Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 406_ภาษาไทย ป4 หน่วย17 หนูใส่ใจร่วมลำนำ

406_ภาษาไทย ป4 หน่วย17 หนูใส่ใจร่วมลำนำ

Published by krupom61, 2020-05-08 03:41:32

Description: 406_ภาษาไทย ป4 หน่วย17 หนูใส่ใจร่วมลำนำ

Search

Read the Text Version

หน่วยการเรียนร้ทู ี่ 17 เรอ่ื ง หนูใส่ใจร่วมลำนำ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทยรายวชิ า ภาษาไทยรหัสวชิ า ท ๑๔๑๐๑ ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ ๔ นางอรวรรณ ปานจำรูญ ครูผู้สอน โรงเรยี นวัดพืชนมิ ิต (คำสวสั ด์ริ าษฎรบ์ ำรุง) ตำบลคลองหน่ึง อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทมุ ธานี สำนกั งานเขตพนื้ ทก่ี ารศึกษาประถมศึกษาปทมุ ธานี เขต ๑

หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 17 เรือ่ ง หนูใสใ่ จรว่ มลำนำ กลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย รหัส ท ๑๔๑๐๑ รายวชิ าภาษาไทย ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี ๔ เวลา ๑๓ ช่วั โมง ..................................................................................................................... แผนการเรยี นรู้ท่ี ๑ เร่อื ง อา่ นแล้วคิดนำไปใชใ้ นชวี ิตประจำวัน เวลา ๑ ชวั่ โมง ๑. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวช้ีวัด มาตรฐาน ท ๑.๑ : ใชก้ ระบวนการอา่ นสรา้ งความรูแ้ ละความคดิ เพ่ือนำไปใช้ตัดสนิ ใจแกป้ ัญหา ในการดำเนินชวี ติ และมนี สิ ัยรักการอา่ น ตัวชีว้ ัด ท ๑.๑ ป.๔/๑ อ่านออกเสียงบทรอ้ ยแกว้ และบทรอ้ ยกรองได้ถกู ตอ้ ง ท ๑.๑ ป.๔/๔ แยกข้อเทจ็ จรงิ และข้อคิดเห็นจากเรอื่ งที่อา่ น ท ๑.๑ ป.๔/๖ สรปุ ความรู้และข้อคิดจากเรื่องทอ่ี ่านเพื่อนำไปใช้ในชวี ติ ประจำวนั มาตรฐาน ท ๒.๑ : ใชก้ ระบวนการเขียนเขียนส่อื สาร เขียนเรยี งความ ย่อความ และเขยี นเรื่องราว ในรปู แบบต่างๆ เขยี นรายงานข้อมูลสารสนเทศและรายงานการศึกษาคน้ คว้าอยา่ งมีประสิทธิภาพ ตวั ชี้วดั ท ๒.๑ ป.๔/๖ เขยี นบนั ทกึ และเขียนรายงานจากการศึกษาคน้ คว้า มาตรฐาน ท ๓.๑ : สามารถเลือกฟังและดอู ยา่ งมวี จิ ารณญาณ และพูดแสดงความรู้ ความคิด และความร้สู กึ ในโอกาสตา่ งๆ อย่างมวี ิจารณญาณและสรา้ งสรรค์ ตัวชวี้ ดั ท ๓.๑ ป.๔/๑ จำแนกขอ้ เท็จจรงิ และ ข้อคิดเหน็ จากเรอ่ื งทฟี่ ังและดู ท ๓.๑ ป.๔/๔ ตงั้ คำถามและตอบคำถาม เชิงเหตุผลจากเรอ่ื งท่ีฟังและดู ๒. สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด การอา่ นแล้ว สรุปเร่อื งได้ถูกตอ้ ง ทำให้ได้ความรู้และขอ้ คดิ จากเรอ่ื งทีอ่ า่ นได้ถกู ต้อง จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ๑. เพ่อื ส่งเสริมทกั ษะการอ่านออกเสยี งรอ้ ยแก้ว ๒. เพือ่ ใหผ้ ู้เรยี นสามารถสรปุ เร่อื งราว เน้ือหาสาระ จากเร่อื งท่ีอ่านไดถ้ กู ต้อง

๓. สาระการเรยี นรู้ ๓.๑ การอา่ นออกเสยี งและการบอกความหมายของบทรอ้ ยแกว้ ท่ปี ระกอบด้วย ๓.๑.๑ คำทมี่ ี ร ล เปน็ พยัญชนะต้น ๓.๑.๒ คำทีม่ ีพยัญชนะควบกลำ้ ๓.๒ การอ่านบทรอ้ ยแก้ว ๓.๓ การสรปุ เรอื่ งราว เนือ้ หาสาระ จากเรือ่ งที่อา่ น ๔. สมรรถนะสำคัญของผ้เู รยี น ๔.๑ ความสามารถในการสอื่ สาร ๔.๒ ความสามารถในการคดิ ๕. คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์/ค่านิยม ๕.๑ ใฝ่เรียนรู้ ๕.๒ ม่งุ มัน่ ในการทำงาน ๖. ชน้ิ งาน/ภาระงาน บนั ทึกสรุปเร่อื ง ความรู้และข้อคิดเห็นจากเรอื่ งทีอ่ า่ น ๗. การวัดและประเมนิ ผล วิธกี าร เครอ่ื งมือ เกณฑ์ ผ่านรอ้ ยละ ๖๐ ๑. ทดสอบก่อนเรยี น ๑. แบบทดสอบก่อนเรยี น ๒. การอา่ นออกเสยี งรอ้ ยแก้ว ๒. แบบประเมนิ การอา่ นออกเสียงรอ้ ยแกว้ ๓. การสรุปเรื่อง ๓. แบบประเมินการสรุปเร่อื ง ๔. สงั เกตพฤติกรรม ๔. แบบสังเกตพฤติกรรม ๘. กจิ กรรมการเรียนรู้ (กระบวนการสร้างความร้)ู ขั้นท่ี ๑ ขั้นแนะนำ ๑. นกั เรยี นทำแบบทดสอบก่อนเรยี น ประจำหนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี ๕ เวลา ๑๐ นาที (ภาคผนวก) ๒. ครแู จง้ จดุ ประสงค์การเรียนรใู้ ห้นกั เรยี นทราบพรอ้ มกัน ขน้ั ท่ี ๒ ขนั้ ทบทวนความร้เู ดิม ๓. ครแู ละนักเรียนสนทนาทบทวนการอ่านออกเสียงจากบทร้อยแกว้ ที่ผ่านมา ๔. นกั เรยี นตงั้ คำถามและตอบคำถามจากเรอ่ื งที่อ่าน

ขั้นที่ ๓ ข้นั ปรบั เปลยี่ นความคิด ๕. นกั เรยี นคัดเลอื กตัวแทนอา่ นบทรอ้ ยแกว้ ๒-๓ คน และครูอ่านให้ฟัง ๖. จากการฟังการอา่ นบทร้อยแกว้ สังเกตและเปรียบเทยี บการอ่านบทร้อยแก้ว โดยแยก ขอ้ เท็จจรงิ ของการอา่ นทถ่ี กู ตอ้ งตามอักขรวิธีและไมถ่ ูกตอ้ งตามอักขรวิธี ๗. เข้ากลุ่มชว่ ยกนั สรุปการอา่ นออกเสียงร้อยแก้วที่ถกู ต้อง ๘. ฝกึ ปฏบิ ตั กิ ารอา่ นร้อยแก้วทถี่ กู ตอ้ ง จากหนังสอื เรยี นรายวิชาพ้ืนฐานภาษาไทย ชุดภาษา เพื่อชวี ติ ภาษาพาที ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ ๔ เร่อื ง อย่างน้ีดีควรทำ หนา้ ๒๐๖ ๙. ครชู ้แี นะปรบั ปรุงแกไ้ ขการอ่านให้ถูกตอ้ ง ขน้ั ท่ี ๔ ขั้นทบทวน ๑๐. นกั เรียนบนั ทกึ สรปุ เร่ือง ความร้แู ละขอ้ คิดเห็นจากเรอ่ื งทอี่ ่านลงในใบงาน ๙. สอื่ และแหล่งการเรยี นรู้ ๙.๑ แบบทดสอบก่อนเรียน ๙.๒ หนังสอื เรียนรายวิชาพ้นื ฐานภาษาไทย ชุดภาษาเพื่อชีวติ ภาษาพาที ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี ๔ เร่ือง อย่างน้ีดคี วรทำ หนา้ ๒๐๖ ๙.๓ ใบงาน ๑๐. ข้อเสนอแนะ …………………………….………………………………………………………………………………………………………….………………… …………………………………………………………………………….……………………………………………………………………………. …………………………….………………………………………………………………………………………………………….…………………

ใบงาน ภาคเรยี นท.่ี ............... ปกี ารศึกษา............... ประกอบหนว่ ยการเรียนรู้ที่ ๕ เรือ่ ง หนใู ส่ใจรว่ มลำนำ แผนการเรียนรู้ที่ ๑ เรอื่ ง อา่ นแล้วคิดนำไปใชใ้ นชวี ิตประจำวัน ชือ่ ..................................................................................................... เลขที.่ ................... ช้ัน...................... ___________________________________________________________________________ คำช้ีแจง ใหน้ ักเรยี นอา่ นบทรอ้ ยแกว้ จากหนังสือเรยี นรายวชิ าพื้นฐานภาษาไทย ชุดภาษาเพ่อื ชวี ิต ภาษาพา ที ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๔ เรอื่ ง อย่างนด้ี ีควรทำ หน้า ๒๐๖ แลว้ บนั ทกึ สรุปเร่ือง ความรแู้ ละขอ้ คิดเห็นจาก เรื่องทีอ่ ่านลงในใบงาน (๔๐ คะแนน) …………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………

เกณฑก์ ารประเมนิ การอ่านออกเสยี งร้อยแก้ว หน่วยการเรยี นรู้ท่ี ๕ เร่อื ง หนูใสใ่ จรว่ มลำนำ แผนการเรียนรูท้ ่ี ๑ เร่ือง อา่ นแลว้ คดิ นำไปใชใ้ นชวี ติ ประจำวนั รายการประเมิน ระดับคณุ ภาพ นำ้ หนกั คะแนน ๑ คะแนน รวม ๔ ๓๒ ๑๖ อ่านได้บ้าง ผิด ๑. ความถูกตอ้ ง อา่ นไดถ้ ูกต้อง อา่ นไดถ้ ูกต้อง อ่านได้ ผิดไม่ มากกวา่ ๑๐ คำ ๔ ๔ ในการอ่าน ทั้งหมด ท้ังหมด ผิดไม่ เกิน ๑๐ คำ เกนิ ๓ คำ ๘ ๒. น้ำเสียงการ อา่ นได้ชัดเจนสอื่ อา่ นได้ชัดเจนส่ือ อา่ นไดค้ อ่ นขา้ งชา้ อา่ นไดบ้ ้าง ๑๒ เว้นวรรคตอน ความร้สู กึ ของ ๔๐ เรื่องทอ่ี ่านไดด้ ี ความรสู้ ึกของ สอ่ื ความรสู้ ึกของ เสียงเบา ไม่ ๑ ๓. การแบง่ วรรค ๒ ตอน แบง่ วรรคตอน เรอ่ื งทอี่ า่ นได้ เรื่องท่ีอา่ นยังไม่ ชดั เจน สื่อ ๓ ตามหลกั การอา่ น ๔. ออกเสียงคำท่ี ได้ถูกต้อง พอใช้ ชดั เจน ความร้สู ึกไมไ่ ด้ มี ร ล และคำ ควบกลำ้ ถูกตอ้ ง ออกเสยี งคำท่ีมี ร แบง่ วรรคตอน แบง่ วรรคตอน แบง่ วรรคตอน ตามอักขรวิธี ล และคำควบ กล้ำถกู ตอ้ งตาม ตามหลักการอา่ น ตามหลักการอา่ น ตามหลกั การอา่ น อกั ขรวิธีได้ดมี าก ได้พอใช้ ไดบ้ า้ งเป็นบาง ไมถ่ กู ตอ้ ง แหง่ ออกเสยี งคำทมี่ ี ร ออกเสียงคำที่มี ร ออกเสยี งคำที่มี ร ล และคำควบ ล และคำควบ ล และคำควบ กล้ำถกู ตอ้ งตาม กล้ำถกู ต้องตาม กล้ำยังไม่ถกู ตอ้ ง อักขรวธิ ีได้ดี อกั ขรวธิ ีได้พอใช้ ตามอกั ขรวิธี รวมคะแนน เกณฑก์ ารตัดสิน/ระดบั คณุ ภาพ ระดับ ๕ หมายถึง ดเี ย่ียม คะแนน ๓๒ – ๔๐ ระดบั ๔ หมายถงึ ดีมาก คะแนน ๒๘ – ๓๑ ระดับ ๓ หมายถึง ดี คะแนน ๒๔ – ๒๗ ระดบั ๒ หมายถึง พอใช้ คะแนน ๒๐ – ๒๓ ระดับ ๑ หมายถึง ควรปรับปรงุ คะแนน ๐ – ๑๙ เกณฑก์ ารผา่ น ผ่านระดบั ๓ ข้ึนไป

แบบบันทกึ คะแนนการอ่านออกเสยี งร้อยแกว้ หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี ๕ เรอื่ ง หนูใส่ใจรว่ มลำนำ แผนการเรยี นรู้ท่ี ๑ เร่อื ง อ่านแลว้ คิดนำไปใชใ้ นชีวติ ประจำวัน รายการประเมิน ๑. ความ ูถก ้ตองในการอ่าน เลข คะแนน ๒. น้ำเสียงการเ ้วนวรรค ท่ี ช่ือ-สกุล ตอน ๓. การแบ่งวรรคตอน ๑ ๔. ออกเ ีสยงคำท่ี ีม ร ล และ ๒ คำควบกล้ำ ูถก ้ตองตาม ๓ อักขร ิวธี ๔ รวมคะแนน ๕ ระ ัดบ ุคณภาพ ๖ ๗ ๑๖ ๔ ๘ ๑๒ ๔๐ ๕ ๘ ๙ ๑๐ ๑๑ ๑๒ ๑๓ ๑๔ ๑๕ หมายเหตุ ใหด้ ูจากเกณฑ์ท่ีกำหนดไวข้ ้างตน้

เกณฑก์ ารประเมินการสรปุ เร่อื ง ความรู้และข้อคดิ เห็นจากเรือ่ งท่ีอา่ น หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี ๕ เรอ่ื ง หนใู สใ่ จรว่ มลำนำ แผนการเรียนรู้ท่ี ๑ เรือ่ ง อ่านแล้วคดิ นำไปใชใ้ นชวี ิตประจำวนั รายการ ๔ ระดบั คุณภาพ นำ้ หนกั คะแนน ประเมิน ๓๒ ๑ คะแนน รวม ๑๒ ๑. เนอ้ื เรอ่ื ง เนอ้ื เรือ่ ง สรปุ เนอ้ื เร่อื ง สรุป เนือ้ เร่ือง สรปุ เนื้อเรือ่ ง สรุป ๓ สรปุ ถกู ต้องตาม ถกู ตอ้ ง แต่ไม่ ถกู ตอ้ ง เลก็ น้อย ยงั ไมถ่ ูกต้อง ๑๒ หลักเกณฑ์ ครบถว้ น ๑๒ ๒. ลำดบั ความคิด ลำดบั ความคิด ลำดับความคิด ลำดบั ความคิด ลำดบั ความคิด เหตกุ ารณ์ เหตุการณ์ เหตกุ ารณ์ ๔ ตอ่ เน่ืองสมั พันธ์ ต่อเน่ืองสมั พันธ์ ตอ่ เนอื่ งสัมพนั ธ์ เหตกุ ารณ์ เหตกุ ารณ์ ๔๐ กนั กันดีมาก กนั พอใช้ ต่อเนอื่ งสมั พนั ธ์ ต่อเนื่องยงั ไม่ ๓ สำนวนภาษาสือ่ ๓ ความหมายได้ กนั บา้ งเปน็ สัมพนั ธก์ ัน ๑ ถูกตอ้ งพอใช้ บางคร้งั สะอาด เป็น ๓. สำนวนภาษา สำนวนภาษาสอ่ื ระเบียบ ลายมอื สำนวนภาษาสอื่ สำนวนภาษาสอ่ื สอ่ื ความหมาย ความหมายได้ สม่ำเสมอ มรี อย ชัดเจน ถูกตอ้ งชัดเจน ขีดฆา่ เลก็ น้อย ความหมาย ความหมายยังไม่ ดีมาก ๔. ความสะอาด สะอาด เปน็ ถูกตอ้ งเป็นบาง ถกู ต้อง เปน็ ระเบียบ ระเบียบ ลายมือ เรยี บร้อย สม่ำเสมอ ไมม่ ี ข้อความ รอยขีดฆ่า สะอาด เป็น สะอาด เปน็ ระเบียบ ลายมอื ระเบียบ มีรอยลบ สม่ำเสมอ รอยขดี ขดู ขีดฆา่ ฆา่ ลบ ๓-๔ แหง่ มากกว่า ๔ แห่ง รวมคะแนน เกณฑ์การตัดสิน/ระดบั คุณภาพ ระดับ ๕ หมายถึง ดเี ยย่ี ม คะแนน ๓๒ – ๔๐ ระดบั ๔ หมายถงึ ดมี าก คะแนน ๒๘ – ๓๑ ระดับ ๓ หมายถึง ดี คะแนน ๒๔ – ๒๗ ระดับ ๒ หมายถึง พอใช้ คะแนน ๒๐ – ๒๓ ระดับ ๑ หมายถึง ควรปรับปรงุ คะแนน ๐ – ๑๙ เกณฑก์ ารผา่ น ผา่ นระดับ ๓ ขน้ึ ไป

๑. เน้ือเ ่ืรอง ส ุรปแบบบนั ทกึ คะแนนการสรุปเรื่อง ความรแู้ ละขอ้ คดิ เหน็ จากเรือ่ งท่ีอ่าน ๒. ลำ ัดบความ ิคดเห ุตการณ์ ่ตอเนื่องสัมพันธ์ ักนหนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ ๕ เร่อื ง หนใู สใ่ จร่วมลำนำ ๓. สำนวนภาษา ่สือแผนการเรยี นรู้ที่ ๑ เรือ่ ง อา่ นแลว้ คิดนำไปใชใ้ นชีวิตประจำวนั ความหมาย ัชดเจน ๔. ความสะอาดเป็นระเบียบรายการประเมนิ เ ีรยบ ้รอยเลข คะแนน รวมคะแนนท่ี ชื่อ-สกลุ ระ ัดบ ุคณภาพ ๑๒ ๑๒ ๑๒ ๔ ๔๐ ๕ ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ ๑๑ ๑๒ ๑๓ ๑๔ ๑๕ หมายเหตุ ใหด้ ูจากเกณฑ์ที่กำหนดไว้ข้างตน้

แผนการเรยี นรูท้ ่ี ๒ เรอ่ื ง อา่ นอย่างไรให้เสนาะ เวลา ๑ ชั่วโมง ๑. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวช้วี ัด มาตรฐาน ท ๑.๑ : ใช้กระบวนการอ่านสรา้ งความรแู้ ละความคิด เพ่อื นำไปใชต้ ัดสนิ ใจแก้ปัญหา ในการดำเนนิ ชีวิตและมนี ิสยั รกั การอา่ น ตวั ชว้ี ดั ท ๑.๑ ป.๔/๑ อ่านออกเสียงบทรอ้ ยแกว้ และบทรอ้ ยกรองได้ถกู ต้อง ท ๑.๑ ป.๔/๔ แยกขอ้ เทจ็ จรงิ และข้อคิดเหน็ จากเร่ืองท่ีอา่ น ท ๑.๑ ป.๔/๖ สรุปความรูแ้ ละข้อคิดจากเรือ่ งท่ีอ่านเพื่อนำไปใช้ในชีวติ ประจำวัน มาตรฐาน ท ๒.๑ : ใชก้ ระบวนการเขยี นเขยี นสื่อสาร เขียนเรยี งความ ยอ่ ความ และเขียนเร่อื งราว ในรูปแบบตา่ งๆ เขียนรายงานขอ้ มลู สารสนเทศและรายงานการศึกษาคน้ คว้าอย่างมีประสทิ ธิภาพ ตวั ช้วี ัด ท ๒.๑ ป.๔/๖ เขียนบันทึกและเขียนรายงานจากการศกึ ษาคน้ คว้า มาตรฐาน ท ๓.๑ : สามารถเลอื กฟงั และดูอยา่ งมีวจิ ารณญาณ และพูดแสดงความรู้ ความคดิ และความรสู้ ึกในโอกาสตา่ งๆ อยา่ งมวี ิจารณญาณและสร้างสรรค์ ตัวชวี้ ัด ท ๓.๑ ป.๔/๑ จำแนกขอ้ เทจ็ จรงิ และ ขอ้ คิดเห็นจากเร่ืองทีฟ่ ังและดู ท ๓.๑ ป.๔/๔ ต้งั คำถามและตอบคำถาม เชงิ เหตุผลจากเรื่องท่ีฟงั และดู ๒. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด การอ่านเร่อื ง การแยกขอ้ เท็จจรงิ และขอ้ คิดเห็นจากเรอ่ื งที่อ่านไดถ้ กู ตอ้ ง จุดประสงค์การเรียนรู้ ๑. เพ่อื สง่ เสริมทกั ษะการอ่านออกเสยี งร้อยกรอง ๒. เพ่ือให้ผเู้ รยี นสามารถรบั รู้เร่อื งราว เนือ้ หาสาระ จากเรื่องท่อี ่านได้ถูกต้อง ๓. เพือ่ ใหผ้ ้เู รยี นสามารถแยกข้อเทจ็ จรงิ และข้อคิดเห็น จากเรอื่ งทีอ่ า่ นได้ถูกต้อง ๓. สาระการเรียนรู้ ๓.๑ การอา่ นออกเสียงและการบอกความหมายของบทรอ้ ยกรอง ท่ีประกอบดว้ ย ๓.๑.๑ คำทมี่ ี ร ล เปน็ พยญั ชนะต้น ๓.๑.๒ คำที่มีพยญั ชนะควบกลำ้ ๓.๒ การอา่ นบทร้อยกรองเปน็ ทำนองเสนาะ ๓.๓ การจำแนกข้อเท็จจริงและข้อคิดเหน็ จากเร่อื งทอ่ี า่ น ๔. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น ๔.๑ ความสามารถในการสื่อสาร ๔.๒ ความสามารถในการคิด

๕. คุณลักษณะอันพึงประสงค์/ค่านยิ ม ๕.๑ ใฝเ่ รยี นรู้ ๕.๒ มุง่ ม่นั ในการทำงาน ๖. ชน้ิ งาน/ภาระงาน บนั ทกึ สรุปการจำแนกขอ้ เท็จจรงิ และข้อคิดเห็นจากเร่ืองทอ่ี า่ น ๗. การวัดและประเมินผล วิธกี าร เคร่ืองมือ เกณฑ์ ๑. การอ่านออกเสยี งร้อยกรอง ๑. แบบประเมินการอา่ นออกเสยี งร้อยกรอง ผา่ นร้อยละ ๖๐ ๒. การจำแนกข้อเท็จจรงิ และ ๒. แบบประเมินการจำแนกขอ้ เท็จจริงและ ขอ้ คิดเห็นจากเรอื่ งท่ีอา่ น ข้อคิดเห็นจากเร่ืองที่อ่าน ๓. สังเกตพฤติกรรม ๓. แบบสังเกตพฤตกิ รรม ๘. กจิ กรรมการเรยี นรู้ (กระบวนการสร้างความร)ู้ ขัน้ ท่ี ๑ ขั้นแนะนำ ๑. ครแู จง้ จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรใู้ ห้นกั เรยี นทราบพร้อมกัน ขนั้ ท่ี ๒ ขนั้ ทบทวนความรูเ้ ดิม ๒. ครูและนักเรยี นสนทนาและสรุปเรื่องจากการอ่านจากชัว่ โมงที่ผ่านมา ๓. นักเรยี นฝกึ ตง้ั คำถามและตอบคำถามจากการฟังเรอื่ งทอ่ี ่านในชว่ั โมงทีผ่ ่านมา ขั้นท่ี ๓ ขน้ั ปรบั เปลีย่ นความคดิ ๔. นักเรียนศกึ ษาการอา่ นบทร้อยกรองท่ีถูกต้อง จากใบความรู้ ๑ เร่ือง หลักการอ่าน บทร้อยกรอง (ทา้ ยแผน) ๕. สังเกตและเปรยี บเทยี บการอา่ นบทร้อยกรองที่ถกู ต้องตามอักขรวธิ แี ละไมถ่ กู ต้อง ตามอักขรวิธี จากใบความรู้ ๒ เรื่อง หลักการอา่ นบทรอ้ ยกรอง กลอนสภุ าพหรือกลอนแปด (ทา้ ยแผน) ๖. เข้ากลุม่ ช่วยกนั สรุปการอา่ นออกเสียงรอ้ ยกรองทีถ่ ูกต้อง ๗. ฝึกปฏบิ ตั กิ ารอ่านรอ้ ยกรองทถี่ ูกตอ้ ง จากหนังสอื เรยี นรายวชิ าพนื้ ฐานภาษาไทย ชุดภาษาเพ่อื ชีวิต ภาษาพาที ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี ๔ เรอื่ ง ขอบอกเด็กไทย หนา้ ๒๑๘ ๘. ครูชี้แนะปรับปรุงแกไ้ ขการอ่านใหถ้ กู ต้อง ขน้ั ที่ ๔ ขนั้ ทบทวน ๙. ดตู วั อยา่ งและสงั เกตประโยค ข้อความ ว่าเป็นข้อเทจ็ จริงหรอื ขอ้ คิดเห็น ๑๐. นกั เรยี นบนั ทึกสรปุ การจำแนกขอ้ เทจ็ จรงิ และข้อคดิ เหน็ อยา่ งมีเหตุผล จากเร่อื งทอี่ า่ น ลงในใบงาน

๙. ส่ือและแหล่งการเรยี นรู้ ๙.๑ หนังสือเรยี นรายวชิ าพ้ืนฐานภาษาไทย ชุดภาษาเพ่อื ชีวิต ภาษาพาที ช้ันประถมศึกษาปีที่ ๔ เร่ือง ขอบอกเด็กไทย หนา้ ๒๑๘ ๙.๒ ใบความรู้ ๙.๓ ใบงาน ๑๐. ข้อเสนอแนะ …………………………….………………………………………………………………………………………………………….………………… …………………………………………………………………………….……………………………………………………………………………. …………………………….………………………………………………………………………………………………………….…………………

ใบความรู้ ๑ เรือ่ ง หลกั การอ่านบทรอ้ ยกรอง ร้อยกรอง คอื คำประพันธท์ ี่แตง่ ขน้ึ ตามแบบฉันทลักษณ์ จำแนกประเภทออกเป็น โคลง รา่ ย กลอน กาพย์ ฉันท์ การอ่านร้อยกรองสามารถแบง่ ออกได้ ๓ ชนิด คอื ๑. อา่ นทำนองสามัญ คือ อ่านตามเสียงปกติเหมือนการอ่านรอ้ ยแกว้ แต่มีจงั หวะวรรคตอน มเี นน้ สมั ผัสและเออื้ นเสียงบ้างเล็กน้อย ๒. อา่ นทำนองเจรจา คือ อ่านเปน็ ทำนองพากยบ์ ทเจรจาโขน หรือทำนองพูดโต้ตอบกนั มีจังหวะ วรรคตอนอยา่ งการอา่ นทำนองสามัญ แต่เน้นเสียงและเอ้อื นเสียงหนกั หนว่ งเนิบนาบกวา่ ทำนองสามญั ๓. อา่ นทำนองเสนาะ คือ อ่านแบบมสี ำเนียงสูง ตำ่ หนกั เบา ยาว สนั้ เอื้อนเสยี งและเนน้ สมั ผัสให้ ชดั เจนไพเราะ มีจังหวะและคล่ืนเสียงเป็นกงั วานขน้ึ ลงทำใหเ้ กดิ อารมณ์คลอ้ ยตามไปตามทำนองเสยี งนน้ั ถึง ตอนเล้าโลมชมชนื่ ตอนเก้ียวพาน , ตัดพ้อ , โกรธเกยี้ ว , หรือคร่ำครวญคะนงึ ถงึ ตอ้ งทำเสียงให้เหมาะสมกบั ตอนนนั้ ๆ การอ่านชนดิ นี้ จะต้องศึกษากบั ผู้รู้โดยเฉพาะ การอา่ นร้อยกรองมีหลักโดยทว่ั ไปท่ีควรร้ไู วเ้ ป็นเบอื้ งต้นดงั น้ี ๑. ตอ้ งรูล้ ักษณะของบทประพนั ธ์ท่จี ะอา่ นเชน่ : เอก โท ครุ ลหุ สมั ผัส และ พยางค์ ท่ีบรรจุลงใน วรรคหน่ึง ๆ ๒. ต้องรู้จงั หวะและการแบ่งตอนของบทประพนั ธท์ ีจ่ ะอา่ น ๓. คำท่ีรับสัมผัสกัน ต้องอ่านเน้นเสยี งใหช้ ดั กว่าปกติ ถ้าเป็นสมั ผสั นอกต้องทอดเสยี งใหย้ าวกว่า ธรรมดา ๔. หา้ มเออื้ นเสยี งทีค่ ำลหุ เพราะมีเสียงสน้ั และเบา ๕. พยางค์ทใ่ี ช้เกิน ให้อ่านเรว็ และเบาอย่างอกั ษรนำ เพื่อใหเ้ สยี งไปตกอยตู่ รงพยางค์ทตี่ ้องการ เชน่ ในแผนกำหนดให้บรรจุคำหน่วยละ ๑ พยางค์ แต่ผู้ประพนั ธบ์ รรจคุ ำ ๒ พยางคล์ งไปในหนึ่งหนว่ ย เชน่ ดลิ ก , ประโยชน์ ขยาย , สมร , ระลึก ฯลฯ คำท่มี พี ยางค์เกินเชน่ น้ตี ้องอ่านเสียงให้มาตกอยู่ท่ีพยางค์หลงั ๖. เสยี งวรรณยกุ ตจ์ ัตวา ตอ้ งอ่านเสยี งใหส้ งู และดังก้อง ๗. ต้องอ่านเสียง ร และ ล ให้ชัดเจน อย่าใหเ้ สยี งสลับกัน มิฉะนัน้ ผู้ฟังอาจจะเขา้ ใจความหมาย คลาดเคลือ่ นได้ ๘. เมอื่ อ่านไปถงึ ตอนจะจบบท ตอ้ งเอื้อนเสยี งและทอดจังหวะให้ชา้ ลงจนกระทั่งจบบท ทีม่ า : http://www.thaipoet.org/readchantaruk.html

ใบความรู้ ๒ เรอ่ื ง หลักการอ่านบทร้อยกรอง กลอนสภุ าพหรือกลอนแปด กลอนสุภาพหรอื กลอนแปด เป็นคำประพนั ธท์ ีน่ ยิ มใชแ้ ตง่ ต้งั แต่สมัยโบราณ ลีลาการบรรยาย แบง่ เปน็ ๔ อรรถรส ดงั น้ี ๑. เสาวรจนี คอื ขบวนเก้ียวพาราสี หรือการชมความงาม ๒. นารีปราโมทย์ คอื ขบวนเอาอกเอาใจ การปลอบโยน ๓. พิโรธวาทัง คือ ขบวนโกรธไมพ่ อใจ การตดั พ้อต่อวา่ ๔. สัลลาปงั คพสิ ัย คอื ขบวนผดิ หวงั หรอื การครำ่ ครวญ แผนผงั กลอนสุภาพหรือกลอนแปด มีดงั น้ี อนั ความคดิ /วทิ ยา/เหมอื นอาวธุ ประเสริฐสดุ /ซ่อนใส่/เสยี ในฝกั สงวนคม/สมนึก/ใครฮกึ ฮกั จึงค่อยชกั /เชอื ดฟัน/ให้บรรลัย ชว่ ยให้รอด/รักใหช้ ิด/พิสมัย จับใหม้ ั่น/คน้ั หมาย/ให้วายวอด เพียรจงได้/ดั่งประสงค์/คงจะดี ตัดใหข้ าด/ปรารถนา/หาส่งิ ใด (สนุ ทรภู)่ หมายเหตุ กลอนสภุ าพหรอื กลอนแปดจะไม่มลี กั ษณะบงั คับ เอก โท หรอื ครุ ลหุ เหมือนกับโคลงสี่สุภาพ จะบงั คับเฉพาะสมั ผัสเท่าน้นั

ใบงาน ภาคเรียนที่................ ปีการศึกษา............... ประกอบหนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ ๕ เร่ือง หนใู สใ่ จร่วมลำนำ แผนการเรียนรู้ท่ี ๒ เรอ่ื ง อ่านอยา่ งไรให้เสนาะ ชื่อ..................................................................................................... เลขท.ี่ ................... ช้ัน...................... ___________________________________________________________________________ คำชแี้ จง ใหน้ ักเรยี นอา่ นบทรอ้ ยกรอง จากหนงั สอื เรยี นรายวิชาพื้นฐานภาษาไทย ชุดภาษาเพอ่ื ชวี ิต ภาษา พาที ชัน้ ประถมศกึ ษาปีท่ี ๔ เรอื่ ง ขอบอกเด็กไทย หนา้ ๒๑๘ แลว้ สังเกตประโยค ข้อความและแยกแยะ ขอ้ เทจ็ จริงและขอ้ คดิ เหน็ อย่างมเี หตุผลลงในใบงาน (๔๐ คะแนน) ข้อเทจ็ จรงิ ขอ้ คิดเหน็ ตวั อยา่ ง ตวั อยา่ ง เกบ็ ใส่ออมสนิ ออมไวเ้ ล้ียงตัวเอง เงินน้อยอยา่ พลอยดูหม่นิ

เกณฑก์ ารประเมินการอา่ นออกเสยี งร้อยกรอง หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ ๕ เรื่อง หนใู สใ่ จร่วมลำนำ แผนการเรียนรู้ท่ี ๒ เรอ่ื ง อา่ นอย่างไรให้เสนาะ รายการประเมนิ ระดบั คณุ ภาพ น้ำหนัก คะแนน ๑ คะแนน รวม ๔ ๓๒ ๑๖ อา่ นได้บ้าง ผิด ๑. ความถกู ต้อง อ่านไดถ้ กู ตอ้ ง อ่านได้ถกู ต้อง อา่ นได้ ผิดไม่ มากกว่า ๑๐ คำ ๔ ๔ ในการอา่ น ทง้ั หมด ท้งั หมด ผิดไม่ เกิน ๑๐ คำ เกนิ ๓ คำ ๘ ๒. น้ำเสยี งการ อา่ นได้ชดั เจนสอ่ื อ่านได้ชดั เจนสอื่ อา่ นได้คอ่ นข้างช้า อา่ นได้บา้ ง ๑๒ เวน้ วรรคตอน ความร้สู กึ ของ ๔๐ เรอ่ื งท่อี ่านได้ดี ความรู้สึกของ สือ่ ความรู้สึกของ เสียงเบา ไม่ ๑ ๓. การแบง่ วรรค ๒ ตอน แบง่ วรรคตอน เรื่องท่อี ่านได้ เรอ่ื งท่ีอ่านยังไม่ ชัดเจน สื่อ ๓ ตามหลกั การอา่ น ๔. ใช้ทำนองได้ ได้ถกู ตอ้ ง พอใช้ ชดั เจน ความร้สู ึกไมไ่ ด้ ถูกตอ้ งตาม ลักษณะคำ อา่ นทำนองตาม แบง่ วรรคตอน แบง่ วรรคตอน แบง่ วรรคตอน ประพันธ์ ลักษณะคำ ประพันธไ์ ด้ ตามหลักการอา่ น ตามหลักการอ่าน ตามหลกั การอ่าน ถกู ต้อง ได้พอใช้ ได้บ้างเปน็ บาง ไมถ่ กู ตอ้ ง แหง่ อ่านทำนองตาม อา่ นทำนองตาม อ่านทำนองตาม ลกั ษณะคำ ลักษณะคำ ลักษณะคำ ประพนั ธไ์ ดพ้ อใช้ ประพันธถ์ ูกตอ้ ง ประพันธย์ งั ไม่ เป็นบางครง้ั ถกู ตอ้ ง รวมคะแนน เกณฑ์การตัดสิน/ระดับคุณภาพ ระดับ ๕ หมายถึง ดีเยย่ี ม คะแนน ๓๒ – ๔๐ ระดบั ๔ หมายถึง ดมี าก คะแนน ๒๘ – ๓๑ ระดบั ๓ หมายถึง ดี คะแนน ๒๔ – ๒๗ ระดบั ๒ หมายถงึ พอใช้ คะแนน ๒๐ – ๒๓ ระดบั ๑ หมายถงึ ควรปรับปรงุ คะแนน ๐ – ๑๙ เกณฑก์ ารผ่าน ผ่านระดับ ๓ ข้ึนไป

แบบบนั ทกึ คะแนนการอา่ นออกเสียงร้อยกรอง หน่วยการเรียนรูท้ ี่ ๕ เรือ่ ง หนูใส่ใจรว่ มลำนำ แผนการเรยี นรู้ที่ ๒ เรอ่ื ง อ่านอย่างไรให้เสนาะ รายการประเมนิ ๑. ความ ูถก ้ตองในการอ่าน เลข คะแนน ๒. น้ำเสียงการเ ้วนวรรค ท่ี ชื่อ-สกุล ตอน ๓. การแบ่งวรรคตอน ๑ ๔. ใ ้ชทำนองไ ้ด ูถก ้ตองตาม ๒ ัลกษณะคำประพันธ์ ๓ รวมคะแนน ๔ ระ ัดบ ุคณภาพ ๕ ๖ ๑๖ ๔ ๘ ๑๒ ๔๐ ๕ ๗ ๘ ๙ ๑๐ ๑๑ ๑๒ ๑๓ ๑๔ ๑๕ หมายเหตุ ใหด้ ูจากเกณฑ์ทก่ี ำหนดไวข้ ้างตน้

เกณฑ์การประเมินการจำแนกขอ้ เทจ็ จรงิ และขอ้ คิดเหน็ จากเรอื่ งที่อ่าน หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี ๕ เรื่อง หนใู สใ่ จรว่ มลำนำ แผนการเรียนรทู้ ี่ ๒ เรือ่ ง อา่ นอยา่ งไรให้เสนาะ รายการ ๔ ระดบั คณุ ภาพ นำ้ หนกั คะแนน ประเมิน ๓๒ ๑ คะแนน รวม การจำแนก ๑๒ ๑. การจำแนก ข้อเท็จจรงิ การจำแนก การจำแนก การจำแนก ๓ ขอ้ เท็จจริง ถูกต้องครบถ้วน ขอ้ เทจ็ จริง ขอ้ เท็จจรงิ ข้อเท็จจรงิ ๑๒ ถกู ตอ้ งเปน็ ถกู ตอ้ งเป็นสว่ น ยงั ไม่ถูกตอ้ ง สว่ นมาก น้อย ๑๒ ๒. การจำแนก การจำแนก การจำแนก การจำแนก การจำแนก ๓ ๔ ข้อคดิ เหน็ ขอ้ คิดเหน็ ขอ้ คดิ เห็น ข้อคิดเห็น ขอ้ คิดเหน็ ๓ ๔๐ ถกู ต้องครบถว้ น ถกู ต้องเปน็ ถกู ตอ้ งเป็นสว่ น ยงั ไม่ถูกต้อง ๑ ส่วนมาก น้อย ๓. สำนวนภาษา สำนวนภาษาสือ่ สำนวนภาษาส่ือ สำนวนภาษาส่ือ สำนวนภาษาสอ่ื สื่อความหมาย ความหมายได้ ความหมายได้ ความหมาย ความหมายยงั ไม่ ชดั เจน ถกู ตอ้ งชัดเจน ถูกตอ้ งพอใช้ ถูกต้องเป็นบาง ถกู ต้อง ดมี าก ขอ้ ความ ๔. ความสะอาด สะอาด เปน็ สะอาด เปน็ สะอาด เปน็ สะอาด เปน็ เป็นระเบยี บ ระเบียบ ลายมือ ระเบียบ ลายมือ ระเบียบ ลายมือ ระเบียบ มีรอยลบ เรียบรอ้ ย สม่ำเสมอ ไม่มี สม่ำเสมอ มีรอย สม่ำเสมอ รอยขีด ขูด ขีดฆ่า รอยขีดฆ่า ขดี ฆ่าเล็กนอ้ ย ฆ่า ลบ ๓-๔ แห่ง มากกว่า ๔ แห่ง รวมคะแนน เกณฑก์ ารตัดสนิ /ระดบั คุณภาพ ระดับ ๕ หมายถงึ ดเี ยย่ี ม คะแนน ๓๒ – ๔๐ ระดบั ๔ หมายถงึ ดมี าก คะแนน ๒๘ – ๓๑ ระดบั ๓ หมายถงึ ดี คะแนน ๒๔ – ๒๗ ระดับ ๒ หมายถึง พอใช้ คะแนน ๒๐ – ๒๓ ระดับ ๑ หมายถงึ ควรปรับปรงุ คะแนน ๐ – ๑๙ เกณฑ์การผา่ น ผ่านระดับ ๓ ขน้ึ ไป

๑. การจำแนกข้อเท็จจ ิรงแบบบันทึกคะแนนการจำแนกขอ้ เท็จจริงและขอ้ คิดเห็นจากเรื่องท่อี ่าน ๒. การจำแนก ้ขอ ิคดเห็น ๓. สำนวนภาษาส่ือหน่วยการเรยี นรทู้ ี่ ๕ เร่ือง หนใู ส่ใจรว่ มลำนำ ความหมายชัดเจนแผนการเรียนรทู้ ี่ ๒ เรอื่ ง อ่านอย่างไรใหเ้ สนาะ ๔. ความสะอาดเป็นระเบียบ เ ีรยบ ้รอยรายการประเมิน รวมคะแนนเลข คะแนน ระ ัดบ ุคณภาพท่ี ชือ่ -สกลุ ๑๒ ๑๒ ๑๒ ๔ ๔๐ ๕ ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ ๑๑ ๑๒ ๑๓ ๑๔ ๑๕ หมายเหตุ ใหด้ ูจากเกณฑ์ท่ีกำหนดไว้ขา้ งต้น

แผนการเรียนรู้ท่ี ๓ เร่ือง การเขยี นแผนภาพโครงเร่อื ง เวลา ๑ ชั่วโมง ๑. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชว้ี ัด มาตรฐาน ท ๑.๑ : ใชก้ ระบวนการอ่านสรา้ งความรแู้ ละความคิด เพ่อื นำไปใชต้ ัดสินใจแกป้ ัญหา ในการดำเนินชวี ติ และมนี ิสยั รกั การอา่ น ตวั ชี้วัด ท ๑.๑ ป.๔/๑ อา่ นออกเสยี งบทร้อยแก้วและบทร้อยกรองได้ถกู ตอ้ ง ท ๑.๑ ป.๔/๔ แยกขอ้ เท็จจริงและขอ้ คิดเหน็ จากเรอื่ งท่อี า่ น ท ๑.๑ ป.๔/๖ สรุปความร้แู ละข้อคิดจากเรอื่ งทีอ่ ่านเพอ่ื นำไปใช้ในชีวิตประจำวัน มาตรฐาน ท ๒.๑ : ใช้กระบวนการเขยี นเขยี นสือ่ สาร เขยี นเรียงความ ยอ่ ความ และเขยี นเร่ืองราว ในรปู แบบตา่ งๆ เขยี นรายงานขอ้ มลู สารสนเทศและรายงานการศึกษาค้นควา้ อย่างมีประสิทธภิ าพ ตัวช้วี ดั ท ๒.๑ ป.๔/๓ เขียนแผนภาพโครงเรอ่ื ง และแผนภาพความคิด เพื่อใชพ้ ัฒนางานเขียน ท ๒.๑ ป.๔/๖ เขียนบนั ทกึ และเขียนรายงานจากการศึกษาค้นควา้ มาตรฐาน ท ๓.๑ : สามารถเลือกฟงั และดูอยา่ งมวี ิจารณญาณ และพูดแสดงความรู้ ความคดิ และความรูส้ กึ ในโอกาสต่างๆ อยา่ งมวี จิ ารณญาณและสร้างสรรค์ ตวั ชีว้ ดั ท ๓.๑ ป.๔/๑ จำแนกข้อเทจ็ จรงิ และ ขอ้ คิดเห็นจากเรอ่ื งทีฟ่ ังและดู ท ๓.๑ ป.๔/๔ ต้ังคำถามและตอบคำถาม เชงิ เหตุผลจากเรอื่ งท่ฟี งั และดู ๒. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด การอา่ นในใจเพือ่ ใหส้ ามารถจับใจความสำคญั ของเร่อื งได้ สามารถตอบคำถามจากเร่อื ง บอกและ เรยี งลำดบั เหตกุ ารณท์ ี่สำคญั ในเรื่อง แลว้ สามารถเขยี นแผนภาพโครงเร่อื ง เพือ่ สรปุ เรอ่ื งหรอื เล่าเรื่องโดยใช้ คำพูดของตนเองตามแผนภาพโครงเรอ่ื งได้ แผนภาพโครงเรือ่ ง เป็นแผนภาพท่ีประกอบด้วยส่วนของคำถาม เกีย่ วกับเร่ือง ดงั นี้ ใคร ทำอะไร ท่ีไหน อย่างไร เพราะเหตุใด และข้อคิดจากเรือ่ ง แผนภาพโครงเรอ่ื ง จะช่วยใหส้ ามารถบอกเหตกุ ารณ์ของเร่ืองเป็นตอนๆ โดยอาศัยการคิดคำตอบจากคำถามในแผนภาพ และช่วย ลำดับเรอื่ งไดอ้ ยา่ งตอ่ เนอ่ื ง ทำใหส้ ามารถสรุปเร่ืองท้ังหมดได้ จุดประสงค์การเรยี นรู้ ๑. เพอื่ ใหผ้ ู้เรียนสามารถเขยี นแผนภาพโครงเรอ่ื ง จากเรื่องทีอ่ า่ นไดถ้ ูกตอ้ ง ๒. เพอ่ื ให้ผู้เรยี นสามารถเล่าเร่อื ง จากแผนภาพโครงเร่อื งได้ถกู ต้อง ๓. สาระการเรยี นรู้ ๓.๑ การเขยี นเรือ่ งตามแผนภาพโครงเรอ่ื ง ๓.๒ การเลา่ เรอ่ื งตามแผนภาพโครงเรอื่ ง ๔. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น ๔.๑ ความสามารถในการส่ือสาร ๔.๒ ความสามารถในการคดิ

๕. คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์/ค่านยิ ม ๕.๑ ใฝเ่ รยี นรู้ ๕.๒ มงุ่ มน่ั ในการทำงาน ๖. ชน้ิ งาน/ภาระงาน ๖.๑ เขยี นแผนภาพโครงเร่อื ง ๖.๒ เล่าเรือ่ งจากแผนภาพโครงเรื่อง ๗. การวัดและประเมินผล วิธีการ เครอ่ื งมือ เกณฑ์ ๑. เขียนแผนภาพโครงเร่อื ง ๑. แบบประเมินการเขยี น ผ่านร้อยละ ๖๐ ๒. เลา่ เร่ืองจากแผนภาพ แผนภาพโครงเรื่อง โครงเรอ่ื ง ๒. แบบสงั เกตพฤติกรรม ๓. สงั เกตพฤตกิ รรม ๘. กิจกรรมการเรยี นรู้ (กระบวนการสรา้ งความร้)ู ขนั้ ที่ ๑ ขั้นแนะนำ ๑. ครูแจ้งจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรูใ้ หน้ ักเรียนทราบพร้อมกัน ขั้นที่ ๒ ข้ันทบทวนความรู้เดิม ๒. นกั เรยี นช่วยกันทบทวนการจำแนกขอ้ เทจ็ จริงและข้อคิดโดยอ่านหนงั สือเรียนรายวชิ า พน้ื ฐานภาษาไทย ชุดภาษาเพือ่ ชวี ติ ภาษาพาที ช้นั ประถมศึกษาปีที่ ๔ เรื่อง เมตตาธรรมนำสุข หนา้ ๒๑๒ พร้อมกนั ท้ังชนั้ เรียน ๓. นักเรยี นฝึกตง้ั คำถามและตอบคำถามเกย่ี วกบั เนอื้ เร่ือง ข้ันที่ ๓ ขนั้ ปรบั เปล่ียนความคดิ ๔. นกั เรียนศกึ ษาแผนภมู ิแผนภาพโครงเร่ืองบนกระดานดำ ดงั นี้ ใคร : ตวั ละคร ทไี่ หน : สถานที่ เมอ่ื ไร : เวลาทเี่ กิดเหตุการณ์ เหตกุ ารณ์ : เหตกุ ารณท์ ี่ ๑ เหตุการณ์ที่ ๒ เหตุการณ์ท่ี ๓ ฯลฯ.. บทสรุป : ผลของเหตกุ ารณ์ ขอ้ คดิ : สรุปขอ้ คดิ

๕. นกั เรียนอ่านบทเรียนในใจ อกี ครัง้ เพ่ือจบั ใจความสำคัญของเร่อื ง ๖. นักเรยี นและครชู ว่ ยกันอภปิ รายและเตมิ ข้อความของคำถามในแผนภาพโครงเรอ่ื ง ใคร : ………………………………………………... ทไ่ี หน : ………………………………………………... เมอื่ ไร : ………………………………………………... เหตกุ ารณ์ : ………………………………………………... ………………………………………………... บทสรปุ : ………………………………………………... ขอ้ คิด : ………………………………………………... ………………………………………………... ๗. นกั เรียนอาสาสมัครออกมาเลา่ เร่ืองตามแผนภาพโครงเร่ืองบนกระดานดำให้เพ่อื นๆ ฟัง สว่ นนักเรยี นคนอน่ื ๆ และครูคอยแก้ไข ปรับปรงุ เพ่มิ เติม ถ้าผู้เลา่ เล่าเร่ืองผิด ขนั้ ที่ ๔ ขั้นทบทวน ๘. นักเรียนและครูชว่ ยกันสรุปบทเรยี นอกี ครง้ั หนงึ่ ๙. นักเรียนอา่ นเร่ือง สนุ ัขของมาลัย แล้วเขียนแผนภาพโครงเรือ่ งลงในใบงานให้ถกู ต้อง (ภาคผนวก) ๙. ส่อื และแหลง่ การเรยี นรู้ ๙.๑ หนังสอื เรียนรายวิชาพื้นฐานภาษาไทย ชุดภาษาเพอ่ื ชวี ิต ภาษาพาที ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี ๔ เรอ่ื ง เมตตาธรรมนำสุข หน้า ๒๑๒ ๙.๒ ใบความรู้ แผนภมู แิ ผนภาพโครงเรอ่ื ง ๙.๓ ใบงาน ๑๐. ข้อเสนอแนะ …………………………….………………………………………………………………………………………………………….………………… …………………………………………………………………………….……………………………………………………………………………. …………………………….………………………………………………………………………………………………………….…………………

ใบความรู้ แผนภูมิแผนภาพโครงเร่ือง ดงั น้ี ใคร : ตวั ละคร ทีไ่ หน : สถานที่ เม่ือไร : เวลาท่เี กิดเหตกุ ารณ์ เหตุการณ์ : เหตกุ ารณ์ท่ี ๑ บทสรปุ เหตุการณ์ที่ ๒ ข้อคิด เหตกุ ารณท์ ่ี ๓ ฯลฯ.. : ผลของเหตกุ ารณ์ : สรุปข้อคิด

ใบงาน ภาคเรยี นท.ี่ ............... ปกี ารศกึ ษา............... ประกอบหนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ ๕ เรื่อง หนูใสใ่ จร่วมลำนำ แผนการเรยี นรูท้ ่ี ๓ เรือ่ ง การเขียนแผนภาพโครงเรอ่ื ง ชอ่ื ..................................................................................................... เลขท่.ี ................... ชน้ั ...................... ___________________________________________________________________________ คำช้แี จง ให้นักเรยี นอ่านเร่อื ง สนุ ขั ของมาลยั แล้วเขียนแผนภาพโครงเร่ืองลงในใบงานให้ถูกต้อง (๔๐ คะแนน) เรอ่ื ง สุนขั ของมาลยั สำลเี ป็นสนุ ัขของมาลัย มันมสี ีสวยดังปยุ ฝ้าย มลี ายเพียงเลก็ น้อย มันชอบเล่นกับมาลยั เป็นประจำ เนอ่ื งจากมาลัยมีนิสยั เรยี บร้อย มนั จงึ รักมาลยั มาก มาลัยพามันไปท่ีใดกไ็ ปดว้ ย เปน็ หน แรกทมี่ นั ไดไ้ ปชายทะเล มาลยั จะพามนั เดินเร่ือยไปถงึ แมว้ า่ มนั จะเมือ่ ยมันก็ชอบ มันถอื ว่ามาลัย เปน็ เจา้ นายที่ดแี ละยังเอือ้ เฟอ้ื เผือ่ แผต่ ่อมนั เชน่ เวลามาลัยไดก้ นิ อะไรกจ็ ะแบง่ ให้มนั ด้วย ถา้ กิน ไม่ได้มันกจ็ ะคายทิ้งและเงยหนา้ ดมู าลัย มาลยั คดิ วา่ มนั น้อยใจ ก็จะเอาอาหารอ่ืนให้มันกนิ แล้ว ลบู หวั และตามร่างกายของมนั สำลีดีใจมากทไี่ ดถ้ ่ายรปู คกู่ บั มาลัย มนั ตืน่ เต้นมากที่ได้เหน็ สง่ิ ต่างๆ เช่น ชายหาดที่ สวยงาม มที ง้ั แม่ค้ามาคา้ ขายท่นี นั่ มที ้ัง ก๋วยเต๋ียว ขนม บวั ลอย ออ้ ย และอาหารทะเล มากมาย เชน่ ปู กงุ้ หอย ซึ่งวางเรยี งรายกนั อยู่ บางรา้ นก็มีป้ายบอกราคาไวด้ ว้ ย มันรสู้ ึก เสียดายทม่ี นั ไมอ่ าจทกั ทายเขาได้ และคดิ ว่าแมค่ า้ คงจะมรี ายได้ดีและรำ่ รวยกันทุกคน แม่คา้ บางคนกอ็ าศยั อยูร่ มิ ชายหาด มาลัยพาสำลีไปเดินเล่นท่ีชายหาด มันเห็นหอยมกุ หอยทับทิมและรอยเท้าของปูทค่ี ดไป คดมา มนั สงสัยไมร่ วู้ ่าเปน็ รอยอะไร มันจึงเห่าและสะกดรอยตามจนอิดโรยกย็ งั ไมพ่ บ พอดไี ปพบ งเู ห่ากำลังจะเลอ้ื ยมากัดมาลยั สำลีจงึ กดั งูตายอยา่ งง่ายดาย มาลัยชมเชยวา่ สำลเี ก่งมาก และ เอ่ยบอกสำลีดว้ ยถ้อยคำท่ไี พเราะว่า ให้ระวังภัยไว้ด้วยเพราะงูเห่าดุร้ายมาก และได้อธิบายถงึ อันตรายจากพษิ งูเหา่ วา่ ร้ายแรงมาก ถ้ามนั กดั ต้องใชเ้ ชือกหรือสายยางรดั ให้แนน่ ก่อนสง่ โรงพยาบาล ตอ่ จากนั้นมาลยั จงึ ชวนสำลกี ลับบ้านท้งั ๆ ท่ยี ังอาลัยชายทะเลท่ีแสนงาม ซึ่งมาลัย กับสำลไี ด้เท่ียวชมในวนั น้ี. ท่ีมา : สพุ รรณี ธงชัย

แผนภาพโครงเรอ่ื ง ใคร : …………………………………………………………………... ………………………………………………...………………………………………………...……………………………………………………... ………………………………………………...………………………………………………...……………………………………………………... ท่ไี หน : …………………………………………………………………... ………………………………………………...………………………………………………...……………………………………………………... ………………………………………………...………………………………………………...……………………………………………………... เมอ่ื ไร : …………………………………………………………………... ………………………………………………...………………………………………………...……………………………………………………... ………………………………………………...………………………………………………...……………………………………………………... เหตกุ ารณ์ : …………………………………………………………………... ………………………………………………...………………………………………………...……………………………………………………... ………………………………………………...………………………………………………...……………………………………………………... ………………………………………………...………………………………………………...……………………………………………………... ………………………………………………...………………………………………………...……………………………………………………... ………………………………………………...………………………………………………...……………………………………………………... ………………………………………………...………………………………………………...……………………………………………………... บทสรุป : …………………………………………………………………... ………………………………………………...………………………………………………...……………………………………………………... ………………………………………………...………………………………………………...……………………………………………………... ขอ้ คดิ : …………………………………………………………………... ………………………………………………...………………………………………………...……………………………………………………... ………………………………………………...………………………………………………...……………………………………………………...

เกณฑ์การประเมนิ การเขยี นแผนภาพโครงเรอื่ ง หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี ๕ เร่อื ง หนใู ส่ใจรว่ มลำนำ แผนการเรยี นร้ทู ่ี ๓ เร่อื ง การเขียนแผนภาพโครงเร่อื ง รายการ ๔ ระดับคุณภาพ นำ้ หนัก คะแนน ประเมนิ ๓๒ ๑ คะแนน รวม ๑๒ ๑. เนือ้ เร่ือง เนอื้ เรอื่ ง สรปุ เน้ือเรอื่ ง สรปุ เน้อื เร่ือง สรุป เนอื้ เร่อื ง สรุป ๓ สรปุ ถูกต้องตาม ถูกตอ้ ง แตไ่ ม่ ถกู ตอ้ ง เลก็ นอ้ ย ยงั ไม่ถกู ต้อง ๑๒ หลักเกณฑ์ ครบถ้วน ๑๒ ๒. ลำดับความคิด ลำดบั ความคิด ลำดับความคิด ลำดบั ความคิด ลำดับความคิด เหตุการณ์ เหตุการณ์ เหตุการณ์ ๔ ต่อเนอื่ งสมั พนั ธ์ ตอ่ เนอ่ื งสมั พนั ธ์ ตอ่ เนอื่ งสัมพนั ธ์ เหตกุ ารณ์ เหตกุ ารณ์ ๔๐ กนั กันดีมาก กันพอใช้ ต่อเนอ่ื งสัมพนั ธ์ ต่อเนอ่ื งยงั ไม่ ๓ สำนวนภาษาสือ่ ๓ ความหมายได้ กันบา้ งเป็น สัมพนั ธ์กนั ๑ ถูกต้องพอใช้ บางคร้ัง สะอาด เป็น ๓. สำนวนภาษา สำนวนภาษาส่ือ ระเบียบ ลายมอื สำนวนภาษาสอ่ื สำนวนภาษาส่ือ สอ่ื ความหมาย ความหมายได้ สม่ำเสมอ มรี อย ชัดเจน ถูกตอ้ งชัดเจน ขดี ฆา่ เลก็ น้อย ความหมาย ความหมายยังไม่ ดมี าก ๔. ความสะอาด สะอาด เปน็ ถกู ตอ้ งเป็นบาง ถูกต้อง เปน็ ระเบยี บ ระเบียบ ลายมือ เรียบรอ้ ย สม่ำเสมอ ไม่มี ขอ้ ความ รอยขีดฆ่า สะอาด เป็น สะอาด เป็น ระเบียบ ลายมอื ระเบียบ มีรอยลบ สม่ำเสมอ รอยขดี ขูด ขีดฆา่ ฆ่า ลบ ๓-๔ แห่ง มากกว่า ๔ แหง่ รวมคะแนน เกณฑก์ ารตัดสิน/ระดับคุณภาพ ระดับ ๕ หมายถึง ดเี ย่ียม คะแนน ๓๒ – ๔๐ ระดบั ๔ หมายถงึ ดีมาก คะแนน ๒๘ – ๓๑ ระดบั ๓ หมายถงึ ดี คะแนน ๒๔ – ๒๗ ระดบั ๒ หมายถงึ พอใช้ คะแนน ๒๐ – ๒๓ ระดับ ๑ หมายถึง ควรปรบั ปรุง คะแนน ๐ – ๑๙ เกณฑก์ ารผา่ น ผ่านระดบั ๓ ขนึ้ ไป

๑. เน้ือเ ่ืรอง ส ุรปแบบบนั ทึกคะแนนการเขียนแผนภาพโครงเร่ือง ๒. ลำ ัดบความ ิคดเห ุตการณ์ ่ตอเนื่องสัมพันธ์ ักนหน่วยการเรียนรูท้ ี่ ๕ เรื่อง หนใู ส่ใจรว่ มลำนำ ๓. สำนวนภาษา ่สือแผนการเรยี นรทู้ ี่ ๓ เรื่อง การเขยี นแผนภาพโครงเร่อื ง ความหมาย ัชดเจน ๔. ความสะอาดเป็นระเบียบรายการประเมิน เ ีรยบ ้รอยเลข คะแนน รวมคะแนนท่ี ช่อื -สกลุ ระ ัดบ ุคณภาพ ๑๒ ๑๒ ๑๒ ๔ ๔๐ ๕ ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ ๑๑ ๑๒ ๑๓ ๑๔ ๑๕ หมายเหตุ ใหด้ ูจากเกณฑ์ทกี่ ำหนดไว้ขา้ งตน้

แผนการเรียนร้ทู ี่ ๔ เรือ่ ง การเขยี นแผนภาพความคิด เวลา ๑ ช่ัวโมง ๑. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชว้ี ัด มาตรฐาน ท ๑.๑ : ใช้กระบวนการอา่ นสร้างความรแู้ ละความคดิ เพ่ือนำไปใชต้ ัดสินใจแกป้ ญั หา ในการดำเนินชีวิตและมีนสิ ัยรักการอา่ น ตัวชีว้ ัด ท ๑.๑ ป.๔/๔ แยกข้อเท็จจรงิ และข้อคิดเหน็ จากเร่ืองทอ่ี า่ น ท ๑.๑ ป.๔/๖ สรุปความรู้และข้อคิดจากเรอ่ื งท่อี ่านเพือ่ นำไปใช้ในชวี ติ ประจำวัน มาตรฐาน ท ๒.๑ : ใช้กระบวนการเขียนเขยี นสอ่ื สาร เขียนเรยี งความ ย่อความ และเขยี นเรื่องราว ในรปู แบบตา่ งๆ เขียนรายงานข้อมลู สารสนเทศและรายงานการศกึ ษาคน้ ควา้ อย่างมีประสทิ ธิภาพ ตัวช้วี ดั ท ๒.๑ ป.๔/๓ เขียนแผนภาพโครงเรื่อง และแผนภาพความคดิ เพ่ือใช้พัฒนางานเขยี น มาตรฐาน ท ๓.๑ : สามารถเลือกฟังและดูอย่างมวี จิ ารณญาณ และพูดแสดงความรู้ ความคดิ และความรู้สึกในโอกาสต่างๆ อยา่ งมวี จิ ารณญาณและสร้างสรรค์ ตัวช้วี ดั ท ๓.๑ ป.๔/๑ จำแนกขอ้ เท็จจริงและ ข้อคดิ เห็นจากเรอื่ งที่ฟงั และดู ท ๓.๑ ป.๔/๔ ตั้งคำถามและตอบคำถาม เชงิ เหตุผลจากเร่อื งทฟี่ ังและดู ๒. สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด แผนภาพความคิด เป็นการแสดงความรโู้ ดยใชแ้ ผนภาพ เปน็ วธิ ีการนำความรหู้ รือข้อเท็จจริงมา จัดเปน็ ระบบ สรา้ งเป็นแผนภาพ จัดความคดิ รวบยอดหรอื นำหัวข้อเรื่องใดเรือ่ งหนึ่งมาแยกเป็นหัวข้อยอ่ ย และนำมาจดั เปน็ ลำดบั ภาพ จุดประสงค์การเรียนรู้ ๑. เพ่อื ใหผ้ ู้เรยี นสามารถเขยี นแผนภาพความคดิ ไดถ้ กู ต้อง ๒. เพอื่ ให้ผู้เรียนสามารถเขียนเรือ่ ง จากแผนภาพความคิดได้ถูกตอ้ ง ๓. เพ่ือใหผ้ ู้เรียนสามารถเล่าเรือ่ ง จากแผนภาพความคดิ ไดถ้ กู ตอ้ ง ๓. สาระการเรียนรู้ ๓.๑ การเขยี นแผนภาพความคิด ๓.๒ การเขียนเร่ืองตามแผนภาพความคิด ๓.๓ การเลา่ เรือ่ งตามแผนภาพความคิด ๔. สมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รยี น ๔.๑ ความสามารถในการส่ือสาร ๔.๒ ความสามารถในการคิด ๕. คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค/์ ค่านิยม ๕.๑ ใฝเ่ รยี นรู้ ๕.๒ มงุ่ มั่นในการทำงาน

๖. ชนิ้ งาน/ภาระงาน เขียนแผนภาพความคิด ๗. การวัดและประเมนิ ผล วธิ กี าร เครือ่ งมอื เกณฑ์ ๑. การเขยี นแผนภาพความคิด ๑. แบบประเมนิ การเขยี นแผนภาพความคิด ผ่านรอ้ ยละ ๖๐ ๒. สงั เกตพฤตกิ รรม ๒. แบบสงั เกตพฤติกรรม ๘. กจิ กรรมการเรยี นรู้ (กระบวนการสร้างความร)ู้ ข้ันท่ี ๑ ขั้นแนะนำ ๑. ครูแจง้ จุดประสงค์การเรียนรู้ให้นกั เรยี นทราบพร้อมกัน ขน้ั ท่ี ๒ ขน้ั ทบทวนความรู้เดิม ๒. ครูและนักเรยี นสนทนาการเขยี นแผนภาพโครงเรือ่ งจากชวั่ โมงทีผ่ ่านมา ๓. นกั เรยี นฝกึ ต้งั คำถามและตอบคำถาม ข้ันท่ี ๓ ขัน้ ปรับเปลี่ยนความคดิ ๔. นักเรยี นศึกษาแผนภาพความคดิ จากใบความรู้ ตวั อยา่ งแผนภาพความคดิ ๕. นักเรียนและครชู ่วยกนั อภิปรายข้อความในแผนภาพความคดิ ๖. นักเรยี นอาสาสมคั รออกมาเลา่ เร่อื งตามแผนภาพความคดิ ใหเ้ พือ่ นๆ ฟัง สว่ นนกั เรียน คนอ่ืนๆ และครคู อยแกไ้ ข ปรบั ปรงุ เพ่มิ เตมิ ถ้าผเู้ ล่าเล่าเร่อื งผดิ ขั้นท่ี ๔ ข้ันทบทวน ๗. นกั เรยี นและครูชว่ ยกันสรุปบทเรียนอีกคร้งั หนง่ึ ๘. นักเรยี นแต่ละคนเขียนแผนภาพความคดิ (Mind Mapping) ให้ถูกตอ้ ง แลว้ เขยี นเรอื่ ง ตามแผนภาพความคิดดว้ ยคำพดู ของนกั เรยี นเองลงในใบงาน (ภาคผนวก) ๙. ส่อื และแหล่งการเรยี นรู้ ๙.๑ ใบความรู้ ๙.๒ ใบงาน ๑๐. ข้อเสนอแนะ …………………………….………………………………………………………………………………………………………….………………… …………………………………………………………………………….……………………………………………………………………………. …………………………….………………………………………………………………………………………………………….…………………

ใบความรู้ ตัวอย่างแผนภาพความคดิ ท่ีมา : https://www.gotoknow.org/posts/351595

ใบงาน ภาคเรยี นท่ี................ ปกี ารศกึ ษา............... ประกอบหนว่ ยการเรยี นรู้ที่ ๕ เรื่อง หนูใสใ่ จร่วมลำนำ แผนการเรียนรู้ที่ ๔ เรอ่ื ง การเขยี นแผนภาพความคิด ช่ือ..................................................................................................... เลขที.่ ................... ช้นั ...................... ___________________________________________________________________________ คำช้แี จง ใหน้ ักเรียนเขียนแผนภาพความคิด (Mind Mapping) ใหถ้ ูกตอ้ ง แล้วเขยี นเร่อื งตามแผนภาพ ความคดิ ดว้ ยคำพูดของนักเรียนเอง (๔๐ คะแนน) ความดขี องฉนั …………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………

เกณฑก์ ารประเมินการเขียนแผนภาพความคดิ (Mind Mapping) หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี ๕ เรอื่ ง หนูใสใ่ จรว่ มลำนำ แผนการเรียนรทู้ ี่ ๔ เรื่อง การเขยี นแผนภาพความคิด รายการประเมนิ ๔ ระดับคณุ ภาพ นำ้ หนกั คะแนน ๓๒ ๑ คะแนน รวม ๑. ความคิด เขยี นแผนที่ความคดิ เขยี นแผนท่คี วามคิด เขียนแผนท่คี วามคิด เขียนแผนทค่ี วามคดิ ๓ ๑๒ รวบยอด ท่ีแสดงความคดิ รวบ ทแ่ี สดงความคดิ รวบ ที่แสดงความคิดรวบ ที่แสดงความคิดรวบ ๓ ๑๒ ๒. ความคดิ รอง ยอดหลักถกู ตอ้ ง ยอดหลกั ถูกตอ้ ง ยอดหลักถกู ตอ้ ง ยอดหลกั ไมต่ รง ๓ ตรงประเดน็ ประเดน็ ๑ ๑๒ ๓. ความคดิ ยอ่ ย ขยายความคิดรอง ขยายความคดิ รอง ขยายความคิดรอง ขยายความคิดรอง ๔ ไดถ้ กู ต้อง ไดถ้ กู ตอ้ ง ได้ถกู ตอ้ ง ได้ไมถ่ ูกตอ้ ง ๔๐ ๔. การเช่ือมโยง ครบทกุ ประเด็น แตไ่ ม่ครบทุก มีจำนวนน้อย ความคิด ประเด็น ประเด็น ขยายความคิดยอ่ ย ขยายความคดิ ย่อย มจี ำนวนมาก ไดถ้ กู ต้อง ได้ถูกตอ้ ง ประเด็น ขยายความคดิ ยอ่ ย ครบทุกประเด็น ขยายความคดิ ยอ่ ย ได้ถกู ตอ้ ง ไมเ่ ชือ่ มโยงความคิด ได้ถกู ต้อง มีจำนวนน้อย รวบยอดหลัก เชอ่ื มโยงความคิด แต่ไม่ครบทกุ ประเดน็ ความคดิ รอง รวบยอดหลัก ประเด็น ความคดิ ยอ่ ย ความคิดรอง มจี ำนวนมาก เช่อื มโยงความคิด ความคิดย่อยได้ ประเด็น รวบยอดหลกั ชัดเจน เชอื่ มโยงความคดิ ความคิดรอง รวบยอดหลกั ความคิดยอ่ ย ความคดิ รอง ความคดิ ยอ่ ยได้ รวมคะแนน เกณฑ์การตดั สิน/ระดบั คุณภาพ ระดบั ๕ หมายถึง ดเี ยี่ยม คะแนน ๓๒ – ๔๐ ระดับ ๔ หมายถงึ ดมี าก คะแนน ๒๘ – ๓๑ ระดบั ๓ หมายถึง ดี คะแนน ๒๔ – ๒๗ ระดับ ๒ หมายถงึ พอใช้ คะแนน ๒๐ – ๒๓ ระดบั ๑ หมายถึง ควรปรบั ปรงุ คะแนน ๐ – ๑๙ เกณฑ์การผา่ น ผ่านระดับ ๓ ขึ้นไป

๑. ความ ิคดรวบยอดแบบบันทึกคะแนนการเขียนแผนภาพความคิด (Mind Mapping) ๒. ความ ิคดรอง ๓. ความ ิคดย่อยหน่วยการเรียนรู้ท่ี ๕ เร่อื ง หนใู สใ่ จรว่ มลำนำ ๔. การเชื่อมโยงความ ิคดแผนการเรยี นรู้ที่ ๔ เรอ่ื ง การเขยี นแผนภาพความคิด รวมคะแนน ระ ัดบ ุคณภาพรายการประเมิน เลข คะแนน ท่ี ชอ่ื -สกลุ ๑๒ ๑๒ ๑๒ ๔ ๔๐ ๕ ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ ๑๑ ๑๒ ๑๓ ๑๔ ๑๕ หมายเหตุ ให้ดูจากเกณฑ์ท่ีกำหนดไว้ขา้ งตน้

แผนการเรียนรูท้ ่ี ๕ เรอ่ื ง การอา่ นในใจและตอบคำถาม เวลา ๑ ชัว่ โมง ๑. มาตรฐานการเรียนรู/้ ตัวช้ีวัด มาตรฐาน ท ๑.๑ : ใชก้ ระบวนการอ่านสรา้ งความร้แู ละความคิด เพื่อนำไปใช้ตัดสนิ ใจแก้ปัญหา ในการดำเนนิ ชีวติ และมนี สิ ยั รกั การอ่าน ตัวชี้วัด ท ๑.๑ ป.๔/๓ อ่านเรื่องส้ันๆ ตามเวลาทกี่ ำหนด และตอบคำถามจากเรื่องทอี่ า่ น มาตรฐาน ท ๒.๑ : ใชก้ ระบวนการเขยี นเขียนสอื่ สาร เขียนเรยี งความ ย่อความ และเขียนเรอ่ื งราว ในรปู แบบต่างๆ เขยี นรายงานขอ้ มูลสารสนเทศและรายงานการศึกษาคน้ คว้าอยา่ งมปี ระสิทธิภาพ ตวั ชี้วดั ท ๒.๑ ป.๔/๖ เขยี นบันทกึ และเขียนรายงานจากการศกึ ษาค้นควา้ มาตรฐาน ท ๓.๑ : สามารถเลือกฟงั และดอู ย่างมวี ิจารณญาณ และพดู แสดงความรู้ ความคิด และความรู้สึกในโอกาสต่างๆ อย่างมวี ิจารณญาณและสรา้ งสรรค์ ตัวช้ีวดั ท ๓.๑ ป.๔/๔ ตงั้ คำถามและตอบคำถาม เชงิ เหตุผลจากเร่ืองทีฟ่ งั และดู ๒. สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด การอา่ นในใจเป็นการอ่านท่เี ขา้ ใจเรอ่ื งราวไดเ้ พยี งคนเดยี ว ผอู้ ่านตอ้ งใช้สมาธใิ นการอ่าน ศึกษาคำยาก ตง้ั จุดหมายในการอ่าน อา่ นอยา่ งพินิจ พจิ ารณา จะทำใหจ้ ับใจความสำคญั ของเรอื่ งทอี่ ่าน สามารถตอบคำถาม ลำดับเหตุการณ์ของเรอ่ื ง จุดประสงค์การเรยี นรู้ ๑. อ่านในใจบทเรียนตามหลักการอ่านในใจทด่ี ีได้ถกู ตอ้ ง ๒. ตั้งคำถาม ตอบคำถาม อภิปรายและสรปุ ขอ้ คิดจากเรื่องท่ีอา่ นได้ ๓. สาระการเรยี นรู้ ๓.๑ การอ่านในใจบทเรียน เร่อื ง อยา่ งนด้ี ีควรทำ ๓.๒ การตงั้ คำถาม ตอบคำถามและสรุปขอ้ คิดของเร่ือง ๔. สมรรถนะสำคญั ของผ้เู รียน ๔.๑ ความสามารถในการสื่อสาร ๔.๒ ความสามารถในการคิด ๕. คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค/์ คา่ นยิ ม ๕.๑ ใฝ่เรยี นรู้ ๕.๒ มงุ่ มัน่ ในการทำงาน

๖. ช้ินงาน/ภาระงาน บนั ทกึ การตงั้ คำถาม ตอบคำถาม อภิปรายและสรุปข้อคิดจากเรอื่ งทีอ่ ่าน ๗. การวัดและประเมินผล เครือ่ งมอื เกณฑ์ ๑. แบบประเมนิ การตั้งคำถาม ตอบคำถาม ผ่านร้อยละ ๖๐ วธิ ีการ อภิปรายและสรุปข้อคิดจากเรอื่ งท่อี ่าน ๑. การตัง้ คำถาม ตอบคำถาม ๒. แบบสงั เกตพฤติกรรม อภปิ รายและสรุปข้อคดิ จาก เร่อื งทอ่ี า่ น ๒. สังเกตพฤตกิ รรม ๘. กจิ กรรมการเรียนรู้ (กระบวนการสรา้ งความร)ู้ ขนั้ ท่ี ๑ ขนั้ แนะนำ ๑. ครูแจง้ จดุ ประสงค์การเรียนรู้ใหน้ กั เรยี นทราบพร้อมกัน ๒. รว่ มกันสนทนาถึงรูปภาพในหนงั สือเรยี นรายวชิ าพน้ื ฐานภาษาไทย ชุดภาษาเพือ่ ชวี ติ ภาษาพาที ชัน้ ประถมศึกษาปีที่ ๔ หนา้ ๒๐๗ ครูช่วยถามนำ เพื่อกระตุ้นให้นักเรียนรว่ มกนั ตอบปากเปล่า ตามความเขา้ ใจและความรู้สกึ นกึ คดิ ของนักเรียน ขั้นท่ี ๒ ขน้ั ทบทวนความรเู้ ดิม ๓. ครแู ละนกั เรยี นสนทนาซกั ถามประสบการณเ์ ดิม เกีย่ วกับ เร่ือง การรู้จกั รับผดิ ชอบ ช่วั ดี โดยครูซกั ถามและใหน้ ักเรียนอาสาสมคั รออกมาเล่าประสบการณ์ตรง ให้เพือ่ นๆ นักเรยี นฟัง ขน้ั ที่ ๓ ขน้ั ปรับเปล่ยี นความคดิ ๔. นักเรยี นอา่ นในใจจากหนงั สือเรยี นรายวิชาพ้ืนฐานภาษาไทย ชดุ ภาษาเพอื่ ชีวติ ภาษาพาที ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ เรื่อง อย่างนด้ี คี วรทำ หนา้ ๒๐๖ (โดยอ่านรายบุคคล เน้นการอา่ นพนิ จิ พจิ ารณา) ๕. นักเรยี นแบ่งกล่มุ ๆละ ๔-๖ คน (หรอื ตามความเหมาะสม) ให้แต่ละกล่มุ ทำกจิ กรรม ดังตอ่ ไปนี้ ๕.๑ นกั เรยี นตัง้ คำถามจากเร่อื งท่ีอา่ นใหไ้ ดม้ ากที่สุด เพ่อื ทีจ่ ะได้ถามกลุ่มอ่นื ๕.๒ นกั เรียนรว่ มกนั เขียนคำถามลงในแถบประโยค ๕.๓ นักเรียนแตล่ ะกลุม่ นำแถบประโยคคำถามติดไวท้ ่ีกระเปา๋ ผนงั (คำถามอาจซ้ำกันได้) ๕.๔ นักเรยี นกลุ่มใดตอบคำถามจากเพื่อนหรอื กลุ่มอน่ื ไดใ้ ห้นำแถบคำตอบไปติด หลังคำถามนัน้ ๕.๕ จากนน้ั ใหน้ กั เรยี นร่วมกนั อ่านประโยคคำถามและคำตอบพรอ้ มกนั ทงั้ หมด

ขั้นท่ี ๔ ข้นั ทบทวน ๖. นกั เรยี นแต่ละกลมุ่ ออกมาอ่านคำถามและคำตอบหนา้ ชั้นเรียน อกี ครั้ง ๗. นักเรยี นอา่ นในใจ จากหนังสอื เรยี นรายวิชาพื้นฐานภาษาไทย ชุดภาษาเพอ่ื ชีวติ ภาษาพาที ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ ๔ เร่ือง อยา่ งนด้ี คี วรทำ หนา้ ๒๐๖ อกี ครั้ง แล้วตอบคำถามลงในใบงาน (๔๐ คะแนน) ๘. ครแู ละนักเรยี นช่วยกนั สรปุ บทเรียน ๙. สื่อและแหลง่ การเรียนรู้ ๙.๑ หนังสอื เรยี นรายวิชาพ้นื ฐานภาษาไทย ชุดภาษาเพื่อชวี ิต ภาษาพาที ช้นั ประถมศึกษาปีที่ ๔ เร่อื ง อยา่ งนด้ี คี วรทำ หนา้ ๒๐๖, ๒๐๗ ๙.๒ แถบประโยค ๙.๓ กระเป๋าผนัง ๙.๔ ใบงาน ๑๐. ขอ้ เสนอแนะ …………………………….………………………………………………………………………………………………………….………………… …………………………………………………………………………….……………………………………………………………………………. …………………………….………………………………………………………………………………………………………….…………………

ใบงาน ภาคเรยี นที.่ ............... ปกี ารศึกษา............... ประกอบหน่วยการเรยี นรทู้ ี่ ๕ เรื่อง หนูใส่ใจรว่ มลำนำ แผนการเรยี นร้ทู ี่ ๕ เรื่อง การอา่ นในใจและตอบคำถาม ชอ่ื ..................................................................................................... เลขท.่ี ................... ชน้ั ...................... ___________________________________________________________________________ คำช้แี จง ใหน้ ักเรียนอ่านในใจ จากหนังสอื เรยี นรายวิชาพื้นฐานภาษาไทย ชดุ ภาษาเพอื่ ชีวติ ภาษาพาที ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ เรอ่ื ง อย่างนีด้ ีควรทำ หนา้ ๒๐๖ แล้วตอบคำถามตอ่ ไปน้ีใหถ้ ูกตอ้ ง ลงในใบงาน (๔๐ คะแนน) ๑. บทเรียนเรอ่ื ง อยา่ งนด้ี ีควรทำ ที่นักเรียนอ่านน้ี เปน็ เร่อื งเกี่ยวกบั อะไร ………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………… ๒. เร่ืองนี้เกิดขน้ึ ที่ไหน ………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………… ๓. เร่ืองนี้มีตัวละครก่ตี ัว อะไรบา้ ง ………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………… ๔. สุดทา้ ยผลของเร่ืองเป็นอย่างไร ………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………… ๕. เรอ่ื งนใ้ี ห้ข้อคิดอยา่ งไร ………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………

เกณฑก์ ารประเมนิ การต้ังคำถาม ตอบคำถาม อภปิ รายและสรปุ ข้อคดิ จากเรอ่ื งที่อ่าน หน่วยการเรียนรทู้ ี่ ๕ เรื่อง หนใู ส่ใจรว่ มลำนำ แผนการเรียนร้ทู ่ี ๕ เรอื่ ง การอ่านในใจและตอบคำถาม รายการ ๔ ระดับคณุ ภาพ ๑ น้ำหนัก คะแนน ประเมนิ การตั้งคำถาม คะแนน รวม ๑. การตงั้ การต้งั คำถาม ๓๒ ตอบคำถาม ๑๒ คำถาม ตอบคำถาม ยังไมถ่ กู ต้อง ๓ ตอบคำถาม ถกู ตอ้ งตาม การตง้ั คำถาม การตง้ั คำถาม ๑๒ หลักเกณฑ์ ตอบคำถาม ตอบคำถาม การอภิปราย ๓ ๒. การอภิปราย การอภปิ ราย ถกู ตอ้ ง แตไ่ ม่ ถกู ตอ้ ง เลก็ น้อย และสรุปข้อคิด ๑๒ และสรปุ ขอ้ คิด และสรปุ ขอ้ คิด ครบถว้ น จากเรือ่ งท่ีอา่ น ๓ จากเร่ืองทีอ่ า่ น การอภปิ ราย การอภปิ ราย ยังไมส่ ัมพันธ์กนั ๔ ๓. สำนวนภาษา สมั พนั ธก์ ันดีมาก และสรปุ ขอ้ คิด และสรปุ ขอ้ คิด สำนวนภาษาสื่อ ๑ ๔๐ สือ่ ความหมาย สำนวนภาษาส่ือ จากเร่อื งทีอ่ า่ น จากเรื่องที่อา่ น ความหมายยงั ไม่ ชัดเจน ความหมายได้ สมั พนั ธ์กนั ดี สมั พันธ์กนั พอใช้ ถกู ตอ้ ง ถูกตอ้ งชัดเจน สำนวนภาษาสือ่ สำนวนภาษาสือ่ ๔. ความสะอาด ดมี าก ความหมายได้ ความหมาย สะอาด เปน็ เป็นระเบยี บ สะอาด เปน็ ถูกตอ้ งพอใช้ ถูกต้องเป็นบาง ระเบียบ มีรอยลบ เรียบรอ้ ย ระเบียบ ลายมือ ขูด ขีดฆ่า สม่ำเสมอ ไม่มี ขอ้ ความ มากกว่า ๔ แหง่ รอยขีดฆ่า สะอาด เป็น สะอาด เป็น ระเบียบ ลายมือ ระเบียบ ลายมอื สม่ำเสมอ มีรอย สม่ำเสมอ รอยขดี ขดี ฆา่ เล็กนอ้ ย ฆ่า ลบ ๓-๔ แหง่ รวมคะแนน เกณฑก์ ารตัดสิน/ระดับคณุ ภาพ ระดับ ๕ หมายถึง ดีเยยี่ ม คะแนน ๓๒ – ๔๐ ระดบั ๔ หมายถงึ ดีมาก คะแนน ๒๘ – ๓๑ ระดับ ๓ หมายถงึ ดี คะแนน ๒๔ – ๒๗ ระดบั ๒ หมายถึง พอใช้ คะแนน ๒๐ – ๒๓ ระดบั ๑ หมายถึง ควรปรบั ปรงุ คะแนน ๐ – ๑๙ เกณฑ์การผา่ น ผา่ นระดบั ๓ ข้นึ ไป

๑. การ ้ัตงคำถามแบบบนั ทกึ คะแนนการตั้งคำถาม ตอบคำถาม อภปิ รายและสรุปข้อคดิ จากเรอ่ื งท่ีอ่าน ตอบคำถาม ๒. การอ ิภปรายและส ุรปหน่วยการเรยี นรทู้ ่ี ๕ เรอ่ื ง หนูใสใ่ จรว่ มลำนำ ข้อ ิคด แผนการเรยี นรทู้ ่ี ๕ เรือ่ ง การอ่านในใจและตอบคำถาม ๓. สำนวนภาษา ื่สอ ความหมายชัดเจนรายการประเมนิ ๔. ความสะอาดเป็นระเบียบเลข คะแนน เ ีรยบ ้รอยท่ี ช่ือ-สกลุ รวมคะแนน ระ ัดบ ุคณภาพ๑๒ ๑๒ ๑๒ ๔ ๔๐ ๕ ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ ๑๑ ๑๒ ๑๓ ๑๔ ๑๕ หมายเหตุ ให้ดูจากเกณฑ์ที่กำหนดไวข้ า้ งต้น

แผนการเรยี นร้ทู ่ี ๖ เรื่อง การอา่ นออกเสียงและเขยี นตามคำบอก เวลา ๑ ชั่วโมง ๑. มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตัวช้วี ัด มาตรฐาน ท ๑.๑ : ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคดิ เพือ่ นำไปใชต้ ัดสินใจแก้ปัญหา ในการดำเนนิ ชีวิตและมีนิสยั รกั การอา่ น ตวั ช้วี ัด ท ๑.๑ ป.๔/๑ อา่ นออกเสยี งบทร้อยแกว้ และบทร้อยกรองได้ถูกตอ้ ง มาตรฐาน ท ๒.๑ : ใชก้ ระบวนการเขียนเขยี นสอื่ สาร เขยี นเรียงความ ย่อความ และเขยี นเรอื่ งราว ในรปู แบบตา่ งๆ เขยี นรายงานข้อมลู สารสนเทศและรายงานการศกึ ษาค้นคว้าอย่างมปี ระสทิ ธิภาพ ตัวชี้วัด ท ๒.๑ ป.๔/๖ เขียนบนั ทกึ และเขยี นรายงานจากการศึกษาคน้ คว้า มาตรฐาน ท ๔.๑ : เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปล่ยี นแปลงของภาษา และพลงั ของภาษา ภูมิปญั ญาทางภาษา และรกั ษาภาษาไทยไว้เป็นสมบตั ิของชาติ ท ๔.๑ ป.๔/๑ สะกดคำและบอกความหมายของคำในบริบทตา่ งๆ ๒. สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด การอ่านออกเสยี ง เปน็ ทกั ษะการสอ่ื สารทีท่ ำให้คนอืน่ สามารถรับรเู้ ร่อื งราว เนอื้ หาสาระจากผูอ้ า่ นได้ ดว้ ย ดังน้ันควรอา่ นใหถ้ กู ต้องตามหลักการอา่ น จึงจะทำให้การอา่ นประสบความสำเรจ็ กระทำได้โดยฝึกอา่ นคำ ยาก ฝกึ อ่านตามลกั ษณะของเสยี งและคำประพนั ธ์ รจู้ กั ใช้นำ้ เสยี งตามอารมณ์ของตวั ละคร เน้นจังหวะหนักเบา เหมือนเสียงพูด จะทำให้อ่านได้ถูกตอ้ ง คลอ่ งแคล่ว และชว่ ยให้สอ่ื สารไดอ้ ย่างมีประสิทธิภาพ จุดประสงค์การเรียนรู้ ๑. อ่านออกเสยี งคำยากในบทเรยี นได้ถกู ตอ้ ง ชดั เจน ๒. อา่ นประโยคในบทเรยี นได้ถกู ตอ้ ง ชัดเจน ๓. อา่ นออกเสียงในบทเรียนได้ถูกต้อง ชัดเจน ๔. เขยี นตามคำบอกไดถ้ กู ต้อง ๓. สาระการเรียนรู้ ๓.๑ การอา่ นออกเสยี งคำยาก อ่านประโยค ๓.๒ การเขยี นตามคำบอก ๔. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน ๔.๑ ความสามารถในการสือ่ สาร ๔.๒ ความสามารถในการคดิ ๕. คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค/์ ค่านยิ ม ๕.๑ ใฝ่เรียนรู้ ๕.๒ มุ่งมั่นในการทำงาน

๖. ชิ้นงาน/ภาระงาน เคร่อื งมือ เกณฑ์ การเขยี นตามคำบอก ๑. ใบงานการเขียนตามคำบอก ผ่านร้อยละ ๖๐ ๒. แบบสังเกตพฤติกรรม ๗. การวัดและประเมนิ ผล วิธีการ ๑. การเขียนตามคำบอก ๒. สังเกตพฤตกิ รรม ๘. กิจกรรมการเรยี นรู้ (กระบวนการสรา้ งความร)ู้ ข้นั ท่ี ๑ ข้นั แนะนำ ๑. ครูแจง้ จุดประสงคก์ ารเรียนร้ใู ห้นกั เรยี นทราบพร้อมกนั ขัน้ ที่ ๒ ข้ันทบทวนความรูเ้ ดิม ๒. ครแู ละนกั เรยี นช่วยกนั สนทนาโครงเรอื่ งจากแผนภาพความคดิ จากชัว่ โมงที่ผ่านมา และสรปุ ความรูท้ ่ีได้ ขั้นที่ ๓ ขนั้ ปรับเปล่ียนความคิด ๓. นักเรียนฝกึ อ่านคำยาก จากหนงั สอื เรยี นรายวชิ าพนื้ ฐานภาษาไทย ชุดภาษาเพ่อื ชวี ติ ภาษาพาที ช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๔ เร่ือง อ่านเพมิ่ เติมความหมาย หน้า ๒๑๔ ๔. นกั เรียนคน้ หาความหมายของคำยากจากพจนานุกรม แลว้ เขยี นลงในใบงาน ๑ ๕. นักเรียนอา่ นออกเสยี งจากแถบประโยค หรอื แผนภมู ปิ ระโยคท่ีครเู ขยี นบนกระดานดำ โดยสังเกตคำที่ขดี เส้นใต้ ๖. นักเรียนฝึกอ่านออกเสียง โดยครูอา่ นให้นกั เรียนฟังเป็นตวั อย่างแล้วให้นักเรียนอา่ นตาม จากนน้ั ให้นกั เรยี นฝกึ อา่ นคนละ ๑ ยอ่ หนา้ ๗. นักเรยี นฝกึ อ่านในกลมุ่ ของตนเองจนคล่อง ข้ันท่ี ๔ ขั้นทบทวน ๘. นักเรียนคนใดทอ่ี ่านบกพรอ่ ง ใหม้ าอา่ นกับครูเปน็ รายบุคคล ๙. นกั เรยี นเขียนตามคำบอกลงในใบงาน ๒ เสร็จแล้วตรวจคำตอบจากบัตรเฉลยทีค่ รแู สดง ให้ดู ๑๐. ครแู ละนกั เรียนชว่ ยกนั สรปุ เรื่องทอี่ ่าน ๙. สือ่ และแหลง่ การเรียนรู้ ๙.๑ หนังสอื เรยี นรายวิชาพืน้ ฐานภาษาไทย ชุดภาษาเพือ่ ชีวติ ภาษาพาที ชัน้ ประถมศึกษาปีที่ ๔ เรอื่ ง อ่านเพ่มิ เตมิ ความหมาย หน้า ๒๑๔ ๙.๒ พจนานกุ รม ๙.๓ แถบประโยค หรอื แผนภมู ิประโยค ๙.๔ บัตรเฉลย ๙.๕ ใบงาน

๑๐. ขอ้ เสนอแนะ …………………………….………………………………………………………………………………………………………….………………… …………………………………………………………………………….……………………………………………………………………………. …………………………….………………………………………………………………………………………………………….…………………

ใบงาน ๑ ประกอบหนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ ๕ เรื่อง หนใู สใ่ จรว่ มลำนำ ภาคเรียนท่ี................ แผนการเรยี นรทู้ ่ี ๖ เรื่อง การอ่านออกเสยี งและเขยี นตามคำบอก ปกี ารศกึ ษา............... ชือ่ ..................................................................................................... เลขท.่ี ................... ช้นั ...................... ___________________________________________________________________________ คำช้ีแจง ใหน้ ักเรียนเขียนความหมายของคำที่กำหนดใหถ้ ูกตอ้ ง (ขอ้ ละ ๒ คะแนน รวม ๒๐ คะแนน) ๑. กรรโชก หมายถึง………………………………………………………………………………………………………………………………….. ๒. ทดิ หมายถึง………………………………………………………………………………………………………………………………….. ๓. นติ กิ ร หมายถึง………………………………………………………………………………………………………………………………….. ๔. บาทหลวง หมายถงึ ………………………………………………………………………………………………………………………………….. ๕. โบสถ์ หมายถึง………………………………………………………………………………………………………………………………….. ๖. ภาวนา หมายถงึ ………………………………………………………………………………………………………………………………….. ๗. มนุษยชาติ หมายถึง………………………………………………………………………………………………………………………………….. ๘. มสั ยิด หมายถึง………………………………………………………………………………………………………………………………….. ๙. ศาสดา หมายถึง………………………………………………………………………………………………………………………………….. ๑๐. ศาสนสถาน หมายถึง…………………………………………………………………………………………………………………………………..

ใบงาน ๒ ภาคเรยี นท.ี่ ............... ปกี ารศกึ ษา............... ประกอบหน่วยการเรียนรทู้ ี่ ๕ เร่ือง หนูใสใ่ จรว่ มลำนำ แผนการเรียนรู้ที่ ๖ เรือ่ ง การอ่านออกเสยี งและเขยี นตามคำบอก ช่อื ..................................................................................................... เลขท่ี.................... ชั้น...................... ___________________________________________________________________________ คำชแี้ จง ใหน้ กั เรียนเขียนคำอ่านจากคำที่กำหนดใหอ้ ยา่ งถูกต้อง (ข้อละ ๒ คะแนน รวม ๒๐ คะแนน) ตวั อย่าง น้ำผ้ึง อ่านว่า นำ้ - ผง้ึ ๑. กรรโชก อ่านวา่ ………………………………………………………………………………….. ๒. ทดิ อา่ นวา่ ………………………………………………………………………………….. ๓. นติ ิกร อ่านว่า………………………………………………………………………………….. ๔. บาทหลวง อ่านว่า………………………………………………………………………………….. ๕. โบสถ์ อา่ นว่า………………………………………………………………………………….. ๖. ภาวนา อ่านว่า………………………………………………………………………………….. ๗. มนษุ ยชาติ อา่ นวา่ ………………………………………………………………………………….. ๘. มัสยิด อ่านวา่ ………………………………………………………………………………….. ๙. ศาสดา อา่ นว่า………………………………………………………………………………….. ๑๐. ศาสนสถาน อ่านว่า………………………………………………………………………………….. ภาษาไทยไม่ยากใช่ไหม ครบั

บัตรเฉลย ภาคเรียนที่................ ปกี ารศกึ ษา............... ใบงาน ๑ ประกอบหนว่ ยการเรียนรู้ท่ี ๕ เรอ่ื ง หนูใส่ใจรว่ มลำนำ แผนการเรียนรู้ท่ี ๖ เรอ่ื ง การอา่ นออกเสยี งและเขียนตามคำบอก ๑. กรรโชก หมายถงึ ทำกริ ยิ าขู่ใหก้ ลัว ๒. ทิด หมายถึง คำนำหนา้ ชือ่ ผู้ที่สกึ จากพระ ๓. นติ ิกร หมายถงึ ช่อื ตำแหน่งผู้มหี น้าทป่ี ฏิบตั งิ านเกยี่ วกับกฎหมาย ๔. บาทหลวง หมายถงึ นกั บวชในศาสนาครสิ ต์ ๕. โบสถ์ หมายถึง สถานทที่ ่ีใช้ในการประชมุ ทำกิจของสงฆ์ ตง้ั แต่ ๔ รูป ขึ้นไป เรยี กเปน็ ทางการวา่ อโุ บสถ หรือพระอุโบสถ ๖. ภาวนา หมายถึง สำรวมใจใหแ้ นว่ แนเ่ ปน็ สมาธิ ๗. มนุษยชาติ หมายถึง หมมู่ นุษย์ ๘. มัสยดิ หมายถงึ สถานที่ประกอบกจิ กรรมทางศาสนาอิสลาม สุเหรา่ ก็เรียก ๙. ศาสดา หมายถงึ ผู้ต้ังลทั ธิทางศาสนา ๑๐. ศาสนสถาน หมายถึง สถานท่ปี ระกอบพธิ ีกรรมทางศาสนา

บตั รเฉลย ภาคเรยี นที.่ ............... ปีการศึกษา............... ใบงาน ๒ ประกอบหน่วยการเรียนร้ทู ี่ ๕ เร่อื ง หนใู ส่ใจร่วมลำนำ แผนการเรยี นร้ทู ี่ ๖ เร่ือง การอา่ นออกเสยี งและเขยี นตามคำบอก ๑. กรรโชก อา่ นว่า กัน – โชก ๒. ทิด อ่านวา่ ทิด ๓. นติ กิ ร อ่านว่า นิ – ติ – กอน ๔. บาทหลวง อา่ นว่า บาด – หลวง ๕. โบสถ์ อา่ นวา่ โบด ๖. ภาวนา อา่ นว่า พา – วะ – นา ๗. มนษุ ยชาติ อ่านวา่ มะ – นุด – สะ – ยะ – ชาด ๘. มัสยดิ อา่ นว่า มดั – สะ – ยดิ ๙. ศาสดา อา่ นว่า สาด – สะ – ดา ๑๐. ศาสนสถาน อ่านว่า สา – สะ – นะ – สะ – ถาน หมายเหตุ ใบงาน ๑ และ ใบงาน ๒ รวม ๔๐ คะแนน เกณฑ์การตัดสิน/ระดับคุณภาพ ระดบั ๕ หมายถึง ดีเย่ยี ม คะแนน ๓๒ – ๔๐ ระดับ ๔ หมายถึง ดีมาก คะแนน ๒๘ – ๓๑ ระดับ ๓ หมายถึง ดี คะแนน ๒๔ – ๒๗ ระดบั ๒ หมายถงึ พอใช้ คะแนน ๒๐ – ๒๓ ระดบั ๑ หมายถึง ควรปรบั ปรงุ คะแนน ๐ – ๑๙ เกณฑ์การผา่ น ผา่ นระดบั ๓ ขนึ้ ไป

แผนการเรยี นรู้ท่ี ๗ เรือ่ ง เรียนร้กู ารฟังและการดู เวลา ๑ ชัว่ โมง ๑. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชว้ี ัด มาตรฐาน ท ๑.๑ : ใชก้ ระบวนการอ่านสร้างความร้แู ละความคิด เพื่อนำไปใชต้ ัดสินใจแกป้ ญั หา ในการดำเนนิ ชีวติ และมีนสิ ยั รักการอา่ น ตวั ชว้ี ดั ท ๑.๑ ป.๔/๑ อ่านออกเสียงบทร้อยแกว้ และบทรอ้ ยกรองไดถ้ ูกตอ้ ง มาตรฐาน ท ๒.๑ : ใช้กระบวนการเขียนเขียนส่อื สาร เขยี นเรียงความ ย่อความ และเขยี นเรื่องราว ในรปู แบบต่างๆ เขยี นรายงานขอ้ มลู สารสนเทศและรายงานการศกึ ษาคน้ ควา้ อยา่ งมปี ระสิทธิภาพ ตัวช้ีวดั ท ๒.๑ ป.๔/๖ เขียนบันทึกและเขียนรายงานจากการศึกษาค้นควา้ มาตรฐาน ท ๓.๑ : สามารถเลือกฟงั และดูอยา่ งมวี ิจารณญาณ และพดู แสดงความรู้ ความคิด และความรู้สึกในโอกาสต่างๆ อย่างมีวจิ ารณญาณและสรา้ งสรรค์ ตวั ชี้วดั ท ๓.๑ ป.๔/๒ พูดสรุปความจากการฟังและดู ท ๓.๑ ป.๔/๓ พูดแสดงความรู้ความคิดเหน็ และความรสู้ ึกเกีย่ วกบั เร่อื งท่ฟี ังและดู ๒. สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด ทักษะการฟงั เปน็ การสรา้ งประสบการณ์อย่างหน่งึ ทท่ี ำใหม้ ีความร้จู ากส่งิ ท่ฟี ัง สามารถเลา่ เรื่อง และตอบคำถามจากเรอื่ งได้ถกู ต้อง จุดประสงค์การเรยี นรู้ ๑. บอกข้อควรปฏิบัติในการฟังและการดูได้ ๒. สามารถฟังและดแู ลว้ สรปุ ความได้ ๓. สาระการเรยี นรู้ ขอ้ ควรปฏบิ ตั ใิ นการฟังและการดู ๔. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน ๔.๑ ความสามารถในการสือ่ สาร ๔.๒ ความสามารถในการคิด ๕. คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์/ค่านยิ ม ๕.๑ ใฝเ่ รยี นรู้ ๕.๒ มุ่งมัน่ ในการทำงาน ๖. ช้ินงาน/ภาระงาน บนั ทึกข้อควรปฏบิ ัติในการฟงั และการดู

๗. การวัดและประเมนิ ผล วิธกี าร เครอื่ งมือ เกณฑ์ ผา่ นรอ้ ยละ ๖๐ ๑. การปฏบิ ตั ิตัวในการฟงั และ ๑. ใบงานการปฏิบัตติ วั ในการฟังและการดู การดู ๒. แบบสงั เกตพฤติกรรม ๒. สงั เกตพฤติกรรม ๘. กจิ กรรมการเรียนรู้ (กระบวนการสร้างความรู้) ข้นั ท่ี ๑ ขน้ั แนะนำ ๑. ครแู จง้ จุดประสงค์การเรยี นรใู้ ห้นักเรยี นทราบพรอ้ มกนั ข้นั ท่ี ๒ ขน้ั ทบทวนความรเู้ ดิม ๒. ครูและนักเรียนช่วยกนั สนทนาหลักการอ่านออกเสยี งจากช่ัวโมงทผ่ี า่ นมา ๓. สนทนาซักถามนักเรยี นเกีย่ วกับข้อควรปฏบิ ตั ใิ นการฟงั และการดู ควรปฏบิ ตั ิอยา่ งไรบา้ ง ขัน้ ท่ี ๓ ขนั้ ปรับเปลีย่ นความคดิ ๔. นกั เรยี นดูแผนภมู ขิ ้อควรปฏิบตั ใิ นการฟงั และการดู ๕. นักเรยี นดแู ละอ่านพรอ้ มๆ กัน แล้วสนทนาแสดงความคิดเหน็ แลกเปล่ียนการเรียนรู้ รว่ มกนั ๖. นกั เรียนแบง่ กลมุ่ ตามความเหมาะสม ศกึ ษาความรู้ทางภาษา เรอ่ื ง ขอ้ ควรปฏิบัติในการ ฟงั และการดทู ่ดี ี จากใบความรู้ (ทา้ ยแผน) ๗. สง่ ตัวแทนนักเรยี นในกลมุ่ ออกมานำเสนอผลงานหนา้ ชั้นเรยี น ๘. นักเรยี นร่วมกันอภิปรายและต้ังขอ้ สงั เกตในประเด็นต่อไปนี้ ๘.๑ ขอ้ ควรปฏบิ ตั ิในการฟงั ท่ีดี ๘.๒ ข้อควรปฏิบัตใิ นการดูทีด่ ี ๘.๓ มารยาทการฟังและมารยาทการดูท่ดี ี ๙. นักเรียนทำใบงาน ปฏิบตั ติ ามขั้นตอนในใบงานแลว้ ส่งครูตรวจ ขนั้ ท่ี ๔ ขน้ั ทบทวน ๑๐. นักเรยี นชว่ ยกนั สรุปเรอื่ งจากการฟงั การดู ๙. สื่อและแหล่งการเรยี นรู้ ๙.๑ แผนภมู ิการฟงั และการดู ๙.๒ แผนภมู ิมารยาทการฟงั และการดู ๙.๓ ใบความรู้ ๙.๔ ใบงาน ๑๐. ข้อเสนอแนะ …………………………….………………………………………………………………………………………………………….………………… …………………………………………………………………………….……………………………………………………………………………. …………………………….………………………………………………………………………………………………………….…………………

ใบความรู้ การฟงั และการดู การติดต่อสอ่ื สารในชีวติ ประจำวัน เดมิ เราใช้ทักษะการฟังมากกวา่ ทักษะอน่ื ๆ แต่ปัจจุบนั เทคโนโลยี ก้าวหน้ามาก ทำให้เกดิ มีสื่อใหมๆ่ เชน่ ภาพนงิ่ โทรทศั น์ วดี ิทศั น์ ภาพเคลอื่ นไหวประกอบเสยี งทาง โทรศัพท์เคลือ่ นที่ การแสดงต่างๆ ฯลฯ ทำให้รบั เรือ่ งราวข่าวสารไดท้ งั้ การฟังการดู ข้อควรปฏิบตั ิในการฟงั และการดู ๑. เลอื กฟงั และดตู ามจุดมุ่งหมายท่ีตอ้ งการ คอื เพื่อหาความรู้ หรือเพ่ือหาความบันเทงิ ๒. ถ้าเลือกได้ ควรเลอื กฟงั ผพู้ ดู ทีเ่ ป็นนักพดู ทดี่ ี หรอื เลือกฟงั และดสู ื่อทม่ี ีคุณภาพดี หรอื การแสดงท่ีมี มาตรฐาน ๓. ตงั้ ใจ มีจติ ใจจดจ่ออยูก่ ับการฟัง หรือการดใู นขณะน้นั ๔. พยายามติดตามเร่อื งราว คิดพจิ ารณา ไตรต่ รองเรือ่ งที่ฟังหรือดวู า่ สมเหตุสมผล นา่ เชอ่ื ถือเพียงใด ๕. พิจารณาวา่ ผ้พู ดู มีจดุ ประสงคห์ รือตง้ั ใจบอกผฟู้ ังว่าอะไร เพราะเหตุใด ๖. พยายามหาข้อคิดทเี่ ปน็ ประโยชนจ์ ากการฟังและดู เพอ่ื นำไปใชใ้ นชวี ติ ประจำวนั สว่ นท่ีเปน็ ข้อบกพร่องก็นำไปเปน็ บทเรียนสอนใจ ๗. จดบันทึกสาระสำคญั ไวเ้ พื่อประโยชนต์ อ่ ไป มารยาทการฟงั และการดใู นทส่ี าธารณะ ๑. แตง่ กายสุภาพเรียบรอ้ ย เพอื่ ให้เกียรตแิ ก่ผูพ้ ดู ผแู้ สดง หรอื สถานท่ี ๒. ไม่ทำอะไรที่เป็นการรบกวนผูพ้ ูด เช่น คุยกนั โห่ ฮา รบั โทรศัพท์ หลับ รับประทานสิ่งของต่างๆ ฯลฯ ขณะฟังหรือดู ๓. ถ้าตอ้ งการถามควรยกมือขน้ึ หรอื ขออนุญาตผพู้ ูดกอ่ น และถามเมอ่ื ผู้พูดพดู จบแล้ว ๔. ไมค่ วรเดนิ เข้าออกขณะท่ผี ู้พูดกำลังพูด ถ้าจำเปน็ ควรทำความเคารพเสยี กอ่ น ๕. เม่ือผู้พดู พดู จบ ควรปรบมือให้เกียรติ

ใบงาน ภาคเรยี นท่.ี ............... ปกี ารศกึ ษา............... ประกอบหน่วยการเรยี นรูท้ ี่ ๕ เรอื่ ง หนูใส่ใจรว่ มลำนำ แผนการเรยี นรู้ที่ ๗ เรื่อง เรียนรกู้ ารฟงั และการดู ช่อื ..................................................................................................... เลขที่.................... ชัน้ ...................... ___________________________________________________________________________ คำชแ้ี จง ใหน้ ักเรียนตอบคำถามต่อไปนี้ให้ถูกต้อง (๔๐ คะแนน) ๑. ข้อควรปฏิบตั ใิ นการฟงั และการดู …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๒. มารยาทการฟงั และการดูในที่สาธารณะ …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook