Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ผลการศึกษาการประกันคุณภาพการศึกษา

ผลการศึกษาการประกันคุณภาพการศึกษา

Published by georgepitiyan, 2021-09-10 09:22:20

Description: ผลการศึกษาการประกันคุณภาพการศึกษา นำเสนอต่อ ดร.ละมุล รอดขวัญ อาจารย์ผู้สอนรายวิชา EAD 614 การประกันคุณภาพการศึกษา สาขาการบริหารการศึกษา คณะศึกษาศาสตร์และสังคมศาสตร์ วิทยาลัยเทคโนโลยีภาคใต้

Search

Read the Text Version

ผ ล ก า ร ศึ ก ษ า บ ท ค ว า ม วิ ช า ก า ร วารสาร และงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับ ก า ร ป ร ะ กั น คุ ณ ภ า พ ก า ร ศึ ก ษ า น า ย พิ ติ ยั น ต์ รัก ษ์ พ ง ศ์ ร หัส ป ร ะ จำ ตั ว 6 3 1 4 2 0 2 0 1 3 ส า ข า วิช า ก า ร บ ริห า ร ก า ร ศึ ก ษ า วิท ย า ลั ย เ ท ค โ น โ ล ยี ภ า ค ใ ต้ ​

1 คำนำ บทความ เร่ือง ผลการศกึ ษาการประกนั คุณภาพการศกึ ษา ไดจ้ ดั ทำขึน้ เพ่ือนำเสนอผลการศกึ ษา บทความ วารสารและงานวิจัยท่ีเก่ียวข้องกบั การประกนั คุณภาพการศึกษา ได้แก่ความหมาย หลกั การ ขน้ั ตอน สภาพการดำเนนิ งาน ปจั จยั ทเี่ กย่ี วข้องกับระบบการประกันคณุ ภาพการศึกษา ซงึ่ เปน็ ระบบทส่ี ำคัญสำหรับ ผู้บรหิ ารในการบรหิ ารจัดการสถานศกึ ษา เป็นเคร่ืองมือสำคัญในการพฒั นาคุณภาพการศึกษา โดยการวางแผน และจดั กจิ กรรมการเรยี นการเรยี นรูอ้ ยา่ งเป็นระบบ มกี ารตรวจสอบและประเมนิ การดำเนนิ งานของสถานศึกษา และทบทวนการปฏิบัตงิ านวา่ เป็นไปอยา่ งปราศจากข้อบกพร่องและมปี ระสิทธิภาพรวมทั้งใหค้ วามสำคัญตอ่ การ ปรับปรงุ คณุ ภาพอย่างตอ่ เน่ือง คุณค่าและประโยชน์จากการอา่ นบทความฉบับนี้ คณะผู้จัดทำขอมอบแด่สถานศกึ ษาทุกแหง่ คณะครูทุก ทา่ น นกั เรยี นทุกคน ทสี่ นใจการประกนั คณุ ภาพการศึกษา หวังเปน็ อย่างย่งิ ว่าบทความฉบับนจี้ ักเป็นประโยชน์แก่ ทุกคนท่สี นใจ พิตยิ นั ต์ รักษ์พงศ์ 10 กันยายน 2564

2 สารบัญ คำนำ สารบญั 1. แนวทางการดำเนนิ งานตามระบบประกันคุณภาพภายในสถานศกึ ษาขั้นพน้ื ฐาน สังกดั องคก์ ารบรหิ ารสว่ น จงั หวดั ชยั ภมู ิ..........................................................................................................................................................3 2. การพฒั นาระบบสารสนเทศการประกันคณุ ภาพการศึกษาด้วยเทคโนโลยีการประมวลผลแบบกลุม่ เมฆ.........4 3. ปัจจยั เชิงสาเหตทุ ส่ี ่งผลตอ่ การประกนั คุณภาพภายในของสถานศกึ ษาข้ันพื้นฐาน สงั กัดสำนักงานเขตพนื้ ท่ี การศกึ ษาประถมศกึ ษา..........................................................................................................................................5 4. นวัตกรรมการบรหิ ารและการจดั การศึกษาเพอื่ พฒั นาการประกันคุณภาพของโรงเรียนปงพฒั นาวทิ ยาคม.....6 5. การพฒั นารปู แบบการนำผลการประเมินคุณภาพการศึกษาไปใช้ สำนักงานเขตพน้ื ที่การศกึ ษาประถมศึกษา รอ้ ยเอ็ด เขต 1.......................................................................................................................................................7 6. แนวทางการดำเนนิ การประกันคุณภาพภายในสถานศึกษา สังกดั องค์การบริหารสว่ นจงั หวัดชัยภมู ิ...............8 7. การประกนั คณุ ภาพการศกึ ษา........................................................................................................................9 8. การปฏบิ ัติงานการประกนั คณุ ภาพการศึกษาภายใน ตามกระบวนการวงจรคณุ ภาพ (PDCA) ของโรงเรียน ปายวิทยาคาร อำเภอปาย จังหวดั แมฮ่ ่องสอน. ................................................................................................... 10 9. ปัจจยั ทสี่ ง่ ผลต่อการดำเนนิ งานการประกนั คุณภาพการศกึ ษาของโรงเรียนมธั ยมศึกษาในจังหวดั กระบ่ี สังกัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามธั ยมศึกษาเขต 13................................................................................................. 11 10. การดำเนินงานประกนั คุณภาพการศกึ ษาโรงเรียนในอำเภอช้างกลาง สงั กัดสำนกั งานเขตพ้ืนท่ีการศกึ ษา ประถมศกึ ษานครศรธี รรมราช เขต 2.................................................................................................................. 12 11. สรุปผลการศึกษาคุณลักษณะของผนู้ ำที่มีผลตอ่ การบริหารสถานศกึ ษา .................................................. 13 บรรณานกุ รม

3 1. แนวทางการดำเนินงานตามระบบประกนั คุณภาพภายในสถานศกึ ษาขนั้ พืน้ ฐาน สังกัดองคก์ ารบรหิ าร ส่วนจงั หวดั ชัยภูมิ กติ ตนิ นั ท์ ชมุ วัน, ศริ ิ ถีอาสนา และ ฐิตารยี ์ วิลัยเลิศ : 2558 การศึกษาวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาสภาพการดำเนินงานตามระบบประกันคุณภาพภายใน สถานศึกษาขั้นพื้นฐาน สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยภูมิ แบ่งการวิจัยออกเป็น 2 ระยะ ได้แก่ ระยะที่ 1) ศึกษาสภาพการดำเนินงานตามระบบการประกนั คณุ ภาพภายในสถานศกึ ษาข้ันพื้นฐาน สังกัดองค์การบรหิ ารส่วน จังหวัดชัยภูมิ กลุ่มผู้ให้ข้อมูลสำคัญ ได้แก่ ผู้บริหารสถานศึกษา ครูที่รับผิดชอบงานด้านการประกันคุณภาพ การศกึ ษา หวั หนา้ กล่มุ สาระการเรยี นร้ทู ุกกลุ่มสาระ และประธานคณะกรรมการสถานศึกษา รวมจำนวน 286 คน โดยใช้เครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูล คือ แบบสอบถาม และรวบรวมข้อมูล มาทำการวิเคราะห์ข้อมูลเชิง ปริมาณโดยค่าสถิติพื้นฐาน (ค่าเฉลี่ย, ค่าร้อยละและค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน) ระยะที่ 2) ศึกษาแนวทางการ ดำเนินงานตามระบบประกันคุณภาพภายใน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยแบบสัมภาษณ์ โดยการสัมภาษณ์กลุ่ม ผู้ทรงคุณวุฒิ ประกอบด้วย นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยภูมิ รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยภูมิ ปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยภูมิ ผู้อำนวยการกองการศึกษาองค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยภูมิ หัวหน้าฝ่าย ส่งเสริมการศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรมองค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยภูมิ หัวหน้างานประกันคุณภาพการศึกษา องค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยภูมิ ผู้อำนวยการโรงเรียนกวางโจนศึกษา และครูผู้รับผิดชอบงานด้านการประกัน คณุ ภาพการศึกษาโรงเรยี นกวางโจนศึกษา วเิ คราะห์ขอ้ มลู การสัมภาษณ์ โดยการเขียนเชิงพรรณนาวเิ คราะห์ ผลการวิจัยพบวา่ 1) สภาพการดำเนินงานตามระบบประกันคุณภาพภายในสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน สังกัดองค์การบริหาร สว่ นจังหวัดชยั ภูมิ โดยรวมมีระดบั การปฏิบัติงานอยใู่ นระดับมาก คิดเป็นรอ้ ยละ 77.60 2) แนวทางการดำเนินงานตามระบบประกันคณุ ภาพภายในท่ีสำคัญคือ ควรมีการนำข้อมูลผลการประเมนิ มาตรฐานคุณภาพ การตรวจสอบ มาประมวลผลรายงานความก้าวหน้า เพื่อให้ข้อมูลย้อนกลับเพื่อการส่งเส ริม พัฒนา และประเมินประสิทธิภาพการดำเนินงานระบบประกันคุณภาพการศึกษา ควรมีการกำหนดมาตรฐานที่ มงุ่ เน้นผลการเรยี นรขู้ องผเู้ รียนที่สอดคลอ้ งกบั มาตรฐานช่วงชัน้ ที่หลกั สูตรกำหนด แนวทางการดำเนนิ งานตามระบบประกันคุณภาพภายในสถานศึกษาขั้นพน้ื ฐาน สังกัดองค์การบรหิ ารส่วน จังหวดั ชยั ภมู ิ ประกอบด้วย 8 ขน้ั ตอน ดงั นี้ 1) การกำหนดมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษา 2) การจัดทำแผนพัฒนาการจัดการศึกษาของสถานศึกษาที่มุ่งคุณภาพตามมาตรฐานการศึกษาของ สถานศึกษา 3) การจดั ระบบบรหิ ารและสารสนเทศ 4) การดำเนินงานตามแผนพัฒนาการจัดการศกึ ษาของสถานศึกษา 5) การติดตามตรวจสอบคุณภาพการศกึ ษา 6) การประเมนิ คณุ ภาพภายในตามมาตรฐานการศกึ ษาของสถานศึกษา 7) การจดั ทำรายงานประจำปที เ่ี ป็นรายงานประเมนิ คุณภาพภายใน 8) การพัฒนาคณุ ภาพการศกึ ษาอย่างต่อเน่ือง

4 2. การพัฒนาระบบสารสนเทศการประกนั คุณภาพการศกึ ษาด้วยเทคโนโลยกี ารประมวลผลแบบกลุ่มเมฆ องั คณา จัตตามาศ : 2558 การศึกษาวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อ 1) พัฒนาระบบสารสนเทศการประกันคุณภาพการศึกษาด้วย เทคโนโลยี Cloud computing 2) เพื่อสนับสนนุ การทำงานของผูใ้ ช้และผ้บู ริหาร 3) เพื่อเปน็ แนวทางในการนําไป ประยกุ ต์ใช้กบั หน่วยงานอน่ื ๆ เนือ่ งจากสถาบันการศึกษาระดับอุดมศึกษาในปัจจุบนั ได้มีการดำเนินการตามกรอบ มาตรฐานคุณวฒุ ริ ะดบั อุดมศกึ ษาแห่งชาติของคณะกรรมการการอุดมศกึ ษา ในสว่ นของการประกนั คุณภาพภายใน ตามคมู่ ือการประกันคุณภาพภายในมาใช้ พบปญั หาวา่ บางสถาบันการศึกษาไม่มีการบันทึกข้อมลู ในรูปแบบของ ระบบสารสนเทศในการจัดการประกันคุณภาพการศกึ ษา จึงเกิดปญั หาในการตรวจสอบเอกสาร ผลการวิจัยพบวา่ 1) มีการจัดเก็บข้อมูลการประกันคุณภาพการศึกษาของสาขาวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศทางธุรกิจใน รปู แบบของระบบสารสนเทศ 2) จากการประเมนิ ผลการใชง้ านระบบด้วยกลุ่มตวั อย่างท่ีมีการทำงานด้านการประกันคุณภาพการศึกษา มีผลการประเมนิ ด้านการใช้งานของระบบที่สามารถสนับสนุนการทำงานของผู้ใช้และผู้บริหารอยู่ท่ีค่าเฉลีย่ 4.44 ระดับคณุ ภาพดี 3) จากผลการประเมินด้านประโยชน์ของโปรแกรมสามารถเป็นแนวทางในการนําไปประยุกต์ใช้กับ หนว่ ยงานอน่ื ไดน้ นั้ หลงั จากทีม่ กี ารนาํ ระบบมาใชง้ านกบั สาขาเทคโนโลยีสารสนเทศทางธุรกจิ เปน็ สาขานําร่องเพื่อ ทดสอบการใช้งานและปรับปรุงระบบแล้ว มีผลประเมินการใช้งานของระบบอยู่ในระดับคุณภาพดีผู้บริหารได้ให้ สาขาวิชาต่างๆ ในคณะบริหารธุรกิจนําระบบสารสนเทศการประกันคุณภาพการศึกษาด้วยเทคโนโลยี Cloud computing ไปใช้งานในแต่ละสาขาเพื่อให้การดําเนินงานเรื่องประกันคุณภาพของคณะบริหารธุรกิจเป็นไปใน ทิศทางเดียวกนั ขั้นตอนการพัฒนาระบบสารสนเทศการประกันคุณภาพการศึกษา ด้วยเทคโนโลยีการประมวลผลแบบ กลมุ่ เมฆ ประกอบดว้ ย 5 ข้นั ตอน ดังน้ี 1) การกำหนดสิทธ์ิเข้าใชง้ านระบบ 2) การจดั เกบ็ ข้อมลู ตามปีการศกึ ษา 3) การบนั ทกึ /แก้ไขข้อมูล 4) การเรยี กดูรายงาน 5) สรุปผล

5 3. ปจั จยั เชงิ สาเหตุทสี่ ง่ ผลตอ่ การประกนั คุณภาพภายในของสถานศกึ ษาข้ันพน้ื ฐาน สังกดั สำนกั งานเขต พื้นท่ีการศึกษาประถมศึกษา สมใจ ยอดปราง : 2561 การวิจยั ครง้ั นมี้ ีวตั ถุประสงค์ เพอื่ ศกึ ษาปัจจัยเชิงสาเหตุทีส่ ่งผลต่อการประกันคุณภาพภายในสถานศึกษา และศึกษาอิทธิพลทางตรง อิทธิพลทางอ้อม และอิทธิพลรวม ที่ส่งผลต่อการประกันคุณภาพภายในสถานศึกษา ขั้นพื้นฐาน สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ผู้บริหาร สถานศึกษา ครู และครูผู้รับผิดชอบงานประกันคุณภาพภายในสถานศึกษา จำนวน 555 คน โดยใช้การสุ่ม แบบหลายขัน้ ตอน เคร่อื งมือท่ีใช้ในการวิจัย เปน็ แบบสอบถาม สถติ ทิ ่ีใช้ในการวเิ คราะหข์ ้อมูล ได้แก่ ค่าเฉล่ีย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การวิเคราะห์สัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ การวิเคราะห์องค์ประกอบเชิงยืนยันอันดับที่สอง และการวิเคราะห์เสน้ ทาง ผลการวิจัยพบว่า 1) ปัจจัยเชิงสาเหตุที่ส่งผลต่อการประกันคุณภาพภายในสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน สังกัด สำนักงาน คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ประกอบไปด้วย 5 ปัจจัย ประกอบด้วย ปัจจัยด้านผู้บริหาร ปัจจัยด้านครู ปัจจัยด้านบุคคล ปัจจัยด้านวิชาการ และปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งโมเดลมีความสอดคล้องกลมกลนื กับข้อมูลเชงิ ประจักษ์ 2) ผลการศึกษาอิทธพิ ลทางตรง อทิ ธิพลทางออ้ ม และอิทธพิ ลรวมของตัวแปรปัจจัยที่สง่ ผลต่อการประกัน คุณภาพภายในสถานศึกษาข้นั พื้นฐาน พบวา่ ปจั จยั ด้านบคุ คล เปน็ ปจั จัยเชิงสาเหตุทีม่ อี ิทธิพลสงู สดุ รองลงมา คือ ปัจจัยด้านผู้บริหาร ปัจจัยด้านครู ปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม และปัจจัยด้านวิชาการ ตามลำดับ นอกจากนี้ยังได้รับ อทิ ธพิ ลทางออ้ มจากปัจจยั ดา้ นบคุ คล ปัจจัยด้านครู และปัจจยั ดา้ นการบริหาร ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับระบบประกันคุณภาพภายในสถานศึกษา ได้แก่ ตัวแปรปัจจัยด้านการบริหาร ปัจจัย ด้านโครงสร้าง ปัจจัยด้านบุคลากร ปัจจัยด้านกระบวนการ ปัจจัยด้านทรัพยากร การทดสอบความสัมพันธ์ โครงสร้างเชิงเส้นระหว่างปัจจัยต่าง ๆ ของการประกันคุณภาพภายในสถานศึกษา ซึ่งมีความสอดคล้องกลมกลืน กับข้อมลู เชิงประจกั ษ์ ดงั นั้น ในการพฒั นาปจั จัยทางการศึกษาหรอื การประกันคุณภาพการศึกษาให้เขา้ สู่มาตรฐาน จำเป็นต้องมีการพัฒนาบุคลากรทางการศึกษา และหลักสูตร กระบวนการเรียนการสอน ระบบการบริหาร และ การจัดการ ในทำนองเดียวกันการกำหนดปัจจัยที่ส่งผลต่อการประกันคุณภาพภายในสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน อัน ประกอบด้วย 5 ปัจจัย ได้แก่ ปัจจัยด้านผู้บริหาร ปัจจัยด้านครู ปัจจัยด้านบุคคล ปัจจัยด้านวิชาการ และปัจจัย ด้านสิ่งแวดล้อม นับว่ามีความสำคัญและจำเป็นเช่นกันต่อความสำเร็จหรือประสิทธิภาพของการดำเนินงานการ ประกนั คุณภาพภายในสถานศึกษาข้ันพื้นฐาน

6 4. นวตั กรรมการบรหิ ารและการจัดการศึกษาเพอ่ื พัฒนาการประกนั คุณภาพของโรงเรยี นปงพฒั นาวิทยาคม รุจริ า กองจนั ทร์, ดร.สมเกียรติ ตนุ่ แก้ว, ดร.พนู ชยั ยาวริ าช, ดร.ไพรภ รัตนชูวงศ์ : 2563 การวิจัยในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาสภาพของการบริหารและการจัดการศึกษาสำหรับการ ประกันคุณภาพของโรงเรียนปงพัฒนาวิทยาคม ประชากรทีใ่ ช้ในการวิจัย คอื ฝา่ ยบรหิ าร ครูและบุคลากรทางการ ศึกษาของโรงเรียนปงพัฒนาวิทยาคม จำนวน 45 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือแบบสอบถามและสถิติที่ใช้ใน การวิเคราะห์ข้อมูล คือ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน 2) เพื่อพัฒนานวัตกรรมการบริหารและการจัด การศึกษาสำหรับการประกันคุณภาพของโรงเรียนปงพัฒนาวิทยาคม ดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลโดยการ สัมภาษณ์ด้วยตนเอง จากโรงเรียนที่เป็น Best Practice จำนวน 8 โรงเรียน ยืนยันร่างนวัตกรรมการบริหารและ การจัดการศึกษา โดยมีผู้ทรงคุณวุฒิในการร่วมสนทนากลุ่ม จำนวน 11 คน 3) เพื่อประเมินนวัตกรรมการบริหาร และการจดั การศึกษาสำหรับการประกันคุณภาพของโรงเรยี นปงพฒั นาวทิ ยาคม ประเมินร่างนวัตกรรมการบริหาร และการจัดการศึกษาโดยใช้วิธีวิจัยเชิงปริมาณ ดำเนินการตรวจสอบยืนยันความสอดคล้องของนวัตกรรมการ บรหิ ารและการจัดการศึกษาและหาคณุ ภาพ โดยผเู้ ช่ียวชาญในการร่วมสนทนากลมุ่ จำนวน 10 คน ผลการวจิ ยั พบวา่ 1) สภาพการบริหารและการจัดการศึกษาท่ีพฒั นาการประกันคณุ ภาพของโรงเรียนปงพัฒนาวิทยาคมเมื่อ พิจารณาค่าดัชนีความต้องการจำเป็น พบว่า กระบวนการบริหารและการจัดการที่ควรดำเนินการพัฒนา เรียง ตามลำดับ ได้แก่ การประกันคุณภาพการศึกษา กระบวนการบริหารและการจัดการของผู้บริหารสถานศึกษา ครูผ้สู อนและกระบวนการจดั การเรยี นการสอนท่ีเนน้ ผ้เู รียนเป็นสำคญั และด้านผูบ้ ริหาร 2) นวัตกรรมการบริหารและการจัดการศึกษาเพื่อการประกันคุณภาพของโรงเรียนปงพัฒนาวิทยาคม ประกอบด้วยระบบการบริหารและการจัดการการศึกษา 6 ระบบ ได้แก่ 1) ระบบการนำองค์กร 2) ระบบการ บริหารและการจัดการเชิงกลยุทธ์ 3) ระบบบริหารและการจัดการบุคลากร 4) ระบบการบริหารและการจัดการ สารสนเทศ และเทคโนโลยสี ารสนเทศ 5) ระบบการบริหารและการจดั การ การเรียนการสอน 6) ระบบการจัดการ คณุ ภาพการศึกษา ซง่ึ แตล่ ะระบบมีกระบวนการในการดำเนนิ งาน 5 กระบวนการ ไดแ้ ก่ 1) การหาความต้องการ และประเมินสภาพโรงเรยี นในปจั จบุ นั 2) การกระตนุ้ ให้เกิดการปรับปรุงและเสริมศักยภาพภายในโรงเรียน 3) การ วางแผนการดำเนินงาน 4) การปฏิบัติตามแผนการดำเนินงาน 5) การวัด ประเมินผลการดำเนินงานและการ ปรบั ปรงุ งานอย่างต่อเนื่อง 3) การประเมินนวัตกรรมการบริหารและการจัดการศึกษาเพื่อการประกันคุณภาพของโรงเรียนปงพัฒนา วิทยาคม และตรวจสอบยืนยันความสอดคล้องโดยผู้เชียวชาญ พบว่ามีความเหมาะสมของวิธีการดำเนินการอย่ใู น ระดับดีเลิศ และมีคุณภาพอยูใ่ นระดับ ดีมาก สภาพการดำเนนิ การประกันคุณภาพดำเนินการให้ครบกระบวนการ ปจั จยั ภายใน ได้แก่ การท่ีผู้บริหารมี ความมุ่งมั่นทุ่มเท สนใจใฝ่เรียนรู้ ใช้ทังการบริหารแบบมีส่วนร่วมและแบบเข็มงวด การมีวัฒนธรรมองค์การที่ดี มี แบบแผนการทำงานเป็นทีม มีตัวแบบการเป็นครูที่ดี ยอมรับการเปลี่ยนเปลงและเห็นคุณค่าของการประเมิน รวมทัง้ การทีค่ รูมีความรับผิดชอบและเอาใจใสต่ ่อการสอน สนใจใฝเ่ รียนรแู้ ละเช่ือว่าการประกนั คุณภาพการศึกษา นำไปสกู่ ารพัฒนาการประกนั คุณภาพการศึกษา

7 5. การพัฒนารูปแบบการนำผลการประเมนิ คุณภาพการศึกษาไปใช้ สำนกั งานเขตพ้ืนที่การศึกษา ประถมศกึ ษาร้อยเอด็ เขต 1 สุวฒั นพงษ์ ร่มศรี, เพม่ิ พูล ร่มศรี, สัญญา เคณาภูมิ : 2558 การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อพัฒนารูปแบบการนำผลการประเมินคุณภาพไปใช้ในการพัฒนา ระบบการประกันคุณภาพภายในของสถานศึกษาและ 2) เพื่อทดลองใช้รูปแบบการนำผลการประเมินคุณภาพ การศึกษาไปใช้ในการพัฒนาระบบการประกันคุณภาพภายในของสถานศึกษา กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ (1) โรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาร้อยเอ็ด เขต 1 จำนวน 236 แห่ง (2) โรงเรยี นทใี่ ชใ้ นการทดลองใชร้ ปู แบบ จำนวน 3 โรงเรยี น ไดแ้ ก่ โรงเรียนบ้านบากหนองแดง โรงเรียนบา้ นมะอึและ โรงเรียนจตุรพักตรพิมาน โดยกำหนดช่วงเวลาการวิจัย ระหว่าง มีนาคม-กันยายน 2558 ข้อมูลเชิงปริมาณ วิเคราะห์โดยการหาค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ส่วนข้อมูลเชิงคุณภาพ วิเคราะห์โดยการวิเคราะห์ เน้ือหา ผลการวิจยั ปรากฏดังนี้ 1) รูปแบบการนำผลการประเมินคุณภาพภายนอกไปใช้ในการพัฒนาระบบการประกันคุณภาพภายใน ของสถานศึกษา ที่ได้รับการพัฒนา คือ การนิเทศแบบสาเกต (SAKET Model) ประกอบด้วย 5 ข้ันตอน ดังน้ี (1) S : Survey (สำรวจ) (2) A : Analysis (วิเคราะห์) (3) K : Knowledge (ใหค้ วามรู)้ (4) E : E-Supervision (นิเทศ) และ (5) T : Test – Evaluation (ประเมิน) 2) ผลการทดลองใช้รูปแบบการนำผลการประเมินคุณภาพการศกึ ษาไปใช้ในการพฒั นาระบบการประกนั คุณภาพภายในของสถานศึกษา สรุปเป็นกรอบแนวคิด 2 ระดับ ได้แก่ (1) การใช้ในเชิงความคิด เพื่อทำให้เกิด ความกระจ่าง ความเขา้ ใจ มกี ารเรียนรู้ เก่ียวกบั สงิ่ ท่ปี ระเมิน และ (2) การใชใ้ นเชงิ ปฏิบัติการ ซึ่งนำไปใช้ได้ใน 3 ลักษณะ คือ การใชใ้ นเชิงตรวจสอบยืนยนั การใชใ้ นเชงิ สญั ลักษณแ์ ละ การใช้ในเชงิ ปฏิบัติ รูปแบบการนำผลการประเมินคุณภาพการศึกษาไปใช้ได้ว่า “มี 2 ระดับ ทมี่ คี วามสัมพนั ธก์ ัน คอื การใชใ้ น ระยะแรกเป็นการใช้ในเชงิ ความคิด ทำใหเ้ กิดความกระจา่ งความเข้าใจ มกี ารเรียนรูเ้ ก่ียวกบั ส่ิงท่ีประเมินการใช้ใน ระยะตอ่ มาเป็นการใชใ้ นเชิงปฏิบัติการซึ่งนำไปใช้ไดใ้ น 3 ลกั ษณะ คือ 1) การใช้ในเชงิ ตรวจสอบยืนยัน เป็นการใช้ ผลการประเมินเพื่อเปืนเหตุผลสนับสนุน หรือยืนยันผลการตัดสินใจที่กำหนดไวล้วงหน้าของผู้บริหาร/ผู้วาง นโยบาย/ผู้ที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องส่วนการบริหารโดยทั่ว ไปจะใช้ในการตรวจสอบผลงานในรอบปีที่ผ่านมาว่ามี โครงการใดบ้างควรให้การสนับสนุนต่อไป โครงการใดควรยกเลกิ 2) การใช้ในเชิงสัญลักษณ์หรือการใช้ในเชิงชวน เชื่อเป็นการใช้ผลการประเมินเป็นเครื่องช่วยติดตาม กำกับ ควบคุมการประเมินเพื่อแสดงว่าการดำเนินการ ประเมินนัน้ เป็นไปตามแนวทางและมีระเบียบข้ันตอนที่เหมาะสมและยงั เป็นหลกั ฐานสนบั สนุน หรือเสริมนโยบาย การบริหารงานของหนว่ ยงาน เพอื่ โน้มนา้ วชวนเชอื่ ให้ผูอ้ ื่นเกิดความเชื่อถือและคล้อยตามให้การสนบั สนุนความคิด ของตน 3) การใช้ในเชิงปฏิบัติเป็นการใช้ผลการประเมินเป็นเครื่องช่วยในการลงมือปฏิบัติหรือแก้ปัญหาโดยตรง และมีหลักฐานสำหรบั การอ้างอิง ซ่ึงจะสง่ ผลใหร้ ะบบการประกนั คณุ ภาพภายในของสถานศึกษามีคณุ ภาพ”

8 6. แนวทางการดำเนนิ การประกันคณุ ภาพภายในสถานศึกษา สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยภมู ิ นจุ นาจ ขนุ าพรม, มณเฑียร พัวไพบลู ย์ : 2560 การวิจัยครั้งนี้มีความมุ่งหมาย เพื่อ 1) ศึกษาสภาพปัจจุบัน สภาพที่พึงประสงค์ การดำเนินการประกัน คุณภาพภายในสถานศึกษา สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยภูมิ 2) สร้างแนวทางการดำเนินการประกัน คุณภาพภายในสถานศึกษา สังกัดองค์การบริหารสว่ นจังหวัดชัยภมู ิ มวี ิธดี ำเนินการการวิจัยและพฒั นา (Research and Development) โดยดำเนินการเป็น 2 ระยะ ระยะที่ 1 การศึกษาสภาพปัจจุบันและสภาพที่พึงประสงค์ ขั้นตอนที่ 1 กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ประธานคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ผู้บริหารสถานศึกษา ครู ผู้รับผิดชอบงานประกันคุณภาพการศึกษา และหัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ทั้ง 8 กลุ่มสาระฯ จำนวน 286 คน เคร่ืองมอื ที่ใช้ คอื แบบสอบถาม สถติ ท่ใี ชค้ า่ เฉล่ีย สว่ นเบ่ยี งเบนมาตรฐาน ดชั นลี ำดบั ความตอ้ งการจำเป็น ขัน้ ตอน ที่ 2 ศึกษาดูงานโรงเรียนที่มีการปฏิบัติที่เป็นเลิศ (Best practice) จำนวน 3 โรงเรียนกลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ ผู้บรหิ ารสถานศึกษา หัวหนา้ กลุ่มสาระการเรยี นรู้ ครผู รู้ ับผิดชอบงานประกันคุณภาพการศึกษา จำนวน 9 คน โดย การเลือกแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ คือแบบสัมภาษณ์แบบมีโครงสร้าง วิเคราะห์ข้อมูลโดยการพรรณนา สังเคราะห์เนื้อหา ระยะที่ 2 สร้างแนวทางการดำเนินงานการประกันคุณภาพภายในสถานศึกษา ขั้นตอนท่ี 1 สัมภาษณเ์ ชิงลึก กลมุ่ เปา้ หมาย ผูท้ รงคุณวุฒิ จำนวน 5 คน โดยเลอื กแบบเจาะจง เครือ่ งมือทใี่ ช้ คอื แบบประเมิน สถิติที่ใช้ คือ ดัชนีความสอดคล้อง ค่าเฉลี่ยค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ขั้นตอนที่ 2 การประเมินแนวทางการ ดำเนินงานการประกันคุณภาพภายในสถานศึกษา สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยภูมิ กลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ ผู้บริหารสถานศึกษา หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ ครูผู้รับผิดชอบงานประกันคุณภาพการศึกษา จำนวน 30 คน โดยการเลือกแบบเจาะจง เครื่องมือทใี่ ช้ คือ แบบประเมิน สถติ ิทใี่ ช้ ค่าเฉลี่ย สว่ นเบย่ี งเบนมาตรฐาน ผลการวจิ ยั ปรากฏ ดงั น้ี 1) สภาพปัจจุบัน สภาพที่พึงประสงค์ การดำเนินการประกันคุณภาพภายในสถานศึกษา สังกัดองค์การ บริหารส่วนจังหวัดชัยภูมิ พบว่า สภาพปัจจุบันโดยรวมอยู่ในระดับมาก สภาพที่พึงประสงค์โดยรวมอยู่ใoระดับ มากที่สดุ 2) ความต้องการจำเป็นในสร้างแนวการดำเนินการประกันคุณภาพภายในสถานศึกษา สังกัดองค์การ บริหารส่วนจังหวัดชัยภูมิ เรียงลำดับความต้องการจำเป็นจากมากไปหาน้อย ได้แก่ ด้านการจัดให้มีการประเมิน คุณภาพภายในตามมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษา ด้านการดำเนินงานตามแผนพัฒนาการจัดการศึกษาของ สถานศึกษา ด้านการจัดทำแผนพัฒนาการจัดการศึกษาของสถานศึกษาท่ีมุ่งคุณภาพตามมาตรฐานการศึกษาของ สถานศึกษา ด้านการจัดระบบบริหารและสาระสนเทศ ด้านการกำหนดมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษา ด้าน การจัดให้มีการพัฒนาคุณภาพการศึกษาอย่างต่อเนื่อง ด้านการจัดให้มีการติดตามตรวจสอบคุณภาพการศึกษา ด้านการจัดทำรายงานประจำปที เ่ี ป็นรายงงานประเมนิ คุณภาพภายใน ตามลำดบั 3) แนวทางการดำเนินการประกันคุณภาพภายในสถานศึกษา สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยภูมิ มี วิธีการดำเนนิ การ ประกอบดว้ ย 8 ด้าน 72 ตวั บ่งช้ี 4) ผลการประเมินความเหมาะสมและความเป็นไปได้ แนวทางการดำเนินการประกันคุณภาพภายใน สถานศึกษา สังกัดองคก์ ารบริหารสว่ นจังหวัดชัยภูมิ พบวา่ มีความเหมาะสม โดยรวมอยใู่ นระดบั มาก ความเป็นไป ได้ โดยรวมอยใู่ นระดบั มาก

9 7. การประกันคุณภาพการศกึ ษา พระเมธีปรยิ ตั ธิ าดา (บญุ พรม จารุปญโฺ ญ), พระมหาสิริวัฒนา สิรวิ ัชรวรกุล, สิรกิ าญจน์ ธนวฒุ ิพรพนิ ิต, และชมพูนชุ ช้างเจริญ : 2564 บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อนำเสนอเรื่องการประกันคุณภาพการศึกษา เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจแก่ ผู้บริหาร ครู และบุคลากรทางการศึกษานำไปปฏิบัติการจัดการศึกษาสู่เป้าหมายที่พึงประสงค์ในการพัฒนา คุณภาพการศึกษาของประเทศ ในปัจจุบันทรัพยากรมนุษย์ถือเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุดในการพัฒนาประเทศ คุณภาพการศึกษาจึงสะท้อนถึงคุณภาพของคนที่เป็นผลิตผลของการจัดการศึกษา สถานศึกษา สามารถจัด การศึกษาได้อย่างมีคุณภาพตามมาตรฐานการศึกษาและบรรลุเป้าหมายของหน่วยงานต้นสังกัดหรือ หน่วยงานท่ี กำกับดูแล โดยสถานศึกษาต้องมีกระบวนการดำเนินงานให้เกิดความเชื่อมั่น มีการวางแผนปฏิบัติงาน มีการ กำหนดมาตรฐานกระบวนการดำเนินการตามวางแผนและมาตรฐานที่กำหนดไว้ มีการตรวจสอบ เพื่อสร้างความ มั่นใจและเป็นหลักประกันได้ว่าผลผลิตและบริการขององค์การทำให้ผู้รับบริการ พึงพอใจ และเป็นไปตาม มาตรฐานคุณภาพที่กำหนดไว้ ทั้งในเชิงความเป็นเลิศทางการศึกษาและประสิทธิภาพของการบริหารระบบ การศกึ ษาที่ทกุ ฝา่ ยตอ้ งชว่ ยกนั พฒั นาอย่างเตม็ ทีด่ ว้ ยความราบร่ืนมปี ระสิทธภิ าพและเกดิ ประสทิ ธผิ ล หลักการที่นำไปสู่การประกันคณุ ภาพ ได้แก่ 1) หลักการเก่ยี วกบั การจัดการให้ความบกพร่องมีค่าเป็นศูนย์ (Zero Defects Concept) 2) โปรแกรมการปรับปรุงคุณภาพตามแนวคิดของCrosby (Crosby’s Quality Improvement Program) 3) การปรับปรุงคุณภาพตามแนวคิดของ Juran (Juran’sTon Stops to Quality Improvement) 4) แนวคิดเกี่ยวกับการปรับปรุงคณุ ภาพครบวงจร PDCA 5) หลักความรบั ผิดชอบที่ตรวจสอบได้ (Accountability) การพัฒนาระบบการประกันคุณภาพการศึกษาภายในของสถานศึกษาจึงยึดหลักการ 3 ประการ คือ 1) การกระจายอำนาจ (Decentralization) 2) การเปิดโอกาสการมีส่วนร่วมในการทำงาน (Participation) 3) การ แสดงภาระรับผิดชอบที่ตรวจสอบได้ (Accountability) ส่วนการประกันคุณภาพภายนอก (External Quality Assurance) เป็นการประเมินคุณภาพการจัดการศึกษาเพื่อให้มีการติดตามและตรวจสอบคุณภาพและมาตรฐาน การศึกษาของสถานศึกษา โดยคำนึงถึงความมุ่งหมาย หลักการ และแนวการจัดการศึกษาในแต่ละระดับ ซ่ึง ประเมนิ โดยสำนักงานรบั รองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (องคก์ ารมหาชน)

10 8. การปฏิบัตงิ านการประกันคุณภาพการศึกษาภายใน ตามกระบวนการวงจรคณุ ภาพ (PDCA) ของ โรงเรยี นปายวิทยาคาร อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน. วทิ ยา วงอนิ ทร์, ดร. ฉตั รทิพย์ สุวรรณชนิ : 2558 การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาการปฏิบัติงานการประกันคุณภาพการศึกษาภายในตาม กระบวนการวงจรคุณภาพ (PDCA) เพื่อศึกษาปัญหา และข้อเสนอแนะการปฏิบัติงานการประกันคุณภาพ การศึกษาภายในตามกระบวนการวงจรคุณภาพ (PDCA) ประชากรที่ใช้ในการทำวิจัย ประกอบด้วย ผู้บริหาร สถานศึกษา จำนวน 2 คน และคณะกรรมการจัดทำแผนพัฒนาคุณภาพการศึกษาเพื่อรองรับการประเมินภายใน (งานประกันคณุ ภาพการศึกษา) จำนวน 46 คน รวมทง้ั ส้ิน จำนวน 48 คน เครอื่ งมือทใ่ี ช้ในการวจิ ยั มี 2 ชุด ชุดท่ี 1 เป็นแบบสอบถามเกี่ยวกับการปฏิบัติงานการประกันคุณภาพการศึกษาภายในตามกระบวนการวงจร คุณภาพ (PDCA) ของโรงเรียนปายวิทยาคาร อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน ชุดที่ 2 เป็นการสนทนากลุ่ม วิเคราะห์ข้อมูล แบบสอบถามโดยใช้ความถี่ ร้อยละ ส่วนการสนทนากลุ่ม วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้เทคนิคการวิเคราะห์ข้อมูลเชิง คุณภาพ ผลการวิจยั สรปุ ได้ ดังนี้ โรงเรียนปายวิทยาคาร อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอนมีสภาพการปฏิบัติงานการประกันคุณภาพ การศึกษาภายใน ตามกระบวนการวงจรคุณภาพ (PDCA) ทั้ง 15 มาตรฐาน โดยมาตรฐานที่ปฏิบัติมากที่สุดทุก ขน้ั ตอน คอื มาตรฐานท่ี 12 สถานศกึ ษามีการประกันคุณภาพภายในของสถานศึกษาตามที่กำหนดในกฎกระทรวง เป็นเพราะว่า มาตรฐานที่ 12 มีการกำหนดโครงสร้าง และคำสั่งการแต่งต้ังคณะกรรมการจัดทำแผนพัฒนา คุณภาพการศึกษาเพื่อรองรับการประเมินภายใน เพื่อปฏิบัติกิจกรรม หรือโครงการพัฒนาผู้เรียน ตอบสนอง มาตรฐานการประกันคุณภาพการศึกษาภายใน โดยแต่ละกิจกรรม หรือโครงการได้รับการสนับสนุนงบประมาณ ตามความจำเป็นของแต่ละกิจกรรม และมีการตรวจสอบการปฏิบัติงานตามแผนเป็นระยะ แล้วนำผลการ ปฏิบัติงานในแต่ละปีการศึกษามาปรับปรุงแก้ไขเพื่อเป็นแนวทางในการพัฒนาการปฏิบัติงานการประกัน คุณภาพ การศกึ ษาภายในของโรงเรยี นปายวิทยาคารต่อไป สว่ นมาตรฐานที่มีสภาพไม่ไดป้ ฏบิ ัตแิ ละไม่แน่ใจ คอื มาตรฐานที่ 9 คณะกรรมการสถานศึกษา และผู้ปกครอง ชุมชน ปฏิบัติงานตามบทบาทหน้าที่อย่างมีประสิทธิภาพ และเกิด ประสิทธิผลเป็นเพราะวา่ ผทู้ ี่รับผิดชอบงานในมาตรฐานที่ 9 ยังขาดประสบการณ์ และความถนดั ในการปฏิบัติงาน จึงทำให้เกิดปัญหาขาดการมีส่วนร่วมของคณะกรรมการสถานศึกษา โดยมีข้อเสนอแนะว่า ควรมีโครงสร้างของ คณะกรรมการสถานศึกษาที่ชัดเจน มอบอำนาจ บทบาท และความสำคัญแก่คณะกรรมการสถานศึกษา สามารถ ขอความช่วยเหลือ หรือติดต่อประสานความร่วมมือกับเครือข่ายทางการศึกษาวางแผน และร่วมกันแก้ปัญหา ดว้ ยกันให้มากกว่าน้ี เพือ่ การจัดการเรียนรสู้ ชู่ มุ ชน

11 9. ปจั จยั ทีส่ ่งผลต่อการดำเนินงานการประกนั คณุ ภาพการศกึ ษาของโรงเรยี นมธั ยมศึกษาในจังหวัดกระบี่ สังกดั สำนักงานเขตพ้ืนทก่ี ารศกึ ษามธั ยมศกึ ษาเขต 13 เทวัน เงาะเศษ, หริ ัญ ประสารการ : 2560 การวิจัยคร้ังนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาระดับปัจจัยที่ส่งผลต่อการดำเนินงานการประกันคุณภาพ การศกึ ษาของโรงเรียนมัธยมศึกษาในจงั หวดั กระบี่ สังกดั สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามธั ยมศึกษาเขต 13 2) เพื่อ ศึกษาระดบั การดำเนินงานการประกันคุณภาพการศึกษาของโรงเรียนมัธยมศึกษาในจังหวัดกระบี่ สังกัดสำนักงาน เขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 13 3) เพื่อวิเคราะห์ปัจจัยที่ส่งผลต่อการดำเนินงานการประกันคุณภาพ การศึกษาของโรงเรยี นมัธยมศกึ ษา ในจังหวัดกระบี่ สังกัดสำนกั งานเขตพืน้ ทีก่ ารศึกษามธั ยมศึกษา เขต 13 กลุ่ม ตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือ ผู้บริหารและครูโรงเรียนมัธยมศึกษาในจังหวัดกระบี่ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่ การศึกษามัธยมศึกษา เขต 13 จำนวน 264 คน เครื่องมือที่ใช้เป็นแบบสอบถามแบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ สถิติที่ใช้วิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิเคราะห์ การถดถอย พหคุ ูณแบบเป็นขน้ั ตอน ผลการวิจยั พบวา่ 1) ปัจจัยด้านโครงสร้างองค์การ (X2) ปัจจัยด้านภาวะผู้นำ (X1) ปัจจัยด้านความผูกพันต่อองค์การ (X4) และปัจจัยด้านเทคโนโลยีและการติดต่อส่ือสาร (X3) ในทกุ ด้านอยู่ในระดบั มาก 2) การดำเนินงานการประกันคุณภาพการศึกษา ของโรงเรียนมธั ยมศึกษาในจงั หวัดกระบี่ สังกดั สำนกั งาน เขตพนื้ ท่กี ารศกึ ษามธั ยมศกึ ษา เขต 13 พบว่าผบู้ รหิ ารและครผู ูส้ อนของโรงเรยี นมัธยมศึกษาในจังหวัดกระบ่ี สังกดั สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 13 มีการดำเนินงานการประกันคุณภาพการศึกษาในภาพรวม และ รายดา้ นอยูใ่ นระดบั มาก 3) ปัจจัยด้านภาวะผู้นำ (X1) ปัจจัยด้านโครงสร้างองค์การ (X2) ปัจจัยด้านเทคโนโลยีและการ ติดต่อสื่อสาร (X3) และปัจจัยด้านความผูกพันต่อองค์การ (X4) มีความสัมพันธ์ทางบวกกับการดำเนินงานการ ประกันคุณภาพการศึกษา ในภาพรวม และรายด้านอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 โดยมีค่าสัมประสิทธิ์ สหสัมพนั ธ์ .439 .664 .794 และ.796 ตามลำดบั 4) ปัจจัยที่มีอำนาจพยากรณ์การดำเนินงานการประกันคุณภาพการศึกษา ของโรงเรียนมัธยมศึกษาใน จังหวัดกระบี่ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 13 มีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 คือ ปัจจัย ด้านความผูกพันต่อองค์การ (X4) และ ปัจจัยด้านเทคโนโลยีและการติดต่อสื่อสาร (X3) โดยมีค่าอำนาจการ พยากรณร์ อ้ ยละ 65.50 และมีค่าความคลาดเคลอ่ื นของการพยากรณ์ คอื .219 ระบบการประกันคุณภาพการศึกษานับไดว้ ่าเป็นเครื่องมือสำคญั ในการพฒั นาคุณภาพการศึกษา โดยการ วางแผนและจัดกิจกรรมการเรียนการเรียนรู้อย่างเป็นระบบ มีการตรวจสอบและประเมินการดำเนินงานของ สถานศึกษา และทบทวนการปฏิบัติงานว่าเป็นไปอย่างปราศจากข้อบกพร่องและมีประสิทธิภาพรวมท้ังให้ ความสำคัญต่อการปรับปรงุ คณุ ภาพอยา่ งตอ่ เนอื่ ง

12 10. การดำเนินงานประกันคุณภาพการศกึ ษาโรงเรียนในอำเภอช้างกลาง สังกัดสำนักงานเขตพืน้ ทกี่ ารศึกษา ประถมศึกษานครศรธี รรมราช เขต 2 ปยิ ะวรรณ ชนะราวี : 2560 การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาและเปรียบเทียบการดำเนินงานประกันคุณภาพการศึกษา โรงเรียนในอำเภอช้างกลาง สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา นครศรีธรรมราช เขต 2 ตามวุฒิ การศกึ ษาสภาพการดำรงตำแหน่ง ประสบการณ์การทำงานและขนาดของโรงเรียน กลมุ่ ตัวอย่าง จำนวน 181 คน ประกอบด้วย ผู้บริหารโรงเรียน ครูผู้รับผิดชอบการด าเนินงานการประกันคุณภาพการศึกษาและครูผู้สอน จำนวน 181 คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวม ข้อมูลเป็นแบบสอบถามมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ จำนวน 58 ข้อ การวิเคราะห์ข้อมูลใช้สถิติร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ทดสอบสมมุติฐานโดย ทดสอบที(t-test) และทดสอบเอฟ (F-test) ผลการวจิ ยั พบว่า 1) การดำเนินงานประกันคุณภาพการศึกษาโรงเรียนในอำเภอช้างกลาง สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่ การศึกษาประถมศึกษานครศรีธรรมราช เขต 2 โดยภาพรวม และรายดา้ น อยู่ในระดับมาก 2) บุคลากรที่มีวุฒิการศึกษา ประสบการณ์การทำงาน ขนาดโรงเรียนต่างกัน การดำเนินงานประกัน คณุ ภาพการศกึ ษาในโรงเรียนไมแ่ ตกตา่ งกัน 3) บุคลากรทม่ี ีสภาพการดำรงตำแหน่งต่างกันมคี วามเหน็ ต่อการดำเนินงานการประกนั คุณภาพการศึกษา ในโรงเรียน แตกต่างกันอย่างมนี ัยสำคัญทางสถติ ิทีร่ ะดบั .05 การดำเนนิ งานประกันคุณภาพการศึกษาในโรงเรียนประกอบด้วยองค์ประกอบ 8 ด้าน คือ การจัดระบบ บริหารและสารสนเทศ การกำหนดมาตรฐานการศึกษา การจัดทำแผนพฒั นาการจดั การศกึ ษา การดำเนินงานตาม แผนพัฒนาการจัดการศึกษา การติดตามตรวจสอบคุณภาพการศึกษา การประเมินคุณภาพภายในตามมาตรฐาน การศกึ ษาการรายงานคุณภาพการศึกษาประจำปีและการพัฒนาคณุ ภาพการศึกษาอย่างต่อเนื่อง ซง่ึ ผู้เกี่ยวข้องทุก ฝ่ายตั้งแต่ผู้บริหารโรงเรียน ครูชุมชนและผูท้ ีเ่ กี่ยวข้องกับการดำเนินงานการประกันคุณภาพการศึกษา ควรมีการ ผดุงระบบการประกันคณุ ภาพและส่งเสริมให้การดำเนินการประกันคุณภาพการศึกษาโรงเรยี นมีประสิทธิภาพ

13 11. สรุปผลการศึกษาการประกนั คณุ ภาพการศึกษา ระบบการประกนั คณุ ภาพการศกึ ษานบั ไดว้ า่ เป็นเครื่องมือสำคญั ในการพัฒนาคุณภาพการศกึ ษา โดยการ วางแผนและจัดกิจกรรมการเรียนการเรยี นรอู้ ย่างเปน็ ระบบ มีการตรวจสอบและประเมินการดำเนนิ งานของ สถานศกึ ษา และทบทวนการปฏิบตั งิ านว่าเป็นไปอย่างปราศจากข้อบกพร่องและมปี ระสิทธภิ าพรวมทั้งให้ ความสำคัญต่อการปรบั ปรุงคุณภาพอย่างตอ่ เน่ือง หลกั การทนี่ ำไปสู่การประกนั คุณภาพ ไดแ้ ก่ 1) หลกั การเก่ียวกบั การจดั การใหค้ วามบกพรอ่ งมีคา่ เป็นศนู ย์ (Zero Defects Concept) 2) โปรแกรมการปรบั ปรุงคณุ ภาพตามแนวคิดของCrosby (Crosby’s Quality Improvement Program) 3) การปรับปรงุ คุณภาพตามแนวคิดของ Juran (Juran’sTon Stops to Quality Improvement) 4) แนวคิดเกยี่ วกับการปรบั ปรุงคณุ ภาพครบวงจร PDCA 5) หลักความรบั ผดิ ชอบท่ีตรวจสอบได้ (Accountability) การพัฒนาระบบการประกนั คุณภาพการศกึ ษาภายในของสถานศึกษาจึงยึดหลกั การ 3 ประการ คือ 1) การกระจายอำนาจ (Decentralization) 2) การเปิดโอกาสการมสี ว่ นรว่ มในการทำงาน (Participation) 3) การ แสดงภาระรบั ผดิ ชอบท่ีตรวจสอบได้ (Accountability) ส่วนการประกนั คณุ ภาพภายนอก (External Quality Assurance) เปน็ การประเมินคณุ ภาพการจดั การศกึ ษาเพ่ือให้มีการตดิ ตามและตรวจสอบคุณภาพและมาตรฐาน การศกึ ษาของสถานศึกษา โดยคำนึงถงึ ความม่งุ หมาย หลักการ และแนวการจดั การศกึ ษาในแตล่ ะระดบั ซง่ึ ประเมนิ โดยสำนกั งานรับรองมาตรฐานและประเมนิ คณุ ภาพการศกึ ษา (องคก์ ารมหาชน) สภาพการดำเนนิ การประกันคุณภาพดำเนินการให้ครบกระบวนการ ปัจจยั ภายใน ไดแ้ ก่ การท่ีผูบ้ รหิ ารมี ความมุ่งม่นั ท่มุ เท สนใจใฝ่เรียนรู้ ใชท้ ั้งการบริหารแบบมสี ว่ นรว่ มและแบบเข็มงวด การมีวัฒนธรรมองค์การที่ดี มี แบบแผนการทำงานเป็นทีม มีตัวแบบการเปน็ ครทู ีด่ ี ยอมรับการเปล่ยี นเปลงและเห็นคุณค่าของการประเมนิ รวมทงั้ การที่ครมู คี วามรับผิดชอบและเอาใจใสต่ ่อการสอน สนใจใฝ่เรยี นรแู้ ละเชือ่ วา่ การประกนั คุณภาพการศึกษา นำไปสกู่ ารพฒั นาการประกันคุณภาพการศึกษา ปัจจยั ที่เก่ียวข้องกบั ระบบประกนั คุณภาพภายในสถานศึกษา ได้แก่ ตวั แปรปจั จยั ด้านการบริหาร ปัจจยั ดา้ นโครงสรา้ ง ปจั จัยดา้ นบุคลากร ปจั จยั ดา้ นกระบวนการ ปัจจยั ดา้ นทรพั ยากร การทดสอบความสมั พนั ธ์ โครงสรา้ งเชงิ เสน้ ระหวา่ งปจั จัยต่าง ๆ ของการประกนั คณุ ภาพภายในสถานศกึ ษา ซึ่งมีความสอดคล้องกลมกลนื กบั ข้อมลู เชิงประจักษ์ ดงั นนั้ ในการพฒั นาปัจจัยทางการศึกษาหรือการประกันคุณภาพการศึกษาใหเ้ ข้าสมู่ าตรฐาน จำเป็นตอ้ งมีการพัฒนาบคุ ลากรทางการศึกษา และหลกั สูตร กระบวนการเรียนการสอน ระบบการบรหิ าร และ การจัดการ ในทำนองเดียวกันการกำหนดปัจจยั ทีส่ ง่ ผลตอ่ การประกนั คุณภาพภายในสถานศึกษาขนั้ พื้นฐาน อนั ประกอบดว้ ย 5 ปัจจยั ได้แก่ ปัจจยั ด้านผู้บรหิ าร ปัจจยั ดา้ นครู ปัจจยั ดา้ นบคุ คล ปัจจยั ด้านวิชาการ และปัจจัย ด้านสิง่ แวดล้อม นบั ว่ามีความสำคญั และจำเป็นเชน่ กันต่อความสำเร็จหรอื ประสทิ ธภิ าพของการดำเนนิ งานการ ประกนั คุณภาพภายในสถานศึกษาขนั้ พ้ืนฐาน

14 แนวทางการดำเนินงานตามระบบประกันคุณภาพภายในสถานศกึ ษาข้ันพืน้ ฐาน สงั กดั องคก์ ารบรหิ ารสว่ น จงั หวัดชยั ภมู ิ ประกอบด้วย 8 ขัน้ ตอน ดงั น้ี 1) การกำหนดมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษา 2) การจัดทำแผนพฒั นาการจดั การศกึ ษาของสถานศึกษาทมี่ ุ่งคณุ ภาพตามมาตรฐานการศึกษาของ สถานศึกษา 3) การจัดระบบบริหารและสารสนเทศ 4) การดำเนินงานตามแผนพัฒนาการจัดการศึกษาของสถานศึกษา 5) การตดิ ตามตรวจสอบคุณภาพการศกึ ษา 6) การประเมนิ คุณภาพภายในตามมาตรฐานการศกึ ษาของสถานศกึ ษา 7) การจัดทำรายงานประจำปีทเี่ ป็นรายงานประเมนิ คณุ ภาพภายใน 8) การพัฒนาคณุ ภาพการศึกษาอย่างต่อเน่ือง รปู แบบการนำผลการประเมนิ คณุ ภาพการศึกษาไปใชไ้ ด้วา่ “มี 2 ระดับ ท่ีมคี วามสัมพนั ธ์กนั คอื ระยะแรกเป็นการใช้ในเชงิ ความคดิ ทำใหเ้ กดิ ความกระจ่างความเข้าใจ มีการเรยี นรู้เก่ียวกับสงิ่ ท่ปี ระเมิน การใช้ ระยะต่อมาเปน็ การใช้ในเชิงปฏิบัตกิ ารซ่งึ นำไปใชไ้ ด้ใน 3 ลักษณะ คือ 1) การใชใ้ นเชิงตรวจสอบยืนยนั เปน็ การใชผ้ ลการประเมินเพื่อเปนื เหตผุ ลสนับสนนุ หรอื ยนื ยันผลการตัดสินใจท่ีกำหนดไวลว้ งหนา้ ของผบู้ รหิ าร/ผู้ วางนโยบาย/ผูท้ ่มี ีหน้าท่เี กย่ี วข้องส่วนการบรหิ ารโดยทว่ั ไปจะใช้ในการตรวจสอบผลงานในรอบปีทีผ่ า่ นมาวา่ มี โครงการใดบา้ งควรให้การสนับสนุนต่อไป โครงการใดควรยกเลกิ 2) การใชใ้ นเชิงสญั ลักษณ์หรือการใชใ้ นเชงิ ชวน เช่อื เปน็ การใช้ผลการประเมินเป็นเครื่องช่วยติดตาม กำกับ ควบคุมการประเมินเพื่อแสดงวา่ การดำเนนิ การ ประเมินนน้ั เปน็ ไปตามแนวทางและมีระเบียบข้นั ตอนท่เี หมาะสมและยงั เป็นหลกั ฐานสนบั สนุน หรอื เสริมนโยบาย การบริหารงานของหนว่ ยงาน เพ่ือโนม้ น้าวชวนเช่อื ให้ผู้อน่ื เกิดความเชอ่ื ถือและคลอ้ ยตามให้การสนับสนนุ ความคดิ ของตน 3) การใชใ้ นเชิงปฏบิ ัตเิ ปน็ การใช้ผลการประเมินเป็นเครอ่ื งชว่ ยในการลงมือปฏบิ ัติหรือแก้ปัญหาโดยตรง และมีหลกั ฐานสำหรบั การอา้ งองิ ซงึ่ จะส่งผลให้ระบบการประกนั คุณภาพภายในของสถานศึกษามคี ุณภาพ”

15 บรรณานกุ รม กติ ตินันท์ ชุมวัน, ศิริ ถีอาสนา และ ฐติ ารยี ์ วิลยั เลศิ . (2558). แนวทางการดำเนนิ งานตามระบบประกนั คณุ ภาพ ภายในสถานศกึ ษาข้นั พ้ืนฐาน สงั กดั องคก์ ารบริหารส่วนจังหวัดชัยภมู ิ. วารสารศึกษาศาสตร์ ฉบับ วิจัยบณั ฑติ ศึกษา มหาวิทยาลยั ขอนแกน่ ปีท่ี 9 ฉบับที่ 4 ตลุ าคม - ธนั วาคม 2558. วทิ ยา วงอนิ ทร์, ดร. ฉัตรทพิ ย์ สุวรรณชิน. (2558). การปฏบิ ตั ิงานการประกันคณุ ภาพการศกึ ษาภายใน ตาม กระบวนการวงจรคุณภาพ (PDCA) ของโรงเรยี นปายวิทยาคาร อำเภอปาย จงั หวดั แม่ฮอ่ งสอน. วารสารบัณฑิตศึกษามหาวทิ ยาลยั ฟารอ์ ีสเทอรน์ . ปีท่ี 3 ฉบบั ที่ 1 มิถนุ ายน 2557 – พฤษภาคม 2558. เทวัน เงาะเศษ, หริ ัญ ประสารการ. (2560). ปัจจัยที่สง่ ผลตอ่ การดำเนนิ งานการประกนั คุณภาพการศกึ ษา ของโรงเรียนมธั ยมศกึ ษาในจังหวัดกระบี่ สังกดั สำนกั งานเขตพน้ื ทกี่ ารศึกษามัธยมศึกษาเขต 13. วารสารวชิ าการมหาวทิ ยาลยั ราชภัฏภูเกต็ . ปีท่ี 13 ฉบบั ท่ี 2 กรกฎาคม – ธนั วาคม 2560. นุจนาจ ขุนาพรม, มณเฑยี ร พวั ไพบูลย์. (2560). แนวทางการดำเนนิ การประกนั คุณภาพภายในสถานศึกษา สังกัดองค์การบรหิ ารสว่ นจังหวัดชัยภูมิ. วารสารบรหิ ารการศึกษามหาสารคาม ฉบบั ท่ี 9 มกราคม - เมษายน 2561. ปิยะวรรณ ชนะราวี. (2560). การดำเนินงานประกันคณุ ภาพการศึกษาโรงเรียนในอำเภอช้างกลาง สังกัด สำนักงานเขตพนื้ ทกี่ ารศึกษาประถมศึกษานครศรีธรรมราช เขต 2. หลักสูตรศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบรหิ ารการศึกษา คณะศลิ ปศาสตร์ สถาบนั รัชต์ภาคย์. พระเมธปี รยิ ตั ธิ าดา (บุญพรม จารปุ ญฺโญ), พระมหาสริ ิวัฒนา สิริวชั รวรกุล, สิริกาญจน์ ธนวุฒพิ รพินิต, และชมพู นชุ ช้างเจรญิ . (2564). การประกนั คณุ ภาพการศึกษา. วารสารครุศาสตร์ปรทิ รรศน์ฯ. ปที ่ี 8 ฉบบั ท่ี 1 มกราคม - เมษายน 2564. รุจิรา กองจันทร์, ดร.สมเกียรติ ตนุ่ แก้ว, ดร.พูนชยั ยาวิราช, ดร.ไพรภ รัตนชวู งศ์. (2563). นวัตกรรมการ บรหิ ารและการจดั การศกึ ษาเพ่ือพัฒนาการประกันคณุ ภาพของโรงเรยี นปงพัฒนาวทิ ยาคม. วารสาร การบรหิ ารการศึกษาและภาวะผูน้ ำ มหาวทิ ยาลัยราชภฏั สกลนคร. ฉบับออนไลน์ https://jeal.snru.ac.th. สุวฒั นพงษ์ รม่ ศรี, เพ่ิมพลู ร่มศรี, สัญญา เคณาภูมิ. (2558). การพัฒนารปู แบบการนำผลการประเมิน คณุ ภาพการศกึ ษาไปใช้ สำนักงานเขตพนื้ ทีก่ ารศึกษาประถมศึกษาร้อยเอด็ เขต 1. วารสาร วทิ ยาลัยนครราชสมี า ปีที่ 10 ฉบับท่ี 2 กรกฎาคม - ธนั วาคม 2559. สมใจ ยอดปราง. (2561). ปัจจัยเชิงสาเหตุที่สง่ ผลตอ่ การประกันคุณภาพภายในของสถานศึกษาขนั้ พื้นฐาน สงั กัดสำนกั งานเขตพนื้ ทก่ี ารศึกษาประถมศกึ ษา. วารสารมหาวทิ ยาลัยราชภัฏราชนครนิ ทร์ กรกฎาคม - ธันวาคม 2561. อังคณา จัตตามาศ. (2558). การพัฒนาระบบสารสนเทศการประกนั คุณภาพการศกึ ษาด้วยเทคโนโลยีการ ประมวลผลแบบกลุ่มเมฆ. วารสารสังคมศาสตร์ ปที ่ี 4 ฉบับที่ 1 มกราคม - มิถุนายน 2558 มหาวิทยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์วิทยาเขตวังไกลกงั วล.

16 ภาคผนวก

บทความการวิจัย การดาเนนิ งานประกันคุณภาพการศึกษาโรงเรยี นในอาเภอช้างกลาง สงั กัดสานักงานเขตพ้ืนทกี่ ารศึกษาประถมศกึ ษานครศรธี รรมราช เขต 2 ปยิ ะวรรณ ชนะราวี หลกั สูตรศกึ ษาศาสตรมหาบัณฑิต บทคัดย่อ การวิจยั คร้งั น้ี มีวัตถุประสงค์ 1) เพ่ือศึกษาและเปรียบเทียบการดาเนินงานประกันคุณภาพการศึกษา โรงเรียนในอาเภอช้างกลาง สังกัดสานักงานเขตพื้นท่ีการศึกษาประถมศึกษา นครศรีธรรมราช เขต 2 ตามวุฒิ การศกึ ษา สภาพการดารงตาแหน่ง ประสบการณ์ การทางานและขนาดของโรงเรียน กลุ่มตัวอย่าง จานวน 181 คน ประกอบด้วย ผู้บริหารโรงเรียน ครูผู้รับผิดชอบการดาเนินงานการประกันคุณภาพการศึกษาและครูผู้สอน จานวน 181 คน เครื่องมือท่ีใช้ในการเก็บรวบรวม ข้อมูลเป็นแบบสอบถามมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ จานวน 58 ข้อ การวิเคราะห์ข้อมูลใช้สถิติร้อยละ ค่าเฉล่ีย และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ทดสอบสมมุติฐานโดย ทดสอบที (t-test) และทดสอบเอฟ (F-test) ผลการวิจยั พบวา่ 1. การดาเนินงานประกันคุณภาพการศึกษาโรงเรียนในอาเภอช้างกลาง สังกัดสานักงานเขตพ้ืนที่ การศกึ ษาประถมศกึ ษานครศรธี รรมราช เขต 2 โดยภาพรวม และรายดา้ น อยู่ในระดับมาก 2. บุคลากรท่ีมีวุฒิการศึกษา ประสบการณ์การทางาน ขนาดโรงเรียนต่างกัน การดาเนินงาน ประกนั คณุ ภาพการศึกษาในโรงเรียนไม่แตกตา่ งกัน 3. บุคลากรที่มีสภาพการดารงตาแหน่งต่างกันมีความเห็นต่อการดาเนินงานการประกันคุณภาพ การศึกษาในโรงเรยี น แตกต่างกันอยา่ งมนี ยั สาคญั ทางสถติ ทิ ร่ี ะดับ .05 วตั ถปุ ระสงค์ของการวจิ ยั 1. เพื่อศึกษาสภาพการดาเนินงานประกันคุณภาพการศึกษาโรงเรียนในอาเภอช้างกลาง สังกัด สานักงานเขตพ้ืนทีก่ ารศึกษาการประถมศึกษานครศรีธรรมราช เขต2 2. เพ่ือเปรียบเทียบสภาพการดาเนินงานประกันคุณภาพการศึกษาโรงเรียนในอาเภอช้างกลาง สังกัดสานักงานเขตพื้นท่ีการศึกษาประถมศึกษานครศรีธรรมราช เขต 2 ตามความคิดเห็นของผู้บริหาร สถานศึกษา ครูผู้รับผิดชอบงานการประกันคุณภาพการศึกษาและครูผู้สอน จาแนกตามวุฒิการศึกษา สภาพ การดารงตาแหน่ง ประสบการณก์ ารทางาน และขนาดของโรงเรียน

2 วธิ ีดาเนินการวจิ ัย ในการดาเนินการวจิ ัยครั้งน้ี ผูว้ ิจยั ไดส้ รา้ งเครื่องมอื โดยดาเนินการ ดังนี้ 1. ศกึ ษาเอกสาร และงานวิจยั ท่ีเกยี่ วขอ้ งกับการดาเนนิ งานประกันคุณภาพการศกึ ษา 2. กาหนดนยิ ามปฏิบตั ิการตามเอกสาร และงานวิจัยที่ศึกษาค้นควา้ เพื่อเปน็ กรอบกาหนดการ สรา้ งแบบสอบถาม 3. สรา้ งแบบสอบถามตามตวั แปร ท่ีใช้ในการศึกษาใหค้ รอบคลมุ ทั้ง 8 ดา้ น ดังน้ี 1. การจดั ระบบการบริหารและสารสนเทศ 2. การกาหนดมาตรฐานการศึกษา 3. การจัดทาแผนพฒั นาการจดั การศึกษา 4. การดาเนนิ งานตามแผนพฒั นาการจดั การศกึ ษา 5. การตดิ ตามตรวจสอบคณุ ภาพการศึกษา 6. การประเมนิ คุณภาพภายในตามมาตรฐานการศึกษา 7. การรายงานคณุ ภาพการศึกษาประจาปี 8. การพฒั นาคุณภาพการศึกษาอย่างต่อเนือ่ ง 4. นาแบบสอบถามเสนออาจารย์ท่ีปรึกษา เพื่อพิจารณาตรวจสอบความเหมาะสมและความ เที่ยงตรงเชิงเนื้อหา (Content Validity) เพ่ือท่ีจะได้นาข้อมูลท่ีได้รับการพิจารณาและข้อเสนอแนะในด้าน ตา่ งๆ มาเป็นแนวทางในการปรับปรงุ แกไ้ ขแบบสอบถามให้มคี วามสมบรู ณ์และเหมาะสมยิ่งขนึ้ 5. แบบสอบถามปรับปรุงแก้ไข แล้วนาไปทดลองใช้ (Try-out) กับกลุ่มตัวอย่างที่มีลักษณะ ใกล้เคียงกับกลุ่มตัวอย่างที่กาหนดไว้ในการศึกษา เพื่อตรวจสอบความเข้าใจในสานวนภาษาจานวน 30 คน แล้วหาค่าความเช่ือม่ันของแบบสอบถาม (Reliability) ด้วยวิธีการวิเคราะห์จากคอมพิวเตอร์ โดยหาค่า สัมประสทิ ธ์ิแอลฟา ของครอนบาค (บญุ ชม ศรสี ะอาด, 2535 :96) ไดค้ ่าความเชอ่ื มน่ั เทา่ กบั .95 6. นาแบบสอบถามพร้อมหนงั สอื ขอความอนุเคราะหไ์ ปใช้เกบ็ ข้อมลู จากกลุม่ ตวั อยา่ งตอ่ ไป การสร้างเครอื่ งมอื ทีใ่ ชใ้ นการวจิ ัย เคร่ืองมือท่ีใช้ในการวิจัยครั้งน้ี เป็นแบบสอบถามเก่ียวกับการศึกษาสภาพการดาเนินงานประกัน คุณภาพการศึกษาโรงเรียนในอาเภอช้างกลาง สังกัดสานักงานเขตพ้ืนที่การศึกษาประถมศึกษา นครศรีธรรมราช เขต 2 แบง่ ออกเป็น 2 ตอน ดังน้ี ตอนท่ี 1 เป็นแบบสอบถามเกี่ยวกับสถานภาพของผู้ตอบแบบสอบถาม มีลักษณะเป็นแบบ ตรวจสอบรายการ (Checklist) ตอนที่ 2 เป็นแบบสอบถามเก่ียวกับสภาพการดาเนินงานประกันคุณภาพการศึกษาโรงเรียนใน อาเภอช้างกลาง สงั กัดสานักงานเขตพื้นท่กี ารศกึ ษานครศรีธรรมราช เขต 2 เป็นแบบลักษณะมาตราส่วนประมาณ ค่า (Rating Scale) ตามแบบของลิเคริ ท์ (Likert) มี 5 ระดบั คือ มากท่ีสุด มาก ปานกลาง น้อย และน้อยที่สุด แบ่งเป็น 8 ดา้ น ดังน้ี

3 1. การจดั ระบบการบริหารและสารสนเทศ 2. การกาหนดมาตรฐานการศึกษา 3. การจัดทาแผนพัฒนาการจัดการศกึ ษา 4. การดาเนนิ งานตามแผนพัฒนาการจดั การศกึ ษา 5. การติดตามตรวจสอบคุณภาพการศึกษา 6. การประเมนิ คุณภาพภายในตามมาตรฐานการศกึ ษา 7. การรายงานคุณภาพการศึกษาประจาปี 8. การพัฒนาคุณภาพการศกึ ษาอย่างต่อเน่ือง สรปุ ผลการวจิ ัย กลุ่มตัวอย่างมีวุฒิการศึกษา ระดับปริญญาตรี ร้อยละ 90.61 สูงกว่าปริญญาตรี ร้อยละ 9.39 สภาพ การดารงตาแหนง่ สว่ นใหญเ่ ปน็ ครูผู้สอนรอ้ ยละ 59.12 ผ้บู รหิ ารโรงเรยี น ร้อยละ 20.44 ครผู รู้ ับผิดชอบร้อยละ 20.44 ส่วนใหญ่ปฏิบัติงานในโรงเรียนขนาดใหญ่ ร้อยละ 58.56 และโรงเรียนขนาดเล็ก ร้อยละ 41.44 มี ประสบการณ์การทางานตั้งแต่ 11 ปีข้ึนไป มากท่ีสุด ร้อยละ 55.80 ประสบการณ์การทางาน 6-10 ปี ร้อยละ 32.60 ประสบการณก์ ารทางาน 1-5 ปี ร้อยละ 11.60 การดาเนินงานการประกันคุณภาพการศึกษาโรงเรียนในอาเภอช้างกลาง สังกัดสานักงานเขตพ้ืนท่ี การศึกษาประถมศกึ ษานครศรีธรรมราช เขต 2 โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากเมอ่ื พิจารณาเป็นรายดา้ นพบวา่ 1. ดา้ นการจัดระบบการบรหิ ารและสารสนเทศ อยูใ่ นระดับมาก 2. ด้านการกาหนดมาตรฐานการศึกษาอยู่ในระดบั มาก 3. ดา้ นการจดั ทาแผนพฒั นาการจัดการศึกษาอย่ใู นระดบั มาก 4. ดา้ นการดาเนนิ งานตามแผนพัฒนาการจดั การศึกษาอยู่ในระดบั มาก 5. ดา้ นการตดิ ตามตรวจสอบคณุ ภาพการศกึ ษาอยใู่ นระดบั มาก 6. ดา้ นการประเมนิ คณุ ภาพภายในตามมาตรฐานการศึกษาอยู่ในระดบั มาก 7. ดา้ นการรายงานคุณภาพการศึกษาประจาปอี ยใู่ นระดับมาก 8. ดา้ นการคุณภาพการศกึ ษาอยา่ งตอ่ เนือ่ งอยู่ในระดบั มาก การเปรียบเทียบการดาเนินงานประกันคุณภาพการศึกษาโรงเรียนในอาเภอช้างกลาง สังกัด สานักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษาประถมศึกษานครศรีธรรมราช เขต 2 โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากเม่ือพิจารณา เปน็ รายด้านพบว่า 1. เปรียบเทียบการดาเนินงานประกันคุณภาพการศึกษาโรงเรียนในอาเภอช้างกลาง สังกัด สานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครศรีธรรมราช เขต 2 โดยภาพรวมและเป็นรายด้าน จานวน 8 ดา้ นจาแนกตาม ตวั แปรวุฒิการศกึ ษา พบว่าไม่แตกตา่ งกนั

4 2. เปรียบเทียบการดาเนินงานประกันคุณภาพการศึกษาโรงเรียนในอาเภอช้างกลาง สังกัด สานักงานเขตพื้นท่ีการศึกษาประถมศึกษานครศรีธรรมราช เขต 2 โดยภาพรวมและเป็นรายด้าน จานวน 8 ดา้ นจาแนกตาม ตวั แปรสภาพการดารงตาแหนง่ พบว่าแตกตา่ งกนั อย่างมนี ยั สาคญั ทางสถติ ทิ ี่ระดบั .05 3. เปรียบเทียบการดาเนินงานประกันคุณภาพการศึกษาโรงเรียนในอาเภอช้างกลาง สังกัด สานักงานเขตพ้ืนที่การศึกษาประถมศึกษานครศรีธรรมราช เขต 2 โดยภาพรวมและเป็นรายด้าน จานวน 8 ดา้ นจาแนกตาม ตวั แปรประสบการณก์ ารทางาน พบวา่ ไมแ่ ตกต่างกนั 4. เปรียบเทียบการดาเนินงานประกันคุณภาพการศึกษาโรงเรียนในอาเภอช้างกลาง สังกัด สานักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษาประถมศึกษานครศรีธรรมราช เขต 2 โดยภาพรวมและเป็นรายด้าน จานวน 8 ดา้ นจาแนกตาม ตัวแปรขนาดโรงเรยี น พบวา่ ไมแ่ ตกต่างกนั อภปิ รายผลวิจยั 1. การดาเนินงานประกันคุณภาพการศึกษาโรงเรียนในอาเภอช้างกลาง สังกัดสานักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษา ประถมศกึ ษานครศรีธรรมราช เขต 2 พบว่า โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก และเม่ือพิจารณา รายด้าน ได้แก่ ด้านการ จัดระบบการบริหารและสารสนเทศ การกาหนดมาตรฐานการศึกษา การจัดทาแผนพัฒนาการจัดการศึกษา การ ดาเนินงานตามแผนพัฒนาการจัดการศึกษา การติดตาม ตรวจสอบคุณภาพการศึกษาการประเมินคุณภาพภายใน ตามมาตรฐานการศึกษา การรายงานคุณภาพการศึกษาประจาปี การพัฒนาคุณภาพการศึกษาอย่างต่อเนื่อง พบว่าอยู่ในระดับมากทุกด้าน ผลวิจัยปรากฏเช่นน้ี อาจเป็นเพราะว่าโรงเรียนในอาเภอช้างกลาง จังหวัด นครศรีธรรมราช สังกัดสานักงาน เขตพ้ืนท่ีการศึกษาประถมศึกษานครศรีธรรมราช เขต 2 ส่วนใหญ่ดาเนินงานการ ประกันคุณภาพการศึกษา เพ่ือสนองนโยบายปฏิรูปการศึกษาตามพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542 แก้ไขเพมิ่ เติม (ฉบบั ท่ี 2) พ.ศ. 2545 หมวด 6 มาตรา 47, 48 กาหนดให้โรงเรียนจัดให้มีการดาเนินการตามระบบ หลักเกณฑ์และวิธีการประกันคุณภาพการศึกษาให้เป็นไปตามกาหนดในกฎกระทรวง และให้ถือว่าการประกัน คุณภาพภายในเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการบริหารการศึกษาท่ีต้องดาเนินการอย่างต่อเนื่อง นาไปสู่การพัฒนา คุณภาพและมาตรฐานการศึกษา และรองรับการประกันคุณภาพภายนอก พระราชบัญญัติ การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542 และทีแ่ ก้ไขเพิม่ เตมิ (ฉบบั ที่ 2) พ.ศ. 2545 : 29–30) ซึ่งสอดคล้องกับขนิษฐา จรูญชนม์ (2550: บทคัดย่อ) ที่ได้ศึกษาการปฏิบัติงานการประกันคุณภาพภายในของคณะกรรมการสถานศึกษาข้ันพ้ืนฐาน เพื่อทราบการ ปฏิบัติงานการประกันคุณภาพภายในของของคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน และผลการเปรียบเทียบความเห็น ของคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพ้ืนฐานฝ่ายต่างๆที่มีต่อการปฏิบัติงาน การประกันคุณภาพภายในของ คณะกรรมการสถานศึกษาข้ันพ้ืนฐานพบว่าการปฏิบัติงานการประกันคุณภาพภายในของของคณะกรรมการ สถานศึกษาข้ันพื้นฐาน สังกัดเขตพ้ืนที่การศึกษากรุงเทพมหานคร เขต 3 โดยภาพรวมตามข้ันตอนการประกัน คุณภาพภายใน 8 ด้าน อยู่ในระดับมาก และสอดคล้องกับผลการวิจัยของสงัด เกตุรัตน์ (2548: บทคัดย่อ) ได้ ทาการศึกษาการดาเนินงานตามมาตรฐานการศึกษาสาหรับการประเมินคุณภาพภายนอกของสถานศึกษาใน อาเภอดาเนินสะดวก จังหวัดราชบุรี เพื่อทราบการดาเนินงานของสถานศึกษาตามมาตรฐานการศึกษา ปัญหาการ ดาเนินงานของสถานศกึ ษาตามมาตรฐาน การศึกษา และแนวการดาเนนิ งานของสถานศึกษาตามมาตรฐานการศึกษา

5 พบว่า การดาเนินงานตามมาตรฐานการศึกษาสาหรับการประเมินคุณภาพภายนอกของสถานศึกษาในอาเภอดาเนิน สะดวก จงั หวัดราชบรุ ี พบวา่ ในภาพรวมและรายดา้ นอยใู่ นระดับมากทกุ ดา้ น 2. เปรียบเทียบการดาเนินงานประกันคุณภาพการศึกษาโรงเรียนในอาเภอช้างกลาง สังกัดสานักงาน เขตพื้นท่กี ารศึกษาประถมศกึ ษานครศรีธรรมราช เขต 2 พบว่า โดยภาพรวมและเปน็ รายดา้ น สรปุ ไดด้ งั นี้ 2.1 ผู้บริหารโรงเรียน ครูผู้รับผิดชอบงานประกันคุณภาพการศึกษาและครูผู้สอน ที่มีวุฒิการศึกษา ต่างกัน มีการดาเนินงานประกันคุณภาพการศึกษาไม่แตกต่างกัน ซ่ึงไม่ สอดคล้องกับสมมติฐาน ท้ังนี้อาจเป็น เพราะว่านโยบายด้านการพัฒนาคุณภาพการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ กาหนดให้การประกันคุณภาพ การศึกษาในโรงเรียนเป็นภาระงานที่บุคลากรในโรงเรียนทุกคนต้องปฏิบัติ เพื่อนาไปสู่การพัฒนาคุณภาพการศึกษา และรองรบั การประเมินภายนอก (กระทรวงศึกษาธิการ. 2546) ประกอบกับบุคลากรส่วนใหญ่ในอาเภอช้างกลาง จังหวัดนครศรีธรรมราช สังกัดสานักงานเขตพื้นท่ีการศึกษาประถมศึกษานครศรีธรรมราช เขต 2 มีความ กระตือรือร้นที่จะหาความรู้ในเรื่องน้ี โดยการอบรมประชุมสัมมนา ศึกษาเอกสาร และนาไปดาเนินการเพ่ือพัฒนา คุณภาพการศึกษาในอาเภอช้างกลาง จังหวัดนครศรีธรรมราช สังกัดสานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา นครศรีธรรมราช เขต 2 มีการนิเทศ ติดตามการดาเนินการประกันคุณภาพการศึกษาของโรงเรียนในสังกัดอย่าง สม่าเสมอ ทาให้ความคิดเห็น ของบุคลากรในการดาเนินงานการประกันคุณภาพการศึกษาไม่แตกต่างกัน สอดคล้องกับผลการวิจัยของประเสริฐ ศรีอยู่; จุไร โชคประสิทธ์ิ; และ อรสา โกศลานันทกุล (2551: 38-39) ที่ศึกษา ปัญหาการประกันคุณภาพภายนอกของโรงเรียนในสังกัดสานักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษาปราจีนบุ รีพบว่าผลการ เปรียบเทียบปัญหาการประกันคุณภาพภายนอกของโรงเรียน ในสังกัดสานักงานเขตพื้นที่การศึกษาปราจีนบุรี จาแนกตามวุฒกิ ารศึกษา พบว่า ครแู ละผบู้ รหิ ารทม่ี ีวฒุ ิการศกึ ษาต่างกันมีความคิดเห็นเกี่ยวกับปัญหาการประกัน คุณภาพภายนอกของโรงเรียน ในสังกัดสานักงานเขตพื้นท่ีการศึกษาปราจีนบุรี ไม่แตกต่างกัน ท้ังโดยรวม และ รายด้าน 2.2 ผู้บริหารโรงเรียน ครูผู้รับผิดชอบงานประกันคุณภาพการศึกษาในโรงเรียนและ ครูผู้สอนที่มี สภาพการดารงตาแหน่งต่างกัน มีการดาเนินงานการประกันคุณภาพการศึกษา แตกต่างกันซ่ึงตรงกับสมมติฐาน ที่ตั้งไว้ ทั้งนี้ อาจเป็นเพราะว่าบทบาทหน้าที่และความรับผิดชอบตามสภาพการดารงตาแหน่งที่แตกต่างกันการ ปฏิบัติงานหรือการมีส่วนร่วมของบุคลากรแตกต่างกันทาให้ความคิดเห็น ในการดาเนินงานการประกันคุณภาพ การศึกษาในโรงเรียนแตกต่างกัน ซึ่งสอดคล้องกับผลงานวิจัยของสานักงานเขตพ้ืนที่การศึกษาการประถมศึกษา จังหวัดนครศรีธรรมราชเขต 2 (2553 : บทคัดย่อ) และยังสอดคล้องกับผลการวิจัยของประเสริฐ ศรีอยู่; จุไร โชค ประสิทธิ์; และ อรสา โกศลานันทกุล (2551: 38-39) ที่ศึกษาปัญหาการประกันคุณภาพภายนอกของโรงเรียนในสังกัด สานักงานเขตพน้ื ทก่ี ารศึกษาปราจนี บุรพี บวา่ ผลการเปรียบเทียบปัญหาการประกันคุณภาพภายนอกของโรงเรียน ใน สังกัดสานักงาน เขตพ้ืนท่ีการศึกษาปราจีนบุรี จาแนกตามวุฒิการศึกษา พบว่าผลการเปรียบเทียบปัญหาการ ประกันคุณภาพภายนอกของโรงเรียน ในสังกัดสานักงานเขตพ้ืนที่การศึกษาปราจีนบุรี จาแนกตามตาแหน่ง พบว่า ตาแหน่งต่างกันระดับปัญหาการประกันคุณภาพภายนอกของโรงเรียน ในสังกัดสานักงานเขตพื้นท่ี การศึกษาปราจีนบุรี แตกต่างกันอย่างมีนัยสาคัญทางสถิติที่ระดับ .05 เมื่อพิจารณาเป็นรายข้ันตอน พบว่า ทุกขนั้ ตอนแตกตา่ งกนั อยา่ งมนี ัยสาคัญทางสถิตทิ ่ีระดับ .05

6 2.3 ผู้บริหารโรงเรียน ครูผู้รับผิดชอบงานประกันคุณภาพการศึกษาและครู ผู้สอนที่มี ประสบการณ์การทางานต่างกัน มีการดาเนินงานการประกันคุณภาพการศึกษาในโรงเรียน ไม่แตกต่างกัน ซ่ึงไม่ สอดคล้องกับสมมุติฐาน ท้ังนี้อาจเป็นเพราะว่าบุคลากรต้องปฏิบัติตามพระราชบัญญัติ การศึกษาแห่งชาติ ในเร่ืองการ ประคุณภาพการศึกษาภายในและการประเมินคุณภาพภายนอก รวมทั้งหน่วยงานท่ีเก่ียวข้องกับการศึกษา ต้ังแต่ ระดับชาติลงมามุ่งเน้นในเร่ืองน้ีเพื่อให้การศึกษามีคุณภาพตามมาตรฐานการศึกษาชาติ มีการให้ความรู้เรื่องการ ประกนั คณุ ภาพการศกึ ษาก่อนเข้าสู่ตาแหน่งและจัดให้บุคลากรเข้าอบรมสัมมนาเรื่องน้ีอยู่เสมอ รวมทั้งหน่วยงาน ท่ีรบั ผดิ ชอบการศกึ ษาทุกระดบั ได้นิเทศ ตดิ ตาม ประเมินผล ตามกาหนดในแผนปฏิบัติ ทาให้บุคลากรทุกคน ต้อง สนใจ ตื่นตัว ปฏิบัติตามอย่างจริงจัง ความคิดเห็นในเรื่องการประกันคุณภาพการศึกษาจึงไม่แตกต่างกัน ซ่ึงสอดคล้องกับผลงานวิจัยของมนต์ชัย สุวรรณหงษ์ (2554: บทคัดย่อ) ท่ีได้ศึกษาสภาพการปฏิบัติงานประกัน คุณภาพภายในของครูโรงเรียนบริหารธุรกิจอยุธยา สังกัดสานักงานเขตพ้ืนที่การศึกษาประถมศึกษาจังหวัด พระนครศรีอยุธยา เขต 1 สานักบริหารงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชนพบว่าการเปรียบเทียบ พฤติกรรม การปฏิบัติงานการประกันคุณภาพภายในของครูโรงเรียนบริหารธุรกิจอยุธยา สังกัดสานักงาน เขตพ้ืนที่การศึกษา ประถมศึกษาจงั หวดั พระนครศรอี ยุธยา เขต 1 สานกั บริหารงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน เมื่อจาแนก ตามประสบการณ์การทางานของครู โดยภาพรวมมีระดับพฤติกรรม การปฏิบัติงานการประกันคุณภาพภายในไม่ แตกตา่ งกันอยา่ งมีนัยสาคญั ทางสถติ ทิ ่ีระดบั .05 2.4 ผบู้ ริหารโรงเรยี น ครูผู้รับผิดชอบงานประกันคุณภาพการศึกษาและ ครู ผู้สอน ท่ีปฏิบัติงาน ในโรงเรียนที่มีขนาดต่างกัน มีการดาเนินงานการประกันคุณภาพการศึกษาไม่แตกต่างกัน ซึ่งไม่ตรงกับสมมุติฐาน ที่ต้ังไว้ อาจเปน็ เพราะบุคลากรในโรงเรยี นต้องปฏิบตั หิ นา้ ทตี่ ามท่ีพระราชบัญญัติ การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542 แก้ไข เพิม่ เติม ฉบับที่ 2 พ.ศ.2545 ได้กาหนดใหท้ ุกโรงเรยี นตอ้ งดาเนนิ การ ประกันคุณภาพการศกึ ษาภายในและต้องได้รับ การประเมินภายนอก บุคลากรจึงต้องปฏิบัติงานในเร่ืองน้ีเหมือนกัน ความคิดเห็นจึงไม่แตกต่างกันแม้จะ ปฏิบัติงานในโรงเรียนที่มีขนาดต่างกัน ซ่ึงสอดคล้องกับผลงานวิจัยของประเสริฐ ศรีอยู่; จุไร โชคประสิทธิ์; และ อรสา โกศลานันทกุล (2551: 38-39) ซึ่งพบว่า ผลการเปรียบเทียบปัญหาการประกันคุณภาพภายนอกของ โรงเรียน ในสังกัดสานักงานเขตพื้นท่ีการศึกษาปราจีนบุรี จาแนกตามขนาดโรงเรียนโดยรวมและรายข้ันตอน พบว่า ขนาดโรงเรียนท่ีต่างกันมีปัญหาการประกันคุณภาพภายนอกของโรงเรียน ไม่แตกต่างกันบุคลากรและยัง สอดคล้องกับผลการวิจัย ของสาธิต อุตส่าห์ (2549: บทคัดย่อ) ได้ทาการวิจัยเร่ืองปัญหาการดาเนินงานการ ประกันคุณภาพภายในของสถานศึกษาข้ันพื้นฐาน สังกัดสานักงานเขตพ้ืนที่การศึกษาชลบุรี เขต 3 พบว่าใน ภาพรวมและรายด้าน ท้ัง 3 ด้าน ไม่แตกต่างกัน เม่ือจาแนกตามขนาดสถานศึกษา พบว่า ในภาพรวม 3 ด้าน ไม่ แตกตา่ งกนั เมอื่ พจิ ารณาเปน็ รายดา้ นพบวา่ แตกต่างกนั เพียงด้านเดียว คอื ดา้ นการเตรยี มการ

7 ขอ้ เสนอแนะ ข้อเสนอแนะจากการวจิ ัยในครั้งน้ี ขอ้ เสนอแนะในการนาผลวิจยั ไปใช้ 1. จากผลการวิจัยพบว่า การดาเนินงานประกันคุณภาพการศึกษาในโรงเรียน 8 ด้าน คือ การจัดระบบ บริหารและสารสนเทศ การกาหนดมาตรฐานการศึกษา การจัดทาแผนพัฒนาการจัดการศึกษา การดาเนินงานตาม แผนพัฒนาการจัดการศึกษา การติดตามตรวจสอบคุณภาพการศึกษา การประเมินคุณภาพภายในตามมาตรฐาน การศกึ ษา การรายงานคุณภาพการศึกษาประจาปีและการพัฒนาคุณภาพการศึกษาอย่างต่อเน่ือง ผู้บริหารโรงเรียน ครูผู้รับผิดชอบงานการประกันคุณภาพการศึกษาและครูผู้สอน มีความคิดเห็นต่อการดาเนินงานการประกันคุณภาพ การศึกษาในอาเภอช้างกลาง จังหวัดนครศรีธรรมราช สังกัดสานักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษาประถมศึกษา นครศรีธรรมราช เขต 2 โดยภาพรวมอย่ใู นระดบั มาก ดงั นัน้ ผเู้ กยี่ วข้องทุกฝา่ ยตั้งแต่ผู้บริหารโรงเรียน ครู ชุมชนและ ผู้ที่เกี่ยวข้องกับการดาเนินงานการประกันคุณภาพการศึกษาโรงเรียนในอาเภอช้างกลาง จังหวัดนครศรีธรรมราช สังกัดสานักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษาประถมศึกษานครศรีธรรมราช เขต 2 ควรมีการผดุงระบบการประกันคุณภาพ และส่งเสริมใหก้ ารดาเนินการประกนั คณุ ภาพการศกึ ษาโรงเรยี นมปี ระสทิ ธภิ าพมากยง่ิ ข้ึน 2. จากผลการวิจัยที่พบว่า บุคลากรที่มีสภาพการดารงตาแหน่งต่างกัน มีความคิดเห็นต่อการดาเนินงาน การ ประกันคุณภาพการศึกษาโรงเรียนในอาเภอช้างกลาง จังหวัดนครศรีธรรมราช สังกัดสานักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศกึ ษานครศรีธรรมราช เขต 2 แตกตา่ งกนั ผูบ้ รหิ าร ครูผู้รับผิดชอบงานการประกันคุณภาพการศึกษา และ ครูผู้สอนควรมีการประชุมปรึกษาหารือ เพื่อทาความเข้าใจให้ตรงกัน จะได้ร่วมกันพัฒนา การประกันคุณภาพ ภายในโรงเรียนให้มีประสิทธิภาพยิ่งข้ึนและสานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครศรีธรรมราช เขต 2 ควรจัดอบรมให้ความรู้ทางวิชาการเกี่ยวกับการประกันคุณภาพการศึกษาให้บุคลากรในอาเภอช้างกลาง จังหวัด นครศรีธรรมราช สังกดั สานักงานเขตพ้นื ทกี่ ารศึกษาประถมศึกษานครศรธี รรมราช เขต 2 ทราบและนาไปปฏิบัติ 3. จากผลการวิจัยท่ีพบว่า บุคลากรท่ีมีวุฒิการศึกษาต่างกัน ประสบการณ์การทางานต่างกัน ปฏิบัติงานในโรงเรียนที่มีขนาดต่างกัน มีความคิดเห็นต่อการดาเนินงานประกันคุณภาพการศึกษาไม่แตกต่างกัน น้ัน ผู้บริหารโรงเรียนควรสนับสนุนทรัพยากรในการดาเนินงานการประกันคุณภาพภายใน เพ่ือให้ครูได้ทางาน อยา่ งมีความสุข สานกั งานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครศรีธรรมราช เขต 2 ควรประเมินผลการดาเนินงาน การประกันคุณภาพการศึกษาของแต่ละโรงเรียนและประชาสัมพันธ์เพื่อเป็นขวัญกาลังใจของผู้ปฏิบัติให้รักษา คุณภาพและมีการพัฒนาใหด้ ียิ่งขน้ึ ตอ่ ไป ขอ้ เสนอแนะสาหรับการวิจัยคร้งั ตอ่ ไป 1. การวิจัยครั้งน้ี ผู้วิจัยศึกษาเฉพาะคุณภาพการจัดการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน โดยมุ่งเน้นคุณภาพผู้เรียน เท่าน้ัน การวิจัยครั้งต่อไปควรเพ่ิมคุณภาพการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานด้านอ่ืน ๆ เพ่ิมเติม เช่น ด้านการบริหาร จดั การ ดา้ นคุณภาพการสอน เปน็ ตน้ เพือ่ จะไดข้ อ้ มูลทห่ี ลากหลาย ชัดเจนมากยิง่ ขนึ้ 2. การวิจัยคร้ังน้ีเป็นการศึกษาจากผู้บริหารสถานศึกษาและครูเท่าน้ัน การวิจัยครั้งต่อไปควรศึกษา จากบุคคลอน่ื ๆ ทีม่ สี ว่ นเกีย่ วขอ้ งดว้ ยตามหลกั การบรหิ ารในปัจจุบันท่ีเน้นการมีส่วนร่วมจาก ทุกฝ่ายหรือผู้มีส่วนได้ ส่วนเสีย เชน่ นักเรียน บคุ ลากรทางการศึกษา ผูป้ กครอง เปน็ ตน้ เพ่อื ที่จะไดผ้ ลการศกึ ษาที่ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น

วารสารสงั คมศาสตร์ ปที ่ี 4 ฉบับที1่ มกราคม – มถิ ุนายน 2558 http://ird.rmutto.ac.th การพฒั นาระบบสารสนเทศการประกนั คุณภาพการศึกษา ด้วยเทคโนโลยีการประมวลผลแบบกลมุ่ เมฆ Development of Information System Education Quality Assurance with Cloud Computing อังคณา จัตตามาศ Aungkana Jattamart สาขาวชิ าเทคโนโลยีสารสนเทศทางธุรกิจ คณะบรหิ ารธุรกจิ มหาวิทยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลรัตนโกสินทร์ วทิ ยาเขตวังไกลกังวล E-mail: [email protected] โทร. 085-8200710 บทคดั ย่อ งานวิจัยน้ีมีวัตถุประสงค์ 1) เพ่ือพัฒนาระบบสารสนเทศการประกันคุณภาพการศึกษาด้วยเทคโนโลยี Cloud computing 2) เพื่อสนับสนุนการทํางานของผู้ใช้และผู้บริหาร 3) เพ่ือเป็นแนวทางในการนําไปประยุกต์ใช้กับหน่วยงานอ่ืนๆ เนื่องจาก สถาบันการศึกษาระดับอุดมศึกษาในปัจจุบันได้มีการดําเนินการตามกรอบมาตรฐานคุณวุฒิระดับอุดมศึกษาแห่งชาติของ คณะกรรมการการอุดมศึกษา ในส่วนของการประกันคุณภาพภายในตามคู่มือการประกันคุณภาพภายในมาใช้ พบปัญหาว่าบาง สถาบันการศกึ ษาไมม่ ีการบันทึกข้อมลู ในรูปแบบของระบบสารสนเทศในการจัดการประกันคุณภาพการศึกษา จึงเกิดปัญหาในการ ตรวจสอบเอกสาร ผลการวิจัยพบว่า 1) มีการจัดเก็บข้อมูลการประกันคุณภาพการศึกษาของสาขาวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศทาง ธุรกิจในรูปแบบของระบบสารสนเทศ 2) จากการประเมินผลการใช้งานระบบด้วยกลุ่มตัวอย่างที่มีการทํางานด้านการประกัน คุณภาพการศึกษา มีผลการประเมินด้านการใช้งานของระบบท่ีสามารถสนับสนุนการทํางานของผู้ใช้และผู้บริหารอยู่ที่ค่าเฉล่ีย 4.44 ระดบั คณุ ภาพดี 3) จากผลการประเมนิ ด้านประโยชนข์ องโปรแกรมสามารถเปน็ แนวทางในการนําไปประยุกต์ใช้กับหน่วยงาน อ่ืนได้นั้น หลังจากที่มีการนําระบบมาใช้งานกับสาขาเทคโนโลยีสารสนเทศทางธุรกิจเป็นสาขานําร่องเพ่ือทดสอบการใช้งานและ ปรับปรุงระบบแล้ว มีผลประเมินการใช้งานของระบบอยู่ในระดับคุณภาพดี ผู้บริหารได้ให้สาขาวิชาต่างๆ ในคณะบริหารธุรกิจ นําระบบสารสนเทศการประกันคุณภาพการศึกษาด้วยเทคโนโลยี Cloud computing ไปใช้งานในแต่ละสาขาเพื่อให้การ ดาํ เนนิ งานเร่อื งประกนั คณุ ภาพของคณะบรหิ ารธรุ กิจเปน็ ไปในทิศทางเดียวกนั คําสาํ คัญ : การประมวลผลแบบกลมุ่ เมฆ ระบบสารสนเทศการประกนั คณุ ภาพการศกึ ษา การประกันคุณภาพ Abstract This research was aimed to 1) to develop Information system about the education assurance quality of education with cloud computing technology. 2) to support management and users. 3) to guide the application to other agencies because higher education institutions is implemented follow by the national higher education that qualified by board of education. In terms of education quality assurance which is found in the assurance’s manual book, they found that the problems in some institution do not record in the form of information systems for managing education quality assurance so the document will has the problem when checking. The result was found that 1) Storage education quality assurance of business information technology department in the form an information system. 2) The evaluation of the system with the group sample for education quality can test by assessment of the implementation. The result found that it can support the users and administrators which were at an average for 4.44 which was a good level. 3) The 21

http://ird.rmutto.ac.th วารสารสงั คมศาสตร์ ปีที่ 4 ฉบบั ท่1ี มกราคม – มถิ นุ ายน 2558 results of the program benefit evaluation can be adopted in applications with other agencies. After bringing the introduction of the system in the field of information technology and business test with applications system, the evaluate effect to the level of quality which can make the system were in the good level. Management has provided various disciplines and in the Faculty of Business Administration for education quality assurance with cloud computing technologies were used in each branch to ensure the implementation of quality assurance of the administration is moving was the same direction. Keywords: Cloud computing, Information system education quality assurance, Quality assurance. 1. บทนํา พระราชบัญญตั กิ ารศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2552 แก้ไขเพ่ิมเติม (ฉบับท่ี 2) พ.ศ. 2545 ในหมวด 5 ท่ีว่าด้วยการบริหารและ การจดั การศกึ ษา มาตรา 34 ได้กําหนดให้คณะกรรมการการอุดมศึกษามีหน้าท่ีพิจารณาเสนอมาตรฐานการอุดมศึกษาท่ีสอดคล้อง กบั ความต้องการตามแผนพฒั นาเศรษฐกจิ และสงั คมแห่งชาติ และสอดคล้องกบั มาตรฐานการศึกษาของชาติ โดยคํานึงถึงความเป็น อิสระและความเป็นเลิศทางวิชาการของภาควิชา/สาขาวิชา/คณะ/วิทยาลัย/หน่วยงาน/มหาวิทยาลัยอุดมศึกษา คณะกรรมการ อุดมศึกษาจึงได้จัดทํามาตรฐานการอุดมศึกษาเพื่อใช้เป็นกลไกระดับกระทรวง ระดับคณะกรรมการการอุดมศึกษา และระดับ หน่วยงาน เพื่อนําไปสู่การกําหนดนโยบายการพัฒนาการอุดมศึกษาของสถาบันอุดมศึกษาต่อไป โดยมีสาระสําคัญที่ครอบคลุม เป้าหมายและหลักการของการจัดการศึกษาระดับอุดมศึกษาของไทยและเป็นมาตรฐานที่คํานึงถึงความหลากหลายของกลุ่มหรือ ประเภทของสถาบันอุดมศึกษา เพ่ือให้ทุกสถาบันสามารถนําไปใช้กําหนดพันธกิจและมาตรฐานของการปฏิบัติงานได้ สาขาเทคโนโลยีสารสนเทศทางธุรกิจ (2554) คณะกรรมการอุดมศึกษาได้จัดทํามาตรฐานสถาบันอุดมศึกษา ตามประกาศ กระทรวงศึกษาธกิ าร พ.ศ.2551 เพือ่ นาํ ไปสูก่ ารพัฒนาภาควิชา/สาขาวิชา/คณะ/วทิ ยาลัย/มหาวทิ ยาลยั ตามกลุ่มสถาบนั ที่มีปรัชญา วัตถุประสงค์ และพันธกิจในการจัดตั้งที่แตกต่างกันได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล นอกจากน้ัน ยังได้จัดทํากรอบ มาตรฐานคุณวุฒิระดับอุดมศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2552 เพ่ือให้เป็นไปตามมาตรฐานการอุดมศึกษาและเพื่อเป็นการประกันคุณภาพ บัณฑิตในแต่ละระดับคุณวุฒิและสาขาวิชา รวมท้ังการพัฒนาคุณภาพและยกระดับมาตรฐานในการจัดการศึกษาระดับอุดมศึกษา ให้มีความทัดเทียมกันและพัฒนาสู่สากล ซ่ึงทําให้สถาบันอุดมศึกษาสามารถจัดการศึกษาได้อย่างยืดหยุ่น คล่องตัว และต่อเน่ืองใน ทุกระดับการศึกษา ตลอดจนสะท้อนให้เห็นถึงมาตรฐานคุณภาพการจัดการศึกษาในระดับอุดมศึกษา เพ่ือให้การจัดการศึกษาทุก ระดับและทุกประเภทมีคุณภาพและได้มาตรฐานตามที่กําหนดท้ังมาตรฐานการศึกษาระดับชาติ มาตรฐานการอุดมศึกษา มาตรฐานสถาบันอุดมศึกษา และสัมพันธ์กับมาตรฐานและหลักเกณฑ์ท่ีเก่ียวข้องกับการจัดการศึกษาอ่ืนๆ รวมถึงกรอบมาตรฐาน คุณวุฒิระดับอุดมศึกษาแห่งชาติ จึงจําเป็นต้องมีระบบประกันคุณภาพท่ีพัฒนาข้ึนตามท่ีกําหนดไว้ในกฎกระทรวงว่าด้วยระบบ หลักเกณฑ์ และวิธกี ารประกนั คุณภาพการศกึ ษา พ.ศ. 2553 (วริ ตั น์ และวรี ะศกั ด,์ิ 2555) การวิเคราะห์และวัดผลดําเนินงานเป็นสิ่งจําเป็นในกระบวนการประกันคุณภาพ การวัดและวิเคราะห์ผลการดําเนินงาน จะไม่สามารถทําได้อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพหากปราศจากฐานข้อมูลและระบบสารสนเทศที่เป็นจริง ถูกต้องตรงกันทุก ระดับบุคคลภาควิชาการ/สาขาวิชา/คณะ/วิทยาลัย/หน่วยงาน/มหาวิทยาลัย ตลอดจนเป็นข้อมูลที่สามารถเรียกใช้ได้อย่างรวดเร็ว ดังน้ัน ระบบสารสนเทศที่ดี มีประสิทธิภาพจึงเป็นปัจจัยสําคัญยิ่งท่ีจะส่งผลต่อความสําเร็จของการประกันคุณภาพการศึกษา และ ส่งผลต่อคุณภาพในทุกข้ันตอนการดําเนินงานตั้งแต่การวางแผน การปฏิบัติงานประจํา การตรวจสอบประเมิน ตลอดจนถึงการ ปรับปรุงและพัฒนา (อําไพ และคณะ, 2554) ปัจจุบันหลักสูตรเทคโนโลยีสารสนเทศทางธุรกิจ คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัย เทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ วิทยาเขตวังไกลกังวล ได้มีการดําเนินการตามกรอบมาตรฐานคุณวุฒิระดับอุดมศึกษาแห่งชาติ ของคณะกรรมการการอุดมศึกษา ในส่วนของการประกันคุณภาพภายในตามคู่มือการประกันคุณภาพภายในมาใช้ ซ่ึงขั้นตอนการ ทํางานในปัจจบุ ันไมม่ กี ารบันทึกข้อมูลในรูปแบบของระบบสารสนเทศในการจัดการประกันคุณภาพการศึกษา จึงเกิดปัญหาในการ ตรวจสอบ ทัง้ ในสว่ นของความล่าช้าและความยุง่ ยากในการตรวจสอบ เพราะการเก็บขอ้ มลู ในปจั จุบันจะเกบ็ ในรปู แบบของเอกสาร เมอ่ื ต้องการเรยี กใช้ข้อมูลทาํ ได้ไม่สะดวก (เทอดธดิ า, 2556) 22

วารสารสังคมศาสตร์ ปีที่ 4 ฉบบั ท่ี1 มกราคม – มิถนุ ายน 2558 http://ird.rmutto.ac.th จากปญั หาของการจดั เก็บและบันทึกขอ้ มูลดงั กล่าวจงึ เปน็ สาเหตจุ ูงใจให้ผจู้ ดั ทาํ มีแนวคดิ ในการพฒั นาระบบสารสนเทศ การประกันคุณภาพการศึกษา ด้วยเทคโนโลยี Cloud computing ข้ึนโดยดําเนินการตามวงจรพัฒนาระบบ (System development life cycle) ประกอบไปด้วย 6 ข้ันตอน ได้แก่ (1) กําหนดขอบเขตของปัญหา (2) วิเคราะห์ปัญหาที่เกิดข้ึน (3) ออกแบบระบบที่จะพัฒนา (4) สร้างแบบจําลองของระบบ (5) พัฒนาระบบและ (6) ติดตามและประเมินผลระบบ ซึ่งจะช่วยลดการทํางานท่ีซํ้าซ้อนของผู้ใช้ ข้อมูลเอกสารมีความปลอดภัยมากข้ึน และอํานวยความสะดวกในการเรียกดูข้อมูลในรูปแบบต่างๆ ตามท่ีผู้บริหารองค์กรและผู้ใช้ ต้องการได้ โดยมีวัตถุประสงค์ในการศึกษาดงั นี้ 1. เพ่ือพัฒนาระบบสารสนเทศการประกนั คุณภาพการศึกษาดว้ ยเทคโนโลยี Cloud computing 2. เพ่ือสนับสนุนการทาํ งานของผใู้ ชแ้ ละผูบ้ รหิ าร 3. เพื่อเปน็ แนวทางในการนาํ ไปประยกุ ต์ใช้กบั หนว่ ยงานอนื่ ๆ 2. วธิ ีการศึกษา ข้นั ตอนวิธีการศกึ ษาการพฒั นาระบบสารสนเทศการประกันคณุ ภาพการศึกษา ดว้ ยเทคโนโลยีการประมวลผลแบบกลุ่มเมฆ แสดงดังภาพท่ี 1 ภาพท่ี 1 แสดงขน้ั ตอนวิธกี ารวิจัย วิธกี ารศกึ ษาแบง่ ออกเปน็ 5 ขน้ั ตอนดังนี้ 2.1 การตรวจสอบระบบ 2.1.1 ตรวจสอบระบบในปัจจุบัน ศึกษาถึงขั้นตอนการทํางานของระบบการประกันคุณภาพการศึกษาของหลักสูตร เทคโนโลยีสารสนเทศทางธรุ กจิ คณะบรหิ ารธรุ กิจ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลรตั นโกสนิ ทร์ วทิ ยาเขตวังไกลกังวล 2.1.2 กําหนดปัญหา ตรวจสอบถึงปัญหาที่เกิดขึ้นของระบบการประกันคุณภาพการศึกษาของหลักสูตรเทคโนโลยี สารสนเทศทางธุรกิจ คณะบริหารธรุ กจิ มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลรัตนโกสนิ ทร์ วิทยาเขตวงั ไกลกังวล ทใ่ี ชอ้ ยูป่ ัจจบุ ัน 23

http://ird.rmutto.ac.th วารสารสงั คมศาสตร์ ปีท่ี 4 ฉบับท1่ี มกราคม – มิถุนายน 2558 2.1.3 เก็บรวบรวมขอ้ มลู มเี กบ็ รวบรวมขอ้ มูลดังนี้ -เอกสารรายงานการประเมินตนเอง ประจาํ ปีการศกึ ษา 2553 ของมหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรตั นโกสินทร์ -เอกสารรายงานการประเมนิ ตนเอง ประจาํ ปีการศึกษา 2554 ของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลรตั นโกสินทร์ -รวบรวมความต้องการจากผใู้ ชง้ านระบบ สรุปได้ดังนี้ 1. ระบบมกี ารกาํ หนดสทิ ธใ์ิ นการเข้าใชง้ านระบบ 2. ระบบสามารถจัดเก็บข้อมูลการประกันคุณภาพการศึกษาของหลักสูตรเทคโนโลยีสารสนเทศทางธุรกิจตามปี การศกึ ษา 3. ระบบสามารถอัพโหลดและดาวน์โหลดไฟล์เอกสารที่เก่ียวข้องกับการประกันคุณภาพการศึกษาของหลักสูตร เทคโนโลยีสารสนเทศทางธุรกิจ 4. ระบบสามารถรองรบั เอกสารทอ่ี พั โหลดและดาวน์โหลดทมี่ นี ามสกุลดังนี้ .doc, .docx, .PDF, .xls, .xlxs, .RAR, .ZIP 5. ระบบสามารถเรียกดูข้อมูลย้อนหลังในแตล่ ะปกี ารศกึ ษาได้ หลังจากน้ันนําข้อมูลที่เก็บรวบรวมได้จากเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการดําเนินงานของระบบการประกันคุณภาพการศึกษา ของหลักสูตรเทคโนโลยีสารสนเทศทางธุรกิจ คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ วิทยาเขตวังไกลกังวล ส่งต่อไปยงั กระบวนการวิเคราะหร์ ะบบ เพอื่ นาํ ไปออกแบบหนา้ จอการใชง้ านระบบและการจดั ทํารายงานที่เกยี่ วข้องในระบบตอ่ ไป 2.2 การทบทวนวรรณกรรม 2.2.1 การวิเคราะห์ระบบ - งานวิจัยเร่ืองระบบสารสนเทศการประกันคุณภาพการศึกษาภายในสําหรับคณะวิชา โดยใช้เทคโนโลยีเว็บเซอร์วิส กรณีศึกษามหาวิทยาลัยนอร์ท-เชียงใหม่: การทํางานของระบบเดิมพบปัญหาเม่ือมีการตรวจสอบโดยคณะผู้ตรวจสอบ เกิดความ ยุ่งยากและใช้เวลานานในการตรวจสอบ เนื่องจากการเก็บข้อมูลจะเก็บในรูปแบบของแฟ้มเอกสาร เมื่อต้องการค้นหาข้อมูลต้อง ค้นหาเอกสารท้ังหมด ทําให้ไม่สะดวกและเสียเวลา อีกทั้งข้อมูลท่ีจําเป็นต้องใช้ในการตรวจสอบมาจากหลายหน่วยงานจึงเกิด ปัญหาข้อมูลไม่ตรงกัน แต่หลังจากการพัฒนาระบบแล้วทําให้สามารถแก้ปัญหาการแลกเปล่ียนข้อมูลระหว่างหน่วยงานได้และ ข้อมลู ยงั มคี วามถูกตอ้ งมากขน้ึ (อาภาภทั ร, 2554) - งานวิจัยเรื่องการพัฒนาระบบสารสนเทศงานประกันคุณภาพการศึกษา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา ภาคพายัพ เชียงใหม่: การทํางานของระบบเดิมระบบเดิมพบปัญหาเรื่องของการจัดเก็บ การรวบรวมข้อมูลและเอกสารหลักฐาน ต่างๆ ถูกจัดเก็บไว้ในหน่วยงานต่างๆ ข้อมูลซึ่งอยู่ในรูปของเอกสารและมีจํานวนมาก เม่ือคณะกรรมการมาตรวจประเมินในแต่ละ คร้ัง ทําให้เกิดความยุ่งยากและสับสนในระหว่างการตรวจเยี่ยมหรือประเมิน แต่หลังจากการพัฒนาระบบแล้วพบว่า การมี ฐานข้อมูลทําให้เอกสารหลักฐานและสารสนเทศต่างๆ ในทุกหน่วยงานมีความถูกต้อง ชัดเจนและตรงกัน ช่วยลดข้ันตอนในการ ทํางาน ลดปริมาณเอกสารที่ใช้ในการตรวจประเมิน (แผนกทะเบียนและเอกสารการศึกษา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล ลา้ นนา ภาคพายพั เชยี งใหม่, 2554) 2.2.2 เลอื กวธิ กี ารและเครือ่ งมือ เลือกวธิ กี ารในการดําเนินงานวิจัยดงั น้ี -ระบบสารสนเทศเพ่อื การจัดการ: ในการพฒั นาระบบโดยจดั ทําเป็นระบบสารสนเทศเพือ่ การจดั การ -ระบบฐานข้อมูล: ในการพัฒนาระบบมกี ารนาํ ระบบฐานข้อมลู เข้ามาใชใ้ นการออกแบบโครงสรา้ งของระบบ เลือกเครอ่ื งมอื ในการดาํ เนินงานวิจัย โดยอปุ กรณท์ ่ใี ช้สําหรบั งานวจิ ยั แสดงดงั ภาพที่ 2 24

วารสารสงั คมศาสตร์ ปที ่ี 4 ฉบบั ที1่ มกราคม – มิถนุ ายน 2558 http://ird.rmutto.ac.th ภาพท่ี 2 แสดงเครอ่ื งมือในการดําเนนิ งานวจิ ยั 2.3 การพัฒนาระบบ ขั้นตอนการทํางานของระบบสารสนเทศการประกันคุณภาพการศึกษาด้วยเทคโนโลยีการประมวลผลแบบกลมุ่ เมฆ ประกอบดว้ ยกระบวนการและข้อมูลท่เี กี่ยวขอ้ ง ดังภาพที่ 3 ภาพท่ี 3 แสดง Data Flow Diagram: Level 1 ของระบบ 2.4 สถานทท่ี ําการทดลองและเก็บข้อมลู สาขาวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศทางธุรกิจ คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ วทิ ยาเขตวังไกลกังวล 2.5 กล่มุ ตัวอย่าง มีการทดสอบและประเมินผลการใช้งานระบบด้วยกลุ่มตัวอย่างคือ บุคลากรที่ทํางานเกี่ยวข้องกับการประกันคุณภาพ การศึกษาของสาขาเทคโนโลยสี ารสนเทศทางธรุ กจิ และสาขาการบญั ชี มหาวิทยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลรตั นโกสินทร์ วิทยา-เขตวัง ไกลกงั วล จาํ นวน 10 ทา่ น 25

http://ird.rmutto.ac.th วารสารสงั คมศาสตร์ ปที ่ี 4 ฉบบั ท่ี1 มกราคม – มถิ นุ ายน 2558 3. ผลการศกึ ษา การพฒั นาระบบสารสนเทศการประกันคุณภาพการศึกษา ด้วยเทคโนโลยีการประมวลผลแบบกลุ่มเมฆ สามารถนําเสนอ ผลการศกึ ษาไดด้ งั น้ี 3.1 การกําหนดสทิ ธ์เิ ข้าใชง้ านระบบ ส่วนการเข้าใช้งานระบบนั้น ระบบมีการกําหนดสิทธิ์ในการเข้าถึงข้อมูล หากผู้ใช้งานเป็นบุคคลทั่วไปจะไม่มีสิทธิ์บันทึก หรือแก้ไขข้อมูลได้ แต่มีสิทธิ์ในส่วนของการดาวน์โหลดข้อมูลเท่านั้น โดยแสดงส่วนติดต่อกับผู้ใช้เม่ือผู้ใช้ต้องการเข้าใช้งานระบบ ดงั แสดงในภาพท่ี 4 ภาพที่ 4 แสดงหนา้ จอการเข้าสรู่ ะบบ 3.2 การจัดเกบ็ ขอ้ มูลตามปกี ารศึกษา ส่วนของการจัดเก็บขอ้ มูลมกี ารจัดเก็บแยกตามปีการศึกษา โดยผู้ใช้จะต้องเลือกปีการศึกษาท่ีต้องการก่อนที่จะอัพ-โหลด หรือดาวน์โหลดข้อมูล ดังแสดงในภาพที่ 5 ภาพท่ี 5 แสดงหน้าจอการจดั เกบ็ ขอ้ มูลตามปีการศึกษา 26

วารสารสังคมศาสตร์ ปที ี่ 4 ฉบับท1่ี มกราคม – มถิ นุ ายน 2558 http://ird.rmutto.ac.th 3.3 การบนั ทกึ /แก้ไขขอ้ มลู สว่ นของการบันทึกหรือแกไ้ ขข้อมลู น้ัน ผู้ใช้สามารถอัพโหลดและดาวนโ์ หลดเอกสารจากระบบได้ ซึ่งไฟล์เอกสารที่อพั โหลดไปในระบบต้องมีนามสกุล .doc, .docx, .PDF, .xls, .xlxs, .RAR, .ZIP เท่านน้ั การบนั ทึก/แก้ไขขอ้ มูลดังแสดงในภาพท่ี 6 ภาพที่ 6 แสดงหนา้ จอการการบนั ทึก/แก้ไขขอ้ มูล 3.4 การเรยี กดูรายงาน ระบบสามารถแสดงรายงานการบนั ทึกข้อมลู ยอ้ นหลงั ได้ โดยสามารถเรยี กดูได้ตามปีการศึกษาที่บันทึกข้อมูลในระบบ ดัง แสดงในภาพท่ี 7 ภาพท่ี 7 แสดงหน้าจอการเรยี กดรู ายงาน 4. สรุปผล การพัฒนาระบบสารสนเทศการประกันคุณภาพการศึกษาด้วยเทคโนโลยีการประมวลผลแบบกลุ่มเมฆ ได้มีการนําข้อมูล ต่างๆ ท่ีเก่ียวข้องกับข้ันตอนการปฏิบัติงานมาพัฒนาระบบสารสนเทศ โดยดําเนินการตามวงจรพัฒนาระบบ (System development life cycle) ซง่ึ ผลการวิจัยสอดคล้องกับวัตถุประสงคด์ งั นี้ 27

http://ird.rmutto.ac.th วารสารสังคมศาสตร์ ปที ่ี 4 ฉบบั ท่ี1 มกราคม – มถิ ุนายน 2558 1) มีการจัดเก็บข้อมูลการประกันคุณภาพการศึกษาของสาขาวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศทางธุรกิจในรูปแบบของระบบ สารสนเทศ 2) จากการประเมินผลการใช้งานระบบของผู้ใช้และผู้บริหาร มีผลการประเมินด้านการใช้งานของระบบที่สามารถ สนับสนุนการทํางานของผู้ใช้และผู้บริหารอยู่ที่ค่าเฉลี่ย 4.44 ระดับคุณภาพดี ดังแสดงได้จากการที่ระบบมีการบันทึกข้อมูลใน รูปแบบของระบบสารสนเทศ ซ่ึงช่วยแก้ปัญหาจากเดิมท่ีมีการจัดเก็บในรูปแบบของเอกสาร ทําให้เกิดปัญหาการสูญหายของ เอกสารหรือการค้นหาเอกสารทําได้ไม่สะดวก เนื่องจากเอกสารไม่ได้ถูกจัดเก็บเป็นหมวดหมู่ อีกทั้งระบบที่พัฒนาข้ึนยังเพ่ิมความ ปลอดภัยใหก้ บั ข้อมลู หรือเอกสารตา่ งๆ ที่เกีย่ วข้อง โดยมกี ารจดั เกบ็ ในรปู ของฐานขอ้ มลู ทมี่ กี ารจํากัดสิทธิ์การเข้าใช้งานระบบ และ นําเทคโนโลยี Cloud Computing มาช่วยในการสร้างความปลอดภัย เพราะโปรแกรมและไฟล์ทั้งหมดจะถูกเก็บอยู่ใน Supercomputer ส่วนกลางที่มีขนาดใหญ่ ซึ่งสอดคล้องกับงานวิจัยเรื่องระบบสารสนเทศการประกันคุณภาพการศึกษาภายใน สําหรับคณะวิชา โดยใช้เทคโนโลยเี วบ็ เซอรว์ สิ กรณศี ึกษามหาวิทยาลยั นอร์ท-เชียงใหม่ (อาภาภทั ร, 2554) 3) จากผลการประเมินด้านประโยชน์ของโปรแกรมสามารถเป็นแนวทางในการนําไปประยุกต์ใช้กับหน่วยงานอ่ืนได้น้ัน หลังจากท่ีมีการนําระบบมาใช้งานกับสาขาเทคโนโลยีสารสนเทศทางธุรกิจเป็นสาขานําร่องเพ่ือทดสอบการใช้งานและปรับปรุง ระบบแล้ว มีผลประเมินการใช้งานของระบบอยู่ในระดับคุณภาพดี ผู้บริหารได้ให้สาขาวิชาต่างๆ ในคณะบริหารธุรกิจ นําระบบ สารสนเทศการประกันคุณภาพการศึกษาด้วยเทคโนโลยี Cloud computing ไปใช้งานในแต่ละสาขา เพ่ือให้การดําเนินงานเร่ือง ประกนั คุณภาพของคณะบรหิ ารธรุ กจิ เป็นไปในทศิ ทางเดยี วกนั 5. เอกสารอ้างองิ เทอดธิดา ทพิ ยร์ ัตน์. 2556. การพฒั นาการประเมินการบริหารคุณภาพดว้ ยตนเองโดยการบรู ณาการเกณฑ์ TQA 2012 กับระบบ ISO 9000. วารสารสงั คมศาสตรม์ หาวิทยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลตะวันออก 2(1) : 106-116. แผนกทะเบียนและเอกสารการศกึ ษา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลล้านนา ภาคพายพั เชียงใหม.่ 2554. การพัฒนาระบบ สารสนเทศงานประกนั คณุ ภาพการศึกษา มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลลา้ นนา ภาคพายพั เชยี งใหม่.เชียงใหม่: สถาบนั วจิ ยั และพัฒนา มหาวิทยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลล้านนา ภาคพายัพ เชียงใหม่. วิรตั น์ ขาวสร้อย และวรี ะศักด์ิ โนนมว่ ง. 2555. การออกแบบและพัฒนาระบบบริหารการเรียนการสอนภายใต้มาตรฐานแบบ อา้ งองิ เน้อื หาท่สี ามารถใชง้ านร่วมกัน:กรณีศกึ ษารายวชิ าหลักสถิติ. วารสารวิจยั มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล ตะวนั ออก 5(1) : 55-64. สาขาเทคโนโลยีสารสนเทศทางธรุ กจิ . 2554. รายงานการประเมนิ ตนเอง (Self-Assessment Report-SAR) ประจาํ ปีการศกึ ษา 2554. มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรตั นโกสนิ ทร์ วทิ ยาเขตวังไกลกงั วล. ประจวบครี ีขันธ์. อาภาภทั ร กาวิชา. 2554. ระบบสารสนเทศการประกันคณุ ภาพการศึกษาภายในสาํ หรับคณะวชิ า โดยใช้เทคโนโลยีเว็บเซอรว์ ิส กรณีศกึ ษามหาวทิ ยาลยั นอร์ท-เชียงใหม่. วทิ ยานิพนธ์ วทิ ยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวศิ วกรรมซอฟต์แวร์ บัณฑติ วิทยาลยั . มหาวิทยาลยั เชยี งใหม่. อาํ ไพ ยงกลุ วณิช ทองใบ สดุ ชารี เออ้ื น ป่นิ เงิน และทวิ ัตถ์ มณีโชต.ิ 2554. การพัฒนาตน้ แบบระบบสารสนเทศสําหรับประเมนิ และสง่ ผลการเรียน. วารสารวจิ ยั เทคโนโลยีราชมงคลตะวนั ออก 4(2) : 103-112. 28

วารสารศึกษาศาสตร์ ฉบับวิจัยบณั ฑิตศึกษา มหาวทิ ยาลัยขอนแก่น 1 ปที ่ี 9 ฉบบั ท่ี 4 ประจำ� เดือน ตลุ าคม - ธันวาคม 2558 Journal of Education Graduate Studies Research http://ednet.kku.ac.th/edujournal แนวทางการด�ำเนินงานตามระบบประกนั คุณภาพภายในสถานศึกษาขั้นพืน้ ฐาน สังกัดองคก์ ารบริหารสว่ นจังหวัดชยั ภูมิ Guidelines for Educational Quality Assurance of Basic Education Institutions under the Jurisdiction of Chaiyaphum Provincial Administration Organization กติ ตนิ นั ท์ ชมุ วัน1) ศริ ิ ถีอาสนา2) และ ฐติ ารยี ์ วิลยั เลิศ3) Kittinan Chumwan1) Siri Thee-assana2) and Titaree Wilailert3) 1)สาขาบรหิ ารการศึกษา คณะครศุ าสตร์ มหาวิทยาลยั ราชภฏั มหาสารคาม Department of Educational Administration, Faculty of Education, Mahasarakham Rajabhat University 2)รองศาสตราจารย์ สาขาวิชาบริหารการศึกษา คณะครศุ าสตร์ มหาวิทยาลัยราชภฏั มหาสารคาม Assoc. Prof., Department of Educational Administration, Faculty of Education, Mahasarakham Rajabhat University 3)ศกึ ษานเิ ทศก์ ส�ำนกั งานเขตพื้นทกี่ ารศึกษามัธยมศกึ ษา เขต 26 มหาสารคาม Educational Supervisor, Secondary Education Service Area Office 26 Mahasarakham บทคดั ยอ่ การวจิ ยั ครง้ั น้ี มวี ตั ถปุ ระสงคเ์ พอื่ ศกึ ษาสภาพการดำ� เนนิ งานตามระบบประกนั คณุ ภาพภายในสถานศกึ ษา ขน้ั พนื้ ฐาน สงั กดั องคก์ ารบรหิ ารสว่ นจงั หวดั ชยั ภมู ิ แบง่ การวจิ ยั ออกเปน็ 2 ระยะ ไดแ้ ก่ ระยะท่ี 1) ศกึ ษาสภาพการ ด�ำเนินงานตามระบบการประกันคุณภาพภายในสถานศึกษาขั้นพ้ืนฐาน สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยภูมิ เครอ่ื งมอื ทใ่ี ชใ้ นการวจิ ยั คอื แบบสอบถาม มคี า่ ความเชอื่ มนั่ .97 กลมุ่ ผใู้ หข้ อ้ มลู สำ� คญั ไดแ้ ก่ ผบู้ รหิ ารสถานศกึ ษา ครทู รี่ บั ผดิ ชอบงานดา้ นการประกนั คณุ ภาพการศกึ ษา หวั หนา้ กลมุ่ สาระการเรยี นรทู้ กุ กลมุ่ สาระ และประธานคณะ กรรมการสถานศกึ ษา รวมจ�ำนวน 286 คน วเิ คราะหข์ อ้ มลู เชงิ ปริมาณโดยคา่ สถติ ิพน้ื ฐาน (ค่าเฉล่ยี , ค่ารอ้ ยละ และคา่ สว่ นเบย่ี งเบนมาตรฐาน) ระยะที่ 2) ศกึ ษาแนวทางการดำ� เนนิ งานตามระบบประกนั คณุ ภาพภายใน เครอื่ ง มือที่ใช้ในการวิจัยแบบสัมภาษณ์ โดยการสัมภาษณ์กลุ่มผู้ทรงคุณวุฒิ ประกอบด้วย นายกองค์การบริหารส่วน จังหวัดชัยภูมิ รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยภูมิ ปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยภูมิ ผู้อ�ำนวยการ กองการศึกษาองค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยภูมิ หัวหน้าฝ่ายส่งเสริมการศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรมองค์การ บรหิ ารสว่ นจังหวัดชัยภมู ิ หวั หน้างาน Corresponding author. Tel.: Mobile +66 (0)9 1863 6361 E-mail address: [email protected]

2 วารสารศึกษาศาสตร์ ฉบบั วิจยั บณั ฑิตศกึ ษา มหาวทิ ยาลยั ขอนแกน่ ปที ี่ 9 ฉบบั ท่ี 4 ประจ�ำเดอื น ตลุ าคม - ธนั วาคม 2558 ประกนั คุณภาพการศกึ ษา องค์การบรหิ ารส่วนจงั หวดั ชัยภูมิ ผู้อำ� นวยการโรงเรียนกวางโจนศกึ ษา และ ครผู ู้รบั ผิดชอบงานด้านการประกันคณุ ภาพการศกึ ษาโรงเรียนกวางโจนศึกษา วเิ คราะหข์ อ้ มูลการสมั ภาษณ์ โดย การเขียนเชิงพรรณนาวิเคราะห์ ผลการวจิ ัยพบว่า 1) สภาพการดำ� เนนิ งานตามระบบประกนั คณุ ภาพภายในสถานศกึ ษาขน้ั พนื้ ฐาน สงั กดั องคก์ ารบรหิ ารสว่ น จงั หวดั ชยั ภมู ิ โดยรวมมรี ะดบั การปฏบิ ตั งิ านอยใู่ นระดบั มาก คดิ เปน็ รอ้ ยละ 77.60 2) แนวทางการดำ� เนนิ งานตามระบบประกนั คณุ ภาพภายในทสี่ ำ� คญั คอื ควรมกี ารนำ� ขอ้ มลู ผลการประเมนิ มาตรฐานคณุ ภาพ การตรวจสอบ มาประมวลผลรายงานความกา้ วหน้า เพ่อื ใหข้ อ้ มูลย้อนกลบั เพื่อการส่งเสรมิ พฒั นา และประเมินประสิทธิภาพการด�ำเนินงานระบบประกันคณุ ภาพการศกึ ษา ควรมีการก�ำหนดมาตรฐานที่ มุ่งเนน้ ผลการเรยี นรขู้ องผู้เรียนท่ีสอดคลอ้ งกับมาตรฐานช่วงชัน้ ท่ีหลกั สตู รกำ� หนด คำ� สำ� คญั : ระบบประกันคณุ ภาพภายในสถานศกึ ษาขั้นพน้ื ฐาน Abstract This research aims to investigate of internal educational quality assurance, study guidelines for internal educational quality assurance of Basic Education Institution under the Jurisdiction of Chayaphum Provincial Administration Organization. This research divided into two parts. First were investigated the implementation of internal educational quality assurance, research sample were 286 administration teachers responsible for quality assurance from 26 schools. Research instrument was the rating scale. Second was a study guideline for internal educational quality assurance. Research instrument was structured interview. Research result found that the educational quality assurance operation guidelines of Basic Education Institution under the Jurisdiction of Chayaphum Provincial Administration Organization overall have high agreement level. Recommendation on guidelines for internal educational quality assurance should have to, specify of educational standards focus on Learning Outcomes of learner, education quality development plans focus on system, create administration structure focus on participation, development about learning experience, learning process, learning support, assessments and administration system.   Keyword: Educational quality assurance of basic education institutions

วารสารศกึ ษาศาสตร์ ฉบับวิจัยบณั ฑติ ศกึ ษา มหาวิทยาลัยขอนแก่น 3 ปที ี่ 9 ฉบับท่ี 4 ประจ�ำเดือน ตลุ าคม - ธันวาคม 2558 บทน�ำ ให้มีคุณภาพได้ตามมาตรฐานท่ีสถานศึกษาก�ำหนด การพัฒนาคนให้มีคุณภาพ การศึกษาจึง ผู้ส�ำเร็จการศึกษามีความรู้ความสามารถ ทักษะและ มีคุณลักษณะท่ีพึงประสงค์ตามท่ีหลักสูตรก�ำหนด เป็นเรื่องท่ีมีความจ�ำเป็นและมีความส�ำคัญเป็นอย่างย่ิง และสังคมคาดหวัง สามารถด�ำรงชีวิตอยู่ในสังคมได้ เพราะการจัดการศึกษาเป็นกระบวนการที่จะช่วย อยา่ งมคี วามสขุ พัฒนาบุคคลให้เกิดความเจริญงอกงามท้ังด้าน คุณธรรม ความรู้ และความคิด ดังน้ันเป้าหมายการ เน่ืองจากการนิเทศติดตามผลการพัฒนา ปฏริ ปู การศกึ ษาในทศวรรษทส่ี อง (พ.ศ. 2552 - 2561) ระบบการประกันคุณภาพการศึกษาภายในสถาน จงึ มงุ่ เนน้ การพฒั นาคณุ ภาพและมาตรฐานการศกึ ษา ศึกษาของฝ่ายบริหารการศึกษา องค์การบริหารส่วน การเพิ่มโอกาสทางการศึกษาและการส่งเสริมการมี จังหวดั ชยั ภูมิ พบวา่ สถานศึกษาขน้ั พ้นื ฐานสว่ นใหญ่ ส่วนร่วมของทุกภาคส่วน พระราชบัญญัติการศึกษา ยังประสบปัญหาหลายรายการ เช่น ครูและบุคลากร แหง่ ชาติ พ.ศ. 2542 และทแี่ กไ้ ขเพมิ่ เตมิ (ฉบบั ท่ี 2) ยังขาด ความรู้ความเข้าใจในในรูปแบบและวิธี พ.ศ. 2545 ไดร้ ะบใุ หห้ นว่ ยงานตน้ สงั กดั และสถานศกึ ษา การประกนั คณุ ภาพภายในของสถานศกึ ษา ขาดความ จัดให้มีระบบการประกันคุณภาพภายในสถานศึกษา รว่ มมอื และความตระหนกั ในการพัฒนาระบบประกัน และให้ถือว่าการประกันคุณภาพภายในเป็นส่วนหนึ่ง คุณภาพภายในสถานศึกษา ขาดความพร้อมด้าน ของกระบวนการบริหารการศึกษาท่ีต้องด�ำเนินการ ปัจจัย เช่น ครูมีไม่ครบชั้นเรียน ขาดวัสดุอุปกรณ์ใน อย่างต่อเนื่องโดยมีการจัดท�ำรายงานประจ�ำปีเสนอ การจัดการเรียนการสอน มีข้อจ�ำกัดด้านงบประมาณ ต่อหน่วยงานต้นสังกัด หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและเปิด ในการบริหารจัดการซึ่งส่งผลเสียต่อการด�ำเนินงาน เผยต่อสาธารณชนเพ่ือน�ำไปสู่การพัฒนาคุณภาพ ตามระบบการประกันคุณภาพการศึกษาเป็นอย่างยิ่ง และมาตรฐานการศกึ ษา รวมทงั้ เพอื่ รองรบั การประกนั ดังน้ันผู้วิจัยจึงมีความเชื่อม่ันว่า แนวทางการด�ำเนิน คณุ ภาพภายนอก งานตามระบบการประกันคุณภาพการศึกษาภายใน สถานศกึ ษาทม่ี คี วามชดั เจนไดม้ าตรฐานจะเปน็ ตวั บง่ ถึงแม้ว่าในระยะเวลาที่ผ่านมาได้มีความ ชถี้ งึ การบรหิ ารจดั การการศกึ ษาในสว่ นของการประกนั พยายามในการพัฒนาคุณภาพการศึกษาไทย คุณภาพภายในของสถานศกึ ษานัน้ ๆ ได้ มาโดยตลอด แต่จากการศึกษาของสถาบันส่งเสริม การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีพบว่าเด็ก วัตถุประสงคข์ องการวจิ ัย ไทยไม่สามารถท�ำข้อสอบท่ีเป็นโจทย์ปัญหาที่ต้อง 1. เพ่ือศึกษาสภาพการด�ำเนินงานตาม คิดวิเคราะห์ หรือต้องเขียนค�ำตอบอธิบายยาว ๆ แสดงให้เห็นถึงปัญหาในการคิดวิเคราะห์ ในขณะที่ ระบบประกันคุณภาพภายในสถานศึกษาขั้นพ้ืนฐาน ความสามารถดังกล่าวเป็นเร่ืองท่ีจ�ำเป็นส�ำหรับการ สังกดั องค์การบรหิ ารสว่ นจงั หวดั ชัยภูมิ ด�ำรงชีวิตในโลกปัจจุบัน [1] จากความจ�ำเป็นดัง กล่าวข้างต้นแสดงให้เห็นว่า คุณภาพของการศึกษา 2. เพื่อศึกษาแนวทางการด�ำเนินงานตาม จ�ำเป็นจะต้องได้รับการพัฒนาและปรับปรุงให้ดีขึ้น ระบบประกันคุณภาพภายในสถานศึกษาข้ันพ้ืนฐาน ดังน้ัน ระบบการประกันคุณภาพภายในของสถาน สังกัดองคก์ ารบรหิ ารส่วนจังหวดั ชยั ภูมิ ศึกษา จึงเป็นระบบท่ีสถานศึกษาสร้างความม่ันใจ แกผ่ ู้รับบรกิ าร ทั้งผเู้ รียน ผ้ปู กครอง ชมุ ชน ตลอดจน วธิ ดี ำ� เนนิ การวจิ ยั องค์กรหรือสถานประกอบการที่รับผู้เรียนเข้าศึกษา การวิจัยในครั้งนี้ ผู้วิจัยแบ่งการวิจัยเป็น 2 ต่อหรือท�ำงานว่าสถานศึกษาสามารถจัดการศึกษา ระยะ ดงั น้ี ระยะที่ 1 ศกึ ษาสภาพการดำ� เนินงานตาม ระบบการประกันคุณภาพภายในสถานศึกษาขั้นพื้น ฐาน สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดชยั ภมู ิ ระยะท่ี

4 วารสารศกึ ษาศาสตร์ ฉบับวจิ ยั บณั ฑติ ศกึ ษา มหาวิทยาลยั ขอนแก่น ปที ่ี 9 ฉบับที่ 4 ประจ�ำเดือน ตุลาคม - ธันวาคม 2558 2 ศกึ ษาแนวทางการดำ� เนนิ งานตามระบบการประกัน และตรวจสอบความตรงเชงิ เนอื้ หา (Content Validity) คณุ ภาพภายในสถานศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐาน สงั กดั องคก์ าร ดชั นีความสอดคล้องระหว่างข้อคำ� ถามกบั นยิ ามศพั ท์ บรหิ ารส่วนจงั หวัดชัยภมู ิ เฉพาะ (IOC: Index of Congruence) กลุ่มเป้าหมาย กลุ่มเป้าหมายท่ีใช้ในการ ระยะที่ 2 ผวู้ จิ ยั เกบ็ รวบรวมขอ้ มลู โดยใชแ้ บบ วิจัยคร้ังนี้ ผู้วิจัยใช้วิธีการคัดเลือกแบบเจาะจง สัมภาษณ์แบบมีโครงสร้าง (structured interview) (Purposive Sampling) โดยมผี ูใ้ หข้ อ้ มูลส�ำคัญดงั นี้ ตรวจสอบคุณภาพเคร่ืองมือ โดยนำ� ไปใหผ้ เู้ ชย่ี วชาญ 3 ท่านพิจารณาความเหมาะสมของภาษาและ ระยะท่ี 1 ประกอบดว้ ย ผูบ้ ริหาร ครทู รี่ ับผดิ ตรวจสอบความตรง (Validity)ของแบบสัมภาษณ์ ชอบงานด้านการประกันคุณภาพการศึกษา หัวหน้า กลุ่มสาระการเรียนรู้ทุกกลุ่มสาระ และประธานคณะ การวเิ คราะหข์ อ้ มูล กรรมการสถานศกึ ษาขน้ั พนื้ ฐาน สงั กดั องคก์ ารบรหิ าร ระยะท่ี 1 ผู้วิจัยวิเคราะห์ข้อมูล โดยใช้ ส่วนจังหวัดชัยภูมิ ปีการศึกษา 2556 จ�ำนวน 26 โปรแกรมส�ำเร็จรูป โดยหาค่าเฉลี่ย (Mean) และสว่ น โรงเรียน รวมจ�ำนวน 286 คน เบยี่ งเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) ระยะที่ 2 ผู้วิจัยวิเคราะห์ข้อมูลโดยการตีความหมายข้อมูลแล้ว ระยะที่ 2 ประกอบดว้ ยกลมุ่ ผทู้ รงคณุ วฒุ ิ แบง่ น�ำมาสรปุ และเขยี นเชิงพรรณนาวเิ คราะห์ ออกเปน็ 3 กล่มุ รวมจำ� นวน 8 ทา่ น ดงั น้ี สรุปและอภิปรายผลการวจิ ัย 1) กลมุ่ ผกู้ ำ� หนดนโยบาย ประกอบดว้ ย นายก สรุปผลการวิจยั องค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยภูมิ รองนายกองค์การ ผลการวิจัย พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามมี บริหารส่วนจังหวัดชัยภูมิ ปลัดองค์การบริหารส่วน จังหวัดชัยภูมิ ผู้อ�ำนวยการกองการศึกษาองค์การ สถานภาพเป็นผู้บริหารจ�ำนวน 26 คน (ร้อยละ 9.1) บริหารสว่ นจงั หวัดชยั ภูมิ ครทู ร่ี บั ผดิ ชอบงานดา้ นการประกนั คณุ ภาพการศกึ ษา จำ� นวน 26 คน (รอ้ ยละ 9.1) หวั หนา้ กลมุ่ สาระการเรยี น 2) กลมุ่ นกั วชิ าการ ประกอบดว้ ย ผอู้ ำ� นวยการ รู้ทุกกลุ่มสาระ จ�ำนวน 208 คน (ร้อยละ72.7) และ โรงเรยี นกวางโจนศกึ ษา หวั หนา้ ฝา่ ยสง่ เสรมิ การศกึ ษา ประธานคณะกรรมการสถานศกึ ษาขน้ั พนื้ ฐาน จำ� นวน ศาสนา และวัฒนธรรมองค์การบริหารส่วนจังหวัด 26 คน(รอ้ ยละ 9.1) มวี ฒุ กิ ารศกึ ษาตำ�่ กวา่ ปรญิ ญาตรี ชยั ภมู ิ และ3) กลมุ่ ผปู้ ฏบิ ตั ิ ประกอบดว้ ย หวั หนา้ งาน จ�ำนวน 6 คน (ร้อยละ 2.1)วุฒิการศึกษาระดับ ประกนั คณุ ภาพการศกึ ษา องคก์ ารบรหิ ารสว่ นจงั หวดั ปริญญาตรี จ�ำนวน 202 คน (รอ้ ยละ 70.6) วฒุ ิการ ชัยภูมิ ครูที่รับผิดชอบงานด้านการประกันคุณภาพ ศกึ ษาสงู กวา่ ปรญิ ญาตรี จำ� นวน 78 คน (รอ้ ยละ 27.3) โรงเรยี นกวางโจนศกึ ษา จากวัตถุประสงค์การวิจัย ข้อ 1 พบว่า เคร่อื งมือทใี่ ชใ้ นการวจิ ยั สภาพการด�ำเนินงานตามระบบการประกันคุณภาพ ระยะที่ 1 เครื่องมือท่ีใช้ในการเก็บข้อมูล ภายในสถานศึกษาข้ันพ้ืนฐาน สังกัดองค์การบริหาร ใช้แบบสอบถาม แบ่งเป็น 2 ตอนดังนี้ ตอนที่ 1 ส่วนจังหวัดชัยภูมิ โดยรวม มีระดับการฏิบัติ อยู่ใน เป็นแบบสอบถามเกี่ยวกับสถานภาพของผู้ตอบ ระดับมาก ( Χ = 3.88, S.D.= .50) เม่ือพิจารณา แบบสอบถาม เปน็ แบบตรวจสอบรายการ (Checklist) เป็นรายด้าน พบว่า สภาพการด�ำเนินงานตามระบบ ประกอบดว้ ย สถานภาพ และวฒุ กิ ารศกึ ษา ตอนท่ี 2 ประกันคุณภาพภายในสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน เป็นแบบสอบถามเกี่ยวกับสภาพการด�ำเนินงานตาม สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยภูมิมีระดับการ ระบบประกันคุณภาพภายในสถานศึกษาข้ันพื้นฐาน ปฏิบัติอยู่ในระดับมาก จ�ำนวน 7 ด้าน และมีระดับ สงั กัดองค์การบริหารสว่ นจงั หวดั ชัยภูมิ การปฏิบัตอิ ยู่ในระดบั ปานกลาง จำ� นวน 1 ด้าน และ ตรวจสอบคุณภาพเครื่องมือ โดยน�ำไปให้ ผเู้ ชยี่ วชาญ 3 ทา่ นพิจารณาความเหมาะสมของภาษา

วารสารศกึ ษาศาสตร์ ฉบบั วจิ ัยบณั ฑติ ศกึ ษา มหาวทิ ยาลัยขอนแกน่ 5 ปีที่ 9 ฉบบั ท่ี 4 ประจ�ำเดอื น ตุลาคม - ธนั วาคม 2558 เม่ือเรียงล�ำดับคะแนนจากมากไปหาน้อย ได้แก่ สร้างขวัญ ก�ำลังใจให้ผู้ใต้บังคับบัญชาอย่างใกล้ชิด ด้านก�ำหนดมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษาและ มกี ารนเิ ทศกำ� กบั ควบคมุ ดว้ ยกลั ยาณมติ ร เพอ่ื ใหง้ าน ดา้ นจดั ระบบบรหิ ารและสารสนเทศมคี า่ เฉลยี่ มากทสี่ ดุ บรรลุผล ส่งเสริมการจัดกิจกรรมเพ่ิมเติมท่ีสอดคล้อง ( Χ = 4.00, S.D.= .61) รองลงมาคือ ด้านการจัด กับความต้องการของผู้เรียนและท้องถิ่น จัดการสอน ท�ำแผนพัฒนาการจัดการศึกษาของสถานศึกษาที่ ซ่อมเสริม ส�ำหรับผู้เรียนท่ีเรียนอ่อน เรียนรู้ช้าอย่าง มุ่งคุณภาพตามมาตรฐานการศึกษาของสถาน จริงจัง ส่งเสริมการใช้แหล่งเรียนรู้ต่าง ๆ นอกสถาน ศึกษา ( Χ = 3.97, S.D.= .55) ด้านจัดท�ำรายงาน ศกึ ษาใหค้ รอบคลมุ ทกุ กลุ่มสาระ ประจ�ำปีท่ีเป็นรายงานประเมินคุณภาพภายใน ( Χ =3.95,S.D.=.63)ดา้ นจดั ใหม้ กี ารประเมนิ คณุ ภาพ อภิปรายผลการวิจัย ภายในตามมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษา 1. สภาพการด�ำเนินงานตามระบบประกัน ( Χ =3.92,S.D.=.63)ดา้ นจดั ใหม้ กี ารพฒั นาคณุ ภาพ คณุ ภาพภายในสถานศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐาน สงั กดั องคก์ าร การศึกษาอย่างต่อเนื่อง ( Χ = 3.86, S.D.= .65) บริหารส่วนจังหวัดชัยภูมิ พบว่า ระดับการปฏิบัติ ด้านจัดให้มีการติดตามตรวจสอบคุณภาพการศึกษา เกี่ยวกับแนวทางการด�ำเนินงานตามระบบประกัน ( Χ = 3.85, S.D.= .62) และดา้ นดำ� เนนิ งานตามแผน คุณภาพภายในสถานศึกษา โดยรวมอยู่ในระดับมาก พฒั นาการจดั การศึกษาของสถานศึกษา ( Χ = 3.49, ผลการวิจัยปรากฏเช่นนี้ อาจเป็นเพราะว่า องค์การ S.D.= .60) ตามลำ� ดับ บริหารส่วนจังหวัดชัยภูมิ และสถานศึกษาส่งเสริม สนับสนุนการจัดระบบประกันคุณภาพภายในสถาน จากวัตถุประสงค์การวิจัย ข้อ 2 พบว่า ศกึ ษาอย่างตอ่ เนอ่ื ง ก�ำกับ ตดิ ตาม ประเมินผล และ แนวทางการด�ำเนินงานตามระบบประกันคุณภาพ ผดุงประสิทธิภาพของระบบการประกันคุณภาพ ภายใน ควรมอบงานให้เหมาะสมกับความรู้ความ การศึกษาภายในสถานศึกษา ด�ำเนินการตรวจสอบ สามารถของบุคลากร การบริหารงบประมาณควรมี ทบทวนคุณภาพสถานศึกษาอย่างน้อยหนึ่งครั้งในทุก การแจ้งใหผ้ เู้ กยี่ วข้องทราบทุกคร้งั แผนงาน/โครงการ สามปี และสถานศึกษาส่วนใหญ่ได้รับการประเมิน ควรมีการสรุปรวบรวมจัดท�ำเป็นข้อมูลสารสนเทศ ภายนอกรอบแรกแลว้ ซงึ่ สอดคลอ้ งกบั ผลงานวจิ ยั ของ ของโรงเรยี น ส่งเสริมใหช้ มุ ชนเข้ามามสี ว่ นรว่ มในการ บุญวรรณ มณีเนตร [2] ท่ีท�ำการวิจัยเรื่องแนวทาง พัฒนาการจัดการศึกษาท้ังกระบวนการต้ังแต่การ การด�ำเนินงานประกันคุณภาพการศึกษาของสถาน ร่วมก�ำหนดเป้าหมาย การวางแผน การร่วมพัฒนา ศึกษาข้ันพ้ืนฐานในสังกัดกรุงเทพมหานครพบว่าแนว การประเมินผลการพัฒนาและการน�ำผลการประเมิน การด�ำเนินงาน ตามข้ันตอนการด�ำเนินงานท้ัง 8 ขั้น ไปวางแผนพัฒนาอย่างต่อเน่ือง โรงเรียนควรแต่ง โดยภาพรวม อยู่ในระดับมากทุกขั้นตอน สอดคล้อง ต้ังคณะท�ำงานเพื่อท�ำหน้าท่ีตรวจสอบและทบทวน กับ นิกร ศรสี พุ ัฒน์ [3] ที่ได้ศึกษาการประกนั คณุ ภาพ คุณภาพการศึกษาของโรงเรียน โดยให้คณะท�ำงาน การศึกษาภายในโรงเรียนขนาดเล็ก สังกัดส�ำนักงาน ดังกล่าว ด�ำเนินการตรวจสอบ ทบทวนและรายงาน เขตพื้นท่ีการศึกษาอุดรธานี เขต 3 พบว่าสภาพการ การด�ำเนินงานตามแผนพัฒนาคุณภาพของโรงเรียน ด�ำเนินการอยู่ในระดับมาก คือ มีการด�ำเนินการตาม โดยในการตรวจสอบและทบทวนคุณภาพการศึกษา แผนพัฒนาคุณภาพการศึกษา การรายงานคุณภาพ ภายในโรงเรียน ให้ใช้วิธีการท่ีหลากหลายและ การศกึ ษาประจำ� ปี และการจดั ทำ� แผนพฒั นาคณุ ภาพ เหมาะสม และดำ� เนนิ การอยา่ งตอ่ เนือ่ ง เพือ่ นำ� ผลไป สอดคล้องกับสมนึก อินหวัน [4] จากการศึกษาการ ใชใ้ นการปรบั ปรงุ และพฒั นาคณุ ภาพการศกึ ษาตอ่ ไป ประกันคุณภาพภายในสถานศึกษาของโรงเรียนใน เปิดให้ชุมชนเข้ามาใช้บริการเพ่ือเป็นแหล่งวิทยาการ เขตอ�ำเภอแม่อายสังกัดส�ำนักงานเขตพ้ืนที่การศึกษา ในการแสวงหาความรดู้ ว้ ย นอกจากนผี้ บู้ รหิ ารควรดแู ล เชยี งใหม่ เขต 3 พบวา่ ผบู้ รหิ ารโรงเรยี น ครผู สู้ อน และ

6 วารสารศึกษาศาสตร์ ฉบับวิจัยบัณฑติ ศึกษา มหาวิทยาลัยขอนแกน่ ปีที่ 9 ฉบับที่ 4 ประจ�ำเดือน ตลุ าคม - ธนั วาคม 2558 คณะกรรมการสถานศึกษาข้ันพื้นฐานได้ให้ข้อเสนอ 2.3 การจัดระบบบริหารและสารสนเทศ แนะในการด�ำเนนิ การประกันคุณภาพ มีการจัดท�ำโครงสร้างการบริหารจัดการให้เอ้ือต่อการ ด�ำเนินงานทุกคนมีส่วนร่วมและมีการประชาสัมพันธ์ ภายในไว้ว่าโรงเรียนควรสร้างความตระหนัก กับทุกฝ่ายท่ีเกี่ยวข้องแต่งต้ังคณะกรรมการเพื่อ ถึงคุณค่าของการประกันคุณภาพภายในและการ ก�ำหนดความต้องการร่วมกันระหว่างบุคลากรทุกฝ่าย ท�ำงานเป็นทีมให้แก่บุคคลากร ควรมีการสร้างขวัญ ท่ีเกี่ยวข้อง รวมท้ังแนวทางให้ความเห็นและข้อเสนอ และก�ำลังใจแก่บุคลากรอย่างสม่�ำเสมอ ควรมีการ แนะและแต่งตั้งคณะบุคคลท�ำการตรวจสอบทบทวน นิเทศก�ำกับติดตามการด�ำเนินงานให้เป็นไปตามแผน และรายงานคุณภาพการศึกษา ควรมกี ารจดั ทำ� ระบบขอ้ มลู เอกสารไวอ้ ยา่ งเปน็ ระบบ เพ่ือรองรับการประเมินและตรวจสอบและควรกระตุ้น 2.4 การด�ำเนินงานตามแผนพัฒนาการ ให้บุคคลากรทุกคนมีส่วนร่วมในการด�ำเนินงานทุก จัดการศึกษาของสถานศึกษา มีการด�ำเนินงานที่ ขั้นตอน และยังสอดคล้องกับผลการวิจัยของ นิรันดร์ ครอบคลุมการพัฒนาด้านการจัดประสบการณ์ นันทะศรี [5] ท่ีได้ท�ำการวจิ ัยเร่อื งการดำ� เนนิ งานตาม เรียนรู้ กระบวนการเรียนรู้ การส่งเสริมการเรียนรู้ ระบบประกันคุณภาพการศึกษาภายในสถานศึกษา การวัดและประเมินผล การพัฒนาบุคลากร และการ ของสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน สังกัดส�ำนักงานเขตพื้นท่ี บริหารจัดการ การศึกษาสกลนคร เขต 3 พบว่าการด�ำเนินงานตาม ระบบประกันคุณภาพในสถานศึกษาโดยรวมอยู่ใน 2.5 การติดตามตรวจสอบคุณภาพการ ระดบั มาก เมอ่ื พจิ ารณาเปน็ รายดา้ นพบวา่ อยใู่ นระดบั ศกึ ษา มกี ารด�ำเนนิ การตรวจสอบและทบทวนภายใน มากทกุ ดา้ น เรยี งลำ� ดบั จากคา่ เฉลยี่ มากไปหานอ้ ย คอื โดยบุคลากรในสถานศึกษาด�ำเนินการเองและการ ดา้ นการดำ� เนนิ งานตามแผนพฒั นาคณุ ภาพการศกึ ษา ตรวจสอบและทบทวนจากหนว่ ยงานตน้ สังกัด ด้านการจัดระบบบริหารและระบบสารสนเทศ และ ด้านการจัดทำ� แผนพฒั นาคณุ ภาพการศกึ ษา 2.6 การประเมินคุณภาพภายในตาม มาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษามีการด�ำเนินการ 2. แนวทางการดำ� เนินงานตามระบบประกนั ประเมินผลการปฏิบัติงานตามมาตรฐานการศึกษา คณุ ภาพภายในสถานศกึ ษาขนั้ พนื้ ฐาน สงั กดั องคก์ าร และน�ำผลการประเมินมาปรบั ปรุงแกไ้ ข บริหารส่วนจังหวัดชัยภูมิ ผู้วิจัยได้สรุปแนวทางจาก ผู้ทรงคุณวุฒิ ดงั น้ี 2.7 การจัดท�ำรายงานประจ�ำปีที่เป็น รายงานประเมินคุณภาพภายใน มีการน�ำข้อมูลผล 2.1 การก�ำหนดมาตรฐานการศึกษาของ การประเมิน มาตรฐานคุณภาพ การตรวจสอบและ สถานศึกษา มีการก�ำหนดมาตรฐานท่ีมุ่งเน้นผลการ ทบทวนภายในและภายนอก มาประมวลรายงานความ เรียนรู้ของผู้เรียนที่สอดคล้องกับมาตรฐานช่วงชั้นที่ กา้ วหนา้ ผลการพฒั นาคณุ ภาพประจำ� ปกี ารศกึ ษาของ หลักสูตรก�ำหนด รวมทั้งการก�ำหนดมาตรฐานการ สถานศึกษาต่อหน่วยงานต้นสังกัด สาธารณชนและ ปฏบิ ัติงานท้งั ระดับโรงเรียน ระดบั ฝ่ายระดบั กลมุ่ งาน หน่วยงานที่เก่ยี วขอ้ งทราบ และระดบั บคุ คล 2.8 การพัฒนาคุณภาพการศึกษา 2.2 การจัดท�ำแผนพัฒนาการจัดการ อย่างต่อเน่ือง มีการด�ำเนินการจัดท�ำแผนการตรวจ ศึกษาของสถานศึกษาท่ีมุ่งคุณภาพตามมาตรฐาน สอบ ติดตาม และประเมินผลระบบการประกัน การศกึ ษาของสถานศกึ ษา มกี ารจดั แผนพฒั นาสถาน คุณภาพการศึกษา เพื่อให้ข้อมูลย้อนกลับเพื่อการ ศึกษาท่ีมุ่งเน้นพัฒนาคุณภาพการศึกษาอย่างเป็น ส่งเสริม พฒั นา และประเมนิ ประสิทธภิ าพการดำ� เนิน ระบบ และเป็นพนื้ ฐานของข้อมูลสถานศกึ ษา งานระบบประกันคุณภาพการศกึ ษา

วารสารศกึ ษาศาสตร์ ฉบับวิจยั บณั ฑิตศกึ ษา มหาวทิ ยาลัยขอนแก่น 7 ปีท่ี 9 ฉบบั ท่ี 4 ประจำ� เดอื น ตลุ าคม - ธนั วาคม 2558 ข้อเสนอแนะ ข้อเสนอแนะส�ำหรบั การวิจยั ครั้งต่อไป ขอ้ เสนอแนะทีไ่ ดจ้ ากงานวจิ ยั 1. ควรมีการวิจัยความพึงพอใจในการด�ำเนิน 1. การจัดส่ิงอ�ำนวยความสะดวกสนับสนุน งานประกันคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษาข้ัน พ้ืนฐานของผู้บริหารและครูผู้สอนตลอดจนผู้ที่มี ทรัพยากรในการปฏิบัติงานประกันคุณภาพภายใน ส่วนเก่ียวข้องในการด�ำเนินงานดังกล่าว เพื่อน�ำไป ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและมีการด�ำเนินงาน ใช้ในการปรับปรุงและพัฒนานโยบายการประกัน แบบมีส่วนร่วมของผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย ตามล�ำดับดัง คุณภาพการศึกษา ตลอดจนเป็นข้อมูลสารสนเทศ นั้นหน่วยงานตน้ สงั กัดคือ องค์การบริหารส่วนจังหวดั ตอ่ ไป ควรให้มีการจัดระบบสารสนเทศภายในโรงเรียนให้ 2. ควรมกี ารวจิ ยั ปจั จยั ทสี่ ง่ ผลตอ่ ความสำ� เรจ็ เป็นระบบรวมทั้งจัดหางบประมาณสนับสนุนด้าน ในการดำ� เนนิ งานประกนั คณุ ภาพการศกึ ษาของสถาน บคุ ลากร งบประมาณ วสั ดอุ ปุ กรณ์ ครภุ ัณฑ์และการ ศึกษาขั้นพ้ืนฐาน เพ่ือใช้เป็นข้อมูลสารสนเทศในการ บรหิ ารจดั การ เพอ่ื ใหร้ ะบบการจดั เกบ็ ขอ้ มลู ของสถาน ดำ� เนนิ งานประกนั คณุ ภาพการศกึ ษาของสถานศกึ ษา ศึกษาในสังกัดสามารถเอ้ืออ�ำนวยความสะดวกต่อ ขน้ั พนื้ ฐานนนั้ ใหเ้ กดิ คณุ ภาพตามมาตรฐานการศกึ ษา การน�ำข้อมูลไปใช้ประโยชน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพมี ต่อไป การกำ� กบั ติดตามอย่างต่อเนอื่ ง 3. ควรสง่ เสรมิ ใหม้ กี ารนำ� ผลการวจิ ยั ครง้ั นไี้ ป ทำ� การวจิ ยั เชงิ ปฏบิ ตั กิ ารในแบบการมสี ว่ นรว่ มเพอื่ หา 2. ควรใชห้ ลกั การมสี ว่ นรว่ มใหค้ ณะกรรมการ แนวทางการแกไ้ ข พฒั นากระบวนการจดั การเรยี นการ สถานศึกษาเข้าร่วมพัฒนาสถานศึกษาอย่างแท้จริง สอนโดยยดึ ผเู้ รยี นเปน็ สำ� คญั ทเ่ี หมาะสมกบั บรบิ ทของ มีรูปแบบการบริหารท่ีมุ่งผลสัมฤทธิ์ของงาน มการ แตล่ ะโรงเรียนต่อไป ตรวจสอบถ่วงดุลซ่ึงเป็นแนวทางการบริหารและ จดั การศกึ ษาโดยใชส้ ถานศกึ ษาเปน็ ฐาน ดา้ นวชิ าการ เอกสารอ้างองิ ควรผลักดันให้เกิดการพัฒนาเกี่ยวกับหลักสูตรให้ [1] ส�ำนักงานคณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติ. สอดคล้องเหมาะสมกบั ผเู้ รียนและทอ้ งถ่นิ การมีส่วนร่วมของชุมชน ในการจัดการศึกษา 3. ควรจดั ระบบการกำ� กบั ตดิ ตาม ประเมนิ ผล ของสถานศึกษา.กรุงเทพฯ : ส�ำนักงานคณะ งานทุกงานภายในสถานศึกษา น�ำผลการประเมินมา กรรมการการศึกษาแหง่ ชาติ. 2545. เปน็ ฐานพจิ ารณารว่ มกบั บรบิ ทของโรงเรยี นเพอ่ื จดั ทำ� [2] บญุ วรรณ มณีเนตร. แนวทางการดำ� เนินงาน แผนกลยทุ ธ์ แผนปฏิบตั กิ ารประจำ� ปตี ่อไป ประกันคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษา ขั้นพื้นฐานในสังกัดกรุงเทพฯ วิทยานิพนธ์ 4. ควรพัฒนาครูให้มีความรู้เร่ืองหลักสูตร ค.ม. สาขาวชิ าการบรหิ ารการศกึ ษา สำ� นกั งาน สถานศกึ ษา นำ� หลกั สตู รสถานศกึ ษาไปใชเ้ ปน็ แนวทาง ประสานงานบัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัย จัดการเรียนการสอนให้เกิดประสิทธิผลอย่างแท้จริง ราชภฏั ราชนครนิ ทร์. 2547. ส่งเสริมให้ครูจัดการกิจกรรมการเรียนรู้จากสถานการณ์ [3] นิกร ศรีสุพัฒน์. การประกันคุณภาพการ จรงิ ใชส้ อ่ื การสอนทห่ี ลากหลายโดยเฉพาะสอ่ื ธรรมชาติ ศึกษาภายในโรงเรียนขนาดเล็ก สังกัด ท่ีมีอยู่ภายในโรงเรียนให้คุ้มค่าผ่านการเรียนรู้ที่เน้น ส� ำ นั ก ง า น เ ข ต พ้ื น ท่ี ก า ร ศึ ก ษ า อุ ด ร ธ า นี ผเู้ รยี นเปน็ สำ� คัญ เขต 3. รายงานการศึกษาค้นคว้าอิสระ ศ ศ . ม . ข อ น แ ก ่ น : ม ห า วิ ท ย า ลั ย ข อ น แ ก ่ น . 5. ควรติดตามตรวจสอบคุณภาพการศึกษา 2550. สถานศกึ ษาควรมเี ครอ่ื งมอื ตรวจสอบ ทบทวน คณุ ภาพ การศึกษาท่ีมีมาตรฐาน โดยอาจขอใช้จากหน่วยงาน ตา่ ง ๆ ทเ่ี กย่ี วขอ้ งและนำ� มาปรบั ปรงุ พฒั นา ใหเ้ หมาะ สมกบั ความตอ้ งการ โดยใหผ้ ปู้ กครอง ชมุ ชน ไดม้ สี ว่ น รว่ มในการตรวจสอบ ทบทวนดว้ ย

8 วารสารศกึ ษาศาสตร์ ฉบับวจิ ยั บัณฑติ ศึกษา มหาวิทยาลยั ขอนแก่น ปที ่ี 9 ฉบบั ที่ 4 ประจำ� เดือน ตลุ าคม - ธนั วาคม 2558 [4] สมนึก อินหวัน. การประกันคุณภาพภายใน [5] นิรันดร์ นันทะศรี. การด�ำเนินงานตามระบบ สถานศึกษาของโรงเรียนในเขตอ�ำเภอแม่อาย ประกนั คณุ ภาพการศกึ ษาภายในสถานศกึ ษา สังกัดส�ำนักงานเขตพื้นท่ีการศึกษาเชียงใหม่ ของสถานศึกษาข้ันพ้ืนฐาน สังกัดส�ำนักงาน เขต 3. วทิ ยานิพนธ์ ค.ม.สาขาการบริหารการ เขตพน้ื ทก่ี ารศกึ ษาสกลนคร เขต 3.วทิ ยานพิ นธ์ ศกึ ษามหาวิทยาลัยราชภัฎเชยี งราย. 2549. ค.ม.สาขาบริหารการศึกษามหาวิทยาลัย ราชภัฎมหาสารคาม. 2550.

ปัจจยั เชิงสาเหตุทีส่ ่งผลต่อการประกนั คุณภาพภายในของสถานศึกษาขน้ั พน้ื ฐาน สังกดั สำ� นักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศกึ ษา Factors Affecting Internal Quality Assurance of Basic Education Schools Under Office of The Basic Educational Commission สมใจ ยอดปราง ปรชั ญาดุษฎบี ณั ฑติ สาขาวิชาการบริหารเพือ่ การพฒั นาการศึกษา มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั กาญจนบรุ ี ทป่ี รึกษาวิทยานพิ นธ์ : ผศ.ดร.นพิ นธ์ วรรณเวช และผศ.ดร.พงษศ์ ักดิ์ รวมชมรัตน์ Abstract The research aimed to study the causal factors affecting the internal quality assurance and to study the direct, indirect and overall influences affecting the internal quality assurance in the schools under Office of the Basic Education Commission. The sample of 555 subjects comprised administrators, teacher, and personnel responsible for internal quality assurance in the basic education schools, selected by multi-stage random sampling. The research instrument was a questionnaire with content validity of 0.80 -1.00 and reliability of 0.98 to collect data which were analyzed in terms of mean, standard deviation, correlation coefficient analysis, and path analysis. The finding : 1. The 5 causal factors affecting the internal quality assurance in the schools under Office of the Basic Education Commission include: administrator, teacher, personnel, academic, and environment; and the models were consistent with the empirical data (x2= 223.29, df = 118, p = 0.00, x2/df = 1.89, GFI = 0.96, AGFI = 0.93, RMSEA = 0.041, SRMR = 0.041) 2. The direct, indirect and overall causal influences affecting the internal quality assurance in the basic education schools in descending order of influential degrees: personnel factor -1.56, showing negative influence, administrator factor 0.79, teachers factor 0.67, environment factor 0.67 and academic factor 0.54, respectively, In addition, it was indirectly influenced by the factor personnel 0.61, teacher 0.35, and management 0.20 respectively. The overall influences of the administrator and academic factors 0.34 and 0.62. Keywords : Factors affecting, the internal quality assurance บทคัดย่อ การวิจัยครั้งน้ีมีวัตถุประสงค์เพื่อ ศึกษาปัจจัยเชิงสาเหตุที่ส่งผลต่อการประกันคุณภาพภายในสถานศึกษา และศึกษาอิทธิพลทาง ตรง อทิ ธพิ ลทางออ้ ม และอทิ ธพิ ลรวมทสี่ ง่ ผลตอ่ การประกนั คณุ ภาพภายในสถานศกึ ษาขนั้ พนื้ ฐาน สงั กดั สำ� นกั งานคณะกรรมการการศกึ ษา ขนั้ พนื้ ฐาน ตวั อยา่ งทใ่ี ชใ้ นการวจิ ยั ไดแ้ ก่ผบู้ รหิ ารสถานศกึ ษาครูและครผู รู้ บั ผดิ ชอบงานประกนั คณุ ภาพภายในสถานศกึ ษาจำ� นวน 555 คน โดยใชก้ ารสุ่มแบบหลายข้ันตอน เคร่ืองมือทใ่ี ชใ้ นการวิจยั เป็นแบบสอบถามทม่ี ีค่าความเท่ียงตรงเชิงเนื้อหา อยู่ระหว่าง 0.80-1.00 และมี คา่ ความเช่ือมน่ั เทา่ กับ 0.98 สถิติท่ีใช้ในการวิเคราะหข์ อ้ มลู ได้แก่ คา่ เฉลย่ี สว่ นเบย่ี งเบนมาตรฐาน การวเิ คราะหส์ มั ประสทิ ธ์ิสหสัมพนั ธ์ การวิเคราะห์องค์ประกอบเชงิ ยนื ยันอนั ดบั ท่ีสอง และการวิเคราะห์เส้นทาง ผลการวิจยั พบว่า 1. ปัจจัยเชิงสาเหตุท่ีส่งผลต่อการประกันคุณภาพภายในสถานศึกษาข้ันพื้นฐาน สังกัดส�ำนักงานคณะกรรมการการศึกษา ขนั้ พื้นฐาน ประกอบไปด้วย 5 ปัจจัย ประกอบด้วย ปจั จัยดา้ นผบู้ ริหาร ปจั จัยด้านครู ปัจจัยด้านบคุ คล ปัจจัยดา้ นวชิ าการ และปจั จยั ด้าน Journal of Rajanagarindra July - December 2018 187

ส่ิงแวดลอ้ ม ซง่ึ โมเดลมคี วามสอดคลอ้ งกลมกลืนกับขอ้ มลู เชงิ ประจักษ์ (x2 = 223.29, df = 118, p = 0.00, x2 /df = 1.89, GFI = 0.96, AGFI = 0.93, RMSEA = 0.041, SRMR = 0.041) 2. ผลการศึกษาอิทธิพลทางตรง อิทธิพลทางอ้อม และอิทธิพลรวมของตัวแปรปัจจัยท่ีส่งผลต่อการประกันคุณภาพภายในสถาน ศึกษาขั้นพืน้ ฐาน พบวา่ ปัจจัยด้านบุคคล เป็นปัจจยั เชงิ สาเหตทุ ่ีมอี ทิ ธพิ ลสงู สุด มคี ่าเทา่ กบั -1.56 โดยเปน็ การส่งผลทางตรง รองลงมาคอื ปจั จยั ดา้ นผบู้ รหิ าร ปจั จยั ดา้ นครู ปจั จยั ดา้ นสง่ิ แวดลอ้ ม และปจั จยั ดา้ นวชิ าการมคี า่ เทา่ กบั 0.79, 0.67, 0.67 และ 0.54 ตามลำ� ดบั นอกจาก น้ยี ังได้รบั อิทธพิ ลทางอ้อมจากปจั จยั ด้านบุคคล ปัจจัยดา้ นครู และปัจจยั ดา้ นการบรหิ าร มคี า่ เท่ากับ 0.61, 0.35 และ 0.20 อิทธพิ ลรวม ของปจั จยั ด้านผบู้ รหิ าร และปจั จัยดา้ นวิชาการ มีคา่ เทา่ กบั 0.34 และ 0.62 ค�ำส�ำคัญ : ปัจจัยเชิงสาเหต,ุ การประกนั คณุ ภาพภายใน ความเปน็ มาและความส�ำคัญของปัญหา สังกัดส�ำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาท่ัวประเทศ พบว่า สถานศึกษา การจัดการศึกษาเป็นพื้นฐานที่ส�ำคัญในการพัฒนามนุษย์ ระดบั การศกึ ษาขนั้ พนื้ ฐานบางสว่ นยงั ไมไ่ ดร้ บั การรบั รองมาตรฐาน คนท่ีได้รับการศึกษาอย่างเหมาะสมก็คือผู้ท่ีสามารถใช้ชีวิตได้ โดยเฉพาะอยา่ งยงิ่ ในตวั บง่ ชที้ ี่ 5 เกย่ี วกบั ผเู้ รยี นมคี วามรแู้ ละทกั ษะ อย่างถูกต้อง และสามารถเข้าใจตนเองอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมี ท่ีจ�ำเป็นตามหลักสูตร ซ่ึงจากคะแนนผลทดสอบระดับชาติ หรือ ความสขุ ปจั จบุ นั เศรษฐกจิ สังคม และการเมืองเปลี่ยนแปลงอยา่ ง O-NET ต่�ำกว่าเกณฑ์มาตรฐาน ส่งผลให้สถานศึกษาไม่ได้รับ รวดเร็ว ซ่ึงเป็นยุคข้อมูลข่าวสาร สารสนเทศและเทคโนโลยีการ การรับรองคุณภาพจาก สมศ. รวมทั้งผลการประเมิน ตัวบ่งชี้ที่ 4 จดั การศกึ ษา จงึ ตอ้ งเปลยี่ นตามเพอ่ื ผลติ คนทมี่ คี ณุ ภาพและสามารถ นักเรียนมีความสามารถในการคิดวิเคราะห์ คิดสังเคราะห์มี ใช้ชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข (มัฮดี แวดราแม และโชติกา วจิ ารณญาณ มคี วามคดิ รเิ รมิ่ สรา้ งสรรค์ คดิ ไตรต่ รอง และมวี สิ ยั ทศั น์ ภาษีผล, 2556) ส่วนใหญ่มีคุณภาพอยู่ในระดับพอใช้ หรือระดับการปรับปรุง การพัฒนาคุณภาพการศึกษามีความจ�ำเป็นอย่างยิ่งท่ีจะ (สำ� นักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคณุ ภาพการศกึ ษา, 2555) ต้องบริหารจัดการศึกษาในเชิงคุณภาพ โดยมีการประกันคุณภาพ ซ่ึงสะท้อนให้เห็นว่า สถานศึกษาไม่สามารถพัฒนาครูให้มีความ การศึกษาเพื่อเป็นกลไกส�ำคัญที่เสริมและผลักดันให้กระบวนการ สามารถในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ท�ำให้นักเรียนเกิดความ ทำ� งานในทุกระดบั และบุคลากรทเ่ี ก่ยี วข้องด�ำเนนิ ไปอยา่ งสอดรบั สามารถ และทกั ษะกระบวนการคดิ และผลสะทอ้ นจากการทดสอบ กันเป็นระบบมุ่งหน้าไปในทิศทางที่ได้ร่วมกันก�ำหนดไว้ เพื่อบรรลุ ในระดับชาติ (National Test) พบว่าโรงเรียนส่วนใหญ่มีผลการ เป้าหมายของการปฏิรูปการศึกษาอย่างมีประสิทธิภาพโดย ทดสอบต�่ำกว่าเกณฑ์ ซึ่งท�ำให้เห็นว่าความสามารถของนักเรียนยัง อาศัยหลักการวิธีการบริหารและการจัดการคุณภาพ (Quality ต่�ำกว่ามาตรฐาน ต้องได้รับการแก้ไขอย่างเป็นระบบ และสมควร management) ทเี่ น้นสร้างความม่นั ใจใหก้ บั ทกุ ฝา่ ยท่ีเกี่ยวขอ้ งว่า พัฒนาครูให้มีความรู้ ความสามารถ ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ผู้เรียนทุกคนจะได้รับการศึกษาท่ีมีคุณภาพตามมาตรฐานที่ เพอื่ สง่ เสรมิ กระบวนการจดั การเรยี นรขู้ องนกั เรยี น จนทำ� ใหน้ กั เรยี น ก�ำหนดไว้ สอดคล้องกับพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. เกดิ ความรู้ ความสามารถ และทกั ษะตามหลกั สตู รอยา่ งหลากหลาย 2542 ที่มุ่งเน้นคุณภาพและมาตรฐานในหมวด 6 มาตรฐานและ แนวทางการประกันคุณภาพการศึกษาภายในของสถาน การประกันคุณภาพและก�ำหนดให้สถานศึกษารายงานผลการ ศกึ ษาในปจั จบุ นั อาศยั แนวคดิ ปจั จยั นำ� เขา้ กระบวนการ และผลผลติ ประเมนิ คณุ ภาพภายในตอ่ หนว่ ยงานตน้ สงั กดั หนว่ ยงานทเ่ี กยี่ วขอ้ ง (Input Process Output) ซึง่ มุ่งเน้นการประกันคณุ ภาพการศึกษา และเปิดเผยต่อสาธารณชนเป็นประจ�ำทุกปี เพื่อน�ำไปสู่การพัฒนา ในเชิงกระบวนการ (Process Quality Assurance) อันหมายถึง คุณภาพการศึกษาและมาตรฐานการศึกษาเพ่ือรองรับการประเมิน การด�ำเนินงานท่ีมีความสัมพันธ์เช่ือมโยงเป็นระบบและขั้นตอน คุณภาพภายนอก ในปจั จุบนั หนว่ ยงานตา่ งๆ เริ่มมคี วามเขา้ ใจและ เพื่อให้ได้มาซ่ึงผลผลิตท่ีมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลเป็นส�ำคัญ มคี วามต่ืนตัวคณุ ภาพการศกึ ษาของสถานศกึ ษา และเพอ่ื ใหเ้ ป็นไป โดยมีองคป์ ระกอบหลักทเี่ กีย่ วข้องกับการด�ำเนนิ งานดงั กล่าวอยู่ 4 ตามสาระในพระราชบัญญัตกิ ารศึกษาแหง่ ชาติ องคป์ ระกอบ ได้แก่ บคุ ลากร เครื่องมอื วสั ดุอุปกรณ์ และวธิ กี าร จากผลการประเมินคุณภาพภายนอกของส�ำนักงานรับรอง ท้ังนไี้ ด้ถือว่า บุคลากรเป็นองค์ประกอบหลกั ประการหนงึ่ ท่ีมคี วาม มาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (องค์การมหาชน) รอบ สำ� คญั และเกยี่ วพนั กบั การดำ� เนนิ งานเพอ่ื มงุ่ สสู่ มั ฤทธผิ ลการประกนั สาม (พ.ศ. 2554-2558) สถานศึกษาระดับการศึกษาข้ันพื้นฐาน 188 วารสารราชนครินทร์ กรกฏาคม-ธนั วาคม 2561

คุณภาพการศึกษาของสถานศึกษาอย่างมาก ดังน้ันการด�ำเนินการ วิกค์ และไฮเบอร์เกอร์ (Vick & Heiberger), เคทเทอริดจ์ และ อย่างเป็นระบบและข้ันตอน ในการประกันคุณภาพการศึกษา มารเ์ ชล (Ketteridage & Marshall) กอร์ตัน (Gorton) ฟอเรสท์ ย่อมต้องอาศัยการมีส่วนร่วมของผู้เกี่ยวข้องภายในสถานศึกษา และกินเซอร์ (Forest & Kinser) อนั หมายถงึ การมสี ่วนรว่ มของนกั การศกึ ษา นกั วิชาการ อาจารย์ ปัจจัยด้านครู ตามแนวคิดของ สุมน อมรวิวัฒน์, เจา้ หนา้ ที่ และบคุ ลากรสายสนบั สนนุ อนื่ ๆ เพอื่ รว่ มมอื ในการดำ� เนนิ วิชัย ประสิทธ์ิวุฒิเวชช์, กระทรวงศึกษาธิการ, ฮู และดันแคน งานปรับปรุง และพัฒนาองค์กรการศึกษา (Sherr & Deborah, (Hough & Duncan) กู๊ด (Good) ฮิลล์ (Hills) และ มอร์ (Moore) 1911) ปัจจัยด้านการบริหารบุคคล ตามแนวคิดของกุรุพินท์ จะเห็นได้ว่าการด�ำเนินงานประกันคุณภาพการศึกษาของ นิตยานันทะ, ชมภูนุช ครองขจรสุข, วราภรณ์ ตระกูลสฤษดิ์, สถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ยังไม่ประสบความส�ำเร็จเท่าที่ควร ดังน้ัน สมนกึ เออื้ จริ ะพงษพ์ นั ธ,์ ผดงุ อมั พรมนุ ,ี กง่ิ กนก โพธสิ ขุ และคณะ, ผ้วู จิ ยั จงึ ไดต้ ระหนักถึงความสำ� คญั ของคุณภาพการศึกษา ผ้บู ริหาร อรชร โพธิสุข และมารวย ผดุงสิทธิ์, ณรงค์ สัจพันโรจน์, สถานศึกษา และครูให้ความส�ำคัญต่อปัจจัยท่ีส่งผลต่อคุณภาพ ประพันธ์ สุริหาร, อ�ำนวย ทองโปร่ง และศิริพงษ์ เสาภายน, ของสถานศึกษามากน้อยเพียงใด หากผู้บริหารสถานศึกษา และ เทศ แกล้วกสกิ รรม, จิตรา พีชะพฒั น,์ พะยอม วงศ์สารศร,ี ธีรยทุ ธ ครูให้ความส�ำคัญต่อปัจจัยที่ส่งผลต่อคุณภาพสถานศึกษาในระดับ พึ่งเทยี ร, สำ� นักงานคณะกรรมการการศึกษาขนั้ พ้นื ฐาน, ลกู ค์ และ มาก ท�ำให้ครูเอาใจใส่และพัฒนาคุณภาพของปัจจัยให้มีมาตรฐาน โพลเซอร์ (Luecke & Polzer), วดู ค๊อก (Woodcock), โคลเลอร์ ย่อมส่งผลดีต่อคุณภาพการศึกษา ด้วยเหตุผลดังกล่าวท�ำให้ผู้วิจัย (Coller), คอมบรอด และนนั เนอร่ี (Kimbrough & Nunnery) และ มคี วามสนใจเกยี่ วกบั ปจั จยั ทสี่ ง่ ผลตอ่ คณุ ภาพการศกึ ษาของโรงเรยี น การเ์ นอร์ (Garner), เพ่ือใช้ส�ำหรับประกอบการวางแผนพัฒนาการบริหารการศึกษาใน ปัจจัยด้านสภาพแวดล้อมในโรงเรียน ตามแนวคิดของ สถานศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐานใหด้ ีตอ่ ไป ส�ำนักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน, กรมวิชาการ, สวัสดิ์ สายประสิทธ์ิและคณะ, สุปรีชา หิรัญโร, ธเนศ ข�ำเกิด, วัตถปุ ระสงค์ สมทรง อินสวา่ ง, สแตปป์ และโดโรธี (Stapp & Dorothy), จากการศึกษาแนวคิดดังกล่าวข้างต้นผู้วิจัยสามารถสรุป 1. เพอ่ื ศกึ ษาปจั จยั เชงิ สาเหตทุ ส่ี ง่ ผลตอ่ การประกนั คณุ ภาพ เป็นกรอบแนวคิดในการวิจัยเพ่ือด�ำเนินการศึกษาปัจจัยเชิงสาเหตุ ภายในสถานศึกษาข้ันพ้ืนฐาน สังกัดส�ำนักงานคณะกรรมการการ ทสี่ ง่ ผลต่อการประกนั คุณภาพภายในสถานศกึ ษาข้นั พืน้ ฐาน สงั กัด ศึกษาขัน้ พน้ื ฐาน สำ� นกั งานคณะกรรมการการศึกษาข้นั พนื้ ฐานได้ดังน้ี 2. เพอ่ื ศกึ ษาอทิ ธพิ ลทางตรง อทิ ธพิ ลทางออ้ ม และอทิ ธพิ ล ปัจจยั ดา้ นผ้บู ริหาร ประกอบด้วย ภาวะผู้นำ� วิสยั ทศั น์ และ รวมท่ีส่งผลต่อการประกันคุณภาพภายในสถานศึกษาข้ันพื้นฐาน การสอ่ื สารในองคก์ าร สงั กัดสำ� นักงานคณะกรรมการการศึกษาขน้ั พน้ื ฐาน ปัจจัยด้านวิชาการ ประกอบด้วย การพัฒนาหลักสูตร การพัฒนากระบวนการเรียนรู้ และการพัฒนาส่ือ นวัตกรรม และ แนวคิดทฤษฎี เทคโนโลยี ปัจจัยด้านครู ประกอบด้วย การจัดการเรียนรู้ การวัดผล จากการศกึ ษาตำ� รา เอกสาร แนวคดิ และทฤษฎตี ่างๆ ของ ประเมนิ ผล และการแนะแนว นักการศึกษา เกี่ยวกับปัจจัยท่ีส่งผลต่อการประกันคุณภาพภายใน ปัจจัยด้านบุคคล ประกอบด้วย การท�ำงานเป็นทีม การ สถานศึกษาขั้นพนื้ ฐาน มีดังนี้ พฒั นาบุคลากร และการสรา้ งขวัญและกำ� ลังใจการท�ำงาน ปจั จยั ดา้ นผบู้ รหิ าร ศกึ ษาแนวคดิ ของบาส (Bass), สตอ๊ กตลิ ปัจจัยด้านส่ิงแวดล้อม ประกอบด้วย สภาพแวดล้อมด้าน (Stogdill), แซมมวล (Samuel), เดสเลอร์ (Dessler), ดราฟท์ กายภาพ สภาพแวดลอ้ มดา้ นการจัดการเรยี นรู้ และสภาพแวดลอ้ ม (Draft), ยูคล์ (Yukl), ศิริพร พงศ์ศรีโรจน์, เกรียงไกร ศิริมงคล, ในองคก์ าร ชาญชัย อาจินสมาจาร, รังสรรค์ ประเสริฐศรี, ณัฐนิภา คุปรัตน์ ผู้วิจัยน�ำเสนอเป็นแผนภาพกรอบแนวคิดในการวิจัยของ และประกอบ คุปรัตน์, วีนัส เอมวัฒนา, อารี พันธ์มณี และ โมเดลสมมตฐิ านของปจั จยั เชงิ สาเหตทุ สี่ ง่ ผลตอ่ การประกนั คณุ ภาพ จรวยพร ธรณนิ ทร์ ภายในสถานศึกษาขั้นพ้ืนฐาน สังกัดส�ำนักงานคณะกรรมการ ปัจจัยด้านการบริหารวิชาการ ตามแนวคิดของสุบิน การศกึ ษาข้นั พืน้ ฐาน ดังแผนภูมิต่อไปน้ี จันทะนนั ท,์ ชยั พฤกษ์ เสรรี กั ษ,์ กมล ภู่ประเสรฐิ , จนั ทรานี สงวน นาม, ธรี ะ รญุ เจรญิ , ปรยี าพร วงศอ์ นตุ รโรจน,์ กระทรวงศกึ ษาธกิ าร, Journal of Rajanagarindra July - December 2018 189

1. ผู้บรหิ าร 2. การบรหิ าร ขอบเขตดา้ นเน้ือหา วิชาการ การวิจัยครั้งนี้ เป็นการศึกษาปัจจัยเชิงสาเหตุท่ีส่งผลต่อ การประกันคณุ ภาพภายในสถานศกึ ษาขั้นพืน้ ฐาน สงั กดั ส�ำนักงาน 3. ครู การประกัน คณะกรรมการการศึกษาข้ันพื้นฐาน ตามแนวคิดทฤษฎีปัจจัย คุณภาพภายใน ด้านผู้บริหาร ปัจจัยด้านการบริหารวิชาการ ปัจจัยด้านครู ปัจจัย สถานศึกษา ด้านการบริหารบุคคล และปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อมในโรงเรียน ประกอบดว้ ย 4. การบริหาร 5. สง่ิ แวดลอ้ ม ปัจจัยด้านผู้บริหาร ประกอบด้วย ภาวะผู้น�ำ วิสัยทัศน์ บคุ คล ในโรงเรยี น และการสือ่ สารในองค์การ ปัจจัยด้านการบริหารวิชาการ ประกอบด้วย การพัฒนา แผนภูมิท่ี 1 ปัจจัยเชิงสาเหตุที่ส่งผลต่อการประกันคุณภาพภาย หลักสูตร การพัฒนากระบวนการเรียนรู้ และการพัฒนาสื่อ ในสถานศึกษาขนั้ พืน้ ฐาน สังกัดส�ำนกั งานคณะกรรมการการศึกษา นวตั กรรม และเทคโนโลยี ขน้ั พื้นฐาน ปัจจัยด้านครู ประกอบด้วย การจัดการเรียนรู้ การวัดผล ประเมนิ ผล และการแนะแนว ขอบเขตการวิจัย/การศกึ ษา ปัจจัยด้านการบริหารบุคคล ประกอบด้วย การท�ำงาน ประชากรและกลุม่ ตวั อย่าง การวจิ ัยครงั้ น้ี ได้แก่ เป็นทีม การพัฒนาบุคลากร และการสร้างขวัญและก�ำลังใจการ 1. ประชากรท่ีใช้ในการวิจัยคร้ังน้ี ได้แก่ ผู้บริหารสถาน ทำ� งาน ศกึ ษา ครู และครทู รี่ บั ผดิ ชอบงานประกนั คณุ ภาพภายในสถานศกึ ษา ปัจจัยด้านส่ิงแวดล้อมในโรงเรียน ประกอบด้วย สภาพ ข้ันพ้ืนฐาน สังกัดส�ำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน แวดล้อมด้านกายภาพ สภาพแวดล้อมด้านการจัดการเรียนรู้ และ จำ� นวน 339,094 คน จากโรงเรยี นทัง้ หมด 26,938 โรงเรียน สภาพแวดลอ้ มในองค์การ 2. กลุ่มตวั อย่างทีใ่ ช้ในการวจิ ยั ครงั้ นี้ ได้แก่ ผู้บรหิ ารสถาน ศกึ ษา ครู และครทู รี่ บั ผดิ ชอบงานประกนั คณุ ภาพภายในสถานศกึ ษา วธิ ดี �ำเนนิ การวิจยั ข้ันพ้ืนฐานท่ีสังกัดส�ำนักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพื้นฐาน กำ� หนดขนาดตวั อยา่ งตามหลกั เกณฑข์ อง คอมเรย์ และลี (Comrey การวจิ ยั เพอ่ื วเิ คราะหป์ จั จยั เชงิ สาเหตทุ สี่ ง่ ผลตอ่ การประกนั & Lee, 1992) จำ� นวน 555 คน โดยสมุ่ ตวั อยา่ งแบบหลายขนั้ ตอน คุณภาพภายในสถานศึกษาขั้นพ้ืนฐาน สังกัดส�ำนักงานเขตพ้ืนที่ ดงั นี้ การศกึ ษาประถมศึกษา มขี นั้ ตอนการวจิ ัย ดงั นี้ 21. การสุ่มตัวอย่างแบบแบ่งชั้น โดยเลือกภูมิภาคของ ข้ันตอนที่ 1 การศึกษาแนวคิด ทฤษฎี และงานวิจัยทั้งใน การแบ่งเขตพน้ื ที่การศกึ ษา จำ� นวน 6 ภูมิภาคของประเทศไทยคือ ประเทศและต่างประเทศที่เกี่ยวกับปัจจัยเชิงสาเหตุท่ีส่งผลต่อการ ภาคเหนอื ภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้ ภาคตะวนั ประกันคุณภาพภายในสถานศึกษาขนั้ พนื้ ฐาน ดงั น้ี ออก และภาคตะวันตก การศึกษาและวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐาน เป็นการรวบรวม 2.2 การสุ่มจังหวัดในภูมิภาคโดยวิธีการสุ่มตัวอย่าง ขอ้ มลู พน้ื ฐานทจี่ ำ� เปน็ จากเอกสาร และงานวจิ ยั ทีเ่ กี่ยวข้อง เพ่ือน�ำ อยา่ งง่ายได้ภูมิภาคละ 1 จังหวดั มาใชใ้ นการกำ� หนดกรอบตวั แปรทม่ี อี ทิ ธพิ ลตอ่ การประกนั คณุ ภาพ 2.3 การสุ่มเขตพื้นที่การศึกษา โดยการสุ่มอย่างง่ายได้ ภายในสถานศึกษาขั้นพ้ืนฐาน รวมท้ังการก�ำหนดประชากรและ จังหวัดละ 1 เขตพื้นทก่ี ารศกึ ษา กลุ่มตัวอย่างในการศึกษาปัจจัยเชิงสาเหตุที่ส่งผลต่อการประกัน 2.4 การสมุ่ สถานศกึ ษา โดยการสมุ่ อยา่ งงา่ ย โดยสถาน คุณภาพภายในสถานศึกษาข้ันพื้นฐาน ในสังกัดส�ำนักงานเขตพื้นท่ี ศกึ ษาเปน็ หนว่ ยสมุ่ (sampling unit) ไดห้ นว่ ยตวั อยา่ งเปน็ ผอู้ ำ� นวย การศกึ ษาประถมศกึ ษา แลว้ นำ� มาวเิ คราะห์ และสงั เคราะหป์ จั จยั ที่ การสถานศึกษา ครู และครูทร่ี บั ผดิ ชอบงานประกนั คุณภาพภายใน ได้ศึกษามากำ� หนดเปน็ กรอบแนวคดิ ทั้งหมด จ�ำนวน 555 คน ประกอบดว้ ยผูบ้ รหิ าร จำ� นวน 185 คน ผลท่ีไดจ้ ากการศกึ ษาในขน้ั ตอนท่ี 1 คอื ปจั จัยเชงิ สาเหตทุ ่ี ครจู ำ� นวน 185 คน และครทู รี่ บั ผดิ ชอบงานประกนั คณุ ภาพภาย ใน สง่ ผลตอ่ การประกนั คณุ ภาพภายในสถานศกึ ษาขนั้ พนื้ ฐาน ในสงั กดั จ�ำนวย 185 คน ส�ำนกั งานเขตพ้ืนท่กี ารศึกษาประถมศึกษา 190 วารสารราชนครินทร์ กรกฏาคม-ธันวาคม 2561

ขั้นตอนท่ี 2 การสร้างและพัฒนาเครื่องมือเพ่ือใช้ในการ ผลท่ีได้จากการศึกษาในข้ันท่ี 5 คือ รูปแบบความสัมพันธ์ ศึกษาองค์ประกอบของปัจจัยเชิงสาเหตุที่ส่งผลต่อการประกัน ของปัจจัยเชิงสาเหตุที่ส่งผลต่อการประกันคุณภาพภายใน คุณภาพภายในสถานศึกษาข้ันพ้ืนฐาน ในสังกัดส�ำนักงานเขตพ้ืนท่ี สถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ในสังกัดส�ำนักงานเขตพื้นท่ีการศึกษา การศึกษาประถมศึกษา ดังน้ี ประถมศกึ ษา 1. การสร้างแบบสอบถามเพื่อศึกษาเก่ียวกับปัจจัยเชิง สาเหตทุ ส่ี ง่ ผลตอ่ การประกนั คณุ ภาพภายในสถานศกึ ษาขน้ั พนื้ ฐาน สรปุ ผลการวิจัย ในสงั กดั สำ� นักงานเขตพื้นที่การศกึ ษาประถมศึกษา 2. ตรวจสอบคุณภาพของแบบสอบถาม หาค่าความเท่ียง ในการศึกษาปัจจัยเชิงสาเหตุท่ีส่งผลต่อการประกัน ตรง โดยการหาค่าดัชนีความสอดคล้องระหว่างข้อค�ำถามกับ คุณภาพภายในสถานศึกษาข้ันพื้นฐาน สังกัดส�ำนักงานคณะ ประเดน็ หลกั ของเนอ้ื หา (IOC) ซง่ึ ตรวจสอบโดยผเู้ ชย่ี วชาญดา้ นการ กรรมการการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน คร้ังน้ี ผู้วิจัยน�ำเสนอการสรุปผล บริหารการศึกษาในระดับการศึกษาข้ันพ้ืนฐานและด้านการวิจัย การวจิ ยั จ�ำแนกตามวตั ถปุ ระสงค์ของการวจิ ัยไดด้ งั น้ี จ�ำนวน 5 ทา่ น 1. ปัจจัยเชิงสาเหตุที่ส่งผลต่อการประกันคุณภาพภาย ผลท่ีได้จากการศึกษาในข้ันตอนท่ี 2 คือ เคร่ืองมือท่ีมี ในสถานศกึ ษาขั้นพ้ืนฐาน สังกัดส�ำนกั งานคณะกรรมการการศึกษา คณุ ภาพ เพื่อใช้ในการศึกษาปจั จยั เชิงสาเหตทุ ่ีส่งผลตอ่ การประกนั ข้ันพื้นฐาน ประกอบไปด้วย 5 ปัจจัย ได้แก่ ปัจจัยด้านผู้บริหาร คุณภาพภายในสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ในสังกัดส�ำนักงานเขตพื้นท่ี ปจั จัยดา้ นครู ปัจจัยดา้ นบุคคล ปัจจัยดา้ นวชิ าการ และปัจจยั ดา้ น การศึกษาประถมศกึ ษา ส่ิงแวดล้อม และโมเดลของปัจจัยเชิงสาเหตุท่ีส่งผลต่อการประกัน ขนั้ ตอนที่ 3 การเก็บรวบรวมขอ้ มลู คุณภาพภายในสถานศึกษา มีความสอดคล้องกลมกลืนกับข้อมูล 1. การส่งแบบสอบถามไปยงั กลมุ่ ตัวอย่าง เชิงประจักษ์ (x2= 223.29, df=118, p=0.00, GFI=0.96, 2. การเก็บรวบรวมข้อมูล AGFI=0.93, RMSEA=0.041, SRMR=0.041) ผลท่ีได้รับจากการศึกษาในขั้นตอนท่ี 3 คือ ได้ข้อมูลเกี่ยว 2. ผลการศึกษาอิทธิพลทางตรง อิทธิพลทางอ้อม และ กับปัจจัยเชิงสาเหตุที่ส่งผลต่อการประกันคุณภาพภายในสถาน อทิ ธพิ ลรวมของตวั แปรปจั จยั ทสี่ ง่ ผลตอ่ การประกนั คณุ ภาพภายใน ศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐาน ในสงั กดั สำ� นกั งานเขตพน้ื ทกี่ ารศกึ ษาประถมศกึ ษา สถานศึกษาขั้นพื้นฐาน พบว่า ปัจจัยด้านการบริหารบุคคล เป็น ขนั้ ตอนที่ 4 การวเิ คราะห์ขอ้ มลู ดงั น้ี ปัจจัยเชิงสาเหตุที่มีอิทธิพลสูงสุด มีค่าเท่ากับ -1.56 โดยเป็นการ 1. วเิ คราะหข์ อ้ มลู พน้ื ฐานของผตู้ อบแบบสอบถามประกอบ ส่งผลทางตรงด้านลบ รองลงมาคือปัจจัยด้านผู้บริหาร และปัจจัย ด้วย เพศ อายุ การศึกษา และต�ำแหน่งในการท�ำงาน โดยการ ด้านครู ปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม และปัจจัยด้านวิชาการมีค่าเท่ากับ วเิ คราะห์แจกแจงความถ่ี และรอ้ ยละ 0.79, 0.67,067 และ 054 ตามลำ� ดับ นอกจากนี้ยังได้รับอิทธพิ ล 2. วิเคราะห์องค์ประกอบของปัจจัยเชิงสาเหตุท่ีส่งผล ทางอ้อมจากปจั จยั ด้านการบรหิ ารบุคคล ปัจจยั ดา้ นครู และปจั จัย ต่อการประกันคุณภาพภายในสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ในสังกัด ด้านการบรหิ ารมีค่าเท่ากับ 0.61, 0.35 และ 0.20 สำ� นกั งานเขตพน้ื ทกี่ ารศกึ ษาประถมศกึ ษา โดยการวเิ คราะหค์ า่ เฉลยี่ และสว่ นเบีย่ งเบนมาตรฐาน อภปิ รายผล ผลท่ีได้จากขั้นตอนท่ี 4 ความสัมพันธ์ของปัจจัยเชิง สาเหตทุ สี่ ง่ ผลตอ่ การประกนั คณุ ภาพภายในสถานศกึ ษาขน้ั พนื้ ฐาน 1. การศึกษาปัจจัยที่ส่งผลต่อการประกันคุณภาพภายใน ในสังกัดสำ� นกั งานเขตพน้ื ท่ีการศึกษาประถมศกึ ษา สถานศึกษาข้นั พน้ื ฐาน พบวา่ ประกอบด้วย 5 ปัจจัยได้แก่ ปจั จยั ขั้นตอนท่ี 5 การสร้างรูปแบบความสัมพันธ์ของปัจจัย ด้านผู้บริหาร ปัจจัยด้านครู ปัจจัยด้านบุคคล ปัจจัยด้านวิชาการ เชิงสาเหตุที่ส่งผลต่อการประกันคุณภาพภายในสถานศึกษา และปจั จยั ดา้ นสงิ่ แวดลอ้ ม และโมเดลมคี วามสอดคลอ้ งกลมกลนื กบั ขั้นพ้ืนฐาน ในสังกัดส�ำนักงานเขตพื้นท่ีการศึกษาประถมศึกษา ข้อมูลเชิงประจักษ์ ดงั น้ี จากผลการวิจัยเป็นท่ีน่าสังเกตว่าผู้ให้ข้อมูลหรือกลุ่ม การวิเคราะห์องค์ประกอบเชิงยืนยัน โดยการวิเคราะห์ ตวั อยา่ งมคี วามคดิ เหน็ สอดคลอ้ งกบั แนวคดิ ทฤษฎที ผ่ี วู้ จิ ยั ไดท้ ำ� การ เส้นทาง ศึกษาค้นคว้าและท�ำการสังเคราะห์เป็นกรอบแนวคิดของการวิจัย และไดก้ ำ� หนดเปน็ โมเดลสมมตฐิ านวา่ ปจั จยั ทสี่ ง่ ผลตอ่ การประกนั คณุ ภาพภายในสถานศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐาน พบวา่ ประกอบดว้ ย 5 ปจั จยั ไดแ้ ก่ ปจั จยั ดา้ นผบู้ รหิ าร ปจั จยั ดา้ นครู ปจั จยั ดา้ นบคุ คล ปจั จยั ดา้ น Journal of Rajanagarindra July - December 2018 191

วิชาการ และปจั จยั ด้านสง่ิ แวดล้อม ซ่ึงสอดคลอ้ งกับแนวคิดของ เซ ส�ำคัญ เนื่องจากบุคลากรขององค์การจะช่วยพัฒนาให้องค์การ อรแ์ ละเดโบราห์ (Sherr & Deborah, 1991) ท่กี ล่าวว่า แนวทาง เจริญเติบโต เพราะการบริหารทรัพยากรมนุษย์เป็นสื่อกลางใน การประกนั คณุ ภาพภายในของสถานศกึ ษาในปจั จบุ นั อาศยั แนวคดิ การประสานงานกับแผนต่างๆ เพ่ือแสวงหาวิธีการให้ได้บุคคลท่ีมี ปจั จยั นำ� เขา้ กระบวนการ และผลผลติ ซงึ่ มงุ่ เนน้ การประกนั คณุ ภาพ คุณสมบัติเหมาะสมเข้ามาท�ำงานในองค์การ เม่ือองค์การได้บุคคล การศึกษาในเชิงกระบวนการ (Process Quality Assurance) ที่มีคุณสมบัติดังกล่าว ย่อมท�ำให้องค์การเจริญเติบโตและพัฒนา อนั หมายถงึ การดำ� เนนิ งานทมี่ คี วามสมั พนั ธเ์ ชอ่ื มโยงเปน็ ระบบและ ยงิ่ ขน้ึ ขน้ั ตอน เพอ่ื ใหไ้ ดม้ าซง่ึ ผลผลติ ทมี่ ปี ระสทิ ธภิ าพและประสทิ ธผิ ลเปน็ นอกจากน้ีผลการวิจัยยังพบว่า ตัวแปรสังเกตได้ท่ีมีค่า สำ� คญั โดยมอี งคป์ ระกอบหลกั ทเี่ กย่ี วขอ้ งกบั การดำ� เนนิ งานดงั กลา่ ว นำ�้ หนกั องคป์ ระกอบมาตรฐานมากทส่ี ดุ เปน็ ตวั แปรทม่ี คี วามสำ� คญั อยู่ 4 องค์ประกอบ ไดแ้ ก่ บคุ ลากร เครือ่ งมอื วัสดอุ ปุ กรณ์ และ ต่อปัจจัยของการประกันคุณภาพภายในสถานศึกษาข้ันพื้นฐานคือ วิธีการ ตัวแปร ด้านวิสัยทัศน์ของปัจจัยด้านผู้บริหาร ตัวแปรด้านการวัด และยงั สอดคลอ้ งกบั การศกึ ษาของณฐมนวรรณ ศริ สิ ขุ ชยั วฒุ ิ และประเมนิ ผลของปจั จยั ดา้ นครู และตวั แปรการทำ� งานเปน็ ทมี ของ (2551) ท่ีได้ศึกษาปัจจัยที่ส่งผลต่อคุณภาพของระบบประกัน ปัจจัยด้านบุคคล ผู้ตอบแบบสอบถามเห็นว่า ผู้บริหารจะต้องเป็น คุณภาพภายในสถานศึกษาขั้นพ้ืนที่ได้รับการรับรองมาตรฐานการ ผมู้ วี สิ ยั ทศั น์ เนอ่ื งจากผบู้ รหิ ารสถานศกึ ษาทจี่ ะจดั การศกึ ษาสคู่ วาม ศึกษา ในเขตภาคเหนือตอนลา่ ง พบว่า ปจั จัยทเี่ กีย่ วขอ้ งกบั ระบบ เป็นเลิศได้นั้นจะต้องเป็นผู้ท่ีมีวิสัยทัศน์ เพื่อก่อให้เกิดนโยบายใน ประกันคุณภาพภายในสถานศึกษา ได้แก่ ตัวแปรปัจจัยด้านการ การบรหิ ารหรอื แนวคดิ ใหมๆ่ ซง่ึ อาจกำ� หนดเปน็ ปรชั ญาของโรงเรยี น บริหาร ปัจจัยด้านโครงสร้าง ปัจจัยด้านบุคลากร ปัจจัยด้าน และหล่อหลอมสู่แผนการปฏิบัติงานซึ่งเป็นปัจจัยส�ำคัญของการ กระบวนการ ปัจจัยด้านทรัพยากร การทดสอบความสัมพันธ์ ประสานกิจกรรมต่างๆ เพื่อจะบรรลุและตอบสนองต่อเป้าหมาย โครงสร้างเชิงเส้นระหว่างปัจจัยต่างๆ ของการประกันคุณภาพ ท่ีวางไว้ สอดคล้องกับการศึกษาของ สมนึก จันทะไทย (2556) ภายในสถานศึกษา ซ่ึงมีความสอดคล้องกลมกลืนกับข้อมูลเชิง เรื่องการเป็นองค์การแห่งการเรียนรู้ของสถานศึกษาที่ส่งผลต่อการ ประจักษ์ ดงั น้ัน ในการพัฒนาปัจจยั ทางการศึกษาหรอื การประกัน ดำ� เนนิ การตามมาตรฐานเพอ่ื การประกนั คณุ ภาพภายในสถานศกึ ษา คุณภาพการศึกษาให้เข้าสู่มาตรฐาน จ�ำเป็นต้องมีการพัฒนา พบว่า ปัจจัยด้านการมีวิสัยทัศน์ร่วม และปัจจัยด้านการเรียนรู้ บุคลากรทางการศึกษา และหลักสูตร กระบวนการเรียนการสอน เป็นทีม ส่งผลต่อการด�ำเนินการตามมาตรฐานเพ่ือการประกัน ระบบการบริหาร และการจัดการ ในท�ำนองเดียวกันการก�ำหนด คณุ ภาพภายในสถานศกึ ษา และสอดคลอ้ งกบั การศกึ ษาของ ศรสี ดุ า ปัจจัยที่ส่งผลต่อการประกันคุณภาพภายในสถานศึกษาขั้นพ้ืนฐาน ประเคนรี (2555) เรอื่ งปจั จยั การดำ� เนนิ งานตามเกณฑก์ ารประเมนิ อนั ประกอบดว้ ย 5 ปัจจยั ได้แก่ ปัจจยั ดา้ นผู้บริหาร ปัจจัยดา้ นครู คุณภาพภายนอกระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานของโรงเรียนสังกัด ปัจจัยด้านบุคคล ปัจจัยด้านวิชาการ และปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม เทศบาล พบว่า ภาวะผู้น�ำของผู้บริหารสถานศึกษา การประเมิน นับว่ามีความส�ำคัญและจ�ำเป็นเช่นกันต่อความส�ำเร็จหรือ คุณภาพภายนอกระดบั การศึกษาขนั้ พนื้ ฐาน การจัดการเรยี นรขู้ อง ประสิทธิภาพของการด�ำเนินงานการประกันคุณภาพภายในสถาน ครู และการมีสว่ นร่วมของชุมชน มีความสอดคลอ้ ง ศึกษาขัน้ พื้นฐาน 1.2 ตัวแปรแฝงภายในของปัจจัยที่ส่งผลต่อการ 1.1 ตัวแปรแฝงภายนอกของปัจจัยท่ีส่งผลต่อการ ประกนั คณุ ภาพภายในสถานศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐาน ประกอบดว้ ย 2 ปจั จยั ประกนั คณุ ภาพภายในสถานศกึ ษาขนั้ พนื้ ฐาน ประกอบดว้ ย 3 ปจั จยั คือ ปัจจัยด้านวิชาการ และด้านสิ่งแวดล้อม จากผลการวิจัยจะ คอื ปจั จยั ดา้ นผบู้ รหิ าร ปจั จยั ดา้ นครู และปจั จยั ดา้ นบคุ คล ซงึ่ ปจั จยั เห็นว่าปัจจัยท้ังสองส่งผลโดยตรงต่อการประกันคุณภาพภายใน ด้านผู้บริหาร จากผลการวิจัยจะเห็นปัจจัยส่งผลต่อการประกัน สถานศกึ ษาขัน้ พ้ืนฐาน ท้งั นเ้ี นื่องจากวา่ การบรหิ ารงานวชิ าการถอื คุณภาพภายในสถานศึกษาข้ันพ้ืนฐานที่เป็นตัวแปรแฝงภายนอก เป็นหัวใจของสถานศึกษาทุกระดับ เพราะการจะพัฒนาคนในด้าน เป็นเรื่องท่ีเกี่ยวกับตัวบุคคล อันได้แก่ ผู้บริหาร ครู และบุคคล สติปัญญา ความรู้ ความสามารถ และความนึกคิดของผู้เรียนน้ัน นับว่าเป็นปัจจัยป้อนเข้าที่ส�ำคัญอย่างหน่ึงในกระบวนการของการ จะต้องเน้นด้านวิชาการเพื่อประโยชน์ในการด�ำเนินของบุคคลใน ประกันคุณภาพภายในสถานศึกษา เนื่องผลลัพธ์ด้านทรัพยากร สงั คม และการบรหิ ารงานวชิ าการเปน็ งานหลกั ของสถานศกึ ษาและ มนุษย์ อนั ไดแ้ ก่ การท่มุ เทความพยายาม ความผกู พันในงาน ความ มีความส�ำคัญอย่างย่ิงต่อการพัฒนาสถานศึกษาให้บรรลุตาม สามารถ โดยส่ิงเหล่านี้จะส่งผลให้องค์การมีประสิทธิผล และ เป้าหมายและมาตรฐานคุณภาพการศึกษา ดังนั้นจึงมีความจำ� เป็น ประสิทธิภาพ ดังน้ันการบริหารงานทรัพยากรมนุษย์ย่อมมีความ ทผี่ บู้ รหิ ารและครตู อ้ งทำ� ความเขา้ ใจกบั ความสำ� คญั ของงานวชิ าการ 192 วารสารราชนครนิ ทร์ กรกฏาคม-ธนั วาคม 2561

ดังน้ันปัจจัยด้านวิชาการโดยเฉพาะด้านการพัฒนากระบวน ประกันคุณภาพการศึกษา ระดับคณะวิชา มหาวิทยาลัย การเรียนรู้ ผู้บริหารโรงเรียนจะต้องถือว่าเป็นหัวใจของการบริหาร เกษตรศาสตร์ วทิ ยาเขตกำ� แพงแสน พบวา่ ปจั จยั สำ� คญั หนงึ่ ทสี่ ง่ ผล โรงเรยี นทจี่ ะตอ้ งดำ� เนนิ การใหบ้ รรลเุ ปา้ หมายของการศกึ ษานน้ั คอื ต่อการด�ำเนินงานการประกันคุณภาพการศึกษาคือปัจจัยด้าน จะตอ้ งดำ� เนนิ การใหค้ รพู ฒั นากระบวนการเรยี นรใู้ หน้ กั เรยี นมคี วาม ลกั ษณะสภาพแวดลอ้ มและบรรยากาศในการทำ� งาน นอกจากนกี้ รม รคู้ คู่ ุณธรรม เก่ง ดี มีสุข มีคุณภาพและคณุ สมบัติทพี่ งึ ประสงค์ตาม สามัญศึกษา (2539, หน้า 12–70) ได้ให้แนวคิดไว้ว่าการสร้าง ท่ีชาติต้องการ อีกท้ังยังสามารถด�ำรงชีพอยู่ในสังคมได้อย่างมี บรรยากาศการบรหิ ารจงึ มคี วามสำ� คญั อยา่ งมากตอ่ ความสำ� เรจ็ ของ ความสขุ โรงเรียน และถือวา่ เป็นภาระหน้าทอ่ี นั สำ� คัญของผูบ้ ริหาร วิธีสรา้ ง ส�ำหรับปัจจัยด้านส่ิงแวดล้อม มีตัวแปรสังเกตได้ท่ีมี บรรยากาศท่ีดีท่ีสุดคือด�ำเนินการให้วัตถุประสงค์ของโรงเรียน ค่าน�้ำหนักองค์ประกอบมาตรฐานมากท่ีสุดคือ ด้านบรรยากาศใน สอดคล้องกบั 21 ความต้องการของผ้ปู ฏบิ ัตงิ านในโรงเรียน ซึง่ เปน็ องคก์ ร ทง้ั นเี้ นอ่ื งจากบรรยากาศในสถานศกึ ษาถอื วา่ มคี วามสมั พนั ธ์ บรรยากาศที่เน้นความส�ำเร็จของเป้าหมาย (Goal Attainment) กับบุคคลอย่างมาก เนื่องจากส่งผลถึงความรู้สึกของนักเรียน และ แตข่ ณะเดยี วกนั กจ็ ะสนบั สนนุ ใหช้ ว่ ยเหลอื ซงึ่ กนั และกนั รว่ มมอื กนั บคุ ลากรในโรงเรยี น สง่ิ แวดลอ้ มมสี ว่ นสำ� คญั ทจี่ ะชว่ ยกระตนุ้ ใหเ้ กดิ และมีส่วนร่วมในกิจกรรม ซ่ึงจะท�ำให้บรรลุเป้าหมายของโรงเรียน การเรียนรู้กับผู้เรียนและบรรยากาศองค์การเป็นส่ิงที่ท�ำให้เกิดผล รว่ มกัน ความแตกต่างของบุคคลในองค์การ คือ ด้านความพึงพอใจในงาน 2. การศกึ ษาอทิ ธพิ ลทางตรง อทิ ธพิ ลทางออ้ ม และอทิ ธพิ ล จะมสี งู เมอ่ื บคุ คลในองคก์ ารมกี ารปรกึ ษาหารอื ชว่ ยเหลอื ซงึ่ กนั และ รวมของตัวแปรปัจจัยที่ส่งผลต่อการประกันคุณภาพภายในสถาน กนั ยอมรบั ความคดิ เหน็ ทแี่ ตกตา่ งกนั อกี ทง้ั ผบู้ รหิ ารมกี ารแสดงความ ศึกษาขน้ั พ้ืนฐาน พบวา่ ปจั จยั ด้านบุคคล เป็นปัจจัยเชงิ สาเหตทุ ม่ี ี เอาใจใส่กับผู้ใต้บังคับบัญชา ให้โอกาสการมีส่วนร่วมในการแสดง อทิ ธพิ ลสงู สดุ โดยเปน็ การสง่ ผลทางตรงดา้ นลบ นอกจากนยี้ งั ไดร้ บั ความคดิ เหน็ ซงึ่ เปน็ สงิ่ สำ� คญั ทที่ ำ� ใหบ้ คุ ลากรมคี วามรสู้ กึ วา่ เปน็ สว่ น อทิ ธพิ ลทางออ้ มจากปจั จยั ดา้ นบคุ คล ปจั จยั ดา้ นครู และปจั จยั ดา้ น ส�ำคัญขององค์การ และในด้านผลการปฏิบัติงานมีประสิทธิภาพ การบรหิ าร เปน็ ทนี่ า่ สงั เกตวา่ ปจั จยั ดา้ นบคุ คล เปน็ ปจั จยั เชงิ สาเหตุ หากบรรยากาศภายในองคก์ ารมีความเป็นมติ รกนั ฉันท์พี่นอ้ งส่งผล ที่มีอิทธิพลสูงสุด โดยเป็นการส่งผลทางตรงด้านลบ ท้ังน้ีอาจเน่ือง ให้ทัศนคติต่อกลุ่มท�ำงานเป็นไปในทางบวก และองค์การต้องเน้น มาจากการเปล่ียนแปลงที่รวดเร็วมากของเทคโนโลยีที่ส่งผลให้ ให้บุคลากรปฏิบัติงานบรรลุถึงวัตถุประสงค์และเป้าหมายของ เทคนิควิธีท�ำงานต้องเปล่ียนแปลงไปนั้นมีผลกระทบโดยตรงต่อ องคก์ าร ซง่ึ เปน็ แรงกระต้นุ ใหบ้ คุ ลากรสรา้ งสรรคผ์ ลงาน และยงั นำ� สภาพการทำ� งานในองคก์ ารมากขน้ึ กวา่ แตก่ อ่ น เครอ่ื งจกั รสมองกล ไปสู่ความพึงพอใจในงานสูง จึงเห็นว่าบรรยากาศองค์การที่ดีย่อม และเคร่ืองมืออัตโนมัติหลายๆ ชนิด ได้ถูกยอมรับและน�ำเข้ามา ส่งผลให้บุคคลปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล ท�ำงานแทนคนดว้ ยเหตุผลความจำ� เป็นหลายๆ ประการ ซง่ึ ในกรณี บรรลตุ ามเป้าหมายทว่ี างไว้ ดังท่ี อรุณ รักธรรม (2528, หนา้ 62) เช่นนน้ั การต้องแก้ไขให้การอบรมและจดั สรรหน้าที่งาน ตลอดจน ไดก้ ลา่ ววา่ ผบู้ รหิ ารทม่ี ปี ระสทิ ธผิ ลจะตอ้ งมคี วามสามารถในการจดั ปรบั ปรงุ ก�ำลงั คนในจุดต่างๆ ใหม่ นบั ว่าเป็นสง่ิ ทีต่ ้องท�ำ ซึ่งปัญหา ระเบยี บบคุ คล ความสำ� เรจ็ ของผบู้ รหิ ารมใิ ชอ่ ยทู่ กี่ ารมอี ำ� นาจบงั คบั ด้านการออกแบบงานใหม่ใหถ้ ูกตอ้ ง หรือการตอ้ งเรง่ พัฒนาคนงาน หรือการมีความรู้ในงานที่ท�ำเท่านั้น แต่ยังขึ้นอยู่กับปัจจัยท่ีส�ำคัญ ให้มีความสามารถในชว่ งเวลาสน้ั นน้ั นับได้วา่ เป็นสง่ิ ท่ียงุ่ ยากทีต่ ้อง มากปัจจัยหน่ึงคือ ความสามารถในการจัดการในอันที่จะสร้าง ใชเ้ ทคนคิ พฒั นาคนงานใหม้ คี วามสามารถในชว่ งเวลาสน้ั นน้ั ตอ้ งใช้ บรรยากาศการบรหิ ารทดี่ ี ลกั ษณะการบรหิ ารการจดั การทกี่ อ่ ใหเ้ กดิ เทคนิคและการด�ำเนินงานด้วยวิธีการพิเศษหลายประการจึงได้ผล บรรยากาศท่ีดีนนั้ เริ่มต้งั แตก่ ารก�ำหนดนโยบาย ควรใหบ้ ุคลากรใน การเปลยี่ นแปลงทางสงั คมนจ้ี ะมคี วามสำ� คญั มากในสงั คมปจั จบุ นั ท่ี โรงเรียนมีส่วนร่วม มีการน�ำข้อมูลจากการส�ำรวจสภาพปัจจุบัน คนมีการศกึ ษามากข้ึน มาก�ำหนดนโยบายในการแก้ปัญหาและพัฒนางาน การมอบหมาย ความพอใจในงานและบุคคลและคุณภาพชีวิตนับว่า งานหรือการสั่งการก็เป็นไปตามสายการบังคับบัญชาอย่างแจ่มชัด เปน็ ปญั หาสำ� คญั ทส่ี ดุ ของคนในยคุ ปจั จบุ นั ผใู้ หข้ อ้ มลู จงึ อาจมคี วาม เหมาะสมกับความสามารถไม่เกินก�ำลงั มอบหมายงานแล้วตดิ ตาม เหน็ วา่ ปจั จยั ดา้ นบคุ คล หรอื การบรหิ ารงานบคุ คลเปน็ หวั ใจของการ ชว่ ยเหลอื ถามไถ่ ดูแลความเหนด็ เหน่ือย ยกยอ่ งชมเชยมีการสร้าง บริหารหากการบริหารงานบุคคลบกพร่อง หน่วยงานนั้นจะเจริญ ขวญั และกำ� ลงั ใจ จัดสวสั ดกิ ารให้หลายๆ รูปแบบ ก้าวหน้าได้ยาก เพราะเหตุว่า บุคคลเป็นผู้ปฏิบัติงาน ผลงานจะดี ซ่ึงสอดคล้องกับการศึกษาของ จินตนา สระทองขาว จะเสยี อยทู่ ท่ี ำ� งานนน้ั ถา้ บคุ คลทไ่ี ดร้ บั มอบหมายใหป้ ฏบิ ตั งิ านขวญั (2554) ที่ได้ศึกษาปัจจัยองค์การท่ีส่งผลต่อการด�ำเนินงานการ ไมด่ ี ไมม่ กี ำ� ลงั ใจ ไมม่ สี มรรถภาพผลงาน กจ็ ะบกพรอ่ ง ดงั นน้ั บคุ คล Journal of Rajanagarindra July - December 2018 193

จึงเปน็ กลไกหลักของการประกันคุณภาพภายในสถานศึกษาขน้ั พนื้ ขอ้ เสนอแนะ ฐาน แตถ่ ้าการบรหิ ารงานบคุ คลไดร้ ับความส�ำเรจ็ บคุ คลทกุ ฝา่ ยจะ รว่ มมอื กันปฏบิ ตั ิงานอยา่ งมีประสิทธภิ าพ ขอ้ เสนอแนะสำ� หรับนำ� ผลการวจิ ัยไปใช้ นอกจากน้ีผลการวจิ ัยพบวา่ ปัจจัยดา้ นผบู้ รหิ าร ปัจจยั 1. ควรเปดิ โอกาสมสี ว่ นรว่ มในการทำ� งาน (Participation) ดา้ นครู ปจั จยั ดา้ นสง่ิ แวดลอ้ ม และปจั จยั ดา้ นวชิ าการ สง่ ผลทงั้ ทาง และการแสดงภาระรับผิดชอบท่ีตรวจสอบได้ (Accountability) ตรงทางอ้อมต่อการประกันคุณภาพภายในสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ของผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายทั้งระดับสถานศึกษาและระดับเขตพื้นท่ีการ ท้ังน้ีเพราะว่าหลักการของการประกันคุณภาพการศึกษาเป็นการท่ี ศกึ ษาหรอื หนว่ ยงานตน้ สงั กดั ตลอดจนตอ้ งมจี ติ สำ� นกึ และความรบั รัฐกระจายอ�ำนาจในการก�ำหนดนโยบายการบริหาร งานวิชาการ ผิดชอบร่วมกัน โดยมีความตระหนัก รับรู้ และเห็นคุณค่าของการ งบประมาณบคุ ลากร และทรพั ยากรใหผ้ ปู้ กครอง ผนู้ ำ� ชมุ ชน องคก์ ร ด�ำเนินงาน ยึดเป็นแนวทางปฏิบัติ และถือว่าระบบการประกัน ปกครองทอ้ งถน่ิ ไดม้ สี ว่ นรว่ มรบั ผดิ ชอบ ในการจดั การศกึ ษาเพอ่ื ให้ คณุ ภาพภายในเปน็ สว่ นหนง่ึ ของการบรหิ ารสถานศกึ ษาใหท้ กุ คนได้ เกดิ กระบวนการหรอื กลไกในการดำ� เนนิ การเพอื่ ใหก้ ารจดั การศกึ ษา ท�ำตลอดเวลา จนกลายเป็นวิถีชีวิตในการท�ำงานหรือวัฒนธรรม เป็นไปอย่างมีคุณภาพ และได้มาตรฐาน โดยมีระบบการควบคุม ของการบรหิ ารจดั การการศึกษา คุณภาพท่ีเหมาะสม และมกี ารพัฒนาคุณภาพอยา่ งตอ่ เนอื่ ง ท�ำให้ 2. ผบู้ รหิ ารมคี วามสำ� คญั ในการกำ� หนดทศิ ทางและนโยบาย สังคม ผู้ปกครอง ผู้จัดการศึกษา และผู้ส�ำเร็จการศึกษาเกิดความ ด�ำเนินการประกันคุณภาพภายในสถานศึกษาและควรส่งเสริม มั่นใจ สอดคล้องกับการศึกษาของจีรภา เพชรสงคราม (2554) ใหก้ ารทำ� งานในสถานศกึ ษาใหเ้ กดิ ความรว่ มมอื และการทำ� งานเปน็ ท่ีศึกษาการมีส่วนร่วมของครูในการพัฒนาการด�ำเนินงานการ ทีม สร้างบรรยากาศที่ดีในองค์การเพื่อเป็นการเสริมพลัง กระตุ้น ประกันคุณภาพการศึกษา โรงเรียนในสังกัดกรุงเทพมหานคร สร้างจิตส�ำนึกและความรับผิดชอบร่วมกัน โดยมีความตระหนัก เขตบางขุนเทียน พบว่า ด้านบุคลากรยังขาดความรู้ความเข้าใจ รบั รู้ และเหน็ คณุ คา่ ของการดำ� เนนิ งานประกนั คณุ ภาพภายในสถาน ความเคยชินกับการท�ำงานแบบเดิมๆ ของบุคลากร ครูบางส่วนไม่ ศึกษา ส่งเสริมให้ครูมีการพัฒนากระบวนการเรียนรู้และการวัด ค่อยมีส่วนร่วมในการรายงานคุณภาพการศึกษา และด้าน และประเมนิ ผล กระบวนการด�ำเนินการประกันคุณภาพการศึกษาไม่เป็นไปอย่าง ขอ้ เสนอแนะส�ำหรบั การวจิ ยั ครัง้ ตอ่ ไป ต่อเน่อื ง 1. ควรน�ำรูปแบบโครงสร้างที่ได้จากการวิจัยครั้งนี้ไป และยงั สอดคลอ้ งกบั การศกึ ษาของสมุ ติ ตา ชยั ศลิ ป์ และ ทดลองใชห้ รอื ศกึ ษากับประชากรกลุ่มอน่ื ๆ ดว้ ย ธนิษฐา รัศมีเจริญ (2552) ท่ีศึกษาสภาพปัญหาและปัจจัยท่ีก่อให้ 2. การวิจัยคร้ังต่อไปควรค้นหาตัวแปรที่มีความสัมพันธ์ เกดิ ปญั หาเกยี่ วกบั การประกนั คณุ ภาพภายในของสถานศกึ ษา สงั กดั หรือเป็นสาเหตุของการประกันคุณภาพภายในสถานศึกษา ส�ำนักงานเขตพ้ืนที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงราย เขต 3 พบว่า ควรจดั อบรมใหค้ วามรเู้ กยี่ วกบั ระบบการประกนั คณุ ภาพการศกึ ษา เอกสารอา้ งอิง ให้กับผบู้ รหิ ารสถานศกึ ษา และครผู ู้รับผิดชอบการประกนั คณุ ภาพ การศกึ ษาอย่างต่อเนื่อง ควรมีการส่งเสรมิ ให้บุคลากรใช้เทคโนโลยี กรมสามัญศึกษา. (2539). เกณฑ์มาตรฐานโรงเรียนมัธยมศึกษา สารสนเทศและควรมีการน�ำผลการประกันคุณภาพการศึกษามา พ.ศ. 2539. กรงุ เทพฯ : คุรสุ ภาลาดพร้าว. ปรับปรุงพัฒนาการจัดการศึกษา นอกจากนี้ยังสอดคล้องกับการศึกษาของภาวนา จนิ ตนา สระทองขาว. (2554). ปจั จยั องคก์ ารทสี่ ง่ ผลตอ่ การดำ� เนนิ กติ ตวิ ิมลชัย (2551) ประสทิ ธิภาพและประสทิ ธิผลของการประกนั งานการประกันคุณภาพการศึกษา ระดับคณะวิชา คุณภาพของมหาวิทยาลยั ขอนแกน่ พบวา่ ปญั หาด้านบคุ ลากรขาด มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตก�ำแพงแสน. ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับระบบและกลไกการประกันคุณภาพ วิทยานิพนธ์ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการจัดการ มาตรฐานและตัวช้ีวัด การช้ีแจง ประชาสัมพันธ์ และการสร้าง ภาครัฐและภาคเอกชน มหาวทิ ยาลัยศลิ ปากร. ความรู้ความเข้าใจเก่ียวกับการประกันคุณภาพยังไม่กระจายไปยัง กลุม่ เปา้ หมายทกุ กลุ่ม และยังไม่ทวั่ ทง้ั องค์กร มบี ุคลากรบางส่วนที่ จรี ภา เพชรสงคราม. (2554). การศึกษาการมสี ่วนรว่ มของครใู น ขาดการมีส่วนร่วมในการประกันคุณภาพส่งผลต่อความร่วมมือ การพัฒนาการด�ำเนินงานการประกันคุณภาพการศึกษา ในการพฒั นาระบบและกลไกการประกนั คณุ ภาพ โรงเรียนในสังกัดกรุงเทพมหานคร เขตบางขุนเทียน. ปริญญาการศึกษามหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการ ศกึ ษา มหาวิทยาลยั ศรีนครนิ ทรวโิ รฒ. 194 วารสารราชนครนิ ทร์ กรกฏาคม-ธนั วาคม 2561

ณฐมนวรรณ ศิริสุขชัยวุฒิ. (2552). ปัจจัยที่ส่งผลต่อคุณภาพ สำ� นกั งานคณะกรรมการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐาน. (2558). รายงานประจำ� ของระบบประกันคุณภาพภายในสถานศึกษาขั้นพ้ืนฐาน ปี 2558. กรุงเทพฯ : ครุ สุ ภาลาดพร้าว. ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานการศึกษา ในเขตภาคเหนือ ตอนล่าง. กรุงเทพฯ : เคมบริดจ์ เอด็ ยเู คชน่ั . สำ� นกั งานรบั รองมาตรฐานและประเมนิ คณุ ภาพการศกึ ษา (องคก์ าร มหาชน). (2555). คู่มือการประเมินคุณภาพภายนอก ภาวนา กิตติวิมลชัย. (2551). ประสิทธิภาพและประสิทธิผลของ รอบสาม (พ.ศ. 2554-2558) ระดับการศกึ ษาข้นั พน้ื ฐาน การประกันคุณภาพมหาวิทยาลัยขอนแก่น. ขอนแก่น: ฉบับสถานศึกษา (แก้ไขเพ่ิมเติม พฤศจิกายน 2554) มหาวิทยาลัยขอนแก่น. (พมิ พค์ รั้งท่ี 3). สมทุ รปราการ : ออฟเซ็ท พลสั . มัฮดี แวดราแม และโชติกา ภาษีผล. (2556) การพัฒนารูปแบบ สมนึก จันทะไทย. (2556). การเป็นองค์การแห่งการเรียนรู้ของ การประกันคุณภาพภายในท่ีบูรณาการกับงานปกติ สถานศึกษาท่ีส่งผลต่อการด�ำเนินการตามมาตรฐานเพ่ือ ส�ำหรับคณะครุศาสตร์. กรุงเทพฯ : จุฬาลงกรณ์ การประกันคุณภาพภายในสถานศึกษา ส�ำนักงานเขต มหาวิทยาลยั . พน้ื ทก่ี ารศกึ ษาประถมศกึ ษาฉะเชงิ เทรา เขต 1. ครศุ าสตร ศรีสุดา ประเคนรี. (2555). ปัจจัยการด�ำเนินงานตามเกณฑ์การ มหาบณั ฑฺ ติ การบรหิ ารการศกึ ษา มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั ราช ประเมนิ คณุ ภาพภายนอกระดบั การศกึ ษาขน้ั พนื้ ฐานของ นครินทร์. โรงเรยี นสงั กดั เทศบาล. ปรชั ญาดษุ ฎบี ณั ฑติ สาขาวชิ าการ อรณุ รกั ธรรม. (2528). ความขดั แยง้ ในกรุงเทพมหานคร : กรณี บรหิ ารการพัฒนา มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสนุ ันทา. ศึกษาเฉพาะระดับเขต. กรุงเทพฯ : สถาบันบัณฑิต สุมิตตา ชัยศิลป์ และธนิษฐา รัศมีเจริญ. (2555). สภาพปัญหาการ พัฒนบริหารศาสตร.์ ประกันคุณภาพภายในของโรงเรียน ในสังกัดสํานักงาน Comrey, A.L.,& Lee, H.B. (1992). A first course in factor เขตพื้นท่ีการศึกษาประถมศึกษาเชียงราย เขต 3. analysis. Hills dale, NJ: Erlbaum. วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการ ศึกษา มหาวทิ ยาลัยเกษตรศาสตร์ วทิ ยาเขตก�ำแพงแสน. Sheer, L. A., & Deborah J. T. (1991). Principle of social psychology. Massachusetts: Winthrop. Journal of Rajanagarindra July - December 2018 195

วารสารการบริหารการศกึ ษาและภาวะผูน้ ำ มหาวิทยาลยั ราชภัฏสกลนคร JOURNAL OF EDUCATIONAL ADMINISTRATION AND LEADERSHIP _________________________________________________________________________________________________________________ นวัตกรรมการบริหารและการจัดการศึกษาเพื่อพัฒนาการประกันคณุ ภาพ ของโรงเรยี นปงพัฒนาวทิ ยาคม Administration Innovation and Education Provision for Educational Quality Assurance of Pongpattanawittayakhom รุจิรา กองจนั ทร์1 ดร.สมเกียรติ ตนุ่ แก้ว2 ดร.พนู ชัย ยาวิราช3 ดร.ไพรภ รัตนชูวงศ์4 Ruchira Kongchan1 Dr. Somkiet Tunkaew2 Dr. Phoonchai Yawirach3 Dr. Pairop Rattanachuwong4 บทคดั ย่อ การวจิ ยั ในครงั้ น้ีมีวัตถปุ ระสงค์ 1) เพอ่ื ศึกษาสภาพของการบริหารและการจดั การศึกษาสำหรบั การประกันวารมสหาารวิกทายราบ ัลริยหราารชกภัาฏรสศึกกลษนาแครละภาวะผู้ ํนา คณุ ภาพของโรงเรียนปงพฒั นาวทิ ยาคม ประชากรที่ใชใ้ นการวิจยั คือ ฝ่ายบริหาร ครแู ละบุคลากรทางการศกึ ษาของ โรงเรียนปงพฒั นาวทิ ยาคม จำนวน 45 คน เครือ่ งมอื ทีใ่ ชใ้ นการวจิ ยั คือแบบสอบถามและสถติ ทิ ีใ่ ชใ้ นการวิเคราะห์ข้อมลู คือ คา่ เฉล่ยี และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน 2) เพ่อื พัฒนานวตั กรรมการบริหารและการจดั การศกึ ษาสำหรบั การประกัน คณุ ภาพของโรงเรียนปงพัฒนาวทิ ยาคม ดำเนินการเก็บรวบรวมขอ้ มูลโดยการสัมภาษณด์ ว้ ยตนเอง จากโรงเรียนที่เป็น Best Practice จำนวน 8 โรงเรียน ยนื ยนั รา่ งนวัตกรรมการบริหารและการจดั การศึกษา โดยมผี ทู้ รงคณุ วฒุ ใิ นการรว่ ม สนทนากลมุ่ จำนวน 11 คน 3) เพอ่ื ประเมินนวตั กรรมการบริหารและการจดั การศึกษาสำหรบั การประกันคุณภาพของ โรงเรียนปงพฒั นาวทิ ยาคม ประเมนิ ร่างนวัตกรรมการบริหารและการจดั การศึกษาโดยใชว้ ธิ ีวิจยั เชงิ ปริมาณ ดำเนนิ การ ตรวจสอบยนื ยันความสอดคล้องของนวัตกรรมการบริหารและการจัดการศกึ ษาและหาคุณภาพ โดยผู้เชยี วชาญในการ รว่ มสนทนากล่มุ จำนวน 10 คน ผลการวจิ ัย พบว่า 1. สภาพการบริหารและการจัดการศึกษาทพ่ี ัฒนาการประกันคณุ ภาพของโรงเรียนปงพฒั นาวทิ ยาคม เมอ่ื พิจารณาค่าดัชนีความต้องการจำเปน็ พบว่า กระบวนการบริหารและการจัดการที่ควรดำเนนิ การพัฒนา เรียงตามลำดับ ได้แก่ การประกนั คุณภาพการศึกษา กระบวนการบริหารและการจดั การของผู้บริหารสถานศกึ ษา ครผู ู้สอนและกระบวนการจดั การเรียนการสอนที่เนน้ ผู้เรียนเปน็ สำคญั และด้านผู้บริหาร 2. นวตั กรรมการบริหารและการจัดการศกึ ษาเพ่อื การประกันคุณภาพของโรงเรียนปงพฒั นาวทิ ยาคม ประกอบด้วยระบบการบริหารและการจดั การการศึกษา 6 ระบบ ได้แก่ 1) ระบบการนำองคก์ ร 2) ระบบการบริหาร และการจัดการเชงิ กลยทุ ธ์ 3) ระบบบริหารและการจดั การบุคลากร 4) ระบบการบริหารและการจดั การสารสนเทศ และเทคโนโลยสี ารสนเทศ 5) ระบบการบริหารและการจดั การ การเรียนการสอน 6) ระบบการจัดการคณุ ภาพการศึกษา ซึง่ แต่ละระบบมกี ระบวนการในการดำเนนิ งาน 5 กระบวนการ ได้แก่ 1) การหาความตอ้ งการและประเมินสภาพโรงเรียน ในปัจจุบนั 2) การกระตุ้นให้เกิดการปรบั ปรุงและเสริมศักยภาพภายในโรงเรียน 3) การวางแผนการดำเนนิ งาน 4) การปฏบิ ตั ติ ามแผนการดำเนนิ งาน 5) การวดั ประเมินผลการดำเนนิ งานและการปรบั ปรงุ งานอย่างตอ่ เนอ่ื ง ___________________________________________ คำสำคัญ: นวตั กรรมการบรหิ ารและการจัดการศึกษา, การประกันคุณภาพการศึกษา 1ครศุ าสตรดษุ ฎีบณั ฑิต สาขาวิชาการบรหิ ารการศึกษา มหาวิทยาลยั ราชภัฏเชียงราย 1 Doctor of Education Program in Educational Administration Chiang Rai Rajabhat University 2, 3, 4อาจารย์ประจำหลกั สูตรครุศาสตรดษุ ฎีบัณฑิต สาขาวิชาการบรหิ ารการศึกษา มหาวิทยาลยั ราชภฏั เชียงราย 2, 3, 4Lecturer at Doctor of Education Program in Educational Administration Chiang Rai Rajabhat University *ผู้ตดิ ตอ่ , อีเมล์: รุจิรา กองจนั ทร,์ [email protected] รบั เมื่อ 19 กมุ ภาพนั ธ์ 2563 แก้ไข 9 มีนาคม 2563 ตอบรบั 11 มนี าคม 2563 วารสารการบริหารการศกึ ษาและภาวะผ้นู ำ ฉบบั ออนไลน์ https://jeal.snru.ac.th 253


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook