Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore เปิดโลกอ่านสุข จากโรงเรียนสู่ชุมชน สถานศึกษาต้นแบบ ชุมชนอ่านสร้างสุข

เปิดโลกอ่านสุข จากโรงเรียนสู่ชุมชน สถานศึกษาต้นแบบ ชุมชนอ่านสร้างสุข

Description: เปิดโลกอ่านสุข จากโรงเรียนสู่ชุมชน สถานศึกษาต้นแบบ ชุมชนอ่านสร้างสุข

Search

Read the Text Version

  สรปุ กิจกรรมงานประกาศผลโครงการสถานศกึ ษาต้นแบบชุมชนอ่านสรา้ งสุข ในโครงการและกจิ กรรมเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเทพรตั นราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในโอกาสฉลองพระชนมายุ ๕ รอบ ๒ เมษายน ๒๕๕๘ ระหวา่ งวันท่ี ๒ - ๓ เมษายน ๒๕๕๘ การอา่ นมีความสาํ คัญต่อชวี ิตมนุษยท์ กุ ช่วงวัย เป็นเคร่ืองมือพื้นฐานสําคัญในการแสวงหาความรู้ และนํามาประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ในการดํารงชีวิตอย่างมีความสุขเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ดีข้ึน การอา่ นพฒั นาคนใหเ้ ปน็ พลเมืองคุณภาพของประเทศ มสี ่วนท้ังทางตรงและทางออ้ มในการกําหนดทิศทาง ของสังคมอนาคต ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันและทักษะชีวิตให้แก่เด็กรวมถึงการรู้จักเห็นอกเห็นใจผู้อ่ืน (Empathy) บม่ เพาะความเกือ้ กลู การสรา้ งเสรมิ วัฒนธรรมการอ่านเปน็ หนึ่งในกระบวนการขบั เคลือ่ นยทุ ธศาสตรเ์ มอื ง ๓ ดี การทจี่ ะ สรา้ งนครแห่งการอา่ นทเ่ี ปน็ เมอื งสอ่ื สรา้ งสรรค์ ไมว่ ่าจะเปน็ ในระดบั จงั หวดั อาํ เภอ ตําบลหรอื ชุมชนเล็กๆ ตอ้ งใช้ยุทธศาสตร์ ๓ ดี อันประกอบด้วย ๑) สื่อดี ๒) พื้นท่ีดี และ ๓) ภูมิดี ส่ือดี เป็นส่ือท่ีปลอดภัยและ สร้างสรรค์สําหรับทุกคน ผู้คนจะได้รับและได้ใช้สื่อท่ีเหมาะสมกับการพัฒนาในแต่ละช่วงวัย ทั้งเด็ก เยาวชนและครอบครวั มีโอกาสเข้าถงึ สอื่ ดีได้ โดยไม่จํากัดโอกาส เวลาและสถานที่ “สื่อ” ในที่น้ี หมายถึง สอื่ ทกุ ประเภท ทั้งสอ่ื มวลชน สอ่ื ทอ้ งถนิ่ ส่ือพื้นบ้าน ปราชญ์ท้องถิ่นและสื่อใหม่ พ้ืนที่ดี พ้ืนที่สร้างสรรค์ หรือพื้นที่สุขภาวะ หมายถึง พ้ืนที่ที่ทุกคนมีส่วนร่วมในการออกแบบและใช้ประโยชน์ร่วมกันเป็นพื้นที่ ท่บี ุคคล ครอบครัวและชุมชนได้มาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ สานสร้างความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน เสริมพลังซึ่งกัน และกนั “พ้นื ทด่ี ”ี ในท่นี อ้ี าจเป็นได้ทง้ั พืน้ ทสี่ ร้างสรรค์ทางกายภาพและพื้นท่ีสร้างสรรค์ทางความคิดภูมิดี หมายถงึ ภมู ิปัญญาในการฉลาดรูเ้ รอื่ งสื่อ ซึ่งหมายถงึ การเท่าทันส่ือ เท่าทันตนเอง เทา่ ทนั สงั คม มีทกั ษะใน การคดิ วิเคราะหอ์ ยา่ งมวี ิจารณญาณ อันจะเป็นภมู ิคุม้ กนั ใหก้ ับตนเอง ครอบครัวและชุมชนในการป้องกัน ภัยรอบดา้ นและสามารถจดั การกับการเปลย่ี นแปลงได้อย่างเหมาะสม นอกจากนี้คําว่า “ภูมิดี” ยังหมาย รวมถงึ การใช้ภมู ปิ ญั ญาของทุกฝา่ ยในชุมชนในการมีสว่ นรว่ มปกป้องดแู ลและสรา้ งชุมชนร่วมกันโดยพบว่า การอา่ นเปน็ ส่อื ดีท่ีสร้างสัมพันธภาพ ความอบอุ่นแก่ครอบครัว ทําให้ครอบครัวเข้มแข็งและยังทําให้เกิด ความสัมพันธอ์ นั ดขี องคนในชมุ ชนรวมถึงเกิดระบบสุขภาวะในชุมชน หนงั สือและการอ่านเปน็ ส่อื ที่มีประสิทธิภาพในการเสริมสรา้ งพัฒนาการเด็ก เม่ือเด็กอ่านหนังสือ หรือฟังเรอ่ื งราวจากหนงั สอื จะซึมซับถึงแบบอยา่ งและบรรทัดฐานของสงั คมที่สะท้อนรปู แบบใหเ้ หน็ ทง้ั การ กระทาํ ขอ้ พึงปฏิบตั ิ คณุ ธรรมและจรยิ ธรรม รวมไปถึงแบบแผนกฎเกณฑ์ และค่านิยมต่างๆ ที่ปรากฏใน หนังสือ เด็กจะค่อยๆ เรียนรู้ เลียนแบบและสะสมไปทีละเล็กละน้อย จนกระทั่งยึดเป็นแนวปฏิบัติ สถานศึกษาต้นแบบ ชมุ ชนอ่านสร้างสุข ๙๙ 

เมอื่ เจริญวัยข้ึน การอา่ นหนังสอื จึงเป็นการปูพน้ื ฐานความเป็นพลเมืองท่ีพึงประสงค์ ซึ่งมีส่วนท้ังทางตรง และทางออ้ มในการกาํ หนดทิศทางของสังคมอนาคต สาํ นกั งานกองทนุ สนบั สนนุ การสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) โดยแผนงานสร้างเสริมวัฒนธรรมการ อ่าน จึงได้จัดทําบันทึกข้อตกลง (MOU) ร่วมกับ สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) กระทรวงศึกษาธิการ สํานักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) กรมส่งเสริมการปกครองสว่ นท้องถนิ่ (สถ.) และสํานักการศึกษากรุงเทพมหานครดําเนินโครงการ “อ่าน สร้างสุข” ในโรงเรียน/สถานศึกษาขึน้ ต้ังแต่ปี พ.ศ.๒๕๕๕ นาํ ไปสูก่ ารหนุนเสริมให้เกิดสถานศกึ ษาตน้ แบบ ที่ใช้แนวคิด “อา่ นสร้างสุข” เพอ่ื พฒั นาศกั ยภาพผ้เู รยี นในทกุ ดา้ น รวมถึงบุคลากรในสถานศกึ ษา ตลอดจน ครอบครัวและชุมชนเพื่อร่วมสร้างสังคมสุขภาวะ รวมถึงให้สถานศึกษาเป็นตัวอย่างต้นแบบ “อ่านสร้าง สุข” เปน็ แหล่งแลกเปลยี่ นเรยี นร้ใู นการขยายและสร้างเครือข่ายความร่วมมอื ให้เกิดสถานศึกษาอ่านสร้าง สุขท่ัวประเทศ การดําเนินโครงการฯ เกิดผลสําเร็จที่สําคัญ อาทิ ผลสําเร็จในผู้เรียน โดยผู้เรียนมีผลสัมฤทธ์ิ ทางการเรียนท่ีสูงข้ึน ได้รับรางวลั ชนะเลศิ การแข่งขันหนังสอื เลม่ เลก็ ระดับประเทศฯลฯ ผลสาํ เร็จในระดับ สถานศกึ ษา อาทิ เกิดสัมพันธภาพทีด่ รี ะหวา่ งนักเรยี น ครูและชมุ ชน โรงเรยี นได้เปดิ เปน็ แหลง่ เรยี นรู้ให้กับ ชุมชนใกลเ้ คยี งได้เข้ามาค้นคว้า สืบค้นข้อมูลข่าวสารความรู้ต่างๆ ท่ีเป็นประโยชน์ ผู้บริหารได้รับรางวัล สง่ เสริมการอ่านยอดเยย่ี ม ครูรักการอา่ นยอดเยยี่ ม มีการสนบั สนนุ งบประมาณพฒั นาห้องสมดุ จากองคก์ าร บริหารส่วนตาํ บล (อบต.) เกดิ ยุวทตู การอา่ นท่ีมีความร้คู วามสามารถออกแบบและจดั กจิ กรรมส่งเสริมการ อา่ นกวา่ ๖,๑๑๕ คน เกิดครูแกนนาํ สง่ เสริมการอา่ น ๓๖๐ คน เกิดแกนนาํ ชุมชนส่งเสริมการอ่าน ๖๐ คน เกิดสถานศกึ ษาตน้ แบบดา้ นการส่งเสริมการอ่าน จํานวน ๑๑๗ โรงเรียน เกิดมุมการอ่าน พื้นที่การอ่านท่ี หลากหลายทง้ั ในโรงเรยี นและชมุ ชนใกล้เคยี ง เกดิ นวตั กรรมสง่ เสริมการอา่ นท่ีมสี สี ันฯลฯ จากความสาํ เรจ็ ดังกล่าวนาํ มาสูท่ ิศทางการดําเนินโครงการในปีที่ ๓ น้ี ในการค้นหาโรงเรียนท่ีมี ศกั ยภาพในการเป็นโรงเรียนตน้ แบบส่งเสรมิ การอา่ น และสรา้ งการมสี ว่ นรว่ มจากชมุ ชนและภาคีตา่ งๆ เข้า มามีส่วนร่วมภายใต้โครงการ “สถานศึกษาต้นแบบชมุ ชนอ่านสรา้ งสขุ ” ปกี ารศึกษา ๒๕๕๗ เพื่อขับเคลอ่ื น ให้เกิดการพัฒนาศักยภาพแกนนําครู นักเรียน สร้างเครือข่ายสถานศึกษา - ชุมชนอ่านสร้างสุข และใน ปี พ.ศ.๒๕๕๘ โครงการฯ ได้รับการพิจารณาให้เข้าร่วม “โครงการเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพ รัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกมุ ารี” ๑๐๐ เปิดโลกอ่านสร้างสขุ จากโรงเรียนสชู่ ุมชน

  กาํ หนดการ งานประกาศผลโครงการสถานศกึ ษาตน้ แบบชมุ ชนอ่านสร้างสุข ในโครงการและกจิ กรรมเฉลิมพระเกยี รติ สมเดจ็ พระเทพรัตนราชสดุ าฯ สยามบรมราชกุมารี ในโอกาสฉลองพระชนมายุ ๕ รอบ ๒ เมษายน ๒๕๕๘ วนั ที่ ๒ เมษายน ๒๕๕๘ ณ โรงแรมแอมบาสเดอร์ สขุ มุ วทิ ๑๔.๓๐ - ๑๕.๐๐ น. - ลงทะเบียนของแตล่ ะสงั กัดทางการศกึ ษา ณ หอ้ งประชมุ คอนเวนชน่ั บี ๑๕.๐๐ - ๑๕.๑๐ น. - รับแบบฟอร์มส่ังเสอื้ - ส่งคืนโต๊ะลงทะเบยี น ๑๕.๑๐ - ๑๖.๓๐ น. - รบั ประทานอาหารว่าง ๑๖.๓๐ - ๑๗.๕๐ น. - กลา่ วต้อนรบั ๑๗.๕๐ - ๑๘.๑๐ น. โดย นางสุดใจ พรหมเกิด ผจู้ ดั การแผนงานสร้างเสรมิ วฒั นธรรมการอา่ น ๑๘.๑๐ - ๑๘.๓๐ น. - กรรมการบรหิ ารแตล่ ะสังกัดจดั เวทีแลกเปลี่ยนเรยี นรแู้ ละถอดบทเรยี น ครู ๑๘.๓๐ - ๑๙.๓๐ น. ผนู้ ําชมุ ชน และนกั เรียน - คัดเลือกผแู้ ทนแตล่ ะสงั กัดเพือ่ นาํ เสนอผล - ผแู้ ทนแตล่ ะสงั กัดสกดั ผลสําเรจ็ ของการดาํ เนินงานฯ นําเสนอผล ณ เวทีรวม (สังกัดละ ๒๐ นาท)ี - ชี้แจงกําหนดการในวันที่ ๓ เมษายน ๒๕๕๘ โดย นายประพนั ธ์ ขนั ตีสา และคณะ - การเช็คเอาท์ - กําหนดการ/ การรบั ประทานอาหาร - การแต่งกาย (ตามจดหมายท่ีแนบต้นสงั กดั ) - ประตเู ขา้ งาน - รบั เสอ้ื อ่านยกกาํ ลงั สุข โดย แผนงานสร้างเสริมวฒั นธรรมการอ่าน - รับประทานอาหารเยน็ / พกั ผอ่ นตามอธั ยาศยั สถานศกึ ษาตน้ แบบ ชุมชนอา่ นสร้างสขุ ๑๐๑ 

พธิ มี อบถ้วยรางวัลพระราชทานสมเด็จพระเทพรตั นราชสดุ าฯ สยามบรมราชกมุ ารี และมอบธงสญั ลกั ษณ์ “นครแหง่ การอา่ น” วันที่ ๓ เมษายน ๒๕๕๘ ณ หอ้ งโลตัส ศนู ย์ประชมุ แห่งชาตสิ ิริกติ ์ิ ๐๘.๐๐ - ๐๙.๐๐ น. - เดินทางจากทพ่ี กั (เชค็ เอาท์ พรอ้ มกระเป๋าเดนิ ทาง) ๐๙.๐๐ - ๐๙.๓๐ น. - ลงทะเบียน ณ ห้องโลตสั ศูนยป์ ระชมุ แหง่ ชาตสิ ิริกิติ์ ๐๙.๓๐ - ๑๐.๓๐ น. - รับหมายเลขการจดั เกบ็ กระเป๋า (เขา้ ทางประตู ที่ ๔) ๑๐.๓๐ - ๑๐.๔๕ น. - เปิดเวทอี า่ นสร้างแรงบนั ดาลใจ ๑๐.๔๕ - ๑๒.๐๐ น. โดย ดร.กลุ ชาติ จลุ เพญ็ : ไลต่ งจ้ินเมอื งไทย ดอ็ กเตอรจ์ ากกองขยะ ๑๒.๐๐ - ๑๓.๐๐ น. - รบั ประทานอาหารวา่ ง ๑๓.๐๐ - ๑๓.๓๐ น. - ปฏบิ ตั กิ ารส่งเสรมิ การอ่าน “คบเดก็ สร้างภาพ : เวที Ignite Best Practice” ถว้ ยรางวลั พระราชทานสมเดจ็ พระเทพรตั นราชสดุ าฯ สยามบรมราชกมุ ารี  เล่าเรอ่ื ง โดย ยุวทูตการอา่ นจากสถานศึกษาทีไ่ ด้รบั รางวัลชนะเลศิ สาํ นักงานคณะกรรมการการศึกษาขัน้ พืน้ ฐาน (สพฐ.) สาํ นกั งานสง่ เสรมิ การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัย (กศน.) กรมสง่ เสรมิ การปกครองทอ้ งถิน่ (สถ.) สํานักงานการศึกษา กรงุ เทพมหานคร  เลา่ ภาพ โดย นกั การ์ตนู วัยรนุ่ ช่อื ดงั หนู ฟอรม์ าลีน : เอกรฐั มลิ นิ ทะภาส, การ์ตนู มุนนิ : มนุ นิ ทร์ สายประสาท หมู : ไตรภัค ศภุ วฒั นา และ เดอะดวง : วรี ะชยั ดวงพลา  เลา่ ดนตรี โดย ด.ช.พลศิษฎ์ โสภณสิริ (นอ้ งโอม) รางวัลชนะเลิศการ ประกวด SET เยาวชนดนตรแี หง่ ประเทศไทย ครง้ั ท่ี ๑๗ ดาํ เนนิ รายการโดย คณุ วรชั ญ์ วานิชวฒั นากลุ ผู้ประกาศข่าวสถานโี ทรทัศน์ NBT - รับประทานอาหารกลางวัน - ซกั ซอ้ มรบั ถว้ ยรางวัลพระราชทาน โดย พนั จา่ เอกแดงรัตน์ชัย คงสม (สพฐ.) ๑๐๒ เปิดโลกอา่ นสรา้ งสุขจากโรงเรียนสชู่ มุ ชน

  พธิ ีมอบถ้วยพระราชทานฯ และมอบรางวัล ๑๓.๓๐ - ๑๕.๓๐ น. ประธานในพธิ ีเปิดกรวยดอกไม้ และถวายสักการะหน้าพระฉายาลกั ษณ์ สมเดจ็ พระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี  การแสดงพธิ เี ปดิ “ยกกําลงั สขุ ดว้ ยการอ่าน กับ ครนู กเลก็ ”  ชมวีดที ศั น์ “เปดิ ร้ัวโรงเรียน สู่ประตูชมุ ชน : ก้าวยา่ งวถิ อี า่ นสรา้ งสขุ ”  กลา่ วรายงานภาพรวมโครงการ “สถานศึกษาตน้ แบบชุมชนอ่านสรา้ งสขุ ” โดย นางสุดใจ พรหมเกดิ ผจู้ ัดการแผนงานสร้างเสริมวัฒนธรรมการอา่ น  เสวนา “๖ นครแหง่ การอา่ น ๖๐ พรรษาสมเดจ็ พระเทพรตั นราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมาร”ี โดย ผู้ว่าราชการจังหวดั อบุ ลราชธานี ขอนแก่น ลําปาง เชยี งราย กระบ่ี และกรุงเทพฯ  พธิ มี อบธงสญั ลักษณ์ ๖ นครแห่งการอ่าน โดย ดร.พชิ ัย สนแจ้ง ผ้ชู ว่ ยรัฐมนตรีประจาํ สํานักนายกรฐั มนตรี  ดร.พชิ ยั สนแจง้ ให้แนวทางดําเนินงาน “นครแห่งการอ่าน: ยทุ ธศาสตร์ ๓ ดีเพอื่ พฒั นาเด็กและครอบครัวเตม็ พื้นท”่ี  พิธรี บั มอบถว้ ยพระราชทาน รางวลั ชนะเลศิ หน้าพระฉายาลกั ษณ์ สมเดจ็ พระเทพรัตนราชสดุ าฯ สยามบรมราชกุมารี  มอบรางวัลรองชนะเลิศ อับดบั ๑, ๒ และ รางวลั ชมเชย และกลา่ วปิดงาน โดย ทพ. กฤษดา เรอื งอารยี ์รัชต์ ผูจ้ ดั การกองทนุ สนบั สนุนการสร้างเสริมสขุ ภาพ (สสส.) ดําเนินรายการ โดย : นายโรจกร ธปู ศรี และ นางสาวเยาวลักษณ์ กันนิกา ๑๕.๓๐ - ๑๖.๐๐ น. ชมนิทรรศการโครงการฯ สถานศึกษาตน้ แบบ ชมุ ชนอ่านสรา้ งสุข ๑๐๓ 

กจิ กรรมเวทแี ลกเปล่ยี นเรียนรแู้ ละถอดบทเรยี น ครู ผนู้ าํ ชมุ ชนและนกั เรยี น วนั ที่ ๒ เมษายน ๒๕๕๘ ณ โรงแรมแอมบาสเดอร์ สุขุมวทิ การศกึ ษาบทเรียนและความสําเรจ็ ของการดาํ เนินโครงการ “สถานศกึ ษาต้นแบบชุมชนอา่ นสร้างสุข” ปกี ารศึกษา ๒๕๕๗ มีวตั ถุประสงค์ ๓ ประการ ดงั น้ี ๑. เพ่อื ถอดบทเรยี นใหไ้ ด้แนวปฏิบตั ิท่ดี ีจากการดาํ เนินโครงการ “สถานศึกษาต้นแบบชุมชนอ่าน สร้างสุข” ปกี ารศึกษา ๒๕๕๗ ทผ่ี า่ นการทดลองปฏบิ ัติการเพอ่ื ขบั เคล่ือนให้เกิดการพัฒนาศักยภาพแกนนํา ครู นักเรียน สร้างเครือขา่ ยโรงเรยี นสถานศกึ ษา ชมุ ชนอา่ นสร้างสุข ๒. เพื่อนําเสนอผลการถอดบทเรียนเป็นแนวทางดําเนินงานอ่านสร้างสุขท่ีเสริมสร้างพัฒนา ศักยภาพผู้เรียน ครอบครัว บุคลากรทางการศึกษาและชุมชน ที่มีสัมพันธภาพที่ดี มีความร่วมมือในการ สรา้ งความสขุ ในชมุ ชนร่วมกัน ๓. เพือ่ เสนอแนวทางในการขยายผลให้กับหน่วยงานที่เก่ียวข้อง แหลง่ ขอ้ มูล แหลง่ ข้อมลู ของการศึกษาบทเรียนและความสําเร็จของการดาํ เนนิ โครงการ “สถานศึกษาต้นแบบ ชุมชนอ่านสร้างสุข”ปีการศึกษา ๒๕๕๗ ได้แก่ สถานศึกษาที่มีผลการดําเนินงานดีเด่นในโครงการ “สถานศึกษาต้นแบบชุมชนอ่านสร้างสุข ประจําปี ๒๕๕๗” จาก ๔ องค์กรหลักด้านการศึกษา ได้แก่ สาํ นกั งานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพื้นฐาน สํานักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตาม อธั ยาศยั กรมส่งเสรมิ การปกครองท้องถิ่น และสํานักการศกึ ษา กรุงเทพมหานคร สาํ นกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขัน้ พ้นื ฐาน (สพฐ.)  รางวัลชนะเลศิ ถ้วยพระราชทานฯ โรงเรยี นนารีนกุ ลู ๒ สังกดั สํานกั งานเขตพ้ืนที่การศึกษา มธั ยมศกึ ษา เขต ๒๙ (อบุ ลราชธาน)ี  รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ ๑ โรงเรียนบ้านดอนสูง สังกัดสํานักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศกึ ษาตราด  รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ ๒ โรงเรียนวัดทุ่งสว่าง สังกัดสํานักงานเขตพื้นท่ีการศึกษา ประถมศึกษานครราชสีมาเขต ๑  รางวลั ชมเชย โรงเรียนจกั รคําคณาทร สังกัดสํานักงานเขตพนื้ ทีก่ ารศึกษามัธยมศึกษาลําพูน เขต ๓๕  รางวัลชมเชย โรงเรียนชุมชนบา้ นบอ่ ประดู่ สงั กัดสาํ นกั งานเขตพ้ืนที่การศึกษาประถมศึกษา สงขลา เขต ๑ ๑๐๔ เปิดโลกอ่านสร้างสขุ จากโรงเรียนสชู่ มุ ชน

  สํานกั งานส่งเสรมิ การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.)  รางวัลชนะเลศิ ถ้วยพระราชทานฯ กศน.อําเภอเมอื งขอนแกน่ จงั หวัดขอนแก่น  รางวัลรองชนะเลิศ อนั ดับ ๑ กศน.อําเภอหา้ งฉัตร จงั หวดั ลาํ ปาง  รางวัลรองชนะเลิศ อันดบั ๒ กศน.อําเภอเมืองอุบลราชธานี จังหวัดอุบลราชธานี  รางวัลชมเชย กศน.อาํ เภอจตรุ พักตรพิมาน จงั หวดั รอ้ ยเอ็ด  รางวลั ชมเชย กศน.อาํ เภอเมอื งสงขลา จังหวดั สงขลา กรมสง่ เสริมการปกครองท้องถ่ิน (สถ.)  รางวลั ชนะเลิศ ถ้วยพระราชทานฯ โรงเรยี นเทศบาลบรู พาอบุ ล สงั กดั เทศบาลนครอบุ ลราชธานี จังหวัดอบุ ลราชธานี  รางวลั รองชนะเลิศ อนั ดบั ๑ โรงเรยี นเทศบาล ๔ สนั ปา่ กอ่ สังกัดเทศบาลนครเชยี งราย จังหวดั เชยี งราย  รางวัลรองชนะเลิศ อันดบั ๒ โรงเรียนเทศบาลวดั ทา่ สะต๋อย สงั กดั เทศบาลนครเชียงใหม่ จังหวดั เชียงใหม่  รางวลั ชมเชย โรงเรยี นเทศบาล ๓ บา้ นเหลา่ สงั กดั เทศบาลนครอุดรธานี จังหวัดอุดรธานี  รางวัลชมเชย โรงเรยี นองค์การบรหิ ารส่วนจังหวัดสรุ าษฎร์ธานี ๑ (ดอนสกั ผดงุ วิทย)์ สงั กดั อบจ.สุราษฎร์ธานี จงั หวัดสรุ าษฎรธ์ านี  รางวลั ชมเชย โรงเรยี นเทศบาลสนั ป่ายางหน่อม สงั กัดเทศบาลเมอื งลําพูน จังหวัดลําพูน สํานักการศึกษา กรงุ เทพมหานคร (สนศ.)  รางวัลชนะเลศิ ถว้ ยพระราชทานฯ โรงเรยี นวดั ปากบอ่ สํานักงานเขตสวนหลวง  รางวลั รองชนะเลิศ อันดับ ๑ โรงเรียนประชาอทุ ิศ สํานักงานเขตดอนเมือง  รางวลั รองชนะเลิศ อันดบั ๒ โรงเรียนมัธยมปรุ ณาวาส สํานักงานเขตทววี ัฒนา  รางวลั ชมเชย โรงเรยี นบา้ นบัวมล สํานักงานเขตบางเขน  รางวลั ชมเชย โรงเรยี นประชานิเวศน์ สํานักงานเขตจตจุ กั ร ในการดําเนินโครงการ ผู้เข้าร่วมทั้งผู้บรหิ าร ครู ผนู้ าํ ชมุ ชน และแกนนําเยาวชนใหค้ วามสนใจและ นําสงิ่ ทเ่ี รียนรไู้ ปจดั กจิ กรรมส่งเสริมการอ่านในโรงเรียนอย่างหลากหลาย รวมถึงการส่งเสริมการอ่านใน ชุมชน ด้วยการดึงครอบครัว ชุมชน นักศึกษา อาสาสมัครสาธารณสุขประจําหมู่บ้าน ผู้นําท้องถ่ิน ฯลฯ มาร่วมจดั กจิ กรรมส่งเสริมการอ่านโดยท้งั ผู้บรหิ าร ครู ผนู้ ําชุมชน และแกนนําเยาวชนทําหน้าท่ีเป็นตัวนํา การเปล่ียนแปลงเพ่ือขับเคลื่อนโครงการฯ การถอดบทเรียนครั้งน้ีจึงเป็นการถอดบทเรียนจากการ ดาํ เนนิ งานสถานศกึ ษาตน้ แบบชุมชนอ่านสร้างสุขท่มี ผี ลการดาํ เนนิ งานดเี ดน่ ในโครงการฯ สถานศึกษาต้นแบบ ชุมชนอา่ นสรา้ งสขุ ๑๐๕ 

การดาํ เนนิ งาน คณะทาํ งาน ประกอบด้วย ผ้บู ริหารแต่ละสังกัด ผู้รายงานในฐานะหัวหน้าโครงการถอดบทเรียน และสมาชกิ จาํ นวน ๓ คนได้ร่วมกันปรับความรู้ความคิดให้ตรงกันในเรื่องการพัฒนาสถานศึกษาต้นแบบ ชุมชนอา่ นสรา้ งสขุ และการเตรียมความพรอ้ มในการจัดการความรู้ด้วยการถอดบทเรยี นและการสงั เคราะห์ แนวปฏิบัติท่ีดี/ท่ีเป็นเลิศของการดําเนินงานสถานศึกษาชุมชนอ่านสร้างสุขจากเอกสารที่แต่ละพ้ืนท่ี นําเสนอ ในการเข้าไปศกึ ษาบทเรียนและความสาํ เร็จ คณะทํางานร่วมกับผู้บริหารแต่ละสังกัดได้ทําหน้าที่ เป็นนกั จดั การความรู้ โดยใช้การแลกเปลย่ี นเรยี นรู้กบั ครู ผู้บรหิ าร ผู้นําชุมชนและนักเรียน และมีการเก็บ รวบรวมขอ้ มลู จากการบันทกึ บทเรียน และนาํ ข้อมูลมาถอดบทเรียน สังเคราะหเ์ ปน็ ความรูป้ ฏิบัติ นําเสนอ เป็นรปู แบบการดําเนินโครงการ “สถานศึกษาต้นแบบชุมชนอ่านสร้างสุข” ของแต่ละสังกัด (Happy to Reading Implementation Model) และตัวอย่างแนวปฏิบัติที่ดี (Good Practice) หรือแนวปฏิบัติ ทเ่ี ปน็ เลศิ (Best Practice) คณะทํางานได้ประมวลผลการถอดบทเรียนและการสงั เคราะห์องคค์ วามรู้บทเรยี นและความสาํ เรจ็ ของการดําเนนิ โครงการ “สถานศกึ ษาตน้ แบบชุมชนอ่านสร้างสุข” ปีการศึกษา ๒๕๕๗ จากทั้ง ๔ องค์กร หลักดา้ นการศึกษาได้แก่ สาํ นกั งานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน สํานักงานส่งเสริมการศึกษานอก ระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย กรมส่งเสริมการปกครองทอ้ งถิ่น และสาํ นกั การศึกษา กรุงเทพมหานคร และจัดทาํ โครงร่างรายงานเป็นรายสังกดั นอกจากได้ผลตามวัตถุประสงค์แล้ว ยังได้ภาพรวมการนําเสนอ แบบปฏบิ ัตทิ ่ีดี/ท่ีเปน็ เลศิ เพอื่ ให้ได้ขอ้ มลู เชงิ ลกึ และประเด็นสาํ หรับเสนอแนะเป็นนโยบายเชิงยุทธศาสตร์ เพ่ือการขยายผล ผลการถอดบทเรียน ๑. การถอดบทเรยี นใหไ้ ดแ้ นวปฏบิ ัตทิ ีด่ จี ากผลการดําเนนิ งานทีผ่ า่ นมา  บทเรียนการทําใหน้ กั เรียน คนในชุมชน ยอมรบั โครงการและยอมเขา้ รว่ มกิจกรรม เรม่ิ ตน้ โครงการมีครผู ูร้ ับผิดชอบโครงการและยุวทูตการอ่านมาอบรมด้วยกันเพียงแค่สองคน ระยะแรกของการดําเนินโครงการไม่ได้รับความร่วมมือมากนัก เพราะภาพลักษณ์ของการอ่านผูกติดกับ การศึกษาท่ีเคร่งเครียด ความยากลําบากกับการท่องจํา ความน่าเบ่ือหน่ายของหนังสือเล่มหนา และ ภาพประกอบทไ่ี ม่มชี ีวิตชีวา การทําใหเ้ พือ่ นๆ น้องๆ ในโรงเรยี นยอมรับ เข้าใจและเขา้ รว่ มกิจกรรมจึงต้อง ใชค้ วามพยายามมาก ทั้งคดิ โครงการ วางแผนกจิ กรรมและหาเครือขา่ ยทจี่ ะมาช่วยทาํ กิจกรรม รวมถึงการ ประชาสัมพันธ์โครงการ วธิ ีทท่ี ําแลว้ ไดผ้ ลมีหลายวิธี อาทิ  ศึกษาความตอ้ งการของผ้อู ่าน วา่ ตอ้ งการหนังสือประเภทไหน จะได้จัดหนังสือให้ตรง กบั ความตอ้ งการของผอู้ า่ น ทาํ ให้คนสนใจเข้าร่วมกจิ กรรม ๑๐๖ เปดิ โลกอา่ นสรา้ งสุขจากโรงเรยี นสูช่ ุมชน

   จัดกิจกรรมทีต่ รงกับความสนใจของผูเ้ ขา้ ร่วมกิจกรรม สร้างบรรยากาศในการอ่าน ไม่ ทําให้การอ่านเป็นเรื่องยาก ลําบาก ทําให้เป็นความสนุก ความสุข อ่านแล้วเกิดแรง บนั ดาลใจ เปลย่ี นชวี ิต เกิดอาชีพ  สร้างเครือข่าย โดยชักชวนเพ่ือนๆ ท่ีรักการอ่านเหมือนกันมาเป็นเครือข่ายเข้าร่วม กจิ กรรม  จัดใหม้ ียุวทูตการอ่านประจําห้อง ทกุ ระดับชน้ั โดยยุวทูตเหล่าน้ีจะรับนโยบายจากพี่ๆ ไปขยายผลกับเพ่ือนๆ ในห้องของตนเอง เพอื่ รบั ทราบและเข้าใจในกิจกรรม  ดึงชมุ ชนเขา้ มามีส่วนรว่ ม โดยจัดทําโปสเตอร์ประชาสัมพันธ์เชิญชวนให้ผู้สนใจเข้ามา มีส่วนรว่ มบริจาคหนังสือ เพอื่ นาํ หนังสอื เหลา่ นน้ั ไปใหบ้ ริการคนในชุมชน  สร้างแรงจูงใจ โดยนําหนังสือท่ียุวทูตชอบอ่าน ไปแนะนําให้เพื่อนสนิทอ่านก่อน เม่ือ คนหน่ึงชอบกจ็ ะมีการบอกต่อปากตอ่ ปาก ทําให้เกดิ เปน็ เครือข่ายการอ่านท่ีเขม้ แขง็  สร้างแรงจูงใจในการเข้ารว่ มกจิ กรรม โดยมีรางวลั ให้เม่ือทํากิจกรรมได้สาํ เรจ็  เปลย่ี นแนวคดิ ของคนทย่ี ังไมเ่ ข้าใจ และไม่เห็นความสําคัญของการอ่าน ด้วยการชี้แจง โครงการ ทําความเขา้ ใจและชกั ชวนให้เขา้ รว่ มกิจกรรม  จัดเวทีแลกเปล่ียนเรียนรเู้ กย่ี วกบั การอ่าน/ความสําเร็จท่ีได้มาจากการอ่าน ผู้นําเสนอ จะเกิดความภาคภูมิใจและเกิดกําลังใจ คนฟังก็ได้รับแรงบันดาลใจเห็นตัวอย่างท่ีดี ทาํ ให้สนใจอยากเข้ารว่ มกิจกรรมด้วย  บทเรียนการจดั กจิ กรรมสง่ เสริมการอ่าน ผ้บู รหิ าร ครู และแกนนําเยาวชนใหค้ วามสนใจและนําสง่ิ ท่เี รียนรูไ้ ปจดั กจิ กรรมสง่ เสริมการ อ่านในโรงเรยี นอย่างหลากหลาย รวมถงึ การส่งเสริมการอ่านในบริเวณรอบๆ โรงเรียน/ชุมชน ด้วยการดึง ครอบครัว ชุมชน นกั ศึกษา อาสาสมัครสาธารณสขุ ประจําหมูบ่ า้ น ฯลฯ มารว่ มจดั กจิ กรรมส่งเสรมิ การอา่ น ดังน้ี ๑. กิจกรรมสง่ เสริมและสนบั สนนุ ให้นักเรียนเกิดการอ่านสร้างสุขในโรงเรยี น อาทิ กจิ กรรมทาํ เปน็ กจิ วตั รประจาํ วนั - กิจกรรมยุวทูตชวนเพื่อนอ่านยุวทูตชวนเพื่อนๆ ที่ยังอ่านหนังสือไม่คล่องมาอ่าน หนังสือด้วยกันเป็นกลุ่มหรือเป็นคู่ถ้าเพื่อนอ่านไม่ถูกยุวทูตก็จะช่วยแนะนําและสอนสะกดคําให้อ่านได้ ถูกต้องคลอ่ งข้นึ - กิจกรรมอ่านทุกวันสร้างสรรค์ปัญญา นักเรียนจะนําหนังสือเรียนหรือหนังสือท่ีตน สนใจและชืน่ ชอบมาน่ังอา่ นบริเวณรอบๆ สนาม ทกุ เช้าก่อนเข้าแถวทาํ กจิ กรรมหนา้ เสาธง สถานศกึ ษาต้นแบบ ชุมชนอ่านสรา้ งสุข ๑๐๗ 

- กิจกรรมมหัศจรรย์ยามเช้าทั้งครูและนักเรียนอ่านหนังสืออย่างน้อยวันละ๑๐นาที ก่อนเข้าเรียน - กิจกรรมสามนาทมี สี าระเป็นการจัดกิจกรรมใหค้ วามรู้กับทกุ คนในโรงเรยี นเพอ่ื ไดร้ ับ ความรู้จากข่าวสารประจําวันโดยมีตัวแทนยุวทูตตัวแทนนักเรียนนําเสนอข้อมูลข่าวสารสาระน่ารู้ประจํา ทกุ วนั เกม/กิจกรรม - กิจกรรม Stars of knowledge เป็นกิจกรรมเก่ยี วกบั สุภาษิตสํานวนไทยทาํ คฑาดาว พร้อมติดหมายเลขในดาวท้ังสองด้าน นําซีดีท่ีใช้แล้วด้านหนึ่งติดตัวเลขอีกด้านหน่ึงวาดภาพสํานวนไทย นักเรียนอา่ นใบความรู้และจบั คฑาดาว เมอื่ ไดห้ มายเลขใดก็จับซีดีท่ีหมายเลขตรงกับคฑาดาว แล้วทายว่า เป็นสํานวนอะไรพร้อมบอกความหมายสํานวนไทย ใครตอบถูกจะมีตราดาวประทับเป็นคะแนนในสมุด บนั ทกึ - กิจกรรมแนะนําหนังสอื ดีที่น่าอา่ น... ผา่ นเฟสบคุ๊ เปน็ กจิ กรรมทใี่ หผ้ ู้เรียนยืมหนังสือ จากห้องสมุดไปอา่ น แลว้ เลือกวรรคทอง คําคมที่โดนใจ สะดุดใจ สร้างแรงบันดาลใจแนะนําผ่านเฟสบุ๊ค ของตน แลว้ เชญิ ชวนเพื่อนๆ มากดไลค์ หรือแสดงความคดิ เห็นเพ่ิมเติมสัปดาหล์ ะเล่ม - กจิ กรรมปลกู ฝงั น้องรักเป็นนักอ่านยุวทูตการอา่ นเชิญชวนน้องๆ เข้าห้องสมุดเพื่ออ่าน หนงั สือ แนะนาํ นอ้ งใหเ้ ขา้ รว่ มกิจกรรมสง่ เสรมิ การอ่านและเรียนรทู้ กุ กิจกรรมท่ีโรงเรียนจัดข้นึ บนั ทกึ การอา่ น - กจิ กรรมหนงั สอื เลม่ โปรดจากครูให้หนูอ่านเป็นกิจกรรมท่ีผู้บริหารครูและบุคลากร แนะนําหนงั สอื เล่มโปรดคนละ ๑ เล่มตอ่ ภาคเรยี น และคัดเลอื กเรื่องราวทีเ่ ปน็ ประโยชนใ์ หค้ วามรู้คนละ ๕ เร่อื งใหน้ กั เรยี นอา่ นในชว่ งเชา้ วันละ ๓๐ นาที และทําบนั ทึกการอา่ น - กิจกรรมลิขติ ขานบันทึกความเขียนบันทึกความรู้จากการอ่านลงในสมุด อาทิ ช่ือผู้ แตง่ ชอ่ื เร่ืองประเภทของหนงั สอื เรือ่ งย่อและขอ้ คิดเหน็ จากเรอื่ งทอ่ี า่ น - กิจกรรม Buddy Reading ใหน้ กั เรียนอา่ นหนังสือแลว้ ทําบนั ทึกการอ่าน โดยมีรุน่ พี่ ช่วยเหลอื ดูแลน้องและช่วยพาน้องอ่าน นกั เรียนช้ัน ป.6 คู่กับ ป.1 ชน้ั ป.5 คกู่ บั ป.3 ชน้ั ป.4 คกู่ ับ ป.2 - กิจกรรมยอดนักอา่ น นกั เรยี นอ่านหนงั สอื ทีเ่ ลือกแลว้ บนั ทกึ ลงในสมดุ บันทึกการอ่าน นําสมุดบนั ทกึ มาแลกแสตมป์กบั เจา้ หนา้ ท่ขี องห้องสมุด 10 เรอ่ื งแลกแสตมป์ได้ 1 ดวง สะสมได้ครบแล้ว นาํ มาแลกรับรางวัลและเกยี รตบิ ัตร ประกาศผลยอดนกั อา่ นทีบ่ อร์ดประชาสมั พันธ์ของห้องสมุดทุกสปั ดาห์ ๑๐๘ เปิดโลกอา่ นสรา้ งสขุ จากโรงเรยี นสชู่ มุ ชน

  สรา้ งสรรคผ์ ลงาน - กิจกรรมเล่าไป พับไปเป็นกิจกรรมท่ีโดยยุวทูตการอ่านเลือกหนังสือเป็นสื่อใน การถา่ ยทอดเรอื่ งราวและตอ่ ยอดดว้ ยการสร้างผลงานท่ีมคี ุณภาพและมคี วามคิดสรา้ งสรรค์ - กิจกรรมสรา้ งงานสร้างสขุ สนกุ กับการอา่ น(หนง่ึ สมองสองมือ) ให้นกั เรยี นอา่ นหนงั สอื ตามท่ีตนเองต้องการและนําความรู้ท่ีได้จากการอ่านมาผลิตช้ินงานเช่นการผลิตสื่อส่งเสริมการอ่านใน รูปแบบต่างๆ มีการประกวดช้ินงานท่ไี ดจ้ ากการอ่านและจัดแสดงผลงานท่ีหอ้ งสมุด ห้องสมดุ เคลื่อนท่ี - หอ้ งสมดุ เคลอื่ นท่ีภายในโรงเรียนยวุ ทูตการอา่ นนําหนงั สอื ใส่ตะกร้าไปวางไว้ตามจุด ตา่ งๆ ทกุ วนั ภายในห้องเรียนมีการประกวดมุมหนังสือทําให้นักเรียนมีความใกล้ชิดกับหนังสือและหันมา อ่านหนงั สือในเวลาว่างกันมากย่งิ ขึน้ - กิจกรรมรักการอ่านก้าวทันโลกให้นักเรียนศึกษาค้นคว้าข้อมูลจากแหล่งเรียนรู้ จากอนิ เทอร์เนต็ โดยฝึกใหอ้ ่านใน Facebook และสอดแทรกความรูท้ ุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ ละคร/การแสดง - กิจกรรมอ่านสนุกปลุกจินตนาการ เป็นกิจกรรมที่จัดในช่วงพักกลางวัน ยุวทูต การอา่ นจะนาํ เนอ้ื เร่ืองจากการอ่านหนังสือมาเลา่ หรอื แสดงบทบาทสมมุติ เมื่อเลา่ จบจะมขี อ้ คดิ จากเรื่องที่ ฟังและมีคําถามใหผ้ ้ฟู ังช่วยกนั ตอบ เสียงตามสาย - กิจกรรมเยาวชนยอดนักสืบให้นักเรียนค้นคว้าหาความรู้ด้วยตนเองโดยศึกษา จากแหล่งเรยี นรตู้ า่ งๆ เชน่ เอกสารตําราในห้องสมุดและอินเทอร์เน็ต เพ่ือตอบคําถามท่ียุวทูตการอ่านได้ ประชาสัมพันธ์ผา่ นเสียงตามสายในโรงเรยี น มีการจดั กิจกรรมสัปดาหล์ ะ 1 ครั้ง และมอบเกียรติให้เยาวชน ยอดนกั สืบประจําสปั ดาห์ คา่ ยสรา้ งสรรค์ - กิจกรรมคา่ ยพ่ีนอ้ งชวนกันรักการอา่ นมฐี านกิจกรรมตา่ งๆ ทีย่ วุ ทตู การอา่ นมสี ่วนรว่ ม ในกระบวนการจัดกิจกรรมในบรรยากาศทเี่ ปน็ กนั เองได้ทง้ั ความรู้ความสนกุ สนานความสมั พนั ธท์ ีด่ รี ะหว่าง พก่ี บั นอ้ ง - กิจกรรมเข้าค่ายหนังสือเล่มเล็กให้ทําหนังสือเล่มเล็กในทุกรายวิชาโดยมีครูผู้สอน ในรายวิชาต่างๆ ร่วมกันดูแลและมีนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 6 เป็นผู้คอยเป็นพ่ีเลี้ยงให้คําแนะนําและ ดแู ลการจดั ทํา สถานศึกษาต้นแบบ ชมุ ชนอ่านสรา้ งสุข ๑๐๙ 

- กจิ กรรมเขา้ ค่ายเยาวชนคนรกั หนงั สือเป็นการอบรมยุวทตู การอา่ นที่มาจากหอ้ งเรยี น ต่างๆ เพ่ือส่งเสริมนิสัยรักการอ่านและการเรียนรู้อย่างสร้างสรรค์ให้กับยุวทูตการอ่าน ให้สามารถจัด กิจกรรมส่งเสรมิ การอ่านได้อยา่ งเหมาะสมและสรา้ งสรรค์ - กิจกรรมสานสัมพันธ์แบ่งปันการอ่าน เป็นกิจกรรมพัฒนายุวทูตการอ่านให้รู้ถึง บทบาทหน้าท่ีของการเป็นยุวทูตการอ่าน และเรียนรู้วิธีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่านจากการปฏิบัติ กิจกรรมในฐานต่างๆ กิจกรรมบาํ เพญ็ ประโยชน์ - กิจกรรมหนังสือดี...ท่ีหนูรักขอบริจาคหนังสือดีๆ จากนักเรียนและครูแล้วยุวทูต การอ่านจะนําหนังสือที่ได้รับบริจาคมาจัดนิทรรศการแนะนําหนังสือดี...ท่ีหนูรัก โดยบอกถึงช่ือหนังสือ ผแู้ ตง่ เน้อื เรื่องโดยย่อประโยชนท์ ีไ่ ด้จากหนงั สอื และเชญิ ชวนเพื่อนๆ อ่านหนังสอื - กจิ กรรมแชทไดอ้ ่าน แชร์ได้บุญ เม่ืออ่านข้อความในเฟสบุ๊คและแสดงความคิดเห็น แลว้ ยงั สามารถชว่ ยกันแชร์ตอ่ ไปนอกกลุ่มสมาชกิ แลว้ ยงั ไดข้ ยายเร่ืองราวดๆี สผู่ อู้ า่ นต่อๆ ไป ๒. กจิ กรรมสง่ เสรมิ และสนบั สนนุ ให้เกดิ การอ่านสร้างสขุ ในโรงเรยี นและชุมชน/เครอื ขา่ ย บนั ทึกการอ่าน - กจิ กรรมครอบครัวสรา้ งสุขปลูกปัญญานาํ หนังสือไปให้ครอบครวั อา่ นแล้วบันทึกการ อา่ นร่วมกนั - อ่านแล้วกดแซทกดไลท์ได้กําไร...สร้างกุศลผู้เรียนอ่านหนังสือแล้วแนะนําให้ ญาติผู้ใหญอ่ า่ นหรืออา่ นใหฟ้ งั สรปุ ความแลว้ นาํ ขอ้ ความลงเฟสบุ๊ค เผยแพร่ แนะนาํ หนงั สอื ดที ี่น่าอา่ น - กิจกรรมเล่านิทานให้ลูกฟังผู้ปกครองเล่านิทานให้ลูกฟังและบันทึกการเล่าลงสมุด บันทึกการอ่านเก่ียวกับข้อคิดท่ีได้รับ สิ่งท่ีนํามาปรับใช้ในชีวิตประจําวัน แล้วให้เด็กนํานิทานมาเล่า แลกเปล่ยี นกบั เพ่ือนๆ ทกุ วันเสาร์ เกม/กจิ กรรม - กิจกรรมแรลล่ีเครือข่ายอ่านสร้างสุขจัดเป็นฐานความรู้โดยความร่วมมือของคน ในชมุ ชน - กิจกรรมคาราวานตวั หนอนสัญจรสร้างสุขเป็นการจัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่านนอก สถานที่ของยุวทูตส่งเสริมการอ่านในโรงเรียนระดับประถมศึกษาและในชุมชนเพ่ือให้คนในชุมชนเห็น ความสาํ คัญของการอา่ น ๑๑๐ เปดิ โลกอ่านสร้างสขุ จากโรงเรยี นสชู่ ุมชน

  - กจิ กรรมโคมตงุ ความรู้สู่ชุมชนจดั ทําแผ่นความรูต้ ่างๆ ติดในแต่ละด้านของโคมและ ใส่ในแต่ละช่องของตุงแลว้ นําไปประดบั ตามบา้ นหรือร้านคา้ ในชุมชนเพ่ือใหป้ ระชาชนในชมุ ชนไดอ้ ่านมีการ เปล่ียนแผน่ ความรทู้ กุ สัปดาห์ - Info graphic แฟ้มความร้“ู เปดิ เบิง่ เปดิ อา่ นเปดิ เบิ่ง” คัดเลือกเนือ้ หาและเร่ืองที่เป็น ประโยชน์ นาํ มาจดั ใสใ่ นแฟม้ ให้ผู้รับบรกิ ารไดอ้ ่านข้อมูลความรู้ เหมาะสาํ หรับผ้ทู ี่ไมช่ อบอา่ นขอ้ ความยาวๆ ภาพสสี นั สวยงามและข้อความสน้ั ๆ ใน Info graphic สามารถเชิญชวนใหอ้ ยากอา่ นทงั้ เดก็ และผ้ใู หญ่ หอ้ งสมุดเคลื่อนที่ - กจิ กรรมยอดนักอา่ น ยวุ ทูตการอ่านและนกั เรยี นยืมหนงั สือจากห้องสมดุ ไปให้บคุ คล ต่างๆ ในครอบครัว ชมุ ชน ไดอ้ ่านตามความตอ้ งการของชมุ ชน - กิจกรรมกระเป๋าหนังสือสู่ชุมชนยุวทูตการอ่านนําหนังสือที่น่าสนใจและตรงความ ตอ้ งการไปให้บรกิ ารตามจุดตา่ งๆ ในหมู่บ้าน หากตอ้ งการหนงั สอื เพมิ่ เตมิ กส็ ามารถแจ้งแกย่ วุ ทูตการอา่ นได้ จะไดน้ าํ ไปบรกิ ารในคร้ังตอ่ ๆ ไป - กิจกรรมหนึ่งต่อห้าพากันอ่านยุวทูตการอ่านหน่ึงคนต้องหาคนอ่านหนังสือที่อยู่ใน ชุมชนห้าคน ซง่ึ ยุวทูตจะเปน็ ผู้ดูแลอยา่ งใกลช้ ิด คอยนาํ หนังสือจากห้องสมดุ ของโรงเรียนไปบริการถึงบ้าน ผอู้ า่ น - โครงการหนังสือตดิ ล้อ นาํ สื่อออกบริการเคลือ่ นท่ีส่ชู มุ ชนในรปู แบบรถจักรยานยนต์ พ่วงข้างนําสื่อ หนังสือ วารสาร นิตยสาร และกิจกรรมส่งเสริมการอ่านออกให้บริการประชาชน กล่มุ เปา้ หมายในชุมชนทกุ สถานท่ี กจิ กรรมบาํ เพ็ญประโยชน์ - กจิ กรรมอ่านสร้างสรรค์แบ่งปันคนตาบอด เป็นกิจกรรมท่ีให้นักเรียนอาสามาอ่าน หนงั สือให้คนตาบอดฟัง ผ่านแอพพลเิ คชัน่ Read for the Blind - กจิ กรรม“แม่อา่ น ลูกอิม่ ”จดั หาและเลอื กซ้อื หนงั สอื ท่ีเหมาะกับเด็กปฐมวัย แล้วนํา หนงั สือไปมอบใหค้ รอบครัวเดก็ ปฐมวยั ครอบครวั ละ5 เล่ม โดยเปน็ ครอบครวั ทพี่ ่อแมผ่ ู้ปกครองพร้อมท่จี ะ อา่ นหนังสอื ให้บุตรหลานฟงั - ธนาคารหนังสือ Book Bank กิจกรรมรับฝากหนังสือเพื่อให้สมาชิก Book Bank ท่านอนื่ ๆ สามารถยืมไปอ่านใหเ้ กิดประโยชน์ได้และสมาชกิ เจา้ ของหนังสือสามารถถอนหนังสือกลับคืนได้ ตามความต้องการ สถานศึกษาต้นแบบ ชมุ ชนอ่านสรา้ งสขุ ๑๑๑ 

มุมอ่านสรา้ งสุข - กิจกรรมชน้ั หนังสอื สู่ประตูบา้ นเปน็ การสร้างสภาพแวดล้อมท่สี ง่ เสริมการอา่ นในบา้ น เช่น การซ้ือหนังสือให้ลูกอ่าน พ่อแม่ใช้เวลาวันละประมาณ ๒๐ นาที อ่านหนังสือกับลูกท้ังที่บ้านและที่ โรงเรียน - กิจกรรมมุมหนังสือบ้านอัจฉริยะเป็นกิจกรรมจัดทํามุมหนังสือในชุมชนโดยความ รว่ มมือจากครู กศน. นกั ศึกษา กศน. และยุวทูตการอ่าน ซ่ึงในแต่ละจุดที่มีมุมหนังสือจะมีนักเรียน กศน. หรอื เจ้าของสถานท่เี ป็นผ้ดู แู ล - กจิ กรรมครอบครัวนักอ่านให้ผู้ปกครองจัดมุมหนังสือในบ้านสร้างพ้ืนที่การอ่านให้ เกิดขน้ึ และนาํ หนังสอื จากโรงเรียนสู่บ้านอยา่ งนอ้ ย 3 เลม่ ตอ่ สัปดาห์ เสียงตามสาย - กิจกรรม Sound of Knowledge (เสยี งจากหนงั สอื ) จดั กจิ กรรมเสียงตามสายเพื่อ แนะนําหนงั สือและเกรด็ ความร้ตู ่างๆ ที่น่าสนใจผ่านทางสถานวี ทิ ยุในหมู่บ้าน - กิจกรรมดเี จนอ้ ยกระจายขา่ วสู่ชุมชนยุวทูตนําเสนอข่าวสารความรู้ที่น่าสนใจให้กับ คนในชุมชนได้รับรู้ข่าวสารและทันต่อเหตุการณ์ปัจจุบัน กระตุ้นให้คนในชุมชนท่ีฟังข่าว สนใจติดตาม ขา่ วสาร ค่ายสร้างสรรค์ - กิจกรรมอบรมทูตการอ่าน จัดอบรมเชิงปฏิบัติการแก่ผู้มีจิตอาสาฯ ทั้งนักศึกษา กศน. และประชาชนท่ัวไปท่ีมีจิตอาสาในการส่งเสริมการอ่าน ขยายผลยุวทูตการอ่านที่มีอยู่เดิมให้เพิ่ม มากข้นึ สรา้ งสรรค์ผลงาน - กจิ กรรมเกมพ้ืนบ้าน ผู้เฒ่าผู้แก่ในชุมชนถ่ายทอดความรู้การประดิษฐ์ของเล่นจาก วสั ดทุ ้องถิ่น เชน่ กอ๊ ปแกป๊ โกงกางมา้ ก้านกล้วย ปนื กา้ นกล้วย โทรศพั ทก์ ระป๋อง นทิ รรศการ - นิทรรศการคุยเฟ่ืองเรื่องผ้าและแนวกินอีสาน ทูตการอ่านและเครือข่ายจัด นทิ รรศการเร่ืองคยุ เฟื่องเร่อื งผ้าและแนวกินอีสาน ผู้มาชมนิทรรศการอ่านข้อมูลความรู้ ดูการสาธิต และ เรยี นรูส้ กู่ ารปฏิบัติ ๑๑๒ เปิดโลกอา่ นสรา้ งสุขจากโรงเรียนสชู่ ุมชน

  ๒. ลกั ษณะของโครงการและกิจกรรมสง่ เสรมิ การอา่ นทปี่ ระสบผลสําเรจ็ ๑) มกี ารเชื่อมโยงการอ่านเข้าไปกับกิจกรรมอ่ืนได้อยา่ งกลมกลืน ไม่ได้มุ่งไปทเ่ี รอื่ งการ อ่านโดยตรงแต่ดําเนินการผ่านกิจกรรมอื่นๆ ท่ีผู้เข้าร่วมกิจกรรมสนใจอยู่ก่อนหรือมีความหมายกับ กลุ่มเปา้ หมาย แล้วจงึ โยงการอ่านเขา้ มาเกยี่ วขอ้ งกับกิจกรรมทผ่ี ู้เขา้ รว่ มกจิ กรรมชน่ื ชอบหรอื สนใจอยแู่ ลว้ ๒) กิจกรรมมีความเหมาะสมตามลักษณะเฉพาะของกลุ่มผู้เข้าร่วมกิจกรรม มีการ วิเคราะหบ์ ริบทเพอื่ ออกแบบกจิ กรรมเฉพาะกล่มุ ๓) กิจกรรมส่งผลทางจิตใจแก่กลุ่มเป้าหมาย เช่น ความเพลิดเพลิน สุขใจ ภูมิใจ โดยเฉพาะในกลุ่มเปา้ หมายท่ีไม่คุ้นเคยกบั การอ่านหรือเห็นว่าการอ่านเปน็ เรือ่ งนา่ เบอื่ มากอ่ น ๔) มกี ารเช่อื มโยงการอ่านเขา้ กับกจิ กรรมของชุมชน ๕) กิจกรรมทําให้เกดิ การเปลย่ี นแปลงด้านการอ่านและการเรียนรู้ไปในทางที่ดีขึ้นแก่ กลุ่มเป้าหมายหรอื ผู้เขา้ ร่วมกิจกรรม ๖) เป็นกิจกรรมท่ีคํานึงถึงธรรมชาติการเรียนรู้ ความสนใจ ความต้องการ ความสามารถและบริบทของกลมุ่ เป้าหมายเป็นสําคญั ๗) กิจกรรมมีความท้าทายในระดับท่ีกลุ่มเป้าหมายสามารถทําได้สําเร็จ เกิดความ ภาคภมู ใิ จ อาจมรี างวลั ใบประกาศเกียรติคุณ บ้างตามสมควร ๘) เป็นกิจกรรมที่ผู้ปกครองและครอบครัวมีส่วนร่วมในกิจกรรมตามกําลัง ความสามารถ ๙) เป็นกจิ กรรมท่คี รแู ละนักเรยี นรว่ มกนั วางแผน ลงมอื ปฏิบตั ิ ตดิ ตามและประเมนิ ผล กิจกรรมรว่ มกนั ๑๐) เปน็ กจิ กรรมทีย่ ุวทตู การอ่านสามารถขบั เคลอ่ื นกิจกรรมดว้ ยตนเองโดยมีครูเป็น ผู้สนับสนนุ ๑๑) เป็นกจิ กรรมทสี่ อดคลอ้ งกับวถิ ีการดําเนินชีวิตของกลุ่มเป้าหมาย ไม่ใช่งานใหม่ หรือเป็นภาระ ๓. บทบาทของชุมชนยวุ ทตู / ทตู การอ่านและสถานศึกษาต้นแบบในการหนุนเสริมให้ เกดิ นครแห่งการอ่านทีใ่ ช้แนวคิด“อา่ นสรา้ งสุข” เพือ่ พฒั นาศักยภาพเด็กเยาวชนและประชาชน ในพ้นื ท่ี ผูป้ กครอง : ให้การสนบั สนนุ การสง่ เสริมการอ่าน โดยจดั มุมรกั การอ่านเป็นการสรา้ ง สภาพแวดล้อมท่สี ่งเสริมการอา่ นในบา้ นพ่อแม่อ่านหนังสอื ให้ลกู ฟงั หรืออา่ นหนงั สือร่วมกบั ลกู ทง้ั ทบ่ี า้ นและ ท่ีโรงเรยี นการซือ้ หนงั สอื ใหล้ ูกอ่าน ใช้เวลาวันละประมาณ ๒๐ นาที ในการอา่ นหนังสอื กบั ลกู ส่งเสริมบุตร หลานและเยาวชนใหอ้ า่ นหนงั สืออย่างตอ่ เน่ือง สมาํ่ เสมอและให้ความร่วมมอื ในทุกกจิ กรรมของโรงเรียน สถานศกึ ษาต้นแบบ ชมุ ชนอา่ นสร้างสขุ ๑๑๓ 

ชมุ ชน : ชมุ ชนใหค้ วามร่วมมือในการดาํ เนนิ งานเครอื ข่ายการส่งเสริมการอา่ นร่วมจัด กิจกรรมและประสานความร่วมมือกับคนในชุมชนและองค์กรภาครัฐ เอกชนและภาคประชาสังคมอย่าง ตอ่ เนอ่ื งให้การสนบั สนุนการจดั ทาํ มมุ หนังสอื ในชุมชน ช่วยจดั เกบ็ สถิติการอ่านสนับสนุนงบประมาณและ ของรางวลั พฒั นาแหล่งเรียนรใู้ นชุมชนเพ่อื การสืบสานภูมิปัญญา ครู : เปน็ ตวั อย่างในการสรา้ งนิสยั รกั การอ่านใหแ้ ก่เดก็ มีความร้เู ท่าทนั ความก้าวหนา้ ของเทคโนโลยีสามารถนําเทคโนโลยีมาปรบั ใช้ในการสง่ เสริมการอ่านมกี ารพัฒนาการจัดกิจกรรมส่งเสริม การอ่านและผลิตสื่อในการส่งเสริมการอ่านท่ีหลากหลายจัดหาหนังสือดีที่น่าอ่านสื่อใหม่ที่น่าสนใจ จัด บรรยากาศหอ้ งสมุดและแหลง่ เรยี นรู้ในสถานศึกษาให้เอ้ือต่อการเรียนรู้ พัฒนาห้องสมุดให้เป็นห้องสมุด ต้นแบบของแหล่งเรยี นรู้ที่ทนั สมัยสร้างสรรคแ์ ละมชี วี ิตชีวาการพัฒนากิจกรรมท่ีเกิดจากความต้องการของ นักเรยี นและชมุ ชนอยา่ งแทจ้ ริงวางแผนการดําเนนิ งานในชุมชนเพื่อสร้างต้นแบบด้านการอ่านให้เห็นอย่าง เป็นรูปธรรมและนาํ ไปสกู่ ารปฏิบตั ิในชมุ ชน ส่กู ารเป็นชุมชนอ่านสร้างสขุ ผูบ้ รหิ าร : ใหค้ วามสําคัญและใหก้ ารสนับสนุนการส่งเสริมการอา่ นเปน็ นโยบายสาํ คญั อย่างต่อเนือ่ งสม่ําเสมอจัดหางบประมาณสนบั สนุนการอ่านและจดั ซอ้ื สอื่ ไอทีเพอื่ ให้บรกิ ารแก่นักเรียนและ บุคลากรกําหนดแผนในการดําเนินงานระยะยาวระหว่างสถานศึกษากับเครือข่ายมีการติดตามเป็นระยะ อย่างตอ่ เนือ่ ง บริหารจัดการให้มกี ารทํางานเชิงบรู ณาการในการลงไปทาํ กจิ กรรมในชุมชน ยวุ ทูตการอ่าน : รู้บทบาทและหน้าทขี่ องตนเอง ออกแบบและจัดกจิ กรรมส่งเสริมการ อ่านทีน่ า่ สนใจ สอดคล้องกบั สภาพปญั หาของชุมชนจงู ใจใหค้ นสนใจการอ่านและอยากมสี ว่ นรว่ ม เชญิ ชวน ใหผ้ ้อู นื่ เหน็ ความสําคญั และรกั การอา่ นขยายจาํ นวนยุวทูตการอ่านใหม้ จี าํ นวนเพม่ิ ขน้ึ และให้มีส่วนร่วมใน การทาํ กจิ กรรมในชุมชนอย่างทั่วถึง ๔. บทเรียนความสําเรจ็ และเคล็ดลบั ความสําเรจ็ /เคล็ดลบั ในการทํางาน เจ้าของบทเรียนไดก้ ล่าวถงึ ประสบการณ์ของตน ดังนี้ - ทงั้ ผูบ้ รหิ าร ครู ผ้นู าํ ชุมชนและนกั เรียนยุวทูตการอ่านต้องทําตัวเป็นแบบอย่างใน การลงมอื ทําจริง เรียนรจู้ ริง พร้อมเปิดรับแนวคดิ ใหม่ในการจัดกจิ กรรม - สร้างเครือขา่ ยความร่วมมอื โดยดึงชุมชนเขา้ มามีสว่ นรว่ ม - ศึกษาความตอ้ งการของกลุ่มเป้าหมายว่าสนใจอ่านหนังสือประเภทไหน สนใจทํา กจิ กรรมอะไร - จุดประกายความคิดใหค้ ิดและทําในส่ิงท่ีดีเพ่ือเผยแพร่ให้กับนักเรียนในโรงเรียน/ คนในชุมชน - รู้จกั ขอความชว่ ยเหลอื เช่น ขอบริจาคหนงั สือ ขออาสาสมคั รช่วยงาน ๑๑๔ เปิดโลกอา่ นสรา้ งสขุ จากโรงเรยี นสู่ชุมชน

  จงึ จะสนใจ - การออกแบบกิจกรรมตอ้ งสรา้ งความประทบั ใจในกิจกรรมกจิ กรรมตอ้ งสนุกทุกคน ปากต่อปาก - การแนะนาํ หรอื เลือกหนงั สอื ดใี ห้เพอื่ นอา่ น เมื่ออา่ นแลว้ ดแี ละเห็นดีดว้ ยจะบอกตอ่ - ในการจดั กจิ กรรมอาจมขี องรางวัล ใบประกาศเกยี รติคณุ เป็นแรงจงู ใจบ้างบางครงั้ - เปดิ โอกาสและเปิดพืน้ ทใ่ี หแ้ สดงความสามารถ แสดงความคดิ เหน็ ส่ือสารสงิ่ ท่ที ํา - สร้างขวัญและกาํ ลงั ใจให้ตัวเองและเพ่อื นรว่ มงานเสมอ ๕. ส่งิ ท่ีได้เรียนรจู้ ากการเขา้ รว่ มโครงการ/สิ่งทค่ี ้นพบ การพัฒนาตนเอง การเขา้ รว่ มโครงการฯทาํ ให้ไดร้ บั ความรจู้ ากการอบรมเชงิ ปฏิบัติการและจากการจัด กิจกรรมสง่ เสริมการอา่ นตา่ งๆ ทง้ั ในโรงเรียนและในชุมชน ทําให้ยุวทูตการอ่านได้พัฒนาตนเองให้เป็นคน กล้าคดิ กลา้ พูด กลา้ ทาํ กลา้ แสดงออก มีความอดทนตอ่ ความยากลาํ บากและอปุ สรรคตา่ งๆ และรูจ้ ักใช้วิธี แก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ รู้จักคิดวิเคราะห์ วางแผนและหาทางแก้ปัญหาอย่างมีประสิทธิภาพ มีความ รับผดิ ชอบทั้งต่อตนเองและผู้อืน่ รจู้ ักบทบาทการเปน็ ผนู้ าํ และผ้ตู ามทดี่ ีเรยี นรทู้ ่จี ะทํางานเป็นทีม ช่วยเหลอื กันอย่างกลั ยาณมิตร อา่ นหนงั สือคล่องข้นึ สามารถจับประเด็นหรือใจความสาํ คัญของเรอ่ื งท่ีอ่านได้ และมี นสิ ยั รกั การอ่าน ความร้สู กึ /ความตระหนัก ทูต/ยุวทตู การอ่านและคณะทาํ งานเหน็ ความสาํ คญั ประโยชนแ์ ละคุณค่าของการอ่าน สนุกกับการอ่านท่ีทาํ ให้รู้ศัพทท์ ่ีไมเ่ คยรูไ้ มเ่ คยได้ยนิ มากอ่ นและพบว่ามีความสขุ จากการอา่ น มคี วามอม่ิ เอิบ ใจความสุขใจเม่อื เห็นทกุ คนมีความสุขและมีกาํ ลังใจมากขึ้นจากการท่ไี ด้เข้าไปจัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่าน อยากสนับสนุนการอ่านให้กบั คนรอบขา้ งและบุคคลท่ัวไปทุกครั้งท่ีมีโอกาส และเกิดแรงบันดาลใจในการ เป็นนกั เขยี น เพราะการเขยี นทําให้ได้ใชจ้ ินตนาการและความรู้สึกท่ีต้องการสื่อให้ผู้อ่านเข้าใจถึงเร่ืองราว ทเ่ี ขียน ส่ิงท่ไี ดเ้ รียนร้แู ละแนวทางแก้ไขปัญหา - อุปสรรคทเ่ี กดิ ข้ึน - การนาํ เทคนิควธิ กี ารที่ไดร้ ับจากการอบรมมาปรับใช้กับพ้ืนที่ของตนเองได้การนํา ทักษะความรู้ทไ่ี ด้รบั ไปขยายผลกบั เด็ก เยาวชน นักศึกษา ผสู้ นใจ - การเชิญชวนให้เด็กและเยาวชนให้หันมาสนใจการอ่านหนังสือและจัดกิจกรรม สง่ เสริมการอ่านให้กล่มุ เปา้ หมายได้เรยี นรจู้ ากการอ่านถอื ว่าเปน็ การทําบญุ ที่ดี สถานศึกษาต้นแบบ ชุมชนอา่ นสร้างสุข ๑๑๕ 

- เมอ่ื หนงั สือไม่เพียงพอกับความต้องการ แก้ปัญหาโดยการเชิญชวนให้คนบริจาค หนงั สอื ขอรบั บรจิ าคหนังสือทไ่ี ม่อ่านแลว้ จากนกั เรียนและผ้ปู กครอง เพื่อนาํ มาใหเ้ ด็กนักเรียนในโรงเรียน และคนในชมุ ชนไดอ้ า่ นต่อไป - การทีเ่ ยาวชนไมส่ นใจการอา่ น สนใจสือ่ เทคโนโลยมี ากกว่า แกป้ ัญหาโดยการสร้าง บรรยากาศทด่ี ีในการอ่าน ทาํ การอา่ นให้เปน็ เรื่องง่าย สนกุ นา่ สนใจ - การนําความรทู้ ่ไี ดจ้ ากการอา่ นมาเป็นแนวทางในการแกป้ ัญหาต่างๆ - การอ่านทาํ ใหเ้ กดิ ความเพลิดเพลนิ และได้ใช้เวลาวา่ งให้เปน็ ประโยชน์ - นักเรียนต้องเรียนและทํากิจกรรมต่างๆ ทําให้มีเวลาค่อนข้างจํากัด แก้ปัญหา โดยการหาเวลาว่างหรือเวลาพักกลางวันให้นักเรียนในโรงเรียนได้มีเวลาทํากิจกรรมร่วมกันในการอ่าน หนงั สอื อย่างน้อยวนั ละ ๓๐ นาที และนําการอ่านสอดแทรกเขา้ ไปในกิจกรรมท่ีทางโรงเรยี นจัดข้นึ - การจดั กจิ กรรมในวันเสาร์-อาทติ ย์ นักเรยี นท่บี ้านไกลไมส่ ามารถมาร่วมกิจกรรมได้ เน่ืองจากตอ้ งขน้ึ รถรับ-ส่ง แกป้ ญั หาโดยการเล่ียงการจัดกิจกรรมในวันเสาร์อาทติ ย์ แต่หาเวลาว่างอื่นๆ มา จดั กจิ กรรมใหก้ บั เดก็ นกั เรียน เชน่ เวลาพักกลางวัน - ได้เรยี นรแู้ ละเห็นมุมมองความคิดทแ่ี ตกต่างหลากหลายของแต่ละบุคคล ซง่ึ บางคน อา่ นหนงั สอื ไมอ่ อกแต่กย็ ังพยายามท่ีจะอ่านหนังสือให้ได้ แตกต่างจากบางคนที่อ่านหนังสือออกแต่กลับ ไมใ่ หค้ วามสนใจในการอ่าน การปลกู ฝังใหม้ ีนสิ ัยรักการอา่ นดว้ ยความจริงใจและจรงิ จัง ทําให้เด็กที่ไม่ชอบ อา่ นหนังสือหันมาอา่ นหนังสอื - นําความรู้ท่ไี ด้จากการเข้าร่วมโครงการฯ รวมถึงกจิ กรรมท่ีองค์กรและสถานศึกษา จดั ขึ้นไปประยกุ ตใ์ ช้ในทางท่ีดีงามถกู ตอ้ งเหมาะสม และพัฒนาบ้านเกิดตนเอง - ทําให้เยาวชนท่มี พี ฤตกิ รรมไม่พึงประสงค์หันมาศกึ ษาเลา่ เรยี น เป็นตัวแทนแข่งขัน ในดา้ นต่างๆ - เรียนรู้วิธีการสร้างเครือข่าย โดยชักชวนเพื่อนๆ ที่รักการอ่านเหมือนกันมาเป็น เครอื ขา่ ย ๑๑๖ เปิดโลกอ่านสร้างสุขจากโรงเรยี นสชู่ มุ ชน

  พิธีมอบถ้วยรางวัลพระราชทานสมเดจ็ พระเทพรตั นราชสดุ าฯ สยามบรมราชกมุ ารี และมอบธงสญั ลกั ษณ์ “นครแหง่ การอ่าน” วันที่ ๓ เมษายน ๒๕๕๘ ณ หอ้ งโลตัส ศนู ยป์ ระชมุ แห่งชาตสิ ิรกิ ติ ิ์ เปิดเวทีอ่านสร้างแรงบันดาลใจ การอา่ นเพ่อื สร้างแรงบนั ดาลใจ “ชวี ติ กระทบชวี ิต” จากชีวิตคนๆ หนึง่ เพ่ือผลกั ดนั ชวี ติ หลายๆ คน โดย ดร.กุลชาตจิ ลุ เพญ็ : ไลต่ งจน้ิ เมืองไทย ด็อกเตอรจ์ ากกองขยะ ประเดน็ สาํ คัญ การอา่ นเปน็ แนวทางการดําเนินชวี ติ ต้องพยายามทําให้ดีทสี่ ดุ ฉะนน้ั คาํ พดู ทว่ี ่า “ทาํ ดที ส่ี ดุ แลว้ ” คอื คาํ พดู ท่ีทําให้คุณ “หยุดความพยายาม” เวลาสอนเด็กไม่ ควรตัดสนิ ด้วยคะแนน หกั คะแนนไม่เรือ่ ยๆ แต่ควรเปดิ โอกาสให้เดก็ ได้แกไ้ ขสิ่งท่ีตน ทําจนถูกต้องทั้งหมดแลว้ คอ่ ยใหค้ ะแนนคอื สอนแตส่ ่งิ ทถี่ กู น่ันเอง ตนเองมชี วี ติ ที่เลอื กเกิดไม่ได้ เติบโตมาจากครอบครัวที่แตกแยก ย้ายออก จากบา้ นทําให้ชวี ิตขาดทพี่ ึง่ พบปัญหาและอุปสรรคมากมาย กลายเป็นคนท่ีมีชีวิต อิสระ ไมส่ นใจเรื่องใดๆ เอาแตเ่ ลน่ เทย่ี วกบั เพอื่ น ไม่เรียนหนังสอื ใชช้ วี ติ อยู่เชน่ นัน้ ได้ไม่นานก็กลับมาอยู่กับแม่ แม่เป็นผู้ให้ชีวิตอีกครั้ง ครอบครัวทําอาชีพเก็บขยะ ยากจนแตจ่ นยาก เป็นชีวิตหาเช้ากินค่ํา เมื่อกลับมาอยู่กับแม่จึงทําให้ได้เรียนรู้ว่า การหนปี ัญหาไมไ่ ดแ้ ก้ปญั หา ขอ้ ดีของความเศร้าคือการด้ินรนหาความสุข จากน้ันมาก็ได้เปลี่ยนความคิด เมอื่ เปลีย่ นความคิดชีวิตก็เปลี่ยน จุดเปลี่ยนของชีวิต เร่ิมแรกคือคิดไปเรียนการไม่โทษชะตาและยอมรับ ความจริง รจู้ ักครองตน ศกึ ษาหาความรู้ เพ่อื เอาปัญญาไปต่อสชู้ ีวติ เป็นหนทางท่ีดที ่สี ุด การศึกษา การอ่านสร้างจินตนาการและวิจารณญาณ การเรียนรู้คือประตูสู่ความสําเร็จ จงมุ่งมั่น เพ่ือให้ถึงจุดมุ่งหมาย โอกาสมาพร้อมกับภาระและความรับผิดชอบเสมอ ความกลัวทําให้คุณคุมขัง ความรู้สึกนึกคิดของตนเอง แต่ความหวังจะทําให้คุณเป็นอิสระ เคยได้เข้าไปให้ความรู้กับคนท่ีถูกคุมขัง เราตอ้ งให้กาํ ลงั ใจคนเหล่านัน้ เขาถงึ จะรู้สึกวา่ ตนเองมอี สิ ระในดา้ นความคิด จิตใจ แมร้ ่างกายจะถูกคมุ ขงั “ขยะนอ้ ยค่านกั แต่ใชว่ า่ จะด้อยราคา” คนท่ีมีอาชีพเก็บขยะก็สามารถดํารงชีวิตอยู่อย่างคนดีได้ ความพยายามตอ้ งทําเรอ่ื ยๆ จึงจะประสบความสําเร็จ เราตอ้ งฝันให้ไกลแล้วไปให้ถึงหรือฝันใกล้ๆ แล้วไป ทีละก้าวอย่างมัน่ คง อย่าสิ้นหวงั หากยงั มชี วี ติ อยบู่ นโลกร้มู ากรูน้ ้อย ยังไม่เท่ารู้ถูก รู้ผิด ต้องแข่งกับตนเอง ให้ได้ ฉะน้นั ถ้าอยากเปน็ มอื อาชพี ต้องฝกึ ฝน ต้องศึกษาหาความรู้ ตอ้ งอา่ นมากๆ จุดสุดยอดของชีวิต ไม่ใช่ จุดสิน้ สุดของชีวิต ชีวติ ต้องเดนิ ตอ่ ไปขา้ งหนา้ เร่ือยๆ คติประจําใจ คอื ซอื่ สตั ย์ กตัญญู รู้คุณคน ข้อคดิ ประจําตวั คอื คิด ทํา นาํ เสนอ ถา้ ทําได้เช่อื ว่าทุกคนจะประสบความสําเรจ็ ในชีวติ สถานศกึ ษาต้นแบบ ชุมชนอ่านสรา้ งสุข ๑๑๗ 

ปฏบิ ตั กิ ารสง่ เสริมการอา่ น “คบเดก็ สร้างภาพ : เวที Ignite Best Practice” ถว้ ยรางวลั พระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เลา่ เร่อื งโดย : ยุวทูตการอ่านจากสถานศกึ ษาทไ่ี ดร้ บั รางวัลชนะเลิศ เล่าภาพโดย : นกั การ์ตูนวัยรนุ่ ชือ่ ดงั เลา่ ดนตรโี ดย : ด.ช.พลศิษฎ์ โสภณสริ ิ (นอ้ งโอม) รางวัลชนะเลศิ การประกวด SET เยาวชนดนตรแี หง่ ประเทศไทย ครั้งท่ี ๑๗ ดําเนินรายการโดย : นายวรชั ญ์ วานิชวัฒนากุล ผูป้ ระกาศขา่ วสถานโี ทรทัศน์ NBT เร่อื งที่ ๑ นางสาวเนตรทราย ธรรมสตั ย์โรงเรียนนารีนุกลู ๒ เลา่ เร่ืองโดย จงั หวดั อบุ ลราชธานี เลา่ ภาพโดย สํานักงานคณะกรรมการการศกึ ษาขัน้ พนื้ ฐาน (สพฐ.) เล่าดนตรโี ดย นายเอกรฐั มิลินทะภาส (หนู ฟอร์มาลนี ) เด็กชายพลศษิ ฎ์ โสภณสิริ เร่ืองเล่าเรา้ พลัง จดุ เริ่มตน้ ของการเป็นยวุ ทตู การอ่าน เรม่ิ แรกตนเป็นคนไม่ชอบอ่านหนังสือ แต่เม่ือได้เข้ามาร่วม กิจกรรมของห้องสมุด อบรมยุวทูตการอ่าน ก็ทําให้รู้จักหนังสือ สื่อให้คนภายนอกได้รู้จักหนังสือด้วย การแนะนําหนงั สือ การท่เี ราจะแนะนาํ หนังสอื ให้คนภายนอกรู้จกั เราตอ้ งอา่ นก่อน กิจกรรมเดน่ ที่ทําคอื กจิ กรรมคาราวานตวั หนอนสัญจรสรา้ งสุข เปน็ กจิ กรรมท่ีทํานอกโรงเรียนกับ โรงเรยี นเครอื ขา่ ยและชุมชนใกลเ้ คยี ง ลกั ษณะของกิจกรรมก็จะมีการเลา่ นิทาน การฝกึ การเป็นผู้นํา การทาํ หนังสือเล่มเล็ก การนําส่งิ ท่ีเราอ่านหรอื รูม้ าแบง่ ปันใหก้ บั เด็ก เปน็ ต้น การทํากิจกรรมทาํ ให้เรามีความคิดริเร่ิมสร้างสรรค์ เป็นการทําจากใจ ต้องเสียสละเวลาส่วนตัว เราเปน็ คนทาํ เราก็มีความสุข ซึ่งมีคุณครูคอยเป็นกําลงั ใจให้การเป็นยวุ ทตู การอ่านทําใหไ้ ดร้ ับโอกาสเป็นนกั จดั รายการวิทยกุ ระจายเสียงอกี กจิ กรรมคือส่อื สง่ เสริมการอา่ นหนึ่งสมองสองมือ กิจกรรมน้ีต้องอ่านก่อน แลว้ จึงนําความรู้ท่ไี ด้มาจดั ทาํ สื่อตอ้ งขอขอบคุณคุณครทู ่มี อบโอกาสและประสบการณด์ ๆี มากมาย หนู ฟอรม์ าลีน นกั วาดการ์ตนู ชอื่ ดัง มอบภาพเขยี นจากเรอื่ งเล่า “การอ่านหนังสือ เปดิ โอกาสสง่ ตอ่ ความรสู้ ูช่ ุมชน/เครอื ข่าย” แก่ทตู การอ่าน นางสาวเนตรทราย ธรรมสัตย์ ๑๑๘ เปดิ โลกอา่ นสร้างสขุ จากโรงเรยี นสู่ชมุ ชน

  เรอ่ื งท่ี ๒ เดก็ หญิงวรรณพร แกว้ วนั นา โรงเรยี นเทศบาลบรู พาอบุ ล จงั หวัดอบุ ลราชธานี เล่าเร่ืองโดย กรมสง่ เสรมิ การปกครองทอ้ งถิ่น (สถ.) นายไตรภคั ศุภวัฒนา (หม)ู เล่าภาพโดย เด็กชายพลศิษฎ์ โสภณสิริ เลา่ ดนตรโี ดย เรอ่ื งเล่าเรา้ พลัง ความประทับใจกิจกรรมของห้องสมุด กิจกรรมแรกคือ กิจกรรมถนนคนเรยี น กิจกรรมนจี้ ะเป็นกิจกรรมที่ทกุ กลุ่มสาระจะนํา กิจกรรมมารวมอย่บู นถนนสายเดียวกนั กจิ กรรมจะมที กุ เดือน แตล่ ะเดือนจะมีเนอ้ื หาของกจิ กรรมไม่ซํา้ กัน ส่วนใหญ่จะเปน็ กจิ กรรมท่ีทุกคนต้องอ่านก่อนถึงจะตอบปัญหาได้ ทุกคนที่เข้าร่วมกิจกรรมจะได้รับของ รางวลั ตอบแทนกิจกรรมเหล่าน้ที ําให้คนที่ไม่ชอบอ่านปรับเปลี่ยนพฤติกรรมหันมาสนใจการอ่าน และยัง สรา้ งวนิ ัยใหก้ บั ตนเองยวุ ทตู การอ่านทเ่ี ข้ารว่ มกิจกรรมบอ่ ยครัง้ จะไดร้ บั แจกผา้ พันคอสมี ่วง ทาํ ให้หลายคน มกี ําลงั ใจในการเข้าร่วมกิจกรรม สิ่งหนึ่งทส่ี ําคัญตอ่ การอ่านคอื บรรยากาศทีเ่ ออ้ื ตอ่ การอ่าน ถ้าบรรยากาศไม่เอื้อต่อการอ่านก็ไม่มี ใครอยากอ่าน มีการเปิดพื้นที่ให้คนในชุมชนศึกษาหาความรู้ สถานศึกษาเป็นต้นแบบอ่านสร้างสุข อกี กิจกรรมคอื กิจกรรมพาเดก็ อา่ น ทาํ หุ่นมอื นอกจากน้ียงั มีกิจกรรมท่นี ําเอาคา่ นิยม ๑๒ ประการเข้ามาไว้ ในกิจกรรมด้วย มีการทาํ ต้นไมแ้ หง่ ความดที ้งั หมดนที้ าํ ให้โรงเรียนมียุวทตู การอ่านเพ่มิ ขนึ้ หมู ไตรภัค นักวาดการ์ตนู ชื่อดงั มอบภาพเขียนจากเรือ่ งเลา่ “การอ่านทาํ ให้คนเปล่ียนแปลง เสน้ ทางการอา่ น เสน้ ทางความร้”ู แก่ยุวทูตการอา่ น เด็กหญงิ วรรณพร แก้ววันนา สถานศึกษาตน้ แบบ ชุมชนอ่านสรา้ งสุข ๑๑๙ 

เรอ่ื งท่ี ๓ เดก็ หญิงหฤทัย แกว้ ม่ัน โรงเรียนวดั ปากบอ่ กรุงเทพฯ เล่าเรื่องโดย สํานักงานการศึกษา กรงุ เทพมหานคร นายวีระชยั ดวงพลา (เดอะดวง) เลา่ ภาพโดย เดก็ ชายพลศษิ ฎ์ โสภณสิริ เล่าดนตรโี ดย เร่อื งเล่าเรา้ พลัง รู้สึกดีใจที่ได้เข้าร่วมโครงการ ได้แลกเปลี่ยน ประสบการณ์ ได้แสดงความคิดเห็นกับเพ่ือนต่างโรงเรียน เป็นการเปิดโลกจินตนาการ การอ่านทําให้สนุกทําให้เกิด จินตนาการไปกับหนังสือได้รับแต่งตั้งให้เป็นแกนนํายุวทูต การอา่ น หลังจากนน้ั ก็คิดว่าจะทําอย่างไรให้คนหันมาสนใจ การอ่าน ภารกิจแรกก็คือหาทีมงาน โดยเร่ิมจากการชวน เพ่อื นรอบขา้ ง เม่อื เพื่อนมาเขา้ รว่ มกบั เรา เพ่ือนกช็ วนเพ่ือนชวนรุ่นพ่ีที่รู้จักมาเข้าร่วม พวกเราร่วมกันทํา กิจกรรมจนเครือข่ายขยายเพมิ่ มากข้ึน มีอาสาสมัครจัดฐานเรียนรู้ในชุมชน ซึ่งในชุมชนก็มีหลายเช้ือชาติ หลายศาสนา มกี ารทําภารกจิ เพ่อื สังคม เช่น อา่ นหนงั สือให้คนตาบอดฟัง เป็นต้น โดยส่วนตัวเป็นคนชอบ การอา่ นอย่แู ลว้ ตัง้ แตเ่ ข้ามาเปน็ ยุวทูตการอา่ นไมเ่ คยพบปัญหาในการทํากิจกรรม สถิตกิ ารเข้าใช้ห้องสมุด กเ็ พม่ิ มากข้ึนอีกกิจกรรมไดท้ าํ คือกจิ กรรมดเี จน้อย เปน็ กิจกรรมท่ใี ห้เดก็ ที่สนใจไปจัดรายการวิทยุชมุ ชน เดอะดวง นักวาดการต์ ูนช่ือดงั มอบภาพเขยี นจากเร่ืองเลา่ “เรม่ิ ตน้ จากการอา่ น อยากใหท้ กุ คนอ่าน แลว้ ต่อยอดออกไป การอา่ นทาํ ลายทุกกําแพง” แก่ยุวทตู การอา่ น เดก็ หญงิ หฤทัย แก้วม่ัน ๑๒๐ เปดิ โลกอ่านสรา้ งสุขจากโรงเรียนสูช่ มุ ชน

เรื่องท่ี ๔ นางสายยุทธ รัตนวสิ ุทธพิ นั ธ์ กศน. อําเภอเมอื งขอนแก่น จงั หวดั ขอนแกน่ เลา่ เรอื่ งโดย สาํ นักงานสง่ เสรมิ การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั (กศน.) คุณมุนนิ ทร์ สายประสาท (การต์ ูนมนุ นิ ) เล่าภาพโดย เดก็ ชายพลศษิ ฎ์ โสภณสิริ เล่าดนตรโี ดย เร่อื งเล่าเรา้ พลัง เริ่มต้นจากบ้านหลังเล็กในชุมชน ซึ่งเป็นร้านขาย ของชาํ และขายกาแฟผนู้ ําชมุ ชนมาขอความร่วมมือให้เปิดเป็น ห้องสมุด ซ่ึงในห้องสมุดนั้นมีการจัดมุมเทิดพระเกียรติ ๖๐ พรรษา สมเด็จพระเทพฯ ห้องสมุดน้ีได้รับหนังสือพิมพ์จาก กศน. เป็นประจํา จึงเกิดความคิดข้ึน เช่น เม่ือห้องสมุดมีร้าน ขายของชําและขายกาแฟก็นําเอาฝาขวดต่างๆ และหนังสือพิมพ์เก่าๆ มาตัดเป็นตัวหนังสือให้เด็กท่ีมา หอ้ งสมดุ เล่นผสมคาํ และไดน้ าํ ไปใช้ทํากิจกรรมในชุมชนด้วย ทําเป็นเกมใส่ตะกร้าไว้ให้เด็กท่ีสนใจเข้ามา เลน่ เด็กทเ่ี ขา้ มาเลน่ จะได้รบั รางวลั นอกจากกิจกรรมจัดให้ในชุมชน ได้เอาไปใช้ท่ีศูนย์ปฏิบัติธรรมด้วย โดยนําแผ่นการ์ดอวยพร ตา่ งๆ บตั รเชิญ แผน่ พบั มาตดั เป็นบัตรคําให้เด็กเล่น ทําอย่างน้ีทุกวัน กิจกรรมนี้มีประโยชน์กับเด็กมาก เมื่อกลับมาบา้ นกป็ ระชาสมั พนั ธ์เก่ียวกับการอ่าน การผลิตสื่อบ่อยๆ ในอนาคตอาจได้เห็นเด็กอนุบาลพา คุณยายอ่านหนังสือกเ็ ป็นได้ดใี จท่ไี ดพ้ บคนดี คนรักการอา่ นเหมอื นกัน มนุ ิน นักวาดการ์ตนู ชือ่ ดงั มอบภาพเขยี นจากเรื่องเลา่ “เปิดบา้ นอาสาเปน็ ห้องสมุด” แก่ทูตการอ่าน คุณสายยทุ ธ รัตนวสิ ทุ ธพิ ันธ์ สถานศกึ ษาต้นแบบ ชุมชนอ่านสรา้ งสุข ๑๒๑

พิธมี อบถ้วยพระราชทานฯ และมอบรางวลั ดําเนินรายการ โดย : นายโรจกร ธูปศรี และ นางสาวเยาวลกั ษณ์ กันนิกา รายงานภาพรวมโครงการ “สถานศึกษาต้นแบบชมุ ชนอ่านสร้างสขุ ” โดย นางสดุ ใจ พรหมเกดิ ผู้จัดการแผนงานสร้างเสริมวัฒนธรรมการอา่ น การอา่ นเป็นขุมทรัพย์แห่งปัญญาของผู้คนและสังคม เป็นเครือ่ งมือและกลไกสําคัญในการพฒั นาสมองและศกั ยภาพ ของมนษุ ย์การจะปลูกฝังให้เกิดพฤติกรรมการอ่าน มีการอ่าน อยู่ในวิถีชีวิตจนเป็นวัฒนธรรม ต้องเร่ิมต้นด้วยการได้สัมผัส ความสุข ความเพลิดเพลินและความร่ืนรมย์จากการอ่าน จึง เปน็ ท่มี าของโครงการอ่านสรา้ งสขุ ทขี่ ับเคลื่อนจากโรงเรียนสู่ โครงการสถานศึกษาต้นแบบชุมชนอ่านสร้างสุข ในปีที่ ๓ นี้ คณะกรรมการดําเนินโครงการฯ รู้สึกเป็นพระกรุณาธิคุณล้นเกล้าล้นกระหม่อม เม่ือคณะกรรมการฝ่าย กล่ันกรองโครงการและกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติฯ ซึ่งมีปลัดสํานักนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ได้มีมติ เห็นชอบ ใหโ้ ครงการสถานศึกษาตน้ แบบชมุ ชนอ่านสรา้ งสุข เข้าร่วมเป็นโครงการเฉลิมพระเกียรติสมเด็จ พระเทพรตั นราชสดุ าฯ สยามบรมราชกมุ ารี ในโอกาสฉลองพระชนมายุ ๕ รอบ ๒ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๘ และทรงพระกรณุ าโปรดเกล้าฯ พระราชทานถว้ ยรางวัลชนะเลิศ จากการนเิ ทศติดตามประเมนิ ผลโครงการฯ โดยคณะกรรมการฯ พบว่า เมื่อมีระยะเวลาดาํ เนินงาน อย่างต่อเน่ืองนานเท่าไหร่ ก็ยิ่งพบความสําเร็จและความงอกงามมากขึ้นเท่าน้ัน ท้ังในตัวผู้เรียน ครู คณะทํางานและเครือข่ายในชุมชนในตัวผู้เรียน พบว่าเด็กท่ีเข้าร่วมโครงการฯ รักการอ่านมากข้ึน มผี ลสมั ฤทธิ์ทางการเรยี นสงู ขึ้น ในกลมุ่ ยวุ ทตู และทตู การอ่าน ไม่เพยี งผลสัมฤทธท์ิ างการเรียนสูงขึ้นเท่านั้น แต่ยังเห็นคุณค่าจากการทํางานจิตอาสา ได้ช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาส ผู้ป่วย เด็กเล็กๆ ท้ังในโรงเรียนและ ชมุ ชนฯลฯ ทาํ ให้รจู้ ักการบรหิ ารจัดการเวลา ท้ังเพื่อการเรียน การพัฒนาตนเอง งานอาสาและงานบ้าน ในชุมชนต่างดีใจท่ีพบว่ากระบวนการน้ี ทําให้เด็กๆ ติดเกมน้อยลง ลดความก้าวร้าว การทะเลาะวิวาท น้อยลง ทําให้ชุมชนร่วมกันสอดส่อง ชักชวนบุตรหลานให้สนใจการอ่านมากขึ้น บางครอบครัวเห็น ประโยชนก์ ารพฒั นาอาชีพจากการอา่ น มีการค้นพบอาชพี ใหม่ๆ จากการอ่านในโรงเรียนพบแนวทางสาํ คญั ว่า หากจะแก้ปัญหาการอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ของเด็กวัยเรียน ครอบครัวต้องอ่านหนังสือให้ลูกฟัง ต้งั แตเ่ ล็กๆ จงึ ร่วมกบั ชุมชนจัดซื้อหนังสือมอบให้ครัวเรือนที่มีลูกก่อนวัยเรียน ทําให้เกิดการทํางานแบบ บูรณาการจากหลากหลายบุคคลและองค์กร ทั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน ภาคส่วนสาธารณสุข ภาคการศึกษา ชมรมตา่ งๆ ในชมุ ชน ฯลฯ และสอื่ มวลชนใหค้ วามสนใจติดตามรายงานข่าวหลายโรงเรียน ๑๒๒ เปดิ โลกอา่ นสร้างสขุ จากโรงเรียนสชู่ ุมชน

  กลายเป็นแหล่งศึกษาดูงานท่ีสามารถขยายแนวคิดของยุทธศาสตร์ “อ่านสร้างสุข”ได้กว้างขวางมากขึ้น ผลสาํ คญั เหนอื อืน่ ใดคอื สัมพนั ธภาพทีเ่ กดิ ขน้ึ จากการดาํ เนินงาน ทั้งในระดับครอบครัว โรงเรียน และชมุ ชน หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ยุทธศาสตร์ “อ่านสร้างสุข” จะเป็นพลังสําคัญในการถักทอและร่วมสร้างสังคมแห่ง การเรยี นร้ทู ี่เตม็ ไปด้วยความสุขความเก้อื กลู และเป็นกาํ ลังหลักในการหนุนเน่ือง “นครแห่งการอ่าน” ใน โอกาสตอ่ ๆ ไป เสวนา “๖ นครแหง่ การอา่ น ๖๐ พรรษาสมเดจ็ พระเทพรตั นราชสดุ าฯ สยามบรมราชกุมารี” โดย ผู้แทนจาก ๖ นครแหง่ การอา่ น ดังน้ี ดร.มง่ิ ขวญั กิตตวิ รรณกร ศึกษานเิ ทศก์ วิทยฐานะศึกษานเิ ทศกช์ ํานาญการ กรงุ เทพมหานคร นายชเู กียรติ บุศยรตั น์ หวั หนา้ สาํ นกั งานจงั หวัดอบุ ลราชธานี จงั หวดั อบุ ลราชธานี นายบญุ สง่ ทองเช่ือม ผ้อู ํานวยการ กศน. อาํ เภอเมอื ง จงั หวดั ขอนแกน่ นายฤทธพิ งศ์ เตขะพนั ธ์ รองผวู้ ่าราชการจังหวัดลาํ ปาง จงั หวดั ลาํ ปาง นายอาคม สขุ พนั ธ์ ปลดั จงั หวัดเชยี งราย จงั หวดั เชียงราย นายณรงค์ วุ่นซว้ิ รองผู้ว่าราชการจังหวดั กระบี่ จงั หวัดกระบี่ นายอาคม สขุ พันธ์ ปลัดจงั หวดั เชยี งราย เม่ือพูดถึงเชียงรายแล้วปัญหายาเสพติดเป็น ปัญหาสําคัญซ่ึงส่งผลกระทบกับสถาบันครอบครัว อย่างมาก เพ่ือแก้ปัญหาน้ีให้หมดไปจังหวัดเชียงราย ให้ความสําคัญกับการศึกษาและถือเป็นเร่ืองที่สําคัญ นโยบายของทกุ หนว่ ยราชการจงึ เนน้ ในเรื่องการศึกษา เป็นหลกั โดยใช้ครอบครัวเป็นฐานในการแก้ไขปัญหา เมื่อพ้ืนฐานครอบครัวดี เด็กๆ ก็จะเติบโตเป็นบุคลากรที่ดีในอนาคต การส่งเสริมการอ่านเป็นโอกาส ทีค่ รอบครัวได้มสี ่วนร่วมในการส่งเสริมและสนับสนุนการศึกษาของลูกหลานจังหวัดเชียงรายมีประชากร ประมาณ ๑,๒๐๐,๐๐๐ คน สว่ นใหญ่เป็นคนพนื้ เมอื งและมบี างสว่ นท่ีเปน็ ชาวไทยภูเขา จําเป็นที่จะต้องให้ ทกุ ภาคส่วน ทุกหนว่ ยงานทัง้ ภาครัฐ ภาคประชาสังคม และองค์กรธุรกิจของจังหวัดเชียงรายมาระดมพลัง ในการชว่ ยเหลือสนับสนนุ ในเรอ่ื งของการอา่ นอยา่ งจรงิ จังและอยากใหเ้ ม่ือพูดถึงการอ่านแล้วทุกคนจะนึก ถึงจังหวดั เชียงราย สถานศกึ ษาตน้ แบบ ชุมชนอา่ นสรา้ งสุข ๑๒๓ 

ทางจังหวัดมีการดําเนินกิจกรรมส่งเสริมการอ่านอย่างต่อเน่ืองไม่ว่าจะเป็นในส่วนของท้องถ่ิน องค์การบริหารส่วนจังหวัด เทศบาลนครเชียงราย องค์การบริหารส่วนตําบลต่างๆ รวมไปถึงกํานัน ผูใ้ หญบ่ ้าน เรากม็ ีสว่ นรว่ มกนั ในการประชาสมั พนั ธว์ ่าเร่อื งการอ่านเป็นเร่อื งที่สาํ คัญ โดยเฉพาะเราเน้นการ อ่านท่ชี ุมชน หมู่บ้าน ซึ่งอยู่ห่างไกล ส่ิงหน่ึงท่ีต้องดําเนินการในเร่ืองของกายภาพก็คือเพ่ิมพื้นท่ีการอ่าน มีแหลง่ อา่ นหนังสอื ที่หลากหลาย เช่น สรา้ งหอ้ งสมุดตามทต่ี ่างๆ ทใี่ หท้ กุ คนสามารถเข้าถึงไดง้ ่ายมากยงิ่ ข้ึน ดร.มงิ่ ขวญั กติ ตวิ รรณกร ศึกษานเิ ทศก์ วิทยฐานะศึกษานิเทศกช์ าํ นาญการ กรุงเทพมหานคร กรุงเทพมหานคร เป็นจังหวัดท่ีแตกต่างไปจาก ๕ จังหวัดท่ีมาในที่นี้ มีผู้คนที่หลากหลายอยู่ใน กรุงเทพมหานคร ในการดาํ เนินการเร่ืองการอา่ นน้นั กรงุ เทพมหานครไดร้ บั คัดเลอื กจากองค์การยูเนสโกให้ เป็นเมืองหนงั สอื โลกในปี พ.ศ. ๒๕๕๖ ซ่ึงทางกรงุ เทพมหานครไดด้ าํ เนนิ การส่งเสริมและจดั กจิ กรรมภายใต้ โครงการน้ีมากมาย เพ่ือสง่ เสริมใหค้ นกรงุ เทพมหานครได้รกั การอา่ น ในดา้ นการอา่ นของกรงุ เทพมหานคร นน้ั จะมีหนว่ ยงานหลักทด่ี ําเนินงานในการสร้างกรงุ เทพมหานครให้เป็นนครแห่งการอ่านอยู่ ๒ หน่วยงาน คือสํานักวัฒนธรรมกีฬาและการท่องเที่ยว ซึ่งจะดําเนินการในส่วนของของประชาชนท่ีจะส่งเสริมให้ ประชาชนทกุ เพศทุกวยั ได้อา่ นหนงั สอื โดยมหี ้องสมุดประชาชน มีห้องสมุดเคลื่อนท่ี มีบ้านหนังสือซึ่งเป็น บ้านที่จัดเป็นบ้านเล็กๆ สําหรับในชุมชนที่เด็กๆ จะได้ไปร่วมกิจกรรมการอ่าน ทางกรุงเทพมหานคร จะพยายามจดั หาหนงั สอื ทีเ่ หมาะสมกับเยาวชน และคนในชุมชนน้นั ๆ อันนี้กค็ ือสง่ เสรมิ ทั่วไป ในส่วนของสํานกั งานศกึ ษา กรุงเทพมหานคร ซ่ึงรบั ผดิ ชอบโรงเรยี น ๔๓๘ โรงเรยี น หลายปีทผี่ ่าน มาเราไดด้ ําเนนิ การรว่ มกบั บริษัท ซพี ี ออลล์ จํากดั (มหาชน) และรว่ มดาํ เนนิ โครงการโรงเรยี นรกั การอ่าน ซ่ึงตอนนี้โรงเรียนของเราท้ังหมดได้รับป้ายโรงเรียนรักการอ่านเรียบร้อยแล้ว โดยเรามีแนวทางท่ีจะให้ โรงเรียนไดท้ าํ กจิ กรรมรกั การอ่าน และยงั คงดาํ เนินโครงการอยา่ งตอ่ เนอื่ ง นักเรียนของกรุงเทพมหานครมีถึง ๓๐๐,๐๐๐ กว่าคน ส่วนใหญ่ย้ายตามผู้ปกครองมาจาก ตา่ งจงั หวัด ซึ่งเปน็ โอกาสสาํ คัญทเี่ ราจะ โดยใช้เครอื ข่ายของโรงเรียน ๘๐ เครือข่ายทั่วกรุงเทพมหานครเปน็ ฐานในการพัฒนาการอ่านให้กับนกั เรียนสรา้ งเด็กของเราใหเ้ ปน็ เยาวชนทรี่ ักการอา่ น ส่งเสรมิ ทกุ วถิ ที างและ ดาํ เนินการอยา่ งต่อเน่อื งทา่ นรองผู้วา่ ราชการกรุงเทพมหานครมีนโยบายที่จะส่งเสริมในเรื่องของการอ่าน เพ่อื ใหเ้ ดก็ ของเรานอกจากรักการอา่ นแลว้ บางสว่ นยังมปี ัญหาเร่อื งการอา่ นไมอ่ อก เขียนไมไ่ ดก้ ็ไดพ้ ยายาม สง่ เสรมิ และแก้ปัญหาควบคู่กนั ไปกับการสรา้ งวิสยั ทัศนก์ ารอา่ น ๑๒๔ เปิดโลกอา่ นสรา้ งสขุ จากโรงเรยี นส่ชู มุ ชน

  นายณรงค์ วุ่นซิ้ว รองผวู้ า่ ราชการจังหวดั กระบี่ จังหวัดกระบี่เป็นจังหวดั เล็กๆ มพี ลเมอื งประมาณ ๔๕๐,๐๐๐ คน ในภาคการเกษตรที่กระบี่มีพืช เศรษฐกิจ คือ ปาลม์ และสวนยาง และมชี ื่อเสียงระดบั โลกเรื่องการท่องเทย่ี ว สําหรับการท่องเทย่ี วสามารถ สรา้ งรายไดเ้ ปน็ ลาํ ดับที่ ๔ ของประเทศ รองจากกรงุ เทพมหานคร ภเู ก็ต ชลบรุ ี อย่างไรกต็ าม เมอ่ื วเิ คราะห์ การเจริญเติบโตของจังหวัดกระบี่พบว่าเมื่อ ๕ ปีท่ีแล้วกับวันนี้เราโตขึ้นเท่าตัวและในอีก ๕ ปีหน้าเรา จะโตมากกว่าน้ี ซง่ึ แนน่ อนประเด็นปัญหาคือเราจะรองรับความเจริญนี้อย่างไร แนวทางท่ีกระบ่ียึดมาเรา ตลอดคือยดึ แนวทางสเี ขียว สังคมของเราจะมคี วามยงุ่ ยากและซับซ้อนมากขน้ึ เมือ่ กระบ่เี จริญเติบโตข้ึนเรอื่ ยๆ แต่ในขณะทเ่ี รา ยังมคี นอา่ นหนังสือไม่ออก เขียนไม่ได้ มันจะมีประโยชน์อะไรกบั การทว่ี สิ ยั ทัศน์ที่เราตงั้ ไวค้ อื กระบีเ่ ป็นเมอื ง นา่ อยู่ผู้คนนา่ รกั เพราะฉะนั้นสงิ่ ทเี่ ป็นประเดน็ สําคญั ท่ีจังหวัดกระบ่ีดําเนินการก็คือ กําหนดวิสัยทัศน์ของ จังหวดั กระบใ่ี นปี ๒๐๒๐ เป็นเมอื งทอ่ งเท่ียวคณุ ภาพระดับนานาชาติ เปน็ เขตเกษตรอุตสาหกรรมยง่ั ยนื กับ สังคมนา่ อยู่ ปรบั ตวั เข้าสบู่ ริบทสงั คมแห่งการเปล่ยี นแปลง กระบ่เี รามวี าระอยู่ ๒ วาระ พอถามว่า “นครแหง่ การอ่าน” ในความหมายของกระบคี่ ืออะไร นคร แห่งการอ่านในความหมายของกระบ่ีไม่ได้หมายความวา่ การอ่านเป็นแค่วิธีการ แต่หมายถึงการตอบโจทย์ วิสัยทัศน์ปี ๒๐๒๐ อย่างน้อย ๔ ประการด้วยกัน นครแห่งการอ่านในความหมายของกระบี่ คือ ประการท่ี ๑ กระบี่เมอื งแห่งการเรียนรู้และสร้างสรรค์ประการที่ ๒ กระบ่ีดีมีอนาคตประการที่ ๓ กระบ่ี มคี วามหลากหลายทีเ่ ราสรา้ งประการท่ี ๔ กระบ่ลี ดความเหลอ่ื มลา้ํ เพอื่ สร้างความสุข ในการขบั เคลื่อนเรื่องนีส้ งิ่ ที่เรามอี ยู่แล้วคอื เรามกี รอบแนวทางวาระของกระบอี่ ยู่ ๒ วาระที่มาตอบ โจทย์วิสยั ทัศน์ ในขณะเดียวกันเมอื่ ไดร้ ับการสนับสนุนจาก สสส. และทกุ ฝา่ ยท่ีเกี่ยวข้อง ทําให้ภาพในการ ขบั เคลอ่ื นน้ีชดั เจนย่งิ ขึ้น เรามแี หลง่ เรยี นรูท้ ี่เปน็ พ้นื ฐานในการสง่ เสริมการอ่าน ท้ังในส่วนที่ อบจ. ไดจ้ ัดขน้ึ มีโครงการโรงเรียนหนูพันตาซึ่งเป็นแหล่งเรียนรู้ใน ๒ เทศบาล ในขณะเดียวได้ร่วมมือกับ Tk park ด้วย น่ีคือการเช่ือมโยงกันในส่วนโครงสร้างพื้นฐาน แต่ส่ิงสําคัญท่ีเรากําลังจะทําก็คือหารือกับทางหน่วยงาน เสริมสร้างวัฒนธรรมจงั หวดั ในเดือนพฤษภาคมปีหนา้ เราจะกําหนดยทุ ธศาสตร์การส่งเสริมการอ่านให้ชัด ขึ้นว่าเราจะเดินหน้าตอ่ ไปอย่างไร ในขณะเดียวกันในส่วนของการขับเคล่ือนก็มีกลไก ซ่ึงเราให้ทาง กศน. เปน็ หนว่ ยงานหลักในการที่จะบูรณาการทุกภาคสว่ น ซงึ่ เราก็ไดเ้ ปิดตัวไปแล้วท่ีจังหวัดกระบี่ มีคนร่วมงาน ประมาณ ๓,๐๐๐ กว่าคน สถานศึกษาตน้ แบบ ชุมชนอ่านสร้างสขุ ๑๒๕ 

ในเร่อื งของงบประมาณ ทางผู้ว่าราชการจังหวัดได้ต้ังงบประมาณปี ๒๕๕๘ ไว้ประมาณ ๓ ล้าน บาท ซ่ึงกค็ ิดวา่ นา่ จะเปน็ การรว่ มมอื กบั ทาง สสส. ทสี่ ามารถทําให้การขบั เคลอ่ื นเดนิ หนา้ ไปได้ดว้ ยดี ขณะนี้ หน่วยงานเสริมสร้างพัฒนาการอ่านได้ดําเนินการไว้แล้วก็คือเรามี Best Practice เร่ืองของกองทุน หมนุ เวยี นหนงั สือในมัสยดิ ในหม่บู ้าน สาํ คญั กค็ อื ว่าการทีจ่ ะใหท้ กุ ฝ่ายมาใหค้ วามสําคัญกบั เร่ืองการอ่าน ซ่ึงจะเป็นพ้ืนฐานที่สําคัญของ การดํารงชีวิตของคนของเยาวชนในจังหวัดกระบ่ี เราคิดว่าการท่ีเราจะพัฒนาไปสู่ความยั่งยืนต้องเริ่มท่ี พัฒนาการศึกษาเป็นรากฐานสําคัญ เราเชื่อม่ันวา่ ไม่ว่าอดีตจะอยา่ งไร เราสามารถท่ีจะทาํ ใหก้ ระบ่เี ป็นเมือง ทน่ี า่ อยไู่ ด้ นายบญุ สง่ ทองเชอ่ื ม ผอู้ ํานวยการสํานักงาน กศน.อาํ เภอเมอื ง จงั หวัดขอนแก่น แนวทางการดําเนินงานเร่ืองของการส่งเสริมการอ่านของจังหวัดขอนแก่น จังหวัดขอนแก่นมี ประชากรถึง ๒ ล้านคน มี ๒๖ อาํ เภอ แล้วก็มจี าํ นวนผทู้ ีไ่ ม่รู้หนังสอื กค็ อ่ นข้างมาก การขบั เคลื่อนเรือ่ งนคร แห่งการอา่ น มีท่านผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน และผู้อํานวยการ กศน.จังหวัดขอนแก่น เป็นเลขาฯ ซ่ึงทาํ ให้การขบั เคลือ่ นต้องบูรณาการประสานกิจกรรมในเรื่องของการสง่ เสรมิ การอา่ นในทกุ รปู แบบ จากการทไ่ี ด้ประชุมกันในระดับนโยบายวางแผนยุทธศาสตรร์ ะดบั จงั หวัด ผู้วา่ ราชการจังหวัดท่าน ใชค้ าํ วา่ ตอ้ งใช้ชุมชนเป็นฐานในการเรียนรู้ในการสร้างวิสัยทัศน์การอ่าน โดยจะเร่ิมจากครอบครัวเล็กๆ แล้วกส็ ่งต่อขน้ึ มาในระดับชุมชน ในระดับหมู่บ้าน ในระดับอําเภอและจังหวัด ท่านผู้ว่ายังบอกว่าในเรื่อง ของการขบั เคล่อื นนีจ้ ะไมม่ หี นว่ ยงานใดหน่วยงานหน่งึ เป็นพระเอก แตต่ ้องมกี ารบูรณาการกันทุกภาคสว่ นที่ อยู่ในจังหวัดขอนแก่น ท้ังภาครัฐและภาคเอกชน ตลอดจนมูลนิธิต่างๆ ขอนแก่นมีมูลนิธิไทยสร้างสรรค์ มลู นิธบิ ้านลกู รกั มมี ูลนิธอิ กี หลากหลาย ทําอย่างไรจะดงึ คนเหล่านี้เข้ามามีส่วนร่วมในการวางยุทธศาสตร์ สง่ เสรมิ การอา่ นดว้ ยกนั หลังจากทีพ่ วกเรามกี ารพูดคยุ กนั แล้วกไ็ ดม้ ีการบูรณาการการทํางานร่วมกัน โดยมี กศน. เป็นตัว ขับเคลื่อนหลัก กศน. จะมีพลังมากในชุมชน เพราะว่าเรามีครู กศน. ที่ประจําอยู่ในระดับตําบล ระดับ หมู่บา้ น กลมุ่ นสี้ ามารถที่จะขับเคล่อื นการส่งเสริมการอา่ น รวมทั้งบูรณาการกบั โรงเรียนระดับประถมศกึ ษา ระดบั มธั ยมศึกษา ในพื้นท่ีไดเ้ ป็นอย่างดี นอกจากนีย้ งั มีภูมิปัญญาชาวบ้าน ซึ่งเมื่อพูดถึงการส่งเสริมการอ่านมักจะมองไปท่ีเด็กเล็ก หรือ มองไปทโ่ี รงเรียน แต่สาํ หรับประเทศไทยในอีกไม่กป่ี ีข้างหน้าจะก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ เราเคยตั้งคําถาม ไหมว่าสังคมผู้สูงอายุ คุณปู่ คุณย่า คุณตา คุณยาย ความสามารถในการอ่านเป็นอย่างไร ไม่ใช่ว่า อา่ นไม่ออกเขยี นไม่ได้ เขาอ่านออกเขยี นได้ เพยี งแต่กาลเวลาทําใหล้ ืมวธิ กี ารอา่ นไปแล้ว กศน. ก็ขับเคลื่อน ๑๒๖ เปิดโลกอ่านสรา้ งสุขจากโรงเรียนสู่ชมุ ชน

  ประเด็นนี้ร่วมกับองค์กรหลักของจังหวัดส่งเสริมภูมิปัญญาเหล่าน้ีให้กลับมาเป็นครู มาให้ความรู้กับเด็ก ส่งเสริมให้ภมู ิปัญญาเกิดในบ้านตัวเอง ที่เราเรียกว่าบ้านหนังสือในชุมชน มีหนังสือพิมพ์เข้าไปสนับสนุน ขณะนี้เราทําได้ประมาณ ๕๐% ของหมู่บ้านที่มีท้ังหมดท่ัวประเทศ มีประมาณ 40,000 หมู่บ้านแล้วท่ี ส่งเสริมการอ่านอย่างเป็นรูปธรรมด้วยการใช้สื่อท่ีเป็นปัจจุบันให้เขาเกิดความอยากที่จะอ่าน รวมถึงมี เอกสารความรู้ต่างๆ ส่งเข้าไปในชุมชนน้ันๆ ด้วย เม่ือมีหนังสือดีๆ มีครอบครัวดี มีชุมชนท่ีเข้มแข็ง กม็ ีโอกาสท่ีจะผลักดนั ให้เร่ืองของการสง่ เสริมการอา่ นนน้ั เปน็ รปู ธรรมยง่ิ ข้นึ จากการท่ีเราได้ร่วมกับ สสส. ได้ร่วมกับภาคีเครือข่ายทั้งหลาย จัดกิจกรรมสถานศึกษาต้นแบบ ชมุ ชนอา่ นสร้างสขุ และกําหนดเปน็ ยทุ ธศาสตร์ของจังหวัด ทุกภาคส่วนก็ร่วมกันขับเคลื่อน อาทิ ชุมชนใน เขตเทศบาลนครขอนแกน่ กใ็ ช้วธิ ีบูรณาการกบั เทศบาลจัดกจิ กรรมร่วมกัน มีรถเคลื่อนที่ มีโครงการต่างๆ เช่น โครงการหนังสอื ตดิ ลอ้ จงั หวัดขอนแก่นมีบุคคลที่มีช่ือสียงมากมาย มีดารา นักร้องช่ือดังมากมาย อาทิเช่น คุณต๊ิก ชีโร่ นักรอ้ งช่อื ดงั คณุ กิตติ สงิ หาปดั ผ้ปู ระกาศข่าว คุณซิโก้ โคช้ ฟตุ บอลทมี ชาติซึ่งในงานน้กี ็ได้เชิญคุณมุนินทร์ นกั วาดการ์ตูน ซึง่ เป็นชาวจงั หวดั ขอนแก่น โดยจะนาํ บุคคลทมี่ ีชื่อเสียงเหล่านม้ี าเป็นไอดอลในการส่งเสริม การอา่ น มาร่วมประชาสมั พนั ธก์ ารส่งเสริมการอา่ นเพ่ือสรา้ งแรงจงู ใจดว้ ย ยุทธศาสตร์นเ้ี ราดําเนินการเชงิ รุกเขา้ ไปถงึ ในพื้นท่ีอย่างจริงจัง ผลจากการสํารวจ พบว่า จํานวน ผู้ใช้บริการของห้องสมุดประชาชนของทั้งระดับจังหวัด อําเภอ หรือบ้านหนังสือในชุมชน มีคนเข้ามาใช้ บริการมากขึ้น ลดปัญหาการว่างงานได้มากขึ้น หนังสือที่มีในห้องสมุดไม่ได้มีแค่เพียงหนังสือพิมพ์ มีท้ัง หนงั สือบนั เทงิ และสาระความรู้ หนังสอื สง่ เสริมอาชีพ เชน่ เทคโนโลยีชาวบา้ น ส่งเสริมสุขภาพ เชน่ หนงั สือ ใกล้หมอ แตท่ ไี่ ดร้ ับความนยิ มทสี่ ดุ คอื “ค่สู รา้ งคสู่ ม” ในการทํางานร่วมกนั หลายภาคส่วน ท่านผู้ว่าฯ ได้ให้ความสําคัญกับการส่งเสริมอ่าน ทุกครั้งที่มี อาํ เภอเคล่อื นทม่ี กี ารสง่ เสรมิ ความรเู้ กย่ี วกับอาชีพ ส่งเสริมความรเู้ รอื่ งการดูแลสุขภาพ ในสว่ นของกศน. ก็ ให้นําเรื่องการส่งเสริมการอา่ นไปรว่ มกิจกรรมด้วย อําเภอเคลื่อนที่ นอกจากนายอําเภอพบปะประชาชน สร้างขวญั และกําลังใจแลว้ ยังเปน็ การสง่ เสริมอาชพี ควบค่ไู ปกบั สง่ เสริมการเรียนรู้อกี ด้วย นายชูเกยี รติ บุศยรตั น์ หัวหนา้ สาํ นักงานจังหวัดอุบลราชธานี ยุทธศาสตร์ที่สําคัญของจังหวัดอุบลราชธานี อุบลราชธานีเป็นเมืองแห่งนักปราชญ์ เรามีผู้ที่มี ชอื่ เสยี งไมว่ า่ จะมาเปน็ พระสายปฏิบตั ิ ศลิ ปนิ นักรอ้ ง นักแสดงชื่อดงั เม่อื เราไมใ่ ชเ่ มืองธรรมดาเราเปน็ เมือง นักปราชญ์ คนที่อยู่ในเมืองกต็ ้องเป็นนกั ปราชญด์ ว้ ย ดังน้นั เมือ่ เราปลูกฝงั แนวคิดน้ีไมว่ า่ จะด้วยการสื่อสาร ผา่ นงานเขียนให้เขาอ่านหรือทาํ เป็นเพลง ยอ่ มทําให้คนอุบลฯ สว่ นใหญม่ คี วามภาคภมู ิใจในความเปน็ อบุ ลฯ สถานศึกษาต้นแบบ ชุมชนอ่านสรา้ งสขุ ๑๒๗ 

ซมึ ซับความเปน็ นกั ปราชญซ์ ง่ึ การเป็นนกั ปราชญ์นี้ก็ต้องมีความสามารถด้านการอ่าน ใหค้ วามสาํ คัญกบั การ อา่ น ซ่ึงคนอบุ ลฯ มีความเช่ือในหลกั การนี้ นอกจากความเป็นเมืองนกั ปราชญแ์ ล้ว อุบลฯ มีชายแดนท่เี ปน็ ชายแดนทางบกซึ่งสามารถเดินข้าม ไปมากบั ประเทศเพื่อนบา้ นได้ถงึ ๒ ประเทศ คอื สปป.ลาว และราชอาณาจกั รกัมพชู า ในการท่จี ะก้าวเข้าสู่ ประชาคมอาเซยี นชาวอบุ ลฯ ก็ต้องมีความรู้ เราปลูกฝังประชาชนพ่ีน้องชาวอุบลฯ ด้วยว่าเราต้องมีความ พร้อมน้ี เมอื งอุบลฯ มหี อ้ งสมุดประชาชนท่ีเป็นแหล่งเรียนรู้ และมีแหล่งอ่านหนังสือตามหมู่บ้านหรือใน ชุมชนต่างๆ รวมท้ังมีห้องสมุดเคล่ือนท่ี ซ่ึงทําให้การอ่านของคนในชุมชนของเด็กนักเรียนมีเพิ่มมากขึ้น แมแ้ ต่ในโรงเรียนกส็ นบั สนนุ ใหม้ ีมุมหนงั สือมุมอ่าน น่คี ือเรอ่ื งของการสร้างพืน้ ท่ี ในการดาํ เนนิ งานสรา้ งเครือข่ายส่งเสริมการอ่านของจังหวัดอุบลฯ มีการจัดงานสัปดาห์การอ่าน หนงั สอื ๑๐ วนั ประมาณเดือนสิงหาคม มีเครือข่ายร่วมจัดงานทั้งภาครัฐ ภาคเอกชนภาคประชาสังคมใน งานมเี น้อื หาทงั้ ที่เป็นวิชาการและเร่ืองของการสร้างอาชีพ พร้อมๆ กับเตรียมความรู้เพ่ือเข้าสู่ประชาคม อาเซียน นายฤทธิพงศ์ เตขะพนั ธ์ รองผู้วา่ ราชการจังหวดั ลําปาง ในเรือ่ งของศักยภาพของลําปางก็ถือว่าเรามีแหล่งท่องเท่ียวท่ีสําคัญ ได้รับคัดเลือกให้เป็น ๑ ใน เมอื งรักการอ่าน และเปน็ เมืองท่มี ีประวัตศิ าสตรเ์ กา่ แก่ ๑,๓๐๐ ปี มแี หล่งธรรมชาตสิ วยงาม มีโรงพยาบาล ช้างท่ใี หญ่สดุ ในประเทศ แนวคิดการพัฒนาผู้ว่าราชการจังหวัดลําปางให้ความสําคัญกับการพัฒนาบุคลากรเรื่องการอ่าน เมือ่ กอ่ นประสบปัญหาการอา่ นมาก แต่หลงั จากทีไ่ ดม้ ีการขับเคลอ่ื นการอา่ นอย่างเป็นระบบก็ทําให้ปัญหา น้อยลงไป เราก็มุ่งหวังว่าลําปางจะเป็นสังคมแห่งการอ่านการเรียนรู้อย่างย่ังยืนประชาชนทุกช่วงวัย ทกุ สาขาอาชีพ สามารถเข้าถงึ และรบั บริการดา้ นการอา่ นอย่างทว่ั ถงึ และเท่าเทียม และหวังว่าหลังจากอ่าน เปน็ แลว้ ประชาชนจะสามารถวิเคราะหเ์ ป็น นําความรทู้ ่ไี ดจ้ ากการอา่ นไปเสริมสรา้ งคุณภาพชีวิต ในดา้ นการเตรียมศักยภาพของบุคลากรรองรับการก้าวเข้าสู่อาเซียนหลังจากที่ทุกภาคส่วนของ จงั หวดั ลาํ ปางเหน็ พ้องต้องกนั จึงไดก้ ําหนดเปน็ วาระสําคญั ของจงั หวัด เราประกาศไปแล้วต้ังแต่ปี ๒๕๕๓ มีการลงนามของทกุ ภาคส่วนทง้ั ภาคราชการ เอกชน ท้องถิ่น วิสาหกิจ องค์กรทางศาสนา แล้วมาทํางาน ร่วมกนั รวมทั้งส้ิน ๗๓ องค์กร แสดงให้เหน็ ว่าทกุ ภาคสว่ นสัญญาว่าจะร่วมดําเนินการเรอ่ื งส่งเสรมิ การอ่าน ตั้งแตร่ ะดับครอบครวั สถานศึกษา องค์กร และชุมชนอย่างต่อเน่ืองมีการแต่งตั้งคณะกรรมการทุกระดับ ท้งั ระดับจงั หวัด อาํ เภอ และทอ้ งถิ่น เพือ่ ขับเคลื่อน ประสานงานตามแผนนโยบายใหเ้ ปน็ รปู ธรรม ๑๒๘ เปิดโลกอ่านสร้างสขุ จากโรงเรยี นสู่ชุมชน

  ในเรอื่ งของการพฒั นาชอ่ งทางการอา่ น มีการพัฒนารว่ มกันทั้งจังหวัด กระจายให้เข้าไปสู่หลายๆ สว่ น ท้ังจงั หวัด ท้ังอําเภอ แล้วกม็ มุ การอ่านประจาํ หม่บู ้าน มกี ารจัดตั้งอาสาสมคั รส่งเสรมิ การอ่านในชุมชน มีชมุ ชนรักการอ่าน แลว้ ก็มีชมรมรักการอ่านในทกุ หมู่บา้ น อีกกลุ่มหน่ึงซงึ่ เราให้ความสําคัญคือกลุ่มผู้สูงอายุ และเด็กที่มีปัญหาทางสมอง กลยุทธ์ในการให้ กลุ่มต่างๆ ได้รับการกระตุ้นในการอ่านอย่างถูกต้องตรงน้ีสําคัญ ตอนนี้มีกว่า ๒๐๐ โครงการวิจัย ซงึ่ โครงการวจิ ัยได้ขยายไปส่เู ป้าหมายอย่างชัดเจน ในช่วงปี พ.ศ.๒๕๕๓ มาถงึ ปจั จุบัน เรามีผลสัมฤทธ์ทิ ่ีเปน็ รูปธรรม มรี างวลั ต่างๆ ทไ่ี ด้รับ อันนี้เป็น สว่ นสาํ คญั ของการสง่ เสรมิ การอา่ น ท้งั รางวัลชมเชยสถานศึกษาที่นา่ ภาคภมู ิใจคือผล O-Net ปี พ.ศ.๒๕๕๗ ในภาพรวมถือว่าประสบความสําเร็จ ค่าเฉลี่ยทุกภาควิชาทุกกลุ่มวิชา เราสูงกว่าค่าเฉลี่ยของประเทศ คะแนนกระจายตัวกันอยู่ทุกส่วนรวมท้ังชนบทด้วย เพราะฉะนั้นก็ถือว่าเป็นผลโดยตรงจากการที่เราได้ พัฒนาการอ่าน การอา่ นมคี วามสําคญั กับคนทกุ ชว่ งวัย ทุกอาชพี แม้กระทงั่ อาชพี เกษตรกรต้องมีการวางแผนเรื่อง ปุ๋ย เรื่องยา ถ้าเขาอ่านออกก็จะสามารถเข้าถึงข้อมูล ภาพเหล่าน้ีคือภาพแห่งความต้ังใจมุ่งม่ันของคน ลาํ ปาง ตอนนล้ี าํ ปางมียทุ ธศาสตรท์ จี่ ะตอ้ งขบั เคลือ่ นต่อไป ซ่งึ เรามน่ั ใจว่าลาํ ปางจะประสบความสาํ เร็จตาม แผนท่ีวางไว้อย่างแนน่ อน สถานศึกษาตน้ แบบ ชุมชนอา่ นสร้างสุข ๑๒๙ 

พิธมี อบธงสญั ลกั ษณ์ ๖ นครแห่งการอ่าน โดย ดร.พิชยั สนแจ้ง ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจําสํานัก นายกรฐั มนตรี นครแห่งการอ่าน เป็นนครที่ประชาชนทุกเพศ ทุกวัย สามารถเข้าถึงบริการการอ่านอย่างทั่วถึง ทกุ ท่ีและเท่าเทียม เปน็ สังคมที่มีสื่ออ่านที่เพียงพอ ทุกคนเกิดความตระหนัก เห็นคุณค่าและใช้ความรู้ใน การสร้างเสริมคุณภาพชีวิต จากการสํารวจภาวะสุขภาพคนไทยครั้งล่าสุด ในปี พ.ศ.๒๕๕๑–๒๕๕๒ การประเมินพฒั นาการเด็กช่วงปฐมวยั พบวา่ เดก็ อายุ ๑๘-๒๓ เดือน จาํ นวนร้อยละ ๑ (๔ คนจากจํานวน ท้ังหมด ๒๕๙ คน) ยงั พูดไมไ่ ด้ เด็กอายุ ๑๘–๒๓ เดอื นท่พี ูดเปน็ คําไดแ้ ล้ว พบว่า ๖๘ คน ไม่พูดเอง มักพูด ตามเป็นส่วนใหญ่ หมายความวา่ จาํ นวนหนึ่งในกล่มุ น้อี าจมีความเขา้ ใจภาษาคอ่ นขา้ งล่าชา้ และจากผลการ สํารวจการพัฒนาการเด็กปฐมวยั ของกระทรวงสาธารณสุขโดยกรมอนามัย ปี พ.ศ.๒๕๕๐ พบวา่ พัฒนาการ ของเด็กปฐมวัยเปรียบเทียบกับปี พ.ศ.๒๕๔๒ และปี พ.ศ.๒๕๔๗ พบว่า พัฒนาการเด็กปฐมวัยภาพรวม ปกติหรอื สมวยั ลดลง และพัฒนาการด้านภาษาเป็นปัญหามากกว่าด้านอ่ืนๆ ปัญหาพัฒนาการด้านภาษา จงึ เปน็ ปญั หาหน่งึ ท่สี าํ คัญควรหาแนวทางเพอื่ แกไ้ ข (กรมอนามัย, ๒๕๕๓) การสํารวจพัฒนาการของเด็กปฐมวัยท่ัวประเทศอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๔๒–๒๕๕๒ ของกรมอนามัย พบว่า เด็กไทยมพี ฒั นาการทางภาษาล่าช้าเฉลยี่ รอ้ ยละ ๒๐ เม่ือเปรียบเทียบตวั เลขในกลมุ่ ประเทศท่ีพัฒนาแล้วเฉลีย่ ร้อยละ ๕-๑๕ เท่านั้น ซึ่งวิธีการที่สามารถพฒั นาทกั ษะด้านภาษาให้ดขี ้นึ รวมถึง พฒั นาทักษะด้านอ่นื ๆ อาทิ การสอ่ื สาร การพัฒนาด้านอารมณ์ สงั คม คอื “การอา่ นหนงั สอื กับลูก” หนังสอื และการอา่ นจึงเป็นสอื่ ทมี่ ปี ระสิทธิภาพในการเสรมิ สรา้ งพฒั นาการเด็กเมือ่ เด็กอ่านหนงั สอื หรือฟังเร่อื งราวจากหนงั สอื จะซมึ ซับแบบอย่างและบรรทัดฐานของสังคมที่สะท้อนรูปแบบให้เห็นทั้งการ กระทาํ ข้อพึงปฏิบตั ิ คุณธรรมและจรยิ ธรรม รวมไปถงึ แบบแผน กฎเกณฑ์ และค่านิยมต่างๆ ที่ปรากฏใน หนังสือ เด็กจะค่อยๆ เรียนรู้ เลียนแบบ และสะสมไปทีละเล็กละน้อย จนกระทั่งยึดเป็นแนวปฏิบัติ เมอื่ เจรญิ วยั ขึน้ การอ่านหนังสือจึงเป็นการปูพ้ืนฐานความเป็นพลเมืองท่ีพึงประสงค์ ซึ่งมีส่วนท้ังทางตรงและ ทางอ้อมในการกําหนดทศิ ทางของสงั คมอนาคต การสง่ เสรมิ ใหเ้ ดก็ มีประสบการณ์ร่วมกับหนังสือต้ังแต่วัย แรกเริ่มของชีวิต ซึง่ เป็นวยั ทร่ี ับรู้และรับสิง่ แวดล้อมไดร้ วดเรว็ ทีส่ ดุ และเป็นช่วงวัยทสี่ มองพฒั นาสูงสุด หาก ผู้ใหญ่ได้ช่วย “เลือกสรร” หนังสือที่เหมาะสมให้กับเด็ก จะช่วยสร้างภูมิคุ้มกันและทักษะชีวิตให้ แกเ่ ด็กได้ ๑๓๐ เปดิ โลกอา่ นสร้างสุขจากโรงเรียนสูช่ มุ ชน

  “การอ่าน” ยังกอ่ เกดิ ตอ่ การวางรากฐานของการคิด การวิเคราะห์ การสร้างจินตนาการ รวมถึง การรูจ้ ักเห็นอกเห็นใจผู้อื่น (Empathy) บ่มเพาะความเกื้อกูลในวัยเติบโต ดังนั้น การท่ีจะสร้างนครแห่ง การอ่านได้จะต้องใช้ยุทธศาสตร์ ๓ ดี ที่เป็นการสร้างเมืองสื่อสร้างสรรค์ ไม่ว่าจะเป็นในระดับจังหวัด อาํ เภอ ตาํ บลหรือชมุ ชนเล็กๆ โดยเริ่มด้วยหลักการ ๓ ดี อันประกอบด้วย ๑) สื่อดี ๒) พืน้ ทด่ี ี และ ๓) ภมู ิดี สือ่ ดี จงึ เปน็ ส่อื ท่ีปลอดภัยและสร้างสรรคส์ ําหรับทกุ คน นัน่ หมายความว่า ผู้คนจะได้รับและได้ใช้ ส่อื ท่ีเหมาะสมกบั การพัฒนาในแต่ละชว่ งวยั ทั้งเด็ก เยาวชน และครอบครัวมโี อกาสเขา้ ส่ือดีได้ โดยไม่จาํ กดั โอกาส เวลาและสถานท่ี “ส่ือ” ในท่ีน้ีหมายถึง สื่อทุกประเภท ท้ังสื่อมวลชน ส่ือท้องถ่ิน สื่อพื้นบ้าน ปราชญ์ท้องถิ่นและสอื่ ใหม่ พืน้ ที่ดีพนื้ ท่ีสร้างสรรค์หรอื พ้นื ทส่ี ุขภาวะ หมายถงึ พน้ื ท่ที ่ีทุกคนมสี ่วนร่วมในการออกแบบและใช้ ประโยชนร์ ่วมกนั เป็นพนื้ ทท่ี บ่ี ุคคล ครอบครัวและชุมชนได้มาแลกเปล่ียนเรียนรู้ สานสร้างความสัมพันธ์ ท่ีดีต่อกัน เสริมพลังซ่ึงกันและกัน “พ้ืนที่ดี” ในที่นี้อาจเป็นได้ทั้งพ้ืนท่ีสร้างสรรค์ทางกายภาพและพื้นท่ี สรา้ งสรรค์ทางความคิด พ้นื ทส่ี รา้ งสรรคท์ างกายภาพ หมายถงึ พืน้ ทีส่ าธารณะท่ีมีความปลอดภัย เป็นพ้ืนที่ที่จัดให้บุคคล หรือกลุ่มบุคคลมาใช้ประโยชน์ร่วมกันหรือใช้ในการจัดกิจกรรมสร้างสรรค์เป็นประจํา เช่น การจัด สวนหย่อมให้เป็น “พ้ืนท่ีออกกําลังกาย” การจัดลานวัดเป็น “ลานแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรม” การจัด สนามกีฬาให้เป็น “ตลาดนัดอาหารปลอดภัย” การจัดห้องสมุดของโรงเรียนให้เป็น “แหล่งเรียนรู้โลก กวา้ ง” ทบี่ คุ คลท่ัวไปสามารถเข้าไปใชไ้ ด้อย่างไม่มขี อ้ จํากดั ด้านโอกาสและเวลา เป็นตน้ พ้นื ทส่ี ร้างสรรคท์ างความคิด หมายถงึ การจัดให้มีเวทีเพ่ือการแลกเปล่ียนทางความคิด ทั้งอย่าง เป็นทางการ เช่น การประชุมหารือเป็นวาระประจํา และอย่างไม่เป็นทางการ เช่น สภากาแฟ เป็นต้น เพอ่ื ให้บคุ คลหลากหลายกลุ่ม เพศ วัย ไดม้ าแลกเปลีย่ นความคิดเห็นต่อสถานการณ์ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น ในบ้านเมืองหรือในชุมชน ตลอดจนแลกเปล่ียนถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาอันเอ้ือต่อความสุขและการ พฒั นาในแตล่ ะช่วงวยั ของทุกคน ภมู ดิ ี หมายถงึ ภูมิปญั ญาในการฉลาดรู้เรื่องสื่อ ซ่ึงหมายถึงการเท่าทันสื่อ เท่าทันตนเอง เท่าทัน สังคม มีทักษะในการคิด วิเคราะห์อย่างมีวิจารณญาณ อันจะเป็นภูมิคุ้มกันให้กับตนเอง ครอบครัวและ ชุมชนในการป้องกันภัยรอบด้านและสามารถจัดการกับการเปล่ียนแปลง ได้อย่างเหมาะสม นอกจากนี้ คาํ ว่า “ภมู ดิ ี” ยงั หมายรวมถึง การใช้ภมู ิปัญญาของทกุ ฝ่ายในชุมชน ในการมีส่วนร่วมปกปอ้ งดูแลและสรา้ ง ชุมชนรว่ มกัน สถานศกึ ษาตน้ แบบ ชุมชนอา่ นสร้างสุข ๑๓๑ 

การมี “สื่อดี” ก็เหมือน “ต้นน้ํา” ท่ีไปทําให้เกิดกระบวนการของการจัดการด้าน “พื้นที่” ใน ชมุ ชนหรือสงั คมน้ันๆ จนทําใหเ้ กดิ “พน้ื ที่ดี” อนั เปรยี บไดก้ ับกลางน้าํ และท้ายท่สี ดุ ทัง้ สือ่ ดีและพน้ื ทด่ี กี ท็ าํ ให้ผู้คนมีภูมิปญั ญาที่เปน็ ด่งั ภมู ิคมุ้ กนั ไม่ใหต้ กไปส่อู บายทงั้ ปวง ซ่ึงเปรียบได้กับ “ปลายน้ํา”ในทางกลับกัน การทบ่ี คุ คลและชุมชนมีภูมิปัญญาและภูมคิ มุ้ กันทด่ี ีพวกเขาก็จะเป็น “นวัตกร” หรือผสู้ ร้างสรรคน์ วัตกรรม ท่ีทาํ ให้เกดิ “ส่ือดี” และ “พน้ื ทด่ี ี” ต่อไป เมืองสื่อสร้างสรรค์ จะต้องรองรับความต้องการการส่ือสารและวิถีชีวิตท่ีแตกต่างหลากหลาย ของคนทุกกลุ่มทุกประเภท ครอบคลุมท้ัง ๓ วัย คือ เด็กและเยาวชน คนวัยทํางาน และผู้สูงอายุ คนท้ังสามวัยสามารถท่ีจะส่ือสารกันเองได้เป็นอย่างดี มีโอกาสในการเข้าถึงส่ือดี พื้นท่ีสร้างสรรค์ และ เจรญิ ปัญญาได้ตามความต้องการ ความถนัดและความสนใจ ทุกคนเป็นพลังในการสร้างเมืองส่ือสร้างสรรค์และ “นครแห่งการอ่าน” ได้ โดยการร่วมสร้าง ร่วมเสพ เผยแพร่ สนับสนุนส่ือดีและพ้ืนที่สีขาวดังที่กล่าวมาแล้ว การท่ีจะทําให้จังหวัดเป็นนครแห่ง การอ่านได้ ผบู้ รหิ ารจังหวดั และหนว่ ยงานภาครัฐและภาคเอกชนในพ้ืนทจี่ ะตอ้ งทํางานควบค่กู นั ไปจึงจะทาํ ใหเ้ กดิ “นครแหง่ การอ่าน” ได้ ๑๓๒ เปิดโลกอ่านสร้างสขุ จากโรงเรียนสู่ชมุ ชน

  คาํ กล่าวในพธิ ปี ดิ โดย ทพ.กฤษดา เรืองอารยี ร์ ชั ต์ ผจู้ ัดการกองทุนสนับสนุนการสรา้ งเสริมสุขภาพ (สสส.) งานประกาศผลโครงการสถานศกึ ษาต้นแบบชุมชนอา่ นสร้างสุข ในโครงการและกจิ กรรมเฉลมิ พระเกยี รติ สมเดจ็ พระเทพรตั นราชสดุ าฯ สยามบรมราชกมุ ารี ในโอกาสฉลองพระชนมายุ ๕ รอบ ๒ เมษายน ๒๕๕๘ วนั ท่ี ๓ เมษายน ๒๕๕๘ ณ หอ้ งโลตสั ศูนยป์ ระชุมแห่งชาติสริ กิ ติ ิ์ เรียน ดร.พชิ ัย สนแจ้ง ผชู้ ่วยรัฐมนตรีประจาํ สาํ นักนายกรัฐมนตรี ผวู้ ่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ผูว้ า่ ราชการจงั หวดั ขอนแก่น ผูว้ ่าราชการจังหวดั ลาํ ปาง ผวู้ ่าราชการจังหวัดเชียงราย ผูว้ ่าราชการจังหวดั กระบี่ และ ผู้วา่ ราชการกรงุ เทพมหานคร แขกผ้มู ีเกียรติ ส่ือมวลชนทุกท่าน หนังสอื และการอ่าน ถอื เป็นเครอ่ื งมือที่มีประสทิ ธภิ าพในการเสริมสร้างพัฒนาการเด็ก เม่ือเด็ก อา่ นหนงั สือหรือฟังเรื่องราวจากหนงั สอื จะซมึ ซบั ถึงแบบอย่างและบรรทัดฐานของสังคมท่ีสะท้อนรูปแบบ ให้เหน็ ท้งั การกระทาํ ข้อพึงปฏิบัติคณุ ธรรมและจริยธรรม รวมไปถงึ แบบแผนกฎเกณฑ์ และคา่ นิยมตา่ งๆ ท่ี ปรากฏในหนังสือ เดก็ จะคอ่ ยๆ เรียนรู้เลยี นแบบและสะสมไปทลี ะเล็กละนอ้ ย จนกระท่ังยดึ เปน็ แนวปฏบิ ตั ิ เม่ือเตบิ โต การอ่านหนังสือจึงเป็นการปูพื้นฐานความเป็นพลเมืองท่ีพึงประสงค์ ซ่ึงมีส่วนทั้งทางตรงและ ทางอ้อมในการกาํ หนดทิศทางของสังคมอนาคต การสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน นับเป็นหนึ่งในกระบวนการขับเคล่ือนยุทธศาสตร์เมือง ๓ ดี ไดแ้ ก่ สอื่ ดี พ้นื ทีด่ ี ภมู ิดี ของ สสส. ในการรว่ มกับภาคีเครอื ขา่ ยในการขบั เคลื่อน และขยายพนื้ ที่ ๓ ดี ให้มี เพ่มิ มากขนึ้ เร่ือยๆ สําหรับโครงการสถานศึกษาต้นแบบ ชุมชนอ่านสร้างสุขปีการศึกษา ๒๕๕๗ ดําเนินการอย่าง ตอ่ เนอ่ื งเปน็ ปีท่ี ๓ แล้ว การเปลี่ยนแปลงท่ีเกิดข้ึน ช่วง ๒-๓ ปี ท่ีผ่านมา ท้ังผู้เรียนมีผลสัมฤทธิทางเรียนที่สูงขึ้น สมั พันธภาพทีด่ รี ะหว่างนกั เรยี น ครู และชมุ ชนโรงเรยี นกลายเปน็ แหลง่ เรยี นรใู้ ห้กบั ชุมชนใกล้เคียงได้เข้ามา ค้นคว้า สบื ค้นขอ้ มลู ข่าวสาร-ความรูต้ า่ งๆ ทเี่ ป็นประโยชน์ และมีการสนบั สนนุ งบประมาณพัฒนาห้องสมุด จากองค์การบริหารส่วนตําบล (อบต.) เกิดยุวทูตการอ่านที่มีความรู้ความสามารถออกแบบ และจัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่านกว่า ๖,๑๑๕ คน เกิดครูแกนนําส่งเสริมการอ่าน ๓๖๐ คน เกิดแกนนําชุมชนส่งเสริมการอ่าน ๖๐ คน เกิด สถานศึกษาต้นแบบด้านการส่งเสริมการอ่าน จํานวน ๑๑๗ โรงเรียน เกิดมุมการอ่าน พ้ืนที่การอ่านท่ี หลากหลายทงั้ ในโรงเรยี นและชุมชนใกล้เคยี ง เกดิ นวตั กรรมสง่ เสริมการอา่ นทมี่ ีสสี ัน สถานศกึ ษาต้นแบบ ชมุ ชนอา่ นสร้างสุข ๑๓๓ 

ปจั จยั สาํ คญั ท่ที าํ ให้โรงเรียนประสบความสําเร็จในการส่งเสริมการอ่าน เพราะผู้บริหารโรงเรียน ให้ความสาํ คญั กบั การสง่ เสริม บคุ ลากรเห็นความสําคัญและให้ความร่วมมอื การมงี บประมาณเพียงพอ มคี วามพรอ้ มในดา้ นห้องสมุด-แหลง่ เรยี นรู้ มีกจิ กรรมสง่ เสรมิ การอ่าน อยา่ งต่อเนือ่ ง ส่วนนักเรียนก็ให้ความสนใจและกระตือรือร้นร่วมกิจกรรมส่งเสริมการอ่าน และมีการสร้าง เครือขา่ ยความรว่ มมอื ส่งเสริมอ่านกับคนในชุมชนและหรือหนว่ ยงานภายนอก นอกจากน้ี งานจะประสบความสําเร็จไม่ได้ หากไม่ได้รับความร่วมมืออย่างดีย่ิงจากทุกฝ่าย ต้องขอขอบคณุ สาํ นักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน (สพฐ.) สํานักการศึกษา (กทม.) สํานักงาน สง่ เสริมการศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั (กศน.) และกรมสง่ เสรมิ การปกครองส่วนท้องถ่ิน (สถ.) แผนงานสร้างเสรมิ วฒั นธรรมการอา่ น ขอขอบคุณทุกโรงเรียน ผู้บริหารสถานศึกษา คุณครู และนักเรียนทุกคน ในการมีส่วนร่วมกับ กิจกรรมการสรา้ งเสริมวฒั นธรรมการอา่ นน้ี สาํ หรบั การดําเนินโครงการในปีที่ ๓ ได้ค้นหาโรงเรียนที่มีศักยภาพในการเป็นโรงเรียนต้นแบบ ส่งเสริมการอา่ น และสรา้ งการมีสว่ นร่วมจากชมุ ชนและภาคตี ่างๆ เพอ่ื ขับเคลอื่ นใหเ้ กิดการพฒั นาศกั ยภาพ แกนนาํ ครู นักเรยี น สร้างเครอื ขา่ ยโรงเรียน-สถานศกึ ษาอ่านสรา้ งสุข จํานวนไม่น้อยกว่า ๖๐ แหง่ จนทําให้สถานศึกษาที่เข้าร่วมโครงการได้รับการพัฒนาเป็นสถานศึกษา-ชุมชนอ่านสร้างสุข ท่ี สามารถเปน็ แหล่งเรียนรู้ เปน็ ตวั อยา่ งแกส่ ถานศึกษาอน่ื ๆ มนี วัตกรรม “อ่านสร้างสุข” และแนวทางดําเนินงานอ่านสร้างสุขท่ีเสริมสร้างพัฒนาศักยภาพ ผู้เรียน ครอบครัว บุคลากรทางการศึกษาและชุมชน ท่ีมีสัมพันธภาพท่ีดี มีความร่วมมือในการสร้าง ความสขุ ในชมุ ชนร่วมกนั ในปี ๒๕๕๘ โครงการฯ ยังได้รับการพิจารณาให้เข้าร่วม “โครงการเฉลิมพระเกียรติสมเด็จ พระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี” ถือเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างย่ิงต่อการปลูกฝัง และ ส่งเสรมิ นสิ ัยรักการอ่าน การเรยี นรู้ของเด็กและเยาวชนสบื เนอ่ื งต่อไป ขอบคณุ ครบั ๑๓๔ เปิดโลกอ่านสรา้ งสขุ จากโรงเรียนสู่ชมุ ชน

สถานศึกษาตน้ แบบ ชมุ ชนอา่ นสรา้ งสุข ๑๓๕



สถานศึกษาตน้ แบบ ชมุ ชนอา่ นสรา้ งสุข ๑๓๗



การถอดบทเรียน : การดําเนนิ โครงการ “สถานศึกษาตน้ แบบชุมชนอ่านสรา้ งสขุ ” ปีการศกึ ษา ๒๕๕๗ บทนํา ด้วยสํานักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) โดยแผนงานสร้างเสริม วัฒนธรรมการอา่ น ได้จัดทําบันทึกข้อตกลง (MOU) ร่วมกับ สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ัน พ้ืนฐาน (สพฐ.) กระทรวงศึกษาธิการ สํานักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตาม อัธยาศัย (กศน.) กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น (สถ.) และสํานักการศึกษากรุงเทพมหานคร จดั โครงการ “สถานศึกษาต้นแบบชมุ ชนอ่านสรา้ งสุข” ปีการศึกษา ๒๕๕๗ นําไปสู่การหนุนเสริมให้ เกิดสถานศึกษาต้นแบบที่ใช้แนวคิด “อ่านสร้างสุข”เพื่อพัฒนาศักยภาพผู้เรียนในทุกด้าน รวมถึง บุคลากรในสถานศึกษา ตลอดจนครอบครัวและชุมชน เพ่ือร่วมสร้างสังคมสุขภาวะ รวมถึงให้ สถานศกึ ษาเปน็ ตัวอย่างต้นแบบ “อ่านสร้างสุข” เป็นแหล่งแลกเปล่ียนเรียนรู้ในการขยายและสร้าง เครือขา่ ยความร่วมมอื ใหเ้ กิดสถานศกึ ษาอ่านสร้างสุขทัว่ ประเทศตอ่ ไป ในการดําเนินโครงการ ผู้เข้าร่วมท้ังผู้บริหาร ครู ผู้นําชุมชน และแกนนําเยาวชนให้ความ สนใจและนําสง่ิ ที่เรียนร้ไู ปจัดกิจกรรมส่งเสริมการอา่ นในโรงเรียนอยา่ งหลากหลาย รวมถึงการสง่ เสรมิ การอา่ นในชุมชน ด้วยการดงึ ครอบครัว ชุมชน นกั ศกึ ษา อาสาสมัครสาธารณสุขประจําหมู่บ้าน ผู้นํา ทอ้ งถนิ่ ฯลฯ มารว่ มจัดกิจกรรมสง่ เสรมิ การอ่านโดยทั้งผู้บริหาร ครู ผู้นําชุมชน และแกนนําเยาวชน ทําหน้าท่ีเปน็ ตวั นําการเปลี่ยนแปลงเพ่อื ขับเคลื่อนโครงการฯ การถอดบทเรียนครั้งนี้จึงเป็นการถอด บทเรียนจากการดําเนินงานสถานศึกษาต้นแบบชุมชนอ่านสร้างสุขที่มีผลการดําเนินงานดีเด่นใน โครงการ การศกึ ษาบทเรยี นและความสําเรจ็ ของการดาํ เนินโครงการ “สถานศึกษาต้นแบบชุมชนอ่าน สร้างสขุ ” ปีการศกึ ษา ๒๕๕๗ มีวตั ถุประสงค์ ๓ ประการ ดงั น้ี ๑. เพื่อถอดบทเรยี นให้ไดแ้ นวปฏบิ ตั ทิ ดี่ จี ากการดาํ เนินโครงการ“สถานศกึ ษาต้นแบบชุมชน อ่านสร้างสุข” ปีการศึกษา ๒๕๕๗ ที่ผ่านการทดลองปฏิบัติการเพ่ือขับเคลื่อนให้เกิดการพัฒนา ศักยภาพแกนนําครู นักเรยี น สรา้ งเครือขา่ ยโรงเรยี นสถานศกึ ษาชมุ ชนอ่านสร้างสุข ๒. เพ่ือนําเสนอผลการถอดบทเรยี นเปน็ แนวทางดาํ เนนิ งานอา่ นสรา้ งสขุ ที่เสริมสร้างพัฒนา ศกั ยภาพผู้เรยี น ครอบครัว บุคลากรทางการศึกษาและชุมชน ที่มีสัมพันธภาพที่ดี มีความร่วมมือใน การสร้างความสุขในชมุ ชนร่วมกนั ๓. เพ่ือเสนอแนะแนวทางในการขยายผลใหก้ ับหน่วยงานที่เกีย่ วขอ้ ง สถานศกึ ษาต้นแบบ ชมุ ชนอ่านสรา้ งสุข ๑๓๙

เจ้าของบทเรียน : โรงเรียนวัดปากบ่อ สาํ นักงานเขตสวนหลวง กรงุ เทพมหานคร โรงเรียนประชาอทุ ศิ (จนั ทาบอนสุ รณ์) สํานักงานเขตดอนเมอื ง กรงุ เทพมหานคร โรงเรียนมธั ยมปรุ ณาวาส สํานักงานเขตทววี ฒั นา กรงุ เทพมหานคร โรงเรียนบา้ นบัวมล (เจรญิ ราษฏรอ์ ทุ ศิ ) สํานักงานเขตบางเขน กรงุ เทพมหานคร โรงเรยี นประชานิเวศน์ สาํ นกั งานเขตจตจุ ักร กรงุ เทพมหานคร บทเรียนและความสําเร็จ ๑. โครงการ/กจิ กรรมท่ีประสบผลสาํ เร็จ การอา่ นสร้างการเรียนรู้ “กจิ กรรมสง่ เสรมิ การอา่ น”เป็นกลไกสนับสนุนการเรยี นรู้และ เออ้ื ใหเ้ กิดการพฒั นาความสัมพันธ์ทางสังคมระหว่างผู้คนกิจกรรมส่งเสริมการอ่านจึงมีความสําคัญ ในการสนบั สนนุ ใหค้ วามสัมพันธ์และการเรียนรูพ้ ัฒนาเพม่ิ พูนข้ึนและเกดิ ไดเ้ รว็ ข้นึ กิจกรรมส่งเสรมิ และสนับสนุนให้นกั เรียนเกิดการอา่ นสร้างสขุ ในโรงเรยี น กจิ กรรมทาํ เป็นกิจวตั รประจาํ วัน  กจิ กรรมยวุ ทูตชวนเพอื่ นอ่านเปน็ กจิ กรรมท่ีจัดทุกวันช่วงพักกลางวัน โดยยุวทูตจะ ชวนเพื่อนๆ ท่ียังอ่านหนังสือไม่คล่องมาอ่านหนังสือด้วยกันเป็นกลุ่มหรือเป็นคู่ถ้าเพ่ือนอ่านไม่ถูก ยวุ ทูตกจ็ ะช่วยแนะนําและสอนสะกดคําใหอ้ า่ นได้ถูกต้องคล่องข้นึ  กิจกรรมอา่ นทกุ วนั สรา้ งสรรค์ปัญญา นักเรียนจะนําหนังสือเรียนหรือหนังสือท่ีตน สนใจและชนื่ ชอบมานง่ั อ่านบรเิ วณรอบๆ สนาม ทกุ เชา้ ก่อนเขา้ แถวทาํ กจิ กรรมหน้าเสาธง บนั ทกึ การอ่าน  กิจกรรมหนังสือเล่มโปรดจากครูให้หนูอ่านเป็นกิจกรรมท่ีผู้บริหารครูและบุคลากร แนะนําหนังสือเล่มโปรดคนละ ๑ เล่มต่อภาคเรียนและคัดเลือกเร่ืองราวที่เป็นประโยชน์ให้ความรู้ คนละ ๕ เรอื่ งใหน้ ักเรยี นอ่านในชว่ งเช้าวันละ ๓๐ นาที และทําบนั ทึกการอ่าน สร้างสรรคผ์ ลงาน  กิจกรรมเล่าไปพับไปเป็นกิจกรรมที่โดยยุวทูตการอ่านเลือกหนังสือ เป็นสื่อ ในการถา่ ยทอดเรอ่ื งราวและต่อยอดด้วยการสร้างผลงานที่มคี ณุ ภาพและมคี วามคิดสรา้ งสรรค์ ๑๔๐ เปิดโลกอ่านสร้างสุขจากโรงเรยี นสูช่ ุมชน

คา่ ยสร้างสรรค์  กจิ กรรมคา่ ยพน่ี อ้ งชวนกันรักการอา่ นเป็นกิจกรรมในรูปแบบค่ายรักการอ่านมีฐาน กจิ กรรมต่างๆ ทีย่ ุวทูตการอา่ นมสี ว่ นรว่ มในกระบวนการจดั กิจกรรมในบรรยากาศที่เป็นกันเองได้ท้ัง ความรู้ความสนกุ สนานความสัมพนั ธ์ทีด่ รี ะหว่างพกี่ ับน้อง กิจกรรมส่งเสริมและสนับสนุนให้เกิดการอ่านสร้างสุข ในโรงเรียนและ ชมุ ชน/เครือขา่ ย เกม/กิจกรรม  กิจกรรมแรลลี่เครือข่ายอ่านสร้างสุขเป็นกิจกรรมที่จัดเป็นฐานความรู้โดยความ รว่ มมอื ของคนในชุมชน จาํ นวน ๘ ฐาน ฐานที่ ๑ สโนไวทท์ ายคาํ ฐานที่ ๒ กงล้อมหัศจรรย์ ฐานที่ ๓ บปุ ผานานาคาํ ฐานที่ ๔ นิทานหรรษาฐานที่ ๕ ภาษาดนตรีฐานที่ ๖ เรียงถ้อยร้อยคํากลอนฐานท่ี ๗ เซยี มซชี ช้ี ะตาอ่านภาษาดว้ ยบทกลอนฐานท่ี ๘ อักษรซอ่ นคํา หอ้ งสมดุ เคลื่อนที่  กจิ กรรมเรยี นรูท้ ่บี า้ นผา่ นครูคนแรกเปน็ กิจกรรมท่ีพ่อแมผ่ ู้ปกครองมสี ่วนรว่ มในการ ส่งเสริมการอา่ นท่ีบ้านเชื่อมโยงจากกิจกรรมการเรียนร้ทู ่ีโรงเรียน เช่นการอ่านหนังสือร่วมกันกับลูก ช่วยกนั ตอบปญั หาจากเรือ่ งท่ีอา่ นแสดงบทบาทสมมตเิ ลน่ เกมการอ่าน ทาํ หนังสือเล่มเล็กค้นคว้าจาก อินเทอร์เน็ตรว่ มกัน  กิจกรรมยอดนักอ่านเป็นกิจกรรมท่ีให้ยุวทูตการอ่านและนักเรียนทั่วไปยืมหนังสือ ห้องสมุดไปให้บุคคลตา่ งๆ ในครอบครัวชุมชนได้อา่ นตามความต้องการของชมุ ชน กิจกรรมบาํ เพ็ญประโยชน์  กิจกรรมอา่ นสร้างสรรค์แบ่งปันคนตาบอด เป็นกิจกรรมที่ให้นักเรียนอาสามาอ่าน หนงั สือให้คนตาบอดฟงั ผ่านแอพพลิเคชัน่ Read for the Blind  กิจกรรมยุวทตู สง่ เสริมการอ่านส่ชู ุมชนเปน็ กจิ กรรมทใ่ี หน้ ักเรียนทีเ่ รียนดี มีจติ อาสา มาทําหน้าท่ีนําน้องๆ และเพื่อนๆ ปฏิบัติกิจกรรมตามโครงการ ช่วยทําให้เพ่ือนและน้องสามารถ อา่ นหนังสือไดแ้ ละอ่านคลอ่ งข้นึ  กจิ กรรมใจสบายผอ่ นคลายด้วยการอา่ นเปน็ กจิ กรรมทร่ี ับสมคั รนกั เรียนทีม่ ีจิตอาสา มาอา่ นหนงั สือให้กับผูป้ ่วยเดก็ ผู้ใหญ่คนชราและคนพกิ ารฟังในวนั หยดุ สถานศึกษาต้นแบบ ชมุ ชนอา่ นสรา้ งสขุ ๑๔๑

มมุ อา่ นสรา้ งสุข  กิจกรรมชั้นหนังสือสู่ประตูบ้านเป็นการสร้างสภาพแวดล้อมที่ส่งเสริมการอ่านใน บา้ นเชน่ การซื้อหนังสือให้ลกู อ่าน พ่อแม่ใชเ้ วลาวนั ละประมาณ ๒๐ นาทีอา่ นหนังสือกับลูกทั้งที่บ้าน และทโี่ รงเรยี น ผลสาํ เร็จทเ่ี กดิ ข้ึน ๑) นักเรียนมีความกระตือรือร้น สนใจใฝ่หาความรู้ด้วยตนเอง รู้จักใช้เวลาว่างให้เกิด ประโยชน์ การอา่ นเรมิ่ เขา้ มามีบทบาทสําคัญในชีวิตประจําวัน สนใจท่ีจะซ้ือหนังสืออ่านด้วยตนเอง พัฒนาตนเองให้อ่านหนังสือได้คล่องขึ้น จํานวนนักเรียนท่ีอ่านไม่ออก อ่านไม่คล่อง ลดลงอย่าง ต่อเนอ่ื ง ผลสมั ฤทธิท์ างการเรียนสงู ข้ึนความสําเร็จและความภาคภมู ิใจท่ีได้ทําประโยชน์ต่อส่วนรวม ผา่ นการอ่าน สง่ เสริมให้นักเรียนมีนิสัยรักการอ่านมากยิ่งข้ึน ส่งเสริมคุณลักษณะที่พึงประสงค์ของ ผูเ้ รียนให้มีความเสียสละมีนา้ํ ใจตอ่ ผูอ้ ืน่ และมจี ติ สาธารณะ ๒) ยุวทูตการอ่านมีจํานวนเพิ่มข้ึนมีความกล้าแสดงออกมีความรับผิดชอบต่อตนเอง มีภาวะความเป็นผู้นํารจู้ ักใชเ้ วลาว่างให้เป็นประโยชน์ มที ักษะการนาํ เสนอมีทักษะในการจัดการและ การดําเนนิ กจิ กรรมมที กั ษะการทาํ งานเป็นทีมสามารถส่อื การไดอ้ ย่างมีประสทิ ธภิ าพทุกคนมีเครือขา่ ย ในห้องเรียนมีการขยายผลทํากิจกรรมสู่ชุมชนอย่างต่อเน่ือง เห็นประโยชน์ของการอ่านและร่วม กจิ กรรมจติ อาสาเพื่อโรงเรยี นและชุมชน ๓) โรงเรียนได้รับการชืน่ ชมจากผู้ปกครองและคนในชุมชนเครือข่ายผู้ปกครององค์กร ภาคธุรกิจ ผู้นําชุมชน และชุมชน สนับสนุน ให้ความร่วมมือและจัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่าน อาทิ ห้องเรียนพอ่ แมก่ จิ กรรมครอบครวั เป็นฐานสรา้ งบ้านอา่ นสรา้ งสุขค่ายรกั การอา่ น แรลลีเ่ ครอื ขา่ ยอ่าน สร้างสขุ ๔) หอ้ งสมดุ ของโรงเรียนได้รับการพัฒนาปรบั ปรงุ เพ่อื ใหไ้ ด้มาตรฐานรองรับการเข้าใช้ บรกิ ารของนักเรยี นและชุมชนมคี วามสะอาดบรรยากาศส่งเสริมการอ่านมีการจัดป้ายนิเทศส่งเสริม การอา่ นตามโอกาสและวนั สําคัญตา่ งๆ ๕) ครไู ดพ้ ฒั นากิจกรรมใหมๆ่ ใหส้ อดคลอ้ งกบั กลุ่มเป้าหมาย ๖) ผู้ปกครองเห็นความสําคัญของการอ่านมีเวลาทํากิจกรรมการอ่านร่วมกัน ความสัมพันธใ์ นครอบครัวดขี น้ึ เด็กเกิดความร้สู ึกอบอนุ่ เกดิ ความประทับใจในการอ่านทําใหร้ กั หนงั สือ รกั การอา่ นและรักชุมชน ลดปญั หาเด็กตดิ เกมทะเลาะววิ าทและปัญหายาเสพตดิ เกดิ ความสัมพันธ์อัน ดีระหวา่ งโรงเรยี นวดั และบา้ น ๑๔๒ เปดิ โลกอา่ นสรา้ งสขุ จากโรงเรยี นส่ชู ุมชน

๒. ปจั จยั ท่ีสนับสนนุ ใหก้ ารดาํ เนนิ โครงการประสบความสาํ เร็จมอี ะไรบ้าง โครงการ “สถานศึกษาต้นแบบชุมชนอ่านสร้างสุข” ปีการศึกษา ๒๕๕๗ สามารถ ดาํ เนินการสําเรจ็ ลลุ ว่ ง นําไปส่กู ารหนนุ เสริมให้เกิดสถานศึกษาต้นแบบท่ีใช้แนวคิด “อ่านสร้างสุข” เพ่อื พฒั นาศกั ยภาพผู้เรียนในทุกด้าน รวมถึงบุคลากรในสถานศึกษา ตลอดจนครอบครัวและชุมชน เน่อื งจากมกี ารบริหารจดั การที่ดี มีการสร้างนวัตกรรมการอ่านเพ่ือขับเคลื่อนและสร้างพลวัตรแห่ง การอ่านของชมุ ชนให้มคี วามต่อเนอ่ื งยัง่ ยนื ภายใตป้ จั จยั สําคัญดังน้ี ปจั จัยทสี่ นบั สนนุ ใหก้ ารดาํ เนนิ โครงการประสบความสําเรจ็ สถานศึกษา/ผู้ดําเนินโครงการ (ผู้บริหาร ครู ผู้นําชุมชนและแกนนํายุวทูตการอ่าน) มกี ารสาํ รวจวิเคราะห์สภาพปญั หาและความตอ้ งการของนกั เรยี นและชุมชนกอ่ นเพื่อนําข้อมูลท่ีได้มา วางแผนการจัดกิจกรรมอย่างเหมาะสมและตรงกับความต้องการของนักเรียนและชุมชนมีความ สัมพันธ์ท่ดี แี ละไดร้ ับความไวว้ างใจจากครอบครัวและชุมชน จึงได้รับความร่วมมือและการสนับสนุน เปน็ อยา่ งดี กิจกรรม กจิ กรรมส่งเสริมการอ่านน่าสนใจจัดข้ึนภายใต้ความสัมพันธ์ที่กลุ่มเป้าหมาย รู้สึกสบายเป็นอสิ ระไม่ได้ถูกกระตนุ้ อยา่ งจงใจเพื่อให้อ่านแต่อ่านในบรรยากาศสภาพแวดล้อมที่เป็น มิตรตามสบายรู้สกึ ว่าสามารถเปิดอ่านหนังสือได้โดยไม่วิตกว่าจะถูกตําหนิหรือต้องอ่านให้ครบตาม จํานวนชั่วโมงทีถ่ ูกกําหนด ยุวทูตการอ่าน มีบทบาทหน้าท่ีในการขับเคล่ือนกิจกรรมส่งเสริมการอ่านสู่ กลุ่มเป้าหมาย และมีความสามารถในการสร้างเครือข่าย ชักชวนสมาชิกให้เข้าร่วมกิจกรรมอย่าง ต่อเนื่อง กลมุ่ เปา้ หมาย (นักเรียน) รักการอ่านเพ่ิมมากข้ึน อ่านคล่องขึ้น เป็นส่ิงสะท้อนความ เปล่ียนแปลงท่ีเกดิ ข้ึน ทําใหท้ กุ คนมกี ําลงั ใจผลกั ดนั เหน็ แสงสวา่ งทีป่ ลายอุโมงค์ ผบู้ ริหารสถานศึกษา กําหนด“การสง่ เสริมการอ่าน”เป็นนโยบายหลักของสถานศึกษา และให้การสนับสนุนอย่างเต็มท่ี มีการประชุมวางแผนประสานงานติดตามการดําเนินงาน หาแนวทางแก้ไขปญั หาและประเมนิ ผลการดําเนนิ งานอย่างต่อเน่อื ง ครูและบุคลากรทางการศึกษา ครูทุกคนมีส่วนร่วมในการดําเนินงานตามโครงการ มคี วามรกั ความสามัคครี ว่ มมือรว่ มใจเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน มีส่วนร่วมในการส่งเสริมการอ่านและ แก้ไขปญั หาการอ่านร่วมกันจัดกจิ กรรมเพ่อื สง่ เสริมใหน้ กั เรยี นมนี ิสยั รักการอ่านเพื่อขับเคล่ือนสังคม แห่งการรักการอ่านร่วมกัน จัดสิ่งแวดล้อมในโรงเรียนให้เป็นแหล่งเรียนรู้ และเป็นแบบอย่างท่ีดีใน สถานศกึ ษาตน้ แบบ ชุมชนอา่ นสร้างสขุ ๑๔๓

ด้านการอา่ นและการแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง ครูบรรณารักษ์มีความรับผิดชอบในงานการพัฒนา หอ้ งสมดุ ใหไ้ ด้มาตรฐาน และมคี วามคดิ สรา้ งสรรค์ ครอบครัว/ผู้ปกครอง รบั ร้ถู งึ สภาพปญั หาการอ่านของบตุ รหลานและเข้ามามีส่วนร่วม ชว่ ยแกไ้ ข เห็นความสาํ คญั ของการอา่ นให้ความรว่ มมือในทุกกิจกรรมท่ีส่งเสริมสนับสนุนและปลูกฝัง นสิ ยั รกั การอ่าน คณะกรรมการสถานศกึ ษา การมสี ่วนร่วมอย่างเขม้ แขง็ ของ คณะกรรมการสถานศึกษา คณะกรรมการเครอื ข่ายผปู้ กครองและชุมชนโดยมกี ารกําหนดยุทธศาสตร์สนับสนุนงบประมาณการ ขยายผลไปยังโรงเรียนในเขตพน้ื ท่แี ละชุมชนใกล้เคียง ชมุ ชน/เครอื ข่าย เห็นความสําคญั ของการอ่าน มีส่วนรว่ มในการดําเนนิ กจิ กรรมส่งเสริม การอ่านและเข้ารว่ มเปน็ เครือข่ายการอ่าน มกี ารจัดทาํ บนั ทกึ ขอ้ ตกลง (MOU) วา่ ดว้ ยความรว่ มมอื ใน การขบั เคลือ่ นและสนับสนนุ การดาํ เนินงานกิจกรรมส่งเสริมการอา่ น ในโครงการสถานศึกษาต้นแบบ ชุมชนอา่ นสร้างสขุ ปีการศกึ ษา ๒๕๕๗–๒๕๕๙ ห้องสมดุ และแหล่งเรียนรู้ เป็นแหล่งเรียนรู้ให้คนในชุมชนเข้ามาศึกษาค้นคว้า สืบค้น ข้อมลู ข่าวสารความร้ตู า่ งๆ ท่ีเป็นประโยชน์ เป็นห้องสมุดที่ดีตามมาตรฐาน หนังสือดีมีคุณภาพและ บรรยากาศภายในหอ้ งสมุด/สถานศึกษาเอ้ือตอ่ การเรียนรู้ หนว่ ยงานภายนอก ภาครฐั และเอกชนทใี่ ห้ความรว่ มมือสนับสนุนส่งเสริมด้านวิชาการ ด้านการเงิน ๓. ชุมชนยุวทตู /ทตู การอา่ นและสถานศกึ ษาต้นแบบควรมีบทบาทอย่างไรในการหนุน เสริมให้เกิดนครแห่งการอ่านที่ใช้แนวคิด“อ่านสร้างสุข” เพ่ือพัฒนาศักยภาพ เด็กเยาวชนและประชาชนในพนื้ ที่  บทบาทของผู้ปกครองและชุมชน ผู้ปกครอง : ให้การสนับสนุนการส่งเสริมการอ่าน โดยจัดมุมรักการอ่านเป็นการ สร้างสภาพแวดลอ้ มท่ีส่งเสริมการอ่านในบา้ นพ่อแม่อ่านหนังสือให้ลูกฟังหรืออ่านหนังสือร่วมกับลูก ทง้ั ทีบ่ า้ นและทีโ่ รงเรยี นการซ้อื หนงั สอื ให้ลูกอ่าน ใช้เวลาวันละประมาณ ๒๐ นาที ในการอ่านหนังสือ กับลกู ชุมชน : สร้างพฤติกรรมให้เกิดการเลียนแบบพ่อแม่อ่านหนังสือให้ลูกฟังผู้ใหญ่/ พ่อแม่อ่านหนงั สือเปน็ กจิ วตั รประจําวันชุมชนใหค้ วามรว่ มมือในการดําเนินงานเครือข่ายการส่งเสริม การอา่ นร่วมจดั กจิ กรรมและประสานความร่วมมอื กับคนในชุมชนและองค์กรภาครัฐ เอกชนและภาค ประชาสังคมอย่างต่อเนื่อง ๑๔๔ เปดิ โลกอา่ นสร้างสุขจากโรงเรียนสชู่ มุ ชน

 บทบาทของสถานศกึ ษา (ครูและผบู้ ริหาร) ครู : มคี วามรู้เทา่ ทนั ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีสามารถนําเทคโนโลยีมาปรับใช้ ในการสง่ เสริมการอ่านเป็นตวั อยา่ งในการสรา้ งนิสยั รักการอา่ นใหแ้ ก่เด็กมกี ารพฒั นาการจัดกิจกรรม สง่ เสรมิ การอ่านใหม้ คี วามหลากหลายและผลิตส่ือในการส่งเสริมการอ่านที่หลากหลายมีการบันทึก การอา่ นอยา่ งต่อเน่ือง ผบู้ รหิ าร : ให้ความสําคญั และให้การสนับสนุนกิจกรรมส่งเสริมการอา่ นเป็นนโยบาย สําคัญอยา่ งตอ่ เนอื่ งสม่าํ เสมอ  บทบาทของยุวทตู /ทูตการอา่ น ยุวทูตการอ่าน : นําความรู้ไปใช้ในชีวิตประจําวันเป็นผู้นําในการถ่ายทอดความรู้ เชญิ ชวนให้ผู้อ่นื เหน็ ความสําคญั และรักการอา่ นมากข้ึน สถานศกึ ษาตน้ แบบ ชมุ ชนอา่ นสรา้ งสขุ ๑๔๕

เจา้ ของบทเรียน : โรงเรียนนารีนกุ ลู ๒ สํานักงานเขตพืน้ ทก่ี ารศกึ ษามัธยมศกึ ษาเขต ๒๙ (อุบลราชธานี) โรงเรยี นบา้ นดอนสงู สังกดั สํานักงานเขตพ้นื ทก่ี ารศึกษาประถมศกึ ษาตราด โรงเรียนวดั ทงุ่ สว่าง สงั กัดสํานักงานเขตพ้ืนที่การศึกษาประถมศกึ ษา นครราชสมี า เขต ๑ โรงเรยี นจกั รคาํ คณาทร สงั กดั สํานกั งานเขตพืน้ ทกี่ ารศึกษามธั ยมศกึ ษา เขต ๓๕ (ลาํ พนู ) โรงเรยี นชมุ ชนบ้านบอ่ ประดู่ สงั กัดสาํ นักงานเขตพื้นท่ีการศกึ ษาประถมศึกษา สงขลา เขต ๑ บทเรียนและความสําเรจ็ ๑. โครงการ/กจิ กรรมทป่ี ระสบผลสําเร็จ การอา่ นสรา้ งการเรยี นรู้ “กิจกรรมสง่ เสรมิ การอา่ น”เปน็ กลไกสนับสนนุ การเรียนรู้และ เอือ้ ใหเ้ กิดการพัฒนาความสัมพันธ์ทางสังคมระหว่างผู้คนกิจกรรมส่งเสริมการอ่านจึงมีความสําคัญ ในการสนบั สนนุ ใหค้ วามสัมพันธแ์ ละการเรียนร้พู ัฒนาเพม่ิ พนู ข้นึ และเกดิ ไดเ้ ร็วขึน้ กจิ กรรมส่งเสรมิ และสนบั สนุนใหน้ กั เรยี นเกดิ การอ่านสร้างสขุ ในโรงเรียน กิจกรรมทําเปน็ กิจวัตรประจาํ วัน  กิจกรรมรักอ่านสานสุข เป็นกิจกรรมการอ่านและทําบันทึกการอ่านในตอนเช้า ก่อนเรียนคาบแรกและในช่วงเวลาว่าง โดยมีครูท่ีปรึกษาครูบรรณารักษ์และยุวทูตการอ่าน ในแต่ละห้องเรียนคอยดูแล  กิจกรรมมหัศจรรย์ยามเช้าเป็นกิจกรรมส่งเสริมการอ่านทั้งโรงเรียนดําเนินการ อย่างน้อยวันละ ๑๐ นาที กอ่ นเรียนท้ังครูและนกั เรยี นอา่ นกอ่ นเรยี นเพอ่ื เป็นการฝกึ สมาธิและมีเวลา ในการอ่านอย่างสมํา่ เสมอตอ่ เนื่อง บันทึกการอา่ น  กิจกรรมลิขติ ขานบันทึกความเป็นกิจกรรมที่ให้ผู้เรียนได้ฝึกทักษะการเขียนบันทึก ความรจู้ ากการอ่านลงในสมุด อาทิ ช่ือผู้แต่งชื่อเร่ืองประเภทของหนังสือเรื่องย่อและข้อคิดเห็นจาก เร่ืองท่อี า่ นสมดุ บันทึกการอา่ นน้นี ักเรียนจะเขียนบนั ทึกทุกวันสง่ ให้ผู้ปกครองลงนามรบั ทราบสง่ ใหค้ รู ท่ีปรึกษาตรวจสัปดาห์ละครั้งเมื่อครบกําหนดส่งครูที่ปรึกษาจะคัดเลือกยอดนักอ่านประจําห้อง ๑๔๖ เปดิ โลกอา่ นสร้างสุขจากโรงเรยี นสู่ชมุ ชน

คณะกรรมการแต่ละระดับจะคัดเลือกยอดนกั อ่านของระดับช้ันโดยดจู ากจํานวนหนงั สอื ทเ่ี ดก็ อา่ นและ คณุ ภาพในการเขยี นบนั ทกึ เพอื่ มอบเกยี รติบตั รให้ในวันวิชาการ เกม/กิจกรรม  กจิ กรรม Stars of knowledge เปน็ กิจกรรมเก่ยี วกับสุภาษติ สาํ นวนไทยทําคฑาดาว พร้อมติดหมายเลขในดาวทง้ั สองด้าน นําซีดีท่ีใช้แล้วด้านหนึ่งติดตัวเลขอีกด้านหน่ึงวาดภาพสํานวน ไทยนักเรียนอ่านใบความรู้และจับคฑาดาว เม่ือได้หมายเลขใดก็จับซีดีที่หมายเลขตรงกับคฑาดาว แล้วทายว่าเป็นสํานวนอะไรพร้อมบอกความหมายสํานวนไทย ใครตอบถูกจะมีตราดาวประทับ เป็นคะแนนในสมุดบนั ทกึ  กิจกรรมมหัศจรรย์การอ่านเป็นการจัดกิจกรรมตอบปัญหาจากวงล้อท่ีประกอบ ไปด้วยคาํ ถามจากกลุม่ สาระตา่ งๆ แยกระดับหากเป็นในโรงเรียนจะแยกระดับ ม.ต้น ม.ปลาย หากใช้ นอกโรงเรียนจะนาํ ไปใชก้ ับนกั เรียนระดบั ชนั้ ประถม  กิจกรรมอิงลิชแคมป์ Read aloud เป็นกิจกรรมท่ีฝึกทกั ษะการฟังเกี่ยวกับการออก เสียง Phonics จากเพลง ฝกึ ทักษะการอ่านออกเสียงตัวอักษร A – Z และฝึกการสร้างคําศัพท์จาก บตั รคาํ อ่านประโยค อ่านนิทาน อ่านบทความ  กิจกรรมแนะนําหนงั สอื ดที ่นี า่ อา่ น... ผา่ นเฟสบุ๊ค เป็นกจิ กรรมทใ่ี หผ้ เู้ รียนยมื หนังสือ จากห้องสมุดไปอ่าน แล้วเลือกวรรคทอง คําคมที่โดนใจ สะดุดใจ สร้างแรงบันดาลใจ แนะนําผ่าน เฟสบคุ๊ ของตน แล้วเชิญชวนเพอ่ื นๆ มากดไลค์ หรือแสดงความคิดเหน็ เพมิ่ เติมสปั ดาห์ละเลม่ สร้างสรรค์ผลงาน  กิจกรรมสร้างงานสร้างสุขสนุกกับการอ่าน (หน่ึงสมองสองมือ)ให้นักเรียนอ่าน หนงั สอื ตามท่ีตนเองตอ้ งการและนาํ ความรทู้ ีไ่ ด้จากการอา่ นมาผลติ ช้นิ งานเชน่ การผลิตสอ่ื สง่ เสริมการ อา่ นในรปู แบบต่างๆ มกี ารประกวดชน้ิ งานท่ไี ด้จากการอ่านและจัดแสดงผลงานทหี่ ้องสมุด ค่ายสร้างสรรค์  กิจกรรมเข้าคา่ ยหนังสอื เล่มเลก็ เปน็ การจัดค่ายทั้งโรงเรียนให้ทําหนังสือเล่มเล็กใน ทกุ รายวชิ าโดยมคี รผู สู้ อนในรายวชิ าต่างๆ ร่วมกนั ดแู ลและมนี ักเรียนชน้ั มัธยมศกึ ษาปีที่ 6 เป็นผู้คอย เป็นพีเ่ ลี้ยงใหค้ ําแนะนําและดูแลการจดั ทํา มคี รูเป็นที่ปรึกษา  กิจกรรมเขา้ ค่ายเยาวชนคนรักหนงั สือเปน็ การจัดค่ายอบรมยุวทูตการอ่านที่มาจาก ห้องเรียนต่างๆ เพ่ือปลูกฝัง ส่งเสริมนิสัยรักการอ่านและการเรียนรู้อย่างสร้างสรรค์ให้กับยุวทูต การอ่าน ให้สามารถจดั กิจกรรมส่งเสรมิ การอา่ นได้อยา่ งเหมาะสมและสร้างสรรค์ สถานศกึ ษาต้นแบบ ชมุ ชนอ่านสร้างสขุ ๑๔๗