แผนการจัดการเรียนรู้ สุขศึกษา ป.5 ภาคเรียนที่ 1

การออกแบบแผนการจัดการเรยี นรู้ รายวชิ า สุขศกึ ษา รหสั วชิ า พ 15101ระดับชัน้ ประถมศึกษาปีที่ 5 ภาคเรียนที่ 1 ปกี ารศกึ ษา 2561 เวลาทงั้ หมด 20 ชั่วโมง จัดทาโดย นางสาวอรณชั ชา เจรญิ สุข ตาแหนง่ พนักงานราชการ โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 ตาบลช่างเคง่ิ อาเภอแม่แจ่ม จงั หวดั เชยี งใหม่ สานักบริหารงานการศึกษาพเิ ศษ สานักงานการศึกษาข้ันพนื้ ฐาน กระทรวงศึกษาธิการ

แผนการจัดการเรียนรู้ จานวน 3 ช่ัวโมงหนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 1 เรื่อง ระบบในรา่ งกาย จานวน 1 ชว่ั โมงแผนการจดั การเรียนร้ทู ่ี 1 เรอ่ื ง ระบบย่อยอาหารกลุ่มสาระการเรยี นรู้ สุขศึกษาและพลศึกษาชนั้ ประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31ครผู ้สู อน นางสาวอรณัชชา เจริญสขุสอนวนั องั คาร ท่ี 17 เดอื น พฤษภาคม พ.ศ. 2561 เวลา 10.20 น. - 11.10 น.1. สาระสาคัญ ระบบย่อยอาหารทาหน้าที่ย่อยอาหารเพ่ือให้ร่างกายสามารถนาไปใช้ได้ ดังนั้นเราจึงควรดูแลระบบย่อยอาหารอยา่ งถกู วธิ ี เพ่อื ใหร้ ่างกายทางานได้ตามปกติ2. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชวี้ ดั ชัน้ ปี/ผลการเรยี นร/ู้ เป้าหมายการเรียนรู้ มาตรฐาน พ 1.1 เขา้ ใจธรรมชาติของการเจริญเตบิ โตและพฒั นาการของมนุษย์ ตัวชี้วัด พ 1.1 ป.5/1 อธิบายความสาคัญของระบบย่อยอาหาร และระบบขับถ่ายที่มีผลต่อสขุ ภาพ การเจรญิ เติบโตและพฒั นาการ จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1) อธิบายความสาคญั ของระบบย่อยอาหารได้ 2) อธิบายการทางานของระบบย่อยอาหารได้3. สาระการเรียนรู้ 3.1 เนือ้ หาสาระหลัก : Knowledge - ความสาคญั ของระบบยอ่ ยอาหารทีม่ ผี ลต่อสุขภาพ การเจรญิ เติบโตและพัฒนาการ 3.2 ทักษะ/กระบวนการ : Process 1. นกั เรยี นสามารถอธิบายความสาคญั ของระบบยอ่ ยอาหารได้ 2. นกั เรยี นสามารถอธิบายการทางานของระบบยอ่ ยอาหารได้ 3.3 คณุ ลักษณะท่ีพงึ ประสงค์ : Attitude 1. มวี นิ ยั 2. ใฝเุ รียนรู้ 3. มีความรบั ผดิ ชอบ4. สมรรถนะสาคญั ของนกั เรยี น 4.1 ความสามารถในการคิด 1) ทกั ษะการวเิ คราะห์ 3) ทกั ษะการคิดสรา้ งสรรค์ 2) ทักษะการเรียงลาดบั 4) ทกั ษะการเช่อื มโยง 4.2 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต5. คณุ ลกั ษณะของวิชา - ความรบั ผดิ ชอบ - ความรอบคอบ - กระบวนการกลุ่ม

6. คณุ ลักษณะทพี่ งึ ประสงค์ 1. ใฝเุ รยี นรู้ 2. มุ่งมน่ั ในการทางาน 3. มีความรับผิดชอบ7. ช้นิ งาน/ภาระงาน ใบงานที่ 1.1 เรอื่ ง ระบบยอ่ ยอาหาร-8. กจิ กรรมการเรยี นรู้ขั้นนา 1. ครูนาบัตรภาพอวัยวะต่างๆ มาให้นักเรียนดู แล้วถามนักเรียนว่า อวัยวะในภาพที่ครูนามาให้ดูน้นั คอื อวัยวะใด มหี นา้ ทอ่ี ย่างไร 2. ครูอธิบายเพิ่มเติมให้นักเรียนฟังว่า อวัยวะในภาพน้ันเป็นอวัยวะท่ีทาหน้าที่ประสานงานกันในระบบย่อยอาหาร ซึ่งมีความสาคัญต่อการดารงชีวิต การเจริญเติบโต และพัฒนาการต่างๆ ของร่างกายเพราะช่วยเปล่ียนอาหารที่เรารับประทานเข้าไปให้กลายเป็นสารอาหาร เพ่ือให้ร่างกายสามารถนาเอาสารอาหารเหลา่ นัน้ ไปใช้ได้ 3. นักเรียนตอบคาถามกระตุ้นความคิด นักเรียนคิดว่า อวัยวะในระบบย่อยอาหาร มีอะไรบ้างและอวยั วะใดมคี วามสาคัญมากท่ีสดุขน้ั สอน 1. ครแู บง่ นักเรียนเป็นกลมุ่ กลุ่มละ 4 คน คละกันตามความ สามารถ คือ เก่ง ปานกลางค่อนข้างเก่ง ปานกลางค่อนข้างอ่อน และอ่อน จากน้ันให้นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันศึกษาความรู้เร่ือง ระบบย่อยอาหาร จากหนังสอื เรียน และเอกสารประกอบการสอน 2. นกั เรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันศึกษาความรู้ แล้วร่วมกันอภิปรายประเด็นความรู้ หากมีข้อสงสัยให้ซกั ถามสมาชิกในกลุ่มและรว่ มกันวิเคราะหแ์ ละหาคาตอบร่วมกัน จากน้นั สรปุ สาระสาคัญ 3. ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มส่งตัวแทนออกมาจับสลากเลือกลาดับในการนาเสนอผลงาน จากน้ันนาเสนอผลงานหน้าชั้นเรียน ตามลาดับท่ีจับสลากได้ โดยครูและเพ่ือนกลุ่มอื่นร่วมกันแสดงความคิดเห็นและให้ข้อเสนอแนะเพิ่มเติมข้นั สรปุ 1. นักเรยี นตอบคาถามกระตุน้ ความคดิ เพราะเหตุใด เราจึงตอ้ งเค้ยี วอาหารให้ละเอยี ดก่อนกลนื 2. ครูและนักเรยี นร่วมกนั สรปุ ความสาคญั และการทางานของระบบยอ่ ยอาหาร 3. ครูเน้นย้าให้นักเรียนเข้าใจว่า ระบบย่อยอาหารเป็นระบบท่ีมีความสาคัญต่อร่างกาย เพ่ือให้ร่างกายสามารถดาเนินชีวิตได้ตามปกติ หากระบบย่อยอาหารทางานผิดปกติก็จะส่งผลต่อร่างกาย ทาให้ร่างกายเจริญเติบโตไม่เต็มท่ี พัฒนาการต่างๆ ไม่เป็นไปตามวัย ดังน้ันเราจึงควรดูแลระบบย่อยอาหารให้ถูกตอ้ ง9. สือ่ การเรียนการสอน / แหล่งเรยี นรู้ 1. หนงั สอื เรยี น สขุ ศกึ ษาและพลศึกษา ป.6 2. เอกสารประกอบการสอน 3. ใบงานท่ี 1.1 เรอ่ื ง ระบบยอ่ ยอาหาร 4. สลาก 5. บัตรภาพ

10. การวัดผลและประเมินผล เครอื่ งมือ เกณฑ์ ใบงานท่ี 1.1 รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ วธิ ีการ แบบประเมินการนาเสนอผลงาน ระดบั คณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ตรวจใบงานที่ 1.1 แบบสงั เกตพฤติกรรมการทางานรายบคุ คล ระดับคณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ประเมินการนาเสนอผลงาน แบบสงั เกตพฤติกรรมการทางานกล่มุ ระดบั คณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์สังเกตพฤติกรรมการทางานรายบคุ คล แบบประเมินคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์สังเกตพฤติกรรมการทางานกลุ่มสังเกตความมวี นิ ยั ใฝเุ รียนรู้ ตรงตอ่ เวลาและมุ่งมนั่ ในการทางาน

บันทกึ ผลหลงั การจัดการเรียนรู้ผลการสอน……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ลงช่ือ ......................................................... (นางสาวอรณัชชา เจรญิ สุข) ครูผสู้ อนขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแก้ไข……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชือ่ .......................................................... (นางสาวจติ ตานาถ เทพวงศ์) ครูพเ่ี ลีย้ งข้อเสนอแนะ/แนวทางแก้ไข……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงช่อื .......................................................... ( นางวิลาวัลย์ ปาลี ) ผู้อานวยการโรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31

แบบสงั เกตพฤติกรรมการทางานรายบคุ คล คาชี้แจง : ให้ ผ้สู อน สังเกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แลว้ ขดี  ลงใน ชอ่ ง ที่ตรงกบั ระดบั คะแนนลาดบั ชอ่ื – สกุล ความมีวินัย ความมนี ้าใจ การรับฟัง การแสดง การตรงตอ่ รวม ที่ ของผู้รบั การ 321 เอ้อื เฟื้อ ความคิดเห็น ความคิดเห็น เวลา 15 เสยี สละ คะแนน ประเมิน 321 321 321 3211 เดก็ ชายวโรดม ใจวงศส์ กลุ2 เดก็ ชายกรวุฒิ นันทวเิ ชียรชมุ่3 เด็กชายชายเดช กุลถาวรยศ4 เด็กชายธรรมนูญ ขวญั ไพรจริ ะ5 เด็กชายธัญเทพ ทะรยิ ะ6 เด็กชายธีรภัทร จารสั ประทีปพงศ์7 เด็กชายปติ ภิ ัทร เสรปี ระชาคม8 เดก็ ชายพฤฒพิ งศ์ สทิ ธ์ิคงขจร9 เดก็ ชายวิชชาบรู ณ์ เสรปี ระชาคม10 เดก็ หญิงการติ า มฤคมาศ11 เดก็ หญิงกลุ ธรา สริ ปิ ัญญามณีกุล12 เด็กหญิงชฎาพร บวรหิรญั ไพร13 เด็กหญิงฐติ มิ า คณุ านาถอัปสร14 เดก็ หญงิ ลลิตา ธรี เดชทรัพย์15 เดก็ หญงิ วรศิ รา ชตุ ิกรรังสี16 เดก็ หญิงวศินี ช่ืนบัวตมู17 เด็กหญงิ สุชวี า ธรี เดชทรพั ย์18 เด็กหญิงอนญั พร พงศ์บริสุทธ์ิ19 เด็กหญิงอรปรยี า แสนวังทอง20 เด็กหญิงอรสิ า พัฒนาเกยี รติชวี ิน21 เด็กหญงิ ยพุ าพร ฝายหิน22 เด็กหญงิ นนั ธิกา ปะเก23 เด็กหญิงพิชญส์ ินี วงศพ์ ริ ณุ ทอง ลงชอื่ ...................................................ผ้ปู ระเมิน ............../.................../................ เกณฑ์การใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน เกณฑก์ ารตัดสินคุณภาพ ปฏิบตั หิ รือแสดงพฤตกิ รรมอย่างสม่าเสมอ ให้ 2 คะแนน ปฏิบตั ิหรือแสดงพฤตกิ รรมบอ่ ยครง้ั ให้ 1 คะแนน ชว่ งคะแนน ระดบั คุณภาพ ปฏบิ ตั ิหรือแสดงพฤตกิ รรมบางครงั้ 12 - 15 ดี 8 - 11 พอใช้ ต่ากว่า 8 ปรับปรุง

แบบประเมินคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์คาชแี้ จง : ให้ ผ้สู อน สังเกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขีด  ลง ในชอ่ งทตี่ รงกบั ระดบั คะแนน คณุ ลักษณะ รายการประเมิน ระดับคะแนน อนั พงึ ประสงค์ดา้ น 3211. รกั ชาติ ศาสน์ 1.1 ยนื ตรงเคารพธงชาติ และร้องเพลงชาตไิ ด้ 1.2 เข้ารว่ มกิจกรรมทส่ี ร้างความสามคั คี ปรองดอง และเป็นประโยชน์ กษตั ริย์ ต่อโรงเรียน2. ซอื่ สตั ย์ สุจรติ 1.3 เขา้ ร่วมกจิ กรรมทางศาสนาท่ตี นนบั ถือ ปฏิบัตติ ามหลกั ศาสนา3. มีวนิ ยั รบั ผดิ ชอบ 1.4 เขา้ ร่วมกิจกรรมทเี่ กยี่ วกับสถาบนั พระมหากษตั รยิ ์ตามท่ีโรงเรยี นจดั ข้นึ4. ใฝ่เรยี นรู้ 2.1 ใหข้ อ้ มูลทีถ่ ูกตอ้ ง และเปน็ จรงิ 2.2 ปฏิบตั ิในสงิ่ ท่ถี ูกต้อง5. อยอู่ ย่างพอเพียง 3.1 ปฏบิ ตั ิตามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ขอ้ บังคบั ของครอบครัว6. มุ่งมน่ั ในการ มคี วามตรงตอ่ เวลาในการปฏบิ ัติกจิ กรรมตา่ งๆ ในชีวติ ประจาวนั ทางาน 4.1 รูจ้ ักใชเ้ วลาวา่ งใหเ้ ปน็ ประโยชน์ และนาไปปฏิบัตไิ ด้ 4.2 รจู้ ักจดั สรรเวลาให้เหมาะสม7. รักความเปน็ ไทย 4.3 เช่ือฟังคาสง่ั สอนของบดิ า-มารดา โดยไมโ่ ตแ้ ย้ง8. มจี ติ สาธารณะ 4.4 ตั้งใจเรียน 5.1 ใชท้ รัพย์สนิ และสิง่ ของของโรงเรียนอย่างประหยดั 5.2 ใชอ้ ุปกรณ์การเรยี นอยา่ งประหยัดและรคู้ ณุ ค่า 5.3 ใชจ้ า่ ยอย่างประหยัดและมกี ารเก็บออมเงิน 6.1 มคี วามตงั้ ใจและพยายามในการทางานท่ีได้รับมอบหมาย 6.2 มีความอดทนและไมท่ อ้ แทต้ อ่ อปุ สรรคเพือ่ ใหง้ านสาเร็จ 7.1 มีจิตสานึกในการอนุรักษ์วัฒนธรรมและภมู ิปญั ญาไทย 7.2 เหน็ คณุ คา่ และปฏบิ ตั ิตนตามวฒั นธรรมไทย 8.1 รจู้ กั ชว่ ยพอ่ แม่ ผ้ปู กครอง และครทู างาน 8.2 รจู้ ักการดแู ล รักษาทรพั ย์สมบัตแิ ละส่งิ แวดลอ้ มของหอ้ งเรยี น โรงเรยี น ลงช่ือ...................................................ผู้ประเมิน ............../.................../................เกณฑ์การใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน เกณฑ์การตดั สนิ คณุ ภาพ ปฏบิ ัติหรือแสดงพฤตกิ รรมอย่างสมา่ เสมอ ให้ 2 คะแนน ปฏิบัตหิ รือแสดงพฤตกิ รรมบอ่ ยคร้งั ให้ 1 คะแนน ชว่ งคะแนน ระดับคณุ ภาพ ปฏิบัตหิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางครัง้ 46 - 60 ดี 30 - 45 พอใช้ ต่ากวา่ 30 ปรับปรงุ

แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทางานรายบุคคลช่ือ ชนั้ …………...คาช้แี จง : ให้ ผ้สู อน สงั เกตพฤติกรรมของนกั เรยี นในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด  ลง ในชอ่ งท่ตี รงกับระดับคะแนนลาดับท่ี รายการประเมิน ระดับคะแนน 3211 การแสดงความคิดเหน็2 การยอมรบั ฟงั ความคดิ เห็นของผ้อู นื่3 การทางานตามหน้าท่ีท่ีได้รบั มอบหมาย4 ความมีน้าใจ5 การตรงต่อเวลา รวม ลงชื่อ....................................................ผูป้ ระเมนิ ................ /................ /................เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน เกณฑ์การตัดสนิ คุณภาพ ปฏบิ ตั ิหรอื แสดงพฤติกรรมอย่างสมา่ เสมอ ให้ 2 คะแนน ปฏบิ ตั ิหรอื แสดงพฤตกิ รรมบอ่ ยคร้ัง ให้ 1 คะแนน ชว่ งคะแนน ระดับคณุ ภาพ ปฏิบัติหรือแสดงพฤตกิ รรมบางครง้ั 12 - 15 ดี 18 - 11 พอใช้ ตา่ กวา่ 8 ปรับปรงุ

แบบประเมินการนาเสนอผลงานคาช้ีแจง : ให้ ผู้สอน ประเมินการนาเสนอผลงานของนักเรยี นตามรายการทก่ี าหนด แล้วขดี  ลงใน ชอ่ งท่ีตรงกบั ระดบั คะแนนลาดับท่ี รายการประเมิน ระดับคะแนน 3211 นาเสนอเนือ้ หาในผลงานได้ถูกตอ้ ง2 การลาดบั ขั้นตอนของเนื้อเร่อื ง3 การนาเสนอมีความน่าสนใจ4 การมสี ว่ นร่วมของสมาชิกในกล่มุ5 การตรงต่อเวลา รวม ลงช่ือ .................................................... ผู้ประเมิน ................ /................ /................เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน เกณฑก์ ารตดั สนิ คุณภาพ ผลงานหรอื พฤตกิ รรมสมบูรณช์ ดั เจน ให้ 2 คะแนน ผลงานหรือพฤตกิ รรมมขี ้อบกพร่องบางส่วน ให้ 1 คะแนน ชว่ งคะแนน ระดบั คุณภาพ ผลงานหรอื พฤตกิ รรมมขี อ้ บกพรอ่ งเป็นสว่ นใหญ่ 12 - 15 ดี 18 - 11 พอใช้ ต่ากวา่ 8 ปรับปรุง

เอกสารประกอบการสอน ระบบย่อยอาหารปากเปน็ อวัยวะแรกของระบบยอ่ ยอาหาร ภายในประกอบด้วยล้ิน ฟัน และตอ่ มน้าลาย ปากจะส่งอาหารใหฟ้ นั บดเคยี้ ว ลน้ิ รับรสชาตอิ าหารและคลกุ เคล้าอาหารเขา้ กับน้าลายเพอื่ ให้กลนื อาหารไดง้ ่ายในนา้ ลายมนี ้าย่อยทช่ี ่วยย่อยอาหารจาพวกแปูงใหเ้ ป็นน้าตาล หลอดอาหารเปน็ อวยั วะท่ีเป็นท่อกลวง สว่ นปลายมีกลา้ มเนอ้ื หูรูดท่ีทาหนา้ ที่บีบตัวให้หลอดอาหารปิด เพอ่ื ปอู งกนัไม่ให้อาหารไหลย้อนกลับตับเป็นอวยั วะทผ่ี ลิตน้าดแี ลว้ สง่ เกบ็ ไว้ในถุงนา้ ดี เพอ่ื ใช้ในการยอ่ ยไขมันใหแ้ ตกเป็นเมด็ เลก็ ๆตบั อ่อนเปน็ อวยั วะทผี่ ลติ นา้ ยอ่ ยแลว้ สง่ ไปทล่ี าไสเ้ ลก็กระเพาะอาหาร อวัยวะในระบบยอ่ ยอาหารตัง้ แตป่ าก หลอดอาหาร ตบัเป็นอวัยวะที่ทาหน้าที่ผลิตนา้ ยอ่ ยออกมาเพอ่ื ยอ่ ย ตับอ่อน กระเพาะอาหาร และลาไส้เล็ก จะทางานสัมพันธ์กันอาหารจาพวกโปรตนี เพอ่ื ย่อยอาหารและดูดซมึ สารอาหารเข้าสรู่ ่างกาย และ ส่งต่อให้ลาไส้ใหญ่ เพอื่ ขับถ่ายของเสียออกจากร่างกาย ลาไสเ้ ลก็เป็นอวัยวะท่สี าคญั ทส่ี ดุ และมคี วามยาวท่สี ดุ ทาหน้าทย่ี อ่ ยอาหารทุกประเภท และดดู ซมึ สารอาหารเขา้ สู่หลอดเลือดลาไส้ใหญ่เป็นอวัยวะทเ่ี ป็นทอ่ กลวงขนาดใหญ่ ส่วนปลายมีกลา้ มเน้อื หรู ดู เรียกวา่ ทวารหนัก ลาไส้ใหญ่ไมไ่ ด้ทาหน้าท่ใี นการยอ่ ยอาหาร แตจ่ ะดดู ซึมนา้ และเกลือแรบ่ างสว่ นออกจากกากอาหาร ทาใหก้ ากอาหารเป็นก้อนอจุ จาระที่มา : ชูชาติ รอดถาวร และภาสกร บุญนิยม. [ม.ป.ป.]. หนังสอื เรยี น รายวชิ าพนื้ ฐาน สขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา ป.5. พิมพค์ รั้งที่ 7. กรุงเทพมหานคร : อกั ษรเจรญิ ทศั น์.

บตั รภาพ  ภาพปาก ภาพหลอดอาหาร ภาพตบั ภาพกระเพาะอาหาร ภาพลาไสเ้ ลก็ ภาพลาไส้ใหญ่ที่มา : ชูชาติ รอดถาวร และภาสกร บญุ นิยม. [ม.ป.ป.]. หนังสือเรียน รายวชิ าพืน้ ฐาน สขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา ป.5. พมิ พ์คร้งั ท่ี 7. กรงุ เทพมหานคร : อักษรเจรญิ ทัศน์.

ใบงานท่ี 1.1 ระบบย่อยอาหารคาชี้แจง ใหน้ กั เรยี นเขียนอธิบายการทางานของอวยั วะในภาพท่ีกาหนดให้ถูกต้อง 1. 2. 3. 4. 5. 6.

ใบงานท่ี 1.1 ระบบยอ่ ยอาหารคาช้ีแจง ใหน้ ักเรียนเขียนอธบิ ายการทางานของอวัยวะในภาพที่กาหนดให้ถกู ต้อง 1. ปาก เป็นอวยั วะแรกในระบบย่อยอาหาร ภายในปาก ประกอบด้วย ล้นิ ฟัน และต่อมนา้ ลาย โดยปากจะส่งอาหารใหฟ้ นั บดเคี้ยว ลน้ิ รับรสชาติ และคลุกเคลา้ อาหารเขา้ กบั นา้ ลาย 2. หลอดอาหาร มลี ักษณะเปน็ ทอ่ กลวง สว่ นปลายมกี ลา้ มเนื้อหูรดู ทา้ หนา้ ทบ่ี ีบตัวใหห้ ลอดอาหารปดิ ป้องกนั ไมใ่ ห้อาหารทีอ่ ยู่ใกระเพาะ ไหลยอ้ นกลับ 3. กระเพาะอาหาร ท้าหนา้ ทผี่ ลติ นา้ ยอ่ ยในการย่อยอาหารจา้ พวก โปรตีน 4. ตบั ทา้ หนา้ ทีผ่ ลติ นา้ ดี แลว้ ส่งไปเกบ็ ไว้ในถุงนา้ ดี เพื่อใช้ในการยอ่ ย ไขมนั ให้แตกเป็นเมด็ เลก็ ๆ 5. ลา้ ไส้เลก็ ทา้ หน้าทย่ี ่อยอาหารทกุ ประเภท และดูดซมึ สารอาหาร เขา้ สูห่ ลอดเลือด 6. ล้าไส้ใหญ่ ไมไ่ ด้ท้าหนา้ ที่ในการยอ่ ยอาหาร แต่จะดูดซึมน้าและ เกลือแรบ่ างส่วนจากกากอาหาร ทา้ ใหก้ ากอาหารกลายเป็นก้อนจจาระ

แผนการจัดการเรียนรู้ จานวน 3 ช่วั โมงหนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 1 เรอ่ื ง ระบบในรา่ งกาย จานวน 1 ชว่ั โมงแผนการจดั การเรยี นร้ทู ่ี 2 เร่อื ง ระบบขบั ถา่ ยกลุ่มสาระการเรยี นรู้ สขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษาชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี 5 โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31ครผู ู้สอน นางสาวอรณชั ชา เจรญิ สขุสอนวนั องั คาร ที่ 24 เดอื น พฤษภาคม พ.ศ. 2561 เวลา 10.20 น. - 11.10 น.1. สาระสาคัญ ระบบขับถ่ายเป็นระบบที่ช่วยในการกาจัดของเสียต่างๆ ออกจากร่างกาย เพ่ือไม่ให้มีการสะสมของเสยี ภายในรา่ งกาย ทาใหร้ ่างกายเจริญเตบิ โตและมพี ฒั นาการทส่ี มวัย2. มาตรฐานการเรียนร้/ู ตวั ช้วี ัดชั้นปี/ผลการเรียนร้/ู เป้าหมายการเรยี นรู้ มาตรฐาน พ 1.1 เขา้ ใจธรรมชาตขิ องการเจรญิ เติบโตและพฒั นาการของมนษุ ย์ ตัวช้ีวัด พ 1.1 ป.5/1 อธิบายความสาคัญของระบบย่อยอาหาร และระบบขับถ่ายท่ีมีผลต่อสขุ ภาพ การเจริญเตบิ โตและพัฒนาการ จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 1) อธิบายความสาคญั ของระบบขับถ่ายได้ 2) อธิบายการทางานของระบบขบั ถ่ายได้3. สาระการเรยี นรู้ 3.1 เนื้อหาสาระหลกั : Knowledge - ความสาคญั ของระบบขบั ถ่ายทมี่ ผี ลตอ่ สขุ ภาพ การเจริญเตบิ โตและพัฒนาการ 3.2 ทกั ษะ/กระบวนการ : Process 1. นกั เรียนสามารถอธิบายความสาคญั ของระบบยอ่ ยอาหารได้ 2. นักเรยี นสามารถอธิบายการทางานของระบบยอ่ ยอาหารได้ 3.3 คุณลกั ษณะท่ีพึงประสงค์ : Attitude 1. มวี ินยั 2. ใฝุเรียนรู้ 3. มีความรบั ผิดชอบ4. สมรรถนะสาคญั ของนักเรียน 4.1 ความสามารถในการคิด 1) ทกั ษะการวเิ คราะห์ 3) ทักษะการคดิ สรา้ งสรรค์ 2) ทักษะการเรยี งลาดับ 4) ทกั ษะการเช่ือมโยง 4.2 ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต5. คุณลกั ษณะของวิชา - ความรบั ผิดชอบ - ความรอบคอบ - กระบวนการกลุ่ม

6. คุณลักษณะทีพ่ งึ ประสงค์ 1. ใฝุเรียนรู้ 2. มุ่งมนั่ ในการทางาน 3. มคี วามรับผดิ ชอบ7. ช้นิ งาน/ภาระงาน -8. กิจกรรมการเรยี นรู้ข้ันนา 1. นักเรียนตอบคาถามกระตุ้นความคิด นักเรียนคิดว่า ระบบขับถ่ายมีความสาคัญอย่างไรต่อรา่ งกาย 2. ครถู ามนักเรยี นวา่ เพราะเหตุใด เราจึงต้องมีการขับถ่าย โดยครูกระตุ้นให้นักเรียนทุกคนมีส่วนรว่ มในการตอบคาถาม 3. ครูอธิบายเก่ียวกบั ความสาคัญของระบบขับถ่ายใหน้ ักเรยี นฟังเพ่ือกระตุ้นความสนใจข้ันสอน 1. ครใู หน้ ักเรียนรวมกลุ่มเดิม จากนั้นให้สมาชิกแต่ละคนในกลุ่มกาหนดหมายเลขประจาตัวต้ังแต่1-4 เรียกกลมุ่ น้วี ่ากลมุ่ บ้าน 2. นักเรยี นทม่ี หี มายเลขเดยี วกนั มารวมกันเป็นกลุ่มใหม่ เรียกว่า กลุ่มผู้เช่ียวชาญ แล้วให้นักเรียนกลุ่มผู้เช่ียวชาญแต่ละกลุ่มศึกษาความรู้เรื่อง ระบบขับถ่าย จากหนังสือเรียน เอกสารประกอบการสอนและแหล่งข้อมลู สารสนเทศ ตามหัวขอ้ ทีก่ าหนด ดังน้ี - การขับถ่ายอจุ จาระ - การขบั ถ่ายปัสสาวะ 3. นกั เรยี นกลมุ่ ผ้เู ชีย่ วชาญร่วมกันแสดงความคิดเหน็ หรอื อภิปรายในประเด็นความรู้ แล้วซักถามข้อสงสยั จนไดค้ าตอบทถ่ี กู ตอ้ งและเกิดความรคู้ วามเข้าใจ จากน้ันใหร้ ่วมกนั สรุปประเด็นความรู้ 4. นักเรียนกลุ่มผู้เชี่ยวชาญแต่ละกลุ่มกลับเข้าสู่กลุ่มบ้าน แล้วนาความรู้ที่ได้จากการศึกษามาเล่าให้เพือ่ นในกลุม่ บ้านฟัง จนเกดิ ความเขา้ ใจทต่ี รงกัน และสรุปสาระสาคัญจดบันทกึ ลงในสมุด 5. นกั เรียนแต่ละกลมุ่ ร่วมกันอภิปรายว่า เราสามารถดแู ลระบบขับถา่ ยให้เป็นปกตไิ ดอ้ ยา่ งไร 6. ตัวแทนของแต่ละกลุม่ นาเสนอผลการอภิปรายทีห่ นา้ ช้นั เรียน โดยครูอธิบายเพ่ิมเติมให้นักเรียนเกิดความเขา้ ใจมากยิ่งข้นึ 7. นกั เรียนแตล่ ะกลุ่มชว่ ยกนั เขียนแผนผังความคิดแสดงความสาคัญและวิธีการดูแลระบบขับถ่ายลงในกระดาษขนาด A4 แล้วนาเสนอผลงานทห่ี นา้ ชัน้ เรยี นขน้ั สรปุ 1. นักเรียนตอบคาถามกระตุ้นความคิด เราควรปฏิบัติตนอย่างไร เมื่อระบบผิวหนังขับถ่ายเหงื่อออกจากรา่ งกาย 2. ครูและนักเรียนรว่ มกันสรปุ ความสาคัญ และข้อควรปฏิบัติในการดแู ลระบบขับถ่าย9. สอ่ื การเรยี นการสอน / แหลง่ เรยี นรู้ 1. หนงั สอื เรยี น สขุ ศกึ ษาและพลศึกษา ป.6 2. เอกสารประกอบการสอน 3. กระดาษขนาด A4

10. การวดั ผลและประเมินผล เคร่อื งมอื เกณฑ์ แบบประเมนิ การนาเสนอผลงาน ระดับคณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ วธิ ีการ แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทางานรายบคุ คล ระดบั คณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ประเมินการนาเสนอผลงาน แบบสงั เกตพฤติกรรมการทางานกลุ่ม ระดบั คณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์สังเกตพฤติกรรมการทางานรายบคุ คล แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ระดับคณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์สังเกตพฤติกรรมการทางานกล่มุสังเกตความมีวนิ ัย ใฝุเรยี นรู้ ตรงตอ่ เวลา แบบประเมนิ การนาเสนอผลงาน ระดับคณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์และมุ่งมัน่ ในการทางานประเมนิ การนาเสนอผลงาน

บันทกึ ผลหลงั การจัดการเรียนรู้ผลการสอน……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ลงช่ือ ......................................................... (นางสาวอรณัชชา เจรญิ สุข) ครูผสู้ อนขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแก้ไข……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชือ่ .......................................................... (นางสาวจติ ตานาถ เทพวงศ์) ครูพเ่ี ลีย้ งข้อเสนอแนะ/แนวทางแก้ไข……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงช่อื .......................................................... ( นางวิลาวัลย์ ปาลี ) ผู้อานวยการโรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31

แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายบคุ คล คาชี้แจง : ให้ ผ้สู อน สังเกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรียน แลว้ ขีด  ลงใน ชอ่ ง ที่ตรงกบั ระดบั คะแนนลาดบั ชอ่ื – สกุล ความมีวนิ ยั ความมนี า้ ใจ การรับฟงั การแสดง การตรงต่อ รวม ที่ ของผู้รบั การ 321 เออ้ื เฟื้อ ความคดิ เห็น ความคิดเห็น เวลา 15 เสยี สละ คะแนน ประเมิน 321 321 321 3211 เดก็ ชายวโรดม ใจวงศส์ กลุ2 เดก็ ชายกรวุฒิ นันทวเิ ชียรชมุ่3 เด็กชายชายเดช กุลถาวรยศ4 เด็กชายธรรมนูญ ขวญั ไพรจริ ะ5 เด็กชายธัญเทพ ทะรยิ ะ6 เด็กชายธีรภัทร จารสั ประทีปพงศ์7 เด็กชายปติ ภิ ัทร เสรปี ระชาคม8 เดก็ ชายพฤฒพิ งศ์ สทิ ธ์ิคงขจร9 เดก็ ชายวิชชาบรู ณ์ เสรปี ระชาคม10 เดก็ หญิงการติ า มฤคมาศ11 เดก็ หญิงกลุ ธรา สริ ปิ ัญญามณีกุล12 เด็กหญิงชฎาพร บวรหิรญั ไพร13 เด็กหญิงฐติ มิ า คณุ านาถอัปสร14 เดก็ หญงิ ลลิตา ธรี เดชทรัพย์15 เดก็ หญงิ วรศิ รา ชตุ ิกรรังสี16 เดก็ หญิงวศินี ช่ืนบัวตมู17 เด็กหญงิ สุชวี า ธรี เดชทรพั ย์18 เด็กหญิงอนญั พร พงศ์บริสุทธ์ิ19 เด็กหญิงอรปรยี า แสนวังทอง20 เด็กหญิงอรสิ า พัฒนาเกยี รติชวี ิน21 เด็กหญงิ ยพุ าพร ฝายหิน22 เด็กหญงิ นนั ธิกา ปะเก23 เด็กหญิงพิชญส์ ินี วงศพ์ ริ ณุ ทอง ลงชอื่ ...................................................ผู้ประเมิน ............../.................../................ เกณฑ์การใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน เกณฑก์ ารตดั สนิ คณุ ภาพ ปฏิบตั หิ รือแสดงพฤตกิ รรมอย่างสมา่ เสมอ ให้ 2 คะแนน ปฏิบตั ิหรือแสดงพฤตกิ รรมบอ่ ยครงั้ ให้ 1 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ ปฏบิ ตั ิหรือแสดงพฤตกิ รรมบางครงั้ 12 - 15 ดี 8 - 11 พอใช้ ต่ากว่า 8 ปรับปรงุ

แบบประเมินคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์คาชแี้ จง : ให้ ผ้สู อน สังเกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขีด  ลง ในชอ่ งทตี่ รงกบั ระดบั คะแนน คณุ ลักษณะ รายการประเมิน ระดับคะแนน อนั พงึ ประสงค์ดา้ น 3211. รกั ชาติ ศาสน์ 1.1 ยนื ตรงเคารพธงชาติ และร้องเพลงชาตไิ ด้ 1.2 เข้ารว่ มกิจกรรมทส่ี ร้างความสามคั คี ปรองดอง และเป็นประโยชน์ กษตั ริย์ ต่อโรงเรียน2. ซอื่ สตั ย์ สุจรติ 1.3 เขา้ ร่วมกจิ กรรมทางศาสนาท่ตี นนบั ถือ ปฏิบัตติ ามหลกั ศาสนา3. มีวนิ ยั รบั ผดิ ชอบ 1.4 เขา้ ร่วมกิจกรรมทเี่ กยี่ วกับสถาบนั พระมหากษตั รยิ ์ตามท่ีโรงเรยี นจดั ข้นึ4. ใฝ่เรยี นรู้ 2.1 ใหข้ อ้ มูลทีถ่ ูกตอ้ ง และเปน็ จรงิ 2.2 ปฏิบตั ิในสงิ่ ท่ถี ูกต้อง5. อยอู่ ย่างพอเพียง 3.1 ปฏบิ ตั ิตามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ขอ้ บังคบั ของครอบครัว6. มุ่งมน่ั ในการ มคี วามตรงตอ่ เวลาในการปฏบิ ัติกจิ กรรมตา่ งๆ ในชีวติ ประจาวนั ทางาน 4.1 รูจ้ ักใชเ้ วลาวา่ งใหเ้ ปน็ ประโยชน์ และนาไปปฏิบัตไิ ด้ 4.2 รจู้ ักจดั สรรเวลาให้เหมาะสม7. รักความเปน็ ไทย 4.3 เช่ือฟังคาสง่ั สอนของบดิ า-มารดา โดยไมโ่ ตแ้ ย้ง8. มจี ติ สาธารณะ 4.4 ตั้งใจเรียน 5.1 ใชท้ รัพย์สนิ และสิง่ ของของโรงเรียนอย่างประหยดั 5.2 ใชอ้ ุปกรณ์การเรยี นอยา่ งประหยัดและรคู้ ณุ ค่า 5.3 ใชจ้ า่ ยอย่างประหยัดและมกี ารเก็บออมเงิน 6.1 มคี วามตงั้ ใจและพยายามในการทางานท่ีได้รับมอบหมาย 6.2 มีความอดทนและไมท่ อ้ แทต้ อ่ อปุ สรรคเพือ่ ใหง้ านสาเร็จ 7.1 มีจิตสานึกในการอนุรักษ์วัฒนธรรมและภมู ิปญั ญาไทย 7.2 เหน็ คณุ คา่ และปฏบิ ตั ิตนตามวฒั นธรรมไทย 8.1 รจู้ กั ชว่ ยพอ่ แม่ ผ้ปู กครอง และครทู างาน 8.2 รจู้ ักการดแู ล รักษาทรพั ย์สมบัตแิ ละส่งิ แวดลอ้ มของหอ้ งเรยี น โรงเรยี น ลงช่ือ...................................................ผู้ประเมิน ............../.................../................เกณฑ์การใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน เกณฑ์การตดั สนิ คณุ ภาพ ปฏบิ ัติหรือแสดงพฤตกิ รรมอย่างสมา่ เสมอ ให้ 2 คะแนน ปฏิบัตหิ รือแสดงพฤตกิ รรมบอ่ ยคร้งั ให้ 1 คะแนน ชว่ งคะแนน ระดับคณุ ภาพ ปฏิบัตหิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางครัง้ 46 - 60 ดี 30 - 45 พอใช้ ต่ากวา่ 30 ปรับปรงุ

แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทางานรายบุคคลช่ือ ชนั้ …………...คาช้แี จง : ให้ ผ้สู อน สงั เกตพฤติกรรมของนกั เรยี นในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด  ลง ในชอ่ งท่ตี รงกับระดับคะแนนลาดับท่ี รายการประเมิน ระดับคะแนน 3211 การแสดงความคิดเหน็2 การยอมรบั ฟงั ความคดิ เห็นของผ้อู นื่3 การทางานตามหน้าท่ีท่ีได้รบั มอบหมาย4 ความมีน้าใจ5 การตรงต่อเวลา รวม ลงชื่อ....................................................ผูป้ ระเมนิ ................ /................ /................เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน เกณฑ์การตัดสนิ คุณภาพ ปฏบิ ตั ิหรอื แสดงพฤติกรรมอย่างสมา่ เสมอ ให้ 2 คะแนน ปฏบิ ตั ิหรอื แสดงพฤตกิ รรมบอ่ ยคร้ัง ให้ 1 คะแนน ชว่ งคะแนน ระดับคณุ ภาพ ปฏิบัติหรือแสดงพฤตกิ รรมบางครง้ั 12 - 15 ดี 18 - 11 พอใช้ ตา่ กวา่ 8 ปรับปรงุ

แบบประเมินการนาเสนอผลงานคาช้ีแจง : ให้ ผู้สอน ประเมินการนาเสนอผลงานของนักเรยี นตามรายการทก่ี าหนด แล้วขดี  ลงใน ชอ่ งท่ีตรงกบั ระดบั คะแนนลาดับท่ี รายการประเมิน ระดับคะแนน 3211 นาเสนอเนือ้ หาในผลงานได้ถูกตอ้ ง2 การลาดบั ขั้นตอนของเนื้อเร่อื ง3 การนาเสนอมีความน่าสนใจ4 การมสี ว่ นร่วมของสมาชิกในกล่มุ5 การตรงต่อเวลา รวม ลงช่ือ .................................................... ผู้ประเมิน ................ /................ /................เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน เกณฑก์ ารตดั สนิ คุณภาพ ผลงานหรอื พฤตกิ รรมสมบูรณช์ ดั เจน ให้ 2 คะแนน ผลงานหรือพฤตกิ รรมมขี ้อบกพร่องบางส่วน ให้ 1 คะแนน ชว่ งคะแนน ระดบั คุณภาพ ผลงานหรอื พฤตกิ รรมมขี อ้ บกพรอ่ งเป็นสว่ นใหญ่ 12 - 15 ดี 18 - 11 พอใช้ ต่ากวา่ 8 ปรับปรุง

เอกสารประกอบการสอน การทางานของการขบั ถา่ ยอจุ จาระทวารหนกั นา้ และเกลอื แร่ ถกู ดดู ซึม เข้าไปเลยี้ งสว่ นตา่ งๆ ของรา่ งกาย กากอาหารท่ีแข็ง อจุ จาระ การทางานของการขบั ถ่ายปสั สาวะ 1. ไตกรองของเสยี ออกมาจาก เลอื ดในรปู ของปสั สาวะ 2. น้าปัสสาวะไหลไปรวมกันท่ี กรวยไตไหลผา่ นท่อไตและไหล ไปเกบ็ สะสมไว้ในกระเพาะ ปสั สาวะ 3. เม่อื ปัสสาวะมีปรมิ าณมาก ผนัง กระเพาะปสั สาวะจะยืดหดตัว กระตนุ้ ให้เรารู้สกึ ปวดปัสสาวะ เม่ือกระเพาะปสั สาวะหดตวั ก็จะ ขับปัสสาวะออกมานอกร่างกาย

แบบทดสอบก่อนเรยี น หน่วยการเรียนรูท้ ่ี 1คาชแ้ี จง ใหน้ ักเรยี นเลือกคาตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว1. ระบบยอ่ ยอาหารมีความสาคญั ตอ่ การเจรญิ เตบิ โต 6. ระบบขับถ่ายมคี วามสาคัญตอ่ การดารงชีวติ อยา่ งไรของร่างกายอยา่ งไร ก. เตอื นให้รา่ งกายรู้วา่ มปี รมิ าณของเสยี สะสมอยู่ก. ขบั ของเสียทีไ่ มต่ อ้ งการออกจากรา่ งกาย มากข. แลกเปลย่ี นแกส๊ เพอ่ื ใช้ในการเผาผลาญอาหาร ข. เปลีย่ นของเสยี ใหเ้ ป็นสารอาหารทรี่ า่ งกายค. เตือนใหร้ า่ งกายรับรูถ้ งึ อันตรายต่างๆ นามาใชไ้ ด้ง. เปลยี่ นอาหารให้เปน็ สารอาหารทร่ี ่างกาย ค. เปลย่ี นของเสยี เป็นพลงั งานในการเผาผลาญนาไปใช้ได้ อาหาร2. เพราะเหตุใด น้าลายช่วยทาใหก้ ลนื อาหารได้งา่ ย ง. ขับของเสียท่ีไมต่ ้องการออกจากรา่ งกายก. มีนา้ ยอ่ ยช่วยยอ่ ยอาหาร 7. เพราะเหตุใด ต่อมเหง่ือจึงขบั ของเสยี ที่ปนอยู่ในข. รบั รรู้ สชาตอิ าหารไดด้ ี กระแสเลือดออกมาค. สามารถดดู ซมึ อาหารได้ ก. ควบคมุ อุณหภูมิในร่างกายใหเ้ ปน็ ปกติง. เคย้ี วอาหารไดเ้ รว็ ขน้ึ ข. รกั ษาภาวะสมดลุ ภายในร่างกาย3. อวยั วะใดสาคญั ที่สดุ ในระบบย่อยอาหาร ค. ดดู ซึมน้าไปเล้ยี งสว่ นต่างๆ ของรา่ งกายก. กระเพาะอาหาร ง. ถ่ายเทของเสียไปยงั ส่วนตา่ งๆ ของร่างกายข. หลอดอาหาร 8. ไตเปน็ อวยั วะทสี่ าคญั ท่ีสุดในระบบขับถา่ ยปสั สาวะค. ลาไส้เล็ก อย่างไรง. ตบั ก. กรองเอาเกลือและสารพิษเกบ็ ไว้4. ถา้ เรากินอาหารให้ตรงเวลา มผี ลต่อการทางานของ ข. ขับถา่ ยของเสยี และกาจดั นา้ ส่วนเกนิระบบย่อยอาหารอย่างไร ค. สะสมของเสยี ไว้ในรา่ งกายก. ช่วยทาให้กินอาหารไดใ้ นปริมาณมากๆ ง. สามารถกลน้ั ปสั สาวะไวไ้ ด้นานข. ช่วยทาใหน้ า้ ย่อยหล่ังออกมาไดต้ รงเวลา 9. อวยั วะส่วนใดใชใ้ นระบบการขบั ถา่ ยแกส๊ คารบ์ อนไดค. ช่วยใหร้ ะบบไหลเวยี นโลหติ ทางานได้ดี ออกไซดม์ ากทส่ี ุดง. ชว่ ยดูดซึมสารอาหารเข้าสู่หลอดเลือดไดเ้ รว็ ก. หัวใจ ข. ไต5. ถา้ มอี าการทอ้ งผูก ควรเลือกกินผลไม้ชนดิ ใด จึงชว่ ย ค. ปอด ง. ลาไส้บรรเทาอาการทอ้ งผูก 10. ถ้าต้องการให้ระบบขับถา่ ยเหงอ่ื ทางานตามปกติก. ทเุ รียน ข. มะมว่ ง ควรปฏิบัติอย่างไรค. ลาไย ง. มะละกอ ก. สวมใสเ่ สอ้ื ผา้ หลวมๆ ข. ทาแปูงบริเวณที่มเี หงื่อออก ค. อาบนา้ อย่างน้อยวนั ละ 2 คร้งั ง. กนิ อาหารประเภทผกั และผลไมม้ ากๆ มฐ. พ 1.1 ป.5/1-2 ได้คะแนน คะแนนเตม็ 10เฉลย 1. ง 2. ก 3. ค 4. ข 5. ง 6. ง 7. ก 8. ข 9. ค 10. ค

แผนการจัดการเรียนรู้ จานวน 3 ช่วั โมงหน่วยการเรียนร้ทู ่ี 1 เรื่อง ระบบในรา่ งกาย จานวน 1 ชั่วโมงแผนการจดั การเรียนรูท้ ี่ 3 เรื่อง การดแู ลระบบยอ่ ยอาหารและระบบขบั ถา่ ยกล่มุ สาระการเรียนรู้ สุขศึกษาและพลศกึ ษาช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี 5 โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31ครผู ้สู อน นางสาวอรณัชชา เจริญสขุสอนวันอังคาร ที่ 31 เดือน พฤษภาคม พ.ศ. 2561 เวลา 10.20 น. - 11.10 น.1. สาระสาคัญ ระบบย่อยอาหารและระบบขับถ่าย เป็นระบบสาคัญต่อการดารงชีวิตและการทางานของร่างกายจึงควรดแู ลอย่างถกู วธิ ี เพือ่ ให้รา่ งกายทางานไดต้ ามปกติ มกี ารเจริญเตบิ โต และพัฒนาการสมวยั2. มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตวั ชีว้ ดั ชน้ั ปี/ผลการเรยี นรู้/เป้าหมายการเรยี นรู้ มาตรฐาน พ 1.1 เข้าใจธรรมชาติของการเจรญิ เตบิ โตและพัฒนาการของมนษุ ย์ ตัวชี้วัด พ 1.1 ป.5/1 อธิบายความสาคัญของระบบย่อยอาหาร และระบบขับถ่ายท่ีมีผลต่อสขุ ภาพ การเจรญิ เตบิ โตและพัฒนาการ ป.5/2 อธิบายวิธีดูแลระบบยอ่ ยอาหารและระบบขับถ่ายให้ทางานตามปกติ จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 1) อธบิ ายแนวทางในการดูแลระบบย่อยอาหารและระบบขับถา่ ยได้3. สาระการเรยี นรู้ 3.1 เนื้อหาสาระหลัก : Knowledge - ความสาคญั ของระบบขับถา่ ยท่ีมีผลตอ่ สุขภาพ การเจริญเตบิ โตและพฒั นาการ 3.2 ทักษะ/กระบวนการ : Process 1) ความสาคัญของระบบย่อยอาหารและระบบขบั ถ่ายที่มีผลต่อสุขภาพ การเจริญเติบโต และพัฒนาการ 2) วิธีดูแลรักษาระบบย่อยอาหารและระบบขบั ถา่ ยให้ทางานตามปกติ 3.3 คุณลกั ษณะทพี่ ึงประสงค์ : Attitude 1. มีวนิ ัย 2. ใฝเุ รียนรู้ 3. มคี วามรับผดิ ชอบ4. สมรรถนะสาคญั ของนักเรยี น 4.1 ความสามารถในการคดิ 1) ทกั ษะการวเิ คราะห์ 3) ทกั ษะการคดิ สร้างสรรค์ 2) ทักษะการเรยี งลาดับ 4) ทักษะการเชอื่ มโยง 4.2 ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ติ5. คุณลักษณะของวชิ า - ความรับผดิ ชอบ - ความรอบคอบ - กระบวนการกลุ่ม

6. คณุ ลักษณะทพี่ งึ ประสงค์ 1. ใฝุเรียนรู้ 2. มงุ่ ม่นั ในการทางาน 3. มีความรับผดิ ชอบ7. ชน้ิ งาน/ภาระงาน -8. กิจกรรมการเรยี นรู้ข้ันนา 1. นักเรียนตอบคาถามกระตุ้นความคิด ระบบย่อยอาหารและระบบขับถ่าย ทางานประสานกันหรอื ไม่ จงอธิบาย 2. ครูและนักเรียนร่วมกันสนทนาเก่ียวกับวิธีการดูแลรักษาระบบย่อยอาหารและระบบขับถ่ายและบอกผลดีของการดูแลรักษาระบบย่อยอาหารและระบบขับถ่ายอยา่ งถูกต้องข้นั สอน 1. นกั เรียนแต่ละกลุม่ (กลุ่มเดิมจากแผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 1) ส่งตัวแทนออกมาจับสลากคาถามแล้วร่วมกันอธบิ ายและสรปุ แนวคาตอบตามประเดน็ ท่ีกาหนด ดงั น้ี 1) ถา้ กระเพาะอาหารเปน็ แผล จะมีผลต่อระบบยอ่ ยอาหารอย่างไร 2) ถ้าระบบย่อยอาหารไม่สามารถยอ่ ยอาหารได้ จะสง่ ผล ตอ่ ร่างกายอยา่ งไร 3) ระบบยอ่ ยอาหารและระบบขับถา่ ย มกี ารทางานสัมพนั ธก์ ันอย่างไร 4) การที่ระบบย่อยอาหารและระบบขับถ่ายของเราทางาน เป็นปกติ มผี ลดีอย่างไร 2. สมาชกิ แต่ละกลมุ่ รว่ มกนั อธิบายและสรุปตามประเด็นที่กาหนด 3. ตัวแทนของแต่ละกลุ่มออกมานาเสนอความรู้หน้าช้ันเรียนครูตรวจสอบความถูกต้อง และอธิบายเพ่ิมเติมในสว่ นท่บี กพร่อง เพ่อื ใหน้ ักเรียนมคี วามรู้ความเข้าใจที่ถกู ต้องข้ันสรุป 1. นักเรียนตอบคาถามกระต้นุ ความคิด นักเรียนมีวิธีการปฏิบัติตนเพื่อเป็นการดูแลระบบขับถ่ายอุจจาระอยา่ งไร 2. นักเรียนรว่ มกันสรปุ วิธดี แู ลระบบย่อยอาหารและระบบขับถ่ายให้มีการทางานเป็นปกติ พร้อมเสนอแนวทางในการนาความรทู้ ี่ไดร้ บั ไปปรับใช้ในการดูแลสขุ ภาพให้ถูกต้องเหมาะสม  ครูมอบหมายใหน้ ักเรียนแตล่ ะกลุ่มชว่ ยกนั ทาสมุดภาพ เรื่อง ระบบย่อยอาหารและระบบขับถ่ายโดยใหค้ รอบคลุมประเด็นตามท่กี าหนด ดงั นี้ 1) การอธิบายความสาคญั และการทางานของระบบย่อยอาหาร 2) การอธิบายความสาคญั และการทางานของระบบขับถ่าย 3) การบอกวธิ ดี แู ลระบบย่อยอาหาร 4) การบอกวิธีดแู ลระบบขบั ถา่ ย

9. สอื่ การเรยี นการสอน / แหล่งเรยี นรู้ 1. หนังสอื เรียน สุขศึกษาและพลศึกษา ป.6 2. สลาก 3. แบบทดสอบหลงั เรียน หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 110. การวดั ผลและประเมนิ ผล วธิ กี าร เครอื่ งมือ เกณฑ์ แบบประเมนิ การนาเสนอผลงาน ระดบั คณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ประเมินการนาเสนอผลงาน แบบสังเกตพฤติกรรมการทางานรายบคุ คล ระดับคณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ แบบสงั เกตพฤติกรรมการทางานกลมุ่ ระดับคณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายบคุ คล แบบประเมินคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ ระดับคณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์สังเกตพฤติกรรมการทางานกลมุ่ แบบทดสอบหลังเรยี น หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 1 ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ แบบประเมินสมดุ ภาพ เรอื่ ง ระบบยอ่ ย ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์สังเกตความมวี ินยั ใฝุเรียนรู้ ตรงตอ่ เวลา อาหารและระบบขับถ่ายและมงุ่ ม่นั ในการทางานตรวจแบบทดสอบหลงั เรียน หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 1ตรวจสมุดภาพ เร่อื ง ระบบย่อยอาหารและระบบขับถ่าย

บนั ทกึ ผลหลงั การจดั การเรยี นรู้ผลการสอน……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ลงชือ่ ......................................................... (นางสาวอรณชั ชา เจรญิ สขุ ) ครผู สู้ อนขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแก้ไข……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงช่ือ .......................................................... (นางสาวจติ ตานาถ เทพวงศ์) ครูพเี่ ล้ยี งข้อเสนอแนะ/แนวทางแก้ไข……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชอ่ื .......................................................... ( นางวลิ าวลั ย์ ปาลี ) ผูอ้ านวยการโรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31

แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายบคุ คล คาชี้แจง : ให้ ผ้สู อน สังเกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรียน แลว้ ขีด  ลงใน ชอ่ ง ที่ตรงกบั ระดบั คะแนนลาดบั ชอ่ื – สกุล ความมีวนิ ยั ความมนี า้ ใจ การรับฟงั การแสดง การตรงต่อ รวม ที่ ของผู้รบั การ 321 เออ้ื เฟื้อ ความคดิ เห็น ความคิดเห็น เวลา 15 เสยี สละ คะแนน ประเมิน 321 321 321 3211 เดก็ ชายวโรดม ใจวงศส์ กลุ2 เดก็ ชายกรวุฒิ นันทวเิ ชียรชมุ่3 เด็กชายชายเดช กุลถาวรยศ4 เด็กชายธรรมนูญ ขวญั ไพรจริ ะ5 เด็กชายธัญเทพ ทะรยิ ะ6 เด็กชายธีรภัทร จารสั ประทีปพงศ์7 เด็กชายปติ ภิ ัทร เสรปี ระชาคม8 เดก็ ชายพฤฒพิ งศ์ สทิ ธ์ิคงขจร9 เดก็ ชายวิชชาบรู ณ์ เสรปี ระชาคม10 เดก็ หญิงการติ า มฤคมาศ11 เดก็ หญิงกลุ ธรา สริ ปิ ัญญามณีกุล12 เด็กหญิงชฎาพร บวรหิรญั ไพร13 เด็กหญิงฐติ มิ า คณุ านาถอัปสร14 เดก็ หญงิ ลลิตา ธรี เดชทรัพย์15 เดก็ หญงิ วรศิ รา ชตุ ิกรรังสี16 เดก็ หญิงวศินี ช่ืนบัวตมู17 เด็กหญงิ สุชวี า ธรี เดชทรพั ย์18 เด็กหญิงอนญั พร พงศ์บริสุทธ์ิ19 เด็กหญิงอรปรยี า แสนวังทอง20 เด็กหญิงอรสิ า พัฒนาเกยี รติชวี ิน21 เด็กหญงิ ยพุ าพร ฝายหิน22 เด็กหญงิ นนั ธิกา ปะเก23 เด็กหญิงพิชญส์ ินี วงศพ์ ริ ณุ ทอง ลงชอื่ ...................................................ผู้ประเมิน ............../.................../................ เกณฑ์การใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน เกณฑก์ ารตดั สนิ คณุ ภาพ ปฏิบตั หิ รือแสดงพฤตกิ รรมอย่างสมา่ เสมอ ให้ 2 คะแนน ปฏิบตั ิหรือแสดงพฤตกิ รรมบอ่ ยครงั้ ให้ 1 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ ปฏบิ ตั ิหรือแสดงพฤตกิ รรมบางครงั้ 12 - 15 ดี 8 - 11 พอใช้ ต่ากว่า 8 ปรับปรงุ

แบบประเมินคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์คาชแี้ จง : ให้ ผ้สู อน สังเกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขีด  ลง ในชอ่ งทตี่ รงกบั ระดบั คะแนน คณุ ลักษณะ รายการประเมิน ระดับคะแนน อนั พงึ ประสงค์ดา้ น 3211. รกั ชาติ ศาสน์ 1.1 ยนื ตรงเคารพธงชาติ และร้องเพลงชาตไิ ด้ 1.2 เข้ารว่ มกิจกรรมทส่ี ร้างความสามคั คี ปรองดอง และเป็นประโยชน์ กษตั ริย์ ต่อโรงเรียน2. ซอื่ สตั ย์ สุจรติ 1.3 เขา้ ร่วมกจิ กรรมทางศาสนาท่ตี นนบั ถือ ปฏิบัตติ ามหลกั ศาสนา3. มีวนิ ยั รบั ผดิ ชอบ 1.4 เขา้ ร่วมกิจกรรมทเี่ กยี่ วกับสถาบนั พระมหากษตั รยิ ์ตามท่ีโรงเรยี นจดั ข้นึ4. ใฝ่เรยี นรู้ 2.1 ใหข้ อ้ มูลทีถ่ ูกตอ้ ง และเปน็ จรงิ 2.2 ปฏิบตั ิในสงิ่ ท่ถี ูกต้อง5. อยอู่ ย่างพอเพียง 3.1 ปฏบิ ตั ิตามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ขอ้ บังคบั ของครอบครัว6. มุ่งมน่ั ในการ มคี วามตรงตอ่ เวลาในการปฏบิ ัติกจิ กรรมตา่ งๆ ในชีวติ ประจาวนั ทางาน 4.1 รูจ้ ักใชเ้ วลาวา่ งใหเ้ ปน็ ประโยชน์ และนาไปปฏิบัตไิ ด้ 4.2 รจู้ ักจดั สรรเวลาให้เหมาะสม7. รักความเปน็ ไทย 4.3 เช่ือฟังคาสง่ั สอนของบดิ า-มารดา โดยไมโ่ ตแ้ ย้ง8. มจี ติ สาธารณะ 4.4 ตั้งใจเรียน 5.1 ใชท้ รัพย์สนิ และสิง่ ของของโรงเรียนอย่างประหยดั 5.2 ใชอ้ ุปกรณ์การเรยี นอยา่ งประหยัดและรคู้ ณุ ค่า 5.3 ใชจ้ า่ ยอย่างประหยัดและมกี ารเก็บออมเงิน 6.1 มคี วามตงั้ ใจและพยายามในการทางานท่ีได้รับมอบหมาย 6.2 มีความอดทนและไมท่ อ้ แทต้ อ่ อปุ สรรคเพือ่ ใหง้ านสาเร็จ 7.1 มีจิตสานึกในการอนุรักษ์วัฒนธรรมและภมู ิปญั ญาไทย 7.2 เหน็ คณุ คา่ และปฏบิ ตั ิตนตามวฒั นธรรมไทย 8.1 รจู้ กั ชว่ ยพอ่ แม่ ผ้ปู กครอง และครทู างาน 8.2 รจู้ ักการดแู ล รักษาทรพั ย์สมบัตแิ ละส่งิ แวดลอ้ มของหอ้ งเรยี น โรงเรยี น ลงช่ือ...................................................ผู้ประเมิน ............../.................../................เกณฑ์การใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน เกณฑ์การตดั สนิ คณุ ภาพ ปฏบิ ัติหรือแสดงพฤตกิ รรมอย่างสมา่ เสมอ ให้ 2 คะแนน ปฏิบัตหิ รือแสดงพฤตกิ รรมบอ่ ยคร้งั ให้ 1 คะแนน ชว่ งคะแนน ระดับคณุ ภาพ ปฏิบัตหิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางครัง้ 46 - 60 ดี 30 - 45 พอใช้ ต่ากวา่ 30 ปรับปรงุ

แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทางานรายบุคคลช่ือ ชนั้ …………...คาช้แี จง : ให้ ผ้สู อน สงั เกตพฤติกรรมของนกั เรยี นในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด  ลง ในชอ่ งท่ตี รงกับระดับคะแนนลาดับท่ี รายการประเมิน ระดับคะแนน 3211 การแสดงความคิดเหน็2 การยอมรบั ฟงั ความคดิ เห็นของผ้อู นื่3 การทางานตามหน้าท่ีท่ีได้รบั มอบหมาย4 ความมีน้าใจ5 การตรงต่อเวลา รวม ลงชื่อ....................................................ผูป้ ระเมนิ ................ /................ /................เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน เกณฑ์การตัดสนิ คุณภาพ ปฏบิ ตั ิหรอื แสดงพฤติกรรมอย่างสมา่ เสมอ ให้ 2 คะแนน ปฏบิ ตั ิหรอื แสดงพฤตกิ รรมบอ่ ยคร้ัง ให้ 1 คะแนน ชว่ งคะแนน ระดับคณุ ภาพ ปฏิบัติหรือแสดงพฤตกิ รรมบางครง้ั 12 - 15 ดี 18 - 11 พอใช้ ตา่ กวา่ 8 ปรับปรงุ

การประเมินชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) แบบประเมินสมุดภาพ เรอ่ื ง ระบบย่อยอาหารและระบบขับถา่ ยลาดับที่ รายการประเมิน ระดับคะแนน 3211 การอธบิ ายความสาคญั และการทางานของระบบยอ่ ย อาหาร2 การอธิบายความสาคญั และการทางานของระบบขบั ถ่าย3 การอธิบายวธิ ีดแู ลระบบย่อยอาหาร4 การอธบิ ายวิธดี ูแลระบบขบั ถ่าย รวม ลงชอ่ื .................................................... ผปู้ ระเมนิ ................ /................ /................เกณฑก์ ารให้คะแนน = 3 คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ดี = 2 คะแนน พอใช้ = 1 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ปรับปรุง 10 - 12 ดี 6 - 9 พอใช้ ต่ากว่า 6 ปรับปรงุ

แบบทดสอบหลงั เรยี น หน่วยการเรียนรู้ที่ 1คาช้แี จง ใหน้ ักเรยี นเลือกคาตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว1. เพราะเหตุใด ต่อมเหง่อื จึงขบั ของเสียทปี่ นอยใู่ น 6. อวัยวะใดสาคญั ที่สดุ ในระบบย่อยอาหารกระแสเลอื ดออกมา ก. ตับก. รกั ษาภาวะสมดลุ ภายในร่างกาย ข. ลาไสเ้ ล็กข. ควบคุมอุณหภูมิในรา่ งกายใหเ้ ปน็ ปกติ ค. หลอดอาหารค. ดดู ซึมน้าไปเลยี้ งส่วนตา่ งๆ ของรา่ งกาย ง. กระเพาะอาหารง. ถา่ ยเทของเสยี ไปยงั ส่วนตา่ งๆ ของร่างกาย 7. ระบบย่อยอาหารมคี วามสาคญั ต่อการเจรญิ เติบโต2. อวยั วะส่วนใดใช้ในระบบการขบั ถา่ ยแก๊สคาร์บอนได ของรา่ งกายอยา่ งไรออกไซดม์ ากทสี่ ดุ ก. แลกเปลย่ี นแกส๊ เพือ่ ใชใ้ นการเผาผลาญอาหารก. ลาไส้ ข. หัวใจ ข. เตือนใหร้ า่ งกายรับรถู้ งึ อนั ตรายต่างๆค. ไต ง. ปอด ค. ขับของเสยี ทไี่ มต่ อ้ งการออกจากรา่ งกาย3. ถ้าต้องการใหร้ ะบบขับถา่ ยเหง่อื ทางานตามปกติ ง. เปลยี่ นอาหารให้เปน็ สารอาหารทร่ี ่างกายควรปฏิบตั ิอยา่ งไร นาไปใช้ได้ก. สวมใส่เส้ือผ้าหลวมๆ 8. ถา้ มอี าการทอ้ งผูก ควรเลือกกนิ ผลไมช้ นดิ ใด จึงชว่ ยข. กนิ อาหารประเภทผกั และผลไมม้ ากๆ บรรเทาอาการทอ้ งผูกค. อาบน้าอยา่ งนอ้ ยวันละ 2 ครง้ั ก. ทุเรียน ข. ลาไยง. ทาแปูงบรเิ วณท่ีมเี หงื่อออก ค. มะละกอ ง. มะมว่ ง4. ไตเป็นอวัยวะทีส่ าคญั ท่ีสุดในระบบขับถ่ายปัสสาวะ 9. เพราะเหตใุ ด น้าลายชว่ ยทาใหก้ ลนื อาหารได้ง่ายอยา่ งไร ก. มีนา้ ย่อยชว่ ยยอ่ ยอาหารก. ขับถา่ ยของเสียและกาจดั นา้ ส่วนเกนิ ข. เค้ียวอาหารไดเ้ ร็วข้นึข. กรองเอาเกลอื และสารพษิ เก็บไว้ ค. รับรรู้ สชาตอิ าหารไดด้ ีค. สามารถกลน้ั ปสั สาวะไวไ้ ด้นาน ง. สามารถดูดซมึ อาหารได้ง. สะสมของเสียไวใ้ นร่างกาย 10. ถา้ เรากนิ อาหารใหต้ รงเวลา มผี ลตอ่ การทางานของ5. ระบบขบั ถา่ ยมคี วามสาคัญต่อการดารงชีวิตอย่างไร ระบบย่อยอาหารอยา่ งไรก. เตือนให้รา่ งกายร้วู ่ามปี รมิ าณของเสยี สะสมอยู่ ก. ช่วยดดู ซึมสารอาหารเข้าสูห่ ลอดเลือดได้เรว็มาก ข. ช่วยทาใหก้ นิ อาหารไดใ้ นปรมิ าณมากๆข. ขับของเสยี ที่ไมต่ ้องการออกจากรา่ งกาย ค. ช่วยให้ระบบไหลเวียนโลหติ ทางานได้ดีค. เปลย่ี นของเสยี เปน็ พลงั งานในการเผาผลาญ ง. ชว่ ยทาใหน้ า้ ย่อยหลงั่ ออกมาไดต้ รงเวลาอาหารง. เปล่ียนของเสยี ใหเ้ ป็นสารอาหารทรี่ ่างกายนามาใช้ได้ มฐ. พ 1.1 ป.5/1-2 ไดค้ ะแนน คะแนนเตม็ 10เฉลย 1. ข 2. ง 3. ค 4. ก 5. ข 6. ข 7. ง 8. ค 9. ก 10. ง

แผนการจัดการเรยี นรู้หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 2 เร่อื ง เพศศกึ ษา จานวน 3 ช่ัวโมงแผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 1 เรื่อง การเปลี่ยนแปลงทางเพศ การดูแลตนเองเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงทางเพศและการวางตวั ท่ีเหมาะสมกับเพศตามวฒั นธรรมไทย จานวน 3 ชัว่ โมงกลุม่ สาระการเรยี นรู้ สุขศึกษาและพลศกึ ษาชัน้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 5 โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31ครผู ู้สอน นางสาวอรณชั ชา เจรญิ สขุสอนวนั อังคาร ที่ 7 เดือน มถิ ุนายน พ.ศ. 2561 เวลา 10.20 น. - 11.10 น.สอนวันองั คาร ท่ี 14 เดือน มถิ ุนายน พ.ศ. 2561 เวลา 10.20 น. - 11.10 น.สอนวนั องั คาร ที่ 21 เดอื น มิถุนายน พ.ศ. 2561 เวลา 10.20 น. - 11.10 น.1. สาระสาคัญ การเจริญเติบโตทางร่างกายในวัยเด็กตอนปลายจนถึงเข้าสู่วัยรุ่น ทาให้เกิดการเปล่ียนแปลงทางเพศในด้านต่างๆ การเจริญเติบโตทางร่างกายทาให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางเพศในด้านต่างๆ จึงควรดูแลตนเองให้ถูกต้องและเหมาะสม การเปลี่ยนแปลงทางเพศในด้านต่างๆ จะต้องรู้จักการวางตัวที่เหมาะสมกบั เพศตามวัฒนธรรมไทย2. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวช้วี ัดช้ันป/ี ผลการเรียนร้/ู เปา้ หมายการเรียนรู้ มาตรฐาน พ 2.1 เข้าใจและเห็นคุณค่าตนเอง ครอบครัว เพศศึกษา และมีทักษะในการดาเนินชีวติ ตัวชีว้ ดั พ 2.1 ป.5/1 อธบิ ายการเปล่ียนแปลงทางเพศและปฏิบัตติ นได้เหมาะสม จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1) อธิบายลักษณะการเปล่ยี นแปลงทางเพศในด้านต่างๆ ได้ 2) บอกวิธกี ารดูแลตนเองเม่อื มกี ารเปล่ยี นแปลงทางเพศในดา้ นต่างๆ ได้ 3) บอกแนวทางในการวางตวั ทีเ่ หมาะสมกบั เพศตามวฒั นธรรมไทยได้3. สาระการเรียนรู้ 3.1 เนอื้ หาสาระหลกั : Knowledge - การเปลยี่ นแปลงทางเพศ - การดแู ลตนเอง - การวางตัวที่เหมาะสมกับเพศตามวัฒนธรรมไทย 3.2 ทกั ษะ/กระบวนการ : Process 1. นักเรียนสามารถอธบิ ายลักษณะการเปล่ยี นแปลงทางเพศในด้านตา่ งๆ ได้ 2. นกั เรียนสามารถบอกวธิ กี ารดแู ลตนเองเม่ือมกี ารเปลยี่ นแปลงทางเพศในดา้ นตา่ งๆ ได้ 3. นกั เรยี นสามารถบอกแนวทางในการวางตัวท่เี หมาะสมกบั เพศตามวฒั นธรรมไทยได้ 3.3 คณุ ลักษณะท่พี งึ ประสงค์ : Attitude 1. ใฝเุ รยี นรู้ 2. ตรงต่อเวลา

4. สมรรถนะสาคญั ของนกั เรียน 4.1 ความสามารถในการคดิ 1) ทกั ษะการวเิ คราะห์ 2) ทกั ษะการระบุ 4.2 ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวติ5. คณุ ลกั ษณะของวิชา - ความรับผดิ ชอบ - ความรอบคอบ - กระบวนการกล่มุ6. คณุ ลักษณะท่พี ึงประสงค์ 1. ใฝุเรียนรู้ 2. ตรงต่อเวลา7. ช้ินงาน/ภาระงาน 1. ใบงานที่ 2.1 เร่ือง ฉันเปล่ยี นแปลงอยา่ งไร 2. ใบงานท่ี 2.2 เรื่อง การดแู ลตนเอง 3. แผ่นพบั เร่ือง เพศศกึ ษา8. กิจกรรมการเรยี นรู้ชว่ั โมงที่ 1ขน้ั นา 1. นักเรียนตอบคาถามกระตุ้นความคิด นักเรียนคิดว่า ร่างกายของตนเองแตกต่างกับเพื่อนเพศตรงขา้ มอย่างไร 2. ครแู ละนักเรียนร่วมกันสนทนาเกี่ยวกับความเปล่ียนแปลง ของเพศหญิงและเพศชายในวัยของนกั เรยี น 3. ครแู บ่งนักเรียนเปน็ กลุ่ม กลมุ่ ละ 4 คน คละกันตามความ สามารถ คือ เก่ง ปานกลางค่อนข้างเก่ง ปานกลางค่อนข้างอ่อน และอ่อน จากน้ันให้นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันศึกษาความรู้เรื่อง การเปล่ียนแปลงทางเพศ จากหนงั สือเรียน ในด้านต่างๆ ดังนี้ 1) การเปล่ยี นแปลงทางด้านรา่ งกาย 2) การเปลีย่ นแปลงทางด้านจติ ใจ 3) การเปลย่ี นแปลงทางดา้ นอารมณ์ 4) การเปลี่ยนแปลงทางด้านสังคมข้ันสอน 1. ครูนากรณีตัวอย่าง เรื่อง มันเกิดอะไรขึ้น มาแจกให้นักเรียนอ่าน เม่ืออ่านจบแล้วให้นักเรียนร่วมกนั เสนอแนะแนวทางการแก้ปัญหาหรอื การปรบั ตัวทเ่ี หมาะสม 2. นักเรียนตอบคาถามกระตุ้นความคิด ถ้าร่างกายนักเรียนเกิดการเปลี่ยนแปลงแตกต่างจากเพ่ือน ควรจะทาอย่างไร 3. นกั เรยี นแต่ละกลมุ่ ร่วมกันวเิ คราะห์ และแสดงความคิดเห็นจากกรณตี ัวอยา่ ง เร่ือง มันเกิดอะไรข้ึน 4. สมาชกิ ในแตล่ ะกลมุ่ ร่วมกนั เสนอแนะแนวทางการแกป้ ัญหาหรอื การปรบั ตัวทเ่ี หมาะสมขนั้ สรุป

1. นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันสรุปผลการวิเคราะห์กรณีตัวอย่างพร้อมเสนอแนะแนวทางการแก้ปัญหาหรือการปรับตัวท่เี หมาะสม 2. ตัวแทนนักเรียนแต่ละกลุ่มนาเสนอผลการวิเคราะห์ที่หน้าช้ันเรียน โดยครูและนักเรียนกลุ่มอ่นื ๆ สามารถสอบถามหรอื แสดงความคิดเหน็ ที่เป็นประโยชน์เพิ่มเติมได้ 3. นักเรียนรว่ มกนั สรปุ ลักษณะการเปลีย่ นแปลงทางเพศ ในด้านต่างๆ 4. นักเรียนแต่ละคนทาใบงานที่ 2.1 เร่ือง ฉันเปล่ียนแปลงอย่างไร เม่ือทาใบงานเสร็จแล้วให้นาส่งครูตรวจ 5. ครูและนักเรียนร่วมกนั เฉลยคาตอบในใบงานท่ี 2.1ช่วั โมงท่ี 2ขน้ั นา 1. ครูให้นักเรียนแสดงความคิดเห็นว่า นักเรียนมีวิธีการดูแลตนเองอย่างไร โดยครูคอยกระตุ้นให้นักเรยี นทกุ คนมีสว่ นร่วม ในการแสดงความคดิ เหน็ 2. ครูอธิบายให้นักเรียนฟังว่า เม่ือร่างกายของเราเจริญเติบโตขึ้นจากวัยเด็กตอนปลายเริ่มเข้าสู่วัยรุ่น ย่อมมีการเปล่ียนแปลงในด้านต่างๆ ดังนั้นเราจึงควรศึกษาวิธีการดูแลตนเองในด้านต่างๆ เพ่ือให้สามารถดแู ลตนเองได้อยา่ งเหมาะสมข้นั สอน 1. นกั เรียนตอบคาถามกระตุ้นความคิด 2. นักเรียนรวมกลุ่มเดิม จากนั้นร่วมกันศึกษาความรู้เรื่อง การดูแลตนเองเม่ือมีการเปลี่ยนแปลงทางเพศ จากหนังสอื เรียน และแหลง่ ขอ้ มลู สารสนเทศ 3. สมาชกิ กล่มุ กาหนดหมายเลขให้สมาชิกแต่ละคนในกลมุ่ ต้งั แต่หมายเลข 1-4 ตามลาดับ แล้วให้นักเรียนแต่ละหมายเลขศึกษาความรตู้ ามประเดน็ ที่กาหนด ดงั น้ี - สมาชิกหมายเลข 1 ศึกษาความรู้เรื่อง การดูแลตนเองเม่ือมีการเปล่ียนแปลงทางเพศดา้ นร่างกาย - สมาชิกหมายเลข 2 ศึกษาความรู้เร่ือง การดูแลตนเองเม่ือมีการเปลี่ยนแปลงทางเพศด้านจิตใจ - สมาชิกหมายเลข 3 ศึกษาความรู้เรื่อง การดูแลตนเองเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงทางเพศด้านอารมณ์ - สมาชิกหมายเลข 4 ศึกษาความรู้เร่ือง การดูแลตนเองเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงทางเพศดา้ นสังคม 4. นักเรียนแต่ละหมายเลขนาความรู้ท่ีได้จากการศึกษามาอภิปรายร่วมกันภายในกลุ่ม จนสมาชิกทกุ คนเขา้ ใจตรงกนั แลว้ ให้แตล่ ะกลุ่มสง่ ตัวแทนออกมานาเสนอผลการสรุป หนา้ ชน้ั เรียน 5. ครูอธิบายให้นักเรียนฟังว่า เม่ือร่างกายเจริญเติบโตขึ้นการเปล่ียนแปลงทางเพศถือเป็นเรื่องปกติท่ีเกิดข้ึนตามธรรมชาติ นักเรียนจึงไม่ควรกังวล แต่ควรดูแลสุขภาพอนามัยทางเพศของตนเองในด้านตา่ งๆ ใหด้ ี 6. ครกู าหนดประเด็นปญั หาให้นกั เรยี นแตล่ ะกลุ่มชว่ ยกนั หาแนวทางในการตอบที่เป็นมติของกลุ่มดังน้ี 1) การเปลยี่ นแปลงทางดา้ นร่างกายส่งผลกระทบตอ่ นกั เรยี นอย่างไร

2) หากไม่ดแู ลรักษาสขุ อนามยั ทางเพศ ผลจะเป็นอย่างไร 3) การเสริมสรา้ งบุคลกิ ภาพที่ดีใหก้ ับตนเอง มีวธิ กี ารอย่างไร 7. นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันระดมสมองและแบ่งหน้าท่ีกันหาแนวทางในการตอบท่ีเป็นมติของกล่มุ ดงั น้ี - สมาชกิ หมายเลข 1 อา่ นและทาความเข้าใจประเด็นปัญหาและพิจารณาประเด็นปัญหาใหม้ คี วามชัดเจนเข้าใจง่าย และอธิบายให้สมาชกิ ในกลมุ่ ฟงั - สมาชกิ หมายเลข 2 ฟังและทาความเข้าใจประเด็นปัญหาและเสนอแนะแนวทางในการตอบคาถาม - สมาชิกหมายเลข 3 ตอบคาถาม หรือเสนอแนะแนวทาง ในการแกป้ ญั หา - สมาชิกหมายเลข 4 ตอบคาถาม หรือเสนอแนะแนวทาง ในการแกป้ ัญหาเพม่ิ เติม 8. นกั เรียนแตล่ ะกล่มุ ตรวจสอบคาตอบ หรือหาแนวทางในการแก้ปัญหาร่วมกัน หรือทบทวนตามขั้นตอนด้วยการสลบั หน้าทก่ี นั จากขนั้ ตอนขา้ งต้น จากนน้ั ให้ตัวแทนกลมุ่ นาเสนอผลในการตอบคาถามหรือเสนอแนะแนวทางในการแก้ปญั หาที่เป็นมติของกลุ่ม 9. ครูตรวจสอบความถูกต้อง เหมาะสม หรือเสนอแนะให้นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องแล้วประกาศผลกลุ่มท่ไี ดค้ ะแนนสูงสุดเพ่อื เปน็ การเสรมิ กาลงั ใจ 10. นกั เรยี นทาใบงานท่ี 2.2 เรื่อง การดูแลตนเอง เสร็จแล้วนาสง่ ครตู รวจตามเวลานดั หมายขน้ั สรุป นักเรียนรว่ มกนั สรปุ วธิ ีการดแู ลตนเองเม่ือมกี ารเปลี่ยนแปลงทางเพศในดา้ นต่างๆช่วั โมงท่ี 3ขน้ั นา 1. นักเรียนตอบคาถามกระตุ้นความคิด นักเรียนเห็นด้วยหรือไม่กับคากล่าวท่ีว่า “กฎหมายให้ความเสมอภาคทางเพศ จึงไม่ตอ้ งคานึงถงึ เรื่องการวางตวั ท่ีเหมาะสมกับเพศตามวฒั นธรรมไทย” 2. ครูถามนักเรียนว่า วัฒนธรรมการแสดงออกที่เป็นเอกลักษณ์ของไทย หรือแสดงความเป็นคนไทย มีอะไรบา้ ง เชน่ การไหว้ การแสดงความเคารพผู้อาวุโส เป็นตน้ 3. นกั เรียนช่วยกนั ยกตวั อย่างการปฏบิ ัติตนตามวฒั นธรรมไทยของเพศชายและเพศหญงิขั้นสอน 1. นกั เรยี นรวมกลุ่มเดิม (จากแผนการจัดการเรยี นร้ทู ี่ 1) แลว้ รว่ มกนั ศึกษาความรูเ้ ร่ือง การวางตัวทเี่ หมาะสมกบั เพศ ตามวัฒนธรรมไทย จากหนังสอื เรียน 2. นกั เรียนแต่ละกลุ่มรว่ มกันวิเคราะห์ และแสดงความคิดเหน็ จากกรณตี วั อย่างทค่ี รูกาหนด - วันน้ีเป็นวันวิสาขบูชา เพ่ือนๆ ชวนแก้วตาไปเวียนเทียนท่ีวัด แก้วตาเห็นว่าวัดอยู่ใกล้บา้ น เธอจึงใสเ่ ส้อื กล้ามและกางเกงขาสัน้ ไปเวียนเทยี น - ตน้ กลา้ ชอบนักรอ้ งเกาหลมี าก เขาจึงไปตัดผมและทา สีผมให้เหมือนกับนักร้องท่ีเขาชน่ื ชอบ 3. สมาชิกในแต่ละกลุ่มร่วมกันสรุปผลการวิเคราะห์และแสดงความคิดเห็นจากกรณีตัวอย่างพร้อมบอกแนวทางในการปฏิบัตติ นที่เหมาะสม 4. ตัวแทนนกั เรยี นแต่ละกลมุ่ ออกมานาเสนอผลการวิเคราะห์หน้าช้ันเรียน เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้กับกลมุ่ อนื่ ๆ

5. นักเรียนตอบคาถามกระตุ้นความคิด เมื่อมีปัญหาท่ีเกี่ยวกับการวางตัวท่ีเหมาะสมกับเพศนักเรยี นจะมวี ิธแี กป้ ญั หานัน้ อยา่ งไร 6. ครูให้นักเรียนบอกแนวทางในการวางตัวให้เหมาะสมกับเพศตามวัฒนธรรมไทย โดยครูเปิดโอกาสให้นักเรยี นสามารถตอบไดอ้ ยา่ งหลากหลาย เช่น - ผู้ชายตอ้ งเปน็ สภุ าพบรุ ุษ ใหเ้ กียรติและคอยช่วยเหลอื ผู้หญงิ - ผหู้ ญิงตอ้ งรักนวลสงวนตวั สวมใส่เสือ้ ผา้ ทไ่ี มเ่ ปิดเผยเน้ือตัวมากเกนิ ไป 7. ครูอธิบายให้นักเรียนฟังว่า ค่านิยมในสังคมไทยน้ัน ผู้ชายต้องรู้จักให้เกียรติผู้หญิง ผู้หญิงต้องรักนวลสงวนตัว และปฏบิ ัติตามวฒั นธรรมอันดีงาม ซึ่งแต่ละสังคมก็จะมีการกาหนดพฤติกรรมตามค่านิยมทแี่ ตกต่างกันไป ซ่งึ ถ้าเราปฏิบัติตามก็จะไดร้ ับการยกย่องและดาเนนิ ชีวติ ในสงั คมน้ันๆ ไดอ้ ยา่ งมคี วามสุข 8. นักเรียนร่วมกันกาหนดแนวทางในการวางตัวที่เหมาะสมกับเพศตามวัฒนธรรมไทย แล้วส่งตวั แทนออกมาเขยี นรวบรวมบนกระดานขัน้ สรปุ 1. นกั เรยี นรว่ มกนั วางแนวทางในการวางตวั ทีเ่ หมาะสมกบั เพศตามวฒั นธรรมไทย 2. ครูช่วยตรวจสอบความถูกต้อง เหมาะสม และเสนอแนะแนวทางในการปฏิบัติหากมีข้อบกพรอ่ ง  ครมู อบหมายให้นกั เรียนแตล่ ะคนทาแผน่ พับ เรื่อง เพศศึกษา โดยให้ครอบคลุมประเดน็ ตามที่กาหนด ดงั น้ี 1) การอธิบายการเปลีย่ นแปลงทางเพศในดา้ นตา่ งๆ 2) การอธิบายวธิ กี ารดแู ลตนเองเมอ่ื มีการเปลีย่ นแปลงทางเพศ 3) การบอกแนวทางในการปฏิบัตติ นทเี่ หมาะสมกบั เพศตามวัฒนธรรมไทย9. ส่อื การเรียนการสอน / แหล่งเรียนรู้ 1. หนงั สือเรยี น สขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา ป.6 2. ใบงานที่ 2.1 เรอ่ื ง ฉนั เปลย่ี นแปลงอย่างไร 3. กรณีตัวอยา่ ง 4. เอกสารประกอบการสอน 5. ใบงานท่ี 2.2 เร่อื ง การดแู ลตนเอง 6. กรณตี วั อยา่ ง

10. การวดั ผลและประเมินผล วธิ ีการ เครือ่ งมือ เกณฑ์ตรวจแบบทดสอบกอ่ นเรยี น หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 2 แบบทดสอบก่อนเรยี น หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 2 (ประเมินตามสภาพจรงิ )ตรวจใบงานท่ี 2.1 ใบงานท่ี 2.1 รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ ระดับคณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ประเมินการนาเสนอผลงาน แบบประเมินการนาเสนอผลงาน ระดับคณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ ระดบั คณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์สงั เกตพฤติกรรมการทางานรายบคุ คล แบบสงั เกตพฤติกรรมการทางานรายบคุ คล ระดบั คณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์สังเกตพฤตกิ รรมการทางานกลมุ่ แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลุ่ม ระดับคณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์สงั เกตการใฝุเรยี นรู้ และตรงต่อเวลา แบบประเมินคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ตรวจแบบทดสอบหลงั เรยี น หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 2 แบบทดสอบหลังเรยี น หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 2ตรวจแผน่ พบั เรือ่ ง เพศศกึ ษา แบบประเมินแผ่นพับ เรือ่ ง เพศศกึ ษา

บันทึกผลหลงั การจดั การเรยี นรู้ผลการสอน……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ลงชื่อ ......................................................... (นางสาวอรณัชชา เจริญสุข) ครูผู้สอนขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแกไ้ ข……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชอ่ื .......................................................... (นางสาวจติ ตานาถ เทพวงศ์) ครูพี่เลย้ี งขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแกไ้ ข……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงช่ือ .......................................................... ( นางวิลาวลั ย์ ปาลี ) ผ้อู านวยการโรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31

แบบสงั เกตพฤติกรรมการทางานรายบคุ คล คาชี้แจง : ให้ ผ้สู อน สังเกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แลว้ ขดี  ลงใน ชอ่ ง ที่ตรงกบั ระดบั คะแนนลาดบั ชอ่ื – สกุล ความมีวินัย ความมนี ้าใจ การรับฟัง การแสดง การตรงตอ่ รวม ที่ ของผู้รบั การ 321 เอ้อื เฟื้อ ความคิดเห็น ความคิดเห็น เวลา 15 เสยี สละ คะแนน ประเมิน 321 321 321 3211 เดก็ ชายวโรดม ใจวงศส์ กลุ2 เดก็ ชายกรวุฒิ นันทวเิ ชียรชมุ่3 เด็กชายชายเดช กุลถาวรยศ4 เด็กชายธรรมนูญ ขวญั ไพรจริ ะ5 เด็กชายธัญเทพ ทะรยิ ะ6 เด็กชายธีรภัทร จารสั ประทีปพงศ์7 เด็กชายปติ ภิ ัทร เสรปี ระชาคม8 เดก็ ชายพฤฒพิ งศ์ สทิ ธ์ิคงขจร9 เดก็ ชายวิชชาบรู ณ์ เสรปี ระชาคม10 เดก็ หญิงการติ า มฤคมาศ11 เดก็ หญิงกลุ ธรา สริ ปิ ัญญามณีกุล12 เด็กหญิงชฎาพร บวรหิรญั ไพร13 เด็กหญิงฐติ มิ า คณุ านาถอัปสร14 เดก็ หญงิ ลลิตา ธรี เดชทรัพย์15 เดก็ หญงิ วรศิ รา ชตุ ิกรรังสี16 เดก็ หญิงวศินี ช่ืนบัวตมู17 เด็กหญงิ สุชวี า ธรี เดชทรพั ย์18 เด็กหญิงอนญั พร พงศ์บริสุทธ์ิ19 เด็กหญิงอรปรยี า แสนวังทอง20 เด็กหญิงอรสิ า พัฒนาเกยี รติชวี ิน21 เด็กหญงิ ยพุ าพร ฝายหิน22 เด็กหญงิ นนั ธิกา ปะเก23 เด็กหญิงพิชญส์ ินี วงศพ์ ริ ณุ ทอง ลงชอื่ ...................................................ผ้ปู ระเมิน ............../.................../................ เกณฑ์การใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน เกณฑก์ ารตัดสินคุณภาพ ปฏิบตั หิ รือแสดงพฤตกิ รรมอย่างสม่าเสมอ ให้ 2 คะแนน ปฏิบตั ิหรือแสดงพฤตกิ รรมบอ่ ยครง้ั ให้ 1 คะแนน ชว่ งคะแนน ระดบั คุณภาพ ปฏบิ ตั ิหรือแสดงพฤตกิ รรมบางครงั้ 12 - 15 ดี 8 - 11 พอใช้ ต่ากว่า 8 ปรับปรุง

แบบประเมินคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์คาชแี้ จง : ให้ ผ้สู อน สังเกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขีด  ลง ในชอ่ งทตี่ รงกบั ระดบั คะแนน คณุ ลักษณะ รายการประเมิน ระดับคะแนน อนั พงึ ประสงค์ดา้ น 3211. รกั ชาติ ศาสน์ 1.1 ยนื ตรงเคารพธงชาติ และร้องเพลงชาตไิ ด้ 1.2 เข้ารว่ มกิจกรรมทส่ี ร้างความสามคั คี ปรองดอง และเป็นประโยชน์ กษตั ริย์ ต่อโรงเรียน2. ซอื่ สตั ย์ สุจรติ 1.3 เขา้ ร่วมกจิ กรรมทางศาสนาท่ตี นนบั ถือ ปฏิบัตติ ามหลกั ศาสนา3. มีวนิ ยั รบั ผดิ ชอบ 1.4 เขา้ ร่วมกิจกรรมทเี่ กยี่ วกับสถาบนั พระมหากษตั รยิ ์ตามท่ีโรงเรยี นจดั ข้นึ4. ใฝ่เรยี นรู้ 2.1 ใหข้ อ้ มูลทีถ่ ูกตอ้ ง และเปน็ จรงิ 2.2 ปฏิบตั ิในสงิ่ ท่ถี ูกต้อง5. อยอู่ ย่างพอเพียง 3.1 ปฏบิ ตั ิตามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ขอ้ บังคบั ของครอบครัว6. มุ่งมน่ั ในการ มคี วามตรงตอ่ เวลาในการปฏบิ ัติกจิ กรรมตา่ งๆ ในชีวติ ประจาวนั ทางาน 4.1 รูจ้ ักใชเ้ วลาวา่ งใหเ้ ปน็ ประโยชน์ และนาไปปฏิบัตไิ ด้ 4.2 รจู้ ักจดั สรรเวลาให้เหมาะสม7. รักความเปน็ ไทย 4.3 เช่ือฟังคาสง่ั สอนของบดิ า-มารดา โดยไมโ่ ตแ้ ย้ง8. มจี ติ สาธารณะ 4.4 ตั้งใจเรียน 5.1 ใชท้ รัพย์สนิ และสิง่ ของของโรงเรียนอย่างประหยดั 5.2 ใชอ้ ุปกรณ์การเรยี นอยา่ งประหยัดและรคู้ ณุ ค่า 5.3 ใชจ้ า่ ยอย่างประหยัดและมกี ารเก็บออมเงิน 6.1 มคี วามตงั้ ใจและพยายามในการทางานท่ีได้รับมอบหมาย 6.2 มีความอดทนและไมท่ อ้ แทต้ อ่ อปุ สรรคเพือ่ ใหง้ านสาเร็จ 7.1 มีจิตสานึกในการอนุรักษ์วัฒนธรรมและภมู ิปญั ญาไทย 7.2 เหน็ คณุ คา่ และปฏบิ ตั ิตนตามวฒั นธรรมไทย 8.1 รจู้ กั ชว่ ยพอ่ แม่ ผ้ปู กครอง และครทู างาน 8.2 รจู้ ักการดแู ล รักษาทรพั ย์สมบัตแิ ละส่งิ แวดลอ้ มของหอ้ งเรยี น โรงเรยี น ลงช่ือ...................................................ผู้ประเมิน ............../.................../................เกณฑ์การใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน เกณฑ์การตดั สนิ คณุ ภาพ ปฏบิ ัติหรือแสดงพฤตกิ รรมอย่างสมา่ เสมอ ให้ 2 คะแนน ปฏิบัตหิ รือแสดงพฤตกิ รรมบอ่ ยคร้งั ให้ 1 คะแนน ชว่ งคะแนน ระดับคณุ ภาพ ปฏิบัตหิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางครัง้ 46 - 60 ดี 30 - 45 พอใช้ ต่ากวา่ 30 ปรับปรงุ

แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทางานรายบุคคลช่ือ ชนั้ …………...คาช้แี จง : ให้ ผ้สู อน สงั เกตพฤติกรรมของนกั เรยี นในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด  ลง ในชอ่ งท่ตี รงกับระดับคะแนนลาดับท่ี รายการประเมิน ระดับคะแนน 3211 การแสดงความคิดเหน็2 การยอมรบั ฟงั ความคดิ เห็นของผ้อู นื่3 การทางานตามหน้าท่ีท่ีได้รบั มอบหมาย4 ความมีน้าใจ5 การตรงต่อเวลา รวม ลงชื่อ....................................................ผูป้ ระเมนิ ................ /................ /................เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน เกณฑ์การตัดสนิ คุณภาพ ปฏบิ ตั ิหรอื แสดงพฤติกรรมอย่างสมา่ เสมอ ให้ 2 คะแนน ปฏบิ ตั ิหรอื แสดงพฤตกิ รรมบอ่ ยคร้ัง ให้ 1 คะแนน ชว่ งคะแนน ระดับคณุ ภาพ ปฏิบัติหรือแสดงพฤตกิ รรมบางครง้ั 12 - 15 ดี 18 - 11 พอใช้ ตา่ กวา่ 8 ปรับปรงุ

แบบประเมินการนาเสนอผลงานคาช้ีแจง : ให้ ผู้สอน ประเมินการนาเสนอผลงานของนักเรยี นตามรายการทก่ี าหนด แล้วขดี  ลงใน ชอ่ งท่ีตรงกบั ระดบั คะแนนลาดับท่ี รายการประเมิน ระดับคะแนน 3211 นาเสนอเนือ้ หาในผลงานได้ถูกตอ้ ง2 การลาดบั ขั้นตอนของเนื้อเร่อื ง3 การนาเสนอมีความน่าสนใจ4 การมสี ว่ นร่วมของสมาชิกในกล่มุ5 การตรงต่อเวลา รวม ลงช่ือ .................................................... ผู้ประเมิน ................ /................ /................เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน เกณฑก์ ารตดั สนิ คุณภาพ ผลงานหรอื พฤตกิ รรมสมบูรณช์ ดั เจน ให้ 2 คะแนน ผลงานหรือพฤตกิ รรมมขี ้อบกพร่องบางส่วน ให้ 1 คะแนน ชว่ งคะแนน ระดบั คุณภาพ ผลงานหรอื พฤตกิ รรมมขี อ้ บกพรอ่ งเป็นสว่ นใหญ่ 12 - 15 ดี 18 - 11 พอใช้ ต่ากวา่ 8 ปรับปรุง

เอกสารประกอบการสอน กรณีตวั อยา่ ง เรอ่ื ง มนั เกิดอะไรข้นึ เกิดอะไรขึน้ กบั เรานะ แยจ่ รงิ ๆ เลย วันนี้ฉันมปี ระจาเดอื น เพ่งิ มีเป็นคร้งั แรกดว้ ยสิ แล้วต้องมาโรงเรียนอีก แม่ก็ออกไป ทางานแล้ว เพอื่ นๆ คนอืน่ จะเปน็ แบบเราหรือเปลา่ หรือว่าเรา เป็นแค่คนเดียว ช่างน่าอายจริงๆ แล้วน่ีกร็ สู้ กึ อดึ อัด หนา้ อกเรา ทาไมใหญ่ขนึ้ เรื่อยๆ เลยนะ เพอ่ื นๆ ก็ชอบลอ้ ไมอ่ ยากจะ มาโรงเรยี นแลว้ ละ่ มนั เกิดอะไรกับเรานะ ปีนท้ี าไมแขนขาเรายาวเกง้ ก้างกวา่ ใครเขา เสียงเราก็เปล่ียนไปใหญท่ มุ้ ข้นึ ไมก่ ลา้ คยุ กบั เพ่ือนเลย แล้วยงั มหี นวดมีเคราอกี ขนตามตัวกย็ าวขึน้ เพอื่ นๆ คนอื่นจะเปน็ แบบเราหรือเปล่า คดิ แลว้ กลุ้มใจจรงิ ๆ

ใบงานท่ี 2.1 ฉันเปล่ียนแปลงอยา่ งไรคาชีแ้ จง ใหน้ กั เรียนสังเกตการเปลยี่ นแปลงทางเพศของตนเองในดา้ นต่างๆ แลว้ บนั ทกึ ขอ้ มูล การเปลย่ี นแปลงทาง การเปล่ียนแปลงทาง ด้านรา่ งกาย ด้านจิตใจ1. 1.2. 2.3. 3. การเปลย่ี นแปลงทาง การเปลย่ี นแปลงทาง ดา้ นอารมณ์ ด้านสังคม1. 1.2. 2.3. 3.

ใบงานที่ 2.1 ฉันเปล่ียนแปลงอย่างไรคาชแ้ี จง ให้นกั เรยี นสงั เกตการเปลยี่ นแปลงทางเพศของตนเองในด้านต่างๆ แลว้ บนั ทกึ ขอ้ มูล (ตวั อยา่ ง) (พจิ ารณาตามคาตอบของนกั เรยี น โดยใหอ้ ยใู่ นดลุ ยพินิจของครูผูส้ อน)

แบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 2คาชีแ้ จง ให้นักเรยี นเลือกคาตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว1. ข้อใดเปน็ การเปล่ียนแปลงดา้ นรา่ งกายทีเ่ หมือนกนั 6. ใบหนา้ ของเดก็ หญงิ เรม่ิ มสี ิว เพราะเกิดการ ท้ังเพศหญิงและเพศชาย เปลย่ี นแปลง ก. สะโพกผาย ข. มีหนวดเคราขึ้น ในด้านใด ค. หนา้ อกขยายใหญ่ ก. จิตใจ ง. น้าหนักและสว่ นสูงเพม่ิ ขึ้น ข. อารมณ์ ค. สังคม2. เพศหญงิ มีการเปลย่ี นแปลงทเ่ี หน็ ได้ชดั คอื ขอ้ ใด ง. รา่ งกาย ก. มปี ระจาเดือน 7. ขอ้ ใดทเี่ พศหญิงไม่ควรปฏิบตั ิ ข. ส่วนสงู เพมิ่ ขน้ึ ก. เล่นกฬี ากบั เพ่อื นผูช้ าย ค. ผวิ พรรณผ่องใส ข. สอนการบา้ นเพอื่ นผู้ชาย ง. แขนและขายาวขน้ึ ค. ช่วยเพอ่ื นผู้ชายถอื ของ ง. แสดงความใกลช้ ิดกบั เพอ่ื นชาย3. ข้อใดไม่ใช่การเปลยี่ นแปลงทางดา้ นร่างกายของเพศ 8. ข้อใดเปน็ การปฏิบตั ติ นท่เี หมาะสมของเพศหญงิ ชาย ก. ช่วยพอ่ แม่ทางานบา้ น ก. แขนและขายาวข้ึน ข. ไมค่ บเพ่อื นตา่ งเพศ ข. หน้าอกขยาย ค. เก็บตวั เงียบคนเดยี ว ค. มหี นวดเครา ง. ไม่ไปเที่ยวกับเพอื่ น ง. เสยี งหา้ วข้ึน 9. ถ้านกั เรียนมีความเครียด ควรทาอยา่ งไร ก. ปรกึ ษาหมอดู4. ผลทเ่ี กดิ จากการสวมกางเกงในทีเ่ ปยี กชื้น รดั และคบั ข. เกบ็ ตัวคนเดยี ว เกนิ ไป คอื ข้อใด ค. ออกไปเทย่ี วกลางคืน ก. ทาให้ถูกสขุ ลกั ษณะ ง. ปรึกษาพอ่ แม่หรอื ครู ข. ทาใหเ้ กิดอาการอักเสบ 10. เพศชายไม่ควรวางตวั ต่อเพศหญงิ อย่างไร ค. ทาใหเ้ กดิ ผลต่อระบบขบั ถ่าย ก. ชว่ ยถอื ของ ง. ทาให้มีรูปร่างกระชบั ข. สอนการบา้ นให้ ค. จงู มอื เดินเทีย่ ว5. การปฏิบัตติ นในข้อใดทาให้มสี ขุ อนามยั ทีด่ ี ง. ชวนออกกาลงั กาย ก. กินอาหารมากๆ ข. ทาจติ ใจใหร้ า่ เริงแจม่ ใส ค. มองโลกในแง่ดีเสมอ ง. อาบนา้ วนั ละ 2 คร้งั

ใบงานท่ี 2.2 การดแู ลตนเองคาช้ีแจง ให้นกั เรียนจดบันทึกการดูแลตนเองในด้านต่างๆ เปน็ เวลา 5 วัน แลว้ ตอบคาถามวนั เดอื น ปี ด้านร่างกาย การดูแลตนเองในดา้ นต่างๆ ด้านจติ ใจ ด้านอารมณ์ ดา้ นสงั คม1. นักเรียนคดิ วา่ การดูแลตนเองในด้านตา่ งๆ อย่างสม่าเสมอก่อให้เกิดผลดีอยา่ งไร2. ถา้ นักเรียนไมด่ ูแลตนเอง จะส่งผลอยา่ งไรบ้าง

ใบงานที่ 2.2 การดแู ลตนเองคาช้ีแจง ให้นักเรียนจดบันทึกการดูแลตนเองในด้านต่างๆ เป็นเวลา 5 วัน แล้วตอบคาถามวัน เดือน ปี การดูแลตนเองในดา้ นตา่ งๆ1 พ.ค. 582 พ.ค. 58 ดา้ นร่างกาย ดา้ นจิตใจ ดา้ นอารมณ์ ดา้ นสงั คม3 พ.ค. 58 อาบนา้ ตอนเช้าและ ปรับปรุงตนเองเพือ่ ตอนเยน็ ทา้ จิตใจให้ร่าเริงแจ่มใส ไมโ่ กรธ หากเพ่อื นแกลง้ สรา้ งบุคลิกภาพท่ีดี แสดงกริ ิยาทเ่ี หมาะสม สวมกางเกงใน ยอมรับหนา้ ตาตนเอง อดกลน้ั อารมณ์ ไม่เปยี กชืน้ ยอมรบั รูปรา่ งตนเอง ที่ไม่พอใจ ปรบั ปรงุ ตนเองใหเ้ ข้า กับผู้อน่ื ได้ ท้าความสะอาดอวยั วะ- ยอมรบั สภาพ เพศหลังขับถา่ ยปสั สาวะ ความเป็นจรงิ4 พ.ค. 58 เลน่ กฬี า มองโลกในแง่ดี มอี ารมณข์ ัน ไมล่ ะเมดิ สทิ ธิของผูอ้ น่ื5 พ.ค. 58 กินอาหารทม่ี ีประโยชน์ ไมจ่ ริงจงั จนเกินไป สร้างความรูส้ กึ รักคนอ่นื แต่งกายให้เหมาะสม กบั วัยและกาลเทศะ1. นักเรียนคิดวา่ การดูแลตนเองในด้านตา่ งๆ อยา่ งสม่าเสมอก่อให้เกิดผลดีอย่างไร 1) สขุ ภาพร่างกายสมบูรณ์แขง็ แรงตามเพศและวัย 2) ไม่เครยี ด หรอื วิตกกงั กลเมือ่ รา่ งกายมกี ารเปล่ียนแปลง 3) สามารถปรบั ตัวเมอ่ื รา่ งกายมกี ารเปลย่ี นแปลงทางเพศในด้านตา่ งๆ และดแู ลตนเองไดอ้ ยา่ งเหมาะสม 4) สามารถปรับตวั เข้ากับผอู้ ืน่ ได้ และใช้ชีวติ ในสงั คมได้อย่างมคี วามสุข2. ถา้ นกั เรยี นไมด่ ูแลตนเอง จะส่งผลอยา่ งไรบ้าง 1) สุขภาพรา่ งกายไมส่ มบรู ณแ์ ข็งแรง เจบ็ ป่วยบอ่ ย 2) เกิดความวติ กกังวลเมอื่ รา่ งกายมคี วามเปลี่ยนแปลง 3) ไมส่ ามารถปรับตวั ในการอย่รู ่วมกับผูอ้ นื่ ในสงั คมไดเ้ ทา่ ทีค่ วร (พิจารณาตามค้าตอบของนกั เรยี น โดยใหอ้ ยใู่ นดลุ ยพนิ จิ ของครูผสู้ อน)

การประเมินช้ินงาน/ภาระงาน (รวบยอด) แบบประเมนิ แผ่นพับ เรือ่ ง เพศศกึ ษาลาดับที่ รายการประเมิน ระดบั คะแนน 3211 การอธบิ ายการเปล่ยี นแปลงทางเพศในดา้ นต่างๆ2 การอธบิ ายวิธีการดแู ลตนเองเม่อื มีการเปลยี่ นแปลงทาง เพศ3 การบอกแนวทางในการปฏิบัติตนทเ่ี หมาะสมกบั เพศ ตามวัฒนธรรมไทย รวม ลงชอื่ .................................................... ผปู้ ระเมนิ ................ /................ /................เกณฑ์การใหค้ ะแนน = 3 คะแนน ดี = 2 คะแนน พอใช้ = 1 คะแนน ปรับปรงุ