คำนำ การอ่าน เป็นวัฒนธรรมในการแสวงหาความรู้ของประชากรทุกคน ปัจจุบันสังคมโลกเป็น สังคมแห่งการเรียนรู้และการแข่งขัน การอ่านจึงเป็นวิธีการท่ีจะช่วยให้ประชากรได้รับความรู้ ข้อมูลข่าวสาร และแนวคิดใหม่ๆ อันจะเป็นการพัฒนาตนเองและรู้จักปรับตัวให้อยู่ในสังคมอย่างมีความสุข ประเทศไทย ตระหนักถึงความสาคัญดังกล่าวและให้การส่งเสริมสนับสนุนมาอย่างต่อเน่ือง อกี ทง้ั ยังมีหน่วยงานทุกภาคส่วน ร่วมกันจัดกิจกรรมและรณรงค์ส่งเสริมการอ่าน กอปรกับรัฐบาลได้กาหนดนโยบายปฏิรูปการศึกษาทั้งในด้าน คณุ ภาพประสทิ ธิภาพ มาตรฐานและความเหลื่อมลา้ ทางการศึกษา โดยมุ่งแกป้ ัญหาเร่อื งคณุ ภาพ โอกาส และ ประสิทธิภาพในการจัดการศึกษาเพื่อตอบสนองต่อความต้องการของประเทศ โดยให้มีความเช่ือมโยงและ ส่งผลดีต่อการพัฒนาประเทศด้านต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง และยุทธศาสตร์๒๐ ปี แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม แห่งชาติ ฉบับท่ี ๑๒ แผนการศึกษาชาติ พ.ศ. ๒๕๖๐ – ๒๕๗๙ แผนแม่บทส่งเสริมวัฒนธรรมการอ่านสู่สังคม แห่งการเรยี นรขู้ องไทยพ.ศ. ๒๕๖๐ – ๒๕๖๔ เพ่ือสนองแผนแม่บทส่งเสริมวัฒนธรรมการอ่านสู่สังคมแห่งการเรียนรู้ กศน.อาเภอตะก่ัวทุ่ง จึงกาหนดแนวทางการขบั เคล่อื นนโยบายการสง่ เสริมการอ่าน ตามวสิ ัยทศั น์คนไทยทุกช่วงวยั มีนิสยั รกั การอ่าน เพ่ือการเรียนรู้ตลอดชีวิต และมีเป้าหมาย คนไทยทุกช่วงวัยอ่านหนังสือเพิ่มขึ้นเฉล่ีย ๙๐ นาที จากฐานเดิม ๖๖ นาทีต่อวัน อน่ึง เพ่ือให้องค์กรมีความพร้อมและมีศักยภาพในการขับเคล่อื นนโยบายดังกลา่ ว กศน.อาเภอ ตะกว่ั ทุ่ง จึงไดจ้ ดั ทาคมู่ อื การจดั กิจกรรมส่งเสรมิ การอา่ นข้นึ โดยมเี นอื้ หาประกอบด้วยแนวทางการจัดกจิ กรรม ส่งเสริมการอ่าน ๕ แนวทาง เพ่ือให้บุคลากรผู้ปฏิบัติงาน และเครือข่ายท่ีเก่ียวข้องสามารถนาไปจัดกิจกรรม/ โครงการให้บรรลุตามเปา้ หมายทก่ี าหนดไว้ไดอ้ ย่างมปี ระสทิ ธิภาพและประสทิ ธิผลตอ่ ไป งานการศึกษาตามอธั ยาศัย กศน.อาเภอตะก่ัวทงุ่ ก
สำรบัญ หนำ้ ก คานา ข สารบญั 1 แนวทำงที่ 1 ส่งเสรมิ กำรอำ่ นในหอ้ งสมดุ 2 กจิ กรรมที่ 1 แผนทกี่ ารอ่าน ๓ กิจกรรมท่ี 2 E-book ปลุกนกั อ่าน ๔ กิจกรรมท่ี 3 วนั เดียวเท่ยี วหอ้ งสมดุ ๗ กิจกรรมท่ี 4 อา่ น-ดี เขียนโดน ๘ กจิ กรรมที่ 5 ประดิษฐส์ นุกทุกเสาร์-อาทติ ย์ ๙ กจิ กรรมท่ี 6 เช็ค ชวน แชร์ ๑๐ กิจกรรมที่ 7 Check in มมุ โปรด ๑๑ กจิ กรรมท่ี 8 QR code นทิ รรศการความรู้ ๑๒ กจิ กรรมที่ ๙ Summer Kids For Fun ๑๓ กจิ กรรมที่ ๑๐ สปั ดาห์หอ้ งสมดุ สุดหรรษา ๑๔ กจิ กรรมท่ี ๑๑ โมบายสรา้ งสรรค์ ๑๕ กิจกรรมท่ี ๑๒ Birthday Buffet ๑๖ กิจกรรมที่ ๑๓ ปฏทิ ินคู่ความรู้ ๑๗ กิจกรรมท่ี ๑๔ หนงั สือนี้ดีเพ่ือแม่ ๑๘ กจิ กรรมท่ี ๑๕ อาวุโส OK ๑๙ กิจกรรมท่ี ๑๖ คาขวัญชวนอ่าน ๒๐ กิจกรรมที่ ๑๗ คาราโอเกะ พาเพลนิ ๒๑ กจิ กรรมที่ ๑๘ ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ ๒๒ กิจกรรมที่ ๑๙ พานอ้ งทอ่ งโลก AR ๒๓ กิจกรรมท่ี ๒๐ ภาษิตซา่ ส์ ท้าเซียน ๒๔ แนวทำงที่ 2 ส่งเสรมิ กำรอำ่ นในบ้ำนหนังสือชุมชน 25 กจิ กรรมที่ 1 รกั จงั QR Code หนังสอื เลม่ โปรด 26 กจิ กรรมที่ 2 กระเปา๋ ความรู้ส่ชู มุ ชน 27 กจิ กรรมท่ี 3 ปันกันอ่านสู่บา้ นหนังสือชมุ ชน ๒8 กิจกรรมท่ี 4 ชมุ ชนต้นแบบรักการอ่าน 29 กจิ กรรมท่ี 5 ทค่ี ่ันหนงั สอื ส่ือความรู้ดว้ ยคาคม ๓0 กิจกรรมท่ี 6 เกบ็ ตกจากหนงั สอื พมิ พ์ ๓1 กิจกรรมที่ 7 สรุปขา่ ว เลา่ เร่ือง ๓2 กิจกรรมท่ี ๘ ต้นไม้พูดได้ ๓3 กิจกรรมท่ี ๙ เรยี นรูต้ ามแนวปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง ๓4 กิจกรรมท่ี ๑๐ การส่งเสรมิ การอ่านผ่านการเรยี นรูภ้ มู ิปัญญาท้องถน่ิ ข
กจิ กรรมท่ี ๑๑ อ่านสนุกได้ประโยชน์ หน้ำ กิจกรรมท่ี ๑๒ เคาะประตูบา้ นรับบรจิ าคหนงั สือน่าอา่ น กิจกรรมที่ ๑๓ อ่านพาเพลนิ ชวนกันอ่าน ๓5 กจิ กรรมที่ ๑๔ QR Code หนังสอื นา่ อา่ น ๓6 กจิ กรรมท่ี ๑๕ คลังเกษตรชวนรูใ้ นทอ้ งถิน่ ๓7 กจิ กรรมท่ี ๑๖ เชฟชวนชมิ อาหารบา้ นบา้ น ๓8 กจิ กรรมท่ี ๑๗ สนกุ คิด ประดิษฐป์ ระดอย 39 กจิ กรรมท่ี ๑๘ ความร้ตู ัดแปะ ๔0 กจิ กรรมที่ ๑๙ ปราชญค์ วามรู้คู่บ้านหนังสอื ชุมชน ๔1 กจิ กรรมที่ ๒๐ ตะกรา้ ความรู้กระจายสู่ชมุ ชน ๔2 กจิ กรรมที่ ๒๑ เพิ่มพูนความรู้สูก่ ารสนทนาในบา้ นหนังสือชมุ ชน ๔3 กจิ กรรมที่ ๒๒ สาระสุขภาพคู่บา้ นหนังสอื ชุมชน ๔4 กิจกรรมที่ ๒๓ อ่านทันเหตุการณ์ ๔5 กิจกรรมที่ ๒๔ ผู้สงู วยั ใส่ใจการอา่ น ๔6 ๔7 แนวทำงท่ี 3 ส่งเสริมกำรอำ่ นเคลอื่ นที่ ๔8 กจิ กรรมท่ี 1 จากอักษรส่เู สน้ เสียง คาราโอเกะ กจิ กรรมท่ี ๒ สมดุ บันทึกเปิดโลกแห่งการเรยี นรู้ เปิดประตสู ู่การอ่าน 49 กิจกรรมที่ ๓ QR ท้าใหอ้ ่าน ๕0 กิจกรรมที่ ๔ ทองมว้ นชวนเท่ียวไทย ๕1 กิจกรรมที่ ๕ น่งั ท่ีไหน อ่านท่ีนน่ั ๕2 กิจกรรมท่ี ๖ ส่งเสริมการอ่านผา่ น Kahoot เกมส์ ๕3 กิจกรรมท่ี ๗ อ่านแลว้ ประดิษฐ์ ๕4 กิจกรรมท่ี ๘ ห้องสมดุ คาเฟ่เคล่ือนที่พ่ีสอนน้อง ๕5 กิจกรรมที่ ๙ ระเบยี งความรู้ ๕6 กจิ กรรมที่ ๑๐ ท่องโลกเมืองนกั อา่ น 59 กจิ กรรมที่ ๑๑ เกมน่งั ลอ้ มวง “จาควาย” ๖0 กจิ กรรมที่ ๑๒ เกมน่ังลอ้ มวงแทบ็ ๖1 กิจกรรมที่ ๑๓ เสริมสรา้ งทักษะการสื่อสารประสานงาน (เกมฝูงวานร) ๖2 กิจกรรมท่ี ๑๔ ทายซิ…ฉนั คือใคร ๖3 กจิ กรรมที่ ๑๕ เกมแรลลี่นิทาน ๖4 กจิ กรรมที่ ๑๖ อา่ นไป วาดไป ๖5 กจิ กรรมที่ ๑๗ ปาโปง่ ตวั อักษร ๖6 กิจกรรมที่ ๑๘ หนงั สอื เดินทาง ๖7 กิจกรรมที่ ๑๙ ระเบียงความรู้ ๖8 กจิ กรรมท่ี ๒๐ ยอดนกั อ่าน นักสบื 69 ๗0 ๗1 ข
แนวทำงท่ี 4 ส่งเสรมิ กำรอำ่ นในศนู ยพ์ ัฒนำเด็กเลก็ หน้ำ กิจกรรมที่ 1 นกั ป้ันเรื่อง กิจกรรมท่ี 2 รอ้ ง เต้น เล่น อ่าน ๗2 กจิ กรรมที่ 3 หนงั สอื เลม่ ใหญ่ (Big Book) ๗3 กจิ กรรมที่ 4 เล่านทิ านหุ่นมือ ๗4 กจิ กรรมที่ 5 ศิลปะเรียนรู้คูท่ ้องถ่ิน ๗5 กจิ กรรมท่ี ๖ นิทานสรา้ งสุข ๗6 กิจกรรมท่ี ๗ หนนู ้อยรักโลก 77 กจิ กรรมท่ี ๘ เรยี นรพู้ ยัญชนะไทย 78 กิจกรรมที่ ๙ เด็กดีมีเงนิ ออม 79 กิจกรรมที่ ๑๐ เล่าเรื่องผา่ นส่ือ AR ๘0 กจิ กรรมท่ี ๑๑ คาศัพท์มหัศจรรย์ ๘1 กิจกรรมท่ี ๑๒ หนา้ กากแฟนซี ๘2 กจิ กรรมท่ี ๑๓ รา่ งกายของฉัน ๘3 กจิ กรรมท่ี ๑๔ ตลาดเชา้ วา้ ว !! อร่อย ๘4 กิจกรรมท่ี ๑๕ เรียนรู้วฒั นธรรม ๘5 กิจกรรมที่ ๑๖ รกั จังพังงา ๘6 กิจกรรมท่ี ๑๗ ประดษิ ฐ์บตั รอวยพร 87 กจิ กรรมที่ ๑๘ เลา่ ไปฉีกไป 88 กจิ กรรมที่ ๑๙ ครอบครวั ของฉัน 89 กจิ กรรมที่ ๒๐ ครอบครัวผกู พันสร้างสรรคก์ ารอา่ น ๙0 ๙2 แนวทำงที่ ๕ สง่ เสริมกำรอ่ำนเคล่ือนทีส่ ำหรบั ชำวตลำด ๙3 กิจกรรมท่ี 1 เมนหู นงั สือบริการถงึ แผง กิจกรรมท่ี ๒ E-book โดนใจ อ่านได้ทกุ ท่ี ทกุ เวลา 95 กจิ กรรมท่ี 3 สนกุ ประดษิ ฐด์ ้วยมอื เรา 96 กจิ กรรมท่ี ๔ ตอบดี มรี างวัล 97 กิจกรรมท่ี 5 มมุ ชวนรู้ 98 กิจกรรมท่ี 6 ชวนรเู้ ร่อื งสุขภาพ 99 กจิ กรรมที่ 7 เพม่ิ พูนความรสู้ ู่การสนทนากับชาวตลาดฯ 100 กจิ กรรมที่ ๘ แบ่งปันหนังสือมอื สอง 101 กจิ กรรมที่ 9 เรียนร้นู อกร้ัว พาทัวรห์ อ้ งสมุดชาวตลาดฯ 102 กิจกรรมท่ี ๑0 วนั แห่งความรู้ 103 กจิ กรรมที่ ๑1 D I Y ง่ายๆด้วยตัวเอง 104 กิจกรรมที่ ๑2 ทนั ข่าว ทนั เหตุการณ์ 105 กจิ กรรมที่ ๑3 เสียงเพลงรนื่ เริงบนั เทิงใจ 106 107 109 ข
แนวทำงที่ ๑ กำรจดั กจิ กรรมสง่ เสริมกำรอำ่ นในห้องสมุดประชำชน การจัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่านในห้องสมุดประชาชน ซ่ึงสามารถจัดกิจกรรมได้หลากหลายรปู แบบ ให้กับกลุ่มเป้าหมายทุกช่วงวัย ทั้งเด็กปฐมวัย เยาวชน วัยทางาน วัยผู้สูงอายุ ซ่ึงการจัดกิจกรรมต้องใ ห้ เหมาะสมกับวัยและสอดคล้องกับความต้องการของวัยน้ันๆ โดยกาหนดวัตถุประสงค์ กลุ่มเป้าหมาย วิธีการ ดาเนินงาน ตวั ช้วี ดั ความสาเรจ็ ดงั น้ี วตั ถปุ ระสงค์ ๑. เพื่อส่งเสริมและสร้างนิสยั รักการอ่านใหแ้ กป่ ระชาชนกลุ่มเปา้ หมาย ๒. เพอื่ ประชาสัมพนั ธใ์ ห้ประชาชนเข้าใช้บรกิ ารห้องสมุดและอ่านหนังสือเพิ่มมากข้นึ กลมุ่ เปำ้ หมำย ประชาชนทุกชว่ งวยั ทเี่ ข้าใช้บริการห้องสมดุ ประชาชน วิธีดำเนนิ กำร ๑. ประชุม วางแผน มอบหมายงานตามการจดั กิจกรรมประจาปี ๒. จดั เตรยี มสถานท่ี และจดั บรรยากาศให้เหมาะสมกับการจดั กจิ กรรมส่งเสริมการอ่าน ๓. จัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์ในการจดั กิจกรรม ๔. ประชาสมั พนั ธ์ เช่น การตดิ ปา้ ยไวนลิ เสยี งตามสาย รายการวิทยุ แผน่ พบั สง่ หนังสอื ถงึ หน่วยงาน ๕. ดาเนินการจัดกจิ กรรม ๖. ตดิ ตามผล ประเมินผล รายงานผล ตัวชว้ี ัดควำมสำเรจ็ ๑. ห้องสมดุ ประชาชนมสี มาชิกเพิม่ ขึน้ ไมน่ อ้ ยกว่ารอ้ ยละ ๒๐ ๒. มผี ูใ้ ชบ้ ริการห้องสมุดประชาชนโดยเฉลี่ยไม่นอ้ ยกวา่ ๓๐ คนต่อวนั ๓. จัดกิจกรรมสง่ เสรมิ การอ่านไม่นอ้ ยกวา่ ๑ ครง้ั /เดือน ๔. ผูร้ ับบริการมคี วามพงึ พอใจในระดบั มาก ไมน่ ้อยกว่ารอ้ ยละ ๘๐ ๑
กจิ กรรมท่ี ๑ แผนทีก่ ำรอำ่ น แนวคิดในกำรจดั กจิ กรรม การอ่านเปน็ กระบวนการทางจิตใจที่ทรงพลงั การอา่ นต่างจากการนั่งอยู่หนา้ กล่องสเี่ หลีย่ มเบาปัญญา (ทีวี) เพราะการอ่านทาให้ได้ใช้สมอง ระหว่างท่ีอ่านหนังสือจะถูกผลักดันให้ค้นหาเหตุผลให้กับสรรพสิ่งที่คุณ ไมค่ ุ้นเคย ภายใต้กระบวนการนี้จะต้องใช้กลุ่มเซลล์สเี ทาในสมองในการใช้ความคดิ ซึ่งจะชว่ ยเพิ่มพนู สติปัญญา ได้เรียนรู้กับศัพท์ใหม่ๆจานวนมากซึ่งไม่อาจพบได้จากวิธีอื่น ช่วยให้ความจาดีขึ้น ช่วยพัฒนาความคิด สร้างสรรคซ์ ง่ึ จะไปชว่ ยจดุ ประกายแห่งการสร้างนวตั กรรมข้นึ ดังนั้นเพ่อื จัดเก็บข้อมลู ในการอา่ นให้เปน็ ระบบ และสามารถนามาใช้ในเวลาท่ีต้องการได้ จึงควรมีการบันทึกช่วยจา ซึ่งในกิจกรรมนี้ได้นาแนวคิด เทคนิค การทาแผนท่คี วามคิด Mind map มาใชใ้ นการอ่านและการเรยี นรู้ วัตถปุ ระสงค์ ๑. เพ่ือใหก้ ารอา่ นและการเรยี นรู้เป็นเร่อื งสนุกสนาน มีชีวติ ชีวา ๒. เพอ่ื ส่งเสริมใหเ้ กดิ ทักษะในการอา่ น คิด วิเคราะห์ และเขียน ขน้ั ตอนกำรจดั กจิ กรรม ๑. บรรณารกั ษ์จัดแสดงหนงั สือทีน่ า่ สนใจเหมาะสมกับระยะเวลาในการทา ๒. ประชมุ ชแ้ี จงกับครูผู้สอนเพอ่ื ประชาสัมพนั ธ์เชญิ ชวนร่วมกจิ กรรม ๓. อธบิ ายการทาแผนที่ความคิดอยา่ งง่าย โดยยกตัวอย่างประกอบ ๔. ใหผ้ ู้เขา้ รว่ มกิจกรรมคดั เลอื กหนงั สือท่ีจัดแสดงมาคนละ ๑ เล่มตามความสนใจ ๕. ผู้เข้าร่วมกิจกรรมอ่านหนังสือและรวบรวมความรู้ที่ได้ออกมาในรูปแบบแผนที่ความคิดลงบน แผน่ กระดาษบรฟู๊ ๖. คัดเลือกผลงานเพ่ือนาเสนอเปน็ ตัวอย่าง ๗. ผูจ้ ัดกิจกรรมสรปุ องค์ความรทู้ ่ไี ด้จากการทากจิ กรรม วสั ดอุ ุปกรณ์ ๑. ปากกาสี อย่างน้อย สามสี ๒. สมุดวาดเขยี นหรือกระดาษ A4 ทีไ่ ม่มเี ส้น ๓. ดินสอไวว้ าดภาพ หรือร่างภาพทจ่ี ะวาด ๔. กระดาษโรตี หรือท่เี รียกว่า กระดาษ ปรู๊ฟ (proof) ไว้ใชใ้ นกรณรี ะดมสมองการประชมุ กลมุ่ กำรวัดผลประเมินผล ๑. ประเมินผลจากช้ินงาน ๒. ประเมนิ ผลจากการมสี ว่ นรว่ มในกิจกรรม ๒
กิจกรรมที่ ๒ E-book ปลกุ นักอำ่ น แนวคิดในกำรจดั กจิ กรรม ปัจจุบันการอ่านหนังสือ การเข้าห้องสมุดเพื่ออ่านหนังสือ หรือแม้กระทั่งการเข้าร้านหนังสือ เพ่ือที่จะซ้ือหนังสือมาอ่าน อาจดูจะเป็นเรื่องที่ไกลตัว ด้วยความทันสมัยของเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต โทรศัพท์มือถือ ผนวกกับระบบสัญญาณอินเทอร์เน็ตที่รวดเร็ว ส่งผลให้การเรียนรู้ การอ่าน การค้นคว้าผ่าน เทคโนโลยีดงั กล่าว จึงเปน็ ไปอยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพ รวดเรว็ ตรงตอ่ ความต้องการ ดงั นั้น การปรบั เปลยี่ นรปู แบบ การส่งเสรมิ การอ่าน การยมื -คนื และค้นควา้ ความรูไ้ ด้ด้วยการสแกน QR code บน Smart phone กส็ ามารถ ยืม-คืนหนังสือได้อย่างสะดวก และง่ายดาย รวมทั้งการอ่านหนังสือ บทความ สารคดีต่างๆ และการค้นคว้า ข้อมูลต่างๆ ได้บน Smart phone โดยไม่ต้องใช้คอมพิวเตอร์ ทาให้ง่าย สะดวก รวดเร็ว และสามารถนาไป อา่ น หรอื นั่งท่ไี หนก็ไดต้ ามแต่ใจนึก วตั ถุประสงค์ ๑. เพอื่ สร้างเครอื ข่ายสังคมการอ่าน ๒. เพ่ือขยาย เพิ่มช่องทางบรกิ ารการอ่านให้มากข้นึ และสะดวกขน้ึ ข้ันตอนกำรจดั กจิ กรรม ๑. จดั หาหนงั สอื เพือ่ นามาทาเปน็ E-Book ๒. จัดทาQR code E-Bookแตล่ ะเลม่ ๓. จดั Display E-Bookและข้นั ตอนการอ่าน ๔. ประชาสัมพนั ธ์ผา่ นเฟซบุ๊ค ไลน์ และเพจของห้องสมุดฯ ๕. จดั ทาขนั้ ตอนแนะนาการใช้ QR code วสั ดอุ ุปกรณ์ แท็บเลต็ / สมาร์ทโฟน กำรวัดผลประเมินผล ๑. สังเกตจากความสนใจ ๒. จากแบบสอบถามความพงึ พอใจ ๓. จากสถิตกิ ารใช้บริการ ๓
กจิ กรรมท่ี ๓ วนั เดียวเที่ยวห้องสมุด แนวคิดในกำรจัดกจิ กรรม ห้องสมุดเป็นแหล่งการเรียนรู้ทีม่ ีความสาคญั และเป็นหวั ใจหลักของการศึกษาตามอธั ยาศยั ซึง่ หอ้ งสมุด มีภารกิจหลักในการสนับสนุนและส่งเสริมให้ เด็ก เยาวชน ประชาชนได้ค้นคว้าหาความรู้เพิ่มเติมด้วยตนเอง ในปัจจุบันสารสนเทศที่มีไว้ให้ศึกษาค้นคว้ามีรูปแบบที่หลากหลายได้แก่ สิ่งพิมพ์ ส่ือโสตทัศน์ ส่ือ อิเล็กทรอนิกส์ ฐานข้อมูลออนไลน์ฯลฯ และห้องสมุดได้ให้บริการต่างๆ เช่น บริการยืม – คืนทรัพยากร สารสนเทศ บริการยืมระหว่างห้องสมุด เป็นต้น ท้ังน้ีการใช้บริการของห้องสมุดและสารสนเทศในการศึกษา ค้นคว้าได้อย่างมปี ระสิทธิภาพนน้ั ผู้ใช้บริการควรจะได้รับคาแนะนาการใช้ห้องสมดุ วตั ถุประสงค์ ๑. เพ่ือให้ผู้ใช้มีความรู้ความเข้าใจในการเข้าถึงแหล่งสารสนเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพและตรงกับ ความตอ้ งการ ๒. เพ่ือแนะนาห้องสมุดและบรกิ ารตา่ งๆ ท่ีมใี ห้บรกิ าร ขน้ั ตอนกำรจัดกิจกรรม ๑. บรรณารกั ษ์จดั เตรียมสถานที่ วสั ดุอปุ กรณ์ แผน่ พับแนะนาการใช้หอ้ งสมุด ๒. ผู้จัดกิจกรรมแนะนากิจกรรม พร้อมบรรยายให้ความรู้เก่ียวกับห้องสมุดประกอบใบความรู้ พอสงั เขป ๓. บรรณารกั ษใ์ หผ้ ู้เขา้ รว่ มกจิ กรรมทาแบบทดสอบก่อนเรยี น เพือ่ วดั ความรู้ ๔. บรรณารักษ์ทดสอบความรู้ความเข้าใจของผู้เข้าร่วมกิจกรรมโดยใช้เกมส์ออนไลน์ ผ่านใน Application Kahoot game ๕. บรรณารักษส์ รปุ ความรแู้ ละแนะนามุมต่างๆ ในห้องสมดุ วสั ดุอุปกรณ์ ๑. ใบความรู้ ๒. ใบงาน/แบบทดสอบ กำรวัดผลประเมนิ ผล ๑. จากคะแนนทดสอบก่อนเรียน ๒. จากแบบสอบถามความพงึ พอใจ ๓. จากคะแนนการเล่นเกมส์ออนไลน์ Kahoot game ๔
แบบทดสอบ ๑. แหลง่ รวบรวมวสั ดุสารนิเทศทกุ ประเภทโดยมีการบริหารและการจดั การอย่างเปน็ ระบบมีบรรณารกั ษเ์ ปน็ ผ้ดู าเนินงาน ก. แหล่งเรยี นรู้ ข. ห้องโสตทัศนศึกษา ค. หอ้ งสมดุ ง. หอจดหมายเหตุ ๒. วัตถุประสงค์หลกั ของห้องสมดุ โรงเรยี นคือ ก. เพอ่ื การค้นควา้ วจิ ัย ข. เพื่อการพักผอ่ นหย่อนใจ ค. เพ่ือความจรรโลงใจ ง. เพ่อื ส่งเสรมิ นิสัยรกั การอ่าน ๓. การบรกิ ารของห้องสมุดในข้อใดเปน็ การบริการพืน้ ฐานของห้องสมุดทุกประเภท ก. บรกิ ารการอ่าน ข. บริการยมื -คืน ค. บรกิ ารถา่ ยสาเนาสง่ิ พิมพ์ ง. บริการฐานข้อมลู ๔. แหล่งเรยี นรู้ หมายถึงขอ้ ใด ก. สถานทใ่ี ห้ความร้ตู ามอัธยาศยั ข. แหลง่ ค้นคว้าเพื่อประโยชนใ์ นการพฒั นาตนเอง ค. แหลง่ รวบรวมความรู้และข้อมลู เฉพาะวชิ า ง. แหล่งขอ้ มลู ทส่ี ง่ เสริมให้ผเู้ รยี นแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง ๕. ถ้าต้องการหาความรู้เกี่ยวกบั โลกและดวงดาวควรไปใช้บริการแหล่งเรยี นรใู้ ด ก. ศูนย์วฒั นธรรมแหง่ ชาติ ข. ห้องสมุดมหาวทิ ยาลัย ค. เมืองโบราณ ง. ท้องฟ้าจาลอง ๖. แหล่งเรยี นรู้ใดเปน็ แหลง่ ศึกษาค้นคว้าและเรียนรเู้ ก่ยี วกับโครงงานวฎั จักรชีวติ ของกบ ก. หอ้ งสมดุ โรงเรยี น ข. บ่อเลยี้ งกบ ค. นาข้าว ง. หนอง บึง ๖
๗. ข้อใดเป็นมารยาทท่ีสาคัญท่สี ดุ ในการใชห้ ้องสมุด ก. เกบ็ หนังสือเข้าท่ที ุกครงั้ เม่ืออา่ นเสร็จแลว้ ข. ไม่สง่ เสยี งดัง รบกวนบุคคลอ่ืน ค. เดินเบา ๆ ไม่เดินกระแทกสน้ เทา้ ง. เก็บเก้าอส้ี อดไวใ้ ตโ้ ตะ๊ ทุกคร้ังเมื่อลุกจากเก้าอ้ี ๘. นักเรยี นคนใดมมี ารยาทและมคี ุณธรรมในการใชห้ อ้ งสมุด ก. เขมชาติและเพ่ือนคุยเสยี งดังในห้องสมุด ข. แอนนานาขนมเข้าไปรบั ประทานในห้องสมุด ค. เชอรี่แต่งกายไมส่ ุภาพเขา้ ไปใชบ้ รกิ ารห้องสมุด ง. เกนหลงเกบ็ เก้าอเ้ี ข้าทเ่ี รียบรอ้ ยก่อนออกจากหอ้ งสมดุ ๙. ห้องสมดุ ชว่ ยสร้างจติ สานึกที่ดตี ่อส่วนรวมแก่ผู้ใช้บรกิ ารอย่างไร ก. ชว่ ยใหผ้ ใู้ ช้มคี วามร้ทู ท่ี นั สมยั ข. ชว่ ยให้ผใู้ ช้มีนสิ ัยรกั การศกึ ษาคน้ คว้า ค. ชว่ ยให้ผู้ใชร้ ู้จกั ใชเ้ วลาวา่ งใหเ้ ป็นประโยชน์ ง. ชว่ ยให้ผ้ใู ชร้ ับรใู้ นสมบตั ิสาธารณะและใชอ้ ย่างระมัดระวัง รักษาอย่างถูกต้อง ๑๐. ข้อใดเป็นส่งิ ท่ีไม่ควรปฏิบัตใิ นการคนื หนังสอื ก. คืนตรงตามวันกาหนดส่ง ข. ถา้ ไม่เจอครูบรรณารกั ษว์ างไว้ที่โตะ๊ ทางานของครูบรรณารกั ษ์ ค. นาหนังสอื ท่ตี ้องการคนื ไปเก็บทช่ี ้นั หนงั สือ ง. ฝากเพอื่ นนามาคนื เฉลย ๑. ค. ห้องสมุด ๒. ง. เพ่ือส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน ๓. ก. บริการการอ่าน ๔. ง. แหล่งข้อมูลที่ส่งเสริมให้ผู้เรียน แสวงหา ความรู้ด้วยตนเอง ๕. ง. ท้องฟ้าจาลอง ๖. ข. บ่อเลี้ยงกบ ๗. ข. ไม่ส่งเสียงดัง รบกวนบุคคลอื่น ๘. ง. เกนหลงเก็บเก้าอี้เข้าที่เรียบร้อยก่อนออกจากห้องสมุด ๙. ง. ช่วยให้ผู้ใช้รับรู้ในสมบัติสาธารณะและใช้ อย่าง ระมดั ระวงั รักษาอย่างถูกตอ้ ง ๑๐. ค. นาหนงั สือท่ตี ้องการคืนไปเก็บท่ชี ้นั หนงั สือ ๗
กจิ กรรมท่ี ๔ อ่ำน-ดี เขยี น-โดน แนวคดิ ในกำรจดั กจิ กรรม เกมส่งเสริมการอ่าน คือ กิจกรรมอย่างหน่ึงท่ีใช้ การเล่นเกมเป็นกิจกรรม มีกระบวนการของ การเล่นเกม ช่วยให้ผู้เล่นเกมได้ฝึกทักษะการอ่านได้อย่างรวดเร็ว และช่วยทาให้ผู้เล่นเกมสนุกสนาน ได้รับทั้ง ความรู้ ความ เข้าใจจากเนื้อเร่ืองหรือเน้ือหาวิชาท่ีอ่านได้อย่างรวดเร็ว สนุกสนาน ช่วยให้เด็กได้มีพัฒนาการ ด้านความพร้อมทางร่างกายและภาษาได้รวดเร็วช่วยฝึกสมองและฝึกทักษะความจา กระตุ้นให้เด็ก อยากอ่าน เพ่ิมมากข้ึน เกมส่งเสริมการอ่านต่างๆ จะช่วย ทาให้เด็กได้รับทั้งความรู้และความเพลิดเพลิน ก่อให้เกิด ความรัก ความสามัคคี เคารพกฎกติกาต่างๆ ในการเล่นเกม อันจะนาไปสู่การ ประพฤติปฏิบัติตนให้อยู่ใน สังคมได้อยา่ งมีความสขุ วตั ถุประสงค์ เพ่อื ใหน้ กั เรยี น นกั ศึกษา ได้เตรยี มตัวอา่ น หนงั สือท่ีกาหนดไว้ เปน็ การแนะนาและส่งเสริมการอ่าน หนังสือที่ดีมปี ระโยชน์ ข้นั ตอนกำรจดั กิจกรรม ๑. บรรณารักษ์แนะนาใหน้ ักเรยี น นักศึกษา อ่านหนงั สอื ที่กาหนดชอื่ ให้ เช่น ความรดู้ า้ นภาษาไทย อาจจะเนน้ ในด้านสานวนไทยหรือ สุภาษิตไทย ๒. กาหนดเวลาอา่ น ๓. ตั้งคาถามจาก หนังสือท่ีกาหนดไว้ ต้องมีคาถามสารองเตรียมไว้ประมาณ ๕- ๑๐ ข้อ สาหรับ ผู้ตอบปัญหา เมื่อรวมคะแนนแล้วได้คะแนน เท่ากันจะต้องแข่งขันกันต่อไปอีกเพ่ือหาผู้ชนะ คาถามทุกคาถาม จะต้องมีคาเฉลยที่เตรียมไว้ ให้เรียบร้อยและถูกต้อง มีหลักฐานอ้างอิงได้ว่าค้นจากหนังสืออะไร เล่มท่ีเท่าใด และหน้าท่ีเทา่ ไหร่ เมื่อมผี ู้สงสัย ในคาตอบของปญั หาข้อหนง่ึ ข้อใด ผูต้ ้งั ปัญหาจะต้อง สามารถเปิดหน้าหนังสือ เพอ่ื ยนื ยันคาตอบไดท้ นั ที ๔. เขยี นตารางใหค้ ะแนนพร้อมคะแนนรวมบนกระดานดา วัสดุอุปกรณ์ ๑. หนงั สือ ๒. กระดาษปรู๊ฟ ๓. ปากกา / กระดาษ กำรวัดผลประเมนิ ผล ๑. สงั เกตจากความสนใจและช้นิ งาน ๒. สังเกตจากการมีส่วนร่วมในกจิ กรรม หมำยเหตุ กิจกรรมตามแนวทางน้ีเป็นตัวอย่างในการนาเกมมาจัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่าน บรรณารกั ษส์ ามารถนาไปปรับใช้ไดห้ ลากหลายรปู แบบ ๘
กจิ กรรมที่ ๕ ประดิษฐ์สนุกทุกเสำร์ – อำทิตย์ แนวคดิ ในกำรจัดกิจกรรม ในช่วงวันหยุดเรียนของเด็กและเยาวชน ควรมีกิจกรรมส่งเสริมจินตนาการ และความฝันของเด็กๆ เพ่ือเป็นการผ่อนคลาย และใช้เวลาว่างในวันหยุดให้เป็นประโยชน์ ส่งเสริมให้เด็กๆมีความคิดสร้างสรรค์ นอกจากนี้ยังเปน็ การสง่ เสริมใหเ้ ดก็ มีความสนใจและตน่ื ตัวในการเขา้ มาร่วมกจิ กรรมภายในหอ้ งสมุดเพ่ิมมากข้ึน วตั ถปุ ระสงค์ ๑. เพื่อใหเ้ ด็กและเยาวชนไดใ้ ชเ้ วลาวา่ งใหเ้ ปน็ ประโยชน์ ๒. เพ่อื เสรมิ สรา้ งจิตนาการ สร้างความสนใจ รักการอ่านมากข้นึ ๓. เพือ่ ฝึกใหเ้ ด็กมีความคดิ สร้างสรรค์ กล้าแสดงออก ข้นั ตอนกำรจดั กิจกรรม ๑. ประชาสัมพันธ์เชิญชวนเด็กท่ีเข้าใช้ห้องสมุดเข้าร่วมกิจกรรมในวันหยุดเสาร์ – อาทิตย์ โดยการแนะนาหนังสือท่ีมีเน้ือหาเก่ียวกับส่ิงประดิษฐ์ เช่น การทากระทงจากถ้วยไอศกรีม การประดิษฐ์กล่อง ของขวัญสาหรับช่วงเทศกาลการทาแป้งโดน การประดิษฐ์อุปกรณ์จากวัสดุเหลือใช้ การประดิษฐ์สมุดภาพ จากสนี ้า การประดษิ ฐ์การ์ดสวยงาม ฯลฯ ๒. จดั เตรียมวสั ดุ อปุ กรณ์ ไวใ้ นมุมเรยี นรดู้ ้วยตนเอง ๓. กาหนดกลุ่มเป้าหมายของผูเ้ ข้าร่วมกิจกรรมเพือ่ เตรียมความพร้อม ๔. บรรณารกั ษ์อธิบาย การเข้ารว่ มกิจกรรม โดยสอนวิธที าแกเ่ ดก็ ๆ พร้อมแจกอุปกรณก์ ารประดิษฐ์ ใหเ้ ด็กออกแบบ และประดิษฐ์เองตามจินตนาการ ๕. เมือ่ ประดษิ ฐเ์ สร็จให้เด็กๆนาเสนอผลงานของตนเอง พร้อมตงั้ ชอ่ื ชิน้ ผลงาน ๖. บรรณารักษ์/เจ้าหน้าที่ คัดเลือกผลงานเด่นนาแสดงบนโต๊ะผลงานเด่นและผ่านทางส่ือออนไลน์ ของหอ้ งสมดุ วัสดอุ ุปกรณ์ ๑. แผน่ พบั ขน้ั ตอนการประดษิ ฐ์ ๒. วัสดุอุปกรณ์ตามแผนการประดษิ ฐใ์ นแตล่ ะอาทิตย์ ๓. หนังสือ ส่ือ ทม่ี เี นื้อหาสัมพันธ์กัน กำรวดั ผลประเมนิ ผล สงั เกตพฤตกิ รรม เช่น เด็กๆ สามารถทาได้ และ แบบประเมินความพึงพอใจ ๙
กิจกรรมที่ ๖ เช็ค ชวน แชร์ แนวคดิ ในกำรจดั กจิ กรรม ในปัจจุบันส่ือออนไลน์ มีความจาเป็นอย่างย่ิงในการทากิจกรรม หรืองานต่างๆ เน่ืองจากเป็นส่ือ ท่ีทันสมัย และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างรวดเร็ว ห้องสมุดประชาชนจึงได้นากิจกรรมเพ่ือเป็น การประชาสัมพันธ์และการสง่ เสริมการอ่าน ฝกึ การค้นคว้าหาความรู้ และยงั สามารถรบั รางวัลไดอ้ กี ดว้ ย วตั ถปุ ระสงค์ ๑. เพือ่ ประชาสัมพันธห์ ้องสมดุ ผา่ นสอ่ื ออนไลน์ ๒. เพอื่ ฝึกใหม้ ีการคิด การค้นคว้า หาความรู้ ๓. เพอื่ สง่ เสรมิ การอ่านอยา่ งตอ่ เนอ่ื ง ข้นั ตอนกำรจัดกิจกรรม ๑. ประชาสัมพันธ์ และเชญิ ชวนผู้เข้ารว่ มกิจกรรมผา่ นสือ่ ออนไลน์ และป้ายเชิญชวนในห้องสมดุ ๒. บรรณารักษ์แนะนาการเข้าร่วมกิจกรรมเช็ค ผู้เข้าร่วมกิจกรรมเข้าไปเช็คอิน ห้องสมุดประชาชน ชวน เชิญชวนเพื่อน คนรู้จักเข้ามาร่วมกิจกรรมตอบคาถาม ผ่าน QR Code พร้อมลุ้นรับรางวัล แชร์ แชร์ กจิ กรรมผ่าน Page ห้องสมดุ ประชาชน ๔. ผ้ทู ีส่ ามารถตอบคาถามได้ถูกตอ้ ง จะได้รบั รางวลั วัสดุอุปกรณ์ ๑. รางวลั สาหรับผู้ตอบคาถาม ๒. โทรศัพท์มือถือของผเู้ ขา้ รว่ มกิจกรรม ๓. ปา้ ยเชญิ ชวนในหอ้ งสมุด กำรวดั ผลประเมนิ ผล ๑. จานวนผเู้ ชค็ อิน ๒. จานวนผตู้ อบคาถาม ๓. จากจานวนผแู้ ชร์กิจกรรมโดยตรวจสอบจากการแจ้งเตือนของ เพจห้องสมุดประชาชนฯ ๑๐
กจิ กรรมท่ี ๗ Check In มุมโปรด แนวคดิ ในกำรจัดกิจกรรม การอ่านเสริมจินตนาการให้เราได้เรียนรู้ การคิด การทา การนาไปปฏิบัติ การจัดทามุมความรู้ท่ี หลากหลาย มุ่งเน้นให้เด็ก เยาวชนและประชาชนสนใจและรักการอ่านเพิม่ มากขน้ึ วตั ถุประสงค์ ๑. เพ่ือสง่ เสรมิ และปลูกฝังนิสัยรกั การอ่านใหก้ ับเดก็ และเยาวชน ๒. เพือ่ มงุ่ เนน้ ให้เดก็ และเยาวชนไดร้ บั ความร้ทู หี่ ลากหลายดว้ ยตนเอง ขนั้ ตอนกำรจดั กิจกรรม ๑. บรรณารักษ์จัดเตรยี มมุมต่างๆ ในหอ้ งสมุดและประชาสัมพนั ธ์ทางสื่อออนไลน์ ๒. กาหนดกิจกรรมการเช็คอิน โดยใหผ้ ใู้ ชบ้ ริการยมื หนังสือและถ่ายรปู มุมโปรด ๓. แชรผ์ า่ น หนา้ เพจพร้อมรีวิวมุม ๔. สรา้ ง QR Code เพอ่ื ไวแ้ นะนาความรู้ วสั ดอุ ุปกรณ์ ๑. หนงั สอื ส่อื ๒. สมาร์ทโฟน กำรวัดผลประเมินผล ๑. จานวนผเู้ ชค็ อิน ๒. จากจานวนผู้แชร์กิจกรรมโดยตรวจสอบจากการแจ้งเตือนของเพจหอ้ งสมดุ ฯ ๑๑
กจิ กรรมที่ ๘ QR Code นิทรรศกำรควำมรู้ แนวคิดในกำรจดั กิจกรรม การนาส่ือความรู้ต่างๆเราสามารถนา QR Code มาประยุกต์ใช้ได้หลากหลายรูปแบบ ปัจจุบัน QR Code ถูกนาไปใช้ในหลายๆ ด้านเน่ืองจากความรวดเร็ว เพราะทุกวันน้ีคนส่วนใหญ่จะมีสมาร์ทโฟน กันทุกคน เราเพียงแค่ยกมือถือมาสแกน QR Code น้ันๆ บันทึกข้อมูลอยู่โดยอัตโนมัติ การอ่านเสริม จินตนาการให้เราได้เรียนรู้ การคิด การทา การนาไปปฏิบัติ การจัดทามุมความรู้ท่ีหลากหลาย มุ่งเน้นให้ เดก็ เยาวชนและประชาชนสนใจและรักการอา่ นเพิม่ มากขนึ้ วตั ถุประสงค์ ๑. เพ่ือส่งเสรมิ ความรู้ทหี่ ลากหลาย ทันสมัยและรวดเร็ว ๒. เพ่อื มุ่งเนน้ ให้เดก็ และเยาวชนไดเ้ รยี นร้ทู ่หี ลากหลายด้วยตนเอง ขน้ั ตอนกำรจัดกิจกรรม ๑. บรรณารกั ษ์สืบค้นข้อมูลความรู้ต่างๆ เกี่ยวกับวันสาคัญตามเหตุการณห์ รือประเพณที ้องถน่ิ จาก อนิ เทอรเ์ นต็ ๒. นาความรูท้ ี่ไดม้ าจดั นิทรรศการและทา QR Code เพื่อเพิ่มช่องทางในการเข้าถึงสื่อ ๓. แนะนาการใช้ QR CODE วัสดอุ ุปกรณ์ ๑. กระดาษ ๑๐๐ ปอนด์ ๒. ฟิวเจอรบ์ อร์ด ๓. สตกิ เกอร์เส้น กำรวดั ผลประเมนิ ผล ๑. ประเมนิ ผลจากแบบสอบถาม ๒. จากการพูดคยุ สอบถาม ๑๒
กจิ กรรมที่ ๙ Summer Kids For Fun แนวคิดในกำรจดั กิจกรรม การจัดกิจกรรมในชว่ งซัมเมอร์ ทาให้เด็กและเยาวชนไดใ้ ชเ้ วลาว่างใหเ้ กิดประโยชน์ พัฒนาความคิด สร้างสรรค์ ฝึกทักษะด้านต่างๆ รู้จักใช้เทคโนโลยีอย่างรู้เท่าทัน เพื่อการปรับตัวอย่างเข้าใจในส่ิงที่เกิดข้ึน ในปจั จบุ นั และการเลือกใช้ชีวติ อยา่ งเหมาะสมในอนาคต วัตถปุ ระสงค์ ๑. เพอ่ื มงุ่ เน้นใหเ้ ดก็ และเยาวชนไดเ้ รียนรทู้ ่ีหลากหลายดว้ ยตนเอง ๒. เพือ่ ส่งเสริมใหเ้ ด็กและเยาวชนใช้เวลาวา่ งใหเ้ กิดประโยชน์ ข้นั ตอนกำรจดั กิจกรรม ๑. บรรณารกั ษ์สนทนาเกยี่ วกับแหล่งเรียนรูต้ า่ งๆ แล้วเชอ่ื มโยงถงึ หอ้ งสมดุ ๒. นาเสนอหนังสอื ทีน่ ่าสนใจหรือสอดคล้องกับกิจกรรมที่จะจดั การเรียนรู้ ๓. กาหนดใหเ้ ลือกหนังสือทีน่ ่าสนใจคนละ ๑ เลม่ ๔. เดก็ อ่านหนงั สอื และวาดภาพตวั ละครที่ชอบในหนงั สือเล่มทอ่ี า่ น ๕. บรรณารกั ษ์และเด็กรว่ มกันสรุปประโยชนจ์ ากการทากิจกรรม วสั ดุอุปกรณ์ ๑. กระดาษA4 ๒. กระดาษวาดเขยี น ๓. สีนา้ สเี ทยี น สีไม้ ๔. จานสี พกู่ ัน กำรวัดผลประเมนิ ผล ๑. ประเมินผลจากแบบสอบถาม ๒. จากการสังเกต ๑๓
กจิ กรรมท่ี ๑๐ สปั ดำห์ห้องสมดุ สดุ หรรษำ แนวคดิ ในกำรจัดกิจกรรม การจัดกิจกรรมสัปดาห์ห้องสมุดสุดหรรษา เพื่อส่งเสริมให้นักเรียนมีนิสัยรักการอ่านและเห็น ความสาคัญของการแสวงหาความรู้จากการอ่าน ในการจัดกิจกรรม ประกอบด้วย กิจกรรม \"เขียนตาม คาบอก\" กิจกรรมแข่งขันเปิดพจนานุกรมและกิจกรรมหนอนหนังสือคนเก่ง (ค้นหาหนังสือ) การประกวด ทาท่ีค่ันหนังสือการประกวดถ่ายภาพห้องสมดุ หวั ขอ้ “มมุ สวยห้องสมดุ ” เปน็ ต้น วตั ถุประสงค์ ๑. เพ่ือมงุ่ เน้นใหเ้ ดก็ และเยาวชนได้เรยี นรู้ทห่ี ลากหลายดว้ ยตนเอง ๒. เพือ่ ส่งเสรมิ ให้เด็กและเยาวชนใช้เวลาว่างใหเ้ กดิ ประโยชน์ ข้นั ตอนกำรจัดกิจกรรม ๑. บรรณารักษ์สนทนาเก่ียวกับหอ้ งสมดุ และแหลง่ เรยี นรู้ ๒. แนะนามมุ ตา่ งๆ ของหอ้ งสมดุ เชน่ มุมIT มุมหนงั สืออ้างองิ ๓. จัดกิจกรรม ตัวอยา่ งดงั น้ี แขง่ ขนั เปิดพจนานกุ รม โดยแบ่งกลุม่ ๆละ ๓ คน ให้ชว่ ยกนั คน้ หาคาท่บี อกในพจนานกุ รม กิจกรรมหนังสือคนเก่ง บรรณารักษ์แนะนาการจัดหมวดหมู่หนังสือในห้องสมุด ในระบบทศนิยมของดิวอแี้ ก่ ผ้เู ขา้ ร่วมกิจกรรม พร้อมแจกใบงานใหค้ ้นหาหนังสอื ตามหมวดตา่ งๆ กิจกรรมที่ค่ันหนังสือส่ือความรู้ บรรณารักษ์สนทนาถึงความสาคัญของท่ีคั่นหนังสือ และ ให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมประดษิ ฐท์ ่ีค่นั หนังสือพร้อมเขียนคาคมต่างๆ และใหอ้ อกมานาเสนอ วสั ดุอุปกรณ์ ๑. กระดาษเอ4 ๒. ดินสอ ปากกา ยางลบ ๓. สเี ทียน สไี ม้ ๔. ทีเ่ จาะกระดาษ ๕. ไหมพรม กำรวดั ผลประเมินผล ๑.จากการมสี ว่ นร่วมในกจิ กรรม การพดู คยุ ซกั ถาม ๒.จากช้นิ งาน/ใบงาน ๑๔
กจิ กรรมท่ี ๑๑ โมบำยสร้ำงสรรค์ แนวคดิ ในกำรจดั กจิ กรรม โมบายสร้างสรรค์ ที่สามารถนามาแขวนตามจุดต่างๆ เพ่ือเพิ่มความน่ารักสดใสให้กับบรรยากาศ โดยรอบ นับว่าเป็นของตกแต่งที่สร้างสรรค์และไม่แพง อีกทั้งเรายังสามารถประดิษฐ์ได้เอง แต่ละแบบจะ ทาจากวัสดุที่หาได้ง่ายๆเช่น เศษไม้ ลวดเหล็ก กระดาษ เศษผ้า ฯลฯ ซ่ึงจะเห็นได้ว่า การทาโมบายแขวนน้ัน หลากหลายและสามารถรงั สรรค์ไดไ้ มส่ ้ินสดุ วัตถุประสงค์ ๑. เพื่อม่งุ เน้นใหเ้ ด็กและเยาวชนเกิดความคิดสรา้ งสรรค์ ๒. เพอื่ ส่งเสริมใหเ้ ด็กและเยาวชนใชเ้ วลาว่างให้เกดิ ประโยชน์ ขั้นตอนกำรจัดกจิ กรรม ๑. บรรณารักษ์สนทนาเกี่ยวกับการบริหารจัดการขยะในสถานศึกษา ชุมชนและเชื่อมโยงสู่การนา วสั ดเุ หลอื ใชม้ าทางานประดิษฐ์ ๒. บรรณารักษ์แนะนาหนังสืองานประดิษฐ์จากเศษวัสดุเหลือใช้ ๓. แบ่งกลมุ่ ผู้เข้าร่วมกิจกรรมกลุม่ ละ ๓ คนและใหป้ ระดษิ ฐ์ส่ิงประดษิ ฐ์จากเศษวัสดุ ๑ ชิน้ ตอ่ กล่มุ ๔. บรรณารกั ษ์และผู้เข้ารว่ มกจิ กรรมร่วมกันสรปุ วสั ดอุ ุปกรณ์ ๑. กระดาษสีตา่ งๆ ๒. ดินสอ ปากกา ยางลบ ๓. เศษไม้ เศษผา้ ลวด ๔. ทเี่ จาะกระดาษ ๕. ไหมพรม ๖. กรรไกร ๗. กาว กำรวัดผลประเมินผล ๑. จากการมีส่วนร่วมในกจิ กรรม การพดู คยุ ซักถาม ๒. จากช้นิ งาน/ใบงาน ๑๕
กิจกรรมท่ี ๑๒ Birthday Buffet แนวคดิ ในกำรจดั กจิ กรรม การจัดกิจกรรม Birthday Buffet เป็นการเปิดโอกาสให้เข้าถึงการเรียนรู้ที่หลากหลายน่าสนใจ ในห้องสมุด สามารถศึกษาค้นคว้าและยืมอ่านได้ไม่จากัด โดยให้ตรงกับวันเกิดของสมาชิก พัฒนาตนเอง ใหท้ ันสมยั และนาความร้ทู ไ่ี ด้มาประยุกตใ์ ชใ้ นชวี ติ ประจาวนั ได้ วัตถุประสงค์ ๑. เพื่อปลกู ฝงั นสิ ัยรักการอ่าน ๒. เพอ่ื เพ่ิมจานวนของสมาชิกและใชเ้ วลาว่างใหเ้ กดิ ประโยชน์ ขั้นตอนกำรจัดกิจกรรม ๑. เลือกสอื่ ความรู้ท่ีสนใจ ๒. ศกึ ษาค้นคว้าได้ไม่จากัด ๓. ยืมส่อื ไดห้ ลากหลาย วสั ดุอุปกรณ์ หนังสอื และสื่อ กำรวัดผลประเมินผล จากสถิตกิ ารยืมหนังสอื ๑๖
กิจกรรมที่ ๑๓ ปฎิทินคู่ควำมรู้ แนวคิดในกำรจดั กิจกรรม การจัดกิจกรรมเพื่อให้เด็กเกิดความรู้ความเข้าใจเก่ียวกับส่ิงของชนิดหนึ่งท่ีเขียน หรือพิมพ์ วัน เดือน ปี ไว้ มักจะพมิ พเ์ ป็นช่วงของเวลาในหน่ึงปีให้คนเราใช้ดู และนาไปใช้ในชวี ติ ประจาวนั ดว้ ยเพ่ือความ เข้าใจตรงกันในเรื่องวัน เดือน ปี ปฏิทินอาจจะแขวนที่ฝาผนัง ภายในห้องใดห้องหน่ึงในบ้าน ในห้องเรียน บนโต๊ะทางาน ปฏิทินจึงเป็นสิง่ ของท่ีน่าสนใจ การจัดกิจกรรมปฏิทินคู่ความรู้จงึ เปน็ การจัดกิจกรรมเสริมสรา้ ง ข้อความรู้ ความเข้าใจพ้ืนฐานเรื่องปฏิทินให้แก่เด็กได้ว่า ปฏิทินเป็นส่ิงของที่จาเป็นเพ่ือใช้ดูช่วงเวลาของ วัน เดือน ปี ซึ่งเราใช้กนั อยใู่ นชีวติ ประจาวนั วตั ถปุ ระสงค์ ๑. เพอื่ ไดเ้ รียนรู้เรื่องเวลาด้วยการใช้ปฏทิ ินเป็นเครื่องมือ ๒. เพื่อได้รับรู้ถึงการกาหนดวันสาคัญๆ ในรอบปี ของสังคมไทยที่เกี่ยวกับชาติ ศาสนา พระมหากษตั ริย์ และวันสาคญั ทางสากลโลก ขั้นตอนกำรจดั กิจกรรม ๑. บรรณารักษ์นาปฏิทินตั้งโต๊ะท่ีมีเน้ือหาสาระท่ีมีประโยชน์กับเหตุการณ์สาคัญๆ ในช่วงเวลานั้นๆ มาจัดแสดงให้ผใู้ ชบ้ รกิ ารศึกษาคน้ ควา้ ๒. จดั ทาใบงานเพ่ือให้ผูเ้ ข้ารว่ มกิจกรรมไดเ้ รยี นร้ใู นกิจกรรมปฏทิ ินความรู้ ๓. มอบของรางวัล/หรือของที่ระลกึ แกผ่ ู้เขา้ ร่วมกิจกรรม วสั ดอุ ุปกรณ์ ๑. ปฎิทินต้ังโตะ๊ ๒. สเี มจกิ ๓. ดอกไมป้ ระดับตกแตง่ ๔. กรรไกร กำรวดั ผลประเมนิ ผล ๑. จากจานวนผูเ้ ข้ารว่ มกจิ กรรม ๒. จากแบบสอบถามความพงึ พอใจ ๑๗
กจิ กรรมที่ ๑๔ หนงั สอื นี้ดีเพ่ือแม่ แนวคดิ ในกำรจัดกิจกรรม วันแม่แห่งชาติ ตรงกับวันที่ ๑๒ สิงหาคมของทุกปี กิจกรรม “หนังสือน้ี ดีเพ่ือแม่” เป็นส่งเสริม ให้ผู้ใช้บริการระลึกถึงถึงพระคุณของแม่ เกิดความรัก ความผูกพันระหว่างแม่กับลูก โดยจัดเตรียมหนังสือ สาหรับให้ผู้ใช้บริการยืมกลับไปให้คุณแม่อ่าน รวมท้ังจัดมุม สาหรับให้ผู้ใช้บริการเขียนคาบอกรักแม่ และ เตรียมไปรษณียบัตรสาหรับให้ผู้ใช้บริการเขียนข้อความบอกรักโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพ่ือเปิดโอกาส ให้ผู้ใช้บรกิ ารได้แสดงความรู้สกึ ทีม่ ตี ่อแม่ วัตถุประสงค์ ๑. เพื่อใหป้ ระชาชนทั่วไป ได้ร้สู ึกและเห็นความสาคญั และสานกึ บุญคณุ ของวันแม่ ๒. เพื่อใหป้ ระชาชนทั่วไปไดเ้ ขา้ มามีส่วนรว่ มกบั กจิ กรรมของหอ้ งสมดุ ขน้ั ตอนกำรดำเนนิ กจิ กรรม ๑. จัดแสดงหนงั สอื ทนี่ า่ สนใจเกย่ี วกับพระคุณของแม่ ๒. ประชาสมั พนั ธ์กิจกรรมแก่บคุ คลท่ัวไปใหร้ บั ทราบ ๓. จดั มุมสาหรบั ให้เขียนคาบอกรกั แม่ ๔. ประเมนิ ผลการจัดกจิ กรรม วสั ดุอุปกรณ์ ๑. หนงั สือเกีย่ วกับแม่ ๒. สีเมจิก ๓. ดอกไมป้ ระดบั ตกแตง่ ๔. กรรไกร ๕. ไปรษณียบตั ร ๖. ฟิวเจอรบ์ อร์ด ๗. กระดาษสี กำรวัดผลประเมินผล ๑. จากจานวนผรู้ ่วมกิจกรรม ๒. จากแบบสอบถามความพงึ พอใจ หมำยเหตุ สามารถปรับเปลี่ยนกิจกรรมตามวนั สาคัญไดต้ ามความเหมาะสม เชน่ วันพอ่ วนั ครู เป็นตน้ ๑๘
กจิ กรรมท่ี ๑๕ อำวโุ ส OK แนวคดิ ในกำรจดั กิจกรรม ผสู้ งู อายุ เปน็ กลมุ่ คนที่มีเวลาว่าง และจานวนมากยงั คงเป็นผทู้ ่ีสนใจในการแสวงหาความรู้ หอ้ งสมุด ประชาชน จึงเป็นสถานท่ีสาคัญแห่งหนึ่งสาหรับกลุ่มผู้สูงอายุ ในการพบปะสังสรรค์ และการร่วมทากิจกรรม ร่วมกนั และเปน็ การใชเ้ วลาวา่ งให้เกดิ ประโยชน์ ซ่งึ ผ้สู ูงอายบุ างคน ยงั มคี วามสามารถในดา้ นต่างๆ ท่สี ามารถ นามาแลกเปล่ยี นเรยี นรรู้ ่วมกันโดยหอ้ งสมุดสามารถจัดสรรพน้ื ท่ีหรือมุมสาหรบั ผู้สูงอายุได้เข้ามาใช้ประโยชน์ได้ วตั ถปุ ระสงค์ ๑. เพ่ือส่งเสริมให้กลุ่มผู้สูงอายุมีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมของห้องสมุด มีพื้นท่ีได้แสดง ความสามารถ และถ่ายทอดประสบการณ์รว่ มกัน ๒. เพื่อเปน็ การส่งเสรมิ การอ่านในกลุ่มผูส้ งู อายุ โดยผา่ นกจิ กรรมต่างๆ ๓. เพอื่ ใหก้ ลมุ่ ผู้สูงอายุไดใ้ ชเ้ วลาว่างใหเ้ ป็นประโยชน์ร่วมกัน ขั้นตอนกำรดำเนนิ กิจกรรม ๑. จดั มุม หรือพืน้ ท่ีสาหรับผสู้ ูงอายุ และใหม้ ีนิทรรศการ หนังสอื ทเ่ี ป็นประโยชน์แกผ่ สู้ ูงอายุ ๒. ประชาสัมพนั ธ์กิจกรรม/รับสมคั รผู้สงู อายุที่สนใจ ๓. กิจกรรมทน่ี ามาจดั สลบั สบั เปล่ยี นกันไปตามความเหมาะสมเชน่ ๑ครงั้ /สัปดาห์ หรือ๑คร้งั /เดือน รูปแบบกจิ กรรม - แนะนาหนงั สอื เพื่อสุขภาพ พร้อมทงั้ จดั วทิ ยากรดา้ นสุขภาพมาใหค้ วามรู้ - การประดิษฐ์ของใช้เพื่อสขุ ภาพ เชน่ พิมเสน การบรู หรือ ประดิษฐ์เหรยี ญโปรยทาน เป็นตน้ - การแนะนาการออกกาลงั กาย หรือโภชนาการสาหรบั ผูส้ ูงอายุ - การร้องเพลง เต้นรา กำรวดั ผลประเมนิ ผล ๑. จากจานวนผรู้ ว่ มกจิ กรรม ๒. จากแบบสอบถามความพึงพอใจ ๑๙
กิจกรรมท่ี ๑๖ คำขวัญชวนอำ่ น แนวคดิ ในกำรจดั กิจกรรม บทความ คติพจน์ หรือ คาขวัญ เป็นส่ิงหนึ่งที่สามารถสร้างแรงบันดาลใจ และจูงใจในการส่งเสริม การอ่าน ซึ่งการใช้ถ้อยคาท่ีสละสลวย การใช้ภาษาท่ีอ่านง่าย ตีความได้ง่าย จะเป็นส่ิงดึงดูดแก่ผู้ท่ีมาพบเห็น ดงั นนั้ จงึ ไดน้ ากจิ กรรมการแต่งคาขวญั เพื่อเชญิ ชวนบคุ คลท่ัวไปใหม้ คี วามสนใจในการอา่ น ซง่ึ ทาใหผ้ ้คู ิดนนั้ ได้ ใช้ทักษะทางด้านภาษาเพม่ิ มากขึ้น วตั ถปุ ระสงค์ ๑. เพอื่ ใหผ้ เู้ ข้ารว่ มกิจกรรมได้ฝกึ ทักษะทางดา้ นภาษา ๒. เพื่อดึงดูดความสนใจในการส่งเสริมการอา่ น ขั้นตอนกำรดำเนินกิจกรรม ๑. ประชาสัมพันธเ์ ชญิ ชวนนกั เรยี น นักศึกษา และบุคคลทว่ั ไปส่งคาขวัญชวนอ่านเข้ารว่ มประกวด ๒. แต่งตัง้ คณะกรรมการพจิ ารณาคดั เลอื ก ๓. กาหนดระยะเวลาการส่งคาขวญั เขา้ ประกวด ๔. เมอ่ื ไดผ้ ชู้ นะแล้ว นาคาขวญั นั้น ประชาสมั พันธ์ตดิ บอรด์ หรือเปน็ ขอ้ ความในห้องสมดุ ๕. มอบรางวัลแก่ผชู้ นะการประกวด และประชาสัมพนั ธผ์ ่านสือ่ ออนไลน์ วัสดุอุปกรณ์ รางวลั สาหรบั ผู้ชนะการประกวด กำรวดั ผลประเมินผล ๑. จากจานวนผู้รว่ มกจิ กรรม ๒. จากแบบสอบถามความพงึ พอใจ ๒๐
กจิ กรรมท่ี ๑๗ คำรำโอเกะพำเพลนิ แนวคิดในกำรจดั กิจกรรม การจัดกิจกรรมการส่งเสริมการอ่าน โดยนาความบันเทิง ดนตรีเข้ามามีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรม สามารถสร้างความน่าสนใจและความสนุกสนามให้กับผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้เป็นอย่างมาก นอกจากจะสร้าง ความสนกุ สนานแลว้ ผู้เข้ารว่ มกิจกรรมสามารถฝกึ การอ่าน การออกเสยี งได้อย่างถกู ต้องอีกดว้ ย วัตถปุ ระสงค์ ๑. ผูเ้ ข้ารว่ มกิจกรรมสามารถอ่านคาไดถ้ ูกต้อง ๒. ผเู้ ข้าร่วมกิจกรรมไดร้ ับความรแู้ ละความบันเทิง สร้างความเพลนิ เพลนิ สนุกสนานจากการฟังและ การอา่ น ขนั้ ตอนกำรดำเนนิ กิจกรรม ๑. ให้ผเู้ ขา้ ร่วมกจิ กรรมฟงั เพลงจากเครื่องเลน่ คาราโอเกะ ๒. ผู้เข้าร่วมกิจกรรมร่วมกันอ่านเน้ือเพลงจากเคร่ืองเล่นคาราโอเกะ ๓. บรรณารักษ์ เจ้าหน้าท่ี เปิดเพลงคาราโอเกะให้ผ้เู ขา้ รว่ มกจิ กรรมร้องพร้อมกนั ๔. ผู้เขา้ ร่วมกิจกรรมสรุปข้อคิดทไ่ี ด้จากเพลง วสั ดุอุปกรณ์ ๑. โนต๊ บุ๊คทล่ี งโปรแกรมคาราโอเกะเรียบร้อยแล้ว ๒. ใบงาน เตมิ คาในชอ่ งวา่ งเน้ือเพลง ๓. ไมโครโฟน กำรวัดผลประเมนิ ผล ๑. สงั เกตจากการมีสว่ นรว่ มในกจิ กรรมว่า สามารถอ่านได้ถูกต้อง ๒. จากแบบสอบถามความพงึ พอใจ ๒๑
กิจกรรมที่ ๑๘ ลดเวลำเรียน เพมิ่ เวลำรู้ แนวคดิ ในกำรจดั กิจกรรม ตามที่กระทรวงศึกษาธิการมีนโยบายให้สถานศึกษาในระดับช้ันประถมศึกษาและมัธยมศึกษา ตอนต้น ให้ดาเนินการจัดกิจกรรม “ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้” ให้กับเด็ก เพ่ือส่งเสริมและเปิดโอกาสให้เด็กได้ สร้างความรู้และพัฒนาทักษะสาคัญท่ีจาเป็นต่อการดารงชีวิตในอนาคตให้มีคุณภาพ กิจกรรมลดเวลาเรียน เพ่ิมเวลารู้ เป็นกิจกรรมสร้างสรรค์ท่ีสามารถจัดได้อย่างหลากหลาย เพื่อช่วยเพ่ิมพูนทักษะ การคิดวิเคราะห์ ความมนี า้ ใจต่อกนั การทางานเปน็ ทมี และกระตุ้นให้เด็กไดค้ ้นหาศกั ยภาพและความชอบของตนเอง วตั ถปุ ระสงค์ เพื่อเพิ่มโอกาสให้เด็กเกิดการเรียนรู้ผ่านการลงมือปฏิบัติจริง มีประสบการณ์ตรง คิดวิเคราะห์ ทางานเป็นทีม และเรียนรู้ด้วยตนเองอย่างมีความสุขจากกิจกรรมสร้างสรรค์ท่ีหลากหลายแหล่งข้อมูลที่ครูได้ จัดประสบการณ์ให้เพือ่ ส่งเสริมให้เกิดทักษะในการอา่ น คิด วเิ คราะห์ และเขยี น ขน้ั ตอนกำรจัดกจิ กรรม ๑. ประชมุ หารือกับครูผรู้ บั ผิดชอบถึงความตอ้ งการในแต่ละครงั้ ที่นาเด็กมาทากิจกรรม ๒. จดั ทาตารางการเข้าเรียนรู้/ทากิจกรรมในหอ้ งสมดุ ๓. จดั เตรยี มส่อื ใบงาน วสั ดุอุปกรณ์ สถานที่ ให้เหมาะสมกับจานวนเด็ก ๔. อธิบายขั้นตอนการร่วมกจิ กรรม ๕. ให้เดก็ สรปุ ผลทีไ่ ด้รบั ในวันน้ี วสั ดุอุปกรณ์ ๑. ปากกาสี อยา่ งน้อย สามสี/ดินสอสี ๒. สมุดวาดเขียนหรอื กระดาษ A4 ที่ไม่มีเส้น ๓. ดินสอไวว้ าดภาพ หรือร่างภาพท่จี ะวาด ๔. กระดาษโรตี หรือที่เรยี กวา่ กระดาษ ปรู๊ฟ (proof) ไวใ้ ช้ในกรณรี ะดมสมองการประชุมกลุม่ ๕. กระดาษสีสองหนา้ /หน้าเดียว ๖. กาว กำรวัดผลประเมินผล ๑. สงั เกตจากการมีสว่ นรว่ มในกิจกรรม ๒. จากแบบสอบถามความพึงพอใจ ๒๒
กิจกรรมที่ ๑๙ พำนอ้ งท่องโลก AR แนวคดิ ในกำรจัดกิจกรรม ในปัจจุบันเทคโนโลยีที่ผสานโลกแห่งความจริง รวมเข้ากับโลกเสมือนจริงท่ีถูกสร้างข้ึน โดยผ่าน อุปกรณ์ต่างๆ เช่น กล้องมือถือ, คอมพิวเตอร์, แว่น โดยจะแสดงผลผ่านแอพพลิเคชน่ั ที่ใช้ AR โดยเฉพาะภาพ ที่ปรากฏ จะเป็นภาพเหมือนจริงแบบสามมิติ และ๓๖๐ องศา ซึ่งในนี้ถูกรวมเข้าไปเป็นส่วนหน่ึงในกิจกรรม ประจาวัน มีการนาไปประยุกต์ใช้ควบคู่กับหนังสือ เพื่อกระตุ้นให้เด็ก ๆ เกิดการเรียนรู้ และสนุกกับการอ่าน มากย่ิงขึ้น จากหนังสือธรรมดาก็กลายมาเป็นหนังสือมีชีวิต ที่มีท้ังภาพเคล่ือนไหวแบบ ๓ มิติ และเสียงเพ่ิม ความน่าสนใจให้เด็กๆ ในการอ่านมากย่ิงขึ้นซึ่งจะทาให้เด็กๆ สนุกสนานเพลิดเพลิน เสริมสร้างพัฒนาการทาง สมองให้กับเด็กวยั เรียนรไู้ ดเ้ ป็นอย่างดี วัตถุประสงค์ ๑. เพอ่ื สรา้ งสรรค์รูปแบบการอา่ นในยคุ ๔.๐ ๒. เพื่อกระตุ้น ปลุกการอ่านของเดก็ ขัน้ ตอนกำรจัดกจิ กรรม ๑. จัดเตรยี มหนังสือทห่ี นังสือ AR ๒. TABLET/สมารท์ โฟน พร้อมโหลดแอพพลิเคชนั่ สาหรบั การอา่ นในห้องสมุด ๓. จัด Display หนังสอื และแนะนาการอา่ นหนังสือ ๔. ประชาสมั พันธผ์ ่านเฟซบคุ๊ ไลน์ และเพจของห้องสมุดฯ วัสดุอุปกรณ์ ๑. แท็บเล็ต / สมารท์ โฟน ๒. ภาพระบายสี ๓ มิติ ๓. ดนิ สอสี กำรวัดผลประเมินผล ๑. สังเกตจากการมสี ว่ นรว่ มในกจิ กรรม ๒. จากแบบสอบถามความพึงพอใจ ๒๓
กิจกรรมท่ี ๒๐ ภำษิตซ่ำส์ ท้ำเซยี น แนวคดิ ในกำรจดั กิจกรรม สำนวน สุภำษิตไทย รวมถึงคำพังเพยนั้น นิยมใช้กันมาอย่างยาวนานและแพร่หลาย เกิดจาก พฤติกรรมการใช้ชีวิตประจาวันของผู้คนท่ีทาให้เกิดเหตุการณ์ต่าง ๆ ข้ึน ท้ังทางดีและทางร้าย จนมีการนา สิ่งท่ีเกิดข้ึนมาเรียบเรียงถ้อยคาใหม่ในเชิงสั่งสอนหรือเปรียบเทียบ จนเกิดเป็นสานวนไทย สุภาษิต คาพังเพย และสุภาษิตสานวนไทยในที่สุด ซ่ึงนามาจัดทาเป็นเกมส์ ทายคาเพื่อสร้างความสนุกสนานแก่ผู้ร่วมกิจกรรม พรอ้ มทั้งยังสอดแทรกความรู้ และคาสอนไว้ในสุภาษติ อกี ด้วย วตั ถปุ ระสงค์ ๑. เพ่อื ฝึกทักษะทางด้านภาษา พร้อมทั้งได้รบั ความรู้ความเขา้ ใจเกี่ยวกับสุภาษิตน้นั ๆ ๒. ผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้รับความรู้และความบันเทิง สร้างความเพลินเพลินสนุกสนานจากการทา กจิ กรรม ข้ันตอนกำรดำเนนิ กิจกรรม ๑. ให้ผเู้ ขา้ รว่ มกิจกรรมแบง่ กลุ่มๆละ ๓ – ๔ คน ๒. บรรณารักษ์แจกบัตรภาพ หรือบัตรคาของ สภุ าษติ สานวน คาพงั เพย ๓. ให้ผู้รว่ มกิจกรรมตอบคาถาม หรือเติมคาจากภาพคาถาม ๔. ใหร้ างวัลแก่ผูต้ อบถกู ทงั้ หมด วัสดอุ ุปกรณ์ ๑. บัตรภาพ พร้อมอธบิ ายความความ ๒. บัตรคาตอบ ๓. รางวัล กำรวดั ผลประเมนิ ผล ๑. สงั เกตจากการมสี ่วนร่วมในกิจกรรม/การตอบคาถาม ๒. จากแบบสอบถามความพึงพอใจ ๒๔
แนวทำงที่ ๒ กำรจัดกจิ กรรมส่งเสรมิ กำรอ่ำนในบ้ำนหนังสือชุมชน บ้านหนังสือชุมชน เป็นบ้านท่ีจัดตั้งข้ึน ตามยุทธศาสตร์และจุดเน้นการดาเนินงาน สานักงาน กศน. ข้อที่ ๓ จัดการศึกษาส่งเสริมการเรียนรู้ทุกช่วงวัย และมีคุณภาพ มุ่งเน้นการส่งเสริมให้เกิดชุมชนรักการอ่าน “สร้างการอ่านเสริมการเรียนรู้” ในรูปแบบหมู่บ้านแห่งการอ่าน อาสาสมัครส่งเสริมการอ่าน บ้านหนังสือ ชุมชน เพ่ือให้ส่งเสริมการศึกษาตลอดชีวิตแก่ประชาชนที่อยู่ห่างไกล ได้มีความรู้ทันโลกทันเหตุการณ์และ การพัฒนาตนเองให้มีคุณภาพ โดยกาหนดวตั ถปุ ระสงค์ กล่มุ เป้าหมาย วิธีการดาเนนิ งาน ตวั ชว้ี ัดความสาเรจ็ วัตถุประสงค์ ๑. เพือ่ สง่ เสรมิ ใหป้ ระชาชนในชมุ ชนมโี อกาสเข้าถึงสอ่ื ท่ีหลากหลาย ไดง้ ่ายข้นึ ทนั ขา่ วทนั เหตกุ ารณ์ ๒. เพอื่ สง่ เสรมิ ให้ประชาชนใชเ้ วลาว่างให้เป็นประโยชน์และมีนิสัยรกั การอา่ น ๓. เพอ่ื ส่งเสรมิ การเรียนรู้ ฝึกทกั ษะการอา่ น ของประชาชนในชุมชน ใหอ้ า่ นได้ อา่ นคลอ่ งข้นึ กลุ่มเปำ้ หมำย ๑. เด็กและเยาวชน ๒. นักเรียน นักศึกษา ๓. ประชาชนทว่ั ไป วธิ ดี ำเนินกำร ๑. จัดคัดเลือกสถานที่ที่เป็นศูนย์กลางของหมู่บ้าน อาทิเช่น โรงพยาบาล ร้านกาแฟ ร้านอาหาร สหกรณช์ มุ ชน ศาลาเอนกประสงค์ ๒. จดั หาหนังสอื ที่หลากหลายทุกประเภท เหมาะสมกบั ทกุ เพศ ชว่ งอายุ อาชีพ ๓. จัดหาหนังสือพิมพร์ ายวันนติ ยสารรายปักษ์ รายสัปดาห์ ทีก่ ลุ่มเป้าหมายใหค้ วามสนใจ ๔. จัดหนังสือลงบา้ นหนงั สอื ชมุ ชน ๕. กศน.อาเภอ จัดประชุมเจ้าบ้านเพ่ือชี้แจงรูปแบบการดาเนินงานส่งเสริมการอ่านในบ้านหนังสือ ชุมชน และให้บุคลากรของ กศน.อาเภอ เข้าไปช่วยจัดมุมหนังสือในบ้านหนังสอื ชุมชน และควรนากิจกรรมไป จดั ที่บ้านหนังสอื ชุมชน ๖. ครู กศน.ตาบล ควรเขา้ รว่ มประชุมประจาเดือนกับผใู้ หญบ่ ้าน ๗. ดาเนนิ การจดั กิจกรรมกจิ กรรม ๘. รายงานผลการดาเนินงานใหส้ ถานศกึ ษาทราบทุกเดือน กิจกรรมส่งเสริมการอ่านที่จัดในบ้านหนังสือชุมชน สามารถจัดได้หลากหลายรูปแบบเช่นเดียวกัน ตามความสนใจและความตอ้ งการในชุมชน ตัวชีว้ ดั ควำมสำเร็จ ๑) สถานศึกษามีจานวนบ้านหนังสือชุมชนเพิ่มร้อยละ ๒๐ จากจานวนบ้านหนังสือชุมชนท่ีเปิด ใหบ้ รกิ าร ในปีงบประมาณ ๒๕๖๑ ๒) มผี ู้ใชบ้ รกิ ารในบ้านหนงั สือชมุ ชน ไมน่ อ้ ยกว่ารอ้ ยละ ๒๐ จากปีงบประมาณ ๒๕๖๑ ๒๕
กจิ กรรมที่ ๑ รกั จัง QR Code หนงั สือเล่มโปรด แนวคิดในกำรจดั กจิ กรรม ในยุคปัจจุบัน การส่งเสริมการอ่านได้มีความก้าวหน้าโดยการนาเทคโนโลยีของเคร่ืองมือสื่อสาร เข้ามาช่วยในการส่งเสริมการอ่านให้กับประชาชนที่ต้องการอ่านหนังสือเพ่ือความรู้ เพ่ือความความบันเทิง แต่ในบางครั้ง ไม่สามารถท่ีจะอ่านหนังสือในช่วงเวลาขณะนั้นได้ ดังนั้น การจัดทา QR Code หนังสือแจก ให้กับคนที่สนใจการอ่านนับว่าเป็นอีกแนวทางหนึ่งที่จะช่วยสนับสนุน ส่งเสริมให้คนในชุมชนอ่านได้ทุกท่ี ทุกเวลาตามความต้องการ วัตถปุ ระสงค์ ๑. เพือ่ ส่งเสริมนสิ ยั รักการอา่ น ๒. เพมิ่ จานวนผ้อู ่านมากขึ้น ๓. เพ่ือส่งเสริมใหป้ ระชาชนไดใ้ ช้เวลาวา่ งใหเ้ ปน็ ประโยชนจ์ ากการอา่ น ขนั้ ตอนกำรจัดกิจกรรม ๑. บรรณารกั ษ์เลือกหนังสอื เพอ่ื จดั ทา QR Code ๒. บรรณารกั ษม์ อบ QR Code ให้ผูอ้ ่าน ๓. บรรณารักษ์ติดตามผลการนาความรทู้ ไี่ ด้ไปใช้ในการประกอบอาชีพ วัสดอุ ุปกรณ์ ๑. แบบบนั ทึกตดิ ตามผลการอา่ น ๒. QR Code หนงั สอื ต่างๆ กำรวดั ผลประเมินผล ๑. จานวนผใู้ ชบ้ ริการ ๒. จากแบบสอบถามความพึงพอใจ ๒๖
กิจกรรมท่ี ๒ กระเปำ๋ ควำมรู้สู่ชมุ ชน แนวคดิ ในกำรจัดกิจกรรม การอ่านหนังสือเป็นการพัฒนาตนเอง และใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ ซึ่งเป็นส่ิงจาเป็นมากในการ พัฒนาคนและพัฒนาสังคม นอกจากน้ีการอ่านหนังสือของคนไทยเป็นกิจกรรมที่ไม่แพรห่ ลายแม้ในหมู่นักอา่ น ก็ตาม โดยเฉพาะการอ่านหนังสือท่ีดีและมีสาระยิ่งมีน้อยขึ้นไปอีก สาเหตุมีอยู่หลายประการนับต้ังแต่ การขาดแคลนหนังสือ ท่ีดีและตรงกับความต้องการของผู้อ่าน จึงได้จัดกิจกรรมกระเป๋าหนังสือสู่ชุมชน เพื่อเป็นการบริการหนังสอื สู่มอื ผู้อ่านถึงประตูบ้าน เพื่อกระตุ้นให้คนรักในการอ่านหนงั สือ มีความรู้กว้างขวาง ทันเหตุการณ์ เป็นทรัพยากรบุคคลท่ีสาคัญในการทาคณุ ประโยชนต์ ่อชาติ บ้านเมอื ง ตอ่ ไป วัตถุประสงค์ ๑. เพ่อื สง่ เสรมิ นสิ ยั รกั การอา่ นแกเ่ ยาวชน นกั ศกึ ษา และประชาชนทวั่ ไป ๒. เพ่ือสร้างความตระหนักให้แก่เยาวชน นักศึกษา และประชาชนท่ัวไป เห็นความสาคัญของ การอา่ น รักการอา่ นอยา่ งต่อเนื่อง เพ่อื นาไปสู่การใฝร่ ูต้ ลอดชีวติ ขัน้ ตอนกำรจัดกจิ กรรม ๑. ประชุมช้ีแจงอาสาสมัครส่งเสรมิ การอ่าน/บรรณารกั ษ์อาสา ๒. สอบถามความต้องการหนังสอื และส่ือจากเจ้าบ้านหรอื อาสาสมคั ร ๓. นัดพบอาสาสมัครส่งเสริมกรอ่าน/บรรณารักษ์อาสาเดือนละ ๒ คร้ัง เพ่ือหมุนเวียนหนังสือและ สือ่ ให้แก่บา้ นหนังสอื ชุมชนในตาบลเดียวกนั และระหว่างตาบล วสั ดอุ ุปกรณ์ ๑. กระเป๋าสาหรับใส่หนงั สือ ๒. หนังสอื ต่างๆ ๓. แบบสารวจความตอ้ งการหนังสอื กำรวัดผลประเมนิ ผล ๑. จานวนผใู้ ชบ้ รกิ าร ๒. จากแบบสอบถามความพงึ พอใจ ๒๗
กจิ กรรมที่ ๓ ปันกันอ่ำนสูบ่ ้ำนหนังสอื ชุมชน แนวคิดในกำรจดั กิจกรรม หนังสอื เป็นปจั จยั ท่ีสาคัญสาหรับการพฒั นาคณุ ภาพชีวิต และทักษะการเรียนรู้ในเร่ืองต่างๆ หนังสือ ดีๆ มากมายที่อยู่ในมือของผู้ที่รักการอ่านและชอบการค้นคว้า แต่ยังมีอีกหลายๆ คนในชุมชนที่ไม่มีโอกาส ในการได้อ่านหนังสือดีๆ การคิดค้นวิธีการทาให้หนังสือดีๆ เหล่าน้ีไปถึงผู้ขาดโอกาสในการเข้าถึงหนังสือดี ก็จะทาให้เกิดความคุ้มค่ามากขึ้น การแบ่งปันหนังสือดีมีคุณภาพ จะนาไปสู่การสร้างวัฒนธรรมการอ่านอย่าง กว้างขวาง และย่ังยืน การบริจาคหนังสือเป็นอีกหน่ึงกระบวนการท่ีจะทาให้คนในชุมชนได้อ่านหนังสือดี มีคณุ ภาพมากขึ้น และช่วยยกระดบั การอา่ น การเรยี นรู้ ความคิด สตปิ ญั ญา พฒั นาการด้านอ่ืนๆ อกี ทงั้ ยังเป็น การสานสัมพันธ์ของคน ในครอบครัวในการปลูกฝงั รักการอ่านให้เกิดขึ้นในทุกบา้ น และพัฒนารักการอ่านของ ประชาชน กิจกรรม” ปันกันอ่านสู่บ้านหนังสือชุมชน” เพื่อกระตุ้นและเสริมสร้างนิสัยรักการอ่านและ การแสวงหาความรู้ซ่ึงเป็นการพัฒนา คุณภาพชีวิตให้แก่ประชาชนในชุมชนให้มีนิสัยรักการอ่านเพิ่มข้ึนและ สรา้ งโอกาสในการเข้าถึงแหล่งเรยี นรูแ้ ละสง่ เสริม การเรียนรตู้ ลอดชีวติ วตั ถปุ ระสงค์ ๑. เพื่อกระตุ้นและเสรมิ สร้างนสิ ัยรกั การอ่านใหก้ ับประชาชนในชุมชนไดม้ ีโอกาสพัฒนา ทักษะการอา่ น ๒. เพื่อขอรบั บรจิ าคหนังสือดีๆ มอบให้กบั บา้ นหนงั สือชมุ ชน ๓. เพอ่ื กระตุน้ และเสริมสร้างนิสัยรกั การอ่านและการแสวงหาความรู้ใหแ้ ก่ประชาชนในชุมชน ๔. เพื่อสรา้ งโอกาสในการเขา้ ถงึ แหล่งเรียนรู้และส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชวี ติ ใหก้ บั คนในชุมชน ข้นั ตอนกำรจดั กจิ กรรม ๑. ประสานงานผูท้ ่ีมหี นังสอื ดๆี เพ่อื ขอรับบริจาค ๒. สารวจความตอ้ งการประเภทของหนงั สือของคนในชุมชน ๓. คน้ หาหนังสือดีท่ตี ้องตามความตอ้ งการของคนในชมุ ชน ๔. กระจายหนงั สือใหผ้ ทู้ ี่สนใจอา่ น ๕. ให้ผ้อู ่านหมุนเวยี นหนงั สือกนั อา่ นภายในกลุ่ม วสั ดุอุปกรณ์ ๑. หนงั สือ ๒. แบบสารวจความต้องการ ๓. แบบบนั ทึกการหมนุ เวยี นหนังสอื กำรวดั ผลประเมินผล จานวนหนังสอื ทม่ี สี ภาพดีและสามารถนาออกให้บรกิ ารได้ ๒๘
กิจกรรมท่ี ๔ ชุมชนต้นแบบรักกำรอำ่ น แนวคดิ ในกำรจดั กิจกรรม สภาพปัจจุบันคนไทยอ่านหนังสือน้อยลงทุกวัน รัฐบาลจึงได้กาหนดให้การอ่านเป็นวาระแห่งชาติ เพื่อจะส่งเสริมการอ่านให้แก่ประชาชนทุกเพศทุกวัย ห้องสมุดประชาชนในฐานะที่มีบทบาทในการส่งเสริมให้ ผู้ใช้บริการทุกเพศทุกวัยมีนิสัยรักการอ่าน จึงได้จัดกิจกรรม “ชุมชนต้นแบบรักการอ่าน” เพื่อส่งเสริมให้ ประชาชน ทุกชว่ งวยั มนี ิสัยรกั การอา่ น วตั ถปุ ระสงค์ ๑. เพื่อกระตนุ้ ให้อยากรอู้ ยากอา่ นหนังสอื หลากหลายอยา่ งต่อเน่ืองจนเป็นนสิ ัย ๒. เพอ่ื ให้ประชาชนทุกชว่ งวัยเหน็ ความสาคญั ของการอ่าน ขน้ั ตอนกำรจัดกิจกรรม ๑. ครู กศน.ตาบล และบรรณารักษ์ คัดเลือกสื่อสาหรับให้บริการบ้านหนังสือชุม ท่ีเหมาะสมกับ ผ้อู ่าน ทกุ เพศทกุ วัย เพอ่ื นาไปจัดให้บริการตามสถานทบ่ี ้านท่ีไดค้ ดั เลือกไว้ ๒. จดั ประดับตกแต่งสถานที่ให้มีความสวยงาม รม่ รนื่ จัดที่สาหรบั นั่งอ่าน จัดทาป้ายประชาสัมพันธ์ เชญิ ชวนใหป้ ระชาชนหนั มาสนใจการอา่ น และรว่ มกิจกรรม ๓. กาหนดระยะเวลาจดั ทาสมดุ สถิติลงชอ่ื ผู้เขา้ ใชบ้ รกิ าร และสมดุ สถิตผิ ้ยู มื หนังสอื กลบั ไปอา่ นที่บ้าน ๔. ประเมินผลการจัดกิจกรรมโดยการคัดเลือก “สุดยอดนักอ่าน” เพ่ือมอบประกาศเกียรติคุณบัตร และของรางวัล เดือนละ ๑ คร้ัง โดยนับจานวนคร้ังในการยืมหนังสือกลับไปอ่านท่ีบ้านจากสมุดสถิติผู้ยืม หนังสือ สัมภาษณ์เขา้ ของ และผเู้ ขา้ ใชบ้ ริการ ๕. จดั ทาป้ายประชาสัมพันธ์ “สุดยอดนักอ่านประจาเดือน” โดยมีภาพการมอบรางวลั ให้กบั สุดยอด นักอ่านทีไ่ ด้รับการคดั เลือกประจาเดอื นน้นั ๆเพ่อื ประกาศเกยี รตคิ ณุ และจุดประกายการอา่ นให้แกป่ ระชาชน ๖. สรุปรายงานผลการจัดกิจกรรม วสั ดุอุปกรณ์ ๑. สื่อต่างๆ ทม่ี คี วามเหมะสมกับทกุ เพศทุกวัย ๒. ชัน้ สาหรบั วางสอ่ื ต่างๆ ๓. วัสดอุ ปุ กรณ์สาหรับประดับตกแตง่ ปา้ ยประชาสมั พันธ์ และปา้ ยคาขวัญต่างๆ ๔. สมุดสถิตผิ ู้เข้าใช้บริการ และสมุดสถิตยิ ืม-คนื หนังสอื / บนั ทึกการอา่ น ๕. แบบวดั ผลและประเมินผล กำรวัดผลประเมนิ ผล ๑. สถติ ิผใู้ ชบ้ ริการในบา้ นหนังสือชมุ ชน ๒. จากแบบสอบถามความพึงพอใจ ๒๙
กจิ กรรมท่ี ๕ ทคี่ ่นั หนังสอื ส่ือควำมรดู้ ว้ ยคำคม แนวคิดในกำรจดั กิจกรรม การอ่านหนังสือในบางคร้ังอ่านครั้งเดียวไม่จบเล่ม ซึ่งหลายคนได้ใช้วิธีการพับหนาหนังสือไว้ ดังน้ัน หากผู้อ่านได้มีที่คั่นหนังสือไวสาหรับคั่นหนังสือโดยการประดิษฐ์ที่คั่นหนังสือเก๋ๆ ไว้สักอัน สองอันสาหรับ ตัวเองก็จะเป็นความภาคภูมิใจอีกระดับหนึ่งสาหรับการทาช้ินงานของตนเอง ดังน้ัน กิจกรรมการทาที่คั่น หนังสือส่อื ความรู้ จงึ เป็นอีกวธิ หี น่งึ ทเ่ี ปน็ สง่ิ จงู ใจใหก้ บั ประชาชนไดส้ นใจการอ่านยิง่ ข้ึน วตั ถปุ ระสงค์ ๑. เพ่ือดงึ ดูดความสนใจในการอา่ นหนงั สอื ๒. เพื่อส่งเสริมการใชเ้ วลาวา่ งใหเ้ กิดประโยชน์จากการอ่าน ขัน้ ตอนกำรจดั กิจกรรม ๑. ครูนาสนทนาถึงความสาคัญของที่คน่ั หนงั สือ ๒. นาเสนอตวั อย่างที่คน่ั หนังสือ ๓. นกั เรยี นอ่านและค้นคว้าสานวน คาคม จดลงในสมดุ บนั ทกึ ๔. นักเรยี นประดิษฐ์ท่คี ั่นหนังสอื และเขยี นสานวน คาคม ลงในท่คี น่ั หนงั สือ ๕. นาเสนอผลงานการประดิษฐท์ ีค่ ั่นหนงั สือ วัสดอุ ุปกรณ์ ๑. หนังสืองานประดิษฐต์ า่ ง ๆ ๒. หนังสือสานวน คาคม ๓. กระดาษและวัสดุอุปกรณ์ทาท่ีค่ันหนังสือ กำรวดั ผลประเมินผล ๑. ประเมินผลจากชนิ้ งาน ๒. จากแบบสอบถามความพงึ พอใจ ๓๐
กจิ กรรมที่ ๖ เกบ็ ตกจำกหนังสือพิมพ์ แนวคิดในกำรจดั กจิ กรรม หนังสือพิมพ์รายวัน ซึ่งประกอบด้วยเนื้อหาท่ีหลากหลาย เช่น ข่าวประจาวันท้ังในและต่างประเทศ ข่าวสาระความรู้ท่ัวไป การศึกษา ซ่ึงสาระเน้ือหาในหนังสือพิมพ์ ส่วนใหญ่อ่านแล้วจะท้ิง หรือนาไปช่าง กิโลขาย จึงเป็นที่น่าเสียดาย หากมีการนาสาระความรู้ต่างๆ จากหนังสือพิมพ์มาตัดรวบรวมเป็นเร่ืองๆ สามารถเป็นประโยชน์ให้กับคนอื่นๆ ท่ไี มไ่ ด้อา่ นหนังสือทุกวันได้มาก ดงั นั้น การจดั ทาเก็บตกจากหนังสือพิมพ์ จึงน่าจะมปี ระโยชนแ์ ละเพม่ิ จานวนหนงั สอื สอ่ื ให้กบั บา้ นหนังสือชุมชนได้ วัตถปุ ระสงค์ ๑. เพื่อรวบรวมขา่ วสารสาระตา่ งๆ จากหนังสือพิมพ์ในการจัดกจิ กรรมสง่ เสรมิ การอ่าน ๒. เพื่อใหป้ ระชาชนเหน็ ความสาคญั ของการอ่านและการเรียนรู้ด้วยตนเอง ขนั้ ตอนกำรจดั กจิ กรรม ๑. นาความรู้ที่ได้จากหนังสือพิมพ์ตัดแปะ ติดลงในกระดาษ A4 ตกแต่ง ให้สวยงาม พร้อมระบุ ถงึ แหลง่ ทม่ี าและรวบรวมไวเ้ ป็นหมวดหมู่ ๒. จัดทารูปเลม่ สารบัญ เพ่ือใหง้ า่ ยต่อการสบื ค้น ๓. ประชาสมั พนั ธเ์ ชิญชวนใชบ้ ริการ วสั ดุอุปกรณ์ ๑. หนังสอื พิมพ์ ๒. กระดาษ A4 ๓. กากเพชร ๔. แมค็ ๕. เทปผา้ สี กำรวดั ผลประเมนิ ผล ๑. สถิตผิ ู้ใช้บรกิ ารในบา้ นหนงั สือชุมชน ๒. จากแบบสอบถามความพึงพอใจ ๓๑
กจิ กรรมท่ี ๗ สรปุ ข่ำว เลำ่ เรื่อง แนวคดิ ในกำรจัดกจิ กรรม การรับรู้ข่าวสารที่ทันสมัย มาจากปัจจัยหลายด้าน ซึ่งเช่ือทุกคนไม่มีใครรู้ข่าวสารทุกเร่ือง ดังนั้น การสรุปข่าว การเล่าเรื่อง จากทั้งภายในและภายนอกชุมชน มาเขียนหรือพิมพ์เป็นข่าวสรุปติดแปะไว้ ท่ีบ้าน หนงั สือชมุ ชน จงึ เปน็ การส่งเสริมการอ่านให้กบั คนในชุมชนได้รบั รู้ขา่ วสารด้วยวธิ ีง่ายๆ วัตถุประสงค์ ๑. เพือ่ ส่งเสริมนิสัยรักการอ่านให้กับประชาชน ๒. เพอ่ื พฒั นาทักษะการอา่ นในใจเพื่อจับใจความสาคัญของเนือ้ หา ข้ันตอนกำรจัดกิจกรรม ๑. บรรณารักษ์เลือกบทความสั้นๆความยาวไม่เกิน ๑ หน้ากระดาษ A4 จากหนังสือพิมพ์หรือ วารสารท่ีมอี ยใู่ นบา้ นหนังสือชมุ ชนหรือหอ้ งสมดุ กศน. ตาบล ห้องสมดุ ประชาชน ๒. บรรณารกั ษ์นาบทความให้ผู้รว่ มกิจกรรอ่าน โดยการอ่านในใจใชเ้ วลาไมเ่ กิน ๑๐ นาที ๓. ให้ผู้ร่วมกิจกรรมสรุปบทความท่ีอ่านให้ได้ความท่ีกระชับและชัดเจนที่สุดเขียนลงกระดาษA4 ความยาวไมเ่ กนิ ๕ บรรทัด ๔. ใหผ้ รู้ ว่ มกจิ กรรมนาเสนอบทความทีส่ รุปแล้วของตนเองใหผ้ ู้อ่นื ได้ฟงั วัสดุอุปกรณ์ ๑. หนังสอื พิมพ์ ๒. กระดาษ กำรวดั ผลประเมนิ ผล ๑. สงั เกตจากพฤติกรรมการอ่านของผู้เข้ารว่ มกิจกรรม ๒. แบบประเมนิ ความพงึ พอใจของผรู้ ับบรกิ าร ๓๒
กจิ กรรมที่ ๘ ตน้ ไมพ้ ูดได้ แนวคดิ ในกำรจัดกจิ กรรม บ้านหนังสือชุมชนส่วนใหญ่จะมีการปลูกต้นไม้หลากหลายชนิด และต้นไม้ทุกชนิดจะมีช่ือและ สรรพคุณ คุณประโยชน์แทบทุกต้น ดังน้ัน การมีป้ายบอกชื่อต้นไม้ สรรพคุณบ่งบอกจะทาให้ประชาชนได้รจู้ กั ตน้ ไม้ดยี ิ่งข้ึน ดงั นัน้ จงึ ไดเ้ กิดแนวคิดกจิ กรรมต้นไม้พดู ได้ เพ่ือสง่ เสริมการอ่านให้กับคนในชุมชนได้รักการอ่าน มากขน้ึ วัตถุประสงค์ ๑. เพ่ือสรา้ งนิสัยรักการอ่าน ๒. เพ่ิมจานวนผ้อู า่ นมากขึน้ ๓. เพื่อสง่ เสริมใหป้ ระชาชนได้รู้จกั สรรพคุณของต้นไมแ้ ต่ละประเภทจากการอา่ น ขนั้ ตอนกำรจัดกจิ กรรม ๑. สารวจตน้ ไม้ร่วมกับเจา้ ของบา้ นหนังสือ ๒. จดั ทาป้ายชื่อต้นไม้ สรรพคุณ ตดิ ทีต่ ้นไม้ ๓. บรรณารกั ษ์,บรรณารักษ์อาสา,เจา้ ของบา้ นหนงั สือตดิ ตามผลการนาความรู้ทีไ่ ด้ไปใช้ วัสดุอุปกรณ์ ๑. แบบบันทกึ ติดตามผลการอา่ น ๒. หนังสอื เกีย่ วกับตน้ ไม้ กำรวัดผลประเมินผล ๑. แบบติดตามผล ๒. จากแบบสอบถามความพึงพอใจ ๓๓
กจิ กรรมท่ี ๙ เรียนร้ตู ำมแนวปรัชญำของเศรษฐกจิ พอเพียง แนวคิดในกำรจัดกจิ กรรม ประชาชนส่วนใหญ่ในยุคปัจจุบนั ได้มีดารงชวี ติ ความเป็นอยู่ ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของ พ่อหลวง “เดินตามรอยพ่อ อยู่อย่างพอเพียง”เพ่ือเป็นการส่งเสริมและเพิ่มพูนทักษะการใช้ชีวิตอยู่อย่าง พอเพียงให้สมบูรณ์และเต็มรูปแบบตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงให้มากยิ่งขึ้น บ้านหนังสือชุมชนก็เป็น แหล่งเรียนรอู้ ีกแห่งหนง่ึ ในการส่งเสริมการอ่านด้านปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงท่ีประชาชนสามารถเข้าไปศึกษา และเรยี นรไู้ ด้ วัตถปุ ระสงค์ ๑. เพ่ือสง่ เสริมการอ่านและการเรยี นรู้ดา้ นปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี ง ๒. เพิ่มจานวนผอู้ า่ นมากข้ึน ๓. เพื่อส่งเสริมใหป้ ระชาชนไดป้ ระกอบอาชีพเสรมิ จากการอา่ น ขนั้ ตอนกำรจัดกจิ กรรม ๑. บรรณารักษ์เลือกหนังสือเกย่ี วกับปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี งรวมทงั้ หนงั สือและส่อื แนะนาอาชีพ นาไปใหบ้ รกิ ารท่บี า้ นหนงั สือชมุ ชน ๒. บรรณารักษ์แนะนาการทาบัญชคี รัวเรอื นแก่ชาวบา้ นและเจ้าของบา้ นหนังสือชุมขน ๓. บรรณารักษแ์ นะนาตวั อยา่ งการออม การทาการเกษตรเพ่ือลดต้นทุน ๔. บรรณารักษต์ ิดตามผลการนาความรู้ทไ่ี ดไ้ ปใชใ้ นการประกอบอาชพี วัสดอุ ุปกรณ์ ๑. แบบบนั ทกึ ตดิ ตามผลการอ่าน ๒. หนงั สอื เกีย่ วกับอาชีพ กำรวัดผลประเมนิ ผล ๑. แบบตดิ ตามผล ๒. จากแบบสอบถามความพงึ พอใจ ๓๔
กิจกรรมที่ ๑๐ กำรส่งเสรมิ กำรอำ่ นผ่ำนกำรเรยี นรูภ้ มู ิปัญญำท้องถ่ิน แนวคิดในกำรจดั กิจกรรม ปัจจุบันภูมิปัญญาท้องถ่ินในชุมชนนับวันมีแต่จะสูญหายไปกับตัวบุคคล เช่น ภูมิปัญญาท้องถิ่น ด้านการรักษาโรค ภูมิปัญญาอาหารพื้นบ้าน ภูมิปัญญาตานานท้องถิ่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งนิทานท้องถิ่น ซึ่งสามารถนาไปสู่กระบวนการเรียนรู้โดยการฟัง เล่า เขียน และพูดคุยแลกเปล่ียนเรียนรู้ รวมทั้งช่วยปลูกฝัง ความรักและภูมิใจในชุมชน การส่งเสริมการอ่านผ่านการเล่านามาเขียนเป็นเรื่องราวไว้ให้คนรนุ่ หลังได้อ่านได้ เรียนรู้นับว่าเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง การบอกเล่าและเขียนเพ่ือกระตุ้นให้คนท่ัวไปเกิดความสนใจใน การอ่าน การส่งเสริมการอ่านในบ้านโดยทาให้หนังสือเป็นสภาพแวดล้อมรอบตัวตั้งแต่ยังเด็ก และมีพ่อแม่เปน็ แบบอย่างในการอา่ น วัตถปุ ระสงค์ ๑. เพื่อเปน็ การปลูกฝังนสิ ยั รกั การอ่าน ๒. เพื่อให้เหน็ ความสาคญั ของการอา่ นและการเรียนรู้ด้วยตนเอง ๓. เพื่อปลกู ฝังความรักและภมู ใิ จในชมุ ชน ขั้นตอนกำรจดั กจิ กรรม ๑. สารวจภมู ปิ ัญญาในชุมชน/ในท้องถิน่ ๒. จัดทาสาระน่ารู้ของภูมิปญั ญาท้องถ่ินโดยการนาเสนอในรูปแบบหนังสือทามือ หรอื หนังสือเล่มเลก็ เพือ่ ดึงดูดความสนใจของผ้ใู ชบ้ รกิ าร วสั ดุอุปกรณ์ วัสดสุ าหรบั ทาหนังสอื ทามือ/หนังสอื เล่มเล็ก เช่น กระดาษ A4 กระดาษสี วัสดตุ กแตง่ ต่างๆ กำรวดั ผลประเมินผล ๑. แบบติดตามผล ๒. จากแบบสอบถามความพงึ พอใจ ๓๕
กิจกรรมที่ ๑๑ อ่ำนสนุกไดป้ ระโยชน์ แนวคิดในกำรจัดกิจกรรม การอ่านหนังสือเป็นการพัฒนาตนเอง และใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ เป็นสิ่งจาเป็นในการพัฒนา คนและพัฒนาสังคม นอกจากนี้การอ่านหนังสือของคนไทยเป็นกิจกรรมท่ีไม่แพร่หลายแม้ในหมู่นักอ่านก็ตาม โดยเฉพาะการอ่านหนังสือท่ีดีและมีสาระยิ่งมีน้อยขึ้นไปอีก สาเหตุมีอยู่หลายประการนับตั้งแต่การขาดแคลน หนังสือที่ดีและตรงกับความต้องการของผู้อ่าน รวมถึงการขาดแคลนแหล่งหนังสือท่ีจะยืมอ่าน จึงได้ จัดกิจกรรม สาระน่ารู้ คู่บ้านหนงั สอื ชุมชน วตั ถุประสงค์ ๑. เพ่ือเป็นการปลูกฝังนสิ ัยรักการอ่าน ๒. เพื่อใหเ้ หน็ ความสาคัญของการอา่ นและการเรยี นรู้ด้วยตนเอง ๓. เพื่อประชาสัมพันธ์ข่าวสาร กจิ กรรมของ กศน.ผ่านบ้านหนังสือชมุ ชน ขน้ั ตอนกำรจัดกจิ กรรม ๑. สารวจสาระความรทู้ คี่ นในชมุ ชนตอ้ งอา่ น ๒. บรรณารักษ์จดั ทาสาระน่ารู้ ตามท่ีชมุ ชนต้องการ ๓. บรรณารักษ์นาสาระน่ารู้ที่ชุมชนต้องการอ่านไปติดไว้ที่บอร์ดของบ้านหนังสือชุมชน หรือทาเป็น แผ่นพบั ความรู้ วสั ดอุ ุปกรณ์ วัสดุสาหรับทาหนงั สือทามือ/หนังสือเลม่ เลก็ เชน่ กระดาษA4 กระดาษสี วัสดตุ กแต่งตา่ ง ๆ กำรวดั ผลประเมินผล ๑. แบบตดิ ตามผล ๒. จากแบบสอบถามความพึงพอใจ ๓๖
กจิ กรรมที่ ๑๒ เคำะประตบู ำ้ นรับบริจำคหนังสือนำ่ อ่ำน แนวคิดในกำรจัดกจิ กรรม การอา่ นจดั เปน็ พืน้ ฐานท่สี าคัญของการเรยี นรู้และการพัฒนาสติปัญญาของคนในสังคมไทย การอ่าน ทาให้เกิดการพัฒนาด้านสติปัญญา ความรู้ ความสามารถ พฤติกรรมและค่านิยมต่าง ๆรวมท้ังช่วยในการ เปลย่ี นแปลงการดาเนนิ ชวี ิตโดยพฒั นาไปส่สู ่งิ ที่ดที ่ีสุดของชีวิต เพ่ือเปน็ การสง่ เสรมิ การอ่านบา้ นหนงั สือชุมชน จึงจัดกิจกรรม“เคาะประตูบ้านรับบริจาคหนังสือน่าอ่าน” เป็นการปลูกฝังให้ประชาชนทุกเพศทุกวัยรู้จัก เสยี สละมอบสงิ่ ดๆี ให้แก่กนั มจี ติ อาสาในการส่งเสริมการอา่ น คดั เลือกหนงั สอื เล่มท่ีน่าอา่ นมาบรจิ าค แบ่งปนั ใหก้ บั คนในชมุ ชน วัตถุประสงค์ ๑. เพ่ือสง่ เสริมสนบั สนนุ ใหผ้ ้เู ข้าร่วมกจิ กรรมเหน็ ความสาคัญของการอา่ นและอา่ นหนังสือเพิ่มมากข้นึ ๒. ปลูกฝงั นิสัยรักการอา่ น และมีจิตอาสาในการแบ่งปนั หนงั สอื ดมี ปี ระโยชน์ให้กบั คนในชมุ ชน ขน้ั ตอนกำรจัดกิจกรรม ๑. บรรณารกั ษ์ประชุม/ชีแ้ จงเพือ่ กาหนดรปู แบบการจดั กจิ กรรม ๒. ประชาสมั พันธ์โครงการเพ่ือเชิญชวนบริจาค ๓. จัดทาตู้หรอื กลอ่ งรับบรจิ าคบริจาคหนังสอื ตามชุมชนท่ีประชุมหมูบ่ ้าน ๔. ดาเนินงานตามโครงการฯ/กจิ กรรม นาหนังสือทไี่ ดร้ บั บริจาคไปวางตามบา้ นหนงั สอื ชุมชน ๕. สรปุ ผลประเมินผลโครงการฯ/กิจกรรม วัสดอุ ุปกรณ์ ๑. ป้ายประกาศประชาสมั พันธร์ ับบรจิ าคหนังสอื ตามชมุ ชน/ที่ประชุมหมูบ่ ้าน บ้านผเู้ ขา้ ร่วมกจิ กรรม ๒. หนังสือท่ไี ด้รับบริจาค กำรวัดผลประเมินผล ๑. จานวนหนังสือท่ีไดร้ บั บริจาค ๒. จากแบบสอบถามความพงึ พอใจ ๓๗
กจิ กรรมท่ี ๑๓ อำ่ นพำเพลิน ชวนกนั อำ่ น แนวคิดในกำรจดั กจิ กรรม การสร้างนิสัยรักการอ่านให้แก่เด็กและเยาวชนเป็นเร่ืองสาคัญ เพราะการอ่านเป็นทักษะท่ีจาเป็น สาหรับการศึกษาหาความรู้ควบคู่กับทักษะอื่น การอ่านเป็นพื้นฐานท่ีสาคัญของการเรียนรู้และการพัฒนา สติปัญญาของคนในสังคม การอ่านทาให้เกิดการพัฒนาด้านสติปัญญา ความรู้ ความสามารถ พฤติกรรมและ ค่านิยมต่างๆ ดังน้ัน การอ่านหนังสือจนเกิดเป็นนิสัย จาเป็นต้องมีการปลูกฝังและชักชวนให้เกิดความสนใจ จงึ จดั กจิ กรรม “อา่ นพาเพลนิ ชวนกันอ่าน” วัตถปุ ระสงค์ ๑. เพอ่ื สนองนโยบายของรฐั บาลและสานกั งาน กศน. ๒. เพ่ือส่งเสริมสนบั สนนุ ให้ประชาชนทกุ เพศทุกวัย เป็นคนใฝร่ ู้ ใฝ่เรียน กลา้ คิด กลา้ ทา กลา้ พูด และกลา้ แสดงออก เหน็ ความสาคัญของการอา่ น และอา่ นหนังสือเพิ่มมากขึน้ ๓. เพ่ือส่งเสริมสนับสนนุ ใหบ้ ุคคลในชมุ ชนท้งั ภาคธุรกจิ องค์กร หนว่ ยงานต่างๆ เข้ามามีสว่ นร่วม ในการส่งเสริมการอ่านหนังสือและเหน็ ความสาคญั ของการอา่ น ข้ันตอนกำรจดั กิจกรรม ๑. ประชมุ /ชี้แจงเพือ่ กาหนดรูปแบบการจัดกจิ กรรม ๒. ประชาสัมพนั ธ์โครงการและประสานงานกล่มุ เปา้ หมาย ๓. จัดเตรยี มเอกสาร/วสั ดุ/อุปกรณ์ ๔. ดาเนินงานตามโครงการฯ ๑) รับสมคั รผู้เข้ารว่ มกจิ กรรม “อา่ นพาเพลิน ชวนกันอ่าน” ๒) ให้ผู้เขา้ รว่ มกิจกรรมยืมหนังสือจากบา้ นหนังสอื ชมุ ชน แลว้ ทาการจดบันทกึ การอา่ นใน เลม่ ทนี่ า่ สนใจ ๓) ผู้เขา้ รว่ มกจิ กรรมชวนคนในครอบครัว ญาติ พน่ี ้อง เพื่อนบา้ นไกลเรือนเคยี ง อา่ นหนงั สอื และจดบันทึกการอ่าน ๔) ครบเวลาทก่ี าหนดประกาศผู้เข้ารว่ มกิจกรรมดเี ด่น มอบประกาศนียบตั รและของรางวัล ๕) สรุปผลประเมนิ ผลโครงการฯ/กิจกรรม วสั ดุอุปกรณ์ ๑. สมดุ บันทึกการอา่ น ๒. ของรางวลั กำรวัดผลประเมนิ ผล ๑. จากการบันทึกในแบบบนั ทึกการอา่ น ๒. จากแบบสอบถามความพึงพอใจ ๓๘
กิจกรรมที่ ๑๔ QR Code หนงั สือน่ำอำ่ น แนวคิดในกำรจัดกจิ กรรม การจัดการศึกษาเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ทุกช่วงวัย และพัฒนาคุณภาพชีวิต มุ่งเน้นการส่งเสริมให้ เกิดชุมชนรักการอ่าน “สร้างการอ่าน เสริมการเรียนรู้” ในรูปแบบหมู่บ้าน/ชุมชนแห่งการอ่าน อาสาสมัคร ส่งเสรมิ การอ่าน บ้านหนงั สือชุมชน บรรณารกั ษอ์ าสา ชมรมห้องสมุด การส่งเสรมิ การอ่านเพ่ือสร้างสังคมแห่ง การเรียนรู้ ให้สอดรับกับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตลอดชีวิตในชุมชนในเชิงรุกที่หลากหลาย ทันสมัย สร้างสรรค์ ต่อเนื่อง ให้เป็นชุมชนแหล่งการเรียนรู้ ชุมชนมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนกิจกรรมการเรียนรู้ มีภาคีเครือข่ายสนับสนุน การส่งเสริมการอ่าน โดยจัดให้มีอาสาสมัครส่งเสริมการอ่านในทุกตาบล มีบรรณารักษ์อาสาช่วยจัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่าน จึงมีแนวคิดการจัดกิจกรรม“QR Code หนังสือน่าอ่าน” เพื่อใหเ้ ข้ากับยุคดจิ ิทัล เท่าทันเทคโนโลยี วัตถุประสงค์ ๑. เพอื่ สนองนโยบายของรฐั บาลและสานกั งาน กศน. ๒. เพอื่ ส่งเสริมสนับสนุนให้ประชาชนทุกเพศทุกวยั เป็นคนใฝร่ ู้ ใฝ่เรยี น กล้าคิด กลา้ ทา กลา้ พดู และกล้าแสดงออก เห็นความสาคัญของการอ่าน และอา่ นหนังสือเพ่ิมมากข้ึน ๓. เพอื่ ส่งเสรมิ สนับสนนุ ให้บุคคลในชุมชน เท่าทนั เทคโนโลยี ขัน้ ตอนกำรจดั กจิ กรรม ๑. ประชมุ /ช้แี จงเพอื่ กาหนดรปู แบบการจดั กิจกรรม ๒. ประชาสัมพนั ธ์โครงการและประสานงานกลุ่มเป้าหมาย ๓. จัดเตรยี มเอกสาร/วัสดุ/อุปกรณ์ ๔. ดาเนินงานตามโครงการฯ /กจิ กรรม ๑) สบื คืนขอ้ มลู หนังสอื น่าอา่ นจากอนิ เตอรเ์ นต็ รวบรวมลงิ คต์ ่างๆไว้ ๒) คัดลอกลงิ ค์หนงั สอื น่าอา่ น ทาเปน็ QR Code ๓) พิมพ์เปน็ รูปเล่มพร้อม QR Code หนงั สอื น่าอ่าน ไวใ้ นเลม่ นาไปวางยังบา้ นหนงั สือชมุ ชน สบั เปล่ียนหมุนเวียนไปยังบา้ นหนังสือชมุ ชนตา่ งๆ ในพื้นที่ ๕. สรปุ ผลประเมินผลโครงการฯ/กิจกรรม วสั ดุอุปกรณ์ ๑. กระดาษ A4 สาหรับทาเล่ม QR Code ๒. หนงั สอื กำรวดั ผลประเมนิ ผล ๑. จากสถิตกิ ารเขา้ ใช้บรกิ าร ๒. จากแบบสอบถามความพงึ พอใจ ๓๙
กจิ กรรมท่ี ๑๕ คลงั เกษตรชวนรใู้ นทอ้ งถิ่น แนวคิดในกำรจดั กิจกรรม ในปีงบประมาณ ๒๕๖๑ สานักงาน กศน. ได้กาหนดยุทธศาสตร์ส่งเสริมการอ่าน ให้หน่วยงาน ในสังกดั นาไปดาเนินงาน ผา่ นโครงการและกิจกรรมหลากหลาย เพม่ิ อัตราการอ่านของประชาชน โดยการจัด กิจกรรมส่งเสริมการอ่านในรูปแบบต่างๆ เช่น อาสาสมัครส่งเสริมการอ่าน ห้องสมุดประชาชน บ้านหนังสือ ชุมชน ห้องสมดุ เคลอ่ื นท่สี าหรับชาวตลาด บรรณารักษ์อาสา เพื่อจัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่านให้ครอบคลุม ทุกพื้นที่ ให้ประชาชนได้อ่านหนังสือมากย่ิงขึ้น ดังน้ันจึงมีการจัดทากิจกรรม “คลังเกษตรชวนรู้ในท้องถ่ิน” เพ่อื เป็นการส่งเสรมิ การอ่านในชุมชน วตั ถปุ ระสงค์ ๑. เพือ่ สนองนโยบายของรฐั บาลและสานักงาน กศน. ๒. เพือ่ ส่งเสรมิ สนับสนนุ ใหป้ ระชาชนทุกเพศทุกวยั เป็นคนใฝร่ ู้ ใฝเ่ รยี น กลา้ คดิ กล้าทา กลา้ พดู และกล้าแสดงออก เหน็ ความสาคญั ของการอ่าน และอ่านหนงั สือเพ่ิมมากข้ึน ๓. เพอื่ สง่ เสริมสนับสนนุ ให้บุคคลในชุมชนทัง้ ภาคธรุ กิจ องคก์ ร หนว่ ยงานตา่ งๆ เข้ามามีสว่ นรว่ ม ในการส่งเสริมการอา่ นหนงั สือและเห็นความสาคัญของการอา่ น ขนั้ ตอนในกำรจัดกิจกรรม ๑. ประชมุ /ช้แี จงเพ่ือกาหนดรปู แบบการจดั กจิ กรรม ๒. ประชาสมั พันธโ์ ครงการและประสานงานกลุ่มเปา้ หมาย ๓. จัดเตรยี มเอกสาร/วสั ดุ/อุปกรณ์ ๔. ดาเนินงานตามโครงการฯ /กจิ กรรม ๑) นักศกึ ษา กศน.อาเภอ บรรณารักษ์อาสา ออกจัดเกบ็ ขอ้ มลู อาชีพทางการเกษตรจาก เกษตรกรในท้องถ่ินทเ่ี ปน็ ตัวอยา่ งดเี ดน่ ในอาเภอ เคลด็ ลบั การปลูกพชื ผักพ้นื บ้านในหมู่บา้ น ๒) จัดพมิ พ์เปน็ รปู เล่มสวยงาม วางไวท้ บ่ี ้านหนังสือชมุ ชนเป็นข้อมูลใหเ้ กดิ ประโยชนต์ ่อไป ๕. สรปุ ผลประเมนิ ผลโครงการฯ/กิจกรรม กำรวัดผลประเมินผล ๑. จากสถิตกิ ารเขา้ ใชบ้ รกิ าร ๒. จากช้ินงาน ๔๐
กิจกรรมท่ี ๑๖ เชฟชวนชิมอำหำรบำ้ นบำ้ น แนวคดิ ในกำรจัดกจิ กรรม สาหรับบ้านหนังสือชุมชนจะต้องมีการจัดกิจกรรมหมุนเวียนให้มีการเคล่ือนไหวอยู่เสมอ เพ่ือเป็น การกระตุ้น ปลูกฝังให้ประชาชนในชุมชนเห็นความสาคัญของบ้านหนังสือชุมชน เห็นความสาคัญของการอา่ น ให้ทุกคนมีส่วนร่วมในการจดั กิจกรรมส่งเสริมการอ่าน เช่น การบริจาคหนังสือนา่ อ่านใหก้ ับบ้านหนังสอื ชุมชน การดูแลรักษาบ้านหนังสือชุมชน การเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ ในบ้านหนังสือชุมชน จึงได้มีการจัดกิจกรรม “เชฟชวนชมิ อาหาร บา้ นบ้าน” วตั ถุประสงค์ ๑. เพื่อส่งเสริมให้เห็นความสาคญั ของการอ่านในบา้ นหนังสอื ชุมชน ๒. เพอื่ ปลูกฝังใหร้ ักบา้ นเกิด เหน็ ความสาคัญของกิจกรรมในบ้านหนังสอื ชมุ ชน ๓. เพอ่ื สร้างความรักสามคั คีในชุมชน ใช้เวลาว่างใหเ้ กิดประโยชน์ ขนั้ ตอนกำรจัดกจิ กรรม ๑. ประชมุ /ชแี้ จงเพื่อกาหนดรปู แบบการจัดกิจกรรม ๒. ประชาสัมพันธ์โครงการและประสานงานกลุ่มเปา้ หมาย ๓. จดั เตรียมเอกสาร/วสั ด/ุ อุปกรณ์ ๔. ดาเนินงานตามโครงการฯ /กิจกรรม “เชฟชวนชิมอาหารบา้ นบ้าน” ๑) คดั สรรรายการอาหารเดน่ ดัง ปงั โดน ในชุมชน ๑ เมนู ๒) จดั เตรยี มวตั ถุดิบและร่วมกนั ประกอบอาหาร ๓) แผ่นพบั วิธีการประกอบอาหาร ๕. สรปุ ผลประเมินผลโครงการฯ/กจิ กรรม กำรวดั ผลประเมินผล ๑. จากสถิติการเข้าร่วมกจิ กรรม ๒. จากแบบสอบถามความพึงพอใจ ๔๑
กิจกรรมท่ี ๑๗ สนกุ คิด ประดิษฐ์ประดอย แนวคิดในกำรจัดกิจกรรม สาหรับบ้านหนังสือชุมชนจะต้องมีการจัดกิจกรรมหมุนเวียนให้มีการเคลื่อนไหวอยู่เสมอ เพื่อเป็น การกระตุ้น ปลูกฝังให้ประชาชนในชมุ ชนเห็นความสาคัญของบ้านหนังสอื ชุมชน เห็นความสาคัญของการอ่าน ให้ทุกคนมีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมสง่ เสริมการอ่าน เช่น การบริจาคหนังสือนา่ อ่านใหก้ ับบ้านหนังสือชมุ ชน การดูแลรักษาบ้านหนังสือชุมชน การเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆในบ้านหนังสือชุมชน จึงได้มีการจัดกิจกรรม “สนกุ คดิ ประดษิ ฐ์ประดอย” วตั ถปุ ระสงค์ ๑. เพือ่ สง่ เสรมิ ให้เห็นความสาคัญของการอ่านในบ้านหนงั สอื ชมุ ชน ๒. เพ่อื ปลูกฝังให้รักบา้ นเกิดเหน็ ความสาคัญของกิจกรรมในบ้านหนังสือชมุ ชน ๓. เพื่อสร้างความรักสามัคคีในชมุ ชน ใชเ้ วลาว่างให้เกิดประโยชน์ ขัน้ ตอนกำรจัดกจิ กรรม ๑. ประชุม/ชแ้ี จงเพ่อื กาหนดรปู แบบการจัดกิจกรรม ๒. ประชาสัมพนั ธ์โครงการและประสานงานกลุ่มเป้าหมาย ๓. จัดเตรยี มเอกสาร/วัสดุ/อุปกรณ์ ๔. ดาเนนิ งานตามโครงการฯ /กจิ กรรม “สนุกคิด ประดิดประดอย” ๑)คัดสรรรายการอาชีพประดิดประดอยทีน่ า่ สนใจในชุมชน ๑ อาชีพ ๒)จัดเตรียมอปุ กรณส์ าหรับประดษิ ฐ์ ๓) แผน่ พับวิธกี ารประดิษฐ์ ๕. สรปุ ผลประเมินผลโครงการฯ/กิจกรรม กำรวดั ผลประเมนิ ผล ๑. จากสถิติการเข้าใชบ้ ริการ ๒. จากแบบสอบถามความพึงพอใจ ๔๒
กจิ กรรมที่ ๑๘ ควำมรูต้ ัดแปะ แนวคดิ ในกำรจัดกจิ กรรม การอ่านหนงั สือถือเปน็ การพฒั นาตนเองอีกรูปแบบหนง่ึ และถอื เป็นการใช้เวลาวา่ งให้เกิดประโยชน์ ซ่ึงในการส่งเสริมการอ่านต้องมีการประชาสัมพันธ์เน้ือหาท่ีน่าสนใจ เพื่อดึงคนที่ไม่สนใจการอ่านมาสนใจ ในการอ่าน จึงมีการจัดกจิ กรรมความรูต้ ัดแปะลงบอรด์ เพื่อใชใ้ นการประชาสัมพันธ์ วตั ถุประสงค์ ๑. เพ่ือกระตุน้ ให้อยากรู้อยากอา่ นหนงั สือหลากหลายอย่างต่อเน่ืองจนเป็นนสิ ัย ๒. เพ่ือใหป้ ระชาชนทุกชว่ งวยั เห็นความสาคญั ในการอา่ น ๓. เพื่อสร้างความรักสามคั คใี นชุมชน ใช้เวลาว่างใหเ้ กิดประโยชน์ ขน้ั ตอนกำรจดั กิจกรรม ๑. ให้อาสาสมคั รหาความรู้ท่ตี นเองสนใจทมี่ ีอย่ใู นวารสารหรอื หนงั สือพิมพ์ ๒. นาขา่ วสารท่ไี ด้คดั เลอื กไวแ้ ลว้ มาตดั ส่วนท่ีน่าสนใจ ๓. เก็บรวบรวมไว้เป็นหมวดหมู่เพ่ือนาความรู้ใหม่ข้ึนบอร์ดประชาสัมพันธ์ เช่น ความรู้เก่ียวกับ การเกษตร ความรเู้ ก่ียวกับสุขภาพ วสั ดุอุปกรณ์ ๑. หนังสือพิมพว์ ารสารท่ีล่วงเวลา ๒. บอร์ดที่ใชใ้ นการประชาสัมพันธ์ ๓. แบบบันทึกติดตามผลการอา่ น กำรวดั ผลประเมนิ ผล ๑. จากสถิติการเข้าใช้บริการ ๒. จากแบบสอบถามความพงึ พอใจ ๔๓
กจิ กรรมท่ี ๑๙ ปรำชญ์ควำมรคู้ บู่ ำ้ นหนังสอื ชุมชน แนวคดิ ในกำรจดั กจิ กรรม กิจกรรมส่งเสริ มการ อ่าน เกิดจากคว ามคิดท่ีตร ะหนั กถึง คว ามสาคัญของอ่าน ท่ีมีผล ให้ ค น อ่าน เกิดการเรียนรู้ ซง่ึ จะตอ้ งประกอบไปดว้ ยการใชป้ ระสาทสัมผัสของตนเองเปน็ เคร่ืองมือในการเรยี นรู้คือ ตาได้ดู หูได้ฟังในส่ิงที่สร้างความพึงพอใจ ปราชญ์ชาวบ้านจึงถือเป็นเป็นผู้นาชุมชนท่ีอาศัยความเช่ือม่ันศรัทธา จากชาวบ้านของการเป็นบุคคล ต้นแบบในการดาเนินชีวิตและเป็นผู้ที่มีคุณธรรมและเสียสละต่อส่วนรวม เป็นผู้สร้างความรู้เข้าใจเกี่ยวกับ ชุมชน โดยการใช้ทักษะด้านภูมิปัญญาท้องถ่ินที่ได้สั่งสมมาใช้ในการส่งเสริม ให้เกิดการเรียนรู้ภายในชุมชน รวมไปถึงการนาวัฒนธรรมท้องถ่ินมาสร้างเป็นอัตลักษณ์และความภาคภูมิใจ ในชมุ ชน เพอ่ื กระตุ้นจิตสานึก และการส่งเสริมการเรยี นรู้ที่เป็นประโยชนข์ องคนในชุมชนได้ วตั ถปุ ระสงค์ ๑. เพื่อส่งเสริมสนับสนุนใหป้ ระชาชนทุกเพศทุกวัย เห็นความสาคัญของการอ่านและความรู้ภายใน ชุมชนเพมิ่ มากขน้ึ ๒. เพื่อสงเสรมิ ใหป้ ระชาชนได้รบั ความร้เู ก่ยี วกบั ภมู ปิ ัญญาท้องถน่ิ ๓. เพื่อปลูกฝงั ให้รกั บ้านเกดิ เห็นความสาคัญของกจิ กรรมในบ้านหนงั สือชมุ ชน ข้นั ตอนกำรจดั กิจกรรม ๑. บรรณารกั ษ์คดั เลือกปราชญ์ชาวบา้ นที่สามารถให้ความรู้ให้กับชมุ ชนได้ ๒. ประชาสัมพันธก์ ิจกรรมท่ีจะจัดขึ้นในบ้านหนงั สือชมุ ชน ๓. จดั การประชุมเสวนา แลกเปลยี่ นเรียนรู้รว่ มกับชาวบ้านท่ีใหค้ วามสนใจ ๔. สรปุ ผลการจัดกจิ กรรม วสั ดอุ ุปกรณ์ ๑. หนังสอื หรือแผนพับที่ใหค้ วามรูเ้ กยี่ วกับเรือ่ งทีป่ ราชญ์นามาเสวนา แลกเปลยี่ นเรยี นรู้ ๒. แบบบันทึกสารวจความต้องการเรอื่ งท่จี ะเรียนรู้ ๓. สมดุ บนั ทึกสถิติผเู้ ข้ารว่ มกิจกรรม กำรวดั ผลประเมินผล สงั เกตจากการมีสว่ นร่วมในกิจกรรม การซักถาม พดู คยุ ๔๔
กจิ กรรมที่ ๒๐ ตะกรำ้ ควำมร้กู ระจำยสูช่ ุมชน แนวคิดในกำรจัดกจิ กรรม การอ่านหนังสือเพ่ือพัฒนาตนเอง และเพื่อการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์เป็นสิ่งจาเป็นมากในการ พัฒนาคนและพัฒนาสังคม ปัจจุบันน้ีการอ่านหนังสือของคนไทยเป็นกิจกรรมที่ไม่แพร่หลาย ซึ่งสาเหตุมีอยู่ หลายประการนับตั้งแต่การขาดแคลนหนังสือท่ีดีและตรงกับความสนใจ และการแย่งเวลาของส่ืออ่ืนๆ เช่น โทรทัศน์ โทรศัพท์ รวมทงั้ ขาดการชักจงู ขาด การกระตุน้ ให้ เหน็ ความสาคัญของการอา่ นตลอดจนมีนิสัย รักการอ่าน ต้องใช้ความพยายามมากกว่าและต้องมีทักษะในการอ่าน จึงมีแนวคิดที่จัดกิจกรรมตะกร้าความรู้ กระจายสู่ชุมชน ซ่ึงเป็นการส่งเสริมการอ่านแบบเชิงรุกสู่ชุมชน เพ่ือให้ประชาชนในชุมชนเล็งเห็นความสาคัญ ของการอ่าน ตลอดจนการรู้จักแสวงหาความรู้จากการอ่านจนเกิดเป็นนิสัยรักการอ่านอย่างต่อเน่ืองและ เพม่ิ มากข้นึ วัตถุประสงค์ ๑. เพอ่ื ปลูกฝังนสิ ยั รกั การอ่านให้กบั ประชาชนในชมุ ชน ๒. เพอื่ ให้ประชาชนเลง็ เหน็ ความสาคัญของการอา่ นเพมิ่ มากข้ึน ๓. เพอ่ื เสริมสร้างแรงจูงใจ และเป็นการกระตนุ้ การอา่ นภายในชุมชน ขัน้ ตอนกำรจดั กจิ กรรม ๑. สารวจความต้องการเร่ืองท่อี ยากรขู้ องประชาชน ๒. รวบรวมหาหนังสอื และวารสารทด่ี ีมีประโยชน์เพื่อใหต้ รงต่อความตอ้ งการ ๓. นาหนังสือและวารสารที่รวบรวมกระจายสู่ชุมชน โดยจัดให้นักศึกษาคอยรับผิดชอบดูแลตะกร้า โดยเปล่ียนหนงั สือทกุ สามวันและให้มีทะเบียนผู้ใชบ้ ริการทกุ จดุ วสั ดอุ ุปกรณ์ ๑. หนงั สือ ๒. แบบสารวจความตอ้ งการ ๓. แบบบนั ทึกการหมุนเวยี นหนังสอื กำรวัดผลประเมินผล ๑. จากสถติ ิการเข้าใชบ้ รกิ าร ๒. แบบสอบถามความพึงพอใจ ๔๕
กจิ กรรมท่ี ๒๑ เพิม่ พนู ควำมรสู้ ูก่ ำรสนทนำในบำ้ นหนังสอื ชุมชน แนวคดิ ในกำรจัดกิจกรรม การอ่านหนังสือนับว่าเป็นการพัฒนาตนเองอีกรูปแบบหนงึ่ และเป็นการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ ซ่ึงเป็นส่ิงจาเป็นมากในการพัฒนาคนและพัฒนาสังคม แต่การอ่านหนังสือไม่เป็นท่ีนิยมในปัจจุบันจึงได้ จัดกิจกรรมเพ่ิมพูนความรู้สู่การสนทนาขึ้น เพ่ือที่จะให้ประชาชนสามารถที่จะพูดคุยเล่าเร่ืองจากหนังสือและ เลา่ เรอื่ งทตี่ นเองอา่ นสู่วงสนทนานั้นได้ วัตถุประสงค์ ๑. เพื่อเปน็ การปลูกฝังใหป้ ระชาชนมนี สิ ยั รักการอา่ น ๒. เพ่ือใหป้ ระชาชนเห็นความสาคญั ของการอ่านและการเรียนด้วยตนเอง ข้ันตอนกำรจดั กจิ กรรม ๑. คน้ หานักอ่านในชมุ ชนและแนะนาหนังสือท่สี นใจ ๒. จัดกลุ่มเสวนาแลกเปล่ียนความรูท้ ไ่ี ด้จากการอา่ น วสั ดุอุปกรณ์ ๑. หนังสอื ต่างๆ ๒. บันทึกแลกเปลี่ยนเรยี นรู้ กำรวัดผลประเมนิ ผล การสัมภาษณ์ พูดคุย กับนกั อ่าน ๔๖
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114