Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore พรรณไม้และองค์ประกอบสังคมพืช ในวนอุทยานนครไชยบวร

พรรณไม้และองค์ประกอบสังคมพืช ในวนอุทยานนครไชยบวร

Published by Forest Ecosystem, 2023-02-24 06:27:55

Description: พรรณไม้และองค์ประกอบสังคมพืชในวนอุทยานนครไชยบวร

Search

Read the Text Version

กาลงั ควายถกึ Smilax perfoliata Lour. วงศ์ Smilacaceae ช่อื พนื้ เมอื ง เครือเดำ เดำนำ้ กำ้ มกงุ้ เขืองปลอ้ ง สนั้ เขอื ง เขืองแดง เขอื งสยำม ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ เปน็ ไม้เถา ลำต้นกลมหรอื เปน็ เหลี่ยมมน ผิวเกลีย้ ง หรอื มหี นำมโคง้ ประปรำยหนำ 0.3-1.2 ซม. ใบ เป็นใบเดี่ยว เรียงสลับ เป็นรูปรีกว้ำง ปลำยใบ แหลม โคนใบมนหรือค่อนข้ำงแหลม กว้ำง 2.5-13 ซม. ยำว 7-18 ซม. แผ่นใบหนำแข็ง เกล้ียง ท่ีโคนก้ำนใบมี กำบเปน็ รูปใบหอก 1 คู่ ดอก แบบแยกเพศและอยู่ต่ำงต้น ออกใกล้ปลำยก่ิง ออกดอกเป็นช่อกระจะ มีช่อย่อย แบบช่อซี่ร่ม ช่อยำว 1-3 ซม. ผล รูปทรงกลม เนื้อผลนุ่ม เส้นผ่ำนศูนย์กลำง 1-1.5 ซม. ผลอ่อนสีเขียว เม่ือสุกจะเป็นสีแดง ภำยในมี เมลด็ ประมำณ 1-2 เมลด็ เมล็ดสแี ดงเขม้ การออกดอกและผล ออกดอกและผลตลอดทั้งปี การกระจายพันธ์ุ พบได้ทุกภำคของประเทศไทย โดยมักข้ึนตำมชำยป่ำ ดงดบิ ทคี่ วำมสูงใกล้ระดับทะเลปำนกลำงจนถึงประมำณ 1,500 ม. การใชป้ ระโยชน์ เหง้า/หัว ยำแก้ต่อมน้ำเหลืองภำยในร่ำงกำย ยำบำรุง โลหิต/กำลัง ยำแก้อำกำรปวดเมื่อย ยำบำรุงกำหนัด ยำขับโลหิต ยอด รกั ษำหดู พรรณไม้และองค์ประกอบสังคมพืช ในวนอุทยานนครไชยบวร 3467

ขนาน Pterospermum littorale Craib var. littorale 48 พรรณไม้และองค์ประกอบสังคมพืช ในวนอุทยานนครไชยบวร

ขนาน Pterospermum littorale Craib var. littorale วงศ์ Malvaceae ชือ่ พื้นเมือง กะหนำย ยวนปลำ ขนำน จำปีแขก จำปำเทศ สนำน หำอำว ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ เป็นไม้ต้น สูง 10 - 16 ม. ปลำยก่ิงและก้ำนใบมีขนสี ขำว-น้ำตำลแดงหนำแนน่ ใบ เป็นใบเด่ียว เรียงสลับ มี 2 รูป รูปไข่กลับยำว 10-15 ซม. ปลำยใบหยัก 3 พูต้ืน ๆ ใบของต้นกล้ำหยัก เป็นแฉกลึก 5-7 แฉก แผ่นใบด้ำนบนสีเขียวเข้ม ด้ำนล่ำง มีขนสีเทำอมเหลอื งหนำแน่น ดอก ออกเดี่ยวๆ ตำมง่ำมใบ กลิ่นหอมอ่อน กลีบเล้ียง 5 กลีบ แยกกัน รูปขอบขนำน กลีบดอก 5 กลีบ สีขำว แยกกัน เกสรเพศผู้สมบูรณ์มีประมำณ 15 อัน ติดกันเป็น กล่มุ ๆ สลบั กับเกสรเพศผู้ที่เปน็ หมัน ผล เป็นฝักรูปทรงกระบอกสั้น มีสันคม 5 สันตำมแนว ยำว ผิวผลมีขนสีอมน้ำตำล ฝักแก่แตกตำมรอยสัน ออกเป็น 5 เส่ียง เมล็ดมีจำนวนมำก รูปไข่หรือรูปรีแบน ด้ำนบนมปี กี ยำวบำงใสสนี ้ำตำล การออกดอกและผล ออกดอกและผลตลอดทงั้ ปี โดยเฉพำะในชว่ งฤดูฝน การกระจายพนั ธุ์ พบตำมป่ำดงดิบในเขตที่รำบน้ำท่วมถึงและพ้ืนท่ี ชำยทะเล ในภำคกลำง ภำคตะวันออก และภำคตะวันตก เฉยี งใต้ การใชป้ ระโยชน์ ปลูกเปน็ ไม้ประดบั ตำมสวนสำธำรณะ วัด และวังตำ่ ง ๆ พรรณไม้และองค์ประกอบสังคมพืช ในวนอุทยานนครไชยบวร 3489

ข่อย Streblus asper Lour. 50 พรรณไม้และองค์ประกอบสังคมพืช ในวนอุทยานนครไชยบวร

ขอ่ ย Streblus asper Lour. วงศ์ Moraceae ชอื่ พ้นื เมอื ง กักไม้ฝอย ซะโยเส่ ส้มพอ สะนำย ลกั ษณะทางพฤกษศาสตร์ เปน็ ไม้พุ่มหรอื ไม้ตน้ ขนาดเลก็ สงู ได้ถึง 5-10 ม. ใบ เป็นใบเดี่ยว เรียงสลับ ลักษณะของใบเป็นรูปรี กว้ำง ปลำยใบแหลม โคนใบมนหรือค่อนข้ำงแหลม ขอบ ใบหยักเล็กนอ้ ย กว้ำง 2.5-13 ซม. ยำว 7-18 ซม.แผ่นใบ หนำแขง็ ผิวมีขนสำก ดอก แบบแยกเพศและอยู่ต่ำงต้นกัน ออกตำมซอกใบ หรอื กิ่งตอนปลำย แบบชอ่ กระจกุ แนน่ ช่อยำว 1-3 ซม. ผล รูปทรงค่อนข้ำงกลม เน้ือผลนุ่ม ขนำดเส้นผ่ำน ศูนย์กลำง 1-1.5 ซม. ผลอ่อนเป็นสีเขียวอ่อน เม่ือสุก เปลี่ยนเป็นสีเหลือง-ส้ม ภำยในมี 1-2 เมล็ด เมล็ดเป็น สีแดงเข้ม การกระจายพนั ธุ์ พบตำมป่ำดงดิบแล้ง ใกล้แหล่งน้ำหรือในเขตที่รำบน้ำ ท่วมถึง พบเห็นได้บ่อยบนจอมปลวกในทุ่งนำ เน่ืองจำก สำมำรถทนต่อปลวกไดด้ ี การใช้ประโยชน์ เปลือก มีสรรพคุณแก้โรคฟัน รักษำรำมะนำด รักษำ แผล แก้ท้องร่วง ดับพษิ ภำยใน หงุ น้ำมนั ทำริดสดี วง ใชท้ ำ กระดำษข่อย ซึ่งเป็นกระดำษทป่ี ลวกไม่กนิ นิยมใชใ้ นอดีต ยาง มี milk clotting enzyme ใชย้ อ่ ยน้ำนม เนอ้ื ไม้ ใช้ผสมเปน็ ยำสบู ก่ิงออ่ น ทบุ ใหน้ ่มิ ใชส้ ฟี ัน ใบ ใช้แทนกระดำษทรำยขัดพื้นไม้ หรือใช้คั่วชงกินแก้ ปวดประจำเดือนได้ เมลด็ เขำ้ ยำอำยุวัฒนะ บำรุงธำตแุ ละชว่ ยเจรญิ อำหำร พรรณไม้และองค์ประกอบสังคมพืช ในวนอุทยานนครไชยบวร 4501

ขอ่ ยดา Clerodendrum longisepalum Dop 52 พรรณไม้และองค์ประกอบสังคมพืช ในวนอุทยานนครไชยบวร

ขอ่ ยดา Clerodendrum longisepalum Dop วงศ์ Lamiaceae ชอ่ื พนื้ เมือง กำสะลอง กำสะลองเทศ ขอ่ ยดำ ขมพลี ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ เป็นไม้พุ่ม สูง 1–2 ม. มีเหง้ำใต้ดิน ตำมส่วนอ่อน ๆ เกล้ียง-มีขนประปรำย ก่ิงอ่อนเป็นส่ีเหล่ียมสีน้ำตำลดำ ใบสดขยมี้ กี ล่นิ เหม็นเขียว ใบ เปน็ ใบเด่ยี ว เรยี งตรงขำ้ มสลบั ต้งั ฉำก รูปขอบขนำน ใบหอกกลับ หรือรูปไข่ ยำว 4–12 ซม. ปลำยใบเรียว แหลม ขอบใบจักฟันเล่ือยห่ำง ๆ โคนใบมน-รูปลิ่ม ผิวใบ ดำ้ นบนมันเงำ ด้ำนลำ่ งเกล้ยี ง-มีขนประปรำย ดอก เป็นช่อดอกแบบกระจะ หรือแยกแขนง ออก ปลำยกิ่งและตำมซอกใบใกล้ปลำยกิ่ง ยำว 7–15 ซม. กลีบเล้ียง 5 กลีบ สีเขียว รูปใบหอก ยำว 1 ซม. วงกลีบ ดอกสขี ำว เปน็ หลอดเล็กแคบ ยำว 2.5–4 ซม. ปลำยแยก 5 แฉก รูปใบหอกกลับ ยำว 1–1.5 ซม. เกสรเพศผู้ยำว 3–5 ซม. การออกดอกและผล ออกดอกและผลเดอื นพฤศจิกำยน-มีนำคม การกระจายพันธ์ุ ขน้ึ ตำมที่โลง่ ชำยปำ่ หรอื ทแี่ สงรำไร ตำมป่ำบ่งุ ทำมใกล้ ลำธำร หรือป่ำเบญจพรรณท่ีใกล้ร่องน้ำ ท่ีควำมสูงจำก ระดับทะเลปำนกลำงไม่เกิน 1,000 ม. จำกระดับทะเล ปำนกลำง พบในประเทศลำว กัมพูชำ และเวียดนำม สำหรับประเทศไทยพบในภำคเหนือ ภำคกลำง ภำคตะวนั ออกเฉยี งเหนือ และภำคตะวนั ออก พรรณไม้และองค์ประกอบสังคมพืช ในวนอุทยานนครไชยบวร 4523

ขอ่ ยน้า Streblus taxoides (B. Heyne ex Roth) Kurz 54 พรรณไม้และองค์ประกอบสังคมพืช ในวนอุทยานนครไชยบวร

ขอ่ ยนา้ Streblus taxoides (B. Heyne ex Roth) Kurz วงศ์ Moraceae ช่ือพ้ืนเมอื ง ขอ่ ยหนำม ขอ่ ยหยอง ขแี้ รด หนำม ขแ้ี รด ข่อยทำม กะแตไม้ สำมพนั ตำ ส้มพอนำ้ ลกั ษณะทางพฤกษศาสตร์ เป็นไม้พุ่ม สูงถึง 5 ม. เมื่อเกิดบำดแผลมีน้ำยำงสีขำว เปลือกเรียบ สีน้ำตำลอ่อน ตำมก่ิงมีหนำมแหลมคม มชี ่องอำกำศสขี ำว ใบ เป็นใบเด่ียว เรียงสลับสองด้ำน รูปไข่หรือไข่กลับ ยำว 2-7 ซม. ปลำยใบแหลมหรือเรียวแหลม ขอบใบหยัก ผวิ ใบทั้งสองดำ้ นเกล้ียง เนื้อใบบำง เสน้ แขนงใบข้ำงละ 6- 12 เสน้ กำ้ นใบยำว 2-5 มม. ดอก เป็นดอกแยกเพศ ช่อดอกเพศผู้แบบเชิงลดสั้น ยำว 4-8 มม. ดอกเพศเมียเป็นดอกเด่ียว มีกลีบรวม 4 กลบี สเี ขียว รูปไขแ่ กมใบหอก ยำว 2.5 มม. ปลำยเรียว แหลม กลีบรวมห่อห้มุ คลำ้ ยโดม ผล รูปรี-ค่อนข้ำงกลม ยำว 5-10 มม. ปลำยกลม-บุ๋ม มกี ลบี รวมติดคงทนและขยำยขนำดเป็นรูปใบหอกหรือรูป แถบ มีสีเขียวหรอื สเี ขียวอมมว่ ง การออกดอกและผล ออกดอกเดือนมกรำคม-กุมภำพันธ์ และออกผลเดือน เมษำยน-พฤษภำคม การกระจายพันธุ์ ขน้ึ ตำมรมิ ลำธำร ทีร่ ำบริมนำ้ ในป่ำดงดิบแล้ง และ ป่ำ ดงดิบช้นื พบได้งำ่ ยทั่วทกุ ภำคในประเทศไทย การใช้ประโยชน์ เช้ือเพลงิ ไมใ้ ชท้ ำฟืนหรอื เผำถ่ำน วัสดุ เนอื้ ไม้ ใชท้ ำตีนกระตบ๊ิ ข้ำว พรรณไม้และองค์ประกอบสังคมพืช ในวนอุทยานนครไชยบวร 4545

ขา้ วสารป่า Pevetta tomentosa Roxb. Ex Sm. 56 พรรณไม้และองค์ประกอบสังคมพืช ในวนอุทยานนครไชยบวร

ขา้ วสารป่ า Pevetta tomentosa Roxb. Ex Sm. วงศ์ Rubiaceae ชอื่ พนื้ เมอื ง เขม็ แพะ เข็มป่ำ เข็มขำว กระดกู งเู หลอื ม ลกั ษณะทางพฤกษศาสตร์ เป็นไม้พุ่ม สูงถึง 4 ม. ก่ิงอ่อนกลวง มีขนปกคลุมท่ัวไป เปลือกสีน้ำตำลเข้มปนดำ มีปุ่มตำมลำต้น เป็นสะเก็ด แตกอ้ำ มีหใู บรูปสำมเหล่ียม ใบ เป็นใบเด่ียว เรียงตรงข้ำม ระหว่ำงโคนก้ำนใบ สลบั ต้ังฉำก รปู รี แกมขอบขนำน ปลำยแหลม แผ่นใบบำง คล้ำยกระดำษ ผวิ ใบมีขนนมุ่ ดอก เป็นช่อกระจุกแยกแขนง ดูคล้ำยช่อเชิงหล่ัน ออกตำมปลำยก่ิงหรือใกล้ปลำยก่ิง ช่อยำวได้ถึง 15 ซม. ช่อดอกกลม ดอกสขี ำว ดอกยอ่ ยมีจำนวนมำกรูปดอกเข็ม วงกลีบดอก เปน็ หลอดยำวแคบ ปลำยแยก 4 แฉก ผล เป็นผลสด ผนังช้ันในแข็ง รูปกลม เส้นผ่ำน ศนู ยก์ ลำง 4-6 มม. สีเขียวมีขนปกคลมุ เมื่อแก่เปน็ สดี ำ การออกดอกและผล ออกดอกเดือนเมษำยน-พฤษภำคม และออกผลเดือน กรกฎำคม-สิงหำคม การกระจายพันธุ์ พบท่วั ทกุ ภำค ข้ึนตำมป่ำผลดั ใบและป่ำดงดิบ ควำมสูง จำกระดับทะเลปำนกลำง 100-700 ม. การใช้ประโยชน์ ราก ต้มกับน้ำดื่มเป็นยำแก้บิด ทำยำพอกฝี แก้หิด ยำรักษำริดสดี วง ท้งั ต้น ปลูกเป็นไม้ประดับ ส่งกลิน่ หอมออ่ น ใบสด บดเปน็ ยำแกไ้ ข้ พรรณไม้และองค์ประกอบสังคมพืช ในวนอุทยานนครไชยบวร 4567

ขีแ้ รด Acacia megaladena Desv. var. indo-chinensis I. C. Nielsen 58 พรรณไม้และองค์ประกอบสังคมพืช ในวนอุทยานนครไชยบวร

ข้ีแรด Acacia megaladena Desv. var. indo- chinensis I. C. Nielsen วงศ์ Fabaceae ชือ่ พื้นเมอื ง เป๊อะฉ่ีกวอ่ เคละ ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ เป็นไม้เถาเน้ือแข็งหรือไม้พุ่มรอเล้ือย ลำต้นและกิ่ง มหี นำมแหลม กิง่ อ่อนและชอ่ ดอกมีขนสนั้ นุ่ม ใบ เป็นใบประกอบแบบขนนกสองช้ัน แกนใบ ยำว 5.3-16 ซม. ก้ำนใบมีต่อมนูนรูปกลมรี กว้ำง 1-2 มม. มีใบประกอบเรียงตรงข้ำม 8-18 คู่ ใบย่อยรูปแถบ ยำว 6-10 มม. ปลำยใบแหลมโค้งไปขำ้ งหนำ้ ไมม่ กี ้ำนใบย่อย ดอก เปน็ ชอ่ กระจุกแน่นประกอบ ชอ่ ดอกย่อยทรงกลม สีขำว กลีบเลยี้ งสแี ดงเลอื ดหมู ผล แบบฝัก แห้งแตก รูปขอบขนำน ผนังฝักแบนบำง และตรง สีน้ำตำลเข้ม มีขนสั้น-เกล้ียง เมล็ดแบน สนี ้ำตำลดำ มไี ดถ้ งึ 8 เมล็ดตอ่ ฝัก การออกดอกและผล ออกดอกและผลในชว่ งเดอื นสงิ หำคม การกระจายพันธต์ุ ามธรรมชาติ พบในป่ำดงดิบแล้ง ข้ึนตำมท่ีโล่ง ข้ำงทำง หรือชำยป่ำ ทคี่ วำมสูงจำกระดับทะเลปำนกลำงไมเ่ กิน 920 ม. การใชป้ ระโยชน์ ราก รสฝำด แก้ไขท้ บั ระดูหรือระดทู ับไข้ พรรณไม้และองค์ประกอบสังคมพืช ในวนอุทยานนครไชยบวร 4589

เขม็ นา้ Ixora nigricans R. Br. ex Wight & Arn. 60 พรรณไม้และองค์ประกอบสังคมพืช ในวนอุทยานนครไชยบวร

เข็มนา้ Ixora nigricans R. Br. ex Wight & Arn. วงศ์ Rubiaceae ชอื่ พน้ื เมือง เขม็ ตดู หมำ เข็มพดู หมำ ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ เปน็ ไม้พ่มุ สูง 2-5 ม. ใบ เป็นใบเดี่ยว เรียงตรงข้ำม รูปรี หรือรูปไข่ กว้ำง 3- 3.5 ซม. ยำว 9-12 ซม. ปลำยเรียวแหลม โคนรูปล่ิม หรือมน ขอบเรียบ แผ่นใบหนำคล้ำยหนัง ผิวเกลี้ยง ก้ำนใบยำว 7-9 มม. ดอก เป็นช่อเชิงลดแยกแขนง ดอกย่อยจำนวนมำก กลีบเลี้ยงรูปถ้วยปลำยแยก 4 แฉก สีชมพูอมส้ม กลีบดอกรูปดอกเข็ม สีขำว หลอดกลีบดอก ยำว 20-35 มม. ปลำยแยกเป็น 4 แฉก เกสรเพศผู้ 4 เกสร กำ้ นชูตดิ ท่ีหลอดกลบี ดอก รังไข่ใต้วงกลีบ กำ้ นชยู อดเกสร เพศเมียยื่นพ้นหลอดกลีบดอก ยอดเกสรเพศเมีย มี 2 แฉก ผล ผลสด ค่อนข้ำงกลม มี 2 พู เส้นผ่ำนศูนย์กลำง 4-6 มม. กลีบเล้ียงติดทน การกระจายพนั ธุ์ พบเกือบท่ัวประเทศตำมป่ำดงดิบ ป่ำบุ่งทำม มักพบ ตำมป่ำที่กำลังฟื้นตัว ชำยป่ำ ในเขตท่ีรำบน้ำท่วมถึงหรือ ตำมริมน้ำ ที่มีแสงรำไร-ท่ีโล่ง ที่ควำมสูงจำกระดับทะเล ปำนกลำงไมเ่ กิน 700 ม. การใช้ประโยชน์ ไม้ดอกไมป้ ระดบั ปลูกประดับเพอ่ื ควำมสวยงำม สมุนไพร แกน่ หรอื รำก รกั ษำไขป้ ่ำ แกพ้ ิษแมงมมุ พรรณไม้และองค์ประกอบสังคมพืช ในวนอุทยานนครไชยบวร 5601

เขยตาย Glycosmis pentaphylla (Retz.) DC. 62 พรรณไม้และองค์ประกอบสังคมพืช ในวนอุทยานนครไชยบวร

เขยตาย Glycosmis pentaphylla (Retz.) DC. วงศ์ Rutaceae ช่อื พ้นื เมือง กระรอกน้ำ กระรอกน้ำข้ำว กระโรก น้ำข้ำว เขนทะ น้ำข้ำว ประยงค์ใหญ่ พุทธรักษำ มนั หมู สม้ ช่นื ลกั ษณะทางพฤกษศาสตร์ เป็นไม้พุ่มก่ึงไม้ยืนต้นขนาดเล็ก สูง 3-6 ม. เปลือก ลำต้นเรยี บสนี ำ้ ตำลเทำ ผวิ ลำตน้ ตกกระเป็นวงสขี ำว แตก กิ่งกำ้ นตำ่ ต้ังแต่โคนต้น ใบ เป็นใบเด่ียว รูปหอกแกมวงรี กว้ำง 3-5 ซม. ยำว 10-20 ซม. ปลำยใบแหลมถึงกลม โคนสอบเรียว ใบด้ำนบนมีสีแดงที่ฐำน ขอบใบเรียบ แผ่นใบเรียบ ผิวใบ ด้ำนบนสีเขียวเข้มเปน็ มนั ดอก เปน็ ชอ่ เชงิ ลดแยกแขนง ยำว 10-30 ซม. ออกดก ทึบ ดอกเล็กสีขำว ดอกย่อยเป็นกระจุกละ 12-15 ดอก ออกตำมซอกใบหรือทีป่ ลำยกิ่ง ผล เป็นผลสดรูปทรงกลมขนำดเล็ก กว้ำง 1-1.2 ซม. ยำว 1-1.8 ซม. ผิวเรียบ สีเขียวทึบ เมื่อสุกเป็นสีชมพูใส ฉำ่ นำ้ มีรสหวำน เมล็ด มเี มลด็ เดียว ลักษณะกลม เป็นลำย การออกดอกและผล ออกดอกเดือนกุมภำพันธ์-เมษำยน และออกผลเดือน มีนำคม การกระจายพนั ธุ์ตามธรรมชาติ พบตำมปำ่ โปรง่ ทั่วไป การใช้ประโยชน์ ราก กระทงุ้ พษิ แก้พษิ ฝีภำยในและภำยนอก ยับย้ังเชื้อ ไวรัสบำงชนิด แกพ้ ษิ งู แก้พษิ แมลงกัดตอ่ ย เปลือกและเนอื้ ไม้ แกฝ้ ีภำยในและภำยนอก ขับน้ำนม ดอกและผล รกั ษำหดิ พรรณไม้และองค์ประกอบสังคมพืช ในวนอุทยานนครไชยบวร 5623

เขือง Leea rubra Blume ex Spreng. 64 พรรณไม้และองค์ประกอบสังคมพืช ในวนอุทยานนครไชยบวร

เขือง Leea rubra Blume ex Spreng. วงศ์ Vitaceae ชอ่ื พืน้ เมือง กะตังใบแดง ลกั ษณะทางพฤกษศาสตร์ เป็นไม้พุม่ สูงไม่เกนิ 3 ม. ใบ เปน็ ใบย่อย ขอบใบหยัก ประกอบแบบขนนกสองถงึ สำมช้ัน เรียงสลับ ใบย่อยรูปไข่หรือรูปขอบขนำน ปลำยแหลม ดอก เป็นดอกช่อ ออกท่ีปลำยยอด ก้ำนช่อดอกสีแดง สด กลีบดอกมีสีเหลือง กลีบเล้ียงติดกันเป็นรูปถ้วย ปลำยแยกเป็น 5 กลีบ กลีบดอกโคนติดกนั ปลำยแยกเป็น กลบี รูปไข่ 5 กลีบ เกสรเพศผู้ 5 อนั รงั ไข่มี 6 ช่อง ผล เป็นผลกลม ด้ำนบนแบน การใช้ประโยชน์ ราก รักษำโรคคุดทะรำด แก้บิด แก้ไข้ ขับเหงื่อ บำรุงธำตุ และชว่ ยแก้ปวดท้อง ลาต้น แกบ้ ิด ผล แก้บิด แก้คุดทะรำด เมลด็ ขบั พยำธิ ทั้ง 5 ผสมสมุนไพรอื่น รักษำมะเร็ง พรรณไม้และองค์ประกอบสังคมพืช ในวนอุทยานนครไชยบวร 5645

คล้า Schumannianthus dichotomus (Roxb.) Gagnep. 66 พรรณไม้และองค์ประกอบสังคมพืช ในวนอุทยานนครไชยบวร

คล้า Schumannianthus dichotomus (Roxb.) Gagnep. วงศ์ Marantaceae ชอื่ พ้นื เมือง คล้ำน้ำ บแู มจี่จ๊ะไอย์ แหย่ง ลกั ษณะทางพฤกษศาสตร์ เป็นไม้น้าล้มลุก สูง 1-2.5 ม. มีเหง้ำอยู่ใต้ดิน ลำต้น กลม หนำ 1-2 ซม. ตั้งตรงสูง 1-2 ม. ผิวเกลี้ยงสีเขียว ตำมข้อบวมโต ใบ เปน็ ใบเดีย่ ว เรียงสลับ รูปรี ยำว 10-15 ซม. ปลำย ใบเรียวแหลม ผิวใบเกลี้ยง สีเขียวมันเงำ เส้นแขนงใบถี่ คลำ้ ยกลว้ ย ดอก เป็นช่อดอกแบบกระจะ ออกท่ีปลำยกิ่ง ยำว 10- 35 ซม. แกนช่อดอกมีกำบสีเขียวอ่อนหุ้ม ดอกสีขำว ยำว 4.5-5 ซม. ปลำยกลีบแหลม-กลม บำนโค้งกลับ กลบี มขี อบหยักและเปน็ คลน่ื ผล รูปทรงคล้ำยผลแอปเป้ิล กว้ำง 2 ซม. สูง 1.5 ซม. หยัก 6 พูเล็กน้อย ปลำยผลตัด-บุ๋ม สีเขียวอมเหลือง ผลแก่แตก 3 ซีก การออกดอกและผล ออกดอกเดือนพฤษภำคม-พฤศจิกำยน และออกผล เดือนกรกฎำคม-มกรำคม การกระจายพนั ธุ์ ข้นึ ตำมทีโ่ ล่งแจง้ ตำมขอบบงึ แหลง่ น้ำนง่ิ หรือริมห้วยท่ี น้ำไหลเอ่ือย ระดับน้ำลึกเฉล่ียไม่เกิน 50 ซม. พบได้ง่ำย ทัว่ ประเทศไทย การใชป้ ระโยชน์ สมุนไพร รำกคล้ำ แช่น้ำดื่มและอำบเป็นยำเย็นรักษำ โรคอสี กุ อีใส วัสดุ เปลือกสีเขียวมีเนื้อเหนียว จักเป็นเส้นตอก ใช้ไพหลงั คำหญ้ำ ดอกมดั สิง่ ของ สำนกระตบิ๊ ข้ำว พรรณไม้และองค์ประกอบสังคมพืช ในวนอุทยานนครไชยบวร 5667

คัดเคา้ เครือ Oxyceros horridus Lour. 68 พรรณไม้และองค์ประกอบสังคมพืช ในวนอุทยานนครไชยบวร

คดั เค้าเครือ Oxyceros horridus Lour. วงศ์ Rubiaceae ช่อื พ้ืนเมอื ง เข้ียวกระจับ คัดเค้ำ คัดเค้ำหนำม เค็ดเค้ำ จีเคำ๊ พญำเท้ำเอว ลกั ษณะทางพฤกษศาสตร์ เป็นไม้พุ่มรอเลื้อย มีหนำมตำมก่ิง สูง 3-6 ม. เปลือก สีน้ำตำล เรียบ ก่ิงมีหนำมแหลมคมโค้งกลับคล้ำยเขำ ควำย ออกเป็นคตู่ รงขำ้ มกนั ที่ซอกใบ ยำว 1 ซม. ใบ เปน็ ใบเดี่ยว เรียงตรงข้ำม รูปรีแกมขอบขนำน ยำว 6-12 ซม. ปลำยใบแหลม-เรียวแหลม โคนใบมน มีเส้น แขนงใบข้ำงละ 7-11 เสน้ กำ้ นใบยำว 1-1.5 ซม. ดอก ช่อดอกแบบแยกแขนง ยำว 3-6 ซม. ออกตำม ซอกใบและปลำยกงิ่ ดอกย่อย 10-25 ดอก อยู่ค่อนขำ้ งชดิ คลำ้ ยชอ่ ดอกเข็ม มกี ล่ินหอมแรงชว่ งกลำงคนื มีสีขำวแล้ว เปลยี่ นเปน็ สีเหลอื งคลำ้ เมอื่ ใกลโ้ รย ผล ผลทรงกลม กว้ำง 1 ซม. ผลอ่อนสีเขียว ผิวเกล้ียง มันเงำ ปลำยมีโคนของกลีบเลี้ยงรูปวงแหวนติดค้ำง เมอื่ สกุ สดี ำ มเี มล็ดเลก็ จำนวนมำก การออกดอกและผล ออกดอกเดือนธันวำคม-มกรำคม และออกผลเดือน เมษำยน การกระจายพนั ธ์ุ พบตำมปำ่ ดบิ แลง้ ปำ่ เบญจพรรณ และตำมป่ำละเมำะ ตงั้ แต่ระดับน้ำทะเลจนถงึ 500 ม. การใชป้ ระโยชน์ ราก แกไ้ ข้ แกเ้ ลือดออกตำมไรฟัน แก้ไข้เพ่อื โลหิต ลาตน้ และใบ แกไ้ ขบ้ ำรุงโลหิต เปลือก ขบั เสมหะ รีดมดลูก แก้เลอื ดออกในทวำรทงั้ 9 ผล ขบั ประจำเดือน ฟอกเลอื ด บำรุงเลอื ด แกท้ ้องเสยี พรรณไม้และองค์ประกอบสังคมพืช ในวนอุทยานนครไชยบวร 5689

คาง Albizia lebbekoides (DC.) Benth. 70 พรรณไม้และองค์ประกอบสังคมพืช ในวนอุทยานนครไชยบวร

คาง Albizia lebbekoides (DC.) Benth. วงศ์ Fabaceae ชอื่ พืน้ เมอื ง กำง จำมรีดง จำมรีป่ำ คำงฮงุ คนั ฮงุ ทำม ปรึลต๊กึ ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ เป็นไม้ต้น สูง 10-15 ม.เปลือกเรียบสีน้ำตำลอมเทำ มีช่องอำกำศจำนวนมำก ตำมแผลมชี นั สีเหลอื งอำพัน ใบ เป็นใบประกอบแบบขนนก 2 ช้ัน เรียงสลับ ยำว 5-13 ซม. ปลำยใบแหลมมน มักมีต่ิงหนำมส้ัน ๆ โคนใบ ตัด ไม่มีก้ำนใบย่อย ดอก เป็นช่อดอกแบบแยกแขนง ยำว 15 ซม. มีขนส้ัน ช่อดอกย่อยกลม ผล แบบฝกั แบน รปู แถบ กวำ้ ง 2 ซม. ยำว 10-15 ซม. เปลือกฝักบำง เหยียดตรง ผิวเกลี้ยง นูนตำมตำแหน่ง เมล็ด ฝักแก่แห้งแตกสีน้ำตำลแดง มี 4-10 เมล็ด รูปไข่ แบนด้ำนขำ้ ง ยำว 7 มม. การออกดอกและผล ออกดอกเดือนพฤศจิกำยน-มกรำคม และออกผลเดือน มกรำคม-มีนำคม การกระจายพันธุ์ ข้ึนตำมท่ีโล่ง ทุ่งนำ หรือรกร้ำงในเขตที่รำบน้ำท่วมถึง พบไดง้ ำ่ ยท่ัวไปในประเทศไทย การใชป้ ระโยชน์ อาหาร ยอดออ่ น กินเป็นผักสด กนิ แกล้มนำ้ พรกิ สมุนไพร เปลอื กและแกน่ ฝนแล้วอมแกไ้ อ เชื้อเพลิง เนอ้ื ไม้ใชท้ ำฟืนหรอื เผำถ่ำน ก่อสรา้ งและเครอื่ งมือ ทำไม้กระดำนสร้ำงบ้ำน ยุ้งฉำง เฟอรน์ ิเจอร์ วสั ดุ เปลือกไม้ใช้ยอ้ มเส้นไหม ใหส้ กี ำกี ดา้ นอน่ื ก่ิง ใบ เปน็ อำหำรวัว ควำย แมลงทับและช้ำง พรรณไม้และองค์ประกอบสังคมพืช ในวนอุทยานนครไชยบวร 6701

เครอื เขามวก Parameria laevigata (Juss.) Moldenke 72 พรรณไม้และองค์ประกอบสังคมพืช ในวนอุทยานนครไชยบวร

เครือเขามวก Parameria laevigata (Juss.) Moldenke วงศ์ Apocynaceae ชื่อพื้นเมอื ง เครอื ซดู ผู้ ตัง่ ตเู้ ครือ ตังตดิ มวก สม้ ลม ส้มเย็น เถำประหลำ่ ผี วันจรกุ ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ เปน็ ไม้เล้ือยลม้ ลกุ ยำว 4-10 ม. ทุกสว่ นเมื่อเกดิ แผลจะ มนี ้ำยำงสขี ำวขุ่น เถำมีข้อนูน ตำมก่ิงอ่อน ก้ำนใบและช่อ ดอก มขี นสน้ั ประปรำย ใบ เป็นใบเด่ียว เรียงตรงข้ำม ใบรูปรี ยำว 3-7 ซม. ปลำยใบเรียวแหลม โคนใบมน ผิวใบเรียบเกลี้ยงเป็น มันเงำ เน้ือใบค่อนข้ำงหนำ ด้ำนล่ำงพบกระจุกขนสีสนิม ที่งำ่ มใบ ดอก ช่อดอกแบบแยกแขนง ยำว 5-16 ซม. ออกตำม ปลำยกิ่ง กลีบเล้ียงสีเขียวอ่อนหรือแดง ยำว 1 มม. กลีบดอกสีขำว-ชมพู โคนเป็นหลอดป่องท่ีโคนและ มี 5 สนั กลบี บดิ เวยี นซ้ำย มีกลิน่ หอม ผล เป็นฝักรปู คู่ รูปทรงกระบอกยำว 12-27 ซม. กว้ำง 4-7 มม. ผิวเกล้ียง มีรอยคอดตำมเมล็ด ฝักแก่แห้งแตก มเี มลด็ จำนวนมำก ปลำยด้ำนหน่งึ มีพูข่ นสขี ำว การออกดอกและผล ออกดอกเดือนกรกฎำคม-ตุลำคม และออกผลเดือน ตลุ ำคม-มีนำคม การกระจายพนั ธุ์ ขึ้นตำมชำยป่ำดงดิบ ป่ำผลัดใบ พบได้ท่ัวทุกภำคของ ประเทศไทย การใชป้ ระโยชน์ อาหาร ยอดออ่ น กินเป็นผกั สด แกลม้ ลำบ ปลำร้ำบอง วัสดุ เถำเนื้อเหนียวเช่นเดียวกับเครือซูด ใช้แทนเชือก มัดส่ิงของ เช่น ใชม้ ดั ฟนื ใช้สำนลอบ ไซ หรอื มัดรั้ว พรรณไม้และองค์ประกอบสังคมพืช ในวนอุทยานนครไชยบวร 6723

เครอื ตายดิบ Phyllanthus harmandii Beille 74 พรรณไม้และองค์ประกอบสังคมพืช ในวนอุทยานนครไชยบวร

เครือตายดบิ Phyllanthus harmandii Beille วงศ์ Phyllanthaceae ชอ่ื พ้ืนเมือง สีฟันปลำ ไคร้หำงนำค ไคร้ปลำก้ัง เครอื เสียวน้ำ ไคร้หำงนำงใหญ่ ลกั ษณะทางพฤกษศาสตร์ เป็ นไม้ เล้ื อ ย ห รื อไ ม้ พุ่ม รอเลื้ อย ยำ ว 2- 4 ม . เปลือกเรียบสีน้ำตำล มีช่องอำกำศกระจำย ยอดและใบ ออ่ นมกั มสี มี ่วงแดง (ไม่มีรสขม) ใบ เป็นใบเดี่ยว เรียงสลับ รูปไข่กลับ ยำว 1-2 ซม. ขอบใบงมุ้ ผิวดำ้ นบนเงำ ด้ำนล่ำงเกลยี้ ง เนอ้ื ใบหนำ ดอก แยกเพศแต่อยู่บนต้นเดียวกัน ออกเป็นกระจุก ตำมซอกใบใกล้ปลำยก่ิง สีเขยี วอมเหลือง ดอกมขี นำดเล็ก ไม่มกี ลบี ดอก ผล รูปทรงกลมแกมรูปรี กว้ำง 6 มม. ยำว 6-8 มม. ผิวเรียบเกล้ียง สีเขียวอ่อน เห็นเส้นแบ่งช่องผลตำมแนว ยำวสขี ำว 6 เส้น ผลแก่แห้งแตกตำมแนวยำว มีเมล็ดแข็ง รปู สำมเหล่ยี ม 6 เมล็ดต่อผล การออกดอกและผล ออกดอกเดือนพฤษภำคม-มิถุนำยน และออกผลเดือน มิถนุ ำยน-สงิ หำคม การกระจายพนั ธุ์ พบได้ท่ัวภำคตะวันออกเฉียง เหนือข้ึนตำมท่ีโล่งแจ้ง ท่งุ นำ ท่รี ะดับควำมสูงจำกทะเลปำนกลำงไมเ่ กนิ 300 ม. การใช้ประโยชน์ อาหาร ยอดอ่อน เปน็ ผักสด จิ้มน้ำพริก แกลม้ ลำบ สมุนไพร ทุกส่วน ตำกแห้ง ต้มน้ำด่ืมรักษำอำกำร จกุ เสยี ด แน่นทอ้ ง วัสดุ เถำ ใช้ทำกงลอบ กงไซ, ใบและเถำ ตำผสมเลือด วัว-ควำย ใช้ย้อมแห ทำให้แหแขง็ ทนทำน พรรณไม้และองค์ประกอบสังคมพืช ในวนอุทยานนครไชยบวร 6745

เครือปลอก Ventilago harmandiana Pierre 76 พรรณไม้และองค์ประกอบสังคมพืช ในวนอุทยานนครไชยบวร

เครือปลอก Ventilago harmandiana Pierre วงศ์ Rhamnaceae ชือ่ พ้ืนเมือง กระปรอกช้ำง ตำนขโมย คนทีดำ พญำงวิ้ ดำ พญำเท้ำเอว หนำมลดิ เคำ้ ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ เปน็ ไม้เถาเน้ือแขง็ ยำวไดถ้ งึ 20 ม. ใบ เปน็ ใบเดยี่ ว เรียงสลับ ใบประกอบแบบขนนกปลำย คี่ รปู ขอบขนำนหรือรปู ไข่ ฐำนมน ปลำยแหลม ขอบเรียบ ยำว 8-10 ซม. กว้ำง 4-5 ซม. ผวิ เรียบเป็นมนั ดอก เปน็ ชอ่ แบบแยกแขนง ออกที่ปลำยก่ิงและซอกใบ มีดอกย่อยจำนวนมำก กลีบดอกสีเหลืองอมเขียว มกี ลิน่ เหม็น ผล เป็นผลแห้งไม่แตก ด้ำนปลำยแผ่เป็นครีบ ผลแบบ ฝักแบน เมอ่ื แก่สนี ำ้ ตำลแดง มปี กี เดยี ว เปลือก มีเปลือกสีน้ำตำลอมเทำ หรือเทำดำ มีตุ่มกลม เล็ก แตกเปน็ รอ่ ง การออกดอกและผล ออกดอกเดือนธันวำคม-กรกฎำคม และออกผลเดือน มนี ำคม-กนั ยำยน การกระจายพนั ธุ์ มกั ข้นึ ตำมทุง่ หญำ้ ป่ำผลัดใบ หรือชำยป่ำดงดิบ พบได้ ท่วั ประเทศไทย ต่ำงประเทศพบทีอ่ ินเดีย เนปำล ศรีลังกำ เมยี นมำร์ ลำว กมั พูชำ และเวียดนำม การใชป้ ระโยชน์ อาหาร ผลสุกกินเปน็ ผลไม้ สมุนไพร ใบนำมำรองแคร่ไม้ไผ่ แล้วก่อไฟใต้แคร่ แกฟ้ กชำ้ ชำ้ ใน ด้านอนื่ หัวคันเป็นพษิ กินไม่ได้ พรรณไม้และองค์ประกอบสังคมพืช ในวนอุทยานนครไชยบวร 6767

เครอื ไพสง Streptocaulon kleinii Wight & Arn. 78 พรรณไม้และองค์ประกอบสังคมพืช ในวนอุทยานนครไชยบวร

เครือไพสง Streptocaulon kleinii Wight & Arn. วงศ์ Apocynaceae ช่ือพื้นเมอื ง จุกโรหินี ขี้เดือน ไซสง ตำยำน เครือ ไอ้แบ้ วลั กะเซำ เครือเขำขน ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ เป็นไมเ้ ล้ือยลม้ ลกุ ยำว 3-5 ม. ทุกส่วนเมื่อเกิดแผลจะ มนี ำ้ ยำงสีขำวขุ่น ตำมก่งิ และเถำอ่อนมีขนสีสนิมหนำแน่น เถำมีขอ้ และช่องอำกำศนูน ใบ เป็นใบเดี่ยว เรียงตรงข้ำม ใบรูปขอบขนำน ยำว 5- 10 ซม. โคนใบเว้ำรูปหัวใจหรือตัด ผิวใบด้ำนล่ำงมีขนส้ัน หนำแนน่ สขี ำว เนอ้ื ใบค่อนขำ้ งหนำ ดอก เป็นช่อดอกแบบกระจุก ยำว 3-6 ซม. ออกตำม ซอกใบ กลีบดอกสีเหลืองอมเขียวหรือสีแดงอมม่วงเข้ม โคนเชอ่ื มตดิ กันทรงคล้ำยชำม ผล เปน็ ฝักคู่ รปู ทรงกระบอก แต่ละฝักเหยียดตรงและ กำงออกสองข้ำง มีขนสน้ั หนำแน่น ฝักแกแ่ ห้งแตก มีเมล็ด จำนวนมำก มพี ู่ขนสขี ำว การออกดอกและผล ออกดอกเดือนพฤศจิกำยน-พฤษภำคม และออกผล เดอื นกมุ ภำพนั ธ์-สงิ หำคม การกระจายพันธุ์ ข้ึนตำมที่โล่งแจ้งในทุ่งหญ้ำ หรือชำยป่ำดงดิบแล้ง ใน เขตพืน้ ที่ลุ่มภำคกลำง การใชป้ ระโยชน์ อาหาร ยอดอ่อน กินเปน็ ผักสดมรี สฝำด จิ้มนำ้ พรกิ สมุนไพร ยำงสขี ำวทำแผลสดหำ้ มเลอื ด ช่วยสมำนแผล วัสดุ เถำเน้ือเหนียว ใช้แทนเชือกมัดส่ิงของ สำนลอบ สำนไซ ด้านอ่นื ใบและเถำเป็นอำหำรช้ำง วัว และควำย พรรณไม้และองค์ประกอบสังคมพืช ในวนอุทยานนครไชยบวร 6789

โคคลาน Mallotus repandus (Willd.) Müll. Arg. 80 พรรณไม้และองค์ประกอบสังคมพืช ในวนอุทยานนครไชยบวร

โคคลาน Mallotus repandus (Willd.) Müll. Arg. วงศ์ Euphorbiaceae ชอ่ื พน้ื เมอื ง มะกำยเครอื โพคำน เยีย่ วแมว ลกั ษณะทางพฤกษศาสตร์ เป็นไม้เถาเนื้อแข็ง สูง 3-6 ม. ตำมก่ิงก้ำนและช่อดอก มขี นน่มุ รปู ดำว ใบ เดี่ยว เรียงสลับ แผ่นใบรูปไข่แกมรูปสำมเหลี่ยม รูปไข่แกมขอบขนำน หรือรูปไข่กว้ำง กว้ำง 5-8 ซม. ยำว 6-10 ซม. ฐำนใบกว้ำงกลมปดิ ขอบใบเรียบ หรือเปน็ คลื่นเล็กน้อย ปลำยใบแหลมหรือเรียวแหลม แผ่นใบบำง คล้ำยกระดำษ หลังใบเรียบเกลี้ยง ท้องใบมีขนสั้นนุ่มสี เหลือง รูปดำว หนำแน่น หูใบรูปสำมเหล่ียม ขนำด 1 มม. ก้ำนใบยำว 1.5-6 ซม. มองเห็นเส้นใบชัดเจน 3 เสน้ ทีฐ่ ำนใบ ดอก เป็นช่อกระจุก ออกท่ีซอกใบและปลำยกิ่ง มีดอก ย่อยหลำยดอก สีขำวแกมเหลอื ง แยกเพศอยูค่ นละต้น ผล แห้งแตกแบบแคปซูลมี 2 ห้อง รูปทรงกลม ขนำด เส้นผ่ำนศูนย์กลำงประมำณ 10 มม. สีน้ำตำลเหลือง มีขน นุ่ม กำ้ นผลยำว 8-12 มม. เมอื่ แก่แตกตรงกลำงพู เมล็ด กงึ่ ทรงกลม ขนำดเส้นผำ่ นศนู ยก์ ลำง 5 มม. สีดำ การออกดอกและผล ออกดอกเดือนมีนำคม-พฤษภำคมและออกผลเดือน มถิ นุ ำยน-กันยำยน การกระจายพนั ธ์ุ พ บ ต ำ ม ป่ ำ ที่ สู ง ก ว่ ำ ร ะ ดั บ ท ะ เ ล ป ำ น ก ล ำ ง ต้ั ง แ ต่ 100-1,000 ม. การใชป้ ระโยชน์ ราก เปน็ ยำระบำย ลดไข้ ใบ ลดไข้ แก้ปวดข้อ และแก้ปวดเมอ่ื ยกล้ำมเนอ้ื ยอดอ่อน แกโ้ รคตบั อักเสบ พรรณไม้และองค์ประกอบสังคมพืช ในวนอุทยานนครไชยบวร 7801

จามจรุ ี Albizia saman (Jacq.) Merr. 82 พรรณไม้และองค์ประกอบสังคมพืช ในวนอุทยานนครไชยบวร

จามจรุ ี Albizia saman (Jacq.) Merr. วงศ์ Fabaceae ช่อื พ้ืนเมือง ก้ำมกรำม ก้ำมกุ้ง ก้ำมปู จำมจุรี ฉำฉำ ตดุ๊ ตู่ สำรสำ ลกั ษณะทางพฤกษศาสตร์ เป็นไม้ต้นขนาดใหญ่ สูง 15-20 ม. ผลัดใบ เรือนยอด แผเ่ ป็นพมุ่ กว้ำงคล้ำยรม่ โคนตน้ เป็นพพู อนตำ่ ใบ เป็นใบประกอบแบบขนนกสองช้ัน ปลำยคู่ เรียง สลับ ใบย่อยเรียงตรงข้ำม มี 2-10 คู่ กว้ำง 1-2.5 ซม. ยำว 1.5-5 ซม. ปลำยใบแหลม โคนใบบิดเบี้ยว ผิวใน ด้ำนบน สีเขยี วเขม้ เปน็ มนั ดำ้ นลำ่ งมีขนน่มุ ขอบใบเรยี บ ดอก สีเหลืองปนเขียว กลีบเล้ียง 7-8 กลีบ กลีบดอก โคนเช่อื มตดิ เปน็ ถ้วย ปลำยแยก 5 แฉกเป็นรูปแตร เกสร เพศผู้จำนวนมำก ยำวโผล่พ้นกลีบดอก สีชมพูอ่อน บริเวณโคนมสี ีขำว ดอกออกเปน็ ช่อแบบชอ่ กระจุก ผล เป็นฝักแห้ง รูปขอบขนำน สีน้ำตำลดำ กว้ำง 1.5-2.4 ซม. ยำว 15-20 ซม. คอดเป็นตอนระหว่ำงเมล็ด เมล็ด แบนสีน้ำตำลเข้มปนดำเป็นมัน กว้ำง 6 มม. ยำว 10 มม. การออกดอกและผล ออกดอกเดือนสิงหำคม-กันยำยน และออกผลเดือน ตลุ ำคม-ธันวำคม การกระจายพันธุ์ ขึ้นตำมทีโ่ ลง่ แจง้ พ้นื ที่ดินทุกชนิด เปน็ ไม้กลำงแจ้ง การใช้ประโยชน์ เปลือกต้น ปน่ ละเอยี ดเปน็ ยำสมำนแผล เปลือกตน้ และเมลด็ รักษำอำกำรบิด ท้องเสีย เนอ้ื ไม้ ใชใ้ นงำนแกะสลัก ทำเคร่ืองใช้ เครือ่ งเรือน ใบ แก้ปวดแสบปวดรอ้ น เมลด็ แกโ้ รคผิวหนัง แก้ท้องร่วง พรรณไม้และองค์ประกอบสังคมพืช ในวนอุทยานนครไชยบวร 7823

จกิ นา Barringtonia acutangula (L.) Gaertn. 84 พรรณไม้และองค์ประกอบสังคมพืช ในวนอุทยานนครไชยบวร

จกิ นา Barringtonia acutangula (L.) Gaertn. วงศ์ Lecythidaceae ชอ่ื พ้นื เมือง กระโดนทุ่ง กระโดนน้ำ กระโดน สร้ อย จิ กน้ำ จ๊ิก ต อง ปุ ย ส ำ ย ลกั ษณะทางพฤกษศาสตร์ เป็นไมต้ ้น สงู 5-15 ม. ลำตน้ เป็นป่มุ ปม ปลำยกง่ิ ล่ลู ง ใบ เป็นใบเด่ียว เรียงเวียนหนำแน่นใกล้ปลำยกิ่ง ใบอ่อนเป็นสีน้ำตำลแดงเข้ม รูปใบหอกหรือรูปไข่กลับ ปลำยและโคนใบแหลม ขอบจักถี่ เวลำมีดอกจะท้ิงใบ เหลือเพยี ง ใบออ่ นสีแดง ดอก ออกเป็นช่อ ห้อยลงเป็นระย้ำ ออกที่ปลำยก่ิง สีแดงสด มีกลิ่นหอม ยำว 30-40 ซม. เม่ือบำนเต็มท่ี เส้นผำ่ นศูนย์กลำงประมำณ 2 ซม. ผล รปู ส่เี หลยี่ ม สีเขยี วอมชมพู มีเมลด็ การออกดอกและผล ออกดอกเดือนพฤศจกิ ำยน-กรกฎำคม และออกผลเดือน กุมภำพันธ-์ ตุลำคม การกระจายพันธุ์ ขึ้นตำมท่ีโล่งแจ้ง ริมน้ำ ชำยป่ำ หรือตำมทุ่งนำในเขต ทีร่ ำบนำ้ ท่วมถงึ พบไดง้ ำ่ ยทั่วประเทศไทย การใชป้ ระโยชน์ ราก เป็นยำระบำยออ่ น ๆ เปลือก เป็นยำฝำดสมำน ลดไข้ในผูป้ ว่ ยไขม้ ำลำเรยี ใบ แกท้ ้องเสยี แก้บิด และสมำนแผล เมล็ด แก้จุกเสียด แก้ปวดศีรษะ แก้ไข้ตัวร้อน เป็นยำ หยอดตำ ยอดออ่ น ยอดอ่อนสดใช้กินเปน็ ผักจ้ิมกับน้ำพริก พรรณไม้และองค์ประกอบสังคมพืช ในวนอุทยานนครไชยบวร 7845

ฉนวนน้า Dalbergia godefroyi Prain 86 พรรณไม้และองค์ประกอบสังคมพืช ในวนอุทยานนครไชยบวร

ฉนวนนา้ Dalbergia godefroyi Prain วงศ์ Fabaceae ชอ่ื พ้นื เมือง - ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ เป็นไม้พุ่มรอเลื้อย สูงถึง 10 ม. ยอดอ่อนและช่อดอก มีขนสน้ั นมุ่ หูใบขนำดเลก็ มำก และหลุดร่วงง่ำย ใบ เป็นใบประกอบแบบขนนกปลำยค่ี ยำว 5-15 ซม. ก้ำนใบยำว 1-2 ซม. แกนช่อใบยำว 3-10 ซม. เกล้ียงถึงมี ขนสั้น ใบย่อยเรียงสลับหรือเกือบตรงข้ำม มี 6-9 ใบ รูป ใบรีถึงขอบขนำน ขนำด 1.5-2 x 2-3 ซม. ปลำยใบย่อย มน กลม หรอื เวำ้ ตื้นเลก็ น้อย โคนใบมน แผ่นใบด้ำนล่ำงมี ขนส้นั หนำแน่นเม่อื ใบออ่ น ดอก ก้ำนดอกย่อยยำวประมำณ 2 มม. วงกลีบเล้ียง ยำวประมำณ 5 มม. มีขนส้ัน วงกลีบดอก สีออกขำว ถึงสีส้ม กลีบ Standard รูปค่อนข้ำงกลม ปลำยกลีบเว้ำ ต้นื รังไขม่ ขี นมนั เงำสขี ำว ผล แบบฝกั รูปขอบขนำน ถึงรูปขอบขนำนแกมรูปแถบ ยำว และโค้ง ยำว 2-3.5 ซม. ผิวฝักมีขนคล้ำยกำมะหย่ี สีขำวมันเงำ มี 1-3 เมล็ด มีรอยคอดระหว่ำงเมล็ด เมล็ดรปู ไต ขนำดประมำณ 10 x 6 มม. สีน้ำตำลออกแดง การกระจายพันธุ์ พบในประเทศกัมพูชำ และในประเทศไทย โดยพบที่ จงั หวดั สโุ ขทัย พิจิตร นครสวรรค์ สระบุรี และอดุ รธำนี การใชป้ ระโยชน์ - พรรณไม้และองค์ประกอบสังคมพืช ในวนอุทยานนครไชยบวร 7867

ชงิ ช่ี Capparis micracantha DC. 88 พรรณไม้และองค์ประกอบสังคมพืช ในวนอุทยานนครไชยบวร

ชิ งชี่ Capparis micracantha DC. วงศ์ Capparaceae ช่อื พนื้ เมอื ง กระดำดขำว กระโรคใหญ่ จงิ โจ้ พญำ จอมปลวก แสมซอ กระดำดป่ำ ค้อน ลกั ษณะทางพฤกษศาสตร์ เป็นไม้พุ่ม กึ่งไม้ต้นขนำดเล็ก กิ่งมีหนำมแหลม สูง 2-6 ม. กงิ่ ก้ำนอ่อนมสี ีเขียว ผวิ เรียบเกล้ยี ง ก่งิ คดไปมำ ใบ เป็นใบเด่ียว เรียงสลับ รูปขอบขนำน รูปรี หรือรูป ไข่ กวำ้ ง 3-15 ซม. ยำว 9.5-24 ซม. ปลำยใบมนแหลม ดอก เป็นดอกเด่ียว ออกเรียงเป็นแถว 1-7 ดอก ตำม ซอกใบบริเวณปลำยกิ่ง ออกเรียงอยู่เหนือง่ำมใบ มีสีขำว หลุดร่วงง่ำย มี 2 กลีบด้ำนนอก สีขำวแต้มเหลืองและจะ เปล่ียนเป็นแต้มสีม่วงปนน้ำตำล มีต่อมน้ำหวำน ที่โคน กำ้ นดอก ผล สด กลมหรือรี มี 4 ร่องตำมยำว ผิวผลเรียบ แข็ง เป็นมัน สีเขียวน้ำตำล เมื่อสุกสีเหลืองหรือแดง หรือดำ เนอื้ รสหวำนรบั ประทำนได้ การออกดอกและผล ออกดอกเดือนกุมภำพันธ์-เมษำยน และออกผลเดือน กุมภำพันธ-์ พฤษภำคม การกระจายพนั ธุ์ พบตำมสภำพดินแห้ง หินปูน ป่ำละเมำะ ทุ่งหญ้ำ ทร่ี ะดบั ต่ำกวำ่ 500 เมตร การใชป้ ระโยชน์ ลาต้น ขับพยำธิ แก้คุดทะรำด แก้กระษัยเส้น ช่วยขับ ปสั สำวะ แก้สิว ใบ รักษำกลำก เกล้ือน แก้กระษัย ขับปัสสำวะ รักษำ โรคผวิ หนงั เปน็ ยำระบำย สมำนธำตุ ดอก เป็นยำระบำย พรรณไม้และองค์ประกอบสังคมพืช ในวนอุทยานนครไชยบวร 7889

แดงนา้ Glochidion lanceolarium (Roxb.) Voigt 90 พรรณไม้และองค์ประกอบสังคมพืช ในวนอุทยานนครไชยบวร

แดงน้า Glochidion lanceolarium (Roxb.) Voigt วงศ์ Phyllanthaceae ชื่อพ้นื เมือง ตำนำ ขี้มด ผักข้ีมด กำระเซะ กำระ เซไซส์ กะตรูย ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ เป็นไม้พุ่ม สูง 1-7 ม. แตกก่ิงเวียนรอบและเกือบ ตั้งฉำกกบั ลำตน้ ใบอ่อนและก่ิงอ่อนมีสีแดงอมส้ม ตำมกิ่ง อ่อน ก้ำนใบ ช่อดอก มีขนสั้นนุ่ม ใบ เป็นใบเด่ียว เรียงสลับระนำบเดียว รูปขอบขนำน หรือรปู รี ยำว 4-12 ซม. ปลำยใบแหลม ผิวใบด้ำนบนมัน เงำ ด้ำนล่ำงสีเขียวนวล เส้นแขนงใบข้ำงละ 6-10 เส้น นูนชดั เจนทงั้ สองดำ้ น ดอก ออกเป็นกระจกุ ตำมซอกใบ ดอกแยกเพศแตอ่ ยู่ใน ต้นเดียวกัน ดอกสีเหลืองอ่อน มีขนำดเล็ก เม่ือบำนกว้ำง 4.5-6 มม. ผล ทรงกลมแป้น กว้ำง 1.2-2 ซม. สูง 0.8-1 ซม. ปลำยบุ๋ม ผิวมรี อ่ งหรือแบ่งเป็นพูตื้น ๆ ตำมแนวยำว 7 พู ผลอ่อนสีเขียวอ่อน เม่ือใกล้แก่จะมีสีแดงเร่ือ เมื่อแก่แล้ว จะแหง้ แลว้ แตกอำ้ ตำมแนวกลำงพู การออกดอกและผล ออกดอกและตดิ ผลตลอดทัง้ ปี การกระจายพนั ธุ์ ข้ึนตำมท่ีโล่งแจ้ง ทุ่งหญ้ำ ทุ่งนำ หรือป่ำเต็งรัง พบได้ ง่ำยทวั่ ประเทศ การใชป้ ระโยชน์ อาหาร ยอดอ่อน รสมันอมฝำด เป็นผักสด จ้ิมน้ำพริก กินแกล้มลำบ ผลออ่ น รสจืดมัน เป็นผกั สด สมนุ ไพร เปลือก รสฝำด ทบุ แลว้ อม รกั ษำรำมะนำด พรรณไม้และองค์ประกอบสังคมพืช ในวนอุทยานนครไชยบวร 8901

แดงสะแง Schoutenia ovata Korth. 92 พรรณไม้และองค์ประกอบสังคมพืช ในวนอุทยานนครไชยบวร

แดงสะแง Schoutenia ovata Korth. วงศ์ Malvaceae ชอ่ื พน้ื เมือง แดงสะแหง แดงพะแย แดงดง แดง แสม แดงเหนยี ว ข้เี ถำ้ แบงทะแง สะแง ลกั ษณะทางพฤกษศาสตร์ เป็นไม้ต้น สูง 15 ม. เปลือกเรียบ-แตกเป็นร่องต้ืน ตำมยำว สีน้ำตำลอ่อน ตำมก่ิงอ่อน ช่อดอก และก้ำนใบ มขี นกระจุกส้นั รปู ดำวหนำแน่น สีสนมิ ใบ เป็นใบเดี่ยว กว้ำง 2.5-4.5 ซม.ขอบใบช่วงปลำย หยกั เลก็ น้อย โคนใบเบยี้ วเล็กนอ้ ย ดอก เป็นช่อ ดอกย่อยสีขำว เมื่อบำนกว้ำง 2-2.5 ซม. มีกลีบเล้ียงและกลีบดอกอย่ำงละ 5 กลีบ กลีบเล้ียงหยัก ลึกเขำ้ มำไมเ่ กนิ 1/2 ของควำมยำวกลบี ผล มกี ลีบเลย้ี งติดคงทนที่ขวั้ คล้ำยหมวก การออกดอกและผล ออกดอกเดือนกรกฎำคม-พฤศจิกำยน และออกผล เดอื นกันยำยน-กมุ ภำพันธ์ การกระจายพนั ธุ์ พบตำมป่ำเบญจพรรณ ป่ำดงดิบแล้ง ทั้งในเขตท่ีรำบ เชิงเขำและที่รำบน้ำท่วมถึง ที่ควำมสูงจำกระดับน้ำทะเล ไม่เกิน 200 ม. เป็นพืชท่ีพบได้ไม่บ่อยนัก แต่ข้ึนอยู่ท่ัว ทุกภำคของประเทศไทย ยกเวน้ ภำคใต้ การใช้ประโยชน์ สมนุ ไพร แกน่ ต้มนำ้ ด่ืมรกั ษำประดง เช้ือเพลงิ ไมใ้ ช้ทำฟืนและเผำถำ่ น ก่อสร้างหรือเครื่องมือ เน้ือไม้ใช้ทำเฟอร์นิเจอร์ หรอื งำนกอ่ สร้ำงในร่ม พรรณไม้และองค์ประกอบสังคมพืช ในวนอุทยานนครไชยบวร 8923

ตดหมูตดหมา Paederia linearis Hook. f. var. linearis 94 พรรณไม้และองค์ประกอบสังคมพืช ในวนอุทยานนครไชยบวร

ตดหมูตดหมา Paederia linearis Hook. f. var. linearis วงศ์ Rubiaceae ชือ่ พน้ื เมอื ง ตำยำนตวั ผู้ ย่ำนพำโหม ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ เป็นไม้เถาล้มลุก เล้ือยพันได้ยำว 2-4 ม. มีหัวหรือรำก สะสมอำหำรใต้ดิน ใบ เป็นรูปแถบ กว้ำง 0.5-1.5 ซม. ยำว 5-12 ซม. มี ก้ำนใบท่ีสั้นเพียง 2-5 มม. และจะมีขนยำวสำกคำยหรือ ขนส้ันคอ่ นข้ำงหนำแนน่ ดอก เป็นช่อ ออกบริเวณยอดและตำมซอกใบ มีดอก ย่อยจำนวนมำก กลีบดอกมีลักษณะเป็นรูปกรวยปลำย แยกเปน็ 5 แฉก และหยกั ต้นื ผล รปู ไข่หรือกลมแบน มีควำมกว้ำงประมำณ 0.4-0.5 ซม. และควำมยำวประมำณ 0.5-0.7 ซม. การออกดอกและผล ออกดอกเดือนธันวำคม-มกรำคม และออกผลเดือน มกรำคม-เมษำยน การกระจายพันธ์ุ พบตำมป่ำเตง็ รังและปำ่ เบญจพรรณ ควำมสูงประมำณ ไมเ่ กนิ 300 ม. การใชป้ ระโยชน์ ทั้งต้น เป็นอำหำรสัตว์ แก้ตัวร้อน ขับลม แก้ท้องเสีย ขับพยำธไิ สเ้ ดอื น เป็นยำอำยวุ ฒั นะ ราก แก้ตำฟำง ใบ แกพ้ ิษงู แก้ปวดฟนั แก้เริม แกป้ วดแสบปวดร้อน ผล ทำฟันทำใหฟ้ นั มสี ดี ำ แกป้ วดฟนั พรรณไม้และองค์ประกอบสังคมพืช ในวนอุทยานนครไชยบวร 8945

ต่อไส้ Allophylus cobbe (L.) Raeusch. 96 พรรณไม้และองค์ประกอบสังคมพืช ในวนอุทยานนครไชยบวร