ตัวช้ีวดั ที่ 1.1. ข้อ 1 1.1 การสรา้ งและพฒั นาหลกั สตู ร ข้อ 1 การวิเคราะหห์ ลักสูตร จดุ ประสงค์ สมรรถนะ และคำอธิบาย รายวชิ า หรอื คำอธบิ ายของหลักสตู รและนำไปจัดทำรายวชิ า และหรือหนว่ ยการเรยี นรู้ ให้สอดคล้องกบั จดุ ประสงคส์ มรรถนะ และคำอธบิ ายรายวชิ า หรือคำอธิบายหลกั สตู ร แผนกสามญั สมั พนั ธ์ วทิ ยาลยั การอาชีพนิคมคาสรอ้ ย
แผนการจดั การเรียนร้แู บบมุง่ เน้นสมรรถนะอาชพี แบบ ➢ บูรณาการดา้ นคณุ ธรรม จริยธรรม คา่ นิยม คณุ ลกั ษณะที่พงึ ประสงค์ ➢ บรู ณาการดา้ นหลกั ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี ง ➢ บูรณาการงานสวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรยี น ➢ บูรณนาการโครงงานเป็นฐาน Project-based Learning ➢ บรู ณนาการการทจุ รติ สำหรบั นกั เรยี น นักศกึ ษา วิชาภาษาไทยพื้นฐาน รหสั 20000-1101 หลกั สูตรประกาศนียบตั รวชิ าชพี ( ปวช.) พทุ ธศกั ราช 2562 จดั ทำโดย นางสาวศิริวรรณ ศิริสวัสดิ์ ตำแหน่ง ครู ประจำแผนกวิชาสามญั สัมพนั ธ์ วทิ ยาลยั การอาชีพนคิ มคำสร้อย อาชวี ศกึ ษาจงั หวัดมกุ ดาหาร สำนกั งานคณะกรรมการการอาชีวศกึ ษา กระทรวงศึกษาธิการ
รายการตรวจสอบและอนุญาตใชแ้ ผน ควรอนญุ าตใหใ้ ชใ้ นการเรยี นการสอนได้ ควรปรบั ปรงุ เก่ียวกบั ............................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................ ลงชือ่ .............................................................................. (นางสมถวิล ประทุมมาตร) หวั หน้าแผนกวชิ าสามัญฯ ………………/ มิถนุ ายน /2563 เห็นควรอนญุ าตใหใ้ ชใ้ นการจดั การเรยี นรไู้ ด้ ควรปรบั ปรุงดังเสนอ อืน่ ๆ ............................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................... ลงชื่อ.............................................................................. (นางสมถวลิ ประทุมมาตร) ครูชำนาญการ ทำหน้าท่ี หวั หนา้ ฝ่ายวิชาการ ………………/ มิถนุ ายน /2563 อนญุ าตให้ใช้ในการจัดการเรียนรู้ได้ อน่ื ๆ ............................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................... ลงชื่อ.............................................................................. (นายทศพล สวุ รรรไตรย์) ผู้อำนวยการวิทยาลยั การอาชพี นิคมคำสร้อย ………………/ มิถุนายน /2563
ช่อื วิชา การพฒั นาหลักสตู รรายวิชา รหสั วิชา ภาษาไทยพืน้ ฐาน จำนวนหนว่ ยกติ 20000-1101 2 หนว่ ยกิต ชั่วโมงสอน 36 ช่ัวโมง / สปั ดาห์ หลักสูตร ประกาศนียบตั รวชิ าชีพ พ.ศ.2562 ประเภทวิชา สามัญพน้ื ฐาน นางสาวศิริวรรณ ศิริสวัสดิ์ ผู้ศึกษา ปกี ารศกึ ษา 2563 ปีทำการ
รายละเอียดของหลักสูตรรายวิชา หลกั สูตรรายวิชา หลกั สูตรประกาศนยี บัตรวิชาชีพ พุทธศักราช 2562 ประเภทวชิ า สามัญ ชื่อวิชา ภาษาไทยพ้ืนฐาน (Thai for Careers) รหัสวิชา 20000-1101 ท–ป–น 2-0-2 จำนวนคาบสอน 2 คาบ: สัปดาห์ ระดับชน้ั ปวช. จุดประสงคร์ ายวชิ า เพือ่ ให้ ๑. รู้และความเข้าใจเกย่ี วกบั หลกั การใช้ภาษาไทยในการส่อื สาร ๒. สามารถเลอื กใช้ภาษาไทยไดถ้ กู ต้องตามหลักการใชภ้ าษาเหมาะสมกับบุคคล กาลเทศะ โอกาส และสถานการณ์ ๓. สามารถนำ ความรแู้ ละทกั ษะการฟัง การดู การพูด การอา่ น และการเขยี นไปใชส้ ื่อสาร ในชีวิตประจำวนั ถกู ต้องตามหลกั การ ๔. เห็นคุณค่าและความสำคญั ของการใช้ภาษาไทยในชวี ติ ประจำวนั สมรรถนะรายวิชา ๑. แสดงความรู้เก่ียวกับหลกั การใช้ภาษาไทยในการฟงั การดู การพูด การอา่ น และการเขียน ๒. วิเคราะห์ ประเมินคา่ สารจากการฟัง การดู การอา่ นตามหลกั การ ๓. พดู ติดตอ่ กิจธุระ พูดในโอกาสต่าง ๆ ตามหลักการและมารยาทของสงั คม ๔. เขียนขอ้ ความติดต่อกจิ ธรุ ะ สรุป อธบิ าย บรรยาย และกรอกข้อมูลตามหลกั การ 5. เขียนรายงานทางวิชาการ และโครงการตามหลกั การ คำอธบิ ายรายวชิ า ศกึ ษาเกย่ี วกบั การรับสารและการสง่ สารดว้ ยภาษาไทย เขียนสะกดคำ การใช้ถอ้ ยคำ สำนวน ระดบั ภาษา การฟัง การดูและการอ่านข่าว บทความ สารคดี โฆษณา บนั เทิงคดี วรรณกรรมหรอื ภูมิปญั ญา ทอ้ งถิ่นด้านภาษาจากสื่อสิง่ พิมพ์และสอ่ื อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ การกลา่ วทักทาย แนะนำตนเองและผอู้ นื่ การพูด ในโอกาสต่างๆ ตามมารยาทของสังคม ตอบรับและปฏเิ สธ การแสดงความยนิ ดี แสดงความเสียใจ การพดู ตดิ ตอ่ กิจธุระ พดู สรปุ ความ พดู แสดงความคดิ เห็น การเขยี นขอ้ ความติดต่อกิจธรุ ะ สรุปความ อธบิ าย บรรยาย การกรอกแบบฟอร์ม เขียนประวตั ิยอ่ การเขียนรายงานเชงิ วชิ าการและเขยี นโครงการ
รายละเอียดของหลักสตู รรายวชิ า หลักสูตรรายวชิ า หลกั สูตรประกาศนียบตั รวิชาชีพ พทุ ธศกั ราช 2562 ประเภทวชิ า สามญั ชื่อวิชา ภาษาไทยพ้นื ฐาน (Thai for Careers) รหสั วิชา 20000-1101 ท–ป–น 2-0-2 จำนวนคาบสอน 2 คาบ : สัปดาห์ ระดบั ชัน้ ปวช. คำอธิบายรายวิชา : ปรบั ปรุง แก้ไข เพ่ิมกิจกรรมการบรู ณาการ ศึกษาเกี่ยวกับการรับสารและการส่งสารด้วยภาษาไทย เขียนสะกดคำ การใช้ถ้อยคำ สำนวน ระดับภาษา การฟังแบบบูรณาการการทุจริตสำหรับนักเรียน นักศึกษา การดูและการอ่านข่าว บทความ สารคดี โฆษณา บันเทิงคดี วรรณกรรมหรือภูมิปัญญาท้องถิ่นด้านภาษาจากส่ือส่ิงพิมพ์และส่อื อิเล็กทรอนิกส์ แบบบูรณาการเศรษฐกิจพอเพียง เรื่อง ความพอประมาณ การกล่าวทักทาย แนะนำตนเองและผู้อ่ืน การพูดในโอกาสต่างๆ ตามมารยาทของสังคม ตอบรับและปฏิเสธ การแสดงความยินดี แสดงความเสียใจ การพูดติดต่อกิจธุระ พูดสรุปความ พูดแสดงความคิดเห็น การเขียนข้อความติดต่อกิจธุระ สรุปความ อธิบาย บรรยาย การกรอกแบบฟอร์ม เขียนประวัติย่อ การเขียนรายงานเชิงวิชาการและเขียนโครงการแบบบูรณา การงานสวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรียน : องค์ประกอบที่ ๑ การจัดทำป้ายช่ือพรรณไม้ เรื่อง การสำรวจพรรณ ไม้ในพ้ืนที่ศึกษา และการแต่งคำประพันธ์จากชื่อพรรณไม้และบูรณาการแบบโครงงานเป็นฐาน Project- based Learning หมายเหตุ บูรณาการดา้ นคณุ ธรรม จรยิ ธรรม (ค่านิยม 12 ประการ) ทกุ หน่วยการเรียน
ตารางที่ 1 วิเคราะห์หลกั สตู รและระดับความสำคญั ของหนว่ ยการเรยี นรู้ รหสั วชิ า 20000-1101 ช่อื วชิ าภาษาไทยพนื้ ฐาน จำนวน 2 หนว่ ยกิต 2 ชัว่ โมง/สัปดาห์ หลักสูตรประกาศนยี บตั รวิชาชีพ (ปวช.) พทุ ธศักราช 2562 ประเภทวชิ า สามญั ทั่วไป พทุ ธพิ สิ ยั (35 %) ทกั ษะ จิตพสิ ยั รวม ลำดับ จำนวน ความ ชว่ั โมง พสิ ยั (20%) สำคญั (45%) พฤติกรรม ช่อื หนว่ ย ความจำ ความเ ้ขาใจ นำไปใ ้ช วิเคราะห์ ัสงเคราะห์ ประเ ิมนค่า ความรทู้ ัว่ ไปเก่ียวกับการใช้ภาษาไทยเพ่ือการ 2 1 1 0.5 - - 7 4 15.5 2 4 ส่อื สารแบบบูรณาการการทจุ ริตสำหรบั 4 2 10.5 2 นักเรยี น นักศึกษา 4 2 10.5 2 4 8 2 15 1 4 การอ่าน การฟัง และการดูสารจากส่อื สิง่ พิมพ์ 2 1 1 0.5 - - 6 2 12.5 3 4 8 4 18 1 4 และสื่ออิเลก็ ทรอนกิ ส์ 6 8 4 18 1 การพูดส่อื สารในชวี ิตประจำวนั ทางสังคมและ 2 1 1 0.5 - - 6 45 20 100 2 การพูดสือ่ สารในงานอาชพี 2 การเขียนในงานอาชีพแบบบูรณาการ 2 11 1 - - 36 เศรษฐกิจพอเพยี ง เร่ือง ความพอประมาณ การกรอกแบบฟอรม์ และการเขียนบนั ทกึ 2 1 1 0.5 - - ขอ้ ความเพือ่ ติดต่อกิจธุระ การเขยี นรายงานเชงิ วชิ าการแบบบูรณาการ 2 2 1 1 - - งานสวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรยี น : องค์ประกอบที่ ๑ การจัดทำป้ายช่ือพรรณไม้ เร่อื ง การสำรวจพรรณไม้ในพนื้ ที่ศึกษาและ การแต่งคำประพันธ์จากชือ่ พรรณไม้ การเขยี นโครงการแบบบูรณาการสอนแบบ 2 2 1 1 - - โครงงานเป็นฐาน Project-based Learning สอบระหว่างภาค สอบปลายภาค รวม 14 9 7 5 - -
ตารางที่ 2 วิเคราะห์หน่วยการเรยี นรแู้ ละเวลาทีใ่ ช้ในการจัดการเรยี นรู้ รหสั วิชา 20000-1101 ช่ือ วชิ าภาษาไทยพ้ืนฐาน จำนวน 2 หน่วยกติ 2 ชว่ั โมง/สปั ดาห์ หลักสตู รประกาศนยี บัตรวิชาชพี (ปวช.) พุทธศักราช 2562 ประเภทวิชา สามัญทว่ั ไป หน่วยท่ี ช่ือเรอ่ื ง / ช่อื หนว่ ยการเรียนรู้ สปั ดาหท์ ี่ จำนวน ช่วั โมง 1 ความรู้ท่ัวไปเก่ียวกบั การใชภ้ าษาไทยเพ่ือการส่ือสารแบบบรู ณาการการทจุ รติ สำหรบั 1 – 2 4 นักเรียน นักศึกษา 2 การอ่าน การฟงั และการดสู ารจากสอื่ สง่ิ พมิ พ์ และสื่ออเิ ล็กทรอนกิ ส์ 3 -4 4 3 การพูดสอื่ สารในชีวิตประจำวนั ทางสงั คมและการพดู ส่อื สารในงานอาชพี 5-6 4 สอบระหว่างภาค 72 4 การเขยี นในงานอาชพี แบบบูรณาการเศรษฐกิจพอเพียง เร่อื ง ความพอประมาณ 8-9 4 5 การกรอกแบบฟอรม์ และการเขยี นบนั ทกึ ขอ้ ความเพอื่ ติดต่อกิจธรุ ะ 10-11 4 6 การเขียนรายงานเชงิ วิชาการแบบบูรณาการงานสวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรยี น : 12-14 6 องคป์ ระกอบท่ี ๑ การจดั ทำปา้ ยชื่อพรรณไม้ เรื่อง การสำรวจพรรณไมใ้ นพนื้ ทศ่ี ึกษา 6 2 และการแต่งคำประพันธจ์ ากชือ่ พรรณไม้ 36 7 การเขยี นโครงการแบบบรู ณาการสอนแบบโครงงานเป็นฐาน Project-based 15-17 Learning สอบปลายภาค 18 รวม
ตารางที่ 3 วเิ คราะห์หวั ข้อการเรียนรู้หลัก/หวั ข้อรอง/หัวข้อยอ่ ย และการจดั การเรียนรู้ รหสั วิชา 20000-1101 ชอื่ วิชาภาษาไทยพ้นื ฐาน จำนวน 2 หน่วยกิต 2 ชว่ั โมง/สปั ดาห์ หลกั สูตรประกาศนยี บตั รวิชาชพี (ปวช.) พทุ ธศักราช 2562 ประเภทวชิ า สามัญทวั่ ไป สปั ดาหท์ ี่ หน่วยที่ ชื่อเรอื่ ง / ช่ือหนว่ ยการเรียนรู้ เวลาจดั การเรียนรู้ (ชม.) ท. ป. รวม 1 – 2 1 ความรูท้ ว่ั ไปเก่ียวกบั การใช้ภาษาไทยเพือ่ การสื่อสารแบบบูรณาการการทุจริต 1 3 4 สำหรบั นักเรียน นักศึกษา ๑.๑ การใชภ้ าษาส่ือสาร ๑.๒ การใชถ้ ้อยคำภาษาในการสอ่ื สาร ๑.๓ การใช้สำนวนภาษาในการสื่อสาร ๑.๔ ระดับของภาษาในการสอื่ สาร ๑.๕ การเขียนสะกดคำในภาษาไทย 1.6 ความรคู้ วามเข้าใจในการสร้างความตระหนกั รู้และมีส่วนรว่ มในการปอ้ งกนั การทจุ รติ สำหรบั นักเรียน นกั ศึกษา 1) การบรู ณาการหนว่ ยที่ 1 ตามรอยพระบุคลบาท กิจกรรมใบงานที่ 1.5 เร่อื ง คนดตี อ้ งมที ีย่ นื 2) การบูรณาการหนว่ ยที่ 2 ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง กิจกรรมใบงานที่ 2.6 ค่านยิ ม : ค่าทไี่ มค่ วรนยิ ม 3 -4 2 การอา่ น การฟัง และการดูสารจากสอ่ื สิ่งพิมพ์ และสอ่ื อิเล็กทรอนกิ ส์ 134 ๒.๑ ความหมายของการอ่าน การฟัง และการดูสารจากสื่อสิ่งพิมพ์ และ สอื่ อิเล็กทรอนกิ ส์ ๒.๒ ประเภทของสารจากสอื่ สิ่งพมิ พแ์ ละสือ่ อเิ ลก็ ทรอนิกส์ ๒.๓ การวเิ คราะหแ์ ละการประเมนิ ค่าสารจากการอา่ น การฟัง และการดู 5-6 3 การพดู สือ่ สารในชวี ติ ประจำวัน ทางสงั คมและการพูดสื่อสารในงานอาชพี 134 ๓.๑ การพดู ในชวี ิตประจำวนั ๓.๒ การพดู ในงานสงั คม 3.3 การพดู ในงานอาชีพ - การพดู เพ่ือกจิ ธุระ - การพูดแสดงความคิดเห็น - การใช้โทรศัพทพ์ ูดติดตอ่ กจิ ธรุ ะ - การตอบรับและปฏิเสธ - การพูดสรปุ ความ 7 สอบระหว่างภาค 202
ตารางท่ี 3 วเิ คราะห์หวั ข้อเรยี นรหู้ ลัก/หวั ขอ้ รอง/หวั ข้อย่อย และการจดั การเรยี นรู้ รหสั วิชา 20000-1101 ชื่อ วิชาภาษาไทยพื้นฐาน จำนวน 2 หน่วยกติ 2 ชั่วโมง/สปั ดาห์ หลักสตู รประกาศนียบัตรวชิ าชพี (ปวช.) พทุ ธศกั ราช 2562 ประเภทวิชา สามัญทว่ั ไป สปั ดาห์ที่ หน่วยที่ เวลาจดั การเรียนรู้ (ชม.) ชอ่ื เร่อื ง / ชือ่ หนว่ ยการเรียนรู้ ท. ป. รวม 8-9 4 การเขียนในงานอาชีพแบบบูรณาการเศรษฐกจิ พอเพียง 13 4 เรือ่ ง ความพอประมาณ 4.1 การเขยี นสรุปความ 4.๒ การเขยี นบรรยาย 4.๓ การเขยี นอธิบาย 4.4 ลิขิตภาษาด้วยเรยี งความ เรอ่ื ง การดำเนนิ ชีวติ ดว้ ยความพอประมาณ แบบเศรษฐกิจพอเพยี ง 10-11 5 การกรอกแบบฟอร์มและการเขียนบันทกึ ข้อความเพือ่ ติดต่อกิจธรุ ะ 13 4 5.1 ความสำคญั ของแบบฟอร์ม 5.2 ขอ้ ควรระวงั ในการกรอกแบบฟอร์ม 5.3 ลกั ษณะพ้ืนฐานของผู้กรอกแบบฟอร์มทีด่ ี 5.4 ความหมายของการเขยี นบันทกึ 5.5 ประเภทของบันทกึ 12-14 6 การเขยี นรายงานเชิงวชิ าการแบบบูรณาการงานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรยี น : 2 4 6 องคป์ ระกอบท่ี ๑ การจัดทำป้ายชอื่ พรรณไม้ เร่อื ง การสำรวจพรรณไม้ ในพน้ื ทศ่ี กึ ษา และการแตง่ คำประพนั ธ์จากช่ือพรรณไม้ 6.1 ความหมายของรายงานเชงิ วิชาการ 6.2 จุดประสงคข์ องรายงานเชิงวิชาการ 6.3 วธิ นี ำเสนอรายงาน 6.4 ข้นั ตอนการทำรายงานเชิงวชิ าการ 6.5 ส่วนประกอบของรายงานเชิงวิชาการ 6.6 การเขยี นอา้ งองิ 6.7 ความรู้ความเข้าใจ สบื คน้ ขอ้ มูล การสำรวจพรรณไมใ้ นพืน้ ที่ศึกษา การจำแนกชนดิ ของพรรณไม้ 6.8 การศึกษาประเภท ลกั ษณะวิสัย ชนิด จำนวน ของพรรณไม้ 6.9 แต่งคำประพนั ธ์จากช่ือพรรณไม้
ตารางที่ 3 วเิ คราะห์หัวข้อเรยี นรู้หลกั /หวั ขอ้ รอง/หัวข้อย่อย และการจัดการเรียนรู้ รหสั วชิ า 20000-1101 ชื่อ วชิ าภาษาไทยพ้นื ฐาน จำนวน 2 หน่วยกิต 2 ชวั่ โมง/สปั ดาห์ หลกั สตู รประกาศนียบตั รวชิ าชพี (ปวช.) พทุ ธศักราช 2562 ประเภทวิชา สามัญทว่ั ไป สปั ดาห์ที่ หน่วยท่ี เวลาจัดการเรยี นรู้ (ชม.) ชือ่ เรอ่ื ง / ชื่อหนว่ ยการเรียนรู้ ท. ป. รวม 15-17 7 การเขยี นโครงการแบบบรู ณาการโครงงานเป็นฐาน Project-based Learning 2 4 6 18 7.1 ความหมายของโครงการ 7.2 จุดประสงค์ของโครงการ 7.3 ประเภทของโครงการ 7.4 ข้อควรคำนึงถงึ ในการ เขยี นโครงการ 7.5 ส่วนประกอบของโครงการ 7.6 การเสนอโครงงาน ภาษาไทยเรือ่ ง“การเปรียบเทยี บภาษาท้องถนิ่ กับ ภาษากลาง ”แบบบูรณาการโครงงานเป็นฐาน Project-based Learning สอบปลายภาค 20 2 หมายเหตุ การบูรณาการดา้ นคุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม คุณลักษณะที่พึงประสงค์ ทุกหนว่ ยการเรียนแสดงออก ด้านความสนใจใฝ่รู้ โดยจัดกิจกรรมการเรียนรใู้ นและนอกหอ้ งเรียน เน้นกิจกรรมการรักการอา่ น โดย 1. การมอบหมายงาน/หนา้ ท่ีท่ไี ด้รบั มอบหมาย 2. การใช้เวลาว่างให้เกดิ ประโยชน์ 3. การศึกษาหาความรจู้ ากแหลง่ เรียนรู้ในและนอกหอ้ งเรยี นในรูปแบบท่หี ลากหลาย 4. การเลือกใชส้ อ่ื ท่ีเหมาะสมกบั วัย เช่น หนังสือ สอ่ื สงิ่ ตพี ิมพ์ เอกสาร อนิ เทอรเ์ น็ต 5. การสรุป นำเสนอวิเคราะหส์ ิง่ ทไ่ี ด้จากการเรียนรู้ 6. การแลกเปล่ียนเรยี นรูร้ ะหว่างเพ่ือน
ตารางท่ี 4 การวเิ คราะห์หัวข้อหลัก รหสั วชิ า 20000-1101 ชื่อ วิชาภาษาไทยพ้ืนฐาน จำนวน 2 หน่วยกติ 2 ชั่วโมง/สปั ดาห์ หลกั สตู รประกาศนียบตั รวิชาชีพ (ปวช.) พทุ ธศกั ราช 2562 ประเภทวิชา สามัญทวั่ ไป บทท่ี ชอ่ื หน่วย จำนวน ทีม่ า 1 ความรู้ทั่วไปเก่ียวกับการใชภ้ าษาไทยเพ่ือการสอ่ื สารแบบ คาบ A B C D E บูรณาการการทจุ รติ สำหรับนักเรยี น นักศึกษา 4 ///// 2 การอ่านการฟงั และการดูสารจากสื่อส่ิงพมิ พ์ และ 4 ///// สอ่ื อิเล็กทรอนิกส์ 3 การพูดสือ่ สารในชวี ติ ประจำวนั ทางสังคมและการพดู ส่อื สาร 4 ///// ในงานอาชีพ 4 การเขยี นในงานอาชพี แบบบรู ณาการเศรษฐกิจพอเพียง 4 ///// เรอ่ื ง ความพอประมาณ 5 การกรอกแบบฟอร์มและการเขยี นบนั ทกึ ขอ้ ความเพอ่ื ติดตอ่ 4 / / / / / กิจธรุ ะ 6 การเขียนรายงานเชิงวิชาการแบบบูรณาการงานสวน 6 ///// พฤกษศาสตรโ์ รงเรียน : องคป์ ระกอบที่ ๑ การจัดทำปา้ ยชอ่ื พรรณไม้ เร่ือง การสำรวจพรรณไม้ในพน้ื ทศ่ี กึ ษาและการแตง่ คำประพนั ธ์จากชื่อพรรณไม้ 7 การเขยี นโครงการแบบบูรณาการสอนแบบโครงงาน 6 ///// เปน็ ฐาน Project-based Learning สอบระหว่างภาค 2 สอบปลายภาค 2 รวม 36 หมายเหตุ A = หลักสูตรรายวชิ า (Course Description) แหล่งขอ้ มูล (Sources) B = ตำราและเอกสาร (literatuers) C = ประสบการณ์ (Ecperiences) D = ผู้เช่ยี วชาญ ( Experts) E = อน่ื ๆ (other)
ตารางที่ 4 การวเิ คราะหห์ ัวข้อหลัก หนว่ ยที่ 1 รหสั วชิ า 20000-1101 ชื่อ วิชาภาษาไทยพื้นฐาน จำนวน 2 หน่วยกติ 2 ชั่วโมง/สัปดาห์ หลักสูตรประกาศนียบตั รวิชาชพี (ปวช.) พทุ ธศกั ราช 2562 ประเภทวชิ า สามัญทัว่ ไป หวั ขอ้ หลกั หนว่ ยที่ 1 ความรทู้ ว่ั ไปเก่ยี วกับการใชภ้ าษาไทยเพอ่ื การสอื่ สารแบบบูรณาการการทุจรติ สำหรับ นกั เรยี น นักศกึ ษา ลำดับท่ี ชือ่ หนว่ ย ทีม่ า ABCDE 1.1 การใช้ภาษาส่ือสาร ///// 1.2 การใช้ถอ้ ยคำภาษาในการสอ่ื สาร 1.3 การใชส้ ำนวนภาษาในการสอื่ สาร 1.4 ระดบั ของภาษาในการสอ่ื สาร 1.5 การเขยี นสะกดคำในภาษาไทย 1.6 ความรคู้ วามเข้าใจในการสรา้ งความตระหนกั รู้และมีส่วนร่วม ในการป้องกนั การทจุ ริตสำหรบั นักเรยี น นกั ศึกษา 1) การบรู ณาการหนว่ ยที่ 1 ตามรอยพระบุคลบาท กจิ กรรมใบงานที่ 1.5 เรือ่ ง คนดีต้องมที ่ียืน 2) การบรู ณาการหน่วยที่ 2 ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง กิจกรรมใบงานท่ี 2.6 ค่านิยม : ค่าท่ไี ม่ควรนิยม หมายเหตุ A = หลักสูตรรายวิชา (Course Description) แหลง่ ขอ้ มูล (Sources) B = ตำราและเอกสาร (literatuers) C = ประสบการณ์ (Ecperiences) D = ผู้เช่ียวชาญ ( Experts) E = อื่นๆ (other)
ตารางที่ 4 การวเิ คราะหห์ วั ข้อหลกั หน่วยที่ 2 รหัสวิชา 20000-1101 ชื่อ วชิ าภาษาไทยพ้นื ฐาน จำนวน 2 หน่วยกติ 2 ช่ัวโมง/สปั ดาห์ หลักสตู รประกาศนยี บัตรวิชาชพี (ปวช.) พุทธศกั ราช 2562 ประเภทวชิ า สามัญทัว่ ไป หัวขอ้ หลัก หน่วยที่ 2 การอา่ นการฟงั และการดสู ารจากสื่อสง่ิ พมิ พ์ และสื่ออเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ ลำดบั ที่ ชอ่ื หน่วย ทมี่ า ABCDE 2.1 ความหมายของการอ่าน การฟงั และการดสู ารจากสอื่ ///// สง่ิ พิมพ์ และสือ่ อเิ ลก็ ทรอนิกส์ 2.2 ประเภทของสารจากสือ่ สงิ่ พมิ พ์และสือ่ อเิ ล็กทรอนิกส์ 2.3 การวเิ คราะหแ์ ละการประเมินค่าสารจากการอา่ น การฟัง และการดู หมายเหตุ A = หลกั สูตรรายวิชา (Course Description) แหลง่ ข้อมลู (Sources) B = ตำราและเอกสาร (literatuers) C = ประสบการณ์ (Ecperiences) D = ผู้เช่ยี วชาญ ( Experts) E = อ่นื ๆ (other)
ตารางที่ 4 การวเิ คราะหห์ ัวข้อหลัก หน่วยที่ 3 รหัสวชิ า 20000-1101 ชอ่ื วชิ าภาษาไทยพื้นฐาน จำนวน 2 หนว่ ยกติ 2 ชวั่ โมง/สปั ดาห์ หลักสตู รประกาศนียบตั รวชิ าชีพ (ปวช.) พุทธศกั ราช 2562 ประเภทวชิ า สามัญทัว่ ไป หวั ข้อหลกั หน่วยท่ี 3 การพูดสื่อสารในชีวิตประจำวนั ทางสังคมและการพดู สอ่ื สารในงานอาชีพ ลำดับท่ี ชอ่ื หนว่ ย ที่มา ABCDE 3.1 การพูดในชวี ติ ประจำวนั ///// 3.2 การพูดในงานสงั คม 3.3 การพูดในงานอาชีพ - การพดู เพอื่ กจิ ธรุ ะ - การพดู แสดงความคดิ เหน็ - การใช้โทรศพั ท์พดู ตดิ ตอ่ กิจธรุ ะ - การตอบรบั และปฏเิ สธ - การพูดสรปุ ความ หมายเหตุ A = หลกั สูตรรายวชิ า (Course Description) แหล่งขอ้ มลู (Sources) B = ตำราและเอกสาร (literatuers) C = ประสบการณ์ (Ecperiences) D = ผู้เชี่ยวชาญ ( Experts) E = อ่ืนๆ (other)
ตารางที่ 4 การวิเคราะหห์ วั ข้อหลกั หน่วยที่ 4 รหสั วชิ า 20000-1101 ช่อื วิชาภาษาไทยพ้นื ฐาน จำนวน 2 หนว่ ยกิต 2 ช่วั โมง/สปั ดาห์ หลกั สตู รประกาศนียบตั รวชิ าชีพ (ปวช.) พทุ ธศกั ราช 2562 ประเภทวิชา สามัญท่วั ไป หัวขอ้ หลัก หน่วยท่ี 4 การเขียนในงานอาชพี แบบบรู ณาการด้านหลกั ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี ง เรื่อง ความพอเพยี ง ลำดบั ที่ ช่ือหนว่ ย ที่มา ABCDE 4.1 การเขียนสรุปความ ///// 4.2 การเขยี นบรรยาย 4.3 การเขยี นอธิบาย 4.4 ลิขิตภาษาด้วยเรยี งความ เร่ือง การดำเนินชวี ิตด้วยความ พอประมาณแบบเศรษฐกิจพอเพยี ง หมายเหตุ A = หลกั สูตรรายวชิ า (Course Description) แหล่งขอ้ มลู (Sources) B = ตำราและเอกสาร (literatuers) C = ประสบการณ์ (Ecperiences) D = ผเู้ ช่ียวชาญ ( Experts) E = อน่ื ๆ (other)
ตารางที่ 4 การวิเคราะห์หวั ข้อหลกั หน่วยที่ 5 รหัสวิชา 20000-1101 ชอ่ื วิชาภาษาไทยพื้นฐาน จำนวน 2 หน่วยกติ 2 ชว่ั โมง/สัปดาห์ หลกั สูตรประกาศนียบัตรวชิ าชีพ (ปวช.) พุทธศักราช 2562 ประเภทวิชา สามัญทว่ั ไป หัวขอ้ หลกั หนว่ ยที่ 5 การกรอกแบบฟอรม์ และการเขยี นบันทกึ ข้อความเพือ่ ตดิ ตอ่ กจิ ธรุ ะ ลำดบั ท่ี ช่อื หน่วย ทม่ี า 5.1 ความสำคัญของแบบฟอร์ม ABCDE 5.2 ขอ้ ควรระวังในการกรอกแบบฟอรม์ ///// 5.3 ลักษณะพื้นฐานของผ้กู รอกแบบฟอร์มท่ีดี 5.4 ความหมายของการเขียนบนั ทกึ 5.5 ประเภทของบนั ทึก หมายเหตุ A = หลกั สูตรรายวชิ า (Course Description) แหล่งขอ้ มลู (Sources) B = ตำราและเอกสาร (literatuers) C = ประสบการณ์ (Ecperiences) D = ผเู้ ช่ยี วชาญ ( Experts) E = อื่นๆ (other)
ตารางที่ 4 การวิเคราะหห์ ัวข้อหลัก หนว่ ยที่ 6 รหัสวชิ า 20000-1101 ช่อื วิชาภาษาไทยพน้ื ฐาน จำนวน 2 หน่วยกิต 2 ชัว่ โมง/สปั ดาห์ หลักสตู รประกาศนียบตั รวิชาชพี (ปวช.) พทุ ธศกั ราช 2562 ประเภทวิชา สามัญทั่วไป หัวขอ้ หลัก หนว่ ยที่ 6 การเขยี นรายงานเชงิ วิชาการแบบบูรณาการงานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน : องค์ประกอบที่ ๑ การจดั ทำป้ายชอื่ พรรณไม้ เร่อื ง การสำรวจพรรณไม้ในพ้นื ท่ศี กึ ษา และการแตง่ คำประพนั ธ์ จากชอื่ พรรณไม้ ลำดบั ท่ี ชอื่ หนว่ ย ทีม่ า 6.1 ความหมายของรายงานเชิงวิชาการ ABCDE 6.2 จุดประสงค์ของรายงานเชงิ วชิ าการ 6.3 วิธีนำเสนอรายงาน ///// 6.4 ขน้ั ตอนการทำรายงานเชิงวชิ าการ 6.5 ส่วนประกอบของรายงานเชิงวิชาการ 6.6 การเขียนอา้ งอิง 6.7 ความรู้ความเข้าใจ สืบคน้ ขอ้ มูล การสำรวจพรรณไม้ ในพน้ื ท่ศี ึกษา การจำแนกชนดิ ของพรรณไม้ 6.8 การศึกษาประเภท ลักษณะวสิ ัย ชนดิ จำนวน ของพรรณไม้ 6.9 แต่งคำประพนั ธจ์ ากชื่อพรรณไม้ หมายเหตุ A = หลกั สูตรรายวิชา (Course Description) แหลง่ ขอ้ มลู (Sources) B = ตำราและเอกสาร (literatuers) C = ประสบการณ์ (Ecperiences) D = ผูเ้ ช่ียวชาญ ( Experts) E = อนื่ ๆ (other)
ตารางท่ี 4 การวิเคราะหห์ ัวข้อหลัก หน่วยท่ี 7 รหัสวชิ า 20000-1101 ชอื่ วิชาภาษาไทยพ้ืนฐาน จำนวน 2 หน่วยกติ 2 ชัว่ โมง/สัปดาห์ หลักสตู รประกาศนยี บัตรวชิ าชพี (ปวช.) พุทธศักราช 2562 ประเภทวชิ า สามัญทวั่ ไป หวั ขอ้ หลกั หนว่ ยที่ 7 การเขยี นโครงการแบบบรู ณาการโครงงานเปน็ ฐาน Project-based Learning ลำดบั ที่ ช่อื หนว่ ย ท่มี า ABCDE 7.1 ความหมายของโครงการ ///// 7.2 จดุ ประสงคข์ องโครงการ 7.3 ประเภทของโครงการ 7.4 ข้อควรคำนึงถงึ ในการ เขยี นโครงการ 7.5 สว่ นประกอบของโครงการ 7.6 การเสนอโครงงาน ภาษาไทยเร่ือง“การเปรยี บเทียบภาษา ทอ้ งถนิ่ กบั ภาษากลาง ”แบบบูรณาการโครงงานเปน็ ฐาน Project-based Learning หมายเหตุ A = หลกั สูตรรายวชิ า (Course Description) แหล่งขอ้ มูล (Sources) B = ตำราและเอกสาร (literatuers) C = ประสบการณ์ (Ecperiences) D = ผู้เชย่ี วชาญ ( Experts) E = อน่ื ๆ (other)
ตัวชว้ี ัดที่ 1.1. ข้อ 2 1.1 การสรา้ งและพฒั นาหลักสตู ร ข้อ 2 ปรับประยกุ ต์หลักสูตรรายวชิ ากจิ กรรมหรอื โครงการและ หนว่ ยการเรียนรู้ ให้สอดคลอ้ งกับบรบิ ทของสถานศกึ ษาหรือ สถานประกอบการ ผเู้ รยี น ทอ้ งถนิ่ และสามารถนำไปปฏิบตั ิ ไดจ้ ริง แผนกสามญั สมั พนั ธ์ วทิ ยาลยั การอาชีพนิคมคาสรอ้ ย
2.ประยกุ ต์หลกั สตู รรายวชิ า และหน่วยการเรียนรู้ เน่ืองจากการจัดการเรยี นการสอน การวิเคราะหห์ ลักสูตรรายวิชา ซึ่งไดพ้ ัฒนาจากคำอธิบายรายวิชา และพัฒนาการจัดการเรยี นการสอนเรยี งตามลำดบั จากเน้ือหาที่เปน็ พื้นฐานไปสู่เน้ือหาทเ่ี ก่ยี วข้องจากงา่ ยไปหา ยาก จากการวิเคราะห์ดังกล่าว การจัดการเรียนการสอนจริงในสาขาวิชาจะถูกจำกัดด้านพื้นที่ในการจัดการ เรียนการสอนประเภทวิชาบรรยาย และวัสดุ-อุปกรณ์และมีการสอดแทรกการปฏิบัติบางครั้งเน่ืองด้วย ในรายวิชาบรรยาย มีผู้เรียนจำนวนมาก จึงจำเป็นต้องมีการจัดการวิชาบรรยายให้เหมาะสม วัสดุ-อุปกรณ์ และพ้ืนที่ท่ีมี ในการจัดการเรียนการสอน จึงได้ปรับปรุงแผนการจัดการเรียนการสอนดังรายละเอียด การวเิ คราะหแ์ ละประยุกต์เพื่อใหเ้ หมาะสมกับเครือ่ งจักร อปุ กรณ์ และพ้ืนท่ดี งั น้ี หนว่ ยที่ สปั ดาห์การสอน เนอ้ื หาสาระเดิม เนือ้ หาสาระท่ีปรับเปลี่ยน สัปดาหท์ ี่ทำ จากการวเิ คราะห์ การสอนจรงิ 1 1-2 การใชภ้ าษาเพ่ือการสื่อสาร ความร้ทู ว่ั ไปเกีย่ วกับการใช้ภาษาไทย 1-2 ๑.๑ การใชภ้ าษาสื่อสาร เพื่อการสอื่ สารแบบบรู ณาการการ ๑.๒ การใช้ถอ้ ยคำภาษาใน ทุจริตสำหรับนกั เรยี น นกั ศกึ ษา การสอื่ สาร 1.1 การใช้ภาษาส่อื สาร ๑.๓ การใชส้ ำนวนภาษาใน 1.2 การใชถ้ อ้ ยคำภาษาใน การสื่อสาร การส่ือสาร ๑.๔ ระดับของภาษาในการส่ือสาร 1.3 การใชส้ ำนวนภาษาใน ๑.๕ การเขยี นสะกดคำในภาษาไทย การสอ่ื สาร 1.4 ระดับของภาษาในการส่อื สาร 1.5 การเขยี นสะกดคำในภาษาไทย 1.6 ความรู้ความเข้าใจในการสรา้ ง ความตระหนกั รแู้ ละมสี ว่ นร่วมใน การป้องกันการทุจรติ สำหรบั นกั เรียน นกั ศกึ ษา 1) การบรู ณาการหน่วยที่ 1 ตามรอยพระบุคลบาท กิจกรรมใบงานท่ี 1.5 เร่อื ง คนดตี อ้ งมที ่ยี นื 2) การบูรณาการหนว่ ยท่ี 2 ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง กิจกรรมใบงานที่ 2.6 ค่านิยม : ค่าท่ีไม่ควรนิยม
2.ประยุกตห์ ลกั สูตรรายวชิ า และหน่วยการเรียนรู้ (ตอ่ ) หน่วยที่ สปั ดาหก์ ารสอน เนื้อหาสาระเดิม เน้อื หาสาระท่ปี รบั เปล่ียน สัปดาห์ท่ที ำ จากการวเิ คราะห์ การสอนจรงิ การเขยี นในงานอาชพี แบบบรู ณาการ 4 8-9 การเขยี นในงานอาชีพ ดา้ นหลกั ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง 8-9 4.1 การเขียนสรุปความ เรอ่ื ง ความพอเพียง 4.๒ การเขียนบรรยาย 4.1 การเขียนสรปุ ความ 4.๓ การเขียนอธิบาย 4.๒ การเขียนบรรยาย 4.๓ การเขยี นอธบิ าย 4.4 ลิขิตภาษาดว้ ยเรยี งความ เร่อื ง การดำเนินชวี ติ ด้วยความพอประมาณ แบบเศรษฐกจิ พอเพียง 6 12-14 การเขยี นรายงานเชงิ วิชาการ การเขียนรายงานเชงิ วิชาการแบบบรู ณา 12-14 5.๑ ความหมายของรายงาน การงานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรยี น : เชิงวชิ าการ องคป์ ระกอบท่ี ๑ การจดั ทำป้ายช่ือพรรณ 5.๒ จดุ ประสงค์ของรายงาน ไม้ เร่อื ง การสำรวจพรรณไมใ้ นพื้นทศ่ี กึ ษา เชงิ วิชาการ และการแตง่ คำประพนั ธจ์ ากชอื่ พรรณไม้ 5.๓ วธิ ีนำเสนอรายงาน 6.1 ความหมายของรายงานเชงิ วชิ าการ 5.๔ ขน้ั ตอนการทำรายงาน 6.2 จดุ ประสงคข์ องรายงานเชิงวชิ าการ เชิงวชิ าการ 6.3 วิธนี ำเสนอรายงาน 5.๕ สว่ นประกอบของ 6.4 ข้นั ตอนการทำรายงานเชิงวิชาการ รายงานเชงิ วชิ าการ 6.5 สว่ นประกอบของรายงานเชิงวิชาการ 5.๖ การเขยี นอา้ งองิ 6.6 การเขียนอา้ งอิง 6.7 ความรคู้ วามเข้าใจ สบื ค้นข้อมลู การสำรวจพรรณไมใ้ นพนื้ ท่ีศึกษา การจำแนกชนดิ ของพรรณไม้ 6.8 การศึกษาประเภท ลักษณะวิสัย ชนิด จำนวน ของพรรณไม้ 6.9 แต่งคำประพนั ธจ์ ากช่ือพรรณไม้
2.ประยกุ ต์หลกั สตู รรายวชิ า และหน่วยการเรียนรู้ (ตอ่ ) หน่วยท่ี สัปดาหก์ ารสอน เนอื้ หาสาระเดิม เนือ้ หาสาระท่ีปรบั เปลีย่ น สัปดาหท์ ่ที ำ จากการวิเคราะห์ การสอนจริง 7 15-17 การเขยี นโครงการ การเขยี นโครงการแบบบรู ณาการ 15-17 6.1 ความหมายของโครงการ โครงงานเปน็ ฐาน Project-based 6.2 จดุ ประสงคข์ องโครงการ Learning 6.2 ประเภทของโครงการ ความหมายของโครงการ 6.3 ขอ้ ควรคำนึงถึงในการ 6.1 จุดประสงค์ของโครงการ เขียนโครงการ 6.2 ประเภทของโครงการ 6.4 ส่วนประกอบของ 6.3 ขอ้ ควรคำนึงถงึ ในการ โครงการ เขยี นโครงการ 6.5 การเสนอโครงงาน 6.4 สว่ นประกอบของโครงการ 6.5 การเสนอโครงงาน ภาษาไทยเรอ่ื ง “การเปรยี บเทียบภาษาท้องถนิ่ กบั ภาษากลาง ”แบบบรู ณาการโครงงาน เปน็ ฐาน Project-based Learning หมายเหตุ การบรู ณาการด้านคณุ ธรรม จริยธรรม ค่านิยม คุณลกั ษณะทพ่ี งึ ประสงค์ ทกุ หน่วยการเรยี นแสดงออก ด้านความสนใจใฝร่ ู้ โดยจัดกิจกรรมการเรยี นรใู้ นและนอกหอ้ งเรยี น เนน้ กจิ กรรมการรกั การอ่าน โดย 1. การมอบหมายงาน/หนา้ ทีท่ ี่ไดร้ ับมอบหมาย 2. การใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ 3. การศกึ ษาหาความรจู้ ากแหล่งเรยี นรูใ้ นและนอกหอ้ งเรียนในรูปแบบที่หลากหลาย 4. การเลอื กใชส้ ือ่ ที่เหมาะสมกบั วยั เช่น หนังสอื สอื่ ส่งิ ตีพิมพ์ เอกสาร อนิ เทอร์เน็ต 5. การสรุป นำเสนอวิเคราะหส์ งิ่ ท่ีได้จากการเรียนรู้ 6. การแลกเปล่ียนเรยี นรู้ระหวา่ งเพอ่ื น
โครงการสอน ช่ือวิชา ภาษาไทยพน้ื ฐาน รหัสวชิ า 20000-1101 ชอ่ื หนว่ ย การใช้ภาษาไทยเพื่อการสอ่ื สาร จำนวนคาบสอน 2 คาบ : สัปดาห์ หน่วยท่ี 1 ความรู้ทัว่ ไปเก่ียวกับการใชภ้ าษาไทยเพอื่ การส่อื สาร จำนวน 2 ช่ัวโมง เรื่อง ความรู้ทัว่ ไปเกย่ี วกบั การใชภ้ าษาไทยเพ่อื การสอ่ื สารแบบบรู ณาการการทุจริตสำหรับนักเรยี น นกั ศึกษา 1.1 การใชภ้ าษาสอ่ื สาร 1.2 การใชถ้ ้อยคำภาษาในการสื่อสาร 1.3 การใชส้ ำนวนภาษาในการส่ือสาร 1.4 ระดบั ของภาษาในการสื่อสาร 1.5 การเขียนสะกดคำในภาษาไทย จดุ ประสงค์การสอน รายการสอน ๑. ใช้ภาษาสอ่ื สารในภาษาไทยได้ ๑.๑ การใช้ภาษาส่ือสาร ๒. ใช้ถ้อยคำและสำนวนภาษาในการส่ือสารได้เป็นอย่างดี ๑.๒ การใชถ้ ้อยคำและสำนวนภาษาในการส่ือสาร ๓. อธบิ ายระดบั ของภาษาในการส่ือสารได้ ๑.3 ระดับของภาษาในการส่อื สาร ๔. เขยี นสะกดคำได้อย่างถกู ตอ้ ง ๑.4 การเขียนสะกดคำในภาษาไทย วิธกี ารสอน 1. บรรยาย /ถามตอบ/ ชักถาม แลกเปล่ียนความคิดเหน็ 2. ทำแบบฝกึ หดั / ใบงาน และคอยแนะนำนกั เรยี นขณะปฏิบัตงิ าน 3. ผ่านสอื่ การเรยี น Google classroom สื่อการสอน หนงั สืออา้ งอิง ๑. แบบทดสอบก่อนเรียน-หลงั เรยี น ๑. 1.หนังสือเรยี นวชิ าภาษาไทยพืน้ ฐาน 2. แบบฝึกหัดหน่วยท่ี ๑ รหสั วชิ า 20000–๑๑o1 บริษัทศูนยห์ นงั สือ เมืองไทย 3. ใบงานกิจกรรมท่ี ๑ ๒.เวบ็ ไซตแ์ ละสอื่ สงิ่ พมิ พท์ เี่ กย่ี วข้องกับเนื้อหาบทเรยี น 4. ส่อื การสอน power Point 5. Google Classroom 6. แบบประเมินกจิ กรรมและแบบประเมนิ คุณธรรม จริยธรรม การประเมิน คะแนนจากการทำแบบทดสอบก่อนเรยี น – หลงั เรียน แบบประเมินผลใบงาน แบบฝกึ หดั แบบประเมินกจิ กรรมและ แบบประเมินพฤตกิ รรมระหว่างการเรียน การปฏิบตั งิ าน และคะแนนจากแบบทดสอบวดั ผลสัมฤทธ์ิทางการเรยี น หมายเหตุ การบูรณาการด้านคุณธรรม จริยธรรม คา่ นิยม คุณลักษณะท่พี ึงประสงค์ ทกุ หน่วยการเรียนแสดงออก ด้านความสนใจใฝร่ ู้ โดยจดั กิจกรรมการเรยี นรใู้ นและนอกหอ้ งเรยี น เนน้ กจิ กรรมการรกั การอ่าน โดย 1. การมอบหมายงาน/หน้าทีท่ ไี่ ดร้ บั มอบหมาย 2. การใชเ้ วลาวา่ งให้เกดิ ประโยชน์ 3. การศึกษาหาความรจู้ ากแหลง่ เรยี นร้ใู นและนอกหอ้ งเรียนในรูปแบบทห่ี ลากหลาย 4. การเลือกใช้สือ่ ท่ีเหมาะสมกับวยั เชน่ หนังสือ สื่อ สง่ิ ตพี ิมพ์ เอกสาร อนิ เทอร์เนต็ 5. การสรปุ นำเสนอวิเคราะห์สงิ่ ทไ่ี ด้จากการเรียนรู้ 6. การแลกเปลี่ยนเรียนรูร้ ะหวา่ งเพอื่ น
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี ๑ หน่วยท่ี ๑ ชอ่ื วชิ า ภาษาไทยพน้ื ฐาน รหัส ๒0๐๐๐–๑๑๐1 สอนครั้งที่ 1 ช่อื หน่วย การใช้ภาษาไทยเพอื่ การส่ือสาร จำนวน 2 คาบ ช่อื เรื่อง ความรู้ทว่ั ไปเกย่ี วกบั การใช้ภาษาไทยเพื่อการสอื่ สาร หวั ขอ้ เรื่อง 1.1 การใช้ภาษาสือ่ สาร 1.2 การใชถ้ ้อยคำภาษาในการสื่อสาร 1.3 การใช้สำนวนภาษาในการส่อื สาร 1.4 ระดบั ของภาษาในการส่ือสาร 1.5 การเขยี นสะกดคำในภาษาไทย แนวคดิ สำคัญ ภาษาเป็นสัญลักษณ์ท่ีสำคัญในการสื่อความหมาย ท้ังภาษาพูดและภาษาเขียน การใช้ภาษา ในการสอ่ื สารทม่ี ีประสทิ ธิภาพจึงจำเป็นตอ้ งรจู้ ักเลอื กสรร ถ้อยคำสำนวนใชค้ ำใหถ้ กู ต้องตามระดบั ภาษาและใช้ ประโยคให้ถูกต้อง เพื่อส่ือความหมายได้ตรงตามจุดประสงค์ เหมาะสมกับกาลเทศะและบุคคล รวมท้ังเข้าใจ ตรงกันทั้งผสู้ ่งสารและผู้รับสาร สมรรถนะย่อย แสดงความรู้เกี่ยวกบั หลกั การใช้ภาษาไทยในการสื่อสาร จุดประสงคเ์ ชงิ พฤตกิ รรม ด้านความรู้และทกั ษะ ๑. ใชภ้ าษาสอ่ื สารในภาษาไทยได้ ๒. ใชถ้ ้อยคำและสำนวนภาษาในการสื่อสารได้เปน็ อย่างดี ๓. อธบิ ายระดับของภาษาในการส่ือสารได้ ๔. เขียนสะกดคำไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง 5 การบรู ณาการด้านคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม คณุ ลกั ษณะท่ีพึงประสงค์แสดงออกด้านความสนใจ ใฝ่รู้ โดยจัดกิจกรรมการเรียนรูใ้ นและนอกห้องเรยี นเนน้ กจิ กรรมการรักการอา่ นโดย 1. การมอบหมายงาน/หน้าท่ีท่ีไดร้ ับมอบหมาย 2. การใชเ้ วลาว่างให้เกดิ ประโยชน์ 3. การศึกษาหาความรจู้ ากแหล่งเรยี นรูใ้ นและนอกหอ้ งเรียนในรปู แบบท่ีหลากหลาย 4. การเลอื กใชส้ ่อื ทเ่ี หมาะสมกับวยั เชน่ หนงั สอื สอ่ื ส่ิงตีพิมพ์ เอกสาร อนิ เทอรเ์ น็ต 5. การสรปุ นำเสนอวเิ คราะห์สิง่ ท่ไี ดจ้ ากการเรียนรู้ 6. การแลกเปลย่ี นเรยี นรรู้ ะหวา่ งเพ่ือน
เน้อื หาสาระ ๑.๑ การใชภ้ าษาสอ่ื สาร ๑.๑.๑ ความหมายของการสอ่ื สาร หมายถึง การติดต่อสือ่ สารระหว่างบคุ คลตงั้ แต่ ๒ คนข้ึนไป ด้วยวิธกี ารพูดการเขียน การแสดงกริ ิยาท่าทาง การใช้สัญลักษณ์ เพื่อให้เกิดความเข้าใจตรงกนั และบรรลุตาม วตั ถุประสงค์ที่ต้งั ไว้ และการสอ่ื สารท่ีดีต้องมกี ารตอบสนอง ๑.๑.๒ องค์ประกอบของการสื่อสาร ประกอบดว้ ย ผู้ส่งสาร ผรู้ บั สาร สาร ส่ือ และการตอบสนอง ๑.๑.๓ อปุ สรรคของการส่ือสาร ประกอบด้วย ผ้สู ่งสาร ผรู้ บั สาร สาร สื่อ ๑.๒ การใช้ถอ้ ยคำภาษาในการส่อื สาร ๑.๒.๑ ความหมายของถ้อยคำ หมายถึง คำกลา่ ว เสยี งพูด และลายลกั ษณอ์ ักษร ที่มนุษยใ์ ชส้ ือ่ สาร กัน ทั้งในด้าน กิจธุระและกิจการอื่น ๆ มีรูปลักษณ์ต่างกันไป ผู้ท่ีมีความรู้เรื่องถ้อยคำ รู้จักถ้อยคำและเข้าใจ ความหมายของถอ้ ยคำไดด้ ี จะสามารถเลอื กใช้ถ้อยคำมาใชใ้ นการสื่อสารได้อย่างมปี ระสิทธิภาพ ดังน้ี ๑.๒.๒ การเลือกใช้ถ้อยคำในการส่ือสาร ได้แก่ คำท่ีอาจมีความหมายไดท้ ั้งนยั ตรงและนัยประหวัด คำที่มีความหมายแคบและคำท่ีมีความหมายกว้าง คำท่ีมีความหมายตรงกันข้าม คำพ้อง การใช้คำท่ีมี วรรณยุกต์ การใช้คำลักษณะนาม การใช้คำซ้ำ การใช้คำซ้อน การใช้คำประสมและการใช้คำเลียนเสียง ธรรมชาตหิ รือส่งิ ตา่ ง ๆ ๑.๓ การใชส้ ำนวนภาษาในการสื่อสาร ๑.๓.๑ สำนวนภาษาสามญั ๑.๓.๒ สำนวนภาษาการประพนั ธ์ ๑.๓.๓ สำนวนภาษาส่ือมวลชน ๑.๔ ระดับของภาษาในการส่อื สาร ๑.๔.๑ ภาษาระดับพธิ ีการ ๑.๔.๒ ภาษาระดับทางการ ๑.๔.๓ ภาษาระดบั กึง่ ทางการ ๑.๔.๔ ภาษาระดบั สนทนา ๑.๔.๕ ภาษาระดบั กนั เอง ๑.๕ การเขียนสะกดคำในภาษาไทย ๑.๕.๑ ความสำคญั ของการเขยี นสะกดคำ ๑.๕.๒ การใชส้ ระ ๑.๕.๓ การใช้พยญั ชนะ ๑.๕.๔ การเขยี นคำย่อและอกั ษรยอ่ ๑.๕.๕ การใช้เครื่องหมายประกอบคำ ๑.๕.๖ การใชเ้ ครือ่ งหมายวรรคตอน
การบรู ณาการด้านคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม คณุ ลกั ษณะท่ีพงึ ประสงค์ คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ (Desired Characteristics) หมายถึง ลกั ษณะทีต่ อ้ งการให้เกดิ ข้ึนกบั ผู้เรียน อนั เปน็ คุณลกั ษณะทีส่ งั คมตอ้ งการในดา้ นคุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ ม จิตสำนกึ สามารถอยู่ร่วมกบั ผูอ้ ื่นในสังคมไดอ้ ยา่ งมีความสุขทั้งในฐานะพลเมืองและพลโลก เพ่ือใหก้ ารพัฒนาคุณธรรม จริยธรรม คา่ นยิ ม และคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ของผู้สำเรจ็ การศึกษา อาชีวศึกษา สำนกั งานคณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา โดยกระบวนการเรยี น การสอนบรรลวุ ัตถุประสงค์ท่ี กำหนด จงึ ไดก้ ำหนด คุณธรรม จริยธรรม คา่ นิยม คุณลักษณะอันพึงประสงคแ์ ละพฤติกรรมบ่งชี้ท่ีครผู ู้สอน สามารถสังเกตได้ขณะทำการสอนดงั น้ี
กิจกรรมการเรยี นรู้ สัปดาห์ที่ 1 ๑. นักเรียนฟังคำชีแ้ จงเก่ยี วกบั หลักสตู รรายวิชาภาษาไทยพ้นื ฐาน รหัสวชิ า ๒0000–๑๑o1 เกี่ยวกับ จุดประสงค์ สมรรถนะและคำอธิบายรายวิชา การแบง่ หนว่ ยการเรยี น การวัดและประเมินผล ๒. ครูและนกั เรยี นหาแนวทางปฏบิ ตั ิรว่ มกัน เกีย่ วกับเกณฑแ์ ละหัวขอ้ การใหค้ ะแนนเรือ่ งคุณธรรม จริยธรรม การบรู ณาการดา้ นการทุจรติ สำหรับนักเรียน นักศึกษา การบูรณาการงานสวนพฤกษศาสตร์ โรงเรยี น การบูรณาการโครงงานเป็นฐาน (PjBl) และการบรู ณาการงานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรยี น ๓. แจง้ จดุ ประสงค์การเรยี นร้ใู หน้ ักเรยี นทราบ ๔. นักเรียนทำแบบทดสอบกอ่ นเรียนดว้ ยความสามารถของตนเอง 5. ครูนำเขา้ สู่บทเรียนดว้ ยการสนทนา การซักถาม แลกเปล่ยี นความคิดเหน็ ที่เก่ยี วขอ้ งกับเนื้อหา บทเรยี น ๖. ขน้ั สอน ครอู ธิบาย บรรยาย ซักถามและเปล่ียนความคดิ เหน็ ตามหัวข้อเรอ่ื ง ๗. ครใู ห้นักเรยี นทำกิจกรรมที่ ๑ และมอบหมายใหท้ ำแบบฝึกหัดหนว่ ยท่ี ๑ ซึง่ เปน็ การบรู ณาการ ดา้ นคุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม คุณลกั ษณะทพี่ งึ ประสงค์ แสดงออกดา้ นความสนใจใฝ่รู้ โดยจดั กิจกรรมการ เรียนรู้ในและนอกหอ้ งเรียน เน้นกิจกรรมการรักการอา่ น โดย 1) การมอบหมายงาน/หนา้ ท่ที ี่ได้รบั มอบหมาย 2) การใช้เวลาว่างให้เกดิ ประโยชน์ 3) การศึกษาหาความรูจ้ ากแหลง่ เรยี นรใู้ นและนอกห้องเรียนในรปู แบบท่หี ลากหลาย 4) การเลือกใชส้ อื่ ท่ีเหมาะสมกับวยั เชน่ หนงั สือ สือ่ สิง่ ตพี มิ พ์ เอกสาร อินเทอรเ์ น็ต 5) การสรปุ นำเสนอวิเคราะห์ส่ิงทไ่ี ดจ้ ากการเรยี นรู้ 6) การแลกเปลยี่ นเรียนรู้ระหว่างเพอ่ื น ๘. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปสาระสำคญั ของเนอ้ื หา 9.นกั เรียนทำแบบทดสอบหลงั เรียนดว้ ยความซอ่ื สัตย์ สือ่ การเรียนการสอน ๑. แบบทดสอบกอ่ นเรียน-หลังเรยี น 2. แบบฝึกหัดหน่วยท่ี ๑ 3. ใบงานกิจกรรมที่ ๑ 4. สื่อการสอน power Point 5. ห้องเรยี น Google classroom 4. แบบประเมนิ กิจกรรมและแบบประเมนิ คุณธรรม จริยธรรม การวัดผลและประเมนิ ผล การประเมนิ ผล (ไวเ้ ปรียบเทยี บกบั คะแนนสอบหลงั เรยี น) การวดั ผล คะแนนเกณฑ์ผ่าน 50% ๑. แบบทดสอบกอ่ นเรียน (Pre-test) หนว่ ยที่ ๑ คะแนนเกณฑผ์ า่ น 50% 2. แบบทดสอบหลังเรยี น (Post-test) หน่วยท่ี ๑ คะแนนเกณฑผ์ า่ น 50% 3. แบบประเมินผลใบงาน /แบบฝึกหัด คะแนนเกณฑ์ผา่ น 50% 4. แบบทดสอบวัดผลสมั ฤทธิ์ทางการเรยี น หนว่ ยที่ 1 5. แบบประเมนิ คณุ ธรรม จริยธรรม ตามสภาพจริง
งานท่ีมอบหมาย - ผลงาน/ชนิ้ งาน/ความสำเร็จของผูเ้ รียน ๑. ผลการนำเสนองานกิจกรรมท่ี ๑ ๒. ผลการทำกจิ กรรม และแบบฝกึ หัดหน่วยที่ ๑ ๓. คะแนนแบบทดสอบหลังเรยี น (Post-test) หน่วยท่ี ๑ แหลง่ เรียนรเู้ พมิ่ เติม 1. ห้องสมดุ 2. Internet เอกสารอา้ งอิง ๑. หนังสือเรียนวชิ าภาษาไทยพนื้ ฐาน รหัสวชิ า ๒0000–๑๑o1 บริษัทศนู ยห์ นังสือเมืองไทย ๒. เว็บไซตแ์ ละสื่อสิ่งพมิ พ์ทีเ่ กยี่ วขอ้ งกบั เน้อื หาบทเรยี น
ใบงานกิจกรรม 1.1 เรอ่ื ง การวิเคราะห์องค์ประกอบสาร จากข้อมลู ที่กำหนดจงวเิ คราะหอ์ งค์ประกอบการสื่อสารตามหัวขอ้ ต่อไปนี้ 1.ผสู้ ่งสาร ไดแ้ ก่ ................................................................................................................................................ 2.ผู้รบั สาร ไดแ้ ก.่ .............................................................................................................................................. 3.สารได้แก่ (สรุปสาระสำคญั )............................................................................................................................ ............................................................................................................................................................................. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. 4.เจตนาในการสือ่ สาร ........................................................................................................................................ 5.ความคิดเหน็ ต่อสาร (ข้อคดิ หรือปญั หาอปุ สรรคและการแก้ปัญหา) ............................................................... ............................................................................................................................................................................. ..............................................................................................................................................................................
ใบงานกิจกรรม 1.2 เรอื่ ง การวเิ คราะหอ์ งค์ประกอบสาร จากข้อมลู ที่กำหนดจงวเิ คราะห์องค์ประกอบการส่ือสารตามหวั ข้อตอ่ ไปน้ี 1.ผสู้ ่งสาร ไดแ้ ก่ ................................................................................................................................................ 2.ผู้รบั สาร ไดแ้ ก.่ .............................................................................................................................................. 3.สารได้แก่ (สรุปสาระสำคญั )............................................................................................................................ ............................................................................................................................................................................. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. 4.เจตนาในการสือ่ สาร ........................................................................................................................................ 5.ความคิดเหน็ ต่อสาร (ข้อคดิ หรือปญั หาอปุ สรรคและการแก้ปัญหา) ............................................................... ............................................................................................................................................................................. ..............................................................................................................................................................................
ใบงานกจิ กรรม 1.3 เรื่อง การเขยี นสะกดคำ ชื่อ – สกุล .................................................สาขาวิชา......................ชัน้ ปีท.่ี ................ว/ด/ป.................. ท่ี คำที่เขียนถกู ตอ้ ง คำทีเ่ ขยี นผดิ แก้ไขคำทีเ่ ขยี นผิด 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20
ใบงานกิจกรรม 1.4 เรือ่ ง สำนวนไทย ชื่อ – สกลุ .................................................สาขาวชิ า......................ชั้นปที ่ี.................ว/ด/ป.................. ท่ี สำนวน ความหมาย 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20
โครงการสอน ชอ่ื วิชา ภาษาไทยเพอ่ื อาชีพ รหัสวชิ า 20000-1102 ชอื่ หนว่ ย การบูรณาการแนวทางการจดั กจิ กรรมเสริมหลกั สูตรเพ่ือสร้างความตระหนกั รู้และ มสี ว่ นร่วมในการปอ้ งกันการทุจรติ สำหรับนกั เรียน นกั ศึกษา จำนวนคาบสอน 2 คาบ : สัปดาห์ หนว่ ยที่ 1 การบูรณาการแนวทางการจดั กจิ กรรมเสรมิ หลกั สูตรเพ่อื สร้างความตระหนักรู้และมีสว่ นร่วมในการปอ้ งกนั การทุจริต สำหรับนกั เรียน นกั ศึกษา จำนวน 2 ชวั่ โมง เรือ่ ง แนวทางการจัดกิจกรรมเสรมิ หลักสตู รเพ่อื สรา้ งความตระหนักรู้และมสี ่วนร่วมในการปอ้ งกันการทจุ รติ สำหรับนักเรยี น นักศกึ ษา 1.6 ความรู้ความเขา้ ใจในการสร้างความตระหนกั รแู้ ละมีสว่ นร่วมในการปอ้ งกันการทุจรติ สำหรับนักเรยี น นักศกึ ษา 1) การบูรณาการหน่วยที่ 1 ตามรอยพระบุคลบาท กจิ กรรมใบงานที่ 1.5 เรื่อง คนดีตอ้ งมที ี่ยืน 2) การบรู ณาการหน่วยที่ 2 ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง กจิ กรรมใบงานที่ 2.6 ค่านิยม : คา่ ทไี่ มค่ วรนยิ ม จดุ ประสงคก์ ารสอน รายการสอน 1. วิเคราะหแ์ นวทางการดำเนินชวี ิตตามรอย 2.1.1 พระบรมราโชวาท พระยคุ ลบาท ที่เกยี่ วขอ้ งกับการป้องกันการทจุ รติ 2.1.2 คนดีตอ้ งมที ่ยี นื คอรปั ชัน่ ได้ 1) การบูรณาการหน่วยท่ี 1 ตามรอยพระบุคลบาท กจิ กรรมใบงานท่ี 1.5 เรอ่ื ง คนดีต้องมีที่ยืน 2. ประยุกต์ใชเ้ ปน็ แนวทางในการดำเนินชีวิตอย่างสจุ รติ ได้ 2) การบูรณาการหน่วยท่ี 2 ปรชั ญาของเศรษฐกจิ 3. อธบิ ายความรู้ความเข้าใจเก่ียวกบั ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง กจิ กรรมใบงานที่ 2.6 ค่านิยม : ค่าทไ่ี ม่ควรนิยม พอเพียงได้ 4. วิเคราะหแ์ นวทางปฏบิ ตั ติ นตามหลักปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพยี งได้ 5. ประยุกตห์ ลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใชใ้ นการ ดำเนินชีวิตอยา่ งชอื่ สัตย์สจุ ริตได้ วธิ ีการสอน 1. บรรยาย /ถามตอบ/ ชกั ถาม แลกเปลยี่ นความคดิ เห็น 2. ทำกจิ กรรมใบงานและคอยแนะนำนกั เรียนขณะปฏิบัตงิ าน 3. ผ่านส่ือการเรยี น Google classroom, สื่อการสอน หนังสอื อา้ งอิง แนวทางการจัดกิจกรรมเสริมหลกั สูตรเพ่ือสรา้ งความ ๑. ส่ือวดิ ิทศั น์เกี่ยวกับพระราชกรณยี กจิ / ตระหนักรู้และมสี ่วนรว่ มในการปอ้ งกันการทจุ รติ สำหรบั บทเพลง พระราชาผ้ทู รงธรรม /อยูอ่ ย่างพอเพยี ง นกั เรียน นักศึกษา ของหน่วยศึกษานเิ ทศก์ สังกัดสอศ. 2. ใบงานกิจกรรมท่ี 1.5 และ 2.6 3. สอ่ื การสอน power Point 4. ส่ือสง่ิ พิมพ์ 5. กระดาษบรฟู๊ ปากกาเคมี 4. แบบประเมินกิจกรรมและแบบประเมินคุณธรรม การประเมนิ คะแนนจากการทำแบบทดสอบกอ่ นเรยี น – หลงั เรียน แบบประเมินผลใบงาน แบบฝึกหดั แบบประเมนิ กจิ กรรมและแบบ ประเมินพฤตกิ รรมระหวา่ งการเรยี น การปฏิบตั ิงาน และคะแนนจากแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธท์ิ างการเรียน
โครงการสอน ช่ือวชิ า ภาษาไทยพื้นฐาน รหัสวิชา 20000-1101 ช่อื หนว่ ย การอ่าน การฟัง และการดสู ารจากสื่อสิ่งพมิ พ์ และสอื่ อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ จำนวนคาบสอน 2 คาบ : สัปดาห์ หนว่ ยท่ี 2 การอา่ น การฟงั และการดสู ารจากส่ือสงิ่ พมิ พ์ และสอื่ อเิ ล็กทรอนกิ ส์ จำนวน 4 ช่วั โมง เรอ่ื ง การอ่าน การฟงั และการดสู ารจากส่ือส่งิ พิมพ์ และสือ่ อเิ ล็กทรอนิกส์ ๒.๑ ความหมายของการอ่าน การฟงั และการดสู ารจากสอ่ื สิง่ พิมพ์ และสือ่ อเิ ลก็ ทรอนิกส์ ๒.๒ ประเภทของสารจากสื่อสงิ่ พมิ พแ์ ละสือ่ อเิ ล็กทรอนกิ ส์ ๒.๓ การวิเคราะหแ์ ละการประเมินคา่ สารจากการอา่ น การฟัง และการดู จดุ ประสงค์การสอน รายการสอน ๑. อธบิ ายความหมายของการอา่ น การฟัง และการดูสาร การอ่าน การฟัง และการดสู ารจากสื่อสง่ิ พิมพ์ และสอ่ื จากสือ่ ส่งิ พมิ พแ์ ละสอื่ อเิ ลก็ ทรอนิกส์ได้ อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ ๒.๑ ความหมายของการอา่ น การฟงั และการดู ๒. จำแนกประเภทของสารจากสื่อสิง่ พิมพ์และสื่อ อิเล็กทรอนิกส์ได้ สารจากส่อื สิ่งพิมพ์ และสื่ออเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ ๒.๒ ประเภทของสารจากส่ือส่งิ พมิ พ์และสื่อ ๓. วเิ คราะหแ์ ละประเมนิ ค่าสารจากการอา่ น การฟังและ การดูได้ อิเล็กทรอนิกส์ ๒.๓ การวิเคราะห์และการประเมินค่าสารจาก การอ่าน การฟัง และการดู
วิธกี ารสอน 1. บรรยาย /ถามตอบ/ ชักถาม แลกเปล่ยี นความคิดเหน็ 2. ทำแบบฝกึ หัด / ใบงาน และคอยแนะนำนกั เรยี นขณะปฏบิ ตั ิงาน สือ่ การสอน หนงั สืออา้ งองิ ๑. แบบทดสอบก่อนเรียน-หลังเรียน ๒. 1. หนังสอื เรียนวชิ าภาษาไทยพื้นฐาน รหัสวชิ า 2. แบบฝึกหัดหนว่ ยที่ 2 ๓. 20000–๑๑o1 บรษิ ทั ศูนย์หนังสือ เมืองไทย 3. ใบงานกิจกรรมท่ี 2 ๒. เว็บไซต์และสอื่ ส่งิ พิมพท์ ่เี ก่ยี วข้องกบั เนื้อหา 4. สอื่ การสอน power Point ๔. บทเรยี น 5. Google Classroom 4. แบบประเมินกิจกรรมและแบบประเมนิ คุณธรรม จรยิ ธรรม การประเมนิ คะแนนจากการทำแบบทดสอบก่อนเรยี น – หลงั เรียน แบบประเมนิ ผลใบงาน แบบฝึกหัด แบบประเมินกจิ กรรม และแบบประเมนิ พฤติกรรมระหว่างการเรียน การปฏิบัติงาน และคะแนนจากแบบทดสอบวดั ผลสัมฤทธ์ทิ างการเรยี น แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 2 หนว่ ยท่ี 2 ชอื่ วิชา ภาษาไทยพืน้ ฐาน รหสั ๒0๐๐๐–๑๑๐1 สอนครั้งท่ี 3-4 จำนวน 4 คาบ ช่อื หนว่ ย การอ่าน การฟงั และการดสู ารจากส่อื สิ่งพิมพ์ และ สอ่ื อเิ ลก็ ทรอนิกส์ ช่ือเรอื่ ง การอ่าน การฟัง และการดสู ารจากสือ่ ส่ิงพิมพ์ และสอ่ื อเิ ล็กทรอนิกส์ หวั ขอ้ เร่ือง ๒.๑ ความหมายของการอ่าน การฟัง และการดสู ารจากสื่อสง่ิ พมิ พ์ และสอ่ื อเิ ล็กทรอนิกส์ ๒.๒ ประเภทของสารจากสือ่ ส่ิงพมิ พ์และสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ๒.๓ การวเิ คราะหแ์ ละการประเมนิ คา่ สารจากการอ่าน การฟัง และการดู แนวคิดสำคญั การสรุปความจากการฟังและการดู เป็นทักษะการรับสารที่สำคัญย่ิงในชีวิตประจำวัน เพราะคนส่วนมาก ใช้ทกั ษะการฟงั ในการรับสารมากกว่าทักษะอืน่ ทั้งในการติดต่อทางธุรกิจ กิจธรุ ะ การศกึ ษา และในการรับสาร บางครั้งต้องใช้ทักษะการฟังควบคู่ไปกับการดู ผู้รับสารจึงต้องฝึกทักษะการฟังและการดู ให้มีประสิทธิภาพ สรุปสาระสำคญั ของเรอ่ื งไดถ้ ูกต้องแม่นยำและนำไปใช้ประโยชนไ์ ดอ้ ย่างมปี ระสทิ ธิภาพ การสรุปความจากการฟังและการดู เป็นทักษะการรับสารท่ีสำคัญย่ิงในชีวิตประจำวัน เพราะคนส่วนมาก ใชท้ กั ษะการฟงั ในการรับสารมากกวา่ ทักษะอื่น ทั้งในการติดต่อทางธรุ กิจ กจิ ธุระ การศกึ ษา และในการรับสาร
บางคร้ังต้องใช้ทักษะการฟังควบคู่ไปกับการดู ผู้รับสารจึงต้องฝึกทักษะการฟังและการดูให้มีประสิทธิภาพ สรุปสาระสำคญั ของเรอื่ งไดถ้ กู ต้องแม่นยำและนำไปใช้ประโยชนไ์ ดอ้ ย่างมปี ระสิทธิภาพ สมรรถนะย่อย ๑. แสดงความรเู้ ก่ียวกับการอ่าน การฟัง และการดสู ารจากสื่อสงิ่ พิมพ์และสอ่ื อิเล็กทรอนิกส์ ๒. วเิ คราะหแ์ ละประเมนิ ค่าสาร จากการฟงั การดู และการอ่านตามหลกั การ จุดประสงค์เชงิ พฤติกรรม ด้านความรูแ้ ละทักษะ ๑. อธบิ ายความหมายของการอา่ น การฟัง และการดูสารจากส่ือสง่ิ พิมพ์และส่อื อิเล็กทรอนกิ ส์ได้ ๒. จำแนกประเภทของสารจากสอื่ สงิ่ พิมพแ์ ละส่ืออิเล็กทรอนิกส์ได้ ๓. วเิ คราะห์และประเมนิ คา่ สารจากการอา่ น การฟงั และการดูได้ 4 การบูรณาการด้านคณุ ธรรม จริยธรรม คา่ นยิ ม คุณลกั ษณะท่พี งึ ประสงค์แสดงออกดา้ นความสนใจ ใฝร่ ู้ โดยจัดกิจกรรมการเรยี นรใู้ นและนอกหอ้ งเรียนเน้นกิจกรรมการรักการอ่านโดย 1. การมอบหมายงาน/หน้าทีท่ ไ่ี ด้รบั มอบหมาย 2. การใช้เวลาว่างใหเ้ กดิ ประโยชน์ 3. การศึกษาหาความรจู้ ากแหล่งเรยี นร้ใู นและนอกหอ้ งเรยี นในรูปแบบท่หี ลากหลาย 4. การเลอื กใช้สื่อทเ่ี หมาะสมกบั วยั เช่น หนงั สือ สอื่ สิ่งตีพมิ พ์ เอกสาร อินเทอร์เนต็ 5. การสรุป นำเสนอวเิ คราะหส์ ิ่งที่ได้จากการเรยี นรู้ 6. การแลกเปลยี่ นเรยี นรู้ระหว่างเพอ่ื น เน้อื หาสาระ ๒.๑ ความหมายของการอ่าน การฟัง และการดูสารจากส่อื สิง่ พมิ พ์ และสือ่ อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ ๒.๑.๑ ความหมายของการฟัง ๒.๑.๓ ความหมายของการอา่ น ๒.๑.๔ ความหมายของสอ่ื สิง่ พมิ พ์ ๒.๑.๕ ความหมายของสอ่ื อิเลก็ ทรอนิกส์ ๒.๒ ประเภทของสารจากส่อื สิ่งพมิ พ์และส่อื อิเล็กทรอนกิ ส์ ๒.๒.๑ สารเพอ่ื ความรู้ ๒.๒.๒ สารเพื่อจรรโลงใจ ๒.๒.๓ สารเพ่อื ความบนั เทงิ ๒.๒.๔ สารโน้มนา้ วใจ ๒.๓ การวิเคราะหแ์ ละการประเมินคา่ สารจากการอ่าน การฟงั และการดู ๒.๓.๑ ความหมายของการวิเคราะห์และประเมนิ ค่าสาร วิเคราะห์ หมายถงึ การพิจารณาใครค่ รวญ ไตร่ตรอง แยกแยะออกเป็นสว่ น ๆ ประเมินค่าสาร หมายความว่า มีการตรวจสอบสิ่งท่ีฟังวา่ ถูกต้อง ชัดเจน ถูกต้องมีเหตุผล นา่ เชอ่ื ถือหรอื ไม่ มีคณุ คา่ หรอื ไม่ แลว้ ตดั สินวา่ สง่ิ ทฟ่ี ังมคี ุณค่า มปี ระโยชนอ์ ยา่ งไร ๒.๓.๒ การวิเคราะห์สาร ข้นั ตอนในการวิเคราะห์สาร
ขน้ั ตอนท่ี ๑ ตั้งใจอา่ น ฟงั และดู วา่ เรอื่ งนน้ั เป็นสารประเภทใด มรี ูปแบบเป็นร้อยแก้ว หรอื ร้อยกรอง ขั้นตอนท่ี ๒ เรือ่ งท่ีอ่าน ฟังและดนู ้นั มีขอ้ เท็จจริง ขอ้ คดิ เหน็ อย่างไร ขน้ั ตอนท่ี ๓ พิจารณาวา่ เรอ่ื งที่อา่ น ฟังและดู น้นั มปี ระโยชน์ มคี ุณค่าตอ่ การอ่าน ฟงั และดอู ยา่ งไร ขนั้ ตอนท่ี ๔ จดบันทกึ สาระสำคญั ไวเ้ พอ่ื กนั ลมื กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สัปดาห์ที่ 3) ๑. ครอู ธบิ ายจดุ ประสงค์การเรียนรู้ หน่วยท่ี ๒ และสอดแทรกความรูเ้ ร่อื งคณุ ธรรม จริยธรรม เศรษฐกิจพอเพยี ง/คา่ นยิ ม 12 ประการ ๒. ครทู ดสอบความรู้ของนักเรียนกอ่ นเรยี น ๓. ให้นักเรียนยกตัวอย่างการอ่าน และการดสู ารจากส่อื สง่ิ พมิ พ์/อเิ ลก็ ทรอนิกส์ ๔. ครูสอนและอธบิ ายเน้ือหาสาระ ขอ้ 2.1 / 2.3 ๕. นักเรยี นช่วยกันสรปุ เรือ่ งโดยใช้การถามตอบจากครู ๖. นักเรียนทำแบบฝึกหดั ๗. ครูและนักเรียนร่วมกนั ประเมินการเรยี นรู้ตามสภาพจริง 8. การบูรณาการดา้ นคุณธรรม จริยธรรม คา่ นยิ ม คุณลกั ษณะท่ีพงึ ประสงค์ แสดงออกดา้ นความ สนใจใฝ่รู้ โดยจัดกิจกรรมการเรียนร้ใู นและนอกหอ้ งเรยี นเนน้ กิจกรรมการรักการอา่ นโดย 1. การมอบหมายงาน/หนา้ ที่ทีไ่ ดร้ ับมอบหมาย 2. การใช้เวลาวา่ งให้เกดิ ประโยชน์ 3. การศกึ ษาหาความรู้จากแหลง่ เรยี นรใู้ นและนอกห้องเรยี นในรูปแบบที่หลากหลาย 4. การเลอื กใชส้ ่อื ท่ีเหมาะสมกบั วัย เช่น หนังสอื ส่ือ ส่ิงตีพิมพ์ เอกสาร อินเทอรเ์ นต็ 5. การสรปุ นำเสนอวเิ คราะหส์ ง่ิ ทไ่ี ดจ้ ากการเรียนรู้ 6. การแลกเปลีย่ นเรยี นรู้ระหว่างเพ่ือน กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สัปดาห์ท่ี 4) ๑. ครอู ธบิ ายทบทวนเนือ้ หา ๒. ให้นักเรียนยกตัวอย่างวิเคราะหส์ ารจากส่อื สิง่ พิมพ์/อิเล็กทรอนิกสโ์ ดยครูชนี้ ำ ๓. ครสู อนและอธบิ ายเนอื้ หาสาระขอ้ ๒.๓ ๔. นกั เรียนช่วยกนั สรปุ เรอ่ื งโดยใชก้ ารถามตอบจากครู ๕. นกั เรยี นทำแบบฝกึ หัด ๖. ครูทดสอบความรู้ของนกั เรยี นหลงั เรียน ๗. ครูและนักเรียนรว่ มกนั ประเมินการเรยี นรตู้ ามสภาพจริง 8. การบูรณาการดา้ นคุณธรรม จริยธรรม ค่านยิ ม คณุ ลกั ษณะท่พี ึงประสงค์ แสดงออกด้านความ สนใจใฝ่รู้ โดยจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ในและนอกหอ้ งเรียนเน้นกิจกรรมการรกั การอ่านโดย 1. การมอบหมายงาน/หนา้ ทท่ี ี่ได้รับมอบหมาย 2. การใชเ้ วลาวา่ งใหเ้ กดิ ประโยชน์ 3. การศกึ ษาหาความร้จู ากแหล่งเรียนรู้ในและนอกหอ้ งเรยี นในรูปแบบทหี่ ลากหลาย 4. การเลือกใชส้ ือ่ ทเี่ หมาะสมกบั วยั เช่น หนงั สือ สื่อ ส่งิ ตพี มิ พ์ เอกสาร อินเทอรเ์ นต็ 5. การสรปุ นำเสนอวเิ คราะห์สงิ่ ที่ไดจ้ ากการเรยี นรู้ 6. การแลกเปล่ยี นเรียนร้รู ะหวา่ งเพอ่ื น
ส่อื การเรียนการสอน ๑. แบบทดสอบก่อนเรียน-หลังเรียน 2. แบบฝึกหัดหน่วยท่ี 2 3. ใบงานกจิ กรรมที่ 2 4. สอ่ื การสอน power Point 5. Google Classroom 6. แบบประเมินกิจกรรมและแบบประเมินคุณธรรม จรยิ ธรรม การวัดผลและประเมินผล การวัดผล การประเมนิ ผล ๑. แบบทดสอบกอ่ นเรียน (Pre-test) หน่วยท่ี 2 (ไว้เปรยี บเทยี บกบั คะแนนสอบหลังเรียน) 2. แบบทดสอบหลังเรยี น (Post-test) หนว่ ยที่ 2 คะแนนเกณฑผ์ ่าน 50% 3. แบบประเมนิ ผลใบงาน /แบบฝกึ หัด คะแนนเกณฑ์ผ่าน 50% 4. แบบทดสอบวัดผลสมั ฤทธ์ิทางการเรยี น หน่วยท่ี 2 คะแนนเกณฑ์ผ่าน 50% 5. แบบประเมนิ คณุ ธรรม จริยธรรม ตามสภาพจริง คะแนนเกณฑ์ผ่าน 50% งานที่มอบหมาย งานที่มอบหมายนอกเหนือเวลาเรียน ใหน้ กั เรียนอา่ นเน้ือหาหน่วยท่ี ๓ ผลงาน/ชิ้นงาน/ความสำเรจ็ ของผู้เรยี น ๑. ผลการนำเสนองานกจิ กรรมที่ 2 ๒. ผลการทำกจิ กรรม และแบบฝกึ หดั หน่วยที่ 2 ๓. คะแนนแบบทดสอบหลงั เรยี น (Post-test) หน่วยที่ 2 แหลง่ เรียนรู้เพิม่ เตมิ 1. หอ้ งสมุด 2. Internet เอกสารอา้ งอิง ๑. หนงั สือเรยี นวิชาภาษาไทยพน้ื ฐาน รหสั วชิ า ๒0000–๑๑o1 บริษทั ศูนยห์ นงั สอื เมืองไทย ๒. เว็บไซต์และสื่อสงิ่ พิมพท์ ่ีเก่ยี วข้องกับเนื้อหาบทเรียน
ใบงานกิจกรรม 2.1 เร่อื ง การอ่าน การฟงั และการดสู ารจากสื่อสง่ิ พิมพ์ และสื่ออเิ ล็กทรอนิกส์ ข่ือ-สกุล.........................................................สาขาวชิ า...............................ชนั้ ปีท่ี ......ว/ด/ป..................... 1.ใหน้ ักเรยี นฟงั /ดูสารจากสื่อต่างๆ ตามท่ีกำหนด(รายการโทรทศั น์ รายการวทิ ยุ รายการจากส่อื ออนไลน์ ) แล้ววเิ คราะหห์ วั ขอ้ ต่อไปนี้ (ไมจ่ ำเปน็ ตอ้ งวิเคราะหท์ ุกหวั ขอ้ ทกุ เรื่อง บางเรอื่ งอาจวเิ คราะหเ์ ฉพาะบางหัวขอ้ ตามความเหมาะสม 1.ช่ือเรอ่ื ง............................................................................................................................................................ 2.สรุปเน้อื หา....................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................................ 3.เปน็ สารประเภทใด......................................................................................................................................... 4.แยกแยะขอ้ เทจ็ จรงิ /ข้อคดิ เหน็ ....................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................................ 5.วธิ ีการใช้ภาษา............................................................................................................................................... 6.ขอ้ คดิ จากเรอ่ื ง............................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................................... 7.ประโยชนท์ ไี ด้รบั จากเรอื่ งนี.้ .......................................................................................................................... ...........................................................................................................................................................................
โครงการสอน ช่อื วิชา ภาษาไทยพ้ืนฐาน รหัสวิชา 20000-1101 ชอ่ื หนว่ ย การพดู สือ่ สารในชีวิตประจำวัน การส่ือสารในสังคม และในงานอาชีพ จำนวนคาบสอน 2 คาบ : สปั ดาห์ หน่วยที่ 3 การพดู ส่อื สารในชวี ติ ประจำวัน การสือ่ สารในสงั คม และในงานอาชพี จำนวน 4 ช่ัวโมง เรอ่ื ง การพูดสอ่ื สารในชีวติ ประจำวัน การส่อื สารในสังคม และในงานอาชพี ๓.๑ การพูดในชีวิตประจำวนั ๓.๒ การพดู ในงานสังคม 3.3 การพูดในงานอาชพี - การพูดเพอ่ื กิจธุระ - การพดู แสดงความคดิ เหน็ - การใช้โทรศัพท์พูดติดตอ่ กจิ ธุระ - การตอบรบั และปฏิเสธ - การพูดสรุปความ จุดประสงค์การสอน รายการสอน ๑. พูด กล่าวทกั ทาย พูดแนะนำตนเอง สนทนา เลา่ เรอื่ ง การพูดสอื่ สารในชีวิตประจำวนั การส่ือสารในสงั คม และพดู สนทนาทางโทรศพั ทไ์ ด้ และในงานอาชีพ ๒. พูดแสดงความยนิ ดี พูดแสดงความเสียใจ และกล่าว ๓.๑ การพูดในชีวิตประจำวัน อวยพร ตามหลักการและตามมารยาทของสงั คมได้ ๓.๒ การพดู ในงานสังคม 3. พูดเพอ่ื กจิ ธุระ ตามหลักการและมารยาทของสังคมได้ 3.3 การพดู ในงานอาชพี 4. แสดงความคดิ เห็นตามหลกั การใช้ภาษาได้ - การพดู เพื่อกจิ ธุระ 5. ใชโ้ ทรศัพทพ์ ดู ติดตอ่ กิจธรุ ะตามหลกั การและมารยาท - การพดู แสดงความคดิ เห็น ของสงั คมได้ - การใช้โทรศพั ทพ์ ูดตดิ ตอ่ กิจธุระ 6. วเิ คราะหภ์ าษาการตอบรบั และปฏิเสธได้ - การตอบรบั และปฏิเสธ 7. พดู สรุปความได้ - การพดู สรปุ ความ วิธกี ารสอน 1. บรรยาย /ถามตอบ/ ชกั ถาม แลกเปลี่ยนความคิดเห็น 2. ทำแบบฝึกหดั / ใบงาน และคอยแนะนำนักเรยี นขณะปฏิบตั งิ าน สอ่ื การสอน หนงั สอื อ้างองิ ๑. แบบทดสอบกอ่ นเรยี น-หลงั เรยี น 1. หนงั สอื เรยี นวชิ าภาษาไทยพ้นื ฐาน รหัสวชิ า 2. แบบฝึกหัดหนว่ ยท่ี 3 20000–๑๑o1 บริษทั ศนู ย์หนังสือเมืองไทย 3. ใบงานกิจกรรมที่ 3 ๒. 2. เวบ็ ไซต์และสอื่ ส่ิงพิมพท์ ่เี กีย่ วขอ้ งกบั เนื้อหา 4. สอ่ื การสอน power Point บทเรยี น 5. Google Classroom 6. แบบประเมินกิจกรรมและแบบประเมินคุณธรรมฯ การประเมิน คะแนนจากการทำแบบทดสอบก่อนเรียน – หลังเรยี น แบบประเมินผลใบงาน แบบฝึกหัด แบบประเมนิ กจิ กรรมและแบบประเมนิ พฤติกรรมระหวา่ งการเรียน การปฏิบัตงิ าน และคะแนนจากแบบทดสอบวดั ผลสัมฤทธิ์ ทางการเรยี น
แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 3 หนว่ ยท่ี 3 ช่อื วชิ า ภาษาไทยพื้นฐาน รหสั ๒๐๐๐–๑๑๐1 สอนครั้งท่ี 5-6 จำนวน 4 คาบ ชอ่ื หน่วย การพูดสอ่ื สารในชวี ิตประจำวนั การสื่อสารในสังคม และในงานอาชีพ ชื่อเรอื่ ง การพูดสือ่ สารในชวี ิตประจำวนั การสือ่ สารในสังคมและในงานอาชีพ หัวขอ้ เรอื่ ง ๓.๑ การพูดในชีวติ ประจำวนั ๓.๒ การพดู ในงานสงั คม 3.3 การพูดในงานอาชีพ - การพดู เพอื่ กจิ ธรุ ะ - การพดู แสดงความคดิ เหน็ - การใช้โทรศัพทพ์ ูดตดิ ต่อกิจธรุ ะ - การตอบรับและปฏิเสธ - การพดู สรปุ ความ แนวคดิ สำคญั การพดู มคี วามสำคัญตอ่ การดำเนนิ ชวี ติ ประจำวนั ของทกุ คนเป็นอยา่ งมาก เพราะการพูดคอื รูปแบบของ การส่ือสารทง่ี า่ ยและทำความเข้าใจได้ชดั เจน มากกว่าการเขยี น ไมว่ า่ จะเป็นการสนทนากนั ระหวา่ งบุคคล การ พดู ตอ่ หน้าทส่ี าธารณะชน การพดู โดยผ่านเครือ่ งมอื ตา่ ง ๆ เชน่ โทรศัพท์ โปรแกรมคอมพิวเตอร์ท่ีสามารถพดู สอ่ื สารกนั ได้ ฯลฯ ดงั นั้น การพดู จึงมีความสำคญั เป็นอย่างมากโดยเฉพาะการพูดท่ใี ชใ้ นชวี ติ ประจำวัน อาจจะต้อง มกี ารเรียนร้พู ัฒนาทกั ษะดา้ นนใ้ี ห้มากข้นึ โดยหาเทคนิคตา่ ง ๆ ที่พูดแล้วคนชนื่ ชอบมาปฏิบัติ ในเรื่องของภาษา เป็นส่ิงทม่ี ีคู่กบั มนุษยเ์ พราะภาษาเปน็ สงิ่ ทมี่ นุษย์สร้างขึน้ และพัฒนาไปพรอ้ มกับมนษุ ย์ ภาษาเป็นเคร่ืองมือที่สำคัญท่ีสดุ ในการสื่อสารของมนษุ ย์ ดังคำเปรยี บที่วา่ “ภาษาที่ใชค้ ือหัวใจของการส่ือสาร” การอยรู่ ่วมกนั ในสังคมอย่างมคี วามสุขได้น้นั มนษุ ยต์ ้องร้จู กั ใชภ้ าษาเพอ่ื แสดงความเป็นมติ รไมตรีต่อกนั การแสดงกฎเกณฑท์ างสังคมทีจ่ ะต้องปฏบิ ตั ริ ่วมกันกต็ ้องใชภ้ าษาช่วยเพ่ือจะไดป้ ระพฤติตนใหเ้ หมาะสมกบั ฐานะของตนในสงั คม ในการตดิ ต่อกิจธุระ ภาษาไทยมคี วามสำคัญมากเพราะตอ้ งใชภ้ าษาเพื่อติดต่อเกี่ยวกบั กิจ ธรุ ะต่าง ๆ สมรรถนะยอ่ ย ๑. แสดงความรเู้ ก่ยี วกบั การพูดสอื่ สารในชีวิตประจำวันและการสือ่ สารในสงั คม ๒. พูดติดตอ่ กจิ ธรุ ะ พูดในโอกาสตา่ ง ๆ ตามหลักการและมารยาทของสงั คม 3. แสดงความรู้เกี่ยวกบั การพูดสื่อสารในงานอาชีพ 4. พูดตดิ ต่อกิจธุระ พดู ในโอกาสตา่ ง ๆ ตามหลักการและมารยาทของสังคม
จดุ ประสงค์เชงิ พฤตกิ รรม ดา้ นความรูแ้ ละทักษะ ๑. พูด กลา่ วทักทาย พูดแนะนำตนเอง สนทนา เลา่ เรอ่ื ง และพูดสนทนาทางโทรศัพท์ได้ ๒. พูดแสดงความยินดี พดู แสดงความเสียใจ และกลา่ วอวยพร ตามหลักการและตามมารยาท ของสงั คมได้ 3. แสดงความรูเ้ ก่ียวกบั การพูดส่อื สารในงานอาชพี 4. พูดติดตอ่ กิจธรุ ะ พดู ในโอกาสต่าง ๆ ตามหลักการและมารยาทของสังคม 5. การบูรณาการด้านคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม คณุ ลกั ษณะท่ีพึงประสงค์ แสดงออกดา้ นความสนใจ ใฝ่รู้ โดยจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ในและนอกหอ้ งเรียนเน้นกจิ กรรมการรักการอ่านโดย 1. การมอบหมายงาน/หน้าท่ที ี่ได้รบั มอบหมาย 2. การใช้เวลาว่างใหเ้ กิดประโยชน์ 3. การศกึ ษาหาความรจู้ ากแหลง่ เรยี นรใู้ นและนอกหอ้ งเรียนในรูปแบบที่หลากหลาย 4. การเลอื กใชส้ ื่อท่ีเหมาะสมกับวัย เช่น หนงั สอื สือ่ สิ่งตีพิมพ์ เอกสาร อนิ เทอรเ์ น็ต 5. การสรุป นำเสนอวเิ คราะหส์ ง่ิ ทไ่ี ดจ้ ากการเรยี นรู้ 6. การแลกเปลย่ี นเรียนรูร้ ะหวา่ งเพื่อน เนื้อหาสาระ ๓.๑ การพดู ในชีวิตประจำวัน รูปแบบของการพดู ในชวี ติ ประจำวนั การทักทาย การแนะนำตวั การสนทนา การเลา่ เร่อื ง ๓.๒ การพูดในงานสังคม รูปแบบของการพูดในสังคม ๑.การพูดแสดงความเสยี ใจ การพูดแสดงความเสยี ใจถือว่าเปน็ มารยาททีง่ ดงามและเป็นพฤติกรรม ทแ่ี สดงถึงความมีนำ้ ใจและเปน็ การสรา้ งมนษุ ยสมั พนั ธ์ท่ีดี ๒.การพูดแสดงความยนิ ดแี ละการพูดแสดงความดีใจ เปน็ การพดู ทผี่ พู้ ดู ควรแสดงออกถงึ ความจริงใจอย่างแท้จริง แสดงถึงความมีน้ำใจทเี่ ป็นผ้ใู ห้อยา่ งจริงใจ ๓. การพูดอวยพร เปน็ การทผี่ ูพ้ ดู ใช้ภาษาทไ่ี พเราะ กนิ ใจ เพ่ือให้ผู้ฟงั มคี วามสขุ มีความสบายใจ 3.3 การพูดเพ่อื กิจธรุ ะ หลักสำคัญในการพดู เพอื่ กิจธรุ ะ ๑. มคี วามรู้ความเขา้ ใจในเรอื่ งทจ่ี ะพดู ๒. พดู ใหต้ รงประเดน็ ๓. จัดลำดับความในสาร ๔. รายละเอียดของเน้อื เร่อื ง 3.4 การพดู แสดงความคิดเห็น ๑. ความหมายของการพดู แสดงความคิดเหน็ ๒. ความสำคญั ของการพูดแสดงความคิดเห็น ๓. โอกาสในการพูดแสดงความคิดเห็น
3.5 การใช้โทรศัพท์พูดตดิ ต่อกิจธุระ การเตรยี มตัวในการใชโ้ ทรศัพท์พูดตดิ ตอ่ กิจธุระ ๑. เตรียมข้อมูล ๒. ควรใช้นำ้ เสียงในการพูดใหน้ มุ่ นวล ไมพ่ ูดเร็ว หรอื เนบิ นาบเกินไป และไม่ควรอมหรอื เคี้ยว สิ่งใดเพราะผู้สนทนาอาจจับความผิดปกตจิ ากน้ำเสยี งได้ ๓. ควรบอกตำแหน่งงาน ช่ือองคก์ ร โดยไมต่ ้องใหผ้ สู้ นทนาถามก่อน ๔. ตัง้ ใจพดู อยา่ งมีสติ ตอบรับดว้ ยคำวา่ “ค่ะ” เสมอ แมผ้ สู้ นทนาจะกำลงั พูดโดยไม่เปดิ โอกาสให้ มีการสนทนาโต้ตอบ แสดงให้ผู้สนทนารับรู้ว่ายังคงฟังอยู่ด้วยความตั้งใจ และจะไม่ทำให้พลาดประเด็น สำคญั ไป ๕. เมื่อการสนทนาจบลง ควรให้ผู้สนทนาวางโทรศพั ทก์ ่อน เพราะหากวางแรง ผ้สู นทนาอาจเกิด ความรู้สึกทไี่ ม่ดีได้ 3.6 การตอบรบั และปฏิเสธ ๑. การกล่าวตอบรบั 2. มารยาทในการตอบรบั ๓. การปฏิเสธ 3.7 การพูดสรุปความ เป็นการพูดสรุปเร่ืองราวจากการฟงั หรือการอา่ น ผู้ฟังหรอื ผู้อ่านต้องจับใจความ และสรุปใจความสำคัญ ของเร่ือง เพ่ือท่ีจะเป็นพื้นฐานของการพูดหรือการเขียนสรุปความต่อไป การพูดสรุปความ จะต้องจับประเด็นให้ได้ว่า ใคร ทำอะไร ท่ีไหน เม่ือไร อย่างไร แล้วจดบันทึกไว้ จากน้ัน จงึ พูดสรุปความของเรอื่ งทอี่ า่ นหรอื ฟัง กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สปั ดาห์ที่ 5 ) ๑. ครอู ธบิ ายจุดประสงค์การเรียนรู้ หนว่ ยท่ี ๓ และสอดแทรกความรูเ้ รอ่ื งคุณธรรม จริยธรรมค่านยิ ม 12 ประการ ๒. ขัน้ นำ ครนู ำเขา้ สู่บทเรยี นดว้ ยการสนทนา การซกั ถาม ทเ่ี กย่ี วข้องกบั เนอ้ื หาบทเรียน ๓. ครูทดสอบความรู้ของนักเรียนกอ่ นเรยี น 4. ให้นกั เรียนยกตวั อยา่ งการพดู ตา่ ง ๆ /ตวั อย่างการพดู ในงานสงั คม 5. ครูซกั ถามนกั เรียนเพือ่ ทบทวนเน้ือหา 6. ขัน้ สอน ครูอธบิ าย บรรยาย ซักถามตามหวั ข้อเรอ่ื ง 7. ครูให้นกั เรยี นทำกิจกรรมที่ ๓ และระดมความคิดเหน็ รว่ มกนั ทำแบบฝกึ หัดหนว่ ยที่ ๓ 8. นักเรียนทำแบบทดสอบหลังเรยี นดว้ ยความซ่ือสตั ย์ 9. ครแู ละนักเรียนรว่ มกนั เฉลยแบบทดสอบหลังเรียนและแบบฝึกหดั 10. ขั้นสรปุ ครแู ละนกั เรียนร่วมกนั สรปุ สาระสำคัญของเน้ือหา 11 การบูรณาการด้านคุณธรรม จริยธรรม คา่ นยิ ม คณุ ลักษณะท่ีพึงประสงค์ แสดงออกด้านความ สนใจใฝ่รู้ โดยจัดกจิ กรรมการเรยี นรูใ้ นและนอกหอ้ งเรยี นเนน้ กิจกรรมการรกั การอ่านโดย 1. การมอบหมายงาน/หน้าท่ที ไ่ี ด้รบั มอบหมาย 2. การใชเ้ วลาวา่ งใหเ้ กดิ ประโยชน์ 3. การศึกษาหาความรู้จากแหล่งเรยี นรู้ในและนอกห้องเรียนในรูปแบบทห่ี ลากหลาย 4. การเลือกใชส้ ื่อที่เหมาะสมกบั วยั เชน่ หนงั สือ สือ่ สง่ิ ตพี มิ พ์ เอกสาร อนิ เทอร์เน็ต 5. การสรปุ นำเสนอวิเคราะหส์ ิง่ ทไ่ี ด้จากการเรียนรู้ 6. การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างเพ่ือน
กจิ กรรมการเรียนรู้ (สปั ดาหท์ ่ี 6) ๑. ครอู ธิบายทบทวนเนือ้ หา ๒. ใหน้ ักเรียนยกตวั อยา่ งการพูดในงานสงั คม ๓. ครสู อนและอธิบายเนอื้ หาสาระ ๔. นกั เรยี นชว่ ยกนั สรุปเรอื่ งโดยใช้การถามตอบจากครู ๕. นกั เรยี นทำแบบฝกึ หัด ๖. ครทู ดสอบความรู้ของนกั เรียนหลงั เรียน ๗. ครแู ละนักเรยี นรว่ มกนั ประเมินการเรยี นรู้ตามสภาพจรงิ 8. การบรู ณาการดา้ นคุณธรรม จริยธรรม คา่ นิยม คุณลักษณะทีพ่ ึงประสงค์ แสดงออกด้านความ สนใจใฝร่ ู้ โดยจัดกิจกรรมการเรียนรใู้ นและนอกหอ้ งเรียนเนน้ กจิ กรรมการรักการอ่านโดย 1. การมอบหมายงาน/หนา้ ท่ที ไ่ี ด้รบั มอบหมาย 2. การใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ 3. การศึกษาหาความรูจ้ ากแหล่งเรยี นรู้ในและนอกห้องเรียนในรปู แบบทีห่ ลากหลาย 4. การเลือกใช้สือ่ ทีเ่ หมาะสมกบั วยั เชน่ หนังสอื สอ่ื ส่ิงตีพมิ พ์ เอกสาร อนิ เทอร์เนต็ 5. การสรุป นำเสนอวิเคราะหส์ ่งิ ท่ไี ด้จากการเรียนรู้ 6. การแลกเปล่ียนเรียนรู้ระหว่างเพ่ือน สอ่ื การเรยี นการสอน ๑. แบบทดสอบก่อนเรียน-หลังเรียน 2. แบบฝึกหัดหนว่ ยท่ี 3 3. ใบงานกิจกรรมที่ 3 4. ส่ือการสอน power Point 5. Google Classroom 4. แบบประเมนิ กิจกรรมและแบบประเมินคุณธรรม จรยิ ธรรม การวดั ผลและประเมินผล การประเมินผล (ไว้เปรียบเทียบกับคะแนนสอบหลงั เรียน) การวัดผล คะแนนเกณฑผ์ า่ น 50% ๑. แบบทดสอบกอ่ นเรยี น (Pre-test) หนว่ ยที่ 3 คะแนนเกณฑผ์ ่าน 50% 2. แบบทดสอบหลังเรียน (Post-test) หนว่ ยที่ 3 คะแนนเกณฑ์ผา่ น 50% 3. แบบประเมินผลใบงาน /แบบฝึกหัด คะแนนเกณฑผ์ า่ น 50% 4. แบบทดสอบวดั ผลสมั ฤทธิ์ทางการเรียน หนว่ ยท่ี 3 5. แบบประเมินคุณธรรม จริยธรรม ตามสภาพจริง งานทีม่ อบหมาย งานท่มี อบหมายนอกเหนือเวลาเรยี น ใหน้ ักเรยี นอา่ นเน้ือหาหน่วยท่ี 4 ผลงาน/ชน้ิ งาน/ความสำเรจ็ ของผู้เรยี น ๑. ผลการนำเสนองานกิจกรรมท่ี 3 ๒. ผลการทำกจิ กรรม และแบบฝกึ หัดหนว่ ยท่ี 3 ๓. คะแนนแบบทดสอบหลงั เรยี น (Post-test) หน่วยที่ 3
แหล่งเรียนรเู้ พิ่มเติม 1. หอ้ งสมดุ 2. Internet เอกสารอา้ งอิง ๑. หนังสือเรียนวชิ าภาษาไทยพืน้ ฐาน รหัสวิชา ๒0000–๑๑o1 บริษทั ศนู ยห์ นงั สอื เมืองไทย ๒. เว็บไซต์และส่ือสิ่งพมิ พ์ที่เกยี่ วข้องกับเน้อื หาบทเรยี น
ใบงานกจิ กรรม 3.1 เรื่อง การพูดสื่อสารในชวี ติ ประจำวนั การส่ือสารในสังคมและในงานอาชพี
โครงการสอน ช่อื วชิ า ภาษาไทยพื้นฐาน รหัสวชิ า 20000-1101 ช่ือหนว่ ย การเขยี นในงานอาชีพ จำนวนคาบสอน 2 คาบ : สัปดาห์ หนว่ ยท่ี 4 การเขียนในงานอาชีพแบบบูรณาการดา้ นหลกั ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง เร่อื ง ความพอประมาณ จำนวน 4 ชวั่ โมง เร่อื ง เขียนในงานอาชีพแบบบรู ณาการด้านหลกั ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เรือ่ ง ความพอเพียง 4.1 การเขยี นสรุปความ 4.๒ การเขยี นบรรยาย 4.๓ การเขียนอธิบาย 4.4 ลิขิตภาษาด้วยเรยี งความ เร่ือง การดำเนนิ ชีวติ แบบเศรษฐกจิ พอเพียง จุดประสงค์การสอน รายการสอน ๑. เขยี นสรุปความได้ การเขยี นในงานอาชพี แบบบูรณาการด้านหลัก ๒. เขียนบรรยายได้ ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียง เร่อื ง ความพอประมาณ ๓. เขียนอธบิ ายได้ 4.1 การเขียนสรปุ ความ 4. ลิขิตภาษาดว้ ยเรยี งความ เรอ่ื ง ความพอประมาณได้ 4.๒ การเขยี นบรรยาย 4.๓ การเขียนอธิบาย 4.4 ลิขติ ภาษาด้วยเรยี งความ เร่ือง ความพอประมาณ วธิ ีการสอน 1. บรรยาย /ถามตอบ/ ชักถาม แลกเปลยี่ นความคดิ เหน็ 2. ทำแบบฝกึ หัด / ใบงาน และคอยแนะนำนกั เรยี นขณะปฏิบัติงาน สอ่ื การสอน หนังสอื อ้างอิง ๑. แบบทดสอบกอ่ นเรยี น-หลังเรียน ๕. 1. หนังสอื เรียนวชิ าภาษาไทยพ้นื ฐาน รหสั วิชา ๖. 2000–๑๑o1 บรษิ ทั ศนู ย์หนังสอื เมืองไทย 2. แบบฝกึ หัดหนว่ ยท่ี 4 3. ใบงานกิจกรรมท่ี 4 ๒. เวบ็ ไซต์และสอ่ื สงิ่ พมิ พท์ เี่ ก่ยี วข้องกบั เน้อื หา 4. สือ่ การสอน power Point ๗. บทเรียน 5. Google Classroom 6 แบบประเมนิ กิจกรรมและแบบประเมินคณุ ธรรม จริยธรรม การประเมิน คะแนนจากการทำแบบทดสอบก่อนเรยี น – หลงั เรียน แบบประเมนิ ผลใบงาน แบบฝกึ หัด แบบประเมนิ กิจกรรมและแบบประเมนิ พฤติกรรมระหว่างการเรยี น การปฏบิ ัตงิ าน และคะแนนจากแบบทดสอบวัด ผลสมั ฤทธ์ทิ างการเรยี น
แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 4 หนว่ ยที่ 4 ช่อื วิชา ภาษาไทยพ้นื ฐาน รหสั ๒0๐๐๐–๑๑๐1 สอนคร้งั ท่ี 8-9 ช่ือหน่วย การเขยี นในงานอาชีพ จำนวน 4 คาบ ช่อื เรื่อง การเขียนในงานอาชพี แบบบูรณาการดา้ นหลกั ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เรอ่ื ง ความพอประมาณ หวั ขอ้ เร่ือง 4.1 การเขยี นสรุปความ 4.๒ การเขยี นบรรยาย 4.๓ การเขยี นอธบิ าย 4.4 ลิขิตภาษาดว้ ยเรยี งความ เรือ่ ง ความพอประมาณ แนวคดิ สำคญั การเขยี นเป็นระบบการส่ือสารหรือบันทึกถ่ายทอดภาษาเพอื่ แสดงออกซง่ึ ความรู้ ความคดิ ความรสู้ ึก และ อารมณ์ โดยใชต้ วั หนังสอื และเคร่ืองหมายต่าง ๆ เป็นสื่อ ดงั นั้น การเขียนจงึ เป็นทกั ษะการใชภ้ าษาแทนคำพูด ท่สี ามารถสอื่ ความหมายให้เป็นหลกั ฐานปรากฏในงานอาชีพได้นานกวา่ การพดู การเขียนสรุปความ การเขียน บรรยาย การเขียนอธบิ ายความ จึงเปน็ การเขยี นเพือ่ ใหผ้ อู้ ่านเข้าใจตรงตามความมุ่งหมายของผเู้ ขียน การเขียน จะประสบความสำเรจ็ มากน้อยเพียงใดสว่ นสำคญั ข้นึ อยู่กบั ว่าผ้เู ขยี นมีทกั ษะในการใชภ้ าษาเขยี นได้ดีเพยี งใด ทกั ษะการใช้ภาษาเขยี น ต้องอาศยั พนื้ ฐานความรู้จากการฟงั การพดู และการอ่าน เพราะจากพนื้ ฐานดังกล่าว จะทำให้มีความรู้ มขี ้อมูล และมปี ระสบการณ์เพยี งพอท่ีจะให้เกิดความคดิ ความสามารถในการถ่ายทอด ความคิดออกมาไดอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพ\\ การบูรณาการเศรษฐกิจพอเพียง เศรษฐกิจพอเพียง คือ หลักการดำเนินชีวิตที่จริงแท้ที่สุด กรอบแนวคิดของหลักปรัชญามุ่งเน้น ความมั่นคงและความย่ังยืนของการพัฒนา อันมีคุณลักษณะที่สำคัญ คือ สามารถประยุกต์ใช้ในทุกระดับ ตลอดจนให้ความสำคญั กบั คำวา่ ความพอเพียง ทีป่ ระกอบด้วย ความพอประมาณ ความมีเหตุมีผล มภี ูมคิ ุ้มกัน ที่ดีในตัวภายใต้เง่ือนไขของการตัดสินใจและการดำเนินกิจกรรมท่ีต้องอาศัยเง่ือนไขความรู้และเงื่อนไข คุณธรรม” สมรรถนะยอ่ ย ๑. แสดงความรู้เกย่ี วกบั การเขียนในงานอาชพี ๒. เขยี นสรุปความ เขียนบรรยาย และเขียนอธิบายตามหลักการ 3. เขียนเรยี งความในหัวข้อเร่ือง การดำเนนิ ชีวิตแบบเศรษฐกิจพอเพยี ง
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187