คณะที่ 6 กระบวนงานการขอใช้ที่ป่า

ภาคผนวก ๒ ตวั อยางแบบฟอรมกระบวนงาน ตัวอยางแบบฟอรมกระบวนงานการขอใชทปี่ า 1. บันทึกขอความ ผกส.มด. เรียน ผส.มด. เรื่องขอความเห็นชอบในการขออนุญาตเขาทํา ประโยชนภ' ายในเขตป)าตามมาตรา ๕๔ แหง- พระราชบญั ญัติปา) ไมพุทธศักราช ๒๔๘๔ ๒. บันทึกขอความจาก ผส.มด. เรียน รธร. เรื่องขอความเห็นชอบในการขออนุญาตเขาทํา ประโยชน'ภายในเขตปา) ตามมาตรา ๕๔ แหง- พระราชบญั ญตั ปิ )าไมพุทธศักราช ๒๔๘๔ ๓. บันทกึ ขอความจาก รธร. เรียน ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ' เร่ืองขอความเห็นชอบใน การขออนุญาตเขาทําประโยชน'ภายในเขตป)าตามมาตรา ๕๔ แห-งพระราชบัญญัติป)าไม พทุ ธศักราช ๒๔๘๔ ๔. แบบคําขออนญุ าตเขาทําประโยชนใ' นเขตป)า (ป.๘๔-๑) ๔.๑ ตวั อยา- งเอกสารประกอบ แผนที่ระวาง มาตรสว- น ๑ : ๕๐,๐๐๐ ๔.๒ ตวั อยา- งเอกสารประกอบ รายงานเหตผุ ลและความจาํ เปน@ ในการขออนุญาตเขาทาํ ประโยชน'ภายในเขตป)า รายละเอียดตามเอกสารภาคผนวกท่ีแนบ ๒๒

บันทึกขอ้ ความ ส่วนราชการ ……ส…ว่ ……น…ก……ร…ร……ม…ส……ทิ ……ธ…ท์ิ ……่ดี …ิน………ฝ……่า…ย……ท…ะ……เ…บ…ยี……น……ท……ีด่ …ิน……แ……ล…ะ……แ…ก……ไ้ …ข…ป……ญั ……ห……า…ก……ร…ร……ม…ส……ิท……ธ…ิ์ท….…่ีด…นิ…………โ…ท……ร….……๒……4…๔..……๖……………..………… ที่ สมด ๔.๓/๑๒๔๕/256๐ วันท่ี มิถุนายน ๒๕๖๑…………………………………………………………………………………………………………………….…………..……….……… …………………………………………………………………………………………………………………....………………. เร่อื ง …ข……อ…ค……ว…า……ม…เ…ห……็น…ช……อ…บ……ใ…น……ก…า……ร…ข…อ……อ…น……ุญ……า…ต……เ…ข…้า……ท…า……ป…ร……ะ…โ…ย…ช.……น…์ภ……า…ย……ใ…น…เ…ข……ต…ป……า่ …ต……า…ม……ม…า…ต……ร…า……๕……๔………แ…ห……่ง…พ……ร…ะ……ร…า…ช……บ…ัญ...…ญ………ัต…ปิ……า่ …ไ…ม…..้ พทุ ธศักราช ๒๔๘๔ เพอ่ื กอ่ สรา้ งโครงการอา่ งเก็บนาหว้ ยนาขาว จังหวัดลาปาง เรียน ผส.มด. ตามที่สานกั งานชลประทานที่ ๒ ได้รายงานเหตุผลและความจาเป็นในการขอเขา้ ทาประโยชน์ใช้พืนที่ ซงึ่ อยใู่ นเขตปา่ ตามมาตรา ๕๔ แห่งพระราชบัญญัติปา่ ไม้ พุทธศกั ราช ๒๔๘๔ ตาบลกล้วยแพะ อาเภอเมืองลาปาง จงั หวดั ลาปาง จานวนเนือทปี่ ระมาณ ๔๙ ไร่ ๓ งาน ๔๘ ตารางวา เพอ่ื ขอความเหน็ ชอบจากเจ้าสงั กดั ระดบั กระทรวง เพื่อก่อสรา้ งโครงการอ่างเกบ็ นาหว้ ยนาขาว ตามหนงั สอื ที่ สชป.๒/๕๐๓/2560 ลงวนั ที่ ๑๖ ตุลาคม 2560 นัน สว่ นกรรมสทิ ธ์ิที่ดิน ได้พิจารณาแลว้ ขอเรียน ดงั นี กฎหมายและระเบยี บที่เกยี่ วข้อง ๑. พระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช ๒๔๘๔ มาตรา ๕๔ บัญญัติว่า “ห้ามมิให้ผู้ใดก่อสร้าง แผ้วถาง หรือเผาป่า หรือ กระทาด้วยประการใดๆ อันเป็นการทาลายป่า หรือเข้ายึดถือหรือครอบครองป่า เพื่อตนเองหรือผู้อ่ืน เว้นแต่จะกระทาภายในเขตที่ได้ จาแนกไว้เป็นประเภทเกษตรกรรมและรัฐมนตรีได้ประกาศ ในราชกิจจานเุ บกษา หรอื โดยไดร้ ับใบอนญุ าตจากพนกั งานเจา้ หน้าที่ การขออนุญาตและการอนญุ าต ให้เปน็ ไปตามหลักเกณฑ์และเงอื่ นไขทก่ี าหนดในกฎกระทรวง” ๒. กฎกระทรวงการขอนุญาตและการอนญุ าตทาประโยชนใ์ นเขตปา่ พ.ศ. ๒๕๕๘ ขอ้ ๕ การขออนุญาตทาประโยชน์ในเขตป่า ต้องมวี ตั ถปุ ระสงค์อยา่ งหน่ึงอย่างใด ดงั ตอ่ ไปนี (๑๐) เพอ่ื ประโยชนใ์ นทางราชการ ข้อ ๖ วรรคหน่ึง “ผู้ใดประสงค์จะขออนุญาตทาประโยชน์ในเขตป่า ให้ย่ืนคาขออนุญาตต่อ อธิบดีกรมป่าไม้ โดยต้องระบุวัตถุประสงค์ในการขออนุญาตให้ชัดเจน พร้อมด้วยเอกสารหลักฐานตามที่ระบุไว้ ในแบบคาขอ” ๓. ประกาศกรมป่าไม้ เรื่อง กาหนดแบบคาขอ แบบใบอนุญาต และแบบอื่นๆ ตามกฎกระทรวง การขออนญุ าต และการออนญุ าตทาประโยชนใ์ นเขตปา่ พ.ศ. ๒๕๕๘ ๑) แบบคาขออนุญาตเข้าทาประโยชน์ในเขตป่า ตามมาตรา ๕๔ แห่งพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช ๒๔๘๔ (แบบ ป.๘๔ – ๑) ๔. ตามหนังสือกรมป่าไม้ ที่ กษ ๐๗๐๕(๓)/ว.๑๓๖๖๐ ลงวันที่ ๒๐ พฤษภาคม ๒๕๓๐ เรื่องการขอเข้าทาประโยชน์ในพืนที่ป่าไม้ แจ้งว่า กรมป่าไม้ได้กาหนดเป็นทางปฏิบัติในกรณีส่วนราชการขอ เขา้ ทาประโยชนใ์ นเขตพนื ที่ป่าไม้เพื่อวตั ถปุ ระสงค์ตา่ ง ๆ ท่จี าเป็นต้องใชพ้ ืนที่มากกว่า ๒๐ ไร่ ซ่ึงถอื ว่าเปน็ การ ขอพนื ท่ผี นื ใหญ่ ดังนี ๑) กรณีการขออนุญาตเป็นส่วนราชการฝ่ายทหาร ให้จัดส่งรายงานเหตุผลและความ จาเป็นในการขอเข้าทาประโยชน์ในเขตพืนท่ีป่าไม้ซึ่งได้รับความเห็นชอบจากผู้บังคับบัญชาเหล่าทัพ (กองทัพบก กองทัพเรอื หรือกองทัพอากาศ) ตามสายงานแลว้ ประกอบเรื่องราวคาขออนญุ าต 2) กรณี...

-๒- 2) กรณีผู้ขออนุญาตเป็นส่วนราชการฝ่ายพลเรือน ให้จัดส่งรายงานเหตุผลและความ จาเป็นในการขอเข้าทาประโยชน์ในเขตพืนที่ป่าไม้ ซ่ึงได้รับความเห็นชอบจากเจ้าสังกัดระดับกระทรวงแล้ว ประกอบเรอื่ งราวการขออนญุ าต ๓) ผู้ขออนุญาตต้องขอในนามต้นสังกัดนัน ๆ หากมีการมอบอานาจต้องมีหลักฐานการ มอบอานาจจากต้นสังกัดแนบไปด้วย ตามทางปฏิบัติแห่งหนังสือกรมป่าไม้ ท่ี กส ๐๘๑๑/ว. ๓๐๗๓ , ๓๐๗๕ ลงวนั ที่ ๒๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๒๒ ทงั นี ส่วนกรรมสทิ ธิท์ ่ีดนิ ได้พิจารณาตรวจสอบเอกสารหลักฐานประกอบการขออนญุ าตตามทีร่ ะบไุ ว้ ในแบบคาขอ (แบบคาขอ ป.๘๔ - ๑) แล้ว พบว่าถูกต้องครบถ้วนตามกฎหมายและระเบียบท่ีเก่ียวข้อง ดังนัน จงึ เห็นควรเสนอเร่อื งดังกลา่ วเพ่อื รายงานเหตุผลและความจาเป็นในการขอใช้ประโยชนใ์ นเขตปา่ สงวนแห่งชาติ เรียนปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในฐานะเจ้าสังกัดระดับกระทรวง เพ่ือให้ความเห็นชอบต่อไป พร้อมนี จึงได้จัดทาบันทึก เรียน รธร. และบันทึกเรียนปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เสนอมาเพื่อโปรดพิจารณา ตามเอกสารท่ีแนบ จงึ เรยี นมาเพอ่ื โปรดพิจารณา (นายสเุ ทพ ลาภเหลือ) ผกส.มด. (นายอมร ชูบรรจง) กสด. (นายณัฐนยั คล้ายผงึ ) ทก.มด.

บนั ทึกขอ้ ความ ส่วนราชการ สำนกั กฎหมำยและที่ดนิ สว่ นกรรมสิทธิ์ทีด่ นิ โทร. ๒4๔๖…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….………………………………………..…………………..………… ที่ สมด ๔.3/๑๒๔๕/256๐ วันท่ี มถิ ุนำยน ๒๕๖1…………………………………………………………………………………………………………………….…………..……….……… …………………………………………………………………………………………………………………....………………. เรื่อง …ข……อ…ค……ว…ำ……ม…เ…ห……็น…ช……อ…บ……ใ…น……ก…ำ……ร…ข…อ……อ…น……ุญ……ำ…ต……เ…ข…้ำ……ท…ำ……ป…ร……ะ…โ…ย…ช.……น…์ภ……ำ…ย……ใ…น…เ…ข……ต…ป……่ำ……ต……ำ…ม…ม……ำ…ต……ร…ำ……๕……๔………แ…ห……่ง…พ……ร…ะ…ร……ำ…ช…บ…...ัญ……ญ………ัต…ิป……่ำ…ไ…ม.. ้ พทุ ธศักรำช ๒๔๘๔ เพ่ือกอ่ สร้ำงโครงกำรอำ่ งเกบ็ นำหว้ ยนำขำว จังหวดั ลำปำง เรียน รธร. ตำมที่สำนักงำนชลประทำนท่ี ๒ ได้รำยงำนเหตุผลและควำมจำเป็นในกำรขอเขำ้ ทำประโยชน์ ใช้พืนท่ีซ่ึงอยู่ในเขตป่ำตำมมำตรำ ๕๔ แห่งพระรำชบัญญัติป่ำไม้ พุทธศักรำช ๒๔๘๔ ตำบลกล้วยแพะ อำเภอเมืองลำปำง จังหวัดลำปำง จำนวนเนือที่ประมำณ ๔๙ ไร่ ๓ งำน ๔๘ ตำรำงวำ เพื่อขอควำมเห็นชอบ จำกเจ้ำสังกัดระดับกระทรวง เพื่อก่อสร้ำงโครงกำรอ่ำงเก็บนำห้วยนำขำว ตำมหนังสือ สชป.๒/๕๐๓/2560 ลงวันที่ ๑๖ ตลุ ำคม 2560 นนั สำนักกฎหมำยและท่ดี นิ ได้พจิ ำรณำแลว้ ขอเรียน ดังนี กฎหมำยและระเบยี บทเี่ กย่ี วข้อง ๑. พระรำชบัญญัติป่ำไม้ พุทธศักรำช ๒๔๘๔ มำตรำ ๕๔ บัญญัติว่ำ “ห้ำมมิให้ผู้ใดก่อสร้ำง แผ้วถำง หรือเผำป่ำ หรือ กระทำด้วยประกำรใดๆ อันเป็นกำรทำลำยป่ำ หรือเข้ำยึดถือหรือครอบครองป่ำ เพื่อตนเองหรือผู้อื่น เว้นแต่จะกระทำภำยในเขตที่ได้ จำแนกไว้เป็นประเภทเกษตรกรรมและรัฐมนตรีได้ประกำศ ในรำชกิจจำนุเบกษำ หรอื โดยได้รับใบอนญุ ำตจำกพนกั งำนเจำ้ หนำ้ ที่ กำรขออนุญำตและกำรอนญุ ำต ใหเ้ ปน็ ไปตำมหลักเกณฑ์และเง่ือนไขที่กำหนดในกฎกระทรวง” ๒. กฎกระทรวงกำรขอนุญำตและกำรอนุญำตทำประโยชนใ์ นเขตปำ่ พ.ศ. ๒๕๕๘ ข้อ ๕ กำรขออนญุ ำตทำประโยชนใ์ นเขตป่ำ ตอ้ งมวี ัตถปุ ระสงค์อย่ำงหน่ึงอย่ำงใด ดงั ต่อไปนี (๑๐) เพื่อประโยชนใ์ นทำงรำชกำร ข้อ ๖ วรรคหนึ่ง “ผู้ใดประสงค์จะขออนุญำตทำประโยชน์ในเขตป่ำ ให้ยื่นคำขออนุญำตต่อ อธิบดีกรมป่ำไม้ โดยต้องระบุวัตถุประสงค์ในกำรขออนุญำตให้ชัดเจน พร้อมด้วยเอกสำรหลักฐำนตำมท่ีระบุไว้ ในแบบคำขอ” ๓. ประกำศกรมป่ำไม้ เรื่อง กำหนดแบบคำขอ แบบใบอนุญำต และแบบอื่นๆ ตำมกฎกระทรวง กำรขออนญุ ำต และกำรอนญุ ำตทำประโยชนใ์ นเขตป่ำ พ.ศ. ๒๕๕๘ ๑) แบบคำขออนุญำตเข้ำทำประโยชน์ในเขตป่ำ ตำมมำตรำ ๕๔ แห่งพระรำชบัญญัติป่ำไม้ พทุ ธศักรำช ๒๔๘๔ (แบบ ป.๘๔ – ๑) ๔. ตำมหนังสือกรมป่ำไม้ ที่ กษ ๐๗๐๕(๓)/ว.๑๓๖๖๐ ลงวันที่ ๒๐ พฤษภำคม ๒๕๓๐ เรื่องกำรขอเข้ำทำประโยชน์ในพืนที่ป่ำไม้ แจ้งว่ำ กรมป่ำไม้ได้กำหนดเป็นทำงปฏิบัติในกรณีส่วนรำชกำร ขอเข้ำทำประโยชน์ในเขตพืนที่ป่ำไม้เพ่ือวัตถุประสงค์ต่ำง ๆ ท่ีจำเป็นต้องใช้พืนที่มำกกว่ำ ๒๐ ไร่ ซึ่งถือว่ำเป็น กำรขอพืนที่ผืนใหญ่ ดังนี ๑) กรณีกำรขออนุญำตเป็นส่วนรำชกำรฝ่ำยทหำร ให้จัดส่งรำยงำนเหตุผลและควำม จ ำเป็ น ใน ก ำร ข อ เข้ ำ ท ำ ป ระโย ช น์ ใน เข ต พื น ที่ ป่ ำไม้ ซ่ึ งได้ รั บ ค ว ำ ม เห็ น ช อ บ จ ำก ผู้ บั งคั บ บั ญ ช ำ เห ล่ ำทั พ (กองทัพบก กองทัพเรอื หรอื กองทัพอำกำศ) ตำมสำยงำนแล้ว ประกอบเรอ่ื งรำวคำขออนญุ ำต 2) กรณ.ี ..

-๒- 2) กรณีผู้ขออนุญำตเป็นส่วนรำชกำรฝ่ำยพลเรือน ให้จัดส่งรำยงำนเหตุผลและควำม จำเป็นในกำรขอเข้ำทำประโยชน์ในเขตพืนที่ป่ำไม้ ซึ่งได้รับควำมเห็นชอบจำกเจ้ำสังกัดระดับกระทรวงแล้ว ประกอบเรื่องรำวกำรขออนญุ ำต ๓) ผู้ขออนุญำตต้องขอในนำมต้นสังกัดนัน ๆ หำกมีกำรมอบอำนำจตอ้ งมีหลักฐำนกำรมอบอำนำจ จำกต้นสังกัดแนบไปด้วย ตำมทำงปฏิบัติแห่งหนังสือกรมป่ำไม้ ที่ กส ๐๘๑๑/ว. ๓๐๗๓ , ๓๐๗๕ ลงวันที่ ๒๓ กุมภำพันธ์ ๒๕๒๒ ทังนี สำนักกฎหมำยและท่ีดินได้พิจำรณำตรวจสอบเอกสำรหลักฐำนประกอบกำรขออนุญำต ตำมท่ีระบุไว้ในแบบคำขอ (แบบคำขอ ป.๘๔ - ๑) แล้ว พบว่ำถูกต้องครบถ้วนตำมกฎหมำยและระเบียบท่ีเก่ียวข้อง ดงั นนั จงึ เห็นสมควรเสนอเรือ่ งดังกล่ำวเพื่อรำยงำนเหตุผลและควำมจำเปน็ ในกำรขอใชป้ ระโยชนใ์ นเขตปำ่ สงวน แห่งชำติ เรียนปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในฐำนะเจ้ำสังกัดระดับกระทรวง เพ่ือให้ควำมเห็นชอบต่อไป ดงั มรี ำยละเอยี ดตำมหนงั สือท่ีแนบ จึงเรยี นมำเพอื่ โปรดพิจำรณำลงนำม (นำยสิทธิวัตร แสงสิรไิ พบลู ย์) ผส.มด.

บันทึกขอ้ ความ ส่วนราชการ กรมชลประทาน สานักกฎหมายและทดี่ นิ โทร. 0 2665 3550…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….………………………………………..…………………..………… ท่ี กษ ๐๓๐๗/ วันที่ มถิ นุ ายน ๒๕๖๑…………………………………………………………………………………………………………………….…………..……….……… …………………………………………………………………………………………………………………....………………. เรอื่ ง …………ข……อ…ค……ว…า…ม……เห……น็……ช…อ……บ……ใน……ก……า…ร…ข…อ……อ…น……ุญ……า…ต……เ…ข…า้ …ท……า…ป……ร…ะ…โ…ย.…ช……น……์ภ…า……ย…ใ…น…เ…ข……ต…ป……า่ …ต……า…ม…ม……า…ต……ร…า……๕……๔……แ…ห……่ง…พ……ร…ะ……ร…า…ช……บ…ญั...…ญ……ัต……ปิ ……่า…ไ…ม….้. พุทธศกั ราช ๒๔๘๔ เพื่อก่อสร้างโครงการอ่างเกบ็ นาหว้ ยนาขาว จงั หวดั ลาปาง เรียน ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ๑. เรอ่ื งเดมิ นายธวัชชัย เทอดเผ่าไทย ผู้ว่าราชการจังหวัดลาปาง ได้มีหนังสือท่ี ลป 0016.2/20240 ลงวันท่ี 4 ตุลาคม 2555 ถึงผู้อานวยการโครงการชลประทานลาปาง ความว่า ด้วยอดีตรัฐมนตรชี ่วยว่าการ กระทรวงมหาดไทย/รัฐมนตรีช่วยวา่ การกระทรวงศึกษาธิการ (นายไพโรจน์ โลห่ ์สุนทร) ได้มีดารวิ ่า จังหวัดลาปาง ประสบเหตอุ ุทกภัยและมีนาท่วมขังมากในบรเิ วณดอยพระบาทจนถึงบรเิ วณสี่แยกภาคเหนืออยู่เนือง ๆ สมควร ท่ีจะจัดหาแหล่งนาขึนในบริเวณพืนท่ีลาห้วยนาขาว ตาบลกล้วยแพะ อาเภอเมืองลาปาง จังหวัดลาปาง และ บริเวณใกล้เคียงที่เป็นแหล่งต้นนาอนั เป็นที่มาของปริมาณนาหลากที่เข้าทว่ มเมืองลาปาง เพื่อป้องกนั ปัญหาอุทกภัย ท่ีเกิดขึนเป็นประจา รวมทังประโยชน์ให้แก่เกษตรกรและประชาชนทั่วไปได้ใช้นาในการทาการเกษตรและ การอุปโภคบรโิ ภคในฤดูแลง้ ๒. ข้อเทจ็ จริง กรมชลประทานโดยสานักงานชลประทานที่ ๒ ได้ทาการตรวจสอบสภาพพืนที่ร่วมกับ นายอาณัติ ฟั่นจักรสาย ประธานชุมชนหัวฝาย พร้อมด้วยราษฎรในพืนท่ีจานวน ๑๐ คน โดยทาการรวบรวม ข้อมูลต่างๆ ที่เกี่ยวข้องและศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมแล้วเห็นว่ามีแนวทางช่วยเหลือได้ด้วยการก่อสร้าง อ่างเก็บนาห้วยนาขาว ซ่ึงเม่ือดาเนินการแล้วเสร็จจะสามารถเก็บกักนาได้ปริมาณ ๑๙7,๒๑๕ ลูกบาศก์เมตร เพื่อเป็นแหล่งนาสาหรับทาการเกษตรและการอุปโภคบริโภคของราษฎรในพืนที่โครงการ บ้านหัวฝาย หมู่ที่ ๔ จานวน ๔๔๓ ครัวเรือน ซึ่งมีประชากรจานวน ๑,๘๗๔ คน และราษฎรในพืนท่ีใกล้เคียง เพ่ือป้องกันและบรรเทา ปัญหาอุทกภัยของราษฎรทางด้านท้ายนาท่ีมักเกิดขึนเป็นประจาทุกปี โดยสามารถเก็บกักนาไว้ใช้ช่วยพืนท่ี เพาะปลกู ฤดูฝนไดป้ ระมาณ 1๕0 ไร่ ฤดแู ลง้ ประมาณ ๑00 ไร่ โครงการอ่างเก็บนาห้วยนาขาว มีพืนที่ก่อสร้างโครงการอยู่ที่บริเวณบ้านหัวฝาย หมู่ที่ ๔ ตาบลกล้วยแพะ อาเภอเมืองลาปาง จังหวัดลาปาง จานวนเนือที่ประมาณ ๔๙ ไร่ ๓ งาน ๔๘ ตารางวา ซ่ึงตังอยู่ ในเขตป่าตามมาตรา ๕๔ แห่งพระราชบัญญัติป่าไม้พุทธศักราช ๒๔๘๔ กรมชลประทานจึงต้องเสนอเร่ืองขอ อนุญาตเข้าทาประโยชน์ในเขตพืนที่ป่าต่ออธบิ ดกี รมปา่ ไม้ตามแบบ ป.๘๔ - ๑ (เอกสารทีแ่ นบ 1) ๓. เหตผุ ลและความจาเป็น ราษฎรส่วนใหญ่ในเขตพืนที่ตาบลกล้วยแพะประกอบอาชีพเกษตรกรรม แต่เนื่องจากพืนที่ ดังกล่าวไม่มีแหล่งกักเก็บนาไว้ใช้ในฤดูฝนและฤดูแล้งทาให้ราษฎรได้รับความเดือดร้อน ประสบปัญหา ขาดแคลนนาทานาในฤดูแล้งและในฤดูฝนจะเกิดนาท่วมพืนที่เกษตรกรรมของราษฎรทาให้เกิดความเสียหาย เป็นประจา กรมชลประทานได้พิจารณาตรวจสอบข้อเท็จจริงพร้อมทังเสนอแนวทางในการให้ความช่วยเหลือ ราษฎรแล้ว...

-๒- ราษฎรแล้ว เหน็ สมควรก่อสร้างแหล่งนาในพนื ท่ีดังกลา่ วโดยการก่อสรา้ งโครงการอา่ งเก็บนาหว้ ยนาขาวในท้องท่ี ตาบลกล้วยแพะ ซึ่งสามารถกักเก็บนาได้ประมาณ ๑๙7,๒๑๕ ลกู บาศก์เมตร เพ่อื เป็นการบรรเทาปญั หาการ ขาดแคลนนาและปัญหาอุทกภยั ของราษฎรในพืนท่ดี ังกลา่ ว ทังนจี งึ ไม่อาจหลกี เลีย่ งไปใชพ้ ืนทอ่ี ืน่ ได้ เนื่องจาก พืนทด่ี ังกล่าวมีศักยภาพเหมาะสมในการพัฒนาเป็นโครงการอา่ งเกบ็ นาห้วยนาขาว ดงั มรี ายระเอยี ดตามรายงาน เหตผุ ลและความจาเปน็ ในการขอใช้ประโยชน์ในเขตพนื ท่ปี ่าสงวนแห่งชาติ (เอกสารทีแ่ นบ 2) ๔. ข้อกฎหมายและระเบียบท่เี ก่ยี วขอ้ ง ๔.๑ พระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช ๒๔๘๔ มาตรา ๕๔ บัญญัติว่า “ห้ามมิให้ผู้ใดก่อสร้าง แผ้วถาง หรือเผาป่า หรือ กระทาด้วยประการใดๆ อันเป็นการทาลายป่า หรือเข้ายึดถือหรือครอบครองป่า เพ่ือตนเองหรือผู้อ่ืน เว้นแต่จะกระทาภายในเขตท่ีได้ จาแนกไว้เป็นประเภทเกษตรกรรมและรัฐมนตรีได้ ประกาศในราชกจิ จานเุ บกษา หรือโดยไดร้ ับใบอนุญาตจากพนกั งานเจ้าหน้าที่ การขออนุญาตและการอนุญาต ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และเง่ือนไขท่ีกาหนดใน กฎกระทรวง” ๔.๒ กฎกระทรวงการขอนญุ าตและการอนุญาตทาประโยชน์ในเขตป่า พ.ศ. ๒๕๕๘ ข้อ ๕ การขออนุญาตทาประโยชน์ในเขตป่า ต้องมีวัตถุประสงค์อย่างหนึ่งอย่างใด ดังต่อไปนี (๑๐) เพ่ือประโยชนใ์ นทางราชการ ข้อ ๖ วรรคหน่ึง “ผู้ใดประสงค์จะขออนุญาตทาประโยชน์ในเขตป่า ให้ย่ืนคาขออนุญาต ต่ออธิบดีกรมป่าไม้ โดยต้องระบุวัตถุประสงค์ในการขออนุญาตให้ชัดเจน พร้อมด้วยเอกสารหลักฐานตามที่ระบุไว้ ในแบบคาขอ” ๔.๓ ประกาศกรมป่าไม้ เร่ือง กาหนดแบบคาขอ แบบใบอนุญาต และแบบอ่ืนๆ ตามกฎกระทรวง การขออนญุ าต และการอนญุ าตทาประโยชน์ในเขตป่า พ.ศ. ๒๕๕๘ ๑) แบบคาขออนุญาตเข้าทาประโยชน์ในเขตป่า ตามมาตรา ๕๔ แหง่ พระราชบัญญัติป่าไม้ พทุ ธศกั ราช ๒๔๘๔ (แบบ ป.๘๔ – ๑) ๔.๔ ตามหนังสือกรมป่าไม้ ที่ กษ ๐๗๐๕(๓)/ว.๑๓๖๖๐ ลงวันที่ ๒๐ พฤษภาคม ๒๕๓๐ เร่ืองการขอเขา้ ทาประโยชน์ในพืนที่ป่าไม้ แจ้งว่า กรมป่าไม้ได้กาหนดเป็นทางปฏิบตั ิในกรณีส่วนราชการขอเข้า ทาประโยชน์ในเขตพืนทีป่ ่าไม้เพื่อวัตถุประสงค์ตา่ ง ๆ ที่จาเป็นต้องใช้พืนท่ีมากกว่า ๒๐ ไร่ ซึ่งถอื ว่าเป็นการขอ พืนทผี่ ืนใหญ่ ดังนี ๑) กรณีการขออนญุ าตเปน็ ส่วนราชการฝา่ ยทหาร ใหจ้ ัดสง่ รายงานเหตุผลและความจาเป็น ในการขอเข้าทาประโยชน์ในเขตพืนท่ีป่าไม้ซึ่งได้รับความเห็นชอบจากผู้บังคับบัญชาเหล่าทัพ (กองทัพบก กองทพั เรือ หรอื กองทัพอากาศ) ตามสายงานแล้ว ประกอบเรือ่ งราวคาขออนญุ าต 2) กรณีผขู้ ออนญุ าตเป็นส่วนราชการฝ่ายพลเรือน ใหจ้ ดั ส่งรายงานเหตุผลและความจาเป็น ในการขอเข้าทาประโยชน์ในเขตพืนที่ป่าไม้ ซ่ึงได้รับความเห็นชอบจากเจ้าสังกัดระดับกระทรวงแล้ว ประกอบ เรื่องราวการขออนญุ าต ๓) ผู้ขอ...

-๓- ๓) ผู้ขออนุญาตต้องขอในนามต้นสังกัดนัน ๆ หากมีการมอบอานาจต้องมีหลักฐาน การมอบอานาจจากต้นสังกัดแนบไปด้วย ตามทางปฏิบัติแห่งหนังสือกรมป่าไม้ ท่ี กส ๐๘๑๑/ว. ๓๐๗๓ , ๓๐๗๕ ลงวนั ที่ ๒๓ กมุ ภาพนั ธ์ ๒๕๒๒ (เอกสารท่แี นบ ๓) ๕. ขอ้ พิจารณา เห็นสมควรพิจารณาให้ความเห็นชอบ กรณีกรมชลประทานขออนุญาตเข้าใช้ประโยชน์ ในพืนที่เขตป่า ตามมาตรา ๕๔ แห่งพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช ๒๔๘๔ ตาบลกล้วยแพะ อาเภอเมืองลาปาง จงั หวดั ลาปาง จานวนเนือที่ประมาณ ๔๙ ไร่ ๓ งาน ๔๘ ตารางวา เพอ่ื ก่อสร้างโครงการอ่างเกบ็ นาหว้ ยนาขาว จงึ เรยี นมาเพอ่ื โปรดพิจารณา (นายมนัส กาเนิดมณี) รองอธิบดี ปฏิบัติราชการแทน อธิบดกี รมชลประทาน

ป.84-1 เลขรบั ที่........................................ วนั ที่.............................................. ลงชือ่ ................................ผู้รบั คาขอ คำขออนุญำตเขำ้ ทำประโยชนใ์ นเขตป่ำ ตำมมำตรำ 54 แห่งพระรำชบัญญตั ิปำ่ ไม้ พุทธศกั รำช 2484 -------------------- เขียนที่......................................................... วันที.่ ..........เดือน....................พ.ศ. ............. 1.ข้าพเจ้า.................................................................................................................. (ก) เป็นบุคคลธรรมดา สัญชาติ.................................อาย.ุ ..........................ปี บัตรประจาตวั ประชาชนเลขที่ ออกให้ ณ ........................ อยู่บ้านเลขที.่ ........................ตรอก/ซอย............................ถนน.....................................หมู่ที่.............. ตาบล/แขวง.........................อาเภอ/เขต.......................จงั หวัด........................โทรศัพท์....................... . (ข) เป็นนิติบคุ คล ประเภท..................................จดทะเบียนเมื่อ.................... ณ....................................เลขทะเบียนที่........................................มีสานักงานตั้งอยู่เลขที.่ ................... อาเภอ/เขต....................................จังหวัด.................................โทรศพั ท์.................................. โดยมีอานาจลงชือ่ แทนนิติบุคคลผขู้ ออนุญาต ชือ่ นาย/นาง/นางสาว.................................................... ชื่อสกลุ .................................................สญั ชาติ.......................อาย.ุ ...................ปี บัตรประจาตัวประชาชนเลขที่ . ออกให้ ณ ........................อยู่บ้านเลขที่............................ ตรอก/ซอย.....................ถนน............................หมทู่ ี.่ ........................ตาบล/แขวง........................... อาเภอ/เขต..........................จังหวดั ...................................โทรศพั ท์..................................... ๒. มีความประสงค์จะขออนุญาตเข้าทาประโยชน์ เพือ่ ............................................... .......................................................................................................................................................... .......................................................................................................... มีกาหนดระยะเวลา...............ปี ภายในเขตป่า...................................................................................................................................... ตาบล/แขวง...............................อาเภอ/เขต...................................จังหวดั .......................................... เนือ้ ที่ ....................................ไร่ ........................................งาน .....................................ตารางวา ต่ออธิบดีกรมป่าไม้ โดยมีอาณาเขตดังน้ี ด้านทิศเหนอื จด......................................วัดได้.............................เมตร ด้านทิศตะวันออก จด......................................วดั ได้.............................เมตร ด้านทิศใต้ จด......................................วัดได้.............................เมตร ด้านทิศตะวนั ตก จด......................................วดั ได้.............................เมตร ๓. ข้าพเจ้า...

-2- ๓. ข้าพเจ้ารับรองว่าจะเป็นผู้นา หรือมอบอานาจให้ตัวแทนเป็นผู้นาเจ้าหน้าที่ออกไป ตรวจสอบสภาพป่าในพนื้ ที่ที่ขอน้ี ตามวัน เวลา ที่เจา้ หนา้ ทีน่ ดั หมาย ๔. ข้าพเจ้ารับรองว่าเม่ือได้รับอนุญาตแล้ว จะปฏิบัติตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2484 และตามเงอ่ื นไขแนบท้ายใบอนญุ าตให้ครบถ้วนถกู ต้องทกุ ประการ ๕. ข้าพเจ้าได้แนบเอกสารหลกั ฐานที่เกี่ยวข้องมาด้วย ดังน้ี (1) สาเนาบตั รประจาตัวประชาชนหรอื สาเนาบัตรประจาตวั ตามกฎหมายกาหนด (2) สาเนาทะเบียนบ้าน (3) กรณีเป็นนิตบิ ุคคลใหย้ ื่นเอกสารทีเ่ กีย่ วข้องในการจดทะเบียนนิตบิ ุคคล (4) แผนที่สังเขป และแผนที่ระวาง มาตราส่วน 1 : 50,000 แสดงจุดที่ต้ัง บริเวณทีข่ ออนญุ าต (5) รายละเอียดโครงการที่ขออนญุ าต พรอ้ มแบบแปลน หรือแผนผังโครงการ หรอื กิจกรรมที่ขออนญุ าต และอื่นๆ (6) กรณีผยู้ ื่นคาขอเปน็ ผู้ทาการแทน ตอ้ งมีหนังสือมอบอานาจแนบท้ายคาขอ โดยติดอากรแสตมป์ให้ถกู ต้องตามกฎหมาย (7) หลักฐานที่แสดงผลการพิจารณาให้ความเห็นจากสภาองค์กรปกครอง ส่วนท้องถิน่ ที่ป่าน้ันตั้งอยู่ (8) บันทึกยินยอมแก้ไขปญั หาเกี่ยวกับราษฎร (9) เอกสารอ่นื ๆ (ถ้ามี) (ลงชื่อ)..........................................ผขู้ ออนญุ าต หมายเหตุ ได้รับค่าธรรมเนียมแบบพิมพ์คาขอจากผู้ยน่ื คาขอแล้ว ตามใบเสรจ็ รบั เงิน ฉบับที่.............. เล่มที่ ............... ลงวันที่ ............... เดือน ......................... พ.ศ. ............................ (ลงชื่อ)..........................................ผรู้ ับคาขอ (.........................................) ตาแหน่ง...........................................



รายงานเหตผุ ลและความจาเป็นท่ขี อเข้าทาประโยชนใ์ นเขตป่า ตามมาตรา 54 แห่งพระราชบัญญัติปา่ ไม้ พุทธศกั ราช 2484 เพื่อกอ่ สรา้ งโครงการอ่างเก็บนาห้วยนาขาว บ้านหัวฝาย หมูท่ี 4 ตาบลกล้วยแพะ อาเภอเมือง จังหวัดลาปาง ------------------------ ๑. เรอื่ งเดิม ด้วยนายธวัชชยั เทอดเผ่าไทย ผูว้ ่าราชการจังหวัดลาปาง ได้มีหนังสือท่ี ลป 0016.2/20240 ลงวันที่ 4 ตุลาคม 2555 ถึง ผู้อานวยการโครงการชลประทานลาปาง ความว่าด้วยอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการ กระทรวงมหาดไทย/รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (นายไพโรจน์ โล่ห์สุนทร) ได้มีดาริว่าจังหวัด ลาปางประสบเหตุอุทกภัยและมีนาท่วมขังมากในบริเวณดอยพระบาทจนถึงบริเวณสี่แยกภาคเหนืออยู่เนือง ๆ สมควรที่จะจัดหาแหล่งนาขึนในบริเวณพืนท่ีลาห้วยนาขาว ตาบลกล้วยแพะ อาเภอเมือง จังหวัดลาปาง และ บริเวณใกล้เคียง ท่ีเป็นแหล่งต้นนาอันเป็นท่ีมาของปริมาณนาหลากที่เข้าท่วมเมืองลาปาง เพ่ือป้องกันปัญหา อุทกภัยที่เกิดขึนเป็นประจา รวมทังประโยชน์ให้แก่เกษตรกรและประชาชนท่ัวไปได้ใช้นาในการทาการเกษตร และการอุปโภคบริโภคในฤดแู ลง้ สานักงานชลประทานที่ 2 ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าท่ีกลุ่มพิจารณาโครงการ ส่วนวิศวกรรม บริหาร เจ้าหน้าที่โครงการชลประทานลาปาง ทาการตรวจสอบสภาพพืนท่ีร่วมกับนายอาณัติ ฝั้นจักรสาย ประธานชุมชนบา้ นหัวฝาย นายอนนั ต์ อุ่นผกู นายผิว เทพพรหมวงศ์ นายแก้ว หอมแก่นจันทร์ นายม๊อก อุ่นผูก นายสม จันทร์สุริยะ นายสาม อุ่นผูก นายเกี่ยว ศรียอด นายทอน อินต๊ะวัน นายมนัส หอมแก่นจันทร์ นายธีรพงษ์ ไชยวังเย็น พร้อมด้วยราษฎรในพืนที่จานวน 10 คน โดยทาการรวบรวมข้อมูลต่าง ๆ ที่เก่ียวข้อง และศึกษารายละเอียดเพิ่มเติม แล้วเห็นว่ามีแนวทางช่วยเหลือได้ ด้วยการก่อสร้างโครงการอ่างเก็บนาห้วยนาขาว เมอ่ื ดาเนินการแล้วเสร็จจะสามารถแก้ไขปญั หาอุทกภยั และช่วยเหลอื พืนท่กี ารเกษตรรวมถงึ การอุปโภคบริโภค ของราษฎรในเขตพืนท่ีโครงการได้ ซ่ึงอย่ใู นเขตป่ าตามมาตรา ๕๔ แห่งพระราชบัญญัติป่ าไม้พุทธศักราช ๒๔๘๔ ตาบลกล้วยแพะ อาเภอเมืองลาปาง จงั หวดั ลาปาง จานวนเนอื ้ ทปี่ ระมาณ ๔๙ ไร่ ๓ งาน ๔๘ ตารางวา ๒. ทต่ี งั โครงการ บ้านหัวฝาย หมู่ที่ 4 ตาบลกล้วยแพะ อาเภอเมือง จังหวัดลาปางพิกัด ๔๗ QNA570-132 ระวาง 4945 III ลาดบั ชุด L 7018 ๓. สภาพภมู ิประเทศ สภาพภูมิประเทศโดยทั่วไปบริเวณโครงการเป็นที่ลาดเชิงเขาสลับลูกเนิน พืนท่ีราบลุ่มจะอยู่ ทางด้านทิศตะวนั ตก สว่ นทางทิศตะวนั ออกจะเปน็ แนวเทือกเขาสูงและป่าไม้ ๔. การคมนาคม โครงการอ่างเก็บนาห้วยนาขาว บ้านหัวฝาย ตาบลกล้วยแพะ อาเภอเมือง จังหวัดลาปาง เดินทางจากจังหวัดลาปางไปตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1037 (อาเภอเมือง – มหาวิทยาลัยราชภัฎ ลาปาง - อาเภอแมท่ ะ)ประมาณ 6 กิโลเมตรเลียวซ้ายไปบ้านหัวฝายตามถนนในหมู่บ้านประมาณ 5 กิโลเมตร ถึงท่ีตังโครงการรวมระยะทางประมาณ 11 กิโลเมตร

๕. วตั ถุประสงค์ - เพื่อเปน็ แหล่งนาสาหรับทาการเกษตรของราษฎร บ้านหวั ฝาย หมทู่ ่ี 4 จานวน 443 ครวั เรอื น ประชากร 1,874 คน - เพ่ือเปน็ แหล่งนาสาหรบั การอุปโภคบรโิ ภคของราษฎรในพนื ท่โี ครงการและบรเิ วณใกลเ้ คียง - เพื่อป้องกันและบรรเทาปัญหาอุทกภยั ของราษฎรทางด้านท้ายนาทมี่ กั เกดิ ขึนเป็นประจาทกุ ปี ๖. ลกั ษณะโครงการ - ทานบดินกวา้ ง 6.00เมตร ยาว 263.00เมตร สูงสดุ 13.00เมตร ความจุระดบั เก็บกัก197,215 ม.๓ - ทางระบายนาลน้ แบบรางเท สนั ทางระบายนาล้นกว้าง 6.๐๐ ม. ขนาดรางเทกว้าง 4.00 ม. - ทอ่ สง่ นาฝงั่ ซา้ ยขนาด Dia 0.50 ม. ยาว ๑1๕.๐๐ ม. ๗. เหตุผลและความจาเป็น โครงการอ่างเก็บนาห้วยนาขาว ตาบลกล้วยแพะ อาเภอเมือง จังหวัดลาปาง เมื่อก่อสร้าง แล้วเสร็จสามารถส่งนาช่วยเหลือพืนที่การเกษตรในฤดูฝน 150 ไร่ ฤดูแล้ง 100 ไร่ ตลอดจนสามารถแก้ไข ปัญหาการขาดแคลนนาสาหรับทาการอุปโภค-บริโภค ของราษฎรในตาบลกล้วยแพะ อาเภอเมือง จังหวัดลาปาง ๘. งบประมาณการก่อสรา้ ง ประมาณ 18.๐๐๐๐ ลา้ นบาท ๙. ระยะเวลาดาเนนิ การ ดาเนนิ การ ๑ ปี

ภาคผนวก ๓ รายชอื่ ผูจัดทาํ ๑. นายสุเทพ ลาภเหลอื ที่ปรึกษาคณะทํางาน สงั กัดสว& นกรรมสิทธ์ทิ ่ีดนิ สาํ นักกฎหมายและท่ดี นิ ๒. นายณัฐนยั คลาผ้ึง ประธานคณะทาํ งาน สังกัดสว& นกรรมสทิ ธ์ทิ ี่ดิน สาํ นักกฎหมายและทีด่ ิน ๓. นายวรี ะนดิ ไชยศิรินทร2 คณะทํางาน สงั กัด ส&วนกรรมสทิ ธิ์ท่ดี นิ สํานักกฎหมายและที่ดิน ๔. นางสาวพรชติ า พ่ึงสอน คณะทาํ งาน สงั กดั ส&วนกรรมสทิ ธ์ิทด่ี นิ สํานักกฎหมายและท่ดี นิ ๕. นายธนพนั ธุ2 วธุ ยากร คณะทาํ งาน สังกัด ส&วนกรรมสิทธิ์ทด่ี นิ สํานักกฎหมายและท่ีดิน ๖. นายอมร ชบู รรจง คณะทาํ งานและเลขานุการ สงั กดั ส&วนกรรมสิทธิ์ทีด่ ิน สํานกั กฎหมายและทีด่ ิน ๗. นางสาวทิพยรัตน2 คงสม คณะทาํ งานและผูชว& ยเลขานกุ าร สังกัด ส&วนกรรมสิทธิ์ทด่ี นิ สํานกั กฎหมายและท่ีดิน ๒๓