรกั ษาอปุ กรณเ์ บ้ืองต้น ใช้ งานอยา่ งเหมาะสม

8 บรู ณาการหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง สำหรบั นักเรียน ความพอประมาณ ความมีเหตุผล การมภี ูมิคุ้มกนั ในตัวทดี่ ี 1. การใช้เวลาในการทำกิจกรรม/ 1. ฝกึ กระบวนการทำงานเปน็ กล่มุ 1. วางแผนการศกึ ษาใบงาน/ใบ ภาระงานไดอ้ ย่างเหมาะสม ทนั เวลา 2. ฝกึ กระบวนการคิดวเิ คราะห์ การแกป้ ญั หา เชื่อมโยง กจิ กรรม 2. เลอื กสมาชกิ กลมุ่ ไดเ้ หมาะสมกบั ความร้สู กู่ ารนำไปใชจ้ ริง รวมทัง้ สามารถใชเ้ ทคโนโลยีเปน็ 2. นำความรเู้ ร่ืองทเี่ รยี นไปใช้ใน เนื้อหาทเี่ รียนและศักยภาพของตน เครือ่ งมือในการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์ คณติ ศาสตร์ และ ชีวิตประจำวันได้ ศาสตร์อ่นื ๆที่เก่ียวขอ้ ง เงอื่ นไขความรู้ เงือ่ นไขคุณธรรม มคี วามรูเ้ บ้อื งตน้ เกย่ี วกบั การแสดงอลั กอรทิ ึมในการทำงาน แก้ปญั หาโดยใช้ภาพ สญั ลักษณ์หรอื 1. มีความรบั ผดิ ชอบ และปฏิบัตติ าม ข้อความ การเขยี นโปรแกรมอย่างงา่ ย จากการใช้ส่อื ซอฟตแ์ วร์ และใช้อินเทอร์เน็ตในการค้นหา ขอ้ ตกลงของกลมุ่ ความรู้ และรวบรวมประมวลผล และนำเสนอขอ้ มลู โดยใชซ้ อฟตแ์ วร์ ตลอดจนสามารถใช้เทคโนโลยี 2. มสี ติ มสี มาธิช่วยเหลอื กันในการ สารสนเทศได้อยา่ งปลอดภยั ปฏิบตั ติ ามข้อตกลงในการใชค้ อมพวิ เตอรร์ ว่ มกัน ดแู ลรกั ษาอุปกรณ์ ทำงานรว่ มกัน เบ้ืองตน้ ใชง้ านอยา่ ง ตลอดจนสามารถใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศไดอ้ ย่างปลอดภยั ปฏบิ ัติตาม ขอ้ ตกลงในการใชค้ อมพวิ เตอรร์ ่วมกนั ดูแลรักษาอปุ กรณเ์ บ้ืองตน้ ใช้งานอย่างเหมาะสม สามารถ สร้างจดั ทำชิ้นงาน ผลงานและใบงานได้ตามวัตถปุ ระสงค์ สง่ ผลตอ่ การพฒั นา 4 มิติใหย้ ่ังยืนยอมรบั ตอ่ การเปล่ียนแปลงในยุคโลกาภวิ ฒั น์ วัตถุ สงั คม สิง่ แวดล้อม วฒั นธรรม ความรู้ (K) มคี วามรู้ความเขา้ ใจเก่ยี วกบั การแสดง มคี วามร้แู ละเข้าใจ มคี วามรแู้ ละเขา้ ใจ มีความร้แู ละเขา้ ใจ อัลกอริทึมในการทำงาน แกป้ ญั หาโดยใช้ภาพ กระบวนการทำงาน เก่ยี วกบั สง่ิ แวดลอ้ ม การชว่ ยเหลอื สัญลกั ษณ์หรอื ขอ้ ความ การเขียนโปรแกรม กลุ่ม และส่งิ ต่างๆรอบตวั แบ่งปัน อยา่ งงา่ ย จากการใชส้ ื่อซอฟต์แวร์ และใช้ อนิ เทอร์เนต็ ในการค้นหาความรู้ และรวบรวม ประมวลผล และนำเสนอข้อมูลโดยใช้ ซอฟตแ์ วร์ ตลอดจนสามารถใช้เทคโนโลยี สารสนเทศได้อย่างปลอดภยั ทกั ษะ (P) สามารถแสดงอัลกอรทิ มึ ในการทำงาน ทำงานได้สำเรจ็ ตาม ใชแ้ หล่งเรยี นรโู้ ดย ชว่ ยเหลือ แบ่งปัน แก้ปญั หาโดยใชภ้ าพ สัญลกั ษณห์ รอื ขอ้ ความ , เปา้ หมาย ดว้ ย ไม่ทำลาย ซึ่งกนั และกนั เขียนโปรแกรมอย่างง่าย จากการใชส้ ่ือ กระบวนการกลมุ่ สง่ิ แวดลอ้ ม ซอฟตแ์ วร์ และใช้อนิ เทอร์เน็ตในการค้นหา ความรู้ และรวบรวมประมวลผล และนำเสนอ ขอ้ มูลโดยใชซ้ อฟต์แวร์ ตลอดจนสามารถใช้ เทคโนโลยสี ารสนเทศไดอ้ ย่าง คา่ นยิ ม (A) เหน็ ประโยชน์ของแสดงอลั กอริทึมในการ เหน็ คณุ ค่า และ เหน็ คณุ ค่าของการ ปลกู ฝังนิสยั การ ทำงาน แก้ปญั หาโดยใชภ้ าพ สญั ลกั ษณ์หรือ ภาคภมู ใิ จในการ ใช้แหลง่ เรียนรูโ้ ดย ชว่ ยเหลอื แบ่งปัน ข้อความ เขียนโปรแกรมอย่างงา่ ย และการใช้ ทำงานร่วมกันได้ ไมท่ ำลาย อินเทอร์เนต็ ในการคน้ หาความรู้ และรวบรวม สำเรจ็ สง่ิ แวดล้อม ประมวลผล และนำเสนอขอ้ มูลโดยใช้ ซอฟตแ์ วร์

9 บทที่ 1 สไลเดอร์เส่ียงทาย วชิ าวทิ ยาศาสตรเ์ ทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ว13101 แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 1 ใชเ้ หตผุ ลเชงิ ตรรกะในการแกป้ ัญหา ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 3 เวลา 2 ชั่วโมง ผู้สอน ............................................................................... มาตรฐาน มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคดิ เชงิ คำนวณในการแก้ปญั หาที่พบในชีวติ จริงอยา่ งเปน็ ข้ันตอนและเปน็ ระบบใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศและการสอื่ สารในการเรียนรู้ การทำงาน และการแกป้ ัญหาได้อย่างมปี ระสทิ ธิภาพ รเู้ ทา่ ทัน และมีจริยธรรม ตวั ชี้วัด ว 4.2ป.3/1 แสดงอลั กอรทิ ึมในการทำงานหรอื การแกป้ ญั หาอย่างง่ายโดยใชภ้ าพ สญั ลกั ษณ์ หรือ ข้อความ จดุ ประสงค์การเรียนร้สู ู่ตวั ชว้ี ัด 1. สามารถแสดงอัลกอรทิ ึมในการทำงานหรอื การแก้ปัญหาอยา่ งง่ายโดยใช้ภาพ สญั ลักษณ์ หรือ ข้อความได้ (P) 2. มีความร้เู กย่ี วกับการแสดงอัลกอรทิ มึ ในการทำงานหรอื การแกป้ ัญหาอยา่ งง่ายโดยใช้ภาพ สัญลกั ษณ์ หรือข้อความ (K) 3. เป็นคนชา่ งสงั เกต ช่างคดิ ชา่ งสงสยั และเปน็ ผู้ท่ีมีความกระตอื รือรน้ ในการเสาะแสวงหาความรู้ (A) สาระสำคัญ เหตผุ ลเชงิ ตรรกะช่วยในการตดั สนิ ใจทำกิจกรรมต่างๆในชวี ิตประจำวนั การคาดการณ์ผลลัพธ์ทำได้โดยใชเ้ หตุผลและข้อมูลท่มี ีอยู่ เชน่ การร้วู ่าจะได้เลน่ น้ำที่สระใดจากการ โยนเหรียญ การคาดการณค์ วามสูง การแก้ปญั หาโดยใช้เหตุผลและข้อมูลทมี่ ีอยจู่ ะชว่ ยให้แกป้ ัญหาไดป้ ระสบความสำเร็จ สาระการเรยี นรู้ อัลกอริทึมเป็นข้ันตอนทีใ่ ช้ในการแก้ปญั หา การแสดงอัลกอริทึมทำไดโ้ ดยการเขยี น บอกเลา่ วาดภาพ หรือใช้สญั ลกั ษณ์ ตัวอย่างปญั หา เช่น เกมเศรษฐี เกมบนั ไดงู เกม Tetris เกม OX การเดินไปโรงอาหาร การทำความ สะอาดหอ้ งเรยี น

10 ทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 1. การสร้างสรรค์ 2. การคดิ อยา่ งมีวจิ ารณญาณ 3. การแก้ปญั หา 4. ความรว่ มมอื 5. การสือ่ สาร 6. การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสอ่ื สาร ชนิ้ งานหรอื ภาระงาน (หลักฐาน ร่องรอยแสดงความรู้) ใบงานเหรียญเสีย่ งทาย ใบงานบนั ไดงู การจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ ชว่ั โมงที่ 1 ขัน้ ท่ี 1 สรา้ งความสนใจ (engagement) ครนู ำเข้าสู่บทเรียนโดยการสนทนากบั นกั เรียนเกี่ยวกับภาพในกระจกเงา จากนัน้ ใหน้ ักเรยี นสงั เกต ภาพในหนงั สือเรียน หนา้ ที่ 2 และใหน้ กั เรยี นตอบคำถาม โดยการสงั เกตภาพทีล่ ะจดุ และรวบรวมข้อมูลเพอื่ หาคำตอบ ขน้ั ที่ 2 สำรวจและคน้ หา (exploration) 1. ให้นกั เรียนแบง่ กลมุ่ กล่มุ ละ 5 คน จากนนั้ ครูใหน้ ักเรียนชว่ ยกันอา่ นการ์ตนู สไลเดอร์เส่ยี งทาย ใน หนงั สอื เรียน หนา้ 3 ถงึ หนา้ 14 โดยครูฝกึ ทักษะการอา่ นตามวธิ ีการอา่ นทีเ่ หมาะสมกบั ความสามารถของ นกั เรยี น 2. ครูถามคำถามเพอ่ื สำรวจและค้นหา ผลการเรยี นรู้จากการอ่านการต์ ูน กบั ประสบการณ์ของ นักเรียน - จากการ์ตนู สไลเดอร์เสย่ี งทายที่นกั เรยี นเรยี นอ่าน นักเรียนเคยไปเทยี่ วสวนนำ้ หรือไม่ ในสวนนำ้ มอี ะไรบา้ ง จากน้ันตรวจสอบความเข้าใจจากการอา่ น โดยใช้คำถามดงั นี้ • จากเรือ่ งมีใครบ้าง เคา้ ไปท่ีไหน • จากเรื่องเกิดเหตุการณ์ใดข้ึน • นักเรียนสามารถบอก/หาผลลพั ธ์ แบบในเร่อื งได้หรอื ไม่ 3. ครูแนะนำ เกม Animals Lines (oho.ipst.ac.th/im/3102) จากนั้นให้นักเรยี น เลน่ เกมดงั กลา่ ว จำนวน 4-5 ดา่ น

11 4. ใหน้ ักเรียนรว่ มกนั สรุปวิธกี าร/แนวทาง ทำอยา่ งไรใหผ้ า่ นแตล่ ะดา่ นของเกม 5. ครูเป็นทีป่ รึกษาแนะนำการดำเนนิ กจิ กรรมกลุ่ม ขน้ั ท่ี 3 อธบิ ายและลงข้อสรปุ (explanation) 1. นักเรยี นตวั แทนกลุม่ แตล่ ะกล่มุ นำเสนอวธิ กี าร/หลักการ หรอื เคลด็ ลับ ในการเลน่ เกม Animals Lines ไดอ้ ยา่ งรวดเร็วและถกู ต้อง 2. ครูเชื่อมโยงความรู้เกีย่ วกับทักษะการใช้เหตผุ ลเชงิ ตรรกะ และการคาดการณ์ผลลพั ธ์โดยใช้เหตุผล และขอ้ มูลที่มอี ยู่ เชน่ การกำหนดเสน้ ทางบลอ็ กจากเกม 3. ครใู หน้ ักเรียน เล่นเกม Animals Lines ในด่านทีย่ ากขน้ึ อีก 1-3 เกม (อาจมกี ารแข่งขนั กนั ได)้ ข้ันที่ 4 ขยายความรู้ (elaboration) 1. ให้นกั เรียนทำใบงานเหรียญเส่ยี งทาย 2. ครเู ปน็ ที่ปรึกษาในการดำเนนิ กิจกรรม ขั้นที่ 5 ประเมิน (evaluation) ครูประเมินการเรยี นรู้ของนักเรียน ดงั นี้ สังเกตพฤตกิ รรมของนักเรยี นขณะทำงานร่วมกัน สังเกตการตอบคำถามของนักเรยี นในชั้นเรยี น ทักษะการเลน่ เกม Animals Lines ประเมนิ ใบงานเหรียญเสยี่ ง ทาย และประเมนิ ทกั ษะแห่งศตวรรษท่ี 21 โดยใช้แบบประเมินตามสภาพจรงิ ชว่ั โมงท่ี 2 ขน้ั ท่ี 1 สรา้ งความสนใจ (engagement) ครูนำเข้าสู่บทเรยี นโดยการสนทนาพดู คุยกบั นกั เรียน เกี่ยวกบั การไปสถานที่ต่างๆ เกยี่ วกบั เด็กพลัด หลงกบั ผู้ปกครอง โดยใช้คำถาม ดงั น้ี - นักเรียนเคยไปสถานที่ต่างๆกบั ผูป้ กครอง แลว้ เกดิ พลัดหลงกับผู้ปกครอง หรือไม่ และผปู้ กครองทำ อยา่ งไร

12 - นกั เรียนเคยไปสถานที่ต่างๆกบั ผปู้ กครอง และได้ยนิ ประกาศคนหายหรอื ไม ในการประกาศเคา้ จะ บอกขอ้ มูลอะไรบา้ ง (ตอบตามความเข้าใจและประสบการณ์ของนกั เรียน) ขน้ั ที่ 2 สำรวจและคน้ หา (exploration) 1. ให้นักเรียนดูคลปิ วดี โี อการต์ นู ลิปดากับโพล่า ตอนหลงทางทสี่ วนสตั ว์ https://www.youtube.com/watch?v=xKhkdHhO3ck 2. ครูและนักเรียนร่วมกันสรปุ ความรู้จากการดคู ลิปวดี โี อ ดงั น้ี - จากคลิปวดี โี อเปน็ สถานการณ์ทใี่ ด และเกดิ อะไรขนึ้ - ทำอย่างไรนกั เรียนจะไมห่ ลงทาง 3. ครูเชื่อมโยงความรูว้ ่า การแกป้ ญั หาใหป้ ระสบความสำเร็จ มีดว้ ยกันหลายวิธี การแสดงข้นั ตอนการ แกป้ ญั หาใช้วธิ ีบอกเล่า จำภาพ สัญลกั ษณ์ จดบนั ทกึ ฯลฯ ขน้ั ท่ี 3 อธบิ ายและลงข้อสรุป (explanation) 1. ครูใหน้ ักเรยี นชว่ ยกันอ่านการต์ ูนในหนังสอื เรยี นหน้า 15 ถงึ หนา้ 23 โดยครฝู ึกทกั ษะการอา่ นตาม วิธกี ารอา่ นที่เหมาะสมกับความสามารถของนักเรียน จากนนั้ ตรวจสอบความเข้าใจจากการอ่าน โดยใชค้ ำถาม ดงั น้ี • จากเรอ่ื งเกิดเหตกุ ารณ์ใดขึน้ • เดก็ ท่ีพลัดหลงช่ืออะไร มลี ักษณะอยา่ งไร • จากเรือ่ งมีวธิ ีการตามหาเดก็ ทีพ่ ลดั หลงอยา่ งไร 2. ครูให้นกั เรียนจับคู่ และบอกรปู ร่างลกั ษณะของเพ่ือน หากเพอ่ื นพลดั หลง สำหรบั แจ้งเจ้าหนา้ ท่ี ตามหา 3. ครูและนักเรยี นร่วมกันสรปุ การแกป้ ญั หาโดยใช้เหตุผลและขอ้ มูลทีม่ อี ยู่ ข้ันท่ี 4 ขยายความรู้ (elaboration) 1. ให้นกั เรยี นในกลมุ่ ร่วมกันทำใบงานบนั ไดงู 2. ครเู ปน็ ทปี่ รกึ ษาในการดำเนนิ กิจกรรม ขนั้ ที่ 5 ประเมนิ (evaluation) ครปู ระเมินการเรียนรู้ของนกั เรยี น ดงั น้ี สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นขณะทำงานรว่ มกนั สังเกตการตอบคำถามของนักเรยี นในชนั้ เรียน ประเมนิ ใบงานบันไดงู และประเมนิ ทกั ษะแหง่ ศตวรรษที่ 21 โดยใช้แบบประเมินตามสภาพจริง

13 สอ่ื /แหลง่ การเรยี นรู้ เกม Animals Lines (oho.ipst.ac.th/im/3102) คลิปวดี โี อการ์ตูนลิปดากบั โพล่า ตอนหลงทางท่สี วนสตั ว์ https://www.youtube.com/watch?v=xKhkdHhO3ck ใบงานเหรยี ญเสี่ยงทาย ใบงานบันไดงู แบบประเมินการเรยี นรู้ เกณฑ์การใหค้ ะแนนแบบประเมนิ - ใบงานเหรยี ญเสี่ยงทาย - ใบงานบันไดงู ตวั ชวี้ ัด ระดบั คะแนน 1 การจดั ทำใบงาน 32 ทำใบงานอย่างเปน็ ระบบ - ใบงานเหรยี ญเสีย่ งทาย ชดั เจน ถกู ตอ้ ง แต่ยังไม่ - ใบงานบันไดงู ทำใบงานอย่างเป็นระบบ ทำใบงานอยา่ งเปน็ ระบบ ครอบคลุม ชดั เจน ถกู ตอ้ ง ครอบคลมุ ชดั เจน ถกู ต้อง ครอบคลมุ และมีการเชื่อมโยงใหเ้ หน็ เป็น สอดคลอ้ งกบั วัตถุประสงค์ ภาพรวม สอดคลอ้ งกบั วัตถุประสงค์

14 ขอ้ เสนอแนะของหัวหน้าสถานศกึ ษาหรือผู้ท่ีได้รบั มอบหมาย .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. ลงช่ือ.................................................................. (.................................................................) ตำแหน่ง ................................................ วนั ท่ี.......เดือน........................พ.ศ. .......... บันทึกหลงั สอน ผลการสอน .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. นกั เรยี นเกดิ ทกั ษะใดบา้ ง ทำเครอ่ื งหมาย  ในชอ่ งวา่ งทตี่ รงกับสง่ิ ทที่ ำได้  การสงั เกต  การวดั  การใช้จำนวน  การจำแนกประเภท การหาความสมั พันธร์ ะหวา่ ง  สเปซกับสเปซ  สเปซกับเวลา  การจดั กระทำและการสอ่ื ความหมายขอ้ มูล  การพยากรณ์  การลงความเหน็ จากขอ้ มูล  การตง้ั สมมตฐิ าน  การกำหนดนิยามเชงิ ปฏิบัตกิ าร  การกำหนดและควบคุมตัวแปร  การทดลอง  การตคี วามหมายและลงขอ้ สรุป  การสร้างแบบจำลอง นักเรยี นเกดิ ทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 ใดบ้าง ทำเครอื่ งหมาย  ในช่องวา่ งทตี่ รงกบั ทกั ษะทีเ่ กิด  การสร้างสรรค์  การคดิ อย่างมีวิจารณญาณ  การแก้ปญั หา  การส่อื สาร  ความรว่ มมอื  การใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่อื สาร ปัญหาและอุปสรรค .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแกไ้ ข .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงช่ือ.................................................................. (.................................................................) ตำแหนง่ ................................................ วันท.ี่ ......เดือน........................พ.ศ. ..........

15 บทที่ 2 เงอื่ นไขใส่ซอง ปูดองใสค่ รก วิชาวทิ ยาศาสตร์เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) ว13101 แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 2 เขียนโปรแกรมอยา่ งงา่ ยโดยใชซ้ อฟต์แวรห์ รอื ส่ือ ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี 3 เวลา 2 ชั่วโมง ผู้สอน ............................................................................... มาตรฐาน มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใชแ้ นวคิดเชงิ คำนวณในการแกป้ ญั หาทีพ่ บในชีวิตจริงอยา่ งเปน็ ขั้นตอนและเป็น ระบบใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสอ่ื สารในการเรียนรู้ การทำงาน และการแกป้ ญั หาได้อยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ รเู้ ท่าทัน และมีจรยิ ธรรม ตวั ชี้วดั ว 4.2ป.3/2 เขยี นโปรแกรมอย่างงา่ ย โดยใชซ้ อฟต์แวร์หรือสอื่ และตรวจหาขอ้ ผิดพลาดของโปรแกรม จุดประสงค์การเรียนรู้ส่ตู วั ช้ีวดั 1. สามารถเขียนโปรแกรมอยา่ งง่าย โดยใช้ซอฟต์แวร์หรือสื่อ และตรวจหาขอ้ ผดิ พลาดของโปรแกรม ได้ (P) 2. มีความรเู้ กยี่ วกับการเขยี นโปรแกรมอยา่ งงา่ ย โดยใชซ้ อฟตแ์ วร์หรอื สือ่ และตรวจหาข้อผิดพลาด ของโปรแกรม (K) 3. เปน็ คนช่างสังเกต ช่างคิด ช่างสงสัย และเป็นผู้ทีม่ ีความกระตอื รอื รน้ ในการเสาะแสวงหาความรู้ (A) สาระสำคัญ การเขียนโปรแกรมที่มเี ง่ือนไขซ้อนกนั ทำใหส้ ามารถแกป้ ญั หาท่ีมคี วามตอ้ งการซบั ซ้อนมากขึน้ ได้ โปรแกรมท่มี เี งื่อนไขสามารถทำงานตามลำดับคำสงั่ ทแ่ี ตกตา่ งกนั และไดผ้ ลลพั ธ์แตกตา่ งกัน เพ่อื ให้โปรแกรมทำงานไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง ตอ้ งตรวจสอบวา่ มีเงอ่ื นไขใดบา้ ง แลว้ จึงเขียนโปรแกรมให้ ครอบคลมุ ทกุ เง่อื นไข หากผลลพั ธ์ของโปรแกรมไมเ่ ปน็ ตามทต่ี ้องการ ใหต้ รวจสอบการทำงานทีละคำสงั่ เพื่อหาขอ้ ผดิ พลาด และแก้ไขโปรแกรมใหถ้ ูกต้อง สาระการเรยี นรู้ การเขียนโปรแกรมเป็นการสรา้ งลำดับของคำสั่ง ให้คอมพิวเตอรท์ ำงาน ตัวอย่างโปรแกรม เชน่ เขยี นโปรแกรมที่ส่ังให้ ตวั ละครทำงานซ้ำไมส่ ิ้นสุด การตรวจหาขอ้ ผิดพลาดทำได้โดยตรวจสอบคำสง่ั ทแ่ี จง้ ขอ้ ผดิ พลาด หรือหากผลลพั ธไ์ มเ่ ป็นไปตามท่ี ต้องการให้ตรวจสอบการทำงานทลี ะคำสั่ง ซอฟตแ์ วร์หรอื สอ่ื ทีใ่ ช้ในการเขยี นโปรแกรม เช่น ใชบ้ ัตรคำสง่ั แสดงการเขยี นโปรแกรม, Code.org

16 ทกั ษะแห่งศตวรรษที่ 21 1. การสร้างสรรค์ 2. การคดิ อย่างมวี ิจารณญาณ 3. การแกป้ ัญหา 4. ความรว่ มมอื 5. การสื่อสาร 6. การใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศและการสอ่ื สาร ช้นิ งานหรอื ภาระงาน (หลกั ฐาน ร่องรอยแสดงความร)ู้ ใบงานเขยี นโปรแกรมตำส้มตำ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ ชว่ั โมงที่ 1 ข้ันท่ี 1 สร้างความสนใจ (engagement) ครนู ำเขา้ สู่บทเรียนโดยการสนทนากับนักเรียนเก่ยี วกบั เรื่องส้มตำ ว่ามีหลายประเภท ทั้งสม้ ตำไทย สม้ ตำปู ส้มตำปลาร้า และอื่นๆ จากนน้ั ถามคำถามนำ ดงั นี้ - นกั เรียนเคยทานส้มตำหรอื ไม่ และส้มตำอะไร - นักเรียนทำสม้ ตำเปน็ หรอื ไม่ ทำอยา่ งไร - สม้ ตำไทย สม้ ตำปู ส้มตำปลารา้ มขี น้ั ตอนใดเหมอื นหรอื ตา่ งกันอย่างไร (นักเรียนตอบตามประสบการณ์และความเขา้ ใจ) ขน้ั ท่ี 2 สำรวจและค้นหา (exploration) 1. ให้นกั เรยี นแบง่ กล่มุ กลมุ่ ละ 5 คน จากนัน้ ครูใหน้ ักเรียนช่วยกนั อา่ นการ์ตนู เงอ่ื นไขใสซ่ อง ปูดอง ใสค่ รก ในหนังสอื เรียน หนา้ 28 ถงึ หนา้ 45 โดยครูฝกึ ทกั ษะการอา่ นตามวธิ ีการอา่ นท่เี หมาะสมกับ ความสามารถของนกั เรยี น 2. ครถู ามคำถามเพ่อื สำรวจและค้นหา ผลการเรยี นรูจ้ ากการอา่ นการ์ตูน กับประสบการณข์ อง นกั เรียน - จากการต์ ูนเง่อื นไขใส่ซอง ปดู องใส่ครก ท่นี กั เรียนอา่ น นักเรียนเคยไปเท่ียวสวนน้ำหรือไม่ ใน สวนน้ำมอี ะไรบา้ ง จากนน้ั ตรวจสอบความเข้าใจจากการอ่าน โดยใช้คำถามดงั น้ี • นกั เรียนเคยทานส้มตำเจ้าดัง ที่ลูกค้าตอ่ คิวมากมายหรือไม่ รู้สกึ อย่างไรบา้ ง • จากเรอ่ื งมกี ารออกแบบใบสง่ั อาหารอยา่ งไร • จากเร่ือง การเตรียมบตั รคำส่ัง มเี งอ่ื นไขจากอะไร • จากเรื่องส้มตำทง้ั 3 แบบ มวี ิธีการเร่ิมตน้ อะไรบา้ งทเี่ หมือนกนั • จากเรอ่ื งส้มตำทั้ง 3 แบบต่างกันทีใ่ ด • การเขยี นโปรแกรมผดิ พลาดควรทำอยา่ งไร 3. ครูแนะนำการใชง้ านใบสัง่ อาหาร และบตั รคำส่ัง

17 ข้ันท่ี 3 อธิบายและลงขอ้ สรปุ (explanation) 1. นกั เรยี นตัวแทนกลุ่มแตล่ ะกลุ่มนำเสนอวธิ กี าร/หลักการ เพอื่ ตามคำถามตอ่ ไปน้ี - การเขียนโปรแกรมมปี ระโยชนอ์ ยา่ งไร - โปรแกรมทมี่ เี ง่อื นไขเปน็ อย่างไร - หากพบว่าโปรแกรมผดิ พลาดควรทำอย่างไร 2. ครูเชอ่ื มโยงความรเู้ กยี่ วกับทกั ษะการเขียนโปรแกรม ว่าการเขยี นโปรแกรมที่มีเงื่อนไขซอ้ นกนั ทำ ให้สามารถแกป้ ญั หาทม่ี ีความตอ้ งการซบั ซอ้ นมากข้นึ ได้ โปรแกรมทม่ี เี ง่ือนไขสามารถทำงานตามลำดับคำสัง่ ที่ แตกตา่ งกันและไดผ้ ลลพั ธแ์ ตกต่างกนั เพื่อใหโ้ ปรแกรมทำงานไดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง ตอ้ งตรวจสอบว่ามเี ง่ือนไขใดบา้ ง แล้วจงึ เขียนโปรแกรมให้ครอบคลุมทุกเง่ือนไข หากผลลพั ธ์ของโปรแกรมไมเ่ ปน็ ตามทต่ี ้องการ ให้ตรวจสอบ การทำงานทีละคำสั่ง เพอื่ หาข้อผิดพลาด และแกไ้ ขโปรแกรมให้ถูกต้อง ขนั้ ท่ี 4 ขยายความรู้ (elaboration) 1. ใหน้ กั เรียนทำใบงานเขยี นโปรแกรมตำส้มตำ 2. ครูเป็นทป่ี รึกษาในการดำเนนิ กจิ กรรม ขน้ั ที่ 5 ประเมนิ (evaluation) ครูประเมินการเรยี นรู้ของนักเรียน ดังน้ี สงั เกตพฤตกิ รรมของนักเรยี นขณะทำงานร่วมกัน สงั เกตการตอบคำถามของนกั เรยี นในชั้นเรียน ประเมินใบงานเขยี นโปรแกรมตำส้มตำ และประเมินทกั ษะแห่ง ศตวรรษที่ 21 โดยใช้แบบประเมินตามสภาพจรงิ ชั่วโมงท่ี 2 ขน้ั ที่ 1 สร้างความสนใจ (engagement) ครนู ำเข้าสู่บทเรียนโดยการสนทนาพดู คยุ กบั นกั เรยี น เกี่ยวกบั การเขียนโปรแกรมแบบมเี งอ่ื นไข จาก ชั่วโมงทแ่ี ลว้ และถามคำถาม ดงั นี้ - นักเรยี นคิดวา่ จากการเขียนโปรแกรมแบบมีเงือ่ นไข การทำสม้ ตำในช่ัวโมงทีแ่ ลว้ ยังสามารถเขียน โปรแกรมแบบมเี งือ่ นไข ในเหตกุ ารณใ์ นชวี ติ ประจำวนั อ่ืนๆได้อกี หรอื ไม่ (ตอบตามความเข้าใจและประสบการณ์ของนักเรยี น) ข้นั ที่ 2 สำรวจและค้นหา (exploration) 1. ให้นักเรยี นดูคลิปวดี โี อการ์ตนู ลิปดากับโพล่า ตอนสขี องลิปดา https://www.youtube.com/watch?v=TBa5MD5-s_o 2. ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรุปความรู้จากการดูคลิปวีดีโอ ดงั นี้ - จากคลปิ วีดีโอเปน็ สถานการณ์ทีใ่ ด และเกดิ อะไรข้ึน - ทำอย่างไรนกั เรียนจะได้สีทีห่ ลากหลายสีสนั 3. ครูเชอื่ มโยงความรูว้ า่ การแก้ปญั หาในชวี ติ ประจำวันสามารถนำมาเขยี นโปรแกรมได้ เพือ่ นใหก้ าร ทำงานงา่ ยขนึ้

18 ขน้ั ท่ี 3 อธบิ ายและลงข้อสรปุ (explanation) 1. ครใู หน้ กั เรียนช่วยกนั สังเกตซองเง่อื นไข และบัตรคำส่งั ตอ่ ไปน้ี และเขยี นโปรแกรมจัดกระเป๋าไป เท่ียวทะเล และไปเทีย่ วภเู ขา ภาพจากหนงั สือเรยี น สสวท. • ถา้ เที่ยวทะเลใหเ้ ตรยี มหมวก กับชดุ วา่ ยนำ้ • ถา้ เที่ยวภเู ขา ใหเ้ ตรยี มกระเป๋าเป้ กบั ชุดเสื้อกางเกงขายาว 2. นกั เรยี นตวั แทนกลุ่มนำเสนอการเขยี นโปรแกรม 3. ครแู ละนักเรียนรว่ มกันสรปุ /แกไ้ ขโปรแกรม กรณีโปรแกรมผดิ พลาด ขน้ั ที่ 4 ขยายความรู้ (elaboration) 1. ใหน้ กั เรยี นในกล่มุ ร่วมกนั ออกแบบการเขยี นโปรแกรมผสมสี ใหไ้ ด้สี ส้ม เขียว และมว่ ง โดยมบี ัตร คำสั่งสีนำ้ เงนิ แดง และเหลือง 2. ครูเป็นทีป่ รึกษาในการดำเนินกจิ กรรม ขนั้ ท่ี 5 ประเมิน (evaluation) ครปู ระเมินการเรียนรู้ของนักเรียน ดังนี้ สังเกตพฤติกรรมของนักเรยี นขณะทำงานรว่ มกนั สังเกตการตอบคำถามของนกั เรียนในช้ันเรียน ประเมนิ การออกแบบการเขียนโปรแกรมผสมสี และประเมนิ ทกั ษะแห่งศตวรรษที่ 21 โดยใช้แบบประเมนิ ตามสภาพจริง ส่อื /แหลง่ การเรียนรู้ คลปิ วดี โี อการ์ตูนลิปดากบั โพลา่ ตอนสีของลปิ ดา https://www.youtube.com/watch?v=TBa5MD5-s_o ใบงานเขียนโปรแกรมตำส้มตำ

19 แบบประเมนิ การเรียนรู้ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนแบบประเมนิ - ใบงานเขียนโปรแกรมตำสม้ ตำ - การออกแบบการเขียนโปรแกรมผสมสี ตัวชี้วดั ระดับคะแนน 1 การจดั ทำใบงาน 32 ทำใบงานอย่างเป็นระบบ - ใบงานเขียนโปรแกรมตำสม้ ตำ ชดั เจน ถูกตอ้ ง แต่ยังไม่ - การออกแบบการเขยี น ทำใบงานอย่างเป็นระบบ ทำใบงานอยา่ งเป็นระบบ ครอบคลมุ โปรแกรมผสมสี ชัดเจน ถูกต้อง ครอบคลุม ชัดเจน ถูกต้อง ครอบคลมุ และมีการเชอ่ื มโยงใหเ้ หน็ สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ เป็นภาพรวม สอดคล้องกบั วัตถุประสงค์

20 ขอ้ เสนอแนะของหัวหน้าสถานศกึ ษาหรือผู้ท่ไี ด้รับมอบหมาย .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. ลงชอ่ื .................................................................. (.................................................................) ตำแหน่ง ................................................ วนั ที.่ ......เดือน........................พ.ศ. .......... บันทึกหลงั สอน ผลการสอน .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. นกั เรยี นเกดิ ทักษะใดบา้ ง ทำเคร่อื งหมาย  ในช่องวา่ งทตี่ รงกบั ส่ิงทที่ ำได้  การสังเกต  การวัด  การใช้จำนวน  การจำแนกประเภท การหาความสมั พันธร์ ะหว่าง  สเปซกับสเปซ  สเปซกบั เวลา  การจดั กระทำและการสือ่ ความหมายขอ้ มูล  การพยากรณ์  การลงความเหน็ จากขอ้ มูล  การต้งั สมมตฐิ าน  การกำหนดนยิ ามเชงิ ปฏบิ ัตกิ าร  การกำหนดและควบคมุ ตัวแปร  การทดลอง  การตคี วามหมายและลงข้อสรปุ  การสรา้ งแบบจำลอง นักเรยี นเกิดทักษะแหง่ ศตวรรษที่ 21 ใดบา้ ง ทำเครือ่ งหมาย  ในชอ่ งวา่ งทีต่ รงกับทักษะทเี่ กิด  การสรา้ งสรรค์  การคิดอย่างมวี ิจารณญาณ  การแกป้ ญั หา  การสอ่ื สาร  ความร่วมมือ  การใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศและการส่อื สาร ปัญหาและอุปสรรค .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแก้ไข .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงช่ือ.................................................................. (.................................................................) ตำแหนง่ ................................................ วันท.ี่ ......เดือน........................พ.ศ. ..........

21 บทท่ี 3 ยนื งงในพงไพร วชิ าวทิ ยาศาสตรเ์ ทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ว13101 แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 3 ใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศอย่างปลอดภยั และเหมาะสม ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี 3 เวลา 2 ชว่ั โมง ผูส้ อน ............................................................................... มาตรฐาน มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคำนวณในการแกป้ ัญหาทพ่ี บในชีวติ จรงิ อย่างเป็นขั้นตอนและเปน็ ระบบใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่ือสารในการเรียนรู้ การทำงาน และการแกป้ ัญหาได้อย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ รูเ้ ทา่ ทนั และมจี รยิ ธรรม ตวั ชี้วัด ว 4.2ป.3/5 ใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศอย่างปลอดภยั ปฏิบัติตามข้อตกลงในการใชอ้ นิ เทอรเ์ นต็ จุดประสงคก์ ารเรียนรูส้ ตู่ วั ชวี้ ัด 1. สามารถเทคโนโลยีสารสนเทศได้อยา่ งปลอดภยั (P) 2. มคี วามรู้เกี่ยวกบั การใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศอยา่ งปลอดภัย ปฏิบตั ติ ามขอ้ ตกลงในการใช้ อินเทอรเ์ นต็ (K) 3. เปน็ คนช่างสังเกต ช่างคิด ช่างสงสัย และเป็นผู้ทีม่ ีความกระตือรอื ร้นในการเสาะแสวงหาความรู้ (A) สาระสำคัญ วิธีการตรวจสอบเบือ้ งต้นเมื่อเปิดคอมพิวเตอรแ์ ล้วเครอ่ื งไม่ทำงาน เช่น ตรวจดวู ่าเสยี บปล๊กั แน่นแลว้ หรือไม่ ตรวจดูสวิตซ์ปลั๊กไฟเปิดอยหู่ รือไม่ ตรวจสอบสายตอ่ พว่ งต่างๆ ตลอดจนตรวจสอนสญั ลักษณ์ว่ากำลัง ชารจ์ อยูห่ รอื ไม่ สมาร์ตโฟนมที ้ังประโยชน์และโทษ ต้องใช้อย่างเหมาะสม และใช้แตพ่ อดี ให้ความสำคญั กบั ส่ิงรอบตัว บา้ ง การใช้สมาร์ตโฟนโดยไมแ่ บ่งเวลาให้เหมาะสมจะเกิดผลเสยี ตา่ งๆ เมอ่ื ไปเย่ียมชมสถานที่ตา่ งๆ ควรปฏิบัตติ ามกฎ และฟงั คำแนะนำของเจา้ หน้าท่ี สาระการเรยี นรู้ การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภยั เชน่ ปกปอ้ งขอ้ มูลสว่ นตวั ขอความชว่ ยเหลือจากครู หรอื ผปู้ กครองเมือ่ เกิดปัญหาจากการใชง้ าน เมอื่ พบข้อมลู หรือบุคคลทที่ ำ ใหไ้ ม่สบายใจ การปฏบิ ัตติ ามข้อตกลงในการใช้อินเทอร์เนต็ จะทำใหไ้ มเ่ กิดความเสยี หายตอ่ ตนเองและผอู้ ื่น เช่น ไม่ ใช้คำหยาบ ล้อเลียน ดา่ ทอ ทำให้ผู้อืน่ เสียหาย หรือเสยี ใจ

22 ทักษะแห่งศตวรรษท่ี 21 1. การสรา้ งสรรค์ 2. การคิดอยา่ งมีวจิ ารณญาณ 3. การแก้ปัญหา 4. ความร่วมมอื 5. การสื่อสาร 6. การใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสาร ชิ้นงานหรอื ภาระงาน (หลักฐาน รอ่ งรอยแสดงความรู)้ ใบงานเครื่องคอมพวิ เตอรไ์ ม่ทำงาน ใบงานใช้โทรศัพท์อยา่ งปลอดภยั และเหมาะสม การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ ชว่ั โมงท่ี 1 ข้นั ที่ 1 สรา้ งความสนใจ (engagement) ครนู ำเขา้ สู่บทเรยี นโดยการสนทนากบั นักเรียน โดยการจำลองสถานการณ์ วา่ โทรศัพท์มอื ถือ/สมาร์ต โฟนดบั ขณะท่ีกำลังใช้งานอยู่ และถามคำถามนกั เรียน ดงั นี้ - นกั เรียนเคยใช้โทรศพั ทม์ อื ถือ/สมารต์ โฟน หรือไม่ - หากกำลังใช้งานโทรศพั ท์มอื ถอื /สมาร์ตโฟนอยู่ แลว้ เกดิ ดับ นกั เรียนคิดวา่ เป็นเพราะอะไร (นักเรยี นตอบตามประสบการณ์และความคิดของนกั เรยี น) ขัน้ ที่ 2 สำรวจและค้นหา (exploration) 1. ให้นักเรียนแบ่งกลมุ่ กลุ่มละ 5 คน จากนนั้ ครูใหน้ ักเรียนชว่ ยกันอ่านการต์ นู ยนื งงในพงไพร ใน หนงั สอื เรยี น หน้า 52 ถงึ หน้า 59 โดยครูฝกึ ทักษะการอ่านตามวธิ กี ารอ่านทเ่ี หมาะสมกับความสามารถของ นักเรยี น 2. ครูถามคำถามเพอื่ สำรวจและคน้ หา ผลการเรียนรู้จากการอ่านการต์ นู กบั ประสบการณข์ อง นกั เรียน - จากการต์ นู ยืนงงในพงไพร ที่นกั เรียนอ่าน นกั เรยี นเคยไปทัศนศึกษาแหล่งเรียนรู้หรือไม่ จากน้นั ตรวจสอบความเข้าใจจากการอ่าน โดยใช้คำถามดงั นี้ • จากเรือ่ งมใี ครบ้าง เคา้ ไปที่ไหน • จากเรือ่ งมคี นมาสายหรอื ไม่ เพราะเหตุใด • จากเรือ่ งมเี หตกุ ารณ์ใดเกิดขนึ้ 3. ครูใหน้ ักเรยี นบอกวธิ กี ารตรวจสอบหากอปุ กรณ์คอมพิวเตอร์ไม่ทำงาน

23 ขน้ั ที่ 3 อธิบายและลงข้อสรุป (explanation) 1. นักเรียนตวั แทนกลุ่มแตล่ ะกล่มุ นำเสนอบอกวธิ ีการตรวจสอบของกลมุ่ ตนเอง 2. ครเู ชื่อมโยงความรเู้ ก่ียวกบั การตรวจสอบหากอุปกรณ์คอมพวิ เตอร์ไมท่ ำงาน ดงั น้ีวธิ กี ารตรวจสอบ เบอ้ื งตน้ เมื่อเปิดคอมพวิ เตอรแ์ ล้วเคร่ืองไม่ทำงาน เชน่ ตรวจดวู ่าเสยี บปลั๊กแนน่ แลว้ หรือไม่ ตรวจดูสวติ ซ์ ปล๊กั ไฟเปดิ อยูห่ รอื ไม่ ตรวจสอบสายตอ่ พ่วงต่างๆ ตลอดจนตรวจสอนสัญลักษณ์วา่ กำลงั ชาร์จอยู่หรือไม่ 3. ครูเป็นท่ีปรึกษาในกิจกรรม ขั้นท่ี 4 ขยายความรู้ (elaboration) 1. ใหน้ กั เรียนทำใบงานเคร่ืองคอมพวิ เตอร์ไมท่ ำงาน 2. ครเู ป็นท่ีปรกึ ษาในการดำเนนิ กิจกรรม ข้นั ที่ 5 ประเมนิ (evaluation) ครูประเมินการเรียนรู้ของนกั เรยี น ดังนี้ สังเกตพฤตกิ รรมของนักเรยี นขณะทำงานรว่ มกัน สังเกตการตอบคำถามของนักเรียนในช้นั เรยี น ประเมนิ ใบงานเครื่องคอมพวิ เตอรไ์ มท่ ำงาน และประเมนิ ทกั ษะ แห่งศตวรรษที่ 21 โดยใชแ้ บบประเมนิ ตามสภาพจริง ชั่วโมงท่ี 2 ขน้ั ที่ 1 สรา้ งความสนใจ (engagement) ครูนำเขา้ สู่บทเรยี นโดยทบทวนบทเรียนจากชั่วโมงทผี่ า่ นมา และการสนทนาพูดคุยกับนักเรียน เก่ยี วกบั การใชโ้ ทรศพั ท์มือถอื /สมารต์ โฟน โดยใช้คำถาม ดงั น้ี - นกั เรยี นมีโทรศัพทม์ อื ถอื /สมารต์ โฟน หรือไม่ - นกั เรียนใชโ้ ทรศัพท์มอื ถอื /สมาร์ตโฟน ทำอะไรบ้าง (ตอบตามความเข้าใจและประสบการณ์ของนกั เรียน) ขน้ั ที่ 2 สำรวจและค้นหา (exploration) 1. ครใู หน้ ักเรียนชว่ ยกันอา่ นการต์ นู ในหนงั สือเรยี นหนา้ 60 ถึง หน้า 71 โดยครูฝึกทกั ษะการอา่ นตาม วิธกี ารอา่ นทเี่ หมาะสมกบั ความสามารถของนักเรยี น จากน้ันตรวจสอบความเข้าใจจากการอา่ น โดยใช้คำถาม ดงั นี้ • จากเรอื่ งเกิดเหตกุ ารณ์ใดข้ึน สาเหตมุ าจากอะไร • หากนกั เรยี นหลงทางเหมือนในการต์ ูน นกั เรียนจะทำอยา่ งไร • จากเรอื่ งโทรศัพทม์ อื ถอื /สมารต์ โฟน มีประโยชน์และโทษอย่างไร 2. ครูเชือ่ มโยงความรู้ว่า โทรศพั ท์มือถอื /สมาร์ตโฟน มที ง้ั ประโยชน์และโทษ ตอ้ งใช้อย่างเหมาะสม และใชแ้ ต่พอดี ให้ความสำคัญกบั สง่ิ รอบตัวบ้าง

24 ขนั้ ท่ี 3 อธิบายและลงข้อสรุป (explanation) 1. ครใู หน้ ักเรยี นช่วยกันสรุปประโยชนแ์ ละโทษของโทรศพั ท/์ สมารต์ โฟน 2. ตัวแทนนักเรยี นนำเสนอการสรุปประโยชน์และโทษของโทรศัพท์/สมารต์ โฟน 3. ครแู ละนกั เรียนรว่ มกันสรปุ ความคดิ รวบยอดเพื่อเตมิ เต็มความคิดของแต่ละกลุ่ม ขนั้ ที่ 4 ขยายความรู้ (elaboration) 1. ใหน้ ักเรียนในกลมุ่ รว่ มกันทำใบงานใช้โทรศพั ท์อยา่ งปลอดภยั และเหมาะสม 2. ครเู ปน็ ทปี่ รึกษาในการดำเนนิ กจิ กรรม ข้ันที่ 5 ประเมิน (evaluation) ครปู ระเมินการเรยี นรู้ของนกั เรยี น ดงั นี้ สังเกตพฤติกรรมของนักเรยี นขณะทำงานรว่ มกนั สังเกตการตอบคำถามของนักเรียนในชั้นเรยี น ประเมนิ ใบงานใชโ้ ทรศัพท์อย่างปลอดภัยและเหมาะสมและ ประเมนิ ทักษะแห่งศตวรรษท่ี 21 โดยใช้แบบประเมนิ ตามสภาพจริง สือ่ /แหล่งการเรยี นรู้ ใบงานเครือ่ งคอมพิวเตอร์ไม่ทำงาน ใบงานใชโ้ ทรศัพท์อย่างปลอดภัยและเหมาะสม แบบประเมนิ การเรียนรู้ เกณฑ์การใหค้ ะแนนแบบประเมนิ - ใบงานเครื่องคอมพิวเตอร์ไม่ทำงาน - ใบงานใช้โทรศัพท์อยา่ งปลอดภัยและเหมาะสม ตวั ชวี้ ัด ระดับคะแนน 1 32 ทำใบงานอย่างเป็นระบบ ชัดเจน ถกู ต้อง แตย่ งั ไม่ การจัดทำใบงาน ทำใบงานอย่างเป็นระบบ ทำใบงานอย่างเปน็ ระบบ ครอบคลมุ - ใบงานเคร่ืองคอมพิวเตอร์ไม่ ชดั เจน ถูกตอ้ ง ครอบคลมุ ชดั เจน ถกู ตอ้ ง ครอบคลุม ทำงาน และมีการเชอ่ื มโยงให้เหน็ เปน็ สอดคล้องกับวัตถปุ ระสงค์ - ใบงานใช้โทรศพั ทอ์ ยา่ ง ภาพรวม สอดคล้องกับ ปลอดภยั และเหมาะสม วัตถปุ ระสงค์

25 ขอ้ เสนอแนะของหัวหน้าสถานศกึ ษาหรือผู้ท่ีได้รบั มอบหมาย .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. ลงช่ือ.................................................................. (.................................................................) ตำแหน่ง ................................................ วนั ท่ี.......เดือน........................พ.ศ. .......... บันทึกหลงั สอน ผลการสอน .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. นกั เรยี นเกดิ ทกั ษะใดบา้ ง ทำเครอ่ื งหมาย  ในชอ่ งวา่ งทตี่ รงกับสง่ิ ทที่ ำได้  การสงั เกต  การวดั  การใช้จำนวน  การจำแนกประเภท การหาความสมั พันธร์ ะหวา่ ง  สเปซกับสเปซ  สเปซกับเวลา  การจดั กระทำและการสอ่ื ความหมายขอ้ มูล  การพยากรณ์  การลงความเหน็ จากขอ้ มูล  การตง้ั สมมตฐิ าน  การกำหนดนิยามเชงิ ปฏิบัตกิ าร  การกำหนดและควบคุมตัวแปร  การทดลอง  การตคี วามหมายและลงขอ้ สรปุ  การสร้างแบบจำลอง นักเรยี นเกดิ ทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 ใดบ้าง ทำเครอื่ งหมาย  ในช่องว่างทตี่ รงกับทกั ษะทีเ่ กิด  การสร้างสรรค์  การคดิ อย่างมีวิจารณญาณ  การแก้ปญั หา  การส่อื สาร  ความรว่ มมอื  การใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่อื สาร ปัญหาและอุปสรรค .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแกไ้ ข .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงช่ือ.................................................................. (.................................................................) ตำแหนง่ ................................................ วันท.ี่ ......เดือน........................พ.ศ. ..........

บทที่ 4 พับไดโนเสาร์ใหค้ ณุ ป้าแล้วพบั เสื้อผ้าใสก่ ระเป๋า วชิ าวทิ ยาศาสตรเ์ ทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ว2163101 แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 4 ใชอ้ นิ เทอรเ์ นต็ หาความรู้ และประมวลผลขอ้ มลู อย่างงา่ ย ชัน้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 3 เวลา 2 ชวั่ โมง ผสู้ อน ............................................................................... มาตรฐาน มาตรฐาน ว 4.2 เขา้ ใจและใชแ้ นวคดิ เชิงคำนวณในการแก้ปญั หาท่พี บในชีวติ จริงอยา่ งเป็นขั้นตอนและเปน็ ระบบใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศและการสื่อสารในการเรยี นรู้ การทำงาน และการแกป้ ญั หาได้อย่างมีประสิทธภิ าพ รเู้ ทา่ ทัน และมีจรยิ ธรรม ตวั ช้ีวัด ว 4.2ป.3/3 ใช้อินเทอรเ์ น็ตคน้ หาความรู้ จดุ ประสงค์การเรียนรสู้ ู่ตวั ชว้ี ดั 1. สามารถใช้อนิ เทอร์เนต็ คน้ หาความรู้ได้ (P) 2. มคี วามรเู้ กีย่ วกบั การใช้อนิ เทอร์เนต็ ค้นหาความรู้(K) 3. เปน็ คนชา่ งสงั เกต ชา่ งคดิ ช่างสงสัย และเปน็ ผู้ทม่ี คี วามกระตือรอื รน้ ในการเสาะแสวงหาความรู้ (A) สาระสำคญั อินเทอรเ์ นต็ คือ เครือข่ายขนาดใหญท่ ่เี ช่ือมต่อคอมพวิ เตอร์ไว้ดว้ ยกันทัว่ โลก ในอินเทอรเ์ นต็ มีความ ร้อู ยู่มากมายสามารถเขา้ ถึงไดท้ ุกที่ทกุ เวลา ความรูใ้ นอินเทอรเ์ น็ตจะอยบู่ นเว็บไซต์ (web site) ต่างๆ ทีอ่ ยู่เว็บไซต์คอื URL : (Universal Resource Locator) หรืออาจเรยี กวา่ web address เวบ็ เบราวเ์ ซอร์ เปน็ โปรแกรมสำหรบั เข้าถึงเวบ็ ไซตต์ ่างๆ เชน่ กเู กิลโครม ไมโครซอฟตเ์ อจ มอสซลิ ลา ไฟรฟ์ อกซ์ ซาฟารี เว็บเบราวเ์ ซอร์ ที่อย่บู นสมารต์ โฟน หรือแท็บเล็ตจะมีองคป์ ระกอบคลา้ ยกัน แต่ตำแหน่งของปมุ่ บน หน้าจออาจต่างกนั สาระการเรยี นรู้ อินเทอร์เน็ตเปน็ เครือขา่ ยขนาดใหญช่ ่วยให้ การติดต่อส่ือสารทำได้สะดวกและรวดเรว็ และ เปน็ แหล่งข้อมูลความรู้ทชี่ ว่ ยในการเรียน และการดำเนินชีวิต เวบ็ เบราวเ์ ซอร์เปน็ โปรแกรมสำหรับอา่ นเอกสารบนเว็บเพจ การสบื ค้นข้อมลู บนอนิ เทอรเ์ นต็ ทำได้โดยใช้เวบ็ ไซต์สำหรับสืบค้น และต้องกำหนดคำค้นท่ีเหมาะสม จึงจะได้ข้อมูลตามตอ้ งการ ขอ้ มูลความรู้ เชน่ วธิ ที ำอาหาร วธิ ีพับกระดาษ เป็นรูปตา่ ง ๆ ข้อมูลประวัตศิ าสตร์ชาตไิ ทย (อาจเป็น ความรู้ในวิชาอน่ื ๆ หรอื เรือ่ งที่เป็นประเดน็ ทสี่ นใจ ในชว่ งเวลานัน้ ) การใชอ้ นิ เทอรเ์ นต็ อยา่ งปลอดภยั ควรอย่ใู นการดูแลของครู หรอื ผู้ปกครอง

27 ทักษะแหง่ ศตวรรษที่ 21 1. การสร้างสรรค์ 2. การคดิ อยา่ งมีวจิ ารณญาณ 3. การแก้ปญั หา 4. ความรว่ มมอื 5. การส่อื สาร 6. การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสือ่ สาร ชนิ้ งานหรือภาระงาน (หลกั ฐาน รอ่ งรอยแสดงความรู้) ใบงานทีอ่ ยู่เว็บไซต์ ใบงานแหลง่ ท่องเทยี่ วสมุทรปราการ การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ชัว่ โมงท่ี 1-2 ขน้ั ที่ 1 สร้างความสนใจ (engagement) ครนู ำเข้าสู่บทเรียนโดยการสนทนากับนกั เรยี น เก่ียวกับการคน้ หาขอ้ มูลในอินเทอร์เนต็ และถาม คำถามนักเรียน ดงั น้ี - นกั เรียนเคยสืบคน้ ขอ้ มูลในอนิ เทอรเ์ นต็ หรอื ไม่ - หากเคย สืบค้นข้อมลู เรื่องใด (นักเรียนตอบตามประสบการณ์ของนกั เรียน) ขั้นที่ 2 สำรวจและคน้ หา (exploration) 1. ให้นักเรียนแบ่งกลมุ่ กลุ่มละ 5 คน จากนัน้ ครูใหน้ ักเรยี นช่วยกันอ่านการต์ นู พับไดโนเสารใ์ หค้ ณุ ปา้ แล้วพบั เส้อื ผ้าใส่กระเปา๋ ในหนงั สอื เรียน หนา้ 76 ถงึ หน้า 84 โดยครฝู กึ ทักษะการอา่ นตามวิธีการอ่านที่ เหมาะสมกับความสามารถของนกั เรยี น 2. ครถู ามคำถามเพื่อสำรวจและคน้ หา ผลการเรียนรจู้ ากการอ่านการ์ตูน กบั ประสบการณ์ของ นกั เรยี น - จากการต์ ูนพบั ไดโนเสารใ์ หค้ ุณปา้ แลว้ พบั เสอ้ื ผ้าใส่กระเปา๋ ทนี่ ักเรยี นอา่ น นกั เรียนเคยสืบค้น ข้อมลู ในอนิ เทอรเ์ นต็ หรอื ไม่ จากนนั้ ตรวจสอบความเขา้ ใจจากการอ่าน โดยใช้คำถามดงั น้ี • จากเรือ่ งมีเหตกุ ารณ์ใดเกดิ ข้ึนบ้าง • จากเร่อื งโป้งและก้อย หาวิธกี ารพบั ไดโนเสาร์ได้จากท่ีใด • จากเรือ่ ง นกั เรยี นสามารถสบื ค้นข้อมูลในอนิ เทอร์เน็ตจากแหลง่ ใดไดบ้ ้าง 3. ครใู หน้ ักเรยี นทำใบงานทอ่ี ยู่เวบ็ ไซต์

28 ข้นั ที่ 3 อธบิ ายและลงขอ้ สรุป (explanation) 1. นกั เรียนตวั แทนกลมุ่ แตล่ ะกลุ่มนำเสนอผลการบอกแหลง่ ที่อยูเ่ ว็บไซต์สำหรับสืบคน้ ข้อมลู ประเภท ตา่ งๆ 2. ครเู ช่ือมโยงความรู้ว่าการสืบคน้ ข้อมลู บนอินเทอร์เนต็ ทำได้โดยใช้เวบ็ ไซต์สำหรบั สบื ค้น และตอ้ ง กำหนดคำค้นท่ีเหมาะสมจึงจะไดข้ อ้ มูลตามตอ้ งการ 3. ครเู ปน็ ทีป่ รึกษาในกิจกรรม ขั้นที่ 4 ขยายความรู้ (elaboration) 1. ให้นักเรียนทดลองใช้โปรแกรมสืบค้นสถานทที่ ่องเที่ยวในจงั หวัดสมทุ รปราการ และร่วมกันสรปุ ใน กลุ่มวา่ มีสถานที่ใดบ้าง 2. ให้นักเรียนทำใบงานแหลง่ ท่องเท่ียวสมุทรปราการ 3. ครเู ปน็ ทปี่ รกึ ษาในการดำเนนิ กจิ กรรม ขั้นท่ี 5 ประเมนิ (evaluation) ครูประเมินการเรยี นรู้ของนกั เรยี น ดงั น้ี สังเกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นขณะทำงานรว่ มกนั สังเกตการตอบคำถามของนกั เรียนในชัน้ เรยี น ประเมินใบงานทอ่ี ย่เู วบ็ ไซต์ ใบงานแหลง่ ท่องเทย่ี ว สมทุ รปราการ และประเมินทกั ษะแห่งศตวรรษท่ี 21 โดยใช้แบบประเมินตามสภาพจรงิ ส่ือ/แหลง่ การเรียนรู้ ใบงานที่อยเู่ ว็บไซต์ ใบงานแหล่งทอ่ งเทีย่ วสมุทรปราการ แบบประเมนิ การเรยี นรู้ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนแบบประเมนิ - ใบงานทอี่ ยเู่ ว็บไซต์ - ใบงานแหลง่ ท่องเท่ยี วสมุทรปราการ ตวั ชว้ี ดั ระดับคะแนน 1 32 ทำใบงานอย่างเป็นระบบ ชดั เจน ถกู ตอ้ ง แต่ยงั ไม่ การจดั ทำใบงาน ทำใบงานอย่างเป็นระบบ ทำใบงานอย่างเปน็ ระบบ ครอบคลมุ - ใบงานที่อยูเ่ ว็บไซต์ ชัดเจน ถกู ต้อง ครอบคลุม ชัดเจน ถกู ตอ้ ง ครอบคลุม - ใบงานแหลง่ ทอ่ งเที่ยว และมีการเช่อื มโยงให้เหน็ เป็น สอดคล้องกับวตั ถปุ ระสงค์ สมุทรปราการ ภาพรวม สอดคล้องกับ วัตถุประสงค์

29 ขอ้ เสนอแนะของหัวหน้าสถานศึกษาหรือผู้ท่ไี ด้รับมอบหมาย .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. ลงชอื่ .................................................................. (.................................................................) ตำแหนง่ ................................................ วันท่.ี ......เดือน........................พ.ศ. .......... บันทึกหลงั สอน ผลการสอน .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. นกั เรยี นเกดิ ทักษะใดบา้ ง ทำเคร่ืองหมาย  ในชอ่ งว่างทต่ี รงกับสง่ิ ทที่ ำได้  การสงั เกต  การวดั  การใช้จำนวน  การจำแนกประเภท การหาความสมั พันธร์ ะหวา่ ง  สเปซกับสเปซ  สเปซกับเวลา  การจดั กระทำและการส่อื ความหมายข้อมูล  การพยากรณ์  การลงความเห็นจากขอ้ มูล  การต้งั สมมติฐาน  การกำหนดนยิ ามเชงิ ปฏิบัตกิ าร  การกำหนดและควบคุมตัวแปร  การทดลอง  การตคี วามหมายและลงขอ้ สรปุ  การสร้างแบบจำลอง นักเรยี นเกดิ ทกั ษะแหง่ ศตวรรษท่ี 21 ใดบา้ ง ทำเคร่อื งหมาย  ในช่องวา่ งที่ตรงกบั ทกั ษะทเี่ กิด  การสร้างสรรค์  การคิดอยา่ งมวี ิจารณญาณ  การแก้ปัญหา  การสือ่ สาร  ความรว่ มมอื  การใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศและการส่อื สาร ปัญหาและอุปสรรค .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแก้ไข .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงช่ือ.................................................................. (.................................................................) ตำแหน่ง ................................................ วนั ท.ี่ ......เดือน........................พ.ศ. ..........

บทท่ี 4 พบั ไดโนเสารใ์ หค้ ณุ ปา้ แล้วพบั เสอื้ ผ้าใสก่ ระเป๋า วิชาวทิ ยาศาสตร์เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) ว3103101 แผนการจัดการเรยี นร้ทู ี่ 5 ใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศอย่างปลอดภัย ช้นั ประถมศึกษาปที ่ี 3 เวลา 1 ชว่ั โมง ผ้สู อน ............................................................................... มาตรฐาน มาตรฐาน ว 4.2 เขา้ ใจและใชแ้ นวคดิ เชงิ คำนวณในการแก้ปัญหาที่พบในชวี ิตจริงอยา่ งเปน็ ขั้นตอนและเปน็ ระบบใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศและการสื่อสารในการเรยี นรู้ การทำงาน และการแกป้ ญั หาได้อยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพ ร้เู ท่าทนั และมจี ริยธรรม ตวั ช้ีวดั ว 4.2ป.3/5 ใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศอย่างปลอดภัย ปฏิบัตติ ามขอ้ ตกลงในการใช้อินเทอรเ์ นต็ จดุ ประสงค์การเรียนรสู้ ูต่ ัวชี้วัด 1. สามารถใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศอยา่ งปลอดภัย ปฏบิ ัตติ ามขอ้ ตกลงในการใชอ้ นิ เทอรเ์ นต็ (P) 2. มคี วามรเู้ กี่ยวกับการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภยั (K) 3. เปน็ คนชา่ งสังเกต ชา่ งคิด ช่างสงสยั และเป็นผู้ที่มคี วามกระตอื รอื ร้นในการเสาะแสวงหาความรู้ (A) สาระสำคัญ หากพบส่งิ ทท่ี ำใหไ้ มส่ บายใจขณะใชง้ านอินเทอรเ์ น็ต เช่นภาพรนุ แรง ภาพท่ไี มเ่ หมาะสม การติดตอ่ จากคนท่ีไมร่ ู้จกั ใหแ้ จง้ ผ้ใู หญ่ทนั ที สาระการเรยี นรู้ การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภยั เช่น ปกปอ้ งข้อมูลสว่ นตัว ขอความช่วยเหลือจากครู หรือผปู้ กครองเมอ่ื เกดิ ปัญหาจากการใช้งาน เม่ือพบข้อมูลหรอื บุคคลทท่ี ำ ให้ไมส่ บายใจ การปฏบิ ตั ติ ามข้อตกลงในการใช้อนิ เทอร์เน็ต จะทำให้ไม่เกดิ ความเสยี หายต่อตนเองและผู้อ่นื เช่น ไม่ ใชค้ ำหยาบ ล้อเลยี น ดา่ ทอ ทำให้ผูอ้ นื่ เสียหาย หรือเสียใจ ทักษะแหง่ ศตวรรษที่ 21 1. การสร้างสรรค์ 2. การคิดอยา่ งมีวจิ ารณญาณ 3. การแก้ปญั หา 4. ความร่วมมือ 5. การสอ่ื สาร 6. การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสอ่ื สาร

31 ช้นิ งานหรอื ภาระงาน (หลกั ฐาน ร่องรอยแสดงความรู้) แผนผังความคิด “การใชง้ านอนิ เทอร์เนต็ อยา่ งปลอดภัย” การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ ขน้ั ที่ 1 สรา้ งความสนใจ (engagement) ครนู ำเข้าสู่บทเรยี นโดยการสนทนากบั นักเรยี น เก่ียวกับการคน้ หาขอ้ มูลในอนิ เทอร์เน็ต จากช่ัวโมงท่ี ผา่ นมา และถามคำถามนักเรียน ดังน้ี - นักเรยี นเคยสบื ค้นข้อมูลในอนิ เทอรเ์ นต็ และพบขอ้ ความ/ภาพ หรือโฆษณาที่ไมเ่ หมาะสมบ้าง หรอื ไม่ นกั เรียนทำอยา่ งไร (นกั เรียนตอบตามประสบการณ์ของนักเรียน) ข้นั ท่ี 2 สำรวจและคน้ หา (exploration) 1. ใหน้ กั เรยี นแบง่ กลุ่ม กลมุ่ ละ 5 คน จากน้ันครใู หน้ กั เรยี นชว่ ยกนั อา่ นการ์ตูนพบั ไดโนเสาร์ให้คุณป้า แล้วพบั เส้อื ผ้าใส่กระเปา๋ ตอ่ จากช่ัวโมงท่ีแล้ว ในหนังสอื เรียน หน้า 85 ถงึ หนา้ 96 โดยครูฝกึ ทักษะการอ่าน ตามวิธีการอา่ นทีเ่ หมาะสมกบั ความสามารถของนกั เรยี น 2. ครูถามคำถามเพอ่ื สำรวจและคน้ หา ผลการเรียนรู้จากการอ่านการต์ นู กับประสบการณ์ของ นกั เรยี น - จากการต์ ูนพบั ไดโนเสาร์ใหค้ ุณปา้ แลว้ พับเสอ้ื ผ้าใส่กระเปา๋ ทนี่ ักเรียนอ่าน นักเรยี นเคยสืบค้น ขอ้ มลู ในอนิ เทอรเ์ นต็ แลว้ พบสถานการณ์ดงั การ์ตนู หรือไม่ จากน้นั ตรวจสอบความเข้าใจจากการอ่าน โดยใช้ คำถามดงั นี้ • จากเรือ่ งมีเหตุการณ์ใดเกดิ ขึ้นบา้ ง • ข้อมูลท่ีทำใหร้ ู้สกึ ไมส่ บายใจเป็นอย่างไร • หากพบข้อมูลที่ทำใหไ้ ม่สบายใจในอินเทอรเ์ นต็ ควรทำอย่างไร 3. ครูให้นักเรียนช่วยกนั ยกตัวอยา่ งขอ้ มลู ทท่ี ำใหไ้ มส่ บายใจในอินเทอรเ์ น็ต 4. ครใู ห้นกั เรียนทำใบงานทอี่ ยเู่ วบ็ ไซต์ ขน้ั ท่ี 3 อธบิ ายและลงขอ้ สรุป (explanation) 1. ใหน้ กั เรยี นดคู ลปิ วดี ีโอ “การใชง้ านอินเทอรเ์ น็ตอยา่ งปลอดภยั ” oho.ipst.ac.th/im/3407 2. ให้นกั เรียนแต่ละกลุ่มรว่ มกันสรุปผลการดูคลปิ วีดีโอ และจดั ทำ แผนผังความคิด “การใช้งาน อินเทอร์เนต็ อย่างปลอดภยั ” 3. ครเู ป็นท่ีปรึกษาในกจิ กรรม

32 ขัน้ ที่ 4 ขยายความรู้ (elaboration) 1. นักเรียนตัวแทนกลุม่ แต่ละกลุม่ นำเสนอแผนผงั ความคดิ “การใช้งานอินเทอร์เน็ตอยา่ งปลอดภยั ” ของกลมุ่ ตนเอง 2. ครเู ชอื่ มโยงความร้วู ่าครูเชื่อมโยงความรู้วา่ หากพบส่ิงทท่ี ำใหไ้ มส่ บายใจขณะใช้งานอินเทอรเ์ น็ต เช่นภาพรุนแรง ภาพทีไ่ มเ่ หมาะสม การตดิ ต่อจากคนที่ไมร่ จู้ ักใหแ้ จ้งผใู้ หญ่ทนั ที 3. ครเู ป็นที่ปรกึ ษาในกจิ กรรม ขน้ั ท่ี 5 ประเมิน (evaluation) ครูประเมินการเรียนรู้ของนกั เรยี น ดงั นี้ สังเกตพฤตกิ รรมของนกั เรียนขณะทำงานรว่ มกนั สงั เกตการตอบคำถามของนกั เรียนในชนั้ เรียน ประเมนิ แผนผงั ความคดิ “การใชง้ านอินเทอร์เน็ตอย่าง ปลอดภัย”และประเมนิ ทักษะแห่งศตวรรษท่ี 21 โดยใช้แบบประเมินตามสภาพจริง ส่อื /แหล่งการเรียนรู้ คลิปวดี ีโอ “การใช้งานอนิ เทอร์เน็ตอยา่ งปลอดภยั ” oho.ipst.ac.th/im/3407 แบบประเมินการเรียนรู้ เกณฑ์การใหค้ ะแนนแบบประเมนิ - แผนผังความคิด “การใชง้ านอินเทอร์เน็ตอยา่ งปลอดภยั ” ตวั ชว้ี ัด ระดบั คะแนน การจัดทำแผนผงั ความคิด 32 1 “การใช้งานอินเทอร์เน็ตอย่าง ปลอดภัย” ทำแผนผังความคดิ “การใช้ ทำแผนผังความคดิ “การใช้ ทำแผนผงั ความคดิ “การ ใชง้ านอนิ เทอร์เน็ตอย่าง งานอินเทอร์เน็ตอยา่ ง งานอนิ เทอร์เน็ตอย่าง ปลอดภัย”อย่างเปน็ ระบบ ชัดเจน ถกู ตอ้ ง แต่ ปลอดภัย”อย่างเป็นระบบ ปลอดภยั ”อย่างเปน็ ระบบ ยงั ไม่ครอบคลมุ ชัดเจน ถูกตอ้ ง ครอบคลุม ชัดเจน ถูกต้อง ครอบคลุม และมกี ารเช่อื มโยงให้เหน็ เป็น สอดคลอ้ งกับวตั ถุประสงค์ ภาพรวม สอดคลอ้ งกบั วัตถุประสงค์

33 ขอ้ เสนอแนะของหัวหน้าสถานศึกษาหรือผู้ท่ไี ด้รบั มอบหมาย .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. ลงชอื่ .................................................................. (.................................................................) ตำแหน่ง ................................................ วันท่.ี ......เดือน........................พ.ศ. .......... บันทึกหลงั สอน ผลการสอน .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. นกั เรยี นเกดิ ทักษะใดบา้ ง ทำเครื่องหมาย  ในช่องวา่ งท่ตี รงกับส่งิ ทที่ ำได้  การสงั เกต  การวัด  การใช้จำนวน  การจำแนกประเภท การหาความสมั พันธร์ ะหวา่ ง  สเปซกับสเปซ  สเปซกับเวลา  การจดั กระทำและการส่อื ความหมายขอ้ มูล  การพยากรณ์  การลงความเห็นจากขอ้ มูล  การต้งั สมมติฐาน  การกำหนดนิยามเชิงปฏบิ ัตกิ าร  การกำหนดและควบคุมตัวแปร  การทดลอง  การตคี วามหมายและลงข้อสรปุ  การสรา้ งแบบจำลอง นักเรยี นเกดิ ทกั ษะแหง่ ศตวรรษท่ี 21 ใดบา้ ง ทำเคร่อื งหมาย  ในชอ่ งวา่ งทีต่ รงกับทักษะทีเ่ กิด  การสร้างสรรค์  การคดิ อย่างมวี ิจารณญาณ  การแกป้ ัญหา  การสือ่ สาร  ความร่วมมือ  การใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศและการส่อื สาร ปัญหาและอุปสรรค .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแก้ไข .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงช่ือ.................................................................. (.................................................................) ตำแหนง่ ................................................ วันท.่ี ......เดือน........................พ.ศ. ..........

บทที่ 5 คนที่ใช่ สไลดท์ ช่ี อบ วชิ าวทิ ยาศาสตรเ์ ทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ว1334101 แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 6 นำเสนอข้อมลู โดยใช้ซอฟตแ์ วรต์ ามวัตถุประสงค์ ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ 3 เวลา 2 ชว่ั โมง ผูส้ อน ............................................................................... มาตรฐาน มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใชแ้ นวคดิ เชงิ คำนวณในการแก้ปัญหาที่พบในชวี ติ จรงิ อย่างเป็นขั้นตอนและเปน็ ระบบใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศและการสอ่ื สารในการเรียนรู้ การทำงาน และการแกป้ ัญหาได้อย่างมปี ระสิทธภิ าพ รู้เทา่ ทนั และมจี ริยธรรม ตัวช้ีวัด ว 4.2ป.3/4 รวบรวม ประมวลผล และ นำเสนอข้อมูล โดยใช้ซอฟต์แวร์ตามวตั ถุประสงค์ จดุ ประสงค์การเรียนรู้สตู่ ัวชวี้ ดั 1. สามารถรวบรวม ประมวลผล และ นำเสนอขอ้ มูล โดยใช้ซอฟต์แวร์ตามวตั ถุประสงค์ได้ (P) 2. มคี วามรู้เก่ียวกับการรวบรวม ประมวลผล และ นำเสนอข้อมลู โดยใช้ซอฟต์แวร์ตามวัตถปุ ระสงค์ (K) 3. เปน็ คนชา่ งสงั เกต ชา่ งคิด ชา่ งสงสัย และเป็นผู้ท่มี ีความกระตอื รอื รน้ ในการเสาะแสวงหาความรู้ (A) สาระสำคญั รูปแบบการนำเสนอ เชน่ นำเสนอปากเปล่า นำเสนอโดยใช้ซอฟตแ์ วร์ นำเสนอโดยใช้แบบจำลอง นำเสนอโดยใช้ป้ายนเิ ทศ ตวั อยา่ งโปรแกรมท่ีใช้ในการสรา้ งงานนำเสนอ เช่น กเู กิลสไลด์ ไมโครซอฟต์เพาเวอรพ์ ้อยต์ คีย์โนต้ โปรแกรมนำเสนอประกอบด้วยสไลด์และเมนคู ำส่ังต่างๆ งานนำเสนอท่ดี ี ควรจะแสดงเฉพาะใจความสำคญั ใช้ข้อความที่สนั้ กระชบั อาจเขียนเป็นข้อๆ เพ่อื ให้ อ่านง่ายขนึ้ ใชภ้ าพประกอบท่ีเกยี่ วขอ้ งกบั เนอื้ หา และเรยี งลำดบั เน้ือหาใหเ้ หมาะสม ก่อนนำเสนอควรมกี ารซอ้ มนำเสนอเพอ่ื ป้องกันขอ้ ผิดพลาดท่อี าจเกิดขนึ้ ในการนำเสนอจริง และช่วย สร้างความม่ันใจใหก้ ับผู้นำเสนอ การนำขอ้ มลู มาจดั เปน็ กลุ่มชว่ ยใหเ้ ห็นภาพรวมและสรุปผลงา่ ยข้ึน สาระการเรยี นรู้ การรวบรวมขอ้ มูล ทำไดโ้ ดยกำหนดหัวข้อทต่ี ้องการ เตรียมอุปกรณ์ในการจดบนั ทึก การประมวลผลอย่างงา่ ย เช่น เปรยี บเทยี บ จดั กลุ่ม เรียงลำดบั การนำเสนอข้อมูลทำไดห้ ลายลักษณะตาม ความเหมาะสม เช่น การบอกเล่า การทำเอกสารรายงาน การจัดทำป้ายประกาศ การใช้ซอฟต์แวร์ทำงานตามวัตถุประสงค์ เช่น ใช้ซอฟตแ์ วรน์ ำเสนอหรอื ซอฟตแ์ วร์กราฟฟิก สรา้ ง แผนภูมิรปู ภาพ ใช้ซอฟตแ์ วรป์ ระมวลคำ ทำป้ายประกาศ หรอื เอกสารรายงาน ใช้ซอฟต์แวรต์ ารางทำงานใน การประมวลผลข้อมูล

35 ทกั ษะแห่งศตวรรษที่ 21 1. การสร้างสรรค์ 2. การคดิ อย่างมีวิจารณญาณ 3. การแกป้ ัญหา 4. ความรว่ มมอื 5. การสอ่ื สาร 6. การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสอ่ื สาร ชิ้นงานหรอื ภาระงาน (หลกั ฐาน รอ่ งรอยแสดงความรู้) ใบงานงานนำเสนอ สรา้ งงานนำเสนอ“ประวัติของฉนั ” การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ ชัว่ โมงที่ 1 ขน้ั ที่ 1 สรา้ งความสนใจ (engagement) ครนู ำเข้าสู่บทเรียนโดยการสนทนากบั นกั เรียน เก่ียวกับของเล่น และถามคำถามนักเรียน ดงั นี้ - นักเรยี นมีของเลน่ อะไรทีช่ อบมากที่สุดบ้าง พร้อมทง้ั เขียนไวบ้ นกระดาน (ส่มุ จำนวน 10 คน) - หากเราจะจดั กลุ่มของเล่นตา่ งๆบนกระดาน จะจัดกลมุ่ ได้อยา่ งไร (นักเรยี นตอบตามประสบการณ์และความคดิ ของนกั เรยี น) หรอื ครอู าจให้นักเรยี นดภู าพ ตอ่ ไปน้ี และช่วยกนั จดั กลมุ่ (กรณขี องเลน่ ต่างๆคอื ข้อมูล) ภาพจากหนังสอื เรยี น สสวท.

36 ขนั้ ท่ี 2 สำรวจและคน้ หา (exploration) 1. ใหน้ ักเรยี นแบง่ กลมุ่ กล่มุ ละ 5 คน จากนัน้ ครูใหน้ ักเรียนช่วยกนั อ่านการต์ ูนคนทใ่ี ช่ สไลดท์ ี่ชอบ ในหนงั สือเรยี น หนา้ 102 ถึง หนา้ 107 โดยครฝู ึกทักษะการอา่ นตามวธิ กี ารอ่านทเี่ หมาะสมกับความสามารถ ของนกั เรยี น 2. ครถู ามคำถามเพ่อื สำรวจและคน้ หา ผลการเรียนรูจ้ ากการอ่านการต์ ูน กับประสบการณ์ของ นักเรียน - จากการต์ นู คนท่ีใช่ สไลด์ท่ีชอบ ท่นี กั เรยี นอา่ น นกั เรียนเคยนำเสนอขอ้ มูลหรอื รปู แบบใด จากนั้นตรวจสอบความเขา้ ใจจากการอ่าน โดยใช้คำถามดงั น้ี • จากเรื่องมใี ครบ้าง • จากเรอื่ งมีเหตุการณ์ใดเกดิ ขึ้น • จากเร่ืองที่อ่านคณุ แมย่ กตัวโปรแกรมนำเสนออะไรบ้าง 3. ครใู ห้นักเรยี นทดลองเปิดโปรแกรมนำเสนอ กเู กลิ สไลด์ ไมโครซอฟต์เพาเวอรพ์ ้อยต์ คีย์โน้ต ตาม คุณครู ขั้นท่ี 3 อธบิ ายและลงข้อสรปุ (explanation) 1. ใหน้ ักเรียนแตล่ ะกล่มุ จบั สลากชอ่ื โปรแกรมนำเสนอ เพ่ือศึกษาเครอ่ื งมอื ตา่ งๆในโปรแกรมร่วมกนั 2. นักเรยี นตัวแทนกลมุ่ แตล่ ะกลมุ่ นำเสนอ เครื่องมอื ตา่ งๆในโปรแกรมนำเสนอที่จบั สลากได้ 3. ครูเช่อื มโยงความรู้วา่ การนำเสนอขอ้ มูลทำไดห้ ลายลกั ษณะตาม ความเหมาะสม เชน่ การบอกเล่า การทำเอกสารรายงาน การจดั ทำป้ายประกาศ 4. ครเู ป็นทีป่ รกึ ษาในกจิ กรรม ข้ันท่ี 4 ขยายความรู้ (elaboration) 1. ใหน้ ักเรยี นทำใบงานงานนำเสนอ 2. ครเู ป็นทปี่ รกึ ษาในการดำเนนิ กิจกรรม ขน้ั ที่ 5 ประเมิน (evaluation) ครปู ระเมินการเรียนรู้ของนักเรยี น ดงั น้ี สงั เกตพฤตกิ รรมของนักเรียนขณะทำงานร่วมกนั สังเกตการตอบคำถามของนกั เรยี นในชน้ั เรยี น ประเมนิ ใบงานงานนำเสนอและประเมินทักษะแห่งศตวรรษท่ี 21 โดยใชแ้ บบประเมินตามสภาพจรงิ ช่ัวโมงที่ 2 ขั้นที่ 1 สร้างความสนใจ (engagement) ครนู ำเขา้ สู่บทเรยี นโดยทบทวนบทเรยี นจากชวั่ โมงท่ีผา่ นมา และการสนทนาพดู คยุ กบั นกั เรยี น เกี่ยวกับโปรแกรมนำเสนอตา่ ง โดยให้นกั เรียนดภู าพสญั ลกั ษณโ์ ปรแกรม และวา่ คอื โปรแกรมใด

37 ขั้นท่ี 2 สำรวจและคน้ หา (exploration) 1. ครูใหน้ กั เรยี นช่วยกนั อา่ นการ์ตนู คนท่ีใช่ สไลด์ทช่ี อบ ในหนงั สือเรยี นหนา้ 108 ถึง หน้า 123 โดย ครูฝึกทักษะการอ่านตามวธิ กี ารอา่ นที่เหมาะสมกับความสามารถของนกั เรียน จากนนั้ ให้นักเรียนทดลองเปิด โปรแกรมนำเสนอตามการต์ นู 2. ครูเชือ่ มโยงความรวู้ า่ งานนำเสนอทด่ี ี ควรจะแสดงเฉพาะใจความสำคัญ ใช้ขอ้ ความที่สนั้ กระชบั อาจเขียนเป็นข้อๆ เพ่ือใหอ้ ่านงา่ ยข้นึ ใชภ้ าพประกอบทเี่ กย่ี วข้องกับเน้อื หา และเรยี งลำดับเนื้อหาให้เหมาะสม ข้ันท่ี 3 อธิบายและลงขอ้ สรุป (explanation) 1. ครูใหน้ กั เรยี นช่วยกันสรุปวา่ หากนักเรียนจะสร้างงานนำเสนอจะสามารถทำในโปรแกรมใดได้บ้าง และการนำเสนอประวตั ิส่วนตวั ควรมหี วั ข้อใดบา้ ง 2. ตัวแทนนกั เรียนนำเสนอการสรุปว่าจะเลือกใชโ้ ปรแกรมนำเสนอใด และควรนำเสนอประวัตสิ ว่ นตวั ใดบา้ งทจ่ี ะปลอดภัย 3. ครูแนะนำเพม่ิ เตมิ วา่ การนำขอ้ มูลมาจัดเป็นกลุ่มจะช่วยให้เหน็ ภาพรวมและสรุปผลงา่ ยขึน้ ขั้นท่ี 4 ขยายความรู้ (elaboration) 1. ใหน้ ักเรยี นสรา้ งงานนำเสนอ“ประวัตขิ องฉัน” 2. ครูเปน็ ที่ปรึกษาในการดำเนนิ กจิ กรรม พร้อมท้ังสุม่ ให้นกั เรียนนำเสนอข้อมลู ขั้นที่ 5 ประเมนิ (evaluation) ครูประเมินการเรียนรู้ของนักเรยี น ดงั นี้ สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนขณะทำงานร่วมกนั สังเกตการตอบคำถามของนกั เรียนในช้ันเรยี น ประเมนิ การสรา้ งงานนำเสนอ“ประวัติของฉนั ”และเหมาะสม และประเมินทกั ษะแห่งศตวรรษท่ี 21 โดยใชแ้ บบประเมนิ ตามสภาพจรงิ สือ่ /แหล่งการเรยี นรู้ สลากโปรแกรมนำเสนอ กูเกิลสไลด์, ไมโครซอฟต์เพาเวอรพ์ ้อยต์, คยี โ์ นต้ ภาพสญั ลักษณ์โปรแกรมนำเสนอ กูเกิลสไลด์, ไมโครซอฟต์เพาเวอรพ์ อ้ ยต์, คียโ์ นต้ ใบงานงานนำเสนอ

38 แบบประเมินการเรยี นรู้ เกณฑ์การให้คะแนนแบบประเมนิ - ใบงานงานนำเสนอ - สรา้ งงานนำเสนอ“ประวัติของฉนั ” ตัวชว้ี ดั ระดบั คะแนน 1 32 - ใบงานงานนำเสนอ จดั ทำอย่างเป็นระบบ ชดั เจน จัดทำอย่างเป็นระบบ ชัดเจน จดั ทำอย่างเป็นระบบ - สรา้ งงานนำเสนอ“ประวัติของ ถูกต้อง ครอบคลุมและมีการ ถกู ต้อง ครอบคลุม ชัดเจน ถูกตอ้ ง แต่ยงั ไม่ ฉัน” เช่ือมโยงให้เห็นเป็นภาพรวม สอดคล้องกบั วตั ถปุ ระสงค์ ครอบคลุม สอดคลอ้ งกับวัตถปุ ระสงค์

39 ขอ้ เสนอแนะของหัวหน้าสถานศกึ ษาหรือผู้ท่ีได้รบั มอบหมาย .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. ลงช่ือ.................................................................. (.................................................................) ตำแหน่ง ................................................ วนั ท่ี.......เดือน........................พ.ศ. .......... บันทึกหลงั สอน ผลการสอน .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. นกั เรยี นเกดิ ทกั ษะใดบา้ ง ทำเครอ่ื งหมาย  ในชอ่ งวา่ งทตี่ รงกับสง่ิ ทที่ ำได้  การสงั เกต  การวดั  การใช้จำนวน  การจำแนกประเภท การหาความสมั พันธร์ ะหวา่ ง  สเปซกับสเปซ  สเปซกับเวลา  การจดั กระทำและการสอ่ื ความหมายขอ้ มูล  การพยากรณ์  การลงความเหน็ จากขอ้ มูล  การตง้ั สมมตฐิ าน  การกำหนดนิยามเชงิ ปฏิบัตกิ าร  การกำหนดและควบคุมตัวแปร  การทดลอง  การตคี วามหมายและลงขอ้ สรปุ  การสร้างแบบจำลอง นักเรยี นเกดิ ทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 ใดบ้าง ทำเครอื่ งหมาย  ในช่องว่างทตี่ รงกับทกั ษะทีเ่ กิด  การสร้างสรรค์  การคดิ อย่างมีวิจารณญาณ  การแก้ปญั หา  การส่อื สาร  ความรว่ มมอื  การใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่อื สาร ปัญหาและอุปสรรค .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแกไ้ ข .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงช่ือ.................................................................. (.................................................................) ตำแหนง่ ................................................ วันท.ี่ ......เดือน........................พ.ศ. ..........

บทที่ 6 ไตรกีฬา สมาคมพอ่ คา้ ไข่ วิชาวิทยาศาสตรเ์ ทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) ว1340101 แผนการจดั การเรยี นร้ทู ่ี 7 แสดงวธิ ีการแก้ปัญหาอยา่ งเปน็ ระบบ ช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี 3 เวลา 2 ชัว่ โมง ผ้สู อน ............................................................................... มาตรฐาน มาตรฐาน ว 4.2 เขา้ ใจและใช้แนวคิดเชงิ คำนวณในการแก้ปัญหาที่พบในชีวติ จรงิ อยา่ งเปน็ ข้ันตอนและเป็น ระบบใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศและการสื่อสารในการเรยี นรู้ การทำงาน และการแก้ปญั หาได้อยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ รเู้ ทา่ ทัน และมีจรยิ ธรรม ตวั ชี้วัด ว 4.2ป.3/1 แสดงอัลกอริทึมในการทำงานหรือการแก้ปญั หาอยา่ งง่ายโดยใชภ้ าพ สัญลักษณ์ หรือ ขอ้ ความ จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้สู่ตัวชว้ี ัด 1. สามารถรวบรวม ประมวลผล และ นำเสนอข้อมลู โดยใชซ้ อฟต์แวร์ตามวตั ถปุ ระสงค์ได้ (P) 2. มีความรเู้ ก่ยี วกับการรวบรวม ประมวลผล และ นำเสนอขอ้ มลู โดยใช้ซอฟต์แวรต์ ามวัตถปุ ระสงค์ (K) 3. เป็นคนชา่ งสังเกต ชา่ งคดิ ชา่ งสงสยั และเป็นผู้ท่มี คี วามกระตือรือรน้ ในการเสาะแสวงหาความรู้ (A) สาระสำคญั แผนภาพตน้ ไม้ (Tree Diagrams) เป็นเครอ่ื งมือสำหรบั แจกแจงทางเลอื ก ทำให้สามารถมองเหน็ ทกุ แนวทางทเี่ ป็นไปได้ การวางแผนอยา่ งเป็นระบบช่วยให้แก้ปัญหาไดป้ ระสบความสำเรจ็ สาระการเรยี นรู้ อัลกอรทิ ึมเปน็ ขัน้ ตอนทใ่ี ช้ในการแก้ปญั หา การแสดงอัลกอริทึมทำได้โดยการเขยี น บอกเล่า วาดภาพ หรือใช้สญั ลกั ษณ์ ตัวอยา่ งปัญหา เช่น เกมเศรษฐี เกมบันไดงู เกม Tetris เกม OX การเดนิ ไปโรงอาหาร การทำความ สะอาดหอ้ งเรยี นการใชซ้ อฟตแ์ วรท์ ำงานตามวัตถุประสงค์ เชน่ ใชซ้ อฟตแ์ วรน์ ำเสนอหรอื ซอฟตแ์ วรก์ ราฟฟกิ สร้างแผนภมู ิรูปภาพ ใชซ้ อฟตแ์ วรป์ ระมวลคำ ทำปา้ ยประกาศ หรือเอกสารรายงาน ใชซ้ อฟต์แวรต์ าราง ทำงานในการประมวลผลขอ้ มลู

41 ทกั ษะแห่งศตวรรษท่ี 21 1. การสร้างสรรค์ 2. การคดิ อยา่ งมวี ิจารณญาณ 3. การแก้ปญั หา 4. ความรว่ มมอื 5. การส่อื สาร 6. การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการส่อื สาร ช้นิ งานหรอื ภาระงาน (หลกั ฐาน ร่องรอยแสดงความร)ู้ ใบงานโบกีไ้ หนบรรทุกอะไร ใบงานแผนภาพต้นไม้ การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ชั่วโมงที่ 1 ขั้นท่ี 1 สร้างความสนใจ (engagement) ครูนำเขา้ สู่บทเรยี นโดยการสนทนากบั นักเรียน เก่ียวกบั การทายหัว-กอ้ ย (ของเหรียญ) และถาม คำถามนักเรยี น ดังน้ี - นกั เรียนเคยเลน่ ทายหวั -กอ้ ย (ของเหรียญ) หรือไม่ - เหรียญมกี ด่ี ้าน - ถ้าโยนเหรยี ญ 1 เหรียญ คำตอบที่เปน็ ไปได้มีกค่ี ำตอบ อะไรบ้าง (นกั เรยี นตอบตามประสบการณแ์ ละความคดิ ของนักเรียน) และนำเขา้ สกู่ จิ กรรมตอ่ ไป ขัน้ ที่ 2 สำรวจและคน้ หา (exploration) 1. ให้นกั เรียนแบ่งกลุ่ม กลมุ่ ละ 5 คน จากนน้ั ครใู หน้ กั เรียนชว่ ยกันอ่านการต์ ูนไตรกฬี าสมาคมพ่อค้า ไข่ ในหนังสอื เรยี น หน้า 128 ถึง หน้า 138 โดยครูฝกึ ทกั ษะการอ่านตามวิธีการอา่ นที่เหมาะสมกับ ความสามารถของนกั เรียน 2. ครถู ามคำถามเพ่อื สำรวจและค้นหา ผลการเรยี นรู้จากการอ่านการ์ตูน กับประสบการณ์ของ นกั เรยี น - จากการ์ตูนไตรกฬี าสมาคมพอ่ ค้าไข่ ท่ีนักเรียนอ่าน นกั เรยี นเคยแข่งกฬี าแบบในเรือ่ งบ้าง หรือไม่ จากนน้ั ตรวจสอบความเข้าใจจากการอ่าน โดยใช้คำถามดงั น้ี • จากเรอื่ งมีใครบา้ ง • จากเร่ืองมีเหตุการณใ์ ดเกดิ ขน้ึ • จากเรื่องมวี ิธีการตอ่ คทากแี่ บบ 3. ครูใหน้ ักเรียนดูคลปิ วีดีโอการแข่งขันไตรกฬี าเด็ก oho.ipst.ac.th/im/3601

42 4. ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันสรุปว่าจากคลิปวีดโี อมีการแข่งกฬี าใดบ้าง และหากเปน็ นกั เรียนจะ เลอื กแข่งกีฬาใดก่อน หลงั ตามลำดับ ขนั้ ที่ 3 อธิบายและลงข้อสรปุ (explanation) 1. นกั เรยี นตัวแทนกล่มุ แต่ละกลมุ่ นำเสนอ ผลการสรปุ วา่ จากคลปิ วดี ีโอมีการแข่งกฬี าใดบ้าง และหาก เปน็ นกั เรยี นจะเลอื กแขง่ กฬี าใดกอ่ น หลัง ตามลำดับ 2. ครูเปน็ ทปี่ รกึ ษาในกจิ กรรม ขั้นที่ 4 ขยายความรู้ (elaboration) 1. ให้นกั เรยี นทำใบงานโบกี้ไหนบรรทกุ อะไร 2. ครเู ป็นท่ีปรึกษาในการดำเนินกจิ กรรม ขน้ั ที่ 5 ประเมิน (evaluation) ครูประเมินการเรยี นรู้ของนกั เรียน ดงั นี้ สังเกตพฤตกิ รรมของนักเรยี นขณะทำงานรว่ มกนั สงั เกตการตอบคำถามของนกั เรียนในช้ันเรียน ประเมินใบงานโบก้ีไหนบรรทกุ อะไร และประเมนิ ทกั ษะแหง่ ศตวรรษท่ี 21 โดยใช้แบบประเมินตามสภาพจรงิ ชว่ั โมงที่ 2 ขน้ั ท่ี 1 สรา้ งความสนใจ (engagement) ครนู ำเข้าสู่บทเรยี นโดยทบทวนบทเรยี นจากชวั่ โมงทผี่ า่ นมา และการสนทนาพดู คยุ กบั นกั เรียน เกี่ยวกบั แผนภาพตน้ ไม้ (Tree Diagrams) วา่ นกั เรียนรู้จักหรือไม่ พรอ้ มท้งั บอกวา่ เปน็ เครื่องมือสำหรบั แจก แจงทางเลือก ทำให้สามารถมองเห็นทุกแนวทางที่เปน็ ไปได้ ขั้นที่ 2 สำรวจและค้นหา (exploration) 1. ครใู หน้ กั เรียนดคู ลิปวีดโี อแผนภาพต้นไม้ oho.ipst.ac.th/im/3602 และชว่ ยกันอา่ นการต์ นู ไตร กฬี าสมาคมพ่อคา้ ไข่ ตอ่ จากช่วั โมงท่ีแล้วในหนังสือเรยี นหน้า 139 ถึง หน้า 146 โดยครฝู ึกทักษะการอ่านตาม วิธีการอา่ นท่เี หมาะสมกบั ความสามารถของนักเรยี น 2. ครูถามคำถามเพอ่ื สำรวจและค้นหา ผลการเรียนร้จู ากการอา่ นการ์ตูน กับประสบการณ์ของ นักเรียน - จากการ์ตนู ไตรกฬี าสมาคมพอ่ ค้าไข่ ที่นกั เรยี นอ่าน หากเป็นนกั เรียนจะวางแผนการฝกึ ซอ้ ม กีฬาอย่างไร จากนน้ั ตรวจสอบความเข้าใจจากการอา่ น โดยใช้คำถามดังน้ี • จากเร่ืองมใี ครบ้าง • จากเรอื่ งมเี หตุการณ์ใดเกดิ ข้นึ • แผนภาพต้นไม้ คอื อะไร 3. ครใู หน้ ักเรียนแต่ละกลุม่ รว่ มกนั สรปุ ว่าจากคลิปวดี ีโอ และการอา่ นการ์ตนู

43 ขั้นท่ี 3 อธบิ ายและลงข้อสรปุ (explanation) 1. ครูแจกบตั รภาพเส้ือ 2 แบบ กางเกง 1 แบบ กระโปรง 1 แบบ และให้นกั เรียนช่วยกันออกแบบ การแตง่ กายตามบตั รภาพ ว่าได้ผลลพั ธก์ ่แี นวทางอะไรบ้าง 2. ตัวแทนนักเรยี นผลลพั ธ์การออกแบบการแต่งกายของกลมุ่ ตนเอง 3. ครแู นะนำเพ่ิมเตมิ วา่ การใชแ้ ผนภาพตน้ ไม้ (Tree Diagrams) เป็นเคร่ืองมอื สำหรบั แจกแจง ทางเลอื ก ทำให้สามารถมองเหน็ ทุกแนวทางท่ีเปน็ ไปได้ ขน้ั ที่ 4 ขยายความรู้ (elaboration) 1. ใหน้ กั เรยี นทำใบงานแผนภาพต้นไม้ 2. ครูเปน็ ทป่ี รึกษาในการดำเนนิ กจิ กรรม ขนั้ ท่ี 5 ประเมิน (evaluation) ครปู ระเมินการเรียนรู้ของนกั เรียน ดงั น้ี สังเกตพฤตกิ รรมของนกั เรียนขณะทำงานรว่ มกัน สังเกตการตอบคำถามของนกั เรยี นในชั้นเรยี น ประเมินใบงานแผนภาพตน้ ไม้ และประเมนิ ทักษะแหง่ ศตวรรษ ที่ 21 โดยใช้แบบประเมินตามสภาพจริง ส่อื /แหลง่ การเรยี นรู้ คลปิ วดี ีโอการแขง่ ขนั ไตรกฬี าเด็ก oho.ipst.ac.th/im/3601 คลปิ วดี โี อแผนภาพตน้ ไม้ oho.ipst.ac.th/im/3602 บตั รภาพเครื่องแตง่ กาย ใบงานโบก้ีไหนบรรทุกอะไร ใบงานแผนภาพต้นไม้ แบบประเมินการเรียนรู้ เกณฑก์ ารให้คะแนนแบบประเมนิ - ใบงานโบกไี้ หนบรรทุกอะไร - ใบงานแผนภาพต้นไม้ ตวั ช้วี ดั ระดบั คะแนน - ใบงานโบกี้ไหนบรรทุกอะไร 3 21 - ใบงานแผนภาพต้นไม้ จัดทำอย่างเปน็ ระบบ ชัดเจน จดั ทำอยา่ งเป็นระบบ ชดั เจน จดั ทำอย่างเปน็ ระบบ ถูกตอ้ ง ครอบคลุมและมกี าร ถกู ตอ้ ง ครอบคลมุ ชัดเจน ถกู ตอ้ ง แต่ยงั ไม่ เช่ือมโยงใหเ้ ห็นเป็นภาพรวม สอดคลอ้ งกบั วตั ถปุ ระสงค์ ครอบคลุม สอดคลอ้ งกับวตั ถปุ ระสงค์

44 ขอ้ เสนอแนะของหัวหน้าสถานศึกษาหรือผู้ท่ไี ด้รบั มอบหมาย .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. ลงชอื่ .................................................................. (.................................................................) ตำแหนง่ ................................................ วันท่.ี ......เดือน........................พ.ศ. .......... บันทึกหลงั สอน ผลการสอน .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. นกั เรยี นเกดิ ทักษะใดบา้ ง ทำเครื่องหมาย  ในช่องว่างทต่ี รงกับส่งิ ทที่ ำได้  การสงั เกต  การวัด  การใช้จำนวน  การจำแนกประเภท การหาความสมั พันธร์ ะหวา่ ง  สเปซกับสเปซ  สเปซกับเวลา  การจดั กระทำและการส่อื ความหมายขอ้ มูล  การพยากรณ์  การลงความเห็นจากขอ้ มูล  การต้งั สมมติฐาน  การกำหนดนิยามเชิงปฏบิ ัตกิ าร  การกำหนดและควบคุมตัวแปร  การทดลอง  การตคี วามหมายและลงข้อสรปุ  การสรา้ งแบบจำลอง นักเรยี นเกดิ ทกั ษะแหง่ ศตวรรษท่ี 21 ใดบา้ ง ทำเคร่อื งหมาย  ในชอ่ งวา่ งทีต่ รงกับทักษะทเี่ กิด  การสร้างสรรค์  การคดิ อย่างมวี ิจารณญาณ  การแกป้ ัญหา  การสือ่ สาร  ความร่วมมือ  การใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศและการส่อื สาร ปัญหาและอุปสรรค .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแก้ไข .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงช่ือ.................................................................. (.................................................................) ตำแหน่ง ................................................ วันท.ี่ ......เดือน........................พ.ศ. ..........

บทท่ี 7 ล้มลกุ คลกุ ฝุ่น วิ่งว่นุ วนไป วชิ าวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ว1345101 แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 8 เขียนโปรแกรมที่ทำงานแบบวนซ้ำโดยใชบ้ ตั รคำส่งั ช้ันประถมศกึ ษาปีที่ 3 เวลา 2 ชั่วโมง ผู้สอน ............................................................................... มาตรฐาน มาตรฐาน ว 4.2 เขา้ ใจและใชแ้ นวคดิ เชิงคำนวณในการแกป้ ญั หาที่พบในชีวิตจรงิ อย่างเปน็ ข้ันตอนและเปน็ ระบบใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้ การทำงาน และการแกป้ ญั หาได้อย่างมีประสิทธิภาพ รเู้ ทา่ ทนั และมจี รยิ ธรรม ตวั ช้ีวดั ว 4.2ป.3/2 เขยี นโปรแกรมอยา่ งง่าย โดยใช้ซอฟตแ์ วรห์ รอื สื่อ และตรวจหาข้อผิดพลาดของโปรแกรม จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรูส้ ตู่ วั ช้ีวัด 1. สามารถเขยี นโปรแกรมอย่างงา่ ย โดยใชซ้ อฟต์แวรห์ รอื ส่ือ และตรวจหาขอ้ ผิดพลาดของโปรแกรม ได้ (P) 2. มคี วามรูเ้ ก่ยี วกบั การเขยี นโปรแกรมอยา่ งงา่ ย โดยใช้ซอฟตแ์ วร์หรอื ส่อื และตรวจหาข้อผิดพลาด ของโปรแกรม (K) 3. เปน็ คนชา่ งสงั เกต ช่างคิด ชา่ งสงสัย และเปน็ ผู้ที่มีความกระตือรือร้นในการเสาะแสวงหาความรู้ (A) สาระสำคญั การเขยี นโปรแกรมแบบวนซำ้ เป็นการส่งั ให้โปรแกรมทำงานซำ้ ตามจำนวนรอบทเ่ี ราต้องการ ชว่ ยลด ข้อผิดพลาดในการใช้คำสง่ั ขาดหรอื เกนิ ความต้องการ และยงั ช่วยให้โปรแกรมสน้ั ลง กิจกรรมในชีวติ ประจำวัน ที่มกี ารทำงานแบบวนซ้ำ เช่นร้อยลูกปดั รอ้ งเพลง วาดรปู ทำอาหาร เปน็ ตน้ สาระการเรยี นรู้ การเขียนโปรแกรมเป็นการสรา้ งลำดับของคำส่ัง ให้คอมพวิ เตอรท์ ำงาน ตัวอย่างโปรแกรม เช่น เขยี นโปรแกรมทส่ี ่งั ให้ ตัวละครทำงานซ้ำไมส่ น้ิ สดุ การตรวจหาข้อผิดพลาดทำไดโ้ ดยตรวจสอบคำส่ังทแ่ี จ้งขอ้ ผิดพลาด หรือหากผลลพั ธไ์ มเ่ ป็นไปตามท่ี ตอ้ งการใหต้ รวจสอบการทำงานทีละคำสงั่ ซอฟตแ์ วร์หรือสอื่ ท่ใี ชใ้ นการเขียนโปรแกรม เชน่ ใช้บตั รคำส่ังแสดงการเขยี นโปรแกรม, Code.org

46 ทกั ษะแหง่ ศตวรรษท่ี 21 1. การสรา้ งสรรค์ 2. การคดิ อย่างมวี ิจารณญาณ 3. การแกป้ ัญหา 4. ความรว่ มมือ 5. การสือ่ สาร 6. การใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสาร ชน้ิ งานหรอื ภาระงาน (หลกั ฐาน ร่องรอยแสดงความรู)้ ใบงานเกบ็ ขนมแบบวนซำ้ ใบงานเกบ็ ขนมอะไรได้บ้าง การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ ชัว่ โมงที่ 1 ข้ันท่ี 1 สร้างความสนใจ (engagement) ครูนำเข้าสู่บทเรียนโดยการให้นกั เรยี นรอ้ งเพลง ช้าง ชา้ ง ชา้ ง ช้าง ชา้ ง ช้าง นอ้ งเคยเห็นชา้ งหรือเปลา่ ช้างมนั ตัวโตไมเ่ บา จมกู ยาวๆ เรียกว่างวง มีเขย้ี วใตง้ วงเรียกว่างา มหี มู ีตาหางยาว จากน้ันสนทนากับนักเรียน เกย่ี วกับเนือ้ ร้อง วา่ มสี ่วนใดซ้ำกันบ้าง และซ้ำกค่ี ร้ัง (นักเรยี นตอบตามเนื้อเพลง) และนำเขา้ สกู่ ิจกรรมต่อไป ขน้ั ท่ี 2 สำรวจและค้นหา (exploration) 1. ให้นักเรียนแบง่ กลมุ่ กล่มุ ละ 5 คน จากนนั้ ครใู หน้ กั เรยี นชว่ ยกันอ่านการต์ ูนล้มลุกคลุกฝนุ่ วิ่งว่นุ วน ไป ในหนังสือเรียน หน้า 152 ถงึ หนา้ 160 โดยครูฝกึ ทักษะการอ่านตามวิธกี ารอ่านทีเ่ หมาะสมกับ ความสามารถของนักเรยี น 2. ครูถามคำถามเพ่อื สำรวจและคน้ หา ผลการเรียนรู้จากการอา่ นการ์ตูน กบั ประสบการณข์ อง นักเรยี น - จากการต์ ูนลม้ ลุกคลุกฝนุ่ วิง่ วนุ่ วนไป ทนี่ กั เรียนอา่ น นักเรียนเคยเจอเหตกุ ารณ์ฝ่นุ คล้ายๆกบั ในการ์ตูนหรือไม่ จากนั้นตรวจสอบความเข้าใจจากการอ่าน โดยใชค้ ำถามดงั นี้ • จากเรอื่ งเกดิ เหตุการณ์ใดเกดิ ข้ึน

47 • จากเรื่องทำไมอิ่มถึงเดนิ ทะลุกำแพง • จากเร่อื งการเขียนโปรแกรมผดิ พลาดอย่างไร เพราะเหตุใด 3. ครูเสรมิ ความรู้ว่าการเขยี นโปรมแกรมท่ีบัตรคำส่ังเหมือนกันจำนวนมาก อาจทำให้เกดิ ข้อผิดพลาด ได้ง่าย ความใชบ้ ัตรคำส่งั วนซำ้ ขน้ั ท่ี 3 อธิบายและลงขอ้ สรุป (explanation) 1. ครูใหน้ ักเรียนดภู าพโปรแกรมคำสั่งแบบวนซ้ำ(การร้อยกำไลลกู ปัด) จากนน้ั ใหน้ ักเรยี น วาดภาพ และระบายสกี ำไลลูกปัดทไ่ี ด้ ภาพจากหนังสอื เรียน สสวท. 2. ครูเป็นทีป่ รึกษาในกิจกรรม ขัน้ ท่ี 4 ขยายความรู้ (elaboration) 1. ให้นักเรยี นทำใบงานเกบ็ ขนมแบบวนซำ้ 2. ครเู ป็นทปี่ รกึ ษาในการดำเนินกิจกรรม ขั้นที่ 5 ประเมิน (evaluation) ครูประเมินการเรียนรู้ของนักเรยี น ดงั นี้ สังเกตพฤตกิ รรมของนักเรยี นขณะทำงานรว่ มกัน สังเกตการตอบคำถามของนักเรยี นในชั้นเรยี น ประเมนิ ใบงานเกบ็ ขนมแบบวนซำ้ และประเมินทักษะแห่ง ศตวรรษท่ี 21 โดยใช้แบบประเมินตามสภาพจริง

48 ช่วั โมงท่ี 2 ขนั้ ท่ี 1 สรา้ งความสนใจ (engagement) ครนู ำเขา้ สู่บทเรียนโดยทบทวนบทเรยี นจากชั่วโมงท่ีผ่านมา และการสนทนาพูดคุยกับนักเรยี น เกยี่ วกบั การเขียนโปรแกรมแบบวนซ้ำ วา่ สามารถใชก้ ับกจิ กรรมกรรมในชีวติ ประจำวนั อะไรไดบ้ า้ ง (นกั เรียนตอบตามประสบการณแ์ ละความเข้าใจ) ขน้ั ท่ี 2 สำรวจและคน้ หา (exploration) 1. ให้นกั เรยี นแบ่งกลุ่ม กลมุ่ ละ 5 คน จากน้นั ครใู หน้ กั เรียนช่วยกนั อ่านการ์ตูนลม้ ลุกคลกุ ฝนุ่ วิ่งวุ่นวน ไป ตอ่ จากชวั่ โมงท่ีแล้ว ในหนงั สอื เรยี น หนา้ 161 ถึง หนา้ 169 โดยครูฝกึ ทกั ษะการอา่ นตามวิธกี ารอ่านท่ี เหมาะสมกบั ความสามารถของนกั เรียน 2. ครถู ามคำถามเพอ่ื สำรวจ คน้ หา และตรวจสอบความเข้าใจจากการอา่ น โดยใชค้ ำถามดงั น้ี • จากเร่อื งการเขยี นโปรแกรมวนซ้ำทำไดอ้ ยา่ งไร • จากเร่อื งโปรแกรมวนซำ้ ใชก้ บั อะไรไดบ้ า้ ง 3. ครูแนะนำโปรแกรมการเขียนโปรแกรมแบบวนซำ้ Bee:Loops ใหน้ ักเรียนรจู้ ัก พรอ้ มทั้งแนะนำ การใช้งาน ข้นั ที่ 3 อธิบายและลงขอ้ สรุป (explanation) 1. ครูให้นักเรยี นเข้าสู่โปรแกรมการเขยี นโปรแกรมแบบวนซำ้ Bee:Loops (oho.ipst.ac.th/im/3702) เพ่ือทดลองเขียนโปรแกรมแบบวนซ้ำ ตลอดจนตรวจสอบการทดงานของ โปรแกรม และแก้ไขโปรแกรมให้ผลลัพธ์ถูกตอ้ ง 2. ครูเปน็ ท่ปี รึกษาในกจิ กรรม และสมุ่ นกั เรียนใหเ้ ลา่ เทคนคิ หรือวิธกี ารเขยี นโปรแกรมของตนเอง 3-4 คน 3. ครูแนะนำเพ่มิ เตมิ วา่ การเขยี นโปรแกรมแบบวนซำ้ เปน็ การส่งั ใหโ้ ปรแกรมทำงานซ้ำตามจำนวน รอบที่เราตอ้ งการ ชว่ ยลดขอ้ ผิดพลาดในการใชค้ ำสงั่ ขาดหรือเกินความต้องการ และยังชว่ ยให้โปรแกรมสนั้ ลง


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook