Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หลักสูตรสถานศึกษา2563_รร.บ้านทับไฮ

หลักสูตรสถานศึกษา2563_รร.บ้านทับไฮ

Published by chumnanch, 2020-05-25 06:52:56

Description: หลักสูตรสถานศึกษา2563_รร.บ้านทับไฮ

Search

Read the Text Version

สำนกั งำนเขตพ้นื ที่กำรศึกษำประถมศึกษำอุดรธำนี เขต ๒ สำนักงำนคณะกรรมกำรกำรศึกษำขั้นพ้นื ฐำน กระทรวงศึกษำธิกำร

ประกาศโรงเรียนบ้านทบั ไฮ เร่ือง ให้ใช้หลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรยี นบ้านทบั ไฮ พุทธศกั ราช ๒๕๖๓ (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐)ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ ………………………………. ด้วยคาส่ังกระทรวงศึกษาธิการ ท่ี สพฐ. ๑๒๓๙/๒๕๖๐ ลว. ๗ สิงหาคม ๒๕๖๐ เรื่อง ให้ใช้ มาตรฐานการเรียนร้แู ละตัวชี้วัด กลุ่มสาระการเรียนร้คู ณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และสาระภูมศิ าสตร์ ในกล่มุ สาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐) ตามหลักสูตรแกนกลาง การศึกษาข้ันพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ เพื่อให้การจัดการศึกษาขั้นพ้ืนฐานสอดคล้องกับสภาพความ เปล่ียนแปลงทางเศรษฐกิจสังคมวัฒนธรรม สภาพแวดล้อม และความรู้ทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีท่ี เจริญกา้ วหน้าอยา่ งรวดเร็ว เป็นการพัฒนาและเสริมสรา้ งศกั ยภาพคนของชาตใิ ห้สามารถเพิ่มขีดความสามารถ ในการแข่งขันของประเทศการยกระดับคุณภาพก ารศึกษาและการเรียนรู้ให้มีคุณภาพและมาตรฐานระดับ สากล สอดคล้องกับประเทศไทย ๔.๐ โลกในศตวรรษท่ี ๒๑ และทัดเทยี มกับนานาชาติ ผู้เรียนมีศักยภาพใน การแขง่ ขนั และการดารงชวี ติ อย่างสร้างสรรค์ในประชาคมโลก ตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ฉะน้ัน อาศัยอานาจตามความในมาตรา ๕ แห่งพระราชบัญญัตกิ ารศึกษาแหง่ ชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒ และแก้ไขเพิ่มเติม(ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๕ และมาตรา ๑๒ แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการ กระทรวงศกึ ษาธิการ พ.ศ. ๒๕๔๖ กระทรวงศึกษาจงึ ได้ประกาศใชม้ าตรฐานการเรยี นรแู้ ละตวั ชวี้ ัด กลมุ่ สาระ การเรียนรู้คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์และสาระภูมิศาสตร์ ในกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและ วัฒนธรรม (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐) ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ แทน มาตรฐานการเรยี นรแู้ ละตวั ช้ีวัด กลุ่มสาระการเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และสาระภูมศิ าสตร์ ในกลุ่ม สาระการเรียนรู้สงั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ในหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้นื ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ เง่ือนไขและระยะเวลาการใช้มาตรฐานการเรียนรูแ้ ละตัวช้ีวัด กลุ่มสาระการเรยี นรู้ คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และสาระภูมิศาสตร์ ในกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม(ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐) ให้เปน็ ไปดังนี้ ๑. โรงเรียนบา้ นบา้ นทบั ไฮ เป็นโรงเรียนต้นแบบการใช้หลกั สตู รตามรายชอื่ ท่ีกระทรวงศึกษาธิการ ได้ประกาศแล้ว

๑.๑ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๑ ให้ใชใ้ นช้ันประถมศึกษาปีที่ ๑ และ ๔ ๑.๒ ปีการศึกษา ๒๕๖๒ ให้ใชใ้ นชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ ๑ ๒ ๔ และ ๕ ๑.๓ ต้ังแต่ปีการศกึ ษา ๒๕๖๓ เปน็ ต้นไป ใหใ้ ชใ้ นทกุ ชนั้ เรยี น ทั้งนี้หลักสูตรโรงเรยี นบา้ นบ้านทับไฮ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑(ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐) โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการการสถานศึกษาขน้ั พ้นื ฐาน เม่อื วันที่ ๑๐ เดือน พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๓ จงึ ประกาศใหใ้ ชห้ ลกั สูตรโรงเรียนบา้ นบ้านทบั ไฮ ตงั้ แต่บดั นีเ้ ปน็ ต้นไป ประกาศ ณ วนั ที่ ๑๔ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๓ ลงชอื่ ลงชื่อ (นายละมอ่ ม สทิ ธศิ กั ด์ิ) (นางแสงเดอื น ปากเมย) ผ้อู านวยการโรงเรียนบ้านทบั ไฮ ประธานคณะกรรมการสถานศึกษาข้ันพน้ื ฐาน โรงเรียนบ้านทบั ไฮ

คำนำ ด้วยคาส่ังกระทรวงศึกษาธิการ ท่ี สพฐ. ๑๒๓๙/๒๕๖๐ ลว. ๗ สิงหาคม ๒๕๖๐ เรื่อง ให้ใช้ มาตรฐานการเรียนรูแ้ ละตัวช้ีวัด กลุ่มสาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และสาระภูมิศาสตร์ ในกล่มุ สาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐) ตามหลักสูตรแกนกลาง การศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ โดยทีเ่ ปน็ การสมควรแก้ไขโครงสร้างเวลาเรยี น มาตรฐานการเรยี นรู้ และตัวชี้วัด และเกณฑ์การจบการศกึ ษาตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ให้ เหมาะสมกับบรบิ ทและจุดเนน้ ของสถานศึกษา สานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานจงึ ใหม้ กี ารแก้ไข โครงสรา้ งเวลาเรียนและเกณฑ์การจบการศึกษา ตามความละเอียดแจ้งให้ทราบแล้วน้ัน กลุ่มงานบรหิ ารงาน วิชาการจึงได้กาหนดโครงสร้างหลักสูตรสถานศกึ ษา มาตรฐานการเรียนรแู้ ละตัวชี้วัดให้เปน็ ไปตามทีก่ าหนด และดาเนินการจัดทาและปรับปรุงหลักสูตรสถานศึกษาเพื่อใช้ในการดาเนินการบริหารหลักสูตรตั้งแต่ปี การศึกษา ๒๕๖๑ เป็นต้นมา และประกาศใช้หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนบ้านทับไฮ พุทธศักราช ๒๕๖๓ ตง้ั แตป่ ีการศึกษา ๒๕๖๓ เปน็ ตน้ ไป โรงเรียนบ้านทบั ไฮ ขอขอบพระคุณคณะกรรมการทปี่ รึกษา คณะกรรมการจัดทาหลักสูตร ตลอดจนทุกฝ่าย ทุกคนไว้ ณ โอกาสนี้ ที่มสี ว่ นรว่ มในการพัฒนาและจดั ทาเอกสารหลักสูตรสถานศึกษา พทุ ธศักราช ๒๕๖๓ (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ.๒๕๖๐) ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ ของโรงเรียนบ้านทับไฮ สาเร็จลลุ ว่ งเป็นไปอยา่ งดี หวังว่าเอกสารหลกั สตู รฉบบั นี้คงจะเปน็ ประโยชนอ์ ยา่ งยงิ่ ตอ่ การจดั การเรียนรู้ตามเจตนารมณข์ องโรงเรียนตน้ แบบการใชห้ ลกั สูตรการศึกษาข้ัน พนื้ ฐาน ต่อไป (นางแสงเดอื น ปากเมย) ผูอ้ านวยการโรงเรียนบ้านทบั ไฮ

สำรบญั หนำ้ เร่ือง ๑ ประกาศโรงเรียน ๒ คานา ๒ ความนา ๓ วสิ ยั ทัศน์ ๔ สมรรถนะสาคัญของผ้เู รยี น ๑๕ คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ ๑๖ โครงสรา้ งเวลาเรียน ๒๒ คาอธบิ ายรายวชิ า ๒๙ ๓๖ กลุ่มสาระการเรยี นรภู้ าษาไทย ๔๓ กลมุ่ สาระการเรยี นร้คู ณิตศาสตร์ ๕๐ กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ๕๖ กลุม่ สาระการเรียนรู้วทิ ยาการคานวณ ๖๕ กลมุ่ สาระการเรียนรูส้ งั คมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม ๗๒ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ประวตั ศิ าสตร์ ๘๔ กลมุ่ สาระการเรียนรู้หนา้ ทีพ่ ลเมือง ๙๑ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้สขุ ศึกษาและพลศกึ ษา ๙๘ กลุ่มสาระการเรยี นรู้ศลิ ปะ ๑๐๐ กลมุ่ สาระการเรียนรกู้ ารงานอาชีพ ๑๐๑ กลมุ่ สาระการเรียนรภู้ าษาตา่ งประเทศ ๑๐๓ กจิ กรรมพัฒนาผู้เรยี น ๑๐๖ กิจกรรมแนะแนว ๑๑๖ กิจกรรมนกั เรยี น ๑๒๐ กิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ ๑๒๘ คาอธบิ ายรายวชิ ากิจกรรมพฒั นาผู้เรียน คาอธิบายรายวิชากจิ กรรมชมุ นมุ เกณฑ์การจบการศกึ ษา คาสง่ั

๑ ความนา ด้วยกระทรวงศึกษาธกิ ารไดป้ ระกาศใช้หลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขนั้ พื้นฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรบั ปรุง ๒๕๖๐) ใหเ้ ปน็ หลกั สูตรแกนกลางของประเทศ เพ่อื ให้การจดั การศกึ ษาขั้นพน้ื ฐานสอดคล้องกบั สภาพความเปลีย่ นแปลงทางเศรษฐกิจสังคมและความเจรญิ กา้ วหนา้ ทางวิทยาการ เปน็ การสรา้ งกลยุทธ์ใหม่ใน การพฒั นาคุณภาพการศกึ ษาใหส้ ามารถตอบสนองความต้องการของบคุ คล สงั คมไทย ผเู้ รยี นมีศักยภาพในการ แข่งขนั และร่วมมอื อย่างสรา้ งสรรคใ์ นสงั คมโลก ปลกู ฝงั ใหผ้ ู้เรยี นมีจิตสานกึ ความเปน็ ไทย มรี ะเบียบวนิ ัย คานงึ ถงึ ประโยชนส์ ่วนรวมและยดึ ม่ันในการปกครองระบอบประชาธิปไตยอนั มพี ระมหากษตั ริย์ทรงเปน็ ประมุข เปน็ ไป ตามเจตนารมณ์มาตรา ๘๐ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจกั รไทย พุทธศกั ราช ๒๕๕๐ และพระราชบญั ญัติ การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒ และที่แก้ไขเพ่ิมเติม( ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๕ โดยกาหนดจุดหมาย และ มาตรฐานการเรียนรเู้ ป็นเปา้ หมายและกรอบทิศทางในการพฒั นาคุณภาพผู้เรยี นให้เปน็ คนดี มีปัญญา มีคุณภาพ ชวี ติ ท่ีดแี ละมขี ีดความสามารถในการแขง่ ขันในเวทรี ะดับโลก (กระทรวงศึกษาธิการ, ๒๕๔๔) พรอ้ มกนั นี้ได้ ปรับเปล่ียนจุดเนน้ ในการพัฒนาคณุ ภาพคนในสงั คมไทยให้ มคี ุณธรรม และมคี วามรอบรูอ้ ย่างเท่าทัน ให้มีความ พร้อมทัง้ ด้านรา่ งกาย สตปิ ญั ญา อารมณ์ และศีลธรรม สามารถก้าวทันการเปล่ยี นแปลงเพ่อื นาไปสสู่ ังคม ฐานความร้ไู ด้อยา่ งมนั่ คง แนวการพัฒนาคนดังกลา่ วมงุ่ เตรยี มเดก็ และเยาวชนให้มพี ้ืนฐานจิตใจทด่ี ีงาม มจี ิต สาธารณะ พรอ้ มทง้ั มสี มรรถนะ ทักษะ โดยไดม้ ีการกาหนดวสิ ยั ทศั น์ จุดหมาย สมรรถนะสาคัญของผ้เู รยี น คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ มาตรฐานการเรยี นรู้และตวั ชวี้ ัดทีช่ ดั เจน กาหนดโครงสรา้ งเวลาเรียน กระบวนการ วัดและประเมินผลผเู้ รียน เกณฑ์การจบการศึกษาแต่ละระดบั และเอกสารแสดงหลกั ฐานทางการศึกษาให้มีความ สอดคลอ้ งกบั มาตรฐานการเรียนรู้ และมีความชัดเจนตอ่ การนาไปปฏบิ ัติ อนุสนธิคาสง่ั กระทรวงศึกษาธิการ ท่ี สพฐ. ๑๒๓๙/๒๕๖๐ สงั่ ณ วันที่ ๗ สงิ หาคม ๒๕๖๐ เรือ่ ง ใหใ้ ช้ มาตรฐานการเรยี นรแู้ ละตวั ช้วี ดั กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี และสาระ ภมู ิศาสตรใ์ นกล่มุ สาระการเรียนรู้สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม (ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐) ตามหลกั สูตร แกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ โรงเรียนบา้ นทบั ไฮ จงึ นามาตรฐานการเรยี นรู้และตวั ชี้วัด กลมุ่ สาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ วทิ ยาศาสตร์ และเทคโนโลยี และสาระภมู ิศาสตร์ในกลมุ่ สาระการเรยี นรสู้ ังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม (ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐) ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพน้ื ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ ไปสู่การปฏิบัตไิ ดอ้ ย่างมี ประสทิ ธิภาพ และบริหารจัดการหลกั สูตรใหเ้ กิดประโยชนส์ งู สุดกบั ผเู้ รยี น จงึ ไดจ้ ดั ทาเอกสารหลักสูตรขึน้ สาหรบั ครูนาไปจดั การเรยี นการสอนเพอ่ื พฒั นาเดก็ และเยาวชนไทยทุกคนในระดบั การศึกษาข้นั พ้นื ฐานให้มีคณุ ภาพดา้ น ความรู้ และทกั ษะท่ีจาเปน็ สาหรบั การดารงชีวิตในสงั คมทม่ี กี ารเปล่ยี นแปลง และแสวงหาความรเู้ พ่ือพฒั นา ตนเองอย่างตอ่ เนอ่ื งตลอดชวี ติ

๒ วิสยั ทศั น์ของโรงเรียน (Vision) โภรงาเยรใียนนปบีา้ ๒น๕ทบั๖ไ๓ฮ มโรคี งวเารมียมนงุ่ บหา้ วนังท่ีจบั ะไพฮัฒแนลาะผชเู้ มุรยี ชนนททกุ ้อคงนถซ่นิ ึ่งเปเ็นปก็นำผล้นูังขาอกงาชราเตปใิลห่ยี เ้ ปนน็แมปนลุษงทยท์ี่มี่มงุ พีควัฒานมสาผมเู้ดรุลียนทุก ทงั้ คดนา้ นซร่ึง่าเงปก็านยกาคลวาังมขรอู้ งคชุณาตธิใรหรม้เป็นมมีจตินสุษำยน์ทกึ ่ีใมนีคคววาามมสเปม็นดพุลลทเั้งมดอื ้างไนทรย่าแงลกะาเยป็นคพวลาโมลรกู้ มคีคุณวธารมรรม้คู วามมีจสิตามสาารนถึกใในนกคาวรสามอ่ื สเปาร็น ทกา้อพรงลคถิดเ่ินมแอืมกงุ่ง้ปไเญัทนน้ยหแใาหลกค้ะาวเรปาใม็นชสพ้เทำลคคโัญโลนกใโนลมกยคีรี ะวมบาที มวักนรษูค้กะวาชราวี ปมิตรสบัยาสดึมภมาาั่นรพถในสในปงั คกรมะาชรใหสาธ้เ่ือกปิ สดิ ไาภตรยาวอกะนาทรุรี่ “คกั ไษิดมแส์ ท่ ง่ิกนแ้ปตวญั อ่ดกลหาอ้ ารมทกวจุ าฒัรรติ นใ”ชธ้เรโทรดคมยโเแนรม่ิลโละตภยั้งแมูี ตมปิ ่กีทญั รักญะษบาะวชนีวิต กายรดึกมลอ่ั่นมในเกปลราะทชาางธสิปังคไตมใยนทอกุนรรุ ะกั ดษับส์ ชิง่ ว่ แงววดยั ลอ้ เมพ่ือวสฒั ร้านงธวรัฒรมนธแรลรมะตภ่อมู ติปา้ ญั นกญาารททอุ้จงรถิต่นิ และนน้อ้อมมนนาำหหลลกั ักปปรรชััชญญาาขขอองงเเศศรรษษฐฐกกจิ จิ พอพเอพเยี พงมียางใมชา้ใในชกใ้ านรกศาึกรษศาึกรษวามรทว้ังมมทีเั้งจตมคีเจตตทิ ค่ดี ตี ทิอ่ กด่ี าีตร่อศกกึ าษราศแึกลษะากแาลระปกระากรปอบระอกาชอีพบอมาช่งุ ทีพำปมรุ่งะทโยาชปนร์สะรโ้ายงชสนิ่งส์ทรดี่ ้างี งาสม่ิงทด่ี งี าม ใตหาใเแ้มตหกศ็มแ้ ่สกั ตกงัยา่สคภมมงั าศคพแกัมลยแะภอลายะพรู่อว่ ยมรู่ ก่วนั มอกยันา่ องมยคีา่ วงมามคี สวุขาบมนสพุข้ืนบฐนาพนื้นคฐวาามนเคชวอ่ื าวมา่ เชม่อืนวุษา่ ยท์มกุนคุษนยสท์ ากุมคารนถสเราียมนารรู้แถลเระียพนัฒรนู้แาลตะนพเอัฒงนไดาเ้ตตน็มเองได้ สมรรถนะสาคัญของผู้เรยี น และคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ในการพัฒนาผเู้ รียนตามหลักสตู รโรงเรียนบ้านทับไฮ พุทธศักราช ๒๕๖๕๓๓ (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ.๒๒๕๕๖๖๐๓) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขนั้ พื้นฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ ม่งุ เนน้ พัฒนาผเู้ รยี นใหม้ ีคณุ ภาพตามมาตรฐานที่ กาหนด ซึง่ จะชว่ ยใหผ้ ้เู รียนเกิดสมรรถนะสาคญั และคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ ดังนี้ สมรรถนะสาคัญของผเู้ รยี น หลักสูตรโรงเรยี นบา้ นทบั ไฮ พุทธศกั ราช ๒๕๖๓ มุ่งใหผ้ ูเ้ รยี นเกิดสมรรถนะสาคญั ๕ ประการ ดงั นี้ ๑. ความสามารถในการส่ือสาร เป็นความสามารถในการรับและส่งสาร มีวัฒนธรรมในการใช้ภาษา ถ่ายทอดความคิด ความรู้ความเข้าใจ ความรู้สึก และทัศนะของตนเองเพ่ือแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารและ ประสบการณ์อันจะเป็นประโยชน์ตอ่ การพัฒนาตนเองและสังคม การเลือกรับหรือไมร่ ับข้อมลู ข่าวสารด้วยหลัก เหตผุ ลและความถูกต้อง ตลอดจนการเลือกใช้วิธกี ารสื่อสาร ท่มี ีประสทิ ธิภาพโดยคานงึ ถึงผลกระทบท่ีมตี อ่ ตนเอง และสังคม ๒. ความสามารถในการคิด เป็นความสามารถในการคิดวิเคราะห์ การคิดสังเคราะห์ การคิด อย่าง สร้างสรรค์ การคิดอยา่ งมวี จิ ารณญาณ และการคดิ เปน็ ระบบ เพอ่ื นาไปสกู่ ารสรา้ งองค์ความรูห้ รอื สารสนเทศเพอื่ การตัดสินใจเก่ียวกับตนเองและสังคมไดอ้ ยา่ งเหมาะสม ๓. ความสามารถในการแก้ปัญหา เป็นความสามารถในการแก้ปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ ท่ีเผชิญได้ อย่างถูกต้องเหมาะสมบนพื้นฐานของหลักเหตุผล คุณธรรมและข้อมูลสารสนเทศ เข้าใจความสัมพันธ์และการ เปล่ียนแปลงของเหตุการณ์ต่าง ๆ ในสังคม แสวงหาความรู้ ประยุกต์ความรู้มาใช้ในการป้องกันและแกไ้ ขปญั หา และมีกาตัดสินใจที่มปี ระสทิ ธภิ าพโดยคานึงถงึ ผลกระทบทีเ่ กดิ ข้ึนต่อตนเอง สังคมและสิง่ แวดลอ้ ม ๔. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ิต เปน็ ความสามารถในการนากระบวนการต่าง ๆ ไปใช้ในการดาเนิน ชวี ิตประจาวนั การเรยี นรู้ดว้ ยตนเอง การเรยี นรอู้ ย่างต่อเนื่อง การทางาน และการอยรู่ ว่ มกันในสงั คมด้วยการสรา้ ง เสรมิ ความสมั พนั ธ์อันดีระหว่างบคุ คล การจัดการปญั หาและความขัดแย้งตา่ ง ๆ อย่างเหมาะสม การปรับตวั ให้ทัน กับการเปล่ยี นแปลงของสังคมและสภาพแวดลอ้ ม และการรู้จกั หลีกเลยี่ งพฤตกิ รรมไมพ่ ึงประสงค์ทีส่ ง่ ผลกระทบตอ่ ตนเองและผอู้ ่นื ๕. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี เป็นความสามารถในการเลอื ก และใช้ เทคโนโลยีด้านต่าง ๆ และมี ทักษะกระบวนการทางเทคโนโลยี เพ่ือการพัฒนาตนเองและสงั คม ในด้านการเรียนรู้ การส่ือสาร การทางาน การ แก้ปัญหาอยา่ งสร้างสรรค์ ถูกตอ้ ง เหมาะสม และมีคณุ ธรรม

๓ คณุ ลักษณะท่พี งึ ประสงค์ หลักสูตรโรงเรียนบ้านทับไฮ พุทธศักราช ๒๕๖๓ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ (ปรับปรงุ ๒๕๖๐) มุง่ พฒั นาผเู้ รยี นให้มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ เพอื่ ใหส้ ามารถอยรู่ ว่ มกับ ผู้อื่นในสังคมไดอ้ ย่างมีความสขุ ในฐานะพลเมืองไทยและพลโลก ดังน้ี ๑. รกั ษช์ าติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ ๒. ซอ่ื สัตยส์ จุ รติ ๓. มีวนิ ยั ๔. ใฝ่เรยี นรู้ ๕. อยูอ่ ย่างพอเพียง ๖. มุ่งมน่ั ในการทางาน ๗. รกั ความเปน็ ไทย ๘. มีจติ เปน็ สาธารณะ

๔ โครงสรา้ งหลักสตู รโรงเรยี นบ้านทับไฮ โครงสรา้ งหลักสตู รเวลาเรียนโรงเรียนบา้ นทับไฮ กล่มุ สาระการเรียนร/ู้ กจิ กรรม เวลาเรยี น(ช่วั โมง/ปี) ระดับประถมศกึ ษา  กลมุ่ สาระการเรียนรู้ ป. ๑ ป. ๒ ป. ๓ ป. ๔ ป. ๕ ป. ๖ ภาษาไทย คณติ ศาสตร์ ๒๐๐ ๒๐๐ ๒๐๐ ๑๖๐ ๑๖๐ ๑๖๐ วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ๒๐๐ ๒๐๐ ๒๐๐ ๑๖๐ ๑๖๐ ๑๖๐ วิทยาการคานวณ ๘๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐ สังคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ประวัตศิ าสตร์ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐ สุขศึกษาและพลศกึ ษา ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ศิลปะ ๓๐ ๓๐ ๓๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐ การงานอาชีพ ๓๐ ๓๐ ๓๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐ ภาษาต่างประเทศ ๒๐ ๒๐ ๒๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐ ๒๐๐ ๒๐๐ ๒๐๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐ รวมเวลาเรยี น (พน้ื ฐาน) ๘๘๐ ๘๘๐ ๘๘๐ ๘๔๐ ๘๔๐ ๘๔๐  รายวิชาเพิม่ เติม ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ หนา้ ท่ีพลเมือง ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ รวมเวลาเรยี น (เพิ่มเตมิ ) ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐  กิจกรรมพัฒนาผ้เู รยี น ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ กิจกรรมแนะแนว ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ กิจกรรมนกั เรยี น ๓๐ ๓๐ ๓๐ ๓๐ ๓๐ ๓๐ -กจิ กรรมลูกเสอื /เนตรนารี ๑๐ ๑๐ ๑๐ ๑๐ ๑๐ ๑๐ -ชมุ นมุ (๑,๖กีฬา ๒,๔ห้องสมุด ๓,๕คอม) กิจกรรมสาธารณประโยชน์ ๑,๐๔๐ ชั่วโมง/ปี ๑,๐๐๐ ชวั่ โมง/ปี รวมเวลาเรียนท้ังหมด

๕ จานวนชั่วโมงท่ีจัดให้นักเรียนระดับประถมศึกษา ( ป.๑-ป.๓ ) เรียนท้ังปี เท่ากับ ๑,๐๔๐ ช่ัวโมง ระดับชั้นประถมศึกษา ( ป.๔-ป.๖ ) เท่ากับ ๑,๐๐๐ ช่ัวโมง แผนการเรียนรู้/จุดเน้นการพัฒนาผู้เรียนที่ต้องการ เน้นเป็นพิเศษ คือกลุ่มสาระการเรียนรทู้ ักษะภาษาไทย คณิตศาสตร์ เพื่อพัฒนาการ อ่านออก เขียนได้ ทักษะ กระบวนการทางคณติ ศาสตร์ คิดวเิ คราะห์ คดิ สงั เคราะห์ คดิ สรา้ งสรรคท์ ด่ี ี มีประโยชน์ มคี วามสนใจใฝร่ ู้ใฝ่เรียน โดยจัด การเรียนการสอนและวัดผลประเมินผลเปน็ รายปี สาหรับนักเรียนช้ันประถมศึกษาปีที่ ๑-๖ น้ัน จากการประเมินผลระดับโรงเรียน ระดับท้องถ่ิน และ ระดับชาติ คณะกรรมการบริหารหลักสูตร คณะกรรมการสถานศึกษาข้ันพ้นื ฐาน มีมติร่วมกันให้จดั ทาโครงการ สอนเสริมประสบการณพ์ ิเศษเพอื่ เพ่มิ ศักยภาพนักเรยี น จานวนชั่วโมง ๘๐ ชัว่ โมง ตง้ั แตช่ ้นั ประถมศึกษาปที ี่ ๑ -๖ โดยไม่นาคะแนนและระดับผลการเรยี น ในรายวิชาสอนเสริมไปคิดรวมและตัดสินการเล่ือนช้ันของนักเรียน ใน โครงสร้างของหลักสูตรโรงเรยี นบ้านทับไฮ พ.ศ. ๒๕๖๓ มรี ายวิชาและจานวนชวั่ โมงดังนี้

โครงสร้างหลกั สตู รชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๑ ๖ โรงเรยี นบา้ นทับไฮ เวลาเรยี น รหสั กลมุ่ สาระการเรียนร/ู้ กจิ กรรม (ชม./ป)ี (๘๘๐) ท ๑๑๑๐๑ รายวิชาพน้ื ฐาน ๒๐๐ ค ๑๑๑๐๑ ภาษาไทย ๑ ๒๐๐ ว ๑๑๑๐๑ คณิตศาสตร์ ๑ ว ๑๑๑๐๒ วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ๑ ๘๐ ส ๑๑๑๐๑ วิทยาการคานวณ ๔๐ ส ๑๑๑๐๒ สังคมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม ๑ ๔๐ พ ๑๑๑๐๑ ประวัติศาสตร์ ๑ ๔๐ ศ ๑๑๑๐๑ สขุ ศึกษาและพลศึกษา ๑ ๓๐ ง ๑๑๑๐๑ ศิลปะ ๑ ๓๐ อ ๑๑๑๐๑ การงานอาชพี ๑ ๒๐ ภาษาอังกฤษ ๑ ๒๐๐ ส ๑๑๒๓๑ ๔๐ รายวิชาเพ่ิมเติม ๔๐ หน้าทพี่ ลเมอื ง ๑ (๑๒๐) ๔๐ กจิ กรรมพัฒนาผูเ้ รยี น แนะแนว ๔๐ กิจกรรมนกั เรียน ๓๐  ลูกเสือ เนตรนารี ๑๐  ชมุ นุม ๑ ช่วั โมง ๑ ช่วั โมง กจิ กรรมเพ่ือสังคมและสาธารณะประโยชน์ ๑ โครงการสอนเสริมประสบการณ์พเิ ศษเพือ่ เพมิ่ ศักยภาพนักเรียน จานวน ชน้ั ป.๑ - ๓ จานวน ๒ ชวั่ โมง / สปั ดาห์ จานวน ๑. วิชา ภาษาไทยคิดวิเคราะห์ ๒. วิชา คณติ ศาสตร์

โครงสร้างหลักสตู รชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๒ ๗ โรงเรยี นบา้ นทับไฮ เวลาเรยี น รหสั กลมุ่ สาระการเรยี นร/ู้ กิจกรรม (ชม./ป)ี (๘๘๐) ท ๑๒๑๐๑ รายวชิ าพ้ืนฐาน ๒๐๐ ค ๑๒๑๐๑ ภาษาไทย ๒ ๒๐๐ ว ๑๒๑๐๑ คณิตศาสตร์ ๒ ว ๑๒๑๐๒ วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ๒ ๘๐ ส ๑๒๑๐๑ วิทยาการคานวณ ๔๐ ส ๑๒๑๐๒ สังคมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม ๒ ๔๐ พ ๑๒๑๐๑ ประวตั ิศาสตร์ ๒ ๔๐ ศ ๑๒๑๐๑ สขุ ศกึ ษาและพลศึกษา ๒ ๓๐ ง ๑๒๑๐๑ ศิลปะ ๒ ๓๐ อ ๑๒๑๐๑ การงานอาชพี ๒ ๒๐ ภาษาอังกฤษ ๒ ๒๐๐ ส ๑๒๒๓๒ ๔๐ รายวิชาเพิม่ เตมิ ๔๐ หน้าที่พลเมอื ง ๒ (๑๒๐) ๔๐ กจิ กรรมพัฒนาผูเ้ รียน แนะแนว ๔๐ กิจกรรมนกั เรียน ๓๐  ลกู เสือ เนตรนารี ๑๐  ชมุ นุม ๑ ช่วั โมง ๑ ช่วั โมง กจิ กรรมเพ่ือสังคมและสาธารณะประโยชน์ ๑ โครงการสอนเสริมประสบการณ์พิเศษเพอ่ื เพิม่ ศกั ยภาพนักเรียน จานวน ช้ัน ป.๑ - ๓ จานวน ๒ ช่ัวโมง / สปั ดาห์ จานวน ๑. วชิ า ภาษาไทยคิดวิเคราะห์ ๒. วิชา คณติ ศาสตร์

โครงสร้างหลกั สตู รชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๓ ๘ โรงเรยี นบา้ นทับไฮ เวลาเรยี น รหสั กลมุ่ สาระการเรียนร/ู้ กจิ กรรม (ชม./ป)ี (๘๘๐) ท ๑๓๑๐๑ รายวิชาพน้ื ฐาน ๒๐๐ ค ๑๓๑๐๑ ภาษาไทย ๓ ๒๐๐ ว ๑๓๑๐๑ คณิตศาสตร์ ๓ ว ๑๓๑๐๒ วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ๓ ๘๐ ส ๑๓๑๐๑ วิทยาการคานวณ ๔๐ ส ๑๓๑๐๒ สังคมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม ๓ ๔๐ พ ๑๓๑๐๑ ประวัติศาสตร์ ๓ ๔๐ ศ ๑๓๑๐๑ สขุ ศกึ ษาและพลศึกษา ๓ ๓๐ ง ๑๓๑๐๑ ศิลปะ ๓ ๓๐ อ ๑๓๑๐๓ การงานอาชพี ๓ ๒๐ ภาษาอังกฤษ ๓ ๒๐๐ ส ๑๓๒๓๓ ๔๐ รายวิชาเพ่ิมเติม ๔๐ หน้าทพี่ ลเมอื ง ๓ (๑๒๐) ๔๐ กจิ กรรมพัฒนาผูเ้ รยี น แนะแนว ๔๐ กิจกรรมนกั เรียน ๓๐  ลูกเสือ เนตรนารี ๑๐  ชมุ นุม ๑ ช่วั โมง ๑ ช่ัวโมง กจิ กรรมเพ่ือสังคมและสาธารณะประโยชน์ ๑ โครงการสอนเสริมประสบการณ์พเิ ศษเพือ่ เพมิ่ ศักยภาพนักเรียน จานวน ช้ัน ป.๑ - ๓ จานวน ๒ ชวั่ โมง / สปั ดาห์ จานวน ๑. วชิ า ภาษาไทยคิดวิเคราะห์ ๒. วิชา คณติ ศาสตร์

โครงสร้างหลกั สตู รช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๔ ๙ โรงเรยี นบ้านทับไฮ เวลาเรยี น รหสั กลุ่มสาระการเรียนร/ู้ กิจกรรม (ชม./ป)ี (๘๔๐) ท ๑๔๑๐๑ รายวชิ าพืน้ ฐาน ๑๖๐ ค ๑๔๑๐๑ ภาษาไทย ๔ ๑๖๐ ว ๑๔๑๐๑ คณิตศาสตร์ ๔ ว ๑๔๑๐๒ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ๔ ๘๐ ส ๑๔๑๐๑ วิทยาการคานวณ ๔๐ ส ๑๔๑๐๒ สังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม ๔ ๘๐ พ ๑๔๑๐๑ ประวตั ศิ าสตร์ ๔ ๔๐ ศ ๑๔๑๐๑ สุขศกึ ษาและพลศึกษา ๔ ๘๐ ง ๑๔๑๐๑ ศิลปะ ๔ ๘๐ อ ๑๔๑๐๑ การงานอาชีพ ๔ ๘๐ ภาษาอังกฤษ ๔ ๘๐ ส ๑๔๒๓๔ ๔๐ รายวิชาเพิม่ เตมิ ๔๐ หน้าที่พลเมอื ง ๔ (๑๒๐) ๔๐ กิจกรรมพฒั นาผู้เรียน แนะแนว ๔๐ กิจกรรมนกั เรยี น ๓๐  ลูกเสอื เนตรนารี ๑๐  ชมุ นมุ ๒ ชัว่ โมง ๑ ชั่วโมง กิจกรรมเพื่อสงั คมและสาธารณะประโยชน์ ๑ โครงการสอนเสรมิ ประสบการณพ์ ิเศษเพ่อื เพมิ่ ศกั ยภาพนักเรียน จานวน ชั้น ป.๔-๖ จานวน ๓ ชัว่ โมง / สัปดาห์ จานวน ๑. วิชา ภาษาไทยคดิ วิเคราะห์ ๒. วิชา คณิตศาสตร์

โครงสร้างหลกั สตู รชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี ๕ ๑๐ โรงเรยี นบา้ นทับไฮ เวลาเรยี น รหสั กลมุ่ สาระการเรยี นร/ู้ กิจกรรม (ชม./ป)ี (๘๔๐) ท ๑๕๑๐๑ รายวิชาพนื้ ฐาน ๑๖๐ ค ๑๕๑๐๑ ภาษาไทย ๕ ๑๖๐ ว ๑๕๑๐๑ คณิตศาสตร์ ๕ ว ๑๕๑๐๒ วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ๕ ๘๐ ส ๑๕๑๐๑ วิทยาการคานวณ ๔๐ ส ๑๕๑๐๒ สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ๕ ๘๐ พ ๑๕๑๐๑ ประวัติศาสตร์ ๕ ๔๐ ศ ๑๕๑๐๑ สุขศกึ ษาและพลศึกษา ๕ ๘๐ ง ๑๕๑๐๑ ศิลปะ ๕ ๘๐ อ ๑๕๑๐๑ การงานอาชพี ๕ ๘๐ ภาษาองั กฤษ ๔ ๘๐ ส ๑๕๒๓๕ ๔๐ รายวชิ าเพิ่มเตมิ ๔๐ หนา้ ที่พลเมอื ง ๕ (๑๒๐) ๔๐ กิจกรรมพัฒนาผู้เรยี น แนะแนว ๔๐ กิจกรรมนกั เรยี น ๓๐  ลูกเสือ เนตรนารี ๑๐  ชุมนุม ๒ ชัว่ โมง ๑ ช่วั โมง กิจกรรมเพอื่ สงั คมและสาธารณะประโยชน์ ๑ โครงการสอนเสริมประสบการณพ์ เิ ศษเพือ่ เพมิ่ ศักยภาพนักเรียน จานวน ช้นั ป.๔-๖ จานวน ๓ ชวั่ โมง / สัปดาห์ จานวน ๑. วิชา ภาษาไทยคิดวิเคราะห์ ๒. วชิ า คณติ ศาสตร์

โครงสรา้ งหลกั สูตรชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ ๖ ๑๑ โรงเรยี นบา้ นทับไฮ เวลาเรยี น รหสั กล่มุ สาระการเรียนรู้/กจิ กรรม (ชม./ป)ี (๘๔๐) ท ๑๖๑๐๑ รายวชิ าพ้ืนฐาน ๑๖๐ ค ๑๖๑๐๑ ภาษาไทย ๖ ๑๖๐ ว ๑๖๑๐๑ คณติ ศาสตร์ ๖ ว ๑๖๑๐๒ วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ๖ ๘๐ ส ๑๖๑๐๑ วิทยาการคานวณ ๔๐ ส ๑๖๑๐๒ สงั คมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม ๖ ๘๐ พ ๑๖๑๐๑ ประวัตศิ าสตร์ ๖ ๔๐ ศ ๑๖๑๐๑ สขุ ศกึ ษาและพลศึกษา ๖ ๘๐ ง ๑๖๑๐๑ ศิลปะ ๖ ๘๐ อ ๑๖๑๐๑ การงานอาชีพ ๖ ๘๐ ภาษาอังกฤษ ๖ ๘๐ ส ๑๖๒๓๖ ๔๐ รายวชิ าเพ่มิ เตมิ ๔๐ หน้าที่พลเมอื ง ๖ (๑๒๐) ๔๐ กจิ กรรมพฒั นาผเู้ รียน แนะแนว ๔๐ กจิ กรรมนักเรียน ๓๐  ลกู เสือ เนตรนารี ๑๐  ชุมนมุ ๒ ชั่วโมง ๑ ชว่ั โมง กิจกรรมเพอื่ สงั คมและสาธารณะประโยชน์ ๑ โครงการสอนเสริมประสบการณพ์ ิเศษเพ่อื เพม่ิ ศกั ยภาพนักเรยี น จานวน ช้นั ป.๔ - ๖ จานวน ๓ ช่ัวโมง / สัปดาห์ จานวน ๑. วชิ า ภาษาไทยคดิ วิเคราะห์ ๒. วิชา คณติ ศาสตร์

๑๒ รายวิชาของโรงเรยี นบา้ นทับไฮ จานวน ๒๐๐ ชั่วโมง จานวน ๒๐๐ ชว่ั โมง กลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย จานวน ๒๐๐ ชว่ั โมง รายวชิ าพื้นฐาน จานวน ๑๖๐ ชั่วโมง จานวน ๑๖๐ ชัว่ โมง ท ๑๑๑๐๑ ภาษาไทย ๑ จานวน ๑๖๐ ชว่ั โมง ท ๑๒๑๐๑ ภาษาไทย ๒ ท ๑๓๑๐๑ ภาษาไทย ๓ จานวน ๒๐๐ ชวั่ โมง ท ๑๔๑๐๑ ภาษาไทย ๔ จานวน ๒๐๐ ชว่ั โมง ท ๑๕๑๐๑ ภาษาไทย ๕ จานวน ๒๐๐ ชว่ั โมง ท ๑๖๑๐๑ ภาษาไทย ๖ จานวน ๑๖๐ ช่วั โมง จานวน ๑๖๐ ชว่ั โมง **************** จานวน ๑๖๐ ช่วั โมง กลุม่ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ รายวิชาพืน้ ฐาน จานวน ๘๐ ช่ัวโมง จานวน ๘๐ ชว่ั โมง ค ๑๑๑๐๑ คณิตศาสตร์ ๑ จานวน ๘๐ ชั่วโมง ค ๑๒๑๐๑ คณติ ศาสตร์ ๒ จานวน ๘๐ ชว่ั โมง ค ๑๓๑๐๑ คณติ ศาสตร์ ๓ จานวน ๘๐ ชั่วโมง ค ๑๔๑๐๑ คณิตศาสตร์ ๔ จานวน ๘๐ ช่วั โมง ค ๑๕๑๐๑ คณติ ศาสตร์ ๕ ค ๑๖๑๐๑ คณิตศาสตร์ ๖ จานวน ๔๐ ชว่ั โมง จานวน ๔๐ ชั่วโมง **************** จานวน ๔๐ ช่ัวโมงง กล่มุ สาระการเรียนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี จานวน ๔๐ ชว่ั โมง รายวชิ าพน้ื ฐาน จานวน ๔๐ ชวั่ โมง จานวน ๔๐ ชั่วโมง ว ๑๑๑๐๑ วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ๑ ว ๑๒๑๐๑ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ๒ ว ๑๓๑๐๑ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ๓ ว ๑๔๑๐๑ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ๔ ว ๑๕๑๐๑ วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ๕ ว ๑๖๑๐๑ วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ๖ รายวชิ าพน้ื ฐาน ว ๑๑๑๐๒ วทิ ยาการคานวณ ๑ ว ๑๒๑๐๒ วิทยาการคานวณ ๒ ว ๑๓๑๐๒ วทิ ยาการคานวณ ๓ ว ๑๔๑๐๒ วทิ ยาการคานวณ ๔ ว ๑๕๑๐๒ วิทยาการคานวณ ๕ ว ๑๖๑๐๒ วทิ ยาการคานวณ ๖ ***************

๑๓ กลุ่มสาระการเรียนรสู้ งั คมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม จานวน ๔๐ ชั่วโมง รายวิชาพนื้ ฐาน จานวน ๔๐ ชั่วโมง จานวน ๔๐ ชว่ั โมง ส ๑๑๑๐๑ สงั คมศกึ ษาฯ ๑ จานวน ๘๐ ชว่ั โมง ส ๑๒๑๐๑ สงั คมศกึ ษาฯ ๒ จานวน ๘๐ ชว่ั โมง ส ๑๓๑๐๑ สังคมศึกษาฯ ๓ จานวน ๘๐ ช่ัวโมง ส ๑๔๑๐๑ สังคมศกึ ษาฯ ๔ ส ๑๕๑๐๑ สงั คมศกึ ษาฯ ๕ จานวน ๔๐ ช่ัวโมง ส ๑๖๑๐๑ สงั คมศึกษาฯ ๖ จานวน ๔๐ ชัว่ โมง รายวิชาพนื้ ฐาน จานวน ๔๐ ชวั่ โมง ส ๑๑๑๐๒ ประวัตศิ าสตร์ ๑ จานวน ๔๐ ชว่ั โมง ส ๑๒๑๐๒ ประวตั ิศาสตร์ ๒ จานวน ๔๐ ชว่ั โมง ส ๑๓๑๐๒ ประวตั ิศาสตร์ ๓ จานวน ๔๐ ชั่วโมง ส ๑๔๑๐๒ ประวัตศิ าสตร์ ๔ ส ๑๕๑๐๒ ประวตั ศิ าสตร์ ๕ จานวน ๔๐ ชว่ั โมง ส ๑๖๑๐๒ ประวัตศิ าสตร์ ๖ จานวน ๔๐ ช่ัวโมง รายวชิ าเพิ่มเตมิ จานวน ๔๐ ช่ัวโมง ส ๑๑๒๓๑ หน้าทพ่ี ลเมือง ๑ จานวน ๔๐ ชั่วโมง ส ๑๒๒๓๒ หนา้ ที่พลเมอื ง ๒ จานวน ๔๐ ชั่วโมง ส ๑๓๒๓๓ หน้าท่พี ลเมือง ๓ จานวน ๔๐ ช่ัวโมง ส ๑๔๒๓๔ หน้าทพี่ ลเมอื ง ๔ ส ๑๕๒๓๕ หน้าที่พลเมอื ง ๕ ส ๑๖๒๓๖ หน้าทพ่ี ลเมือง ๖ **************** จานวน ๓๐ ชั่วโมง กลุ่มสาระการเรียนรู้สขุ ศกึ ษาและพลศึกษา จานวน ๓๐ ชว่ั โมง รายวชิ าพน้ื ฐาน จานวน ๓๐ ชวั่ โมง จานวน ๘๐ ชว่ั โมง พ ๑๑๑๐๑ สุขศึกษาฯ ๑ จานวน ๘๐ ชว่ั โมง พ ๑๒๑๐๑ สุขศกึ ษาฯ ๒ จานวน ๘๐ ชั่วโมง พ ๑๓๑๐๑ สุขศึกษาฯ ๓ พ ๑๔๑๐๑ สุขศกึ ษาฯ ๔ พ ๑๕๑๐๑ สขุ ศึกษาฯ ๕ พ ๑๖๑๐๑ สุขศึกษาฯ ๖ ****************

๑๔ กลมุ่ สาระการเรียนรู้ศิลปะ รายวิชาพ้นื ฐาน ศ ๑๑๑๐๑ ศิลปะ ๑ จานวน ๓๐ ชัว่ โมง ศ ๑๒๑๐๑ ศลิ ปะ ๒ จานวน ๓๐ ชั่วโมง ศ ๑๓๑๐๑ ศิลปะ ๓ จานวน ๓๐ ช่วั โมง ศ ๑๔๑๐๑ ศิลปะ ๔ จานวน ๘๐ ชัว่ โมง ศ ๑๕๑๐๑ ศลิ ปะ ๕ จานวน ๘๐ ช่วั โมง ศ ๑๖๑๐๑ ศิลปะ ๖ จานวน ๘๐ ช่วั โมง **************** กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพ รายวชิ าพ้ืนฐาน ง ๑๑๑๐๑ การงานอาชพี ฯ ๑ จานวน ๒๐ ชัว่ โมง ง ๑๒๑๐๑ การงานอาชพี ฯ ๒ จานวน ๒๐ ชั่วโมง ง ๑๓๑๐๑ การงานอาชพี ฯ ๓ จานวน ๒๐ ชว่ั โมง ง ๑๔๑๐๑ การงานอาชพี ฯ ๔ จานวน ๔๐ ชั่วโมง ง ๑๕๑๐๑ การงานอาชพี ฯ ๕ จานวน ๔๐ ชว่ั โมง ง ๑๖๑๐๑ การงานอาชพี ฯ ๖ จานวน ๔๐ ชั่วโมง **************** กล่มุ สาระการเรยี นรูภ้ าษาตา่ งประเทศ(องั กฤษ) รายวชิ าพนื้ ฐาน อ ๑๑๑๐๑ ภาษาอังกฤษ ๑ จานวน ๒๐๐ ชัว่ โมง อ ๑๒๑๐๑ ภาษาองั กฤษ ๒ จานวน ๒๐๐ ชวั่ โมง อ ๑๓๑๐๑ ภาษาองั กฤษ ๓ จานวน ๒๐๐ ชั่วโมง อ ๑๔๑๐๑ ภาษาอังกฤษ ๔ จานวน ๘๐ ชว่ั โมง อ ๑๕๑๐๑ ภาษาองั กฤษ ๕ จานวน ๘๐ ช่วั โมง อ ๑๖๑๐๑ ภาษาองั กฤษ ๖ จานวน ๘๐ ช่วั โมง ****************

๑๕ คาอธิบายรายวิชา กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย

คาอธบิ ายรายวชิ าพนื้ ฐาน ๑๖ ท ๑๑๑๐๑ ภาษาไทย๑ กลุม่ สาระการเรยี นร้ภู าษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ เวลา ๒๐๐ ช่วั โมง คาอธิบายรายวิชา ฝึกอ่านออกเสียงคา คาคล้องจอง และข้อความสั้นๆ บอกความหมายของคาและข้อความ ตอบคาถาม เล่าเรื่องย่อ คาดคะเนเหตุการณ์ เลือกอ่านหนังสือตามความสนใจอย่างสม่าเสมอ นาเสนอเร่ืองท่ีอ่าน บอก ความหมายของเคร่ืองหมายหรือสัญลักษณ์สาคัญที่มักพบเห็นในชีวิตประจาวัน มีมารยาทในการอ่าน ฝึกคัด ลายมือดว้ ยตวั บรรจงเต็มบรรทดั เขียนสอื่ สารด้วยคาและประโยคงา่ ยๆ มีมารยาทในการเขยี น ฝึกทกั ษะในการฟงั ฟงั คาแนะนา คาสง่ั งา่ ยๆและปฏิบัตติ าม ตอบคาถาม เล่าเรอื่ ง พูดแสดงความคดิ เห็น และความรู้สกึ จากเรอ่ื งทฟี่ งั และดู พูดสือ่ สารได้ตามวัตถปุ ระสงค์ เน้นมารยาทในการฟงั การดแู ละการพูด ฝึกทักษะการเขียนพยัญชนะ สระ วรรณยุกต์ และเลขไทย เขียนสะกดคาและบอกความหมายของคา เรยี บเรยี งคาเปน็ ประโยคง่ายๆ ตอ่ คาคล้องจองง่ายๆ บอกข้อคิดท่ีได้จากการอ่านหรือการฟังวรรณกรรมร้อยแก้วและร้อยกรองสาหรับเด็ก ฝึกท่องจาบท อาขยานตามทก่ี าหนดและบทรอ้ ยกรองตามความสนใจ โดยใชก้ ระบวนการอ่าน กระบวนการเขยี น กระบวนการ แสวงหาความรู้ กระบวนการกลมุ่ กระบวนการคิด การฝึกปฏบิ ัติ อธบิ าย บันทึก การตง้ั คาถาม ตอบคาถาม ใช้ ทักษะการฟัง การดูและการพูด พูดแสดงความคิดเห็น กระบวนการสรา้ งความคิดรวบยอด เพื่อให้เกดิ ความรู้ ความคิด ความเข้าใจ สื่อสารได้ถูกต้อง รักการเรียนภาษาไทย เห็นคุณค่าของการ อนุรักษ์ภาษาไทย และตัวเลขไทย สามารถนาความรู้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์โดยใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจ พอเพยี งและสามารถนาไปประยกุ ต์ใช้กับชีวติ ประจาวันไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ งเหมาะสม มาตรฐาน/ตัวชี้วดั ท ๑.๑ ป.๑/๑, ป.๑/๒, ป.๑/๓, ป.๑/๔, ป.๑/๕, ป.๑/๖, ป.๑/๗, ป.๑/๘ ท ๒.๑ ป.๑/๑, ป.๑/๒, ป.๑/๓ ท ๓.๑ ป.๑/๑, ป.๑/๒, ป.๑/๓, ป.๑/๔, ป.๑/๕ ท ๔.๑ ป.๑/๑, ป.๑/๒, ป.๑/๓, ป.๑/๔ ท ๕.๑ ป.๑/๑, ป.๑/๒ รวม ๕ มาตรฐาน ๒๒ ตวั ช้วี ัด

คาอธิบายรายวิชาพ้ืนฐาน ๑๗ ท ๑๒๑๐๑ ภาษาไทย๒ กลุ่มสาระการเรียนรภู้ าษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๒ เวลา ๒๐๐ ชั่วโมง คาอธิบายรายวิชา ฝึกอ่านออกเสยี งคา คาคล้องจอง ข้อความ และบทร้อยกรองง่ายๆ อธิบายความหมายของคาและ ข้อความที่อ่าน ต้ังคาถาม ตอบคาถาม ระบุใจความสาคัญและรายละเอียด แสดงความคิดเห็นและคาดคะเน เหตุการณ์ เลือกอ่านหนังสือตามความสนใจอย่างสม่าเสมอและนาเสนอเร่ืองท่ีอ่าน อ่านข้อเขียนเชิงอธิบาย และปฏบิ ตั ิตามคาสงั่ หรอื ข้อแนะนา มมี ารยาทในการอ่าน ฝึกคัดลายมือด้วยตัวบรรจงเต็มบรรทัด เขียนเรื่องส้ันๆ เกี่ยวกับประสบการณ์ เขียนเร่ืองส้ันๆ ตาม จินตนาการ มมี ารยาทในการเขียน ฝกึ ทักษะการฟัง ฟังคาแนะนา คาสง่ั ทีซ่ ับซอ้ นและปฏิบัตติ าม เล่าเรอื่ ง บอกสาระสาคัญของเรอื่ ง ต้งั คาถาม ตอบคาถาม พดู แสดงความคิดเห็น ความร้สู กึ พูดสื่อสารได้ชัดเจนตรงตามวตั ถปุ ระสงค์ มีมารยาทใน การฟัง การดูและการพูด ฝึกทักษะการเขียนพยญั ชนะ สระ วรรณยกุ ต์ และเลขไทย เขยี นสะกดคาและบอกความหมายของคา เรียบเรียงคาเปน็ ประโยคได้ตรงตามเจตนาของการส่ือสาร บอกลกั ษณะคาคล้องจอง เลอื กใช้ภาษาไทยมาตรฐาน และภาษาถน่ิ ไดเ้ หมาะสมกบั กาลเทศะ ฝึกจับใจความสาคัญจากเรื่อง ระบุข้อคิดท่ีได้จากการอ่านหรือการฟังวรรณกรรมสาหรับเด็ก เพื่อ นาไปใช้ในชีวิตประจาวัน ร้องบทร้องเล่นสาหรับเด็กในท้องถ่ิน ท่องจาบทอาขยานตามที่กาหนดและบทร้อย กรองท่ีมีคุณค่าตามความสนใจ โดยใช้กระบวนการอ่าน กระบวนการเขียน กระบวนการแสวงหาความรู้ กระบวนการกลุ่ม กระบวนการคิดวิเคราะห์ กระบวนการสื่อความ กระบวนการแก้ปัญหา การฝึกปฏิบัติ อธิบาย บันทึก การตั้งคาถาม ตอบคาถาม ใช้ทักษะการฟัง การดูและการพูด พูดแสดงความคิดเห็น กระบวนการสรา้ งความคิดรวบยอด เพ่ือให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ สื่อสารได้ถูกต้อง รักการเรยี นภาษาไทย เห็นคุณค่าของการ อนุรักษ์ภาษาไทย และตัวเลขไทย สามารถนาความรู้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์โดยใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจ พอเพียงและสามารถนาไปประยกุ ต์ใช้กบั ชีวติ ประจาวนั ไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ งเหมาะสม มาตรฐาน/ตวั ชี้วดั ท ๑.๑ ป.๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/๓, ป.๒/๔, ป.๒/๕, ป.๒/๖, ป.๒/๗, ป.๒/๘ ท ๒.๑ ป.๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/๓, ป.๒/๔ ท ๓.๑ ป.๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/๓, ป.๒/๔, ป.๒/๕ ป.๒/๖, ป.๒/๗ ท ๔.๑ ป.๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/๓, ป.๒/๔, ป.๒/๕ ท ๕.๑ ป.๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/๓ รวม ๕ มาตรฐาน ๒๗ ตัวชี้วัด

๑๘ คาอธบิ ายรายวชิ าพ้นื ฐาน ท ๑๓๑๐๑ ภาษาไทย๓ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย ชัน้ ประถมศึกษาปีที่ ๓ เวลา ๒๐๐ ช่วั โมง คาอธิบายรายวชิ า ฝึกอ่านออกเสียงคา ข้อความ เร่ืองสั้น ๆ และบทร้อยกรองง่ายๆ อธิบายความหมายของคาและ ข้อความที่อ่าน ตั้งคาถาม ตอบคาถามเชิงเหตุผล ลาดับเหตุการณ์ คาดคะเนเหตุการณ์ สรุปความรู้ ข้อคิด จากเรอ่ื งท่อี า่ น เพอื่ นาไปใช้ในชีวิตประจาวัน เลือกอา่ นหนงั สือตามความสนใจอย่างสมา่ เสมอและนาเสนอเรื่องที่ อ่าน อ่านข้อเขียนเชิงอธิบาย และปฏิบัติตามคาส่ังหรือข้อแนะนา อธิบายความหมายของข้อมูลจากแผนภาพ แผนท่ี และแผนภูมิ มมี ารยาทในการอา่ น ฝึกคัดลายมือด้วยตัวบรรจงเต็มบรรทดั เขียนบรรยาย เขียนบันทกึ ประจาวัน เขียนเร่ืองตามจนิ ตนาการ มีมารยาทในการเขยี น ฝึกทักษะการฟัง การดูและการพูด เล่ารายละเอียด บอกสาระสาคัญ ต้ังคาถาม ตอบคาถาม พูด แสดงความคดิ เหน็ ความรสู้ ึก พูดสือ่ สารไดช้ ดั เจนตรงตามวตั ถปุ ระสงค์ มีมารยาทในการฟงั การดูและการพดู ฝึกเขียนตามหลักการเขียน เขียนสะกดคาและบอกความหมายของคา ระบุชนิด หน้าท่ีของคา ใช้ พจนานุกรมค้นหาความหมายของคา แต่งประโยคง่ายๆ แต่งคาคลอ้ งจองและคาขวญั เลอื กใชภ้ าษาไทยมาตรฐาน และภาษาถ่ินไดเ้ หมาะสมกับกาลเทศะ ระบขุ ้อคิดทไี่ ดจ้ ากการอ่านวรรณกรรม เพอ่ื นาไปใชใ้ นชีวติ ประจาวัน รจู้ กั เพลงพืน้ บา้ น เพลงกลอ่ มเดก็ เพื่อปลกู ฝงั ความชื่นชมวัฒนธรรมท้องถ่ิน แสดงความคดิ เหน็ เกี่ยวกบั วรรณคดีท่อี า่ น ท่องจาบทอาขยานตามท่ี กาหนดและบทร้อยกรองท่ีมีคุณค่าตามความสนใจ โดยใช้กระบวนการอ่าน กระบวนการเขียน กระบวนการ แสวงหาความรู้ กระบวนการกลุม่ กระบวนการคิดวเิ คราะห์ กระบวนการสือ่ ความ กระบวนการแกป้ ญั หา การฝกึ ปฏิบัติ อธิบาย บันทึก การตั้งคาถาม ตอบคาถาม ใช้ทักษะการฟัง การดูและการพูด พูดแสดงความคิดเห็น กระบวนการสร้างความคิดรวบยอด เพ่ือให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ ส่ือสารได้ถูกต้อง รักการเรยี นภาษาไทย เห็นคุณค่าของการ อนุรักษ์ภาษาไทย และตัวเลขไทย สามารถนาความรู้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์โดยใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจ พอเพยี งและสามารถนาไปประยุกต์ใชก้ ับชีวติ ประจาวันได้อย่างถูกตอ้ งเหมาะสม มาตรฐาน/ตัวชีว้ ดั ท ๑.๑ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓, ป.๓/๔, ป.๓/๕, ป.๓/๖, ป.๓/๗, ป.๓/๘, ป.๓/๙ ท ๒.๑ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓, ป.๓/๔, ป.๓/๕, ป.๓/๖ ท ๓.๑ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓, ป.๓/๔, ป.๓/๕, ป.๓/๖ ท ๔.๑ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓, ป.๓/๔, ป.๓/๕, ป.๓/๖ ท ๕.๑ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓, ป.๓/๔ รวม ๕ มาตรฐาน ๓๑ ตวั ชวี้ ดั

๑๙ คาอธิบายรายวิชาพน้ื ฐาน ท ๑๔๑๐๑ ภาษาไทย๔ กลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๔ เวลา ๑๖๐ ชั่วโมง คาอธบิ ายรายวิชา ฝกึ อ่านออกเสยี งบทรอ้ ยแก้วและบทรอ้ ยกรอง อธบิ ายความหมายของคา ประโยคและสานวนจากเรอ่ื งที่ อ่าน อ่านเร่อื งสน้ั ๆ ตามเวลาทก่ี าหนดและตอบคาถามจากเร่อื งท่อี ่าน แยกข้อเทจ็ จรงิ และข้อคดิ เห็นจากเรอื่ งที่ อ่าน คาดคะเนเหตุการณ์จากเร่อื งทอ่ี ่าน โดยระบุเหตุผลประกอบ สรุปความรู้และข้อคิดจากเรือ่ งท่อี ่าน เพื่อ นาไปใช้ในชีวิตประจาวัน เลือกอ่านหนังสือท่ีมีคุณค่าตามความสนใจอย่างสม่าเสมอและแสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับเรอ่ื งท่ีอ่าน มีมารยาทในการอา่ น ฝึกคัดลายมือด้วยตัวบรรจงเต็มบรรทัดและคร่ึงบรรทัด เขียนสื่อสาร โดยใช้คาได้ถูกต้อง ชัดเจนและเหมาะสม เขียนแผนภาพโครงเรอ่ื งและแผนภาพความคิดเพอ่ื ใช้พฒั นางานเขยี น เขียนย่อความจากเรื่องส้ัน ๆ เขียนจดหมายถึงเพื่อนและมารดา เขียนบันทึกและเขียนรายงานจากการศึกษา คน้ คว้า เขียนเร่อื งตามจินตนาการ มมี ารยาทในการเขียน ฝกึ ทักษะการฟงั การดแู ละการพดู จาแนกข้อเทจ็ จริงและข้อคดิ เห็นเรื่องทีฟ่ ังและดู พดู สรปุ จากการฟงั และดู พูดแสดงความรู้ ความคดิ เหน็ และความรสู้ ึกเกี่ยวกบั เรอื่ งทฟ่ี งั และดู ตั้งคาถามและตอบคาถามเชิงเหตผุ ล จากเรอื่ งที่ฟงั และดู พูดรายงานเรอื่ งหรอื ประเดน็ ที่ศกึ ษาคน้ ควา้ จากการฟงั การดแู ละการสนทนา มีมารยาทใน การฟัง การดูและการพดู ฝกึ เขียนตามหลกั การเขียน เขยี นสะกดคาและบอกความหมายของคาในบริบทตา่ ง ๆ ระบุชนิดและหนา้ ทข่ี องคาในประโยค ใช้พจนานกุ รมคน้ หาความหมายของคา แตง่ ประโยคได้ถกู ตอ้ งตามหลัก ภาษา แตง่ บทรอ้ ยกรองและคาขวญั บอกความหมายของสานวน เปรียบเทยี บภาษาไทยมาตรฐานและภาษาถนิ่ ได้ ระบุข้อคิดจากนิทานพื้นบ้านหรือนิทานคติธรรมอธิบายข้อคิดจากการอ่านเพ่ือนาไปใช้ในชีวิตจริงร้อง เพลงพนื้ บ้านทอ่ งจาบทอาขยานตามที่กาหนดและบทร้อยกรองทม่ี ีคุณคา่ ตามความสนใจ โดยใช้กระบวนการอ่าน กระบวนการเขียน กระบวนการแสวงหาความรู้ กระบวนการกลุ่ม กระบวนการคิดวิเคราะห์และสรุปความ กระบวนการคิดอยา่ งมีวิจารณญาณ กระบวนการสอ่ื ความ กระบวนการแกป้ ญั หา การฝึกปฏบิ ตั ิอธบิ าย บนั ทึก การตง้ั คาถาม ตอบคาถาม ใชท้ ักษะการฟงั การดแู ละการพดู พดู แสดงความคิดเหน็ กระบวนการสรา้ งความคดิ รวบ ยอด เพ่ือใหเ้ กิดความรู้ ความคดิ ความเข้าใจ ส่อื สารได้ถูกตอ้ ง รักการเรยี นภาษาไทย เหน็ คุณคา่ ของการ อนุรักษ์ภาษาไทยและตัวเลขไทย สามารถนาความรู้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์โดยใช้วิธีการของเศรษฐกิจพอเพยี ง และสามารถนาไปประยุกต์ใชก้ ับชีวติ ประจาวนั ได้อยา่ งถกู ต้องเหมาะสม มาตรฐาน/ตัวช้วี ดั ท ๑.๑ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓, ป.๔/๔, ป.๔/๕, ป.๔/๖, ป.๔/๗, ป.๔/๘ ท ๒.๑ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓, ป.๔/๔, ป.๔/๕, ป.๔/๖, ป.๔/๗, ป.๔/๘ ท ๓.๑ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓, ป.๔/๔, ป.๔/๕, ป.๔/๖ ท ๔.๑ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓, ป.๔/๔, ป.๔/๕, ป.๔/๖, ป.๔/๗ ท ๕.๑ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓, ป.๔/๔ รวม ๕ มาตรฐาน ๓๓ ตัวช้ีวัด

คาอธิบายรายวิชาพนื้ ฐาน ๒๐ ท ๑๕๑๐๑ ภาษาไทย๕ กลมุ่ สาระการเรยี นรูภ้ าษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๕ เวลา ๑๖๐ ชวั่ โมง คาอธิบายรายวชิ า ฝกึ อ่านออกเสียงบทร้อยแก้วและบทร้อยกรอง อธิบายความหมายของคา ประโยคและข้อความท่ีเป็น การบรรยายและการพรรณนา อธิบายความหมายโดยนยั แยกข้อเท็จจรงิ ข้อคิดเห็น วิเคราะห์ แสดงความ คดิ เห็น อา่ นงานเขียนเชิงอธบิ าย คาสง่ั ขอ้ แนะนา และปฏบิ ตั ติ าม เลือกอา่ นหนงั สอื ที่มคี ณุ ค่าตามความสนใจ มีมารยาทในการอา่ น ฝึกคัดลายมือด้วยตัวบรรจงเต็มบรรทัดและคร่ึงบรรทัด เขียนส่ือสาร เขียนแผนภาพโครงเรื่อง แผนภาพความคดิ เขียนย่อความ เขียนจดหมายถึงผปู้ กครองและญาติ เขียนแสดงความรสู้ กึ และความคิดเห็น กรอกแบบรายการตา่ ง ๆ เขียนเรอื่ งตามจินตนาการ มมี ารยาทในการเขยี น ฝึกทักษะการฟัง การดูและการพูด พูดแสดงความรู้ ความคิดเห็นและความรู้สึก ตั้งคาถาม ตอบ คาถาม วิเคราะหค์ วาม พูดรายงาน มีมารยาทในการฟัง การดแู ละการพูด ระบุชนิดและหน้าท่ีของคาในประโยค จาแนกส่วนประกอบของประโยค เปรียบเทียบภาษาไทย มาตรฐานและภาษาถ่ิน ใช้คาราชาศพั ท์ บอกคาภาษาต่างประเทศในภาษาไทย แตง่ บท รอ้ ยกรอง ใชส้ านวนไดถ้ กู ตอ้ ง สรุปเรื่องจากวรรณคดีหรอื วรรณกรรมที่อา่ น ระบคุ วามรู้ ข้อคดิ จากการอ่านวรรณคดแี ละวรรณกรรมที่ สามารถนาไปใช้ในชีวติ จรงิ อธิบายคณุ คา่ ของวรรณคดีและวรรณกรรม ท่องจาบทอาขยานตามทก่ี าหนดและบท ร้อยกรองที่มีคุณค่าตามความสนใจ โดยใช้กระบวนการอ่าน กระบวนการเขียน กระบวนการแสวงหาความรู้ กระบวนการกลุ่ม กระบวนการคิดวิเคราะห์และสรุปความ กระบวนการคดิ อย่างมวี ิจารณญาณ กระบวนการสอื่ ความ กระบวนการแกป้ ัญหา การฝกึ ปฏบิ ัติ อธบิ าย บนั ทึก การตงั้ คาถาม ตอบคาถาม ใชท้ ักษะการฟงั การ ดแู ละการพูด พูดแสดงความคิดเห็น กระบวนการสร้างความคดิ รวบยอด เพื่อใหเ้ กดิ ความรู้ ความคดิ ความเขา้ ใจ สือ่ สารไดถ้ กู ตอ้ ง รักการเรียนภาษาไทย เหน็ คณุ ค่าของการ อนุรักษ์ภาษาไทย และตัวเลขไทย สามารถนาความรู้ไปใช้ใหเ้ กิดประโยชน์โดยใช้วิธีการของเศรษฐกจิ พอเพยี ง และสามารถนาไปประยกุ ตใ์ ช้กบั ชีวิตประจาวันไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ งเหมาะสม มาตรฐาน/ตัวชี้วัด ท ๑.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔, ป.๕/๕, ป.๕/๖, ป.๕/๗, ป.๕/๘ ท ๒.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔, ป.๕/๕, ป.๕/๖, ป.๕/๗, ป.๕/๘, ป.๕/๙ ท ๓.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔, ป.๕/๕ ท ๔.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔, ป.๕/๕, ป.๕/๖, ป.๕/๗ ท ๕.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔ รวม ๕ มาตรฐาน ๓๓ ตัวชว้ี ัด

๒๑ คาอธบิ ายรายวชิ าพ้นื ฐาน ท ๑๖๑๐๑ ภาษาไทย๖ กลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี ๖ เวลา ๑๖๐ ชัว่ โมง คาอธบิ ายรายวชิ า ฝกึ อา่ นออกเสียงบทร้อยแก้วและบทร้อยกรอง อธิบายความหมายของคา ประโยคและข้อความท่ีเป็น โวหาร อา่ นเร่อื งส้ัน ๆอยา่ งหลากหลาย แยกขอ้ เทจ็ จริงและข้อคดิ เห็นจากเรอื่ งทอี่ ่าน วเิ คราะหแ์ ละแสดงความ คิดเห็นเก่ียวกับเร่ืองที่อ่านเพื่อนาไปใช้ในการดาเนินชีวิต อ่านงานเขียน เชิงอธิบาย คาสั่ง ข้อแนะนา และ ปฏบิ ตั ิตาม อธิบายความหมายของขอ้ มูลจากการอ่านแผนผัง แผนที่ แผนภูมแิ ละกราฟ เลือกอ่านหนังสอื ตาม ความสนใจและอธบิ ายคุณคา่ ทไี่ ดร้ ับ มมี ารยาทในการอา่ น ฝึกคัดลายมือด้วยตัวบรรจงเต็มบรรทัดและครึ่งบรรทัดเขียนสื่อสารโดยใช้คาได้ถูกต้องชัดเจนและ เหมาะสมเขียนแผนภาพโครงเรื่องและแผนภาพความคดิ เพือ่ ใช้พฒั นางานเขียนเขียนเรยี งความเขียนย่อความจาก เรื่องอ่านเขียนจดส่วนตัวกรอกแบบรายการตา่ ง ๆ เขยี นเรอ่ื งตามจินตนาการและสร้างสรรค์มีมารยาทในการเขยี น ฝึกทักษะการฟัง การดูและการพูด พูดแสดงความรู้ ความเข้าใจจุดประสงค์ของเร่ืองที่ฟังและดู ต้ัง คาถามและตอบคาถามเชิงเหตุผลจากเรื่องที่ฟังและดู วิเคราะห์ความน่าเช่ือถือจากเรื่องที่ฟังและดูสื่อโฆษณา อยา่ งมีเหตผุ ล พูดรายงานเร่อื งหรอื ประเด็นที่ศึกษาค้นควา้ จากการฟงั การดแู ละการสนทนา พูดโนม้ นา้ วอยา่ งมี เหตผุ ลและนา่ เชือ่ ถอื มีมารยาทในการฟงั การดูและการพูด ฝึกวิเคราะหช์ นิดและหน้าทีข่ องคาในประโยค ใช้คาได้เหมาะสมกับกาลเทศะและบุคคล รวบรวมและ บอกความหมายของคาภาษาต่างประเทศท่ีใช้ในภาษาไทย ระบุลักษณะของประโยค แต่งบทร้อยกรอง วเิ คราะห์เปรียบเทียบสานวนที่เปน็ คาพังเพยและสุภาษติ ฝึกแสดงความคิดเห็นจากวรรณคดีหรือวรรณกรรมทอี่ ่าน เล่านิทานพื้นบ้านท้องถิ่นตนเองและนิทาน พื้นบา้ นของท้องถ่นิ อ่ืน อธิบายคุณคา่ ของวรรณคดีและวรรณกรรมท่ีอ่านและนาไปประยุกตใ์ ชใ้ นชวี ิตจริง ทอ่ งจา บทอาขยานตามท่ีกาหนดและบทรอ้ ย โดยใช้กระบวนการอ่าน กระบวนการเขียน กระบวนการแสวงหาความรู้ กระบวนการกลมุ่ กระบวนการคดิ วเิ คราะหแ์ ละสรุปความ กระบวนการคิดอย่างมีวจิ ารณญาณ กระบวนการสอื่ ความ กระบวนการแก้ปัญหา กระบวนการสงั เกต กระบวนกรแยกข้อเทจ็ จริง กระบวนการคน้ ควา้ กระบวนการ ใช้เทคโนโลยีในการสื่อสาร กระบวนการใช้ทกั ษะทางภาษา การฝึกปฏิบตั ิ อธิบาย บันทึก การต้ังคาถาม ตอบ คาถาม ใช้ทักษะการฟงั การดแู ละการพดู พดู แสดงความคิดเหน็ กระบวนการสรา้ งความคดิ รวบยอด เพ่ือให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ สื่อสารได้ถูกต้อง รักการเรียนภาษาไทย เห็นคุณค่าของการ อนุรักษ์ภาษาไทย และตัวเลขไทย สามารถนาความรู้ไปใช้ให้เกิดประโยชนโ์ ดยใช้วิธีการของเศรษฐกิจพอเพยี ง และสามารถนาไปประยกุ ตใ์ ช้กบั ชวี ติ ประจาวันได้อยา่ งถกู ต้องเหมาะสม มาตรฐาน/ตวั ชี้วดั ท ๑.๑ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๔, ป.๖/๕, ป.๖/๖, ป.๖/๗, ป.๖/๘, ป.๖/๙ ท ๒.๑ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๔, ป.๖/๕, ป.๖/๖, ป.๖/๗, ป.๖/๘, ป.๖/๙ ท ๓.๑ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๔, ป.๖/๕, ป.๖/๖ท ๔.๑ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๔, ป.๖/ ๕, ป.๖/๖ ท ๕.๑ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๔ รวม ๕ มาตรฐาน ๓๔ ตัวชว้ี ัด

๒๒ คาอธบิ ายรายวิชา กลุ่มสาระการเรียนรูค้ ณิตศาสตร์

คาอธบิ ายรายวิชาพืน้ ฐาน ๒๓ ค ๑๑๑๐๑ คณิตศาสตร์๑ กลุ่มสาระการเรียนรคู้ ณิตศาสตร์ ช้ันประถมศึกษาปีที่ ๑ เวลา ๒๐๐ ชว่ั โมง คาอธบิ ายรายวชิ า ศกึ ษา ฝกึ ทกั ษะการคิดคานวณและฝึกแก้ปญั หา จานวนนบั ๑ ถึง ๑๐๐ และ ๐ บอกและแสดงจานวนส่ิง ตา่ ง ๆ ตามจานวนทีก่ าหนด อ่านและเขียนตัวเลขฮนิ ดูอารบิก ตวั เลขไทย การบอกอันดบั ท่ีหลกั ค่าของเลขโดดใน แต่ละหลัก และเขยี นแสดงจานวนในรูปกระจาย เปรียบเทยี บจานวนนบั ไม่เกิน ๑๐๐ และ ๐ โดยใชเ้ ครอื่ งหมาย = ≠ > < เรียงลาดับจานวนตัง้ แต่ ๓ ถึง ๕ จานวน และหาคา่ ของตัวไมท่ ราบค่าในประโยคสญั ลักษณ์แสดงการ บวก การลบ การแก้โจทย์ปัญหาการบวก การลบ ของจานวนนับไมเ่ กิน ๑๐๐ และ ๐ ความยาวและนา้ หนกั สร้างโจทย์ปัญหาพร้อมท้ังแสดงวธิ หี าคาตอบของโจทย์ปัญหาการบวก การลบ ของจานวนนับไม่เกนิ ๑๐๐ และ ๐ ระบจุ านวนท่หี ายไปในแบบรปู ของจานวนทีเ่ พ่ิมข้ึนหรือลดลงทีละ๑ ทีละ ๑๐ รูปทีห่ ายไปในแบบรปู ซา้ ของ รปู เรขาคณิตและรปู อ่นื ๆ ท่ีสมาชิกใน แต่ละชดุ ที่ซ้ามี ๒ รปู วดั และเปรียบเทยี บความยาวเปน็ เซนตเิ มตร เปน็ เมตร น้าหนักเป็นกิโลกรมั เป็นขีด และใช้หน่วยท่ีไมใ่ ช่หน่วยมาตรฐาน จาแนกรูปสามเหล่ียม รูปสี่เหลยี่ ม วงกลม วงรี ทรงส่ีเหลี่ยมมุมฉาก ทรงกลม ทรงกระบอก และกรวย ใช้ข้อมูลจากแผนภูมิรูปภาพในการหาคาตอบของ โจทย์ปญั หา เม่อื กาหนดรปู ๑ รูปแทน ๑ หน่วย มาตรฐาน/ตวั ชว้ี ดั ค ๑.๑ ป.๑/๑ , ป.๑/๒ , ป.๑/๓ , ป.๑/๔ , ป.๑/๕ ค ๑.๒ ป.๑/๑ ค ๒.๑ ป.๑/๑ , ป.๑/๒ ค ๒.๒ ป.๑/๑ ค ๓.๑ ป.๑/๑ รวมทัง้ หมด ๑๐ ตวั ชวี้ ดั

คาอธิบายรายวชิ าพ้นื ฐาน ๒๔ ค ๑๒๑๐๑ คณติ ศาสตร์๒ กล่มุ สาระการเรียนรูค้ ณติ ศาสตร์ ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ ๒ เวลา ๒๐๐ ชวั่ โมง คาอธบิ ายรายวชิ า ศึกษา ฝกึ ทักษะการคดิ คานวณและฝกึ แก้ปญั หา จานวนนับ ๑ ถงึ ๑,๐๐๐ และ ๐ บอกและแสดงจานวน ส่งิ ต่าง ๆ ตามจานวนทก่ี าหนด อา่ นและเขยี นตวั เลขฮินดอู ารบิก ตัวเลขไทย การบอกอนั ดบั ท่ีหลัก คา่ ของเลขโดด ในแต่ละหลัก และเขียนแสดงจานวนในรูปกระจาย เปรียบเทียบจานวนนับไม่เกิน ๑,๐๐๐ และ ๐ โดยใช้ เครอื่ งหมาย = ≠ > < เรียงลาดับจานวนนับไมเ่ กนิ ๑,๐๐๐ และ ๐ ตงั้ แต่ ๓ ถึง ๕ จานวน และหาคา่ ของตัว ไม่ทราบค่าในประโยคสญั ลกั ษณแ์ สดงการบวก การลบ การแก้โจทย์ปัญหาการบวก การลบของจานวนนับไมเ่ กนิ ๑,๐๐๐ และ ๐ หาค่าของตวั ไมท่ ราบคา่ ในประโยคสัญลกั ษณ์แสดงการคูณของจานวน ๑ หลักกับจานวนไม่เกนิ ๒ หลกั และประโยคสญั ลักษณ์แสดงการหารทตี่ วั ต้งั ไมเ่ กนิ ๒ หลกั ตวั หาร ๑ หลัก โดยที่ผลหารมี ๑ หลกั ทัง้ หาร ลงตัวและหารไมล่ งตัว หาผลลพั ธ์การบวก ลบ คูณ หารระคนของจานวนนับไมเ่ กิน ๑,๐๐๐ และ ๐ แสดงวิธหี า คาตอบของโจทย์ปัญหา ๒ ขั้นตอนของจานวนนับไม่เกิน ๑,๐๐๐ และ ๐ แสดงวิธีหาคาตอบของโจทย์ปัญหา เก่ียวกับเวลาท่ีมีหนว่ ยเดย่ี วและเป็นหน่วยเดียว วัดและเปรียบเทียบความยาวเปน็ เมตรและเซนติเมตร พร้อมทง้ั แสดงวิธีการหาคาตอบของโจทย์ปัญหาการบวก การลบความยาวท่ีมีหน่วยเป็นเมตรและเซนติเมตร วัดและ เปรียบเทียบน้าหนักเป็นกโิ ลกรัมและกรัม กิโลกรัมและขีด พร้อมท้ังแสดงวิธีการหาคาตอบของโจทย์ปญั หาการ บวกการลบเก่ียวกับน้าหนักทม่ี หี น่วยเปน็ กโิ ลกรมั และกรมั กิโลกรมั และขดี วัดและเปรียบเทยี บปริมาตรและความ จุเปน็ ลิตร จาแนกและบอกลกั ษณะของรปู หลายเหลี่ยมและวงกลม ใช้ข้อมูลจากแผนภมู ิรูปภาพในการหาคาตอบ ของโจทย์ปญั หา เม่ือกาหนดรปู ๑ รูปแทน ๒ หนว่ ย ๕ หน่วยหรือ ๑๐ หนว่ ย มาตรฐาน/ตัวชี้วัด ค ๑.๑ ป.๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/๓, ป.๒/๔, ป.๒/๕, ป.๒/๖, ป.๒/๗, ป.๒/๘ ค ๒.๑ ป.๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/๓, ป.๒/๔, ป.๒/๕, ป.๒/๖ ค ๒.๒ ป.๒/๑ ค ๓.๑ ป.๒/๑ รวม ๑๖ ตวั ชี้วัด

คาอธบิ ายรายวิชาพ้นื ฐาน ๒๕ ค ๑๓๑๐๑ คณิตศาสตร์๓ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ ๓ เวลา ๒๐๐ ชว่ั โมง คาอธิบายรายวิชา อ่านและเขียน ตัวเลขฮินดูอารบิก ตัวเลขไทย และตัวหนังสือแสดงจานวนนับไม่เกิน ๑๐๐,๐๐๐ และ ๐ เปรียบเทียบและเรียงลาดับจานวนนับไม่เกิน ๑๐๐,๐๐๐ และ ๐ จากสถานการณ์ต่าง ๆ บอก อ่านและเขียน เศษสว่ นท่ีแสดงปรมิ าณส่ิงตา่ ง ๆ และแสดงสงิ่ ต่าง ๆ ตามเศษสว่ นทก่ี าหนด เปรียบเทยี บเศษส่วนที่ตวั เศษเทา่ กัน โดยท่ีตัวเศษนอ้ ยกว่าหรือเทา่ กับตัวส่วน หาค่าของตัวไม่ทราบคา่ ในประโยคสญั ลกั ษณแ์ สดงการบวกและการลบ ของจานวนนับไม่เกิน ๑๐๐,๐๐๐ และ ๐ หาค่าของตัวไม่ทราบค่าในประโยคสญั ลักษณ์แสดงการคูณของจานวน ๑ หลักกับจานวนไม่เกิน ๔ หลักและจานวน ๒ หลักกับจานวน ๒ หลัก หาค่าของตัวไม่ทราบค่าในประโยค สัญลักษณ์แสดงการหารท่ีตัวตั้งไม่เกิน ๔ หลัก ตัวหาร ๑ หลัก และหาผลลัพธ์การบวก ลบ คูณ หารระคนและ แสดงวิธกี ารหาคาตอบของโจทย์ปัญหา ๒ ขัน้ ตอนของจานวนนบั ไมเ่ กนิ ๑๐๐,๐๐๐ และ ๐ หาผลบวกและแสดง วิธหี าคาตอบของโจทย์ปญั หาการบวกของเศษส่วนท่ีมีตัวสว่ นเท่ากนั และผลบวกไม่เกิน ๑ และหาผลลบพร้อมท้ัง แสดงวิธีหาคาตอบของโจทย์ปัญหารการลบของเสษส่วนที่มีตัวส่วนเท่ากัน ระบุจานวนท่ีหายไปในแบบรูปของ จานวนท่ีเพิ่มข้ึนหรือลดลงทีละเท่า ๆ กัน แสดงวิธีหาคาตอบของโจทย์ปัญหาเกี่ยวกับเงิน เวลาและระยะเวลา เลือกใชเ้ ครอ่ื งมอื ความยาวที่เหมาะสม วัดและบอกความยาวของสงิ่ ตา่ ง ๆ เปน็ เซนติเมตรและมลิ ลิเมตร เมตรและ เซนติเมตร คาดคะเนความยาวเป็นเมตรและเปน็ เซนติเมตร เปรียบเทียบความยาวและแสดงวิธีหาคาตอบของ โจทยป์ ัญหาเกี่ยวกับระหว่างเซนติเมตรกบั มลิ ลิเมตร เมตรกับเซนติเมตร กิโลเมตรกับเมตร จากสถานการณต์ า่ ง ๆ เลือกใช้เครื่องชั่งที่เหมาะสม วัดและบอกน้าหนักเป็นกิโลกรัมและขีด กิโลกรัมและกรัม คาดคะเนน้าหนักเป็น กิโลกรัมและเป็นขีด เปรียบเทียบน้าหนักและแสดงวิธีหาคาตอบของโจทย์ปัญหาเกีย่ วกับน้าหนักที่มีหน่วยเป็น กโิ ลกรมั กับกรัม เมตริกตนั กับกิโลกรมั จากสถานการณต์ ่าง ๆ เลอื กใชเ้ คร่ืองตวงทเ่ี หมาะสม วัดและเปรียบเทยี บ ปริมาตร ความจุเป็นลิตรและมิลลิลิตร คาดคะเนและแสดงวิธีหาคาตอบของโจทย์ปัญหาเก่ียวกับปรมิ าตรและ ความจุเป็นลติ รและมิลลิเมตร ระบุรูปเรขาคณิตสองมิตทิ ี่มีแกนสมมาตรและจานวนแกนสมมาตร เขียนแผนภมู ิ รูปภาพและใช้ข้อมูลจากแผนภูมิรูปภาพในการหาคาตอบของโจทยป์ ญั หา เขียนตารางทางเดียวจากข้อมูลทเ่ี ปน็ จานวนนบั และใชข้ ้อมลู จากตารางทางเดยี วในการหาคาตอบของโจทย์ปัญหา มาตรฐาน/ตัวชวี้ ดั ค ๑.๑ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓, ป.๓/๔, ป.๓/๕, ป.๓/๖, ป.๓/๗, ป.๓/๘, ป.๓/๙, ป.๓/๑๐ , ป.๓/๑๑ ค ๑.๒ ป.๓/๑ ค ๒.๑ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓, ป.๓/๔, ป.๓/๕, ป.๓/๖, ป.๓/๗, ป.๓/๘, ป.๓/๙, ป.๓/๑๐, ป.๓/๑๑, ป.๓/๑๒, ป.๓/๑๓ ค ๒.๒ ป.๓/๑ ค ๓.๑ ป.๓/๑, ป.๓/๒ รวม ๒๘ ตวั ชวี้ ดั

คาอธบิ ายรายวิชาพื้นฐาน ๒๖ ค ๑๔๑๐๑ คณติ ศาสตร์๔ กล่มุ สาระการเรียนรูค้ ณิตศาสตร์ ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ ๔ เวลา ๑๖๐ ชวั่ โมง คาอธิบายรายวชิ า ศึกษา ฝึกทักษะการอ่านและเขียนตัวเลขฮินดูอารบิก ตัวเลขไทย และตัวหนังสือแสดงจานวนนับท่ี มากกว่า ๑๐๐,๐๐๐ พรอ้ มทง้ั เปรยี บเทยี บและเรียงลาดับจานวนนบั ท่มี ากกว่า ๑๐๐,๐๐๐ จากสถานการณ์ต่าง ๆ บอก อ่านและเขยี นเศษสว่ น จานวนคละแสดงปริมาณส่งิ ต่าง ๆ และแสดงส่ิงต่าง ๆ ตามเศษสว่ น จานวนคละท่ี กาหนด เปรยี บเทยี บ เรยี งลาดบั เศษส่วนและจานวนคละทต่ี ัวสว่ นตวั หน่งึ เปน็ พหูคณู ของอีกตวั หนึ่ง อ่านและเขียน ทศนิยมไมเ่ กิน ๓ ตาแหน่ง แสดงปริมาณของสง่ิ ตา่ ง ๆ ตามทศนิยมทกี่ าหนด เปรียบเทียบและเรียงลาดับทศนยิ ม ไม่เกิน ๓ ตาแหน่ง และประมาณผลลัพธ์ของการบวก การลบการคูณ การหาร จากสถานการณ์ต่าง ๆ อย่าง สมเหตุสมผล หาค่าของตัวไม่ทราบค่าในประโยคสัญลักษณ์ แสดงการบวก การลบของจานวนนับท่ีมากกว่า ๑๐๐,๐๐๐ และ ๐ แสดงการคูณของจานวนหลายหลัก ๒ จานวน ท่ีมีผลคูณไมเ่ กนิ ๖ หลัก และแสดงการหารท่ี ตัวตัง้ ไมเ่ กิน ๖ หลัก ตัวหารไมเ่ กนิ ๒ หลัก หาผลลพั ธ์การบวก ลบ คูณ หารระคนของจานวนนับ และ ๐ แสดงวธิ ี หาคาตอบของโจทย์ปญั หา ๒ ขั้นตอนของจานวนนับท่ีมากกว่า ๑๐๐,๐๐๐ และ ๐ สรา้ งโจทยป์ ัญหา ๒ ขั้นตอน ของจานวนนบั และ ๐ พร้อมทั้งหาคาตอบ หาคาตอบและแสดงวิธหี าคาตอบของโจทยป์ ญั หาการบวก การลบของ เศษส่วนและจานวนคละท่ีตัวส่วนตัวหน่ึงเป็นพหูคูณของอีกตัวหนึ่ง หาผลบวก ผลลบของทศนิยมไม่เกิน ๓ ตาแหน่ง และแสดงวิธีหาคาตอบของโจทยป์ ญั หาการบวก การลบ ๒ ขั้นตอนของทศนยิ มไม่เกนิ ๓ ตาแหน่ง แสดงวิธีหาคาตอบของโจทย์ปัญหาเก่ียวกับเวลา วัดและสร้างมุมโดยใช้โพรแทรกเตอร์ แสดงวิธีหา คาตอบของโจทย์ปัญหาเกี่ยวกบั ความยาวรอบรปู และพืน้ ท่ขี องรปู สเี่ หล่ยี มมุมฉาก จาแนกชนดิ ของมุม บอกช่ือมมุ ส่วนประกอบของมมุ และเขียนสัญลกั ษณ์แสดงมมุ สร้างรปู สเ่ี หลีย่ มมมุ ฉากเมื่อกาหนดความยาวของด้าน และใช้ ขอ้ มูลจากแผนภูมแิ ท่ง ตารางสองทางในการหาคาตอบของโจทยป์ ญั หา มาตรฐาน/ตัวชว้ี ัด ค ๑.๑ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓, ป.๔/๔, ป.๔/๕, ป.๔/๖, ป.๔/๗, ป.๔/๘, ป.๔/๙, ป.๔/๑๐, ป.๔/๑๑, ป.๔/๑๒, ป.๔/๑๓, ป.๔/๑๔, ป.๔/๑๕, ป.๔/๑๖ ค ๒.๑ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓ ค ๒.๒ ป.๔/๑, ป.๔/๒ ค ๓.๑ ป.๔/๑ รวม ๒๒ ตัวชี้วัด

คาอธบิ ายรายวิชาพืน้ ฐาน ๒๗ ค ๑๕๑๐๑ คณิตศาสตร์๕ กลมุ่ สาระการเรยี นรคู้ ณติ ศาสตร์ ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี ๕ เวลา ๑๖๐ ชัว่ โมง คาอธิบายรายวิชา เขียนเศษส่วนท่ีมีตัวส่วนเป็นตัวประกอบของ ๑๐ หรือ ๑๐๐ หรือ ๑,๐๐๐ ในรูปทศนิยม แสดงวิธีหา คาตอบของโจทย์ปัญหาโดยใช้บัญญัติไตรยางศ์ หาผลบวก ผลลบ ผลคูณ ผลหารของเศษส่วนและจานวนคละ แสดงวิธหี าคาตอบของโจทย์ปัญหาการบวก การลบ การคณู การหารเศษสว่ น ๒ ขน้ั ตอน หาผลคูณของทศนิยม ที่ ผลคณู เปน็ ทศนิยมไม่เกิน ๓ ตาแหนง่ หาผลหารทต่ี วั ตง้ั เป็นจานวนนบั หรอื ทศนิยมไม่เกิน ๓ ตาแหน่ง และตัวหาร เป็นจานวนนับ ผลหารเป็นทศนิยมไม่เกนิ ๓ ตาแหน่ง แสดงวิธีหาคาตอบของโจทยป์ ัญหาการบวก การลบ การ คูณ การหารทศนิยม ๒ ขั้นตอน และแสดงวิธีหาคาตอบของโจทยป์ ัญหาร้อยละไม่เกิน ๒ ข้นั ตอน แสดงวิธีหาคาตอบของโจทย์ปัญหาเก่ียวกับความยาว น้าหนัก ที่มีการเปล่ียนหน่วยและเขียนในรูป ทศนิยม แสดงวิธหี าคาตอบของโจทยป์ ญั หาเก่ียวกับปรมิ าตรของทรงส่เี หล่ียมมุมฉากและความจุของภาชนะทรง ส่ีเหล่ียมมุมฉาก ความยาวรอบรปู ของรปู ส่ีเหลยี่ มและพ้นื ท่ีของรูปส่ีเหล่ยี มด้านขนานและรปู ส่ีเหล่ียมขนมเปียก ปูน สร้างเส้นตรงหรอื ส่วนของเสน้ ตรงใหข้ นานกับเส้นตรงหรือส่วนของเส้นตรงที่กาหนดให้ จาแนกรูปสีเ่ หลี่ยม โดยพิจารณาจากสมบัติของรปู สร้างรูปสีเ่ หลย่ี มชนิดต่าง ๆ เมื่อกาหนดความยาวของดา้ นและขนาดของมุมหรือ เม่ือกาหนดความยาวของเส้นทแยงมมุ และบอกลกั ษณะของปริซมึ ใชข้ ้อมลู จากกราฟเส้นในการหาคาตอบของโจทยป์ ญั หา และเขียนแผนภูมแิ ท่งจากข้อมูลทเ่ี ปน็ จานวนนบั มาตรฐาน/ตวั ชว้ี ดั ค ๑.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔ , ป.๕/๕, ป.๕/๖, ป.๕/๗, ป.๕/๘, ป.๕/๙ ค ๒.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔ ค ๒.๒ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔ ค ๓.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒ รวม ๑๙ ตัวชี้วดั

คาอธบิ ายรายวิชาพ้ืนฐาน ๒๘ ค ๑๖๑๐๑ คณิตศาสตร์๖ กลมุ่ สาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี ๖ เวลา ๑๖๐ ชั่วโมง คาอธิบายรายวิชา เปรียบเทียบ เรียงลาดับ เศษส่วนและจานวนคละจากสถานการณ์ต่าง ๆ เขียนอัตราส่วนแสดงการ เปรียบเทียบปริมาณ ๒ ปริมาณจากข้อความหรือสถานการณ์ โดยท่ีปริมาณแต่ละปริมาณเป็นจานวนนับ หา อัตราส่วนที่เท่ากับอัตราส่วนที่กาหนดให้ หา ห.ร.ม. และ ค.ร.น. ของจานวนนับไม่เกิน ๓ จานวน แสดงวิธีหา คาตอบของโจทยป์ ญั หาโดยใชค้ วามรเู้ ก่ียวกบั ห.ร.ม. และ ค.ร.น. หาผลลัพธ์ของการบวก ลบ คณู หารระคนของ เศษส่วนและจานวนคละ แสดงวิธีหาคาตอบของโจทย์ปัญหาเศษส่วนและจานวนคละ ๒ – ๓ ขั้นตอน หาผลหาร ของทศนยิ มท่ีตัวหารและผลหารเป็นทศนยิ มไมเ่ กนิ ๓ ตาแหนง่ แสดงวธิ หี าคาตอบของโจทยป์ ัญหาการบวก การ ลบ การคูณ การหารทศนิยม ๓ ขั้นตอน แสดงวิธีหาคาตอบของโจทย์ปัญหาอัตราส่วน ปัญหาร้อยละ ๒ – ๓ ขนั้ ตอน แสดงวธิ คี ิดและหาคาตอบของปัญหาเกี่ยวกับแบบรปู แสดงวธิ หี าคาตอบของโจทย์ปัญหาเกีย่ วกบั ปริมาตรของรปู เรขาคณิตสามมติ ทิ ่ีประกอบด้วยทรงส่เี หลี่ยมมมุ ฉาก และแสดงวิธีหาคาตอบของโจทย์ปัญหาเกี่ยวกับความยาวรอบรปู และพ้ืนทขี่ องรปู หลายเหลี่ยม ความยาว รอบรูปและพ้ืนทข่ี องวงกลม จาแนกรปู สามเหลยี่ มโดยพิจารณาจากสมบัติของรปู สร้างรูปสามเหล่ียมเมอ่ื กาหนด ความยาวของดา้ นและขนาดของมุม บอกลักษณะของรูปเรขาคณติ สามมติ ชิ นิดตา่ ง ๆ ระบุรปู เรขาคณติ สามมติ ิท่ี ประกอบจากรูปคล่แี ละระบุรูปคล่ีของรปู เรขาคณติ สามมิติ ใช้ขอ้ มูลจากแผนภมู ิรูปวงกลมในการหาคาตอบของโจทยป์ ัญหา มาตรฐาน/ตัวชีว้ ดั ค ๑.๑ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๔, ป.๖/๕, ป.๖/๖, ป.๖/๗, ป.๖/๘, ป.๖/๙, ป.๖/๑๐, ป.๖/๑๑ ค ๑.๒ ป.๖/๑ ค ๒.๑ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓ ค ๒.๒ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๔ ค ๓.๑ ป.๖/๑ รวม ๒๐ ตัวชี้วัด

๒๙ คาอธิบายรายวชิ า กล่มุ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตรแ์ ละ เทคโนโลยี

๓๐ คาอธบิ ายรายวิชาพน้ื ฐาน ว๑๑๑๐๑ วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี๑ กล่มุ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชัน้ ประถมศึกษาปีที่ ๑ เวลา ๘๐ ชัว่ โมง คาอธบิ ายรายวิชา ระบุ บอก ตระหนัก บรรยาย สารวจ เกย่ี วกับชอ่ื พืชและสัตว์ทอ่ี าศยั อยู่ในบริเวณตา่ งๆ สภาพแวดล้อมที่ เหมาะสม เพ่ือการอยู่อาศัยของพืชและสัตว์ ลักษณะหน้าท่ีของส่วนต่างๆของร่างกายมนุษย์ สัตว์ และพืช ความสาคัญของสว่ นต่างๆของร่างกาย วสั ดุท่ใี ช้ทาวตั ถุ ชนิดของวัสดุ และจดั กลุ่มวสั ดตุ ามสมบัตทิ ่ีสังเกตได้ การเกดิ เสยี ง การเคลอ่ื นทขี่ องแสง เชงิ ประจกั ษ์ ดาวท่ีปรากฏให้เหน็ ในท้องฟ้า เวลากลางวันและกลางคนื ลกั ษณะภายนอกของหินจากลกั ษณะเฉพาะตัว ท่ีสงั เกตได้ โดยใช้กระบวนทางวทิ ยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสารวจตรวจสอบ การสบื ค้นขอ้ มูล บันทึก จัด กลุ่มข้อมูล เพื่อให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ สามารถนาเสนอส่ือสารส่ิงที่เรียนรู้ มีความสามารถในการ ตัดสินใจ เห็นคุณคา่ ของการนาความรู้ไปใช้ในชีวติ ประจาวัน มจี ิตวิทยาศาสตร์ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม และค่านิยมท่ี เหมาะสม มาตรฐาน/ตวั ช้วี ัด ว ๑.๑ ป.๑/๑, ป.๑/๒ ว ๑.๒ ป.๑/๑, ป.๑/๒ ว ๒.๑ ป.๑/๑, ป.๑/๒ ว ๒.๓ ป.๑/๑ ว ๓.๑ ป.๑/๑, ป.๑/๒ ว ๓.๒ ป.๑/๑ รวมท้งั หมด ๑๐ ตวั ช้วี ดั

๓๑ คาอธบิ ายรายวชิ าพ้ืนฐาน ว๑๒๑๐๑ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี๒ กล่มุ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี ๒ เวลา ๘๐ ชัว่ โมง คาอธิบายรายวชิ า ศึกษา วิเคราะห์ ความต้องการแสงและน้าเพอ่ื การเจรญิ เตบิ โตของพืช วัฏจักรชีวิตของพืชดอก ลักษณะ ของส่ิงมชี ีวิตและสิ่งไมม่ ีชีวิต สมบัติของวัสดุ การนาสมบัตขิ องวัสดุไปประยุกต์ใช้ในการทาวัตถุในชีวิตประจาวนั ประโยชนข์ องการนาวัสดุท่ีใช้แล้วกลับมาใชใ้ หม่ การเคล่อื นที่ของแสงจากแหลง่ กาเนิดแสง การมองเห็นวตั ถุโดย เสนอแนะแนวทางการปอ้ งกันอันตราย ส่วนประกอบของดิน การจาแนกชนิดของดินโดยใช้ลกั ษณะเนือ้ ดินและ การจับตัวเป็นเกณฑ์ การใช้ประโยชน์จากดิน การแก้ปัญหาโดยใช้ภาพ สัญลักษณ์หรือข้อความ การเขียน โปรแกรมอย่างง่าย โดยใช้สื่อซอฟต์แวร์ การใช้เทคโนโลยีในการสร้าง จัดเก็บ เรียกใช้ข้อมูล การใช้เทคโนโลยี สารสนเทศอย่างปลอดภยั โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสบื เสาะหาความรู้ การสารวจ ตรวจสอบ การสบื ค้นข้อมลู การ เปรียบเทียบข้อมูลจากหลกั ฐานเชิงประจกั ษ์และการอภิปราย เพ่ือให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ สามารถ สอ่ื สารสง่ิ ทีเ่ รยี นรู้ มคี วามสามารถในการตดั สนิ ใจ เห็นคณุ คา่ ของการนาความรู้ไปใช้ประโยชนใ์ นชีวติ ประจาวนั มี จิตวทิ ยาศาสตร์ จริยธรรม คุณธรรม และค่านยิ มทีเ่ หมาะสม มาตรฐาน/ตวั ช้วี ดั ว ๑.๑ ป.๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/๓ ว ๑.๓ ป.๒/๑ ว ๒.๑ ป.๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/๓, ป.๒/๔ ว ๒.๓ ป.๒/๑, ป.๒/๒ ว ๓.๒ ป.๒/๑, ป.๒/๒ รวมท้งั หมด ๑๒ ตัวชวี้ ัด

๓๒ คาอธิบายรายวชิ าพ้นื ฐาน ว๑๓๑๐๑ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี๓ กลุ่มสาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี ๓ เวลา ๘๐ ชว่ั โมง คาอธบิ ายรายวิชา ศึกษา วเิ คราะห์ สง่ิ ทจ่ี าเปน็ ตอ่ การดารงชีวิต และการเจรญิ เตบิ โตของมนุษย์และสตั ว์ ประโยชนข์ อง อาหาร นา้ และอากาศ การดแู ลตนเองและสตั ว์ใหไ้ ด้รบั ส่ิงเหลา่ นอ้ี ย่างเหมาะสม วฏั จักรชีวติ ของสตั ว์ ส่วนประกอบของวตั ถุ และการเปลย่ี นแปลงของวัสดุเมอ่ื ทาให้ร้อนข้ึนหรือทาใหเ้ ย็นลง แรงทมี่ ตี อ่ การเปลย่ี นแปลง การเคลื่อนที่ของวัตถุ แรงสมั ผสั และแรงไมส่ ัมผัสท่ีมผี ลต่อการเคลอื่ นท่ขี องวตั ถุ การดึงดดู ระหวา่ งแม่เหลก็ กับวตั ถุ ข้ัวแม่เหลก็ การเปลยี่ นพลงั งาน การทางานของเคร่อื งกาเนดิ ไฟฟ้า และแหลง่ พลังงานในการผลิตไฟฟา้ ประโยชน์ และโทษของไฟฟา้ วธิ กี ารใช้ไฟฟา้ อยา่ งประหยดั และปลอดภยั เส้นทางการข้ึนและตกของดวงอาทติ ย์ การเกิด กลางวันกลางคืน และการกาหนดทศิ ความสาคัญของดวงอาทติ ย์ตอ่ สง่ิ มีชวี ิต ส่วนประกอบของอากาศ ความสาคญั ของอากาศ และผลกระทบของมลพิษทางอากาศต่อส่ิงมชี วี ติ การปฏบิ ตั ติ นในการลดการเกดิ มลพษิ ทางอากาศ การเกดิ ลม ประโยชนแ์ ละโทษของลม โดยใช้กระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์การสบื เสาะหาความรู้ การสารวจ ตรวจสอบ การสืบค้นขอ้ มลู การ เปรยี บเทียบขอ้ มูลจากหลกั ฐานเชงิ ประจักษ์ และการอภปิ ราย เพื่อใหเ้ กิดความรู้ ความคดิ ความเข้าใจ สามารถ สือ่ สารสงิ่ ทเี่ รียนรู้ มคี วามสามารถในการตดั สนิ ใจ นาความรไู้ ปใช้ ในชีวติ ประจาวนั มีจิตวทิ ยาศาสตร์ จริยธรรม คณุ ธรรม และค่านิยมทเ่ี หมาะสม รหัสตัวช้ีวดั ว ๑.๒ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓, ป.๓/๔ ว ๒.๑ ป.๓/๑, ป.๓/๒ ว ๒.๒ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓, ป.๓/๔ ว ๒.๓ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓ ว ๓.๑ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓ ว ๓.๒ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓, ป.๓/๔ รวมทั้งหมด ๒๐ ตัวชี้วดั

๓๓ คาอธิบายรายวิชาพ้นื ฐาน ว๑๔๑๐๑ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี๔ กลุ่มสาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๔ เวลา ๘๐ ช่วั โมง คาอธบิ ายรายวชิ า บรรยาย จาแนก เปรียบเทียบ อภิปราย ระบุ อธบิ าย รวบรวม ประเมิน นาเสนอข้อมลู เก่ียวกับหน้าท่ี ของส่วนตา่ งๆของพืช ความแตกต่างของลกั ษณะของสง่ิ มีชวี ติ พชื ดอกและพชื ไมม่ ดี อก สัตว์มกี ระดกู สนั หลงั และ ไมม่ ีกระดกู สันหลงั เป็นเกณฑ์ สมบัตทิ างกายภาพด้านความแข็ง สภาพยดื หย่นุ การนาความรอ้ น และการนาไฟฟ้าของวสั ดุ การนา สมบัตทิ างกายภาพของวสั ดุไปใชใ้ นชีวติ ประจาวัน สมบัตขิ องสสารทง้ั 3 สถานะ ผลของแรงโน้มถ่วงของโลกทม่ี ีตอ่ วตั ถุ การใชเ้ ครื่องช่ังสปรงิ วดั น้าหนกั ของวัตถุ มวลของวัตถทุ ่ีมผี ลต่อการเปลีย่ นแปลงการเคลอ่ื นทขี่ องวัตถุ วตั ถุท่ี เปน็ ตวั กลางโปร่งใส ตัวกลางโปรง่ แสง และวัตถุทบึ แสง จากลักษณะการมองเหน็ ส่งิ ต่างๆผ่านวตั ถุนั้นเปน็ เกณฑ์ แบบรปู เส้นทางการขึน้ และตกของดวงจันทร์ แบบจาลองแสดงองคป์ ระกอบของระบบสรุ ยิ ะ และคาบ การโคจรของดาวเคราะหต์ ่างๆ โดยใชก้ ระบวนทางวิทยาศาสตร์ การสบื เสาะหาความรู้ การสารวจตรวจสอบ การสบื คน้ ข้อมูล บันทึก จดั กล่มุ ขอ้ มูล เพอ่ื ใหเ้ กิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ สามารถนาเสนอสอ่ื สารสิง่ ทเ่ี รียนรู้ มีความสามารถในการ ตดั สนิ ใจ เห็นคุณค่าของการนาความรไู้ ปใช้ในชีวติ ประจาวัน มจี ิตวิทยาศาสตร์ คุณธรรม จรยิ ธรรม และคา่ นยิ มท่ี เหมาะสม มาตรฐาน/ตัวชีว้ ัด ว ๑.๒ ป.๔/๑ ว ๑.๓ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓, ป.๔/๔ ว ๒.๑ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓, ป.๔/๔ ว ๒.๒ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓ ว ๒.๓ ป.๔/๑ ว ๓.๑ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓ รวมทงั้ หมด ๑๖ ตัวช้วี ดั

๓๔ คาอธบิ ายรายวชิ าพน้ื ฐาน ว๑๕๑๐๑ วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี๕ กลุม่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี ๕ เวลา ๘๐ ช่ัวโมง คาอธบิ ายรายวิชา บรรยาย อธบิ าย เขยี นและระบุ เปรยี บเทยี บ วิเคราะห์ ออกแบบการทดลอง รวบรวม ประเมนิ นาเสนอ ข้อมูล เกีย่ วกบั โครงสรา้ งและลกั ษณะของสิ่งมีชวี ติ ท่ีเหมาะสมกบั การดารงชีวติ ในแตล่ ะแหลง่ ที่อยู่ ความสัมพันธ์ ระหว่างสง่ิ มีชวี ิตกับสงิ่ มีชีวติ ความสัมพันธร์ ะหวา่ งสงิ่ มีชวี ติ กบั สง่ิ ไมม่ ีชีวติ เพอื่ ประโยชนต์ อ่ การดารงชวี ติ หนา้ ท่ี ของสง่ิ มีชีวติ ท่ีเปน็ ผผู้ ลติ และผบู้ รโิ ภคในโซอ่ าหาร คณุ ค่าของส่ิงแวดลอ้ มทม่ี ตี อ่ การดารงชีวิตของส่ิงมีชีวิต ลกั ษณะ ทางพันธุกรรมที่มีการถา่ ยทอดจากพ่อแมส่ ลู่ กู ของพืช สัตว์และมนษุ ย์ การเปล่ยี นแปลงสถานะของสสาร เมอ่ื ทาใหส้ สารขึ้นหรือเยน็ ลง การละลายของสารในน้า และการ เปลี่ยนแปลงของสารเม่ือเกดิ การเปลย่ี นแปลงทางเคมโี ดยใชห้ ลกั ฐานเชิงประจกั ษ์ การเปลยี่ นแปลงทผี่ นั กลับได้ และทผ่ี ันกลับไมไ่ ด้ การหาแรงลพั ธข์ องแรงหลายแรงในแนวเดียวกันทกี่ ระทาตอ่ วตั ถุ ในกรณที ่วี ตั ถุอยนู่ ิง่ แผนภาพแสดงแรงทก่ี ระทาต่อวัตถุ การใชเ้ ครอ่ื งช่งั สปรงิ การวดั แรงทกี่ ระทาต่อวัตถุ ผลของแรงและแผนภาพ แสดงแรงเสยี ดทานทมี่ ตี อ่ การเปล่ยี นแปลงการเคล่ือนท่ีของวตั ถุ และแรงท่อี ยใู่ นแนวเดยี วกันทกี่ ระทาต่อวตั ถุ การ ไดย้ นิ เสียงผ่านตัวกลาง ลกั ษณะการเกิดเสียงสงู เสยี งต่า เสยี งดัง เสยี งค่อย ตลอดจนมลพษิ ทางเสียง ความแตกต่างของดาวเคราะหแ์ ละดาวฤกษ์ ตาแหนง่ และเสน้ ทางการขึน้ และตกของกลมุ่ ดาวฤกษ์บน ทอ้ งฟ้า โดยใชแ้ ผนที่ดาว การใช้ประโยชน์จากแหลง่ นา้ การหมุนเวยี นของวัฏจกั รน้า การใช้นา้ อยา่ งประหยัด กระบวนการเกิดเมฆ หมอก น้าค้างและน้าค้างแขง็ การเกิดฝน หิมะ และลกู เหบ็ โดยใชก้ ระบวนทางวทิ ยาศาสตร์ การสบื เสาะหาความรู้ การสารวจตรวจสอบ การสบื คน้ ข้อมลู บนั ทึก จัด กลมุ่ ขอ้ มลู เพอ่ื ใหเ้ กิดความรู้ ความคิด ความเขา้ ใจ สามารถนาเสนอสอ่ื สารส่ิงทเ่ี รยี นรู้ มคี วามสามารถในการ ตัดสินใจ เหน็ คุณคา่ ของการนาความรู้ไปใช้ในชวี ิตประจาวนั มจี ติ วิทยาศาสตร์ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม และค่านยิ มที่ เหมาะสม มาตรฐาน/ตัวชีว้ ัด ว ๑.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔ ว ๑.๓ ป.๕/๑, ป.๕/๒ ว ๒.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔ ว ๒.๒ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔, ป.๕/๕ ว ๒.๓ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔, ป.๕/๕ ว ๓.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒ ว ๓.๒ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔, ป.๕/๕ รวมทัง้ หมด ๒๗ ตัวช้วี ัด

๓๕ คาอธิบายรายวิชาพื้นฐาน ว๑๖๑๐๑ วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี๖ กลุ่มสาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี ๖ เวลา ๘๐ ชั่วโมง คาอธบิ ายรายวิชา บรรยาย จาแนก เปรยี บเทียบ อภิปราย ระบุ อธบิ าย สรา้ งแบบจาลอง ใชเ้ หตผุ ลเชิงตรรกะในการ แกป้ ัญหา รวบรวม ประเมนิ นาเสนอข้อมลู เก่ียวกับประโยชนข์ องสารอาหารทีต่ นเองได้รบั ในสัดส่วนท่ีเหมาะสม กับเพศและวยั หน้าทแ่ี ละการดดู ซมึ ของอวยั วะในระบบยอ่ ยอาหารให้ทางานเปน็ ปกติ การแยกสารผสม โดยการหยบิ ออก การร่อน การใช้แมเ่ หลก็ ดงึ ดดู การรินออก การกรองและการ ตกตะกอนโดยใช้หลักฐานเชงิ ประจกั ษ์ รวมถงึ การแยกสารในชวี ติ ประจาวนั การเกิดแรงไฟฟา้ ซ่งึ เกิดจากวัตถผุ ่าน การขัดถู หน้าทีข่ องสว่ นประกอบของวงจรไฟฟา้ อยา่ งงา่ ย แผนภาพการต่อวงจรไฟฟ้าอย่างงา่ ย ผลของการตอ่ เซลลไ์ ฟฟ้าแบบอนกุ รม การต่อหลอดไฟฟา้ แบบอนกุ รมและแบบขนาน รวมถงึ การใช้ประโยชนใ์ นชวี ติ ประจาวัน การเกดิ เงามดื เงามัว แผนภาพรังสขี องแสงแสดงการเกิดเงามืดเงามวั การเกดิ ปรากฏการณส์ รุ ิยปุ ราคาและจนั ทรปุ ราคา พฒั นาการของเทคโนโลยอี วกาศ การนาเทคโนโลยี อวกาศมาใช้ประโยชน์ในชวี ิตประจาวัน การเกิดหินอคั นี หินตะกอนและหินแปร วฏั จกั รหนิ จากแบบจาลอง การ ใช้ประโยชน์ของหินและแรใ่ นชวี ติ ประจาวัน การคาดคะเนสภาพแวดลอ้ มในอดตี จากซากดกึ ดาบรรพ์ การเกดิ ลม บก ลมทะเล และมรสุมทม่ี ผี ลต่อสงิ่ มีชวี ติ และส่ิงแวดลอ้ ม ผลของมรสมุ ต่อการเกิดฤดขู องประเทศไทย ผลกระทบ จากนา้ ทว่ ม การกดั เซาะของชายฝงั่ ดินถลม่ แผ่นดินไหว และ สนึ ามิ การเฝ้าระวงั และปฏบิ ตั ิตนใหป้ ลอดภยั จาก ภยั ธรรมชาติและธรณีพบิ ตั ิภัยทอ่ี าจเกิดในท้องถนิ่ การเกิดปรากฏการณ์เรือนกระจก การปฏบิ ตั ิตนเพอื่ ลด กจิ กรรมท่กี อ่ ให้เกดิ แกส็ เรือนกระจก โดยใชก้ ระบวนทางวิทยาศาสตร์ การสบื เสาะหาความรู้ การสารวจตรวจสอบ การสบื คน้ ขอ้ มูล บนั ทึก จดั กลมุ่ ขอ้ มูล เพอื่ ใหเ้ กิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ สามารถนาเสนอสือ่ สารส่ิงทเ่ี รยี นรู้ มคี วามสามารถในการ ตดั สนิ ใจ เห็นคุณคา่ ของการนาความร้ไู ปใชใ้ นชวี ติ ประจาวนั มจี ิตวิทยาศาสตร์ คณุ ธรรม จริยธรรม และค่านิยมท่ี เหมาะสม มาตรฐาน/ตวั ชี้วดั ว ๑.๒ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๔, ป.๖/๕ ว ๒.๑ ป.๖/๑ ว ๒.๒ ป.๖/๑ ว ๒.๓ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๕, ป.๖/๕, ป.๖/๖, ป.๖/๗, ป.๖/๘ ว ๓.๑ ป.๖/๑, ป.๖/๒ ว ๓.๒ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๕, ป.๖/๕, ป.๖/๖, ป.๖/๗, ป.๖/๘, ป.๖/๙ รวมทัง้ หมด ๒๖ ตวั ช้วี ัด

๓๖ คาอธบิ ายรายวิชา กลุ่มสาระการเรยี นรู้วิทยาการคานวณ

๓๗ คาอธบิ ายรายวิชาพนื้ ฐาน ว ๑๑๑๐๒ วทิ ยาการคานวณ๑ กลุม่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ ๑ เวลา ๔๐ ชวั่ โมง คาอธบิ ายรายวชิ า ศึกษาการแกป้ ญั หา อยา่ งงา่ ยโดยการลองผดิ ลองถกู การเปรยี บเทยี บ การแสดงลาดบั ขัน้ ตอนการทางาน หรือการแกป้ ญั หาอย่างงา่ ย การเขยี นโปรแกรมอยา่ งง่ายโดยใชซ้ อฟตแ์ วรห์ รอื สอื่ การแสดง การใชง้ านอปุ กรณ์ เทคโนโลยีเบ้ืองตน้ การใช้งานซอฟต์แวรเ์ บื้องต้น การใชเ้ มาส์ คีย์บอร์ด จอสัมผสั การเปิดปิดอปุ กรณเ์ ทคโนโลยี การสร้าง จดั เกบ็ และเรยี กใชข้ อ้ มลู ตามวัตถปุ ระสงค์ ใชก้ ระบวนการการทางานอย่างเป็นข้นั ตอนและเป็นระบบ คิดในเชิงคานวณในการแกป้ ัญหา ใช้ เทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่ือสารในการเรียนรกู้ ารทางาน แสดงลาดบั ขั้นตอนการแกป้ ญั หาโดยการเขียน บอก เลา่ วาดภาพ หรือใชส้ ัญลักษณ์ โดยการใชเ้ กมเขาวงกต เกมหาจดุ แตกตา่ งของภาพ การจดั หนังสือใส่กระเปา๋ การ เขยี นโปรแกรมอย่างงา่ ยเพ่อื สรา้ งลาดบั สงั่ การใหค้ อมพวิ เตอรท์ างาน เขยี นโปรแกรมสงั่ ให้ตวั ละครย้ายตาแหน่ง ยอ่ ขยายขนาด เปลีย่ นรปู รา่ ง โดยใช้บตั รคาสง่ั แสดงการเขียนโปรแกรม Code.org ตระหนกั และเห็นคุณค่าของการนาความรูไ้ ปใช้ประโยชน์ในชวี ิตประจาวัน ใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศอยา่ ง ปลอดภัย ปฏบิ ัตติ ามข้อตกลงในการใช้คอมพิวเตอรร์ ่วมกนั ดแู ลรักษาอปุ กรณ์และใช้งานเทคโนโลยสี ารสนเทศ อย่างเหมาะสม รักการทางาน ทางานด้วยความกระตอื รอื รน้ และตรงเวลา มเี จตคตทิ ่ดี ตี ่อการทางาน มี ลักษณะนสิ ัยการทางานทเี่ หมาะสม มีคณุ ธรรม จริยธรรม และคา่ นิยมทเ่ี หมาะสม ตวั ช้วี ัด ว ๔.๒ ป.๑/๑, ป.๑/๒, ป.๑/๓, ป.๑/๔, ป.๑/๕ ว. ๔.๒ เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) ๑. แกปญหาอยางงายโดยใชการลองผิดลองถกู การเปรียบเทยี บ ๒. แสดงลาดบั ขนั้ ตอนการทางานหรือการแกปญหาอยางงายโดยใชภาพ สัญลกั ษณ หรือขอความ ๓. เขยี นโปรแกรมอยางงายโดยใชซอฟตแวรหรือสอ่ื ๔. ใชเทคโนโลยใี นการสราง จัดเกบ็ เรียกใชขอมลู ตามวตั ถปุ ระสงค ๕. ใชเทคโนโลยสี ารสนเทศอยางปลอดภัย ปฏิบตั ติ ามขอตกลงในการใชคอมพวิ เตอรรวมกันดูแลรกั ษาอปุ กรณ เบอื้ งตน ใชงานอยางเหมาะสม รวมทงั้ หมด 5 ตวั ช้วี ัด

๓๘ คาอธิบายรายวชิ าพ้นื ฐาน ว ๑๒๑๐๒ วิทยาการคานวณ๒ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ ๒ เวลา ๔๐ ชว่ั โมง คาอธิบายรายวชิ า ศึกษาขั้นตอนการทางานหรอื การแกป้ ญั หาอย่างง่าย การเขยี นโปรแกรมอยา่ งงา่ ยโดยใช้ซอฟต์แวรห์ รอื สอื่ และตรวจหาข้อผิดพลาดของโปรแกรม การใช้เทคโนโลยใี นการสร้าง จัดหมวดหมู่ คน้ หา จดั เกบ็ เรยี กใช้ ขอ้ มูลตามวตั ถปุ ระสงค์ ใช้กระบวนการการทางานอย่างเปน็ ข้ันตอนและเปน็ ระบบ คดิ ในเชิงคานวณในการแก้ปัญหา ใช้ เทคโนโลยีสารสนเทศและการสือ่ สารในการเรียนรกู้ ารทางาน แสดงลาดับขั้นตอนการทางานหรอื การแก้ปญั หา โดยการเขยี น บอกเลา่ วาดภาพ หรอื ใช้สญั ลกั ษณ์ การแกป้ ัญหาโดยใชเ้ กมตัวตอ่ เกมการแตง่ ตัวมาโรงเรยี น การ เขียนโปรแกรมอยา่ งง่ายเพอ่ื สรา้ งลาดบั สง่ั การให้คอมพวิ เตอรท์ างานตามท่ีต้องการและตรวจสอบขอ้ ผดิ พลาด ปรับแกไ้ ขให้ได้ผลลพั ธต์ ามทีต่ อ้ งการ ใชซ้ อฟต์แวรเ์ ขียนโปรแกรม โดยใช้บัตรคาส่งั แสดงการเขยี นโปแกรม Code.org สามารถใชง้ านซอฟตแ์ วรเ์ บ้ืองต้น ตระหนกั และเห็นคณุ คา่ ของการนาความรไู้ ปใช้ประโยชนใ์ นชวี ิตประจาวนั ใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศอยา่ ง ปลอดภยั ปฏบิ ตั ิตามขอ้ ตกลงในการใชค้ อมพิวเตอรร์ ว่ มกนั ดแู ลรกั ษาอปุ กรณ์และใชง้ านเทคโนโลยสี ารสนเทศ อย่างเหมาะสม รักการทางาน ทางานดว้ ยความกระตอื รอื รน้ และตรงเวลา มเี จตคติทีด่ ตี ่อการทางาน มี ลักษณะนสิ ยั การทางานทเ่ี หมาะสม มีคณุ ธรรม จริยธรรม และคา่ นยิ มทเี่ หมาะสม รหสั ตัวช้วี ดั ว ๔.๒ ป.๒/๑, ป.๒/๒ , ป.๒/๓,ป.๒/๔ ๑.แสดงลาดบั ขน้ั ตอนการทางานหรอื การแกป้ ญั หาอย่างง่ายโดยใชภ้ าพ สัญลักษณห์ รือข้อความ ๒.เขยี นโปรแกรมอยา่ งง่ายโดยใช้ซอฟต์แวรห์ รือสือ่ และตรวจหาข้อผดิ พลาดของโปรแกรม ๓.ใช้เทคโนโลยใี นการสร้างจดั หมวดหมู่ คน้ หาจดั เกบ็ เรยี กใช้ข้อมลู ตามวตั ถปุ ระสงค์ ๔.ใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศอยา่ งปลอดภัย ปฏิบัติตามข้อตกลงในการใช้คอมพวิ เตอร์ร่วมกนั ดูแลรกั ษาอปุ กรณ์ เบ้อื งต้น ใช้งานอย่างเหมาะสม รวม ๔ ตวั ชีว้ ัด

๓๙ คาอธบิ ายรายวชิ าพ้ืนฐาน ว ๑๓๑๐๒ วิทยาการคานวณ๓ กล่มุ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ เวลา ๔๐ ช่ัวโมง คาอธิบายรายวชิ า ศึกษาขน้ั ตอนการแสดงอลั กอริทมึ ในการทางานหรือการแกป้ ญั หาอยา่ งง่าย การเขียนโปรแกรมอยา่ ง งา่ ยโดยใชซ้ อฟต์แวรห์ รอื สอ่ื และตรวจหาข้อผิดพลาดของโปรแกรม การใช้อนิ เตอรเ์ นต็ คน้ คว้าหาความรู้ การ รวบรวม ประมวลผลและนาเสนอขอ้ มลู โดยใช้ซอฟตแ์ วรต์ ามวัตถุประสงค์ ใช้กระบวนการการทางานอยา่ งเป็นขน้ั ตอนและเป็นระบบ คดิ ในเชิงคานวณในการแกป้ ัญหา ใช้ เทคโนโลยสี ารสนเทศและการสือ่ สารในการเรยี นรกู้ ารทางาน แสดงอลั กอรทิ ึมเป็นข้ันตอนการทางานหรือการ แกป้ ัญหาโดยการเขียน บอกเล่า วาดภาพ หรือใช้สญั ลกั ษณ์ การแกป้ ัญหาโดยใช้เกม การเขยี นโปรแกรมเพอื่ สง่ั การให้ตวั ละครทางานซา้ ไมส่ ิน้ สุด และตรวจสอบข้อผดิ พลาด ปรบั แก้ไขให้ได้ผลลัพธ์ตามทต่ี ้องการ ถา้ ไมเ่ ป็นไป ตามท่ีตอ้ งการใหต้ รวจสอบการทางานทลี ะคาสั่ง ใช้ซอฟต์แวรเ์ ขียนโปรแกรม โดยใช้บตั รคาสงั่ แสดงการเขียน โปรแกรม,Code.org สามารถสบื ค้นขอ้ มลู บนอินเตอรเ์ น็ตโดยใชเ้ วบ็ ไซตใ์ นการสบื ค้น ตระหนกั และเหน็ คุณค่าของการนาความรู้ไปใช้ประโยชน์ในชวี ิตประจาวัน ใชอ้ ินเตอรเ์ น็ตเทคโนโลยี สารสนเทศอยา่ งปลอดภยั ปฏบิ ตั ิตามขอ้ ตกลงในการใชอ้ นิ เตอรเ์ นต็ ดูแลรกั ษาอปุ กรณแ์ ละใช้งานเทคโนโลยี สารสนเทศอย่างเหมาะสม รกั การทางาน ทางานด้วยความกระตือรอื ร้น และตรงเวลา มเี จตคติที่ดตี อ่ การ ทางาน มีลกั ษณะนิสยั การทางานทเ่ี หมาะสม มีคณุ ธรรม จรยิ ธรรม และค่านิยมทเ่ี หมาะสม รหสั ตวั ช้ีวดั ว ๔.๒ ป.๓/๑ , ป.๓/๒ , ป.๓/๓ , ป.๓/๔, ป๓/๕ ๑.แสดงอลั กอริทมึ ในการทางานหรือการแกป้ ญั หาอยา่ งงา่ ยโดยใช้ภาพ สญั ลักษณ์ หรอื ขอ้ ความ ๒.เขียนโปรแกรมอย่างง่ายโดยใช้ซอฟตแ์ วรห์ รอื ส่อื และตรวจหาขอ้ ผิดพลาดของโปรแกรม ๓.ใชอ้ ินเทอรเ์ นต็ ค้นหาความรู้ ๔.รวบรวม ประมวลผล และนาเสนอขอ้ มลู โดยใชซ้ อฟต์แวร์ตามวัตถุประสงค์ ๕.ใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศอย่างปลอดภัย ปฏิบัตติ ามข้อตกลงในการใชอ้ นิ เทอรเ์ น็ต รวม ๕ ตัวช้วี ดั

๔๐ คาอธิบายรายวชิ าพื้นฐาน ว ๑๔๑๐๒ วทิ ยาการคานวณ๔ กลมุ่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี ๔ เวลา ๔๐ ชั่วโมง คาอธิบายรายวิชา ศกึ ษาข้ันตอนการใชเ้ หตผุ ลเชงิ ตรรกะในการแกป้ ญั หา อธบิ ายการทางาน การคาดการณ์ผลลัพธจ์ าก ปญั หาอยา่ งงา่ ย ออกแบบและเขยี นโปรแกรมอยา่ งงา่ ยโดยใชซ้ อฟต์แวรห์ รอื สอื่ และตรวจหาข้อผิดพลาดและแก้ไข โปรแกรม การใชอ้ ินเตอรเ์ นต็ ค้นควา้ หาความรแู้ ละประเมินความนา่ เชือ่ ถอื ของข้อมลู การรวบรวม ประมวลผล นาเสนอข้อมลู และสารสนเทศโดยใช้ซอฟตแ์ วรท์ ห่ี ลากหลายเพ่ือแกป้ ญั หาในชีวติ ประจาวัน ใช้กระบวนการการทางานอยา่ งเป็นขนั้ ตอนและเปน็ ระบบ การใช้เหตุผลเชงิ ตรรกะในการแกป้ ญั หา ใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศและการสอ่ื สารในการเรียนรกู้ ารทางาน ออกแบบโปรแกรมอยา่ งง่ายโดยใช้ storyboard หรอื การออกแบบอลั กอรทิ ึม การเขยี นโปรแกรมเพ่อื สงั่ การให้คอมพวิ เตอรท์ างานสร้างลาดับของคาสงั่ ใหไ้ ดผ้ ล ลัพธต์ ามตอ้ งการ และตรวจสอบขอ้ ผดิ พลาด ปรบั แก้ไขให้ได้ผลลพั ธต์ ามท่ีตอ้ งการ ถา้ ไมเ่ ป็นไปตามท่ีต้องการให้ ตรวจสอบการทางานทลี ะคาสงั่ ฝกึ ตรวจหาข้อผดิ พลาดจากโปรแกรม ใช้ซอฟตแ์ วรเ์ ขยี นโปรแกรม โดยใช้ โปรแกรม Scratch, logo ตระหนักและเหน็ คุณค่าของการนาความรูไ้ ปใช้ประโยชนใ์ นชีวติ ประจาวัน ใชอ้ ินเตอร์เนต็ เทคโนโลยี สารสนเทศอยา่ งปลอดภัย ปฏิบตั ติ ามขอ้ ตกลงในการใชอ้ นิ เตอรเ์ น็ต เขา้ ใจสทิ ธิและหน้าที่ของตนเอง ส่อื สารอย่าง มีมารยาทและรกู้ าลเทศะ ปกป้องขอ้ มลู ส่วนตวั รักการทางาน ทางานด้วยความกระตือรือร้น และตรงเวลา มี เจตคตทิ ี่ดตี ่อการทางาน มีลักษณะนิสัยการทางานที่เหมาะสม มีคุณธรรม จริยธรรม และคา่ นิยมทเี่ หมาะสม ตวั ชว้ี ดั ว ๔.๒ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓, ป.๔/๔, ป๔/๕ ว. ๔.๒ เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) ๑. ใชเหตผุ ลเชงิ ตรรกะในการแกปญหา การอธบิ ายการทางาน การคาดการณผลลพั ธจากปญหาอยางงาย ๒. ออกแบบ และเขียนโปรแกรมอยางงาย โดยใชซอฟตแวรหรือสอื่ และตรวจหาขอผิดพลาดและแกไข ๓. ใชอินเทอรเน็ตคนหาความรู และประเมินความนาเช่อื ถอื ของขอมูล ๔. รวบรวม ประเมิน นาเสนอขอมลู และสารสนเทศ โดยใชซอฟตแวรท่หี ลากหลายเพอ่ื แกปญหาในชีวิตประจาวนั ๕. ใชเทคโนโลยสี ารสนเทศอยางปลอดภยั เขาใจสทิ ธิและหนาท่ขี องตน เคารพในสทิ ธิของผอู ืน่ แจงผเู ก่ียวของเมือ่ พบขอมลู หรอื บุคคลทไ่ี มเหมาะสม รวมท้ังหมด 5 ตัวชี้วดั

๔๑ คาอธิบายรายวิชาพื้นฐาน ว ๑๕๑๐๒ วิทยาการคานวณ๕ กลุ่มสาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ช้ันประถมศึกษาปีที่ ๕ เวลา ๔๐ ชวั่ โมง คาอธบิ ายรายวชิ า ศกึ ษาขัน้ ตอนการใช้เหตผุ ลเชงิ ตรรกะในการแกป้ ญั หา อธิบายการทางาน การคาดการณผ์ ลลพั ธจ์ าก ปญั หาอย่างงา่ ย ออกแบบและเขยี นโปรแกรมท่ีมีการใช้เหตุผลเชงิ ตรรกะอยา่ งง่าย ตรวจหาข้อผิดพลาดและแกไ้ ข โปรแกรม การใชอ้ ินเตอรเ์ นต็ คน้ หาข้อมลู ติดตอ่ สอ่ื สารและทางานร่วมกนั และประเมนิ ความน่าเชอ่ื ถอื ของขอ้ มลู การรวบรวม ประมวล นาเสนอข้อมลู และสารสนเทศตามวตั ถุประสงคโ์ ดยใช้ซอฟตแ์ วรห์ รอื บริการบนอินเทอร์เนต็ ทห่ี ลากหลายเพอ่ื แกป้ ญั หาในชีวติ ประจาวนั ใช้กระบวนการการทางานอย่างเปน็ ขัน้ ตอนและเปน็ ระบบ การใชเ้ หตผุ ลเชิงตรรกะในการแก้ปญั หา การออกแบบโปรแกรมโดยเขียนเป็นขอ้ ความหรอื ผงั งาน การออกแบบและเขยี นโปรแกรมทมี่ ีการตรวจสอบ เงอื่ นไขท่คี รอบคลมุ ทกุ กรณี ถ้าไม่เปน็ ไปตามท่ตี ้องการให้ตรวจสอบการทางานทลี ะคาสงั่ ทาการแก้ไขจนกว่าจะ ได้ผลลพั ธท์ ีถ่ ูกตอ้ ง และฝกึ ตรวจสอบขอ้ ผิดพลาดจากโปรแกรมของผอู้ ่นื ใช้ซอฟต์แวรเ์ ขียนโปรแกรม โดยใช้ โปรแกรม Scratch, logo ตระหนักและเหน็ คุณค่าของการใช้อนิ เตอรเ์ น็ตในการติดตอ่ สอื่ สารและทางานร่วมกนั ใชเ้ ทคโนโลยี สารสนเทศอยา่ งปลอดภยั มีมารยาท เข้าใจสทิ ธิและหน้าท่ขี องตนเอง เคารพในสทิ ธิของผอู้ ่ืน แจง้ ผู้เก่ยี วขอ้ งเมอ่ื พบขอ้ มลู หรอื บุคคลท่ีไมเ่ หมาะสม ทางานดว้ ยความกระตือรือร้น และตรงเวลา มเี จตคติทดี่ ตี อ่ การทางาน มี ลักษณะนิสยั การทางานที่เหมาะสม มคี ุณธรรม จริยธรรม และค่านิยมทเ่ี หมาะสม รหสั ตัวชวี้ ัด ว ๔.๒ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔, ป.๕/๕ ๑.ใชเ้ หตุผลเชงิ ตรรกะในการแกป้ ญั หา การอธบิ ายการทางาน การคาดการณ์ผลลพั ธจ์ ากปญั หาอย่างง่าย ๒.ออกแบบและเขยี นโปรแกรมทมี่ ีการใช้เหตุผลเชิงตรรกะอยา่ งงา่ ย ตรวจหาขอ้ ผิดพลาดและแกไ้ ข ๓.ใชอ้ ินเทอร์เน็ตค้นหาข้อมูลตดิ ต่อสื่อสารและทางานรว่ มกนั ประเมินความนา่ เชอ่ื ถอื ของขอ้ มลู ๔.รวบรวม ประเมนิ นาเสนอขอ้ มลู และสารสนเทศตามวตั ถปุ ระสงคโ์ ดยใช้ซอฟตแ์ วรห์ รอื บรกิ ารบนอนิ เทอร์เน็ตท่ี หลากหลาย เพือ่ แกป้ ญั หาในชีวติ ประจาวนั ๕.ใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศอยา่ งปลอดภัย มมี ารยาทเข้าใจสทิ ธแิ ละหนา้ ทข่ี องตนเคารพในสทิ ธิของผอู้ น่ื แจง้ ผู้เกีย่ วขอ้ งเมอ่ื พบข้อมลู หรือบุคคลท่ีไมเ่ หมาะสม รวมทัง้ หมด ๕ ตวั ชว้ี ัด

๔๒ คาอธิบายรายวชิ าพ้ืนฐาน ว ๑๖๑๐๒ วทิ ยาการคานวณ๔ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ช้ันประถมศึกษาปีที่ ๖ เวลา ๔๐ ชว่ั โมง คาอธบิ ายรายวิชา ศึกษาขัน้ ตอนการใช้เหตผุ ลเชงิ ตรรกะในการอธิบายและออกแบบวธิ กี ารแกป้ ัญหาทพ่ี บใน ชีวิตประจาวัน ออกแบบและเขยี นโปรแกรมอย่างงา่ ยเพอ่ื แก้ปญั หาชีวติ ประจาวัน ตรวจหาข้อผิดพลาดและแก้ไข โปรแกรม การใชอ้ นิ เตอรเ์ น็ตคน้ หาข้อมลู อย่างมีประสทิ ธิภาพ การใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศทางานรว่ มกนั อย่าง ปลอดภัย ใช้กระบวนการการทางานอย่างเป็นขัน้ ตอนและเป็นระบบ การใช้เหตผุ ลเชงิ ตรรกะในการอธิบายและ ออกแบบวธิ กี ารแกป้ ญั หาโดยการนากฎเกณฑ์หรอื เงื่อนไขโดยใชแ้ นวคิดการทางานแบบวนซา้ และเงื่อนไข การ ออกแบบโปรแกรมโดยเขียนเป็นข้อความหรอื ผังงาน การออกแบบและเขียนโปรแกรมท่มี ีการใช้ตัวแปรการวนซ้า และการตรวจสอบเง่อื นไขที่ครอบคลมุ ทกุ กรณี ถ้าไม่เปน็ ไปตามทต่ี ้องการใหต้ รวจสอบการทางานทลี ะคาสงั่ ทา การแกไ้ ขจนกว่าจะได้ผลลพั ธ์ทถ่ี ูกตอ้ ง และฝึกตรวจสอบข้อผิดพลาดจากโปรแกรมของผูอ้ น่ื ใช้ ซอฟต์แวร์เขยี น โปรแกรม โดยใชโ้ ปรแกรม Scratch, logo ตระหนักและเหน็ คุณคา่ ของการใช้อินเตอรเ์ น็ตในการตดิ ต่อสอ่ื สารและทางานร่วมกัน ใช้ เทคโนโลยี สารสนเทศอยา่ งปลอดภัย มมี ารยาท เขา้ ใจสทิ ธแิ ละหนา้ ท่ีของตนเอง เคารพในสิทธขิ องผ้อู น่ื แจง้ ผู้เกี่ยวข้อง เม่ือพบขอ้ มลู หรือบุคคลท่ีไม่เหมาะสม ทางานดว้ ยความกระตือรือรน้ และตรงเวลา มี เจตคตทิ ี่ดตี ่อการทางาน มีลักษณะนสิ ัยการทางานทเ่ี หมาะสม มคี ณุ ธรรม จริยธรรม และค่านิยมทเ่ี หมาะสม รหัสตัวชว้ี ัด ว ๔.๒ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๔ ๑.ใชเ้ หตุผลเชงิ ตรรกะในการอธิบายและออกแบบวิธีการแกป้ ญั หาทพี่ บในชวี ติ ประจาวัน ๒.ออกแบบและเขยี นโปรแกรมอย่างง่ายเพอื่ แก้ปญั หาในชีวติ ประจาวนั ตรวจหาข้อผิดพลาดของโปรแกรม และแก้ไข ๓.ใช้อนิ เทอร์เนต็ ในการค้นหาข้อมลู อย่างมปี ระสทิ ธิภาพ ๔.ใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศทางานรว่ มกันอย่างปลอดภยั เขา้ ใจสทิ ธแิ ละหน้าท่ีของตนเคารพในสทิ ธขิ องผอู้ ่ืน แจ้งผเู้ กย่ี วข้องเมอ่ื พบขอ้ มลู หรือบุคคลท่ไี มเ่ หมาะสม รวมทัง้ หมด ๔ ตวั ชวี้ ัด

๔๓ คาอธบิ ายรายวชิ า กลุ่มสาระการเรียนร้สู ังคมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม

๔๔ คาอธบิ ายรายวชิ าพ้ืนฐาน ส ๑๑๑๐๑ สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม๑ ลุม่ สาระการเรียนรสู้ ังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ ๑ เวลา ๔๐ ช่วั โมง คาอธบิ ายรายวิชา ศกึ ษาเกีย่ วกบั ประวัตขิ องศาสดาทีต่ นนบั ถอื การดาเนินชีวติ และข้อคิดจากประวตั สิ าวก ชาดก/เรื่องเล่า และศาสนกิ ชนตวั อยา่ ง ความสาคัญ และ หลกั ธรรมของศาสนาท่ีตนนบั ถอื เหน็ คณุ คา่ ขอการปฏบิ ัตติ าม หลกั ธรรม การพัฒนาจติ ตามแนวทางของศาสนาท่ีตนนบั ถือ การบาเพญ็ ประโยชนต์ ่อ ศาสนสถานของศาสนาที่ ตนนับถอื การแสดงตนเปน็ ศาสนกิ ชนของศาสนาทีต่ นนบั ถอื และศาสนาของประเทศสมาชกิ สมาคมอาซียน การ ปฏิบตั ิตนใน ศาสนพธิ ี พิธีกรรม และวนั สาคัญทางศาสนา ปฏบิ ัติวิถีประชาธิปไตย ในฐานนะเปน็ พลเมืองดี และปฏบิ ตั สิ ถานภาพ บทบาท สิทธิเสรภี าพ หนา้ ท่ี ของตนเองและผอู้ ื่น เขา้ ใจโครงการบรหิ ารตามกระบวนการประชาธิปไตย ดาเนินชีวติ อยู่ในสังคมไดอ้ ยา่ งมี ความสขุ ร้แู ละเขา้ ใจการกระจายรายได้ รายรบั รายจา่ ยของตนเอง มีส่วนร่วมในการผลติ และบริโภค ปฏิบตั ิ ตามบทบาทหนา้ ทีข่ องตนเองในฐานะผู้ซอ้ื ผูข้ าย ผผู้ ลิต ผู้บริโภค และผ้ใู ชท้ รัพยากรที่มอี ยู่ เหน็ ประโยชน์ ของการประหยดั อดออม ให้รจู้ ักการปฏิบตั ติ นได้ถกู ต้องและเหน็ คณุ คา่ ของการประหยดั บอกและจาแนกสิ่งตา่ งๆรอบตัวทเี่ กิดขึ้นเองตามธรรมชาติและมนุษยส์ รา้ งขึน้ ทีส่ ง่ ผลตอ่ ความเป็นอยูข่ อง มนษุ ย์ มีความรพู้ นื้ ฐานทางกายภาพท่สี อดคลอ้ งกบั วฒั นธรรมในประเทศอาเซยี นระบุความสมั พนั ธ์ของตาแหน่ง ระยะ ทิศ ใช้แผนผังง่ายๆในการแสดงตาแหน่งของสง่ิ ตา่ งๆในหอ้ งเรียน สงั เกตและบอกการเปลย่ี นแปลงของ อากาศในรอบวัน สงั เกตและเปรียบเทยี บการเปลี่ยนแปลงของสง่ิ แวดล้อมที่อยู่รอบตัวเพ่ือการปฏบิ ตั ิยอยา่ ง เหมาะสม มสี ว่ นรว่ มในการดูแลสิง่ แวดลอ้ มทบี่ ้านและชน้ั เรยี น โดยใช้กระบวนการคดิ วิเคราะห์ กระบวนการทางจรยิ ธรรม กระบวนกลมุ่ กระบวนสบื ค้น กระบวนการทางประวัตศิ าสตร์ กระบวนการทางภมู ิศาสตร์ กระบวนการทางประชาธิปไตย เพื่อใหเ้ กดิ ความรู้ ความเขา้ ใจ ความสามารถในการส่อื สาร และเหน็ คุณค่าของการนาความรไู้ ปใชใ้ ห้เกิด ประโยชนใ์ นการดาเนินชวี ติ ประจาวนั มคี วามสื่อสัตย์สจุ ริตรักความเปน็ ไทยและมจี ติ สาธารณะ รหสั ตวั ช้วี ัด ส.๑.๑ ป.๑/๑ ป.๑/๒ ป.๑/๓ ป.๑/๔ ส.๑.๒ ป.๑/๑ ป.๑/๒ ป.๑/๓ ส.๒.๑ ป.๑/๑ ป.๑/๒ ส.๒.๒ ป.๑/๑ ป.๑/๒ ป.๑/๓ ส.๓.๑ ป.๑/๑ ป.๑/๒ ป.๑/๓ ส.๓.๒ ป.๑/๑ ส.๕.๑ ป.๑/๑ ป.๑/๒ ป.๑/๓ ส.๕.๒ ป.๑/๑ ป.๑/๒ ป.๑/๓ รวมท้ังหมด ๘ มาตรฐาน ๒๒ ตวั ช้วี ัด

๔๕ คาอธิบายรายวิชาพ้นื ฐาน ส ๑๒๑๐๑ สงั คมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม๒ กลุ่มสาระการเรียนรู้สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม ช้ันประถมศึกษาปีท่ี ๒ เวลา ๔๐ ช่ัวโมง คาอธบิ ายรายวิชา ศึกษาวเิ คราะห์เก่ียวกบั ความสาคญั ศาสนา ประวัตศิ าสดาทต่ี นนับถือ การดาเนนิ ชวี ิตและข้อคิดจาก ประวตั ิสาวก ชาดก/เร่ืองเล่า และศาสนิกชนตัวอย่าง ความสาคญั ของการปฏบิ ัติตามหลักธรรมของศาสนาท่ีตน นบั ถือ ชนื่ ชมการทาความดขี องตนเอง บคุ คลในครอบครวั และในโรงเรยี น เหน็ คุณคา่ ของการปฏิบัตธิ รรม พฒั นาจติ ตามแนวทางของศาสนาทต่ี นนับถือ บอกช่อื ศาสนา ศาสดา และความสาคญั ของคมั ภีรข์ องศาสนาท่ีตน นับถือและศาสนาอื่น ๆของประเทศสมาคมอาเซยี น การปฏบิ ัตติ นอยา่ งเหมาะสมต่อสาวกของศาสนาที่ตนนับถือ และศาสนพธิ ี พิธีกรรม และวันสาคญั ทางศาสนา เขา้ ใจเหน็ คุณค่าและปฏิบตั เิ ปน็ พลเมอื งดตี ามวิถปี ระชาธิปไตย ในฐานะสมาชกิ ทีด่ ขี องโรงเรยี นและ ชมุ ชนท่อี ยอู่ าศัย ปฏบิ ตั ติ ามบทบาทสทิ ธิเสรีภาพหน้าทขี่ องตนเองและผู้อนื่ ยอมรบั ความเป็นอยู่ในครอบครวั และดารงชีวิตตามสทิ ธิของตนเอง ปฏบิ ตั ติ ามกติการะเบยี บของชมุ ชน เคารพความคิดความเชื่อของบคุ คลอ่นื รู้ และเข้าใจโครงสร้างการบรหิ ารตามกระบวนการประชาธปิ ไตยในระดบั หม่บู ้าน บทบาทผนู้ าทอ้ งถิ่น มีสว่ นร่วม ปฏิบัตกิ จิ กรรมตามหลกั ประชาธปิ ไตย เคารพ กฎ กตกิ า ตามหลกั รฐั ธรรมนญู เขา้ ใจการกระจายได้ รายรบั รายจา่ ยของครอบครวั มสี ่วนร่วมในการผลติ การบริโภคอย่างมีคุณค่า และ คุณธรรม เข้าใจการใชท้ รัพยากรธรรมชาตแิ บบเศรษฐกจิ พอเพียง นาไปใช้ในชวี ิตประจาวนั รู้และ เขา้ ใจ ความหมายการซอื้ ขาย การแลกเปลย่ี นสนิ คา้ อธบิ ายความสาคัญและระบุสง่ิ แวดล้อมทางธรรมชาตแิ ละทม่ี นษุ ยส์ รา้ งชึน้ ซ่ึงปรากฏระหวา่ งโรงเรยี นกบั บ้าน ระบตุ าแหนง่ ทต่ี งั้ ของประเทศสมาชกิ อาเซียน และลกั ษณะทางกายภาพของสิ่งตา่ งๆที่ปรากฏในแผนผัง แผน ท่ี รูปถ่ายและลกู โลก สังเกตและแสดงความสมั พันธ์ ระหว่าโลก ดวงอาทิตยแ์ ละดวงจันทร์ ทที่ าให้ เกิดปรากฎการณ์ จาแนกการใชท้ รัพยากรธรรมชาตทิ ใ่ี ช้แล้วไมห่ มดไปและที่ใช้แลว้ หมดไปได้อย่างคุ้มค่า อธิบาย ความสมั พันธ์ของฤดกู ารณก์ ับการดาเนินชวิ ิตของมนษุ ย์ และมีส่วนรว่ มในการจดั การสิ่งแวดลอ้ มในโรงเรียน โดยใชก้ ระบวนการคดิ วเิ คราะห์ กระบวนการทางจรยิ ธรรม กระบวนกลุ่ม กระบวนสบื คน้ กระบวนการทางประวตั ิศาสตร์ กระบวนการทางภมู ิศาสตร์ กระบวนการทางประชาธปิ ไตย เพอื่ ใหเ้ กดิ ความรู้ ความเข้าใจ ความสามารถในการสอื่ สาร และเหน็ คุณคา่ ของการนาความร้ไู ปใช้ให้เกิด ประโยชน์ในการดาเนนิ ชวี ติ ประจาวนั มคี วามสอื่ สัตยส์ จุ ริตรกั ความเปน็ ไทยและมจี ิตสาธารณะ รหสั ตวั ช้วี ัด ส.๑.๑ ป.๒/๑ ป.๒/๒ ป.๒/๓ ป.๒/๔ ป.๒/๕ ป.๒/๖ ป.๒/๗ ส.๑.๒ ป.๒/๑ ป.๒/๒ ส.๒.๑ ป.๒/๑ ป.๒/๒ ป.๒/๓ ป.๒/๔ ส.๒.๒ ป.๒/๑ ป.๒/๒ ส.๓.๑ ป.๒/๑ ป.๒/๒ ป.๒/๓ ป.๒/๔ ส.๓.๒ ป.๒/๑ ป.๒/๒ ส.๕.๑ ป.๒/๑ ป.๒/๒ ป.๒/๓ ส.๕.๒ ป.๒/๑ ป.๒/๒ ป.๒/๓ ป.๒/๔ รวมทั้งหมด ๘ มาตรฐาน ๒๘ ตวั ช้ีวดั


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook