Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore - Pocket E-book -

- Pocket E-book -

Published by tiyada1007.nur, 2020-06-11 07:38:20

Description: - Pocket E-book -

Search

Read the Text Version

สาเหตุ 1. จากการอุดตนั ของหลอดลม 2. จากการติดเช้ือแบคทีเรีย 3. เกิดต่อมาจากหลอดโลหิตในปอดอุดตนั 4. สาลกั น้ามูก น้าลาย หรือสิ่งแปลกปลอมเขา้ ไปใน ปอด 5. มาจากฝีในตบั แตกเขา้ ไปในปอด 6. หนา้ อกไดร้ ับอนั ตราย ทาใหก้ ระดูกหกั และมีการฉีกขาดของหลอดโลหิต

การรักษา 1. การรักษาทางยา ประกอบดว้ ย • การใหย้ าปฏิชีวนะตามผลการเพาะเช้ือและ การทดสอบความไวต่อยา • การรักษาตามอาการ และแบบ ประคบั ประคอง คือ ยาขบั เสมหะ ยาขยาย หลอดลม 2. การรักษาโดยวธิ ีผา่ ตดั คือ การผา่ ตดั เอาหนองออก

โรคหอบหืด (Bronchial asthma) โรคหอบหืด หรือโรคหืด เป็นผลจากการหดตวั หรือตีบตนั ของกลา้ มเน้ือรอบหลอดลม ช่อง ทางเดินหายใจส่วนหลอดลม ทาใหห้ ายใจขดั และอากาศเขา้ สู่ปอดนอ้ ยลง อบุ ตั ิการณ์และระบาดวทิ ยา หอบหืดเป็นโรคที่เกิดข้ึนไดก้ บั คนทุกเพศทุกวยั แต่มกั จะพบวา่ เริ่มเป็นต้งั แต่ในวยั เดก็ มากกวา่ ร้อยละ 50 นอกจากน้ีกพ็ บวา่ เกิดมากในวยั หนุ่ม สาวและวยั กลางคน

พยาธิสรีรวทิ ยา Bronchospasm >> Hypersecretion >> Mucous Membrane Edema การเปล่ียนแปลง 3 อยา่ งขา้ งตน้ ส่งผลทาใหค้ วามตา้ นทานในหลอดเลือดสูงข้ึน การแลกเปล่ียนกา๊ ซผดิ ปกติทาใหม้ ี ภาวะต่าง ๆตามมา • สมรรถภาพในการทางานของปอดลดลง • ปริมาณอากาศท่ีคา้ งอยใู่ นปอดหลงั หายใจออกเตม็ ท่ีสูงข้ึน • ออกซิเจนในโลหิตต่าลง คาร์บอนไดออกไซดส์ ูงข้ึน

การประเมินสภาวะสุขภาพ ของผปู้ ่ วยโรคหอบหืด 1. ประวตั ิอาการและอาการแสดง • ประวตั ิของบุคคลในครอบครัว,การแพ้ • ประวตั ิของอาการเกิดข้ึนทนั ที 2. การตรวจร่างกาย • หายใจเร็วมาก (tachypnea) • lung wheezing • ใชก้ ลา้ มเน้ือทรวงอกในการหายใจ • Cyanosis

3. การตรวจพเิ ศษ • การตรวจเลือด ดูคา่ PaO2 , PaCO2 • การทดสอบสมรรถภาพของปอด • การทดสอบการแพ้ การรักษา หลีกเล่ียงสารที่แพแ้ ละใชย้ าสูด อยา่ งสม่าเสมอ 1. หลีกเล่ยี งสำรที่แพ้ 2. ยำสดู รักษำโรคหืดที่จำเป็นมี 2 ประเภท - ยาสูดขยายหลอดลม - ยำสดู ลดกำรอกั เสบ 3. กำรรักษำโดยฉีดสำรภมู แิ พ้

โรคปอดอดุ ก้นั เรื้อรัง (Chronic Obstructive Pulmonary Disease) แบ่งเป็น 2 ชนิด คือ โรคหลอดลมอกั เสบเร้ือรังและโรคถุงลมโป่ งพอง โรค หลอดลมอกั เสบเร้ือรังน้นั ผปู้ ่ วยจะมีอาการไอและมีเสมหะเร้ือรังเป็นๆหายๆ อยา่ ง นอ้ ยปี ละ 3 เดือนและ เป็นอยา่ งนอ้ ย 2 ปี ติดต่อกนั ส่วนโรคถุงลมโป่ งพองน้นั เกิดจาก ถุงลมโป่ งพองตวั ออกทาใหก้ ารแลกเปล่ียนก๊าซผดิ ปกติไป

สาเหตุของ COPD 1. การสูบบุหร่ี 2. มลภาวะทางอากาศ 3. การขาดแอลฟา 1 แอนติทริพซิน (Alpha 1 antitrypsin) 4. การติดเช้ือ 5. อายุ

การประเมนิ สภาวะสุขภาพ ของผู้ป่ วยโรค COPD 1.ประวตั ิอาการและอาการแสดง - ประวตั ิการสูบบุหรี่ - ประวตั ิการหายใจลม้ เหลว - ประวตั ิการเบ่ืออาหาร - ประวตั ิการใชย้ าเก่ียวกบั ทางเดินหายใจ

2. การตรวจร่างกาย จะพบ - ผวิ กายเขียวคล้า - การหายใจเกิน มีลกั ษณะหายใจแรง - การหายใจนอ้ ยกวา่ ปกติ มีลกั ษณะหายใจแผว่ - ลูกกระเดือกเคลื่อนที่มากกวา่ ปกติ - อกถงั เบียร์(barral chest) - หลอดเลือดดาท่ีคอโป่ งนูน - การเคาะทรวงอก จะไดเ้ สียงกอ้ งทว่ั ทอ้ ง - การฟังจะไดเ้ สียง wheezing

การรักษา 1. การรักษาดว้ ยยา 2. การรักษาดว้ ยออกซิเจน - โดยการใหอ้ อกซิเจนขนาดต่า 2 – 3 LPM - โดยการใส่ท่อช่วยหายใจ

การพยาบาลผู้ป่ วยทม่ี ภี าวะวกิ ฤตจากปัญหาปอดทาหน้าทผี่ ดิ ปกติ และการฟื้ นฟูสภาพปอดการพยาบาลผู้ป่ วยภาวะปอดแฟบ ( Atelectasis ) การประเมนิ สภาวะสุขภาพ 1. ประวตั ิอาการและอาการแสดง - ประวตั ิการสูบบุหร่ี - ประวตั ิการหายใจลม้ เหลว - ประวตั ิการเบ่ืออาหาร - การใชย้ าเกี่ยวกบั ทางเดินหายใจ

2. การตรวจร่างกาย - ผวิ กายเขียวคล้า - การหายใจเกิน มีลกั ษณะหายใจแรง - การหายใจนอ้ ยกวา่ ปกติ มีลกั ษณะหายใจแผว่ - นอนราบไม่ได้ - มีไข้ ชีพจรเตน้ เร็ว 3. การตรวจพเิ ศษ - การตรวจเลือด ดูค่า PaO2 , PaCO2 - การทดสอบสมรรถภาพของปอด - การทดสอบการแพ้

การป้องกนั ปอดแฟบ • การจดั ท่านอนและเปลี่ยนท่าบ่อย ๆ • การกระตุน้ ใหล้ ุกนง่ั ลุกเดิน • การพลิกตะแคงตวั • การฝึกการเป่ าลกู โป่ ง • การกระตุน้ การไออยา่ งมีประสิทธิภาพ เป็นตน้

การพยาบาลผู้ป่ วยภาวะมขี องเหลวคงั่ ในช่องเย่ือหุ้มปอด (plural effusion) Pleural Effusion ภาวะน้าในช่องเยอื่ หุม้ ปอด เป็นภาวะที่มีของเหลวปริมาณ มากเกินปกติในพ้ืนที่ระหวา่ งเยอ่ื หุม้ ปอดและเยอ่ื หุม้ ช่องอก โดยปริมาณน้าที่มากข้ึน จะไปกดทบั ปอด ส่งผลใหป้ อดขยายตวั ได้ ไม่เตม็ มี 2 ชนิดหลกั ๆ คือ

1. ของเหลวแบบใส (Transudate) เกิดจากแรงดนั ภายในหลอดเลือดท่ีมากข้ึนหรือ โปรตีน ในเลือดมีค่าต่า ทาใหข้ องเหลวรั่วไหลเขา้ มาในช่องเยอื่ หุม้ ปอด 2. ของเหลวแบบข่นุ (Exudate) เกิดจากการอกั เสบ มะเร็ง หลอดเลือด หรือท่อน้าเหลืองอุด ตนั มกั มีอาการที่รุนแรงและรักษาไดย้ าก

อาการของภาวะนา้ ในช่องเยื่อหุ้มปอด - หอบ หายใจถี่ หายใจลาบากเม่ือนอนราบ หรือหายใจเขา้ ลึกๆลาบาก - ไอแหง้ และมีไข้ - สะอึกอยา่ งต่อเนื่อง – เจบ็ หนา้ อก การรักษา - การระบายของเหลวออกจากช่องเยอื่ หุม้ - Pleurodesis - การผา่ ตดั

ภาวะแทรกซ้อน - แผลเป็นท่ีปอด (Lung Scarring) - ภาวะหนองในช่องเยอ่ื หุม้ ปอด (Empyema) - ภาวะลมในช่องเยอ่ื หุม้ ปอด (Pneumothorax) - ภาวะติดเช้ือในกระแสเลือด (Blood Infection)

การพยาบาลผู้ป่ วยภาวะลมิ่ เลือดอุดตนั ในหลอดเลือดแดงปอด (Pulmonary embolism) อาการ - หายใจลาบากหรือหายใจไม่ออก - อาการเจบ็ หนา้ อก - ไอ/ไอแลว้ มีเลือดปนมากบั เสมหะ หรือไอเป็นเลือด - มีไข้ วงิ เวียนศีรษะ - มีเหงื่อออกมาก กระสบั กระส่าย - หวั ใจเตน้ เร็วผดิ ปกติ ชีพจรเตน้ อ่อน - ผวิ มีสีเขียวคล้า

สาเหตุของโรค เกิดจากล่ิมเลือดท่ีอุดตนั บริเวณหลอดเลือดขาหลุดไปอุดก้นั หลอดเลือดปอด และบางคร้ังอาจเกิดจาก การอุด ตนั ของไขมนั คอลลาเจน เน้ือเยอ่ื เน้ืองอก หรือ ฟองอากาศในหลอดเลือดปอด ปัจจยั ทท่ี าให้เสี่ยงเกดิ ของโรค - อายุ - การต้งั ครรภ์ - การประกอบ อาชีพ - อบุ ตั ิเหตุ - อว้ น - การสูบบุหรี่ - พนั ธุกรรม - การใชฮ้ อร์โมน - การเจบ็ ป่ วย (นอนติดเตียง)****

การวนิ ิจฉัย - การตรวจเลือด เพอ่ื หาค่าดีไดเมอร์ (D-Dimer)***** - CXR , CT-scan แนวทางการรักษาโรค Pulmonary Embolism - การใชย้ าตา้ นการแขง็ ตวั ของเลือด ไดแ้ ก่ Heparin Warfarin - การสอดท่อเขา้ ทางหลอดเลือดเพือ่ กาจดั ล่ิมเลือดท่ีอุดตนั - การผา่ ตดั

การพยาบาลผู้ป่ วยทม่ี ภี าวะอกรวน (Flail Chest) เป็นภาวะท่ีมี Fx rib 3 ซี่ (1 ซี่ หกั มากกวา่ 1 ตาแหน่ง) ผนงั ทรวงอกจะยบุ เมื่อหายใจเขา้ และโป่ งเม่ือหายใจ ออก O2 ลดลง CO2 เพ่มิ Paradoxical Respiratory - Floating Segment ส่วนลอยท่ีทาใหก้ ลไกของการหายใจผดิ ปกติ - หายใจเขา้ ผนงั ทรวงอกขา้ งท่ีไดร้ ับบาดเจบ็ จะยบุ ลง - หายใจออก ผนงั ทรวงอกขา้ งท่ีไดร้ ับบาดเจบ็ จะโป่ งพองข้ึน

อาการ / อาการแสดง การดูแล เจบ็ หนา้ อกรุนแรง หายใจลาบาก ดูแลการหายใจใหอ้ อกซิเจน ยดึ ตรึงผนงั ทรวงอกไม่ใหเ้ คลื่อนไหว ลกั ษณะการหายใจเร็วต้ืน บรรเทาอาการปวด Paradoxical Respiration หากมีภาวะขาดออกซิเจนรุนแรงให้ พิจารณาใส่ ET tube Hypoxia มีภำวะขำด O2 โดย ใหส้ ารน้า วดั SpO2 ได้ตำ่ หรือมีภำวะ Cyanosis ตรวจพบกดเจบ็ และคลาไดก้ ระดูก ติดตามอตั ราการหายใจ SpO2 กรอบแกรบ บริเวณที่หกั

การพยาบาลผู้ป่ วยทใี่ ส่สายระบายทรวงอก (ICD) ข้อบ่งชี้ - Pnuemothorax - Malignant pleural effusion - Emphyema - Traumatic hemopnuemothorax - Surgery

การพยาบาลผู้ป่ วยทม่ี ภี าวการณ์หายใจล้มเหลว (Respiratory failure) ภาวะที่ปอดไม่สามารถรักษาแรงดนั ของออกซิเจน (PaO2) และคาร์บอนไดออกไซดใ์ นเลือดแดง (PaCO2) ใหอ้ ยใู่ นระดบั ปกติ • PaO2 ต่ากวา่ 60 mmHg • PaCO2 มากกวา่ 50 mmHg

ภาวะ Hypoxemia ภาวะท่ีมีการลดลงของความดนั ก๊าซออกซิเจนในเลือดแดง (PaO2) • PaO2 < 80 mmHg mild hypoxemia • PaO2 < 60 mmHg moderate hypoxemia • PaO2 < 40 mmHg severe hypoxemia

อาการหรือลกั ษณะทางคลนิ ิกของภาวะหายใจล้มเหลว • ทางสมอง > กระสบั กระส่าย แขนขาอ่อนแรง เวยี นศีรษะ ม่านตาขยาย หยดุ หายใจ • ระบบหวั ใจและหลอดเลือด > ระยะแรกชีพจรเตน้ เร็ว ความดนั โลหิตสูง ต่อมาหวั ใจเตน้ ชา้ หรือ เตน้ ผดิ จงั หวะ เกิดการลา้ ของหวั ใจ • ระบบหายใจ >หายใจเร็วต้ืน ถา้ เกิดร่วมกบั สมองขาดออกซิเจนผปู้ ่ วยจะหายใจแบบ Chyne-Stoke • ระบบเลือดและผวิ หนงั > เขียว (cyonosis)

การตรวจทางห้องปฏิบตั ิการ ➢ ระดบั E-lyte >> โปแตสเซียม,โซเดียม - hyponatremia (ปกติ135-145 mEq) >> อ่อนเพลีย กลา้ มเน้ืออ่อนเเรง เป็นตะคริว คล่ืนไสอ้ าเจียน - hypokalemia (ต่ากวา่ 2.5 mEq ปกติ 3.5-5.5 mEq) >> อ่อนเพลีย ซึม สบั สน กลา้ มเน้ืออ่อนแรง เป็นตะคริว ทอ้ งอืด จงั หวะการเตน้ ของหวั ใจผดิ ปกติ ➢ ตรวจหาระดบั ยาในพลาสมาและปัสสาวะ ➢ การตรวจเสมหะ

COMPOSURE • C = conciousness: ประเมินระดบั ความรู้สติ • O = oxygenation: ประเมินการหายใจวา่ ไดร้ ับออกซิเจนเพียงพอหรือไม่ รวมท้งั การมี คาร์บอนไดออกไซดค์ ง่ั หรือไม่ดว้ ย • M=motor function: ประเมินการเคล่ือนไหวภายในอานาจจิตใจ และความความแขง็ แรงของ กลา้ มเน้ือแขน ขาแต่ละซีก

• P = pupils : ตรวจดูปฏิกิริยาต่อแสงของรูม่านตาท้งั สองขา้ งรวมกนั สงั เกตดูวา่ มีหนงั ตาตก หรือไม่ • O = ocular movement : ประเมินการกลอกตา • S = signs : ตรวจวดั สญั ญาณชีพ • U = urinary output : บนั ทึกวา่ มีปัสสาวะมากผดิ ปกติหรือไม่ • R = reflexes : ตรวจดูวา่ มีรีเฟลก็ ซ์ผดิ ปกติอยา่ งใดหรือไม่ โดยเฉพาะ babinski reflex และ รีเฟลก็ ซ์ การกลืน • E = emergency : เป็นการวนิ ิจฉยั สภาพของผปู้ ่ วยวา่ มีปัญหาท่ีจาเป็นตอ้ งช่วยเหลือเร่งด่วน หรือไม่

การพยาบาลผู้ป่ วยภาวการณ์หายใจถูกกดอย่างเฉียบพลนั ในผู้ใหญ่ (Acute Respiratory Distress Syndrome : ARDS ) สาเหตุ เกิดจากการบาดเจบ็ ของปอดโดยตรง เช่น ติดเช้ือจากไวรัส แบคทีเรีย ล่ิมของไขมนั ในหลอด เลือดที่ปอด เป็นตน้ และโดยออ้ ม เช่น ผา่ ตดั หวั ใจที่ใชเ้ วลานาน ชอ็ ก เป็นตน้

การประเมนิ สภาพผู้ป่ วยภาวการณ์หายใจล้มเหลวเฉียบพลนั • ระยะแรก (early warning) เกิดข้ึนภายหลงั 6 – 48 ชว่ั โมง เมื่อปอดไดร้ ับการบาดเจบ็ - กระสบั กระส่าย หงุดหงิด ระดบั ความรู้สึกตวั ลดลง - หายใจหอบเหน่ือย ไอ - หายใจลดลง แต่เสียงหายใจปกติ เป็นตน้

• ระยะหลงั (late warning) - PaO2 ลดลง - หายใจหอบเหน่ือยอยา่ งรุนแรง - PaCO2 ลดลงร่วมกบั ภาวะร่างกายเป็นด่างจากการหายใจ - PaCO2 และ PaO2 ต่า - เขียว เป็นตน้

การรักษาและป้องกนั 1.การระบายอากาศ (ventilation) โดยการช่วยเหลือในการหายใจหรือการระบายอากาศใหพ้ อเพยี งต่อ การแลกเปลี่ยนก๊าซ 2. การกาซาบ (perfusion) โดยการส่งเสริมใหม้ ีการกาซาบออกซิเจนในเลือดอยา่ งเพยี งพอ

การพยาบาลผู้ป่ วยภาวะปอดบวมนา้ (pulmonary edema) สาเหตุของภาวะปอดบวมนา้ เฉียบพลนั ➢ จากหวั ใจ - เวนตริเคิลซา้ ยลม้ เหลว จากสาเหตุใดกต็ าม - โรคของลิน้ ไมตรัล - ปริมาณสารน้ามากกวา่ ปกติ

➢ ไม่ใช่จากหวั ใจ - มีการเปล่ียนแปลงของหลอดเลือดฝอยของปอด ทาใหส้ ารน้าซึมผา่ นออกมาได้ - แรงดึงของพลาสมาลดลง เช่น อลั บูมินในเลือดต่า - ระบบถ่ายเทน้าเหลืองถูกอุดตนั - ไม่ทราบสาเหตุแน่นอน เช่น อยทู่ ี่สูง ไดร้ ับยาเฮโรอีนขนาดมากเกินไป

การประเมนิ สภาพ ➢ การซกั ประวตั ิการเจบ็ ป่ วย - หายใจลาบาก - ออกซิเจนในเลือดลดลง - หายใจเร็วจากการพร่อง - ไอมีเสมหะเป็นฟองสีชมพู (pink frothy sputum) - ฟังเสียงปอดพบเสียงราล และว๊ีด - ผวิ หนงั เยน็ ช้ืน มีเหงื่อออกมาก ซีด - หวั ใจเตน้ เร็วกวา่ ปกติ และความดนั โลหิตสูง - วติ กกงั วล

การวเิ คราะห์แก๊สในเลือดแดง ➢ ค่า pH (ปกติ 7.35-7.45) ถา้ นอ้ ยกวา่ 7.35 แสดงว่ามีภาวะเป็ นกรดในร่างกาย จะทราบวา่ มีสาเหตุจากการหายใจ หรือขบวนการเมตาบอลิซึม จากค่าของไบคาร์บอเนต และคาร์บอนไดออกไซดใ์ นเลือด คือ - ค่าความดนั ยอ่ ยคาร์บอนไดออกไซดใ์ นเลือดแดง มากกว่า 45 mmHg แสดงวา่ ร่างกายมีภาวะกรดจากการหายใจ (respiratory acidosis) - ค่าของไบคาร์บอเนตในเลือดแดง (ปกติ 22-26 mEq) นอ้ ยกวา่ 22 mEq แสดงวา่ ร่างกายมีภาวะกรดจากเมตาบอลิค (metabolic acidosis)

➢ค่า pH มากกวา่ 7.45 แสดงวา่ มีภาวะเป็นด่างในร่างกาย จะทราบวา่ มีสาเหตุจากการหายใจ หรือ ขบวนการเมตาบอลิซึมจากค่าของไบคาร์บอเนต และคาร์บอนไดออกไซดใ์ นเลือด คือ - ค่าความดนั ยอ่ ยคาร์บอนไดออกไซดใ์ นเลือดนอ้ ยกวา่ 35 mmHg แสดงวา่ มีภาวะด่างจากการ หายใจ - ค่าไบคาร์บอเนตในเลือดมากกวา่ . 26 mEq แสดงวา่ ร่างกายมีภาวะด่างจากเมตาบอลิซึม

ค่าปกติ Blood Gas - pH = 7.35 – 7.45 - PaO2 = 80 – 100 mmHg (PaO2 = 100-0.25 X Age) - PaCO2 = 35 – 45 mmHg - HCO3 = 22 – 26 mmHg - BE = + 2.5 mEq/L - O2 Sat = 95 – 99 %

• PO2 บอกให้ทราบถงึ ภาวะออกซิเจนในร่างกาย ภาวะ ค่า PO2(mmHg) ปกติ 80-100 Mild Hypoxemia <80 Moderate hypoxemia <60 Severe hypoxemia <40

การพยาบาลผู้ป่ วยทม่ี ภี าวะวกิ ฤตทางเดนิ หายใจส่วนบน สาเหตุของทางเดนิ หายใจส่วนบนอดุ ก้นั 1.บาดเจบ็ จากสาเหตุต่าง ๆ เช่น ถูกทาร้ายร่างกาย ไดร้ ับอุบตั ิเหตุ ไฟไหม้ 2.มีการอีกเสบติดเช้ือบริเวณทางเดินหายใจส่วนบน 3.มีกอ้ นเน้ืองอก 4.สาลกั สิ่งแปลกปลอม 5.ชอ็ คจากปฏิกิริยาการแพ้ 6.โรคหอบหืด โรคหลอดลมอุดก้นั เร้ือรัง 7.มีภาวะกล่องเสียงบวม

อาการและอาการแสดงของภาวะทางเดนิ หายใจส่วนบนอุดก้นั - หายใจมีเสียงดงั - กลืนลาบาก - ฟังดว้ ยหูฟังมีเสียงลมหายใจเบา - นอนราบไม่ได้ - ริมฝีปากเขียวคล้า ออกซิเจนต่า - เสียงเปลี่ยน - หายใจลาบาก

วธิ ีทาให้ทางเดนิ หายใจโล่งจากการอดุ ก้นั ของสิ่งแปลกปลอม 1.การจดั ท่า โดยการตะแคงหรือคว่าหนา้ 2.ใชม้ ือเปิ ดทางเดินหายใจ ใชน้ ิ้วลว้ งในคอและกวาดส่ิงแปลกปลอมออกมา 3.กาจดั ส่ิงแปลกปลอมโดยใชค้ ีมหยบิ ออก 4.การบีบลมเขา้ ปอด 5.การใชอ้ ุปกรณ์ใส่ท่อทางเดินหายใจ 6.การป้องกนั เสมหะอุดตนั 7.การทาหตั ถการ เช่น abdominal thrust

การสาลกั ส่ิงแปลกปลอมและมกี ารอดุ ก้นั ทางเดนิ หายใจส่วนบน เเบ่งเป็ น 1.การอุดก้นั เเบบไม่สมบูรณ์ (incomplete obstruction) 2.การอุดก้นั แบบสมบูรณ์ (complete obstruction) อาการและอาการแสดงท่ีมีการอุดก้นั เเบบสมบูรณ์ เอามือกมุ คอไม่พดู ไม่ไอ ไดย้ นิ เสียงหายใจเขา้ เพียงเลก็ นอ้ ย หรือไม่ไดย้ นิ เสียงลมหายใจ ริมฝีปากเขียว หนา้ เขียวและอาจลม้ ลง

➢หากมีการอุดก้นั ทางเดินหายใจส่วนบนเเลว้ ไม่มีคนช่วยเหลือ ใหท้ า abdominal thrust โดยโนม้ ตวั พาดพนกั เกา้ อ้ี แลว้ ดนั ทอ้ งตวั เองเขา้ หาพนกั เกา้ อ้ี ➢การทาหตั ถการ > Abdominal thrust, Chest thrust, Back Blow Five-and-Five ➢หากช่วยเหลือแลว้ สิ่งอุดก้นั ไม่หลุดออกและผปู้ ่ วยมีภาวะหวั ใจหยดุ เตน้ ใหร้ ีบทา CPR

การช่วยเหลือผู้ป่ วยมปี ัญหาภาวะวกิ ฤตทางเดนิ หายใจส่วนบนโดยการใส่ท่อช่วยหายใจ ขอ้ บ่งช้ี ➢ ผปู้ ่ วยมีทางเดินหายใจส่วนบนอุดก้นั และหายใจเหน่ือย หายใจลาบาก/ร่ำงกำยขำด ออกซิเจน/หยดุ หำยใจ ➢ สาเหตุ เช่น บาดเจบ็ บริเวณใบหนา้ คอ อวยั วะทางเดินหายใจอกั เสบ หอบหืดรุนแเรงไดย้ า ขยายหลอดลมแลว้ อาการไม่ดีข้ึนและร่างกายขาดออกซิเจน

การช่ วยแพทย์ใส่ ท่อช่ วยหายใจ 1. แจง้ ผปู้ ่ วยทราบ 2. เตรียมอปุ กรณ์ เลือก E.T ท่ีเหมาะสม No.7,7.5,8 และใช้ syringe 10 cc. ใส่ลมเขา้ กระเปาะทดสอบวา่ ไม่รั่วแลว้ ดูดลมออก (test blow cuff) หล่อล่ืน stylet และท่อช่วยหายใจ แลว้ ใส่ stylet เขา้ ใน ET. ดึง stylet ถู ข้ึนลง 2-3 คร้ัง และดดั ท่อช่วยหายใจเป็นรูปตวั J 3. ช่วยหายใจ ดว้ ย mask ventilation เพ่ือใหไ้ ดร้ ับ O2 เพียงพอจน O2 sat > 95% 4. Suction clear airway

5. เเพทยเ์ ปิ ดปากใส่ laryngoscope พยาบาลส่ง E.T ใหเ้ เพทย์ และเเพทยใ์ ส่ E.T เขา้ trachea พยาบาลดึง stylet ออก 6. ใช้ syringe ใส่ลมเขา้ ที่กระเปาะท่อ E.T ประมาณ 5-6 ml. ใชค้ ลาดูบริเวณ cricoid ถา้ มีลมร่ัวใหใ้ ส่ลม เพิ่มคร้ังละ 1 ml. จนไม่มีลมรั่ว 7. เอาสายออกซิเจนต่อเขา้ กบั ambu bag บีบปอดช่วยหายใจ ดูการขยายตวั ของหนา้ อก ให้ 2 ขา้ งเท่ากนั 8. ดูตาแหน่งท่อช่วยหายใจที่มุมปากลึกก่ี ซม. และติดพลาสเตอร์ท่ีท่อ E.T ถา้ ผปู้ ่ วยดิ้นใหใ้ ส่ Oropharyngeal airway เพื่อป้องกนั การกดั ท่อช่วยหายใจ

การหย่าเคร่ืองช่วยหายใจ (weaning) เกณฑ์ท่จี ะหย่าเคร่ืองช่วยหายใจหลกั ๆ ดงั นี้ 1. พยาธิสภาพของโรคหมดไปหรือดีข้ึน เช่นภาวะปอดอกั เสบ มีน้าในเยอ่ื หุม้ ปอด 2. กาลงั สารองของปอดเพยี งพอ (adequate pulmonary reserve) เช่น ค่า Tidal volume > 5 ml./kg. คา่ RSBI < 105 breath/min/lit 3. ผปู้ ่ วยมีภาวะหายใจไดเ้ องอยา่ งปลอดภยั และไม่มีการทางานของระบบอ่ืน ๆ ลม้ เหลว เช่น หวั ใจเตน้ ผดิ จงั หวะ ไตวาย ภาวะซีด ความผดิ ปกติของกรดด่าง


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook