Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ข้อมูลสารสนเทศและแหล่งการศึกษาตามอัธยาศัยตำบลแสนสุข

ข้อมูลสารสนเทศและแหล่งการศึกษาตามอัธยาศัยตำบลแสนสุข

Published by s.pannawitt, 2020-04-28 00:54:55

Description: ข้อมูลสารสนเทศและแหล่งการศึกษาตามอัธยาศัยตำบลแสนสุข

Search

Read the Text Version

ขอ้ มูลสารสนเทศและแหล่ง เรียนรู้การศึกษาตาม อัธยาศยั ตาบลแสนสขุ อ.เมืองชลบรุ ี จ.ชลบุรี เรยี บเรียงโดย นางสาวปานสิน จนั ทร์ดา ครศุ รช.ตาบลแสนสขุ คำขวญั เมืองแสนสุข \"บางแสนแสนสขุ สามมขุ ลือนาม ขา้ วหลาม หนองมน ประชาชนสามัคคี ประเพณีวนั ไหล\" ปีงบประมาณ 2562

สว่ นที่ 1 ข้อมูลพ้ืนฐำน ขอ้ มูลทั่วไป กศน.ตำบล ประวัติควำมเป็นมำของกศน.ตำบลแสนสุข กศน.ตำบลแสนสุข ต้ังอยู่ท่ีชุมชนเขำสำมมุข เป็นอำคำรศูนย์จำหน่ำยผลิตภัณฑ์ชุมชนเขำสำมมุข ตำบลแสนสขุ อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี ซ่ึงเป็นเขตกำรควบคุมดูแลของ เทศบำลเมืองแสนสุขและชุมชนแสน สุข เพอ่ื ใชเ้ ป็นสถำนท่ี ในกำรประกอบกจิ กรรมตำ่ งๆ ของคนภำยในชมุ ชนแสนสขุ กศน.ไดม้ ีนโยบำยใหจ้ ัดตง้ั กศน.ตำบลแสนสขุ จงึ ไดด้ ำเนินกำรติดต่อประสำนงำนกับท่ำนสรกิจ เสมอ วงษ์ สมำชกิ เทศบำลเมืองแสนสุข ซ่ึงเป็นประชุมชนเขำสำมมุข จึงได้รับควำมอนุเครำะห์และควำมเมตตำจำก ท่ำน ให้ใช้อำคำร เป็นสถำนท่ีจัดตั้ง กศน.ตำบลแสนสุข เพื่อเป็นสำนักงำน แหล่งเรียนรู้ และจัดกิจกรรม กำรเรียนรูข้ องคนในชมุ ชนในเขตตำบลแสนสุข และตำบลใกล้เคียง ใหไ้ ดร้ ับกำรศึกษำอยำ่ งทว่ั ถึง สถำนท่ตี ั้ง ตงั้ อยู่ ณ อำคำรศนู ย์จำหนำ่ ยผลติ ภณั ฑช์ มุ ชนเขำสำมมุข ตำบลแสนสุข อำเภอเมืองชลบรุ ี จังหวัดชลบุรี รหสั ไปรษณีย์ 20130 e-mail [email protected] เว็ปไซต์ http://202.143.146.68/muangchonburi/sansuk/ อำณำเขตติดต่อ ทศิ เหนอื ตดิ ตอ่ กับตำบลบำ้ นปกึ ทศิ ตะวนั ออก ตดิ ตอ่ กับตำบลเหมือง ทศิ ตะวันตก ติดต่อกับทะเล ทิศใต้ ติดตอ่ กับเทศบำลตำบลบำงพระ ขอ้ มลู พน้ื ฐำนทว่ั ไปของตำบล เทศบำลเมอื งแสนสขุ หรอื เมอื งแสนสขุ เป็นองค์กำรปกครองทอ้ งถนิ่ รปู แบบหน่ึง ครอบคลุมพ้ืนท่ี 3 ตำบล คือ ตำบลแสนสขุ ทงั้ ตำบล บำงส่วนของตำบลเหมอื ง และบำงส่วนของตำบลห้วยกะปิในเขตอำเภอเมือง ชลบุรีจังหวัดชลบุรี ห่ำงจำกตัวเมืองชลบุรี ประมำณ 13 กิโลเมตร อยู่ภำยใต้กำรบริหำรงำนของประชำชนใน ท้องถ่ิน โดยมีนำยสมชำย คุณปลื้ม อดีตนำยกเทศมนตรี นำยสวัสด์ิ หอมปล้ืม และนำยสมชำติ คุณปลื้ม ร่วม คิดร่วมทำและกำหนดนโยบำยและบริหำรงำนต่ำงๆ ในรูปแบบเทศบำล ทำให้ท้องถ่ินได้รับกำรพัฒนำ เจริญก้ำวหน้ำภำยในระยะเวลำ 13 ปี สถำนที่ที่มีชื่อเสียงแห่งหน่ึงของประเทศไทยคือ ชำยหำดบำงแสน

เน่ืองจำกเป็นแหล่งท่องเที่ยวของประชำชนทุกระดับ และห่ำงจำกกรุงเทพมหำนครไม่ไกลนัก เพียง 89 กิโลเมตรเทำ่ นั้ เทศบำลเมืองแสนสขุ ไดร้ บั กำรยกฐำนะจำกสุขำภิบำลแสนสุข ข้ึนเป็นเทศบำลตำบลแสนสุข เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกำยน พ.ศ. 2531 ต่อมำด้วยศักยภำพของท้องถ่ิน และ ผู้บริหำรท้องถ่ิน ในกำรบริหำรจัดกำรอย่ำง เป็นระบบสร้ำงควำมเจริญกำ้ วหนำ้ ไดอ้ ยำ่ งรวดเรว็ และในปพี .ศ. 2536 เทศบำลก็ได้รับกำรยก ฐำนะเป็นเมือง ลักษณะพิเศษ (เมืองท่องเท่ียว) ทำให้เทศบำลได้รับงบประมำณสนับสนุนจำกหน่วยรำชกำรต่ำงๆ มำกมำย เช่นกำรท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยกระทรวงวิทยำศำสตร์และเทคโนโลยีองค์กำรบริหำรส่วนจังหวัดกรมกำร ปกครอง ฯลฯ ซ่งึ เทศบำลได้นำมำใช้ในกำรพัฒนำอยำ่ งตอ่ เนอ่ื ง จวบจนปัจจุบนั เทศบำลได้รบั กำรเปลี่ยนแปลง จนขนึ้ เป็นเทศบำลเมืองแสนสุข เมอ่ื วนั ท่ี 27 ตุลำคม พ.ศ. 2544 สภำพทั่วไป ภมู ปิ ระเทศเป็นพนื้ ทีท่ ่ีระดับน้ำทะเลปำนกลำง เฉลย่ี 3 เมตร ภูมิอำกำศจัดอยู่ในประเภทมรสุมเมือง ร้อนหรือแบบทุง่ หญ้ำเมอื งร้อน ด้ำนตะวันออกเป็นที่รำบเชิงเขำลำดแนวชำยฝง่ั ทะเล จงึ เป็นหำดทรำยยำว ประมำณ 5 กิโลเมตร ควำมสูงของพืน้ ทว่ี ดั จำกนำ้ ทะเลประมำณ 3 เมตร สัญลกั ษณ์ประจำเมอื งแสนสขุ เป็นตรำรูปพวงมำลัยขนำดเส้นผ่ำศูนย์กลำง 5 เซนติเมตร ตรงกลำงมี รูปทรง กลมประกอบด้วยเรือใบหำปลำสมัยดั่งเดิมกำลังแล่นในทะเล โดยมีรูปเขำสำมมุขและภำพนกประกอบด้ำนหลัง ด้ำนบนของรูปมี ข้อควำม เทศบำลเมืองแสนสุข ด้ำนล่ำงมีข้อควำม จังหวัดชลบุรี กำรท่ี กำหนดรูปลักษณะดวงตรำประจำเทศบำลเมืองแสนสุขเช่นนี้เน่ืองจำก เขำสำมมุขเป็นภูเขำที่มีช่ือเสียงในพ้ืนท่ีได้รับกำรนับถือต่อเน่ืองมำเป็นเวลำช้ำนำนจำกประชำชนในท้องถ่ิน และประชำชนท่ัวไป ส่วนพวงมำลัยเรือและรูปเรือใบแสดงลักษณะเด่นของเมืองทะเลซึ่งในอดีต ประชำชนมี อำชีพด้ำนกำรประมงเป็นหลักตรำบจนในปัจจุบันนอกจำกนี้ชำยทะเลแสนสุขหรือหำดบำงแสนยังได้รับควำม นิยมจำกนักท่องเท่ยี วเพ่อื มำพักผ่อนตำกอำกำศจนกระท่ังมีชอื่ เสียงไปทั่วประเทศ คำขวัญ \"บำงแสนแสนสขุ สำมมุขลือนำม ขำ้ วหลำมหนองมน ประชำชนสำมัคคี ประเพณวี ันไหล\"’

ทตี่ ้งั และอำณำเขต ตั้งอย่ทู ำงตอนใต้ของอำเภอเมอื งชลบุรีบรเิ วณรมิ ฝ่งั ทะเลตะวนั ออกของอำ่ วไทย มพี ื้นท่ีทั้งสิ้น 20.268 ตำรำงกิโลเมตร (12,668 ไร่) โดยมอี ำณำเขตตดิ ต่อดังน้ี  ทศิ เหนือ ตดิ ต่อกับ ตำบลบ้ำนปกั ตำบลเสมด็ อำเภอเมอื งชลบรุ ีจงั หวัดชลบรุ ี  ทศิ ใต้ ตดิ ต่อกบั ตำบลบำงพระอำเภอศรรี ำชำจงั หวดั ชลบรุ ี  ทศิ ตะวันออก ตดิ ต่อกับ ตำบลหว้ ยกะปิอำเภอเมอื งชลบรุ ีจังหวดั ชลบรุ ี  ทศิ ตะวันตก ติดต่อกบั อำ่ วไทย เขตกำรปกครองเทศบำลเมืองแสนสุขเดิมตำบลแสนสุขครอบคลุมหมู่บ้ำนจำนวน 15หมู่บ้ำน (พ้ืนที่ 12.5 ตำรำงกิโลเมตร) และขยำยพื้นท่ีควำมรับผิดชอบเป็น 20 หมู่บ้ำนรวมตำบลเหมือง(บำงส่วน) และตำบล ห้วยกะปิ(บำงส่วน) แต่ปัจจุบันยกเลิกหมู่บ้ำนใช้ระบบถนน/ตรอก/ซอยแทนปัจจุบันเทศบำลเมืองแสนสุขมี พื้นทค่ี รอบคลุม 3 ตำบล คอื ตำบลแสนสุขท้งั ตำบลตำบลเหมอื ง (บำงส่วน) และตำบลหว้ ยกะปิ (บำงส่วน) รวม พ้ืนทปี่ จั จุบันทง้ั สนิ้ 20.268 ตำรำงกโิ ลเมตร (12,667. 5 ไร่ ) ด้ำนโครงสร้ำงพืน้ ฐำน กำรคมนำคมและขนสง่ โครงข่ำยกำรคมนำคม กำรคมนำคมสำมำรถติดต่อกับพื้นที่อื่นภำยนอกเขตเทศบำลได้ทั้งทำงบกและทำงน้ำแต่กำร คมนำคมทำงบกจะมีควำมสะดวกและรวดเร็วกว่ำประชำชนส่วนใหญ่จึงนิยมเดินทำงโดยรถยนต์สภำพพื้นท่ี ของเทศบำลมีลักษณะคลำ้ ยรปู ส่ีเหลย่ี มผืนผ้ำวำงตัวในแนวทศิ เหนอื ใต้โดยพนื้ ท่ีทำงด้ำนตะวันตกถูกขนำบด้วย อ่ำวไทยจึงทำให้แนวถนนสำยสำคัญส่วนใหญ่วำงแนวในทำงทิศเหนือ–ใต้และเม่ือพิจำรณำโครงข่ำยถนนใน ปัจจบุ ันสำมำรถจำแนกหน้ำทีแ่ ละควำมสำคญั ได้ดังน้ี 1) ถนนสำยประธำนได้แก่ทำงหลวงแผ่นดินหมำยเลข 3 (ถนนสขุ มุ วิท)เปน็ เสน้ ทำง จุดเรมิ่ ตน้ จำกกรงุ เทพมหำนครเชอ่ื มและผำ่ นตัวเมืองสำคญั ๆทำงภำคตะวนั ออกเชน่ สมทุ รปรำกำรบำงปะกง ชลบรุ เี ทศบำลเมืองแสนสขุ (หนองมน) ศรีรำชำพทั ยำระยองจนั ทบรุ ีและตรำดจึงเปน็ เส้นทำงท่สี ำคัญท้ัง ทำงด้ำนเศรษฐกิจและกำรท่องเท่ียวของภำคตะวันออก 2) ถนนสำยหลักไดแ้ ก่ทำงหลวงจงั หวัดหมำยเลข 314,3134 (เสม็ด- เขำสำมมขุ ) 3137 (ถนนลงหำดบำงแสน) ถนนบำงแสนสำย 1 และถนนบำงแสนสำย 2 โดยถนนบำงแสนสำย 1 เป็นถนนเลียบ ชำยหำดท่ีมีปริมำณกำรจรำจรหนำแน่นประชำชนและนักท่องเที่ยวนิยมใช้เส้นทำงนี้เป็นจำนวนมำกมีขนำด เขตทำงกว้ำง 30 เมตรส่วนถนนบำงแสนสำย 2 เปน็ ถนนสำยในขนำนกับถนนเลียบชำยหำดและเป็นถนนเพื่อกำรท่องเท่ียวที่สำคัญรองรับกำรจรำจรท่ีจะเข้ำ - ออกจำกพื้นท่ีชำยหำดบำงแสนรวมถึงกำรจรำจรประเภทผ่ำนเมืองที่มีควำมเร็วสูงปะปนกับจรำจรภำยใน

ชุมชนซ่ึงมีควำมเร็วต่ำขนำดเขตทำงกว้ำง 30 เมตรมีเกำะกลำงถนนพร้อมทำงเท้ำและปลูกต้นไม้ท้ังสอง ข้ำงทำง 3) ถนนสำยรองไดแ้ กถ่ นนขำ้ วหลำมและ 13 (ถนนเลีย่ งชุมชนตลำดหนองมน) ตำมผงั เมืองรวมเมืองชลบุรที ำหนำ้ ทีร่ องรบั กำรจรำจรจำกถนนสำยหลกั ถนนสำยประธำนและสำมำรถพัฒนำ ให้เปน็ ถนนที่มีควำมสำคัญตอ่ กำรท่องเทย่ี วและกำรคมนำคมติดต่อภำยในท้องถิน่ ได้ 4) ถนนสำยย่อยได้แก่ถนนที่เช่ือมต่อระหว่ำงถนนบำงแสนสำย 1 กับถนนบำงแสนสำย 2 และถนน ตัดใหม่เชื่อมต่อจำกถนนบำงแสนสำย 1 อ้อมแหลมแท่นไปบรรจบกับถนนบำงแสนสำย 2 และถนนรอบเขำ สำมมุขเป็นถนนท่ีเช่ือมต่อแหล่งท่องเที่ยวบริเวณชำยหำดบำงแสนเข้ำด้วยกันเป็นโครงข่ำยนอกเหนือจำก เส้นทำงคมนำคมดังกล่ำวยังมีเส้นทำงท่ีสำมำรถใช้ติดต่อกันในพ้ืนท่ีได้จำนวน 188 สำยคือถนนลูกรังจำนวน 48 สำยและถนนลำดยำงจำนวน 13 สำยถนนคอนกรตี เสริมเหล็ก (ค.ส.ล.) จำนวน 127 สำย ทำงเดนิ เทำ้ และทำงจักรยำน - ทำงเดินเทำ้ จะกำหนดควบคู่ไปกบั ถนนสำยต่ำงๆโดยกระจำยอยู่อยำ่ งท่ัวถึงทำงเดนิ เทำ้ ที่มี ควำมสำคัญสูงไดแ้ กท่ ำงเดินเท้ำรมิ ถนนบรเิ วณชำยหำดบำงแสนและทำงเดินเทำ้ พเิ ศษบรเิ วณด้ำนในชำยหำด (ห้ำมรถยนตแ์ ละรถจักรยำนยนต์) - ทำงจักรยำนได้แก่ถนนลงหำดบำงแสนและถนนเลยี บชำยหำด กำรจดั กำรขนสง่ มวลชน กำรจัดกำรขนสง่ มวลชนภำยในเขตเทศบำลเชน่ รถตู้ (บรษิ ัทศรรี ำชำทวั รจ์ ำกัด) รถตู้ (หจก. สี่พนี่ อ้ งทัวร์ แอนทรำเวลำ) และรถรบั จ้ำงขนำดเล็กอื่นๆ กำรจรำจร กำรจรำจรในเขตเทศบำลส่วนใหญ่ในช่วงวันหยุดเสำร์ – อำทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์จะมี ปริมำณรถหนำแน่นมำกเนื่องจำกมีประชำชนและนักเท่ียวเดินทำงมำซื้อสินค้ำท่ีตลำดหนองมนและพักผ่อน ตำมชำยหำดบำงแสนแหลมแทน่ เขำสำมมขุ ฯลฯเป็นจำนวนมำกส่วนในวันปกตปิ รมิ ำณรถจะเบำบำงกำรจรำจร คล่องตวั สะพำน จำนวน 6 แห่ง 1) สะพำนคลองบำงโปรง (บริเวณร้ำนกงุ้ สดปเู ปน็ ) 2) สะพำนคลองน้ำเหมน็ (บรเิ วณตำรวจทำงหลวงเขต 2 ชลบุรี) 3) สะพำนหนองมน (บริเวณแยกแกแล็กซี่) 4) สะพำนถนนข้ำวหลำม 5) สะพำนจดุ เชอ่ื มต่อระหว่ำงถนนมิตรสัมพนั ธก์ บั เขตบ้ำนปกึ จำนวน2 สะพำน สะพำนลอยคนขำ้ มจำนวน 3 แห่ง 1) สะพำนลอยหนำ้ ที่ทำกำรไปรษณยี ์บำงแสนถนนสุขมุ วิท 2) สะพำนลอยตลำดหนองมน

3) สะพำนลอยหนำ้ มหำวทิ ยำลัยบูรพำ กำรสื่อสำรและโทรคมนำคม ไปรษณยี ์ จำนวน 2 แห่ง - ที่ทำกำรไปรษณยี ์บำงแสนถนนสุขมุ วทิ (รหัสไปรษณยี ์ 20130) - ทท่ี ำกำรไปรษณีย์มหำวิทยำลัยบูรพำ (รหสั ไปรษณยี ์ 20131) โทรศพั ท์ 1) จำนวนโทรศพั ทส์ ว่ นบุคคลจำนวน 7,864 หมำยเลข (ลดลงจำกปี 2555 เนื่องจำก หมำยเลขโทรศัพทส์ ่วนบคุ คลผเู้ ชำ่ ยกเลกิ จำกสำเหตมุ ีหน้ีค้ำงชำระและหมดควำมจำเปน็ ใช้งำน) รำยละเอียดดังนี้ - สว่ นรำชกำรจำนวน 307 หมำยเลข - บ้ำนจำนวน 5,611 หมำยเลข - ธุรกิจจำนวน 1,924 หมำยเลข - ทศท. จำนวน 22 หมำยเลข 2) โทรศพั ทส์ ำธำรณะจำนวน 229 ตู้ 3) จำนวนชมุ สำยโทรศพั ทจ์ ำนวน 10 แห่ง - ชุมสำยบำงแสน - ชุมสำยหนองมน - ชุมสำยมณีแก้ว - ชมุ สำยแสนสุข - ชมุ สำยคนั ทรปี ำร์ค 2 - ชมุ สำยบำงแสนใต้ - ชุมสำยหำดวอน - ชุมสำยสำมมุขธำนี - ชุมสำยแหลมทองบำงแสน - ชมุ สำยบำงแสนมหำนครและจำนวนเลขหมำยทส่ี ำมำรถให้บรกิ ำรได้คอื จำนวน 12,367 เลขหมำยทม่ี ำ : สำนักงำนบรกิ ำรโทรศัพทบ์ ำงแสน สื่อสำรมวลชนในพนื้ ที่ 1) หนงั สอื พิมพ์จำนวน 3 ฉบบั - หนงั สือพมิ พบ์ ำงแสนโพสต์ - หนงั สอื พมิ พ์เสียงเสรี (ถนนสขุ ุมวิท) - หนงั สือพิมพล์ ำนมะพร้ำว (มหำวิทยำลัยบรู พำ) 2) สถำนีวทิ ยชุ มุ ชนจำนวน 2 สถำนี - วิทยชุ มุ ชนแสนสขุ (97.75) - วทิ ยุชมุ ชนบำงแสน (90.75) 3) สถำนวี ิทยโุ ทรทัศน์จำนวน 1 สถำนี - สถำนีวทิ ยโุ ทรทัศน์ (แสนสุขวชิ นั่ ) ระบบเสยี งตำมสำย 1 แหง่ (ศูนย์บริกำรนักทอ่ งเทย่ี วเทศบำลเมอื งแสนสุข) ใหบ้ รกิ ำรครอบคลุมร้อยละ 32 % ของพนื้ ท่ี (ชดุ อปุ กรณ์ติดต้ังภำครบั จำนวน 110 จดุ )

หนว่ ยงำนรำชกำรและอำสำสมคั รทีม่ ีข่ำยวิทยุสื่อสำรในพ้นื ท่ี 1) เทศบำลเมืองแสนสขุ (ศนู ย์วทิ ยุบำงแสน) - พนกั งำนเทศบำลและเจ้ำหน้ำทเี่ ทศบำลเมืองแสนสขุ - อปพร. (อำสำสมัครปอ้ งกนั ภัยฝำ่ ยพลเรือน) 2) สถำนตี ำรวจภูธรแสนสุข - เจ้ำหน้ำทีต่ ำรวจ - อำสำสมัครแจง้ เหตุ - ตำรวจชมุ ชน - กลมุ่ กระเบนธง - กลุ่มเสอื ดำ – กลุ่ม ต.เหมือง - อสจร. (อำสำสมคั รจรำจรแสนสขุ ) 3) สถำนตี ำรวจทำงหลวง 4) มูลนิธิไตรคุณธรรม 5) มูลนิธธิ รรมรศั มมี ณีรตั น์ ประปำ สำนักงำนประปำชลบรุ ีใหบ้ รกิ ำรนำ้ ประปำในเขตเทศบำลโดยอำศยั แหล่งน้ำ ดิบทใ่ี ชผ้ ลติ น้ำประปำ 1 แห่งคอื อ่ำงเก็บนำ้ บำงพระและซื้อนำ้ จำกบรษิ ัท East Water จำกดั - น้ำประปำท่ผี ลิตได้ทง้ั หมด 8,760,000 ลบ.ม./วัน นำ้ ประปำท่ีใช้ในเขตเทศบำล 24,000 ลบ.ม./วัน - จำนวนครวั เรอื นที่ใชป้ ระปำ 17,701 หลังคำเรอื น (ปี 2555 เทศบำลเมืองแสนสุข มจี ำนวนบ้ำนท้ังสน้ิ 28,057 หลงั คำเรือน) - ใหบ้ ริกำรครอบคลมุ ร้อยละ 63.09 ของพน้ื ทีท่ ้งั หมด (เขตเทศบำลเมืองแสนสุข) ไฟฟ้ำสำธำรณะ ไฟฟ้ำสำธำรณะในเขตเทศบำลเมอื งแสนสุข (ไฟฟำ้ ส่องสวำ่ ง ) จำนวน 3,431 ชุด ครอบคลุมถนน 85 สำยประกอบดว้ ยโคมไฟดงั น้ี - โคมไฟโซเดียมขนำด 250 วตั ต์จำนวน 1,837 ชุด และโคมไฟโซเดียมขนำด 400 วัตตจ์ ำนวน 110 ชดุ - โคมไฟนีออนขนำด 36 วตั ตจ์ ำนวน 1,184 ชุด - หลอดประหยดั ขนำด 65 วตั ตจ์ ำนวน 300 ชดุ กำรใช้ทดี่ นิ พ้นื ทเ่ี ทศบำลเมืองแสนสุขอยู่ในเขตผงั เมืองรวมเมืองชลบุรีซ่ึงดำเนินกำรวำงและ จดั ทำโดยกรมโยธำธิกำรและผังเมืองกระทรวงมหำดไทยปัจจบุ ันได้ประกำศบังคับใช้ผังเมอื งรวมเมืองชลบรุ ี แลว้ เมื่อวนั ท่ี 7 พฤษภำคม 2553 มีกำหนดบงั คบั ใช้ 5 ปีโดยมีกำรจำแนกกำรใชป้ ระโยชนท์ ่ีดนิ ในเขตเทศบำล ไว้10 ประเภทได้แก่

- ทด่ี ินประเภทที่อยูอ่ ำศัยหนำแน่นนอ้ ย - ที่ดนิ ประเภทท่ีอยู่อำศยั หนำแน่นมำก -ท่ดี ินประเภทพำณิชยกรรม - ท่ดี ินประเภทชนบทและเกษตรกรรม - ทดี่ ินประเภทอนรุ ักษ์สภำพแวดล้อมเพ่ือกำรท่องเทีย่ ว - ทด่ี ินประเภทที่โล่งเพื่อนันทนำกำรและรักษำคณุ ภำพส่งิ แวดล้อม - ทด่ี นิ ประเภทสถำบนั กำรศึกษำ - ท่ดี ินประเภทสถำบันศำสนำ - ทด่ี ินประเภทสถำนทรี่ ำชกำรกำรสำธำรณปู โภคและสำธำรณูปกำร - ทีด่ ินประเภทโครงข่ำยคมนำคมขนสง่ ปัจจุบันในเขตเทศบำลมีลักษณะกำรใชท้ ่ีดินสำหรบั กิจกรรมต่ำงๆดงั น้ีคือ - พน้ื ทพี่ ักอำศยั 7,544 - 1 - 76 ไร่ - พื้นทพี่ ำณชิ ยกรรม 691 - 2 - 09 ไร่ - พื้นทต่ี ัวหน่วยงำนของรฐั 132 - 2 - 00 ไร่ - สวนสำธำรณะ/นันทนำกำร 163 - 3 - 00 ไร่ - พื้นทเ่ี กษตรกรรม 3,293 - 2 - 15 ไร่ - พน้ื ทตี่ ้ังสถำนศกึ ษำ 741 - 1 - 00 ไร่ - พน้ื ท่ีวำ่ ง 100 - 2 - 95 ไร่ ด้ำนสงิ่ แวดลอ้ มและทรัพยำกรธรรมชำติ ภมู อิ ำกำศ - อุณหภูมเิ ฉลี่ยต่อเดอื นมกรำคม - เมษำยน 2555 ต่ำสุด 32.30 องศำเซลเซยี ส สูงสดุ 35.60 องศำเซลเซยี ส - อุณหภูมเิ ฉลยี่ ตอ่ เดอื นพฤษภำคม - สิงหำคม 2555 ตำ่ สุด 33.50 องศำเซลเซยี ส สงู สดุ 34.90 องศำเซลเซียส - อุณหภมู ิเฉลย่ี ต่อเดอื นกนั ยำยน - ธันวำคม 2555 ต่ำสดุ 32.70 องศำเซลเซียส สงู สดุ 33.60 องศำเซลเซียส ปรมิ ำณน้ำฝนในเขตอำเภอเมืองชลบรุ ี ปริมำณฝนรวมทัง้ ปี 1,358.8 ม.ม.ปรมิ ำณฝนสูงสุด 87.60 ม.ม. ในช่วงเดอื นมิถนุ ำยน ปริมำณฝนตำ่ สดุ 0.0 ม.ม. ในช่วงเดอื นธันวำคมไม่มฝี นตก - ปรมิ ำณฝนชว่ งเดือนมกรำคม – เมษำยน 2555 เฉลีย่ 48.08 ม.ม. - ปรมิ ำณฝนช่วงเดอื นพฤษภำคม – สิงหำคม 2555 เฉลยี่ 118.20 ม.ม. - ปริมำณฝนช่วงเดือนกันยำยน – ธนั วำคม 2555 เฉล่ีย 173.40 ม.ม. จำนวนวนั ทฝี่ นตกตลอดท้งั ปี 124 วนั ทม่ี ำ : สถำนอี ุตุนยิ มวทิ ยำ

แหล่งนำ้ 1) บอ่ น้ำจำนวน 3 แหง่ ไดแ้ ก่บอ่ น้ำวัดเก่ำโบรำณบ่อน้ำในมหำวิทยำลยั บรู พำ และสสุ ำนสวำ่ งผลหนองมน 2) คลองจำนวน 3 แหง่ ไดแ้ ก่คลองบำงโปรงคลองนำ้ เหม็นและคลองเขต เทศบำล (ดำ้ นทศิ ใต้) กำรระบำยน้ำ - พ้ืนทนี่ ำ้ ท่วมถึงคดิ เป็นร้อยละ 1 ของพื้นทท่ี ัง้ หมด - ระยะเวลำเฉลย่ี ทนี่ ้ำท่วมขังนำนทีส่ ุด 2 วนั ช่วงเดือนกันยำยน – ตุลำคม 2555 - เครอ่ื งสบู น้ำ - เครอ่ื งที่ 1 เสน้ ผ่ำศนู ยก์ ลำง 8 น้วิ จำนวน 1 เครอ่ื ง - เคร่อื งที่ 2 เสน้ ผ่ำศูนยก์ ลำง 3 นิ้วจำนวน 7 เครื่อง น้ำเสยี (เดือนมกรำคม 2556) 1) ปรมิ ำณนำ้ เสียท่ีรองรบั ไดร้ วม 2 แห่งจำนวน 23,000 ลบ.ม./วนั จำแนกไดด้ งั น้ี - โรงปรับปรุงคุณภำพนำ้ แสนสุขเหนอื 14,000 ลบ.ม. / วัน - โรงปรับปรงุ คุณภำพนำ้ แสนสุขใต้ 9,000 ลบ.ม. / วัน 2) น้ำเสียท่ีบำบัดไดท้ ัง้ 2 แหง่ จำแนกไดด้ ังนี้ - โรงปรบั ปรุงคุณภำพน้ำแสนสุขเหนือบำบัดได้เฉล่ยี 4,045 ลบ.ม./วนั - โรงปรบั ปรุงคุณภำพนำ้ แสนสขุ ใตบ้ ำบัดไดเ้ ฉลย่ี 7,003 ลบ.ม./วัน 3) ระบบบำบดั นำ้ เสียที่ใช้คือเลย้ี งตะกอนแบบคลองวนเวยี น (OXIDATION DITCH) รวม 2 แหง่ ท่ีมำ : กองช่ำงสุขำภบิ ำล ดำ้ นเศรษฐกจิ โครงสรำ้ งทำงเศรษฐกิจ / รำยไดป้ ระชำกร เทศบำลเมืองแสนสขุ เปน็ ชุมชนทำงกำรศึกษำกำรทอ่ งเท่ยี วและท่ีพกั อำศัยประชำกรส่วนใหญ่ประกอบอำชีพค้ำขำยประมำณ 80 % เศรษฐกิจโดยรวมจึงขึ้นอยู่กับกำรพำณิชย์ กรรมกิจกรรมด้ำนกำรค้ำต้ังอยู่หนำแน่นบริเวณตลำดหนองมนและชำยหำดบำงแสนจึงทำให้เศรษฐกิจเติบโต อยำ่ งรวดเรว็ นอกจำกน้ียังมอี ำชีพอ่นื ๆทเ่ี สริมสรำ้ งเศรษฐกจิ ของชมุ ชุนไดแ้ กอ่ ำชพี ประมงทำสวนมะพร้ำวฟำร์ม กุ้งรับจ้ำงและรวมถึงกิจกำรที่เกี่ยวเน่ืองกับกำรบริกำรด้ำนกำรท่องเที่ยวเช่นกำรให้เช่ำจักรยำนเรือลำกกล้วย ( บำนำนำ่ โบ้ท) สกตู๊ เตอร์เปน็ ต้น เกษตรกรรมในเขตเทศบำลเมืองแสนสขุ ดำ้ นพชื ผลพชื ผัก พชื ผล จำนวน 58 ครัวเรอื น พ้ืนท่ปี ลูกพชื ทง้ั หมดจำนวน 161 ไร่ พชื ไร่ จำนวน – ครวั เรอื น พ้ืนทป่ี ลูกพชื ท้งั หมดจำนวน - ไร่

พชื ผัก จำนวน 34 ครัวเรอื น พ้ืนทป่ี ลูกพชื ท้งั หมดจำนวน 21 ไร่ รวมทง้ั สนิ้ จำนวน 92 ครวั เรอื น พนื้ ทป่ี ลูกพชื ท้ังหมดจำนวน 182 ไร่ รวมรำยได้ตลอดปีจำกพืชผลพืชผกั จำนวน 20,000,000 บำท ท่ีมำ : เกษตรอำเภอเมืองชลบรุ ี ด้ำนประมง จำนวน 159 ครัวเรือน ทมี่ ำ : ประมงอำเภอ ดำ้ นปศุสตั ว์ จำนวน 18 ครัวเรือน ทม่ี ำ : ปศุสตั วจ์ ังหวดั . กำรพำณิชยกรรมและบรกิ ำร - สถำนบี ริกำรนำ้ มันจำนวน 2 แหง่ ( ปตท. และคำลเทก็ ซ์ถนนสขุ ุมวทิ ) - หำ้ งสรรพสนิ ค้ำ (ห้ำงแหลมทอง) จำนวน 1 แหง่ - ตลำดสด (ตลำดหนองมน) จำนวน 1 แห่ง (ตลำดปลำและตลำดผลไม้) - ตลำดนัดจำนวน 10 แห่ง - ร้ำนคำ้ ทวั่ ไปจำนวน 1,843 แหง่ ทม่ี ำ : กองสำธำรณสุขฯ สถำนประกอบกำรเทศพำณชิ ย์ - สถำนธนำนบุ ำลเทศบำลเมืองแสนสุขจำนวน 1 แห่ง - ทำ่ เทียบเรือจำนวนแหง่ คือทำ่ เรือรำชนำวีบริเวณแหลมแท่นและท่ำเรือหำดวอนนภำ - โรงฆำ่ สัตว์จำนวน 1 แหง่ สถำนประกอบกำรด้ำนกำรบรกิ ำร - โรงแรม / รสี อร์ท จำนวน 23 แหง่ จำนวน 1,205 ห้อง - เกสท์เฮำสจ์ ำนวน 25 แหง่ จำนวน 389 หอ้ ง ท่มี ำ : กองคลัง - ธนำคำรจำนวน 21 แหง่ - โรงภำพยนตร์ (หำ้ งแหลมทอง) จำนวน 1 แหง่ (4 โรงภำพยนตร์) - สถำนประกอบกำรร้ำนอำหำรตำม พ.ร.บ.สำธำรณสขุ จำนวน 139 แหง่ ทมี่ ำ : กองสำธำรณสขุ ฯ

กำรอตุ สำหกรรม - ลกั ษณะกำรประกอบอตุ สำหกรรมในเขตเทศบำลเมอื งแสนสขุ แบ่งตำมประเภท อตุ สำหกรรมจำนวน 8 ประเภทมโี รงงำน 53 แห่งและใชแ้ รงงำน 1,395 คน ดังน้ี 1. อุตสำหกรรมกำรเกษตรจำนวน 6 โรงงำนคนงำน 61 คน 2. อุตสำหกรรมอำหำรจำนวน 14 โรงงำนคนงำน 632 คน 3. อตุ สำหกรรมเคร่ืองดื่มจำนวน 3 โรงงำนคนงำน 18 คน 4. อตุ สำหกรรมไมแ้ ละผลิตภณั ฑ์จำกไม้จำนวน 7 โรงงำนคนงำน 247 คน 5. อุตสำหกรรมอโลหะจำนวน 5 โรงงำนคนงำน 135 คน 6. อุตสำหกรรมผลิตภณั ฑ์โลหะจำนวน 3 โรงงำนคนงำน 31 คน 7. อุตสำหกรรมขนสง่ จำนวน 11 โรงงำนคนงำน 110 คน 8. อตุ สำหกรรมอนื่ ๆจำนวน 4 โรงงำนคนงำน 161 คน (ทีม่ ำ : สำนักงำนอุตสำหกรรมจังหวัดชลบรุ ปี ี 2556) กำรท่องเท่ียว กำรทอ่ งเที่ยวเป็นอตุ สำหกรรมบริกำรที่มีควำมสำคัญทำงเศรษฐกจิ อย่ำงมำกเนือ่ งจำกทำให้ประชำชน ในทอ้ งถิ่นมรี ำยได้สรำ้ งงำนสร้ำงอำชพี ตลอดจนชว่ ยกระตนุ้ ให้เกดิ กำรลงทุนในดำ้ นต่ำงๆมำกมำยเชน่ โรงแรม บำ้ นพักตำกอำกำศรำ้ นอำหำรฯลฯ แหลง่ ท่องเท่ียวท่ีสำคญั และมชี อ่ื เสียงเป็นทรี่ ู้จักของคนท่ัวไปคือ 1. สถำบันวทิ ยำศำสตรท์ ำงทะเลมหำวทิ ยำลยั บูรพำ (The Institute of Marine Science, Burapha University Thailand) ตงั้ อยบู่ ริเวณมหำวิทยำลยั บรู พำประกอบด้วย 1) สถำนเล้ียงสตั วน์ ้ำเคม็ 2) ศูนยเ์ รยี นรู้โลกใตท้ ะเลบำงแสน (Bangsaen Aquarium) 3) พิพธิ ภัณฑว์ ิทยำศำสตรท์ ำงทะเล สถำนเลย้ี งสตั ว์น้ำเค็มเป็นกำรจำลองตู้ปฏิบัติกำรงำนวิจัยให้เป็นโลกใต้ทะเลให้ผู้เข้ำชมได้ชมผลงำน กำรวิจัยของนักวิทยำศำสตร์ด้ำนกำรศึกษำพฤติกรรมสัตว์ทะเลชนิดต่ำงๆและงำนวิจัยด้ำนกำรเพำะพันธ์ุสัตว์ ทะเลท่ีสวยงำมและหำยำกสถำบันฯทำกำรศึกษำวิจัยเผยแพร่ให้ผู้สนใจได้เข้ำชมโดยตกแต่งสภำพแวดล้อมให้ ใกล้เคียงธรรมชำติให้มำกที่สุดโดยในส่วนน้ีมีตู้เลี้ยงสัตว์น้ำเค็มท่ีใช้ในกำรวิจัยขนำดควำมจุตั้งแต่คร่ึงตัน (ประมำณ 500 ลิตร)ไปจนถึง 1,000 ตัน (ประมำณหนึ่งล้ำนลิตร) และแบ่งเป็นเขต (โซน) ต่ำงๆท้ังสิ้น 7 ส่วน ด้วยกันเช่นสัตว์ทะเลที่อำศัยอยู่บริเวณชำยเลนปลำท่ีอำศัยในแนวปะกำรังกำรอยู่รวมกันของส่ิงมีชีวิตแบบ พ่ึงพำอำศัยกันโดยเฉพำะกลุ่มปลำกำร์ตูนที่สถำบันสำมำรถเพำะเล้ียงได้เองท้ัง 7 สำยพันธุ์ส่วนของปะกำรังมี ชีวิตหลำยสำยพนั ธก์ุ ล่มุ ปลำเศรษฐกจิ ของไทยและประเภทปลำสวยงำมกลุ่มปลำที่มรี ูปรำ่ งแปลกและมีพิษและส่วนสดุ ทำ้ ยเป็นตู้ปลำ ขนำดใหญ่ 1,000 ตันซง่ึ เปน็ ตู้ปลำที่สรำ้ งข้นึ ใหม่ใช้สำหรับกำรศึกษำวิจัยด้ำนพฤตกิ รรมของสตั วท์ ะเลท่ีมีขนำด

ใหญๆ่ เช่นปลำหมอทะเลปลำกระเบนปลำโรนินฯลฯศูนย์เรียนรโู้ ลกใต้ทะเลบำงแสน[BangsaenAquarium] เปน็ อำคำรรูปปลำกระเบนเช่อื มต่อกับส่วนสถำนเลย้ี งสตั ว์น้ำเค็ม (ส่วนที่1) โดยจำลองชวี ติ ควำมเปน็ อยู่ของ สัตว์ทะเลและจัดแสดงควำมสัมพันธ์ของส่งิ มีชีวติ ในระบบนเิ วศวิทยำทำงทะเลในภมู ิภำคต่ำงๆของโลกโดย จำลองให้เหน็ ถึงควำมสำคัญในเรือ่ งต่ำงๆเก่ียวกบั โลกใตท้ ะเล 10 สว่ นด้วยกันใหผ้ ู้เข้ำชมได้สัมผสั ควำมงำมใน อีกรปู แบบหนึ่งซง่ึ จะแตกต่ำงจำกส่วนที่ 1 จะมตี จู้ ัดแสดงท่ีมขี นำดใหญ่ๆถึง 20 ตู้มีขนำดควำมจตุ งั้ แต่ 2.25 ตนั จนถึง 4,700 ตนั (ประมำณ 4 ล้ำน 7 แสนลติ ร) ซึง่ เป็นตู้จดั แสดงทมี่ ีขนำดควำมจนุ ำ้ มำกท่สี ดุ ในประเทศ ไทยโดยตู้นีจ้ ะมีอโุ มงคล์ อดผำ่ นทะลุตมู้ ีควำมยำว 37 เมตรเส้นผ่ำศูนยก์ ลำงอุโมงค์ 3 เมตรตรงกลำงเปน็ ทำงเดนิ พืน้ เลื่อนตลอดควำมยำว 37 เมตรซ่ึงผ้เู ข้ำชมในอุโมงคส์ ำมำรถมองเห็นสัตวท์ ะเลในมุม 270 องศำ นอกจำกนี้ยงั มตี ู้ปลำทรงกระบอกสูงมีขนำดเสน้ ผำ่ ศูนย์กลำง 4 เมตรเปน็ ต้ปู ลำทรงกระบอกที่ใหญท่ ี่สดุ ทม่ี ีใน ประเทศไทยในขณะนเี้ ช่นกันซง่ึ ตนู้ ีจ้ ัดแสดงให้เห็นปลำท่อี ำศยั อย่เู ปน็ ฝูงอำทิเช่นปลำตะคองเหลอื งปลำสีขน เป็นต้น พพิ ิธภณั ฑว์ ิทยำศำสตรท์ ำงทะเลอยบู่ รเิ วณช้ัน 2 ของอำคำรสถำบันวิทยำศำสตร์ทำงทะเลเป็นส่วนที่ รวบรวมตวั อย่ำงพืชและสัตวท์ ะเลทีไ่ มม่ ีชีวติ ในรูปของกำรจดั นทิ รรศกำรและตวั อย่ำงสัตว์ทะเลที่ดองน้ำยำและ กำรสตฟ๊ั ฟ์โดยแบง่ เปน็ ชุดนทิ รรศกำรควำมร้ดู ำ้ นวทิ ยำศำสตรท์ ำงทะเลออกเป็นเรื่องต่ำงๆหลำยชุดนิทรรศกำร เช่นเร่ืองเก่ียวกับห่วงโซ่อำหำรในทะเลชนิดของปะกำรังชนิดของฟองน้ำทะเลสัตว์ทะเลที่ไม่มีกระดูกสันหลัง สัตว์ทะเลท่ีเล้ียงลูกด้วยน้ำนมเช่นโลมำพยูน (นำงเงือก) สัตว์ทะเลขนำดใหญ่มำกๆเช่นปลำฉลำมวำฬฉลำม ชนิดตำ่ งๆนอกจำกนีย้ งั มีนิทรรศกำรเกยี่ วกับทะเลดกึ ดำบรรพ์เครื่องมอื กำรประมงโบรำณคดใี ต้น้ำห้องรวบรวม เปลือกหอยท่พี บในน่ำนน้ำไทยและน่ำนน้ำอื่นๆเกือบท่ัวโลกเป็นต้นสถำบันวิทยำศำสตร์ทำงทะเลเปิดบริกำร ทุกวันต้ังแต่ 08.30 - 16.30 น.สำหรับวันเสำร์ – อำทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์เปิดให้บริกำร ตั้งแต่ 08.30 – 17.00 น.โชว์ดำน้ำให้อำหำรปลำวันจันทร์ - วันศุกร์เวลำ 14.30 น.เสำร์ - วันอำทิตย์และ วันหยุดนกั ขตั ฤกษร์ อบเชำ้ 10.30 น. รอบบำ่ ย 14.30 น. 2. หำดบำงแสนเป็นชำยหำดท่ีมีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักในหมู่นักท่องเที่ยวมำนำนอยู่ห่ำงจำกตัวเมือง ชลบุรีประมำณ 13 กิโลเมตรแยกขวำจำกถนนสุขุมวิทตรงหลักกม.104 เข้ำไป 3 กม.เป็นสถำนท่ีท่องเที่ยวท่ีมี ชื่อเสียงมำช้ำนำนบริเวณชำยหำดยำวประมำณ 5 กิโลเมตรมีถนนเลียบชำยหำดท่ีสวยงำมเป็นระเบียบ เรยี บรอ้ ยพรอ้ มสง่ิ อำนวยควำมสะดวกครบถว้ นทั้งท่พี กั บงั กะโลห้องอำบน้ำจืดร้ำนอำหำรและอุปกรณ์กีฬำทำง น้ำเช่นเรือลำกกล้วย, สกู๊ตเตอร์, ห่วงยำงฯลฯปัจจุบันชำยหำดบำงแสนได้รับกำรพัฒนำจนเป็นสถำนที่ ท่องเทย่ี วทีส่ ะอำดสวยงำมเป็นระเบียบเรียบร้อยมำกเหมำะสำหรับกำรพักผ่อนและนันทนำกำรในบรรยำกำศ ที่เป็นธรรมชำตอิ ย่ำงแทจ้ ริง

3. แหลมแทน่ เป็นสถำนที่ชมธรรมชำติท่สี วยงำมอีกแหง่ หนึง่ ซง่ึ อยู่ถัดจำก ชำยหำดบำงแสนไปทำงทิศเหนือ ณ ทีแ่ ห่งน้ีมปี ระติมำกรรมทช่ี นะเลศิ กำรประกวดซง่ึ เป็นเอกลกั ษณ์ ของแหลมแทน่ ต้ังอยนู่ อกจำกนย้ี งั มศี ำลำเฉลิมพระเกยี รตฯิ ทง่ี ดงำมทอดยำวไปในทะเลเพอื่ ให้ นักทอ่ งเทยี่ วได้เพลิดเพลนิ กับธรรมชำตแิ ละบรรยำกำศทีส่ วยงำม 4. เขำสำมมุขตัง้ อยทู่ ำงดำ้ นเหนือของหำดบำงแสนบรเิ วณหน้ำผำริมทะเลเป็นทตี่ ัง้ ของศำลเจ้ำแม่ สำมมขุ ซ่ึงเปน็ ทเี่ คำรพของคนทั่วไปสถำนท่ีแหง่ นเ้ี ปน็ ตำนำนแหง่ ควำมรกั ของหนุ่มสำวซ่ึงจบชีวิตลงตำมคำ สำบำนที่ไดใ้ ห้ไว้ต่อกนั บรเิ วณนม้ี ลี งิ ปำ่ อำศัยอยู่จำนวนมำกนกั ทอ่ งเทย่ี วมกั จะแวะมำให้อำหำรลงิ และสักกำระ เจำ้ แมส่ ำมมุขพร้อมท้ังรบั ประทำนอำหำรทะเลก่อนเดินทำงกลบั 5. สวนสำธำรณะเพ่ือส่งเสริมกำรท่องเที่ยวหำดบำงแสนล่ำงตั้งอยู่บริเวณหำดบำงแสนล่ำง (หำด วอนนภำ) ห่ำงจำกวงเวียนต้อนรับประมำณ 2 กิโลเมตร (สวนสำธำรณะแห่งนี้มีเน้ือท่ีประมำณ 6 ไร่) ลักษณะ ของสวนสำธำรณะเป็นรูปม้ำน้ำซ่ึงในอดีตบริเวณชำยหำดจะมีม้ำน้ำจำนวนมำกต่อมำใกล้สูญพันธ์ุสถำบัน วิทยำศำสตร์ทำงทะเลมหำวิทยำลัยบูรพำจึงได้ทำกำรเพำะพันธ์ุและขยำยพันธุ์เพิ่มข้ึนและในปี พ.ศ. 2549

เทศบำลเมืองแสนสุขได้สร้ำงสวนสำธำรณะข้ึนบริเวณริมทะเลชำยหำดบำงแสนล่ำงเพื่อใช้เป็นสถำนที่พักผ่อน และนันทนำกำรและเป็นกำรสร้ำงควำมหลำกหลำยด้ำนกำรท่องเท่ียวโดยบริเวณสวนสำธำร ณะฯมีสวนและ ศำลำใหน้ ั่งพกั ผ่อนติดริมทะเล 6. ตลำดหนองมนตั้งอยู่บริเวณริมถนนสขุ ุมวิทใกล้ทำงแยกเข้ำชำยหำดบำงแสนประมำณ 1 กม. เป็น ตลำดจำหนำ่ ยสินค้ำพน้ื เมอื งและของฝำกทข่ี ึน้ ชือ่ และร้จู ักกันดไี ด้แกข่ ้ำวหลำมหอ่ หมกทะเลหอยจ๊อขนมหวำน และอำหำรทะเลแหง้ ตำ่ งๆฯลฯ สถำนท่ีท่องเทีย่ วดำ้ นศำสนำ 1. วัดเป็นสถำนท่ีท่ีมีประชำชนและนักท่องเท่ียวให้ควำมสนใจเข้ำไปเย่ียมชมอยู่เสมอเน่ืองจำกเป็น ศูนย์รวมศิลปกรรมและวัฒนธรรมท้องถิ่นวัดในเขตเทศบำลส่วนใหญ่จะเป็นวัดเก่ำแก่มีอำยุกว่ำ 100 ปีซ่ึง ประชำชนและนักท่องเท่ียวรู้จักกันดีได้แก่วัดตำลล้อม , วัดบำงเป้ง , วัดรำษฎร์ศรัทธำ (วัดท้ำยดอน), และวัด แจง้ เจรญิ ดอน (วัดกลำงดอน) 2. สวนพุทธเมอื งสวรรค์แดนนรก(มูลนธิ ิหลวงพอ่ เณรน้อยโพธสิ ตั โต) มีประติมำกรรมปูนป้ันขนำดใหญเ่ กยี่ วกบั พระพุทธศำสนำที่นำ่ ตนื่ ตำตืน่ ใจ ดำ้ นสงั คม ด้ำนศำสนำ ประชำกรสว่ นใหญ่ของเทศบำลเมอื งแสนสุขนับถอื ศำสนำพุทธร้อยละ 90 และ นับถอื ศำสนำคริสต์รอ้ ยละ 10 ของจำนวนประชำกรทงั้ หมด วัดในเขตเทศบำลเมอื งแสนสขุ จำนวน 7 แหง่ 1. วดั บำงเปง้ ต.แสนสขุ 2. วัดรำษฎร์ศรทั ธำ (วดั ทำ้ ยดอน) ต.เหมือง 3. วดั ตำลลอ้ ม ต.เหมือง 4. วัดแจ้งเจริญดอน (วัดกลำงดอน) ต.แสนสุข 5. วดั ไตรมขุ ชยำรำม ต.แสนสขุ 6. วัดเก่ำโบรำณ ต.เหมือง 7. วัดแสนสุขสทุ ธิวรำรำม ต.แสนสขุ

สถำนท่ปี ฏิบัตธิ รรม 1. พทุ ธสถำนธรรมนำวำ (ธรรมนำวำโรงเจเรอื สำเภำ) โบสถ์ครสิ ต์แบง่ เปน็ 2 นกิ ำยจำนวน 2 แหง่ 1. คำธอลิก - วดั แมพ่ ระเมืองลูรด์ จำนวน 1 แห่ง (อยูต่ รงขำ้ มหำ้ งแหลมทองถนนลงหำดบำงแสน) 2. โปรแตสแตนท์ - ครสิ ตจกั รจำนวน 1 แหง่ (อยดู่ ำ้ นหลังวงั มุขแลนด์)ศำลเจ้ำ 1. สมำคมพุทธสว่ำงผลหนองมน 2. ศำลเจ้ำแม่สำมมุข 3. ศำลเจ้ำพ่อเสือ 4. ศำลเจ้ำพ่อสุวรรณลอยล่อง 5. ศำลเจ้ำพ่อดำ 6. ศำลเจำ้ ปนุ เฒ่ำกง ประชำกร ตำรำงกำรคำดประมำณจำนวนประชำกรในอนำคต

- จำนวนประชำกรที่พิกำรหรือทุพลภำพหรือป่วยเร้ือรังในเขตพื้นที่ 390 คน (พิกำร 368 คนเอดส์) ดำ้ นชมุ ชน ชุมชนในเขตเทศบำลเมืองแสนสขุ จำนวน 26 ชุมชน ชอื่ ชุมชน ชื่อผนู้ ำชุมชน จำนวน จำนวน ส่วนใหญ่ประกอบอำชีพ ประชำกร ครัวเรือน เขต 1 ชมุ ชนมณีแก้ว นำงสำวรชั ด์ชนิศำ ทวีโชติธติ ิพร 2,826 982 คำ้ ขำย รบั จ้ำง พนักงำน บริษัท รบั รำชกำร ธุรกจิ ส่วนตัว ชมุ ชนดอนบน นำยสำยัณห์ ทองระอำ 2,637 800 ค้ำขำย รับจำ้ ง พนักงำน บรษิ ทั รบั รำชำกร ธุรกจิ ส่วนตัว ชุมชนบำงแสนทำวเวอร์ นำงวชิรำวดี เตชะจินดำรตั น์ 908 908 คำ้ ขำย รับจ้ำง พนกั งำน บริษัท รบั รำชกำร ธรุ กิจ ส่วนตัว ชมุ ชนตำลล้อม 1 นำงสำวไสว ถนอมใจ 2,252 595 ค้ำขำย รบั จ้ำง พนักงำน บรษิ ัท รบั รำชกำร เกษตรกรรม ชุมชนตำลลอ้ ม 2 นำงกัลยำ บริบรู ณ์ 2,299 593 คำ้ ขำย รับจำ้ ง พนกั งำน บรษิ ัท รับรำชกำร เกษตรกรรม ชุมชนบำ้ นเหมือง นำยสมพงษ์ตรี พฒั นกุล 2,109 494 ค้ำขำย รับจำ้ ง พนักงำน บริษทั ฟำร์มเลย้ี งกุ้ง ชุมชนพฒั นำ 2 นำยอำพลเนตรดี 1,363 350 ค้ำขำย รับจ้ำง พนกั งำน

ชุมชนดอนนำรำ นำยโผน ทมุ่ สงั บริษทั รบั รำชกำร ธรุ กิจ เขต 2 นำงผอ่ งศรี ขำวเหลอื ง สว่ นตัว ชุมชนวัดกลำงดอน นำยสงำ่ เช่ยี วชำญ ชมุ ชนแสนสุข นำงสำววรรณำชลติ ตำภรณ์ 1,031 293 คำ้ ขำย รบั จ้ำง เกษตรกรรม ชุมชนตลำดหนองมน นำงสงั วร เหมือนใจ รบั รำชำกร ธรุ กจิ ส่วนตวั ชมุ ชนมำบมะยม พ.อ.ท.หญงิ พฒั นำ ไทยำนันท์ ชุมชนทำ้ ยตลำด นำยนติ ิ ชนะสงครำม 1,002 268 คำ้ ขำย รบั จำ้ ง พนกั งำน ชมุ ชนร่วมใจพฒั นำ นำยพยนต์ กลอ่ มประเสรฐิ บรษิ ทั รับรำชกำร ชุมชนบำงแสนบน ธรุ กิจสว่ นตวั หอพัก 1,389 380 ค้ำขำย รบั จำ้ ง พนกั งำน บริษัท รับรำชกำร ธรุ กจิ ส่วนตวั 1,268 278 ค้ำขำย รบั จำ้ ง พนักงำน บรษิ ทั รับรำชกำร ธรุ กิจส่วนตวั 806 256 ค้ำขำย รับจำ้ ง พนกั งำน บรษิ ัท รบั รำชกำร ธรุ กจิ สว่ นตวั 1,268 278 คำ้ ขำย รบั จำ้ ง พนักงำน บริษทั รบั รำชกำร ธุรกิจสว่ นตวั 1,142 408 ค้ำขำย รบั จำ้ ง ธุรกิจสว่ นตวั พนักงำนเทศบำล รับ รำชกำร 3,541 650 คำ้ ขำย รบั จำ้ ง พนกั งำน บริษทั รับรำชกำร ธุรกิจ สว่ นตัว

ชมุ ชนหำดวอนนภำ นำยสมทรง แสงจนั ทร์ 3,448 887 ค้ำขำย รับจำ้ ง พนกั งำน บรษิ ทั รบั รำชกำร ธุรกจิ เขต 3 นำยสนุ ทร สิริภัคนนั ท์ สว่ นตัว ชมุ ชนบำงเปง้ 3,008 969 คำ้ ขำย รบั จำ้ ง ธรุ กิจ ชมุ ชนหนำ้ มอ นำยไพรเวช ขำวเหลือง ส่วนตวั พนักงำนบรษิ ทั รบั รำชกำร ชมุ ชนโชคดี นำยวชิ ยั พนำวัน 734 237 ค้ำขำย รับจ้ำง ธรุ กจิ ชมุ ชนสมใจนึก นำยวรี ะ พพิ ฒั น์ สว่ นตวั พนักงำนบริษัท รบั รำชกำร ชุมชนหน้ำเทศบำล นำยอรรณพ กจิ ดี 883 204 คำ้ ขำยหำบเร่ รับจำ้ ง ชุมชนวัดแสนสขุ นำยไพทูรย์ สขุ ชี ล ธรุ กจิ ส่วนตัว ชมุ ชนมุขแสนเจรญิ 1 นำยวิทรู ย์ปิตะธำรำ 1,125 130 คำ้ ขำย รบั จ้ำง ธรุ กิจ สว่ นตวั พนกั งำนบริษัท รบั รำชกำร 2,551 468 ค้ำขำย รับจำ้ ง ธุรกิจ ส่วนตัว พนกั งำนบริษทั บรกิ ำร รบั รำชกำร ประมง 1,094 236 คำ้ ขำย รับจ้ำง เช่ำห่วง ยำง ลำกเรอื กลว้ ย รับ รำชกำร 1,381 313 คำ้ ขำย รับจ้ำง พนกั งำน บรษิ ัท รับรำชกำร ธรุ กิจ

ชมุ ชนมขุ แสนเจริญ 2 นำงไพเรำะ ตัญกำญจน์ 1,453 449 ค้ำขำย รับจำ้ ง พนกั งำน บริษัท รับรำชกำร ธุรกจิ ชมุ ชนเขำสำมมุข นำงอรญั ญำ รอดสบำย ส่วนตัว ชมุ ชนบ้ำนแหลมแท่น นำยชมภูศรี ศฤงฆำร 776 198 ประมง คำ้ ขำย รับจำ้ ง รวม 43,148 แกะหอย 1,064 372 คำ้ ขำย รับจำ้ ง ประมง บรกิ ำร รับรำชกำร ธรุ กิจสว่ นตัว 11,450 ส่วนที่ 2 ทิศทำง นโยบำย กศน.อำเภอเมอื งชลบรุ ี ศูนยก์ ำรศึกษำนอกระบบและกำรศึกษำตำมอัธยำศัยอำเภอเมืองชลบุรีได้จัดทำ แผนปฏิบัติกำรประจำปี 2563 ตำมโยบำยและจุดเน้นกำรดำเนินงำน สำนักงำนกศน.และได้ กำหนด ปรัชญำ วิสัยทัศน์ พันธกิจ เป้ำประสงค์ ยุทธศำสตร์ กลยุทธ์/โครงกำรและ กลุ่มเปำ้ หมำย ดงั นี้ นโยบำยและจดุ เน้นกำรดำเนินงำน สำนกั งำน กศน.ประจำปงี บประมำณ พ.ศ. 2563 วิสัยทัศน์ คนไทยได้รบั โอกำสกำรศกึ ษำและกำรเรียนรตู้ ลอดชีวติ อยำ่ งมีคุณภำพ สำมำรถดำรงชวี ติ ที่

เหมำะสม กับช่วงวัย สอดคล้องกับหลักปรัชญำของเศรษฐกจิ พอเพียง และมีทกั ษะทจ่ี ำเปน็ ในโลก ศตวรรษที่ 21 พันธกิจ 1. จัดและส่งเสรีมกำรศึกษำนอกระบบและกำรศึกษำตำมอัธยำศัยท่ีมีคุณภำพ เพ่ือยกระดับ กำรศึกษำ พัฒนำทักษะกำรเรียนรู้ของประซำซนทุกกลุ่มเป้ำหมำยให้เหมำะสมทุกช่วงวัย พร้อมรับ กำร เปลีย่ นแปลงบริบททำงสงั คม และสรำ้ งสงั คมแห่งกำรเรียนรู้ตลอดชวี ติ 2. ส่งเสริม สนับสนุน และประสำนภำคีเครือข่ำย ในกำรมีส่วนร่วมจัดกำรศึกษำนอกระบบ และ กำรศึกษำตำมอัธยำศยั และกำรเรยี นรู้ตลอดชีวิต รวมทั้งกำรดำเนินกิจกรรมของศูนย์กำรเรียนและ แหล่งกำร เรียนรูอ้ นื่ ในรูปแบบตำ่ ง ๆ 3. ส่งเสริมและพัฒนำกำรนำเทคโนโลยีทำงกำรศึกษำ และเทคโนโลยีดิจิทัลมำใช้ให้เกิด ประสทิ ธภิ ำพในกำรจดั กำรศกึ ษำนอกระบบและกำรศึกษำตำมอธั ยำศยั ให้กบั ประซำซนอยำ่ งทวั่ ถึง 4. พัฒนำหลักสูตร รูปแบบกำรจัดกิจกรรมกำรเรียนรู้ ส่ือและนวัตกรรม กำรวัดและประเมินผล ในทกุ รปู แบบใหส้ อดคลอ้ งกบั บริบทในปจั จบุ ัน 5. พัฒนำบุคลำกรและระบบกำรบริหำรจัดกำรให้มีประสิทธิภำพ เพื่อมุ่งจัดกำรศึกษำ และ กำร เรยี นรู้ท่ีมีคุณภำพ โดยยดึ หลกั ธรรมำภิบำล เปำ้ ประสงค์ 1. ประซำซนผู้ด้อย พลำด และซำดโอกำสทำงกำรศึกษำ รวมท้ังประซำซนท่ัวไปได้รับโอกำส ทำงกำรศึกษำในรูปแบบกำรศึกษำนอกระบบระดับกำรศึกษำขั้นพื้นฐำน กำรศึกษำต่อเนื่อง และกำรศึกษำ ตำมอัธยำศัย ท่ีมีคุณภำพอย่ำงเท่ำเทียมและทั่วถึง เป็นไปตำมสภำพ ปัญหำ และควำมต้องกำรซองแต่ละ กลุ่มเป้ำหมำย 2. ประซำซนได้รับกำรยกระดับกำรศึกษำ สร้ำงเสริมและปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม และ ควำม เป็นพลเมือง อันนำไปสู่กำรยกระดับคุณภำพชีวิตและเสริมสร้ำงควำมเข้มแข็งให้ชุมซน เพื่อพัฒนำไปสู่ ควำม มั่นคงและยงั่ ยืนทำงด้ำนเศรษฐกิจ สังคม วฒั นธรรม ประวตั ศิ ำสตร์ และสงิ่ แวดลอ้ ม 3. ประซำซนไดร้ ับโอกำสในกำรเรียนรู้ และมีเจตคติทำงวิทยำศำสตร์และเทคโนโลยีที,เหมำะสม สำมำรถคิด วิเครำะห์ และประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน รวมทั้งแก้ปัญหำและพัฒนำคุณภำพชีวิต ได้อย่ำง สรำ้ งสรรค์ 4. ประซำซนได้รบั กำรสรำ้ งและสง่ เสรมิ ใหม้ ีนสิ ยั รกั กำรอ่ำนเพ่อื กำรแสวงหำควำมรู้ดว้ ยตนเอง 5. ชุมซนและภำคเี ครือขำ่ ยทุกภำคส่วน ร่วมจัด ส่งเสริม และสนับสนุนกำรดำเนินงำนกำรศึกษำ นอกระบบและกำรศึกษำตำมอัธยำศยั รวมทง้ั กำรขบั เคลือ่ นกิจกรรมกำรเรยี นรขู้ องชมุ ขน 6. หน่วยงำนและสถำนศึกษำพัฒนำ เทคโนโลยีทำงกำรศึกษำ เทคโนโลยีดิจิทัล มำใช้ ในกำร ยกระดับคุณภำพในกำรจัดกำรเรียนรแู้ ละเพ่มิ โอกำสกำรเรยี นรู้ให้กบั ประขำขน 7. หน่วยงำนและสถำนศึกษำพัฒนำล่ือและกำรจัดกระบวนกำรเรียนรู้ เพ่ือแก้ปัญหำและพัฒนำ คณุ ภำพ,ชวี ติ ทต่ี อบสนองกบั กำรเปลี่ยนแปลงบริบทด้ำนเศรษฐกิจ สังคม กำรเมือง วัฒนธรรม ประวัติศำสตร์

และส่ิงแวดล้อม รวมทั้งตำมควำมตอ้ งกำรของประขำซนและชมุ ซนในรปู แบบทห่ี ลำกหลำย 8. หน่วยงำนและสถำนศกึ ษำมีระบบกำรบริหำรจัดกำรท่เี ปน็ ไปตำมหลกั ธรรมำภบิ ำล 9. บุคลำกรของหน่วยงำนและสถำนศึกษำได้รับกำรพัฒนำเพ่ือเพิ่มสมรรถนะในกำรปฏิบัติงำน กำรศึกษำนอกระบบและกำรศึกษำตำมอธั ยำศัยอยำ่ งมปี ระสิทธิภำพ ตวั ชวี้ ัด ตวั ช้วี ดั เซิงปริมำณ 1. จำนวนผู้เรียนกำรศึกษำนอกระบบระดับกำรศึกษำข้ันพื้นฐำนท่ีได้รับกำรสนับสนุนค่ำใช้จ่ำย ตำม สทิ ธิท่กี ำหนดไว้ 2. จำนวนของคนไทยกลุ่มเป้ำหมำยต่ำง ๆ ท่ีเข้ำร่วมกิจกรรมกำรเรียนรู้/ได้รับบริกำรกิจกรรม กำรศึกษำตอ่ เนือ่ ง และกำรศกึ ษำตำมอธั ยำศัยท่สี อดคลอ้ งกับสภำพ ปัญหำ และควำมต้องกำร 3. รอ้ ยละของกำลงั แรงงำนท่ีสำเรจ็ กำรศกึ ษำระดับมธั ยมศกึ ษำตอนตน้ ขน้ึ ไป 4. จำนวนภำคีเครือข่ำยที,เข้ำมำมีส่วนร่วมในกำรจัด/พัฒนำ/ส่งเสริมกำรศึกษำ (ภำคีเครือข่ำย : สถำนประกอบกำร องคก์ ร หนว่ ยงำนท'ี มำรว่ มจดั /พัฒนำ/ส่งเสริมกำรศกึ ษำ) 5. จำนวนประซำซน เด็ก และเยำวชนในพ้ืนที่สูง และซำวไทยมอแกน ในพื้นที่ 5 จังหวัด 11 อำเภอ ได้รบั บริกำรกำรศกึ ษำตลอดชวี ิตจำกศูนยก์ ำรเรยี นชมุ ซนสังกดั สำนักงำน กศน. 6. จำนวนผ้รู ับบรกิ ำรในพนื้ ทีเ่ ป้ำหมำยไดร้ บั กำรส่งเสรมิ ดำ้ นกำรรู้หนงั สือและกำรพฒั นำทกั ษะชวี ิต 7. จำนวนนักเรียน/นกั ศึกษำทไี่ ด้รับบรกิ ำรต้ิวเขม้ เติมควำมรู้ 8. จำนวนประขำซนท่ไี ด้รับกำรฝกึ อำซพี ระยะสัน้ สำมำรถสรำ้ งอำชีพเพอ่ื สร้ำงรำยได้ 9. จำนวน ครู กศน. ตำบล จำกพื้นที่ กศน.ภำค ได้รับกำรพัฒนำศักยภำพด้ำนกำรจัดกำรเรียน กำรสอนภำษำองั กฤษเพือ่ กำรล่ือสำร 10. จำนวนประซำขนที่ไดร้ ับกำร,ฝึกอบรมภำษำต่ำงประเทศเพ่ือกำรล่ือสำรด้ำนอำชีพ 11. จำนวนผู้สูงอำยุภำวะพึง่ พิงในระบบ Long Term Care มผี ูด้ แู ลที่มีคุณภำพและมำตรฐำน 12. จำนวนประซำซนทีผ่ ่ำนกำรอบรมจำกศูนยด์ ิจิทลั ชุมซน 13. จำนวนศูนยก์ ำรเรียนชุมซน กศน. บนพน้ื ที่สูง ในพน้ื ท่ี 5 จงั หวัด ทส่ี ง่ เสรมิ กำรพัฒนำทกั ษะ กำรฟ้ง พูดภำษำไทยเพื่อกำรล่อื สำร ร่วมกันในสถำนศกึ ษำสังกดั สพฐ. ตซด. และกศน 14. จำนวนบคุ ลำกร กศน. ตำบลที่สำมำรถจัดทำคลังควำมรไู้ ด้ 15. จำนวนบทควำมเพ่ือกำรเรยี นรตู้ ลอดชวี ติ ในระดบั ตำบลในหวั ขอ้ ตำ่ ง ๆ 16. จำนวนหลักสตู รและสือ่ ออนไลน์ท่ีใหบ้ รกิ ำรกบั ประซำซน ท้งั กำรศึกษำนอกระบบระดับ กำรศกึ ษำข้นั พนื้ ฐำน กำรศกึ ษำต่อเนื่อง และกำรศกึ ษำตำมอธั ยำศยั ตัวชี้วดิ เซิงคณุ ภำพ 1. ร้อยละของคะแนนเฉล่ียผลกำรทดสอบทำงกำรศกึ ษำระดับซำติ กำรศึกษำนอกระบบ (N- NET) ทุกรำยวซิ ำทุกระดับ 2. ร้อยละซองผู้เรยี นท่ีได้รับกำรสนับสนนุ กำรจัดกำรศึกษำขน้ั พ้ืนฐำนเทียบกับค่ำเปำ้ หมำย

3. ร้อยละของประซำซนกลมุ่ เปำ้ หมำยท่ีลงทะเบยี นเรยี นในทุกหลักสตู ร/กิจกรรมกำรศึกษำ ต่อเนื่องเทยี บกบั เปำ้ หมำย 4. ร้อยละของผผู้ ำ่ นกำร‘รกอบรม/พัฒนำทักษะอำชีพระยะสั้นสำมำรถนำควำมรู้ไปใช้ ในกำร ประกอบอำชีพหรอื พฒั นำงำนได้ 5. รอ้ ยละซองผเู้ รียนในเซตพืน้ ที่จังหวัดชำยแดนภำคใตท้ ี่ได้รบั กำรพัฒนำศกั ยภำพ หรอื ทักษะ ด้ำนอำชีพ สำมำรถมงี ำบทำหรอื นำไปประกอบอำชีพได้ 6. รอ้ ยละของผจู้ บหลกั สตู ร/กิจกรรมท่สี ำมำรถนำควำมรู้ควำมเข้ำใจไปใชไ้ ด้ตำมจดุ มุ่งหมำย ซองหลกั สตู ร/กิจกรรม กำรศึกษำต่อเนื่อง 7. ร้อยละของประซำซนทีไ่ ด้รบั บริกำรมีควำมพงึ พอใจต่อกำรบริกำร/เขำ้ รว่ มกิจกรรมกำรเรียนรู้ กำรศึกษำตำมอธั ยำศัย 8. ร้อยละของประซำซนกลุ่มเป้ำหมำยทไ่ี ด้รบั บริกำร/เข้ำรว่ มกิจกรรมท่ีมคี วำมรู้ควำมเข้ำใจ/เจต คต/ิ ทักษะ ตำมจดุ มุ่งหมำยของกจิ กรรมที่กำหนด ของกำรศึกษำตำมอัธยำศยั 9. ร้อยละของนักเรียน/นกั ศกึ ษำที่มีผลสัมฤทธิ์ทำงกำรเรียนในวซิ ำทีไ่ ดร้ บั บรกิ ำรติวเข้มเต็ม ควำมรูเ้ พมิ่ สงู ข้ึน 10. รอ้ ยละของผสู้ ูงอำยทุ เี่ ปน็ กลุ่มเป้ำหมำย มีโอกำสมำเข้ำรว่ มกจิ กรรมกำรศกึ ษำตลอดชวี ติ . นโยบำยเร่งด่วนเพอื่ รว่ มขับเคลื่อนยทุ ธศำสตร์กำรพฒั นำประเทศ 1.ยทุ ธศำสตร์ดำ้ นควำมม่ันคง 1.1 พัฒนำและเสริมสร้ำงควำมจงรักภักดีต่อสถำบันหลักของชำติ โดยปลูกฝังและ สร้ำงควำม ตระหนักรถู้ งึ ควำมสำคญั ของสถำบันหลกั ของชำติ รณรงคเ์ สริมสร้ำงควำมรักและควำมภำคภูมิใจ ในควำมเป็น คนไทยและชำติไทย นอ้ มนำและเผยแพร่ศำสตร์พระรำชำ หลักปรัชญำของเศรษฐกิจพอเพียง รวมถึงแนวทำง พระรำชดำรติ ำ่ ง ๆ 1.2 เสริมสร้ำงควำมรู้ควำมเข้ำใจท่ีถูกต้อง และกำรมีส่วนร่วมอย่ำงถูกต้องกับกำรปกครอง ระบอบประชำธิปไตยอันมพี ระมหำกษัตริย์ทรงเป็นประมุข ในบริบทของไทย มิควำมเป็นพลเมืองดี ยอมรับ และเคำรพควำมหลำกหลำยทำงควำมคิดและอุดมกำรณ์ 1.3 ส่งเสริมและสนับสนุนกำรจัดกำรศึกษำเพ่ือป้องกันและแก้ไขปัญหำภัยคุกคำม ในรูปแบบ ใหม่ ทั้งยำเสพติด กำรค้ำมนษุ ย์ ภยั จำกไซเบอร์ ภยั พิบัตจิ ำกธรรมชำติ โรคอบุ ัติใหม่ ฯลฯ 1.4 ยกระดบั คุณภำพกำรศึกษำและสร้ำงเสริมโอกำสในกำรเข้ำถึงบริกำรกำรศึกษำ กำรพัฒนำ ทักษะ กำรสร้ำงอำชีพ และกำรใช้ชีวิตในสังคมพหุวัฒนธรรม ในเขตพัฒนำพิเศษเฉพำะกิจจังหวัดชำยแดน

ภำคใต้ และพ้ืนท่ีชำยแดนอนื่ ๆ 1.5 สร้ำงควำมรู้ ควำมเขำ้ ใจในขนบธรรมเนียม ประเพณี วัฒนธรรมของประเทศเพอ่ื นบำ้ น 2. ยุทธศำสตรด์ ้ำนกำรสร้ำงควำมสำมำรถในกำรแขง่ ขนั ยอมรับและเคำรพในประเพณี วัฒนธรรมของกลุ่มชำติพันธ์ุ และซำวต่ำงชำติที่มิควำมหลำกหลำย ใน ลกั ษณะ พหสุ งั คมทอ่ี ย่รู ว่ มกนั 2.1 เร่งปรับหลักสูตรกำรจัดกำรศึกษำอำชีพ กศน. เพื่อยกระดับทักษะต้ำนอำชีพของประซำ ซน ให้เป็นอำชีพที่รองรับอุตสำหกรรมเป้ำหมำยของประเทศ (First ร - curve และ New ร - curve) โดยบูรณำกำรควำมร่วมมือในกำรพัฒนำและเสริมทักษะใหม่ต้ำนอำชีพ (Upskill &Reskill) รวมถึงมุ่งเน้น สร้ำงโอกำส ในกำรสร้ำงงำน สร้ำงรำยใต้ และตอบสนองต่อควำมต้องกำรของตลำดแรงงำน ท้ัง ภำคอุตสำหกรรมและ กำรบริกำร โดยเฉพำะในพื้นที่เขตระเบียงเศรษฐกิจ และเขตพัฒนำพิเศษตำมภูมิภำค ตำ่ ง ๆ ของประเทศ สำหรบั พืน้ ทปี่ กติใหพ้ ฒั นำอำชพี ทีเ่ นน้ กำรต่อยอดศักยภำพและตำมบริบทชองพน้ื ที่ 2.2 จัดกำรศึกษำเพื่อพัฒนำพ้ืนท่ีภำคตะวันออก ยกระดับกำรศึกษำให้กับประซำซนให้จบ กำรศึกษำอย่ำงน้อยกำรศึกษำภำคบังคับ สำมำรถนำคุณวุฒิท่ีใด้รับไปต่อยอดในกำรประกอบอำชีพ รวมท้ัง พัฒนำทักษะในกำรประกอบอำชีพตำมควำมต้องกำรของประซำซน สร้ำงอำชีพ สร้ำงรำยใต้ ตอบสนองต่อ บรบิ ทของสังคมและชมุ ชน รวมทัง้ รองรับกำรพฒั นำเขตพื้นท่ีระเบยี บเศรษฐกิจภำคตะวันออก (EEC) 2.3 พฒั นำและส่งเสริมประซำซนเพอ่ื ต่อยอดกำรผลิตและจำหน่ำยสินค้ำและผลิตภณั ฑ์ ออนไลน์ 1) เร่งจัดต้ังศูนย์ให้คำปรึกษำและพัฒนำผลิตภัณฑ์ Brand กศน. เพ่ือยกระดับคุณภำพ ของ สินค้ำและผลิตภัณฑ์ กำรบริหำรจัดกำรที่ครบวงจร (กำรผลิต กำรตลำด กำรส่งออก และสร้ำงซ่อง ทำง จำหน่ำย) รวมทัง้ ส่งเสริมกำรใชป้ ระโยชนจ์ ำกเทคโนโลยดี จิ ิทัลในกำรเผยแพร่และจำหนำ่ ยผลิตภัณฑ์ 2) พัฒนำและคัดเลือกสุดยอดสินค้ำและผลิตภัณฑ์ กศน. ในแต่ละจังหวัด พร้อมท้ังประสำน ควำมร่วมมือกับสถำนีบริกำรน้ำมันในกำรเป็นซ่องทำงกำรจำหน่ำยสุดยอดสินค้ำและผลิตภัณฑ์ กศน. ให้ กว้ำงขวำงย่งิ ข้นึ 3.ยุทธศำสตร์ด้ำนกำรพฒั นำและเสริมสร้ำงศกั ยภำพทรัพยำกรมนุษย์ 3.1 พัฒนำครูและบุคลำกรทเ่ี ก่ยี วซ้องกับกำรจดั กจิ กรรมและกำรเรยี นรู้ เปน็ ผ้เู ชือ่ มโยงควำมรกู้ บั ผู้เรียนและผู้รับบริกำร มีควำมเป็น “ครูมืออำชีพ” มีจิตบริกำร มีควำมรอบรู้และทันต่อกำรเปลี่ยนแปลงของ สงั คม และเปน็ “ผู้อำนวยกำรกำรเรียนรู้” ที่สำมำรถบริหำรจดั กำรควำมรู้ กิจกรรม และกำรเรยี นรทู้ ี่ดี 1) เพ่ิมอัตรำช้ำรำชกำรครูให้กับ กศน. อำเภอทุกแห่ง โดยเร่งดำเนินกำรเรื่องกำรหำอัตรำ

ตำแหน่ง กำรสรรหำ บรรจุ และแต่งตัง้ ช้ำรำชกำรครู 2) พฒั นำชำ้ รำชกำรครใู นรปู แบบครบวงจร ตำมหลกั สตู รท่ีเชอ่ื มโยงกบั วิทยฐำนะ 3) พัฒนำครู กศน.ตำบลใหส้ ำมำรถปฏบิ ตั ิงำนได้อย่ำงมปี ระสิทธิภำพ โดยเน้นเรื่องกำร พัฒนำ ทกั ษะกำรจัดกำรเรยี นกำรสอนออนไลน์ ทกั ษะภำษำตำ่ งประเทศ ทกั ษะกำรจัดกระบวนกำรเรยี นรู้ 4) พัฒนำศกึ ษำนิเทศก์ ให้สำมำรถปฏิบัตกิ ำรนิเทศไคอ้ ย่ำงมปี ระสิทธิภำพ 5) พัฒนำบคุ ลำกร กศน.ทกุ ระดับทุกประ๓ทใหม้ ที กั ษะควำมรูเ้ รื่องกำรใช้ประโยชน์จำกดิจิทัล และ ภำษำต่ำงประเทศท่จี ำเปน็ 3.2 พฒั นำแหลง่ เรยี นรูใ้ ห้มีบรรยำกำศและสภำพแวดล้อมที่เอื้อต่อกำรเรียนรู้ มีควำมพร้อม ใน กำรให้บริกำรกิจกรรมกำรศึกษำและกำรเรียนรู้ เป็นแหล่งสำรสนเทศสำธำรณะที่ง่ำยต่อกำรเช้ำถึง มี บรรยำกำศ ท่ีเอื้อต่อกำรเรียนรู้ เป็นคำเฟ่พ้ืนท่ีกำรเรียนรู้สำหรับคนทุกช่วงวัย มีส่ิงอำนวยควำมสะดวก มบี รรยำกำศสวยงำม มชี วี ิต ทด่ี งึ ดดู ควำมสนใจ และมคี วำมปลอดภยั สำหรบั ผ้ใู ช้บริกำร 1) เรง่ ยกระดบั กศน.ตำบลนำรอ่ ง 928 แห่ง (อำเภอละ 1 แหง่ ) ใหเ้ ป็น กศน.ตำบล 5 ดี พรีเมี่ยม ท่ีประกอบด้วย ครูดี สถำนท่ีดี (ตำมบริบทของพื้นท่ี) กิจกรรมดี เครือข่ำยดี และมีนวัตกรรมกำร เรยี นรู้ทดี่ มี ีประโยชน์ 2) จัดใหม้ ศี ูนย์กำรเรียนรู้ต้นแบบ กศน. เพ่ือยกระดับกำรเรียนรู้ ใน 6 ภูมิภำค เป็นพ้ืนท่ีกำร เรียนรู้ (Co - Learning Space) ท่ีทันสมัยสำหรับทุกคน มีควำมพร้อมในกำรให้บริกำรต่ำง ๆ อำทิ พ้ืนท่ี สำหรับกำรทำงำน/ กำรเรียนรู้ พื้นที่สำหรับกิจกรรมต่ำง ๆ มีห้องประชุมขนำดเล็ก รวมท้ังทำงำนร่วมกับ ห้องสมุดประซำซนในกำร ให้บริกำรในรูปแบบห้องสมุดดิจิทัล บริกำรอินเทอร์เน็ต ส่ือมัลติมีเดีย เพ่ือรองรับ กำรเรียนรู้แบบ Active Learning 3) พัฒนำห้องสมุดประซำซน “เฉลิมรำชกุมำรี” ให้เป็น Digital Libraryโดยให้มีบริกำร หนังสือ ในรูปแบบ e - Book บริกำรคอมพิวเตอร์ และอินเทอร์เน็ตควำมเร็วสูง รวมท้ัง Free Wi-fi เพื่อกำร สืบค้นขอ้ มลู 3.3 ส่งเสริมกำรจัดกำรเรียนรู้ที่ทันสมัยและมีประสิทธิภำพ เอ้ือต่อกำรเรียนรู้สำหรับทุกคน สำมำรถ เรียนได้ทุกท่ีทุกเวลำ มีกิจกรรมท่ีหลำกลำย น่ำสนใจ สนองตอบควำมต้องกำรของชุมชน เพื่อพัฒนำ ศักยภำพ กำรเรียนรู้ของประซำซน รวมท้ังใช้ประประโยชน์จำกประซำซนในชุมซนในกำรร่วมจัดกิจกรรมกำร เรยี นรเู้ พือ่ เช่ือมโยง ควำมสมั พันธข์ องคนในชมุ ซนไปสกู้ ำรจดั กำรควำมรขู้ องชุมซนอย่ำงยั่งยืน 1) ส่งเสริมกำรจัดกิจกรรมกำรเรียนรู้ที่ปลูกผิงคุณธรรม สร้ำงวินัย จิตสำธำรณะ ควำม รบั ผดิ ชอบ ต่อส่วนรวม และกำรมีจิตอำสำ ผ่ำนกิจกรรมรปู แบบตำ่ ง ๆ อำทิ กจิ กรรมลกู เสอื กศน. กิจกรรมจิต อำสำ ตลอดจน สนบั สนุนให้มีกำรจัดกิจกรรมเพือ่ ปลูกผงิ คุณธรรม จริยธรรมให้กับบคุ ลำกรในองคก์ ร 2) จัดให้มีหลักสูตรลูกเสือมัคคุเทศก์ โดยให้สำนักงำน กศน.จังหวัดทุกแห่ง/กทม. จัดตั้งกอง ลกู เสอื ท่ลี ูกเสอื มีควำมพร้อมด้ำนทกั ษะภำษำตำ่ งประเทศ เป็นลูกเสือมัคคุเทศกจ์ ังหวัดละ 1 กอง เพ่ือส่งเสริม ลูกเสอื จิต อำสำพัฒนำกำรท่องเที่ยวในแตล่ ะจงั หวัด 3.4 เสริมสร้ำงควำมร่วมมือกับภำคีเครือข่ำย ประสำน ส่งเสริมควำมร่วมมือภำคีเครือข่ำย ทั้ง

ภำครัฐ เอกซน ประซำสังคม และองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน รวมทั้งส่งเสริมและสนับสนุนกำรมีส่วนร่วมของ ชมุ ซน เพ่อื สรำ้ งควำมเช้ำใจ และให้เกดิ ควำมร่วมมือในกำรส่งเสริม สนบั สนนุ และจัดกำรศึกษำและกำรเรียนรู้ ให้กับ ประซำซนอย่ำงมคี ุณภำพ 1) เร่งจัดทำทำเนียบภูมิปัญญำท้องถ่ินในแต่ละตำบล เพ่ือใช้ประโยชน์จำกภูมิปัญญำท้องถ่ิน ในกำรสร้ำงกำรเรียนรู้จำกองค์ควำมรู้ในตัวบุคคลให้เกิดกำรถ่ำยทอดภูมิปัญญำ สร้ำงคุณค่ำทำงวัฒนธรรม อยำ่ ง ยงั่ ยนื 2) สง่ เสริมภมู ปิ ัญญำท้องถิ่นสู่กำรจดั กำรเรียนรชู้ ุมซน 3) ประสำนควำมร่วมมือกับภำคีเครือข่ำยเพ่ือกำรขยำยและพัฒนำกำรศึกษำนอกระบบและ กำรศึกษำตำมอัธยำศัยให้เช้ำถึงกลุ่มเป้ำหมำยทุกกลุ่มอย่ำงกว้ำงขวำงและมีคุณภำพ อำทิ กลุ่มผู้สูงอำยุ กลุ่ม อสม. 3.5 พัฒนำนวตั กรรมทำงกำรศกึ ษำเพือ่ ประโยชนต์ อ่ กำรจัดกำรศกึ ษำและกลุม่ เป้ำหมำย 1) พฒั นำกำรจัดกำรศึกษำออนไลน์ กศน. ทั้งในรูปแบบของกำรศึกษำขั้นพ้ืนฐำน กำรพัฒนำ ทกั ษะ ชีวิตและทกั ษะอำชพี กำรศึกษำตำมอธั ยำศยั รวมทั้งกำรพฒั นำซ่องทำงกำรค้ำออนไลน์ 2) ส่งเสริมกำรใช้เทคโนโลยีในกำรปฏิบตั ิงำน กำรบริหำรจดั กำร และกำรจดั กำรเรียนรู้ 3) สง่ เสริมใหม้ ีกำรใชก้ ำรวจิ ัยอย่ำงงำ่ ยเพ่อื สรำ้ งนวัตกรรมใหม่ 3.6 พัฒนำศักยภำพคนด้ำนทักษะและควำมเข้ำใจในกำรใช้เทคโนโลยีดิจิทัล (Digital Literacy) 1) พัฒนำควำมรู้และทักษะเทคโนโลยีดิจิทัลของครูและบุคลำกรทำงกำรศึกษำ เพ่ือพัฒนำ รูปแบบกำรจัดกำรเรียนกำรสอน 2) ส่งเสริมกำรจัดกำรเรียนรู้ด้ำนเทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อให้ประซำซนมีทักษะควำมเช้ำใจและ ใช้เทคโนโลยดี ิจิทัลทส่ี ำมำรถนำไปใช้ประโยชน์ในชีวติ ประจำวัน รวมท้ังสร้ำงรำยไดให้กับตนเองได้ 3.7 พัฒนำทักษะภำษำต่ำงประเทศเพ่ือกำรส่ือสำรของประซำซนในรูปแบบต่ำง ๆ อย่ำงเป็น รปู ธรรม โดยเน้นทกั ษะภำษำเพื่ออำชีพ ท้ังในภำคธุรกิจ กำรบริกำร และกำรท่องเท่ียว รวมท้ัง พัฒนำสื่อกำร เรยี นกำรสอนเพ่ือสง่ เสริมกำรใชภ้ ำษำเพือ่ กำรสอ่ื สำรและกำรพฒั นำอำชีพ 3.8 เตรียมควำมพร้อมกำรเขำ้ สู่สังคมผสู้ งู อำยุทีเ่ หมำะสมและคุณภำพ 1) ส่งเสริมกำรจัดกิจกรรมให้กับประซำซนเพื่อสร้ำงควำมตระหนักถึงกำรเตรียมพร้อมเช้ำสู่ สังคมผ้สู งู อำยุ (Aging Society) มคี วำมเชำ้ ใจในพฒั นำกำรของชว่ งวัย รวมท้ังเรียนรู้และมีส่วนร่วมในกำรดูแล รับผิดชอบผู้สงู อำยใุ นครอบครัวและชุมซน 2) พัฒนำกำรจัดบริกำรกำรศึกษำและกำรเรียนรู้สำหรับประซำซนในกำรเตรียมควำมพร้อม เช้ำสวู่ ัยสงู อำยทุ เี่ หมำะสมและมีคุณภำพ

3) จัดกำรศึกษำเพื่อพัฒนำคุณภำพชีวิตสำหรับผู้สูงอำยุภำยใต้แนวคิด “Active Aging” กำรศึกษำเพ่ือพัฒนำคุณภำพชีวิต และพัฒนำทักษะชีวิต ให้สำมำรถดูแลตนเองทั้งสุขภำพกำยและสุขภำพจิต และรู้จักใชป้ ระโยชน์จำกเทคโนโลยี 4) สร้ำงควำมตระหนักถึงคุณค่ำและศักด์ิศรีของผู้สูงอำยุ เปิด'โอกำส,ไห้มีกำรเผยแพร่ภูมิ ปัญญำ ของผู้สูงอำยุ และให้มีส่วนร่วมในกิจกรรมด้ำนต่ำง ๆ ในชุมซน เซ่น ด้ำนอำชีพ กีฬำ ศำสนำและ วัฒนธรรม 5) จัดกำรศึกษำอำชีพเพื่อรองรับสังคมผู้สูงอำยุ โดยบูรณำกำรควำมร่วมมือกับหน่วยงำน ที่ เก่ยี วชอ้ ง ในทกุ ระดับ 3.9 กำรสง่ เสรมิ วิทยำศำสตรเ์ พอ่ื กำรศึกษำ 1) จดั กจิ กรรมวิทยำศำสตรเ์ ซิงรุก และเนน้ ใหค้ วำมรู้วทิ ยำศำสตรอ์ ยำ่ งงำ่ ยกับประซำซนในชุม ซน ทัง้ วทิ ยำศำสตรใ์ นวิถีชวี ติ และวิทยำศำสตรใ์ นชีวิตประจำวัน 2) พัฒนำส่อื นทิ รรศกำรและรูปแบบกำรจัดกิจกรรมทำงวทิ ยำศำสตร์ให้มคี วำมทนั สมยั 3.10 ส่งเสริมกำรรู้ภำษำไทยให้กับประซำซนในรูปแบบต่ำง ๆ โดยเฉพำะประซำซนในเขตพื้นที่ สงู ใหส้ ำมำรถฟง้ พูด อ่ำน และเขยี นภำษำไทย เพื่อประโยชน์ในกำรใชช้ ีวิตประจำวันได้ 4.ยุทธศำสตรด์ ำ้ นกำรสรำ้ งโอกำสและควำมเสมอภำคทำงสังคม 4.1 จัดต้ังศูนย์กำรเรยี นรู้สำหรบั ทุกช่วงวยั ท่เี ป็นศนู ย์กำรเรียนรตู้ ลอดชวี ติ ที่สำมำรถใหบ้ ริกำร ประขำชนไดท้ กุ คน ทกุ ชี'วงวยั ท่ีมกี จิ กรรมท่ีหลำกหลำย ตอบสนองควำมตอ้ งกำรในกำรเรียนรู้ในแต่ ละวยั และเป็นศนู ยบ์ รกิ ำรควำมรู้ ศนู ยก์ ำรจัดกิจกรรมทีค่ รอบคลมุ ทุกชว่ งวัย เพอื่ ให้มีพฒั นำกำรเรยี นรู้ ทเี่ หมำะสมและมีควำมสขุ กบั กำรเรียนรู้ตำมควำมสนใจ 1) เร่งประสำนกบั สำนักงำนคณะกรรมกำรกำรศึกษำขนั้ พื้นฐำน เพื่อจดั ทำฐำนข้อมลู โรงเรียน ท่ีถูกยุบรวม หรือคำดวำ่ นำ่ จะถูกยบุ รวม 2) ใหส้ ำนักงำน กศน.จงั หวัดทุกแหง่ ที่อยู่ในจังหวดั ที่มโี รงเรียนทถ่ี กู ยุบรวม ประสำนซอใช้ พ้ืนท่เี พื่อจดั ตั้งศูนย์กำรเรียนรู้สำหรบั ทุกช่วงวยั กศน. 4.2 สง่ เสรมิ และสนบั สนุนกำรจัดกำรศึกษำและกำรเรียนรู้สำหรบั กลุ่มเปำ้ หมำยผูพ้ กิ ำร 1) จัดกำรศึกษำข้ันพ้ืนฐำน กำรศึกษำเพื่อพัฒนำทักษะชีวิตและทักษะอำชีพ และกำรศึกษำ ตำมอัธยำศัย โดยเนน้ รปู แบบกำรศกึ ษำออนไลน์ 2) ให้สำนักงำน กศน.จังหวัดทุกแห่ง/กทม. ทำควำมร่วมมือกับศูนย์กำรศึกษำพิเศษประจำ จังหวัด ในกำรใช้สถำนที่ วัสดุอุปกรณ์ และครุภัณฑ์ด้ำนกำรศึกษำ เพื่อสนับสนุนกำรจัดกำรศึกษำและกำร

เรียนรู้สำหรบั กลมุ่ เปำ้ หมำยผพู้ ิกำร 4.3 ยกระดับกำรศึกษำให้กับกลุ่มเป้ำหมำยทหำรกองประจำกำร รวมทั้งกลุ่มเป้ำหมำย พิเศษ อ่ืน ๆ อำทิ ผู้ต้องขัง คนพิกำร เด็กออกกลำงคัน ประซำกรวัยเรียนที่อยู่นอกระบบกำรศึกษำ ให้จบกำรศึกษำ นอกระบบระดบั กำรศึกษำข้ันพน้ื ฐำน สำมำรถนำควำมรู้ท่ีได้รบั ไปพฒั นำตนเองได้อย่ำง ต่อเนอื่ ง 4.4 พฒั นำหลกั สตู รกำรจัดกำรศกึ ษำอำชพี ระยะสั้น ให้มคี วำมหลำกหลำย ทันสมัย เหมำะสมกับ บรบิ ทของพ้นื ท่ี และตอบสนองควำมตอ้ งกำรของประซำซนผ้รู ับบริกำร 5.ยทุ ธศำสตรด์ ำ้ นกำรเติบโตบนคณุ ภำพชวี ิตทเี่ ปน็ มิตรต่อส่ิงแวดล้อม 5.1 ส่งเสริมให้มกี ำรใหค้ วำมรู้กบั ประชำชนในกำรรับมือและปรบั ตวั เพอื่ ลดควำมเสียหำย จำกภยั ธรรมซำติและผลกระทบท่ีเกีย่ วช้องกบั กำรเปล่ียนแปลงสภำพภมู อิ ำกำศ 5.2 สร้ำงควำมตระหนักถึงควำมสำคัญของกำรสร้ำงสังคมสีเชียว ส่งเสริมควำมรู้ให้กับประซำ ซน เกีย่ วกบั กำรคดั แยกตั้งแตด่ น้ ทำง กำรกำจดั ขยะ และกำรนำกลับมำใช้ซ้ำ เพ่ือลดปริมำณและต้นทุนในกำร จดั กำรขยะของเมือง และสำมำรถนำขยะกลบั มำใช้ประโยซน์ไดโ้ ดยง่ำย รวมทั้งกำรจัดกำรมลพษิ ในชุมซน 5.3 สง่ เสริมให้หนว่ ยงำนและสถำนศกึ ษำใช้พลังงำนทีเป็นมิตรกับสิงแวดล้อม รวมทั้งลดกำรใช้ ทรัพยำกรท่ีสง่ ผลกระทบตอ่ สิง่ แวดลอ้ ม เซ่น รณรงค์เรื่องกำรลดกำรใชถ้ ุงพลำสตกิ กำรประหยดั ไฟฟำ้ เปน็ ด้น 6.ยทุ ธศำสตรด์ ำ้ นกำรสมดลุ และพฒั นำระบบกำรบริหำรจดั กำรภำครัฐ 6.1พัฒนำและปรบั ระบบวิธีกำรปฏิบตั ิรำชกำรให้ทนั สมัย มคิ วำมโปร่งใส ปลอดกำรทจุ รติ และ ประพฤติมชิ อบ บริหำรจัดกำรบนข้อมลู และหลกั ฐำนเซิงประจกั ษ์ มุ่งผลสมั ถทุ ธิค์ วำมโปร่งใส 6.2 นำนวัตกรรมและเทคโนโลยีระบบกำรทำงำนที่เป็นดิจิทัล มำใช้ในกำรบริหำรและ พัฒนำงำนสำมำรถเชื่อมโยงกับระบบฐำนข้อมูลกลำงของกระทรวงศึกษำธิกำร พร้อมทั้งพัฒนำ'โปรแกรม ออนไลน์ท่ี สำมำรถเชื่อมโยงข้อมูลต่ำง ๆ ท่ีทำให้กำรบริหำรจัดกำรเป็นไปอย่ำงต่อเน่ืองกันตั้งแต่ต้นจนจบ กระบวนกำร และให้ประซำซนกลมุ่ เป้ำหมำยสำมำรถเชำ้ ถงึ บริกำรไดอ้ ย่ำงทันที ทุกที่และทุกเวลำ 6.3 ส่งเสริมกำรพัฒนำบุคลำกรทุกระดับอย่ำงต่อเน่ือง ให้มีควำมรู้และทักษะตำมมำตรฐำน ตำแหน่ง ให้ตรงกบั สำยงำน ควำมชำนำญ และควำมตอ้ งกำรของบุคลำกร 2. แนวทำง/กลยทุ ธก์ ำรดำเนินงำนกำรศกึ ษำนอกระบบและกำรศกึ ษำตำมอธั ยำศยั ของ กศน. อำเภอเมืองชลบรุ ี ศนู ยก์ ำรศึกษำนอกระบบและกำรศึกษำตำมอธั ยำศัยอำเภอเมืองชลบรุ ี ได้กำหนดทิศทำงกำร ดำเนินงำน ตำมแผนพฒั นำคุณภำพกำรศึกษำ และแผนปฏบิ ตั กิ ำรประจำปี โดยมรี ำยละเอยี ด ดงั นี้

ทิศทำงกำรดำเนนิ งำนของสถำนศกึ ษำ ✍ ปรชั ญำ “คิดเปน็ ทำเป็น เน้น ICT” ✍ วิสัยทัศน์ “จัดกำรศึกษำตลอดชวี ติ ผกู มติ รกบั เครือข่ำย กระจำยควำมรู้ส่ชู ุมชน ทุกทีท่ ุกเวลำด้วย ICT มอี ำชพี และแข่งขนั ในประชำคมอำเซียนอยำ่ งยัง่ ยนื ” ✍ อตั ลักษณ์ “ก้ำวไปในยุคดจิ ทิ ัล” ✍เอกลกั ษณ์ “องคก์ รออนไลน์” ✍ พนั ธกจิ 1. จดั และส่งเสริมใหผ้ ู้เรียน มีควำมร้กู ำรศึกษำข้นั พื้นฐำนอยำ่ งมีคุณภำพ 2. จดั กำรศึกษำอำชีพใหผ้ ้เู รียนมอี ำชพี ทำได้ ขำยเป็น และมีทกั ษะชวี ิตท่ีเหมำะสมทุกช่วงวัย 3. จดั และสง่ เสรมิ ให้ประชำชนนำเทคโนโลยีดจิ ิทัลเพือ่ พฒั นำตนเองและสร้ำงช่องทำงกำรจำหนำ่ ย สินคำ้ 4. จดั และสง่ เสรมิ กำรศึกษำตำมอธั ยำศัยทม่ี งุ่ ให้ผรู้ ับบริกำรมีนสิ ยั รักกำรอำ่ น และพัฒนำแหล่งเรียนรู้ ในชุมชน 5. จัดและส่งเสรมิ สนับสนนุ พฒั นำแหล่งเรียนรู้ ส่อื และภูมิปัญญำท้องถิ่น 6. จดั และส่งเสริมกำรศกึ ษำตำมหลกั ปรชั ญำของเศรษฐกจิ พอเพียง เพ่ือพฒั นำสงั คมและชมุ ชนใหม้ ี ควำมเขม้ แข็งอยำ่ งยงั่ ยืน 7. จัดและสง่ เสริมประชำชนให้เปน็ พลเมอื งดตี ำมวิถีประชำธปิ ไตย 8. ส่งเสริม สนบั สนนุ ภำคีเครอื ขำ่ ย ให้มีส่วนร่วมในกำรจัดกำรศกึ ษำนอกระบบและกำรศึกษำตำม อธั ยำศัย เพื่อให้เกิดกำรเรยี นรูต้ ลอดชีวติ 9. พัฒนำรูปแบบกำรจดั กิจกรรมกำรเรียนรใู้ ห้สอดคล้องกับพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภำค ตะวันออก (EEC) และควำมต้องกำรของกลุม่ เป้ำหมำย 10. พฒั นำบุคลำกรให้มสี มรรถนะในกำรปฏบิ ตั งิ ำนตำมบทบำทหน้ำที่อย่ำงมีประสิทธภิ ำพและ ต่อเนือ่ งโดยเน้นกำรนำเทคโนโลยีดจิ ทิ ัลมำใชใ้ นกำรบริหำรจัดกำร 11. สถำนศึกษำมีระบบกำรบรหิ ำรจัดกำรตำมหลกั ธรรมมำภิบำล 12. ปฏบิ ัติงำนอ่นื ๆ ที่ได้รบั มอบหมำย

✍ เปำ้ ประสงค์ และตัวช้ีวัดควำมสำเร็จ เป้ำประสงค์ ตวั ชว้ี ดั ควำมสำเรจ็ ประชำชนไดร้ ับโอกำสทำงกำรศกึ ษำในรูปแบบของ รอ้ ยละของประชำกรกลุ่มตำ่ งๆ (กลมุ่ ประชำกรวัย กำรศกึ ษำนอกระบบและกำรศึกษำตำมอัธยำศัยที่มคี ุณภำพ แรงงำนปกติทว่ั ไป กลุ่มประชำกรวัยแรงงำนท่ีเป็นผู้ อย่ำงทวั่ ถึงและเป็นธรรม ยำกไร้ ผู้ด้อยโอกำส ผู้พิกำร และกลุ่มผู้สงู อำยุ) ท่ี ได้รบั บริกำรกำรศึกษำนอกระบบและกำรศึกษำตำม อัธยำศยั อย่ำงทว่ั ถึง ครอบคลมุ และเป็นธรรม ผูเ้ รยี นทีเ่ ขำ้ รบั กำรฝึกอำชีพมีสมรรถนะในกำรประกอบ รอ้ ยละของผเู้ รยี นทเ่ี ข้ำรบั กำรศึกษำอำชพี เพื่อกำรมี อำชพี สำมำรถประกอบอำชีพท่ีสร้ำงรำยไดใ้ ห้กับตนเอง งำนทำทมี่ ีสมรรถนะในกำรประกอบอำชีพที่เพม่ิ ขน้ึ และครอบครวั ได้ องค์กรภำคส่วนตำ่ งๆรว่ มเปน็ ภำคเี ครอื ข่ำยในกำร จำนวนของภำคีเครอื ข่ำยในกำรดำเนินงำนกำรศึกษำ ดำเนนิ งำนกำรศึกษำนอกระบบและกำรศกึ ษำตำมอธั ยำศยั นอกระบบและกำรศึกษำตำมอัธยำศยั เพิ่มมำกขน้ึ อย่ำงกวำ้ งขวำง ตัวชว้ี ดั ควำมสำเร็จ เปำ้ ประสงค์ รอ้ ยละของของผเู้ รียนท่ีมคี วำมพึงพอใจตอ่ กำรใช้ สถำนศึกษำนำเทคโนโลยีดจิ ทิ ัลมำใชใ้ นกำรเพิ่ม เทคโนโลยดี จิ ิทัลของสถำนศึกษำ ประสทิ ธภิ ำพกำรจัดกำรศึกษำนอกระบบและกำรศกึ ษำ ตำมอัธยำศยั อยำ่ งทัว่ ถึง รอ้ ยละของบุคลำกรของสถำนศกึ ษำทไี่ ด้รับกำรพฒั นำ บคุ ลำกรของสถำนศกึ ษำได้รับกำรพฒั นำเพ่ือเพ่ิมสมรรถนะ เพอ่ื เพม่ิ สมรรถนะในกำรปฏบิ ัตงิ ำนกำรศึกษำนอก ในกำรปฏบิ ตั ิงำนกำรศึกษำนอกระบบและกำรศึกษำตำม ระบบและกำรศึกษำตำมอธั ยำศัยโดยเน้นกำรนำ อธั ยำศัยอย่ำงท่ัวถงึ เทคโนโลยดี ิจทิ ัลมำใช้ในกำรบรหิ ำรจดั กำร ร้อยละของสถำนศกึ ษำมีกำรพัฒนำระบบกำรบริหำร สถำนศึกษำมีกำรพัฒนำระบบกำรบริหำรจัดกำรเพื่อเพิ่ม จัดกำรเพ่ือเพ่ิมประสิทธิภำพโดยเนน้ กำรนำเทคโนโลยี ประสิทธิภำพโดยเนน้ กำรนำเทคโนโลยีดิจิทลั ในกำร ดิจิทลั ในกำรดำเนนิ งำนกำรศึกษำนอกระบบและ ดำเนินงำนกำรศึกษำนอกระบบและกำรศึกษำตำมอธั ยำศัย กำรศกึ ษำตำมอัธยำศัย บุคลำกรของหนว่ ยงำนปฏบิ ตั ิงำนตำมที่ไดร้ บั มอบหมำย ร้อยละของบุคลำกรของสถำนศึกษำปฏิบตั ิงำนไดเ้ ตม็ อยำ่ งมปี ระสทิ ธภิ ำพ ประสทิ ธภิ ำพ ✍ กลยทุ ธ์

กลยทุ ธ์ที่ 1 ส่งเสริม และพฒั นำคุณภำพกำรศึกษำนอกระบบและกำรศึกษำตำมอัธยำศัย ให้เปน็ ไป ตำมนโยบำยและมำตรฐำนกำรศึกษำอย่ำงต่อเน่ือง กลยุทธ์ท่ี 2 ส่งเสรมิ ให้ผู้รบั บรกิ ำรไดร้ ับกำรพัฒนำคุณภำพชีวิตโดยใช้กระบวนกำรคดิ เป็นตำมหลกั ปรชั ญำของเศรษฐกจิ พอเพียง กลยทุ ธ์ท่ี 3 สง่ เสรมิ สนบั สนนุ ให้ภำคีเครอื ข่ำยมีส่วนร่วมในกำรจดั กำรศึกษำนอกระบบและ กำรศกึ ษำตำมอัธยำศัย เพ่อื ให้เกดิ กำรเรยี นรตู้ ลอดชีวติ กลยุทธท์ ่ี 4 พฒั นำหลักสูตรและรปู แบบกำรจดั กจิ กรรมกำรเรียนรู้ ให้สอดคล้องกบั พ้ืนที่เขตพัฒนำ พเิ ศษภำคตะวนั ออก (EEC) และควำมต้องกำรของกลุ่มเป้ำหมำย โดยกำรมสี ว่ นร่วมของภูมปิ ญั ญำท้องถิ่น และแหลง่ เรียนรู้ทงั้ ภำครัฐและเอกชน กลยุทธ์ที่ 5 ส่งเสรมิ ให้มกี ำรประชำสัมพันธ์ ในรปู แบบท่หี ลำกหลำย กลยทุ ธ์ท่ี 6 พัฒนำระบบกำรนเิ ทศภำยในสถำนศึกษำโดยใช้กระบวนกำรมสี ่วนรว่ มจำกทกุ ภำคส่วน กลยุทธท์ ่ี 7 พัฒนำระบบคณุ ภำพกำรศึกษำโดยใช้วงจรกำรพฒั นำคุณภำพ (PDCA) เป็นหลักใน กำรจดั กำรศกึ ษำ กลยุทธท์ ี่ 8 พฒั นำบุคลำกรของสถำนศกึ ษำให้มีควำมสำมำรถใช้เทคโนโลยดี จิ ิทลั เพ่ือกำรจัด กระบวนกำรเรยี นรู้ กำรบรหิ ำรจดั กำร และส่งเสริมกำรทำงำนเปน็ ทมี ✍เขม็ มุ่งสู่ควำมสำเร็จ 1. มี กศน.ตำบลเปน็ หลักแหล่ง 2. มีคอมฯ/อุปกรณค์ รบทกุ กศน.ตำบล 3. ให้ทกุ คนมีควำมรู้ ICT 4. มรี ะบบจดั เกบ็ /รำยงำนผ่ำนออนไลน์ 5. ภำยใน1-2 ปตี ้องเป็น 1 ใน กศน.จังหวัด 6. ภำยใน 3 ปตี ้องเปน็ 1-5 ของสำนักงำน กศน. ✍ กำรบริหำรนำ ICT สูก่ ำรปฏบิ ัติ 1.กำรจดั หำคอมฯ/อปุ กรณ์ 2.ข้ันกำรพัฒนำ 3.กำรประเมินผล/รำยงำน

1. กำรจัดหำคอมฯ/อุปกรณ์ 1.1 กำรเปดิ ตวั กศน.ตำบล โดย 1) เชิญสมำชกิ สภำผู้แทนรำษฎร (ส.ส.),สมำชกิ วฒุ สิ ภำ (ส.ว.) เปน็ ต้น 2) นำนกั ศึกษำ กศน. หลกั สตู รกำรศึกษำนอกระบบระดับกำรศึกษำขั้นพน้ื ฐำน พุทธศกั รำช 2551 ปัจจบุ นั มีทั้งสนิ้ 4,621 คน 3) เชิญภำคเี ครือข่ำย อำทเิ ช่น โรงเรียน, อบต, เทศบำล, อบจ. ,อำเภอ เปน็ ต้น 4) เสนอโครงกำรพฒั นำ กศน.ตำบล ใหเ้ ป็นแหล่งเรยี นรดู้ ้ำนดิจทิ ลั 1.2 เชญิ ส.ส./ส.ว. เขำ้ รว่ มทกุ กจิ กรรม 1) โครงกำรเข้ำคำ่ ยต่ำง ๆของนักศึกษำ กศน. 2) โครงการวนั วชิ าการ ของนกั ศึกษา กศน. 3) โครงการ อื่น ๆ 2. ข้นั การพฒั นา 2.1 พฒั นำระบบจะพฒั นำระบบกำรจดั เก็บ/รำยงำนต่ำงๆผำ่ นออนไลน์ 2.2 พฒั นำคน 1) ครู กศน./จนท.ทกุ คน 2) นกั ศกึ ษำ กศน.หลกั สูตรกำรศึกษำนอกระบบระดับกำรศึกษำขนั้ พน้ื ฐำน พุทธศักรำช 2551 ท้ัง 2 กลุ่มเปำ้ หมำย ต้องมคี วำมรู้ ด้ำน ICT และสำมำรถนำไปประยุกตใ์ ชไ้ ด้ สำหรับในส่วนของนักศึกษำ กศน. หลกั สูตรกำรศึกษำนอกระบบระดับกำรศึกษำขั้นพ้นื ฐำน พุทธศักรำช 2551 กศน.อำเภอเมอื งชลบุรี จะต้องประกำศเปน็ คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ พร้อมท้งั ใช้งบอุดหนนุ (กิจกรรมพฒั นำคณุ ภำพผเู้ รยี น) ในกำร ขับเคลอ่ื น โดยจดั โครงกำรพัฒนำคณุ ภำพผู้เรยี น ด้ำน ICT พร้อมท้ังจัดทำสรปุ เปน็ รปู เลม่ ( 5 บท) 3.กำรประเมินผล/รำยงำน 3.1 รำยงำนผ่ำนออนไลน์ โดยผำ่ นทำงเครอื ขำ่ ยอนิ เทอรเ์ น็ต http://118.172.227.194:7003/choncity/ และจัดทำ Application รำยงำนผำ่ นทำงสมำรท์ โฟน 3.2 รำยงำนสรุปผลเปน็ รูปเล่ม (5 บท) จัดทำสรปุ ผลโครงกำร/กิจกรรม เปน็ รปู เลม่ (5บท) เพื่อรองรับกำรประเมินคุณภำพโดยต้น สังกัด และภำยนอก

✍ แผนพฒั นำคณุ ภำพกำรศึกษำ(เฉพำะปี 2563) เป้ำประสงค์ กลยุทธ์ โครงกำร/กิจกรรม เปำ้ หมำย ตัวชว้ี ัดควำมสำเร็จ เกณฑค์ วำมสำเรจ็ 8,000 คน (รอ้ ยละ) 1.กล่มุ เป้ำหมำย กลยุทธท์ ี่ 1ส่งเสริม 1. โครงกำรยกระดับจดั 8,000 คน 1. กลมุ่ เป้ำหมำยไดร้ ับ โอกำสทำงกำรศึกษำแต่ 1. ร้อยละของ ไดร้ บั โอกำสทำง และพฒั นำคณุ ภำพ กำรศกึ ษำนอกระบบ 27 คน ละประเภทของ กศน. กลมุ่ เปำ้ หมำยไดร้ บั 1,020คน 2. ผู้จบหลกั สตู ร โอกำสทำงกำรศกึ ษำแต่ กำรศึกษำขน้ั กำรศึกษำนอกระบบ ระดับกำรศึกษำขั้น 285 คน กำรศึกษำขนั้ พน้ื ฐำนแต่ ละประเภทของ กศน. ละระดับมผี ลสัมฤทธิ์ 2. ร้อยละของผู้จบ พนื้ ฐำน และกำรศึกษำตำม พนื้ ฐำนใหม้ คี ุณภำพ ทำงกำรเรยี นเฉล่ยี > หลกั สตู รกำรศึกษำขัน้ 2.00 พืน้ ฐำนแต่ละระดับมี กำรศึกษำ อัธยำศัย ให้เป็นไป 2. โครงกำรพัฒนำ ผลสัมฤทธิ์ทำงกำรเรียน 3. กลมุ่ เปำ้ หมำยรว่ ม เฉลย่ี > 2.00 ต่อเน่อื งและ ตำมนโยบำยและ คุณภำพผูเ้ รียน กศน. กจิ กรรมพฒั นำคณุ ภำพ ผูเ้ รยี น 3. รอ้ ยละของ กำรศกึ ษำตำม มำตรฐำน ตำมหลกั สูตรกำรศกึ ษำ 4. กลมุ่ เปำ้ หมำยเขำ้ ร่วม กลุม่ เปำ้ หมำยรว่ ม กิจกรรมส่งเสรมิ กำรรู้ กจิ กรรมพัฒนำคณุ ภำพ อัธยำศัยทม่ี ี นอกระบบระดบั หนงั สอื ผเู้ รียน 5. กลมุ่ เป้ำหมำยทุก 4.ร้อยละของ คณุ ภำพให้ กำรศึกษำขนั้ พนื้ ฐำน ประเภทสำมำรถนำ กลมุ่ เป้ำหมำยเข้ำรว่ ม ควำมรู้ไปใชใ้ นกำรพัฒนำ กิจกรรมสง่ เสรมิ กำรรู้ เปน็ ไปตำมควำม พทุ ธศักรำช 2551 อำชีพหรือคณุ ภำพชีวติ ได้ หนงั สือ5. ร้อยละของ 6. กลมุ่ เปำ้ หมำยมี กลุ่มเป้ำหมำยทุก ตอ้ งกำรและ คุณลักษณะที่พึงประสงค์ ประเภทสำมำรถนำ ตำมจดุ มุ่งหมำยของ ควำมรู้ไปใช้ในกำร สอดคลอ้ งกับ หลักสูตร พฒั นำอำชีพหรือ 7. กลุ่มเป้ำหมำยมสี ่วน คุณภำพชีวติ ได้ สภำพปัญหำของ รว่ มในกำรจัดกำรศกึ ษำ 6. รอ้ ยละของ นอกระบบและกำรจดั กลมุ่ เป้ำหมำยมี กลุ่มเป้ำหมำย5. กำรศึกษำอยำ่ ง 3. โครงกำรส่งเสริมกำร กำรศึกษำตำมอัธยำศัย คุณลักษณะท่พี ึง ประสงค์ตำมจุดม่งุ หมำย กลุม่ เปำ้ หมำย ตอ่ เนอื่ ง กลยทุ ธท์ ี่ 3 รหู้ นังสอื สำหรับ ของหลกั สตู ร ได้รับกำร ส่งเสริม สนบั สนุนให้ ประชำชนอำเภอเมอื ง ส่งเสริมและ ภำคเี ครือข่ำยมีสว่ น ชลบุรี สนบั สนนุ กำร รว่ มในกำรจัด 4. โครงกำรจดั กำรศึกษำ พฒั นำคุณภำพ กำรศกึ ษำนอกระบบ เพอื่ พฒั นำอำชพี (ศนู ย์ ชีวิตตำมหลกั และกำรศึกษำตำม ฝึกอำชีพชมุ ชน) ปรัชญำของ อัธยำศยั เพ่ือให้เกิด 1. โครงกำรเรียนรู้ เศรษฐกิจ กำรเรยี นรู้ตลอดชวี ิต ปรัชญำของเศรษฐกิจ พอเพียงเพอื่ พอเพยี งและเกษตร พฒั นำสงั คมและ ทฤษฎีใหม่ ชุมชนให้มคี วำม 2.โครงกำรเสรมิ สรำ้ ง เข้มแข็งอย่ำง คุณภำพชวี ิตท่ีเปน็ มติ ร ยั่งยนื กบั สิง่ แวดลอ้ ม 3.กลุ่มเป้ำหมำย 3.โครงกำรเกษตรยคุ ได้รบั กำรสรำ้ ง ใหมต่ ำมวิถีควำม และสง่ เสริมให้ พอเพยี ง เปน็ ผู้รักกำรอำ่ น 4.โครงกำรอบรมเชงิ

และใฝร่ ู้ใฝ่เรียน ปฏบิ ตั ิกำร 2. มบี ้ำนหนงั สอื ชุมชนที่ 7. รอ้ ยละของ อยำ่ งตอ่ เนอื่ ง ด้ำนเศรษฐกิจพอเพยี ง เปน็ ไปตำมเกณฑค์ รบทกุ กลุ่มเปำ้ หมำยมคี วำมพึง ตลอดชีวติ 5.โครงกำรปรัชญำของ 11,500 คน ตำบลอยำ่ งนอ้ ยตำบลละ พอใจตอ่ กำรรว่ ม เศรษฐกจิ พอเพยี ง 1 แห่ง กจิ กรรมกำรเรียนรูท้ ุก นำวถิ ีพอเพยี งสชู่ ุมชน 3. มมี มุ หนงั สอื เพอื่ ชุมชน ประเภท อย่ำงนอ้ ยตำบลละ 1 6.โครงกำรอบรมและ ควำมพงึ พอใจต่อกำรร่วม 1. รอ้ ยละ 80 ของ เรียนร้ตู ำมรอยพระยคุ ล กิจกรรมกำรเรยี นรู้ทุก กลมุ่ เป้ำหมำยได้รบั กำร บำทดว้ ยหลักปรัชญำ ประเภท ส่งเสริมกำรเรยี นรู้ ของเศรษฐกิจพอเพยี ง 1. กลมุ่ เปำ้ หมำยได้รบั ทำงดำ้ นหลักปรชั ญำ กำรสง่ เสริมกำรเรยี นรู้ ของเศรษฐกจิ พอเพยี ง ทำงดำ้ นหลกั ปรชั ญำของ 2. ร้อยละ 80 ของ เศรษฐกิจพอเพยี ง กลุ่มเป้ำหมำยนำควำมรู้ 2. กลุม่ เปำ้ หมำยนำ ไปใช้ในกำรพฒั นำอำชพี ควำมรู้ไปใชใ้ น และพฒั นำคุณภำพชวี ิต ได3้ . รอ้ ยละ 90 ของ กล่มุ เป้ำหมำยมี 9.สถำนศกึ ษำ กลยุทธ์ที่ 4พัฒนำ 7.โครงกำรเรียนรู้ 800 คน กำรพฒั นำอำชพี และ ควำมพงึ พอใจในระดับดี พฒั นำสอ่ื แหลง่ หลกั สตู รและรูปแบบ เศรษฐกิจพอเพียง พัฒนำคุณภำพชีวิตได้ ขนึ้ ไป เรียนรู้และภมู ิ กำรจัดกจิ กรรมกำร และกำรพฒั นำทย่ี ่งั ยนื 3. กลมุ่ เป้ำหมำยมีควำม 1. รอ้ ยละ 80 ของ ปัญญำทอ้ งถน่ิ เรียนรู้ ใหส้ อดคล้อง \"วถิ ีไทย วิถีพอเพยี ง\" พึงพอใจในระดับดขี น้ึ ไป เปำ้ หมำยภำคเี ครือขำ่ ย ดว้ ยกำรจดั กบั พน้ื ท่ีเขตพฒั นำ 1. โครงกำรส่งเสรมิ กำร 17 ตำบล 1. กลุ่มเป้ำหมำยภำคี มีสว่ นร่วมในกำรจัด กระบวนกำร พเิ ศษภำคตะวนั ออก อำ่ นเพอ่ื พฒั นำบำ้ น เครือข่ำยมี กำรศึกษำนอกระบบ เรยี นรู้ท่ี (EEC) และควำม หนังสอื ชุมชน แหง่ 4กล่มุ เป้ำหมำยมี และกำรจดั กำรศกึ ษำ ตอบสนองกบั ต้องกำรของ 2. โครงกำรหอ้ งสมดุ ควำมพงึ พอใจในระดับดี ตำมอัธยำศัย กำร กล่มุ เปำ้ หมำย โดย เคล่ือนทีส่ ำหรับชำว ขนึ้ ไป 2. มีบำ้ นหนังสือชุมชนท่ี เปล่ยี นแปลง กำรมสี ่วนรว่ มของภูมิ ตลำด 1.กลุ่มเป้ำหมำยไดร้ ับ เปน็ ไปตำมเกณฑ์ครบ บรบิ ทดำ้ น ปญั ญำท้องถน่ิ และ 3.โครงกำรเมืองนักอ่ำน กำรพัฒนำชีวิตให้ ทุกตำบลอยำ่ งนอ้ ย เศรษฐกิจ สงั คม แหลง่ เรียนรู้ทั้ง 4.โครงกำรอำ่ น สอดคลอ้ งกับพ้ืนท่เี ขต ตำบลละ 1 แห่ง กำรเมือง ใน ภำครฐั และเอกชน สรำ้ งงำนผำ่ น พฒั นำพเิ ศษภำค 3. มีมุมหนงั สือเพ่อื รปู แบบท่ี กลยทุ ธ์ที่ 5 สง่ เสรมิ QRCode ตะวนั ออก (EEC) ชุมชนอยำ่ ง หลำกหลำย ใหม้ กี ำร 1. โครงกำร English น่ำ 4. กลมุ่ เปำ้ หมำยมคี วำม น้อยตำบลละ 1 แห่ง 7.ชมุ ชนและ ประชำสมั พนั ธ์ ใน รู้ คู่ Service โรงแรม พึงพอใจในระดบั ดขี นึ้ ไป 4. ร้อยละ 80 ของ ภำคเี ครือขำ่ ย รูปแบบที่หลำกหลำย 2.โครงกำร Smart 1. กศน.อำเภอและกศน. กลุ่มเป้ำหมำยมีควำมพึง รว่ มจดั สง่ เสริม ONIE เพ่ือสรำ้ ง Smart ตำบลมกี ำรอพั เดทขอ้ มูล พอใจในระดับดขี ึ้นไป

และสนบั สนนุ farmers กำรประชำสมั พนั ธ์ 1. รอ้ ยละ 75 ของ กำรดำเนนิ งำน 3.โครงกำร Digtal กจิ กรรมทำงเวบ็ ไซดเ์ ปน็ กลมุ่ เป้ำหมำยไดร้ ับกำร กำรศึกษำนอก teracy (เพ่ือสร้ำงสงั คม ประจำทกุ เดอื น พัฒนำชีวติ ใหส้ อดคลอ้ ง ระบบและ ออนไลน์) 1. สถำนศึกษำมีคมู่ อื กับพ้ืนทีเ่ ขตพัฒนำพิเศษ กำรศึกษำตำม 4.โครงกำรกำรค้ำ ระบบกำรนิเทศภำยใน ภำคตะวนั ออก (EEC) อัธยำศัย ออนไลน์ สสู่ งั คม Digital กลยทุ ธท์ ่ี 6 5.โครงกำรเพิ่ม 2. ผ้นู ิเทศมี 2. รอ้ ยละ 80 ของ พัฒนำระบบ ประสิทธิภำพกำร กำรนิเทศ กล่มุ เป้ำหมำยมีควำมพึง กำรนเิ ทศภำยใน บริหำรจัดกำรขยะมูล กำรจัด พอใจในระดบั ดีข้นึ ไป สถำนศึกษำ ฝอย กจิ กรรม 1. รอ้ ยละ 100 ของ โดยใช้ 1. โครงกำรพัฒนำ และ กศน.อำเภอและ กศน. กระบวนกำรมี ระบบประชำสัมพนั ธ์ รำยงำนผล ตำบลมกี ำรอพั เดทขอ้ มูล ส่วนร่วมจำกทกุ ของสถำนศกึ ษำ เป็นประจำ กำรประชำสัมพนั ธ์ ภำคสว่ น 1. โครงกำรพัฒนำ ทุกเดือน กจิ กรรมทำงเว็บไซด์ บุคลำกรกำรนเิ ทศ เปน็ ประจำทกุ เดือน ภำยในสถำนศกึ ษำ กศน.อำเภอเมือง ชลบุรี 10.สถำนศกึ ษำ กลยุทธ์ที่ 7พฒั นำ 1. โครงกำรบริหำรควำม 39 คน 1. สถำนศกึ ษำมีคมู่ ือกำร 1. รอ้ ยละ 100 ของ มรี ะบบกำร ระบบคุณภำพ เสย่ี งของสถำนศกึ ษำ บรหิ ำรควำมเสย่ี ง กศน.อำเภอและ กศน. บรหิ ำรจดั กำร กำรศึกษำโดยใชว้ งจร กศน.อำเภอเมืองชลบรุ ี 2. รำยงำนสถำนะ ตำบลมกี ำรอพั เดทข้อมลู ตำมหลกั กำรพัฒนำคุณภำพ 2. โครงกำรพัฒนำระบบ ทำงกำรเงินเปน็ ประจำ กำรประชำสมั พนั ธ์ ธรรมำภบิ ำล (PDCA) เป็นหลกั ใน ประกันคณุ ภำพ ทกุ เดือน กจิ กรรมทำงเว็บไซด์ 8. บุคลำกรของ กำรจัดกำรศึกษำ กำรศึกษำ กศน.อำเภอ 1.บคุ ลำกรของ เปน็ ประจำทกุ เดอื น สถำนศกึ ษำ กลยทุ ธ์ท่ี 8 พฒั นำ เมืองชลบุรี สถำนศกึ ษำทกุ คนไดร้ บั 1. ร้อยละ 100 ของ ไดร้ ับกำรพฒั นำ บุคลำกรของ 1.โครงกำรพัฒนำ กำรพฒั นำเพอ่ื เพิ่ม สถำนศกึ ษำมคี ่มู อื ระบบ เพอ่ื เพิ่ม สถำนศึกษำให้มี บุคลำกรด้ำนวิชำกำร: สมรรถนะในกำร กำรนิเทศภำยใน สมรรถนะในกำร ควำมสำมำรถใช้ Google Form ปฏิบตั ิงำนตำมบทบำท 2. รอ้ ยละ 80 ของผู้ ปฏิบตั งิ ำนตำม เทคโนโลยดี ิจทิ ัลเพอ่ื 2.โครงกำรพัฒนำ หนำ้ ทอ่ี ย่ำงมี นเิ ทศมกี ำรนิเทศกำรจัด บทบำทหนำ้ ท่ี กำรจัดกระบวนกำร บุคลำกรด้ำนวิชำกำร: ประสิทธภิ ำพและ กจิ กรรมและรำยงำนผล อย่ำงมี เรยี นรู้ กำรบริหำร กำรจดั ทำสื่อกำรเรียน ต่อเนอ่ื ง เปน็ ประจำทกุ เดอื น จัดกำร และส่งเสริม กำรสอน Clip Video 2.บุคลำกรของ 1. สถำนศกึ ษำมีคมู่ ือ กำรทำงำนเปน็ ทมี 3.โครงกำรบรหิ ำร สถำนศึกษำสำมำรถนำ กำรบริหำรควำมเส่ียง จัดกำรข้อมลู ข่ำวสำร ควำมรู้ไปใชใ้ นกำร 2. รำยงำนสถำนะ กศน.ฝ่ำกระแส Social พัฒนำกำรปฏิบตั งิ ำน ทำงกำรเงนิ เปน็ ประจำ

Network ตำมบทบำทหน้ำท่อี ยำ่ งมี ทุกเดือน 4.โครงกำรประชุม บคุ ลำกรเพื่อเพมิ่ 1. รอ้ ยละ 80 ของ ประสิทธิภำพใน บคุ ลำกรของสถำนศึกษำ ทกุ คนไดร้ ับกำรพฒั นำ เพอ่ื เพิม่ สมรรถนะในกำร ปฏิบัตงิ ำนตำมบทบำท หนำ้ ที่อยำ่ งมี ประสทิ ธิภำพและ ตอ่ เนื่อง 2. รอ้ ยละ 80 ของ บุคลำกรของสถำนศึกษำ สำมำรถนำควำมรไู้ ปใช้ ในกำรพัฒนำกำร ปฏิบัตงิ ำนตำม 8. บุคลำกรของ กลยุทธท์ ่ี 8พฒั นำ 1.โครงกำรพฒั นำ 39 คน 1.บุคลำกรของ 1. ร้อยละ 80 ของ บุคลำกรดำ้ น สถำนศกึ ษำ บุคลำกรของ วชิ ำกำร:Google Form สถำนศึกษำทุกคนไดร้ บั บุคลำกรของสถำนศึกษำ 2.โครงกำรพัฒนำ ได้รับกำรพฒั นำ สถำนศึกษำใหม้ ี บุคลำกรดำ้ นวชิ ำกำร: กำรพัฒนำเพือ่ เพิ่ม ทกุ คนไดร้ บั กำรพฒั นำ กำรจัดทำสื่อกำรเรยี น เพ่ือเพิ่ม ควำมสำมำรถใช้ กำรสอน Clip Video สมรรถนะในกำร เพื่อเพ่มิ สมรรถนะในกำร 3.โครงกำรบรหิ ำร สมรรถนะในกำร เทคโนโลยดี จิ ิทัลเพอ่ื จัดกำรข้อมูลขำ่ วสำร ปฏบิ ัตงิ ำนตำมบทบำท ปฏิบตั ิงำนตำมบทบำท กศน.ฝ่ำกระแส Social ปฏบิ ัติงำนตำม กำรจัดกระบวนกำร Network หนำ้ ท่ีอย่ำงมี หนำ้ ท่อี ยำ่ งมี 4.โครงกำรประชมุ บทบำทหนำ้ ท่ี เรยี นรู้ กำรบริหำร บุคลำกรเพอ่ื เพิม่ ประสทิ ธิภำพและ ประสทิ ธิภำพและ ประสทิ ธิภำพใน อยำ่ งมี จัดกำร และส่งเสรมิ กำรปฏิบัตงิ ำน ตอ่ เนือ่ ง ต่อเนอ่ื ง 5.โครงกำรประชมุ เชงิ ประสิทธภิ ำพ กำรทำงำนเปน็ ทีม ปฏบิ ตั ิกำรกำรจดั 2.บุคลำกรของ 2. รอ้ ยละ 80 ของ กระบวนกำรเรยี นกำร และตอ่ เน่ือง สอนและกำรจัดทำ สถำนศึกษำสำมำรถนำ บคุ ลำกรของสถำนศกึ ษำ สรุปผลโครงกำร(5บท) ควำมรไู้ ปใช้ในกำร สำมำรถนำควำมรไู้ ปใช้ พัฒนำกำรปฏิบตั งิ ำน ในกำรพัฒนำกำร ตำมบทบำทหนำ้ ทีอ่ ยำ่ งมี ปฏิบตั งิ ำนตำมบทบำท ประสิทธภิ ำพ หนำ้ ทอ่ี ย่ำงมี 3. บุคลำกรของ ประสิทธภิ ำพ สถำนศกึ ษำมีควำมพึง 3. ร้อยละ 90 ของ พอใจในระดับดีขึน้ ไป บุคลำกรของสถำนศกึ ษำ มีควำมพึงพอใจในระดบั ดีข้นึ

3. กำรขับเคล่อื น กศน. สู่ กศน.WOW 1. พฒั นำครู กศน.และบคุ ลำกรทเ่ี กีย่ วข้องกับกำรจดั กจิ กรรมกำรศึกษำและเรยี นรู้ : Good Teacher เปน็ ผู้เชื่อมโยงควำมรูก้ บั ผู้เรยี นผู้รบั บริกำร มคี วำมเป็น “ครูมืออำชพี ” มจี ติ บรกิ ำร มีควำมรอบรูแ้ ละทนั ต่อ กำรเปลยี่ นแปลงของสังคม เป็นผู้จัดกิจกรรม กำรเรยี นรู้และบรหิ ำรจดั กำรควำมรู้ท่ีดี 1.1 เพ่ิมอัตรำขำ้ รำชกำรครู กศน. 928 อตั รำ (1) ให้เร่งดำเนินกำรเร่ืองกำรหำอัตรำตำแหน่ง กำรสรรหำ บรรจุ แต่งตง้ั ขำ้ รำชกำรครู กศน. 928 อัตรำ เพื่อจัดสรรให้กบั กศน.อำเภอทกุ แหง่ ๆ ละ 1 อัตรำ 1.2 พัฒนำครู และบุคลำกร (1) พัฒนำครู กศน.ตำบลเพ่อื ให้สำมำรถปฏิบัติงำนได้อยำ่ งมีประสทิ ธิภำพ โดยเนน้ เรอ่ื งกำร พัฒนำทกั ษะกำรจัดกำรเรียนกำรสอนออนไลน์ ทกั ษะภำษำต่ำงประเทศ ทักษะกำรจดั กระบวนกำรเรยี นรู้ (2) พฒั นำศึกษำนิเทศกใ์ ห้สำมำรถปฏิบัติกำรนเิ ทศได้อย่ำงมศี ักยภำพ (3) พฒั นำบุคลำกร กศน.ทุกระดับทุกประเภทให้มีทักษะควำมรู้เรือ่ งกำรใช้ประโยชนจ์ ำกดิจทิ ัลและ ภำษำต่ำงประเทศทจี่ ำเป็น 2. พฒั นำ กศน.ตำบลให้มีบรรยำกำศและสภำพแวดลอ้ มที่เออื้ ต่อกำรเรียนรู้ : Good Place –Best Check in ให้มีควำมพร้อมในกำรใหบ้ รกิ ำรกิจกรรมกำรศึกษำและเรยี นรู้ เปน็ แหล่งขอ้ มลู สำธำรณะท่งี ่ำยตอ่ กำร เข้ำถึง มีบรรยำกำศทีเ่ อ้ือต่อกำรเรียนรู้เป็นเสมอื นคำเฟ่กำรเรียนรสู้ ำหรบั ทกุ คนทุกช่วงวัย มีสงิ่ อำนวยควำม สะดวก มคี วำมสวยงำมที่ดงึ ดูดควำมสนใจ และมีควำมปลอดภัยสำหรับผใู้ ชบ้ ริกำร 2.1 เร่งยกระดับ กศน.ตำบล 928 แห่ง (อำเภอละ 1 แห่ง) เป็น กศน.ตำบล 5 ดี พรีเมี่ยม ที่ประกอบด้วยครูดี สถำนท่ีดี (ตำมบริบทของพ้ืนท่ี) กิจกรรมดี เครือข่ำยดี และมีนวัตกรรมดีมีประโยชน์ 2.2 จดั ให้มศี นู ยก์ ำรเรยี นรตู้ น้ แบบ กศน.ใน 5 ภูมิภำค เป็น Co - Learning Space ศูนย์กำรเรียนรู้ท่ี ทันสมัยสำหรับทุกคน โดยเปิดพ้ืนท่ีเพ่ือยกระดับกำรเรียนรู้ พร้อมเปิดบริกำรต่ำงๆ อำทิ พื้นที่สำหรับกำร ทำงำน/กำรเรยี นรู้ พื้นท่ีสำหรับทำกิจกรรมตำ่ งๆ หอ้ งประชุมกลุม่ ย่อย รวมทั้งให้บริหำรห้องสมุดทั้งในรูปแบบ ดิจิทัล และสืบค้นหนังสือในห้องสมุดด้วยตนเอง บริกำรอินเทอร์เน็ต มัลติมีเดีย เพ่ือรองรับกำรเรียนรู้แบบ Active learning

2.3 พัฒนำห้องสมุดประชำชน “เฉลิมรำชกุมำรี” จำนวน 103 แห่ง ให้เป็น Digital Library โดยให้มี บริกำร Free Wi-fi บริกำรหนังสือในรูปแบบ e-Book บริกำรคอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ตเพ่ือกำรสืบค้น ข้อมูล 2.4 ปรบั ปรุงรถกำรอ่ำนเคลื่อนท่ี เพ่อื กำรเข้ำถึงกำรอำ่ นในทุกพืน้ ท่ี ทุกชุมชน 3. ส่งเสรมิ กำรจัดกจิ กรรมกำรเรียนรทู้ ี่ทนั สมยั และมปี ระสิทธิภำพ : Good Activities พฒั นำกระบวนกำรเรียนรู้ให้มคี วำมทันสมัย เอื้อต่อกำรเรียนรู้ สeหรับทกุ คน ที่สำมำรเรยี นรไู้ ด้ทุกที่ ทกุ เวลำ มีกจิ กรรมทห่ี ลำกหลำย น่ำสนใจ สนองตอบควำมตอ้ งกำรของชมุ ชน เพื่อพัฒนำศักยภำพกำรเรยี นรู้ ของกำรขับเคลื่อน กศน. สู่ กศน.WOW ประชำชน รวมทง้ั ใชป้ ระโยชน์จำกประชำชนในชุมชนในกำรรว่ มจดั กจิ กรรมกำรเรียนรู้เพื่อเชอื่ มโยงควำมสมั พันธ์ของคนในชุมชนไปสกู่ ำรจัดกำรควำมรู้ของชุมชนอยำ่ งยง่ั ยนื 3.1 พัฒนำกำรจดั กำรศึกษำออนไลน์ กศน. โดยให้มกี ำรเรียนออนไลน์สำยสำมญั กำรเรยี นออนไลน์ เรอื่ งทักษะอำชีพ และกำรพัฒนำเว็บเพจกำรค้ำออนไลน์ 3.2 ใหม้ หี ลักสตู รลูกเสอื มคั คุเทศก์ โดยให้ กศน.จังหวดั ทกุ จังหวดั / กทม จดั ต้งั กองลูกเสือท่ีเป็น ลูกเสอื ท่ีมีควำมพรอ้ มดำ้ นทักษะภำษำต่ำงประเทศเป็นลูกเสือมคั คุเทศก์จงั หวดั ละ 1 กอง เพ่อื ส่งเสริมลูกเสือ จิตอำสำพฒั นำกำรท่องเทยี่ วในแต่ละจงั หวัด 3.3 เรง่ ปรับหลกั สตู รกำรจดั กำรศกึ ษำอำชพี กศน. ใหเ้ ปน็ อำชีพที่รองรับอตุ สำหกรรมอนำคต (New S-curve) โดยเฉพำะจงั หวัดท่ีอยใู่ นพื้นทเี่ ขตเศรษฐกิจพเิ ศษให้ดำเนนิ กำรโดยเร่งดว่ น สำหรบั พ้นื ทปี่ กติใหพ้ ฒั นำอำชีพทเ่ี นน้ กำรต่อยอดศักยภำพและบรบิ ทตำมบรบิ ทของพืน้ ท่ี 4. เสรมิ สร้ำงควำมร่วมมือกับภำคเี ครอื ขำ่ ย : Good Partnerships ประสำน สง่ เสริมควำมรว่ มมือกบั ภำคเี ครอื ขำ่ ย ทั้งภำครัฐ เอกชน ประชำสังคม และองค์กรปกครอง สว่ นทอ้ งถิ่น รวมทั้งส่งเสรมิ และสนบั สนนุ กำรมีสว่ นร่วมของชุมชนเพ่ือสร้ำงควำมเขำ้ ใจ และใหเ้ กิดควำม ร่วมมือในกำรส่งเสริม สนับสนุน และจดั กำรศึกษำและกำรเรียนรใู้ ห้กบั ประชำชนอย่ำงมีคุณภำพ 4.1 เร่งจัดทำเนยี บภมู ปิ ัญญำท้องถ่นิ ในแต่ละตำบล เพื่อใช้ประโยชนจ์ ำกภูมิปญั ญำท้องถนิ่ ในกำร สรำ้ งกำรเรียนรจู้ ำกองค์ควำมร้ใู นตัวบุคคลให้เกิดกำรถ่ำยทอดภมู ิปญั ญำ สรำ้ งคณุ ค่ำทำงวฒั นธรรมอยำ่ งยัง่ ยืน 4.2 สง่ เสรมิ ภมู ปิ ญั ญำท้องถิน่ สู่กำรจัดกำรเรียนรูช้ มุ ชน

4.3 ประสำนควำมรว่ มมือกับภำคเี ครือข่ำยเพื่อกำรขยำย และพฒั นำกำรศึกษำนอกระบบและ กำรศกึ ษำตำมอัธยำศยั ใหเ้ ข้ำถึงกลมุ่ เป้ำหมำยทุกกลุ่มอยำ่ งกว้ำงขวำงและมคี ุณภำพ อำทิ กล่มุ ผสู้ งู อำยุ กลมุ่ อสม. 5. พัฒนำนวัตกรรมทำงกำรศึกษำเพ่ือประโยชน์ต่อกำรจดั กำรศกึ ษำและกลุ่มเป้ำหมำย : Good Innovation ใหพ้ ฒั นำนวัตกรรมหรือสรำ้ งสรรคก์ ำรดำเนินงำนใหม่ๆ เพ่ือสร้ำงมูลค่ำใหก้ บั ผลิตภัณฑ์ พัฒนำ กระบวนกำรเรยี นรู้ใหท้ นั สมยั 5.1 เร่งจดั ตัง้ ศนู ย์ให้คำปรกึ ษำ และพัฒนำผลิตภัณฑ์Brand กศน. เพื่อยกระดับคุณภำพผลิตภัณฑ์ กำรบรหิ ำรจัดกำรกำรผลติ กำรส่งออก กำรตลำด และสร้ำงชอ่ งทำงกำรจำหนำ่ ย ตลอดจนสง่ เสรมิ กำรใช้ ประโยชนจ์ ำกเทคโนโลยใี นกำรเผยแพร่และจำหนำ่ ยผลิตภัณฑ์ 5.2 พฒั นำสนิ ค้ำ และผลิตภัณฑ์ กศน. พรอ้ มทั้งให้มกี ำรคัดเลือกสินค้ำและผลติ ภัณฑ์ทีเ่ ป็นสุดยอด กศน.ของแต่ละจังหวดั เพ่อื สง่ ไปจัดจำหนำ่ ยยงั สถำนจี ำหน่ำยนำ้ มนั ซง่ึ จะเป็นกำรสรำ้ งช่องทำงจำหน่ำยสินคำ้ และผลิตภัณฑ์ให้กวำ้ งขวำงยิ่งขน้ึ 5.3 สง่ เสริมกำรใช้เทคโนโลยใี นกำรปฏิบตั งิ ำน กำรบรหิ ำรจัดกำร และกำรจัดกำรเรียนรู้ 5.4 ใหม้ ีกำรใชว้ จิ ัยอยำ่ งงำ่ ยเพ่ือกำรสรำ้ งนวัตกรรมใหม่กำรขบั เคล่ือน กศน. สู่ กศน.WOW 6. จดั ตั้งศูนย์กำรเรยี นร้สู ำหรับทกุ ช่วงวัย : Good Learning Centre ท่ีเปน็ ศูนยก์ ำรเรยี นรู้ตลอดชีวิตทส่ี ำมำรถให้บริกำรประชำชนในชุมชนได้ทกุ คน ทกุ ช่วงวัย ที่มี กิจกรรมทหี่ ลำกหลำย สนองตอบควำมต้องกำรในกำรเรียนรใู้ นแต่ละช่วงวยั และเป็นศูนยบ์ ริกำรควำมรู้ ศนู ย์ กำรจดั กจิ กรรมท่คี รอบคลุมทุกกลมุ่ วยั เพ่ือให้มีพัฒนำกำรเรยี นรทู้ เ่ี หมำะสม และมีควำมสขุ กับกำรเรียนรู้ตำม ควำมสนใจ 6.1 ให้เร่งประสำนกับสำนักงำนคณะกรรมกำรกำรศกึ ษำข้ันพ้ืนฐำนเพื่อจดั ทำทำเนียบข้อมูลโรงเรียน ทถี่ ูกยบุ รวม หรือคำดวำ่ น่ำจะถกู ยุบรวม 6.2 ให้สำนักงำน กศน.จงั หวดั ในจังหวัดท่มี ีโรงเรยี นทถี่ ูกยุบรวมประสำนขอใชพ้ ้นื ท่ี เพื่อจัดตง้ั ศนู ย์ กำรเรยี นร้สู ำหรับทุกช่วงวัย กศน.

1.Good Teacher กำรพัฒนำครู กศน. และบคุ ลำกรทเ่ี ก่ียวขอ้ งกับกำรจดั กิจกรรมกำรศึกษำและเรยี นรู้ โดย จะดำเนินกำรเกลีย่ เพิ่มอัตรำตำแหนง่ กำรสรรหำ บรรจุ แตง่ ตง้ั ขำ้ รำชกำรครู กศน. จำนวน 891 อตั รำ เพอื่ ให้ กศน. อำเภอมีบคุ ลำกรทีจ่ ะมำช่วยกันขบั เคล่อื นงำนได้อยำ่ งเตม็ ประสิทธภิ ำพ 2.Good Place (Best Check-In)โดยพฒั นำ กศน. ตำบล ใหม้ ีบรรยำกำศและสภำพแวดล้อมที่เอ้อื ต่อกำร เรยี นรู้ ซง่ึ จะเป็นกำรยกระดบั ให้ กศน.ตำบล,ห้องสมดุ ประชำชน“เฉลิมรำชกมุ ำรี”, ศนู ย์กำรเรียนร้ตู ้นแบบ กศน. ให้เป็นแหล่งเรียนรทู้ ที่ ันสมยั มคี ุณภำพตอบสนองต่อกำรเรยี นรู้ของประชำชนทุกช่วงวัย 3.Good Activities ส่งเสริมกำรจัดกิจกรรมกำรเรยี นรู้ทท่ี ันสมยั และมีประสิทธภิ ำพ อำทิ กำรปรับหลกั สูตร กำรจัดกำรศกึ ษำอำชีพ หลกั สตู รลกู เสอื มัคคเุ ทศก์ และพัฒนำกำรจัดกำรศกึ ษำออนไลน์ 4.Good Partnership กำรเสริมสร้ำงควำมรว่ มมือกับภำคีเครือข่ำย โดยใหม้ ีควำมร่วมมอื จดั ทำทำเนยี บภมู ิ ปญั ญำท้องถ่ิน และสง่ เสรมิ ภูมิปัญญำสกู่ ำรจดั กำรเรียนรู้ชุมชน 5.Good Innovation กำรพัฒนำนวตั กรรมทำงกำรศึกษำ เพอื่ ประโยชนต์ อ่ กำรจดั กำรศึกษำและ กลุ่มเป้ำหมำย โดยใหจ้ ัดต้ังศูนยใ์ ห้คำปรกึ ษำและพัฒนำผลิตภัณฑ์brand กศน. รวมทงั้ กำรสร้ำงชอ่ งทำงจัด จำหนำ่ ยไปยังสถำนจี ำหนำ่ ยน้ำมัน 6.Good Learning Centerกำรจัดตัง้ ศูนย์กำรเรียนรูท้ ุกช่วงวัย ซง่ึ ตอ้ งมกี ำรจัดเตรียมข้อมูลและประสำนงำน เบ้ืองต้น โดยผูบ้ ริหำร กศน. ท้งั ส่วนกลำงและส่วนภูมภิ ำค ตอ้ งชว่ ยกนั ขับเคลอื่ นภำรกจิ สำคัญตำ่ ง ๆ ไปส่กู ำร ปฏิบตั ิ และช่วยกนั ถำ่ ยทอดควำมเขำ้ ใจไปส่เู จำ้ หน้ำที่ผปู้ ฏบิ ัตงิ ำน พรอ้ มทง้ั ดแู ลและสนับสนุนใหเ้ กดิ ประสิทธภิ ำพและประสทิ ธิผลตอ่ ไป

แนวทำง/กลยุทธก์ ำรดำเนินงำนกำรศึกษำนอกระบบและกำรศกึ ษำตำมอัธยำศยั ของ กศน.ตำบลแสนสขุ วิสยั ทศั น์ สง่ เสรมิ กำรจดั กำรศึกษำนอกระบบและกำรศกึ ษำตำมอัธยำศยั เพือ่ ให้ประชำชนในตำบลแสนสุข และตำบล ใกล้เคียงในเขตอำเภอเมอื งชลบรุ ี ไดเ้ รียนร้ตู ลอดชวี ิตอย่ำงมีคณุ ภำพอย่ำงทั่วถงึ พนั ธกิจ 1. ส่งเสริมและจัดกำรศึกษำนอกระบบ กำรศึกษำตำมอัธยำศยั และส่งเสรมิ กำรศึกษำในระบบ อยำ่ งมีคณุ ภำพ 2. ส่งเสรมิ สนบั สนุนกำรมสี ่วนรว่ มของภำคีเครอื ขำ่ ยในกำรจัดกำรศกึ ษำนอกระบบและกำรศึกษำ ตำมอัธยำศัย เปำ้ ประสงค์ 1. ประชำชนในตำบลแสนสขุ ไดม้ ีโอกำสทำงกำรศึกษำตลอดชวี ิตอย่ำงทวั่ ถึงและเทำ่ เทียมกัน 2. ผู้เรียนและผู้รับบริกำรได้รับกำรศึกษำที่มีคุณภำพได้มำตรฐำนและมีคุณลักษณะท่ีพึงประสงค์ เพ่ือให้มีควำมเช่ือม่ันศรัทธำในกำรปกครองระบอบประชำธิปไตยที่มีพระมหำกษัตริย์ทรงเป็นประมุข มีคุณธรรม จริยธรรม มีควำมภำคภูมิใจในควำมเป็นไทยและมีภูมิคุ้มกันภัยจำกยำเสพติด และดำรงชีวิตอยู่ บนพ้นื ฐำนปรชั ญำเศรษฐกิจพอเพยี ง 3. มีแหล่งกำรเรียนรู้อย่ำงท่ัวถึงและได้รับกำรพัฒนำเพื่อสนองควำมต้องกำรกำรเรียนรู้ตลอดชีวิต ของประชำชน 4. ภำคีเครอื ขำ่ ยมีศกั ยภำพในกำรจดั กำรและสนับสนุนกำรจัดกำรศึกษำตลอดชีวิต 5. นำเทคโนโลยีมำใช้ในกำรบริหำรจดั กำรและใหบ้ ริกำรกำรเรียนรแู้ ก่ประชำชนอย่ำงมีประสิทธภิ ำพ ตวั ชี้วัด 1. ประชำกรวัยแรงงำน (อำยุ 15-59 ป)ี ไดร้ ับกำรศกึ ษำนอกระบบขั้นพื้นฐำนในระดบั ที่สูงข้ึน เพมิ่ ขึ้น 5 % ของ กศน.ตำบลแสนสุข 2. กศน.ตำบลแสนสุข ผำ่ นเกณฑก์ ำรประกันคุณภำพภำยใน 80 % ของตวั ชี้วัดตำมเกณฑก์ ำรประเมิน 3. กำรจัดกำรศึกษำนอกระบบและกำรศึกษำตำมอัธยำศยั เปน็ ไปตำมเป้ำหมำยที่กำหนดตำมแผน

ปฏิบตั กิ ำรประจำปี 4. บุคลำกร ไดร้ ับกำรพัฒนำมคี ณุ ภำพในกำรจัดกำรศึกษำ นอกระบบและกำรจัดกำรศกึ ษำตำม อธั ยำศยั ตำมเกณฑม์ ำตรฐำนทกี่ ำหนด 75 % 5. ภำคเี ครือขำ่ ยมสี ่วนร่วมในกำรจัดกำรศกึ ษำนอกระบบและกำรศึกษำตำมอธั ยำศัย 75% ของ กจิ กรรมกำรจดั กำรศึกษำของ กศน.ตำบลแสนสุข ยุทธศำสตร์ 1.กำรเรง่ ปฏิรปู กำรดำเนนิ งำนกำรศกึ ษำนอกระบบและกำรศกึ ษำตำมอัธยำศยั 1.1กำรประเมนิ ทบทวนและปรับกิจกรรมกำรศึกษำนอกระบบและกำรศึกษำตำมอธั ยำศยั 1.2กำรกระต้นุ ส่งเสริมและสนับสนนุ กำรมีสว่ นร่วมในกำรจัดกำรศึกษำนอกระบบและ กำรศึกษำตำมอัธยำศัย ของทุกภำคส่วนอย่ำงกวำ้ งขวำง 1.3กำรสร้ำงควำมเข้ำใจกรรมกำร กศน.ตำบล

สรุปลกั ษณะเฉพำะของชมุ ชน โดยกำร SWOT Analysis เสนอจุดแข็ง จุดอ่อน โอกำส และอุปสรรคของตำบลแสนสุข จุดแขง็ (Strengths) ของหมบู่ ้ำน 1. คณะกรรมกำรชมุ ชนมคี วำมสำมัคคีและร่วมมือกันดี 2. กำรคมนำคมมีควำมสะดวก 3. มีศำสนำสถำนเปน็ ท่ีเคำรพบูชำของคนในชุมชนและบุคคลทว่ั ไป 4. ชุมชนมผี รู้ ู้ ภูมปิ ัญญำท้องถิ่นตำ่ ง ๆ ในชมุ ชน จดุ อ่อน (Weaknesses) ของหมู่บำ้ น 1. ประชำชนขำดควำมเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ซ่ึงกันและกนั 2. ประชำชนยังขำดระเบยี บวนิ ัยและไม่ปฏบิ ตั ิตำมระเบียบ / กฎหมำยของท้องถิ่น 3. ประชำชนขำดจิตสำนกึ ในกำรช่วยกนั รกั ษำควำมสะอำด และควำมเปน็ ระเบียบเรียบร้อยของ บำ้ นเมือง ไม่ใหค้ วำมรว่ มมือในกำรทำกิจกรรมรว่ ม โอกำส (Opportunities) ของหมู่บ้ำน 1. มีองค์กรปกครองส่วนทอ้ งถนิ่ ให้กำรสนับสนนุ และสง่ เสรมิ กิจกรรมของชุมชนเปน็ อย่ำงดี 2. มรี ะบบสำธำรณปู โภค และสำธำรณปู กำรครบถว้ น อปุ สรรค (Threats) ของหมบู่ ้ำน 1. ชมุ ชนมีควำมหนำแนน่ มำก และมีประชำกรแฝง 2. งบประมำณไม่เพยี งพอ

 ผลกำรวเิ ครำะห์ SWOT (Swot Analysis) ของ กศน.ตำบลแสนสขุ กำรวเิ ครำะหส์ ภำพแวดล้อมภำยใน 1.1 จดุ แขง็ กศน.ตำบล/แขวง (Strengths – S) SWOT Analysis คอื กำรวเิ ครำะห์สภำพแวดล้อมภำยนอกและภำยในองค์กรเปน็ ข้ันตอนแรก ๆ ในกำรทำ แผนประเภทตำ่ ง ๆ เชน่ แผนกลยุทธ์ ซง่ึ กำลงั เป็นแผนทว่ี งกำรต่ำงรวมทั้งวงกำร กศน.สนใจ 1. สภำพแวดลอ้ มภำยในองค์กร (งบประมำณ เครอ่ื งมือ เทคโนโลยี บุคลำกร ภำรกิจของ หน่วยงำน โครงสรำ้ งกำรบริหำร) Strength (จุดแข็ง) คอื สภำพท่ที ำให้หน่วยงำน (กศน.ตำบลแสนสุข) เขม็ แข็งพฒั นำให้เกิด ควำมก้ำวหน้ำได้ จุดแข็งของ กศน.ตำบลแสนสุข มีจุดแข็งดงั ต่อไปนี้ 1.1) ด้ำนอำคำร สถำนท่ี กศน.ตำบลแสนสขุ ต้ังอยู่ในชุมชน สะดวกต่อกำรติดต่อ 1.2) กศน.ตำบลแสนสุขเป็นเอกเทศ สะดวกต่อกำรจัดกจิ กรรม 1.3) บุคลำกรมีจำนวนเพียงพอตอ่ กำรปฏบิ ตั งิ ำน 1.4) บคุ ลำกรได้รับกำรพฒั นำตนเองอย่ำงต่อเนอื่ ง 1.5) มรี ะบบกำรจัดเก็บและสืบคนข้อมลู ท่ีทันสมยั สำมำรถสืบคน้ ข้อมลู ดำ้ นต่ำง ๆ ผ่ำนทำงเว็บไซต์กศน.ตำบลแสนสุข 1.6) เทศบำลตำบลแสนสขุ ให้กำรสนับสนุนกำรจดั กระบวนกำรเรียนรู้ของ นักศึกษำ กศน.ตำบลแสนสขุ เป็นอย่ำงดี 1.7) ผนู้ ำชมุ ชน /ประชำชนในชุมชน /องคก์ รนักศึกษำ /คณะกรรมกำร กศน.ตำบล นำป่ำเห็นควำมสำคัญ ของกำรศึกษำในชุมชนเปน็ อย่ำงมำก มีวิสัยทัศนท์ ก่ี วำ้ งไกล กำกับติดตำมและแก้ไข ปญั หำรวมกบั ครู กศน.ตำบลนำป่ำสมำ่ เสมอ ร่วมวำงแผนกำรพัฒนำ กศน.ตำบลอย่ำงเปน็ ระบบ 1.8) นักศึกษำส่วนใหญ่ เป็นกลุ่มผู้นำชุมชน และกลุ่มเยำวชนที่มีควำมรับผิด ชอบสูง และองคก์ รนกั ศึกษำ มีควำมรู้ ควำมสำมำรถ ทกั ษะในกำรทำงำนสูง เชน่ ดำ้ นคอมพวิ เตอร์ ด้ำนกำรประชำสัมพันธ์ สำมำรถทำงำนทดแทนกับได้ มีควำมพร้อม มีควำมสำมัคคี ช่วยเหลือกันสร้ำง กระบวนกำรกำรทำงำนเป็นทีม 1.9) ภำรกิจหรืองำนในหน้ำท่ขี อง กศน.ตำบลแสนสุข มลี ักษณะงำนท่หี ลำกหลำย นำ่ สนใจ มกี ำรจัดกิจกรรมทหี่ ลำกหลำยเพียงพอตอ่ ควำมต้องกำรของกลุม่ เป้ำหมำยมหี ลำยหลักสูตรหลำย วธิ ี ช่วยพัฒนำสงั คมได้ 1.10) มีกำรจดั เวทชี ำวบ้ำน 1.11) มีควำมพร้อมทำงดำ้ นวัสดุ อุปกรณ์ และสื่อเทคโนโลยี ทหี่ ลำกหลำย ง่ำยต่อกำร เรียนรู้ 1.12) ด้ำนนโยบำยและแผน มกี ำรจัดวำงแผนอยำ่ งเป็นระบบและเปำ้ หมำยกำร ปฏบิ ัติงำนอย่ำงชัดเจน สำมำรถรองรับกำรเปลยี่ นแปลงระดับนโยบำย แผนระดับสงู ได้

1.2 จุดออ่ น กศน.ตำบล/แขวง (Weaknesses – W) Weakness (จุดอ่อน) คือ สภำพทีท่ ำให้กำรดำเนนิ กำรตำมภำรกจิ ทีไ่ ดร้ บั มอบหมำยไม่ได้ 2.1) ด้ำนกลุม่ เป้ำหมำย (นักศึกษำ) บำงรำยขำดควำมรับผดิ ชอบ ไมม่ วี ินยั ในตนเอง ไมป่ ฏบิ ัติตำมขัน้ ตอน และไม่มกี ำรทำงำนเป็นกลมุ่ 2.2) กิจกรรมท่เี ด่นในชมุ ชนยังไมป่ รำกฏยง่ั ยนื 2.3) พ้นื ฐำนด้ำนควำมร้ทู ่ีแตกตำ่ งกัน 2.4) สือ่ ทำงด้ำนเทคโนโลยที ไ่ี ม่เพยี งพอต่อควำมตอ้ งกำรของกลมุ่ เป้ำหมำย 2.5) ขำดงบประมำณในกำรปรับปรงุ พฒั นำ กศน.ตำบลให้คงทนถำวรและทันสมยั 2.6) คนในชุมชนสว่ นใหญ่เปน็ ผ้ใู ชแ้ รงงำน ผู้รบั บรกิ ำรของกศน.ตำบล ค่อนข้ำงน้อย 1. กำรวิเครำะหส์ ภำพแวดลอ้ มภำยนอก 2.1 โอกำส กศน.ตำบล/แขวง (Opportunities – O) Opportunities (โอกำส) คือสภำพท่ที ำใหอ้ งค์กรพฒั นำกำ้ วหนำ้ แข่งกับองคก์ รอ่ืนได้ 1.1) ด้ำนกลุ่มเป้ำหมำย กศน.ตำบลแสนสุข ยังมีกลุ่มเป้ำหมำยที่ให้ควำมสนใจ และ ควำมสำคัญต่อกำรศึกษำอีกเป็นจำนวนมำก จึงสำมำรถสร้ำงผลงำนในเชิงปริมำณและเชิงคุณภำพทั้ง กลมุ่ เป้ำหมำยท่ีขำดโอกำสทำงกำรศึกษำ 1.2) ด้ำนเครือข่ำยทำงกำรศึกษำ ได้รับควำมร่วมมือเป็นอย่ำงดีจำกสถำนศึกษำในระบบ ในกำรช่วยจัดกำรศึกษำ และยังมีองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินท่ีคอยให้กำรสนับสนุนในกำรจัดกำรศึกษำ ร่วม เป็นคณะกรรมกำรต่ำง ๆ มำกมำย 1.3) ใกล้แหลง่ อุตสำหกรรมเปน็ ผลใหม้ โี อกำสมผี ู้ใชบ้ รกิ ำรมำกขึ้น 1.4) มีอำสำสมคั รชุมชนช่วยดำเนินงำน กศน.ตำบล ช่วยให้บรรลุตำมเป้ำหมำย 1.5) ประชำกรหลำกหลำยพ้นื ทท่ี ย่ี ำ้ ยเข้ำมำตั้งถิน่ ฐำนทำใหม้ กี ลุ่มเปำ้ หมำยหลำย ทำงเลอื ก 1.6) ได้รบั ควำมรว่ มมือจำกภำคเี ครือข่ำยเปน็ อย่ำงดี 1.7) ไดร้ ับกำรยอมรับจำกชมุ ชนและหนว่ ยงำนอน่ื 2.2 อปุ สรรค/ควำมเสี่ยง กศน.ตำบล/แขวง (Threats – T) Threats (อุปสรรค) คอื สภำพท่ีกีดขวำงเหนีย่ วรัง้ กำรพัฒนำ 2.1) ดำ้ นงบประมำณ ขำดงบประมำณจำกหนว่ ยงำนที่รับผดิ ชอบโดยตรงท่จี ะช่วย สนบั สนนุ กำรขบั เคลื่อนในกำรจัดกำรศึกษำนอกระบบและกำรศึกษำตำมอัธยำศัยท่ีสมบูรณ์ หรือสนับสนนุ กำรปฏิบัติงำนของครู กศน.ในพื้นที่ทีห่ ่ำงไกล และค่ำตอบแทนทเี่ หมำะสมต่อกำรปฏิบัตงิ ำนทีส่ ำมำรถเปน็ ขวญั กำลังใจใหผ้ ้ปู ฏิบัตงิ ำนได้ 2.2) กำรรวมกลุ่มต่ำงๆในชุมชนยังทำได้ยำกในบำงพน้ื ที่

2.3) กำรสง่ เสริมทำงดำ้ นงบประมำณที่สง่ ลงในพน้ื ท่ีกลมุ่ เป้ำหมำยไม่ตอ่ เน่ืองผูเ้ รยี นและ ผูร้ บั บรกิ ำรมผี ลสัมฤทธิต์ ำมจุดมุง่ หมำยกำรเรียนรู้หรือกจิ กรรมกำรเรยี นรู้และมีศักยภำพท่ีพงึ ประสงค์ 1. ภำคส่วนตำ่ ง ๆ ของชมุ ชนเข้ำมำมสี ว่ นรวมเป็นภำคีเครือขำ่ ยในกำรจดั กจิ กรรมกำรศกึ ษำตลอดชวี ติ 2. ชมุ ชนมแี หลง่ กำรเรยี นรทู้ ี่พร้อมในกรจัดและสนับสนุนกำรศึกษำตลอดชวี ิต นโยบำยและจดุ เน้นของ กศน.ตำบลแสนสขุ 1. จัดบรกิ ำรกำรศึกษำนอกระบบและกำรศึกษำตำมอัธยำศยั ในพืน้ ที่ โดยใช้ กศน.ตำบล เปน็ ฐำน 2. สำรวจสภำพปญั หำควำมเร่งดว่ นของแต่ละชุมชนตลอดจนพฒั นำทักษะที่จำเปน็ ในกำรดำรงชวี ติ สำมำรถนำไปใช้ประโยชน์ต่อกำรพฒั นำตนเองกำรพฒั นำชุมชนและสังคมได้อยำ่ งแท้จริงโดยยดึ หลกั ประสิทธิภำพ ควำมโปร่งใส และควำมคุ้มค่ำในกำรดำเนนิ งำน 3. จัดทำแผนเพ่ือเป็นเครื่องมือในกำรพัฒนำกำรดำเนินงำนอย่ำงมีประสิทธภิ ำพ มีกำรนเิ ทศ กำกับ ตดิ ตำม ประเมิน และรำยงำนผลกำรนำนโยบำยส่กู ำรปฏิบัตทิ เี่ ชื่อมโยงกนั อยำ่ งเปน็ ระบบ 4. กระตนุ้ สง่ เสริมและสนับสนนุ กำรมีสว่ นร่วมในกำรจัดกำรศึกษำนอกระบบและกำรศึกษำตำม อัธยำศยั ของทุกภำคส่วน 5. สร้ำงควำมเขำ้ ใจ กรรมกำร กศน.ตำบล ให้เขำ้ ใจ บทบำทหนำ้ ที่ และสำมำรถปฏิบัติงำนได้อย่ำงมี ประสิทธภิ ำพ 6. จดั ดำเนนิ กำรในรูปแบบคูปองกำรศกึ ษำหรอื คูปองกำรเรยี นรู้ตลอดชวี ิต เพ่ือสง่ เสริมกำรเข้ำถงึ โอกำสทำงกำรศึกษำนอกระบบและกำรศึกษำตำมอัธยำศยั ของประชำชนผรู้ ับบรกิ ำร ใหเ้ กิดประสิทธิภำพและ เปน็ ธรรมอยำ่ งแทจ้ ริง 7. นำสอื่ และเทคโนโลยีทำงกำรศกึ ษำท่หี ลำกหลำย และมีคณุ ภำพ มำใชใ้ นกำรจดั กระบวนกำรเรียนรู้ เพือ่ เพ่มิ ประสิทธิภำพและคุณภำพในกำรจดั กำรศึกษำ และขยำยโอกำสในกำรเข้ำถงึ กำรจดั บรกิ ำรกำรศึกษำ และกำรเรยี นรู้ของกลมุ่ เปำ้ หมำย 8. นำภูมปิ ัญญำท้องถ่นิ ปรำชญ์ชำวบำ้ น หรอื ภูมปิ ญั ญำพ้นื บ้ำนและแหลง่ เรยี นร้ทู ุกประเภทในพ้นื ทมี่ ำใชป้ ระโยชน์ในกำรจดั กำรศกึ ษำให้เกิดประสิทธิภำพ และมีกำรอนุรกั ษ์ สืบสำน ประยกุ ตใ์ ช้ ตอ่ ยอด สรำ้ งสรรค์ และพัฒนำ เพอ่ื ควำมย่งั ยืน และควำมเข้มแขง็ ของชมุ ชน 9. จดั กิจกรรมบ้ำนหนังสือชุมชนเพ่อื ส่งเสรมิ กำรรหู้ นงั สือ กำรเสริมสรำ้ งนสิ ยั รกั กำรอ่ำน กำรเข้ำถึง ข่ำวสำร และควำมรขู้ องประชำชนอยำ่ งทว่ั ถึง 10.จดั บริกำรกำรศกึ ษำเพ่ือกำรรหู้ นงั สอื กำรศึกษำข้นั พื้นฐำน และกำรศึกษำต่อเนื่อง แสวงหำควำม ร่วมมอื จำกภำคส่วนตำ่ งๆ 1.2 จุดอ่อน - อำคำร สถำนท่ี กศน.ตำบล อย่กู บั อำคำรของชุมชน - อปุ กรณ์ สอ่ื กำรสอนไม่พรอ้ ม,และไม่เพียงพอ - ขำดงบประมำณบริหำรจัดกำร

2. กำรวเิ ครำะห์สภำพแวดล้อมภำยนอก 2.1 โอกำส - มีห้ำงสรรพสินค้ำจำนวนมำกเปน็ ผลให้มโี อกำสมีผใู้ ช้บริกำรมำกขึ้น - มีประเพณวี ฒั นธรรมใหเ้ ข้ำรว่ มเพ่ือประชำสัมพนั ธ์ กศน. - ประชำกรหลำกหลำยพืน้ ท่ีที่ย้ำยเขำ้ มำตัง้ ถิ่นฐำนทำให้มีกลุม่ เปำ้ หมำยหลำยทำงเลอื ก - มี โรงเรียน มหำวทิ ยำลยั ทีห่ ลำกหลำย 2.2 อปุ สรรค - กำรจรำจรติดขดั เน่ืองจำกอยใู่ นเขตเมือง - อุบัติเหตเุ กิดข้นึ บ่อยครง้ั - ประชำกรแฝงทำให้จดั เกบ็ ข้อมลู ยำก - ควำมปลอดภัยในพืน้ ทเี่ นื่องจำกมีประชำกรหลำยพื้นที่ทำใหม้ ปี ญั หำด้ำน ยำเสพตดิ ลกั ขโมย - พน้ื ท่ีมปี ญั หำด้ำนมลพิษเช่น จำกโรงงำนอุตสำหกรรม บ่อขยะ - ประชำกรทรี่ ว่ มกิจกรรม สว่ นใหญเ่ ป็นผูส้ ูงอำยุ นโยบำยและจดุ เนน้ ของ กศน.ตำบลแสนสุข 1. จดั บรกิ ำรกำรศึกษำนอกระบบและกำรศึกษำตำมอธั ยำศยั ในพื้นท่ี โดยใช้ กศน.ตำบล เป็นฐำน 2. สำรวจสภำพปญั หำควำมเร่งด่วนของแตล่ ะชมุ ชนตลอดจนพัฒนำทกั ษะทจ่ี ำเปน็ ในกำรดำรงชีวติ สำมำรถนำไปใช้ประโยชนต์ อ่ กำรพฒั นำตนเองกำรพฒั นำชุมชนและสังคมได้อย่ำงแท้จริงโดยยดึ หลกั ประสิทธิภำพ ควำมโปรง่ ใส และควำมคุ้มคำ่ ในกำรดำเนนิ งำน 3. จดั ทำแผนเพื่อเป็นเครื่องมือในกำรพฒั นำกำรดำเนินงำนอยำ่ งมปี ระสิทธภิ ำพ มีกำรนเิ ทศ กำกับ ตดิ ตำม ประเมิน และรำยงำนผลกำรนำนโยบำยสูก่ ำรปฏบิ ัติทเี่ ชือ่ มโยงกนั อย่ำงเปน็ ระบบ 4. กระตุ้น สง่ เสรมิ และสนบั สนุนกำรมสี ่วนร่วมในกำรจดั กำรศกึ ษำนอกระบบและกำรศกึ ษำตำม อัธยำศยั ของทุกภำคสว่ น 5. สรำ้ งควำมเขำ้ ใจ กรรมกำร กศน.ตำบล ใหเ้ ข้ำใจ บทบำทหนำ้ ท่ี และสำมำรถปฏบิ ตั ิงำนได้อย่ำงมี ประสทิ ธภิ ำพ 6. จัดดำเนินกำรในรปู แบบคูปองกำรศกึ ษำหรือคูปองกำรเรียนรตู้ ลอดชวี ิต เพือ่ สง่ เสริมกำรเข้ำถงึ โอกำสทำงกำรศึกษำนอกระบบและกำรศกึ ษำตำมอธั ยำศัยของประชำชนผรู้ บั บริกำร ให้เกดิ ประสิทธิภำพและ เปน็ ธรรมอยำ่ งแท้จริง 7. นำส่ือและเทคโนโลยีทำงกำรศึกษำที่หลำกหลำย และมีคณุ ภำพ มำใชใ้ นกำรจดั กระบวนกำรเรียนรู้ เพื่อเพ่ิมประสทิ ธิภำพและคุณภำพในกำรจัดกำรศึกษำ และขยำยโอกำสในกำรเข้ำถึงกำรจัดบริกำรกำรศึกษำ และกำรเรยี นรู้ของกลุ่มเป้ำหมำย

8. นำภูมิปัญญำทอ้ งถน่ิ ปรำชญ์ชำวบ้ำน หรือภมู ิปญั ญำพน้ื บำ้ นและแหล่งเรียนรู้ทุกประเภทในพื้น ที่มำใช้ประโยชน์ในกำรจัดกำรศกึ ษำให้เกดิ ประสิทธภิ ำพ และมกี ำรอนุรักษ์ สบื สำน ประยกุ ต์ใช้ ต่อยอด สรำ้ งสรรค์ และพัฒนำ เพอื่ ควำมย่งั ยนื และควำมเขม้ แขง็ ของชุมชน 9. จัดกจิ กรรมบ้ำนหนงั สือชมุ ชนเพื่อส่งเสรมิ กำรร้หู นังสอื กำรเสริมสรำ้ งนิสัยรักกำรอ่ำน กำรเข้ำถึง ข่ำวสำร และควำมรขู้ องประชำชนอย่ำงทว่ั ถงึ 10. จัดบริกำรกำรศึกษำเพื่อกำรรหู้ นังสือ กำรศึกษำขน้ั พื้นฐำน และกำรศกึ ษำต่อเน่ือง แสวงหำควำม ร่วมมือจำกภำคสว่ นตำ่ งๆ

ส่วนท่ี 3 รำยละเอยี ดแผนงำน/โครงกำร ตำรำงแผนปฏิบัติกำรประจำปี 2562 กศน.ตำบลแสนสขุ ลำดบั เป้ำหมำย งบประมำณ ผลดำเนนิ งำน งบประมำณ ท่ี โครงกำร/กิจกรรม คน/แหง่ (บำท) ไตรมำส 1 - 2 (บำท) 1 กำรศึกษำขั้นพ้ืนฐำน - --- 1.1 หลกั สูตรกำรศกึ ษำขั้นพ้ืนฐำน พ.ศ. 2551 33 - 33 - - ประถมศึกษำ 46 - 46 - - มธั ยมศกึ ษำตอนตน้ --- - มัธยมศึกษำตอนปลำย 2,415 21 2,415 1.2 สง่ เสริมกำรรหู้ นงั สือ - 5,200 15 5,200 2,400 8 2,400 2 กำรศึกษำต่อเนอ่ื ง --- - กำรศกึ ษำเพื่อพัฒนำทกั ษะชีวติ 21 --- --- - กำรศึกษำเพื่อพัฒนำสังคมและชุมชน 13 - 1 แหง่ - - 1 แหง่ - - กำรศกึ ษำเพื่อเรยี นรู้หลกั ปรัชญำเศรษฐกิจพอเพียง 6 - 3 กำรศกึ ษำตำมอธั ยำศัย - 20,100 61 20,100 กจิ กรรมส่งเสริมกำรอำ่ น - ห้องสมดุ ประชำชน 4,050 15 4,050 - สมำชกิ ห้องสมุด - - ผรู้ บั บรกิ ำร - - กศน.ตำบล 1 แห่ง - บำ้ นหนงั สือชุมชน 1 แหง่ - ศนู ย์กำรเรยี นชมุ ชน - 4 ยกระดบั คณุ ภำพกำรศึกษำและกำรเรียนร้ตู ลอดชีวติ - ศูนย์ฝกึ อำชพี ชมุ ชน 26 5 ขยำยโอกำสในกำรเข้ำถึงบรกิ ำรกำรศึกษำ 15 และกำรเรียนรู้อย่ำงตอ่ เนอ่ื งตลอดชีวติ - กำรจัดกำรเรียนรู้ของศูนยด์ ิจิทัลชุมชน 6 กิจกรรมตำมยุทธศำสตร์

- ศนู ย์กำรสง่ เสรมิ พัฒนำประชำธิปไตย (ศส.ปชต.) 1 แห่ง - 1 แห่ง - - โครงกำรศนู ยด์ ิจิทลั ชุมชน 1 แห่ง - 1 แห่ง - - ศูนย์เรยี นรปู้ รัชญำของเศรษฐกิจพอเพยี งและเกษตร 1 แหง่ - 1 แห่ง - ทฤษฎีใหม่ประจำตำบล - แหลง่ กำรเรยี นร้ชู มุ ชนในตำบล 1 แหง่ - 1 แหง่ - รวมทั้งสนิ้ 166 34,165 205 34,165

แผนปฏิบัตกิ ำรประจำ รายละเอียดโครงการกำรจัดกำรศึกษำนอกระบบระดับกำรศกึ ษำขน้ั พน้ื ฐำน ลำดับ ชอื่ งำน/โครงกำร วตั ถุประสงค์ กจิ กรรมหลกั ตวั ช ท่ี เชงิ ปรมิ ำณ 1 กำรจดั กำรศึกษำ - เพอื่ กระจำยโอกำส - จดั กำรศกึ ษำนอก 40 คน นอกระบบระดับ ทำงกำรศกึ ษำให้กบั ระบบขัน้ พ้นื ฐำน กำรศกึ ษำข้นั พน้ื ฐำน ประชำชนท่ี ขำด โดยจดั ให้มกี ำรเรยี น หลกั สตู รกำรศึกษำ พลำด ดอ้ ยโอกำส กำรสอนสปั ดำห์ละ ขนั้ พน้ื ฐำน ทำงกำรศึกษำ ไม่น้อยกวำ่ 9 พ.ศ. 2551 - เพ่ือยกระดบั ช่ัวโมง และทำ กำรศกึ ษำขนั้ พืน้ ฐำน กิจกรรม พัฒนำ ของประชำชนให้ คุณภำพชีวิต ตลอด สงู ข้นึ จำก 8.5 ปีเป็น หลกั สตู ร ไมน่ อ้ ย 12 ปี กว่ำ 200 ช่วั โมง