Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาสุขศึกษา ป.4 ภาคเรียนที่ 1

แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาสุขศึกษา ป.4 ภาคเรียนที่ 1

Published by a.maynoy, 2018-09-16 04:02:46

Description: แผนการจัดการเรียนรู้

Keywords: แผนการสอน ป.4

Search

Read the Text Version

การออกแบบแผนการจัดการเรียนรู้ รายวชิ า สุขศึกษา รหัสวชิ า พ 14101ระดับชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ 4 ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2561 เวลาทั้งหมด 20 ชั่วโมง จัดทาโดย นางสาวอรณัชชา เจริญสุข ตาแหน่ง พนักงานราชการ โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 ตาบลชา่ งเค่ิง อาเภอแม่แจ่ม จงั หวัดเชยี งใหม่ สานักบริหารงานการศึกษาพิเศษ สานักงานการศึกษาขั้นพืน้ ฐาน กระทรวงศึกษาธิการ

แผนการจัดการเรียนรู้หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี 1 เร่อื ง การเจรญิ เติบโตและพัฒนาการของเรา จํานวน 3 ชว่ั โมงแผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 1 เรื่อง พัฒนาของร่างกายและจิตใจและการส่งเสริมการเจริญเติบโตและพฒั นาการของรา่ งกายและจิตใจ จํานวน 3 ช่วั โมงกลุ่มสาระการเรยี นรู้ สขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษาช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี 4 โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31ครูผู้สอน นางสาวอรณชั ชา เจริญสขุสอนวนั พฤหสั บดี ท่ี 17 เดือน พฤษภาคม พ.ศ. 2561 เวลา 11.10 น. - 12.00 น.สอนวันพฤหสั บดี ท่ี 24 เดอื น พฤษภาคม พ.ศ. 2561 เวลา 11.10 น. - 12.00 น.สอนวันพฤหัสบดี ท่ี 31 เดือน พฤษภาคม พ.ศ. 2561 เวลา 11.10 น. - 12.00 น.1. สาระสาคญั การเจรญิ เติบโตและพัฒนาการทางด้านรา่ งกายในช่วงอายุ 9-12 ปี เป็นไปอย่างต่อเนื่อง การรู้จักสงั เกตและเปรยี บเทียบพฒั นาการทางด้านจิตใจของตนเอง จะช่วยให้สามารถควบคุมอารมณ์และยอมรับต่อการเปล่ียนแปลงท่ีเกิดขึ้นได้อย่างเหมาะสม การส่งเสริมการเจริญเติบโตและพัฒนาการทางด้านรา่ งกายและจิตใจมีหลายแนวทาง ซึ่งจะตอ้ งปฏิบัติ อย่างถกู วิธี2. มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตวั ชวี้ ัดช้ันปี/ผลการเรียนรู้/เป้าหมายการเรียนรู้ มาตรฐาน พ 1.1 เขา้ ใจธรรมชาติของการเจริญเติบโตและพฒั นาการของมนษุ ย์ ตัวชี้วัด พ 1.1 ป.4/1 อธบิ ายการเจริญเติบโตและพฒั นาการของร่างกายและจิตใจ จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1) อธิบายการเจรญิ เตบิ โตและพัฒนาการทางด้านร่างกายในช่วงอายุ 9-12 ปีได้ 2) อธิบายพัฒนาการทางดา้ นจติ ใจในชว่ งอายุ 9-12 ปไี ด้3. สาระการเรยี นรู้ 3.1 เนือ้ หาสาระหลัก : Knowledge - การเจรญิ เตบิ โตและพัฒนาการของร่างกายและจติ ใจตามวัย (ในชว่ งอายุ 9-12 ปี) - บอกแนวทางในการส่งเสริมการเจริญเติบโตและพัฒนาการทางด้านร่างกายและจิตใจ ในชว่ งอายุ 9-12 ปีได้ 3.2 ทกั ษะ/กระบวนการ : Process 1. นกั เรยี นสามารถอธิบายการเจริญเติบโตและพฒั นาการทางด้านร่างกายในช่วงอายุ 9-12 ปไี ด้ 2. นกั เรยี นสามารถอธบิ ายพฒั นาการทางด้านจติ ใจในช่วงอายุ 9-12 ปีได้ 3. นักเรียนสามารถบอกแนวทางในการส่งเสริมการเจริญเติบโตและพัฒนาการทางด้านร่างกายและจิตใจในชว่ งอายุ 9-12 ปีได้ 3.3 คุณลักษณะทีพ่ งึ ประสงค์ : Attitude 1. มวี นิ ัย 2. ใฝุเรยี นรู้ 3. มคี วามรับผิดชอบ

4. สมรรถนะสาคัญของนักเรียน 4.1 ความสามารถในการคดิ 1) ทกั ษะการสงั เกต 4.2 ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ติ5. คุณลักษณะของวชิ า - ความรบั ผดิ ชอบ - ความรอบคอบ - กระบวนการกลุม่6. คุณลกั ษณะท่พี งึ ประสงค์ 1. ใฝเุ รยี นรู้ 2. มุ่งม่ันในการทาํ งาน 3. มีความรบั ผดิ ชอบ7. ช้นิ งาน/ภาระงาน 1. ใบงานที่ 1.1 เรอื่ ง การส่งเสริมการเจริญเตบิ โต และพัฒนาการของร่างกายและจิตใจ 2. แบบบนั ทกึ ผลการเจริญเตบิ โตและพัฒนาการของร่างกายและจิตใจ8. กจิ กรรมการเรียนรู้ช่วั โมงที่ 1ขั้นนา 1. นักเรียนตอบคําถามกระตุ้นความคิด นักเรียนรู้ได้อย่างไรว่า ร่างกายของคนเรามีการเจริญเติบโต (มนี ้ําหนกั และสว่ นสงู เพ่มิ ขนึ้ จากเดมิ ) 2. ครูนําบตั รภาพมาให้นักเรียนดู แล้วให้นกั เรยี นช่วยกันบอกว่า คนในบัตรภาพแต่ละบัตรภาพอยู่ในวัยใดบา้ ง 3. ครตู รวจสอบความถูกต้อง แล้วใหน้ กั เรยี นช่วยกนั เรยี งลําดับบตั รภาพตามวยั เดก็ ถึงวยั ชรา 4. ครูอธิบายให้นักเรียนเข้าใจถึงการเจริญเติบโตและพัฒนาการทางร่างกายของมนุษย์ต้ังแต่เกิดจนตายข้ันสอน 1. ครูใหน้ กั เรียนรวมกลมุ่ กลมุ่ ละ 4 คน ตามความสมคั รใจ 2. นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันศึกษาความรู้เรื่อง การเจริญเติบโตและพัฒนาการทางร่างกายช่วงอายุ 9-12 ปี จากหนงั สอื เรียน 3. สมาชิกในแต่ละกลุ่มผลัดกันยกตัวอย่างและอธิบายลักษณะการเจริญเติบโตและพัฒนาการทางดา้ นรา่ งกายช่วงอายุ 9-12 ปี 4. สมาชิกในกลุ่มช่วยกันตรวจสอบความถูกต้องหรืออธิบายลักษณะการเจริญเติบโตและพัฒนาการทางดา้ นรา่ งกาย ช่วงอายุ 9-12 ปี ทส่ี มาชิกกลมุ่ อธิบายไมช่ ัดเจน 5. นักเรียนแต่ละกลุ่มสํารวจการเจริญเติบโตทางด้านร่างกายของตนเอง โดยช่ังนํ้าหนักและวัดสว่ นสงู แลว้ บนั ทกึ ผลลงในแบบสํารวจการเจริญเตบิ โตทางดา้ นรา่ งกาย ตอนท่ี 1 6. สมาชิกในแต่ละกลุ่มร่วมกันตรวจสอบผลการสํารวจการเจริญเติบโตทางด้านร่างกาย จากน้ันเปรียบเทียบผลการเจริญเติบโตทางด้านร่างกายของสมาชิกแต่ละคนในกลุ่ม และบันทึกข้อมูลลงในแบบสาํ รวจ ตอนที่ 2

ข้นั สรุป 1. นักเรียนแต่ละกลุ่มส่งตัวแทนออกมานําเสนอแบบสํารวจผลการเปรียบเทียบการเจริญเติบโตทางดา้ นร่างกายของสมาชิกแตล่ ะคนในกลุม่ 2. นักเรยี นร่วมกันสรุปลักษณะการเจริญเติบโตและพัฒนาการทางดา้ นร่างกายชว่ งอายุ 9-12 ปีชั่วโมงท่ี 2ขั้นนา 1. ครูและนักเรียนร่วมกันสนทนาเก่ียวกับลักษณะอารมณ์ท่ีเกิดข้ึนในแต่ละวันและสามารถสังเกตไดอ้ ยา่ งชัดเจน เชน่ ดีใจ เสยี ใจ กลัว 2. ครใู ห้นกั เรียนยกตัวอยา่ งการแสดงอารมณ์ทเ่ี ป็นไปในทางบวกและส่งผลดีต่อสุขภาพจติขน้ั สอน 1. นักเรียนรวมกลุ่มร่วมกันศึกษาความร้เู ร่ือง พัฒนาการทางด้านจติ ใจช่วงอายุ 9-12 ปี 2. นักเรียนร่วมกันอภิปรายและแสดงความคิดเห็นว่า นักเรียนและสมาชิกในกลุ่มมีพัฒนาการทางด้านจิตใจเหมาะสมกับวยั หรอื ไม่ เพราะเหตุใด 3. ครสู ุม่ ตัวแทนนกั เรยี น 1-2 กลุ่ม ออกมาสรปุ ผลการอภปิ รายและแสดงความคิดเหน็ 4. ครูให้นักเรียนทําแบบสํารวจพัฒนาการทางด้านจิตใจ เม่ือทําเสร็จแล้วให้นําส่งครู จากนั้นครูประเมนิ ผลและอธบิ ายใหน้ ักเรยี นเขา้ ใจ 5. นักเรียนตอบคําถามกระตุ้นความคิด การเข้าใจความรู้สึกของเพื่อนหรือบุคคลรอบตัว จัดเป็นพฒั นาการทางดา้ นจติ ใจหรือไม่ จงอธิบายเหตผุ ลขั้นสรปุ 1. นักเรียนแต่ละคนเขียนแผนผังความคิดแสดงพัฒนาการทางด้านจิตใจช่วงอายุ 9-12 ปี ลงในกระดาษทค่ี รแู จกให้ จากนน้ั ครูสุม่ นกั เรียน 3-5 คน ออกมานําเสนอผลงาน พร้อมอธิบายประกอบที่หน้าชน้ั เรยี น 2. นกั เรียนร่วมกนั สรุปพัฒนาการทางด้านจติ ใจชว่ งอายุ 9-12 ปีชั่วโมงท่ี 3ขั้นนา 1. นักเรียนตอบคําถามกระตุ้นความคิด นักเรียนคิดว่า ตนเองกับเพื่อนในชั้นเรียนมีพัฒนาการทางดา้ นร่างกายและจติ ใจแตกตา่ งกนั หรอื ไม่ จงอธบิ าย 2. ครูยกตัวอย่างกิจกรรมต่างๆ ท่ีเกิดข้ึนในชีวิตประจําวัน แล้วให้นักเรียนช่วยกันจําแนกว่ากิจกรรมใดเป็นกิจกรรมท่ีส่งเสริมพัฒนาการทางด้านร่างกาย และกิจกรรมใดเป็นกิจกรรมท่ีส่งเสริมพฒั นาการทางดา้ นจติ ใจขั้นสอน 1. นกั เรยี นกลุม่ ร่วมกนั ศึกษาความรเู้ ร่ือง การสง่ เสริมการเจริญเติบโตและพัฒนาการของร่างกายและจิตใจ จากหนงั สอื เรียน และห้องสมดุ 2. สมาชิกในแต่ละกลุ่มผลัดกันยกตัวอย่างกิจกรรมท่ีส่งเสริมการเจริญเติบโตและพัฒนาการของรา่ งกายและจิตใจทเี่ หมาะสมกับวยั ของนักเรยี น พร้อมแสดงเหตุผลประกอบ

3. สมาชิกในกลุ่มร่วมกันตรวจสอบ หรือซักถามข้อสงสัยเพิ่มเติมจนได้ข้อสรุปท่ีเป็นคําตอบของกลมุ่ 4. นักเรียนทําใบงานท่ี 1.1 เร่ือง การส่งเสริมการเจริญเติบโต และพัฒนาการของร่างกายและจติ ใจ เปน็ รายบุคคล เมื่อทาํ เสรจ็ แลว้ ใหต้ รวจสอบความถกู ตอ้ งเรยี บรอ้ ยขน้ั สรปุ 1. ครูตรวจสอบความรคู้ วามเขา้ ใจของนักเรียนจากคําตอบในใบงานท่ี 1.1 2. นักเรียนร่วมกันสรุปวิธีการส่งเสริมการเจริญเติบโตและพัฒนาการของร่างกายและจิตใจที่ถกู ต้องและเหมาะสมกบั ช่วงอายุ 9-12 ปี  ครมู อบหมายใหน้ ักเรียนแตล่ ะคนทําแบบบันทึกผลการเจริญเตบิ โตและพฒั นาการของร่างกายและจติ ใจของตนเอง โดยให้ครอบคลมุ ประเด็นตามท่ีกาํ หนด ดังนี้ 1) การบนั ทกึ พัฒนาการทางด้านรา่ งกายและจิตใจ 2) การอธิบายการเจรญิ เติบโตและพฒั นาการของรา่ งกายและจิตใจ9. สอ่ื การเรยี นการสอน / แหลง่ เรยี นรู้ 1. หนงั สือเรียน สขุ ศกึ ษาและพลศึกษา ป.4 2. บัตรภาพ 3. แบบสํารวจการเจรญิ เตบิ โตทางด้านรา่ งกาย 4. เครอ่ื งช่งั นํา้ หนกั ท่วี ดั สว่ นสูง 5. แบบสํารวจพัฒนาการทางดา้ นจิตใจ 6. กระดาษขนาด A4 7. ใบงานท่ี 1.1 เรื่อง การสง่ เสริมการเจริญเตบิ โตและพฒั นาการของร่างกายและจิตใจ10. การวัดผลและประเมนิ ผล วิธีการ เครือ่ งมือ เกณฑ์ตรวจแบบทดสอบก่อนเรยี น หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี 1 แบบทดสอบก่อนเรยี น หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 1 (ประเมินตามสภาพจรงิ )สังเกตพฤติกรรมการทํางานรายบคุ คล แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทํางานรายบคุ คล ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ ระดบั คณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์สังเกตพฤติกรรมการทาํ งานกลมุ่ แบบสังเกตพฤติกรรมการทํางานกลมุ่ ระดบั คณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์สังเกตการใฝุเรยี นรู้ มุ่งมั่นในการทาํ งาน แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์และมคี วามรับผดิ ชอบ ระดบั คณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ตรวจใบงานที่ 1.1 ใบงานที่ 1.1 ระดบั คณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ประเมินการนาํ เสนอผลงาน แบบประเมินการนาํ เสนอผลงานตรวจแบบทดสอบหลังเรยี น หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 1 แบบทดสอบหลังเรียน หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 1ตรวจแบบบนั ทกึ ผลการเจรญิ เติบโตและ แบบประเมนิ แบบบันทกึ ผลการเจริญเติบโตพัฒนาการของร่างกายและจติ ใจ และพฒั นาการของรา่ งกายและจติ ใจ

บันทึกผลหลงั การจดั การเรียนรู้ผลการสอน……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ลงช่อื ......................................................... (นางสาวอรณชั ชา เจรญิ สุข) ครูผู้สอนขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแก้ไข……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชอื่ .......................................................... (นางสาวจติ ตานาถ เทพวงศ)์ ครูพเี่ ลี้ยงขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแกไ้ ข……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชอื่ .......................................................... ( นางวลิ าวลั ย์ ปาลี ) ผู้อํานวยการโรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31

แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายบคุ คล คาชีแ้ จง : ให้ ผ้สู อน สงั เกตพฤติกรรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี  ลงใน ช่อง ท่ตี รงกบั ระดบั คะแนนลาดับ ชื่อ – สกุล ความมวี ินัย ความมีนา้ ใจ การรับฟงั การแสดง การตรงต่อ รวม ท่ี ของผรู้ ับการ 321 เอ้อื เฟอื้ ความคดิ เห็น ความคิดเหน็ เวลา 15 เสียสละ คะแนน ประเมิน 321 321 321 3211 เดก็ ชายกิตตภิ พ ชุตกิ รรงั สี2 เดก็ ชายบุรพล พงศบ์ รสิ ุทธิ์3 เด็กชายสเุ ทพ ขวัญปรดี ากลุ4 เด็กชายอมลณฐั สริ วิ จงี าม5 เด็กชายนิรตุ บรู ณพงศไ์ พร6 เด็กหญงิ ชวิศา แสนวงั ทอง7 เด็กหญิงกานดา มรพุ งษ์8 เดก็ หญงิ ณิชกานต์ สทุ ธิมงคลกลู9 เด็กหญงิ ดาวนภา ไพรวลั ยว์ ชิระ10 เด็กหญงิ วรศิ รา พริ ยิ ะวิทยาธร11 เด็กหญิงวิลาสินี สริ ิวจงี าม12 เดก็ หญิงศศชิ า เกษมธรี ญาณ13 เด็กหญิงสุภนิดา นิรมิตความดี14 เด็กหญิงอาจรยี ์ เอกขจรไกล ลงชอื่ ...................................................ผปู้ ระเมนิ ............../.................../................ เกณฑ์การใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน เกณฑก์ ารตัดสนิ คุณภาพ ปฏิบัตหิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอยา่ งสม่าเสมอ ให้ 2 คะแนน ปฏบิ ัติหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยคร้งั ให้ 1 คะแนน ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ ปฏบิ ัติหรือแสดงพฤตกิ รรมบางครง้ั 12 - 15 ดี 8 - 11 พอใช้ ตํ่ากว่า 8 ปรับปรุง

แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์คาชี้แจง : ให้ ผสู้ อน สงั เกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรยี น แล้วขดี  ลง ในชอ่ งทีต่ รงกบั ระดับคะแนน คุณลักษณะ รายการประเมิน ระดบั คะแนน อันพึงประสงคด์ ้าน 3211. รกั ชาติ ศาสน์ 1.1 ยืนตรงเคารพธงชาติ และร้องเพลงชาตไิ ด้ 1.2 เขา้ ร่วมกจิ กรรมทสี่ รา้ งความสามัคคี ปรองดอง และเปน็ ประโยชน์ กษตั ริย์ ต่อโรงเรยี น2. ซอ่ื สัตย์ สจุ รติ 1.3 เข้าร่วมกิจกรรมทางศาสนาทตี่ นนบั ถือ ปฏบิ ตั ิตามหลกั ศาสนา3. มวี นิ ยั รบั ผดิ ชอบ 1.4 เขา้ ร่วมกิจกรรมที่เกย่ี วกับสถาบันพระมหากษัตรยิ ์ตามทีโ่ รงเรียนจดั ข้ึน4. ใฝเ่ รยี นรู้ 2.1 ใหข้ อ้ มูลทถ่ี ูกตอ้ ง และเปน็ จรงิ 2.2 ปฏิบตั ใิ นสิ่งท่ถี ูกตอ้ ง5. อยู่อยา่ งพอเพียง 3.1 ปฏบิ ตั ติ ามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ขอ้ บงั คับของครอบครวั6. มงุ่ มั่นในการ มคี วามตรงต่อเวลาในการปฏิบัตกิ จิ กรรมตา่ งๆ ในชวี ติ ประจาํ วัน ทางาน 4.1 รจู้ กั ใช้เวลาวา่ งใหเ้ ปน็ ประโยชน์ และนาํ ไปปฏบิ ัติได้ 4.2 รจู้ ักจดั สรรเวลาใหเ้ หมาะสม7. รักความเป็นไทย 4.3 เชอ่ื ฟังคําสง่ั สอนของบิดา-มารดา โดยไมโ่ ต้แยง้8. มจี ิตสาธารณะ 4.4 ตัง้ ใจเรยี น 5.1 ใชท้ รพั ยส์ นิ และสิง่ ของของโรงเรยี นอย่างประหยดั 5.2 ใชอ้ ุปกรณ์การเรยี นอย่างประหยดั และรคู้ ณุ ค่า 5.3 ใช้จา่ ยอยา่ งประหยดั และมกี ารเกบ็ ออมเงนิ 6.1 มีความตั้งใจและพยายามในการทาํ งานท่ไี ด้รบั มอบหมาย 6.2 มคี วามอดทนและไมท่ อ้ แท้ตอ่ อุปสรรคเพ่อื ให้งานสาํ เรจ็ 7.1 มจี ติ สาํ นกึ ในการอนรุ กั ษ์วัฒนธรรมและภูมปิ ญั ญาไทย 7.2 เหน็ คณุ ค่าและปฏิบตั ติ นตามวัฒนธรรมไทย 8.1 รู้จักชว่ ยพอ่ แม่ ผูป้ กครอง และครูทาํ งาน 8.2 ร้จู ักการดแู ล รักษาทรัพย์สมบตั ิและสง่ิ แวดลอ้ มของหอ้ งเรยี น โรงเรยี น ลงชอื่ ...................................................ผู้ประเมนิ ............../.................../................เกณฑ์การใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน เกณฑ์การตดั สินคณุ ภาพ ปฏบิ ัตหิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอยา่ งสมา่ เสมอ ให้ 2 คะแนน ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยคร้งั ให้ 1 คะแนน ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ ปฏิบัติหรือแสดงพฤตกิ รรมบางครง้ั 46 - 60 ดี 30 - 45 พอใช้ ตาํ่ กวา่ 30 ปรับปรงุ

แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายบุคคลชอ่ื ช้ัน …………...คาชแี้ จง : ให้ ผู้สอน สงั เกตพฤติกรรมของนักเรยี นในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรียน แลว้ ขีด  ลง ในชอ่ งทตี่ รงกบั ระดบั คะแนนลาดบั ท่ี รายการประเมิน ระดับคะแนน 3211 การแสดงความคิดเหน็2 การยอมรบั ฟังความคิดเห็นของผอู้ ่นื3 การทํางานตามหนา้ ท่ีทไ่ี ด้รบั มอบหมาย4 ความมนี า้ํ ใจ5 การตรงต่อเวลา รวม ลงช่ือ....................................................ผปู้ ระเมิน ................ /................ /................เกณฑก์ ารให้คะแนน ให้ 3 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคณุ ภาพ ปฏิบัติหรือแสดงพฤตกิ รรมอย่างสม่าเสมอ ให้ 2 คะแนน ปฏบิ ัตหิ รือแสดงพฤติกรรมบ่อยคร้ัง ให้ 1 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ปฏบิ ตั ิหรอื แสดงพฤติกรรมบางครง้ั 12 - 15 ดี 18 - 11 พอใช้ ต่ํากวา่ 8 ปรับปรงุ

แบบประเมินการนาเสนอผลงานคาชแี้ จง : ให้ ผสู้ อน ประเมินการนําเสนอผลงานของนักเรียนตามรายการที่กาํ หนด แลว้ ขดี  ลงใน ชอ่ งที่ตรงกบั ระดบั คะแนนลาดับที่ รายการประเมนิ ระดบั คะแนน 3211 นาํ เสนอเนอ้ื หาในผลงานได้ถูกตอ้ ง2 การลําดับข้นั ตอนของเนื้อเร่อื ง3 การนําเสนอมีความน่าสนใจ4 การมสี ว่ นรว่ มของสมาชกิ ในกลมุ่5 การตรงต่อเวลา รวม ลงชอ่ื .................................................... ผู้ประเมิน ................ /................ /................เกณฑ์การใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน เกณฑ์การตดั สินคุณภาพ ผลงานหรือพฤตกิ รรมสมบูรณ์ชัดเจน ให้ 2 คะแนน ผลงานหรอื พฤตกิ รรมมขี ้อบกพร่องบางส่วน ให้ 1 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ผลงานหรอื พฤตกิ รรมมขี อ้ บกพรอ่ งเปน็ ส่วนใหญ่ 12 - 15 ดี 18 - 11 พอใช้ ต่าํ กวา่ 8 ปรับปรุง

เอกสารประกอบการสอน แบบสารวจการเจริญเตบิ โตทางดา้ นร่างกายตอนท่ี 1 ใหน้ ักเรียนบนั ทึกผลการชง่ั น้ําหนกั และวดั สว่ นสูงคาช้แี จง ช่ือ-นามสกุล เพศ อายุ นา้ หนัก สว่ นสงู (ชาย/หญิง) (ป)ี (กก.) (ซม.)ตอนที่ 2คาช้แี จง ให้นกั เรียนเปรียบเทียบการเจริญเติบโตทางด้านร่างกายของสมาชิกในกลุ่ม

บตั รภาพภาพวัยเรียน ภาพวยั รนุ่ ภาพวัยผใู้ หญ่ ภาพวยั ชรา ภาพวยั เด็กตอนต้น

เอกสารประกอบการสอน แบบสารวจพัฒนาการทางด้านจติ ใจคาช้แี จง ให้นกั เรยี นสาํ รวจตนเองตามหวั ข้อทกี่ ําหนดให้ แล้วขดี  ลงใน  ตามความเปน็ จรงิ  เอาแตใ่ จตนเอง  กลวั การถูกลงโทษ  ควบคุมอารมณ์ได้  รกั เพื่อน  โกรธง่าย  อารมณ์อ่อนไหวง่าย  ชืน่ ชอบการถูกชมเชย  เขา้ ใจความรูส้ ึกของผู้อนื่  ไมช่ อบถูกบงั คบั  กลวั การเปลย่ี นแปลง

ช้ินงาน/ภาระงาน (รวบยอด)คาชี้แจง ใหน้ ักเรียนแตล่ ะคนทาํ แบบบันทึกผลการเจริญเติบโตและพัฒนาการของร่างกายและจติ ใจ ของตนเอง แบบบนั ทึกผลการเจริญเติบโตและพัฒนาการของร่างกายและจติ ใจการเจรญิ เติบโตทางร่างกาย พัฒนาการทางด้านจติ ใจและพฒั นาการทเ่ี ปลีย่ นแปลง ทางด้านร่างกาย ตดิ รูปถา่ ย แนวทางในการสง่ เสริมการเจรญิ เตบิ โตและพัฒนาการของร่างกายและจติ ใจ

การประเมินช้ินงาน/ภาระงาน (รวบยอด)แบบประเมินแบบบันทกึ ผลการเจรญิ เติบโตและพฒั นาการของร่างกายและจิตใจลาดับที่ รายการประเมนิ ระดับคะแนน 3211 การบนั ทึกพฒั นาการทางด้านรา่ งกายและจิตใจ2 การอธิบายการเจริญเตบิ โตและพฒั นาการของรา่ งกาย และจิตใจ รวม ลงชื่อ...................................................ผ้ปู ระเมิน ............../.................../................เกณฑก์ ารให้คะแนน เกณฑ์การตดั สนิ คุณภาพ ดี พอใช้ = 3 คะแนน ช่วงคะแนน ระดับคณุ ภาพ ปรับปรุง = 2 คะแนน = 1 คะแนน 5 - 6 ดี 3 - 4 พอใช้ ต่ากวา่ 3 ปรับปรุง

การประเมินชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด)แบบประเมินแบบบันทกึ ผลการเจรญิ เติบโตและพฒั นาการของรา่ งกายและจติ ใจรายการประเมิน คาอธิบายระดับคุณภาพ / ระดบั คะแนน ดี (3) พอใช้ (2) ปรบั ปรุง (1)1. การบันทกึ บนั ทึกพัฒนาการทางดา้ น บนั ทึกพัฒนาการทางดา้ น บันทึกพัฒนาการทางด้าน พฒั นาการ รา่ งกายและจติ ใจได้ละเอยี ด ร่างกายและจติ ใจได้คอ่ นข้าง ร่างกายและจติ ใจได้ไมค่ อ่ ย ทางดา้ นร่างกาย ชัดเจน ตรงตามความเปน็ ละเอียดชัดเจนเปน็ ส่วนใหญ่ ละเอยี ด ไม่ชดั เจน ไม่ และจติ ใจ จริง ครบถ้วนทุกประเด็น ขาดประเดน็ ย่อยๆ ครบถ้วน ขาดประเด็นสาํ คัญ2. การอธบิ ายการ อธิบายการเจรญิ เตบิ โตและ อธิบายการเจรญิ เตบิ โตและ อธบิ ายการเจริญเตบิ โตและ เจรญิ เติบโตและ พัฒนาการทางด้านร่างกาย พัฒนาการทางดา้ นร่างกาย พัฒนาการทางดา้ นร่างกาย พัฒนาการของ และจิตใจได้ถกู ตอ้ ง และจติ ใจไดถ้ ูกตอ้ งเปน็ และจติ ใจไดถ้ ูกตอ้ งเพียง ร่างกายและจติ ใจ ครบถว้ น สว่ นใหญ่ เลก็ น้อยชว่ งคะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ต่าํ กว่า 3ระดบั คณุ ภาพ ปรบั ปรงุ 5-6 3-4 ดี พอใช้

แบบทดสอบก่อนเรยี น หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 1คาช้แี จง ใหน้ กั เรียนเลือกคําตอบท่ีถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว1. ข้อใดเปน็ ลักษณะการเจรญิ เตบิ โต 6. อาหารชนดิ ใดท่ที าํ ใหค้ นเรามสี ว่ นสงู เพ่มิ ขึ้น ก. ผิวขาวขึน้ ก. นมสด ข. ชอบพดู โกหก ข. ชา ค. รูปรา่ งสูงข้นึ ค. ผลไม้ ง. ผมมสี ีนํ้าตาล ง. นาํ้ มัน2. ในวยั ของนกั เรยี นควรทําตวั อยา่ งไร เพื่อให้มกี าร 7. ถา้ ขณะทํางานกลมุ่ เพอื่ นในกลุ่มมคี วามคดิ เหน็ ไมต่ รง เจริญเติบโตทีด่ ี กับนกั เรยี น ควรทําอย่างไร ก. พูดใหน้ อ้ ยท่ีสดุ ก. ทําตามท่คี รสู ัง่ ข. มีอารมณแ์ จ่มใส ข. ทาํ ตามทีเ่ พอ่ื นบอก ค. เก็บตัวอยคู่ นเดียว ค. ทาํ ตามท่ตี นเองคดิ ง. คบเพอื่ นใหม้ ากที่สุด ง. ทําตามเสยี งสว่ นใหญ่3. การเปลยี่ นแปลงทางดา้ นจติ ใจมีหลายประการ 8. การกินอาหารให้ครบ 5 หมู่ มปี ระโยชน์อย่างไร ยกเวน้ ข้อใด ก. ทําใหจ้ ติ ใจสงบ ก. รสู้ กึ อ่อนไหว ข. ทําใหร้ า่ งกายอว้ นทว้ น ข. สนใจเพศตรงข้าม ค. ทาํ ใหส้ มองปลอดโปรง่ ค. ต้องการการยกยอ่ ง ง. ทําใหร้ า่ งกายเจรญิ เติบโต ง. ต้องการกนิ อาหารมากข้นึ 9. ใครนา่ จะเปน็ ที่ช่นื ชอบของเพ่ือนมากที่สุด4. อาหารชนดิ ใดทาํ ให้เกดิ ผลเสยี ตอ่ การเจรญิ เตบิ โต ก. พลอยเป็นคนรา่ เรงิ ก. ขา้ วผัดกงุ้ ข. แพรวชอบพูดโอ้อวด ข. นา้ํ สม้ ค้ัน ค. พราวเป็นคนซมึ เศร้า ค. กว๋ ยเตี๋ยวไก่ ง. พมิ เป็นคนเคร่งขรึม ง. มะมว่ งดอง 10. ข้อใดไม่จดั เป็นพฒั นาการของเด็กวยั เรียน5. ใครดแู ลตนเองผิดวิธี ก. ชอบคําชมเชย ก. น้ําออกกาํ ลงั กายทกุ ช่ัวโมง ข. ควบคมุ อารมณไ์ ด้ ข. นงอาบน้ําทุกเชา้ และเย็น ค. กังวลกบั ชีวติ ทเ่ี หลอื อยู่ ค. โอพ๋ ักผอ่ นอยา่ งเพยี งพอ ง. ยอมรบั ฟังความเหน็ ของเพอื่ น ง. ออยกนิ อาหารครบ 5 หมู่ มฐ. พ 1.1 ป.4/1 ได้คะแนน คะแนน 10เฉลย 1. ค 2. ข 3. ง 4. ง 5. ก 6. ก 7. ง 8. ง 9. ก 10. ค

แบบทดสอบหลงั เรียน หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 1คาชแี้ จง ให้นกั เรยี นเลือกคําตอบท่ีถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว1. อาหารชนดิ ใดท่ที าํ ใหค้ นเรามสี ว่ นสงู เพ่มิ ขนึ้ 6. ในวัยของนกั เรียนควรทําตวั อย่างไร เพื่อให้มกี าร ก. ชา เจรญิ เตบิ โตทดี่ ี ข. ผลไม้ ก. คบเพื่อนใหม้ ากที่สุด ค. นาํ้ มนั ข. เกบ็ ตวั อยู่คนเดยี ว ง. นมสด ค. มอี ารมณแ์ จม่ ใส ง. พูดให้น้อยทส่ี ุด2. ขอ้ ใดเป็นลักษณะการเจรญิ เตบิ โต ก. ผิวขาวข้นึ 7. การเปลย่ี นแปลงทางดา้ นจติ ใจมหี ลายประการ ข. รปู รา่ งสูงขึน้ ยกเว้นข้อใด ค. ผมมสี นี า้ํ ตาล ก. ตอ้ งการกินอาหารมากข้นึ ง. ชอบพูดโกหก ข. สนใจเพศตรงข้าม ค. ต้องการการยกย่อง3. อาหารชนดิ ใดทาํ ใหเ้ กิดผลเสยี ต่อการเจรญิ เติบโต ง. รสู้ ึกออ่ นไหว ก. นาํ้ ส้มคน้ั ข. ข้าวผัดก้งุ 8. ใครน่าจะเป็นที่ชื่นชอบของเพอื่ นมากทีส่ ดุ ค. มะม่วงดอง ก. แพรวชอบพดู โออ้ วด ง. กว๋ ยเตี๋ยวไก่ ข. พลอยเป็นคนรา่ เริง ค. พราวเปน็ คนซึมเศรา้4. ใครดแู ลตนเองผิดวิธี ง. พิมเปน็ คนเคร่งขรึม ก. โอพ๋ กั ผ่อนอยา่ งเพียงพอ ข. ออยกนิ อาหารครบ 5 หมู่ 9. ข้อใดไมจ่ ดั เป็นพฒั นาการของเด็กวยั เรียน ค. น้ําออกกาํ ลังกายทกุ ช่วั โมง ก. ยอมรบั ฟังความเห็นของเพื่อน ง. นงอาบน้ําทกุ เช้าและเยน็ ข. กงั วลกบั ชวี ติ ที่เหลืออยู่ ค. ควบคมุ อารมณไ์ ด้5. การกนิ อาหารให้ครบ 5 หมู่ มีประโยชน์อยา่ งไร ง. ชอบคาํ ชมเชย ก. ทําใหจ้ ติ ใจสงบ ข. ทําให้สมองปลอดโปรง่ 10. ถ้าขณะทาํ งานกลมุ่ เพือ่ นในกลมุ่ มคี วามคิดเหน็ ไมต่ รง ค. ทาํ ให้ร่างกายอ้วนท้วน กบั นกั เรยี น ควรทําอยา่ งไร ง. ทําให้ร่างกายเจรญิ เตบิ โต ก. ทาํ ตามเสียงสว่ นใหญ่ ข. ทาํ ตามทเี่ พื่อนบอก ค. ทาํ ตามท่ตี นเองคดิ ง. ทําตามที่ครสู ั่ง มฐ. พ 1.1 ป.4/1 ได้คะแนน คะแนนเฉลย 10 1. ง 2. ข 3. ค 4. ค 5. ง 6. ค 7. ก 8. ข 9. ข 10. ก

แผนการจัดการเรียนรู้หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 2 เรอื่ ง กล้ามเน้อื และกระดกู จํานวน 4 ช่วั โมงแผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 1 เร่ือง ประเภทของกล้ามเนอ้ื และวิธดี ูแลรกั ษาระบบกลา้ มเนือ้ จาํ นวน 2 ช่วั โมงกล่มุ สาระการเรียนรู้ สุขศกึ ษาและพลศึกษาชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ 4 โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31ครผู สู้ อน นางสาวอรณชั ชา เจรญิ สขุสอนวนั พฤหัสบดี ที่ 7 เดือน มิถนุ ายน พ.ศ. 2561 เวลา 10.20 น. - 11.10 น.สอนวนั พฤหสั บดี ท่ี 14 เดือน มถิ ุนายน พ.ศ. 2561 เวลา 10.20 น. - 11.10 น.1. สาระสาคญั กล้ามเนื้อลาย กล้ามเนื้อหัวใจ และกล้ามเน้ือเรียบ มีความสําคัญต่อการเคลื่อนไหวของร่างกายกล้ามเน้ือมีความสําคัญต่อการเคล่ือนไหวของร่างกาย จึงควรรู้จักวิธีดูแลให้สามารถทํางานได้อย่างมีประสทิ ธภิ าพและมกี ารเจริญเตบิ โตและพฒั นาการไปตามวยั2. มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตัวช้วี ดั ชนั้ ป/ี ผลการเรียนร้/ู เป้าหมายการเรียนรู้ มาตรฐาน พ 1.1 เข้าใจธรรมชาติของการเจริญเตบิ โตและพัฒนาการของมนุษย์ ตัวชี้วัด พ 1.1 ป.4/2 อธิบายความสําคัญของกล้ามเนื้อ กระดูก และข้อที่มีผลต่อสุขภาพ การเจรญิ เตบิ โตและพัฒนาการ ป.4/3 อธิบายวิธดี ูแลกลา้ มเนอ้ื กระดูก และข้อให้ทาํ งานอยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ จุดประสงค์การเรยี นรู้ 1) จาํ แนกประเภทของกลา้ มเนื้อได้ 2) อธบิ ายการทํางานของกล้ามเนื้อแต่ละประเภทได้ 3) อธบิ ายวธิ ีดูแลกล้ามเนอ้ื ใหท้ ํางานอยา่ งมปี ระสิทธภิ าพได้3. สาระการเรียนรู้ 3.1 เน้อื หาสาระหลกั : Knowledge - ความสําคัญของกล้ามเนื้อ กระดูก และข้อที่มีผลต่อสุขภาพ การเจริญเติบโตและ พัฒนาการ - วธิ ดี ูแลรักษากลา้ มเนอ้ื กระดกู และข้อใหท้ ํางานอย่างมีประสทิ ธิภาพ 3.2 ทกั ษะ/กระบวนการ : Process 1. นักเรียนสามารถจาํ แนกประเภทของกล้ามเนือ้ ได้ 2. นกั เรยี นสามารถอธิบายการทาํ งานของกล้ามเนอ้ื แต่ละประเภทได้ 3.3 คณุ ลกั ษณะที่พงึ ประสงค์ : Attitude 1. ใฝเุ รียนรู้ 2. มีความรับผิดชอบ4. สมรรถนะสาคัญของนกั เรยี น 4.1 ความสามารถในการคิด 1) ทกั ษะการวเิ คราะห์ 2) ทกั ษะการระบุ 4.2 ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต

5. คณุ ลักษณะของวชิ า - ความรับผิดชอบ - ความรอบคอบ - กระบวนการกลุม่6. คุณลักษณะทพ่ี งึ ประสงค์ 1. ใฝุเรยี นรู้ 2. มีความรบั ผิดชอบ7. ชิน้ งาน/ภาระงาน 1. ใบงานที่ 2.1 เร่อื ง ประเภทของกล้ามเนอ้ื 2. ใบงานที่ 2.2 เรือ่ ง วิธีการดแู ลรกั ษาระบบกลา้ มเน้ือ8. กิจกรรมการเรยี นรู้ช่วั โมงท่ี 1ขั้นนา 1. นักเรียนตอบคาํ ถามกระตุน้ ความคดิ คนเราสามารถเคลื่อนไหวรา่ งกายได้อยา่ งไร 2. ครูให้นักเรียนสังเกตบัตรภาพหมายเลข 1-3 แล้วให้นักเรียนร่วมกันสนทนาว่า เพราะเหตุใดเดก็ ในภาพจงึ เคลอื่ นไหว ในอิริยาบถต่างๆ ได้ 3. ครูอธิบายให้นักเรียนเข้าใจว่า การเคล่ือนไหวร่างกายเกิดจาก การทํางานท่ีประสานกันของกลา้ มเนื้อ กระดกู และข้อ 4. ครูแบ่งนักเรียนเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 4 คน คละกันตามความสามารถ คือ เก่ง ปานกลางค่อนข้างเก่ง ปานกลางค่อนข้างอ่อน และอ่อน จากน้ันให้นักเรียนแต่ละกลุ่มศึกษาความรู้เรื่อง ประเภทของกลา้ มเน้ือ 5. สมาชิกแตล่ ะกลมุ่ วางแผนการศกึ ษาความร้เู ร่ือง ประเภทของกลา้ มเนือ้ 6. ครูเสนอแนะวิธีการทํางานกลุ่ม และการแบ่งหน้าที่การศึกษาความรู้โดยพิจารณาตามความสนใจของสมาชิกกลมุ่ หรือตามความเหมาะสมขัน้ สอน 1. นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันศึกษาความรู้เรื่อง ประเภทของกล้ามเนื้อ จากหนังสือเรียน และแหล่งขอ้ มลู สารสนเทศ แล้วบนั ทกึ ความร้ทู ่ีได้จากการศึกษาลงในแบบบนั ทึกการอ่าน 2. นักเรียนตอบคําถามกระตุ้นความคิด กล้ามเน้ือประเภทใดมีความแข็งแรงมากที่สุด (กล้ามเนื้อหวั ใจ) 3. นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันอธิบายและสรุปประเภทของกล้ามเนื้อเพื่อให้สมาชิกทุกคนมีความรู้ความเข้าใจที่ถูกตอ้ ง ดังน้ี - ลักษณะของกลา้ มเน้อื ลาย - ลักษณะของกลา้ มเนื้อหวั ใจ - ลกั ษณะของกล้ามเน้ือเรียบ 4. ครอู ธิบายลักษณะการทาํ งานของกลา้ มเน้ือประกอบแผนภาพแสดงการทํางานของกล้ามเน้ือ 5. สมาชิกในแต่ละกลมุ่ ร่วมกนั ทําใบงานท่ี 2.1 เรื่อง ประเภทของกล้ามเนื้อ โดยให้สมาชิกแต่ละคนหาคําตอบด้วยตนเองจนครบทุกข้อ จากน้ันจับคู่กับเพ่ือนในกลุ่มผลัดกันอธิบายคําตอบของตนเอง(สมาชกิ อีกคู่ในกลมุ่ ก็ปฏิบัติกจิ กรรมเชน่ เดยี วกนั ) 4. นักเรียนรวมกลุ่มเดิม (4 คน) ผลัดกันอธิบายคําตอบของคู่ตนเองให้เพื่อนอีกคู่หนึ่งในกลุ่มฟังเพอื่ หาข้อสรปุ ของคําตอบแลว้ บนั ทกึ ลงในใบงานท่ี 2.1 เสร็จแลว้ นําสง่ ครูตรวจ

ขน้ั สรุป 1. นักเรียนตอบคําถามกระตุ้นความคิด ถ้ากล้ามเน้ือไม่ได้ทํางานเป็นเวลานานจะเกิดผลเสียอย่างไร (กล้ามเนอ้ื จะเสือ่ มสภาพ และมขี นาดเลก็ ลง) 2. นกั เรียนแตล่ ะกลุ่มรว่ มกนั สรุปประเภทของกล้ามเนอื้ และลกั ษณะการทาํ งานของกล้ามเน้ือแต่ละประเภท ครูอธิบายเพิม่ เติมในจุดที่บกพร่องชว่ั โมงที่ 2ข้ันนา 1. ครูให้นักเรียนแสดงความคิดเห็นว่า นักเรียนมีวิธีการดูแลตนเองอย่างไร โดยครูคอยกระตุ้นให้นกั เรยี นทกุ คนมีสว่ นรว่ ม ในการแสดงความคิดเห็น 2. ครูอธิบายให้นักเรียนฟังว่า เมื่อร่างกายของเราเจริญเติบโตข้ึนจากวัยเด็กตอนปลายเริ่มเข้าสู่วัยรุ่น ย่อมมีการเปล่ียนแปลงในด้านต่างๆ ดังนั้นเราจึงควรศึกษาวิธีการดูแลตนเองในด้านต่างๆ เพื่อให้สามารถดูแลตนเองได้อยา่ งเหมาะสมขน้ั สอน 1. นักเรียนตอบคําถามกระตุ้นความคิด ถ้านักเรียนต้องการเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อ ควรเลือกรับประทานอาหารประเภทใด (เลือกรับประทานอาหารประเภทโปรตีน เช่น เนื้อสัตว์ไข่ นม เปน็ ต้น) 2. ครูและนักเรียนร่วมกันสนทนาเก่ียวกับวิธีการปฏิบัติตนเพื่อดูแลรักษาระบบกล้ามเน้ือให้แขง็ แรง และทํางานไดอ้ ย่างปกติขน้ั สอน 1. นกั เรยี นรวมกล่มุ เดมิ รว่ มกนั ศึกษาความรูเ้ รือ่ ง วิธดี แู ลรักษาระบบกล้ามเน้ือ จากหนังสือเรียนหรอื 2. ครูให้นักเรียนร่วมกันวิเคราะห์และจําแนกว่า การปฏิบัติอย่างไรท่ีมีผลในการเสริมสร้างกล้ามเน้อื ให้แข็งแรงและทาํ งานไดอ้ ย่างมีประสทิ ธภิ าพ และการปฏบิ ตั อิ ย่างไรไม่เหมาะสม หรือไม่สามารถเสริมสร้างการทาํ งานของกล้ามเนือ้ 3. สมาชิกแต่ละกลุ่มร่วมกันวิเคราะห์ จําแนก และสรุปผล จากนั้นส่งตัวแทนออกมานําเสนอผลสรปุ ที่เป็นมติของกล่มุ หน้าชน้ั เรียน 4. นักเรยี นทําใบงานท่ี 2.2 เรอื่ ง วธิ กี ารดูแลรักษาระบบกล้ามเนื้อ เป็นรายบุคคล จากนั้นนําใบงานสง่ ครตู รวจขั้นสรุป 1. นกั เรยี นตอบคาํ ถามกระต้นุ ความคดิ ถา้ ยกของผดิ วิธี จะสง่ ผลเสียต่อกล้ามเน้อื อย่างไร 2. นักเรียนร่วมกันสรุปวิธีดูแลรักษาระบบกล้ามเน้ือ และแนวทางการนําความรู้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ตอ่ ตนเอง

9. ส่ือการเรยี นการสอน / แหล่งเรยี นรู้ 1. หนังสือเรียน สุขศกึ ษาและพลศึกษา ป.4 2. แผนภาพแสดงการทาํ งานของกล้ามเนื้อ 3. บตั รภาพ 4. ใบงานท่ี 2.1 เรอื่ ง ประเภทของกลา้ มเนือ้ 5. ใบงานท่ี 2.2 เร่ือง วิธีการดแู ลรกั ษาระบบกลา้ มเนอื้10. การวดั ผลและประเมินผล วธิ กี าร เคร่อื งมอื เกณฑ์ตรวจแบบทดสอบกอ่ นเรยี น หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ 2 แบบทดสอบกอ่ นเรยี น หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 2 (ประเมนิ ตามสภาพจริง)ตรวจใบงานที่ 2.1 ใบงานท่ี 2.1 รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ตรวจใบงานที่ 2.2 ใบงานท่ี 2.2 ระดบั คณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ ระดบั คณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ตรวจแบบบันทกึ การอา่ น แบบบันทึกการอ่าน ระดับคณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ ระดบั คณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์สงั เกตพฤติกรรมการทาํ งานรายบคุ คล แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทาํ งานรายบุคคล ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์สงั เกตพฤตกิ รรมการทํางานกลุ่ม แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทาํ งานกลุม่สงั เกตการใฝเุ รยี นรู้ และมีความรบั ผิดชอบ แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ตรวจแบบทดสอบหลังเรยี น หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 2 แบบทดสอบหลงั เรียน หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 2

บนั ทึกผลหลังการจดั การเรียนรู้ผลการสอน……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ลงช่ือ ......................................................... (นางสาวอรณชั ชา เจริญสุข) ครผู ู้สอนขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแกไ้ ข……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงช่ือ .......................................................... (นางสาวจิตตานาถ เทพวงศ์) ครพู เี่ ลย้ี งข้อเสนอแนะ/แนวทางแกไ้ ข……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ .......................................................... ( นางวลิ าวัลย์ ปาลี ) ผ้อู ํานวยการโรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31

แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายบคุ คล คาชีแ้ จง : ให้ ผ้สู อน สงั เกตพฤติกรรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขีด  ลงใน ช่อง ท่ตี รงกบั ระดบั คะแนนลาดับ ชื่อ – สกุล ความมวี ินัย ความมีนา้ ใจ การรับฟงั การแสดง การตรงตอ่ รวม ท่ี ของผรู้ ับการ 321 เอ้อื เฟอื้ ความคดิ เห็น ความคิดเหน็ เวลา 15 เสียสละ คะแนน ประเมิน 321 321 321 3211 เดก็ ชายกิตตภิ พ ชุตกิ รรงั สี2 เดก็ ชายบรุ พล พงศบ์ รสิ ุทธิ์3 เด็กชายสเุ ทพ ขวัญปรดี ากลุ4 เด็กชายอมลณฐั สริ วิ จงี าม5 เด็กชายนิรตุ บรู ณพงศไ์ พร6 เด็กหญงิ ชวิศา แสนวงั ทอง7 เด็กหญิงกานดา มรพุ งษ์8 เดก็ หญงิ ณิชกานต์ สทุ ธิมงคลกลู9 เด็กหญงิ ดาวนภา ไพรวลั ยว์ ชิระ10 เด็กหญิงวรศิ รา พริ ยิ ะวิทยาธร11 เด็กหญิงวิลาสินี สริ ิวจงี าม12 เดก็ หญิงศศชิ า เกษมธรี ญาณ13 เด็กหญงิ สุภนิดา นิรมิตความดี14 เด็กหญิงอาจรยี ์ เอกขจรไกล ลงชอื่ ...................................................ผปู้ ระเมิน ............../.................../................ เกณฑ์การใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน เกณฑก์ ารตัดสนิ คุณภาพ ปฏิบัตหิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอยา่ งสม่าเสมอ ให้ 2 คะแนน ปฏบิ ัติหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยคร้งั ให้ 1 คะแนน ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ ปฏบิ ัติหรือแสดงพฤตกิ รรมบางครง้ั 12 - 15 ดี 8 - 11 พอใช้ ตํ่ากว่า 8 ปรับปรุง

แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์คาชี้แจง : ให้ ผสู้ อน สงั เกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรยี น แล้วขดี  ลง ในชอ่ งทีต่ รงกบั ระดับคะแนน คุณลักษณะ รายการประเมิน ระดบั คะแนน อันพึงประสงคด์ ้าน 3211. รกั ชาติ ศาสน์ 1.1 ยืนตรงเคารพธงชาติ และรอ้ งเพลงชาตไิ ด้ 1.2 เขา้ ร่วมกจิ กรรมทสี่ รา้ งความสามัคคี ปรองดอง และเปน็ ประโยชน์ กษตั ริย์ ต่อโรงเรยี น2. ซอ่ื สัตย์ สจุ รติ 1.3 เข้าร่วมกิจกรรมทางศาสนาทตี่ นนบั ถอื ปฏิบตั ิตามหลกั ศาสนา3. มวี นิ ยั รบั ผดิ ชอบ 1.4 เขา้ ร่วมกิจกรรมที่เกย่ี วกับสถาบันพระมหากษตั รยิ ์ตามทีโ่ รงเรยี นจดั ข้ึน4. ใฝเ่ รยี นรู้ 2.1 ใหข้ อ้ มูลทถ่ี ูกตอ้ ง และเปน็ จริง 2.2 ปฏิบตั ใิ นสิ่งท่ถี ูกตอ้ ง5. อยู่อยา่ งพอเพียง 3.1 ปฏบิ ตั ติ ามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ขอ้ บงั คับของครอบครวั6. มงุ่ มั่นในการ มคี วามตรงต่อเวลาในการปฏิบัตกิ จิ กรรมตา่ งๆ ในชวี ติ ประจาํ วนั ทางาน 4.1 รจู้ กั ใช้เวลาวา่ งใหเ้ ปน็ ประโยชน์ และนาํ ไปปฏบิ ัติได้ 4.2 รจู้ ักจดั สรรเวลาใหเ้ หมาะสม7. รักความเป็นไทย 4.3 เชอ่ื ฟังคําสง่ั สอนของบิดา-มารดา โดยไมโ่ ต้แยง้8. มจี ิตสาธารณะ 4.4 ตัง้ ใจเรยี น 5.1 ใชท้ รพั ยส์ นิ และสิง่ ของของโรงเรยี นอยา่ งประหยดั 5.2 ใชอ้ ุปกรณ์การเรยี นอย่างประหยดั และรคู้ ณุ ค่า 5.3 ใช้จา่ ยอยา่ งประหยดั และมกี ารเกบ็ ออมเงนิ 6.1 มีความตั้งใจและพยายามในการทาํ งานทีไ่ ด้รบั มอบหมาย 6.2 มคี วามอดทนและไมท่ อ้ แท้ตอ่ อุปสรรคเพ่อื ให้งานสาํ เรจ็ 7.1 มจี ติ สาํ นกึ ในการอนรุ กั ษ์วัฒนธรรมและภูมปิ ญั ญาไทย 7.2 เหน็ คณุ ค่าและปฏิบตั ติ นตามวัฒนธรรมไทย 8.1 รู้จักชว่ ยพอ่ แม่ ผูป้ กครอง และครูทาํ งาน 8.2 ร้จู ักการดแู ล รักษาทรัพยส์ มบตั ิและสง่ิ แวดลอ้ มของหอ้ งเรยี น โรงเรยี น ลงชอื่ ...................................................ผู้ประเมนิ ............../.................../................เกณฑ์การใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน เกณฑ์การตดั สินคณุ ภาพ ปฏบิ ัตหิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอยา่ งสมา่ เสมอ ให้ 2 คะแนน ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยคร้งั ให้ 1 คะแนน ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ ปฏิบัติหรือแสดงพฤตกิ รรมบางครง้ั 46 - 60 ดี 30 - 45 พอใช้ ตํา่ กวา่ 30 ปรับปรงุ

แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายบุคคลชอ่ื ช้ัน …………...คาชแี้ จง : ให้ ผู้สอน สงั เกตพฤติกรรมของนักเรยี นในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรียน แลว้ ขีด  ลง ในชอ่ งทตี่ รงกบั ระดบั คะแนนลาดบั ท่ี รายการประเมิน ระดับคะแนน 3211 การแสดงความคิดเหน็2 การยอมรบั ฟังความคิดเห็นของผอู้ ่นื3 การทํางานตามหนา้ ท่ีทไ่ี ด้รบั มอบหมาย4 ความมนี า้ํ ใจ5 การตรงต่อเวลา รวม ลงช่ือ....................................................ผปู้ ระเมิน ................ /................ /................เกณฑก์ ารให้คะแนน ให้ 3 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคณุ ภาพ ปฏิบัติหรอื แสดงพฤติกรรมอย่างสม่าเสมอ ให้ 2 คะแนน ปฏบิ ัตหิ รือแสดงพฤติกรรมบ่อยคร้ัง ให้ 1 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ปฏบิ ตั ิหรือแสดงพฤติกรรมบางครง้ั 12 - 15 ดี 18 - 11 พอใช้ ต่ํากวา่ 8 ปรับปรงุ

แบบประเมินการนาเสนอผลงานคาชแี้ จง : ให้ ผสู้ อน ประเมินการนําเสนอผลงานของนักเรียนตามรายการที่กาํ หนด แลว้ ขดี  ลงใน ชอ่ งที่ตรงกบั ระดบั คะแนนลาดับที่ รายการประเมนิ ระดบั คะแนน 3211 นาํ เสนอเนอ้ื หาในผลงานได้ถูกตอ้ ง2 การลําดับข้นั ตอนของเนื้อเร่อื ง3 การนําเสนอมีความน่าสนใจ4 การมสี ว่ นรว่ มของสมาชกิ ในกลมุ่5 การตรงต่อเวลา รวม ลงชอ่ื .................................................... ผู้ประเมิน ................ /................ /................เกณฑ์การใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน เกณฑ์การตดั สินคุณภาพ ผลงานหรือพฤตกิ รรมสมบูรณ์ชัดเจน ให้ 2 คะแนน ผลงานหรอื พฤติกรรมมขี ้อบกพร่องบางส่วน ให้ 1 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ผลงานหรอื พฤติกรรมมขี อ้ บกพรอ่ งเปน็ ส่วนใหญ่ 12 - 15 ดี 18 - 11 พอใช้ ต่าํ กวา่ 8 ปรับปรุง

เอกสารประกอบการสอน แผนภาพแสดงการทางานของกลา้ มเน้อืขณะงอแขน ขณะเหยียดแขน กล้ามเน้อื ไบเซ็ปส์ (เปน็ กล้ามเนื้อท่ีอยู่ หดตวั ทางดา้ นหนา้ ของตน้ แขน) คลายตวั กล้ามเนื้อไทรเซ็ปส์ (เปน็ กลา้ มเนอ้ื ที่อยู่ หดตัว ทางด้านหลงั ของตน้ แขน) คลายตัว

บตั รภาพ  ภาพที่ 1 ภาพที่ 2 ภาพที่ 3

ใบงานท่ี 2.1 ประเภทของกล้ามเนอื้คาชแี้ จง ให้นักเรียนตอบคําถามท่ีกาํ หนดใหถ้ กู ต้อง 1. กล้ามเนือ้ ในรา่ งกายของคนเราแบง่ ออกเปน็ กปี่ ระเภท อะไรบา้ ง 2. กล้ามเนอ้ื ลาย มีลักษณะอย่างไร 3. กลา้ มเนือ้ ประเภทใดทม่ี ีการทํางานทอ่ี ยู่นอกเหนอื จากอาํ นาจจิตใจ 4. เพราะเหตุใด กล้ามเน้ือหัวใจจึงมีความแขง็ แรงมากทีส่ ดุ 5. กล้ามเน้อื มีความสําคัญอย่างไร

ใบงานที่ 2.1 ประเภทของกล้ามเนอ้ืคาช้แี จง ใหน้ กั เรียนตอบคําถามที่กําหนดใหถ้ ูกต้อง 1. กลา้ มเนื้อในรา่ งกายของคนเราแบง่ ออกเป็นก่ีประเภท อะไรบา้ ง กลา้ มเนอ้ื แบ่งออกเปน็ 3 ประเภท ไดแ้ ก่ กลา้ มเนื้อลาย กลา้ มเนอื้ หวั ใจ และกล้ามเนอื้ เรยี บ 2. กล้ามเนอ้ื ลาย มลี กั ษณะอย่างไร กล้ามเนอ้ื ลาย เป็นกล้ามเน้อื ทม่ี ขี นาดใหญ่ ซงึ่ ยึดตดิ อย่กู บั โครงกระดกู ส่วนตา่ งๆ ของร่างกาย ทาให้เกดิ การ เคล่ือนไหวได้ 3. กลา้ มเน้ือประเภทใดท่มี ีการทํางานทอี่ ยนู่ อกเหนือจากอํานาจจิตใจ กล้ามเนือ้ หัวใจ 4. เพราะเหตุใด กลา้ มเนื้อหวั ใจจงึ มคี วามแขง็ แรงมากทส่ี ดุ เพราะกลา้ มเนือ้ หวั ใจจะต้องทางานตลอดเวลา โดยไม่มีการหยุดพักจนตลอดชวี ติ จงึ ต้องมีความแข็งแรงมากท่สี ุด 5. กลา้ มเนื้อ มีความสําคญั อย่างไร กลา้ มเนื้อเปน็ อวัยวะทมี่ ีความสาคญั ในการเคลื่อนไหวของรา่ งกาย

ใบงานท่ี 2.2 วธิ ีการดูแลรกั ษาระบบกล้ามเนอื้คาชี้แจง ให้นกั เรยี นเขยี นแผนผังความคดิ แสดงวิธกี ารดแู ลรักษาระบบกลา้ มเน้ือใหแ้ ข็งแรงและ ทํางานได้อย่างมปี ระสิทธิภาพ วธิ กี ารดูแล รักษา ระบบกล้ามเน้อื

ใบงานที่ 2.2 วิธกี ารดูแลรักษาระบบกลา้ มเน้ือคาชีแ้ จง ให้นักเรียนเขยี นแผนผงั ความคิด แสดงวธิ กี ารดูแลรักษาระบบกล้ามเน้ือให้แข็งแรงและทํางานได้อย่างมีประสิทธิภาพ (ตวั อยา่ ง)กินอาหารทีม่ ปี ระโยชน์ ออกก่าลงั กายอย่างสม่าเสมอ สปั ดาหล์ ะ 3 ครง้ั วิธกี ารดแู ล รกั ษา ระบบกลา้ มเน้ือ ไมค่ วรยกของหนักเกนิ ไป หรือถ้าจ่าเปน็ ตอ้ งยกของหนัก ใหใ้ ชแ้ รงยกจากขา ไมค่ วรใช้ แรงยกจากหลงั(พิจารณาตามคาตอบของนักเรยี น โดยใหอ้ ยู่ในดลุ ยพินจิ ของครูผสู้ อน) แผนการจดั การเรยี นรู้ จาํ นวน 4 ชว่ั โมงหนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 2 เร่อื ง กล้ามเนอื้ และกระดกู

แผนการจดั การเรยี นรูท้ ่ี 2 เรือ่ ง กระดกู ข้อต่อ และวิธีการดูรักษา จํานวน 2 ช่ัวโมงกลมุ่ สาระการเรยี นรู้ สขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษาชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ 4 โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31ครูผู้สอน นางสาวอรณชั ชา เจรญิ สขุสอนวันอังคาร ท่ี 21 เดือน มถิ ุนายน พ.ศ. 2561 เวลา 10.20 น. - 11.10 น.สอนวนั องั คาร ที่ 28 เดือน มิถุนายน พ.ศ. 2561 เวลา 10.20 น. - 11.10 น.1. สาระสาคญั โครงกระดูก และข้อต่อ เป็นโครงสร้างที่สําคัญและแข็งแรงมากท่ีสุดของร่างกาย กระดูก และข้อตอ่ มคี วามสําคัญตอ่ การเคลื่อนไหว การเจริญเติบโตและพัฒนาการของร่างกาย จึงควรดูแลรักษาให้ถูกวิธีและทาํ งานได้อย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ2. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ชีว้ ัดช้นั ป/ี ผลการเรียนร/ู้ เป้าหมายการเรียนรู้ มาตรฐาน พ 1.1 เข้าใจธรรมชาติของการเจริญเตบิ โตและพัฒนาการของมนษุ ย์ ตัวชี้วัด พ 1.1 ป.4/3 อธิบายวธิ ดี ูแลกลา้ มเนื้อ กระดกู และข้อใหท้ าํ งานอยา่ งมีประสิทธิภาพ จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1) อธิบายลักษณะของโครงกระดูกและข้อต่อได้ 2) อธิบายวิธีดูแลรักษากระดกู และข้อตอ่ ให้ทํางานอยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพได้3. สาระการเรียนรู้ 3.1 เนื้อหาสาระหลกั : Knowledge - ความสําคัญของกล้ามเนื้อ กระดูก และข้อท่ีมีผลต่อสุขภาพ การเจริญเติบโตและ พฒั นาการ - วธิ ีดูแลรกั ษากระดูก และขอ้ ตอ่ ให้ทาํ งานอยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ 3.2 ทักษะ/กระบวนการ : Process 1. นักเรยี นสามารถอธิบายลกั ษณะของโครงกระดูกและข้อตอ่ ได้ 2. นักเรียนสามารถอธบิ ายวธิ ดี ูแลรกั ษากระดูก และขอ้ ต่อให้ทํางานอย่างมีประสิทธิภาพได้ 3.3 คุณลักษณะที่พงึ ประสงค์ : Attitude 1. ใฝุเรียนรู้ 2. มีความรับผิดชอบ4. สมรรถนะสาคญั ของนกั เรยี น 4.1 ความสามารถในการคดิ 1) ทักษะการวเิ คราะห์ 2) ทกั ษะการระบุ 4.2 ความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ5. คณุ ลักษณะของวชิ า - ความรบั ผิดชอบ - ความรอบคอบ - กระบวนการกลุม่

6. คณุ ลักษณะท่พี ึงประสงค์ 1. ใฝุเรยี นรู้ 2. มีความรับผดิ ชอบ7. ชน้ิ งาน/ภาระงาน 1. ใบงานท่ี 2.3 เรื่อง กระดกู และขอ้ ต่อ 2. ใบงานท่ี 2.4 เรอ่ื ง ยอดมนุษย์ตวั ปลอม8. กิจกรรมการเรยี นรู้ชวั่ โมงที่ 1ขั้นนา 1. นกั เรียนตอบคําถามกระตนุ้ ความคิด อวัยวะใดในรา่ งกายท่ีมคี วามแข็งแรงมากท่ีสดุ (กระดูก) 2. ครูให้นักเรียนช่วยกันยกตัวอย่างอวัยวะต่างๆ ที่มีความ สําคัญต่อการเคล่ือนไหวของร่างกายมนุษย์ข้ันสอน 1. นักเรียนแต่ละ ร่วมกันศึกษาความรู้เรื่อง กระดูกและข้อต่อ จากหนังสือเรียน และแหล่งข้อมูลสารสนเทศ ตามประเดน็ ท่กี ําหนด ดงั น้ี - โครงกระดูก (กระดูกแกน และกระดูกรยางค์) - ขอ้ ต่อ (ชนดิ ของข้อตอ่ ) 2. ครูนําแผนภาพแสดงโครงสร้างกระดูกส่วนต่างๆ ในร่างกายมาแสดงให้นักเรียนดู แล้วให้อาสาสมัครนักเรยี นหรือครูอาจส่มุ นักเรียนเป็นรายกลุ่มใหบ้ อกชอ่ื กระดูกในสว่ นต่างๆ ให้ถูกตอ้ ง 3. ครอู ธบิ ายความรู้เกี่ยวกับกระดูกและขอ้ ตอ่ ต่างๆ ประกอบแผนภาพแสดงโครงสร้างกระดูกส่วนต่างๆ ในร่างกาย 4. ครูใหน้ กั เรยี นแต่ละกลมุ่ เปรยี บเทียบความแตกต่างของข้อตอ่ จากบัตรภาพหมายเลข 1-3 (ภาพที่ 1 = ภาพกะโหลกศีรษะ ภาพท่ี 2 = ภาพขอ้ ตอ่ ในกระดูกสันหลัง ภาพท่ี 3 = ภาพกระดูกข้อต่อเข่า) แล้วร่วมกันสรุปผลการเปรียบเทียบ จากนั้นส่งตัวแทนออกมานําเสนอผลการเปรียบเทียบความแตกต่างของข้อต่อจากบตั รภาพ 5. ครูตรวจสอบความถูกต้อง และอธิบายในส่วนท่ีบกพร่องเพ่ือให้นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจที่ถูกตอ้ ง 6. นักเรียนแต่ละคนทําใบงานที่ 2.3 เร่ือง กระดูกและข้อต่อ เมื่อทําเสร็จแล้วให้จับคู่กับเพ่ือนในกลุ่มผลดั กันอธบิ ายคําตอบของตนเองให้เพือ่ นฟัง (สมาชกิ อีกคใู่ นกลุ่มกป็ ฏิบัตกิ ิจกรรมเช่นเดียวกนั ) 7. นักเรียนแต่ละคู่ผลัดกันอธิบายคําตอบของคู่ตนเองให้เพื่อน อีกคู่หน่ึงภายในกลุ่มฟัง เพ่ือหาข้อสรุปของคาํ ตอบแล้วบนั ทกึ ลงในใบงานที่ 2.3 เสรจ็ แล้วนาํ ส่งครตู รวจ 8. นักเรียนตอบคําถามกระตุ้นความคิด ข้อต่อส่วนใดสามารถเคลื่อนไหวได้มากท่ีสุด (ข้อต่อไหล่ขอ้ ต่อโคนขากบั กระดกู เชิงกราน)ขั้นสรปุ 1. ครเู ปดิ โอกาสใหน้ กั เรยี นซกั ถามขอ้ สงสยั ครอู ธิบายเพิม่ เติม 2. นักเรียนร่วมกันสรุปความรู้เกี่ยวกับโครงกระดูก (กระดูกแกนและกระดูกรยางค์) และข้อต่อ(ชนิดของข้อต่อ)

ชวั่ โมงท่ี 2ข้ันนา 1. นักเรียนตอบคําถามกระตุ้นความคิด นักเรียนคิดว่า ตนเองดูแลกระดูกและข้อต่อได้ ถูกวิธีหรอื ไม่ เพราะเหตใุ ด 2. ครูใหน้ ักเรียนช่วยกันยกตัวอย่างอาหารที่มีความสําคัญในการช่วยเสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรงข้ันสอน 1. นักเรียนตอบคําถามกระตุ้นความคิด ถ้านักเรียนต้องการเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับกลา้ มเนอ้ื ควรเลือกรับประทานอาหารประเภทใด (เลือกรับประทานอาหารประเภทโปรตีน เช่น เน้ือสัตว์ไข่ นม เป็นต้น) 2. ครูและนักเรียนร่วมกันสนทนาเก่ียวกับวิธีการปฏิบัติตนเพ่ือดูแลรักษาระบบกล้ามเน้ือให้แขง็ แรง และทาํ งานได้อย่างปกติขน้ั สอน 1. นักเรียนรวมกลุ่มเดิม ร่วมกันศึกษาความรู้เร่ือง วิธีดูแลรักษากระดูกและข้อต่อ จากหนังสือเรียน และห้องสมดุ 2. สมาชิกในแต่ละกลุ่มผลัดกันอธิบายความรู้ และซักถามจนเกิดความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกบั วิธดี แู ลรกั ษากระดูกและขอ้ ต่อ 3. ครตู ้งั ประเดน็ คาํ ถามใหน้ กั เรยี นแตล่ ะกลุ่มร่วมกันอธิบายคาํ ตอบ เช่น - อาหารท่ีมีแคลเซยี มสูง ได้แกอ่ าหารชนดิ ใด - การออกกําลงั กายอย่างสม่ําเสมอสง่ ผลต่อกระดูกและ ขอ้ ต่ออย่างไร - การเลน่ ผาดโผนมอี นั ตรายกบั กระดกู และขอ้ ตอ่ หรือไม่ เพราะเหตุใด - ผกั ใบเขยี ว ได้แกผ่ ักชนิดใดบ้าง 4. นักเรียนแต่ละคนทํากิจกรรมรวบยอดที่ 1.3 : ชุดท่ี 1 จากแบบวัดฯ เม่ือทําเสร็จแล้วให้ตรวจความถูกตอ้ งเรยี บร้อย กอ่ นนําสง่ ครู 5. นักเรียนตอบคําถามกระตุ้นความคิด การดูแลรักษากระดูกและข้อต่อให้ทํางานได้อย่างมีประสิทธิภาพส่งผลดีกับวัยของนักเรียนอย่างไร (ช่วยให้ร่างกายเคลื่อนไหวได้อย่างคล่องแคล่ว และ มีพฒั นาการทางรา่ งกายท่ีเปน็ ไปอยา่ งปกติ) 6. นกั เรยี นแต่ละคนทําใบงานท่ี 2.4 เร่ือง ยอดมนุษย์ตัวปลอม เมื่อทําเสร็จแล้วตรวจสอบความถกู ต้องเรียบรอ้ ยกอ่ นนําสง่ ครู 7. สมาชกิ แตล่ ะกล่มุ ร่วมกันอภิปรายเก่ียวกับวธิ กี ารดูแลรักษากระดกู และขอ้ ต่อให้เหมาะสมกับวัยของนักเรยี น แล้วส่งตวั แทนออกมานําเสนอผลการอภปิ รายหน้าชน้ั เรียน ครูและเพอื่ นกล่มุ อื่นร่วมกันแสดงความคิดเห็นและใหข้ อ้ เสนอแนะขั้นสรปุ 1. ครตู รวจสอบผลนักเรียนจากการทาํ ใบงานท่ี 2.4 2. นักเรียนร่วมกันสรุปวิธีดูแลรักษากระดูกและข้อต่อและแนวทางในการนําไปปรับใช้ให้เกิดประโยชนต์ ่อสขุ ภาพ

 ครมู อบหมายให้นักเรยี นแต่ละคนทาแผ่นพับ เรอื่ ง การดูแลรกั ษากล้ามเนื้อ กระดูก และขอ้ ต่อให้ ทางาน อย่างมปี ระสิทธิภาพ โดยใหค้ รอบคลมุ ประเด็นตามที่กําหนด ดงั นี้ 1) การอธิบายความสําคัญของกล้ามเน้ือ กระดกู และข้อต่อท่ีมีผลตอ่ สขุ ภาพ 2) การอธบิ ายวธิ ดี แู ลรกั ษากล้ามเน้อื กระดูก และข้อต่อให้ทํางานอยา่ งมีประสิทธิภาพ9. ส่ือการเรยี นการสอน / แหลง่ เรียนรู้ 1. หนงั สอื เรยี น สุขศึกษาและพลศึกษา ป.4 2. แผนภาพโครงสร้างและกระดกู สว่ นตา่ งๆ ในรา่ งกาย 3. บตั รภาพ 4. ใบงานที่ 2.3 เรอื่ ง กระดกู และขอ้ ต่อ 5. ใบงานท่ี 2.4 เรื่อง ยอดมนุษย์ตวั ปลอม10. การวดั ผลและประเมนิ ผล วธิ ีการ เครอื่ งมอื เกณฑ์ตรวจใบงานท่ี 2.3 รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ตรวจใบงานท่ี 2.4 ใบงานที่ 2.3 ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ประเมินการนาํ เสนอผลงาน ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ตรวจแบบบนั ทึกการอา่ น ใบงานท่ี 2.4 ระดบั คณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์สงั เกตพฤตกิ รรมการทํางานกลุ่ม ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์สงั เกตการใฝุเรยี นรู้ และมีความรบั ผิดชอบ แบบประเมนิ การนาํ เสนอผลงาน ระดับคณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ตรวจแบบทดสอบหลังเรียน หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ตรวจแผ่นพบั เรอื่ ง การดูแลกล้ามเนือ้ กระดกู แบบบันทึกการอ่าน ระดับคณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์และขอ้ ต่อใหท้ าํ งานอย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทาํ งานกลมุ่ แบบประเมินคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ แบบทดสอบหลงั เรียน หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 2 แบบประเมินแผน่ พบั เรอื่ ง การดแู ล กลา้ มเนอื้ กระดูก และขอ้ ตอ่ ให้ทํางานอยา่ ง มปี ระสิทธภิ าพ

บนั ทกึ ผลหลงั การจดั การเรยี นรู้ผลการสอน……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ลงชอ่ื ......................................................... (นางสาวอรณชั ชา เจริญสุข) ครผู ูส้ อนข้อเสนอแนะ/แนวทางแก้ไข……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงช่ือ .......................................................... (นางสาวจติ ตานาถ เทพวงศ์) ครูพี่เลี้ยงขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแก้ไข……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ .......................................................... ( นางวลิ าวลั ย์ ปาลี ) ผอู้ ํานวยการโรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31

แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทางานรายบคุ คล คาชีแ้ จง : ให้ ผ้สู อน สงั เกตพฤติกรรมของนักเรยี นในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรียน แลว้ ขีด  ลงใน ช่อง ท่ตี รงกบั ระดบั คะแนนลาดับ ชื่อ – สกุล ความมวี ินัย ความมีนา้ ใจ การรับฟงั การแสดง การตรงต่อ รวม ท่ี ของผรู้ ับการ 321 เอ้ือเฟอื้ ความคิดเหน็ ความคิดเหน็ เวลา 15 เสยี สละ คะแนน ประเมิน 321 321 321 3211 เดก็ ชายกิตตภิ พ ชุตกิ รรงั สี2 เดก็ ชายบรุ พล พงศบ์ รสิ ุทธิ์3 เด็กชายสเุ ทพ ขวัญปรดี ากลุ4 เด็กชายอมลณฐั สริ วิ จงี าม5 เด็กชายนิรตุ บรู ณพงศไ์ พร6 เด็กหญงิ ชวิศา แสนวงั ทอง7 เด็กหญิงกานดา มรพุ งษ์8 เดก็ หญงิ ณิชกานต์ สทุ ธิมงคลกลู9 เด็กหญงิ ดาวนภา ไพรวลั ยว์ ชิระ10 เด็กหญิงวรศิ รา พริ ยิ ะวิทยาธร11 เด็กหญิงวิลาสินี สริ ิวจงี าม12 เดก็ หญิงศศชิ า เกษมธรี ญาณ13 เด็กหญงิ สุภนิดา นิรมิตความดี14 เด็กหญิงอาจรยี ์ เอกขจรไกล ลงชอ่ื ...................................................ผปู้ ระเมนิ ............../.................../................ เกณฑ์การใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน เกณฑ์การตัดสนิ คุณภาพ ปฏิบัตหิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอย่างสม่าเสมอ ให้ 2 คะแนน ปฏบิ ัติหรือแสดงพฤติกรรมบอ่ ยครง้ั ให้ 1 คะแนน ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ ปฏบิ ัติหรือแสดงพฤตกิ รรมบางครง้ั 12 - 15 ดี 8 - 11 พอใช้ ตา่ํ กว่า 8 ปรับปรุง

แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์คาชี้แจง : ให้ ผู้สอน สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรยี น แล้วขดี  ลง ในชอ่ งท่ตี รงกบั ระดับคะแนน คุณลักษณะ รายการประเมิน ระดบั คะแนน อันพึงประสงคด์ า้ น 3211. รกั ชาติ ศาสน์ 1.1 ยืนตรงเคารพธงชาติ และรอ้ งเพลงชาตไิ ด้ 1.2 เข้าร่วมกจิ กรรมทสี่ รา้ งความสามัคคี ปรองดอง และเปน็ ประโยชน์ กษตั ริย์ ต่อโรงเรยี น2. ซอ่ื สัตย์ สจุ รติ 1.3 เข้าร่วมกิจกรรมทางศาสนาทตี่ นนบั ถอื ปฏิบตั ิตามหลกั ศาสนา3. มวี นิ ยั รับผดิ ชอบ 1.4 เข้าร่วมกิจกรรมที่เกย่ี วกับสถาบันพระมหากษัตรยิ ์ตามทีโ่ รงเรยี นจดั ข้ึน4. ใฝเ่ รยี นรู้ 2.1 ใหข้ อ้ มูลท่ถี ูกตอ้ ง และเปน็ จริง 2.2 ปฏิบตั ใิ นสิ่งท่ถี ูกตอ้ ง5. อยู่อยา่ งพอเพียง 3.1 ปฏบิ ตั ติ ามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ขอ้ บงั คับของครอบครวั6. มงุ่ มั่นในการ มีความตรงต่อเวลาในการปฏิบัตกิ จิ กรรมต่างๆ ในชวี ติ ประจาํ วนั ทางาน 4.1 รู้จกั ใช้เวลาวา่ งใหเ้ ปน็ ประโยชน์ และนาํ ไปปฏบิ ัติได้ 4.2 รู้จักจดั สรรเวลาใหเ้ หมาะสม7. รักความเป็นไทย 4.3 เชือ่ ฟังคําส่งั สอนของบิดา-มารดา โดยไมโ่ ต้แยง้8. มจี ิตสาธารณะ 4.4 ต้ังใจเรยี น 5.1 ใชท้ รพั ยส์ นิ และสิง่ ของของโรงเรยี นอยา่ งประหยดั 5.2 ใช้อุปกรณ์การเรยี นอย่างประหยดั และรคู้ ณุ ค่า 5.3 ใชจ้ า่ ยอยา่ งประหยดั และมกี ารเกบ็ ออมเงนิ 6.1 มีความตั้งใจและพยายามในการทาํ งานท่ไี ด้รบั มอบหมาย 6.2 มคี วามอดทนและไมท่ อ้ แท้ตอ่ อุปสรรคเพ่อื ให้งานสาํ เรจ็ 7.1 มีจิตสาํ นกึ ในการอนรุ กั ษ์วัฒนธรรมและภูมปิ ัญญาไทย 7.2 เห็นคณุ ค่าและปฏิบตั ติ นตามวัฒนธรรมไทย 8.1 รจู้ ักชว่ ยพอ่ แม่ ผูป้ กครอง และครูทาํ งาน 8.2 รจู้ กั การดแู ล รักษาทรัพยส์ มบตั ิและสง่ิ แวดลอ้ มของหอ้ งเรยี น โรงเรยี น ลงชอื่ ...................................................ผู้ประเมนิ ............../.................../................เกณฑ์การใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน เกณฑ์การตดั สินคณุ ภาพ ปฏบิ ัตหิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอยา่ งสมา่ เสมอ ให้ 2 คะแนน ปฏบิ ัติหรอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยคร้งั ให้ 1 คะแนน ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ ปฏิบตั หิ รือแสดงพฤตกิ รรมบางครง้ั 46 - 60 ดี 30 - 45 พอใช้ ตํา่ กวา่ 30 ปรับปรงุ

แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทางานรายบุคคลชอ่ื ช้ัน …………...คาชแี้ จง : ให้ ผู้สอน สงั เกตพฤติกรรมของนักเรยี นในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรียน แลว้ ขีด  ลง ในชอ่ งทตี่ รงกบั ระดบั คะแนนลาดบั ท่ี รายการประเมิน ระดับคะแนน 3211 การแสดงความคิดเหน็2 การยอมรบั ฟังความคดิ เหน็ ของผอู้ ่นื3 การทํางานตามหนา้ ท่ีที่ไดร้ ับมอบหมาย4 ความมนี า้ํ ใจ5 การตรงต่อเวลา รวม ลงช่ือ....................................................ผปู้ ระเมิน ................ /................ /................เกณฑก์ ารให้คะแนน ให้ 3 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคณุ ภาพ ปฏิบัติหรือแสดงพฤตกิ รรมอย่างสมา่ เสมอ ให้ 2 คะแนน ปฏบิ ัตหิ รือแสดงพฤติกรรมบ่อยครั้ง ให้ 1 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ปฏบิ ตั ิหรอื แสดงพฤติกรรมบางครง้ั 12 - 15 ดี 18 - 11 พอใช้ ต่ํากวา่ 8 ปรับปรงุ

แบบประเมินการนาเสนอผลงานคาชแี้ จง : ให้ ผสู้ อน ประเมินการนําเสนอผลงานของนักเรียนตามรายการที่กาํ หนด แล้วขีด  ลงใน ชอ่ งทต่ี รงกับระดับคะแนนลาดับท่ี รายการประเมิน ระดับคะแนน 3211 นาํ เสนอเนอื้ หาในผลงานได้ถูกต้อง2 การลําดบั ข้นั ตอนของเนื้อเรื่อง3 การนาํ เสนอมีความน่าสนใจ4 การมสี ว่ นรว่ มของสมาชิกในกลมุ่5 การตรงต่อเวลา รวม ลงช่อื .................................................... ผู้ประเมิน ................ /................ /................เกณฑ์การให้คะแนน ให้ 3 คะแนน เกณฑ์การตดั สินคุณภาพ ผลงานหรือพฤตกิ รรมสมบรู ณ์ชัดเจน ให้ 2 คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมมขี ้อบกพรอ่ งบางสว่ น ให้ 1 คะแนน ชว่ งคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ผลงานหรือพฤติกรรมมขี อ้ บกพร่องเปน็ ส่วนใหญ่ 12 - 15 ดี 18 - 11 พอใช้ ต่าํ กว่า 8 ปรับปรุง

เอกสารประกอบการสอนแผนภาพแสดงโครงสรา้ งกระดกู สว่ นตา่ งๆ ในรา่ งกาย กะโหลกศีรษะ ขากรรไกร กระดูกหน้าอก กระดกู ไหล่ กระดกู แขนกระดูกซโี่ ครง กระดกู กระดกู สันหลงั เชงิ กราน กระดกู ตน้ ขา กระดกู มือกระดูกหนา้ แขง้ สะบา้ หัวเข่า กระดกู นิว้ เทา้ กระดูกตาต่มุท่มี า : ชชู าติ รอดถาวร และภาสกร บญุ นยิ ม. [ม.ป.ป.]. หนงั สอื เรยี น รายวชิ าพื้นฐาน สุขศึกษาและพลศกึ ษา ป.4. กรุงเทพมหานคร : อักษรเจรญิ ทัศน.์

บตั รภาพ  ภาพที่ 1 ภาพท่ี 2 ภาพที่ 3ท่มี า : ชชู าติ รอดถาวร และภาสกร บญุ นิยม. [ม.ป.ป.]. หนังสือเรยี น รายวชิ าพน้ื ฐาน สุขศึกษาและพลศึกษา ป.4. กรุงเทพมหานคร : อักษรเจริญทัศน์.

ใบงานท่ี 2.3 กระดูกและขอ้ ตอ่คาชี้แจง ให้นกั เรียนตอบคําถามท่ีกําหนดให้ถกู ต้อง 1. โครงกระดูกมคี วามสําคัญอยา่ งไร 2. กระดูกแบ่งออกเป็นกี่สว่ น อะไรบา้ ง 3. เพราะเหตุใด ทารกแรกเกิดจึงมีจํานวนกระดูกมากกวา่ ตอนเจรญิ เตบิ โตเตม็ ท่ี 4. ข้อต่อมีกช่ี นิด และมปี ระโยชนอ์ ย่างไรต่อร่างกาย 5. ขอ้ ต่อทีส่ ามารถเคล่ือนไหวได้มากเป็นข้อต่อท่ีอยใู่ นส่วนใด

ใบงานที่ 2.3 กระดกู และขอ้ ต่อคาชแี้ จง ใหน้ ักเรียนตอบคาํ ถามท่ีกําหนดให้ถูกต้อง 1. โครงกระดูกมีความสําคญั อย่างไร โครงกระดูกเปน็ โครงสร้างของรา่ งกายทท่ี าใหร้ ่างกายคงรปู รา่ งอยู่ได้ และเป็นสว่ นท่ีแข็งแรงมาก 2. กระดูกแบ่งออกเป็นก่สี ว่ น อะไรบ้าง กระดูก แบ่งออกเปน็ 2 สว่ น ไดแ้ ก่ กระดูกแกน (สว่ นของลาตวั 80 ชนิ้ ) และกระดกู รยางค์ (ส่วนทยี่ น่ื ออกไป 126 ช้นิ ) 3. เพราะเหตุใด ทารกแรกเกิดจึงมีจาํ นวนกระดูกมากกวา่ ตอนเจรญิ เติบโตเตม็ ท่ี เพราะเมอ่ื ทารกเจริญเตบิ โตเตม็ ท่แี ล้วกระดกู จะเชือ่ มต่อกนั จากประมาณ 300 กว่าชิน้ เชื่อมต่อกนั จนเหลือเพยี ง 206 ช้นิ เมอ่ื เจรญิ เติบโตเตม็ ท่ี 4. ข้อต่อมีก่ชี นิด และมีประโยชน์อย่างไรต่อรา่ งกาย ขอ้ ตอ่ แบ่งออกเป็น 3 ชนดิ ไดแ้ ก่ ขอ้ ตอ่ เคล่ือนไหวไมไ่ ด้ ขอ้ ตอ่ เคลอื่ นไหวได้บา้ ง และขอ้ ตอ่ เคลือ่ นไหวได้มาก ข้อตอ่ มปี ระโยชน์ในการช่วยทาใหร้ ่างกายสามารถเคลื่อนไหวได้ 5. ข้อต่อท่ีสามารถเคลื่อนไหวได้มากเป็นข้อต่อที่อยใู่ นสว่ นใด ขอ้ ตอ่ สามารถเคลอ่ื นไหวไดม้ าก ได้แก่ ข้อต่อไหล่ และขอ้ ตอ่ บริเวณโคนขากับกระดูกเชิงกราน

การประเมินชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) แบบประเมินแผน่ พบั เรอื่ ง การดแู ลกลา้ มเนือ้ กระดกู และข้อตอ่ ให้ทางานอย่างมีประสทิ ธิภาพลาดับที่ รายการประเมิน ระดับคะแนน 3211 การอธบิ ายความสําคัญของกลา้ มเนอื้ กระดกู และข้อต่อท่ี มีผลตอ่ สุขภาพ2 การอธบิ ายวิธีดูแลรักษากลา้ มเนอ้ื กระดูก และข้อตอ่ ให้ ทาํ งานอย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ รวม ลงชอ่ื ...................................................ผปู้ ระเมิน ............../.................../................เกณฑก์ ารให้คะแนน เกณฑ์การตดั สนิ คุณภาพ ดี พอใช้ = 3 คะแนน ชว่ งคะแนน ระดบั คุณภาพ ปรบั ปรุง = 2 คะแนน = 1 คะแนน 5 - 6 ดี 3 - 4 พอใช้ ตํา่ กว่า 3 ปรับปรงุ

ใบงานท่ี 2.4 ยอดมนษุ ย์ตัวปลอมคาชแ้ี จง ให้นักเรียนอ่านเรื่อง ยอดมนุษย์ตัวปลอม แลว้ ตอบคาํ ถามทกี่ าํ หนดให้ถูกต้อง ยอดมนษุ ยต์ ัวปลอม แก้วเป็นเด็กที่ซุกซนมาก เธอชอบเล่นโลดโผนเป็นท่ีสุด แม้คุณแม่จะคอยห้าม แต่เธอก็ไม่ เชือ่ ฟงั เพราะร้สู กึ วา่ สนุก ตนื่ เต้น ท้าทาย และทาํ ให้เพือ่ นๆ นับถอื ได้ เม่ืออยู่โรงเรียน แก้วมักชวนเพื่อนๆ ไปปีนปุายต้นไม้หรือกระโดดจากที่สูงเพ่ือเลียนแบบ ยอดมนุษย์ท่ีเธอเคยดูในภาพยนตร์ เพื่อนๆ บางคนก็ทําตาม แต่บางคนก็เตือนว่าเป็น อนั ตราย แต่เธอกไ็ มเ่ ชือ่ วันหน่ึง แก้วชวนเพื่อนๆ ไปเล่นเป็นยอดมนุษย์มาปราบเหล่าร้าย เธอสมมุติให้ตัวเองเป็น ยอดมนุษย์ที่เหาะมาจากนอกโลก เธอจึงขึ้นไปยืนบนโต๊ะหิน แล้วกระโดดเหาะลงมา แต่ เน่ืองจากเม่ือคืนฝนตกจึงทําให้โต๊ะหินเปียก เธอจึงล่ืนตกลงมาทําให้แขนและขากระแทกพื้น จนร้สู ึกเจบ็ ข้อมอื และข้อเท้ามาก เพื่อนๆ รีบตามคุณครูมาดูแก้ว คุณครูจึงพาแก้วไปหาหมอ หมอบอกเธอว่ากล้ามเนื้อท่ีบริเวณมืออักเสบและข้อเท้าหัก ต้องเข้าเฝือก และต้องอยู่เฉยๆ หา้ มเล่นจนกว่าจะหายเปน็ ปกติคาถาม 1. ปัญหาของแก้ว คืออะไร 2. เพราะเหตุใด แกว้ จงึ กลา้ มเน้ือมืออักเสบและข้อเทา้ หกั 3. ผลของกล้ามเน้อื มืออกั เสบและข้อเทา้ หักจะเปน็ อย่างไร 4. ถ้าไม่มกี ล้ามเนื้อและกระดกู เราจะเปน็ อยา่ งไร 5. ถา้ นักเรยี นเป็นแก้ว นกั เรยี นจะปฏบิ ตั อิ ย่างไรจงึ จะทาํ ให้กระดกู ไมห่ ัก

ใบงานที่ 2.4 ยอดมนษุ ย์ตัวปลอมคาชี้แจง ใหน้ ักเรยี นอ่านเรื่อง ยอดมนุษย์ตวั ปลอม แลว้ ตอบคําถามท่กี าํ หนดให้ถกู ต้อง ยอดมนุษยต์ ัวปลอม แก้วเปน็ เดก็ ที่ซกุ ซนมาก เธอชอบเล่นโลดโผนเป็นทสี่ ุด แมค้ ณุ แมจ่ ะคอยหา้ ม แต่เธอกไ็ มเ่ ชอ่ื ฟงั เพราะ รูส้ กึ วา่ สนุก ตน่ื เตน้ ทา้ ทาย และทาํ ให้เพ่อื นๆ นบั ถอื ได้ เมือ่ อยู่โรงเรียน แก้วมกั ชวนเพ่ือนๆ ไปปีนปุายตน้ ไมห้ รอื กระโดดจากท่สี ูงเพื่อเลยี นแบบยอดมนุษย์ท่ี เธอเคยดูในภาพยนตร์ เพอ่ื นๆ บางคนก็ทาํ ตาม แตบ่ างคนก็เตอื นวา่ เปน็ อนั ตราย แตเ่ ธอก็ไมเ่ ช่ือ วนั หนึง่ แก้วชวนเพือ่ นๆ ไปเล่นเปน็ ยอดมนษุ ยม์ าปราบเหล่าร้าย เธอสมมุติใหต้ ัวเองเป็นยอดมนุษย์ที่ เหาะมาจากนอกโลก เธอจงึ ขึ้นไปยนื บนโต๊ะหนิ แลว้ กระโดดเหาะลงมา แต่เนื่องจากเม่ือคนื ฝนตกจึงทาํ ให้ โตะ๊ หินเปียก เธอจงึ ลื่นตกลงมาทาํ ให้แขนและขากระแทกพ้นื จนรสู้ กึ เจ็บข้อมือและขอ้ เทา้ มาก เพอื่ นๆ รบี ตามคณุ ครมู าดแู กว้ คณุ ครจู งึ พาแกว้ ไปหาหมอ หมอบอกเธอว่ากลา้ มเน้อื ท่บี รเิ วณมืออกั เสบและขอ้ เท้าหัก ตอ้ งเข้าเฝอื ก และตอ้ งอยู่เฉยๆ ห้ามเล่นจนกวา่ จะหายเปน็ ปกติคาถาม 1. ปญั หาของแก้ว คืออะไร 2. เพราะเหตุใด แก้วจงึ กล้ามเน้ือมืออักเสบและข้อเทา้ หัก 3. ผลของกลา้ มเน้ือมอื อกั เสบและข้อเทา้ หักจะเปน็ อย่างไร 4. ถา้ ไม่มกี ลา้ มเนอ้ื และกระดูก เราจะเป็นอยา่ งไร 5. ถา้ นกั เรยี นเป็นแกว้ นกั เรียนจะปฏบิ ตั ิอยา่ งไรจึงจะทาํ ให้กระดกู ไม่หัก (พจิ ารณาตามคาตอบของนักเรยี น โดยใหอ้ ยูใ่ นดลุ ยพนิ จิ ของครผู สู้ อน)

การประเมินช้ินงาน/ภาระงาน (รวบยอด)แบบประเมนิ แผ่นพบั เรอื่ ง การดแู ลกลา้ มเนอื้ กระดกู และข้อต่อ ใหท้ างานอยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพรายการประเมิน คาอธิบายระดับคุณภาพ / ระดับคะแนน ดี (3) พอใช้ (2) ปรับปรงุ (1)1. การอธบิ าย อธบิ ายความสําคัญของ อธิบายความสําคัญของ อธิบายความสาํ คญั ของ ความสาคญั ของ กลา้ มเน้อื กระดูก และขอ้ กล้ามเนือ้ กระดกู และข้อ กลา้ มเนอ้ื กระดูก และขอ้ กล้ามเนอื้ กระดูก ต่อ ที่มผี ลตอ่ สขุ ภาพได้ ตอ่ ทม่ี ีผลต่อสขุ ภาพได้ ต่อ ทม่ี ผี ลตอ่ สขุ ภาพได้ และข้อต่อทีม่ ีผล ถูกตอ้ ง ครบถ้วน และเขา้ ใจ ถูกตอ้ งเป็นสว่ นใหญ่ และ ถูกตอ้ ง เปน็ บางสว่ น แต่ ตอ่ สุขภาพ งา่ ย เข้าใจง่าย เข้าใจยาก2. การอธบิ ายวธิ ี อธบิ ายวิธีดแู ลรักษา อธิบายวธิ ดี ูแลรกั ษา อธิบายวธิ ดี แู ลรกั ษา ดูแลรกั ษา กลา้ มเน้ือ กระดกู และข้อ กล้ามเน้ือ กระดกู และขอ้ กลา้ มเนอ้ื กระดกู และขอ้ กลา้ มเนอื้ กระดกู ตอ่ ให้ทํางานอยา่ งมี ตอ่ ให้ทาํ งานอยา่ งมี ต่อให้ทํางานอยา่ งมี และขอ้ ต่อให้ ประสทิ ธภิ าพไดถ้ ูกต้อง ประสทิ ธภิ าพไดถ้ ูกต้องเป็น ประสทิ ธภิ าพได้ถูกต้อง ทางานอย่างมี ชดั เจน และเข้าใจง่าย ส่วนใหญ่ และเข้าใจงา่ ย เปน็ บางสว่ น แต่เขา้ ใจยาก ประสิทธภิ าพช่วงคะแนน เกณฑก์ ารตดั สนิ คณุ ภาพ ต่ํากวา่ 3ระดับคุณภาพ ปรบั ปรงุ 5-6 3-4 ดี พอใช้


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook