วิทยาการคำนวณม.1

12. การวัดและประเมนิ ผลการเรยี นรู้ จุดประสงค์การเรียนรู้ วธิ ีการวดั เครือ่ งมือวัด เกณฑก์ ารประเมนิ - แบบฝกึ หัด 1. นกั เรียนสามารถอธบิ ายการใช้ 1. การตอบคำถามใน สามารถตอบคำถามใน แบบฝึกหัดไดถ้ กู ต้อง ตัวแปรในโปรแกรม Scratch ได้ แบบฝึกหดั ตามหลกั การ 80 % ข้นึ ไป (K) สามารถตอบคำถามใน ใบงานได้ 80 % ข้ึนไป 2. นกั เรยี นสามารถสร้างตวั แปร 2. ตรวจแบบฝกึ หดั - แบบประเมิน ในโปรแกรม Scratch ได(้ P) แบบฝึกหัด 3. นักเรยี นเปน็ ผทู้ ม่ี วี ินยั ใฝ่ 3. สงั เกตพฤตกิ รรมใน - แบบประเมนิ นักเรียนมีคุณลักษณะ เรยี นรู้ และมุง่ มัน่ ในการทำงาน คณุ ลกั ษณะอนั พึง อันพงึ ประสงค์ ได้ 80% (A) การทำแบบฝกึ หัด ประสงค์ ข้ึนไป คณุ ธรรม จรยิ ธรรมที่สอดแทรก การตรงต่อเวลา เชน่ การเขา้ ชั้นเรยี น การสง่ การบา้ น และการปฏิบัติตามท่ี ไดร้ ับมอบหมาย 13. หนังสือ / เอกสารอ้างอิง - หนังสอื เรียนรายวิชาพนื้ ฐาน กลมุ่ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ เรือ่ ง เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) ช้ันมธั ยมศึกษาปีที่ 1 ลงชือ่ .................................................. (นางสาวกนกวรรณ มานุจำ) ครผู ู้สอน

การบันทึกผลหลังการสอน รหัสวชิ า ว 21102 กลุ่มสาระการเรียนรูว้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวชิ า วทิ ยาการคำนวณ สัปดาหท์ ่ี 9 ระดับชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ 1 จำนวน 7 ชัว่ โมง หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 4 เร่ือง การโปรแกรมดว้ ย Scratch เวลา 1 ชว่ั โมง แผนการเรียนรู้ท่ี 9 เรือ่ ง ตัวแปร ครผู ู้สอน นางสาวกนกวรรณ มานจุ ำ การบันทึกผลหลงั การสอน 1. บันทึกผลการเรียนร้ตู ามจุดประสงค์ (K: Knowledge) 1.1 นักเรยี นสามารถอธบิ ายการใช้ตัวแปรในโปรแกรม Scratch ได้ (K) จำนวน….……คน คิดเปน็ รอ้ ยละ…….…ของจำนวนนักเรยี นท้งั หมด 1.2 นักเรยี นไม่สามารถอธิบายการใช้ตัวแปรในโปรแกรม Scratch ได้ (K) จำนวน….……คน คิดเป็นรอ้ ยละ…….…ของจำนวนนักเรียนท้ังหมด 2. บนั ทกึ ทักษะ / กระบวนการ (P: Process) 2.1 นกั เรียนสามารถสร้างตัวแปรในโปรแกรม Scratch ได้ (P) จำนวน……..คน คดิ เปน็ ร้อยละ….……ของจำนวนนักเรียนทง้ั หมด 2.2 นักเรียนไม่สามารถสรา้ งตวั แปรในโปรแกรม Scratch ได้ (P) จำนวน….……คน คิดเป็นรอ้ ยละ……...ของจำนวนนักเรยี นทั้งหมด 3. บนั ทึกคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ (A: Attitude) 3.1 นักเรยี นเปน็ ผูท้ ีม่ วี นิ ัย ใฝ่เรียนรู้ และมุ่งมน่ั ในการทำงาน (A) จำนวน…..…..คน คดิ เป็นรอ้ ยละ….……ของ จำนวนนกั เรยี นทง้ั หมด 3.2 นักเรยี นไม่เป็นผู้ท่ีมีวินยั ใฝ่เรยี นรู้ และมุ่งม่ันในการทำงาน (A) จำนวน….…...คน คิดเปน็ ร้อยละ……...ของ จำนวนนักเรียนทง้ั หมด ปญั หาและอปุ สรรค ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ แนวทางการแกป้ ญั หา ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ลงช่ือ.................................................. (นางสาวกนกวรรณ มานจุ ำ) ครผู ้สู อน

แผนการจัดการเรยี นรู้ รหัสวชิ า ว 21102 กลุ่มสาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี รายวชิ า วิทยาการคำนวณ สปั ดาห์ท่ี 11 ระดบั ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 1 จำนวน 7 ช่ัวโมง หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 4 เร่ือง การโปรแกรมดว้ ย Scratch เวลา 1 ชวั่ โมง แผนการเรียนร้ทู ่ี 10 เรื่อง การเขียนโปรแกรมที่มีตัวแปร ครูผู้สอน นางสาวกนกวรรณ มานุจำ 1. สาระ สาระที่ 4 เทคโนโลยี 2. มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ว 4.2 เขา้ ใจและใช้แนวคดิ เชงิ คำนวณในการแกป้ ญั หาท่ีพบในชวี ิตจรงิ อย่างเปน็ ขน้ั ตอนและเป็น ระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสอ่ื สารในการเรยี นรู้ การทำงาน และการแก้ปัญหาได้อย่างมปี ระสิทธิภาพ รู้เท่าทันและมจี รยิ ธรรม 3. ตวั ช้วี ัด / ผลการเรียนรู้ ม.1/2 ออกแบบและเขยี นโปรแกรมอย่างงา่ ย เพ่อื แกป้ ญั หาทางคณิตศาสตรห์ รือวิทยาศาสตร์ 4. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 1. นกั เรียนสามารถอธิบายการเขยี นโปรแกรมทม่ี ีตวั แปรได้ (K) 2. นักเรยี นสามารถเขยี นโปรแกรมทีม่ ตี ัวแปรได้ (P) 3. นักเรยี นเป็นผูท้ ม่ี ีวินัย ใฝ่เรียนรู้ และมุ่งมน่ั ในการทำงาน (A)

5. สาระการเรียนรแู้ กนกลาง ตวั ชวี้ ัด ดา้ นความรู้ ดา้ นทกั ษะกระบวนการ ดา้ นคณุ ลกั ษณะอันพึง (K: Knowledge) (P: Process) ประสงค์ (A: Attitude) ม.1/2 ออกแบบและ 1. นกั เรยี นสามารถ 2. นกั เรียนสามารถเขยี น 3. นกั เรยี นเป็นผู้ที่มีวนิ ัย ใฝ่ เขยี นโปรแกรมอย่าง อธบิ ายการเขยี น ง่าย เพอ่ื แกป้ ัญหาทาง โปรแกรมที่มตี วั แปรได้ โปรแกรมทีม่ ีตวั แปรได้ เรียนรู้ และม่งุ มั่นในการ คณติ ศาสตร์หรือ วทิ ยาศาสตร์ ทำงาน 6. สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอดหนว่ ยการเรียนรู้ ตวั แปร เปน็ ชอ่ื ทีก่ ำหนดข้นึ เพือ่ ใชเ้ ก็บขอ้ มลู และเรยี กใชใ้ นการทำงานตา่ ง ๆ ใน Scratch สามารถกำหนดการ ใช้งานตวั แปรได้ 7. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น 1. ความสามารถในการส่อื สาร 2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ิต 4. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 8. คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ - มีวินัย - ใฝ่เรียนรู้ - มุ่งม่นั ในการทำงาน 9. สอื่ และ แหลง่ การเรียนรู้ สอ่ื - ใบความรู้ เรอ่ื ง การเขยี นโปรแกรมที่มีตัวแปร - แบบฝกึ หัดท่ี 4.4 เร่ือง การเขียนโปรแกรมทีม่ ตี ัวแปร - ส่ือ PowerPoint เรื่อง การเขียนโปรแกรมทีม่ ตี ัวแปร แหลง่ เรียนรู้ - หอ้ งปฏบิ ตั ิการคอมพวิ เตอร์

10. การจัดการเรียนรู้ จำนวนคาบ หมายเหตุ ลำดบั เรื่อง 1 1 การเขยี นโปรแกรมท่ีมตี วั แปร 11. กระบวนการจัดการเรียนรู้ เรื่อง การเขยี นโปรแกรมที่มตี ัวแปร จุดประสงค์การเรยี นรู้ 1. นักเรยี นสามารถอธิบายการเขียนโปรแกรมทีม่ ีตัวแปรได้ (K) 2. นักเรียนสามารถเขยี นโปรแกรมทม่ี ตี วั แปรได้ (P) 3. นกั เรยี นเปน็ ผทู้ ี่มวี ินยั ใฝเ่ รยี นรู้ และมุง่ มัน่ ในการทำงาน (A) กจิ กรรม (5E) ขั้นท่ี 1 ข้ันสรา้ งความสนใจ 1. ครทู บทวนความรู้เดมิ ของนักเรียน เกีย่ วกบั การสรา้ งตวั แปร ขน้ั ที่ 2 สำรวจและคน้ หา 1. ครใู หน้ กั เรยี นเลน่ เกม Jamp men platformer จากเวบ็ https://scratch.mit.edu/projects/313555099/ ขั้นท่ี 3 ขนั้ อธบิ ายและลงข้อสรปุ 1. ครบู รรยายเนอ้ื หา เรอื่ ง การเขียนโปรแกรมทม่ี ีตัวแปร พร้อมสาธิตวิธีการใช้งาน โดยเน้อื หาประกอบดว้ ย - ตัวดำเนินการคณิตศาสตร์ - ตัวดำเนินการเปรียบเทยี บ - ตวั อยา่ งโจทย์การเขียนโปรแกรมที่ใช้ตวั แปร ขั้นท่ี 4 ขนั้ ขยายความรู้ 1. ครใู หน้ ักเรียน เขยี นโปรแกรมคำนวณในการจ่ายคา่ อาหารดังตัวอย่างที่ครูอธบิ ายไป ขา้ งตน้ จากนนั้ ให้นกั เรียนเพม่ิ จำนวนรอบในการทำงาน 3 รอบ โดยแตล่ ะรอบจะรับขอ้ มลู คา่ อาหารท้งั หมด จำนวนผู้ รบั ประทานอาหาร และคำนวณค่าอาหารทีผ่ ูร้ บั ประทานอาหารแตล่ ะคนต้องจา่ ย 2. นักเรยี นทำแบบฝกึ หัดท่ี 4.4 เร่ือง การเขยี นโปรแกรมทม่ี ีตัวแปร ขั้นที่ 5 ขนั้ สรปุ 1. ครแู ละนักเรียนร่วมกนั สรปุ เรื่อง การเขียนโปรแกรมท่ีมตี วั แปร

12. การวัดและประเมนิ ผลการเรียนรู้ จุดประสงค์การเรียนรู้ วิธีการวัด เคร่อื งมอื วัด เกณฑ์การประเมนิ - แบบฝึกหดั 1. นกั เรียนสามารถอธิบายการ 1. การตอบคำถามใน สามารถตอบคำถามใน แบบฝึกหัดได้ถูกตอ้ ง เขียนโปรแกรมท่ีมตี ัวแปรได้ (K) แบบฝึกหัด ตามหลกั การ 80 % ขน้ึ ไป 2. นกั เรยี นสามารถเขยี น 2. ตรวจแบบฝึกหัด - แบบประเมนิ สามารถตอบคำถามใน โปรแกรมทีม่ ตี วั แปรได้ (P) แบบฝึกหดั ใบงานได้ 80 % ขึ้นไป 3. นักเรียนเปน็ ผู้ที่มีวนิ ัย ใฝ่ 3. สังเกตพฤติกรรมใน - แบบประเมิน นักเรยี นมีคณุ ลกั ษณะ เรียนรู้ และม่งุ ม่นั ในการทำงาน คณุ ลกั ษณะอันพึง อันพึงประสงค์ ได้ 80% (A) การทำแบบฝึกหดั ประสงค์ ขึ้นไป คุณธรรม จรยิ ธรรมที่สอดแทรก การตรงต่อเวลา เชน่ การเข้าช้นั เรียน การสง่ การบ้าน และการปฏิบตั ติ ามที่ ได้รับมอบหมาย 13. หนงั สอื / เอกสารอ้างองิ - หนงั สือเรยี นรายวิชาพ้ืนฐาน กลุ่มสาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์ เรอ่ื ง เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ่ี 1 ลงชื่อ.................................................. (นางสาวกนกวรรณ มานุจำ) ครผู ู้สอน

การบนั ทกึ ผลหลังการสอน รหสั วิชา ว 21102 กลุ่มสาระการเรียนรูว้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี รายวชิ า วิทยาการคำนวณ สปั ดาหท์ ี่ 11 ระดับชนั้ มัธยมศึกษาปที ่ี 1 จำนวน 7 ช่วั โมง หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 4 เร่ือง การโปรแกรมดว้ ย Scratch เวลา 1 ชั่วโมง แผนการเรียนรทู้ ่ี 10 เรอ่ื ง การเขยี นโปรแกรมที่มตี วั แปร ครผู ้สู อน นางสาวกนกวรรณ มานจุ ำ การบนั ทึกผลหลงั การสอน 1. บนั ทึกผลการเรยี นร้ตู ามจดุ ประสงค์ (K: Knowledge) 1.1 นักเรียนสามารถอธิบายการเขยี นโปรแกรมทม่ี ีตัวแปรได้ (K) จำนวน….……คน คิดเป็นรอ้ ยละ…….…ของจำนวนนกั เรยี นทง้ั หมด 1.2 นักเรียนไม่สามารถอธบิ ายการเขียนโปรแกรมทม่ี ีตวั แปรได้ (K) จำนวน….……คน คิดเป็นรอ้ ยละ…….…ของจำนวนนกั เรียนท้ังหมด 2. บนั ทึกทกั ษะ / กระบวนการ (P: Process) 2.1 นกั เรียนสามารถเขียนโปรแกรมท่ีมีตวั แปรได้ (P) จำนวน……..คน คิดเปน็ ร้อยละ….……ของจำนวนนกั เรียนทงั้ หมด 2.2 นักเรยี นไม่สามารถเขียนโปรแกรมทม่ี ตี วั แปรได้ (P) จำนวน….……คน คิดเป็นร้อยละ……...ของจำนวนนักเรียนท้ังหมด 3. บนั ทกึ คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ (A: Attitude) 3.1 นักเรยี นเป็นผู้ท่มี ีวนิ ยั ใฝเ่ รียนรู้ และมุ่งมั่นในการทำงาน (A) จำนวน…..…..คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ….……ของ จำนวนนกั เรยี นทั้งหมด 3.2 นกั เรยี นไม่เป็นผู้ท่มี วี นิ ัย ใฝ่เรยี นรู้ และมุง่ มน่ั ในการทำงาน (A) จำนวน….…...คน คดิ เปน็ ร้อยละ……...ของ จำนวนนักเรยี นทงั้ หมด ปญั หาและอปุ สรรค ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ แนวทางการแกป้ ัญหา ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ลงชอ่ื .................................................. (นางสาวกนกวรรณ มานจุ ำ) ครูผสู้ อน

แผนการจดั การเรียนรู้ รหสั วชิ า ว 21102 กลุ่มสาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวชิ า วทิ ยาการคำนวณ สัปดาห์ที่ 12 ระดับชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ 1 จำนวน 7 ชว่ั โมง หน่วยการเรียนรู้ท่ี 4 เรื่อง การโปรแกรมด้วย Scratch เวลา 1 ชว่ั โมง แผนการเรยี นรู้ท่ี 11 เรอ่ื ง การทำงานแบบมที างเลือก ครูผู้สอน นางสาวกนกวรรณ มานจุ ำ 1. สาระ สาระที่ 4 เทคโนโลยี 2. มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ว 4.2 เขา้ ใจและใชแ้ นวคิดเชงิ คำนวณในการแกป้ ัญหาทพี่ บในชวี ิตจริงอย่างเป็นขั้นตอนและเปน็ ระบบ ใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศและการสื่อสารในการเรยี นรู้ การทำงาน และการแกป้ ัญหาไดอ้ ยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ รู้เทา่ ทนั และมีจรยิ ธรรม 3. ตัวชวี้ ัด / ผลการเรยี นรู้ ม.1/2 ออกแบบและเขยี นโปรแกรมอยา่ งง่าย เพื่อแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์หรอื วิทยาศาสตร์ 4. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. นกั เรยี นสามารถอธิบายการทำงานแบบมีทางเลือกได้ (K) 2. นกั เรียนสามารถเขยี นโปรแกรมโดยใช้บล็อกคำสงั่ การทำงานแบบมที างเลอื กได้ (P) 3. นกั เรยี นเปน็ ผทู้ มี่ ีวนิ ยั ใฝ่เรยี นรู้ และมุ่งมน่ั ในการทำงาน (A)

5. สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง ตวั ชี้วัด ดา้ นความรู้ ด้านทกั ษะกระบวนการ ด้านคุณลักษณะอันพงึ (K: Knowledge) (P: Process) ประสงค์ (A: Attitude) ม.1/2 ออกแบบและ 1. นักเรยี นสามารถ 2. นักเรียนสามารถเขยี น 3. นักเรียนเป็นผทู้ ี่มวี ินยั ใฝ่ เขยี นโปรแกรมอยา่ ง อธิบายการทำงานแบบมี โปรแกรมโดยใชบ้ ล็อก เรยี นรู้ และมุ่งม่นั ในการ ง่าย เพือ่ แกป้ ัญหาทาง ทางเลือกได้ คำสง่ั การทำงานแบบมี ทำงาน คณติ ศาสตร์หรอื ทางเลอื กได้ วิทยาศาสตร์ 6. สาระสำคญั /ความคิดรวบยอดหนว่ ยการเรียนรู้ ใน Scratch มบี ลอ็ กคำส่ังสำหรับการทำงานแบบมที างเลอื ก (selection) จะใชใ้ นกรณีท่ีต้องการให้โปรแกรมมี การตดั สินใจเลือกทำงานอยา่ งใดอยา่ งหน่ึงตามเงอื่ นไขท่กี ำหนด 7. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี น 1. ความสามารถในการส่ือสาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ิต 4. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 8. คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ - มีวินัย - ใฝ่เรียนรู้ - ม่งุ มัน่ ในการทำงาน 9. สือ่ และ แหลง่ การเรียนรู้ ส่อื - ใบความรู้ เร่ือง การทำงานแบบมีทางเลอื ก - แบบฝกึ หัดท่ี 4.5 เรอ่ื ง การทำงานแบบมีทางเลือก - สอ่ื PowerPoint เรอื่ ง การทำงานแบบมที างเลือก แหล่งเรยี นรู้ - ห้องปฏิบัติการคอมพวิ เตอร์

10. การจัดการเรยี นรู้ จำนวนคาบ หมายเหตุ ลำดบั เรอื่ ง 1 1 การทำงานแบบมที างเลือก 11. กระบวนการจัดการเรยี นรู้ เรอ่ื ง การทำงานแบบมีทางเลือก จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 1. นักเรยี นสามารถอธบิ ายการทำงานแบบมีทางเลือกได้ (K) 2. นกั เรียนสามารถเขียนโปรแกรมโดยใช้บลอ็ กคำสัง่ การทำงานแบบมที างเลือกได้ (P) 3. นักเรยี นเปน็ ผู้ท่ีมีวินัย ใฝ่เรยี นรู้ และมุง่ ม่นั ในการทำงาน (A) กิจกรรม (5E) ข้นั ที่ 1 ข้ันสร้างความสนใจ 1. ครูยกตัวอยา่ งสถานการณ์ในชีวิตประจำวนั ที่มีการตัดสินใจเลอื กอยา่ งใดอย่างหน่ึง เพื่ออธบิ ายเรอ่ื งเงอ่ื นไข เช่น ถ้านกั เรียนมีเงนิ เหลอื จากการซือ้ อาหารกลางวนั มากกว่า 30 บาท นักเรยี นจะซ้ือขนมหรอื เกบ็ ใสก่ ระปกุ ออมสิน ขั้นที่ 2 สำรวจและคน้ หา 1. ครใู ห้นกั เรยี นคน้ หาขอ้ มลู “การทำงานแบบมีทางเลอื ก” จากอนิ เทอรเ์ นต็ ขน้ั ที่ 3 ขนั้ อธิบายและลงข้อสรุป 1. ครบู รรยายเนือ้ หา เรื่อง การทำงานแบบมีทางเลือก โดยใช้สื่อ powerpoint พร้อมสาธิต วธิ กี ารใชง้ าน โดยเน้อื หาประกอบด้วย - บล็อกคำสง่ั if - บลอ็ กคำสง่ั if-else ขน้ั ที่ 4 ข้ันขยายความรู้ 1. ครใู ห้นกั เรียนเขยี นโปรแกรมตามตวั อย่าง รอ้ นไหมองศาน้ี 2. นักเรยี นทำแบบฝึกหัดที่ 4.5 เรอ่ื ง การทำงานแบบมที างเลอื ก ขน้ั ที่ 5 ขั้นสรุป 1. ครูและนักเรยี นรว่ มกนั สรปุ เรือ่ ง การทำงานแบบมที างเลอื ก

12. การวัดและประเมนิ ผลการเรยี นรู้ จุดประสงค์การเรียนรู้ วิธีการวัด เคร่อื งมือวัด เกณฑ์การประเมนิ 1. นกั เรยี นสามารถอธบิ ายการ 1. การตอบคำถามใน - แบบฝึกหัด แบบฝึกหัด สามารถตอบคำถามใน ทำงานแบบมีทางเลือกได้ (K) แบบฝกึ หดั ได้ถูกต้อง ตามหลกั การ 80 % ขนึ้ 2. นักเรียนสามารถเขยี น 2. ตรวจแบบฝึกหดั - แบบประเมิน ไป สามารถตอบคำถามใน โปรแกรมโดยใชบ้ ล็อกคำสั่งการ แบบฝึกหัด ใบงานได้ 80 % ขึน้ ไป ทำงานแบบมีทางเลอื กได้ (P) 3. นักเรยี นเปน็ ผทู้ ่ีมวี นิ ยั ใฝ่ 3. สงั เกตพฤติกรรมใน - แบบประเมิน นักเรยี นมีคณุ ลักษณะ เรยี นรู้ และมุ่งมนั่ ในการทำงาน คณุ ลักษณะอนั พงึ อันพึงประสงค์ ได้ 80% (A) การทำแบบฝึกหดั ประสงค์ ขน้ึ ไป คณุ ธรรม จริยธรรมทส่ี อดแทรก การตรงต่อเวลา เชน่ การเขา้ ชั้นเรยี น การสง่ การบา้ น และการปฏิบตั ติ ามที่ ไดร้ ับมอบหมาย 13. หนงั สือ / เอกสารอ้างอิง - หนงั สือเรยี นรายวิชาพนื้ ฐาน กล่มุ สาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์ เรอ่ื ง เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) ชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี 1 ลงชื่อ.................................................. (นางสาวกนกวรรณ มานุจำ) ครผู ู้สอน

การบนั ทึกผลหลังการสอน รหัสวชิ า ว 21102 กลมุ่ สาระการเรยี นร้วู ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี รายวิชา วทิ ยาการคำนวณ สปั ดาห์ที่ 12 ระดบั ช้ันมัธยมศกึ ษาปีท่ี 1 จำนวน 7 ชวั่ โมง หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 4 เร่อื ง การโปรแกรมด้วย Scratch เวลา 1 ชั่วโมง แผนการเรยี นรู้ที่ 11 เรื่อง การทำงานแบบมที างเลือก ครผู สู้ อน นางสาวกนกวรรณ มานจุ ำ การบนั ทึกผลหลังการสอน 1. บันทึกผลการเรยี นรตู้ ามจดุ ประสงค์ (K: Knowledge) 1.1 นกั เรียนสามารถอธิบายการทำงานแบบมีทางเลอื กได้ (K) จำนวน….……คน คิดเป็นรอ้ ยละ…….…ของจำนวนนักเรียนทง้ั หมด 1.2 นักเรียนไม่สามารถอธิบายการทำงานแบบมที างเลือกได้ (K) จำนวน….……คน คิดเป็นรอ้ ยละ…….…ของจำนวนนักเรียนทง้ั หมด 2. บนั ทึกทกั ษะ / กระบวนการ (P: Process) 2.1 นกั เรยี นสามารถเขยี นโปรแกรมโดยใชบ้ ล็อกคำสงั่ การทำงานแบบมีทางเลอื กได้ (P) จำนวน……..คน คดิ เปน็ ร้อยละ….……ของจำนวนนกั เรยี นท้ังหมด 2.2 นกั เรยี นไม่สามารถเขียนโปรแกรมโดยใช้บลอ็ กคำสั่งการทำงานแบบมีทางเลือกได้ (P) จำนวน….……คน คิดเปน็ ร้อยละ……...ของจำนวนนักเรียนทั้งหมด 3. บนั ทึกคุณลักษณะอันพึงประสงค์ (A: Attitude) 3.1 นักเรยี นเปน็ ผ้ทู ่มี วี ินัย ใฝ่เรียนรู้ และมงุ่ ม่นั ในการทำงาน (A) จำนวน…..…..คน คดิ เปน็ ร้อยละ….……ของ จำนวนนักเรียนทงั้ หมด 3.2 นกั เรยี นไม่เปน็ ผู้ทีม่ ีวินัย ใฝเ่ รียนรู้ และมงุ่ ม่ันในการทำงาน (A) จำนวน….…...คน คดิ เปน็ ร้อยละ……...ของ จำนวนนกั เรยี นทง้ั หมด ปัญหาและอปุ สรรค ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ แนวทางการแก้ปญั หา ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ลงชอ่ื .................................................. (นางสาวกนกวรรณ มานจุ ำ) ครูผสู้ อน

แผนการจัดการเรียนรู้ รหัสวิชา ว 21102 กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวชิ า วทิ ยาการคำนวณ สัปดาห์ที่ 13 ระดบั ช้ันมัธยมศกึ ษาปที ่ี 1 จำนวน 7 ช่วั โมง หนว่ ยการเรียนรูท้ ี่ 4 เรือ่ ง การโปรแกรมดว้ ย Scratch เวลา 1 ชั่วโมง แผนการเรยี นร้ทู ี่ 12 เร่ือง การวนซำ้ แบบมเี งอื่ นไข ครูผู้สอน นางสาวกนกวรรณ มานุจำ 1. สาระ สาระที่ 4 เทคโนโลยี 2. มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใชแ้ นวคดิ เชิงคำนวณในการแก้ปญั หาทีพ่ บในชีวติ จริงอย่างเป็นข้ันตอนและเปน็ ระบบ ใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศและการสอ่ื สารในการเรยี นรู้ การทำงาน และการแก้ปัญหาได้อย่างมปี ระสทิ ธิภาพ รู้เทา่ ทันและมจี รยิ ธรรม 3. ตวั ช้วี ัด / ผลการเรียนรู้ ม.1/2 ออกแบบและเขียนโปรแกรมอย่างงา่ ย เพ่อื แก้ปญั หาทางคณิตศาสตร์หรือวทิ ยาศาสตร์ 4. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 1. นักเรยี นสามารถอธบิ ายการวนซ้ำแบบมีเงอื่ นไขได้ (K) 2. นกั เรียนสามารถเขียนโปรแกรมโดยใช้บล็อกคำส่ังวนซ้ำแบบมีเง่ือนไขได้ (P) 3. นกั เรียนเป็นผู้ทมี่ ีวนิ ัย ใฝเ่ รียนรู้ และม่งุ มัน่ ในการทำงาน (A)

5. สาระการเรียนรแู้ กนกลาง ตัวชี้วัด ดา้ นความรู้ ด้านทักษะกระบวนการ ด้านคุณลกั ษณะอันพึง (K: Knowledge) (P: Process) ประสงค์ (A: Attitude) ม.1/2 ออกแบบและ 1. นกั เรียนสามารถ 2. นกั เรยี นสามารถเขียน 3. นักเรยี นเป็นผู้ทมี่ วี นิ ยั ใฝ่ เขียนโปรแกรมอย่าง อธบิ ายการวนซำ้ แบบมี งา่ ย เพอื่ แก้ปัญหาทาง เงอ่ื นไขได้ โปรแกรมโดยใช้บล็อก เรยี นรู้ และมงุ่ มน่ั ในการ คณิตศาสตรห์ รอื วทิ ยาศาสตร์ คำสั่งวนซำ้ แบบมเี งอื่ นไข ทำงาน ได้ 6. สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอดหนว่ ยการเรยี นรู้ การทำงานแบบวนซำ้ โดยมเี งอื่ นไข ใช้ในการควบคมุ การทำงานซำ้ ตามเงือ่ นไขท่กี ำหนด โดยจะมกี าร ตรวจสอบเง่ือนไขกอ่ นการทำงานทกุ รอบ 7. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี น 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวติ 4. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 8. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ - มวี ินัย - ใฝ่เรยี นรู้ - มุ่งม่ันในการทำงาน 9. สอ่ื และ แหล่งการเรียนรู้ สือ่ - ใบความรู้ เร่อื ง การวนซ้ำแบบมเี งื่อนไข - แบบฝึกหดั ท่ี 4.6 เรอื่ ง การวนซำ้ แบบมเี งอ่ื นไข - ส่อื PowerPoint เรอื่ ง การวนซำ้ แบบมเี งื่อนไข แหล่งเรียนรู้ - หอ้ งปฏบิ ตั กิ ารคอมพวิ เตอร์

10. การจัดการเรียนรู้ จำนวนคาบ หมายเหตุ ลำดบั เร่อื ง 1 1 การวนซำ้ แบบมีเง่ือนไข 11. กระบวนการจัดการเรียนรู้ เรื่อง การวนซ้ำแบบมเี งอื่ นไข จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 1. นกั เรียนสามารถอธิบายการวนซ้ำแบบมีเงื่อนไขได้ (K) 2. นกั เรียนสามารถเขียนโปรแกรมโดยใชบ้ ลอ็ กคำสงั่ วนซ้ำแบบมเี งื่อนไขได้ (P) 3. นักเรียนเป็นผ้ทู ม่ี วี นิ ัย ใฝเ่ รยี นรู้ และมุ่งม่ันในการทำงาน (A) กิจกรรม (5E) ขน้ั ที่ 1 ขัน้ สร้างความสนใจ 1. ครทู บทวนความรูเ้ ดมิ ของนกั เรียน โดยถามนกั เรียนว่า บลอ็ กคำส่ังของโปรแกรม Scratch มีอะไรบา้ ง 2. ครถู ามนกั เรยี นวา่ บลอ็ กคำส่งั อะไรท่ีสามารถทำงานแบบวนซำ้ ได้ ขน้ั ท่ี 2 สำรวจและคน้ หา 1. ครใู ห้นกั เรียนค้นหาเนอื้ หา เรอ่ื ง การวนซำ้ แบบมเี งื่อนไข ผา่ นอินเทอรเ์ นต็ ข้นั ท่ี 3 ขัน้ อธิบายและลงข้อสรุป 1. ครบู รรยายเน้ือหา เรอื่ ง การวนซ้ำแบบมเี ง่ือนไข โดยใชส้ ่อื powerpoint พร้อมสาธิต วิธกี ารใช้งาน โดยเนอื้ หาประกอบด้วย - บลอ็ กคำสงั่ repeat until - บล็อกคำสงั่ wait until ขั้นที่ 4 ขั้นขยายความรู้ 1. ครใู ห้นักเรยี น เขยี นโปรแกรมแชรก์ บั ฉัน โดยใชบ้ ลอ็ กคำสัง่ repeat until ในการวนซ้ำ 2. นกั เรียนทำแบบฝึกหดั ท่ี 4.6 เรือ่ ง การวนซำ้ แบบมีเง่ือนไข ขนั้ ที่ 5 ข้นั สรปุ 1. ครูและนักเรียนรว่ มกันสรปุ เรอ่ื ง การวนซำ้ แบบมีเง่ือนไข

12. การวัดและประเมนิ ผลการเรียนรู้ จุดประสงค์การเรียนรู้ วธิ กี ารวัด เคร่ืองมือวัด เกณฑ์การประเมนิ - แบบฝกึ หดั 1. นกั เรยี นสามารถอธบิ ายการวน 1. การตอบคำถามใน สามารถตอบคำถามใน แบบฝึกหัดไดถ้ ูกตอ้ ง ซำ้ แบบมีเงอ่ื นไขได้ (K) แบบฝึกหดั ตามหลกั การ 80 % ขึ้น ไป 2. นักเรยี นสามารถเขียน 2. ตรวจแบบฝึกหัด - แบบประเมนิ สามารถตอบคำถามใน ใบงานได้ 80 % ขน้ึ ไป โปรแกรมโดยใชบ้ ลอ็ กคำส่ังวนซำ้ แบบฝกึ หดั แบบมเี งอ่ื นไขได้ (P) 3. นกั เรียนเปน็ ผทู้ ี่มีวนิ ยั ใฝ่ 3. สังเกตพฤตกิ รรมใน - แบบประเมนิ นักเรียนมีคณุ ลักษณะ เรยี นรู้ และมุง่ มัน่ ในการทำงาน คุณลกั ษณะอันพงึ อนั พงึ ประสงค์ ได้ 80% (A) การทำแบบฝึกหัด ประสงค์ ข้นึ ไป คณุ ธรรม จรยิ ธรรมท่ีสอดแทรก การตรงต่อเวลา เช่น การเข้าชน้ั เรยี น การสง่ การบา้ น และการปฏิบัติตามท่ี ได้รับมอบหมาย 13. หนังสือ / เอกสารอ้างอิง - หนังสือเรียนรายวชิ าพน้ื ฐาน กลุ่มสาระการเรยี นร้วู ิทยาศาสตร์ เร่อื ง เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 1 ลงช่ือ.................................................. (นางสาวกนกวรรณ มานจุ ำ) ครูผู้สอน

การบันทกึ ผลหลังการสอน รหสั วชิ า ว 21102 กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี รายวิชา วิทยาการคำนวณ สปั ดาหท์ ี่ 13 ระดบั ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 1 จำนวน 7 ช่ัวโมง หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 4 เรอ่ื ง การโปรแกรมด้วย Scratch เวลา 1 ชวั่ โมง แผนการเรียนรทู้ ี่ 12 เรื่อง การวนซำ้ แบบมเี งอื่ นไข ครผู ู้สอน นางสาวกนกวรรณ มานจุ ำ การบันทึกผลหลงั การสอน 1. บันทึกผลการเรยี นรตู้ ามจดุ ประสงค์ (K: Knowledge) 1.1 นกั เรียนสามารถอธบิ ายการวนซ้ำแบบมีเงือ่ นไขได้ (K) จำนวน….……คน คิดเปน็ ร้อยละ…….…ของจำนวนนักเรยี นท้ังหมด 1.2 นักเรยี นไม่สามารถอธิบายการวนซ้ำแบบมเี งอ่ื นไขได้ (K) จำนวน….……คน คิดเป็นร้อยละ…….…ของจำนวนนักเรียนทง้ั หมด 2. บนั ทึกทกั ษะ / กระบวนการ (P: Process) 2.1 นกั เรียนสามารถเขียนโปรแกรมโดยใช้บล็อกคำสัง่ วนซำ้ แบบมเี งอื่ นไขได้ (P) จำนวน……..คน คดิ เปน็ ร้อยละ….……ของจำนวนนักเรยี นทงั้ หมด 2.2 นกั เรียนไม่สามารถเขียนโปรแกรมโดยใช้บลอ็ กคำสง่ั วนซำ้ แบบมีเงื่อนไขได้ (P) จำนวน….……คน คิดเปน็ ร้อยละ……...ของจำนวนนักเรียนทัง้ หมด 3. บันทึกคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ (A: Attitude) 3.1 นกั เรียนเปน็ ผทู้ ่ีมวี นิ ยั ใฝ่เรยี นรู้ และมุ่งมนั่ ในการทำงาน (A) จำนวน…..…..คน คิดเปน็ ร้อยละ….……ของ จำนวนนักเรยี นท้ังหมด 3.2 นกั เรยี นไม่เปน็ ผ้ทู ีม่ ีวินยั ใฝเ่ รยี นรู้ และมงุ่ มน่ั ในการทำงาน (A) จำนวน….…...คน คิดเปน็ ร้อยละ……...ของ จำนวนนักเรียนท้งั หมด ปญั หาและอุปสรรค ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ แนวทางการแกป้ ัญหา ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ลงชอ่ื .................................................. (นางสาวกนกวรรณ มานจุ ำ) ครผู ู้สอน

แผนการจัดการเรยี นรู้ รหสั วิชา ว 21102 กลุม่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี รายวชิ า วิทยาการคำนวณ สัปดาห์ท่ี 14 ระดับชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ 1 จำนวน 7 ชัว่ โมง หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ 4 เร่อื ง การโปรแกรมดว้ ย Scratch เวลา 1 ช่วั โมง แผนการเรยี นรูท้ ่ี 13 เร่อื ง การเขียนโปรแกรมเพื่อแกป้ ัญหา ครผู ู้สอน นางสาวกนกวรรณ มานจุ ำ 1. สาระ สาระท่ี 4 เทคโนโลยี 2. มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคิดเชงิ คำนวณในการแก้ปญั หาทพี่ บในชวี ิตจริงอย่างเปน็ ขั้นตอนและเป็น ระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรยี นรู้ การทำงาน และการแก้ปญั หาไดอ้ ย่างมปี ระสิทธภิ าพ รู้เท่าทนั และมจี ริยธรรม 3. ตัวช้วี ัด / ผลการเรียนรู้ ม.1/2 ออกแบบและเขยี นโปรแกรมอย่างง่าย เพอื่ แก้ปญั หาทางคณิตศาสตรห์ รือวทิ ยาศาสตร์ 4. จุดประสงค์การเรยี นรู้ 1. นกั เรียนสามารถอธบิ ายการเขยี นโปรแกรมเพือ่ แก้ปญั หาได้ (K) 2. นกั เรียนสามารถเขียนโปรแกรมเพอ่ื แกป้ ัญหาได้ (P) 3. นกั เรียนเปน็ ผทู้ ม่ี ีวินยั ใฝเ่ รียนรู้ และมุ่งมนั่ ในการทำงาน (A)

5. สาระการเรียนรแู้ กนกลาง ตัวชีว้ ัด ด้านความรู้ ดา้ นทกั ษะกระบวนการ ดา้ นคณุ ลักษณะอนั พึง (K: Knowledge) (P: Process) ประสงค์ (A: Attitude) ม.1/2 ออกแบบและ 1. นักเรียนสามารถ 2. นกั เรียนสามารถเขียน 3. นักเรียนเป็นผู้ที่มีวนิ ัย ใฝ่ เขียนโปรแกรมอย่าง อธิบายการเขยี น งา่ ย เพอ่ื แก้ปญั หาทาง โปรแกรมเพ่ือแก้ปญั หา โปรแกรมเพ่ือแกป้ ัญหาได้ เรียนรู้ และมุ่งม่นั ในการ คณิตศาสตรห์ รอื ได้ วทิ ยาศาสตร์ ทำงาน 6. สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอดหน่วยการเรยี นรู้ การแกป้ ัญหาทางคณิตศาสตร์หรือวทิ ยาศาสตร์ หรอื งานในชวี ิตประจำวนั สามารถใชโ้ ปรแกรม คอมพิวเตอรม์ าช่วยใหก้ ารดำเนินการแกป้ ญั หามปี ระสทิ ธิภาพ ถกู ตอ้ ง และรวดเรว็ 7. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน 1. ความสามารถในการสือ่ สาร 2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการแก้ปญั หา 4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ 5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 8. คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ - มวี นิ ยั - ใฝ่เรียนรู้ - มุง่ มน่ั ในการทำงาน 9. สือ่ และ แหล่งการเรียนรู้ สอื่ - ใบความรู้ เรื่อง การเขียนโปรแกรมเพอ่ื แกป้ ญั หา - แบบฝกึ หดั ท่ี 4.7 เรือ่ ง การเขียนโปรแกรมเพอื่ แกป้ ญั หา - ส่อื PowerPoint เรื่อง การเขยี นโปรแกรมเพ่อื แกป้ ัญหา - แบบทดสอบหลงั เรยี นหนว่ ยที่ 4 เร่อื ง การโปรแกรมด้วย Scratch

แหล่งเรียนรู้ จำนวนคาบ หมายเหตุ - ห้องปฏบิ ัตกิ ารคอมพิวเตอร์ 1 10. การจัดการเรียนรู้ ลำดบั เร่ือง 1 การเขียนโปรแกรมเพ่อื แกป้ ัญหา 11. กระบวนการจัดการเรยี นรู้ เรอ่ื ง การเขยี นโปรแกรมเพ่ือแก้ปญั หา จุดประสงค์การเรยี นรู้ 1. นักเรยี นสามารถอธิบายการเขยี นโปรแกรมเพอ่ื แกป้ ญั หาได้ (K) 2. นักเรียนสามารถเขียนโปรแกรมเพอ่ื แกป้ ญั หาได้ (P) 3. นกั เรียนเปน็ ผ้ทู ่ีมีวนิ ยั ใฝเ่ รียนรู้ และมุ่งม่ันในการทำงาน (A) กจิ กรรม (5E) ขน้ั ท่ี 1 ขน้ั สรา้ งความสนใจ 1. ครถู ามนกั เรยี นว่า ถ้าครจู ะตัดเกรดนกั เรียน ครูสามารถใชโ้ ปรแกรมไหนตัดเกรดไดบ้ า้ ง ขั้นที่ 2 สำรวจและค้นหา 1. นกั เรยี นศกึ ษาเนือ้ หา เร่ือง การเขยี นโปรแกรมเพื่อแกป้ ญั หา จากใบความรู้ ขัน้ ที่ 3 ขัน้ อธบิ ายและลงข้อสรปุ 1. ครูบรรยายเนอื้ หา เรือ่ ง การเขยี นโปรแกรมเพือ่ แก้ปญั หา โดยใช้ส่ือ powerpoint พรอ้ ม สาธิตวธิ กี ารเขยี นโปรแกรม โดยมีสถานการณด์ งั นี้ - โปรแกรมคำนวณองศาเซลเซียสเป็นองศาฟาเรนไฮต์ - โปรแกรมคำนวณปีคริสต์ศกั ราชเปน็ พุทธศักราช - โปรแกรมคำนวณค่าเงนิ บาทไทยเปน็ เงินเยนญ่ปี ่นุ - โปรแกรมหาปรมิ าตรของนำ้ ในตปู้ ลาทรงสเ่ี หลย่ี มมมุ ฉาก ขั้นที่ 4 ขน้ั ขยายความรู้ 1. ครใู ห้นักเรยี นสุ่มเลือกสถานการณ์ดงั ต่อไปนี้ เพอื่ เขยี นโปรแกรมดว้ ย Scratch - หาพืน้ ท่ี 4 เหลยี่ มจัตุรสั (สูตรการหาพ้นื ที่ คอื ด้าน x ด้าน) - หาพืน้ ท่ี 4 เหลี่ยมผนื ผ้า (สูตรการหาพ้นื ที่ คอื กว้าง x ยาว) - ป้าหญิงตอ้ งการไปเท่ียวประเทศแอฟริกาใต้ พยากรณอ์ ากาศแจง้ วา่ อณุ หภูมิชว่ งที่ เดนิ ทางไปจะอย่ทู ่ี 55 องศาฟาเรนไฮต์ จะเทียบเท่ากบั กีอ่ งศาเซลเซยี ส - แจ้งผลการสอบ เขียนโปรแกรมเพอ่ื แจ้งผลการสอบ ซึ่งถ้าคะแนนจากการสอบ

50 คะแนนขึน้ ไป ให้แสดงขอ้ ความ \"คุณสอบผา่ น\" แต่หากมคี ะแนนน้อยกว่า 50 คะแนน ให้แสดงข้อความ \"คุณสอบไม่ ผ่าน\" โดยใหร้ บั ขอ้ มูล เปน็ คะแนนสอบ 2. นักเรยี นทำแบบฝกึ หัดที่ 4.7 เรอื่ ง การเขียนโปรแกรมเพ่อื แก้ปัญหา ขนั้ ที่ 5 ข้นั สรปุ 1. นักเรียนทำแบบทดสอบหลงั เรียนหน่วยที่ 4 เรอื่ ง การโปรแกรมด้วย Scratch 2. ครูและนักเรียนรว่ มกันสรุป เรอื่ ง การเขียนโปรแกรมเพื่อแกป้ ัญหา 12. การวัดและประเมนิ ผลการเรียนรู้ จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ วธิ กี ารวัด เคร่ืองมือวัด เกณฑก์ ารประเมิน 1. นกั เรยี นสามารถอธิบายการ 1. การตอบคำถามใน - แบบฝกึ หดั สามารถตอบคำถามใน แบบฝกึ หัด แบบฝกึ หัดได้ถกู ตอ้ ง เขยี นโปรแกรมเพื่อแกป้ ัญหาได้ ตามหลักการ 80 % ขน้ึ ไป (K) สามารถตอบคำถามใน 2. นกั เรียนสามารถเขียน 2. ตรวจแบบฝึกหัด - แบบประเมิน ใบงานได้ 80 % ขน้ึ ไป โปรแกรมเพือ่ แกป้ ัญหาได้ (P) แบบฝึกหัด 3. นักเรียนเป็นผูท้ ่ีมวี นิ ยั ใฝ่ 3. สงั เกตพฤตกิ รรมใน - แบบประเมนิ นกั เรยี นมีคณุ ลกั ษณะ เรยี นรู้ และมุง่ มนั่ ในการทำงาน คุณลักษณะอนั พึง อันพงึ ประสงค์ ได้ 80% (A) การทำแบบฝึกหัด ประสงค์ ขน้ึ ไป คุณธรรม จรยิ ธรรมท่สี อดแทรก การตรงต่อเวลา เช่น การเขา้ ชั้นเรยี น การสง่ การบ้าน และการปฏิบตั ติ ามที่ ได้รบั มอบหมาย 13. หนงั สอื / เอกสารอ้างองิ - หนงั สือเรยี นรายวชิ าพืน้ ฐาน กลมุ่ สาระการเรียนร้วู ทิ ยาศาสตร์ เรื่อง เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 1 ลงช่อื .................................................. (นางสาวกนกวรรณ มานุจำ) ครผู ู้สอน

การบนั ทึกผลหลังการสอน รหัสวชิ า ว 21102 กลุม่ สาระการเรยี นร้วู ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี รายวชิ า วิทยาการคำนวณ สัปดาหท์ ่ี 14 ระดบั ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 1 จำนวน 7 ชว่ั โมง หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 4 เร่อื ง การโปรแกรมด้วย Scratch เวลา 1 ช่ัวโมง แผนการเรียนรูท้ ี่ 13 เร่ือง การเขยี นโปรแกรมเพ่ือแกป้ ัญหา ครูผูส้ อน นางสาวกนกวรรณ มานจุ ำ การบนั ทกึ ผลหลังการสอน 1. บนั ทึกผลการเรียนรตู้ ามจดุ ประสงค์ (K: Knowledge) 1.1 นักเรียนสามารถอธิบายการเขียนโปรแกรมเพอ่ื แก้ปัญหาได้ (K) จำนวน….……คน คิดเปน็ ร้อยละ…….…ของจำนวนนกั เรยี นทงั้ หมด 1.2 นักเรยี นไม่สามารถอธิบายการเขยี นโปรแกรมเพือ่ แก้ปัญหาได้ (K) จำนวน….……คน คิดเปน็ รอ้ ยละ…….…ของจำนวนนกั เรยี นทัง้ หมด 2. บนั ทึกทกั ษะ / กระบวนการ (P: Process) 2.1 นักเรยี นสามารถเขียนโปรแกรมเพ่ือแก้ปัญหาได้ (P) จำนวน……..คน คิดเป็นรอ้ ยละ….……ของจำนวนนักเรยี นท้ังหมด 2.2 นักเรียนไม่สามารถเขียนโปรแกรมเพอื่ แกป้ ัญหาได้ (P) จำนวน….……คน คิดเป็นร้อยละ……...ของจำนวนนกั เรียนทง้ั หมด 3. บันทึกคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ (A: Attitude) 3.1 นกั เรยี นเปน็ ผทู้ ่มี วี นิ ัย ใฝเ่ รียนรู้ และมงุ่ มั่นในการทำงาน (A) จำนวน…..…..คน คิดเป็นร้อยละ….……ของ จำนวนนกั เรยี นทงั้ หมด 3.2 นกั เรียนไม่เปน็ ผ้ทู ่ีมีวินัย ใฝเ่ รยี นรู้ และมุง่ ม่ันในการทำงาน (A) จำนวน….…...คน คดิ เป็นร้อยละ……...ของ จำนวนนกั เรียนทง้ั หมด ปัญหาและอุปสรรค ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ แนวทางการแก้ปัญหา ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ลงช่อื .................................................. (นางสาวกนกวรรณ มานจุ ำ) ครผู สู้ อน

แผนการจดั การเรยี นรู้ รหสั วชิ า ว 21102 กลุ่มสาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวชิ า วิทยาการคำนวณ สัปดาห์ท่ี 15 ระดบั ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีที่ 1 จำนวน 5 ชวั่ โมง หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 5 เรอ่ื ง ขอ้ มูลและการประมวลผล เวลา 1 ช่วั โมง แผนการเรยี นรทู้ ี่ 14 เร่ือง ขอ้ มูล ครผู ู้สอน นางสาวกนกวรรณ มานจุ ำ 1. สาระ สาระที่ 4 เทคโนโลยี 2. มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใชแ้ นวคิดเชิงคำนวณในการแกป้ ัญหาที่พบในชีวิตจริงอย่างเปน็ ขนั้ ตอนและเป็น ระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสือ่ สารในการเรยี นรู้ การทำงาน และการแกป้ ญั หาได้อย่างมปี ระสทิ ธิภาพ รู้เทา่ ทนั และมีจรยิ ธรรม 3. ตวั ชว้ี ัด / ผลการเรยี นรู้ ม.1/3 รวบรวมข้อมลู ปฐมภูมิ ประมวลผล ประเมินผลนำเสนอข้อมูลและสารสนเทศ ตามวัตถุประสงค์ โดยใช้ซอฟต์แวรห์ รอื บรกิ ารบนอินเทอร์เน็ตท่ีหลากหลาย 4. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. นักเรียนสามารถอธิบายความหมายของขอ้ มูลได้ (K) 2. นักเรียนสามารถสำรวจขอ้ มูลพน้ื ฐานของเพือ่ นได้ (P) 3. นักเรยี นเปน็ ผ้ทู ี่มวี ินยั ใฝ่เรยี นรู้ และมงุ่ มั่นในการทำงาน (A)

5. สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง ตวั ชีว้ ัด ดา้ นความรู้ ด้านทักษะ ด้านคุณลักษณะอันพงึ (K: Knowledge) กระบวนการ ประสงค์ (P: Process) ม.1/3 รวบรวมขอ้ มูลปฐมภูมิ 1. นกั เรียนสามารถ 2. นักเรียนสามารถ (A: Attitude) สำรวจขอ้ มลู พ้นื ฐานของ 3. นกั เรียนเปน็ ผทู้ ่ีมวี ินยั ประมวลผล ประเมินผล อธบิ ายความหมาย เพ่อื นได้ ใฝเ่ รียนรู้ และมุง่ มนั่ ใน การทำงาน นำเสนอขอ้ มลู และ ของข้อมูลได้ สารสนเทศ ตามวัตถปุ ระสงค์ โดยใช้ซอฟต์แวรห์ รือบรกิ าร บนอนิ เทอร์เนต็ ทหี่ ลากหลาย 6. สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอดหนว่ ยการเรยี นรู้ ข้อมูล (data) หมายถึง ความจรงิ ที่อยใู่ นรูปตวั เลข ข้อความภาพ เสยี ง ข้อสังเกตที่รวบรวมมาจากเหตุการณ์ หรอื ส่งิ ใดสงิ่ หนงึ่ 7. สมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รยี น 1. ความสามารถในการส่ือสาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ิต 4. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 8. คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ - มีวนิ ยั - ใฝ่เรียนรู้ - มงุ่ ม่ันในการทำงาน 9. สือ่ และ แหล่งการเรียนรู้ สือ่ - ใบความรู้ เร่อื ง ข้อมลู - แบบฝึกหดั ท่ี 5.1 เร่ือง ขอ้ มลู - สอื่ PowerPoint เรอื่ ง ข้อมูล - แบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยท่ี 5 เรื่อง ขอ้ มลู และการประมวลผล

แหลง่ เรยี นรู้ - ห้องปฏิบตั กิ ารคอมพวิ เตอร์ 10. การจัดการเรียนรู้ เรื่อง จำนวนคาบ หมายเหตุ ลำดับ 1 1 ขอ้ มูล 11. กระบวนการจัดการเรียนรู้ เร่อื ง ข้อมูล จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. นักเรยี นสามารถอธิบายความหมายของข้อมลู ได้ (K) 2. นักเรยี นสามารถสำรวจขอ้ มูลพ้นื ฐานของเพ่ือนได้ (P) 3. นักเรยี นเป็นผู้ท่ีมีวินัย ใฝ่เรยี นรู้ และมุ่งม่ันในการทำงาน (A) กจิ กรรม (5E) ขน้ั ที่ 1 ข้นั สรา้ งความสนใจ 1. นกั เรยี นทำแบบทดสอบกอ่ นเรยี น หนว่ ยที่ 5 เรอ่ื ง ขอ้ มลู และการประมวลผล ข้ันท่ี 2 สำรวจและค้นหา 1. นักเรียนคน้ หาเน้อื หา เรอ่ื ง ข้อมลู จากอินเทอร์เนต็ ข้ันท่ี 3 ขน้ั อธิบายและลงข้อสรปุ 1. ครบู รรยายเน้อื หา เรือ่ ง ข้อมูล จากสือ่ Power Point โดยเนื้อหาประกอบดว้ ย - ความหมายของข้อมลู - ขอ้ มลู เชิงปรมิ าณ - ข้อมูลเชิงคุณภาพ - แหลง่ ข้อมูล ขั้นท่ี 4 ขั้นขยายความรู้ 1. ครูถามนักเรียน “ถา้ งานพยาบาลของโรงเรียนต้องการทราบข้อมูลด้านสุขภาพเบือ้ งตน้ ของนกั เรยี น นกั เรียนคิดว่าจะตอ้ งมีขอ้ มูลอะไรบา้ ง” 2. ครใู ห้นักเรียนจับคูก่ ับเพ่ือน แล้วสัมภาษณข์ อ้ มูลส่วนตวั ของเพอ่ื น จำนวน 10 คน เช่น ชอื่ -นามสกลุ วัน/เดอื น/ปีเกดิ นำ้ หนัก สว่ นสูง โรคประจำตวั 3. ครูให้นกั เรยี นทำแบบฝึกหัดท่ี 5.1 เรื่อง ข้อมลู ขน้ั ท่ี 5 ขัน้ สรุป 1. ครูและนักเรยี นรว่ มกันสรุป เร่อื ง ข้อมูล

12. การวัดและประเมนิ ผลการเรยี นรู้ จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ วธิ กี ารวดั เคร่อื งมอื วดั เกณฑก์ ารประเมิน 1. นักเรียนสามารถอธิบาย 1. การตอบคำถามใน - แบบฝกึ หดั แบบฝึกหดั สามารถตอบคำถามใน ความหมายของขอ้ มูลได้ (K) แบบฝกึ หัดไดถ้ กู ต้อง ตามหลักการ 80 % ขึ้น 2. นกั เรียนสามารถสำรวจข้อมูล 2. ตรวจแบบฝึกหัด - แบบประเมนิ ไป สามารถตอบคำถามใน พ้นื ฐานของเพ่อื นได้ (P) แบบฝกึ หัด ใบงานได้ 80 % ขน้ึ ไป 3. นักเรยี นเปน็ ผทู้ ่ีมีวินัย ใฝ่ 3. สังเกตพฤติกรรมใน - แบบประเมิน นกั เรยี นมีคุณลกั ษณะ เรยี นรู้ และมงุ่ มั่นในการทำงาน คณุ ลักษณะอันพึง อนั พึงประสงค์ ได้ 80% (A) การทำแบบฝกึ หัด ประสงค์ ข้ึนไป คุณธรรม จรยิ ธรรมทีส่ อดแทรก การตรงตอ่ เวลา เช่น การเข้าช้ันเรยี น การสง่ การบ้าน และการปฏิบตั ติ ามที่ ไดร้ ับมอบหมาย 13. หนังสือ / เอกสารอา้ งองิ - หนังสอื เรยี นรายวิชาพื้นฐาน กล่มุ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เรอื่ ง เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ชน้ั มัธยมศึกษาปที ี่ 1 ลงชอ่ื .................................................. (นางสาวกนกวรรณ มานจุ ำ) ครูผู้สอน

การบนั ทึกผลหลงั การสอน รหัสวิชา ว 21102 กลมุ่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี รายวชิ า วทิ ยาการคำนวณ สัปดาห์ท่ี 15 ระดบั ชนั้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 1 จำนวน 5 ชั่วโมง หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ 5 เรื่อง ข้อมูลและการประมวลผล เวลา 1 ชวั่ โมง แผนการเรยี นรู้ท่ี 14 เรอื่ ง ข้อมูล ครผู ูส้ อน นางสาวกนกวรรณ มานจุ ำ การบันทกึ ผลหลังการสอน 1. บันทึกผลการเรยี นรู้ตามจุดประสงค์ (K: Knowledge) 1.1 นกั เรียนสามารถอธบิ ายความหมายของข้อมลู ได้ (K) จำนวน….……คน คิดเปน็ รอ้ ยละ…….…ของจำนวนนกั เรยี นทั้งหมด 1.2 นกั เรียนไมส่ ามารถอธบิ ายความหมายของข้อมลู ได้ (K) จำนวน….……คน คิดเป็นร้อยละ…….…ของจำนวนนกั เรยี นทง้ั หมด 2. บนั ทึกทักษะ / กระบวนการ (P: Process) 2.1 นกั เรยี นสามารถสำรวจข้อมูลพ้ืนฐานของเพอ่ื นได้ (P) จำนวน……..คน คิดเปน็ รอ้ ยละ….……ของจำนวนนักเรียนทัง้ หมด 2.2 นักเรียนไม่สามารถสำรวจข้อมูลพื้นฐานของเพอื่ นได้ (P) จำนวน….……คน คิดเป็นร้อยละ……...ของจำนวนนักเรยี นท้ังหมด 3. บนั ทกึ คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ (A: Attitude) 3.1 นกั เรยี นเป็นผ้ทู ี่มีวินยั ใฝเ่ รียนรู้ และมงุ่ ม่นั ในการทำงาน (A) จำนวน…..…..คน คิดเปน็ รอ้ ยละ….……ของ จำนวนนักเรยี นทัง้ หมด 3.2 นกั เรยี นไม่เป็นผู้ท่มี วี นิ ยั ใฝ่เรียนรู้ และมงุ่ มั่นในการทำงาน (A) จำนวน….…...คน คดิ เป็นร้อยละ……...ของ จำนวนนกั เรียนทัง้ หมด ปญั หาและอุปสรรค ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ แนวทางการแกป้ ัญหา ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ลงชือ่ .................................................. (นางสาวกนกวรรณ มานจุ ำ) ครผู ูส้ อน

แผนการจดั การเรยี นรู้ รหสั วชิ า ว 21102 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวิชา วิทยาการคำนวณ สัปดาห์ท่ี 16 ระดบั ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 1 จำนวน 5 ชวั่ โมง หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 5 เรอื่ ง ขอ้ มูลและการประมวลผล เวลา 1 ช่วั โมง แผนการเรยี นรทู้ ี่ 15 เร่อื ง การรวบรวมขอ้ มูล ครผู ู้สอน นางสาวกนกวรรณ มานจุ ำ 1. สาระ สาระที่ 4 เทคโนโลยี 2. มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคดิ เชิงคำนวณในการแกป้ ัญหาท่ีพบในชีวติ จริงอย่างเปน็ ขนั้ ตอนและเป็น ระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสอื่ สารในการเรียนรู้ การทำงาน และการแก้ปัญหาได้อย่างมีประสทิ ธภิ าพ รเู้ ทา่ ทนั และมีจริยธรรม 3. ตัวชีว้ ัด / ผลการเรียนรู้ ม.1/3 รวบรวมขอ้ มลู ปฐมภมู ิ ประมวลผล ประเมินผลนำเสนอขอ้ มลู และสารสนเทศ ตามวัตถุประสงค์ โดยใชซ้ อฟตแ์ วร์หรอื บริการบนอินเทอรเ์ น็ตท่หี ลากหลาย 4. จุดประสงค์การเรยี นรู้ 1. นักเรียนสามารถอธบิ ายการรวบรวมขอ้ มลู ได้ (K) 2. นกั เรียนสามารถเก็บรวบรวมข้อมลู ท่ีถกู ตอ้ งได้ (P) 3. นกั เรยี นเปน็ ผู้ท่ีมวี ินัย ใฝ่เรียนรู้ และมงุ่ มน่ั ในการทำงาน (A)

5. สาระการเรยี นรู้แกนกลาง ด้านความรู้ ดา้ นทกั ษะ ดา้ นคุณลกั ษณะอนั พึง (K: Knowledge) ตัวช้ีวัด กระบวนการ ประสงค์ (P: Process) (A: Attitude) ม.1/3 รวบรวมขอ้ มูลปฐมภมู ิ 1. นักเรยี นสามารถ 2. นกั เรียนสามารถเก็บ 3. นักเรียนเปน็ ผ้ทู ม่ี วี ินัย ประมวลผล ประเมินผล อธิบายการรวบรวม รวบรวมข้อมลู ที่ถกู ต้องได้ ใฝเ่ รยี นรู้ และม่งุ มั่นใน นำเสนอขอ้ มลู และ ขอ้ มลู ได้ การทำงาน สารสนเทศ ตามวตั ถุประสงค์ โดยใชซ้ อฟตแ์ วรห์ รอื บริการ บนอินเทอร์เนต็ ทหี่ ลากหลาย 6. สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอดหนว่ ยการเรียนรู้ ขอ้ มลู และแหล่งของขอ้ มลู จะเป็นส่ิงทใ่ี ช้กำหนดวิธกี ารรวบรวมขอ้ มูล ข้อมลู แต่ละอยา่ งอาจตอ้ งใชว้ ิธกี าร รวบรวมท่ีแตกต่างกนั ไป วธิ กี ารรวบรวมข้อมลู เช่น การสมั ภาษณ์ การสำรวจ การสงั เกต การทดลอง การทบทวน เอกสาร และการสำมะโน 7. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี น 1. ความสามารถในการสอื่ สาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 4. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 8. คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ - มวี นิ ัย - ใฝ่เรยี นรู้ - มงุ่ ม่ันในการทำงาน 9. สือ่ และ แหลง่ การเรียนรู้ สอ่ื - ใบความรู้ เรื่อง การรวบรวมข้อมลู - แบบฝึกหดั ที่ 5.2 เรอื่ ง การรวบรวมข้อมูล - สือ่ PowerPoint เรือ่ ง การรวบรวมขอ้ มูล

แหล่งเรยี นรู้ จำนวนคาบ หมายเหตุ - ห้องปฏิบัตกิ ารคอมพวิ เตอร์ 1 10. การจัดการเรยี นรู้ ลำดบั เรอื่ ง 1 การรวบรวมขอ้ มูล 11. กระบวนการจัดการเรยี นรู้ เรอ่ื ง การรวบรวมขอ้ มูล จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. นกั เรียนสามารถอธิบายการรวบรวมขอ้ มูลได้ (K) 2. นกั เรยี นสามารถเก็บรวบรวมขอ้ มูลที่ถูกต้องได้ (P) 3. นกั เรยี นเปน็ ผูท้ ่ีมีวินยั ใฝเ่ รียนรู้ และมุ่งมัน่ ในการทำงาน (A) กจิ กรรม (5E) ขน้ั ที่ 1 ขั้นสรา้ งความสนใจ 1. ครทู บทวนเน้ือหาในสัปดาห์ทีแ่ ลว้ 2. ครถู ามนักเรยี นวา่ “นกั เรยี นมวี ิธีการเกบ็ รวบรวมข้อมลู อยา่ งไรบา้ ง” ขั้นที่ 2 สำรวจและคน้ หา 1. ครใู ห้นักเรียนศึกษาเนื้อหา เรอื่ ง การรวบรวมข้อมลู จากอินเทอรเ์ นต็ ข้นั ที่ 3 ขั้นอธบิ ายและลงขอ้ สรปุ 1. ครูอธบิ ายเน้อื หา เรอ่ื ง การรวบรวมข้อมูล โดยใชส้ อื่ powerpoint โดยเนอ้ื หา ประกอบดว้ ย - วิธีการเกบ็ รวบรวมข้อมูล - เครื่องมือทใ่ี ช้ในการเก็บรวบรวมขอ้ มลู - ส่ิงท่ีตอ้ งคำนึงในการเกบ็ รวบรวมข้อมลู ขน้ั ท่ี 4 ข้ันขยายความรู้ 1. ครใู หน้ ักเรียนจบั คู่ จากนั้นครูแจกแบบสอบถามขอ้ มลู สขุ ภาพผูเ้ รียนและให้นักเรียน สอบถามขอ้ มูลสุขภาพของเพอ่ื นและเขยี นลงในแบบสอบถามข้อมลู สขุ ภาพผเู้ รยี น 2. ครสู ุ่มนกั เรยี นออกมานำเสนอวิธกี ารดูแลสุขภาพอยา่ งไร เพือ่ ให้ร่างกายแข็งแรงอย่เู สมอ 3. ครูใหน้ ักเรียนทำแบบฝึกหดั ท่ี 5.2 เรื่อง การรวบรวมขอ้ มลู ข้ันที่ 5 ข้ันสรปุ 1. ครูและนกั เรยี นร่วมกันสรุป เรอื่ ง การเก็บรวบรวมขอ้ มูล

12. การวัดและประเมินผลการเรยี นรู้ จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ วธิ กี ารวัด เครือ่ งมือวัด เกณฑก์ ารประเมิน 1. นกั เรยี นสามารถอธิบายการ 1. การตอบคำถามใน - แบบฝึกหัด แบบฝกึ หดั สามารถตอบคำถามใน รวบรวมข้อมูลได้ (K) แบบฝึกหัดได้ถกู ต้อง ตามหลกั การ 80 % ขน้ึ 2. นักเรยี นสามารถเกบ็ รวบรวม 2. ตรวจแบบฝึกหดั - แบบประเมนิ ไป สามารถตอบคำถามใน ข้อมลู ทถี่ กู ต้องได้ (P) แบบฝกึ หดั ใบงานได้ 80 % ข้ึนไป 3. นักเรยี นเป็นผ้ทู ีม่ วี นิ ัย ใฝ่ 3. สังเกตพฤตกิ รรมใน - แบบประเมิน นักเรยี นมีคณุ ลกั ษณะ เรียนรู้ และมุ่งมนั่ ในการทำงาน คณุ ลกั ษณะอนั พงึ อนั พึงประสงค์ ได้ 80% (A) การทำแบบฝึกหดั ประสงค์ ขึ้นไป คณุ ธรรม จริยธรรมทส่ี อดแทรก การตรงต่อเวลา เชน่ การเขา้ ชั้นเรยี น การส่งการบา้ น และการปฏิบัติตามท่ี ไดร้ ับมอบหมาย 13. หนังสือ / เอกสารอา้ งอิง - หนังสือเรียนรายวชิ าพ้ืนฐาน กลุม่ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์ เรอื่ ง เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ี่ 1 ลงชื่อ.................................................. (นางสาวกนกวรรณ มานุจำ) ครูผู้สอน

การบนั ทกึ ผลหลังการสอน รหัสวชิ า ว 21102 กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี รายวิชา วทิ ยาการคำนวณ สัปดาหท์ ่ี 16 ระดับช้ันมัธยมศึกษาปที ่ี 1 จำนวน 5 ชั่วโมง หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 5 เร่อื ง ข้อมลู และการประมวลผล เวลา 1 ชวั่ โมง แผนการเรยี นรูท้ ่ี 15 เรื่อง การรวบรวมข้อมลู ครูผูส้ อน นางสาวกนกวรรณ มานุจำ การบันทกึ ผลหลังการสอน 1. บนั ทึกผลการเรียนรตู้ ามจุดประสงค์ (K: Knowledge) 1.1 นกั เรยี นสามารถอธิบายการรวบรวมข้อมูลได้ (K) จำนวน….……คน คิดเป็นร้อยละ…….…ของจำนวนนกั เรยี นทัง้ หมด 1.2 นกั เรยี นไมส่ ามารถอธบิ ายการรวบรวมข้อมลู ได้ (K) จำนวน….……คน คิดเปน็ ร้อยละ…….…ของจำนวนนักเรียนท้ังหมด 2. บันทกึ ทกั ษะ / กระบวนการ (P: Process) 2.1 นกั เรียนสามารถเก็บรวบรวมขอ้ มูลท่ีถูกต้องได้ (P) จำนวน……..คน คิดเป็นร้อยละ….……ของจำนวนนกั เรยี นท้ังหมด 2.2 นักเรยี นไม่สามารถเก็บรวบรวมข้อมลู ที่ถูกตอ้ งได้ (P) จำนวน….……คน คิดเป็นร้อยละ……...ของจำนวนนักเรียนท้งั หมด 3. บันทึกคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ (A: Attitude) 3.1 นักเรียนเป็นผทู้ ม่ี วี นิ ัย ใฝ่เรยี นรู้ และมงุ่ มน่ั ในการทำงาน (A) จำนวน…..…..คน คดิ เป็นร้อยละ….……ของ จำนวนนักเรียนท้งั หมด 3.2 นักเรียนไม่เป็นผ้ทู ม่ี ีวนิ ัย ใฝ่เรียนรู้ และมุง่ มน่ั ในการทำงาน (A) จำนวน….…...คน คิดเป็นร้อยละ……...ของ จำนวนนกั เรียนทั้งหมด ปัญหาและอุปสรรค ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ แนวทางการแก้ปัญหา ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ลงช่ือ.................................................. (นางสาวกนกวรรณ มานจุ ำ) ครผู ้สู อน

แผนการจดั การเรยี นรู้ รหัสวิชา ว 21102 กลมุ่ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวิชา วิทยาการคำนวณ สัปดาห์ท่ี 17 ระดบั ช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 1 จำนวน 5 ชวั่ โมง หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 5 เรอื่ ง ข้อมลู และการประมวลผล เวลา 1 ชว่ั โมง แผนการเรียนร้ทู ่ี 16 เรอ่ื ง การประมวลผลขอ้ มูล ครผู ู้สอน นางสาวกนกวรรณ มานุจำ 1. สาระ สาระท่ี 4 เทคโนโลยี 2. มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใชแ้ นวคิดเชงิ คำนวณในการแก้ปัญหาทีพ่ บในชีวติ จรงิ อยา่ งเป็นขัน้ ตอนและเป็น ระบบ ใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้ การทำงาน และการแก้ปญั หาได้อยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ ร้เู ท่าทนั และมจี รยิ ธรรม 3. ตัวช้วี ัด / ผลการเรยี นรู้ ม.1/3 รวบรวมขอ้ มูลปฐมภูมิ ประมวลผล ประเมินผลนำเสนอข้อมลู และสารสนเทศ ตามวัตถุประสงค์ โดยใชซ้ อฟตแ์ วร์หรือบริการบนอินเทอร์เนต็ ที่หลากหลาย 4. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 1. นักเรียนสามารถอธิบายการประมวลผลข้อมลู ได้ (K) 2. นกั เรยี นสามารถประมวลผลขอ้ มูลให้เป็นสารสนเทศได้ (P) 3. นกั เรียนเปน็ ผทู้ ่ีมวี ินยั ใฝ่เรียนรู้ และมงุ่ มนั่ ในการทำงาน (A)

5. สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง ตัวชว้ี ัด ดา้ นความรู้ ด้านทักษะ ด้านคุณลักษณะอันพึง (K: Knowledge) กระบวนการ ประสงค์ (P: Process) ม.1/3 รวบรวมข้อมูลปฐมภูมิ 1. นักเรียนสามารถ 2. นกั เรียนสามารถ (A: Attitude) ประมวลผลขอ้ มลู ใหเ้ ปน็ 3. นกั เรยี นเปน็ ผูท้ มี่ วี ินัย ประมวลผล ประเมนิ ผล อธิบายการ สารสนเทศได้ ใฝ่เรยี นรู้ และมุง่ มัน่ ใน การทำงาน นำเสนอขอ้ มูลและ ประมวลผลขอ้ มลู ได้ สารสนเทศ ตามวัตถปุ ระสงค์ โดยใช้ซอฟต์แวรห์ รือบรกิ าร บนอินเทอร์เน็ตท่หี ลากหลาย 6. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอดหน่วยการเรียนรู้ การประมวลผลขอ้ มลู หมายถงึ กระบวนการท่กี ระทำกบั ข้อมลู ท่ีรวบรวมไว้ เพ่อื ใหไ้ ด้ขอ้ มูล หรือสารสนเทศท่ี อยู่ในรปู แบบที่ต้องการนำไปใช้ 7. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน 1. ความสามารถในการสือ่ สาร 2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 8. คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ - มีวนิ ัย - ใฝ่เรียนรู้ - มุง่ ม่นั ในการทำงาน 9. สอ่ื และ แหล่งการเรียนรู้ สื่อ - ใบความรู้ เร่อื ง การประมวลผลข้อมูล - แบบฝึกหัดท่ี 5.3 เรอ่ื ง การประมวลผลขอ้ มลู - สื่อ PowerPoint เรอื่ ง การประมวลผลข้อมลู แหลง่ เรยี นรู้ - หอ้ งปฏิบัตกิ ารคอมพวิ เตอร์

10. การจัดการเรยี นรู้ จำนวนคาบ หมายเหตุ ลำดับ เร่ือง 1 1 การประมวลผลข้อมูล 11. กระบวนการจัดการเรยี นรู้ เรื่อง การประมวลผลข้อมูล จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. นักเรยี นสามารถอธบิ ายการประมวลผลขอ้ มลู ได้ (K) 2. นักเรยี นสามารถประมวลผลข้อมูลให้เปน็ สารสนเทศได้ (P) 3. นักเรยี นเปน็ ผู้ที่มวี นิ ัย ใฝ่เรยี นรู้ และมุ่งมั่นในการทำงาน (A) กจิ กรรม (5E) ขั้นที่ 1 ข้ันสรา้ งความสนใจ 1. ครทู บทวนความรเู้ ดมิ ของนกั เรียน โดยถามนักเรียนว่ามวี ิธีการรวบรวมข้อมลู อะไรบา้ ง 2. ครูใหน้ กั เรียนดูเวบ็ ไซตร์ ะบบจองวิชาเรยี นออนไลนข์ องมหาวทิ ยาลัยราชภัฏสรุ นิ ทร์ แล้ว อธิบายเชอ่ื มโยงใหน้ ักเรยี นเข้าใจถึงการประมวลผลขอ้ มูลโดยอาศยั คอมพวิ เตอร์ และครูให้นกั เรียนยกตัวอยา่ งการ ประมวลผลขอ้ มลู โดยอาศัยคอมพิวเตอร์ท่ีนกั เรียนพบเห็นในชวี ติ ประจำวัน ข้นั ที่ 2 สำรวจและค้นหา 1. ครูให้นกั เรยี นศกึ ษาเนือ้ หา เรอื่ ง การประมวลผลข้อมูล ผ่านอนิ เทอร์เน็ตและใบความรู้ ขน้ั ที่ 3 ขัน้ อธบิ ายและลงข้อสรปุ 1. ครอู ธบิ ายเนือ้ หา เร่อื ง การประมวลผลขอ้ มลู โดยใช้สือ่ powerpoint ขัน้ ที่ 4 ขน้ั ขยายความรู้ 1. ครูให้นักเรยี นใชโ้ ปรแกรม Excel ทำตารางรายรบั รายจ่าย ของสปั ดาห์ท่ผี ่านมา 7 วนั จากน้ันใหน้ กั เรยี นประมวลผลข้อมลู เป็นแผนภมู แิ ท่ง 2. ครูให้นกั เรยี นทำแบบฝกึ หัดที่ 5.3 เรอ่ื ง การประมวลผลข้อมูล ข้นั ท่ี 5 ขน้ั สรุป 1. ครแู ละนกั เรียนรว่ มกนั สรปุ เร่อื ง การประมวลผลขอ้ มูล 12. การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ จุดประสงค์การเรยี นรู้ วิธีการวัด เครอ่ื งมอื วัด เกณฑก์ ารประเมิน 1. นักเรียนสามารถอธิบายการ 1. การตอบคำถามใน - แบบฝึกหัด สามารถตอบคำถามใน แบบฝึกหดั แบบฝกึ หัดไดถ้ กู ต้อง ประมวลผลขอ้ มูลได้ (K) ตามหลักการ 80 % ข้นึ ไป

จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ วิธีการวดั เครื่องมือวดั เกณฑก์ ารประเมิน 2. นักเรยี นสามารถประมวลผล 2. ตรวจแบบฝึกหดั - แบบประเมิน สามารถตอบคำถามใน แบบฝึกหดั ใบงานได้ 80 % ขึน้ ไป ขอ้ มูลใหเ้ ปน็ สารสนเทศได้ (P) 3. นกั เรียนเป็นผทู้ ี่มวี ินยั ใฝ่ 3. สังเกตพฤตกิ รรมใน - แบบประเมนิ นักเรยี นมคี ณุ ลกั ษณะ เรยี นรู้ และมุง่ ม่นั ในการทำงาน คุณลกั ษณะอนั พึง อันพงึ ประสงค์ ได้ 80% (A) การทำแบบฝกึ หัด ประสงค์ ข้นึ ไป คุณธรรม จรยิ ธรรมทสี่ อดแทรก การตรงตอ่ เวลา เช่น การเขา้ ชัน้ เรยี น การส่งการบา้ น และการปฏิบตั ิตามท่ี ได้รบั มอบหมาย 13. หนงั สอื / เอกสารอ้างองิ - หนงั สอื เรียนรายวชิ าพืน้ ฐาน กลมุ่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เรือ่ ง เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 1 ลงช่ือ.................................................. (นางสาวกนกวรรณ มานุจำ) ครูผู้สอน

การบันทกึ ผลหลังการสอน รหัสวชิ า ว 21102 กลมุ่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี รายวชิ า วิทยาการคำนวณ สัปดาห์ท่ี 17 ระดับชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 1 จำนวน 5 ชั่วโมง หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 5 เร่อื ง ขอ้ มูลและการประมวลผล เวลา 1 ชวั่ โมง แผนการเรยี นรูท้ ี่ 16 เร่อื ง การประมวลผลข้อมูล ครผู สู้ อน นางสาวกนกวรรณ มานุจำ การบนั ทึกผลหลงั การสอน 1. บันทกึ ผลการเรียนรู้ตามจดุ ประสงค์ (K: Knowledge) 1.1 นักเรียนสามารถอธิบายการประมวลผลข้อมลู ได้ (K) จำนวน….……คน คิดเปน็ รอ้ ยละ…….…ของจำนวนนกั เรยี นทง้ั หมด 1.2 นกั เรียนไมส่ ามารถอธบิ ายการประมวลผลข้อมูลได้ (K) จำนวน….……คน คิดเป็นร้อยละ…….…ของจำนวนนกั เรยี นท้ังหมด 2. บันทกึ ทกั ษะ / กระบวนการ (P: Process) 2.1 นกั เรียนสามารถประมวลผลขอ้ มูลใหเ้ ป็นสารสนเทศได้ (P) จำนวน……..คน คิดเปน็ ร้อยละ….……ของจำนวนนกั เรียนท้ังหมด 2.2 นักเรียนไม่สามารถประมวลผลขอ้ มูลให้เปน็ สารสนเทศได้ (P) จำนวน….……คน คิดเปน็ ร้อยละ……...ของจำนวนนกั เรียนท้ังหมด 3. บันทึกคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ (A: Attitude) 3.1 นักเรยี นเปน็ ผู้ท่มี ีวนิ ัย ใฝ่เรียนรู้ และมุ่งมัน่ ในการทำงาน (A) จำนวน…..…..คน คิดเปน็ ร้อยละ….……ของ จำนวนนักเรียนทง้ั หมด 3.2 นักเรียนไม่เป็นผู้ท่ีมวี ินัย ใฝเ่ รยี นรู้ และมงุ่ มัน่ ในการทำงาน (A) จำนวน….…...คน คิดเป็นร้อยละ……...ของ จำนวนนกั เรียนทงั้ หมด ปัญหาและอปุ สรรค ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ แนวทางการแกป้ ัญหา ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ลงช่ือ.................................................. (นางสาวกนกวรรณ มานจุ ำ) ครผู ู้สอน

แผนการจดั การเรียนรู้ รหัสวชิ า ว 21102 กลุม่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี รายวชิ า วิทยาการคำนวณ สัปดาห์ที่ 18 ระดบั ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีที่ 1 จำนวน 5 ชวั่ โมง หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 5 เรอ่ื ง ข้อมูลและการประมวลผล เวลา 1 ชวั่ โมง แผนการเรยี นร้ทู ี่ 17 เร่อื ง การสร้างทางเลือกเพอ่ื ตัดสนิ ใจ ครูผู้สอน นางสาวกนกวรรณ มานุจำ 1. สาระ สาระที่ 4 เทคโนโลยี 2. มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ว 4.2 เขา้ ใจและใช้แนวคดิ เชงิ คำนวณในการแก้ปญั หาท่ีพบในชีวิตจริงอย่างเปน็ ขัน้ ตอนและเปน็ ระบบ ใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศและการสอื่ สารในการเรียนรู้ การทำงาน และการแก้ปญั หาไดอ้ ย่างมีประสิทธิภาพ รู้เท่าทันและมีจรยิ ธรรม 3. ตัวชี้วัด / ผลการเรยี นรู้ ม.1/3 รวบรวมข้อมลู ปฐมภมู ิ ประมวลผล ประเมินผลนำเสนอขอ้ มูลและสารสนเทศ ตามวัตถุประสงค์ โดยใชซ้ อฟต์แวร์หรือบรกิ ารบนอินเทอรเ์ น็ตทหี่ ลากหลาย 4. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 1. นกั เรยี นสามารถอธบิ ายการสร้างทางเลอื กเพอื่ ตัดสินใจได้ (K) 2. นักเรียนสามารถตัดสนิ ใจเมอ่ื มหี ลายทางเลือกได้ (P) 3. นักเรียนเปน็ ผ้ทู ี่มีวนิ ัย ใฝ่เรียนรู้ และมุง่ มั่นในการทำงาน (A)

5. สาระการเรยี นรู้แกนกลาง ตัวช้ีวัด ดา้ นความรู้ ดา้ นทกั ษะ ด้านคุณลกั ษณะอนั พึง (K: Knowledge) กระบวนการ ประสงค์ (P: Process) (A: Attitude) ม.1/3 รวบรวมขอ้ มลู ปฐมภูมิ 1. นกั เรยี นสามารถ 2. นักเรียนสามารถ 3. นักเรียนเป็นผู้ที่มีวินยั ใฝเ่ รียนรู้ และมงุ่ มนั่ ใน ประมวลผล ประเมนิ ผล อธิบายการสร้าง ตัดสินใจเมอ่ื มหี ลาย การทำงาน นำเสนอขอ้ มูลและ ทางเลือกเพอ่ื ตัดสินใจ ทางเลือกได้ สารสนเทศ ตามวตั ถุประสงค์ ได้ โดยใชซ้ อฟตแ์ วรห์ รอื บรกิ าร บนอินเทอรเ์ นต็ ทห่ี ลากหลาย 6. สาระสำคญั /ความคิดรวบยอดหน่วยการเรยี นรู้ การตัดสนิ ใจเกดิ ขนึ้ เม่ือมหี ลายทางเลือก และแต่ละทางเลือกจะนำไปสผู่ ลลัพธ์ที่เหมือนหรือแตกต่างกันกไ็ ด้ การตดั สนิ ใจจัดเปน็ การประมวลผลอย่างหนง่ึ ในการวิเคราะหเ์ ชิงตรรกะในการประเมนิ ผลลัพธ์วา่ ทางเลอื กใดสามารถ ไปสเู่ ป้าหมายท่ีต้องการได้ 7. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ิต 4. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 8. คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ - มวี ินัย - ใฝ่เรยี นรู้ - มุง่ มน่ั ในการทำงาน 9. สือ่ และ แหลง่ การเรยี นรู้ สื่อ - ใบความรู้ เรอ่ื ง การสรา้ งทางเลือกเพื่อตัดสนิ ใจ - แบบฝกึ หัดท่ี 5.4 เรื่อง การสร้างทางเลือกเพือ่ ตัดสนิ ใจ - สอ่ื PowerPoint เร่ือง การสร้างทางเลือกเพอ่ื ตัดสนิ ใจ

แหลง่ เรียนรู้ จำนวนคาบ หมายเหตุ - หอ้ งปฏบิ ัติการคอมพวิ เตอร์ 1 10. การจัดการเรยี นรู้ ลำดบั เร่อื ง 1 การสร้างทางเลือกเพอ่ื ตัดสนิ ใจ 11. กระบวนการจัดการเรยี นรู้ เรอื่ ง การสรา้ งทางเลือกเพื่อตัดสินใจ จุดประสงค์การเรยี นรู้ 1. นกั เรียนสามารถอธบิ ายการสร้างทางเลือกเพื่อตดั สนิ ใจได้ (K) 2. นักเรยี นสามารถตัดสินใจเมอ่ื มหี ลายทางเลือกได้ (P) 3. นักเรยี นเปน็ ผู้ท่ีมีวนิ ยั ใฝ่เรยี นรู้ และมงุ่ มั่นในการทำงาน (A) กจิ กรรม (5E) ขั้นท่ี 1 ข้นั สรา้ งความสนใจ 1. ครถู ามนักเรยี นว่า ถ้านักเรียนถกู สุนขั วิง่ ไล่ นกั เรยี นจะทำอย่างไรใหบ้ อกมา 3 วิธี 2. ครถู ามตอ่ วา่ นกั เรียนจะตัดสนิ ใจเลอื กวิธใี ด เพราะเหตใุ ด ขั้นท่ี 2 สำรวจและคน้ หา 1. ครใู ห้นักเรยี นศึกษาเนอ้ื หา เรือ่ ง การสรา้ งทางเลอื กเพ่ือตดั สินใจ ผ่านอินเทอรเ์ นต็ ข้ันที่ 3 ขัน้ อธบิ ายและลงข้อสรปุ 1. ครอู ธิบายเน้อื หา เรื่อง การสร้างทางเลอื กเพือ่ ตัดสินใจ โดยใช้สอื่ powerpoint ขน้ั ท่ี 4 ข้นั ขยายความรู้ 1. ครนู ำขอ้ มลู ชุดเซตข้าวซงึ่ มที ั้งหมด 5 เซต ใหน้ ักเรยี นดู เพื่อให้นักเรียนพจิ ารณาและ ตดั สินใจเกีย่ วกบั เหตกุ ารณ์ดงั ต่อไปนี้ - ถา้ หากนักเรยี นมีเงิน 300 บาท และต้องการรบั ประทานอาหารซึ่งมีชดุ เซตขา้ ว ทัง้ หมด 5 เซต นักเรียนจะเลือกชุดเซตข้าวอะไร พรอ้ มอธบิ ายเหตุผลในการเลือก 2. ครูให้นกั เรียนทำแบบฝึกหดั ท่ี 5.4 เรือ่ ง การสร้างทางเลอื กเพอื่ ตัดสนิ ใจ ขน้ั ท่ี 5 ขั้นสรปุ 1. ครูและนกั เรยี นรว่ มกันสรุป เร่อื ง การสร้างทางเลอื กเพ่ือตดั สนิ ใจ

12. การวัดและประเมนิ ผลการเรยี นรู้ จดุ ประสงค์การเรียนรู้ วธิ ีการวัด เครือ่ งมอื วดั เกณฑก์ ารประเมิน - แบบฝึกหดั 1. นกั เรยี นสามารถอธิบายการ 1. การตอบคำถามใน สามารถตอบคำถามใน แบบฝึกหัดไดถ้ กู ตอ้ ง สร้างทางเลอื กเพอื่ ตดั สนิ ใจได้ (K) แบบฝึกหดั ตามหลักการ 80 % ขนึ้ ไป 2. นักเรยี นสามารถตัดสินใจเมือ่ มี 2. ตรวจแบบฝึกหัด - แบบประเมนิ สามารถตอบคำถามใน ใบงานได้ 80 % ข้ึนไป หลายทางเลอื กได้ (P) แบบฝึกหดั 3. นักเรยี นเป็นผูท้ ี่มวี ินยั ใฝ่ 3. สงั เกตพฤติกรรมใน - แบบประเมิน นกั เรียนมีคณุ ลกั ษณะ เรยี นรู้ และมุง่ มั่นในการทำงาน คณุ ลักษณะอันพึง อันพงึ ประสงค์ ได้ 80% (A) การทำแบบฝกึ หดั ประสงค์ ขน้ึ ไป คุณธรรม จรยิ ธรรมท่สี อดแทรก การตรงตอ่ เวลา เช่น การเขา้ ชั้นเรยี น การสง่ การบา้ น และการปฏิบตั ิตามท่ี ไดร้ ับมอบหมาย 13. หนงั สือ / เอกสารอา้ งองิ - หนงั สอื เรยี นรายวชิ าพืน้ ฐาน กลุ่มสาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์ เรอื่ ง เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ชนั้ มัธยมศกึ ษาปีที่ 1 ลงชื่อ.................................................. (นางสาวกนกวรรณ มานุจำ) ครูผู้สอน

การบนั ทึกผลหลังการสอน รหสั วชิ า ว 21102 กล่มุ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี รายวิชา วทิ ยาการคำนวณ สปั ดาหท์ ี่ 18 ระดบั ช้ันมัธยมศกึ ษาปที ่ี 1 จำนวน 5 ชัว่ โมง หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 5 เรอ่ื ง ขอ้ มลู และการประมวลผล เวลา 1 ชัว่ โมง แผนการเรียนรู้ท่ี 17 เรอ่ื ง การสร้างทางเลอื กเพอื่ ตดั สนิ ใจ ครูผสู้ อน นางสาวกนกวรรณ มานุจำ การบันทึกผลหลังการสอน 1. บนั ทกึ ผลการเรียนร้ตู ามจดุ ประสงค์ (K: Knowledge) 1.1 นักเรียนสามารถอธบิ ายการสร้างทางเลือกเพื่อตดั สินใจได้ (K) จำนวน….……คน คิดเป็นรอ้ ยละ…….…ของจำนวนนักเรียนทั้งหมด 1.2 นกั เรียนไม่สามารถอธบิ ายการสรา้ งทางเลอื กเพือ่ ตัดสนิ ใจได้ (K) จำนวน….……คน คิดเปน็ ร้อยละ…….…ของจำนวนนกั เรียนทงั้ หมด 2. บันทกึ ทกั ษะ / กระบวนการ (P: Process) 2.1 นกั เรียนสามารถตดั สินใจเมือ่ มหี ลายทางเลือกได้ (P) จำนวน……..คน คดิ เปน็ ร้อยละ….……ของจำนวนนกั เรียนท้ังหมด 2.2 นกั เรยี นไม่สามารถตัดสนิ ใจเมื่อมีหลายทางเลือกได้ (P) จำนวน….……คน คิดเป็นร้อยละ……...ของจำนวนนกั เรียนทง้ั หมด 3. บันทกึ คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ (A: Attitude) 3.1 นกั เรียนเปน็ ผทู้ มี่ ีวินยั ใฝเ่ รยี นรู้ และมงุ่ มนั่ ในการทำงาน (A) จำนวน…..…..คน คิดเปน็ ร้อยละ….……ของ จำนวนนักเรยี นท้ังหมด 3.2 นักเรียนไม่เป็นผทู้ ี่มวี ินยั ใฝเ่ รียนรู้ และมงุ่ มัน่ ในการทำงาน (A) จำนวน….…...คน คดิ เป็นร้อยละ……...ของ จำนวนนักเรยี นทั้งหมด ปญั หาและอปุ สรรค ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ แนวทางการแกป้ ญั หา ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ลงช่อื .................................................. (นางสาวกนกวรรณ มานุจำ) ครผู ู้สอน

แผนการจัดการเรียนรู้ รหัสวชิ า ว 21102 กลุ่มสาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวชิ า วิทยาการคำนวณ สัปดาห์ที่ 19 ระดบั ชนั้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 1 จำนวน 5 ชั่วโมง หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 5 เร่ือง ข้อมูลและการประมวลผล เวลา 1 ชัว่ โมง แผนการเรยี นรทู้ ี่ 18 เร่อื ง ซอฟต์แวรจ์ ดั การกับข้อมลู ครูผู้สอน นางสาวกนกวรรณ มานุจำ 1. สาระ สาระที่ 4 เทคโนโลยี 2. มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใชแ้ นวคดิ เชงิ คำนวณในการแก้ปญั หาท่พี บในชีวิตจริงอยา่ งเปน็ ขั้นตอนและเปน็ ระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสารในการเรียนรู้ การทำงาน และการแก้ปัญหาไดอ้ ยา่ งมปี ระสิทธิภาพ รู้เท่าทนั และมีจรยิ ธรรม 3. ตัวชวี้ ัด / ผลการเรียนรู้ ม.1/3 รวบรวมข้อมลู ปฐมภมู ิ ประมวลผล ประเมินผลนำเสนอขอ้ มลู และสารสนเทศ ตามวตั ถุประสงค์ โดยใชซ้ อฟต์แวร์หรอื บริการบนอินเทอรเ์ น็ตทีห่ ลากหลาย 4. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 1. นักเรยี นสามารถอธิบายซอฟตแ์ วร์ท่ีใช้จดั การกับข้อมลู ได้ (K) 2. นักเรียนสามารถใช้ซอฟตแ์ วรจ์ ัดการกบั ขอ้ มูลได้ (P) 3. นักเรยี นเป็นผ้ทู ม่ี วี ินัย ใฝ่เรยี นรู้ และมุ่งมัน่ ในการทำงาน (A)

5. สาระการเรียนรู้แกนกลาง ตัวชีว้ ัด ด้านความรู้ ด้านทกั ษะ ด้านคณุ ลกั ษณะอนั พงึ (K: Knowledge) กระบวนการ ประสงค์ (P: Process) ม.1/3 รวบรวมข้อมลู ปฐมภมู ิ 1. นักเรยี นสามารถ 2. นกั เรยี นสามารถใช้ (A: Attitude) ซอฟต์แวรจ์ ดั การกบั 3. นกั เรียนเปน็ ผทู้ ่ีมวี ินัย ประมวลผล ประเมนิ ผล อธิบายซอฟตแ์ วร์ทีใ่ ช้ ข้อมลู ได้ ใฝเ่ รียนรู้ และมงุ่ มน่ั ใน การทำงาน นำเสนอข้อมลู และ จดั การกับขอ้ มูลได้ สารสนเทศ ตามวตั ถปุ ระสงค์ โดยใชซ้ อฟตแ์ วร์หรือบริการ บนอินเทอรเ์ นต็ ท่หี ลากหลาย 6. สาระสำคญั /ความคิดรวบยอดหนว่ ยการเรียนรู้ ปจั จุบันมผี ู้ใหบ้ รกิ ารซอฟแวรบ์ นคลาวด์ (Cloud-Based Service) จำนวนมาก ทำให้ผู้ใชง้ านสามารถใช้งานได้ สะดวก ซงึ่ สามารถใชซ้ อฟแวร์ในการจัดการกบั ขอ้ มูล เชน่ Google Forms 7. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 8. คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ - มวี นิ ยั - ใฝ่เรยี นรู้ - มงุ่ ม่นั ในการทำงาน 9. สื่อ และ แหล่งการเรียนรู้ ส่อื - ใบความรู้ เร่ือง ซอฟตแ์ วรจ์ ัดการกับข้อมลู - แบบฝึกหดั ท่ี 5.5 เรอ่ื ง ซอฟต์แวรจ์ ดั การกับขอ้ มลู - สื่อ PowerPoint เรือ่ ง ซอฟต์แวรจ์ ดั การกับขอ้ มูล - แบบทดสอบหลงั เรยี น หน่วยท่ี 5 เรอ่ื ง ข้อมลู และการประมวลผล แหลง่ เรียนรู้ - ห้องปฏิบัตกิ ารคอมพวิ เตอร์

10. การจัดการเรียนรู้ จำนวนคาบ หมายเหตุ ลำดบั เรื่อง 1 1 ซอฟตแ์ วรจ์ ดั การกบั ข้อมูล 11. กระบวนการจัดการเรยี นรู้ เรอื่ ง ซอฟต์แวรจ์ ัดการกบั ข้อมูล จุดประสงค์การเรยี นรู้ 1. นักเรยี นสามารถอธบิ ายซอฟต์แวร์ท่ใี ช้จดั การกับขอ้ มูลได้ (K) 2. นกั เรยี นสามารถใช้ซอฟต์แวรจ์ ดั การกบั ขอ้ มูลได้ (P) 3. นักเรียนเปน็ ผทู้ ม่ี ีวินัย ใฝ่เรียนรู้ และมุ่งมน่ั ในการทำงาน (A) กิจกรรม (5E) ขน้ั ที่ 1 ขั้นสรา้ งความสนใจ 1. ครถู ามนักเรยี นว่า ใครเคยสรา้ งแบบทดสอบหรือแบบสอบถามใน Google Form บ้าง 2. ครใู ห้นกั เรยี นลองกดเขา้ ใชง้ าน Google Form เบ้ืองต้น ขั้นที่ 2 สำรวจและค้นหา 1. ครูให้นกั เรยี นศึกษาเน้ือหา เรื่อง ซอฟต์แวรจ์ ัดการกบั ข้อมูล จากใบความรู้ ข้ันที่ 3 ขน้ั อธบิ ายและลงข้อสรปุ 1. ครอู ธบิ าย เรอ่ื ง ซอฟต์แวรจ์ ดั การกับข้อมลู โดยใช้สอ่ื Power Point โดยเน้อื หา ประกอบด้วย - ซอฟตแ์ วร์ประมวลผลคำ - ซอฟต์แวร์สรา้ งฟอร์ม - ซอฟต์แวร์ตารางทำงาน - ซอฟตแ์ วร์นำเสนอ - ซอฟต์แวร์สรา้ งผังความคดิ ขั้นที่ 4 ขน้ั ขยายความรู้ 1. ครูใหน้ ักเรยี นจับคู่ และช่วยกนั สรา้ งแบบสอบถามความพงึ พอใจของหอ้ งน้ำโรงเรยี น 2. ครูให้นกั เรยี นทำแบบฝึกหดั ท่ี 5.5 เรอ่ื ง ซอฟต์แวรจ์ ดั การกับขอ้ มลู ขัน้ ที่ 5 ขน้ั สรุป 1. ครูใหน้ กั เรียนทำแบบทดสอบหลังเรียน หน่วยที่ 5 เรอ่ื ง ข้อมลู และการประมวลผล 2. ครแู ละนักเรียนร่วมกัน เรื่อง ซอฟตแ์ วรจ์ ัดการข้อมลู

12. การวัดและประเมนิ ผลการเรยี นรู้ จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ วธิ ีการวัด เครือ่ งมอื วดั เกณฑก์ ารประเมิน 1. นกั เรียนสามารถอธบิ าย 1. การตอบคำถามใน - แบบฝึกหดั สามารถตอบคำถามใน ซอฟต์แวร์ท่ีใชจ้ ัดการกบั ขอ้ มูลได้ แบบฝกึ หดั แบบฝึกหัดไดถ้ กู ตอ้ ง ตามหลักการ 80 % ขนึ้ (K) ไป สามารถตอบคำถามใน 2. นักเรียนสามารถใช้ซอฟตแ์ วร์ 2. ตรวจแบบฝึกหัด - แบบประเมนิ ใบงานได้ 80 % ข้ึนไป จัดการกบั ขอ้ มูลได้ (P) แบบฝึกหัด 3. นกั เรยี นเปน็ ผู้ทมี่ ีวนิ ัย ใฝ่ 3. สังเกตพฤติกรรมใน - แบบประเมิน นกั เรียนมีคณุ ลกั ษณะ เรยี นรู้ และมงุ่ ม่นั ในการทำงาน คณุ ลักษณะอันพึง อันพงึ ประสงค์ ได้ 80% (A) การทำแบบฝกึ หดั ประสงค์ ขน้ึ ไป คุณธรรม จรยิ ธรรมท่ีสอดแทรก การตรงตอ่ เวลา เช่น การเขา้ ชั้นเรยี น การสง่ การบา้ น และการปฏิบตั ิตามท่ี ได้รับมอบหมาย 13. หนงั สอื / เอกสารอา้ งอิง - หนังสือเรยี นรายวชิ าพืน้ ฐาน กลุ่มสาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์ เรอื่ ง เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี 1 ลงชื่อ.................................................. (นางสาวกนกวรรณ มานุจำ) ครูผู้สอน

การบนั ทึกผลหลงั การสอน รหสั วชิ า ว 21102 กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี รายวิชา วทิ ยาการคำนวณ สัปดาห์ที่ 19 ระดับชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 1 จำนวน 5 ช่วั โมง หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 5 เร่อื ง ข้อมลู และการประมวลผล เวลา 1 ชวั่ โมง แผนการเรยี นรูท้ ี่ 18 เรื่อง ซอฟต์แวรจ์ ัดการกับข้อมลู ครผู สู้ อน นางสาวกนกวรรณ มานจุ ำ การบนั ทึกผลหลงั การสอน 1. บนั ทึกผลการเรยี นร้ตู ามจุดประสงค์ (K: Knowledge) 1.1 นกั เรยี นสามารถอธบิ ายซอฟต์แวร์ทใ่ี ชจ้ ัดการกับขอ้ มลู ได้ (K) จำนวน….……คน คิดเป็นร้อยละ…….…ของจำนวนนักเรยี นท้งั หมด 1.2 นักเรยี นไม่สามารถอธิบายซอฟตแ์ วรท์ ่ใี ช้จัดการกบั ข้อมูลได้ (K) จำนวน….……คน คิดเป็นร้อยละ…….…ของจำนวนนกั เรยี นทั้งหมด 2. บนั ทกึ ทักษะ / กระบวนการ (P: Process) 2.1 นกั เรียนสามารถใช้ซอฟต์แวรจ์ ัดการกับข้อมลู ได้ (P) จำนวน……..คน คิดเป็นร้อยละ….……ของจำนวนนกั เรยี นทัง้ หมด 2.2 นักเรียนไม่สามารถใช้ซอฟต์แวรจ์ ดั การกับข้อมลู ได้ (P) จำนวน….……คน คิดเป็นรอ้ ยละ……...ของจำนวนนักเรยี นทงั้ หมด 3. บนั ทึกคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ (A: Attitude) 3.1 นกั เรยี นเป็นผู้ท่ีมีวนิ ัย ใฝ่เรยี นรู้ และมุง่ มั่นในการทำงาน (A) จำนวน…..…..คน คดิ เปน็ ร้อยละ….……ของ จำนวนนกั เรียนท้ังหมด 3.2 นกั เรียนไม่เปน็ ผทู้ ่มี ีวินยั ใฝ่เรียนรู้ และม่งุ มัน่ ในการทำงาน (A) จำนวน….…...คน คิดเป็นร้อยละ……...ของ จำนวนนกั เรยี นทง้ั หมด ปัญหาและอุปสรรค ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ แนวทางการแก้ปญั หา ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ลงชอ่ื .................................................. (นางสาวกนกวรรณ มานจุ ำ) ครูผ้สู อน

ใบความรู้ เรอ่ื ง ภยั คกุ คามจากการใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศและการปอ้ งกนั การใชง้ านไอทีโดยเช่ือมตอ่ กับอนิ เทอร์เน็ต ช่วยใหผ้ ใู้ ช้สามารถตดิ ตอ่ สื่อสารและเขา้ ถึง ขอ้ มลู จากแหลง่ ข้อมลู ทอี่ ยทู่ ั่วโลกได้สะดวกและรวดเร็ว แต่ในทางกลบั กันถ้าใชง้ านไมร่ ะมดั ระวัง ขาดความรอบคอบอาจกอ่ ให้เกดิ ปญั หาจากการคุกคามการหลอกลวงผา่ นเครอื ขา่ ยได้ นอกจากนี้ การเข้าถงึ เน้ือหาทไ่ี มเ่ หมาะสมก็สรา้ งปญั หาด้านสังคมใหก้ บั เยาวชนจานวนมาก ดังนน้ั การเรยี นรู้ การใชง้ านไอทีอยา่ งเหมาะสมและปลอดภยั จึงมีความจาเปน็ อยา่ งยิ่ง วิธีการคกุ คาม 1. การคกุ คามโดยใชห้ ลกั จติ วทิ ยา เป็นการคกุ คามทใี่ ช้การหลอกลวงเพือ่ ใหไ้ ด้ขอ้ มลู ทีต่ อ้ งการโดยไมต่ อ้ งใช้ความรู้ความชานาญด้านไอที เชน่ การใชก้ ลวธิ ีในการหลอกเพอื่ ใหไ้ ดร้ หัสผ่านหรือสง่ ขอ้ มูลทสี่ าคญั ให้ โดยหลอกว่าจะได้รับรางวัล แตต่ ้องทาตามเง่ือนไขที่กาหนด ซง่ึ ส่ิงทเี่ กดิ ขึน้ อาจปอ้ งกนั ไดย้ ากเพราะเกดิ จากความเชือ่ ได้ แต่ ปอ้ งกนั ได้โดยใหน้ ักเรียนระมดั ระวังในการใหข้ อ้ มูลสว่ นตัวกับบุคคลใกลช้ ิดหรือบคุ คลอื่น 2. การคุกคามดว้ ยเน้ือหาทไี่ มเ่ หมาะสม ข้อมูลและเน้อื หาที่มอี ยู่ในแหลง่ ต่างๆ บนอนิ เทอร์เน็ตมเี ปน็ จานวนมาก เพราะสามารถสรา้ งและ เผยแพร่ได้งา่ ย ทาใหข้ อ้ มลู อาจไม่ได้รบั การตรวจสอบความถกู ตอ้ งและเหมาะสม ดงั นั้นข้อมูล บางส่วนอาจก่อใหเ้ กิดปัญหากบั นักเรยี นได้ 3. การคุกคามโดยใชโ้ ปรแกรม 1) ไวรัสคอมพวิ เตอร์ เปน็ โปรแกรมทเ่ี ขยี นด้วยเจตนาร้าย อาจทาให้ผูใ้ ชง้ านเกดิ ความราคาญหรือก่อใหเ้ กิดความเสยี หายต่อข้อมูลหรือระบบ โดยไวรัสคอมพวิ เตอรจ์ ะตดิ มากบั ไฟล์ และสามารถแพร่กะจายเมื่อมกี ารเปดิ ไฟล์ เชน่ ไอเลิฟยู , เมลสิ ซา 2) เวิรม์ เป็นโปรแกรมอันตรายทส่ี ามารถแพร่กระจายไปส่เู ครอื่ งคอมพิวเตอร์ เครอ่ื งอ่ืนในเครือขา่ ยไดด้ ว้ ยตวั เอง โดยใชว้ ิธีหาจดุ ออ่ นของระบบรกั ษาความปลอดภยั แลว้ แพร่กระจายไปบนเครอื ขา่ ยได้อย่างรวดเรว็ และก่อใหเ้ กดิ ความเสียหายทร่ี ุนแรง เช่น โคด้ เรด ที่มีการเผยแพรใ่ นเครื่องแม่ข่ายเว็บของไมโครซอฟต์ในปี พ.ศ.2544 สง่ ผลให้เครอื่ ง แมข่ า่ ยท่ัวโลกกว่า2ล้านเครื่องต้องหยุดใหบ้ ริการ 3) ประตูกล เปน็ โปรแกรมทมี่ กี ารเปิดชอ่ งโหว่ไวเ้ พ่ือให้ผู้ไมป่ ระสงคด์ สี ามารถเข้าไป คุกคามระบบสารสนเทศหรอื เครอื่ งคอมพวิ เตอร์ผ่านทางระบบเครือขา่ ยโดยที่ไม่มใี ครรบั รู้ บริษัท รบั จ้างพฒั นาระบบสารสนเทศบางแห่งอาจจะติดตัง้ ประตูกลไวเ้ พื่อดึงขอ้ มลู หรือความลบั ของบริษัทโดยทีผ่ วู้ า่ จ้างไม่ทราบ

4) ม้าโทรจัน เป็นโปรแกรมทม่ี ลี ักษณะคลา้ ยโปรแกรมท่ัวไปเพอ่ื หลอกลวงผใู้ ช้ให้ ตดิ ตง้ั และเรยี กใชง้ าน แตเ่ มอื่ เรยี กใช้งานแลว้ กจ็ ะเรม่ิ ทางานเพ่ือสรา้ งปญั หาตา่ งๆ ตามทผี่ เู้ ขียน กาหนด เช่น ทาลายข้อมลู หรือลว้ งข้อมูลทเ่ี ป็นความลับ 5) ระเบดิ เวลา เป็นโปรแกรมอนั ตรายทจ่ี ะเริ่มทางานโดยมตี วั กระตนุ้ บางอยา่ งหรือกาหนดเงอื่ นไขการทางานบางอยา่ งขนึ้ มา เช่น แอบส่งข้อมลู ออกไปยังเครอ่ื ง อืน่ หรือลบไฟล์ขอ้ มูลท้งิ 6) โปรแกรมดักจบั ขอ้ มูล หรอื สปายแวร์ เปน็ โปรแกรมท่ีแอบขโมยข้อมลู ชอ้ งผใู้ ช้ ระหวา่ งใช้งานคอมพิวเตอร์ เพอ่ื นาไปใชแ้ สวงหาประโยชนต์ า่ งๆเชน่ เก็บข้อมลู พฤตกิ รรมการใชง้ านอินเทอรเ์ น็ตเพ่ือนาไปใชใ้ นการโฆษณา เกบ็ ข้อมลู รหัสผ่านเพ่ือ นาไปใชใ้ นการโอนเงนิ ออกจากบัญชผี ้ใู ช้ 7) โปรแกรมโฆษณา หรอื แอดแวร์ เป็นโปรแกรมที่แสดงโฆษณา หรือดาวน์โหลดโฆษณาอตั โนมตั ิหลงั จากที่เครอ่ื งคอมพิวเตอรน์ ้นั ตดิ ตัง้ โปรแกรมทม่ี แี อดแวรแ์ ฝง อยู่ นอกจากนแี้ อดแวรบ์ างตัวอาจจะมสี ปายแวรท์ คี่ อยดกั จบั ข้อมลู ของผ้ใู ช้งานเอาไว้เพ่อื สง่ โฆษณา ทีต่ รงกับพฤตกิ รรมการใช้งาน 8) โปรแกรมเรยี กคา่ ไถ่ เปน็ โปรแกรมขดั ขวางการเข้าถงึ ไฟลข์ ้อมลู ในเครือ่ งคอมพวิ เตอร์หรือโทรศัพท์มอื ถือดว้ ยการเข้ารหสั จนกวา่ ผใู้ ช้จะจ่ายเงินใหผ้ ู้เรยี กค่าไถ่ จงึ จะได้รบั รหสั ผา่ นเพอ่ื ท่จี ะสามารถใชง้ านไฟล์น้นั ได้ รูปแบบการปอ้ งกันภยั คุกคาม ตรวจสอบจากสง่ิ ท่ีผใู้ ชร้ ู้ เป็นการตรวจสอบตัวตน ตรวจสอบจากสงิ่ ท่ีผใู้ ชม้ ี เป็นการตรวจสอบ จากส่ิงทผี่ ูใ้ ชง้ านรูแ้ ต่เพียงผเู้ ดียว เชน่ บญั ชรี ายชื่อ ตวั ตนจากอุปกรณท์ ีผ่ ใู้ ช้งานตอ้ งมี เชน่ บตั ร ผใู้ ช้กบั รหัสผ่าน การตรวจสอบวธิ ีนี้เป็นวธิ ที ไี่ ด้รับ สมาร์ตการ์ด โทเกน้ อยา่ งไรก็ตามการ ความนยิ มสงู สุด เนอ่ื งจากเป็นวธิ ีทีง่ า่ ย และระดบั ตรวจสอบวธิ ีน้มี คี ่าใชจ้ ่ายในสว่ นของอุปกรณ์ ความปลอดภัยเปน็ ที่ยอมรบั ได้ หากนกั เรียนลืม เพ่มิ เตมิ และมกั มปี ญั หา คือ ผูใ้ ชง้ านมกั ลืมหรือ รหสั ผา่ น สามารถตดิ ต่อผู้ดูแลเพือ่ ขอรหสั ผา่ นใหม่ ทาอุปกรณท์ ี่ใช้ตรวจสอบหาย ตรวจสอบจากสง่ิ ทเ่ี ปน็ สว่ นหนงึ่ ของผใู้ ช้ เป็นการตรวจสอบข้อมลู ชีวมาตร (biometrics) เช่น ลายนิ้วมือ ม่านตา ใบหนา้ เสยี ง การตรวจสอบนีท้ ีม่ ีประสทิ ธิภาพ สูงสุด แต่มีคา่ ใชจ้ ่ายที่สงู เม่อื เปรยี บเทียบกับวิธีอื่น และตอ้ งมีการจดั เกบ็ ลักษณะเฉพาะของบคุ คล ซง่ึ ผใู้ ช้บางสว่ นอาจจะเห็นวา่ เปน็ การละเมิดสิทธคิ์ วามเป็น ส่วนตัว

แบบฝกึ หดั ท่ี 1.1 เรื่อง ภัยคกุ คามจากการใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศและการปอ้ งกนั คำชี้แจง : ใหน้ ักเรยี นอ่านข้อความแตล่ ะขอ้ แล้วพจิ ารณาว่าขอ้ ความนนั้ ถูกหรือผดิ ถา้ ถกู ใหท้ า เคร่อื งหมาย  ถ้าผดิ ให้ทาเครอื่ งหมาย  .......... 1. ควรบันทึกรหัสผ่ำนลงในกระดำษ สมดุ โน้ต รวมทงั้ อุปกรณ์อเิ ลก็ ทรอนกิ สด์ ว้ ย .......... 2. ไวรสั คอมพิวเตอร์ เปน็ โปรแกรมท่ีเขียนดว้ ยเจตนำร้ำย อำจทำใหผ้ ใู้ ชง้ ำนเกิดควำมรำคำญ หรือกอ่ ให้เกดิ ควำมเสยี หำยตอ่ ขอ้ มลู หรอื ระบบ .......... 3. โปรแกรมอนั ตรำยทีส่ ำมำรถแพรก่ ระจำยไปสู่เคร่ืองคอมพิวเตอร์เครอื่ งอืน่ ในเครอื ขำ่ ยได้ดว้ ยตัวเอง เรียกว่ำ เวริ ม์ .......... 4. ประตูกล เปน็ โปรแกรมท่ีแสดงโฆษณำหรือดำวนโ์ หลดโฆษณำอัตโนมตั หิ ลงั จำกทีเ่ ครื่องนนั้ ตดิ ต้งั โปรแกรมที่ มแี อดแวร์แฝงอยู่ .......... 5. บอกรหัสผ่ำนของตนเองใหก้ บั ผอู้ ืน่ ทรำบ .......... 6. มำ้ โทรจัน เปน็ โปรแกรมทม่ี ีลักษณะคลำ้ ยโปรแกรมทั่วไปเพือ่ หลอกลวงผ้ใู ชใ้ หต้ ิดต้งั และเรียกใช้งำน แตเ่ ม่อื เรยี กใชง้ ำนแล้วก็จะเร่ิมทำงำนเพ่อื สรำ้ งปัญหำตำ่ งๆ ตำมที่ผู้เขียนกำหนด .......... 7. โปรแกรมอันตรำยทจี่ ะเรม่ิ ทำงำนโดยมีตัวกระต้นุ บำงอยำ่ ง หรือกำหนดเง่อื นไขกำรทำงำนบำงอยำ่ งขน้ึ เรยี กวำ่ ระเบดิ เวลำ .......... 8. โปรแกรมท่ีแอบขโมยข้อมลู ของผู้ใช้ระหว่ำงใช้งำนคอมพิวเตอร์ เพือ่ นำไปใช้แสวงหำประโยชน์ต่ำงๆ คอื สปำยแวร์ .......... 9. รูปแบบกำรป้องกันภัยคกุ คำมสำมำรถดำเนินกำรได้ 4 รูปแบบ .......... 10. โปรแกรมเรยี กค่ำไถ่ เปน็ โปรแกรมกำรขดั ขวำงกำรเขำ้ ถึงไฟลข์ อ้ มูลในเคร่ืองคอมพิวเตอรห์ รือ โทรศัพทม์ อื ถอื ด้วยกำรเขำ้ รหัส ชื่อ-นามสกลุ ................................................... ชน้ั ................... เลขท่ี...........