Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore วารสารวิชาการ ป.ป.ช. ปีที่ 8 ฉบับที่ 1

วารสารวิชาการ ป.ป.ช. ปีที่ 8 ฉบับที่ 1

Published by sakdinan.lata, 2021-09-15 05:36:48

Description: วารสารวิชาการ ป.ป.ช. ปีที่ 8 ฉบับที่ 1

Search

Read the Text Version

94 วารสารวชิ าการ ป.ป.ช. กล่องข้อความ 7 กรณีทุจริตเรียกรับเงินจากสองสามีภริยานักธุรกิจชาวอเมริกัน เพื่อช่วยเหลือให้ได้สิทธิจัดงานเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติกรุงเทพฯ และสัญญาวา่ จ้างอื่น ๆ รวมมลู คา่ กวา่ 10 ล้าน USD ผวู้ า่ การการทอ่ งเทยี่ วแหง่ ประเทศไทยกระทำ� การทจุ รติ ตอ่ หนา้ ทเี่ กยี่ วกบั การจดั งานเทศกาล ภาพยนตร์นานาชาติ กรุงเทพฯ (The Bangkok International Film Festival –บเี คเค ไอเอฟเอฟ) ระหว่างปี พ.ศ. 2545 – 2549 โดยเรียกรบั เงนิ สินบนจากสองสามภี ริยาชาวอเมริกัน เพอ่ื แลกกบั การ ได้รับสัญญาจ้างและสัญญาจ้างช่วงท่ีมีผลตอบแทนสูง เพื่อประโยชน์ของธุรกิจของบุคคลท้ังสอง ซ่ึงภายหลังจากที่สองสามีภริยาชาวอเมริกันได้รับเงินจากการท�ำสัญญาว่าจ้างกับการท่องเท่ียว แหง่ ประเทศไทยแลว้ จะจา่ ยใหก้ บั ผวู้ า่ การการทอ่ งเทย่ี วเปน็ แคชเชยี รเ์ ชค็ หรอื การโอนเงนิ ระหวา่ งประเทศ จากบัญชใี ดบญั ชีหนึ่งจากธรุ กิจของตนในลอสแองเจลสิ ไปยงั บญั ชีในนามของบตุ รสาว หรือเพือ่ นของ ผู้ว่าการการท่องเที่ยว ในธนาคารที่อังกฤษ สิงคโปร์ ไอยล์ออฟเจอร์ซีย์ ซ่ึงผู้ว่าการการท่องเที่ยว บุตรสาว และเพ่ือนได้โอนเงินบางส่วนไปยังบัญชีที่ถือในนามบุตรสาวในต่างประเทศ ในบางครั้ง สองสามภี รยิ าไดจ้ า่ ยเปน็ เงนิ สดใหผ้ วู้ า่ การการทอ่ งเทยี่ วโดยตรง รวมทง้ั ในระหวา่ งทเ่ี ดนิ ทางไปลอสแองเจลสิ แคลิฟอร์เนีย นอกจากน้ี ภายหลังจากที่พ้นจากต�ำแหน่งผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เมอ่ื ประมาณเดอื นกนั ยายน 2549 และไดร้ บั แตง่ ตงั้ เปน็ ทป่ี รกึ ษาการทอ่ งเทย่ี วแหง่ ประเทศไทย (ททท.) ก็ไดใ้ ห้การชว่ ยเหลือสองสามีภริยาอยา่ งตอ่ เน่อื ง ในการได้รับและคงไวซ้ ่งึ ธรุ กิจกบั ททท. รวมท้ังได้รับ เงินคงค้างที่ถึงก�ำหนดจ่าย ทั้งน้ี ปรากฏพยานหลักฐานว่า มีการฝากเงินเข้าบัญชีเงินฝากของบุตรสาว จ�ำนวนหลายครงั้ ต้ังแตเ่ ดือนพฤศจกิ ายน 2545 – มกราคม 2549 เป็นเงนิ จ�ำนวน 348,500 USD จากพฤติการณ์ท่ีบุตรสาวของผู้ว่าการการท่องเที่ยว ร่วมรู้เห็นในการกระท�ำการทุจริตต่อ หน้าท่ีของผู้ว่าการการท่องเท่ียวดังกล่าวข้างต้น และยังมีพฤติการณ์เปิดบัญชีเงินฝากเพื่อให้มีการส่ง เงนิ สนิ บนผา่ นบญั ชเี พอื่ ประโยชนข์ องผวู้ า่ การการทอ่ งเทยี่ วโดยทจุ รติ จงึ ฟงั ไดว้ า่ บตุ รสาวมพี ฤตกิ ารณ์ รูเ้ หน็ เปน็ ใจในการกระท�ำการทุจรติ ต่อหน้าทีข่ ้างต้นด้วย คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้พจิ ารณาขอ้ เทจ็ จรงิ จากการไต่สวนแล้วมมี ตดิ งั นี้ กรณกี ารกระทำ� ของผวู้ า่ การการทอ่ งเทย่ี ว มมี ลู ความผดิ ทางอาญา ฐานเปน็ พนกั งานเรยี กรบั หรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดส�ำหรับตนเองหรือผู้อ่ืนโดยมิชอบเพื่อกระท�ำการหรือ ไมก่ ระทำ� การอยา่ งใดในหน้าท่ีไม่วา่ การน้ันจะชอบหรอื มิชอบดว้ ยหนา้ ที่ ฐานเปน็ พนักงานปฏบิ ตั หิ รือ ละเว้นการปฏิบัติหน้าท่ีโดยมิชอบ เพ่ือให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หน่ึงผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการ ปฏบิ ตั หิ นา้ ทโ่ี ดยทจุ รติ ตามพระราชบญั ญตั วิ า่ ดว้ ยความผดิ ของพนกั งานในองคก์ ารหรอื หนว่ ยงานของรฐั พ.ศ. 2502 มาตรา 6 และมาตรา 11 และฐานเป็นเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานของรัฐกระท�ำการใด ๆ โดยมุ่งหมายมิให้มีการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม เพื่อเอ้ืออ�ำนวยแก่ผู้เข้าท�ำการเสนอราคารายใด ใหเ้ ปน็ ผมู้ สี ทิ ธทิ ำ� สญั ญากบั หนว่ ยงานของรฐั ตามพระราชบญั ญตั วิ า่ ดว้ ยความผดิ เกยี่ วกบั การเสนอราคา

ปีที่ 8 ฉบบั ที่ 1 (มกราคม 2558) 95 ต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 มาตรา 12 และการกระท�ำของบุตรสาวผู้ว่าการการท่องเท่ียว มีมูลเป็นความผดิ ทางอาญา ในฐานะเปน็ ผสู้ นบั สนนุ การกระท�ำความผดิ ดังกลา่ ว คณะกรรมการ ป.ป.ช. ไดส้ ง่ รายงาน เอกสาร และความเห็นไปยงั อยั การสงู สดุ ต่อมา ไดม้ กี าร แต่งตงั้ คณะทำ� งานร่วมระหว่างคณะกรรมการ ป.ป.ช. และอยั การสูงสดุ เพือ่ ด�ำเนนิ การรวบรวมพยาน หลกั ฐานใหส้ มบรู ณเ์ พอื่ ฟอ้ งคดี และขณะเดยี วกนั ไดป้ ระสานขอความรว่ มมอื กบั ประเทศสหรฐั อเมรกิ า เพอื่ ขอความรว่ มมอื ตามพระราชบญั ญัตคิ วามร่วมมอื ระหวา่ งประเทศในเรอื่ งทางอาญา พ.ศ. 2535 ข้อเสนอแนะ เพื่อให้ผู้กระท�ำความผิดได้ถูกด�ำเนินคดี กฎหมาย ป.ป.ช. ใหอ้ ำ� นาจแกค่ ณะกรรมการ โดยรวดเร็วเพ่ือเพ่ิมต้นทุนของการทุจริต เม่ือ ป.ป.ช. ที่สามารถฟ้องคดีเองได้ แต่มีเง่ือนไข คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีอ�ำนาจฟ้องคดีเองโดยตัด ท่ีต้องส่งเร่ืองให้อัยการสูงสุดเพ่ือด�ำเนินคดี ขน้ั ตอนของอยั การสงู สดุ หรอื กรรมการ ป.ป.ช. สง่ เรอื่ งให้ ในศาลก่อน หากอัยการสูงสุดเห็นว่ายังมี อยั การสงู สดุ อยั การสงู สดุ ควรนำ� คดฟี อ้ งสศู่ าลโดยเรว็ ข้อไม่สมบูรณ์ในรายงานการไต่สวนข้อเท็จจริงของ โดยก�ำหนดระยะเวลาให้ชัดเจน หากพ้นก�ำหนด คณะกรรมการ ป.ป.ช. กฎหมายก�ำหนดให้ต้องตั้ง ระยะเวลาใหค้ ณะกรรมการ ป.ป.ช. ใชอ้ ำ� นาจในการ คณะทำ� งานรว่ มระหวา่ งอยั การสงู สดุ และสำ� นกั งาน ฟ้องคดีได้เองโดยยกเลิกการตั้งคณะท�ำงานร่วม ป.ป.ช. ซึ่งต้องใช้ระยะเวลาในกระบวนการด�ำเนินคดี ด้วยเหตุผลด้านประสิทธิภาพและความคุ้มค่า และหากคณะท�ำงานยังหาข้อยุติในรายงาน ในการป้องกันและปราบปราบการทุจริต เพราะ การไตส่ วนขอ้ เทจ็ จรงิ ไมไ่ ด้ คณะกรรมการ ป.ป.ช. จงึ จะ คณะกรรมการ ป.ป.ช. และศาลใช้ระบบไต่สวน มีอ�ำนาจฟ้องคดีเอง ระยะเวลาที่อัยการสูงสุด เช่นเดียวกัน การแสวงหาข้อเท็จจริงและรวบรวม ดำ� เนนิ การฟอ้ งคดีโดยเฉลี่ย 398 วนั ถงึ 1,359 วัน พยานหลักฐานของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ก็ดี หรือ และเรอื่ งทค่ี ณะกรรมการ ป.ป.ช. สง่ ใหอ้ ยั การสงู สดุ การดำ� เนนิ กระบวนพจิ ารณาในศาลกด็ ี ศาลยดึ รายงาน ตงั้ แตป่ ี 2549 ถงึ 2557 จำ� นวน 547 เรอื่ ง อยั การสงู สดุ การไต่สวนข้อเท็จจริงของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ด�ำเนินการฟ้อง 189 เรื่อง อีก 358 เรื่องยังอยู่ เป็นหลักและสามารถไต่สวนข้อเท็จจริงเพิ่มเติมได้ ระหว่างด�ำเนินการในชั้นอัยการสูงสุด เท่ากับ และเพ่ือเพ่ิมประสิทธิภาพในการลงโทษผู้กระท�ำ เป็นการเพ่ิมต้นทุนของระยะเวลาในการฟ้องคดี การทจุ รติ ใหร้ วดเรว็ ยงิ่ ขน้ึ ควรจดั ตงั้ ศาลพเิ ศษเฉพาะ ขณะเดียวกันเม่ือผู้กระท�ำความผิดยังไม่ถูกด�ำเนินคดี คดีทจุ รติ หรือการด�ำเนินคดีท่ีล่าช้า ท�ำให้โอกาสท่ีผู้กระท�ำ ความผดิ จะถกู จบั กมุ ถกู ลงโทษลา่ ชา้ ออกไปเทา่ กบั 7. การให้ความคุ้มครองบุคคลและการกัน เปน็ การลดตน้ ทนุ ทเี่ กดิ จากการทจุ รติ และเพม่ิ แรงจงู ใจ บคุ คลเปน็ พยาน ที่จะกระท�ำความผิด ส่งผลต่อประสิทธิภาพในการ การคุ้มครองบุคคล หมายถึง การจัดให้มี ป้องกนั และปราบปรามการทุจรติ การคุ้มครองช่วยเหลือแก่ผู้กล่าวหา ผู้เสียหาย

96 วารสารวชิ าการ ป.ป.ช. ผู้ท�ำค�ำร้อง ผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษ ผู้ให้ถ้อยค�ำ ข้อเท็จจริงไม่กล้าให้ความร่วมมือ จึงไม่สามารถ หรอื ผทู้ แี่ จง้ เบาะแสหรอื ขอ้ มลู ใดเกย่ี วกบั การทจุ รติ ด�ำเนินคดีกับผู้กระท�ำความผิดได้ กฎหมายจึง ต่อหน้าท่ี ร�่ำรวยผิดปกติ หรือข้อมูลอ่ืนใดอันเป็น ก�ำหนดให้มีมาตรการคุ้มครองพยานและยังขยาย ประโยชนต์ อ่ การปฏิบัติหน้าทขี่ องคณะกรรมการ ป.ป.ช. ความคุ้มครองในกรณีท่ีเกิดความเสียหายแก่ชีวิต ส�ำหรับการกันบุคคลเป็นพยาน จะมี ร่างกายอนามยั ชอ่ื เสยี ง ทรัพย์สนิ หรอื สิทธอิ ยา่ งหนึง่ ความหมายแตกต่างกัน เพราะบุคคลที่จะกันเป็น อย่างใดของสามีภริยา ผู้บุพการี ผู้สืบสันดาน พยาน เปน็ บคุ คลหรอื ผถู้ กู กลา่ วหาทม่ี สี ว่ นเกยี่ วขอ้ ง หรอื บคุ คลอนื่ ทมี่ คี วามสมั พนั ธใ์ กลช้ ดิ กบั ผใู้ หถ้ อ้ ยคำ� ในการกระท�ำความผิดร่วมกับเจ้าหน้าที่ของรัฐ ผู้แจ้งเบาะแสหรือข้อมูลต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ซงึ่ เปน็ ผถู้ กู กลา่ วหารายอน่ื แตบ่ คุ คลดงั กลา่ วนต้ี อ้ ง และในกรณีที่ผู้ให้ข้อมูลดังกล่าวเป็นเจ้าหน้าท่ีของรัฐ ใหถ้ อ้ ยคำ� หรอื แจง้ เบาะแส หรอื ขอ้ มลู ทสี่ ำ� คญั ในการ อาจถกู กลน่ั แกลง้ หรอื ไดร้ บั การปฏบิ ตั โิ ดยไมเ่ ปน็ ธรรม ท่ีจะใช้เป็นพยานหลักฐานเพ่ือวินิจฉัยช้ีมูลความผิด คณะกรรมการ ป.ป.ช. จะดำ� เนนิ การเสนอนายกรฐั มนตรี เจ้าหน้าทข่ี องรัฐผถู้ กู กล่าวหารายอ่นื ได้ เพอ่ื สง่ั การให้ได้รบั ความคุ้มครอง 1) การใหค้ วามคุม้ ครองบคุ คล สำ� หรบั หลกั เกณฑ์ วธิ กี าร และเงอื่ นไขเกยี่ วกบั ในการปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการ การคมุ้ ครองชว่ ยเหลอื พยานมดี งั นี้ ป.ป.ช. ในคดเี กยี่ วกบั การทจุ รติ ตอ่ หนา้ ท่ี การรำ�่ รวย เมื่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติให้มี ผิดปกติ และการตรวจสอบทรัพย์สิน จ�ำเป็นต้อง มาตรการคมุ้ ครองชว่ ยเหลอื พยาน สำ� นกั งาน ป.ป.ช. อาศัยพยานหลักฐานเพื่อทราบข้อเท็จจริงของเรื่อง มีหน้าที่แจ้งให้ส�ำนักงานคุ้มครองพยาน ทีเ่ กิดขนึ้ ซง่ึ นอกจากพยานเอกสาร พยานวัตถุแล้ว กรมคมุ้ ครองสทิ ธแิ ละเสรภี าพ หรอื สำ� นกั งานตำ� รวจ กย็ งั มพี ยานบคุ คลทเี่ ปน็ ผทู้ ราบหรอื รเู้ หน็ เหตกุ ารณ์ แห่งชาติ หรือหนว่ ยงานท่ีเกี่ยวขอ้ ง เพื่อดำ� เนินการ ในเรอื่ งทมี่ กี ารกลา่ วหาทจี่ ะเปน็ ผใู้ หข้ อ้ เทจ็ จรงิ หรอื ให้มีมาตรการในการคุ้มครองช่วยเหลือพยาน ทั้งน้ี ยนื ยนั การกระทำ� ความผดิ ตา่ ง ๆ ได้ ไดแ้ ก่ ผเู้ สยี หาย การประสานการปฏิบัติงานด้านการคุ้มครอง ผู้ท�ำค�ำร้อง ผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษ ผู้ให้ถ้อยค�ำ ชว่ ยเหลอื พยานนนั้ เปน็ ไปตามขอ้ ตกลงรว่ มกนั ระหวา่ ง ผู้ที่แจ้งเบาะแสหรือข้อมูลใดเก่ียวกับการทุจริตต่อ สำ� นกั งาน ป.ป.ช. และหนว่ ยงานนน้ั พรอ้ มกบั แตง่ ตง้ั หนา้ ท่ี รำ่� รวยผดิ ปกตหิ รอื ขอ้ มลู อน่ื อนั เปน็ ประโยชน์ เจ้าหน้าที่ประสานงานและติดตามผลด้านการ ต่อการด�ำเนินการตามกฎหมายน้ี บุคคลดังกล่าวมี คุ้มครองชว่ ยเหลือพยานกบั หนว่ ยงานนั้นดว้ ย หรือ ความเสี่ยงสูงท่ีจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หากคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติไม่ให้มีมาตรการ อนามยั ชอ่ื เสยี ง และทรพั ยส์ นิ หากใหข้ อ้ มลู ขอ้ เทจ็ จรงิ คุ้มครองช่วยเหลือพยาน ผลทางกฎหมาย คือ ท่ีจะท�ำให้ผู้กระท�ำความผิดต้องถูกตรวจสอบ ผู้ร้องขอสามารถยื่นค�ำร้องขอคุ้มครองช่วยเหลือ ถูกจับกุมและถูกลงโทษอันเป็นการเพิ่มต้นทุนของ พยานใหมไ่ ด้ ทง้ั นี้ ในกรณจี ำ� เปน็ เรง่ ดว่ น จำ� เปน็ ตอ้ ง การทุจริตซ่ึงก็มีหลายคดีที่พยานบุคคลถูกข่มขู่ จัดให้มีมาตรการคุ้มครองช่วยเหลือบุคคลผู้ร้องขอ ถูกท�ำร้าย ถูกกล่ันแกล้ง หรือได้รับการปฏิบัติ ก่อนน�ำเสนอคณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณา ไมเ่ ปน็ ธรรม รวมถงึ อนั ตรายตอ่ ชวี ติ ทำ� ใหผ้ ใู้ หข้ อ้ มลู ส�ำนักงาน ป.ป.ช. หรือส�ำนักงาน ป.ป.ช. ประจ�ำ

ปที ี่ 8 ฉบับท่ี 1 (มกราคม 2558) 97 จังหวัด สามารถจัดให้มีการคุ้มครองพยานเป็น ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับทรัพย์สินหรือหนี้สินของ การช่ัวคราวได้ตามท่ีเห็นสมควร โดยเลขาธิการ ผู้ถูกกล่าวหาหรือผู้ถูกตรวจสอบ รวมท้ังตัวการ คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีหน้าที่รายงานเหตุผล ผู้ใช้หรือผู้สนับสนุนในกรณีที่มีการกล่าวหาเจ้าหน้าท่ี ความจำ� เปน็ ตอ่ คณะกรรมการ ป.ป.ช. เพอ่ื ใหม้ มี ตโิ ดยเรว็ ของรัฐร่�ำรวยผิดปกติหรือการตรวจสอบความ และน�ำวิธีการตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครอง เปล่ียนแปลงของทรัพย์สินหรือหนี้สินของผู้ด�ำรง พยานในคดีอาญามาใช้บังคับโดยอนุโลม เช่น ตำ� แหน่งทางการเมือง การอารกั ขา หรือจัดให้อยใู่ นที่ปลอดภัย โดยมเี งอ่ื นไขวา่ การชชี้ อ่ ง แจง้ เบาะแส หรอื ผู้ร้องขอสามารถร้องขอได้ท่ีส�ำนักงาน ให้ข้อมูลหรือข้อเท็จจริงต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ป.ป.ช. หรือส�ำนักงาน ป.ป.ช. ประจ�ำจังหวัดก็ได้ เป็นผลให้ทรัพย์สินที่ร่�ำรวยผิดปกติหรือทรัพย์สินท่ี อยา่ งไรกต็ าม หากไม่มีการร้องขอโดยบุคคลขา้ งต้น เพ่ิมข้ึนผิดปกติน้ันตกเป็นของแผ่นดินโดย ส�ำนักงาน ป.ป.ช. สามารถด�ำเนินการคุ้มครอง ค�ำพิพากษาหรือค�ำสั่งถึงท่ีสุดของศาล และน�ำส่ง ช่วยเหลือได้ แม้ว่าพยานไม่ได้ร้องขอโดยเป็นดุลพินิจ กระทรวงการคลงั แลว้ และไดร้ บั ความเหน็ ชอบจาก ของส�ำนักงาน ป.ป.ช. เมื่อพิจารณาแล้วเห็นว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช. และตอ้ งไมเ่ ปน็ ผมู้ สี ทิ ธไิ ดร้ บั สมควรให้ได้รับความคุ้มครอง โดยเลขาธิการฯ เงนิ สนิ บน หรอื เงนิ อนื่ ใด ทส่ี ว่ นราชการอนื่ มอี ำ� นาจ มี ห น ้ า ท่ี ร า ย ง า น เ ห ตุ ผ ล ค ว า ม จ� ำ เ ป ็ น ต ่ อ จ่ายให้ได้ตามกฎหมาย และเป็นการจ่ายเงินใน คณะกรรมการ ป.ป.ช. เพ่ือใหม้ มี ตโิ ดยเรว็ ลกั ษณะเดยี วกบั ระเบยี บขา้ งตน้ นี้ รวมถงึ ตอ้ งไมเ่ ปน็ นอกจากนนั้ คณะกรรมการ ป.ป.ช. ไดอ้ อก ประธานกรรมการ กรรมการ อนกุ รรมการ พนกั งาน ระเบียบในการจัดให้มีรางวัลตอบแทนหรือ เจา้ หนา้ ที่ หรอื บคุ คลทม่ี อี ำ� นาจหรอื หนา้ ทเี่ กย่ี วขอ้ ง ประโยชน์อื่นใดส�ำหรับบุคคลที่ไม่ได้เป็นเจ้าหน้าที่ กับการไตส่ วนข้อเท็จจริง หรือแมแ้ ต่การตรวจสอบ ของรัฐ แต่เป็นผู้กล่าวหาหรือบุคคลที่ชี้ช่อง ความเปลย่ี นแปลงของทรพั ยส์ นิ หรอื หนสี้ นิ หรอื อกี นยั แจ้งเบาะแส หรือให้ข้อมูลหรือข้อเท็จจริงเก่ียวกับ คือ เจ้าหน้าท่ีผู้มีหน้าที่ปฏิบัติงานโดยตรงไม่มีสิทธิ การทุจริต ส่วนกรณีเจ้าหน้าท่ีของรัฐซ่ึงเป็น รบั เงินสินบน ผู้ให้ถ้อยค�ำ หรือแจ้งเบาะแสหรือข้อมูลอันเป็น กรณีมีผู้ชี้ช่อง แจ้งเบาะแส หรือให้ข้อมูล ประโยชน์ต่อการป้องกันและปราบปรามการทุจริต หรือข้อเท็จจริงหลายราย กฎหมายให้ดุลยพินิจ สมควรได้รับยกย่องให้เป็นแบบอย่างแก่เจ้าหน้าท่ี คณะกรรมการพจิ ารณาเงนิ สนิ บนพจิ ารณาจา่ ยเงนิ สนิ บน ของรัฐและประชาชนโดยทั่วไป ให้คณะกรรมการ ตามท่เี หน็ สมควร ทงั้ นี้ หากผู้มสี ทิ ธิไดร้ บั เงินสนิ บน ป.ป.ช. ด�ำเนินการเสนอคณะรฐั มนตรีเพ่อื พิจารณา ถงึ แกค่ วามตาย ทายาทโดยธรรมหรอื ผจู้ ดั การมรดก เลอื่ นขน้ั เงนิ เดอื น และระดบั ตำ� แหนง่ เปน็ กรณพี เิ ศษ ของผู้มีสิทธิดังกล่าวเป็นผู้ยื่นค�ำขอรับเงิน ส�ำหรับบุคคลท่ีเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ รวมถึงการ สินบนแทน ก�ำหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการจ่ายเงินสินบน แมจ้ ะเป็นผมู้ ีสิทธิไดร้ ับเงนิ สินบนแลว้ แต่ ส�ำหรับผู้ชี้ช่อง แจ้งเบาะแสหรือให้ข้อมูลหรือ กฎหมายก็กำ� หนดใหจ้ า่ ยเงนิ สินบนได้ ต่อเมอ่ื กรณี

98 วารสารวชิ าการ ป.ป.ช. บังคับเอากับทรัพย์สินที่เกิดจากการร่�ำรวยผิดปกติ กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกัน หรอื ทีเ่ พม่ิ ขึน้ ผิดปกติ หรอื ทรัพยส์ ินอน่ื ของผู้ถูกกล่าวหา และปราบปรามการทจุ รติ ดังนี้ อันเป็นผลมาจากศาลมีค�ำพิพากษาหรือค�ำส่ัง (1) รู้เห็นเหตุการณ์ และมีส่วนเก่ียวข้อง ถึงท่ีสุดให้ตกเป็นของแผ่นดิน โดยจ่ายในอัตรา หรือมีส่วนร่วมในการกระท�ำผิดกับเจ้าหน้าที่ ไม่ว่า ร้อยละสิบของ “มูลค่าทรัพยส์ ิน” ท่ีน�ำสง่ กระทรวง จะอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริง หรือ การคลังแต่ไม่เกิน 10 ล้านบาท ส่วนการค�ำนวณ ระหว่างการด�ำเนินการแสวงหาข้อเท็จจริงและ “มูลค่าทรัพย์สิน” กรณีอสังหาริมทรัพย์หรือ รวบรวมพยานหลักฐานก่อนการไต่สวนข้อเท็จจริง ทรพั ยส์ นิ ทมี่ ใิ ชเ่ งนิ ฝากหรอื เงนิ สด กฎหมายกำ� หนด หรือระหวา่ งการไตส่ วนขอ้ เทจ็ จริง ให้จ่ายโดยค�ำนวณตามมูลค่าทรัพย์สินท่ีน�ำส่ง (2) ให้ถ้อยค�ำอันเป็นประโยชน์ต่อ กระทรวงการคลังอันเป็นผลมาจากศาลมี การตรวจสอบข้อเท็จจริง การแสวงหาข้อเท็จจริง คำ� พพิ ากษาหรอื คำ� สงั่ ถงึ ทสี่ ดุ ใหต้ กเปน็ ของแผน่ ดนิ และรวบรวมพยานหลกั ฐาน และการไตส่ วนขอ้ เทจ็ จรงิ 2) การกันบุคคลเป็นพยาน หรือเป็นผู้ให้ถ้อยค�ำ หรือแจ้งเบาะแสหรือข้อมูล การกันบุคคลเป็นพยานเป็นมาตรการเพ่ือ อนั เปน็ สาระสำ� คญั จนสามารถใชเ้ ปน็ “พยานหลกั ฐาน” ส่งเสริมการปราบปรามการทุจริตให้ได้ผลดียิ่งขึ้น ในการวินิจฉัยชี้มูลการกระท�ำผิดของเจ้าหน้าท่ีของรัฐ โดยกฎหมายก�ำหนดให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. อื่นที่เป็นตวั การส�ำคัญ มอี ำ� นาจใชด้ ลุ ยพนิ จิ กนั บคุ คลหรอื ผถู้ กู กลา่ วหารายใด (3) เตม็ ใจที่จะใหถ้ ้อยค�ำ หรอื แจ้งเบาะแส ซึ่งมีส่วนเก่ียวข้องในการกระท�ำความผิดกับ หรือข้อมลู และรบั รองว่าจะไปเบิกความเป็นพยาน เจ้าหน้าท่ีของรัฐซึ่งเป็นผู้ถูกกล่าวหารายอื่นไว้เป็น ในช้ันศาลตามท่ใี ห้การหรือใหถ้ อ้ ยค�ำไว้ พยานโดยไม่ดำ� เนนิ คดกี ็ได้ โดยมเี งือ่ นไขว่าผู้ถกู กัน เป็นพยานจะต้องได้ให้ถ้อยค�ำหรือแจ้งเบาะแสหรือ ข้อเสนอแนะ ข้อมูลอันเป็นสาระส�ำคัญในการที่จะใช้วินิจฉัยช้ีมูล 1. ควรให้ความรู้ความเขา้ ใจแกป่ ระชาชน การกระท�ำผดิ ของเจ้าหน้าที่ของรัฐรายอื่น เพ่ือทราบถึงมาตรการ โดยเฉพาะวิธีการและ คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้กำ� หนดหลกั เกณฑ์ กระบวนการในการคุ้มครอง วธิ กี าร และเงอ่ื นไขในการกนั บคุ คลหรอื ผถู้ กู กลา่ วหา 2. ส�ำนักงาน ป.ป.ช. ต้องแสดงเจตจ�ำนง ทม่ี สี ว่ นเกย่ี วขอ้ งในการกระทำ� ผดิ กบั เจา้ หนา้ ทขี่ องรฐั ที่จะให้ความคุ้มครองอย่างแท้จริง เพ่ือสร้างความ ไวเ้ ปน็ พยาน โดยกำ� หนดคำ� วา่ “พยาน” หมายความ เช่ือม่ันในความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของ ถึงบุคคลผู้ซึ่งยังมิได้ถูกแจ้งข้อกล่าวหาหรือผู้ถูก พยานและผู้เก่ียวข้อง เพราะการคุ้มครองพยานจะ กล่าวหารายใดที่ได้ให้ถ้อยค�ำ หรือแจ้งเบาะแส ท�ำให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการป้องกันและปราบ หรือข้อมูลอันเป็นสาระส�ำคัญในการที่จะใช้เป็น ปรามการทุจริต ซึ่งเป็นไปตามเจตนารมณ์ของ “พยานหลักฐาน” ในการวินิจฉัย ช้ีมูลการกระท�ำ กฎหมาย ป.ป.ช. โดยตอ้ งมกี ารคมุ้ ครองอยา่ งตอ่ เนอ่ื ง ความผิดของเจ้าหน้าท่ีของรัฐ ซึ่งคณะกรรมการ จนกว่าภยั จากชวี ิตและทรพั ยส์ ินจะหมดไป ป.ป.ช. ได้กันไว้เป็นพยานโดยไม่ด�ำเนินคดีตาม

ปีท่ี 8 ฉบับท่ี 1 (มกราคม 2558) 99 3. การคุ้มครองบุคคลและการกันบุคคล ส�ำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปราม เป็นพยาน ส�ำนักงาน ป.ป.ช. ควรท�ำข้อตกลงใน การทุจริตในภาครัฐ กระทรวงยุติธรรม และ ความร่วมมือกับหน่วยงานที่เก่ียวข้องเพื่อให้เกิด กรมสอบสวนคดีพิเศษ ประสิทธภิ าพย่ิงข้ึน เชน่ ส�ำนกั งานตำ� รวจแหง่ ชาติ 8. การเปดิ เผยราคากลาง สว่ นตา่ งกำ� ไรทสี่ งู เกนิ ไปจากการจดั ซอื้ จดั จา้ ง ค�ำนวณได้สูงกว่าความเป็นจริงส่งผลให้การก�ำหนด เป็นผลจากการท่ีเจ้าหน้าที่ของรัฐทุจริต ในรูปของ วงเงินผลงานกอ่ สร้างของผมู้ ีสทิ ธเิ สนอราคา ต้องมี การก�ำหนดราคากลางที่สูงเกินไปท�ำให้ผู้รับเหมา วงเงนิ สูงกวา่ ความเป็นจรงิ ท�ำให้ทางราชการเสยี หาย และเจ้าหน้าท่ีของรัฐผู้นั้นได้รับประโยชน์จาก ต้องจ่ายเงินให้ผู้รับจ้างหรือผู้ขายมากเกินจริง ส่วนต่างก�ำไรที่สูงเกินไป การท�ำให้ราคากลางที่ ตามรูปท่ี 1 รูปที่ 1: ส่วนต่างก�ำไรท่ีสงู เกินไปในการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ กล่องขอ้ ความ 8 เอกชนปลดแอก “เงินใตโ้ ตะ๊ ” ตัดวงจรอุบาทว์ 3 แสนล้าน ในการจดั สมั มนา “การต่อตา้ นคอรร์ ัปชนั จดุ เปลี่ยนประเทศไทย” ณ โรงแรมพลาซ่า แอทธนิ ี ซึ่งจัดข้ึนโดยหอการค้าไทยและภาคีเครือข่ายป้องกันและปราบปรามทุจริตคอร์รัปชัน 20 องค์กร นายอภิสทิ ธิ์ เวชชาชีวะ นายกรฐั มนตรีในขณะน้นั ได้กล่าวเปิดงานตอนหน่ึงวา่ การสมยอมราคากลาง ในการจดั ซอ้ื จัดจ้างท่ีสูงเกนิ จรงิ รอ้ ยละ 10 - 20 จะไมเ่ กิดข้นึ หากมกี ารกำ� หนดราคากลางท่ีสะทอ้ น ความเปน็ จรงิ และราคาตลาด ทสี่ ำ� คญั ภาคเอกชนตอ้ งเขา้ มามสี ว่ นรว่ มและไดม้ อบหมายใหก้ ระทรวงการคลงั โดยส�ำนักงบประมาณเข้าไปแก้ปัญหาด้วยการปรับปรุงราคากลางในการประมูลท้ังหมดให้สะท้อน ความเปน็ จรงิ มากท่ีสุด เพราะท่ผี ่านมามีการกำ� หนดราคากลางเกนิ จริงไปรอ้ ยละ 20 - 30

100 วารสารวชิ าการ ป.ป.ช. กล่องข้อความ 9 ผลส�ำรวจชี้ผู้ประกอบการจ่ายส่วยร้อยละ 71 เงินคอร์รัปชันสูงปีละ 2-3 แสนล้าน นางเสาวณยี ์ ไทยรงุ่ โรจน์ รองอธกิ ารบดมี หาวทิ ยาลยั หอการคา้ ไทย เปดิ เผยผลสำ� รวจลา่ สดุ เม่อื ปลายปี พ.ศ. 2553 พบว่า มีผ้ปู ระกอบการรอ้ ยละ 80 จ่ายเงินใต้โต๊ะ และรอ้ ยละ 71 รู้ว่าต้องจา่ ย อยา่ งไร และเทา่ ใด เพ่อื ความสะดวกในการทำ� งาน แมว้ ่าภาครัฐจะไมเ่ รียกร้องกต็ าม และอีกร้อยละ 29 จ่ายเม่อื มกี ารเรยี กรอ้ ง ดงั นั้น จ�ำนวนเงนิ ท่ีสูญเสียไปกับคอรร์ ปั ชันแต่ละปีจึงสูงถึง 2 - 3 แสนลา้ นบาท หรอื คดิ เปน็ รอ้ ยละ 30 ของมลู คา่ เงนิ ลงทนุ ของรฐั จำ� นวน 6 แสนลา้ นบาทตอ่ ปี ซง่ึ ถอื วา่ เปน็ จำ� นวนเงนิ มหาศาลที่สะท้อนไปถึงราคาสินคา้ ทีแ่ พงขนึ้ เกดิ เงินเฟ้อ และถนนทีไ่ ม่ไดม้ าตรฐาน ด้านนายดุสิต นนทะนาคร ประธานกรรมการหอการค้าไทย กล่าวว่า คนไทยส่วนใหญ่ ยังไม่ตระหนักถึงภัยทุจริตคอร์รัปชัน และมองว่าเป็นเร่ืองปกติ ซึ่งหากปล่อยไว้จะเป็นอันตรายต่อ ประเทศ เนื่องจากผลการวจิ ัยของหอการค้าไทย พบวา่ ในปีทผ่ี า่ นมาผูป้ ระกอบการเกอื บรอ้ ยละ 80 ทีท่ �ำธรุ กิจกบั ภาครัฐ ตอ้ งจา่ ยเงินเพื่อให้ไดง้ าน และพบว่า 1 ใน 3 ตอ้ งจา่ ยเงนิ มากกว่ารอ้ ยละ 25 หรอื คิดเปน็ จ�ำนวนเงนิ สูงถึงปีละกว่า 200,000 ล้านบาท ท้งั ทเี่ ป็นเงนิ ทีส่ มควรนำ� มาพัฒนาประเทศ นายอารพี งศ์ ภชู่ อุม่ ปลดั กระทรวงการคลัง กล่าวถงึ การจัดทำ� ราคากลางใหส้ ะทอ้ นต้นทนุ ทเ่ี ปน็ จรงิ ซง่ึ จะชว่ ยลดปญั หาคอรร์ ปั ชนั ในโครงการใหญ่ ๆ ลงได้ ทผ่ี า่ นมามกี ารพดู ถงึ ตวั เลขราคากลาง ท่ีสูงกว่าความเป็นจริงร้อยละ 10-30 ซ่ึงท�ำให้ภาครัฐต้องสูญเสียงบประมาณจากราคาที่ไม่สะท้อน ต้นทุนหลายแสนล้านบาท หลังจากน้ีกระทรวงการคลังได้มอบหมายให้ส�ำนักงบประมาณเร่งจัดท�ำ ราคากลางขน้ึ ใหม่ โดยมผี เู้ ชยี่ วชาญและภาคเอกชนเขา้ มาใหค้ วามรว่ มมอื โดยไดม้ กี ารแบง่ หมวดหมขู่ อง ราคากลางออกเปน็ 9 หมวด และราคากลางล่าสุดท่ีสะท้อนต้นทุนทีเ่ ปน็ จริงจะเริม่ ใชไ้ ดใ้ นอกี 2 เดอื น ขา้ งหนา้ และกระทรวงการคลงั จะตดิ ตามความเคลอ่ื นไหวของราคาวสั ดทุ เ่ี กยี่ วขอ้ ง เพอ่ื ปรบั ราคากลาง ตามภาวะเศรษฐกจิ คณะรัฐมนตรไี ดม้ ีมตเิ มอ่ื วันที่ 6 มกราคม แกไ้ ขเพม่ิ เติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2554 โดยก�ำหนดให้ พ.ศ. 2541 ใหห้ นว่ ยงานของรฐั เปิดเผยราคากลาง หนว่ ยงานของรฐั ดำ� เนนิ การจดั ทำ� ขอ้ มลู รายละเอยี ด งานกอ่ สรา้ ง สว่ นการจดั ซ้ือจดั จา้ งประเภทอื่นยงั ไมไ่ ด้ ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการจัดซ้ือจัดจ้างโดยเฉพาะ ถูกบังคับให้ต้องเปิดเผยราคากลางหรือวงเงินท่ีใช้ ราคากลางและการคำ� นวณราคากลางไวใ้ นระบบขอ้ มลู จัดซื้อจัดจ้างด้วย อีกทั้งการเปิดเผยราคากลางใน ทางอิเล็กทรอนิกส์เพ่ือให้ประชาชนสามารถ งานกอ่ สรา้ งดงั กลา่ วไมจ่ ำ� ตอ้ งเปดิ เผยวธิ กี ารคำ� นวณ เขา้ ตรวจดไู ดแ้ ละยงั กำ� หนดใหค้ ณะกรรมการ ป.ป.ช. ราคากลางแตอ่ ย่างใด จนกระทงั่ เม่ือมีการปรบั ปรงุ รายงานต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อสั่งการให้หน่วยงาน แก้ไขพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย ของรัฐจัดท�ำข้อมูลเก่ียวกับการจัดซ้ือจัดจ้างด้วย การป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 ทงั้ น้ี คณะกรรมการ ป.ป.ช. ไดเ้ สนอแนวทางการเปดิ เผย

ปที ่ี 8 ฉบบั ท่ี 1 (มกราคม 2558) 101 ราคากลางและการค�ำนวณราคากลางต่อ 3) การจ้างควบคุมงาน การจ้างออกแบบ คณะรฐั มนตรเี พอ่ื สง่ั การใหห้ นว่ ยงานของรฐั ปฏบิ ตั ติ าม การจา้ งทป่ี รกึ ษา การจา้ งงานวจิ ยั หรอื เงนิ สนบั สนนุ กฎหมายดังกล่าว ในการจัดซ้ือจัดจ้าง 7 ประเภท ให้ทุนการวิจัย หรืองานจ้างท่ีปรึกษาพัฒนาระบบ ได้แก่ การจ้างงานก่อสร้าง การจัดซื้อจัดจ้างท่ีมิใช่ คอมพิวเตอร์ ก�ำหนดให้หน่วยงานของรัฐประกาศ งานก่อสรา้ ง การจา้ งควบคมุ งาน การจ้างออกแบบ วงเงินงบประมาณที่ได้รับจัดสรร ราคากลางหรือ การจา้ งทป่ี รกึ ษา การจา้ งหรอื การใหเ้ งนิ ทนุ สนบั สนนุ ราคาอ้างองิ เพ่อื การวิจยั และการจา้ งพฒั นาระบบคอมพิวเตอร์ ทั้งนี้ การประกาศราคากลางหรือราคา ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้พิจารณาแล้วมีมติเห็นชอบให้ อา้ งองิ การคำ� นวณราคากลางหรอื ทม่ี าของราคากลาง หนว่ ยงานของรฐั เปดิ เผยราคากลางและการคำ� นวณ หรือราคาอ้างอิงดังกล่าวข้างต้น ก�ำหนดให้ ราคากลาง เมอ่ื วันท่ี 12 กุมภาพนั ธ์ 2556 หน่วยงานของรัฐต้องประกาศรายละเอียดข้อมูล การซอ้ื หรอื การจา้ งทต่ี อ้ งประกาศ หมายถงึ ตามที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. ก�ำหนดไว้ในระบบ ข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ของหน่วยงานของรัฐ หน่วยงานของรัฐมีการจัดซ้ือจัดจ้างที่เก่ียวกับ ที่จัดซ้ือจัดจ้างและของกรมบัญชีกลาง เพ่ือให้ การพสั ดุ เชน่ การจดั ทำ� เอง การซอ้ื การจา้ ง การจา้ ง ประชาชนสามารถเขา้ ตรวจดไู ด้ ตงั้ แตเ่ รม่ิ ดำ� เนนิ การ ทป่ี รกึ ษา การจา้ งออกแบบและควบคมุ งาน ทเี่ กย่ี วกบั จัดซ้อื จัดจา้ งในแตล่ ะวิธี ตามทีร่ ะเบยี บสำ� นกั นายก พสั ดุ อันไดแ้ ก่ วัสดุ ครุภัณฑ์ ท่ดี นิ และสิง่ ปลูกสรา้ ง รัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ. 2535 และที่แก้ไข ตามระเบียบส�ำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ เพม่ิ เตมิ หรอื ตามระเบยี บทเี่ กย่ี วกับพัสดซุ ึง่ หน่วยงาน พ.ศ. 2535 และท่ีแก้ไขเพิ่มเติม หรือตามระเบียบ ของรัฐน้ันได้ใช้ในการปฏิบัติงาน หรือตามประกาศ ท่ีเกี่ยวกับพัสดุซึ่งหน่วยงานของรัฐนั้นได้ใช้ ขอ้ กำ� หนด หรอื กฎ ท่ีใชบ้ ังคบั กับเกีย่ วกับพัสดุของ ในการปฏบิ ตั งิ านหรอื ตามประกาศ ขอ้ กำ� หนด หรอื กฎ หนว่ ยงานของรัฐน้ัน ๆ ทใี่ ชบ้ งั คบั กบั เกยี่ วกบั พสั ดขุ องหนว่ ยงานของรฐั นน้ั ๆ กลไกการเปิดเผย “การค�ำนวณ” ได้แก่ ราคากลางในการประมูลจัดซ้ือจัดจ้างของภาครัฐ 1) ก า ร ป ร ะ ก า ศ ร า ค า ก ล า ง แ ล ะ อาจเพม่ิ ภาระใหก้ บั หนว่ ยงานของรฐั ในการคำ� นวณ รายละเอียดในการค�ำนวณราคากลางงานก่อสร้าง ราคากลาง ไม่เพียงแต่เฉพาะราคากลางเท่านั้น ก�ำหนดให้ใชห้ ลักเกณฑก์ ารค�ำนวณงานกอ่ สร้าง “หนว่ ยงานของรฐั ” ทต่ี อ้ งดำ� เนนิ การ หมายความวา่ 2) การจัดซ้ือจัดจ้างท่ีมิใช่งานก่อสร้าง กระทรวง ทบวง กรม ราชการส่วนภูมภิ าค ราชการ ส่วนท้องถิ่น รัฐวิสาหกิจหรือหน่วยงานอ่ืนของรัฐ ก�ำหนดให้หน่วยงานของรัฐประกาศวงเงิน หรือหน่วยงานอื่นใดท่ีด�ำเนินกิจการของรัฐตาม งบประมาณทไ่ี ดร้ บั จดั สรร ราคากลาง (ราคาอา้ งองิ ) กฎหมายและได้รับเงินอุดหนุนหรือเงินหรือ และที่มาของราคากลางหรือราคาอ้างอิงน้ัน หรือ ทรัพย์สินลงทุนจากรัฐ หน่วยงานอื่นของรัฐหรือ วงเงนิ ทห่ี นว่ ยงานของรฐั นนั้ ไดใ้ ชใ้ นการจดั ซอ้ื จดั จา้ ง หน่วยงานอ่ืนใดที่ด�ำเนินกิจการของรัฐ เช่น และให้แสดงราคารวมและหรือราคาต่อหน่วย องคก์ ารมหาชน กองทนุ ทเี่ ปน็ นติ บิ คุ คลทม่ี กี ฎหมาย (ถ้ามี) ไว้ด้วย จดั ตงั้ ขน้ึ เปน็ การเฉพาะ กรณหี นว่ ยงานผจู้ ดั ซอื้ จดั จา้ ง

102 วารสารวชิ าการ ป.ป.ช. ไมถ่ อื ปฏบิ ตั ติ ามหลกั เกณฑ์ มาตรการ แนวทาง และ ไดอ้ ยา่ งครบถว้ นทง้ั วธิ คี ำ� นวณและราคากลาง จะทำ� ให้ วิธีปฏิบัติในการก�ำหนดราคากลางหรือราคาอ้างอิง การจดั ซอ้ื จดั จ้างภาครฐั โปรง่ ใสยง่ิ ขึน้ และสามารถ ร ว ม ทั้ ง ก า ร ไ ม ่ ป ฏิ บั ติ ต า ม แ บ บ แ ล ะ วิ ธี ก า ร ที่ ตรวจสอบได้โดยง่าย อย่างไรก็ตาม ในทางปฏิบัติ คณะกรรมการ ป.ป.ช. ก�ำหนดภายในระยะเวลา เจ้าหน้าท่ีที่เก่ียวข้องกับการจัดซื้อจัดจ้างยังไม่มี ที่หน่วยงานของรัฐต้องปฏิบัติ ให้ถือว่าผู้ที่มีหน้าที่ ความรู้ความช�ำนาญในการค�ำนวณราคากลางท่ี เก่ียวข้องมีความผิดทางวินัยหรือเป็นเหตุให้ต้องถูก สมเหตสุ มผลและสะทอ้ นใหเ้ หน็ ถงึ ราคาตลาดทแ่ี ทจ้ รงิ ถอดถอนจากต�ำแหนง่ หรือตอ้ งพน้ จากตำ� แหนง่ ซง่ึ ตน้ ทนุ นอ้ี าจทำ� ใหม้ าตรการการเปดิ เผยราคากลาง แต่การที่ประชาชนสามารถรับรู้ข่าวสาร อาจไม่มีประสิทธภิ าพในการปอ้ งกนั การทจุ ริต ของราชการโดยเฉพาะการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ กล่องข้อความ 10 ป.ป.ช. ชงรฐั สกดั ทจุ รติ โครงการนำ�้ 3.5 แสนล้านบาท พบจุดเสีย่ ง โกงจำ� นวนมาก เมอื่ วนั ท่ี 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 ทส่ี ำ� นกั งานคณะกรรมการปอ้ งกนั และปราบปรามการทจุ รติ แห่งชาติ (ป.ป.ช.) จ.นนทบุรี นายกล้านรงค์ จนั ทิก กรรมการ ป.ป.ช. แถลงถึงแนวทางและมาตรการ ปอ้ งกันการทุจริตโครงการลงทนุ ระบบบริหารจัดการน�้ำและอทุ กภัย วงเงิน 3.5 แสนล้านบาท วา่ ที่ ประชุม ป.ป.ช. มีมตเิ อกฉนั ท์เหน็ ชอบขอ้ เสนอแนวทางและมาตรการป้องกันการทุจรติ โครงการลงทุน ระบบบรหิ ารจดั การนำ้� และอทุ กภยั 3.5 แสนลา้ นบาท ตามทคี่ ณะอนกุ รรมการ ป.ป.ช. มาตรการปอ้ งกนั ทจุ รติ ทมี่ ี ศาสตราจารย์ ดร.เมธี ครองแกว้ อดตี คณะกรรมการ ป.ป.ช. เปน็ ผเู้ สนอ และใหเ้ สนอแนวทาง ดงั กลา่ วใหน้ างสาวยิง่ ลักษณ์ ชนิ วตั ร นายกรฐั มนตรี ทราบดว้ ย ทงั้ น้ี การเสนอแนวทางดังกลา่ วไม่ได้ กลา่ วหาวา่ รฐั บาลทุจรติ แต่คณะอนกุ รรมการเหน็ วา่ เป็นกรณีใช้งบประมาณจำ� นวนมาก และหลาย จุดเสยี่ งตอ่ การทุจรติ จึงไดศ้ กึ ษาและชีแ้ จงข้อมูลให้รฐั บาลทราบ เพือ่ ป้องกนั การทจุ ริต แตร่ ัฐบาลจะ ปฏิบตั ติ ามหรอื ไม่ ข้ึนอยู่กับรัฐบาล เพราะเป็นเพยี งขอ้ เสนอแนะ หากรัฐบาลไม่ปฏิบัติ แล้วเกิดความ เสียหายกต็ ้องพิจารณาเป็นกรณไี ป ไมส่ ามารถพดู ได้วา่ รัฐบาลตอ้ งรับผิดชอบหรือไม่ ดา้ นนายพรายพล ค้มุ ทรพั ย์ อดตี คณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในฐานะ ประธานคณะทำ� งานมาตรการปอ้ งกนั การทจุ รติ ป.ป.ช. กลา่ ววา่ คณะทำ� งาน พบวา่ โครงการนมี้ ขี อ้ นา่ ห่วงใยหลายเรือ่ ง ไม่มกี ารเปดิ เผยราคากลางตามระเบียบ ป.ป.ช. แมส้ ำ� นักงานปลดั นายกรฐั มนตรจี ะ อ้างว่ามกี ารประกาศราคากลาง เม่อื วนั ที่ 2 พฤษภาคม 2556 แต่ขอ้ เท็จจรงิ ไม่ใชร่ าคากลาง เปน็ เพียง การเปดิ เผยวงเงินตามท่ีกำ� หนดในขอ้ กำ� หนดโครงการ (TOR) เทา่ น้นั

ปที ี่ 8 ฉบบั ท่ี 1 (มกราคม 2558) 103 ขอ้ เสนอแนะ 9. การแสดงบัญชีรายการรับจ่ายของ การคำ� นวณราคากลางเปน็ มาตรการทเ่ี พม่ิ โครงการ โอกาสในการตรวจสอบการทุจริตโดยเฉพาะจาก มาตรการการแสดงบัญชีรายการรับจ่าย ภาคประชาสังคม การก�ำหนดราคากลางท่ีสูง ของโครงการจะชว่ ยเพม่ิ ประสทิ ธภิ าพในการปอ้ งกนั เกนิ จรงิ จะเปน็ กำ� ไรสว่ นเกนิ ของผรู้ บั จา้ ง และสว่ นหนงึ่ การทจุ รติ ทอ่ี าจเกดิ ขนึ้ ในกระบวนการจดั ซอื้ จดั จา้ ง จะกลายเป็นผลประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบของ ภาครัฐ กฎหมายจึงก�ำหนดให้ในกรณีที่มีการ เจา้ หนา้ ทีข่ องรฐั ทีท่ จุ ริตในการจดั ซือ้ จัดจา้ งในทส่ี ดุ ท�ำสัญญาระหว่างหน่วยงานของรัฐกับบุคคลหรือ การเข้าถึงและรับรู้ท่ีมาและวิธีการได้มาซ่ึงราคากลาง นิติบุคคลที่เป็นคู่สัญญากับหน่วยงานของรัฐ จะท�ำให้เกิดการตรวจสอบความผิดปกติท่ีอาจเกิด ให้บุคคลหรือนิติบุคคลที่เป็นคู่สัญญากับหน่วยงาน ขน้ึ จากวธิ คี ำ� นวณราคากลาง เพอื่ ใชเ้ ปน็ เครอื่ งมอื ใน ของรัฐนั้น มีหน้าที่แสดงบัญชีรายการรับจ่ายของ การคดั กรองโครงการทมี่ แี นวโนม้ ไมโ่ ปรง่ ใส อยา่ งไร โครงการที่เป็นคู่สัญญากับหน่วยงานของรัฐต่อ ก็ตามเจ้าหน้าที่ท่ีเกี่ยวข้องกับการตรวจสอบการ กรมสรรพากร นอกเหนือจากบัญชีงบดุลปกติที่ย่ืน จดั ซอ้ื จดั จา้ งจำ� เปน็ ตอ้ งมคี วามรคู้ วามชำ� นาญในการ ประจำ� ปเี พอ่ื ใหม้ กี ารตรวจสอบเกย่ี วกบั การใชจ้ า่ ยเงนิ คำ� นวณราคากลางทสี่ มเหตสุ มผลและสะทอ้ นใหเ้ หน็ และการค�ำนวณภาษีเงินได้ในโครงการที่เป็นคู่สัญญา ถึงราคาตลาดทแี่ ท้จรงิ ประสิทธภิ าพของมาตรการ กับหน่วยงานของรัฐดังกล่าว ทั้งน้ี ตามหลักเกณฑ์ นจี้ งึ อยทู่ กี่ ารใหค้ วามสำ� คญั กบั การสรา้ งองคค์ วามรู้ ที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. ก�ำหนดให้หน่วยงาน และฝกึ อบรม รวมถงึ การมรี าคากลางทไี่ ดม้ าตรฐาน ของรฐั ดำ� เนนิ การจดั ทำ� ขอ้ มลู รายละเอยี ดคา่ ใชจ้ า่ ย ดงั น้ี เกี่ยวกับการจัดซ้ือจัดจ้าง โดยเฉพาะราคากลางไว้ 1. ควรจดั ทำ� ฐานขอ้ มลู ราคากลางสำ� หรบั ในระบบข้อมลู ทางอเิ ล็กทรอนิกส์ ส�ำหรับโครงการ พสั ดหุ รอื สนิ คา้ ใหค้ รบถว้ น เพอ่ื เปน็ มาตรฐานราคากลาง ท่ีมมี ูลค่าโครงการตัง้ แต่ 500,000 บาท เปน็ ต้นไป ใหแ้ กส่ ว่ นราชการ เพอื่ ใหป้ ระชาชนสามารถเขา้ ตรวจสอบได้ โดยใหค้ สู่ ญั ญา 2. แตง่ ตงั้ คณะกรรมการกำ� หนดราคากลาง ของรัฐแสดงบัญชีรายรับรายจ่ายของโครงการ โดยมผี แู้ ทนภาครฐั และเอกชน เพอ่ื กำ� หนดราคากลาง ต่อกรมสรรพากรและ ป.ป.ช. มีอ�ำนาจในการเรยี ก ใหเ้ ปน็ มาตรฐานและเปน็ ปจั จุบัน ตรวจสอบธรุ กรรมทางการเงนิ หรอื การชำ� ระเงนิ ภาษี 3. ฝึกอบรมเจ้าหน้าท่ีให้มีความรู้ความ ของคู่สัญญาของรัฐท่ีเก่ียวข้องกับการทุจริต เข้าใจเก่ียวกับราคากลาง ขณะเดียวกันก็ต้องสร้าง โดยมีขอบเขตในการบงั คบั ใช้ คือ บุคคลหรือนิตบิ คุ คล องค์ความรู้ในการตรวจสอบวิธีค�ำนวณราคากลาง ซงึ่ รวมถงึ สว่ นราชการ รฐั วสิ าหกจิ หรอื หนว่ ยงานของรฐั ให้กับภาคประชาสังคมด้วย ท่ีเขา้ เปน็ ค่สู ญั ญากับรฐั ทกุ ประเภทด้วย

104 วารสารวิชาการ ป.ป.ช. 1) ผลกระทบที่เกิดขนึ้ กิจการ ซง่ึ ผ้ปู ระกอบการจ�ำเปน็ ต้องรักษาความลบั การจดั ทำ� บญั ชรี ายรบั รายจา่ ยของโครงการ เร่ืองต้นทุนของกิจการเป็นกลยุทธ์ท่ีส�ำคัญในการ มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ทราบรายได้ค่าใช้จ่ายก�ำไร แข่งขันทางธุรกิจเพ่ือให้สามารถแข่งขันด้านราคา ขาดทนุ ของโครงการทเ่ี ปน็ คสู่ ญั ญาของรฐั ทส่ี ามารถ ในการประมลู งานกบั คแู่ ขง่ รายอนื่ ดงั นนั้ การจดั ทำ� น�ำไปสู่การตรวจสอบเส้นทางการเงินได้ โดยแบบ บญั ชรี ายรบั รายจา่ ยของโครงการ จงึ มผี ลกระทบกบั แสดงบญั ชฯี ตอ้ งสามารถประมวลผลไดเ้ บ้อื งตน้ ว่า ผู้ประกอบการในวงกว้าง ทั้งภาระค่าใช้จ่าย โครงการมลี กั ษณะผดิ ปกตหิ รอื ไม่ เชน่ มกี ารรบั จา่ ย ที่เพ่ิมขึ้นจากการจัดท�ำข้อมูล และการเตรียม เป็นเงินสดมากหรือมีก�ำไรหรือขาดทุนมากอย่างมี ระบบงานเพ่อื รองรบั การ เก็บขอ้ มลู รับจ่ายเงนิ ราย นยั ส�ำคญั หรือไม่ เปน็ ต้น ขณะเดียวกันกต็ อ้ งไม่เปน็ โครงการ/สัญญา ภาระต่อผูป้ ระกอบการมากเกนิ ไปดว้ ย ส่วนมูลค่าของสัญญาที่ต้องย่ืนท่ีมีมูลค่า หลกั การดงั กลา่ ว ทำ� ใหบ้ คุ คลหรอื นติ บิ คุ คล ตง้ั แต่ 5 แสนบาทขนึ้ ไปโดยเฉพาะกรณขี องวสิ าหกจิ ที่เป็นคู่สัญญาของรัฐมีภาระค่าใช้จ่ายและต้นทุนท่ี ขนาดกลางและขนาดย่อมที่เป็นคู่สัญญาของรัฐ เพิ่มสูงข้ึนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้จากการเตรียม มีภาระต้นทุนที่เพิ่มข้ึนจากการจัดท�ำบัญชีรายรับ ความพร้อมต่อการจัดท�ำบัญชีรายรับรายจ่ายของ รายจ่ายของโครงการ รวมถึงไม่มีความพร้อมหรือ โครงการ ระบบเทคโนโลยสี ารสนเทศและระบบการ ความชำ� นาญในการจดั ท�ำบญั ชดี งั กลา่ ว อาจสง่ ผลต่อ จัดเก็บข้อมูลที่สามารถแบ่งแยกค่าใช้จ่ายในแต่ละ ความสามารถในการแขง่ ขนั ของวสิ าหกจิ ขนาดกลาง โครงการ วิธกี ารป้องกันและรกั ษาขอ้ มลู ทางการค้า และขนาดยอ่ มในอนาคต ทต่ี อ้ งปรบั ตวั ไปรบั เหมาชว่ ง ทส่ี ำ� คญั ไมใ่ หร้ ว่ั ไหล การจดั เกบ็ ยอดสญั ญาทม่ี มี ลู คา่ (Sub-Contract) กบั วสิ าหกจิ ขนาดใหญท่ มี่ คี วามพรอ้ ม ตั้งแต่ห้าแสนบาทขึ้นไปในระยะยาว รวมถึงความ ของระบบการจัดท�ำบัญชีมากกว่า ผลที่ตามมา จ�ำเป็นต้องจ้างท่ีปรึกษาในการเตรียมพร้อมกับการ วิ ส า ห กิ จ ข น า ด ใ ห ญ ่ อ า จ เ รี ย ก เ ก็ บ ค ่ า หั ว คิ ว แสดงบญั ชรี ายรบั รายจา่ ยของโครงการ ทงั้ นี้ การลง กับวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ต้นทุน รายการค่าใช้จ่ายบางคร้ังอาจเป็นการแทรกแซง โครงการของรัฐก็จะเพมิ่ สูงขน้ึ ตามไปด้วย กล่องขอ้ ความ 11 “ผลกระทบขององคก์ รธรุ กจิ จากการปอ้ งกนั และปราบปรามการทจุ รติ ของ ป.ป.ช. มาตรา 103/7” รองศาสตราจารย์ ดร.สงั ศิต พริ ิยะรังสรรค์ ดร.ฉัตรวรญั องคสิงห์ และ ดร.รัตพงษ์ สอนสุภาพ วิทยาลัยนวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยรังสิต ร่วมกันน�ำเสนอผลงานวิจัยเรื่อง “ผลกระทบของ องคก์ รธรุ กจิ จากการป้องกันและปราบปรามการทุจริตของ ป.ป.ช. มาตรา 103/7” โดยการสนบั สนุน ของสำ� นกั งานกองทนุ สนบั สนนุ การวจิ ยั (สกว.) พบวา่ ผมู้ สี ว่ นไดส้ ว่ นเสยี กบั กฎหมายมาตรานส้ี ว่ นใหญ่ คือ ขา้ ราชการและเจา้ หนา้ ท่ีองค์การบรหิ ารส่วนท้องถ่นิ และนักธรุ กิจท้ังขนาดเลก็ ขนาดกลาง และ ขนาดใหญ่ ไมเ่ ห็นดว้ ยกับมาตราน้ี อีกทง้ั หน่วยงานภาครัฐส่วนใหญ่ยังขาด ความพรอ้ ม รวมทงั้ มองวา่

ปที ี่ 8 ฉบับท่ี 1 (มกราคม 2558) 105 กฎหมายมาตราน้ีจะท�ำให้ธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลางถูกขับไล่ออกจากตลาดไป เพราะกฎหมาย เอื้อประโยชนใ์ หแ้ กธ่ รุ กิจขนาดใหญม่ ากกว่า ดังนน้ั ระบบ บช.1 จึงเปน็ ระบบทน่ี อกจากสรา้ งภาระให้ แก่ ป.ป.ช. และนกั ธุรกจิ แลว้ ยงั เปน็ ระบบท่ไี มน่ ่าเชือ่ ถอื อกี ด้วย และยงิ่ ไปกวา่ นัน้ มาตรา 103/7 และ มาตรา 103/8 ยังส่งผลกระทบตอ่ ธรุ กิจขนาดกลางและขนาดเล็กมากกวา่ ธุรกจิ ขนาดใหญ่ ในระยะ ยาวธุรกิจขนาดกลางและธุรกิจขนาดเล็กท่ีเคยเป็นธุรกิจที่ถูกกฎหมายอาจถูกบังคับโดยกลไกตลาดให้ กลายเป็นธุรกิจท่กี ฎหมายไมใ่ หก้ ารรับรอง เนือ่ งจากไมส่ ามารถแขง่ ขนั กบั ธุรกจิ ขนาดใหญ่ได้ นอกจากคสู่ ญั ญาตอ้ งจดั ทำ� และแสดงบญั ชี 2) การแสดงตน้ ทุนท่แี ทจ้ รงิ แสดงรายรับรายจ่ายต่อกรมสรรพากรแล้ว บุคคล สง่ิ ทอี่ าจเปน็ ปญั หาอกี ประการของการจดั หรือนิติบุคคลที่เป็นคู่สัญญาของรัฐยังมีต้นทุนการ ทำ� บญั ชรี ายรบั รายจา่ ยของโครงการ คอื การใชจ้ า่ ย ด�ำเนินการอ่ืนที่คู่สัญญาต้องปฏิบัติประกอบการ เงินในโครงการที่ไม่โปร่งใส บางคร้ังผู้ประกอบการ จดั ทำ� บญั ชแี สดงรายรบั รายจา่ ย เพอื่ ประโยชนใ์ นการ อาจไม่ต้องการแสดงรายการ ไม่ว่าจะเป็นการจ่าย จัดท�ำบัญชีแสดงรายรับรายจ่ายของโครงการและ สินบนให้แก่เจ้าหน้าท่ีของรัฐในการศึกษาดูงานใน เพ่ือประโยชน์ในการตรวจสอบบัญชีแสดงรายรับ ต่างประเทศ เงินเพื่ออ�ำนวยความสะดวกในการ รายจ่ายของคู่สัญญาโดยประกาศฉบับน้ีก�ำหนด อนุมัติผลงานเป็นงวด เงินท่ีจ่ายเพ่ือการได้รับและ มาตรการที่ส�ำคัญให้คู่สัญญาปฏิบัติ อาทิ การให้ คงไว้ซ่ึงธุรกิจกับหน่วยงานของรัฐ รวมทั้งได้รับเงิน คสู่ ญั ญาบนั ทกึ รายรบั รายจา่ ยของสญั ญาทเี่ กดิ ขนึ้ ใน คงค้างท่ถี งึ ก�ำหนดจา่ ย ฯลฯ (เชน่ โครงการจดั จา้ ง แต่ละรอบระยะเวลาบัญชีหรือรอบปีภาษีเป็นราย ที่ปรึกษาด�ำเนินการศึกษาของ บางหน่วยงาน โครงการ แตไ่ ม่ตอ้ งยนื่ ตอ่ กรมสรรพากรและให้เก็บ ทม่ี ขี อ้ กำ� หนดโครงการ (TOR) ไปดงู านตา่ งประเทศ รักษาบัญชีพร้อมเอกสารหลักฐานประกอบไว้ รวมถึงการอนุมัติเบิกจ่ายเงิน เป็นงวด ๆ ต้ังแต่ ณ สถานประกอบการหรือที่อยู่อาศัยของคู่สัญญา รายงานการศกึ ษาขนั้ ตน้ รายงานการศกึ ษาขนั้ กลาง เปน็ ระยะเวลาไมน่ อ้ ยกวา่ 5 ปนี บั แตว่ นั สนิ้ สดุ ระยะ รายงานความก้าวหน้า ไปจนถึงร่างรายงานขั้น เวลาสัญญาหรือการตรวจสอบหรือไต่สวนของ สดุ ทา้ ย เปน็ ตน้ หรอื แมแ้ ตโ่ ครงการกอ่ สรา้ งกท็ ำ� นอง คณะกรรมการ ป.ป.ช. เสรจ็ สน้ิ และการใหค้ สู่ ญั ญารบั เดยี วกัน) นอกจากนี้ ตน้ ทนุ ที่แทจ้ ริงของโครงการก็ จ่ายเงินผ่านบัญชีเงินฝากกระแสรายวันเว้นแต่รับ อาจเกิดจากค่าใช้จ่ายที่เกิดก่อนการประมูลเข้าท�ำ จ่ายเงินแต่ละครั้งท่ีมีมูลค่าไม่เกิน 30,000 บาท สัญญา รวมไปถึงเรื่องภาระผูกพันหลังสัญญาเสร็จ สามารถรบั จ่ายเป็นเงินสดได้ สิน้ อกี ด้วย ทงั้ น้ี หากคณะกรรมการ ป.ป.ช. ตรวจพบ รายจ่ายเหลา่ นเี้ ปน็ ตน้ ทุนที่เกดิ ขน้ึ จรงิ แต่ ว่าคู่สัญญาของรัฐไม่ได้ยื่นบัญชีหรือยื่นบัญชีไม่ถูก ไม่สามารถแสดงรายการได้เนื่องจากเป็นรายจ่ายที่ ต้องครบถ้วนในสาระส�ำคัญก็จะมีผลให้ไม่สามารถ ไม่ชอบ แต่ผู้ประกอบการอาจใช้เทคนิคทางบัญชี เขา้ เปน็ ค่สู ญั ญากับหนว่ ยงานของรฐั ได้ (Blacklist) เพ่ือหลบเล่ียง ไม่ให้สามารถตรวจสอบพบความ

106 วารสารวิชาการ ป.ป.ช. ผดิ ปกตไิ ด้ ดงั นนั้ แมจ้ ะมกี ฎหมายบงั คบั ใหจ้ ดั ทำ� บญั ชี ก�ำไรขาดทุนของโครงการที่เป็นคู่สัญญาของรัฐ รายรับรายจ่ายของโครงการ แต่ก็อาจไม่สามารถ ท่ีสามารถน�ำไปสู่การตรวจสอบเส้นทางทางการ สะท้อนให้เห็นถึงรายจ่ายท่ีแท้จริงของผู้ประกอบ เงนิ ได้ การไดต้ ามวตั ถปุ ระสงคเ์ พอ่ื ใหท้ ราบรายไดค้ า่ ใชจ้ า่ ย กลอ่ งขอ้ ความ 12 เรื่องกล่าวหาอดีตนายกองค์การบริหารส่วนต�ำบลหนองหอย อ�ำเภอพระทองค�ำ จังหวัดนครราชสีมา เรียกรับเงินจากผู้รับจ้าง งานโครงการขุดลอกอ่างเก็บน้ำ� บ้านพระงาม จำ� นวน 40,000 บาท เพือ่ เป็นการตอบแทนในการเบิกจ่ายเงินคา่ จา้ ง จากการไต่สวนขอ้ เทจ็ จริงไดค้ วามว่า เมือ่ เดือนมิถนุ ายน 2550 องค์การบริหารสว่ นต�ำบล หนองหอยได้ท�ำสัญญาจ้างห้างหุ้นส่วนจ�ำกัดแห่งหน่ึง ด�ำเนินการขุดลอกอ่างเก็บน้�ำบ้านพระงาม หมทู่ ่ี 14 ในวงเงิน 363,000 บาท แต่ปรากฏวา่ ขณะท�ำการขดุ ลอกเกดิ ฝนตกอย่างหนกั ทำ� ให้คนั ดินที่ ก้ันน้�ำพังทลายน้�ำไหลทะลักเข้าพื้นที่ขุดลอก ท�ำให้ไม่สามารถขุดลอกได้อีกต่อไป ผู้รับจ้างจึงขอ ส่งมอบงานและขอเบกิ เงนิ คา่ จา้ งตามปรมิ าณงานท่ีท�ำไดจ้ ริง คณะกรรมการตรวจการจา้ งได้พิจารณา แลว้ เหน็ วา่ เกดิ จากเหตสุ ดุ วสิ ยั จงึ เหน็ ชอบตามทผี่ รู้ บั จา้ งรอ้ งขอ ซง่ึ ผถู้ กู กลา่ วหา เมอ่ื ครงั้ ดำ� รงตำ� แหนง่ นายกองคก์ ารบรหิ ารสว่ นตำ� บลหนองหอยกไ็ ดพ้ จิ ารณาเหน็ ชอบและรว่ มลงนามทำ� บนั ทกึ ตอ่ ทา้ ยสญั ญาจา้ ง รวมทงั้ ไดพ้ จิ ารณาอนมุ ตั ใิ หเ้ บกิ จา่ ยเงนิ คา่ จา้ งแกผ่ รู้ บั จา้ งตามปรมิ าณงานทที่ ำ� จรงิ แตใ่ นการจดั ทำ� เชค็ เพื่อเบิกจ่ายเงินเป็นค่าจ้างให้แก่ผู้รับจ้างเป็นเงิน 194,967.61 บาท เม่ือหัวหน้าส่วนการคลัง และ ปลดั องคก์ ารบริหารสว่ นตำ� บลหนองหอย ไดล้ งนามในเชค็ เรยี บร้อยแล้วเสนอให้นายกองคก์ ารบริหาร ส่วนต�ำบลหนองหอย ผูถ้ กู กลา่ วหา ลงนาม แต่ไมล่ งนาม กลบั ไดเ้ รยี กร้องเงินจ�ำนวน 40,000 บาท จากผูร้ ับจา้ งเพอ่ื แลกเปลีย่ นกบั การลงนามในเช็ค 3) ภาระการตรวจสอบบญั ชแี สดงรายรบั ของโครงการใช้บังคับกับสัญญาที่มูลค่าต้ังแต่ รายจ่าย 500,000 บาทข้นึ ไป เว้นแต่ในช่วงระยะเวลาปแี รก กฎหมายไดก้ ำ� หนดใหม้ กี ารเชอื่ มโยงขอ้ มลู คอื ตงั้ แตว่ นั ท่ี 1 เมษายน 2555 – 31 มนี าคม 2556 ต า ม ป ร ะ ก า ศ นี้ ร ะ ห ว ่ า ง ก ร ม บั ญ ชี ก ล า ง ใช้บังคบั กับสัญญาทม่ี ีมูลคา่ ต้งั แต่ 2,000,000 บาท กรมสรรพากร และส�ำนกั งาน ป.ป.ช. นอกจากจะมี ขึ้นไป หรือก็คือใช้บังคับช่ัวคราวเป็นเวลา 1 ปี ต้นทุนในการจัดท�ำระบบเช่ือมโยงข้อมูลระหว่าง (Transitional Period) ทั้งน้ี การตรวจสอบบัญชี หน่วยงานแล้ว ก็อาจมีปัญหาความไม่พร้อมของ แสดงรายรับรายจ่ายแบ่งเป็น 2 ส่วน ได้แก่ หน่วยงานภาครฐั ทง้ั ท่ีทำ� หนา้ ที่ก�ำกบั ดูแล และท่ี การตรวจสอบของกรมสรรพากร และการตรวจสอบ ทำ� หนา้ ทป่ี ฏบิ ตั ดิ ว้ ย ซงึ่ การจดั ทำ� บญั ชรี ายรบั รายจา่ ย ของคณะกรรมการ ป.ป.ช.

ปที ่ี 8 ฉบบั ที่ 1 (มกราคม 2558) 107 การตรวจสอบของกรมสรรพากร เปน็ การ ด้านบุคลากรท่ีไม่สอดคล้องกับจ�ำนวนบัญชีแสดง ตรวจสอบเบอ้ื งต้นวา่ คสู่ ญั ญาได้ยนื่ แบบบญั ชแี สดง รายรบั รายจา่ ยของโครงการทม่ี แี นวโนม้ เพมิ่ ขน้ึ แลว้ รายรับรายจ่ายของโครงการหรือไม่หรือได้ย่ืนแบบ ท�ำให้ไม่สามารถตรวจสอบอย่างละเอียดได้ท้ังหมด บัญชีแสดงรายรบั รายจ่าย “ครบถ้วน” ตามจ�ำนวน ก็อาจเป็นการสร้างภาระขึ้นในอนาคต และหากไม่ ของสัญญาตามท่ีหน่วยงานของรัฐรายงานข้อมูล สามารถตรวจสอบได้ดังเช่นที่กล่าวมา นอกจากจะ ผา่ นระบบ e-Government Procurement (e-GP) ไม่มปี ระสทิ ธิภาพแลว้ ยงั หมายถึงไม่สามารถบรรลุ หรือระบบท่ีส�ำนักงาน ป.ป.ช. จัดท�ำข้ึนหรือไม่ วัตถุประสงค์ของการเปลี่ยนแปลงกฎหมายน้ีด้วย สว่ นการตรวจสอบของคณะกรรมการ ป.ป.ช. เปน็ การ อย่างไรก็ตาม จ�ำเป็นต้องมีการประเมินผลกระทบ ตรวจสอบ “ความถูกต้อง” ของแบบบัญชีแสดง จากการบังคับใชไ้ ปอกี ระยะหน่ึง รายรับรายจ่าย รวมถึงตรวจสอบเน่ืองจาก มีการกล่าวว่าเจ้าหน้าท่ีของรัฐทุจริตเก่ียวกับ ขอ้ เสนอแนะ โครงการที่ยนื่ แบบบญั ชแี สดงรายรบั รายจา่ ย 1. การย่ืนแบบบัญชีแสดงรายรับรายจ่าย บุคคลหรือนิติบุคคลที่เป็นคู่สัญญากับ ของโครงการเป็นมาตรการทางกฎหมายเพ่ือช่วย หนว่ ยงานของรฐั มกี ารยน่ื แบบบญั ชแี สดงรายรบั ราย ใหก้ ารท�ำสญั ญาระหว่างหนว่ ยงานของรฐั กบั บคุ คล จ่ายของโครงการ มีจ�ำนวนมากถึง 30,000 บัญชี หรือนิติบุคคล โดยการแสดงบัญชีรายการรับจ่าย ที่อยู่ระหว่างการย่ืนแบบบัญชีแสดงรายรับรายจ่าย ของโครงการที่เป็นคู่สัญญากับหน่วยงานของรัฐ ประจำ� ปี 2556 และสำ� นกั งาน ป.ป.ช. กำ� ลงั ดำ� เนนิ การ มีความโปร่งใส ตรวจสอบการใช้จ่ายเงินในการ ตรวจสอบ ทั้งน้ี หากเทียบกับความพร้อม จัดซื้อจัดจ้างภาครัฐและการค�ำนวณภาษีเงินได้ใน 4) การเชือ่ มโยงข้อมูลระหว่างหนว่ ยงาน รูปที่ 2: ความเชอื่ มโยงขอ้ มูลระหวา่ งหน่วยงาน ทมี่ า: การย่ืนแบบแสดงรายการภาษี และ ยื่นแสดงบัญชีรายการรับ-จ่ายทางอิเล็กทรอนิกส์, เพรามาตร หนั ตรา ทป่ี รกึ ษาด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสอ่ื สาร กรมสรรพากร มิถุนายน 2555

108 วารสารวิชาการ ป.ป.ช. โครงการของคู่สัญญาได้ แต่ในทางปฏิบัติ การลง นำ� รอ่ งในพนื้ ทจ่ี งั หวดั ในภมู ภิ าคในชว่ งปี พ.ศ. 2550 รายการค่าใช้จ่ายบางครั้งอาจเป็นการแทรกแซง โดยมรี ะยะเวลาการทำ� หนา้ ท่ี 1 ปี ทง้ั น้ี เพอ่ื ประสาน กิจการ ซึง่ ผู้ประกอบการจ�ำเปน็ ตอ้ งรกั ษาความลับ การทำ� งานรว่ มกบั ป.ป.ช. ในสว่ นกลาง ขณะนนั้ เชอ่ื วา่ เรื่องต้นทุนของกิจการเป็นกลยุทธ์ท่ีส�ำคัญในการ นอกจากจะชว่ ยลดภาระการทำ� งานของสว่ นกลางแลว้ แข่งขันทางธุรกิจเพ่ือให้สามารถแข่งขันด้านราคา ยังเป็นการยกระดับหน่วยงานตรวจสอบทุจริต ในการประมูลงานกับคู่แข่งรายอื่น โดยไม่ค�ำนึงถึง และสร้างมาตรฐานน�ำร่องของคณะอนุกรรมการ การด�ำเนนิ ธุรกจิ ของเอกชน นอกจาก จะทำ� ให้ภาค ประจ�ำจังหวดั ธุรกิจมีต้นทุนที่สูงขึ้นจากการจัดท�ำบัญชีแสดง สำ� นกั งาน ป.ป.ช. ไดท้ ดลองจดั ตง้ั สำ� นกั งาน รายรับรายจ่ายของโครงการแล้ว ยังไม่อาจสะท้อน ป.ป.ช. ประจ�ำจังหวัด เป็นโครงการน�ำร่อง 1 ปี ให้เห็นถึงต้นทุนที่แท้จริงของโครงการเนื่องจาก (ระหวา่ งวนั ท่ี 6 กนั ยายน 2550 – 5 กนั ยายน 2551) คา่ ใชจ้ า่ ยบางรายการไมส่ ามารถแสดงได้ อาจใชเ้ ทคนคิ ภายใตโ้ ครงการจดั ตงั้ คณะอนกุ รรมการประสานงาน ทางบญั ชเี พอ่ื หลบเลยี่ ง อกี ทงั้ อาจเปน็ การเพมิ่ ภาระ ป.ป.ช. ประจำ� จงั หวดั โดยด�ำเนินการใน 4 ภมู ิภาค ในการตรวจสอบบัญชีแสดงรายรับรายจ่ายของ ภูมภิ าคละ 2 จังหวดั ประกอบดว้ ย จังหวดั สโุ ขทัย โครงการที่ไม่มีประสิทธิภาพด้วย หากยังไม่มี ล�ำพูน หนองคาย สุรินทร์ จันทบรุ ี เพชรบรุ ี สงขลา แนวทางรองรับปญั หาดังกล่าว และสุราษฎร์ธานี ซ่ึงด�ำเนินการใน 2 รูปแบบ 2. ควรคำ� นงึ ถงึ ตน้ ทนุ ของภาคธรุ กจิ ทเี่ ปน็ เปรยี บเทยี บกัน คอื คสู่ ญั ญาตอ้ งเพมิ่ ตน้ ทนุ การผลติ ซงึ่ จะสง่ ผลตอ่ ราคา รปู แบบที่ 1 คณะอนกุ รรมการประสานงาน สินค้าแก่ผู้บริโภค รวมทั้งงบประมาณที่รัฐต้องจ่าย ป.ป.ช. ประจ�ำจังหวัด ประกอบด้วยผู้แทนจาก ในการซอ้ื สินคา้ ภาคราชการและเอกชนอยา่ งละครง่ึ โดยมผี วู้ า่ ราชการ 3. ความพร้อมของระบบเทคโนโลยีท่ีจะ จงั หวดั เป็นประธาน รูปแบบท่ี 2 คณะอนกุ รรมการ จัดเก็บข้อมูล เช่ือมโยงข้อมูล และป้องกันหรือ ประสานงาน ป.ป.ช. ประจำ� จงั หวัด ประกอบด้วย รักษาข้อมูลมิให้รั่วไหล และท่ีส�ำคัญความพร้อม ผู้แทนจากภาคเอกชนท้ังหมด และก�ำหนดให้ ด้านบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญทั้งภาครัฐและ ประธานมาจากการเลือกกันเอง 1 คน ภาคเอกชน การดำ� เนนิ งานในรปู ของคณะอนกุ รรมการ 4. ควรยกระดบั ระเบยี บจัดซือ้ จดั จ้างเป็น ประจ�ำจงั หวัด มหี น้าทีท่ ีส่ �ำคญั กล่าวคอื (1) ด�ำเนนิ กฎหมายระดบั พระราชบญั ญัติ การเพ่ือป้องกันการทุจริตและเสริมสร้างทัศนคติ และค่านิยมเกี่ยวกับความซ่ือสัตย์สุจริตรวมท้ัง 10. กรรมการป้องกันและปราบปรามการ ด�ำเนินการให้ภาครัฐ เอกชน ประชาชน หรือกลุ่ม ทุจรติ แห่งชาตปิ ระจ�ำจงั หวดั ประชาสงั คมในจงั หวดั มสี ว่ นรว่ มในการปอ้ งกนั และ ปราบปรามการทจุ รติ (2) เสนอมาตรการ ความเหน็ คณะกรรมการปอ้ งกนั และปราบปรามการ หรือข้อเสนอแนะต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช.เพ่ือ ทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้มีมติให้แต่งตั้ง สง่ ตอ่ หนว่ ยงานทเ่ี กยี่ วขอ้ ง เพอื่ ใหม้ กี ารปรบั ปรงุ การ คณะอนกุ รรมการประสานงาน ป.ป.ช. ประจำ� จงั หวดั

ปที ี่ 8 ฉบบั ท่ี 1 (มกราคม 2558) 109 ปฏิบัติราชการหรือวางแผนโครงการส่วนราชการ และหากโครงการน�ำร่องประสบความส�ำเร็จ ก็จะ รัฐวิสาหกิจ เพื่อป้องกันและปราบปรามการทุจริต ขยายไปยังพนื้ ทีจ่ งั หวัดในภมู ิภาคอื่นตอ่ ไป หรือการกระท�ำผิดต่อต�ำแหน่งหน้าที่และ จากประสบการณ์การจัดต้ังคณะอนุกรรมการ (3) เผยแพรค่ วามรแู้ ละใหค้ ำ� แนะนำ� เกย่ี วกบั การยนื่ ประสานงาน ป.ป.ช. ประจ�ำจังหวัด (โครงการนำ� ร่อง) บัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหน้ีสินความผิด ผลการประเมนิ และการศกึ ษารปู แบบแนวทางของ เกยี่ วกบั การเสนอราคาตอ่ หนว่ ยงานของรฐั การขดั กนั องค์กรที่มีลักษณะใกล้เคียงกันท่ีมีส�ำนักงาน ระหว่างผลประโยชน์ส่วนบุคคลและประโยชน์ ในภมู ภิ าค ไดแ้ ก่ ศาลปกครอง สำ� นกั งานการตรวจเงนิ ส่วนรวมอื่น ๆ ท่เี กีย่ วขอ้ ง จะเหน็ ได้ว่ามงุ่ เน้นงาน แผน่ ดนิ สำ� นกั งาน ป.ป.ท. เปน็ ตน้ รวมทงั้ การสำ� รวจ ด้านการป้องกันการทุจริตเป็นส�ำคัญ ท้ังน้ี ความคิดเห็นข้าราชการและลูกจ้างของส�ำนักงาน จากสถานการณ์ท่ีผ่านมา คดีทุจริตที่เกิดข้ึนส่วนใหญ่ ป.ป.ช. เก่ียวกับรูปแบบการจดั ต้ังส�ำนกั งาน ป.ป.ช. มกั กอ่ ให้เกิดความเสียหายเปน็ จำ� นวนมากและกวา่ จะ ประจ�ำจังหวัด พบว่า ร้อยละ 67.8 เห็นว่า น�ำไปสู่การด�ำเนินคดีในช้ันศาล อาจต้องใช้ระยะ ควรจดั ตง้ั ในรปู แบบเขตพน้ื ที่ และรอ้ ยละ 32.2 เหน็ วา่ เวลาค่อนข้างนาน ดังนั้น งานด้านการป้องกัน ควรจัดต้งั พร้อมกนั ทุกจงั หวดั นอกจากน้ี ยงั พบวา่ การทุจริตโดยเฉพาะในท้องถ่ินและท้องที่จึงมี ร้อยละ 58 มีความประสงค์สมัครไปปฏิบัติงาน ส่วนช่วยลดคดีทุจริตที่จะเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบได้ ณ ส�ำนกั งาน ป.ป.ช. ประจ�ำจงั หวดั ร้อยละ 38.8 เปน็ อยา่ งดี ซงึ่ คณะอนกุ รรมการ ป.ป.ช. ประจำ� จงั หวดั ไมป่ ระสงค์ และ ร้อยละ 3.2 ไม่มีความเหน็ จะเข้ามามีบทบาทในการป้องกันการทุจริตมากขึ้น กลอ่ งขอ้ ความ 13 แถลงผลงานรอบ 6 เดอื น (ปงี บประมาณ 2557 ตง้ั แตว่ นั ที่ 1 ตลุ าคม 2556-31 มีนาคม 2557) เมอื่ วนั ที่ 15 พฤษภาคม 2557 คณะกรรมการปอ้ งกนั และปราบปรามการทจุ รติ แหง่ ชาติ (ป.ป.ช.) แถลงผลงานรอบ 6 เดือน ณ ส�ำนักงาน ป.ป.ช. โดยได้ด�ำเนินการพิจารณาคณะกรรมการ ป.ป.จ. ไปแลว้ 28 จงั หวดั ขณะน้กี �ำลังพิจารณาอีก 44 จังหวดั คงเหลอื 4 จงั หวดั สว่ นสำ� นกั งาน ป.ป.ช. เองก็ได้จัดต้ังส�ำนักงาน ป.ป.ช. ประจ�ำจังหวดั ไปแล้วเชน่ กนั กล่าวคือ เม่อื ปี 2554 ด�ำเนินการไปแลว้ 9 จังหวดั ปี 2555 ดำ� เนินการไปแล้ว 23 จังหวัด และปี 2556 ดำ� เนนิ การไปแลว้ 44 จังหวดั แนวคิดดังกล่าวส่วนหน่ึงต่อมาได้ปรากฏ อ�ำนาจหน้าที่ ให้เป็นไปตามท่ีบัญญัติไว้ในพระราช ในรฐั ธรรมนูญแหง่ ราชอาณาจกั รไทย (พทุ ธศักราช บญั ญตั ปิ ระกอบรฐั ธรรมนญู วา่ ดว้ ยการปอ้ งกนั และ 2550) มาตรา 246 วรรคท้าย ท่ีได้ก�ำหนดให้มี ปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 แก้ไขเพ่ิมเติม คณะกรรมการปอ้ งกนั และปรามปรามการทจุ รติ ประจำ� (ฉบบั ที่ 2) พ.ศ. 2554 มาตรา 2 กำ� หนดให้ใชบ้ งั คับ จังหวัด โดยคุณสมบัติ กระบวนการสรรหา และ ในหมวด 9/2 ว่าด้วยคณะกรรมการป้องกันและ

110 วารสารวิชาการ ป.ป.ช. ปรามปรามการทุจริตประจ�ำจังหวัด โดยมีอ�ำนาจ คณะกรรมการ ป.ป.จ. จะช่วยให้เกิดการ หนา้ ทนี่ อกจากการสง่ เสรมิ การปอ้ งกนั และปราบปราม ประสานความร่วมมือกับประชาชนที่ประสงค์จะ การทุจริตแล้ว ยังมีอ�ำนาจหน้าที่ตรวจสอบ เข้ามามีส่วนร่วมในการป้องกันและปราบปรามการ ขอ้ เทจ็ จรงิ เรอื่ งกลา่ วหาเจา้ หนา้ ทขี่ องรฐั และรวบรวม ทุจริต ไดแ้ ก่ ผู้กล่าวหา ผูเ้ สียหาย ผ้ทู �ำคำ� ร้อง ผ้รู ้อง พยานหลักฐานเสนอคณะกรรมการ ป.ป.ช. และ ทกุ ขก์ ลา่ วโทษ ผใู้ หถ้ อ้ ยคำ� หรอื ผทู้ แ่ี จง้ เบาะแสหรอื ตรวจสอบความถูกต้องและความมีอยู่จริง รวมทั้ง ข้อมูลใดเก่ียวกับการทุจริตต่อหน้าท่ี การร�่ำรวย ความเปล่ียนแปลงของทรัพย์สินและหน้ีสินตาม ผดิ ปกติ หรอื ขอ้ มลู อน่ื อนั เปน็ ประโยชนต์ อ่ การปอ้ งกนั บญั ชแี สดงรายการทรพั ยส์ นิ และหนสี้ นิ และเอกสาร และปราบปรามการทจุ รติ รวมไปถงึ การสง่ เสรมิ การ ประกอบที่ย่ืนต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. รวมไปถึง ปอ้ งกันและปราบปรามการทจุ ริต โดยการเผยแพร่ ปฏิบัติหน้าที่อื่นตามที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. ความรู้ให้ประชาชนในทุกระดับได้ตระหนักถึง มอบหมาย เว้นแต่การไตส่ วนข้อเท็จจรงิ ผลกระทบจากการทจุ รติ และเสรมิ สรา้ งทศั นคตแิ ละ เชียงใหม่ พิษณุโลก นมบหขหรเสกมอลอ้อกาุดหุกคนนงึ ยฬยกนลรดราออเธาพสนสาแงงอฬาหาคบนิกคนด็นราาน่วัธรมคีรยลุ์ าำ� มภู ลำ� พูน พิจิตร แมฮ่ องสอน สโุ ขทัย ล�ำปาง อุตรดิษถ์ น่าน ตาก แพร่ กำ� แพงเพชร เชียงราย นครสวรรค์ พะเยา อทุ ัยธานี เพชรบูรณ์ พระนครศรอี ยุธยา นครราชสมี า นครปฐม อา่ งทอง ชัยภมู ิ สมทุ รสาคร ชลบุรี สงิ ห์บรุ ี บรุ ีรัมย์ กาญจนบรุ ี ระยอง ชยั นาท สุรินทร์ สพุ รรณบรุ ี จันทบรุ ี สระบรุ ี ศรีสะเกษ ราชบุรี ตราด ลพบุรี ยโสธร ปราจนี บรุ ี ปทมุ ธานี อุบลราชธานี สระแก้ว นนทบรุ ี อ�ำนาจเจรญิ ฉะเชิงเทรา สมทุ รปราการ สมทุ รสงคราม นครนายก ประจวบคีรขี ันธ์ เพชรบรุ ี สรุ าษฏร์ธานี สงขลา นครศรธี รรมราช สตลู ชุมพร ตรัง ระนอง พัทลงุ พงั งา ปตั ตานี กระบี่ ยะลา ภูเกต็ นราธิวาส รูปที่ 3: สำ� นกั งาน ป.ป.ช. จังหวดั เขตพน้ื ท่ี 1 – 9

ปที ี่ 8 ฉบับที่ 1 (มกราคม 2558) 111 คา่ นยิ มเกยี่ วกบั ความซอื่ สตั ยส์ จุ รติ รวมทง้ั ดำ� เนนิ การ จังหวัด เขตพื้นท่ีเพียง 9 แห่งไม่เพียงพอกับการ ให้ประชาชนหรือกลุ่มบุคคลในทุกภาคส่วนมี ท�ำงานและการขยายเครือข่ายเพ่ือรับแจ้งเบาะแส ส่วนร่วมในการปอ้ งกันและปราบปรามการทจุ ริต ของผู้กระท�ำความผิด ปัจจุบัน ส�ำนักงาน ป.ป.ช. 1) ส�ำนักงาน ป.ป.ช. ประจ�ำจังหวดั ประจ�ำจงั หวัด 76 จังหวดั ไดใ้ ช้สถานที่ราชการเปน็ มาตรา 103/21 แห่งพระราชบัญญัติ ท่ีท�ำการส�ำนักงาน และเชา่ อาคารพาณชิ ย์ ประกอบรฐั ธรรมนญู วา่ ดว้ ยการปอ้ งกนั และปราบปราม 2) ต้นทุนการด�ำเนินการสรรหาคณะ การทุจริต (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2554 ก�ำหนดให้มี กรรมการ ป.ป.จ. และการแทรกแซงกระบวนการ สำ� นกั งานป.ป.ช. ประจำ� จงั หวดั เปน็ สว่ นราชการใน ตรวจสอบในพ้ืนที่ สงั กดั สำ� นกั งาน ป.ป.ช. โดยมผี อู้ ำ� นวยการสำ� นกั งาน การสรรหากรรมการ ป.ป.จ. เปน็ เรอื่ งท่ยี งั ป.ป.ช. ประจำ� จังหวดั เป็นผบู้ งั คับบัญชาขา้ ราชการ ไม่เคยมีการด�ำเนินการมาก่อน ตลอดจนข้ันตอน และเจ้าหน้าท่ีซึ่งอยู่ในบังคับบัญชาขึ้นตรงต่อ กระบวนการสรรหาท�ำให้เกิดความล่าช้า และไม่ เลขาธกิ ารฯ มหี นา้ ทรี่ บั ผดิ ชอบงานของคณะกรรมการ คล่องตวั การสรรหาคณะกรรมการ ป.ป.จ. เข้ามา ป.ป.จ. หรืองานอื่นใดที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. ด�ำรงต�ำแหน่ง อาจสุ่มเสี่ยงต่อการเป็นช่องทางให้ มอบหมาย แต่เนื่องด้วยข้อจ�ำกัดในด้านต่าง ๆ เกดิ การแทรกแซงกลไกการตรวจสอบการใชอ้ ำ� นาจ อาทิ งบประมาณ บคุ ลากร สถานท่ี และอปุ กรณ์ เปน็ ตน้ รฐั ในระดบั พน้ื ทไี่ ด้ การดำ� เนนิ การทผี่ า่ นมา มปี ญั หา ประกอบกับผลการประเมินโครงการน�ำร่อง อุปสรรคในการสรรหาคณะกรรมการ ป.ป.จ. ดังกล่าวที่ประเมินว่าการจัดตั้งส�ำนักงาน ป.ป.ช. อยา่ งน้อยดงั น้ี ประจ�ำจังหวัดในภูมิภาคควรจัดตั้งเป็นศูนย์ภาค • มีการร้องเรียนกรรมการสรรหาฯ มากกว่าจัดตั้งให้ครบทุกจังหวัด คณะกรรมการ ในหลายจงั หวดั อาทิ รอ้ งเรยี นเกยี่ วกบั การพจิ ารณา ป.ป.ช. จงึ ไดม้ มี ตเิ หน็ ชอบใหจ้ ดั ตง้ั สำ� นกั งาน ป.ป.ช. คดั เลอื กผสู้ มคั รไม่ชอบธรรม การรอ้ งขอให้มีการลง จังหวัด เขตพน้ื ท่ี 1 - 9 ในระยะเริ่มแรก และจงั หวัด คะแนนเลือกผู้สมัคร เป็นต้น ทั้งน้ีสืบเน่ืองมาจาก ที่จะจัดต้ังขึ้นตามมาก�ำหนดให้สอดคล้องตามเขต พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการ ศาลภาค ปอ้ งกนั และปราบปรามการทุจรติ พ.ศ. 2542 แก้ไข การจดั ตง้ั สำ� นักงาน ป.ป.ช. ประจ�ำจังหวัด เพมิ่ เตมิ (ฉบบั ที่ 2) พ.ศ. 2554 กำ� หนดใหม้ กี รรมการ ทำ� ใหส้ ามารถเขา้ ถงึ หลกั ฐานไดม้ ากขน้ึ เรว็ ขนึ้ ใหค้ ำ� ปรกึ ษาในการยน่ื แบบไดอ้ ย่างใกล้ชิด จึงเป็นหนว่ ย สรรหาฯ เป็นผู้แทนของหน่วยงานหรือองค์กร 9 งานหลักตามกฎหมายในการรับค�ำร้องหรือเรื่อง ประเภท ทำ� หนา้ ทค่ี ดั เลอื กบคุ คลทสี่ มควรไดร้ บั การ กลา่ วหารอ้ งเรยี น เปน็ การแบง่ เบาภารกจิ ของสว่ นกลาง เสนอชอื่ เปน็ กรรมการ ป.ป.จ. ดงั นนั้ ผแู้ ทนหนว่ ยงาน ต่อมา ส�ำนักงาน ป.ป.ช. จึงได้เตรียมขยายให้ หรือองค์กรในบางจังหวัด จึงมิได้พิจารณาคัดเลือก ครบทกุ จงั หวดั ภายในเดอื นเมษายน 2556 คาดหวงั ผู้สมัครจากผลงานและคุณสมบัติของผู้สมัคร ให้การป้องกันและปราบปรามการทุจริตเกิด เป็นหลัก แต่พิจารณาโดยอิสระตามความคิดเห็น ประสทิ ธิผลมากทสี่ ดุ โดยเห็นวา่ สำ� นกั งาน ป.ป.ช. ของตนเอง หรอื คดั เลอื กตามคำ� สงั่ ของผมู้ อี ทิ ธพิ ลใน

112 วารสารวชิ าการ ป.ป.ช. พ้ืนที่ ท�ำให้ได้บุคคลที่ไม่มีความเหมาะสม และ เครอื ญาตกิ นั จงึ ตอ้ งดำ� เนนิ การสรรหาใหม่ ทำ� ใหเ้ กดิ ไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย อกี ทง้ั สง่ ผล ความลา่ ชา้ ให้มีการร้องเรียนผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็นกรรมการ ปัจจุบัน ประกาศคณะรักษาความสงบ ป.ป.จ. ดว้ ย แหง่ ชาติ ที่ 72/2557 เรอื่ ง การดำ� เนนิ การตามกฎหมาย • คณะกรรมการสรรหาฯ และเจา้ หน้าที่ ประกอบรฐั ธรรมนญู วา่ ดว้ ยการปอ้ งและปราบปราม ของส�ำนักงาน ป.ป.ช. ประจ�ำจังหวัดยังไม่เข้าใจ การทุจริต ได้ลดอ�ำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการ กระบวนการสรรหาและกฎหมายท่ีเกี่ยวข้อง ป.ป.จ. ในภารกิจด้านปราบปรามการทุจริตและ อาทิ พระราชบญั ญตั ิวิธปี ฏบิ ตั ริ าชการทางปกครอง ดา้ นตรวจสอบทรพั ยส์ นิ เหลอื เพยี งภารกจิ ทเ่ี นน้ งาน พ.ศ. 2539 ฯลฯ ท�ำใหก้ ารสรรหากรรมการ ป.ป.จ. ด้านป้องกันการทุจริตเท่าน้ัน สะท้อนให้เห็นถึง ของบางจังหวัดมีลักษณะท่ีขัดต่อกฎหมาย อาทิ ปัญหาการแทรกแซงกลไกการตรวจสอบการใช้ ผู้สมัครกับกรรมการสรรหา มีความสัมพันธ์เป็น อ�ำนาจรัฐในระดับพ้ืนทีข่ องคณะกรรมการ ป.ป.จ. กลอ่ งข้อความ 14 ป.ป.จ. เหลอื แต่งานด้านการป้องกันการทุจริต ศาสตราจารยพ์ เิ ศษ วชิ า มหาคณุ กรรมการปอ้ งกนั และปราบปรามการทจุ รติ แหง่ ชาติ (ป.ป.ช.) ให้สัมภาษณก์ รณที ่ีคณะรักษาความสงบแหง่ ชาติ (คสช.) มีคำ� ส่ังฉบบั ที่ 72/2557 เร่อื งการดำ� เนินการ ตามกฎหมายประกอบรฐั ธรรมนญู วา่ ดว้ ยการปอ้ งกนั และปราบปรามการทจุ รติ ในสว่ นของการสรรหา และอ�ำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการ ป.ป.จ. ระบุว่า การแก้กฎหมายดังกล่าวจะเป็นผลดีต่อ คณะกรรมการ ป.ป.ช. เร่ืองการลดแรงกดดันในการสรรหาท่ีนักการเมืองตอ้ งการส่งคนเขา้ มานงั่ อยใู่ น คณะกรรมการ ป.ป.จ. โดยค�ำส่ังดังกล่าวให้คณะกรรมการ ป.ป.จ. ท�ำหน้าท่ีเพียงการสร้างจิตส�ำนึก สรา้ งเครอื ขา่ ยดา้ นการปอ้ งกนั การทจุ รติ เพยี งอยา่ งเดยี ว เมอื่ เหลอื แตง่ านดา้ นการปอ้ งกนั กจ็ ะไมม่ ใี ครอยาก เขา้ มาเป็นคณะกรรมการ ป.ป.จ. เพราะไม่ได้ประโยชน์ ดังนนั้ คนทีจ่ ะเข้ามาทำ� งานในสว่ นน้กี ็จะต้อง เปน็ คนท่อี าสาอยา่ งแทจ้ รงิ คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้น�ำขอ้ กฎหมายหารือ คสช. เพือ่ ขอแก้ไข เน่ืองจากเกิดปัญหาเรือ่ งการ สรรหาคณะกรรมการ ป.ป.จ. ในจังหวัดท่ีด�ำเนินการอยู่ ท้ังท่ีคุณสมบัติข้อหน่ึง คือ จะต้องมีความ ซ่ือสัตย์สุจริตเป็นท่ีประจักษ์ ค�ำสั่งดังกล่าวจะท�ำให้การแต่งตั้งคณะกรรมการ ป.ป.จ. ต้องเปลี่ยนไป เพราะแต่เดิมอาจจะเกิดการฮ้ัวกัน หรือมีฝ่ายการเมืองเข้ามาแทรกแซง ซึ่งทาง คสช. คงเห็นว่าการ แต่งต้ังในรูปแบบเดิมอาจถูกแทรกแซงได้ โดยการฮ้ัวหรือโดยฝ่ายการเมืองเข้ามาแทรกแซงจึงให้มี คณะกรรมการสรรหาชุดใหม่ขึ้น ประกอบด้วย รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. หรือ ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ตามที่เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. มอบหมาย อัยการจังหวัด ผู้อ�ำนวยการคณะกรรมการการเลือกต้ังจังหวัด ผู้อ�ำนวยการส�ำนักตรวจเงินแผ่นดินจังหวัด และรองผอู้ ำ� นวยการรักษาความมนั่ คงภายในจงั หวดั (ฝา่ ยทหาร)

ปที ่ี 8 ฉบบั ท่ี 1 (มกราคม 2558) 113 3) ปัญหาด้านอัตราก�ำลังพนักงาน 4) งบประมาณ เจา้ หนา้ ท่ี งบประมาณในสว่ นของบคุ ลากรมจี ำ� กดั ไม่ อัตราก�ำลังพนักงานเจ้าหน้าท่ีด้านปราบ สามารถจัดสรรอัตราก�ำลังเพ่ิมเติมให้กับส�ำนักงาน ปรามการทุจริตยังมีจ�ำนวนไม่ครบตามกรอบอัตรา ป.ป.ช. ประจำ� จงั หวดั ซงึ่ กอ่ ใหเ้ กดิ มปี ญั หาการเกลยี่ ก�ำลัง เมื่อเปรียบเทียบกับปริมาณคดีท่ีเข้าสู่ อตั รากำ� ลงั ขา้ งตน้ ขณะทงี่ บประมาณในการกอ่ สรา้ ง สำ� นกั งาน ป.ป.ช. จำ� นวนมากขน้ึ โดยลำ� ดบั ประกอบ อาคารที่ท�ำการถาวรไม่เพียงพอ ท�ำให้ต้องขอใช้ กับประเภทคดีที่มีลักษณะเฉพาะและต้องใช้ความ สถานท่ที ำ� การของราชการและเช่าอาคารพาณชิ ย์ เช่ียวชาญเฉพาะด้าน อาทิ คดีร�่ำรวยผิดปกติ นอกจากน้ี ในสว่ นของคณะกรรมการ ป.ป.จ. คดที รพั ยากรธรรมชาติ คดจี ดั ซอื้ จดั จา้ งในโครงการ จ�ำเป็นต้องมีค่าตอบแทน และผลประโยชน์อื่น ๆ ขนาดใหญ่ คดีเศรษฐกจิ เปน็ ตน้ ทำ� ให้อัตราก�ำลงั ด้วย ซึ่งถือเป็นภาระรายจ่ายประจ�ำที่ค่อนข้างสูง พนักงานเจ้าหน้าท่ีด้านปราบปรามการทุจริตไม่ได้ โดยอัตราค่าตอบแทนรายเดือนของประธาน สัดส่วนกับจ�ำนวนคดีที่ต้องพิจารณาในแต่ละปี กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประจ�ำ พนักงานเจ้าหน้าท่ีส่วนหนึ่งจ�ำเป็นต้องจัดสรรและ จงั หวดั 57,650 บาท ตอ่ เดอื น และกรรมการปอ้ งกนั กระจายบุคลากรให้ไปปฏิบัติงานในส�ำนักงาน และปราบปรามการทุจริตประจ�ำจังหวัด 47,240 ป.ป.ช. ประจ�ำจังหวัดโดยเฉพาะระดับเช่ียวชาญ บาทต่อเดอื น หากคำ� นวณเบ้อื งต้นท่คี ณะกรรมการ ทำ� ใหม้ ปี รมิ าณคดคี า้ งสะสมเพม่ิ ขนึ้ และคาดวา่ จะมี ป.ป.จ. จำ� นวน 3 คน (ประธานกรรมการ 1 คน และ แนวโน้มเพิ่มข้ึนโดยล�ำดับ ขณะเดียวกันส�ำนักงาน กรรมการ 2 คน) ท้งั 76 จังหวัด จะมภี าระรายจา่ ย ป.ป.ช. ประจำ� จงั หวดั กข็ าดพนกั งานเจา้ หนา้ ทร่ี ะดบั ประจ�ำอย่างน้อยเกือบ 140 ล้านบาทต่อปี ช�ำนาญการที่มีประสบการณ์การท�ำงานโดยเฉพาะ โดยไมร่ วมรายจา่ ยอื่น ๆ ดา้ นการปราบปรามการทุจรติ ทสี่ ามารถเป็นพเ่ี ลี้ยง สำ� นกั งาน ป.ป.ช. ประจำ� จงั หวดั ไมม่ สี ถานท่ี (Coaching) ให้กับพนักงานเจ้าหน้าท่ีระดับปฏิบัติ ท�ำการเป็นของตนเอง จึงต้องขอใช้สถานท่ีของ การได้ สงิ่ เหลา่ นยี้ อ่ มสง่ ผลโดยตรงตอ่ ประสทิ ธภิ าพ หน่วยงานราชการในจังหวัดเป็นท่ีท�ำการ อาทิ การท�ำงานของส�ำนกั งาน ป.ป.ช. ประจ�ำจังหวดั อาคารศาลากลางจังหวัด อาคารธนารักษ์จังหวัด อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ของส�ำนักงาน อาคารที่ว่าการอ�ำเภอ อาคารห้องสมุดประชาชน ป.ป.ช. ประจำ� จงั หวดั ทที่ ำ� หนา้ ทใี่ นการแสวงหาขอ้ สถานขี นสง่ ผโู้ ดยสารในจงั หวดั สนามกฬี าในจงั หวดั เท็จจริงในพ้ืนท่ีก่อนที่เรื่องจะเข้าสู่กระบวนการ เปน็ ตน้ ซงึ่ สถานทบ่ี างแหง่ มคี วามคบั แคบไมเ่ หมาะ ตรวจสอบในช้ันของคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีส่วน สมในการปฏบิ ัติงาน ดงั น้นั จึงต้องมีการเชา่ อาคาร ช่วยให้การด�ำเนินการรวดเร็วขึ้นและเป็นการ พาณิชย์เพื่อเป็นที่ท�ำการแห่งใหม่ และ/หรือมีการ ประหยัดงบประมาณจากเดิมที่ต้องส่งพนักงาน เชา่ เพมิ่ เตมิ จากพน้ื ทเี่ ดมิ สงิ่ เหลา่ นเี้ ปน็ ตน้ ทนุ ทเี่ กดิ ขนึ้ เจา้ หนา้ ทจี่ ากสว่ นกลางลงพนื้ ทดี่ ำ� เนนิ งานในแตล่ ะ จากการจัดตั้งสำ� นกั งาน ป.ป.ช. ประจ�ำจงั หวดั จังหวดั ซง่ึ เปน็ ต้นทุนคา่ ใช้จา่ ยในการดำ� เนนิ งานสงู และสน้ิ เปลืองเวลามาก

114 วารสารวิชาการ ป.ป.ช. ข้อเสนอแนะ และการลงโทษท่ีรุนแรง (Cost of Prosecution and Proceeding) โดยการเพม่ิ ประสทิ ธภิ าพ ความ การมคี ณะกรรมการ ป.ป.จ. เพอ่ื เปน็ กลไก รวดเร็ว และการบังคับใช้กฎหมายอย่างเฉียบขาด การตรวจสอบข้อเท็จจริง ในระดับพ้ืนที่เพ่ือช่วย ขององค์กรตรวจสอบและกระบวนการด�ำเนินคดี แบ่งเบาภาระของส่วนกลาง แต่อย่างไรก็ตาม รวมท้ังภาคประชาชนต้องช่วยสอดส่อง ช้ีเบาะแส ต้องค�ำนึงถึงต้นทุนที่เกิดข้ึนจากการเข้ามาครอบง�ำ และให้ข้อมูลเพ่ือให้ต้นทุนของการทุจริตสูงข้ึนหรือ และแทรกแซงกลไกการเข้ามาตรวจสอบตั้งแต่ชั้น เท่ากบั ศูนย์ เมื่อเทยี บกับผลประโยชนท์ ่ไี ดจ้ ากการ ของการสรรหาคณะกรรมการ ป.ป.จ. รวมไปถึง ทุจริต (Benefit) ด้วยการแก้ไขกฎหมายลดการใช้ ต้นทุนค่าตอบแทนของคณะกรรมการ ป.ป.จ. ปลี ะ ดุลพินิจเพ่ือตัดอ�ำนาจการผูกขาดและอ�ำนาจ 140 ล้านบาท ก็อาจท�ำให้คณะกรรมการ ป.ป.จ. ดุลพินิจ ให้กระบวนการมีความโปร่งใสตามหลัก เป็นกลไกที่ไม่มีประสิทธิภาพป้องปรามการทุจริต ธรรมภิบาล (Good Governance) ดังรูปท่ี 4 และไม่เกิดประสิทธิผลตามเจตนารมณ์ของการ เปลย่ี นแปลงกฎหมายน้ี อย่างไรก็ตาม ในด้านส�ำนักงาน ป.ป.ช. ประจ�ำจังหวัด ซ่ึงมีอัตราก�ำลังเฉพาะเจ้าหน้าท่ี ป.ป.ช. เพ่ือด�ำเนินการด้านการป้องกัน ด้านการ ปราบปราม ดา้ นการตรวจสอบทรพั ยส์ นิ ตามภารกจิ ของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ควรมีต่อไป แต่ควร ปรับปรุงรูปแบบโครงสร้าง อัตราก�ำลัง และ งบประมาณใหเ้ กดิ ประสิทธภิ าพยง่ิ ข้นึ สรุปการเปลยี่ นแปลงกฎหมาย แรงจูงใจที่จะกระท�ำการทุจริตมีปัจจัย หลายประการ การเปล่ียนแปลงกฎหมายก็เป็น ปัจจัยประการหนึ่งเท่านั้นที่จะท�ำให้เพิ่มต้นทุน การทจุ รติ ใหส้ งู หรอื เทา่ กบั ศนู ยเ์ มอื่ เทยี บกบั ประโยชน์ ทไี่ ดจ้ ากการทจุ รติ แตย่ งั มปี จั จยั อนื่ ทจี่ ะลดแรงจงู ใจ ของผู้ท่ีจะกระท�ำการทุจริตด้วยการเพิ่มต้นทุน การทจุ รติ ใหส้ งู ขน้ึ โดยเพม่ิ ตน้ ทนุ จากการถกู ตรวจสอบ (Cost of Caught) และเพ่มิ ตน้ ทนุ จากการถูกดำ� เนนิ คดี

สสาเาหเหตุตุ แนวทางการแก้ไข   ประโยชนท์ ีไ่ ด้ ขาดความโปร่งใส ใช้หลัก Good Governance จากการทุจรติ การผูกขาด ปลูกจติ สํานึก การตัดสนิ ใจ การใชด้ ลุ ยพนิ จิ ไมช่ อบ กระทําการทจุ ริต แก้ระเบยี บ/กฎหมาย เพอ่ื ลดการผูกขาด และการใช้ดุลยพินจิ ตน้ ทนุ ของ ต้นทนุ การถูกตรวจ องคก์ รตรวจสอบป.ป.ช./ รวดเรว็ ถูกตอ้ ง เป็นธรรม ปีที่ 8 ฉบับท่ี 1 (มกราคม 2558) 115 การทจุ ริต สอบ/จบั กมุ ปปท./สตง./DSI รเู้ ทา่ ทันการทจุ ริต ต้นทนุ การถกู ดาํ เนนิ การมสี ว่ นรว่ มตรวจสอบ คุม้ ครองพยาน/ช้ีเบาะแส คดี/โทษรนุ แรง จากภาคประชาชน อัยการ ความรวดเร็ว ถูกต้อง เป็นธรรม ศาล ศาลพิเศษเฉพาะคดีทจุ ริต โทษ รุนแรง รูปที่ 4: สาเหตุและแนวทางการแกไ้ ข

116 วารสารวชิ าการ ป.ป.ช. เอกสารอ้างองิ ประธาน วัฒนวาณชิ ย์ และคณะ (2555). วเิ คราะห์ การจ่ายเงินสินบนและเงินรางวัลแก่เจ้า ข้อบังคับว่าด้วยประมวลจริยธรรมของสมาชิกสภา หนา้ ท่ขี องรฐั ในการปฏบิ ตั ิหน้าที่. ผ้แู ทนราษฎรและกรรมาธิการ พ.ศ. 2553 ประกาศคณะกรรมการ ป.ป.ช. ว่าด้วยหลักเกณฑ์ ข้อบังคับว่าด้วยประมวลจริยธรรมของสมาชิก วิธีการและเงื่อนไขในการกันบุคคลหรือผู้ วฒุ สิ ภาและกรรมาธกิ าร พ.ศ. 2553 ถูกกล่าวหาไว้เป็นพยานโดยไม่ด�ำเนินคดี พ.ศ.2554 คณะทำ� งานกำ� หนดปฏทิ นิ งานแบบพมิ พค์ มู่ อื ปฏบิ ตั ิ งานและการซักซ้อมความเข้าใจเกี่ยวกับ ประกาศคณะกรรมการ ป.ป.ช. เร่อื ง หลักเกณฑ์ วธิ ี แนวทางวิธีการสรรหากรรมการ ป.ป.จ. การและเงื่อนไขในการกันบุคคลหรือผู้ถูก ศูนยบ์ ริหารงาน ป.ป.ช.จงั หวดั ส�ำนักงาน กลา่ วหาไวเ้ ปน็ พยานโดยไมด่ ำ� เนนิ คดี พ.ศ. ป.ป.ช. (2556). รายงานผลการตรวจสอบ 2554 แ ล ะ ผ ล ก า ร ป ฏิ บั ติ ห น ้ า ที่ ข อ ง ค ณ ะ กรรมการ ป.ป.ช. ประจ�ำปี 2554 คู่มือ ประกาศคณะกรรมการ ป.ป.ช. เรอื่ ง หลกั เกณฑแ์ ละ ปฏิบัติงานการสรรหากรรมการป้องกัน วธิ กี ารจดั ทำ� และแสดงบญั ชรี ายการรบั จา่ ย และปราบปรามการทุจริตประจ�ำจังหวัด ของโครงการที่บุคคลหรือนิติบุคคลเป็นคู่ ตามระเบียบคณะกรรมการป้องกันและ สัญญากับหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2554 ปราบปรามการทุจริตแห่งชาติว่าด้วย และทแ่ี ก้ไขเพิม่ เตมิ กรรมการป้องกันและปราบปรามการ ทจุ รติ ประจ�ำจังหวัด พ.ศ. 2555 ปัณณ์ อนนั อภบิ ุตร และคณะ (2555). การปฏิรปู ระบบงบประมาณของไทยเพื่อต่อต้าน จนั ทมิ า ธนาสวา่ งกลุ (2004). ปญั หาในกระบวนการ การทจุ รติ . ศนู ยก์ ำ� กบั ดแู ลการจดั ซอื้ จดั จา้ ง ยุติธรรมทางอาญาและการบังคับใช้ ภาครัฐ ส�ำนักงาน ป.ป.ช.. คู่มือแนวทาง ก ฎ ห ม า ย ข อ ง ไ ท ย ต า ม อ นุ สั ญ ญ า การเปดิ เผย รายละเอยี ดคา่ ใชจ้ า่ ยเกย่ี วกบั สหประชาชาตวิ า่ ดว้ ยการตอ่ ตา้ นการทจุ รติ การจัดซื้อจัดจ้างราคากลางและการ ค.ศ. 2003. วารสารวชิ าการ ป.ป.ช., 4(1). ค�ำนวณราคากลาง. เดลินิวส์, พฤษภาคม 2556 ภควดี ประดับเพชรรัตน์ (2556). การคุ้มครอง เดอื นเดน่ นคิ มบรริ กั ษ์ (2556). วสิ ยั ทศั นต์ า้ นทจุ รติ : พยานในการป้องกันและปราบปรามการ ทุจริตในภาครัฐ. วารสารกระบวนการ แนวคดิ ในเชงิ นติ ศิ าสตร-์ เศรษฐศาสตร์ ในการ ยุติธรรม, 6(1). ต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชัน, จุลสาร เมธี ครองแกว้ (2558). นติ เิ ศรษฐศาสตรก์ บั การปอ้ งกนั สำ� นักงาน ป.ป.ช. สุจรติ , 13(47). และปราบปรามการทจุ รติ . กรงุ เทพฯ: สำ� นกั งาน นภวรรณ ชลพนิ ทว์ุ ิสทุ ธิ์. งานนำ� เสนอ “มาตรการ ป.ป.ช. (เอกสารประกอบค�ำบรรยาย) จัดซ้ือจัดจ้างตามกฎหมาย ป.ป.ช.” ระเบียบส�ำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยประมวล และ “แนวทางการประกาศเปิดเผยราคา จ ริ ย ธ ร ร ม ข อ ง ข ้ า ร า ช ก า ร ก า ร เ มื อ ง กลางและรายละเอียดการค�ำนวณราคา พ.ศ. 2551 กลางไวใ้ นระบบขอ้ มูลอเิ ล็กทรอนกิ ส์”.

ปีท่ี 8 ฉบบั ท่ี 1 (มกราคม 2558) 117 ระเบยี บคณะกรรมการ ป.ป.ช. ว่าดว้ ยการคุม้ ครอง สำ� นักกฎหมาย ส�ำนักงาน ป.ป.ช. คู่มอื เร่อื ง หลัก ช่วยเหลอื พยาน พ.ศ. 2554 เกณฑ์และวิธีการจัดท�ำและแสดงบัญชี ระเบียบคณะกรรมการ ป.ป.ช. ว่าด้วยการจัดให้มี รายการรับจ่ายของโครงการท่ีบุคคลหรือ รางวัลตอบแทนหรือประโยชน์อื่นใด นติ บิ คุ คลเปน็ คสู่ ญั ญากบั หนว่ ยงานของรฐั . เพื่อส่งเสริมการป้องกันและปราบปราม ส�ำนักงาน ป.ป.ช. (2554). รายงานประจ�ำปีของ การทจุ ริต พ.ศ. 2554 สำ� นักงาน ป.ป.ช. 2554. ระเบยี บคณะกรรมการ ป.ป.ช. ว่าด้วยการจา่ ยเงนิ ส�ำนักกฎหมาย ส�ำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา สินบน พ.ศ.2553 และท่ีแก้ไขเพ่ิมเติม (2555). พระราชบัญญัติประกอบ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2554 รัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบ ระเบียบคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการ ปรามการทจุ รติ พ.ศ. 2542 แก้ไขเพม่ิ เตมิ ทจุ รติ แหง่ ชาตวิ า่ ดว้ ยกรรมการปอ้ งกนั และ ฉบับท่ี 2 พ.ศ. 2554 พร้อมท้งั สรปุ สาระ ปราบปรามการทุจริตประจ�ำจังหวัด พ.ศ. สำ� คัญ ประวตั ิ ความเปน็ มา กระบวนการ 2555 และข้ันตอนในการตราพระราชบัญญัติ ลอยลม ประเสริฐศรี (2554). พฤติกรรมการ ประกอบรัฐธรรมนูญดังกล่าวของรัฐสภา คอร์รัปชันภายหลังกระท�ำความผิด: (ก.ป.136/2555). ผลจากการทดลอง. วารสารวิชาการ สำ� นักกฎหมาย ส�ำนกั งาน ป.ป.ช. (2555). พระราช ป.ป.ช., 4(1). บั ญ ญั ติ ป ร ะ ก อ บ รั ฐ ธ ร ร ม นู ญ ว ่ า ด ้ ว ย วชิ า มหาคณุ . สมั ภาษณพ์ เิ ศษคณะกรรมการ ป.ป.ช. การป้องกันและปราบปรามการทุจริต : ป.ป.ช. รุกตา้ นทจุ ริต เพิ่มประสิทธภิ าพ พ.ศ. 2542 (แกไ้ ขเพม่ิ เตมิ พ.ศ. 2550 และ การไต่สวนด้วยมาตรการคุ้มครองพยาน (ฉบับท่ี 2) พ.ศ.2554) และกฎหมายที่ และการกันบุคคลไว้เป็นพยาน. จุลสาร เก่ียวข้อง สารัตถะเก่ียวกับกฎหมาย ส�ำนักงาน ป.ป.ช. สจุ ริต, 13(47). ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกัน ศรัณย์ ธิตลิ ักษณ์. เวทีสาธารณะ: สร้างความเจรญิ และปราบปรามการทุจรติ , ของประเทศ ด้วยการประกาศพฤติกรรม ส�ำนักงาน ป.ป.ช. พระราชบัญญัติประกอบ – ช่ัวร้าย (Whistleblower) ต่อสังคม. รัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบ จุลสารสำ� นักงาน ป.ป.ช. สุจริต, 13(47). ปรามการทุจรติ พ.ศ. 2542. เอกสารเผย ศูนย์ส่งเสริมจริยธรรม สถาบันพัฒนาข้าราชการ แพร่ การส่งเสริมการมีส่วนร่วมของ พลเรือน ส�ำนักงานคณะกรรมการ ประชาชนในการป้องกันและปราบปราม ข้าราชการพลเรือน. (2554), คู่มือการ การทุจริตตามกฎหมาย ป.ป.ช. ที่แก้ไข พั ฒ น า แ ล ะ ส ่ ง เ ส ริ ม ก า ร ป ฏิ บั ติ ต า ม เพม่ิ เติม. มาตรฐานทางจริยธรรมข้าราชการ พลเรอื นสำ� หรบั คณะกรรมการจรยิ ธรรม. สยามธรุ กจิ , มิถนุ ายน 2554

118 วารสารวิชาการ ป.ป.ช. เอก ต้ังทรัพย์วัฒนา และคณะ (2554). แนวทาง การประยุกต์มาตรการสากลเพื่อการต่อ ต้านการทุจริตของประเทศไทย. วารสาร วิชาการ ป.ป.ช., 4(1). Becker, G. S. (1968). Crime and Punishment: An Economic Approach, Journal of Political Economy. Klitgaard, R. (1998). International Cooperation against Corruption. Finance& Development. http://www.manager.co.th/Home/ ViewNews.aspx?NewsID= 9540000066809. http://www.prachatai.com/jour- nal/2014/01/509903. http://www.isranews.org/isranews-news/ item/20784.

3ตอนที่ บทความปริทัศน์ Book Review

120 วารสารวชิ าการ ป.ป.ช. เส้นทางสูป่ ระชาธิปไตยทางการเมือง: จากเพลโตสู่กฎบตั รสทิ ธิข้ันพนื้ ฐาน ของสหภาพยโุ รป The Road to Political Democracy: From Plato to the Charter of Fundamental Rights of the European Union Ackadej Chaiperm I The Road to Political Democracy: From Plato to the Charter of Fundamental Rights of the European Union Author Robert Senelle, Emile Clément, Edgard Van De Velde Total Pages: 1071 p Published 2012 Quest for democracy is, and, in a society as well as the people to be democratized much broader sense, has been a challenging than in an old day. It is not true. outlook for those, committedly or not, This book serves as a good example concerned. We live in a so-called prescribed of viewing this thing from many aspects: postmodern era, with an emergence of new historical, philosophical, sociological, state mechanism and a supra-national cultural, economical, legal and administrative. structure, to say the least, making us feel It begins in the first part with three guiding there would be a more optimized way for state, questions: (1) on the origin of the state and I Assistant Professor to the Department of Public Administration, Faculty of Political Science, Chulalongkorn University, Thailand and Consultant to the Thai Administrative Court

ปที ่ี 8 ฉบับท่ี 1 (มกราคม 2558) 121 the need to rule and to be ruled; (2) on the Europe), Hannah Arendt, Isaiah Berlin, different political system – the importance Raymond Aron, John Rawls, Maurice of the roots in antiquity; (3) on what ground Duverger, Robert Nozick, F. Fukuyama, S. is the ruler’s authority founded? These Huntington, A. Sen and Charter of questions are set in order to prepare the Fundamental Rights of the EU. Closing reader to get on the good ground, then section is in form of “post-script” presented followed by what being used here as the by Herman Van Rompuy, the President of “pavement”: the analysis of political the European Council on Europe, Political democracy by fourAristotelian characteristics Democracy and the Flux of Time. which are (1) the rule by turn and the extent In terms of unit of analysis, the to which all citizens have a stake of interest; authors, while giving comments at the every (2) the importance of the middle class; (3) end of each 'mini chapter\", have the rule of law; (4) the rule of education. differentiated this unit in different layers The closing section of the first part of this ranging from a deep individual to a broad book is named as the Journey on the Road state according to each philosopher's, to Political Democracy, presented with some thinker's or practitioner's state of nature. We thoughtful dialectic views, even warning can see units of analysis when comments are ones, to those wishing themselves to given to Plato very much different from those untimely encounter the perfect world. to Sen, Paine and Rawls. Despite this The second part of this book is “the variation, one grasps the underlying fact that Workers on and the Building Blocks of the the \"one size fits all\" approach never exists. Road to Political Democracy”. Here Rather, regardless how many years have presented are (frame)works from Plato, passed, political democracy, here Aristotle, Marcus Tullius Cicero, the Magna metaphorically being described as the end Carta, Habeas Corpus Act, Bill of Rights, of the road, never has its own blocks. And John Locke, Voltaire, Charles-Louis de despite this variation, this book shows us it Secondat, Baron de Montesquieu, David is of utmost important to have a right Hume, Jean-Jacque Rousseau, Thomas conceptual framework of human beings, not Paine, the Virginia Declaration of Rights, only because it is a fundamental fact for the United States Declaration of every social science subject but because it Independence, Alexander Hamilton, James gives one a true \"direction\" when driving Madison, John Jay, the Declaration of the towards a democracy. Human beings can Rights of Man and of the Citizen (French be just a labor animal, economic man, National Constituent Assembly), the 1791 administrative man, political man, or they Bill of Rights of the United States of America, can even be a person. Thus, freedom, for Benjamin Constant, Alexis de Tocqueville, instance, among human beings as a labor John Stuart Mill, Maximilian Weber, J. A. animal could not be the same as that among Schumpeter, F. A. Hayek, Universal person. To some extent, the Maximum rule Declaration of Human Rights (UN), Convention cannot be applied to any societal context for the Protection of Human Rights and being far from calculable quality. The Fundamental Freedoms (the Council of closing remark in future democracy

122 วารสารวชิ าการ ป.ป.ช. pinpoints some concerns of how to retain a quality of civilisation which, again, never belongs to human beings who are not a person. Not so often that the terminology of Sovereignty in a so- called Political Science literature is neatly analyzed and interpreted. What you can find in this book are analyses and interpretations of legislative, executive and judiciary power to some findings in democratic value and practice. Encompassing? Yes. But, regarding the fact that there is somehow another \"extra\" form of political institutions which is in status neither legislative nor executive nor judiciary, for example, one in Thailand which was called an \"constitutional autonomous body\" performing functions of counter corruption, managing election, general audit and ombudsman - another block of the road (!) - it would be then more suitable to have more of this for our contemporary situation. This documented 25 century experience is invaluable for the Thais at all level. Thailand has been moving towards tunnel of paradoxes and dilemmas in search of democracy. Sensitive as it would always be, the society should learn primarily to be \"democratic\" in thoughts, not from a learning-by-doing ground. Having been striving for almost 80 years is a quest for the one best way, only just to realize it will never yield anything. Democratizing is not standardizing - that is the next step that the Thais must learn from this book.

4ตอนที่ ป.ป.ช.ปกณิ กะ NACC Miscellaneous

124 วารสารวชิ าการ ป.ป.ช. การสงั เคราะห์การทจุ รติ กบั สถาบนั ประชาธิปไตย Corruption and Democratic Institutions: A Review and Synthesis* ฉันทช์ นก เจนณรงค์ I Professor Matthew C. Stephenson งานวจิ ยั นเ้ี รม่ิ ตน้ ดว้ ยคำ� ถามวา่ “การเลอื กตงั้ อาจารย์ประจำ� ท่ี Harvard Law School ประเทศ ในระบอบประชาธิปไตยสามารถช่วยลดการทุจริต สหรัฐอเมริกาจบการศึกษาด้านเศรษฐศาสตร์ ได้หรือไม่ (Do democratic elections help การเมืองและกฎหมาย มีความสนใจในเร่ืองการ reduce corruption?) ซงึ่ คนสว่ นใหญม่ คี วามคาดหวงั ทุจริตคอร์รัปชันและได้ท�ำการวิจัยในหัวข้อต่าง ๆ และเชอ่ื วา่ ค�ำตอบ คอื “ใช”่ และแมจ้ ะมีหลกั ฐาน ท่ีเก่ียวข้องกับการทุจริต ซ่ึงงานวิจัยที่อยู่ระหว่าง ท่ีสนับสนุนว่าการปกครองในระบอบประชาธิปไตย การดำ� เนินการ คือ การวจิ ัยในหัวข้อ “Corruption and สามารถลดการทุจริตได้ แต่ในขณะเดียวกัน Democratic Institutions: A Review and Synthesis” ประชาธิปไตยก็มิใช่ปัจจัยเดียวที่จะส่งผลต่อการ โดยมีค�ำถามส�ำคัญว่า “รูปแบบการเลือกต้ัง ทุจริตคอร์รัปชัน หากเพียงแต่จะมีอิทธิพลต่อรูปแบบ ในระบอบประชาธิปไตยสามารถช่วยลดการทุจริต ของการทจุ ริตท่จี ะเกดิ ขึน้ คอรร์ ปั ชนั ไดห้ รอื ไม”่ (Do democratic elections จากการส�ำรวจตา่ ง ๆ พบวา่ คนสว่ นใหญ่ help reduce corruption?) ซ่ึงงานวิจัยนี้ ไม่ชอบและไม่ให้การสนับสนุนการทุจริต ไม่ว่าจะ เป็นการศึกษากรณีท่ัวไปเก่ียวกับรูปแบบการเลือกตั้ง เปน็ ประชาชนในประเทศทพ่ี ฒั นาแลว้ หรอื ประเทศ ในระบอบประชาธิปไตยและการทุจริต ไม่ไดเ้ ฉพาะ ก�ำลังพัฒนาก็ตาม เน่ืองจากการทุจริตส่งผลให้ เจาะจงประเทศใดประเทศหนึ่งเป็นการเฉพาะ การเจรญิ เตบิ โตทางเศรษฐกจิ เปน็ ไปอยา่ งลา่ ชา้ และ อีกทั้งยังเป็นประเด็นท่ีเก่ียวข้องและน่าสนใจ การบริการสาธารณะที่ไม่มีประสิทธิภาพ รวมถึง ส�ำหรับประเทศไทย เน่ืองจากขณะนี้ประเทศไทย ประชาชนยังไม่ชอบรัฐบาลที่บริหารประเทศอย่าง อยู่ระหว่างการปฏิรูปกฎหมายและสถาบันทาง ไรซ้ งึ่ ประสทิ ธภิ าพ และมคี วามคาดหวงั วา่ การเลอื กตง้ั การเมอื ง และปญั หาการทจุ รติ คอรร์ ปั ชนั กเ็ ปน็ ประเดน็ ในระบอบประชาธิปไตยสามารถท�ำให้ประชาชน ปญั หาทีไ่ ด้รบั ความสนใจอย่างมาก สามารถควบคมุ การทำ� งานและความรบั ผดิ ชอบของ I นกั วิจัยสังคมศาสตร์ปฏิบัติการ ศนู ย์วิจยั เพือ่ ต่อต้านการทุจริต ปว๋ ย อง๊ึ ภากรณ์ สำ�นกั งาน ป.ป.ช. * การบรรยายของ Prof. Matthew C. Stephenson อาจารย์ประจ�ำ Harvard Law School ในหัวขอ้ “Corrup- tion and Democratic Institutions: A Review and Synthesis” วันท่ี 18 ธันวาคม พ.ศ. 2557 ณ ห้องเกียรตยิ ศ อาคาร 1 ชั้น 1 ส�ำ นักงาน ป.ป.ช.

ปที ่ี 8 ฉบบั ท่ี 1 (มกราคม 2558) 125 รัฐบาลที่จะไม่ท�ำการทุจริตและควบคุมไม่ให้ผู้อื่น จากการท�ำการศึกษาวิจัยโดยการเปรียบเทียบ กระท�ำการทุจริตได้อย่างจริงจัง อย่างไรก็ตาม ขา้ มประเทศ (cross-country research) เพอื่ ศกึ ษา ยังมีเหตุผลอีกหลายประการท่ีท�ำให้ความสัมพันธ์ ความสัมพันธ์ระหว่างประชาธิปไตยกับการรับรู้ ระหว่างการเลือกตั้งในระบอบประชาธิปไตยและ การทุจริต (มีการวัดระดับความเป็นประชาธิปไตย การควบคุมการทุจริตไม่ประสบความส�ำเร็จ โดยองคก์ รตา่ ง ๆ เชน่ Freedom House , World Bank's และท�ำลายประสิทธิภาพของความรับผิดชอบต่อ Database of Political Institutions และการวดั ระดบั การเลอื กตง้ั ของนกั การเมอื งทท่ี จุ รติ ไดแ้ ก่ การขาด การรับรู้การทุจริตโดยองค์กรระหว่างประเทศ ข้อมูล (lack of information) กล่าวคือ แม้ว่า เช่น ธนาคารโลก (World Bank) และ องค์กร ผเู้ ลอื กตงั้ จะไมส่ นบั สนนุ นกั การเมอื งทมี่ สี ว่ นเกยี่ วขอ้ ง เพ่ือความโปร่งใสนานาชาติ (Transparency กบั การทจุ ริต แตผ่ ู้มีสทิ ธ์เิ ลือกตงั้ อาจไม่ตระหนกั ถึง International – TI) เปน็ ตน้ ซ่ึงจากการศึกษาต่าง ๆ ปัญหาการทุจริตที่เกิดขึ้นเน่ืองจากมีการศึกษาต�่ำ พบว่า ประเทศท่ีมีความเป็นประชาธิปไตยสูงจะมี และความไม่มีอิสระของสื่อมวลชนในการน�ำเสนอ ระดับการรับรู้การทุจริตต่�ำ โดยมีหลักฐาน ขอ้ มูลขา่ วสารต่าง ๆ ดงั น้ัน รูปแบบทางสังคมท่ีจะ เชิงประจักษ์ว่าประเทศที่ปกครองในระบอบ สามารถคาดหวังได้ว่าการเลือกต้ังในระบอบ ประชาธิปไตยมาอย่างยาวนานและมีสถาบัน ประชาธปิ ไตยจะชว่ ยลดการทจุ รติ ได้ คอื ประชาชน ประชาธิปไตยที่สมบูรณ์จะมีระดับการรับรู้ มีการศึกษาที่ดี มีความสนใจและมีส่วนร่วมทาง การทุจริตต่�ำกว่าประเทศอ่ืน ๆ แต่ประเทศท่ีเป็น การเมอื ง รวมถงึ สอื่ มวลชนมคี วามอสิ ระในการนำ� เสนอ ประชาธปิ ไตยใหมแ่ ละประเทศทม่ี ปี ระชาธปิ ไตยครงึ่ ใบ ข่าวสารตอ่ สาธารณะ (หรอื ประชาธปิ ไตยไมส่ มบรู ณ)์ จะมกี ารรบั รกู้ ารทจุ รติ นอกจากน้ี แมว้ า่ ผมู้ สี ทิ ธเิ์ ลอื กตงั้ จะไมช่ อบ มากกว่าประเทศที่ไม่เป็นประชาธิปไตย โดยท่ี การทุจริตและมีแนวโน้มท่ีจะไม่ให้การสนับสนุน ประเทศที่เป็นประชาธิปไตยอย่างสมบูรณ์และ นักการเมืองท่ีกระท�ำการทุจริต และได้มีข้อค้นพบ ปกครองดว้ ยระบอบประชาธปิ ไตยมายาวนาน โดยที่ จากการส�ำรวจว่าผู้มีสิทธ์ิเลือกตั้งส่วนใหญ่มีความ ประชาธิปไตยได้ฝังรากลึกจนกระท่ังกลายเป็น ยินดีและเต็มใจท่ีจะถอดถอนนักการเมืองท่ีกระท�ำ สถาบนั จะมรี ะดับการทจุ ริตทแ่ี ทจ้ รงิ ตำ่� กว่ามาก การทจุ รติ หากแตใ่ นเชงิ พฤตกิ รรมแลว้ ยงั คงมปี จั จยั ประเด็นท่ีน่าสนใจอีกประการหน่ึง คือ อน่ื ๆ ทม่ี ผี ลตอ่ การตดั สนิ ใจของผมู้ สี ทิ ธเิ์ ลอื กตงั้ เชน่ การทุจริตหรือการรับรู้การทุจริตเป็นปัจจัยส�ำคัญ อุดมการณ์ ประสิทธิภาพในการบริหารประเทศ ประการหน่ึงที่ท�ำให้เกิดการเปลี่ยนผ่านจาก ความเกี่ยวข้องทางชาติพันธุ์ เป็นต้น ดังจะเห็นได้ การปกครองทเี่ ปน็ ประชาธปิ ไตยไปสกู่ ารปกครองที่ จากการวิจัยผู้มีสิทธิ์เลือกต้ังในประเทศอินเดีย ไม่เป็นประชาธิปไตย แต่ในทางกลับกันก็สามารถท�ำให้ พบว่า ประชาชนผู้มีสิทธ์ิเลือกตั้งมีแนวโน้มท่ีจะ เกิดการเปลี่ยนผ่านจากการปกครองท่ีไม่เป็น เลือกผู้สมัครท่ีมาจากภูมิภาคเดียวกัน ซึ่งแสดงให้ ประชาธปิ ไตยไปสู่การปกครองทีเ่ ปน็ ประชาธปิ ไตย เห็นว่ายังคงมีปัจจัยอื่น ๆ ที่มีผลต่อการตัดสินใจ เช่น ในกรณีของประเทศไทยที่มีเหตุปัจจัยของ ลงคะแนนเสียงของผู้มีสิทธ์ิเลือกตั้งมากกว่าการทุจริต การทจุ รติ เปน็ สว่ นหนงึ่ ทที่ ำ� ใหเ้ ปลยี่ นแปลงรปู แบบ ของผู้สมคั รรบั เลือกต้ัง การปกครองจากระบอบประชาธิปไตยไปสู่

126 วารสารวชิ าการ ป.ป.ช. การปกครองในระบอบที่ไม่เป็นประชาธิปไตย ท่ีได้ ผู้ท่ีมีรายชื่อใน 6 ล�ำดับแรกของบัญชีรายช่ือ ช่วั คราว เปน็ ตน้ จะเป็นผู้ได้รับต�ำแหน่ง ซ่ึงผู้ท่ีอยู่ในล�ำดับต้น ๆ ในงานชน้ิ นยี้ งั ไดศ้ กึ ษาประเดน็ ทเ่ี กยี่ วขอ้ ง ของบญั ชรี ายชอื่ จะมโี อกาสสงู และคอ่ นขา้ งแนน่ อน กบั ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งกฎการเลอื กตงั้ (electoral ว่าจะได้รบั ท่ีนัง่ เป็นต้น rule) และการทุจริตใน 3 ประเด็นหลักท่ีส�ำคัญ ในส่วนของระบบบัญชีรายชื่อแบบเปิด ได้แก่ กฎการลงคะแนนเสียงเลอื กต้ัง (The Voting (open-list proportional representation) Rule) จ�ำนวนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งในแต่ละเขต ผมู้ สี ทิ ธเ์ิ ลอื กตงั้ จะลงคะแนนเสยี งใหพ้ รรคการเมอื ง (District Magnitude) และ การปกครองในระบอบ เชน่ กนั โดยจะสามารถเลอื กผสู้ มคั รรบั เลอื กตงั้ ทตี่ น ประธานาธบิ ดี (Presidentialism) กับการปกครอง ช่ืนชอบจากพรรคการเมืองน้ันได้ ซึ่งในบางครั้งผู้มี ในระบอบรฐั สภา (Parliamentarism) โดยสามารถ สทิ ธเ์ิ ลอื กตงั้ มแี นวโนม้ ทจี่ ะเลอื กผสู้ มคั รรบั เลอื กตงั้ สรุปได้ดงั นี้ มากกว่าพรรคการเมือง โดยที่จ�ำนวนท่ีนั่งที่ได้รับ การจัดสรรจะขึ้นอยู่กับคะแนนเสียงที่พรรคได้รับ 1. ก ฎ ก า ร ล ง ค ะ แ น น เ สี ย ง เ ลื อ ก ต้ั ง โดยรวม แต่ผู้ท่ีจะได้ที่น่ังของพรรคจะข้ึนอยู่กับ (The Voting Rule) คะแนนเสียงของแตล่ ะคนทไ่ี ดร้ บั ในกรณีของระบบเสียงข้างมากธรรมดา กฎเกณฑ์การลงคะแนนเสียงเลือกตั้งมี (plurality rule) ผสู้ มคั รรบั เลอื กตง้ั ทไ่ี ดค้ ะแนนเสยี ง หลายรูปแบบ โดย 3 รูปแบบท่ีพบมากที่สุด คือ มากท่ีสุด โดยไม่จ�ำเป็นต้องเป็นเสียงข้างมากจะ (1) ระบบบัญชีรายชื่อแบบปิด (closed-list นับได้ว่าเป็นผู้ชนะการเลือกต้ัง เช่น ในประเทศ proportional representation) (2) ระบบบัญชี รายชื่อแบบเปิด (open-list proportional สหรฐั อเมรกิ า จะใชร้ ะบบเลอื กตงั้ แบบเสยี งขา้ งมากธรรมดา representation) และ (3) ระบบเสียงข้างมาก (plurality rule) ในการเลอื กตงั้ แบบแบง่ เขต เปน็ ตน้ ธรรมดา (plurality rule) กฎเกณฑ์การเลือกต้ังท่ีแตกต่างกันจะมี ในกรณีของระบบบัญชีรายช่ือแบบปิด ผลกระทบทางการเมืองและผลลัพธ์ของนโยบายท่ี (closed-list proportional representation) แตกต่างกัน รวมถึงรูปแบบและขอบเขตของการ ซึง่ เป็นระบบเลอื กตง้ั ที่ประเทศไทยใช้อยู่ในปจั จบุ นั ผมู้ สี ทิ ธเ์ิ ลอื กตงั้ จะลงคะแนนเสยี งให้ พรรคการเมอื ง ทจุ รติ คอรร์ ปั ชนั ซงึ่ รปู แบบการเลอื กตงั้ ทง้ั 3 รปู แบบ เท่านั้น โดยส่วนแบ่งที่น่ังจะข้ึนอยู่กับส่วนแบ่ง ดังกลา่ ว จะสง่ ผลตอ่ การทุจริตใน 2 ชอ่ งทางส�ำคญั คะแนนเสียงที่ได้รับ ซึ่งผู้สมัครรับเลือกต้ังจะได้รับ ได้แก่ (1) ระบบเลือกตั้งจะน�ำมาซ่ึงการท�ำให้ การจัดสรรเก้าอี้หรือไม่ ข้ึนอยู่กับบัญชีรายชื่อ ผรู้ บั เลือกตั้งเป็นศูนยก์ ลาง (candidate – centric ของแต่ละพรรคการเมืองท่ีก�ำหนดโดยหัวหน้า elections) หรือพรรคการเมืองเป็นศูนย์กลาง พรรคการเมือง เช่น หากพรรคการเมืองได้รับการ (party centric elections) และ (2) การกระจาย จดั สรรทน่ี งั่ จำ� นวน 6 ทน่ี งั่ โดยคำ� นวณจากคะแนนเสยี ง ตัวทางการเมือง ดังนั้น จึงควรพิจารณา 2 กรณี

ปีที่ 8 ฉบบั ที่ 1 (มกราคม 2558) 127 ดงั กลา่ วกอ่ นทจี่ ะประเมนิ หลกั ฐานเชงิ ประจกั ษข์ อง ในสว่ นของระบบเลอื กตงั้ แบบเสยี งขา้ งมาก ผลกระทบของกฎการลงคะแนนเสียงเลือกตั้งต่อ ธรรมดา (plurality rule) จะอยู่ในระหว่างมิติใด ระดับการทจุ ริต มิติหนึ่งในระบบบัญชีรายช่ือแบบปิด (closed- การพิจารณาประเด็นเก่ียวกับระบบเลือกตั้ง list proportional representation) กบั ระบบบญั ชี จะน�ำมาซึ่งการท�ำให้ผู้รับเลือกตั้งเป็นศูนย์กลาง รายช่ือแบบเปิด (open-list proportional ( c a n d i d a t e - c e n t r i c e l e c t i o n s ) representation) หรอื พรรคการเมอื งเปน็ ศูนยก์ ลาง (party centric อย่างไรก็ตาม การจะตัดสินว่าระบบการ elections) ในกรณขี องระบบบญั ชีรายชอื่ แบบเปดิ เลือกต้ังแบบใดเป็นระบบการเลือกตั้งที่ดีที่สุดที่จะ (open-list proportional representation) สามารถจัดการและควบคุมการทุจริตไม่ใช่เรื่องง่าย มแี นวโนม้ ทจ่ี ะทำ� ใหผ้ ลู้ งสมคั รรบั เลอื กตงั้ เปน็ ศนู ยก์ ลาง เน่ืองจากการทุจริตมีหลายรูปแบบ ท้ังนี้ข้ึนอยู่กับ ซ่ึงท�ำให้เกิดการแข่งขันระหว่างผู้สมัครภายใน รูปแบบของระบบเลือกตงั้ พรรคการเมอื งเดยี วกนั และนำ� ไปสกู่ ารลงคะแนนเสยี ง นอกจากการพิจารณาถึงระบบเลือกต้ัง เลือกตั้งให้ตัวบุคคลมากกว่าลงคะแนนเสียงให้ ในมติ ทิ วี่ า่ ระบบเลอื กตงั้ จะนำ� มาซง่ึ การทำ� ใหผ้ สู้ มคั ร พรรคการเมือง เช่น การเลือกต้ังในประเทศอิตาลี รับเลือกตั้งเป็นศูนย์กลาง หรือพรรคการเมืองเป็น การแข่งขันไม่ไดเ้ กดิ ข้ึนระหว่าง Christian Demo- ศนู ยก์ ลางแลว้ การพจิ ารณาถงึ ระดบั การกระจายตวั cratic Party กับ Italian Socialist Party ทางการเมอื ง (the degree of political fragmen- แต่เป็นการแข่งขันกันเองระหว่างผู้สมัครภายใน tation) และการกระจายตัวของพรรคการเมือง พรรคเดียวกนั เป็นตน้ ซึ่งในระบบการเมืองที่มีจ�ำนวนพรรคการเมืองที่มี ในกรณีของระบบบัญชีรายชื่อแบบปิด นยั สำ� คญั เพียง 2 - 3 พรรค หรอื มชี ่องทางทเ่ี ปิดให้มี (closed-list proportional representation) พรรคการเมอื งจำ� นวนมากจะขน้ึ อยกู่ บั ระบบเลอื กตง้ั มีแนวโน้มท่ีจะเกิดรูปแบบท่ีพรรคการเมืองเป็น โดยระบบเลอื กตง้ั แบบแบง่ เขตเลอื กตง้ั 1 เขต 1 คน ศูนยก์ ลาง โดยการแขง่ ขนั ในการเลือกตัง้ จะเกดิ ขนึ้ (single-member districts) จะท�ำให้เกิดการ ระหวา่ งพรรคการเมอื ง ซ่ึงในระบบเลือกตั้งรปู แบบ แข่งขนั โดย 2 พรรคการเมืองใหญ่ เช่น ในประเทศ ดังกล่าวหัวหน้าพรรคจะมีแนวโน้มท่ีจะเป็น สหรัฐอเมริกา ใช้ระบบเลือกต้ังแบบแบ่งเขต ศนู ยก์ ลางของพรรคการเมอื ง อกี ทง้ั ตอ้ งมกี ารรกั ษา โดยแต่ละเขตจะมีผู้ชนะการเลือกตั้งเพียง 1 คน ภาพลักษณ์ของพรรคการเมือง โดยท่ีหัวหน้า ซึ่งเป็นการส่งเสริมให้เกิดการแข่งขันระหว่าง พรรคการเมืองจะมีแนวทางในการจัดการกับการ 2 พรรคใหญ่ และกีดกันพรรคท่ีสามที่จะเข้ามา ทจุ รติ คอรร์ ปั ชนั ไดไ้ มย่ าก เนอ่ื งจากมคี วามสามารถ มีบทบาทส�ำคัญในระบบการเมือง ในทางตรงข้าม มากพอที่จะควบคุมสมาชิกในพรรคการเมืองได้ ระบบเลือกตั้งแบบบัญชีรายช่ือ (party-list รวมถึงยังมีระบบท่ีเข้มแข็งท่ีท�ำให้สมาชิกพรรคอยู่ proportional representation) มแี นวโนม้ ทจ่ี ะให้ ภายใต้ระเบียบวินัยของพรรคการเมอื งได้ มีพรรคการเมืองจ�ำนวนมาก และเปิดโอกาสให้

128 วารสารวชิ าการ ป.ป.ช. พรรคการเมอื งตา่ ง ๆ เขา้ สรู่ ะบบการเมอื งไดโ้ ดยงา่ ย 2. จ�ำนวนผ้มู สี ิทธ์ิได้รับเลอื กต้ังในแต่ละเขต ในทางกลับกันระบบที่เอื้อให้เกิดการมีส่วนร่วม (District Magnitude) ทางการเมืองจากพรรคการเมืองหลายพรรค หรือ ท�ำให้เกิดการรับรู้การทุจริต ก็เป็นปัจจัยที่มีผลต่อ ไดม้ กี ารศกึ ษาทคี่ น้ พบวา่ ระบบบญั ชรี ายชอ่ื การลงคะแนนเสยี ง กรณี 2 พรรคการเมืองตา่ งก็มี แบบเปดิ (open-list proportional representation) พฤติกรรมทที่ ุจรติ ซ่งึ ยังคงมปี ัจจยั อน่ื ๆ ท่ีสง่ ผลตอ่ จะมรี ะดบั การทจุ รติ ทส่ี งู กวา่ ระบบบญั ชรี ายชอ่ื แบบปดิ การตดั สนิ ใจในการลงคะแนนเสยี งของผมู้ สี ทิ ธเิ์ ลอื กตง้ั (closed-list proportional representation) เชน่ อดุ มการณ์ นโยบาย การมเี ชอื้ ชาตเิ ดยี วกนั ฯลฯ เมื่อในเขตเลือกตั้งมีจ�ำนวนผู้มีสิทธิ์ได้รับเลือกต้ัง ซึ่งผู้มีสิทธ์ิเลือกตั้งสามารถลงคะแนนเสียงให้พรรค จำ� นวนมาก ที่ตนช่ืนชอบในอุดมการณ์ของพรรคการเมือง / นโยบายเศรษฐกิจ / หรือพรรคที่เน้นในเรื่อง 3. การปกครองในระบอบประธานาธิบดี การต่อต้านการทุจริตได้อย่างไม่ต้องกลัวคะแนน (Presidentialism) กับการปกครองใน สญู เปลา่ ระบอบรัฐสภา (Parliamentarism) อย่างไรก็ตาม หากเปรียบเทียบระหว่าง ระบบที่มีพรรคการเมืองหลายพรรคกับระบบที่มี การปกครองระบอบประชาธปิ ไตยมวี ธิ กี าร จ�ำนวนพรรคการเมืองน้อย จะพบว่าระบบที่มี เลือกผู้บริหารประเทศ (the chief executive) พรรคการเมืองจ�ำนวนมากจะมีโอกาสที่จะมีการ 2 รูปแบบ คือ (1) การปกครองในระบอบรัฐสภา ทุจริตสูงกว่า เนื่องจากเม่ือมีจ�ำนวนพรรคฝ่ายค้าน (parliamentary system) ซ่ึงมีผู้บริหารประเทศ จ�ำนวนน้อยหรอื มีเพยี งพรรคเดียวจะสร้างแรงจงู ใจ คอื “นายกรฐั มนตร”ี (the Prime Minister) ทมี่ าจาก ในการสบื คน้ ขอ้ มลู การทจุ รติ ของฝา่ ยรฐั บาล เพราะ การเลือกโดยสภานิติบัญญัติ (2) การปกครองใน เมือ่ พรรครัฐบาลหรือผู้สมัครรับเลอื กต้ังฝ่ายรัฐบาล ระบอบประธานาธิบดี (presidential system) สูญเสียคะแนนสนับสนุน พรรคฝ่ายค้านมีแนวโน้ม โดยเรยี กตำ� แหนง่ ผบู้ รหิ ารประเทศวา่ “ประธานาธบิ ด”ี ทจี่ ะไดร้ บั การสนบั สนนุ เพม่ิ ขนึ้ อยา่ งชดั เจน แตห่ าก (the President) ซ่ึงมีที่มาจากการเลือกต้ังของ มจี ำ� นวนพรรคฝา่ ยคา้ นหลายพรรคจะขาดแรงจงู ใจ ประชาชนโดยตรง และค�ำถามท่ีตามมา คือ ในการสืบค้นข้อมูลการทุจริต เพราะจะไม่สามารถ ความแตกต่างของรูปแบบการปกครองในระบอบ มสี งิ่ ใดรบั รองไดว้ า่ เมอ่ื การสนบั สนนุ ของฝา่ ยรฐั บาล ประชาธิปไตย จะมีผลต่อปริมาณและรูปแบบการ ลดลง การสนบั สนนุ จะกลายมาเปน็ ของพรรคการเมอื ง ทุจริตของทงั้ สองรูปแบบการปกครองน้ีหรอื ไม่ หรอื ผู้สมัครรบั เลอื กต้งั ท่ีเป็นผู้สืบค้นขอ้ มูล ในกรณีของการปกครองในระบอบ ประธานาธบิ ดี โดยหลักการแล้วจะสง่ เสรมิ ให้มกี าร ใช้หลักการแบ่งอ�ำนาจ (separate of powers)

ปที ี่ 8 ฉบบั ท่ี 1 (มกราคม 2558) 129 ระหวา่ งฝา่ ยบรหิ ารและฝา่ ยนติ บิ ญั ญตั ิ และมหี ลกั การ ตรวจสอบและถ่วงดุล (check and balance) ในกระบวนการออกกฎหมายมากกว่าการปกครอง ในระบอบรัฐสภา ซง่ึ ความแตกต่างของทัง้ สองรูปแบบ ก า ร ป ก ค ร อ ง ต ่ อ ก า ร ทุ จ ริ ต น้ั น ยั ง ไ ม ่ ชั ด เ จ น ในทางหนึ่งอาจกล่าวได้ว่าเป็นการยากส�ำหรับ ภาคเอกชนที่จะใช้เงินซื้อนโยบายที่ต้องการ ในระบอบประธานาธิบดี เนื่องจากต้องมีการจ่าย ค่าสินบนให้กับท้ังฝ่ายนิติบัญญัติและฝ่ายบริหาร เพื่อจะนำ� มาซงึ่ นโยบายทตี่ อ้ งการ แต่ในอีกทางหน่งึ อาจเปน็ การงา่ ยกวา่ สำ� หรบั ภาคเอกชนทจ่ี ะปอ้ งกนั การเปลยี่ นแปลงนโยบาย เพียงแค่จ่ายค่าตอบแทน ให้แก่ประธานาธิบดี หรือฝ่ายนิติบัญญัติเท่าน้ัน อย่างไรก็ตาม ในทางปฏิบัติแล้วการปกครอง ในระบอบประธานาธบิ ดจี ะมกี ารใหอ้ ำ� นาจประธานาธบิ ดี อย่างมาก จนน�ำมาซึ่งความยากในการตรวจสอบ โดยฝา่ ยนิติบัญญตั ิ นอกจากนี้ ได้มีผลการศึกษาเปรียบเทียบ ระหว่างประเทศต่าง ๆ ที่พบว่า การปกครอง ในระบอบประธานาธบิ ดจี ะมกี ารรบั รกู้ ารทจุ รติ นอ้ ย แต่ยังมีผลการศึกษาในอีกมุมหนึ่งว่า การปกครอง ในระบอบประธานาธิบดีมีระดับการรับรู้การทุจริต สูงกวา่ การปกครองในระบอบรัฐสภา อีกท้ังผลการ ศึกษาในประเด็นดังกล่าวส่วนใหญ่พบว่ายังคงขาด ความสมั พนั ธเ์ ชงิ สถติ ริ ะหวา่ งการปกครองในระบอบ ประธานาธบิ ดแี ละการปกครองในระบอบรฐั สภากบั การรับรู้การทจุ ริตอีกด้วย

130 วารสารวิชาการ ป.ป.ช. หลักเกณฑ์การส่งบทความลงพิมพ์ “วารสารวิชาการ ป.ป.ช.” 1. เปน็ บทความวจิ ยั หรอื บทความวชิ าการ 4.7 เชิงอรรถ เรียงล�ำดับหมายเลขใน ทว่ั ไปดา้ นการป้องกันและปราบปรามการทจุ ริต เนอื้ หา และพิมพ์รวมไวส้ ่วนท้ายของบทความ 2. เปน็ บทความทไ่ี มเ่ คยตพี มิ พท์ ใี่ ดมากอ่ น 4.8 หนงั สอื อา้ งองิ หรอื บรรณานกุ รม หรือไม่อยู่ระหว่างการเสนอขอลงพิมพ์ในวารสาร/ หมวดภาษาไทยมาก่อนหมวดภาษาอังกฤษ และ สิ่งพิมพ์อ่นื หนังสือท่ีมีชื่อผู้แต่งมาก่อนสิ่งตีพิมพ์อื่น ๆ ระบุให้ 3. เนอื้ หาตน้ ฉบบั ภาษาไทย มจี ำ� นวนหนา้ ชัดเจนถงึ ช่ือผู้แต่ง (ถ้าม)ี ปีพิมพ์ “ชอ่ื เรอ่ื ง” (ถ้ามี) สูงสุดไมเ่ กนิ 25 หนา้ พมิ พ์ (กระดาษ A4) ต้นฉบับ ชอ่ื หนงั สอื สำ� นักพิมพ์ เมือง/ประเทศทพ่ี มิ พ์ ระบุ ภาษาไทยพิมพ์ด้วยขนาดตัวอักษร 16 แบบอักษร รหัส ISBN/ISSN (ถ้ามี) จ�ำนวนหน้าและหน้าที่ TH SarabunPSK ต้นฉบับภาษาอังกฤษพิมพ์ด้วย อ้างอิง (ถ้าอ้างอิงเฉพาะส่วนย่อยหรือเรื่องย่อย ขนาดตัวอกั ษร 12 แบบอกั ษร TH SarabunPSK ในเล่ม) 4. สว่ นประกอบส�ำคัญของบทความ 4.9 การอ้างอิงเว็บไซต์ หรือส่ือ 4.1 ชอ่ื เรอ่ื ง หรือ ชอื่ หัวขอ้ ภาษาไทย อเิ ลก็ ทรอนกิ สต์ า่ ง ๆ หรอื อนื่ ๆ ใหเ้ ปน็ หมวดตอ่ ทา้ ย และภาษาองั กฤษ หนังสอื ส่ิงพมิ พต์ ่าง ๆ ตามข้อ (8) 4.2 ช่ือผู้เขียน ภาษาไทยและภาษา 5. ตัวอยา่ งการจัดหน้าพมิ พ์ อังกฤษ (ระบสุ ถานที่ตดิ ตอ่ และ E-mail address, โทรศพั ท/์ โทรสาร ไวท้ า้ ยบทความ) 4 ซ.ม. 4.3 บทคัดย่อภาษาไทยและภาษา องั กฤษ ประมาณ 10-15 บรรทัด (ภาษาไทย) หรือ 4 ซ.ม. 2.5 ซ.ม. ประมาณ 100-150 ค�ำ (ภาษาอังกฤษ) 3 ซ.ม. 4.4 เน้ือหา (ค�ำบรรยาย) ประมาณ 10-20 หนา้ 4.5 รูปและตารางประกอบ เท่าที่ จ�ำเป็น พร้อมค�ำบรรยาย (อธิบายประกอบภาพ) รวมแลว้ ไม่เกิน 4 หน้า 4.6 สรุปและข้อเสนอแนะจากผลการ วจิ ัยประมาณ 10-15 บรรทดั หรอื รวมข้อเสนอแนะ แลว้ ไม่เกิน 20 บรรทัด

ปที ี่ 8 ฉบบั ท่ี 1 (มกราคม 2558) 131 6. การพิจารณาการรับบทความ 6.1 บทความท่ีได้รับการพิจารณาให้ ลงพิมพ์ในวารสารวิชาการ ป.ป.ช. ต้องผ่านความ เห็นชอบและหรือผู้เขียนได้ปรับปรุงแก้ไขตาม ข้อเสนอแนะของกองบรรณาธิการหรือผู้ได้ รับมอบหมายใหเ้ ปน็ ผพู้ ิจารณาบทความ (ถ้ามี) 6.2 ผู้เขียนบทความที่ได้รับการคัดเลือก ให้ลงพิมพ์ในวารสารวิชาการ ป.ป.ช. จะได้รับค่า ตอบแทนผลงานละ 3,000 บาท 6.3 แจ้งผลการพิจารณาให้ผู้เขียน บทความทราบหลงั จากกองบรรณาธกิ ารไดพ้ จิ ารณา บทความให้ลงพิมพ์ได้ 6.4 การพจิ ารณาบทความถอื เปน็ สทิ ธ์ิ ของกองบรรณาธกิ าร สถานทต่ี ิดต่อ ศูนยว์ ิจยั เพ่ือตอ่ ตา้ นการทจุ รติ ป๋วย อ๊งึ ภากรณ์ ส�ำนักงานคณะกรรมการป้องกันและ ปราบปรามการทจุ ริตแห่งชาติ เลขท่ี 361 ถนนนนทบุรี ตำ� บลทา่ ทราย อำ� เภอเมืองนนทบุรี จังหวดั นนทบุรี 11000 โทร. 0 2528 4800 ต่อ 5814 โทรสาร 0 2528 4800 ตอ่ 5814

132 วารสารวชิ าการ ป.ป.ช. Call for Papers National Anti-Corruption Commission Journal (NACC Journal) The Office of National Anti-Corrup- 4 ซ.ม. tion Commission (ONACC) publishes are academic journal on fighting corruption 4 ซ.ม. 2.5 ซ.ม. (the NACC Journal) in January each 3 ซ.ม. year. Articles should be submitted before September to be considered for publication in January. The NACC Journal is a peer-reviewed journal of social science and humanities, providing a forum for researchers to present their research findings and viewpoints on anti-corruption activities and concepts. Instructions to Authors 4.2 Author’s name in English (and both Thai and English for Thai authors) 1. All manuscripts should be with institutional affiliation and contact submitted with the understanding that they information: e-mail address, telephone, and are original, unpublished works and are not facsimile, being submitted for publication elsewhere. 4.3 Abstract in Thai and English 2. Manuscripts must be submitted of approximately 10-15 lines for Thai or in double space with margins as shown, with 100-150 words for English, references on separate pages and a maximum 4.4 Keywords (about 5 words) length of 25 pages including tables and that describe the article’s focus, figures. The fonts must be TH SarabunPSK 4.5 Content: about 10-20 pages, 16 for articles written in Thai or TH 4.6 Figures and Tables must SarabunPSK 16 for papers in English. be numbered and have titles and captions. 3. The authors should submit two An article should not contain more than 4 hard copies of their papers and a diskette or pages of figures and tables, an e-mail attachment. 4.7 Conclusions and Recommen- 4. The manuscript should have the dations based on the research findings following components: or paper’s discussion, not exceeding 20 lines, 4.1 Article title or topic in Eng- 4.8 Footnotes must be sequen- lish and in Thai (if appropriate), tially numbered,

ปีท่ี 8 ฉบับที่ 1 (มกราคม 2558) 133 4.9 The bibliography or reference list should appear at the end of the text. The references list should include every work cited in the text. Please ensure that the dates, spelling and title used in the text are consistent with those listed in the references. For articles written in Thai, works cited that are written in Thai should appear first. The Journal prefers the reference system of the American Psychological Association (APA) which can be found at http://www.liu.edu/ CWIS/CWP/library/workshop/citapa.htm. Books appear before other kinds of materials and each reference should contain the author, year of publication, title, publisher’s name and town/city in which the publisher is located. Please include the ISBN/ISSN, if any. For references mentioned specifically in the article, the page(s) from which the quotation was taken must be in the reference, 4.10 References to websites or other electronic forms should appear after the references to books and articles. Manuscripts should be submitted to the Puey Ungphakorn Anti-Corruption Research Center, Office of the National Anti-Corruption Commission at the following address: Puey Ungphakorn Anti-Corruption Research Center. Office of the NationalAnti-Corruption Commission. 361 Nonthaburi Road, Thasaai District, Amphur Muangnonthaburi, Nonthaburi Province 11000 Thailand Tel: 66 2528 4800 Ext. 5814 Fax: 66 2528 4800 Ext. 5814

134 วารสารวชิ าการ ป.ป.ช. แบบบอกรับเป็นสมาชิก “วารสารวชิ าการ” ช่อื –สกุล...................................................................................................................................................... ตำ�แหนง่ งาน............................................................................................................................................... หนว่ ยงานท่สี ังกดั ....................................................................................................................................... ท่ีอยทู่ ่สี ะดวกในการติดตอ่ ......................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... โทรศัพท.์ ..................................โทรศัพทเ์ คลอ่ื นท.่ี ........................................โทรสาร................................. E–mail…………………………………………………………………………………………………………….................………… ข้อเสนอแนะ ท่านเห็นว่าเนือ้ หาสาระเก่ียวกับการต่อต้านการทจุ ริตในวารสารวชิ าการ ป.ป.ช. ควรจะให้ความ สำ�คญั ในเร่ืองใด ประเด็นใดบา้ ง โปรดระบุตามลำ�ดับความสำ�คัญ ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... สถานท่ตี ดิ ต่อ: กองบรรณาธกิ ารวารสารวชิ าการ ป.ป.ช. ศูนยว์ ิจัยเพื่อตอ่ ต้านการทุจรติ ปว๋ ย อง๊ึ ภากรณ์ สำ�นกั งาน ป.ป.ช. 361 ถนนนนทบุรี ตำ�บลทา่ ทราย อำ�เภอเมอื งนนทบุรี จงั หวัดนนทบรุ ี 11000 โทรศพั ท์ / โทรสาร: 0 2528 4800 ต่อ 5814 เว็บไซต:์ http://www.nacc.go.th

ปที ่ี 8 ฉบับที่ 1 (มกราคม 2558) 135 NACC Journal Subscription Form Name......................................................................................................................................................... Position..................................................................................................................................................... Affiliation................................................................................................................................................. Postal Address....................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... Telephone...................................Mobile Phone.........................................Fax.................................. E–mail………………………………………………………………………………………..……............………………..…..…….. Suggestions In your opinion, what anti-corruption issues should be emphasized in the NACC Journal? Please list them in order of importance. ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... Address: Editorial Board, NACC Journal Puey Ungphakorn Anti-Corruption Research Center, Office of the National Anti-Corruption Commission, 361 Nonthaburi Road, Thasaai District, Amphur Muangnonthaburi, Nonthaburi 11000 Telephone / Fax: 66 2528 4800 Ext. 5814 Website: http://www.nacc.go.th

136 วารสารวิชาการ ป.ป.ช.

สำ� นักงานคณะกรรมการปอ้ งกันและปราบปรามการทุจรติ แหง่ ชาติ Office of the National Anti-Corruption Commission 361 ถนนนนทบุรี ตำ� บลทา่ ทราย อำ� เภอเมือง จงั หวดั นนทบุรี 11000 โทรศพั ท์ 0 2528 4800 ตอ่ 5814 Website: http://www.nacc.go.th


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook