เอกสารประกอบการอบรม การสร้างสมรรถนะแห่งนวัตกร

ทา (Action) = ออ่ นแอ เช่ือมโยง (Connection) = แข็งแรง ไม่เหมอื นใคร (Deviation) = แข็งแรง คดิ เกง่ แตม่ ีปญั หาเร่อื งการนาไปปฏบิ ตั แิ ละสรา้ ง “นักฝัน” (ช่างฝัน)

ทา (Action) = แข็งแรง เช่ือมโยง (Connection) = ออ่ นแอ ไม่เหมือนใคร (Deviation) = แข็งแรง มปี ญั หาเร่อื งการทาความเขา้ ใจ และ มกั จะไม่ชอบเขา้ สงั คม “นักสรา้ งเรอ่ื ง” (ช่างส่มุ )

ทา (Action) = แข็งแรง เช่ือมโยง (Connection) = แข็งแรง ไม่เหมอื นใคร (Deviation) = ออ่ นแอ เกง่ เร่อื งการเลยี นแบบ หรอื ทาตาม และ มกั มปี ญั หาเร่อื ง การรเิ ร่มิ อะไรใหม่ๆ “นักเลียน” (ช่างลอก)

ทา (Action) = แข็งแรง เช่ือมโยง (Connection) = ออ่ นแอ ไม่เหมอื นใคร (Deviation) = ออ่ นแอ เกง่ เร่อื งการเลยี นแบบ หรอื ทาตาม และ มกั มปี ญั หาเร่อื ง การรเิ ร่มิ อะไรใหม่ๆ “นักทา” (ช่างก่อ)

ทา (Action) = ออ่ นแอ เช่ือมโยง (Connection) = แข็งแรง ไม่เหมือนใคร (Deviation) = ออ่ นแอ คดิ ไดท้ กุ เร่อื ง แต่ ทาไม่สาเรจ็ “นักต่อ” (ช่างเช่ือม)

ทา (Action) = ออ่ นแอ เช่ือมโยง (Connection) = ออ่ นแอ ไม่เหมอื นใคร (Deviation) = แข็งแรง อะไรจะเกดิ ข้ึน คาดเดาไม่ไดเ้ ลย ตอ้ งระวงั “มงึ น่ีมนั มิคก้จี รงิ ๆ” “เพีย้ น”

ทา (Action) = ออ่ นแอ เช่ือมโยง (Connection) = ออ่ นแอ ไม่เหมอื นใคร (Deviation) = ออ่ นแอ โดยทวั่ ไปเฉ่ือยชา วนั ๆเอาแตด่ ูทวี ี กนิ และ ซ้ือของ “ผบู้ ริโภค”

Lateral Thinking (การคิดแนวขา้ ง) 58 Lateral Thinking (การคิดแนวขา้ ง) เป็ นวธิ ีที่ ตรงขา้ มกบั Vertical Thinking หรือ การคดิ แนวต้งั ซ่ึงเนน้ การใชเ้ หตุผลมุง่ ไปสู่การหาทางออก ที่ดีที่สุด เป็ นไปไดม้ ากท่ีสุด เม่ือไดค้ าตอบท่ี ถูกตอ้ งที่สุดแลว้ ก็ไมม่ องหาคาตอบอ่ืนๆอีก Lateral Thinking คิดคน้ โดย เอ็ดเวิรด์ เดอ โบโน โดยเน้นการแกป้ ัญหาดว้ ยวธิ ีแปลกๆหลายๆ ทาง โดยมองจากมุมต่างๆท่ีคนอ่ืนไมม่ องเน่ืองจาก ดูเหมือนไมม่ ีเหตุผล หลกั การสาคญั ของการคิดแนวขา้ งก็คือ \"มุมมองที่ เรามีต่อส่ิงต่างๆ เป็ นเพียงหน่ึงในมุมมองที่ สามารถเป็ นไปได\"้ โดยการสารวจมุมมองอ่ืนๆแลว้ ปรบั โครงสรา้ งและจดั เรียงขอ้ มูลที่มีอยู่ใหม่

กิจกรรมที่ 2 รถหลดุ โลก 59 บางคร้งั การคิดอะไรท่ีหลุด โลก หรือ หลุดกรอบความ เป็ นจริง ใหไ้ ดๆ้ หลาย ความคิด แลว้ คอ่ ยให้ ความคิดที่หลุดโลก หรือ หลุดกรอบเหล่าน้ัน นาไปสู่ แนวความคิดที่เป็ นไปไดแ้ ละ ใชไ้ ดจ้ ริงอีกหลาย แนวความคิด

กจิ กรรมที่ 3 หอ้ งเรยี นหลดุ โลก 10 นาที

เทคนิคการคิดแนวขา้ ง 61 1. การใชเ้ ครือ่ งมือเหนี่ยวนาความคิด: เลือกคาสุม่ หรือภาพสุ่ม แลว้ หาความเช่ือมโยง วา่ จะใชค้ าน้ันหรือภาพน้ันชว่ ยแกป้ ัญหาได้ อยา่ งไรบา้ ง 2. การสมมุตวิ ่าเราเป็ นคนอื่นแลว้ คิด: คิดวา่ เราเป็ นคนอื่น แลว้ คิดในแบบลกั ษณะที่คนๆน้ันน่าจะคิด 3. การคิดแบบหามุมทีค่ นสว่ นใหญม่ องขา้ ม: คิดวา่ คนส่วนมาก มุง่ เนน้ ไปมองจากมุมใด แลว้ เปลี่ยนไปมองมุมอ่ืนๆ ไปสนใจกบั สิ่ง อ่ืนท่ีคนอ่ืนไมม่ องกนั แลว้ โยงเขา้ หาการแกป้ ัญหา 4. คิดไอเดียท่ีหลดุ โลก: บา้ บอ เพอ้ ฝัน แลว้ คอ่ ยดึงกลบั เขา้ มาสู่ การแกป้ ัญหา

เทคนิคการคิดแนวขา้ ง การใชเ้ ครอ่ื งมือเหนี่ยวนาความคิด 62 เลือกคาสุม่ หรือภาพสุ่มแลว้ หาความเชื่อมโยง วา่ จะใชค้ า น้ันหรือภาพน้ันชว่ ย แกป้ ัญหาไดอ้ ยา่ งไรบา้ ง วธิ ี น้ ีจะทาใหค้ าหรือภาพน้ัน ชว่ ยเบี่ยงเบนการแกป้ ัญหา ของเราออกไปจากการคิด แบบที่เราคุน้ เคย หรือ การ คิดแบบท่ีเราต้งั ตน้ เอาไว้

เทคนิคการคิดแนวขา้ ง การสมมุตวิ ่าเราเป็ นคนอื่นแลว้ คิด 63 วธิ ีน้ ีใหล้ ืมการคิดใน แนวทางแบบที่เราคิด แลว้ ใหค้ ิดวา่ เราเป็ นคนอ่ืน ใคร ก็ได้ ท่ีมหี ลกั การคิด และ รูปแบบการคิดเด่นชดั แลว้ ใชจ้ ินตนาการวา่ ถา้ คนน้ัน เผชิญกบั สถานการณห์ รือ ปัญหาที่คุณเผชิญอยู่ คนน้ัน จะทาอยา่ งไร บางทีคุณอาจ ไดแ้ นวความคิดใหมๆ่

เทคนิคการคิดแนวขา้ ง การคิดแบบหามุมท่คี นสว่ นใหญม่ องขา้ ม 64 1.คิดวา่ ทางออกของปัญหาน้ ีที่ชดั เจน และคนสว่ นมากคิดคืออะไร 2.หาทางอ่ืนๆนอกจากแนวทางที่ ชดั เจนในขอ้ 1 3.ทาสมองใหย้ ดื หยุน่ ไมป่ ิ ดก้นั ความคิดที่เขา้ มา 4.คิดหาทางแกป้ ัญหาท่ีอาจเกิดข้ ึนได้ โดย “บงั เอิญ”



กจิ กรรมที่ 4 คาถามแนวขา้ ง 1. เขาคอื ใคร?? 2. เหตใุ ดหนอ??

การอปุ มาอปุ มยั



กระตนุ้ ใหค้ นคิดหรอื ทาบางอย่าง



อปุ มาอปุ มยั

































เลน่ กบั สญั ลกั ษณ์







เลน่ กบั ขนาด



จนิ ตนาการเหนือจรงิ