นายนกพร ภูทรัพย์ทวีสุข กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาไทย
๑. ผลงานครูกลอนสนุ ทรภู่ ๒. นิราศ ๓. นทิ าน ๔. สภุ าษิต ๕. กลอนบทละคร ๖. บทเสภาและบทเห่กลอ่ ม
ประเภท ชือ่ เรื่อง นริ าศ นิราศเมืองแกลง นิราศพระบาท นิราศภูเขาทอง นิราศวัดเจ้าฟ้า นิทาน นิราศอิเหนา โคลงนิราศสพุ รรณ ราพันพิลาป นริ าศพระประธม สุภาษิต นิราศเมืองเพชร บทละคร โคบุตร พระอภัยมณี ลกั ษณวงศ์ สิงหไกรภพ กาพย์พระไชยสุรยิ า บทเสภา สวัสดิรกั ษา เพลงยาวถวายโอวาท สภุ าษติ สอนหญงิ บทเหก่ ลอ่ ม อภยั นรุ าช ขุนชา้ งขุนแผนตอนกาเนิดพลายงาม พระราชพงศาวดาร เหเ่ ร่อื งจบั ระบา เห่เร่อื งกากี เหเ่ รื่องพระอภัยมณี เห่เรื่องโคบตุ ร
ผลงานที่คาดว่าเป็นวรรณกรรมของสนุ ทรภู่ เพลงยาวสภุ าษติ โลกนติ ิ ตารายาอฐั กาล (ตาราบอกฤกษ์ยามเดินทาง) สบุ ินนิมิตคากลอน ตาราเศษนารี (เป็นตาราบอกลกั ษณะนารีถงึ คณุ ลักษณะ และวาสนานารสี าหรบั ชายหนุ่มเลอื กค)ู่ หนังสอื เร่อื งปฐมบท (หนงั สือสอนเด็ก) นิทานคากลอนเรื่องจันทโครบ (แตง่ ถึงตอนพระจนั ทโครบเขา้ ถา้ นางมุจลินท์)
นริ าศเมอื งแกลง นิราศเมืองแกลง เป็นนิราศ เ ร ื ่ อ ง แ ร ก ข อ ง ส ุ น ท ร ภ ู่ เล่าเรื่องการเดินทางไปหา บิดาที่วัดป่าตาบลบ้านกร่า อาเภอแกลง จังหวัดระยอง เ ม ื ่ อ ก ล า ง เ ด ื อ น ๗ ปี พ.ศ.๒๓๕๐ มีความยาว ๔๙๖ คากลอน
หลังจากนั้นสุนทรภู่ได้ถวายตัวเป็นศิษย์รับใช้พระองค์เจ้าปฐมวงศ์ (พระโอรสองค์เล็กในกรมพระราชวังหลัง) ซึ่งท่านทรงผนวชอยู่ที่วัดบาง หวา้ ใหญ่ ซงึ่ ปัจจุบันคือวัดระฆงั โฆสติ ารามวรมหาวิหาร และต่อมาพระองค์เจ้าปฐมวงศ์ได้มีรับสั่งให้สุนทรภู่ไปเมื องปลา สร้อย ซึ่งปัจจุบันเป็นจังหวัดชลบุรี สุนทรภู่จึงถือโอกาสไปเยี่ยมบิดาที่ บวชอยู่วัดป่ากร่า ในเมืองแกลง การเดินทางครั้งนี้จึงเกิดการแต่งนิราศ คร้งั แรกของสุนทรภู่ คือ นิราศเมอื งแกลง ในตอนที่ท่านอายุเพียง ๒๑ ปี
❖ ในการเดนิ ทางมีผรู้ ่วมทางไปกับสนุ ทรภู่ ได้แก่ นายแสง เป็นผู้นาทาง และน้อยกับ พ่มุ ศิษย์นอ้ งสองคนเมอื่ ออกจากพระราชวงั หลงั ลอ่ งเรือไปตามแม่น้าเจ้าพระยา ผ่าน ดาวคะนอง พระประแดง บางพลี ออกปากแม่น้าบางประกง แล้วไปขึ้นบกที่บางปลา สรอ้ ย จงั หวัดชลบุรี นาเรือไปฝากขนุ จา่ เมอื งแล้วขอพักอยูท่ ีบ่ ้าน ❖ จากนั้นจึงเดินเท้าต่อไปถึงศรีราชา เมื่อถึงระยองพักอยู่ที่บ้านเก่า ๒ วัน สุนทรภู่ เดนิ ทางตอ่ ไปโดยถามทางชาวบ้าน จนถงึ บา้ นแกลง แล้วเดนิ เลียบชายทะเลแหลมทอง หลวง เดินทางเข้าป่าจนถึงบ้านกร่าที่บิดาอยู่ ได้พบญาติและบิดาอยู่กับบิดาเกือบ เดือนเศษก็ล้มป่วยลงในเดือน ๙ บิดาต้องหาหมอมารักษา มีหลานสาว ๒ คน ช่วย พยาบาลคอื มว่ งกับคา เมอื่ หายปว่ ยก็เดินทางกลบั กรงุ เทพมหานคร
๏โอค้ ลองขวางทางแดนแสนโสทก ดบู นบกกแ็ ต่ลว้ นลงิ แสม เลยี บตลง่ิ วงิ่ ตามชาวเรอื แพ ทาลอบแลหลอนหลอกตะคอกคน ๏คาโบราณทา่ นผกู ถูกทกุ สง่ิ เขาว่าลงิ จองหองมนั พองขน ทาหลุกหลกิ เหลอื กลานพาลลกุ ลน เขาด่าคนจงึ วา่ ลงิ โลนลาพอง
๏เสยี งลงิ คา่ งบ่างชะนวี ะหวดี โหวยกระหมึ โหยหอ้ ยไมน้ ่าใจ หายเสยี งผวั ผวั ตวั เมยี เทย่ี วโยน กายเหน็ คนอายแอบองิ กบั กงิ่ ยาง ๏โอช้ ะนีเวทนาเทย่ี วหาผวั เหมอื นตวั พเ่ี รยี กน้องใหห้ มอง หมางชะนีเพรยี กเรยี กชายอยู่ ปลายยางพเ่ี รยี กนางนุชน้องอยู่ ในใจ
นิราศพระบาท นิราศพระบาท เล่าเรื่องตาม เสดจ็ พระองค์เจา้ ปฐมวงศไ์ ป นมัสการพระพุทธบาท จ.สระบุรี ปลายปี พ.ศ. ๒๓๕๐ มีอายุได้ ๒๒ ปี มคี วามยาว ๔๖๒ ปี
เส้นทางการเดนิ ทางในนิราศพระบาท สุนทรภู่ตามเสด็จในฐานะมหาดเล็กผู้หนึ่ง ต้องพายเรือไปเอง ใน การเดนิ ทางพายเรอื ข้นึ ไปตามลาน้าเจ้าพระยา เข้าคลองตะเคียน คลอง สระประทุม คลองหัวรอ ขึ้นบกที่ท่าเรือ แล้วเดินทางต่อโดยใช้ช้างเป็น พาหนะจนถึงพระพุทธบาท พักอยู่ที่พระพุทธบาท ๔ วัน ก็ตามเสด็จ กลับกรุงเทพฯ โดยขบวนเรือเสด็จ ล่องลงมาตลอดทาง จนถึงวัดระฆัง ใชเ้ วลาเดินทางคร่งึ วนั
๏มณฑปน้อยสวมรอยพระบาทนัน้ ลว้ นสวุ รรณแจ่มแจ้งแสงอรา่ ม เพดานดาดลาดล้วนกระจกงาม พระเพลิงพลามพร่างพรา่ งสว่างพราย
๏เจา้ ของตาลรกั หวานขึน้ ปี นต้น ระวงั ตนตีนมอื ระมดั มนั่ เหมอื นคบคนคาหวานราคาญครนั ถา้ พลงั้ พลนั เจบ็ อกเหมอื นตกตาล
นิราศภูเขาทอ นิราศภูเขาทองได้รับการยกย่องว่าเป็นนิราศเรื่องที่ดีที่สุดของสุนทรภู่ ท่านแต่งนิราศเรื่องนี้จากการเดินทางไปนมัสการเจดีย์ภูเขาทองท่ี กรงุ เก่า เมอ่ื เดอื นสบิ เอ็ด ปีชวด (พ.ศ. ๒๓๗๑) ขณะบวชเป็นพระภิกษุ เม่ืออายุราว ๔๒ ปี มีความยาว ๑๗๖ คากลอน
จุดมุ่งหมายการเดนิ ทาง เพ่อื ไปนมสั การพระเจดยี ์ภเู ขาทองในวัดภูเขาทอง ด้วยเชอ่ื ว่ามี พระบรมสารีรกิ ธาตบุ รรจอุ ยู่ ลักษณะคาประพนั ธ์ นิราศภูเขาทองแตง่ ดว้ ยกลอนนิราศ มีความคลา้ ยคลงึ กบั โคลง สุภาพ แตเ่ ร่มิ ดว้ ย วรรครบั จบด้วยวรรคสง่ ลงทา้ ยดว้ ย คาวา่ เอย
การเดนิ ทาง ❑ หลังจากออกพรรษาและรับกฐินในเดือน ๑๑ แล้ว สุนทรภู่พร้อมกับหนูพัด ซึ่งเป็น บุตรชายที่ยังเด็กอยู่โดยลงเรือแจวจากวัดราชบูรณะ (วัดเลียบ) ไปจังหวัง พระนครศรีอยุธยา ❑ ลอ่ งไปตามลาน้าเจ้าพระยาผ่านมาทางพระบรมมหาราชวัง และผ่านสถานที่ต่าง ๆ ตามลาดับ เช่น วัดประโคนปัก โรงเหล้า บางจาก บางพลู บางพลัด บางโพ บ้านญวน วัดเขมาภิรตาราม ตลาดแก้ว ตลาดขวัญ นนทบุรี บางธรณี เกาะเกร็ด บางพูด บ้านใหม่ บางเดอ่ื (ในจงั หวัดปทมุ ธานี) บางหลวง สามโคก บา้ นง้วิ เกาะใหญ่ราชคราม
การเดนิ ทาง เมื่อเข้าเขตพระนครศรีอยุธยา ผ่านหน้าจวนเจ้าเมือง วัดพระเมรุ แล้วจึง เดินทางถึงเจดีย์ภูเขาทอง ในวันเดินทางกลับออกเรือตั้งแต่เช้าตรู่ เดินทาง เพียงวนั เดียวกถ็ งึ กรุงเทพ ขึน้ บกที่ท่าวัดอรุณราชวราราม
๏ ถึงโรงเหล้าเตากลนั่ ควนั โขมง มีคนั โพงผกู สายไวป้ ลายเสา โอ้บาปกรรมน้านรกเจียวอกเรา ให้มวั เมาเหมือนหนึ่งบา้ เป็นน่าอาย ๏ ทาบญุ บวชกรวดน้าขอสาเรจ็ สรรเพชญโพธิญาณประมาณหมาย ถึงสรุ าพารอดไม่วอดวาย ไมใ่ กลก้ รายแกล้งเมินกเ็ กินไป ๏ ไมเ่ มาเหล้าแลว้ แต่เรายงั เมารกั สดุ จะหกั ห้ามจิตคิดไฉน ถึงเมาเหลา้ เช้าสายกห็ ายไป แต่เมาใจนี้ประจาทกุ คา่ คืนฯ
๏ อยู่กลางท่งุ ร่งุ โรจนส์ ันโดษเดน่ เปน็ ท่ีเลน่ นาวาคงคาใส ท่ีพน้ื ลานฐานบทั ม์ถดั บนั ได คงคงลัยลอ้ มรอบเปน็ ขอบคัน ๏ มีเจดยี ์วิหารเปน็ ลานวัด ในจงั หวดั วงแขวงกาแพงกน้ั ทอ่ี งคก์ อ่ ยอ่ เหล่ยี มสลับกนั เป็นสามช้ันเชงิ ชานตระหงา่ นงาม ๏ บนั ไดมสี ่ีด้านสาราญร่นื ต่างชมชน่ื ชวนกนั ขนึ้ ช้ันสาม ประทกั ษณิ จนิ ตนาพยายาม ไดเ้ สรจ็ สามรอบคานบั อภวิ ันท์
๏พอกราบพระปะดอกปทมุ ชาติ พบพระธาตุสถติ ในเกสร สมถวลิ ยนิ ดชี ลุ กี ร ประคองซอ้ นเชญิ องคล์ งนาวา กบั หนูพดั มสั การสาเรจ็ แลว้ ใสข่ วดแกว้ วางไวใ้ กลเ้ กศา มานอนกรงุ รงุ่ ขน้ึ จะบชู า ไมป่ ะตาตนั อกยง่ิ ตกใจ แสนเสยี ดายหมายจะชมบรมธาตุ ใจจะขาดคดิ มาน้าตาไหล โอบ้ ญุ น้อยลอยลบั ครรไลไกล เสยี น้าใจเจยี นจะดน้ิ สน้ิ ชวี นั
นิ ราศเมืองเพชร ❑ เป็นนิราศที่เล่าเรื่องราวการเดินทางไป เพชรบุรี ราวเดือนยี่หรือเดือนสามในปี พ.ศ. ๒๓๗๔ ขณะนั้นมีอายุได้ ๔๖ ปี โดยอาสา พระองค์เจ้าลักขณานุคุณไปขอสิ่งของแทน ความรักจากลูกสาวขุนแพ่ง เพราะพระองค์ ทรงหมายปองหญิงคนนี้อยู่ มีความยาว ๔๑๘ คากลอน
เหตุทส่ี ุนทรภู่อาสาเดนิ ทางไปครง้ั นี้เพราะคดิ ถึงพระคณุ ทไี่ ดท้ รงอุปการะตน ดงั ขอ้ ความในตอนตน้ เรื่องว่า “อนาถหนาวคราวมาอาสาเสดจ็ ไปเมอื งเพชรบรุ ที ีถ่ ิน่ หวาน ลงนาวาหนา้ วัดนมสั การ อธิษฐานถงึ คุณกรณุ า”
การเดินทาง ในการเดินทางไปในครั้งนี้มีหนูพัด หนูนิล และลูกศิษย์ ตามไปดว้ ย เดินทางโดยทางเรอื ออกจากท่าหน้าวัดอรุณไปทาง คลองบางกอกใหญ่ คลองบางลาเจียก คลองขวาง คลองมหา ไชย ออกแม่น้าท่าจีน เข้าคลองสามสิบสองคด คลองสุนัขหอน ออกแม่น้าแม่กลองไปปากอ่าวปากคลองโคน ปากคลองช่อง ข้ามอ่าวยี่สาน เข้าคลองตะบูน ผ่านสถานที่ต่างๆ มากมาย จนถึงเพชรบุรี
ตวั อยา่ งบทกลอน สุนทรภไู่ ด้กลา่ วไวว้ ่าขณะนัน้ ไม่มีภรรยา ไมม่ ที ร่ี ักเป็นหลกั แหล่ง แสดงว่า คูค่ รองที่เคยมีอยู่ต่างแยกย้ายจากกนั ไป ดังปรากฏในบทกลอนทว่ี ่า ถึงคลองเตยเตยแตกใบแฉกงาม คิดถงึ ยามปลูกรักมกั เป็นเตย จนไม่มีทร่ี กั เปน็ หลักแหล่ง ตอ้ งคว้างเควง้ คว้าหานจิ จาเอ๋ย โอ้เปลย่ี วใจไรร้ ักทจ่ี ักเชย ชมแตเ่ ตยแตกหนามเมอื่ ยามโซ
ตัวอยา่ งบทกลอน เม่อื เดนิ ทางถงึ ศรี ษะกระบือ สุนทรภู่กล่าววา่ รู้สึกวงั เวงวา้ เหว่ แมจ้ ะมลี กู ศิษยต์ ดิ ตามมาดว้ ย กร็ ้สู กึ ราวกับเดินทางมาคนเดยี ว บรรยายว่า ถึงศีรษะกระบือเป็นช่อื บ้าน ระยะยา่ นยุงชมุ รมุ ขม่ เหง ท้ังกุมภากล้าหาญเขาพานเกรง ใหว้ ังเวงวญิ ญาณ์เอกากาย ถึงศิษยห์ ามาตามเม่อื ยามเปลีย่ ว เหมอื นมาเดียวแดนไพรนา่ ใจหาย
เมื่อสุนทรภู่ไปนมัสการพระนอนได้ ถวายผ้าแพร แด่พระพุทธรูป และ อธิษฐานว่าขอให้พบเจ้าของผ้าใน ชาตินี้ ดงั น้ี ๏ ยงั มแี ตแ่ พรหอมถนอมชม ไดค้ ลห่ี ม่ หมุ้ อรุ ะพระประธาน อทุ ศิ วา่ ผา้ น้ขี องพน่ี ้อง ฝ่ ายเจ้าของขาดรักสมัคร สมาน มาหม่ พระจะไดผ้ ลดลบนั ดาล ไดพ้ บพานภายหน้าสถาพร
นริ าศวดั เจา้ ฟ้า เป็นนิราศเชิงผจญภัยที่สนุกสนาน มีความยาว ๔๖๘ คากลอน แต่งขึ้นในราว พ.ศ. ๒๓๗๕ สุนทรภู่แต่งในขณะที่มีอายุได้ ๔๙ ปี (บวชได้ ๙ พรรษา) โดยแต่ง เติมเสรมิ ตอ่ จากสานวนเดิมทีเ่ ณรพัดแตง่ ข้นึ ให้สนุ ทรภู่ชว่ ยตรวจแก้ เณรหนูพดั หดั ประดิษฐค์ ิดอกั ษร เป็นเรอ่ื งราวตามติดท่านบิดร กาจดั จรจากนิเวศน์พระเชตพุ น
การเดินทาง เล่าเรอ่ื งการเดนิ ทางไปแสวงหาแร่ปรอทและยาอายุวฒั นะ (ตามลายแทงทีไ่ ดม้ า) ทีว่ ัดเจา้ ฟา้ อากาศ กรุงเก่า ราวต้นปี พ.ศ.๒๓๗๗ ในการเดนิ ทางมีเณรพัด กลนั่ บนุ นาค และ ศิษยต์ ดิ ตามไปด้วยหลายคน แรป่ รอท
การเดินทาง การเดินทางทางเรือจากวัดพระเชตุพนวิมลมังคลา ราม ไปวัดเจ้าฟ้า จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยขึ้นบกที่วัด ใหญ่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และเดินทางทางบกไปวัด เจ้าฟ้า เพื่อไปหายาอายุวัฒนะเป้าหมายคล้ายนิราศสุพรรณ ตามลายแทงทไ่ี ดร้ ับมาจากทางเมืองเหนือ ตลอดเส้นทางของ การเดินทางสุนทรภู่ผ่านสถานที่ส าคัญๆ ของ กรุงเทพมหานคร นนทบุรี และพระนครศรีอยธุ ยา จงั หวดั นนทบุรสี ุนทรภู่ได้ผา่ นสถานทส่ี าคัญๆ ได้แก่ บางเขน ตลาดแก้ว วัดเขียน บางสีทอง บางแวก ตลาดขวัญ บางขวาง บางธรณี ปากเกร็ด บ้านลาว บางพดู
การเดนิ ทาง เมื่อถึงวัดใหญ่ท าพิธีหาปรอทที่ วัดใหญ่แต่ไม่สาเร็จจึงออกเดินทาง ทางบกจากวัดใหญ่ไปวัดเจ้าฟ้า อากาศ เพื่อหายาอายุวัฒนะตามลาย แทง ทาพิธีแสวงหายาแต่ไม่สาเร็จ จึงเดินทาง ทางเท้ากลับไปที่เรือแล้ว เดินทางกลับ ได้แวะหาพระยาไชย วิชิต (เผือก) แล้วออกเดินทางต่อมา จนถึงกรุงเทพฯ
๏ นารีใดไรร้ กั อยา่ หนักหน่วง จะโรยร่วงรกเรีย้ วแห้งเหี่ยวหาย ท่ีเมตตาอย่กู อ็ ยากจะฝากกาย อย่าหม่ินชายเชิญตรกึ ให้ลึกซึ้ง เหมือนภมุ รินบินหาซึ่งสาโรช ถงึ ร้อยโยชน์แย้มกล่ินคงบินถงึ แต่ดอกไมไ้ ทท้าวในดาวดึงษ์ ไมพ่ น้ ซึ่งพวกหม่แู มลงภชู่ ม
๏ ถงึ บางพดู พดู มากคนปากหมด มีแต่ปดเป็นอนั มากเขาถากถาง ท่ีพดู น้อยคอยประคิ่นลิ้นลกู คาง เหมือนหญิงช่างฉอเลาะปะเหลาะชาย
นิ ราศอิเหนา เป็นนิราศขนาดสั้นรองลงมาจากนิราศภูเขาทอง มีลักษณะ แปลกกว่านิราศเรื่องอื่น ๆ ตรงที่เนื้อหาความตอนหนึ่งมา จากวรรณคดีไทยเรื่องอิเหนาตอนอิเหนาออกติดตามหา บุษบาซึ่งถูกลมหอบไป แล้วมาแต่งเป็นทานองนิราศ มี ความยาว ๒๐๒ คากลอน
สาเหตทุ ่ีแต่งเร่ืองนิราศอิเหนา นิราศอเิ หนา แตง่ ในสมยั รัชกาลที่ ๓ ประมาณปี พ.ศ.๒๓๗๗ ขณะมีอายุได้ ๔๙ ปี บวชอยู่ที่วัดมหาธาตุ แต่งถวายพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าลักขณาคุณ พระเจ้าลูกยาเธอในพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้ายู่หัว ซึ่งสุนทรภู่ฝากตัวพึ่ง พระบารมีอยู่ในเวลานั้น ไม่ใช่เป็นเรื่องเดินทางไกลเหมือนนิราศเรื่องอื่นๆ สุนทรภู่นาเรื่องอิเหนาตอนติดตามนางบุษบาเมื่อถูกลมหอบหายไป มาแต่งขึ้น เป็นนริ าศอเิ หนา
เนื้ อเร่ืองนิ ราศอิเหนา นิราศอิเหนา ท่านสุนทรภจู่ ับความจากตอนทอ่ี เิ หนากลบั จากไปแกส้ งสัยท่เี มอื งดา หา แล้วกลับมาก็พบว่า บุษบาถูกลมพายุหอบพัดเอาตัวนางหายไปจากถ้าทอง เสียแล้ว อเิ หนาจงึ ยกทัพออกติดตาม ระหว่างทางก็ราพันคร่าครวญถึงนางผู้เป็น ที่รักอยู่มิได้ขาด อิเหนาเดินทางติดตามอยู่เป็นเวลาถึงเจ็ดเดือน ก็ยังไม่พบ เนื้อเรื่องจบลงที่อิเหนาและไพร่พลออกบวช เพื่อส่งกุศลให้บุษบาที่อิเหนาคิดว่า คงตายไปแลว้
๏ จะหกั อน่ื ขนื หกั กจ็ กั ได้ หกั อาลยั น้ไี มห่ ลดุ สดุ จะหกั สารพดั ตดั ขาดประหลาดนกั แตต่ ดั รกั น้ไี มข่ าดประหลาดใจ ๏ จะสรา้ งพรตอดรกั หกั สวาท เผอ่ื จะขาดขอ้ คดิ พสิ มยั แมน้ น้องนุชบษุ บานิคาลยั จะไดไ้ ปสสู่ วรรคช์ นั้ โสฬส
โคลงนิราศสพุ รรณ แต่งเป็นโคลงสี่สุภาพ มีความยาว ๔๖๒ บท เล่าเรื่องการเดินทางไป สุพรรณบุรี ราวเดือนยี่หรือเดือน สามในปี พ.ศ.๒๓๘๔ วตั ถปุ ระสงค์ เพื่อหาแร่ชนิดหนึ่ง ที่สามารถ นามาแปรธาตุชนิดอื่นได้ หรือ เรยี กวา่ “เลน่ แร่แปรธาตุ”
การเดินทาง ในการเดินทางครงั้ นมี้ ผี ู้ติดตามไปด้วย คอื หนูพดั หนตู าบ หนนู ้อย หนกู ลั่น หนหู นุ่ม มี นายรอดเป็นนายท้ายและทาหนา้ ท่ีเป็นผู้นาทาง สนุ ทรภู่เดนิ ทางผ่านคลองมหานาค คลองโอง่ อา่ ง ออกสูแ่ มน่ ้าเจ้าพระยา แลว้ ขน้ึ มาเขา้ คลองบางกอกน้อย เม่อื ผา่ นพระบรมมหาราชวังกไ็ ม่ลืมท่ีจะราพึงถึง ร.๒ และ ยงั ไดก้ ล่าวถวายพรพระ ร.๓ เอาไว้ด้วย ตอ่ จากน้ันก็เขา้ คลองโยง แมน่ า้ นครชัยศรี เข้าคลองสองพีน่ อ้ ง คลองกฤษณา ผา่ นตาบลตา่ ง ๆ ไปตามลาดบั แวะไหว้พระวดั ปา่ เลไลยก์ แลว้ เดินเรอื ตอ่ ไป ผ่าน บ้างทึง พบผเู้ ฒ่า ๒ สามีภรรยาไดส้ อนวชิ าเล่นแร่แปรธาตใุ ห้สนุ ทรภ่จู นรู้ลกั ษณะแร่ ปรอทท่ตี ้องการ
การเดินทาง เมื่อจากสองผ้เู ฒา่ ๒ คนนมี้ า กเ็ ดินทางต่อไปเพอื่ หาแร่ หาปรอท และยา อายุวฒั นะ ข้ึนบกวังหิน เดนิ ทางต่อไปยงั ศาลสองพ่ีน้อง ไปพกั ยังบ้านชาวกะเหร่ียง พบ เฒ่ากวั่งและเฒ่าสงั บเุ ร นาทางไปหาแรป่ รอท เมอ่ื ไปถึงหมบู่ า้ นชาวละวา้ ได้ตาลวดช่วยนาทางไปยังพระเจดียโ์ บราณกลางปา่ ซ่ึงคาดวา่ เป็นสถานท่ีเกบ็ แรป่ รอท ทาพิธขี ุดหาแรป่ รอท แตไ่ ม่สาเรจ็ ผจญกบั โขลงช้าง คณะของสนุ ทรภู่หนโี ขลงช้างมานอนบนแท่นหินโบราณ พบทา้ วอ่ทู องและ โอรสหัวจุกทีป่ รากฏร่างให้เหน็ ท้าวอทู่ องเตือนสนุ ทรภู่ไมใ่ หส้ นใจเรือ่ งแร่ปรอทและยา อายวุ ฒั นะ ท้ังแนะนาให้หนโี ขลงช้างและหนีไดส้ าเรจ็ เมือ่ เดนิ ทางอกี วันครึง่ กถ็ งึ หมู่บา้ นละว้า คณะสนุ ทรภ่ลู าเฒ่ากวงั่ และสังบุเร เดนิ ทางกลับมายังยางสองพี่นอ้ ง สังเวยเจ้าสองพนี่ อ้ ง แลว้ ลงเรอื ทจี่ อดไว้ พอรุ่งเชา้ ก็ เดินทางกลับกรงุ เทพฯ
๏ หวังไวใ้ ห้ลูกเตา้ เหลา่ หลาน รู้เรื่องเปลืองป่วยการ เกดิ ร้อน อายวุ ันชนะขนาน นพี้ อ่ ขอเอย แรป่ รอทยอดยากขอ้ น คิดไว้ใหจ้ า ๏ เสียงซอออ๋ ออ่ อ้อ เออื่ ยเพลง จับปเี่ ตรง๋ เต้งเตง เตง่ ต้อง ขล่ยุ ตรยุ๋ ตรยุ่ ตร้ยุ เหนง เหน่งเน่ง รนาดแฮ ฆอ้ งหน่องหนองน่องหนอ้ ง ผรึ่งพรึง้ พรึง่ ตโภน
ราพนั พิลาป มีความยาว ๔๒๔ คากลอน แต่ง เมื่อ พ.ศ. ๒๓๘๕ ขณะอยู่วัด เทพธิดาราม มีอายุได้ ๖ ปี มี เนื้อความกล่าวถึงความหลังและ เรื่องราวที่เกิดขึ้นในขณะนั้น บาง ตอนแตง่ เปน็ ทานองความฝนั
เนื้อเร่ืองราพนั พิลาป ทา่ นได้ประพนั ธเ์ รื่อง \"ราพนั พลิ าป\" ขน้ึ เน่ืองจาก เกิดนมิ ิตฝันอนั เปน็ ลางรา้ ย จึงได้รวบรวมเร่ืองราว ในชวี ติ ซึ่งเปน็ ความหลังเกี่ยวกับการเดินทางเช่น เมืองเพชรบุรี ราชบุรี กาญจนบุรี และเมือง สุพรรณบุรี เพื่อหาแร่แปรธาตุตามที่มีผู้บอกเล่า ท่านได้แทรกความคิด และเหตุการณ์อื่นๆที่ เกิดข้ึนในชว่ งชีวติ ของทา่ น
เนื้อเรื่องราพนั พิลาป กล่าวถึง กรมหมื่นอัปสรสุดาเทพ พระราชธิดาใน พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ทานอง เกี้ยวพาราสี ดั่งที่ว่า อธิษฐานขอให้ความรักของ ท่านสมหวัง หากมีผู้คิดร้ายก็ให้พ่ายแพ้ไป แสดง ความในใจและประวัติชีวิตของท่านในหลายๆ ส่วน รวมถึงประเพณีเทศกาลต่างๆ ที่ได้ประสบ พบผ่านมา งานชิ้นนี้มีอรรถรสและอารมณ์ สะเทือนใจ มีการใชโ้ วหารเปรยี บเทียบ
๏ สนุ ทรทาคาประดิษฐน์ ิมิตฝัน พึ่งพบเหน็ เป็นวิบตั ิมหศั จรรย์ จึง่ จดวนั เวลาด้วยอาวรณ์ ๏ แต่งไว้เหมอื นเตือนใจจะได้คิด ในนิมิตเมอ่ื ภวงั คว์ ิสงั หรณ์ เดือนแปดวนั จนั ทวาเวลานอน เจริญพรภาวนาตามบาลี
นิ ราศพระประธม เปน็ นริ าศเรอ่ื งสุดท้ายของสุนทรภู่ มีความยาว ๔๔๘ คากลอน แต่ง เมื่อปลายปี พ.ศ.๒๓๘๕ หลังจาก สึกจากพระครั้งที่ ๒ มีอายุราว ๕๖–๕๗ ปี แลว้ ได้รบั พระอุปการะ จากกรมหมื่นอัปสรสุดาเทพและ กรมขุนอิศเรศรังสรรค์
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123