คำนำ เอกสารคมู่ อื ชนั้ จูฬอาภธิ รรมิกะตรี ฉบบั น้ี ขา้ พเจา้ ไดร้ วบรวมเรียบเรยี งขน้ึ เพื่อให้ นักศกึ ษาใชใ้ นการประกอบการเรยี นการสอนพระอภธิ รรมในช้ัน จูฬอาภิธรรมกิ ะตรี อนั เปน็ หลกั สูตรซ่ึงทา่ นพระอาจารย์สทั ธมั มโชตกิ ะ ธัมมาจรยิ ะ ได้รจนาไว้ดแี ล้ว โดยท่ขี า้ พเจ้า ( อาตมาภาพ) คดิ ว่าการเรยี นการสอนโดยใช้หลักสตู รเพียงอยา่ งเดียวโดยไม่มเี อกสาร ประกอบในการสอน อาจจะเป็นอุปสรรคในการสอนวนั เสาร์ อาทิตย์ ทข่ี า้ พเจ้าสอนอยู่ จงึ มคี วามคิดว่าคงจะต้องทาเอกสารขึ้นมาเพอื่ เปน็ ประโยชนแ์ กน่ ักศึกษาพระอภธิ รรมชั้น จูฬอาภธิ รรมิกะตรี ไม่มากก็นอ้ ย และเอกสารฉบับน้อี าจจะไมส่ มบูรณ์หรอื อาจผิดพลาด ในการทาครง้ั น้ี เพราะว่าข้าพเจา้ ผู้มีปญั ญานอ้ ย จงึ หวังวา่ ทา่ นผรู้ ้ทู ง้ั หลายทมี่ คี วาม เขา้ ใจในด้านพระอภิธรรม โปรดช่วยแนะนาแก้ไขในสว่ นที่ผิดพลาดดว้ ย ถงึ กระนนั้ หากเอกสารฉบับน้ยี ังมขี อ้ บกพรอ่ งประการหน่งึ ประการใด ข้าพเจา้ ขอนอ้ มรบั ไว้แต่เพยี ง ผู้เดียว และยนิ ดรี บั ฟังข้อเสนอแนะของทุกทา่ น เพ่ือนามาแก้ไขปรบั ปรงุ ให้เปน็ เอกสาร ทสี่ มบูรณย์ ่งิ ขึน้ ทั้งนีเ้ พอ่ื ให้เกิดประโยชน์สงู สุด แกน่ ักศกึ ษารุ่นตอ่ ๆ ไป สุดท้ายนี้ ข้าพเจ้าขออนโุ มทนาในพระคุณของครบู าอาจารยท์ ัง้ หลาย ทีใ่ หโ้ อกาส ในการสอนพระอภิธรรม และขออานาจคุณพระศรรี ตั นตรยั และคุณงามความดที ขี่ า้ พเจ้า กระทามาแลว้ ในอดีตชาตจิ นถงึ ปัจจุบัน จงปกปักษร์ ักษาประสิทธิ์ประสาทพร ใหส้ รรพสตั ว์ ผูเ้ วยี นวา่ ยตายเกดิ ในวฏั ฏทกุ ข์ และผู้มีอปุ การคณุ ทั้งหลาย มีแตค่ วามสขุ กายสบายใจ ปราศจากโรคภยั ให้มชี วี ติ ท่ีดีงาม มีปัญญารกั ษาตน มตี นเปน็ ทีพ่ ่งึ จนกว่าจะเขา้ ถึง มรรค ผล นพิ พาน ในอนาคตกาล เทอญ พระทวี เกตุธมโม วัดราชสทิ ธาราม คณะ ๕ ๑๖ มกราคม ๒๕๔๖
สารบัญ ๑- ๓ ๔- ๙ ระบบการศึกษาพระอภิธรรม ๑๐ คาถาที่สาคัญในจฬู อาภิธรรมิกะตรี ๑๑ ปรจิ เฉทท่ี ๑ จติ ปรมัตถ์ ๑๒ - ๑๓ แผนภาพจติ ปรมตั ถ์ ๘๙ หรือ ๑๒๑ ดวง ๑๔ บาลแี ละคาแปลในอกุศลจิต ๑๒ ๑๕ บาลแี ละคาแปลในอเหตกุ จิต ๑๘ ๑๖ บาลีและคาแปลในกามาวจรโสภณจติ ๒๔ ๑๗ บาลแี ละคาแปลในรูปาวจรจิต ๑๕ ๑๘ - ๑๙ บาลแี ละคาแปลในอรปู าวจรจติ ๑๒ ๒๐ บาลแี ละคาแปลในโลกตุ ตรจติ ๘/๔๐ ๒๑ - ๒๓ ความหมายชอื่ จิต ๒๔ - ๒๖ เภทนยั ทงั้ ๙ ๒๗ ปริจเฉทที่ ๒ เจตสกิ ปรมตั ถ์ ๒๘ - ๓๓ อนิยตโยคเี จตสกิ ๓๔ - ๓๖ สมั ปโยคนัย ๓๗ สังคหนัย ๓๘ ตทุภยมิสสกนัย ๓๙ ปริจเฉทท่ี ๖ รปู ปรมัตถ์ ๔๐ รปู สมทุ เทสนัย ๔๑ - ๔๒ รูปวิภาคนยั ๔๓ รปู สมฏุ ฐานนยั ๔๔ รปู กลาปนัย ๔๕ รูปปวัตติกกมนัย ๔๖ - ๔๗ สรุปรูปปรมตั ถ์ ๔๘ นพิ พานปรมัตถ์ สรุปปรมัตถธรรม ๔
๑ ระบบการศึกษาพระอภธิ รรม โดยคัมภีรม์ ีอยู่ ๗ โดยอรรถกถาทแี่ ก้มีอยู่ ๗ คือ ๑. คมั ภีรธ์ ัมมสังคณี ๑. อฏั ฐสาลนิ ีอรรถกถา ๒. คัมภีร์วภิ ังค์ ๒. สัมโมหวิโนทนีอรรถกถา ๓. คมั ภีร์ธาตุกถา ๓. ธาตุกถาอรรถกถา ๔. คมั ภีรป์ ุคคลบัญญัติ ๔. ปคุ คลบัญญตั ิอรรถกถา ๕. คมั ภีร์กถาวัตถุ ๕. กถาวัตถอุ รรถกถา ๖. คมั ภีร์ยมก ๖. ยมกอรรถกถา ๗. มหาปฏั ฐานอรรถกถา ๘. คมั ภรี ์มหาปฏั ฐาน หมายเหตุ อรรถกถาท่ี ๓ ถงึ ท่ี ๗ รวม ๕ น้ี เรียกรวมกันว่า อรรถกถาปญั จกรณ์ พระอภิธรรมปิฎก พระอภิธรรม ๗ คมั ภีร์ กาหนดการแสดง เทพยดาบรรลุ ๑. คัมภีรธ์ ัมมสังคณี วา่ ด้วยหมวดแห่งปรมตั ถธรรม ๑๒ วนั ๗ โกฏิ ๒. คมั ภีรว์ ิภังค์ วา่ ด้วยการจาแนกปรมตั ถธรรม ๑๒ วนั ๗ โกฏิ ๓. คมั ภรี ์ธาตกุ ถา ว่าดว้ ยธาตแุ ห่งปรมตั ถธรรม ๔. คมั ภีร์ปคุ คลบญั ญตั ิ ว่าดว้ ยบญั ญัติ บคุ คล และปรมตั ถ์ ๖ วนั ๖ โกฏิ ๖ วนั ๖ โกฏิ ๕. คมั ภรี ก์ ถาวัตถุ วา่ ดว้ ยการถามและตอบในปรมตั ถธรรม ๑๓ วนั ๖. คมั ภีร์ยมก วาด้วยการแสดงปรมัตถธรรมเปน็ คู่ ๆ ๑๘ วัน ๗ โกฏิ ๗. คมั ภรี ์มหาปัฏฐาน ว่าด้วยปจั จัยปรมตั ถธรรม ๒ วนั ๗ โกฏิ ๔๐ โกฏิ (มาใน๓ปฐมสงั คายนา)
๒ พระอนุรทุ ธาจารยผ์ รู้ จนาพระอภธิ รรมปฎิ ก พระอนุรทุ ธาจารย์ - เป็นพระเถระองค์หนงึ่ เปน็ ชาวเมอื งกาวลิ กัญจิ แควน้ มทั ทราฐ ทางภาคใตข้ องประเทศอนิ เดีย - ไปศึกษาพระอภธิ รรมปิฏกที่ อนรุ าชบุรี ในประเทศลงั กา - สานักอยู่ ณ วดั ตุมลู โสมาราม นมั พอุบาสก ผูเ้ ปน็ ทายกได้อาราธนาขอใหร้ วบรวมพระอภธิ รรมปิฎก - โดยอาศัย บาลี อรรถกถา ฎีกา อนุฎกี า เป็นหลักในการรวบรวม - รจนาพระอภธิ รรมโดยยอ่ ข้นึ ให้ชื่อวา่ อภิธัมมตั ถสังคหะ เมอ่ื ประมาณพุทธศักราช ๙๐๐ ปี - ได้รบั การยกย่องนบั ถือวา่ เป็นพระเถระเจา้ ชนั้ คันถรจนาจารย์ ๑. บาลี หมายถึง พระพทุ ธพจน์ คอื ถอ้ ยคาทีส่ มเด็จพระสมั มาสมั พทุ ธเจ้าได้ตรสั เทศนาไวโ้ ดยตรง ๒. อรรถกถา แปลตามศัพทว์ ่า กลา่ วเน้ือความ ( อตั ถ - เน้อื ความ , กถา - กลา่ วถ้อยคา ) อรรถกถา แปลว่า กลา่ วแก้เนื้อความในบาลี (มไิ ดห้ มายความว่าเนอ้ื ความในบาลีนัน้ ผิด ) - ผทู้ ่แี สดงอรรถกถานัน้ ได้รับการยกย่องวา่ เป็นอาจารย์ จงึ เรียกวา่ อรรถกถาจารย์ ( ได้รบั ความเชอื่ ถอื เปน็ อยา่ งสงู รองลงมาจากบาลี ) ๓. ฎีกา คอื คากลา่ วแกอ้ รรถกถาอกี ชนั้ หน่ึง หมายความวา่ อรรถกถาน้ันอาจมขี อ้ ความทน่ี า่ สงสัย ไม่แจม่ แจ้งพอ ๔. อนุฎีกา คือ ผู้ท่กี ล่าวแกข้ ้อสงสยั อันจะพงึ มีในฎกี า ๕. เกจอิ าจารย์ คอื อาจารย์อื่น ๆ ท่ีแสดงความเห็นในขอ้ ธรรมหรอื อธิบายขยายความในข้อธรรม โดยทัว่ ไป
๓ หมายเหตุ ๑. พระอภธิ มั มัตถสงั คหะ ๙ ปรจิ เฉท รจนาแตง่ ขึ้นประมาณปี พ.ศ. ๙๐๐ ปี โดยพระอนรุ ทุ ธาจารย์ ซึง่ เปน็ ชาวเมอื งกาวลิ กัญจิ แควน้ มัททราฐ ประเทศอินเดียตอนใต้ ทา่ นได้ศึกษาพระอภธิ รรมท่ีสานกั วดั ตมุ ลู โสมาราม เมืองอนรุ าชบรุ ี ประเทศศรีลังกา มคี วามรู้ ในเรอ่ื งพระอภิธรรมแตกฉานมาก ได้รวบรวมร้อยกรองย่อความจากพระอภิธรรมปฎิ ก และคัมภรี ์อื่น ๆ ทเี่ ป็นภาษาบาลี อรรถกถา ฎกี า และอนฎุ กี า ออกมาเปน็ ตาราพระอภธิ มั มัตถสังคหะ ๙ ปรจิ เฉท ทาใหน้ กั ศึกษาเข้าใจในสภาวธรรมต่าง ๆ ไดอ้ ย่างลึกซงึ้ และละเอียด ละออ เปน็ พน้ื ฐานรองรับก่อนทจี่ ะไปศึกษาตอ่ ไปในพระอภิธรรมปฎิ ก คัมภรี ์นี้เปน็ ทน่ี ิยม สาหรบั ศกึ ษาพระอภิธรรมมาก ศึกษากนั อย่างแพรห่ ลาย ในประเทศศรีลงั กา พมา่ และประเทศไทย สาหรบั ประเทศไทย เพง่ิ เขียนเปน็ ภาษาไทยขึน้ เมือ่ ปี พ. ศ. ๒๔๙๔ ๒. พระสทั ธมั มโชติกะธมั มาจรยิ ะ เปน็ ผอู้ านวยการอภิธรรมโชตกิ ะวิทยาลยั และสอน พระอภิธรรมในประเทศไทยอยู่ถงึ ๑๗ ปี มรณภาพด้วยโรคไตพกิ าร และ ความดันโลหติ สงู เมื่อ ๑๕ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๐๙ ทโ่ี รงพยาบาลศิริราช รวมอายุได้ ๕๓ ปี ๓๓ พรรษา เอกสารอา้ งองิ ๑. หนงั สือปัญญาสาร ฉบับท่ี ๓๙ ของมลู นธิ ิแนบ มหานรี านนท์ วดั บวรนเิ วศวิหาร ๒. หนงั สอื พระอภิธรรม ในพระพทุ ธศาสนา มลู นิธวิ ดั พระเชตพุ นวมิ ลมงั คลาราม จากการศึกษาอบรม ( พระอภธิ รรมประยุกต์ ยคุ ใหม่ ) ๓๐ กรกฎาคม - ๑๓ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๓๗ โดย ศ. จ. จาลอง หะรณิ สตุ คณบดีอายรุ ศาสตรเ์ ขตร้อน มหาวทิ ยาลยั มหิดล ฯ ถนนราชวถิ ี พญาไท กรุงเทพมหานคร
คาถาท่สี าคัญในจฬู อาภธิ รรมิกะตรี ปรจิ เฉทท่ี ๑ จิตปรมัตถ์ คาถาประณามและปฏญิ ญาของพระอนรุ ุทธาจารย์ สมมาสมพุทธมตุล สสทธมมคณุตตม อภิวาทยิ ภาสิสส อภิธมมตถสงคห ขา้ พระพุทธเจ้า ( พระอนุรทุ ธาจารย์ ) ขอนอบน้อมถวายอภิวนั ทนาการแดพ่ ระพทุ ธองค์ ผตู้ รสั รู้เญยยธรรมทง้ั หลายเอง ไม่มีผู้เปรียบปราน พร้อมดว้ ยพระสทั ธรรม และคณะพระอริยสงฆเ์ จัาท้ังหลาย ซึง่ เปน็ ผู้อุดมแลว้ จักแต่งคัมภีรท์ ่ีมีนามว่า อภิธมั มตั ถสงั คหะ ตอ่ ไป คาถาปรมัตถธรรม ๔ ตตถ วุตตาภิธมมตถา จตุธา ปรมตถโต จิตต เจตสิก รูป นิพพานมติ ิ สพพถา ในอภิธมั มตั ถสงั คหะน้ัน เมอ่ื วา่ โดยปรมัตถธรรมแลว้ ไม่ว่าประการใด ๆ ย่อมมีเนื้อความของพระอภธิ รรมอยเู่ พียง ๔ ประการ คอื จติ เจตสิก รปู นิพพาน ๔ พระอาจารย์ทวี เกตุธมโม
คาถาสงั คหะของอกุศลจิต อฏ ธา โลภมลู านิ โทสมลู านิ จ ทวธิ า โมหมูลานิ จ เทวติ ทวาทสากุสลา สิยุ โลภมลู จติ ๘ โทสมลู จิต ๒ โมหมลู จิต ๒ รวมจิต ๑๒ ดวงน้เี ปน็ อกศุ ลจติ คาถาสังคหะของอเหตกุ จิต สตตากุสลปากานิ ปุ ปากานิ อฏ ธา กรยิ จติ ตานิ ตณี ีติ อฏ ารส อเหตกุ า อกศุ ลวปิ ากจิต ๗ อเหตกุ กศุ ลวิปากจิต ๘ อเหตกุ กริยาจติ ๓ รวมจติ ๑๘ ดวงน้เี ปน็ อเหตกุ จติ ๕ พระอาจารยท์ วี เกตุธมโม
ปรจิ เฉทที่ ๒ เจตสกิ ปรมตั ถ์ ลกั ษณะ ๔ ประการของเจตสิก เอกุปปาทนโิ รธา จ เอกาลมพนวตถกุ า เจโตยุตตา ทวิป าส ธมมา เจตสิกา มตา นกั ศึกษาทั้งหลายพงึ ทราบ ธรรมชาตขิ องเจตสิก ซง่ึ มจี านวน ๕๒ ดวง ทป่ี ระกอบกับจติ มลี ักษณะดงั นีค้ ือ ๑. เกดิ พร้อมกันกบั จติ ๒. ดบั พรอ้ มกนั กบั จติ ๓. มอี ารมณ์เดียวกนั กับจิต ๔. มที ี่อาศัยอย่างเดียวกนั กบั จิต คาถารบั รองเจตสิกปรมตั ถ์ ๕๒ ดวง เตรส สมานา จ จุททสากสุ สา ตถา โสภณา ป จวสี าติ ทวิป าส ปวจุ จเร ท่านกลา่ วจานวนเจตสกิ วา่ มี ๕๒ คอื อญั ญสมานเจตสิก ๑๓ อกศุ ลเจตสกิ ๑๔ โสภณเจตสกิ ๒๕ ๖ พระอาจารยท์ วี เกตธุ มโม
คาถาแสดงหลกั สมั ปโยคนยั โดยย่อ สตต สพพตถ ยชุ ชนติ ยถาโยค ปกณิ ณกา จุททสากสุ เลเสวว โสภเณเสวว โสภณา สัพพจติ ตสาธารณเจตสิก ๗ ยอ่ มประกอบในจติ ทั้งหมดทั่วไป ปกิณณกเจตสิก ๖ ยอ่ มประกอบในจติ ท้ังหมดตามท่ปี ระกอบได้ อกุศลเจตสิก ๑๔ ย่อมประกอบในอกศุ ลจิต ๑๒ เทา่ นนั้ โสภณเจตสกิ ๒๕ ยอ่ มประกอบ ในโสภณจิต ๕๙ หรอื ๙๑ เทา่ นน้ั ปริจเฉทท่ี ๖ รูปปรมตั ถ์ คาถารปู ปรมัตถ์ สมทุ เทสา วิภาคา จ สมุฏฐานา กลาปโต ปวตติกกมโต เจติ ป จธา ตตถา สงคโห การแสดงสงเคราะห์รปู ปริจเฉทน้ี พระอนุรุทธาจารยแ์ สดงเป็น ๕ นยั คอื ๑. รปู สมุทเทสนยั การแสดงรปู โดยสังเขป ๒. รปู วภิ าคนยั การจาแนกรปู โดยพสิ ดาร ๓. รูปสมฏุ ฐานนัย การแสดงสมุฏฐานของรปู ๔. รูปกลาปนัย การแสดงรูปทเี่ กิดข้นึ เป็นหมวด ๆ ๕. รูปปวัตตกิ กมนยั การแสดงการเกิดข้ึน พร้อมดว้ ยความดบั ของรปู ตามลาดับ ๗ พระอาจารยท์ วี เกตธุ มโม
คาถาแสดงรปู ที่เกิดไดแ้ ละเกดิ ไม่ได้ใน ๓๑ ภมู ิ อฏ วสี ติ กาเมสุ โหนติ เตวีส รูปสิ ุ สตตรเสวส น อรูเป นตถิ กิ จปิ ิ ในกามภมู ิ ๑๑ รูปทัง้ ๒๘ ยอ่ มเกิดได้ ในรปู ภมู ิ ๑๕ ( เว้นอสัญญสตั ตภูมิ ) รูป ๒๓ ( เวน้ ฆานะ ชิวหา กายะ ภาวรูป ๒ ) ย่อมเกิดได้ ในอสัญญสตั ตภูมิ ๑ รปู ๑๗ ( เวน้ ปสาทรูป ๕ สัททรูป ๑ ภาวรูป ๒ หทย รปู ๑ วญิ ญัตริ ูป ๒ ) ย่อมเกิดได้ ในอรูปภมู ิ ๔ ไม่มรี ปู อยา่ งหนง่ึ อย่างใดเกิดเลย คาถาแสดงรูปที่เกิดไม่ได้ในปฏิสนธกิ าลแตเ่ กดิ ได้ในปวัตตกิ าล สทโท วิกาโร ชรตา มรณ โจปปตติย น ลพภนติ ปวตเตตุ น กิ จิปิ น ลพภติ สทั ทรูป ๑ วิการรูป ๕ ชรตารปู ๑ อนิจจตารปู ๑ รวม ๘ รปู น้ี เกิดไม่ได้ในปฏิสนธิกาล คือ อปุ ปาทกั ขณะของปฏสิ นธิจติ สว่ นในปวตั ตกิ าลน้ัน รูปใดรปู หน่งึ ทจ่ี ะเกิดไม่ได้น้นั ไม่มีเลย ย่อมเกิดไดท้ งั้ หมด ๘ พระอาจารยท์ วี เกตุธมโม
คาถาท่แี สดงถงึ ความวนเวียนอยใู่ นวัฏฏสงสารของรปู อิจเจว มตสตตาน ปุนเทว ภวนตเร ปฏิสนธิมุปาทาย ตถารูป ปวตตติ ในสันดานแหง่ สตั วท์ ้ังหลายทีต่ ายจากโลกน้ีไปแลว้ รูปท้งั ๔ ยอ่ มเกดิ อีกในภพใหม่ ตง้ั แต่ปฏสิ นธิจิตเป็นต้นไป ทานองเดยี วกนั กับภพนี้ ดังทไ่ี ด้บรรยายมาแล้ว นพิ พานปรมัตถ์ คาถาพรรณนาคณุ ของพระนิพพาน ปทมจจุตมจจนต อสงขตมนตุ ตร นพิ พานมิติ ภาสนติ วานมุตตา มเหสโย พระสัมมาสัมพทุ ธเจ้าทั้งหลายผแู้ สวงหาซึ่งคุณอนั ย่งิ ใหญ่ คอื ศลี ขันธ์ สมาธขิ ันธ์ ปัญญาขนั ธ์ ผพู้ ้นแล้วจากตณั หาเครอื่ งรอ้ ยรดั ย่อมกลา่ วสภาวธรรมชนิดหนง่ึ ทเี่ ข้าถึงได้ มีอยู่โดยเฉพาะ ไม่เกยี่ วดว้ ยสังขตธรรม ไมม่ คี วามตาย และก้าวลว่ งไปจากขันธ์ ๕ เสียได้ ไม่ถกู ปรงุ แตง่ ดว้ ยปจั จยั ๔ อยา่ งใดอยา่ งหนึ่ง เปน็ ธรรมที่ประเสรฐิ สดุ นนั้ วา่ นพิ พาน ๙ พระอาจารยท์ วี เกตธุ มโม
ปริจเฉทที่ ๑ จิตปรมัตถ์ บาลรี บั รองจิตปรมัตถ์ ๔ ประเภท คือ ตตถ จติ ตํ ตาว จตพุ พธิ ํ โหติ กามาวจรํ รปู าวจรํ อรูปาวจรํ โลกตุ ตร เจ ในปรมัตถธรรมทงั้ ๔ จิตปรมัตถธรรมทีแ่ สดงไวเ้ ปน็ อันดับแรกในอารัมภบท มี ๔ ประเภท คอื กามาวจรจติ รปู าวจรจติ อรูปาวจรจิต โลกตุ ตรจติ จิตปรมตั ถ์ ๘๙ หรือ ๑๒๑ ดวง คือ อกศุ ลจิต ๑๒ อเหตุกจิต ๑๘ กามาวจรโสภณจิต ๒๔ รูปาวจรจติ ๑๕ อรูปาวจรจิต ๑๒ โลกตุ ตรจติ ๘/๔๐ ๔๐ อกศุ ลจิต ๑๒ ดวง คอื ๘ ๒ โลภมูลจิต ๒ โทสมลู จิต โมหมูลจติ
๑๐ อเหตุกจิต ๑๘ ดวง คอื อกศุ ลวิปากจิต ๗ อเหตุกกุศลวปิ ากจติ ๘ จติ อเหตุกกิรยิ าจิต ๓ ทนั้น กามาวจรโสภณจิต ๒๔ ดวง คอื มหากศุ ลจิต ๘ มหาวิปากจติ ๘ มหากิริยาจติ ๘ รปู าวจรจิต ๑๕ ดวง คือ รูปาวจรกุศลจิต ๕ รูปาวจรวิปากจิต ๕ รูปาวจรกิรยิ าจติ ๕ อรปู าวจรจติ ๑๒ ดวง คือ อรปู าวจรกศุ ลจิต ๔ อรูปาวจรวิปากจิต ๔ อรปู าวจรกิริยาจิต ๔ โลกตุ ตรจติ ๘ หรอื ๔๐ ดวง คือ มรรคจิต ๔ หรือ ๒๐ ผลจิต ๔ หรือ ๒๐ พระอาจารยท์ วี เกตุธมโม
จติ ปรมัตถ์ ๘๙ หรือ ๑๒๑ ดวง ๑๑ โส สมั โส สัม โส วปิ โส วปิ โลภมูลจติ ๘ อกศุ ลจติ ๑๒ อสอส อโสภณจิต โทสมูลจิต ๒ ๓๐ อุ สมั อุ สัม อุ วิป อุ วปิ โมหมูลจติ ๒ อ สอ ส โสภณจิต ๕๙ / ๙๑ โท สมั โท สมั อส อุ อุ วจิ ิ อุท อุ อุ อุ อุ ทุกข อุ อุ อกุศลวิปากจติ ๗ จักขุ โสต ฆาน ชวิ หา กาย สมั สัน อุ อุ อุ อุ สขุ อุ อุ โส จกั ขุ โสต ฆาน ชิวหา กาย สมั สัน สัน อเหตกุ กุศลวิปากจิต ๘ อเหตุกจติ ๑๘ อุ อุ โส อเหตกุ กริ ิยาจิต ๓ อฌานจิต ๕๔ ปญั จ มโน หสิ กามาวจรจติ ๕๔ โส สมั โส สัม โส วิป โส วปิ มหากุศลจิต ๘ อสอส อุ สมั อุ สมั . อุ วปิ อุ วิป อ สอ ส โส สมั โส สัม โส วปิ โส วปิ มหาวิปากจิต ๘ กามาวจรโสภณจิต ๒๔ อสอส อุ สัม อุ สัม อุ วปิ อุ วปิ อ สอ ส โส สมั โส สมั โส วิป โส วิป มหากิรยิ าจิต ๘ อสอส อุ สมั อุ สมั อุ วปิ อุ วิป อ สอ ส ปฐ ๕ ทตุ ิ ๔ ตติ ๓ จตุ ๒ ปัญ ๒ ตปกีเอจสาุร จสารุ เปอี ปีเอสุ สุ อุ เอ เอ รปู าวจรกศุ ลจติ ๕ ตก จาร จสารุ เปอี ปีเอสุ สุ อุ รปู าวจรวิปากจิต ๕ รูปาวจรจิต ๑๕ ปีเอสุ เอ เอ ตก จาร จาสรุ เปอี ปีเอสุ ส อุ รูปาวจรกิรยิ าจิต ๕ มหคั คตจติ ๒๗ ปีเอสุ เอ เอ ออุ าเอ อวุิญเอ อกุ ญิ เอ อเุนเอ อรูปาวจรกศุ ลจติ ๔ อรูปาวจรจติ ๑๒ ออุ าเอ อวุิญเอ อกุ ิญเอ อเุนเอ อรูปาวจรวปิ ากจติ ๔ ออุ าเอ อวุิญเอ อกุ ญิ เอ อเุนเอ อรูปาวจรกิริยาจติ ๔ ปฐ๑๑ ทุติ๑๑ ตต๑ิ ๑ จตุ๑๑ ปัญ๒๓ สุ อุ ตปกีเอจสา.ุร จาสรุ เปอี ปีเอสุ เอ เอ โสดาปัตติมรรคจิต ๑ - ๕ ฌานจติ ๖๗ โลกุตตรจิต ๘ หรือ ๔๐ ตปกีเอจสา.ุร จาสรุ เปอี ปีเอสุ สุ อุ สกทาคามิมรรคจิต ๑ - ๕ มรรคจติ ๔ หรือ ๒๐ เอ เอ ผลจิต ๔ หรือ ๒๐ พระอาจารยท์ วี เกตุธมโม ตปกีเอจสาุร จาสรุ เปอี ปีเอสุ สุ อุ อนาคามมิ รรคจติ ๑ - ๕ ตปกีเอจสาุร จาสรุ เปอี ปีเอสุ เอ เอ สุ อุ เอ เอ อรหัตตมรรคจติ ๑ - ๕ ตปกีเอจสาุร จาสรุ เปอี ปีเอสุ สุ อุ โสดาปัตติผลจิต ๑ - ๕ ปีเอสุ เอ เอ ตปกีเอจสาุร จาสรุ เปอี ปีเอสุ สุ ปีเอสุ เอ อุ สกทาคามิผลจิต ๑ - ๕ ตปกีเอจสาุร จาสรุ เปอี สุ เอ ตปกีเอจสาุร จาสรุ เปอี เอ สุ อุ อนาคามิผลจติ ๑- ๕ เอ เอ อุ เอ อรหตั ตผลจิต ๑- ๕
บาลีและคาแปลในอกุศ โลภมลู จติ ๘ โส สัม โส สมั อส โทสมลู จิต ๒ โมหมลู จติ ๒ อุ สัม อุ สัม อส โท ปฏิ โท ปฏิ อส อุ อุ วจิ ิ อุท โลภมูลจิต ๘ (๑) โส สมั โสมนสสสหคต ทิฏฐคิ ตสมปยตุ ต อสงขารกิ ประกอบดว้ ยความเหน็ ผิด อ จติ ที่เกดิ ขน้ึ โดยไมม่ กี ารชักชวน พร้อมด้วยความดีใจ (๓) โส วปิ โสมนสสสหคต ทิฏฐิคตวปิ ปยุตต อสงขาริก อ จติ ที่เกดิ ขึ้นโดยไมม่ กี ารชักชวน พร้อมดว้ ยความดีใจ ไม่ประกอบด้วยความเห็นผดิ (๕) อุ สมั อุเปกขาสหคต ทฏิ ฐคิ ตสมปยตุ ต อสงขาริก อ จติ ที่เกดิ ขนึ้ โดยไมม่ กี ารชักชวน พร้อมด้วยความเฉยๆ ประกอบด้วยความเหน็ ผิด (๗) อุ วปิ อเุ ปกขาสหคต ทฏิ ฐิคตวปิ ปยตุ ต อสงขาริก อ จติ ทีเ่ กดิ ขึน้ โดยไมม่ ีการชักชวน พร้อมด้วยความเฉย ๆ ไมป่ ระกอบดว้ ยความเห็นผดิ โลภมลู จิต หมายความวา่ จติ ทีเ่ กิดข้นึ โลภมลู จิต ๘ ดวงน้ี เกิดขึ้นพร้อมด้วยเวทนา ประกอบดว้ ยความเหน็ ผิด ๔ ดวง ค ไม่ประกอบด้วยความเห็นผดิ ๔ ดวง จติ ท่เี กดิ ข้ึนโดยไมม่ ีการชกั ชวน มี ๔ จิตทเ่ี กิดขน้ึ โดยมีการชกั ชวน มี ๔ ดว
ศลจติ ๑๒ ดวง ๑๒ โส วิป โส วปิ อกุศลจติ ๑๒ อส อุ วิป อุ วิป อส ๘ ดวง คอื (๒) โส สมั โสมนสสสหคต ทิฏฐิคตสมปยุตต สสงขาริก ส จิตทีเ่ กิดขึ้นโดยมีการชกั ชวน พร้อมด้วยความดีใจ ประกอบด้วยความเห็นผดิ (๔) โส วิป โสมนสสสหคต ทฏิ ฐคิ ตวปิ ปยุตต สสงขาริก ส จิตทเ่ี กิดขึ้นโดยมีการชักชวน พรอ้ มด้วยความดใี จ ไม่ประกอบด้วยความเหน็ ผดิ (๖) อุ สัม อุเปกขาสหคต ทฏิ ฐิคตสมปยตุ ต สสงขารกิ ส จติ ทเี่ กดิ ขนึ้ โดยมีการชกั ชวน พรอ้ มด้วยความเฉยๆ ประกอบดว้ ยความเหน็ ผิด (๘) อุ วิป อุเปกขาสหคต ทฏิ ฐคิ ตวิปปยตุ ต สสงขาริก ส จิตทีเ่ กดิ ขน้ึ โดยมีการชกั ชวน พรอ้ มดว้ ยความเฉย ๆ ไมป่ ระกอบดว้ ยความเห็นผิด นโดยมีโลภเจตสิกเปน็ มูลเปน็ ประธาน า ๒ คอื โสมนสั เวทนา และ อเุ บกขาเวทนา คอื ดวงที่ ๑- ๒- ๕- ๖ ง คือ ดวงที่ ๓ - ๔ - ๗ - ๘ ๔ ดวง คือ ดวงที่ ๑ - ๓ - ๕ - ๗ วง คอื ดวงที่ ๒ - ๔ - ๖ - ๘ พระอาจารยท์ วี เกตธุ มโม
บาลแี ละคาแปลในอกุศ โทสมลู จิต ๒ โ โมหมลู จติ ๒ โทสมูลจิต ๒ ดวง คอื (๑) โท ปฏิ โทมนสสสหคต ปฏฆิ สมปยตุ ต อสงขารกิ อ. จติ ทีเ่ กิดขึ้นโดยไม่มีการชักชวน พร้อมดว้ ยความเสยี ใจ ประกอบด้วยความโกรธ (๒) โท ปฏิ โทมนสสสหคต ปฏฆิ สมปยตุ ต สสงขาริก ส. จติ ท่ีเกิดขน้ึ โดยมีการชกั ชวน พร้อมด้วยความเสยี ใจ ประกอบด้วยความโกรธ โทสมลู จติ หมายความวา่ จติ ท่เี กดิ ขึน้ โดยมโี ทสเจตสิกเป็นมลู เป็นประธาน โทสมลู จติ ๒ ดวงนี้ เกิดขึ้นพร้อมดว้ ยโทมนัสสเวทนาอยา่ งเดยี ว ( โทมนสสสหคต ) เหตใุ หเ้ กิดโทสมูลจติ มีอยู่ ๕ ประการ คือ ๑. มีอัธยาศัยเป็นคนมกั โกรธ ๒. มคี วามคดิ ไม่สขุ ุม ๓. มีการศึกษาน้อย ๔. ได้ประสบกบั อารมณ์ที่ไม่ดี ๕. ได้ประสบกับอาฆาตวัตถุ ๑๐ ประการ
๑๓ ศลจติ ๑๒ ดวง โท ปฏิ โท ปฏิ อส อุ อุ วิจิ อุท โมหมลู จติ ๒ ดวง คอื ธ (๑) อุ อเุ ปกขาสหคต วจิ ิกิจฉาสมปยตุ ต วิจิ จติ ที่เกิดขึ้นพร้อมดว้ ยความเฉย ๆ ประกอบดว้ ยความสงสยั (๒) อุ อเุ ปกขาสหคต อุทธจจสมปยตุ ต วจิ ิ จิตท่เี กดิ ขึ้นพร้อมดว้ ยความเฉย ๆ ประกอบดว้ ยความฟุง้ ซ่าน โมหมูลจติ หมายความวา่ จติ ทเ่ี กิดข้นึ โดยมีโมหเจตสิกเปน็ มูลเป็นประธาน โมหมลู จิต ๒ ดวงนี้ เกดิ ขึ้นพร้อมด้วยอุเบกขาเวทนาอยา่ งเดียว ( อเุ ปกขาสหคต ) วิจิกิจฉาสมปยุตต คอื จติ ทป่ี ระกอบด้วยความสงสัยเปน็ ลกั ษณะ เชน่ สงสยั ในคณุ พระรตั นตรยั และ บาปบุญคณุ โทษเหลา่ น้ี เป็นต้น อุทธจจสมปยุตต คอื จิตทป่ี ระกอบดว้ ยความฟุง้ ซา่ น เหตุใหเ้ กดิ โมหมูลจติ มีอยู่ ๑ ประการ คือ ๑. อโยนโิ สมนสกิ าร คอื การพิจารณาทไ่ี มแ่ ยบคาย พระอาจารย์ทวี เกตธุ มโม
บาลแี ละคาแปลในอเหตุก อุ อุ อุ อุ ทกุ จกั โสต ฆาน ชิว กาย อุ อุ อุ อุ สุข จกั โสต ฆาน ชิว กาย อุ อุ โส ปัญจ มโน หสิ อเหตุกวปิ ากจิต ๑ อุ อเุ ปกขาสหคต จกขุวิ าณ จกั อุ จิตที่อาศยั จักขุวตั ถุเหน็ รปู ารมณท์ ี่ดแี ละไม่ดี เกดิ ขึน้ พรอ้ มดว้ ยความเฉย ๆ จัก อุ โสต อุเปกขาสหคต โสตวิ าณ อุ โสต จติ ที่อาศัยโสตวัตถุได้ยินเสียงท่ีดีและไม่ดี เกดิ ขนึ้ พรอ้ มด้วยความเฉย ๆ อุ อุเปกขาสหคต ฆานวิ าณ ฆาน อุ จิตทอ่ี าศัยฆานวตั ถุรู้กลน่ิ ที่ดแี ละไม่ดี เกิดขน้ึ พรอ้ มดว้ ยความเฉย ๆ ฆาน อุ อเุ ปกขาสหคต ชิวหาวิ าณ ชิว อุ จติ ที่อาศยั ชิวหาวตั ถรุ ้รู สท่ดี แี ละไม่ดี เกิดขน้ึ พร้อมดว้ ยความเฉย ๆ ชวิ อเหตกุ กิรยิ าจิต ๓ ดวง อกุศลวปิ าก อเหตุกกศุ ล อุ อุเปกขาสหคต ป จทวาราวชชนจิตต ปญั จ จิตทพี่ จิ ารณาอารมณ์ทางปัญจทวารทด่ี ีและไมด่ ี เกิดขึ้นพร้อมดว้ ยความเฉย ๆ อเหตุกกริย อุ อเุ ปกขาสหคต มโนทวาราวชชนจิตต อเหตกุ จิต มโน จติ ท่พี จิ ารณาอารมณท์ างมโนทวารทด่ี แี ละไม่ดี เกิดข้ึนพร้อมดว้ ยความเฉย ๆ โส โสมนสสสหคต หสติ ุปปาทจิตต หสิ จิตทที่ าใหเ้ กิดการยม้ิ ของพระอรหนั ต์ เกิดข้ึนพร้อมดว้ ยความดใี จ
กจติ ๑๘ ดวง คอื ๑๔ อุ อุ อกศุ ลวปิ ากจิต ๗ สัม สนั อุ อุ โส สัม สนั สัน อเหตกุ กศุ ลวปิ ากจติ ๘ อเหตกุ กริ ยิ าจิต ๓ ๑๕ ดวง คอื ทุกขสหคต กายวิ าณ จิตท่อี าศัยกายวัตถุรู้สกึ โผฏฐพั พารมณ์ท่ีไม่ดี เกิดขน้ึ พรอ้ มดว้ ยทุกขเวทนา ทุก สุขสหคต กายวิ าณ กาย จติ ทีอ่ าศยั กายวตั ถรุ สู้ ึกโผฏฐัพพารมณท์ ี่ดี เกดิ ขึ้นพรอ้ มดว้ ยสขุ เวทนา สุข อุเปกขาสหคต สมปฏิจฉนจิตต กาย จติ ทร่ี บั ปัญจารมณท์ ดี่ ีและไมด่ ี เกดิ ข้ึนพรอ้ มดว้ ยความเฉย ๆ อุ อุเปกขาสหคต สนตีรณจิตต สมั จิตท่ไี ตส่ วนปัญจารมณ์ท่ดี ีและไมด่ ี เกกิ ขึ้นพร้อมดว้ ยความเฉย ๆ อุ สัม โสมนสสสหคต สนตีรณจิตต จิตท่ีไต่สวนปัญจารมณ์ทดี่ ีย่ิง เกิดข้นึ พร้อมด้วยความดีใจ อุ สัน อุ สัน โส สัน กจิต มว. วบิ ากทเี่ กดิ จากอกุศลกรรม ๑๒ ดวง มีการเห็น การไดย้ ิน การได้กล่นิ ทีไ่ ม่ดี เปน็ ต้น ลวิปากจติ มว. วิบากทเี่ กดิ จากมหากศุ ลกรรม ๘ มีการเห็น การได้ยนิ การไดก้ ลนิ่ ทด่ี ี เป็นตน้ แตเ่ ป็นอเหตุกะ ยาจิต มว. จิตที่เกดิ ขึ้นโดยลาพัง ไมไ่ ด้อาศยั กรรมแตอ่ ยา่ งใดและไมเ่ ป็นบญุ เป็นบาป แต่เป็นอเหตกุ ะ มว. จติ ท่ีไมม่ เี หตุ ๖ ประกอบ จิตทเี่ หลอื จากอเหตกุ จิต ๑๘ มจี านวน ๗๑ หรอื ๑๐๓ เป็นสเหตุกจิตทงั้ สน้ิ พระอาจารยท์ วี เกตธุ มโม
บาลีและคาแปลในกามาวจ โส สมั โส สมั โ อส อุ สัม อุ สมั อส มหากศุ ลจติ ๘ , มหาวปิ ากจ (๑) โส สมั โสมนสสสหคต าณสมปยุตต อสงขารกิ อ จติ ทเ่ี กิดขึ้นโดยไม่มกี ารชักชวน พรอ้ มดว้ ยความดใี จ ประกอบด้วยปญั ญา (๓) โส วปิ โสมนสสสหคต าณวปิ ปยุตต อสงขาริก อ จติ ทเี่ กดิ ข้ึนโดยไมม่ ีการชกั ชวน พร้อมดว้ ยความดใี จ ไมป่ ระกอบด้วยปญั ญา (๕) อุ สัม อุเปกขาสหคต าณสมปยุตต อสงขาริก อ จิตทเี่ กดิ ขึ้นโดยไมม่ กี ารชกั ชวน พรอ้ มด้วยความเฉย ๆ ประกอบดว้ ยปัญญา (๗) อุ วิป อเุ ปกขาสหคต าณวปิ ปยตุ ต อสงขารกิ อ จติ ทเี่ กิดข้ึนโดยไม่มีการชักชวน พรอ้ มด้วยความเฉย ๆ ไมป่ ระกอบดว้ ยปัญญา หมายเหตุ บาลีและคาแปลของ มหาวิปากจติ ๘ มหากริ ิยาจิต ๘ เหมอื นกันกบั มหากุศลจติ ทุกประก มหากุศลจติ มว. จิตท่ไี ม่มีโทษ ให้ผลเปน็ ควา ทง้ั เป็นบาทเบ้ืองต มหาวปิ ากจติ มว. จิตทเี่ ป็นผลของมหากุศล เพร เหมือนกับมหากุศ มหากริ ิยาจติ มว. จติ ท่ีเป็นมหากุศลนั่นแหละ แ อโสภณจิต มว. จติ ทนี่ อกจากโสภณจิต หรือ โสภณจิต มว. จติ ท่สี วยงาม หรอื เปน็ จติ ท กามาวจรจติ มว. จิตทท่ี อ่ งเทยี่ วเกดิ อยู่ในกามภ
จรโสภณจิต ๒๔ ดวง คอื ๑๕ โส วิป โส วปิ อส อุ วิป อุ วปิ อส จติ ๘ , มหากรยิ าจติ ๘ คอื (๒) โส สัม โสมนสสสหคต าณสมปยตุ ต สสงขาริก ส จิตทเี่ กดิ ข้นึ โดยมีการชกั ชวน พร้อมดว้ ยความดใี จ ประกอบดว้ ยปญั ญา (๔) โส วิป โสมนสสสหคต าณวิปปยตุ ต สสงขารกิ ส จติ ทเ่ี กดิ ข้ึนโดยมกี ารชักชวน พร้อมด้วยความดีใจ ไม่ประกอบดว้ ยปญั ญา (๖) อุ สัม อเุ ปกขาสหคต าณสมปยุตต สสงขารกิ ส จติ ทเ่ี กดิ ขน้ึ โดยไม่มีการชักชวน พรอ้ มดว้ ยความเฉย ๆ ประกอบด้วยปัญญา (๘) อุ วิป อุเปกขาสหคต าณวิปปยุตต สสงขาริก ส จติ ทเี่ กิดขนึ้ โดยมกี ารชักชวนพรอ้ มด้วยความเฉย ๆ ไม่ประกอบด้วยปญั ญา การ ( กุสลจิตต วปิ ากจติ ต กริยจติ ต ) ามสขุ และสามารถใหผ้ ลเกิดขึน้ มากกว่าตน ต้นของฌาน อภิญญา มรรค ผล ราะเม่อื ว่าโดยเวทนา สัมปโยค สงั ขารแลว้ ศลทุกประการ แตเ่ กิดข้ึนในสันดานของพระอรหันต์ อ เปน็ จิตทไ่ี ม่ประกอบกบั โสภณเจตสิก ที่ประกอบกับโสภณเจตสิก ภูมิ อันเป็นทเ่ี กิดแห่งกิเลสกาม และ วัตถุกามเปน็ ส่วนมาก พระอาจารย์ทวี เกตธุ มโม
บาลแี ละคาแปลในรูปา รปู าวจรกุศลจิต ๕ ป กุ ทุ กุ ต รูปาวจรวิปากจติ ๕ ๕๔ รปู าวจรกริยาจิต ๕ ป วิ ทุ วิ ต ๕๔ ป กิ ทุ กิ ตต ๕๔ รปู าวจรจติ ปฐม ๓ ป กุ วิตกกวิจารปีตสิ ขุ เอกคคตาสหติ ป มชฌานกสุ ลจติ ต วปิ ากจติ ต กรยิ จิตต ๕ ปฐมฌานกุศลจิต ๑ วปิ ากจิต ๑ กิรยิ าจิต ๑ ที่เกิดพร้อมด้วยองคฌ์ าน ๕ ป วิ คือ วิตก วจิ าร ปตี ิ สขุ เอกคั คตา ๕ วิจารปีตสิ ขุ เอกคคตาสหิต ทตุ ิยชฌานกสุ ลจติ ต วปิ ากจิตต กรยิ จติ ต ป กิ ทุติยฌานกศุ ลจติ ๑ วปิ ากจิต ๑ กิริยาจิต ๑ ทีเ่ กดิ พร้อมดว้ ยองค์ฌาน ๔ ๕ คอื วจิ าร ปีติ สขุ เอกคั คตา ทตุ ยิ ๓ ทุ กุ ๔ ทุ วิ ๔ ทุ กิ ๔ ตติ กุ ปีติสขุ เอกคคตาสหิต ตติยชฌานกสุ ลจติ ต วิปากจิตต กริยจติ ต ๓ ตติยฌานกศุ ลจิต ๑ วปิ ากจติ ๑ กริ ิยาจิต ๑ ทเี่ กดิ พรอ้ มดว้ ยองค์ฌาน ๓ ตตยิ ๓ ตติ วิ คอื ปตี ิ สขุ เอกคั คตา ๓ ตติ กิ ๓ *** รปู าวจรจิต ๑๕ ดวงน้ี สงเคราะห์เขา้ ใน สสงั ขาริก และ สมั ปยุตต์
าวจรจิต ๑๕ ดวง คือ ๑๖ ตติ กุ จตุ กุ ปญั กุ รูปาวจรจติ ๑๕ ๓๒ ๒ ตติ วิ จตุ วิ ปญั วิ ๓๒ ๒ ติ กิ จตุ กิ ปญั กิ ๓๒ ๒ ๑๕ ดวง คอื จตุ กุ สุขเอกคคตาสหิต จตุตถชฌานกสุ ลจติ ต วปิ ากจิตต กรยิ จิตต ๒ จตุตถฌานกุศลจิต ๑ วิปากจิต ๑ กริ ิยาจติ ๑ ที่เกดิ พรอ้ มดว้ ยองค์ฌาน ๒ คือ สุข เอกัคคตา จตุตถ ๓ จตุ วิ ๒ อุเปกขาเอกคคตาสหติ ปญจมชฌานกุสลจติ ต วปิ ากจติ ต กรยิ จิตต ปญั จมฌานกุศลจติ ๑ วิปากจติ ๑ กริ ยิ าจติ ๑ ทเี่ กดิ พร้อมดว้ ยองคฌ์ าน ๒ จตุ กิ คอื อเุ บกขา เอกคั คตา ๒ ปญั จม ๓ ปัญ กุ ๒ ปญั วิ ๒ ปัญ กิ ๒ รปู าวจรจิต มว. จติ ทีท่ ่องเท่ียวเกดิ อยใู่ นภูมอิ นั เป็นทเ่ี กิดแห่งกิเลสรูปและวตั ถรุ ูปเปน็ สว่ นมาก รปู าวจรจิต เมื่อวา่ โดยประเภทแหง่ ฌานแลว้ มี ๑๕ คอื รูปาวจรปฐมฌานจิต ๑ ทุติยฌานจิต ๑ จตุตถฌานจิต ๑ ปญั จมฌานจิต ๑ รปู าวจรจติ เมื่อวา่ โดยประเภทแหง่ ชาตแิ ลว้ มี ๓ คือ กศุ ลชาติ วิปากชาติ และ กิรยิ าชาติ แล้วมีดังนค้ี อื รูปาวจรกศุ ลจิต ๕ รปู าวจรวปิ ากจติ ๕ รปู าวจรกริ ิยาจิต ๕ รวมเปน็ รปู าวจรจติ ๑๕ พระอาจารย์ทวี เกตธุ มโม
บาลีและคาแปลในอรปู า อรปู าวจรกุศลจติ ๔ อา กุ วญิ ก ๒ ๒ อรปู าวจรวิปากจิต ๔ อา วิ วญิ ว ๒๒ อรปู าวจรกริยาจติ ๔ อา กิ วิญ ก ๒๒ อรูปาวจรจิต ๑ อา กุ อเุ ปกขาเอกคคตาสหิต อากาสาน จายตนกสุ ลจติ ต วปิ ากจิตต กรยิ จิตต ๒ อากาสานญั จายตนกศุ ลจิต ๑ วิปากจิต ๑ กริ ิยาจติ ๑ ที่เกดิ พรอ้ มดว้ ยองคฌ์ าน ๒ อากา ๓ อา วิ คอื อเุ บกขา เอกัคคตา ๒ อา กิ ๒ วิญ กุ ๒ อุเปกขาเอกคคตาสหติ วิ าณ จายตนกุสลจิตต วปิ ากจติ ต กริยจติ ต วญิ วิ วิญญา ๓ ๒ วิญญานญั จายตนกศุ ลจติ ๑ วิปากจติ ๑ กิรยิ าจติ ๑ ทเ่ี กิดพร้อมดว้ ยองค์ฌาน ๒ คอื อเุ บกขา เอกคั คตา วญิ กิ ๒ *** อรปู าวจรจติ ๑๕ ดวงนี้ สงเคราะห์เข้าในสสังขารกิ และ สัมปยุตต์ อรูปาวจรจิต มว. จิตทท่ี อ่ งเท่ยี วเกดิ อยใู่ นภูม เมอ่ื ว่าโดยประเภทแห่งฌาน แลว้ มี ๔ คือ อ เมอ่ื จาแนกโดยกุศล วิบาก กิริยา แล้วมี ๑๒ เมื่อจาแนกโดยองค์ฌาน แลว้ มี ๒ คอื อุเบก หมายเหตุ อรูปาวจรจิต ๑๒ ดวงนีส้ งเคราะห มีองคฌ์ าน ๒ คอื อเุ บกข
าวจรจิต ๑๒ ดวง คือ ๑๗ กุ กิญ กุ เน กุ อรปู าวจรจติ ๑๒ ๒๒ วิ กิญ วิ เน วิ ๒๒ กิ กิญ กิ เน กิ ๒๒ ๑๒ ดวง คอื กิญ กุ อุเปกขาเอกคคตาสหติ อากิ จ ายตนกสุ ลจติ ต วปิ ากจติ ต กรยิ จิตต ๒ อากิญจญั ญายตนกุศลจติ ๑ วปิ ากจติ ๑ กิรยิ าจิต ๑ ทเี่ กิดพรอ้ มดว้ ยองคฌ์ าน ๒ อากญิ ๓ กิญ วิ คอื อเุ บกขา เอกัคคตา ๒ กิญ กิ ๒ เน กุ อุเปกขาเอกคคตาสหติ เนวส านาส ายตนกสุ ลจติ ต ๒ วิปากจติ ต กริยจติ ต เนว ๓ เน วิ เนวสญั ญานาสญั ญายตนกุศลจติ ๑ วปิ ากจติ ๑ กริ ยิ าจิต ๑ ๒ ที่เกดิ พรอ้ มดว้ ยองคฌ์ าน ๒ คือ อเุ บกขา เอกัคคตา เน กิ ๒ มิอันเปน็ ที่เกดิ แหง่ กิเลสอรูป และ วัตถอุ รูป เปน็ สว่ นมาก อากา ๓ วญิ ญา ๓ อากญิ ๓ เนว ๓ ๒ คือ อรูปาวจรกศุ ลจิต ๔ อรูปาวจรวปิ ากจติ ๔ อรปู าวจรกิริยาจิต ๔ รวมเป็น อรูปาวจรจิต ๑๒ กขา เอกคั คตา หเ์ ขา้ ในปัญจมฌาน เพราะเมือ่ วา่ โดยองค์ฌานแล้ว ขา เอกคั คตา เทา่ กนั พระอาจารย์ทวี เกตธุ มโม
บาลแี ละคาแปลในโลกตุ ต ป โส ทุ โส ตติ ๕ ๔๓ ป สก ทุ สก ตติ ๕ ๔๓ ป อนา ทุ อนา ตติ อ ๕ ๔๓ ป อร ทุ อร ตติ ๕ ๔๓ ป โส มรรคจิต ๒ ๕ วติ กกวิจารปตี ิสขุ เอกคคตาสหติ ปฐมชฌาน โสตาปตตมิ คคจิตต ป สก สกทาคามิมคคจิตต อนาคามิมคคจิตต อรหตตมคคจิตต ๕ ปฐมฌานโสดาปตั ตมิ รรคจติ ๑ สกทาคามิมรรคจติ ๑ อนาคามิมรรคจิต ๑ อรหัตตมรร ปฐม ๔ ป อนา ที่เกิดพร้อมดว้ ยองคฌ์ าน ๕ คือ วิตก วิจาร ปตี ิ สุข เอกคั คตา ๕ ป อร ๕ ทุตยิ ๔ ทุ โส วจิ ารปตี สิ ุขเอกคคตาสหิต ทตุ ยิ ชฌาน โสตาปตติมคคจติ ต ๔ ทุ สก สกทาคามิมคคจติ ต อนาคามิมคคจติ ต อรหตตมคคจิตต ๔ ทุตยิ ฌานโสดาปตั ติมรรคจิต ๑ สกทาคามมิ รรคจติ ๑ อนาคามมิ รรคจติ ๑ อรหัตตมรร ทเ่ี กดิ พรอ้ มดว้ ยองคฌ์ าน ๔ คอื วิจาร ปีติ สุข เอกัคคตา ทุ อนา ๔ ทุ อร ๔ ตติ โส ๓ ตติ สก ปตี สิ ุขเอกคคตาสหติ ตตยิ ชฌาน โสตาปตติมคคจติ ต ตติย ๔ ๓ สกทาคามมิ คคจติ ต อนาคามิมคคจิตต อรหตตมคคจิตต ตติ อนา ตตยิ ฌานโสดาปตั ติมรรคจติ ๑ สกทาคามิมรรคจิต ๑ อนาคามิมรรคจิต ๑ อรหตั ตมรร ๓ ทเ่ี กิดพรอ้ มดว้ ยองค์ฌาน ๓ คือ ปตี ิ สุข เอกคั คตา ตติ อร ๓
ตรจติ ๘ หรือ ๔๐ ดวง คือ ๑๘ โส จตุ โส ปญั โส ๓๒ ๒ สก จตุ สก ปัญ สก ๓๒ ๒ อนา จตุ อนา ปัญ อนา ๓๒ ๒ อร จตุ อร ปญั อร ๓๒ ๒ ๒๐ ดวง คือ จตุ โส สุขเอกคคตาสหติ จตุตถชฌาน โสตาปตติมคคจิตต ๒ รคจติ ๑ สกทาคามิมคคจิตต อนาคามิมคคจติ ต อรหตตมคคจติ ต จตุ สก รคจติ ๑ ๒ จตตุ ถฌานโสดาปัตตมิ รรคจิต ๑ สกทาคามมิ รรคจิต ๑ จตุต ๔ จตุ อนา อนาคามิมรรคจติ ๑ อรหตั ตมรรคจติ ๑ ทเี่ กิดพร้อมด้วยองค์ฌาน ๒ คือ สุข เอกคั คตา ๒ จตุ อร ๒ ปัญ โส อุเปกขาเอกคคตาสหิต ป จมชฌาน โสตาปตตมิ คคจิตต ๒ สกทาคามิมคคจิตต อนาคามิมคคจิตต อรหตตมคคจติ ต ปญั สก ๒ ปญั จมฌานโสดาปัตตมิ รรคจติ ๑ สกทาคามมิ รรคจิต ๑ ปญั จ ๔ ปัญ อนา อนาคามมิ รรคจติ ๑ อรหตั ตมรรคจิต ๑ ทเ่ี กดิ พร้อมด้วยองค์ฌาน ๒ คอื อเุ บกขา เอกัคคตา ๒ ปัญ อร ๒ *** โลกุตตรรจิต ๘/๔๐ ดวงน้ี สงเคราะห์เขา้ ใน สสงั ขาริก และ สัมปยตุ ต์ รคจติ ๑ โลกุตตรจติ มว. จติ ท่ีพ้นจากโลกท้งั ๓ คอื กามโลก รูปโลก อรูปโลก มรรคจติ กาลังประหาณกิเลส ผลจิต ประหาณแล้วซงึ่ กเิ ลส ในโลกตุ ตรจิต ๘ หรอื ๔๐ นั้น มรรค เปน็ กศุ ล ผล เป็นวิบาก พระอาจารย์ทวี เกตธุ มโม
บาลแี ละคาแปลในโลกุตต ป โส ทุ โส ตติ โส ๕ ๔๓ ป สก ทุ สก ตติ สก ๕ ๔๓ ป อนา ทุ อนา ตติ อน ๕ ๔๓ ป อร ทุ อร ตติ อร ๕ ๔๓ ป โส ผลจติ ๒๐ ๕ วิตกกวิจารปตี ิสุขเอกคคตาสหิต ปฐมชฌาน โสตาปตติผลจติ ต ป สก สกทาคามิผลจิตต อนาคามิผลจิตต อรหตตผลจติ ต ๕ ปฐมฌานโสดาปตั ตผิ ลจติ ๑ สกทาคามิผลจติ ๑ อนาคามิผลจติ ๑ อรหตั ตผลจิต ๑ ปฐม ๔ ป อนา ท่เี กิดพร้อมด้วยองคฌ์ าน ๕ คอื วิตก วจิ าร ปีติ สขุ เอกคั คตา ๕ ป อร ๕ ทุ โส วิจารปีติสุขเอกคคตาสหิต ทตุ ยิ ชฌาน โสตาปตติผลจิตต ๔ สกทาคามผิ ลจิตต อนาคามผิ ลจิตต อรหตตผลจิตต ทุ สก ทตุ ยิ ฌานโสดาปัตติผลจติ ๑ สกทาคามิผลจติ ๑ อนาคามิผลจติ ๑ อรหัตตผลจติ ๑ ๔ ทเ่ี กิดพร้อมด้วยองค์ฌาน ๔ คือ วิจาร ปตี ิ สุข เอกคั คตา ทตุ ิย ๔ ทุ อนา ๔ ทุ อร ๔ ตติ โส ๓ ตติ สก ปตี สิ ุขเอกคคตาสหิต ตตยิ ชฌาน โสตาปตตผิ ลจติ ต ตติย ๔ ๓ สกทาคามิผลจิตต อนาคามผิ ลจิตต อรหตตผลจติ ต ตติ อนา ตตยิ ฌานโสดาปัตติผลจติ ๑ สกทาคามิผลจิต ๑ อนาคามิผลจติ ๑ อรหตั ตผลจิต ๑ ๓ ทเ่ี กิดพรอ้ มด้วยองค์ฌาน ๓ คอื ปตี ิ สุข เอกคั คตา ตติ อร ๓
ตรจิต ๘ หรอื ๔๐ ดวง คอื ๑๙ ส จตุ โส ปญั โส ๒๒ ก จตุ สก ปญั สก ๒๒ นา จตุ อนา ปัญ อนา ๒๒ ร จตุ อร ปัญ อร ๒๒ ๐ ดวง คือ จตุ โส ๒ สขุ เอกคคตาสหติ จตตุ ถชฌาน โสตาปตติผลจติ ต จตุ สก ๒ สกทาคามผิ ลจติ ต อนาคามผิ ลจิตต อรหตตผลจิตต จตุตถ ๔ จตุ อนา จตตุ ถฌานโสดาปัตติผลจิต ๑ สกทาคามิผลจิต ๑ ๒ อนาคามผิ ลจิต ๑ อรหัตตผลจติ ๑ ทเ่ี กิดพร้อมดว้ ยองคฌ์ าน ๒ คอื สขุ เอกัคคตา จตุ อร ๒ ปญั โส อเุ ปกขาเอกคคตาสหติ ป จมชฌาน โสตาปตติผลจิตต ๒ สกทาคามผิ ลจิตต อนาคาผลจติ ต อรหตตผลจติ ต ปัญ สก ๒ ปญั จมฌานโสดาปัตตผิ ลจิต ๑ สกทาคามิผลจติ ๑ ปญั จม ๔ ปญั อนา อนาคามผิ ลจติ ๑ อรหัตตผลจิต ๑ ท่ีเกดิ พร้อมดว้ ยองคฌ์ าน ๒ คอื อุเบกขา เอกคั คตา ๒ ปญั อร ๒ *** โลกตุ ตรรจติ ๘/๔๐ ดวงนี้ สงเคราะห์เข้าใน สสังขารกิ และ สัมปยุตต์ โลกตุ ตรจิต มว. จติ ท่ีพน้ จากโลกท้ัง ๓ คอื กามโลก รูปโลก อรปู โลก มรรคจิต กาลงั ประหาณกิเลส ผลจิต ประหาณแล้วซ่งึ กเิ ลส ในโลกตุ ตรจิต ๘ หรือ ๔๐ น้นั มรรค เป็นกศุ ล ผล เป็นวบิ าก พระอาจารยท์ วี เกตธุ มโม
จิต 89 / 121 ดวง กามา อกศุ ล โลภมูลจติ 2 อกศุ ลจติ 12 โลภม โทสมูลจติ 2 โทสม โมหมูลจติ 2 อโสภณจติ โมหม 30 อเหต อกุศลวปิ ากจติ 7 อเหตกุ จติ สเหต อฌานจิต อเหตกุ กศุ ลว.ิ 8 18 กามาวจรจติ อกศุ ล 54 อเหตุกกริ ยิ าจติ 3 54 อเหต มหากศุ ,ลจติ 8 อเหต มหาวปิ ากจติ 8 กามาวจรโสภณจิต 24 อโสภ โลกยี จติ 81 โสภณ มหากริ ิยาจติ 8 มหาก รปู าวจรกศุ ลจติ 5 รปู าวจรจติ 15 มหคั คตจติ มหาว รปู าวจรวปิ ากจติ 5 รปู าวจรกริ ยิ าจิต 5 27 โสภณจิต มหาก อรปู าวจรกศุ ลจิต 4 59/91 กามา อรปู าวจรวิปากจติ 4 อรปู าวจรจิต 12 อรปู าวจรกริ ิยาจิต 4 รูปาว ฌานจติ มรรคจิต 4 / 20 อรูปา 67 โลกตุ ตรจติ 8 / 40 มหัคค ผลจติ 4 / 20 โลกีย โลกตุ พระอาจารยท์ วี เกตุธมโม ฌานจ อฌาน
ความหมายของชือ่ จิต ๒๐ าวจรจิต มว. จิตทที่ ่องเทยี่ วเกิดอยใู่ นภมู ิ อนั เปน็ ทีเ่ กดิ แหง่ วตั ถกุ าม และ กเิ ลสกามเป็นสว่ นมาก ลจติ มว. จติ ทม่ี โี ทษและให้ผลตรงกนั ข้ามกับกศุ ลจิต หรือเป็นจติ ที่เกดิ พรอ้ มกบั อกศุ ลเจตสกิ มูลจิต มว. จิตทเี่ กิดขนึ้ โดยมีโลภเจตสกิ เป็นมลู เป็นประธาน มูลจิต มว. จิตทเ่ี กดิ ข้นึ โดยมีโทสเจตสิกเปน็ มูลเปน็ ประธาน มูลจิต มว. จิตทเี่ กดิ ขน้ึ โดยมีโมหเจตสิกเปน็ มูลเปน็ ประธาน ตุกจิต มว. จิตทไ่ี มม่ ีเหตุ ๖ ประกอบ ตุกจิต มว. จติ ที่มเี หตุ ๖ ประกอบ ลวปิ ากจติ มว. วิบากที่เกดิ จากอกุศลกรรม ๑๒ มกี ารเหน็ การไดย้ ิน การไดก้ ล่ินที่ไมด่ ีเป็นต้น ตกุ กุศลวิปากจิต มว. วิบากท่เี กดิ จากมหากศุ ลกรรม ๘ มกี ารเห็น การไดย้ ิน การได้กลนิ่ ท่ดี ีเป็นตน้ ตุกกิรยิ าจติ แตเ่ ป็นอเหตุกะ มว. จิตทเี่ กดิ ขึ้นโดยลาพงั ไมไ่ ด้อาศัยกรรมแตอ่ ยา่ งใด และไม่เป็นบญุ เป็นบาป ภณจิต ณจิต แตเ่ ป็นอเหตกุ ะ กศุ ลจิต มว. จติ ทน่ี อกจากโสภณจติ ที่เป็นจติ สวยงาม หรือ เปน็ จิตที่ไม่เกิดพรอ้ มกับโสภณเจตสกิ มว. จิตทเ่ี กิดพร้อมกันกับโสภณเจตสกิ หรือ เปน็ จติ ทีส่ วยงาม วิปากจติ มว. จิตทไ่ี มม่ ีโทษ และ ให้ผลเปน็ ความสขุ ทงั้ สามารถให้ผลเกดิ ขึน้ มากกวา่ ตน กริ ิยาจิต ทง้ั เป็นเบื้องต้นของฌาน อภิญญา มรรค ผล าวจรโสภณจิต มว. จิตทเี่ ปน็ ผลของมหากศุ ล เพราะเมอ่ื ว่าโดยเวทนา สัมปโยค และ สังขารแลว้ วจรจติ กเ็ หมือนกนั กบั มหากุศลทกุ ประการ มว. จติ ทม่ี ชี อ่ื วา่ มหากศุ ลนนั้ แหละ แตเ่ กิดข้ึนในสนั ดานของพระอรหนั ต์ าวจรจติ มว. จิตทสี่ วยงามและเปน็ กามาวจรจิตทเ่ี กดิ พร้อมกนั กบั โสภณเจตสิก คตจติ ซ่ึงทอ่ งเทย่ี วเกดิ อยใู่ นกามภมู ิเปน็ สว่ นมาก ยจิต มว. จิตทงั้ ๑๕ ดวงนี้ ท่องเทยี่ วเกิดอยูใ่ นภมู อิ ันเป็นทเี่ กิดแหง่ วตั ถุรปู ตตรจติ จิต และ กเิ ลสรปู เป็นส่วนมาก นจติ มว. จิตทง้ั ๑๒ ดวงน้ี ทอ่ งเทย่ี วเกดิ อยใู่ นภมู ิอนั เปน็ ท่ีเกิดแหง่ วตั ถุอรปู และ กิเลสอรปู เปน็ ส่วนมาก มว. จติ ทเ่ี ขา้ ถึงความเป็นใหญ่ และ ประเสรฐิ มว. จติ เหลา่ นีย้ ่อมเกิดอยู่ในโลกทง้ั ๓ คือ กามโลก รปู โลก อรปู โลก มว. จิตเหลา่ นีพ้ ้นจากโลกทง้ั ๓ คือ กามโลก รปู โลก อรปู โลก มว. จติ ทเี่ กดิ พรอ้ มกันกบั องค์ฌาน ๕ มี วิตกองคฌ์ าน เป็นต้น มว. จิตทไ่ี มเ่ กดิ พรอ้ มกันกบั องคฌ์ าน ๕ มี วติ กองค์ฌาน เป็นตน้
เภทนยั ทั้ง ๙ ( ย่อท่องวา่ ชา , ภู , โส , โล , เห , ฌา , เว , สัม , สงั ) ๑. ชาติเภทนยั การแยกประเภทของจิตโดยชาติ มี ๔ คือ ๒. ภมู ิเภทนยั การแยกประเ ๑. อกุศลชาตมิ ี ๑๒ ดวง คือ โลภมูลจิต ๘ โทสมลู จติ ๒ โมหมลู จติ ๒ ๒. กศุ ลชาตมิ ี ๓๗ ดวง คือ มหากุศลจติ ๘ รปู าวจรกศุ ลจติ ๕ อรปู าวจรกศุ ลจติ ๔ มรรคจิต ๒๐ ๓. วิปากชาตมิ ี ๕๒ ดวง คือ อกุศลวปิ ากจติ ๗ อเหตกุ กศุ ลวปิ ากจิต ๘ มหาวิปากจติ ๘ รปู าวจรวปิ ากจิต ๕ อรปู าวจรวิปากจิต ๔ ผลจติ ๒๐ ๔. กริยาชาตมิ ี ๒๐ ดวง คือ อเหตุกกริยาจิต ๓ มหากรยิ าจิต ๘ รปู าวจรกรยิ าจติ ๕ อรปู าวจรกรยิ าจิต ๔
เภทของจิตโดยภูมิ มี ๔ คอื ๒๑ ๓. โสภณเภทนยั การแยกประเภทของจติ โดยโสภณ มี ๒ คือ ๑. กามภูมิมี ๕๔ ดวง คือ ๑. อโสภณจิตมี ๓๐ ดวง คือ อกศุ ลจติ ๑๒ อกุศลจิต ๑๒ อเหตกุ จติ ๑๘ อเหตกุ จติ ๑๘ กามาวจรโสภณจิต ๒๔ ๒.รูปภมู ิมี ๑๕ ดวง คือ ๕ ๒. โสภณจิตมี ๙๑ ดวง คือ รปู าวจรกุศลจติ ๕ กาวาวจรโสภณจิต ๒๔ รปู าวจรวปิ ากจติ ๕ รปู าวจรจติ ๑๕ รปู าวจรกรยิ าจติ อรปู าวจรจิต ๑๒ โลกตุ ตรจติ ๔๐ ๓. อรปู ภมู ิมี ๑๒ ดวง คือ อรปู าวจรกุศลจติ ๔ อรปู าวจรวปิ ากจติ ๔ อรปู าวจรกรยิ าจติ ๔ ๔. โลกตุ ตรภูมมิ ี ๔๐ ดวง คือ มรรคจติ ๒๐ ผลจิต ๒๐ พระอาจารยท์ วี เกตุธมโม
๔. โลกเภทนยั การแยกประเภทของจติ โดยโลก มี ๒ คอื ๕. เหตุเภทนัย การแยกประเภ ๑. โลกยี จติ มี ๘๑ ดวง คือ อกุศลจิต ๑๒ อเหตุกจติ ๑๘ กามาวจรโสภณจติ ๒๔ รปู าวจรจิต ๑๕ อรปู าวจรจิต ๑๒ ๒. โลกุตตรจติ มี ๔๐ ดวง คอื มรรคจติ ๒๐ ผลจติ ๒๐
ภทของจติ โดยเหตุ มี ๒ คอื ๒๒ ๖. ฌานเภทนัย การแยกประเภทของจติ โดยฌาน มี ๒ คือ ๑. อเหตกุ จติ มี ๑๘ ดวง คอื ๑. อฌานจติ มี ๕๔ ดวง คอื อกุศลวิปากจติ ๗ อกศุ ลจติ ๑๒ อเหตุกกุศลวิปากจิต๘ อเหตุกกริยาจติ ๓ อเหตุกจติ ๑๘ กามาวจรโสภณจิต๒๔ ๒.สเหตกุ จิตมี ๑๐๓ ดวง คอื ๒. ฌานจิตมี ๖๗ ดวง คือ รปู าวจรจิต ๑๕ อกุศลจติ ๑๒ อรปู าวจรจิต ๑๒ โลกุตตรจติ ๔๐ กามาวจรโสภณจติ ๒๔ รปู าวจรจิต ๑๕ อรปู าวจรจิต ๑๒ โลกตุ ตรจิต ๔๐ พระอาจารย์ทวี เกตธุ มโม
๗. เวทนาเภทนยั การแยกประเภทของจติ โดยเวทนา มี ๕ คอื ๘. สมั ปโยคเภทนัย การแยกประ ๑. ส ๑. สขุ เวทนา มี ๑ ดวง คือ ๒.ว สขุ สหคตกายวิญญาณจิต ๒. ทุกขเวทนา มี ๑ ดวง คือ ทกุ ขสหคตกายวญิ ญาณจิต ๓. โสมนัสสเวทนามี ๖๒ ดวง คอื โลภมลู โสมนัส ๔ โส-สนั ตีรณจิต ๑ โส-หสิตปุ ปาทจิต ๑ มหากุศลโสมนสั ๔ มหาวิปากโสมนัส ๔ มหากริยาโสมนัส ๔ ปฐมฌานจติ ๑๑ ทตุ ิยฌานจิต ๑๑ ตตยิ ฌานจิต ๑๑ จตุตถฌานจิต ๑๑ ๔. โทมนสั สเวทนามี ๒ ดวง คอื โทสมูลจติ ๒ ๕. อเุ บกขาเวทนา มี ๕๕ ดวง คอื โลภมลู อุเบกขา ๔ โมหมลู จติ ๒ อเหตกุ อุเบกขา ๑๔ มหากศุ ลอุเบกขา ๔ มหาวิปากอเุ บกขา ๔ มหากริยาอุเบกขา ๔ ปญั จมฌานจิต ๒๓
๒๓ ะเภทของจิตโดยสมั ปโยค มี ๒ คือ ๘. สงั ขารเภทนยั การแยกประเภทของจติ โดยสงั ขาร มี ๒ คือ สัมปยตุ ตจิตมี ๘๗ ดวง คือ ๑. อสังขารกิ จติ มี ๓๗ ดวง คอื โลภมลู จิตดวงที่ ๑ กบั ดวงที่ ๓ ทฏิ ฐิคตสัมปยตุ ตตจติ ๔ ”๕ ” โทสมูลจติ ดวงที ๑ โทสมูลจติ ๒ โมหมูลจิตดวงท่ี ๒ อเหตุกจติ ดวงที่ ๑๘ โมหมลู จติ ๒ มหากุศลจิตดวงท่ี ๑ กบั ดวงท่ี ๓ ”๕ มหากศุ ลญาณสมั . ๔ มหาวิปากจิตดวงท่ี ๑ กบั ดวงที่ ๓ มหาวปิ ากญาณสมั . ๔ ”๕ มหากรยิ าญาณสัม. ๔ มหากรยิ าจติ ดวงที่ ๑ กบั ดวงท่ี ๓ ”๕ รปู าวจรจติ ๑๕ ๒. สสังขารกิ จติ มี ๘๔ ดวง คอื อรปู าวจรจิต ๑๒ โลภมลู จติ ดวงที่ ๒ กบั ดวงที่ ๔ ”๖” โลกตุ ตรจิต ๔๐ โทสมลู จิตดวงท่ี ๒ มหากศุ ลจติ ดวงท่ี ๒ กบั ดวงท่ี ๔ วิปปยุตตจติ จติ มี ๓๔ ดวง คอื ”๖ มหาวิปากจติ ดวงที่ ๒ กับดวงท่ี ๔ ทิฏฐิคตวปิ ป. ๔ ”๖ มหากรยิ าจติ ดวงที่ ๒ กบั ดวงที่ ๔ อเหตกุ จติ ๑๘ ”๖ มหากริยาจติ ดวงที่ ๒ กบั ดวงที่ ๔ มหากศุ ลญาณวปิ ๔ ”๖ รปู าวจรจิต ๑๕ มหาวิปากญาณวิป ๔ อรปู าวจรจติ ๑๒ โลกตุ ตรจิต ๔๐ มหากรยิ าญาณวปิ ๔ พระอาจารยท์ วี เกตธุ มโม
คาถารับรองลักษณะ ๔ ประการของเจตสกิ ปรจิ เฉทที่ ๒ เ เอกุปปาทนิโรธา จ เอกาลมพนวตถุกา เจโตยตุ ตา ทวปิ าส ธมมา เจตสกิ า มตา นักศึกษาทั้งหลาย พึงทราบธรรมชาตขิ องเจตสิก ซ่ึงมจี านวน ๕๒ ดวง ทป่ี ระกอบกับจติ มีลักษณะดังนี้คอื ๑. เกิดพร้อมกบั จิต ๒. ดบั พรอ้ มกับจิต ๓. มีอารมณ์เดียวกันกับจติ ๔. มีท่อี าศยั อยา่ งเดยี วกันกับจิต สพั พ ๗ เจตสกิ มี ๕๒ ดวง คอื อัญญสมานเจ. ๑๓ ปกณิ ณกะ ๖ ผสั สะ เวทนา สัญญา เจตนา เอกัค. ชวี ิติน. มนสกิ าร วิตก วจิ าร อธโิ มกข์ วิรยิ ะ ปิติ ฉนั ทะ โมจตกุ ๔ โมหะ อหิริกะ อโนต. อุทธัจจะ อกุศลเจ. ๑๔ อ โลตกิ ๓ โลภะ ทฏิ ฐิ มานะ สัพพจติ โทจตุก ๔ โทสะ อสิ สา มัจฉริยะ กกุ กจุ จะ สพั พากุศ ถที ุก ๒ ถีนะ มทิ ธะ วจิ ิกิจฉา ๑ วิจกิ จิ ฉา โสภ โส.สา ๑๙ ศรทั ธา สติ หิริ โอตตัป อโลภะ อโทสะ ตตั ตร วริ ตี ๓ สมั .วาจากัมมันตะ อาชวี ะ ก.ปัส จิต.ปัส อัปปมญั ญา ๒ ก.ลหุ จิต.ลหุ ก.มุทุ จติ .มทุ ุ กรุณา มุฑติ า ปญั ญา ๑ ปญั ญา โสภณเจ. ๒๕ ก.กมั จติ .กัม พระอาจารยท์ วี เกตธุ มโม ก.ปา จติ .ปา อ กายุชุ จติ ตุชุ ป
๒๔ เจตสิกปรมัตถ์ เจตสิกแบง่ เป็น ๓ ราสี คอื ( ราสี แปลวา่ กล่มุ หรอื กอง ) ๑. อญั ญสมานราสเี จตสิก ๑๓ ๒. อกุศลราสเี จตสิก ๑๔ ๓. โสภณราสเี จตสกิ ๒๕ เจตสกิ แบง่ เป็น ๑๑ ประเภท คอื ๑. สพั พจติ ตสาธารณเจตสิก ๗ ๖. ถที ุกเจตสิก ๒ ๒. ปกิณณกเจตสิก ๖ ๗. วิจกิ ิจฉาเจตสิก ๑ ๓. โมจตกุ เจตสิก ๓ ๘. โสภณสาธารณเจตสิก ๑๙ ๔. โลตกิ เจตสิก ๓ ๙. วริ ตีเจตสิก ๓ ๕. โทจตุกเจตสิก ๔ ๑๐. อปั ปมัญญาเจตสิก ๒ ๑๑. ปญั ญาเจตสกิ ๑ ความหมายรวมของเจตสกิ อญั ญสมานเจตสกิ เปน็ เจตสิกทเ่ี หมอื นกันกับธรรมอืน่ ตตสาธารณเจตสิก เป็นเจตสิกที่ประกอบกับจติ ทง้ั หมดท่ัวไป ปกณิ ณกเจตสกิ เปน็ เจตสิกที่ประกอบเร่ยี รายไปท้ังในฝา่ ยโลกีย โลกตุ ตร โสภณ อโสภณ กศุ ล อกุศล วิบาก กิริยา แตไ่ มใ่ ช่ทง้ั หมด อกุศลเจตสิก เปน็ เจตสิกท่ีประกอบได้ในอกุศลจิต ๑๒ ท้ังหมดตามสมควร ศลสาธารณเจตสิก เปน็ เจตสิกท่ีประกอบในอกศุ ลจติ ๑๒ ได้ทวั่ ไปท้งั หมด โมจตกุ เจตสิก เจตสิก ๔ ดวง ทีม่ โี มหเจตสิกเปน็ ประธาน โลตกิ เจตสกิ เจตสิก ๓ ดวง ท่ีมีโลภเจตสิกเปน็ ประธาน โทจตกุ เจตสกิ เจตสิก ๔ ดวง ทมี่ โี ทสเจตสิกเปน็ ประธาน ถทิ ุกเจตสกิ เปน็ เจตสิกท่ีประกอบได้ในอกุศลสสังขาริกจติ ๕ เทา่ นนั้ โสภณเจตสิก เป็นเจตสิกท่ีประกอบได้ในโสภณจติ ๕๙ หรอื ๙๑ ตามสมควร ภณสาธารณเจตสกิ เปน็ เจตสิกท่ีประกอบท่ัวไปในจิตทีม่ ีความสวยงามและไม่มีโทษ วริ ตเี ตสกิ เปน็ เจตสิกที่มีเจตนางดเว้นจากทจุ รติ เป็นประธาน อัปปมญั ญาเจตสกิ เป็นเจตสิกทเ่ี กดิ ข้ึนโดยอาศยั ทกุ ขติ สัตว์ หรอื สขุ ติ สตั วท์ วั่ ไปไมจ่ ากัด ปัญญินทรีย์เจตสิก เป็นเจตสิกที่มหี น้าทีป่ กครองในการรูส้ ภาพธรรมโดยทั่ว ๆไป ตามความเปน็ จริง
เจตสิก ๕๒ อ สพั พ ๗ ผสั สะ เวทนา สัญญา เจตนา เอกัค. ชวี ตี ิน. มนสิก. อญั ญ. ๑๓ สพั พ. ๗ ผ ปกณิ ณกะ ๖ วติ ก วจิ าร อธโิ มก วริ ยิ ะ ปตี ิ ฉนั ทะ เว ส โมจตุก ๔ โมหะ อหิรกิ ะ อโนต. อุทธจั . อกุศล. ๑๔ เจ โลติก ๓ โลภะ ทิฏฐิ มานะ เอ โทจตุก ๔ โทสะ อสิ สา มจั ฉริ กกุ กุจ ช ถีทุก ๒ ถีนะ มิทธะ ม วจิ กิ จิ ฉา ๑ วิจกิ ิจ ปกิณ. ๖ ว โส.สา ๑๙ ศรทั ธา สติ หิริ โอตตปั . อโลภะอโทสะ ตัตตร ว อ วริ ตี ๓ วาจา กัมมนั อาชีวะ ก.ปสั จิต.ปสั โสภณ. ๒๕ ว อปั . ๒ กรณุ า มุฑิตา ก.ลหุ จติ .ลหุ ป ปญั ญา ๑ ปญั ญา ก.มทุ ุ จิต.มทุ ุ ฉ อ ก.กัม จติ .กัม โมจ. ๔ โม ก.ปา จติ .ปา อ อ กายุชุ จิตตชุ ุ อ พระอาจารย์ทวี เกตุธมโม โลต.ิ ๓ โล ท ม โทจ. ๔ โท อ ม ก ถีทุ. ๒ ถ ม วจิ ิ. ๑ ว
๒๕ อัญญสมานเจตสกิ ๑๓ ผัสสะ ธ. ทีก่ ระทบอารมณ์ วทนา ธ. ท่ีเสวยอารมณ์ สญั ญา ธ. ทจี่ าอารมณ์ จตนา ธ. ทก่ี ระต้นุ เตอื นและชักชวนสัมปยุตตธรรมในอารมณ์ เพือ่ ใหท้ าหนา้ ท่ีของตน ๆ อกัคคตา ธ. ที่สงบและใหส้ มั ปยตุ ตธรรมตัง้ อย่ใู นอารมณเ์ ดียว ชวี ิตนิ ทรยี ์ ธ. ที่รกั ษาสัมปยุตตธรรม มนสิการ ธ. ทีม่ ุ่งและนาสมั ปยุตตธรรมส่อู ารมณ์ วิตก ธ. ท่ยี กสัมปยุตตธรรมขนึ้ สอู่ ารมณ์ คอื คิดอารมณ์ วจิ าร ธ. ที่มกี ารเคลา้ คลึงอารมณ์ อธโิ มกข์ ธ. ท่ีตดั สนิ อารมณ์ วิรยิ ะ ธ. ทม่ี ีความพยายามในอารมณ์ ปตี ิ ธ. ที่มีความชน่ื ชมยินดีในอารมณ์ ฉนั ทะ ธ. ท่ปี รารถนาอารมณ์ อกศุ ลเจตสิก ๑๔ มหะ ธ. ที่บังสภาพตามความเปน็ จรงิ ของอารมณไ์ ว้ คอื หลง อหิริกะ ธ. ท่ีไมล่ ะอายตอ่ ทุจริต อโนตตัปปะ ธ. ที่ไม่กลัวต่อทุจริต อทุ ธจั จะ ธ. ท่ีฟ้งุ ซา่ น คอื รบั อารมณ์ไมม่ ั่น ลภะ ธ. ท่ีมีความต้องการ และ ตดิ ใจในกามคณุ อารมณ์ ทฏิ ฐิ ธ. ท่ีมคี วามเห็นผดิ ในอารมณ์ มานะ ธ. ทม่ี คี วามเย่อหย่ิง ถอื ตวั ทสะ ธ. ทป่ี ระทษุ รา้ ยในอารมณ์ อิสสา ธ. ทม่ี ีความไม่พอใจในสมบัติ หรอื คุณความดขี องผู้อน่ื มัจฉรยิ ะ ธ. ที่มีความหวงแหนทรพั ยส์ มบัติ หรือ คณุ ความดีของตน กกุ กุจจะ ธ. ทีม่ ีความราคาญใจในทุจรติ ท่ที าไปแล้ว และ ในสุจริตที่ยงั ไมไ่ ดท้ า ถนี ะ ธ. ทท่ี าใหจ้ ติ เซ่ืองซมึ ท้อถอยจากอารมณ์ มิทธะ ธ. ทที่ าใหเ้ จตสิกเซอื่ งซึม ทอ้ ถอยจากอารมณ์ วิจกิ ิจฉา ธ. ท่มี ีความสงสยั ไม่ตกลงใจ คอื วพิ ากษ์วจิ ารณ์ ในคณุ พระพทุ ธ พระธรรม พระสงฆ์
โสภณเจตสกิ ๒๕ โสภณสาธารณเจตสิก ๑๙ ศรัทธา ธ.ที่มีความเชื่อและเลือ่ มใสในพระพทุ ธ พระธรรม พระสงฆ์ สติ ตามความเป็นจรงิ เชื่อในกรรมและผลของกรรม ธ.ทมี่ คี วามระลึกในอารมณท์ ่ีเก่ียวดว้ ยกุศลธรรม หิริ โอตตปั ปะ มีคุณของ พระพทุ ธ พระธรรม พระสงฆ์ เป็นตน้ ธ.ท่มี คี วามเกลยี ด และละอายต่อการงานอนั เป็นทจุ ริต อโลภะ ธ.ทส่ี ะดุ้งกลวั ต่อการงานอนั เปน็ ทจุ ริต อโทสะ ธ.ทไ่ี ม่อยากได้ และไมต่ ดิ อยใู่ นกามคณุ อารมณ์ ตตั ตรมัชฌัตตตา ธ.ที่ไม่ประทษุ ร้ายในอารมณ์ กายปัสสัทธิ ธ.ที่ท่าให้จิต เจตสกิ สมา่ เสมอในกิจของตน ๆ ไม่ให้มกี ารย่งิ หย่อน จิตตปสั สัทธิ ธ.ที่เปน็ ความสงบของเจตสกิ ขันธ์ ๓ ในการงานอันเป็นกศุ ล กายลหตุ า ธ.ที่เป็นความสงบของจติ ในการงานอันเปน็ กศุ ล จติ ตลหุตา ธ.ท่ีเปน็ ความเบาของเจตสิกขนั ธ์ ๓ ในการงานอันเป็นกศุ ล กายมทุ ุตา ธ.ทเ่ี ป็นความเบาของจิต ในการงานอันเปน็ กุศล จิตตมทุ ุตา ธ.ทเ่ี ป็นความอ่อนของเจตสกิ ขนั ธ์ ๓ ในการงานอนั เป็นกุศล กายกมั มัญญตา จติ ตกมั มัญญตา ธ.ที่เป็นความอ่อนของจิต ในการงานอันเปน็ กุศล กายปาคญุ ญตา ธ.ที่เป็นความควรของเจตสกิ ขนั ธ์ ๓ ในการงานอนั เป็นกศุ ล จติ ตปาคญุ ญตา ธ.ที่เป็นความควรของจิต ในการงานอันเปน็ กศุ ล กายชุ ุกตา ธ.ที่เป็นความคล่องแคล่วของเจตสิกขนั ธ์ ๓ ในการงานอนั เป็นกุศล จติ ตุชกุ ตา ธ.ทเ่ี ปน็ ความคล่องแคลว่ ของจิตในการงานอนั เปน็ กุศล ธ.ทเ่ี ป็นความซือ่ ตรงของเจตสิกขนั ธ์ ๓ ในการงานอันเป็นกศุ ล ธ.ที่เปน็ ความซือ่ ตรงของจิต ในการงานอันเป็นกุศล พระอาจารยท์ วี เกตุธมโม
๒๖ โส.สา ๑๙ ศรัทธา สติ หิริ โอตตัปปะ อโลภะ อโทสะ ตัตตร วริ ตี ๓ มชัตฌตาตั อปั ป. ๒ สวัมาจมาา กมัสมัมันมตาะ อสามั ชมีวาะ กาย จติ ต ปญั ญา ๑ ปัสสัทธิ ปัสสัทธิ กรณุ า มุฑิตา กาย จติ ต ลหตุ า ลหตุ า ปัญญา กาย จติ ต โสภณ. ๒๕ มทุ ตุ า มุทตุ า กญมักตมายาัญ กญจัมิตตมตาัญ ปญกาตคายาุญ ปญจาติตคตาุญ กายุ จิตตุ ชกุ ตา ชุกตา วริ ตีเจตสิก ๓ สมั มาวาจา การกล่าววาจาท่ีเวน้ จากวจีทจุ ริต ๔ ซึ่งไมเ่ กย่ี วกับการงานอันเป็นอาชีพ สัมมากัมมันตะ การกระทา่ ท่ีเวน้ จากกายทจุ ริต ๓ ซ่ึงไม่เกยี่ วกบั การงานอันเปน็ อาชพี สมั มาอาชวี ะ การประกอบอาชพี ที่เว้นจากวจีทจุ ริต ๔ กายทจุ ริต ๓ อปั ปมญั ญาเจตสกิ ๒ กรุณา ธ.ทม่ี ีความสงสารต่อทกุ ขิตสัตว์ คอื ผทู้ กี่ ่าลังไดร้ ับความล่าบากอยู่ หรือจะได้รับความล่าบากในกาลข้างหนา้ มุทติ า ธ.ที่มีความยนิ ดีตอ่ สขุ ิตสัตว์ คือผู้ทก่ี า่ ลงั ไดร้ ับความสุข หรือ ผู้ที่จะไดร้ ับความสขุ ในกาลขา้ งหนา้ ปญั ญินทรีย์เจตสกิ ๑ ปัญญา ธ.รู้สภาพธรรมโดยท่ัว ๆ ไปตามความเปน็ จรงิ
สมั ปโ สมั ปโยคนยั คือ การยกเจตสิกขนึ้ เป็นประธา เจตสิก ๕๒ ผสั สะ เวทนา สัญญา เจตนา เอกคั . ชวี ติ ีน มนสิก สพั พจติ ตสาธารณเจตสกิ ๗ อญั ญส ๑๒๑ ๑๒๑ ๑๒๑ ๑๒๑ ๑๒๑ ๑๒๑ ๑๒๑ วติ ก วจิ าร อธโิ มก วิรยิ ะ ปตี ิ ฉนั ทะ ปกิณณกเจตสกิ ๖ ๕๕ ๖๖ ๑๑๐ ๑๐๕ ๕๑ ๑๐๑ โมหะ อหริ ิกะ อโนต อทุ ธัจ โมจตกุ เจตสิก ๔ ๑๒ ๑๒ ๑๒ ๑๒ โลตกิ เจตสกิ ๓ โลภะ ทฏิ ฐิ มานะ โทจตุกเจตสิก ๔ อกศุ ลเจ ๘๔๔ ถที ุกเจตสิก ๒ โทสะ อิสสา มจั ฉริ กุกกจุ วิจกิ ิจฉาเจตสิก ๑ ๒ ๒ ๒๒ ถนี ะ มทิ ธะ ๕๕ วิจิกจิ ๑ ศร๙ัท๑ธา ส๙ต๑ิ ห๙ิร๑ิ โอต๙ต๑ัป อโ๙ล๑ภะ อโท๙๑สะ ตัต๙ต๑ร โสภณสาธารณเจตสกิ ๑๙ ส.๔วา๘จา กัม๔ม๘นั อา๔ช๘ีวะ ก.๙ป๑ัส จ.๙ป๑ัส วริ ตีเจตสกิ ๓ โสภณเจ ก๒รุณ๘า ม๒ฑุ ๘ติ า ลห๙ตุ๑า ลห๙ตุ๑า ปัญ๗ญ๙ า มทุ๙ตุ๑า มุท๙ุต๑า อัปมัญญาเจตสิก ๒ ปญั ญาเจตสกิ ๑ กมั ๙ม๑ัญ กัม๙ม๑ญั ปา๙ค๑ญุ ปา๙ค๑ุญ ชกุ๙ต๑า ชกุ๙ต๑า
๒๗ โยคนัย าน แลว้ หาดูวา่ เจตสกิ ดวงน้นั ๆ มีจติ ประกอบได้ก่ีดวง สมานเจตสกิ ๑๓ สัมปโยคนัยโดยยอ่ มี ๔ นยั คือ จตสกิ ๑๔ จตสิก ๒๕ ๑. สัพพจติ ตสาธารณเจ. ๗ นับเป็นหน่ึงนัย ๒. ปกณิ ณกเจ. ๖ นบั เป็นหนึง่ นยั ๓. อกศุ ลเจ. ๔. โสภณเจ. ๑๔ นบั เป็นหน่งึ นัย ๒๕ นับเป็นหนึ่งนัย สรปุ แลว้ เจตสกิ ๕๒ นบั เป็น สนี่ ยั สมั ปโยคนยั โดยพิสดาร มี ๑๖ นัย คอื ๑. อัญญสมานเจ. ๑๓ นับเป็นเจ็ดนยั ๒. อกศุ ลเจ. ๑๔ นบั เป็นหา้ นัย ๓. โสภณเจ. ๒๕ นับเป็นสีน่ ัย สรปุ แลว้ เจตสกิ ๕๒ นบั เปน็ สิบหกนัย พระอาจารยท์ วี เกตธุ มโม
เจตสิก ๕๒ จิต ๑๒๑ สพั พ. ๗ ๑ผ๒สั ๑ ๑เว๒ท๑ ๑ส๒ญั ๑ ๑เจ๒ต๑ ๑๒เอ๑ ๑๒ชี๑ ๑ม๒น๑ เจตสิก ๑๓ อกศุ ลจติ อ ปกณิ .. ๖ ว๕ิต๕ก ว๖ิจ๖า ๑อ๑ธ๐ิ ๑ว๐ิร๕ิ ๕ปติ๑ิ ๑ฉ๐นั ๑ สัพพจติ ตฯ ๗ ๑๒ วติ กเจตสิก ๑ โมจ. ๔ ๑โ๒ม ๑อ๒หิ อ๑โ๒น ๑อ๒ุท วิจารเจตสิก ๑ ๑๒ โลติ. ๓ โ๘ล ๔ทิฏ ๔มา อธิโมกข์เจตสกิ ๑ ๑๒ โทจ. ๔ โ๒ท อ๒สิ ม๒จั ก๒กุ วริ ิยเจตสกิ ๑ ปติ ิเจตสิก ๑ ๑๒ ถ.ี ๒ ๕ถี ม๕ทิ วจิ ิ. ๑ ว๑ิจิ ฉนั ทะเจตสกิ ๑ ๑๑ (วจิ กิ ิจฉา ๑) ๑๒ มโนทว หสติ โส.สา. ๑๙ ศ๙ร๑ัท ๙ส๑ติ ๙ห๑ริ ิ โ๙อ๑ต อ๙โ๑ล อ๙โ๑ท ต๙ัต๑ร โลภโสมนัส ๔ โสมน โสมนสั วิรตี ๓ ๔ว๘า ๔กมั๘ ๔อ๘า อัปป. ๒ ๒ก๘รุ ๒ม๘ุ ก๙.ป๑สั จ๙.ป๑ัส โลภมูลจติ ๘ ล๙ห๑ุ ล๙ห๑ุ โทสมูลจติ ๒ ปัญ. ๑ ป๗ัญ๙ ม๙ทุ๑ุ ม๙ุท๑ุ ***( ๑ ) สพั พจติ ต ฯ ๗ แตล่ ะดวง ประกอบไ ๙กมั๑ ๙กมั๑ ( ๒ ) ปกิณณกเจตสิก ๖ ประกอบในจติ ทั้งหม ๙ป๑า ๙ป๑า วติ กเจตสิก ประกอบในจิตไมไ่ ด ประกอบในจิตไม่ได ๙ช๑ุ ๙ช๑ุ วจิ ารเจตสกิ ประกอบในจติ ไมไ่ ด อธโิ มกขเ์ จตสิก ประกอบในจติ ไม่ได พระอาจารย์ ทวี เกตุธมโม วิริยเจตสิก ประกอบในจิตไมไ่ ด ปีตเิ จตสกิ ประกอบในจิตไม่ได ฉนั ทะเจตสกิ
๒๘ สมั ปโยคนยั แห่งอญั ญสมานเจตสิก ๑๓ ประกอบได้ในจติ ดังนี้ อเหตุกจิต กามาวจร ฌานจิต ๖๗ รวม ๑๘ โสภณจติ ปฐมฌาน ทุติยฌาน ตตยิ ฌาน จตุตถฌาน ปัญจมฌาน ๑๘ ๒๔ ๘ (ทวิ ๑๐) ๑๑ ๑๑ ๑๑ ๑๑ ๒๓ ๒๔ ๑๑ ๑๑ ๑๑ ๑๑ ๒๓ ๑๒๑( ๘๙ ) ๒๔ ๑๑ - - - - ๕๕ ๘ (ทวิ ๑๐) ๒๔ ๑๑ ๑๑ - - - ๖๖ ๘ (ทวิ ๑๐) ๒๔ ๑๑ ๑๑ ๑๑ ๑๑ ๒๓ ๑๑๐( ๗๘ ) วาราวัชชนจติ ๑ ๒๔ ๑๑ ๑๑ ๑๑ ๑๑ ๒๓ ๑๐๕ ( ๗๓ ) ตปุ ปาทจติ ๑ นัสสันตรี ณจติ ๑ กามาวจรโสมนัส ๑๑ ๑๑ ๑๑ -- ๕๑ สหสติ ุปปาทจิต ๑ สหคตจติ ๑๒ - ๒๔ ๑๑ ๑๑ ๑๑ ๑๑ ๒๓ ๑๐๑ ( ๖๙ ) ไดใ้ นจิตทั้งหมดทว่ั ไป ๘๙ หรือ ๑๒๑ ดวง มดตามที่ประกอบได้ ด้ ๖๖ ดวง คือ ทวิ ๑๐ , ทุตยิ ๑๑ , ตตยิ ๑๑ , จตตุ ถ ๑๑ , ปัญจ ๒๓ ด้ ๕๕ ดวง คือ ทวิ ๑๐ , ตตยิ ๑๑ , จตตุ ถ ๑๑ , ปัญจ ๒๓ ด้ ๑๑ ดวง คอื ทวิ ๑๐ , วิจิกิจฉาสัมปยุตตจติ ๑ ด้ ๑๖ ดวง คือ อเหตุกวิปากจิต ๑๕ , ปญั จทวาราวัชชนจิต ๑ ด้ ๗๐ ดวง คือ โทสมูลจติ ๒ , กายวิญญานจติ ๒ , อเุ บกขาสหคตจติ ๕๕ , จตุตถฌานจติ ๑๑ ด้ ๒๐ ดวง คือ โมหมูลจิต ๒ , อเหตุกจติ ๑๘
เจตสกิ ๕๒ จติ ๑๒ สพั พ. ๗ ๑ผ๒ัส๑ ๑เว๒ท๑ ๑ส๒ญั ๑ ๑เ๒จต๑ ๑๒เอ๑ ๑๒ชี๑ ๑ม๒น๑ เจตสิก ๑๔ ทฏิ ฐ ปกณิ .. ๖ ว๕ติ ๕ก ว๖จิ ๖า ๑อ๑ธ๐ิ ๑ว๐ิร๕ิ ๕ปิต๑ิ ๑ฉ๐ัน๑ อสัง โมจตกุ กะ ๔ โมหะ อหริ ิกะ โมจ. ๔ ๑โ๒ม ๑อ๒หิ อ๑โ๒น ๑อ๒ุท โลติกะ ๒ โลติ. ๓ โ๘ล ท๔ิฏ ๔มา โทจตุกะ อโนตตปั ปะ อทุ ธัจจะ ๒ โทจ. ๔ โ๒ท อ๒สิ ม๒จั ก๒กุ ๒ โลภะ ถ.ี ๒ ๕ถี ม๕ิท ทฏิ ฐิ - วจิ ิ. ๑ ว๑ิจิ มานะ โทสะ อิสสา - มจั ฉริยะ กกุ กุจจะ - โส.สา. ๑๙ ศ๙ร๑ัท ส๙๑ติ ๙ห๑ริ ิ โ๙อ๑ต อ๙โ๑ล อ๙โ๑ท ต๙ัต๑ร ถีทกุ ะ ถีนะ วจิ กิ ิจฉา มทิ ธะ วริ ตี ๓ ๔ว๘า ๔กมั๘ ๔อ๘า ก๙.ป๑สั จ๙.ป๑สั อปั ป. ๒ ๒ก๘รุ ๒ม๘ุ ล๙ห๑ุ ล๙ห๑ุ ม๙ทุ๑ุ ม๙ุท๑ุ ปญั . ๑ ป๗ัญ๙ ก๙๑ัม ก๙มั๑ *** ( ๓ ) อกศุ ลเจตสิก ๑๔ ดวง ประกอบในอ โมจตุกเจตสิก ๔ แตล่ ะดวง ประ ๙ป๑า ๙ป๑า โลภเจตสกิ ประกอบไดใ้ น ๙ช๑ุ ๙ช๑ุ ทฏิ ฐเิ จตสกิ ประกอบได้ใน มานเจตสกิ ประกอบไดใ้ น โทจตุกเจตสกิ ๔ แต่ละดวง ประ ถที กุ เจตสกิ ๒ แตล่ ะดวง ประ พระอาจารย์ ทวี เกตุธมโม วจิ ิกิจฉาเจตสกิ ๑ ประกอบได้ใน
๒๙ สัมปโยคนัยแห่งอกศุ ลเจตสกิ ๑๔ ประกอบไดใ้ นจติ ดงั น้ี โลภมูลจิต ๘ โทสมลู จติ ๒ โมหมลู จิต ๒ รวม ฐิคตสัมปยตุ ตจิต ๔ ทิฏฐคิ ตวปิ ปยตุ ตจติ ๔ ปฏิฆสัมปยุตตจิต ๒ วิจกิ ิจฉา อทุ ธัจจะ อสัง ๑ สสงั ๑ ๑๑ ง ๒ สสัง ๒ อสัง ๒ สสัง ๒ ๒ ๒ ๒ ๒ ๑ ๑ ๑ ๑ ๑๒ ๒๒ ๒๒ - - -- ๘ - - -- ๔ ๒๒ - - - --- ๔ - ๒๒ ๑ ๑-- ๒ -- - - - ๒- ๒ - ๑-- ๕ - - - - - -๑- ๑ อกุศลจิต ๑๒ เท่านน้ั ะกอบได้ในอกศุ ลจติ ๑๒ ทง้ั หมด ประกอบในจติ ไมไ่ ด้ ๑๐๙ ดวง คือ ๑๘-๒๔-๒๗-๔๐ นโลภมลู จิต ๘ ประกอบในจติ ไม่ได้ ๑๑๓ ดวง คือ ๒-๒-๑๘-๒๔-๒๗-๔๐ นทิฎฐิคตสัมปยตุ ตจิต ๔ ประกอบในจิตไมไ่ ด้ ๑๑๗ ดวง คอื ๔-๒-๒-๑๘-๒๔-๒๗-๔๐ นทิฎฐคิ ตวปิ ปยตุ ตจติ ๔ ประกอบในจติ ไมไ่ ด้ ๑๑๗ ดวง คือ ๔-๒-๒-๑๘-๒๔-๒๗-๔๐ ะกอบได้ในโทสมูลจติ ๒ ประกอบในจติ ไม่ได้ ๑๑๙ ดวง คือ ๘-๒-๑๘-๒๔-๒๗-๔๐ ะกอบได้ในอกุศลสสงั ขารกิ จติ ๕ ประกอบในจติ ไม่ได้ ๑๑๖ ดวง คือ ๗-๑๘-๒๔-๒๗-๔๐ นวิจิกิจฉาสัมปยตุ ตจติ ๑ ประกอบในจติ ไม่ได้ ๑๒๐ ดวง คอื ๘-๒-๑-๑๘-๒๔-๒๗-๔๐
Search