Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนเพศวิถี

แผนเพศวิถี

Published by Wannisa Pumurai, 2022-06-22 02:34:42

Description: แผนเพศวิถี ป.5

Search

Read the Text Version

บนั ทกึ ขอ้ ความ ส่วนราชการ โรงเรยี นวดั พืชนมิ ิต (คาสวัสด์ริ าษฎรบ์ ารุง) ท…ี่ …………………วันที่ 17 เดอื น พฤษภาคม พ.ศ.256๕ เรื่อง ขออนญุ าตใช้แผนการจดั การเรียนรู้ เรียน ผู้อานวยการโรงเรยี นวัดพืชนิมติ (คาสวสั ด์ริ าษฎร์บารงุ ) ด้วยข้าพเจา้ นางสาววรรณนิษา พ่มุ อไุ ร ตาแหนง่ ครู โรงเรียนวดั พชื นมิ ติ (คาสวสั ดร์ิ าษฎรบ์ ารุง) ได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติหนา้ ทก่ี ารสอน รายวิชาสุขศึกษาและพลศึกษา รหสั วิชา พ๑5๑๐๑ กล่มุ สาระการ เรยี นรูส้ ุขศกึ ษาและพลศึกษา ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ ๕ ภาคเรยี นท่ี ๑ ปีการศึกษา 256๕ บัดนี้ ข้าพเจ้าได้จัดเตรียมการสอน และจัดทาแผนการสอนโดยใช้กระบวนการการจัดการเรียนรู้ แบบการจัดการเรียนรู้ตามหลักการพัฒนาสมอง BBL (Brain-based Learning : BBL) ข้าพเจ้าจึงขออนุญาต ดาเนินการสอนตามแผนการจัดการเรียนรู้ที่จัดเตรียมไว้ ซ่ึงแนบเอกสารหน่วยการเรียนที่ ๑ ชื่อหน่วย ครอบครัวมสี ุข เวลาเรียน 11 ชว่ั โมง มาพรอ้ มกบั เอกสารน้ี จงึ เรียนมาเพ่ือโปรดทราบ ลงช่อื ( นางสาววรรณนิษา พุ่มอุไร) ตาแหนง่ ครู ลงชอื่ ( นางสาววรรณนิษา พ่มุ อุไร) หัวหน้ากลุ่มสาระการเรยี นรู้สุขศกึ ษาและพลศึกษา ความเหน็ ผอู้ านวยการโรงเรยี น อนญุ าต ไม่อนุญาต เพราะ ............................................................................................... ............................................................................... ............................................................................................................................. ................................................. ................................................................................................................................ .............................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชอื่ ( นางอจั ฉรา รักษาชนม์ ) ผูอ้ านวยการโรงเรียนวดั พืชนิมติ (คาสวัสดร์ิ าษฎรบ์ ารุง) ............./................../.............

คาอธิบายรายวิชาพน้ื ฐาน พ๑5๑๐๑ สขุ ศึกษาและพลศึกษา กลุ่มสาระสุขศกึ ษาและพลศกึ ษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 เวลา 8๐ ชั่วโมง ศึกษา ความสาคัญและวิธีดูแลรักษา ระบบย่อยอาหารและระบบขับถ่ายให้ทางานตามปกติซ่ึงส่งผล ต่อสุขภาพ การเจรญิ เตบิ โต และพัฒนาการ การเปล่ียนแปลงทางเพศ และปฏิบัติตนได้เหมาะสม ลักษณะ ของครอบครัวท่ีอบอุ่นตามวัฒนธรรมไทย พฤตกิ รรมที่พึงประสงค์ และไม่พึงประสงค์ในการแก้ไขปญั หาความ ขดั แย้งในครอบครวั และกลุ่มเพ่ือน ความสาคัญของการปฏิบัตติ นตามสุขบัญญัติแห่งชาติ คน้ หาข้อมูลข่าวสาร เพ่ือใช้สร้างเสริมสุขภาพ การตัดสินใจเลือกซ้ืออาหารและผลิตภัณฑ์สุขภาพ ปฏิบัติตนในการป้องกันโรค ปัจจัย และผลกระทบที่มีอิทธิพลต่อการใช้สารเสพติด ที่มีต่อร่างกาย จิตใจ อารมณ์ สังคม และสติปัญญา ความปลอดภัยจากการใช้ยาและหลีกเลี่ยงสารเสพติด อิทธิพลของส่ือท่ีมีต่อพฤติกรรมสุขภาพ การป้องกัน อันตรายจากการเล่นกีฬา วิธีการจัดรูปแบบการเคลื่อนไหวร่างกายแบบผสมผสานแบบและปฏิบัติกิจกรรม ทางกายทั้งแบบอยู่กับท่ี เคลื่อนท่ี และใช้อปุ กรณ์ประกอบตามแบบท่ีกาหนด วธิ ีการเล่นเกมนาไปสูก่ ีฬาและ กิจกรรมแบบผลัด การเคลื่อนไหวในเร่ืองการรับแรง การใช้แรง และความสมดุลทักษะกลไกลที่ส่งผลต่อการ ปฏิบัติกิจกรรมทางกายและเล่นกีฬาการเล่นกีฬาไทย หลักการเข้าร่วมกิจกรรมนันทนาการหลักการและ รปู แบบการออกกาลังกายการออกกาลังกายและการเล่นเกม การละเล่นพ้ืนเมือง วิธกี ารเล่นกีฬาไทยและกีฬา สากล ประเภทบุคคลและประเภททีมท่ีเหมาะสมกับวัยอย่างสม่าเสมอการสร้างทางเลือกในวิธีปฏิบัติในการ เล่นกีฬาอย่างหลากหลาย รู้กฎกติกาในการเล่นเกมกีฬาไทยและกีฬาสากลตามชนิดกีฬาท่ีเล่นวิธีการรุกและ วิธีการป้องกันในการเล่นกีฬาไทยและกีฬาสากลท่ีเล่นสิทธิของตนเองและผู้อ่ืนในการเล่นเกมและกีฬาความ แตกตา่ งระหว่างบุคคลในการเลน่ เกมและกีฬา โดยใช้กระบวนการการสืบค้น การอภิปราย การปฏิบัติ การบอก ระบุ เพ่ือเกิดความรู้ ความเข้าใจ นาไปสู่การปฏิบัติการสร้างเสริมสมรรถภาพเพ่ือสุขภาพท่ีถูกต้องเหมาะสม เกิดความตระหนักและเห็นคุณค่า ในการดูแลเพื่อพัฒนาตนเองและผู้อ่ืน มีวินัย รักความเป็นไทย ใฝ่เรียนรู้ มีจิตสาธารณะ การนาไปใช้ใน ชวี ติ ประจาวนั ได้อย่างปกตสิ ุข เพ่ือให้ผู้เรียนมีทักษะในการแสวงหาความรู้ มีความคิดสร้างสรรค์ มีคุณธรรม จริยธรรม มีน้าใจ นักกีฬา เป็นผู้นา ผู้ตามที่ดี มีเหตุผล รักการออกกาลังกาย รักสุขภาพ มีสุขนิสัยท่ีดีและตระหนักถึงการสร้าง เสรมิ สุขภาพ มีความสามารถในการคิด การใช้ทักษะชวี ิต การแก้ปัญหา รหสั ตวั ช้ีวัด พ ๑.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒ พ ๒.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓ พ ๓.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔, ป.๕/๕, ป.๕/๖ พ ๓.๒ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔ พ ๔.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔, ป.๕/๕ พ ๕.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔, ป.๕/๕ รวมท้ังหมด ๒5 รหัสตัวชว้ี ัด

ตารางวเิ คราะหห์ ลักสูตร/ออ รหสั พ15101 วชิ าสุขศึกษาและพลศกึ ษา ชัน้ ครูผู้สอน นางสาววรร หน่วยท่ี มฐ ตวั ช้วี ัด จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ สา หนว่ ยที่ 1 พ2.1 ป.5/1 อธบิ ายการ 1.อธิบายการเปล่ียนแปลงทาง 1.การเ ครอบครวั มี เปล่ียนแปลงทางเพศ เพศดา้ นร่างกาย ด้านจติ ใจ เพศดา้ น สุข และปฏบิ ัติตนได้ อารมณ์ และดา้ นสงั คมได้อย่าง ชายแล เหมาะสม ถูกต้อง (K) 2.การเ 2.เขยี นการเปลี่ยนแปลงทางเพศ เพศดา้ น ดา้ นรา่ งกายของเพศชายและ ของเพศ เพศหญงิ ได้อย่างถูกต้อง (P) หญงิ 3.แสดงความกระตือรือร้น ยม้ิ 3.การป แย้มแจม่ ใส ในขณะที่เรยี นและ ดแู ลรัก ฝกึ หดั ดว้ ยความตง้ั ใจ (A) เพศ 1.อธิบายการวางตัวทีเ่ หมาะสม 1.ความ ได้อย่างถูกต้อง (K) เพศ 2.ปฏิบัติตนในการวางตัวที่ ๒.การว เหมาะสมกบั เพศไดอ้ ยา่ งถูกต้อง 3.พฤต (P) 3.แสดงความกระตอื รือรน้ ยิ้ม แย้มแจม่ ใส ในขณะท่เี รียนและ ฝึกหัดดว้ ยความตัง้ ใจ (A)

อกแบบหน่วยการเรยี นรู้ น ประถมศึกษาปีที่ 5 ปีการศกึ ษา 2565 รณนษิ า พมุ่ อุไร าระการเรยี นรู้ กระบวนการ ชิ้นงาน สือ่ การสอน เวลาเรยี น /ภาระงาน วัดผล/ประเมิน เปลีย่ นแปลงทาง 1. อภปิ ราย 1.แผนผงั 1.ทดสอบ 3 นร่างกายของเพศ ความคิด (ก่อนเรยี น) ละเพศหญิง 2.ประเมิน เปล่ียนแปลงทาง ชิ้นงาน นอารมณ์ สังคม ศชายและเพศ ปฏบิ ัติตนในการ กษาสขุ อนามัยทาง มหลากหลายทาง 1. อภปิ ราย 1 วางตวั ท่เี หมาะสม ตกิ รรมทางเพศ

หนว่ ยที่ มฐ ตัวช้วี ัด จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ สา หน่วยที่ 2 พ2.1 ป.5/2 อธิบาย 1.อธิบายเกีย่ วกบั ความสาคัญ 1.ครอบ ครอบครวั มี ความสาคัญของการมี และลกั ษณะของครอบครวั ท่ี วฒั นธร สขุ ครอบครัวท่ีอบอุ่นตาม อบอุ่นได้อยา่ งถูกต้อง (K) 2.การป วฒั นธรรมไทย 2.เขียนวธิ ปี ฏิบตั ติ นเปน็ สมาชิก สมาชิก ป.5/3 ระบพุ ฤติกรรม ที่ดีของครอบครวั ได้อยา่ งถูกต้อง ของครอ ท่ีพึงประสงค์ และไม่ (P) 3.ประโ พึงประสงค์ในการ 3.แสดงความกระตอื รือร้น ย้มิ ครอบค แกไ้ ขปัญหาความ แย้มแจม่ ใส ในขณะทเ่ี รยี นและ วัฒนธร ขัดแยง้ ในครอบครวั ฝึกหดั ด้วยความตั้งใจ (A) และกลมุ่ เพ่ือน 1.อธบิ ายลกั ษณะของพฤตกิ รรม 1.ความ ทพี่ งึ ประสงค์และพฤติกรรมที่ไม่ ครอบค พึงประสงคไ์ ด้อยา่ งถกู ต้อง (K) 2.พฤติก 2.แสดงทักษะในการแก้ไข ประสงค ปัญหาความขัดแย้งในครอบครัว ปัญหาค และกลุ่มเพ่ือนได้อย่างถกู ต้อง ในครอบ (P) เพอ่ื น 3.แสดงความกระตอื รือรน้ ย้ิม 3.พฤตกิ แยม้ แจม่ ใส ในขณะทเ่ี รยี นและ ประสงค ฝกึ หัดด้วยความตั้งใจ (A) ปญั หาค ในครอบ เพือ่ น

าระการเรยี นรู้ กระบวนการ ชิ้นงาน ส่อื การสอน เวลาเรยี น /ภาระงาน วดั ผล/ประเมนิ บครวั ทอ่ี บอุ่นตาม 1. อภิปราย รรมไทย 3 ปฏบิ ัติตนเป็น กที่ดี อบครวั โยชน์ของการมี ครวั ท่ีอบอุ่นตาม รรมไทย มขัดแยง้ ใน 1. อภิปราย 1.นทิ านเรื่อง 1.ทดสอบ ครัวและกลุ่มเพื่อน ๒.กระบวน การสอ่ื สารท่ี (หลังเรยี น) กรรมทพี่ ึง การกลุม่ สร้างสรรค์ 2.ประเมิน ค์ในการแก้ไข ชิน้ งาน ความขดั แยง้ 4 บครวั และกลุ่ม กรรมทไี่ ม่พึง คใ์ นการแกไ้ ข ความขัดแยง้ บครวั และกลุ่ม

รหสั วชิ า พ15101 โครงสรา้ งรายวิชา ช้ันประถมศึกษาปีที่ 5 เวลา 80 ชั่วโมง / ปี รายวชิ า สุขศึกษาและพลศกึ ษา จานวน 2 หนว่ ยกติ หนว่ ยที่ ช่อื หน่วยการเรียนรู้ มาตรฐานการเรียนรู้/ เวลา นา้ หนัก (ช่ัวโมง) (คะแนน) 1 ตวั ชี้วดั 2 11 10 3 ครอบครวั มสี ุข พ2.1 ป.5/1 ป.5/2 ป.5/3 9 10 8 10 4 ระบบในร่างกาย พ1.1 ป.5/1 ป.5/2 12 10 5 เข้าใจรปู แบบการ พ3.1 ป.5/1 ป.5/2 ป.5/3 9 10 6 เคล่อื นไหว พ.5.1 ป.5/5 7 4 5 8 กฬี าสากล (วอลเลยบ์ อล) พ3.1 ป.5/5 ป.5/6 5 5 9 2 5 พ3.2 ป.5/1 ป.5/2 ป.5/3 4 5 10 ป.5/4 16 10 พ.5.1 ป.5/5 80 20 ใส่ใจสุขภาพ พ4.1 ป.5/1 ป.5/2 ป.5/3 ป.5/4 โรคนา่ รู้ พ4.1 ป5/4 อันตรายจากสารเสพติด พ5.1 ป.5/1 ป.5/2 ป.5/3 อทิ ธิพลของสื่อ พ5.1 ป.5/4 ป.5/5 สมรรถภาพทางกาย พ3.1 ป.5/4 พ4.1 ป.5/5 กฬี าไทย (ตะกร้อ) พ3.1 ป.5/5 ป.5/6 พ3.2 ป.5/1 ป.5/2 ป.5/3 ป.5/4 พ.5.1 ป.5/5 คะแนนระหว่างภาค คะแนนปลายภาค

โรงเรยี นวดั พืชนิมิต (คาสวัสดร์ิ าษฎรบ์ ารุง) โครงการสอนปีการศึกษา 2565 รายวชิ า สขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา รหสั พ ๑๕๑๐๑ ช้ัน ป.๕ เวลาเรียน ๒ ชั่วโมง/สัปดาห์ ครผู สู้ อน ครูวรรณนษิ า พมุ่ อไุ ร สัปดาห์ คาบที่ หน่วยการเรียนร้/ู เรอื่ ง มาตรฐาน/ตัวชว้ี ัด หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี 1 ครอบครัวมีสขุ มาตรฐาน พ 2.1 ตัวชีว้ ัด 1 1 การเปลย่ี นแปลงทางเพศ ๑ พ2.1 ป5/1 2 2 การเปลยี่ นแปลงทางเพศ ๒ พ2.1 ป5/2 3 3 การเปล่ียนแปลงทางเพศ ๓ พ2.1 ป5/3 หนว่ ๔ยการเรียน๔รู้ท่ี 1 รพะฤบตบิกนร่ารรมู้ ทางเพศและการวางตวั ท่ีเหมาะสม ๕ ๕ ครอบครัวอบอนุ่ ตามวัฒนธรรมไทย ๑ ๖ ๖ ครอบครัวอบอนุ่ ตามวฒั นธรรมไทย ๒ 7 7 ครอบครวั อบอุ่นตามวัฒนธรรมไทย ๓ 8 8 การแก้ไขปัญหาความขดั แย้งในครอบครวั และกล่มุ เพ่ือน ๑ 9 9 การแก้ไขปญั หาความขดั แย้งในครอบครวั และกลุ่มเพื่อน ๒ 10 10 การแก้ไขปญั หาความขัดแย้งในครอบครวั และกล่มุ เพ่ือน ๓ 11 11 การแก้ไขปญั หาความขดั แยง้ ในครอบครัวและกล่มุ เพื่อน ๔ หน่วยการเรียนรทู้ ่ี ๒ ระบบน่ารู้ มาตรฐาน พ 1.1 ตัวช้ีวัด 12 12 ระบบย่อยอาหาร ๑ พ1.1 ป5/1 พ1.1 ป5/2 13 13 ระบบยอ่ ยอาหาร ๒ 14 14 ระบบยอ่ ยอาหาร ๓ 15 15 ระบบขบั ถ่ายอจุ จาระ ๑ 16 16 ระบบขับถา่ ยอุจจาระ ๒ 17 17 ระบบขบั ถ่ายอจุ จาระ ๓ 18 18 ระบบขบั ถ่ายปัสสาวะ ๑ 19 19 ระบบขับถา่ ยปัสสาวะ ๒ 20 20 ระบบขบั ถา่ ยปัสสาวะ ๓

สปั ดาห์ คาบที่ หน่วยการเรยี นรู้/เรอื่ ง มาตรฐาน/ตัวชวี้ ัด หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 3 เขา้ ใจรูปแบบการเคลื่อนไหว มาตรฐาน พ 3.1 21 21 การเคลือ่ นไหวผสมผสานขณะอยู่กับท่ี ตัวช้วี ดั 22 22 การเคล่อื นไหวผสมผสานขณะเคลอ่ื นท่ี ๑ พ3.1 ป5/1 23 23 การเคลื่อนไหวผสมผสานขณะอยู่กบั ที่ ๒ พ3.1 ป5/2 พ3.1 ป5/3 24 24 การเคล่ือนไหวผสมผสานประกอบอุปกรณ์ ๑ พ3.1 ป5/4 25 25 การเคลื่อนไหวผสมผสานประกอบอปุ กรณ์ ๒ พ3.1 ป5/5 26 26 กิจกรรมแบบผลดั ๑ มาตรฐาน พ 3.2 27 27 กิจกรรมแบบผลัด ๒ ตวั ชีว้ ดั หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 4 กีฬาสากล (วอลเลย์บอล) พ3.2 ป5/1 พ3.2 ป5/2 28 28 การสร้างความคุน้ เคยกับลกู วอลเลย์บอล พ3.2 ป5/3 พ3.2 ป5/4 29 29 การเลน่ ลกู สองมือลา่ ง (อันเดอร์) ๑ 30 30 การเลน่ ลูกสองมอื ล่าง (อนั เดอร)์ ๒ 31 31 การเลน่ ลูกสองมือลา่ ง (อันเดอร)์ ๓ 32 32 ทดสอบทักษะการเล่นลูกสองมือล่าง (อันเดอร)์ 33 33 การเล่นลกู สองมอื บน (เซต) ๑ 34 34 การเล่นลูกสองมือบน (เซต) ๒ 35 35 ทดสอบทักษะการเลน่ ลูกสองมือบน (เซต) 36 36 การเสิร์ฟมือลา่ ง ๑ 37 37 การเสริ ์ฟมือล่าง ๒ 38 38 ทดสอบการเสิร์ฟลูกวอลเลยบ์ อล 39 39 การเลน่ ทีม ๑ 40 40 การเล่นทีม ๒

สัปดาห์ คาบท่ี หน่วยการเรียนรู้/เรื่อง มาตรฐาน/ตัวชว้ี ดั หน่วยการเรียนรูท้ ่ี ๕ ใสใ่ จสุขภาพ มาตรฐาน พ 4.1 ตวั ช้ีวัด 41 41 หลักสขุ บญั ญตั ิแหง่ ชาติ พ4.1 ป5/1 พ4.1 ป5/2 42 42 ประโยชนข์ องการปฏบิ ตั ิตนตามหลักสุขบัญญัติแหง่ ชาติ พ4.1 ป5/3 43 43 แนวทางการปฏบิ ัติตนตามหลักสขุ บัญญัติแหง่ ชาติ มาตรฐาน พ 4.1 44 44 ข่าวสารสขุ ภาพ ตัวชี้วดั 45 45 การใชข้ ้อมลู ข่าวสารในการสร้างเสรมิ สุขภาพ พ4.1 ป5/4 หน4่วย6การเรียน4ร6ทู้ ี่ ๔ คสวอ่ื าโมฆปษลณอาดภยั ในชีวติ 47 47 หลักการเลอื กซ้อื อาหาร มาตรฐาน พ 5.1 48 48 หลักการเลือกซื้ออาหารกระป๋อง ตวั ชว้ี ดั พ5.1 ป5/1 49 49 หลกั การเลอื กซอ้ื เคร่ืองสาอาง พ5.1 ป5/2 หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ ๖ โรคน่ารู้ พ5.1 ป5/3 50 50 โรคไข้หวดั ใหญ่ มาตรฐาน พ 5.1 51 51 โรคไขเ้ ลือดออก ตวั ช้ีวัด 52 52 โรคปรทิ ันต์ พ5.1 ป.5/4 ป.5/5 53 53 โรคผวิ หนัง หน5่วย3การเรยี นรู้ท่ี ๗ อันตรายจากสารเสพติด 54 54 ปัจจัยทมี่ ีอิทธพิ ลต่อการใชส้ ารเสพติด 55 55 ผลกระทบจากการใชส้ ารเสพตดิ 56 56 การหลกี เลีย่ งสารเสพตดิ 57 57 อนั ตรายจากการใช้ยาผดิ วิธี 58 58 การปฏบิ ัตติ นเพ่ือความปลอดภัยจากการใช้ยา หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี ๘ อิทธพิ ลของส่ือ 59 59 ส่ือในชวี ิตประจาวัน 60 60 อิทธิพลของสื่อตอ่ พฤตกิ รรมสุขภาพ

สัปดาห์ คาบที่ หน่วยการเรยี นร/ู้ เรื่อง มาตรฐาน/ตวั ชว้ี ดั หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี ๙ สมรรถภาพทางกาย มาตรฐาน พ 4.1 61 61 กจิ กรรมสมรรถภาพทางกาย ๑ ตัวช้ีวดั 62 62 กิจกรรมสมรรถภาพทางกาย ๒ พ4.1 ป5/5 63 63 กิจกรรมสมรรถภาพทางกาย ๓ 64 64 ทดสอบสมรรถภาพทางกาย มาตรฐาน พ 3.1 ตัวชวี้ ดั หหนน่วว่ ยยกกาารรเเรรีียยนนรรูทู้ท้ ีี่่ ๗๑๐ตะกกีฬรา้อไทย (ตะกร้อ) พ3.1 ป5/1 มพา3ต.1รฐปาน5/2พ 3.1 65 65 การสรา้ งความค้นุ เคยกับลกู ตะกร้อ พพตพัว333ช...111ี้วดั ปปป555///431 พพ33..11 ปป55//52 66 66 การเล่นลูกดว้ ยข้างเท้าดา้ นใน พพพ333...111 ปปป555///463 67 67 การเลน่ ลูกด้วยข้างเท้าดา้ นใน มพา3ต.1รฐปาน5/5พ 3.2 68 68 การเลน่ ลกู ด้วยข้างเท้าดา้ นใน ตพัว3ช.1้ีวัดป5/6 69 69 ทดสอบทักษะการเลน่ ลกู ดว้ ยข้างเท้าด้านใน พ3.2 ป5/1 70 70 การเล่นลกู ด้วยเขา่ พมา3ต.2รฐปาน5/2พ 3.2 พพพตัว333ช...222้ีวัดปปป555///431 71 71 การเล่นลูกด้วยเข่า พ3.2 ป5/2 พ3.2 ป5/3 72 72 การเลน่ ลูกดว้ ยเข่า พ3.2 ป5/4 73 73 ทดสอบทักษะการเลน่ ลกู ดว้ ยเข่า 74 74 การเล่นลูกด้วยศรี ษะ 75 75 การเล่นลกู ดว้ ยศีรษะ 76 76 การเสริ ฟ์ 77 77 การเสิรฟ์ 78 78 การเสิรฟ์ 79 79 ทดสอบทักษะการเสิร์ฟ 80 80 การเล่นทมี

เทคนคิ /กระบวนการ/ วธิ ีการสอน การอธบิ าย การสาธติ การใช้เกมประกอบ การถามตอบ กลมุ่ สมั พนั ธ์ บทบาทสมมุติ การแก้ไขสถานการณ์ การวัดและประเมินผล วธิ ีการเกบ็ คะแนน คะแนนระหวา่ งภาค : ปลายภาค = ๘0 : ๒0 โดยแบ่งดังน้ี เรอื่ งทีเ่ ก็บคะแนน คร้งั ที่ คะแนน ประเภทเครอื่ งมือ 1.คะแนนเก็บก่อนกลางปี 10 แบบประเมินผลงาน 1.1 ครอบครวั มสี ขุ 10 แบบประเมินผลงาน 1.2 ระบบนา่ รู้ ๒0 แบบทดสอบทักษะ 1.๓ วอลเลยบ์ อล ๑๐ ข้อสอบ 2. สอบกลางปี 3.คะแนนหลังกลางปี ๑๐ แบบประเมนิ ผลงาน 2.1 ใสใ่ จสุขภาพ ๕ แบบประเมนิ ผลงาน ๕ แบบประเมินผลงาน ๒.๒ โรคนา่ รู้ ๕ แบบประเมนิ ผลงาน 2.๓ อันตรายจากสารเสพติด 5 แบบทดสอบสมรรถภาพ ๑๐ แบบทดสอบทักษะ 2.๔ อทิ ธพิ ลของส่ือ 10 ขอ้ สอบ 2.๕ สมรรถภาพทางกาย 100 2.๖ ตะกร้อ 4. สอบปลายปี รวม สอื่ /แหล่งเรียนรู้ Internet หอ้ งสมุดโรงเรียนวัดพืชนิมิต (คาสวสั ดร์ิ าษฎรบ์ ารงุ ) แบบเรียน -

แผนผังมโนทัศนเ์ ปา้ หมายการเรยี นรู้/ หลกั ฐานการเรยี นรู้ ความรู้ (Knowledge : K) ทกั ษะ/กระบวนการ (Process : P) คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 1.อธบิ ายการเปลย่ี นแปลงทางเพศด้าน ๑.เขียนการเปลี่ยนแปลงทางเพศดา้ น 1.มวี ินยั รา่ งกาย ด้านจิตใจ อารมณ์ และด้านสังคม รา่ งกายของเพศชายและเพศหญงิ ได้อย่าง ๒.ใฝ่เรยี นรู้ ไดอ้ ยา่ งถูกต้อง (K) ถูกต้อง (P) ๓.มุ่งม่นั ในการทางาน 2.อธบิ ายการวางตัวทเ่ี หมาะสมได้อยา่ ง 2.ปฏบิ ตั ติ นในการวางตวั ทเ่ี หมาะสมกบั ๔.รกั ความเป็นไทย ถูกต้อง (K) เพศได้อยา่ งถูกต้อง (P) ๕.อยอู่ ย่างพอเพยี ง 3.อธิบายเกย่ี วกบั ความสาคญั และลกั ษณะ 3.เขียนวธิ ปี ฏบิ ตั ติ นเป็นสมาชิกท่ีดีของ ของครอบครวั ท่ีอบอนุ่ ได้อย่างถูกต้อง (K) ครอบครวั ได้อย่างถูกต้อง (P) 4.อธบิ ายลกั ษณะของพฤติกรรมที่พึง 4.แสดงทักษะในการแก้ไขปัญหาความ ประสงคแ์ ละพฤติกรรมทไ่ี มพ่ ึงประสงค์ได้ ขดั แยง้ ในครอบครวั และกลุ่มเพ่ือนได้ อยา่ งถูกต้อง (K) อย่างถูกต้อง(P) เเรปือ่ ้างหคมรอายบกคารรัวเมรยีสี นขุ หลกั ฐานการเรยี นรู้ ๑. แผนผังความคิด เร่ืองการเปล่ียนแปลงทางเพศ ๒.นิทานเรือ่ งการส่ือสารทีส่ รา้ งสรรค์ ๓. แบบทดสอบก่อนเรียน-หลงั เรยี น

แผนผังมโนทัศน์ข้นั ตอนการทากิจกรรมประกอบการจัดการเรียนร้ดู ้วย การจดั การเรียนรู้ตามหลกั การพัฒนาสมอง BBL (Brain-based Learning : BBL) ศกึ ษามาตรฐ(าBนrกaาiรnเ-รbียaนsรeู้ /dตัวLชe้ีวaดัrnแiลnะgจ:ดุ ปBรBะLส)งค์การเรียนรู้ ทาแบบทดสอบก่อนเรียน ทากิจกรรมโดยใชก้ ระบวนการจัดการเรียนร้ตู ามหลกั การพัฒนาสมอง BBL ขน้ั ที่ 1 ขั้นอุ่นเครื่อง Warm-up Stage ขน้ั ท่ี 2 ขนั้ เรียนรู้ Learning Stage ขน้ั ท่ี 3 ขน้ั ฝึก Practice Stage (explanation) ขนั้ ที่ 4 ขัน้ สรปุ Conclusion Stage ขน้ั ท่ี 5 ข้นั นาไปใช้ Application Stage

แผนท่ี ๑ การเปล่ียนแปลงทางเพศ ผังมโนทศั น์ หนว่ ยการ จานวน ๓ ช่วั โมง หนว่ ยกา แผนท่ี ๓ ครอบครัวอบอุ่นตาม ครอบ วฒั นธรรมไทย จานวน จานวน ๓ ชวั่ โมง การเรียนรูแ้ บ ภาษาไทย 1.พูดแสดงความคดิ เห็น และตอบคาถามอา่ นและสะกดคา ถกู ต้อง 2. เขียนตอบคาถามกจิ กรรม

รเรียนร้ทู ่ี ๑ ครอบครวั มสี ุข ารเรียนรู้ท่ี ๑ แผนที่ ๒ พฤตกิ รรมทางเพศและการ วางตวั ทเี่ หมาะสม บครวั มสี ขุ ๑๑ ชว่ั โมง จานวน ๑ ชัว่ โมง แผนที่ ๔ การแกไ้ ขปัญหาความขัดแย้งใน ครอบครัวและกลุ่มเพื่อน จานวน 4 ชว่ั โมง บบบูรณาการ ศิลปะ : ทศั นศิลป์ ๑.วาดภาพและระบายสี

หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี ๑ กลุ่มสาระการเรียนรสู้ ุขศกึ ษาและพลศึกษา วิชาสุขศกึ ษา ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี ๕ เรอ่ื งครอบครวั มีสขุ เวลา ๑๑ ชวั่ โมง 1. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตัวชว้ี ดั มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน พ 2.1 เข้าใจและเหน็ คุณค่าของตนเอง ครอบครัว เพศศึกษา และมที ักษะในการ ดาเนนิ ชวี ิต ตัวชว้ี ดั ป.5/1 อธบิ ายการเปลี่ยนแปลงทางเพศ และปฏบิ ตั ิตนไดเ้ หมาะสม ป.5/2 อธบิ ายความสาเร็จของการมีครอบครวั ที่อบอนุ่ ตามวัฒนธรรมไทย ป.5/3 ระบุพฤติกรรมท่ีพึงประสงคแ์ ละไม่พึงประสงค์ในการแกไ้ ขปัญหาความขดั แย้งใน ครอบครัวและกล่มุ เพื่อน 2.สาระสาคญั การเจริญเติบโตตามช่วงวัยมีการเปล่ียนแปลงท้ังทางด้านร่างกาย จิตใจ อารมณ์ สังคม ดังนั้น เราจึงควรดูแลสุขอนามัยให้เหมาะสม การอยู่ร่วมกันเป็นกลุ่มต้องอาศัยการปรับตัว พฤติกรรม และการวางตัวที่ เหมาะสมเปน็ ส่งิ สาคญั ทชี่ ว่ ยใหอ้ ยรู่ ว่ มกนั กบั ผ้อู ืน่ ในสังคมไทยได้อยา่ งมีความสขุ 3. สาระการเรยี นรู้ 1.การเปลย่ี นแปลงทางเพศด้านร่างกายของเพศชายและเพศหญงิ 2.การเปล่ยี นแปลงทางเพศด้านอารมณ์ สงั คมของเพศชายและเพศหญงิ 3.การปฏบิ ตั ติ นในการดูแลรักษาสขุ อนามยั ทางเพศ 4.ความหลากหลายทางเพศ ๕.การวางตวั ท่เี หมาะสม ๖.พฤติกรรมทางเพศ 7.ครอบครวั ท่ีอบอุน่ ตามวฒั นธรรมไทย 8.การปฏิบัตติ นเป็นสมาชกิ ที่ดีของครอบครวั 9.ประโยชน์ของการมีครอบครวั ท่ีอบอนุ่ ตามวฒั นธรรมไทย 10.ความขัดแย้งในครอบครัวและกลุม่ เพ่ือน 11.พฤติกรรมท่ีพงึ ประสงค์ในการแก้ไขปญั หาความขดั แย้งในครอบครวั และกลุม่ เพ่ือน 12.พฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งในครอบครัวและกลมุ่ เพ่อื น 4. สมรรถนะสาคัญของผเู้ รยี น ๑.ความสามารถในการสอื่ สาร ๒.ความสามารถในการคดิ ๓.ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ติ ๔.ความสามารถในการแก้ปัญหา ๕.ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

5. คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ 1.มวี ินัย ๒.ใฝเ่ รยี นรู้ ๓.มุ่งมน่ั ในการทางาน ๔.รกั ความเปน็ ไทย ๕.อยอู่ ย่างพอเพยี ง 6. ช้ินงาน/ภาระงาน ๑.แผนผงั ความคดิ เรื่องการเปล่ียนแปลงทางเพศ ๒.นทิ านเรอ่ื งการส่ือสารทส่ี รา้ งสรรค์ 7. การวดั และประเมินผล วิธีการ เครอื่ งมอื เกณฑ์ ตรวจแบบทดสอบ หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 1 แบบทดสอบ หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 1 (ประเมนิ ตามสภาพ จริง) ตรวจแผนผังความคิดเรอื่ งการเปล่ียนแปลงทาง แบบประเมนิ ชิน้ งาน รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ เพศ ตรวจนิทานเรือ่ งการสื่อสารที่สรา้ งสรรค์ แบบประเมนิ ช้นิ งาน ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ สงั เกตพฤติกรรมการทางานรายบคุ คล แบบสังเกตพฤติกรรมการทางาน ระดบั คุณภาพ 2 รายบุคคล ผ่านเกณฑ์ สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายกลุ่ม แบบสงั เกตพฤติกรรมการทางานราย ระดับคุณภาพ 2 กล่มุ ผา่ นเกณฑ์ สังเกตความมวี ินยั ใฝ่เรยี นรู้ ม่งุ มั่นในการทางาน แบบประเมนิ คุณลักษณะอนั พึง ระดบั คุณภาพ 2 รักความเป็นไทย อยู่อย่างพอเพียง ประสงค์ ผา่ นเกณฑ์ 8. กิจกรรมการเรียนรู้ กิจกรรมท่ี 1 การเปลี่ยนแปลงทางเพศ (ชั่วโมงที่ ๑-๓) ๑.นักเรียนรว่ มกันสนทนาเก่ยี วกบั การเปลีย่ นแปลงทางเพศ ๒.นกั เรียนดวู ดี โี อเรอ่ื งการเปล่ยี นแปลงทางเพศด้านรา่ งกายของเพศชายและเพศหญงิ ๓. นักเรียนรว่ มกนั อา่ นบตั รคาทก่ี าหนดให้ จากนั้นวเิ คราะห์และร่วมกนั จาแนกวา่ บัตรคาใด เป็นการเปลีย่ นแปลงทางดา้ นรา่ งกายของเพศชายและเพศหญงิ โดยนาบตั รคาไปติดบนกระดานให้ ถกู ต้อง ๔.นักเรียนรว่ มกนั อา่ นบัตรคาทก่ี าหนดให้ จากน้ันวเิ คราะห์และรว่ มกันจาแนกว่าบตั รคาใด เป็นการเปล่ียนแปลงทางดา้ นอารมณห์ รือสงั คมของเพศชายและเพศหญงิ โดยนาบตั รคาไปตดิ บน กระดานใหถ้ ูกต้อง ๕.นกั เรียนทาแบบสารวจการแสดงออกและพฤตกิ รรมทางดา้ นจิตใจ อารมณ์ สังคมของตนเอง เขยี นเครือ่ งหมาย / ลงในช่องวา่ งทตี่ รงตามความเป็นจรงิ ๖. นกั เรียนเลอื กข้อมลู ในแบบสารวจมา 1 ข้อ วิเคราะห์สาเหตุ ผลกระทบ และแนวทางแกไ้ ข บนั ทึกลงในสมุด 7.นกั เรยี นรว่ มกันสนทนาเกี่ยวกับการอาบน้าก่อนมาโรงเรียนของนักเรียน โดยตอบคาถาม ดงั น้ี -ตอนเชา้ กอ่ นมาโรงเรียนนกั เรียนอาบน้ามาหรือไม่ (อาบ/ไมอ่ าบ) -หลงั จากอาบนา้ นักเรยี นเชด็ ตวั ให้แห้งกอ่ นหรือไม่ (เช็ด/ไมเ่ ช็ด)

-นักเรยี นคิดวา่ การอาบน้าดีอย่างไร (ทาให้รา่ งกายสะอาด ปราศจากเชือ้ โรค รา่ งกายสดชื่น กระปรกี้ ระเปร่า) ๘. นักเรยี นร่วมกันสรุปการเปล่ียนแปลงทางด้านร่างกาย และวิเคราะห์เกีย่ วกับการปฏิบัตติ น เม่ือเกิดการเปลี่ยนแปลงทางด้านร่างกาย จิตใจ อารมณ์ และสังคม โดยสรุปเปน็ แผนภาพความคิด ๙. นักเรยี นรว่ มกนั สรุปส่ิงทเี่ ข้าใจเปน็ ความรู้ร่วมกนั ดังน้ี การดูแลรักษาสขุ อนามัยทางเพศที่ถูกต้องและเหมาะสมกบั เพศและวยั ของตนเอง เพ่ือให้มี สขุ อนามยั ทางเพศที่ดีจะส่งผลใหม้ สี ขุ ภาพกายและใจทีด่ ดี ้วย ๑๐.นกั เรียนนาการดูแลรกั ษาสขุ อนามัยทางเพศไปปฏิบตั ิในชีวิตประจาวัน กจิ กรรมที่ 2 พฤติกรรมทางเพศและการวางตัวทเ่ี หมาะสม (ชวั่ โมงที่ ๔) ๑. นักเรยี นร่วมกันสนทนาเก่ียวกบั ปญั หาการล่วงละเมิดทางเพศ ๒.นักเรยี นรว่ มกนั สนทนาเก่ียวกับความหลากหลายทางเพศ ๓.นักเรียนรว่ มกนั อา่ นสถานการณ์ตวั อยา่ ง 1-4 จากนัน้ วเิ คราะห์เก่ียวกบั พฤตกิ รรมท่ี เหมาะสมและไม่เหมาะสม ๔.นักเรยี นสงั เกตภาพพฤติกรรมต่าง ๆ ร่วมกัน ตัวแทนนักเรยี นสุ่มหยิบแถบประโยคพฤติกรรม ต่าง ๆ ครั้งละ 1 แถบ จากนั้นนาไปติดไวใ้ ตภ้ าพที่สัมพนั ธ์กัน จนครบทกุ ภาพ 5. นกั เรยี นสรปุ การวางตวั ทเี่ หมาะสมลงในสมุด ๖. นกั เรยี นร่วมกันสรปุ สง่ิ ทเ่ี ข้าใจเป็นความรู้รว่ มกนั ดังน้ี การแสดงพฤติกรรมและการวางตวั ท่เี หมาะสมเปน็ สิ่งสาคัญทชี่ ่วยให้อย่รู ่วมกันกับผู้อ่ืน ใน สังคมไทยได้อย่างมคี วามสุข ๗.นกั เรยี นนาการวางตนท่ีเหมาะสมไปปฏบิ ัติในชวี ิตประจาวนั กจิ กรรมที่ ๓ ครอบครัวอบอุ่นตามวฒั นธรรมไทย (ชั่วโมงท่ี ๕-๗) ๑.นกั เรยี นรว่ มกันตอบคาถาม ดงั นี้ -ครอบครวั หมายถึงอะไร (บคุ คลท่ีอยู่ดว้ ยกนั ต้ังแต่ ๒ คนขึ้นไป มีความสมั พนั ธ์กันทางสายเลอื ด) ๒. นกั เรียนร่วมกนั สารวจสมาชกิ ภายในครอบครัวของตนเอง ๓.นักเรียนรว่ มกนั แสดงความคิดเห็นเกีย่ วกบั ครอบครัวทอี่ บอุ่น ๔.นกั เรยี นวาดภาพครอบครวั สุขสันตล์ งในสมุด 6.นกั เรียนวิเคราะหส์ ถานการณท์ ก่ี าหนดให้ แลว้ ตอบคาถาม ๗.นักเรียนเขียนวธิ กี ารสร้างสมั พันธภาพในครอบครวั ลงในสมดุ ๘.นกั เรียนร่วมกันสนทนาเกยี่ วกับการปฏบิ ัตติ นตามหน้าที่ของสมาชิกในครอบครวั ๙.นกั เรียนสรุปการปฏิบัตติ นของสมาชิกในครอบครัวลงในสมุด ๑๐.นักเรียนรว่ มกนั สรุปส่ิงทเี่ ขา้ ใจเปน็ ความรรู้ ่วมกัน ดังนี้ การปฏิบัตติ นเป็นสมาชิกของครอบครัวอย่างเหมาะสมจะทาให้สมาชิกของครอบครวั มี ความรกั ใคร่ผกู พนั กนั และสามารถปรับตัวเข้ากับผูอ้ ืน่ และอยูใ่ นสังคมได้อย่างมคี วามสุข ๑๒.นกั เรียนนาวธิ กี ารการปฏิบัติตนเปน็ สมาชกิ ของครอบครัวไปปรับใชใ้ นชวี ิตประจาวนั กิจกรรมที่ ๔ การแก้ไขปัญหาความขดั แย้งในครอบครัวและกลุ่มเพื่อน (ชัว่ โมงท่ี 8-11) ๑.นกั เรยี นรว่ มกันสนทนาเก่ียวกับปญั หาและสาเหตุของความรนุ แรงในครอบครวั ๒.ครอู ธิบายเพ่มิ เตมิ เกี่ยวกบั สาเหตคุ วามขัดแย้งในครอบครวั และพฤติกรรมที่พงึ ประสงคใ์ น การแก้ไขปญั หาความขดั แยง้ ในครอบครัว ๓. นกั เรียนอ่านบตั รคาสถานการณท์ ่ีกาหนดแล้วตอบคาถามลงในสมุด ๔. นักเรียนอ่านสถานการณ์เกี่ยวกบั การคบเพื่อน

๕. นกั เรยี นรว่ มกันสนทนาเก่ียวกับการสร้างสมั พันธภาพกับเพอื่ น ๖. นกั เรยี นสรุปวิธกี ารสรา้ งสมั พนั ธภาพระหว่างเพื่อนลงในสมดุ ๗. นกั เรียนดูวดิ โี อเรอื่ งการสื่อสารมพี ลงั มากกวา่ ทค่ี ิด ๘. ครอู ธิบายเพ่ิมเติมเก่ียวกบั การส่ือสารทีส่ ร้างสรรค์ ๙.ตัวแทนนักเรียนพดู การสื่อสารท่ีสร้างสรรคค์ นละ ๑ ประโยค เพื่อนๆช่วยกันตรวจสอบความถกู ตอ้ ง ๑๐.นกั เรียนแบ่งกลุม่ ๆละเท่าๆกนั ออกแบบทานทิ านเร่ือง “การส่อื สารท่สี ร้างสรรค์” ๑๑.นักเรียนร่วมกนั สรุปสง่ิ ทเ่ี ขา้ ใจเป็นความรูร้ ่วมกนั ดงั นี้ สมาชกิ ในครอบครัวมคี วามสาคัญต่อทกุ ครอบครวั การปฏิบตั ิตนตามบทบาทหน้าท่ีของตนอยา่ ง ถูกต้องจะไม่ทาให้เกิดความขัดแยง้ ในครอบครวั ทาให้ทกุ คนในครอบครัวมีความสุข การเลน่ หรือการทากิจกรรมร่วมกบั เพื่อนอาจทาให้มีความขัดแย้งกนั บา้ ง ดงั นน้ั การฝึกตนเองให้ สามารถ แก้ไขปัญหาความขดั แย้ง โดยไมใ่ ชค้ วามรุนแรงได้ จะทาให้สามารถอยู่รว่ มกบั เพ่อื นไดอ้ ย่างมีความสุข ๑๒.นักเรยี นนาการส่ือสารท่ีสร้างสรรคไ์ ปปรับใช้ในชีวติ ประจาวันเพ่ือลดความขัดแยง้ ในกลมุ่ เพื่อน 9. ส่ือ/ แหล่งเรียนรู้ -หนงั สือเรยี นสขุ ศึกษา ป.5 -วีดีโอเร่อื งการเปล่ยี นแปลงทางเพศดา้ นร่างกายของเพศชายและเพศหญิง https://www.youtube.com/watch?v=vs4JPXPS3V8 -บตั รคาการเปล่ียนแปลงทางด้านร่างกายของเพศชายและเพศหญิง -บัตรคาการเปล่ยี นแปลงทางด้านจิตใจ อารมณ์ และสังคม -แบบสารวจการแสดงออกและพฤตกิ รรมทางด้านจิตใจ อารมณ์ สงั คม -บตั รคาสถานการณ์ -บตั รภาพพฤติกรรมตา่ ง ๆ -วิดโี อเรอ่ื งการส่ือสารมพี ลังมากกวา่ ที่คดิ https://www.isranews.org/isranews-pr-news/80812-news-80812.html

ข้อสอบก่อนเรียน (Pre test) กลมุ่ สาระการเรียนรสู้ ขุ ศึกษาและพลศกึ ษา วชิ าสุขศึกษา ช้นั ประถมศึกษาปที ่ี ๕ คะแนนเต็ม ๑๐ คะแนน หน่วยการเรยี นรู้ที่ ๑ เรื่องครอบครวั มีสุข ตวั ชี้วดั ป.5/1 อธิบายการเปล่ยี นแปลงทางเพศ และ ตวั ช้ีวัด ป.5/2 อธบิ ายความสาเรจ็ ของการมคี รอบครัวที่ ปฏิบัติตนได้เหมาะสม อบอุ่นตามวัฒนธรรมไทย 1.การกระทาในข้อใดแสดงถงึ การวางตัวอยา่ งเหมาะสม ๖.ครอบครวั ทอ่ี บอุ่นมีความสาคัญอยา่ งไร ก. แสดงความสนใจทางเพศมากจนเกินงาม ก. คนในครอบครัวไม่เจบ็ ปว่ ย ข. ยอมใหผ้ ู้อนื่ จับมอื หรือโอบกอด ข. ครอบครวั มีชอ่ื เสยี งในสังคม ค. ให้เกียรติซง่ึ กันและกนั ค. สมาชกิ ในครอบครัวมคี วามสขุ ง. พูดจาใสร่ ้ายผอู้ ่ืน ง. ครอบครัวมีรายไดเ้ พ่ิมมากข้ึน 2.ควรปฏบิ ตั ติ อ่ ผู้ท่มี คี วามหลากหลายทางเพศอย่างไร ๗.นกั เรยี นควรปฏบิ ตั ติ นอย่างไรเพ่ือใหม้ ีครอบครวั ทอี่ บอุน่ ก. ยอมรบั และเคารพในสงิ่ ทเี่ ขาเปน็ ก. ดแู ลสขุ ภาพตนเองเปน็ ประจา ข. กล่นั แกล้งเมื่อมโี อกาส ข. รีบกลับบา้ นหลังเลิกเรียนเพ่ือมาเลน่ เกม ค. ไม่พูดด้วย ไม่เลน่ ด้วย ค. ช่วยพ่อแม่ ผูป้ กครองหารายไดใ้ ห้ครอบครวั ง. แสดงทา่ ทางรงั เกยี จ ง. เคารพและเชื่อฟังคาส่ังสอนของผใู้ หญ่ในบา้ น 3.สาเหตุใดท่ีทาให้เด็กมีการเจรญิ เติบโตที่แตกต่างกันตาม ตวั ชวี้ ัด ป.5/3 ระบพุ ฤตกิ รรมท่พี งึ ประสงค์และไม่พึง ธรรมชาติ ประสงคใ์ นการแกไ้ ขปัญหาความขดั แย้งในครอบครัวและ ก. การรบั ประทานอาหาร กลุ่มเพ่ือน ข. การออกกาลงั กาย ๘.พฤติกรรมในข้อใดช่วยแก้ไขปัญหาความขดั แยง้ ค. ส่ิงแวดลอ้ ม ง. ฮอรโ์ มนเพศ ก. ใช้กาลงั เมือ่ มคี วามจาเป็น 4.ขอ้ ใดเป็นการเปลยี่ นแปลงทางดา้ นจิตใจและอารมณ์ ในทางท่ดี ี ข. ใช้คาพูดดุดันให้เพ่ือนกลัว ก. ต้องการให้ผูอ้ น่ื ยอมรบั ตนฝา่ ยเดียว ข. เวลาโกรธเพอ่ื นจะใช้เสียงดงั ค. ใช้ความรุนแรงตอบโตเ้ พ่อื น ค. รอ้ งไห้ฟูมฟายเวลาเสยี ใจ ง. ให้อภยั เมอ่ื เพ่ือนทาผิด ง. พูดกับเพื่อนโดยใช้ถ้อยคาสุภาพ 5.ขอ้ ใดคือการเปลีย่ นแปลงพฤติกรรมทางด้านสงั คมทีด่ ี ก. ทางานกลมุ่ ร่วมกบั เพื่อนได้ดี 9. ถา้ นักเรยี นเป็นหัวหน้างานกลมุ่ และมีความคิดเห็นไม่ตรง ข. รบั ประทานอาหารกลางวันทุกวัน กบั เพื่อน ควรปฏบิ ัติอย่างไร ค. เดินกลับบ้านคนเดยี วเป็นประจา ง. เขา้ หอ้ งสมุดในชว่ งเวลาว่างทกุ ครั้ง ก. ทาตามเพือ่ นทเี่ รยี นเกง่ ทส่ี ดุ ในกล่มุ เฉลย 1.ค 2.ก 3.ก 4.ง 5.ก ข. ทาตามเหตผุ ลทดี่ ีของคนในกลุ่ม 6.ค 7.ง 8.ง 9.ข 10.ง ค. ทาตามเพ่ือนที่เราสนิท ง. ทาตามใจตนเอง 10.การกระทาในข้อใดช่วยปอ้ งกนั ปัญหาความขัดแย้งใน ครอบครัว ก. พูดจาโดยใชถ้ ้อยคาที่ไม่สภุ าพ ข. ใช้อารมณ์เปน็ ใหญใ่ นการแกป้ ัญหา ค. ไมย่ อมรบั ฟังความคิดเห็นของผู้อื่น ง. เวลามีปัญหาเกิดขึน้ พูดคยุ กันดว้ ยเหตผุ ล

ขอ้ สอบหลังเรียน (Post test) กลมุ่ สาระการเรียนรู้สขุ ศกึ ษาและพลศึกษา วชิ าสขุ ศกึ ษา ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ ๕ คะแนนเต็ม ๑๐ คะแนน หน่วยการเรียนรทู้ ่ี ๑ เรือ่ งครอบครวั มสี ขุ ตัวช้ีวัด ป.5/1 อธบิ ายการเปล่ียนแปลงทางเพศ และ ตวั ช้วี ดั ป.5/2 อธบิ ายความสาเรจ็ ของการมคี รอบครัวท่ี ปฏิบัติตนได้เหมาะสม อบอ่นุ ตามวัฒนธรรมไทย 1.การกระทาในข้อใดแสดงถึงการวางตวั อย่างเหมาะสม ๖.ครอบครวั ท่ีอบอุน่ มีความสาคญั อยา่ งไร ก. แสดงความสนใจทางเพศมากจนเกินงาม ก. คนในครอบครัวไม่เจ็บป่วย ข. ยอมให้ผูอ้ น่ื จับมอื หรือโอบกอด ข. ครอบครวั มชี อื่ เสยี งในสังคม ค. ให้เกียรตซิ งึ่ กันและกนั ค. สมาชกิ ในครอบครวั มีความสขุ ง. พูดจาใส่ร้ายผอู้ ่ืน ง. ครอบครัวมีรายได้เพ่ิมมากขึน้ 2.ควรปฏบิ ตั ิต่อผทู้ ม่ี คี วามหลากหลายทางเพศอยา่ งไร ๗.นักเรยี นควรปฏบิ ตั ิตนอย่างไรเพ่ือให้มีครอบครัวทอี่ บอุ่น ก. ยอมรบั และเคารพในสง่ิ ทีเ่ ขาเปน็ ก. ดูแลสุขภาพตนเองเป็นประจา ข. กลั่นแกลง้ เม่ือมโี อกาส ข. รบี กลับบ้านหลังเลิกเรียนเพ่ือมาเลน่ เกม ค. ไม่พดู ดว้ ย ไมเ่ ล่นดว้ ย ค. ชว่ ยพ่อแม่ ผู้ปกครองหารายได้ให้ครอบครวั ง. แสดงทา่ ทางรังเกียจ ง. เคารพและเช่ือฟังคาสั่งสอนของผใู้ หญ่ในบา้ น 3.สาเหตุใดทท่ี าใหเ้ ด็กมกี ารเจรญิ เตบิ โตท่แี ตกต่างกันตาม ตวั ชว้ี ดั ป.5/3 ระบพุ ฤตกิ รรมที่พงึ ประสงค์และไม่พงึ ธรรมชาติ ประสงคใ์ นการแกไ้ ขปัญหาความขดั แย้งในครอบครวั และ ก. การรับประทานอาหาร กลุ่มเพอื่ น ข. การออกกาลงั กาย ๘.พฤติกรรมในข้อใดช่วยแก้ไขปญั หาความขดั แย้ง ค. สิง่ แวดล้อม ง. ฮอรโ์ มนเพศ ก. ใช้กาลังเม่ือมคี วามจาเป็น 4.ข้อใดเป็นการเปลีย่ นแปลงทางดา้ นจติ ใจและอารมณ์ ในทางทด่ี ี ข. ใช้คาพูดดุดันใหเ้ พื่อนกลัว ก. ต้องการให้ผู้อนื่ ยอมรบั ตนฝ่ายเดยี ว ข. เวลาโกรธเพ่ือนจะใช้เสยี งดงั ค. ใช้ความรนุ แรงตอบโตเ้ พื่อน ค. รอ้ งไห้ฟมู ฟายเวลาเสยี ใจ ง. ใหอ้ ภยั เมือ่ เพือ่ นทาผิด ง. พดู กบั เพ่ือนโดยใชถ้ ้อยคาสภุ าพ 5.ข้อใดคือการเปลีย่ นแปลงพฤติกรรมทางดา้ นสังคมท่ีดี ก. ทางานกลุ่มรว่ มกบั เพื่อนได้ดี 9. ถา้ นกั เรียนเปน็ หัวหนา้ งานกล่มุ และมีความคิดเห็นไม่ตรง ข. รบั ประทานอาหารกลางวันทุกวนั กบั เพื่อน ควรปฏิบตั อิ ย่างไร ค. เดนิ กลบั บา้ นคนเดียวเป็นประจา ง. เข้าห้องสมุดในช่วงเวลาว่างทกุ คร้ัง ก. ทาตามเพื่อนที่เรยี นเกง่ ท่ีสดุ ในกลมุ่ เฉลย 1.ค 2.ก 3.ก 4.ง 5.ก ข. ทาตามเหตผุ ลท่ดี ขี องคนในกลุ่ม 6.ค 7.ง 8.ง 9.ข 10.ง ค. ทาตามเพ่ือนท่ีเราสนิท ง. ทาตามใจตนเอง 10.การกระทาในข้อใดชว่ ยปอ้ งกนั ปัญหาความขดั แย้งใน ครอบครวั ก. พูดจาโดยใช้ถ้อยคาที่ไม่สุภาพ ข. ใชอ้ ารมณ์เป็นใหญใ่ นการแกป้ ัญหา ค. ไมย่ อมรับฟงั ความคดิ เหน็ ของผู้อนื่ ง. เวลามปี ญั หาเกดิ ข้นึ พูดคุยกันดว้ ยเหตุผล

แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๑ กล่มุ สาระการเรียนรูส้ ขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา วิชาสขุ ศึกษา ช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๕ หน่วยการเรียนรทู้ ี่ ๑ เวลา ๓ ช่ัวโมง เรอ่ื งการเปลยี่ นแปลงทางเพศ ๑. สาระสาคญั เม่อื เจรญิ เติบโตขึน้ จะมีการเปลี่ยนแปลงท้งั ทางดา้ นรา่ งกาย จติ ใจ อารมณ์ และสงั คม ซงึ่ การปรับตวั ที่ เหมาะสมต่อพัฒนาการดา้ นต่าง ๆ จะทาให้ดารงชวี ิตอยใู่ นสงั คมได้อยา่ งมีความสขุ ๒. ตวั ช้ีวัด ป.5/1 อธิบายการเปลีย่ นแปลงทางเพศ และปฏบิ ตั ติ นไดเ้ หมาะสม ๓. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 1.อธิบายการเปลี่ยนแปลงทางเพศด้านรา่ งกาย ด้านจิตใจ อารมณ์ และดา้ นสงั คมไดอ้ ย่างถูกต้อง (K) 2.เขยี นการเปลีย่ นแปลงทางเพศด้านรา่ งกายของเพศชายและเพศหญงิ ได้อยา่ งถกู ต้อง (P) 3.แสดงความกระตอื รือรน้ ย้ิมแยม้ แจม่ ใส ในขณะที่เรยี นและฝึกหัดด้วยความต้งั ใจ (A) ๔. สาระการเรียนรู้ 1.การเปลยี่ นแปลงทางเพศด้านรา่ งกายของเพศชายและเพศหญิง 2.การเปล่ียนแปลงทางเพศด้านอารมณ์ สงั คมของเพศชายและเพศหญงิ 3.การปฏบิ ตั ิตนในการดแู ลรักษาสขุ อนามยั ทางเพศ ๕. สมรรถนะสาคญั ของผู้เรยี น ๑.ความสามารถในการส่ือสาร ๒.ความสามารถในการคิด ๓.ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ิต ๔.ความสามารถในการแก้ปัญหา ๕.ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี ๖. คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 1.ใฝเ่ รียนรู้ 2.มงุ่ มัน่ ในการทางาน 3.รกั ความเปน็ ไทย 4.มีวนิ ยั

๗. กจิ กรรมการเรียนรู้ ขัน้ อนุ่ เครอ่ื ง Warm-up Stage (ช่ัวโมงท่ี ๑) ๑. นักเรียนทาแบบทดสอบก่อนเรยี น หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่๑ ๒. นกั เรียนร่วมกนั สนทนาเกย่ี วกับการเปลยี่ นแปลงทางเพศ โดยตอบคาถาม ดังนี้ -นักเรยี นคิดว่าตนเองมีการเปล่ยี นแปลงทางดา้ นร่างกายจากช้นั ป.4 อย่างไรบา้ ง (นา้ หนักและส่วนสงู เพ่มิ ขึ้นอย่างรวดเร็ว เร่มิ มสี วิ ขึ้นทใี่ บหนา้ เสยี งแตก มีขนข้ึนตามร่างกาย) -มีการเปลี่ยนแปลงทางดา้ นจิตใจ อารมณ์ และสงั คมอย่างไร (มคี วามวติ กกังวล สนใจตนเองมากข้ึน รักสวยรักงาม อารมณอ์ ่อนไหวมากขน้ึ มีความสนใจใน เรือ่ งเพศ ตอ้ งการเปน็ ทีย่ อมรับของกลมุ่ ) ขน้ั เรียนรู้ Learning Stage ๑. นกั เรยี นดวู ีดีโอเรือ่ งการเปลยี่ นแปลงทางเพศดา้ นร่างกายของเพศชายและเพศหญิง ๒.ครอู ธิบายเพ่มิ เตมิ เกย่ี วกบั เพศสภาพและความหลากหลายทางเพศ ๓. นักเรยี นรว่ มกนั อ่านบตั รคาท่ีกาหนดให้ จากนน้ั วเิ คราะหแ์ ละร่วมกนั จาแนกวา่ บัตรคาใด เป็นการเปลย่ี นแปลงทางด้านร่างกายของเพศชายและเพศหญงิ โดยนาบตั รคาไปติดบนกระดานให้ถูกต้อง การเปลย่ี นแปลงทางดา้ นร่างกาย มหี นา้ อก มีขนข้นึ ทีร่ ักแร้ มีฝันเปียก นา้ หนกั และสว่ นสูง เพ่ิมขน้ึ เสียงแหบห้าว มสี ิวขน้ึ ทใ่ี บหนา้ เสยี งเลก็ แหลม มีหนวดเครา มขี นขนึ้ ที่บรเิ วณ อวัยวะเพศ มปี ระจาเดือน สะโพกผายออก ๓. นกั เรยี นร่วมกนั ตรวจสอบความถกู ตอ้ ง และบนั ทึกลงสมดุ (ช่วั โมงท่ี ๒) ๑. นักเรียนร่วมกันอ่านบตั รคาทีก่ าหนดให้ จากนัน้ วเิ คราะหแ์ ละร่วมกันจาแนกว่าบตั รคาใด เป็นการ เปลี่ยนแปลงทางด้านอารมณ์หรอื สังคมของเพศชายและเพศหญงิ โดยนาบัตรคาไปติดบนกระดานให้ถูกต้อง

การเปลย่ี นแปลงทางด้านจิตใจ อารมณ์ และสังคม สนใจในเร่ืองเพศ ชอบอย่ใู นกลุ่มเพอ่ื นมากกวา่ อยกู่ บั ครอบครวั อารมณ์อ่อนไหวง่าย โกรธง่าย หายเรว็ ไมช่ อบถกู เปรียบเทยี บกับใคร ตอ้ งการคาชมเชย เดนิ ซ้อื ของกับเพื่อน แต่งตัวเลียนแบบนกั ร้องที่ชอบ ต้องการใหผ้ ้อู ่ืนยอมรบั ๒. นักเรียนทาแบบสารวจการแสดงออกและพฤตกิ รรมทางด้านจติ ใจ อารมณ์ สังคมของตนเอง เขียน เครื่องหมาย / ลงในช่องว่างที่ตรงตามความเปน็ จริง ๓. นักเรียนเลอื กข้อมลู ในแบบสารวจมา 1 ขอ้ วิเคราะห์สาเหตุ ผลกระทบ และแนวทางแก้ไขบนั ทึก ลงในสมุด (ช่ัวโมงท่ี ๓) ๑. นักเรยี นรว่ มกนั สนทนาเก่ียวกบั การอาบนา้ ก่อนมาโรงเรยี นของนักเรียน โดยตอบคาถาม ดังน้ี -ตอนเชา้ ก่อนมาโรงเรียนนกั เรยี นอาบน้ามาหรือไม่ (อาบ/ไมอ่ าบ) -หลังจากอาบน้านักเรยี นเช็ดตัวให้แห้งก่อนหรือไม่ (เชด็ /ไมเ่ ช็ด) -นกั เรียนคิดวา่ การอาบน้าดีอยา่ งไร (ทาใหร้ ่างกายสะอาด ปราศจากเชื้อโรค ร่างกายสดช่นื กระปรีก้ ระเปรา่ ) 2. นักเรยี นฟงั สถานการณ์ ต่อไปนี้ เช้าวันหนึง่ บนรถประจาทาง มีเดก็ นกั เรียนคนหน่ึงเดินขนึ้ ไปบนรถแต่ ทน่ี ง่ั เตม็ เขาตอ้ งยืนบนรถ เมื่อเวลาผ่านไปสักคร่คู นรอบขา้ งเริ่มเอามอื ปดิ จมูก และเดนิ ถอยหนี จากนั้นรว่ มกันสนทนาโดยตอบคาถาม ดังน้ี -นกั เรียนคดิ วา่ เดก็ คนนเ้ี ป็นอะไร ทาไมคนอื่นจงึ ยืนเอามอื ปดิ จมกู (อาจจะมีกล่ินตวั แรง) -นักเรียนคิดว่า สาเหตุทที่ าให้เดก็ คนนี้มีกล่ินตวั คืออะไร (อาบนา้ ไม่สะอาด ไม่อาบนา้ ) -เหตุการณน์ ี้เกิดผลตอ่ เด็กคนน้แี ละตอ่ ผู้อื่นอย่างไรบา้ ง (ทาใหข้ าดความมน่ั ใจในตนเอง ผอู้ นื่ ไม่อยากอยใู่ กล้ ทาให้เป็นทรี่ ังเกียจของผู้อ่ืน) -นักเรียนจะมวี ธิ ีการดแู ลรักษาสขุ อนามยั ทางเพศอย่างไรบ้าง (อาบนา้ ชาระลา้ งร่างกายให้สะอาด และดูแลรกั ษาของใช้สว่ นตวั อยู่เสมอ ล้างหนา้ ให้สะอาด

ขน้ั ฝกึ Practice Stage ๑. นักเรียนรว่ มกันสรปุ การเปลย่ี นแปลงทางดา้ นร่างกาย และวิเคราะห์เก่ียวกบั การปฏบิ ตั ิตนเมื่อเกิดการ เปลีย่ นแปลงทางดา้ นรา่ งกาย จติ ใจ อารมณ์ และสังคม โดยสรุปเป็นแผนภาพความคิด ขนั้ สรปุ Conclusion Stage ๑. นักเรียนรว่ มกนั สรปุ สิ่งที่เข้าใจเป็นความรรู้ ว่ มกัน ดังนี้ การดูแลรกั ษาสขุ อนามยั ทางเพศท่ีถูกต้องและเหมาะสมกับเพศและวยั ของตนเอง เพ่ือให้มีสุขอนามยั ทางเพศ ที่ดีจะสง่ ผลใหม้ สี ขุ ภาพกายและใจท่ีดีด้วย ขั้นนาไปใช้ Application Stage ๑.นกั เรยี นนาการดูแลรกั ษาสุขอนามยั ทางเพศไปปฏบิ ตั ใิ นชวี ิตประจาวัน ๘. การวดั และประเมนิ ผล วิธีการ เคร่อื งมอื เกณฑ์ ตรวจแบบทดสอบกอ่ นเรยี น แบบทดสอบก่อนเรียน (ประเมนิ ตามสภาพ หน่วยการเรียนรทู้ ี่ ๒ หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ ๒ จรงิ ) แผนผังความคิด แบบประเมินชนิ้ งาน ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ สังเกตพฤติกรรมการทางานรายบุคคล แบบสังเกตพฤติกรรมการทางาน ระดบั คุณภาพ 2 สงั เกตความมวี นิ ัย ใฝเ่ รียนรู้ และมุ่งม่ันใน รายบคุ คล ผ่านเกณฑ์ การทางาน รกั ความเปน็ ไทย แบบประเมินคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ ระดบั คุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ ๙. สื่อ/แหลง่ การเรียนรู้ -วดี โี อเรือ่ งการเปล่ยี นแปลงทางเพศดา้ นรา่ งกายของเพศชายและเพศหญงิ https://www.youtube.com/watch?v=vs4JPXPS3V8 -บตั รคาการเปลยี่ นแปลงทางดา้ นร่างกายของเพศชายและเพศหญงิ -บัตรคาการเปล่ียนแปลงทางดา้ นจิตใจ อารมณ์ และสงั คม -แบบสารวจการแสดงออกและพฤตกิ รรมทางดา้ นจิตใจ อารมณ์ สงั คม

บตั รคาการเปลยี่ นแปลงทางด้านร่างกายของเพศชายและเพศหญิง มหี นา้ อก มีขนขนึ้ ที่รักแร้ เสียงแหบห้าว มีสิวขึน้ ที่ใบหนา้ สะโพกผายออก เสยี งเล็กแหลม มีประจาเดอื น มฝี นั เปยี ก มีหนวดเครา มขี นขน้ึ ทีบ่ ริเวณอวัยวะเพศ น้าหนักและส่วนสูงเพ่ิมขึ้น

บัตรคาการเปลีย่ นแปลงทางด้านจติ ใจ อารมณ์ และสงั คม สนใจในเร่ืองเพศ โกรธง่าย หายเร็ว เดนิ ซ้ือของกบั เพ่อื น อารมณอ์ อ่ นไหวงา่ ย ต้องการคาชมเชย ต้องการให้ผู้อน่ื ยอมรบั ไม่ชอบถูกเปรยี บเทยี บกบั ใคร แต่งตัวเลียนแบบนกั ร้องท่ชี อบ ชอบอยใู่ นกลุ่มเพ่ือนมากกว่าอยกู่ บั ครอบครวั

แบบสารวจการแสดงออกและพฤติกรรมทางด้านจิตใจ อารมณ์ สงั คม คาชแ้ี จง นักเรียนทาแบบสารวจการแสดงออกและพฤติกรรมทางดา้ นจิตใจ อารมณ์ สงั คมของตนเอง เขียน เครอ่ื งหมาย / ลงในช่องว่างที่ตรงตามความเป็นจริง การแสดงออกและพฤติกรรมทางดา้ นจติ ใจ อารมณ์ สังคม การแสดงออก/การปฏิบัติ เป็นประจา บางคร้งั ไมเ่ คย 1. อารมณอ์ ่อนไหวง่าย ๒. ชอบการแขง่ ขนั ๓. ต้องการคาชมเชย ๔. เสยี งดังเม่ือไมพ่ อใจ ๕. ตอ้ งการใหผ้ ู้อน่ื ยอมรบั ๖. ทางานร่วมกับผอู้ ่ืน ๗. ชอบพูดคยุ กบั เพ่ือนต่างเพศ ๘. ชอบเดินซ้อื ของกับเพ่ือน ๙. แต่งตวั เลยี นแบบนักร้องท่ีชอบ ๑๐. ชว่ ยครถู อื ของ

แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี ๒ กล่มุ สาระการเรียนรสู้ ขุ ศึกษาและพลศกึ ษา วชิ าสขุ ศกึ ษา ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี ๕ หน่วยการเรียนรทู้ ี่ ๑ เวลา ๑ ชวั่ โมง เรื่องพฤติกรรมทางเพศและการวางตัวทีเ่ หมาะสม ๑. สาระสาคัญ การแสดงพฤติกรรมและการวางตวั ที่เหมาะสมเป็นสิง่ สาคญั ทีช่ ่วยใหอ้ ยรู่ ว่ มกนั กบั ผู้อนื่ ในสงั คมไทยได้ อย่างมีความสุข ๒. ตวั ชี้วดั ป.5/1 อธบิ ายการเปล่ยี นแปลงทางเพศ และปฏบิ ตั ิตนได้เหมาะสม ๓. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1.อธิบายการวางตัวท่ีเหมาะสมได้อย่างถูกต้อง (K) 2.ปฏิบตั ิตนในการวางตัวท่ีเหมาะสมกบั เพศได้อยา่ งถูกต้อง (P) 3.แสดงความกระตอื รือร้น ยิ้มแยม้ แจ่มใส ในขณะทเ่ี รยี นและฝกึ หัดด้วยความตัง้ ใจ (A) ๔. สาระการเรียนรู้ 1.ความหลากหลายทางเพศ ๒.การวางตวั ที่เหมาะสม 3.พฤตกิ รรมทางเพศ ๕. สมรรถนะสาคัญของผู้เรยี น ๑.ความสามารถในการสื่อสาร ๒.ความสามารถในการคดิ ๓.ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ติ ๔.ความสามารถในการแก้ปัญหา ๕.ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี ๖. คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 1.ใฝเ่ รียนรู้ 2.ม่งุ มน่ั ในการทางาน 3.รักความเป็นไทย 4.มีวนิ ยั ๗. กจิ กรรมการเรียนรู้ ขัน้ อนุ่ เครอื่ ง Warm-up Stage (ชั่วโมงท่ี ๑) ๑. นักเรยี นรว่ มกันสนทนาเกี่ยวกับปญั หาการล่วงละเมดิ ทางเพศ โดยตอบคาถาม ดงั นี้ -นักเรยี นเคยอา่ นข่าวการทาแท้งหรอื ผ้หู ญงิ ถกู ข่มขนื หรือไม่ (เคย) -นกั เรียนคดิ วา่ ขา่ วที่นักเรียนเคยเหน็ หรือเคยอ่านมีสาเหตมุ าจากอะไร (การวางตวั ที่ไม่เหมาะสม ขาดความย้ังคดิ เอาเปรยี บข่มเหงกัน)

-ปญั หาการลว่ งละเมิดทางเพศสามารถเกิดขึน้ ได้กับทุกเพศหรือไม่ (ใช)่ 2. นักเรียนรว่ มกันสนทนาเกยี่ วกับความหลากหลายทางเพศ โดยตอบคาถาม ดังนี้ -นักเรยี นรจู้ ักผ้ทู ม่ี ีความหลากหลายทางเพศท่ีโรงเรียนหรอื ท่บี ้านบ้างหรือไม่ (รู้จกั /ไมร่ ู้จัก) -ถ้ารูจ้ ักนกั เรยี นปฏบิ ตั ิตนอย่างไรกบั ผู้ท่ีมีความหลากหลายทางเพศ (ยอมรบั ในความแตกต่างของบุคคลน้นั และปฏบิ ัติกิจกรรมต่าง ๆ ร่วมกนั อยา่ งปกติ) -นักเรยี นคดิ ทจี่ ะทารา้ ยผทู้ ่ีมคี วามหลากหลายทางเพศหรือไม่ (ไม่) ข้นั เรยี นรู้ Learning Stage ๑. นกั เรยี นร่วมกันอ่านสถานการณ์ตวั อยา่ ง 1-4 จากนัน้ วิเคราะห์เกย่ี วกับพฤตกิ รรมที่เหมาะสม และไมเ่ หมาะสม โดยตอบคาถาม ดังนี้ สถานการณ์ที่ 1 วัยรนุ่ 2 คน กอดกันในที่ลบั ตาคน สถานการณ์ที่ 2 เม่อื พบครูถือของหนกั มารโิ อจ้ ึงเข้าไปชว่ ยครูถือของ สถานการณ์ท่ี 3 ปองศักดิ์รตู้ ัวว่าทาผิดจงึ กล่าวคา “ขอโทษ” สถานการณ์ที่ 4 หญงิ ต้งั ครรภ์ขึ้นรถประจาทางมายนื ข้าง ๆ วชิ ยั วิชัยเหน็ แล้วจงึ แกล้งทาเปน็ นอนหลับ -สถานการณ์ท่ี 1 วัยรุน่ มีพฤติกรรมท่ีเหมาะสมหรือไม่ เพราะเหตใุ ด (ไมเ่ หมาะสม เพราะวา่ การโอบกอดโดยอยู่ด้วยกนั ในท่ลี ับตาคน อาจเปน็ สาเหตุให้เกิดการมี เพศสมั พนั ธ์ โดยไมป่ ้องกันได้) -สถานการณท์ ่ี 2 มาริโอ้มีพฤตกิ รรมทเี่ หมาะสมหรือไม่ เพราะเหตใุ ด (เหมาะสม เพราะว่าการช่วยเหลอื ผอู้ ่นื แสดงถึงความมีน้าใจ เป็นตวั อย่างทีด่ แี ก่บคุ คลอ่ืน) -สถานการณ์ท่ี 3 ปองศักดิ์มีพฤติกรรมท่ีเหมาะสมหรือไม่ เพราะเหตุใด (เหมาะสม เพราะการขอโทษเมื่อทาผดิ จะทาให้ไม่เกิดความรุนแรงในหลาย ๆด้านตามมาได)้ -สถานการณ์ที่ 4 วชิ ัย มพี ฤติกรรมท่เี หมาะสมหรือไม่ เพราะเหตุใด (ไม่เหมาะสม เพราะไม่มีความเสียสละทีจ่ ะลกุ ให้ผู้หญิงตง้ั ครรภ์น่งั ) ๒. นักเรียนร่วมกนั แสดงความคดิ เห็น โดยตอบคาถามกระต้นุ ความคดิ ดงั น้ี -ทกุ คนควรปฏิบตั ิตนอย่างไรจึงจะเหมาะสมกับเพศ (ยอมรับความแตกต่างของแต่ละบุคคล ให้เกียรติซึ่งกนั และกนั ไม่เอาเปรยี บผู้อืน่ ชว่ ยเหลือ ผูอ้ น่ื เท่าท่ีทาได้)

๓. นกั เรียนสังเกตภาพพฤติกรรมต่าง ๆ ร่วมกัน ตัวแทนนักเรียนสุ่มหยิบแถบประโยคพฤติกรรมตา่ ง ๆ คร้ังละ 1 แถบ จากน้ันนาไปติดไว้ใตภ้ าพท่สี ัมพันธก์ ัน จนครบทุกภาพ ดังนี้ ภาพที่ 1 ภาพท่ี 2 ภาพท่ี 3 สวัสดีครับ คุณลุง มนี ้าใจช่วยเหลอื ใช้คาพดู สุภาพ การถกู เน้ือต้องตวั กันของ ซึ่งกนั และกนั ภาพท่ี 5 เพื่อนต่างเพศโดยไม่ยนิ ยอม ภาพที่ 4 ภาพท่ี 6 แต่งกายสุภาพเรียบร้อย แสดงความก้าวร้าว ไหว้เม่อื ผ้ใู หญ่ใหส้ ง่ิ ของ ตอ่ ผ้ใู หญ่ พรอ้ มกลา่ วขอบคุณ จากนั้นนักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็นเก่ียวกบั การวางตวั ทเ่ี หมาะสม โดยตอบคาถาม ดงั นี้ -ภาพใดบา้ งที่แสดงถึงการวางตัวทีเ่ หมาะสม (ภาพท่ี 1, 2, 4, 6) -ภาพใดบา้ งท่ีแสดงถึงการวางตัวที่ไมเ่ หมาะสม (ภาพท่ี 3, 5) ๒. นักเรียนร่วมกันแสดงความคดิ เห็น โดยตอบคาถามกระตนุ้ ความคิด ดังน้ี -การแกล้งผูท้ ี่อ่อนแอกว่าเปน็ การวางตัวท่ีเหมาะสมหรือไม่ อย่างไร (ไม่เหมาะสม เพราะการอยรู่ ว่ มกนั กับผอู้ ่ืนไม่ควรกดข่ีข่มเหงรังแกกัน ควรให้เกียรติซึ่งกันและกันด้วย ความเป็นสภุ าพชน)

ขัน้ ฝึก Practice Stage ๑. นกั เรยี นสรุปการวางตัวท่เี หมาะสมลงในสมดุ ขั้นสรปุ Conclusion Stage ๑. นกั เรยี นร่วมกนั สรุปสง่ิ ที่เข้าใจเปน็ ความร้รู ่วมกัน ดังน้ี การแสดงพฤติกรรมและการวางตัวท่เี หมาะสมเปน็ สิง่ สาคญั ที่ชว่ ยให้อยรู่ ่วมกนั กบั ผู้อ่ืนใน สังคมไทยได้อยา่ งมี ความสุข ขนั้ นาไปใช้ Application Stage ๑.นักเรยี นนาการวางตนทเ่ี หมาะสมไปปฏบิ ัตใิ นชีวิตประจาวนั ๘. การวัดและประเมนิ ผล วธิ ีการ เครื่องมือ เกณฑ์ สังเกตพฤติกรรมการทางานรายบุคคล แบบสงั เกตพฤติกรรมการทางาน ระดบั คุณภาพ 2 รายบุคคล ผา่ นเกณฑ์ สังเกตความมีวนิ ยั ใฝเ่ รยี นรู้ และมุง่ มัน่ ใน แบบประเมินคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ ระดับคุณภาพ 2 การทางาน รักความเปน็ ไทย ผ่านเกณฑ์ ๙. สือ่ /แหล่งการเรียนรู้ -บตั รคาสถานการณ์ -บัตรภาพพฤติกรรมตา่ ง ๆ

บตั รคาสถานการณ์

ภาพท่ี 1 บตั รภาพพฤตกิ รรมต่าง ๆ ภาพท่ี 3 ภาพท่ี 2 สวัสดคี รับ คณุ ลงุ มนี า้ ใจชว่ ยเหลือ ใชค้ าพดู สภุ าพ การถูกเน้ือต้องตวั กนั ของ ซึ่งกนั และกนั ภาพที่ 5 เพ่ือนต่างเพศโดยไม่ยินยอม ภาพที่ 4 ภาพท่ี 6 แตง่ กายสภุ าพเรียบร้อย แสดงความก้าวร้าว ไหว้เม่อื ผู้ใหญ่ให้ส่ิงของ ต่อผใู้ หญ่ พรอ้ มกล่าวขอบคณุ

แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี ๓ กลมุ่ สาระการเรยี นรูส้ ขุ ศึกษาและพลศกึ ษา วชิ าสขุ ศึกษา ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๕ หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ ๑ เวลา ๓ ช่ัวโมง เร่ืองครอบครัวอบอนุ่ ตามวัฒนธรรมไทย ๑. สาระสาคัญ การมีครอบครวั ที่อบอนุ่ ทาใหส้ มาชิกในครอบครัวมคี ุณภาพชวี ิตทีด่ ี มคี วามสมบูรณ์ทางดา้ นร่างกาย และจติ ใจ ๒. ตัวช้วี ัด ป.5/2 อธบิ ายความสาคญั ของการมีครอบครวั ที่อบอุ่นตามวัฒนธรรมไทย ๓. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 1.อธบิ ายเกี่ยวกับความสาคัญและลกั ษณะของครอบครัวที่อบอุ่นได้อยา่ งถูกต้อง (K) 2.เขยี นวิธปี ฏิบตั ิตนเปน็ สมาชิกทดี่ ขี องครอบครวั ได้อย่างถูกตอ้ ง (P) 3.แสดงความกระตือรือรน้ ยมิ้ แยม้ แจม่ ใส ในขณะทเี่ รียนและฝกึ หัดด้วยความตัง้ ใจ (A) ๔. สาระการเรยี นรู้ 1.ครอบครวั ท่ีอบอุ่นตามวฒั นธรรมไทย 2.การปฏิบตั ิตนเป็นสมาชิกท่ีดขี องครอบครัว 3.ประโยชน์ของการมีครอบครัวทีอ่ บอุน่ ตามวฒั นธรรมไทย ๕. สมรรถนะสาคญั ของผูเ้ รยี น ๑.ความสามารถในการส่ือสาร ๒.ความสามารถในการคิด ๓.ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวิต ๔.ความสามารถในการแกป้ ัญหา ๖. คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ 1.ใฝ่เรียนรู้ 2.ม่งุ มั่นในการทางาน 3.รักความเป็นไทย 4.อยอู่ ยา่ งพอเพียง 5.มีวินยั ๗. กิจกรรมการเรยี นรู้ ข้ันอนุ่ เคร่ือง Warm-up Stage (ช่ัวโมงที่ ๑) ๑. นักเรียนรว่ มกันตอบคาถาม ดงั น้ี -ครอบครัวหมายถึงอะไร (บุคคลท่ีอยดู่ ว้ ยกนั ตั้งแต่ ๒ คนขนึ้ ไป มีความสมั พนั ธ์กันทางสายเลือด) ๒. นกั เรยี นรว่ มกนั สารวจสมาชกิ ภายในครอบครัวของตนเองแลว้ สนทนา โดยตอบคาถาม ดงั นี้

-ในครอบครวั ของนักเรียนมีสมาชกิ ท้งั หมดกคี่ น ไดแ้ ก่ใครบ้าง (4 คน คือ พอ่ แม่ พี่ชาย ตนเอง) -ในฐานะท่ีเปน็ สมาชกิ คนหนง่ึ ของครอบครวั นักเรียนมีหนา้ ทีอ่ ยา่ งไร (ช่วยทางานบา้ น) -สมาชิกทกุ คนในครอบครัวของนักเรยี นเคยใช้เวลาวา่ งทากจิ กรรมร่วมกนั หรือไม่และทา กจิ กรรมใดบ้าง (เคย เช่น เล่นเทนนิส ไปเทีย่ วทะเล) -ถา้ สมาชิกทุกคนในครอบครวั อยู่รว่ มกันอยา่ งรักใครป่ รองดอง นกั เรียนจะรู้สกึ อย่างไร (มคี วามสขุ สบายใจ) -ถา้ สมาชิกทุกคนในครอบครวั ทะเลาะเบาะแวง้ กัน นักเรียนจะรู้สึกอย่างไร (ไม่มคี วามสุข ทุกข์ใจ) -นักเรยี นต้องการอยู่ในครอบครัวแบบใด เพราะเหตใุ ด (ครอบครวั ที่รกั ใคร่ปรองดองกัน เพราะอย่แู ล้วมีความสุขทั้งกายและใจ) ข้นั เรยี นรู้ Learning Stage ๑. นักเรียนร่วมกนั แสดงความคดิ เห็นเกี่ยวกบั ครอบครวั ท่ีอบอุน่ โดยตอบคาถาม ดังนี้ -ครอบครัวที่อบอุ่นมีลกั ษณะอย่างไร (สมาชกิ ในครอบครวั ปฏิบตั ิตนตามหน้าท่ีอยา่ งสมบูรณ์ รักใครป่ รองดองกนั ช่วยเหลอื ดแู ล กันและกนั ) -ครอบครวั ควรมบี ทบาทหนา้ ทใี่ นการเตรียมตวั เดก็ เขา้ สู่วยั ร่นุ อยา่ งไร (สร้างเสริมความรู้เกย่ี วกบั การเปล่ยี นแปลงจากวยั เดก็ เข้าสู่วยั รนุ่ และสร้างเสริมทัศนคติ และคา่ นิยมที่ถูกต้องในเร่ืองเพศ)) -ในครอบครวั ที่อบอุ่น พ่อแม่ผู้ปกครองควรปฏบิ ัตติ นอยา่ งไร (รบั ผดิ ชอบในการหารายได้มาเล้ียงครอบครวั ให้การศึกษาแก่ลกู เลี้ยงดูและชว่ ยแกไ้ ข ปัญหาให้แกบ่ ตุ รหลาน) -ในครอบครัวที่อบอนุ่ ลกู ควรปฏิบัตติ นอยา่ งไร (เคารพและเชือ่ ฟงั คาส่งั สอนของพ่อแม่ ช่วยทางานบา้ น ใช้จา่ ยอย่างประหยัด) -ครอบครวั ของนักเรียนเป็นครอบครัวที่อบอุน่ หรือไม่ อย่างไร (เปน็ เพราะทกุ คนในบ้านดูแลชว่ ยเหลอื ซึ่งกันและกนั รกั ใครป่ รองดองและมีความ เป็นประชาธปิ ไตย) -การมคี รอบครัวท่ีอบอนุ่ จะส่งผลตอ่ สมาชกิ ในครอบครวั อย่างไร (สมาชิกในครอบครวั มีความสุข มีอารมณแ์ จ่มใส) ๒. นกั เรียนร่วมกันแสดงความคดิ เห็น โดยตอบคาถามกระตุ้นความคดิ ดงั น้ี -ครอบครัวที่มีฐานะรา่ รวยจะมีความสขุ มากกว่าครอบครวั ทม่ี ีฐานะยากจนใช่หรอื ไม่อยา่ งไร (ไมใ่ ช่ เพราะความสขุ เกิดจากครอบครัวที่อบอุ่น เขา้ อกเขา้ ใจกัน ไม่ไดข้ น้ึ อยู่กบั เงินทอง)

๓. นกั เรียนวาดภาพครอบครัวสุขสันต์ลงในสมุด (ช่วั โมงที่ ๒) ๑. นักเรยี นวิเคราะหส์ ถานการณท์ ่ีกาหนดให้ แล้วตอบคาถาม ดังนี้ สถานการณท์ ี่ 1 เดก็ หญิงปานวาดกาลงั นงั่ ฟังผู้ปกครอง อบรมสง่ั สอนเกีย่ วกับการปฏบิ ัติตนท่ดี ีอย่างเรียบรอ้ ย สถานการณ์ท่ี 2 ผปู้ กครองปล่อยให้เดก็ ชายนาวินกับเดก็ หญงิ นาวติ ารื้อสง่ิ ของโยนเล่นตามสบายโดยไม่ว่ากลา่ วตักเตือน ทาใหบ้ ้านรก -ครอบครวั ในสถานการณ์ท่ี 1 ประกอบดว้ ยใครบ้าง (ผ้ปู กครองและเดก็ หญิงปานวาด) -ครอบครวั ในสถานการณ์ที่ 1 กาลังทาอะไร (ผปู้ กครองกาลงั อบรมส่งั สอนเด็กหญิงปานวาด) -ในขณะที่ผู้ปกครองกาลังอบรมสั่งสอนเดก็ หญิงปานวาดปฏบิ ัตติ นอย่างไร (นงั่ เรียบร้อยและรบั ฟังคาสั่งสอนจากผู้ปกครอง) -เดก็ หญงิ ปานวาดปฏิบตั ติ นไดเ้ หมาะสมหรือไม่ เพราะเหตุใด (เหมาะสม เพราะลกู ทด่ี ีต้องเช่ือฟังคาสง่ั สอนของผู้ปกครอง) -ถา้ สมาชิกในครอบครัวทุกครอบครัวปฏิบัตติ นเหมือนครอบครวั ในสถานการณ์ที่ 1 จะเป็นอยา่ งไร (ครอบครวั อบอนุ่ สมาชิกทุกคนในครอบครัวมคี วามสขุ ) -ครอบครวั ในสถานการณ์ท่ี 2 ประกอบดว้ ยใครบา้ ง (เด็กชายนาวนิ และเด็กหญิงนาวิตา) -ครอบครวั ในสถานการณ์ที่ 2 กาลังทาอะไร (ผ้ปู กครองปลอ่ ยให้เด็กชายนาวนิ และเด็กหญิงนาวิตาร้ือสิง่ ของโยนเลน่ โดยไม่ว่า กลา่ วตกั เตอื น) -ครอบครวั ในสถานการณ์ที่ 2 ปฏิบัติตนไดเ้ หมาะสมหรอื ไม่ เพราะเหตุใด (ไมเ่ หมาะสม เพราะผ้ปู กครองตอ้ งอบรมเล้ียงดลู ูกใหเ้ ป็นคนดี และลกู ควรทาตัวเป็นเดก็ ด)ี -ถา้ สมาชกิ ในครอบครัวทุกครอบครวั ปฏบิ ตั ิตนเหมือนครอบครวั ในสถานการณท์ ี่ 2 จะเปน็ อย่างไร (อาจเปน็ สาเหตุใหส้ มาชิกในครอบครวั ทะเลาะกัน) -นกั เรียนอยากให้ครอบครวั ของตนเองเปน็ เหมือนครอบครัวในสถานการณ์ใด เพราะเหตุใด (สถานการณ์ท่ี 1 เพราะเป็นครอบครัวท่ีอบอุ่น ทุกคนมีความสขุ ) ๒. นกั เรียนเขยี นวิธกี ารสรา้ งสมั พันธภาพในครอบครวั ลงในสมดุ

(ชวั่ โมงที่ ๓) ๑. นกั เรยี นร่วมกันสนทนาเกี่ยวกับการปฏบิ ตั ติ นตามหน้าทีข่ องสมาชกิ ในครอบครัว โดยตอบ คาถาม ดงั นี้ -สมาชกิ ในครอบครัวของนกั เรยี นมกี ่ีคน ใครบ้าง (5 คน มีพ่อแม่ พ่ีสาว น้องชาย ตนเอง) -พอ่ แม่ ผปู้ กครองของนักเรยี นมหี น้าทีอ่ ะไร (หารายได้มาเลย้ี งครอบครวั ปกปอ้ งสมาชกิ ในครอบครัว เลย้ี งดบู ตุ ร ดแู ลบา้ นและ สมาชิกในบ้าน) -พน่ี ้องของนักเรียนมหี นา้ ท่อี ะไร (กวาดบ้าน ล้างจาน) -นกั เรยี นมหี น้าที่อะไร (กรอกนา้ รดนา้ ต้นไม)้ -นักเรียนคดิ วา่ สมาชกิ ในครอบครวั ของตนเองปฏบิ ตั ิหน้าท่ีได้เหมาะสมหรอื ไม่ อยา่ งไร (เหมาะสม เพราะทุกคนทาหนา้ ทข่ี องตนเองไดส้ มบูรณ์ไมม่ ีขอ้ บกพร่องหรือทาให้ผู้อื่น เดือดรอ้ น) ข้ันฝกึ Practice Stage ๑. นักเรยี นสรุปการปฏิบตั ติ นของสมาชิกในครอบครวั ลงในสมุด ขัน้ สรุป Conclusion Stage ๑. นกั เรียนร่วมกันสรปุ สิง่ ที่เข้าใจเปน็ ความรรู้ ว่ มกัน ดังนี้ การปฏบิ ตั ิตนเปน็ สมาชิกของครอบครัวอย่างเหมาะสมจะทาให้สมาชกิ ของครอบครวั มี ความรักใครผ่ ูกพนั กัน และสามารถปรบั ตวั เขา้ กบั ผู้อ่นื และอยใู่ นสงั คมไดอ้ ยา่ งมคี วามสุข ข้ันนาไปใช้ Application Stage ๑.นักเรียนนาวิธีการการปฏบิ ัติตนเป็นสมาชิกของครอบครัวไปปรบั ใช้ในชวี ิตประจาวัน ๘. การวดั และประเมนิ ผล วิธีการ เครื่องมอื เกณฑ์ สังเกตพฤติกรรมการทางานรายบคุ คล แบบสงั เกตพฤติกรรมการทางาน ระดับคุณภาพ 2 สงั เกตความมวี นิ ยั ใฝเ่ รียนรู้ และมุ่งมน่ั ใน รายบคุ คล ผ่านเกณฑ์ การทางาน รักความเป็นไทย อยอู่ ยา่ ง พอเพียง แบบประเมนิ คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ ๙. สื่อ/แหลง่ การเรียนรู้ -หนังสอื เรียนสุขศกึ ษา ป.๕

แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี ๔ กล่มุ สาระการเรยี นรู้สขุ ศกึ ษาและพลศึกษา วชิ าสขุ ศึกษา ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี ๕ หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ ๑ เวลา ๔ ช่ัวโมง เรือ่ งการแกไ้ ขปัญหาความขัดแยง้ ในครอบครัวและกลุ่มเพือ่ น ๑. สาระสาคญั สมาชิกในครอบครัวมีความสาคัญต่อทุกครอบครัว การปฏิบัติตนตามบทบาทหน้าที่ของตนอย่าง ถูกตอ้ งจะไม่ทาใหเ้ กิดความขัดแย้งในครอบครัว ทาใหท้ ุกคนในครอบครวั มคี วามสุข การเล่นหรือการทากิจกรรมร่วมกับเพื่อนอาจทาให้มีความขัดแย้งกันบ้าง ดังน้ัน การฝึกตนเองให้ สามารถแก้ไขปัญหาความขดั แย้ง โดยไมใ่ ช้ความรนุ แรงได้ จะทาให้สามารถอยูร่ ่วมกบั เพ่อื นไดอ้ ย่างมคี วามสุข ๒. ตวั ช้วี ัด ป.5/3 ระบพุ ฤตกิ รรมท่ีพึงประสงค์ และไม่พงึ ประสงคใ์ นการแกไ้ ขปัญหาความขดั แย้งในครอบครวั และกลมุ่ เพ่ือน ๓. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 1.อธบิ ายลักษณะของพฤตกิ รรมทพ่ี ึงประสงค์และพฤติกรรมท่ไี มพ่ ึงประสงค์ได้อยา่ งถูกต้อง (K) 2.แสดงทักษะในการแก้ไขปัญหาความขดั แยง้ ในครอบครวั และกลมุ่ เพื่อนได้อยา่ งถูกตอ้ ง (P) 3.แสดงความกระตอื รือรน้ ย้มิ แย้มแจ่มใส ในขณะที่เรียนและฝกึ หดั ด้วยความตั้งใจ (A) ๔. สาระการเรยี นรู้ 1.ความขัดแย้งในครอบครวั และกล่มุ เพอ่ื น 2.พฤติกรรมทพี่ งึ ประสงค์ใน การแก้ไขปญั หาความขดั แยง้ ในครอบครัวและกลุ่มเพ่ือน 3.พฤติกรรมท่ไี ม่พึงประสงค์ในการแก้ไขปัญหาความขดั แย้งในครอบครัวและกลุ่มเพื่อน ๕. สมรรถนะสาคญั ของผูเ้ รียน ๑.ความสามารถในการสือ่ สาร ๒.ความสามารถในการคิด ๓.ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ิต ๔.ความสามารถในการแกป้ ัญหา ๕.ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี ๖. คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 1.ใฝ่เรียนรู้ 2.มุ่งมัน่ ในการทางาน 3.มวี ินยั

๗. กจิ กรรมการเรียนรู้ ข้ันอ่นุ เครอื่ ง Warm-up Stage (ชั่วโมงที่ ๑) ๑. นกั เรยี นรว่ มกนั สนทนาเกี่ยวกบั ปัญหาและสาเหตุของความรุนแรงในครอบครวั โดยตอบคาถาม ดังน้ี -นักเรียนเคยเห็นเหตุการณ์ความรนุ แรงหรอื ไม่ ที่ไหน (เคยเห็น จากข่าวในโทรทศั น์และหนังสอื พิมพ)์ -นกั เรียนเห็นแลว้ รู้สึกอย่างไร (รู้สึกหดหู่ เสยี ใจ ไม่อยากใหเ้ กดิ ความรนุ แรงข้ึน) -นกั เรียนคิดวา่ ปญั หาความรุนแรงในครอบครวั มีอะไรบา้ ง (การทะเลาะกัน การทาร้ายร่างกายคนในครอบครวั ) -นักเรยี นคิดวา่ จะแกป้ ัญหาโดยไมใ่ ช้ความรุนแรงได้อย่างไรบ้าง (พูดจาดว้ ยเหตผุ ล ไม่ทาร้ายร่างกาย รู้จักการให้อภยั ) -นกั เรียนคิดวา่ มีวธิ ีการป้องกันความรุนแรงได้อย่างไรบา้ ง (ใช้วิธีการสื่อสารท่ีสรา้ งสรรค์และสอ่ื สารทางบวก เพื่อป้องกนั ความรุนแรง) -วธิ ีการส่ือสารทางบวกทาได้อยา่ งไรบ้าง (การสือ่ สารทางวาจาควรพดู อย่างสุภาพ การสื่อสารด้วยท่าทางควรใช้กริ ิยาท่าทางที่สภุ าพ) ข้ันเรียนรู้ Learning Stage ๑. ครอู ธบิ ายเพมิ่ เติมเกย่ี วกับสาเหตุความขัดแย้งในครอบครัว และพฤติกรรมทพี่ งึ ประสงค์ในการ แก้ไขปัญหาความขดั แย้งในครอบครัว ๒. นักเรียนอา่ นบัตรคาสถานการณท์ ่ีกาหนดแล้วตอบคาถามลงในสมดุ สถานการณท์ ่ี 1 พี่ชายแย่งของเลน่ จากน้องชายท่ีกาลงั นั่งเลน่ อยู่ สถานการณ์ท่ี ๒ ขวญั นาสมุดของปูไปฉีกพบั เปน็ รปู ดาว ๓. นกั เรียนอา่ นสถานการณเ์ กย่ี วกับการคบเพื่อน ดังน้ี ภควดกี ับพชั รเี ปน็ เพ่ือนกนั ท้ังสองคนไม่เคยทะเลาะกนั เมื่อมสี ่งิ ของก็ แบ่งกนั ใช้ สนทนากนั ด้วยภาษาทีส่ ภุ าพเสมอ ทาให้ทงั้ สองคนเป็น เพ่อื นรักกนั จากน้นั รว่ มกนั สนทนา โดยตอบคาถาม ดงั นี้ -ภควดกี บั พชั รีมคี วามสัมพนั ธ์ในลักษณะใด (เป็นเพื่อนรกั กัน) -ภควดีกบั พัชรปี ฏิบัติตนต่อกันอยา่ งไร

(ไม่ทะเลาะกนั แบ่งปันสง่ิ ของ และสนทนากนั ด้วยภาษาทสี่ ภุ าพเสมอ) -การปฏบิ ัติตนของภควดีกบั พัชรีเหมาะสมหรือไม่ อย่างไร (เหมาะสม เพราะการปฏิบตั ิตนที่ดีต่อเพื่อนจะทาให้ความสัมพนั ธ์ระหวา่ งเพอื่ นดี) -นกั เรียนมีเพื่อนรกั เหมือนภควดกี บั พชั รีหรอื ไม่ ถา้ มี เพื่อนรักของนกั เรยี นคือใคร (มี โดยเพอ่ื นรักคือ เดก็ หญิงมธุรส) -นักเรยี นและเพือ่ นรักปฏิบตั ิต่อกนั อย่างไร (แบง่ ปันของเล่น ของกิน และของใช้ให้กันเสมอ ไม่พูดจาหยาบคายต่อกนั ) -นักเรียนคิดวา่ จะรักษาสัมพันธภาพทีด่ ีน้ไี ว้ได้อย่างไร (ไม่รังแกเพอ่ื น คอยดูแลและให้ความช่วยเหลอื เพ่ือนเสมอ) ๔. นักเรียนรว่ มกนั สนทนาเก่ียวกับการสร้างสัมพนั ธภาพกับเพื่อน โดยตอบคาถาม ดังน้ี -นักเรียนควรใชค้ าพูดในการสนทนากับเพอื่ นอย่างไร (ใชค้ าพดู ทสี่ ุภาพ) -เวลาเลน่ กบั เพ่อื นนักเรยี นควรปฏบิ ัติตนอยา่ งไร (ไม่เลน่ รนุ แรงหรอื รงั แกเพื่อน) -นักเรยี นเคยให้ความชว่ ยเหลือเพ่ือนหรือไม่ อย่างไร (เคย โดยอธบิ ายบทเรียนที่เพ่ือนไม่เขา้ ใจให้เพ่ือนฟัง) -นกั เรยี นเคยแบง่ ปันส่งิ ของให้เพอ่ื นหรือไม่ อยา่ งไร (เคย โดยการแบ่งขนมใหเ้ พื่อน ให้เพ่ือนยืมอปุ กรณ์การเรยี น) -เมอ่ื เพื่อนไม่สบาย นักเรยี นปฏิบัตติ นต่อเพ่ือนอยา่ งไร (ชว่ ยพยงุ เพื่อนไปห้องพยาบาล) -นกั เรยี นมกี ารปฏิบัติตนเพ่ือสรา้ งสมั พนั ธภาพท่ีดีกับเพือ่ นอย่างไร (ไม่รงั แกเพ่อื น พดู กบั เพื่อนด้วยวาจาทส่ี ภุ าพ ให้ความช่วยเหลือเมื่อเพื่อนไม่สบาย) -เมอื่ นักเรยี นปฏิบตั ิตนตามวธิ ีการสรา้ งสัมพนั ธภาพทีด่ กี บั เพอื่ นแลว้ เกิดผลต่อตนเองอย่างไร (ทาใหม้ สี ุขภาพจติ ดแี ละอยู่รว่ มกับเพอ่ื นอยา่ งมีความสุข) ๓. นักเรียนสรปุ วธิ กี ารสรา้ งสมั พนั ธภาพระหว่างเพ่ือนลงในสมดุ (ชว่ั โมงที่ ๒) ๑. นกั เรยี นดวู ดิ โี อเรือ่ งการสื่อสารมีพลงั มากกว่าที่คิด ๒. ครอู ธิบายเพมิ่ เตมิ เก่ียวกบั การส่ือสารทสี่ รา้ งสรรค์ และร่วมสนทนาโดยตอบคาถาม ดังนี้ -นกั เรียนนาการสอื่ สารท่ีสร้างสรรค์ มาใชใ้ นชีวติ ประจาวันไดอ้ ย่างไร (พดู จาสภุ าพกับเพอ่ื น ไมล่ ้อเลยี นหรือพดู ทาร้ายจติ ใจเพื่อน) ๓. ตวั แทนนักเรยี นพูดการสื่อสารทสี่ ร้างสรรคค์ นละ ๑ ประโยค เพ่ือนๆชว่ ยกนั ตรวจสอบ ความถูกตอ้ ง ขนั้ ฝกึ Practice Stage (ช่ัวโมงที่ ๓-๔) ๑. นักเรียนแบง่ กลมุ่ ๆละเทา่ ๆกนั ออกแบบทานิทานเรือ่ ง “การสื่อสารทส่ี รา้ งสรรค์” ข้นั สรปุ Conclusion Stage ๑. นักเรียนร่วมกนั สรุปสิ่งที่เข้าใจเป็นความรรู้ ว่ มกนั ดังนี้ สมาชกิ ในครอบครัวมีความสาคญั ตอ่ ทกุ ครอบครัว การปฏิบัติตนตามบทบาทหน้าที่ของตน อยา่ งถูกต้องจะไม่ทาให้เกิดความขัดแย้งในครอบครัว ทาให้ทกุ คนในครอบครวั มคี วามสุข

การเล่นหรอื การทากิจกรรมร่วมกบั เพื่อนอาจทาให้มคี วามขัดแย้งกันบ้าง ดงั นั้น การฝึก ตนเองใหส้ ามารถแก้ไขปญั หาความขดั แย้ง โดยไมใ่ ชค้ วามรนุ แรงได้ จะทาให้สามารถอยู่ร่วมกับเพ่ือนได้อย่าง มคี วามสุข ๒. ทดสอบหลงั เรียน หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี ๑ ขนั้ นาไปใช้ Application Stage ๑.นักเรียนนาการสอื่ สารที่สร้างสรรค์ไปปรับใช้ในชวี ติ ประจาวันเพ่อื ลดความขดั แย้งในกลมุ่ เพือ่ น ๘. การวดั และประเมนิ ผล วธิ ีการ เครอื่ งมือ เกณฑ์ ตรวจแบบทดสอบหลงั เรยี น แบบทดสอบหลังเรยี น (ประเมนิ ตามสภาพ หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี ๒ หน่วยการเรยี นรู้ที่ ๒ จริง) นิทานเร่อื ง “การสอื่ สารที่สรา้ งสรรค์” แบบประเมินช้นิ งาน รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายกลุ่ม แบบสงั เกตพฤติกรรมการทางานราย ระดบั คุณภาพ 2 สังเกตความมีวินัย ใฝเ่ รยี นรู้ และมุง่ มั่นใน กลมุ่ ผ่านเกณฑ์ การทางาน แบบประเมนิ คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ ๙. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ -วดิ ีโอเรอื่ งการสอื่ สารมีพลังมากกวา่ ท่ีคิด https://www.isranews.org/isranews-pr-news/80812-news-80812.html

ภาคผนวก

แผนผังความคิด เร่อื งการเปล่ยี นแปลงทางดา้ นร่างกาย

แผนผังความคิด เร่อื งการเปล่ยี นแปลงทางดา้ นร่างกาย

แผนผังความคิด เร่อื งการเปล่ยี นแปลงทางดา้ นร่างกาย

นทิ านเรื่อง “การสื่อสารท่สี ร้างสรรค์”

คะแนนการทดสอบกอ่ นเรยี น-หลังเรยี น หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ 1 ครอบครวั มีสขุ ช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๕/๑ ที่ ชื่อ-สกลุ กอ่ นเรียน หลงั เรยี น 1 ด.ญ. 2 7 2 ด.ช. ธนภัทร ชา่ งทอง 2 8 3 ด.ญ. 3 8 4 ด.ช. เตชติ เพช็ รกลาง 4 8 5 ด.ช. 5 6 6 ด.ช. จรนิ ทรพ์ ร ชัยณรงค์ 5 8 7 ด.ช. 3 7 8 ด.ญ. ศรันภทั ร ศรศรี 4 7 9 ด.ช. 4 8 10 ด.ญ. เขง่ ควัน 1 6 11 ด.ช. 4 8 12 ด.ช. นรินทร สิทธโิ อฬารสกุล 5 9 13 ด.ช. 5 9 14 ด.ช. พรี ภาส ขวัญสขุ 2 7 15 ด.ช. 2 7 อมลวรรณ เชยี งอนิ ทร์ 8 16 ด.ญ. 4 ศิลา ยุพานชิ ย์ 6 17 ด.ญ. 2 พรรณภิ า บตุ รเทศ 8 18 ด.ช. 4 รัตนพล สีจันทร์ 7 19 ด.ช. 3 ธนพัฒน์ คันสินธ์ 7 20 ด.ญ. 4 อภชิ น นิเวชกุล 7 21 ด.ช. พศั ธนัญญ์ชยั ชยั พรปภารัต 4 7 22 ด.ช. ทนิ กร เตรียมทะนะ 5 9 23 ด.ญ. ปลิมล กลนิ่ หอม 4 8 24 ด.ญ. จริ ชยา ชาตอิ าไพ 2 8 25 ด.ช ศภุ ชัย ชนวน 3 9 5 6 26 ด.ญ. กติ ตภิ ูมิ แสงสด 3 7 27 ด.ช. 3 28 ด.ญ. ณฐภทั ร ไชยเสนา ธนดล มง่ิ ขวญั ภัทรชยั ษารกั ธญั รดา พิกลุ เจรญิ ศรี ประทานกุล สันติ แกว้ จนี นชุ ธชิ า สายน้อย วสันต์ โชครัศมี ณฐั ณชิ า สวุ รรณโน


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook