»Ò·ÇÅÞÑ ªÑ§à¨μÔÂÒ¹ØÊó P พุทธศักราช ๒๕๖๓ พระเทพสิทธิโสภณ (สุรสีห กิตฺติโสภโณ) เจาอาวาสวัดพระธาตุเชิงชุม พรอมคณะสงฆ ขาราชการ คหบดี พอคา และประชาชน ทําหนังสือตอ กรมศิลปากรเพ่ือดําเนินการบูรณะปดทององคพระธาตุเชิงชุม และไดรับการ อนุมัติใหดําเนินการภายใตการกํากับดูแลของสํานักศิลปากรท่ี ๑๑ ขอนแกน โดยงบประมาณของทางวัด สน้ิ เงนิ ๑,๕๐๐,๐๐๐ บาท ÀÒ¾·Õè ôò–ôó ªÒ‹ §¼ÃŒÙ ºÑ àËÁÒ´Òí à¹¹Ô ¡Òû´ ·Í§ ¾¹×é ·ÊèÕ Ç‹ ¹»ÅÒ»ÅÂÕ Í´Í§¤¾ ÃиÒμàØ ª§Ô ªÁØ áÅСÒÃÃ×é͹Ñè§ÃŒÒ¹ÀÒÂËÅѧ´íÒà¹Ô¹¡ÒÃŧÃÑ¡»´·Í§ÊíÒàÃç¨áÅŒÇ ¶‹ÒÂàÁè×Í »¾‚ ·Ø ¸ÈÑ¡ÃÒª òõöô ๘๗
P »Ò·ÇÅÑުѧà¨μÂÔ Ò¹ÊØ ó เชิงอรรถ ๑ โปรดอานรายละเอียดเร่ืองน้ีใน สุรัตน วรางครัตน, “ศิลาจารึกบานทาวัด”, ใน ประวัตศิ าสตรส กลนคร (สกลนคร : สกลนครการพมิ พ, ๒๕๔๕), หนา ๖๒–๖๕. ๒ โปรดอานรายละเอียด พจนวราภรณ เขจรเนตร, พระธาตุเชิงชุม : ความเปนมา และพฒั นาการทางประวตั ิศาสตร ปที่ ๑ ฉบบั ที่ ๑ (มกราคม–มิถุนายน ๒๕๖๓), (นครราชสีมา : หจก. โคราชมารเ กต็ ต้งิ แอนด โปรดกั ขัน่ ), หนา ๑๑๒–๑๓๕. ๓ พระราชวิมลเมธี (วนั ดี สริ ิวณั โณ), อนทุ ินวัดธาตุศาสดาราม พ.ศ. ๒๔๗๘–๒๕๐๘ (เอกสารตนฉบบั ลายมอื ), ๑๑ แผน . ๔ นายวเิ ชยี ร วงศก าฬสนิ ธ,ุ อดตี ไวยาวจั กร, ใหส มั ภาษณเ รอื่ ง “การปฏสิ งั ขรณว ดั พระธาตุ เชิงชุม”, สัมภาษณเ ม่อื วนั ที่ ๒๖ สงิ หาคม ๒๕๕๗. ๕ หนวยศิลปากรท่ี ๗ ขอนแกน กรมศิลปากร, รายการประกอบแบบบูรณะซอมแซม พระธาตุเชิงชุมและอุโบสถ (สิม) วัดพระธาตุเชิงชุมวรวิหาร ต.ธาตุเชิงชุม อ.เมือง จ.สกลนคร พุทธศกั ราช ๒๕๓๔ (เอกสารอัดสาํ เนา), ๕ แผน. ๖ นายวเิ ชยี ร วงศก าฬสนิ ธ,ุ อดตี ไวยาวจั กร, ใหส มั ภาษณเ รอื่ ง “การปฏสิ งั ขรณว ดั พระธาตุ เชิงชุม”, สัมภาษณเมอื่ วนั ที่ ๒๖ สิงหาคม ๒๕๕๗. ๗ หา งหนุ สว นจาํ กดั พรอนนั ทก อ สรา ง, รายงานการบรู ณะวหิ ารวดั พระธาตเุ ชงิ ชมุ วรวหิ าร อําเภอเมอื งสกลนคร จังหวัดสกลนคร (เอกสารอดั สําเนา), ๑๐๔ หนา. ๘ พระครสู กลวรานกุ จิ ,ผชู ว ยเจา อาวาสวดั พระธาตเุ ชงิ ชมุ ,ใหส มั ภาษณเ รอื่ ง“การปฏสิ งั ขรณ วดั พระธาตุเชิงชมุ ”, สัมภาษณเ มื่อวนั ท่ี ๒๕ สิงหาคม ๒๕๖๓. ๙ วชิ ยั เวงรงั สกิ าร, รายงานการควบคมุ งาน โครงการบรู ณะยอดพระธาตเุ ชงิ ชมุ วดั พระธาตุ เชงิ ชุมวรวหิ าร ตาํ บลธาตุเชงิ ชมุ อําเภอเมอื งสกลนคร จงั หวดั สกลนคร พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๗ (เอกสารอดั สาํ เนา), ๕๗ หนา . ๑๐ พระครสู กลวรานกุ จิ ,ผชู ว ยเจา อาวาสวดั พระธาตเุ ชงิ ชมุ ,ใหส มั ภาษณเ รอื่ ง“การปฏสิ งั ขรณ วดั พระธาตเุ ชงิ ชมุ ”, สมั ภาษณเมือ่ วันที่ ๒๕ สงิ หาคม ๒๕๖๓. ๘๘
บทสรปุ
P »Ò·ÇÅÞÑ ªÑ§à¨μÂÔ Ò¹ÊØ ó วดั พระธาตเุ ชงิ ชมุ หรอื ทช่ี าวเมอื งรจู กั เรยี กทวั่ ไปวา “วดั ธาต”ุ เปน อาราม เกาแกค ูบานคเู มืองสกลนคร โดยเปน ท่ีต้งั ปูชนยี สถานสําคญั คือ “องคพระธาตุ เชิงชุม” ประวัติวัดพระธาตุเชิงชุมมีความเกี่ยวเน่ืองกับประวัติศาสตรการต้ังเปน บานเมืองสกลนคร เนื่องจากเปนปูชนียสถานสําคัญของบานเมืองมาตั้งแต พุทธศตวรรษที่ ๒๓ จวบจนสมัยธนบุรีและรัตนโกสินทร ในทางประวัติศาสตร และโบราณคดีน้ันไดบงชี้ใหเห็นวา วัดพระธาตุเชิงชุมต้ังทับซอนอยูบนพ้ืนท่ี ศักด์ิสิทธิ์ใน “วัฒนธรรมเขมร” มากอน ดังปรากฏหลักฐานโครงสรางของ ปราสาทเขมรภายในองคพ ระธาตแุ ละจารกึ รวมถงึ รปู เคารพในทางศาสนาพราหมณ ลัทธิไศวะนิกาย ที่เจริญรุงเรืองในพุทธศตวรรษที่ ๑๖ ถึงพุทธศตวรรษท่ี ๑๗ (พุทธศักราช ๑๕๐๑–๑๗๐๐) แสดงใหเห็นถึงอิทธิพลของวัฒนธรรมเขมร ท่ีเจริญรุงเรืองครอบคลุมพ้ืนท่ีลุมนํ้าหนองหานและบางสวนของภาคตะวันออก เฉียงเหนือตอนบน โดยองคพระธาตุเชิงชุมอยูในลักษณะของศาสนสถาน ประจําเมืองแบบปรางคองคเดียว หรือที่เรียกวา “สรุค” ตั้งอยูในบริเวณพื้นท่ี ใจกลางเมอื งโบราณสกลนคร ๙๐
»Ò·ÇÅÑÞª§Ñ à¨μÂÔ Ò¹ÊØ ó P ครั้นตอมาเมื่อยุคทองของวัฒนธรรมเขมรเร่ิมเส่ือมอิทธิพลไปในราว ปลายพุทธศตวรรษที่ ๑๘ ศาสนสถานประจําเมืองโบราณสกลนครแหงน้ีจึงถูก ทิ้งรางไป และเกิดการดัดแปลงใหเปนพุทธสถานใน “วัฒนธรรมลานชาง” เมือ่ ราวพทุ ธศตวรรษที่ ๒๓ ถึงปลายพทุ ธศตวรรษที่ ๒๔ (พทุ ธศักราช ๒๒๐๐– ๒๔๐๐) ท้ังนี้ การทับซอนของพืน้ ทที่ างวฒั นธรรมในพื้นทีศ่ กั ดิส์ ทิ ธ์ปิ รากฏท่วั ไป ในหลายพ้ืนที่ของสกลนคร ปราสาทในวัฒนธรรมเขมรหลายแหงในจังหวัด สกลนครถกู เรยี กวา “พระธาต”ุ และตอ เตมิ ใหเ ปน “อเุ ทสกิ เจดยี ” ทมี่ วี ตั ถปุ ระสงค จัดสรางข้ึนเพ่ือเปนสิ่งระลึกถึงองคสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจาพรอมกับ การเลา เรอ่ื งองิ วรรณกรรมประกอบ สถานทนี่ น้ั ๆ ไดร บั การรงั สรรคข นึ้ ดว ยความ ศรทั ธาของผคู นรวมถงึ การทาํ หนา ท่ี “ขา พระธาต”ุ หรอื “ผปู ฏบิ ตั ”ิ ในการปฏบิ ตั ิ รกั ษาทาํ นบุ าํ รงุ สถานทสี่ บื มา ทงั้ นี้ การทอ่ี งคพ ระธาตทุ บั ซอ นอยบู นพน้ื ทศี่ กั ดสิ์ ทิ ธ์ิ ระหวาง ๒ วัฒนธรรม จึงทําใหพระธาตุเชิงชุมมีลักษณะความสําคัญเฉพาะ โดยอาจแบงไดในแงของรองรอยทางประวัติศาสตรโบราณคดีที่ประกอบดวย การคน พบหลกั ฐานที่เกี่ยวเนอ่ื งกับการอยูอ าศยั คตชิ นความเชอื่ รปู ลักษณะทาง สถาปตยกรรมอกี ดว ย พระธาตเุ ชงิ ชมุ เปน เจดยี ก อ อฐิ ถอื ปนู ทรงปราสาทยอด อนั เปน การรงั สรรค ผลงานทัศนศิลปที่มีความลงตัวกับโครงสรางเดิม เอกลักษณสําคัญอยางหน่ึง ขององคพระธาตุเชิงชุมปรากฏอยูในสวนของเรือนยอด ที่เรียกวา “บัวเหล่ียม” อันเปนเอกลักษณทางเชิงชางในกลุมวัฒนธรรมลานชาง ทั้งนี้ การดัดแปลง ปราสาทเขมรคงสัมพันธกับการเขามาตั้งบานเรือนของผูคนข้ึนเปนชุมชน เพอ่ื ทําหนา ท่ีคอยทาํ นบุ าํ รุงรกั ษา ปรากฏนามในเอกสารทอ งถิน่ วา “หนองหาน เชียงชมุ ” หรือ “บานธาตเุ ชยี งชุม” นอกจากน้ี พระธาตุเชิงชมุ ยงั ปรากฏอยใู นวรรณกรรมอิงพระพทุ ธศาสนา เรอื่ ง “อรุ งั คนทิ าน” อนั เปน วรรณกรรมสาํ คญั ปรากฏอยทู ว่ั ไปในลมุ นาํ้ โขงสองฝง ประเทศลาวและประเทศไทย เนื้อหากลาวถึงนามสถานที่ตั้งองคพระธาตุวา “ภูนํ้าลอดเชิงชุม” ซึ่งเปนสถานที่มาประทับชุมนุมรอยพระพุทธบาทของ พระพทุ ธเจา ทต่ี รสั รแู ลว ในภทั รกปั น้ี ๔ พระองค และทจ่ี ะตรสั รใู นอนาคตกาลอกี ๙๑
P »Ò·ÇÅÑÞª§Ñ à¨μÔÂÒ¹ÊØ ó ๑ พระองค ประกอบดวย พระกกุสนั โธ พระโกนาคมโน พระกสั สโป พระโคตโม และพระศรอี รยิ เมตไตรย พระธาตเุ ชงิ ชมุ เปน ศนู ยร วมใจของชาวเมอื งสกลนคร มกี ารบรู ณปฏสิ งั ขรณ ทาํ นบุ าํ รงุ รกั ษาใหอ ยใู นสภาพคงทนถาวรเรอื่ ยมา ดงั ปรากฏหลกั ฐานบนั ทกึ ลายมอื และคําบอกเลาจากทองถิ่น รวมท้ังเอกสารหลักฐานที่เก่ียวของของทางราชการ อันเปนหลักฐานช้ันตนที่มีความสําคัญตอการศึกษาทางประวัติศาสตร จากท่ี กลาวมาแสดงใหเห็นวาองคพระธาตุเชิงชุมอยูในฐานะของศาสนสถานสําคัญ และเปน ศูนยรวมใจของผคู นมาอยา งตอเน่อื งและยาวนานจวบจนปจจุบนั ๙๒
»Ò·ÇÅÑÞª§Ñ à¨μÔÂÒ¹ÊØ ó P บรรณานุกรม ขอมูลหนงั สอื และบทความในหนงั สือ ภาษาไทย กรมศิลปากร. (๒๕๕๓). งานชา ง คําชางโบราณ. ขอนแกน : บริษัท เพ็ญพรน้ิ ติง้ จํากดั . กลมุ โบราณคดี สํานกั ศลิ ปากรท่ี ๑๐ รอยเอ็ด. (๒๕๕๖). ทําเนียบโบราณสถาน ขึ้นทะเบียน สํานักศิลปากรท่ี ๑๐ รอยเอ็ด (พ.ศ. ๒๔๗๘–๒๕๔๕). ขอนแกน : บริษทั เพ็ญพร้นิ ติง้ จาํ กดั . เกรียงไกร ปรญิ ญาพล. (๒๕๕๘). พงศาวดารเมอื งสกลนคร ฉบบั รองอาํ มาตยโท พระบริบาลศุภกจิ (คาํ สาย ศริ ิขันธ) . สกลนคร : สกลนครการพิมพ. จังหวัดสกลนคร. (๒๕๕๗). จดหมายเหตุการณบูรณปฏิสังขรณพระธาตุเชิงชุม จังหวัดสกลนคร พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๗. กรงุ เทพฯ : บรษิ ทั อัมรินทรพ รนิ้ ติง้ แอนดพ บั ลชิ ชง่ิ จํากดั (มหาชน). จงั หวดั สกลนคร. (๒๕๕๙). พระพุทธองคแสน สตสหัสสปฏมิ านุสรณ. เชียงใหม : หจก. วนิดาการพมิ พ. ณรงคศักด์ิ ราวะรินทร. (๒๕๖๑). อุรังคธาตุ จ.ศ. ๑๑๖๗ (พ.ศ. ๒๓๔๘). มหาสารคาม : หจก. อภิชาตการพมิ พ. ติ๊ก แสนบุญ. (๒๕๕๙). ลักษณะอีสานวาดวยศิลปวัฒนธรรม. อุบลราชธานี : โรงพิมพม หาวทิ ยาลยั อุบลราชธานี. ธาดา สุทธิธรรม. (๒๕๔๕). ผังเมืองในประเทศไทย : ผังชุมชนและการใชท่ีดิน สายอารยธรรมเขมรในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ. ขอนแกน : บริษัท ขอนแกน พมิ พพัฒนา จาํ กดั . ธนธร กิตติกานต. (๒๕๕๗). มหาธาต.ุ นนทบรุ ี : โรงพมิ พมติชนปากเกรด็ . ๙๓
P »Ò·ÇÅÑުѧà¨μÂÔ Ò¹ØÊó นิชนันท กลางวิชัย. (๒๕๕๕). กัลปนา : ความสืบเนื่องและการเปล่ียนแปลง แนวคดิ ของคนในชุมชนลา นนาตอ การกลั ปนาคน. ดํารงวชิ าการ วารสาร รวมบทความทางวชิ าการ คณะโบราณคด.ี พระมหาขรรคช ยั จนทฺ โสภโณ. (๒๕๑๑). อนสุ รณง านเทศกาลนมัสการพระธาตุ เชงิ ชมุ . พระนคร : ไมปรากฏสถานท่ีพมิ พ. พจนวราภรณ เขจรเนตร. (๒๕๖๑). พงศาวดารเมืองสกลนคร : ฉบับลายมือ อาํ มาตยโ ท พระยาประจนั ตประเทศธานี (โงน คาํ พรหมสาขา ณ สกลนคร). สกลนคร : สมศกั ด์กิ ารพิมพ กรปุ สกลนคร. พชั นี จนั ทรสาขา. (๒๕๕๑). รอยรอยเกา สกลนคร. กรงุ เทพฯ : บริษทั รงุ ศิลป การพิมพ (๑๙๗๗) จาํ กัด. วโิ รฒ ศรีสโุ ร. (๒๕๓๑). ธาตุอสี าน. กรุงเทพฯ : บริษทั เมฆาเพรส จํากัด. ศักด์ิชัย สายสิงห. (๒๕๕๕). สถาปตยกรรมประเภท “เจดีย” (ธาตุ), เจดีย พระพทุ ธรปู ฮปู แตม สมิ ศลิ ปะลาวและอสี าน. กรงุ เทพฯ : บมจ. อมรนิ ทร พริ้นติง้ แอนดพ ับลชิ ชง่ิ . สรุ ตั น วรางคร ตั น. (๒๕๔๕). ประวตั ศิ าสตรส กลนคร. สกลนคร : สกลนครการพมิ พ. สงวน รอดบุญ. (๒๕๔๕). พทุ ธศิลปล าว. (พิมพค ร้ังที่ ๒). กรุงเทพฯ : สํานกั พมิ พ สายธาร. สํานักโบราณคดี กรมศิลปากร. (๒๕๕๐). ศัพทานุกรมโบราณคดี. กรุงเทพฯ : สํานักโบราณคดี กรมศลิ ปากร. สพสันต์ิ เพชรคํา. (๒๕๖๐). ประวัติศาสตรทองถิ่นสกลนคร. (พิมพครั้งที่ ๒). เชียงใหม : หจก. วนิดาการพิมพ. ๙๔
»Ò·ÇÅÑުѧà¨μÂÔ Ò¹ØÊó P ภาษาตา งประเทศ Santanee Pasuk, & Philip Stott. (2006). ROYAL SIAMESE MAPS. War and Trade in Nineteenth Century Thailand. Bangkok River. ขอมูลบคุ คลใหส มั ภาษณ พระเทพสิทธิโสภณ (สุรสีห) . เจาอาวาสวัดพระธาตุเชงิ ชุมวรวหิ าร, ใหส ัมภาษณ เรอื่ ง “ประวตั วิ ดั พระธาตเุ ชงิ ชมุ ”, สมั ภาษณเ มอ่ื วนั ที่ ๒๖ สงิ หาคม ๒๕๕๗. นายวเิ ชยี ร วงศก าฬสนิ ธ.ุ ใหส มั ภาษณเ รอ่ื ง “วดั พระธาตเุ ชงิ ชมุ ในอดตี ”, สมั ภาษณ เมือ่ วันที่ ๒๖ สิงหาคม ๒๕๕๗. พระครสู กลวรานกุ จิ (สรุ ยิ า). ผชู ว ยเจา อาวาสวดั พระธาตเุ ชงิ ชมุ วรวหิ าร, ใหส มั ภาษณ เรอื่ ง “การปฏสิ งั ขรณว ดั พระธาตเุ ชงิ ชมุ ”, สมั ภาษณเ มอ่ื วนั ที่ ๒๕ ธนั วาคม ๒๕๖๓. ขอ มูลเว็บไซต ฐานขอมูลจารึกในประเทศไทย ศูนยมานุษยวิทยาสิรินธร (องคการมหาชน). คาํ คน หา “จารึกพระธาตุเชิงชุม”, สบื คน เม่อื วนั ที่ ๑๘ สงิ หาคม ๒๕๖๑. จาก http://www.sac.or.th. ๙๕
ภาคผนวก จารกึ วดั พระธาตุเชงิ ชมุ
P »Ò·ÇÅÑުѧà¨μÔÂÒ¹ØÊó จารึกวดั พระธาตเุ ชิงชุม๑ ชอ่ื จารกึ จารึกวัดพระธาตุเชงิ ชมุ อกั ษรที่มใี นจารึก ขอมโบราณ ศกั ราช พุทธศตวรรษที่ ๑๗ ภาษา เขมร ดา น/บรรทัด จํานวนดา น ๑ ดาน มี ๑๒ บรรทัด วัตถจุ ารึก ศลิ า ประเภทหินทราย ลักษณะวัตถุ หลกั สเี่ หลยี่ ม ขนาดวัตถุ กวา ง ๔๙ เซนตเิ มตร สูง ๕๒ เซนตเิ มตร เนื้อหาโดยสังเขป กลาวถึงการแบงเขตการปกครองที่ดินแกหัวหนาหมูบาน ผสู ราง แตล ะหมูบา น การกําหนดอายุ ไมป รากฏหลกั ฐาน ขอมลู อา งอิง หอสมุดแหงชาติไดกําหนดไววาจารึกหลักน้ีเปนจารึก ขอมโบราณ อายุพทุ ธศตวรรษที่ ๑๗ เรยี บเรยี งขอ มลู โดย : นวพรรณ ภทั รมลู , โครงการฐานขอ มลู จารกึ ในประเทศไทย, ศมส., ๒๕๔๗, จาก : ๑) Goerge Cœdès, “Piédroit de Săk’on Lăk’on (K. 369)”, in Inscriptions du Cambodge vol. VI (Hanoi : Imprimerie d’Extrême–Orient, 1954), pp. 281–283. ๑ ฐานขอ มลู จารกึ ในประเทศไทย ศนู ยม านษุ ยวทิ ยาสริ นิ ธร (องคก ารมหาชน) คาํ คน หา “จารกึ พระธาตเุ ชงิ ชมุ ” เวบ็ ไซต http://www.sac.or.th/databases/inscriptions/ inscribe_detail.php?id=433. ๙๘
»Ò·ÇÅÞÑ ª§Ñ à¨μÔÂÒ¹ØÊó P ๒) อําไพ คําโท, “จารึกวัดพระธาตุเชิงชุม”, ใน จารึกใน ประเทศไทย เลม ๓ : อกั ษรขอม พทุ ธศตวรรษที่ ๑๕–๑๖ (กรงุ เทพฯ : หอสมดุ แหง ชาติ กรมศลิ ปากร, ๒๕๒๙), หนา ๒๘๔–๒๘๖. คาํ จารึก คําแปล ๑. //อษฏฺ มี โรจฺ เชสฺถ ชฺยานกฺษ ๑. แรม ๘ คาํ่ เดือน ๗ ชยานกั ษั – ๒. ตรฺ องคฺ ารวาร นุ เยงฺ สมายคุ ๒. ตร วันอังคาร ดวยพวกเราพากนั ไป ๓. ปงคฺ าปฺ ต โขฺลฺ วาล ต มลุ นุรฺ วิ ๓. ช้ีแจงตอขโลญพลผูเปนหัวหนาหมูบาน ๔. เนาวฺ มนฺ กํเสตฺ งฺ วาทยฺ ภมุ ยฺ อายฺ ชฺร ๕. เลงฺ กาํ ลุงฺ โคลฺ คุ เยงฺ ปงฺคาปฺ เนาวฺ อํ พะนรุ พิ – ๖. ปาลฺ ภุมยฺ คุ กํลงฺ โคลฺ สงิ ฺ นุ ต โลฺ ๔. เนา ตามคําแนะนําของกาํ เสตงวา ท่ีดนิ ๗. ต มุล ชฺรเลงฺ เกฺราวฺ โคลฺ สงิ ฺ ต โลฺ ๘. ต มลุ วฺนรุ ฺ วิ เนา // มทยฺ นกษตฺร ทช่ี ระ – ๙. อาทติ ยฺ วาร นุ โขลฺ วฺ ล ชรฺ เลงฺ ชวฺ นฺ ขฺ ุ ํ ๕. เลงซึ่งอยูภายในหลักเขตน้ัน เราไดมอบ ๑๐. ๔ ต วรฺ ะ ถฺมรุ ฺ ปย ฺ ทนฺยีมฺ สรฺ ุ นุ เสรฺ ๑๑. จํามลกฺรานตฺ นุชา ป ทุกฺ นา องฺคุยฺ ใหหัวหนา ๑๒. โขฺลวฺ ล คิ นา อายตฺ โผงฺ / ๖. ที่ดินซ่ึงอยูในหลักเขตใหข้ึนอยูกับโลญ ๗. ผูเปนหัวหนาแหงหมูบานชระเลง สวน นอกหลกั เขตใหข ึ้นอยูกบั โลญ ๘. ผูเปนหัวหนาแหงหมูบานพะนุรพิเนา มัทยนกั ษตั ร ๙. วนั อาทติ ยโ ขลญพลแหง ชระเลง ถวายทาส ๑๐. ๔ คน แดเทวรปู ววั ๖ ตัวขา วเปลอื ก และนา ๑๑. แดส งกรานตและไวป ระจาํ แก ๑๒. โขลญพล เพือ่ ใหด แู ลในส่ิงทัง้ ปวง ๙๙
P »Ò·ÇÅÑÞª§Ñ à¨μÂÔ Ò¹ØÊó ลายเสน จารึกวดั พระธาตเุ ชงิ ชมุ ๑๐๐
»Ò·ÇÅÑÞª§Ñ à¨μÂÔ Ò¹ØÊó P ภาพสําเนาจารึกวัดพระธาตุเชิงชุม (ที่มา : ภาควชิ าภาษาตะวันออก คณะโบราณคดี มหาวิทยาลยั ศลิ ปากร) ๑๐๑
P »Ò·ÇÅÑުѧà¨μÔÂÒ¹ÊØ ó นายพจนวราภรณ เขจรเนตร การศึกษา : มธั ยมศึกษา ๑–๓ โรงเรยี นสวางแดนดนิ จงั หวดั สกลนคร มธั ยมศึกษา ๔–๖ โรงเรียนสวา งแดนดิน จังหวัดสกลนคร ปรญิ ญาตรี สาขาวิชาสังคมศกึ ษา คณะครศุ าสตร มหาวทิ ยาลัย ราชภัฏสกลนคร ปจจบุ นั : นักวิชาการศึกษา สังกัดสถาบันภาษา ศิลปะและวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยราชภฏั สกลนคร ผลงาน : หนังสือพทั ธสีมา (สมิ ) บานดา น หนังสอื พระนอนเชิงดอย หนงั สอื พงศาวดารเมอื งสกลนคร ฉบบั ลายมอื อาํ มาตยโ ท พระยา ประจนั ตประเทศธานี รอยเสด็จเยี่ยมราษฎร “จังหวัดสกลนคร” พุทธศักราช ๒๔๙๘ สถานท่ตี ิดตอ : พพิ ิธภัณฑเ มืองสกลนคร มหาวทิ ยาลัยราชภฏั สกลนคร โทรศพั ท ๐ ๔๒๗๔ ๔๐๐๙ มอื ถอื ๐๖ ๓๗๒๐ ๕๑๑๑ E–mail : [email protected] Facebook : Waraporn Pojjahnawaraporn ๑๐๒
สถาบนั ภาษา ศลิ ปะและวัฒนธรรม มหาวทิ ยาลัยราชภัฏสกลนคร ISBN 978-974-445-658-8 เลขที่ ๖๘๐ หมทู ่ี ๑๑ ถนนนิตโย ตําบลธาตเุ ชงิ ชมุ อาํ เภอเมอื งสกลนคร จังหวดั สกลนคร โทรศัพท ๐ ๔๒๗๔ ๔๐๐๙ 9 789744 456588
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118