41 การเรียนรู้ของนักเรียน และ ครูให้ความช่วยเหลือหรืออํานวยความสะดวกแก่นักเรียนในการเรียน ตามลําดับ 8. กรอบแนวคิด จากการศึกษาเอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับ ภสิทธ เมตตพันธุ (2556) ที่ได้กล่าวสรุป วา่ ทักษะการสังเกตเป็นความสามารถในการใช้ประสาท สมั ผสั อยา่ งใดอย่างหนึ่ง หรอื ประสาทสัมผัส ทั้งห้า ได้แก่ ตา หู จมูก ลิ้น และกาย เข้าไปสำรวจ เพื่อค้นหาข้อมูลสิ่งนั้นโดยไม่ใส่ความเห็น ของตนเองลงไป และอาจใช้เครื่องมือช่วยในการสังเกตด้วย และทักษะการจำแนกประเภท หมายถึง ความสามารถ ในการจัดแบ่งสิ่งของหรือวัตถุ จากปรากฏการณ์ต่าง ๆ ที่ต้องการศึกษา ออกเป็นหมวดหมู่ โดยจัดสิ่งที่ มีสมบัติบางประการร่วมกันให้อยู่ในกลุ่มเดียวกัน ซึ่งในการจำแนก จะต้องอาศัยเกณฑ์ในการ จำแนกด้วย ดังนั้นผู้วิจัยจึงได้สนใจแนวคิดของเกมิฟิเคชันในการนำ มาประยุกต์ใช้ในการจัดการเรียนการสอนเพื่อให้ผู้เรียนได้ฝึกฝนทบทวนในเรื่องที่เรียน เนื่องจากพบว่า การใช้ แนวคิดเกมมิฟิเคชันในการเรียนการสอนช่วยเพิ่มความน่าสนใจ ในการเรียน (จิรชพรรณ ชาญช่าง , 2561) อีกทั้งยังมีผลต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน (ซนัตถ์ พูนเดช และธนิตา เลิศพรกุลรัตน์ , 2559) ขณะที่ความสามารถของผู้เรียนหรือความสามารถทางสติปัญญา ก็เป็นปัจจัยหนึ่งที่มีผลต่อความน่าสนใจในการเรียน นั้นคือการสร้างแรงจูงใจในการเรียนรู้ (ใจทพิ ย์ ณ สงขลา , 2561) วิจัยในครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงทดลองที่ต้องการศึกษาผลของตัวแปรอิสระที่มีต่อตัวแปรตาม ดังน้ี 1. ตัวแปรอิสระ ประกอบด้วย 2 ตัวแปร ได้แก่ (1) รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะ หาความรู้ (5E) และ (2) เทคนคิ เกมมิฟเิ คชนั 2. ตวั แปรตาม ประกอบด้วย 2 ตัวแปร คอื (1) ทกั ษะการสังเกต และ (2) ทกั ษะการจำแนก ประเภท ดังภาพ
42 ตัวแปรอิสระ ตัวแปรตาม รปู แบบการจัดการเรยี นรู้ ผลสัมฤทธท์ิ างการศึกษา แบบสบื เสาะหาความรู้ (5E) ทกั ษะการสังเกต การจดั การเรียนการสอนแบบสืบเสาะหา ความรู้ เปน็ กระบวนการเรียนร้ทู ่ีสอดคล้องกับ ทกั ษะการสงั เกต คือทักษะทใ่ี ชป้ ระสาท แนวคดิ ทฤษฎกี ารสร้างความรู้ สัมผสั ทั้งหา้ เพือ่ สัมผสั และสำรวจ สิง่ (Constructivism) ซ่ึงเป็นกระบวนการท่ี หนึง่ ส่งิ ใดทเ่ี ราต้องการสงั เกต โดยอาจใช้ นกั เรยี นจะต้องสบื ค้น เสาะหา สำรวจ เครอ่ื งมือช่วยในการสงั เกตรว่ มด้วย ตรวจสอบ และค้นคว้าดว้ ยวธิ กี ารต่างๆ จนทำ ให้นักเรยี นเกดิ ความขา้ ใจและเกดิ การรบั รู้ ทกั ษะการจำแนกประเภท ความรนู้ น้ั อยา่ งมีความหมาย อธบิ าย ปรากฏการณท์ างธรรมชาตหิ รือข้อเทจ็ จรงิ ทกั ษะการจำแนกประเภท คือการแบง่ จดั ต่างๆ ซง่ึ อยู่บนพืน้ ฐานของขอ้ มูล หลักฐาน กลุ่ม จดั เรยี ง ออกเป็นพวก โดยอาศยั หรือเหตผุ ล ท่มี กี ารไต่ตรอง คันคว้าและสรุป เกณฑ์ที่มีความคลา้ ย หรือแตกต่างกัน ผู้เรียนสามารถใชก้ ระบวนการเหล่านีใ้ นการหา คำตอบทางวิทยาศาสตร์ได้อย่างมีระบบเพือ่ ความพึงพอใจต่อการจดั อธิบายเหตกุ ารณต์ ่างๆทีต่ อ้ งการศกึ ษาได้อยา่ ง การเรยี นการสอน รปู แบบการจัดการ ถ่องแท้นั้นเอง เรยี นร้แู บบสบื เสาะหาความรู้ (5E) เทคนคิ เกมมฟิ ิเคชัน ร่วมกบั เทคนคิ เกมฟิ ิเคชัน (Gamification) การเรยี นร้โู ดยเทคนิคเกมมิฟิเคชัน ใช้หลักการ ของเกมเพ่ือสร้างความสนใจ สรา้ งแรงจงู ใจใน การเรยี นรู้ การใชพ้ ฤตกิ รรมตอบสนองของ ผู้เรยี นด้วยกลไกของเกม เป็นการตอบสนอง ความตอ้ งการขั้นพื้นฐานของมนุษย์ ภาพที่ 2 กรอบแนวคดิ ของการวิจัย
43 บทท่ี 3 วธิ ดี ำเนินการวจิ ัย วจิ ัยเรอ่ื ง การพฒั นาผลสมั ฤทธด์ิ ้านทักษะการสังเกตและการจำแนกทางวิทยาศาสตร์ โดยใช้ รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) ร่วมกับเทคนิคเกมิฟิเคชัน (Gamification) เรื่อง ไฟฟ้า สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนยางตลาดวิทยาคารในครั้งนี้ผู้วิจัย ได้ดำเนนิ การเปน็ ขัน้ ตอนตามลำดบั ต่อไปนี้ 1. ประชากรและกลุม่ ตวั อย่าง 2. เครื่องมือทใ่ี ชใ้ นการเก็บรวบรวมขอ้ มูล 3. การสร้างและหาคุณภาพเครอ่ื งมือ 4. ขั้นตอนการดำเนินการวจิ ัย 5. การวเิ คราะห์ข้อมลู 6. สถติ ิทีใ่ ช้ในการวเิ คราะห์ข้อมูล 1. ประชากรและกล่มุ ตัวอยา่ ง ประชากรทีใ่ ช้ในการวจิ ัยเปน็ นักเรียนระดบั ช้ันมธั ยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนยางตลาดวทิ ยาคาร จังหวัดกาฬสินธุ์ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 24 ซึ่งกำลังศึกษาในภาคเรียน ท่ี 2 ปกี ารศึกษา 2563 จำนวน 251 คน กลุ่มตัวอย่าง ที่ใช้ในการวิจัยเป็นนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/5 โรงเรยี นยางตลาดวิทยาคาร จงั หวดั กาฬสินธ์ุ สังกัดสำนักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษามธั ยมศึกษา เขต 24 ซึ่งกำลังศึกษาในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2563 จำนวน 25 คน โดยวิธีการเลือกแบบเจาะจง (Purposive sampling) 2. เคร่อื งมือท่ีใชใ้ นการเกบ็ รวบรวมข้อมูล เครื่องมือทีใ่ ช้ในการวจิ ยั ครง้ั นมี้ ี 2 ชนดิ คอื 2.1 แผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้กิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) ร่วมกับ เทคนิคเกมิฟิเคชัน (Gamification) เรื่อง ไฟฟ้า สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2563 จำนวน 8 แผน จำนวน 16 ช่ัวโมง ซึง่ ใช้เวลาสอนในแตล่ ะแผน ดงั นี้ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1 เรอื่ ง ปริมาณทางไฟฟา้ จำนวน 2 ชวั่ โมง แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 2 เรอ่ื ง ปริมาณทางไฟฟา้ กฎของโอหม์ จำนวน 2 ชว่ั โมง แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 3 เร่ือง การต่อตัวตา้ นทานและวงจรไฟฟา้ แบบอนุกรม จำนวน 2 ชว่ั โมง
44 แผนการจัดการเรียนร้ทู ี่ 4 เร่ือง วงจรไฟฟา้ แบบขนาน จำนวน 2 ชวั่ โมง แผนการจัดการเรียนรูท้ ่ี 5 เรอื่ ง พลงั งานไฟฟ้า จำนวน 2 ชว่ั โมง แผนการจดั การเรยี นร้ทู ่ี 6 เรือ่ ง กำลงั ไฟฟ้า จำนวน 2 ชว่ั โมง แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 7 เรอ่ื ง การคำนวณค่าไฟ จำนวน 2 ชวั่ โมง แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 8 เรื่อง อิเล็กทรอนิกส์ จำนวน 2 ชว่ั โมง 2.2 แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิทยาศาสตร์ เรื่อง ไฟฟ้า สำหรับนักเรียน ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 3 เปน็ แบบทดสอบแบบปรนยั ชนดิ ตวั เลือก 4 ตวั เลือก จำนวน 30 ขอ้ 2.3 แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่เรียนโดยใช้แผนการจัดการเรียนรู้แบบใช้ กิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) ร่วมกับ เทคนิคเกมิฟิเคชัน (Gamification) ลักษณะ เป็นแบบมาตราส่วนประมาณคา่ มี 5 ระดบั จำนวน 15 ข้อ 3. การสรา้ งและหาคุณภาพเครอ่ื งมอื ผวู้ ิจยั ไดด้ ำเนินการสรา้ งเคร่ืองมอื ท่ีใช้ในการวจิ ยั โดยมีข้นั ตอนในการสรา้ ง ดงั น้ี 3.1 แผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้กิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) ร่วมกับ เทคนิคเกมิฟิเคชนั (Gamification) ผวู้ จิ ัยสรา้ งแผนการจัดการเรียนรวู้ ิทยาศาสตรโ์ ดยใช้กิจกรรมการ เรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) ร่วมกับ เทคนิคเกมิฟิเคชัน (Gamification) เรื่อง ไฟฟ้า สำหรับนกั เรียนชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 3 โดยดำเนนิ การตามขั้นตอน ดงั น้ี 3.1.1 ศึกษาหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พุทธศักราช 2560) มาตรฐานการเรียนรู้ของหลักสูตร ตัวชี้วัด และเนื้อหาวิชาวิทยาศาสตร์ ชัน้ มธั ยมศึกษาปที ่ี 1 3.1.2 ศึกษาหลักการ ทฤษฏีและวิธีการเขียนโดยใช้กิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะ หาความรู้ (5E) ซง่ึ ประกอบดว้ ย 5 ข้นั ตอนคอื ข้ันที่ 1 ขนั้ สรา้ งความสนใจ (Engagement) ขน้ั ที่ 2 ข้ันสำรวจและค้นหา (Exploration) ข้นั ที่ 3 ขน้ั อธิบายและลงข้อสรปุ (Explanation) ขน้ั ท่ี 4 ขั้นขยายความรู้ (Elaboration) ขน้ั ที่ 5 ขั้นประเมินผล (Evaluation) 3.1.3 วิเคราะห์มาตรฐานการเรียนรู้ ตัวชี้วัดและสาระการเรียนรู้ขอบข่ายเนื้อหาของวิชา วิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เรื่อง ไฟฟ้า มาวิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่าง มาตรฐาน/ตัวชี้วัด สาระการเรียนรู้ สาระสำคัญ และเวลา เพื่อนำไปกำหนดเป็นรายละเอียดในการสร้างแผนการจัดการเรียนรู้ ดงั ตารางท่ี 1
45 ตารางที่ 1 ความสัมพันธ์ระหว่างมาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด สาระการเรียนรู้ สาระสำคัญ จุดประสงค์ และเวลา สาระการ มาตรฐาน/ สาระสำคญั จดุ ประสงค์การ จำนวน เรียนรู้ ตัวชี้วัด เรยี นรู้ ชั่วโมง ปริมาณ ว 2.3 ม.3/3 วงจรไฟฟ้าอยา่ งงา่ ยประกอบดว้ ย 1. อธบิ ายการใช้ 2 ทางไฟฟ้า ใช้โวลตม์ ิเตอร์ แหลง่ กำเนดิ ไฟฟ้า ตัวนำไฟฟ้า โวลต์มเิ ตอร์และ แอมมเิ ตอร์ใน และอุปกรณ์ไฟฟา้ เมื่อต่อครบ แอมมิเตอร์ในการ การวัด วงจรจะมีกระแสไฟฟ้าเคล่อื นท่ี วดั ปรมิ าณทาง ปริมาณทาง จากขั้วบวกของแหล่งกำเนดิ ไฟฟา้ (K) ไฟฟ้า ไฟฟา้ ผา่ นอุปกรณ์ไฟฟา้ แลว้ กลับมายงั ขั้วลบของแหลง่ กำเนดิ 2. ใชโ้ วลตม์ เิ ตอร์ ไฟฟา้ กระแสไฟฟา้ คือปริมาณ และแอมมเิ ตอรใ์ น ประจุไฟฟา้ ท่เี คลื่อนทผ่ี า่ นตัวนำ การวัดปรมิ าณทาง ไฟฟา้ จากจดุ ที่มีศกั ย์ไฟฟา้ สงู ไป ไฟฟา้ ได้ (P) ยังจดุ ทีม่ ีศักยไ์ ฟฟ้าต่ำในหนึ่ง หนว่ ยเวลา มีหนว่ ยเป็นแอมแปร์ 3. มีความ ซ่ึงวัดคา่ กระแสไฟฟา้ ได้ดว้ ย รับผิดชอบ มีความ แอมมิเตอร์ ส่วนความแตกตา่ ง ใฝร่ ใู้ ฝเ่ รยี น และ ของศกั ย์ไฟฟ้าระหว่าง 2 จดุ ปฏบิ ตั งิ านตรงเวลา เรียกว่า ความตา่ งศักย์ไฟฟา้ มี (A) หนว่ ยเป็นโวลต์ ซึ่งวดั คา่ ความ ตา่ งศกั ย์ไฟฟ้าไดด้ ว้ ยโวลตม์ ิเตอร์ สำหรับวตั ถุที่เป็นตัวนำไฟฟ้าน้นั ค่ากระแสไฟฟา้ และความตา่ ง ศกั ยไ์ ฟฟ้ามีความสัมพันธแ์ บบเชิง เสน้ โดยอัตราส่วนระหว่างความ ต่างศักย์ไฟฟ้ากบั กระแสไฟฟ้า เรียกว่า ความตา้ นทานไฟฟา้
46 สาระการ มาตรฐาน/ สาระสำคญั จุดประสงค์การ จำนวน เรยี นรู้ ตัวช้วี ดั เรยี นรู้ ช่ัวโมง ปรมิ าณ ว 2.3 ม.3/1 วงจรไฟฟ้าอยา่ งงา่ ยประกอบด้วย 1. อธิบาย 2 ทางไฟฟ้า วิเคราะห์ แหลง่ กำเนดิ ไฟฟ้า ตวั นำไฟฟ้า ความสมั พันธ์ กฎของ ความสมั พันธ์ และอปุ กรณ์ไฟฟ้า เมื่อต่อครบ ระหวา่ งความต่าง โอห์ม ระหวา่ งความ วงจรจะมีกระแสไฟฟ้าเคลื่อนที่ ศกั ย์กระแสไฟฟ้า ต่างศักย์ จากขัว้ บวกของแหล่งกำเนิด และความต้านทาน กระแสไฟฟ้า ไฟฟา้ ผา่ นอปุ กรณ์ไฟฟา้ แลว้ ได้ (K) และความ กลบั มายังขัว้ ลบของแหลง่ กำเนดิ ต้านทาน และ ไฟฟ้ากระแสไฟฟา้ คือปรมิ าณ 2. คำนวณปรมิ าณ คำนวณ ประจุไฟฟ้าทเ่ี คล่ือนท่ีผ่านตวั นำ ท่เี ก่ยี วข้องกบั ความ ปริมาณท่ี ไฟฟา้ จากจุดที่มีศกั ย์ไฟฟา้ สูงไป ตา่ งศักย์ เกย่ี วข้องโดย ยังจุดท่ีมีศักยไ์ ฟฟา้ ต่ำในหนงึ่ กระแสไฟฟ้าและ ใช้สมการ หนว่ ยเวลา มหี น่วยเป็นแอมแปร์ ความตา้ นทานโดย V=IR จาก ซ่งึ วดั คา่ กระแสไฟฟา้ ได้ด้วย ใชส้ มการ V=IR ได้ หลักฐานเชิง แอมมเิ ตอร์ สว่ นความแตกต่าง (P) ประจกั ษ์ ของศักย์ไฟฟา้ ระหวา่ ง 2 จุด เรียกว่า ความต่างศักย์ไฟฟ้า มี 3. เขียนกราฟ ว 2.3 ม.3/2 หน่วยเป็นโวลต์ ซง่ึ วัดคา่ ความ ความสมั พันธ์ เขยี นกราฟ ต่างศักย์ไฟฟา้ ไดด้ ้วยโวลต์มเิ ตอร์ ระหวา่ ง ความสัมพันธ์ สำหรับวัตถทุ ี่เปน็ ตวั นำไฟฟ้านัน้ กระแสไฟฟา้ และ ระหว่าง คา่ กระแสไฟฟา้ และความต่าง ความตา่ งศักย์ไฟฟา้ กระแสไฟฟา้ ศกั ยไ์ ฟฟ้ามีความสมั พันธแ์ บบเชิง ได้ (P) และความต่าง เสน้ โดยอตั ราส่วนระหวา่ งความ ศกั ยไ์ ฟฟ้า ตา่ งศกั ย์ไฟฟา้ กับกระแสไฟฟ้า 4. มคี วาม เรียกวา่ ความต้านทานไฟฟ้า รบั ผิดชอบ มีความ ใฝร่ ใู้ ฝเ่ รียน และ ปฏิบัตงิ านตรงเวลา (A)
47 สาระการ มาตรฐาน/ สาระสำคัญ จุดประสงค์การ จำนวน เรียนรู้ ตัวชวี้ ดั เรยี นรู้ ช่ัวโมง การตอ่ ตัว ว 2.3 ม.3/4 การตอ่ ตัวต้านทานเพื่อใช้ 1. วเิ คราะหค์ วาม 2 ต้านทาน วเิ คราะห์ กำหนดค่าความต้านทานตามที่ ต่างศกั ย์ไฟฟ้าและ และ ความตา่ ง ทำการออกแบบไวน้ น้ั สามารถ กระแสไฟฟ้าใน วงจรไฟฟ้า ศักย์ไฟฟา้ และ กระทำได้โดยการนำเอาตวั วงจรไฟฟ้าเมื่อต่อ แบบ กระแสไฟฟา้ ตา้ นทานมาต่อกันเป็นวงจรตัว ตัวต้านทานหลาย อนกุ รม ในวงจรไฟฟ้า ตา้ นทานซึ่งมีอยู่ 3 แบบ คอื ตวั แบบอนกุ รมได้ เมื่อต่อตวั (K) ต้านทาน 1. วงจรตวั ต้านทานแบบอนุกรม หลายตัวแบบ (Series Resistor Circuit) 2. เขียนแผนภาพ อนุกรมและ ไฟฟา้ แสดงการต่อ แบบขนาน 2. วงจรตวั ตา้ นทานแบบขนาน อปุ กรณ์ไฟฟ้าแบบ จากหลกั ฐาน (Parallel Resistor Circuit) อนกุ รมได้ (P) เชิงประจกั ษ์ 3. วงจรตัวต้านทานแบบผสม 3. มีความ ว 2.3 ม.3/5 (Compound Resistor Circuit) รบั ผิดชอบ มีความ เขียนแผนภาพ ใฝ่รใู้ ฝ่เรียน และ วงจรไฟฟ้า วงจรตัวต้านทานแบบอนุกรม ปฏบิ ัติงานตรงเวลา แสดงการต่อ เป็นการต่อตวั ต้านทานแบบปลาย (A) ตวั ต้านทาน ตอ่ ปลายเรยี งแถวกัน การต่อแบบ แบบอนกุ รม ดงั กลา่ วจะมีค่าของความ และขนาน ต้านทานเพิ่มมากขน้ึ เท่ากบั ผลรวมของคา่ ความต้านทานแต่ ละตวั ในวงจร
48 สาระการ มาตรฐาน/ สาระสำคญั จุดประสงคก์ าร จำนวน เรยี นรู้ ตัวช้ีวัด เรยี นรู้ ช่ัวโมง วงจรไฟฟ้า ว 2.3 ม.3/4 วงจรตัวตา้ นทานแบบขนาน เป็น 1. วเิ คราะหค์ วาม 2 แบบขนาน วเิ คราะห์ การตอ่ ตวั ตา้ นทานโดยนำปลาย ตา่ งศักย์ไฟฟา้ และ ความตา่ ง แตล่ ะข้างของตัวตา้ นทานทุกตัว กระแสไฟฟา้ ใน ศักยไ์ ฟฟา้ และ ตอ่ เข้าดว้ ยกัน แลว้ นำปลายท่ีตอ่ วงจรไฟฟ้าเมื่อตอ่ กระแสไฟฟ้า รวมกันนั้นไปต่อเข้ากับวงจร การ ตวั ตา้ นทานหลาย ในวงจรไฟฟ้า ตอ่ แบบขนานจะทำให้ค่าของ ตวั แบบขนานได้ เมอ่ื ต่อตัว ความตา้ นทานรวมทงั้ หมดมีค่า (K) ต้านทาน นอ้ ยกวา่ คา่ ความตา้ นทานที่น้อย หลายตัวแบบ ที่สดุ ท่นี ำมาต่อขนานกัน 2. เขียนแผนภาพ อนกุ รมและ ไฟฟา้ แสดงการต่อ แบบขนาน อปุ กรณ์ไฟฟ้าแบบ จากหลกั ฐาน ขนานได้ (P) เชิงประจกั ษ์ 3. มีความ ว 2.3 ม.3/5 รับผิดชอบ มีความ เขียนแผนภาพ ใฝร่ ู้ใฝเ่ รียน และ วงจรไฟฟ้า ปฏิบัติงานตรงเวลา แสดงการต่อ (A) ตัวตา้ นทาน แบบอนกุ รม และขนาน
49 สาระการ มาตรฐาน/ สาระสำคัญ จุดประสงค์การ จำนวน เรยี นรู้ ตัวชี้วัด เรียนรู้ ช่ัวโมง พลงั งาน ว 2.3 ม.3/8 พลงั งานไฟฟ้าภายในบ้านจะถูก 1. อธิบายการ 2 ไฟฟา้ อธิบายและ คำนวณ นำไปใช้ในรูปแบบต่าง ๆ เช่น เปลี่ยนแปลง พลังงานไฟฟ้า โดยใช้สมการ 1. ให้พลงั งานความร้อน คือ พลงั งานไฟฟ้าเปน็ W=Pt รวมทง้ั คำนวณค่า เคร่ืองใช้ไฟฟ้าทเ่ี ปล่ียนพลังไฟฟ้า ให้ พลงั งานอืน่ ได้ (K) ไฟฟา้ ของ เครื่องใช้ไฟฟ้า เป็นพลังงานความร้อน ไดแ้ ก่ เตารีด ในบ้าน หม้อหุงข้าวไฟฟ้า กาต้มน้ำไฟฟ้า 2. นำเสนอการ เปน็ ตน้ เลือกใช้ ว 2.3 ม.3/9 2. ให้พลังงานกล คือ เคร่ืองใช้ไฟฟา้ เครือ่ งใช้ไฟฟา้ ให้ ตระหนักใน ทเ่ี ปลีย่ นนพลังงานไฟฟ้าใหเ้ ป็น ตรงกบั ความ คุณคา่ ของการ พลงั งานกล หรือทำให้วัตถเุ คลื่อนไหว ต้องการได้อย่าง เลือกใช้ ได้ ได้แก่ พดั ลม เคร่ืองปน่ั ผลไม้ เป็น ปลอดภัย (P) เคร่ืองใช้ไฟฟา้ โดยนำเสนอ ตน้ 3. มคี วาม วิธกี ารใช้ 3. ให้พลงั งานกลและความร้อน คอื รับผิดชอบ มคี วาม เครือ่ งใช้ไฟฟา้ เคร่ืองให้ไฟฟ้าท่ีเปลี่ยนพลงั งานไฟฟา้ ใฝ่ร้ใู ฝ่เรียน และ อยา่ งประหยัด ให้เปน็ พลังงานความร้อนและพลงั งาน ปฏบิ ัติงานตรงเวลา และปลอดภัย กลไปพร้อม ๆ กนั ได้แก่ ไดเป่าผม (A) เป็นต้น 4. ให้พลังงานแสงสวา่ ง คือ เคร่ืองใช้ไฟฟ้าทเ่ี ปลีย่ นพลังงานไฟฟ้า ใหเ้ ปน็ พลังงานแสงสว่าง ได้แก่ หลอดไฟแบบมีใส้ (ไฟดวง) หลอด ฟลูออเรสเซน เป็นต้น 5. ให้พลังเสยี งและภาพ คือ เครื่องใช้ไฟฟ้าทีเ่ ปลยี่ นพลังงานไฟฟา้ ใหเ้ ป็นพลังงานเสียงและภาพ ได้แก่ เครื่องรบั โทรทัศน์ วิทยุ เครอื่ งเล่น วดี ีโอ เป็นตน้
50 สาระการ มาตรฐาน/ สาระสำคัญ จดุ ประสงคก์ าร จำนวน เรียนรู้ ตัวชีว้ ดั เรยี นรู้ ช่ัวโมง กำลังไฟฟา้ ว 2.3 ม.3/8 พลังงานไฟฟ้าท่ีใช้ในหน่ึงหน่วย 1. อธิบายการ 2 อธบิ ายและ เวลา เรียกว่า กำลงั ไฟฟา้ มหี น่วย คำนวณพลงั งาน คำนวณ ในระบบ SI เป็น จลู ตอ่ วินาที ไฟฟ้าโดยใช้สมการ พลงั งานไฟฟ้า หรอื วัตต์ โดยพลังงานไฟฟ้าที่ W=Pt ได้ (K) โดยใชส้ มการ เครอ่ื งใช้ไฟฟา้ ใชค้ ำนวณได้จาก W=Pt รวมทั้ง ผลคณู ระหว่างกำลงั ไฟฟา้ ของ 2. คำนวณพลงั งาน คำนวณค่า เคร่อื งใช้ไฟฟา้ กับเวลาที่ใช้ ซ่งึ ไฟฟา้ โดยใช้สมการ ไฟฟ้าของ สามารถนำมาคำนวณค่าไฟฟ้าท่ี W=Pt ได้ (P) เครอื่ งใช้ไฟฟ้า ตอ้ งจ่ายในแตล่ ะเดือนได้ โดยคา่ ในบา้ น ไฟฟา้ จะคดิ จากพลังงานไฟฟา้ ที่ 3. มคี วาม ใช้ทัง้ หมดในราคาต่อหนว่ ยหรอื รับผิดชอบ มีความ ว 2.3 ม.3/9 เรยี กวา่ ค่าไฟฟา้ ฐาน นอกจากน้ี ใฝ่รใู้ ฝ่เรียน และ ตระหนักใน ยังรวมคา่ บริการรายเดอื น ค่า ปฏบิ ตั ิงานตรงเวลา คุณคา่ ของการ ไฟฟ้าผนั แปร และภาษมี ลู ค่าเพิ่ม (A) เลอื กใช้ เขา้ ไปด้วย เครื่องใช้ไฟฟา้ โดยนำเสนอ วิธกี ารใช้ เครือ่ งใช้ไฟฟา้ อย่างประหยดั และปลอดภัย
51 สาระการ มาตรฐาน/ สาระสำคญั จดุ ประสงค์การ จำนวน เรยี นรู้ ตวั ช้วี ัด เรยี นรู้ ช่ัวโมง การ ว 2.3 ม.3/8 พลงั งานไฟฟ้าทใี่ ช้ในหนึ่งหนว่ ย 1. อธบิ ายการ 2 คำนวณค่า อธบิ ายและ เวลา เรียกวา่ กำลังไฟฟา้ มีหน่วย คำนวณค่าไฟฟา้ ไฟ คำนวณ ในระบบ SI เป็น จลู ตอ่ วนิ าที ของเครอื่ งใช้ไฟฟา้ พลังงานไฟฟา้ หรือวตั ตโ์ ดยพลงั งานไฟฟา้ ท่ี ในบา้ นได้ (K) โดยใช้สมการ เครอ่ื งใช้ไฟฟ้าใช้คำนวณไดจ้ าก W=Pt รวมท้งั ผลคูณระหว่างกำลังไฟฟา้ ของ 2. นำเสนอ คำนวณค่า เครื่องใช้ไฟฟ้ากับเวลาท่ใี ช้ ซงึ่ วธิ กี ารใช้ ไฟฟ้าของ สามารถนำมาคำนวณค่าไฟฟ้าที่ เคร่ืองใช้ไฟฟ้าอยา่ ง เครื่องใช้ไฟฟา้ ตอ้ งจา่ ยในแต่ละเดือนได้ โดยคา่ ประหยัดและ ในบา้ น ไฟฟ้าจะคดิ จากพลงั งานไฟฟ้าที่ ปลอดภัย (P) ใช้ทง้ั หมดในราคาต่อหนว่ ยหรือ ว 2.3 ม.3/9 เรียกว่า คา่ ไฟฟ้าฐาน นอกจากน้ี 3. มคี วาม ตระหนกั ใน ยังรวมค่าบรกิ ารรายเดอื น คา่ รับผิดชอบ มีความ คุณคา่ ของการ ไฟฟ้าผนั แปร และภาษมี ูลค่าเพิม่ ใฝ่รใู้ ฝเ่ รียน และ เลือกใช้ เข้าไปดว้ ย ปฏิบัติงานตรงเวลา เครื่องใช้ไฟฟา้ (A) โดยนำเสนอ การเลอื กใชเ้ ครือ่ งใช้ไฟฟ้าให้ วธิ ีการใช้ ถูกต้อง ปลอดภัย และประหยัด เครือ่ งใช้ไฟฟ้า คา่ ใชจ้ ่ายสามารถทำไดโ้ ดย อย่างประหยดั เลือกใชเ้ ครื่องใช้ไฟฟา้ ให้ถกู ต้อง และปลอดภยั กับค่าความต่างศักย์ไฟฟ้าทรี่ ะบุ ไวบ้ นเครอื่ งใช้ไฟฟ้าและค่า กำลงั ไฟฟ้าที่เหมาะสมกับการใช้ งาน และควรใชง้ านอยา่ งถูกวิธี
52 สาระการ มาตรฐาน/ สาระสำคัญ จดุ ประสงค์การ จำนวน เรียนรู้ ตวั ชี้วัด เรียนรู้ ชัว่ โมง อิเลก็ ทรอ ว 2.3 ม.3/6 เคร่ืองใช้ไฟฟ้าจะมีชิ้นส่วน 1. บรรยายการ 2 นิกส์ บรรยายการ อเิ ล็กทรอนกิ ส์อยูใ่ นวงจรไฟฟ้า ทำงานของช้นิ ส่วน ทำงานของ เชน่ ตวั ต้านทาน ไดโอด ตัวเก็บ อิเล็กทรอนกิ ส์อยา่ ง ชน้ิ ส่วน ประจุ และทรานซสิ เตอร์ โดยตวั ง่ายในวงจรจาก อเิ ล็กทรอนิกส์ ตา้ นทานทำหนา้ ท่ีควบคุมปริมาณ ข้อมลู ทีร่ วบรวมได้ อย่างงา่ ยใน กระแสไฟฟ้า ไดโอดทำหนา้ ที่ให้ (K) วงจรจาก กระแสไฟฟา้ เคล่ือนทผ่ี ่านทาง ขอ้ มูลท่ี เดยี ว ตวั เก็บประจุทำหนา้ ทเี่ ก็บ 2. เขียนแผนภาพ และตอ่ ช้นิ ส่วน รวบรวมได้ และคายประจไุ ฟฟ้า และ ทรานซิสเตอร์ทำหน้าทเี่ ป็นสวิตช์ อเิ ล็กทรอนิกส์อย่าง ว 2.3 ม.3/7 อตั โนมตั ปิ ิดหรือเปิดวงจรไฟฟ้า งา่ ยในวงจรไฟฟา้ ได้ เขียนแผนภาพ และควบคุมปริมาณกระแสไฟฟา้ (P) และต่อ ชน้ิ ส่วน ในการต่อวงจรไฟฟา้ ต้องเลือกใช้ 3. มีความ อิเลก็ ทรอนกิ ส์ ชิน้ ส่วนอิเลก็ ทรอนกิ ส์ให้ รบั ผิดชอบ มีความ อย่างงา่ ยใน เหมาะสมกับหน้าที่ของช้นิ ส่วน ใฝร่ ูใ้ ฝ่เรยี น และ วงจรไฟฟ้า น้ันและต่อวงจรไฟฟ้าให้ถูกต้อง ปฏบิ ัติงานตรงเวลา เพ่อื ให้วงจรไฟฟา้ ทำงานได้ตาม (A) ความตอ้ งการ 3.1.4 นำผลการวิเคราะห์มาตรฐานการเรียนรู้ ตัวชี้วัดและสาระการเรียนรู้ขอบข่าย เนอื้ หาของวิชาวิทยาศาสตร์ มาจัดทำเป็นแผนการจดั การเรยี นรู้ จำนวน 8 แผน ไดแ้ ก่ 1. แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 1 เรอ่ื ง ปรมิ าณทางไฟฟ้า จำนวน 2 ช่ัวโมง 2. แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 2 เรือ่ ง ปรมิ าณทางไฟฟา้ กฎของโอห์ม จำนวน 2 ชั่วโมง 3. แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 3เรอื่ งการต่อตวั ต้านทานและวงจรไฟฟ้าแบบอนุกรม จำนวน 2 ชัว่ โมง 4. แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 4 เรื่อง วงจรไฟฟ้าแบบขนาน จำนวน 2 ช่วั โมง 5. แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 5 เรอ่ื ง พลังงานไฟฟ้า จำนวน 2 ชว่ั โมง 6. แผนการจดั การเรียนรูท้ ่ี 6 เรอ่ื ง กำลงั ไฟฟา้ จำนวน 2 ชัว่ โมง 7. แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 7 เรอื่ ง การคำนวณคา่ ไฟ จำนวน 2 ชวั่ โมง 8. แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 8 เร่อื ง อเิ ล็กทรอนกิ ส์ จำนวน 2 ชว่ั โมง
53 3.1.5 นำแผนการจดั การเรียนรู้แบบสบื เสาะหาความรู้ (5E) รว่ มกบั เทคนิคเกมิฟิเคชัน (Gamification) ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้นมา จำนวน 8 แผน เสนอต่ออาจารย์ที่ปรึกษาวิจัย เพื่อพิจารณา ตรวจสอบความเหมาะสมของแผนการจัดการเรยี นรู้ในด้าน สาระสำคญั มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวช้ีวัด จุดประสงค์การเรียนรู้ สาระการเรียนรู้ กระบวนการจัดการเรียนรู้ สื่อการเรียนรู้/แหล่งการเรียนรู้ และการวัดผลประเมินผล 3.1.6 นำแผนการจัดการเรียนรู้ที่ผ่านการพิจารณาจากอาจารย์ที่ปรึกษาวิจัยเสนอต่อ ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อพิจารณาประเมินคุณภาพ ความเหมาะสมชัดเจน ความเป็นไปได้ของการนำไปใช้ และความสอดคลอ้ งขององคป์ ระกอบของแผน จำนวน 3 ท่าน ซึ่งผู้เชีย่ วชาญประกอบไปด้วย 1. นายศรายุทธ เสนาวัง ตำแหน่ง ครูชำนาญการพิเศษ สถานที่ทำงาน โรงเรียนยางตลาดวิทยาคาร อำเภอยางตลาด จังหวัดกาฬสินธุ์ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา มัธยมศึกษา เขต 24 2. นางสาวนัณฑณา นาตรีชน ตำแหน่ง ครูชำนาญการพิเศษ สถานที่ทำงาน โรงเรียนยางตลาดวิทยาคาร อำเภอยางตลาด จังหวัดกาฬสินธุ์ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา มัธยมศึกษา เขต 24 3. นางบรรดล ภูบานเช้า ตำแหน่ง ครูชำนาญการพิเศษ สถานที่ทำงาน โรงเรียนยางตลาดวิทยาคาร อำเภอยางตลาด จังหวัดกาฬสินธุ์ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา มธั ยมศกึ ษา เขต 24 โดยกำหนดระดบั การประเมนิ แบบประเมินแผนการจดั การเรียนรแู้ บบสบื เสาะหาความรู้ (5E) ร่วมกบั เทคนคิ เกมฟิ ิเคชนั (Gamification) ดงั ตาราง 2 ตารางท่ี 2 ระดับการประเมินแบบประเมินแผนการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) ร่วมกบั เทคนคิ เกมฟิ ิเคชัน (Gamification) ระดบั การประเมิน ความหมาย 5 มีความสอดคล้อง/เชื่อมโยง/ครอบคลุม/เหมาะสม มากทส่ี ดุ 4 มีความสอดคล้อง/เชื่อมโยง/ครอบคลุม/เหมาะสม มาก 3 มคี วามสอดคล้อง/เช่ือมโยง/ครอบคลมุ /เหมาะสม ปานกลาง 2 มีความสอดคล้อง/เชื่อมโยง/ครอบคลุม/เหมาะสม น้อย 1 มคี วามสอดคล้อง/เชื่อมโยง/ครอบคลุม/เหมาะสม น้อยทสี่ ดุ
54 3.1.7 ดำเนนิ การนำผลการประเมินแผนการจดั การเรียนรแู้ บบสืบเสาะหาความรู้ (5E) ร่วมกับ เทคนิคเกมิฟิเคชัน (Gamification) ของผู้เชี่ยวชาญ มาวิเคราะห์หาค่าเฉลี่ยและเทียบเกณฑ์ คุณภาพและความเหมาะสม โดยใช้แบบประเมินมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ (Rating scale) ดัง ตาราง 3 ตารางที่ 3 มาตรประเมนิ ค่าชนดิ มาตราส่วนระดบั ค่าเฉลย่ี ความหมาย 4.51 – 5.00 มีคณุ ภาพและความเหมาะสม มากที่สดุ 3.51 – 4.50 มีคุณภาพและความเหมาะสม มาก 2.51 – 3.50 มคี ุณภาพและความเหมาะสม ปานกลาง 1.51 – 2.50 มีคณุ ภาพและความเหมาะสม น้อย 1.00 – 1.50 มคี ณุ ภาพและความเหมาะสม น้อยทสี่ ดุ โดยการกำหนดค่าเฉลี่ยระดับคุณภาพและความเหมาะสม ตั้งแต่ 3.51 – 5.00 จึงจะถอื วา่ เปน็ แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ีใชไ้ ด้ 3.1.8 นำแผนการจัดการเรียนรู้ที่ปรับปรุงแก้ไขเนื้อหา กิจกรรมให้เหมาะสมกับเวลา ในการจดั การเรยี นรแู้ ลว้ เสนอตอ่ อาจารยท์ ป่ี รกึ ษาวิจัย เพ่อื ตรวจสอบอกี ครัง้ 3.1.9 นำแผนทปี่ รบั ปรงุ แล้วไปพิมพ์ฉบบั สมบรู ณ์ เพ่ือนำไปปฏบิ ตั ิการสอนจริง 3.2 การสร้างแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิทยาศาสตร์ เรื่องไฟฟ้า โดยมีขั้นตอน การสรา้ ง ดงั น้ี 3.2.1 ศึกษาหลักสูตร จุดมุ่งหมายของหลักสูตร มาตรฐานการเรียนรู้ช่วงชั้น สาระการ เรียนรู้รายปี ขอบข่ายเนื้อหาและเวลา กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ตามหลักสตู รการศึกษาขัน้ พ้นื ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 (ฉบบั ปรับปรงุ พุทธศักราช 2560) 3.2.2 ศึกษาทฤษฎีและวิธีการสร้างแบบทดสอบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิทยาศาสตร์ จากเอกสาร ตำรา ท่เี กีย่ วข้อง 3.2.3 วิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างเนื้อหา สาระการเรียนรู้ และจุดประสงค์การ เรียนรู้ เพือ่ ใช้เปน็ แนวทางในการสร้างแบบทดสอบ 3.2.4 สร้างแบบทดสอบตามระดับพฤติกรรมให้ครอบคลุมพฤติกรรมทั้ง 6 ด้าน ของผู้เรียนดงั ตารางที่ 4 ต่อไปน้ี
55 ตารางที่ 4 วิเคราะห์การออกข้อสอบตามระดับพฤตกิ รรม พฤติกรรมทต่ี ้องการวดั ตวั ช้ีวัด ความรู้ ความจำ ความเ ้ขาใจ นำไปใช้ วิเคราะห์ ประเ ิมนค่า สร้างสรรค์ รวม ว 2.3 ม.3/1 วิเคราะห์ 4-1- - -1 ความสมั พนั ธ์ระหว่างความ ต่างศักย์กระแสไฟฟ้าและ ความตา้ นทานและคำนวณ ปรมิ าณทเี่ กี่ยวข้องโดยใช้ สมการ V = IR จาก หลกั ฐานเชงิ ประจกั ษ์ ว 2.3 ม.3/2 เขียนกราฟ -1-3- -4 ความสมั พันธ์ระหวา่ ง กระแสไฟฟา้ และความต่าง ศักย์ไฟฟ้า ว 2.3 ม.3/3 ใช้โวลต์มิเตอร์ 2 - 1 1 - - 4 แอมมเิ ตอร์ในการวดั ปรมิ าณ ทางไฟฟ้า ว 2.3 ม.3/4 วิเคราะห์ความ 3 - - 2 - - 5 ตา่ งศกั ย์ไฟฟา้ และ กระแสไฟฟ้าในวงจรไฟฟา้ เมือ่ ต่อตวั ต้านทานหลายตัว แบบอนกุ รมและแบบขนาน จากหลกั ฐานเชงิ ประจักษ์ ว 2.3 ม.3/5 เขยี นแผนภาพ 2 - 1 2 - - 5 วงจรไฟฟ้าแสดงการต่อตวั ตา้ นทานแบบอนุกรมและ ขนาน
56 พฤตกิ รรมท่ีตอ้ งการวัด ตวั ชีว้ ัด ความรู้ ความจำ ความเ ้ขาใจ นำไปใช้ วิเคราะห์ ประเ ิมนค่า สร้างสรรค์ รวม ว 2.3 ม.3/6 บรรยายการ 5 - - - - - 5 ทำงานของชนิ้ ส่วน อิเลก็ ทรอนิกส์อย่างงา่ ยใน วงจรจากขอ้ มลู ทร่ี วบรวมได้ ว 2.3 ม.3/7 เขยี นแผนภาพ - 4 - - - - 4 และตอ่ ช้ินส่วน อิเล็กทรอนิกส์อยา่ งง่ายใน วงจรไฟฟ้า ว 2.3 ม.3/8 อธบิ ายและ 1 1 2 - - - 4 คำนวณพลงั งานไฟฟ้าโดยใช้ สมการ W = Pt รวมท้ัง คำนวณคา่ ไฟฟา้ ของ เคร่อื งใช้ไฟฟา้ ในบ้าน ว2.3 ม.3/9 ตระหนักใน 1-2-1-4 คุณค่าของการเลือกใช้ เครื่องใช้ไฟฟ้าโดยนำเสนอ วิธีการใช้เครอื่ งใช้ไฟฟา้ อย่าง ประหยดั และปลอดภัย รวม 40
57 3.2.5 สรา้ งแบบทดสอบผลสัมฤทธทิ์ างการเรียนวิทยาศาสตร์โดยมโี ครงสรา้ ง ดงั นี้ ตารางที่ 5 กำหนดข้อสอบวดั ผลสัมฤทธท์ิ างการเรียนวิทยาศาสตร์ ตัวชี้วดั จำนวน จำนวน ข้อสอบ ขอ้ สอบ ว 2.3 ม.3/1 วเิ คราะห์ความสมั พันธ์ระหว่างความต่างศักยก์ ระแสไฟฟ้า ทง้ั หมด ท่ีตอ้ งการ และความต้านทานและคำนวณ ปริมาณที่เกี่ยวข้องโดยใช้สมการ V = IR จากหลกั ฐานเชิงประจกั ษ์ 5 4 ว 2.3 ม.3/2 เขยี นกราฟความสมั พันธ์ระหว่างกระแสไฟฟ้าและความ ต่างศักย์ไฟฟ้า 4 3 ว 2.3 ม.3/3 ใช้โวลต์มเิ ตอร์แอมมิเตอรใ์ นการวัดปริมาณทางไฟฟา้ 4 3 5 4 ว 2.3 ม.3/4 วิเคราะห์ความต่างศักย์ไฟฟ้าและกระแสไฟฟ้าใน วงจรไฟฟ้าเมื่อต่อตัวต้านทานหลายตัวแบบอนุกรมและแบบขนานจาก 5 4 หลักฐานเชงิ ประจักษ์ ว 2.3 ม.3/5 เขียนแผนภาพวงจรไฟฟ้าแสดงการต่อตัวต้านทานแบบ 5 3 อนกุ รมและขนาน 4 3 ว 2.3 ม.3/6 บรรยายการทำงานของชิน้ สว่ นอิเล็กทรอนิกส์อย่างง่ายใน วงจรจากขอ้ มูลท่รี วบรวมได้ 4 3 ว 2.3 ม.3/7 เขียนแผนภาพและต่อชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์อย่างง่ายใน 4 3 วงจรไฟฟา้ 40 30 ว 2.3 ม.3/8 อธิบายและคำนวณพลังงานไฟฟ้าโดยใช้สมการ W = Pt รวมท้ังคำนวณค่าไฟฟา้ ของเครื่องใชไ้ ฟฟ้าในบา้ น 2.3 ม.3/9 ตระหนักในคุณค่าของการเลือกใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าโดย นำเสนอวิธกี ารใช้เครอ่ื งใชไ้ ฟฟ้าอยา่ งประหยดั และปลอดภยั รวม
58 3.2.6 ดำเนินการนำแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิทยาศาสตร์ที่สร้างขึ้นไป ให้ผู้เชี่ยวชาญทางการสอนวิทยาศาสตร์และผู้เชี่ยวชาญทางด้านการวัดผลจำนวน 3 ท่าน ตรวจสอบ ลักษณะของคำถาม ตัวเลือก ความสอดคล้องระหว่างจุดประสงค์กับพฤติกรรมที่ต้องการวัด ความถูกต้องทางด้านภาษา แลว้ นำมาปรบั ปรุงแกไ้ ข 3.2.7 ดำเนินการคัดเลือกข้อสอบที่มีความเที่ยงตรงตามเนื้อหา โดยนำมาหาค่าดัชนี ความสอดคล้องของเครื่องมือ IOC (Index of Item Objectives Congruence) โดยกำหนดเกณฑ์ การพิจารณา คอื เหน็ ว่าสอดคลอ้ ง ให้คะแนน +1 ไมแ่ นใ่ จ ใหค้ ะแนน 0 เหน็ วา่ ไม่สอดคล้อง ใหค้ ะแนน -1 3.2.8 ดำเนินการนำแบบทดสอบที่ผู้เชี่ยวชาญพิจารณา มาวิเคราะห์ค่าดัชนี ความสอดคล้อง ระหว่างข้อคำถามกับผลการเรียนรู้ที่คาดหวัง ( Index of Objective Congruence : IOC) โดยคัดเลือกข้อสอบที่ผ่านเกณฑ์ 0.50 ข้ึนไป หากไม่ผ่านเกณฑ์จะดำเนินการ ปรับปรุงหรือสร้างข้อสอบขอ้ นัน้ ๆ ใหม่ 3.2.9 ดำเนินการจดั พมิ พ์แบบทดสอบวดั ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนฉบับจริง เพื่อนำไปใช้ กบั กลุม่ ตัวอย่างตอ่ ไป 3.3 การสร้างแบบสอบถามความพึงพอใจ ของนักเรียนที่ใช้การจัดกิจกรรมการการเรียน การสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) ร่วมกับ เทคนิคเกมิฟิเคชัน (Gamification) ที่มีต่อผลสัมฤทธ์ิ ทางการเรียนวทิ ยาศาสตร์ โดยมีข้นั ตอนการการสร้างดงั น้ี 3.3.1 ศึกษาหลักการสร้างแบบสอบถามความพึงพอใจจากเอกสาร ตำรา และงานวิจัย ท่ีเกย่ี วขอ้ ง 3.3.2 สร้างแบบสอบถามความพึงพอใจ เป็นมาตราสว่ นประมาณค่า (Rating Scale) 5 ระดบั โดยกำหนดค่าระดบั ความพึงพอใจแต่ละช่วงคะแนนและความหมาย ดงั น้ี 5 หมายถึง มีความพอใจมากที่สุด 4 หมายถึง มีความพอใจมาก 3 หมายถงึ มคี วามพอใจปานกลาง 2 หมายถึง มคี วามพอใจนอ้ ย 1 หมายถึง มีความพอใจน้อยทส่ี ดุ
59 สำหรับการให้ความหมายของค่าที่วัดได้ ผู้วิจัยได้กำหนดเกณฑ์ที่ใช้ในการให้ความหมาย โดยการให้คา่ เฉลี่ยเป็นรายด้านและรายข้อ ดังนี้ ค่าเฉล่ียตั้งแต่ 4.50 – 5.00 หมายถึง พึงพอใจมากท่สี ุด ค่าเฉลย่ี ต้ังแต่ 3.50 – 4.49 หมายถงึ พึงพอใจมาก คา่ เฉลี่ยตัง้ แต่ 2.50 – 3.49 หมายถึง พึงพอใจปานกลาง คา่ เฉล่ียตั้งแต่ 1.50 – 2.49 หมายถึง พึงพอใจน้อย คา่ เฉล่ยี ตัง้ แต่ 1.00 – 1.49 หมายถึง พึงพอใจน้อยท่สี ดุ 3.3.3 นำแบบสอบถามความคิดเห็น ให้ผู้เชี่ยวชาญ 3 ตรวจสอบ ลักษณะของคำถาม ตัวเลือก ความสอดคล้อง ความถูกต้องทางด้านภาษา ซึ่งเป็นชุดเดิมกับที่ตรวจแบบทดสอบวัดผล สัมฤทธิ์ทางการเรียน ทั้งนี้เพื่อตรวจสอบความถูกต้อง และความเที่ยงตรงของเนื้อหา (Content Validity) ภาษาที่ใช้ การประเมินที่ถูกต้อง โดยการให้ผู้เชี่ยวชาญพิจารณาความสอดคล้อง ระหว่างข้อคำถามกับนิยามศัพท์เฉพาะ และนำมาหาค่าดัชนีความสอดคล้องของเครื่องมือ IOC (Index of Item Objectives Congruence) โดยกำหนดเกณฑก์ ารพิจารณา คอื เห็นว่า สอดคล้อง ให้คะแนน +1 ไมแ่ น่ใจ ให้คะแนน 0 เห็นวา่ ไมส่ อดคล้อง ใหค้ ะแนน -1 การวิเคราะห์ข้อมูลความเหมาะสมสอดคล้องของแบบสอบถามความคิดเห็นโดยใช้ดัชนี ความสอดคลอ้ ง (IOC) คำนวณคา่ ตามสูตร ∑R IOC = N IOC = ดัชนีความสอดคล้องของแบบสอบถามความคดิ เหน็ ∑ R = ผลรวมคะแนนความคดิ เหน็ ของผเู้ ชย่ี วชาญ N = จำนวนผเู้ ชี่ยวชาญ 3.3.4 นำข้อมลู ทีร่ วบรวมจากความคิดเห็นของผู้เช่ยี วชาญมาคำนวณหาค่า IOC โดยใช้ ดัชนีความสอดคลอ้ ง (Index of Item Objective Congruence) ของผู้เชี่ยวชาญ มาคำนวณค่าดัชนี ความสอดคล้อง แล้วเลือกค่าดัชนีความสอดคล้องตั้งแต่ 0.5 ขึ้นไป หากไม่ผ่านเกณฑ์จะดำเนินการ ปรบั ปรุงหรือสรา้ งข้อคำถามขอ้ น้ันๆ ใหม่ 3.3.5 นำแบบสอบถามความพึงพอใจทปี่ รับปรงุ แลว้ ไปใชก้ ับนกั เรียน
60 4. ข้นั ตอนดำเนินการวิจยั 4.1 ขน้ั เตรียม 4.1.1 ผู้วิจัยทำการสุ่มกลุ่มตัวอย่าง โดยใช้วิธีการเลือกแบบเจาะจง (Purposive sampling) ได้กลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/5 จำนวน 25 คน โรงเรียนยางตลาด วิทยาคาร จังหวัดกาฬสินธ์ุ ในภาคเรียนท่ี 1-2 ปีการศึกษา 2563 เพราะจากการจัดกิจกรรมการ เรียนรู้รายวิชาวิทยาศาสตร์ พบว่านักเรียนห้องน้ียังมีผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนวิทยาศาสตร์ที่ต่ำ ผู้วิจัย จึงตอ้ งการที่จะพัฒนาผลสมั ฤทธ์ทิ างการเรียนวิทยาศาสตร์ นักเรยี นห้องน้ีใหเ้ พมิ่ มากข้ึน 4.1.2 ศกึ ษาคะแนนรายวิชาวทิ ยาศาสตรพ์ ้นื ฐานของนกั เรียนช้ันมธั ยมศึกษาปที ี่ 3/5 แล้วแบ่งนกั เรียนออกเป็นกลุม่ โดยจัดเรียงตามผลการเรียน เก่ง ปานกลางและอ่อน และคละเพศ 4.2 ข้ันดำเนินการทดลอง ดำเนินการปฏิบัติการสอน ในภาคเรียนท่ี 2 ปีการศึกษา 2563 เวลาเรียนทั้งหมด 16 ชว่ั โมง ไม่รวมเวลาทดสอบวดั ผลสมั ฤทธิ์ทางการเรยี นวทิ ยาศาสตรก์ ่อนเรียนและหลังเรยี น 4.3 ขนั้ เกบ็ รวบรวมข้อมูล ผู้วจิ ัยได้ดำเนินการเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู ดงั ขน้ั ตอนดังน้ี 4.3.1 ชีแ้ จงรายละเอียดขนั้ ตอน และวธิ ปี ฏบิ ัติในชั้นเรียนกับนกั เรยี นกล่มุ ตัวอยา่ ง 4.3.2 ทำการทดสอบก่อนเรียน (Pre-test) กับกลุ่มตัวอย่างด้วยแบบทดสอบวัด สัมฤทธท์ิ างการเรียนวิทยาศาสตร์ ท่ผี ูว้ จิ ัยสร้างขน้ึ จำนวน 30 ข้อ พรอ้ มตรวจคะแนนและเก็บบันทึก คะแนนไว้ 4.3.3 ดำเนินการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามแผนการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหา ความรู้ (5E) รว่ มกับ เทคนิคเกมิฟิเคชัน (Gamification) ชั้นมธั ยมศึกษาปีที่ 3 4.3.4 เมื่อสิ้นสุดการทดลอง ดำเนินการทดสอบหลังเรียน (Post-test) โดยใช้ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิทยาศาสตร์ ฉบับเดียวกันกับการทดสอบก่อนเรียน พร้อม ตรวจคะแนนและเก็บบันทึกคะแนนไว้ 4.3.5 ดำเนินการนำคะแนนระหว่างเรียนและคะแนนจากการทดสอบก่อน/หลัง เรียน ไปวิเคราะห์ทางสถติ เิ พอื่ สรุปผลตามจดุ ประสงคข์ องการวิจยั ต่อไป 4.3.6 นักเรียนตอบแบบสอบถามความพึงพอใจต่อการเรียน โดยการใช้แผนการ จัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) ร่วมกับ เทคนิคเกมิฟิเคชัน (Gamification) ผู้วิจัยสร้างขนึ้ จำนวน 20 ขอ้ พร้อมตรวจคะแนนและเก็บบันทกึ คะแนนไว้
61 5. การวิเคราะห์ข้อมูล 5.1 วิเคราะห์ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ก่อนเรียนและหลังเรียน โดยใช้ t–test แบบ Dependent 5.2 วิเคราะห์หาค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานของความพึงพอใจต่อการเรียน โดยใช้การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนแบบแบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) ร่วมกับ เทคนิคเกมิฟิเคชัน (Gamification) จากนัน้ วเิ คราะหน์ ำค่าเฉล่ยี มาเทยี บกับเกณฑ์ ดังนี้ คา่ เฉล่ยี ระดับความพึงพอใจ 4.51 – 5.00 มากทสี่ ุด 3.51 – 4.50 มาก 2.51 – 3.50 ปานกลาง 1.51 – 2.50 น้อย 1.00 – 1.50 น้อยทส่ี ดุ 6. สถิตทิ ีใ่ ช้ในการวเิ คราะห์ข้อมูล 6.1 สถิตพิ ืน้ ฐาน เพ่อื ประเมนิ คุณภาพการจัดการเรียนการสอน โดยใชก้ ารจัดกจิ กรรมการเรียนการสอน แบบแบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) ร่วมกับ เทคนิคเกมิฟิเคชัน (Gamification) และผลการประเมิน ความพงึ พอใจตอ่ การเรียน นำมาวเิ คราะห์ โดยใชค้ า่ สถิติ ไดแ้ ก่ 1. ค่าเฉลี่ยเลขคณติ (Mean) โดยคำนวณจากสตู ร (พรรณี ลีกจิ วฒั นะ. 2554) X = ∑������ ������ เมอื่ X แทน ค่าเฉลยี่ ของคะแนน ∑������ แทน ผลรวมของคะแนนท้ังหมด ������ แทน จำนวนนกั เรียนทงั้ หมด
62 2. การหาคา่ เบยี่ งเบนมาตรฐาน โดยคำนวณจากสูตร (พรรณี ลีกจิ วฒั นะ. 2554) ������. ������. = √������∑������2−(∑������)2 ������(������−1) เม่ือ ������. ������. แทน ค่าเบ่ยี งเบนมาตรฐาน ∑������ แทน ผลรวมของคะแนนทงั้ หมด ∑������2 แทน ผลรวมของคะแนนแตล่ ะตัวยกกำลังสอง ������ แทน จำนวนนักเรยี นกลมุ่ เป้าหมาย 6.2 สถติ ทิ ่ีใช้ในการวเิ คราะห์ข้อมูล การหาค่าความเที่ยงตรงเชิงเนื้อหา โดยใช้สูตรดัชนีความสอดคล้อง (IOC : Index of Item Objective Congruence) (พรรณี ลีกิจวฒั นะ. 2554) IOC = R N เมื่อ IOC แทน ดัชนคี วามสอดคล้องระหว่าข้อสอบ กับผลการเรียนรู้ทีค่ าดหวัง R แทน ผลรวมของคะแนนความคดิ เห็นของผูเ้ ช่ียวชาญทง้ั หมด N แทน จำนวนผเู้ ชี่ยวชาญท้งั หมด 6.3 สถิติท่ีใชใ้ นการตรวจสอบสมมตฐิ าน ผู้ศึกษาค้นคว้าใช้ t – test แบบ Dependent Samples โดยใช้สูตรดังนี้ (บุญชม ศรี สะอาด. 2545) t = ∑ ������ ; df = N – 1 √������ ∑������ 2−(∑ ������) ������−1 เม่อื D แทนความแตกตา่ งระหว่างคะแนนชดุ ที่หนึ่งละชุดที่สอง N แทนจำนวนคนท้ังหมด
63 บทที่ 4 ผลการวิเคราะหข์ ้อมูล ในการวเิ คราะห์ข้อมลู ผู้จิวยั ได้นำเสนอผลการวเิ คราะหข์ ้อมลู ตามลำดับ ดังนี้ 1. สัญลกั ษณ์ทีใ่ ชใ้ นการเสนอผลการวิเคราะห์ข้อมูล 2. ลำดับขั้นตอนในการเสนอผลการวเิ คราะหข์ ้อมูล 3. ผลการวเิ คราะห์ข้อมูล 1. สัญลกั ษณท์ ่ีใชใ้ นการเสนอผลการวิเคราะห์ข้อมลู ในการวิจัยครั้งน้ี ผู้วิจัยได้กำหนดสัญลักษณ์ที่ใช้ในการแปลความหมายของการวิเคราะห์ ขอ้ มูล ดังนี้ 1.1 N แทน จำนวนกลมุ่ ตัวอย่าง 1.2 ������̅ แทน ค่าเฉลยี่ 1.3 S.D. แทน สว่ นเบ่ยี งเบนมาตรฐาน 1.4 t แทน สถติ ิทดสอบทีใ่ ช้ใน t-test 1.5 * แทน ระดบั นยั สำคัญทางสถิตทิ ี่ระดบั .01 2. ลำดับข้ันตอนในการเสนอผลการวเิ คราะห์ข้อมูล ในการเสนอผลการวิเคราะหข์ อ้ มูล มลี ำดบั ขัน้ ดงั นี้ ตอนท่ี 1 ผลการวิเคราะห์เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ก่อนเรียน และหลังเรียนของนักเรียนที่เรียนโดยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) ร่วมกับ เทคนิคเกมิฟิเคชัน (Gamification) เร่ือง ไฟฟ้า สำหรับนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนยาง ตลาดวิทยาคาร จงั หวดั กาฬสนิ ธ์ุ ตอนท่ี 2 ผลการวิเคราะห์ความพึงพอใจของนักเรียนหลังจากท่ีได้รับการจัดกิจกรรมการ เรียนรู้โดยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) ร่วมกับ เทคนิคเกมิฟิเคชัน (Gamification) เร่ือง ไฟฟ้า สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนยางตลาดวิทยาคาร จงั หวดั กาฬสินธุ์ 3. ผลการวิเคราะห์ข้อมลู ตอนท่ี 1 ผลการวิเคราะห์เปรียบเทียบผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ก่อนเรียน และหลังเรียนของนักเรียนที่เรียนโดยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) ร่วมกับ
64 เท ค นิ ค เก มิฟิ เคชัน (Gamification) เร่ือง ไฟ ฟ้ า สำห รับ นั กเรียน ชั้น มั ธยม ศึ กษ าปี ท่ี 3 โรงเรยี นยางตลาดวิทยาคาร จงั หวดั กาฬสนิ ธ์ุ ผู้วิจัยได้วิเคราะห์เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ก่อนเรยี นและหลังเรียน ของนักเรียนที่เรียน ผลการวิเคราะห์เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้วิทยาศาสต ร์ก่อนเรียน และหลังเรียนของนักเรียนท่ีเรียนโดยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) ร่วมกับ เทคนิคเกมฟิ เิ คชัน (Gamification) ปรากฏผลดงั ตารางท่ี 6 ตารางท่ี 6 ผลการวิเคราะห์เปรียบเทียบผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ก่อนเรียน และหลังเรียนของนักเรียนท่ีเรียนโดยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) ร่วมกับ เท ค นิ ค เก มิฟิ เคชัน (Gamification) เรื่อง ไฟ ฟ้ า สำห รับ นั กเรียน ช้ัน มั ธยม ศึ กษ าปี ท่ี 3 โรงเรยี นยางตลาดวิทยาคาร จงั หวัดกาฬสนิ ธุ์ ทดสอบ N คะแนนเต็ม ������̅ S.D. t sig. กอ่ นเรยี น 25 30 10.52 3.48 หลงั เรียน 25 30 24.40 1.73 17.4260* 0.0000 * มนี ยั สำคัญทางสถิติ 0.05 จากตารางที่ 6 พบว่า นักเรียนมีผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนโดยการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ โดยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5 E) ร่วมกับ เทคนิคเกมิฟิเคชัน (Gamification) เร่ือง ไฟฟ้า สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 3 โรงเรียนยางตลาดวิทยาคาร จังหวัดกาฬสินธ์ุ เปรียบเทียบคะแนนผลสัมฤทธ์ิหลังเรียนสงู กวา่ ก่อนเรยี น อย่างมีนยั สำคัญทางสถิติท่ี 0.05 โดยคา่ เฉล่ียคะแนนก่อนเรียนเท่ากับ 10.52 คะแนน ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน เท่ากับ 3.48 และ คะแนนหลงั เรียนเทา่ กับ 24.40 คะแนน ส่วนเบยี่ งเบนมาตรฐาน เท่ากับ 1.73 ตอนท่ี 2 ผลการวิเคราะห์ความพึงพอใจของนักเรียนหลังจากที่ได้รับการจัดกิจกรรมการ เรียนรู้โดยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) ร่วมกับ เทคนิคเกมิฟิเคชัน (Gamification) เรื่อง ไฟฟ้า สำหรับนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 3 โรงเรียนยางตลาดวิทยาคาร จังหวดั กาฬสินธ์ุ ผู้วิจัยได้วิเคราะห์ความพึงพอใจของนักเรียนหลังจากที่ได้รับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ โดยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5 E) ร่วมกับ เทคนิคเกมิฟิเคชัน (Gamification) ปรากฏผลดงั ตารางที่ 7
65 ตารางท่ี 7 ผลการวิเคราะห์ความพึงพอใจของนักเรียนหลังจากท่ีได้รับการจัดกิจกรรมการ เรียนรู้โดยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) ร่วมกับ เทคนิคเกมิฟิเคชัน (Gamification) เร่ือง ไฟฟ้า สำหรับนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนยางตลาดวิทยาคาร จงั หวดั กาฬสินธุ์ ขอ้ รายการ ������̅ S.D. ระดบั ความ ที่ พงึ พอใจ 1 บรรยากาศของการเรียนทำใหน้ ักเรยี นมีความกระตือรือร้นใน 4.72 0.46 มากทส่ี ุด การเรียน 2 บรรยากาศของการเรียนทำให้นักเรียนมีความรบั ผดิ ชอบต่อ 4.48 0.51 มาก ตนเอง และกล่มุ 3 บรรยากาศของการเรียนเปิดโอกาสใหน้ ักเรยี นมสี ว่ นรว่ มใน 4.84 0.37 มากที่สดุ การทำกจิ กรรม 4 บรรยากาศของการเรียนเปดิ โอกาสให้นักเรียนทำกจิ กรรมได้ 4.72 0.46 มากที่สุด อยา่ งอสิ ระ 5 กจิ กรรมการเรียนรูม้ คี วามเหมาะสมกบั เนื้อหา 4.72 0.46 มากที่สุด 6 กิจกรรมการจัดการเรยี นรชู้ ว่ ยให้นักเรยี นเข้าใจในเนื้อหา 4.56 0.51 มากทส่ี ดุ 7 กจิ กรรมการเรียนรู้ส่งเสรมิ ทักษะการสังเกต และการจำแนก 4.80 0.41 มากที่สดุ 8 การจดั การเรยี นรชู้ ว่ ยทำใหน้ ักเรยี นสร้างองคค์ วามรู้ ความ 4.60 0.50 มากทส่ี ดุ เขา้ ใจด้วยตนเอง 9 สื่อการเรียนรนู้ ่าสนใจสำหรบั นักเรยี น 4.52 0.51 มากทสี่ ดุ 10 สื่อการเรยี นรทู้ ำใหน้ ักเรียนเข้าใจไดง้ ่ายขึน้ 4.80 0.41 มากทสี่ ุด 11 สือ่ การเรียนร้เู หมาะสมกับกจิ กรรมการเรียนรู้ 4.60 0.50 มากทส่ี ุด 12 การจดั กิจกรรมการเรยี นร้ทู ำให้เกดิ ความสามัคคใี นการทำงาน 4.68 0.48 มากที่สุด 13 การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ส่งเสริมให้ทำงานร่วมกบั ผอู้ ื่น 4.76 0.44 มากทส่ี ดุ 14 ผ้เู รยี นสามารถนำความรู้ไปใช้ในชวี ิตประจำวันได้ 4.68 0.48 มากทส่ี ุด 15 การจดั การเรยี นรทู้ ำใหน้ กั เรยี นนำวธิ ีการเรียนรไู้ ปใช้ในวชิ าอ่ืน ๆ 4.84 0.37 มากที่สดุ เฉลยี่ 4.69 0.46 มากทสี่ ดุ จากตารางที่ 7 พบว่านักเรียนมีความพึงพอใจต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยการจัด กิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) ร่วมกับ เทคนิคเกมิฟิเคชัน (Gamification) เรื่อง ไฟฟ้า สำหรับนักเรยี นช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรยี นยางตลาดวิทยาคาร จังหวัดกาฬสินธุ์ อยใู่ นระดับ พึงพอใจมากท่ีสุด (������̅ = 4.69) เมื่อพิจารณาเป็นรายขอ้ พบวา่ มีความพงึ พอใจมาก จำนวน 1 ข้อ และ
66 อยู่ในระดับพึงพอใจมากที่สุด จำนวน 14 ข้อ โดยข้อท่ีมีค่าเฉลี่ยสูงสุด 4 อันดับแรก ได้แก่ ข้อที่ 3 บรรยากาศของการเรียนเปิดโอกาสใหน้ ักเรียนมสี ่วนร่วมในการทำกิจกรรม (������̅ = 4.84) ข้อที่ 15 การ จดั การเรียนรู้ทำใหน้ ักเรียนนำวิธกี ารเรียนรู้ไปใชใ้ นวชิ าอ่ืน ๆ (������̅ = 4.84) ข้อท่ี 7 กจิ กรรมการเรียนรู้ สง่ เสริมทกั ษะการสังเกต และการจำแนก (������̅ = 4.80) และขอ้ ท่ี 10 สื่อการเรียนรูท้ ำใหน้ ักเรียนเข้าใจ ไดง้ า่ ยข้ึน (������̅ = 4.80) ตามลำดับ
67 บทที่ 5 สรุปผล อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ การวิจัยในคร้ังนี้ เป็นการวิจัยการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ โดยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) ร่วมกับ เทคนิคเกมิฟิเคชัน (Gamification) เรื่อง ไฟฟ้า สำหรับนักเรียน ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 3 โรงเรยี นยางตลาดวทิ ยาคาร จงั หวัดกาฬสนิ ธ์ุ สรปุ ผลการวจิ ยั ดงั น้ี 1. สรุปผลการวิจัย 2. อภิปรายผล 3. ข้อเสนอแนะ 1. สรปุ ผลการวิจยั 1.1 นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ท่ีเรียนโดยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหา ความรู้ (5E) ร่วมกับ เทคนิคเกมิฟิเคชัน (Gamification) เร่ือง ไฟฟ้า มีคะแนนผลสัมฤทธ์ิ ทางการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เมื่อเปรียบเทียบคะแนนผลสัมฤทธิ์หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ 0.05 โดยค่าเฉล่ียคะแนนก่อนเรยี นเท่ากับ 10.52 คะแนน ส่วนเบี่ยงเบน มาตรฐาน เท่ากับ 3.48 และคะแนนหลังเรียนเท่ากับ 24.40 คะแนน ส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐาน เท่ากบั 1.73 1.2 นักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 3 มีความพึงพอใจของนักเรียนหลังจากท่ีได้รับการจัด กิจกรรมการเรียนรู้โดยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5 E) ร่วมกับ เท ค นิ ค เก มิฟิ เคชัน (Gamification) เรื่อง ไฟ ฟ้ า สำห รับ นั กเรียน ชั้น มั ธยม ศึ กษ าปี ที่ 3 โรงเรียนยางตลาดวิทยาคาร จังหวัดกาฬสินธุ์ อยู่ในระดับพึงพอใจมากที่สุด โดยมีค่าเฉล่ีย เท่ากบั 4.69 และส่วนเบ่ยี งเบนมาตรฐาน เทา่ กบั 0.46 2. อภปิ รายผล จากการวิจัยผลการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์โดยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหา ความรู้ (5E) ร่วมกับ เทคนิคเกมิฟิเคชัน (Gamification) เรื่อง ไฟฟ้า สำหรับนักเรียนช้ันมัธยมศึกษา ปีท่ี 3 โรงเรยี นยางตลาดวทิ ยาคาร จังหวัดกาฬสินธุ์ อธปิ รายผลไดด้ งั น้ี 2.1 ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนโดยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) ร่วมกับ เทคนิคเกมิฟิเคชัน (Gamification) เร่ือง ไฟฟ้า สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 3 โรงเรียนยางตลาดวิทยาคาร จังหวัดกาฬสินธุ์ เปรียบเทียบคะแนนผลสัมฤทธิ์หลังเรียน สูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ 0.05 โดยมีค่าเฉลี่ยคะแนนก่อนเรียนเท่ากับ 10.52
68 คะแนน หลังเรียนเท่ากับ 24.40 คะแนน เป็นไปตามสมมติฐานท่ีต้ังไว้ เนื่องจากการจัดการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์ โดยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) ร่วมกับ เทคนิคเกมิฟิเคชัน (Gamification) ทำให้นักเรียนเกิดความกระตือรือร้นในการเรียน เกิดทักษะทางวิทยาศาสตร์ ได้ลง มอื ปฏบิ ตั ิจริงดว้ ยตนเองสามารถทำงานรว่ มกันกับผอู้ น่ื ได้ ซงึ่ สอดคลอ้ งกบั ผลการศึกษาของ ผลการใช้ Gamification ต่อความสนใจในการเรียนรายวิชาการสร้างหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ 1 ของนักเรียนช้ัน มัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนจะนะชนูปถัมภ์ ของเกศรา อุบลแก้วและคณะ พบว่าก่อนการใช้ Gamification นักเรียนมีความสนใจระดับปานกลาง มีคะแนนเฉลี่ยเท่ากับ 8.18 หลังการใช้ Gamification มีคะแนนเฉล่ียเท่ากับ 15.59 นักเรียนมี ความสนใจระดับมากที่สุด และมีพัฒนาการ ในระดับสงู มีคะแนนเฉล่ยี เพ่ิมขน้ึ รอ้ ยละ 62.69 สอดคลอ้ งกับรายงานการวจิ ยั เร่ือง ผลของการใชช้ ุด การเรยี นรูผ้ ่านแท็บเลต็ รว่ มกบั แนวคดิ เกมมิฟิเคชันเพื่อส่งเสริมผลสัมฤทธแิ์ ละความคงทนในการเรียน วิชาคณิตศาสตร์ของนักเรียนข้ันประถมศึกษาปีท่ี 4 ท่ีมีความสามารถทางการเรียนแตกต่างกัน ของจิรชพรรณ ชาญช่าง จากผลการวจิ ัยท่ีพบว่า ผู้เรียนที่มีกรเรียนรู้ผ่านแท็บเล็ตร่วมกับแนวคิดเกม มิฟิเคชัน มีค่าเฉลี่ยคะแนนหลังเรียนผ่านชุดการเรียนฯ สูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ขณะที่ผู้เรียนที่มีการเรียนรู้ผ่านแท็บเล็ตเพียงอย่างเดียว มีค่าเฉล่ียคะแนนก่อนและหลังเรียนไม่ แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ สะท้อนให้เห็นว่า การเรียนรู้ผ่านแท็บเล็ตร่วมกับแนวคิดเกม มิพิเคชันช่วยให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ท่ีดีข้ึนสอดคล้องกับ Krause (2015) ที่พบว่าการใช้แนวคิดเกม มิฟิเคชันในการเรียนการสอนส่งผลให้ผู้เรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนโดยเพ่ิมข้ึนเป็น 23% และ ส อ ด ค ล้ อ ง กั บ ง า น วิ จั ย เร่ื อ ง Gamification in education: a board game approach to knowledge acquisition ของ Bahar Taspinar และคณะได้กล่าวว่า ก่อนท่ีจะใช้ในช้ันเรียนเราได้ ทดสอบต้นแบบที่นำไปใช้จริงจากมุมมองทางเทคนิค จุดมุ่งหมายคือเพ่ือตรวจสอบว่าแนวทางและ กฎเกณฑ์มคี วามชัดเจนสำหรับกลุม่ เป้าหมายหรือไม่และทุกอย่างเปน็ ไปตามที่ต้ังใจไวห้ รือไม่ เวอร์ชัน พ้ืนฐานของเกมที่มีกระดานสี่กระดานได้รับการทดสอบโดยนักเรียนสามคนที่เตรียมโดยการอ่านการ บรรยาย 10 หน้าหมายเหตุสำหรับโดเมนเกม KM พวกเขาเล่นประมาณ 35 นาทีดูเหมือนมีแรงจูงใจ มากและไม่ไดพ้ บปัญหาใด ๆ ดังน้ันเราจงึ ตดั สินใจใช้เกมในชนั้ เรียนโดยไมเ่ ปลีย่ นแปลง 2.2 ความพึงพอใจของนักเรียนหลังจากที่ได้รบั การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้โดยการจัดกจิ กรรม การเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) ร่วมกับ เทคนิคเกมิฟิเคชัน (Gamification) เร่ือง ไฟฟ้า สำหรับนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนยางตลาดวิทยาคาร จังหวัดกาฬสินธุ์ พบว่านักเรียน มีความพึงพอใจต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) ร่วมกับ เทคนิคเกมิฟิเคชัน (Gamification) อยู่ในระดับพึงพอใจมากท่ีสุด คือ การจัดการเรียนรู้ โดยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความ รู้ (5E) ร่วมกับ เทคนิคเกมิฟิเคชัน (Gamification) ช่วยให้บรรยากาศของการเรียนเปิดโอกาสให้นักเรียนมีส่วนร่วมในการทำกิจกรรม
69 และการจัดการเรียนรู้ทำให้นักเรียนนำวิธีการเรียนรู้ไปใช้ในวิชาอื่น ๆ ซ่ึงสอดคล้องกับผลการศึกษา ของ ผลการใช้ Gamification ต่อความสนใจในการเรียนรายวิชาการสร้างหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ 1 ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 1 โรงเรียนจะนะชนูปถัมภ์ ของเกศรา อุบลแก้วและคณะ พบว่า นักเรยี นมคี วามพึงพอใจตอ่ การใช้ Gamification โดยภาพรวมอย่ใู นระดบั มากท่ีสุด (ค่าเฉล่ยี = 4.59) โดยประเด็นเร่ืองระยะเวลาในการจัดการเรียนการสอนในแต่ละหัวข้อมีความเหมาะสมกับปริมาณ เน้ือหา มีค่าเฉลี่ยสูงสุด รองลงมาได้แก่บรรยากาศในชั้นเรียนส่งเสริมการเรียนรู้ของนักเรียน ครูให้ ความช่วยเหลือหรืออํานวยความสะดวกแก่นักเรียนในการเรียน และเปิดโอกาสให้นักเรียนสืบค้น ขอ้ มลู หรือหาความรดู้ ้วยตนเอง ตามลาํ ดับ 3. ข้อเสนอแนะ 3.1 ข้อเสนอแนะในการนำไปใช้ 3.1.1 การจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) ร่วมกับ เทคนิคเกมิฟิเคชัน (Gamification) ควรจะมีเวลาให้นักเรียนได้ใช้ในการปฏิบัติกิจกรรม ในแต่ละข้นั ตอนอย่างเพียงพอเพอื่ ให้นักเรียนมีโอกาสได้ฝึกทักษะและพัฒนาความสามารถของตนเอง อย่างเตม็ ที่ครผู ู้สอนคอยใหค้ ำปรกึ ษา แนะนำและใหก้ ารเสรมิ แรง 3.1.2. ครูท่ีจะนำรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) ร่วมกับ เทคนิคเกมิฟิเคชัน (Gamification) ไปจัดกิจกรรมทางการเรียนการสอน ควรทำการศึกษา ทำความเข้าใจหลักทฤษฎีให้ดีและควรมีการวางแผนเตรียมตัวให้พร้อม รวมถึงการมีส่ือ/อุปกรณ์ สำหรับให้นักเรียนร่วมกิจกรรมที่หลากหลายเพ่ื อจะท ำให้การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ เป็นไปอยา่ งสมบูรณ์และมีประสิทธภิ าพ 3.1.3. ครูต้องคำนึงถึงพื้นฐานการเรียนรู้แบบกลุ่มของนักเรียนการแบ่งกลุ่ม มีความเหมาะสม มีการกระตุ้นให้นักเรียนตระหนักถึงบทบาทของสมาชิกในกลุ่มการแบ่งงาน แบ่งหน้าท่ีตามความถนัด ควรมีการแลกเปล่ียนเรียนรู้ร่วมกันจะทำให้เกิดความกระตือรือร้น ในการเรียนรู้มากข้ึนและในขณะท่ีนักเรียนทำกิจกรรมกลมุ่ ครูควรคอยกระตุ้นให้นักเรียนได้ช่วยเหลือ และร่วมปรกึ ษากนั และคอยสังเกตพฤตกิ รรมการทำงานกลุ่มของนักเรยี นอย่างท่วั ถึง 3.1.4. อุปกรณ์ท่ีใช้ในการจัดการเรียนรู้ต้องเพียงพอต่อทุกกลุ่มและควรแนะนำวิธีการ ใช้อุปกรณ์อย่างละเอียดก่อนที่จะแจกอุปกรณ์ให้แต่ละกลุ่มเพื่อให้นักเรียนเข้าใจและสามารถ ใช้อุปกรณ์ได้ถูกต้องและตรงกับจุดประสงค์และเพ่ือไม่ให้เกิดความวุ่นวายหรือให้ความสนใจ กับอุปกรณ์ขณะท่ีครูทำการอธิบาย
70 3.2 ข้อเสนอแนะในการวจิ ัยครั้งต่อไป 3.2.1. ในการสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนควรมีผู้ร่วมสังเกตเพ่ือจะได้สังเกตพฤติกรรม นักเรียนในด้านอื่น ๆ ได้อย่างทั่วถึงและลดการมีอคติหรือการเกิดความลำเอียง มีเกณฑ์การประเมิน ทช่ี ัดเจนครอบคลมุ กับพฤตกิ รรมความสามารถในการแกป้ ญั หาในทกุ พฤติกรรม 3.2.2. ควรมีการเปรียบเทียบผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน เจตคติ และความคงทน ในการเรียนรู้ระหว่างนักเรียนที่เรียนด้วยกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) ร่วมกับ เทคนคิ เกมฟิ ิเคชัน (Gamification) กบั การจดั กิจกรรม การเรยี นรรู้ ูปแบบอืน่ ๆ เพ่ือดูความแตกตา่ ง 3.2.3. ควรศึกษาการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะ หาความรู้ (5E) ร่วมกับ เทคนิคเกมิฟิเคชัน (Gamification) ในกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ในเรือ่ งอนื่ และในระดับช้นั อ่ืน
71 บรรณานกุ รม กระทรวงศึกษาธิการ (2560). ตัวชวี้ ัดและสาระการเรยี นรแู้ กนกลาง. สบื ค้นเมื่อ 1 ก.ย. 2563, จากเว็บไซต์: https://drive.google.com/file/d/1_ALwE9xuCL3Fjet3XI4gYjBj8p_1zLaA/view กรมวิชาการ. (2546). คมู่ ือหลักสูตรสอน. กรงุ เทพฯ: โรงพมิ พ์ครุ ุสภาลาดพรา้ ว เกศรา อุบลแก้ว และคณะ (2560). ผลการใช้ Gamification ต่อความสนใจในการเรียน รายวชิ าการสร้างหนงั สอื อเิ ล็กทรอนกิ ส.์ สบื คน้ เม่ือ 1 ก.ย. 2563, จากเวบ็ ไซต:์ https://alc.wu.ac.th/backEnd/attach/attArticle/Proceeding2561-124-134.pdf จริ ชพรรณ ชาญชา่ ง (2560). ผลของการใช้ชดุ การเรยี นรู้ผ่านแทบ็ เลต็ ร่วมกับแนวคดิ เกมมฟิ ิ เคชัน. สืบคน้ เมื่อ 1 ก.ย. 2563, จากเวบ็ ไซต์: https://cuir.car.chula.ac.th/dspace/bitstream/ 123456789/60494/3/Jirachapan%20C_Res_2561.pdf ใจทพิ ย์ ณ สงขลา. (2561). เกมมิฟิเคชนั เพ่ือการเรยี นรู.้ สบื คน้ เมื่อ 1 ก.ย. 2563, จาก เวบ็ ไซต์: http://it.rmu.ac.th/project-journal/assets/uploads/formidable/6/4-2-5-1.pdf ซนตั ถ์ พนู เดช และคณะ (2559). แนวทางการจัดการเรยี นรู้ด้วยแนวคดิ เกมมิฟเิ คชัน. สบื ค้น เมอ่ื 1 ก.ย. 2563, จากเวบ็ ไซต์: https://www.tci-thaijo.org/index.php/edujournal_nu/ article/view/66651/54505 ทศิ นา แขมมณี. (2545). ศาสตรก์ ารสอน. กรงุ เทพมหานคร: จุฬาลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั . เบญจภัค จงหมื่นไวย์ และคณะ (2560). Gamification for Learning. สบื ค้นเม่อื 1 ก.ย. 2563, จากเว็บไซต์: https://www.tci-thaijo.org/index.php/project- journal/article/view/184468/129912 ภสิทธ เมตตพันธุ์ (2556). การพัฒนารูปแบบการเรียนรนู้ อกหอ้ งเรยี นด้วยวธิ กี ารทาง วิทยาศาสตร์โดยใช้เทคโนโลยีความเปน็ จริงเสริมบนอุปกรณเ์ คลือ่ นท่เี พ่ือส่งเสริมทักษะการสงั เกตและ ทักษะการจำแนกประเภทของนักเรยี นประถมศึกษาปที ี่ 1. สืบค้นเม่อื 1 ก.ย. 2563, จากเว็บไซต์: https://cuir.car.chula.ac.th/bitstream/123456789/42976/1/5483409527.pdf ระเบียบ อนันตพงศ์. (2550). ผลการใชว้ ิธีสอนแบบสืบเสาะหาความรูท้ ี่มตี ่อผลสมั ฤทธ์ิ ทางการเรียน เรื่อง สนามของแรง และทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตรข์ น้ั ผสมของนักเรยี นชั้น มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 5 โรงเรยี นหาดใหญว่ ทิ ยาลัยสมบรู ณ์กุลกนั ยา จังหวัดสงขลา. (วิทยานพิ นธก์ ารศกึ ษา มหาบณั ฑติ ). มหาวิทยาลยั ทักษณิ , สงขลา สรรฤดี ดีป.ู่ (2554). การพฒั นาการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนแบบสบื เสาะหาความรู้ (5Es) ในรายวิชา4000101 วทิ ยาศาสตรใ์ นชีวติ ประจำวนั ระดบั ปริญญาตรีครุศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลยั ราชภัฏเพชรบูรณ์. รายงานการวจิ ัย คณะครุศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั เพชรบรู ณ์
72 อรัญญา สถติ ไพบูลย์. (2550). การพฒั นาทักษะการคดิ วิจารณญาณและผลสมั ฤทธท์ิ างการ เรียนวชิ า เคมี ของนักเรยี นระดบั ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 5 โดยใชก้ ระบวนการเรียนรู้แบบสบื เสาะหา ความร้.ู (วทิ ยานพิ นธศ์ ึกษาศาสตรมหาบัณฑิต). มหาวิทยาลยั ขอนแกน่ , ขอนแกน่ อไุ รวรรณ ปานีสงค์ และคณะ. (2560). การจดั การเรียนรโู้ ดยใช้กระบวนการสืบเสาะหา ความรู้ (5E) เสรมิ ดว้ ยเทคนิคการจดั แผนผังมโนทศั นเ์ รื่อง ชีวติ กับสง่ิ แวดลอ้ มที่มีผลต่อความสามารถ ในการคดิ วเิ คราะหแ์ ละผลสมั ฤทธทิ์ างการเรียนของนักเรยี นช้ันมัธยมศกึ ษาปที ่ี 4. มหาวทิ ยาลัยราช ภัฏนครศรีธรรมราช, นครศรีธรรมราช จากเว็บไซต์: https://cuir.car.chula.ac.th/bitstream/123456789/64757/1/5983405427.pdf Bahar Taspinara, Werner Schmidta และ Heidi Schuhbauerb. (2016). Gamification in education: a board game approach to knowledge acquisition. จาก เวบ็ ไซต์: https://www.sciencedirect.com/science/article/pii/S1877050916322499
73 ภาคผนวก
74 ภาคผนวก ก ตัวอยา่ งเคร่อื งมือทใี่ ชใ้ นงานวิจัย
75 แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 1 กลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวิชา วทิ ยาศาสตร์พื้นฐาน 6 รหัสวชิ า ว 23102 ระดับช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 3 หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี 5 ไฟฟ้า เวลาเรยี น 2 ชว่ั โมง เรอ่ื ง ปรมิ าณทางไฟฟ้า ผสู้ อน นายณฐั พงษ์ สีแลง ช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 3/....... วนั ท.ี่ .............................. คาบที่............. / วนั ท.่ี .............................. คาบท.่ี ............ มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ว 2.3 เข้าใจความหมายของพลังงาน การเปลี่ยนแปลงและการถ่ายโอนพลังงาน ปฏิสัมพันธ์ระหว่างสสารและพลังงาน พลังงานในชีวิตประจำวัน ธรรมชาติของคลื่น ปรากฏการณ์ท่ี เกย่ี วขอ้ งกับเสยี ง แสง และคลนื่ แม่เหล็กไฟฟ้า รวมทั้งนำความรู้ไปใชป้ ระโยชน์ ตวั ชวี้ ัด ว 2.3 ม.3/3 ใชโ้ วลตม์ ิเตอร์แอมมเิ ตอร์ในการวัดปรมิ าณทางไฟฟ้า จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. อธบิ ายการใช้โวลตม์ ิเตอร์และแอมมเิ ตอรใ์ นการวดั ปรมิ าณทางไฟฟา้ (K) 2. ใชโ้ วลตม์ เิ ตอร์และแอมมิเตอร์ในการวัดปริมาณทางไฟฟา้ ได้ (P) 3. มีความรับผดิ ชอบ มีความใฝ่รู้ใฝ่เรยี น และปฏิบัตงิ านตรงเวลา (A) สาระสำคัญ วงจรไฟฟ้าอย่างง่ายประกอบด้วยแหล่งกำเนิดไฟฟ้า ตัวนำไฟฟ้า และอุปกรณ์ไฟฟ้า เมื่อต่อครบ วงจรจะมกี ระแสไฟฟ้าเคลื่อนท่จี ากข้วั บวกของแหลง่ กำเนดิ ไฟฟา้ ผ่านอุปกรณ์ไฟฟ้าแล้วกลับมายังข้ัวลบของ แหล่งกำเนดิ ไฟฟ้ากระแสไฟฟา้ คอื ปริมาณประจไุ ฟฟา้ ทเ่ี คล่ือนท่ผี า่ นตวั นำไฟฟ้าจากจดุ ทม่ี ีศักยไ์ ฟฟ้าสูงไปยัง จุดที่มีศักย์ไฟฟ้าต่ำในหนึ่งหน่วยเวลา มีหน่วยเป็นแอมแปร์ ซึ่งวัดค่ากระแสไฟฟ้าได้ด้วยแอมมิเตอร์ ส่วน ความแตกต่างของศักย์ไฟฟ้าระหวา่ ง 2 จุด เรียกวา่ ความตา่ งศกั ยไ์ ฟฟา้ มีหนว่ ยเป็นโวลต์ ซึ่งวัดค่าความต่าง ศักย์ไฟฟ้าได้ด้วยโวลต์มิเตอร์ สำหรับวัตถุที่เป็นตัวนำไฟฟ้านั้น ค่ากระแสไฟฟ้าและความต่างศักย์ไฟฟ้ามี ความสมั พนั ธ์แบบเชิงเส้น โดยอัตราสว่ นระหว่างความตา่ งศกั ย์ไฟฟ้ากับกระแสไฟฟา้ เรยี กว่า ความต้านทาน ไฟฟา้ สาระการเรยี นรู้ ความรู้ - วิธีการใช้โวลตม์ เิ ตอร์และแอมมิเตอร์ในการวัดปรมิ าณทางไฟฟ้า ทกั ษะกระบวนการ - ใชโ้ วลต์มิเตอรแ์ ละแอมมิเตอรใ์ นการวดั ปริมาณทางไฟฟา้ ได้
76 คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ - มีความรบั ผดิ ชอบ - ใฝร่ ใู้ ฝ่เรียน - ปฏิบัติงานตรงเวลา กิจกรรมการเรียนรู้ (รูปแบบการสอนแบบ 5E) ข้ันท่ี 1 ขน้ั สร้างความสนใจ 1. ครแู นะนำรูปแบบการเรยี น เป้าหมาย กฎ ระยะเวลา รางวลั ที่จะได้รบั รูปแบบการเรยี น เปา้ หมายในคาบเรียนน้ี 1. วิธีใชโ้ วลตม์ เิ ตอรแ์ ละแอมมเิ ตอรใ์ นการวดั ปรมิ าณทางไฟฟา้ กฎการปฏบิ ตั กิ ิจกรรม กฎการปฏบิ ตั กิ จิ กรรม 1. ทกุ กล่มุ มคี ะแนนต้ังตน้ 50 คะแนน โดยทุกคะแนนจะถกู บนั ทกึ ลงในแบบบันทกึ คะแนนกลุ่ม 2. คะแนนท่ีได้รบั หรอื ถูกหักจะถกู คดิ เฉล่ยี ใหเ้ ทา่ กันภายในกลุ่ม 3. คะแนนเพิ่มพิเศษจะขนึ้ อยู่กบั กจิ กรรมแต่ละคาบเรยี น 4. ระหวา่ งเรยี นสามารถใชค้ ะแนนเพ่ือแลกตวั ช่วย 5. โดยรายละเอยี ดการใหค้ ะแนนปกติ มดี งั ต่อไปนี้ 5.1 กลุม่ ที่งานเสรจ็ สน้ิ สมบูรณเ์ ปน็ กลุม่ แรก ไดร้ ับ 5 คะแนน และกลุม่ ท่ีเสร็จ กลมุ่ ถัดไปจะไดค้ ะแนนลดลงมาตามลำดับ 5.2 กลมุ่ ท่มี รี ูปแบบการนำเสนองาน หรือผลงานออกมาดมี ากทีส่ ุดจะได้รบั อีก 5 คะแนน และกลมุ่ ทีผ่ ลงานออกมาดี กลมุ่ ถดั ไปจะไดค้ ะแนนลดลงมาตามลำดบั 5.3 บคุ คลหรอื กลมุ่ ใดรบกวนการทำงานของกลุ่มอน่ื จะถกู หกั ลบครั้งละ 2 คะแนน 5.4 คะแนนจติ พิสยั จะขึ้นอย่กู บั การทำกจิ กรรมในช่วั โมงเรยี น 6. คะแนนจะถูกยกยอดไปส่ชู ั่วโมงถดั ไปจนถึงช่วั โมงสุดทา้ ย 7. ครแู บ่งกลุ่มโดยให้คละความสามารถเก่ง ปานกลาง อ่อน กลุ่มละไม่เกนิ 4 คน เพ่ือเข้าสู่ บทเรียนต่อไป 2. ครูแนะนำบทเรียน โดยนำภาพไฟตอนกลางคืนของสถานที่ท่องเที่ยว มาให้นักเรียนชม เช่น ถนนข้าวสาร เยาวราช ถนนคนเดิน เป็นต้น และใช้คำถามกระตุ้นความสนใจ เช่น จากภาพคือ อะไร องค์ประกอบของวสั ดุนนั้ มอี ะไรบ้าง (ตอบตามความเข้าใจของนักเรียน) ขน้ั ท่ี 2 ขัน้ สำรวจและคน้ หา 1. ครูแจกใบกิจกรรมที่ 1 เรื่อง การใช้แอมมิเตอร์ และโวลต์มิเตอร์ พร้อมอุปกรณ์ตามใบ กิจกรรม ใบงานที่ 1 เรื่อง แอมมิเตอร์ โวลต์มิเตอร์ ชี้แจงให้นักเรียนศึกษาจากหนังสือและ อนิ เทอรเ์ นต็ และทำกิจกรรมการเรยี นร้ตู ามใบกจิ กรรม
77 2. ครอู ธบิ ายการดำเนินกจิ กรรมตามลำดบั 3. นกั เรยี นดำเนินกจิ กรรมตามทค่ี รไู ดอ้ ธบิ ายและบันทกึ ผล ขนั้ ที่ 3 ขนั้ อธิบายและลงข้อสรุป 1. นักเรียนอภิปรายผลและนำเสนอผลการศึกษา ได้จากการทำใบกิจกรรมที่ 1 เรื่อง การใช้ แอมมเิ ตอร์ และโวลตม์ เิ ตอร์ โดยอธิบายถงึ วธิ ีการใชโ้ วลต์มิเตอร์และแอมมเิ ตอร์ในการวดั ปริมาณทาง ไฟฟ้า วา่ ใช้ไดอ้ ยา่ งถกู ต้องหรือไม่ (ตอบตามความเขา้ ใจของนกั เรียน) 2. ครูและนกั เรยี นร่วมกันสรุปความรทู้ ี่ไดจ้ ากการเรียนรู้จากใบกจิ กรรมท่ี 1 เรอ่ื ง การใช้แอมมเิ ตอร์ และโวลต์มเิ ตอร์ (แนวการสรปุ ความรู้ แอมมิเตอร์เป็นเคร่ืองมือท่ีใชว้ ดั กระแสไฟฟ้าในวงจร โดยการต่อแทรก เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของวงจร ณ จุดที่ต้องการวัดค่ากระแสไฟฟ้า โดยให้ต่อขั้วบวกของแอมมิเตอร์เข้าทาง ขั้วบวกของแหล่งกำเนิดไฟฟ้าซึ่งเป็นจุดที่มีศักย์ไฟฟ้าสูงและต่อขั้วลบของแอมมิเตอร์เข้าทางขั้วลบของ แหลง่ กำเนิดไฟฟ้าซึง่ เป็นจดุ ที่มศี ักยไ์ ฟฟ้าตำ่ คา่ กระแสไฟฟ้าท่วี ดั ได้มหี น่วยเป็นแอมแปร์ การเปล่ียนข้ัวบวก ทีร่ องรับกระแสไฟฟา้ สูงสุดของแอมมเิ ตอรต์ ้องเรมิ่ จากค่าที่สูงทีส่ ุดก่อนแล้วจึงลดลงมาที่คา่ ต่ำกว่าจนอ่านค่า กระแสไฟฟ้าได้ละเอียดขึ้น และโวลต์มิเตอร์เป็นเครื่องมือที่ใช้วัดความต่างศักย์ไฟฟ้าในวงจร โดยการต่อ คร่อมตำแหน่งที่ต้องการวัดค่าความต่างศักย์ไฟฟ้า ต่อขั้วบวกของโวลต์มิเตอร์เข้ากับทางขั้วบวกของ ถ่านไฟฉายและต่อขว้ั ลบของโวลต์มเิ ตอร์เข้ากับทางขว้ั ลบของถ่านไฟฉาย การเลอื กขัว้ บวกทร่ี องรับความต่าง ศักยไ์ ฟฟ้าสูงสุดจะตอ้ งเลอื กท่ีมคี ่ามากกว่าและใกล้เคยี งกับคา่ ความตา่ งศกั ย์ไฟฟา้ ของถา่ นไฟฉาย) ขนั้ ท่ี 4 ขนั้ ขยายความรู้ 1. ครูอธิบายการใช้ประโยชนข์ องแอมมิเตอร์และโวลตม์ ิเตอร์ในชวี ิตประจำวัน (แนวการสรุปความรู้ ใช้วัดคา่ ทางไฟฟ้า เพอื่ ใหท้ ราบถงึ ปรมิ าณไฟฟ้าท่ีใช้ ณ ขณะนั้น และนำไปคำนวณเพ่ือความปลอดภัยในการใช้ ไฟฟ้าต่อไป) 2. นักเรยี นตอบคำถามตามใบงานท่ี 1 เรือ่ ง แอมมเิ ตอร์ โวลต์มเิ ตอร์ ขน้ั ท่ี 5 ขั้นวดั และประเมินผล 1. ครูประเมินความรู้โดยใช้ใบงานที่ 1 เรื่อง แอมมิเตอร์ โวลต์มิเตอร์ เพื่อวิเคราะห์องค์ ความรู้ของนักเรียน ว่าสามารถอธิบายการใช้ใช้โวลต์มิเตอร์และแอมมิเตอร์ในการวัดปริมาณทาง ไฟฟา้ ไดห้ รือไม่ 2. ครูประเมินทักษะโดยใช้ใบกิจกรรมที่ 1 เรื่อง การใช้แอมมิเตอร์ และโวลต์มิเตอร์ เพื่อ วิเคราะห์ทักษะและกระบวนการทเ่ี กิดข้นึ เช่น การใช้แอมมเิ ตอร์ และโวลตม์ ิเตอร์ 3. ครสู ังเกตพฤตกิ รรมในชั้นเรยี นโดยใช้แบบบันทึกคะแนนคณุ ลักษณะในชน้ั เรียน สื่อ อุปกรณ์ แหล่งการเรยี นรู้ 1. หนังสอื เรยี นรายวชิ าพืน้ ฐานวทิ ยาศาสตร์ ม.3 เล่ม 2 2. ใบกิจกรรมท่ี F1 เร่อื ง การใช้แอมมิเตอร์ และโวลตม์ ิเตอร์ 3. ใบงานที่ F1 เรือ่ ง แอมมิเตอร์ โวลตม์ เิ ตอร์ 4. เฉลยใบกจิ กรรมท่ี F1 เรือ่ ง การใชแ้ อมมิเตอร์ และโวลต์มเิ ตอร์ 5. เฉลยใบงานที่ F1 เรื่อง แอมมิเตอร์ โวลตม์ ิเตอร์ 6. งานนำเสนอ เรื่อง วงจรไฟฟา้ อย่างงา่ ย
78 การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้ รายการ เครื่องมือ เกณฑ์การประเมนิ ผา่ นมากกว่า 70 % ขึ้นไป ดา้ นความรู้ (พุทธพสิ ยั ) ใบงานที่ 1 เรือ่ ง แอมมิเตอร์ ผ่านเกณฑ์ระดบั ดี ขึน้ ไป 1. อธิบายการใช้โวลต์มิเตอร์และ โวลตม์ เิ ตอร์ ผ่านเกณฑร์ ะดับดี ขึน้ ไป แอมมิเตอร์ในการวัดปรมิ าณทางไฟฟ้า ด้านทักษะกระบวนการ (ทักษะพิสยั ) ใบกจิ กรรมท่ี 1 เรอื่ ง การใช้ 2. ใช้โวลต์มิเตอร์และแอมมิเตอร์ในการ แอมมเิ ตอร์ และโวลตม์ ิเตอร์ วดั ปริมาณทางไฟฟา้ ได้ ด้านคุณลักษณะ (จิตพิสัย) แบบบนั ทกึ คะแนนคุณลักษณะ 3. มีความรับผิดชอบ ใฝ่เรียนรู้และ ในชั้นเรยี น ปฏบิ ัติงานตรงเวลา
79 บันทกึ ผลหลังการจัดการเรยี นรู้ ม.3/………….. 1. ผลการนำไปใชจ้ ัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ ........................................................................................................ .......................................... .............................................................................................................. .................................................. ............................................................................................................................. ................................... ................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ................................... ............................................................................................................................. ................................... 2. ปัญหา/อปุ สรรค .................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................... .................................................................................................................................... ............................ ....................................................................................................... ......................................................... ............................................................................................................................. ................................... ................................................................................................................................................................ 3. ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแกไ้ ข ........................................................................................................ .......................................... ............................................................................................................................. ................................... ................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ................................... ............................................................................................................................. ................................... ...................................................................................... .......................................................................... ลงชือ่ ………………………………………………. ผู้สอน (นายณฐั พงษ์ สแี ลง) นักศกึ ษาฝึกประสบการณส์ อน .............../....................../...................
80 ความคดิ เห็นของครูพ่เี ลีย้ ง ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ลงชื่อ ………………………………………………. ผปู้ ระเมนิ (นายศรายุทธ เสนาวัง) ครูพเ่ี ลย้ี ง ............./.................../.................. ความคดิ เหน็ ของหวั หน้ากลุ่มสาระการเรียนร้วู ทิ ยาศาสตร์ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ลงชอื่ ………………………………………………. ผปู้ ระเมนิ (......................................................) หัวหนา้ กลุ่มสาระการเรียนรูว้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ............./.................../.................. ความคิดเหน็ ของฝา่ ยวชิ าการ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ลงช่อื ………………………………………………. ผปู้ ระเมิน (......................................................) ตำแหน่ง ................................................ ............./.................../.................. ความคิดเห็นของผ้บู ริหาร ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ลงช่ือ ………………………………………………. ผู้ประเมนิ (......................................................) ตำแหนง่ ................................................ ............./.................../..................
81 ใบงานที่ 1 เร่ือง แอมมเิ ตอร์ โวลต์มเิ ตอร์ คำชแี้ จง จงตอบคำถามต่อไปนีใ้ ห้ถูกต้อง พรอ้ มอธิบาย 1. จากภาพวงจรไฟฟ้า ถา้ ต้องการวดั คา่ กระแสไฟฟา้ ที่ผ่านหลอดไฟฟา้ ก ควรนำสายขั้วบวกและ ขวั้ ลบของแอมมิเตอรไ์ ปต่ออย่างไร เขยี นแผนภาพการต่อแอมมิเตอร์ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2. จากภาพวงจรไฟฟา้ ถา้ ต้องการวดั ค่าความตา่ งศักย์ไฟฟา้ ครอ่ มหลอดไฟฟ้า ข ควรนำสาย ข้วั บวกและขั้วลบของโวลต์มิเตอร์ไปตอ่ อยา่ งไร เขียนแผนภาพแสดงการต่อโวลต์มเิ ตอร์ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………
เฉลย 82 ใบงานที่ 1 เร่ือง แอมมิเตอร์ โวลต์มเิ ตอร์ 1. จากภาพวงจรไฟฟ้า ถา้ ต้องการวัดค่ากระแสไฟฟา้ ที่ผ่านหลอดไฟฟ้า ก ควรนำสายขัว้ บวกและ ขว้ั ลบของแอมมเิ ตอร์ไปต่ออยา่ งไร เขยี นแผนภาพการต่อแอมมิเตอร์ แนวคำตอบ ถา้ ตอ้ งการวัดกระแสไฟฟ้าที่ผ่านหลอดไฟฟา้ ก ควรนำแอมมเิ ตอร์ไปต่อแบบอนุกรมกับ หลอดไฟฟ้า ก เพอ่ื วดั กระแสไฟฟ้าท่ีเข้าหลอดไฟฟ้า ก หรือเพื่อวัดกระแสไฟฟ้าที่ออกจากหลอดไฟฟ้า ก ก็ได้ โดยต้องต่อขั้วบวกของแอมมิเตอร์เข้าทางขั้วบวกของแหล่งกำเนิดไฟฟ้าและต่อขั้วลบของ แอมมิเตอรเ์ ข้าทางขว้ั ลบของแหลง่ กำเนิดไฟฟา้ แผนภาพการต่อแอมมเิ ตอรเ์ ปน็ ดงั ภาพ 2. จากภาพวงจรไฟฟ้า ถ้าต้องการวดั ค่าความตา่ งศกั ย์ไฟฟา้ ครอ่ มหลอดไฟฟ้า ข ควรนำสาย ขวั้ บวกและข้ัวลบของโวลต์มเิ ตอร์ไปต่ออยา่ งไร เขียนแผนภาพแสดงการตอ่ โวลตม์ เิ ตอร์ แนวคำตอบ ถ้าตอ้ งการวัดความต่างศักย์ไฟฟา้ คร่อมหลอดไฟฟา้ ข ควรนำโวลต์มเิ ตอร์ไปต่อขนาน กับหลอดไฟฟ้า ข โดยตอ้ งต่อขว้ั บวกของโวลต์มิเตอร์เขา้ ทางขั้วบวกของแหลง่ กำเนดิ ไฟฟ้าและต่อขั้ว ลบของโวลต์มเิ ตอรเ์ ขา้ ทางขั้วลบของแหลง่ กำเนิดไฟฟ้า แผนภาพการต่อโวลต์มเิ ตอรเ์ ป็นดังภาพ
83 ประเมินใบงานรายบคุ คล แผนการจัดการเรียนรูท้ ่ี 1 วิชา วิทยาศาสตรพ์ ืน้ ฐาน ช้นั มัธยมศกึ ษาปีที่ 3/5 . หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 6 เรื่อง ไฟฟา้ กจิ กรรม แอมมิเตอร์ โวลตม์ เิ ตอร์ . คำช้ีแจง : ใหค้ รผู ้สู อนประเมนิ จากใบงานของนักเรยี น โดยใหร้ ะดบั คะแนนลงในตารางทตี่ รงกับผลคะแนนของผูเ้ รยี น เลขที่ ช่อื -สกุล คะแนนที่ คิดเป็น เกณฑ์การผ่าน คะแนนเกบ็ ได้ (6) รอ้ ยละ ผา่ น ไม่ผ่าน ใบงาน (5) 1 ด.ช.เกยี รติศกั ด์ิ ภสู มมา 2 ด.ช.ชลสทิ ธิ์ บุดดา 3 ด.ช.ภาณุวฒั น์ ภธู าตุเพชร 4 ด.ช.สหรัถ ภผู ายาง 5 ด.ช.เสฏฐวฒุ ิ วิชาพล 6 ด.ช.อนุสรณ์ ไชยสิทธิ์สรอ้ ย 7 ด.ช.ธันวา ภมู พิ ฒั น์ 8 ด.ญ.กนกพร จ่าบาล 9 ด.ญ.กนกอร ภนู ี 10 ด.ญ.กลั ยาณิน ปกั ธงชยั 11 ด.ญ.เกวลนิ พลเสน 12 ด.ญ.จันทกานต์ิ อาจดวงดี 13 ด.ญ.ชลชาดา เอ่ียมสำอาง 14 ด.ญ.ณัฐณิชา สลี า้ น 15 ด.ญ.ทอดาว แสงศรี 16 ด.ญ.ทอฝนั แสงศรี 17 ด.ญ.นวพรรณ นามวงค์ 18 ด.ญ.นิศาชล เอ่ยี มสำอางค์ 19 ด.ญ.นิสรา พางาม 20 ด.ญ.พรพรหม ภจู อมดาว 21 ด.ญ.สรญั ญา เขยี นโคกกวด 22 ด.ญ.สชุ ัญญา ดาทมุ มา 23 ด.ญ.สฑุ าสนิ ี ภูจวง 24 ด.ญ.อภชิ ญา แพงไธสงค์ 25 ด.ญ.อรัญญา คำสงิ ห์ ลงชอ่ื ..................................................... ผู้ประเมนิ (นายณฐั พงษ์ สีแลง) วันที่ ........ เดอื น ...................... พ.ศ. .............
84 เกณฑก์ ารประเมนิ ใบงาน รายการประเมิน คะแนน 1 (ปรับปรุง) 3 2 ตอบไมถ่ ูกตอ้ งตาม (ด)ี (พอใช)้ ประเด็น ขอ้ ที่ 1 ตอบคำถามไดถ้ ูกต้อง ตอบถูกต้องบาง ทกุ ประเด็น อธิบาย ประเดน็ ตอบไมถ่ ูกต้องตาม ชดั เจน เกย่ี วกบั หวั ข้อ ประเดน็ ได้ ตอบถูกต้องบาง ขอ้ ที่ 2 ตอบคำถามไดถ้ ูกต้อง ประเดน็ ทกุ ประเด็น อธบิ าย ชัดเจน เกยี่ วกบั หัวขอ้ ได้ เกณฑ์การตดั สนิ ใจ/ระดับคะแนน 6 คะแนน คะแนน 4.2-6 คะแนน หมายถงึ ผา่ น คะแนน 2-4.1 คะแนน หมายถงึ พอใช้ คะแนนต่ำกวา่ 2 คะแนน หมายถงึ ไม่ผ่าน ผ่านเกณฑร์ อ้ ยละ 70 ขนึ้ ไป คือ นกั เรยี นไดค้ ะแนน 4.2 คะแนนขึ้นไป
85 แบบบันทกึ คะแนนใบกจิ กรรม แผนการจดั การเรยี นรูท้ ี่ 1 วชิ า วทิ ยาศาสตร์พ้นื ฐาน ช้ัน มัธยมศึกษาปีท่ี 3/5 . หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 6 เรอื่ ง ไฟฟา้ กิจกรรม การใช้แอมมเิ ตอร์ โวลต์มิเตอร์ . คำชแ้ี จง : ให้ครูผู้สอนประเมินใบกิจกรรมของนักเรยี นโดยใหร้ ะดับคะแนนลงในตารางท่ตี รงกบั พฤตกิ รรมและผลงานของผเู้ รยี น เลขท่ี ช่ือ-สกุล รวม เกณฑ์การผา่ น คะแนนเก็บ (10) ใบกิจกรรม คะแนน ผา่ น ไม่ผ่าน (10) 1 ด.ช.เกยี รตศิ กั ดิ์ ภสู มมา 2 ด.ช.ชลสิทธิ์ บุดดา 3 ด.ช.ภาณวุ ฒั น์ ภธู าตเุ พชร 4 ด.ช.สหรัถ ภผู ายาง 5 ด.ช.เสฏฐวุฒิ วิชาพล 6 ด.ช.อนสุ รณ์ ไชยสทิ ธส์ิ รอ้ ย 7 ด.ช.ธันวา ภูมพิ ฒั น์ 8 ด.ญ.กนกพร จ่าบาล 9 ด.ญ.กนกอร ภูนี 10 ด.ญ.กัลยาณนิ ปักธงชัย 11 ด.ญ.เกวลนิ พลเสน 12 ด.ญ.จนั ทกานต์ิ อาจดวงดี 13 ด.ญ.ชลชาดา เอยี่ มสำอาง 14 ด.ญ.ณฐั ณิชา สีล้าน 15 ด.ญ.ทอดาว แสงศรี 16 ด.ญ.ทอฝัน แสงศรี 17 ด.ญ.นวพรรณ นามวงค์ 18 ด.ญ.นิศาชล เอี่ยมสำอางค์ 19 ด.ญ.นสิ รา พางาม 20 ด.ญ.พรพรหม ภูจอมดาว 21 ด.ญ.สรัญญา เขยี นโคกกวด 22 ด.ญ.สุชญั ญา ดาทุมมา 23 ด.ญ.สฑุ าสนิ ี ภูจวง 24 ด.ญ.อภิชญา แพงไธสงค์ 25 ด.ญ.อรญั ญา คำสิงห์ ลงชือ่ ..................................................... ผ้ปู ระเมิน (นายณัฐพงษ์ สีแลง) วนั ท่ี ........ เดอื น ...................... พ.ศ. .............
86 เกณฑ์การประเมินใบกจิ กรรม รายการ ระดับคะแนน ประเมิน 5 4 3 2 1 ขอ้ มูลในใบ -นกั เรยี นทำใบ -นกั เรยี นทำใบ -นกั เรยี นทำใบ -นักเรยี นทำใบ -นักเรยี นไม่ทำ กิจกรรม กจิ กรรมได้ กจิ กรรมได้ กิจกรรมได้ กิจกรรมได้ ใบกิจกรรมได้ ตอบ ทนั เวลาที่ ทันเวลากำหนด ทันเวลาท่ี ทันเวลากำหนด ครบถ้วน กำหนด กำหนด -สามารถอธบิ าย -แตไ่ มส่ ามารถ -สามารถอธบิ าย เนอื้ หาไดอ้ ย่าง -สามารถอธบิ าย อธิบายเน้ือหาได้ เน้ือหาไดอ้ ย่าง ครอบคลมุ เนอ้ื หาได้อย่าง อยา่ งครอบคลุม ครอบคลุม ถกู ตอ้ ง ครอบคลมุ ถกู ตอ้ ง ถูกต้อง ถูกต้องบางสว่ น แนวความคดิ -มีแนวความคิด -มีแนวความคดิ -มแี นวความคดิ -มแี นวความคิด -ไม่มี สร้างสรรค์ สรา้ งสรรค์ สรา้ งสรรค์ สรา้ งสรรค์ สร้างสรรค์ แนวความคิด สร้างสรรค์ -สอดคลอ้ งกับ -สอดคลอ้ งกบั -สอดคลอ้ งกับ -ขาดการ จุดประสงค์ของ จุดประสงค์ของ จดุ ประสงค์ของ สอดคลอ้ งกบั ใบกจิ กรรม ใบกิจกรรม ใบกิจกรรมเพียง จดุ ประสงค์ของ เล็กนอ้ ย ใบกจิ กรรม -มกี ารตกแตง่ -แต่ไมม่ ีการ ท่ีสวยงามหรอื ตกแตง่ ท่ี -แต่ไมม่ ีการ สะอาดเปน็ สวยงามหรอื ตกแตง่ ที่ ระเบียบ สะอาดเปน็ สวยงามหรือ เรยี บร้อย ระเบียบ สะอาดเป็น เรยี บรอ้ ย ระเบยี บ เรยี บรอ้ ย ระดับคณุ ภาพ คะแนน 9-10 คะแนน หมายถงึ ดเี ยี่ยม คะแนน 7-8 คะแนน หมายถงึ ดมี าก คะแนน 5-6 คะแนน หมายถึง ดี คะแนน 3-4 คะแนน หมายถงึ พอใช้ คะแนนต่ำกวา่ 3 คะแนน หมายถึง ควรปรับปรงุ ผ่านเกณฑก์ ารประเมิน คณุ ภาพระดับดีขึ้นไป
87 แบบบนั ทึกคะแนนคุณลกั ษณะในชัน้ เรยี น แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 1 วชิ า วทิ ยาศาสตรพ์ น้ื ฐาน ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 3/5 . หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 6 เร่ือง ไฟฟา้ กิจกรรม ปรมิ าณทางไฟฟ้า . คำช้แี จง:ใหค้ รูผู้สอนประเมินจากการสงั เกตพฤตกิ รรมของผเู้ รยี นดา้ นคณุ ลักษณะโดยใหร้ ะดบั คะแนนลงในตารางทตี่ รงกบั พฤติกรรมของผเู้ รียน เลขที่ ช่ือ-สกลุ คะแนน ปฏบิ ตั งิ าน คะแนนรวม เกณฑก์ ารผา่ น คะแนนเกบ็ ตรงเวลา (4) ที่ได้ ผ่าน ไม่ผา่ น คณุ ลกั ษณะ(5) มคี วาม มคี วามใฝ่รู้ใฝ่ (12) รบั ผดิ ชอบ(4) เรียน(4) 1 ด.ช.เกยี รตศิ ักด์ิ ภสู มมา 2 ด.ช.ชลสิทธ์ิ บุดดา 3 ด.ช.ภาณุวัฒน์ ภธู าตเุ พชร 4 ด.ช.สหรถั ภูผายาง 5 ด.ช.เสฏฐวุฒิ วิชาพล 6 ด.ช.อนุสรณ์ ไชยสิทธ์ิสรอ้ ย 7 ด.ช.ธนั วา ภูมิพฒั น์ 8 ด.ญ.กนกพร จา่ บาล 9 ด.ญ.กนกอร ภูนี 10 ด.ญ.กลั ยาณนิ ปกั ธงชยั 11 ด.ญ.เกวลนิ พลเสน 12 ด.ญ.จนั ทกานต์ิ อาจดวงดี 13 ด.ญ.ชลชาดา เอยี่ มสำอาง 14 ด.ญ.ณฐั ณิชา สลี า้ น 15 ด.ญ.ทอดาว แสงศรี 16 ด.ญ.ทอฝนั แสงศรี 17 ด.ญ.นวพรรณ นามวงค์ 18 ด.ญ.นิศาชล เอย่ี มสำอางค์ 19 ด.ญ.นสิ รา พางาม 20 ด.ญ.พรพรหม ภูจอมดาว 21 ด.ญ.สรญั ญา เขียนโคกกวด 22 ด.ญ.สชุ ัญญา ดาทุมมา 23 ด.ญ.สุฑาสินี ภูจวง 24 ด.ญ.อภชิ ญา แพงไธสงค์ 25 ด.ญ.อรญั ญา คำสงิ ห์ ลงช่อื ..................................................... ผู้ประเมิน (นายณฐั พงษ์ สีแลง) วันที่ ........... เดอื น ...................... พ.ศ. .................
88 เกณฑ์การประเมนิ คณุ ลักษณะในช้ันเรยี น รายการ ระดบั คุณภาพ ประเมิน 4 3 2 1 มคี วาม รบั ผิดชอบงานท่ี รับผดิ ชอบงานท่ี รบั ผิดชอบงานที่ รบั ผิดชอบงานท่ี รบั ผดิ ชอบ ได้รบั มอบหมายได้ ได้รับมอบหมายได้ ไดร้ บั มอบหมายได้ ได้รับมอบหมายได้ เปน็ อย่างดี เป็นอยา่ งดี คน้ ควา้ เป็นอย่างดี คน้ คว้า เป็นอย่างดี ค้นควา้ คน้ คว้าเสรจ็ กอ่ น เสรจ็ ตามเวลาท่ี เสรจ็ เกินเวลาที่ เสรจ็ เกินเวลาที่ เวลาที่กำหนด ได้ กำหนดไดเ้ นื้อหา กำหนดได้เน้ือหาที่ กำหนดไดเ้ น้ือหา เนือ้ หาทสี่ มบูรณ์ สมบรู ณ์ สมบรู ณ์ ไม่ไม่ครบสมบูรณ์ มคี วามใฝร่ ู้ ใหค้ วามสนใจใน ให้ความสนใจใน ให้ความสนใจใน ให้ความสนใจใน ใฝเ่ รียน การเรียนการสอน การเรียนการสอน การเรยี นการสอน การเรยี นการสอน เป็นอย่างมาก ไม่ เป็นอย่างมาก เป็นครง้ั คราว นอ้ ย รบกวนเพื่อน รบกวนเพอื่ นร่วม รบกวนเพื่อนร่วม รบกวนเพอื่ นรว่ ม รว่ มชน้ั มาก ไม่ ชั้น ต้ังใจศกึ ษา ช้นั บ้าง ต้งั ใจ ชั้นบา้ ง ต้ังใจ ตัง้ ใจค้นควา้ หา ค้นควา้ หาข้อมูล ศกึ ษาคน้ คว้าหา คน้ คว้าหาข้อมลู ข้อมลู ขอ้ มลู บ้างเลก็ นอ้ ย ปฏบิ ัติงาน ปฏิบตั งิ าน ส่งงาน ปฏบิ ตั ิงานตรง ปฏิบตั งิ านไม่ ปฏบิ ตั งิ านไม่ ตรงเวลา ตรงเวลาตามเวลา เวลาตามเวลาท่ี ทนั เวลาท่กี ำหนด ทนั เวลาท่กี ำหนด ทีก่ ำหนด กำหนด แต่ส่งงาน และส่งงานเลย และสง่ งานเลย เลยเวลาที่กำหนด เวลาทก่ี ำหนด เวลาท่ีกำหนดไป มาก ระดบั คุณภาพ คะแนน 16-20 คะแนน หมายถงึ ดีเย่ียม คะแนน 11-15 คะแนน หมายถึง ดี คะแนน 6-10 คะแนน หมายถึง พอใช้ คะแนน 1-5 คะแนน หมายถึง ควรปรับปรุง ผ่านเกณฑ์การประเมนิ คุณภาพระดบั ดี
89 แบบบนั ทึกคะแนนรายบคุ คล แผนการจัดการเรียนร้ทู ่ี 1 วิชา วิทยาศาสตรพ์ ื้นฐาน ช้นั มธั ยมศึกษาปที ี่ 3/5 . . หน่วยการเรยี นรู้ที่ 6 เร่อื ง ไฟฟ้า กจิ กรรม ปริมาณทางไฟฟา้ คำช้แี จง : ให้ครผู ู้สอนประเมินผลของนกั เรยี น โดยใหร้ ะดับคะแนนลงในตารางที่ตรงกบั ผลคะแนนของผู้เรยี น คะแนน เลขท่ี ชื่อ-สกลุ แบบประเมิน ใบงาน (5) แบบประเมินใบ ิกจกรรม (10) แบบประเมิน คุณ ัลกษณะ (5) รวม (20) คะแนนเก็บ (5) หมายเห ุต 1 ด.ช.เกยี รตศิ ักดิ์ ภสู มมา 2 ด.ช.ชลสิทธิ์ บดุ ดา 3 ด.ช.ภาณุวฒั น์ ภูธาตุเพชร 4 ด.ช.สหรถั ภูผายาง 5 ด.ช.เสฏฐวฒุ ิ วิชาพล 6 ด.ช.อนสุ รณ์ ไชยสทิ ธิ์สรอ้ ย 7 ด.ช.ธันวา ภมู พิ ฒั น์ 8 ด.ญ.กนกพร จา่ บาล 9 ด.ญ.กนกอร ภนู ี 10 ด.ญ.กลั ยาณนิ ปกั ธงชยั 11 ด.ญ.เกวลิน พลเสน 12 ด.ญ.จันทกานต์ิ อาจดวงดี 13 ด.ญ.ชลชาดา เอีย่ มสำอาง 14 ด.ญ.ณฐั ณิชา สลี ้าน 15 ด.ญ.ทอดาว แสงศรี 16 ด.ญ.ทอฝนั แสงศรี 17 ด.ญ.นวพรรณ นามวงค์ 18 ด.ญ.นิศาชล เอ่ียมสำอางค์ 19 ด.ญ.นสิ รา พางาม 20 ด.ญ.พรพรหม ภูจอมดาว 21 ด.ญ.สรัญญา เขยี นโคกกวด 22 ด.ญ.สชุ ญั ญา ดาทมุ มา 23 ด.ญ.สุฑาสินี ภจู วง 24 ด.ญ.อภชิ ญา แพงไธสงค์ 25 ด.ญ.อรญั ญา คำสงิ ห์ ลงชื่อ ..................................................... ผปู้ ระเมิน (นายณฐั พงษ์ สีแลง) วันที่ ........ เดือน ........................... พ.ศ. ................
90 แบบบันทึกคะแนนกลุ่ม แผนการเรยี นรูท้ ่ี ......... เรอื่ ง ................................................................... กลุ่มท่ี คะแนนบวก คะแนนลบ ผลลัพธ์ ตวั ชว่ ย 1 2 3 4 5 6 7 8
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173