Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore วิทยาการคำนวณม.1

วิทยาการคำนวณม.1

Published by Kanokwan M., 2021-09-25 18:02:25

Description: วิทยาการคำนวณม.1

Search

Read the Text Version

แบบฝกึ หดั ที่ 1.1 เร่ือง ภยั คุกคามจากการใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศและการปอ้ งกนั เฉลย คำชี้แจง : ให้นกั เรยี นอ่านข้อความแตล่ ะข้อแล้วพิจารณาว่าข้อความนน้ั ถกู หรอื ผดิ ถ้าถกู ใหท้ า เคร่ืองหมาย  ถา้ ผดิ ใหท้ าเครอ่ื งหมาย  .......... 1. ควรบันทกึ รหสั ผ่ำนลงในกระดำษ สมดุ โนต้ รวมทง้ั อปุ กรณ์อิเล็กทรอนิกส์ด้วย .......... 2. ไวรัสคอมพิวเตอร์ เป็นโปรแกรมทเ่ี ขียนดว้ ยเจตนำรำ้ ย อำจทำใหผ้ ูใ้ ชง้ ำนเกิดควำมรำคำญ หรอื ก่อให้เกิด ควำมเสียหำยตอ่ ขอ้ มลู หรือระบบ .......... 3. โปรแกรมอนั ตรำยที่สำมำรถแพรก่ ระจำยไปสู่เครือ่ งคอมพวิ เตอร์เครื่องอื่นในเครือข่ำยได้ดว้ ยตัวเอง เรยี กว่ำ เวริ ์ม .......... 4. ประตกู ล เปน็ โปรแกรมทแี่ สดงโฆษณำหรอื ดำวนโ์ หลดโฆษณำอตั โนมัตหิ ลังจำกที่เครือ่ งนั้นตดิ ต้ังโปรแกรมที่ มีแอดแวร์แฝงอยู่ .......... 5. บอกรหสั ผ่ำนของตนเองให้กบั ผู้อน่ื ทรำบ .......... 6. มำ้ โทรจนั เปน็ โปรแกรมท่ีมีลักษณะคล้ำยโปรแกรมท่วั ไปเพอื่ หลอกลวงผูใ้ ชใ้ หต้ ดิ ต้ังและเรียกใชง้ ำน แตเ่ มอ่ื เรยี กใชง้ ำนแล้วกจ็ ะเร่ิมทำงำนเพอ่ื สร้ำงปญั หำตำ่ งๆ ตำมท่ีผเู้ ขียนกำหนด .......... 7. โปรแกรมอันตรำยทีจ่ ะเร่มิ ทำงำนโดยมตี ัวกระตุน้ บำงอยำ่ ง หรือกำหนดเงือ่ นไขกำรทำงำนบำงอยำ่ งขน้ึ เรียกว่ำ ระเบดิ เวลำ .......... 8. โปรแกรมทีแ่ อบขโมยขอ้ มูลของผ้ใู ช้ระหวำ่ งใช้งำนคอมพวิ เตอร์ เพ่อื นำไปใช้แสวงหำประโยชน์ตำ่ งๆ คอื สปำยแวร์ .......... 9. รปู แบบกำรป้องกันภัยคกุ คำมสำมำรถดำเนนิ กำรได้ 4 รปู แบบ .......... 10. โปรแกรมเรยี กค่ำไถ่ เป็นโปรแกรมกำรขดั ขวำงกำรเข้ำถึงไฟล์ขอ้ มลู ในเครอื่ งคอมพวิ เตอรห์ รือ โทรศัพท์มือถอื ดว้ ยกำรเข้ำรหสั

กจิ กรรมกลมุ่ รายชือ่ สมาชกิ กลุ่มที่........... 1. ชื่อ-นามสกลุ ................................................................. ชั้น.................. เลขที่......... 2. ชอ่ื -นามสกุล................................................................. ชน้ั .................. เลขท่ี......... 3. ช่ือ-นามสกลุ ................................................................. ชัน้ .................. เลขที่......... 4. ชื่อ-นามสกลุ ................................................................. ชน้ั .................. เลขท่ี......... 5. ชอื่ -นามสกลุ ................................................................. ชน้ั .................. เลขท่ี......... สถานการณ์ สมมติว่า “โทรศพั ท์มือถือของนกั เรยี นหาย” ใหน้ ักเรยี นระดมความคดิ เหน็ ในกลมุ่ เพื่อหาวิธปี อ้ งกนั ความปลอดภยั ของขอ้ มลู ส่วนตวั ทอ่ี ย่ใู นโทรศพั ท์ - นักเรยี นจะมีวิธปี ้องกันความเปน็ สว่ นตวั และความปลอดภยั ของข้อมลู อย่างไรก่อนโทรศัพท์จะหาย - นกั เรียนจะมวี ธิ ีปอ้ งกนั ความเปน็ ส่วนตวั และความปลอดภัยของข้อมูลอยา่ งไรหลังจากโทรศพั ทห์ าย

- หากผอู้ ืน่ ใชโ้ ทรศพั ทข์ องนักเรยี นโพสต์ข้อความทที่ าให้เสยี หาย จะมวี ธิ แี กป้ ญั หาอยา่ งไร - นกั เรยี นควรเก็บขอ้ มูลความลับของตนเองไวใ้ นโทรศัพท์หรือไม่ เพราะเหตใุ ด

ใบความรู้ เรื่อง การใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศ 1. การศึกษาเงอื่ นไขการใชง้ าน การใช้งานไอทีในปจั จบุ ันมีทง้ั แบบมีค่าใช้จา่ ยและไมม่ คี ่าใชจ้ า่ ย แต่ทกุ ระบบท่ีให้บรกิ ารมกี าร กาหนดเงือ่ นไขในการใช้งานทั้งส้ิน เว็บไซตแ์ ละแอปพลิเคช่ันตา่ งๆ ท่ีใหบ้ รกิ ารจะมีการแจง้ เง่อื นไข การติดตงั้ และใชง้ านใหผ้ ู้ใชท้ ราบก่อนเสมอ อาจรวมถงึ ค่าใช้จา่ ยในการใชง้ าน ซึง่ ชาระดว้ ยเงนิ หรอื ตอ้ งกรอกขอ้ มูลหรอื ตอบคาถามเป็นการแลกเปลย่ี น เงอื่ นไขการใชง้ าน อาจจะถกู กาหนดดว้ ยข้อตกลงในลักษณะต่าง ๆ เชน่ ลิขสิทธิ์ โปรแกรมคอมพิวเตอร์ เน้อื หา หรือสื่อต่าง ๆ สว่ นใหญ่มลี ขิ สิทธค์ิ ุ้มครอง ทาใหผ้ ใู้ ชห้ รือผู้ ซอ้ื ไมส่ ามารถที่จะนาไปเผยแพร่ ทาสาเนาต่อโดยท่ไี มไ่ ดร้ ับอนุญาตจากผสู้ รา้ งสรรค์ผลงาน เช่น ผกใู้ ชา้ทรซ่ี ใือ้ ชโปง้ ราแนกรไมอปทระใียนกุ ตปม์ าจั ใชจ้งาุบนันส่วมนตที ัวั้งสแิทธบ์ทิ บี่ไดม้ คคีือ ่ากาใรชตจ้ ิด่าตยั้งแและลกะารไใมชง้ ่มานีคโป่ารใแชกจ้รม่าย ปแรตะย่ทกุ ตุกน์ รัน้ ไะดบ้ แบต่ไทม่ส่ใี าหมา้บรถรทกิ าสาารเนมาแีกลาะรแจกกาจ่าหยในหผ้ดูอ้ เน่ื งใชอื่ ้งานนไไดข้ ในการใช้งานท้งั ส้นิ เว็บไซสตัญ์แญาลอะนุญแาอตปครพเี อลทฟีเิ คคอชมัน่ มอตนา่ส์งๆ ทใี่ หบ้ รกิ ารจะมีการแจง้ เงอ่ื นไข การตกาดิ รตใช้งั้งานแไอลทะีหใรชอื ้งงาานนต่าใงหๆผ้ ทู้ใี่มชีล้ทขิ สริทาธบคิ์ ุ้มกคอ่รอนงอเาสจจมาอเป็นอต้อางจมีครา่ วใชม้จ่าถยงึ ซค่งึ ทา่ าใใหชเ้จ้ กดิา่ ย ปัญหาและปดิ โอกาสในการเรยี นรู้ องคก์ รครีเอทฟี คอมมอนสจ์ งึ พัฒนาสัญญาอนญุ าตทีท่ าใหผ้ ู้ใช้ สในามการาถรใชใง้ ชาน้งแาลนะเผยซแ่งึ พชรา่ผลรงะานดภว้ ายยใเตง้เงนิ อ่ื นหไขรทอืกี่ าตหนอ้ ดงโดกยรไมอ่ตกอ้ งขเสอ้ ยี มคาู่ลใชหจ้ า่ รยแือลตะยองั เบป็นการ เคพามิ่ โถอกาามสกเาปรเน็รียกนารู้ รแแต่ยลังคกงเไวปซ้ ่ึงลผ่ยีลปนระโยชน์และการรับรู้ของเจา้ ของผลงาน ขอ้ กาหนดในการใชผ้ ลงานต่าง ๆ จะแทนดว้ ยสัญลกั ษณ์ เชน่ สามารถใช้ เผยแพร่ และดดั แปลงได้ แต่ สามารถใช้ เผยแพร่ และดดั แปลงได้ แตต่ ้อง ตอ้ งอา้ งองิ แหลง่ ท่ีมาของผลงาน อา้ งองิ แหลง่ ท่ีมา และยินยอมให้ผู้อน่ื นาไปใช้ หรือเผยแพร่ตอ่ ได้ สามารถใช้ และเผยแพร่ได้ ห้ามดัดแปลง สามารถใช้ และเผยแพร่ได้ แตต่ ้องอ้างอิง แตต่ อ้ งอ้างอิงแหล่งท่ีมา แหลง่ ท่ีมา ห้ามนาไปใชเ้ พ่ือการค้า

2. การปกปอ้ งความเปน็ ส่วนตัว ความเป็นสว่ นตัว (privacy) เปน็ สิทธพิ ืน้ ฐานท่สี าคัญของมนษุ ย์ทกุ คน ความเป็นส่วนตวั ของขอ้ มลู และสารสนเทศ เจ้าของสามารถปกป้องและควบคมุ การเปิดเผยขอ้ มูลของตนเองให้กับ ผ้อู ื่นและสาธารณะได้ โดยเจ้าของสิทธนิ อกจากจะเป็นบคุ คลแลว้ อาจเป็นกลุ่มบคุ คลหรอื องค์กรก็ได้ การเข้าถงึ ขอ้ มลู ในเอการหรอื สือ่ อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ของผอู้ ืน่ โดยไมไ่ ด้รบั อนุญาต เป็นการละเมดิ ความเปน็ สว่ นตวั เชน่ เวบ็ ไซตห์ รือแอปพลเิ คชนั บางตวั ท่ตี ิดตามความเคลอื่ นไหว หรือพฤตกิ รรม ของผู้ใชง้ านเพ่ือเรยี นรู้พฤตกิ รรม สาหรบั ปรบั ปรุงคณุ ภาพการให้บรกิ าร หรอื การวางแผนการตลาด นอกจากการถกู ละเมดิ ความเป็นสว่ นตัวจากผู้อนื่ แลว้ ผใู้ ชอ้ าจยนิ ยอมท่ีจะเปิดเผยข้อมูล ส่วนตวั ของตนเอง เน่ืองจากรู้เท่าไมถ่ งึ การณ์ จะก่อให้เกดิ ปญั หาในอนาคตและยากตอ่ การกลบั มาแก้ไข 3. แนวทางการใชไ้ อทอี ยา่ งปลอดภยั การใชง้ านไอทใี นปจั จุบนั มที งั้ แบบมคี า่ ใช้จา่ ยและไม่มคี า่ ใชจ้ า่ ย ศแกึ ตษา่ทเงุก่ือนรไขะแบละบข้อทต่ใีกหลงบ้ กร่อนิกกาารรตมิดีกตงั้ารกาหนมดคี เวงามอ่ื รนู้ คไวขามใเนขา้ กใจาแรลใะชค้งวาามนสาทมาง้ั รสถใ้ินน หรือใชง้ านไอที การใช้ไอที เว็บไซต์และแอปพลิเคชั่นต่างๆ ท่ใี ห้บริการจะมีการแจ้งเงือ่ นไข เกข้าาใจรกตฎิดกตตกิ ้ังา แแลละะมาใรชย้งาาททนาใงหสัง้ผคมู้ใใชนท้ ราบก่อไนม่ใชเบ้สญั มชผีอใู้ ช้รอ่วมากจับรผู้อว่นื มเถนือ่งึ งคจา่ากใไมช่ จ้ า่ ย การใช้งานไอที ซ่งึ เป็นสิ่งจาเป็นในการใชง้ าน สามารถควบคุมความปลอดภัยได้ และเส่ียง ไใอนทีการใช้งาน ซ่งึ ชาระด้วยเงินหรือตต้อ่องกากรรรว่ั อไหกลขขออ้ งรมหลูสั ผหา่ นรแอื ลตะขอ้อมบลู สว่ นตัว คาถามเปน็ การแลกเปล่ยี น หลกี เลี่ยงการใช้งานเวบ็ ไซต์ที่ไมเ่ หมาะสม สารองขอ้ มลู อยา่ งสม่าเสมอ และสารองไว้ หรอื ไม่แนใ่ จว่าเปน็ ของหน่วยงานใด หลายแหลง่ ปรับปรุงระบบปฏิบัติการและโปรแกรมต่าง ตดิ ตั้งซอฟต์แวรเ์ ทา่ ที่จาเปน็ และไม่ติดต้งั ๆ ใหท้ นั สมัยอยเู่ สมอ โปรแกรมทด่ี าวนโ์ หลดจากแหล่งทไ่ี ม่ นา่ เช่อื ถอื สงั เกตสง่ิ ผิดปกตทิ เ่ี กดิ ขึ้นจากการใช้งาน ระวังการใชง้ านไอทเี มอ่ื อยใู่ นท่สี าธารณะ

4. การใชไ้ อทอี ยา่ งสรา้ งสรรค์ การใช้งานไอทอี ยา่ งสรา้ งสรรค์ คอื การใช้งานไอทีให้เกิดประโยชน์อย่างเหมาะสม ผใู้ ช้ จาเป็นต้องมคี วามสามารถในการคิดวิเคราะห์ เพราะไอทชี ว่ ยใหเ้ ข้าถงึ ข้อมูลและเนือ้ หาจานวนมาก อยา่ งรวดเรว็ ดังน้นั นักเรียนตอ้ งสามารถวเิ คราะห์ เนือ้ หา และสิง่ ตา่ ง ๆ ที่ไดร้ ับว่ามีความน่าเชื่อถือ มากนอ้ ยเพียงใดเพ่ือคัดกรองและนาไปใชป้ ระโยชนอ์ ย่างสร้างสรรค์และมีคุณค่า เชน่ ใช้ ไอทีในการติดตามและรับร้ขู า่ วสารต่าง ๆ รวบรวมและสรุปความรู้ให้กับเพื่อน ๆ ผา่ น เฟซบุ๊ก ฝกึ เขียนโปรแกรมเพ่อื พฒั นาตนเอง จริยธรรม จรยิ ธรรม หมายถงึ ธรรมทเ่ี ปน็ ข้อประพฤตปิ ฏิบัติ ศีลธรรม กฎศลี ธรรม ตามที่กาหนด กในาพจรนใาชน้งุรามฉนบไบั อราทชบีใัณนฑปิตัจยสจถุบานนั พม.ศีท.25้งั 5แ4บดังบนมั้นจีคริย่าธใรชรจ้มดา่ ้ายนไแอทลีจะงึ หไมมา่มยถีคงึ ่ากใาชรจ้ปรา่ ะยพฤติ แปฏติบัตท่ ทิ ุกี่ดใีรนะกาบรดบาทเนนิ่ีใหกิจบ้ กรรรกิมทาี่เรก่ยี มวขกี ้อางกรบั กไอาทหี ทนคี่ รดอเบงค่ือลมุ นทไั้งกขาใรนบรกิหาารรจใดั ชก้งารานกาทรใชัง้ ้งสานน้ิ และการให้บรกิ ารด้านไอที เวบ็ ไซตจแ์ รยิลธะรรแมอเปป็นหพลลกั กเิ าครแชล่ันะมตาต่ารงฐๆานทท่ใี หี่ใ้แหนวบ้ ทรางิกในากรารจปะฏมบิ ัตีกิตา่อผรู้อแน่ื เจพง้อ่ื ใเหง้ออ่ื ย่รูนว่ มไขกนั ใกนาสงัรคตมอดิ ยตา่ งมั้งคี แวาลมะสุขใชกง้ าารในชไ้ อใทหอี ผ้ยา่ ูใ้ งชมท้ีจรรยิ ธารบรมกตอ่ ้องนไมเท่ สามใหอ้ผู้อนื่ อเดาือจดรรอ้ วนมไมถล่ ึงะเคมดิ่าคใวชา้จมเา่ ปยน็ สว่ นตวั ไม่ละเมิดลขิ สิทธ์แิ ละทรัพยส์ ินทางปญั ญา เชน่ ไมน่ าภาพผู้อนื่ มาลอ้ เลียน หรอื ใช้ขอ้ ความ ใหนยากบคาารยใไชมง้ ช่ าาเลนอื งมซอ่ึงงชหนาา้รจะอภดาว้พผยอู้ เืน่ งขินณะหใชรง้ าอื นต้องกรอกข้อมลู หรอื ตอบ คาถามเป็นการแลกเปลย่ี น

บตั รกิจกรรม ใบตองถา่ ยรปู ดอกไมท้ ี่หายากในประเทศไทย และนาไป เผยแพรโ่ ดยมีสัญลกั ษณ์ อาทนารปู ดอกไมไ้ ปใช้เพื่อประกอบการเขยี นรายงาน โดย ไมไ่ ดร้ ะบวุ า่ รปู เป็นของใคร วาฬตงั้ รหสั ผา่ นเข้าสอ่ื สังคมออนไลน์ แต่กลัววา่ จะจาไม่ไดจ้ งึ ไดบ้ อกรหัสผา่ นของตนเองกบั โลมา ตอ่ มาโลมาเสยี พนันบอล จึงได้นารหสั ผ่านของวาฬเขา้ ไปใชใ้ นสังคมออนไลนเ์ พื่อขอยืม เงนิ จากเพ่ือนของวาฬเปน็ จานวนเงิน 5 หมน่ื บาทเพื่อนาไปใช้ หนีพ้ นันบอล

ในกล่มุ ไลน์มีการสง่ ลิงค์สาหรับดหู นงั ใหม่ทก่ี าลังเขา้ ฉาย เมื่อ น้าหวานเหน็ ขอ้ ความนี้ จึงสง่ ข้อความตอ่ ไปให้เพื่อนท่กี าลัง อยากดหู นังเรอ่ื งน้ี ดินสอได้รับอีเมลจากคนท่ีไม่รู้จัก โดยแจ้งวา่ “คุณไดร้ บั สิทธิ พิเศษดหู นังฟรี2ทน่ี ง่ั ” พร้อมใหค้ ลกิ ท่ีลิงกด์ า้ นลา่ งเพื่อรบั สิทธิ์ หลงั จากดินสอคลกิ ท่ีลิงก์ดังกลา่ วปรากฏว่าหน้าจอของเครือ่ ง คอมพวิ เตอร์ที่ใช้งานเปลีย่ นสฟี า้ ทันทแี ละทางานต่อไมไ่ ด้

แบบฝกึ หดั ท่ี 1.2 เรือ่ ง การใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศ คาช้ืแจง : ให้นกั เรยี นตอบคาถามตอ่ ไปน้ี 1. ลกั ษณะการใชง้ านไอทีของนกั เรียนนนั้ มีความเสย่ี งหรือไม่ เพราะเหตใุ ด .................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ....................................... .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... 2. นกั เรียนจะสารองขอ้ มูลอยา่ งไร และควรจะสารองข้อมลู ถี่มากนอ้ ยเพียงใด .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ....................................... .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... 3. นักเรียนจะนาไอทีไปใช้ให้เกดิ ประโยชนอ์ ย่างสร้างสรรค์ไดอ้ ยา่ งไร .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ....................................... .................................................................................................................................................................... ชื่อ-นามสกลุ ................................................... ช้ัน................... เลขท่ี...........

4. ถา้ เพอ่ื นของนักเรียนตดิ เกมสแ์ ละชอบซ้อื ของออนไลน์ นักเรยี นคดิ ว่าเปน็ พฤตกิ รรมท่คี วรสง่ เสรมิ หรือไม่ อาการเหล่าน้เี รียกว่าอะไร และจะแนะนาเพอ่ื นอยา่ งไร .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. .......................................

กจิ กรรมกลุ่ม รายช่อื สมาชกิ กล่มุ ท่ี....... 1. ชือ่ -นามสกุล..................................................................... ชั้น................... เลขที่............... 2. ชอ่ื -นามสกุล..................................................................... ชั้น................... เลขท.ี่ .............. 3. ช่ือ-นามสกลุ ..................................................................... ชั้น................... เลขที่............... 4. ชื่อ-นามสกลุ ..................................................................... ชั้น................... เลขที่............... 5. ช่ือ-นามสกลุ ..................................................................... ชั้น................... เลขที่............... 1. ใหพ้ ิจารณาสถานการณ์ แล้ววเิ คราะห์ว่าปัญหาทีเ่ กดิ ข้ึนคืออะไร .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. 2. จากปัญหาท่ีเกิดขนึ้ ใหว้ เิ คราะห์วา่ ปญั หาท่ีอาจตามมาจะทาให้ใครบ้างไดร้ บั ผลกระทบ และได้รบั ผลกระทบอย่างไร .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ..............................................................................................................................................................................

ใบความรู้ เรื่อง แนวคดิ เชงิ นามธรรม แนวคดิ เชิงนามธรรม (abstract thinking หรอื abstraction) เปน็ องคป์ ระกอบหนง่ึ ของ แนวคดิ เชิงคานวณ (computational thinking) ซงึ่ ใช้กระบวนการคดั แยกคณุ ลักษณะท่สี าคญั ออก จากรายละเอยี ดปลีกยอ่ ยในปญั หา หรืองานท่ีกาลงั พิจารณา เพ่ือให้ไดข้ ้อมลู ท่จี าเปน็ และเพยี งพอ ในการแกป้ ัญหา ตัวอยา่ ง คาทักทาย Hello ในภาษาอังกฤษรูปแบบต่าง ๆ คาวา่ Hello แต่ละตวั มีรปู แบบท่ีแตกต่างกันขึน้ อยูก่ ับประสบการณท์ ี่ผเู้ ขยี นแตล่ ะคนมี จากตัวอยา่ งจะเหน็ รายละเอียดทแี่ ตกต่างกนั เช่น สี รปู แบบอกั ษร (font) อกั ษรตัวพิมพใ์ หญ่ หรอื ตัวพมิ พ์เล็ก และรายละเอยี ดอื่น ๆ เช่น การขีดเสน้ ใต้ หรือการเอียงของตัวอกั ษร โดย รูปแบบที่แตล่ ะคนมีอยู่ ถ้าจะถ่ายทอดให้ผู้อ่นื รับรแู้ ละเขา้ ใจทกุ อยา่ งแทบจะเปน็ ไปไมไ่ ด้ และ อาจจะไมม่ ีความจาเปน็ ที่ผอู้ น่ื ตอ้ งรับรู้รายละเอียดท้ังหมด ในทนี่ ี้หากผรู้ ับข้อมูลตอ้ งการทราบวา่ คานี้ประกอบไปดว้ ยอกั ขระใดบา้ ง โดยไมส่ นใจ ประเภทของอักษรตัวพมิ พ์ใหญห่ รอื ตัวพมิ พ์เล็ก คาวา่ Hello ทกุ ตวั ในตาราง ต่างก็มอี งคป์ ระกอบ เชิงนามธรรมเดยี วกนั คอื เปน็ คาที่ประกอบดว้ ย H, E, L, L และ O แตใ่ นบางสถานการณ์ อาจจะสือ่ วา่ ขอ้ มลู ดังกล่าวเป็นเพียงอกั ขระภาษาอังกฤษ 5 ตัว หรือเป็นคาภาษาอังกฤษเพยี งหนง่ึ คา

คาอธบิ ายคุณลกั ษณะของคาวา่ รูปแบบคาวา่ ระดบั ความ รายละเอยี ดทต่ี อ้ งการ HELLO ละเอยี ด Hello HELLO มาก HELLO ข้อมลู ประกอบด้วย อกั ขระ H, e, l, l, และ o ท่แี ต่ HELLO อกั ขระใดบา้ ง แต่ละ ละอักขระมีสเี หลือง เขียว นา้ อกั ขระเปน็ อกั ษร เงนิ แดง และม่วงตามลาดับ มี ตวั พิมพ์เล็กหรือตวั พมิ พ์ เฉพาะอักขระ H ทีเ่ ปน็ ตวั พิมพ์ ใหญ่ และมสี ีอะไร ใหญ่ ส่วนอกั ขระท่เี หลอื เปน็ อกั ษรตวั พิมพ์เลก็ ขอ้ มลู ประกอบด้วย อกั ขระ H, E, L, L, และ O ท่ี อักขระใดบา้ ง แตล่ ะ แตล่ ะอกั ขระมสี เี หลือง เขยี ว น้า อกั ขระประกอบด้วยสี เงิน แดง และมว่ งตามลาดบั อะไร ขอ้ มลู ประกอบดว้ ย อกั ขระ H, E, L, L, และ O อักขระใดบา้ ง ขอ้ มลู ประกอบด้วย คาภาษาองั กฤษท่ปี ระกอบด้วย อกั ขระกตี่ ัว อักขระ 5 ตวั ขอ้ มลู ประกอบดว้ ยคาก่ี คาภาษาอังกฤษหนึ่งคา คา นอ้ ย

แบบฝกึ หดั ท่ี 2.1 เรอื่ ง แนวคิดเชงิ นามธรรม คาชแ้ี จง : จากรูปข้างต้น ให้นกั เรยี นวเิ คราะหว์ ่าประเด็นใดเป็นลกั ษณะทวั่ ไป หรือลักษณะเฉพาะ ที่ทาให้รู้ว่ารูปเหล่านี้จัดอยู่ในประเภทเดยี วกนั ลกั ษณะทวั่ ไป ลกั ษณะเฉพาะ ชื่อ-นามสกลุ ................................................... ชนั้ ................... เลขท.่ี ..........

แบบฝกึ หดั ท่ี 2.1 เรอื่ ง แนวคิดเชงิ นามธรรม คาชแ้ี จง : จากรูปข้างต้น ให้นกั เรยี นวเิ คราะหว์ ่าประเด็นใดเป็นลกั ษณะทวั่ ไป หรือลักษณะเฉพาะ ที่ทาให้รู้ว่ารูปเหล่านี้จัดอยู่ในประเภทเดยี วกนั ลกั ษณะทวั่ ไป ลกั ษณะเฉพาะ ชื่อ-นามสกลุ ................................................... ชนั้ ................... เลขท.่ี ..........

ใบความรู้ เรอื่ ง การถ่ายทอดรายละเอยี ดของปญั หาและการแกป้ ญั หา การถ่ายทอดรายละเอียดของปัญหา เปน็ การวเิ คราะห์และแกป้ ญั หา ซง่ึ เป็นไปไดห้ ลาย รปู แบบ หากผู้แกป้ ัญหา คือบคุ คลอื่น การถ่ายทอดรายละเอียดของปัญหาสามารถทาไดโ้ ดยการ อธบิ ายเปน็ ข้อความและอาจใชแ้ ผนภาพประกอบ หากผู้แก้ปัญหา คือคอมพวิ เตอร์ การถา่ ยทอด รายละเอยี ดของปัญหาก็จะอย่ใู นรูปของภาษาโปรแกรม ตวั อยา่ งท่ี 1 เดนิ กลบั บา้ นหลังเลกิ เรยี น แผนภาพแสดงทตี่ งั้ สถานทตี่ า่ ง ๆ เปน็ แผนภาพแสดงท่ีตัง้ ของสถานท่ีต่าง ๆ รวมถงึ เสน้ ทางและระยะทางของถนนแต่ละเส้น โดยใหม้ ีรายละเอยี ดเพียงพอทีจ่ ะหาคาตอบเหล่านไ้ี ด้ • เสน้ ทางเดนิ จากโรงเรียนกลับบา้ นท่ใี ช้ระยะทางสั้นท่สี ุด • เสน้ ทางเดนิ จากโรงเรยี นกลบั บา้ นท่สี นั้ ท่สี ดุ โดยแวะร้านขายขนม • เสน้ ทางเดินจากโรงเรยี นกลบั บ้านทีส่ ้ันทีส่ ดุ โดยแวะร้านขายขนม และเลอื กเดนิ เฉพาะถนนทม่ี ี รม่ เงาเทา่ น้ัน

ตวั อยา่ งท่ี 2 แสดงแผนภาพเชิงนามธรรมท่ีให้ขอ้ มลู เพียงพอท่จี ะตอบคาถามไดท้ ้งั หมด สัญลักษณ์รูปวงรี แทนสถานท่ี เสน้ ตรงแทนถนนทีเ่ ชื่องระหวา่ งสถานที่ ตัวเลขกากบั เส้นแทนระยะทางของถนน และ เสน้ สีเขยี วแทนถนนท่มี ีรม่ เงา แผนภาพเชงิ นามธรรมของทต่ี ง้ั สถานทต่ี า่ ง ๆ ตวั อยา่ งท่ี 3 แนวคิดเชิงนามธรรมทีใ่ ชห้ าเส้นทางเดนิ ตามเง่อื นไขท่ีกาหนด

แบบฝกึ หดั ท่ี 2.2 เรือ่ ง การถา่ ยทอดรายละเอยี ดของปญั หาและการแกป้ ญั หา แผนทส่ี วนสตั วส์ ขุ สดุ สุดมีดงั นี้ ชื่อ มะนาว ช่อื ทเุ รยี น อายุ 11 ปี อายุ 10 ปี ชอ่ื นอ้ ยหนา่ ชือ่ ลาไย ชือ่ มะเฟอื ง ช่ือ มะไฟ น้าหนัก 380 ก.ก. น้าหนกั 400 ก.ก. อายุ 15 ปี อายุ 10 ปี เพศ เมยี เพศ ผู้ อายุ 1 ปี อายุ 5 ปี น้าหนกั 880 ก.ก. น้าหนกั 420 ก.ก. เพศ เมยี เพศ ผู้ น้าหนกั 300 ก.ก. น้าหนกั 600 ก.ก. เพศ ผู้ เพศ ผู้ ยีราฟ อายุขยั 35 ปี อาหารหลัก หญา้ ช่อื มงั คุด ชา้ ง ช่ือ สม้ โอ ช่อื มะกรดู อายุ 3 ปี อายุขยั 100 ปี อายุ 2 ปี นา้ หนัก 250 ก.ก. อาหารหลัก อ้อย อายุ 3 ปี นา้ หนัก 0.9 ก.ก. เพศ เมีย น้าหนกั 1.5 ก.ก. เพศ เมีย ชือ่ มะพรา้ ว เพศ เมีย อายุ 4 ปี นกพริ าบ นา้ หนกั 300 ก.ก. ช่ือ ละมุด อายุขัย 7 ปี เพศ ผู้ อาหารหลกั อายุ 2 ปี เมลด็ ทานตะวัน ม้าลาย น้าหนกั 30 ก.ก. นกฮกู อายุขัย 30 ปี เพศ เมยี อายุขัย 8 ปี อาหารหลกั หญ้า อาหารหลกั หนู นกยงู อายขุ ัย 10 ปี อาหารหลกั เมลด็ ถั่ว ช่อื -นามสกลุ ............................................................. ช้นั .................... เลขท.ี่ ..........

จากแผนทสี่ วนสตั วข์ า้ งตน้ นกั เรยี นจะใชข้ อ้ มลู และวธิ กี ารใดในการตอบคาถามตอ่ ไปน้ี คาถาม ขอ้ มลู ทจี่ าเปน็ ในการแกป้ ญั หา วธิ ีการทใ่ี ชใ้ นการหาคาตอบ 1. มชี ้างกี่ตัวในสวนสตั ว์ 2. มสี ัตว์ปีกจานวนกชี่ นิดในสวนสตั ว์ 3. มสี ัตวก์ ี่ชนิดท่ีกนิ หญ้าเป็นอาหาร หลัก 4. มีสัตว์ทั้งหมดกี่ชนดิ ในสวนสัตว์ 5. มีสตั วช์ ื่ออะไรบ้างทีม่ ีนา้ หนักนอ้ ย กว่า 300 กิโลกรัม

ใบความรู้ เร่อื ง ขัน้ ตอนการแกป้ ญั หา ??? การแก้ปญั หา ประกอบดว้ ย 4 ขั้นตอนดงั ต่อไปนี้ วเิ คราะหแ์ ละกาหนดรายละเอยี ดของปญั หา การวางแผนการแกป้ ญั หา การดาเนินการแกป้ ญั หา การตรวจสอบและประเมนิ ผล 1. การวเิ คราะหแ์ ละกาหนดรายละเอยี ดของปญั หา เปน็ การทาความเขา้ ใจเก่ยี วกับ รายละเอยี ดเง่อื นไข ขอ้ กาหนด รวมถึงขอ้ จากดั ต่าง ๆ ของปัญหา ข้อมลู ท่จี าเปน็ ในการแกป้ ัญหา ตรวจสอบว่ามีขอ้ มลู เพยี งพอหรอื ไม่ จะหาข้อมูลเพิ่มเตมิ ใหค้ รบถว้ นต่อการใชแ้ ก้ปญั หาได้อยา่ งไร ขอ้ มลู ผลลัพธ์ที่ได้คอื อะไร และตรวจสอบความถกู ตอ้ งของผลลพั ธ์ท่ไี ด้อยา่ งไร การวางแผนการแกป้ ญั หา เปน็ การคดิ คน้ กระบวนการตา่ ง ๆ ที่เปน็ ขน้ั ตอน ตัง้ แตเ่ ร่มิ ต้น จนกระทง่ั ได้ผลลพั ธท์ ่ีต้องการ ซง่ึ ต้องอาศยั ประสบการณ์และความรขู้ องผู้แก้ปญั หา โดยอาจนาวิธี ท่เี คยแกป้ ัญหา หรือค้นหาวิธีการอื่นแลว้ นามาประยกุ ตเ์ ขา้ กับปญั หาทก่ี าลังแกไ้ ข เครื่องมือทใี่ ช้ใน การวางแผนแก้ปัญหา สาหรับการพฒั นาโปรแกรม อาจเลอื กใชร้ หสั ลาลอง หรอื ผงั งาน โดยวธิ กี าร แกป้ ญั หาทีไ่ ด้เรยี กว่า ขั้นตอนวิธีหรืออลั กอรทิ มึ (Algorithm) ซงึ่ เป็นลาดบั ขั้นตอนในการแก้ ปญั หาหรอื การทางานทช่ี ดั เจนตง้ั แต่เรมิ่ ต้นแก้ปัญหา จนกระท่ังได้ผลลพั ธท์ ีต่ อ้ งการ การดาเนนิ การแกป้ ญั หา เป็นการนากระบวนการทว่ี างแผนไวป้ ฏิบตั ิ หรือพฒั นาโปรแกรม เพ่อื แก้ปัญหา โดยอาจใชภ้ าษาโปรแกรมช่วยในการดาเนนิ การ การตรวจสอบและประเมนิ ผล ขั้นตอนนีจ้ ะทาควบคูไ่ ปกบั ข้นั ตอนการดาเนนิ การ แกป้ ญั หา โดยการตรวจสอบผลลัพธท์ ่ไี ด้ หากผลลพั ธ์ทไี่ ดไ้ ม่ถกู ต้อง หรอื ยังมสี ่วนทีต่ ้องแกไ้ ข ปรบั ปรงุ อยู่ ตอ้ งย้อนกลับไปทาซา้ ต้งั แตข่ ัน้ แรกกว่าจะไดผ้ ลลพั ธ์ที่ถกู ต้อง

ตวั อยา่ งการแกป้ ญั หา สถานการณ์ นกั เรียนยนื อยทู่ ่ีป้ายรถเมลเ์ พ่อื รอรถกลบั บ้านซ่ึงไมม่ ีคนรู้จัก แตน่ กั เรยี นลืมกระเปา๋ เงนิ ไวท้ ีโ่ รงเรยี น นักเรียนจะแก้ไขสถานการณ์นี้อย่างไร 1. วเิ คราะหแ์ ละกาหนดรายละเอยี ดของปญั หา - ไม่มเี งนิ กลบั บา้ น 2. การวางแผนการแกป้ ญั หา หาวิธกี ารกลบั บา้ น ดงั นี้ - ยมื เงนิ คนแถวนน้ั กลบั บา้ น - ขึน้ แทก็ ซแ่ี ลว้ เก็บเงนิ ปลายทาง - โทรศัพท์เพอ่ื ขอความชว่ ยเหลอื - อน่ื ๆ 3. การดาเนนิ การแกป้ ญั หา - ทาตามลาดบั วธิ กี ารทไ่ี ดว้ างแผนไว้ 4. การตรวจสอบและประเมนิ ผล - สามารถกลบั ถงึ บา้ นได้อยา่ งปลอดภยั

แบบฝกึ หดั ท่ี 3.1 เรอ่ื ง ข้นั ตอนการแกป้ ญั หา คาชีแ้ จง : ให้ผเู้ รียนพจิ ารณาสถานการณ์ต่อไปน้ี แลว้ ดาเนินการแก้ปญั หาท้ัง 4 ข้ันตอน โดยเติมคาและเขียนอธบิ ายในชอ่ งว่าง สถานการณ์ พ่อค้าขายขนมท่ีตลาด โดยราคาของขนมตาล 2 บาท ขนมสอดไส้ 3 บาท และขนมกลว้ ย 4 บาท ช่วยพ่อค้าคดิ ราคาขนม เมอ่ื มผี ้สู งั่ ซือ้ แตล่ ะครั้ง ขน้ั ตอนที่ 1 การวิเคราะหแ์ ละกาหนดรายละเอยี ดของปญั หา 1) ขอ้ มลู เขา้ คือ จานวนช้ินในการส่งั ซ้อื ขนมแต่ละชนิด 2) ขอ้ มลู ออก คือ ........................................................................................................................... 3) วิธีตรวจสอบความถกู ต้อง เชน่ จานวนสัง่ ซ้ือขนมตาล 4 ชิน้ ขนมสอดไส้ 3 ชิ้น และขนมกล้วย 4 ชิน้ ราคารวมคอื 33 บาท จานวนสัง่ ซือ้ ขนมตาล 2 ชิน้ ขนมสอดไส้ 2 ชนิ้ และขนมกลว้ ย 2 ชนิ้ ราคารวมคอื 16 บาท จานวนส่ังซ้อื ขนมตาล......ชิน้ ขนมสอดไส.้ .....ชิ้น และขนมกลว้ ย.......ช้ิน ราคารวมคือ........บาท จานวนส่งั ซอ้ื ขนมตาล......ชิ้น ขนมสอดไส้......ช้ิน และขนมกลว้ ย.......ช้นิ ราคารวมคือ........บาท ขัน้ ตอนที่ 2 การวางแผนการแก้ปญั หา โดยให้นกั เรียนเลอื กคาตอบขอ้ ก-จ แลว้ นามาเรยี งลาดบั ตามข้นั ตอนทใ่ี ช้ในการหาคาตอบ ก.กาหนดราคาขนมตาล 2 บาท ขนมสอดไส้ 3 บาท และขนมกล้วย 4 บาท ข.คานวณราคาขนมสอดไส้ โดยการนา จานวนช้นิ ขนมสอดไสx้ ราคาขนมสอดไส้ ค.รบั จานวนชน้ิ ของขนมตาล ขนมสอดไส้ และขนมกล้วย ง.คานวณราคาขนมทั้งหมด โดยการนาราคาขนมตาล+ราคาขนมสอดไส+้ ราคาขนมกล้วย จ.คานวณราคาขนมกลว้ ย โดยการนา จานวนช้ินขนมกลว้ ยxราคาขนมกลว้ ย ฉ.แสดงราคาขนมทัง้ หมด ช. คานวณราคาขนมตาล โดยการนา จานวนชิ้นขนมตาลxราคาขนมตาล คาตอบคือ........................................................................................................................................................... ช่ือ-นามสกลุ ............................................................... ชั้น.................... เลขท.ี่ .........

ข้ันตอนที่ 3 การดาเนนิ การแกป้ ญั หา ใหน้ าขอ้ มูลทเ่ี ตรยี มไว้ในขัน้ ตอนท่ี 1 มาดาเนนิ การตามข้ันตอนที่ 2 ว่าไดผ้ ลลพั ธต์ รงกัน หรือไม่ ขนั้ ตอนท่ี 4 การตรวจสอบและประเมนิ ผล ใหผ้ ู้เรยี นสังเกตการทางานที่เพ่อื นทาในขนั้ ตอนที่ 3 วา่ ไดผ้ ลลัพธต์ ามทีค่ ดิ ไว้ในขั้นท่ี 1 หรอื ไม่ หากกาหนดขอ้ มูลเข้าไมต่ รงกัน กใ็ ห้ลองคานวณผลลัพธใ์ หม่เพื่อตรวจสอบผลลัพธ์ที่ได้ หาก พบว่าไม่ถูกต้องใหย้ อ้ นกลบั ไปพจิ ารณาตั้งแตข่ ้ันตอนที่ 1 วา่ ถูกต้องหรอื ไม่ ถ้าไม่ถูกต้องให้ปรบั แก้

ใบความรู้ เรอ่ื ง การเขยี นรหัสลาลองและผงั งาน 1. รหัสลาลอง การเขยี นรหสั ลาลองเป็นการใชค้ าบรรยายอธิบายขนั้ ตอนอยา่ งชดั เจนในการแก้ปัญหา หรอื การทางานของโปรแกรมซึง่ รปู แบบการเขยี นจะขึ้นอยู่กบั ประสบการณ์ และความถนัดของผเู้ ขียน โดยอาจเขียนเป็นภาษาพดู ทาใหเ้ ขยี นงา่ ยไมต่ ้องกังวลรูปแบบ ถา้ ผ้เู ขยี นมคี วามชานาญแล้ว สามารถเขียนรหสั ลาลองในรูปแบบท่คี ลา้ ยกบั ภาษาโปรแกรม ซงึ่ จะสามารถนาไปดัดแปลงเปน็ ภาษาโปรแกรมไดง้ ่าย การใช้รหัสลาลองในการถา่ ยทอดความคดิ แสดงดงั ตัวอย่างตอ่ ไปนี้ ตวั อยา่ ง รหสั ลาลองการคานวณหาพน้ื ทส่ี ามเหลย่ี ม เริม่ ต้น 1 1. รบั คา่ ความยาวฐาน คือ 2 x ความยาวฐาน x ความสูง 2. รับคา่ ความสงู 3. คานวณพ้ืนทสี่ ามเหล่ยี ม จากสูตร พืน้ ท่ี 4. แสดงผลลัพธพ์ นื้ ที่ จบ 2. ผงั งาน ผังงานเป็นเคร่อื งมอื หนงึ่ ท่ีใช้ในการวางแผนหรอื การออกแบบการแกป้ ัญหา เพอื่ ใหส้ ามารถ นาไปปฏบิ ตั ิตามหรือเขียนโปรแกรมเพื่อส่ังให้เคร่อื งคอมพิวเตอรท์ างานได้งา่ ย สถานบนั มาตรฐาน แหง่ ชาตอิ เมริกา (The American National Institute : ANSI) ไดก้ าหนดสญั ลกั ษณ์ท่ีเปน็ มาตรฐานในการเขยี นผงั งานไว้ ซึ่งในท่นี ้ีจะแนะนาการใช้งาน 5 สญั ลกั ษณ์พนื้ ฐาน ดงั ตาราง ตอ่ ไปน้ี สญั ลักษณ์ ช่ือเรยี ก ความหมาย เรม่ิ ตน้ และจบ จุดเรม่ิ ตน้ และจดุ ส้นิ สุดของ ผงั งาน การนาขอ้ มลู เข้า-ออก แบบ จุดที่จะนาข้อมูลเขา้ จาก ทว่ั ไป ภายนอกหรอื ออกสภู่ ายนอก โดยไม่ระบชุ นดิ ของอุปกรณ์

สญั ลกั ษณ์ ชื่อเรยี ก ความหมาย การปฏิบัติงาน จุดทมี่ ีการปฏบิ ตั ิงานอยา่ งใด อย่างหนึ่ง การตัดสนิ ใจ จดุ ทีจ่ ะต้องเลือกปฏิบัตอิ ย่าง ทิศทาง ใดอย่างหน่ึง ทศิ ทางขั้นตอนการดาเนนิ งาน ซง่ึ จะปฏิบัตติ ่อเน่ืองกนั ตามหัว ลูกศรช้ี ตวั อยา่ ง ผงั งานการคานวณหาพนื้ ทสี่ ามเหลย่ี ม เริ่มตน้ รับค่าความยาวฐาน รบั คา่ ความสูง 1 พนื้ ทสี่ ามเหลยี่ ม = 2 x ความยาวฐาน x ความสูง แสดงผลลพั ธ์ พ้ืนทส่ี ามเหลย่ี ม จบ

ตวั อยา่ ง รหสั ลาลองและผงั งานที่มกี ารทางานแบบมเี ง่ือนไข สถานการณ์ หลังรับประทานขา้ ว ถา้ นักเรียนมีเงนิ เหลอื จะซื้อขนม เรม่ิ ตน้ เริ่มต้น ซื้อขา้ ว กินข้าว 1. ซอ้ื ขา้ วและกินขา้ ว 2. ถา้ เงินเหลือ ทา มเี งินเหลอื ใช่ 2.1 ซอื้ ขนม หรือไม่ ซอ้ื ขนม จบ ไม่ จบ ตัวอยา่ ง รหสั ลาลองและผงั งานทีม่ ีการทางานแบบวนซ้า สถานการณ์ นกั เรยี นรว่ มวง่ิ แข่งในงานกีฬาของหม่บู า้ น ซึง่ หากไม่ครบ5กโิ ลเมตรจะไมห่ ยุดวิ่ง เร่ิมตน้ เร่ิมต้น 1. วงิ่ 2. ถ้า ระยะทางในการวง่ิ ครบ วิ่ง 5 กโิ ลเมตร ทา ไม่ ระยะทาง5 2.1 หยุดว่งิ กม. หรือไม่ ไมเ่ ชน่ นนั้ ใช่ 2.2 กลับไปทาข้อ 1 หยุดวง่ิ จบ จบ

การตม้ ไขย่ างมะตมู ท้าไดโ้ ดยนา้ ไขใ่ สน่ า้ และตง้ั ไฟแลว้ ใหร้ อนา้ เดอื ด แลว้ ตม้ ตอ่ อกี 7 นาที จงึ จะไดไ้ ขต่ ม้ ยาง มะตูม ชว่ งนฝ้ี นตกเปน็ ประจา้ เกอื บทกุ วนั กอ่ นออกจากบา้ น หากทอ้ งฟา้ มดื ครม้ึ ใหน้ กั เรยี นหยบิ รม่ ใสก่ ระเปา๋ ดว้ ย การตม้ ไขย่ างมะตมู ทา้ ไดโ้ ดยนา้ ไขใ่ สน่ า้ และตงั้ ไฟแลว้ ให้รอนา้ เดอื ด แลว้ ตม้ ตอ่ อกี 7 นาที จงึ จะไดไ้ ขต่ ม้ ยาง มะตมู ชว่ งนฝี้ นตกเปน็ ประจา้ เกอื บทกุ วนั กอ่ นออกจากบา้ น หากทอ้ งฟา้ มดื ครม้ึ ใหน้ ักเรยี นหยบิ รม่ ใสก่ ระเปา๋ ดว้ ย

แบบฝกึ หดั ท่ี 3.2 เรอ่ื ง การเขียนรหสั ลาลองและผงั งาน คาชี้แจง ใหน้ กั เรียนเขยี นรหสั ลาลองและผงั งานที่กาหนดใหต้ อ่ ไปนี้ 1. เขยี นรหสั ลาลองของ “การล้างจาน” ช่ือ-สกลุ .................................................... ชั้น.............. เลขท.่ี .......

2. เขยี นผังงานของ “การเดนิ ทางมาโรงเรยี น”

กจิ กรรมกลมุ่ เร่ือง การเขยี นรหัสลาลองและผงั งาน คาชี้แจง ให้นกั เรียนแต่ละกลมุ่ รว่ มกันวเิ คราะห์และเขยี นผงั งานจากบตั รกิจกรรมที่ไดร้ บั

รายช่อื สมาชิกกลมุ่ ท่ี........... 1. ช่อื -นามสกลุ ................................................................. ชน้ั .................. เลขท่ี......... 2. ชอื่ -นามสกลุ ................................................................. ชน้ั .................. เลขที่......... 3. ช่ือ-นามสกลุ ................................................................. ช้นั .................. เลขท่ี......... 4. ชอื่ -นามสกลุ ................................................................. ชน้ั .................. เลขท่ี......... 5. ชอ่ื -นามสกุล................................................................. ชนั้ .................. เลขที่.........

ใบความรู้ เร่อื ง รจู้ ักกับโปรแกรม Scratch โปรแกรม Scratch (อ่านว่า สะ – แครช) เปน็ โปรแกรมภาษา ทีผ่ เู้ รยี นสามารถ สรา้ งช้นิ งานได้อย่างงา่ ย เช่น นิทานท่สี ามารถโตต้ อบกับผู้อ่านได้ ภาพเคล่ือนไหว เกมดนตรี และ ศลิ ปะ และเมื่อสรา้ งเปน็ ช้นิ งานเสรจ็ แล้ว สามารถนาชิน้ งานทสี่ รา้ งสรรคน์ ้ี แสดง และแลกเปล่ยี น ความคดิ เห็นรว่ มกบั ผอู้ ่ืนบนเวบ็ ไซตไ์ ด้ ทาใหผ้ ู้เรยี นได้เรียนรู้หลกั การทางคณติ ศาสตร์ และแนวคดิ การโปรแกรมไปพรอ้ มๆ กับการคดิ อยา่ งสรรคส์ รรค์ มเี หตผุ ล เป็นระบบ และเกดิ การทางาน ร่วมกนั แนะนาการใชง้ านโปรแกรม Scratch การใชง้ านโปรแกรม Scratch แบบออฟไลนท์ ี่ต้องติดตัง้ ไวท้ ่ีเครื่องคอมพวิ เตอรห์ าก นักเรยี นยังไมม่ โี ปรแกรม สามารถทาได้โดยเข้าไปทีเ่ วบ็ ไซต์ http://scratch.mit.edu/ แล้วเลือก Offline Editor ซง่ึ จะอยใู่ นสว่ น Support ดา้ นล่างของเวบ็ เพ็จ ดังรูปท่ี 1 รูปที่ 1 Offline Editor สาหรบั Scratch 2.0 หลังจากนัน้ จะปรากฏหน้าตา่ งให้ดาวนโ์ หลดดงั รูปท่ี 2 รปู ที่ 2 หน้าตา่ งดาวนโ์ หลด Scratch 2.0

ขั้นตอนการติดต้ังโปรแกรมใหป้ ฏิบัตติ ามขนั้ ตอนท่ี 1 และขั้นตอนที่ 2 ตามลาดบั ขน้ั ตอนท่ี 1 ตดิ ต้ังโปรแกรม Adobe AIR โดยคลิก ดาวนโ์ หลด เลอื กให้เหมาะสม กับระบบปฏิบตั ิการท่ใี ช้ ซ่ึงจะไดไ้ ฟล์ AdobeAIRInstaller.exe หลังจากน้ันให้ ดับเบลิ คลกิ ไฟลเ์ พอื่ ตดิ ต้งั โปรแกรม ขัน้ ตอนที่ 2 ตดิ ต้งั โปรแกรม Scratch โดยคลิก ดาวนโ์ หลด เลอื กให้ เหมาะสมกบั ระบบปฏบิ ัติการทีใ่ ช้ ซง่ึ จะได้ไฟล์ Scratch-456.0.4.exe หลังจากนัน้ ใหด้ บั เบลิ คลกิ ไฟล์เพือ่ ติดตง้ั โปรแกรม (ชอ่ื ไฟล์โปรแกรม Scratch อาจแตกต่างกัน เนื่องจาก Scratch จะถูกปรบั ปรุงให้ทันสมัยอยู่ เสมอ) สาหรบั สว่ นท่ี 3 Support Materials เป็นส่วนของเอกสารให้ความร้แู ละ ตัวอยา่ งโปรแกรม สว่ นประกอบหลกั ของโปรแกรม Scratch หน้าตา่ งโปรแกรม Scratch ทีป่ รากฏจะมีลักษณะคลา้ ยโปรแกรมอ่ืนที่มเี มนูใหใ้ ช้ งาน และพนื้ ทใี่ นการทางาน ซง่ึ มีสว่ นประกอบหลกั ในการทางาน 3 สว่ น คอื เวที ตวั ละคร และ สคริปต์ ดังรปู ท่ี 3 เวที สครปิ ต์ ตวั ละคร รูปท่ี 3 สว่ นประกอบหน้าตา่ งโปรแกรม Scratch

1. เวที (stage) เป็นพ้นื ทีส่ าหรบั แสดงผลลพั ธ์การทางาน เมอ่ื ต้องการรนั โปรแกรม ให้คลกิ ปุ่มธงเขียว และถา้ ตอ้ งการยกเลิกใหค้ ลิกปมุ่ หยุด การบอกตาแหน่งใดๆ บนเวทจี ะบอกโดยใชค้ ่า (x, y) เชน่ ตาแหนง่ กลางเวที จะมี ค่า (x, y) เปน็ (0, 0) 2. ตวั ละคร (sprite) ในโปรแกรม Scratch สามารถกาหนดใหม้ ีตัวละครไดห้ ลาย ตวั โดยตัวละครแต่ละตัวจะมีขอ้ มูลส่วนตวั ทแ่ี ตกตา่ งกัน เชน่ ช่ือ ชดุ ตวั ละคร ทิศทางการเคลื่อนที่ พกิ ดั ของตาแหนง่ โดยชดุ ตัวละครจะหมายถงึ เครอ่ื งแตง่ กายและทา่ ทาง เกร็ดนา่ รู้ การเปล่ียนชื่อตวั ละครทาไดโ้ ดย คลกิ i ทีม่ มุ บนซ้ายของตัวละครแลว้ พิมพ์ชอื่ ใหม่ แทนช่ือเดมิ 3. สคริปต์ (script) เปน็ พื้นที่ท่ีใชส้ าหรบั เขียนโปรแกรม ดงั รปู ที่ 4 ซ่ึงประกอบดว้ ย 3.1 บล็อกคาสง่ั แต่ละบลอ็ กถกู จัดอยู่ภายในกลุ่มทท่ี าหนา้ ท่ที ่เี กี่ยวขอ้ งกนั โดยมี ทง้ั หมด 10 กลุม่ และถา้ คลกิ ท่ีกลมุ่ บล็อกใด ก็จะปรากฏบล็อกคาสง่ั ภายในกลมุ่ น้ัน กลมุ่ บลอ็ ก การทางาน Motion การเคลอ่ื นไหว เชน่ เคล่อื นทีไ่ ปข้างหน้า หมนุ ไปทางซ้ายหรอื ขวา Events เหตุการณ์ เชน่ เม่ือคลกิ Looks การแสดง เชน่ พดู คิด เปล่ียนขนาด Control การควบคุม เชน่ การวนซา้ การตรวจสอบเงอื่ นไข Sound การแสดงเสียง เชน่ เลน่ เสียงสัตว์ กลอง โน้ต Sensing การรับรู้ เช่น การสัมผัส คลิกเมาส์ จับเวลา Pen ปากกา เช่น ยกปากกาข้นึ ต้งั ค่าสีปากกา Operators ตัวดาเนนิ การ เช่น บวก และ หรอื Data ตัวแปร เช่น สร้างคา่ ตัวแปร More Blocks บลอ็ กอื่นๆ เช่น การสร้างฟงั กช์ นั่

3.2 พื้นทเ่ี ขียนโปรแกรม ผใู้ ช้สามารถลากบล็อกคาส่งั ท่ตี ้องการมาวางเรียงต่อ กันในพ้นื ท่เี ขยี นโปรแกรม กลมุ่ บลอ็ กคาสงั่ บลอ็ กคาสง่ั พืน้ ทเ่ี ขยี น โปรแกรม รปู ท่ี 4 ส่วนสครปิ ต์ ตวั อยา่ ง การเขยี นโปรแกรมใหต้ วั ละครแมวเดนิ 1. เปดิ โปรแกรม Scratch จะปรากฏตวั ละคร sprite1 ทเี่ ปน็ รปู แมว 2. คลิกแท็บ Costumes จะปรากฏชดุ ตัวละคร 2 ชดุ คือ costume1 และ costume2 ให้สังเกตว่าชดุ ตัวละครมลี ักษณะทา่ ทางการก้าวเดินของแมวที่แตกตา่ ง ดงั รูปที่ 5

รปู ท่ี 5 ชุดตัวละคร 3. คลิกแทบ็ Script แลว้ เขียนโปรแกรม โดยลากบล็อกคาสั่งวางในพื้นท่เี ขยี นโปรแกรม ดังนี้ 4. รันโปรแกรม โดยคลกิ ปมุ่ สงั เกตผลลัพธท์ ไี่ ดจ้ ะเหน็ วา่ แมวมีลักษณะคล้ายการ เดิน 1 ก้าว ซงึ่ เปน็ ผลมาจากคาสั่ง move 10 steps หมายถึง สงั่ ใหต้ ัวละครเคล่อื นทไี่ ป 10 หน่วย (การเคลื่อนที่ 1 หนว่ ย จะเทา่ กบั การขยับไป 1 จดุ บนหน้าจอ) และคาสงั่ next costume หมายถงึ เปลย่ี นเป็นชุดตัวละครในลาดบั ถัดไป 5. ปรบั สคริปต์ในข้อ 3 โดยเพ่มิ บล็อกคาสง่ั forever วางใหค้ รอบคาสั่ง move 10 steps และ next costume 6. คลกิ ปมุ่ ธงเขยี ว แล้วสังเกตผลลพั ธท์ ีไ่ ด้

แบบฝึกหัดท่ี 4.1 เรอื่ ง ร้จู กั กับโปรแกรม Scratch คำชแี้ จง : ให้นกั เรยี นตอบคำถำมตอ่ ไปนใี้ ห้ถกู ต้อง 1. ผลลัพธ์กำรรนั โปรแกรมตัวอย่ำง คือ ............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................ ............................................................................................................................................................................. 2. เหตุใดจงึ มีกำรเร่ิมตน้ กำรเขยี นโปรแกรมด้วยบล็อก และถ้ำไมม่ ีบลอ็ ก คำสง่ั น้ี โปรแกรมจะทำงำนได้หรือไม่ ............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................ ............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. 3. บล็อกคำส่ัง forever ทำหน้ำทอี่ ะไร ............................................................................................................................. ................................................ ............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................ 4. ส่วนของสครปิ ต์ (Script) ทำหนำ้ ท่ีอะไร ............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................ ............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. ชือ่ -สกลุ .................................................................... ชนั้ ................ เลขท.ี่ ..........

ใบความรู้ เรอ่ื ง การทา้ งานแบบวนซา้ ในการเขียนโปรแกรมมหี ลายกรณีทตี่ ้องมกี ารทา้ งานซา้ ๆ กนั ซงึ่ ทา้ ให้ต้องเขียน คา้ สั่งชุดเดียวกนั ซ้ากันหลายครัง เพอื่ ให้การทา้ งานมปี ระสิทธภิ าพ Scratch มคี า้ สั่งทใี่ ช้ในการท้างาน แบบวนซ้าซงึ่ อยู่ในกลมุ่ บลอ็ ก Control ดังนี 1. บล็อกคา้ สง่ั forever เป็นค้าสง่ั ท่ีก้าหนดการท้างานแบบวนซ้าไม่รู้จบ ตวั อยา่ งเช่น จริง เคลอ่ื นทไี่ ปขา้ งหนา้ 100 หนว่ ย หมุนตามเขม็ นาฬกิ า 90 องศา เคลอ่ื นที่ไปข้างหนา้ 100 หน่วย แลว้ หมนุ ตามเขม็ นาฬกิ า 90 องศา โดยทา้ ซ้าทงั 2 คา้ สั่ง แบบไม่รูจ้ บ 2. บลอ็ กค้าสง่ั repeat เปน็ คา้ ส่ังที่ก้าหนดการทา้ งานแบบวนซ้าตามจ้านวนรอบที่ ก้าหนดตวั อย่างเชน่ วนซ้าครบ จริง 10รอบหรอื ยงั เทจ็ เคลอื่ นทไี่ ปขา้ งหนา้ 100 หนว่ ย หมุนตามเขม็ นาฬกิ า 90 องศา เคลอ่ื นท่ีไปข้างหน้า 100 หน่วย แล้วหมนุ ตามเข็มนาฬกิ า 90 องศา จนครบ 10 รอบ

ตัวอยา่ ง การวาดรปู สเ่ี หลย่ี ม แนวคดิ ในการวาดรปู สเ่ี หลยี่ ม คอื ต้องวาดเสน้ ตรงแลว้ ต้องเปล่ียนทิศทางการวาด เปน็ มมุ 90 องศา ซ่งึ ถา้ สงั เกตจะเหน็ ว่า สว่ นนีมีการท้าซ้า 4 รอบ แต่กอ่ นการสงั่ วาดรูปจะตอ้ งมี การลา้ งหนา้ จอภาพให้ว่างก่อนแลว้ จึงวางปากกา และกา้ หนดจดุ เร่มิ ตน้ ของการวาด จากแนวคดิ เขียนรหสั ล้าลองได้ดังนี 1. ล้างจอภาพ 2. วางปากกา 3. ก้าหนดต้าแหนง่ เรมิ่ วาดทพ่ี ิกดั (0,0) 4. ท้างานตอ่ ไปนี 4 รอบ 4.1 ลากเสน้ ตรง 100 หนว่ ย 4.2 หมนุ ตามเขม็ นาฬิกา 90 องศา โปรแกรมมดี ังนี

แบบฝกึ หดั ท่ี 4.2 เรอ่ื ง การท้างานแบบวนซา้ คา้ ชแี จง : ให้นักเรียนตอบคา้ ถามตอ่ ไปนีใหถ้ กู ต้อง 1. เขียนโปรแกรมดังตอ่ ไปนี ผลลพั ธท์ ไี่ ดค้ อื ............................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................................ 2. เขียนโปรแกรมดังต่อไปนี ผลลัพธ์ทไ่ี ดค้ ือ ............................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................................ ช่อื -สกลุ ................................................................... ชนั ................ เลขท.่ี .........

3. บล็อกคา้ สั่ง repeat ท้าหน้าทอ่ี ะไร และแตกตา่ งกบั บล็อกค้าสงั่ forever อยา่ งไร ............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................

ใบความรู้ เรื่อง ตวั แปร ตัวแปร (variable) เป็นช่ือที่กาหนดขึ้นเพื่อใช้เก็บข้อมูลและเรยี กใช้ในการทางานต่าง ๆ ใน Scratch สามารถกาหนดการใชง้ านตวั แปรไดเ้ ชน่ เดยี วกบั ภาษาโปรแกรมอ่นื โดยการสร้างตัวแปร ทาไดโ้ ดยคลกิ บลอ็ กคาส่งั ที่อยู่ในกลุ่มบลอ็ ก Data ซง่ึ จะปรากฏหนา้ ตา่ ง New Variable ดงั รปู การตงั้ ชอ่ื ตวั แปรควรใช้ชื่อท่ีมีความหมายสอดคล้องกับข้อมูล เชน่ name ใช้สาหรับ เกบ็ ชอ่ื score ใชส้ าหรบั เกบ็ คะแนน และ price ใชส้ าหรับเก็บราคา และการกาหนดขอบเขตการใช้ งานตัวแปร สามารถกาหนดได้ 2 แบบดงั น้ี - For all sprites คอื กาหนดใหท้ กุ ตัวละครสามารถใช้งานตัวแปรน้ไี ด้ - For this sprite only คอื กาหนดใหใ้ ชง้ านตวั แปรนไี้ ดเ้ ฉพาะกับตวั ละครทส่ี รา้ งตัวแปร นีเ้ ท่านน้ั ถ้าสรา้ งตัวแปรเสรจ็ แล้วจะมีบลอ็ กคาส่ังปรากฏขน้ึ มาอีก 5 บล็อก ในทน่ี ้ีจะยกตัวอยา่ งเมื่อมีการ สรา้ งตวั แปร count ดงั ตารางต่อไปนี้ บล็อก คาอธบิ าย แสดงคา่ ตัวแปรบนเวที ไมแ่ สดงคา่ ตัวแปรบนเวที กาหนดค่าเรม่ิ ต้นใหก้ ับตัวแปร count เป็น -5 กาหนดค่าเรม่ิ ต้นใหก้ บั ตัวแปร count เปน็ 8 เปลยี่ นคา่ ตวั แปร count เพ่ิมข้ึนคร้งั ละ 1 เปลย่ี นคา่ ตัวแปร count ลดลงคร้ังละ 3 แสดงตวั แปร count และค่าของตวั แปรบนเวที ไมแ่ สดงตวั แปร count และไมแ่ สดงคา่ ของตวั แปรบนเวที

ตวั แปรสามารถเกบ็ ข้อมลู ได้เพยี งค่าเดยี ว ณ ขณะใดขณะหนงึ่ แตส่ ามารถเปล่ียนแปลงได้ ผู้เขียนโปรแกรมสามารถกาหนดค่าตัวแปรจากตัวแปรอ่ืน หรือระบคุ า่ โดยตรง โดยใชบ้ ลอ็ กคาสง่ั หรือกาหนดจากการรับขอ้ มูลจากผ้ใู ช้ โดยใชบ้ ล็อกคาส่ัง ซ่งึ ค่าข้อมูลทีร่ ับจากผใู้ ชจ้ ะถกู เก็บไวใ้ นตวั แปร เสมอ หากต้องการรับขอ้ มูลจากผู้ใชห้ ลายคา่ ผ้เู ขียนโปรแกรมตอ้ งนาคา่ ในตวั แปร ไป เกบ็ ไว้ในตวั แปนอืน่ กอ่ น แลว้ จงึ รบั ขอ้ มลู อื่นจากผ้ใู ชต้ ่อไป ตัวอยา่ ง การเกบ็ คา่ ในตวั แปร 1 2 3 4 5 6 7

แบบฝึกหัดท่ี 4.3 เร่ือง ตวั แปร คำช้แี จง : จงตอบคำถำมตอ่ ไปนใ้ี หถ้ กู ตอ้ ง ขอ้ บลอ็ กคำสง่ั คำอธิบำย ผลกำรทำงำน กำหนดคำ่ ตวั แปร.............เทำ่ กบั ......... 1 x มคี ่ำเทำ่ กบั ............................ กำหนดคำ่ ตวั แปร.............เทำ่ กบั ......... x มีค่ำเทำ่ กบั ............................ 2 เพ่ิมคำ่ ตวั แปร........ จำนวน.........หนว่ ย x มีคำ่ เทำ่ กบั ............................ 3 y มีคำ่ เทำ่ กบั ............................ y มคี ำ่ เทำ่ กบั ............................ 4 z มีคำ่ เทำ่ กบั ............................ x มคี ำ่ เทำ่ กบั ............................ 5 y มคี ำ่ เทำ่ กบั ............................ z มีค่ำเทำ่ กบั ............................ ช่อื -นำมสกลุ ................................................................... ชัน้ ............... เลขท่ี ..........

ใบความรู้ เรื่อง การเขยี นโปรแกรมทม่ี ตี วั แปร ตัวดาเนนิ การ ตัวดาเนนิ การคณติ ศาสตร์ ผลลพั ธ์ ความหมาย ตวั อยา่ งการใชง้ าน การบวก 12 การลบ 8 การคณู 20 การหาร 5 ตวั ดาเนนิ การ ตัวดาเนนิ การเปรยี บเทยี บ ผลลพั ธ์ ความหมาย ตัวอยา่ งการใชง้ าน น้อยกวา่ เทจ็ เท่ากบั เทจ็ มากกวา่ จรงิ ตวั อยา่ ง แชร์กบั ฉนั ถ้านกั เรยี นไปรบั ประทานอาหารฉลองวนั ปดิ เทอมกบั เพอ่ื น และตกลงกนั วา่ จะจา่ ยคา่ อาหารคน ละเทา่ ๆ กนั แลว้ นกั เรยี นแตล่ ะคนตอ้ งจา่ ยคา่ อาหารคนละเทา่ ใด ซ่ึงโจทยน์ น้ี กั เรยี นไดล้ องคดิ มาแลว้ เบอื้ งตน้ โดยใหน้ กั เรยี นเลอื กข้อมลู จากรปู ท่คี ดิ วา่ เกยี่ วขอ้ งกบั การนามาคานวณเพอ่ื ใหไ้ ดจ้ านวนเงนิ ทนี่ กั เรยี นแตล่ ะคนตอ้ งจา่ ย ราคาอาหารอยา่ ง ราคาอาหารอยา่ ง จานวนเพอ่ื นทง้ั ที่ 2 ที่ 1 ห้อง คา่ อาหารท้งั หมด ราคาเครอ่ื งดมื่ จานวนเพอ่ื นท่ี ราคาของหวาน รบั ประทานอาหาร

เขียนรหสั ลาลอง ได้ดังน้ี เร่มิ ตน้ 1. รับคา่ อาหารท้ังหมด 2. รับจานวนผรู้ บั ประทานอาหาร 3. นาคา่ อาหารทง้ั หมด หารดว้ ย จานวนผรู้ บั ประทานอาหาร 4. แสดงผลคา่ อาหารทแี่ ตล่ ะคนตอ้ งจา่ ย จบ หรือ เร่มิ ตน้ 1. totalPrice รับคา่ อาหารทง้ั หมด 2. number รบั จานวนผรู้ บั ประทานอาหาร 3. avg totalPrice/number 4. แสดงผล avg จบ รปู แบบการรบั ขอ้ มลู จากผใู้ ชข้ อง Scratch สามารถปรบั รหสั ลาลองจากตวั อยา่ งแชรก์ บั ฉนั ได้ดังนี้ เร่ิมต้น 1. answer รับค่าอาหารทงั้ หมด 2. totalprice answer 3. answer รบั จานวนผรู้ บั ประทานอาหาร 4. number answer 5. avg totalprice/number 6. แสดงผล avg จบ ใหน้ กั เรยี นเขยี นโปรแกรมตามรหสั ลาลองทอ่ี อกแบบไว้ มีดังน้ี 1 2 3 4 5 6 7

เม่อื คลิกปุ่ม แล้วทดลองเติมค่าอาหารทั้งหมดเปน็ 1,289 หลังจากน้ัน เติม แลว้ กดแป้น Enter หรอื คลิก จานวนผ้รู ับประทานอาหารเป็น 15 แล้วกดแป้น Enter ผลลพั ธท์ ไ่ี ดค้ อื ตัวอยา่ ง โปรแกรมนีจ้ ะระบจุ านวนรอบในการทางาน 3 รอบ โดยแตล่ ะรอบจะรบั ข้อมูลค่าอาหารทง้ั หมด จานวนผ๔รบั ประทานอาหาร และคานวณค่าอาหารท่ผี ู้รบั ประทานอาหารแตล่ ะคนต้องจา่ ย จากตวั อยา่ ง จะเห็นว่าบลอ็ กคาสง่ั ทเี่ พ่มิ มา คอื คาสง่ั repeat (3) ในบรรทัดท่ี 2 ซง่ึ เป็นการกาหนดให้ มีการทางานภายในบลอ็ กคาสงั่ repeat จานวน 3 รอบ เม่ือรนั โปรแกรมจะพบวา่ โปรแกรมจะใหผ้ ใู้ ช้ปอ้ น ค่าอาหารทงั้ หมด และจานวนผูร้ บั ประทานอาหาร แล้วโปรแกรมจะคานวณคา่ อาหารที่แตล่ ะคนต้องจา่ ย ซง่ึ จะ ทาเช่นน้ี 3 รอบ ให้นักเรยี นทดลองเปลยี่ นตวั เลขในบลอ็ กคาสั่ง repeat จาก 3 เป็น 5 แลว้ รนั โปรแกรม สงั เกตการ ทางานทีเ่ กดิ ข้ึน หลังจากน้นั ใหน้ กั เรยี นทดลองเปลย่ี นเป็นคา่ อน่ื ตามตอ้ งการ แลว้ รนั โปรแกรมและสงั เกต ผลลัพธ์ทีไ่ ด้

แบบฝกึ หัดท่ี 4.4 เรื่อง การเขยี นโปรแกรมทม่ี ีตวั แปร คาชแ้ี จง : จงตอบคาถามตอ่ ไปนใ้ี ห้ถกู ตอ้ ง 1. ทดลองคลกิ ขวาท่เี คร่อื งหมาย / ในบรรทดั ท่ี 6 แลว้ เลอื กเคร่ืองหมาย + , - และ * ตามลาดับแล้วรนั โปรแกรม ทดลองเตมิ ขอ้ มลู ค่าอาหารท้งั หมด และจานวนผู้รับประทานอาหาร สงั เกตผลลพั ธ์ท่ไี ดจ้ ากการเปลยี่ นเครื่องหมายดงั กลา่ วเปน็ อยา่ งไร เพราะเหตุใด 1 2 3 4 5 6 7 ............................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ............................................... ............................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ............................................... ............................................................................................................................................................................ ชือ่ -นามสกลุ .................................................................. ช้ัน ............... เลขท่ี ..........

ใบความรู้ เรอ่ื ง การทางานแบบมีทางเลอื ก ใน Scratch มีบลอ็ กคาสงั่ สาหรับการทางานแบบมีทางเลือก (selection) จะใชใ้ นกรณีท่ตี อ้ งการให้ โปรแกรมมีการตดั สนิ ใจเลอื กทางานอย่างใดอยา่ งหน่งึ ตามเงอื่ นไขทีก่ าหนด ซ่งึ จะระบไุ วใ้ น บล็อกคาสง่ั สาหรับการทางานแบบมที างเลือก มดี งั นี้ 1. บล็อกคาสงั่ if ใชใ้ นการทางานแบบมีทางเลอื กเพอ่ื ควบคมุ ทศิ ทางการทางาน โดยถ้าเงือ่ นไขเปน็ จริง จะทาคาส่ัง ภายในบล็อกคาสัง่ if แตถ่ า้ เง่อื นไขเป็นเทจ็ จะข้ามไปทาคาส่ังถัดจากบลอ็ กคาสงั่ if ตวั อย่างการ ทางานของบลอ็ กคาส่งั if มดี ังนี้ count > 5 จรงิ หรอื ไม่ เท็จ แสดงขอ้ ความ “มากกวา่ ” ถ้าตัวแปร count มีค่ามากกวา่ 5 จะแสดงขอ้ ความวา่ “มากกว่า” 2. บล็อกคาสงั่ if-else จะใชใ้ นการทางานแบบมี ทางเลอื กเพอื่ ควบคุมทศิ ทางการทางาน โดยถ้า เง่อื นไขเปน็ จรงิ จะทาคาส่งั ภายในบลอ็ ก if แต่ถา้ เงอ่ื นไขเป็นเท็จ จะทาคาส่งั ภายในบล็อก else ตวั อย่างการทางานของบลอ็ กคาส่ัง if-else มีดงั นี้ เท็จ count > 5 จริง หรือไม่ แสดงขอ้ ความ “ไม่มากกวา่ ” แสดงขอ้ ความ “มากกวา่ ” ถ้าตวั แปร count มีค่ามากกวา่ 5 จะแสดงขอ้ ความวา่ “มากกวา่ ” แตถ่ า้ ไมใ่ ช่ จะแสดงข้อความว่า “ไม่มากกว่า”

นอกจากนเ้ี รายงั ใช้บลอ็ กคาสงั่ if-else ซอ้ นกนั ได้ ตวั อยา่ งเชน่ count > 5 1 หรอื ไม่ 2 3 count = 5 แสดงขอ้ ความ “มากกวา่ ” 4 หรอื ไม่ 5 แสดงขอ้ ความ แสดงขอ้ ความ 6 “นอ้ ยกวา่ ” “เท่ากัน” 7 ถา้ ตัวแปร count มีคา่ มากกว่า 5 โปรแกรมจะทางานในบรรทดั ที่ 2 โดยแสดงขอ้ ความว่า “มากกว่า” แตถ่ า้ ไมใ่ ช่ โปรแกรมจะไปทางานบรรทดั ที่ 4 โดยตรวจสอบเงอ่ื นไขของ if-else ที่ซ้อน อยูว่ า่ count มีคา่ เทา่ กับ 5 หรอื ไม่ ถา้ ใช่ จะทางานในบรรทดั ที่ 5 แสดงข้อความวา่ “เทา่ กนั ” แต่ถา้ ไม่ใช่ จะทางานในบรรทดั ท่ี 7 แสดงขอ้ ความวา่ “น้อยกวา่ ” ตวั อยา่ ง ร้อนไหมองศานี้ โปรแกรมนี้จะรบั อุณหภูมเิ ป็นองศาเซลเซยี ส หากอณุ หภูมิสงู กวา่ 30 องศาเซลเซยี ส จะแสดง ขอ้ ความวา่ “รอ้ น” ถา้ อณุ หภูมติ ่ากวา่ นัน้ จะแสดงขอ้ ความวา่ “กาลังดี” 1 2 3 4 5 6 7


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook