Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore วารสาร 80 ปี สถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน

วารสาร 80 ปี สถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน

Published by ห้องสมุดของนายอึ๊ง, 2022-08-02 08:08:47

Description: วารสาร 80 ปี สถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน

Keywords: วารสาร 80 ปี สถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน

Search

Read the Text Version

๒๔๗๕ - ๒๕๕๕ th ๐ ๘๐๒๔๗๕ ปทมุ วนั ๒๕๕๕ PATHUMWAN

พระเมตตารนิ หลั่งให ้ ชาวดิน ทุกถน่ิ ไทยยลยิน ประจกั ษ์แจง้ เดชะป่ินศรีนครินทร์ฯ ปกกระหม่อม ท่ัวแผน่ ปฐพีน้อม แซซ่ อ้ ง นิรันดร์ (ประพนั ธ์โดย : ชนัดดา ภทู่ ับทิม) ดว้ ยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ ขา้ พระพทุ ธเจา้ ในนามสถาบนั เทคโนโลยีปทุมวัน













พระราชด�ำรัส พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดชมหาราช “ ถ้าครูไม่ห่วงประโยชน์ที่ควรจะห่วง หันไปห่วงอ�ำนาจ ห่วงต�ำแหน่ง ห่วงสิทธ์ิ และห่วงรายได้ กันมาก ๆ เข้าแล้ว จะ เ อ า จิ ต เ อ า ใ จ ที่ ไ ห น ม า ห ่ ว ง ค ว า ม รู ้ ค ว า ม ดี ความเจริญของเด็ก ความห่วงในสิ่งเหล่าน้ี ก็จะค่อย ๆ บ่ันทอนท�ำลายความเป็นครู ไปจนหมดสิ้น จะไม่มีอะไรดีเหลือไว้ พอท่ีตนเองจะภาคภูมิใจ หรือผูกใจใคร ”ไว้ได้ ความเป็นครูก็จะไม่มีค่าเหลืออยู่ ให้เป็นท่ีเคารพบูชาอีกต่อไป พระราชทานแก่ครูอาวุโส ในโอกาสเข้าเฝ้ัาฯ ณ พระต�ำหนักจิตรลดารโหฐาน วันพุธท่ี 21 ตุลาคม 2523











พระราโชวาท สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี “ ...เทคโนโลยีน้ันแม้จะมีประโยชน์อย่างยิ่งต่อการ ด�ำเนินชีวิตและการพัฒนาประเทศ แต่ถ้าน�ำไปใช้โดย ไม่ไตร่ตรองให้รอบคอบ ก็อาจน�ำมาซึ่งผลที่ไม่พึง ปรารถนาได ้ ดังน้ัน เมื่อจะน�ำเทคโนโลยีไปใช้ จึงต้องค�ำนึงถึง สภาพเศรษฐกิจ สังคม รวมท้ังผลท่ีจะเกิดตามมาอย่าง ละเอียดท่ัวถึงว่าจะเป็นประโยชน์อย่างไรเพียงใด และ เป็นโทษบั่นทอนในแง่ส่วนใดบ้าง การใช้เทคโนโลยี ”จึงจะเป็นได้อย่างถูกต้องเหมาะสม และบังเกิดเป็น ผลประโยชน์สุงสุดท้ังแก่บุคคลแก่สว่ นรวม... ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้ส�ำเร็จการศึกษา จากสถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน ณ อาคารใหม่ สวนอัมพร วันพุธที่ 2 สิงหาคม 2549



“พระเมตตาคุณแห่งพระองค์ คือ สายธารปัญญาอันไพศาลนิรันดร์ ” ปร ค�ำจารกึ วางนโ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ ของชา กรมพระสวัสดิวัดนวิศิษฏ์ เชย่ี วช (พุทธศักราช 2408-2478) ตะวัน พระผู้ทรงเกื้อการุณย์ มชี ือ่ ว แก่วิทยาลัยช่างกล ของสม ปทุมวันเอนกอนันต์ เน้อื ท่ี ทรงประทานวังที่ประทับ การสอ เพื่อเป็นสถานศึกษาของกุลบุตร โดยท สร้างโรงเรียนช่างกลปทุมวัน ท่ีเป็น เม่ือวันที่ 17 พฤษภาคม พุทธศักราช 2482 วนั ที่ 1 ได้พัฒ ณ วิชาจัก เทคโน มาจน “สถาบ ฟากเ กีฬาแ ปทุมว บรมรา และท หลวงต ที่ 6 พระก แก่เยา

นดร์ ” ประวัติ พระประวัติ สมเดจ็ พระเจา้ บรมวงศเ์ ธอ กรมพระสวสั ดวิ ดั นวศิ ษิ ฏ์ พระราชโอรสลำ� ดบั ที่ 75 ในพระบาทสมเดจ็ พระจอมเกลา้ เจ้าอยู่หัว (รชั กาลท่ี 4) และสมเดจ็ พระปยิ มาวดศี รี เม่ือพุทธศักราช 2482 กระทรวงศึกษาธิการ พชั รนิ ทรมาตา (พระนามเดมิ เจา้ จอมมารดาเป่ียม) วางนโยบายปลกู ฝงั งานชา่ งจกั รกล ใหเ้ ปน็ วชิ าชพี สำ� คญั ประสตู ิเมอื่ เดอื นยี่ ข้ึน 5 ค่�ำ ปฉี ลู จุลศกั ราช 1227 ของชาติ เพ่ือสรา้ งและหล่อหลอมเยาวชนใหม้ ีความรู้ ตรงกับวันท่ี 22 ธนั วาคม พทุ ธศกั ราช 2408 ร.ศ. เชยี่ วชาญงานชา่ งโลหะกบั ความกา้ วหนา้ ของวทิ ยาการ 84 หรอื ค.ศ. 1865 ทรงไดร้ บั การเฉลมิ พระนามจาก ตะวันตก ได้ก่อสร้างสถานศึกษาระดับอาชีวศึกษา พระราชบดิ าวา่ “สวสั ดโิ สภณ” มีคาถาพระราชทาน มีชอื่ วา่ “โรงเรียนชา่ งกลปทมุ วนั ” อยบู่ นพนื้ ท่วี ังเดมิ พระนามวา่ ดงั น้ี ของสมเดจ็ พระเจา้ บรมวงศเ์ ธอ กรมพระสวสั ดวิ ดั นวศิ ษิ ฏ์ สวุ ตฺถโิ สภณนาโมยํ โหตุ มยหฺ ํ กมุ ารโก เนอ้ื ท่ี 18 ไรเ่ ศษ เพอ่ื พฒั นางานช่างจักรกลท่ีได้มี อเุ ปตฺวายํ มม ปุตฺโต ชาโต ปยิ มาย มาตุยา การสอนอยแู่ ลว้ ใหม้ กี ารรบั รองวทิ ยฐานะเปน็ ทยี่ อมรบั เอโส ทฆี ายโุ ก โหต นทิ ฺทกุ โฺ ข นิรุปทฺทโว โดยทั่วไป และให้เป็นสถานศึกษางานช่างจักรกล อทุ โฺ ธ มหทฺธโน โภค ี สุขี เสรี สยํ วสี ฯ ท่ีเป็นหลักของชาติ เปิดสอนเป็นทางการเม่ือ พทุ โฺ ธ ธมฺโม สํโฆ จาติ อจิ ฺเจตํ รตนตตฺ ยํ วนั ที่ 17 พฤษภาคม พทุ ธศกั ราช 2482 ชา่ งกลปทมุ วนั เทวาทริ ฐฏฺปาลา จ อภปิ าเลนตฺ ุ นํ สทา ฯ ได้พัฒนาขยายหลักสูตรการเรียนการสอนเพ่ิมสาขา ยถา โส เตชวา อสฺศ มหาถาโม มหทิ ฺธโิ ก วชิ าจักรกลอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ตามความกา้ วหนา้ ทาง ปญญฺ วา อตถฺ เฉโก จ กุลํ รกฺเขถ สาธกุ ํ ฯ เทคโนโลยสี มัยใหม่ จากระดบั อาชวี ศึกษาเป็นลำ� ดับ มาจนถึงระดับอุดมศึกษา ได้รับการก่อต้ังเป็น คำ� แปลคาถา “สถาบนั เทคโนโลยปี ทมุ วนั ” ตงั้ อยทู่ ถี่ นนพระรามท่ี 1 ฟากเหนือ อ�ำเภอปทุมวัน ตรงข้ามกับสนาม กุมารน้อยของเรานี้ จงมีชื่อว่าสวัสดิโสภณ กีฬาแห่งชาติ ขอบุตรของเราผู้เกิดแต่เปี่ยมผู้มารดา จงบรรลุความ ในฐานะท่ีสถานท่ีต้ังสถาบันเทคโนโลยี เจรญิ ฯ ขอบตุ รนี่ จงมีอายยุ นื ไมม่ อี ปุ ัทวทกุ ข์ มง่ั คงั่ ปทุมวันเคยเป็นวังที่ประทับของพระบรมวงศ์ผู้ใหญ่ใน มีโภคสมบัติ มที รพั ยม์ าก มคี วามสขุ เปน็ เสรภี าพ มี บรมราชจักรวี งศ์ ผ้ทู รงด�ำรงต�ำแหนง่ สำ� คัญในแผ่นดิน อำ� นาจโดยล�ำพังตัว ขอพระรตั นตรยั คอื พระพุทธเจ้า และทรงปฏิบัติหน้าท่ีอันเป็นคุณประโยชน์อย่างใหญ่ พระธรรม พระสงฆ์น้ี และเทพเจ้าเป็นต้นรักษา หลวงต่อชาติบา้ นเมอื ง ในระหวา่ งรชั กาลท่ี 5 รัชกาล รฐั มณฑล จงอภบิ าลกมุ ารนอ้ ยของเรานนั้ ในกาลทกุ เมอื่ ที่ 6 และรชั กาลท่ี 7 จึงเห็นสมควรไดน้ �ำประวตั ิและ ขอบุตรของเราน้ัน พึงเป็นผู้มีเดช มีก�ำลังมาก พระกรณียกิจมาเผยแพร่ให้พระเกียรติคุณปรากฏ มีฤทธานภุ าพใหญ่มปี ญั ญาและปรชี าในประโยชนอ์ ยา่ งใด แก่เยาวชนรุ่นหลังท่เี ข้ามาศกึ ษาสบื ไป พึงรักษาตระกูลให้ส�ำเร็จประโยชน์อย่างน้ันเทอญ (สมเด็จพระพทุ ธโฆษาจารย์ วัดเทพศริ ินทร์ แปล) ด

สมเด็จพระเจา้ บรมวงศ์เธอ กรมพระสวัสดวิ ัดนวิศษิ ฏ์ ทรงมี พระเชษฐาและพระเชษฐภคินรี ว่ มพระมารดาเดยี วกนั ดงั น้ี 1. พระองคเ์ จา้ ชายอณุ ากรรณอนนั ตนรไชย 2. สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาเทวะวงศ์วโรปการฯ (พระองค์เจา้ ชายเทวญั อทุ ยั วงศ์) ทรงเปน็ ตน้ ราชสกุล “เทวกลุ ” 3. สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ (พระองค์เจ้าหญิงสุนันทา กมุ ารรี ตั น์) 4. สมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวสาอัยยิกาเจ้า (พระองค์เจา้ หญงิ สวา่ งวฒั นา) 5. สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพระ พันปีหลวง (พระองคเ์ จา้ หญงิ เสาวภาผอ่ งศรี) 6. สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระสวัสดิวัดนวิศิษฏ์ (พระองค์ เจ้าชายสวสั ดิโสภณ) ทรงเป็นตน้ ราชสกลุ “สวัสดวิ ตั น”์ ประวัตกิ ารศึกษา เม่ือประสูติแล้ว 3 พรรษา พระราชบิดาก็เสด็จสวรรคต ทรงได้รบั การศกึ ษาเบ้อื งต้นในพระบรมมหาราชวัง ในวชิ าภาษาไทย ภาษาอังกฤษ วชิ าค�ำนวณและวิชาประกอบอนื่ ๆ เหมอื นอยา่ งเจา้ นายทุกพระองค์ ในสมยั นัน้ เล่ากันวา่ ทรงขยนั หมัน่ เพยี รในการศกึ ษา อยา่ งยิง่ พระองคห์ น่ึง โดยเฉพาะวชิ าภาษาองั กฤษ และทรงบรรพชา เปน็ สามเณรตามโบราณราชประเพณี ในปีพุทธศกั ราช 2423 เมือ่ สกิ ขาแลว้ พระบาทสมเดจ็ พระจลุ จอมเกลา้ เจา้ อย่หู วั รชั กาลที่ 5 ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ไปศึกษา ณ ประเทศ อังกฤษ ขณะนั้นพระชันษาเพียง 15 พรรษา ทรงเข้าศึกษาวิชา กฎหมายทสี่ ำ� นกั เบลเลยี ล (Balliol Collage) มหาวทิ ยาลยั ออ็ กซฟอรด์ ทรงศกึ ษามคี วามรปู้ ระมาณชน้ั กลาง พระบาทสมเดจ็ พระจลุ จอมเกลา้ เจา้ อยหู่ วั มีพระบรมราชโองการให้เรยี กกลับ เน่อื งจากรับบาลสยาม มีความต้องการผู้ศึกษาวิชาความรู้สมัยใหม่ มีระดับการศึกษาสูง ใหก้ ลับมาพฒั นาประเทศโดยเร็ว ด้วยเปน็ ภาวะทีป่ ระเทศในภมู ิภาค เอเชยี ตะวันออกเฉียงใต้ถกู ภัยจากประเทศล่าอาณานคิ ม ทัง้ องั กฤษ และฝร่ังเศสอย่างหนักจ�ำเป็นต้องระดมผู้มีความรู้สมัยใหม่มาร่วมกัน วางนโยบายปอ้ งกนั การศกึ ษาในประเทศอังกฤษ หลวงจักรปาณี ศรีศลิ วสิ ทุ ธิ์บตุ รเจ้าพระยามหธิ รได้เล่าวา่ กรมพระสวัสดิวดั นวิศษิ ฏ์ ทรงมคี วามรูภ้ าษาอังกฤษดีมาก ตรัสได้ชดั เจนเหมือนกับฝร่ัง และ ท ร ง มี ชื่ อ เ สี ย ง เ ล่ื อ ง ลื อ ใ น ส� ำ นั ก เ บ ล เ ลี ย ล ว ่ า เ ป ็ น ผู ้ มี ป ฏิ ภ า ณ เฉียบแหลมมาก รวมเวลาท่ีทรงศึกษาอยู่ในประเทศอังกฤษ 6 ปี เมื่อมาถึงประเทศไทยขณะนั้นพระชันษา 20 พรรษา ระหว่าง ทป่ี ระทบั อยูใ่ นประเทศองั กฤษ ได้ทรงปฏบิ ัติและรว่ มแสดงความคดิ ต

เห็นเกี่ยวกับงานส�ำคัญของชาติหลายประการ อาทิ ทรงร่วมกับเจ้านายและข้าราชการส�ำคัญ ๆ ในสถาน ทตู ไทยทปี่ ระเทศองั กฤษ และฝรงั่ เศส กราบบังคมทลู พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสนอแนะ ให้ทรงแก้ไขราชการแผ่นดินตามระบบการปกครอง ของสากลเม่อื ร.ศ. 103 พ.ศ. 2427 เนอื้ หาหลกั ฐาน หาข้อเสนอแนะน้ันได้น�ำลงพิมพ์ไว้ในหนังสือเร่ือง “เจ้านายและข้าราชการกราบบังคมทูลความเห็น จัดการเปล่ียนแปลงราชการแผ่นดิน ร.ศ. 103” ซึ่งถือเป็นเอกสารประวัติศาสตร์ที่ส�ำคัญในสมัย รัชกาลที่ 5 อีกเรื่องหน่ึง ได้สรุปความว่าควรปฏิรูป การปกครองของสยามประเทศให้เป็นแบบคอนสติ ติวชั่นซึ่งจะต้องแก้ในกฎหมายระหว่างประเทศและ ปรับปรุงระเบยี บการบริหาร ความเหน็ สว่ นใหญ่เป็น แนวความคดิ ของกรมพระสวสั ดิวัดนวศิ ิษฏ์ ซง่ึ เป็น ผศู้ กึ ษานติ ศิ าสตรเ์ พยี งพระองคเ์ ดยี ว ในกลมุ่ ขา้ ราชการ ทั้งหมด แนวความคิดดังกล่าว สันนิษฐานว่าเป็น ส่วนหน่ึงท่ีพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงสนพระราชหฤทัยน�ำมาวางเป็นแนวทางในการ ปฏิรปู การปกครองในเวลาต่อมา พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกลา้ ฯ ใหส้ มเดจ็ พระบรมวงศเ์ ธอ กรมพระสวัสดิวัดนวิศิษฏ์ ศึกษาระเบียบธรรมเนียม ประเพณีทางราชการและกฎหมายไทย ทรงพากเพยี ร ศึกษาด้วยพระองค์เองด้วยความสามารถอย่างย่ิง ทรงเปรียบเทียบกฎหมายไทยกับกฎหมายต่าง ประเทศ โดยเฉพาะกฎหมายภาษาอังกฤษ ดังน้ัน ความคิดเห็นของพระองค์ในเร่ืองต่าง ๆ จึงเป็น ความคิดของนกั วิทยาศาสตร์ ทรงผนวช พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เป็นนาคหลวง ทรงผนวชแล้วจ�ำพรรษอยู่ ณ วัดราชาธิวาส ทรงศึกษา พระปรยิ ตั ธิ รรมและเครง่ ครดั ในพระธรรมวนิ ยั อยา่ งยงิ่ สามารถท่องจ�ำและแปลพระปาติโมกข์อันเป็น ข้อวัตรปฏิบัติที่จ�ำเป็นของสงฆ์ทุกรูปได้อย่าง คล่องแคล่ว ด้วยความทรงจ�ำอันดีนี้ เป็นเคร่ือง ถ

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หรือ พระ อสิ าน ถกู รกุ ลำ้� อาณาเขตจากฝรง่ั เศส จ�ำเป็นต้องมีข้าราชการระดับสูง ซึ่งเป็นที่ไว้วางพระราชหฤทัย ทรงกล อ อ ก ไ ป ป ร ะ จ� ำ ป ฏิ บั ติ ร า ช ก า ร ระหวา่ ง ต่างพระเนตรพระกรรณ จึงทรง พ.ศ. 2 แต่งต้ังให้กรมหลวงพิชิตปรีชากร ศาลแผ ออกไปเปน็ ขา้ หลวงใหญส่ ำ� เรจ็ ราชการ เสนาบ มณฑลอิสาน บังคับบัญชา 20 หัวเมือง ก่อนเมื่อกรมหลวงพิชิต ทรงให ปรีชากรทรงกราบบังคมทูลลา “เนติบ สนับสนนุ พระเกยี รตคิ ุณ ทางปญั ญาของพระองคอ์ ยา่ งดี ไปฏบิ ตั ริ าชการอสิ านนน้ั ไดท้ รงกราบทลู บคุ คลทจี่ ะปฏบิ ตั ิ พระอ เมื่อทรงลาสกิ ขาแลว้ จึงเร่มิ รับราชการใน ปี พ.ศ. 2429 หนา้ ทใ่ี นกระทรวงยตุ ธิ รรมแทน คอื สมเดจ็ พระเจา้ บรมวงศเ์ ธอ จัดต้ังเ กรมพระสวัสดิวัดนวิศิษฏ์ ซ่ึงทรงได้รับแต่งตั้งให้ด�ำรง ประวัต พระราชกรณยี กิจในสมัยรัชกาลที่ 5 วชิ าชีพ ตำ� แหนง่ เสนาบดคี นแรก เมอื่ วันท่ี 1 เมษายน พ.ศ. 2435 หามีอง มีพระบรมราชโองการแต่งต้ังให้เป็นกอมมิตติ สมเดจ็ พระเจา้ บรมวงศเ์ ธอ กรมพระสวสั ดวิ ดั นวศิ ษิ ฏ์ วชิ ากฎ กรมพระนครบาล มีอ�ำนาจอย่างเสนาบดี งานของ ด�ำรงต�ำแหน่งเสนาบดีกระทรวงยุติธรรม 2 ปีเศษ ได้ 2440 โ กรมพระนครบาล คอื งานปกครองท้องท่ีในเขตนครหลวง เกิดวิกฤติการณ์ทางการเมืองระหว่างประเทศเรียกว่า ทรงเปน็ และเป็นศาลตุลาการของศาลกรมพระนครบาลด้วย วกิ ฤตกิ ารณ์ ร.ศ. 002 ซง่ึ กระทบกระเทือนต่อความเป็น เริ่มแต ได้ทรงพิพากษาคดีสำ� เรจ็ ลงเป็นอันมาก ในการพิพากษา เอกราชของประเทศไทยในขณะนน้ั อยา่ งยง่ิ พระบาทสมเดจ็ แยกยา้ ย คดีความ ทรงยึดถอื สุภาษติ ละติน ทีว่ า่ “In Criminali- พระจลุ จอมเกลา้ เจา้ อยหู่ วั จงึ ไดท้ รงพระกรณุ าโปรดเกลา้ ฯ ปพี ทุ ธศ bus Probations Debent Essa Luce Clariores” ให้ไปราชการยุโรป เพื่อเจรจาทางการทูตให้บังเกิดผล มีพระร ซึ่งแปลว่า “ในคดีอาญาข้อพิสูจน์ควรแจ่มใสยิ่งกว่า รว่ มกับสถานทตู ท่ีฝร่งั เศสและสถานทูตองั กฤษ ได้ตกลง จงึ ทรงพ แสงสว่าง” และมีโวหารใหม่ในค�ำพิพากษาของศาล ท�ำสัญญาดินแดนกนั ชน (Buffer State) เป็นเหตหุ นง่ึ ท่ี กระทรว กรมพระนครบาลว่า “ปล่อยผู้ผิดเสียสิบคนก็ยังจะดี ชาติไทยได้ด�ำรงอิสรรัฐ มีเอกราชตลอดมาถึงทุกวันนี้ กรมพร กว่าลงโทษคนที่หาผิดมิได้คนหน่ึง” งานของพระองค์ นอกจากภารกิจส�ำคัญย่ิงยวดท่ีกล่าวมาแล้ว สมเด็จ ขนึ้ 7 ค บางคร้ังได้รับแต่งต้ังเป็นแม่กองไปช�ำระความโจรผู้ร้าย พระเจา้ บรมวงศเ์ ธอ กรมพระสวสั ดวิ ดั นวศิ ษิ ฏ์ ไดม้ อบหมาย อกี 8 คน ในหวั เมอื ง เชน่ หวั เมอื งชายทะเลตะวนั ออก เมอื งพรหมบรุ แี ละ ให้เชิญสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ และพระเจ้าลูกยาเธอ สบื ไป เมอื งใกลเ้ คยี ง ซง่ึ มลี กั ษณะเสมอื นเปน็ ประธานศาลเคลอื่ นที่ ที่ทรงเจริญวัยข้ึน 2 พระองค์ คือ พระบาทสมเด็จ กรรมกา การศาลสถิตยุติธรรมของบ้านเมืองในต้นรัชกาล พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระเจ้าบรมวงศ์เธอ ประธาน ท่ี 5 ประกอบด้วย ศาลฎกี า ศาลแพง่ กลาง ศาลแพง่ เกษม กรมหลวงชมุ พรเขตอดุ มศกั ดิ์ ออกไปศกึ ษาตอ่ ณ ประเทศ ซึ่งพระบรมวงศ์เธอ กรมหลวงพชิ ติ ปรีชากร เม่อื ยงั ดำ� รง ยโุ รป และสบื สวนประสานกบั ประเทศต่าง ๆ ในยุโรปที่จะ กรมพร ตำ� แหนง่ กรมหมน่ื ทรงเปน็ อธบิ ดศี าลรับส่ังชำ� ระคดีความ ใหม้ กี ารรบั รองทพ่ี ระบาทสมเดจ็ พระจลุ จอมเกลา้ เจา้ อยหู่ วั ต�ำแหน ฎีกาทรงเช่ียวชาญในกฎหมายไทยอย่างยง่ิ ทรงจัดการรวม จะเสด็จพระราชด�ำเนินไปเชื่อมสัมพันธไมตรีกับ “กรมอ ศาลตา่ ง ๆ มาไว้แหง่ เดยี วกัน เพอื่ ต้ังเป็นกระทรวงยตุ ิธรรม ประเทศต่าง ๆ ในยุโรปเป็นคร้ังแรกใน ปี ร.ศ. 116 หลายฉบ เปน็ ช่วงเวลาบ้านเมืองมเี หตุการณส์ ำ� คญั ทาง พ.ศ. 2440 ด้วย แก่การ ท

อ หรือ พระราชกรณยี กิจในสมัยรชั กาลท่ี 6 อยใู่ นปัจจบุ ัน ตอนหน่งึ ในคำ� พพิ ากษาฎีกาที่ 326/2455 ฝรงั่ เศส สมเดจ็ พระเจา้ บรมวงศเ์ ธอ กรมพระสวสั ดวิ ดั นวศิ ษิ ฏ์ ทรงกลา่ วไวว้ ่า ะดับสูง ทรงกลับมาเป็นอธิบดีศาลฎีกาพระองค์แรกในรัชกาลท่ี 6 “.......ในคดที ่เี ป็นอุกฤษฏ์โทษถึงตาย ถ้าการ หฤทัย ระหวา่ งวนั ท่ี 11 เมษายน พ.ศ. 2456 ถงึ วนั ที่ 31 สงิ หาคม พิจารณายงั มิกระจ่าง จะฟังเอาพิรุธนายถมยา ลงโทษถงึ าชการ พ.ศ. 2461 หลงั จากที่ได้ทรงวางระเบยี บการจดั ราชการ ตายนย้ี ังหมน่ิ เหม่ ยังมคิ วร และธรรมภาษิตว่าไวว้ า่ คดี จึงทรง ศาลแผนใหม่ให้เป็นระบบมาตรฐานและทรงวางต�ำแหน่ง เมื่อมเี หตผุ ลเคลอื บคลมุ สงสัย แม้จะปลอ่ ยผ้ผู ดิ สกั 10 คน ปรีชากร เสนาบดีกระทรวงยุตธิ รรมคนแรก กย็ ังดกี วา่ ลงโทษคนทหี่ าผดิ มไิ ดค้ นหนงึ่ ดังน้.ี ......” ราชการ ทรงเป็นอาจารย์สอนกฎหมายที่มีพระนามเด่น โวหารของพระองค์ได้มีการรวบรวมข้ึนเป็นหนังสือช่ือ ชา 20 ทรงให้ก�ำเนิดการเรียกชายผู้ทรงคุณวุฒิทางกฎหมายว่า โวหารกรมพระสวัสดิ์ฯ ในเวลาต่อมา ซึ่งปรากฏอยู่ใน วงพิชิต “เนติบัณฑิต” อันท่ีจริงแล้วปรากฏตามประวัติว่า คำ� พพิ ากษาเรอ่ื งตา่ ง ๆ หลายฉบบั ลว้ นนา่ ศกึ ษาทงั้ สนิ้ จงึ มทูลลา พระองค์ทรงเป็นก�ำลังส�ำคัญพระองค์หนึ่งในการ กลา่ วกนั วา่ สมเดจ็ พระเจา้ บรมวงศเ์ ธอ กรมพระสวสั ดวิ ดั นวศิ ษิ ฏ์ ะปฏบิ ตั ิ จัดต้ังเนติบัณฑิตยสภา หลวงสารกิจปรีชาได้เขียนถึง เป็นนกั นิติศาสตรท์ ่ีผศู้ ึกษากฎหมายทกุ คนไม่ควรลมื มวงศเ์ ธอ ประวัติกำ� เนดิ เนติบัณฑติ ยสภาวา่ แต่เดิมมาผ้ทู ่ีประกอบ ห้ด�ำรง วชิ าชีพทางกฎหมาย คือ ผ้พู ิพากษา อัยการ ทนายความ พระราชกรณียกิจในสมัยรัชกาลที่ 7 . 2435 หามีองค์การที่จะช่วยส่งเสริมหรือควบคุมแต่อย่างใดไม่ รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว นวศิ ษิ ฏ์ วชิ ากฎหมายไดเ้ รมิ่ มกี ารสอนในรชั กาลท่ี 5 เมอื่ พทุ ธศกั ราช สมเด็จพระเจา้ บรมวงศ์เธอ กรมพระสวสั ดิวดั นวศิ ษฏ์ทรง ศษ ได้ 2440 โดยพระเจา้ บรมวงศเ์ ธอ กรมหลวงราชบุรดี ิเรกฤทธิ์ รบั ราชการครง้ั สดุ ทา้ ยในตำ� แหนง่ ผอู้ ำ� นวยการพระคลงั ขา้ งที่ รียกว่า ทรงเปน็ ผสู้ อนเอง และมกี ารสอบไลเ่ ปน็ เนตบิ ณั ฑติ รนุ่ แรก สมเดจ็ พระเจา้ บรมวงศเ์ ธอ กรมพระสวสั ดวิ ดั นวศิ ษิ ฏ์ วามเปน็ เริ่มแต่ปีพุทธศักราช 2440 เป็นต้นมา ผู้ท่ีสอบไล่ก็ต่าง ทรงเสกสมรสกบั พระเจา้ วรวงศเ์ ธอ พระองคเ์ จา้ หญงิ อาภาพรรณี ทสมเดจ็ แยกยา้ ยกนั ไปประกอบอาชพี โดยไมม่ สี มาคมเปน็ ทร่ี วม จนถงึ ซ่ึงเป็นพระราชนนีของสมเด็จพระนางเจ้าร�ำไพพรรณี ดเกลา้ ฯ ปพี ทุ ธศกั ราช 2457 พระบาทสมเดจ็ พระมงกฎุ เกลา้ เจา้ อยหู่ วั พระบรมราชินีในรัชกาลท่ี 7 และนอกจากนั้นทรงเป็น เกิดผล มีพระราชด�ำรัสเห็นสมควรให้จัดต้ังองค์กรดังกล่าวข้ึน พระประมุข มีพระโอรสและพระธิดากับพระชายาอ่ืนอีก ดต้ กลง จงึ ทรงพระกรณุ าโปรดเกลา้ ฯ ใหพ้ ระยาอภยั ราชฯ เสนาบดี รวมท้ังสิ้น 32 พระองค์ ภายหลังเม่ือเปล่ียนแปลง ตหุ นงึ่ ที่ กระทรวงยตุ ธิ รรมสมยั นน้ั ปรกึ ษากบั สมเดจ็ พระเจา้ บรมวงศเ์ ธอ การปกครองแผ่นดินจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราช ทุกวันน้ี กรมพระสวัสดวิ ดั นวิศษิ ฏ์ อธิบดีศาลฎีกาเลอื กกรรมการ มาเป็นระบอบประชาธิปไตย โดยพระมหากษัตริย์ สมเด็จ ขึ้น 7 คน และให้กรรมการ 7 คน เลอื กกรรมการสมทบขน้ึ เม่ือวันที่ 24 มิถุนายน พุทธศักราช 2475 แล้ว บหมาย อกี 8 คน รวมเปน็ 15 คน ปรกึ ษาตงั้ ขอ้ บงั คบั ของเนตบิ ณั ฑติ ยสภา สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระสวัสดิวัดนวิศิษฏ์ กยาเธอ สบื ไป โดยพระราชทานบนั ทกึ หรอื ร่างข้อบงั คบั ส�ำหรบั ให้ ก็ได้เสด็จไปประทับอยู่ท่ีเมืองปีนัง ตราบจนส้ินพระชนม์ สมเด็จ กรรมการพจิ ารณาเปน็ แนวทาง นอกจากน้ี ยงั ทรงใหก้ ำ� เนดิ เมือ่ วนั ที่ 10 ธนั วาคม พุทธศักราช 2478 รวมพระชันษา งศ์เธอ ประธานชอื่ หนงั สอื “ปทบณั ฑติ ย”์ ของเนตบิ ณั ฑติ ยสภาอกี ดว้ ย ได้ 70 ปี โดยมิได้เสดจ็ กลับประเทศไทยเลย ประเทศ นอกจากทก่ี ลา่ วมาขา้ งตน้ แลว้ สมเดจ็ พระเจา้ บรมวงศเ์ ธอ วงั ของพระองคจ์ งึ เปน็ ทรพั ยส์ นิ สว่ นพระมหากษตั รยิ ์ รปท่ีจะ กรมพระสวสั ดวิ ัดนวศิ ษิ ฏ์ ได้ทรงประทานก�ำเนิดการเรียก ทไ่ี ดม้ อบใหก้ ระทรวงศกึ ษาธกิ ารสรา้ งโรงเรยี นชา่ งกลปทมุ วนั จา้ อยหู่ วั ตำ� แหน่งอธบิ ดศี าลฎกี าวา่ “ประมุขตุลาการ” ทรงเริ่มต้ัง ตงั้ แตพ่ ทุ ธศกั ราช 2482 เปน็ ตน้ มาจนถงึ ปจั จบุ นั ดว้ ยสำ� นกึ ต รี กั บ “กรมอยั การ” ทรงวางกฎระเบยี บอนั เปน็ ทม่ี าของกฎหมาย ในพระคุณท่ีโรงเรียนช่างกลปทุมวันได้ให้การศึกษาแก่ ศ. 116 หลายฉบบั ทรงเปน็ ผนู้ ำ� เอาสภุ าษติ กฎหมายอนั เปน็ ประโยชน์ เยาวชนบนพน้ื ทข่ี องวงั นี้ จึงได้สร้างพระรปู ของพระองค์ แก่การวินิจฉัยคดีมาใช้จนเป็นหลักกฎหมายที่ยึดถือกัน ไวเ้ พื่อรำ� ลกึ พระเกยี รติคุณ ธ

ประวตั ิ นาวาเอก พระประกอบกลกิจ ร.น. เจอ๋ “ประ (เจ๋อ จันทรเวคิน) พระนค บิดาผใู้ ห้ก�ำเนิดโรงเรยี นอาชพี ชา่ งกล ขึ้น 2 ค กอ่ นทจี่ ะมาเป็น “ชา่ งกลปทมุ วัน” ของนา ก การศกึ ษาวชิ าชา่ งจกั รกลกวา่ จะกา้ วหนา้ มาถงึ “สถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน”ปจั จบุ นั เปน็ งานยง่ิ ใหญข่ องชาติ วทิ ยาล ในปีร่งุ ข ต้องพัฒนาท้ังระบบการเรียนการสอน สร้างบุคลากรให้มีความรู้ความสามารถทางเทคโนโลยี เพ่ือเป็นก�ำลังในการ กะลิน สร้างสรรคง์ านอุตสาหกรรมให้แกบ่ ้านเมอื ง ต้องใชเ้ วลาสัง่ สมความเป็นปกึ แผ่นนานนับสบิ ๆ ปี หรือเร อย่างไรก็ตาม ความมั่นคงของสถาบันนั้น เริ่มต้นมากน�้ำใจอันหนักแน่น เอาจริงเอาจังกับการรักงานช่างกล การศึก ของนายทหารเรือผู้หน่ึง ท่ีมุ่งม่ันปรารถนาจะเห็นคนไทยมีความรู้ทางช่างกลทัดเทียมกับชาวต่างชาติ เพ่ือช่วย และยศ สร้างชาติให้แข็งแกร่งทางด้านงานอุตสาหกรรมในอนาคต ท่านมีวิริยะมานะ อุตสาหะ บากบ่ันแรงกล้านัก สามารถ ที่กองเ กอ่ ตงั้ โรงเรยี นอาชพี ชา่ งกลเปน็ รากฐานเบอื้ งตน้ ขน้ึ มา ไมห่ วนั่ อปุ สรรคอยา่ งใด แสดงถงึ วสิ ยั ทศั นอ์ นั กวา้ งไกล หลอ่ หลอม ฝ ่ า ย อ� ด้วยความรักชาติ รักเยาวชน เป็นพลังผลักดันให้ความตั้งใจส�ำเร็จได้อย่างน่าชื่นชม ด้วยเหตุน้ี จึงสมควรจะได้ กองทพั น�ำประวัติของท่านมาแสดงให้ประจักษ์ เพ่ือเป็นการแสดงกตัญญูกตเวทีต่อบุคคลผู้ซ่ึงท�ำประโยชน์ต่อวงการศึกษา ทีส่ ร้างสรรค์รเิ รม่ิ ไว้ ซึ่งท่านผูน้ ี้ คือ “นาวาเอก พระประกอบกลกิจ ร.น.” ต�ำแหน ยุทธศกึ ร.พ.ล. ร.พ.ล. เสือทย เสอื ค�ำร กรมยทุ น

ของชาติ นาวาเอก พระประกอบกจิ ร.น. มนี ามเดมิ วา่ 10 ธ.ค. 2465 – 14 มิ.ย. 2466 นายหมวด งในการ เจอ๋ สกุล จันทรเวคิน ภายหลังเปลย่ี นชื่อใหมว่ ่า ช่างไฟฟา้ กรมยุทธโยธา ช่างกล “ประกอบ ประกอบกลกิจ” เป็นชาวจังหวัด 15 มิ.ย. 2466 – 16 ก.ย. 2466 สำ� รองราชการ พื่อช่วย กรมเสนาธกิ ารทหารเรอื ามารถ พระนครศรีอยุธยา เกิดเมื่อวันเสาร์ที่ 29 เมษายน 17 ก.ย. 2466 – 1 พ.ย. 2468 รองต้นกล อหลอม ขนึ้ 2 ค�่ำ เดอื น 6 ปีมะโรง พุทธศักราช 2435 เปน็ บุตร โรงเรยี นนายทหารเรอื รจะได้ ของนายด้าย นางยัง จนั ทรเวคนิ 2 พ.ย. 2468 – 3 เม.ย. 2473 ต้นกล รศึกษา เขา้ มาศกึ ษาวชิ าสามญั ในโรงเรยี นกรงุ เทพครสิ เตยี น โรงเรียนนายเรอื วทิ ยาลยั สำ� เรจ็ หลกั สตู รชนั้ มธั ยมศกึ ษา เมอ่ื พ.ศ. 2449 13 ส.ค. 2471 – 31 มี.ค. 2474 หัวหน้าหอ ในปีรงุ่ ข้นึ จึงสมัครเข้าศึกษาตอ่ ทีโรงเรียนนายเรือ พรรค วอทยาศาสตร์ กะลิน หรือเรียกในปัจจุบันว่า วิชาวิศวกรรมเคร่ืองกล 1 เม.ย. 2475 – 2 เม.ย. 2479 ผู้อ�ำนวยการ หรือเรียกว่า “นักเรียนนายช่างกล” และเม่ือส�ำเร็จ หอวิทยาศาสตร์ทหารเรือปัจจุบัน คือ กรมวิทยาศาสตร์ การศึกษาเข้ารับพระราชทานกระบ่ี ประกาศนียบัตร ทหารเรือ และยศ นายเรอื ตรี เมอ่ื ปี พ.ศ. 2454 และเขา้ รบั ราชการ ต่อมา เป็นผู้บัญชาการโรงเรียนนายทหารเรือ ที่กองเรือรบ ซึ่งปัจจุบัน คือ กองเรือยุทธการ ปจั จุบนั คือ สถาบันวชิ าการทหารเรอื ชั้นสงู ฝ่ายอ�ำนวยการกองทัพเรือ และหน่วยข้ึนตรง 1 ก.ย. 2475 – 2 เม.ย. 2479 ท�ำการในหน้าท่ี กองทพั เรอื ต่าง ๆ ท่ีปรึกษาฝา่ ยเทคนิค การชา่ งกรมเสนาธกิ ารทหารเรือ 3 เม.ย. 2479 – 11 ต.ค. 2480 ส�ำรองราชการ ตำ� แหน่งตา่ งๆ ท่ีได้ทำ� การในราชการทหารเรอื กองทัพเรือ 12 ต.ค. 2481 – 30 มิ.ย. 2488 ท่ีปรึกษาฝ่าย 1 เม.ย. 2454 - 31 พ.ค. 2454 ประจ�ำกรม เทคนิคกรมเสนาธกิ ารฯ ยทุ ธศึกษาทหารเรอื 1 มิ.ย. 2455 - 7 ต.ค. 2455 นายช่างกล เกษียณอายุ 55 ปี ร.พ.ล. เสือทยานชล 8 ต.ค. 2455 - 16 ม.ค. 2455 รองต้นกล กองทพั เรอื มคี ำ� สงั่ ใหอ้ อกประจำ� การเปน็ นายทหาร ร.พ.ล. เสอื ทยานชล นอกราชการ รับบ�ำเหน็จบ�ำนาญ สังกัดกรมก�ำลังพล 17 ม.ค. 2455 - 31 พ.ค. 2460 ต้นกลเรือ ทหารเรือ และแต่งต้ังให้ท�ำหน้าที่ ผู้จัดการบริษัท เสือทยานชล อ่กู รงุ เทพฯ จำ� กดั คนแรก 1 มิ.ย. 2462 - 5 ต.ค. 2463 ต้นกลเรือ พ.ศ. 2490 – พ.ศ. 2491 เสือค�ำรณสินธ์ุ เปน็ อาจารย์พเิ ศษโรงเรียนนายเรือ 6 ต.ค. 2463 – 10 ธ.ค. 2464 ส�ำรองราชการ กรมยทุ ธโยธาทหารเรือ บ

รับยศและเล่ือนยศทหารเรือ ได้รบั เปน็ นกั เรียนนายชา่ งกล 5 ต.ค. 2451 2 ธ.ค 1 เม.ย. 2453 ขึ้นทะเบยี นทหารประจ�ำการ 11 ธ. 1 เม.ย. 2455 – 31 พ.ค. 2455 นักเรียนนาย 28 ก ชา่ งกล 30 ธ. 1 มิ.ย. 2455 – 16 ก.ค. 2456 ว่าที่นายเรือโท 25 ก 17 ก.ค. 2456 – 24 พ.ค. 2459 สัญญาบัตร 6 พ.ย นายเรอื โท 28 ม 23 เม.ย. 2463 – 31 มี.ค. 2469 สัญญาบัตร 22 ม นายนาวาตรี 20 ก 1 เม.ย. 2470 – 31 มี.ค. 2476 สัญญาบัตร 20 ก นายนาวาโท 19 ก 1 เม.ย. 2477 – 11 ธ.ค. 2492 สัญญาบัตร 2 ธ.ค นายนาวาเอก รบั และเลอื่ นบรรดาศักด์ิ 26 พ.ค. 2460 – 31 มี.ค. 2472 สัญญาบัตร 14 ก หลวงประกอบกลกิจ 1 เม.ย. 2473 – 8 พ.ค. 2485 สัญญาบัตร ความดคี วามชอบในราชการ พระประกอบกลกจิ ผลงานของ นาวาเอก พระประกอบกลกิจ ร.น. 9 พ.ค. 2485 – 2 ส.ค. 2488 โปรดเกล้าฯ ให้ ปฏิบัติหน้าที่ในราชการทหารเรืออย่างเข้มแข็ง ลาออกจากบรรดาศกั ดร์ิ าชกจิ จา เลม่ ท่ี 59 ตอนที่ 33 ลว. หลายประการ ล�ำดบั ตามเหตกุ ารณ์อยา่ งสังเขป คือ 19 พ.ศ. 2485 พ.ศ. 2460 ไทยประกาศสงครามโลกคร้ังที่ 1 โปรดเกลา้ ฯ ใหก้ ลบั ใชบ้ รรดาศกั ดิ์ “พระประกอบ กับประเทศเยอรมณี ออสเตรีย และฮังการี เม่ือวันที่ กลกิจ” ตามเดิมเม่ือวันที่ 3 ส.ค. 2488 ตามแจ้งความ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2460 ท�ำหน้าที่ระวังเหตุการณ์ ทหารที่ 5ค/8829 ลว. 3 ส.ค. 2488 ลาดตระเวนทางทะเลตอนเหนือและใต้ โดยเรือรบ เสอื คำ� รณสินธ์ุ กอ่ ตงั้ โรงเรียนอาชพี ช่างกล นาวาเอก พระประกอบกลกิจ ร.น. เม่ือด�ำรง ต�ำแหน่งผู้บัญชาการ โรงเรียนนายเรือ และราชการ มนี โยบายจะคงเหลอื แตโ่ รงเรยี นนายเรอื แผนกพรรคนาวนิ หน่วยเดียว และยุบโรงเรียนนายเรือ แผนกพรรคกะลิน เสีย ในปี พ.ศ. 2474 ด้วยเหตุนี้ ท่านค�ำนึงว่า ช่างไทย จะขาดความร้ทู างช่างจักรกล อนั เป็นหัวใจของการพฒั นา อตุ สาหกรรมในอนาคต จงึ รเิ รม่ิ สรา้ งโรงเรยี น อาชพี ชา่ งกล ป

ได้รบั พระราชทานเครื่องราชอสิ ริยาภรณ์ ชีวิตครอบครัว 2 ธ.ค. 2454 เหรยี ญบรมราชาภเิ ษก นายนาวาเอก พระประกอบกลกิจ ร.น. ไดส้ มรส 11 ธ.ค. 2455 เหรียญราชรจุ ิตระ (ทอง) กบั นางสาวปราณี เจรญิ พาณชิ มีบุตร ธิดา 7 คน คือ 28 ก.พ. 2461 เบญจมาภรณ์ มงกฎุ 1. นางสาวปรยี า จนั ทรเวคนิ (ถึงแกก่ รรม) 30 ธ.ค. 2466 เบญจมาภรณ์ ชา้ งเผือก 2. แพทย์หญงิ ประณตี จันทรเวคนิ 25 ก.พ. 2468 เหรียญบรมราชาภิเษกเงนิ รชั กาลท่ี 7 3. แพทยห์ ญิง ประสงคพ์ ร จารุมิลนิ ท์ 6 พ.ย. 2468 เหรียญจกั รมาลา 4. นายประสาท จันทรเวคิน 28 ม.ี ค. 2474 เหรียญที่ระลึกงานฉลองพระมหานคร 5. พลเรอื ตรี ประสทิ ธิ์ จนั ทรเวคนิ 22 ม.ี ค. 2476 เหรยี ญพิทกั ษร์ ัฐธรรมนูญ 6. รองศาสตราจารย์ แพทย์หญิง ประมวลมาลย์ 20 ก.ย. 2480 ตรติ าภรณ์มงกฎุ สุจรติ 20 ก.ย. 2482 ตริตาภรณ์ชา้ งเผอื ก 7. นายประชา จันทรเวคิน 19 ก.ย. 2483 ทวีตยิ าภรณ์ มงกฎุ ไทย 2 ธ.ค. 2485 เหรียญชว่ ยราชการภายใน (คราว ถึงแกก่ รรม กรณีพพิ าทกบั อินโดจีน ฝรง่ั เศส ตามราชกิจจา เลม่ 6 ตอนที่ 4 นายนาวาเอก พระประกอบกลกิจ ร.น. ไดป้ ว่ ย วนั ที่ 10 ส.ค. 2486) เปน็ โรคมะเรง็ ในปอด และถึงแก่กรรม เมื่อ พ.ศ. 2492 14 ก.ค. 2486 เหรียญช่วยราชการภายใน สิริอายุ 61 ปี (คราวสงครามมหาเอเชียบรู พา ลกิจ ร.น. ตามราชกจิ จา เล่ม 60 ตอนท่ี 43 ข ้ ม แ ข็ ง วันที่ 17 ส.ค. 2486) คอื กครั้งที่ 1 เม่ือวันท่ี หตุการณ์ ดยเรือรบ เมอ่ื ด�ำรง ะราชการ รรคนาวนิ รคกะลิน ช่างไทย ารพฒั นา ชพี ชา่ งกล ผ

ศาสตราจารย์หมอ่ มเจ้ารชั ฎาภิเศก โสณกลุ ประวตั ิ ผ้พู ัฒนา โรงเรยี นชา่ งกลปทมุ วัน ศศาสตราจารย์ พ.ศ. 2472 อาจารย์คณะ อักษรศาสตรแ์ ละวทิ ยาศาสตร์ หม่อมเจ้ารัชฎาภิเศก โสณกุล จฬุ าลงกรณ์มหาวิทยาลัย พ.ศ. 2473 รองอธิบดี ประสูติเม่ือวันท่ี 16 กุมภาพันธ์ กรมวิชาการ พ.ศ. 2435 ทรงเปน็ พระโอรสใน พ.ศ. 2475 คณบดีคณะ พระเจ้าบรมวงศเ์ ธอ พระองค์เจ้าโสณ อกั ษรศาสตร์และวิทยาศาสตร์ บัณฑติ กรมขุนพทิ ยลาภพฤฒิธาดา จุฬาลงกรณม์ หาวิทยาลัย กบั หมอ่ มเอม พ.ศ. 2477 อธิบดีกรม มหาวิทยาลยั เกดิ เม ทรงเสกสมรสกบั หม่อมเจา้ หญิง พ.ศ. 2478 อธิบดีกรม การศกึ พิมพร์ �ำไพ รพพี ัฒน์ ศึกษาธกิ ารและรกั ษาการ อธบิ ดกี รมมหาวิทยาลยั พ.ศ. 24 ด้านการศึกษา พ.ศ. 2456 พ.ศ. 2480 อธบิ ดกี รมวชิ าการ พ.ศ. 24 พ.ศ. 2482 อธบิ ดกี รมอาชวี ศกึ ษา พ.ศ. 24 ทรงรับประกาศนียบัตรชนั้ สงู จาก พ.ศ. 2485 ศาตราจารย์ พ.ศ. 24 โรงเรยี นเอานเ์ ดลิ ประเทศองั กฤษ คนแรกของประเทศไทย พ.ศ. 24 (Oxfor and Cambridge Higher ในคณะอักษรศาสตร์และ certificate) พ.ศ. 2460 จบ วทิ ยาศาสตร์ จฬุ าลงกรณ์ ปรญิ ญาตรสี าขาวศิ วกรรม วิทยาลัย มหาวิทยาลัย ซิตีแอนด์กิลด์ มหาวทิ ยาลัยลอนดอน พ.ศ. 2485 อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม และปริญญา B.Sc,A.R.C.S.,D.I.C. พ.ศ. 2487 อธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ พ.ศ. 2468 จบปริญญา รกั ษาการปลดั กระทรวงอตุ สาหกรรมและยงั เปน็ กรรมการ พ.ศ. 24 M.Sc. ในสาขาฟสิ กิ ส์จาก อ�ำนวยการคุรสุ ภา Royal College Of science มหาวิทยาลัยลอนดอน สิ้นชีพิตักษัย เมอ่ื วันท่ี 5 กันยายน พ.ศ. 2492 ประวตั ิการทำ� งาน พ.ศ. 2466 ทรงรบั ราชการเป็นอาจารย์ที่จฬุ าลงกรณ์ มหาวิทยาลัย ฝ

กุล วนั ะ ประวัติ อ.สิทธิผล พลาชีวิน ตร์ “อาจารยส์ ิทธิผล พลาชีวิน” เดมิ ช่อื “ผล อ่อนแร่” ณะ เป็นบตุ รนายร่น และนางสมบุญ ออ่ นแร่ าสตร์ รม เกดิ เมือ่ วันอังคารที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2456 ณ ต�ำบลคลองรังสติ อ�ำเภอคลองหลวง จงั หวัดปทุมธานี กรม าร การศกึ ษา โรงเรียนประจำ� จังหวดั ธญั ญบุรี ชวี ติ ครอบครัว ย โรงเรยี นสวนกหุ ลาบวทิ ยาลยั วชิ าการ พ.ศ. 2463 โรงเรียนฝึกหัดครบู วรนิเวศ อ.สิทธิผล พลาชีวิน ท่านได้อุปสมบท ณ วัดส�ำแล ชวี ศกึ ษา พ.ศ. 2468 โรงเรียนพลศกึ ษากลาง จังหวัดปทุมธานี เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2478 จารย์ พ.ศ. 2472 โรงเรยี นภาษาญ่ปี นุ่ บางกอก และได้สมรสกับ นางสาวมาลัย เปรุนาวิน ศไทย พ.ศ. 2475 สอบไลภ่ าษาญีป่ นุ่ ได้ท่ี 1 เม่ือวันที่ 30 ธนั วาคม 2478 มีบุตร-ธิดา รวม 10 คน ร์และ พ.ศ. 2480 ได้ทุนของสมาคมญี่ปนุ่ – ไทย 1. นาง อรพินท์ โชติกาวนชิ ย์ ลงกรณ์ ไปศกึ ษา วฒั นธรรมและศลิ ปการต่อส ู้ 2. เดก็ หญงิ แป๋ว พลาชีวนิ (ถงึ แก่กรรม) ย ยโู ด ณ โกโดกวันแหง่ โตเกียว 3. นางสาวเบญจมาภรณ์ พลาชีวิน หกรรม และสอบไดเ้ ขม็ ขดั ดำ� ช้นั 1 (โชดนั ) 4. นายเทพดนัย พลาชวี ิน ช.ก. 34 และ โรงเรยี นการบัญชขี องสมาคม 5. นายนพดล พลาชวี ิน ช.ก. 35 รมการ Y. M. C. A. กรงุ เทพฯ 6. พนั ตรี วุทธชิ ยั พลาชวี นิ ช.ก.น. พ.ศ. 2483 7. พันตรี อุไรรตั น์ สนั ประเสรฐิ ช.ก. 37 8. นายกังวาฬ พลาชวี นิ ช.ก. 39 9. นางสาวกนั ยารัตน์ พลาชีวนิ 10. นางกอบกุล เลาหติ กลุ พ

เครอื่ งราชอิสสรยิ าภรณ์ท่ไี ด้รบั พระราชทาน ที่สระบ แผนที่ห 2476 เหรยี ญสละชพี เพ่ือชาติ นกั เรียน ปราบกบฎ ตน้ กำ� ล 27 กนั ยายน 2483 เบญจมาภรณ์ มงกฎุ ไทย และบร 18 กันยายน 2484 เบญจมาภรณ์ ช้างเผือก หล่อขึ้น 25 ธันวาคม 2491 จัตุรถาภรณ์ มงกุฎไทย โรงเรีย 5 พฤษภาคม 2493 เหรียญบรมราชาภเิ ศก (เงนิ ) ท่ีเป็นท 5 ธนั วาคม 2497 จัตรุ ถาภรณ์ ชา้ งเผอื ก สวนสัต 5 ธนั วาคม 2500 ตริตาภรณ์ มงกุฎไทย ป่วน ม ธนั วาคม 2502 เหรยี ญเกียรตยิ ศ กวาง แ กฬี าแหลมทอง ครั้งท่ี 1 องค์พร ใหน้ ักเร การรบั ราชการ ผลงาน ด�ำรงต�ำแหนง่ อาจารย์ใหญ่ ท่ีหันมา เข้ารบั ราชการในกระทรวงศึกษาธิการ อาจารยส์ ทิ ธิผล พลาชีวนิ อาจารย์สิทธิผล พลาชวี นิ ทา่ นได เมอื่ วันที่ 25 พฤษภาคม 2474 ท่านเป็นอาจารย์ใหญ่ ขณะด�ำรงต�ำแหน่งอาจารย์ สงคราม 25 พฤษภาคม 2474 ครโู รงเรียนวัดมหาธาตุ ท่ีปลูกฝังจิตส�ำนักและ ใหญ่ ร.ร.ชา่ งกลปทมุ วัน แม่งาน 18 สงิ หาคม 2477 ครูโรงเรียนมธั ยมวัดโสมนสั วัฒนธรรมองค์กรให้กับ ขึ้นเป็น 11 กรกฎาคม 2480 ครูโรงเรียนเกษตรกรรม พวกเราชาวช่างกลปทุมวัน (2500) บางกอกนอ้ ย ในเรอื่ งสุภาพบุรุษช่างกล ลกู ช่างกลปทมุ วนั ต้องรักกนั ดจุ ช่างกล 1 เมษายน 2481 ครโู รงเรยี นอาชพี ชา่ งกล พ่นี ้องรว่ มอทุ รของมารดาเดียวกนั ดว้ ยการหลอ่ หลอม ฝึกงาน เปน็ ครคู นแรกและคนเดยี ว จากกิจกรรมการเรียน การปฏิบัติตน ค�ำสอน และ โครงอา ในตอนนนั้ ที่ไมใ่ ช่ทหารเรือ สัญลักษณ์ เช่น เฟืองพี่เฟืองน้องท่ีเสาประตูโรงเรียน และใน 1 เมษายน 2482 ครูโรงเรยี นช่างกลปทมุ วนั สญั ลกั ษณ์ทีส่ อนใหพ้ ีน่ ้องชา่ งกลรกั กัน ดว้ ยวลขี องทา่ น 4 โรง 11 มถิ ุนายน 2486 ผ้ชู ่วยอาจารย์ใหญโ่ รงเรียน ที่สอนรุ่นพ่ีรุ่นน้องทุกวันแรกของการเปิดเรียนภาคท่ี 1 ให้นักเร ช่างกลปทมุ วัน ว่า “พวกเราช่างกลปทุมวันจะต้องรักกันเหมือนเฟือง เกื้อกลู ก 1 กรกฎาคม 2496 รกั ษาการในตำ� แหน่งอาจารย์ ท่ีขบกันหน้าโรงเรียน เฟืองอันใหญ่คือรุ่นพี่ ท่ีต้อง ใหญโ่ รงเรียนชา่ งกลปทมุ วัน ช่วยประคับประคองเฟืองอันเล็กที่เหมือนรุ่นน้อง” 1 กุมภาพนั ธ์ 2497 อาจารยใ์ หญ่โรงเรียน นอกจากนั้น ท่านเป็นผู้สร้างเอกลักษณ์ให้กับโรงเรียน ช่างกลปทมุ วัน หลายอย่าง เช่น สร้างบ่อเฟืองไว้ปลูกบัวแทนบัว 19 พฤษภาคม 2501 รกั ษาการในตำ� แหนง่ อาจารยใ์ หญ่ โรงเรยี นชา่ งกลพระนครเหนอื 19 พฤษภาคม 2501 รักษาการในต�ำแหนง่ อาจารย์ ใหญโ่ รงเรียนช่างกลลพบุรี 19 พฤษภาคม 2501 รกั ษาการในต�ำแหนง่ อาจารย์ ใหญ่โรงเรียนชา่ งกลนนทบรุ ี ลาออกจากราชการ เมื่อวันที่ 5 มกราคม 2505 รวมเวลารับราชการ 31 ปี ฟ

น ที่สระบัวขา้ งถนนพระราม 1 ทถ่ี กู ถมท�ำปั๊มนำ�้ มัน สระ แผนที่หน้าตึกอ�ำนวยการ ภูเขาน�้ำตก สร้างเพื่อให้ ย นกั เรียนเรียนรกู้ ารผลิตไฟฟ้าจากพลงั งานน้ำ� โรงไฟฟ้า (เงนิ ) ต้นกำ� ลัง (ปจั จบุ นั คือ อาคารสมโชค ทต่ี ัง้ ของสำ� นักวิจยั และบริการศูนย์ทดสอบและสอบเทียบ ร้ัวดอกบัวท่ี น่ง หล่อข้ึนเอง รูปหล่อหม่อมเจ้ารัชฎาภิเษกโสณกุลผู้พัฒนา ญ่ โรงเรียนมัธยมอาชีพช่างกลเป็นช่างกลปทุมวัน และ ลาชีวนิ ที่เป็นที่จดจ�ำกับศิษย์เก่าในรุ่น 2498 – 2503 คือ สร้าง าจารย์ สวนสัตว์ย่อยในช่างกล ไม่ว่าจะเป็นไอ้แก้ว ลิงแสบจอม มวนั ปว่ น มากด้วยตำ� นานและเร่ืองเลา่ ขานไม่รจู้ บ จระเข้ นก อาจารยส์ ทิ ธผิ ล พลาชวี นิ ขณะกำ� ลงั เขา้ รายงานตวั กกันดจุ อหลอม กวาง และปลาสวายตวั ใหญใ่ นบอ่ เฟอื ง และท่านเปน็ ผนู้ �ำ ตอ่ ฯพณฯ จอมพลสฤษด์ิ ธนะรชั ต์ นายกรฐั มนตรี น และ รงเรียน องค์พระวิษณุกรรมมาประดิษฐาน ท่ีหน้าตึกอ�ำนวยการ เกย่ี วกบั รถยนตท์ โ่ี รงเรยี นชา่ งกลปทมุ วนั ผลติ ขน้ึ องทา่ น าคที่ 1 ให้นกั เรียนไดส้ กั การะกนั จนถงึ ปจั จบุ ันน้ี ในงานแสดงศลิ ปหตั กรรมนกั เรียน นเฟือง ที่ต้อง ด้วยเหตุที่รัฐบาลมีนโยบาย นน้อง” พลังงานน้�ำตก ขยายโรงเรียนช่างกลไปตามภูมิภาค รงเรียน เพอื่ การศึกษา ท่านอาจารย์สิทธิผล เล็งเห็นว่าจะ แทนบัว น้�ำตกนี้จะใช้พลังงานท�ำ มีปญั หา เรื่องการขาดแคลนครูช่าง ไฟฟ้า ให้นักเรียนช่างกล จึงเปิดหลักสูตรฝึกหัดครูประถมช่างกล ศึกษาแขนงวิชาไฟฟ้า รับผู้ที่จบอาชีวศึกษาตอนปลาย จาก สร้างโรงต้นก�ำเนิดไฟฟ้า โรงเรียนการช่างต่าง ๆ มาเรียน 3 ปี จากพลังน้�ำตกน้ี โดย ได้วุฒิอาชีวะชั้นสูงแผนกฝึกหัดครู ใน ส า ม า ร ถ จ ่ า ย ก ร ะ แ ส ปี พ.ศ. 2500 กอ่ นที่วทิ ยาลยั เทคนคิ กรุงเทพฯ และวิทยาลัยครูอาชีวศึกษา ไฟฟ้าได้ 500 วัตต์ เทเวศร์ เปดิ สอนในหลกั สูตรนเ้ี ช่นกัน ในปี พ.ศ. 2500 ชว่ งนี้ความนิยมของประชาชน นอกจากน้ี ท่านได้ติดต่อหางานมาให้นักเรียน ท่ีหันมาเรียนช่างกลมากข้ึน เพราะจบแล้วหางานง่าย ท�ำหลงั เลิกเรียน เพือ่ ใหน้ กั เรยี นได้เพม่ิ พมู ประสบการณ์ ทา่ นได้รบั ความไวว้ างใจจากจอมพล ป. (แปลก) พบิ ูลย์ ตลอดจนมีรายได้ใชจ้ ่ายระหวา่ งเรียน และส่งิ ที่ท�ำให้ทา่ น สงคราม นายกรัฐมนตรีในสมัยน้ัน มอบหมายให้เป็น เป็นครูใหญ่ในดวงใจท่ีลูกศิษย์ให้ความเคารพนับถือดุจ แม่งานในการด�ำเนินการจัดต้ังโรงเรียนช่างกลเพิ่ม บิดาของเหล่าช่างกล 4 เฟืองทอง เพราะการท่ีท่าน ข้ึนเป็นการด่วน ท่านจึงจัดตั้งโรงเรียนช่างกลลพบุรี ปกครองลูกศิษย์แบบพ่อกับลูก ด้วยท้ังพระเดชและ (2500) โรงเรียนช่างกลนนทบุรี (2501) และ โรงเรียน พระคุณ รูจ้ กั ศิษย์ของท่านทกุ คนให้การช่วยเหลอื ลกู ศิษย์ ช่างกลพระนครเหนือ (2501) การก่อสร้างอาคาร ถ้ามปี ัญหาทกุ เร่อื งไมใ่ ชเ่ ฉพาะศิษย์ แต่บางคร้ังยังรวมไป ฝึกงานใช้แรงงานครูและนักเรียนช่างกลปทุมวัน เช่ือม ถึงครอบครัวของลูกศิษย์ ท่านกล่าวว่าเด็กช่างกล โครงอาคารเป็นชิ้นๆ แล้วน�ำไปประกอบที่ปลายทาง อาจซุกซนเกินไปบ้าง แต่เราต้องจับให้ได้ไล่ให้ทัน และในช่วงแรกท่านก็รับต�ำแหน่งอาจารย์ใหญ่ท้ัง แล้วแนะทางเดินใหมใ่ หเ้ ขา 4 โรงเรียน เพื่อวางรากฐานระบบให้มัน่ คงและปลูกฝงั ให้นกั เรยี นท้ัง 4 โรงเรียนรกั และสามัคคกี ัน ชว่ ยเหลือ เก้ือกลู กัน จนเปน็ ตำ� นาน 4 เฟอื งทอง มาถงึ ทุกวนั นี้ ภ

สาส์นฯพณฯ พลเอก พิจิตร กุลละวณชิ ย์ องคมนตรี ประธานทปี่ รึกษากติ ติมศักดิ์ สภาสถาบนั เทคโนโลยีปทมุ วัน 1. คณะวิทยาศาสตรและ์เทคโนโลยี 2. คณะวศิ วกรรมศาสตร์ โดยมีหลักสูตร ทั้งหมด 10 หลักสูตร สถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน ก�ำลังอยู่ในระหว่าง ส การจัดท�ำร่างหลักสูตร ระดับบัณฑิตศึกษา และ สถาบนั เทคโนโลยปี ทมุ วนั เดมิ เปน็ โรงเรยี น ในปี พ.ศ. 2556 จะท�ำการเปิดการเรยี นการสอน อาชพี ชา่ งกล จดั ตง้ั โดยกลมุ่ ทหารเรอื ในปี พ.ศ. 2475 เนอื่ งในโอกาสทส่ี ถาบนั เทคโนโลยปี ทุมวัน เพื่อฝึกสอนวิชาช่างให้กับนักเรียน โดยมีที่ต้ังอยู่ท่ี ครบรอบ 80 ปี ในปี พ.ศ. 2555 น้ี สถาบัน ตรอกกัปตันบูช สีลม บางรัก ต่อมาปี พ.ศ. 2478 เทคโนโลยีปทุมวัน ได้รับพระมหากรุณาธิคุณ ไดเ้ ปลยี่ นชื่อใหม่เป็นโรงเรยี นช่างกลปทุมวัน ทรงโปรดเกลา้ ฯ ใหส้ มเด็จพระเทพรตั นราชสุดาฯ ตอ่ มาในปี พ.ศ. 2517 กระทรวงศกึ ษาธกิ าร เสดจ็ แทนพระองคเ์ ปน็ องคป์ ระธานในพธิ พี ระราชทาน ไดย้ กฐานะโรงเรยี นชา่ งกลปทมุ วนั เปน็ วทิ ยาลยั ชา่ งกล ปริญญาบัตร ในวันท่ี 22 สิงหาคม พ.ศ. 2555 ปทุมวัน และเปิดสอนในระดับท่ีสูงข้ึน ในปี พ.ศ. ณ หอ้ งประชมุ สวสั ดโิ สภณ ชนั้ 7 อาคารเฉลมิ พระเกยี รติ 2536 รฐั บาลญป่ี นุ่ ไดล้ งนามสญั ญาความชว่ ยเหลอื และทรงวางศลิ าฤกษ์ อาคารใหม่ 5 ชน้ั ของสถาบนั ใหก้ ารสนบั สนนุ ทางดา้ นวชิ าการ โดยองคก์ าร JICA เทคโนโลยีปทมุ วนั ในวันเดยี วกนั ดว้ ย ในการเปดิ สอนหลกั สตู รปรญิ ญาตรี สาขาวชิ วศิ วกรรม ผมในฐานะประธานที่ปรึกษากิตติมศักด์ิ เมคคาทรอนกิ ส์ สภาสถาบนั เทคโนโลยปี ทมุ วนั และเคยรว่ มปฏบิ ตั งิ าน ในปี พ.ศ. 2540 วิทยาลยั ชา่ งกลปทุมวนั ร่วมกับอดีตผู้อ�ำนวยการฯ และอดีตนายกสมาคม จะท�ำการเปิดสอนในระดับปริญญาตรี โดยข้ึนตรง ศิษย์เก่าฯ มาหลายปี ซึ่งท้ังอดีตผู้อ�ำนวยการฯ ตอ่ กรมอาชวี ศกึ ษา จงึ ไดข้ อพระราชทานชอื่ วทิ ยาลยั และอดีตนายกสมาคมศิษย์เก่าฯ ได้ร่วมกันแก้ไข ชา่ งกลปทมุ วนั ใหม่ จากพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั ฯ ปัญหาและฝ่าฟันอุปสรรคต่าง ๆ ที่เกิดข้ึนจนลุล่วง พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั ฯ ไดพ้ ระราชทานชือ่ ผมมคี วามยนิ ดเี ปน็ อยา่ งยงิ่ ทไี่ ดเ้ หน็ ความเจรญิ กา้ วหนา้ เปน็ “ปทุมวัน” ของสถาบนั เทคโนโลยปี ทมุ วนั เจรญิ กา้ วหนา้ ในดา้ น ปี พ.ศ. 2547 สถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน วิชาการและผลิตนกั ศึกษาทม่ี คี ุณภาพออกสู่สังคม ไดย้ า้ ยมาสงั กดั สำ� นกั งานคณะกรรมการอดุ มศกึ ษา เพื่อมาสร้างคุณประโยชน์ให้ประเทศชาติ ตามพระราชบัญญัติ สถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน พ.ศ. 2547 ปัจจุบัน สถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน ได้ ฯพณฯ พลเอก พจิ ิตร กลุ ละวณชิ ย์ จดั การเรยี นการสอน ระดบั ปรญิ ญาตรี 2 คณะ คอื ประธานท่ีปรึกษากิตติมศกั ดสิ์ ภาสถาบนั ฯ ม

ย์ สารร นายจิรายุ อศิ รางกรู ณ อยธุ ยา ง ผูอ้ �ำนวยการ ะ ส�ำนกั งานทรพั ยส์ นิ ส่วนพระมหากษตั ริย์ ตน น ณ ฯ “น 5 ติ น ตลอดระยะเวลากว่า 80 ปีที่ผ่านมา โรงเรียนช่างกลปทุมวนั โรงเรยี นช่างกลปทุมวัน ได้ประสิทธ์ปิ ระสาททักษะ ไดฝ้ า่ ฟนั อปุ สรรค วิชาความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี นานัปการ ให้แก่เยาวชนได้ศึกษาเรียนรู้จากรุ่นสู่รุ่น ซ่ึงล้วน เติบใหญ่ขึ้นเป็นก�ำลังในการพัฒนาประเทศชาติ จนสามารถกา้ วขนึ้ เป็น เร่ือยมา โรงเรียนช่างกลปทุมวันได้ฝ่าฟันอุปสรรค “สถาบันเทคโนโลยี นานปั การ จนสามารถก้าวข้ึนเป็น “สถาบัน ปทมุ วนั ” ได้ในวันน้ี เทคโนโลยีปทุมวัน” ได้ในวันนี้ก็ด้วยความ ก็ดว้ ยความรว่ มแรงรว่ มใจ ร่วมแรงร่วมใจเป็นหนึ่งเดียวกันของท้ังคณะ ผบู้ ริหาร คณาจารย์ และเหลา่ นักเรยี น นักศกึ ษา เปน็ หน่งึ เดียวกนั เปน็ สำ� คญั ของทงั้ คณะผบู้ รหิ าร ส�ำหรับวาระการครอบรอบน้ี ผมขอ คณาจารย์ และเหล่า อวยพรให้สถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน มีความ นกั เรียน นักศกึ ษา เจริ ญก้าวหนา้ ด�ำรงรักษาความเขม้ แขง็ และผลติ บุคลากรท่ีเปี่ยมด้วยความรู้ความสามารถเพื่อ เป็นส�ำคญั ร่วมเป็นพลังส่วนหนึ่งในการพัฒนาชาติบ้านเมือง ตอ่ ไปคณุ ภาพออกสสู่ งั คม เพอ่ื มาสรา้ งคณุ ประโยชน์ ให้ประเทศชาติ ดิ์ น ม ฯ ข ง า น ”ม นายจิรายุ อศิ รางกูร ณ อยุธยา ผ้อู �ำนวยการ ส�ำนักงานทรพั ย์สินสว่ นพระมหากษัตรยิ ์ ย

สาร ศ.ดร.สุชาติ ธาดาธำ� รงเวช รฐั มนตรวี า่ การกระทรวงศกึ ษาธกิ าร ประเทศไทยจะได้พัฒนาในทุก ๆ ด้าน เท่าเทียมกับ นานาอารยประเทศ ผมอยากเห็นระบบกฎหมายและสังคมไทย ต้ังอยู่บนความยุติธรรม เอื้ออาทรต่อกัน ไม่หาเรื่อง ผ ใส่ร้ายป้ายสีกันด้วยเร่ืองไม่เป็นธรรม ไม่เข่นฆ่ากัน ผมมคี วามใฝฝ่ นั เสมอทตี่ อ้ งการใหส้ งั คมไทย ด้วยเร่ืองไร้สาระ เพื่อให้ประชาชนในประเทศไทย ได้ให้โอกาสคนยากจนชนส่วนใหญข่ องชาติ มงี านที่ ของเราทุกคนมีความสุขเฉกเช่นกับผู้คนในประเทศ สจุ ริตท�ำทุก ๆ คน มีรายไดต้ ามกำ� ลังสตปิ ัญญาและ เจรญิ แลว้ ความรู้ มโี อกาสพฒั นาอาชพี การงานไดต้ ามความฝนั การปกครองประเทศไทยต้องหลุดพ้นจาก สามารถเขา้ ถงึ แหลง่ ทรพั ยากร ทด่ี นิ เงนิ ทนุ การศกึ ษา อ�ำนาจและอิทธิพลของแนวความคิดแบบควบคุม เทคโนโลยี ได้มากเพยี งพอ สามารถขายสินค้าทผ่ี ลติ กลมุ่ ฉวยโอกาส กลมุ่ อนั ธพาล กลุม่ ซอ้ื สทิ ธิข์ ายเสียง ไดใ้ นตลาดทแ่ี ขง่ ขนั เทา่ เทยี มกนั โดยปราศจากอทิ ธพิ ล ทมี่ คี วามคดิ อยใู่ นระบบเกา่ ๆ เตม็ ไปดว้ ยการอปุ ถมั ภ์ และการผูกขาด อิทธิพล และการฉ้อราษฎรบ์ งั หลวง คนไทยทุกครอบครัวมีรายได้ มฐี านะ มีเงนิ ผมตอ้ งการเหน็ ประเทศไทย มีการปกครอง ทองมากเพียงพอ ท่ีจะสามารถส่งเสริมให้ลูกหลาน ในระบบประชาธิปไตยของประชาชน โดยประชาชน ไดเ้ รยี นหนงั สอื เรยี นเทคโนโลยี ไดม้ ากกวา่ สมยั กอ่ นๆ เพอ่ื ประชาชน อยา่ งแทจ้ รงิ ประชาชนทกุ คนมหี นง่ึ เสยี ง ทำ� ใหเ้ ดก็ ๆ และเยาวชนของเรามคี วามฝนั มจี นิ ตนาการ เท่าเทียมกัน จะท�ำให้คนส่วนใหญ่ของชาติหลุดพ้น ซง่ึ เปน็ สง่ิ สำ� คญั อยา่ งยงิ่ ยวดส�ำหรบั ชนชาตทิ ตี่ อ้ งการ จากความยากจน มคี วามฉลาดหลกั แหลมมสี ตปิ ญั ญา มอี นาคตมีความเจรญิ รุง่ เรอื ง ประเทศไทยจะไดก้ า้ วหนา้ เจรญิ รงุ่ เรอื ง อยดู่ มี สี ขุ อยา่ งแทจ้ รงิ ผมต้องการเห็นประเทศไทยได้ดูแลผู้ที่มี ในโอกาสครอบรอบ 80 ปี การกอ่ ตง้ั สถาบนั ความทุกขย์ าก มรี ะบบรักษาพยาบาลผู้เจ็บไขไ้ ด้ปว่ ย เทคโนโลยีปทุมวนั ในปี พ.ศ. 2555 ผมขอส่งความ โดยเฉพาะคนยากจนโดยรฐั เปน็ ผรู้ บั ผดิ ชอบ คนทพุ พลภาพ ปรารถนาดี พรอ้ มทง้ั กำ� ลงั ใจมายงั ครอู าจารย์ บคุ ลากร ไดร้ บั การดแู ลมศี กั ดเิ์ กยี รตภิ มู ิ มโี อกาสในการทำ� งาน และนกั ศกึ ษา ตลอดจนศษิ ยเ์ กา่ ของสถาบนั เทคโนโลยี เท่าเทยี มกับคนโดยท่วั ไป ปทุมวันทุกท่าน จงประสบแต่ความสุขความเจริญ คนไทยทกุ คนไมว่ า่ ยากดมี จี น มคี วามเสมอภาค มีก�ำลังใจในการผลิตนักศึกษาท่ีมีคุณค่า มีคุณธรรม มีสิทธิเสรีภาพ สามารถใช้วิจารณญาณในการรับรู้ จรยิ ธรรม ใหแ้ กส่ ังคมและประเทศชาติตลอดไป ข้อมูลข่าวสารได้ทั่วโลก ในวิทยาการด้านเศรษฐกิจ สังคม และการเมืองการปกครอง คนไทยท้ังประเทศ จะไดม้ สี ว่ นรว่ มในการแสดงความคดิ เหน็ ในการพฒั นา ชาตบิ า้ นเมืองได้อยา่ งกว้างขวาง ขจดั ระบบความคดิ (ศาสตราจารย์สุชาติ ธาดาธ�ำรงเวช) แบบแคบ ๆ มาบังคับให้คนไทยอยู่ในกรอบเดิม ๆ รฐั มนตรีวา่ การกระทรวงศึกษาธกิ าร ร

สาร นายอภิชาติ จีระวุฒิ เลขาธิการคณะกรรมการการอดุ มศึกษา เ เนอื่ งในโอกาสครบรอบ 80 ปี ของการก่อตั้ง สถาบนั เทคโนโลยีปทมุ วนั ผมขอแสดงความยนิ ดแี ละ “ขอสง่ ความปรารถนาดมี ายงั ผบู้ ริหาร คณาจารย์ ศิษย์เกา่ ผมขอช่นื ชมจากใจจริง ศิษย์ปจั จบุ ัน และผทู้ ีเ่ กี่ยวข้องทุกท่าน ตอ่ ผ้บู ริหาร ผมขอชื่นชมจากใจจริงต่อผู้บริหาร คณาจารย์ คณาจารย์ ทั้งในอดีตและปัจจุบัน ท่ีมีความมุ่งมั่นพัฒนาสู่ความ เป็นเลิศ ถงึ แมว้ ่าบางครงั้ ต้องประสบกับความยากล�ำบาก ทั้งในอดีตและปจั จุบัน แต่ด้วยความเพียรพยายาม ความร่วมแรงร่วมใจ ในการ ที่มคี วามมงุ่ ม่นั พัฒนา ถ่ายทอดความรู้และเป็นแบบอย่างที่ดีในด้านคุณธรรม ให้แก่ศิษย์ จึงท�ำให้งานส�ำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี คุณงามความดีท้ังหลายนี้ เป็นรากฐานส�ำคัญท่ีท�ำให้ สามารถสร้างสรรค์ผลงานอันทรงคุณค่าและก้าวต่อไป สูค่ วามเป็นเลิศ ในอนาคตไดอ้ ย่างยงั่ ยืนมัน่ คงสืบไป ถึงแมว้ ่าบางครั้ง ในโอกาสอันเป็นมงคลนี้ ผมขออวยพรให้การ ด�ำเนินงานของสถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน ประสบความ ตอ้ งประสบ ส�ำเร็จก้าวหน้าย่ิงขึ้นตลอดไป และขอให้ผู้บริหาร กับความล�ำบาก คณาจารย์ เจ้าหน้าที่ ศิษย์เก่า ศิษย์ปัจจุบัน และ แต่ดว้ ยความเพียรพยายาม ผู้ทเี่ กีย่ วข้องทุกคน ประสบแต่ความสุข ความเจรญิ มีความ ความรว่ มแรงร่วมใจ เขม้ แข็ง ทงั้ ทางรา่ งกาย จติ ใจ และสตปิ ญั า เพอื่ ร่วมกนั ในการถา่ ยทอดความรู้ เป็นก�ำลังส�ำคัญในการพัฒนาสถาบันสู่ความเป็นเลิศต่อไป และเป็นแบบอย่างที่ดี ประโยชนใ์ หป้ ระเทศชาติ ในดา้ นคณุ ธรรมใหแ้ ก่ศิษย์ ”จึงท�ำให้งาน (นายอภชิ าติ จรี ะวฒุ )ิ เลขาธิการคณะกรรมการการอดุ มศกึ ษา สำ� เรจ็ ลลุ ว่ งไปได้ดว้ ยดี ล

สารนายวีรวร สิทธิธรรม นายกสภาสถาบนั เทคโนโลยปี ทมุ วัน พ พุทธศักราช 2475 – 2555 กอ่ กำ� เนดิ ช่างกลปทุมวันครบ 80 ปี มคี วามหมายท่สี ำ� คัญ ยิ่งสำ� หรบั พวกเราชาวชา่ งกลปทมุ วัน ศษิ ยช์ า่ งกลปทมุ วนั สรา้ งชอ่ื เสียงให้กบั โรงเรียน วทิ ยาลัย สถาบัน จากอดีตสู่ปัจจุบันมากมาย ตัวอย่างผลงานของศิษย์เก่าที่ออกไปรับใช้ประเทศไทย มจี �ำนวนมากมาย ดา้ นการเมือง มศี ษิ ยเ์ ก่าทดี่ �ำรงต�ำแหนง่ รองนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรค การเมอื ง รัฐมนตรี สมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา ดา้ นการรบั ราชการ มศี ษิ ยเ์ กา่ ทด่ี ำ� รงตำ� แหนง่ รองประธานศาลฎกี า ผวู้ า่ ราชการจงั หวดั อยั การ ตำ� รวจ ทหาร อธิการบดี รองอธกิ ารบดี คณบดี คณาจารยใ์ นสถาบัน หรือมหาวิทยาลัย ต่าง ๆ ฯลฯ ดา้ นธรุ กจิ สว่ นตวั มศี ษิ ยเ์ กา่ ทเี่ ปน็ เจา้ ของกจิ การ เจา้ ของมหาวทิ ยาลยั เอกชน ผบู้ รหิ าร ระดับสงู ในบริษัทต่างชาติ รวมถึงในบริษัทต่าง ๆ ในประเทศอกี เปน็ จ�ำนวนมาก ทั้งหมดน้ีเป็นความภาคภูมิใจของบิดา มารดา ครูอาจารย์ และสังคมของชาวช่างกล ปทุมวนั มาโดยตลอด ในวันพุธท่ี 22 สิงหาคม พ.ศ. 2555 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ทรงพระกรณุ าโปรดเกลา้ ฯ ใหส้ มเดจ็ พระเทพรตั นราชสดุ าฯ สยามบรมราชกมุ ารี เสดจ็ พระราชดำ� เนนิ แทนพระองคใ์ นพธิ พี ระราชทานปรญิ ญาบตั รแกผ่ สู้ ำ� เรจ็ การศกึ ษาจากสถาบนั เทคโนโลยปี ทมุ วนั ณ สถาบนั เทคโนโลยปี ทมุ วนั พรอ้ มทง้ั เปน็ องคป์ ระธานในพิธีวางศลิ าฤกษอ์ าคารปฏิบัติการทาง ดา้ นวิศวกรรมศาสตร์ ถือไดว้ า่ เป็นเกยี รติประวัติอันล้�ำค่าและเปน็ ทีป่ ลาบปลม้ี ยินดีย่ิงนกั ในนามของสภาสถาบนั เทคโนโลยปี ทมุ วนั ซงึ่ กำ� กบั ดแู ลดา้ นนโยบายของสถาบนั ขออานภุ าพ และอำ� นาจแหง่ คณุ พระศรีรัตนตรยั องคพ์ ระวษิ ณกุ รรม องค์พระสยามเทวาธิราช พระคุณของ บดิ ามารดา พระคุณของครูอาจารย์ และสิง่ ศกั ดทิ์ ั้งหลาย จงดลบนั ดาลใหค้ ณะผบู้ รหิ ารสถาบนั เทคโนโลยปี ทมุ วนั รวมถงึ คณาจารย์ ขา้ ราชการ พนกั งาน ลกู จา้ ง และครอบครวั ตลอดจน นกั ศึกษาทกุ คน ประสบความสำ� เร็จ ความเจรญิ ในการประกอบสมั มาอาชพี และการด�ำเนนิ ชวี ิตตลอดไป (นายวรี วร สิทธิธรรม) นายกสภาสถาบนั เทคโนโลยีปทุมวัน ชก.29/2503 ว

สาร ดร.ทวีป รัมพาภรณ์ นายกสมาคมศษิ ยเ์ ก่า กรรมการส่งเสรมิ กจิ การสถาบัน ใ ในโอกาสครบรอบ 80 ปี สถาบนั เทคโนโลยี ปทมุ วนั เขา้ เฝา้ ฯ รบั พระราชทานทนุ การศกึ ษาจากดอกผล ปทุมวนั หรอื ช่างกลปทมุ วันเดิม กระผม ดร.ทวีป ของกองทนุ สมเดจ็ พระเจา้ บรมวงศเ์ ธอ กรมพระสวสั ด-ิ รมั พาภรณ์ นายกสมาคมศษิ ย์เก่า และกรรมการ วดั นวศิ ษิ ฏ์ ปลี ะ 4-6 ทนุ ณ พระวหิ าร วดั ราชาธวิ าส สง่ เสรมิ กจิ การสถาบนั ขอเชญิ ชวนพน่ี อ้ งชาวปทมุ วนั ทกุ วรวิหาร ต่อมาได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ ทา่ น รว่ มรำ� ลกึ ถงึ ความภาคภมู ใิ จในเกยี รตปิ ระวตั ขิ อง พลเรอื เอก หมอ่ มเจา้ ปสุ าณ สวสั ดวิ ตั น์ เปน็ ผแู้ ทนพระองค์ สถาบนั ฯ ซง่ึ กอ่ ตง้ั ขนึ้ เมอ่ื วนั ท่ี 1 สงิ หาคม พ.ศ. 2475 ประทานทนุ การศกึ ษาตอ่ มา บนพนื้ ทซี่ ง่ึ เปน็ วงั เดมิ ของ สมเดจ็ พระเจา้ บรมวงศเ์ ธอ พ.ศ. 2546 สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ กรมพระสวสั ดวิ ดั นวศิ ษิ ฏ์ ตรงขา้ มสนามกฬี าแหง่ ชาติ สยามมกฎุ ราชกมุ าร ทรงมพี ระมหากรณุ าธคิ ณุ โปรดเกลา้ ฯ ในปี พ.ศ. 2518 โรงเรยี นชา่ งกลปทมุ วนั ไดย้ กฐานะขนึ้ ใหส้ ถาบนั ฯ นำ� นกั ศกึ ษาแสดงกจิ กรรมการบรหิ ารกาย เปน็ วทิ ยาลยั ชา่ งกลปทมุ วนั ตอ่ มาในปี พ.ศ. 2541 คตี มวยไทย ตอ่ หนา้ ทป่ี ระทบั ณ สนามกฬี าแหง่ ชาติ วทิ ยาลยั ชา่ งกลปทมุ วนั ไดย้ กฐานะเปน็ สถาบนั เทคโนโลยี ตงั้ แตป่ ี พ.ศ. 2548 พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั ปทุมวัน ตามพระราชบัญญัติการจัดการศึกษา ทรงพระกรณุ าโปรดเกลา้ ฯ ให้ สมเดจ็ พระเทพรตั นราชสดุ าฯ ระดับปรญิ ญาตรี สยามบรมราชกมุ ารี เสดจ็ แทนพระองคพ์ ระราชทาน ในอดีตท่ีผ่านมาครั้งหน่ึง สมัยท่ีอาจารย์ ปริญญาบัตร แก่ผู้ส�ำเร็จการศึกษา จากสถาบัน สทิ ธผิ ล พลาชวี นิ เปน็ อาจารยใ์ หญ่ พระบาทสมเดจ็ - เทคโนโลยีปทุมวัน ณ อาคารสวนอัมพร และ พระเจา้ อยหู่ วั เสดจ็ พระราชดำ� เนนิ ณ โรงเรยี นชา่ งกล ในปี พ.ศ. 2555 น้ี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ปทมุ วนั รบั การทลู เกลา้ ถวายรถยนตจ์ ป๊ิ ประกอบโดย ทรงพระกรณุ าโปรดเกลา้ ฯ ให้ สมเดจ็ พระเทพรตั นราชสดุ าฯ นกั เรยี นชา่ งกลปทมุ วนั สยามบรมราชกมุ ารี เสดจ็ แทนพระองคพ์ ระราชทาน พ.ศ. 2507–2509, พ.ศ. 2511, และ พ.ศ. 2515 ปรญิ ญาบตั รฯ หลงั จากนน้ั เสดจ็ ฯ ทรงวางศลิ าฤกษ์ สมเดจ็ พระศรนี ครนิ ทราบรมราชชนนี เสดจ็ พระราชดำ� เนนิ อาคารปฏิบตั กิ ารทางวศิ วกรรมศาสตร์ มาพระราชทานเหรยี ญทองรางวลั ประพฤตดิ ี ใหน้ กั เรยี น ณ โอกาสน้ี ขอเชิญชวนศษิ ยเ์ กา่ และศษิ ย์ ชา่ งกลปทมุ วนั ปลี ะ 3 คน ปจั จบุ นั ทกุ ทา่ นรว่ มใจรวมพลงั กนั สนบั สนนุ สง่ เสรมิ การ พ.ศ. 2542 สมเดจ็ พระเจา้ พนี่ างเธอเจา้ ฟา้ บรหิ ารกจิ การสถาบนั ฯ ใหพ้ ฒั นาเจรญิ กา้ วหนา้ ยง่ิ ขนึ้ กลั ยาณวิ ฒั นา กรมหลวงนราธวิ าสราชนครนิ ทร์ เสดจ็ ฯ เพอื่ เป็นกำ� ลงั สำ� คญั ของประเทศชาตสิ บื ต่อไป ทรงเปิดพระอนุสาวรีย์ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระสวสั ดวิ ดั นวศิ ษิ ฏ์ ณ สถาบนั เทคโนโลยปี ทมุ วนั ตอ่ มาทกุ วนั ที่ 13 เมษายนของทกุ ปี อนั เปน็ วนั ทที่ รงบำ� เพญ็ (ดร.ทวปี รมั พาภรณ์) พระกศุ ลถวายสมเดจ็ พระปยิ มาวดี ศรพี ชั รนิ ทรามาศ นายกสมาคมศิษย์เก่า ทรงพระกรณุ าโปรดเกลา้ ฯ ใหน้ กั ศกึ ษาของสถาบนั เทคโนโลยี กรรมการสง่ เสรมิ กิจการสถาบัน ศ

สารรศ.ดร.ปัญญา มินยง อธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีปทุมวนั เเนื่องใน ปี พ.ศ. 2531 กระผมได้มีโอกาสเข้ามา ศึกษาต่อระดับประกาศนียบัตรช้ันสูง (ปวส.) ณ วิทยาลัยช่างกลปทุมวัน แผนกวิชาไฟฟ้า สาขาติดตั้ง รหัสประจ�ำตัว 314017620 และ หลังจากส�ำเร็จการศึกษาจากวิทยาลัยช่างกลปทุมวัน ได้รับทุนจากวิทยาลัยช่างกลปทุมวัน ไปศึกษาต่อระดับปริญญาตรี ณ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง หลักสูตรอุตสาหกรรมศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาการวัดและควบคุม หลังจากส�ำเร็จการศึกษา ได้บรรจุเป็นข้าราชการ ต�ำแหน่งอาจารย์ระดับ 3 สังกัดแผนกวัดคุม หลังจากนั้น กระผมได้ รบั ทุนจากรฐั บาลประเทศญีป่ ่นุ (ทุน Monbusho) ผา่ นองค์กร JICA เพื่อศกึ ษาระดบั ปรญิ ญา โทและปริญญาเอกทางดา้ นวิศวกรรม เมอื่ สำ� เรจ็ การศกึ ษาแล้ว ก็กลับมารับใช้สถาบันในฐานะ อาจารย์จากอดตี สู่ปัจจบุ ัน สถาบันแห่งนเี้ ป็นสถานทีผ่ ลิตบุคลากรด้านตา่ งๆ เพอ่ื รับใช้สังคม ตลอดระยะเวลา 80 ปี มรี นุ่ พ่ี ร่นุ นอ้ งตา่ งๆ มากมาย กระจายอยู่ทวั่ ประเทศ ในหลากหลายอาชีพ เช่น แพทย์ ผู้พพิ ากษา ทนายความ ทหาร ตำ� รวจ นักหนงั สอื พมิ พ์ นักการเมือง และบางท่าน เปน็ ถึงรองนายกรัฐมนตรี รฐั มนตรี วฒุ สิ มาชกิ และอ่ืน ๆ อกี มากมาย ในปัจจบุ นั ถ้ากล่าวถงึ “สถาบนั เทคโนโลยีปทมุ วัน” ยังไมเ่ ป็นที่รู้จักของบุคคลทวั่ ไป แต่มักจะรู้จักในนามของ “วิทยาลัยช่างกลปทุมวัน” ซึ่งเป็นสถาบันการศึกษาที่มีการพัฒนา และเจริญเติมโตอย่างต่อเนื่อง เร่ิมต้นจากโรงเรียนอาชีพช่างกล ต่อมาเปลี่ยนเป็นโรงเรียน ช่างกลปทมุ วนั วทิ ยาลยั ชา่ งกลปทมุ วนั และสถาบนั เทคโนโลยปี ทมุ วนั โดยมพี ระราชบัญญตั ิ สถาบนั เทคโนโลยีปทมุ วนั พ.ศ. 2547 เป็นของตนเอง ท�ำใหส้ ถาบันเทคโนโลยปี ทุมวนั มีฐานะ เป็นนิติบุคคล มีการจัดการเรียนการสอน 2 คณะวิชา คือ คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และคณะวิศวกรรมศาสตร์ รวมท้ังสิ้น 10 หลกั สตู ร การบริหารงานของสถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน ภายใต้พระราชบญั ญตั สิ ถาบันเทคโนโลยี ปทุมวัน พ.ศ. 2547 มีสภาสถาบันเป็นองค์กร ประกอบด้วยคณะบุคคล มีนายกสภาสถาบัน กรรมการผ้ทู รงคณุ วุฒิภายนอก กรรมการจากผู้แทนผู้บริหาร ผู้แทนคณาจารย์ ทำ� หน้าท่ีก�ำกับ เชงิ นโยบาย มอี ธกิ ารบดี รองอธกิ ารบดี ผชู้ ว่ ยอธกิ ารบดี คณบดี ผอู้ ำ� นวยการศนู ยฯ์ ผอู้ ำ� นวยการ ส�ำนัก ท�ำหน้าที่บริหาร เพ่ือน�ำนโยบายจากสภาสถาบันมาปฏิบัติให้เกิดผล มีสภาวิชาการ ท�ำหน้าทใี่ ห้คำ� ปรึกษาและพิจารณาเรอื่ งต่างๆ ทีเ่ ก่ียวขอ้ งกับวิชาการ มคี ณะกรรมการส่งเสรมิ กจิ การสถาบันคอยใหค้ ำ� แนะนำ� ข้อคดิ เห็นดา้ นตา่ ง ๆ เพอ่ื การพัฒนาสถาบันจากอดีต สปู่ ัจจุบัน มีการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ มากมาย ท�ำให้สถาบันเทคโนโลยีปทุมวันต้องปรับเปลี่ยนหลาย ษ

ต่อหลายด้าน ท�ำให้บุคลากรทางการศึกษามีการเปล่ียนถ่าย เป็นผลให้สถาบันขาดบุคลากร ส ทางการศกึ ษาท่ีมปี ระสบการณ์ด้านวชิ าการเปน็ อย่างมาก และในชว่ งระยะเวลา 10 ปีที่ผา่ นมา สถาบันได้ตกเป็นจ�ำเลยของสงั คมทางด้านลบเป็นระยะ ๆ หลังจากปี พ.ศ. 2552 สถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน ได้มีนายกสภาสถาบันคนที่ 2 ช่ือ ท่านวีรวร สิทธิธรรม อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภา เป็นศิษย์เก่าช่างกล ปทุมวัน รุ่น 29 ท่านได้ทุ่มเท ก�ำลังกาย ก�ำลังใจ เพ่ือปรับเปลี่ยนสถาบันที่ต้องตกเป็นจ�ำเลย ของสังคม โดยมีศาสตราจารย์ ดร.ถวิล พ่ึงมา ท�ำหน้าที่รักษาราชการแทนอธิการบดี ซึ่งท่าน ได้ทุ่มเทก�ำลังความสามารถและประสบการณ์ เพ่ือบริหารและนำ� พาสถาบนั แหง่ นไ้ี ปในทศิ ทาง ท่ีสถาบันการศึกษาระดับอุดมศึกษาควรจะเป็น ท่านท้ังสองได้ปฏิบัติงานตามนโยบายของ รฐั มนตรีกระทรวงศกึ ษาธกิ ารอย่างจรงิ จงั ท�ำใหป้ ญั หาต่าง ๆ ของสถาบันคลี่ลายลงในช่วงระยะ เวลาเกือบ 2 ปี และในขณะเดียวกันยังได้วางรากฐานในการพัฒนาสถาบันแห่งนี้ให้เจริญ เติบโตยิ่ง ๆ ข้นึ ไป กระผมเอง ในฐานะศิษย์เก่า และปัจจุบันได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ แต่งตง้ั ให้ด�ำรงต�ำแหน่งอธิการบดี ได้เข้ามาบริหารสถาบันเทคโนโลยีปทุมวันต่อจาก ศาสตราจารย์ ดร.ถวลิ พ่ึงมา และได้สานตอ่ นโยบายต่าง ๆ ที่ทา่ นอดตี รักษาราชการแทนอธกิ ารบดไี ด้สร้างไว้ โดยเฉพาะอยา่ งยง่ิ ในวนั ที่ 22 สงิ หาคม 2555 สถาบนั ไดร้ บั พระมหากรณุ าธคิ ณุ พระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยูห่ วั ทรงพระกรณุ าโปรดเกล้าฯ ให้ สมเดจ็ พระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จแทนพระองค์ทรงเป็นองค์ประธานในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรเป็นคร้ังที่ 5 ของสถาบนั และเป็นครงั้ แรกทจี่ ัดพธิ พี ระราชทานปริญญาบตั ร ณ สถาบนั เทคโนโลยีปทุมวัน และทรงเป็น องค์ประธานวางศลิ าฤกษ์ อาคารปฏิบตั กิ ารทางดา้ นวิศวกรรมหลงั ใหม่ ในปีการศึกษา 2556 สถาบันฯ มีแผนท่ีจะให้มีการจัดการเรียนการสอนระดับบัณฑิต ศึกษา (หลักสูตรปริญญาโท) วิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิตใน 3 สาขาวิชา คือ วิศวกรรมไฟ้ฟ้า เทคโนโลยีการผลิตช้นั สูง และปโิ ตรเคมสี งิ่ แวดล้อม และจะเปดิ การจัดการเรยี นการสอนในระดับ ดุษฎีบัณฑิตต่อไปในอนาคตอันใกล้นี้ นอกจากนี้ สถาบันยังได้รับความกรุณาจากธนาคาร ไทยพาณชิ ย์ ที่ได้บริจาคทดี่ ิน 3 แห่ง คือ ทจี่ ังหวัดกาญจนบุรี จังหวดั นครราชสมี า และจังหวัด เพชรบูรณ์ ซ่ึงในปัจจุบันสถาบันได้จัดส�ำรวจเพ่ือเตรียมจัดท�ำแผนแม่บท (Master Plan) สำ� หรับพฒั นาใหเ้ ปน็ วิทยาเขต ศูนยว์ ิจยั หรือแหลง่ การเรียนรขู้ องสถาบันตอ่ ไป สดุ ท้ายน้ี เนื่องในโอกาสครบรอบการกอ่ ต้ังสถาบัน 80 ปี กระผมขอใหศ้ ษิ ย์เก่าทกุ ทา่ น จงชว่ ยกนั รกั ษาไวซ้ ง่ึ เกยี รตแิ ละศกั ดศิ์ รขี องสถาบนั เทคโนโลยปี ทมุ วนั เพอื่ จกั ทำ� ใหส้ ถาบนั แหง่ นี้ อยู่คู่กับประเทศไทย และเป็นสถาบันอุดมศึกษาท่ีผลิตบัณฑิตรับใช้สังคมตราบชั่วฟ้าดินสลาย และกระผมขออาราธนาคณุ พระศรีรตั นตรัย และส่ิงศักด์สิ ิทธิท์ ั้งหลายในสากลโลก ตลอดจนองค์ พระวิษณกุ รรม จงดลบันดาลและปกป้องคมุ้ ครองทุกท่านใหป้ ราศจากภยนั ตรายทงั้ ปวง ประสบ ความสำ� เร็จในหน้าทกี่ ารงาน และรว่ มกันพฒั นาสถาบนั ให้เจริญกา้ วหนา้ สืบตอ่ ไป (รศ.ดร.ปญั ญา มินยง) อธกิ ารบดีสถาบันเทคโนโลยปี ทุมวนั

บริษัท พพี ีวาย โปรดกั ส จำกดั โทรศพั ท : 02-509-6646-7,02-510-5771 แฟกซ : 02-509-6646 E-mail: [email protected] Website: www.ppyproduct.com จำหนา ยและปรึกษา ⪤ ÍѾ»ÃеºÙ Ò¹ÊÇÔ§-ºÒ¹àÅ×่͹ ÍØ»¡Ã³»Ãе-٠˹ŒÒµ‹Ò§ ºÒ¹¾ÑºÍÍⵌ ÅÙ¡º´Ô ÍØ»¡Ã³» Ãеٷ¹ä¿ »Ãе·Ù ¹ä¿ ÍØ»¡Ã³ÃÒ§àÅ×่͹ÍÍⵌ ขอแสดงความยนิ ดีในโอกาสครบรอบ �� ปี สถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน ธวัชชยั คุมไพโรจน ชก.51

กัด 646 com ปี

บรษิ ัท � นก พลาสแพค จำกดั 3 PNOK LASPACK CO.,LTD. ผู้ผลติ และจำหน่าย ถงุ พลาสตกิ ตรา � นก ถุงพลาสติก ตรา รถทวั ร์ รายการสินค้า ถงุ รอนใส(PP),ถุงไฮเดน(HD),ถงุ เยน็ (PE) ถงุ ใสน้ำ,ถุงขยะดำ,ถุงหูหิ้ว ชนิดหนา-ชนิดบาง,ถุงหิ้วไฮโซ กระดาษเคลือบ,ชอนขาวพลาสติก,หลอดดดู น้ำ สนใจเปน็ ตัวแทนจำหน่าย 3NOKติดตอ ไดท่.ี .. บริษัท 3 นก พลาสแพค จำกัด 255/3 ม.11 ต.บางเสาธง อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ 10540 โทรศัพท 0-2397-9131 แฟก ซ 0-2397-9402 บี 3 นก Mechatronics รนุ 6

ด TD. ไฮโซ 6





สารบัญ ณ บุคลา 36 80 ปแี ล้ว... 38 40 สถาบันเทคโนโลยปี ทุมวัน คณะว 46 ประวัติ 47 ณ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศเ์ ธอ กรมพระสวัสดิวัดนวศิ ิษฎ์ 50 น นาวาเอก พระประกอบกลกจิ ร.น. 66 ฝ หมอ่ มเจ้ารัชฎาภิเศก โสณกุล 84 พ อาจารย์สทิ ธผิ ล พลาชีวิน 94 12 ประวัติสถาบันเทคโนโลยีปทมุ วัน 110 120 สัญลักษณ์ 126 138 น 28 ตราสญั ลักษณ์ วิสยั ทศั น์ ปรชั ญา อัตลักษณ์ เอกลักษณ์ คณะว ฝ 29 ส่งิ ศักด์ิสิทธป์ิ ระจ�ำสถาบันฯ 145 146 30 พระวษิ ณกุ รรม 150 31 เพลงมารช์ สถาบนั เทคโนโลยีปทุมวนั 155 แผนภูมิโครงสร้างบริหาร 162 32 โครงสร้างสภาสถาบนั เทคโนโลยีปทมุ วัน โครงก 33 โครงสร้างการบรหิ ารงานและการแบง่ หน่วยงานฯ 166 34 โครงสร้างสภาวิชาการ 169 171 44 155

บุคลากร 12 36 คณะผูบ้ ริหาร 169 38 บคุ ลากรระดับหัวหน้างาน 40 บุคลากรสายสนับสนุน คณะวิศวกรรมศาสตร์ 190 46 ประวัติความเป็นมาฯ 47 โครงสร้างการบริหารงานบุคลากรฯ 50 สาขาวชิ าวศิ วกรรมอเิ ลก็ ทรอนกิ สแ์ ละโทรคมนาคม 66 สาขาวิชาวิศวกรรมอุตสาหการ 84 สาขาวิชาวิศวกรรมเมคคาทรอนิกส์ 192 194 94 สาขาวิชาวิศวกรรมไฟฟ้า 110 สาขาวิชาวิศวกรรมการวัดและควบคุม 120 สาขาวิชาวิศวกรรมเครื่องกล 126 สาขาวิชาวิศวกรรมเคมี 138 สาขาวิชาวิศวกรรมการผลิต โครงการและกิจกรรม 172 กฬี าเชอื่ มความสมั พนั ธ์ คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 174 โครงการบรรพชาอปุ สมบทหมถู่ วายในหลวง 145 ประวตั คิ วามเปน็ มาฯ 176 จติ อาสาชว่ ยเหลอื ผปู้ ระสบอทุ กภยั ปี 2554 146 โครงสรา้ งการบรหิ ารงาน 178 กจิ กรรมเฉลมิ พระชนมพรรษา 5 ธนั วามหาราช 150 สาขาวิชาศึกษาท่ัวไป 182 กจิ กรรมทำ� บญุ วนั คลา้ ยวนั สถาปนาสถาบนั ฯ 155 สาขาวทิ ยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ 186 คา่ ยอาสาพฒั นาชนบท 162 สาขาวชิ าเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ โครงการความร่วมมือระหว่างประเทศ จากใจฯ... 166 มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยนี ากาโอกะ 190 พ.ต.อ. ฤชากร จรเจวฒุ ิ 169 วทิ ยาลยั เทคโนโลยแี หง่ ชาตอิ ชิ โิ นเซกิ 192 ศ.ดร.ถวลิ พงึ่ มา 171 มหาวทิ ยาลยั วทิ ยาศาสตรป์ ระยกุ ตโ์ ลเซนไฮม์ 194 นายอดุ ม จะโนภาษ และศูนยค์ วามร่วมมือบาวาเรยี่ นไทย



11



ประวัตคิ วามเป็นมา จากอดตี เม่ือประเทศไทยเข้าร่วมสนธิสัญญากับฝ่ายสัมพันธมิตรไมตรีใน สงครามโลกคร้ังที่ 1 ในรัชกาลที่ 6 และได้ส่งกองทัพไปร่วมรบใน ยุโรปเมื่อพุทธศักราช 2460 น้ัน การเดินทางของทัพไทยในสมัยน้ัน เดินทางโดยทางเรือรบจากอ่าวไทยไปทางมหาสมุทรอินเดียเข้า ท ะ เ ล เ ม ดิ เ ต อ เ ร เ นี ย น แ ล ะ เ ข ้ า ส ู่ ท วี ป ยุ โ ร ป เ ห ตุ ก า ร ณ ์ ค ร้ั ง นั้ น เ ป ็ น ปัจจัยหน่ึงท่ีประเทศไทยต่ืนตัวท่ีจะพัฒนาการทหารให้ท�ำหน้าท่ีปกป้อง อาณาเขตทางทะเลให้ม่ันคง ด้วยทะเลไทยมีฝั่งทะเลที่ยาวจากทิศตะวัน โรงเรยี น ออกลงไปสู่ภาคใต้ และฝง่ั ทะเลดา้ นตะวนั ตกซงึ่ ยาวกวา่ หลายพนั ไมลไ์ ดร้ บั งบประมาณ ส่ังซื้อเรือรบท่ีขับเคล่ือนด้วยเครื่องจักรต่างประเทศ เข้า ชา่ งกลปทุมวนั มาใช้ราชการเครอื่ งจกั รกลของเรือนี้เอง เป็นทมี่ าของคำ� วา่ “ช่างกล” เรือรบที่สั่งซ้ือจากยุโรป จำ� เป็นจะต้องศึกษาวธิ ีใช้วิธีซ่อมบำ� รงุ รักษา สู่ เคร่ืองจักรกลทปี่ ระจำ� เรือเปน็ หนา้ ทส่ี �ำคัญของทหารทป่ี ระจำ� เรือการศกึ ษาวธิ ีใช้ เครอ่ื งกลเรือของทหารเรอื ในสมัยนั้น ชว่ งแรก ๆ คอ่ นขา้ งจะเสยี เปรยี บประเทศผู้ สถาบัน ขายอยา่ งยงิ่ เพราะจะส่งช่างมาสอนใหโ้ ดยเฉพาะ หรอื มฉิ ะนน้ั ฝ่ายไทยก็สง่ ทหาร ไปศกึ ษายังประเทศที่ส่งั ซื้อโดยตรง ซ่งึ เป็นการใหค้ วามรู้เฉพาะบางส่วนทจี่ �ำเป็น เทคโนโลยีปทมุ วนั กับการใชง้ านเทา่ นนั้ นอกนัน้ ถอื เป็นความลับทม่ี ีการเปิดเผยความรใู้ ห้ และเม่ือ เคร่ืองจักรกลมีปัญหาหรือขัดข้องก็ต้องใช้ช่างจากประเทศส่ังซื้อมาดูแลแก้ไข หรอื ซ่อมบ�ำรงุ รักษา เปน็ การเสียงบประมาณสงู และเสียเวลานานในการรอคอย ช่างกว่าจะเดินทางมาถงึ เมอื งไทยด้วย อย่างไรก็ตาม กองทพั เรอื ไดม้ โี รงเรยี นนายเรอื สอนหลักสตู รวิศวกรรม เครอื่ งเรอื กล มีช่อื เฉพาะเรียกว่า “แผนกพรรคกะลนิ ” มาตง้ั แต่รชั กาลพระจุล จอมเกล้าเจ้าอยูห่ ัว ไดเ้ ปดิ สอนมาจนถึงพทุ ธศกั ราช 2474 แผนกพรรคกะลิน จึงยุบการสอนเสยี นายเรอื เอกทพิ ย์ ประสานสขุ ร.น. ต�ำแหนง่ กองชา่ งตรวจ เรือกรมเจา้ ทา่ ได้เล่าไว้ ในบทความ “บันทกึ จากอดีตชา่ งกล โรงเรียนชา่ งกลเกิดขนึ้ ได้อย่างไร” วา่ “พุทธศักราช 2474 เปน็ เวลาที่ผู้มอี �ำนาจในวงราชการอาจเหน็ ว่าโรงเรียน นายเรอื แผนกพรรคกะลินจะไมม่ ีประโยชน์หรือได้รบั ประโยชน์นอ้ ยไปไมท่ ราบ ทา่ นจึงสง่ั ยบุ เลกิ โรงเรียนนายเรือแผนกพรรคกะลนิ เสยี คงเหลือไว้แต่โรงเรียน นายเรือแผนกพรรคนาวินเท่านน้ั ฉะน้นั นายทหารเรือแผนกพรรคกะลินรนุ่ ปี 2473 จงึ เปน็ นายทหารรุ่นสุดทา้ ยทส่ี �ำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนนายเรอื แผนก พรรคกะลิน เมื่อผลปรากฏเชน่ น้วี ชิ าอาชพี ฝ่ายชา่ งในเมืองไทยยอ่ มร่อยหรอ หมดสน้ิ ไปทลี ะนอ้ ย ๆ เพราะการเรยี นฝา่ ยชา่ งทพี่ อจะเปน็ ทเี่ ชอ่ื ถอื ไดใ้ นเวลานน้ั ไม่มโี รงเรยี นชา่ งทไี่ หนดกี วา่ ทีน่ ่”ี 13


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook