Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore คณะที่ 6 กระบวนงานการขอใช้ที่ป่า

คณะที่ 6 กระบวนงานการขอใช้ที่ป่า

Published by folderforqr, 2019-05-09 22:43:15

Description: ปี 2561

Search

Read the Text Version

คมู ือการปฏิบัติงาน (Work Manual) กระบวนงานการขอใชท# ป่ี า' สวนกรรมสทิ ธิท์ ่ีดิน สงิ หาคม ๒๕๖๑ สํานักกฎหมายและท่ดี ิน กรมชลประทาน

คมู อื การปฏิบตั ิงาน (Work Manual) กระบวนงานการขอใช#ทป่ี า' รหัสคมู ือ สมด./สกส.๓/256๑ หนวยงานทจี่ ัดทาํ ฝายทะเบยี นทด่ี ินและแกไขปญหากรรมสทิ ธิ์ท่ดี ิน สว% นกรรมสทิ ธิท์ ่ดี นิ สํานกั กฎหมายและทด่ี ิน ท่ีปรกึ ษา นายสเุ ทพ ลาภเหลือ พมิ พ:ครัง้ ที่ ๑ จาํ นวน ๕ เลม% เดอื นสงิ หาคม พ.ศ. 256๑



คมู อื การปฏบิ ัติงาน (Work Manual) กระบวนงานการขอใชท# ป่ี า' จัดทําโดย ๑. นายสเุ ทพ ลาภเหลอื ทีป่ รกึ ษาคณะทํางาน สังกดั สวนกรรมสิทธิ์ท่ดี ิน สํานกั กฎหมายและทีด่ ิน ๒. นายณฐั นัย คลา# ผ้ึง ประธานคณะทํางาน สงั กัดสวนกรรมสิทธ์ทิ ่ีดนิ สํานักกฎหมายและท่ดี ิน ๓. นายวรี ะนดิ ไชยศิรินทร: คณะทํางาน สงั กดั สวนกรรมสทิ ธ์ิทดี่ นิ สํานักกฎหมายและที่ดนิ ๔. นางสาวพรชติ า พ่งึ สอน คณะทํางาน สังกดั สวนกรรมสิทธ์ิทด่ี นิ สํานักกฎหมายและทีด่ นิ ๕. นายธนพนั ธ:ุ วุธยากร คณะทาํ งาน สังกดั สวนกรรมสิทธิ์ท่ดี ิน สํานกั กฎหมายและท่ีดิน ๖. นายอมร ชบู รรจง คณะทาํ งานและเลขานุการ สงั กัด สวนกรรมสทิ ธิ์ท่ดี นิ สํานักกฎหมายและทด่ี ิน ๗. นางสาวทิพยรตั น: คงสม คณะทาํ งานและผ#ูชวยเลขานุการ สังกดั สวนกรรมสิทธ์ิทด่ี นิ สํานักกฎหมายและทด่ี ิน สามารถติดตอสอบถามรายละเอียด/ขอ# มูลเพ่ิมเตมิ ได#ท่ี ฝ'ายทะเบยี นที่ดินและแกไ# ขปLญหากรรมสทิ ธท์ิ ดี่ ิน สวนกรรมสทิ ธท์ิ ดี่ ิน สาํ นกั กฎหมายและทีด่ ิน โทร. ๐๒๖๖๙๓๕๕๖

คํานาํ การจัดหาที่ดินเพ่ือใหไดมาซ่ึงท่ีดินสาํ หรับใชในการก%อสรางเพื่อการชลประทาน จะมีทั้งท่ีดิน ที่เป:นของเอกชนและที่ดินของรัฐ ซึ่งท่ีดินของเอกชนหากจําเป:นจะตองดําเนินการใหไดมาสําหรับใชในการ ก%อสรางเพ่ือการชลประทาน จะอาศัยดําเนนิ การตามพระราชบัญญัติวา% ดวยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย< พ.ศ. ๒๕๓๐ ห รือ ก า ร เ จ ร จ า ต ก ล ง ซื ้อ ข า ย ต า ม ป ร ะ ม ว ล ก ฎ ห ม า ย แ พ %ง แ ล ะ พ า ณ ิช ย <โ ด ย ค ณ ะ ก ร ร ม ก า ร จ ัด ซื ้อ แ ล ะ กําหนดค%าทดแทนทรัพย<สินเพื่อการชลประทาน (ตามคําสั่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ< ที่ ๔๒๙/๒๕๖๐ ลงวันที่ ๑ พฤษภาคม ๒๕๖๐) แต%หากเป:นท่ีดินของรัฐ มีท่ีดินหลายประเภทแตกต%างกันไปตามท่ีกฎหมาย กําหนด อย%างเช%นท่ีดินท่ีเก่ียวของกับท่ีปา ปจจุบันมีกฎหมายบัญญัติควบคุมกําหนดจําแนกที่ดินออกเป:นหลาย ประเภทเพ่ือการควบคุมดูแลทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอม และมีมติคณะรัฐมนตรีกําหนดแนวทางปฏิบัติ เพ่ือดูแลทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอมของชาติดังนั้นการขออนุญาตใชที่ดินจึงตองดําเนินการตาม กระบวนการของกฎหมายและมติคณะรัฐมนตรีท่ีเกี่ยวของซ่ึงจะมีความแตกต%างกันทั้งกระบวนการข้ันตอนการ ดําเนินการและระยะเวลาในการปฏิบัติงาน ดังนั้นการจัดทําคู%มือฉบับนี้จึงมีขอบเขตเฉพาะการขอใชพื้นที่ ปา ตามพระราชบัญญัติปาไม พุทธศักราช ๒๔๘๔ กรณีการขอใชพ้ืนที่ปาเกินกว%า ๒๐ ไร% ซึ่งถือว%าเป:นการใช พ้ืนท่ีผืนใหญ% ตามระเบียบของกรมปาไม ตองรายงานเหตุผลและความจําเป:นในการขอใชพื้นที่ปาขอความ เห็นชอบจากปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ< ในฐานะเจาสังกัดระดับกระทรวง ซึ่งเป:นกระบวนงานหน่ึงใน องค<ประกอบการขออนุญาตใชพ้ืนที่ปา การขออนุญาตใชพ้ืนที่ปาชายเลน การขอเพิกถอนพื้นที่อุทยานแห%งชาติ และการขอเพิกถอนพน้ื ทีเ่ ขตรกั ษาพันธ<ุสัตว<ปา ตามข้นั ตอนของกฎหมาย และระเบียบทเี่ กี่ยวของ ท้งั น้ีเพ่ือใหเจาหนาทผี่ ูปฏิบัติงานโดยตรงและผูปฏิบัตงิ านที่เกี่ยวของไดเขาใจข้ันตอนการปฏิบตั ิงาน เกี่ยวกับการขอใชที่ปาเพื่อเสริมประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานของเจาหนาที่ผูปฏิบัติงานเดิมและเพิ่มทักษะ การเรียนรูสําหรับผูที่เขามาปฏิบัติงานใหม%ใหสามารถขับเคลื่อนกระบวนการทํางานไดอย%างต%อเนื่อง และมีประสทิ ธิภาพ คณะทํางานจัดทําคู%มือการปฏิบัติงาน หวังเป:นอย%างยิ่งว%าคู%มือฉบับนี้ จะเป:นประโยชน< ต%อเจาหนาที่ผูปฏิบัติงาน และผูปฏิบัติงานท่ีเก่ียวของใหมีความเขาใจในกระบวนการขอใชที่ปาและสามารถใช เป:นแนวทางในการปฏิบัติงานไดอย%างมีประสิทธิภาพและสนับสนุนภารกิจหลักของกรมชลประทานใหบรรลุผล สาํ เรจ็ ไดตามเปOาหมายที่กาํ หนดไว คณะทํางานจัดทําคู%มอื การปฏบิ ัติงาน คณะท่ี ๖ สํานักกฎหมายและทีด่ ิน กรมชลประทาน

สารบญั หนา ๑. วัตถุประสงค< ๑ ๒. ขอบเขตของงาน ๑ ๓. คาํ จํากดั ความ ๑ ๔. หนาท่คี วามรับผดิ ชอบ ๒ ๒ สรุปกระบวนการ ๖ Work Flow กระบวนการ ๗ ๕. Work Flow ๑๑ ๖. ขน้ั ตอนการปฏิบัตงิ าน ๑๗ ๗. ระบบติดตามประเมินผล ๑๙ ๘. เอกสารอางองิ ๑๙ ๙. แบบฟอร<มที่ใช ๒๐ ภาคผนวก ๒๑ 1) ตวั อยา% งแบบฟอร<มกระบวนการขอใชทีป่ า ๒๒ 2) กฎหมาย ระเบียบ คําส่ัง ประกาศ แนวทางปฏิบัติ ๒๓ 3) รายชื่อผจู ัดทาํ

คูมอื การปฏบิ ตั งิ าน กระบวนงานการขอใช#ท่ีปา' ๑. วตั ถปุ ระสงค: การจัดทําคู%มือการปฏิบัติงานกระบวนงานการขอใชที่ปาฉบับน้ี เป:นการปรับปรุงคู%มือการ ปฏิบัติงานใหสอดคลองกับการปฏิบัติงานของหน%วยงานที่เก่ียวของตามกฎหมาย มติคณะรัฐมนตรี และระเบียบ ท่มี ีการปรับปรุงแกไขเพ่ือใหเจาหนาที่และบุคคลากรที่เก่ียวของไดรบั ทราบถึงรายละเอียดขัน้ ตอนการปฏิบัติงาน ใหเป:นไปตามกฎหมาย มติคณะรัฐมนตรี คําสั่ง ระเบียบ และหลักเกณฑ< สามารถนําไปใชประโยชน<ในการ ปฏิบัติงานรับรูเขาใจถึงข้ันตอนของการดําเนินงานเพ่ือใหการปฏิบัติงานตามกระบวนการเป:นไปในแนวทาง เดียวกัน สรางมาตรฐานการปฏิบัติงานที่มุ%งไปสู%ผลสัมฤทธิ์ไดอย%างมีประสิทธิภาพสามารถถ%ายทอดสอนงาน ใหเจาหนาท่ีหรือพนักงานที่เขามาปฏิบัติงานใหม%ไดเรียนรูและเพิ่มทักษะการปฏิบัติงานไดอย%างรวดเร็วสามารถ ทํางานแทนกนั ไดอยา% งมีประสทิ ธภิ าพและสามารถพฒั นาการทาํ งานอย%างมีคุณภาพนําไปส%ูความเช่ยี วชาญในการ ทาํ งาน และใชประกอบการประเมินผลการปฏบิ ัตงิ านของบุคลากรต%อไปและผูบริหารสามารถติดตามงานไดทุกข้นั ตอน อนั เป:นพื้นฐานในการควบคมุ กระบวนการทํางานและการบรหิ ารงานขององคก< รใหบรรลผุ ลสมั ฤทธ์ิตามเปาO หมาย ๒. ขอบเขตของงาน กระบวนงานการขอใชท่ีปา เป:นการดําเนินการท่ีตองประสานงานเก่ียวของกันหลายหน%วยงาน แต%ละหน%วยงานจะมีกระบวนการปฏิบัติงานตามอํานาจหนาท่ีแตกต%างกัน มีระยะเวลาปฏิบัติงานแตกต%างกัน และการขอใชพ้ืนท่ีแต%ละประเภทมีกระบวนการและระยะเวลาแตกต%างกันเป:นเง่ือนไขหลักของกระบวนการ ดาํ เนินการ ดังนั้นกระบวนการปฏิบัติงานและระยะเวลาย%อมเป:นไปตามกระบวนการปฏิบัติงานของ แต%ละหน%วยงาน ส%วนการจัดทําค%ูมือการปฏิบัติงานฉบับน้ี เป:นกระบวนงานการขอใชท่ีปาตามพระราชบัญญัติปาไม พุทธศักราช ๒๔๘๔ เท%านัน้ เปน: การปฏิบัติงานภายในกรมชลประทาน เพื่อจัดทาํ เรื่องเสนอปลดั กระทรวงเกษตร และสหกรณ< ใหความเห็นชอบในการขอใชพื้นที่ปาเกินกว%า ๒๐ ไร% ซึ่งถือว%าเป:นการใชพื้นที่ผืนใหญ% ในฐานะ เจาสังกดั ระดับกระทรวงตามขัน้ ตอนกฎหมาย และระเบยี บทเ่ี กยี่ วของ ตอ% ไป ๓. คาํ จํากัดความ “การชลประทาน” หมายความว%า กิจการที่กรมชลประทานจัดทาํ ข้ึนเพ่ือใหไดมาซึ่งนาํ้ หรือ เพื่อกักเก็บ รักษา ควบคุม ส%ง ระบายหรือแบ%งน้ําเพื่อการเกษตร การพลังงาน การสาธารณูปโภค หรือการ อุตสาหกรรม และหมายความรวมถึงการปOองกันความเสียหายอันเกิดจากนาํ้ กับรวมถึงการคมนาคมทางนํ้า ซึ่งอย%ูในเขตชลประทานดวย ตามมาตรา ๔ แหง% พระราชบัญญตั ิชลประทานหลวง พทุ ธศักราช ๒๔๘๕ “เขตงาน”หมายความว%า เขตที่ดินท่ีใชในการก%อสรางและการบํารุงรักษา การชลประทาน ตามทีเ่ จาพนักงานไดแสดงแนวเขตไว ตามมาตรา ๔ แหง% พระราชบัญญตั ิชลประทานหลวง พทุ ธศักราช ๒๔๘๕ “ปา”หมายความว%า ท่ีดินท่ียังมิไดมีบุคคลไดมาตามกฎหมายท่ีดินตามมาตรา 4 แห%ง พระราชบญั ญัตปิ าไม พทุ ธศักราช ๒๔๘๔ “การทาํ ประโยชน<ในเขตปา” หมายความว%า การทาํ ประโยชน<ในเขตปา ตามวัตถุประสงค< ที่กําหนดไวในกฎกระทรวงนี้ ตามขอ 3 กฎกระทรวงการขออนุญาตและการขออนุญาตทําประโยชน<ในเขตปา พ.ศ. 2558 “ส%วนราชการผูขออนุญาต” หมายความว%า สํานักงานชลประทานที่ 1-17 หรือสํานักพัฒนา แหล%งนา้ํ ขนาดใหญห% รอื กองพัฒนาแหลง% นํ้าขนาดกลาง ๑

๔. หนา# ท่คี วามรบั ผดิ ชอบ ๔.๑ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ< เกี่ยวของกับกระบวนการในฐานะ เจาสังกัดระดับกระทรวง ผบู ังคบั บัญชาหรอื กาํ กบั ดแู ลหรอื ควบคุมการปฏบิ ตั งิ านของกรมชลประทาน ๔.๒ อธิบดีกรมชลประทาน เกี่ยวของกับกระบวนการในฐานะผูบังคับบัญชาหรือหัวหนา หนว% ยงาน ๔.๓ รองอธิบดีฝายบริหาร เกี่ยวของกับกระบวนการในฐานะ ผูปฏิบัติราชการแทนอธิบดี กรมชลประทานตามอาศัยอํานาจตามคําส่ังกรมชลประทาน ท่ี ข ๔๐๗/๒๕๕๙ ลงวันที่ ๒๕ มีนาคม ๒๕๕๙ เรอื่ ง มอบหมายอาํ นาจหนาทีใ่ นการสงั่ และปฏบิ ตั ิราชการแทนอธบิ ดีกรมชลประทาน ๔.๔ ผูอํานวยการสํานักกฎหมายและที่ดิน เก่ียวของกับกระบวนการในฐานะ ผูบังคับบัญชา โดยตรงในการส่ังการ ตรวจสอบ เรง% รดั และติดตามตามกฎกระทรวงแบ%งส%วนราชการ กรมชลประทาน กระทรวง เกษตรและสหกรณ< พ.ศ. ๒๕๕๗ ๔.๕ ผอู ํานวยการสํานักงานชลประทานที่ 1-17 เก่ยี วของกบั กระบวนการในฐานะ สว% นราชการ ผูขอใชประโยชน< ๔.๖ ผูอํานวยการสํานักพัฒนาแหล%งน้ําขนาดใหญ% เกี่ยวของกับกระบวนการในฐานะ สว% นราชการผูขอใชประโยชน< ๔.๗ ผอู ํานวยการกองพัฒนาแหล%งนา้ํ ขนาดกลาง เกี่ยวของกับกระบวนการในฐานะ สว% นราชการ ผูขอใชประโยชน< ๔.๘ ผูอํานวยการส%วนกรรมสทิ ธท์ิ ่ดี ิน สํานักกฎหมายและที่ดนิ เก่ียวของกบั กระบวนการในฐานะ ผูบังคบั บัญชาชน้ั ตนตามคําสงั่ กรมชลประทานที่ ๖๐/255๘ ลงวนั ท่ี ๗ เมษายน 255๘ เรอ่ื ง การแบ%งงานและการ กาํ หนดหนาท่ีความรบั ผดิ ชอบของหน%วยงานภายในสํานักและกอง ๔.๙ หัวหนาฝายฝายทะเบียนที่ดินและแกไขปญหากรรมสิทธิ์ที่ดิน ส%วนกรรมสิทธิ์ที่ดิน สํานักกฎหมายและท่ีดิน เก่ียวของกับกระบวนการในฐานะผูจัดทําประมวลเรื่องราวการขอใชพ้ืนที่ปา ตามข้ันตอน ระเบียบ มติคณะรัฐมนตรี และกฎหมายท่ีเก่ียวของ เสนอผูบังคับบัญชาตามลําดับช้ัน เพื่อเสนอปลัดกระทรวง เกษตรและสหกรณ< ในฐานะเจาสังกัดในระดับกระทรวงตามคําส่ังกรมชลประทานที่ ๘๖/255๘ ลงวันที่ ๒๗ พฤษภาคม 255๘ เรือ่ ง การแบง% งานและการกําหนดหนาทค่ี วามรบั ผดิ ชอบของสํานักกฎหมายและท่ีดนิ สรุปกระบวนการ สํานักงานชลประทานท่ี 1-17 หรือสํานักพัฒนาแหล%งน้ําขนาดใหญ%หรือกองพัฒนาแหล%งน้ํา ขนาดกลาง ประสานงานกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอมจังหวัดในทองที่ที่ปาต้ังอย%ูเพ่ือทราบว%าพื้นที่ บริเวณท่ีจะดําเนินการก%อสรางโครงการชลประทานเป:นท่ีดินประเภทใดซ่ึงทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอม จงั หวัดจะแจงสํานักบริหารพื้นท่ีอนุรักษ<ในทองที่ และสํานักจัดการทรัพยากรปาไมทองที่ เพื่อตรวจสอบประเภท ท่ีดิน แจงใหสํานักงานชลประทานท่ี 1-17 หรือสํานักพัฒนาแหล%งนํ้าขนาดใหญ%หรือกองพัฒนาแหล%งนํ้าขนาด กลาง แลวแต%ละกรณี และดําเนนิ การจดั ใหมีการมสี ว% นร%วมของประชาชน ชุมชน และองคก< รปกครองส%วนทองถ่ิน ร%วมพิจารณาใหความเห็นชอบการดําเนินโครงการชลประทานดังกล%าว ตามรัฐธรรมนูญแห%งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ มาตรา ๔๓ (๓) มาตรา ๕๗ (๒) และระเบียบสาํ นักนายกรัฐมนตรีว%าดวยการมีส%วนร%วม ของประชาชน พ.ศ. ๒๕๔๘ ขอ ๔ และขอ ๕ และเมื่อทราบแน%ชัดแลวว%าเป:นพ้ืนท่ีปาตามพระราชบัญญัติปาไม พุทธศักราช ๒๔๘๔ จงึ ดาํ เนนิ การขอใชที่ปาตามระเบยี บกฎหมายต%อไปดงั นี้ ๒

๑. สาํ นักงานชลประทานที่ 1-17 หรือสาํ นักพัฒนาแหล%งนํ้าขนาดใหญห% รือกองพัฒนาแหลง% นํ้า ขนาดกลาง จัดทําคําขออนุญาตเขาทําประโยชน<ในเขตปาโดยใชแบบฟอร<ม ป.๘๔-๑ ตามประกาศกรมปาไม เร่ือง กําหนดแบบคําขอ แบบใบอนุญาต และแบบอ่ืนๆ ตามกฎกระทรวง การขออนุญาต และการอนุญาต ทําประโยชน<ในเขตปา พ.ศ. ๒๕๕๘ พรอมเอกสารประกอบ ดงั น้ี ๑) สําเนาบตั รประจาํ ตวั ของผูไดรบั มอบอาํ นาจ ๒) สําเนาทะเบยี นบานของผไู ดรบั มอบอาํ นาจ ๓) แผนที่สังเขป และแผนท่ีระวาง มาตราส%วน ๑:๕๐,๐๐๐ แสดงจุดท่ีตั้งโครงการ ชลประทานบรเิ วณทข่ี ออนญุ าต ๔) รายละเอียดโครงการชลประทานทีข่ ออนญุ าต พรอมแบบแปลน หรือแผนผงั โครงการ ๕) สําเนาคําส่ังกรมชลประทาน ท่ี ข ๑5๑/255๕ เร่ืองมอบอํานาจดําเนินการขอใชท่ีดิน ของรฐั ทุกประเภท ลงวนั ที่ ๖ กมุ ภาพันธ< 255๕ ๖) หลักฐานที่แสดงผลการพิจารณาใหความเห็นจากสภาองค<กรปกครองสว% นทองถ่ินทป่ี าน้ันต้ังอยู% ๗) บนั ทึกยินยอมแกไขปญหาเกีย่ วกับราษฎร (ถาม)ี ๘) กรณีขอใชพ้ืนที่มากกว%า ๒๐ ไร% ซึ่งถือว%าเป:นการขอใชพื้นท่ีผืนใหญ%ใหแนบรายงาน เหตุผลและความจําเป:นในการขอใชพ้ืนท่ี ซึ่งไดรับความเห็นชอบจากเจาสังกัดระดับกระทรวง ประกอบเร่อื งราว การขออนญุ าตตามหนังสือกรมปาไม ที่ กษ 0705(3)/ว13659 ลงวันท่ี 2๐ พฤษภาคม 2530 ๒. สํานักกฎหมายและที่ดิน ตรวจสอบเรื่องราวการขออนุญาตเขาทําประโยชน<ในเขตปา กรณีขอใชพื้นที่มากกว%า ๒๐ ไร% ตามกฎหมายระเบียบ และจัดทํารายงานเหตุผลและความจําเป:น เสนอกรมชลประทาน ๒.๑ ส%วนกรรมสิทธิ์ที่ดิน ส%งเรื่องราวการขออนุญาตเขาทําประโยชน<ในเขตปา กรณีขอใชพื้นท่ี มากกวา% ๒๐ ไร% ใหฝายทะเบยี นท่ีดนิ และแกไขปญหากรรมสทิ ธทิ์ ด่ี นิ ตรวจสอบตามกฎหมาย และระเบยี บ ๒.๒ ฝายทะเบียนทดี่ ินและแกไขปญหากรรมสิทธิ์ที่ดิน พิจารณาตรวจสอบเรื่องราวการขออนุญาต เขาทําประโยชน<ในเขตปากรณีขอใชพนื้ ทีม่ ากกว%า ๒๐ ไร% ตามกฎหมายและระเบียบที่เก่ียวของ ดังน้ี ๒.๒.๑ พระราชบัญญัติปาไม พุทธศักราช ๒๔๘๔ มาตรา ๕๔ บัญญัติว%า “หามมิให ผใู ดก%อสรางแผวถาง หรอื เผาปา หรือ กระทําดวยประการใดๆ อันเป:นการทาํ ลายปา หรือเขายดึ ถือหรอื ครอบครองปา เพ่ือตนเองหรือผอู ื่น เวนแต%จะกระทําภายในเขตทีไ่ ด จาํ แนกไวเป:นประเภทเกษตรกรรมและรฐั มนตรีไดประกาศ ในราชกจิ จานุเบกษา หรือโดยไดรบั ใบอนญุ าตจากพนกั งานเจาหนาที่ การขออนุญาตและการอนุญาต ใหเป:นไปตามหลักเกณฑ<และเงื่อนไขท่ีกาํ หนดในกฎกระทรวง” ๒.๒.๒ กฎกระทรวงการขออนุญาตและการอนญุ าตทําประโยชน<ในเขตปา พ.ศ. ๒๕๕๘ ขอ ๕ การขออนญุ าตทาํ ประโยชน<ในเขตปา ตองมวี ัตถปุ ระสงคอ< ย%างหนงึ่ อย%างใด ดงั ต%อไปนี้ (๑๐) เพอื่ ประโยชน<ในทางราชการ ขอ ๖ วรรคหน่ึง “ผูใดประสงค<จะขออนุญาตทําประโยชน<ในเขตปา ใหย่ืนคําขออนุญาต ต%ออธิบดีกรมปาไมโดยตองระบุวตั ถุประสงค<ในการขออนุญาตใหชัดเจน พรอมดวยเอกสารหลักฐานตามทรี่ ะบุไว ในแบบคําขอ” ๒.๒.๓ ประกาศกรมปาไม เรื่อง กาํ หนดแบบคําขอ แบบใบอนุญาต และแบบอ่ืนๆ ตามกฎกระทรวง การขออนญุ าต และการอนุญาตทาํ ประโยชนใ< นเขตปา พ.ศ. ๒๕๕๘ ๑) แบบคําขออนุญาตเขาทําประโยชน<ในเขตปา ตามมาตรา ๕๔ แห%งพระราชบญั ญัติ ปาไม พทุ ธศักราช ๒๔๘๔ (แบบ ป.๘๔–๑) ๓

๒.๒.๔ หนังสือกรมปาไม ท่ี กษ 0705(3)/ว13659 ลงวันที่ 2๐ พฤษภาคม 2530 เรื่อง การขอเขาทําประโยชน<ในเขตปาไมกรมปาไมไดกําหนดเป:นทางปฏิบัติในกรณีส%วนราชการขอเขาทําประโยชน< ในเขตพนื้ ทป่ี าไมเพื่อวัตถปุ ระสงค<ต%าง ๆ ทจ่ี ําเป:นตองใชพ้ืนท่ีมากกว%า ๒๐ ไร% ซงึ่ ถอื วา% เป:นการขอพ้ืนท่ีผืนใหญ% ดังนี้ ๑) กรณีการขออนุญาตเปน: สว% นราชการฝายทหาร ใหจัดสง% รายงานเหตุผลและความ จําเป:นในการขอเขาทําประโยชน<ในเขตพื้นที่ปาไมซึ่งไดรับความเห็นชอบจากผูบังคับบัญชาเหล%าทัพ (กองทัพบก กองทพั เรอื หรือกองทพั อากาศ) ตามสายงานแลว ประกอบเรอ่ื งราวคาํ ขออนุญาต 2) กรณีผูขออนุญาตเป:นส%วนราชการฝายพลเรือน ใหจัดส%งรายงานเหตุผลและ ความจาํ เป:นในการขอเขาทําประโยชน<ในเขตพ้ืนที่ปาไม ซึ่งไดรับความเห็นชอบจากเจาสังกัดระดับกระทรวงแลว ประกอบเร่ืองราวการขออนญุ าต ๓) ผูขออนุญาตตองขอในนามตนสังกัดนั้น ๆ หากมีการมอบอํานาจตองมี หลักฐานการมอบอํานาจจากตนสังกัดแนบไปดวย ตามทางปฏิบัติแห%งหนังสือกรมปาไม ท่ี กส ๐๘๑๑/ว. ๓๐๗๓/ ๓๐๗๕ ลงวนั ท่ี ๒๓ กมุ ภาพนั ธ< ๒๕๒๒ ๒.๒.๕ คําขออนุญาตเขาทําประโยชน<ในเขตปาตามประกาศกรมปาไม เรื่อง กําหนดแบบ คําขอ แบบใบอนุญาต และแบบอ่ืนๆ ตามกฎกระทรวง การขออนุญาต และการขออนุญาตทําประโยชน<ในเขตปา พ.ศ. ๒๕๕๘ ใหใช แบบ ป.๘๔-๑ พรอมเอกสารประกอบดังน้ี ๑) สาํ เนาบตั รประจาํ ตวั ของผูไดรับมอบอาํ นาจ ๒) สําเนาทะเบียนบานของผูไดรับมอบอาํ นาจ ๓) แผนท่ีสังเขป และแผนที่ระวางของกรมแผนที่ทหาร มาตราส%วน ๑:๕๐,๐๐๐ แสดงจุดทตี่ ั้งโครงการชลประทานบรเิ วณทีข่ ออนญุ าตระบุเครอ่ื งหมาย สัญลกั ษณ< และสถานทีข่ างเคยี งถูกตอง ๔) รายละเอียดโครงการชลประทานท่ีขออนุญาต พรอมแบบแปลน หรอื แผนผังโครงการ ๕) สําเนาคําส่ังกรมชลประทาน ท่ี ข ๑5๑/255๕ เรอื่ งมอบอํานาจดําเนินการขอใช ที่ดินของรฐั ทกุ ประเภท ลงวนั ท่ี ๖ กมุ ภาพันธ< 255๕ ๖) หลักฐานที่แสดงผลการพิจารณาใหความเห็นชอบใหเขาทําประโยชน<ในเขตปา จากสภาองค<กรปกครองส%วนทองถน่ิ ท่ีปานัน้ ต้ังอย%ู ๗) บันทกึ ยินยอมแกไขปญหาเกยี่ วกบั ราษฎร (ถาม)ี ๘) รายงานเหตุผลและความจําเป:นในการขอใชพื้นที่ปาเพื่อเสนอขอความเห็นชอบ จากปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ< ในฐานะเจาสังกัดระดับกระทรวง เนื่องจากการขอใชพื้นที่ปามากกว%า ๒๐ ไร% ถือว%าเปน: การขอใชพื้นท่ีผืนใหญ%ตามหนังสือกรมปาไม ที่ กษ 0705(3)/ว13659 ลงวันที่ 2๐ พฤษภาคม 2530 ๒.๒.๖ จดั ทําหนงั สอื รายงานผบู ังคับบญั ชาตามลาํ ดบั จาํ นวน ๓ ฉบบั ดังน้ี ๑) หนังสือจากผูอํานวยการส%วนกรรมสิทธิ์ที่ดิน รายงานผูอํานวยการ สาํ นกั กฎหมายและท่ดี ิน เพือ่ พจิ ารณาผลการตรวจสอบเอกสารหลักฐานประกอบรายงานเหตุผลและความจาํ เป:น ในการขอใชพื้นที่ปาตามระเบยี บกฎหมาย ๒) หนงั สือจากผูอํานวยการสํานักกฎหมายและที่ดิน รายงานรองอธิบดีกรมชลประทาน ในฐานะหัวหนาส%วนราชการ (ไดรับมอบอํานาจตามคําส่ังกรมชลประทาน ท่ี ข ๔๐๗/๒๕๕๙ ลงวันที่ ๒๕ มีนาคม ๒๕๕๙) เพอ่ื พจิ ารณารายงานเหตุผลและความจาํ เปน: ในการขอใชพน้ื ที่ปา ๓) หนังสือจากรองอธิบดีกรมชลประทาน รายงานปลัดกระทรวงเกษตรและ สหกรณ< เสนอขอความเห็นชอบรายงานเหตุผลและความจําเป:นในการขอใชพื้นท่ีปา เพื่อก%อสรางโครงการ ชลประทาน ๔

๒.๓ ส%วนกรรมสิทธิ์ท่ีดิน รายงานสํานักกฎหมายและที่ดิน เพ่ือพิจารณาผลการตรวจสอบ เอกสารหลักฐานประกอบรายงานเหตุผลและความจําเป:นในการขอใชพื้นที่ปาตามกฎหมาย และระเบียบ และลงนาม หนังสอื รายงานอธบิ ดกี รมชลประทาน ๒.๔ สํานักกฎหมายและท่ีดิน รายงานรองอธิบดีกรมชลประทาน (รธร.) เพื่อพิจารณา รายงานเหตผุ ลและความจาํ เป:นในการขอใชพืน้ ท่ีปา และลงนามหนงั สอื เรยี นปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ< ๓. รองอธิบดีกรมชลประทาน (รธร.) ลงนามหนังสือรายงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ< เสนอขอความเห็นชอบรายงานเหตุผลและความจาํ เปน: ในการขอใชพนื้ ที่ปาเพื่อก%อสรางโครงการชลประทาน ๔. ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ< พิจารณาใหความเห็นชอบรายงานเหตผุ ลและความจําเป:น ในการขอใชพ้นื ที่ปา เพอ่ื ก%อสรางโครงการชลประทานมคี วามเหมาะสมถกู ตองตามกฎหมายและระเบียบ ๔.๑ สาํ นักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ< ส%งเร่ืองรายงานเหตุผลและความจําเป:น ในการขอใชพน้ื ที่ปา ซงึ่ ปลดั กระทรวงเกษตรและสหกรณ<ไดใหความเหน็ ชอบแลว คืนกรมชลประทาน ๕. กรมชลประทาน โดยสํานักงานเลขานุการกรมส%งเรอื่ งคืนใหสํานกั กฎหมายและที่ดิน เพื่อแจง ใหสว% นราชการผขู ออนุญาตขอใชพนื้ ทป่ี าเพือ่ ดําเนินการต%อไป ๖. สํานักกฎหมายและท่ีดิน ส%งเรื่องใหส%วนกรรมสิทธ์ิที่ดิน เพื่อดําเนินการแจงใหส%วนราชการผู ขออนญุ าตขอใชพ้ืนทปี่ าเพ่ือดาํ เนนิ การต%อไป ๖.๑ ส%วนกรรมสิทธิ์ที่ดิน มอบหมายใหฝายทะเบียนที่ดินและแกไขปญหากรรมสิทธ์ิท่ีดิน จัดทาํ หนงั สอื แจงใหส%วนราชการผขู ออนญุ าตขอใชพื้นทปี่ าเพื่อดาํ เนนิ การต%อไป ๖.๒ ฝายทะเบียนที่ดินและแกไขปญหากรรมสิทธิ์ที่ดิน จัดทําหนังสือรายงานผลการ ดําเนนิ การ จาํ นวน ๒ ฉบับ ดงั นี้ ๑) หนงั สือจากผูอาํ นวยการส%วนกรรมสิทธทิ์ ่ดี นิ รายงานผอู ํานวยการสํานกั กฎหมายและท่ดี ิน เพื่อลงนามหนังสือแจงใหสว% นราชการผูขออนุญาตขอใชพน้ื ที่ปาเพ่ือดาํ เนินการตอ% ไป ๒) หนังสือจากผูอํานวยการสํานักกฎหมายและท่ีดินถึงส%วนราชการผูขออนุญาตขอใช พื้นที่ปา เพื่อส%งเรื่องรายงานเหตุผลและความจําเป:นในการขอใชพื้นที่ปา ซึ่งปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ< ไดใหความเหน็ ชอบแลว เพ่อื ดําเนินการต%อไป ๖.๓ ผูอํานวยการส%วนกรรมสิทธิ์ที่ดิน รายงานผูอํานวยการสํานักกฎหมายและที่ดิน เพ่อื ลงนามหนังสือแจงใหส%วนราชการผูขออนญุ าตขอใชพนื้ ท่ปี าเพื่อดาํ เนนิ การตอ% ไป ๖.๔ ผูอํานวยการสํานักกฎหมายและที่ดิน ลงนามหนังสือถึงส%วนราชการผูขออนุญาตขอใช พื้นท่ีปา เพื่อส%งเรื่องรายงานเหตุผลและความจําเป:นในการขอใชพ้ืนท่ีปา ซึ่งปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ< ไดใหความเห็นชอบแลว เพอื่ ดาํ เนนิ การขออนุญาตขอใชพ้นื ที่ปา ตามระเบยี บและกฎหมาย ตอ% ไป ๗. สํานกั งานชลประทานท่ี 1-17 หรอื สาํ นักพฒั นาแหล%งนาํ้ ขนาดใหญ% หรือกองพัฒนาแหลง% นํ้า ขนาดกลาง มีเอกสารประกอบการจัดทําคาํ ขออนุญาตเขาทําประโยชน<ในเขตปาโดยใชแบบฟอร<ม ป.๘๔-๑ ตามประกาศกรมปาไม เรื่อง กําหนดแบบคาํ ขอ แบบใบอนุญาต และแบบอ่ืนๆ ตามกฎกระทรวง การขออนุญาต และการขออนญุ าตทาํ ประโยชน<ในเขตปา พ.ศ. ๒๕๕๘ กระบวนการยื่นคําขออนุญาตทําประโยชน<ในเขตปาตามพระราชบัญญัติปาไม พุทธศักราช ๒๔๘๔ เป:นหนาที่ของสํานักงานชลประทานท่ี 1-17 หรือสํานักพัฒนาแหล%งน้ําขนาดใหญ% หรือกองพัฒนาแหล%งน้ํา ขนาดกลาง ต%อไป ๕

Work Flow กระบวนการ การขออนุญาตเข#าทาํ ประโยชนใ: นพืน้ ทป่ี า' ลําดบั ที่ ผังกระบวนการ เวลา ๑. สํานกั งานชลประทานที่ ๑–๑๗ ตามมาตรฐานงาน สํานกั พฒั นาแหล%งนํ้าขนาดใหญ% ของแต%ละหนว% ยงาน หรือกองพฒั นาแหล%งนาํ้ ขนาดกลาง ๒. สํานักกฎหมายและทด่ี นิ ๗ วนั ๓. กรมชลประทาน ตามมาตรฐานงาน ของแตล% ะหน%วยงาน ๔. กระทรวงเกษตรและสหกรณ< ตามมาตรฐานงาน ของแต%ละหนว% ยงาน ๕. กรมชลประทาน ตามมาตรฐานงาน ของแตล% ะหน%วยงาน ๖. สาํ นักกฎหมายและท่ีดนิ ๕ วนั สํานักงานชลประทานท่ี ๑–๑๗ ๗. สํานักพฒั นาแหลง% นาํ้ ขนาดใหญ% หรือกองพัฒนาแหลง% นาํ้ ขนาดกลาง รวมเวลาท้งั หมด ๑๒วนั –นาที(เฉพาะกระบวนงานภายในสาํ นักกฎหมายและที่ดนิ ) ๖

๕. Work Flow ชอ่ื กระบวนการ : กระบวนงานการขอใชที่ปา ตัวชีว้ ัดผลลัพธ:กระบวนการจดั ทําคมู อื การปฏบิ ัติงาน: ขั้นตอนการขออนญุ าตเข#าทําประโยชน:ในพื้นทปี่ า' ลาํ ดับ ผังกระบวนการ ระยะเวลา รายละเอียดงาน มาตรฐานคุณภาพงาน ผร#ู ับผิดชอบ ๑. ตาม - สาํ นักงานชลประทานท่ี ๑–๑๗ หรือสาํ นกั - กรณีมีความจําเป:นตองขอใชพ้ืนท่ี - ผส.ชป.๑-๑๗ สํานักงานชลประทานที่ ๑–๑๗ มาตรฐาน พัฒนาแหล%งน้ําขนาดใหญ% หรือกองพัฒนา ป าม าก ก ว%า ๒ ๐ ไร% ต อ งจั ด ทํ า - ผส.พญ. สํานักพัฒนาแหล%งน้ําขนาดใหญ% ของแตล% ะ แหล%งนํ้าขนาดกลางจัดทําคําขออนุญาต รายงานเหตุผลและความจําเป:นใน - ผอ.พก. หรือกองพัฒนาแหลง% นา้ํ ขนาดกลาง หน%วยงาน เขาทําประโยชน<ในเขตปาโดยใชแบบป. การขอใชพ้ืนที่ปาพรอมเอกสาร ๘๔-๑ ตามประกาศกรมปาไม เรื่อง กําหนด ประกอบใหถูกตองครบถวนตาม แบบคําขอ แบบใบอนุญาต และแบบอื่นๆ แบบป.๘๔-๑ เสนอขอความเห็นชอบ ตามกฎกระทรวง การขออนุญาต และการ จากเจาสงั กัดระดบั กระทรวง ขออนุญาตทําประโยชน<ในเขตปา พ.ศ. ๒๕๕๘ พรอมเอกสารประกอบส%งสํานัก กฎหมายและทดี่ ิน ๒. ๗ วัน - สํานักกฎหมายและที่ดิน ตรวจสอบ - คําขออนุญาตเขาทําประโยชน<ใน - ผส.มด. สาํ นกั กฎหมายและท่ดี ิน เร่ืองราวการขออนุญาตเขาทําประโยชน< เขตปาถูกตองตามแบบป.๘๔-๑ ตาม - ฝบท.มด. ในเขตปากรณีขอใชพื้นที่มากกว%า ๒๐ ไร% ป ระก าศกรม ป าไมล งวัน ที่ ๑ ๑ ตามระเบียบ กฎหมายและจัดทํารายงาน เมษายน ๒๕๕๙ เห ตุผลและความจําเป: น เสน อกรม ชลประทาน ๗

ลําดบั ผังกระบวนการ ระยะเวลา รายละเอียดงาน มาตรฐานคณุ ภาพงาน ผ#ูรับผดิ ชอบ - ส%วนกรรมสิทธ์ิที่ดินส%งเรื่องราวการขอ - รายงานเหตุผลและความจําเป:นใน - ผกส.มด. อนุญาตเขาทําประโยชน<ในเขตปากรณีขอ การขอใชพื้นที่ปามีความเหมาะสม ใชพ้ืนท่ีมากกว%า ๒๐ ไร%ใหฝายทะเบียน แ ล ะ เอ ก ส า ร ป ร ะ ก อ บ ถู ก ต อ ง ท่ีดินและแกไขปญหากรรมสิทธิ์ท่ีดิน ครบถวนตามแบบป.๘๔-๑ พจิ ารณาตรวจสอบตามระเบยี บ กฎหมาย - ฝายทะเบียนที่ดินและแกไขปญหา - ตามระเบียบสํานักนายกรัฐมนตรี - ทก.มด. กรรมสิทธ์ิท่ีดินพิ จารณ าตรวจสอบ ว%าดวยงานสารบรรณ พ.ศ. ๒๕๒๖ - กสด. เรื่องราวการขออนุญาตเขาทําประโยชน< และที่แกไขเพิ่มเติมฉบับท่ี ๒ พ.ศ. ในเขตปากรณีขอใชพ้ืนท่ีมากกว%า ๒๐ ไร% ๒๕๔๘ ตามระเบียบ และกฎหมายท่ีเกีย่ วของ - จัดทําบันทึกรายงานเหตุผลและความ จําเป:นในการขอใชพ้ืนที่ปาเสนอส%วน ก รรม สิ ท ธ์ิที่ ดิ น เพ่ื อ ราย งาน สํ านั ก กฎหมายและทดี่ ิน -ส%วนกรรมสิท ธิ์ท่ีดินรายงาน สํานั ก - ผกส.มด. กฎหมายและท่ีดิน เพื่อพิจารณาผลการ ต ร ว จ ส อ บ เอ ก ส า ร ห ลั ก ฐ า น ป ร ะ ก อ บ รายงานเหตุผลและความจําเป:นในการขอ ใชพืน้ ที่ปาตามระเบียบกฎหมาย ๘

ลําดบั ผังกระบวนการ ระยะเวลา รายละเอียดงาน มาตรฐานคณุ ภาพงาน ผ#รู บั ผิดชอบ - สํานักกฎ หมายและที่ดินพิจารณา - รายงานเหตุผลและความจําเป:นใน - ผส.มด. รายงานเหตุผลและความจําเป:นในการขอ การขอใชพ้ืนที่ปามีความเหมาะสม - ฝบท.มด. ใชพ้ืนท่ีปา และลงนามหนังสือรายงานรอง และเอกสารประกอบถูกตองครบถวน อธบิ ดีกรมชลประทาน ตามแบบป.๘๔-๑ ๓. ตาม - รองอธิบดีกรมชลประทานพิจารณา - ตรวจสอบรายงานเหตุผลและความ - รธร. กรมชลประทาน มาตรฐาน รายงานเหตผุ ลและความจําเป:นในการขอ จําเป:นในการขอใชพื้นท่ีปาและ - ลนก. ของแต%ละ ใชพ้ืนท่ีปา และลงนามหนังสือขอความ เอกสารประกอบถูกตองครบถวน หน%วยงาน เห็นชอบจากปลัดกระทรวงเกษตรและ ตามแบบป.๘๔-๑ สหกรณ< ๔. ตาม - ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ< - รายงานเหตุผลและความจําเป:นใน - ปลัดกระทรวง กระทรวงเกษตร มาตรฐาน พจิ ารณาลงนามใหความเห็นชอบรายงาน การขอใชพนื้ ที่ปาเพื่อกอ% สรางโครงการ เกษตรและสหกรณ< และสหกรณ< ของแตล% ะ เหตุผลและความจําเป:นในการขอใชพื้นท่ี ชลประทานมีความเหมาะสมและ หน%วยงาน ปา เพือ่ กอ% สรางโครงการชลประทาน ถกู ตองตามระเบียบและกฎหมาย - ผอ.กองกลาง - สํานักงานปลัดกระทรวงเกษตรและ - ตามมาตรฐานของแต%ละหน%วยงาน สป.กษ. สหกรณ<ส%งเรื่องคืนใหกรมชลประทาน เพื่อแจงใหส%วนราชการผูขออนุญาตขอใช พ้ืนท่ปี าเพ่ือดาํ เนินการต%อไป ๙

ลาํ ดบั ผงั กระบวนการ ระยะเวลา รายละเอยี ดงาน มาตรฐานคุณภาพงาน ผ#ูรบั ผดิ ชอบ ๕. ตาม - ก รม ช ล ป ระ ท าน รับ เรื่อ งคื น จ าก -ตามมาตรฐานของแต%ละหนว% ยงาน - ลนก. กรมชลประทาน มาตรฐาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ< ส%งใหสํานัก ของแตล% ะ กฎหมายและที่ดนิ ดาํ เนนิ การเพอ่ื แจงใหผู หนว% ยงาน ขออนุญาตขอใชพ้ืนที่ปาเพื่อดําเนินการ ตอ% ไป ๖ ๕ วนั - สํานักกฎหมายและท่ีดินรับเร่ืองคืน - ตามระเบียบสํานักนายกรัฐมนตรี - ผส.มด. สํานกั กฎหมายและที่ดนิ และดําเนินการจัดทําหนังสือแจงใหส%วน ว%าดวยงานสารบรรณ พ.ศ. ๒๕๒๖ - ฝบท.มด. ราชการผูขออนุญาตขอใชพื้นที่ปาเพ่ือ และที่แกไขเพ่ิมเติมฉบับท่ี ๒ พ.ศ. - ผกส.มด. ดาํ เนินการต%อไป ๒๕๔๘ - ทก.มด. ๗.. - สํานักงานชลประทานที่ ๑–๑๗ หรือ - มีเอกสารประกอบการยื่นคําขอ สํานกั งานชลประทานที่ ๑–๑๗ สํานักพัฒนาแหล%งน้ําขนาดใหญ% หรือกอง อนุญาตใชพ้ืนท่ีปา ถูกตองครบถวน - ผส.ชป.๑-๑๗ สํานักพัฒนาแหล%งน้ําขนาดใหญ% หรอื กองพัฒนาแหล%งน้ําขนาดกลาง พัฒนาแหล%งนํ้าขนาดกลางไดรับเร่ืองราว ตามแบบป.๘๔-๑ - ผส.พญ. รายงานเหตุผลและความจาํ เปน: ในการขอ - ดาํ เนินการภายในระยะเวลา - ผอ.พก. ใช พ้ื น ที่ ป า เพ่ื อ ก% อ ส รางโค รงก าร ชลประทานซึ่งปลัดกระทรวงเกษตรและ สหกรณ<ใหความเห็นชอบและเอกสาร ประกอบการย่ืนคําขอใชพน้ื ท่ีปาครบถวน ตามแบบ ป.๘๔-๑ ๑๐

๖. ขัน้ ตอนการปฏบิ ตั ิงาน ข้นั ตอนการปฏิบัติงาน ระเบยี บ เอกสาร บนั ทึก ผรู# ับผดิ ชอบ เง่อื นไขการปฏิบัตงิ าน แนวทางแบบฟอร:มที่ใช# รายละเอยี ดงาน ๑. สํานักงานชลประทานที่ ๑–๑๗ - จดั ทําคําขออนุญาตเขาทาํ ประโยชนใ< น - คําสั่งกรมชลประทาน ที่ ข ๑5๑/ - ผส.ชป.๑-๑๗ - รายงานเหตุผลและความ จํ า เป: น ใน ก า ร ข อ ใ ช พื้ น ท่ี ป า หรือสํานักพัฒนาแหลง% นํ้าขนาดใหญ% หรือ เขตปาโดยใชแบบป.๘๔-๑ แนบเอกสาร 255๕ ลงวันที่ ๖ กุมภาพันธ< - ผส.พญ. แนบเอกสารประกอบถูกตอง ครบถวนตามแบบป.๘๔-๑ กองพัฒนาแหล%งนํ้าขนาดกลางจัดทําคํา ประกอบ ดังน้ี 255๕ - ผอ.พก. ขออนุญาตเขาทําประโยชน<ในเขตปา ๑) สําเนาบัตรประจําตัวของผูไดรับมอบ - พ.ร.บ.ปาไม พุทธศักราช ๒๔๘๔ โดยใชแบบป.๘๔-๑ ตามประกาศกรมปา อาํ นาจ มาตรา ๕๔ ไม เร่ือง กําหนดแบบคําขอ แบบใบอนุญาต ๒) สําเนาทะเบียนบานของผูไดรับมอบ ๓. กฎกระทรวงการขออนุญาต และแบบอ่ืนๆ ตามกฎกระทรวง การขอ อาํ นาจ และการอนุญาตทําประโยชน<ใน อ นุ ญ าต แ ล ะ ก ารข อ อ นุ ญ าต ทํ า ๓) แผนที่ระวาง มาตราส%วน ๑:๕๐,๐๐๐ เขตปา พ.ศ. ๒๕๕๘ ประโยชน<ในเขตปา พ.ศ. ๒๕๕๘ พรอม แสดงจุดที่ตงั้ โครงการที่ขออนุญาต - หนงั สือกรมปาไม ท่ีกษ 0705(3) เอกสารประกอบ ๔) รายละเอียดโครงการชลประทานที่ /ว13659 ลงวันที่ 2๐ พฤษภาคม ขออนุญ าต พรอมแบบแปลน หรือ 2530 เรื่อง การขอเขาทํา แผนผงั โครงการ ประโยชน<ในเขตปาไม ๕) สาํ เนาคาํ สั่งกรมชลประทาน ท่ี ข ๑5๑/ - ประกาศกรมปาไม เร่ือง กําหนด 255๕ ลงวันท่ี ๖ กมุ ภาพนั ธ< 255๕ แบบคําขอ แบบใบอนุญาต และแบบ ๖) หลักฐานที่แสดงผลการพิจารณาให อื่นๆ ตามกฎกระทรวง การขอ ความเห็นจากสภาองค<กรปกครองส%วน อนุญาต และการขออนุญาตทํา ทองถิน่ ท่ปี านั้นตง้ั อย%ู ประโยชน<ในเขตปา พ.ศ. ๒๕๕๘ ๗) บันทึกยินยอมแกไขปญหาเก่ียวกับ -แบบฟอรม< ป.๘๔-๑ ราษฎร (ถามี) ๘) รายงานเหตุผลและความจําเป:นใน การขอใชพน้ื ท่ี ๑๑

รายละเอยี ดงาน ขนั้ ตอนการปฏบิ ัติงาน ระเบียบ เอกสาร บนั ทึก ผ#รู ับผดิ ชอบ เงอ่ื นไขการปฏบิ ัติงาน แนวทางแบบฟอร:มทใี่ ช# ๒ . สํ า นั ก ก ฎ ห ม า ย แ ล ะ ที่ ดิ น - บันทึกส%งเรื่องราวการขออนุญาตทํา - ตามกฎกระทรวงแบ%งส%วนราชการ - ผส.มด. - ดํ าเนิ น ก า รให แ ล ว เส ร็ จ สอดคลองกับแผนงานก%อสราง ตรวจสอบเรือ่ งราวการขออนุญาตเขาทํา ประโยชน<ในเขตปา ใหส%วนกรรมสิทธ์ิ กรมชลประทาน กระทรวงเกษตร - ฝบท.มด. - ดํ าเนิ น ก า รให แ ล ว เส ร็ จ ประโยชน<ในเขตปากรณีขอใชพื้นที่ ที่ดินดําเนินการพิจารณาตรวจสอบตาม และสหกรณ< พ.ศ. ๒๕๕๗ สอดคลองกับแผนงานกอ% สราง มากกว%า ๒๐ ไร% ตามระเบียบ กฎหมาย ระเบียบกฎหมายเรือ่ งการขออนุญาตเขา - บันทกึ ขอความ - จั ด ทํ าบั น ทึ ก ราย งาน ให ส อ ด ค ล อ งกั บ ห ลั ก เก ณ ฑ< และจัดทํารายงานเหตุผลและความ ทําประโยชน<ในเขตปากรณีขอใชพื้นที่ เง่ือนไข ระเบียบและกฎหมาย ท่ี เ กี่ ย ว ข อ ง ต ร ง ต า ม จําเปน: เสนอกรมชลประทาน มากกวา% ๒๐ ไร% วั ต ถุ ป ร ะ ส ง ค< ข อ ง ก า ร ปฏบิ ตั งิ าน ๒.๑ ส%วนกรรมสิทธทิ์ ่ีดิน ส%งเร่อื งราว - บันทึกส%งเร่ืองราวการขออนุญาตเขา - คาํ ส่ังกรมชลประทาน - ผกส.มด. - ดํ าเนิ น ก า รให แ ล ว เส ร็ จ สอดคลองกบั แผนงานก%อสราง การขออนุญาตเขาทําประโยชน<ในเขต ทําประโยชน<ในเขตปากรณีขอใชพ้ืนที่ ที่ ๖๐/255๘ ลงวันที่ ปากรณีขอใชพื้นท่ีมากกว%า ๒๐ ไร%ให มากกว%า ๒๐ ไร% ใหฝายทะเบียนท่ีดิน ๗ เมษายน 255๘ ฝายทะเบียนที่ดินและแกไขปญ หา แ ล ะ แ ก ไข ป ญ ห า ก ร ร ม สิ ท ธิ์ ที่ ดิ น - บนั ทกึ ขอความ กรรมสิทธิ์ที่ดินพิจารณาตรวจสอบตาม พิ จ ารณ าต รว จ ส อ บ ต าม ระ เบี ย บ ระเบียบ กฎหมาย กฎหมาย ๒.๒ ฝายทะเบียนที่ดินและแกไข - ตรวจสอบรายงานเหตผุ ลและความจําเป:น - คําสง่ั กรมชลประทานที่ ๘๖/255๘ - ทก.มด. ป ญ ห า ก ร ร ม สิ ท ธิ์ ท่ี ดิ น พิ จ า ร ณ า ในการขอใชพนื้ ที่ปาและเอกสารประกอบให ลงวันท่ี ๒๗ พฤษภาคม 255๘ - กสด. ตรวจสอบเรอื่ งราวการขออนญุ าตเขาทํา ถูกตองครบถวนตามแบบป.๘๔-๑ - พ.ร.บ.ปาไม พุทธศักราช ๒๔๘๔ ประโยชน<ในเขตปากรณีขอใชพ้ืนที่ - จัดทําบันทึกรายงานเหตุผลและความ มาตรา ๕๔ มากกว%า ๒๐ ไร%ตามระเบียบ และ จําเป:นในการขอใชพ้ืนที่ปาเสนอส%วน - กฎกระทรวงการขออนุญาตและ กฎหมายท่เี กย่ี วของ กรรม สิท ธิ์ที่ ดิน เพื่ อรายงาน สํานั ก การอนุญาตทําประโยชน<ในเขตปา กฎหมายและท่ีดนิ พ.ศ. ๒๕๕๘ - จัดทําบันทึกรายงานเหตุผลและความ - หนังสือกรมปาไม ที่กษ 0705(3) จําเป:นในการขอใชพ้ืนท่ีปาเสนอสํานัก /ว13659 ลงวันท่ี 2๐ พฤษภาคม กฎหมายและที่ดินเพื่อรายงานรองอธิบดี 2 5 3 0 เร่ื อ ง ก า รข อ เข าทํ า กรมชลประทาน ประโยชน<ในเขตปาไม ๑๒

รายละเอยี ดงาน ขัน้ ตอนการปฏิบัตงิ าน ระเบียบ เอกสาร บันทึก ผ#รู บั ผิดชอบ เงื่อนไขการปฏิบตั งิ าน แนวทางแบบฟอรม: ที่ใช# - จัดทําบันทึกรายงานเหตุผลและความ - ประกาศกรมปาไม เรื่อง กําหนด จําเป:นในการขอใชพ้ืนที่ปาเสนอรอง แบบคาํ ขอ แบบใบอนญุ าต และแบบ อธิบดีกรมชลประทานเพื่อรายงานขอ อื่นๆ ตามกฎกระทรวง การขอ ความเห็นชอบจากปลัดกระทรวงเกษตร อนุญาต และการขออนุญาตทํา และสหกรณ< โดยมีจํานวนเน้ือท่ีท่ีขอใช ประโยชนใ< นเขตปา พ.ศ. ๒๕๕๘ ถูกตอง และเอกสารประกอบ ดงั นี้ - แบบฟอร<ม ป.๘๔-๑ ๑)สาํ เนาบตั รประจําตวั ของผไู ดรบั มอบอาํ นาจ - บนั ทึกขอความ ๒) สาํ เนาทะเบียนบานของผูไดรับมอบอํานาจ - ระเบียบสาํ นกั นายกรฐั มนตรี ว%า ๓) แผนที่ระวาง มาตราส%วน ๑:๕๐,๐๐๐ ดวยงานสารบรรณ พ.ศ.๒๕๒๖ และ แสดงจุดท่ตี ้งั โครงการทีข่ ออนุญาต ท่แี กไขเพิ่มเติมฉบับท่ี ๒ พ.ศ.๒๕๔๘ ๔) รายละเอียดโครงการชลประทานที่ ขออนุญาต พรอมแบบแปลน หรือ แผนผังโครงการ ๕) สําเนาคําส่ังกรมชลประทาน ที่ ข๑5๑/ 255๕ ลงวนั ที่ ๖ กุมภาพันธ< 255๕ ๖) หลักฐานท่ีแสดงผลการพิจารณาให ความเห็นจากสภาองค<กรปกครองส%วน ทองถน่ิ ทป่ี าน้นั ตงั้ อย%ู ๗) บนั ทกึ ยินยอมแกไขปญหาเกีย่ วกับราษฎร ๘) รายงานเหตุผลและความจําเป:นใน การขอใชพนื้ ท่ี ๑๓

รายละเอยี ดงาน ขัน้ ตอนการปฏิบัติงาน ระเบยี บ เอกสาร บันทึก ผร#ู บั ผิดชอบ เงื่อนไขการปฏบิ ตั งิ าน แนวทางแบบฟอรม: ที่ใช# ๒.๓ ส%วนกรรมสิทธ์ิท่ีดิน รายงาน -ส%วนกรรมสิทธ์ิท่ีดินพิจารณารายงานเหตุผล - บันทึกขอความ - ผกส.มด. -พิจารณาตรวจสอบรายงานให สํานักกฎหมายและท่ีดิน เพื่อพิจารณา และความจําเป:นในการขอใชพื้นท่ีปาแลว - คําสัง่ กรมชลประทาน - ทก.มด. ส อ ด ค ล อ งกั บ ห ลั ก เก ณ ฑ< ผลการตรวจสอบเอกสารหลักฐาน เห็ นสมควรเสนอ ผส.มด.เพื่ อรายงาน ที่ ๖๐/255๘ ลงวันที่ เง่ือนไข ระเบียบและกฎหมาย ประกอบรายงานเหตุผลและความ ผูบังคับบัญชาตามลําดับชั้นเพ่ือขอความ ๗ เมษายน 255๘ ท่ีเกี่ยวของตรงตามวัตถปุ ระสงค< จําเป:นในการขอใชพ้ืนท่ีปาตามระเบียบ เห็นชอบจากปลัดกระทรวงเกษตรและ ของงาน กฎหมาย และลงนามหนังสือรายงาน สหกรณ< อธิบดกี รมชลประทาน ๒ .๔ สํ านั ก ก ฎ ห ม าย แ ล ะท่ี ดิ น - ผส.มด.พิจารณารายงานเหตุผลและความ - บันทึกขอความ - ผส.มด. -พิจารณาตรวจสอบรายงานให รายงานรองอธิบดีกรมชลประทาน เพ่ือ จาํ เปน: ในการขอใชพ้ืนที่ปาแลวเหน็ สมควร - ตามกฎกระทรวงแบ%งส%วนราชการ - ฝบท.มด. ส อ ด ค ล อ งกั บ ห ลั ก เก ณ ฑ< พจิ ารณารายงานเหตุผลและความจาํ เป:น เสนอ รธร. เพื่อรายงานขอความเห็นชอบ กรมชลประทาน กระทรวงเกษตร เง่ือนไข ระเบียบและกฎหมาย ในการขอใชพื้นท่ีปา และลงนามหนังสือ จากปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ< และสหกรณ< พ.ศ. ๒๕๕๗ ที่เก่ียวของตรงตามวัตถปุ ระสงค< ขอความเห็นชอบจากปลัดกระทรวง ของงาน เกษตรและสหกรณ< - รธร. พิจารณาลงนามหนังสือรายงาน ๓. กรมชลประทาน พิจารณารายงาน เหตุผลและความจําเป:นในการขอใช - บันทกึ ขอความ - รธร. -พิจารณาตรวจสอบรายงานให เหตุผลและความจําเป:นในการขอใช พ้ืนที่ปา เสนอขอความเห็นชอบต%อ - คําสั่งกรมชลประทาน - ผส.มด. ส อ ด ค ล อ งกั บ ห ลั ก เก ณ ฑ< พ้ืนที่ปา เพ่ือขอความเห็นชอบจาก ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ< ที่ ข ๔๐๗/๒๕๕๙ ลงวนั ที่ เง่ือนไข ระเบียบและกฎหมาย ปลดั กระทรวงเกษตรและสหกรณ< ๒๕ มนี าคม 255๙ ที่เกี่ยวของตรงตามวัตถปุ ระสงค< - ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ< ของงาน ๔.กระทรวงเกษตรและสหกรณ< พิจารณาใหความเห็นชอบรายงานเหตุผล - หนงั สือกรมปาไม ที่กษ 0705(3) - ปลดั กระทรวง พิจารณ ารายงานเหตุผลและความ และความจําเป:นในการขอใชพื้นท่ีปาเพ่ือ /ว13659 ลงวนั ท่ี 2๐ พฤษภาคม เกษตรและสหกรณ< จําเป:นในการขอใชพ้ืนท่ีปา เพ่ือก%อสราง กอ% สรางโครงการชลประทาน 2530 เร่ือง การขอเขาทาํ โครงการชลประทาน ประโยชน<ในเขตปาไม ๑๔

รายละเอียดงาน ข้ันตอนการปฏบิ ตั งิ าน ระเบยี บ เอกสาร บนั ทึก ผร#ู บั ผดิ ชอบ เงอ่ื นไขการปฏิบตั ิงาน แนวทางแบบฟอร:มท่ีใช# - ตรวจสอบเจาของเร่อื งเดมิ - สป.กษ. ส%งเรื่องคืนใหกรมชลประทาน ผูขออนญุ าตขอใชพื้นทปี่ า ใหถูกตอง ๔.๑ สํานักงานปลัดกระทรวงเกษตร เพ่ือดําเนินการขออนุญาตขอใชพ้ืนท่ีปา - บันทึกขอความ - ผอ.กองกลาง และสหกรณ<ส%งเร่ืองคืนใหกรมชลประทาน ต%อไป - ระเบียบสาํ นกั นายกรฐั มนตรี วา% สป.กษ. เพื่อแจงใหส%วนราชการผูขออนุญาตขอใช ดวยงานสารบรรณ พ.ศ.๒๕๒๖ และ พนื้ ที่ปาเพื่อดําเนินการต%อไป - สลก.ส%งเรื่องคืนใหสํานักกฎหมายและ ท่ีแกไขเพ่ิมเติมฉบบั ที่ ๒ พ.ศ.๒๕๔๘ ๕. กรมชลประทานรับเร่ืองคืนจาก ที่ดิน เพื่ อแจงใหส%วนราชการผูขอ - บันทึกขอความ - ลนก. กระทรวงเกษตรและสหกรณ< ส%งใหสํานัก อนุญาตขอใชพื้นที่ปาเพื่อดําเนินการ - ระเบยี บสํานักนายกรฐั มนตรี ว%า กฎหมายและท่ีดินดําเนินการเพ่ือแจงใหผูขอ ตอ% ไป ดวยงานสารบรรณ พ.ศ.๒๕๒๖ และ อนญุ าตขอใชพืน้ ทป่ี าเพื่อดําเนนิ การต%อไป - ฝบท.มด.สง% เรื่องใหส%วนกรรมสิทธทิ์ ่ีดิน ที่แกไขเพ่ิมเติมฉบับที่ ๒ พ.ศ.๒๕๔๘ ๖. สํานักกฎหมายและท่ีดินรับเร่ืองคืน ดําเนินการเพ่ือแจงใหส%วนราชการผูขอ -บนั ทกึ ขอความ - ฝบท.มด. และส%งใหส%วนกรรมสิทธิ์ท่ีดินดําเนินการ อนุญาตขอใชพื้นที่ปาเพื่อดําเนินการ - ระเบียบสาํ นกั นายกรฐั มนตรี ว%า เพ่ือแจงใหส%วนราชการผูขออนุญาตขอใช ตอ% ไป ดวยงานสารบรรณ พ.ศ.๒๕๒๖ และ พ้ืนทป่ี าเพื่อดาํ เนินการตอ% ไป - ผกส.มด.มอบหมายให ทก.มด. จัดทํา ทแ่ี กไขเพิ่มเติมฉบับที่ ๒ พ.ศ.๒๕๔๘ ๖.๑ ส%วนกรรมสิทธิ์ท่ีดิน มอบหมาย หนังสือแจงใหส%วนราชการผูขออนุญาต -บันทึกขอความ - ผกส.มด. ใหฝายทะเบียนที่ดินและแกไขปญหา ขอใชพ้นื ท่ีปาเพือ่ ดําเนินการตอ% ไป - ระเบยี บสาํ นักนายกรัฐมนตรี วา% กรรมสิทธทิ์ ่ีดิน จัดทําหนงั สือแจงใหส%วน ดวยงานสารบรรณ พ.ศ.๒๕๒๖ และ ราชการผูขออนุญาตขอใชพ้ืนที่ปาเพื่อ ท่ีแกไขเพ่ิมเติมฉบบั ที่ ๒ พ.ศ.๒๕๔๘ ดําเนินการตอ% ไป - จัดทําหนังสือรายงานผลการดําเนินการ ๖.๒ ฝายทะเบียนท่ีดินและแกไข จาํ นวน ๒ ฉบับ ดงั น้ี -บันทกึ ขอความ - ทก.มด. ปญหากรรมสิทธ์ิท่ีดิน จัดทําหนังสือ ๑) บนั ทกึ จากผกส.มด. รายงาน ผส.มด. - ระเบยี บสํานกั นายกรัฐมนตรี ว%า - กสด. รายงานผลการดําเนนิ การ ๒) บันทึกจากผส.มด.ถึง ผส.ชป.๑-๑๗ ดวยงานสารบรรณ พ.ศ.๒๕๒๖ และ ผส.พญ. หรอื ผอ.พก. ที่แกไขเพ่ิมเติมฉบบั ท่ี ๒ พ.ศ.๒๕๔๘ ๑๕

รายละเอียดงาน ข้นั ตอนการปฏิบตั งิ าน ระเบยี บ เอกสาร บนั ทึก ผูร# ับผิดชอบ เงอื่ นไขการปฏบิ ัตงิ าน แนวทางแบบฟอรม: ท่ีใช# - ผกส.มด.ลงนามหนงั สอื รายงานผลการ ๖.๓ ผูอํานวยการสว% นกรรมสิทธิท์ ี่ดิน ดาํ เนนิ การเรียน ผส.มด. -บนั ทกึ ขอความ - ผกส.มด. รายงานผูอํานวยการสํานักกฎหมายและ - ระเบียบสํานักนายกรัฐมนตรี ว%า ที่ดิน เพ่ือลงนามหนังสือแจงใหส%วน ดวยงานสารบรรณ พ.ศ.๒๕๒๖ และ ราชการผูขออนุญาตขอใชพื้นท่ีปาเพ่ือ ท่ีแกไขเพ่ิมเติมฉบับท่ี ๒ พ.ศ.๒๕๔๘ ดาํ เนนิ การต%อไป - ผส.มด. ลงนามหนังสือแจง ผส.ชป.๑- ๖.๔ ผูอํานวยการสํานักกฎหมายและ ๑๗ หรือ ผส.พญ.หรือ ผอ.พก. เพื่อส%ง -บันทึกขอความ - ผส.มด. ท่ีดิน ลงนามหนังสือถึงส%วนราชการผูขอ เรื่องรายงานเหตุผลและความจําเป:นใน - ระเบียบสํานักนายกรัฐมนตรี ว%า - ฝบท.มด. อนุญาตขอใชพ้ืนท่ีปา เพ่ือส%งเรื่อง การขอใชพ้ืนที่ปา เพ่ือก%อสรางโครงการ ดวยงานสารบรรณ พ.ศ.๒๕๒๖ และ รายงานเหตุผลและความจําเป:นในการ ชลประทาน ซึ่งปลัดกระทรวงเกษตร ทแ่ี กไขเพิ่มเติมฉบบั ที่ ๒ พ.ศ.๒๕๔๘ ขอใชพ้ืนท่ีปา ซ่ึงปลัดกระทรวงเกษตร และสหกรณ<ใหความเหน็ ชอบแลว และสหกรณ<ไดใหความเห็นชอบแลว เพ่ือดําเนินการขออนุญาตขอใชพ้ืนท่ีปา ตามระเบยี บและกฎหมาย ต%อไป - จดั ทําคําขออนุญาตเขาทําประโยชนใ< น ๗. สํานักงานชลประทานที่ ๑–๑๗ เขตปาโดยใชแบบป.๘๔-๑ พรอมแนบ - ประกาศกรมปาไม เรื่อง กําหนด - ผส.ชป.๑-๑๗ หรือสํานักพัฒนาแหลง% น้ําขนาดใหญ% หรือ เอกสารประกอบเพื่อยืน่ เร่ืองราวขอ แบบคําขอ แบบใบอนุญาต และแบบ - ผส.พญ. กองพัฒนาแหล%งน้ําขนาดกลาง ไดรับ อนญุ าต ต%อไป อื่นๆ ตามกฎกระทรวง การขอ - ผอ.พก. เร่ื อ ง ร า ว ร า ย ง า น เห ตุ ผ ล แ ล ะ ค ว า ม อนุญาต และการขออนุญาตทํา จาํ เป:นในการขอใชพ้ืนที่ปา เพื่อก%อสราง ประโยชน<ในเขตปา พ.ศ. ๒๕๕๘ โครงการชลประทานซึ่งปลัดกระทรวง - แบบฟอรม< ป.๘๔-๑ เกษตรและสหกรณ<ใหความเห็นชอบ แลว ๑๖

๗. ระบบตดิ ตามประเมนิ ผล มาตรฐาน/คณุ ภาพงาน วิธีการติดตามประเมินผล ผูต# ดิ ตาม/ ขอ# เสนอแนะ ประเมนิ ผล กระบวนการ ๑. สํานักงานชลประทานที่ ๑–๑๗ - แนบเอกสารประกอบรายงานเหตุผลและความ - ประสานติดตามทางหนังสือโทรศัพท< - ผส.ชป.๑-๑๗ หรือสํานักพัฒนาแหล%งนํ้าขนาดใหญ% จําเป:นในการขอใชพื้นที่ปาถูกตองครบถวนตาม โทรสารฯ เป:นตน - ผส.พญ. หรือกองพัฒนาแหล%งน้ําขนาดกลาง แบบป.๘๔-๑ - ผอ.พก. จดั ทําคําขออนญุ าตเขาทําประโยชน<ใน เขตปาโดยใชแบบป.ส.๘๔-๑ ตาม ประกาศกรมปาไม เรื่อง กําหนดแบบคํา ขอ แบบใบอนุญาต และแบบอ่ืนๆ ตาม กฎกระทรวง การขออนุญาต และการ ขออนุญาตทําประโยชน<ในเขตปา พ.ศ. ๒๕๕๘ พรอมเอกสารประกอบ ๒ . สํ า นั ก ก ฎ ห ม า ย แ ล ะ ท่ี ดิ น - ดาํ เนนิ การภายในระยะเวลา ๗ วัน - กาํ หนดระยะเวลาการดาํ เนินการ - ผกส.มด. ตรวจสอบเร่ืองราวการขออนุญาตเขา - ประสานตดิ ตาม ทําประโยชน<ในเขตปากรณีขอใชพ้ืนท่ี ม า ก ก ว% า ๒ ๐ ไร% ต า ม ร ะ เบี ย บ กฎหมายและจัดทํารายงานเหตุผลและ ความจําเปน: เสนอกรมชลประทาน ๓ . ก รม ช ล ป ระท าน พิ จารณ า - ตามมาตรฐานของแตล% ะหน%วยงาน - ประสานติดตาม - ผกส.มด. รายงานเหตุผลและความจําเป:นในการ ๑๗ ขอใชพ้ืนที่ปา เพ่ือขอความเห็นชอบ จากปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ<

กระบวนการ มาตรฐาน/คุณภาพงาน วธิ กี ารตดิ ตามประเมินผล ผ#ตู ดิ ตาม/ ขอ# เสนอแนะ ประเมินผล ๔. กระทรวงเกษตรและสหกรณ< - เห็นชอบรายงานเหตุผลและความจาํ เปน: ในการ - ประสานติดตาม - ผกส.มด. พิจารณาใหความเห็นชอบรายงาน ขอใชพื้นท่ีปาเพ่ือก%อสรางโครงการชลประทานมี เหตุผลและความจําเป:นในการขอใช ความเหมาะสมและถูกตองตามกฎหมายและ พื้ น ที่ ป า เพ่ื อ ก% อ ส ร างโค รงก า ร ระเบียบ ชลประทาน ๕. กรมชลประทานรับเร่ืองคืน เพื่อ - ตามมาตรฐานของแตล% ะหน%วยงาน - ประสานติดตาม - ผกส.มด. แจงใหส%วนราชการผูขออนุญาตขอใช พน้ื ท่ีปาเพ่อื ดําเนินการต%อไป ๖ . สํ า นั ก ก ฎ ห ม า ย แ ล ะ ที่ ดิ น - ดําเนินการภายในระยะเวลา ๕ วัน - กาํ หนดระยะเวลาการดําเนนิ การ - ผกส.มด. ดําเนินการแจงใหส%วนราชการผูขอ - ประสานติดตาม อนุญาตขอใชพื้นท่ีปาเพื่อดําเนินการ ต%อไป ๗. สํานักงานชลประทานท่ี ๑–๑๗ - ตามมาตรฐานของแตล% ะหนว% ยงาน - ตามมาตรฐานของแตล% ะหนว% ยงาน - ผส.ชป.๑-๑๗ หรือสํานักพัฒนาแหล%งน้ําขนาดใหญ% - ผส.พญ. ห รื อกองพั ฒ น าแห ล% งนํ้ าขน าดกล าง - ผอ.พก. ได รั บ เร่ื อ ง ร า ว ร า ย ง า น เห ตุ ผ ล แ ล ะ ความจําเป:นในการขอใชพื้นที่ปา เพ่ือ ๑๘ ก%อสรางโครงการชลประทาน ซ่ึง ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ<ให ความเหน็ ชอบแลว

๘. เอกสารอา# งองิ ๘.๑ กฎหมาย มตคิ ณะรัฐมนตรี ระเบยี บ คําสัง่ ประกาศ ๑. พระราชบัญญตั ิปาไม พุทธศักราช ๒๔๘๔ ๒. กฎกระทรวงการขออนุญาตและการอนญุ าตทาํ ประโยชน<ในเขตปา พ.ศ. ๒๕๕๘ ๓. กฎกระทรวงแบ%งสว% นราชการ กรมชลประทาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ< พ.ศ. ๒๕๕๗ ๔. ประกาศกรมปาไม เรอ่ื ง กําหนดแบบคาํ ขอ แบบใบอนญุ าต และแบบอืน่ ๆ ตามกฎกระทรวงการขออนุญาต และการอนุญาตทาํ ประโยชนใ< นเขตปา พ.ศ. ๒๕๕๘ ๕. หนังสือกรมปาไม ท่ี กษ 0705(3)/ว13659 ลงวนั ท่ี 2๐ พฤษภาคม 2530 ๖. คําส่ังกรมชลประทาน ที่ ข ๑5๑/255๕ ลงวันท่ี ๖ กมุ ภาพนั ธ< 255๕ เรือ่ ง มอบอาํ นาจใน การดาํ เนนิ การขอใชท่ีดนิ ของรฐั ทกุ ชนดิ ๗. คําสง่ั กรมชลประทาน ท่ี ๖๐/255๘ ลงวันที่ ๗ เมษายน 255๘ เร่ือง การแบง% งานและการ กาํ หนดหนาที่ความรบั ผดิ ชอบของหน%วยงานภายในสาํ นักและกอง ๘. คาํ สง่ั กรมชลประทาน ที่ ๘๖/255๘ ลงวนั ท่ี ๒๗ พฤษภาคม 255๘ เรื่อง การแบ%งงานและ การกําหนดหนาท่คี วามรับผิดชอบของสํานกั กฎหมายและท่ีดนิ ๙. คาํ สงั่ กรมชลประทาน ท่ี ข ๔๐๗/๒๕๕๙ ลงวนั ที่ ๒๕ มนี าคม 255๙ เรอ่ื ง มอบหมาย อํานาจหนาท่ใี นการส่งั และการปฏบิ ัตริ าชการแทนอธิบดีกรมชลประทาน รายละเอยี ดตามเอกสารภาคผนวกท่ีแนบ 9. แบบฟอรม: ที่ใช# 9.1 บันทึกขอความ เรยี น ผส.มด. เรอ่ื งขอความเหน็ ชอบในการขออนญุ าตเขาทาํ ประโยชนภ< ายในเขต ปาตามมาตรา ๕๔ แหง% พระราชบญั ญัตปิ าไมพทุ ธศกั ราช ๒๔๘๔ ๙.๒ บันทึกขอความ เรยี น รธร. เรื่องขอความเหน็ ชอบในการขออนุญาตเขาทําประโยชนภ< ายในเขตปา ตามมาตรา ๕๔ แหง% พระราชบญั ญตั ิปาไมพุทธศักราช ๒๔๘๔ ๙.๓ บันทกึ ขอความ เรยี น ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ< เร่อื งขอความเหน็ ชอบในการขออนญุ าต เขาทําประโยชนภ< ายในเขตปาตามมาตรา ๕๔ แห%งพระราชบัญญตั ปิ าไมพุทธศกั ราช ๒๔๘๔ ๙.๔ แบบคําขออนญุ าตเขาทําประโยชน<ในเขตปา (ป.๘๔-๑) รายละเอียดตามเอกสารภาคผนวกทแี่ นบ ๑๙

ภาคผนวก ภาคผนวก ๑ กฎหมาย มติคณะรัฐมนตรี ระเบียบ คําสงั่ ประกาศ ภาคผนวก ๒ ตวั อยางแบบฟอร:มกระบวนงานการขอใช#ทป่ี 'า ภาคผนวก ๓ รายชือ่ ผ#จู ดั ทํา ๒๐

ภาคผนวก ๑ กฎหมาย มติคณะรัฐมนตรี ระเบยี บ คําส่ัง ประกาศ กฎหมาย มตคิ ณะรัฐมนตรี ระเบยี บ คําสั่ง ประกาศ ๑. พระราชบญั ญัติปาไม พุทธศกั ราช ๒๔๘๔ ๒. กฎกระทรวงการขออนุญาตและการอนญุ าตทําประโยชน&ในเขตปา พ.ศ. ๒๕๕๘ ๓. กฎกระทรวงแบง+ ส+วนราชการ กรมชลประทาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ& พ.ศ. ๒๕๕๗ ๔. ประกาศกรมปาไม เรอ่ื ง กําหนดแบบคําขอ แบบใบอนญุ าต และแบบอื่นๆ ตามกฎกระทรวงการขออนญุ าต และการอนุญาตทําประโยชนใ& นเขตปา พ.ศ. ๒๕๕๘ ๕. หนงั สอื กรมปาไม ที่ กษ 0705(3)/ว13659 ลงวันที่ 2๐ พฤษภาคม 2530 ๖. คําส่ังกรมชลประทาน ที่ ข ๑5๑/255๕ ลงวันท่ี ๖ กุมภาพันธ& 255๕ เรื่อง มอบอํานาจ ในการดําเนนิ การขอใชที่ดนิ ของรัฐทุกชนิด ๗. คําสง่ั กรมชลประทาน ท่ี ๖๐/255๘ ลงวันท่ี ๗ เมษายน 255๘ เร่ือง การแบ+งงานและการ กาํ หนดหนาที่ความรับผดิ ชอบของหน+วยงานภายในสํานักและกอง ๘. คําสง่ั กรมชลประทาน ที่ ๘๖/255๘ ลงวนั ท่ี ๒๗ พฤษภาคม 255๘ เรือ่ ง การแบ+งงานและ การกาํ หนดหนาที่ความรับผิดชอบของสํานักกฎหมายและทด่ี ิน ๙. คําสั่งกรมชลประทาน ท่ี ข ๔๐๗/๒๕๕๙ ลงวนั ที่ ๒๕ มนี าคม 255๙ เรื่อง มอบหมาย อํานาจหนาท่ใี นการสัง่ และการปฏิบตั ริ าชการแทนอธบิ ดีกรมชลประทาน รายละเอยี ดตามเอกสารภาคผนวกท่ีแนบ ๒๑

สาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานกั งานพครณะระกาชรรบมัญกญารตักิฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า ปา่ ไม้ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎพีกทุ าธศกั ราช ๒๔ส๘ํา๔นกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ในพระปรมาภิไธยสมเด็จพระเจา้ อยู่หัวอานันทมหดิ ล สาํ นกั งานคณะกรรมกคารณกะฤผษูส้ฎํากี เาร็จราชการแทสนํานพกัรงะาอนงคคณ์ ะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า ล(ตงาวมันสปทํารน่ี ๔ะักกงสาานงิศหคปาณรคะะมกธราพรนมทุ สกธภาศารักกผรฤู้แาษทชฎนีก๒ราา๔ษ๘ฎ๐ร) สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกอาาทิตยท์ ิพอาภสาํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา พล.อ.พิชเยนทรโยธิน สาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า ตราไว้ ณสําวนันักทงา่ี ๑นค๔ณตะลุการรคมมกพารทุ กธฤศษกัฎรกี าาช ๒๔๘๔ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า เป็นปีที่ ๘ ในรชั กาลปัจจบุ ัน สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา โดยที่สภาผู้แทนราษฎรลงมติว่า สมควรปรับปรุงกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ ให้ สํานักงานเหคมณาะะกสรมรมแกกาก่ รากลฤสษมฎยั ีกยาิ่งขึน้ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นจักึงงมานีพครณะะบกรรมรรมากชาโรอกงฤกษาฎรีกใาห้ตราพระราชสบํานัญกั ญงาัตนิขคึ้นณไะวก้โรดรยมคกําาแรกนฤะษนฎําีกแาละยินยอมของ สํานกั งานสคภณาผะกูแ้ รทรนมรกาาษรกฎฤรษดฎงั ีกตา่อไปน้ี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นมักางตานรคาณ๑ะกพรรรมะกราารชกบฤัญษฎญีกัตานิ ้ใี ห้เรยี กวา่ ส“ําพนรักะงรานาชคบณัญะกญรรัตมิปก่าาไรมก้ ฤพษุทฎธกี ศาักราช ๒๔๘๔” สํานกั งานคณะกรรมการกฤษมฎากีตารา ๒๑ ให้ใชส้พํารนะักรงาาชนบคัญณะญกัตรรินมี้ตกั้งาแรตก่วฤันษทฎกี่ี ๑า มกราคม พุทสําธนศักักงรานาชคณ๒ะ๔ก๘รร๕มกเปาร็นกฤษฎกี า ต้นไป สาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา มาตรา ๓ ให้ยกเลกิ สํานักงานคณะกรรมการกฤษ(๑ฎ)กี าประกาศพระสบํานรมกั งราานชคโณอะงกกรารรมวก่าาดรก้วฤยษภฎาีกษาีไม้ขอนสักแลสะาํ ไนมัก้กงารนะคยณาะเลกรยรมลกงาวรันกฤษฎีกา อาทิตย์ เดอื นสี่ แรมแปดคํ่า ปีจอ ฉศก จุลศกั ราช ๑๒๓๖ สาํ น(กั ๒ง)านปครณะะกการศรพมรกะารบกรฤมษรฎาีกชาโองการเรื่องซสํา้ือนขกั างยาไนมค้ขณอะนกรสรักมกลางรวกันฤพษุธฎีกเาดือนเก้า ข้ึนคํ่า สาํ นกั งานหคนณ่งึ ะปกวีรอรมกกฉารศกกฤษจฎลุ ีกศาักราช ๑๒๔๖สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า (๓) ประกาศพระบรมราชโองการเรื่องไม้ขอนสัก ลงวันอาทิตย์ เดือนเจ็ด ข้ึนค่ําหน่ึง ปีกุน นพศก จสลุ ําศนักกั รงาานชค๑ณ๒ะ๔กร๙รมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า (๔) ประกาศพระบรมราชโองการเพ่ิมเติมเร่ืองไม้ขอนสัก ลงวันจันทร์ เดือนสิบเอ็ด สาํ นักงานแครมณคะก่าํ หรรนมึ่งกาปรกี กุนฤษนฎพีกศาก จลุ ศักราชส๑ําน๒กั ๔ง๙านคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า (๕) พระราชบัญญตั ิไมซ้ งุ และไม้ท่อนทด่ี วงตราลบเลือน ร.ศ. ๑๑๕ สาํ น(กั ๖ง)านพครณะระากชรรบมญั กญารตักิปฤษระฎกีกาาศการรักษาปส่าําไนมัก้ รงา.ศน.ค๑ณ๑ะก๖รรมการกฤษฎกี า สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ๑ ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๕๘/-/หน้า ๑๔๑๗/๑๕ ตลุ าคม ๒๔๘๔

- ๒ - สาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า (๗) พระราชบญั ญัติรกั ษาตน้ ไม้สกั ร.ศ. ๑๑๖ สํานกั งานคณะกรรมการก(๘ฤ)ษพฎกีระาราชบัญญัตปิ สอ้ ํางนกักันงากนาครณลกัะกลรอรบมตกาีตรรกาฤไษมฎ้ รกี .ศา . ๑๑๗ สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา (๙) พระราชบัญญัติป้องกันการลักลอบชักลากไม้สักที่ยังมิได้เสียค่าตอ และภาษี ร.ศ. ๑๑๘ สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา (๑๐) กฎกระทรวงมหาดไทยวา่ ด้วยไม้ไหลลอย ร.ศ. ๑๑๙ สํานักงานคณะกรรมการก(๑ฤษ๑ฎ)ีกกา ฎข้อบังคับสอํานนักุญงาานตคไณมะ้สกัรกรใมชก้ใานรกกฤาษรฎปกี ลา ูกสร้างที่ทําสราํ นาักชงกานาครณแะลกะรกรมากรารกฤษฎีกา สาธารณประโยชนส(๑าํ์ รน๒.กัศ)ง.าพ๑นรค๑ะณ๙ราะกชรบรญั มกญาัตรกริ ักฤษษฎาปีกาา่ พทุ ธศกั ราชสํา๒น๔ัก๕งา๖นคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการก(๑ฤ๓ษฎ) กีกาฎขอ้ บังคับวาสงรํานะเักบงียานบควณธิ จีะกดั รกรามรกรากั รษกฤาปษฎ่าีกพาทุ ธศกั ราช ๒๔สาํ๕น๖ักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา (๑๔) กฎข้อบังคับวางระเบียบการหาของป่า ว่าด้วยการเก็บรวงผ้ึง พุทธศักราช ๒๔๖๔ สาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า (๑๕) กฎข้อบังคับวางระเบียบการหาของป่า ว่าด้วยการเจาะเผาต้นตะเคียนทําชัน สํานักใงนามนณคณฑะลกปรตัรมตกาานรีกพฤุทษธฎศกี ัการาช ๒๔๖๕ สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า (๑๖) กฎข้อบังคับวางระเบียบการหาของป่า ว่าด้วยการเจาะเผาทํานํ้ามันยาง พุทธศักราช ๒๔๖ส๕าํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา (๑๗) พระราชบัญญัติแก้ไขพระราชบัญญัติพิกัดภาษีภายใน พุทธศักราช ๒๔๗๐ สํานักเงฉาพนาคะณมะากตรรรามก๔าร(กกฤ)ษแฎลกี ะา(ข) สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ส(๑ําน๘กั )งาพนรคะณราะกชรบรัญมกญาัตรกิรักฤษษฎาปกี า่า (ฉบับท่ี ๒) สพําทุนธักศงากั นรคาณชะ๒กร๔ร๗ม๙การกฤษฎีกา (๑๙) พระราชบัญญตั คิ วบคุมการทาํ ยางสน พทุ ธศกั ราช ๒๔๘๐ สํานกั งานคณะกรรมการก(๒ฤษ๐ฎ)ีกบารรดาบทกฎสหํานมกัางยานกคฎณะแกลรระมขก้อาบรกังฤคษับฎอกี ื่นา ๆ ในส่วนทสี่มาํ ีนบักัญงาญนัตคิไณวะ้แกลรร้วมใกนารกฤษฎีกา พระราชบญั ญัตนิ ี้ หรอื ซึ่งแย้งกบั บทแหง่ พระราชบญั ญตั นิ ี้ สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา มาตรา ๔ ในพระราชบญั ญตั ินี้ สํานกั งานคณะกรรมการก(๑ฤ)ษ“ฎปกี าา่ ” หมายควาสมําวน่าักทงาีด่ นนิ คทณ่ียะังกมรรไิ ดมม้กาบี รคุ กคฤลษไฎดกี ้มาาตามกฎหมาสยําทนด่ี ักนิงานคณะกรรมการกฤษฎกี า (๒)๒ “ไม้” หมายความว่า ไม้สักและไม้อื่นทุกชนิดท่ีเป็นต้น เป็นกอ เป็นเถา รวม ตลอดถึงไม้ที่นําเขสาํ้านมกัางใานนรคาณชอะการณรมาจกัากรรกฤไมษ้ไฎผกี ่ทาุกชนิด ปาล์มสําหนวกั างยานตคลณอะดกจรรนมรกาากรกปฤุ่มษฎตกี อา เศษ ปลาย และก่งิ ของสง่ิ นน้ั ๆ ไมว่ า่ จะถกู ตดั ทอน เลื่อย ผ่า ถาก ขดุ หรือกระทําโดยประการอน่ื ใด สาํ นกั งานคณะกรรมการก(๓ฤ)ษ๓ฎ“กี แาปรรปู ” หมาสยําคนวักางมานวา่คณกะากรรกรรมะกทาาํรอกยฤษา่ งฎใีกดาอยา่ งหน่งึ แกไ่ สมาํ ด้ นงั ักนงี้าคนอืคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นักงากน.คณเละ่ือกยรรผม่ากาถรกากฤษขฎุดกี าหรือกระทําดส้วํายนปกั งราะนกคาณระอก่ืนรใรดมแกการ่ไกมฤ้ใษหฎ้เปีกาลี่ยนรูปหรือ ขนาดไปจากเดิม นอกจากการลอกเปลือกหรือตบแต่งอันจาํ เปน็ แกก่ ารชักลาก สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกขา. เผา อบ บดสําหนักรงือากนรคะณทะํากดรร้วมยกปารระกฤกษาฎรอีก่ืานใดแก่ไม้ให้เปสําลน่ียักนงาแนปครณสะภการพรมไกปารกฤษฎกี า จากเดมิ เพอ่ื ถอื เอาวตั ถธุ าตุหรือผลพลอยไดจ้ ากไม้นัน้ ส(าํ๔น)ัก๔ง“านไมค้แณปะรกรรูปรม”กหารมกาฤยษคฎวีกาามว่า ไม้ท่ีได้แสปํารนรักูปงาแนลค้วณแะลกะรรหมมกาายรคกฤวษามฎรีกวามถึงไม้ที่อยู่ ในสภาพพรางว่าเป็นส่ิงปลูกสร้าง หรืออยู่ในสภาพเป็นสิ่งปลูกสร้างอันไม่ชอบด้วยลักษณะสิ่งปลูก สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า ๒ มาตรา ๔ (๒) แกไ้ ขเพ่มิ เตมิ โดยพระราชบัญญตั ปิ ่าไม้ (ฉบับท่ี ๕) พ.ศ. ๒๕๑๘ ส๓าํ มนากั ตงราานค๔ณ(๓ะก) รแรกมไ้ ขกเาพริ่มกเฤตษมิ ฎโดีกยาพระราชบญั ญตั สปิ ําน่าไกั มง้ า(ฉนบคับณทะ่ี ก๓ร)รพม.กศ.าร๒ก๔ฤ๙ษ๔ฎกี า ๔ มาตรา ๔ (๔) แก้ไขเพ่ิมเติมโดยประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ ๑๑๖ ลงวันท่ี ๑๐ เมษายน สํานกั พง.าศน.ค๒ณ๕ะ๑ก๕รรมการกฤษฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

- ๓ - สาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สร้างท่ัว ๆ ไปหรือท่ีผิดปกติวิสัย หรืออยู่ในสภาพเป็นเครื่องใช้ท่ีไม่ชอบด้วยลักษณะของเครื่องใช้ท่ีใช้ สํานักเงปาน็นปคณกตะกิในรรทม้อกงาทร่ีนกฤ้นั ษหฎรกีือาที่ผิดปกติวิสยั สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า ไม้ที่อยู่ในสภาพเป็นส่ิงปลูกสร้างหรืออยู่ในสภาพเป็นเคร่ืองใช้ ท้ังน้ี ตลอดเวลาที่ อยู่ในสภาพเช่นนสั้นาํ นรกั วงมานทค้ังณไมะก้ทร่ีเรคมยกอายรกู่ในฤษสฎภกี าาพดังกล่าวแลสะําผนู้คักรงาอนบคคณระอกงรพรมิสกูจานร์ไกดฤ้วษ่าฎไกีดา้เคยมีสภาพ เช่นน้ันมาแล้วไม่น้อยกว่าสองปีสําหรับไม้อื่นที่มิใช่ไม้สักและห้าปีสําหรับไม้สัก มิให้ถือว่าเป็นไม้แปร สํานกั รงูปานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ไม้ในป่า หรือนําไสม(๕ํา้อน)อ๕กั กง“าจทนาคาํ กไณปมะ่า”้ กดรห้วรมยมาปกยารรคะกวกฤาาษมรฎวใดีก่าาตๆัดแฟละันหกมาานยสคโําควน่านักมงลรานิดวคมเณถลึงะื่อกกยรารรผมก่ากรถาะราทกกําฤดษทังฎอกีกนลา่าขวุดกับชักไมล้สาักก สาํ นกั หงรานอื คไมณย้ ะากงรทรมี่ขกนึ้ าอรยกูใ่ฤนษทฎด่ี กี นิาที่มิใช่ปา่ หรสอื ํากนากั รงนานาํ ไคมณส้ ะักกหรรรมอื กไมาร้ยกาฤงษอฎอกีกาจากทีด่ ินทไ่ี ม้นสนั้าํ นๆักงขาน้ึนคอณยะู่ดกว้ รยรมการกฤษฎีกา (๖) “ไม้ไหลลอย” หมายความว่า ไม้ต้น ไม้ซุง ไม้ท่อน ไม้เสา ไม้เข็ม ไม้หลัก ไม้ เหล่ียม ไมก้ ระดาสนาํ นซัก่ึงงเปาน็นคไณมห้ะกวรงรหม้ากมารทก่ีไฤดษไ้ ฎหกี ลาลอยโดยปราศสจํานากักงกาานรคคณวบะกครุมรมการกฤษฎกี า (๗)๖ “ของป่า” หมายความวา่ บรรดาของทเ่ี กิดหรือมขี ึ้นในปา่ ตามธรรมชาติ คอื สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกกา. ไม้ รวมทั้งสสว่ ํานนตักงา่ างนๆคณขะอกงรไรมม้ กถา่ารนกไฤมษ้ ฎนีก้ําามันไม้ ยางไม้ สตําลนอักดงจานนคสณิ่งอะก่ืนรรๆมกทาี่ รกฤษฎกี า เกดิ จากไม้ สาํ นักงาขน.คพณืชะกตรา่ รงมๆกาตรกลฤอษดฎจกีนาสงิ่ อืน่ ๆ ท่ีเกสิดําจนากักงพานชื คนณ้ันะกรรมการกฤษฎกี า ค. รงั นก ครั่ง รวงผงึ้ นํ้าผ้งึ ข้ผี ึ้ง และมลู คา้ งคาว สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี งา. หินทไี่ มใ่ ช่แสรํต่านากัมงกาฎนคหณมาะกยรวร่ามดกว้ ายรแกรฤ่ ษฎีกา สาํ นักงาแนลคะณหะมกรารยมคกวาารมกรฤวษมฎถีกงึ าถา่ นไม้ท่ีบคุ คสลําทนาํักขงาึน้ นดค้วณยะกรรมการกฤษฎกี า (๘) “ไมฟ้ ืน” หมายความว่า บรรดาไม้ที่มีลักษณะและคุณภาพเหมาะสมที่จะใช้เป็น สาํ นักเงชาือ้ นเคพณละงิ กยรงิ่ รกมวกา่ าจระกใฤชษป้ ฎรีกะาโยชนอ์ ยา่ งอื่นสํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา (๙) “ชักลาก” หมายความว่า การนําไม้หรือของป่าจากที่หน่ึงไปยังอีกที่หน่ึงด้วย กาํ ลงั แรงงาน สาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา (๑๐) “นําเคลือ่ นท”่ี หมายความว่า ชักลาก หรือทาํ ใหไ้ ม้หรอื ของป่าเคลื่อนจากที่ไป สํานักดงว้ านยปคณระะกการรรมใดกาๆรกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า (๑๑)๗ “ขนาดจาํ กดั ” หมายความว่า ขนาดของตน้ ไม้ท่รี ัฐมนตรปี ระกาศกาํ หนด ส(าํ๑น๒ัก)งา“นคค่าณภะากครหรมลกวางร”กหฤษมฎาีกยาความว่า เงินคส่าําธนรักรงมานเนคีณยมะกซรึ่งรผมู้ทกําาไรมก้หฤษรือฎเีกกา็บหาของป่า จะตอ้ งเสยี ตามความในพระราชบญั ญัตนิ ้ี สาํ นักงานคณะกรรมการก(๑ฤ๓ษฎ) กี“าโรงงานแปรรปูสําไนมกั้”งหานมคาณยะคกวรารมมวก่าารโกรฤงงษาฎนกี หารือสถานที่ใดสซําึ่งนจักัดงขาน้ึนคไวณ้เะปก็นรทรม่ีทกําารกฤษฎีกา การแปรรูปไม้ รวสมําถนงึ ักบงรานิเวคณณโะรกงรงรามนกหารรือกฤสษถฎานกี ทา น่ี ้ัน ๆ ดว้ ย สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า (๑๔) “โรงค้าไม้แปรรูป” หมายความว่า สถานที่ที่ค้าไม้แปรรูป หรือที่มีไม้แปรรูปไว้ สํานกั เงพา่อืนกคาณระคก้ารรรมวกมาถรงึกบฤรษเิ ฎวกีณาสถานทีน่ ้นั ๆสําดน้วักยงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า (๑๕) “ตราประทับไม้” หมายความว่า วัตถุใดอันประดิษฐ์ขึ้นเพ่ือให้เกิดเป็นรูปรอย หรือเคร่ืองหมาสยาํ ในดักงๆานคนณอะกกจรรามกกราูปรกรฤอษยฎทีก่ีเาป็นตัวเลข ไสวําน้ทกั ี่ไงมา้นซค่ึงณอะยกู่ภรรามยกใาตร้คกฤวษาฎมีกคาวบคุมแห่ง พระราชบัญญตั นิ ้ี สาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า ส๕ํามนาักตงราานค๔ณ(๕ะก) รแรกม้ไขกเาพรม่ิกเฤตษิมฎโดีกยาพระราชบญั ญตั สิปํานา่ ไักมง้ า(ฉนบคับณทะี่ ก๕ร)รพม.กศ.าร๒ก๕ฤ๑ษ๘ฎีกา ๖ มาตรา ๔ (๗) แก้ไขเพิ่มเตมิ โดยพระราชบัญญตั ิปา่ ไม้ (ฉบับที่ ๕) พ.ศ. ๒๕๑๘ สํานักงานคณะกรรมการก๗ฤมษาตฎรีกาา๔ (๑๑) แกไ้ ขเสพําิ่มนเักตงมิ าโนดคยณพระะกรรารชมบกัญารญกัตฤปิ ษ่าฎไมีก้ า(ฉบบั ที่ ๕) พ.ศ.ส๒าํ น๕ัก๑ง๘านคณะกรรมการกฤษฎกี า

- ๔ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า (๑๖) “พนักงานเจ้าหน้าท่ี” หมายความว่า เจ้าพนักงานป่าไม้ พนักงานป่าไม้ หรือผู้ สํานกั ซง่งึารนัฐคมณนะตกรรไีรดมแ้กตารง่ กตฤ้งั ษใหฎม้ีกาีหน้าทดี่ ําเนนิ กสาํานรตักางามนพครณะะรการชรบมญั กาญรกตั ฤินษี้ ฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา (๑๗) “รัฐมนตรี” หมายความว่า รฐั มนตรผี รู้ ักษาการตามพระราชบญั ญัตนิ ้ี สาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า มาตรา ๕ พระราชกฤษฎีกาหรือประกาศรัฐมนตรีซ่ึงกําหนดข้ึนตามบทแห่ง สาํ นักพงรานะคราณชะบกัรญรญมกัตาินร้ีกใฤหษ้คฎัดีกสาําเนาประกาศสไําวน้ ักณงาทนคี่ว่าณกะากรรอรมําเกภาอรกแฤลษะฎทีก่ีทาําการกํานัน หสรําือนัทกง่ีสาานธคาณระณกสรรถมากนารกฤษฎีกา ในทอ้ งทซ่ี ึง่ เกยี่ วขส้อํางนักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานหคมณวะดกร๑รมการกฤษฎกี า สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า การทําไม้และเกบ็ หาของป่า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานกั งานสค่วณนะทก่ีร๑รมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า การกําหนดไมห้ วงหา้ ม คา่ ภาคหลวงและขนาดจาํ กดั สาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นกั งานคณะกรรมการกมฤาษตฎรากี า๖ ไม้หวงห้าสมํามนีสักองงานปครณะเะภกทรรคมอืการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สปาํ นระกั งเภานทคณกะ.กไรมร้หมกวางรหก้าฤมษธฎรกี รามดา ได้แก่ไสมํา้ซน่ึงกั กงาานรคทณําะไกมร้จระมตกา้อรงกไฤดษ้รฎับีกอานุญาตจาก พนักงานเจ้าหนา้ ทห่ี รือไดร้ บั สมั ปทานตามความในพระราชบัญญตั ินี้ สาํ นกั งานคณะกรรมการกปฤรษะฎเภกี ทา ข. ไม้หวงหส้าํามนพกั ิเงศานษคไณดะ้แกกร่ไรมม้หกาารยกาฤกษหฎรีกือาไม้ท่ีควรสงวนสซาํ น่ึงักไมงา่อนนคุญณาะตกใรหรม้ทกําารกฤษฎีกา ไม้ เว้นแต่รฐั มนตรีจะได้อนญุ าตในกรณพี ิเศษ สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า มาตรา ๗ ไม้สัก ไม้ยาง ไม้ชิงชัน ไม้เก็ดแดง ไม้อีเม่ง ไม้พะยุงแกลบ ไม้กระพี้ สาํ นกั ไงมาแ้นดคงณจะีนกรไมรม้ขกะายรุงกฤไมษ้ชฎกิ ีกาไม้กระซกิ ไมก้สรํานะซกั งิบานไมค้พณะะกยรูงรไมมก้หามรกาฤกษพฎลกีตู าก๊ั แตน ไมก้ ระพสําเี้ นขาักคงาวนาคยณไมะก้เกรร็ดมดกําารกฤษฎีกา ไม้อีเฒ่า และไม้เก็ดเขาควาย ไม่ว่าจะข้ึนอยู่ท่ีใดในราชอาณาจักร เป็นไม้หวงห้ามประเภท ก. ไม้ชนิด อนื่ ในป่าจะให้เปน็ สไํามน้หักงวางนหคา้ ณมะปกรระรเมภกทาใรดกฤใษหฎก้ กีําาหนดโดยพระรสาํานชักกงฤาษนฎคกีณาะ๘กรรมการกฤษฎกี า การเพิ่มเติมหรือเพิกถอนชนิดไม้ หรือเปล่ียนแปลงประเภทไม้หวงห้ามท่ีได้มีพระ สาํ นกั รงาาชนกคณฤษะกฎรีกรมากกาํารหกนฤดษฎไวีก้แาล้วก็ดี หรือจสะํานกกัํางหานนดคณไมะ้ชกนรริดมใกดาเรปก็นฤษไมฎ้หกี าวงห้ามประเภสทาํ นใดักขงาึ้นนใคนณทะ้อกงรรทม่ีใกดารกฤษฎกี า นอกจากท้องที่ที่ไสดาํ ้นมักีพงราะนรคาณชะกกฤรษรมฎกีกาารกกําฤหษนฎีกดาตามความในมสาํานตกัรางากน่อคนณแะลก้วรนรมั้นกกา็ดรกี ใฤหษ้กฎําีกหานดโดยพระ ราชกฤษฎีกา สาํ นักงานคณะกรรมการกพฤรษะฎรกีาชา กฤษฎีกาซึ่งสตํารนากัขง้ึนานตคามณคะกวรารมมใกนาวรรกรฤคษหฎนกี ่ึงาและวรรคสอสงาํ นใหัก้ใงชาน้บคังณคับะกไรดร้เมมกื่อารกฤษฎีกา พ้นกาํ หนดเกา้ สิบวนั นบั แตว่ นั ประกาศในราชกิจจานเุ บกษา สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา มาตรา ๘๙ (ยกเลกิ ) สาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า ส๘าํ มนาักตงรานา ค๗ณวะรกรรครหมนก่ึงารแกกฤ้ไษขเฎพกี ิ่มาเติมโดยประกาสศําคนณกั งะารนักคษณาคะวการมรมสงกบารแกหฤ่งษชาฎตีกิ าฉบับท่ี ๑๐๖/ ๒๕๕๗ เรื่อง แกไ้ ขเพ่ิมเติมกฎหมายวา่ ด้วยป่าไม้ ลงวนั ที่ ๒๑ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๕๗ สาํ นกั งานคณะกรรมการก๙ฤมษาตฎรีกาา๘ ยกเลิกโดยพสรําะนรกั างชาบนญั คญณตั ะิปก่ารไรมม้ ก(ฉาบรบักฤทษ่ี ๕ฎ)กี พา.ศ. ๒๕๑๘ สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

- ๕ - สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า มาตรา ๙๑๐ รัฐมนตรีมีอํานาจกําหนดอัตราค่าภาคหลวงโดยประกาศในราชกิจจา สํานกั นงเุาบนกคษณาะกดรงัรตม่อกไาปรกนฤี้ ษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า (๑) สําหรับไม้หวงห้ามประเภท ก. เฉพาะไม้สัก หรือไม้หวงห้ามประเภท ข. ให้ กําหนดตามชนดิ สขํานนาักดงาแนลคะณปะรกมิรรามตกราขรอกงฤไษมฎ้ ไีกมา่เกนิ ลูกบาศกส์เมํานตกัรงลาะนสคอณงะรกอ้ รยรบมากทารกฤษฎกี า (๒) สําหรับไม้หวงห้ามอื่น ให้กําหนดตามชนิดและปริมาตรของไม้ ไม่เกินลูกบาศก์ สํานักเงมาตนรคลณะะแกปรดรมสกบิ าบรกาทฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เมตรละหา้ บาท ถส(้าํา๓ไนด)กั ้เสงผาําานหเคปรณน็ับถะไกมา่ รน้หรแวมลงกห้วาร้าอกมัตฤทษร่ีทาฎคําีกเ่าาปภ็นาไคมห้ฟลืนวหงใรหือส้เไปํามน็น้เกั สผงอาาถนงเ่าคทนณ่าะขใกหอรง้กรอํมาัตหกรานารดกคไฤ่าดษภ้ไฎามคีก่เากหินลลวงูกขบอางศไมก้์ สํานกั หงวานงหคณ้ามะทกรท่ี ราํ มเกปา็นรไกมฤฟ้ ษืนฎหีการือไมเ้ ผาถ่านสํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า (๔) สําหรับไม้หวงห้ามหรือถ่านท่ีเผาจากไม้หวงห้ามท่ีนิยมซ้ือขายกันตามมาตรฐาน อ่ืนนอกจากเป็นลสูกาํ นบักางศากน์เคมณตะรกจรระมกกําาหรนกฤดษอฎัตีกราาค่าภาคหลวงสแํานตักกงตา่านงคจณาะกกทรี่บรมัญกญารัตกิไฤวษ้ในฎกี (า๑) (๒) หรือ (๓) ก็ได้ แต่ต้องไม่เกินร้อยละสิบของราคาตลาดในราชอาณาจักร โดยเฉลี่ยจากราคาของไม้หวงห้าม สํานกั หงรานอื คขณองะถก่ารนรมทก่ีเาผรากจฤาษกฎไมีกาห้ วงห้าม แล้วสแําตน่กักรงณานี คณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สมาํ นาตักงราานค๙ณะทกวรริ๑ม๑กาใรนกฤกษรฎณกี ีทา ่ีรัฐมนตรีเหส็นํานสักมงาคนวครณะรกัฐรมรมนกตารรกีจฤะษลฎดีกหา รือยกเว้น คา่ ภาคหลวงให้บุคคลซงึ่ ประสบภัยพิบัติสาธารณะตามความจาํ เป็นเฉพาะรายกไ็ ด้ สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สมําานตักรงาาน๑ค๐ณะกใรหร้รมัฐกมานรกตฤรษีมฎีอกี ําานาจกําหนดขสนําานดกั จงาํานกคัดณไมะก้หรวรงมหก้าามรกโดฤษยปฎกีราะกาศในราช กิจจานุเบกษา สาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ส่วนท่ี ๒ สาํ นักงานคณะกรรมการกฤกษาฎรกี ทาาํ ไมห้ วงห้ามสํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา มาตรา ๑๑๑๒ ผู้ใดทําไม้ หรือเจาะ หรือสับ หรือเผา หรือทําอันตรายด้วยประการ ใด ๆ แก่ไม้หวงหสาํ้านมกั งตา้อนคงไณดะ้รกับรรอมนกุญารากตฤจษาฎกกี พา นักงานเจ้าหสํานน้าักทงา่ี นหครณือะไกดร้รรับมสกัมารปกทฤษาฎนีกตาามความใน พระราชบญั ญัตนิ ้ี และตอ้ งปฏบิ ัติตามขอ้ กาํ หนดในกฎกระทรวงหรือในการอนุญาต สาํ นกั งานคณะกรรมการกกฤาษรอฎนีกาุญาตนั้น พนักสงําานนักเงจาน้าหคณน้าะกทรี่เรมม่ือกไาดร้รกับฤอษนฎกีุมาัติจากรัฐมนตรสีแํานลัก้วงาจนะคอณนะุญกรารตมใกหา้ รกฤษฎกี า ผูกขาดโดยให้ผไู้ ดส้รําับนอักนงาญุ นคาตณเะสกียรเรงมินกคาา่ รผกกูฤขษาฎดีกใาหแ้ ก่รัฐบาลตสาํามนจกั ํางนานวนคณทรี่ะกฐั รมรนมตกรากีรกาํ ฤหษนฎดกี กาไ็ ด้ การอนุญาตโดยวิธีผูกขาดหรือให้สัมปทานสําหรับการทําไม้ฟืนหรือไม้เผาถ่านไม่ว่า สํานักโงดายนทคาณงะตกรรงรหมรกือารทกาฤงษอฎอ้ ีกมาใหก้ ระทําไดเ้สฉําพนกัาะงาในนคเขณตะปกา่รทรมีห่ ก่าางรไกกฤลษแฎลกี ะากันดาร หรือเสฉาํพนาักะงกานารคทณําะไกมร้ชรมนกิดารกฤษฎีกา ทม่ี ีค่าหรือหายาก สกาํ านรักพงาิจนาครณณะากครํรามขกอาอรนกฤุญษาฎตกี ผาูกขาดหรือสัมสําปนทักางนานตคาณมะคกวรารมมใกนารวกรฤรษคฎกีก่อานให้กระทํา โดยคณะกรรมการซึ่งรฐั มนตรีแต่งต้ัง สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า ส๑ํา๐นมกั างตารนาค๙ณะแกกรไ้ ขรเมพก่ิมาเรตกมิ ฤโดษยฎพกี ราะราชบัญญัติปา่สไํามน้ (ักฉงบาบันทค่ีณ๕ะ)กพร.รศม. ก๒า๕ร๑ก๘ฤษฎีกา ๑๑ มาตรา ๙ ทวิ เพม่ิ โดยพระราชบัญญตั ิปา่ ไม้ (ฉบับท่ี ๕) พ.ศ. ๒๕๑๘ สํานักงานคณะกรรมการก๑๒ฤษมาฎตีกราา ๑๑ แกไ้ ขเพ่มิ สเําตนมิ ักโดงายนพครณะระากชรบรัญมญกาัตริปกา่ ฤไษม้ฎ(ฉกี บาับที่ ๓) พ.ศ. ๒ส๔ํา๙น๔ักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

- ๖ - สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า มาตรา ๑๑ ทวิ๑๓ ในกรณีท่ผี ู้รับอนุญาตตามมาตรา ๑๑ หรือผู้รับสัมปทานประสงค์ สํานกั จงะานนคําณเคะรกื่อรงรมมือกาเรคกรฤื่อษงฎใีกชา้ สัตว์พาหนะสยํานากันงพานาหคณนะะกหรรรมือกเคารรกื่อฤงษจฎักีกรากลใด ๆ ที่ตนสมาํ ิไนดัก้เงปา็นนคเจณ้าะขกอรงรเมขก้าารกฤษฎกี า ไปในเขตป่าท่ีได้รับอนุญาตหรือในเขตสัมปทาน ผู้รับอนุญาตหรือผู้รับสัมปทานดังกล่าวต้องแจ้งให้ พนักงานเจา้ หน้าทสําี่ทนรักางบานลค่วงณหะนกรา้ รเปม็นกาเวรกลฤาษไมฎ่นีกอ้ายกว่าสามสบิ สวําันนกั ตงาานมคแณบบะกทรร่ี รัฐมมกนารตกรฤีกษาํ ฎหกี นาด บรรดาทรัพย์สินดังกล่าวในวรรคหน่ึงที่ผู้รับอนุญาตหรือผู้รับสัมปทาน นําเข้าไปใน สาํ นกั เงขาตนปค่าณทะี่ไกดร้รรับมกอานรุญกฤาษตฎหกี ราือในเขตสัมปสทําานนักงโาดนยคมณิไะดก้แรจร้งมใกหา้พรกนฤักษงฎากีนาเจ้าหน้าท่ีทราสบํานตักามงาวนรครณคะหกนรึ่งรมใกหา้ รกฤษฎกี า สนั นษิ ฐานไวก้ ่อนสวําา่ นักทงราัพนยค์สณินะนกรั้นรเมปกน็ าทรกรฤัพษยฎส์ ีกนิ าของผู้รบั อนญุ สาําตนหักงราอื นผคู้รณับะสกมั รปรมทกาานรกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกมฤาษตฎรีกาา ๑๒ ห้ามมสิใําหน้กัผงู้ราับนคอณนะุญการรตมทกําารไกมฤ้ทษ่ีไฎมีก่มาีรอยตราอนสุญาํ นาักตงขานอคงณพะนกักรรงมากนารกฤษฎีกา เจ้าหนา้ ที่ประทับไว้ เวน้ แตจ่ ะไดม้ ีขอ้ ความระบอุ นญุ าตไวใ้ นใบอนญุ าต สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา มาตรา ๑๓๑๔ ห้ามมิให้ผู้รับอนุญาตทําไม้ที่มีขนาดตํ่ากว่าขนาดจํากัด แต่ถ้ามีเหตุ สาํ นกั ภงยัานพคิบณตั ะิสการธรามรกณาระกฤหษรฎือกีมาีเหตุจําเป็นที่เสหํา็นนสักมงาคนวครณชะ่วกยรเรหมลกือารรากษฤษฎฎรีกเปา็นกรณีพิเศษสรําัฐนมักนงาตนรคีจณะะอกนรุญรมากตารกฤษฎกี า ให้ผ้รู บั อนุญาตเฉพาะราย ทาํ ไมท้ ีม่ ีขนาดตา่ํ กวา่ ขนาดจาํ กัดเปน็ การช่ัวคราวก็ได้ สกําานรักทงาํานไมคณ้ท่ีมะกีขรนรามดกตารํ่ากกฤวษ่าฎขกี นาาดจํากัดตามสทํา่ีนรัฐกั มงานนตครณีอะนกุญรรามตกใาหรก้ทฤําษไดฎ้กี ตาามความใน วรรคหน่ึง ผู้รับอนุญาตจะทําไม้ได้ก็ต่อเมื่อพนักงานเจ้าหน้าท่ีได้ประทับตราอนุญาตไว้ท่ีไม้นั้น ๆ แล้ว สาํ นกั ทง้ังานนค้ี เณว้นะกแรตร่ใมนกการรกณฤีทษี่ไฎมีก่สาามารถประทสับําตนรกั างไาดน้คแณละะกพรนรมักกงาารนกเฤจษ้าฎหีกนา้าที่ได้ระบุไว้ในสาํในบักองนาุญนคาณตใะหกร้ทรํามไกดา้ รกฤษฎกี า โดยไม่ต้องประทบั สตํานรักางานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นักงานคณะกรรมการกมฤาษตฎราีกา๑๔๑๕ ผรู้ ับอสนําญุนกั างตาทนาํคไณมะต้ กอ้ รงรเมสกียาครา่กภฤษาคฎหกี ลา วงตามทีก่ ําหสนาํ ดนไักวง้ าดนังคตณ่อะไกปรนรี้มการกฤษฎกี า (๑) ต้องชําระค่าภาคหลวงล่วงหน้า ต้นหรือท่อนละสองบาท เมื่อรับใบอนุญาตจาก พนักงานเจ้าหน้าสทํา่ีนเวกั ้นงาแนตค่ใณนะทก้อรงรทมก่ีใดารทก่ีคฤณษฎะกีการมการจังหวัดสไําดน้ปกั งราะนกคาณศะโกดรยรรมับกอารนกุมฤัตษิจฎาีกการัฐมนตรีให้ งดเว้นไม่ต้องเรียกเก็บเงินค่าภาคหลวงล่วงหน้าหรือให้ลดอัตราค่าภาคหลวงล่วงหน้าลงจากอัตราท่ี สํานักกงําาหนคนณดนะก้ี กรร็ใมหก้เปารน็ กไฤปษตฎากีมาประกาศของคสําณนะกั กงารนมคกณาระจกงัรรหมวกัดานรน้ักฤๆษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา การทําไม้สัก ผู้รับอนุญาตจะต้องชําระค่าภาคหลวงล่วงหน้า ตามอัตราที่คณะ กรมการจังหวัดไดส้ปาํ นระกั กงาานศคโณดยะกรับรรอมนกมุารัตกจิ ฤาษกฎรกีฐั ามนตรี หรือตาสมําอนัตักงราานทค่รี ณฐั มะกนรตรรมีกกาําหรกนฤดษเฎปกี็นาราย ๆ ไป การทาํ ไมฟ้ นื หรือทาํ ไมเ้ ผาถา่ น ไมต่ อ้ งเสยี คา่ ภาคหลวงลว่ งหนา้ สาํ นกั งานคณะกรรมการก(๒ฤ)ษตฎ้อีกางชําระค่าภาคสหําลนวักงงใาหนค้เสณระ็จกสริ้นรมภกาายรใกนฤกษําฎหีกนาดสามสิบวัน สนาํ ับนแักตงา่วนันคทณ่ีพะนกักรรงมากนารกฤษฎกี า เจ้าหนา้ ทไ่ี ดแ้ จง้ จสาํ ํานนวกั นงาคน่าคภณาคะกหรลรวมงกใาหร้ทกฤรษาบฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า ถ้าผู้รับอนุญาตไม่ชําระค่าภาคหลวงให้เสร็จสิ้นภายในกําหนดเวลาดังกล่าวในวรรค สํานักกง่อานนคใณหะ้ไกมร้รไมมก้ฟาืนรกไฤมษ้เฎผกี าาถ่านหรือถ่านสนํา้ันนตกั งกาเนปค็นณขะอกงรแรผม่กนาดรินกฤเษวฎ้นกีแาต่ผู้รับอนุญาตสจํานะไักดงา้รนับคอณนะุญกรารตมใกหา้ รกฤษฎีกา ผัดผ่อนการชําระค่าภาคหลวงต่อไปตามข้อกําหนดในกฎกระทรวง ในกรณีที่ได้ชําระเงินค่าภาคหลวง ล่วงหน้าไว้ และไดสําท้ นําักไงมา้อนอคกณมะากแรลรมว้ กภาารยกใฤนษกฎํากีหานดอายุใบอนสุญํานาตักงกาน็ใหคณ้ไมะ้สก่วรนรมทกี่เากรินกจฤําษนฎวกี นาจากท่ีชําระ ค่าภาคหลวงล่วงหนา้ ไวแ้ ล้วตกเปน็ ของแผน่ ดิน สาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า ส๑ํา๓นมกั างตารนาค๑ณ๑ะกทรวริ มเพก่ิมาโรดกยฤพษรฎะีกราาชบัญญตั ิปา่ ไม้ส(ฉํานบกัับงทา่ี น๕ค) ณพ.ะศก.ร๒ร๕ม๑กา๘รกฤษฎกี า ๑๔ มาตรา ๑๓ แก้ไขเพ่มิ เตมิ โดยพระราชบัญญตั ปิ ่าไม้ (ฉบับที่ ๕) พ.ศ. ๒๕๑๘ สํานกั งานคณะกรรมการก๑๕ฤษมาฎตกี ราา ๑๔ แกไ้ ขเพิ่มสเําตนิมกั โดงายนพครณะระากชรบรญั มญกาัตริปก่าฤไษม้ฎ(ฉกี บาับที่ ๓) พ.ศ. ๒ส๔ํา๙น๔ักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า

- ๗ - สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า มาตรา ๑๔ ทวิ๑๖ บทบัญญัติมาตรา ๑๔ มิให้ใช้บังคับแก่ผู้รับอนุญาตทําไม้สักท่ี สาํ นักขงึ้นานอคยณู่ในะกทร่ีดรินมกทาี่มรีโกฉฤนษดฎทีกา่ีดินตามประมสวําลนกักฎงาหนมคาณยะทกร่ีดรินมเกพา่ือรกใชฤษ้สฎอีกยาส่วนตัว และมสิใาํ หน้ใักชง้าบนังคคณับะแกกร่ผรมู้รกับารกฤษฎีกา อนุญาตทําไม้ยางท่ีข้ึนอยู่ในที่ดินที่มี น.ส. ๓ หรือโฉนดที่ดินตามประมวลกฎหมายท่ีดิน เพื่อใช้สอย ส่วนตัว สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สาํ นกั งานคณะกรรมการกมฤาษตฎราีกา๑๕๑๗ การชสําํารนะกั คง่าานภคาณคหะกลรวรงมสกําาหรกรฤับษไมฎ้หีกาวงห้ามชนิดใดสาํ ถน้าักผงู้ราันบคอณนะุญการตรมขกอารกฤษฎีกา กชําําหระนใดนไเวม้สื่อาํ ไหมร้นบั ้ันสไไมําดน้ช้แกันปงิดารนนรค้ันูปณแๆะลก้วรรตม้อกงาชรํากรฤะษตฎาีกมาปริมาตรของสไมําน้แักปงรารนูปคณในะกอรัตรรมากสาอรกงเฤทษ่าฎคีก่าาภาคหลวงท่ี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา มาตรา ๑๖ ค่าภาคหลวงล่วงหน้าทั้งส้ินท่ีชําระไว้แล้วตามความในมาตรา ๑๔ (๑) น้ัน ให้นํามาหักกสลาํ นบักลงบานกคันณกะับกครร่ามภกาาครกหฤลษวฎงีกไาม้ท่ีทําออก ยสังําขนาักดงเาทน่คาใณดะใกหร้เรรมียกการเกกฤ็บษจฎนกี คารบ ถ้าผู้รับ อนุญาตทําไม้ออกมาไม่ครบจํานวนตามใบอนุญาตโดยมิใช่เพราะเหตุสุดวิสัย ซ่ึงคํานวณค่าภาคหลวง สาํ นักแงลาน้วคยณังไะมก่ถรึงรมจํกานารวกนฤเษงฎินกีคา่าภาคหลวงลส่วํางนหกั นง้าานทค่ีไดณ้ชะกํารรระมไวก้แารลก้วฤษคฎ่ากีภาาคหลวงล่วงหสนาํ น้าักสง่วานนทค่ีณเกะินกใรหรม้ตกการกฤษฎีกา เปน็ ของรัฐบาล สถาํ ้านผกั ู้รงับานอคนณุญะากตรรไมม่กไดาร้ทกําฤไษมฎ้อีกอากมาเลยตามใสบําอนนักงุญานาตคโณดะยกมรริใชม่เกพารรกาฤะษเหฎตีกุสาุดวิสัย หรือ กระทําผดิ จนถูกเพกิ ถอนใบอนญุ าต คา่ ภาคหลวงล่วงหนา้ ทัง้ สิ้น ใหต้ กเปน็ ของรฐั บาล สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สมาํ านตักรงาาน๑ค๗ณะกบรทรบมกญั าญรกตั ฤใิ ษนฎสีกว่ านนี้ มใิ หใ้ ชบ้ ังสคําบั นใกั นงกานรคณณีดะังกตรอ่ รไมปกนาร้ี กฤษฎีกา (๑) พนักงานเจ้าหน้าท่ีจัดกระทําไปเพื่อประโยชน์ในการบํารุงป่า การค้นคว้าหรือ สาํ นกั กงาารนทคดณละอกรงรในมทกาารงกวฤิชษาฎกกีาาร สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า (๒) ผู้เก็บหาเศษไม้ปลายไม้ตายแห้งที่ล้มขอนนอนไพร อันมีลักษณะเป็นไม้ฟืนซ่ึง มใิ ชไ่ ม้สกั หรอื ไมห้ สวํานงหักงา้ ามนปครณะะเภกรทรมขก.าไรปกสฤําษหฎรีกับาใช้สอยในบา้ สนําเนรือกั นงาแนหค่งณตะนกหรรรมอื กปารระกกฤอษบฎกีกิจา ของตน สาํ นักงานคณะกรรมการกมฤาษตฎรากี า๑๘๑๘ เมื่อมสีเหํานตกั ุภงัยานพคิบณัตะิสการธรามรกณาระกหฤรษือฎมีกีเาหตุจําเป็นท่ีเหส็าํนนสักมงคานวครณช่วะยกเรหรมลกือารกฤษฎีกา ราษฎรเป็นกรณีพิเศษ รัฐมนตรีจะอนุญาตให้ผู้ใดเฉพาะรายทําไม้หวงห้ามแตกต่างจากข้อกําหนดใน กฎกระทรวง หรือสขาํ นอ้ กักงาํ าหนนคดณใะนกกรารรมอกนารุญกาฤตษเฎปีก็นาการช่วั คราวกสไ็ําดน้กั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานกั งานสคว่ ณนะทก่ีร๓รมการกฤษฎกี า สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สาํ นักงานคณะกรรมกากรกาฤรษยกฎเกี วา้นค่าภาคหลวสงํา๑น๙ักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า มาตรา ๑๙ (ยกเลิก) สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการก๑๖ฤษมาฎตีกราา ๑๔ ทวิ เพิม่ โสดํายนพกั รงะารนาคชบณญั ะกญรัตรปิม่ากไามร้ ก(ฉฤบษบั ฎทกี ่ี ๕า ) พ.ศ. ๒๕๑๘สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า ๑๗ มาตรา ๑๕ แกไ้ ขเพ่มิ เตมิ โดยพระราชบญั ญตั ิปา่ ไม้ (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๔๙๔ ส๑ํา๘นมักางตารนาค๑ณ๘ะกแรกรไ้ มขกเพาม่ิรกเตฤมิ ษโดฎยีกพาระราชบัญญตั ิปสํา่านไมกั ้ ง(ฉาบนบัคทณี่ ะ๕ก)รพร.มศก. า๒ร๕ก๑ฤ๘ษฎีกา ๑๙ ส่วนท่ี ๓ การยกเวน้ ค่าภาคหลวง มาตรา ๑๙ ถึงมาตรา ๒๔ ยกเลิกโดยพระราชบัญญัติป่าไม้ สํานัก(ฉงาบนบั คทณี่ ๔ะ)กพรร.ศม.ก๒า๕รก๐ฤ๓ษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า

- ๘ - สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า มาตรา ๒๐ (ยกเลกิ ) สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า มาตรา ๒๑ (ยกเลกิ ) สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า มาตรา ๒๒ (ยกเลิก) สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สมาํ านตกั รงาาน๒ค๓ณะก(ยรกรมเลกกิ าร)กฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกมฤาษตฎราีกา๒๔ (ยกเลิก)สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกาส่วนท่ี ๔ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า ไมท้ ี่มใิ ช่ไมห้ วงห้าม๒๐ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สมําานตกั รงาาน๒ค๕ณะกผรู้ใรดมนกําาไรมก้ทฤษ่ีมฎิใชกี ่ไาม้หวงห้ามเข้าสเําขนตักดง่าานนคปณ่าไะมกร้ ตรม้อกงเาสรกียฤคษ่าฎธรกี รามเนียมตาม อตั ราทรี่ ฐั มนตรีกาํ หนด เว้นแตน่ ําไปเพ่อื ใช้สอยส่วนตวั ภายในเขตท้องทจ่ี งั หวัดทท่ี ําไมน้ ั้น สาํ นักงานคณะกรรมการกกฤาษรนฎาํีกไาม้เขา้ เขตดา่ นสปํา่านไกั มง้หานลคาณยดะก่านรรมใหก้เาสรยีกฤคษา่ ธฎรีกรามเนยี มเพียงดส่าาํ นนแักรงกานดคา่ ณนะเดกยีรรวมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา มาตรา ๒๖ รัฐมนตรีมีอํานาจประกาศในราชกิจจานุเบกษากําหนดอัตรา สาํ นกั คง่าานธรครณมะเกนรียรมมกตาารมกมฤษาตฎีกราา ๒๕ ไม่เกินสลําูกนบกั างศานกค์เณมตะกรรลระมสก่ีสาริบกบฤาษทฎกี แาต่ถ้าเป็นไม้ทส่ีนาํ ิยนมักซงาื้อนขคาณยะกกันรตรมากมารกฤษฎกี า มาตรฐานอื่นนอกจากเป็นลูกบาศก์เมตร จะกําหนดอัตราค่าธรรมเนียมสําหรับไม้นั้นแตกต่างจากที่ บญั ญตั ไิ วน้ ้ีกไ็ ด้ แสตาํ ต่น้อกั งงไามนเ่คกณินะรกอ้ รยรลมะกสารบิ กขฤอษงฎรีกาาคาตลาดในทอ้สงําทนักี่ โงดานยเคฉณละยี่ กจรารกมรกาาครกาฤขษอฎงไกี มา้น้ัน สาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานสคว่ ณนะทก่ีร๕รมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า ของปา่ หวงหา้ ม สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สาํ นักงานคณะกรรมการกมฤาษตฎราีกา๒๗ ของป่าอสยํา่านงกั ใงดาในนคทณอ้ ะงกทรใี่รดมจกะารใกหฤ้เปษ็นฎีกขาองป่าหวงห้ามสําในหัก้กงําาหนนคดณโะดกยรพรมรกะารกฤษฎีกา ราชกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกมฤาษตฎรกีาา๒๘ การเพส่ิมํานเตกั ิมงาหนรคือณเะพกิกรรถมอกนารขกอฤงษปฎ่ากี หาวงห้ามที่ได้มสีพาํ นรักะงรานาคชณกฤะกษรฎรมีกกาารกฤษฎกี า กําหนดไว้แล้วก็ดี หรือจะกําหนดของป่าอย่างใดให้เป็นของป่าหวงห้ามขึ้นในท้องที่ใด นอกจากท้องท่ี ทไ่ี ด้มพี ระราชกฤสษําฎนกี ักางกานําคหณนะดกตรารมมคกวารากมฤในษมฎกีาตาราก่อนแล้วนส้นัํานกกัด็ งี าในหค้กณําหะกนรดรโมดกยาพรกรฤะษราฎชกี กาฤษฎีกา พระราชกฤษฎกี าซ่งึ ตราขึน้ ตามความในมาตรานี้ให้ใช้บังคับได้เมื่อพ้นกําหนดเก้าสิบ สาํ นักวงนั านนคับณแะตก่วรรันมปกราะรกกฤาศษใฎนีกราาชกจิ จานุเบกสษํานาักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ๒๐ สว่ นท่ี ๔ ไม้ท่ีมใิ ชไ่ มห้ วงหา้ ม มาตรา ๒๕ ถึงมาตรา ๒๖ แก้ไขเพ่ิมเติมโดยพระราชบัญญัติป่า สาํ นกั ไงมา้ น(ฉคบณบั ะทกี่ ๕รร)มพก.ศาร. ก๒ฤ๕ษ๑ฎ๘กี า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

- ๙ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า มาตรา ๒๙๒๑ ผู้ใดเก็บหาของป่าหวงห้ามหรือทําอันตรายด้วยประการใด ๆ แก่ของ สํานกั ปง่าานหควณงหะก้ารมรใมนกปาร่ากฤตษ้อฎงีกไดา้รับอนุญาตจสาํานกกัพงนานักคงณานะกเจรร้ามหกนา้ารกทฤ่ี ษแฎลกีะาต้องเสียค่าภาสคํานหักลงวางนคกณับะทก้ังรรตม้อกงารกฤษฎกี า ปฏบิ ัติตามข้อกําหนดในกฎกระทรวงหรอื ในการอนญุ าต สกําานรักองนานุญคาณตะนกั้นรรมพกนาักรกงาฤนษเฎจกี ้าาหน้าที่เม่ือไดส้รําับนอกั นงาุมนัตคิจณาะกกรรัฐรมมนกตารรกีแฤลษ้วฎกีจาะอนุญาตให้ ผูกขาดโดยให้ผู้รับอนญุ าตเสยี เงนิ ค่าผกู ขาดให้แกร่ ฐั บาลตามจํานวนทรี่ ัฐมนตรีกําหนดก็ได้ สาํ นกั งานคณะกรรมการกกฤาษรอฎนกี าุญาตโดยวิธีผูกสขํานาักดงาใหนค้กณระะทกรํารไมดก้เฉารพกาฤะษใฎนกีการณีที่ของป่าหสวาํ งนหัก้างมานเปค็นณขะอกงรรมมีคก่าารกฤษฎกี า อหนรือุญหาาตยโาดกยหวธิรผีือูกเฉสขพาํ านาดกัะงใานนเคขณตปะก่ารทรห่ีม่ากงาไรกกลฤแษลฎะกี กานั ดาร หรือมสีคําวนาักมงจานาํ เคปณ็นะใกนรวริธมีกกาารรกเกฤ็บษหฎาีกอาันจําต้องให้ สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา ทวิ๒๒ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา มาตรา ๒๙ ห้ามมิให้ผู้ใดค้าหรือมีไว้ในครอบครอง ซ่ึงของป่าหวงห้ามเกิน ปริมาณท่ีรัฐมนตสราํีปนรักะงกานาคศณกําะหกรนรดมใกนารรกาฤชษกฎิจีกจาานุเบกษา เว้นสําแนตัก่ไงดา้รนับคอณนะกุญรารตมจกาารกกพฤนษักฎงกี าานเจ้าหน้าท่ี และต้องปฏบิ ัตติ ามข้อกําหนดในกฎกระทรวงและในการอนญุ าต สํานกั งานคณะกรรมการกคฤวษามฎใกี นาวรรคหนง่ึ ไมส่ใชํานบ้ ักังงคาบั นแคกณก่ ะากรรนรมาํ ขกอารงกปฤา่ ษหฎวกี งาห้ามเคล่ือนที่โสดํายนมักงีใบานเบคณิกทะการงรขมอกงารกฤษฎกี า พนกั งานเจา้ หน้าท่ีกาํ กบั ไปด้วย สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า มาตรา ๓๐๒๓ รัฐมนตรีมีอํานาจประกาศในราชกิจจานุเบกษากําหนดอัตรา สาํ นักคงา่าภนคาคณหะกลรวรงมไมกาเ่ กรกินฤรษ้อฎยกีลาะสบิ ของราคาสตํานลกัาดงาในนครณาชะอกรารณมากจารักกรฤโษดฎยกี เาฉล่ียจากราคาสขาํ อนงักขงอานงปค่ณาหะวกงรหรม้ากมารกฤษฎกี า นนั้ สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกมฤาษตฎรกีาา๓๑ ในท้องทสําี่ในดักทง่ีไาดน้กคําณหะนกรดรรมวกงาผร้ึงกเฤปษ็นฎขีกอางป่าหวงห้ามสหาํ น้าักมงมาินใหค้ผณู้ใะดกแรมรม้จกะารกฤษฎกี า เป็นผู้รับอนุญาตหรือผู้รับสัมปทานเก็บหาของป่าก็ตาม ตัดหรือโค่นต้นยวนผ้ึงหรือต้นไม้ที่ผ้ึงจับทํารัง อยู่ หรือทาํ อันตรสายํานดักว้ งยาปนรคะณกะากรรใรดมแกการต่ ก้นฤไษมฎ้ทกี กี่ าล่าวแลว้ โดยไสมํา่จนําักเงปา็นนแคกณ่กะากรรเรกมบ็ กหารากรฤวษงผฎึง้กี า สาํ นักงานคณะกรรมการกมฤาษตฎราีกา๓๒ บทบัญญสําัตนิใักนงสาน่วนคณน้ีมะกิใหรร้ใมชก้บาังรคกับฤษในฎกกี ราณีที่พนักงานสเจาํ น้าหักงนา้านทค่ีจณัดะกกรรระมทกําารกฤษฎกี า ไปเพื่อประโยชนใ์ นการบาํ รุงป่า การค้นควา้ หรอื การทดลองในทางวชิ าการ สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า มาตรา ๓๓๒๔ เมื่อมีเหตุภัยพิบัติสาธารณะหรือมีเหตุจําเป็นที่เห็นสมควรช่วยเหลือ สํานกั รงาาษนคฎณรเะปก็รนรกมรกณารีพกฤิเศษษฎีกราัฐมนตรีจะอนสําุญนาักตงาในหค้ผณู้ใดะกเฉรรพมากะารรกาฤยษเกฎ็บีกาหาของป่าหวงสหาํ น้าักมงาแนตคกณตะ่กางรรจมากการกฤษฎีกา ข้อกําหนดในกฎกสรําะนทกั รงาวนงคหณระอื กขร้อรมกกําาหรนกดฤใษนฎกีกาารอนญุ าตเป็นสกําานรกั ชงั่วานคคราณวะกก็ไรดร้มการกฤษฎกี า สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานหคมณวะดกร๒รมการกฤษฎกี า สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า ตราประทับไม้ สาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการก๒๑ฤษมาฎตกี ราา ๒๙ แกไ้ ขเพม่ิ สเําตนิมักโดงายนพครณะระากชรบรญั มญกาัตรปิ กา่ ฤไษม้ฎ(ฉกี บาับท่ี ๓) พ.ศ. ๒ส๔าํ๙น๔ักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า ๒๒ มาตรา ๒๙ ทวิ เพ่ิมโดยประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับท่ี ๑๑๖ ลงวันที่ ๑๐ เมษายน พ.ศ. ๒๕๑๕ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ๒๓ มาตรา ๓๐ แก้ไขเพม่ิ เตมิ โดยพระราชบัญญัติปา่ ไม้ (ฉบบั ที่ ๕) พ.ศ. ๒๕๑๘ สํานักงานคณะกรรมการก๒๔ฤษมาฎตีกราา ๓๓ แกไ้ ขเพ่ิมสเําตนมิ ักโดงายนพครณะระากชรบรัญมญกาัตริปกา่ ฤไษม้ฎ(ฉีกบาับที่ ๕) พ.ศ. ๒ส๕าํ๑น๘ักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า

- ๑๐ - สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกมฤาษตฎรกี าา ๓๔ ตราปสรําะนทักับงาไนมค้ขณอะงกรรัฐรบมกาาลรทกฤี่ใชษ้ปฎกีราะทับเพ่ือควาสมาํ หนักมงาายนคใดณะจกะรใรหมก้มาี รกฤษฎีกา ลกั ษณะอยา่ งใด ใหร้ ัฐมนตรปี ระกาศกาํ หนดในราชกิจจานุเบกษา สาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า มาตรา ๓๕๒๕ ตราประทับไม้ของเอกชน จะใช้ประทับไม้ได้ต่อเมื่อเจ้าของตราได้นํา สํานักจงดานทคะณเบะยีกนรรแมลกะาไรดกร้ ฤบั ษอฎนีกุญา าตแล้ว สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า นั้นไปทําลายต่อหสเาํนมนื่้อากั พใงบนาอนักนคงณุญานะากเตจรสร้า้ินมหกสนาุด้ารลทกงฤี่ภดษา้วฎยยีกใปนารกะํากหานรดใดเกๆ้าสสเิบําจน้าวักขันงอานงนตับครณแาตะหก่วรรันือรใมผบกู้คอารนรอกุญบฤาษคตฎรสอกี ้ินงาตส้อุดงนเวํา้นตแรตา่ สาํ นกั กงรานณคีทณ่ีผะู้รกับรรอมนกุญารากตฤตษาฎยีกาและทายาทหสรําือนผกั ู้งจาัดนกคาณระมกรรดรมกกปารระกสฤงษคฎ์จกี ะาใช้ตราน้ันต่อสไําปนอักีกงากน็ใคหณ้ยะ่ืนกครํรามขกอารกฤษฎีกา อนุญาตใช้ตรานน้ั และขอแก้ทะเบยี นกอ่ นกําหนดเวลาท่ีกลา่ วแลว้ ไดส้ ิ้นสุดลง สกําานรักจงดานทคะณเบะีกยรนรมกกาารรรกับฤอษนฎุญีกาาต พร้อมทั้งเสงํา่ือนนกั ไงขานในคกณาะรกใรชร้ตมรกาาแรกลฤะษคฎ่ากีธารรมเนียมใน การน้นั ๆ ให้เป็นไปตามขอ้ กําหนดในกฎกระทรวง สาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า มาตรา ๓๖ ตราประทับไม้ของเอกชน ถ้าหากสูญหายไปโดยเหตุใด เจ้าของตรา ประทับไม้น้ันต้องสแํานจัก้งงคาวนาคมณตะ่อกพรรนมักกงาารนกเฤจษ้าฎหีกนา้าท่ีเป็นหนังสสือํานภักางยาในนคกณําะหกนรดรมเวกลารากไมฤษ่เกฎินีกหา กสิบวันนับ แตว่ นั ร้ถู ึงการสญู หายนัน้ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สมาํ านตักรงาาน๓ค๗ณะกในรรกมรกณารีฝก่าฤฝษืนฎตกี ่อาบทบัญญัติในสหํานมกัวงดานนี้คถณ้าะไมกร้ใดรมมกีราอรยกตฤรษาฎปีกราะทับไม้ของ เอกชนปรากฏอยู่ ให้สันนิษฐานไวก้ ่อนวา่ เจา้ ของตราน้ันเป็นผกู้ ระทาํ การฝ่าฝนื สาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา หมวด ๓ สํานักงานคณะกรรมไกมาร้แกลฤะษขฎอีกงาปา่ ระหวา่ งเคลสํา่ือนนักทงา่ี นคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า ส่วนที่ ๑ สาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษกฎาีกรานาํ เคลือ่ นท่ี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สมาํ านตักรงาาน๓ค๘ณ๒ะ๖กรรบมทกบารัญกญฤษัตฎิในกี าส่วนนี้ให้ใช้บังสคําับนกัแงกา่กนรคณณีกะการรรนมํากไมาร้หกรฤือษขฎอกี งาป่าเคลื่อนที่ ต่อไปภายหลังท่ี สาํ นักงานคณะกรรมการก(๑ฤ)ษฎนีกําาไม้หรือของปส่าําทนี่ไกั ดง้ราับนคใบณอะกนรุญรมากตาใรหก้ทฤําษหฎรีกือา เก็บออกจากสสาํ นถักางนาทนี่คทณ่ีระะกบรุไรวม้ใกนารกฤษฎีกา ใบอนุญาต ไปถึงสถานที่ท่รี ะบุไวใ้ นใบอนญุ าตแล้ว ส(๒าํ น)ักนงาาํ นไมคท้ณีท่ ะกําโรดรมยกไมารต่ กอ้ ฤงษรฎับีกอานุญาตออกไปสถํางึนดกั า่ งนานปค่าณไมะด้กา่รรนมแกรากรแกลฤว้ษฎีกา (๓) นําไม้หรือของป่าเข้ามาในราชอาณาจักร ไปถึงด่านศุลกากรหรือด่านตรวจ สํานกั ศงุลานกคาณกระทกรี่นราํ มเขกาา้ รมกาฤแษลฎว้ กี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา (๔) นาํ ไม้หรือของป่าที่รับซือ้ จากทางราชการป่าไม้ ไปจากทท่ี ่ไี มห้ รือของปา่ นั้นอยู่ สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ๒๕ มาตรา ๓๕ แกไ้ ขเพ่มิ เติมโดยพระราชบัญญัติป่าไม้ (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๔๙๔ สํานักงานคณะกรรมการก๒๖ฤษมาฎตกี ราา ๓๘ แก้ไขเพม่ิ สเําตนมิ กั โดงายนพครณะระากชรบรญั มญกาตั รปิ ก่าฤไษม้ฎ(ฉกี บาบั ที่ ๕) พ.ศ. ๒ส๕ํา๑น๘ักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า

- ๑๑ - สาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกมฤาษตฎรากี า๓๙ ผู้ใดนําไสมํา้หนรกั ืองาขนอคงณปะ่ากเครรลมื่อกนารทกี่ ฤตษ้อฎงมีกาีใบเบิกทางขอสงพาํ นนักักงงานานคณเจะ้ากหรนรม้ากทาี่ รกฤษฎีกา กํากบั ไปด้วยตามข้อกาํ หนดในกฎกระทรวง สาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา มาตรา ๓๙ ทวิ๒๗ ผู้รับอนุญาตตั้งโรงงานแปรรูปไม้ หรือผู้รับอนุญาตตั้งโรงค้าไม้ สาํ นักแงปานรครณูปะอกรารจมอกอากรกหฤนษังฎสีกือากํากับไม้แปรสรํานูปกั เงพาื่อนใคหณ้บะุคกรครลมใกดานรกําฤไษมฎ้แีกปารรูปเคล่ือนทส่ีจําานกักสงาถนาคนณทะ่ีทกี่ไรดรม้รกับารกฤษฎีกา อเงน่ือุญนไาขตทขี่ออธงิตบนดไีกปสรยาํมนังปสัก่างถไาามนน้กคทําณหี่อะนีกกแดรรหมห่งกนหาังนรสก่ึงือฤไดกษ้ําฎเกมีกับา่ือไอมธ้แิบปดรีกรรูปมใปหส่า้ใําไชนม้แัก้ไบงดาบ้สนท่ังคอี่อณนธะุญิบกดรารีตกมใรกหมา้กปรรก่าะฤไมทษ้กําฎเําีกชหา่นนนดั้นแไดล้ตะาใหม้ สํานกั ถงือานเสคมณอื ะนกหรรนม่ึงกเปารน็ กใฤบษเฎบีกิกาทางของพนักสงาํานนักเจงา้านหคนณ้าทะก่ตี รารมมมกาารตกรฤาษ๓ฎ๙ีกา สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สมําานตักรงาาน๓คณ๙ะกตรรรี๒ม๘กาผรกู้ใดฤษนฎําีกไมา้สักท่ีเคยอยสู่ในํานสกั ภงาานพคเปณ็นะกสริ่งรปมลกาูกรสกรฤ้าษงฎหีกราือเคยอยู่ใน สภาพเป็นเครื่องใช้ และพ้นจากสภาพเป็นส่ิงปลูกสร้างหรือเครื่องใช้มาแล้วกว่าห้าปี เคล่ือนย้ายออก สํานกั นงอานกคเณขตะกจรังรหมวกัดารกซฤ่ึงษเปฎ็กีนาท่ีต้ังส่ิงปลูกสสรําน้ากังหงารนือคเณปะ็นกทรรี่ปมรกะารกกอฤบษเฎคกี ราื่องใช้นั้น ต้อสงําไนดัก้รงับาอนคนณุญะากตรรจมากการกฤษฎีกา พนกั งานเจา้ หน้าท่ี แตไ่ มต่ อ้ งเสยี ค่าธรรมเนียม สกาํ านรกั องานนุญคณาตะกตรารมมวกรารรกคฤหษนฎึ่งกี าให้เป็นไปตาสมํารนะกั เงบาียนคบณทะี่อกธริบรมดกีการรมกฤปษ่าฎไมีกา้กําหนดโดย อนมุ ัตริ ฐั มนตรี ระเบยี บดังกลา่ วจะกาํ หนดเงอ่ื นไขให้ผรู้ ับอนญุ าตปฏบิ ัติตามด้วยกไ็ ด้ สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สมาํ านตักรงาาน๔ค๐ณ๒ะ๙กรรผมู้ใดกานรํากไฤมษ้หฎรีกือาของป่าเคลื่อนสําทน่ีเกัขง้าาเนขคตณด่าะกนรปร่ามไกมา้ รตก้อฤงษแฎจกี ้งาต่อพนักงาน เจ้าหน้าที่ประจําด่านป่าไม้นั้นโดยแสดงใบเบิกทางกํากับไม้หรือของป่า หรือหนังสือกํากับไม้แปรรูปท่ี สํานกั นงําานมคาณนะ้ันกรแรมลก้วาแรตก่ฤกษรฎณีกี าภายในกําหนสําดนหกั ้างาวนันคนณับะแกรตร่วมันกทารี่เกขฤ้าษเฎขกีตาด่าน เมื่อพนสักาํ นงาักนงาเนจค้าณหะนก้ารทรมี่ไกดา้ รกฤษฎีกา ตรวจสอบและอนุญาตเปน็ หนังสอื ใหผ้ ่านด่านได้แลว้ จึงใหน้ ําไมห้ รือของปา่ นนั้ ไปได้ สกําานรกั องนานญุ คาณตะนก้นั รรใมหก้พารนกกั ฤงษาฎนีกเจาา้ หน้าท่ปี ฏบิ สตั ําโิ นดักยงมาิชนักคชณ้าะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นักงานคณะกรรมการกมฤาษตฎรีกาา๔๑ ห้ามมิใสหํา้ผนู้ใักดงนานําคไมณ้หะกรือรรขมอกงาปรก่าฤเคษลฎื่อีกนา ท่ีผ่านด่านปส่าําไนมัก้ในงารนะคหณวะ่ากงรเรวมลกาารกฤษฎกี า ต้ังแต่พระอาทิตยต์ กถงึ พระอาทิตยข์ ึน้ เว้นแตจ่ ะไดร้ ับอนญุ าตจากพนักงานเจ้าหนา้ ที่เปน็ หนงั สือ สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า มาตรา ๔๒ บทบัญญตั ิแหง่ สองมาตรากอ่ น มิให้ใช้บงั คับในกรณีตอ่ ไปนี้ สาํ นักงานคณะกรรมการก(๑ฤ)ษเฎมีกอ่ื ามขี อ้ กาํ หนดอสยําน่างักองา่นื นใคนณสัมะกปรทรมานกาใรบกอฤษนฎุญีกาาตหรอื ใบเบกิ ทสาาํ งนักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า ส(๒ําน)ักเงมาอื่นทคบณวะงกกรรามรเกมาือรกงใฤดษฎไดกี ้ตา กลงกบั กรมปสํา่านไมกั ้ไงวานเ้ ปคน็ ณอะยกา่รงรอมื่นการกฤษฎกี า (๓) เมื่อเป็นการกระทําของผู้ได้รับอนุญาตทําการเก็บไม้ไหลลอยได้เก็บไว้เพ่ือส่งไป สาํ นักยงังาพนคนณกั งะากนรรเจมา้กหารนก้าฤทษป่ี ฎรกี ะาจาํ สถานีตรวจสํารนับักแงลาะนรคักณษะากไรมร้ไมหกลารลกอฤยษตฎาีกมาความในพระรสาาํ ชนบักญังาญนคัตณนิ ะี้ กรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกาส่วนที่ ๒ สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา การควบคมุ ไมใ้ นลาํ น้าํ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ๒๗ มาตรา ๓๙ ทวิ เพ่มิ โดยพระราชบัญญตั ปิ า่ ไม้ (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๐๓ ส๒ํา๘นมักางตารนาคณ๓๙ะกตรรรีมเกพา่ิมรโกดฤยษปฎระีกกาาศของคณะปสฏําิวนัตักิ ฉงาบนับคทณี่ ๑ะก๑ร๖รมลกงาวรันกทฤี่ ษ๑ฎ๐ีกเามษายน พ.ศ. ๒๕๑๕ สาํ นักงานคณะกรรมการก๒๙ฤษมาฎตีกราา ๔๐ แก้ไขเพิม่ สเําตนมิ ักโดงายนพครณะระากชรบรัญมญกาตั รปิ ก่าฤไษม้ฎ(ฉีกบาบั ท่ี ๔) พ.ศ. ๒ส๕าํ๐น๓ักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

- ๑๒ - สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา มาตรา ๔๓ ให้รัฐมนตรีมีอํานาจกําหนดเขตควบคุมไม้ในลําน้ําโดยประกาศในราช กิจจานเุ บกษา สาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา ภายในเขตที่รัฐมนตรีกําหนดตามความในวรรคก่อน ห้ามมิให้ผู้ท่ีมิใช่เจ้าของไม้หรือ สํานักไงดา้รนับคอณาํ ะนการจรมจากการเจกฤ้าขษอฎงกี ไาม้เกบ็ ไม้ไหลลสอํายนักเงวา้นนแคตณจ่ ะะกไรดรร้ มบั กอารนกุญฤาษตฎจกี าากพนกั งานเจ้าสหาํ นนัก้างทาี่นคณะกรรมการกฤษฎีกา สมาํ านตักรงาาน๔ค๔ณะกผรู้รรบั มอกนารญุ กาฤตษเฎกกี็บาไม้ไหลลอย ตส้อํางนทักํางกานาครเณกะ็บกแรลรมะกรัการษกาฤไษมฎ้ตีกาามข้อกําหนด สํานักใงนากนฎคกณระะกทรรรมวกงารกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เม่อื ผ้รู ับอนญุ าตเกบ็ ไมไ้ หลลอยได้แล้ว ให้มอบแก่พนักงานเจา้ หนา้ ท่ีโดยมิชกั ช้า สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา มาตรา ๔๕ ทุกปีในเดือนกุมภาพันธ์ และเดือนสิงหาคม เมื่อมีไม้ไหลลอยมาตกอยู่ สํานักใงนาคนวคาณมะคกรรอรมบกคารรอกงฤขษอฎงีกพานักงานเจ้าหสนํา้านทัก่ีงใาหน้พคณนักะกงรารนมเกจา้ารหกนฤ้าษทฎี่ปีการะกาศโฆษณาสใาํ หน้เักจง้าาขนอคณงเะรกียรกรเมอกาารกฤษฎีกา ภายในเวลากาํ หนด แตม่ ิใหก้ ําหนดน้อยกว่าเก้าสบิ วัน นับแต่วนั ประกาศ สพาํ นนักักงงาานนคเณจะ้ากหรรนม้ากทาี่มรกีอฤําษนฎากี จาสั่งให้คืนไม้ไสหําลนักลงอายนใคหณ้แะกกร่ผรู้ทม่ีอกา้ารงกสฤิทษธฎิใกี นาไม้นั้น เมื่อ พนักงานเจา้ หนา้ ทพ่ี อใจในหลักฐานท่ีผู้น้ันนํามาแสดง ถ้าพนักงานเจ้าหน้าท่ีสั่งเป็นอย่างอื่นและผู้อ้าง สํานักสงิทานธคิไมณ่พะกอรใรจมในกาครํากสฤ่ังษฎผกีู้นาั้นต้องไปร้องตส่อํานศักางลาภนาคยณใะนกกรํารหมกนาดรเกวฤลษาฎสกี าามสิบวัน นับแสตาํ่วนันักทงรานาบคณคําะกสรั่งรขมอกงารกฤษฎกี า พนกั งานเจ้าหน้าทสํา่ี นถกั้าไงมาน่รคอ้ ณงภะากยรรในมกกาํารหกนฤดษผฎนู้ีก้นัา หมดสิทธวิ ่าสกําลน่ากัวงตา่อนไคปณะกรรมการกฤษฎีกา ในกรณที พ่ี นกั งานเจ้าหน้าท่หี รือศาลมไิ ดส้ งั่ แสดงว่าผใู้ ดมีกรรมสิทธ์ิในไม้นั้นให้ไม้ตก สาํ นักเงปาน็นขคอณงะแกผรน่รมดกินารกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สมาํ านตกั รงาาน๔ค๖ณะกผรู้มรมีสกิทาธริไกดฤ้รษับฎไกีมา้คืนจากพนักงสาํานนกัเจง้าานหคนณ้าะทก่ี รตร้อมงกชาํารรกะฤคษ่าฎรีกาางวัลแก่ผู้รับ อนญุ าตเก็บไม้ไหลลอยและคา่ ธรรมเนยี มแกพ่ นักงานเจ้าหน้าทต่ี ามอัตราทก่ี ําหนดในกฎกระทรวง สาํ นักงานคณะกรรมการกในฤษกฎรณีกาีที่ไม่มีผู้มีสิทธสิไําดน้รกั ับงาไนมค้คณืนะจการกรพมกนาักรงกาฤนษเฎจีก้าาหน้าท่ี ให้พนสักาํ งนาักนงเาจน้าคหณนะ้ากทรร่ีจม่ากยารกฤษฎกี า รางวัลให้แกผ่ รู้ ับอนุญาตเก็บไมไ้ หลลอยโดยอตั ราเดียวกัน สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า หมวด ๔ สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า กสําานรคกั งวาบนคคุมณกะากรรแรปมกรารรูปกไฤมษ้ ฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สาํ นักงานคณะกรรมการกมฤาษตฎรีกาา๔๗ ให้รัฐมนสําตนรกั ีมงีอานําคนณาจะกกรํารหมนกดารทก้อฤงษทฎ่ีใีกดาให้เป็นเขตควสบาํ นคักุมงกานารคแณปะกรรรรูปมไกมา้ รกฤษฎีกา โดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา ประกาศนั้นให้ใช้บังคับได้เมื่อพ้นกําหนดเก้าสิบวัน นับแต่วัน ประกาศ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นกั งานคณะกรรมการกมฤาษตฎรีกาา๔๘ ภายในสเขํานตักคงวานบคคณุมะกการรรแมปการรรกูปฤไษมฎ้ กีหา้ามมิให้ผู้ใดแปสาํรนรักูปงไามน้คตณ้ังะโกรรงรงมากนารกฤษฎกี า แปรรูปไม้ ต้ังโรงค้าไม้แปรรูป มีไม้สัก ไม้ยาง ไม้ชิงชัน ไม้เก็ดแดง ไม้อีเม่ง ไม้พะยุงแกลบ ไม้กระพ้ี ไมแ้ ดงจีน ไมข้ ะยสงุ ําไนมกั ช้ งิกานไคมณ้กระกะรซรกิ มกไมารก้ กรฤะษซฎบิ ีกไาม้พะยงู ไมห้ มสาํากนพักลงาูตน๊ักคแณตะนกรไรมมก้ กราะรพกี้เฤขษาฎคีกวาาย ไม้เก็ดดํา สํานกั ไงมาอ้นีเคฒณ่าะกแรลระมไกมา้เรกก็ดฤเษขฎาคกี าวาย แปรรูป ไสมํา่วนา่ ักจงาํานนควณนเะทก่ารใรดมไกวา้ใรนกคฤรษอฎบกี คารอง หรือมีไมส้แาํ ปนักรรงาูปนชคนณิดะอก่ืนรรเปมก็นารกฤษฎกี า

- ๑๓ - สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า จํานวนเกิน ๐.๒๐ ลูกบาศก์เมตร ไว้ในครอบครอง เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่และ สํานักตง้อานงปคณฏบิะกัตริตรามมกขาร้อกกฤาํ ษหฎนีกดาในกฎกระทรสวํางนแักลงะาในนคกณาะรกอรนรุญมกาาตร๓ก๐ฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า เพ่ือประโยชน์แห่งความในวรรคหน่ึง ไม้ซุงหรือไม้ท่อนที่จมอยู่ในแม่นํ้าลําคลอง ใน รัศมีหา้ สบิ เมตรขสอํางนบกั รงเิ าวนณคทณที่ ะํากกรรามรกแาปรรกรฤูปษไฎมกี ้ แา ละไม่มีผู้ใดเปสํา็นนเกัจง้าาขนอคงณใะหก้สรรันมนกิษารฐกาฤนษวฎ่าเกี ปา็นไม้ที่อยู่ใน ความครอบครองของผรู้ บั อนญุ าตตัง้ โรงงานแปรรปู ไม้ท่ีมีโรงงานอยู่ในบรเิ วณน้ัน สาํ นักงานคณะกรรมการกคฤวษาฎมกี ใานวรรคหนึ่งสําในหัก้งหานมคาณยะคกวรรามมกราวรกมฤถษึงฎกีกาา รกระทําแกส่ไํานมัก้ทง่ีนานําคเณขะ้ากมรรามใกนารกฤษฎกี า ราชอาณาจักรดว้ สยํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นักงานคณะกรรมการกมฤาษตฎรากี า๔๙๓๑ ผูข้ อรสบั ําอนนกั ญุงาานตคตณั้งะโกรรงรงมานกาแรปกรฤรษปู ฎไกี มา้โดยใชเ้ คร่ืองจสกั าํ รนกักลงาตนอ้ คงณะกรรมการกฤษฎกี า (๑) เปน็ เจ้าของ และ ส(าํ๒น)ักไงมาน่เคคยณตะ้อกงรรรมับกโทารษกจฤําษคฎุกกี โาดยคําพิพากษสําานถกั ึงงทา่ีสนุดคณใหะ้จกํารรคมุกกาเวรก้นฤแษตฎ่คกี วาามผิดท่ีเป็น ลหุโทษหรอื ความผดิ อนั ได้กระทําโดยประมาท หรอื สํานกั งานคณะกรรมการก(๓ฤ)ษไฎมีก่เาป็นบุคคลล้มลสะําลนาักยงานหครณือะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า (๔) ไมอ่ ยู่ในระหว่างถูกส่ังพักใช้ใบอนุญาต หรือไม่เคยถูกเพิกถอนใบอนุญาตซึ่งออก ตามความในหมวสดาํ นนัก้ี หงารนือคใณบอะกนรุญรมากตาทรกําไฤมษ้ ฎใกีบาอนุญาตผูกขาสดํานทกั ํางไามน้ คหณรืะอกสรัมรปมกทาารนกทฤษําฎไมกี ้าซ่ึงออกตาม ความในพระราชบญั ญตั นิ ี้ สํานกั งานคณะกรรมการกในฤษกฎรีกณาีผู้ขอรับอนุญสาํานตกัตง้ังาโนรคงณงาะนกรแรปมรกรารูปกไฤมษ้เฎปีก็นานิติบุคคล หุ้นสําสน่วักนงาผนู้จคัดณกะากรรหรมรกือารกฤษฎีกา กรรมการผูจ้ ดั การสขาํ นอกังนงาิตนิบคุคณคะลกนรรน้ั มตก้อารงกไมฤม่ษลีฎักีกษา ณะตอ้ งห้ามสตําานมักง(๒าน)ค(ณ๓)ะกหรรรอืมก(๔าร)กฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกมฤาษตฎรีกาา๔๙ ทวิ๓๒ ผสู้รําันบกัองนานุญคาณตะตก้ังรโรรมงกงาารนกแฤปษฎรรีกูปา ไม้ต้องรับผิดสชาํ นอักบงใานนกคณาระดกํรารเนมกินารกฤษฎีกา กิจการเก่ยี วกบั แปรรูปไมต้ ามทีต่ นไดร้ ับอนญุ าต สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา มาตรา ๕๐๓๓ บทบัญญัติแหง่ มาตรา ๔๘ มใิ หใ้ ชบ้ งั คบั ในกรณีดังต่อไปน้ี สาํ นกั งานคณะกรรมการก(๑ฤ)ษกฎาีกรากระทําเพยี งเสลํา่อืนยักงตานัดคลณิดะกขรุดรมหกราอื รถกฤากษซฎ้อกี มา ไม้ เพอื่ ทําเปส็นําซนุงักทงา่อนนคณไมะ้เกหรลรมี่ยกมารกฤษฎีกา โกลน มาดเรือโกลน เสาถาก หรือหมอนรถ หรือเพ่ือทําไม้ฟืน หรือทําไม้เผาถ่าน หรือเลื่อยผ่าเพียง เพ่อื ความจําเป็นใสนํากนาักรงชานกั คลณากะกใรนรเมมกอ่ื าพรกนฤักษงฎากีนาเจ้าหน้าที่ระบสุไําวน้ใกั นงใาบนอคนณุญะการตรทมํากไามรก้ใหฤษ้กรฎะกี ทา ําการนั้น ๆ ได้ และผ้รู บั อนญุ าตได้กระทาํ การน้นั ๆ ก่อนนําไม้เคลือ่ นท่จี ากบรเิ วณตอไม้ สํานกั งานคณะกรรมการก(๒ฤ)ษกฎาีกราแปรรปู ไม้ทีแ่ สปํารนรักปู งามนาคแณละว้ กจรารกมไกมาซ้ รุงกหฤรษอื ฎไีกมา้ท่อน ท่มี ใิ ช่เพส่ือํากนาักรงคานา้ คณะกรรมการกฤษฎกี า ส(าํ๓น)ักกงาานรคมณีไมะ้แกรปรรมรกูปารไวก้ใฤนษคฎรกี อาบครองที่มิใชส่เําพนื่อกั กงาานรคคณ้าะโกดรยรมมกีหาลรกักฤฐษาฎนกีแาสดงว่าได้ไม้ น้ันมาโดยชอบดว้ ยพระราชบัญญตั ิน้ี สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า ๓๐ มาตรา ๔๘ วรรคหนงึ่ แกไ้ ขเพ่ิมเติมโดยประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับท่ี ๑๐๖/ ๒๕๕๗ เรอื่ ง แกไ้ ขเสพาํม่ิ นเตักิมงากนฎคหณมาะยกวร่ารดมว้ กยาปรา่กไฤมษ้ ลฎงีกวานั ที่ ๒๑ กรกฎาสคํามนพกั งุทาธนศคักณราะชกร๒ร๕ม๕ก๗ารกฤษฎกี า ๓๑ มาตรา ๔๙ แก้ไขเพ่ิมเติมโดยประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับท่ี ๑๑๖ ลงวันท่ี ๑๐ เมษายน สาํ นกั พง.าศน.ค๒ณ๕ะ๑ก๕รรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ๓๒ มาตรา ๔๙ ทวิ เพิ่มโดยประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับท่ี ๑๑๖ ลงวันที่ ๑๐ เมษายน พ.ศ. ๒๕๑๕ สาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า ๓๓ มาตรา ๕๐ แก้ไขเพ่ิมเติมโดยประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับท่ี ๑๑๖ ลงวันที่ ๑๐ เมษายน สํานักพง.าศน.ค๒ณ๕ะ๑ก๕รรมการกฤษฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

- ๑๔ - สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า (๔) การแปรรูปไม้หรือมีไมแ้ ปรรูปไวใ้ นครอบครองทม่ี ใิ ช่ไมห้ วงห้าม สํานักงานคณะกรรมการก(๕ฤ)ษฎกีกาารแปรรูปไม้โดสยํานใชกั ้แงารนงคคณนะทก่ีมรริใชม่กเพารื่อกกฤาษรฎคกี ้าา จากไม้หวงหส้าาํ มนทักง่ียาังนมคิไณดะ้แกปรรรมรกูปารกฤษฎกี า โดยมีหลักฐานแสดงว่าได้ไมน้ น้ั มาโดยชอบดว้ ยพระราชบัญญตั ิน้ี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า มาตรา ๕๑๓๔ ผู้รบั อนุญาตตามความในหมวดน้ี จะมีไม้ไวใ้ นครอบครองในสถานที่ท่ี สํานกั ไงดาร้นบั คอณนะญุกรารตมขกอางรตกฤนษไดฎแ้ีกตา ่เฉพาะไมอ้ ยสา่ ํางนใดักองายน่าคงณหนะกึ่งรดรมังตกอ่ารไกปฤนษี้ ฎกี า สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า อนุญาตให้ทําการส(แาํ๑นป)กั รไงรมาูปน้ทคไ่ีไดณด้ก้ะช่อกํานรรรชะมําคกร่าาะรภคกาฤ่าคษภหฎาลคกี วาหงลแวลงะแคล่าะบคํา่ารสบุงําําปนรกั่าุงงเปสา่านรค็จโณดสยะ้ินกมแรีหลรนม้วกังหาสรรือกืออฤถนษ้าุญฎเกีปาาต็นขไมอ้ทงอี่ไดธิบ้รับดี สาํ นักกงรามนคปณา่ ไะมก้ รแรลมะกมารีรกอฤยษตฎรกีาาอนุญาตประทสบั ําไนวกั แ้ งลาน้วคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา (๒) ไม้ที่ได้รับอนุญาตให้ทําโดยไม่ต้องเสียค่าภาคหลวง และพนักงานเจ้าหน้าที่ได้ ประทับตราแสดงสวํา่านเปักงน็ าไนมคท้ ณท่ี ะํากไรดร้โมดกยาไรมก่ตฤ้อษงฎเกีสายี คา่ ภาคหลวงสไําวน้แกั ลง้วานคณะกรรมการกฤษฎีกา (๓) ไม้ท่ีได้รับซ้ือจากทางราชการป่าไม้ ซึ่งพนักงานเจ้าหน้าท่ีได้ประทับตรารัฐบาล สาํ นกั ขงาายนไควณ้แะลกว้ รรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา (๔) ไม้แปรรูปของผู้รับอนุญาตตามความในหมวดนี้ และมีหนังสือกํากับไม้แปรรูป ของผูร้ บั อนุญาต สหาํ รนอื ักใงบานเบคกิ ณทะากงรขรอมงกพารนกักฤงษาฎนกี เาจ้าหนา้ ทกี่ ํากับสําไนว้เกั ปง็นานหคลณกั ะฐการนรมการกฤษฎีกา (๕) ไมท้ ีน่ ําเขา้ มาในราชอาณาจกั ร และมีใบเบิกทางตามมาตรา ๓๘ (๓) กาํ กบั สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สมาํ านตกั รงาาน๕ค๒ณะกหร้ารมมมกใิาหรก้ผฤู้รษับฎอีกนาญุ าตทาํ การแสปํารนรักูปงไามน้ใคนณระะกหรวร่ามงกเาวรลกาฤตษ้ังฎแกี ตา่พระอาทิตย์ ตกถงึ พระอาทิตยข์ ้ึน เวน้ แตจ่ ะไดร้ บั อนญุ าตจากพนกั งานเจ้าหน้าท่เี ปน็ หนังสือ สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา มาตรา ๕๓ เพื่อท่ีจะดูว่าผู้รับอนุญาตตามความในหมวดนี้ได้ปฏิบัติถูกต้องตาม พระราชบัญญัตินส้ีหาํ รนือกั ไงมาน่ พคนณักะงการนรมเจก้าาหรกนฤ้าษทฎ่ีมกี ีอาํานาจตรวจกสาํารนแักปงรารนูปคไณมะ้ กแรลระมกกิจารกกาฤรษขฎอีกงผา ู้รับอนุญาต ได้ ผู้รบั อนญุ าตตอ้ งอํานวยความสะดวกและตอบคาํ ถามแกพ่ นักงานเจา้ หน้าที่ในการน้ี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า มาตรา ๕๓ ทวิ๓๕ ให้รัฐมนตรีมีอํานาจกําหนดท้องท่ีเป็นเขตควบคุมสิ่งประดิษฐ์ เคร่อื งใช้ หรือสิง่ อสน่ืํานใดกั บงารนรคดณาทะกที่ ราํรดม้วกยารไกมฤห้ ษวฎงหกี าา้ ม โดยประกสาศํานในกั งราานชคกณจิ ะจการนรเุมบกกาษรกาฤษฎกี า ในการกําหนดตามวรรคหน่ึง ให้รัฐมนตรีกําหนดชนิดไม้ ขนาดหรือปริมาณของ สํานกั สง่ิงานปครณะดะกิษรฐร์มเกคารรื่อกงฤใษชฎ้ กีหารือสิ่งอื่นใดบสรํารนดักางาทน่ีทคําณดะ้วกยรรไมมก้หาวรงกหฤ้ษามฎซีกาึ่งผู้ค้าหรือมีไวส้ใาํ นนคักงราอนบคคณระอกรงรเพมกื่อารกฤษฎกี า การค้าที่จะต้องขอสําอนนกั ญุ งาานตคตณามะกมรารตมรกาาร๕ก๓ฤษตฎรีกี าหรอื มาตรา ๕ส๓ํานจักัตงวานาคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกมฤาษตฎรีกาา๕๓ ตรี๓๖ ภสาํายนใกั นงเาขนตคคณวะบกรครุมมกหา้ารกมฤมษิใหฎีก้ผาู้ใดค้า หรือมีไสวํา้ในนักคงราอนบคณคระอกรงรเพมกื่อารกฤษฎีกา การคา้ ซึ่งส่ิงประดิษฐ์ เคร่ืองใช้ หรือสิ่งอื่นใดบรรดาท่ีทําด้วยไม้หวงห้ามท่ีมีชนิดไม้ ขนาดหรือปริมาณ เกินกว่าที่รัฐมนตสรกีาํ นาํ กัหงนาดนคตณามะมกรารตมรกาา๕รก๓ฤษทฎวกีิ เาว้นแต่จะไดร้ ับสํใาบนกัองนาุญนคาณตจะกากรรพมนกกั ารงกานฤษเจฎ้าีกหานา้ ที่ สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ส๓ํา๔นมกั างตารนาค๕ณ๑ะกแรกร้ไมขกเพามิ่รกเตฤิมษโดฎยีกพาระราชบญั ญตั ปิสํา่านไมกั ้ ง(ฉาบนับคทณ่ี ะ๕ก)รพร.มศก. า๒ร๕ก๑ฤ๘ษฎีกา ๓๕ มาตรา ๕๓ ทวิ เพม่ิ โดยพระราชบัญญัติปา่ ไม้ (ฉบับที่ ๕) พ.ศ. ๒๕๑๘ สํานกั งานคณะกรรมการก๓๖ฤษมาฎตกี ราา ๕๓ ตรี เพมิ่ โสดํายนพกั รงะารนาชคบณัญะกญรตั รปิ ม่ากไามร้ (กฉฤบษบั ฎทกี ี่ ๕า) พ.ศ. ๒๕๑๘สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า

- ๑๕ - สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา มาตรา ๕๓ จัตวา๓๗ ในกรณีท่ีมีประกาศของรัฐมนตรีกําหนดเขตท้องท่ีใดเป็นเขต สาํ นักคงวานบคคณมุ ตะการมรมมากตารรกาฤ๕ษ๓ฎีกทาวิ ให้ผคู้ า้ หรอื สผํานู้มกัไี วง้ใานนคคณรอะบกรครรมอกงาเรพก่ือฤกษาฎรีกคา้าซึ่งส่ิงประดิษสฐาํ น์ เักคงรา่ือนงคใณชะ้ หกรรรือมสกิ่งารกฤษฎกี า อ่ืนใดบรรดาที่ทําด้วยไม้หวงห้าม ที่มีชนิดไม้ ขนาดหรือปริมาณเกินกว่าชนิดไม้ ขนาดหรือปริมาณท่ี ควบคุมอยู่แล้วก่สอํานนวักันงาทนี่ปครณะะกการศรมขกอางรรกัฐฤมษนฎตกี ราีดังกล่าวใช้บสังําคนับักงยานื่นคคณําะขกอรรรับมใกบารอกนฤุญษฎาตีกาต่อพนักงาน เจ้าหน้าที่ภายในสามสิบวัน นบั แตว่ นั ทป่ี ระกาศของรฐั มนตรีดังกล่าวใชบ้ งั คับ สาํ นกั งานคณะกรรมการกเมฤื่อษไฎดีก้ยาื่นคําขอรับใบสําอนนักุญงาานตคตณาะมกวรรรมรกคาหรกนฤ่ึงษแฎลกี้วาให้บุคคลดังกสําลน่าักวงคา้นาหคณรือะกมรีไรวม้ใกนารกฤษฎกี า จคนรอกวบา่ คพรนอักงงเพาน่ือเกจสา้าํานหรคกันง้า้าาซทน่ึงจ่ีคสะณิ่งไะมปก่อรรนะรมดญุ กิษาาตฐร์ตกเฤาคมษรฎคื่อาํีกงขาใอช้ หรือสิ่งอ่ืนสําในดกับงรานรดคณาทะกี่ทรํารดม้วกยารไกมฤ้หษวฎงีกหา้ามได้ต่อไป สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า หมวด ๕ สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษกฎาีกราแผว้ ถางปา่ สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า มาตรา ๕๔๓๘ ห้ามมิให้ผู้ใด ก่อสร้าง แผ้วถาง หรือเผาป่า หรือกระทําด้วยประการ ใด ๆ อันเป็นการสทาํ นําลักางายนปค่าณหะกรรือรเมขก้าายรึดกถฤืษอฎหกีราือครอบครองสปํา่านเักพงื่อานตคนณเอะงกหรรรมือกผาู้อร่ืนกฤเษวฎ้นกี แาต่จะกระทํา ภายในเขตท่ีได้จําแนกไว้เป็นประเภทเกษตรกรรม และรัฐมนตรีได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาหรือ สาํ นกั โงดายนไคดณ้ระับกใรบรอมนกุญารากตฤจษาฎกกี พานักงานเจ้าหนสํา้านทกั ี่ งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สกาํ านรกั ขงอานอคนณุญะากตรรแมลกะากรกาฤรษอฎนกีุญาาต ให้เป็นไปสตํานากัมงหานลคักณเกะณกรฑร์มแกลาะรเกงฤ่ือษนฎไกีขาที่กําหนดใน กฎกระทรวง สาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า มาตรา ๕๕ ผู้ใดครอบครองป่าท่ีได้ถูกแผ้วถางโดยฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติแห่งมาตรา ก่อน ใหส้ ันนิษฐาสนําไนวกัก้ ง่อานนวค่าณบะคุกครรลมนก้ันาเรปก็นฤษผฎูแ้ ีกผาว้ ถางปา่ น้ัน สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานหคมณวะดกร๖รมการกฤษฎกี า สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า เบด็ เตลด็ สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกมฤาษตฎราีกา๕๖ ใบอนุญสาําตนทกั ่ีไงดาน้อคอณกะใกหร้ตรามมกคารวกาฤมษใฎนีกพาระราชบัญญัตสินาํ นี้ จักะงาโนอคนณไดะ้ตกร่อรเมมกื่อารกฤษฎกี า ได้รับอนญุ าตจากสพํานนกัักงงาานนคเจณา้ ะหกนรรา้ มทก่ี ารกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า ถ้าผู้รับอนุญาตตาย ทายาทหรือผู้จัดการมรดกจะทําการแทนตามใบอนุญาตน้ัน สํานักตง่อานไคปณกะ็ไกดร้ รแมตก่ตา้รอกงฤไษมฎ่เกีกินา เก้าสิบวันนสับําแนตกั ง่วาันนผคู้รณับะกอรนรุญมกาาตรตกฤาษยฎแีกลา ะถ้าทายาทสหํารนือักผงาู้จนัดคกณาะรกมรรรมดกการกฤษฎกี า ประสงค์จะทําการแทนต่อไปอกี ต้องยนื่ คําขออนุญาตก่อนกาํ หนดเวลาที่กล่าวแลว้ ได้สิ้นสุดลง สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา มาตรา ๕๗ ผู้รับอนุญาตตามพระราชบัญญัตินี้ ต้องจัดให้คนงานหรือผู้รับจ้างซึ่งทํา สาํ นกั กงาารนตคาณมะทกไี่รดรมร้ บักาอรนกญุฤษาฎตกีมาีใบค่มู ือแสดงฐสาํานนะักงเชาน่นคนณั้นะกตรารมมแกบาบรกทฤ่ีกษําฎหกี นาดในกฎกระทสราํวนงักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา ๓๗ มาตรา ๕๓ จตั วา เพิ่มโดยพระราชบญั ญตั ิป่าไม้ (ฉบบั ที่ ๕) พ.ศ. ๒๕๑๘ สาํ นักงานคณะกรรมการก๓๘ฤษมาฎตกี ราา ๕๔ แกไ้ ขเพ่มิ สเําตนมิ ักโดงายนพครณะระากชรบรญั มญกาตั ริปก่าฤไษม้ฎ(ฉกี บาบั ที่ ๕) พ.ศ. ๒ส๕ํา๑น๘ักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

- ๑๖ - สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา มาตรา ๕๘๓๙ การขออนุญาตและการอนุญาตตามพระราชบัญญัติน้ี ให้เป็นไปตาม สํานกั หงาลนักคเณกะณกฑรร์ มวกิธาีกรากรฤษแฎลีกะาเงื่อนไขที่กําสหํานนักดงาในนคกณฎะกกรระรมทกราวรงกฤแษลฎะีกใานกรณีเฉพาสะําเนร่ืักองงานถค้าณรัะฐกมรนรมตกราี รกฤษฎกี า เหน็ สมควร จะกาํ หนดให้ผูร้ ับอนญุ าตปฏบิ ตั เิ พ่มิ เตมิ ประการใดอีกก็ได้ สพาํ นนกัักงงาานนคเจณ้าะหกนรรา้ มทกี่มาีอรกาํ ฤนษาฎจสีกาั่งต่ออายใุ บอนสญุ ํานาักตงทา่อีนอคกณตะกามรรคมวกาามรใกนฤพษรฎะีกราาชบัญญัตินี้ ได้เมือ่ เห็นสมควร สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สัมปทาน การอนสมุญําานาตกั ตรงใาาหน๕้ผค๘ูกณขะทกาวดริ๔ร๐มหกรใาือนรกกกาฤรรษณอฎีกนกี าุญาราทตําทไมํา้หไมว้หงหวส้างํามหน้าหักมงรเาือพนเื่อคกณก็บาะหรกาครขร้าอมใงนกปาเรข่ากหตฤปวษง่าฎหสกี้างามวโนดแยหก่งาชราใหต้ิ สาํ นักหงรานือคปณ่าทะก่ไี ดรร้เตมรกียารมกกฤาษรฎกีกําาหนดเป็นป่าสสงําวนนกั แงหาน่งชคาณตะิกหรรรือมทกาี่ไรดก้กฤําษหฎนีกดาโครงการทําไสมาํ้หนรักืองเากน็บคหณาะขกอรรงมปก่าารกฤษฎีกา ไวแ้ ลว้ หรอื การอนญุ าตตามมาตรา ๑๓ มาตรา ๑๘ หรอื มาตรา ๕๔ รฐั มนตรมี ีอํานาจกําหนด ส(าํ๑น)ักใงหาน้ผคู้รณับะสกัมรปรมทกาานรกหฤรษือฎผกีู้ราับอนุญาต ทําสกํานารักบงาํานรคุงณปะ่ากหรรรมือกปารลกูกฤสษรฎ้าีกงาสวนป่าตาม คําส่ังและวธิ กี ารทพี่ นักงานเจ้าหน้าทกี่ าํ หนด หรือ สํานักงานคณะกรรมการก(๒ฤ)ษใฎหกี ผ้ ารู้ ับสมั ปทานหสํารนอื ักผงรู้ าับนอคนณุญะการตรอมอกการคก่าฤใษชฎ้จกี่าายเพื่อให้พนักงสาํานนเักจง้าาหนนค้าณทะี่ทกรํารกมากรารกฤษฎกี า บํารุงป่า หรือปลูกสร้างสวนปา่ ให้แทน สใาํนนกกั รงณานีตคาณมะก(ร๒ร)มใกหาร้คกิดฤคษ่าฎใีกชา้จ่ายได้ไม่เกินสหํานกักเทงา่านขคอณงะคก่ารภรมาคกาหรลกวฤงษฎหีกราือตามอัตรา พ้ืนที่ป่าท่ีได้รับสัมปทานหรือรับอนุญาต ไม่เกินไร่ละหน่ึงพันสองร้อยบาท ท้ังน้ี ตามท่ีรัฐมนตรี สํานกั เงหาน็นสคมณคะวกรรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สมําานตักงราานค๕ณ๙ะ๔ก๑รรมใกหา้พรกนฤักษงฎาีกนา เจ้าห น้าที่ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา อ อกต า ม มีอํานาจสั่งพักใช้ใบอนุญาตท่ี สาํ นักพงรานะคราณชะบกัญรรญมกัตาินร้ไีกดฤด้ ษงั ฎตีก่อาไปนี้ สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา (๑) เม่ือปรากฏว่าผู้รับอนุญาตฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติน้ี กฎกระทรวง ข้อกสําํานหกั นงดานหครณือเะงก่ือรนรมไขกใานรกกฤาษรอฎนีกาุญาต หรือไม่ปสฏํานิบักัตงิตานาคมณคําะกสรั่งรขมอกงาพรนกฤักษงฎานกี เาจ้าหน้าที่ซึ่ง ส่งั ตามพระราชบัญญตั นิ ี้ จะสง่ั พักใช้ใบอนญุ าตได้ไม่เกนิ หน่ึงร้อยยสี่ บิ วัน สาํ นกั งานคณะกรรมการก(๒ฤ)ษเฎมีก่ือามกี ารฟอ้ งผรู้ สับําอนนักุญงาานตคตณ่อะศการลรมว่ากไาดรก้กฤรษะทฎีกาํ คา วามผิดตามพสราํ ะนรักางชานบคัญณญะกัตรินร้ี มจกะารกฤษฎีกา ส่ังพกั ใชใ้ บอนญุ าตไวจ้ นกวา่ จะมคี ําพิพากษาถงึ ที่สุดกไ็ ด้ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า มาตรา ๖๐ เม่ือได้มีคําส่ังของพนักงานเจ้าหน้าที่ให้พักใช้ใบอนุญาตแล้ว ผู้รับ สาํ นักองนานุญคาณตะหกรมรดมสกิาทรธกิตฤษามฎีกใบา อนุญาตนั้นสนําับนกัแงตา่วนันคณทะรการบรคมํกาาสร่ังกขฤอษงฎพกี นา ักงานเจ้าหนส้าํานทัก่ีจงนานกควณ่าะจกะรครมรกบารกฤษฎีกา กาํ หนดเวลาการพสักํานใชัก้ใงบานอคนณญุ ะากตรรหมรกือารจกนฤกษวฎ่าีกราัฐมนตรจี ะได้สส่ังําในหกั เ้ งพาิกนถคอณนะคกรํารสม่ังกพากั รใกชฤ้ใษบฎอีกนาุญาต สํานกั งานคณะกรรมการกมฤาษตฎราีกา๖๑๔๒ ในกรสณํานีทกั ี่เหงาตนุแคหณ่งะกการรรสม่ังกพารักกใฤชษ้ใบฎีกอานุญาตตามมาสตาํ รนาักง๕า๙นคปณระากกรฏรมแกกา่ รกฤษฎกี า รัฐมนตรหี รอื เมอ่ื พนกั งานเจา้ หน้าทไ่ี ด้ส่งั พกั ใชใ้ บอนญุ าตตามมาตรา ๕๙ แล้ว ถ้ารัฐมนตรีเห็นสมควร จะสงั่ เพกิ ถอนใบอสนํานุญกั างตานทคีอ่ ณอะกกตรารมมพการระกรฤาษชฎบีกัญาญัตินี้เสียก็ไดส้ ํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ๓๙ มาตรา ๕๘ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญตั ิปา่ ไม้ (ฉบบั ที่ ๕) พ.ศ. ๒๕๑๘ ส๔ํา๐นมกั างตารนาค๕ณ๘ะกทรวริ มเพกิ่มาโรดกยฤพษรฎะกีราาชบญั ญัติป่าไม้ส(ฉํานบกัับงทา่ี น๕ค) ณพ.ะศก.ร๒ร๕ม๑กา๘รกฤษฎกี า ๔๑ มาตรา ๕๙ แก้ไขเพิ่มเติมโดยประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ ๑๑๖ ลงวันที่ ๑๐ เมษายน สํานกั พง.าศน.ค๒ณ๕ะ๑ก๕รรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

- ๑๗ - สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา ในกรณีที่ผู้รับอนุญาตต้ังโรงงานแปรรูปไม้โดยใช้เครื่องจักรกล หรือผู้กระทําการ สํานกั แงทานนคนณิตะิบกุครรคมลกผาู้รรับกฤอษนฎุญกี าาต ไม่มีลักษณสะําตนาักมงามนาคตณระาก๔รร๙มก(๑าร)กหฤรษือฎเกี ปา็นผู้มีลักษณะสตํา้อนงักหง้าามนคตณามะกมรารตมรกาารกฤษฎีกา ๔๙ (๒) (๓) หรอื (๔) แล้วแต่กรณี ใหร้ ฐั มนตรสี ั่งเพิกถอนใบอนุญาต สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า มาตรา ๖๑ ทวิ๔๓ คําส่ังพักใช้ใบอนุญาตหรือคําส่ังเพิกถอนใบอนุญาต ให้ทําเป็น สํานกั หงนานงั คสณอื แะกจรง้ รใมหก้ผาูถ้ รูกกสฤงั่ษพฎักีกใาชห้ รอื เพิกถอสนําในบักองนานุญคาณตะรกบั รทรมรากบารกฤษฎกี า สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา คาํ สัง่ ตามวรรคหนสใําึ่งนนกใกั หรง้ปณานิดีทคค่ีพณาํ นสะกักงั่ ใรงนรามทนก่เีเปจาร้าดิ กหเฤผนษย้าฎเทหีก่ีไน็ามไ่อดา้งจา่ ยใหณ้ผู้ถสูกถสสาํา่ังนนพักทักง่ีทใาชนําก้หคาณรรือะตเกพารมริกมใถบกออานรนกใญุบฤอาษตนฎกีุญหาารตือรทับ่ีอทยรู่ขาอบง สํานักผงู้ถานูกคสณ่ังพะกักรใรชม้หกราือรกเพฤษิกฎถีกอานใบอนุญาต สเํมาน่ือกั ไงดา้ปนฏคณิบะัตกิตรารมมวกิธารีนกี้แฤลษ้วฎีกใหา ้ถือว่าผู้ถูกส่ังสพาํ นักักใชงา้หนรคือณเพะกิกรถรมอกนารกฤษฎีกา ใบอนุญาตรับทราบคําสงั่ นน้ั ต้งั แตว่ นั ปดิ คําส่ัง สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา มาตรา ๖๒ ในกรณีท่ีพนักงานเจ้าหน้าที่สั่งไม่อนุญาตตามคําขอของบุคคลใดตาม สํานกั คงวานามคณในะพกรรระมรกาาชรบกฤัญษญฎัตกี ิานี้ หรือสั่งพักใสชําน้ใบกั องานนุญคณาตะกตรารมมคกวารากมฤใษนฎมกีาาตรา ๕๙ บุคคสลํานนักั้นงมานีสคิทณธิอะกุทรธรรมณกา์ รกฤษฎีกา คําสั่งของพนักงานเจ้าหน้าที่ต่อรัฐมนตรีได้ภายในกําหนดสามสิบวันนับแต่วันทราบคําส่ัง คําวินิจฉัย ของรฐั มนตรีใหถ้ ือสเาํ ปน็นกั งทาสี่นุดคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นักงานคณะกรรมการกมฤาษตฎรกีาา๖๓ ภายใตส้บํานังกัคงับานบคทณบะัญกรญรมัตกิแาหรก่งฤพษรฎะกี ราาชบัญญัติน้ี สราํัฐนบักางาลนมคีอณําะนการรจมใกหา้ รกฤษฎีกา สัมปทานในการทสาํ าํ ไนมกั ้ชงนานิดคใดณหะรกือรรเกมบ็กาหรากขฤอษงฎปีกา่ าอย่างใดในปา่ สใําดนโดกั งยามนีขคอณบะเกขรตรเมพกียางรใกดฤษแฎลกี ะาในสัมปทาน นนั้ จะให้มีข้อกาํ หนดและเงื่อนไขอย่างใดกไ็ ด้ สาํ นักงานคณะกรรมการกรัฤฐษบฎาลีกามีอํานาจให้ผู้รสับํานสกััมงปานทคาณนเะสกียรรเงมินกคาร่ากภฤาษคฎหีกลาวงตามอัตราทสํา่ีรนัฐักบงาาลนเคหณ็นะสกมรรคมวกรารกฤษฎกี า แต่ไม่เกินอัตราอย่างสูงท่ีกําหนดไว้ในพระราชบัญญัติน้ี และจะให้ผู้รับสัมปทานเสียเงินแก่รัฐบาลตาม จาํ นวนทร่ี ัฐบาลจสะาํ กนําักหงนานดคอณกี ะกก็ไรดร้ มการกฤษฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกมฤาษตฎรกีาา๖๔ ในการปสฏํานิบกั ัตงิาตนาคมณพะรกะรรรามชกบารัญกญฤษัตฎินีกี้ าที่เกี่ยวกับควาสมํานผักิดงอาานญคณาใะหก้ถรรือมวก่าารกฤษฎีกา พนักงานเจ้าหนา้ ที่เปน็ พนกั งานฝ่ายปกครองหรือตํารวจตามประมวลกฎหมายวธิ พี จิ ารณาความอาญา สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า มาตรา ๖๔ ทวิ๔๔ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอํานาจยึดบรรดาเครื่องมือ เครื่องใช้ สัตว์ สํานักพงาานหคนณะะกยรารนมพกาารหกนฤะษฎหกี ราือเครื่องจักรสกําลนใักดงาๆนคทณี่บะุคกรครลมไกดา้ใรชก้ฤหษรฎือกี มาีเหตุอันควรสสงําสนัยักงวา่านไคดณ้ใชะ้ใกนรรกมากรารกฤษฎีกา กระทําความผิดสหาํ นรกัืองเาปน็นคอณุปะกกรรรณมก์ใหาร้ไกดฤ้รษับฎผกี ลา ในการกระทสํําานคกั วงาามนคผณิดตะการมรมมากตารรกาฤษ๑ฎ๑ีกามาตรา ๔๘ มาตรา ๕๔ หรือมาตรา ๖๙ ไว้เพื่อเป็นหลักฐานในการพิจารณาคดีได้ จนกว่าพนักงานอัยการส่ัง สาํ นักเงดา็ดนขคาณดะไกมร่ฟรม้อกงาครดกีหฤรษือฎจีกนา กว่าคดีจะถึงสทําน่ีสกัุดงานทค้ังณนี้ะไกมร่วร่มาจกะารเปกฤ็นษขฎอีกงาผู้กระทําความสผํานิดักหงราือนขคอณงะผกู้มรรีเมหกตาุ รกฤษฎีกา อันควรสงสยั วา่ เป็นผูก้ ระทาํ ความผดิ หรอื ไม่ สทาํ รนัพักงยา์สนินคทณี่ยะึกดรไรวม้ตกาามรวกรฤรษคฎหีกนาึ่ง ถ้าพนักงาสนําอนัยักกงาานรคสณ่ังเะดก็ดรขรมาดกาไรมก่ฟฤ้อษงฎคกี ดาีหรือศาลไม่ พิพากษาให้ริบ และผู้เป็นเจ้าของหรือผู้ครอบครองมิได้ร้องขอรับคืนภายในกําหนดหกเดือนนับแต่วัน สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ๔๒ มาตรา ๖๑ แก้ไขเพ่ิมเติมโดยประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับท่ี ๑๑๖ ลงวันท่ี ๑๐ เมษายน พ.ศ. ๒๕๑๕ สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ๔๓ มาตรา ๖๑ ทวิ เพิ่มโดยพระราชบัญญัติปา่ ไม้ (ฉบบั ที่ ๕) พ.ศ. ๒๕๑๘ สาํ นกั งานคณะกรรมการก๔๔ฤษมาฎตีกราา ๖๔ ทวิ เพิม่ โสดํายนพักรงะารนาคชบณัญะกญรตั รปิมา่ กไามร้ ก(ฉฤบษับฎทกี ่ี ๕า ) พ.ศ. ๒๕๑๘สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า

- ๑๘ - สาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า ทราบ หรือถือว่าไดท้ ราบคาํ สัง่ เด็ดขาดไม่ฟ้องคดี หรือวันท่ีคําพิพากษาถึงทส่ี ุด แล้วแตก่ รณี ให้ตกเป็น สํานักขงอานงกครณมะปกา่รรไมม้การกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ถ้าทรัพย์สินท่ียึดไว้จะเป็นการเส่ียงความเสียหาย หรือค่าใช้จ่ายในการเก็บรักษาจะ เกินค่าของทรัพยส์สาํ ินนกั รงัฐามนนคณตระีกหรรรือมผกู้ทาร่ีรกัฐฤมษนฎตีกราีมอบหมายจะสจํานัดักกงาารนขคาณยะทกอรดรมตกลาารดกทฤษรัพฎีกยา์สินน้ัน ก่อน ถึงกําหนดตามวรรคสองกไ็ ด้ ไดเ้ งินเป็นจาํ นวนสทุ ธิเท่าใดให้ยึดไว้แทนทรัพย์สินนั้น สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า ความผิด หรือขอสมงําานผตกัู้มรงีเาาหน๖ตค๔ุอณันะตกครรวี๔ร๕รมสกใงานสรกกัยฤรวณษ่าฎเีทปีกรา็นัพผยู้กส์ รินะททีย่ ําึดคไววสต้าําามนมผักมงิดาานตใคหรณา้พะ๖นก๔ักรรงทมากวนาิ เมรจกิใ้าชฤห่เษปนฎ็น้ากี ขทาอี่โงดผยู้กอรนะุมทัตําิ สํานกั รงัฐามนคนณตระกีครืนรทมรกัพารยก์สฤินษหฎีกราือเงิน แล้วแตส่กํารนณกั งี ใาหนค้แณก่เะจก้ารขรมอกงารกก่อฤนษถฎึงีกกาําหนดตามมาสตํารนาักง๖าน๔คทณวะิกไรดร้มใกนารกฤษฎีกา กรณีดงั ตอ่ ไปน้ี ส(ํา๑น)ักเงมา่ืนอคทณรัพะกยร์สรินมกนาั้นรไกมฤ่จษําฎเกีปา็นต้องใช้เป็นสพํายนาักนงหานลคักณฐะากนรรใมนกกาารรกพฤษิจฎารกี ณา าคดีที่เป็น เหตใุ หท้ รัพยส์ ินนัน้ ถกู ยึด และ สํานักงานคณะกรรมการก(๒ฤษ) ฎเมีกื่าอผู้กระทําควสาํามนผกั งิดาหนครือณผะกู้มรีเรหมตกุอารันกคฤวษรฎสกี งาสัยว่า เป็นผสู้กาํ รนะักทงาํานคควณาะมกผรริดมไกดา้ รกฤษฎกี า ทรพั ยส์ ินน้ันมาจากผ้เู ป็นเจ้าของโดยการกระทําความผิดทางอาญา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า มาตรา ๖๕ เพื่อบําบัดปัดป้องภยันตรายซึ่งมีมาเป็นสาธารณะโดยฉุกเฉินแก่ไม้หรือ สาํ นกั ขงอานงคปณ่าใะนกรปร่ามใกดารพกฤนษักฎงกี าานเจ้าหน้าท่ีมสีอํานํานกั งาาจนสค่ังณผะู้รกับรรอมนกุญารากตฤหษฎรือกี าผู้รับสัมปทานสใาํ นนักปง่าานนั้คนณหะรกือรปรม่ากทาี่ รกฤษฎีกา ใกล้เคียง รวมท้ังสคํานนกังงาานนหครณือะผกู้รรรับมจก้าางรขกอฤษงผฎู้รีกับา อนุญาตหรือสผํานู้รกัับงสาัมนคปณทะากนรใรหม้ใกหาร้คกวฤาษมฎชีก่วายเหลือด้วย แรงงานหรือส่ิงของตามที่จําเป็นแกก่ ารนั้นได้ สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา มาตรา ๖๖ การโอนไม้หรือของป่าท่ีผู้รับอนุญาตหรือผู้รับสัมปทาน กระทําก่อนท่ี ได้ชําระคา่ ภาคหลสวํานงกั หงรานือคกณ่อนะกทรี่ไรดม้รกับาอรกนฤุญษาฎตกี จาากพนักงานเสจํา้านหักนง้าานทค่ีเปณ็นะหกรนรังมสกือารจกะฤยษกฎขีกึ้นาเป็นข้ออ้าง เพ่ือใชแ้ ก่เจ้าพนกั งานหาได้ไม่ สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า มาตรา ๖๗ ให้รัฐมนตรีต้ังด่านป่าไม้และกําหนดเขตแห่งด่านนั้น ๆ โดยประกาศใน ราชกจิ จานเุ บกษาสาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นกั งานคณะกรรมการกมฤาษตฎรากี า๖๘ บรรดาหสนํานี้คักา่ งภาานคคหณละวกงรสรํามหกรารับกไฤมษ้หฎรีกือาของป่าที่ค้างชสําาํ รนะักองายนู่ใหคณ้ถือะกวร่ารเปมก็นารกฤษฎีกา หน้ีค่าภาษีอากรทสี่ําคน้าักงงชาํานรคะณแะกก่รรัฐรบมากลารกแฤลษะฎใหีกา้รัฐบาลทรงไวส้ซํา่ึงนสักิทงาธนิทค่ีจณะะไกดร้รรับมชกําารรกะฤหษนฎี้โดีกายมีบุริมสิทธิ สามญั อย่างเดียวกบั ค่าภาษอี ากรตามบทบญั ญตั ิแหง่ ประมวลกฎหมายแพง่ และพาณิชย์ สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า หมวด ๖ ทวิ สํากนาักรงสาั่งนแคกณ้ไขะกเปรรลม่ยี กนาแรกปฤลษงฎสกีมั าปทานและกาสรสํานิน้ กั สงดุานขคอณงสะมักรปรทมากนาร๔ก๖ฤษฎีกา สาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า ส๔ํา๕นมกั างตารนาค๖ณ๔ะกตรรรี เมพก่ิมาโรดกยฤพษรฎะรีกาาชบัญญัตปิ า่ ไม้ส(ฉําบนบักั งทา่ี น๕ค) ณพ.ะศก.ร๒ร๕ม๑ก๘ารกฤษฎกี า ๔๖ หมวด ๖ ทวิ การส่ังแก้ไขเปลี่ยนแปลงสัมปทานและการสิ้นสุดของสัมปทาน มาตรา ๖๘ ทวิ สาํ นักถงึงามนาคตณราะก๖ร๘รมเอกกาารทกศฤษเพฎิม่ ีกโาดยพระราชกาํ หสนําดนแักกงไ้าขนเคพณิ่มเะตกมิ รพรรมะกราารชกบฤญั ษญฎัตีกปิาา่ ไม้ พทุ ธศกั ราสชําน๒ัก๔ง๘า๔นคพณ.ศะ.ก๒ร๕รม๓ก๒ารกฤษฎีกา

- ๑๙ - สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า มาตรา ๖๘ ทวิ ในกรณีทมี่ ีความจําเป็นตอ้ งใชพ้ ืน้ ทีใ่ ดในเขตสัมปทานเพ่ือประโยชน์ สํานักใงนากนคารณสะรก้ารงรมเขก่ือารนกชฤลษปฎรีกะาทานหรือเข่ือสนํานพักลงาังนนคํ้าณหะกรืรอรเมพกื่อากรกาฤรษปฎ้อีกงากันภัยพิบัติสาสธํานารักณงาะนคหณระือกครรวมากมารกฤษฎกี า มัน่ คงของชาติ หรือเพื่อรักษาความสมดุลของสภาพแวดล้อมหรือเพ่ือประโยชน์สาธารณะอย่างอื่น ให้ รัฐมนตรโี ดยความสเาํ หน็นักงชาอนบคขณอะงกครณรมะกราัฐรมกนฤษตฎรมีกี าอี าํ นาจสัง่ การสดํางั นตกั ่องไาปนนค้ีณะกรรมการกฤษฎกี า (๑) ให้สัมปทานท่ีมพี น้ื ท่สี ัมปทานทับพ้นื ท่ดี ังกลา่ วสน้ิ สุดลงทัง้ แปลง สํานกั งานคณะกรรมการก(๒ฤษ) ฎใหกี ้าผู้รับสัมปทานสหํานยักุดงกานาครทณําะกกริจรกมากราทรกี่ไฤดษ้รฎับีกสาัมปทานเป็นกสาาํ รนชัก่ัวงาคนรคาณวะในกรพร้ืนมกทา่ี รกฤษฎีกา ดงั กล่าวตามระยะส(เ๓ําวน)ลักาตงทัดานีเ่เหขคต็นณพสะมื้นกรคทรวดี่มรังกกาลรกา่ ฤวษออฎกกี าจากพน้ื ท่ใี นสมัสําปนทกั างนานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกกฤาษรฎสีก่ังกา ารของรัฐมนสํตานรกัีตงาามนควณรระคกหรรนมึ่งกาใรหก้มฤีผษฎลีกใชา้บังคับต้ังแต่วสันาํ นถักัดงจานาคกณวันะกทรี่อรมอกการกฤษฎกี า คําสง่ั สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า มาตรา ๖๘ ตรี นอกจากการส้ินสุดลงตามอายุของสัมปทาน หรือตามข้อกําหนด สาํ นักหงรานือคเงณื่อะนกไรขรทมกี่กาํารหกนฤษดฎไวีก้ใานสัมปทาน หสรําือนตกั งาามนบคทณบะกัญรญรมัตกิแาหรก่งฤกษฎฎหีกมาายอ่ืน สิทธิกสาํารนทักํางกาิจนกคณาระทก่ีไรดรม้รกับารกฤษฎกี า สัมปทานในเขตพ้ืนที่สัมปทานท้ังแปลงหรือบางส่วน ย่อมส้ินสุดลงเมื่อพ้ืนที่ดังกล่าวอยู่ในเขตที่ กาํ หนดให้เปน็ สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า (๑) อุทยานแห่งชาตติ ามกฎหมายว่าดว้ ยอทุ ยานแหง่ ชาติ หรือ สาํ นักงานคณะกรรมการก(๒ฤ)ษเฎขกี ตารกั ษาพันธส์ุ ตั สวํา์ปนา่ักตงาานมคกณฎะหกมรารยมวกา่ารดก้วฤยษกฎาีกรสา งวนและค้มุ คสรําอนงักสงัตานวค์ปณ่าะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา มาตรา ๖๘ จัตวา ในกรณีที่รัฐมนตรีมีคําสั่งตามมาตรา ๖๘ ทวิ หรือในกรณีท่ีสิทธิ สํานักกงาารนทคําณกะิจกกรรามรกทาี่ไรดก้รฤับษสฎัมกี ปาทานส้ินสุดลสงําตนากั มงมานาตครณาะก๖ร๘รมตกรารี หกฤรือษใฎนกี การณีท่ีสัมปทาสนําสนิ้นักสงาุดนลคงณเนะื่กอรงรจมากการกฤษฎกี า ทางราชการได้ใช้สิทธเิ พิกถอนสัมปทานเพราะเหตทุ ี่ผ้รู ับสมั ปทานไม่ปฏิบัติตามข้อกําหนดหรือเง่ือนไข ทก่ี าํ หนดในสมั ปทสาาํ นนกั บงารนรคดณาไะมกแ้รรลมะกขาอรงกปฤ่าษทฎอี่กี ยาู่ในพื้นท่ีสัมปสทําานนกั ทงา่ีสนิทคธณิกะากรรทรํามกกิจารกกาฤรษทฎ่ีไดีกา้รับสัมปทาน ส้ินสุดลง และบรรดาไม้ที่ยังมิได้เสียค่าภาคหลวงไม่ว่าจะอยู่ในพ้ืนที่สัมปทานน้ันหรือไม่ ย่อมเป็นของ สาํ นกั แงผาน่นคดณินะกแรลระมผกู้ราับรกสฤัมษปฎทกี าานจะได้สิทธิหสรําือนกกั งรารนมคสณิทะธกิ์ใรนรไมมก้หารรกือฤขษอฎงีกปา่าได้ต่อเม่ือผู้รสับาํ สนัมักงปาทนาคนณสะากมรรามรกถารกฤษฎีกา พิสูจน์ได้ว่า ตนได้ทําไม้หรือเก็บหาของป่าน้ันโดยถูกต้องตามกฎหมาย ข้อกําหนดและเง่ือนไขที่ กาํ หนดในสมั ปทาสนาํ นกกัอ่ งนาสนิทคธณิตะากมรรสมมั กปาทรกาฤนษสฎ้ินกี สาุดลง สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ในกรณีท่ีผู้รับสัมปทานประสงค์จะพิสูจน์ตามวรรคหน่ึง ให้ผู้รับสัมปทานย่ืนคําขอ สาํ นักพงิสานจู คนณต์ ะอ่ กรรัฐรมมนกตารรกภี ฤาษยฎในีกาสามสิบวนั นบั สแําตน่วักันงาทน่ีผครู้ ณับะสกมั รปรมทกาานรไกดฤร้ ษบั ฎหกี นาังสอื จากพนกั สงําานนักเงจาา้ นหคนณา้ ะทกี่ทรรี่แมจก้งารกฤษฎกี า คาํ สง่ั รฐั มนตรหี รอืสําแนจักง้ งกาานรคสณน้ิ ะสกุดรขรมอกงสารัมกปฤทษาฎนกี ตาามมาตรา ๖ส๘ํานอักัฏงฐานวครณรคะกหรนรงึ่มกแาลร้วกแฤตษ่กฎรีกณา ี วิธีการย่ืน คําขอพิสูจน์ การพิสูจน์ การพิจารณา และการส่ังการของรัฐมนตรี ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ สํานกั แงลานะคเงณื่อะนกไรขรทมก่ี กําาหรกนฤดษใฎนีกกาฎกระทรวง สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า ในกรณีท่ีผู้รับสัมปทานไม่พอใจคําส่ังรัฐมนตรี ผู้รับสัมปทานมีสิทธิฟ้องต่อศาลเพ่ือ พิสูจน์ว่าตนได้ทําสไํามน้หกั งราือนเคกณ็บะหการขรอมงกปาร่ากโฤดษยฎถีกูกาต้องตามกฎหสมํานายักงขาน้อคกณําะหกนรดรมแกลาะรเกงฤ่ือษนฎไีกขาที่กําหนดใน สัมปทานก่อนสิทธิตามสัมปทานสิ้นสุดลง แต่ทั้งน้ี ต้องยื่นฟ้องภายในกําหนดหกสิบวันนับแต่วันที่ สํานกั ไงดาร้นับคคณําะสกง่ั รขรอมงกราฐัรกมฤนษตฎรีกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สมาํ านตกั รงาาน๖ค๘ณะเกบรญรมจกาใรนกกฤรษณฎทีีกา่ีเปน็ สมั ปทานสทําํานไกัมง้ าทน่ีรคัฐณมะนกตรรรไีมดก้มาคีรกําฤสษ่งั ตฎาีกมามาตรา ๖๘ สํานักทงวานิ หครณือะสกิทรรธมิกกาารรทกําฤไษมฎ้ใีกนาเขตพื้นท่ีสัมปสทํานาักนงสาิ้นนสคุดณละกงตรรามมกมาารตกรฤาษฎ๖กี ๘า ตรี ให้ผู้รับสสัมําปนทักงาานนหคยณุดะกกรารรมทกําารกฤษฎกี า

- ๒๐ - สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ไม้ในเขตพ้ืนที่สัมปทานที่สิทธิการทําไม้สิ้นสุดลงและหยุดการนําไม้เคลื่อนที่ออกจากสถานท่ีรวม สํานกั หงมานอคนณไมะก้สรํารหมรกับารกกาฤรษตฎรกีวาจวัดคํานวณคส่าําภนาักคงหานลควณงโะดกยรรสม้ินกเาชริงกฤแษลฎะใกี หา้พนักงานเจ้าสหาํ นน้าักทงา่ีทนําคกณาระกสรํารรมวกจารกฤษฎีกา สภาพการทําไม้และสํารวจไม้ที่รวมอยู่ ณ สถานที่รวมหมอนไม้ของผู้รับสัมปทาน และทําบันทึก รายงานเสนอต่ออสาํธนิบักดงีกานรคมณปะ่ากไมรร้โมดกยาเรรก็วฤบษันฎกีทาึกรายงานดังกสลําน่าวักใงหาน้เจค้าณหะนกร้ารทม่ีรกะาบรกุขฤ้อษเทฎ็จกี าจริงเกี่ยวกับ วิธีการทําไม้ จํานวนและขนาดของไม้ และให้ความเห็นด้วยว่า ผู้รับสัมปทานได้ทําไม้โดยถูกต้องตาม สํานกั กงฎานหคมณายะกขรร้อมกกําาหรนกฤดษแฎลีกะาเงอ่ื นไขตามทสกี่ ําํานหกั นงดานไวค้ใณนะสกัมรปรมทกาานรหกฤรษอื ฎไมกี ่า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า หรือไม่ปฏิบัติตามสใํากนนฎกักหรงณามนาีทคย่ีผณลขะก้กอรการรํามสหกํานารรดวกหจฤรษตือฎาเมีกงาวื่อรนรไคขหทน่ีกึ่งําปหรนสาดํากไนฏวกั ้ใวงน่าานสผคัมู้รณปับะทสการัมนรปมแทกลาาะรนกกไาฤดรษ้ทกฎํราีกะไามท้โําดดยังฝก่าลฝ่าืนว สาํ นักเงปา็นนเคหณตะุใกหร้ทรมางกราารชกฤกษารฎมีกีสาิทธิเพิกถอนสสัมํานปักทงาานนคกณาะรกสริ้นรมสกุดาขรอกงฤสษิทฎธกี ิกาารทําไม้ตามมสาาํ นตักรงาาน๖ค๘ณทะกวริ หรมรกือารกฤษฎกี า มาตรา ๖๘ ตรี ย่อมไม่เป็นการตัดสิทธิทางราชการที่จะเพิกถอนสัมปทานโดยให้มีผลต้ังแต่วันก่อน วันท่ีสทิ ธิการทาํ ไมสํา้สนนิ้ กั สงดุานลคงณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา เมื่อผู้รับสัมปทานพิสูจน์ต่อรัฐมนตรีตามมาตรา ๖๘ จัตวา ได้ว่าตนได้ทําไม้โดย สาํ นักถงกูานตค้อณงตะากมรรกมฎกหามรกาฤยษขฎอ้ กี กาาํ หนดและเงสอ่ื ํานนไักขงทาน่กี คําหณนะกดรใรนมสกัมาปรกทฤาษนฎกีก่อานวันที่สิทธิตาสมาํ สนัมักปงาทนาคนณสะิ้นกสรรุดมลกงารกฤษฎกี า หรือเมื่อศาลได้พิพากษาเช่นนั้น ให้อธิบดีกรมป่าไม้มีหนังสือแจ้งให้ผู้รับสัมปทานทําการชักลากและ นําไม้ดังกล่าวเคลส่ือํานนกัทง่ีไาดน้ คพณร้อะกมรทร้ังมกกําาหรกนฤดษหฎลีกักาเกณฑ์ วิธีกาสรํานเงกั ่ืองนานไขคณแะลกะรรระมยกะารเวกลฤษาทฎ่ีผกี าู้รับสัมปทาน ต้องปฏิบัติไว้ด้วย ผู้รับสัมปทานผู้ใดไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไขและระยะเวลาตามที่ สํานกั องธานบิ คดณีกระกมรปรา่ มไกมาก้ ราํกหฤนษฎดดีกางั กล่าว ให้หมสดําสนทิ ักธงใิานนไคมณ้นะน้ั กรแรลมะกใาหรกไ้ มฤษน้ ฎัน้ ีกตากเป็นของแผน่ สดาํ นินักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา มาตรา ๖๘ ฉ ให้ผู้รับสัมปทานท่ีได้รับคําสั่งตามมาตรา ๖๘ ทวิ หรือผู้รับสัมปทาน สํานกั ทง่ีสานัมคปณทะากนรสรมิน้ กสาดุ รลกงฤตษาฎมีกมาาตรา ๖๘ ตรสี ําดนังกั ตงอ่ าไนปคนณ้ี ะมกีสรทิรมธกิไดารร้ กับฤเงษนิ ฎชกี ดาเชยความเสียสหําานยักตงาานมคหณละักกเรกรณมฑกา์ รกฤษฎกี า และวิธีการที่กําหนดไว้ตามมาตรา ๖๘ สัตต มาตรา ๖๘ อัฏฐ มาตรา ๖๘ นว มาตรา ๖๘ ทศ และ มาตรา ๖๘ เอกาสทําศนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา (๑) ผู้รับสัมปทานท่ีพ้ืนที่สัมปทานท้ังแปลงต้องสิ้นสุดลงตามมาตรา ๖๘ ทวิ (๑) สํานักหงรานือคมณาตะรการร๖ม๘การตกรฤี แษลฎะีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า (๒) ผู้รับสมั ปทานท่ีได้รบั คาํ สัง่ ตามมาตรา ๖๘ ทวิ (๒) หรือ (๓) หรือผ้รู ับสัมปทานที่ พื้นที่สัมปทานบาสงาํสน่วกั นงตาน้อคงณสิ้นะกสรุดรลมงกตารากมฤมษาฎตีกราา ๖๘ ตรี ทั้งสนําน้ี เกัฉงพานาะคใณนะกกรรณรมีทกี่ผารู้รกับฤสษัมฎปกี ทาานดังกล่าว ไดข้ อเวนคืนสมั ปทานทีเ่ หลือท้ังหมดของตนตอ่ ทางราชการ สํานักงานคณะกรรมการกในฤษกฎรณีกาีท่ีมีการส่ังตาสมํานมกัางตารนาคณ๖ะ๘กรทรวมิกหารรกือฤสษัมฎปีกทา านสิ้นสุดลงตสําานมักมงาานตครณา ะ๖ก๘รรมตกราี รกฤษฎกี า การเรียกรอ้ งหรอื สกําานรักใงหา้คนา่คสณินะไกหรมรมทกดาแรทกฤนษหฎรกีอื าเงนิ ชดเชยเพื่อสคํานวักางมาเนสคียณหะากยรอรยม่ากงาอรกื่นฤนษอฎกีกจาากที่บัญญัติ ไว้ในมาตราน้ี จะกระทาํ มไิ ด้ สาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา มาตรา ๖๘ สัตต เงินชดเชยความเสียหายที่ผู้รับสัมปทานมีสิทธิได้รับให้เป็นไปตาม หลักเกณฑ์ ดังต่อสไําปนนกั ี้ งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา (๑) ต้องเป็นความเสียหายท่ีเกิดข้ึนอย่างแท้จริงแก่ผู้รับสัมปทาน และเฉพาะในเรื่อง สํานักดงังาตนอ่คไณปะนก้ีรรมการกฤษฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า (ก) เงินลงทุนที่ผู้รับสัมปทานได้ใช้จ่ายไปเพ่ือการทํากิจการท่ีได้รับสัมปทาน เช่น ค่าเคร่ืองจักรสกาํ นลักคงา่านยคาณนะพการหรมนกะารคก่าฤเคษรฎื่อกี งามือ เครื่องใชส้แําลนะกั องุปานกครณณะ์ตก่ารงรมๆกาซร่ึงกผฤู้รษับฎสกี ัมาปทานยังใช้ สาํ นกั ปงรานะคโยณชะนก์รไมรม่คกุ้มาครก่าฤษทฎ้ังกีนา้ี โดยให้คํานึงสถําึงนคัก่างเาสนื่อคมณระากครรามทก่ีไาดร้หกักฤไษวฎ้แีกลา้ว ระยะเวลาสขาํอนงักสงัมานปคทณาะนกทรี่ผรมู้รกับารกฤษฎีกา

- ๒๑ - สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สัมปทานได้ใช้สิทธิการทํากิจการท่ีได้รับสัมปทานไปแล้ว จํานวนไม้หรือของป่าท่ีผู้รับสัมปทานได้ทํา สํานกั องอานกคไณปะแกลร้วรมรกวามรกทฤ้ังษปฎรกี ะาโยชน์อย่างอส่ืนําทนักี่ผงู้ราับนคสณัมปะกทรารมนกไดาร้รกับฤไษปฎอีกันา เน่ืองจากกาสรําทนํัากกงาิจนกคาณระทก่ีไรดรม้รักบารกฤษฎกี า สัมปทานในระหว่างอายุสัมปทาน และมูลค่าของทรัพย์สินหรือสิ่งของท่ีเหลืออยู่และยังเป็นประโยชน์ ต่อผรู้ ับสมั ปทานสํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า (ข) ค่าใช้จ่ายที่ผู้รับสัมปทานได้จ่ายไปเพ่ือการทํากิจการที่ได้รับสัมปทานและ สํานกั ยงังามนิไคดณร้ ะับกผรลรมปกราะรโกยฤชษนฎ์กีกลาบั คืน ทง้ั น้ี โสดํายนใกัหงค้ าาํนนคงึณถะึงกเงร่อืรมนกไาขรตก่าฤงษๆฎกี ตาามที่กําหนดไสวใ้าํ นนัก(งกา)นแคลณะะกรรมการกฤษฎีกา คุม้ ครองแรงงาน สในํานสกั ว่ งน(าคทน)คเี่ กณคย่ี วะวกากรมับรผมกูกกาพารรจันก่าตฤยษาเมงฎินกีกชาฎดหเชมยาใยหท้แี่ผกู้ร่ลับสกู สําจนัมา้ กั งปงใทานนกาคนรณณมะีอีทกยม่ีรรู่ตีกมาากมราเกรลกฎกิ ฤหจษา้มฎงาีกยาว่าด้วยการ สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎเกี งาินลงทุนหรือคส่าํานใชัก้จงา่านยคทณี่นะํากมรรามพกิจาารรกณฤษาฎเพกี า่ือรับเงินชดเชสยาํ ตนาักมงาน(กค)ณแะลกระรม(ขก)ารกฤษฎีกา จะต้องไม่เกินกว่าที่เป็นเงินลงทุนหรือค่าใช้จ่ายตามที่ผู้ประกอบธุรกิจจะลงทุนหรือใช้จ่ายในกิจการ เชน่ นน้ั โดยทัว่ ไปตสาํานมกัปงกาตนิคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า (๒) ความรับผิดท่ีผู้รับสัมปทานมีต่อบุคคลภายนอกตามสัญญา ระหว่างผู้รับ สาํ นกั สงัมานปคทณาะนกกรับรมบกุคาครกลฤภษาฎยีกนาอกที่เก่ียวเนื่อสงํากนับักงกาานรคทณําะกกิจรกรมารกทาร่ีไกดฤ้รษับฎสกี ัมาปทาน หากมสีขาํ้อนสักัญงาญนาคทณ่ีคะกู่สรัญรญมกาารกฤษฎกี า ตกลงให้ผู้รับสัมปทานต้องรับผิดในกรณีเหตุสุดวิสัยให้แตกต่างไปจากประมวลกฎหมายแพ่งและ พาณชิ ย์ หรือมขี ้อสสาํ นญั ักญงาานทคี่คณ่สู ะญั กญรรามตกกาลรกงใฤหษผ้ฎ้รู ีกับาสมั ปทานต้อสงรํานับกัผงิดาเนพครณาะะกรรัฐรสมง่ั กแากรไ้กขฤเษปฎลีก่ียานแปลงหรือ ยกเลิกสัมปทาน ข้อสัญญาดังกลา่ วย่อมไมม่ ผี ลใช้บังคับเพื่อการให้เงินชดเชยความเสียหายตามมาตรา สาํ นักนงี้านคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า ส(๓าํ น)กั หงาา้ นมคมณิใหะก้มรกี รามรกจา่ารยกเฤงษินฎชีกดาเชยเพื่อผลกําสไํารนหกั รงือานผคลณประกะรโยรมชกนา์ใรดกฤๆษทฎกี่ีผาู้รับสัมปทาน คาดว่าจะได้รบั จากการทาํ กจิ การท่ไี ดร้ บั สมั ปทาน สาํ นกั งานคณะกรรมการก(๔ฤษ) ฎในีกากรณีท่ีการเลสิกํานสกััมงปานทคาณนะเปกร็นรเมหกตารุใกหฤ้ผษู้รฎับีกสาัมปทานได้รับสําเนงินักงทารนัพคณย์สะกินรหรมรกือารกฤษฎกี า ผลประโยชน์อย่างอ่ืนตอบแทน จากการประกันหรือการอ่ืนใดเพื่อทดแทนความเสียหายให้ถือว่าเงิน ทรัพยส์ ินหรือผลปสํารนะกัโยงาชนนคต์ ณอะบกแรทรมนกอายรกา่ งฤอษน่ื ฎนกี ัน้า เป็นส่วนหนสงึ่ ําขนอักงงเางนินคชณดะเกชรยรคมวกาามรกเสฤียษหฎาีกยาตามมาตรา น้ี สาํ นักงานคณะกรรมการกในฤษกฎรีกณาีที่ผู้รับสัมปทสาํานนักยง่ืนาคนคําณขอะกเวรรนมคกืนารสกัมฤปษทฎาีกนา ตามมาตราส๖ําน๘ักงฉาน(ค๒ณ) ะใกหร้ผรมู้รักบารกฤษฎกี า สัมปทานได้รับเงินชดเชยความเสียหายเฉพาะตามอัตราส่วนของพ้ืนที่หรือของจํานวนไม้หรือของป่าที่ จะทําออกได้จากสพํา้ืนนกัทง่ีใานนสค่วณนะทกร่ีสรัมมปกทารากนฤนษ้ันฎีกสา้ินสุดลง แล้วแสตําน่จกั ํางนานวนคณใดะจกะรรมมากกากรกว่าฤษฎทกีั้งานี้ เว้นแต่ใน กรณีท่ีมีเหตุผลฟังได้ว่า พื้นที่ในส่วนที่สัมปทานสิ้นสุดลงนั้นเป็นสาเหตุสําคัญท่ีทําให้ผู้รับสัมปทานไม่ สาํ นักสงาามนคารณถะดกํารเรนมินกากริจกกฤาษรฎใีกนาสัมปทานที่ขอสเําวนนกั คงาืนนนคั้นณตะ่อกไรปรมไดก้ากรก็ใหฤ้ษไดฎ้รีกับาเงินชดเชยเชส่นําเนดักียงวากนับคกณระณกรีพร้ืนมกทาี่ รกฤษฎกี า สัมปทานทง้ั แปลงสสาํ น้ินักสงดุ าลนงคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นกั งานคณะกรรมการกมฤาษตฎรากี า๖๘ อัฏฐ เมส่ือํารนัฐกัมงนานตครีมณีคะกําสรร่ังมตกาามรมกาฤตษรฎาีกา๖๘ ทวิ ให้พนสักํางนาักนงเาจน้าคหณนะ้ากทรร่ีแมจก้งารกฤษฎีกา คําส่ังของรัฐมนตรีให้ผู้รับสัมปทานทราบเป็นหนังสือ หรือเม่ือสิทธิการทํากิจการที่ได้รับสัมปทานใน เขตพื้นที่สัมปทาสนําทนกั้ังแงาปนลคงณหะรกือรรบมากงาสร่วกฤนษตฎ้อีกงาส้ินสุดลงตามสมํานาตักงราานค๖ณ๘ะกตรรรี มใกหา้พรกนฤักษงฎากีนาเจ้าหน้าที่มี หนังสือแจง้ ใหผ้ ู้รบั สัมปทานทราบถงึ การสิน้ สุดดังกล่าว สํานกั งานคณะกรรมการกในฤกษรฎณกี าีท่ีผู้รับสัมปทาสนํานปกั รงะาสนงคคณ์จะะกเรรรียมกกราร้อกงฤเงษินฎชกี ดาเชยความเสียสหํานายักงผานู้รคับณสะัมกปรทรมากนารกฤษฎกี า จะตอ้ งย่นื คาํ ขอเรียกร้องเงินชดเชยความเสียหายต่ออธิบดีกรมป่าไม้ ภายในเก้าสิบวันนับแต่วันท่ีผู้รับ สัมปทานได้รับหสนาํ นังกัสงือาขนคอณงพะกนรักรมงากนารเกจฤ้าษหฎนีก้าาท่ีที่แจ้งคําสสั่งําขนอกั งงารนัฐคมณนะตกรรีรหมกราือรแกจฤ้ษงกฎาีกราสิ้นสุดของ สาํ นักสงัมานปคทณานะกตรารมมวกรารรคกฤหษนฎึ่งกี แาล้วแต่กรณี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

- ๒๒ - สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา คําขอตามวรรคสองให้ทําเป็นหนังสือ พร้อมท้ังจัดทําบัญชีแสดงจํานวนเงินชดเชย สํานกั คงวานาคมณเสะียกรหรามยกทารี่ตกนฤษเหฎ็นกี าว่าสมควรจะสไําดน้รักับงตานาคมณหะลกักรรเมกกณารฑก์ทฤี่กษําฎหกี านดไว้ในมาตรสาาํ น๖ักง๘านสคัตณตะกโรดรมยกมาี รกฤษฎีกา หลักฐานที่สนบั สนุนข้อเรียกรอ้ งของตนตามความจําเปน็ สใาํนนกักรงาณนีทค่ีณผู้ระักบรสรัมมปกาทรากนฤษทฎี่ขกี อาเรียกร้องเงินสชํานดกัเชงายนคควณาะมกเรสรียมหกาารยกฤเปษฎ็นกีผาู้ใช้สิทธิตาม มาตรา ๖๘ ฉ (๒) ผู้รับสัมปทานต้องขอเวนคืนสัมปทานที่เหลือทั้งหมดของตนก่อนหรือในวันท่ีขอ สํานกั เงราียนกครณอ้ ะงกเงรนิ รมชกดาเชรกยฤคษวฎามกี าเสียหายตามมสาําตนรักางนานี้ คณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สมําานตกั รงาาน๖ค๘ณะนกวรรมในกากรากรฤพษิจฎาีกราณากําหนดเงินสําชนดกั เงชายนคควณาะมกเรสรียมหกาายรกใฤหษ้อฎธกี ิบาดีกรมป่าไม้ สํานกั แงตาน่งตคณั้งคะณกระรกมรกรามรกกฤาษรฎขีกึ้นาคณะหนึ่ง ปรสะํากนอักบงาดน้วคยณผะู้แกทรรนมกกรามรกสฤรษรฎพีกาากรหนึ่งคน ผู้แสทาํ นนักสงําานนคักณงาะนกตรรรมวกจารกฤษฎกี า เงินแผ่นดินหน่ึงคน ผู้มีความรู้ความสามารถในการตีราคาทรัพย์สินหนึ่งคน และเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ หนงึ่ คน เพ่ือทาํ หสนํา้านทัก่พี งาิจนาครณณะากกรํารหมนกดารเกงนิฤษชดฎเกี ชายความเสียหาสยํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ให้คณะกรรมการมีอํานาจเรียกให้ผู้รับสัมปทานมาช้ีแจงข้อเท็จจริง หรือส่งเอกสาร สํานักหงลานักคฐณานะกเพรริ่มมเกตาิมรกตฤลษอฎดีกจา นเรียกให้ผู้รสับําสนัมกั งปาทนคานณมะการเจรมรกจาารเกพฤื่อษกฎําีกหานดเงินชดเชยสดาํ นังกักงลา่านวคไณด้ะแกลรระมใกนารกฤษฎกี า กรณีที่ผู้รับสัมปทานไม่ปฏิบัติตามคําสั่งหรือไม่ให้ความร่วมมือกับคณะกรรมการ ให้คณะกรรมการ ดําเนนิ การกําหนดสําเงนนิ ักชงาดนเชคยณคะวการมรมเสกียารหกาฤยษตฎากีมาท่ีเหน็ สมควรสตํา่อนไกัปงโาดนยคมณชิ ะักกชรา้รมการกฤษฎีกา เมื่อคณะกรรมการตามวรรคหนึ่งได้กําหนดเงินชดเชยความเสียหายเสร็จสิ้นแล้ว ให้ สํานกั ทงําานบคันณทะึกกรรารยมงกาารนกเฤสษนฎอกี ตา่ออธิบดีกรมปส่าํานไมัก้โงดานยคบณันะทกึกรรรมากยางรากนฤดษังฎกกี ลา่าวจะต้องแสสดํางนรักางยาลนะคเณอะียกดรแรมลกะารกฤษฎกี า เหตุผลของการพสิจาํ นารักณงาานวค่าณะกการรรกมํากหารนกดฤเษงฎินกี ชาดเชยดังกล่าสวํามนีหกั ลงาักนเคกณณะฑก์ใรนรมกกาารรพกิฤจษารฎณีกาาอย่างไร มี เหตุผลสนับสนุนเพียงใด พร้อมทั้งระบุเอกสารหลักฐานท่ีใช้ในการพิจารณา และในกรณีท่ีอธิบดีกรม สาํ นกั ปง่าานไมค้ไณมะ่เกหร็นรชมอกาบรดก้วฤยษฎใกีหา้อธิบดีกรมป่าสไํามน้มักีองําานนคาณจแะกกร้ไรขมตกาามรทกฤ่ีเหษ็นฎสกี ามควรพร้อมทสั้งแาํ นสักดงงาเนหคตณุผะลกกรํารมกกับารกฤษฎีกา ในบันทกึ ไว้ดว้ ย สใําหน้อักธงิาบนดคีกณระมกปรร่ามไมกา้มรีหกนฤษังฎสืีกอาแจ้งให้ผู้รับสสัมําปนทักงาานนทครณาะบกถรรึงมจกําานรวกนฤษเงฎินกี ชาดเชยความ เสียหายท่ีผู้รับสัมปทานจะได้รับพร้อมด้วยเหตุผลตามสมควร และให้กําหนดระยะเวลาท่ีผู้รับ สาํ นักสงมัานปคทณาะนกจระรมมากขารอกรฤับษเงฎินกี ชาดเชยดงั กล่าวสไําวน้ดกั ว้งยานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สมําานตกั รงาาน๖ค๘ณะทกรศรมผกู้ราัรบกสฤัมษปฎทีกาานผู้ใดไม่พอใสจําในนกั เงงาินนชคดณเะชกยรครวมากมารเสกีฤยษหฎากียาที่อธิบดีกรม ป่าไม้แจ้งให้ทราบตามมาตรา ๖๘ นว ให้มีสิทธิอุทธรณ์ต่อรัฐมนตรีภายในหกสิบวันนับแต่วันท่ีได้รับ สํานักแงจานง้ เคปณน็ ะหกนรรงั มสกอื าจรากกฤอษธฎบิ ีกดากี รมปา่ ไม้ดังสกําลน่าักวงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สใํานนกกั างราพนคิจณาระณกรารอมทุ กธารรณกฤต์ ษาฎมีกวารรคหนงึ่ ใหร้ สัฐํามนนกั ตงารนีแคตณง่ ตะัง้กครรณมะกการรกรฤมษกฎารกี ขา้ึนคณะหน่ึง ประกอบด้วยผู้ทรงคุณวุฒิทางกฎหมาย และผู้มีความรู้ความสามารถในการตีราคาทรัพย์สิน มีจํานวน สํานักทง้ัางนหคมณดะไกมร่นรม้อกยากรกว่ฤาหษฎ้ากีคาน แต่ไม่เกินเสกํา้นาคักงนานเคปณ็นะผกู้พรริจมากราณรกาฤเสษฎนีกอาความเห็นต่อสราํ ัฐนมักนงาตนรคี ณทะกั้งรนรี้ มใกหา้ รกฤษฎีกา รัฐมนตรวี นิ ิจฉยั อุทธรณใ์ ห้เสร็จสิน้ ภายในหกสบิ วัน นบั แต่วันทไ่ี ด้รับคําอุทธรณ์ สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า มาตรา ๖๘ เอกาทศ ในกรณีท่ีผู้รับสัมปทานยังไม่พอใจในคําวินิจฉัยของรัฐมนตรี สํานักตงาานมคมณาตะกรรารม๖ก๘ารทกฤศษหฎรกี ือา ในกรณีที่รัฐสมํานนตกั งราีมนิไคดณ้วะินกิจรฉรมัยกอาุทรกธฤรษณฎ์ใีกหา้เสร็จส้ินภายใสนํานกักํางหานนคดณเวะลการตรมากมารกฤษฎีกา มาตรา ๖๘ ทศ วรรคสอง ให้มีสทิ ธิฟ้องคดีต่อศาลได้ภายในหน่ึงปี นับแต่วันท่ีได้รับแจ้งคําวินิจฉัยของ รฐั มนตรีหรือนบั แสตํา่วนันกั งทา่พีนน้คณกาํะหกรนรดมเกวาลรากดฤงั ษกฎลกี า่ าว แลว้ แต่กรณสีํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

- ๒๓ - สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา ในกรณีที่มีการฟ้องคดีต่อศาลและศาลพิพากษาให้ผู้รับสัมปทานได้รับเงินชดเชย สํานักคงวานามคณเสะียกหรรามยกเพาร่ิมกขฤึ้นษฎผกี ู้ราับสัมปทานมีสสําิทนธักิไงดา้รนับคดณอะกกเรบรมี้ยกขาอรงกเฤงษินฎชีกดาเชยความเสียสหาํ านยักเงฉาพนาคะณใะนกสร่วรนมกทา่ี รกฤษฎีกา เพ่ิมข้นึ ในอตั ราร้อยละเจ็ดครง่ึ ต่อปี สาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา หมวด ๗ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักบงาทนกคาํ ณหะนกดรรโทมกษารกฤษฎีกา สาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกมฤาษตฎรกีาา๖๙๔๗ ผู้ใดมสีไําวน้ใักนงคานรอคณบคะกรรอรงมซกึ่งาไรมก้หฤษวงฎหกี ้าามอันยังมิได้แสปํารนรักูปงานโดคยณไะมก่มรรีรมอกยารกฤษฎีกา ตราคา่ ภาคหลวงหรือรอยตรารัฐบาลขาย เว้นแต่จะพิสูจน์ได้ว่าได้ไม้นั้นมาโดยชอบด้วยกฎหมาย ต้อง ระวางโทษจาํ คกุ ไสมาํ เ่ นกกัินงหานา้ ปคณี หะรกอื รปรมรกบั าไรมก่เฤกษินฎหีกา้ าหมืน่ บาท หรสอื ําทนงั้ ักจงําาทนค้งั ปณระบักรรมการกฤษฎีกา ในกรณีความผิดตามมาตราน้ี ถา้ ไม้ทมี่ ีไว้ในครอบครองเป็น สํานักงานคณะกรรมการก(๑ฤ)ษฎไมกี ้สาัก ไม้ยาง ไมส้ชําิงนชักันงาไนมค้เณกะ็ดกแรดรมงกไามร้อกีเฤมษ่งฎไกี มา้พะยุงแกลบ สไํามน้กักรงะานพค้ี ไณมะ้แกดรรงมจกีนารกฤษฎกี า ไม้ขะยุง ไม้ชิก ไม้กระซิก ไม้กระซิบ ไม้พะยูง ไม้หมากพลูต๊ักแตน ไม้กระพี้เขาควาย ไม้เก็ดดํา ไม้อีเฒ่า ไมเ้ ก็ดเขาควาย หสรําือนไักมงห้านวคงหณา้ะมกรปรรมะกเาภรทกฤขษ.ฎหีกราอื สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า (๒) ไม้อื่นเป็นต้นหรือเป็นท่อนอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือท้ังสองอย่างรวมกันเกินยี่สิบ สํานักตงน้านหครณอื ทะกอ่ รนรมหกราือรรกวฤมษปฎรกี มิ าาตรไม้เกินส่ลี สกู ําบนกัาศงากนเ์ คมณตระกรรมการกฤษฎกี า สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา บาทถงึ สองลา้ นบสาผําทู้กน๔รกั ๘ะงาทนําคคณวะากมรผริดมตก้อารงกรฤะษวฎางกี โาทษจําคุกตั้งแสตําน่หกันง่ึงาปนีถคึงณยะ่ีสกิบรรปมี กแาลระกปฤษรับฎีกตาั้งแต่ห้าหมื่น สาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า มาตรา ๗๐ ผูใ้ ดรับไว้ดว้ ยประการใด ซอ่ นเร้น จําหน่าย หรือช่วยพาเอาไปเสียให้พ้น ซึ่งไม้หรือของปส่าาํ ทนี่ตักงนานรู้คอณยู่ะแกลร้วรมว่กาาเรปก็นฤไษมฎ้หีการือของป่าที่มสําีผนู้ไกั ดง้มานาคโณดะยกกรารมรกการระกทฤษําฎผีกิดาต่อบทแห่ง พระราชบญั ญัตนิ ้ี มคี วามผิดฐานเป็นตวั การในการกระทําผิดนัน้ สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า มาตรา ๗๑๔๙ ผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรา ๓๕ มาตรา ๓๖ มาตรา ๔๔ วรรคสอง หรือมาสตาํ รนากั ง๕า๗นคตณอ้ ะงกรระรวมากงาโรทกษฤปษรฎับกี าไม่เกนิ ห้าพนั บสาําทนกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกมฤาษตฎราีกา๗๑ ทวิ๕๐ ผสู้ใําดนฝกั ่างฝานืนคหณรืะอกไรมร่ปมฏกิบารัตกิตฤาษมฎมกี าาตรา ๒๙ มาตสรํานาัก๒งา๙นคทณวะิ มกรารตมรกาารกฤษฎกี า ๓๙ มาตรา ๓๙ สตาํ รนี ักมงาาตนรคาณะ๔ก๐รรวมรกราครกหฤนษ่ึงฎกีมาาตรา ๔๓ วรสรําคนสกั องางนคหณรือะกมรารตมรกาาร๕กฤ๓ษตฎ้อกี างระวางโทษ จําคุกไม่เกนิ หน่งึ ปีหรอื ปรบั ไมเ่ กินหนงึ่ หมน่ื บาท หรอื ท้ังจาํ ท้งั ปรับ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า มาตรา ๗๒๕๑ ผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรา ๔๑ หรือมาตรา ๕๒ ต้องระวาง โทษจาํ คุกไมเ่ กนิ หสา้ํานปักหี งราอืนปครณับะไกมร่เรกมินกหารา้ กหฤมษื่นฎบีกาาท หรอื ทง้ั จาํ สทํา้ังนปกั รงบั านคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นักงานคณะกรรมการก๔๗ฤษมาฎตีกราา ๖๙ แก้ไขเพ่ิมสเําตนิมักโดงายนพครณะระากชรบรญั มญกาัตรปิ กา่ ฤไษม้ฎ(ฉกี บาบั ที่ ๗) พ.ศ. ๒ส๕าํ๒น๕ักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า ๔๘ มาตรา ๖๙ วรรคสอง แกไ้ ขเพิ่มเติมโดยประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ ๑๐๖/ ๒๕๕๗ เร่อื ง แก้ไขเสพาํ่ิมนเตกั มิงากนฎคหณมาะยกวรา่รดมว้ กยาปร่ากไฤมษ้ ลฎงีกวาันที่ ๒๑ กรกฎาสคํามนพักงุทาธนศคักณราะชกร๒ร๕ม๕ก๗ารกฤษฎกี า ๔๙ มาตรา ๗๑ แกไ้ ขเพิ่มเติมโดยพระราชบญั ญตั ิป่าไม้ (ฉบบั ท่ี ๖) พ.ศ. ๒๕๒๒ สาํ นักงานคณะกรรมการก๕๐ฤษมาฎตีกราา ๗๑ ทวิ เพิ่มโสดํายนพกั รงะารนาคชบณัญะกญรตั ริปม่ากไามร้ ก(ฉฤบษบั ฎทกี ี่ ๖า ) พ.ศ. ๒๕๒๒สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook