การบรกิ ารอาหารกลางวันของโรงเรียน โรงเรียนจดั บรกิ ารอาหารกลางวันใหแ้ ก่นักเรียนโดยจัดให้นกั เรยี นได้รบั ประทานอาหารครบตามหลกั โภชนาการ ซ่งึ เปิดบริการตามชว่ งเวลา ดงั นี้ เวลา ๑๑.๑๐–๑๒.๐๐ น. ระดบั ช้นั มัธยมศกึ ษาตอนตน้ เวลา ๑๒.๐๐–๑๒.๕๐ น. ระดับช้นั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย ขอ้ ปฏบิ ัติในการรับประทานอาหาร ๑) เขา้ แถวรับอาหารตามลำ� ดับด้วยความเรียบร้อย ไม่สง่ เสยี งดัง ๒) ตกั อาหารแต่พอรบั ประทาน ไม่ตักอาหารมากเกนิ พอดจี นเหลอื ท้งิ หากรับประทานไมอ่ ิ่มสามารถเพิม่ เตมิ ได้ ๓) นงั่ รับประทานอาหารในบรเิ วณท่จี ัดไวใ้ หอ้ ยา่ งเปน็ ระเบยี บ ๔) รบั ประทานอาหารด้วยความส�ำ รวม และมมี ารยาททด่ี ีในการใช้โรงอาหารรว่ มกบั ผอู้ ่ืน ๕) รกั ษาความสะอาดของบรเิ วณที่รบั ประทานอาหาร ทง้ิ เศษอาหาร หรอื ขยะอนื่ ๆ ในภาชนะท่จี ดั เตรยี มไวใ้ ห้ ๖) เก็บถาดอาหารตามสถานที่ท่จี ดั เตรียมไวใ้ ห้ โดยทง้ิ เศษอาหารจากถาดอาหารให้หมด และวางถาดอาหารและชอ้ น สอ้ มในที่เกบ็ ใหเ้ รยี บร้อย ๗) รับประทานอาหารตามเวลาทีก่ �ำ หนด บรกิ ารน�ำ้ ดม่ื สะอาด โรงเรยี นจัดน�ำ้ ด่ืมสะอาดซึง่ ผ่านการรบั รองจากการประปานครหลวงไว้ให้นกั เรยี นในบรเิ วณตา่ ง ๆ โดยนักเรยี นต้อง น�ำ แกว้ หรือภาชนะมารองน�ำ้ ดม่ื ห้ามนกั เรียนใชม้ ือรองในการดม่ื น้�ำ โดยตรง เพือ่ รกั ษาสุขอนามัยของตนเองและผอู้ ื่น การจ�ำ หน่ายอาหารและเคร่ืองด่มื โรงเรยี นจดั จ�ำ หนา่ ยอาหารและเคร่อื งด่มื ใหแ้ กน่ ักเรยี น ตามเวลา ดงั น้ี ช่วงเช้า เวลา ๐๗.๐๐–๐๗.๓๐ น. จำ�หนา่ ยอาหารเช้า อาหารว่าง และเครอื่ งด่มื ช่วงพกั เช้า เวลา ๑๐.๑๐–๑๐.๒๐ น. จ�ำ หน่ายอาหารว่าง และเคร่อื งดมื่ ชว่ งพักกลางวัน เวลา ๑๑.๑๐–๑๒.๕๐ น. จำ�หน่ายอาหารกลางวนั อาหารวา่ ง และเคร่ืองดมื่ ช่วงพกั บา่ ย เวลา ๑๓.๔๐–๑๓.๕๐ น. จำ�หนา่ ยอาหารวา่ ง และเคร่อื งดม่ื ชว่ งเย็น เวลา ๑๕.๓๐–๑๘.๐๐ น. จ�ำ หนา่ ยอาหาร และเครอ่ื งดืม่ การซื้ออาหารจากร้านอาหารในโรงเรียนให้นักเรียนรับประทานอาหารตามเวลาและสถานที่ที่กำ�หนดให้เท่านั้น โดยปฏิบัติตนเช่นเดียวกับการรับประทานอาหารของโรงเรียน เมื่อรับประทานอาหารเสร็จแล้วให้นำ� ภาชนะไปเก็บไว้ในที่วาง ภาชนะทจ่ี ดั ไว้ให ้ ร้านค้าของโรงเรยี นมีบริการจำ�หน่ายชดุ พลศึกษา อปุ กรณก์ ารเรียน และหนังสือเรียน ที่หอ้ งรา้ นค้าของโรงเรยี น (ห้อง ๑๐๔) ชน้ั ลา่ งอาคารอเนกประสงค์ ตามเวลาบริการจ�ำ หน่าย ดงั ต่อไปน ้ี ช่วงเช้า เวลา ๐๗.๓๐–๐๘.๓๐ น. ช่วงพักเชา้ เวลา ๑๐.๑๐–๑๐.๓๐ น. ช่วงพักกลางวนั เวลา ๑๑.๑๐–๑๒.๐๐ น. ชว่ งพกั บ่าย เวลา ๑๓.๐๐–๑๓.๔๐ น. ช่วงเย็น เวลา ๑๕.๑๐–๑๖.๐๐ น. 201
ศูนย์ส่งเสริมสมรรถภาพทางกายมีเครื่องออกกำ�ลังกายสำ�หรับบริการนักเรียน คณาจารย์และบุคลากร และมีหน้าที่ สนับสนุนงานด้านการส่งเสริมสุขภาพให้คณาจารย์ บุคลากร และนักเรียน ศูนย์ส่งเสริมสมรรถภาพเปิดให้บริการเครื่อง ออกกำ�ลงั กาย ใหค้ �ำ แนะน�ำ ปรึกษาการเสริมสรา้ งสขุ ภาพตามเวลา ดังน้ี อาจารย์–บุคลากร เวลา ๐๘.๓๐–๑๗.๐๐ น. นกั เรียนชน้ั มธั ยมศกึ ษาตอนตน้ เวลา ๑๑.๑๐–๑๒.๐๐ น. และ ๑๕.๓๐–๑๗.๐๐ น. นกั เรยี นช้ันมัธยมศึกษาตอนปลาย เวลา ๑๒.๐๐–๑๒.๕๐ น. และ ๑๕.๓๐–๑๗.๐๐ น. ระเบียบและข้อปฏิบัตกิ ารใช้บริการหอ้ งศูนย์ส่งเสรมิ สมรรถภาพทางกาย ๑) แตง่ กายให้เหมาะสมกับการออกกำ�ลงั กาย ๒) ปฏบิ ตั ติ ามคำ�แนะนำ� ของเจา้ หน้าท่ีในการใช้เคร่อื งออกกำ�ลงั กาย หรือการปฏิบตั ติ นในการออกก�ำ ลงั กาย ๓) ห้ามนำ�อาหารและเคร่อื งด่ืมมารบั ประทานในศูนยส์ ง่ เสรมิ สมรรถภาพทางกาย ๔) ม ีจิตสำ�นึกสาธารณะในการใช้เครื่องออกกำ�ลังกายโดยใช้งานตามเวลาที่เหมาะสมเมื่อมีผู้ต้องการใช้งานต่อจากท่ี นกั เรยี นใช้ หนว่ ยเทคโนโลยีทางการศึกษาให้บรกิ ารด้านการใช้โสตทัศนปู กรณ์ตา่ ง ๆ ภายในโรงเรยี น การใชห้ ้องเรยี นสอ่ื ประสม และบรกิ ารต่าง ๆ เพ่อื สนบั สนนุ การเรยี นการสอนของโรงเรียน ใหเ้ กิดประสิทธิภาพสงู สุด ระเบียบและขอ้ ปฏิบัติการใช้บริการหนว่ ยเทคโนโลยที างการศึกษาส�ำ หรบั นกั เรยี น ๔.๑ การใช้หอ้ งสอื่ ประสม ๑ (หอ้ งเรยี น ICT Classroom) ๒ และ ๓ ๑) ห้ามน�ำ อาหารและเครอ่ื งดื่มเข้ามารับประทานภายในหอ้ ง ๒) ไมข่ ดี เขยี นผนัง พืน้ หรอื ส่วนตา่ ง ๆ ของโตะ๊ เก้าอ้ี หรอื บรเิ วณตา่ ง ๆ ในหอ้ งสือ่ ประสม ๓) ไ มป่ รบั เปลย่ี นหรอื เลน่ อปุ กรณก์ ารสอนภายในหอ้ งสอื่ ประสมไดแ้ ก่คอมพวิ เตอร์เครอ่ื งฉายภาพไมโครโฟน รวมท้ังอุปกรณ์อเิ ล็กทรอนิกสอ์ ื่น ๆ ๔) รกั ษาความสะอาดภายในห้อง และไมส่ วมรองเทา้ เขา้ มาภายในห้อง โดยวางรองเทา้ ให้เป็นระเบยี บไว้ในที่ วางรองเท้าทจ่ี ัดไว้ให้ ๕) จดั โต๊ะเกา้ อใี้ หเ้ ปน็ ระเบียบเรียบร้อยหลงั ใชห้ ้องแล้ว ๔.๒ การขอใช้หอ้ งสอื่ ประสมเพือ่ จัดกิจกรรมของนักเรยี น นกั เรยี นตอ้ งมบี นั ทกึ ขอ้ ความยน่ื ตอ่ หนว่ ยเทคโนโลยที างการศกึ ษาโดยระบเุ หตผุ ลการขอใชห้ อ้ งลว่ งหนา้ ๓วนั ท�ำ การ และกรอกแบบฟอรม์ การขอใช้หอ้ งส่ือประสมท่หี น่วยเทคโนโลยที างการศึกษาในวันที่มายื่นบันทกึ ข้อความ ๔.๓ การขอยมื โสตทัศนูปกรณ์ นักเรียนสามารถขอยืมอุปกรณ์เพื่อประกอบการเรียนหรือการจัดกิจกรรมได้โดยจะต้องขอยืมในนามอาจารย์ ผู้สอนหรืออาจารย์เจ้าของกิจกรรม (ขอให้สอบถามเพิ่มเติมก่อนการขอใช้บริการ) โดยขอให้อาจารย์ติดต่อกับหน่วย เทคโนโลยที างการศกึ ษากอ่ นเพอ่ื ให้เกิดความเขา้ ใจทตี่ รงกนั ในการใช้งาน 202
หนว่ ยอนามยั มีหอ้ งพักสำ�หรับผูป้ ่วย ยาสามญั ประจำ�บา้ น และเวชภัณฑเ์ บือ้ งต้นไวส้ ำ�หรบั บรกิ ารนักเรียน อาจารย์ และ บุคลากรในโรงเรยี นท่ีตอ้ งการปฐมพยาบาลเบื้องต้น โดยมพี ยาบาลวชิ าชพี เจ้าหน้าทีป่ ระจำ�หน่วยอนามยั ดูและประจ�ำ ตงั้ แต่ ๐๗.๓๐ – ๑๖.๓๐ น. และมีแพทยเ์ ฉพาะทางใหบ้ ริการวิเคราะหอ์ าการ ใหค้ �ำ ปรึกษา และรักษาเบ้อื งตน้ ตามตารางเวลาใน แตล่ ะวัน โดยทัว่ ไปหนว่ ยอนามัยเน้นใหก้ ารรักษาเบอื้ งต้น และใหบ้ รกิ ารยารักษาโรคปจั จบุ ันท่ีสามารถรักษาได้ด้วยยาสามญั ประจำ�บ้าน หนว่ ยอนามัยจะไม่รักษาเกินอำ�นาจหน้าทข่ี องพยาบาลและเจา้ หน้าท่ปี ระจำ�หอ้ งพยาบาล ยกเว้นในชว่ งเวลาที่มี แพทย์เฉพาะทางมาตรวจและให้การรกั ษา ตารางเวรของแพทย์ตรวจประจำ�วัน ประจำ� ปีการศึกษา ๒๕๖๕ วัน เวลา รายชื่อแพทย์ ดา้ นเฉพาะทางท่เี ชี่ยวชาญ จันทร์ ๑๐.๐๐ น. - ๑๒.๐๐ น. แพทย์หญงิ ฐานิศา พิมลแสงสรุ ิยา จกั ษแุ พทย์ ๑๒.๐๐ น. - ๑๔.๐๐ น. แพทย์หญิงสุพชิ า ชวนิชย ์ ผิวหนัง อังคาร ๑๓.๐๐ น. - ๑๕.๓๐ น. นายแพทย์วรท ธญั ญะกิจไพศาล วสิ ญั ญแี พทย์ พุธ ๐๘.๐๐ น. – ๑๐.๐๐ น. แพทย์หญงิ พมิ พกา ชวนะเวสน์ สตู ินรเี วช พฤหสั บดี ๐๘.๐๐ น. – ๑๐.๐๐ น. แพทย์หญงิ นลนิ ี ปานเสถียรกุล จกั ษแุ พทย์ ศกุ ร์ ๐๘.๐๐ น. – ๑๐.๐๐ น. นายแพทยณ์ รงค์ เสรีศิรขิ จร หู คอ จมกู ระเบยี บท่ัวไปของการใชบ้ ริการห้องพยาบาล ๑) หอ้ งพยาบาลเปิดใหบ้ ริการตงั้ แตเ่ วลา ๐๗.๓๐ น.–๑๖.๓๐ น. ๒) ถอดรองเท้าและจัดวางใหเ้ รยี บร้อยกอ่ นเข้าห้องพยาบาล ๓) แจง้ พยาบาลหรือเจ้าหน้าทีห่ น่วยอนามัยกอ่ นทุกครงั้ ที่มาใชบ้ ริการ ๔) ห้ามผ้มู าใชบ้ รกิ ารน�ำ ยาไปรับประทานเองโดยพลการ ๕) ผใู้ ช้บรกิ ารต้องแจ้งอาการแพย้ าและชือ่ ยาทีแ่ พใ้ ห้พยาบาลหรือเจา้ หนา้ ทท่ี ราบทุกคร้ังกอ่ นการรับบริการ ๖) ไม่น�ำ อาหารหรอื เครอื่ งดมื่ มารับประทานในหอ้ งพยาบาล ๗) ไม่ส่งเสียงดังหรอื รบกวนผู้ป่วยทน่ี อนพกั ในหอ้ งพยาบาล ๘) รกั ษาความสะอาดของสถานท่แี ละอุปกรณท์ ใ่ี ช้ ๙) ผใู้ ชบ้ รกิ ารต้องลงชอื่ ในแบบบนั ทึกการใชบ้ รกิ ารทุกคร้ัง การชั่งน้ำ�หนกั และวัดสว่ นสูง โรงเรยี นจะช่ังน�ำ้ หนักและวดั สว่ นสูงนกั เรยี นเปน็ ประจำ�ทุกภาคเรยี นท่หี นว่ ยอนามยั เพือ่ เก็บเป็นขอ้ มูลพฒั นาการ ทาง ร่างกาย อาจารย์และบุคลากรท่ีประสงค์จะวดั สว่ นสูงและช่งั น้ำ�หนกั สามารถใชบ้ ริการไดท้ หี่ ้องพยาบาลโดยหน่วยอนามัย มอี ุปกรณ์ชงั่ น้ำ�หนกั และวัดส่วนสูงทไี่ ดม้ าตรฐานไวใ้ หบ้ รกิ าร ระเบยี บปฏบิ ตั ิส�ำ หรบั นกั เรยี นกรณเี จ็บปว่ ยหรือไดร้ ับอุบัติเหตชุ นิดไม่ร้ายแรง ๑) ติดตอ่ พยาบาลหรอื เจา้ หนา้ ที่ประจำ�หน่วยอนามัยเพ่ือแจ้งอาการเจ็บป่วย หรอื อาการบาดเจ็บให้ทราบกอ่ นใช้บรกิ าร ทกุ ครัง้ ๒) ก รณีนักเรียนขอรับการรักษาโดยใช้ยาชนิดรับประทานหรือยาใช้ภายนอกให้แจ้งอาการแพ้ยาและชื่อยาที่แพ้ให้ พยาบาลหรอื เจ้าหนา้ ท่ที ราบก่อนการรักษา ๓) ก รณีนักเรียนประสงค์ขอรับยาเพื่อบรรเทาอาการเจ็บป่วยให้แจ้งอาการให้พยาบาลหรือเจ้าหน้าที่ทราบทุกครั้ง เพ่อื วิเคราะหอ์ าการ เมื่อนักเรียนได้รับยาแลว้ ใหน้ ักเรียนรบั ประทานยาในหอ้ งพยาบาลเทา่ น้ัน และหน่วยพยาบาล ไมอ่ นุญาตใหน้ ักเรียนรบั ยาแทนผ้อู น่ื ๔) ก รณีนักเรียนป่วยด้วยโรคทั่วไปไม่สามารถกลับไปเรียนได้ตามปกติและพยาบาลหรือเจ้าหน้าที่หน่วยอนามัย พ ิจารณาแล้วว่าสมควรให้นอนพักในห้องพยาบาลให้นักเรียนนำ�ใบอนุญาตขอนอนพักไปให้อาจารย์ประจำ�ชั้น หรอื อาจารยป์ ระจำ�วชิ าลงนามรบั ทราบและอนญุ าตโดยหนว่ ยอนามัยอนญุ าตใหน้ ักเรียนนอนพักไมเ่ กนิ ๒คาบเรยี น และไมอ่ นุญาตใหน้ ักเรียนอ่นื อยเู่ ฝา้ อาการก่อนได้รบั อนญุ าต 203
๕) กรณีนักเรียนป่วยและผู้ปกครองประสงค์ให้นักเรียนกลับไปพักรักษาอาการที่บ้าน ให้นักเรียนแจ้ง อาจารย์ประจำ�ชัน้ เพอ่ื ขออนุญาตกรอกแบบขออนญุ าตของโรงเรยี น และใหผ้ ปู้ กครองมารบั นกั เรยี นกลับท่ีห้องพยาบาล ๖) กรณีนักเรียนเกิดบาดแผลจากอุบัติเหตุไม่ร้ายแรงและประสงค์จะทำ�แผล ให้ติดต่อพยาบาลหรือเจ้าหน้าที่ เพื่อปฐมพยาบาลได้ตลอดเวลา หากอยใู่ นเวลาเรียนใหน้ ักเรียนขออนุญาตอาจารย์ประจ�ำ รายวิชากอ่ นมาท�ำ แผล ทีห่ ้องพยาบาล กรณีท่นี กั เรยี นประสงค์จะทำ�แผลเกา่ ใหท้ �ำ ในเวลาคาบพักเทา่ นั้น ทัง้ น้ีหนว่ ยอนามยั ไมอ่ นญุ าตให้นกั เรียนท�ำ แผลโดยพลการ ๗) เมื่อรับการบริการเรียบร้อยแล้ว ให้นักเรียนเขียนบันทึกการใช้บริการในแบบบันทึกของหน่วยอนามัยทุกครั้ง ระเบียบปฏิบัติสำ�หรับนักเรียนกรณีเจ็บป่วยหนัก หรือได้รับอุบัติเหตุร้ายแรง ๑) กรณีนักเรียนเป็นโรคติดต่อให้นักเรียนพักรักษาตัวที่บ้านเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรค หากอาการของโรค กำ�เริบ ระหว่างที่อยู่โรงเรียน ให้นักเรียนงดการเรียน หน่วยอนามัยจะประสานผู้ปกครองให้รับนักเรียนกลับไปรักษาอาการ โดยจะแจ้งขออนุญาตอาจารย์ประจำ�ชั้นและฝ่ายกิจการนักเรียนให้รับทราบ ทั้งนี้นักเรียนสามารถกลับมาเรียนได้ตามปกติ ตามการวินิจฉัยของแพทย์ ๒) กรณีนักเรียนป่วย อาการของโรคกำ�เริบและจำ�เป็นต้องพบแพทย์ในขณะนั้น หน่วยอนามัยจะแจ้งให้ผู้ปกครอง รับนักเรียนไปรักษา และแจ้งขออนุญาตอาจารย์ประจำ�ชั้นและฝ่ายกิจการนักเรียน หากไม่สามารถติดต่อผู้ปกครองได้ หน่วย อนามยั จะพิจารณา และน�ำ นกั เรยี นส่งเข้าท�ำ การรักษายงั สถานพยาบาลตามท่เี ห็นสมควร ๓) กรณีนักเรียนประสบอุบัติเหตุร้ายแรง อาจทำ�ให้เกิดอันตรายต่อชีวิตหรือพิการ หน่วยอนามัยจะรีบนำ�นักเรียน สง่ สถานพยาบาลและแจง้ ผปู้ กครองทราบทันที ข้อมลู การประกันอบุ ัตเิ หตสุ �ำ หรับนักเรยี น ๑) โรงเรียนได้ทำ� ประกันอุบัติเหตุให้กับนักเรียน มีระยะเวลาการคุ้มครอง ๑ ปีการศึกษา เริ่มตั้งแต่ ๑ มิถุนายน สิ้นสุด ๓๑ พฤษภาคม ของแตล่ ะปกี ารศกึ ษา ๒) ความคุ้มครองและผลประโยชน์เป็นไปตามเงื่อนไขการประกันชีวิตและประกันอุบัติเหตุให้แก่นักเรียน โรงเรียนสาธิตจฬุ าลงกรณ์มหาวิทยาลยั ปีการศึกษา ๒๕๖๕ ๓) หากนักเรียนประสบอุบัติเหตุ (ไม่รวมการเจ็บป่วยทั่วไป) นักเรียนสามารถเข้ารับการรักษาพยาบาลได้ทั้งสถานพยาบาล ของรฐั บาลและเอกชน รวมคา่ เวชภัณฑ์ โดยไดร้ บั คา่ รกั ษาพยาบาลคนละไมเ่ กนิ ๑๐,๐๐๐ บาท ตอ่ อุบตั ิเหตุ ๑ ครัง้ ๔) กรณนี ักเรียนพ้นสภาพกอ่ นกรมธรรมค์ รบกำ�หนด บรษิ ัทยงั คงค้มุ ครองนกั เรียนผู้นนั้ จนครบสัญญากรมธรรม์ เอกสารหลักฐานประกอบการเบกิ คา่ รกั ษาพยาบาลจากบริษทั ประกนั กรณีนักเรียนเข้ารับการรักษาที่สถานพยาบาลที่ไม่ได้อยู่ในเครือของบริษัทประกัน ขอให้นักเรียนสำ�รองจ่ายค่า รักษาพยาบาลไปก่อนและเรียกคืนค่ารักษาพยาบาลตามสัญญาประกันอุบัติเหตุภายหลังการรักษาโดยติดต่อที่หน่วย อนามัยพร้อมยืน่ เอกสารดงั ตอ่ ไปนี้ ๑) ใบเสร็จรับเงินและใบรับรองแพทย์ ฉบับจริง (โปรดตรวจสอบชื่อและนามสกุลในใบเสร็จรับเงินและใบรับ รองแพทย์ให้ถูกต้อง) กรณีรักษาเวลานอกราชการซึ่งไม่สามารถขอใบรับรองแพทย์ได้อนุโลมให้ใช้ใบสำ�เนาการรกั ษา หรอื ส�ำ เนา OPD จากทางโรงพยาบาล หรอื ใบยนื ยันการรกั ษาจากผใู้ ห้การรกั ษา ๒) สำ�เนาบัตรประชาชนของนักเรียน ๓) สำ�เนาสมุดบัญชีเงินฝากธนาคารของนักเรียน (กรณีที่นักเรียนไม่มีสมุดบัญชีเงินฝากธนาคาร สามารถใช้ สำ�เนาสมุดบัญชีเงินฝากธนาคารของผู้ปกครองได้โดยนามสกุลของนักเรียนและผู้ปกครองต้องเป็นนามสกุลเดียวกัน ถา้ ผู้ปกครองนามสกลุ ไม่ตรงกับนกั เรยี นใหแ้ นบสำ�เนาสตู ิบตั รของนักเรยี นไปด้วย) การดำ�เนินการเรียกคืนค่ารักษาพยาบาลให้ดำ�เนินการตามระยะเวลาที่กำ�หนดในกรมธรรม์ โดยกรมธรรม์มีอายุ ๑ ปี หากพ้นระยะเวลาดังกล่าวถือว่าสละสิทธิ์ และบริษัทจะโอนเงินเข้าบัญชีหลังจากพิจารณาเอกสารหลักฐานเรียบร้อยแล้ว กรณีที่ประสบอุบัติเหตุช่วงใกล้หมดอายุกรมธรรม์และต้องรักษาต่อเนื่องขอให้ติดต่อกับเจ้าหน้าที่หน่วยอนามัยโดยด่วน เพ่ือประสานงานกบั บริษัทประกันต่อไป 204
รายละเอียดเงอ่ื นไขในการประกนั อบุ ตั เิ หตุใหแ้ กน่ ักเรยี นแบบกลมุ่ โรงเรียนสาธติ จฬุ าลงกรณม์ หาวทิ ยาลยั ปกี ารศึกษา ๒๕๖๕ ๑. จ�ำ นวนผู้เอาประกนั ประมาณ ๓,๐๐๐ คน ซึง่ เป็นนกั เรียนปัจจบุ นั ทก่ี ำ�ลังศึกษาต้ังแต่ตันปีการศกึ ษาและ อาจมเี พ่มิ เติมในปีการศกึ ษา ๒๕๖๕ ท้ังฝ่ายประถมและฝ่ายมัธยม ๒. ระยะเวลาในการคุ้มครองใหม้ ผี ลคุ้มครองตง้ั แต่ วนั ท่ี ๑ มถิ นุ ายน ๒๕๖๕ เวลา ๐๐.๐๐ น. ถึงวันที่ ๓๑ พฤษภาคม ๒๕๖๖ เวลา ๒๔.๐๐ น. ๓. การชำ�ระเบย้ี ประกัน โรงเรยี นจะช�ำ ระเบี้ยประกนั ภายใน ๔๕ วนั ถัจากวนั ทโี่ รงเรียนไดร้ ับกรมธรรม์ ๔. การคุ้มครอง ให้ความคุ้มครองอุบตั เิ หตุท่ัวโลกตลอด ๒๔ ชัว่ โมง รวมถงึ ขณะศกึ ษาและประกอบกิจกรรม ต่าง ๆ ในสถานศึกษาหรือนอกสถานศึกษา เดินทางไป-กลบั ระหว่างบ้านและสถานศึกษา ทัศนศกึ ษา เดนิ ทางบก ทางน้ำ� ทางอากาศ เล่นหรือซ้อมกฬี า การขบั ขหี่ รอื ซ้อนท้ายจกั รยานยนต์ รวมทั้งภัยจากอุบตั เิ หตอุ นั เกิดจากการจลาจลและ จลาจลนดั หยดุ งาน ๕. จำ�นวนเงินเอาประกนั อุบตั ิเหตคุ นละ ๑๐๐,๐๐๐ บาท ๖. ผลประโยชนส์ �ำ หรับค�ำ รกั ษาพยาบาลตามทจ่ี า่ ยจรงิ คนละไม่เกนิ ๑๐,๐๐๐ บาท ตอ่ อบุ ัติเหตุ ๑ คร้งั สามารถ เขา้ รับการรักษาพยาบาลได้ทง้ั สถานพยาบาลของรัฐบาลและเอกชน รวมคำ�เวชภัณฑ์ ทั้งประเภท ๑ และประเภท ๒ กรณที ่ผี ้เู อาประกันรบั การรกั ษานอกเวลาราชการ ซ่งึ ไมส่ มารถขอใบรับรองแพทย์ได้ อนุโลมให้ใช้ ใบส�ำ เนาการรกั ษา หรือ สำ�เนา OPD จากทงโรงพยาบาล หรอื ใบยนื ยันการรักษาจากผู้ให้การรกั ษา ๗. การจา่ ยคา่ สินไหมทดแทน กรณคี ุ้มครองอุบตั ิเหตุ ผ้รู บั ประกันภยั จะตอ้ งจ่ายสินไหมทดแทนดังนี้ ๑ ๑๐๐% ของจ�ำ นวนเงินเอาประกันภัย สำ�หรับการเสียชีวติ ๒ ๑๐๐% ของจ�ำ นวนเงินเอาประกันภัย ส�ำ หรบั การตกเป็นบคุ คลทุพพลภาพถาวรสน้ิ เชงิ และการ ทุพพลภาพถาวรสนิ้ เชงิ นั้นได้เป็นไปติดตอ่ กนั ไม่นอ้ ยกว่า ๑๒ เดือน นับแตว่ ันทเี่ กิดอบุ ตั เิ หตุ หรอื มีข้อบง่ ชีท้ างการแพทย์ชดั เจนวา่ ผู้เอาประกันภยั ตกเปน็ บคุ คลทุพพลภาพถาวรสน้ิ เชงิ ๓ ๑๐๐% ของจ�ำ นวนเงินเอาประกันภยั ส�ำ หรับมอื สองข้างต้งั แต่ข้อมือ หรือเท้าสองข้างตง้ั แต่ขอ้ เท้า หรอื สายตาสองข้าง ๔ ๑๐๐% ของจ�ำ นวนเงนิ เอาประกันภัย ส�ำ หรับมอื หนึ่งขา้ งตง้ั แตข่ อ้ มอื และเทา้ หนงึ่ ขา้ งตัง้ แตข่ ้อเทา้ ๕ ๑๐๐% ของจำ�นวนเงินเอาประกนั ภัย สำ�หรับมอื หน่ึงข้างตัง้ แต่ข้อมือ และสายตาหนงึ่ ขา้ ง ๖ ๑๐๐% ของจ�ำ นวนเงินเอาประกนั ภัย สำ�หรบั เทา้ หน่ึงข้างตง้ั แตข่ ้อเท้า และสายตาหน่ึงขา้ ง ๗ ๖๐% ของจ�ำ นวนเงินเอาประกนั ภัย สำ�หรบั มอื หนึ่งข้างตงั้ แตข่ ้อมือ ๘ ๖๐% ของจ�ำ นวนเงินเอาประกันภัย ส�ำ หรบั เทา้ หนึ่งข้างตัง้ แต่ขอ้ เทา้ ๙ ๖๐% ของจำ�นวนเงนิ เอาประกันภัย สำ�หรับสายตาหนง่ึ ขา้ ง ๑๐ ๕๐% ของจ�ำ นวนเงินเอาประกนั ภยั สำ�หรับหหู นวกสองข้างหรือเป็นใบ้ ๑๑ ๑๕% ของจำ�นวนเงนิ เอาประกันภัย ส�ำ หรับหหู นวกหนง่ึ ข้าง ๑๒ ๒๕% ของจำ�นวนเงินเอาประกันภัย ส�ำ หรับนิ้วหวั แมม่ อื (ท้ังสองข้อ) ๑๓ ๑๐% ของจำ�นวนเงินเอาประกนั ภัย ส�ำ หรบั นิ้วหัวแมม่ อื (หน่งึ ขอ้ ) ๑๔ ๑๐% ของจ�ำ นวนเงินเอาประกันภยั ส�ำ หรับนว้ิ ช้ี (ท้งั สามขอ้ ) ๑๕ ๘% ของจำ�นวนเงินเอาประกันภัย ส�ำ หรับน้วิ ชี้ (ท้ังสองขอ้ ) ๑๖ ๔% ของจ�ำ นวนเงินเอาประกันภยั ส�ำ หรบั นิ้วชี้ (หนึ่งขอ้ ) ๑๗ ๕% ของจำ�นวนเงนิ เอาประกนั ภยั สำ�หรับนิ้วอนื่ ๆ แตล่ ะน้ิว (ไมน่ อ้ ยกว่าสองขอ้ ) นอกจากนวิ้ หัวแม่ มอื และน้วิ ช้ี ๑๘ ๕% ของจ�ำ นวนเงินเอาประกันภัย สำ�หรับนว้ิ หัวแม่เทา้ ๑๙ ๑% ของจำ�นวนเงินเอาประกนั ภยั ส�ำ หรบั นว้ิ เทา้ อน่ื ๆแตล่ ะนว้ิ (ไมน่ อ้ ยกวา่ หนง่ึ ขอ้ ) นอกจากนว้ิ หวั แมเ่ ทา้ 205
บรษิ ัทจะจ่ายค่าทดแทนตามข้อน้เี พยี งรายการทีส่ ูงสุดรายการเดียวเท่าน้ัน เวน้ แต่กรณีทีม่ ีการสญู เสียน้วิ มอื หรือนวิ้ เท้า โดยถาวรสิ้นเชิงตามรายการท่ี ๑๒ ถึง ๑๙ และไมอ่ าจเรยี กรอ้ งค่าทดแทนตามรายการใดรายการหน่ึงในรายการท่ี ๑ ถงึ ๙ ได้ บรษิ ัทจะจ่ายคา่ ทดแทนให้ตามความสญู เสียทีแ่ ท้จรงิ ในแต่ละรายการรวมกันแตไ่ ม่เกนิ จำ�นวนเงินเอาประกนั ภัยท่ีระบุไวใ้ นตาราง กรมธรรมป์ ระกนั ภยั ในกรณที ุพพลภาพถาวรบางส่วนซ่ึงไมส่ ามารถเรยี กร้องคา่ ทดแทนทีก่ ำ�หนดไวต้ ามรายการท่ ี ๒ ถงึ ๑๙ ไดแ้ ละไม่ใชเ่ ปน็ การสญู เสียสมรรถภาพในการล้มิ รส หรือดมกล่นิ บริษทั จะจา่ ยคา่ ทดแทนให้ตามความเหน็ ของแพทย์ ของบรษิ ัท แต่ไม่เกิน ๕๐% ของจ�ำ นวนเงนิ เอาประกันภยั ทรี่ ะบุไวใ้ นตารางกรมธรรม์ประกนั ภยั ตลอดระยะเวลาประกันภัย บรษิ ัทจะจ่ายค่าทดแทนส�ำ หรบั ผลทเี่ กิดขึ้นตามขอ้ ตกลงคุ้มครองน้รี วมกนั ไมเ่ กนิ จ�ำ นวน เงนิ ดงั ระบไุ ว้ในตารางกรมธรรมป์ ระกนั ภยั หากบริษทั จ่ายค่าทดแทนตามขอ้ ตกลงคุ้มครองนีย้ งั ไม่เต็มจำ�นวนเงนิ เอาประกนั ภัย บรษิ ทั จะยังคงให้ความคุ้มครองจนสิ้นสุดระยะเวลาเอาประกันภยั เท่ากับจ�ำ นวนเงินเอาประกนั ภยั ทเ่ี หลอื อยเู่ ทา่ น้ัน การเรียกรอ้ งผลประโยชน์การเสียชวี ติ ผูร้ บั ประโยชน์ จะตอ้ งสง่ หลกั ฐานดงั ต่อไปน้ีใหแ้ ก่บรษิ ัทภายใน ๓๐ วัน นบั จากวัน ทผ่ี ู้เอาประกนั เสียชีวติ โดยคา่ ใช้จา่ ยของผ้รู บั ประโยชน์ ๑. แบบฟอร์มการเรียกรอ้ งค่าสนิ ไหมทดแทนท่กี ำ�หนดโดยบรษิ ทั ๒. ใบมรณบตั ร ๓. สำ�เนารายงานชนั สตู รพลกิ ศพ รบั รองโดยร้อยเวรเจา้ ของคดีหรอื หน่วยงานท่อี อกรายงาน ๔. ส�ำ เนาบันทกึ ประจ�ำ วันของตำ�รวจ รบั รองโดยรอ้ ยเวรเจา้ ของคดี ๕. สำ�เนาบตั รประจ�ำ ตัวประชาชน และสำ�เนาทะเบยี นบ้านประทับ “ตาย” ของผ้เู อาประกันภยั ๖. สำ�เนาบตั รประจำ�ตัวประชาชน และสำ�เนาทะเบียนบา้ นของผูร้ บั ประโยชน์ การเรยี กร้องผลประโยชน์ทพุ พลภาพถาวร หรือการสญู เสยี อวยั วะ ผเู้ อาประกันภัย จะตอ้ งส่งหลกั ฐานดังตอ่ ไปน้ใี ห้แกบ่ ริษทั ภายใน ๓๐ วัน นบั จากวนั ท่ีแพทย์ ลงความเหน็ ว่าทุพพลภาพถาวร หรือสูญเสียอวัยวะโดยคา่ ใช้จา่ ยของผเู้ อาประกนั ภยั ๑. แบบฟอร์มการเรียกร้องค่าสนิ ไหมทดแทนท่ีกำ�หนดโดยบรษิ ัท ๒. ใบรายงานแพทยท์ ่ียนื ยันการทพุ พลภาพถาวรหรอื สูญเสยี อวัยวะ การไม่ส่งหลกั ฐานภายในระยะเวลาดังกลา่ ว ไมท่ �ำ ใหส้ ิทธใิ นการเรยี กร้องเสียไป หากแสดงให้เห็นไดว้ ่ามเี หตอุ ันสมควรท่ีไม่ สามารถสง่ หลกั ฐานดังกลา่ วได้ภายในระยะเวลาท่ีกำ�หนด แตไ่ ด้สง่ โดยเรว็ ท่ีสุดเท่าทจ่ี ะกระท�ำ ได้แล้ว ๘. ในกรณีที่นักเรียนพ้นสภาพก่อนกรมธรรม์ครบกำ�หนด บริษัทยังคงต้องคุ้มครองนักเรียนผู้นั้นจนครบสัญญา กรมธรรม์ ๙. บรษิ ัทประกันอุบตั ิเหตุตอ้ งจดั ท�ำ บตั รประกันเปน็ รายบุคคล หรือช่องทางตดิ ต่อออนไลนผ์ ่านแอปพลเิ คชั่น BKI iCare (กรงุ เทพประกนั ภัย) สามารถดขู ้อมลู เพมิ่ เตมิ ในการใชแ้ อปพลิเคชนั ได้ตามลิ้งกด์ า้ นล่างนี้ https://bangkokinsurance.com/download/BKI%20iCare%20Manual.pdf หรอื สแกนควิ อารโ์ ค้ด คมู่ ือการใชง้ านแอปพลิเคชัน BKI iCare (กรงุ เทพประกันภัย) ตามรปู ดา้ นลา่ งน้ี (ตกวั รองุ ยเBทา่ งKพแIปอiCรปะaพกrลนeั เิชควี ชติ นั ) 206
หนว่ ยหลกั สูตรและการสอนเปน็ หนว่ ยงานสังกดั สำ�นกั งานวิชาการหลักสูตรและการสอนของโรงเรยี นสาธติ จุฬาลงกรณ์ มหาวทิ ยาลยั ฝ่ายมัธยม มภี ารกจิ ในดูแลเกยี่ วกบั ข้อมูลการจัดการเรียนการสอนในระดับมัธยมศกึ ษา ขอ้ มลู ตารางสอนตาราง สอบ รวมท้ังดแู ลโครงการและกจิ กรรมด้านวชิ าการ ภาระงาน ๑) ภาระงานดา้ นวชิ าการ ๑.๑) จดั เตรียมข้อมลู ตารางสอน ตารางสอบแต่ละภาคเรียน ๑.๒) จัดเตรียมข้อมูลเบ้อื งต้นส�ำ หรับอาจารยป์ ระจำ�ชั้น ๑.๓) จัดตารางการใชห้ ้องเรียนใหก้ บั อาจารย์ผ้สู อน ๒) ภาระงานดา้ นการสอน ๒.๑) ประสานงานแจง้ ขอ้ มลู ขา่ วสาร และขอ้ ก�ำ หนดตา่ ง ๆ ใหก้ ับอาจารยท์ กุ ท่าน ๒.๒) แจ้งข้อมูลขา่ วสารตา่ ง ๆ ให้กับผ้ปู กครอง ๒.๓) ประสานงานขอ้ มลู การลาสอบ การเขา้ รว่ มกจิ กรรมของนกั เรยี นกบั อาจารยป์ ระจำ�ชั้นและผู้สอน ๒.๔) ประสานงานระบบจดั การเรียนการสอนออนไลน์ Cudplus+ ๓) ภาระงานอ่ืน ๆ หน่วยหลกั สตู รและการสอนยงั ให้บรกิ ารด้านขอ้ มลู ต่างๆทัง้ จากอาจารย์ผ้ปู กครองรวมทั้งหน่วยงานภายนอก การลาสอบ กรณนี ักเรยี นมีความจ�ำ เปน็ ตอ้ งลาสอบ ใหป้ ฏิบตั ดิ ังนี้ ๑. การลาป่วย แบง่ เปน็ ๒ กรณี ๑.๑) นักเรียนป่วยก่อนถึงกำ�หนดการสอบ แต่แพทย์ให้พักรักษาตัวจนถึงวันที่มีการสอบให้ ผู้ปกครองส่ง จดหมายลาป่วยพร้อมใบรับรองแพทย์ที่อาจารย์ประจำ�ชั้น เพื่อรับทราบข้อมูลและนำ�จดหมายส่ง ต่อที่ฝ่ายวชิ าการ หลักสูตรและการสอน ๑.๒) นักเรยี นปว่ ยในวนั ทมี่ ีการสอบ นักเรียนหรอื ผ้ปู กครองแจ้งให้อาจารย์ประจ�ำ ชน้ั ทราบทันทีในวนั ที่ลาป่วย แล้วส่งจดหมายลาป่วยพร้อมใบรับรองแพทย์ที่อาจารย์ประจำ�ชั้น เพื่อรับทราบข้อมูลและนำ� จดหมายส่งต่อทฝี่ า่ ยวิชาการ หลักสตู รและการสอน ๒. การลากจิ แบ่งเปน็ ๒ กรณี ๒.๑) นักเรียนลาเพื่อเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ในนามของตัวแทนโรงเรียน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเป็นผู้ส่ง จ ดหมายลาสอบให้กับนักเรียนโดยแนบจดหมายหรือเอกสารการจากหน่วยงานที่จัดกิจกรรมที่มีชื่อ นกั เรยี นเข้ารว่ มกจิ กรรมนน้ั ๆ ๒.๒) นกั เรียนลากิจอ่ืน ๆ นกั เรยี นหรือผ้ปู กครองส่งจดหมายลากิจผา่ นอาจารย์ประจำ�ชั้นรบั ทราบและนำ�สง่ ต่อ ท ฝี่ า่ ยวชิ าการหลกั สตู รและการสอนเพอื่ ขอพจิ ารณาอนมุ ตั กิ ารลาจากผอู้ �ำ นวยการโรงเรยี นและรองคณบดี จะต้องดำ�เนนิ การลว่ งหนา้ อยา่ งนอ้ ย ๕ วันทำ�การ 207
บทบาทหน้าที่ของหน่วยทะเบยี นและประเมินผล และการให้บริการ ๑) สง่ เสรมิ พัฒนาระบบและเทคนิควิธีการประเมนิ ผลการเรียนด้านต่าง ๆ แก่คณาจารย์ทั้งโรงเรียน ๒) ใหค้ ำ�ปรึกษา ติดตาม กับการวัดประเมนิ ผลให้เปน็ ไปตามหลักวิชาและแนวทางที่โรงเรยี นก�ำ หนด ๓) รวบรวม ตรวจสอบ ประมวลผลและบนั ทึกผลการประเมินการเรยี นของนักเรียนรายบคุ คล ๔) วเิ คราะห์ขอ้ สอบเพื่อปรบั ปรงุ แก้ไข เครอ่ื งมือวัดผล ๕) ดำ�เนนิ การเทียบโอนผลการเรียนรู้ ตามหลกั กเกณฑ์ทโ่ี รงเรียนก�ำ หนด ๖) ตรวจสอบการจบหลักสูตรการศึกษาภาคบังคับ และหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานของนักเรียนให้เป็นไปตาม เ กณฑ์ของหลักสูตรโรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พุทธศักราช ๒๕๔๕ โดยอิงตามเกณฑ์ของกระทรวง ศกึ ษาธิการตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พนื้ ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ ๗) ให้บรกิ ารเกยี่ วกบั หนว่ ยทะเบยี นและประเมินผลดังนี้ ๗.๑) รับลงทะเบยี นเรียน และรับใบแจง้ ความจ�ำ นงศึกษาต่อ ๗.๒) การตดิ ต่อขอใบรับรองตา่ ง ๆ ๗.๓) การตดิ ต่อขอเปล่ียนกลมุ่ การเรยี น และขอเปลย่ี นรายวิชาเพม่ิ เตมิ ๗.๔) การขอลงทะเบยี นสอบแก้ตัวตา่ ง ๆ ๗.๕) การทำ�บตั รประจำ�ตัวนักเรียน ๗.๖) การขอลาพกั การศึกษา การลาออก และการขอกลับเขา้ ศึกษาต่อ ๗.๗) การตรวจสอบผลการเรียน การแจง้ ความจ�ำ นงศกึ ษาต่อ การลงทะเบียนเรยี น และการเปลี่ยนกลุ่มการเรยี น ๑) รายละเอยี ดและขนั้ ตอนการแจ้งความจ�ำ นงศึกษาตอ่ ผปู้ กครองจะตอ้ งนำ�เอกสารมาแจง้ ความจ�ำ นงศึกษาต่อดว้ ยตนเอง และปฏิบตั ติ ามขั้นตอนดงั น้ี ๑.๑) กรอกข้อมลู ประวัตนิ กั เรียนผา่ นเว็บไซต์ http://161.200.155.233/cuds ๑.๒) ตรวจสอบ แก้ไข ความถูกต้องและพิมพเ์ อกสารใบประวัตนิ ักเรียนและใบแจง้ ความจ�ำ นงศึกษาต่อ พร้อมลงนามในเอกสารให้ครบถ้วน ๑.๓) ยน่ื เอกสารทห่ี น่วยทะเบียนและประเมินผล ตามวันและเวลาทโ่ี รงเรยี นก�ำ หนด ๑.๔) หากไม่มาแจง้ จำ�นงศึกษาต่อตามวันและเวลาทกี่ �ำ หนดถือว่า “สละสิทธิ”์ ๒) ข้ันตอนการลงทะเบียนเรียน ๒.๑)ใหน้ กั เรยี นรบั เอกสารการลงทะเบยี นเรยี นจากอาจารยป์ ระจ�ำ ชนั้ หรอื อาจารยท์ ปี่ รกึ ษาซงึ่ ไดแ้ ก่ใบลงทะเบยี น รายวชิ าเรียน พรอ้ มเอกสารคำ�แนะน�ำ ในการลงทะเบียน (ระดบั ชน้ั ม.๑–ม.๖) ๒.๒) ใหน้ ักเรียนตรวจสอบรหัสวชิ า ช่ือวชิ าและรายวชิ าเลอื ก หน่วยเรยี น / หน่วยกิต (ถา้ มี) พร้อมรายชือ่ อาจารย์ผู้สอนแตล่ ะรายวชิ าใหถ้ กู ตอ้ งครบถ้วนและชัดเจน ๒.๓) ให้นักเรยี นลงช่ือ และเขยี น วันท่ี เดอื น ปี พ.ศ. กำ�กับ ๒.๔) นำ�ใบลงทะเบียนท่ีใหผ้ ู้ปกครองลงนามรับทราบ แล้วใหอ้ าจารย์ประจำ�ช้นั ลงนาม ๒.๕) อาจารยป์ ระจ�ำ ชน้ั รวบรวมใบลงทะเบยี นสง่ ทห่ี นว่ ยทะเบยี นและประเมนิ ผลระหวา่ งเวลา ๐๘.๓๐–๑๕.๐๐ น. ภายในสปั ดาห์ท่ี ๔ ของภาคการศกึ ษา ในกรณีที่นักเรียนไม่สามารถมาลงทะเบียนเรียนได้ตามที่กำ�หนดหรือมีปัญหาขัดข้องใด ๆ ให้มาลงทะเบียน เรียนได้ตามกำ�หนดเวลาทีจ่ ะประกาศต่อไป 208
ข้อควรระวังในการลงทะเบียนเรยี น ๑) โปรดตรวจสอบเอกสารดังกล่าวให้ครบถว้ น หากไม่ครบโปรดแจง้ เจา้ หนา้ ทใี่ หท้ ราบ ๒) ศกึ ษาและท�ำ ความเขา้ ใจเอกสารทัง้ หมดอยา่ งละเอียดถถี่ ้วน ๓) ลงทะเบียนเรยี นตามวนั และเวลาท่ีหน่วยทะเบียนและประเมินผลก�ำ หนดไว้ หากเกนิ กำ�หนดจะเสยี ค่าปรบั การลงทะเบยี นล่าชา้ วิชาละ ๕๐ บาท ๔) นักเรียนจะตอ้ งช�ำ ระค่าธรรมเนยี มต่าง ๆ ใหเ้ รยี บร้อยกอ่ น จงึ จะมสี ิทธล์ิ งทะเบยี นเรยี น ๕) ถ้านกั เรยี นเข้าเรยี นโดยไมไ่ ด้ลงทะเบียนเรยี น จะไม่มสี ทิ ธไ์ิ ด้รับการประเมินผล ๖) การลงทะเบียนเรียนรายวชิ าเพ่ิมเติม จะต้องลงทะเบียนเรยี นวชิ าใหมท่ ร่ี หสั วิชาไม่ซ้�ำ กบั วชิ าทีเ่ คยเรียน ๗) นักเรยี นท่มี าติดตอ่ หน่วยทะเบยี นและประเมินผล ต้องแตง่ กายชุดนกั เรียนเท่าน้ัน ๓) การเปล่ยี นกลุม่ การเรยี น ๓.๑) เมื่อนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓ ได้เลือกกลุ่มการเรียนและผ่านการพิจารณาของที่ประชุมคณะกรรมการ ต ัดสินผลการเรียนแล้ว หากนักเรียนประสงค์จะเปลี่ยนกลุ่มการเรียน นักเรียนต้องมารับเอกสารขอเปลี่ยน ก ลุ่มการเรียนที่หน่วยทะเบียนและประเมินผล แล้วให้ผู้ปกครองลงนามพร้อมกับทำ�บันทึกข้อความ ข อเปลี่ยนกลุ่มการเรียน ต ่อจากนั้นนำ� ไปให้อาจารย์แนะแนวและอาจารย์ประจำ� ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓ ลงนามและความเห็น หลังจากนั้นนำ�เอกสารดังกล่าวมายื่นที่ฝ่ายวิชาการ หลักสูตรและการสอน เพื่อ เสนอ ให้รองผอู้ �ำ นวยการฝา่ ยวิชาการ หลักสตู รและการสอนพจิ ารณาอนมุ ัตติ ่อไป ๓.๒) ระดบั ชนั้ มัธยมศึกษาตอนปลาย (ระดบั ชัน้ มัธยมศึกษาปีที่ ๔-๖) เม่อื นกั เรียนพบวา่ กลมุ่ การเรียน ที่ก�ำ ลงั เรียนอยู่ไมเ่ หมาะสมกบั ความสนใจของตนเอง หรอื ต้องการเปลย่ี นคณะวชิ า/สาขาวชิ าทีจ่ ะเข้าศึกษาตอ่ ใน ระดบั อดุ มศกึ ษา นกั เรยี นสามารถเปลย่ี นกลมุ่ การเรยี นได้ โดยในปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๕ น้ี ก�ำ หนดใหใ้ ชต้ ามประกาศ โรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ฝ่ายมัธยม เรื่อง เกณฑ์การเลือกกลุ่มการเรียนของนักเรียนชั้น มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย การขอลาพักการศึกษา ๑) น ักเรียนจะขอลาพักการศึกษาได้ในกรณีติดตามผู้ปกครองไปต่างประเทศเท่านั้นส่วนการลาพักการศึกษากรณีอื่นๆ ค ณะกรรมการบริหารโรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ฝ่ายมัธยม จะพิจารณาเป็นรายกรณีไป และจะต้อง แนบเอกสารจากโรงเรียนทจ่ี ะไปศกึ ษาต่อให้ครบถว้ นเพอื่ ยนื ยนั การเข้าเรยี น ๒) นกั เรียนที่จะขอลาพกั ตอ้ งยนื่ ค�ำ ร้องขอลาพักการศึกษาที่หน่วยทะเบียนและประเมินผล กอ่ นวันทจี่ ะหยดุ เรยี น อย่างน้อย ๔ สปั ดาห์ และจะต้องชำ�ระคา่ ธรรมเรยี มการลาพกั การศึกษา (คา่ รักษาสภาพนกั เรยี น) ตามระเบียบ ของโรงเรียน การขอกลบั เข้าศึกษาตอ่ นักเรียนทล่ี าพักการศึกษา หากประสงคจ์ ะกลับเข้าศึกษาตอ่ จะตอ้ งยน่ื คำ�รอ้ งขอกลับเขา้ ศึกษาตอ่ ท่หี นว่ ยทะเบยี นและ ประเมินผลก่อนเปิดภาคเรียน พร้อมทั้งแนบเอกสารผลการศึกษาและประมวลรายวิชา จากสถานศึกษาที่ได้ศึกษามาประกอบ คำ�ร้องขอนั้นด้วย ส่วนการอนุมัติการกลับเข้าศึกษาต่อและการจัดชั้นเรียนนั้น ให้อยู่ในดุลยพินิจของคณะกรรมการบริหาร โรงเรียนสาธติ จฬุ าลงกรณ์มหาวทิ ยาลัย ฝา่ ยมัธยมการขอใบรบั รองต่าง ๆ การขอใบรับรอง ๑) ใบรบั รองการเปน็ นกั เรยี น (ปพ.๗) ท้ังฉบบั ภาษาไทยและภาษาอังกฤษ เป็นหลกั ฐานยืนยนั วา่ เป็นนักเรียน โรงเรยี นสาธิตจฬุ าลงกรณม์ หาวทิ ยาลัย ฝา่ ยมัธยม หากนกั เรียนต้องการขอใบรบั รองดงั กล่าว ใหน้ ักเรยี นย่นื ค�ำ ร้องที่หน่วย ทะเบยี นและประเมนิ ผล พรอ้ มกับแนบรปู ถ่ายนกั เรียนที่ถูกต้องตามระเบียบโรงเรยี นหน้าตรง ขนาด ๑.๕ นวิ้ ( ๓ x ๔ เซนตเิ มตร ) โดยใชร้ ูปถ่ายตามจ�ำ นวนชดุ เอกสารท่ีรอ้ งขอ (ไม่ใชร้ ูปถ่ายโพลารอยด์) 209
๒) ใบรบั รองจบการศึกษา ทง้ั ฉบับภาษาไทยและภาษาองั กฤษ (ปพ.๗) เปน็ หลกั ฐานยนื ยนั ว่าจบการศกึ ษาหรอื ก�ำ ลงั จะจบการศกึ ษา การขอใบรบั รองดังกล่าวนใ้ี หน้ กั เรยี นย่นื คำ�รอ้ งทีห่ น่วยทะเบียนและประเมนิ ผล พรอ้ มกับแนบ รูปถ่ายนกั เรียนทเ่ี ป็นทางการ หนา้ ตรง ขนาด ๑.๕ นว้ิ ( ๓ x ๔ เซนติเมตร ) โดยใชร้ ูปถา่ ยตามจ�ำ นวนตามชดุ เอกสาร ทรี่ อ้ งขอท้ังนีน้ กั เรยี นสามารถขอใบรับรองผลการเรยี นแทนได้ ในกรณีทยี่ งั ไมไ่ ดร้ ับการอนมุ ตั ใิ ห้จบการศึกษา ๓) ใบระเบยี นแสดงผลการเรยี น (ปพ.๑) เปน็ หลกั ฐานแสดงถงึ ผลการเรียนแต่ละรายวิชา การขอใบระเบียนนี้ ให้นักเรยี นยนื่ ค�ำ รอ้ งท่ีหน่วยทะเบยี นและประเมินผล พรอ้ มกับแนบรูปถ่ายนกั เรยี นท่ีเปน็ ทางการ หนา้ ตรง ขนาด ๑.๕ นิว้ ( ๓ x ๔ เซนติเมตร ) โดยใชร้ ูปถา่ ยตามจำ�นวนตามชุดเอกสารทร่ี อ้ งขอ ทัง้ นน้ี กั เรยี นทีส่ �ำ เรจ็ การศึกษาชน้ั มัธยมศึกษา ปีที่ ๓ และ ๖ไม่ต้องเสยี ค่าธรรมเนียมสำ�หรบั ใบระเบยี นแสดงผลการเรยี นฉบบั จรงิ และฉบับคดั สำ�เนา ใบตอ่ ไปจะต้องเสยี ค่า ธรรมเนียม ๔) ใบรายงานผลการเรยี นฉบับภาษาองั กฤษ (TRANSCRIPT) เปน็ หลักฐานแสดงถงึ ผลการเรียนแตล่ ะรายวิชา เป็นภาษาอังกฤษ การขอใบรายงานผลการเรียนน้ี ใหย้ ืน่ ค�ำ รอ้ งทหี่ นว่ ยทะเบยี นและประเมนิ ผล โดยกรอก ขอ้ ความในใบค�ำ รอ้ งเปน็ ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย ใหค้ รบถว้ นพรอ้ มกับแนบรูปถ่ายนักเรยี นเปน็ ทางการ หนา้ ตรง ขนาด ๑.๕ นิว้ ( ๓ x ๔ เซนตเิ มตร ) โดยใช้รปู ถา่ ยตามจ�ำ นวนชุดเอกสารทร่ี ้องขอ ๕) ใบรบั รองท่นี ำ�มาให้โรงเรยี นรบั รอง คือ ใบรับรองทน่ี กั เรยี นน�ำ มาใหผ้ อู้ ำ�นวยการและรองคณบดีลงนาม โดยมีแบบของหนงั สือรบั รองมาดว้ ย การขอใบรับรองดังกล่าวนี้ ให้นกั เรยี นยนื่ คำ�รอ้ งพร้อมแนบแบบคำ�ร้อง ของนกั เรยี นน�ำ ส่งทีห่ นว่ ยทะเบยี นและประเมนิ ผล นกั เรยี นสามารถ download ค�ำ รอ้ งตา่ ง ๆ ได้ที่ www.satitm.chula.ac.th คำ�แนะน�ำ ในการขอใบรบั รอง ๑) นกั เรียนควรยนื่ คำ�รอ้ งขอใบรับรองทุกชนิดล่วงหน้าอยา่ งนอ้ ย ๓ วนั ท�ำ การ ๒) รูปถ่ายที่นำ�มามอบใหท้ างโรงเรียนจะต้องเปน็ ขนาดมาตรฐานของรา้ นถา่ ยรปู และจะตอ้ งเป็นรูปถ่ายไม่ เกิน ๖ เดอื น ก่อนการขอใบรับรอง (ไมใ่ ช้รปู ถ่ายโพลารอยด)์ ๓) รปู ถา่ ยของนักเรยี นปัจจบุ ัน ตอ้ งแตง่ กายเครื่องแบบนกั เรียน ส�ำ หรบั รูปถา่ ยของนกั เรียนท่ีจบการศึกษา จากโรงเรียนแลว้ ต้องแตง่ กายสุภาพสวมเส้ือเชิต้ สีขาวไม่มลี ายหรือดอก ไมม่ ตี ราสถาบนั อืน่ ไม่สวม แว่นตาดำ�และไม่สวมหมวก (ท้งั ชายและหญงิ ) ๔) นักเรยี นควรตดิ ตอ่ ขอใบรับรองดว้ ยตนเอง ๕) นกั เรยี นที่มาขอใบรับรองจะตอ้ งแต่งกายชดุ นักเรยี น สำ�หรบั นักเรียนทจ่ี บการศึกษาจากโรงเรยี นแลว้ ตอ้ ง แต่งกายสุภาพ ๖) ใบรับรองน้มี อี ายุ ๖๐ วัน นบั แต่วนั ทโี่ รงเรยี นออกให้ เอกสารทตี่ ้องใชใ้ นกรณีต่าง ๆ ๑) สมคั รเรียนรักษาดินแดน ๑.๑) ปพ.๑ จ�ำ นวน ๑ ชุด ๑.๒) รูปถ่าย ขนาด ๑.๕ นว้ิ (๓ x ๔ เซนติเมตร) จำ�นวน ๑ รปู ๒) สมคั รสอบเข้าสถาบนั ตา่ ง ๆ ๒.๑) หนังสือรับรองภาษาไทย จำ�นวน ๑ ชดุ ๒.๒) รปู ถา่ ยสี พ้นื หลงั สฟี ้า หรอื สขี าว ๑.๕ นิ้ว (๓ x ๔ เซนตเิ มตร) จ�ำ นวน ๑ รูป ๓) สมัครเข้าศึกษาในสถาบันการศึกษาตอ่ ต่างประเทศ หรือสถาบนั ทใี่ ชเ้ อกสารภาษาองั กฤษ ๓.๑) ใบรายงานผลการเรยี นเป็นภาษาองั กฤษ (TRANSCRIPT) รปู ถ่ายสี พืน้ หลงั สฟี ้า หรือสีขาว ๑.๕ น้ิว (๓ x ๔ เซนติเมตร) จ�ำ นวน ๑ รปู / ๑ ชุด ๓.๒) หนังสอื รับรองความประพฤติ ภาษาองั กฤษ รปู ถา่ ยสี พื้นหลงั สีฟ้า หรือสีขาว ๑.๕ นว้ิ (๓ x ๔ เซนติเมตร) จ�ำ นวน ๑ รูป / ๑ ชุด ๓.๓) หนังสือรบั รองการเปน็ นักเรยี นภาษาอังกฤษ รปู ถา่ ยสี พนื้ หลงั สฟี า้ หรือสขี าว ๑.๕ นว้ิ (๓ x ๔ เซนตเิ มตร) จ�ำ นวน ๑ รูป / ๑ ชุด 210
การขอมบี ตั รประจ�ำ ตัวนกั เรียน นกั เรียนทกุ คนจะต้องมีบัตรประจำ�ตัวนกั เรยี น ส�ำ หรับนกั เรียนชั้น ม.๑ และ ม.๔ ทเี่ ข้าศกึ ษาต่อในปกี ารศกึ ษาแรก ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม หากกรณีทำ�บัตรประจำ�ตัวหายหรือชำ�รุด นักเรียนต้องยื่นความจำ�นงทำ�บัตรประจำ�ตัวนักเรียน ที่ หน่วยทะเบยี นและประเมินผลและตอ้ งเสียค่าธรรมเนียม คา่ ธรรมเนียมตามประกาศของจุฬาลงกรณ์มหาวทิ ยาลัย ๑) ค่าใบรบั รองการเป็นนักเรยี น (ปพ.๗) ๕๐ บาท ๒) ค่าใบรบั รองจบการศึกษา (ปพ.๗) ๕๐ บาท ๓) ใบระเบยี นแสดงผลการเรยี น (ปพ.๑) ๓.๑) สำ�เรจ็ การศึกษามัธยมศึกษาปที ่ี ๓ และมัธยมศกึ ษาปีที่ ๖ ฉบับแรกไม่ต้องเสียคา่ ธรรมเนียม ๓.๒) สำ�เร็จการศึกษาแล้ว ฉบับต่อไปฉบับละ ๕๐ บาท ๔) ใบรายงานผลการเรียนเป็นภาษาองั กฤษ (TRANSCRIPT) ฉบับละ ๕๐ บาท ๕) คา่ ท�ำ บตั รประจำ�ตัวนกั เรียนใหมแ่ ทนบตั รประจำ�ตวั เกา่ ใบละ ๒๐๐ บาท ๖) คา่ จดั ท�ำ แบบรายงานการพฒั นาคณุ ภาพผู้เรยี นรายบุคคล (ปพ.๖) เลม่ ละ ๕๐ บาท ๗) ค่าเปล่ียนรายวิชาเพม่ิ เติม (เลือกเสรี) วิชาละ ๕๐ บาท ๘) ค่าปรับลงทะเบียนลา่ ช้า วิชาละ ๕๐ บาท ๙) ค่าลงทะเบียนสอบแกต้ ัว ๙.๑) มธั ยมศึกษาตอนต้น วชิ าละ ๒๐๐ บาท ๙.๒) มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย วิชาละ ๒๐๐ บาท ๑๐) ค่ารกั ษาสภาพนักเรยี น ภาคการศกึ ษาละ ๑๐,๐๐๐ บาท ๑๑) ค่าด�ำ เนินการขอกลับเขา้ ช้ันเรยี น ครั้งละ ๒,๐๐๐ บาท หมายเหตุ อัตราค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ของหน่วยทะเบียนและประเมินผล อาจมีการเปลี่ยนแปลงตามประกาศของ จุฬาลงกรณม์ หาวทิ ยาลัย ศูนย์คอมพิวเตอร์ โรงเรียนสาธติ จฬุ าลงกรณ์มหาวิทยาลัย ฝา่ ยมัธยม มภี ารกจิ สนบั สนุนดา้ นการเรยี นการสอน โดย การให้บรกิ ารแก่นักเรยี น บคุ ลากรของโรงเรียนและนสิ ติ ฝึกประสบการณว์ ิชาชพี ดังน้ี ๑) การใหบ้ ริการหอ้ งคอมพิวเตอร์ ๒) การยมื วัสดอุ ุปกรณแ์ ละครภุ ณั ฑ์ ๓) การยืมโปรแกรมเพอื่ การเรียนการสอน ๔) การบรกิ ารซอ่ มบ�ำ รงุ และตรวจสอบแกไ้ ขเครือ่ งคอมพิวเตอร์ ช่วงเวลาการให้บรกิ ารห้องศนย์คอมพวิ เตอร์สาํ หรบั นกั เรียน ชว่ งเวลา เวลาให้บรกิ าร หมายเหตุ เชา้ ๐๗.๐๐–๐๗.๔๕ น. ระดับมัธยมศกึ ษาตอนต้น กลางวนั ๑๑.๑๐–๑๒.๐๐ น. ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย ๑๒.๐๐–๑๒.๕๐ น. หลังเลกิ เรยี น ๑๕.๓๐–๑๗.๐๐ น. 211
ศูนย์แนะแนวได้จัดให้มีบริการต่าง ๆ ตามหลักวิชาจิตวิทยาการปรึกษาและการแนะแนวอย่างเป็นรูปธรรมเพื่อป้องกัน แก้ไขปัญหา ส่งเสริมช่วยเหลือและพัฒนานักเรียนให้รู้จักเข้าใจตนเอง เข้าใจผู้อื่นและสิ่งแวดล้อม สามารถคิดและตัดสินใจ ในการเลือกศึกษาต่อ และวางแผนการเลือกอาชีพได้อย่างเหมาะสม ทำ�ให้นักเรียนสามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข และพัฒนาตนเองเจริญได้เต็มตามศักยภาพ ทั้งทางด้านร่างกาย อารมณ์ สังคมและสติปัญญา โดยการแนะแนวมีขอบข่าย สำ�คัญ ๓ ด้าน คือ การแนะแนวการศึกษา การแนะแนวอาชีพ และการแนะแนวส่วนตัวและสังคม งานบริการแนะแนวของศูนย์แนะแนวมีทั้งหมด ๕ บริการ ดังนี้ ๑. บริการรวบรวมข้อมูลเป็นรายบุคคล (Individual Inventory Service) ได้แก่ การเก็บรวบรวมข้อมูล นักเรียนเป็นรายบุคคล ทั้งทางด้านการศึกษาต่อ ความสนใจในอาชีพ การพัฒนาบุคลิกภาพและข้อมูลด้านอื่น ๆ เพื่อเป็นข้อมูลในการรู้จักและเข้าใจนักเรียนเป็นรายบุคคลและเป็นข้อมูลประกอบการเลือกกลุ่มวิชาเรียน การสอบคัดเลือกโดยวิธีรับต่างๆการสอบแข่งขันชิงทุนต่างๆการเลือกคณะวิชา/สถาบันและการพิจารณาให้ทุน สนับสนุนการศึกษา ๒. บริการสนเทศ(InformationService)ได้แก่การบริการข้อมูลข่าวสารทั้งในและนอกห้องเรียน ผ่านช่องทางการ สื่อสารทั้งทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ สื่อสิ่งพิมพ์ เช่น เพจเฟซบุ๊ค ป้ายประกาศประชาสัมพันธ์ เอกสารโบรชัวร์ ฯลฯ เพื่อเผยแพร่ความรู้และข้อมูลด้านสุขภาวะทางกายและจิตการศึกษาการทำ�งานและอาชีพรวมทั้งงานแนะแนวอื่นๆ แก่นักเรียน ผู้ปกครอง บุคลากร และผู้สนใจทั่วไป รวมทั้งการจัดโครงการต่าง ๆ เช่น สัปดาห์โลกกว้างทาง การศึกษาและอาชีพโครงการปฐมนิเทศนักเรียนและประชุมผู้ปกครองการเชิญวิทยากรมาบรรยายให้ความรู้รวมทั้ง จัดบริการให้ยืม สืบค้น ตำ�รา เอกสาร ตัวอย่างข้อสอบ และอื่น ๆ ๓. บริการให้การปรึกษา(CounselingService)ได้แก่การให้การปรึกษาแบบรายบุคคลและกลุ่มแก่นักเรียนในด้าน การศกึ ษาตอ่ การเลอื กอาชพี และการปรบั ตวั เพอ่ื ใชช้ วี ติ ในโรงเรยี นในสงั คมอยา่ งมคี วามสขุ ใหก้ ารปรกึ ษาแกผ่ ปู้ กครอง คณาจารย์และบคุ ลากรของโรงเรยี น ให้การปรึกษาแก่สถาบนั หนว่ ยงาน และผู้สนใจทัว่ ไป และศึกษานกั เรยี นเป็นราย กรณี เปน็ ตน้ ๔. บรกิ ารจดั วางตวั บคุ คล(PlacementService)ไดแ้ ก่การบรกิ ารเพอ่ื ดแู ลชว่ ยเหลอื พฒั นาสง่ เสรมิ นกั เรยี นใหส้ ามารถเรยี นรไู้ ด้ เตม็ ศกั ยภาพใชช้ วี ติ ในการเรยี นอยา่ งมคี วามสขุ และเลอื กศกึ ษาตอ่ ไดเ้ หมาะสมสอดคลอ้ งกบั ความชอบความสามารถความถนดั และบคุ ลกิ ภาพของตนเองเชน่ การจดั ชน้ั เรยี นการเลอื กวชิ าเรยี นการเลอื กกลมุ่ การเรยี นเลอื กอนั ดบั คณะวชิ า/สถาบนั ในการคดั เลอื ก บคุ คลเขา้ ศกึ ษาในสถาบนั อดุ มศกึ ษาโครงการจดั สรรทนุ สนบั สนนุ การศกึ ษาโครงการประชมุ อาจารยป์ ระจ�ำ ชน้ั และอาจารยค์ ชู่ น้ั ระดบั ชน้ั ม.๓ เพอ่ื จดั วางตวั บคุ คล โครงการประชมุ ผปู้ กครองนกั เรยี นชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี ๓ โครงการปจั ฉมิ นเิ ทศ โครงการ คุยกับคุณครู เป็นต้น ๕. บรกิ ารตดิ ตามผล (Follow up Service) ได้แก่ การติดตามและประเมนิ ผลบรกิ ารแนะแนวท่ีทำ�ไปแล้วและประเมินผล โครงการแนะแนวทุกโครงการ เช่น ติดตามผลการศึกษาต่อของนักเรียน ติดตามผลนักเรียนที่ประสบความสำ�เร็จ ในการศกึ ษาและอาชพี โครงการตดิ ตามและเผยแพรข่ อ้ มลู ศษิ ยเ์ กยี รตยิ ศโครงการตดิ ตามผลนกั เรยี นทส่ี �ำ เรจ็ การศกึ ษา และวิจัยติดตามผลอื่น ๆ ศูนย์แนะแนวได้เปิดให้บริการแนะแนวและให้การปรึกษาแก่นักเรียน ผู้ปกครอง และคณาจารย์ ใน ๓ ช่วง เวลา เช้า ๐๗.๓๐–๐๘.๓๐ น. เที่ยง 11.10-12.50 น. และเย็น 15.30-17.00 น. สามารถติดตามข้อมูลข่าวสารที่เป็นประโยชน์ได้ที่ เพจเฟซบุ๊ค : แนะแนว สาธิตจุฬาฯ หอ้ งสมดุ โรงเรยี นสาธติ จฬุ าลงกรณม์ หาวทิ ยาลยั ฝา่ ยมธั ยมมงุ่ มนั่ เปน็ หนว่ ยงานทส่ี นบั สนนุ การเรยี นการสอนการคน้ ควา้ วจิ ยั ส�ำ หรบั คณาจารย์นสิ ติ ฝกึ ประสบการณว์ ชิ าชพี นกั เรยี นและบคุ ลากรของโรงเรยี นทส่ี �ำ คญั หอ้ งสมดุ ยงั เปน็ แหลง่ เรยี นรนู้ อกหอ้ ง เรยี นใชเ้ ปน็ สถานทค่ี น้ ควา้ หาความรู้ชว่ ยพฒั นาความคดิ สรา้ งสรรค์และยงั เปน็ สถานทที่ จี่ ะชว่ ยสง่ เสรมิ นสิ ยั รกั การอา่ นของนกั เรยี น อกี ด้วยของคณาจารย์ นกั เรยี นและผู้ใชบ้ ริการทกุ คน ทรพั ยากรสารสนเทศที่หอ้ งสมดุ ให้บรกิ าร ๑) หนังสอื ทัว่ ไปทงั้ ภาษาไทยและภาษาองั กฤษ ๒) สอ่ื ส่ิงพิมพ์ตอ่ เน่อื ง (วารสาร/นติ ยสาร) ทง้ั ภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ๓) หนังสืออ้างอิง ๔) รายงานการวจิ ัยและรายงานการประชุม 212
บริการห้องสมุด ๑) บริการยืม – คืน และจองหนังสอื ๒) บริการตอบค�ำ ถามและชว่ ยค้นควา้ ๓) บริการสบื คน้ สารสนเทศ ระเบยี บการใช้บริการห้องสมดุ ๑. เวลาเปดิ -ปดิ หอ้ งสมดุ เปดิ เวลา ๐๗.๐๐ - ๑๗.๐๐ น. ตามวันและเวลาทำ�การของทางราชการ เวน้ วันหยุดราชการ วันหยุด นกั ขัตฤกษ์และวันหยุดตามประกาศของโรงเรยี นและมหาวิทยาลยั ๒. ข้อปฏิบัติในการเขา้ ใช้หอ้ งสมุด ๒.๑) แสดงบัตรนักเรยี นหรอื บตั รแสดงตนเป็นบคุ ลากรของโรงเรยี น ทกุ ครัง้ ทเ่ี ขา้ ใช้ห้องสมุด ๒.๒) สำ�รวมกริ ิยามารยาท ไมพ่ ดู คุยเสียงดัง และแตง่ กายสภุ าพเรียบรอ้ ย ๒.๓) ดแู ลทรพั ยส์ นิ และของมคี า่ ของตนเองหอ้ งสมดุ ไมร่ บั ผดิ ชอบตอ่ กรณสี ญู หายหรอื เสยี หายของทรพั ยส์ นิ นน้ั ๒.๔) การน�ำ หนังสอื หรือทรัพยากรสารสนเทศออกจากห้องสมุดโดยไม่ไดย้ มื ตามระเบียบ การตดั ฉกี หรอื ท�ำ ลายทรพั ยากรหอ้ งสมดุ ถอื วา่ เปน็ การท�ำ ลายทรพั ยส์ นิ ของโรงเรยี นผกู้ ระท�ำ จะไดร้ บั การพจิ ารณา โทษทางวนิ ัยหรอื ตามระเบียบของโรงเรียน ๒.๕) ผูใ้ ช้ห้องสมุดต้องใช้บรกิ ารตา่ งๆใหเ้ สรจ็ สน้ิ ก่อนเวลาปดิ ทำ�การ๑๕นาทีเพ่ือใหเ้ จ้าหนา้ ที่หอ้ งสมุดได้ ส�ำ รวจความเรียบร้อยกอ่ นปดิ บริการหอ้ งสมดุ ๓. การยมื ทรพั ยากรสารสนเทศของนักเรียน แสดงบตั รประจ�ำ ตวั นักเรยี นของตนเองเทา่ นัน้ ทุกคร้งั ท่ีตอ้ งการยมื -คืนทรัพยากรสารสนเทศ ประเภท จ�ำ นวนและระยะเวลาการยืมทรพั ยากรสารสนเทศ หนงั สอื ทวั่ ไป/ หนงั สอื สำ�รอง อา่ นนอกเวลา วารสาร ผมู้ ีสิทธ์ิยืม นวนิยาย/เยาวชน/ซีไรต์ เล่ม วัน เล่ม วัน เลม่ วนั เลม่ วนั ๓ ๕ คณาจารย ์ ๑๐ ๓๐ ๓ ๕ ๑ ๕ ๓ ๕ บคุ ลากร ๑๐ ๓๐ ๓ ๕ ๑ ๕ - - กลุม่ สาระฯ/กล่มุ กจิ กรรม ๓๐ ๑๐๐ - - - - - - นักเรยี น ๓ ๓ - - ๑ ๓ - - นสิ ิตประสบการณ์วชิ าชพี ๓ ๓ ๓ ๓ ๑ ๕ ทรพั ยากรสารสนเทศทคี่ รบก�ำ หนดเวลายมื ตามขอ้ ก�ำ หนดถา้ มคี วามประสงคจ์ ะยมื ตอ่ และไมม่ ผี ใู้ ดจองหอ้ งสมดุ อนุญาตใหย้ มื ตอ่ ได้ ๓ ครั้ง โดยไม่ต้องน�ำ ทรัพยากรสารสนเทศมาแสดง สำ�หรบั ในการยมื ครัง้ ต่อไปต้องน�ำ ทรัพยากร สารสนเทศมาแสดง ในกรณีทห่ี อ้ งสมดุ มีความจ�ำ เป็นตอ้ งใชท้ รัพยากรสารสนเทศนั้นโดยเร่งดว่ น ห้องสมุดมสี ิทธิทีจ่ ะ เรียกให้ผูย้ ืมคืนทรัพยากรสารสนเทศกอ่ นครบก�ำ หนดการยมื ได้ 213
๑. ประเภทของทรัพยากรสารสนเทศทไ่ี มอ่ นญุ าตให้ยมื ออก ๑.๑) หนังสืออ้างองิ ๑.๒) วารสารฉบับปจั จุบันและหนงั สือพมิ พ์ ๒. ผู้ยืมที่ไม่คืนทรัพยากรสารสนเทศตามกำ�หนดส่ง หรือทำ�ทรัพยากรสารสนเทศชำ�รุด เสียหาย หรือสูญหาย จะต้องปฏบิ ตั ิตามระเบยี บของห้องสมดุ ความรับผดิ ชอบของผู้ใชบ้ รกิ ารหอ้ งสมดุ และผยู้ มื วสั ดุสารสนเทศ ๑) ผู้ยมื ต้องดูแลรกั ษาสภาพทรัพยากรสารสนเทศใหอ้ ยูใ่ นสภาพดี สามารถใช้ประโยชน์ไดย้ าวนานคมุ้ ค่า ๒) ผ ู้ยืมต้องตรวจสภาพทรัพยากรสารสนเทศก่อนยืมออกจากห้องสมุดและจะต้องรับผิดชอบต่อการชำ�รุดเสียหาย หรอื สูญหายของทรัพยากรสารสนเทศท่ียมื ทุกกรณี ๓) ผ ู้ยืมต้องส่งคืนทรัพยากรสารสนเทศตามกำ�หนดส่งผู้ที่มีชื่อในบัญชีค้างส่งจะไม่ได้รับอนุญาตให้ยืมทรัพยากร สารสนเทศ 214
ศนู ยป์ ระสบการณว์ ิชาชพี เป็นหนว่ ยงานสงั กดั สำ�นักงานวชิ าการหลักสูตรและการสอนของโรงเรยี นสาธิตจุฬาลงกรณ์ มหาวทิ ยาลยั ฝา่ ยมธั ยม และคณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มภี ารกิจในการจัดประสบการณ์วิชาชีพครใู ห้แก่นสิ ติ หลกั สตู รครุศาสตรบัณฑติ (๕ ปี) เพ่อื เปิดโอกาสให้นิสิตคณะครศุ าสตร์ได้เรียนรทู้ ดลองใช้ความรทู้ ีศ่ ึกษามาตลอดหลกั สูตร สกู่ ารปฏิบตั จิ รงิ (Professional Practice) ในโรงเรียนเป็นเวลา ๑ ปี ตามมาตรฐานวชิ าชีพทางการศกึ ษาของครุสภา ภาระงาน ๑.) งานวชิ าการ วชิ า ๒๗๐๐๕๑๐ ปฏบิ ตั กิ ารวชิ าชพี ครู ๓ / วชิ า ๒๗๐๐๕๑๑ ปฏบิ ตั กิ ารวชิ าชพี ครู ๔ (นสิ ติ หลกั สตู รครศุ าสตร์ บณั ฑติ หลกั สตู ร ๕ ป)ี และ วชิ า ๒๗๐๐๔๐๑ ปฏบิ ตั กิ ารสอน ๔ (นสิ ติ หลกั สตู รครศุ าสตรบณั ฑติ หลกั สตู ร ๔ ป)ี ๑.๑) ประสานงานกับสถาบันศึกษา หรือหน่วยงานภายนอก เช่น มหาวิทยาลยั ท่มี นี สิ ติ /นักศึกษาคณะครุศาสตร/์ ศกึ ษาศาสตร/์ ศลิ ปศาสตร์ หรืออ่นื ๆ ทีม่ คี วามประสงค์จะส่งนสิ ิต/นักศึกษามาปฏิบตั ิการสอนในโรงเรียนสาธิตจฬุ าลงกรณ์ มหาวิทยาลัย ฝ่ายมัธยม โดยมอี าจารย์ประจ�ำ โรงเรยี นเป็นผ้ดู แู ลนสิ ติ /นกั ศึกษาร่วมกับหน่วยงานนัน้ ๆ ๑.๒) สำ�รวจความพร้อมของกลุ่มสาระการเรยี นรู้ ในการรบั นิสิตเพือ่ ปฏิบตั กิ ารสอนให้ตรงกบั สาขาวิชา ดยขอความรว่ มมือให้แตล่ ะกล่มุ สาระการเรียนรู้ จดั อาจารย์นเิ ทศกส์ ถานศึกษา และอาจารย์นิเทศก์ คณะครุศาสตร์ ดูแลนสิ ิต อย่างน้อย ๒ ทา่ น ๑.๓) ประสานงานแจ้งขอ้ มูล และข้อก�ำ หนดต่าง ๆ ให้เปน็ ไปตามนโยบายของคณะครศุ าสตร์ จฬุ าลงกรณ์ มหาวิทยาลยั และนโยบายของโรงเรียนเพื่อใหเ้ ป็นมาตรฐานเดยี วกนั ท้งั น้สี อดคลอ้ งกับมาตรฐานวิชาชีพทางการศึกษาของ คุรุสภา และเปน็ ไปตามความในพระราชบัญญัติสภาครู และบคุ ลากรทางการศึกษา พทุ ธศกั ราช ๒๕๔๖ ๑.๔) จดั พมิ พ์ หรือแจกเอกสารขอ้ มูลต่างๆ ให้แก่อาจารย์นิเทศก์ และ/หรอื นสิ ติ ทีป่ ฏบิ ตั กิ ารสอนในสถานศึกษา ๑.๕) จดั ประชุม หรือนำ�เสนอข้อมูลต่อทปี่ ระชุม ดงั นี้ ๑.๕.๑) การนำ�เสนอขอ้ มูลตา่ ง ๆ ในทีป่ ระชมุ กรรมการบริหารวิชาประสบการณว์ ชิ าชพี ครู และวชิ าปฏบิ ตั ิการ วชิ าชพี ครู ๑.๕.๒) จดั ประชมุ คณะกรรมการศูนย์ประสบการณว์ ิชาชีพ และอาจารยน์ ิเทศก์ ๑.๕.๓) จดั ประชุมหัวหน้านิสติ ผปู้ ระสานงานโดยรวม และหวั หน้านสิ ติ ของแตล่ ะวชิ าเอกสำ�หรับการดำ�เนนิ งานตา่ ง ๆ ๑.๕.๔) จดั ประชุมนิสิต และนักศึกษาท่ีปฏิบตั กิ ารสอนในสถานศกึ ษา เพอ่ื ให้คำ�ปรึกษาหรือชแ้ี จงภาระ งานในการครูนอกเหนือจากงานสอน (อยา่ งนอ้ ยเดอื นละ ๑ คร้งั ) ๑.๖) จดั อบรมและสมั มนาแลกเปลย่ี นความรกู้ บั บคุ คลทเ่ี กย่ี วขอ้ ง คอื อาจารยน์ เิ ทศก์ และนสิ ติ ฝกึ ประสบการณว์ ชิ าชพี ๑.๗) การจดั นสิ ติ ปฏิบตั ิงานอืน่ นอกเหนอื จากภาระงานสอน ได้แก่ ๑.๗.๑) การปฏิบัติงานอ่นื ตามสาขาวชิ าเอก ซึ่งมอบหมายจากกลุม่ สาระการเรียนรู้ ๑.๗.๒) ภาระงานอาจารยป์ ระจำ�ชน้ั ๑.๗.๓) งานดแู ลความเรยี บรอ้ ย และเหตกุ ารณป์ ระจ�ำ วัน (เวรประต)ู ๑.๗.๔) งานอืน่ ๆ ของโรงเรยี น เชน่ งานปฐมนิเทศนักเรียน พธิ ีไหวค้ รู งานคุยกบั ครู ๑.๘) จัดท�ำ คะแนนนสิ ิตรายวชิ า ๒๗๐๐๕๑๐ ปฏบิ ัติการวชิ าชีพครู ๓ / วิชา ๒๗๐๐๕๑๑ ปฏบิ ตั กิ ารวชิ าชพี ครู ๔ (นสิ ติ หลกั สูตรครุศาสตรบัณฑติ หลักสตู ร ๕ ปี)และ วชิ า ๒๗๐๐๔๐๑ ปฏบิ ัติการสอน ๔ (นิสติ หลักสูตรครศุ าสตรบัณฑิต หลักสูตร ๔ ป)ี และส่งผลคะแนน CR ๕๘ ใหก้ ับศนู ย์ประสบการณว์ ิชาชพี ทางการศกึ ษา คณะครุศาสตร์ 215
วชิ า ๒๗๐๐๑๐๑ ปฏบิ ัติการสอน ๑ (นิสติ หลกั สูตรครุศาสตรบณั ฑติ หลกั สตู ร ๔ ป)ี ๑) ประสานงานแจง้ ขอ้ มูลขา่ วสารต่าง ๆ กับอาจารยผ์ ้สู อนและหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกยี่ วขอ้ ง ๒) จดั ทำ�คะแนนนสิ ติ และสง่ ผลคะแนนใหก้ ับศนู ยป์ ระสบการณ์วชิ าชีพทางการศกึ ษา คณะครศุ าสตร์ ทั้งนี้ ศูนย์ประสบการณ์วิชาชีพจะจัดนิสิตช่วยงานส่วนกลางที่หน่วยงาน หรือโรงเรียนมอบหมาย และขอให้ นสิ ติ ช่วยงาน โดยจะมีการประชมุ ชแ้ี จง เพอื่ ใหน้ สิ ติ เขา้ ใจในภาระหนา้ ท่ีกอ่ นปฏบิ ตั งิ านจริง สำ�หรับการจัดการฝึกปฏิบัติการวิชาชีพครูนั้น ทางโรงเรียนได้ควบคุมคุณภาพเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดทั้งต่อนิสิต และนักเรียนไปพร้อมกัน โดยมอบหมายให้ศูนย์ประสบการณ์วิชาชีพประสานงานกับอาจารย์นิเทศก์ทุกท่าน ให้ดูแลอย่าง ใกลช้ ิดทุกขนั้ ตอน ดังน้ี ๑) การเตรียมการจัดการเรียนรู้ร่วมกับนิสติ ก่อนการสอนจรงิ การท�ำ แผนการจัดการเรยี นร้รู ะยะยาว แผนการ จดั การเรียนรูร้ ายคาบ, เอกสารประกอบการเรียนการสอน, สื่อการเรียนการสอน, การวัดและประเมนิ ผล เทคนิคการสอนท่ี หลากหลาย โดนยดึ นกั เรยี นเปน็ ส�ำ คัญเพ่อื ให้สอดคล้องกบั หลักสูตรและบรรลวุ ตั ถุประสงค์อนั เปน็ การพัฒนาคณุ ภาพและ มาตรฐานการศกึ ษาให้เป็นไปตามระบบประกนั คุณภาพการศึกษา ๒) การสงั เกตการสอนตลอดทกุ คาบเรยี น ๓) การรว่ มจัดการเรยี นรู้กบั นสิ ิตในบางคาบเรยี น ๔) แนะนำ�ข้อแก้ไขปรับปรุงหลังการสอนทุกคาบ ตรวจสอบบันทึกหลังการสอน และเป็นที่ปรึกษาให้แก่นิสิต ในการวจิ ยั ในชน้ั เรียน ๒. งานอ่ืน การให้ความร่วมมือกับคณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยในการกำ�หนดกิจกรรม/จัดทำ�คู่มือ/กำ�หนดเกณฑ์ การเข้าร่วมกิจกรรมของนิสิต และจัดทำ�หลักฐานรายงานผลการเข้าร่วมกิจกรรมในโครงการเสริมความเป็นครู ตามหลักสูตร ครุศาสตรบ์ ณั ฑิต (๕ ป)ี เพื่อพฒั นาคณุ ลกั ษณะความเปน็ ครูในดา้ นคุณธรรม ลกั ษณะนสิ ยั และบุคลกิ ภาพของนสิ ิต โรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้จัดการเรียนการสอนแก่นักเรียนที่มีความต้องการพิเศษโดยให้ความ ช่วยเหลือส่งเสริม สนับสนุน และพัฒนาผู้เรียนที่ต้องการความช่วยเหลือพิเศษ ให้ได้รับการพัฒนาการเรียนรู้ทั้งด้าน วิชาการ และสังคมอย่างมีประสิทธิภาพและเต็มศักยภาพ ด้วยรูปแบบ วิธีการ และอัตราการเรียนรู้ที่เหมาะสมกับความ สามารถบุคลิกภาพและความสนใจของผู้เรียนเป็นรายบุคคลโดยเน้นความร่วมมือระหว่างบ้าน โรงเรียน และหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ผู้เรียนสามารถช่วยเหลือตนเองในชีวิตประจำ�วันปรับตัวอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคมได้อย่างมีความสุข และ สามารถเรยี นร้ไู ดส้ งู สดุ ตาม ความสามารถ วตั ถุประสงค์ ๑) เพ่อื จัดแผนการศึกษาทเ่ี หมาะสมสำ�หรบั นักเรยี นในโครงการการศกึ ษาพเิ ศษฯ ๒) เพอ่ื พัฒนาหลักสตู รและการจัดการสอนส�ำ หรบั นักเรียนทม่ี คี วามต้องการพิเศษ ๓) เพ่ือสนับสนุนการวิจัยและพัฒนารูปแบบการเรียนรู้สำ�หรับนักเรียนที่มีความจำ�เป็นต้องพัฒนาความสามารถ ทางการเรียนรู้ดว้ ยวธิ ีการศกึ ษาพิเศษ ๔) เพื่อเปน็ หอ้ งปฏบิ ัติการด้านการศึกษาส�ำ หรบั นิสติ คณะครุศาสตร์ และสาขาวิชาอืน่ ทีเ่ กย่ี วขอ้ ง ๕) เพื่อให้บริการทางวชิ าการด้านการศกึ ษาพิเศษและการเรยี นรว่ ม 216
การด�ำ เนนิ งาน จัดการเรียนการสอนนกั เรียนตั้งแต่ ระดบั เตรียมความพร้อม ประถมศึกษา ถึงระดับมธั ยมศกึ ษา การเรยี นการสอน มี ๓ ภาคเรียน คอื ภาคตน้ ภาคปลาย และภาคฤดูรอ้ น เรียนทกุ วันจันทร์ถงึ วันศกุ ร์ การเวลาเรียน ปฏิบตั ติ ามระเบียบของโรงเรยี น โดยมีแนวทางการดำ�เนินงาน ดงั น้ี ๑) หลกั สตู ร จัดทำ�แผนการศึกษาเฉพาะบคุ คล (IEP) ตามจดุ มงุ่ หมายการเรยี นร้ขู องผู้เรยี น แบง่ สาระการเรยี นรู้ เปน็ ระดบั ตอ่ เนื่องกนั ตามความพร้อมและความสามารถ จดุ ประสงค์เพ่อื ใหผ้ เู้ รยี นสามารถนำ�ความรไู้ ปใชแ้ ละ ปรบั ตวั ในชีวิตประจำ�วันไดฝ้ ึกฝนและเตรียมความพรอ้ ม ทักษะการท�ำ งานหรืออาชพี ที่สนใจและถนดั หรือ สามารถศกึ ษาต่อในระดบั ท่สี ูงขน้ึ ๒) การจดั การเรียนการสอน ใช้วธิ ีการเรียนการสอนหลายรปู แบบท้งั ในระบบ นอกระบบ และการเรียนตาม อัธยาศัย ได้แก่ การเรยี นรว่ มกบั นกั เรียนชน้ั ปกติของโรงเรียนหนว่ ยงานภายในจฬุ าลงกรณม์ หาวทิ ยาลัยหรอื หนว่ ยงานอื่นที่เหมาะสม การจัดการเรียนการสอนเฉพาะกลุม่ การเรยี นเปน็ รายบคุ คล เปน็ ต้น ๓) การวดั ผลการเรียนและการประเมินผล แบง่ เปน็ ๒ ระบบ คอื ประเมนิ ตามเกณฑ์ปกติของโรงเรียนและประเมนิ ตามจุดประสงค์การเรยี นรู้และพัฒนาการของผ้เู รยี นตามแผนการศกึ ษาเฉพาะบคุ คล ฝา่ ยกิจการนักเรียนโรงเรยี นสาธติ จฬุ าลงกรณม์ หาวิทยาลยั ฝ่ายมัธยม มงุ่ ม่นั สง่ เสรมิ พฒั นาใหน้ กั เรียนมพี ฤติกรรม และคุณลักษณะทพี่ ึงประสงคพ์ รอ้ มท้ังมคี วามกลา้ แสดงออกซ่ึงศกั ยภาพของตนอย่างสร้างสรรคแ์ ละเป็นประโยชน์ตอ่ สงั คมเพ่ือให ้นักเรยี นสามารถปฏบิ ตั ิตนบนพนื้ ฐานแหง่ ผู้มีความรู้คคู่ ุณธรรมอย่างแทจ้ ริง วสิ ยั ทัศน์ ฝา่ ยกจิ การนกั เรียนจะเปน็ ส่วนงานท่ีมุ่งปอ้ ง กนั ดูแล แกไ้ ข ปัญหารวมท้งั สง่ เสรมิ และพฒั นาผเู้ รยี นใหม้ ีภาวะผ้นู ำ�เปน็ คนดี มีคุณธรรมจรยิ ธรรม และกา้ วไปสูค่ วามเปน็ เลศิ พนั ธกิจ ๑) จดั กจิ กรรมเพ่อื ส่งเสริมใหน้ กั เรยี นเป็นผ้มู ี ความร้คู คู่ ุณธรรม ๒) จดั ประสบการณ์เพอื่ ให้นักเรยี นไดพ้ ัฒนาความเปน็ ผนู้ �้ำ และผูต้ ามทดี่ ี ๓) ปลูกฝงั ใหน้ ักเรยี นเป็นผู้มคี วามรบั ผิดชอบท้ังตอ่ ตนเองและสังคม ๔) เปิดโอกาสใหน้ กั เรียนได้แสดงความคดิ อย่างมเี หตุผลและสร้างสรรค์ ๕) ดแู ลและควบคมุ พฤตกิ รรมของนกั เรยี นใหเ้ ปน็ ไปตามระเบยี บของโรงเรยี นตลอดจนปรบั พฤตกิ รรมทไ่ี มเ่ หมาะสม รวมทง้ั ป้องกนั ไม่ใหน้ กั เรียนมีพฤตกิ รรมทไ่ี ม่พึงประสงค์ ๖) สร้างจติ สำ�นึกใหน้ ักเรียนรักษาประเพณแี ละวัฒนธรรมอนั ดงี ามของชาติ ๗) สรา้ งเสรมิ ใหน้ กั เรียนมีคณุ ลักษณะที่เป็นจิตสาธารณะดว้ ยกิจกรรมพัฒนา ๘) รว่ มมอื กบั หนว่ ยงานทีเ่ ก่ียวข้องเพอ่ื สง่ เสริมและพฒั นางานฝา่ ยกิจการนกั เรียน แนวทางการท�ำ งาน งานกจิ การนักเรยี น - งานพฒั นาพฤตกิ รรมนกั เรยี นฝา่ ยกจิ การนกั เรยี นมงุ่ สง่ เสรมิ ใหอ้ าจารยป์ ระจ�ำ ชนั้ และอาจารยผ์ สู้ อนรว่ มกนั ดแู ล ปอ้ งกนั ควบคมุ และพฒั นาพฤตกิ รรมตา่ งๆของนกั เรยี นใหเ้ ปน็ ไปในทางทเ่ี หมาะสมตลอดจนพฒั นาคณุ ลกั ษณะ อนั พงึ ประสงคข์ องนกั เรยี นใหเ้ ปน็ ไปตามคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงคท์ ก่ี �ำ หนดโดยใชก้ จิ กรรมเปน็ สอื่ ในการพฒั นา อยา่ งสร้างสรรคภ์ ายใต้การทำ�งานร่วมกับอาจารยฝ์ ่ายกจิ การนักเรยี น - งานส�ำ นกั งานและธรุ การพฒั นาการท�ำ งานอยา่ งเปน็ ระบบโดยมเี จา้ หนา้ ทเี่ ปน็ ก�ำ ลงั ส�ำ คญั ในการขบั เคลอื่ นงาน พัฒนาพฤตกิ รรมนกั เรยี น และงานพัฒนาคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 217
บุคลากรท่ีรบั ผิดชอบ อาจารย์และบุคลากรทุกคนในโรงเรียนมีหน้าที่ดูแล ป้องกัน ควบคุม และพัฒนาพฤติกรรมต่างๆ ของนักเรียนให้ เป็นไปในทางทเ่ี หมาะสมดังน้ี - อาจารยท์ ุกคนใหค้ วามรว่ มมอื และช่วยกันอบรมบม่ นิสัยนักเรียน ท้งั ในขณะจัดการเรียนรู้หรอื ปฏิบตั ิหน้าท่ี อาจารยป์ ระจ�ำ ช้นั ซึ่งกิจกรรมการเรยี นรทู้ ี่จดั ขนึ้ นั้นก็ควรเออ้ื ให้นกั เรยี นเกิดการพฒั นาพฤตกิ รรมทีพ่ งึ ประสงค์ ไม่ควรแยกการเรยี นการสอนจากงานกจิ การนกั เรยี นโดยเดด็ ขาด - บุคลากรสายสนบั สนนุ การสอนทัง้ จาก ศูนยแ์ นะแนว หน่วยพยาบาล งานโภชนาการ งานอาคารสถานทแ่ี ละ ส่งิ แวดลอ้ ม มหี นา้ ทใ่ี ห้ความรว่ มมอื ในการทำ� กิจกรรมต่าง ๆ ของนกั เรยี นรวมทงั้ ใหข้ ้อมูลทีเ่ ป็นประโยชน์ใน การแก้ไขพฤติกรรมของนักเรยี น - คณะกรรมการฝ่ายกจิ การนกั เรียน รับผดิ ชอบโดยตรงในการพัฒนาพฤติกรรมนกั เรียนใหเ้ ป็นไปตามระเบยี บ ขอ้ บงั คบั ทก่ี �ำ หนดรวมทง้ั การประสานงานกบั หนว่ ยงานภายนอกโรงเรยี นเชน่ คณะครศุ าสตร์สมาคมผปู้ กครอง และครโู รงเรยี นสาธติ จฬุ าลงกรณม์ หาวทิ ยาลยั ศนู ยร์ กั ษาความปลอดภยั จฬุ าลงกรณม์ หาวทิ ยาลยั สถานตี �ำ รวจ และสอ่ื มวลชนใหท้ �ำ หนา้ ทช่ี ว่ ยเหลอื สอดสอ่ งพฤตกิ รรมของนกั เรยี นเพอื่ รว่ มมอื แกไ้ ขพฤตกิ รรมทไี่ มพ่ งึ ประสงค์ กิจกรรมตามหลกั สตู ร กิจกรรมตามโครงสร้างหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานโรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ฝ่ายมัธยม เป็น กิจกรรมท่ีจัดให้ผู้เรียนได้พัฒนาความสามารถของตนเองตามศักยภาพท่ีเสริมความรู้และประสบการณ์เพ่ิมเติมจากสาระการ เรียนรู้ ๘ กลุ่มสาระมุ่งเน้นการเข้าร่วมและปฏิบัติกิจกรรมที่เหมาะสมร่วมกับผู้อื่นอย่างมีความสุขกับกิจกรรมที่เลือกด้วย ตนเองตามความถนัดและความสนใจอย่างแท้จริง การพัฒนาที่สำ�คัญคือการพัฒนาองค์รวมของความเป็นมนุษย์ให้ครบทุก ดา้ นคอื ด้านร่างกาย สตปิ ัญญา อารมณ์และสงั คมให้เป็นผมู้ ศี ีลธรรม จริยธรรม มีระเบียบวนิ ยั และมคี ุณภาพ ปลกู ฝงั และ สรา้ งจิตส�ำ นึกของการทำ�ประโยชน์เพื่อสงั คมโดยก�ำ หนดให้มกี จิ กรรม ๓ ลักษณะดังน้ี ๑) กิจกรรมพัฒนาผูเ้ รียน เปน็ กิจกรรมทจ่ี ดั อยา่ งเป็นกระบวนการดว้ ยรปู แบบวธิ กี ารท่ีหลากหลาย ให้ได้รบั ประสบการณจ์ ากการปฏิบตั ิจรงิ มคี วามหมายและมคี ุณคา่ ในการพัฒนาผ้เู รยี นท้งั ด้านร่างกายจติ ใจสติปญั ญา อารมณแ์ ละสังคม มุ่งเสริมเจตคติ คุณค่าชวี ติ ปลกู ฝังคณุ ธรรมและคา่ นยิ มอันพึงประสงค์ ส่งเสรมิ ให้ผูเ้ รียนร้จู ัก เข้าใจตนเอง สร้างจิตสำ�นึกในธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ปรับตัวและปฏิบัติตนให้เป็นประโยชนต่อสังคม ประเทศชาติ และด�ำ รงชีวิตได้อย่างมคี วามสุข ๒) กจิ กรรมแนะแนว เป็นกิจกรรมท่สี ่งเสริมและพฒั นาความสามารถของผู้เรียนไดอ้ ย่างเหมาะสมตามความ แตกต่างระหวา่ งบุคคล เสรมิ สรา้ งทกั ษะชีวติ วฒุ ภิ าวะทางอารมณ์ และการสร้างสัมพนั ธภาพทด่ี ี ให้คำ�ปรกึ ษา ดา้ นชีวิต การศกึ ษาตอ่ และการพฒั นาตนเองสโู่ ลกอาชพี และการมงี านท�ำ ๓) กิจกรรมอสิ ระของผเู้ รยี น เป็นกจิ กรรมท่เี กดิ จากความสมคั รใจของผู้เรียนเปน็ กิจกรรมทีผ่ ู้เรยี นเปน็ ผูป้ ฏิบตั ิ ดว้ ยตนเองอยา่ งครบวงจร มุง่ พัฒนาคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ เป็นกจิ กรรมทีผ่ ้เู รยี นช่วยกนั คดิ ช่วยกนั ท�ำ ช่วยกนั แกป้ ัญหา สง่ เสริมศักยภาพของผ้เู รียนอยา่ งเตม็ ท่ี รวมถึงกจิ กรรมท่มี ุ่งปลกู ฝังความมรี ะเบียบ วินัย ความรบั ผิดชอบ รู้สิทธิและหนา้ ท่ีของคนเองแบ่งตามความแตกต่างระหวา่ งกิจกรรม ซ่ึงจัดในรปู แบบสภา นักเรยี น กิจกรรมชมรมและกิจกรรมของโรงเรียน ได้แกก่ ิจกรรมกฬี าสาธติ สามัคคี เป็นตน้ 218
สภานักเรียนเป็นกิจกรรมหน่ึงท่ีโรงเรียนจัดขึ้นเพื่อให้นักเรียนได้พัฒนาตนเองและคุณลักษณะอันพึงประสงค์ในด้าน ตา่ ง ๆ นอกจากความร้จู ากห้องเรยี น โดยมีวัตถุประสงค์ ดงั นี้ ๑) เพ่อื เปน็ การสง่ เสริมและฝกึ การทำ� งานร่วมกนั อยา่ งมีระบบ ๒) เพื่อเป็นการฝกึ ฝนการเป็นผนู้ �ำ และผ้ตู ามท่ดี ี ๓) เพ่ือเป็นการสรา้ งความสามคั คใี นหม่คู ณะ ๔) เพื่อเปน็ การปลูกฝงั ความเปน็ ผู้เสียสละ มีจิตสาธารณะ และความรบั ผดิ ชอบต่อตนเองและสว่ นรวม ๕) เพอ่ื เป็นผูแ้ ทนนักเรียน ในการตดิ ต่อประสานงานระหวา่ งนกั เรียน โรงเรยี นและหน่วยงานอ่นื ๆ ภายนอก โรงเรยี นตามทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย ๖) เพอ่ื เปน็ แบบอย่างทีด่ ใี หแ้ กน่ ักเรียนท่ัวไป ๗) เพื่อเปน็ การฝึกให้นักเรยี นรจู้ กั การปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริยเ์ ป็นประมขุ คณะกรรมการสภานักเรียน ประกอบดว้ ย ๑. คณะกรรมการกลาง ประกอบดว้ ยกรรมการตำ�แหนง่ ตา่ งๆ ดงั น้ี ๑.๑) กรรมการสภานักเรยี นทไี่ ด้จากการเลอื กตงั้ ไดแ้ ก่ - ประธานกรรมการสภานักเรยี น (ม.๖) - รองประธานกรรมการสภานกั เรียน ต�ำ แหนง่ ที่ ๑ (ม.๖) - รองประธานกรรมการสภานักเรียน ตำ�แหนง่ ที่ ๒ (ม.๕) ๑.๒) กรรมการสภานักเรยี นทไ่ี ดร้ บั แต่งตั้งจากประธานสภานกั เรยี น ประกอบไปดว้ ย กรรมการสภานักเรยี นชัน้ มัธยมศึกษาปีที่ ๖ , ๕ และ ๔ ในฝ่ายต่างๆ ดงั นี้ - ฝา่ ยเลขานกุ าร และผู้ช่วยเลขานุการ - ฝา่ ยเหรัญญกิ - ฝา่ ยสวัสดิการ - ฝา่ ยประชาสัมพันธ์ - ฝ่ายวิชาการ - ฝ่ายวินัย - ฝ่ายศิลปกรรม - อ่นื ๆ (ตามความเหมาะสม) ๒. กรรมการสภานกั เรียนผู้แทนห้อง ประกอบด้วยนักเรียนที่ได้รับการคัดเลือกให้เป็นผู้แทนห้องจากห้องเรียนทุกระดับชั้น ห้องละ ๑ คน (๔๒ ห้องเรียน) รวมทั้งสิ้น ๔๒ คน 219
ผู้อ�ำ นวยการและรองคณบด ี ๐-๒๒๑๘-๒๓๒๑ รองผ้อู ำ�นวยการฝ่ายบรหิ าร ๐-๒๒๑๘-๒๓๑๕ รองผู้อำ�นวยการฝา่ ยวิชาการหลกั สตู รและการสอน ๐-๒๒๑๘-๒๓๓๐ รองผูอ้ �ำ นวยการฝา่ ยกิจการนกั เรยี น ๐-๒๒๑๘-๒๓๑๙ รองผอู้ �ำ นวยการฝ่ายแผนงบประมาณและประกนั คุณภาพ ๐-๒๒๑๘-๒๓๒๕ รองผู้อำ�นวยการฝ่ายวจิ ยั และบรกิ ารวิชาการ ๐-๒๒๑๘-๓๐๗๕ รองผู้อ�ำ นวยการฝา่ ยวิรชั กิจและกิจการพิเศษ ๐-๒๒๑๘-๓๐๗๖ หน่วยประชาสัมพันธ์ ๐-๒๒๑๘-๒๓๕๘ หน่วยทะเบยี นและประเมนิ ผล ๐-๒๒๑๘-๒๓๑๒, ๓๐๘๔-๘๕ หนว่ ยอนามัย ๐-๒๒๑๘-๒๓๖๔ หน่วยการเงนิ และบญั ชี ๐-๒๒๑๘-๒๓๑๐, ๓๐๘๑-๘๓ หน่วยผลิตเอกสาร ๐-๒๒๑๘-๒๓๑๓, ๓๐๙๑-๙๒ กลมุ่ สาระการเรยี นรูภ้ าษาไทย ๐-๒๒๑๘-๒๓๐๔-๐๙, ๒๐, ๒๕๖๐-๖๒, ๒๕๖๘-๖๙ กลุม่ สาระการเรียนรภู้ าษาตา่ งประเทศ ๐-๒๒๑๘-๒๓๖๖, ๘๒, ๘๖-๙๐, ๒๔๗๐-๗๘, ๒๔๘๔-๙๐ กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ๐-๒๒๑๘-๒๓๘๓-๘๕, ๒๔๙๑-๒๕๐๔ กลุ่มสาระการเรียนร้สู งั คมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม ๐-๒๒๑๘-๒๓๗๐-๗๒, ๒๕๐๕-๑๓ หฝขขอ้อ่ามยงมาโมยูลรธัเตงลยเิดรขมตียโ่อทนรสศาพัธิตทจ์ ฬุ าฯ 220
กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลย ี ๐-๒๒๑๘-๒๓๔๘, ๗๕-๗๙, ๙๒, ๒๕๑๔-๑๙, ๒๖๖๐-๗๒ กลุม่ สาระการเรยี นรสู้ ุขศึกษา และพลศกึ ษา ๐-๒๒๑๘-๒๓๔๓-๔๔, ๒๖๗๘-๗๙, ๘๓-๘๙, ๒๘๐๐-๐๑ กลุม่ สาระการเรียนรศู้ ิลปะ ๐-๒๒๑๘-๒๓๕๙, ๒๓๙๓-๙๖, ๒๖๗๓-๗๗ กล่มุ สาระการเรยี นรู้งานอาชพี ๐-๒๒๑๘-๒๓๕๐-๕๕, ๒๘๐๒-๐๓ ศูนยแ์ นะแนว ๐-๒๒๑๘-๒๘๐๗ ศูนยค์ อมพิวเตอร ์ ๐-๒๒๑๘-๒๓๔๕, ๒๓๔๙ ศนู ยป์ ระสบการณว์ ิชาชีพ ๐-๒๒๑๘-๒๓๐๗๘ ห้องสมดุ และหอ้ งไอท ี ๐-๒๒๑๘-๒๓๐๒, ๙๗ ป้อมยามประตู ๑ ๐-๒๒๑๘-๒๓๗๔ ป้อมยามประตู ๓ ๐-๒๒๑๘-๒๓๐๓ โทรสาร ๐-๒๒๑๘-๒๓๕๘ โรงเรียนสาธติ จุฬาลงกรณม์ หาวทิ ยาลัย ฝ่ายมธั ยม เลขที่ ๒๕๔ ซอยจฬุ าฯ ๑๑ ถนนพญาไท แขวงวังใหม่ เขตปทมุ วัน กรงุ เทพฯ ๑๐๓๓๐ โทรศัพท ์ ๐-๒๒๑๘-๒๓๑๔ โทรสาร ๐-๒๒๑๘-๒๓๕๘ http://www.satitm.chula.ac.th ขขฝหอ้อ่ามยมงาโมยูลรัธเตงลยเิดรขมตียโ่อทนรสศาัพธิตทจ์ ฬุ าฯ 221
222
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222