แผนการจัดการเรียนรู้ สุขศึกษา ป.3 ภาคเรียนที่ 1

การออกแบบแผนการจดั การเรยี นรู้ รายวิชา สุขศึกษา รหัสวชิ า พ 14101ระดับช้ัน ประถมศึกษาปีที่ 4 ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศึกษา 2560 เวลาทั้งหมด 20 ชัว่ โมง จัดทาโดย นางสาวอรณชั ชา เจริญสขุ ตาแหนง่ พนักงานราชการ โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31 ตาบลชา่ งเค่งิ อาเภอแม่แจ่ม จงั หวดั เชียงใหม่ สานักบริหารงานการศึกษาพิเศษ สานักงานการศึกษาขัน้ พื้นฐาน กระทรวงศกึ ษาธิการ

แผนการจดั การเรยี นรู้ จานวน 3 ชั่วโมงหนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ 1 เร่อื ง การเจรญิ เติบโตตามวยั จานวน 3 ชัว่ โมงแผนการจัดการเรยี นร้ทู ี่ 1 เรอื่ ง ลกั ษณะรปู รา่ ง น้าหนกั และส่วนสูง และเกณฑม์ าตรฐานการเจรญิ เตบิ โตของเดก็ ไทยกล่มุ สาระการเรียนรู้ สุขศึกษาและพลศึกษาชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ 3 โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31ครผู สู้ อน นางสาวอรณัชชา เจรญิ สุขสอนวันอังคาร ที่ 15 เดือน พฤษภาคม พ.ศ. 2561 เวลา 14.50 น. - 15.40 น.สอนวนั อังคาร ที่ 22 เดือน พฤษภาคม พ.ศ. 2561 เวลา 14.50 น. - 15.40 น.สอนวนั อังคาร ที่ 29 เดือน พฤษภาคม พ.ศ. 2561 เวลา 14.50 น. - 15.40 น.1. สาระสาคญั ลักษณะรูปร่างและการเจริญเติบโตของร่างกายมนุษย์ จะเกิดการเปลี่ยนแปลงตามช่วงอายุท่ีเพิ่มข้ึน การเจริญเติบโตของร่างกายแต่ละคนมีความแตกต่างกันในด้านน้าหนักและส่วนสูง ซ่ึงข้ึนอยู่กับปัจจัยต่างๆ การเปรียบเทียบน้าหนัก และส่วนสูงของตนเองกับเกณฑ์มาตรฐานการเจริญเติบโตของเด็กไทย เพอื่ นามาปรับปรุงตนเองใหม้ กี ารเจริญเตบิ โตอย่างเหมาะสมกับวัย2. มาตรฐานการเรียนร้/ู ตวั ช้ีวัดชน้ั ป/ี ผลการเรยี นร/ู้ เปูาหมายการเรียนรู้ มาตรฐาน พ 1.1 เข้าใจธรรมชาติของการเจรญิ เติบโตและพัฒนาการของมนุษย์ ตัวชี้วดั พ 1.1 ป.3/1 อธิบายลักษณะและการเจริญเติบโตของร่างกายมนุษย์ ป.3/2 เปรียบเทียบการเจริญเติบโตของตนเองกับเกณฑ์มาตรฐาน จุดประสงค์การเรยี นรู้ 1) อธิบายลกั ษณะรูปรา่ งการเจรญิ เตบิ โตของร่างกายมนุษย์ได้ 2) อธิบายลกั ษณะการเจรญิ เตบิ โตของร่างกายด้านน้าหนัก และสว่ นสงู ของมนุษย์ได้ 3) เปรียบเทียบการเจริญเติบโตของตนเองกับเกณฑ์มาตรฐานการเจริญเติบโตของเดก็ ไทยได้3. สาระการเรียนรู้ 3.1 เนอื้ หาสาระหลกั : Knowledge  ลกั ษณะการเจรญิ เติบโตของรา่ งกายมนุษยท์ ่ีมีความแตกต่างกนั ในแตล่ ะบคุ คล - ลักษณะรปู รา่ ง  ลักษณะการเจรญิ เตบิ โตของรา่ งกายมนษุ ย์ที่มคี วามแตกต่างกันในแต่ละบุคคล - นา้ หนกั - ส่วนสูง - เกณฑม์ าตรฐานการเจริญเตบิ โตของเดก็ ไทย 3.2 ทกั ษะ/กระบวนการ : Process 1. นักเรียนสามารถอธิบายความสาคัญของระบบหายใจท่ีมีผลต่อสุขภาพ การเจรญิ เตบิ โต และพัฒนาการของร่างกายได้ 2. นักเรียนสามารถอธบิ ายวธิ ดี ูแลระบบหายใจใหท้ างานตามปกติได้

3. นักเรียนสามารถเปรียบเทียบการเจริญเติบโตของตนเองกับเกณฑ์มาตรฐานการเจรญิ เติบโตของ 3.3 คณุ ลักษณะทพ่ี ึงประสงค์ : Attitude 1. มีวนิ ยั 2. ใฝเุ รียนรู้4. สมรรถนะสาคญั ของนักเรยี น 4.1 ความสามารถในการคิด 1) ทักษะการสังเกต 2) ทกั ษะการเปรียบเทียบ 4.2 ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวติ5. คณุ ลักษณะของวชิ า - ความรับผดิ ชอบ - ความรอบคอบ - กระบวนการกลมุ่6. คณุ ลกั ษณะท่พี ึงประสงค์ 1. มีวินัย 2. ใฝเุ รียนรู้7. ชิ้นงาน/ภาระงาน 1. ใบงานที่ 1.1 เร่ือง การเจริญเติบโตของฉนั 2. ใบงานท่ี 1.2 เรอ่ื ง น้าหนักและส่วนสูง 3. สมุดบนั ทึกการเจริญเติบโตของตนเอง8. กิจกรรมการเรียนรู้ชั่วโมงท่ี 1ขนั้ นา 1. ครูให้นักเรียนแต่ละคนลองจินตนาการว่าตนเองในอีก 10 ปี ข้างหน้า จะมีลักษณะรูปร่างเป็นอยา่ งไร 2. ครูขออาสาสมคั รนกั เรยี นออกมาวาดภาพตนเองตามจนิ ตนาการให้เพื่อนๆ ดู 3. ครอู ธิบายเช่อื มโยงให้นักเรยี นเข้าใจถงึ ความสาคัญเกย่ี วกบั ลักษณะรปู ร่าง 4. นักเรียนตอบคาถามกระตุ้นความคิด นักเรียนคิดว่า เด็กที่มีสุขภาพร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์ควรมลี กั ษณะรูปรา่ งอยา่ งไรขัน้ สอน 1. ครูแบ่งนักเรียนเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 4 คน โดยให้สมาชิกแต่ละคนมีลักษณะรูปร่างแตกต่างกันแล้วรว่ มกนั ศึกษาความรู้เรื่อง ลกั ษณะการเจรญิ เตบิ โตของร่างกาย : ลักษณะรปู รา่ ง จากหนงั สอื เรยี น 2. นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันอธิบายความรู้ที่ได้จากการศึกษาเก่ียวกับลักษณะการเจริญเติบโตของร่างกาย : ลกั ษณะรปู รา่ ง 3. นกั เรยี นแต่ละคนทาใบงานท่ี 1.1 เรือ่ ง การเจริญเตบิ โต ของฉนั แลว้ ร่วมกันสรปุ ประเด็นสาคัญ

ข้นั สรุป 1. นักเรยี นร่วมกันสรุปความร้เู รอ่ื ง ลักษณะการเจริญเตบิ โตของรา่ งกาย 2. ครูอธบิ ายเพ่ิมเติมว่า นอกจากการเจริญเติบโตของร่างกายแล้ว เรายังสังเกตได้ว่า เราสามารถเคลอื่ นไหวไดค้ ล่องแคล่วข้ึน ทากิจกรรมต่างๆ ได้ดีข้ึน เช่น ยืนทรงตัวขาเดียวได้ นับเลขถอยหลังได้ อ่านหนังสอื ในใจได้ เปน็ ต้น ซ่ึงสง่ิ เหลา่ นี้ เรยี กวา่ พัฒนาการชั่วโมงที่ 2ขน้ั นา 1. ครูสุ่มนักเรียน 2-3 คน ออกมาเล่าถึงการเปลี่ยนแปลงของตนเองเม่ือเทียบกับตอนอายุ 5 ขวบวา่ มีการเปลย่ี นแปลงอย่างไรเกีย่ วกับรูปร่าง นา้ หนัก และส่วนสูง 2. ครอู ธิบายเชอ่ื มโยงให้นกั เรียนเข้าใจถึงความสาคญั เกีย่ วกับนา้ หนักและสว่ นสงู 3. นักเรียนตอบคาถามกระตุ้นความคิด เพราะเหตุใด นักเรียนกับเพ่ือนจึงมีความสูงไม่เท่ากันทัง้ ๆ ท่ีอายุเท่ากนัขั้นสอน 1. นักเรียนรวมกลุ่ม จากน้ันร่วมกันศึกษาความรู้เร่ือง ลักษณะการเจริญเติบโตของ ร่างกาย:น้าหนักและส่วนสูง จากหนังสือเรียน 2. ครแู นะนาวธิ ีการวดั สว่ นสงู และชง่ั น้าหนกั ที่ถกู ตอ้ งใหน้ กั เรยี นฟัง จากเอกสารประกอบการสอน 3. นักเรียนตอบคาถามกระตุ้นความคิด นักเรียนคิดว่า คนที่มีน้าหนักมากเป็นคนที่มีการเจริญเตบิ โตได้ดีจริงหรอื ไม่ เพราะเหตใุ ด 4. สมาชิกแต่ละคนผลัดกันอธิบายความรู้ที่ได้จากการศึกษาเก่ียวกับลักษณะการเจริญเติบโตของรา่ งกายใหส้ มาชิกภายในกลุม่ ฟัง ตามประเด็นทก่ี าหนด ดังน้ี 1) น้าหนัก 2) ส่วนสงู 5. นกั เรียนแต่ละกลมุ่ วัดสว่ นสูงและชัง่ นา้ หนักของเพ่ือนสมาชิกทุกคนในกลุ่ม แล้วบันทึกข้อมูลลงในใบงานท่ี 1.2 เรื่อง นา้ หนักและสว่ นสงูขน้ั สรุป 1. ตัวแทนของแตล่ ะกลุ่มออกมานาเสนอใบงานที่ 1.2 หน้าชน้ั เรียน ครูตรวจสอบความถูกตอ้ ง 2. นกั เรยี นร่วมกนั สรปุ ความรเู้ ร่ือง ลักษณะการเจรญิ เตบิ โตของรา่ งกาย : น้าหนักและส่วนสูง 3. นักเรียนทาแบบฝึกกิจกรรมที่ 1 จากแบบวัดฯ เป็นการบ้านเสร็จแล้วนาส่งครูตรวจในชั่วโมงถัดไปชั่วโมงที่ 3ขั้นนา 1. นักเรียนตอบคาถามกระตุ้นความคิด นักเรียนคิดว่า เด็กอ้วนเม่ือโตขึ้นสามารถมีการเจรญิ เตบิ โตทีส่ มวัยไดห้ รือไม่ เพราะเหตุใด (ได้ ถ้าดูแลตนเองและรับประทานอาหารท่ีมีประโยชน์ในปริมาณท่ีเพียงพอต่อความต้องการของร่างกายในแต่ละวัน และออกกาลังกายอย่างสม่าเสมอ เป็นปัจจัยสาคัญท่ีทาให้มีการเจริญเติบโตอย่างสมวยั ) 2. ครูนาข่าวเด็กที่มีน้าหนักเกินจนเป็นโรคอ้วนมาเล่าให้นักเรียนฟัง จากน้ันให้นักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเหน็ เก่ียวกบั สาเหตุสาคัญท่ที าใหเ้ กิดโรคอว้ น

3. ครูซักถามเกี่ยวกับน้าหนักและส่วนสูงของนักเรียนแต่ละคน และให้นักเรียนบอกรูปร่างของตนเอง 4. ครูนาตารางแสดงน้าหนักและส่วนสูงในช่วงอายุ 2-19 ปี ติดบนกระดาน พร้อมกับอธิบายวิธีตรวจสอบว่า เรามกี ารเจริญเตบิ โตทส่ี มวยั หรอื ไม่ขน้ั สอน 1. นักเรียนตอบคาถามกระตุ้นความคิด นักเรียนคิดว่า คนท่ีมีการเจริญเติบโตสมวัยจะมีลักษณะอย่างไร 2. นักเรียนรวมกลุ่ม จากนั้นร่วมกันศึกษาความรู้เร่ือง เกณฑ์มาตรฐานการเจริญเติบโต ของเดก็ ไทย จากหนงั สือเรยี นหรือบทเรยี น 3. ครูสุ่มนักเรียน 1 คน ออกมาหน้าชั้นเรียน แล้วถามข้อมูลน้าหนักและส่วนสูง จากนั้นนามาเปรยี บเทียบกบั เกณฑ์มาตรฐานการเจริญเตบิ โต เพอ่ื วิเคราะหก์ ารเจรญิ เติบโตว่าสมวัยหรอื ไม่ 4. นักเรียนแต่ละกลุ่มนาข้อมูลเก่ียวกับน้าหนักและส่วนสูงของสมาชิกในกลุ่ม มาวิเคราะห์การเจริญเติบโตว่า แต่ละคนมกี ารเจรญิ เติบโตท่สี มวัยหรือไม่ อย่างไรและชั่งน้าหนักของเพื่อนสมาชิกทุกคนในกลมุ่ แลว้ บันทกึ ขอ้ มูลลงในใบงานท่ี 1.2 เรื่อง น้าหนักและส่วนสงู 5. ครูและนักเรียนร่วมกนั พจิ ารณาวา่ สมาชิกกลมุ่ ของตนเองควรจะมีการปรับปรุงและดูแลตนเองอย่างไร เพ่ือใหร้ ่างกายมกี ารเจริญเตบิ โตอย่างสมวัย 6. ครอู ธบิ ายความรูเ้ พมิ่ เติมในสว่ นทีบ่ กพร่องข้นั สรุป 1. นักเรียนร่วมกันสรุปวธิ ีดูแลตนเอง เพอ่ื ให้รา่ งกายมกี ารเจริญเตบิ โตอยา่ งสมวัย 2. ครูแนะนานักเรียนว่า การดูแลตนเองให้มีการเจริญเติบโต ที่สมวัย จะทาให้เรามีสุขภาพท่ีแข็งแรง และทาให้ปฏบิ ัติกิจกรรมในชวี ิตประจาวนั ได้ดี 3. นักเรียนทาแบบฝึกกิจกรรมที่ 2 จากแบบวัดฯ เป็นการบ้านเสร็จแล้วนาส่งครูตรวจในช่ัวโมงถัดไป  ครูมอบหมายใหน้ ักเรียนแตล่ ะคนจัดทาสมดุ บนั ทึกการเจริญเติบโตของตนเอง โดยให้ครอบคลุม ประเดน็ ตามที่กาหนด ดังนี้ 1) การอธิบายลกั ษณะการเจรญิ เตบิ โตของร่างกาย 2) การบันทกึ ข้อมลู น้าหนกั สว่ นสูง และผลการเปรียบเทยี บกับเกณฑ์มาตรฐาน 3) แนวทางในการปฏบิ ัติตนเพื่อปรบั ปรงุ ตนเองในดา้ นนา้ หนกั 4) แนวทางในการปฏิบตั ิตนเพื่อปรับปรุงตนเองในด้านส่วนสงู9. ส่ือการเรียนการสอน / แหล่งเรียนรู้ 1. หนงั สือเรียน สขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา ป.3 2. เอกสารประกอบการสอน 3. ใบงานท่ี 1.1 เรือ่ ง การเจรญิ เติบโตของฉนั 4. เคร่ืองชง่ั น้าหนักและท่ีวดั สว่ นสูง 5. ใบงานท่ี 1.2 เรอื่ ง น้าหนักและส่วนสูง 6. ตวั อยา่ งข่าว 7. ตารางแสดงนา้ หนักและส่วนสูงในช่วงอายุ 2-19 ปี

10. การวดั ผลและประเมนิ ผล วิธีการ เครอ่ื งมือ เกณฑ์ตรวจแบบทดสอบก่อนเรยี น หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 1 แบบทดสอบก่อนเรยี น หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 1 (ประเมินตามสภาพจริง)ตรวจใบงานที่ 1.1 ใบงานที่ 1.1 รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ตรวจใบงานที่ 1.2 ใบงานท่ี 1.2 ระดับคณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ ระดบั คณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ประเมินการนาเสนอผลงาน แบบประเมนิ การนาเสนอผลงาน ระดับคณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์สงั เกตพฤติกรรมการทางานรายบคุ คล แบบสงั เกตพฤติกรรมการทางานรายบคุ คล ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์สงั เกตพฤติกรรมการทางานกลุม่ แบบสงั เกตพฤติกรรมการทางานกลุ่มตรวจแบบทดสอบหลงั เรียน หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ 1 แบบทดสอบหลังเรยี น หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 1ตรวจสมุดบนั ทึกการเจรญิ เติบโตของฉนั แบบประเมินสมดุ บนั ทึกการเจรญิ เติบโตของฉัน

บันทกึ ผลหลังการจดั การเรียนรู้ผลการสอน……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ลงช่อื ......................................................... (นางสาวอรณชั ชา เจริญสขุ ) ครูผสู้ อนข้อเสนอแนะ/แนวทางแก้ไข……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชอ่ื .......................................................... (นางสาวจิตตานาถ เทพวงศ)์ ครูพี่เล้ยี งขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแก้ไข……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชือ่ .......................................................... ( นางวิลาวลั ย์ ปาลี ) ผอู้ านวยการโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31

แบบสังเกตพฤติกรรมการทางานรายบคุ คล คาชี้แจง : ให้ ผู้สอน สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี  ลงใน ชอ่ ง ที่ตรงกับระดับคะแนนลาดับ ชื่อ – สกุล ความมวี นิ ัย ความมีนา้ ใจ การรบั ฟงั การแสดง การตรงตอ่ รวม ที่ ของผรู้ ับการ 321 เอื้อเฟอื้ ความคดิ เห็น ความคดิ เหน็ เวลา 15 เสยี สละ คะแนน ประเมนิ 321 321 321 3211 เด็กหญิงทิพปภา แสนวงั ทอง2 เด็กชายธรี พงศ์ เสริมวฒุ กิ ล้า3 เดก็ ชายนริ ชุ รัตนมานะชัย4 เดก็ ชายปณุ ยวีร์ เกอ้ื กลุ ประดษิ ฐ์5 เด็กชายศุภกฤต ไพรฑรู ย์ศรีทอง6 เด็กชายจริ วัชร โกศลประทีป7 เด็กหญงิ กัลยา กมลชอบวริ ยิ ะ8 เด็กหญงิ กลุ นดิ า กอ่ วริ ิยาตระกลู9 เด็กหญิงชนาภา มฤคมาศ10 เด็กหญงิ นิชา บวรหริ ญั ไพร11 เดก็ หญิงปภาดา วรนาถยนื ยง12 เด็กหญิงรุ่งนภา มฤคมาศ13 เด็กหญิงสชุ ญั ญา รุ่งเกียรตพิ นา14 เด็กหญงิ จันทรจ์ ริ า แก้วมา15 เด็กหญิงสภุ านนั ท์ แกว้ อนิ ศรี ลงชอ่ื ...................................................ผู้ประเมิน ............../.................../................ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน เกณฑ์การตัดสนิ คณุ ภาพ ปฏิบัตหิ รอื แสดงพฤติกรรมอย่างสม่าเสมอ ให้ 2 คะแนน ปฏิบัติหรอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยครัง้ ให้ 1 คะแนน ชว่ งคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ปฏิบตั ิหรือแสดงพฤตกิ รรมบางครง้ั 12 - 15 ดี 8 - 11 พอใช้ ตา่ กวา่ 8 ปรบั ปรุง

แบบประเมินคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์คาชแี้ จง : ให้ ผ้สู อน สังเกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขีด  ลง ในชอ่ งทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน คณุ ลักษณะ รายการประเมิน ระดับคะแนน อนั พงึ ประสงค์ดา้ น 3211. รกั ชาติ ศาสน์ 1.1 ยนื ตรงเคารพธงชาติ และร้องเพลงชาตไิ ด้ 1.2 เข้ารว่ มกิจกรรมทส่ี ร้างความสามคั คี ปรองดอง และเปน็ ประโยชน์ กษตั ริย์ ต่อโรงเรียน2. ซอื่ สตั ย์ สุจรติ 1.3 เขา้ รว่ มกจิ กรรมทางศาสนาท่ตี นนบั ถือ ปฏิบัตติ ามหลกั ศาสนา3. มีวนิ ยั รบั ผดิ ชอบ 1.4 เขา้ รว่ มกิจกรรมทเี่ กยี่ วกับสถาบนั พระมหากษตั รยิ ต์ ามทีโ่ รงเรียนจดั ข้นึ4. ใฝุเรยี นรู้ 2.1 ใหข้ อ้ มูลทีถ่ ูกตอ้ ง และเปน็ จรงิ 2.2 ปฏิบตั ิในสงิ่ ท่ถี ูกต้อง5. อยอู่ ย่างพอเพียง 3.1 ปฏบิ ัติตามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ขอ้ บงั คับของครอบครัว6. มุ่งมน่ั ในการ มคี วามตรงตอ่ เวลาในการปฏบิ ัติกจิ กรรมตา่ งๆ ในชวี ิตประจาวนั ทางาน 4.1 รูจ้ ักใชเ้ วลาวา่ งใหเ้ ปน็ ประโยชน์ และนาไปปฏิบัตไิ ด้ 4.2 รจู้ ักจดั สรรเวลาให้เหมาะสม7. รักความเปน็ ไทย 4.3 เช่ือฟังคาสง่ั สอนของบดิ า-มารดา โดยไมโ่ ตแ้ ย้ง8. มจี ติ สาธารณะ 4.4 ตั้งใจเรียน 5.1 ใชท้ รัพย์สนิ และสิง่ ของของโรงเรียนอย่างประหยดั 5.2 ใชอ้ ุปกรณ์การเรยี นอยา่ งประหยัดและรคู้ ณุ คา่ 5.3 ใชจ้ า่ ยอย่างประหยัดและมกี ารเก็บออมเงิน 6.1 มคี วามตงั้ ใจและพยายามในการทางานท่ีได้รับมอบหมาย 6.2 มีความอดทนและไมท่ อ้ แทต้ อ่ อปุ สรรคเพือ่ ใหง้ านสาเรจ็ 7.1 มีจิตสานึกในการอนุรักษ์วัฒนธรรมและภมู ิปญั ญาไทย 7.2 เหน็ คณุ คา่ และปฏบิ ตั ิตนตามวฒั นธรรมไทย 8.1 รจู้ กั ชว่ ยพอ่ แม่ ผ้ปู กครอง และครทู างาน 8.2 รจู้ ักการดแู ล รักษาทรพั ย์สมบัตแิ ละส่งิ แวดล้อมของหอ้ งเรยี น โรงเรยี น ลงช่ือ...................................................ผู้ประเมิน ............../.................../................เกณฑ์การใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน เกณฑ์การตดั สนิ คณุ ภาพ ปฏบิ ัตหิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอย่างสมา่ เสมอ ให้ 2 คะแนน ปฏิบัตหิ รือแสดงพฤตกิ รรมบอ่ ยคร้งั ให้ 1 คะแนน ชว่ งคะแนน ระดับคณุ ภาพ ปฏิบัติหรอื แสดงพฤตกิ รรมบางครั้ง 46 - 60 ดี 30 - 45 พอใช้ ต่ากวา่ 30 ปรับปรงุ

แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทางานรายบุคคลช่ือ ชนั้ …………...คาช้แี จง : ให้ ผ้สู อน สงั เกตพฤติกรรมของนกั เรยี นในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด  ลง ในชอ่ งท่ตี รงกับระดับคะแนนลาดับท่ี รายการประเมิน ระดับคะแนน 3211 การแสดงความคิดเหน็2 การยอมรบั ฟงั ความคดิ เห็นของผ้อู นื่3 การทางานตามหน้าท่ีท่ีได้รบั มอบหมาย4 ความมีน้าใจ5 การตรงต่อเวลา รวม ลงชื่อ....................................................ผูป้ ระเมนิ ................ /................ /................เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน เกณฑ์การตัดสนิ คุณภาพ ปฏบิ ตั ิหรอื แสดงพฤติกรรมอย่างสมา่ เสมอ ให้ 2 คะแนน ปฏบิ ตั ิหรอื แสดงพฤตกิ รรมบอ่ ยคร้ัง ให้ 1 คะแนน ชว่ งคะแนน ระดับคณุ ภาพ ปฏิบัติหรือแสดงพฤตกิ รรมบางครง้ั 12 - 15 ดี 18 - 11 พอใช้ ตา่ กวา่ 8 ปรับปรงุ

แบบประเมินการนาเสนอผลงานคาช้ีแจง : ให้ ผู้สอน ประเมินการนาเสนอผลงานของนักเรยี นตามรายการทก่ี าหนด แล้วขดี  ลงใน ชอ่ งท่ีตรงกบั ระดบั คะแนนลาดับท่ี รายการประเมิน ระดับคะแนน 3211 นาเสนอเนือ้ หาในผลงานได้ถูกตอ้ ง2 การลาดบั ขั้นตอนของเน้ือเรอื่ ง3 การนาเสนอมีความน่าสนใจ4 การมสี ว่ นร่วมของสมาชกิ ในกล่มุ5 การตรงต่อเวลา รวม ลงช่ือ .................................................... ผู้ประเมิน ................ /................ /................เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน เกณฑก์ ารตดั สนิ คุณภาพ ผลงานหรอื พฤตกิ รรมสมบูรณช์ ดั เจน ให้ 2 คะแนน ผลงานหรือพฤตกิ รรมมขี ้อบกพร่องบางส่วน ให้ 1 คะแนน ชว่ งคะแนน ระดบั คุณภาพ ผลงานหรอื พฤตกิ รรมมขี อ้ บกพรอ่ งเปน็ สว่ นใหญ่ 12 - 15 ดี 18 - 11 พอใช้ ต่ากวา่ 8 ปรับปรุง

การประเมินชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) แบบประเมินสมดุ บันทกึ การเจรญิ เตบิ โตของฉันลาดับท่ี รายการประเมิน ระดับคะแนน 3211 การอธิบายลักษณะการเจริญเติบโตของรา่ งกาย2 การบันทึกขอ้ มลู น้าหนัก ส่วนสงู และผลการเปรยี บเทียบ กบั เกณฑ์มาตรฐาน3 แนวทางในการปฏบิ ัตติ นเพื่อปรับปรุงตนเองในด้าน น้าหนัก4 แนวทางในการปฏิบัติตนเพื่อปรับปรุงตนเองในด้าน ส่วนสูง รวม ลงช่ือ...................................................ผู้ประเมนิ ............../.................../................เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน เกณฑก์ ารตัดสนิ คุณภาพ ดี พอใช้ = 3 คะแนน ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ ปรับปรุง = 2 คะแนน = 1 คะแนน 10 - 12 ดี 6 - 9 พอใช้ ตา่ กวา่ 6 ปรับปรุง

การประเมินชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) แบบประเมนิ สมดุ บันทกึ การเจรญิ เตบิ โตของฉนั รายการประเมิน คาอธบิ ายระดับคุณภาพ / ระดับคะแนน1. การอธิบาย ดี (3) พอใช้ (2) ปรบั ปรุง (1) ลกั ษณะการ เจรญิ เตบิ โตของ อธบิ ายลกั ษณะการ อธิบายลักษณะการเจรญิ เตบิ โต อธิบายลกั ษณะการ รา่ งกาย เจรญิ เตบิ โต ของร่างกาย ของรา่ งกายตนเองไดถ้ กู ตอ้ งตรง เจริญเตบิ โตของรา่ งกาย ตนเองได้ถูกต้องตรงตาม ตามความเป็นจริง เปน็ ส่วน ตนเองได้ แต่ ไม่คอ่ ยตรง ความเป็นจริง ทุกประเด็น ใหญ่ ตามความเปน็ จริง2. การบันทกึ ขอ้ มลู บนั ทกึ ข้อมลู น้าหนัก สว่ นสูง บนั ทกึ ขอ้ มลู น้าหนัก สว่ นสงู ได้ บนั ทกึ ข้อมูลนา้ หนัก สว่ นสงู นา้ หนัก ส่วนสงู ไดถ้ กู ตอ้ ง ครบถ้วน และ และผลการ แสดงผลการเปรยี บเทียบกบั ถูกตอ้ ง 2 ข้อมลู แตแ่ สดงผลการ ไดถ้ กู ตอ้ ง 1 ข้อมลู แต่ เปรียบเทยี บกบั เกณฑม์ าตรฐานไดถ้ กู ต้อง เกณฑ์มาตรฐาน เปรียบเทยี บกับเกณฑม์ าตรฐาน แสดงผลการเปรียบเทียบกับ ได้ถูกตอ้ ง 1 ขอ้ มลู เกณฑ์มาตรฐานไมถ่ กู ตอ้ งเลย3. แนวทางในการ บอกแนวทางในการปฏิบัตติ น บอกแนวทางในการปฏิบัติตน บอกแนวทางในการปฏิบัตติ น ปฏิบัติตนเพื่อ ปรบั ปรุงตนเอง เพ่อื ปรบั ปรงุ ตนเองดา้ น เพ่อื ปรับปรุงตนเองดา้ นนา้ หนกั เพื่อปรับปรงุ ตนเองดา้ น ในดา้ นน้าหนัก นา้ หนกั ให้เจรญิ เติบโตสมวยั ให้เจริญเติบโตสมวยั ได้ แต่ไม่ นา้ หนกั ให้เจรญิ เตบิ โตสมวัย4. แนวทางในการ ปฏิบตั ิตนเพ่ือ ไดถ้ ูกต้อง ละเอียด ครบถว้ น คอ่ ยละเอยี ด และนาไปปฏบิ ตั ไิ ด้ ได้ แตไ่ ม่คอ่ ยละเอยี ด และ ปรับปรุงตนเอง ในดา้ นส่วนสงู และนาไปปฏบิ ตั ไิ ด้ง่าย เป็นสว่ นใหญ่ นาไปปฏิบตั ิ ไดย้ าก บอกแนวทางในการปฏบิ ัตติ น บอกแนวทางในการปฏิบัตติ น บอกแนวทางในการปฏบิ ตั ิตน เพอ่ื ปรบั ปรุงตนเองดา้ น เพือ่ ปรับปรงุ ตนเองดา้ นสว่ นสูง เพ่อื ปรบั ปรงุ ตนเองดา้ น สว่ นสูงให้เจริญเติบโตสมวยั ใหเ้ จริญเติบโตสมวัยได้ แตไ่ ม่ สว่ นสงู ใหเ้ จรญิ เติบโตสมวยั ไดถ้ ูกตอ้ ง ละเอียด ครบถ้วน คอ่ ยละเอยี ด และนาไปปฏิบตั ไิ ด้ ได้ แตไ่ มค่ อ่ ยละเอยี ด และ และนาไปปฏิบตั ิไดง้ ่าย เปน็ สว่ นใหญ่ นาไปปฏบิ ตั ิ ได้ยาก เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพชว่ งคะแนน 10 - 12 6-9 ต่ากวา่ 6ระดับคุณภาพ ดี พอใช้ ปรับปรงุ

ใบงานท่ี 1.1 การเจรญิ เตบิ โตของฉนัคาชแ้ี จง ใหน้ กั เรียนวาดภาพหรือติดรูปตนเองตอนอายุ 5 ขวบ กบั ปัจจบุ นั แลว้ เขียนเปรียบเทยี บ ความเหมอื นและความแตกต่าง(วาดภาพหรือตดิ รูป) (วาดภาพหรือตดิ รูป) อายุ 5 ขวบ ปจั จุบนั1. ลักษณะทเี่ หมือนกนั คือ2. ลกั ษณะที่แตกต่างกัน คือ

เอกสารประกอบการสอน วธิ ีการวดั ส่วนสงู และชงั่ น้าหนกั การวัดส่วนสูงทถ่ี ูกวิธี 1. ยืนตัวตรง ลาตัวและส้นเท้าชิดแปูน วดั ศีรษะตงั้ ตรง ตามองไปขา้ งหน้า 2. ใช้ไมบ้ รรทัดวางบนศีรษะและดันกับ แปูนวัด โดยให้ ต้ังฉากกบั แปนู วดั 3. อ่านค่าที่วัดได้ โดยมีหน่วยเป็น เซนตเิ มตรการชัง่ นา้ หนกั ทถี่ กู วิธี1. กอ่ นชง่ั เข็มของเครื่องชั่งจะต้องชี้ทต่ี ัวเลข 0 เสมอ2. ขณะช่งั ให้ขึ้นยนื บนเคร่ืองชงั่ (ควรถอดรองเท้า) ยนื ตรง3. เมื่อเข็มหยุดนิง่ ให้อา่ นนา้ หนักตามเขม็ ทีช่ ้ี โดยมหี นว่ ยเป็นกิโลกรัม

ใบงานที่ 1.2 น้าหนักและส่วนสูงคาช้แี จง ให้นักเรียนช่ังน้าหนักและวัดส่วนสูงของสมาชิกในกลุ่ม แล้วนาน้าหนักและความสูงมา เปรียบเทียบกัน กลุ่มที่ สมาชิกในกลุ่ม น้าหนัก ส่วนสูง1.2.3.4.1.เรียงลาดบั น้าหนกั จากมากทสี่ ุดไปหาน้อยทส่ี ดุ ไดแ้ ก่2.เรยี งลาดบั ความสงู จากมากท่ีสดุ ไปหานอ้ ยทสี่ ุด ไดแ้ ก่

เอกสารประกอบการสอน ตารางแสดงนา้ หนกั และส่วนสงู ในชว่ งอายุ 2-19 ปีตามเกณฑ์มาตรฐานการเจริญเติบโตของเพศชายและเพศหญงิอายุ เพศชาย อายุ เพศหญิงปี น้าหนัก (กก.) สว่ นสูง (ซม.) ปี นา้ หนกั (กก.) สว่ นสงู (ซม.)2 10.5 - 14.4 82.5 - 91.5 2 9.7 - 13.7 80.8 - 89.93 12.1 - 17.2 89.4 - 100.8 3 11.5 - 16.5 88.1 - 99.24 13.6 - 19.9 95.5 - 108.2 4 13.0 - 19.2 95.0 - 106.95 15.0 - 22.6 102.0 - 115.1 5 14.4 - 21.7 101.1 - 113.96 16.6 - 25.4 107.7 - 121.3 6 16.1 - 24.7 107.4 - 120.87 18.3 - 28.8 112.8 - 127.4 7 17.7 - 28.7 112.4 - 126.88 20.0 - 32.2 117.4 - 133.2 8 19.3 - 32.5 117.0 - 132.49 21.5 - 36.6 121.8 - 138.3 9 21.2 - 37.4 121.9 - 139.110 23.6 - 40.8 126.2 - 143.4 10 23.4 - 42.1 127.1 - 146.111 25.6 - 45.2 130.5 - 149.4 11 26.1 - 46.5 132.9 - 152.612 28.1 - 50.0 135.1 - 156.9 12 29.4 - 50.2 138.8 - 156.913 31.6 - 51.6 140.9 - 164.4 13 33.0 - 53.1 143.5 - 160.214 35.6 - 58.7 147.3 - 170.0 14 36.3 - 55.2 147.0 - 162.315 40.1 - 61.9 153.5 - 173.2 15 38.6 - 56.5 148.4 - 163.516 43.8 - 64.2 148.3 - 175.9 16 40.1 - 57.2 149.1 - 164.017 46.3 - 65.8 160.4 - 177.2 17 40.8 - 57.6 149.5 - 164.218 48.1 - 66.9 161.4 - 177.5 18 41.3 - 57.7 149.8 - 164.219 48.9 - 67.4 161.7 - 177.6 19 41.7 - 57.8 149.8 - 164.2

ตวั อย่างข่าว แพทย์ฝึกเดก็ อว้ น 123 กก. ออกกาลังกาย คณะแพทยฝ์ ึกเด็กอ้วน 123 กก. ออกกาลงั กายสร้างความคุ้นเคยก่อนลดน้าหนัก เจ้าตัวเผยชอบและสนุก กับ การรกั ษาและรอคอยเวลาทจ่ี ะกลบั ไปวง่ิ เล่นได้เหมือนปกตอิ กี คร้ัง หลงั จากเดก็ ชายธนกร วงษ์รตั นะ หรอื น้องต๊ะ อายุ 10 ปี นักเรียนช้ัน ป.4 โรงเรียนบ้านทองคาพิง อาเภอ บาเหน็จณรงค์ จังหวัดชัยภูมิ ซ่ึงมีรูปร่างอ้วนและมีน้าหนักตัวมากถึง 123 กิโลกรัม ถูกส่งตัวจากโรงพยาบาล บาเหน็จณรงค์ไปรักษาตัวต่อที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ตั้งแต่เม่ือวานที่ผ่านมา (25 พ.ค. 54) ซ่ึง คณะแพทยโ์ รงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ต้ังเปูาลดน้าหนักตัวน้องต๊ะให้ได้ 10% หรือประมาณ 12 กิโลกรัม ในระยะเวลา 3 เดอื น และจะลดนา้ หนกั ลงอย่างคอ่ ยเปน็ ค่อยไปต่อเนือ่ งเฉล่ยี อกี เดือนละ 1-2 กิโลกรัม ซ่ึงคาดว่า น้องต๊ะจะต้องรักษาตวั อยู่ท่โี รงพยาบาลมหาราชนครราชสมี านานอย่างนอ้ ย 3 ถึง 6 เดอื น ตามข่าวที่เสนอไปแล้ว นนั้ ความคบื หน้าล่าสุดวนั น้ี (26 พ.ค. 54) คณะแพทยโ์ รงพยาบาลมหาราชนครราชสีมาได้นาตัวน้องต๊ะไป ตรวจร่างกายอย่างละเอยี ดอกี คร้งั เพือ่ ดวู ่าน้องตะ๊ มีโรคแทรกซ้อนอะไรบ้าง คณะแพทย์จะได้วางแผนการรักษาได้ อย่างถกู ต้อง อยา่ งไรก็ตามขณะนี้คณะแพทยก์ าลังฝกึ ให้น้องต๊ะออกกาลังกายเบาๆ ด้วยการเดิน และการฝึกยกแขนขา บ่อยครง้ั เพ่อื เป็นการสรา้ งความคนุ้ เคยให้กอ่ นที่น้องต๊ะจะได้รับการรักษาลดน้าหนักของร่างกายด้วยการควบคุม อาหารและ ออกกาลงั กายเปน็ ประจาทกุ วัน ซงึ่ คณะแพทยจ์ ะเรมิ่ การรักษาลดนา้ หนักให้กับน้องต๊ะในสัปดาห์ หน้า เด็กชายธนกร วงษ์รัตนะ หรือน้องต๊ะ กล่าวว่า อยู่ท่ีโรงพยาบาลสนุกดีและรู้สึกชอบ ซึ่งอยู่โรงพยาบาลมี เพื่อนเยอะทาใหร้ สู้ ึกไมค่ อ่ ยหวิ มากเหมือนกับอยู่ที่บ้าน และตนอยากกลับไปวิ่งเล่นได้เหมือนกับเด็กปกติท่ัวไปอีก คร้งัทม่ี า : http://www.krobkruakao.com

แบบทดสอบกอ่ นเรยี น หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ 1คาช้แี จง ใหน้ ักเรียนเลือกคาตอบท่ีถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว1. นกั เรียนมลี ักษณะรปู ร่างอยู่ในวัยใด 6. ตารางแสดงน้าหนักและสว่ นสูงท่ีนักเรยี นควรดู ควร ก. วยั ทารก เป็นชว่ งอายุเทา่ ใด ข. วยั ผูใ้ หญ่ ก. อายุ 2 - 19 ปี ข. อายุ 3 - 15 ปี ค. วยั ชรา ค. อายุ 5 - 19 ปี ง. อายุ 5 - 20 ปี ง. วัยเรยี น 7. ผลการชั่งน้าหนกั ของหนอ่ ยมคี า่ ตา่ กวา่ เกณฑ์2. เราจะทราบนา้ หนกั ทแี่ นน่ อนของตนเองได้จากอะไร มาตรฐานแสดงว่าหนอ่ ยมีรปู ร่างเป็นอยา่ งไร ก. ถามพอ่ ก. นา้ หนักมาก ข. ช่ังน้าหนัก ข. น้าหนักเกินเกณฑ์ ค. เทียบนา้ หนกั กับเพ่อื น ค. น้าหนกั พอดีเกณฑ์ ง. ตารางเปรียบเทยี บน้าหนกั ง. น้าหนกั น้อยกว่าเกณฑ์3. นา้ หนักของคน มหี นว่ ยวัดเปน็ อะไร 8. โตง้ อายุ 8 ปี มีนา้ หนัก 35 กิโลกรมั รูปร่างของโต้ง ก. ขดี เปน็ อยา่ งไร เม่ือเทยี บกบั เกณฑม์ าตรฐานการ ข. ฟตุ เจริญเตบิ โตของเดก็ ไทย ค. กโิ ลกรมั ก. สงู ง. กิโลเมตร ข. ผอม ค. อว้ น4. เราทราบสว่ นสงู ของตนเองได้จากอะไร ง. เตี้ย ก. วดั ส่วนสูง ข. ช่ังนา้ หนัก 9. ถา้ ออมมีสว่ นสูงตา่ กว่าเกณฑม์ าตรฐาน ควรทา ค. ถามพ่อแม่ อย่างไร ง. ถามเพอื่ นท่โี รงเรยี น ก. ดืม่ นมทุกวัน ข. งดออกกาลังกาย5. นอ้ งแปูงอายุ 5 ปี และน้องปอนอายุ 9 ปี นา้ หนักตวั ค. กนิ อาหารท่ีมไี ขมนั สูง ของใครควรมากกว่ากัน ถา้ เทียบกบั เกณฑม์ าตรฐาน ง. ลดอาหารทีม่ ีน้าตาลมาก การเจรญิ เติบโตของเดก็ ไทย ก. น้องแปงู 10. ถา้ ผลการวัดสว่ นสูงมีคา่ นอ้ ยกวา่ เกณฑ์ หมายถงึ สิง่ ข. น้องปอน ใด ค. น้าหนกั ตัวเท่ากัน ก. สว่ นสูงสงู กวา่ เกณฑ์มาตรฐาน ง. ไม่สามารถหาคาตอบได้ ข. ส่วนสงู ตา่ กวา่ เกณฑม์ าตรฐาน ค. สว่ นสูงพอดีเกณฑม์ าตรฐาน ง. ส่วนสงู มีคา่ ปานกลางมาตรฐาน มฐ. พ 1.1 ป.3/1-2 ไดค้ ะแนน คะแนนเตม็ 10เฉลย 1. ง 2. ข 3. ค 4. ก 5. ข 6. ก 7. ง 8. ค 9. ก 10. ข

แบบทดสอบหลังเรยี น หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี 1คาช้ีแจง ใหน้ ักเรยี นเลือกคาตอบท่ีถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว1. ตารางแสดงน้าหนักและส่วนสงู ที่นกั เรยี นควรดู ควร 6. เราจะทราบน้าหนักทแี่ นน่ อนของตนเองไดจ้ ากอะไร เป็นช่วงอายเุ ท่าใด ก. ตารางเปรียบเทยี บน้าหนัก ก. อายุ 2 - 19 ปี ข. เทียบนา้ หนักกบั เพื่อน ข. อายุ 3 - 15 ปี ค. ชั่งนา้ หนัก ค. อายุ 5 - 19 ปี ง. ถามพ่อ ง. อายุ 5 - 20 ปี 7. นกั เรยี นมลี ักษณะรปู รา่ งอยู่ในวัยใด2. ถ้าออมมสี ว่ นสูงตา่ กวา่ เกณฑม์ าตรฐาน ควรทา ก. วัยทารก อยา่ งไร ข. วยั เรยี น ก. ลดอาหารที่มนี ้าตาลมาก ค. วัยผู้ใหญ่ ข. กนิ อาหารท่ีมีไขมนั สูง ง. วัยชรา ค. งดออกกาลงั กาย ง. ดมื่ นมทุกวนั 8. นอ้ งแปงู อายุ 5 ปี และนอ้ งปอนอายุ 9 ปี น้าหนักตัว ของใครควรมากกวา่ กนั ถ้าเทยี บกบั เกณฑม์ าตรฐาน3. ผลการชั่งน้าหนกั ของหน่อยมีค่าตา่ กว่าเกณฑ์ การเจรญิ เตบิ โตของเด็กไทย มาตรฐานแสดงว่าหน่อยมรี ูปรา่ งเป็นอยา่ งไร ก. ไม่สามารถหาคาตอบได้ ก. นา้ หนกั น้อยกว่าเกณฑ์ ข. น้าหนักตวั เทา่ กัน ข. น้าหนกั พอดีเกณฑ์ ค. น้องปอน ค. น้าหนักเกินเกณฑ์ ง. นอ้ งแปงู ง. น้าหนกั มาก 9. น้าหนักของคน มีหน่วยวัดเปน็ อะไร4. ถ้าผลการวดั สว่ นสงู มคี ่านอ้ ยกวา่ เกณฑ์ หมายถงึ สง่ิ ก. กโิ ลเมตร ใด ข. กิโลกรมั ก. สว่ นสูงพอดเี กณฑ์มาตรฐาน ค. ฟตุ ข. ส่วนสงู สูงกว่าเกณฑม์ าตรฐาน ง. ขดี ค. ส่วนสงู ต่ากวา่ เกณฑม์ าตรฐาน ง. สว่ นสงู มีค่าปานกลางมาตรฐาน 10. เราทราบส่วนสูงของตนเองไดจ้ ากอะไร ก. ถามเพื่อนท่โี รงเรยี น5. โต้งอายุ 8 ปี มนี า้ หนัก 35 กิโลกรมั รปู ร่างของโตง้ ข. ถามพ่อแม่ เป็นอยา่ งไร เม่ือเทยี บกบั เกณฑม์ าตรฐานการ ค. ช่งั นา้ หนกั เจรญิ เติบโตของเด็กไทย ง. วัดสว่ นสูง ก. สูง ข. เตีย้ ค. ผอม ง. อ้วน ได้คมะแฐน. พน1.1คปะ.แ3/น1น-2 10เตม็เฉลย 1. ก 2. ง 3. ก 4. ค 5. ง 6. ค 7. ข 8. ค 9. ข 10. ง

แผนการจดั การเรียนรู้หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 2 เร่อื ง ปัจจัยการเจรญิ เติบโต จานวน 2 ช่วั โมงแผนการจดั การเรียนรู้ที่ 1 เรื่อง ปัจจยั ท่มี ีผลตอ่ การเจริญเตบิ โต(พันธุกรรม,สิ่งแวดล้อม) จานวน 2 ชวั่ โมงกลุ่มสาระการเรยี นรู้ สขุ ศึกษาและพลศึกษาชัน้ ประถมศึกษาปที ่ี 3 โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31ครูผสู้ อน นางสาวอรณัชชา เจรญิ สขุสอนวนั องั คาร ที่ 5 เดือน มิถุนายน พ.ศ. 2561 เวลา 14.50 น. - 15.40 น.สอนวันอังคาร ที่ 12 เดอื น มถิ นุ ายน พ.ศ. 2561 เวลา เวลา 14.50 น. - 15.40 น.1. สาระสาคญั กรรมพันธ์ุเป็นปัจจัยสาคัญที่มีผลต่อการเจริญเติบโตของร่างกาย อาหาร การออกกาลังกาย และการพักผ่อน เปน็ ปจั จยั สาคญั ท่ีมผี ลตอ่ การเจรญิ เตบิ โตของร่างกาย2. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชีว้ ดั ช้ันปี/ผลการเรยี นรู้/เปาู หมายการเรยี นรู้ มาตรฐาน พ 1.1 เข้าใจและเห็นคุณค่าตนเอง ครอบครัว เพศศึกษา และมีทักษะในการดาเนินชีวติ ตัวชวี้ ดั พ 1.1 ป.3/3 อธบิ ายความสาคัญของการสรา้ งและรักษาสมั พันธภาพกับผ้อู นื่ จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 1) ระบุปจั จยั ที่มีผลต่อการเจริญเติบโตได้3. สาระการเรียนรู้ 3.1 เน้ือหาสาระหลัก : Knowledge - ปจั จัยที่มีผลตอ่ การเจริญเตบิ โต : พันธกุ รรม - ปัจจัยทมี่ ีผลตอ่ การเจริญเติบโต - อาหาร - การออกกาลังกาย - การพักผอ่ น 3.2 ทักษะ/กระบวนการ : Process 1. นักเรียนสามารถระบุปัจจัยทมี่ ีผลต่อการเจริญเตบิ โตได้ 3.3 คุณลกั ษณะท่พี ึงประสงค์ : Attitude 1. มคี วามรับผิดชอบ 2. ใฝุเรยี นรู้4. สมรรถนะสาคัญของนักเรียน 4.1 ความสามารถในการคดิ 1) ทักษะการระบุ 2) ทักษะการนาความรไู้ ปใช้ 4.2 ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ติ5. คณุ ลักษณะของวชิ า - ความรบั ผิดชอบ - ความรอบคอบ - กระบวนการกลุ่ม

6. คณุ ลกั ษณะที่พึงประสงค์ 1. มคี วามรับผิดชอบ 2. ใฝเุ รียนรู้7. ชิน้ งาน/ภาระงาน 1. ใบงานท่ี 2.1 เรื่อง ปัจจยั การเจรญิ เติบโตของฉัน 2. ใบงานท่ี 2.2 เร่ือง ปจั จัยทม่ี ผี ลต่อการเจรญิ เติบโต8. กิจกรรมการเรียนรู้ชั่วโมงที่ 1ข้นั นา 1. ครถู ามนกั เรยี นวา่ เพราะเหตุใด ลกู จงึ มหี นา้ ตาคล้ายพอ่ และแม่ 2. ครูอธิบายเพิ่มเติมว่า ลูกมีหน้าตาคล้ายพ่อและแม่ เกิดจากกรรมพันธ์ุ เป็นสิ่งท่ีได้รับการถ่ายทอดมาจากพ่อแม่ เช่น ผมหยิก ผมตรง ผิวคล้า ผิวขาว เป็นต้น ซึ่งส่ิงเหล่าน้ีเป็นส่ิงท่ีแก้ไขไม่ได้ แต่สามารถปรับปรุงใหด้ ีข้นึ ไดด้ ้วยสงิ่ แวดล้อม 3. นักเรียนตอบคาถามกระตุ้นความคิด คนเรามีการเจริญเติบโตแตกต่างกันอย่างไร และเพราะเหตุใดจึงแตกต่าง (แตกต่างด้าน รูปร่าง ส่วนสูง น้าหนัก เพราะเรามีกรรมพันธุ์ที่แตกต่างกัน และอยู่ในสิ่งแวดลอ้ มทีต่ า่ งกนั )ข้นั สอน 1. ครูแบ่งนักเรียนออกเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 3 คน ตามความสมัครใจ จากน้ันให้แต่ละกลุ่มร่วมกันวางแผนเพ่อื ศกึ ษาความร้เู กีย่ วกับปัจจัย ที่มีผลตอ่ การเจรญิ เติบโต : กรรมพนั ธ์ุ 2. สมาชิกแต่ละกลุ่มร่วมกันศึกษาความรู้เร่ือง ปัจจัยท่ีมีผลต่อการเจริญเติบโต: กรรมพันธุ์ จากหนงั สอื เรียน 3. นกั เรียนตอบคาถามกระตุ้นความคิด เพราะเหตุใด เด็กในวัยเดียวกัน มีอายุเท่ากัน จึงมีรูปร่างท่ีแตกต่างกัน (รูปร่างลักษณะของแต่ละคนที่แตกต่างกัน เกิดจากปัจจัยสาคัญ 2 ประการ คือ กรรมพันธุ์และส่งิ แวดล้อม) 4. นกั เรียนแต่ละคนสังเกตตนเองวา่ มกี ารเจริญเติบโตที่ดีหรือไม่ แล้วสารวจว่า ปัจจัยใดบ้างท่ีทาใหน้ ักเรียนมีการเจรญิ เติบโตได้ดี หรอื มกี ารเจรญิ เตบิ โตท่ีไมด่ ี บันทกึ ผล การสารวจลงในใบงานที่ 2.1 เร่ืองปัจจัยการเจริญเติบโตของฉนั 5. ครสู ุม่ ตวั แทนนกั เรยี น 5-6 คน นาเสนอใบงานท่ี 2.1 หน้าช้ันเรียน แล้วให้เพ่ือนคนอื่นนาเสนอเพ่ิมเตมิขน้ั สรุป นกั เรียนและครูร่วมกนั สรุปความร้เู ร่อื ง ปัจจยั ท่ีมีผลต่อการเจริญเตบิ โต : กรรมพนั ธ์ุ

ช่วั โมงที่ 2ข้ันนา 1. นกั เรยี นตอบคาถามกระตนุ้ ความคดิ การรบั ประทานอาหารที่มีรสชาติอร่อย จะช่วยให้ร่างกายเจริญเติบโตได้รวดเร็วข้ึนหรือไม่ เพราะเหตุใด (ไม่ เพราะรสชาติอาหารที่อร่อยอาจไม่เป็นประโยชน์ต่อรา่ งกายและการเจริญเตบิ โต) 2. ครูนาบัตรภาพอาหารมาแสดงหน้าชั้นเรียน จากน้ันให้นักเรียนเลือกอาหารคนละ 1 ชนิดพรอ้ มบอกประโยชนข์ องอาหารทีม่ ตี ่อร่างกายให้ถูกต้องตามความเข้าใจของนกั เรยี น 3. ครูสุ่มเรียกนักเรียน 2-3 คน ออกมาบอกประโยชน์ของอาหารท่ีมีต่อร่างกายตามชนิดของอาหารทีต่ นเองเลอื กไว้ 4. ครูอธิบายให้นักเรียนทราบว่า อาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการ จะมีประโยชน์ต่อร่างกาย และอาหารกเ็ ป็นปจั จยั สาคญั ทสี่ ่งผลต่อการเจริญเตบิ โตของรา่ งกายข้ันสอน 1. นักเรียนรวมกลุ่ม เรียกว่า กลุ่มบ้าน แล้วให้สมาชิกแต่ละคนเลือกหมายเลขประจาตัว ต้ังแต่หมายเลข 1-3 2. นักเรียนท่ีมีหมายเลขเดียวกันมารวมกันเป็นกลุ่มใหม่ เรียกว่า กลุ่มผู้เช่ียวชาญ จากน้ันครูให้นกั เรียนแต่ละกลุ่มศกึ ษาความรู้เร่ือง ปัจจัยที่มีผลต่อการเจริญเติบโต : ส่ิงแวดล้อม จากหนังสือเรียน ตามประเดน็ ท่กี าหนด ดงั นี้ - กลมุ่ หมายเลข 1 ศกึ ษาความรเู้ รอื่ ง อาหาร - กลุ่มหมายเลข 2 ศึกษาความรเู้ รื่อง การออกกาลังกาย - กลุ่มหมายเลข 3 ศกึ ษาความรเู้ ร่อื ง การพักผ่อน 3. สมาชกิ กลมุ่ ผ้เู ชี่ยวชาญร่วมกันอภปิ รายและแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับความสาคัญของปัจจัยท่ีมผี ลต่อการเจริญเติบโตของรา่ งกายตามหวั ขอ้ ที่ได้รบั 4. สมาชิกกลุ่มผู้เชี่ยวชาญแยกย้ายกันกลับเข้ากลุ่มบ้าน แล้วผลัดกันอธิบายและสรุปประเด็นความรทู้ ไ่ี ด้ศึกษามาใหส้ มาชกิ กลมุ่ บา้ นฟัง 5. สมาชิกแต่ละคนในกลุ่มผลัดเปลี่ยนกันตั้งประเด็นคาถามในประเด็นที่ตนได้ศึกษา คนละ 2คาถาม เพอ่ื ใช้ถาม-ตอบกบั สมาชิกภายในกลมุ่ เพ่ือเป็นการประเมนิ ความรคู้ วามเข้าใจเบ้ืองตน้ 6. ครูให้นักเรียนแต่ละคนนาความรู้ท่ีได้จากการศึกษามาทา ใบงานที่ 2.2 เรื่อง ปัจจัยที่มีผลต่อการเจริญเตบิ โต เสรจ็ แล้วนาสง่ ครตู รวจขน้ั สรปุ 1. นกั เรียนรว่ มกันสรุปปัจจัยทีม่ ีผลตอ่ การเจริญเติบโต : ส่ิงแวดล้อม จากน้ันครูเน้นย้าให้นักเรียนนาความรู้ทไี่ ดศ้ กึ ษาไปปฏบิ ตั เิ พ่ือการเจริญเติบโตของรา่ งกายอย่างสมวยั และมสี ุขภาพแข็งแรง 2. นักเรียนทาแบบฝึกกิจกรรม จากแบบวัดฯ เป็นการบ้าน เสร็จแล้วนาส่งครูตรวจในช่ัวโมงถดั ไป  ครูมอบหมายให้นักเรียนแต่ละกลุ่มชว่ ยกันเขียนแผนผงั ความคดิ แสดงปจั จัยทมี่ ีผลต่อการ เจริญเติบโต โดยให้ครอบคลุมประเดน็ ตามที่กาหนด ดงั น้ี 1) การอธิบายปจั จัยที่มผี ลต่อการเจริญเตบิ โต 2) การระบุปจั จัยท่ีมีผลตอ่ การเจรญิ เตบิ โต

9. สือ่ การเรยี นการสอน / แหลง่ เรยี นรู้ 1. หนังสอื เรยี น สุขศกึ ษาและพลศกึ ษา ป.3 2. แบบบันทึกการปฏบิ ัตติ น เพอ่ื สร้างสัมพันธภาพกบั สมาชิกในครอบครัว 3. ใบงานท่ี 2.1 เร่ือง ปจั จยั การเจรญิ เติบโตของฉนั 4. ใบงานที่ 2.2 เรอื่ ง ปจั จยั ท่ีมผี ลต่อการเจรญิ เติบโต 5. บัตรภาพ10. การวัดผลและประเมนิ ผล วิธีการ เครื่องมือ เกณฑ์ตรวจแบบทดสอบก่อนเรยี น หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 2 แบบทดสอบกอ่ นเรยี น หน่วยการเรยี นรู้ที่ 2 (ประเมนิ ตามสภาพจรงิ )ตรวจใบงานที่ 2.1 ใบงานท่ี 2.1 ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ตรวจใบงานท่ี 2.2 ใบงานที่ 2.2 ระดับคณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ประเมินการนาเสนอผลงาน แบบประเมินการนาเสนอผลงาน ระดับคณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ ระดบั คณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์สงั เกตพฤติกรรมการทางานรายบคุ คล แบบสงั เกตพฤติกรรมการทางานรายบุคคล ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ ระดับคณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลมุ่ แบบสงั เกตพฤติกรรมการทางานกลมุ่สงั เกตความรบั ผดิ ชอบ และใฝเุ รยี นรู้ แบบประเมนิ คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ตรวจแบบทดสอบหลงั เรยี น หนว่ ยการเรียนรูท้ ี่ 2 แบบทดสอบหลังเรียน หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ 2ตรวจแผนผงั ความคดิ แสดงปัจจยั ที่มีผลตอ่ การ แบบประเมนิ แผนผังความคิดแสดงปจั จยั ทมี่ ีเจริญเติบโต ผลต่อการเจริญเติบโต

บันทกึ ผลหลงั การจัดการเรียนรู้ผลการสอน……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ลงช่ือ ......................................................... (นางสาวอรณัชชา เจรญิ สุข) ครูผสู้ อนขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแก้ไข……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชือ่ .......................................................... (นางสาวจติ ตานาถ เทพวงศ์) ครูพเ่ี ลีย้ งข้อเสนอแนะ/แนวทางแก้ไข……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงช่อื .......................................................... ( นางวิลาวัลย์ ปาลี ) ผู้อานวยการโรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31

แบบสังเกตพฤติกรรมการทางานรายบคุ คล คาชี้แจง : ให้ ผู้สอน สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี  ลงใน ชอ่ ง ที่ตรงกับระดับคะแนนลาดับ ชื่อ – สกุล ความมวี นิ ัย ความมีนา้ ใจ การรบั ฟงั การแสดง การตรงตอ่ รวม ที่ ของผรู้ ับการ 321 เอื้อเฟอื้ ความคดิ เห็น ความคดิ เหน็ เวลา 15 เสยี สละ คะแนน ประเมนิ 321 321 321 3211 เด็กหญิงทิพปภา แสนวงั ทอง2 เด็กชายธรี พงศ์ เสริมวฒุ กิ ล้า3 เดก็ ชายนริ ชุ รัตนมานะชัย4 เดก็ ชายปณุ ยวีร์ เกอ้ื กลุ ประดิษฐ์5 เด็กชายศุภกฤต ไพรฑรู ย์ศรีทอง6 เด็กชายจริ วัชร โกศลประทีป7 เด็กหญงิ กัลยา กมลชอบวริ ยิ ะ8 เด็กหญงิ กลุ นดิ า กอ่ วริ ิยาตระกลู9 เด็กหญิงชนาภา มฤคมาศ10 เด็กหญงิ นิชา บวรหริ ญั ไพร11 เดก็ หญิงปภาดา วรนาถยนื ยง12 เด็กหญิงรุ่งนภา มฤคมาศ13 เด็กหญิงสชุ ญั ญา รุ่งเกียรติพนา14 เด็กหญงิ จันทรจ์ ริ า แก้วมา15 เด็กหญิงสภุ านนั ท์ แกว้ อนิ ศรี ลงชอ่ื ...................................................ผู้ประเมิน ............../.................../................ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน เกณฑ์การตัดสนิ คณุ ภาพ ปฏิบัตหิ รอื แสดงพฤติกรรมอย่างสม่าเสมอ ให้ 2 คะแนน ปฏิบัติหรอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยครัง้ ให้ 1 คะแนน ชว่ งคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ปฏิบตั ิหรือแสดงพฤตกิ รรมบางครง้ั 12 - 15 ดี 8 - 11 พอใช้ ตา่ กวา่ 8 ปรบั ปรุง

แบบประเมินคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์คาชแี้ จง : ให้ ผ้สู อน สังเกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขีด  ลง ในชอ่ งทตี่ รงกบั ระดบั คะแนน คณุ ลักษณะ รายการประเมิน ระดับคะแนน อนั พงึ ประสงค์ดา้ น 3211. รกั ชาติ ศาสน์ 1.1 ยนื ตรงเคารพธงชาติ และร้องเพลงชาตไิ ด้ 1.2 เข้ารว่ มกิจกรรมทส่ี ร้างความสามคั คี ปรองดอง และเป็นประโยชน์ กษตั ริย์ ต่อโรงเรียน2. ซอื่ สตั ย์ สุจรติ 1.3 เขา้ ร่วมกจิ กรรมทางศาสนาท่ตี นนบั ถือ ปฏิบัตติ ามหลกั ศาสนา3. มีวนิ ยั รบั ผดิ ชอบ 1.4 เขา้ ร่วมกิจกรรมทเี่ กยี่ วกับสถาบนั พระมหากษตั รยิ ์ตามท่ีโรงเรยี นจดั ข้นึ4. ใฝุเรยี นรู้ 2.1 ใหข้ อ้ มูลทีถ่ ูกตอ้ ง และเปน็ จรงิ 2.2 ปฏิบตั ิในสงิ่ ท่ถี ูกต้อง5. อยอู่ ย่างพอเพียง 3.1 ปฏบิ ตั ิตามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ขอ้ บังคบั ของครอบครัว6. มุ่งมน่ั ในการ มคี วามตรงตอ่ เวลาในการปฏบิ ัติกจิ กรรมตา่ งๆ ในชีวติ ประจาวนั ทางาน 4.1 รูจ้ ักใชเ้ วลาวา่ งใหเ้ ปน็ ประโยชน์ และนาไปปฏิบัตไิ ด้ 4.2 รจู้ ักจดั สรรเวลาให้เหมาะสม7. รักความเปน็ ไทย 4.3 เช่ือฟังคาสง่ั สอนของบดิ า-มารดา โดยไมโ่ ตแ้ ย้ง8. มจี ติ สาธารณะ 4.4 ตั้งใจเรียน 5.1 ใชท้ รัพย์สนิ และสิง่ ของของโรงเรียนอย่างประหยดั 5.2 ใชอ้ ุปกรณ์การเรยี นอยา่ งประหยัดและรคู้ ณุ ค่า 5.3 ใชจ้ า่ ยอย่างประหยัดและมกี ารเก็บออมเงิน 6.1 มคี วามตงั้ ใจและพยายามในการทางานท่ีได้รับมอบหมาย 6.2 มีความอดทนและไมท่ อ้ แทต้ อ่ อปุ สรรคเพือ่ ใหง้ านสาเร็จ 7.1 มีจิตสานึกในการอนุรักษ์วัฒนธรรมและภมู ิปญั ญาไทย 7.2 เหน็ คณุ คา่ และปฏบิ ตั ิตนตามวฒั นธรรมไทย 8.1 รจู้ กั ชว่ ยพอ่ แม่ ผ้ปู กครอง และครทู างาน 8.2 รจู้ ักการดแู ล รักษาทรพั ย์สมบัตแิ ละส่งิ แวดลอ้ มของหอ้ งเรยี น โรงเรยี น ลงช่ือ...................................................ผู้ประเมิน ............../.................../................เกณฑ์การใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน เกณฑ์การตดั สนิ คณุ ภาพ ปฏบิ ัติหรือแสดงพฤตกิ รรมอย่างสมา่ เสมอ ให้ 2 คะแนน ปฏิบัตหิ รือแสดงพฤตกิ รรมบอ่ ยคร้งั ให้ 1 คะแนน ชว่ งคะแนน ระดับคณุ ภาพ ปฏิบัตหิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางครัง้ 46 - 60 ดี 30 - 45 พอใช้ ต่ากวา่ 30 ปรับปรงุ

แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทางานรายบุคคลช่ือ ชนั้ …………...คาช้แี จง : ให้ ผ้สู อน สงั เกตพฤติกรรมของนกั เรยี นในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด  ลง ในชอ่ งท่ตี รงกับระดับคะแนนลาดับท่ี รายการประเมิน ระดับคะแนน 3211 การแสดงความคิดเหน็2 การยอมรบั ฟงั ความคดิ เห็นของผ้อู นื่3 การทางานตามหน้าท่ีท่ีได้รบั มอบหมาย4 ความมีน้าใจ5 การตรงต่อเวลา รวม ลงชื่อ....................................................ผูป้ ระเมนิ ................ /................ /................เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน เกณฑ์การตัดสนิ คุณภาพ ปฏบิ ตั ิหรอื แสดงพฤติกรรมอย่างสมา่ เสมอ ให้ 2 คะแนน ปฏบิ ตั ิหรอื แสดงพฤตกิ รรมบอ่ ยคร้ัง ให้ 1 คะแนน ชว่ งคะแนน ระดับคณุ ภาพ ปฏิบัติหรือแสดงพฤตกิ รรมบางครง้ั 12 - 15 ดี 18 - 11 พอใช้ ตา่ กวา่ 8 ปรับปรงุ

แบบประเมินการนาเสนอผลงานคาช้ีแจง : ให้ ผู้สอน ประเมินการนาเสนอผลงานของนักเรยี นตามรายการทก่ี าหนด แล้วขดี  ลงใน ชอ่ งท่ีตรงกบั ระดบั คะแนนลาดับท่ี รายการประเมิน ระดับคะแนน 3211 นาเสนอเนือ้ หาในผลงานได้ถูกตอ้ ง2 การลาดบั ขั้นตอนของเนื้อเร่อื ง3 การนาเสนอมีความน่าสนใจ4 การมสี ว่ นร่วมของสมาชิกในกล่มุ5 การตรงต่อเวลา รวม ลงช่ือ .................................................... ผู้ประเมิน ................ /................ /................เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน เกณฑก์ ารตดั สนิ คุณภาพ ผลงานหรอื พฤตกิ รรมสมบูรณช์ ดั เจน ให้ 2 คะแนน ผลงานหรือพฤตกิ รรมมขี ้อบกพร่องบางส่วน ให้ 1 คะแนน ชว่ งคะแนน ระดบั คุณภาพ ผลงานหรอื พฤตกิ รรมมขี อ้ บกพรอ่ งเป็นสว่ นใหญ่ 12 - 15 ดี 18 - 11 พอใช้ ต่ากวา่ 8 ปรับปรุง

ใบงานท่ี 2.1 ปัจจัยการเจรญิ เตบิ โตของฉันคาชแี้ จง ให้นักเรียนตดิ ภาพตนเอง แล้วสารวจวา่ ปจั จัยใดบา้ งท่ที าใหน้ กั เรียนมีการเจรญิ เตบิ โตท่ีดี หรอื มีการเจริญเตบิ โตท่ไี มด่ ี และบนั ทึกข้อมูล (ติดภาพ) 1. นกั เรียนคิดวา่ ตนเองมกี ารเจรญิ เตบิ โตทด่ี ีหรือไม่ อย่างไร  ดี  ไม่ดี เพราะ 2. ปัจจัยท่ที าใหน้ กั เรียนมกี ารเจริญเติบโตท่ีดี ได้แก่ 3. ปัจจัยที่ทาให้นักเรยี นมีการเจรญิ เติบโตทไี่ ม่ดี ไดแ้ ก่

การประเมินชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด)แบบประเมินแผนผงั ความคดิ แสดงปัจจยั ที่มผี ลต่อการเจรญิ เติบโตลาดบั ที่ รายการประเมิน ระดับคะแนน 3211 การอธบิ ายปจั จยั ท่ีมีผลตอ่ การเจริญเตบิ โต2 การระบปุ ัจจัยที่มีผลตอ่ การเจรญิ เตบิ โต รวม ลงชือ่ ...................................................ผปู้ ระเมิน ............../.................../................เกณฑ์การใหค้ ะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคุณภาพ ดี พอใช้ = 3 คะแนน ชว่ งคะแนน ระดับคณุ ภาพ ปรบั ปรุง = 2 คะแนน = 1 คะแนน 5 - 6 ดี 3 - 4 พอใช้ ต่ากว่า 3 ปรบั ปรงุ

บตั รภาพ  ภาพข้าวมนั ไก่ ภาพก๋วยเต๋ยี ว ภาพข้าวต้มกุง้ ภาพผัก ภาพนมสด ภาพผลไม้

ใบงานที่ 2.2 ปัจจยั ท่มี ีผลต่อการเจรญิ เตบิ โตคาชีแ้ จง ให้นักเรยี นดูภาพ แล้วบอกเหตุผลวา่ ในแตล่ ะภาพเปน็ ปจั จัยทีม่ ผี ลดีตอ่ การเจรญิ เตบิ โต อย่างไร 1. 2. 3. 4.

ใบงานที่ 2.2 ปัจจัยทม่ี ีผลต่อการเจริญเติบโตคาชแี้ จง ใหน้ กั เรยี นดภู าพ แลว้ บอกเหตุผลว่า ในแตล่ ะภาพเป็นปัจจัยทม่ี ีผลดีต่อการเจริญเตบิ โต อยา่ งไร 1. 2. การเลน่ กีฬา เปน็ การออกกาลังกายที่มปี ระโยชน์ การด่ืมนมให้โปรตนี และแคลเซียมทีม่ ปี ระโยชน์สง่ ผลดตี ่อการเจริญเติบโต ต่อร่างกาย ชว่ ยใหร้ า่ งกายมกี ารเจรญิ เตบิ โตอย่าง สมบูรณ์ และมีกระดกู และฟนั ทแ่ี ขง็ แรง3. 4. การนอนหลับเปน็ การพักผอ่ นที่ดีท่ีสดุ ชว่ ยให้ การรบั ประทานอาหารทีม่ ปี ระโยชน์ ทาใหร้ ่างกายรา่ งกายผอ่ นคลายความเม่อื ยลา้ และสามารถผลติ นาไปซอ่ มแซมสว่ นทส่ี ึกหรอได้ดี และชว่ ยใหร้ ่างกายโกรทฮอรโ์ มน ทค่ี วบคุมการเจรญิ เติบโตของรา่ งกายไดด้ ี เจรญิ เติบโตได้เป็นปกติ

การประเมินช้ินงาน/ภาระงาน (รวบยอด)แบบประเมนิ แผนผงั ความคิดแสดงปจั จัยทีม่ ผี ลต่อการเจริญเติบโต รายการประเมนิ คาอธิบายระดับคณุ ภาพ / ระดับคะแนน1. การอธิบายปจั จยั ดี (3) พอใช้ (2) ปรับปรุง (1) ทม่ี ีผลต่อการ เจริญเติบโต อธบิ ายปัจจัยทีม่ ผี ลตอ่ การ อธบิ ายปจั จัยทม่ี ผี ลตอ่ การ อธบิ ายปัจจัยท่มี ผี ลตอ่ การ เจรญิ เตบิ โตได้ถกู ตอ้ ง เจริญเติบโตได้ถูกตอ้ งเป็น เจริญเติบโตไดถ้ ูกตอ้ งเป็น2. การระบปุ จั จัยทมี่ ี ครบถว้ น สว่ นใหญ่ บางสว่ น ผลต่อการ เจรญิ เติบโต ระบปุ ัจจยั ท่ีมีผลตอ่ การ ระบุปจั จยั ท่ีมีผลตอ่ การ ระบุปจั จยั ทมี่ ีผลตอ่ การ เจริญเตบิ โตไดถ้ กู ต้อง เจรญิ เตบิ โตไดถ้ ูกตอ้ ง เจริญเติบโตได้ถูกตอ้ ง ครบถ้วน 3 ปัจจัย ดงั น้ี 2 ปจั จัย 1 ปจั จัย 1) อาหาร 2) การออกกาลังกาย 3) การพกั ผ่อนชว่ งคะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ตา่ กว่า 3ระดบั คุณภาพ ปรับปรุง 5-6 3-4 ดี พอใช้

แบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยการเรยี นรู้ที่ 2คาชแี้ จง ให้นกั เรียนเลือกคาตอบท่ีถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว1. ข้อใดไมใ่ ช่ปจั จยั ท่มี ีผลตอ่ การเจรญิ เติบโต 6. นกั เรยี นจะเลอื กรับประทานอาหารในข้อใด เพอื่ เพิ่ม ก. อาหาร ความสูง ข. หนา้ ตา ก. นม ค. พนั ธุกรรม ข. ข้าว ง. การออกกาลังกาย ค. ไกย่ า่ ง ง. ก๋วยเตี๋ยว2. ขอ้ ใดไมใ่ ช่ปจั จยั ดา้ นสง่ิ แวดลอ้ มทมี่ ีผลตอ่ การ เจริญเติบโต 7. โกรทฮอรโ์ มน มหี นา้ ท่ีอย่างไร ก. อาหาร ก. กระตุน้ ความอยากอาหาร ข. พนั ธกุ รรม ข. ควบคุมการหลง่ั ฮอรโ์ มนเพศ ค. การพักผ่อน ค. หยดุ การเจรญิ เติบโตในรา่ งกาย ง. การออกกาลังกาย ง. ควบคมุ การเจรญิ เติบโตของรา่ งกาย3. ในขณะท่ีเรานอนหลบั ร่างกายจะผลติ ฮอรโ์ มนชนิด 8. ช่วงเวลาใดท่รี ่างกายจะผลติ โกรทฮอรโ์ มนไดด้ ที ่ีสดุ ใด ที่เก่ียวกับการเจรญิ เตบิ โต ก. กอ่ นหลบั ก. อนิ ซลู นิ ข. หลับสนิท ข. เอน็ โดรฟิน ค. ต่ืนนอนใหมๆ่ ค. ฮอรโ์ มนเพศ ง. กอ่ นรับประทานอาหาร ง. โกรทฮอรโ์ มน 9. อาหารในข้อใดมีประโยชนต์ ่อรา่ งกายมากท่สี ดุ4. ใครมีการเจรญิ เตบิ โตที่ดี ก. ยาแหนม ก. มุขเลือกกินแต่อาหารท่ชี อบ ข. มะม่วงดอง ข. มดดื่มนา้ อดั ลมทกุ วัน ค. ข้าวต้มทรงเครื่อง ค. ม้ิงตอ้ งนอนวันละ 8-10 ชั่วโมง ง. บะหม่กี ่งึ สาเรจ็ รูป ง. มิวออกกาลังกายสัปดาห์ละครง้ั 10. ข้อใดส่งผลเสียตอ่ การเจริญเติบโต5. กิจกรรมใดไมเ่ ปน็ ประโยชนต์ ่อรา่ งกาย ก. ออมนอนดึกทุกคนื ก. ว่ายนา้ ข. เอมดื่มนมเป็นประจา ข. กนิ ผกั และผลไม้ ค. อมุ้ ว่ายน้าสัปดาห์ละ 3 วนั ค. นอนหลับพกั ผอ่ น ง. ออ้ มกนิ ผลไมเ้ ป็นประจา ง. เล่นเกมคอมพวิ เตอรเ์ ป็นเวลานานๆ

แบบทดสอบหลงั เรียน หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 2คาชีแ้ จง ให้นักเรยี นเลือกคาตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว1. ขอ้ ใดส่งผลเสยี ตอ่ การเจรญิ เตบิ โต 6. ใครมีการเจรญิ เติบโตทีด่ ี ก. ออ้ มกนิ ผลไมเ้ ปน็ ประจา ก. มขุ เลือกกินแตอ่ าหารทช่ี อบ ข. อมุ้ วา่ ยนา้ สปั ดาห์ละ 3 วนั ข. มง้ิ ต้องนอนวันละ 8-10 ชั่วโมง ค. เอมดืม่ นมเป็นประจา ค. มวิ ออกกาลังกายสปั ดาหล์ ะคร้งั ง. ออมนอนดกึ ทกุ คืน ง. มดด่ืมนา้ อัดลมทกุ วัน2. นกั เรียนจะเลอื กรบั ประทานอาหารในข้อใด เพอ่ื เพิ่ม 7. ข้อใดไม่ใช่ปัจจยั ท่ีมผี ลต่อการเจรญิ เตบิ โต ความสูง ก. การออกกาลงั กาย ก. ข้าว ข. พนั ธุกรรม ข. นม ค. หน้าตา ค. ไกย่ า่ ง ง. อาหาร ง. ก๋วยเต๋ียว 8. กิจกรรมใดไมเ่ ป็นประโยชนต์ อ่ รา่ งกาย3. อาหารในขอ้ ใดมปี ระโยชน์ต่อรา่ งกายมากทีส่ ดุ ก. เลน่ เกมคอมพิวเตอรเ์ ปน็ เวลานานๆ ก. ยาแหนม ข. นอนหลับพักผ่อน ข. มะม่วงดอง ค. กินผกั และผลไม้ ค. บะหมกี่ ่ึงสาเรจ็ รปู ง. วา่ ยน้า ง. ข้าวต้มทรงเครอื่ ง 9. ข้อใดไม่ใช่ปัจจัยดา้ นสิ่งแวดล้อมที่มีผลตอ่ การ4. โกรทฮอรโ์ มน มีหนา้ ท่ีอย่างไร เจริญเตบิ โต ก. ควบคุมการเจรญิ เติบโตของรา่ งกาย ก. การออกกาลังกาย ข. หยดุ การเจรญิ เติบโตในรา่ งกาย ข. การพักผ่อน ค. ควบคุมการหล่ังฮอรโ์ มนเพศ ค. พันธุกรรม ง. กระตุ้นความอยากอาหาร ง. อาหาร5. ชว่ งเวลาใดทร่ี ่างกายจะผลติ โกรทฮอร์โมนไดด้ ที ี่สดุ 10. ในขณะทเ่ี รานอนหลับ รา่ งกายจะผลติ ฮอรโ์ มนชนดิ ก. หลบั สนิท ใด ทเี่ ก่ียวกับการเจรญิ เตบิ โต ข. ก่อนหลับ ก. เอ็นโดรฟิน ค. ตน่ื นอนใหมๆ่ ข. อนิ ซลู นิ ง. ก่อนรับประทานอาหาร ค. โกรทฮอรโ์ มน ง. ฮอร์โมนเพศ

แผนการจดั การเรียนรู้หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 3 เรอื่ ง ครอบครัวและเพือ่ นของฉนั จานวน 4 ช่ัวโมงแผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 1 เรือ่ ง ความสาคัญของครอบครวั ความแตกตา่ งของแตล่ ะครอบครวั จานวน 2 ชั่วโมงกลมุ่ สาระการเรียนรู้ สุขศึกษาและพลศกึ ษาชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 3 โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31ครผู ูส้ อน นางสาวอรณชั ชา เจรญิ สขุสอนวนั องั คาร ท่ี 19 เดือน มถิ ุนายน พ.ศ. 2561 เวลา 14.50 น. - 15.40 น.สอนวันองั คาร ท่ี 26 เดือน มถิ ุนายน พ.ศ. 2561 เวลา 14.50 น. - 15.40 น.1. สาระสาคญั ครอบครัวมีความสาคัญต่อการดาเนินชีวิต ทุกคนจึงต้องรู้จักวิธีปฏิบัติตนต่อครอบครัว ในแต่ละครอบครัวย่อมมีความแตกต่างกันในด้านเศรษฐกิจ สังคม และการศึกษา ซึ่งจะส่งผลต่อการดาเนินชีวิตของคนในครอบครวั2. มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ช้ีวดั ชั้นปี/ผลการเรียนร/ู้ เปาู หมายการเรยี นรู้ มาตรฐาน พ 2.1 เข้าใจและเห็นคุณค่าตนเอง ครอบครัว เพศศึกษา และมีทักษะในการดาเนินชีวิต ตวั ชีว้ ัด พ 2.1 ป.3/1 อธบิ ายความสาคญั และความแตกตา่ งของครอบครัวทมี่ ตี ่อตนเอง จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1) อธิบายความสาคญั ของครอบครัวได้ 2) อธิบายความแตกต่างของแตล่ ะครอบครวั ได้3. สาระการเรยี นรู้ 3.1 เนอ้ื หาสาระหลัก : Knowledge - ความสาคญั ของครอบครัว - ความแตกตา่ งของแตล่ ะครอบครวั - เศรษฐกจิ - สังคม - การศึกษา 3.2 ทักษะ/กระบวนการ : Process 1. นักเรียนสามารถอธบิ ายความสาคญั ของครอบครัวได้ 3.3 คณุ ลกั ษณะทพ่ี ึงประสงค์ : Attitude 1. มคี วามรับผิดชอบ 2. ใฝุเรียนรู้ 3. มจี ิตสาธารณะ4. สมรรถนะสาคญั ของนกั เรียน 4.1 ความสามารถในการคิด 1) ทักษะการวิเคราะห์ 2) ทักษะการเช่ือมโยง 4.2 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต

5. คุณลักษณะของวชิ า - ความรับผิดชอบ - ความรอบคอบ - กระบวนการกลุ่ม6. คณุ ลักษณะทพ่ี งึ ประสงค์ 1. ใฝเุ รยี นรู้ 2. มุ่งมัน่ ในการทางาน 3. มีความรบั ผดิ ชอบ7. ชิน้ งาน/ภาระงาน ใบงานท่ี 3.1 เรอ่ื ง ปจั จยั ท่ที าให้เกิดพฤติกรรมเสย่ี งทนี่ าไปสู่การมีเพศสัมพนั ธ์8. กจิ กรรมการเรียนรู้ชว่ั โมงที่ 1ขั้นนา 1. นกั เรยี นตอบคาถามกระตุ้นความคิด นกั เรียนคิดวา่ ครอบครวั ท่มี ีความสุขน่าจะมลี ักษณะอย่างไร เพราะเหตใุ ด 2. ครสู นทนากบั นักเรียนเกี่ยวกับความสาคัญของครอบครวั 3. ครขู ออาสาสมัครนักเรียนออกมาเลา่ ถงึ ลกั ษณะครอบครัวของตนเองใหเ้ พ่ือนฟงั หน้าช้ันเรียนขนั้ สอน 1. ครแู บ่งนกั เรียนเป็นกลุม่ กลุ่มละ 4 คน คละกนั ตามความ สามารถ คือ เกง่ ปานกลางคอ่ นข้างเก่ง ปานกลางค่อนข้างออ่ น และอ่อน จากนนั้ ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มศึกษาความรู้เรื่อง ความสาคัญของครอบครวั จากหนังสอื เรยี น 2. ครกู าหนดประเด็นความสาคัญของครอบครวั ให้นักเรียนแตล่ ะกลุ่มร่วมกันวิเคราะหแ์ ละแสดงความคดิ เห็น ตามประเดน็ ท่กี าหนด ดังน้ี 1) แหลง่ อบรม เลี้ยงดู และสง่ั สอนสมาชิกในครอบครัว 2) ศนู ย์รวมความรัก ความผูกพนั ของสมาชิกในครอบครวั 3) แหล่งพักพงิ และให้กาลังใจแก่สมาชิกในครอบครัว 4) แหลง่ ใหค้ วามช่วยเหลอื ช่วยแกป้ ัญหาใหแ้ ก่สมาชิก ในครอบครวั เม่ือมีปัญหาเกดิ ข้ึน 5) แหล่งรายได้ของสมาชิกในครอบครวั 3. สมาชกิ แตล่ ะกลุ่มรว่ มกันวิเคราะหแ์ ละอภิปราย จากน้ันส่งตวั แทนกลุม่ นาเสนอผลการวิเคราะห์หนา้ ช้นั เรียน 4. นักเรียนตอบคาถามกระตุ้นความคดิ นักเรยี นจะมีวิธกี ารปฏิบตั ติ นอยา่ งไรทจี่ ะแสดงใหเ้ ห็นว่านักเรยี นเปน็ สว่ นหนงึ่ ในครอบครัว 5. ครใู ห้นกั เรียนแต่ละคนทาใบงานที่ 3.1 เร่อื ง ครอบครัวของฉนัขั้นสรุป นักเรียนรว่ มกนั สรปุ ความรู้เร่ือง ความสาคัญของครอบครวั

ชว่ั โมงที่ 2ขน้ั นา 1. นักเรียนตอบคาถามกระตุ้นความคิด เพราะเหตุใด การดาเนินชีวิตของแต่ละครอบครัวจึงแตกต่างกนั 2. ครูนาบัตรภาพครอบครัวท่ีมีความสุข และภาพครอบครัวท่ีทะเลาะกันมาให้นักเรียนดู จากน้ันใหร้ ว่ มกนั แสดงความคิดเห็นเก่ยี วกบั ภาพดังกลา่ ว เชน่ - นกั เรยี นอยากใหค้ รอบครัวของตนเองเป็นครอบครัวแบบใด - นักเรียนคิดว่า ปญั หาการทะเลาะวิวาทในครอบครวั เกดิ จากสาเหตุใด - นักเรียนมวี ธิ กี ารทาใหค้ รอบครัวมคี วามสุขได้อย่างไรขน้ั สอน 1. นักเรียนรวมกลุ่ม จากนั้นร่วมกันศึกษาความรู้เร่ือง ความแตกต่างของแต่ละครอบครัว จากหนงั สอื เรยี น 2. สมาชิกแต่ละคนผลัดกันอธิบายความรู้ท่ีได้จากการศึกษาเกี่ยวกับความแตกต่างของแต่ละครอบครวั ให้สมาชิกภายในกลมุ่ ฟงั ตามประเด็นทกี่ าหนด ดงั นี้ 1) ด้านเศรษฐกิจ 2) ดา้ นสงั คม 3) ด้านการศึกษา 3. นักเรียนตอบคาถามกระตุน้ ความคดิ ครอบครัวที่มีฐานะร่ารวยจะมีความสุขมากกว่าครอบครัวทม่ี ฐี านะยากจนใช่หรอื ไม่ เพราะเหตใุ ด 4. ครูตั้งประเด็นคาถามให้นักเรียนแต่ละกลุ่มช่วยกันหาคาตอบเพื่อเสริมความเข้าใจของนักเรียนเชน่ - นักเรียนคิดว่า ความแตกต่างของแต่ละครอบครัวในด้านเศรษฐกิจ สังคม และการศึกษา ส่งผลตอ่ การดาเนินชีวติ ของคนในครอบครวั แตกตา่ งกันหรือไม่ จงอธิบาย 3. ครูให้นักเรียนแต่ละคนทาแบบฝึกกิจกรรมท่ี 1 จากแบบวัดฯ เม่ือทาเสร็จแล้ว ตรวจความเรยี บร้อยก่อนนาสง่ ครูขั้นสรปุ 1. ครูตรวจสอบผลจากการอธบิ ายความรู้และจากแบบวดั ฯ 2. ครูและนกั เรยี นร่วมกนั สรปุ ความรู้เกี่ยวกับความแตกต่างของแต่ละครอบครัว  ครูมอบหมายใหน้ กั เรียนแตล่ ะคนวาดภาพครอบครัวของตนเอง พร้อมกบั เขียนบรรยายส้ันๆ เกีย่ วกับครอบครวั ของตนเอง โดยใหค้ รอบคลุมประเด็นตามทก่ี าหนด ดังนี้ 1) การอธบิ ายความสาคัญของครอบครวั 2) การอธบิ ายความแตกตา่ งของแตล่ ะครอบครวั 3) การวาดภาพ9. ส่ือการเรยี นการสอน / แหล่งเรียนรู้ 1. หนังสอื เรียน สขุ ศกึ ษาและพลศึกษา ป.3 2. กรณีศึกษา 3. นกั เรยี นร่วมกันสรปุ ความร้เู รอื่ ง ความสาคญั ของครอบครัว 4. บตั รภาพ

10. การวดั ผลและประเมนิ ผล วธิ ีการ เคร่ืองมือ เกณฑ์ตรวจแบบทดสอบก่อนเรยี น หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี 3 แบบทดสอบกอ่ นเรยี น หนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี 3 (ประเมนิ ตามสภาพจริง)ตรวจใบงานท่ี 3.1 ใบงานที่ 3.1 รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ ระดับคณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ประเมินการนาเสนอผลงาน แบบประเมินการนาเสนอผลงาน ระดบั คณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ ระดับคณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์สงั เกตพฤติกรรมการทางานรายบคุ คล แบบสงั เกตพฤติกรรมการทางานรายบุคคล ระดับคณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์สงั เกตพฤติกรรมการทางานกลุ่ม แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทางานกล่มุ ระดับคณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์สงั เกตความรับผดิ ชอบ ใฝเุ รยี นรู้ และมจี ติ แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์สาธารณะตรวจผลงานภาพวาดครอบครวั ของตนเอง แบบประเมนิ ผลงานภาพวาดครอบครัวของ ตนเอง

บันทึกผลหลงั การจัดการเรยี นรู้ผลการสอน……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ลงชอื่ ......................................................... (นางสาวอรณชั ชา เจรญิ สขุ ) ครูผสู้ อนขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแกไ้ ข……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงช่อื .......................................................... (นางสาวจติ ตานาถ เทพวงศ)์ ครูพีเ่ ลีย้ งขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแกไ้ ข……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชอ่ื .......................................................... ( นางวลิ าวลั ย์ ปาลี ) ผอู้ านวยการโรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31

แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายบคุ คล คาช้แี จง : ให้ ผู้สอน สงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรียน แลว้ ขีด  ลงใน ช่อง ที่ตรงกบั ระดบั คะแนนลาดับ ชือ่ – สกุล ความมีวนิ ยั ความมนี า้ ใจ การรับฟงั การแสดง การตรงต่อ รวม ที่ ของผรู้ บั การ 321 เออ้ื เฟื้อ ความคดิ เห็น ความคิดเห็น เวลา 15 เสยี สละ คะแนน ประเมิน 321 321 321 3211 เด็กหญิงทิพปภา แสนวงั ทอง2 เด็กชายธีรพงศ์ เสริมวฒุ กิ ล้า3 เดก็ ชายนริ ุช รัตนมานะชยั4 เดก็ ชายปุณยวีร์ เกอ้ื กุลประดิษฐ์5 เด็กชายศภุ กฤต ไพรฑรู ยศ์ รีทอง6 เด็กชายจิรวัชร โกศลประทปี7 เด็กหญงิ กัลยา กมลชอบวิริยะ8 เด็กหญงิ กลุ นดิ า ก่อวริ ยิ าตระกลู9 เด็กหญงิ ชนาภา มฤคมาศ10 เด็กหญิงนิชา บวรหริ ญั ไพร11 เดก็ หญงิ ปภาดา วรนาถยนื ยง12 เด็กหญงิ รุ่งนภา มฤคมาศ13 เด็กหญิงสชุ ัญญา รงุ่ เกยี รติพนา14 เด็กหญงิ จันทรจ์ ิรา แก้วมา15 เด็กหญงิ สุภานนั ท์ แกว้ อินศรี ลงชอื่ ...................................................ผู้ประเมิน ............../.................../................ เกณฑ์การใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน เกณฑก์ ารตดั สนิ คณุ ภาพ ปฏบิ ัตหิ รือแสดงพฤติกรรมอย่างสมา่ เสมอ ให้ 2 คะแนน ปฏิบตั หิ รือแสดงพฤตกิ รรมบอ่ ยครงั้ ให้ 1 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ ปฏบิ ัติหรอื แสดงพฤติกรรมบางครงั้ 12 - 15 ดี 8 - 11 พอใช้ ต่ากว่า 8 ปรับปรงุ

แบบประเมินคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์คาชแี้ จง : ให้ ผ้สู อน สังเกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขีด  ลง ในชอ่ งทตี่ รงกบั ระดบั คะแนน คณุ ลักษณะ รายการประเมิน ระดับคะแนน อนั พงึ ประสงค์ดา้ น 3211. รกั ชาติ ศาสน์ 1.1 ยนื ตรงเคารพธงชาติ และร้องเพลงชาตไิ ด้ 1.2 เข้ารว่ มกิจกรรมทส่ี ร้างความสามคั คี ปรองดอง และเป็นประโยชน์ กษตั ริย์ ต่อโรงเรียน2. ซอื่ สตั ย์ สุจรติ 1.3 เขา้ ร่วมกจิ กรรมทางศาสนาท่ตี นนบั ถือ ปฏิบัตติ ามหลกั ศาสนา3. มีวนิ ยั รบั ผดิ ชอบ 1.4 เขา้ ร่วมกิจกรรมทเี่ กยี่ วกับสถาบนั พระมหากษตั รยิ ์ตามท่ีโรงเรยี นจดั ข้นึ4. ใฝุเรยี นรู้ 2.1 ใหข้ อ้ มูลทีถ่ ูกตอ้ ง และเปน็ จรงิ 2.2 ปฏิบตั ิในสงิ่ ท่ถี ูกต้อง5. อยอู่ ย่างพอเพียง 3.1 ปฏบิ ตั ิตามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ขอ้ บังคบั ของครอบครัว6. มุ่งมน่ั ในการ มคี วามตรงตอ่ เวลาในการปฏบิ ัติกจิ กรรมตา่ งๆ ในชีวติ ประจาวนั ทางาน 4.1 รูจ้ ักใชเ้ วลาวา่ งใหเ้ ปน็ ประโยชน์ และนาไปปฏิบัตไิ ด้ 4.2 รจู้ ักจดั สรรเวลาให้เหมาะสม7. รักความเปน็ ไทย 4.3 เช่ือฟังคาสง่ั สอนของบดิ า-มารดา โดยไมโ่ ตแ้ ย้ง8. มจี ติ สาธารณะ 4.4 ตั้งใจเรียน 5.1 ใชท้ รัพย์สนิ และสิง่ ของของโรงเรียนอย่างประหยดั 5.2 ใชอ้ ุปกรณ์การเรยี นอยา่ งประหยัดและรคู้ ณุ ค่า 5.3 ใชจ้ า่ ยอย่างประหยัดและมกี ารเก็บออมเงิน 6.1 มคี วามตงั้ ใจและพยายามในการทางานท่ีได้รับมอบหมาย 6.2 มีความอดทนและไมท่ อ้ แทต้ อ่ อปุ สรรคเพือ่ ใหง้ านสาเร็จ 7.1 มีจิตสานึกในการอนุรักษ์วัฒนธรรมและภมู ิปญั ญาไทย 7.2 เหน็ คณุ คา่ และปฏบิ ตั ิตนตามวฒั นธรรมไทย 8.1 รจู้ กั ชว่ ยพอ่ แม่ ผ้ปู กครอง และครทู างาน 8.2 รจู้ ักการดแู ล รักษาทรพั ย์สมบัตแิ ละส่งิ แวดลอ้ มของหอ้ งเรยี น โรงเรยี น ลงช่ือ...................................................ผู้ประเมิน ............../.................../................เกณฑ์การใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน เกณฑ์การตดั สนิ คณุ ภาพ ปฏบิ ัติหรือแสดงพฤตกิ รรมอย่างสมา่ เสมอ ให้ 2 คะแนน ปฏิบัตหิ รือแสดงพฤตกิ รรมบอ่ ยคร้งั ให้ 1 คะแนน ชว่ งคะแนน ระดับคณุ ภาพ ปฏิบัตหิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางครัง้ 46 - 60 ดี 30 - 45 พอใช้ ต่ากวา่ 30 ปรับปรงุ

แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทางานรายบุคคลช่ือ ชนั้ …………...คาช้แี จง : ให้ ผ้สู อน สงั เกตพฤติกรรมของนกั เรยี นในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด  ลง ในชอ่ งท่ตี รงกับระดับคะแนนลาดับท่ี รายการประเมิน ระดับคะแนน 3211 การแสดงความคิดเหน็2 การยอมรบั ฟงั ความคดิ เห็นของผ้อู นื่3 การทางานตามหน้าท่ีท่ีได้รบั มอบหมาย4 ความมีน้าใจ5 การตรงต่อเวลา รวม ลงชื่อ....................................................ผูป้ ระเมนิ ................ /................ /................เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน เกณฑ์การตัดสนิ คุณภาพ ปฏบิ ตั ิหรอื แสดงพฤติกรรมอย่างสมา่ เสมอ ให้ 2 คะแนน ปฏบิ ตั ิหรอื แสดงพฤตกิ รรมบอ่ ยคร้ัง ให้ 1 คะแนน ชว่ งคะแนน ระดับคณุ ภาพ ปฏิบัติหรือแสดงพฤตกิ รรมบางครง้ั 12 - 15 ดี 18 - 11 พอใช้ ตา่ กวา่ 8 ปรับปรงุ

แบบประเมินการนาเสนอผลงานคาช้ีแจง : ให้ ผู้สอน ประเมินการนาเสนอผลงานของนักเรยี นตามรายการทก่ี าหนด แล้วขดี  ลงใน ชอ่ งท่ีตรงกบั ระดบั คะแนนลาดับท่ี รายการประเมิน ระดับคะแนน 3211 นาเสนอเนือ้ หาในผลงานได้ถูกตอ้ ง2 การลาดบั ขั้นตอนของเนื้อเร่อื ง3 การนาเสนอมีความน่าสนใจ4 การมสี ว่ นร่วมของสมาชิกในกล่มุ5 การตรงต่อเวลา รวม ลงช่ือ .................................................... ผู้ประเมิน ................ /................ /................เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน เกณฑก์ ารตดั สนิ คุณภาพ ผลงานหรอื พฤตกิ รรมสมบูรณช์ ดั เจน ให้ 2 คะแนน ผลงานหรือพฤตกิ รรมมขี ้อบกพร่องบางส่วน ให้ 1 คะแนน ชว่ งคะแนน ระดบั คุณภาพ ผลงานหรอื พฤตกิ รรมมขี อ้ บกพรอ่ งเป็นสว่ นใหญ่ 12 - 15 ดี 18 - 11 พอใช้ ต่ากวา่ 8 ปรับปรุง

ใบงานที่ 3.1 ครอบครวั ของฉนัคาชี้แจง ใหน้ กั เรียนติดภาพครอบครวั แล้วเขียนบรรยายสัน้ ๆ ถึงความสาคญั ของครอบครัวท่มี ตี ่อ ตนเอง (ติดภาพ) ช่ือภาพ (พจิ ารณาตามคาตอบของนักเรยี น โดยให้อยใู่ นดุลยพนิ จิ ของครูผูส้ อน)

การประเมินชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) แบบประเมินผลงานภาพวาดครอบครัวของตนเอง (ชิ้นงานท่ี 1)ลาดับที่ รายการประเมิน ระดบั คะแนน 3211 การอธิบายความสาคญั ของครอบครวั2 การอธิบายความแตกต่างของแตล่ ะครอบครวั3 การวาดภาพ รวม ลงชอื่ ...................................................ผูป้ ระเมิน ............../.................../................เกณฑ์การใหค้ ะแนน = 3 คะแนน เกณฑ์การตดั สนิ คณุ ภาพ ดี = 2 คะแนน พอใช้ = 1 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ปรบั ปรงุ 8 - 9 ดี 5 - 7 พอใช้ ต่ากวา่ 5 ปรับปรุง

บตั รภาพ  ภาพครอบครัวทม่ี คี วามสุข ภาพครอบครัวทท่ี ะเลาะกันทม่ี า : ภาพที่ 1 http://mom.todayza.com/wp-content/uploads/2012/10/ครอบครวั .jpg ภาพที่ 2 http://women.horoworld.com/61057_ควรดแู ลลูกอย่างไร-เมื่อครอบครวั แตกแยก-พ่อแมห่ ย่ารา้ ง

แผนการจดั การเรยี นรู้ จานวน 4 ชัว่ โมงหน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 3 เรือ่ ง ครอบครวั และเพอ่ื นของฉัน จานวน 2 ช่วั โมงแผนการจดั การเรียนร้ทู ี่ 2 เร่ือง การสรา้ งสัมพันธภาพในครอบครวั และในกลมุ่ เพอ่ื นกลุ่มสาระการเรียนรู้ สุขศกึ ษาและพลศกึ ษาช้นั ประถมศกึ ษาปีที่ 3 โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31ครผู ู้สอน นางสาวอรณชั ชา เจริญสุขสอนวนั องั คาร ที่ 3 เดือน กรกฎาคม พ.ศ. 2561 เวลา 14.50 น. - 15.40 น.สอนวนั อังคาร ท่ี 10 เดือน กรกฎาคม พ.ศ. 2561 เวลา 14.50 น. - 15.40 น.1. สาระสาคัญ การสร้างสัมพันธภาพในครอบครัวเป็นสิ่งสาคัญท่ีทาให้สมาชิกในครอบครัวอยู่ร่วมกันอย่างมีความสขุ เพอื่ นมคี วามสาคัญต่อตัวเรา ดังนั้นเราจึงควรสร้างสัมพันธภาพท่ีดีกับเพ่ือน เพื่อจะได้อยู่ร่วมกันอยา่ งมีความสขุ2. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชวี้ ดั ชั้นปี/ผลการเรยี นรู้/เปาู หมายการเรยี นรู้ มาตรฐาน พ 2.1 เข้าใจและเห็นคุณค่าตนเอง ครอบครัว เพศศึกษา และมีทักษะในการดาเนินชีวติ ตัวชี้วัด พ 2.1 ป.3/1 อธบิ ายความสาคญั และความแตกตา่ งของครอบครัวท่ีมตี ่อตนเอง ป.3/2 อธบิ ายวิธีสร้างสมั พันธภาพในครอบครัวและกลุ่มเพื่อน จุดประสงค์การเรยี นรู้ 1) อธบิ ายความสาคัญของครอบครวั ได้ 2) อธบิ ายความแตกต่างของแตล่ ะครอบครัวได้ 3) อธิบายวิธกี ารสรา้ งสัมพันธภาพในครอบครวั ได้ 4) อธิบายวธิ ีการสรา้ งสัมพนั ธภาพในกลุ่มเพอื่ นได้3. สาระการเรียนรู้ 3.1 เนอ้ื หาสาระหลกั : Knowledge - ความสาคัญของครอบครัว - ความแตกตา่ งของแต่ละครอบครวั - เศรษฐกิจ - สังคม - การศึกษา - วธิ กี ารสรา้ งสัมพนั ธภาพในครอบครัว 3.2 ทักษะ/กระบวนการ : Process 1. นกั เรยี นสามารถอธบิ ายความสาคญั ของครอบครัวได้ 3.3 คุณลักษณะทพี่ งึ ประสงค์ : Attitude 1. มคี วามรับผดิ ชอบ 2. ใฝเุ รียนรู้ 3. มีจติ สาธารณะ