Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore วิจัยการศึกษาการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ด้านทักษะการสังเกตและการจำแนกทางวิทยาศาสตร์ โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E)

วิจัยการศึกษาการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ด้านทักษะการสังเกตและการจำแนกทางวิทยาศาสตร์ โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E)

Published by Natthaphong Seelaeng, 2022-03-13 04:22:49

Description: วิจัยการศึกษาการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ด้านทักษะการสังเกตและการจำแนกทางวิทยาศาสตร์ โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E)

Search

Read the Text Version

91 กฎการปฏิบัติกจิ กรรม (ในแผนการเรยี นรู้ที่ 1) 1. ทกุ กลมุ่ มีคะแนนต้ังตน้ 50 คะแนน โดยทุกคะแนนจะถูกบนั ทกึ ลงในแบบบันทกึ คะแนนกลุ่ม 2. คะแนนท่ีได้รบั หรือถูกหักจะถกู คดิ เฉลีย่ ใหเ้ ทา่ กนั ภายในกลุ่ม 3. คะแนนเพิ่มพิเศษจะขน้ึ อยู่กับกจิ กรรมแตล่ ะคาบเรียน 4. ระหวา่ งเรยี นสามารถใชค้ ะแนนเพื่อแลกตัวชว่ ย 5. โดยรายละเอียดการให้คะแนนปกติ มีดังต่อไปน้ี 5.1 กลุม่ ทงี่ านเสรจ็ ส้นิ สมบูรณ์เป็นกลมุ่ แรก ไดร้ บั 5 คะแนน และกลุ่มทเ่ี สร็จกลมุ่ ถัดไปจะได้ คะแนนลดลงมาตามลำดับ 5.2 กลมุ่ ทม่ี ีรูปแบบการนำเสนองาน หรือผลงานออกมาดมี ากท่ีสุดจะไดร้ ับอีก 5 คะแนน และ กลมุ่ ทผี่ ลงานออกมาดี กลุ่มถัดไปจะไดค้ ะแนนลดลงมาตามลำดับ 5.3 บคุ คลหรอื กลุ่มใดรบกวนการทำงานของกลุม่ อน่ื จะถกู หักลบครั้งละ 2 คะแนน 5.4 คะแนนจิตพสิ ยั จะข้นึ อยู่กับการทำกิจกรรมในชัว่ โมงเรยี น 6. คะแนนจะถกู ยกยอดไปสู่ช่ัวโมงถัดไปจนถึงช่วั โมงสดุ ท้าย กฎการปฏบิ ตั กิ ิจกรรม (ในแผนการเรียนรทู้ ่ี 2-8) 1. ทกุ กล่มุ มีคะแนนต้งั ต้นจากแผนการจดั การเรยี นรู้ท่ีผ่านมา โดยทุกคะแนนจะถกู บันทกึ ลงในแบบ บันทึกคะแนนกลมุ่ 2. คะแนนที่ไดร้ บั หรือถูกหักจะถูกคดิ เฉลยี่ ใหเ้ ทา่ กันภายในกลุม่ 3. คะแนนเพม่ิ พิเศษจะข้ึนอยู่กบั กิจกรรมแตล่ ะคาบเรียน 4. ระหวา่ งเรียนสามารถใช้คะแนนเพ่ือแลกตวั ช่วย 5. โดยรายละเอยี ดการใหค้ ะแนนปกติ มีดังต่อไปน้ี 5.1 กลุม่ ที่งานเสร็จสิน้ สมบูรณ์เป็นกลมุ่ แรก ได้รับ 5 คะแนน และกลุ่มท่ีเสรจ็ กลุม่ ถัดไปจะได้ คะแนนลดลงมาตามลำดบั 5.2 กล่มุ ทมี่ ีรูปแบบการนำเสนองาน หรอื ผลงานออกมาดมี ากท่ีสดุ จะได้รบั อีก 5 คะแนน และ กลุ่มทผี่ ลงานออกมาดี กลุ่มถัดไปจะไดค้ ะแนนลดลงมาตามลำดบั 5.3 บุคคลหรอื กล่มุ ใดรบกวนการทำงานของกลมุ่ อื่น จะถูกหักลบครั้งละ 2 คะแนน 5.4 คะแนนจิตพสิ ยั จะขึ้นอย่กู ับการทำกิจกรรมในชั่วโมงเรยี น 6. คะแนนจะถกู ยกยอดไปสูช่ ่ัวโมงถัดไปจนถึงชวั่ โมงสดุ ทา้ ย

92 ลกั ษณะการด์ เกม การด์ เกมตัวช่วย จำนวนทส่ี ามารถให้แลก รายละเอยี ด ได/้ คาบเรียน (ใบ) การ์ด : EAT 2 and Drink ประโยชน์ : สามารถนำน้ำ และขนมเข้ามา กินตอนเรียนได้ 2 ครั้ง คะแนนที่ตอ้ งใช้ : 30 คะแนน 1 การด์ : God of 4 Death ประโยชน์ : ชบุ ชีวติ จากงานท่ี ค้างสง่ ได้ 1 งาน คะแนนทต่ี ้องใช้ : 15 คะแนน 2

93 ลกั ษณะการ์ดเกม รายละเอยี ด จำนวนที่สามารถให้แลก ได/้ คาบเรยี น (ใบ) 3 การด์ : Together 4 ประโยชน์ : ขอ รวมพลงั ทำงาน เปน็ คู่ หรอื กลุม่ กับเพื่อนได้ 1 คร้ัง คะแนนทตี่ ้องใช้ : 10 คะแนน การด์ : Sleep 2 less Learn more ประโยชน์ : ขอ ครหู ลบั /พักได้ 10 นาที คะแนนทีต่ ้องใช้ : 30 คะแนน 4

ลกั ษณะการ์ดเกม 94 รายละเอียด จำนวนทส่ี ามารถใหแ้ ลก ได้/คาบเรียน (ใบ) การด์ : Magical 2 Ring ประโยชน์ : ใช้ เพม่ิ คะแนน 2 คะแนน 6 ครั้ง คะแนนทต่ี อ้ งใช้ : 10 คะแนน 5 การ์ด : Music 2 freeze ประโยชน์ : ขอ ครูฟงั เพลงใน หอ้ งเรยี นได้ 1 เพลง คะแนนทตี่ อ้ งใช้ : 25 คะแนน 6

95 ลกั ษณะการ์ดเกม รายละเอยี ด จำนวนท่สี ามารถให้แลก ได้/คาบเรยี น (ใบ) การด์ : Ten of Cup 2 ประโยชน์ : ใช้ เพ่ิมคะแนน 5 คะแนน 3 ครัง้ คะแนนท่ตี ้องใช้ : 10 คะแนน 7 การ์ด : Protect 4 me ประโยชน์ : ป้องกันการตัด คะแนนได้ 1 ครง้ั คะแนนที่ต้องใช้ : 5 คะแนน 8

96 ลักษณะการด์ เกม รายละเอยี ด จำนวนทส่ี ามารถใหแ้ ลก ได้/คาบเรยี น (ใบ) 9 การด์ : Powerful 2 ประโยชน์ : ทำงานยงั อยา่ งไร ก็ได้ 5 คะแนน ใชไ้ ด้ 4 ครง้ั คะแนนท่ีต้องใช้ : 15 คะแนน อ้างอิง : https://www.sanook.com/campus/1394017/ (สืบค้นวนั ท่ี 22 ม.ค. 2563)

97 ภาคผนวก ข แบบประเมนิ สำหรบั ผเู้ ช่ียวชาญ

98 แบบประเมินแผนการจัดการเรียนรู้ วิชา วิทยาศาสตร์พนื้ ฐาน ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีที่ 3 หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 6 ไฟฟา้ แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 1 เรอื่ ง ปริมาณทางไฟฟ้า เวลาที่ใช้ 2 ช่ัวโมง คำชีแ้ จง ใหท้ ำเครือ่ งหมาย  ใหต้ รงกับความคิดเหน็ ของผเู้ ชีย่ วชาญ ระดบั 5 หมายถงึ ผู้เช่ยี วชาญพงึ พอใจมากที่สุด ระดบั 4 หมายถึง ผู้เชย่ี วชาญพงึ พอใจมาก ระดับ 3 หมายถงึ ผเู้ ชยี่ วชาญพงึ พอใจปานกลาง ระดบั 2 หมายถงึ ผู้เชีย่ วชาญพงึ พอใจนอ้ ย ระดับ 1 หมายถงึ ผเู้ ชี่ยวชาญพึงพอใจน้อยทสี่ ุด ที่ รายการประเมนิ ระดบั คะแนน 1 5432 1 หนว่ ยการเรยี นรูม้ ีความสมบูรณ์ เหมาะสมและมรี ายละเอียด ทสี่ อดคล้องสมั พันธ์กัน 2 แผนการจัดการเรยี นรู้สอดคล้องสัมพนั ธ์กับหนว่ ยการเรยี นรู้ ทีก่ ำหนดไว้ 3 แผนการจัดการเรยี นรู้มีองคป์ ระกอบสำคญั ครบถว้ น และสัมพันธ์กัน 4 การเขียนสาระสำคัญในแผนถูกตอ้ ง 5 จุดประสงค์การเรยี นรู้มคี วามชัดเจนครอบคลุมเนื้อหาสาระ 6 จดุ ประสงค์การเรียนรู้พฒั นานกั เรยี นดา้ นความรู้ ทักษะ กระบวนการและเจตคติ 7 กำหนดเนอ้ื หาสาระเหมาะสมกับคาบเวลา 8 กิจกรรมการเรียนรสู้ อดคล้องกบั จุดประสงค์ เนือ้ หาสาระ และระดบั ชั้นของนักเรยี น 9 กจิ กรรมการเรียนรูม้ ีความหลากหลายและสามารถปฏิบัติได้ 10 กิจกรรมการเรียนรู้เปน็ กจิ กรรมท่ีส่งเสรมิ กระบวนการคิดของ นกั เรยี น 11 กจิ กรรมเน้นใหน้ ักเรยี นเรยี นรู้จากการปฏิบตั ิจริง 12 กิจกรรมการเรียนรสู้ อดคลอ้ งแทรกคุณธรรมและค่านยิ มทดี่ ี 13 วัสดุอุปกรณ์ สอ่ื และแหล่งเรียนรมู้ คี วามหลากหลาย 14 วัสดุอปุ กรณ์ สือ่ และแหล่งเรยี นรเู้ หมาะสมกบั เนือ้ หาสาระ 15 นักเรยี นได้ใช้สอื่ และแหล่งเรยี นรดู้ ้วยตนเอง 16 นกั เรียนทำช้ินงานที่ได้ใชค้ วามรู้ ความคิดมากกว่าการทำ ตามที่ครูกำหนด 17 มกี ารวดั และประเมินผลทส่ี อดคลอ้ งกบั จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้

99 ขอ้ เสนอแนะ ด้านเน้ือหาสาระ ............................................................................................................................. .......……………… ด้านกจิ กรรมการเรียนการสอน ..............................................................................................................…………………..…………… ดา้ นการวัดและประเมินผล …………………………………………………………………………………………………………………………………… ด้านอ่ืน ๆ (โปรดระบุ) ……………………………………………………………………………………………………...........……………………. ลงช่ือ....................................................ผูเ้ ชี่ยวชาญ (...........................................................) ตำแหนง่ .................................................................. โรงเรยี น .................................................................. วนั ที่ ......... เดอื น ………………. พ.ศ. ................ สงิ่ ที่ไดด้ ำเนินการแกไ้ ข ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… (ลงชอ่ื ).................................................ผู้สอน (........................................................) …………./……………………./……..…….

100 แบบประเมนิ แผนการจัดการเรียนรู้ วชิ า วิทยาศาสตร์พน้ื ฐาน ช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 3 หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 6 ไฟฟ้า แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 2 เรื่อง ปริมาณทางไฟฟา้ กฎของโอห์ม เวลาท่ีใช้ 2 ชั่วโมง คำชี้แจง ให้ทำเครอื่ งหมาย  ให้ตรงกับความคดิ เหน็ ของผเู้ ช่ียวชาญ ระดบั 5 หมายถึง ผู้เชยี่ วชาญพึงพอใจมากทส่ี ุด ระดับ 4 หมายถงึ ผู้เชี่ยวชาญพึงพอใจมาก ระดับ 3 หมายถงึ ผู้เชี่ยวชาญพึงพอใจปานกลาง ระดบั 2 หมายถึง ผู้เชีย่ วชาญพงึ พอใจน้อย ระดบั 1 หมายถงึ ผเู้ ชยี่ วชาญพงึ พอใจน้อยที่สุด ที่ รายการประเมิน ระดบั คะแนน 1 5432 1 หนว่ ยการเรยี นรู้มคี วามสมบูรณ์ เหมาะสมและมีรายละเอยี ด ทสี่ อดคล้องสมั พันธก์ ัน 2 แผนการจดั การเรียนรสู้ อดคล้องสมั พนั ธก์ บั หน่วยการเรียนรู้ ท่กี ำหนดไว้ 3 แผนการจดั การเรียนรู้มอี งคป์ ระกอบสำคญั ครบถ้วน และสัมพันธ์กนั 4 การเขยี นสาระสำคญั ในแผนถูกตอ้ ง 5 จดุ ประสงค์การเรียนรู้มคี วามชัดเจนครอบคลุมเนื้อหาสาระ 6 จุดประสงค์การเรยี นรพู้ ฒั นานกั เรยี นดา้ นความรู้ ทักษะ กระบวนการและเจตคติ 7 กำหนดเนอื้ หาสาระเหมาะสมกับคาบเวลา 8 กจิ กรรมการเรียนรสู้ อดคล้องกับจุดประสงค์ เน้อื หาสาระ และระดบั ชน้ั ของนักเรียน 9 กิจกรรมการเรียนรู้มีความหลากหลายและสามารถปฏบิ ตั ิได้ 10 กจิ กรรมการเรียนรู้เปน็ กจิ กรรมทสี่ ่งเสรมิ กระบวนการคิดของ นักเรียน 11 กจิ กรรมเน้นให้นักเรียนเรียนรู้จากการปฏบิ ัตจิ ริง 12 กจิ กรรมการเรยี นร้สู อดคลอ้ งแทรกคุณธรรมและค่านิยมท่ดี ี 13 วัสดุอปุ กรณ์ สือ่ และแหลง่ เรยี นรู้มีความหลากหลาย 14 วัสดอุ ุปกรณ์ ส่อื และแหลง่ เรยี นรูเ้ หมาะสมกบั เนอื้ หาสาระ 15 นักเรียนไดใ้ ชส้ ่อื และแหลง่ เรยี นรู้ดว้ ยตนเอง 16 นักเรยี นทำชนิ้ งานที่ไดใ้ ช้ความรู้ ความคดิ มากกว่าการทำ ตามทีค่ รูกำหนด 17 มกี ารวดั และประเมินผลท่ีสอดคล้องกบั จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้

101 ขอ้ เสนอแนะ ด้านเน้อื หาสาระ ............................................................................................................................. .......……………… ด้านกิจกรรมการเรียนการสอน ..............................................................................................................…………………..…………… ด้านการวดั และประเมนิ ผล …………………………………………………………………………………………………………………………………… ดา้ นอื่น ๆ (โปรดระบุ) ……………………………………………………………………………………………………...........……………………. ลงช่ือ....................................................ผเู้ ช่ยี วชาญ (...........................................................) ตำแหนง่ .................................................................. โรงเรยี น .................................................................. วันท่ี ......... เดือน ………………. พ.ศ. ................ สิ่งทไี่ ดด้ ำเนนิ การแกไ้ ข ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… (ลงชอื่ ).................................................ผู้สอน (........................................................) …………./……………………./……..…….

102 แบบประเมนิ แผนการจดั การเรยี นรู้ วิชา วิทยาศาสตร์พนื้ ฐาน ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 3 หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ 6 ไฟฟ้า แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 3 เรื่อง การต่อตวั ตา้ นทานและวงจรไฟฟ้าแบบอนุกรม เวลาท่ใี ช้ 2 ชั่วโมง คำชแี้ จง ใหท้ ำเครือ่ งหมาย  ให้ตรงกับความคดิ เห็นของผ้เู ช่ียวชาญ ระดบั 5 หมายถงึ ผูเ้ ชย่ี วชาญพึงพอใจมากที่สุด ระดับ 4 หมายถงึ ผเู้ ช่ียวชาญพึงพอใจมาก ระดบั 3 หมายถึง ผ้เู ชี่ยวชาญพงึ พอใจปานกลาง ระดบั 2 หมายถึง ผู้เชี่ยวชาญพึงพอใจน้อย ระดับ 1 หมายถงึ ผเู้ ชย่ี วชาญพงึ พอใจน้อยท่สี ุด ท่ี รายการประเมนิ ระดบั คะแนน 5432 1 1 หน่วยการเรยี นรูม้ คี วามสมบูรณ์ เหมาะสมและมรี ายละเอียด ทีส่ อดคล้องสัมพนั ธก์ นั 2 แผนการจดั การเรียนรสู้ อดคล้องสมั พนั ธก์ ับหน่วยการเรียนรู้ ที่กำหนดไว้ 3 แผนการจัดการเรยี นรู้มีองคป์ ระกอบสำคัญครบถ้วน และสมั พนั ธ์กนั 4 การเขียนสาระสำคญั ในแผนถูกต้อง 5 จดุ ประสงค์การเรียนรู้มคี วามชัดเจนครอบคลุมเนื้อหาสาระ 6 จดุ ประสงค์การเรยี นรูพ้ ัฒนานักเรียนดา้ นความรู้ ทักษะ กระบวนการและเจตคติ 7 กำหนดเนอ้ื หาสาระเหมาะสมกับคาบเวลา 8 กจิ กรรมการเรยี นรสู้ อดคลอ้ งกับจุดประสงค์ เนอ้ื หาสาระ และระดบั ชัน้ ของนักเรียน 9 กิจกรรมการเรียนร้มู คี วามหลากหลายและสามารถปฏิบัติได้ 10 กจิ กรรมการเรยี นร้เู ปน็ กจิ กรรมทสี่ ่งเสริมกระบวนการคิดของ นักเรยี น 11 กิจกรรมเน้นใหน้ ักเรยี นเรียนรู้จากการปฏิบตั ิจริง 12 กิจกรรมการเรียนรู้สอดคล้องแทรกคุณธรรมและคา่ นยิ มท่ีดี 13 วสั ดุอุปกรณ์ ส่อื และแหลง่ เรยี นรู้มคี วามหลากหลาย 14 วสั ดอุ ุปกรณ์ ส่อื และแหลง่ เรยี นรูเ้ หมาะสมกับเน้ือหาสาระ 15 นกั เรยี นได้ใช้สื่อและแหลง่ เรียนรูด้ ว้ ยตนเอง 16 นกั เรยี นทำชิ้นงานท่ีไดใ้ ชค้ วามรู้ ความคดิ มากกวา่ การทำ ตามทค่ี รูกำหนด 17 มกี ารวัดและประเมนิ ผลทีส่ อดคล้องกบั จดุ ประสงค์การเรยี นรู้

103 ขอ้ เสนอแนะ ด้านเน้อื หาสาระ ............................................................................................................................. .......……………… ด้านกิจกรรมการเรียนการสอน ..............................................................................................................…………………..…………… ด้านการวดั และประเมนิ ผล …………………………………………………………………………………………………………………………………… ดา้ นอื่น ๆ (โปรดระบุ) ……………………………………………………………………………………………………...........……………………. ลงช่ือ....................................................ผเู้ ช่ยี วชาญ (...........................................................) ตำแหนง่ .................................................................. โรงเรยี น .................................................................. วันท่ี ......... เดือน ………………. พ.ศ. ................ สิ่งทไี่ ดด้ ำเนนิ การแกไ้ ข ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… (ลงชอื่ ).................................................ผู้สอน (........................................................) …………./……………………./……..…….

104 แบบประเมนิ แผนการจัดการเรยี นรู้ วชิ า วิทยาศาสตร์พ้นื ฐาน ชั้นมธั ยมศึกษาปีที่ 3 หน่วยการเรียนรูท้ ่ี 6 ไฟฟา้ แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 4 เรื่อง วงจรไฟฟา้ แบบขนาน เวลาทใี่ ช้ 2 ชวั่ โมง คำชแี้ จง ให้ทำเครอ่ื งหมาย  ให้ตรงกับความคดิ เหน็ ของผู้เชีย่ วชาญ ระดับ 5 หมายถงึ ผเู้ ชี่ยวชาญพึงพอใจมากทส่ี ุด ระดับ 4 หมายถงึ ผเู้ ช่ยี วชาญพึงพอใจมาก ระดบั 3 หมายถึง ผูเ้ ชีย่ วชาญพงึ พอใจปานกลาง ระดบั 2 หมายถงึ ผู้เช่ียวชาญพงึ พอใจนอ้ ย ระดับ 1 หมายถงึ ผู้เช่ียวชาญพงึ พอใจน้อยท่ีสุด ท่ี รายการประเมิน ระดับคะแนน 1 5432 1 หนว่ ยการเรยี นรมู้ คี วามสมบรู ณ์ เหมาะสมและมรี ายละเอยี ด ที่สอดคล้องสมั พนั ธก์ นั 2 แผนการจดั การเรยี นรสู้ อดคล้องสัมพันธ์กับหนว่ ยการเรียนรู้ ท่ีกำหนดไว้ 3 แผนการจัดการเรยี นรู้มอี งค์ประกอบสำคัญครบถ้วน และสัมพนั ธ์กนั 4 การเขยี นสาระสำคัญในแผนถูกต้อง 5 จุดประสงค์การเรียนรู้มีความชัดเจนครอบคลุมเนื้อหาสาระ 6 จดุ ประสงค์การเรยี นรพู้ ฒั นานักเรยี นดา้ นความรู้ ทักษะ กระบวนการและเจตคติ 7 กำหนดเนื้อหาสาระเหมาะสมกับคาบเวลา 8 กิจกรรมการเรียนรสู้ อดคลอ้ งกับจุดประสงค์ เนอื้ หาสาระ และระดบั ชน้ั ของนักเรียน 9 กจิ กรรมการเรยี นรูม้ ีความหลากหลายและสามารถปฏบิ ตั ิได้ 10 กิจกรรมการเรียนรูเ้ ปน็ กจิ กรรมท่สี ง่ เสริมกระบวนการคิดของ นักเรียน 11 กจิ กรรมเน้นให้นักเรียนเรียนรู้จากการปฏบิ ัติจรงิ 12 กจิ กรรมการเรยี นรู้สอดคลอ้ งแทรกคุณธรรมและคา่ นิยมท่ีดี 13 วสั ดอุ ปุ กรณ์ สื่อและแหล่งเรยี นร้มู คี วามหลากหลาย 14 วสั ดอุ ปุ กรณ์ ส่ือและแหลง่ เรียนรู้เหมาะสมกบั เนือ้ หาสาระ 15 นักเรียนไดใ้ ช้สือ่ และแหล่งเรียนรูด้ ว้ ยตนเอง 16 นกั เรยี นทำช้นิ งานที่ไดใ้ ช้ความรู้ ความคิดมากกว่าการทำ ตามทคี่ รูกำหนด 17 มกี ารวัดและประเมินผลทส่ี อดคลอ้ งกับจดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้

105 ขอ้ เสนอแนะ ด้านเน้อื หาสาระ ............................................................................................................................. .......……………… ด้านกิจกรรมการเรียนการสอน ..............................................................................................................…………………..…………… ด้านการวดั และประเมนิ ผล …………………………………………………………………………………………………………………………………… ดา้ นอื่น ๆ (โปรดระบุ) ……………………………………………………………………………………………………...........……………………. ลงช่ือ....................................................ผเู้ ช่ยี วชาญ (...........................................................) ตำแหนง่ .................................................................. โรงเรยี น .................................................................. วันท่ี ......... เดือน ………………. พ.ศ. ................ สิ่งทไี่ ดด้ ำเนนิ การแกไ้ ข ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… (ลงชอื่ ).................................................ผู้สอน (........................................................) …………./……………………./……..…….

106 แบบประเมินแผนการจดั การเรียนรู้ วชิ า วิทยาศาสตร์พืน้ ฐาน ช้ันมัธยมศึกษาปที ี่ 3 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 6 ไฟฟ้า แผนการจัดการเรยี นร้ทู ่ี 5 เรอ่ื ง พลงั งานไฟฟา้ เวลาทใ่ี ช้ 2 ชวั่ โมง คำชี้แจง ให้ทำเครือ่ งหมาย  ใหต้ รงกบั ความคิดเห็นของผเู้ ชย่ี วชาญ ระดับ 5 หมายถงึ ผเู้ ชย่ี วชาญพึงพอใจมากที่สุด ระดบั 4 หมายถงึ ผเู้ ชย่ี วชาญพงึ พอใจมาก ระดบั 3 หมายถึง ผูเ้ ชี่ยวชาญพงึ พอใจปานกลาง ระดับ 2 หมายถงึ ผเู้ ชย่ี วชาญพึงพอใจน้อย ระดับ 1 หมายถงึ ผูเ้ ชี่ยวชาญพงึ พอใจนอ้ ยทีส่ ดุ ที่ รายการประเมนิ ระดบั คะแนน 1 5432 1 หนว่ ยการเรยี นรู้มคี วามสมบรู ณ์ เหมาะสมและมีรายละเอยี ด ทีส่ อดคล้องสมั พันธก์ ัน 2 แผนการจัดการเรยี นรสู้ อดคล้องสมั พนั ธ์กบั หน่วยการเรยี นรู้ ทก่ี ำหนดไว้ 3 แผนการจัดการเรยี นรู้มีองค์ประกอบสำคัญครบถ้วน และสมั พนั ธ์กัน 4 การเขยี นสาระสำคญั ในแผนถูกตอ้ ง 5 จดุ ประสงค์การเรยี นรู้มคี วามชัดเจนครอบคลุมเนื้อหาสาระ 6 จุดประสงค์การเรยี นรู้พัฒนานักเรียนด้านความรู้ ทักษะ กระบวนการและเจตคติ 7 กำหนดเนือ้ หาสาระเหมาะสมกบั คาบเวลา 8 กจิ กรรมการเรยี นรสู้ อดคลอ้ งกับจุดประสงค์ เน้ือหาสาระ และระดับชนั้ ของนักเรยี น 9 กิจกรรมการเรียนรมู้ คี วามหลากหลายและสามารถปฏบิ ัตไิ ด้ 10 กิจกรรมการเรียนรเู้ ปน็ กิจกรรมท่สี ง่ เสริมกระบวนการคิดของ นักเรียน 11 กจิ กรรมเนน้ ให้นักเรียนเรียนรู้จากการปฏิบัตจิ ริง 12 กจิ กรรมการเรยี นรสู้ อดคลอ้ งแทรกคุณธรรมและค่านิยมท่ีดี 13 วสั ดอุ ุปกรณ์ สอ่ื และแหล่งเรยี นรู้มีความหลากหลาย 14 วสั ดุอปุ กรณ์ สอื่ และแหล่งเรยี นรู้เหมาะสมกบั เน้ือหาสาระ 15 นกั เรยี นไดใ้ ช้สอื่ และแหล่งเรียนร้ดู ้วยตนเอง 16 นักเรยี นทำช้ินงานที่ได้ใชค้ วามรู้ ความคดิ มากกวา่ การทำ ตามทีค่ รูกำหนด 17 มกี ารวดั และประเมินผลทส่ี อดคลอ้ งกับจุดประสงค์การเรียนรู้

107 ขอ้ เสนอแนะ ด้านเน้อื หาสาระ ............................................................................................................................. .......……………… ด้านกิจกรรมการเรียนการสอน ..............................................................................................................…………………..…………… ด้านการวดั และประเมนิ ผล …………………………………………………………………………………………………………………………………… ดา้ นอื่น ๆ (โปรดระบุ) ……………………………………………………………………………………………………...........……………………. ลงช่ือ....................................................ผเู้ ช่ยี วชาญ (...........................................................) ตำแหนง่ .................................................................. โรงเรยี น .................................................................. วันท่ี ......... เดือน ………………. พ.ศ. ................ สิ่งทไี่ ดด้ ำเนนิ การแกไ้ ข ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… (ลงชอื่ ).................................................ผู้สอน (........................................................) …………./……………………./……..…….

108 แบบประเมินแผนการจัดการเรยี นรู้ วชิ า วิทยาศาสตร์พ้นื ฐาน ชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี 3 หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 6 ไฟฟ้า แผนการจัดการเรียนร้ทู ี่ 6 เร่อื ง กำลังไฟฟา้ เวลาที่ใช้ 2 ช่วั โมง คำชแี้ จง ใหท้ ำเคร่อื งหมาย  ใหต้ รงกบั ความคิดเห็นของผเู้ ชี่ยวชาญ ระดับ 5 หมายถงึ ผเู้ ช่ยี วชาญพงึ พอใจมากทส่ี ดุ ระดบั 4 หมายถึง ผูเ้ ชย่ี วชาญพึงพอใจมาก ระดับ 3 หมายถึง ผู้เชีย่ วชาญพึงพอใจปานกลาง ระดับ 2 หมายถึง ผเู้ ช่ียวชาญพงึ พอใจน้อย ระดับ 1 หมายถงึ ผเู้ ช่ยี วชาญพงึ พอใจนอ้ ยที่สุด ที่ รายการประเมิน ระดบั คะแนน 1 5432 1 หนว่ ยการเรียนรู้มีความสมบูรณ์ เหมาะสมและมีรายละเอียด ท่ีสอดคล้องสัมพันธก์ นั 2 แผนการจัดการเรียนรสู้ อดคล้องสมั พันธก์ บั หน่วยการเรยี นรู้ ท่กี ำหนดไว้ 3 แผนการจัดการเรียนรู้มีองคป์ ระกอบสำคญั ครบถ้วน และสมั พนั ธ์กนั 4 การเขยี นสาระสำคญั ในแผนถูกตอ้ ง 5 จุดประสงค์การเรียนรมู้ คี วามชัดเจนครอบคลมุ เน้ือหาสาระ 6 จุดประสงค์การเรยี นร้พู ัฒนานกั เรียนดา้ นความรู้ ทักษะ กระบวนการและเจตคติ 7 กำหนดเนอื้ หาสาระเหมาะสมกบั คาบเวลา 8 กิจกรรมการเรยี นรสู้ อดคล้องกบั จุดประสงค์ เนอื้ หาสาระ และระดับชน้ั ของนักเรยี น 9 กจิ กรรมการเรียนรู้มคี วามหลากหลายและสามารถปฏบิ ตั ไิ ด้ 10 กจิ กรรมการเรยี นร้เู ปน็ กิจกรรมท่ีส่งเสรมิ กระบวนการคิดของ นกั เรยี น 11 กจิ กรรมเนน้ ให้นักเรยี นเรยี นรู้จากการปฏบิ ัตจิ รงิ 12 กจิ กรรมการเรยี นรสู้ อดคลอ้ งแทรกคุณธรรมและค่านยิ มท่ีดี 13 วสั ดุอปุ กรณ์ สอ่ื และแหล่งเรียนรู้มคี วามหลากหลาย 14 วสั ดอุ ปุ กรณ์ สือ่ และแหลง่ เรียนรู้เหมาะสมกบั เนือ้ หาสาระ 15 นักเรยี นได้ใช้ส่ือและแหล่งเรียนรดู้ ้วยตนเอง 16 นกั เรยี นทำช้นิ งานท่ีได้ใช้ความรู้ ความคดิ มากกว่าการทำ ตามที่ครูกำหนด 17 มีการวดั และประเมินผลทส่ี อดคลอ้ งกับจุดประสงคก์ ารเรียนรู้

109 ขอ้ เสนอแนะ ด้านเน้อื หาสาระ ............................................................................................................................. .......……………… ด้านกิจกรรมการเรียนการสอน ..............................................................................................................…………………..…………… ด้านการวดั และประเมนิ ผล …………………………………………………………………………………………………………………………………… ดา้ นอื่น ๆ (โปรดระบุ) ……………………………………………………………………………………………………...........……………………. ลงช่ือ....................................................ผเู้ ช่ยี วชาญ (...........................................................) ตำแหนง่ .................................................................. โรงเรยี น .................................................................. วันท่ี ......... เดือน ………………. พ.ศ. ................ สิ่งทไี่ ดด้ ำเนนิ การแกไ้ ข ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… (ลงชอื่ ).................................................ผู้สอน (........................................................) …………./……………………./……..…….

110 แบบประเมินแผนการจัดการเรียนรู้ วชิ า วิทยาศาสตร์พ้ืนฐาน ช้นั มัธยมศกึ ษาปีที่ 3 หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี 6 ไฟฟา้ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 7 เร่ือง การคำนวณคา่ ไฟ เวลาท่ีใช้ 2 ช่ัวโมง คำชแี้ จง ใหท้ ำเครอื่ งหมาย  ใหต้ รงกับความคิดเหน็ ของผเู้ ชีย่ วชาญ ระดับ 5 หมายถึง ผเู้ ชี่ยวชาญพึงพอใจมากที่สุด ระดับ 4 หมายถึง ผูเ้ ช่ยี วชาญพึงพอใจมาก ระดับ 3 หมายถึง ผ้เู ชย่ี วชาญพงึ พอใจปานกลาง ระดับ 2 หมายถงึ ผู้เชี่ยวชาญพึงพอใจนอ้ ย ระดับ 1 หมายถงึ ผู้เชยี่ วชาญพงึ พอใจน้อยทสี่ ุด ท่ี รายการประเมิน ระดบั คะแนน 1 5432 1 หน่วยการเรียนรมู้ ีความสมบรู ณ์ เหมาะสมและมีรายละเอยี ด ท่ีสอดคล้องสมั พันธก์ นั 2 แผนการจัดการเรียนรู้สอดคล้องสัมพนั ธก์ ับหนว่ ยการเรียนรู้ ทีก่ ำหนดไว้ 3 แผนการจดั การเรยี นรู้มอี งค์ประกอบสำคญั ครบถว้ น และสมั พนั ธ์กนั 4 การเขียนสาระสำคญั ในแผนถูกตอ้ ง 5 จุดประสงค์การเรียนร้มู ีความชัดเจนครอบคลมุ เน้ือหาสาระ 6 จุดประสงค์การเรยี นรูพ้ ัฒนานกั เรียนดา้ นความรู้ ทักษะ กระบวนการและเจตคติ 7 กำหนดเนื้อหาสาระเหมาะสมกบั คาบเวลา 8 กิจกรรมการเรียนรูส้ อดคลอ้ งกบั จดุ ประสงค์ เน้ือหาสาระ และระดบั ชั้นของนักเรยี น 9 กิจกรรมการเรยี นรู้มีความหลากหลายและสามารถปฏิบตั ิได้ 10 กิจกรรมการเรยี นรเู้ ป็นกิจกรรมทสี่ ง่ เสริมกระบวนการคิดของ นักเรยี น 11 กิจกรรมเน้นใหน้ ักเรียนเรยี นรู้จากการปฏบิ ัติจริง 12 กิจกรรมการเรียนรู้สอดคลอ้ งแทรกคุณธรรมและค่านิยมทด่ี ี 13 วัสดอุ ปุ กรณ์ สือ่ และแหลง่ เรยี นรูม้ คี วามหลากหลาย 14 วสั ดอุ ปุ กรณ์ สือ่ และแหลง่ เรยี นรู้เหมาะสมกบั เนื้อหาสาระ 15 นกั เรยี นได้ใช้สื่อและแหล่งเรยี นรดู้ ว้ ยตนเอง 16 นกั เรียนทำช้ินงานที่ได้ใช้ความรู้ ความคดิ มากกวา่ การทำ ตามที่ครูกำหนด 17 มีการวดั และประเมินผลท่สี อดคลอ้ งกับจุดประสงค์การเรียนรู้

111 ขอ้ เสนอแนะ ด้านเน้อื หาสาระ ............................................................................................................................. .......……………… ด้านกิจกรรมการเรียนการสอน ..............................................................................................................…………………..…………… ด้านการวดั และประเมนิ ผล …………………………………………………………………………………………………………………………………… ดา้ นอื่น ๆ (โปรดระบุ) ……………………………………………………………………………………………………...........……………………. ลงช่ือ....................................................ผเู้ ช่ยี วชาญ (...........................................................) ตำแหนง่ .................................................................. โรงเรยี น .................................................................. วันท่ี ......... เดือน ………………. พ.ศ. ................ สิ่งทไี่ ดด้ ำเนนิ การแกไ้ ข ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… (ลงชอื่ ).................................................ผู้สอน (........................................................) …………./……………………./……..…….

112 แบบประเมนิ แผนการจดั การเรียนรู้ วชิ า วิทยาศาสตร์พืน้ ฐาน ช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 3 หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 6 ไฟฟา้ แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 8 เร่ือง อิเลก็ ทรอนกิ ส์ เวลาทใ่ี ช้ 2 ชวั่ โมง คำช้ีแจง ให้ทำเครอื่ งหมาย  ใหต้ รงกับความคดิ เห็นของผเู้ ชย่ี วชาญ ระดบั 5 หมายถึง ผู้เชยี่ วชาญพงึ พอใจมากทีส่ ุด ระดบั 4 หมายถงึ ผเู้ ชี่ยวชาญพงึ พอใจมาก ระดับ 3 หมายถงึ ผ้เู ชี่ยวชาญพงึ พอใจปานกลาง ระดับ 2 หมายถงึ ผูเ้ ช่ยี วชาญพงึ พอใจนอ้ ย ระดับ 1 หมายถงึ ผู้เชี่ยวชาญพึงพอใจนอ้ ยทีส่ ดุ ท่ี รายการประเมิน ระดบั คะแนน 1 5432 1 หนว่ ยการเรียนรมู้ คี วามสมบรู ณ์ เหมาะสมและมรี ายละเอยี ด ท่สี อดคล้องสมั พันธ์กัน 2 แผนการจัดการเรียนรู้สอดคล้องสมั พันธ์กับหนว่ ยการเรยี นรู้ ทีก่ ำหนดไว้ 3 แผนการจดั การเรยี นรู้มีองค์ประกอบสำคญั ครบถ้วน และสัมพนั ธ์กัน 4 การเขียนสาระสำคัญในแผนถูกต้อง 5 จดุ ประสงค์การเรียนรู้มคี วามชดั เจนครอบคลมุ เนื้อหาสาระ 6 จุดประสงค์การเรียนรู้พฒั นานกั เรยี นดา้ นความรู้ ทักษะ กระบวนการและเจตคติ 7 กำหนดเน้ือหาสาระเหมาะสมกับคาบเวลา 8 กจิ กรรมการเรียนร้สู อดคลอ้ งกับจดุ ประสงค์ เน้ือหาสาระ และระดบั ช้ันของนักเรยี น 9 กิจกรรมการเรยี นรมู้ ีความหลากหลายและสามารถปฏบิ ัตไิ ด้ 10 กิจกรรมการเรยี นรู้เป็นกจิ กรรมท่ีสง่ เสริมกระบวนการคิดของ นกั เรยี น 11 กิจกรรมเนน้ ให้นักเรียนเรียนรู้จากการปฏบิ ัติจรงิ 12 กิจกรรมการเรยี นร้สู อดคลอ้ งแทรกคุณธรรมและคา่ นยิ มทีด่ ี 13 วสั ดุอุปกรณ์ ส่ือและแหล่งเรยี นรู้มคี วามหลากหลาย 14 วสั ดุอุปกรณ์ สื่อและแหลง่ เรียนรูเ้ หมาะสมกับเนือ้ หาสาระ 15 นกั เรยี นไดใ้ ช้สือ่ และแหล่งเรียนรดู้ ้วยตนเอง 16 นักเรยี นทำช้ินงานท่ีไดใ้ ช้ความรู้ ความคดิ มากกว่าการทำ ตามทีค่ รูกำหนด 17 มีการวดั และประเมินผลทส่ี อดคลอ้ งกบั จุดประสงคก์ ารเรียนรู้

113 ขอ้ เสนอแนะ ด้านเน้อื หาสาระ ............................................................................................................................. .......……………… ด้านกิจกรรมการเรียนการสอน ..............................................................................................................…………………..…………… ด้านการวดั และประเมนิ ผล …………………………………………………………………………………………………………………………………… ดา้ นอื่น ๆ (โปรดระบุ) ……………………………………………………………………………………………………...........……………………. ลงช่ือ....................................................ผเู้ ช่ยี วชาญ (...........................................................) ตำแหนง่ .................................................................. โรงเรยี น .................................................................. วันท่ี ......... เดือน ………………. พ.ศ. ................ สิ่งทไี่ ดด้ ำเนนิ การแกไ้ ข ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… (ลงชอื่ ).................................................ผู้สอน (........................................................) …………./……………………./……..…….

114 ตารางการวเิ คราะห์การออกขอ้ สอบตามระดบั พฤติกรรม เรอื่ ง ไฟฟ้า พฤตกิ รรมท่ีต้องการวัด ตัวชี้วดั ความรู้ ความจำ ความเ ้ขาใจ นำไปใช้ วิเคราะห์ ประเ ิมนค่า สร้างสรรค์ รวม ว 2.3 ม.3/1 วเิ คราะห์ 4-1- - -1 ความสัมพันธร์ ะหวา่ งความ ต่างศกั ย์กระแสไฟฟ้าและ ความต้านทานและคำนวณ ปรมิ าณทีเ่ ก่ียวข้องโดยใช้ สมการ V = IR จาก หลักฐานเชิงประจกั ษ์ ว 2.3 ม.3/2 เขยี นกราฟ -1-3- -4 ความสัมพนั ธร์ ะหว่าง กระแสไฟฟา้ และความตา่ ง ศักยไ์ ฟฟา้ ว 2.3 ม.3/3 ใชโ้ วลตม์ เิ ตอร์ 2 - 1 1 - - 4 แอมมิเตอร์ในการวัดปรมิ าณ ทางไฟฟ้า ว 2.3 ม.3/4 วิเคราะห์ความ 3 - - 2 - - 5 ต่างศกั ย์ไฟฟ้าและ กระแสไฟฟา้ ในวงจรไฟฟา้ เมือ่ ต่อตวั ต้านทานหลายตัว แบบอนกุ รมและแบบขนาน จากหลกั ฐานเชิงประจักษ์ ว 2.3 ม.3/5 เขยี นแผนภาพ 2 - 1 2 - - 5 วงจรไฟฟ้าแสดงการต่อตวั ตา้ นทานแบบอนกุ รมและ ขนาน ว 2.3 ม.3/6 บรรยายการ 5 - - - - - 5 ทำงานของช้นิ สว่ น

115 พฤติกรรมทีต่ ้องการวดั ตวั ชี้วดั ความรู้ ความจำ ความเ ้ขาใจ นำไปใช้ วิเคราะห์ ประเ ิมนค่า สร้างสรรค์ รวม อิเล็กทรอนิกส์อยา่ งง่ายใน วงจรจากขอ้ มูลท่ีรวบรวมได้ ว 2.3 ม.3/7 เขยี นแผนภาพ - 4 - - - - 4 และตอ่ ชิ้นส่วน อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์อย่างงา่ ยใน วงจรไฟฟ้า ว 2.3 ม.3/8 อธิบายและ 1 1 2 - - - 4 คำนวณพลังงานไฟฟา้ โดยใช้ สมการ W = Pt รวมท้ัง คำนวณค่าไฟฟ้าของ เคร่อื งใช้ไฟฟา้ ในบ้าน ว2.3 ม.3/9 ตระหนักใน 1-2-1-4 คณุ ค่าของการเลือกใช้ เครือ่ งใช้ไฟฟ้าโดยนำเสนอ วธิ กี ารใชเ้ คร่อื งใชไ้ ฟฟา้ อย่าง ประหยดั และปลอดภัย รวม 40

116 แบบประเมนิ คุณภาพความเทีย่ งตรง (IOC) (สำหรบั ผ้เู ช่ียวชาญ) คำชี้แจง แบบประเมินนี้จัดทำขึ้นเพื่อตรวจสอบคุณภาพความเที่ยงตรงของเนื้อหาระดับ พฤติกรรม เรื่อง ไฟฟ้า สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โปรดแสดงความคิดเห็นของท่าน โดยทำเครื่องหมาย  ลงในช่องที่ตรงกับความคิดเห็นของท่าน และขอความอนุเคราะห์ท่าน โปรดบนั ทึกรายละเอียด ในช่องข้อเสนอแนะในขอ้ ทีป่ รับปรงุ 1. เกณฑ์การใหค้ ะแนนดังนี้ รายการประเมนิ ทีม่ ีความสอดคลอ้ ง ให้ +1 คะแนน รายการประเมนิ ที่มีความไม่แนใ่ จ ให้ 0 คะแนน รายการประเมนิ ที่ไม่สอดคล้อง ให้ -1 คะแนน ตารางการเขียนข้อสอบตามระดบั พฤตกิ รรม หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 6 ไฟฟ้า จดุ ประสงค์ ข้อสอบ พฤตกิ รรม คะแนนการ ข้อเสนอ การเรยี นรู้ การเรียนรู้ พิจารณา แนะ +1 0 -1 วเิ คราะห์ 1. กฎของโอห์มจะเกิดข้นึ ได้จะต้อง ความรู้ ความสมั พันธ์ ประกอบด้วยคา่ พื้นฐานอะไรบา้ ง? ความจำ ระหวา่ งความ ก. กระแสไฟฟา้ ความต้านทานไฟฟา้ ต่างศักย์ และกำลังไฟฟ้า กระแสไฟฟา้ ข. ความตา่ งศักย์ไฟฟ้า ความ และความ ตา้ นทานไฟฟ้า และกำลงั ไฟฟ้า ต้านทานและ ค. กระแสไฟฟา้ ความตา่ งศักยไ์ ฟฟ้า คำนวณ และความต้านทานไฟฟ้า ปริมาณท่ี ง. กระแสไฟฟ้า ความต่างศกั ย์ไฟฟ้า เกี่ยวขอ้ งโดย และกำลงั ไฟฟ้า ใช้สมการ V = IR จาก คำตอบทถ่ี กู ต้องคอื ค. หลกั ฐานเชิง ประจกั ษ์

117 หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 6 ไฟฟ้า จดุ ประสงค์ ข้อสอบ พฤติกรรม คะแนนการ ขอ้ เสนอ การเรยี นรู้ การเรียนรู้ พิจารณา แนะ +1 0 -1 วิเคราะห์ 2. ความแตกต่างระหวา่ งระดบั ความรู้ ความสมั พันธ์ พลงั งานไฟฟา้ ระหวา่ งจุด 2 จดุ ความจำ ระหวา่ งความ ในวงจรไฟฟ้าใด ๆ คือข้อใด? ต่างศกั ย์ ก. ประจไุ ฟฟา้ กระแสไฟฟา้ ข. ความตา้ นทานไฟฟา้ และความ ค. กระแสไฟฟา้ ตา้ นทานและ ง. ความตา่ งศกั ย์ไฟฟา้ คำนวณ ปรมิ าณท่ี คำตอบท่ถี กู ต้องคอื ง. เก่ียวขอ้ งโดย ใช้สมการ V = IR จาก หลักฐานเชงิ ประจักษ์ วเิ คราะห์ 3. หลอดไฟฟ้าท่ีมีความตา่ ง วเิ คราะห์ ความสัมพันธ์ ศักยไ์ ฟฟ้า 220 โวลต์ ยอมให้ ระหวา่ งความ กระแสไฟฟ้าไหลผ่าน 2 แอมแปร์ ต่างศกั ย์ หลอดไฟฟา้ น้มี ีความตา้ นทาน กระแสไฟฟ้า เท่าใด? (กำหนดให้ V=IR) และความ ก. 110 โอหม์ ต้านทานและ ข. 220 โอหม์ คำนวณ ค. 440 โอห์ม ปรมิ าณท่ี ง. 2,202 โอหม์ เกี่ยวข้องโดย ใช้สมการ V คำตอบท่ีถกู ต้องคอื ก. = IR จาก หลกั ฐานเชงิ ประจักษ์

118 หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ 6 ไฟฟา้ จดุ ประสงค์ ขอ้ สอบ พฤตกิ รรม คะแนนการ ขอ้ เสนอ การเรียนรู้ การเรียนรู้ พิจารณา แนะ +1 0 -1 วเิ คราะห์ 4. ลวดตัวนำเสน้ หนึ่งมคี วามตา้ นทาน ความสมั พันธ์ ระหวา่ งความ 6 โอหม์ มกี ระแสไฟฟา้ ไหลผ่าน 0.25 ตา่ งศักย์ กระแสไฟฟา้ แอมแปร์ ความตา่ งศกั ย์ระหวา่ งปลาย และความ ตา้ นทานและ ท้งั สองของลวดตัวนำเป็นเท่าใด? คำนวณ ปรมิ าณที่ (กำหนดให้ V=IR) เกย่ี วขอ้ งโดย ใชส้ มการ V ก. 1.5 โวลต์ = IR จาก หลักฐานเชิง ข. 2.4 โวลต์ วิเคราะห์ ประจกั ษ์ ค. 6 โวลต์ ง. 6.25 โวลต์ คำตอบทถ่ี กู ต้องคอื ก. วิเคราะห์ 5. ลวดตวั นำเส้นหนึง่ มคี วามต้านทาน ความสมั พันธ์ ระหวา่ งความ 10 โอหม์ ถ้าความตา่ งศักยร์ ะหว่าง ต่างศักย์ กระแสไฟฟา้ ปลายทั้งสองของลวดตวั นำนี้ และความ ต้านทานและ มคี า่ 50 โวลต์ กระแสไฟฟา้ ทีไ่ หลผา่ น คำนวณ ปริมาณที่ ลวดตัวนำนมี้ คี า่ กแ่ี อมแปร์? เก่ยี วขอ้ งโดย ใชส้ มการ V (กำหนดให้ V=IR) = IR จาก หลักฐานเชงิ ก. 1 แอมแปร์ ประจักษ์ ข. 5 แอมแปร์ วเิ คราะห์ ค. 5.1 แอมแปร์ ง. 60 แอมแปร์ คำตอบทีถ่ ูกต้องคือ ข.

119 หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 6 ไฟฟา้ จดุ ประสงค์ ขอ้ สอบ พฤติกรรม คะแนนการ ขอ้ เสนอ การเรียนรู้ การเรียนรู้ พิจารณา แนะ +1 0 -1 เขียนกราฟ 6. การตอ่ ตวั ตา้ นทานเขา้ ไปใน ความ ความสัมพนั ธ์ วงจรไฟฟ้าจะทำใหป้ ริมาณ เขา้ ใจ ระหว่าง กระแสไฟฟ้าเป็นอยา่ งไร? กระแสไฟฟ้า ก. เทา่ เดิม และความต่าง ข. ลดลง ศกั ยไ์ ฟฟ้า ค. เพ่มิ ข้ึน ง. แลว้ แต่ชนดิ ของตัวตา้ นทาน คำตอบทีถ่ ูกต้องคือ ข. เขียนกราฟ 7. จากกราฟ แสดงถึงความสมั พันธ์ ความสัมพันธ์ ระหว่างความต่างศกั ย์ระหว่าง ระหว่าง ปลายทั้งสองของตัวตา้ นทานและ กระแสไฟฟ้า กระแสไฟฟ้าที่ไหลผ่านตวั ต้านทาน และความต่าง ก. ข. ค. และ ง. ศักย์ไฟฟา้ วเิ คราะห์ ตวั ตา้ นทานตวั ไหนมีความต้านทาน มากท่สี ดุ ? ก. ตัวต้านทาน ก. ข. ตัวตา้ นทาน ข. ค. ตวั ตา้ นทาน ค. ง. ตวั ต้านทาน ง. คำตอบที่ถูกต้องคอื ง.

120 หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 6 ไฟฟ้า จดุ ประสงค์ ขอ้ สอบ พฤติกรรม คะแนนการ ขอ้ เสนอ การเรยี นรู้ การเรยี นรู้ พิจารณา แนะ +1 0 -1 เขียนกราฟ ตาราง แสดงลำดบั ความนำไฟฟ้า ความสมั พนั ธ์ ของโลหะชนิดตา่ ง ๆ ระหว่าง กระแสไฟฟา้ ชื่อโลหะ ลำดบั ความนำไฟฟา้ และความตา่ ง ศกั ย์ไฟฟ้า นิโครม 3 ดบี กุ 1 ตะกั่ว 2 วเิ คราะห์ 8. โลหะชนิดใดมีความต้านทาน ไฟฟ้ามากท่ีสดุ และชนดิ ใดนอ้ ย ท่สี ุดตามลำดับ? ก. ตะกวั่ , ดบี กุ ข. ดบี กุ , นิโครม ค. นโิ ครม, ดบี กุ ง. นโิ ครม, ตะกัว่ คำตอบทีถ่ ูกต้องคือ ค. เขียนกราฟ 9. ถ้าค่าความตา่ งศักย์ไฟฟา้ มาก ความสมั พนั ธ์ การไหลของกระแสไฟฟา้ เป็น ระหวา่ ง อย่างไร? กระแสไฟฟ้า ก. การไหลของกระแสไฟฟา้ มาก และความตา่ ง ข. การไหลของกระแสไฟฟ้า ปานกลาง ศักย์ไฟฟ้า ค. การไหลของกระแสไฟฟ้า นอ้ ย ง. การไหลของกระแสไฟฟ้า คงที่ วิเคราะห์ คำตอบท่ถี ูกต้องคือ ก.

121 หน่วยการเรียนรูท้ ี่ 6 ไฟฟา้ จุดประสงค์ ข้อสอบ พฤติกรรม คะแนนการ ขอ้ เสนอ การเรียนรู้ การเรยี นรู้ พิจารณา แนะ +1 0 -1 ใชโ้ วลต์มิเตอร์ 10. เครื่องมอื ทใ่ี ชว้ ดั ความต่าง ความรู้ แอมมิเตอร์ใน ศักย์ไฟฟา้ คอื ข้อใด? ความจำ การวัดปริมาณ ก. แอมมิเตอร์ ทางไฟฟ้า ข. โอหม์ มเิ ตอร์ ค. โวลต์มเิ ตอร์ ง. กัลปว์ านอมเิ ตอร์ คำตอบที่ถกู ต้องคอื ค. ใชโ้ วลต์มิเตอร์ 11. ข้อใดกลา่ วถูกตอ้ งที่สดุ ? แอมมเิ ตอร์ใน ก. แอมมิเตอร์ใช้วัดกระแสไฟฟา้ การวัดปรมิ าณ และตอ่ แบบขนานกบั วงจร ทางไฟฟ้า ข. โวลตม์ เิ ตอร์ใช้วัดกระแสไฟฟ้า และต่อแบบขนานกับวงจร ค. แอมมเิ ตอร์ใช้วัดความต่างศักย์ไฟฟ้า นำไปใช้ และตอ่ แบบอนุกรมกบั วงจร ง. โวลตม์ เิ ตอร์ใช้วัดความต่าง ศกั ย์ไฟฟ้า และต่อแบบขนานคร่อม จุดสองจุดท่ีต้องการวัด คำตอบท่ถี กู ต้องคอื ง. ใช้โวลต์มเิ ตอร์ 12. การตอ่ แอมมเิ ตอร์ เข้ากับ ความรู้ แอมมเิ ตอร์ใน วงจรไฟฟ้าควรตอ่ แบบใด? ความจำ การวดั ปริมาณ ก. แบบอนุกรม ทางไฟฟ้า ข. แบบขนาน ค. แบบผสม ง. สามารถตอ่ ได้ทง้ั 3 แบบ คำตอบท่ีถกู ต้องคอื ก.

122 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 6 ไฟฟา้ จุดประสงค์ ข้อสอบ พฤตกิ รรม คะแนนการ ขอ้ เสนอ การเรียนรู้ การเรยี นรู้ พิจารณา แนะ ใชโ้ วลตม์ เิ ตอร์ +1 0 -1 แอมมเิ ตอร์ใน การวดั ปริมาณ ทางไฟฟ้า 13. ถา้ ใช้ สายไฟตอ่ หลอดไฟเข้ากบั วเิ คราะห์ ถา่ นไฟฉาย 1 กอ้ นและแอมมเิ ตอร์ (แบบที่ 1) แลว้ ทำการทดลองเช่นเดมิ อีกครง้ั แต่เพม่ิ ถ่านไฟฉายเปน็ 2 ก้อน (แบบท่ี 2) การเปลีย่ นแปลงของ แอมมิเตอร์ แตกต่างกันอย่างไร? ก. ไม่แตกตา่ งกัน คอื เข็มไม่เบนจากเดิม ข. ไม่แตกตา่ งกัน คือ เข็มเบนจากซา้ ย ไปขวาในระยะท่ีเทา่ กัน ค. แตกตา่ งกนั คือ แบบที่ 1 เข็มไม่เบน แบบที่ 2 เขม็ เบนไปจากเดิม ง. แตกต่างกนั คือ แบบที่ 2 เขม็ เบน มากกว่าแบบที่ 1 คำตอบทีถ่ ูกต้องคือ ง.

123 หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 6 ไฟฟา้ จดุ ประสงค์ ข้อสอบ พฤติกรรม คะแนนการ ขอ้ เสนอ การเรยี นรู้ การเรียนรู้ พิจารณา แนะ +1 0 -1 วิเคราะหค์ วาม 14. จากภาพ โวลต์มิเตอรใ์ ดบา้ ง มี ตา่ งศักย์ไฟฟ้า ค่าความตา่ งศักย์ไฟฟา้ เทา่ กัน? และ กระแสไฟฟ้า ในวงจรไฟฟา้ เม่อื ต่อตัว ตา้ นทานหลาย ก. โวลต์มิเตอร์ A = B แตไ่ มเ่ ทา่ กับ C วิเคราะห์ ตวั แบบ ข. โวลต์มเิ ตอร์ C = B แตไ่ มเ่ ท่ากับ A อนุกรมและ ค. โวลต์มเิ ตอร์ A = C แตไ่ ม่เทา่ กบั B แบบขนานจาก ง. โวลตม์ ิเตอร์ A B และ C เท่ากนั หลักฐานเชงิ ทงั้ หมด ประจักษ์ คำตอบทีถ่ ูกต้องคือ ง. วิเคราะหค์ วาม 15. จากภาพ โวลต์มเิ ตอรใ์ ดบา้ ง มี ต่างศักย์ไฟฟ้า คา่ ความตา่ งศักย์ไฟฟา้ เทา่ กัน? และ กระแสไฟฟ้า ในวงจรไฟฟ้า เม่อื ต่อตวั ต้านทานหลาย ตัวแบบ วิเคราะห์ อนกุ รมและ ก. โวลต์มเิ ตอร์ A = B แต่ไม่เท่ากบั C แบบขนานจาก ข. โวลต์มเิ ตอร์ C = B แต่ไม่เท่ากับ A หลกั ฐานเชิง ค. โวลต์มิเตอร์ A = C แต่ไม่เทา่ กับ B ประจักษ์ ง. โวลตม์ เิ ตอร์ A B และ C เท่ากนั ทัง้ หมด คำตอบทถ่ี กู ต้องคอื ข.

124 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 6 ไฟฟา้ จดุ ประสงค์ ข้อสอบ พฤตกิ รรม คะแนนการ ขอ้ เสนอ การเรยี นรู้ การเรยี นรู้ พิจารณา แนะ +1 0 -1 วเิ คราะหค์ วาม 16. วงจรทก่ี ำหนดให้ มีความ ตา่ งศกั ย์ไฟฟา้ ต้านทานรวมเทา่ กบั เทา่ ไร? และ กระแสไฟฟ้า ในวงจรไฟฟ้า เมื่อต่อตวั วเิ คราะห์ ต้านทานหลาย ก. 2 โอหม์ ตวั แบบ ข. 3 โอหม์ อนุกรมและ ค. 4 โอห์ม แบบขนานจาก ง. 10 โอหม์ หลักฐานเชิง ประจักษ์ คำตอบที่ถกู ต้องคือ ค. วิเคราะหค์ วาม 17. วงจรทก่ี ำหนดให้ มีความ ตา่ งศักย์ไฟฟ้า ต้านทานรวมเท่ากับเทา่ ไร? และ กระแสไฟฟ้า ในวงจรไฟฟา้ เมอ่ื ต่อตัว ก. 10 โอห์ม วเิ คราะห์ ตา้ นทานหลาย ข. 15 โอห์ม ตวั แบบ ค. 20 โอหม์ อนกุ รมและ ง. 45 โอหม์ แบบขนานจาก หลักฐานเชิง คำตอบที่ถูกต้องคือ ง. ประจกั ษ์

125 หน่วยการเรียนรู้ที่ 6 ไฟฟ้า จุดประสงค์ ขอ้ สอบ พฤติกรรม คะแนนการ ขอ้ เสนอ การเรียนรู้ การเรยี นรู้ พิจารณา แนะ +1 0 -1 วิเคราะห์ความ 18. จากรปู ความต้านทานจากจดุ วเิ คราะห์ ต่างศกั ย์ไฟฟา้ A ถงึ จุด D คือข้อใด? และ กระแสไฟฟา้ ในวงจรไฟฟ้า เม่อื ต่อตัว ก. 16 Ω ตา้ นทานหลาย ข. 20 Ω ตัวแบบ ค. 31 Ω อนุกรมและ ง. 51 Ω แบบขนานจาก หลักฐานเชงิ คำตอบทีถ่ ูกต้องคอื ก. ประจักษ์ เขยี นแผนภาพ 19. จากภาพหลอดใดท่สี วา่ ง? วิเคราะห์ วงจรไฟฟ้า แสดงการต่อ ตัวตา้ นทาน แบบอนกุ รม และขนาน ก. หมายเลข 1 และ 2 ข. หมายเลข 2 และ 4 ก. หมายเลข 3, 4 และ 5 ง. สว่างทกุ หลอด คำตอบทีถ่ กู ต้องคอื ก.

126 หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี 6 ไฟฟา้ จดุ ประสงค์ ขอ้ สอบ พฤตกิ รรม คะแนนการ ขอ้ เสนอ การเรยี นรู้ การเรยี นรู้ พจิ ารณา แนะ +1 0 -1 เขียนแผนภาพ 20. จากภาพเปน็ การต่อหลอด วเิ คราะห์ วงจรไฟฟ้า ไฟฟ้าแบบใด? แสดงการต่อ ตวั ตา้ นทาน แบบอนกุ รม และขนาน ก. ต่อแบบขนาน 3 หลอด ข. ต่อแบบอนุกรม 3 หลอด ค. ต่อแบบขนาน 2 หลอด แบบ อนุกรม 1 หลอด ง. ตอ่ แบบอนุกรม 2 หลอด แบบ ขนาน 1 หลอด คำตอบทถ่ี ูกต้องคอื ก. เขียนแผนภาพ 21. ถ้านกั เรยี นมไี ฟฟา้ เหมอื นกัน นำไปใช้ วงจรไฟฟ้า ทกุ ประการจำนวน 6 หลอด แสดงการต่อ นกั เรยี นจะต่อหลอดไฟฟ้าในวงจร ตวั ตา้ นทาน อยา่ งไร เพื่อให้ได้ความสว่างมาก แบบอนกุ รม ท่ีสดุ ? และขนาน ก. ต่อ 6 หลอด แบบอนกุ รม ข. ต่อ 6 หลอด แบบขนาน ค. ต่อขนาน 2 หลอด 3 ชุด แลว้ ตอ่ อนกุ รมกัน ง. ต่ออนกุ รม 3 หลอด 2 ชุด แลว้ ต่อ ขนานกนั คำตอบที่ถกู ต้องคือ ข.

127 หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 6 ไฟฟ้า จุดประสงค์ ขอ้ สอบ พฤตกิ รรม คะแนนการ ขอ้ เสนอ การเรยี นรู้ การเรยี นรู้ พิจารณา แนะ +1 0 -1 เขียนแผนภาพ 22. ข้อใดเป็นการต่อหลอดไฟแบบ วงจรไฟฟ้า ขนาน? แสดงการต่อ ตัวต้านทาน แบบอนุกรม และขนาน ความรู้ ความจำ คำตอบทถ่ี กู ต้องคือ ก. เขยี นแผนภาพ 23. การต่อวงจรไฟฟ้า ถา้ หลอด ความรู้ วงจรไฟฟ้า หนง่ึ ดับหลอดอ่นื ๆ กจ็ ะดับหมด ความจำ แสดงการต่อ เปน็ วงจรชนิดใด? ตัวต้านทาน ก. แบบขนาน แบบอนุกรม ข. แบบอนุกรม และขนาน ค. แบบผสม ง. แบบวงจรคผู่ สม คำตอบท่ถี ูกต้องคอื ข.

128 หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 6 ไฟฟา้ จดุ ประสงค์ ข้อสอบ พฤตกิ รรม คะแนนการ ขอ้ เสนอ การเรยี นรู้ การเรียนรู้ พิจารณา แนะ +1 0 -1 บรรยายการ ทำงานของ ชิ้นส่วน 24. สญั ลักษณ์ของไดโอด คอื ข้อใด? อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ ก. A ความรู้ อยา่ งงา่ ยใน ข. B ความจำ วงจรจาก ค. C ข้อมลู ท่ี ง. D รวบรวมได้ คำตอบที่ถกู ต้องคอื ข. บรรยายการ ทำงานของ ชนิ้ ส่วน 25. สญั ลักษณ์ของตัวต้านทานชนิด อิเลก็ ทรอนิกส์ ปรบั คา่ ได้ คือขอ้ ใด? อย่างงา่ ยใน ก. A วงจรจาก ข. B ข้อมลู ท่ี ค. C รวบรวมได้ ง. D คำตอบทถี่ กู ต้องคือ ค. ความรู้ ความจำ

129 หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 6 ไฟฟา้ จุดประสงค์ ขอ้ สอบ พฤตกิ รรม คะแนนการ ขอ้ เสนอ การเรยี นรู้ การเรยี นรู้ พิจารณา แนะ +1 0 -1 บรรยายการ 26. “เป็นอุปกรณท์ ีค่ วบคุมการไหล ความรู้ ทำงานของ กระแสไฟฟา้ ที่จะผา่ นเข้าไปใน ความจำ ชิน้ ส่วน เครอ่ื งใช้ไฟฟา้ เพอ่ื เปิด-ปดิ อปุ กรณ์ อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ ทต่ี ้องการ” คืออุปกรณ์ใด? อย่างงา่ ยใน ก. หลอดตวั ต้านทาน วงจรจาก ข. สวิตซ์ ข้อมลู ที่ ค. คัตเอาท์ รวบรวมได้ ง. ฟิวส์ คำตอบที่ถูกต้องคอื ข. บรรยายการ 27. การที่เราปรับระดับเสียงท่ี ทำงานของ เครอื่ งขยายเสียง เก่ียวข้องกับข้อ ช้ินส่วน ใด? อิเลก็ ทรอนกิ ส์ ก. ปรับค่าตวั เก็บประจุในเคร่ือง อย่างงา่ ยใน ขยายเสียง วงจรจาก ข. ปรบั คา่ ตัวตา้ นทานในเคร่อื งขยาย ขอ้ มลู ท่ี เสียง รวบรวมได้ ค. เปลี่ยนค่าไฟฟา้ ทเ่ี ข้าเคร่อื งขยาย เสียง ง. เปล่ียนค่ากระแสไฟฟ้าทเ่ี ผาไส้ ความรู้ หลอดเคร่ืองขยายเสยี ง ความจำ คำตอบทีถ่ ูกต้องคือ ข.

130 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 6 ไฟฟา้ จดุ ประสงค์ ขอ้ สอบ พฤตกิ รรม คะแนนการ ข้อเสนอ การเรียนรู้ การเรยี นรู้ พจิ ารณา แนะ +1 0 -1 บรรยายการ 28. ถ้าแสงตกกระทบมากความ ทำงานของ ต้านทานไฟฟ้าจะสูงข้ึน แตถ่ ้าแสง ชิน้ สว่ น ตกกระทบน้อย ค่าความตา้ นทาน อิเล็กทรอนิกส์ ไฟฟา้ จะน้อยลง หลักการนน้ี ำไป อย่างง่ายใน สร้างสวิตซ์ไฟฟ้าชนิดใด? ความรู้ ความจำ วงจรจาก ก. สวติ ซห์ ร่ีไฟ ขอ้ มูลท่ี ข. สวิตซ์ไวแสง รวบรวมได้ ค. สวิตซ์แบบธรรมดา ง. สวิตซไ์ วความร้อน คำตอบที่ถูกต้องคอื ข. เขยี นแผนภาพ 29. จากภาพ สามารถเขียน และตอ่ ชน้ิ สว่ น แผนภาพไดอ้ ยา่ งไร? อิเลก็ ทรอนกิ ส์ อยา่ งงา่ ยใน วงจรไฟฟ้า ความ เข้าใจ คำตอบทีถ่ กู ต้องคือ ก.

131 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 6 ไฟฟา้ จุดประสงค์ ขอ้ สอบ พฤติกรรม คะแนนการ ขอ้ เสนอ การเรยี นรู้ การเรยี นรู้ พิจารณา แนะ +1 0 -1 เขียนแผนภาพ 30. จากภาพ สามารถเขียน และต่อช้นิ ส่วน แผนภาพไดอ้ ย่างไร? อเิ ล็กทรอนิกส์ อยา่ งงา่ ยใน วงจรไฟฟ้า ความ เขา้ ใจ คำตอบที่ถกู ต้องคอื ข. เขียนแผนภาพ 31. จากภาพมตี ัวต้านทานอยูก่ ตี่ วั ความ และตอ่ ชน้ิ สว่ น และตอ่ วงจรไฟฟ้าแบบใด? เขา้ ใจ อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ อย่างงา่ ยใน วงจรไฟฟ้า ก. 3 ตวั และต่อวงจรไฟฟา้ แบบขนาน ข. 3 ตัว และต่อวงจรไฟฟ้าแบบผสม ค. 2 ตัว และตอ่ วงจรไฟฟ้าแบบขนาน ง. 2 ตวั และต่อวงจรไฟฟา้ แบบอนุกรม คำตอบทถี่ กู ต้องคอื ข.

132 หน่วยการเรียนร้ทู ่ี 6 ไฟฟา้ จุดประสงค์ ข้อสอบ พฤติกรรม คะแนนการ ขอ้ เสนอ การเรยี นรู้ การเรยี นรู้ พิจารณา แนะ +1 0 -1 เขยี นแผนภาพ 32. จากภาพมตี ัวตา้ นทานอยูก่ ่ตี ัว ความ และต่อช้ินสว่ น และตอ่ วงจรไฟฟ้าแบบใด? เขา้ ใจ อเิ ล็กทรอนิกส์ อย่างง่ายใน วงจรไฟฟ้า ก. 3 ตวั และต่อวงจรไฟฟา้ แบบขนาน ข. 3 ตัว และต่อวงจรไฟฟา้ แบบผสม ค. 2 ตัว และต่อวงจรไฟฟา้ แบบขนาน ง. 2 ตวั และตอ่ วงจรไฟฟ้าแบบอนกุ รม คำตอบท่ถี กู ต้องคอื ค. อธบิ ายและ 33. ตาราง กำลังไฟฟา้ และความ คำนวณ พลังงานไฟฟา้ ตา่ งศกั ย์ของเคร่ืองใชไ้ ฟฟ้าต่าง ๆ โดยใช้สมการ W = Pt ชนดิ ของ กำลังไฟฟ้า ความตา่ ง รวมทง้ั คำนวณ เคร่อื งใช้ไฟ (วัตต์) ศักย์ ค่าไฟฟา้ ของ ฟ้า (โวลต)์ เคร่ืองใช้ไฟฟา้ ในบา้ น หม้อหงุ ขา้ ว 700 220 ตูเ้ ยน็ 320 220 หลอดไฟฟา้ 60 220 เตารีดไฟฟ้า 850 220 เมือ่ ใช้เคร่ืองใชไ้ ฟฟ้าในตาราง ชนดิ นำไปใช้ ใดทีม่ ปี ริมาณกระแสไฟฟ้าไหลผ่าน มากท่สี ดุ และน้อยที่สดุ ? ก. หลอดไฟฟา้ หม้อหงุ ข้าว ข. เตารีดไฟฟา้ หลอดไฟฟา้ ค. หม้อหุงขา้ ว ตเู้ ย็น ง. ต้เู ย็น หลอดไฟฟ้า คำตอบทีถ่ กู ต้องคอื ข.

133 หนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี 6 ไฟฟ้า จุดประสงค์ ข้อสอบ พฤติกรรม คะแนนการ ขอ้ เสนอ การเรยี นรู้ การเรยี นรู้ พิจารณา แนะ +1 0 -1 อธบิ ายและ 34. เคร่อื งใชไ้ ฟฟ้าชนิดหนงึ่ ต่อกับ คำนวณ ความต่างศักย์ 220 โวลต์ ขณะใช้ พลังงานไฟฟา้ งานมกี ระแสไฟฟ้าผา่ น 1.4 โดยใช้สมการ แอมแปร์ เครือ่ งใช้ไฟฟ้านใี้ ช้ W = Pt กำลังไฟฟ้าเท่าใด? (กำหนดให้ รวมทง้ั คำนวณ P=VI) วิเคราะห์ คา่ ไฟฟ้าของ ก. 78.57 วัตต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า ข. 157.14 วัตต์ ในบา้ น ค. 308.00 วตั ต์ ง. 354.00 วตั ต์ คำตอบทีถ่ ูกต้องคอื ค. อธิบายและ 35. หลอดไฟฟา้ หลอดหนึ่งมีตัวเลข คำนวณ 220V 32W กำกับไวต้ วั เลข พลังงานไฟฟา้ ดังกลา่ วมคี วามหมายตรงกับข้อใด? โดยใชส้ มการ ก. ใช้กับความต่างศักย์ 220 โวลต์ W = Pt จะใหค้ วามสว่าง 32 วัตต์ รวมทัง้ คำนวณ ข. ใชก้ บั ความต่างศกั ย์ 220 โวลต์ คา่ ไฟฟ้าของ จะให้พลงั งาน 32 วัตต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า ค. ใชก้ ับความตา่ งศักย์ 32 วตั ต์ ความ เขา้ ใจ ในบา้ น จะใหค้ วามสว่าง 220 โวลต์ ง. ใชก้ ับความต่างศักย์ 220 โวลต์ จะให้กำลงั ไฟฟ้า 32 วัตต์ คำตอบที่ถูกต้องคอื ง.

134 หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 6 ไฟฟา้ จุดประสงค์ ขอ้ สอบ พฤติกรรม คะแนนการ ข้อเสนอ การเรยี นรู้ การเรียนรู้ พิจารณา แนะ +1 0 -1 อธบิ ายและ 36. เคร่ืองใชไ้ ฟฟา้ ชนิดหนึ่งมกี ำลัง คำนวณ 500 วัตต์ เม่ือต่อกับความต่าง พลงั งานไฟฟา้ ศักย์ไฟฟ้าคา่ หนงึ่ ปรากฏว่ามี โดยใช้สมการ กระแสไฟฟ้าไหลผา่ น 2.5 W = Pt แอมแปร์ จงหาความตา่ ง รวมท้งั คำนวณ ศกั ย์ไฟฟา้ ? (กำหนดให้ P=VI) คา่ ไฟฟา้ ของ ก. 200 โวลต์ วิเคราะห์ เครอ่ื งใช้ไฟฟา้ ข. 220 โวลต์ ในบ้าน ค. 250 โวลต์ ง. 1,250 โวลต์ คำตอบทถ่ี ูกต้องคือ ก. ตระหนักใน 37. ข้อใดกลา่ วถูกตอ้ งเก่ยี วกับ ความรู้ คณุ ค่าของการ ไฟฟา้ ภายในบ้านของประเทศไทย? ความจำ เลอื กใช้ ก. ไฟฟา้ ภายในบ้านมีความต่างศกั ย์ เครือ่ งใช้ไฟฟ้า 110 โวลต์ โดยนำเสนอ ข. ไฟฟ้าภายในบ้านเป็นไฟฟา้ วธิ กี ารใช้ กระแสสลับ เครอื่ งใช้ไฟฟ้า ค. โดยปกติ การส่งพลังงานไฟฟา้ เขา้ อย่างประหยัด บ้านจะใชส้ ายไฟ 3 เสน้ และปลอดภัย ง. ประกอบดว้ ย สายกลาง สายดนิ และสายทองแดง คำตอบท่ีถกู ต้องคือ ข.

135 หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 6 ไฟฟา้ จุดประสงค์ ขอ้ สอบ พฤตกิ รรม คะแนนการ ขอ้ เสนอ การเรียนรู้ การเรียนรู้ พิจารณา แนะ +1 0 -1 ตระหนักใน 38. ข้อใดเป็น การใชไ้ ฟฟ้าที่ ประเมนิ คณุ ค่าของการ ถกู ตอ้ ง? ค่า เลือกใช้ ก. เมือ่ หลอดไฟฟ้าไม่ตดิ ให้ทำการ เคร่อื งใช้ไฟฟา้ เปลยี่ นไดท้ ันที โดยนำเสนอ ข. ปล๊ักหลายอนั สามารถเสยี บเต้ารับ วิธกี ารใช้ อนั เดยี ว เครือ่ งใช้ไฟฟ้า ค. ไม่ใช้อปุ กรณท์ ี่มสี ายไฟฟ้าชำรุด อยา่ งประหยัด ง. เมื่อหลอดไฟฟา้ สวา่ งเกนิ ไป ใหน้ ำ และปลอดภัย กระดาษหรอื ผ้าบังได้ คำตอบที่ถกู ต้องคือ ค. ตระหนักใน 39. การกระทำของใครเป็นการช่วย นำไปใช้ คุณคา่ ของการ พ่อแมป่ ระหยัดไฟฟา้ ? เลือกใช้ ก. หมวิ เปดิ โทรทศั นด์ กู ับน้องคนละ เครอื่ งใช้ไฟฟา้ เครอื่ ง โดยนำเสนอ ข. ซมิ เปิดไฟฟ้าทุกดวงในบ้าน วิธีการใช้ ค. บิวรีดผ้าคร้งั ละหลายๆ ตวั ในเวลา เคร่อื งใช้ไฟฟา้ เดียว อยา่ งประหยดั ง. มกุ ซกั ผ้า 1 - 2 ชิน้ ดว้ ยเคร่ืองซกั และปลอดภยั ผา้ คำตอบที่ถกู ต้องคอื ค.

136 หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 6 ไฟฟ้า จดุ ประสงค์ ข้อสอบ พฤตกิ รรม คะแนนการ ขอ้ เสนอ การเรยี นรู้ การเรยี นรู้ พจิ ารณา แนะ +1 0 -1 ตระหนกั ใน 40. การเลอื กซ้ือเคร่ืองใช้ไฟฟ้า นำไปใช้ คุณคา่ ของการ จะต้องตรวจสอบค่าของส่งิ ใด เลอื กใช้ เพ่อื ใหเ้ หมาะสมกับความต้องการ? เคร่ืองใช้ไฟฟ้า ก. จำนวนวตั ต์ และกระแสไฟฟา้ โดยนำเสนอ ข. จำนวนวตั ต์ และคา่ ความ วิธกี ารใช้ ตา้ นทาน เครอื่ งใช้ไฟฟา้ ค. จำนวนวตั ต์ และค่าความตา่ ง อยา่ งประหยดั ศักยไ์ ฟฟ้า และปลอดภยั ง. ความต่างศกั ย์ไฟฟา้ และค่า ความตา้ นทานไฟฟา้ คำตอบทีถ่ ูกต้องคอื ค. ข้อเสนอแนะเพิ่มเติม ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ....................................................ผู้เช่ียวชาญ (...........................................................) ตำแหน่ง .................................................................. โรงเรยี น .................................................................. วันที่ ......... เดือน ………………. พ.ศ. ................

137 แบบประเมินคณุ ภาพแบบสอบถามความพึงพอใจ (สำหรับผูเ้ ช่ียวชาญ) คำชี้แจง แบบประเมินนี้เป็นแบบประเมินคุณภาพของแบบสอบถามความพึงพอใจ สำหรับ ผู้เชยี่ วชาญเพื่อประเมนิ ว่า ขอ้ สอบมคี ณุ ภาพอยู่ในระดับใดโปรดเขยี นเคร่ืองหมาย ✓ ลงในชอ่ งที่ตรง กับความคิดเห็นของท่าน โดยทำเครื่องหมาย  ลงในช่องที่ตรงกับความคิดเห็นของท่าน และ ขอความอนุเคราะห์ท่านโปรดบนั ทกึ รายละเอียด ในชอ่ งข้อเสนอแนะในขอ้ ที่ปรบั ปรุง +1 หมายถึง เห็นวา่ ข้อคำถามสอดคลอ้ งกับนิยามศัพทเ์ ฉพาะ 0 หมายถงึ ไม่แนใ่ จวา่ ข้อคำถามสอดคล้องกบั นยิ ามศพั ทเ์ ฉพาะ -1 หมายถึง เห็นวา่ ขอ้ คำถามไมส่ อดคล้องกับนิยามศัพทเ์ ฉพาะ นยิ ามศัพท์ รายการ ระดบั +1 0 -1 ด้านบรรยากาศ ด้านบรรยากาศ หมายถึง 1. บรรยากาศของการเรียนทำใหน้ กั เรียนมีความ บรรยากาศการจัดการเรยี นรู้ กระตอื รอื รน้ ในการเรียน สถานที่ สิ่งแวดล้อมซึ่งเกิด 2. บรรยากาศของการเรียนทำใหน้ ักเรียนมคี วาม ภายในห้องเรียน รับผดิ ชอบตอ่ ตนเอง และกลุ่ม 3. บรรยากาศของการเรียนเปดิ โอกาสใหน้ กั เรยี นมีส่วน รว่ มในการทำกจิ กรรม 4. บรรยากาศของการเรยี นเปดิ โอกาสให้นักเรยี นทำ กจิ กรรมไดอ้ ยา่ งอสิ ระ ดา้ นการจัดการเรียนรู้ ดา้ นการจดั การเรียนรู้ 5. กิจกรรมการเรียนร้สู อดคล้องกบั เนอ้ื หา ห ม า ย ถึ ง กร ะ บ วนการ 6. กจิ กรรมการจัดการเรยี นรู้ชว่ ยให้นักเรียนเขา้ ใจใน เทคนิค หรือวิธีการส่งเสริม เน้ือหา เ ร ี ย น ก า ร ส อ น ใ ห ้ มี ประสิทธภิ าพ 7. กิจกรรมการเรียนรูส้ ่งเสรมิ ทักษะการสังเกต และการ จำแนก 8. การจดั การเรียนรู้ชว่ ยทำใหน้ ักเรียนสรา้ งองค์ความรู้ ความเข้าใจด้วยตนเอง ดา้ นสอื่ การเรยี นรู้ ส่อื การเรยี นรเู้ ปน็ เคร่ืองมอื ที่ 9. สื่อการเรยี นรนู้ า่ สนใจสำหรับนกั เรยี น ช่วยส่งเสริมสนับสนุนการ 10. สอ่ื การเรยี นรทู้ ำให้นกั เรยี นเขา้ ใจไดง้ า่ ยข้นึ เรยี นรู้ 11. สื่อการเรียนรู้เหมาะสมกับกจิ กรรมการเรยี นรู้

138 นยิ ามศัพท์ รายการ ระดับ +1 0 -1 ด้านประโยชน์ท่ีไดร้ บั ประโยชน์ทไ่ี ด้รับ 12. การจัดกจิ กรรมการเรยี นร้ทู ำให้เกดิ ความสามคั คีใน หมายถึง สิ่งที่นักเรียนจะ การทำงาน ได้รับจากกิจกรรมก าร 13. การจัดกิจกรรมการเรยี นรูส้ ่งเสริมให้ทำงานร่วมกับ จัดการเรียนรู้ทั้งในด้าน ผูอ้ ืน่ ค ว า ม ร ู ้ ท ั ก ษ ะ แ ล ะ 14. ผู้เรียนสามารถนำความรู้ไปใชใ้ นชีวิตประจำวันได้ คณุ ลักษณะ 15. การจดั การเรียนรู้ทำใหน้ กั เรียนนำวิธีการเรียนรไู้ ปใช้ ในวิชาอน่ื ๆ 16. กิจกรรมเนน้ ให้นกั เรียนเรยี นรจู้ ากการปฏิบตั ิจริง 17. วธิ วี ดั และประเมนิ ผลสอดคลอ้ งกบั ตวั ช้วี ัด ข้อเสนอแนะเพม่ิ เติม ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงช่ือ....................................................ผู้เชี่ยวชาญ (...........................................................) ตำแหน่ง .................................................................. โรงเรียน .................................................................. วนั ท่ี ......... เดือน ………………. พ.ศ. ................

139 ภาคผนวก ค การรายงานคณุ ภาพเครอ่ื งมอื ทใี่ ช้ในงานวิจัย

140 ตารางที่ 8 ผลการประเมนิ คุณภาพแผนการจัดการเรยี นรู้ แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 1 เร่อื ง ปริมาณทางไฟฟ้า คะแนนการพิจารณาของผูเ้ ช่ียวชาญ รายการประเมิน คนที่ คนที่ คนท่ี x̅ S.D. แปลผล 123 1. การจัดทำแผนการเรยี นรู้ 1.1 หน่วยการเรยี นรู้มีความสมบูรณ์ 5 5 4 4.67 0.58 มากทส่ี ดุ เหมาะสมและมรี ายละเอยี ดท่ีสอดคลอ้ ง สัมพนั ธก์ ัน 1.2 แผนการจัดการเรียนรู้สอดคลอ้ ง 5 5 5 5.00 0.00 มากทส่ี ดุ สัมพนั ธ์กบั หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ีกำหนดไว้ 1.3 แผนการจัดการเรียนรู้มี 5 5 5 5.00 0.00 มากท่ีสดุ องคป์ ระกอบสำคัญครบถว้ น และ สมั พันธ์กัน 2. สาระสำคัญและจดุ ประสงค์การเรียนรู้ 2.1 การเขยี นสาระสำคัญในแผน 5 4 5 4.67 0.58 มากทส่ี ดุ ถกู ต้อง 2.2 จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้มีความ 5 5 5 5.00 0.00 มากทส่ี ดุ ชัดเจนครอบคลุมเนื้อหาสาระ 2.3 จุดประสงค์การเรยี นรู้พฒั นา 5 5 5 5.00 0.00 มากทสี่ ดุ นกั เรยี นด้านความรู้ ทักษะกระบวนการ และเจตคติ 3. กระบวนการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ 3.1 กำหนดเน้ือหาสาระเหมาะสมกับ 5 5 4 4.67 0.58 มากทส่ี ดุ คาบเวลา 3.2 กิจกรรมการเรยี นร้สู อดคล้องกับ 5 5 5 5.00 0.00 มากที่สดุ จดุ ประสงค์ เน้ือหาสาระและระดับชัน้ ของนักเรยี น 3.3 กิจกรรมการเรยี นร้มู ีความ 5 4 5 4.67 0.58 มากที่สดุ หลากหลายและสามารถปฏิบตั ไิ ด้ 3.4 กจิ กรรมการเรยี นรู้เป็นกิจกรรมที่ 5 5 5 5.00 0.00 มากที่สดุ สง่ เสรมิ กระบวนการคิดของนักเรยี น 3.5 กจิ กรรมเนน้ ใหน้ ักเรยี นเรยี นรู้ 5 5 5 5.00 0.00 มากทส่ี ุด จากการปฏบิ ตั ิจรงิ