Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการสอน วิชาสุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรียนที่ 2

แผนการสอน วิชาสุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรียนที่ 2

Published by a.maynoy, 2018-10-24 04:18:59

Description: Health and hygeine 3

Keywords: แผนการสอน

Search

Read the Text Version

การออกแบบแผนการจัดการเรยี นรู้ รายวชิ า สุขศกึ ษา รหสั วชิ า พ 13101ระดับชัน้ ประถมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรียนที่ 2 ปกี ารศกึ ษา 2561 เวลาทงั้ หมด 20 ชั่วโมง จัดทาโดย นางสาวอรณชั ชา เจรญิ สุข ตาแหนง่ พนักงานราชการ โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 ตาบลช่างเคง่ิ อาเภอแม่แจ่ม จงั หวดั เชยี งใหม่ สานักบริหารงานการศึกษาพเิ ศษ สานักงานการศึกษาข้ันพนื้ ฐาน กระทรวงศึกษาธิการ

แผนการจัดการเรยี นรู้ จานวน 1 ช่ัวโมง จานวน 4 ช่วั โมงแผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 1 เรอื่ ง โครงสร้างของฟนัหนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 1 เรอ่ื ง การดแู ลฟนั ของเรากล่มุ สาระการเรียนรู้ สขุ ศกึ ษาและพลศึกษาช้นั ประถมศึกษาปีท่ี 3 โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31ครูผูส้ อน นางสาวอรณัชชา เจรญิ สุข1. สาระสาคัญ ฟันเปน็ อวยั วะในชอ่ งปากท่มี ีความสาคัญ ฟันแตล่ ะซสี่ ามารถแบง่ ออกเปน็ ส่วนต่าง ๆ2. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ช้ีวัดชั้นปี/ผลการเรยี นรู/้ เปา้ หมายการเรยี นรู้ มาตรฐาน พ 4.1 เห็นคุณค่าและมที ักษะในการสรา้ งเสรมิ สขุ ภาพ การดารงสุขภาพ การป้องกนั โรคและการสร้างเสริมสมรรถภาพเพื่อสุขภาพ ตัวชีว้ ดั พ 4.1 ป.3/4 แสดงการแปรงฟันให้สะอาดอย่างถกู วิธี จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. อธิบายโครงสร้างของฟนั ได้3. สาระการเรียนรู้ 3.1 เนื้อหาสาระหลัก : Knowledge 1) รู้โครงสร้างของฟัน 3.2 ทักษะ/กระบวนการ : Process 1) นักเรยี นสามารถบอกและอธิบายโครงสร้างของฟนั ได้ถูกตอ้ ง 3.3 คุณลักษณะทพ่ี ึงประสงค์ : Attitude 1) มีวนิ ัย 2) ใฝเ่ รยี นรู้ 3) ตรงตอ่ เวลา4. สมรรถนะสาคัญของนกั เรยี น 4.1 ความสามารถในการคิด 1) ทกั ษะการระบุ 2) ทกั ษะการนาความรู้ไปใช้ 4.2 ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ิต5. คุณลักษณะของวิชา - ความรบั ผิดชอบ - ความรอบคอบ - กระบวนการกลุ่ม

6. คุณลกั ษณะที่พึงประสงค์ 1. มีวินยั 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มีความรบั ผิดชอบ7. ชน้ิ งาน/ภาระงาน - ใบงานที่ 1.1 เร่ือง โครงสร้างของฟนั8. กจิ กรรมการเรยี นรู้ 1. ขน้ั นา 1) นกั เรยี นตอบคาถามกระตุ้นความคดิ (คาถาม : ฟนั มคี วามสาคญั อยา่ งไร) 2) ครูผู้สอนนาแบบจาลองฟันมาให้นักเรียนดู แล้วถามนักเรียนว่า สังเกตเห็นอะไรในแบบจาลองฟนั บ้าง 3) ครผู ูส้ อนเชอ่ื มโยงเขา้ สู่บทเรียนเก่ียวกับโครงสรา้ งของฟัน 2. ข้ันสอน 1) ครูแบ่งนักเรียนเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 4 คน คละกันตามความ สามารถ คือ เก่ง ปานกลางค่อนข้างเก่ง ปานกลางค่อนข้างอ่อน และอ่อน เรียกว่า กลุ่มบ้าน แล้วให้สมาชิกแต่ละคนเลือกหมายเลขประจาตัว ตง้ั แต่หมายเลข 1-4 2) สมาชกิ ที่มีหมายเลขเดยี วกนั มารวมกันเป็นกลุ่มใหม่ เรียกว่า กลุ่มผู้เชี่ยวชาญ แล้วร่วมกันศึกษาความรู้เรื่อง โครงสร้าง ของฟัน จากหนังสือเรียนหรือบทเรียนคอมพิวเตอร์ Smart L.O. LMS Liteตามประเดน็ ทกี่ าหนด ดงั น้ี - กลุ่มหมายเลข 1 ศึกษาความรเู้ รื่อง โครงสร้างของฟัน : ชน้ั เคลอื บฟนั - กล่มุ หมายเลข 2 ศึกษาความรเู้ ร่ือง โครงสร้างของฟัน : ชน้ั เนอ้ื ฟัน - กลมุ่ หมายเลข 3 ศึกษาความรูเ้ ร่อื ง โครงสร้างของฟนั : ช้ันโพรงประสาท - กลุ่มหมายเลข 4 ศึกษาความรเู้ รื่อง โครงสร้างของฟัน : รากฟนั 3) นักเรียนกลุ่มผู้เช่ียวชาญร่วมกันแสดงความคิดเห็น หรืออภิปรายในประเด็นความรู้แลว้ ซกั ถามข้อสงสยั จนไดค้ าตอบ ท่ีถกู ตอ้ งและเกดิ ความรคู้ วามเขา้ ใจ จากน้ันใหร้ ่วมกนั สรปุ ประเด็นความรู้ 4) นักเรยี นกลุ่มผเู้ ชีย่ วชาญแตล่ ะกลุม่ กลบั เขา้ สกู่ ลมุ่ บา้ น แล้วนาความรู้เกย่ี วกบั โครงสร้างฟันทศ่ี กึ ษามาเล่าให้เพ่อื นในกล่มุ บ้านฟังจนเกิดความเข้าใจท่ีตรงกนั และสรปุ สาระสาคัญจดบันทึกลงในสมุด 5) นักเรียนตอบคาถามกระตุน้ ความคดิ (คาถาม : เพราะเหตุใด ถา้ นกั เรียนดื่มน้าเย็นแล้วเกิดอาการเสียวฟัน) (ตอบ เนอ้ื ฟันอาจถกู ทาลาย) 6) ครูผู้สอนให้นักเรียนแต่ละคนทาใบงานท่ี 1.1 เรื่อง โครงสร้างของฟัน เสร็จแล้วนาส่งครูตรวจ 3. ขั้นสรปุ 1) นักเรยี นและครูสอนรว่ มกันสรปุ ความร้เู ร่อื ง โครงสรา้ งของฟนั

9. ส่ือการเรียนการสอน / แหล่งเรียนรู้ 9.1 สือ่ การเรยี นรู้ 1) หนังสือเรยี น สุขศึกษาและพลศึกษา ป.3 2) บทเรียนคอมพิวเตอร์ Smart L.O. LMS Lite สุขศกึ ษา ป.3 บรษิ ทั เพลยเ์ อเบลิ จากัด 3) แบบจาลองฟนั 4) ใบงานที่ 1.1 เร่อื ง โครงสร้างของฟนั 9.2 แหลง่ การเรียนรู้ 1) โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 3110. การวัดผลและประเมินผล วิธีการ เคร่อื งมอื เกณฑ์ตรวจแบบทดสอบกอ่ นเรียน หน่วย แบบทดสอบกอ่ นเรียน หนว่ ยการเรยี นรู้ (ประเมินตามสภาพจริง)การเรยี นรู้ที่ 1 ที่ 1ตรวจใบงานท่ี 1.1 ใบงานท่ี 1.1 ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์สงั เกตพฤตกิ รรมการทางาน แบบสังเกตพฤติกรรมการทางาน ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์รายบุคคล รายบคุ คลสังเกตพฤตกิ รรมการทางานกลมุ่ แบบสงั เกตพฤติกรรมการทางานกลมุ่ ระดับคุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์สงั เกตความมวี ินยั ใฝ่เรยี นรู้ และตรง แบบประเมินคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ ระดับคุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ต่อเวลา

ใบงานท่ี 1.1 โครงสร้างของฟันคาชแี้ จง ให้นักเรียนบอกส่วนประกอบของฟันตามหมายเลขท่ีกาหนด   

ใบงานที่ เฉลย1.1 โครงสรา้ งของฟันคาชแี้ จง ให้นักเรียนบอกสว่ นประกอบของฟันตามหมายเลขท่ีกาหนด  ชัน้ เคลือบฟัน เป็นสว่ นช้ันนอกสดุ ของตวั ฟนั และ เปน็ ส่วนท่ี แข็งทส่ี ุด ทาหนา้ ทปี่ ้องกันเน้ือฟันไม่ให้ไดร้ บั อนั ตรายจาก การบดเคี้ยวอาหาร  ช้ันเน้อื ฟนั เปน็ สว่ นทอี่ ยู่ถดั จากชั้นเคลือบฟัน   ชั้นโพรงประสาท อยู่ชัน้ ในตัวฟนั มหี ลอด รากฟนั เปน็ สว่ นทตี่ อ่ จากตัวฟนั เขา้ มาในเลอื ดท่อนา้ เล้ยี ง และมีเสน้ ประสาทไว้คอยรบั เหงือกฝงั ติดแน่นกับกระดกู ขากรรไกร โดยมีความรสู้ ึกเจ็บปวดและความรู้สกึ เสียวฟัน เหงือกเปน็ เนื้อเยื่อสีชมพู หมุ้ กระดูกขากรรไกร

แผนการจัดการเรยี นรู้ จานวน 1 ชัว่ โมง จานวน 4 ช่วั โมงแผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 2 เรอื่ ง หนา้ ทีข่ องฟนั และการดูแลฟนัหน่วยการเรยี นรู้ท่ี 1 เรือ่ ง การดูแลฟันของเรากลุ่มสาระการเรียนรู้ สขุ ศกึ ษาและพลศึกษาชั้นประถมศึกษาปที ่ี 3 โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31ครผู ูส้ อน นางสาวอรณชั ชา เจรญิ สขุ1. สาระสาคัญ ฟันเปน็ อวยั วะที่ใชใ้ นการบดเคี้ยวอาหาร ดังน้นั เราควรดแู ลรกั ษาฟนั ให้แข็งแรง2. มาตรฐานการเรียนร้/ู ตัวชี้วัดชน้ั ปี/ผลการเรยี นร/ู้ เป้าหมายการเรยี นรู้ มาตรฐาน พ 4.1 เหน็ คุณค่าและมีทักษะในการสรา้ งเสริมสุขภาพ การดารงสขุ ภาพ การป้องกันโรคและการสรา้ งเสริมสมรรถภาพเพ่ือสุขภาพ ตัวชว้ี ดั พ 4.1 ป.3/4 แสดงการแปรงฟนั ใหส้ ะอาดอยา่ งถูกวิธี จุดประสงค์การเรยี นรู้ 1. ผู้เรียนสามารถบอกหน้าที่ของฟันได้ 2. ผเู้ รยี นสามารถบอกวิธีการดแู ลรกั ษาฟนั ได้สาระการเรยี นรู้ 3.1 เนื้อหาสาระหลัก : Knowledge 1) หน้าทข่ี องฟนั 2) วิธีการดูแลรกั ษาฟนั 3.2 ทักษะ/กระบวนการ : Process 1) นกั เรยี นสามารถบอกหน้าท่ขี องฟันได้ถูกต้อง 2) นักเรยี นสามารถบอกวธิ ีการดูแลฟันได้ถูกต้อง 3.3 คุณลกั ษณะที่พงึ ประสงค์ : Attitude 1) มีวนิ ัย 2) ใฝ่เรยี นรู้ 3) มีความรบั ผดิ ชอบ4. สมรรถนะสาคัญของผูเ้ รียน 4.1 ความสามารถในการคิด 1) ทักษะการระบุ 2) ทกั ษะการนาความร้ไู ปใช้ 4.2 ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ติ

5. คณุ ลกั ษณะของวชิ า - ความรับผดิ ชอบ - ความรอบคอบ - กระบวนการกลมุ่6. คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวนิ ัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. ตรงตอ่ เวลา7. ช้ินงาน/ภาระงาน 1. ใบงานที่ 2.1 เรื่อง หนา้ ท่ีของฟนั8. กจิ กรรมการเรยี นรู้ 1. ขั้นสอน 1) ครูผู้สอนให้นักเรียนจับคู่กับเพื่อนแล้วผลัดกันตรวจฟัน พร้อมกับกล่าวชมเชยนักเรียนที่ฟนั สวย 2) ครผู ้สู อนซกั ถามนกั เรียนเกี่ยวกบั หนา้ ทข่ี องฟัน 2. ขนั้ สอน 1) นักเรียนรวมกลุ่มเดิม (จากแผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1) แล้วให้แต่ละกลุ่มจับคู่กันเป็น 2 คู่ให้แต่ละคู่ศึกษาความรู้เก่ียวกับฟัน จากหนังสือเรียนหรือบทเรียนคอมพิวเตอร์ Smart L.O. LMS Liteตามประเดน็ ทก่ี าหนด ดังน้ี - ค่ทู ี่ 1 ศกึ ษาความรเู้ รื่อง หน้าทขี่ องฟัน - คทู่ ี่ 2 ศกึ ษาความรูเ้ รื่อง การดูแลรักษาฟันแล้วบันทกึ ความร้ทู ี่ได้ลงในแบบบนั ทกึ การอ่าน 2) นกั เรยี นตอบคาถามกระตุ้นความคิด (คาถาม : เพราะเหตใุ ด เราจึงตอ้ งดูแลฟนั ของเราให้แข็งแรง สะอาด และสวยงามอยู่เสมอ) 3. ข้นั สรปุ 1) นักเรียนแต่ละคู่ผลัดกันอธิบายความรู้ท่ีได้จากการศึกษาให้เพื่อนอีกคู่หน่ึงภายในกลุ่มฟังผลดั กันซักถามข้อสงสัย จนทกุ คนมีความรูค้ วามเขา้ ใจตรงกัน 2) นักเรียนตอบคาถามกระตุ้นความคิด (คาถาม : เพราะเหตุใด ยาสีฟันส่วนใหญ่จึงมีสว่ นผสมของฟลอู อไรด์) (ตอบ : ยาสฟี นั ที่ผสมฟลอู อไรด์จะชว่ ยปอ้ งกนั ฟันผ)ุ 3) ครผู ู้สอนใหน้ กั เรียนแต่ละคนทาใบงานที่ 2.1 เรือ่ ง หน้าที่ของฟัน

9. สอื่ การเรยี นการสอน/แหล่งเรยี นรู้ 1. สือ่ การเรียนรู้ 1) หนงั สือเรียน สุขศึกษาและพลศึกษา ป.3 2) แบบวัดและบันทึกผลการเรยี นรู้ สุขศกึ ษาและพลศกึ ษา ป.3 3) บทเรยี นคอมพวิ เตอร์ Smart L.O. LMS Lite สุขศึกษา ป.3 บริษทั เพลยเ์ อเบิล จากัด 4) ใบงานท่ี 2.1 เรือ่ ง หนา้ ที่ของฟัน 5) ใบงานท่ี 2.2 เรือ่ ง สขุ ภาพฟนั ของฉนั 2. แหลง่ เรียนรู้ 1) โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 3110. การวดั และประเมนิ ผล วธิ ีการ เครอื่ งมือ เกณฑ์ตรวจใบงานที่ 2.1ตรวจใบงานท่ี 2.2 ใบงานท่ี 2.1 ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ตรวจแบบบันทกึ การอา่ นประเมินการนาเสนอผลงาน ใบงานที่ 2.2 ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์สงั เกตพฤติกรรมการทางานรายบุคคล แบบบนั ทึกการอ่าน ระดบั คุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลมุ่สังเกตความมีวนิ ัย ใฝ่เรียนรู้ และตรงต่อ แบบประเมนิ การนาเสนอผลงาน ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์เวลา แบบสังเกตพฤติกรรมการทางาน ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ รายบคุ คล แบบสงั เกตพฤติกรรมการทางานกลุม่ ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ แบบประเมนิ คณุ ลักษณะอันพึง ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ ประสงค์

ใบงานท่ี2.1 หน้าท่ีของฟันคาชแี้ จง ใหน้ ักเรยี นบอกชอื่ และหน้าท่ีของฟนั ตามหมายเลขที่กาหนด    

ใบงานที่ เฉลย2.1 หน้าที่ของฟันคาช้แี จง ให้นกั เรยี นบอกชื่อและหนา้ ที่ของฟันตามหมายเลขท่ีกาหนด ฟันกรามน้อย ใชข้ บอาหารให้ ฟันหนา้ หรอื ฟนั ตดั ใช้ฉีกหรอื กดัแตก อาหาร     ฟันกราม ใช้บดอาหารให้ ฟันเขย้ี ว ใชฉ้ กี หรือดงึ อาหารละเอยี ด

ใบงานที่ 2.2 สขุ ภาพฟันของฉันคาช้แี จง ให้นักเรยี นส่องกระจกเงา แล้ววาดภาพฟันของตนเอง จากนนั้ ให้บอกชื่อฟันแต่ละซ่ี และนาไป เปรยี บเทียบกับเพื่อนพร้อมกับตอบคาถาม1.ฟันของนักเรียนมที ้ังหมด ซ่ี2.เมื่อเปรียบเทยี บกับเพ่อื นแล้ว ฟนั ของนักเรยี น มีมากกวา่ จานวน ซี่ มนี อ้ ยกวา่ จานวน ซ่ี3.นกั เรยี นมฟี ันผหุ รือไม่  มี  ไม่มี4.ฟันผุของนักเรียน เกดิ จากสาเหตใุ ด............................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................5.นักเรยี นจะมีแนวทางในการดูแลรกั ษาฟันอย่างไร.......................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................

แผนการจดั การเรียนรู้ จานวน 1 ชั่วโมง จานวน 4 ชั่วโมงแผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 3 เรอื่ งอุปกรณ์ในการแปรงฟนั และการแปรงฟันอยา่ งถูกวธิ ีหนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี 1 เรอ่ื ง การดูแลฟนั ของเรากลุ่มสาระการเรยี นรู้ สุขศึกษาและพลศึกษาช้ันประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31ครผู สู้ อน นางสาวอรณัชชา เจริญสขุ1. สาระสาคญั การแปรฟันใหส้ ะอาดอย่างถูกวิธี ควรเรมิ่ จากการเลอื กใชอ้ ุปกรณ์ในการแปรฟันที่ถูกต้อง ซึง่ จะทาให้ฟนั แขง็ แร และมีสุขภาพฟันดี2. มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตัวช้ีวัดชัน้ ปี/ผลการเรียนรู/้ เป้าหมายการเรยี นรู้ มาตรฐาน พ 4.1 เห็นคุณค่าและมีทักษะในการสรา้ งเสริมสุขภาพ การดารงสขุ ภาพ การป้องกนั โรคและการสร้างเสรมิ สมรรถภาพเพ่ือสุขภาพ ตวั ชีว้ ดั พ 4.1 ป.3/4 แสดงการแปรงฟนั ใหส้ ะอาดอย่างถูกวธิ ี จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. นกั เรียนรู้จักเลือกใช้อุปกรณใ์ นการแปรฟันได้ถกู ต้อง 2. นกั เรียนรกู้ ารแปรฟนั ไดอ้ ยา่ งถูกวธิ ี3. สาระการเรยี นรู้ 3.1 เน้ือหาสาระหลกั : Knowledge 1) การเลอื กใชอ้ ุปกรณ์ในการแปรฟัน 2) การแปรฟันอย่างถูกวธิ ี 3.2 ทกั ษะ/กระบวนการ : Process 1) นกั เรียนสามารถเลอื กใชอ้ ุปกรณ์ในการแปรฟันได้ถกู ต้อง 2) นักเรียนสามารถแปรฟนั ให้สะอาดอยา่ งถกู วธิ ี (ครอบคลุมบริเวณเ์ หงือและคอฟัน) 3.3 คุณลักษณะทีพ่ งึ ประสงค์ : Attitude 1) มีวินยั 2) ใฝ่เรยี นรู้ 3) มีความรบั ผดิ ชอบ

4. สมรรถนะสาคัญของผเู้ รียน 4.1 ความสามารถในการคดิ 1) ทักษะการระบุ 2) ทกั ษะการนาความรู้ไปใช้ 4.2 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ติ5. คณุ ลกั ษณะของวชิ า - ความรับผดิ ชอบ - ความรอบคอบ - กระบวนการกล่มุ6. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินยั 2. ใฝเ่ รียนรู้ 3. ตรงต่อเวลา8. กิจกรรมการเรยี นรู้ 1. ขนั้ สอน 1) ครเู ปดิ เพลงแปรงฟนั ให้นักเรยี นฟงั และร้องตาม พร้อมกับ ทาทา่ ทางประกอบ 2) ครูให้นักเรียนเปรียบเทียบวิธีการแปรงฟันของตนเองว่าตรงกับเพลงท่ีครูนามาเปิดให้ฟังหรือไม่ 3) ครูนาอปุ กรณ์ในการแปรงฟัน มาให้นักเรียนดู แล้วอธิบายวิธีการเปลือกแปรงสีฟันและยาสีฟนั ทถี่ ูกต้องใหน้ ักเรยี นเขา้ ใจ 4) นักเรียนตอบคาถามกระตุ้นความคิด (คาถาม : นักเรียนมีวิธีเลือกแปรงสีฟันอย่างไรใหเ้ หมาะสมกบั ช่องปากตนเอง) 2. ขนั้ สอน 1) ครูผู้สอนให้นักเรียนรวมกลุ่มเดิม (จากแผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1) จากนั้นร่วมกันศึกษาความรู้เรื่อง การแปรงฟันอย่างถูกวิธีจากหนังสือเรียนหรือบทเรียนคอมพิวเตอร์ Smart L.O. LMS Lite หรือเอกสารประกอบการสอน ตามประเด็นทก่ี าหนด ดังน้ี o การแปรงฟันบน o การแปรงฟันล่าง o การแปรงฟันบดเคย้ี ว o การแปรงลนิ้ 2) ครูผู้สอนสาธิตการแปรงฟันอย่างถูกวิธีตามประเด็นที่กาหนด โดยใช้แบบจาลองฟันใหน้ กั เรียนดูอยา่ งช้าๆ เพ่ือให้นักเรียนสงั เกตและจดจา 3) ครูสุ่มเรียกนักเรียน 1-2 คน ออกมาสาธิตการแปรงฟันอย่างถูกวิธี โดยใช้แบบจาลองฟันครสู งั เกตการปฏิบตั กิ จิ กรรมของนกั เรยี น พรอ้ มใหค้ าแนะนาหากการปฏิบตั ิของนักเรียนมีข้อบกพร่อง

3. ขนั้ สรุป1) ครูผู้สอนต้ังประเด็นคาถามให้นักเรียนแต่ละกลุ่มช่วยกันหาคาตอบ หรือแสดงความคดิ เห็นร่วมกนั เชน่ (เพราะเหตใุ ด จึงควรเปลยี่ นแปรงสีฟนั ทุก 3-4 เดือน /นักเรียนคิดว่า อุปกรณ์ในการแปรงฟันมีความสาคัญอย่างไร / นักเรียนคิดว่า การแปรงฟันอย่างถูกวิธี ทาให้ฟันสะอาดอย่างท่ัวถึงหรือไม่ จงอธบิ าย /เพราะเหตใุ ด จงึ ควรแปรงลิน้ เบาๆ หลงั แปรงฟนั2) ครผู ู้สอนให้นกั เรียนแต่ละกลุม่ รว่ มกันสรุปข้ันตอนในการแปรงฟันอย่างถูกวิธี และแนะนาใหน้ กั เรียนนาไปประยุกตใ์ ชใ้ นชีวิตประจาวนั3) นักเรียนตอบคาถามกระตุ้นความคิด (คาถาม : เพราะเหตุใด การแปรงฟันตามสุขบัญญัติจึงกาหนดให้แปรงฟันอย่างน้อยวันละ 2 คร้ัง และกาหนดในช่วงเวลาใด) (ตอบ : หลังต่ืนนอนตอนเช้าเพราะขณะหลับจะเกิดการหมักหมมของน้าลาย ซ่ึงเมื่อต่ืนมาอาจมีกล่ินปากจึงควรแปรงฟันหลังต่ืนนอนและก่อนเข้านอน เพราะตลอดวันเรามีการกินอาหาร จึงควรทาความสะอาดฟัน เพ่ือไม่ให้มีเศษอาหารไปหมักหมมขณะหลบั )9. สือ่ การเรยี นการสอน/แหล่งเรยี นรู้1. สือ่ การเรียนรู้1) หนงั สือเรียน สขุ ศึกษาและพลศกึ ษา ป.32) แบบวัดและบันทึกผลการเรียนรู้ สุขศึกษาและพลศึกษา ป.33) บทเรียนคอมพวิ เตอร์ Smart L.O. LMS Lite สขุ ศกึ ษา ป.3 บรษิ ทั เพลยเ์ อเบิล จากัด4) เอกสารประกอบการสอน5) เพลงแปรงฟัน6) แบบจาลองฟัน7) แปรงสีฟัน ยาสีฟัน2. แหลง่ เรียนรู้1) โรงเรียนราชประชานุเคราะห์10. การวัดและประเมินผลวธิ กี าร เครอื่ งมือ เกณฑ์สงั เกตพฤติกรรมการทางานรายบุคคล แบบสงั เกตพฤติกรรมการทางาน ระดบั คุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ รายบุคคลสังเกตพฤติกรรมการทางานกลมุ่ แบบสังเกตพฤติกรรมการทางานกล่มุ ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์สงั เกตความมีวนิ ยั ใฝเ่ รยี นรู้ และตรงต่อเวลา แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์

เอกสารประกอบการสอน การแปรงฟันอย่างถูกวธิ ีการแปรงฟนั บน การแปรงฟนั ล่าง1. ฟันกรามบนด้านชิดแกม้ ปดั ขนแปรงลงท้ังดา้ นขวา 1. ฟันกรามลา่ งดา้ นชดิ แก้ม ปัดขนแปรงขน้ึ ท้ังดา้ นขวา และดา้ นซ้าย และดา้ นซ้าย2. ฟันกรามบนด้านชิดลนิ้ ปดั ขนแปรงลงทง้ั ด้านขวา 2. ฟนั กรามลา่ งดา้ นชิดลิ้น ปัดขนแปรงข้ึนทงั้ ด้านขวา และด้านซ้าย และด้านซ้าย3. ฟนั หน้าบนดา้ นนอกและดา้ นใน ปดั ขนแปรงลง 3. ฟนั หน้าล่างดา้ นหนา้ และด้านใน ปัดขนแปรงขน้ึทมี่ า : ชูชาติ รอดถาวร และภาสกร บญุ นิยม. [ม.ป.ป.]. หนงั สือเรียน รายวิชาพื้นฐาน สขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา ป.3. พมิ พ์คร้งั ท่ี 4. กรุงเทพมหานคร : อักษรเจรญิ ทัศน.์

การแปรงฟนั ดา้ นบดเคยี้ ว การแปรงล้ิน1. ฟนั ด้านบดเคย้ี วดา้ นบน แปรงถูไปถูมาเบาๆ การแปรงลิ้น ปดั ขนแปรงออกจากโคนลน้ิ ไปท่ปี ลายล้นิ2. ฟนั ดา้ นบดเคย้ี วด้านลา่ ง แปรงถไู ปถูมาเบาๆท่ีมา : ชูชาติ รอดถาวร และภาสกร บญุ นิยม. [ม.ป.ป.]. หนงั สอื เรยี น รายวิชาพื้นฐาน สขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา ป.3. พิมพค์ รง้ั ที่ 4. กรุงเทพมหานคร : อกั ษรเจรญิ ทศั น.์

เพลงแปรงฟัน เพลงแปรงฟนั เริม่ ท่ี...แปรงฟนั บน หงายแปรงข้ึน ขยบั ๆ ปัดลง ฟันบนขวา ดา้ นนอก ฟนั หน้าบน ดา้ นนอก ฟนั บนซา้ ย ดา้ นนอก ฟนั บนซ้าย ดา้ นใน ฟนั หนา้ บน ดา้ นใน ฟนั บนขวา ด้านใน ต่อไป แปรงฟันล่างควา่ แปรงลง แลว้ ขยับๆ ปดั ข้ึน ฟนั ลา่ งขวา ดา้ นนอก ฟนั หนา้ ลา่ ง ด้านนอก ฟันลา่ งซา้ ย ด้านนอก ฟนั ล่างซ้าย ด้านใน ฟันหน้าล่าง ดา้ นใน ฟันล่างขวา ด้านใน ตอ่ ไปเราแปรงฟันด้านบดเค้ยี วถไู ปถูมา ด้านลา่ งขวา ดา้ นลา่ งซา้ ย ด้านบนซา้ ย ด้านบนขวา แปรงลิ้น เท่านเี้ รากแ็ ปรงฟัน ได้สะอาดทวั่ ปากแลว้ แปรงอย่างนี้ ทกุ วนั พวกเราจะมี “รอยย้มิ สดใส เด็กไทยฟันดี”ทม่ี า : http://dental.anamai.moph.go.th/oralhealth/TSound/e10.

แผนการจัดการเรียนรู้ จานวน 1 ช่ัวโมง จานวน 4 ช่ัวโมงแผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 4 เรอื่ ง การแปรฟนั ใหส้ ะอาดอย่างถกู วธิ ีหน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 1 เร่อื ง การดแู ลฟนั ของเรากล่มุ สาระการเรียนรู้ สุขศกึ ษาและพลศกึ ษาชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี 3 โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31ครผู สู้ อน นางสาวอรณัชชา เจริญสขุ1. สาระสาคญั การแปรงฟนั ให้สะอาดอยา่ งถกู วธิ ี จะช่วยทาให้ฟันของเราแขง็ แรงและมสี ุขภาพช่องปากที่ดี2. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ช้ีวัดชั้นป/ี ผลการเรยี นร/ู้ เป้าหมายการเรยี นรู้ มาตรฐาน พ 4.1 เห็นคุณคา่ และมีทักษะในการสร้างเสรมิ สขุ ภาพ การดารงสขุ ภาพ การป้องกันโรคและการสรา้ งเสรมิ สมรรถภาพเพ่ือสขุ ภาพ ตัวชี้วดั พ 4.1 ป.3/4 แสดงการแปรงฟนั ให้สะอาดอย่างถกู วิธี จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 1. นักเรยี นสามารถแปรฟนั ให้สะอาดอยา่ งถูกวธิ ี3. สาระการเรยี นรู้ 3.1 เน้อื หาสาระหลัก : Knowledge 1) การแปรงฟันใหส้ ะอาดอย่างถกู วธิ ี (ครอบคลมุ บรเิ วณขอบเหงือกและคอฟัน) 3.2 ทักษะ/กระบวนการ : Process 1) นักเรียนสามารถปฏบิ ตั กิ ารแปรฟนั ให้สะอาดอยา่ งถกู วิธไี ดถ้ ูกต้อง 3.3 คณุ ลกั ษณะที่พงึ ประสงค์ : Attitude 1) มีวินัย 2) ใฝเ่ รยี นรู้ 3) มีความรับผดิ ชอบ4. สมรรถนะสาคัญของผเู้ รียน 4.1 ความสามารถในการคิด 1) ทักษะการระบุ 2) ทักษะการนาความรู้ไปใช้ 4.2 ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ติ

5. คณุ ลักษณะของวชิ า - ความรับผดิ ชอบ - ความรอบคอบ - กระบวนการกลุ่ม6. คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 1. มีวนิ ัย 2. ใฝ่เรยี นรู้ 3. ตรงต่อเวลา7. ช้นิ งาน/ภาระงาน 1. ใบงานท่ี 4.1 การแปรฟนั ให้สะอาดอยา่ งถกู วธิ ี8. กจิ กรรมการเรยี นรู้ 1. ข้ันนา 1) ครผู สู้ อนและนกั เรยี นร่วมกันทบทวนความรู้เร่อื ง การแปรงฟนั อย่างถูกวิธี โดยสุ่มนักเรียน1-2 คน สาธิตการแปรงฟันอยา่ งถูกวิธีโดยใชแ้ บบจาลองฟันหนา้ ช้นั เรยี น 2) นกั เรยี นตอบคาถามกระตนุ้ ความคิด (ถ้าเราแปรงฟันไม่ถกู วิธี จะเกดิ ผลเสียอย่างไร) 2. ขน้ั สอน 1) ให้นักเรียนรวมกลุ่มเดิม (จากแผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 1) แล้วร่วมกันทบทวนและศึกษาความรู้เพิ่มเติมเร่ือง การแปรงฟันอย่างถูกวิธี จากหนังสือเรียน หรือบทเรียนคอมพิวเตอร์ Smart L.O. LMSLite 2) ครูผู้สอนให้ความรู้นักเรียนเกี่ยวกับการแปรฟันให้สะอาดอย่างถูกวิธี และสาธิตการแปรฟันให้สะอาดอยา่ งถกู วิธี ทีละขนั้ ตอนให้นักเรียน (ใช้แบบจาลองฟนั ในการสาธติ การแปรฟนั ) ดังน้ี o การแปรงฟันบน o การแปรงฟันล่าง o การแปรงฟนั บดเค้ียว o การแปรงล้ิน 3) ให้นักเรียนในแต่ละกลุ่มจับคู่กัน แล้วฝึกการแปรงฟันอย่างถูกวิธี โดยใช้แบบจาลองฟันตามแบบทค่ี รสู าธิต 4) ให้นักเรียนแต่ละคนฝึกแปรงฟันอย่างถูกวิธีโดยไม่มีแบบ โดยครูผู้สอนสังเกตการปฏิบัติกิจกรรมของนกั เรยี น พร้อมใหค้ าแนะนาหากการปฏิบัตขิ องนักเรียนมีข้อบกพรอ่ ง 6) ครูมอบหมายให้นักเรียนจับคู่กัน แล้วสาธิตการแปรงฟันตามวิธีที่เรียนมา แล้วมาทดสอบกับครู โดยใหค้ รอบคลมุ ประเด็นตามท่กี าหนด ดงั น้ี o การแปรงฟนั บน o การแปรงฟนั ลา่ ง o การแปรงฟันบดเค้ียว o การแปรงลิน้ 3. ขัน้ สรุป 1) ครผู สู้ อนแจกเม็ดสยี อ้ มฟนั ใหน้ กั เรยี นเค้ียว จากนั้นให้นักเรยี นแต่ละคตู่ รวจสอบผล ถ้าฟันของนักเรียนมีเม็ดสีติดอยู่มาก แสดงว่าแปรงฟันไม่สะอาด จากนั้นให้นักเรียนหาสาเหตุของการแปรงฟันไม่สะอาด แลว้ ร่วมกันสรปุ ผล

2) ครูผู้สอนและนักเรียนร่วมกันอภิปรายว่า เพราะเหตุใด เราจึงต้องดูแลรักษาความสะอาดฟัน เพือ่ ใหน้ ักเรียนเห็นความสาคญั และตระหนักในการรักษาสุขภาพฟนั9. ส่อื การเรียนการสอน/แหลง่ เรยี นรู้ 1. สือ่ การเรยี นรู้ 1) หนงั สอื เรียน สุขศึกษาและพลศกึ ษา ป.3 2) บทเรยี นคอมพิวเตอร์ Smart L.O. LMS Lite สขุ ศกึ ษา ป.3 บริษัท เพลยเ์ อเบลิ จากัด 3) แบบจาลองฟัน 4) แปรงสฟี ัน ยาสีฟัน 5) เมด็ สียอ้ มฟนั 2. แหล่งเรียนรู้ 1) โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 3110. การวัดและประเมนิ ผล วธิ ีการ เครือ่ งมือ เกณฑ์ประเมนิ การนาเสนอผลงาน แบบประเมินการนาเสนอผลงาน ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์สงั เกตพฤติกรรมการทางานรายบุคคล แบบสังเกตพฤติกรรมการทางาน ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ รายบุคคลสงั เกตความมีวินยั ใฝเ่ รยี นรู้ และตรงต่อ แบบประเมนิ คุณลักษณะอนั พึง ระดบั คุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์เวลา ประสงค์ตรวจแบบทดสอบหลังเรยี น หน่วยการ แบบทดสอบหลงั เรียน หน่วยการ รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์เรียนร้ทู ่ี 1 เรียนรทู้ ี่ 1สงั เกตการสาธติ การแปรงฟันอย่างถูกวิธี แบบประเมนิ การสาธิตการแปรงฟัน ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ อยา่ งถูกวธิ ี

การประเมินช้ินงาน/ภาระงาน (รวบยอด) แบบประเมนิ การสาธติ การแปรงฟันอย่างถูกวิธีลาดับท่ี รายการประเมิน ระดบั คะแนน 3211 การแปรงฟันบน2 การแปรงฟันล่าง3 การแปรงฟันบดเค้ียว4 การแปรงลน้ิ รวม ลงชอ่ื ...................................................ผปู้ ระเมิน (นางสาวอรณชั ชา เจริญสุข) ............../.................../................เกณฑ์การใหค้ ะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคุณภาพ ดี = 3 คะแนน พอใช้ = 2 คะแนน ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ ปรบั ปรุง = 1 คะแนน 10 - 12 ดี 6 - 9 พอใช้ ต่ากวา่ 6 ปรับปรงุ

การประเมินช้ินงาน/ภาระงาน (รวบยอด) แบบประเมินการสาธิตการแปรงฟันอย่างถูกวิธีรายการประเมิน คาอธิบายระดับคุณภาพ / ระดบั คะแนน ดี (3) พอใช้ (2) ปรับปรงุ (1)1. การแปรงฟนั บน แสดงการแปรงฟันบนได้ แสดงการแปรงฟนั บนได้ แสดงการแปรงฟนั บน ถกู ต้องทุกขน้ั ตอน ถูกต้องตามข้ันตอน แตม่ ี ไมถ่ ูกตอ้ งตามขน้ั ตอน และ2. การแปรงฟนั ล่าง ครบถ้วน และใชเ้ วลา ข้อบกพร่องบา้ งเล็กน้อย ใช้เวลามากหรอื น้อยเกนิ ไป อยา่ งเหมาะสม และใชเ้ วลาอยา่ ง3. การแปรงฟนั บด เหมาะสม แสดงการแปรงฟันลา่ ง เคยี้ ว แสดงการแปรงฟนั ล่างได้ ไมถ่ ูกต้องตามข้นั ตอน และ ถูกต้องทุกขน้ั ตอน แสดงการแปรงฟันล่างได้ ใชเ้ วลามากหรือน้อยเกินไป4. การแปรงลิน้ ครบถ้วน และใช้เวลา ถกู ต้องตามขั้นตอน แตม่ ี อย่างเหมาะสม ขอ้ บกพร่องบา้ งเล็กน้อย แสดงการแปรงฟันบดเค้ยี ว และใช้เวลาอยา่ ง ไมถ่ ูกตอ้ งตามข้นั ตอน และ แสดงการแปรงฟนั บด เหมาะสม ใชเ้ วลามากหรือน้อยเกินไป เคีย้ วได้ถูกตอ้ งทกุ ข้นั ตอน ครบถ้วน และใช้เวลา แสดงการแปรงฟนั บด แสดงการแปรงลน้ิ ไม่ถกู ต้อง อยา่ งเหมาะสม เค้ยี ว ไดถ้ ูกต้องตาม ตามขนั้ ตอน และใช้เวลามาก ขน้ั ตอน แต่มีข้อบกพรอ่ ง หรอื นอ้ ยเกนิ ไป แสดงการแปรงลน้ิ ได้ บ้างเลก็ นอ้ ย และใช้ ถูกต้องทุกขัน้ ตอน เวลาอย่างเหมาะสม ครบถ้วน และใชเ้ วลา อยา่ งเหมาะสม แสดงการแปรงลิ้นได้ ถกู ต้องตามขนั้ ตอน แตม่ ี ขอ้ บกพร่องบา้ งเล็กนอ้ ย และใชเ้ วลาอย่าง เหมาะสม เกณฑก์ ารตัดสินคณุ ภาพช่วงคะแนน 10 - 12 6-9 ต่ากวา่ 6ระดับคณุ ภาพ ดี พอใช้ ปรบั ปรุง

แบบทดสอบก่อนเรยี น หน่วยการเรียนร้ทู ่ี แบบทดสอบก่อนเรยี น 1คาชีแ้ จง ให้นักเรียนเลือกคาตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว1. ฟันซ่ีใดมีหนา้ ท่กี ัดอาหาร 6. ส่วนใดของฟันท่ีมหี น้าท่ีปอ้ งกันเน้อื ฟันจาก ก. ฟนั กราม การบดเคย้ี วอาหาร ข. ฟนั หน้า ก. รากฟัน ค. ฟันเขย้ี ว ข. เคลือบฟัน ง. ฟนั กรามนอ้ ย ค. ขากรรไกร ง. โพรงประสาท2. เวลาปวดฟนั หรือเสียวฟันเป็นการรับรู้ ความรูส้ กึ 7. การกินอาหารประเภทใดท่ที ้าใหฟ้ ันแขง็ แรงข้นึ ทบี่ รเิ วณใดของโครงสรา้ งของฟัน ก. นม ก. เนอื้ ฟัน ข. กะทิ ข. รากฟนั ค. ข้าว ค. โพรงประสาทฟัน ง. น้าตาล ง. เคลือบฟนั 8. ถา้ เราจะแปรงฟันกรามบน ควรทา้ อย่างไร3. ใครปฏิบตั ติ นในการแปรงฟันไดอ้ ย่างเหมาะสม ก. ปดั ขนแปรงข้ึน ก. นดิ แปรงฟนั หลังด่ืมนา้ เปล่า ข. ปัดขนแปรงลง ข. แนนแปรงฟนั หลังเขา้ ห้องน้า ค. ถไู ปมาบนตวั ฟัน ค. นกแปรงฟนั ทกุ ช่ัวโมง ง. วางแปรง 90 องศากับตวั ฟัน ง. หน่อยแปรงฟันหลังตื่นนอน 9. ถา้ แปรงฟันไม่สะอาดจะเกิดผลเสยี อยา่ งไร4. สงิ่ ใดในยาสฟี ันทีช่ ว่ ยทา้ ใหฟ้ นั แข็งแรง ก. ฟนั ผุ ก. สี ข. ฟันเก ข. กลนิ่ ค. ฟนั คุด ค. รสชาติ ง. ฟนั ขาว ง. ฟลอู อไรด์ 10. ส่ิงใดท่ไี มค่ วรทา้ ในการแปรงฟนั5. แปรงสฟี ันลักษณะใดไมเ่ หมาะสมท่จี ะนา้ มาใช้ ก. แปรงฟันแรงๆ ก. ขนอ่อน ข. แปรงลิ้นหลงั แปรงฟนั ข. ด้ามจบั ถนัดมือ ค. ไมใ่ ชแ้ ปรงสฟี นั ท่ีบานแล้ว ค. หวั แปรงมขี นาดใหญ่ ง. แปรงสฟี นั ไปตามทางของเหงอื ก ง. ขนแปรงทา้ ด้วยไนลอน

แบบทดสอบหลังเรยี น หน่วยการเรียนร้ทู ี่ 1คาชแี้ จง ให้นกั เรยี นเลือกคาตอบท่ีถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว 1. ส่วนใดของฟันท่มี ีหนา้ ท่ีป้องกันเน้อื ฟนั จากการ 6. เวลาปวดฟนั หรอื เสยี วฟันเป็นการรับรคู้ วามรูส้ ึก บดเคีย้ วอาหาร ก. รากฟัน ทบี่ รเิ วณใดของโครงสร้างของฟัน ข. ขากรรไกร ค. เคลอื บฟัน ก. โพรงประสาทฟัน ง. โพรงประสาท ข. เน้ือฟนั 2. การกนิ อาหารประเภทใดที่ทาใหฟ้ นั แข็งแรงข้ึน ก. น้าตาล ค. เคลอื บฟนั ข. ขา้ ว ค. กะทิ ง. รากฟัน ง. นม 7. ฟนั ซใี่ ดมีหน้าทก่ี ัดอาหาร 3. ถ้าเราจะแปรงฟนั กรามบน ควรทาอยา่ งไร ก. ปดั ขนแปรงลง ก. ฟันเขีย้ ว ข. ปดั ขนแปรงขน้ึ ค. ถไู ปมาบนตัวฟัน ข. ฟนั หน้า ง. วางแปรง 90 องศากับตัวฟัน ค. ฟนั กราม 4. ถา้ แปรงฟันไมส่ ะอาดจะเกิดผลเสียอยา่ งไร ก. ฟันขาว ง. ฟนั กรามน้อย ข. ฟนั คุด ค. ฟันเก 8. ใครปฏบิ ัติตนในการแปรงฟนั ไดอ้ ย่างเหมาะสม ง. ฟนั ผุ ก. นกแปรงฟันทกุ ช่วั โมง 5. ส่งิ ใดทีไ่ มค่ วรทาในการแปรงฟัน ก. แปรงฟันแรงๆ ข. นิดแปรงฟันหลังดื่มนา้ เปลา่ ข. ไม่ใช้แปรงสีฟนั ทบ่ี านแลว้ ค. แปรงลน้ิ หลังแปรงฟนั ค. หนอ่ ยแปรงฟนั หลังต่นื นอน ง. แปรงสีฟนั ไปตามทางของเหงือก ง. แนนแปรงฟนั หลังเขา้ หอ้ งนา้เฉลย 9. สิ่งใดในยาสฟี นั ที่ช่วยทาให้ฟันแข็งแรง 1. ค 2. ง 3. ก 4. ง 5. ก ก. สี ข. รสชาติ ค. กลนิ่ ง. ฟลูออไรด์ 10. แปรงสฟี ันลักษณะใดไมเ่ หมาะสมท่ีจะนามาใช้ ก. ขนแปรงทาด้วยไนลอน ข. หัวแปรงมขี นาดใหญ่ ค. ด้ามจับถนัดมือ ง. ขนอ่อน มฐ. พ 4.1 ป.3/4 ได้คะแนน คะแนนเต็ม 10 6. ก 7. ข 8. ค 9. ง 10. ข

แผนการจัดการเรียนรู้ จานวน 1 ชัว่ โมง จานวน 11 ชวั่ โมงแผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 5 เรอื่ ง สาเหตุของการเกดิ อบุ ตั เิ หตใุ นบา้ นหน่วยการเรียนรูท้ ่ี 2 เรอื่ ง ความปลอดภยั จากอบุ ตั ิเหตุกลุม่ สาระการเรียนรู้ สุขศกึ ษาและพลศึกษาชนั้ ประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31ครูผ้สู อน นางสาวอรณชั ชา เจรญิ สุข1. สาระสาคัญ การเกิดอุบัตเิ หตุในบา้ น เปน็ ภัยทเี่ กดิ จากความประมาท หรือเกิดจากสภาพแวดล้อมท่ีไมป่ ลอดภัย2. มาตรฐานการเรยี นรู/้ ตวั ชว้ี ัดชนั้ ปี/ผลการเรยี นรู้/เป้าหมายการเรียนรู้ มาตรฐาน พ 5.1 ปอ้ งกันและหลกี เล่ียงปัจจยั เสี่ยง พฤติกรรมเส่ยี งตอ่ สขุ ภาพ อุบตั ิเหตุ การใชย้ าสารเสพติด และความรนุ แรง ตวั ชว้ี ัด พ 5.1 ป.3/1 ปฏิบัตติ นเพอื่ ความปลอดภัยจากอบุ ัติเหตใุ นบ้าน โรงเรียน และการเดินทาง จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 1) นักเรยี นสามารถปฏบิ ตั ติ นเพื่อความปลอดภยั จากอุบัตเิ หตุในบ้าน3. สาระการเรียนรู้3.1 เนอ้ื หาสาระหลกั : Knowledge 1) สาเหตกุ ารเกดิ อุบัติในบ้าน3.2 ทักษะ/กระบวนการ : Process 1) นกั เรยี นสามารถบอกสาเหตขุ องการเกิดอุบตั ิในบา้ นได้3.3 คณุ ลักษณะท่ีพึงประสงค์ : Attitude 1) มีวนิ ยั 2) ใฝเ่ รยี นรู้ 3) มีความรบั ผิดชอบ4. สมรรถนะสาคัญของผ้เู รียน 4.1 ความสามารถในการคิด - ทกั ษะการนาความร้ไู ปใช้ 4.2 ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ิต - กระบวนการกลุ่ม5. คณุ ลักษณะของวิชา - ความรับผิดชอบ - ความรอบคอบ

6. คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. มีวนิ ยั 2. ใฝ่เรยี นรู้ 3. มคี วามรบั ผดิ ชอบ 4. มีจิตสาธารณะ7. ชิน้ งาน/ภาระงาน 1. การสาธติ การป้องกันอุบัติเหตุ และการขอความช่วยเหลือเมื่อเกิดอบุ ตั ิเหตุ8. กิจกรรมการเรยี นรู้ 1. ข้นั นา 1) นักเรียนตอบคาถามกระตุ้นความคิด (คาถาม : นักเรียนคิดว่า อุบัติเหตุในบ้านที่เกิดจากความประมาทของสมาชิกในบา้ น มีสาเหตมุ าจากอะไร) 2) ครผู สู้ อนเลา่ กรณีตัวอยา่ งใหน้ กั เรยี นฟงั ดงั น้ี เชา้ วันจันทร์ใบเตยตื่นสายมาก เพราะเม่ือคืนดูทีวีดึก ใบเตยจึงว่ิงไปอาบน้า ด้วยความรีบร้อนใบเตยลื่นในห้องน้าหัวฟาดกับลูกบิดประตูทาให้หัวแตก จึงต้องไปเย็บแผลท่ีโรงพยาบาล ใบเตยจึงไม่สามารถไปโรงเรยี นได้ 3) ครูผู้สอนต้ังประเด็นคาถามจากกรณีตัวอย่าง เพ่ือให้นักเรียนร่วมกันวิเคราะห์หาคาตอบเช่น o สาเหตุทที่ าให้ใบเตยเกิดอุบัติเหตุ คอื อะไร o นักเรียนมีวิธีการปอ้ งกนั อบุ ัตเิ หตุทเ่ี กดิ กบั ใบเตยอยา่ งไร 2. ขน้ั สอน 1) ครูผู้สอนอธิบายให้นักเรียนเข้าใจว่า อุบัติเหตุในบ้าน มักจะมีสาเหตุมาจากการกระทาท่ีประมาท หรอื เกิดจากสภาพแวดลอ้ มในบริเวณบ้านทท่ี าให้เกิดอันตรายได้ 2) ครูผู้สอนแบ่งนักเรียนเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 4 คน คละกันตามความ สามารถ คือ เก่ง ปานกลางคอ่ นข้างเก่ง ปานกลางคอ่ นข้างอ่อน และอ่อน 3) ครูผู้สอนให้นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันศึกษาความรู้เรื่อง สาเหตุ ของการเกิดอุบัติเหตุในบ้าน จากหนังสอื เรยี นหรือบทเรียนคอมพิวเตอร์ Smart L.O. LMS Lite 4) นกั เรยี นแต่ละกลุม่ ช่วยกนั เขียนแผนผงั กา้ งปลาแสดงสาเหตุของการเกดิ อบุ ตั ิเหตใุ นบ้าน 5) ครูสุ่มเรียกตัวแทนนักเรียน 1-2 กลุ่ม นาเสนอแผนผังก้างปลาแสดงสาเหตุของการเกิดอบุ ตั เิ หตใุ นบา้ นหนา้ ชนั้ เรยี น 6) ครชู มเชยเมอ่ื ตวั แทนนักเรียนแตล่ ะกล่มุ นาเสนอผลงานเสร็จ เพอ่ื เปน็ การเสริมกาลงั ใจ 3. ข้ันสรปุ 1) ครูผู้สอนและนกั เรียนร่วมกันสรุปความรู้เรื่อง สาเหตุของการเกิดอุบัตใิ นบา้ น

9. สอื่ การเรยี นการสอน/แหลง่ เรยี นรู้1. สื่อการเรยี นรู้ 1) หนังสือเรยี น สขุ ศึกษาและพลศกึ ษา ป.3 2) บทเรยี นคอมพวิ เตอร์ Smart L.O. LMS Lite สขุ ศกึ ษา ป.3 บริษัท เพลย์เอเบิล จากัด 3) กรณีตวั อยา่ ง2. แหลง่ เรียนรู้ 1) โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 3110. การวัดและประเมินผล วธิ กี าร เคร่ืองมือ เกณฑ์ตรวจแบบทดสอบก่อนเรยี น หนว่ ยการ แบบทดสอบก่อนเรียน หนว่ ยการ (ประเมนิ ตามสภาพจริง)เรียนรู้ที่ 2 เรยี นรทู้ ่ี 2ประเมินการนาเสนอผลงาน แบบประเมนิ การนาเสนอผลงาน ระดบั คุณภาพ 2 ผ่าน เกณฑ์สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลุ่ม แบบสังเกตพฤติกรรมการทางานกลุ่ม ระดบั คุณภาพ 2 ผ่าน เกณฑ์สังเกตความมีวินัย ใฝเ่ รยี นรู้ และมีความ แบบประเมินคณุ ลักษณะอนั พึง ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นรบั ผิดชอบ ประสงค์ เกณฑ์

ใบความรู้ การปอ้ งกนั อุบตั เิ หตุในบ้าน การป้องกันอุบัติเหตุในบ้านหรือท่ีพักอาศัย ไม่ว่าจะเป็นตึกแถว แฟลต อาคารชุดต่างๆ สิ่งสาคัญก็คือการที่ทกุ คนตระหนักถึงอันตราย ทราบสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุ และมีความปรารถนาความเต็มใจ ในการท่ีจะป้องกัน หรือความเสี่ยงของการเกิดอุบัติเหตุให้น้อยลง ซ่ึงวิธีการป้องกันอุบัติเหตุในบ้าน อาจกระทาได้ดังต่อไปน้ี 1. การปอ้ งกนั ในด้านบุคคล 2. การป้องกนั ในด้านส่งิ แวดล้อม การปอ้ งกนั ในด้านบุคคล การปอ้ งกนั อบุ ัติเหตุในด้านบุคคล สามารถกระทาได้ดังน้ี 1. การศกึ ษาหาความรู้ เก่ยี วกบั อันตราย สาเหตุ และการป้องกันอุบัติเหตุภายในบ้าน 2. การรักษาสขุ ภาพให้รา่ งกายแข็งแรงสมบรู ณ์ หากสภาพรา่ งกายบกพร่องก็ควรรีบแก้ไข เชน่ สายตาส้ันหพู กิ าร เปน็ ตน้ 3. การทาจิตใจให้เบกิ บานอยเู่ สมอ หากเจบ็ ปว่ ยหรือไมส่ บายใจ ควรหยดุ พักไม่ควรทากิจกรรมใด ๆภายในบา้ น 4. การระมัดระวงั ในการทางาน มสี ติ และทางานด้วยความตง้ั ใจ จะชว่ ยปอ้ งกนั อุบัติเหตุได้ 5. การฝกึ อบรม หรือใหค้ วามร้ใู นการปฏิบัติ เพ่ือความปลอดภัยในบา้ น ได้แกส่ มาชิกทุกคนในบ้านโดยเฉพาะเดก็ ผูส้ ูงอายุ และคนพกิ ารการป้องกนั ด้านส่งิ แวดล้อม การปอ้ งกนั อบุ ตั เิ หตุในบ้านในด้านสิ่งแวดล้อม สามารถกระทาไดด้ งั น้ี 1. การออกแบบบ้าน เครื่องใชภ้ ายในบา้ น และการก่อสร้าง ควรคานึงถงึ ความปลอดภยั เป็นหลกัสาคัญ บา้ นไม่ควรสร้างติดถนนใหญ่ ประตทู างเข้าไม่ควรมมี ุมอับ หรือมตี ้นไม้ใหญ่ใกล้ตัวอาคาร ควรออกแบบบ้านใหถ้ ูกต้องตามสขุ ลกั ษณะ การก่อสรา้ งจะต้องถูกต้องตามกฎเกณฑ์ทางด้านวศิ วกรรม รวมท้ังใชว้ ัสดุก่อสร้างที่มีความแข็งแรง คงทน สวยงาม และไม่เป็นเชอื้ เพลงิ ไดง้ ่าย 2. การออกกฎหมายท่ีเกี่ยวข้องกับการป้องกันอุบัติเหตุภายในบ้าน เช่น กฎหมายเกี่ยวกับการออกแบบบ้านท่ถี กู สขุ ลักษณะ และปลอดภัย กฎหมายเกี่ยวกับการก่อสร้างบ้าน กฎหมายเก่ียวกับการคุ้มครองผอู้ ยู่อาศยั ในบา้ น กฎหมายเก่ียวกบั การผลติ อปุ กรณ์เครื่องใช้ภายในบ้าน เพื่อความปลอกภัย ฯลฯ ทั้งน้ีจะต้องให้ประชาชนทุกคนปฏิบตั ิตามกาหมายอย่างเครง่ ครัด และมบี ทลงโทษเมอื่ กระทาผิดกฎหมายดว้ ย 3. การจดั วางสิ่งของ เครื่องใช้ต่างๆ ภายในบ้านให้เป็นระเบียบเรียบร้อย แยกเป็นหมวดหมู่ และแยกเป็นสัดส่วน โดยเฉพาะสารพษิ สารเคมีหรืออปุ กรณเ์ ครอ่ื งใช้ทแ่ี หลมคมเปน็ อนั ตราย ควรให้พ้นมือเด็ก

แผนการจดั การเรียนรู้ จานวน 1 ช่ัวโมง จานวน 11 ช่วั โมงแผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 6 เรอื่ ง วธิ ปี ฏบิ ัติตนเพื่อความปลอดภัยจากอุบัติเหตุในบ้านหน่วยการเรียนรูท้ ี่ 2 เรอื่ ง การดแู ลฟนั ของเรากลุม่ สาระการเรยี นรู้ สุขศึกษาและพลศึกษาช้นั ประถมศึกษาปที ี่ 3 โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31ครูผูส้ อน นางสาวอรณชั ชา เจรญิ สขุ1. สาระสาคญั การเกิดอุบัติเหตุในบ้านเกิดขน้ึ ไดท้ ุกเวลา ดังนน้ั จงตอ้ งเรยี นรกู้ ารปฏิบัติตนทีถ่ กู วิธีเพอื่ ความปลอดภยั2. มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ช้ีวดั ชัน้ ปี/ผลการเรยี นรู้/เป้าหมายการเรยี นรู้ มาตรฐาน พ 5.1 ปอ้ งกนั และหลีกเล่ียงปัจจยั เส่ยี ง พฤติกรรมเสีย่ งต่อสขุ ภาพ อุบัติเหตุ การใชย้ าสารเสพติด และความรุนแรง ตัวช้ีวัด พ 5.1 ป.3/1 ปฏบิ ัตติ นเพอื่ ความปลอดภยั จากอุบัตเิ หตใุ นบา้ น โรงเรียน และการเดนิ ทาง จุดประสงค์การเรียนรู้ นักเรียนปฏิบัติตนอย่างถูกวิธีเพ่ือความปลอดภัยจากอุบัติเหตุในบ้าน และสามารถนาไปปรับใชใ้ นชีวิตประจาวนั ได้3. สาระการเรียนรู้ 3.1 เน้อื หาสาระหลกั : Knowledge 1) นักเรยี นรวู้ ธิ กี ารปฏิบตั ิตนเพอ่ื ความปลอดภยั จากอุบัติในบา้ น 3.2 ทกั ษะ/กระบวนการ : Process 1) นักเรียนปฏิบตั ิตนตามวิธเี พ่อื ความปลอดภยั จากอุบัติในบ้าน 3.3 คณุ ลักษณะทพ่ี งึ ประสงค์ : Attitude 1) มวี นิ ยั 2) ใฝ่เรยี นรู้ 3) มคี วามรบั ผดิ ชอบ4. สมรรถนะสาคัญของผ้เู รียน 4.1 ความสามารถในการคิด - ทักษะการนาความรไู้ ปใช้ 4.2 ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ติ5. คุณลกั ษณะของวิชา - ความรับผิดชอบ - ความรอบคอบ - กระบวนการกลุ่ม

6. คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรยี นรู้ 3. มคี วามรับผดิ ชอบ7. ช้นิ งาน/ภาระงาน 1. ใบงานท่ี 6.1 เรอื่ ง อบุ ตั ใิ นบ้าน8. กิจกรรมการเรยี นรู้ 1. ขน้ั นา 1) ครูผู้สอนและนักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็นเก่ียวกับการปฏิบัติตนเพื่อความปลอดภัยจากอบุ ตั เิ หตใุ นบา้ น 2) นักเรียนตอบคาถามกระตุ้นความคิด (คาถาม : นักเรียนมีวิธีการปฏิบัติตนเพ่ือความปลอดภยั จากการใชว้ ัสดุอุปกรณภ์ ายในบ้านอยา่ งไร) 2. ขน้ั สอน 1) ครูผู้สอนให้นักเรียนกลุ่มเดิม (จากแผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1) ร่วมกันศึกษาความรู้เร่ืองวิธีปฏิบัติตนเพ่ือความปลอดภัยจากอุบัติเหตุในบ้าน จากหนังสือเรียนหรือบทเรียนคอมพิวเตอร์ SmartL.O. LMS Lite 2) ครผู ู้สอนให้นกั เรียนแตล่ ะกลุม่ ร่วมกนั วเิ คราะหว์ ิจารณ์กรณีตวั อยา่ ง ดงั นี้ แก้วใสกาลังนอนอยู่ในห้อง เธอได้ยินเสียงโทรศัพท์ดังข้ึนที่ห้องรับแขก จึงรีบว่ิงลงบันไดเพ่อื มารบั โทรศพั ท์ ขณะท่ีแกว้ ใสวง่ิ ลงมาเธอพลาดไปเหยยี บถุงขนมทเี่ ธอวางไว้ตรงบันไดก่อนข้ึนนอน ทาให้ล่ืนตกบันได และขาแพลงจนไมส่ ามารถเดนิ ได้ 3) ครผู ูส้ อนต้ังประเดน็ คาถามเพอื่ ให้นกั เรียนแตล่ ะกลมุ่ รว่ มกันตอบคาถาม เช่น o อบุ ัติเหตุครง้ั นี้เกิดจากสาเหตุอะไร o วธิ ีการแก้ไขหรือป้องกันอุบัตเิ หตุ คอื อะไร 4) ครูผู้สอนสุ่มนักเรียน 1-2 กลุ่ม มาแสดงบทบาทสมมุติของกรณีตัวอย่างเกี่ยวกับวิธีปฏิบัติตนเพอื่ ความปลอดภยั จากอุบัตเิ หตุในบ้าน 3. ขน้ั สรปุ 1) ครูผู้สอนให้นักเรียนแต่ละกลุ่มสรุปความรู้เกี่ยวกับวิธีปฏิบัติตนเพ่ือความปลอดภัยจากอบุ ตั ิเหตใุ นบา้ น 2) ครูอธิบายเพ่ิมเติมเพื่อให้นักเรียนมีความรู้เกี่ยวกับการปฏิบัติตนเพื่อความปลอดภัยจากอุบัติเหตใุ นบา้ น และแนะนาให้นักเรียนนาไปประยุกต์ใช้ในชวี ิตประจาวัน 3) นักเรียนตอบคาถามกระตุ้นความคิด (คาถาม : การจัดบ้านให้เป็นระเบียบเรียบร้อยช่วยปอ้ งกันการเกดิ อุบัตเิ หตภุ ายในบา้ นได้อยา่ งไร)

9. สื่อการเรียนการสอน/แหล่งเรยี นรู้ 1. สือ่ การเรียนรู้ 1) หนังสือเรยี น สุขศึกษาและพลศกึ ษา ป.3 2) บทเรยี นคอมพิวเตอร์ Smart L.O. LMS Lite สุขศกึ ษา ป.3 บรษิ ัท เพลยเ์ อเบิล จากัด 3) กรณีตวั อยา่ ง 4) ใบงานท่ี 6.1 เรอื่ ง อบุ ัติเหตใุ นบ้าน 2. แหลง่ เรียนรู้ 1) โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 3110. การวดั และประเมนิ ผล วธิ กี าร เคร่อื งมอื เกณฑ์ตรวจใบงานที่ 6.1สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายบุคคล ใบงานท่ี 6.1 ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์สังเกตพฤติกรรมการทางานกล่มุ แบบสังเกตพฤติกรรมการทางาน ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์สงั เกตความมีวินัย ใฝ่เรียนรู้ และมคี วามรับผดิ ชอบ รายบคุ คล แบบสงั เกตพฤติกรรมการทางานกล่มุ ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ แบบประเมินคณุ ลักษณะอนั พึง ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ ประสงค์

ใบงานท่ี6.1 อบุ ตั ิเหตใุ นบา้ น คาชแ้ี จง ให้นกั เรยี นบอกสาเหตุและวิธกี ารป้องกันอุบตั ิเหตใุ นบ้าน อบุ ตั ิเหตใุ นบ้าน สาเหตุ วิธกี ารปอ้ งกนั

ใบงานที่ เฉลย6.1 อบุ ตั ิเหตใุ นบา้ นคาช้ีแจง ใหน้ ักเรียนบอกสาเหตแุ ละวิธีการป้องกนั อบุ ตั เิ หตใุ นบ้าน อบุ ตั เิ หตใุ นบ้าน สาเหตุ วธิ กี ารปอ้ งกัน- ถูกของมคี มท่มิ แทงหรอื บาดมอื - ใชอ้ ปุ กรณแ์ ละเคร่อื งมือเคร่ืองใชอ้ ยา่ งระมัดระวัง และ เมือ่ ใชเ้ สรจ็ แล้วให้นาไปเก็บไว้ในทที่ ่ปี ลอดภัย- ใชอ้ ปุ กรณ์ หรอื เคร่ืองใช้ไฟฟ้าชารดุ - เม่อื พบสงิ่ ของในบ้านชารุด ควรบอกใหพ้ อ่ แมท่ ราบ1. แหย่สัตวเ์ ลี้ยงให้โกรธ 1. เลน่ กบั สตั ว์เล้ยี งอย่างระมัดระวงั และไมแ่ หยส่ ัตวเ์ ล้ยี ง2. ถูกสตั ว์มีพษิ กดั ตอ่ ย 2. ไม่ว่งิ เลน่ ในบริเวณทม่ี ีหญา้ ข้นึ รก เพราะอาจถูกสตั ว์มพี ษิ- กนิ ยาผิด ใชห้ รือดมสารเคมี กดั ตอ่ ยได้ 1. ควรจดั บ้านใหเ้ ป็นระเบียบเรียบรอ้ ยอยู่เสมอ 2. เก็บยา หรือสารเคมีใหพ้ น้ มือเด็ก- จดุ ธูปเทียนท้งิ ไวห้ รอื เล่นกับไฟ 1. ไมค่ วรจุดไม้ขดี ไฟเล่น 2. ดับไฟให้สนทิ ทุกครั้ง หลงั ใชง้ านเสรจ็ แลว้- พลัดตกจากบนั ไดหรือทสี่ งู - ไมว่ ง่ิ ข้นึ หรอื ลงบันได หรอื ปีนปา่ ยท่สี ูง เพราะอาจพลัด ตก ลงมาได้(พจิ ารณาตามคาตอบของนักเรียน โดยใหอ้ ยู่ในดลุ ยพินิจของครผู สู้ อน)

แผนการจัดการเรียนรู้ จานวน 1 ชั่วโมง จานวน 11 ช่วั โมงแผนการจัดการเรียนรู้ที่ 7 เรอ่ื ง อุบตั ิเหตใุ นโรงเรียนหนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 2 เรื่อง ความปลอดภยั จากอุบตั ิเหตุกลุ่มสาระการเรียนรู้ สขุ ศึกษาและพลศกึ ษาช้นั ประถมศึกษาปที ี่ 3 โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31ครูผสู้ อน นางสาวอรณัชชา เจรญิ สุข1. สาระสาคัญ การเกิดอุบัติเหตุในโรงเรียน เป็นภัยท่ีเกิดจากความประมาทของตัวนักเรียนเอง หรือเกิดจากสภาพแวดล้อม ในโรงเรียนท่ไี มป่ ลอดภัย ดังนัน้ จึงต้องเรยี นรกู้ ารปฏบิ ัติตนทีถ่ กู วธิ เี พอ่ื ความปลอดภยั2. มาตรฐานการเรยี นร้/ู ตัวชี้วัดชน้ั ป/ี ผลการเรียนรู้/เปา้ หมายการเรยี นรู้ มาตรฐาน พ 5.1 ปอ้ งกันและหลกี เล่ียงปัจจยั เส่ยี ง พฤติกรรมเสีย่ งต่อสุขภาพ อบุ ตั เิ หตุ การใชย้ าสารเสพติด และความรุนแรง ตวั ชว้ี ดั พ 5.1 ป.3/1 ปฏบิ ตั ิตนเพือ่ ความปลอดภัยจากอบุ ัตเิ หตใุ นบ้าน โรงเรียน และการเดินทาง จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 1) นักเรียนรบอกสาเหตขุ องการเกดิ อบุ ตั เิ หตุในโรงเรียนได้ 2) นักเรียนบอกวิธีปฏิบัติตนอย่างถูกวิธีเพ่ือความปลอดภัยจากอุบัติเหตุในโรงเรียนและสามารถนาไปปรับใช้ในชีวติ ประจาวันได้3. สาระการเรยี นรู้ 3.1 เนอ้ื หาสาระหลัก : Knowledge 1) นักเรียนรวู้ ิธกี ารปฏิบัตติ นเพื่อความปลอดภัยจากอบุ ัติในโรงเรยี น 3.2 ทักษะ/กระบวนการ : Process 1) นักเรยี นปฏบิ ตั ิตนตามวิธเี พือ่ ความปลอดภยั จากอบุ ตั เิ หตุในโรงเรยี น 3.3 คุณลักษณะท่ีพึงประสงค์ : Attitude 1) มีวินยั 2) ใฝเ่ รียนรู้ 3) มีความรบั ผิดชอบ4. สมรรถนะสาคญั ของผู้เรยี น 4.1 ความสามารถในการคิด - ทกั ษะการนาความร้ไู ปใช้ 4.2 ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ิต

5. คณุ ลกั ษณะของวิชา - ความรบั ผดิ ชอบ - ความรอบคอบ - กระบวนการกลุ่ม6. คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 1. มีวนิ ยั 2. ใฝเ่ รยี นรู้ 3. มีความรับผดิ ชอบ7. ช้ินงาน/ภาระงาน 1. ใบงานที่ 7.1 เรือ่ ง อุบตั ิเหตุในโรงเรียน8. กจิ กรรมการเรียนรู้ 1. ขน้ั นา 1) ครูผู้สอนถามนักเรียนว่า นักเรียนเคยได้รับบาดเจ็บ หรืออุบัติเหตุ ในระหว่างท่ีอยู่ที่โรงเรียนหรือไม่ หากเคยใหน้ กั เรยี นระบวุ า่ นักเรยี นได้รบั บาดเจบ็ หรือเกิดอุบัติเหตุอย่างไร เช่น ตกบันได ว่ิงชนกับเพ่ือน ประตูหนีบนิ้ว หกลม้ จากการเล่นกฬี า 2) นักเรียนตอบคาถามกระตุ้นความคิด (คาถาม : นักเรียนสามารถหลีกเลี่ยงจากอุบัติเหตุท่ีเกิดขน้ึ ภายในโรงเรียนไดอ้ ย่างไร) 3) นักเรียนร่วมกันคิดหาสาเหตุที่ทาให้นักเรียนได้รับบาดเจ็บ หรือเกิดอุบัติเหตุดังกล่าวตามความเข้าใจของนักเรยี น 2. ขั้นสอน 1) นักเรียนตอบคาถามกระตุ้นความคิด (คาถาม : เพราะเหตุใด ทางข้ึนลงบันไดอาคารเรียนจึงมีป้ายตดิ ว่า “ห้ามวงิ่ ขึ้นลงบนั ได”) 2) ให้นักเรียนรวมกลุ่มเดิม (จากแผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 1) ร่วมกันศึกษาความรู้เร่ืองอบุ ัตเิ หตใุ นโรงเรยี น จากหนงั สือเรียนหรอื บทเรยี นคอมพิวเตอร์ Smart L.O. LMS Lite 3) นักเรียนรว่ มกันแสดงความคิดเห็นวา่ ในบริเวณโรงเรียนมีจุดใดบ้างท่ีเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้งหรอื เป็นจุดเสี่ยงท่ีจะทาใหเ้ กิดอุบัตเิ หตุ จากน้ันให้นักเรียนช่วยกันคิดหาวิธีป้องกันการเกิดอุบัติเหตุท่ีเหมาะสมเชน่ o สนามเด็กเลน่ มเี ครื่องเล่นทีช่ ารุด ทาให้เพื่อนนกั เรยี นไดร้ บั อุบตั เิ หตบุ ่อยคร้งัวิธปี อ้ งกนั คอื แจง้ ครู และสารวจเคร่ืองเลน่ ว่าชารุดหรอื มีความปลอดภยั หรอื ไม่ ก่อนทจ่ี ะเล่นเครอื่ งเลน่ นน้ั ๆ 4) นกั เรียนแตล่ ะกลมุ่ ทาใบงานท่ี 8.2 เรื่อง อุบัตเิ หตุในโรงเรียน โดยใหส้ มาชกิ แตล่ ะคนหาคาตอบด้วยตนเองจนครบทุกข้อ จากนัน้ จับค่กู ับเพ่ือนผลัดกันอธิบายคาตอบท่ตี นคิดไว้ 5) นกั เรยี นรวมกลุ่มกนั 2 คู่ (4 คน) ผลัดกนั อธบิ ายคาตอบของคูต่ นเองใหเ้ พื่อนอกี ค่หู นึ่งในกลมุ่ ฟงั เพ่อื หาข้อสรุปของคาตอบในใบงานที่ 8.2 ท่ีถกู ต้อง เสรจ็ แล้วนาสง่ ครูตรวจ

3. ขน้ั สรุป 1) นักเรยี นตอบคาถามกระตุ้นความคิด (คาถาม : การปฏบิ ัติตามกฎระเบยี บของโรงเรียนช่วยลดอบุ ตั ิเหตไุ ดห้ รอื ไม่ อย่างไร 2) นกั เรียนร่วมกันสรปุ ความรเู้ ร่อื ง อบุ ัตเิ หตุในโรงเรียน ตามประเดน็ ทก่ี าหนด ดงั น้ี o สาเหตุของการเกิดอบุ ตั ิเหตุในโรงเรียน o วธิ ปี ฏิบัตติ นเพ่ือความปลอดภัยจากอบุ ัตเิ หตุในโรงเรียน 3) ครูและนักเรียนร่วมกันเสนอแนะแนวทางในการนาความรู้เร่ือง วิธีปฏิบัติตนเพื่อความปลอดภัยจากอุบัติเหตุในโรงเรียน มาใช้หรือรณรงค์ให้เพื่อนนักเรียนปฏิบัติตามและให้ตระหนักถึงความปลอดภัย9. ส่ือการเรียนการสอน/แหลง่ เรยี นรู้1. สือ่ การเรียนรู้ 1) หนงั สือเรยี น สุขศึกษาและพลศึกษา ป.3 2) บทเรยี นคอมพวิ เตอร์ Smart L.O. LMS Lite สุขศกึ ษา ป.3 บริษทั เพลยเ์ อเบิล จากัด 3) ใบงานที่ 7.1 เรอ่ื ง อบุ ัติเหตใุ นโรงเรียน2. แหล่งเรยี นรู้ 1) โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 3110. การวัดและประเมนิ ผล วธิ กี าร เครอ่ื งมือ เกณฑ์ตรวจใบงานท่ี 7.1 ใบงานที่ 7.1 ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ประเมนิ การนาเสนอผลงาน แบบประเมนิ การนาเสนอผลงาน ระดับคุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์สงั เกตพฤติกรรมการทางานรายบุคคล แบบสังเกตพฤติกรรมการทางาน ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ รายบคุ คลสงั เกตพฤติกรรมการทางานกลมุ่ แบบสงั เกตพฤติกรรมการทางานกลุม่ ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์สังเกตความมีวนิ ัย ใฝเ่ รยี นรู้ และมีความ แบบประเมนิ คณุ ลักษณะอนั พึง ระดบั คุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์รับผิดชอบ ประสงค์

ใบงานที่ 7.1 อบุ ตั ิเหตใุ นโรงเรียนคาช้ีแจง ให้นกั เรยี นขดี  หนา้ ข้อทเี่ ป็นพฤตกิ รรมท่ีควรปฏิบัติ และกา  หน้าข้อทเี่ ปน็ พฤติกรรมทไ่ี มค่ วรปฏบิ ตั ิ 1) ว่ิงเล่นบนอาคารเรยี น 2) เดินข้นึ -ลง บนั ไดชดิ ขวา 3) เลน่ เครือ่ งเลน่ อย่างระมดั ระวงั 4) นงั่ โยกเก้าอ้ีเล่น 5) เก็บอปุ กรณ์วทิ ยาศาสตร์เมือ่ ใช้เสร็จแลว้ 6) ปนี ออกมานอกระเบยี ง 7) เล่นฟตุ บอลในหอ้ งเรียน 8) ไม่เล่นกันขณะทีท่ าความสะอาดห้อง 9) โหนราวบนั ได 10) นาช้อนส้อมมาต่อสู้กนั

ใบงานท่ี เฉลย7.1 อบุ ตั ิเหตใุ นโรงเรียนคาชีแ้ จง ให้นักเรียนขีด  หน้าข้อที่เป็นพฤติกรรมท่ีควรปฏิบัติ และกา  หน้าข้อท่ีเป็น พฤตกิ รรมทไี่ มค่ วรปฏิบตั ิ  1) วง่ิ เลน่ บนอาคารเรยี น  2) เดินขึ้น-ลง บนั ไดชดิ ขวา  3) เลน่ เครอ่ื งเล่นอย่างระมัดระวงั  4) น่งั โยกเกา้ อเี้ ล่น  5) เกบ็ อปุ กรณ์วทิ ยาศาสตร์เมือ่ ใช้เสร็จแล้ว  6) ปีนออกมานอกระเบยี ง  7) เลน่ ฟตุ บอลในห้องเรียน  8) ไม่เล่นกนั ขณะที่ทาความสะอาดหอ้ ง  9) โหนราวบนั ได  10) นาชอ้ นส้อมมาต่อสู้กัน

แผนการจดั การเรยี นรู้ จานวน 1 ชั่วโมง จานวน 11 ช่ัวโมงแผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 8 เรอ่ื ง สาเหตขุ องการเกดิ อบุ ตั ิเหตุในการเดนิ ทางหน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 2 เรอ่ื ง ความปลอดภยั จากอุบตั ิเหตุกลุ่มสาระการเรียนรู้ สขุ ศึกษาและพลศึกษาช้นั ประถมศึกษาปที ี่ 3 โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31ครูผ้สู อน นางสาวอรณัชชา เจรญิ สุข1. สาระสาคัญ อุบัติเหตุในการเดินทาง เป็นภัยท่ีเกิดได้จากหลายสาเหตุ จึงควรปฏิบัติตนอยู่ในความไม่ประมาทเพ่ือให้เกิดความปลอดภยั2. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชีว้ ัดชนั้ ป/ี ผลการเรียนร/ู้ เปา้ หมายการเรียนรู้ มาตรฐาน พ 5.1 ป้องกนั และหลกี เลยี่ งปจั จัยเส่ยี ง พฤติกรรมเส่ยี งต่อสขุ ภาพ อบุ ัติเหตุ การใชย้ าสารเสพตดิ และความรนุ แรง ตัวช้ีวัด พ 5.1 ป.3/1 ปฏบิ ัติตนเพื่อความปลอดภยั จากอุบัติเหตใุ นบ้าน โรงเรยี น และการเดินทาง จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 1) นักเรยี นรบอกสาเหตุของการเกิดอบุ ตั เิ หตใุ นการเดนิ ทางได้3. สาระการเรียนรู้ 3.1 เนอ้ื หาสาระหลัก : Knowledge 1) สาเหตขุ องการเกิดอุบัติในการเดนิ ทาง 3.2 ทักษะ/กระบวนการ : Process 1) นกั เรยี นสามารถบอกสาเหตขุ องการเกิดอุบตั ิในการเดนิ ทางได้ได้ 3.3 คุณลกั ษณะที่พงึ ประสงค์ : Attitude 1) มวี ินัย 2) ใฝเ่ รยี นรู้ 3) มีความรับผดิ ชอบ4. สมรรถนะสาคัญของผูเ้ รยี น 4.1 ความสามารถในการคิด - ทกั ษะการนาความรู้ไปใช้ 4.2 ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวติ5. คุณลักษณะของวชิ า - ความรับผิดชอบ - ความรอบคอบ - กระบวนการกลุ่ม

6. คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 1. มีวนิ ยั 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มคี วามรบั ผดิ ชอบ 4. มีจติ สาธารณะ7. ชิ้นงาน/ภาระงาน 1. การสาธิตการปอ้ งกนั อุบตั เิ หตุ และการขอความชว่ ยเหลือเมื่อเกดิ อุบัติเหตุ8. กจิ กรรมการเรียนรู้ 1. ขัน้ นา 1) นักเรียนตอบคาถามกระตุ้นความคิด (คาถาม : นักเรียนคิดว่า อุบัติเหตุในการเดินทางมอี ะไรบ้าง และเกิดจากสาเหตใุ ด) 2) ครผู ู้สอนใหน้ กั เรียนที่เคยเกิดอุบัติเหตุขณะเดินทาง มาเล่าให้เพื่อนฟังหน้าช้ันเรียน พร้อมบอกสาเหตทุ ท่ี าให้เกดิ อบุ ตั ิเหตุน้ันดว้ ย 3) ครูผู้สอนอธิบายเพิ่มเติมให้นักเรียนตระหนักถึงสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุขณะเดินทางเพ่ือให้นักเรียนระมัดระวงั ในการเดนิ ทาง 2. ขัน้ สอน 1) นักเรียนรวมกลุ่มเดิม (จากแผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 1) จากนั้นร่วมกันศึกษาความรู้เรื่องสาเหตุของอุบตั เิ หตใุ นการเดินทาง จากหนงั สือเรยี นหรอื บทเรียนคอมพวิ เตอร์ Smart L.O. LMS Lite 2) ครูผู้สอนให้นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันวิเคราะห์และอภิปรายเก่ียวกับสาเหตุของการเกิดอบุ ัตเิ หตุในการเดนิ ทางว่ามสี าเหตมุ าจากอะไรบ้าง 3) ครูผู้สอนนาข่าวเก่ียวกับอุบัติเหตุในการเดินทางจากหนังสือพิมพ์มาแจกให้นักเรียนกลุ่มละ 1 ข่าว และให้แต่ละกลุ่มช่วยกันวิเคราะห์สาเหตุท่ีทาให้เกิดอุบัติเหตุดังกล่าว พร้อมกับเสนอแนะวธิ ีปอ้ งกนั 4) ครูผู้สอนขออาสาสมัครนักเรียนแต่ละกลุ่มออกมานาเสนอผลการวิเคราะห์และอภิปรายหนา้ ช้นั เรยี น 5) นักเรียนแต่ละคนทาแบบฝึกกิจกรรม ข้อ 1 จากแบบวัดฯ เสร็จแล้วตรวจความเรียบร้อยก่อนนาสง่ ครูตรวจ 3. ข้ันสรุป 1) นักเรียนตอบคาถามกระตุ้นความคิด (คาถาม : ถ้านักเรียนไม่มีสติขณะข้ามถนนจะเกิดผลอย่างไร) 2) ครูผู้สอนและนักเรียนร่วมกันสรุปความรู้เรื่อง สาเหตุของอุบัติเหตุในการเดินทาง

9. ส่อื การเรยี นการสอน/แหลง่ เรียนรู้1. ส่ือการเรยี นรู้ 1) หนังสือเรียน สขุ ศึกษาและพลศกึ ษา ป.3 2) แบบวัดและบนั ทกึ ผลการเรยี นรู้ สขุ ศกึ ษาและพลศึกษา ป.3 3) บทเรียนคอมพวิ เตอร์ Smart L.O. LMS Lite สขุ ศึกษา ป.3 บรษิ ทั เพลย์เอเบลิ จากัด 4) ขา่ วหนงั สอื พมิ พ์2. แหลง่ เรียนรู้ 1) โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 3110. การวัดและประเมนิ ผล วิธีการ เครอ่ื งมอื เกณฑ์ประเมนิ การนาเสนอผลงาน แบบประเมินการนาเสนอผลงาน ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์สังเกตพฤตกิ รรมการทางานกลุ่ม แบบสงั เกตพฤติกรรมการทางานกลมุ่ ระดบั คุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์สงั เกตความมีวนิ ยั ใฝ่เรยี นรู้ และมคี วาม แบบประเมนิ คุณลักษณะอนั พึง ระดบั คุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์รบั ผิดชอบ ประสงค์

แผนการจดั การเรยี นรู้แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 9 เรอ่ื ง วธิ ปี ฏบิ ัติตนเพ่ือความปลอดภัยขณะเดินทางดว้ ยเทา้ จานวน 1 ช่วั โมงหนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 2 เรื่อง ความปลอดภยั จากอบุ ตั เิ หตุ จานวน 11 ชวั่ โมงกลมุ่ สาระการเรียนรู้ สขุ ศกึ ษาและพลศึกษาชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี 3 โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31ครูผู้สอน นางสาวอรณัชชา เจรญิ สุข1. สาระสาคญั การเกิดอุบัติเหตุขณะเดินทางด้วยเท้า เป็นภัยท่ีเกิดข้ึนได้จากหลายสาเหตุ จึงควรศึกษาและปฏิบัตติ นตามขอ้ ปฏิบตั เิ พอื่ ความปลอดภัย2. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตัวช้ีวัดช้นั ป/ี ผลการเรยี นรู/้ เป้าหมายการเรียนรู้ มาตรฐาน พ 5.1 ป้องกนั และหลีกเลยี่ งปจั จัยเส่ยี ง พฤติกรรมเสย่ี งตอ่ สุขภาพ อุบัติเหตุ การใช้ยาสารเสพติด และความรนุ แรง ตัวชวี้ ดั พ 5.1 ป.3/1 ปฏิบัตติ นเพื่อความปลอดภยั จากอบุ ัติเหตใุ นบ้าน โรงเรยี น และการเดนิ ทาง จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1) นักเรียนปฏิบัติตนอย่างถูกวิธีเพื่อความปลอดภัยขณะเดินทางด้วยเท้า และสามารถนาไปปรบั ใช้ในชีวิตประจาวันได้3. สาระการเรยี นรู้ 3.1 เนื้อหาสาระหลกั : Knowledge 1) นกั เรียนสามารถบอกวิธีปฏบิ ัติเพือ่ ความปลอดภยั จากอุบตั เิ หตใุ นการเดินทางไดถ้ ูกต้อง 3.2 ทักษะ/กระบวนการ : Process 1) นกั เรยี นมีวิธีปฏบิ ตั ติ นเพ่ือความปลอดภัยจากอบุ ตั ิเหตุในการเดนิ ทาง 3.3 คณุ ลกั ษณะที่พึงประสงค์ : Attitude 1) มวี นิ ัย 2) ใฝ่เรียนรู้ 3) มคี วามรับผิดชอบ4. สมรรถนะสาคญั ของผูเ้ รียน 4.1 ความสามารถในการคดิ - ทักษะการนาความรู้ไปใช้ 4.2 ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวิต

5. คณุ ลักษณะของวิชา - ความรับผดิ ชอบ - ความรอบคอบ - กระบวนการกล่มุ 6. คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มคี วามรับผดิ ชอบ 4. มจี ิตสาธารณะ7. ชน้ิ งาน/ภาระงาน 1. ใบงานท่ี 9.1 เร่ือง ความปลอดภยั ขณะเดินทางด้วยเทา้8. กจิ กรรมการเรียนรู้ 1. ขั้นนา 1) นักเรียนตอบคาถามกระตุ้นความคิด (คาถาม : นักเรียนมีวิธีการข้ามถนนอย่างไรถา้ บริเวณน้นั ไม่มีทางม้าลายหรอื สะพานลอยให้ข้าม) 2) ครผู สู้ อนตง้ั ประเดน็ คาถามใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคดิ เห็น เชน่ o ถ้านักเรียนมีความจาเป็นจะต้องเดินออกไปซ้ือของหรือทาธุระกับผู้ปกครองในเวลากลางคนื นกั เรียนและผ้ปู กครองควรเลือกสวมใสเ่ สือ้ ผ้าสใี ด เพราะเหตใุ ด 3) ครูผู้สอนอธิบายให้นักเรียนเข้าใจว่า ถ้านักเรียนมีความจาเป็นจะต้องเดินออกไปซ้ือของหรือทาธรุ ะในเวลากลางคนื ควรเลือกสวมใสเ่ ส้อื ผ้าสีขาวหรอื เส้ือผ้าสสี ว่าง เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ เพราะสีดังกล่าวช่วยใหผ้ ูข้ บั ขร่ี ถยนตส์ ามารถมองเหน็ ไดอ้ ย่างชดั เจน 2. ขั้นสอน 1) นักเรียนรวมกลุ่มเดิม (จากแผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1) แล้วร่วมกันศึกษาความรู้เร่ืองวิธีปฏิบตั ิตนเพื่อความปลอดภัยขณะเดินทางด้วยเท้า จากหนังสือเรียนหรือบทเรียนคอมพิวเตอร์ Smart L.O.LMS Lite หรอื เอกสารประกอบการสอน 2) นักเรียนแต่ละกลุ่มนาความรู้ท่ีได้จากการศึกษาเก่ียวกับวิธีปฏิบัติตนเพ่ือความปลอดภัยขณะเดนิ ทางดว้ ยเทา้ มาอภิปรายรว่ มกนั ภายในกลมุ่ 3) นักเรียนแต่ละกลุ่มส่งตัวแทนออกมานาเสนอตัวอย่างวิธี ปฏิบัติตนเพ่ือความปลอดภัยขณะเดนิ ทางดว้ ยเท้า หนา้ ชน้ั เรียน 4) นักเรียนตอบคาถามกระตุ้นความคิด (คาถาม : ถ้าสัญญาณไฟจราจรปรากฏรูปคนเดินกะพริบ นกั เรยี นควรจะข้ามถนนหรอื ไม่ เพราะเหตใุ ด) 5) ครผู สู้ อนจาลองห้องเรียนเป็นเส้นทางในการเดินทางมาโรงเรียน แล้วครูสร้างสถานการณ์ให้นกั เรยี นลองฝึกปฏิบตั ิ เชน่ o เดินบนทางเทา้ แต่ไม่มที างเทา้ o ขา้ มถนนบรเิ วณทางข้ามท่มี ไี ฟจราจรบอกสัญลักษณ์ 6) ครผู สู้ อนสุ่มนักเรยี น 2-3 กล่มุ มาฝกึ วธิ ปี ฏิบัตติ นเพ่ือความปลอดภยั ขณะเดนิ ทางดว้ ยเท้า 7) ครผู สู้ อนตรวจสอบความถูกต้องของนักเรียนในการฝกึ ปฏบิ ตั ิตนขณะเดินทางด้วยเทา้ 8) ครูผู้สอนให้นักเรียนแต่ละกลุ่มทาใบงานที่ 10.1 เร่ือง ความปลอดภัยขณะเดินทางด้วยเทา้ 9) สมาชิกแต่ละกลมุ่ ชว่ ยกนั ตรวจสอบความถกู ต้องของคาตอบ

10) ครูผู้สอนสุ่มตัวแทนของแต่ละกลุ่มออกมานาเสนอใบงานท่ี 10.1 หน้าช้ันเรียน ครูและเพ่อื นช่วยกนั ตรวจสอบความถกู ต้อง 11) ครูตรวจสอบผลนักเรียนจากการแสดงบทบาทสมมุติ และทาใบงานท่ี 10.1 3. ข้นั สรปุ 1) ครูผู้สอนและนักเรียนร่วมกันอภิปรายวิธีปฏิบัติตนเพ่ือความปลอดภัยขณะเดินทางด้วยเท้า 2) ครูผู้สอนเสนอแนะวิธีปฏิบัติตนเพ่ือความปลอดภัยขณะเดินทางด้วยเท้า เพ่ือให้นักเรียนนาไปปฏบิ ตั ใิ นชีวติ ประจาวัน9. สื่อการเรียนการสอน/แหล่งเรียนรู้ 1. ส่ือการเรยี นรู้ 1) หนงั สือเรยี น สุขศึกษาและพลศึกษา ป.3 2) บทเรียนคอมพิวเตอร์ Smart L.O. LMS Lite สขุ ศึกษา ป.3 บรษิ ทั เพลยเ์ อเบลิ จากัด 3) เอกสารประกอบการสอน 4) ใบงานที่ 10.1 เร่ือง ความปลอดภัยขณะเดินทางด้วยเท้า 2. แหล่งเรยี นรู้ 1) โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 3110. การวัดและประเมนิ ผล วิธีการ เครื่องมอื เกณฑ์ตรวจใบงานที่ 9.1 ใบงานที่ 9.1 ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ประเมินการนาเสนอผลงาน แบบประเมนิ การนาเสนอผลงาน ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์สังเกตพฤตกิ รรมการทางานกลุม่ แบบสังเกตพฤติกรรมการทางานกลุม่ ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์สงั เกตความมวี นิ ัย ใฝเ่ รยี นรู้ และมคี วาม แบบประเมนิ คณุ ลักษณะอนั พึง ระดับคุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์รบั ผิดชอบ ประสงค์

เอกสารประกอบการสอน สญั ญาณไฟ สญั ญาณไฟท่นี ักเรยี นควรรูจ้ กั มดี ังนี้ สญั ญาณไฟจราจร เปน็ สัญญาณท่ีใช้ควบคุมการจราจร สแี ดง หมายถึง รถทกุ คันต้องหยุด สีเหลอื ง หมายถงึ รถทุกคนั เตรยี มจะหยดุ สเี ขยี ว หมายถึง รถทุกคนั ผา่ นไปได้ สัญญาณไฟคนขา้ ม เปน็ สญั ญาณทีใ่ ชใ้ นการขา้ มถนน สแี ดง หมายถงึ ห้ามข้าม รอให้รถหยดุ ก่อน สีเขียว หมายถงึ ขา้ มถนนได้ท่มี า : ชชู าติ รอดถาวร และภาสกร บญุ นยิ ม. [ม.ป.ป.]. หนังสือเรยี น รายวิชาพื้นฐาน สขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษาป.3. พมิ พค์ รั้งที่ 4. กรงุ เทพมหานคร : อกั ษรเจริญทัศน.์

ใบงานท่ี 9.1 ความปลอดภยั ขณะเดินทางด้วยเท้าคาชแี้ จง ให้นกั เรยี นอา่ นข้อความท่ีกาหนด แลว้ เขยี นวธิ ปี ฏิบัติตนเพื่อความปลอดภยั จากอบุ ตั ิเหตุ1.มดแดงเดนิ บนถนน เพราะไม่มีทางเท้าวธิ ีปฏบิ ัติตน2.น้าจะข้ามถนนเพอ่ื เดินทางไปสวนสาธารณะวธิ ปี ฏิบตั ิตน3.ต้นเดินทางบนทางเทา้ กลับบา้ นกับเพื่อนๆวธิ ีปฏบิ ตั ติ น4.หญิงจะข้ามถนนบรเิ วณทม่ี สี ัญญาณไฟคนขา้ มวิธปี ฏบิ ตั ิตน5.บอลเดนิ ออกมาซ้ือของทรี่ ้านค้าในเวลากลางคืนวธิ ปี ฏบิ ัตติ น

ใบงานที่ เฉลย9.1 ความปลอดภยั ขณะเดินทางด้วยเท้าคาช้แี จง ให้นกั เรยี นอ่านขอ้ ความที่กาหนด แล้วเขยี นวิธปี ฏิบตั ิตนเพอ่ื ความปลอดภยั จากอบุ ัติเหตุ1.มดแดงเดนิ บนถนน เพราะไม่มที างเท้าวิธีปฏิบตั ิตน มดแดงควรเดินชิดไหล่ทางทีม่ ีรถสวนมา เพื่อใหม้ องเห็นรถทส่ี วนมาได้2.น้าจะขา้ มถนนเพอ่ื เดินทางไปสวนสาธารณะวธิ ีปฏิบัตติ น น้าควรเดนิ ข้ามถนนตรงทางขา้ ม เช่น ทางม้าลาย สะพานลอย เป็นต้น3.ต้นเดนิ ทางบนทางเทา้ กลับบา้ นกับเพื่อนๆวธิ ปี ฏบิ ัติตน ตน้ และเพ่ือนๆ ควรเดินอย่างเปน็ ระเบยี บ ไมว่ ่งิ เล่นหรือหยอกลอ้ กนั4.หญิงจะข้ามถนนบริเวณที่มสี ัญญาณไฟคนขา้ มวิธีปฏบิ ัติตน หญงิ ควรหยุดรอสัญญาณไฟก่อนขา้ มถนน เม่ือจะข้ามถนนควรมองวา่ รถมาทางใดและรอให้แนใ่ จว่า ไมม่ ีรถหรือรถหยุดแล้วจึงขา้ มถนน5.บอลเดนิ ออกมาซ้ือของท่รี า้ นค้าในเวลากลางคืนวิธีปฏิบตั ิตน บอลควรสวมเสอื้ ผา้ สีสวา่ งหรือสขี าว เพ่ือให้ผขู้ ับขี่มองเห็นไดช้ ัดเจน

แผนการจดั การเรียนรู้แผนการจัดการเรยี นรูท้ ่ี 10 เร่อื งวิธปี ฏิบตั ติ นเพื่อความปลอดภัยขณะโดยสารรถประจาทาง จานวน 1 ชั่วโมงหนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 2 เรื่อง ความปลอดภัยจากอบุ ัตเิ หตุ จานวน 11 ชัว่ โมงกลมุ่ สาระการเรยี นรู้ สุขศึกษาและพลศกึ ษาชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี 3 โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31ครผู ู้สอน นางสาวอรณัชชา เจรญิ สุข1. สาระสาคัญ การเกิดอุบัติเหตุขณะโดยสารรถประจาทาง เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ จึงควรศึกษาและปฏบิ ตั ิตนตามข้อปฏิบัตเิ พ่อื ความปลอดภัย2. มาตรฐานการเรยี นร้/ู ตวั ชีว้ ัดชนั้ ป/ี ผลการเรียนรู้/เป้าหมายการเรียนรู้ มาตรฐาน พ 5.1 ป้องกันและหลีกเล่ียงปัจจัยเส่ียง พฤติกรรมเส่ียงต่อสุขภาพ อุบัติเหตุ การใช้ยาสารเสพตดิ และความรนุ แรง ตวั ชี้วดั พ 5.1 ป.3/1 ปฏบิ ตั ติ นเพอ่ื ความปลอดภยั จากอุบัติเหตใุ นบ้าน โรงเรยี น และการเดนิ ทาง จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 1) ปฏิบัติตนอย่างถูกวิธีเพ่ือความปลอดภัยขณะโดยสารรถประจาทาง และสามารถนาไปปรบั ใช้ ในชีวติ ประจาวันได้3. สาระการเรยี นรู้ 3.1 เน้อื หาสาระหลกั : Knowledge 1) นกั เรยี นสามารถบอกวธิ ปี ฏบิ ัตเิ พอื่ ความปลอดภัยจากอุบตั ิเหตใุ นการเดนิ ทางไดถ้ ูกต้อง 3.2 ทักษะ/กระบวนการ : Process 1) นักเรยี นมีวธิ ปี ฏิบัติตนเพื่อความปลอดภยั จากอุบตั เิ หตุในการเดนิ ทาง 3.3 คุณลกั ษณะท่พี ึงประสงค์ : Attitude 1) มีวนิ ยั 2) ใฝเ่ รียนรู้ 3) มคี วามรบั ผิดชอบ4. สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน 4.1 ความสามารถในการคิด - ทักษะการนาความรไู้ ปใช้ 4.2 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ิต

5. คุณลกั ษณะของวชิ า - ความรบั ผิดชอบ - ความรอบคอบ - กระบวนการกลมุ่6. คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 1. มวี นิ ยั 2. ใฝเ่ รียนรู้ 3. มคี วามรับผดิ ชอบ 4. มจี ติ สาธารณะ7. ช้นิ งาน/ภาระงาน 1. ใบงานท่ี 10.1 เรอื่ ง ความปลอดภยั ขณะโดยสารรถประจาทาง8. กิจกรรมการเรยี นรู้ 1. ขั้นนา 1) นกั เรียนตอบคาถามกระตุ้นความคดิ (คาถาม : นกั เรยี นคิดว่า อุบัติเหตุใดบ้างท่ีจะเกิดขึ้นขณะใชบ้ ริการโดยสารรถประจาทาง) 2) ครูผู้สอนนาตัวอย่างข่าวอุบัติเหตุในการเดินทางโดยรถประจาทาง มาเล่าให้นักเรียนฟังจากน้ันครูถามนักเรยี นวา่ อุบัตเิ หตุจากตวั อยา่ งข่าวดังกล่าวเกดิ จากอะไร 3) ครูผู้สอนชี้แจงให้นักเรียนทราบว่า อุบัติเหตุในการเดินทางโดยรถประจาทางสามารถเกิดขนึ้ ไดท้ กุ เวลา นักเรียนจงึ ควรตระหนกั ถงึ การปอ้ งกนั ตนเองใหป้ ลอดภัยจากอบุ ัติเหตดุ งั กลา่ ว 2. ข้นั สอน 1) นักเรยี นกลุ่มเดิม (จากแผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1) ร่วมกันศึกษาความรู้เร่ือง วิธีปฏิบัติตนเพื่อความปลอดภัยขณะโดยสารรถประจาทาง จากหนังสือเรียนหรือบทเรียนคอมพิวเตอร์ Smart L.O. LMSLite 2) นักเรียนแต่ละกลุ่มนาความรู้ที่ได้จากการศึกษามาวิเคราะห์กับตัวอย่างข่าวว่า ผู้ประสบเหตุควรปฏิบตั ติ นอย่างไร เพ่อื ความปลอดภัยขณะโดยสารรถประจาทาง 3) นักเรียนแต่ละกล่มุ ร่วมกันสรปุ ผลการวิเคราะห์ตวั อยา่ งข่าว แล้วออกมาแสดงวิธีปฏิบัติตนขณะโดยสารรถประจาทาง จากน้นั ร่วมกันสรุปผลหน้าชน้ั เรยี น 4) ครูผู้สอนตรวจสอบความถูกต้อง และเสนอแนะเพ่ิมเติมเก่ียวกับ วิธีปฏิบัติตนเพื่อความปลอดภัยขณะโดยสารรถประจาทาง 5) ครูผู้สอนให้นักเรียนทาใบงานที่ 11.1 เร่ือง ความปลอดภัยขณะโดยสารรถประจาทางเสรจ็ แล้วนาส่งครูผู้สอนตรวจ 6) นักเรียนตอบคาถามกระตุ้นความคิด (คาถาม : การเกิดอุบัติเหตุในการเดินทางขณะท่ีรา่ งกายไม่พรอ้ ม ทง้ั ผู้ขับขี่และผูโ้ ดยสาร มสี าเหตมุ าจากอะไร)