วาระ 108 ปี ชาตกาล อาจารย์สิทธิผล พลาชีวนิ พ.ศ. 2456 - 2564 ครูใหญ่ในดวงใจทลี่ กู ศิษย์ให้ความเคารพนับถือดุจบิดาของเหล่าช่างกลท้งั 4 เฟื องทอง โรงเรียนช่างกลปทมุ วนั โรงเรียนช่างกลลพบุรี โรงเรียนช่างกลพระนครเหนือ โรงเรียนช่างกลนนทบุรี
หนังสือช่างกลอนุสรณ์ ปี 2501 เป็ นหนังสืออนุสรณ์ทอ่ี อกรวมท้งั 4 เฟื องทองเล่มแรก
คาํ นาํ อาจารยส์ ิทธิผล พลาชีวนิ ชื่อน้ีผมไดย้ นิ มาต้งั แตส่ มยั เรียน (ปี พ.ศ. 2522 – 2525) ไดย้ นิ อาจารยท์ ี่ ทา่ นเคยเป็นลูกศิษยท์ า่ นกล่าวยกยอ่ งท่านแต่กไ็ มร่ ู้ในรายละเอียดวา่ ทาํ ไมทา่ นจึงยง่ิ ใหญ่เป็นที่รักและเคารพ ของลูกศิษย์ วนั ท่ี 6 ธนั วาคม พ.ศ. 2523 ตอนน้นั ผมเรียน ปวช. 2 อาจารย์วเิ วก ปางพุฒิพงศ์ อธิบดีกรม อาชีวศึกษาเป็นประธานเปิ ดใชอ้ าคารสิทธิผล เป็นตึกเรียนของแผนกอิเล็กทรอนิกส์ ทาํ ใหผ้ มมีความสนใจท่ี จะรู้เร่ืองราวของทา่ นมาก แตด่ ว้ ยขอ้ จาํ กดั ในการสืบคน้ ขอ้ มูลในสมยั น้นั จึงรู้เพยี งทา่ นเป็น ครูใหญช่ ่างกล ปทุมวนั ในช่วง 2497 – 2503 และทา่ นยงั เป็นครูใหญ่โรงเรียนช่างกลลพบุรี , โรงเรียนช่างกลนนทบุรี และ โรงเรียนช่างกลพระนครเหนือ ในช่วงปี พ.ศ. 2501 – 2503 จนกระทงั่ ปี 2551 ผมไดพ้ บกบั พีเ่ ทพดนยั (ตอ้ ย) พลาชีวนิ ช.ก. 34 บุตรชายคนโตของทา่ น ก็ไดค้ ุยกบั พ่ีตอ้ ยและไดเ้ อกสารประวตั ิ เม่ือมาอา่ นจึงไดร้ ู้ถึงคุณ งามความดีของท่าน ผมจึงไดเ้ รียบเรียงประวตั ิของท่านข้ึนในปี 2552 ที่พีน่ อ้ งไดพ้ บเห็นในอินเตอร์เน็ท ท่ี ถูกแชร์กนั ต่อ ๆ ไป แตก่ ย็ งั นาํ เสนอคุณงามความดีของท่านไดน้ อ้ ยมาก วนั ท่ี 13 กรกฏาคม 2560 ผมได้รับ เกียรติจากพ่ีเทพดนยั พลาชีวนิ ใหช้ ่วยเรียบเรียงเรื่องราวประวตั ิของอาจารยส์ ิทธิผล เพอื่ จดั พมิ พเ์ ป็นหนงั สือ ชีวประวตั ิอาจารย์ ในวาระ 105 ปี ชาตะกาล อาจารยส์ ิทธิผล พลาชีวนิ ผมมีความภาคภูมิใจมากท่ีไดร้ ับความ ไวว้ างใจ จึงทาํ การสืบคน้ ขอ้ มูลประวตั ิ คาํ สอน ทุกแง่มุมของทา่ นอาจารย์ จากการพดู คุยสมั ภาษณ์ ครู อาจารยพ์ ่ี ๆ นกั เรียนช่างกลปทุมวนั ในสมยั น้นั มาเรียบเรียงใหม่ ยงิ่ ทาํ ใหร้ ู้สึกซึมทราบและทราบซ่ึงในการ ทุม่ เท กาํ ลงั ใจ กาํ ลงั กาย และกาํ ลงั ทรัพยข์ องทา่ นตอ่ ลูกศิษยแ์ ละโรงเรียนช่างกล ทาํ ใหเ้ กิดความเคารพความ ศรัทธาต่ออาจารยส์ ิทธิผล พลาชีวนิ อยา่ งมากมาย แมไ้ ม่เคยไดเ้ ป็นลูกศิษยท์ า่ นโดยตรง หากมีขอ้ ผดิ พลาด ประการใด ผมขอรับผดิ ชอบแต่เพียงผเู้ ดียว แต่ถา้ มีความดีใด ๆ ก็ขออุทิศเป็นกุศลแด่อาจารยส์ ิทธิผล พลา ชีวนิ ดว้ ยครับ ดว้ ยจิตคารวะและเทิดทลู อาจารยอ์ ยา่ งสูง นายประเสริฐ แซ่อ๊ึง เลขประจาํ ตวั 15697 ศิษยเ์ ก่าวทิ ยาลยั ช่างกลปทุมวนั รุ่น 50 แผนกช่างวทิ ยแุ ละโทรคมนาคม
พฤษภกาสร อีกกุญชรอนั ปลดปลง โททนตเ์ สน่งคง สาํ คญั หมายในกายมี นรชาติวางวาย มลายสิ้นท้งั อินทรี สถิตทวั่ แตช่ วั่ ดี ประดบั ไวใ้ นโลกา
สารบัญ 1 11 ประวตั ิอาจารยส์ ิทธิผล พลาชีวนิ 35 เบา้ หลอมเฟื องทอง ครูผเู้ กิดมาเพ่ือช่างกล 83 อาจารยใ์ หญ่ช่างกล 4 เฟื องทอง 89 ผจญวบิ าทกรรม 121 การสูญเสีย 131 การสอนของอาจารยส์ ิทธิผล พลาชีวนิ 150 คาํ สอนอาจารยส์ ิทธิผล จดหมายนอ้ ยแสดงความในใจจากลูกศิษย์
อาจารย์สิทธิผล พลาชีวนิ ประวตั ิอาจารย์สิทธิผล พลาชีวนิ อาจารยส์ ิทธิผล พลาชีวนิ ครูใหญใ่ นดวงใจที่ลูกศิษยใ์ หค้ วามเคารพนบั ถือท่านดุจบิดาของเหล่าช่าง กล 4 เฟื องทอง จึงพร้อมใจกนั เรียกท่านวา่ ป๋ า เพราะการที่ทา่ นปกครองลูกศิษยแ์ บบพอ่ กบั ลูก ท้งั ดว้ ยพระ เดชและพระคุณ ดุ เด็ดขาด แต่เป่ี ยมลน้ ดว้ ยเมตตาและความยตุ ิธรรม ท่านยงั ไดส้ ร้างวฒั นธรรมองคก์ รใหก้ บั นกั เรียนช่างกลปทุมวนั “ตอ้ งรักกนั ดุจพน่ี อ้ งร่วมอุทรของมารดาเดียวกนั ” เป็นสุภาพบุรุษ มุง่ มน่ั ในการเรียน รุ่นนอ้ งตอ้ งเคารพรุ่นพ่ี รุ่นพ่ีตอ้ งดูแลรุ่นนอ้ ง ดงั เฟื องพเ่ี ฟื องนอ้ งท่ีเสาประตโู รงเรียน “พวกเราช่างกลปทุม วนั จะตอ้ งรักกนั เหมือนเฟื องท่ีขบกนั หนา้ โรงเรียน เฟื องอนั ใหญ่คือรุ่นพ่ี ที่ตอ้ งช่วยประคบั ประคองเฟื องอนั เลก็ ที่เหมือนรุ่นนอ้ ง ”
ในขณะที่ท่านดาํ รงตาํ แหน่งอาจารยใ์ หญ่ โรงเรียนช่างกล 4 แห่งแรกของประเทศไทย (พ.ศ. 2501 – 2503) ที่รู้จกั กนั ดีในนาม ช่างกล 4 เฟื องทอง (โรงเรียนช่างกลปทุมวนั (ช.ก. ปัจจุบนั คือสถาบนั เทคโนโลยี ปทุมวนั ) , และอีก 3 โรงเรียนท่ีทา่ นสร้างกบั มือ คือ โรงเรียนช่างกลลพบุรี (ช.ก.ล. ปัจจุบนั คือ วทิ ยาลยั เทคนิคลพบุรีและสถาบนั การอาชีวศึกษาภาคกลาง 2) , โรงเรียนช่างกลนนทบุรี (ช.ก.น. ปัจจุบนั คือ มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลสุวรรณภูมิ วทิ ยาเขตนนทบุรี)และ โรงเรียนช่างกลพระนครเหนือ (ช.ก.พ. ปัจจุบนั คือมหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลพระนคร วทิ ยาเขตพระนครเหนือ)) ท่านไดส้ งั่ สอนและปลูกฝัง ใหน้ กั เรียนท้งั 4 โรงเรียน มีความสามคั คีรักใคร่กลมเกลียวกนั ฉนั ทพ์ นี่ อ้ งร่วมโรงเรียนเดียวกนั ใหค้ วาม ช่วยเหลือเก้ือกลู กนั ทุกเม่ือในยามทุกขเ์ ขญ็ ไมว่ า่ จะรู้จกั หรือไม่รู้จกั เป็นการส่วนตวั กต็ าม ถา้ รู้วา่ เป็นพี่นอ้ ง 4 เฟื องทอง ตอ้ งเขา้ ช่วยเหลือกนั ทนั ที แมเ้ รื่องการทาํ งานรุ่นพท่ี ่ีจบไปก่อน ถา้ มีรุ่นนอ้ งไปหา จะตอ้ งใหก้ าร ตอ้ นรับและช่วยเหลือเป็นอยา่ งดี ซ่ึงเหล่าลูกป๋ ายดึ มน่ั และถือปฏิบตั ิมาตราบจนถึงปัจจุบนั ถา้ ลูกศิษยม์ าขอใหช้ ่วยเหลือทา่ นจะไม่ถามเหตุผลจะช่วยเหลือก่อน แลว้ คอ่ ยคุยรายละเอียด ถา้ ลูก ศิษยท์ าํ ผดิ ก็จะถูกลงโทษตามโทษานุโทษ (โทษหนกั – โทษเบา) ไมใ่ ช่เฉพาะลูกศิษย์ แตบ่ างคร้ังยงั รวมไป ถึงพี่นอ้ งและครอบครัวของลูกศิษย์ 2
ท่านกล่าววา่ เดก็ ช่างกลอาจซุกซนเกินไปบา้ ง แต่เราตอ้ งจบั ใหไ้ ดไ้ ล่ใหท้ นั แลว้ แนะทางเดินใหมใ่ ห้ เขา พยายามส่งเสริมทุกวถิ ีทางท่ีจะทาํ ไดใ้ หล้ ูกศิษยถ์ ึง จุดหมายแห่งความสาํ เร็จ ถึงแมบ้ างคนจะเรียนอ่อน แสนออ่ น เกแสนเก แตท่ า่ นมีทศั นคติวา่ เดก็ ทุกคนยอ่ ม มีดีในตวั เอง ทา่ นก็จะพยายามใหล้ ูกศิษยค์ น้ ใหพ้ บและ เอาดีของตนออกมาใชใ้ นทางที่ถูกท่ีควร อยา่ งมี ประโยชน์จะไดป้ ระสพความสาํ เร็จในชีวติ เพราะท่าน ถือคติ “การเป็นครูจะตอ้ ง ทาํ ใหเ้ ดก็ ท่ีเกเร เดก็ เหลือขอ เด็กที่คนอ่ืนวา่ ไม่ดีท้งั หลาย เดก็ ที่ไมม่ ีจุดมุ่งหมายใน ชีวติ ที่แน่นอน ใหม้ ีจุดหมายและตอ้ งนาํ พาลูกศิษย์ เหล่าน้นั ไปสู่ความสาํ เร็จแห่งชีวติ ” และการเป็นครูใหเ้ ดก็ ไวใ้ จ ตอ้ งใหใ้ จเราแก่เด็กเสียก่อน เพราะเดก็ เกเร ตอ้ งไดร้ ับการดูแลเอาใจใส่เป็นพเิ ศษกวา่ เดก็ ปกติ และท่านกส็ ามารถป้ันเดก็ ช่างกลใหไ้ ดด้ งั อุดมคติของทา่ น เป็นส่วนใหญ่ ในยคุ ที่ทา่ นเป็นอาจารยใ์ หญจ่ ะเห็นวา่ ผลการเรียนและประวตั ิของนกั เรียนส่วนใหญท่ ่ีเขา้ มา เรียนช่างกล เป็นเด็กเรียนอ่อน (เพราะเดก็ ท่ีเรียนดีมกั จะเรียนตอ่ มธั ยมปลายแลว้ เขา้ เรียนมหาวทิ ยาลยั ) แลว้ ยงั มกั เป็นเด็กแก่น ๆ หวั โจก มาจากทวั่ ประเทศ หรือพดู ง่าย ๆ วา่ “รวมเซียนท้งั ประเทศไทยน้นั เอง” คิดดู เถอะเด็กพวกน้ีจะปกครองยากเพยี งใด แตไ่ ม่ใช่เรื่องยากของอาจารยส์ ิทธิผลเลย ท่านสามารถนาํ เดก็ พวกน้ี เขา้ เตาหลอมเสียใหม่ ออกมาเป็นนายช่างที่มีประสิทธิภาพ ใจนกั เลง เป็นสุภาพบุรุษช่างกล ที่ไปไหนมา ไหนก็เป็นที่รักใคร่ และตอ้ งการของตลาดแรงงานและสังคม อาจารย์สิทธิผล (ต๋อย) พลาชีวนิ เดิมชื่อ ผล อ่อนแร่ เป็นบุตรนายร่น และนางสมบุญ อ่อนแร่ เกิด เมื่อวนั องั คารที่ 11 ตุลาคม 2456 ณ. ตาํ บลคลองรังสิต อาํ เภอคลองหลวง เมืองธญั ญบรู ี (สมยั น้นั สะกด ธญั ญบรู ี ตอ่ มาถูกยบุ มาควบรวมเป็นอาํ เภอหน่ึงของจงั หวดั ปทุมธานีในปี พ.ศ. 2474) อาจารยส์ ิทธิผล พลาชีวนิ นิสัยส่วนตวั ทา่ นเป็นคนใจนกั เลง สุภาพออ่ นนอ้ ม ถ่อมตน พร้อมใหก้ าร ช่วยเหลือทุกเรื่องท่ีถูกร้องขอโดยไมม่ ีเง่ือนไขใด ๆ มีน้าํ ใจกวา้ งขวาง กลา้ ได้ กลา้ เสีย และมีอารมณ์ขนั ทาํ ใหท้ ่านเป็นที่รักของผบู้ งั คบั บญั ชา , ผใู้ ตบ้ งั คบั บญั ชาและทุก ๆ คนที่รู้จกั ทา่ น ท่านจึงกวา้ งขวางในวงสังคม ทุกระดบั ช้นั 3
อาจารยส์ ิทธิผล พลาชีวนิ กบั คุณแมม่ าลยั (เปรุนาวนิ ) พลาชีวนิ คูช่ ีวติ ชีวติ ครอบครัว ทา่ นไดอ้ ุปสมบท ณ วดั สาํ แล ตาํ บล บา้ นกระแชง อาํ เภอเมืองปทุมธานี จงั หวดั ปทุมธานี เมื่อวนั ที่ 13 กรกฎาคม 2478 สมรสกบั นางสาวมาลยั เปรุนาวนิ เมื่อวนั ที่ 30 ธนั วาคม 2478 มีบุตร - ธิดา รวม 10 คน 1. นาง อรพนิ ท์ โชติกวนิชย์ (ถึงแก่กรรม) 2. เด็กหญิงแป๋ ว พลาชีวนิ (ถึงแก่กรรม) 3. นางสาวเบญจมาภรณ์ พลาชีวนิ 4. นายเทพดนยั พลาชีวนิ ช.ก. 34 5. นายนภดล พลาชีวนิ ช.ก. 35 6. พนั ตรีวทุ ธิชยั พลาชีวนิ ช.ก.น. 8 7. พนั ตรีอุไรรัตน์ สนั ประเสริฐ ช.ก. 37 8. นายกงั วาฬ พลาชีวนิ ช.ก. 39 9. นางสาวกนั ยารัตน์ พลาชีวนิ 10. นางกอบกลุ เลาหิตกุล 4
การศึกษา พ.ศ. 2463 - 2467 เรียนช้นั ประถมที่ โรงเรียนประจาํ เมืองธญั ญบรู ี (คือโรงเรียนธญั ญสิทธิศิลป์ ตาํ บลรังสิต อาํ เภอธญั บุรี จงั หวดั ปทุมธานี ในปัจจุบนั ) พ.ศ. 2468 - 2471 เรียนช้นั มธั ยมท่ีโรงเรียนสวนกหุ ลาบวทิ ยาลยั ช่วงน้ีทา่ นไดไ้ ปสักยนั ตเ์ กา้ ยอด (เนาวหรคุณ) กบั หลวงพอ่ หรุ่น ( ขนุ กาวจิ ล (หรุ่น) ใจภารา) วดั อมั พวนั (วดั โบสถส์ ามเสน) ท่ีปัจจุบนั อยทู่ ี่ แขวงนครไชยศรี เขตดุสิต กทม ตามความนิยมของวยั รุ่นในสมยั น้นั ท่ีตอ้ งแสวงหาของดีใส่ตวั บา้ ง ทา่ นเป็น เกา้ ยอดบางลาํ พู ยนั ตเ์ กา้ ยอด (หรือเรียกอีกอยา่ งวา่ เนาวหรคุณ) แปลวา่ พระพทุ ธคุณท้งั 9 ถอดมาจากบทอิติปิ โส ซ่ึง หมายถึงคุณวเิ ศษของพระพุทธเจา้ ท้งั 9 ประการ โดยสกั เป็นยอดแหลม 9 ยอด ที่ทา้ ยทอย เป็นยนั ตค์ รูที่มี พุทธคุณ เมตตามหานิยม แคลว้ คลาดอนั ตรายและศตั รู ป้ องกนั สตราวธุ จึงเป็นท่ีนิยม หลวงพอ่ หรุ่น (ขนุ กาวจิ ล (หรุ่น) ใจภารา) วดั อมั พวนั (วดั โบสถส์ ามเสน) 5
ยนั ตเ์ กา้ ยอด พ.ศ. 2472 - 2473 เรียนโรงเรียนฝึกหดั ครูบวรนิเวศ (ปัจจุบนั ยบุ เลิกไปแลว้ เหลือแต่โรงเรียนวดั บวร นิเวศ) 6
ตึกมนุษยนาควทิ ยาทาน สมยั น้นั เป็นที่ต้งั ของ 2 โรงเรียนคือ โรงเรียนวดั บวรนิเวศ และโรงเรียน ฝึกหดั ครูวดั บวรนิเวศ) พ.ศ. 2475 - 2476 เรียนโรงเรียนพลศึกษากลาง (เดิมต้งั อยใู่ น สนามกีฬาแห่งชาติ (ศุภชลาศยั ) ถนน พระรามที่ 1 แขวงวงั ใหม่ เขตปทุมวนั กรุงเทพมหานคร ตอ่ มาคือวทิ ยาลยั วชิ าการศึกษาพลศึกษา ปัจจุบนั คือ สถาบนั การพลศึกษา กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ยา้ ยไปอยตู่ าํ บลบึงน้าํ รักษ์ อาํ เภอธญั บุรี จงั หวดั ปทุมธานี ) พ.ศ. 2480 เรียนภาษาญ่ีป่ ุนท่ีโรงเรียนบางกอกกุโงะ๊ งกั โก๊ะ สอบไล่ภาษีญี่ป่ ุนไดท้ ี่ 1 จึงไดท้ ุนของ สมาคมญ่ีป่ ุน – ไทย ไปศึกษาวฒั นธรรมและศิลปการตอ่ สู้ยโู ด ณ โกโดกวนั แห่งโตเกียว สอบได้ เขม็ ขดั ดาํ ช้นั 1 (โชดนั ) พ.ศ. 2483 เรียนโรงเรียนการบญั ชีของสมาคม Y. M. C. A. กรุงเทพฯ บทบาทด้านกฬี ายูโดทท่ี ่านรัก อาจารยส์ ิทธิผล พลาชีวนิ ทา่ นเป็นผชู้ ื่นชอบฝึกฝนเอา จริงเอาจงั กบั กีฬายโู ด จนเป็นท่ีรู้จกั และมีบทบาทมากในวงการ กีฬายโู ด พ.ศ. 2468 อาจารยส์ ิทธิผล พลาชีวนิ ไดเ้ ร่ิมฝึกยโู ดกบั อาจารยช์ ุณห์ อรุณโรจน์ ผเู้ ช่ียวชาญพลศึกษาจากกรมพลศึกษา ขณะท่ีท่านเรียนที่โรงเรียนสวนกหุ ลาบวทิ ยาลยั 7
พ.ศ. 2475 เพราะช่ืนชอบในวชิ ายโู ด อาจารยส์ ิทธิผล จึงไดไ้ ปสมคั รเรียนโรงเรียนพลศึกษากลาง ไดร้ ับการฝึกอบรมยโู ดโดยใกลช้ ิดจากอาจารยท์ ิม อติเปรมานนท์ ธนั วาคม 2476 ในงานฉลองรัฐธรรมนูญ รัฐบาลไดจ้ ดั ใหม้ ีการแข่งขนั ยโู ดคร้ังแรก การแข่งขนั ยโู ด ระหวา่ งนกั เรียนเก่าโรงเรียนสวนกหุ ลาบวทิ ยาลยั ฉลอง วาระครบรอบ 50 ปี โรงเรียน มีผเู้ ขา้ ร่วมแข่งขนั ประมาณ 40 คน ในวนั สุดทา้ ยเป็นการชิงชนะเลิศระหวา่ งอาจารยส์ ิทธิผล พลาชีวนิ กบั นายดาบเชย มีศรีสม ผลการแข่งขนั อาจารยส์ ิทธิผล ชนะเลิศเป็นแชมป์ เป้ี ยนเหรียญทองยโู ดคนแรกแห่งประเทศไทย สายดาํ เกียรตินิยมช้นั 2 3 พฤศจิกายน 2477 สถานเอกอคั รราชทูตญี่ป่ ุน ประจาํ ประเทศไทย จดั ใหม้ ีงานที่ระลึกวนั ประสูติของจกั รพรรดิโชวะ (ฮิโระฮิโตะ) ณ สโมสรญ่ีป่ ุน ในงานน้ีมีการจดั การแข่งขนั ยโู ดที่ เป็นศิลปะประจาํ ชาติของชนชาติญ่ีป่ ุน โดยเชิญกรมพละให้ จดั ส่งนกั กีฬาไทยมาร่วมแข่งขนั กบั นกั ยโู ดที่มีช่ือเสียงของญ่ีป่ ุน ชื่อวาตานาเบ เขม็ ขดั ดาํ ช้นั 4 ซ่ึงเป็นระดบั ความสามารถของนกั ยโู ดช้นั สูงสุดของคนญี่ป่ ุนในประเทศไทยสมยั น้นั อาจารยท์ ิม อติเปรมานนท์ อาจารยโ์ รงเรียนพลศึกษากลาง กรมพละไดจ้ ดั ส่ง นกั ยโู ดไทยช้นั เอกจาํ นวน 10 คน เขา้ ร่วมแข่งขนั ทางญ่ีป่ ุน กาํ หนดกติกาใหน้ กั ยโู ดไทย เขา้ แข่งขนั ท่ีละคน กับนายวา ตานาเบคนเดียว ถา้ ใครถูกทุม่ ลงไปลม้ ถึงพ้ืนหรือถูกจบั มดั จบั ร้ังใหอ้ ยู่กบั ท่ีภายใน 30 วนิ าที ถือวา่ เป็นผแู้ พ้ อาจารยส์ ิทธิ ผล พลาชีวนิ เป็นผแู้ ขง่ ขนั คนที่ 10 ในวนั น้นั มีแขกผมู้ ีเกียรติ ท้งั ชาวญี่ปุน ไทย และชาวต่างชาติที่อาศยั อยใู่ นเมืองไทยเขา้ ชม การแขง่ ขนั เป็นจาํ นวนมาก นกั ยโู ดไทย 9 คนแรกตอ่ สู้ดว้ ย ความสามารถ แต่ก็ถูกนายวาตานาเบทุม่ ดว้ ยท่างอเขา่ งดั พา่ ย แพไ้ ปในเวลาไม่ถึง 1 นาที ระหวา่ งน้นั อาจารยส์ ิทธิผลสงั เกต วธิ ีต่อสู้ของนายวาตานาเบ เพ่อื คิดหาวธิ ีแกท้ า่ ทุ่มงอเข่างดั พอ ข้ึนแขง่ ขนั นายวาตานาเบจะจบั อาจารยส์ ิทธิผลทุม่ ดว้ ยท่าที่ ถนดั อาจารยส์ ิทธิผล แกโ้ ดยโถมกอดตวั ในนายวาตานาเบไว้ 8
แน่น ทาํ ใหน้ ายวาตานาเบเสียหลกั ลม้ ลงกบั เบาะโดยแรง จึงถูกน้าํ หนกั ตวั อาจารยก์ ระแทกตามลงไปดว้ ย แต่ นายวาตานาเบก็ยงั ไมส่ ิ้นฤทธ์ิจบั ร้ังอาจารยด์ ว้ ยท่ากากบาดขวางลาํ ตวั ไว้ กรรมการนบั ไดถ้ ึง 13 แต่อาจารย์ สิทธิผล สามารถแกไ้ ขจนหลุดไดด้ ว้ ยศิลปะช้นั เชิงมวยไทย ต่างฝ่ ายลุกข้ึนยนื เตรียมตอ่ เขา้ ตอ่ สู้ใหม่ นายวา ตานาเบเห็นวา่ ช้นั เชิงตนเหนือกวา่ จึงมิไดร้ ะวงั ตวั กว็ ง่ิ เขา้ หา อาจารยส์ ิทธิผล ที่ต้งั หลกั อยแู่ ลว้ จึงพลิกกลบั หลงั หนั ใหน้ ายวาตานาเบพร้อมจบั คอเส้ือทุ่ม บวกดว้ ยแรงส่งจากการวง่ิ เขา้ มาของนายวาตานาเบ ส่งตวั นาย วาตานาเบลอยขา้ มไหล่อาจารยส์ ิทธิผล ไปตกลงพ้นื เบาะ ทา่ นจึงเป็นผชู้ นะเลิศการแขง่ ขนั ยโู ด ทา่ นยาสุคิชิ ยาตะเบะอคั รราชทูตญี่ป่ ุนประจาํ ประเทศไทยในตอนน้นั มอบธงชยั ใหแ้ ก่ทีมนกั ยโู ดไทย อนั เป็น เคร่ืองหมายแสดงผลของชยั ชนะในคร้ังน้นั แต่อาจารยส์ ิทธิผล ท่านเล่าใหล้ ูกศิษยฟ์ ังวา่ นกั ยโู ด ญ่ีป่ ุนคนน้ีฝีมือฉกาจนกั เหตุที่พลาดท่าใหท้ ่านเพราะมนั จกั กระจ้ี ขณะท่ีมนั ลอ็ กคอทา่ นไดแ้ ต่บงั เอิญคางท่านไปอยทู่ ่ีพุง ของมนั มนั เกิด จกั กระจ้ี จึงยนื หวั เราะ ท่านเลยไดโ้ อกาส จบั ล็อกและทุ่มนกั ยโู ด ญ่ีป่ ุนคนน้นั จึงแพ้ (คงเล่าแบบ ถ่อม ตนและใหล้ ูกศิษยข์ าํ ขนั กนั มิฉะน้นั คงไมไ่ ดส้ ายดาํ จาก ญ่ีป่ ุนกลบั มา) พ.ศ. 2482 ทา่ น เร่ิม นาํ วชิ า ยโู ดมาสอนใน ชว่ั โมง พละศึกษาของ โรงเรียนช่างกลปทุมวนั นอกจากจะให้ นกั เรียนช่างกลรู้จกั ศิลป์ ป้ องกนั ตวั แลว้ ยงั เป็นวชิ าท่ีอบรม จิตใจใหม้ นั่ คง เขม้ แขง็ รักหม่คู ณะ รู้จกั แพ้ รู้จกั ชนะ รู้จกั ให้ อภยั มีน้าํ ใจนกั กีฬาอยา่ งแทจ้ ริง ทาํ ใหน้ กั ยโู ดจากโรงเรียน ช่างกลปทุมวนั เป็นท่ีน่าหนกั ใจของนกั ยโู ดจากโรงเรียนต่าง ๆ เพราะเป็นนกั ยโู ดท่ีแขง็ แกร่งและควา้ ชยั ชนะคะแนนรวมไวเ้ กือบทุกปี ในสมยั ท่ีมีจดั การแข่งขนั กีฬายโู ดนกั เรียน อีกเหตุผลหน่ึงที่ทา่ นใหน้ กั เรียน ช่างกลปทุมวนั ฝึกยโู ด เพราะเด็กช่างกลทาํ งานในท่ีแคบ การต่อสู้ป้ องกนั ตวั ท่ีดีที่สุดคือ ยโู ด 1 พฤศจิกายน 2482 เป็นคณะกรรมการผรู้ ่วมปรับปรุงกติกายโู ด (ยโู ดมีช่ือเตม็ วา่ โคโดกงั ยโู ด เดิม เรียกวา่ ยยู สิ สู) ข้ึนใหม่ พ.ศ. 2498 ทา่ นไดร้ ่วมกบั พล.ต.ท.พชิ ยั กุลละวาณิชย์ และพล.ต.ต.มงคล จีรเศรษฐ ก่อต้งั สมาคม ยโู ดแห่งประเทศไทยข้ึน และจดทะเบียนอยา่ งถูกตอ้ ง เม่ือวนั ที่ 24 พฤศจิกายน 2498 โดย ต้งั สาํ นกั งาน ชวั่ คราวท่ีหอประชุมปราโมทย์ (ปัจจุบนั คืออาคารเฉลิมพระเกียรติ บริเวณดา้ นหลงั ) โรงเรียนช่างกลปทุมวนั และก่อต้งั สโมสรยโู ดช่างกลปทุมวนั ที่เปิ ดสอนและเป็นสถานที่ฝึกฝนวชิ ายโู ดของท้งั นกั เรียนช่างกลปทุม วนั และประชาชนทว่ั ไปที่สนใจ ซ่ึงเป็นสโมสรยโู ดท่ีมีชื่อเสียงมีผสู้ นใจมาฝึกหดั เป็นจาํ นวนมาก 30 มิถุนายน 2499 เป็นกรรมการจดั การแข่งขนั ยโู ดของสหพนั ธ์ยโู ดระหวา่ งชาติข้ึนเป็นคร้ังแรก 9
มีเพลงเชียร์ยโู ดของนกั เรียนช่างกล ที่ร้องกนั แลว้ ทาํ ใหเ้ กิดอารมณ์ คึกคกั ซ่ึงน่าจะแต่งโดยอาจารย์ สิทธิผล พลาชีวนิ ใชท้ าํ นองเพลงกราวกีฬา เน้ือเพลงดงั น้ี เพลงเชียร์ยโู ดช่างกลปทุมวนั (ทาํ นองเพลงกราวกีฬา) ช่างกลพวกเราใจหา้ วหาญ เชียวชาญองอาจไม่หวาดไหว ข้ึนช่ือลือชามาแตไ่ ร กเู้ กียรติเราไวเ้ หล่าช่างกล (สร้อย) ฮึม ฮึม ฮึม ฮึม ฮึมยโู ด ๆ คาโน เร่ิมคิด เป็นแนวประดิษฐฝ์ ึกใจใหอ้ ดทน เรานกั เรียนช่างกล เล่นยโู ดทุกคนตะลาลา้ ฝีไมล้ ายมือเลืองลือเหลือ ถึงปะเสือกจ็ ะสู้ดูสกั หน เกิดมาเป็นคนตอ้ งสู้คน เราช่างกลไม่ยน่ ระยอ่ ใคร (สร้อย) แคล่วคล่องวอ่ งไวเหมือนกงจกั ร รู้หลกั ชาํ นาญเช่ียวชาญหลาย ช่างกลคราวสู้ ๆ ไวล้ าย เช่นชายชาตรีมีฝีมือ (สร้อย) ถึงตวั นอ้ ยนิดมีพษิ นกั ใครหาญหกั มาสู้ไม่รู้หรือ ช่างกลก่อนเก่าเขาเล่าลือ ฝีมือเชิงเล่นเช่นอาจารย์ (สร้อย) เพลงกราวกีฬา ( https://www.youtube.com/watch?v=FLZQdgl5190 ) 22 ตุลาคม พ.ศ. 2499 อาจารยส์ ิทธิผลพลาชีวนิ อาจารยใ์ หญโ่ รงเรียนช่างกลปทุมวนั ไดรั ับเชิญเขา้ ร่วมงานพระราชพธิ ีทรงผนวชพระบาทสมเด็จพระเจา้ อยหู่ วั ภมู ิพลอดุลยเดช ณ วดั บวรนิเวศวหิ าร 10
บทบาทเบ้าหลอมเฟื องทอง ครูผู้เกดิ มาเพอ่ื ช่างกล 25 พฤษภาคม 2474 เขา้ รับราชการในกระทรวงศึกษาธิการ บรรจุเป็นครูโรงเรียนวดั มหาธาตุ 18 สิงหาคม 2477 ยา้ ยมาเป็นครูโรงเรียนมธั ยมวดั โสมนสั 11 กรกฎาคม 2480 ยา้ ยมาเป็นครูโรงเรียนเกษตรกรรม บางกอกนอ้ ย อาํ เภอบางกอกนอ้ ย จงั หวดั ธนบุรี (ในสมยั น้นั จงั หวดั ธนบุรีเป็นอีกจงั หวดั หน่ึง มารวมกบั จงั หวดั พระนคร ในปี 2514 แลว้ เปล่ียนชื่อ เป็น นครหลวงกรุงเทพธนบุรี และเปลี่ยนช่ือเป็นกรุงเทพมหานคร ปี 2515 ปัจจุบนั คือบริเวณท่ีต้งั การยาง แห่งประเทศไทย ถนนบางขนุ นนท์ แขวงบางขนุ นนท์ เขตบางกอกนอ้ ย กรุงเทพมหานคร) 1 เมษายน 2481 ยา้ ยมาเป็นครูโรงเรียนมธั ยมอาชีพช่างกล ( ขา้ งโรงเรียนราชินี ถนนมหาราช ตาํ บล ทา่ เตียน (ปัจจุบนั คือแขวงพระบรมมหาราชวงั ) อาํ เภอชนะสงคราม (เขตพระนคร) จงั หวดั พระนคร มลฑลก รุงเทพ ฯ ปัจจุบนั คือบริเวณอาคารเสาวภาผอ่ งศรี โรงเรียนราชินี ) เป็นครูคนแรกและคนเดียวในตอนน้นั ที่ ไมใ่ ช่ทหารเรือ เป็นครูสอนวชิ าพลศึกษาและหนา้ ที่ศีลธรรม 1 เมษายน 2482 ครูโรงเรียนช่างกลปทุมวนั ถนนพระราม 1 ตาํ บลวงั ใหม่ อาํ เภอปทุมวนั จงั หวดั พระนคร (ปัจจุบนั คือสถาบนั เทคโนโลยปี ทุมวนั ) เพราะโรงเรียนมธั ยมอาชีพช่างกลยา้ ยมาท่ีน้ีและเปลี่ยน ชื่อเป็นโรงเรียนช่างกลปทุมวนั ) อาจารยส์ ิทธิผล ริ เร่ิมนาํ วชิ ายโู ด มาสอนในวชิ าพลศึกษา ในปี การศึกษา 2482 11
วนั ท่ี 8 ธนั วาคม พ.ศ. 2484 เวลาเชา้ มืด ญี่ป่ ุนยกพลข้ึนบกบริเวณชายฝ่ังทะเลอา่ วไทย ต้งั แต่จงั หวดั ปัตตานี สงขลา นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี ชุมพร ประจวบคีรีขนั ธ์ บางปู (สมุทรปราการ) และบุกเขา้ ประเทศไทยทางบกท่ีอรัญประเทศ น้ีคือจุดเร่ิมตน้ สงครามมหา เอเชียบูรพา หรือสงครามโลกคร้ังท่ี 2 ใน ภูมิภาคเอเซีย มีการต่อสู้ตา้ นทานอยา่ งหนกั จากทหารไทย , ประชาชนทวั่ ไปและอาสาสมคั รท่ีเป็นเยาวชน ท่ี เรียกวา่ ยวุ ชนทหาร รัฐบาลญ่ีป่ ุนยนื่ ขอ้ เรียกร้องขอเแคเ่ ดินทพั ผา่ นเพอ่ื ไปโจมตีพม่าและมลายแู ละถือวา่ ไทย เป็นมหามิตรถา้ ยอมโดยดี รัฐบาลจอมพล ป. พิบูลสงครามเรียกประชุมคณะรัฐมนตรีด่วน ผลประชุมมีมติ จาํ เป็นตอ้ งยอมรับขอ้ เสนอของญี่ป่ ุน รัฐบาลจึงมีคาํ สัง่ สั่งหยดุ ยงิ เม่ือเวลา 11.00 น. โดยประมาณ เพราะ รัฐบาลไทยเห็นวา่ ยงั ไงกไ็ มอ่ าจตา้ นทานกองกาํ ลงั ญ่ีป่ ุนได้ มีแตก่ ่อใหเ้ กิดการสูญเสีย จึงยอมยตุ ิการต่อสู้ พลโทอาเคโตะ นากามรู ะ เป็นผบู้ ญั ชาการทหารญี่ป่ ุนในไทย (กองทพั งิ) ภาพจากหนงั สือผู้ บญั ชาการชาวพทุ ธ บนั ทึกผบู้ ญั ชาการกองทพั ญี่ป่ ุนประจาํ ประเทศไทยเก่ียวกบั สงครามโลกคร้ังท่ี 2 พลโท อาเคโตะ นากามูระ วนั ท่ี 9 ธนั วาคม พ.ศ. 2484 กองทหารญ่ีป่ ุนบุกเขา้ ยดึ สถานท่ีราชการและโรงเรียนหลายแห่งเป็นที่ พกั และท่ีทาํ การกองทพั เช่นโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา โรงเรียนช่างก่อสร้างอุเทนถวาย จุฬาลงกรณ์ มหาวทิ ยาลยั บางอาคาร เป็นตน้ ขณะท่ีสนามกรีฑาแห่งชาติ ถูกทหารญ่ีป่ ุนเขา้ ยดึ โตะ๊ เกา้ อ้ีส่ิงของอุปกรณ์ การเรียนของโรงเรียนพลศึกษา ถูกร้ือทาํ ลาย มาทาํ ฟื น หลวงศุภชลาศยั อธิบดีกรมพลศึกษาสมยั น้นั ไดใ้ ห้ 12
คนมาตามอาจารยส์ ิทธิผล พลาชีวนิ จากช่างกลปทุมวนั ไปเจรจากบั ทหารญ่ีป่ ุน เพราะท่านเคยไปศึกษาท่ี ญ่ีป่ ุนพดู ภาษาญี่ป่ ุนไดด้ ี จึงทราบวา่ เป็นคาํ ส่งั จากโตเกียว ใหย้ ดึ ”คิไคโคเงียวงกั โก”้ คือโรงเรียนช่างกลปทุม วนั น้นั เอง แตท่ หารญี่ป่ ุนเขา้ ใจผดิ คิดวา่ สนามกรีฑาแห่งชาติ คือโรงเรียนช่างกลปทุมวนั ทา่ นจึงกลบั มา รายงาน น.อ.หลวงประพรรด์ิจกั รกิจ ร.น. (รักษาการอาจารยใ์ หญ่) แลว้ ช่วยกนั ขนของท่ีจาํ เป็นเท่าที่จะขน ออกได้ออกจากโรงเรียน เวลาประมาณ 19.00 น. กองกาํ ลงั ญี่ป่ ุนประมาณ 100 คนเศษ บุกจะเขา้ มายดึ โรงเรียน ช่างกลปทุมวนั มีนกั เรียนช่างกลจาํ นวนหน่ึงไปปิ ดประตูโรงเรียนป้ องกนั ไมใ่ หท้ หารญ่ีป่ ุนเขา้ โรงเรียน จึงถูกทหารญ่ีป่ ุนใชด้ าบซามไู รฟัน ถูกนกั เรียนช่างกล คนหน่ึงช่ือนายสงวน จตั ุพร นกั เรียน รุ่น 2482 เลขประจาํ ตวั 238 เสียชีวติ ตรงหนา้ ประตูโรงเรียน (หากใครมายา่ํ ย่ี พวกเราพร้อมยอมพลีทุกเรือน กาย) ก่อนที่จะเกิดเหตุบานปลาย อาจารยส์ ิทธิผล พลาชีวนิ รีบออกมาเจรจา จึงทราบวา่ พลโทอาเคโตะ นา กามรู ะ เป็นผบู้ ญั ชาการทหารญี่ป่ ุนในไทย (กองทพั งิ) จึงเป็นโชคต่อช่างกลปทุมวนั เพราะอาจารยส์ ิทธิผล พลาชีวนิ รู้จกั สนิทสนมกบั ท่าน พลโทอาเคโตะ นากามูระ ต้งั แต่ตอนที่ทา่ นไปเรียนที่ญี่ป่ ุน เมื่อทา่ นแมท่ พั ทราบวา่ อาจารยส์ ิทธิผลดูแลโรงเรียนช่างกลปทุมวนั จึงมีคาํ สัง่ หา้ มทหารญี่ป่ ุนทาํ ลายขา้ วของของโรงเรียน โรงเรียนและอุปกรณ์การเรียนจึงไมถ่ ูกทาํ ลายเหมือนโรงเรียนอ่ืนท่ีญี่ป่ ุนเขา้ ยดึ ญ่ีป่ ุนไดเ้ ขา้ ยดึ ทรัพยส์ มบตั ิ และเคร่ืองจกั รของโรงเรียนไวใ้ ชเ้ ป็นโรงงานของกองกาํ ลงั ทหารช่าง วนั รุ่งข้ึนจึงตอ้ งอพยพนกั เรียนไป อาศยั หอ้ งสมุดที่อยใู่ นตึกเยาวลยอ์ ุทิศน์ โรงเรียนมธั ยมวดั เทพศิรินทร์ เรียนจนจบปี การศึกษา พ.ศ. 2484 4 มิถุนายน 2485 โรงเรียนช่างกลปทุมวนั ไดย้ า้ ยไปทาํ การสอนท่ีโรงเรียนช่างเยบ็ หนงั และช่าง โลหะรูปพรรณ เชิงสะพานเฉลิมโลก ตาํ บลประตูน้าํ ปทุมวนั ซ่ึงเวลาน้นั โรงเรียนช่างเยบ็ หนงั และช่างโลหะ รูปพรรณไดย้ า้ ยไปทาํ การสอนอยทู่ ี่โรงเรียนเอี่ยมละออ ตลาดนอ้ ย เขตสัมพนั ธ์วงศ์ 13
12 กรกฎาคม 2485 กระทรวงกลาโหมมีความจาํ เป็นตอ้ งจดั หาช่างแกเ้ คร่ืองยนต์ และรถยนตเ์ ป็น จาํ นวนมากเพอ่ื ส่งไปช่วยงานดา้ นการซ่อมพาหนะท่ีแนวหนา้ กองทพั สนามภาคพายพั กระทรวงกลาโหมจึง ไดข้ อใหเ้ จา้ กรมพลาธิการทหารบกติดต่อขอใหน้ กั เรียนช่างยนตช์ ้นั ปี 3 จากโรงเรียนช่างกลปทุมวนั ไปช่วย ราชการสงคราม ในหนา้ ท่ีช่างซ่อมยานพาหนะกองทพั สนาม กบั กระทรวงศึกษาธิการ หลวงประพรรด์ิจกั ร กิจ ร.น. อาจารยใ์ หญ่และอาจารยส์ ิทธิผล พลาชีวนิ ไดร้ ่วมกนั พิจารณาแลว้ เห็นชอบดว้ ยกบั การท่ีนกั เรียน ช่างกลไปช่วยชาติจึงเรียกประชุมนกั เรียนแผนกช่างยนตช์ ้นั ปี 3 ช้ีใหเ้ ห็นถึงโอกาสตอบสนองคุณ ประเทศชาติในยามคบั ขนั ไดอ้ อกไปฝึกทาํ งานจริง และช่วยเผยแพร่ชื่อเสียงใหก้ บั โรงเรียน โดย ให้เป็นไป ตามความสมคั รใจ ซ่ึงนกั เรียนแผนกช่างยนตช์ ้นั ปี 3 ท้งั หมด จาํ นวน 32 คน พร้อมใจสมคั รอาสาไปช่วย ชาติโดยพร้อมเพยี งกนั พร้อมดว้ ยครูผคู้ วบคุมอีก 2 ท่าน คือ ครูสิทธิชยั (ส่าหรี) คูหาแกว้ และครูเคลือบศิ ริวฒั นกลุ เดินทางไปปฏิบตั ิราชการสนาม 11 มิถุนายน 2486 อาจารยส์ ิทธิผล พลาชีวนิ เลื่อนตาํ แหน่งเป็น ผชู้ ่วยอาจารยใ์ หญโ่ รงเรียนช่างกล ปทุมวนั พ.ศ. 2487 มีคาํ สัง่ จากกระทรวงศึกษาธิการใหโ้ รงเรียนช่างกลปทุมวนั ยา้ ยออกจากโรงเรียนช่างเยบ็ หนงั และช่างโลหะรูปพรรณ ที่ประตูน้าํ (เนื่องจากพ้นื ที่ตรงน้นั ใกลโ้ รงงานรถไฟมกั กะสนั ซ่ึงเคร่ืองบินฝ่ าย สมั พนั ธ์มิตรมาทิง้ ระเบิดเป็นประจาํ ซ่ึงเส่ียงอนั ตรายท่ีจะถูกระเบิดทิง้ พลาดมาโดนแบบโรงเรียนเพาะช่าง ทาํ ใหค้ รูและนกั เรียนไดร้ ับอนั ตรายได้ ในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2487 ระยะแรก ยงั หาสถานที่ยา้ ยถาวรไมไ่ ด้ จึงเพยี งแค่ ยา้ ยการเรียน ภาคทฤษฎี ไปเรียนท่ีวดั ธาตุทอง พระโขนง ในตอนเชา้ และในตอนบ่ายใหก้ ลบั มาฝึกงานที่โรงเรียนช่างเยบ็ หนงั และช่างโลหะรูปพรรณ ที่ประตนู ้าํ การเรียนการสอนเป็นไปดว้ ยความยากลาํ บากเน่ืองจากระยะทาง ระหวา่ งสถานท่ีเรียนภาคทฤษฎีและภาคปฏิบตั ิอยไู่ กล กนั มาก ทาํ การเรียนการสอนอยเู่ พยี ง 3 เดือนเศษ อาจารยส์ ิทธิผล ท่านสนิทสนมกบั นายทองห่อ เช็งสุทธา (นายหา้ งสามมิตรยนต)์ เห็นหลงั บา้ นนายทองห่อมี ที่ดินวา่ งกวา้ งขวาง จึงติดตอ่ ขอใชท้ ี่ดินต้งั โรงเรียนชว่ั คราวก็ไดร้ ับความเมตตาจาก นายทองห่อ เช็งสุทธา ให้ ใชพ้ ้นื ที่ได้ จึงดาํ เนินการก่อสร้างอาคารเรียนและโรงฝึกงานชวั่ คราว ในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2487 จึงยา้ ยนกั เรียนมาเรียนที่ หลงั บา้ นนายทองห่อท่ีปากซอยสามมิตร (ปัจจุบนั คือปากซอยสุขมุ วทิ 16) ท้งั ภาคปฏิบตั ิและภาคทฤษฎี 14
ก่อนวนั ท่ี 18 สิงหาคม 2488 (วนั ท่ีญ่ีป่ ุนยอมแพส้ งคราม) ไม่กี่วนั ทา่ นแมท่ พั งิ พลโทอาเคโตะ นา กามูระ ไดเ้ ชิญอาจารยส์ ิทธิผล พลาชีวนิ เขา้ พบและแจง้ ใหท้ ราบวา่ กองทพั ญ่ีป่ ุนกาํ ลงั จะแพ้ โดยกล่าววา่ “อาจารย์ เราจะยอมแพเ้ สียแลว้ อาจารยจ์ งนาํ นกั เรียนช่างกลมายดึ โรงเรียนไวก้ ่อนเถิด ก่อนท่ีฝรั่งจะมายดึ โรงเรียนไป และอาจารยต์ อ้ งการใหช้ ่วยเหลืออะไรอีกไหม” อาจารยส์ ิทธิผล พลาชีวนิ จึงไดข้ อเคร่ืองไม้ เครื่องมือ เหล็ก ทองเหลือง ทองแดง และ น๊อต ของกองทพั ญ่ีป่ ุน เพื่อนาํ มาใหน้ กั เรียนฝึก แม่ทพั งิ พลโท อาเคโตะ นากามรู ะกไ็ ดม้ อบสิ่งของใหต้ ามที่อาจารยป์ ระสงค์ และจริงดงั ท่านแม่ทพั พดู ไว้ พอญ่ีป่ ุนยอมแพ้ ทหารสมั พนั ธมิตรก็เขา้ ยดึ โรงเรียนช่างกลทนั ท่ี จน วนั ท่ี 30 ตุลาคม พ.ศ. 2489 ฝ่ ายสัมพนั ธมิตร จึงไดค้ ืน พ้นื ท่ีใหโ้ รงเรียนช่างกลปทุมวนั ยา้ ยกลบั มาเปิ ดการสอนตามเดิม หลงั สงครามมหาเอเชียบูรพาหลวงประพรรด์ิจกั รกิจ ร.น. อาจารยใ์ หญแ่ ละอาจารยส์ ิทธิผล พลา ชีวนิ ผชู้ ่วยอาจารยใ์ หญ่ ไดน้ าํ นกั เรียนช่างกล ช่วยซ่อมแซมเคร่ืองจกั ร และสาธารณูปโภค ท่ีเสียหายจาก ภยั สงคราม อาทิเช่นไปซ่อมป้ัมน้าํ ใหก้ ารประปานครหลวง ไปช่วยหลวงยกุ ตเ์ สวี สร้างสะพานชวั่ คราว หรือ สะพานแบลีย์ เชื่อมสะพานพุทธท่ีถูกระเบิดที่ทิ้ง ลงมาจากเครื่องบินฝ่ ายสัมพนั ธ์มิตร ในช่วงปลาย สงครามมหาเอเชียบูรพา (สงครามโลกคร้ังท่ี 2 ฝ่ังเอเชีย) ใหพ้ อใชก้ ารได้ เป้ าหมายเพยี งใหค้ นเดินขา้ มไปมาได้ แต่พอซ่อมเสร็จ มนั แขง็ แรงพอจนรถยนตส์ ามารถ แล่นขา้ มได้ (ระหวา่ งรอหาผรู้ ับเหมา ซ่ึงตอ่ มาไดผ้ รู้ ับเหมาซ่อมใหญ่ จาก CN และ ดอร์แมนลอง เม่ือปี 2492) 15
16
ส่งนกั เรียนไปช่วย ดร.พร ศรีจามร หวั ทีมซ่อม โรงไฟฟ้ าสามเสน นบั แตป่ ี พ.ศ. 2490 น.อ. หลวงประพรรด์ิจกั รกิจ ร.น. อาจารยใ์ หญ่และอาจารยส์ ิทธิผล พลาชีวนิ ผชู้ ่วยอาจารยใ์ หญ่ ไดช้ ่วยกนั ติดตอ่ รับงานการคา้ มาใหน้ กั เรียน ไดฝ้ ึกหดั และหารายไดม้ าบาํ รุงการศึกษา ดงั น้ี คือ 1.ประกอบรถยนตฟ์ อร์ด ของ บริษทั แองโกลไทยมอเตอร์ 450 คนั 2. ซ่อมรถยนตข์ อง อ.จ.ส. (องค์การจดั หาสนิ ค้าหลงั สงคราม) 130 คนั 3. ซ่อมเรือของ อ.จ.ส. (องคก์ ารจดั หาสินค้าหลงั สงคราม) 4. ทาํ ส่วนประกอบรถไฟของโรงงานรถไฟมกั กะสนั 5. ทาํ ส่วนประกอบรางรถรางรถของการไฟฟ้ ากรุงเทพฯ 17
ในงานพธิ ีวางศิลาฤกษว์ ทิ ยาลยั เทคนิคกรุงเทพฯ 18
ขณะตอ้ นรับจอมพล ป พบิ ูลยส์ งคราม ในวนั วางศิลาฤกษอ์ าคารตึกอาํ นวยการวทิ ยาลยั เทคนิคกรุงเทพ ฯ 14 กรกฏาคม 2495 ปี น้ีอาจารยส์ ิทธิผล ทา่ นไดร้ ิเริ่มใหม้ ีการหุงขา้ วกระทะให้ นกั เรียนกินตอนเที่ยง ที่เป็นท่ีมาของคาํ วา่ ลูกหมอ้ ขา้ วเดียวกนั (ลูกหมอ้ ) เสียคา่ ขา้ วเทอมละ 10 บาท นกั เรียนซ้ือกบั ขา้ วเอง พ.ศ. 2500 (เทอมแรก) ปี สุดทา้ ยท่ีมีขา้ วกระทะตอนอาหารเท่ียง เพราะ จาํ นวนนกั เรียนมากข้ึนมากจนไมส่ ะดวกในการดาํ เนินการ พ.ศ. 2492 น.อ. หลวงประพรรด์ิจกั รกิจ ร.น. อาจารยใ์ หญ่ และอาจารยส์ ิทธิผล พลาชีวนิ ผชู้ ่วยอาจารยใ์ หญ่ เปิ ดหลกั สูตร นกั เรียนช่างฝึกฝีมือ สาํ หรับ ผทู้ ี่สนใจที่ จบการศึกษาต้งั แตช่ ้นั ประถมปี ท่ี 4 ข้ึนไป เพือ่ สร้างโอกาสใหก้ บั ผทู้ ี่สนใจวชิ าช่างกล ทวั่ ไปเขา้ มาฝึกหดั งานพ้นื ฐานทางช่าง และเป็นการสร้างโอกาสให้ เขาเหล่าน้นั มีรายไดเ้ พ่มิ ข้ึน นกั เรียนรุ่นแรกเปิ ดเรียน 17 พฤษภาคม 2492 โดยสอนเนน้ งานภาคปฎิบตั ิและพ้นื ฐานงานช่าง เช่นช่างพะเนิน (งานตีเหล็ก) , ช่างตะไบ , ช่างสกดั , ช่างเครื่องมือวดั , ช่างเคร่ืองยนต์ , ช่างไฟฟ้ า เป็นตน้ มีนกั เรียนรุ่นแรก 87 คน และรับนกั เรียนช่างฝึกหดั ฝีมือรุ่นสุดทา้ ย ปี 2498 ที่หยดุ รับเพราะเปลี่ยนมาขยายการรับนกั เรียนภาคปกติแทน มีนกั เรียนช่างฝึกฝีมือ 19
ท้งั หมด 636 คนไม่กาํ หนดเวลาเรียน เมื่อลาออกจะมีใบประกาศรับรองวา่ ไดเ้ รียนรู้วชิ าใดไปบา้ ง ส่วนใหญ่ เรียนเพียงปี เดียวกส็ ามารถออกไปหางานไดแ้ ลว้ หรือหน่วยราชการหรือหา้ งร้านส่งมาเรียนเพ่อื เพิ่ม ประสิทธิภาพใหก้ บั พนกั งานโดยแตง่ ชุดเส้ือแขนส้นั กางเกงขาส้ันสีกรมทา่ และในปี น้นั เอง กรมอาชีวศึกษามีนโยบายส่งเสริมการเรียนวชิ าชีพแก่ผใู้ หญ่ โดยมีความมุง่ หมาย ใหผ้ ใู้ หญไ่ ดม้ ีโอกาสศึกษาหาความรู้ทางวชิ าชีพเพิ่มเติม เพือ่ นาํ วชิ าชีพท่ีไดร้ ับไปใชใ้ หเ้ ป็นประโยชนแ์ ก่ ตนเองครอบครัวและประเทศชาติ จึงมอบหมายใหโ้ รงเรียนอาชีวศึกษาทว่ั ประเทศเปิ ดสอนหลกั สูตร อาชีวศึกษาผใู้ หญ่ สอนในสาขาวชิ าท่ีโรงเรียนอาชีวศึกษาของตนสอนอยู่ เพียงจดั หลกั สูตรเป็นระยะส้ัน ทางโรงเรียนช่างกลปทุมวนั โดย น.อ. หลวงประพรรด์ิจกั รกิจ ร.น. อาจารยใ์ หญ่ อาจารยส์ นิท ศรีลิโก ผชู้ ่วย อาจารยใ์ หญ่ และอาจารยส์ ิทธิผล พลาชีวนิ ผชู้ ่วยอาจารยใ์ หญ่ ไดห้ ารือกนั แลว้ เปิ ดหลกั สูตร อาชีวศึกษา ผใู้ หญ่ 3 ประเภท คือ ประเภทช่างขบั รถยนต์ เป็นหลกั สูตร 3 เดือน เรียน จนั ทร์ – ศุกร์ เวลา 9.00 – 15.00 น. ประเภทช่างเคร่ืองยนต์ เป็นหลกั สูตร 1 ปี เรียน จนั ทร์ – ศุกร์ เวลา 9.00 – 15.00 น. ประเภทช่างวทิ ยเุ ป็นหลกั สูตร 1 ปี เรียน จนั ทร์ – ศุกร์ เวลา 17.00 – 19.00 น. เร่ิมเปิ ดการสอนต้งั แต่วนั ท่ี 1 ธนั วาคม พ.ศ. 2492 รับผทู้ ี่มีอายตุ ้งั แต่ 20 ปี ข้ึนไป ความรู้เพยี งอ่าน ออกเขียนได้ เป็นหลกั สูตรท่ีไดร้ ับความนิยมจากประชาชนมาก ทางกรมอาชีวศึกษาจึงคิดข้ึนเปิ ดโรงเรียนที่ สอนวชิ าชีพในระยะส้นั เป็นการเฉพาะในนามโรงเรียนสารพดั ช่างข้ึนทว่ั ประเทศตอ่ มา การก่อกาเนิดสมาคมศิษย์เก่าช่างกล กรกฎาคม 2490 ไดม้ ีศิษยเ์ ก่าจาํ นวนหน่ึงอนั ประกอบดว้ ยนายสาํ เภา คุปตวนิช (ช.ก. 2481 เลข ประจาํ ตวั 190) เป็นหวั หนา้ และมีกรรมการคือนายสมชาย มาลาเจริญ (ช.ก. 2484 เลขประจาํ ตวั 444) นายคง คา ทบั มณี (ช.ก. 2482 เลขประจาํ ตวั 246) นายอนนั ต์ มีชูเวช (ช.ก. 2485 เลขประจาํ ตวั 514) เป็นตน้ ไดค้ ิดท่ี จะรวบรวมศิษยเ์ ก่าเพ่อื จะจดั ต้งั สมาคมศิษยเ์ ก่าช่างกลข้ึนอาจารยส์ ิทธิผล พลาชีวนิ ไดร้ ับความไวว้ างใจจาก คณะศิษยเ์ ก่าแต่งต้งั เป็น ท่ีปรึกษา ท่านใหค้ วามเห็นวา่ โรงเรียนเรายงั มีอายนุ อ้ ย ศิษยเ์ ก่ายงั มีตาํ แหน่งหนา้ ที่ การงานนอ้ ย และจาํ นวนศิษยเ์ ก่ายงั นอ้ ย น่าจะรอไปก่อน โดยแนะนาํ ให้ จดั งานชุมนุมศิษยช์ ่างกลปทุมวนั ข้ึนคร้ังแรก มีศิษยเ์ ก่ามาร่วมชุมนุมกนั ประมาณ 150 ท่าน งานคร้ังน้ีสาํ เร็จลุล่วงไปไดด้ ีสมดงั เจตจาํ นงของ คณะกรรมการจดั งาน ส่วนเรื่องการจดั ต้งั สมาคมศิษยเ์ ก่า ฯ หลายฝ่ ายเห็นวา่ พร้องกบั อาจารยส์ ิทธิผล หลงั จากน้นั จึงมีการงานชุมนุมศิษยเ์ ก่าต่อเนื่องทุกปี 20
พ.ศ. 2494 อาจารยส์ ิทธิผล พลาชีวนิ ไดร้ ับความไวว้ างใจจากคณะศิษยเ์ ก่าแต่งต้งั เป็นประธาน คณะกรรมการจดั ทาํ หนงั สืออนุสสรณ์ช่างกล 2494 (หนงั สืออนุสรณ์เล่มแรก) และต้งั แตป่ ี 2497 –2503 (หนงั สืออนุสสรณ์ช่างกล 249 7หนงั สืออนุสรณ์เล่ม สอง) ทา่ นเป็นประธานคณะกรรมการจดั ทาํ หนงั สือ อนุสรณ์ โดยสนบั สนุนและแนะนาํ ใหน้ กั เรียนจดั ทาํ หนงั สืออนุสรณ์รุ่น พ.ศ. 2498 อาจารยส์ ิทธิผล เป็นที่ปรึกษาคณะศิษยเ์ ก่าโดยมีนายธานี จนั ทร์เพญ็ เป็นหวั หนา้ คณะใน การก่อต้งั สมาคมศิษยเ์ ก่าช่างกล จนสามารถ ก่อต้งั สาํ เร็จ และจดั พธิ ีเปิ ดป้ ายสมาคมศิษยเ์ ก่าช่างกล 31 มีนาคม 2499 พระวษิ ณุกรรมโรงเรียนช่างกลปทุมวนั ประมาณ ปี พ.ศ. 2495 มีพอ่ คา้ ขายของเก่า หาบของเก่ามาเร่ขาย อาจารยส์ ิทธิผล พลาชีวนิ เหลือบ เห็นองคพ์ ระวษิ ณุกรรมในหาบ ประทบั ใจในองคพ์ ระวษิ ณุเทพดูมีมนตข์ ลงั น่าเล่ือมใสศรัทธา จึงเจรจาขอ ซ้ือไวด้ ว้ ยเงินส่วนตวั และนาํ ไปไวท้ ่ีหอ้ งทาํ งาน ต่อมาอาจารยส์ ิทธิผล พลาชีวนิ คิดที่จะนาํ พระวษิ ณุกรรม ออกมาประดิษฐานใหค้ รูและนกั เรียนเคารพบูชา จึง ให้อาจารย์ธนู แสวงศกั ด์ิ ทา่ นเป็นศิษยเ์ ก่าช่างกลปทุม วนั จบ ปี พ.ศ. 2489 เลขประจาํ ตวั 760 ออกแบบเขียนแบบทง่ั มาเป็นท่ีประทบั ขององคพ์ ระวษิ ณุกรรม ดาํ เนินการหล่อโดยครูทรัพย์ คลา้ มวงษ์ ครูเวก สมศรีร่ืน และครูช่ืน แซ่เหลียง หลงั หล่อเสร็จทาํ การปรับแต่ง ผวิ โดยครูสงั วาลย์ ไล่มณทิล ร่วมกบั นกั เรียนช่างฝึกฝีมือ หน่ึงในน้นั คือ นกั เรียนช่าง ฝึกฝีมือ ช่ือโฮวงว้ ง แซ่ แต้ (ปัจจุบนั เปล่ียนช่ือเป็นนายสงวน ช่างทอง) เลขประจาํ ตวั 269 ทาํ พิธีอญั เชิญออกมาประดิษฐานที่ฝ่ังขวา ของตึกอาํ นวยการ โดยทา่ นอาจารยส์ ุดสาย จากกรมศิลปากร ในปี พ.ศ. 2498 สาํ หรับแนวคิดในการสร้างทง่ั มาเป็นแท่นวางพระวษิ ณุกรรมของอาจารยส์ ิทธิผล พลาชีวนิ ดว้ ยเพราะทงั่ เป็นเคร่ืองมืองานช่างกลโลหะ ท่ี เปลี่ยนโลหะธรรมดา เม่ือผา่ นการเคาะข้ึนรูปก็จะไดช้ ิ้นงานท่ีสวยงามและเป็นเคร่ืองใชส้ อยไดห้ ลากหลาย จึงเป็นสัญลกั ษณ์ของ การสอนนกั เรียนช่างกลจากเด็กที่เขา้ มาเรียนตอนแรกยงั ไม่รู้วชิ าใด ๆ เม่ือไดเ้ ล่าได้ เรียน ถูกส่ังถูกสอนและฝึกฝน กจ็ ะมีความรู้วชิ าช่างติดตวั 21
พระวษิ ณกุ รรมของช่างกลปทมุ วนั หลงั บูรณะ ปี 2555 อาจารย์สิทธิผล พลาชีวนิ 22
คณะครูที่ออกแบบและหล่อทงั่ ท่ีประทบั ของพระวษิ ณุกรรมโรงเรียนช่างกลปทุมวนั 23
ครูและหน่ึงในนกั เรียนช่างฝีมือท่ีทาํ หนา้ ท่ีปรับแต่งทง่ั ที่ประทบั ของพระวษิ ณุกรรมโรงเรียนช่างกลปทุมวนั การนาํ พระวษิ ณุกรรมาประดิษฐานให้เป็นท่ียดึ เหนียวจิตใจนกั เรียน ต้งั แตป่ ี 2498 24
ประมาณ ปี 2499 อาจารยส์ ิทธิผล พลาชีวนิ กบั ครูและนกั เรียนนาํ ถงั น้าํ มนั ๒๐๐ ลิตร เป็นโครงก่อ อิฐถือปนู เป็นภูเขาและไดอ้ นั เชิญทง่ั และองคพ์ ระวษิ ณุกรรมประทบั ที่ยอดเขา ในตอนแรกมือท่านมิไดถ้ ือ ดอกบวั ประมาณปี 2501 อาจารยส์ ิทธิผล พลาชีวนิ ไดจ้ ดั สร้างดอกบวั ซ่ึงเป็นสัญลกั ษณ์ของช่างกลปทุมวนั ใหท้ า่ นถือ (ดอกบวั คือสญั ลกั ษณ์ของ สถาบนั เทคโนโลยปี ทุมวนั (ช่างกลปทุมวนั ) หมายถึงหลกั แห่งธรรม เป็นอาวธุ ท่ีใหเ้ หล่าศิษยช์ ่างกลปทุมวนั ตอ้ งใช้ คือปัญญาที่อยบู่ นพ้ืนฐานของหลกั ธรรม 25
งานอาชีวสัมพนั ธ์ พ.ศ. 2495 – 2503 อาจารยส์ ิทธิผล พลาชีวนิ เป็นอาจารยท์ ี่ปรึกษานกั เรียนช่างกลปทุมวนั ในการจดั งานอาชีวสมั พนั ธ์ งานอาชีวสัมพนั ธ์เป็นงานสังสรรคร์ ื่นเริงเช่ือมความสัมพนั ธ์ของนกั เรียนอาชีวศึกษาใน จงั หวดั พระนครและจงั หวดั ธนบุรี โดยมีโรงเรียนช่างก่อสร้างอุเทนถวาย (มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคล ตะวนั ออก วทิ ยาเขตอุเทนถวาย) และโรงเรียนช่างกลปทุมวนั (สถาบนั เทคโนโลยปี ทุมวนั ) เป็นผรู้ ิเริ่มและ หวั เรี่ยวหวั แรงในการจดั งาน โดยมีโรงเรียนท่ีร่วมกิจกรรมไดแ้ ก่โรงเรียนพาณิชยการพระนคร (มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลพระนคร วทิ ยาเขตพณิชยการพระนคร ) , โรงเรียนเพาะช่าง (มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยี ราชมงคลรัตนโกสินทร์ วทิ ยาลยั เพาะช่าง) , โรงเรียนบพิตรพิมุข (มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคล รัตนโกสินทร์วทิ ยาเขตบพติ รพมิ ุข จกั รวรรดิ ), โรงเรียนช่างไมว้ ดั สระเกศ (วทิ ยาลยั สารพดั ช่างพระนคร) , โรงเรียนการช่างอินทราชยั (วทิ ยาลยั เทคนิคดอนเมือง) , โรงเรียนการช่างสตรีธนบุรี ( วทิ ยาลยั อาชีวศึกษา ธนบุรี ) , โรงเรียนช่างเยบ็ หนงั ราชดาํ เนิน (วทิ ยาลยั ศิลปหตั ถกรรมกรุงเทพ ฯ) , โรงเรียนช่างตดั เส้ือวดั สุทศั น์ (มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลพระนคร คณะอุตสาหกรรมส่ิงทอและออกแบบแฟชนั่ (วทิ ยาเขต ชุมพรเขตอุดมศกั ด์ิ ), โรงเรียนการช่างสตรีโชติเวช (มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลพระนคร วทิ ยาเขต โชติเวช)และโรงเรียนเสาวภา (วทิ ยาลยั อาชีวศึกษาเสาวภา) เป็นตน้ 26
คาํ ขวญั อาจารยส์ ิทธิผล พลาชีวนิ ในหนงั สืออาชีวสัมพนั ธ์ คร้ังท่ี 4 27
ดารงเป็ นอาจารย์ใหญ่ 1 กรกฎาคม 2496 อาจารยส์ ิทธิผล พลาชีวนิ รับแต่งต้งั รักษาการในตาํ แหน่งอาจารยใ์ หญโ่ รงเรียน ช่างกลปทุมวนั คณะครูอาจารยโ์ รงเรียนช่างกลปทุมวนั ปี 2501 พ.ศ. 2497 กรมอาชีวศึกษาแตง่ ต้งั อาจารยส์ ิทธิผล พลาชีวนิ ข้ึนดาํ รงเป็นอาจารยใ์ หญ่ ในปี น้ีท่านได้ ทาํ โครงการซ้ือที่ดินบริเวณดา้ นซอยเกษมสันต์ 3 ประมาณ 7 ไร่ เสนอกรมอาชีวศึกษากระทรวงศึกษาธิการ จนไดง้ บประมาณมาซ้ือที่ดิน และงบประมาณในการสร้างอาคารเรียนไม้ 3 ช้นั จาํ นวนหอ้ งเรียน 18 หอ้ ง และหอ้ งพกั ครู 3 หอ้ ง อาคารเรียนไม้ 3 ช้นั 28
สร้างเอกลกั ษณ์โรงเรียนช่างกลปทมุ 1 กมุ ภาพนั ธ์ 2497 - 2503 อาจารยส์ ิทธิผล พลาชีวนิ ได้สร้างเอกลกั ษณ์ใหก้ บั โรงเรียน ช่างกลปทุม วนั หลายอยา่ งเช่น สร้างบ่อเฟื อง (2501) ไวป้ ลูกบวั แทนบวั ท่ีสระบวั ขา้ งถนนพระราม 1 ที่ถูกถมทาํ ปั๊มน้าํ มนั , สระแผนที่หนา้ ตึกอาํ นวยการ , ภูเขาน้าํ ตก สร้างเพื่อใหน้ กั เรียนเรียนรู้การผลิตไฟฟ้ าจากพลงั งาน น้าํ โรงไฟฟ้ าตน้ กาํ ลงั (ปัจจุบนั คืออาคารสมโชค ), รูปหล่อหม่อมเจา้ รัชฎาภิเษก โสณกุล ผพู้ ฒั นาโรงเรียน มธั ยมอาชีพช่างกลเป็น โรงเรียนช่างกลปทุมวนั และท่ีเป็นท่ีจดจาํ กบั ศิษยเ์ ก่าในรุ่น 2498 – 2503 คือสร้าง สวนสตั วย์ อ่ ยในช่างกล ไม่วา่ จะเป็นไอแ้ กว้ ลิงแสบจอมป่ วน มากดว้ ยตาํ นานและเรื่องเล่าขานไมร่ ู้จบ จระเข้ นก กวาง และปลาสวายตวั ใหญ่ในบอ่ เฟื อง ระหวา่ งที่ทา่ นเป็นอาจารยใ์ หญท่ ่านจะหาทุนและส่งเสริมครู อาจารยไ์ ปศึกษาดูงานต่อในตา่ งประเทศ ดึงลูกศิษยท์ ่ีมีความสามารถกลบั มาเป็นอาจารยท์ ่ีช่างกล เช่น อาจารยน์ ิพนธ์ บูรณจนั ทร์ , อาจารยซ์ อ้ น พชิ ิต , อาจารยส์ มศกั ด์ิ เบญจาทิกลุ , อาจารย์ บรรยงค์ พิมพม์ หา อาจารย์ประจวบ เมหะ อาจารย์ธงชยั เกศาศรัย อาจารย์นที (จนั ที) ศรศิลป์ อาจารย์ยนื ปาระเคน อาจารย์ สมภพ ไชยโสภณ อาจารยส์ มจิตร สุทธา เป็นตน้ อาคารเฉลิมพระเกียรติและบอ่ เฟื อง สระแผนท่ีหนา้ ตึกอาํ นวยการ 29
โรงไฟฟ้ าตน้ กาํ ลงั ขนาด 500 KW ที่ไดร้ ับบริจาคการการไฟฟ้ าวดั เลียบเมื่อปี 2497 30
รูปหล่อหม่อมเจา้ รัชฎาภิเษก โสณกุล ผพู้ ฒั นาโรงเรียนมธั ยมอาชีพช่างกลเป็นโรงเรียนช่างกลปทุมวนั ก่อนปี พ.ศ. 2499 โรงเรียนช่างกลปทุมวนั ยงั ไมม่ ีหอประชุมในร่ม ทา่ นจึงไดท้ าํ โครงการจดั สร้าง หอประชุม เสนอกรมอาชีวศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ จนไดง้ บประมาณมา สร้างอาคารหอประชุม เป็น อาคาร 2 ช้นั ที่ติดกบั ช๊อปช่างยนต์ ต้งั ชื่อวา่ หอประชุมปราโมทย์ (เพอ่ื เป็นเกียรติกบั หลวงปราโมทย์ จรรยา วภิ าข (ปราโมทย์ จนั ทวมิ ล) อธิบดีกรมอาชีวศึกษาในตอนน้นั ) นอกจากมีหอ้ งประชุมแลว้ ยงั เป็นที่ต้งั ของ สมาคมยโู ดแห่งประเทศไทย , สโมสรยโู ดช่างกลปทุมวนั และหอ้ งซอ้ มยโู ด หอประชุมปราโมทย์ 31
หลวงปราโมทย์ จรรยาวภิ าข (ปราโมทย์ จนั ทวมิ ล) ปี พ.ศ. 2499 อาจารยส์ ิทธิผลไดจ้ ดั ทาํ หวั เขม็ ขดั ช่างกลปทุมวนั รุ่นแรก ที่ ร้าน ย.หงษท์ อง บางลาํ ภู ใหน้ กั เรียนช้นั ปี 1 ที่เขา้ เรียนในปี พ.ศ. 2499 32
พานักเรียนออกค่ายขุดบ่อนา้ บาดาลและจัดทาระบบประปา ใหว้ ทิ ยาลยั ครูหมู่บ้านจอมบงึ วนั ที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2497 กระทรวงศึกษาไดจ้ ดั ต้งั วทิ ยาลยั ครูหมบู่ า้ นจอมบึง (มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั หมบู่ า้ นจอมบึง) โดยก่อต้งั เป็นสถานศึกษาตามแนวคิด \"วทิ ยาลยั หมู่บา้ น\" ของประเทศตุรกี มีจุดมุง่ หมายใน เพอื่ แกป้ ัญหาการขาดแคลนครูในชนบท ท่ีต้งั วทิ ยาลยั อยทู่ ่ีก่ิงอาํ เภอจอมบึง ซ่ึงห่างจากตวั เมืองราชบุรีถึง 23 กิโลเมตร ถือวา่ ไกลมากในสมยั น้นั มีปัญหาเรื่องน้าํ ใช้ อาจารยจ์ ินต์ รัตนสิน อาจารยใ์ หญ่ วทิ ยาลยั ครู หมบู่ า้ นจอมบึง ท่านไดข้ อความช่วยเหลือมาที่อาจารยส์ ิทธิผล ใหไ้ ปขดุ บอ่ น้าํ บาดาลและจดั ทาํ ระบบประปา ให้ อาจารยส์ ิทธิผล จึงไดน้ าํ ครูและนกั เรียนจาํ นวนหน่ึงไปจดั ทาํ ให้ อาจารยจ์ ินต์ รัตนสิน อาจารยใ์ หญ่วทิ ยาลยั ครูหมบู่ า้ นจอมบึง คณะนกั เรียนท่ีไปขดุ บ่อน้าํ บาดาลและจดั ทาํ ระบบประปาให้วทิ ยาลยั ครูหมู่บา้ นจอมบึง 33
อาจารยส์ ิทธิผล พลาชีวนิ ในวนั ไหวค้ รู วนั พฤหสั ที่ 13 มิถุนายน 2500 34
อาจารย์ใหญ่ช่างกล 4 เฟื องทอง หลงั สงครามโลกคร้ังท่ี 2 อาชีพช่างกลมีบทบาทในการพฒั นาประเทศ จึงเป็นที่ตอ้ งการอยา่ งมากท้งั ในส่วนราชการและบริษทั หา้ งร้านเอกชน ประชาชนจึงนิยมส่งบุตรหลานมาเรียนช่างกลมากข้ึน เพราะจบ แลว้ จะหางานก็ง่ายหรือจะประกอบอาชีพเองกไ็ ด้ ( ตอนน้นั ในประเทศไทยมีโรงเรียนช่างกลเพยี งแห่ง เดียว คือโรงเรียนช่างกลปทุมวนั เมื่อมีผสู้ นใจมาสมคั รเรียนมากข้ึนเร่ือย ๆ ในแตล่ ะปี โรงเรียนช่างกลปทุมวนั ก็ ตอ้ งขยายการรับนกั เรียนเพ่ิมข้ึนทุกปี ในปี การศึกษา 2500 นกั เรียนท่ีจบการศึกษาช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ 6 (เทียบเทา่ มธั ยมศึกษาปี ท่ี 3 ใน ปัจจุบนั ) ท้งั พระนคร – ธนบุรี (สมยั น้นั ยงั แยกจงั หวดั กนั ) และต่างจงั หวดั ท่ีมีความประสงคจ์ ะเขา้ ศึกษาต่อ ดา้ นอาชีวศึกษาถึง 4500 คน *ส่วนใหญ่ตอ้ งการเรียนตอ่ ที่โรงเรียนช่างกลปทุมวนั แต่ทางโรงเรียนสามารถ ขยายการรับนกั เรียนไดเ้ พียง 700 คน นกั เรียนที่ผดิ หวงั จึงรวมตวั กนั มาเดินขบวนที่สนามหลวง เปิ ดเวทีไฮ ปาร์ค** เพอ่ื ขอความช่วยเหลือจากรัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการ หม่อมหลวง ปิ่ น มาลากลุ รัฐมนตรี กระทรวงศึกษาธิการ โดยคณะนกั เรียนได้ ส่งผแู้ ทนไปเจรจาที่กระทรวงและขอพบท่านรัฐมนตรี ทา่ น รัฐมนตรีไดส้ ่งเลขานุการของท่าน นายประเสริฐ บุญสม (สส. จงั หวดั พระนครศรีอยธุ ยา) ออกไปพบ แต่ก็ ไม่สามารถตกลงอะไรกนั ได้ เพราะผแู้ ทนนกั เรียนยนื ยงั ท่ีจะเขา้ พบท่านรัฐมนตรีใหจ้ งได้ เมื่อทา่ นรัฐมนตรี ออกมาพบได้กล่าวปลอบใจนกั เรียนเหล่าน้นั และรับปากจะพยายามจดั หาสถานท่ีเรียนตามความตอ้ งการ ของนกั เรียนเหล่าน้นั ใหท้ นั ปี การศึกษา 2500 ใหจ้ งได้ ขอใหบ้ อกความประสงคว์ า่ จะเรียนอาชีวศึกษาดา้ น ใด ปรากฏวา่ นกั เรียนส่วนใหญม่ ีความประสงคจ์ ะเรียนช่างกล นอกน้นั กข็ อเรียนช่างก่อสร้างบา้ ง พาณิชย์ บา้ ง ท่านรัฐมนตรี จึงไดส้ ่งั การใหป้ ลดั กระทรวงศึกษา อาจารย์นาค เทพหสั ดิน ณ อยธุ ยา และอธิบดีกรม อาชีวศึกษาอาจารยส์ นน่ั สุมิตร ใหด้ าํ เนินการแกไ้ ขปัญหาโดยด่วน อธิบดีกรมอาชีวศึกษา โทรศพั ทเ์ รียก อาจารยส์ ิทธิผล พลาชีวนิ อาจารยใ์ หญโ่ รงเรียนช่างกลปทุมวนั อาจารยด์ ิเรก อิศรางกลู ณ อยธุ ยาอาจารย์ ใหญ่โรงเรียนช่างก่อสร้างอุเทนถวาย อาจารยช์ ยนั ต์ พลาชีวะ อาจารยใ์ หญโ่ รงเรียนพาณิชยการพระนคร และอาจารย์ วญิ าติ ปุตรเศรณีย์ ตลอดจน ครูใหญ่โรงเรียนอาชีวศึกษาในจงั หวดั พระนครและธนบุรี และ ขา้ ราชการช้นั ผใู้ หญ่ในกรมอาชีวศึกษา เขา้ หารือ อาจารยส์ ิทธิผล พลาชีวนิ ไดใ้ หข้ อ้ คิดเห็นในที่ประชุมวา่ 35
สาํ หรับโรงเรียนพาณิชยแ์ ละโรงเรียนก่อสร้าง ไม่สู้มีปัญหานกั ในการรับนกั เรียนเพมิ่ เพราะมีหลายโรงเรียน ในขณะน้นั มีครูอาจารยท์ ี่มีความรู้แยะ และอุปกรณ์เครื่องไมเ้ ครืองมือในการเรียนการสอน จดั หาง่ายราคาก็ ไมส่ ูงนกั แต่สาํ หรับการเรียนช่างกล น้นั มีปัญหาใหญท่ ี่จะรับนกั เรียนเพ่ิมที่ละมาก ๆ เพราะตอนน้นั มี โรงเรียนสอนวชิ าช่างกลเพียงโรงเรียนเดียว ถา้ จะรับนกั เรียนเพิ่มมาก ๆ ก็ จะตอ้ งขยายโรงฝึกงานใหเ้ หมาะ กบั จาํ นวนนกั เรียนที่จะเพมิ่ ตอ้ งมีอุปกรณ์การสอนใหค้ รบครันทนั ที ต้งั แต่วนั เปิ ดเรียน ต้งั แต่ชิ้นเล็ก ๆ จนกระทงั่ ถึง เคร่ืองมือ เครื่องจกั ร เช่น คอ้ นเลก็ คอ้ นใหญ่ พระเนิน สกดั ตะไบ เครื่องกลึงชนิดสายพาน และอตั โนมตั ิ เครื่องยนตเ์ บนซินและดีเซล เคร่ืองเช่ือมแกซ๊ – ไฟฟ้ า เคร่ืองมือสาํ หรับพบั แผน่ เหลก็ เคร่ือง กาํ เนิดไฟฟ้ าและเคร่ืองมือช่างไฟฟ้ า วทิ ยแุ ละเคร่ืองมือช่างวทิ ยุ – โทรคมนาคม รถยนตส์ าํ หรับฝึกสอน เป็น ตน้ นอกจากน้นั ยงั ตอ้ งจดั หาวสั ดุสาํ หรับฝึกหดั ใหน้ กั เรียนในวชิ าช่างต่าง ๆ เช่น ช่างตีเหลก็ ช่างแผน่ เหล็ก ช่างเช่ือม ช่างชุบโลหะ ช่างกลึง ช่างหล่อ ช่างไฟฟ้ า และช่างวทิ ยุ เป็นตน้ ประการสาํ คญั ที่สุดก็คือ ตอ้ งเพ่ิม ครูอาจารย์ ท้งั ภาคทฤษฎีและภาคปฏิบตั ิ ซ่ึงผมู้ ีความรู้ดา้ นน้ียงั มีไมม่ ากในเมืองไทย สาํ หรับครู ภาคทฤษฎี อาจไม่ตอ้ งเป็นห่วงมากเทา่ ใดนกั แตจ่ ะหาครูภาคปฏิบตั ิ ซ่ึงเป็นผชู้ าํ นาญงานภาคปฎิบตั ิตา่ ง ๆ เหล่าน้ีไดท้ ่ี ไหน ในเวลาอนั จาํ กดั น้ี เพราะผทู้ ี่มีความชาํ นาญและฝีมือดีจริง ๆ ตา่ งกม็ ีงานทาํ ตามโรงงานตา่ ง ๆ และมี รายไดส้ ูง ใครจะอยากมาเป็นครูเพราะมีรายไดน้ อ้ ย โอกาสเจริญกา้ วหนา้ กม็ องไม่เห็นทาง ซ่ึงท่ีประชุมก็เห็น ตามขอ้ คิดเห็นของอาจารยส์ ิทธิผล แต่อยา่ งไรกต็ อ้ ง จดั ต้งั โรงเรียนช่างกลเพม่ิ ข้ึนเป็นการด่วน โดย ปลดั กระทรวงศึกษา อาจารยน์ าค เทพหสั ดิน ณ อยธุ ยา และอาจารยว์ ญิ าติ ปุตรเศรณีย์ ซ่ึงเคยเป็นอาจารยท์ ่ี เคยสอนอาจารยส์ ิทธิผล ซ่ึงมีความไวว้ างใจในความสามารถของอาจารยส์ ิทธิผล ไดข้ อร้องและมอบหมาย ใหอ้ าจารยส์ ิทธิผลช่วยดาํ เนินการเปิ ดโรงเรียนช่างกลใหไ้ ดอ้ ีกสักแห่งหน่ึงก่อน เพราะตอนน้นั ยงั ไม่มีใคร สนั ทดั เรื่องการจดั การศึกษาดา้ นช่างกลเหมือนอาจารยส์ ิทธิผล อาจารยส์ ิทธิผลท่านเป็นคนที่ใหค้ วามเคารพ ตอ่ ครูบาอาจารยข์ องท่านมาก ดงั น้นั ท่านจึงรับอาสาดาํ เนินงานอยา่ งเตม็ ที่ พร้อมรับปากอาจารยข์ องทา่ นวา่ จะสร้างโรงเรียนใหเ้ สร็จพร้อมเปิ ดการเรียนการสอนไดก้ ่อนเปิ ดเรียนเทอมตน้ ของปี การศึกษา 2500 *เดก็ ในรุ่นน้ีมีจาํ นวนมากกวา่ ก่อนหนา้ น้ีมาก ๆ ผลพวงจากยคุ เบบ้ีบูมเมอร์ (Baby Boomer) ในช่วง หลงั สงครามโลกคร้ังท่ี 2 ที่รัฐบาลไทยส่งเสริมใหค้ นไทยมีลูกมากเพือ่ มีกาํ ลงั คนในการสร้างชาติ **สมยั น้นั ที่สนามหลวงรัฐบาลจอมพล ป. พิบลู สงคราม เปิ ดใหม้ ีเวทีไฮดป์ าร์คเสรี เกิดข้ึนหลงั จาก ที่จอมพล ป. พบิ ูลสงคราม นายกรัฐมนตรีไดเ้ ดินทางไปเยอื นนานาประเทศในช่วงปี พ.ศ. 2498 และเกิด ความประทบั ใจในมุมนกั พดู ที่สวนสาธารณะไฮดป์ าร์ค กรุงลอนดอน ประเทศองั กฤษ ท่ีเปิ ดโอกาสใหม้ ีผู้ ปราศรัยโจมตีการทาํ งานของรัฐบาลไดอ้ ยา่ งอิสระ เม่ือกลบั มาจึงไดเ้ ปิ ดโอกาสใหก้ ระทาํ เช่นน้นั ที่ทอ้ ง สนามหลวง 36
หม่อมหลวงปิ่ น มาลากุล อาจารยส์ นน่ั สุมิตร อาจารยน์ าค เทพหสั ดิน ณ อยธุ ยา โรงเรียนช่างกลลพบุรี เฟื องทองตัวที่ 2 เชา้ วนั ตอ่ มา พลตรีเฉลิม พงษส์ วสั ด์ิ รัฐมนตรีช่วยวา่ การกระทรวงศึกษาธิการและอดีตผบู้ ญั ชาการ ศนู ยก์ ารทหารปื นใหญ่ลพบุรี และท่านยงั เป็น ส.ส. ลพบุรี ตอ้ งการ จะใหต้ ้งั โรงเรียนช่างกลในภูมิภาคแห่ง 37
แรกที่จงั หวดั ลพบุรี จึงไดช้ กั ชวนอาจารยส์ นนั่ สุมิตร อธิบดีกรมอาชีวศึกษา อาจารยส์ ิทธิผล พลาชีวนิ เดินทางไปจงั หวดั ลพบุรี พลตรีเฉลิม พงษส์ วสั ด์ิ พาไปดูที่ดินของศูนยก์ ารทหารปื นใหญล่ พบุรี ที่อยรู่ ิมถนน พหลโยธิน ก่อนถึงตวั จงั หวดั ลพบุรี คิดท่ีจะแบง่ มา 100 ไร่ เพื่อก่อสร้างเป็นโรงเรียนช่างกลลพบุรี เพอื่ สกดั ก้นั นกั เรียนที่ จบ ม. 6 จากจงั หวดั ภาคกลาง เช่น ลพบุรี สิงห์บุรี อา่ งทอง ชยั นาท ฯลฯ ใหม้ าเรียนที่น้ี ไมต่ อ้ ง เขา้ ไปแออดั ในพระนคร เม่ือเดินดู บริเวณท่ีดินโดยทวั่ แลว้ อาจารยส์ ิทธิผล พลาชีวนิ ใหข้ อ้ คิดเห็นวา่ ที่ดิน บริเวณน้ีไมเ่ หมาะจะสร้างโรงเรียน เพราะที่ดินเป็นท่ีราบมีระดบั ต่าํ กวา่ ถนนมาก และการคมนาคมไม่ สะดวก เดก็ นกั เรียนตอ้ งเดินทางจากตวั เมืองลพบุรี มาประมาณเกือบ 100 เส้น (4 กิโลเมตร) เมื่อถึงฤดูน้าํ จะ ลาํ บากแก่การศึกษา และยงั ตอ้ งทาํ การถมที่ใหไ้ ดร้ ะดบั อีก ซ่ึงตอ้ งเสียเวลามาก การก่อสร้างโรงเรียนจะไม่ ทนั เปิ ดภาคเรียน 2500 เพราะมีเวลาประมาณ 2 เดือนเทา่ น้นั ก็จะเปิ ดเรียนภาคตน้ แลว้ วนั น้นั นอนคา้ งท่ีศนู ย์ การทหารปื นใหญ่ลพบุรี รุ่งข้ึนไดพ้ ากนั ไปดูที่ดินวา่ งเปล่าขา้ งโรงเรียนการช่างสตรีลพบุรี ตาํ บลทะเลชุบศร ขนาดประมาณ 12 ไร่ แต่ยงั สามารถขยายพ้ืนท่ีออกไดอ้ ีก แมว้ า่ เป็นป่ ารกรุงรัง และเป็นเนินดินสูง ๆ ต่าํ ๆ แต่ก็เป็นท่ีดอน จึงตกลงจะใชท้ ่ีดินบริเวณน้ีก่อสร้างโรงเรียนช่างกล แตก่ ระทรวงศึกษายงั ไมม่ ีงบประมาณให้ เพราะเป็น โครงการกะทนั หนั เพง่ิ จะต้งั งบประมาณกวา่ จะไดเ้ งินงบประมาณน้ีก็ราวเดือนตุลาคม พลตรีเฉลิม พงษ์ สวสั ด์ิ ไดว้ ง่ิ เตน้ หาเงินมากอ้ นหน่ึงแตก่ ็ยงั ไมเ่ พียงพอ แลว้ โรงเรียนจะสร้างเสร็จทนั ตามรับปากหรือ ดีท่ี อาจารยส์ ิทธิผล ท่านเป็นคนมีเครดิตในทอ้ งตลาดในขณะน้นั จึงไปเครดิต เคร่ืองมือ เครื่องจกั ร และวสั ดุ สาํ หรับก่อสร้างกบั หา้ งร้านเพอ่ื มาก่อสร้างโรงเรียน เร่ิม ดาํ เนินการก่อสร้าง ในเดือนเมษายน 2500 การ ก่อสร้างอาคารฝึกงานใชแ้ รงงานครูและนกั เรียนช่างกลปทุมวนั เชื่อมโครงอาคารเป็นชิ้น ๆ แลว้ ขนไป ประกอบท่ี ลพบุรี โดยทา่ นเดินทางไปควบคุมงานดว้ ยตวั เอง สาํ หรับค่าใชจ้ า่ ยในการเดินทางของอาจารย์ และนกั เรียน ท่ีไปดาํ เนินการก่อสร้างโรงเรียนไดใ้ ชเ้ งินส่วนตวั ของท่าน (เพราะงบประมาณที่ต้งั ไปสาํ หรับ จ่ายคา่ วสั ดุอุปกรณ์ก็หืดข้ึนคอแลว้ ) 38
จนสามารถเปิ ดการเรียนการสอนเมื่อวนั ท่ี 10 พฤษภาคม 2500 ซ่ึงทางกระทรวงศึกษาธิการใหช้ ื่อวา่ “โรงเรียนช่ างกลลพบุรี ” (ปัจจุบนั คือวทิ ยาลยั เทคนิคลพบุรี) ใชอ้ กั ษร ยอ่ วา่ \"ช.ก. ล.\" เฟื องทอง ตวั ท่ี 2 มี นกั เรียนรุ่นแรก 73 คนเปิ ดสอนในระดบั อาชีวศึกษาช้นั สูงแผนกช่างกล (เทียบระดบั ประกาศนียบตั รวชิ าชีพ แผนกช่างกล (ปวช.) และนกั เรียนมธั ยมอาชีวศึกษา รุ่น 1 ที่โอนมาจากแผนกช่างยนต์ โรงเรียนโคกกะเทียม วทิ ยาลยั เปิ ดสอนในแผนกช่างกล ( โดยท่ียงั ไมม่ ีการแบ่งเป็นช่างต่าง ๆ เหมือนในปัจจุบนั ) มีอาจารยธ์ งชยั พบิ ลู สวสั ด์ิเป็นผชู้ ่วยครูใหญ่และครูช่างไปอยปู่ ระจาํ อีก 1 ทา่ น คืออาจารยน์ ริศ สืบโถพงศ์ ยงั หาครูเพิ่มเติม ไม่ได้ จึงตอ้ งใหค้ รูจากช่างกลปทุมวนั ผลดั กนั เดินทางไปสอน โรงเรียนช่างกลลพบุรีเองกย็ งั ไม่มี งบประมาณของตนเองจึงตอ้ งแบ่งเงินบางส่วนของโรงเรียนช่างกลปทุมวนั ไปใชใ้ นการดาํ เนินการ 39
40
ในปี การศึกษา 2500 วา่ แมจ้ ะมีโรงเรียนช่างกลถึง 2 แห่ง แตก่ ไ็ มม่ ีท่ีเรียนเพียงพอสาํ หรับนกั เรียนท่ี สนใจเรียนตอ่ วชิ าชีพช่างกล จึงขยายการเรียนที่โรงเรียนช่างกลปทุมวนั เป็น 2 ภาค คือ ภาคเชา้ และภาคบ่าย ทาํ ใหส้ ามารถรับนกั เรียนได้ 1200 คน โครงการโรงเรียนช่างกลทลี่ าดกระบัง ต่อมาอาจารยส์ นนั่ สุมิตร อธิบดีกรมอาชีวศึกษาไดป้ รึกษากบั อาจารยส์ ิทธิผล ที่จะจดั ต้งั โรงเรียน ช่างกลใหม่อีกแห่งใหส้ าํ เร็จพร้อมเปิ ดสอนในปี การศึกษา 2501 โดยมอบหมายใหอ้ าจารยส์ ิทธิผลดาํ เนินการ เช่นเคย เพราะเห็นฝีมือทา่ นท่ีสามารถดาํ เนินการก่อสร้างโรงเรียนช่างกลลพบุรีสาํ เร็จลุล่วงตามเป้ าหมาย ใน ท่ีดินที่กระทรวงศึกษาธิการไดร้ ับบริจาค 1,041 ไร่ จากท่านหญิงเลี่ยม บุนนาค (บุตรเจา้ พระยาสุรวงษ์ ไวยวฒั น์ (วร บุนนาค) ที่ดินผนื น้ีอยใู่ กลต้ ลาดหวั ตะเข้ อาํ เภอลาดกระบงั จงั หวดั พระนคร อธิบดีกรม อาชีวศึกษา จึงมอบหมายใหอ้ าจารยส์ ิทธิผล ไปขดุ บ่อบาดาล และจดั ต้งั โรงเรียนช่างกลข้ึนท่ีน้ีอีกแห่ง อาจารยส์ ิทธิผล จึงนาํ ครูและนกั เรียนจาํ นวนหน่ึงพร้อมเคร่ืองไมเ้ คร่ืองมือลงเรือท่ีตลาดประตนู ้าํ ล่องไปตาม คลองแสนแสบ ผา่ นทางคลองตนั ออกตอ่ คลองพระโขนง ออกคลองประเวศบุรีรมย์ ไปถึงท่ีดินผนื น้ี ไดท้ าํ การขดุ บอ่ บาดาลสาํ เร็จ แต่จากการสาํ รวจพ้ืนท่ี อาจารยส์ ิทธิผล แจง้ ตอ่ อธิบดีกรมอาชีวศึกษา วา่ ท่ีน้ี ณ เวลา น้ียงั ไม่เหมาะท่ีจะสร้างโรงเรียนช่างกล เพราะคนพ้นื ที่มีไมม่ าก ถา้ คนตา่ งถิ่นจะมาเรียน การเดินทางลาํ บาก ยงั ไม่มีถนนผา่ น เดินทางไดม้ าถึงไดโ้ ดยทางคลองประเวศบุรีรมย์ และทางรถไฟ ซ่ึงอยใู่ กลส้ ถานีรถไฟหวั ตะเข้ ระบบไฟฟ้ ายงั เขา้ ไมถ่ ึง แมจ้ ะตอ่ มาจากโรงปันไฟฟ้ าของอาํ เภอลาดกระบงั ได้ ฏเ้ ป็นระบบไฟฟ้ าที่ปั่น จ่ายเฉพาะช่วงเวลา 18.00 – 22.00 น. เท่าน้นั จะไมม่ ีไม่มีแหล่งจ่ายไฟฟ้ าใหเ้ ครื่องจกั ร ท่ีใชใ้ นการเรียนการ สอน ทางกรมอาชีวศึกษาจึงพบั โครงการไป 41
ต่อมาในปี 2509 กรมอาชีวศึกษามีโครงการ จดั ต้งั วทิ ยาลยั ครูอาชีวศึกษาในระดบั เทคนิคช้นั สูง เทียบเท่าระดบั ปริญญาตรี ในสาขาช่างและเกษตรกรรม จึงไดม้ าใชท้ ่ีดินผนื น้ี เพราะการคมนาคมสะดวกข้ึน มีถนนลาดกระบงั เช่ือมตอ่ มาจากถนนออ่ นนุช มีระบบสาธารณูปโภคเขา้ ถึงท่ีดินผนื น้ีแลว้ ในตอนแรกจึงต้งั ช่ือเป็น วทิ ยาลยั เจา้ คุณทหาร เพ่ือ เป็นอนุสรณ์แด่เจา้ พระยาสุรวงษไ์ วยวฒั น์ (วร บุนนาค) ผเู้ ป็นบิดาทา่ น หญิงเล่ียม ผบู้ ริจาคท่ีดิน ดว้ ยท่านเจา้ พระยาสุรวงษไ์ วยวฒั น์ (วร บุนนาค) ดาํ รงตาํ แหน่งสมุหพระกลาโหม ในสมยั รัชกาลที่ 5 บุคคลทว่ั ไปออกนามเรียกเป็นการสามญั วา่ “เจ้าคุณทหาร”) โดยรัฐบาลอนุมตั ิใหก้ เู้ งิน จากธนาคารโลกและธนาคารแห่งประเทศไทย มาดาํ เนินการก่อสร้างอาคารต่าง ๆและปรับปรุงพ้ืนท่ีแห่งน้ี จึงไดเ้ ร่ิมข้ึนเม่ือเดือนกนั ยายน พ.ศ. 2511 โดยมีหา้ งหุน้ ส่วนจาํ กดั จุนโซซากากุระ จากประเทศญ่ีป่ ุน เป็น ผอู้ อกแบบและควบคุมการก่อสร้าง และมีหา้ งหุน้ ส่วนจาํ กดั ออนไท เป็นผรู้ ับเหมาก่อสร้าง ปี 2013 จึงไดย้ า้ ย โรงเรียนเกษตรกรรมนครปฐม จงั หวดั ปฐม มาอยทู่ ่ีท่ีดินผนื น้ี เปลี่ยนชื่อเป็น โรงเรียนเกษตรกรรมเจา้ คุณทหาร (คณะเทคโนโลยกี ารเกษตร) ปี 2514 วทิ ยาลยั วชิ าการก่อสร้าง บางพลดั (คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์) และวทิ ยาลยั โทรคมนาคม นนทบุรี (คณะวศิ วกรรมศาสตร์ ) ยา้ ยมาอยรู่ วมกนั ท่ี ท่ีดินผนื น้ี คือสถาบนั เทคโนโลยพี ระจอมเกลา้ เจา้ คุณทหาร ลาดกระบงั ในปัจจุบนั 42
โรงเรียนช่างกลนนทบุรี เฟื องทองตัวที่ 3 ในปี 2500 หลงั จากยกเลิกโครงการต้งั โรงเรียนช่างกลที่ลาดกระบงั อาจารยส์ นน่ั สุมิตร อธิบดีกรม อาชีวศึกษา ไดเ้ รียกอาจารยส์ ิทธิผลมาปรึกษาเร่ืองการจดั ต้งั โรงเรียนช่างกลใหม่อีกแห่ง อาจารยส์ ิทธิผลแจง้ วา่ ทราบขา่ วโรงงานกรมโยธาธิการท่ีเชิงสะพานพระรามหก ถูกยกเลิกจากคณะปฏิวตั ิ ปี 2500 เพราะเห็นวา่ งานของกรมโยธาธิการไปซ้าํ ซอ้ นกบั งานของกรมโยธาเทศบาล จึงใหโ้ อนกิจการตา่ งๆ และขา้ ราชการฝ่ าย ช่างออกไปจากพ้ืนท่ีท่ีต้งั อยทู่ ี่เชิงสะพานพระราม 6 ไปอยกู่ รมโยธาเทศบาลท้งั หมด พ้ืนที่ที่น้นั ก็จะวา่ ง อาจารยส์ ิทธิผล เสนอ ความเห็นวา่ โรงเรียนช่างกลแห่งใหม่น้ีควรจะต้งั อยู่ พ้นื ท่ีแห่งน้ี ดว้ ยจะมีอาคาร โรงเรือน โรงงาน บา้ นพกั ท่ีพร้อมเปล่ียนใหเ้ ป็นโรงเรียนไดเ้ ลย และยงั ติดแมน่ ้าํ เจา้ พระยา ถา้ ไดม้ ีโอกาสจะ ไดส้ ร้างอตู่ ่อเรือใหน้ กั เรียนได้ ฝึกงานและจะใหเ้ ป็นโรงเรียนช่างกลตวั อยา่ งท่ีมีอตู่ ่อเรือดว้ ย ทา่ นอธิบดีกรม อาชีวศึกษาเห็นชอบดว้ ย จึงอนุมตั ิใหด้ าํ เนินงาน อาจารยส์ ิทธิผล จึงไดช้ วนอาจารยส์ นิท ศรีลิโก (ผชู้ ่วยอาจารยใ์ หญใ่ นขณะน้นั ) ขบั รถไปสาํ รวจ โรงงาน กรมโยธาธิการ พบวา่ มี ตึกและอาคารที่ พร้อมปรับปรุงเป็นอาคารเรียนและโรงฝึกงาน ดงั น้ี ตึก อาํ นวยการ 1 หลงั โรงงานอลูมิเนียม 4 หลงั 10 หอ้ ง บา้ นพกั คนงาน 14 หลงั บา้ นพกั เจา้ หนา้ ท่ีพสั ดุ 1 หลงั โรงเก็บรถยนต์ 1 หลงั สโมสรขา้ ราชการ 1 หลงั โรงสูบน้าํ บาดาลและถงั เกบ็ น้าํ บาดาล 9 ถงั มีความ 43
เหมาะสมที่ใชก้ ่อต้งั เป็นโรงเรียนช่างกลแห่งใหม่ แต่ตอ้ งรอให้ กรมโยธาธิการ กบั โรงเรียนส่งเสริมอาชีพ ก่อสร้าง (โรงเรียนในสงั กดั ของกรมโยธาธิการ ท่ี มีการสอนเพยี ง แผนกช่างก่อสร้างหลกั สูตร 2 ปี ปัจจุบนั คือคณะสถาปัตยกรรม สถาบนั เทคโนโลยเี จา้ คุณทหาร ลาดกระบงั ) ที่ใชพ้ ้นื ท่ีน้ีอยู่ยา้ ยออกไปก่อน ซ่ึงยงั ไม่ รู้กาํ หนดเวลาท่ีชดั เจน ทา่ นจึงได้ ขบั รถเลียบฝ่ังแมน่ ้าํ เจา้ พระยาไปตาม ถนนนนทบุรี 1 (ถนนพบิ ลู สงคราม ปัจจุบนั ) เพื่อ หาพ้นื ท่ีต้งั โรงเรียนช่างกลไดท้ นั ที่ เม่ือมาถึงโรงเรียนศรีบุญยานนท์ อาจารยส์ ิทธิผล ไดแ้ วะเขา้ ไปหาเพอ่ื น 44
ของทา่ นคืออาจารย์ ป่ิ น วริ ิยาภรณ์ ขณะน้นั ทา่ นเป็นผชู้ ่วยอาจารยใ์ หญ่ โรงเรียนศรีบุญยานนท์ และมีรกราก อยทู่ ี่จงั หวดั นนทบุรี (ต่อมาทา่ นมาเป็นอาจารยใ์ หญโ่ รงเรียนช่างกลนนทบุรี) ซ่ึงคงจะช่วยท่านไดบ้ า้ ง 45
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155