1. แจงใชสิทธิปรับตามขอ 134 วรรคทายแหงระเบียบสํานักนายกรัฐมนตรีวาดวยการพัสดุ พ.ศ. 2535 - 139 - 2. สงวนสิทธิการเรียกคาปรับ ไวขณะมีการสงมอบตามประมวลกฎหมายแพงและพาณิชย มาตรา 381 วรรคสาม “ถาเจาหน้ียอมรับชําระหน้ี จะเรียกเบี้ยปรับไดตอเมื่อไดบอกสงวนสิทธิไว เชนนั้นในเวลาชําระหน”้ี โดยการหมายเหตุไวใ นเอกสารการตรวจรบั และใหผสู ง มอบลงลายมอื ชอ่ื ไว หมายเหตุ ควรระบุไวในเอกสารการตรวจรับพัสดุหรืองานจางดวยวาผูขายหรือผูรับจางสง มอบลาชาจํานวนก่ีวัน ตองรับผิดชําระคาปรับวันละเทาใด เปนเงินคาปรับท้ังสิ้นจํานวนเทาใด หากไม ระบไุ วอาจถือวา ไมไ ดสงวนสทิ ธเิ รือ่ งคา ปรับขณะสงมอบตามนัยมาตรา 381 เงอ่ื นไขประกวดราคา กาํ หนดอตั ราคา ปรับไวแตกตา งจากอัตราคา ปรับตามสัญญาจะปรบั อยา งไร กรณีตัวอยาง มหาวิทยาลัยรามคําแหงไดทําสัญญาจางหางหุนสวนจํากัด ก. พิมพวารสาร รามคําแหง โดยกําหนดเง่ือนไขการประกวดราคาไววา อัตราคาปรับรอยละ 0.1 ตอวัน ของราคารับจาง แตละงวด แตในสัญญาจางกลับระบุวาคาปรับเปนรายวัน วันละ 596 บาท คูสัญญามิไดแกไขเพิ่มเติม สญั ญาใหค วามในเงอ่ื นไขประกาศประกวดราคากบั สญั ญาถูกตองตรงกนั จงึ มปี ญหาวาจะคิดคาปรับใน อัตราใด กรมอัยการพิจารณาแลวเห็นวา คูสัญญามิไดกําหนดเง่ือนไขประกาศประกวดราคาถือเปน สวนหนึ่งของสัญญาดวย จึงไมอาจนําความในประกาศประกวดราคาซ่ึงเปนเพียงคําเชิญชวนใหเขา ประกวดราคามาบังคับแกคูกรณีได ผูวาจางจึงมีสิทธิปรับตามสัญญาจางในอัตราวันละ596 บาท (ขอ หารือตามคาํ วนิ จิ ฉยั กรมอัยการท่ี 32/2528) หมายเหตุ การปรับตองปรับตามขอสัญญา ไมใชตามประกาศสอบราคา หรือประกวดราคา เพราะการปรับเปนการปรับกรณีผิดสัญญาซ้ือขายหรือสัญญาจาง ไมใชผิดสัญญาสอบราคา หรือสัญญา ประกวดราคา กรณีตัวอยาง เดิมสัญญาจางมิไดกําหนดคาปรับกันไวในกรณีท่ีผูรับจางทํางานไมแลวเสร็จ ภายในกําหนดตามสัญญา ตอมาผูรับจางไดมีหนังสือถึงผูวาจางแจงยินยอมใหปรับวันละ 100 บาท
หากผูรับจางทํางานไมแลวเสร็จภายในวันท่ี 30 กันยายน 2530 เม่ือปรากฏวาผูรับจางทํางานแลวเสร็จ เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2530 ผูรับจางจึงตองรับผิดชําระเบ้ียปรับในอัตราวันละ 100 บาท นับแตวันท่ี 1 ตลุ าคม 2530 ถึงวันที่ 25 ตุลาคม 2530 (ขอหารอื ตามคาํ วนิ ิจฉัยกรมอยั การที่ 74/2533) - 140 - หมายเหตุ สัญญาที่ไมไดกําหนดเร่ืองคาปรับไว ปกติจะปรับกรณีสงมอบลาชาไมได แตเม่ือผูรับจางไดมีหนังสือยินยอมใหปรับ เอกสารดังกลาวถือไดวาเปนสวนหน่ึงของสัญญาจึงปรับ ผรู ับจา งได ผรู ับจา งสง งานจางลา ชากวา งวดงานทก่ี าํ หนดยังปรบั ไมได กรณีตัวอยาง กรมทรัพยากรธรณีไดทําสัญญาวาจางผูรับเหมากอสรางหลายรายการ กําหนดใหผูรับจางทํางานแลวเสร็จบริบูรณภายในวันที่ 31 มีนาคม 2527 แตปรากฏวาผูรบั จางทํางาน แตล ะงวดตามทกี่ าํ หนดไวในสัญญาลาชา ดงั นีจ้ ะปรบั ผูร ับจา งไดหรือไม กรมอัยการพิจารณาแลวเห็นวา สัญญาจางกําหนดใหผูรับจางทํางานใหแลวเสร็จบริบูรณ ภายในวันที่ 31 มีนาคม 2527 ผูรับจางจะรับผิดตามสัญญาตอเมื่อกอสรางตามงานไมแลวเสร็จบริบูรณ ภายในวันท่ี 31 มนี าคม 2527 วันผิดสญั ญาอันเปนฐานท่ีจะใชคํานวณคาปรับตามสัญญาจึงเร่ิมนับต้ังแต วันที่ 1 เมษายน 2527 เปนตนไป สวนวันแลวเสร็จของงานแตละงวดตามสัญญานั้น เปนวันที่กําหนด ไวเพ่ือการแบงงวดการจายเงินคาจางเทาน้ัน หาใชกําหนดแลวเสรจ็ ตามสัญญาจางอันถือวาผูรับจางผิด สญั ญาไม เม่ือผรู บั จางทํางานจางแลว เสร็จบริบรู ณภายในกําหนด(วันท่ี 31 มีนาคม 2527) จึงถือไมไดวา ผรู บั จางผิดสัญญาอันผูวาจางจะใชสิทธิปรับผูรับจางตามสัญญาจาง (ขอหารือตามคําวินิจฉัยกรมอัยการ ท่ี 89/2527) กรณีตัวอยาง กรมการปกครองทําสัญญาจาง หางหุนสวนจํากัด พ. ทํางานจางกําหนดใหผูรับ จางเริ่มลงมือทํางานภายในวันท่ี 2 ธันวาคม 2522 และใหผูรับจางทํางานแลวเสร็จบริบูรณภายในวันท่ี 28 กุมภาพันธ 2523 ผูรับจางไดสงมอบงานจางงวดที่ 1 เมื่อวันที่ 15 มกราคม 2523 ลวงเลยกําหนดแลว เสร็จตามสัญญางวดท่ี 1 ออกไปรวม 6 วนั ดังนี้จะพจิ ารณาปรับผูรบั จางไดห รือไม กรมอยั การพิจารณาแลวเห็นวาวันแลวเสร็จตามสัญญาอันจะเปนมูลใหผูวาจางมีสิทธิปรับผูรับ จางเปนรายวันน้ัน หมายถึง วันแลวเสร็จบริบูรณตามขอสัญญา (วันท่ี 28 กุมภาพันธ 2523) ซ่ึงถาผู รับจางทํางานไมแลวเสร็จภายในกําหนด สัญญากําหนดใหผูวาจางมีสิทธิบอกเลิกสัญญาจางได และถา
ผูว าจางยังไมบอกเลิกสญั ญากม็ สี ทิ ธิปรับผรู ับจางไดเ ปน รายวนั สว นวนั แลวเสร็จแตละงวดงานกําหนด ขน้ึ เพ่ือเปนหลักในการจายเงนิ ตามงวด เมือ่ ไมมบี ทใหเลิกสัญญาหรือปรับไดเปนกรณีพิเศษเฉพาะก็จะ ปรบั ผูรบั จา งไมได (ขอ หารือตามคาํ วินจิ ฉยั กรมอัยการที่ 53/2523) - 141 - กรณีตัวอยาง ผูรับจางจะรับผิดชําระคาปรับตามสัญญากรณีสงมอบงานจางลาชา เมื่อทําการ กอสรางไมแลวเสร็จภายในวันครบกําหนดกอสราง ซ่ึงหมายถึงวันครบกําหนดแลวเสร็จบริบูรณ โดยตองเสียคาปรบั นับแตวันท่ีเลยกําหนดดังกลาวจนถึงวันบอกเลิกสัญญา สวนวันแลวเสร็จแตละงวด เปนวันทกี่ าํ หนดไวเพ่ือการกําหนดแบงงานจายเงินคาจาง หาใชวันผิดสัญญาโดยตรงไม (ขอหารือตาม คาํ วินิจฉยั กรมอยั การท่ี 82/2522) คําส่งั ศาลปกครองสงู สุดที่ 433/2547 สัญญาจางกําหนดใหผูฟองคดีตองเร่ิมทํางานในวันท่ี 5 ตุลาคม2544 และตองสงมอบงานจาง แลวเสร็จบริบูรณภายในวันท่ี 27 พฤศจิกายน 2546 และกําหนดคาจางและการจายเงินไววาผูวาจางตกลงจาย และผูรับจางตกลงรับเงินคาจางโดยถือราคาเหมารวมเปนเกณฑและกําหนดจายเงินเปนงวด ๆ แตผูรับจาง ทํางานและงวดไมแลวเสร็จภายในระยะเวลาท่ีกําหนดในแตละงวด ดังนี้จะหักเงินคาจางแตละงวดไว เปน คา ปรับไดหรอื ไม ศาลปกครองสูงสุดวินิจฉัยวาการกําหนดจายเงินคาจางเปนงวด ๆ เปนเพียงขอตกลงใน การจายเงินคาจาง สวนกรณีท่ีผูฟองคดีตองชําระคาปรับใหแกผูฟองคดีหรือไมน้ันสัญญาจาง ขอ 15 กําหนดใหจะตองเปนกรณีท่ีผูฟอ งคดีไมสามารถทํางานใหแลวเสร็จตามเวลาท่ีกําหนดในสัญญา และผู ฟองคดียังไมบอกเลิกสัญญา ดังน้ัน ตราบใดท่ีผูฟองคดียังทํางานตอไป และยังมิไดตรวจรับงานงวด สุดทายถือวาการทํางานยังไมแลวเสร็จ อีกท้ังผูถูกฟองคดียังไมบอกเลิกสัญญา การคํานวณคาปรับที่จะ ใหผูฟองคดีชําระแกผูฟองคดีนับแตวันท่ีกําหนดแลวเสร็จตามสัญญาคือวันท่ี 27 พฤศจิกายน 2546 จนถึง วันท่ีทํางานแลวเสร็จจริง การที่ศาลปกครองช้ันตนมีคําสั่งกําหนดมาตรการหรือวิธีการ เพ่ือบรรเทา ทุกขชั่วคราวกอนการพิพากษา โดยหามมิใหผูฟองคดี หักเงินคาปรับกรณีทํางานลาชา จากเงินคาจาง งวดที่ 8 ถงึ งวดที่ 12 จนกวาศาลจะมีคาํ พพิ ากษาในคดีนศี้ าลปกครองสูงสดุ เห็นพองดวย
กรรมการตรวจงานจา งลาชา จะคิดหักคาปรับจากผรู ับจา งไมได กรณีตัวอยาง สํานักงานคณะกรรมการ การประถมศึกษาแหงชาติไดทําสัญญาวาจางหาง หุนสวนจํากดั ป. ทาํ การสรา งครภุ ัณฑก ระดานดําฝาผนงั กําหนดใหผ รู ับจางทํางานใหแลวเสร็จบริบูรณ - 142 - ภายในวันท่ี 1 ธันวาคม 2525 ตอมาผูรับจางขอสงมอบงานจาง ซึ่งคณะกรรมการตรวจการจางไดใช เวลาเพื่อการตรวจรับต้ังแตวันท่ี 27 พฤศจกิ ายน 2525 (ถัดจากวันสงงาน) ถงึ วันที่ 14 ธันวาคม 2525 ปรากฏวามีผลงานถูกตองตามสัญญาเพียง 415 ชุด และไมถูกตองตามสัญญา 445 ชุด ผูวาจางจึงไดมี หนังสือฉบบั ลงวนั ท่ี 14 ธันวาคม 2525 แจง ใหผ ูรบั จา ง แกไขผลงานใหถูกตองตามสัญญา ซ่ึงผูรับจาง ไดสงมอบงานที่ทําการแกไขแลว เม่ือวันที่ 1 มีนาคม 2526 และคณะกรรมการตรวจการจางไดทาํ การ ตรวจรับถูกตองเม่ือวันที่ 3 มีนาคม 2526 สํานักงานคณะกรรมการการประถมศึกษาแหงชาติพิจารณา เห็นควรใหคิดคาปรับตั้งแตวันท่ี 14 ธันวาคม 2525 ถึงวันที่ 1 มีนาคม 2526 รวมเวลา 77 วัน ดังน้ีจะ เปนการถกู ตอ งหรือไม กรมอยั การพจิ ารณาแลวเหน็ วา การตรวจรับงานของคณะกรรมการตรวจรับงานจางของผูวาจาง รายน้ีใชเวลาเพื่อการตรวจรับต้ังแตวันท่ี 27 พฤศจิกายน 2525 ถึงวันที่ 14 ธันวาคม 2525 (ผูวาจางแจง ใหผูรับจางแกไขงาน) รวมเปนเวลาถึง 18 วัน ชวงเวลาดังกลาว ถือวาเปนชวงเวลาที่ตองเสียไปอัน เนื่องมาจากความลาชาของเจาหนาที่ของผูวาจาง และมิใชความผิดของผูรับจาง ผูรับจางไมตองรับผิด ในชวงเวลาดังกลา ว (ขอหารือตามคาํ วินจิ ฉัยกรมอัยการท่ี 96/2526) กรณีตัวอยาง สญั ญาจา งกาํ หนดใหผ ูร ับจา งสง มอบงานวนั ท่ี 16 ธนั วาคม 2521 บริษัทผูรับจาง ไดสงมอบงานจางเมื่อวันท่ี 15 ธันวาคม 2521 แตคณะกรรมการตรวจการจางไดตรวจรับงานเมื่อวันท่ี 25 ธันวาคม 2521 ปรากฏวางานไมเรียบรอยมีขอบกพรองจึงแจงใหผูรับจางแกไขเม่ือบริษัทผูรับจาง แกไขแลวคณะกรรมการจึงไดตรวจรับงานจางเม่ือวันที่ 9 มกราคม 2522 คงมีปญหาวาผูรับจางจะตอง รับผิดกรณสี งมอบลา ชาต้งั แตว นั ที่ 16 ธันวาคม 2521 ถึงวันที่ 25 ธันวาคม 2521 ดวยหรือไม กรมอัยการพิจารณาแลวมีความเห็นวาระยะเวลาระหวางวันท่ี 16 ธันวาคม 2521 ถึงวันท่ี 25 ธันวาคม 2521 เปนเวลาท่ีคณะกรรมการตรวจการจางตรวจเพ่ือรับงาน หาใชความผิดอันเกิดจากผู รับจางลาชาไมทํางานใหแลวเสร็จภายในกําหนดเวลาไม จึงเรียกใหผูรับจางชําระคาปรับในชวง ระยะเวลาดังกลา วไมไ ด (ขอ หารือตามคาํ วินิจฉยั กรมอยั การท่ี 89/2522)
กรณตี ัวอยาง มหาวิทยาลัยรามคาํ แหงทําสัญญาจาง หา งหุน สวนจาํ กัด ซ. ทาํ การปรบั ปรุงหอง ทํางานของฝายทะเบียนฯ กําหนดใหผูรับจางสงมอบงานแลวเสร็จภายในวันท่ี 17 ธันวาคม 2526 ผูรับ จางไดสงมอบงานจางเม่ือวันที่ 15 ธันวาคม 2526 กรรมการตรวจการจาง ไดทําการตรวจงานเมื่อวนั ท่ี 19 ธันวาคม 2526 พบขอบกพรองงานไมเรียบรอยผูรับจางจึงทําการแกไขและสงมอบงานเม่ือวันที่ 21 - 143 - ธันวาคม 2526 และกรรมการตรวจการจางไดตรวจรับงานไวเรียบรอยแลว คงมีปญหาวาจะปรับผู รับจางไดเ พียงใด กรมอัยการพิจารณาแลวเห็นวา กรรมการตรวจการจางไดตรวจรับงานไวเม่ือวันท่ี 21 ธันวาคม 2526 จึงถือวาผูรับจางทํางานจางลาชาลวงเลยกําหนดเวลาตามสัญญา 4 วัน แตโดยเหตุท่ี คณะกรรมการตรวจการจา งไดเสยี เวลาเพือ่ การตรวจรับ 4 วัน ระหวา งวนั ที่ 16 ธันวาคม 2526 (ถัดจาก วันสง มอบงาน) ถึงวันที่ 19 ธันวาคม 2526 ซ่ึงในชวงเวลาดังกลาว ถือไมไดวาเปนชวงเวลาที่ตองเสีย ไป อันเน่ืองมาจากความผิดของผูรับจาง ผูรับจางจึงไมตองรับผิดชําระคาปรับสําหรับ ชว งเวลาดังกลาว เม่ือคิดหักกลบลบกันระหวางจํานวนวันที่ผูรับจางไมตองรับผิดชําระคาปรับ 4 วนั กบั จาํ นวนวันที่ผูร ับจางทาํ งานเสรจ็ ลาชากวา กําหนด 4 วนั เปนอันพอดีกัน ผูวาจาง จึงไมอาจปรับ ผูรบั จางในกรณีลาชา ดังกลา วได (ขอหารอื ตามคําวินิจฉัยกรมอัยการท่ี 36/2527) กรณีตัวอยาง มหาวิทยาลัยธรรมศาสตรจางนาย พ. ทําการซอมเครื่องปรับอากาศ โดยกําหนดใหงานแลวเสร็จภายในวันท่ี 17 ตุลาคม 2526 ปรากฏวาผูรับจางไดสงงานเมื่อวันท่ี 30 พฤศจิกายน 2526 คณะกรรมการตรวจการจางไดทําการตรวจการจางเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2526 แลว ไมรับงานโดยใหทําการแกไขจํานวน 6 รายการ ดังนี้คงมีปญหาวาจะปรับผูรับจางไดตงั้ แตวันใดถึงวัน ใด กรมอัยการพิจารณาแลวเห็นวาการคิดคํานวณคาปรับตามสัญญา ผูวาจางสามารถใชสิทธิปรับ ผูรับจางไดถึงวันท่ีคณะกรรมการตรวจการจางไดตรวจรับงานไวถูกตองครบถวนตามสัญญา แตกําหนดระยะเวลาปรับดังกลาวจะตองไมรวมชวงเวลาท่ีเกิดจากความลาชาใด ๆ ท่ีทางฝายผูวาจางมี สวนกอใหเกิดข้ึนตามประมวลกฎหมายแพงและพาณิชยมาตรา 223 กับตองไมรวมถึงระยะเวลาที่เสีย ไปเนื่องจากความลาชาของคณะกรรมการตรวจการจาง ในการตรวจรับงานน้ันดวย (ขอหารือตามคํา วินิจฉยั กรมอยั การท่ี 48/2527)
หมายเหตุ 1. ประมวลกฎหมายแพงและพาณิชยมาตรา 223 บัญญัติวา “ถาฝายผูเสียหายไดมีสวนทํา ความผิดอยางใดอยางหนึ่ง กอใหเกิดความเสียหายดวยไซร ทานวาหนี้อันจะตองใชคาสินไหมทดแทน แกฝายผูเสียหายมากนอยเพียงใดนั้น ตองอาศัยพฤติการณเปนประมาณ ขอสําคัญก็คือวาความเสียหาย นั้นไดเกิดขึ้นเพราะฝายไหนเปนผูกอยิ่งหยอนกวากันเพียงไร ปกติการปรับกรณีสงมอบลาชาน้ัน - 144 - ผรู ับจางหรอื ผขู ายจะตองรับผิดชําระคาปรบั อันเน่ืองจากความลาชานั้น เกิดจากความผิดของผูขายหรือ ผูร บั จา งซง่ึ เปนพฤติการณทต่ี อ งรับผดิ ชอบ หากความลา ชา เกดิ จากความผิดของฝายผูซ้ือหรือผวู าจา งก็ไมอาจคิดคา ปรบั ในชว งเวลาดงั กลา วได 2. เรือ่ งน้ีผูร บั จางสงมอบงานเมอ่ื วันที่ 30 พฤศจิกายน 2526 แตคณะกรมการตรวจการจางของ ฝายผูวาจางไดทําการตรวจรับเม่ือวันที่ 9 ธันวาคม 2526 ซึ่งเกิดจากความผิดของฝายผูวาจาง ดังนั้น ระยะเวลาจากวันที่ 30 พฤศจิกายน 2526 ถึงวันที่ 9 ธันวาคม 2526 จึงไมอาจนํามาคิดรวมใหผูรับจาง ชําระคาปรบั ได กรณีตัวอยาง กรมศุลกากรทําสัญญาซ้ือขายเครื่องช่ังไฟฟาจากบริษัท อ. ผูขาย กําหนดสง มอบสิ่งของภายในวันที่ 10 พฤศจิกายน 2523 ตอมาวันที่ 4 พฤศจิกายน 2523 ผูขายไดนําสิ่งของไปสง มอบ แตคณะกรรมการยังไมตรวจรับโดยไดทําการตรวจรับในวันที่ 8 กันยายน 2524 แตสินคา ไมถูกตองตามสัญญา บริษัทจึงรับสินคากลับไปในวันเดียวกันและทําการแกไขสงมอบโดยผานการ ตรวจรับของคณะกรรมการเม่ือวันท่ี 2 พฤศจิกายน 2524 ดังนี้จะปรับผูขายในชวงเวลานับแตวันถัด จากวันท่ีผูขายสงมอบ (วันท่ี 5 พฤศจิกายน 2523) ถึงวันที่ 8 กันยายน 2524 รวมเวลา 308 วันไมได เพราะเปนชวงเวลาความลาชาในการตรวจรับส่ิงของของคณะกรรมการ ซ่ึงเปนพฤติการณที่ผูขายไม ตอ งรบั ผดิ ชอบ (ขอ หารือตามคาํ วนิ ิจฉัยกรมอัยการท่ี 100/2528) ผขู ายสงมอบส่งิ ของในลักษณะเปน หบี หอ ยังไมเปด ทําการตรวจทดลองไมถ อื วาสง มอบ กรมอาชีวศึกษาไดทําสัญญาซื้อขายครุภัณฑเคร่ืองไส ขนาดระยะชัก 450 ม.ม. กับบริษัท ด. กําหนดใหผูขายสงมอบส่งิ ของภายในวนั ที่ 22 กุมภาพันธ 2529 แตผขู ายไดนาํ สงิ่ ของไปสงเมื่อวันที่ 26 เมษายน 2529 ในลักษณะเปนหีบหอ วิทยาลัยจึงไดมีหนังสือแจงใหบริษัทสงเจาหนาท่ไี ปดําเนินการ เปด หบี หอ เพอ่ื จะไดท ดลองและตรวจรับใหถกู ตอ ง แตผขู ายเพิกเฉยจนถึงวันท่ี 1 สงิ หาคม 2529 ผูขาย
จึงไดสงตัวแทนไปเปดหีบหอ และคณะกรรมการไดทําการตรวจรับถูกตอง ปญหาจึงมีวาจะปรับผูขาย ไดถึงวนั ใด คณะกรรมการวาดวยการพัสดุ พิจารณาแลวเห็นวาปกติผูขายมีหนาท่ีตองสงมอบของให ถูกตองครบถวนตามสัญญา และของที่สงมอบตองอยูในลักษณะท่ีจะใหคณะกรรมการตรวจรับพัสดุ ดําเนินการตรวจรับได เมื่อพิจารณาถึงสภาพการใชงานของเครื่องไส ซ่ึงเปนเคร่ืองมือที่จะตอง - 145 - ทดลองและสาธิตการใชเพื่อใหผูซื้อทราบวาเครื่องไสมีคุณภาพตามท่ีกําหนดไวในสัญญาหรือไม แมวาสัญญาซื้อขายเคร่ืองไส จะมิไดมีขอกําหนดใหผูขายมีหนาท่ีตองติดตั้งทดลองส่ิงของตามสัญญา และสงผแู ทนไปรว มการตรวจรับของกับผซู ื้อกต็ าม แตเ รอื่ งนป้ี รากฏวา หลังจากครบกาํ หนดอายุสัญญา แลว ผูขายไดนําเครื่องไสไปสงมอบไวกับแผนกพัสดุของผูซื้อในลักษณะท่ีเปนหีบหอ และเจาหนาท่ี ของผูขายไดแจงดวยวาจากับเจาหนาท่ีของวิทยาลัยวา ใหรอผูจัดการบริษัทจะเดินทางมาเปดหีบหอ เพื่อใหคณะกรรมการตรวจรับดวยตนเอง อีกท้ังวิทยาลัยไดมีหนังสือแจงใหผูขายมาทําการเปดหีบหอ และสงมอบของแลว แตผขู ายเพิกเฉย จงึ ถือวาผูขายสง มอบเครอ่ื งไสถูกตอ งครบถว นในวันที่เจาหนาท่ี ของผขู ายไดทาํ การเปดหีบหอและสาธิตเครื่องไส เพื่อใหคณะกรรมการตรวจรับพัสดุดําเนินการตรวจ รับตามหนาท่ี (ขอหารือตามหนังสือสํานักนายกรัฐมนตรี ที่ นร (กวพ) 1002/1151 ลงวันท่ี 26 กมุ ภาพนั ธ 2530) กรณีตัวอยาง กรมพัฒนาที่ดิน ไดทําสัญญาซื้อขายเครื่องวิเคราะหแรธาตุตาง ๆ ในดินกับ บรษิ ัท ฟ. โดยบริษทั ตองทําการติดตั้งเครื่องมือพรอมทั้งทดลองเคร่ืองใหทํางานไดเรียบรอยสมบูรณใช การไดทันที พรอมทั้งชี้แจงแนะนําและชวยเหลือใหเจาหนาท่ีของทางราชการสามารถทําการใช เครื่องมือไดดวยตนเอง โดยสาธิตและแสดงการปฏิบัติงานใหดูเปนตัวอยาง และตองสงมอบเครื่อง วิเคราะหแ รธาตภุ ายในวันที่ 23 พฤษภาคม 2521 ครน้ั ถึงกําหนดสง มอบ บรษิ ทั ยงั ทําการทดลองไมครบ ตามขอสัญญาและยังไมไดช้ีแจงเจาหนาที่ใหสามารถทําการใชเครื่องมือไดตอมาบริษัทไดทําการ ทดลองไดครบถวนตามสัญญา เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ 2522 และคณะกรรมการไดตรวจรับในวัน เดียวกัน คงมีปญหาวาผูขายไดสงมอบส่ิงของถูกตองตามสัญญาเม่ือวันเดือนปใด และผูขายจะตองรับ ผิดชําระคาปรบั ถึงวนั ใด กรมอัยการพิจารณาแลวมีความเห็นวา แมบริษัทจะไดสงมอบสิ่งของ เม่ือวันท่ี 23 พฤษภาคม 2521 ซึ่งเปนวันครบกําหนดสงมอบก็ตาม ก็ยังไมถือวาเปนการสงมอบส่ิงของท่ีถูกตองครบถวนตาม
ขอสัญญา เพราะยังมิไดมีการทดลองเครื่องและกระทําการอ่ืน ๆ ตามใบเสนอราคา กรณีถือไดวา บริษัทผูขายไดสงมอบส่ิงของในวันที่บริษัทไดปฏิบัติการถูกตองครบถวนและคณะกรรมการตรวจรับ ไดทําการตรวจรับไวแลวในวันท่ี 5 กุมภาพันธ 2522 บริษัทจึงตองรับผิดชําระคาปรับนับแตว ันท่ี 24 พฤษภาคม 2521 ถึงวันที่ 5 กุมภาพันธ 2522 (ขอหารอื ตามคําวินิจฉยั กรมอยั การที่ 76/2522) - 146 - ผขู ายสง สงิ่ ของตามสัญญาแลว ขาดแตหนงั สอื รบั รองของบรษิ ัทผูผ ลติ ถือวาสง ลาชาหรือไม กรมชลประทานทําสัญญาซื้อขายอุปกรณและอะไหลเคร่ืองบิน กับบริษัท พี สําหรับการสง มอบของไดมขี อกําหนดเง่ือนไขการรบั ของไวใ หผูขายทําหนังสือรับรองมามอบในวันท่ีสงมอบอะไหล ดวย ปรากฏวาผูขายไดนําอะไหลตามสัญญามาสงมอบกอนครบกําหนดเวลาตามสัญญา แตไดนํา หนังสือรับรองมามอบใหภายหลังครบกําหนดอายุสัญญาแลว กรมชลประทานจึงรับของไวตามธรรม เนียม แตมิไดรับไวเปนทางการเพราะยังไมไดหนังสือรับรองดังน้ีผูขายตองรับผิดกรณีสงมอบลาชา หรอื ไม กรมอัยการพิจารณาแลวเห็นวาสัญญาซื้อขายกําหนดวาในวันสงมอบอะไหลผูขายตองนํา หนังสือรับรองจากบริษัทผูผลิต มามอบใหแกผูซื้อ เปนเพียงเง่ือนไขอยางหน่ึงในการสงมอบ และ สัญญาขอหนึ่งกําหนดวาคณะกรรมการตรวจรับทรงไวซ่ึงสิทธิท่ีจะไมเชื่อหลักฐานหรือความเห็นใด ๆ ที่ผูขายนํามาแสดงประกอบก็ได ดังนั้นหนังสือรับรองจึงมิใชสาระสําคัญของสัญญาน้ี หากผูขายไม นาํ มามอบใหผ ซู อ้ื ในวนั สง มอบอะไหล ก็เปนเพียงผิดเงื่อนไขการสงมอบซ่ึงผูซื้ออาจปฎิเสธไมรับมอบ ได เมื่อปรากฏวากรมชลประทานไดลงช่ือรับของไวแลว จนบัดนี้ไมมีขอบกพรองของอะไหลท่ีรับไว จึงตองฟงวาอะไหลเปนของแทและผลิตข้ึนใหมตามสัญญาผูขายไมตองรับผิดกรณีสงมอบลาชา (ขอ หารือตามคําวินิจฉัยกรมอยั การที่ 5/2520) สัญญาจางกอสรางหลายรายการ ผูรับจา งสง ลา ชาบางรายการ ปรบั จากราคางานจา งทงั้ สัญญา กรณีตวั อยา ง กรมอาชีวศกึ ษาไดท าํ สญั ญาจา ง หางหุนสว นจาํ กดั ว. ทําการกอ สรา งอาคารของ สถานศึกษาสังกัดกรมอาชีวศึกษา จํานวน 11 รายการ หากผูรับจางทํางานจางลาชาจะถูกปรับวันละ 5,900 บาท การที่ผูรับจางไมสามารถทํางานจางรายน้ีใหแลวเสร็จภายในกําหนดเวลาตามสัญญา ไม
วาจะเปนการกอสรางรายการหนึ่งรายการใดใน 11 รายการ หรือรายการกอสรางทั้ง 11 รายการ ผูรับ จา งตองรับผดิ ชําระคาปรบั วนั ละ 5,900 บาท (ขอ หารือตามคาํ วินิจฉัยกรมอัยการท่ี 105/2525) การปรับกรณสี ง มอบสงิ่ ของตามสญั ญาหลายคร้งั กรณตี วั อยา ง คาปรับการสงมอบส่ิงของตามสัญญาซ้ือขายไมไดระบุใหตองสงมอบพรอมกัน ในคร้ังเดียว จึงสงมอบไดหลายคร้ัง การคิดคาปรับจึงตองคิดจากราคาสิ่งของเฉพาะท่ีผูขายยังไมได สง มอบ (ขอหารอื ตามคาํ วนิ จิ ฉัยกรมอัยการที่ 78/2525) - 147 - การปรับกรณีตกลงซอื้ ขายสิง่ ของเปนชุด 1. ระเบียบสํานักนายกรัฐมนตรีวาดวยการพัสดุ พ.ศ. 2535 ขอ 71 (6) กําหนดวาการตรวจรับ พสั ดุทป่ี ระกอบกันเปนชุดหรือเปนหนวย ถาขาดสวนประกอบอยางใดอยางหน่ึงไปแลวจะไมสามารถ ใชการไดโ ดยสมบูรณ ใหถือวา ผูขายหรือผูรบั จา งยงั มิไดส งมอบพสั ดนุ ้ัน 2. สัญญาซ้ือขายขอ 10 กําหนดวา การคิดคาปรับในกรณีที่ส่ิงของที่ตกลงซื้อขายประกอบกัน เปนชุด แตผูขายสงมอบเพียงบางสวนหรือขาดสวนประกอบสวนหนึ่งสวนใดไปทําใหไมสามารถใช การไดโดยสมบรู ณ ใหถ ือวายังไมไดส ง มอบสงิ่ ของนน้ั เลย และใหคิดคา ปรับจากราคาสิง่ ของเต็มทัง้ ชุด กรณีตัวอยาง ส่ิงของท่ีซื้อขายประกอบกันเปนชุด และถาขาดสวนหน่ึงสวนใดจะทําใหไม สามารถใชการไดโดยสมบูรณ ดังนั้นในระหวางท่ีผูขายยังตองแกไขอุปกรณบางสวนใหถูกตองตาม สัญญา ยอมถือวาผูขายสงมอบไมถูกตอง ผูขายตองถูกปรับตามสัญญาจนถึงวันท่ีผูขายสงมอบถูกตอง ครบถวน (ขอ หารือตามคําวนิ ิจฉยั กรมอยั การท่ี 136/2525) กรณีตัวอยาง ตกลงซื้อขายเคร่ืองคอมพิวเตอรตามสัญญา 4 รายการ แตสินคา 3 รายการ ซ่ึงสงมาถูกตองน้ัน ตองใชประกอบกันกับสินคารายการที่สงมาไมถูกตองแยกกันไมไดดังน้ีตองคิด คาปรับสนิ คาเปน ชดุ ทัง้ 4 รายการ (ขอหารือตามคําวนิ จิ ฉยั กรมอยั การที่ 152/2524) กรณีตัวอยาง จุฬาลงกรณไดทําสัญญาซ้ือขายเคร่ืองเทปบันทึกเสียงกับหางหุนสวนจํากัด ท. ผูข ายสง มอบเครอ่ื งเทปบันทึกเสยี งเม่อื ลวงเลยกาํ หนดเวลาตามสัญญา จุฬาลงกรณจึงคิดคาปรับจากหาง ผูข ายจํานวน 81 วนั อัตราคาปรบั รอยละ 0.2 ตอวันของราคาสิ่งของท้ังชุด ราคา 53,500 บาท ขอเท็จจริง ปรากฏวา ผขู ายสง มอบรโี มทคอนโทรล ลา ชากวากําหนดเทาน้ันดงั น้ีจะปรับผูขายไดอ ยา งไร กรมอัยการพิจารณาแลวมีความเห็นวา การซ้ือส่ิงของที่ประกอบกันเปนชุด ถาขาด สวนประกอบสว นใดสว นหน่ึงไปแลว ไมสามารถใชการไดทั้งชุด ถึงแมผูขายจะสงมอบส่ิงของภายใน
กําหนดตามสัญญา แตยังขาดสวนประกอบบางสวน ตอมาไดสงมอบสวนประกอบท่ียังขาดนั้นเกิน กําหนดตามสญั ญาใหถือวา ไมไดสงมอบส่ิงของนน้ั เลย ใหป รบั เตม็ ราคาท้งั ชุด เคร่ืองเทปบันทึกเสียงพิพาท แมจะไมมีรีโมทคอนโทรล เครื่องเทปก็สามารถทํางานไดถือวา สามารถแยกใชงานไดตางหากจากกัน จึงตองคิดคาปรับเฉพาะราคาของรีโมท ไมใชคิดท้ังชุด (ขอ หารือตามคาํ วินจิ ฉยั กรมอยั การที่ 186/2522) - 148 - กรณีตัวอยาง กรมการบินพาณิชย กระทรวงคมนาคมไดทําสัญญาซื้อขายเครื่องผลิตสัญญาณ จาํ นวน 7 เครื่อง แตล ะเคร่อื งประกอบดวยคมู อื จาํ นวน 2 เลม ซงึ่ มิไดคิดราคาแยกกนั ไว บรษิ ทั ผูขายได นําสิ่งของไปสงมอบภายในกําหนดเวลาตามสัญญา แตไมไดสงมอบหนังสือคูมือจํานวน 1 เลม ตอมา ไดน าํ หนงั สือคมู อื มาสง ภายหลงั จากครบกําหนดเวลาตามสัญญาแลว คงมีปญหาวาจะปรับผูขายโดยคิด จากราคาสงิ่ ของทง้ั หมดตามสญั ญาหรือคิดจากราคาเฉพาะหนังสือคมู ือ 1 เลม เลมละ 40 บาท กรมอัยการพิจารณาแลวมีความเห็นวา หนังสือคูมือ 1 เลม ที่บริษัทสงมอบลาชาเกินกําหนด สัญญา มิใชสิ่งของท่ีประกอบกันเปนชุด การคิดคาปรับจึงตองคิดจากราคาหนังสือท่ียังไมไดสงมอบ (คิดคาปรับจากราคาหนังสือ 40 บาท ไมใชคิดจากราคาส่ิงของท้ังหมดตามสัญญาขอหารือตามคํา วนิ จิ ฉัยกรมอัยการที่ 114/2522) การปรับกรณผี ูขายสง มอบสง่ิ ของตามสัญญาซอื้ ขายไดเ พยี งบางสวน กรณีตัวอยาง สัญญาซื้อขายซ่ึงกําหนดใหผูขายสงมอบส่ิงของหลายชิ้น และผูขายสงมอบ สิ่งของบางสวน ถาส่ิงของที่สงมอบน้ันผูซ้ือ (สวนราชการ) สามารถนําไปใชประโยชนได ผูซื้อก็ สามารถพิจารณาลดคาปรับใหผูขายได แตถาสิ่งของสวนที่สงมอบไมสามารถใชประโยชนไดจนกวา จะไดข องครบถวน ผูซ ื้อจะตองปรับผูขายเตม็ จํานวน (ขอหารอื ตามคําวนิ จิ ฉยั กรมอยั การท่ี 94/2520) กรณีตัวอยาง กองทัพอากาศทําสัญญาซ้ือขายรถสงครามชวยรบ จากบริษัทผูขายผูขาย นํารถยนตไปสงมอบแลว แตขาดชุดพรางไฟ ดังนี้จะคิดคาปรับจากราคาท้ังคันหรือเฉพาะราคาชุด พรางไฟ
กรมอัยการพิจารณาแลวมีความเห็นวา ชุดโคมพรางไฟเปนคุณลักษณะของรถยนตสงคราม ชว ยรบโดยเฉพาะ จึงตองประกอบและนําสง มอบเปนชุดกับรถยนต มิฉะนั้นจะทําใหขาดสวนประกอบ อันเปนคุณลักษณะของรถยนต และทําใหไมสามารถใชรถยนตน้ันไดครบถวน เมื่อผูขายสงมอบ รถยนตไมมีชุดโคมไฟพรางตามสัญญา จึงถือวาไมไดสงมอบรถยนตนั้น การคิดคาปรับจึงตองคิดเปน รายวันในอัตรารอยละ 0.2 ของราคารถยนตท้ังคัน ไมใชคิดจากราคาชุดโคมพรางไฟ (ขอหารือตามคํา วินิจฉัยกรมอัยการที่ 34/2523) - 149 - กรณีตัวอยาง สัญญาซื้อขายรถขุดระบบไฮโดรลิค 5 คัน ผูขายสงมอบไมถูกตองตามสัญญา โดยสงมอบยางรถเปนยาง 12 ช้ัน ท้ังหมดไมใช 16 ช้ันตามสัญญา คณะกรรมการตรวจรับจึงยังไมทํา การตรวจรับ คงมีปญหาวาจะคิดคาปรับโดยคํานวณจากราคารถขุดท้ังคันหรือคํานวณจากเฉพาะราคา ยางรถทั้ง 5 คัน กรมอัยการพิจารณาแลวเห็นวาสัญญาซื้อขายกําหนดวาถาผูขายไมสงมอบรถขุด หรือสงมอบ ไมครบจํานวนภายในกําหนด ผูขายยอมใหผูซื้อปรับเปนรายวันจํานวนเงินรอยละ 5 ของราคารถขุด ดังน้ันการคิดคาปรับ จึงตองคิดคํานวณจากราคารถขุดท้ังคัน (ขอหารือตามคําวินิจฉัยกรมอัยการ ที่ 6/2518) กรณีตัวอยาง สัญญาซ้ือขายรถยนตบรรทุกน้ําซึ่งมีรายละเอียดของรถรวมท้ังเครื่องสูบน้ํา ซ่ึงตองติดต้ังประจํารถไวชัดเจน โดยกําหนดราคาไวเปนราคารวมทั้งคัน มิไดแยกเปนราคาตัวรถ สวนหนึง่ และเครอื่ งสบู น้ําอกี สวนหน่งึ ยอ มเหน็ เจตนารมณไ ดว าเปนการซื้อขายสิ่งของท่ีตองประกอบ กันเปนชุด เม่ือผูขายสงมอบรถที่มีเคร่ืองสูบนํ้าไมถูกตองยอมมีสิทธิไมรับรถและปรับผูขายจากราคา รวมรถท้ังคนั (ขอหารือตามคําวนิ ิจฉัยกรมอัยการที่ 37/2517) การรบั ประกันความชํารุดบกพรอง สัญญาจางขอ 6 ขอ 6. ความรบั ผิดในความชํารุดบกพรองของงานจา ง
เม่ืองานแลวเสร็จสมบูรณ และผูวาจางไดรับมอบงานจากผูรับจาง หรือจากผูรับจาง รายใหมในกรณีที่มีการบอกเลิกสัญญาตามขอ 5 หากมีเหตุชํารุดบกพรองหรือเสียหายเกิดขึ้นจากงาน จางนี้ ภายในกําหนด.........ป.........เดือน นับถัดจากวันท่ีไดรับมอบงานดังกลาวซ่ึงความชํารุดบกพรอง หรือเสียหายน้ันเกิดจากความบกพรองของผูรับจาง อันเกิดจากการใชวัสดุท่ีไมถูกตอง หรือทําไวไม เรียบรอย หรือทําไมถูกตองตามมาตรฐานแหงหลักวิชา ผูรับจางจะตองรีบทําการแกไขใหเปนที่ เรียบรอย โดยไมช กั ชา โดยผูวาจางไมต องออกเงินใด ๆ ในการนี้ทงั้ สนิ้ หากผูรับจางบิดพร้ิวไมกระทํา การดังกลาวภายในกําหนด........วนั นับตัง้ แตไ ดร ับแจง เปน หนงั สอื จากผูรบั จา ง หรือไมทําการแกไ ขให ถูกตองเรียบรอยภายในเวลาที่ผูรับจางกําหนดใหผูวาจางมีสิทธิท่ีจะทําการน้ันเองหรือจางผูอ่ืนให ทาํ งานนั้น โดยผูรบั จางตองเปนผูออกคา ใชจ าย - 150 - สญั ญาซื้อขายขอ 7 ขอ 7. การรบั ประกันความชํารดุ บกพรอง ผูขายยอมรับประกันความชํารุดบกพรอง หรือขัดของของส่ิงของตามสัญญาน้ี เปนเวลา...........ป ...............เดือน นับแตวันท่ีผูซ้ือไดรับมอบ โดยภายในกําหนดเวลาดังกลาว หากสิ่งของตามสัญญาน้ีเกิดชํารุดบกพรองหรือขัดของอันเนื่องจากการใชงานตามปกติ ผูขายจะตอง จัดการซอมแซม หรือแกไขใหอยูในสภาพท่ีใชการไดดีดังเดิม ภายใน...........วัน นับแตวันที่ไดรับแจง จากผูซ้อื โดยไมค ดิ คาใชจ า ยใด ๆ ท้งั สนิ้ สัญญาจางขอ 6 ความรับผิดชอบในความชํารุดบกพรอง ภายในกําหนดเวลาตามสัญญาขอ 6 อาคาร ส่ิงปลูกสรางเกดิ การชํารุดบกพรอง เน่อื งจากความบกพรองของผรู ับจา งจาก (1) เกิดจากการใชวัสดกุ อสรางไมถูกตอ ง (2) ทาํ ไวไมเ รียบรอ ย (3) ทาํ ไมถ กู ตอ งตามมาตรฐานแหง หลกั วชิ าการ ความรับผดิ ชอบในความชาํ รุดบกพรอง 1. หากอยรู ะยะเวลาประกนั ความชํารดุ บกพรอ งตามสญั ญาจางขอ 6 2. เรียกใหผ ูรบั จางทําการซอ มแซมความชาํ รุดบกพรองไดต ามสัญญาจา ง ขอ 6 3. หากผรู ับจา งไมซ อมแซมผรู ับจางตองรบั ผดิ ชดใชค า ใชจา ยทีบ่ ุคคลอนื่ ซอ มแซม สญั ญาขอ 6 4. หากผรู ับจางไมใ ชค า ซอมแซมตองรีบฟองคดีภายในอายุความท่กี ฎหมายกําหนดนบั แต
ความชํารุดปรากฏข้นึ 5. การแจงใหผรู ับจางมาทําการซอ มแซมตอ งสง จดหมายลงทะเบียนไปรษณียตอบรบั (ไมควรแจงทางโทรศพั ทห รอื ดวยวาจา) 6. จะแจง ใหธนาคารผคู ้าํ ประกันมาทําการซอมแซมไมไ ด คงเรียกใหชาํ ระเงินตาม สัญญาคา้ํ ประกันเทาน้ัน 7. เรยี กไดเทา จาํ นวนคา ความเสยี หายจากการชํารุดบกพรอ ง แตไมเกินวงเงนิ คาํ้ ประกัน - 151 - ส่งิ ของตามสัญญาและงานจางชาํ รดุ บกพรอ ง ประมวลกฎหมายแพงและพาณชิ ยมาตรา 472 บญั ญัติใหผูขายรับผิดในกรณีท่ีทรัพยสินซ่ึงขาย น้ันชํารุดบกพรอง เชน ซ้ือครุภัณฑ เคร่ืองจักรกล เพ่ือใชในการฝกปฏิบัติงานของนักศึกษา แตสิ่งของดงั กลา วเกดิ การชํารุดใชงานไมได ผูขายตองรับผิดในความชํารุดบกพรองน้ัน สําหรับสัญญา จางขอสัญญาจะกําหนดใหผูรับจางรับผิดชอบในความชํารุดบกพรอง เชน อาคารทรุด เปนตน ภายใน ระยะเวลาประกันความชํารุดบกพรองตามท่ีกําหนดไวในขอสัญญาอาจมีระยะเวลาประกันความชํารุด บกพรอ งเปนเวลา 1 ปหรือ2 ป นบั แตวนั สง มอบงานจา งเปน ตน ดังน้นั เม่อื ปรากฏความชํารดุ บกพรอง แกสิ่งของท่ีซื้อขายหรืองานจาง ผูขายหรือผูรับจางมักขอผลัดผอนจนลวงเลยกําหนดอายุความฟองคดี ซง่ึ ผูขายหรอื ผูรับจางจะยกขน้ึ ปฎเิ สธความรบั ผิดชอบดงั กลาวไดสวนราชการจึงควรปฏบิ ตั ดิ ังนี้ 1. เมื่อความชํารุดบกพรองปรากฎข้ึน สวนราชการควรมีหนังสือแจงใหผูขายหรือผูรับจางมา ดําเนินการแกไขซอมแซมโดยเร็วโดยกําหนดระยะเวลาตามสมควรไวในหนังสือบอกกลาว สงทาง ไปรษณียลงทะเบียนตอบรบั แลว เก็บหลักฐานการตอบรบั ไวเ ปน หลกั ฐาน 2. กรณีผูขายหรือผูรับจางเพิกเฉย ใหสงตนฉบับเอกสารการสอบราคา ประกวดราคาใบเสนอ ราคา สญั ญาซื้อขายหรือสัญญาจาง สัญญาคํ้าประกัน หลักฐานการสงมอบสิ่งของหรือเอกสารการสง มอบงานจางและเอกสารการตรวจรับงานจางเอกสาร การตรวจพบความชํารุดบกพรองครั้งแรก และหนังสือบอกกลาวตามขอ 1 ไปยังพนักงานอัยการเพ่ือดําเนินคดีเรียกใหผูขายหรือผูรับจางรับผิด เปนคดีแพงใหทันภายในกําหนดอายุความตามที่กฎหมายกําหนด นับแตวันท่ีความชํารุดบกพรองได ปรากฏข้นึ
3. กรณีไมอาจดําเนินคดีแพงไดทันภายในกําหนดอายุความ และทางราชการไดรับความ เสียหาย เนื่องจากผูขายหรือผูรับจางยกอายุความตอสูปฏิเสธความรับผิด ทางราชการตองแตงต้ัง คณะกรรมการข้ึนทาํ การสอบสวนหาผรู บั ผิดชดใชความเสียหายแกทางราชการดังกลา ว การฟองธนาคารใหรับผิดกรณีมีความชํารุดบกพรองเกิดขึ้น ก็ตองฟองภายในอายุความ เชนเดียวกับผูรับจาง เพราะหากฟองผูค้ําประกัน เมื่อขาดอายุความท่ีจะฟองผูรับจางแลว ผูคํ้าประกัน ยอมยกเหตขุ าดอายคุ วามข้ึนตอ สูเ พอ่ื ไมต อ งรบั ผิดได (ขอ หารอื ตามคําวนิ จิ ฉัยกรมอยั การที่ 3/2531) ผูวาจางตรวจพบความชํารุดบกพรองภายในเวลาท่ีผูรับจางตองรับผิดตามสัญญาหลายครั้ง และรายการความชํารดุ บกพรองทพ่ี บแตล ะคร้งั แตกตางกัน ผูว าจางอาจแยกนบั อายคุ วามตามแตละวันท่ี ความชาํ รุดบกพรอ งไดป รากฏขึน้ นัน้ ได (ขอ หารอื ตามคาํ วนิ จิ ฉยั กรมอยั การท่ี 83/2529) - 152 - กรณีตัวอยาง ความรับผิดเพื่อความชํารุดบกพรองของผูรับจางตามสัญญาจาง กําหนดใหมี ระยะเวลา 1 ป นับแตวันท่ีไดรับมอบงานที่ผูรับจางไดทําการแลวเสร็จเรียบรอย ฉะน้ัน กําหนดวันเริ่ม นับเวลาดังกลาวไมใชวันที่ผูวาจางไดออกใบตรวจรับงานแตละงวด โดยระยะเวลารับประกันความ เสียหายตองเร่ิมนับต้ังแตวันท่ีงานจางแลวเสร็จบริบูรณ และผูรับจางไดรับมอบงานจากผูรับจางแลว (ขอหารือตามคําวินิจฉัยกรมอัยการท่ี 117/2525) กรณีตัวอยาง กรมการปกครองทําสัญญาจางผูรับจางกอสรางสะพานไม โดยผูรับจางได วางเงินประกันสัญญา จํานวน 6,000 บาท ตามสัญญาจางกําหนดใหผูรับจางรับผิดในความชํารุด บกพรองของสะพานมีกําหนดเวลา 1 ป นับแตวันท่ีผูวาจางไดรับมอบงาน เม่ือปรากฏวาสะพานไมท่ี กอสรางไดถูกนํ้าพัดพาเสียหายหมดท้ังสะพานกอนครบกําหนดเวลา 1 ป เพราะอุทกภัยธรรมชาติ เปน เหตกุ ารณที่ผูรบั จา งไมตองรบั ผิดชอบ กรณีจึงไมมีตวั สะพานท่ีผรู ับจางตองรับผิดชอบตอไป ผรู ับ จางจึงหลุดพนขอผูกพันจากความรับผิดในความชํารุดบกพรองของสะพาน ตามประมวลกฎหมายแพง และพาณิชยมาตรา 219 จึงตองคืนเงินประกันสัญญาใหแกผูรับจาง (ขอหารือตามคําวินิจฉัยกรมอัยการ ท่ี 119/2525) เกิดความชํารุดบกพรอ งหลายครงั้ อายุความนบั แยกแตล ะครงั้ ทีเ่ กดิ การชํารดุ บกพรอ ง กรณีตวั อยาง กองทัพอากาศไดท ําสัญญาจางกอสรางอาคาร กับหางหุนสวนจํากัด พ. ผูรับจาง สง มอบงานแลวเสร็จเม่อื วนั ท่ี 29 มิถุนายน 2527 ไดตรวจพบความชํารุดบกพรองของงานจางเมื่อเดือน
ตุลาคม 2527 วันที่ 28 ธันวาคม 2527 และวันท่ี 28 มีนาคม 2528 ตามลาํ ดับดังนี้อายุความฟองรองให ผรู บั จางรับผิดในความชํารุดบกพรอ งจะเรม่ิ นบั เม่ือใด กรมอัยการพิจารณาแลวเหน็ วา 1. การฟองผูรับจางใหรับผิดในความชํารุดบกพรองจะตองดําเนินการภายในกําหนด 1 ปนับ แตวันท่ีการชํารุดบกพรองไดปรากฏข้ึน หากมีการตรวจพบความชํารุดบกพรองหลายครั้ง และรายการ ความชํารุดบกพรองนั้นแตละครั้งแตกตางกัน ยอมนับอายุความตามแตละวันท่ีความชํารุดบกพรองได ปรากฏขน้ึ แตละครง้ั 2. ความชํารุดบกพรองท่ีปรากฏ สวนใหญเปนการปฏิบัติไมถูกตองตามรูปแบบที่กําหนดใน สัญญา ซึ่งแตละรายการท่ีผิดไปจากรูปแบบน้ัน อาจเพิ่งพบไดขณะเม่ือกองทัพอากาศรับมอบงาน - 153 - ตามสัญญา แตกองทัพอากาศไดรับงานทั้งหมดตามสัญญา โดยมิไดแจงใหผูรับจางทําการแกไขผูรับ จา งจงึ ไมตอ งรับผิดในความชาํ รดุ บกพรอ งนั้น ตามประมวลกฎหมายแพง และพาณชิ ยมาตรา 598 หมายเหตุ 1. ประมวลกฎหมายแพง และพาณิชยมาตรา 598 บญั ญัติวา “ถา ผวู า จา งยอมรบั การ ท่ีทํานั้นแลว ท้ังชํารุดบกพรองมิไดอิดเอื้อนโดยแสดงออกชัดหรือโดยปริยาย ผูรับจางไมตองรับผิด เวนแตความชํารุดบกพรองน้ัน เปนเชนจะไมพึงพบไดในขณะเม่ือรับมอบ หรือผูรับจางไดปดบังความ น้ันเสีย” บทบญั ญตั ิมาตรา 598 ใชบงั คบั กับการจา งทําของ ไมวาจะเปนการกอสรางอาคารและสิ่งปลูก สรา งอยา งอ่นื เชน สะพาน หรือถนน เปนตน สําหรับสัญญาซื้อขายประมวลกฎหมายแพงและพาณิชยมาตรา 473 บัญญัติวา “ผูขายไมตอง รบั ผดิ ในกรณีดงั กลาวตอ ไปนี้ (1) ถาผูซ้ือไดรูอยูแลวแตในเวลาซ้ือขายวามีความชํารุดบกพรอง หรือควรจะไดรูเชนน้ัน หากไดใชความระมดั ระวงั อนั จะพงึ คาดหมายไดแ ตวญิ ูชน (2) ถาความชํารุดนั้น เปนอันเห็นประจักษแลวในเวลาสงมอบ และผูซ้ือรับเอาทรัพยสินน้ันไว โดยมไิ ดอ ดิ เออื้ น (3) ถา ทรัพยส ินนนั้ ไดข ายทอดตลาด สรุปไดวาขณะรับมอบงานตามสัญญาจางหรือตรวจรับพัสดุ หากพบความชํารุดบกพรอง คณะกรรมการตรวจการจางหรือคณะกรรมการตรวจรับพัสดุ จะตองโตแยงและแจงใหผูรับจาง หรือ ผูขายทําการแกไขความชํารุดบกพรองเสียกอนทําการตรวจรับงานจางหรือสิ่งของ หากไมโตแยงถือวา
ส่ิงของหรืองานจางน้ันไมชํารุดบกพรอง และถูกตองตามสัญญาแลว ไมอาจนํามากลาวอางใหรับผิด ภายหลังได อน่ึงกระทรวงการคลัง ไดมีหนังสือ ที่ กค 0409.3 / ว 503 ลงวันที่ 19 ธันวาคม 2548 เร่ืองการ อนุญาตใหสวนราชการเก็บเงินไวใชจายเพื่อบูรณะทรัพยสิน แจงวารัฐมนตรีวาการกระทรวงการคลัง ไดพิจารณาอนุญาตเปนหลักการใหสวนราชการท่ีไดรับเงินในลักษณะคาชดใชความเสียหายหรือ สิ้นเปลืองแหงทรัพยสิน และจําเปนตองจายเพื่อบูรณะทรัพยสิน หรือจัดใหไดทรัพยสินคืนมา นําเงิน ท่ีไดร บั ดังกลาวไปใชจายเพ่ือบูรณะทรัพยสินหรือจัดใหไดทรัพยสินคืนมาไดโดยไมตองนําสงคลังเปน รายไดแ ผน ดิน ดังนี้ 1. เปนเงินคาทดแทนที่ไดรับตามกฎหมายวาดวยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย ภายใน วงเงินครงั้ ละไมเกิน 10 ลานบาท - 154 - 2. เปนเงินที่ไดจากการไดจากการริบหลักประกันสัญญา กรณีที่คูสัญญาปฏิบัติผิด สญั ญา หรอื ไมปฏิบตั ิตามสญั ญาภายในวงเงนิ ครง้ั ละไมเ กิน 1,000,000 บาท 3. เปนเงินที่ไดรับชดใชความเสียหาย หรือส้ินเปลืองแหงทรัพยสินท่ีเกิดจากการ กระทําละเมดิ ภายในวงเงนิ ครัง้ ละไมเ กิน 1,000,000 บาท 4. เปนเงินบํารุง หรือเงินสมทบคานํ้าและคาไฟฟา ในอัตรารอยละ 50 ของเงินท่ีไดรับ จากการใหหนว ยงานภาครัฐใชสถานท่ี เอกสารหลกั ฐานประกอบการพจิ ารณากรณีเกดิ ความชํารดุ บกพรอ ง 1. ตนฉบับสัญญาซอื้ ขายหรือตนฉบบั สญั ญาจา ง 2. ตนฉบับหนังสือสัญญาคํ้าประกันของผูค้ําประกัน เชน หนังสือสัญญาคํ้าประกันของ ธนาคาร 3. ตนฉบับเอกสารการตรวจรับพัสดุของคณะกรรมการตรวจรับพัสดุ ตามสัญญาซ้ือขายที่เกิด การชํารุดบกพรอ ง 4. ตนฉบับเอกสารการตรวจรับของคณะกรรมการตรวจการจางตามสัญญาจาง กรณีอาคาร ส่งิ ปลูกสราง ตามสญั ญาจา งเกิดการชํารุดบกพรอง เฉพาะงวดงานกอสรา งที่เกดิ การชาํ รดุ บกพรอ ง 5. ตน ฉบับเอกสารการตรวจรบั ของคณะกรรมการตรวจการจา งตามสัญญาจางงวดสดุ ทา ย 6. ตนฉบบั บนั ทึกหรือเอกสารของผพู บเหน็ วา ความชํารดุ บกพรองไดปรากฏขนึ้ เม่อื วนั ใด
7. รายละเอยี ดความชํารุดบกพรองแตล ะรายการ 8. หลักฐานการประมาณราคาของผูมีอาชีพขายหรือรับจางในการแกไขความชํารุดบกพรอง วา ตอ งเสียคาใชจ า ยเปนเงนิ จาํ นวนเทาใด 9. คูฉบับหนังสือซึง่ สว นราชการแจง ใหผ ูขายรับจางดาํ เนนิ การแกไขความชํารดุ บกพรอง 10. หลักฐานท่ีผูขายหรอื ผูรับจา งไดร บั ทราบหนังสือบอกกลาวตามขอ 9 11. กรณีท่ีสวนราชการไดทําสัญญาจางผูรับจางรายอ่ืนใหแกไขความชํารุดบกพรองแทนผูขาย หรือผูรับจางตามสัญญาจางแลว สําเนาสัญญาจางของผูรับจางรายใหม และหลักฐานการอนุมัติการ เบิกจา ยคา จางดงั กลา ว - 155 - ท่ี นร 0202/ว 1 สํานักเลขาธกิ ารคณะรฐั มนตรี ทาํ เนยี บรฐั บาล กทม. 10300 3 มกราคม 2537 เร่ือง มาตรการปอ งกนั หรอื ลดโอกาสในการสมยอมกันในการเสนอราคา เรยี น ปลดั สาํ นกั นายกรฐั มนตรี สิ่งทีส่ งมาดวย สําเนาหนังสือสาํ นักนายกรฐั มนตรี ดวนมาก ที่ นร 1204/11843 ลงวันท่ี 20 ธันวาคม 2536 ดว ยสาํ นักงานปลดั สํานกั นายกรัฐมนตรีไดเสนอเร่ือง มาตรการปองกันหรือลดโอกาสใน การสมยอมกันในการเสนอราคา มาเพ่ือคณะรัฐมนตรีพิจารณา ความละเอียดปรากฏตามสําเนาหนังสือ ทไ่ี ดสงมาพรอ มน้ี คณะรฐั มนตรไี ดประชมุ ปรึกษาเม่อื วันที่ 28 ธนั วาคม 2536 ลงมติวา
1. เห็นชอบหลักเกณฑการคํานวณราคากลางในงานกอสรางของทางราชการตาม ที่คณะกรรมการควบคุมราคากลางเสนอ โดยใหใชหลักเกณฑนี้ตั้งแตวันท่ี 1 กุมภาพันธ 2537 เปน ตน ไป 2. เห็นชอบในหลักการของมาตรการปองกนั หรอื ลดโอกาสการสมยอมกันในการเสนอ ราคาที่สํานักงานตรวจเงินแผนดินเสนอ ท้ัง 8 มาตรการ โดยใหแกไขเพ่ิมเติมตามความเห็นของ คณะกรรมการกําหนดราคากลาง ทั้งน้ี ใหเริ่มปฏิบัติตั้งแตวันท่ี 1 กุมภาพันธ 2537 เปนตนไป สวนการ ประกวดราคา การสอบราคา หรือการจัดหาที่ไดดําเนินการไปกอนวันท่ี 1 กุมภาพันธ 2537 ก็ให ดําเนินการตอ ไปได /3. เพอื่ ใหเจตนารมณ… - 156 - 3. เพ่ือใหเจตนารมณท่ีตองการใหผูรับจางใชวัสดุท่ีมีคุณภาพ และใชแรงงานท่ีมีฝมือ โดยการกําหนดระยะเวลาที่ผูรับจางตองรับผิดชอบตอความชํารุดบกพรองเปนเวลา 2 ป ตามมาตรการ ที่ 3 บรรลุผล ใหสํานักงบประมาณและสวนราชการที่เก่ียวของรวมมือกันกํากับดูแล ติดตาม ใหมีการ ดําเนนิ การตามมาตรการดังกลา วอยางเครงครัด หากกรณมี ีการชํารดุ บกพรอ งเกิดขึ้นกอนครบระยะเวลา 2 ป ควรมกี ารพิจารณาหาตวั ผตู อ งรบั ผดิ ดว ย อนึ่ง หนวยงานผูมีหนาที่ตรวจสอบและผูมีอํานาจในการอนุมัติควรพิจารณาดวยวา งานกอ สรา งของทางราชการใด ซ่ึงโดยสภาพและวัตถุประสงคควรมีความคงทนเกินกวา 2 ป อันจะทํา ใหสามารถปฏิบัติตามมาตรการดังกลาวขางตนได แตผูออกแบบหลีกเล่ียง โดยออกแบบในลักษณะท่ี ทําใหสภาพหรืองานกอสรางน้ันเปล่ียนเปนงานกอสรางท่ีโดยสภาพไมสามารถประกันความชํารุด บกพรองได 2 ป ก็ไมควรอนุมัติแบบหรืออนุมัติใหดําเนินการกอสราง ทั้งน้ี เพ่ือเปนการประหยัด งบประมาณท่ีจะตอ งใชในการกอสรางกอนเวลาอนั สมควร 4. เห็นชอบมาตรการเพื่อปองกันสาเหตุตาง ๆ ท่ีจะทําใหอาคารของทางราชการ ไมม่นั คงแข็งแรงตามหลกั วิชาการ ทัง้ 3 ประการ ที่คณะกรรมการควบคุมราคากลางเสนอ จงึ เรยี นมาเพ่อื โปรดทราบ
ขอแสดงความนับถอื (นายวิษณุ เครืองาม) เลขาธิการคณะรฐั มนตรี กองการประชมุ คณะรฐั มนตรี โทร. 2800391 โทรสาร 2826355 - 157 - การคืนหลักประกันสญั ญาซื้อขายและสญั ญาจาง หลักประกนั สัญญาซอื้ ขาย สญั ญาจา ง สัญญาจางขอ 3 ขอ 3. หลกั ประกนั การปฏิบัติตามสัญญา ในขณะทําสญั ญานี้ ผรู ับจางไดนาํ หลกั ประกนั เปน ................................................. ............................................................................................................................................... เปนจาํ นวนเงนิ ......................................บาท (........................................................................) มามอบใหแ กผวู า จาง เพ่อื เปน หลักประกันการปฏิบัติตามสญั ญาน้ี หลักประกันท่ีผูรับจางนํามอบไวตามวรรคหนึ่ง ผูวาจางจะคืนใหเม่ือผูรับจางพนจาก ขอผูกพนั ตามสญั ญาน้แี ลว สัญญาซ้ือขายขอ 5 ขอ 8. หลกั ประกนั การปฏบิ ตั ติ ามสญั ญา ในขณะทําสัญญานี้ ผขู ายไดนาํ หลักประกันเปน....................................................... เปน จํานวนเงนิ .................................บาท (...............................................................................)
ซ่ึงเทากับรอยละ...................(...........%) ของราคาทั้งหมดตามสัญญา มามอบใหแกผูซื้อเพ่ือเปน หลกั ประกนั การปฏบิ ตั ิตามสญั ญานี้ หลักประกันท่ีผูขายนํามามอบไวตามวรรคหน่ึง ผูซื้อจะคืนใหเม่ือผูขายพนจาก ขอผูกพันตามสัญญาน้ีแลว (สวนหลักประกันตามขอ 6.1 ผูซื้อจะคืนใหพรอมกับการจายเงินงวด สุดทายตามขอ 6.2) เม่ือผูขายสงมอบสิ่งของตามสัญญาซื้อขาย หรือสงมอบอาคารสิ่งปลูกสรางตามสัญญาจางแลว หนึ่งป ผูขายหรือผูรับเหมากอสรางจะขอรับเงินประกันสัญญาหรือตนฉบับหนังสือสัญญาคํ้าประกัน คืนไดหรอื ไม เม่อื ไร 1. สญั ญาซอ้ื ขาย สว นราชการจะคนื หลักประกันใหแ กผขู ายไดเมือ่ 1.1 ผูขายไดสงมอบสิ่งของตามสัญญาซื้อขายและไมปรากฏวาส่ิงของที่จัดซื้อเกิดการ ชาํ รุดบกพรองเพราะการใชง านตามปกติภายในกาํ หนดเวลาตามสัญญาซ้อื ขาย หรือ - 158 - 1.2 เกิดการชํารุดบกพรองภายในกําหนดเวลาตามสัญญาซ้ือขาย แตผูขายขายได จดั การแกไขส่ิงของทส่ี ง มอบใหอยูในสภาพใชงานไดต ามปกติ หรืออยใู นสภาพเรยี บรอยดีแลว หากผูขายไมจัดการแกไขส่ิงของตามสัญญาซ้ือขายใหอยูในสภาพใชงานไดดี ตามขอสัญญา ผูขายยอมตองรับผิดชดใชคาเสียหายตามขอสัญญา จึงยังไมอาจคืนหลักประกันใหแกผูขายได สวน ราชการยอมมีสิทธินําเงินประกันมาหักออกจากคาเสียหายสวนหนึ่งไดหรือมีสิทธิฟองผูขายและ ธนาคารผคู าํ้ ประกนั ใหร ับผดิ ชดใชคาเสยี หายตามหนงั สอื สัญญาคํา้ ประกันได 2. สัญญาจา ง หลักประกนั คนื ไดเมือ่ 1. ผูขายหรือผูรับจางผิดสัญญา และมีการชําระเงินที่ตองรับผิดตามสัญญาคํ้าประกัน เรียบรอ ยแลว 2. ผูขายหรือผูรับจางพนขอผกู พันตามสัญญาแลว (สัญญาจางขอ 3 ขอ 4 และขอ 6) (สญั ญาซอื้ ขายขอ 9 ขอ 10 และขอ 11)
- 159 - (สําเนา) ที่ นร (กวพ) 1002/ว 42 สํานักนายกรฐั มนตรี ทําเนยี บรัฐบาล กทม.10300 15 กนั ยายน 2532 เรอ่ื ง วธิ ีปฏบิ ัตเิ พมิ่ เตมิ เกย่ี วกบั การตรวจสอบความชาํ รุดบกพรองกอนการคนื หลกั ประกนั สญั ญา เรียน ปลัดกระทรวงศึกษาธกิ าร เน่ืองจากระเบียบสํานักนายกรัฐมนตรีวาดวยการพัสดุ พ.ศ. 2521 และที่แกไขเพิ่มเติม มไิ ดกาํ หนดวิธีการดําเนินการกอนการคืนหลักประกันสัญญาใหแกผูขายหรือผูรับจาง ทําใหเกิดปญหา ในทางปฏบิ ัติ คณะกรรมการวาดวยการพัสดุอาศัยอํานาจตามระเบียบสํานักนายกรัฐมนตรี วาดวย การพัสดุ พ.ศ. 2521 และท่ีแกไขเพ่ิมเติม ขอ 8 ตรี (5) จึงกําหนดแนวทางปฏิบัติ เรื่อง การดูแล
บํารุงรักษา และตรวจสอบความชํารุดบกพรองของพัสดุที่อยูในระหวางการรับประกันกอนการคืน หลักประกันสญั ญา ดังน้ี 1. ใหหัวหนาหนวยงานผูครอบครองพัสดุ หรือผูท่ีไดรับมอบหมายมีหนาที่ รับผิดชอบดแู ลบาํ รุงรกั ษาและตรวจสอบความชํารุดบกพรองของพัสดุ เวนแตกรณีท่ีไมมีผูครอบครอง หรือมีหลายหนวยงานครอบครอง ใหหัวหนาเจาหนาท่ีพัสดุมีหนาท่ีรับผิดชอบดูแลบํารุงรักษา และ ตรวจสอบความชํารดุ บกพรองของพัสดนุ ้ัน 2. ในกรณีท่ีปรากฏความชํารุดบกพรองของส่ิงของหรืองานจางภายในระยะเวลาของ การประกันความชํารุดบกพรองตามสัญญา ใหผูมีหนาท่ีรับผิดชอบตามขอ 1 รีบรายงานหัวหนาสวน ราชการเพื่อแจงใหผูขายหรือผูรับจางดําเนินการแกไขซอมแซมทันที พรอมกับแจงใหผูค้ําประกัน (ถา มี) ทราบดว ย /. กอนสน้ิ สุดระยะเวลา… - 160 - 3. กอนสิ้นสุดระยะเวลาของการประกันความชํารุดบกพรองภายใน 15 วัน สําหรับ หลักประกันสัญญาที่มีระยะเวลาของการประกันไมเกิน 6 เดือน หรือภายใน 30 วัน สําหรับ หลกั ประกันสัญญาท่มี รี ะยะเวลาของการประกันต้ังแต 6 เดือนขึ้นไป ใหผูมีหนาที่รับผิดชอบตรวจสอบ ความชํารุดบกพรองของพัสดุ และรายงานใหหัวหนาสวนราชการทราบอีกครั้งหนึ่งหากปรากฏวามี ความชํารุดบกพรอง ใหหัวหนาสวนราชการรีบแจงใหผูขายหรือผูรับจางมาดําเนินการแกไข หรือ ซอมแซมกอนส้ินสุดระยะเวลาของการประกันความชํารุดบกพรอง ตามหลักประกันสัญญา พรอมกับ แจง ใหผ ูคา้ํ ประกัน (ถาม)ี ทราบดวย ท้ังน้ี ใหเจาหนาที่พัสดุแจงกําหนดระยะเวลาการประกันความชํารุดบกพรอง ตามหลักประกันสัญญา ใหหัวหนาหนวยงานหรือหัวหนาเจาหนาท่ีพัสดุทราบพรอมกับการสงมอบ พสั ดทุ กุ ครัง้ จึงเรียนมาเพ่ือโปรดทราบ และแจงใหสวนราชการในสังกัดทราบและถือปฏิบัติ ตอไปดวย ขอแสดงความนับถอื
(ลงนาม) กมล สนธิเกษตรนิ (นายกมล สนธเิ กษตรนิ ) รองปลดั สาํ นักนายกรฐั มนตรี ปฏิบัตริ าชการแทน ปลดั สํานกั นายกรฐั มนตรี คณะกรรมการวาดว ยการพัสดุ ฝายเลขานุการ โทร. 2829412 - 161 - การเบิกจา ยเงนิ คา จางกอสรางและคา พสั ดุตามสัญญาจา ง กรณีตวั อยา ง สญั ญาจางปรับปรุงบทางระบายนํ้าระบุคางาน และการจายเงินโดยถือราคาเหมา รวมชนิดไมปรับราคาเปนเกณฑ เมื่อผูรับจางไดทําการกอสรางงานจางตามท่ีกําหนดไวในแบบแปลน แลว ผวู าจา งกต็ อ งจายเงนิ เตม็ จํานวนตามสัญญา แมจะปรากฏวาการกอสรางตามสภาพพื้นท่ีจริงความ ยาวของทอระบายน้ําจะสั้นกวาแบบแปลนก็ตาม ผูวาจางก็ไมอาจหักเงินคาจางสวนเนื้องานที่ลดลงได (ขอ หารือตามคาํ วนิ จิ ฉัยสํานักงานอยั การสูงสดุ ท่ี 44/2535) กรณีตัวอยาง การจางรายน้ีเปนการจางเหมา เม่ือผูรับจางสรางรั้วตามแนวเขตที่ระบุไวในผัง บริเวณแนบทายสัญญาถูกตองทุกประการแลว แมจะวัดความยาวของรั้วไดมากกวาหรือนอยกวา 885 เมตร ดังระบุไวในสัญญาจางก็ตาม ถือวาผูรับจางไดทํางานเสร็จตามสัญญา ผูวาจางตองจายเงินคาจาง เต็มตามสัญญา(ขอหารือตามคาํ วินจิ ฉยั สาํ นกั งานอยั การสงู สุด ที่ 119/2534) กรณตี ัวอยา ง สาํ นักนายกรัฐมนตรีทําสัญญาจาง หจก. ถ.ทําการกอสรางอาคารกําหนดการแบง การจายคาจางออกเปน 10 งวด งวดที่ 1 กําหนดวา ”งวดที่ 1 เปนจํานวนเงิน 800,000 บาทเม่ือผูรับจาง ไดปฏิบัติงานทําการถมดินปรับระดับแลวเสร็จ” ตอมาผูรับจางไดสงมอบงาน งวดท่ี 1 คณะกรรมการ
ตรวจการจางไดทําการตรวจรับงานแลวเห็นวางานงวดที่ 1 เสร็จเรียบรอยตามสัญญา แตเม่ือพิจารณา ปริมาณงานถมดินปรบั ระดับคิดเปนเงินไดเพียง 286,239 บาท ดังน้ีจะเบิกจายเงินคาจางใหแกผูรับจาง อยางไร สํานักงานอัยการสูงสุดพิจารณาแลวเห็นวาสัญญาจางดังกลาวเปนการจางเหมาท้ังคาจาง คา แรงงาน คาวัสดุ เคร่ืองมือ เครื่องใชอุปกรณตางๆและกําหนดจายเงินเปนงวดๆ ตามสัญญาขอ 4 และ ขอ 1 ซึง่ กําหนดอัตราท่แี นน อนถือราคาเหมารวม โดยมไิ ดกําหนดการจา ยคาจางตามปรมิ าณงานที่ตรวจ รับไดจริง ดังน้ี ผูวาจางตองจายคาจา งงวดท่ี 1 ใหแกผูรับจางเปนเงินจํานวน 800,000 บาท ตามสัญญา ขอ 4 (ขอ หารอื ตามคําวินิจฉัยสํานักงานอัยการสูงสดุ ท่ี 37/2538 และที่ 10/2538) การโอนสิทธิเรียกรองตามสัญญา การทาํ สัญญาซ้ือขายพสั ดุ ครภุ ณั ฑ หรอื สญั ญาจาง กอ สรา งอาคารสิ่งปลูกสราง โดยหลักสวน ราชการ มีหนาท่ีชําระราคาสิ่งของที่จัดซ้ือ หรือชําระเงินคาจางกอสรางใหแกบริษัทหางราน ซ่ึงเปน - 162 - ผูขายหรือผูรับจางโดยตรง แตบางกรณีผูขายหรือผูรับจางอาจโอนสิทธิเรียกรองการรับเงินราคาสินคา หรือคาจางกอสรางใหแกบุคคลนอกสัญญาเชน ธนาคาร นิติบคุ คลหรือบุคคลอ่ืนได ตามนัยมาตรา 306 แหงประมวลกฎหมายแพงและพาณิชย หากมีการโอนสิทธิเรียกรองเงินคา จางกอสรางหรือราคาสินคา ใหแกบุคคลภายนอกแลว สวนราชการมีหนาที่ชําระหนี้แกผูรับโอนสิทธิเรียกรองโดยตรง เชน กรมอาชีวศึกษา โดยนายเอก ผูอํานวยการวิทยาลัย ไดทําสัญญาจางหางหุนสวน จํากัด โท ทําการ กอสรางอาคาร 1 หลัง ราคางานจาง 2 ลานบาท ตอมาหางผูรับจางไดโอนสิทธิเรียกรองการรับเงิน คาจางกอสรางท้ังหมดใหแกธนาคารตรี เม่ือผูรับจางทํางานจางตามสัญญาแลว สถานศึกษามีหนาที่ ตองชําระเงินคาจางกอสรางที่ผูรับจางมีสิทธิไดรับจากทางราชการใหแกธนาคารตรี ผูรับโอนสิทธิ เรียกรอง เทา น้ันหากมีการชําระหน้ีใหแกผูรับจาง เปนการชําระหนี้แกบุคคลซ่ึงไมมีอํานาจรับชําระหน้ี ธนาคารตรยี งั มสี ิทธิเรยี กรองใหกรมอาชีวศึกษาชําระหน้ีแกธนาคารไดอีกครั้งหนึ่ง กรมไมอาจยกเรื่อง การชําระหน้ีใหแกหางผูรับจางมาปฏิเสธธนาคารตรีได เคยมีตัวอยางในสถานศึกษาบางแหง ไดชําระ เงินคาสินคาหรือคาจางใหแกผูขายหรือผูรับจางภายหลังการโอนสิทธิเรียกรองใหแกธนาคารหรือผูรับ โอนไปแลว ผูรับเงินไมนําเงินไปชําระแกธนาคารผูรับโอน สิทธิเรียกรองหรือรับเงินคาจางกอสราง งวดใดงวดหนงึ่ แลว หา งผูรับจางละท้งิ งานจา งโดยนาํ เงนิ คาจา งทรี่ ับแทนธนาคารหลบหนไี ป กอใหเกิด
ความเสียหายแกทางราชการ เปนเงินจํานวนมาก ซึ่งบุคคลผูมีหนา ท่ีเก่ียวของในการอนุมัติจายเงินแกผู ไมมีสิทธิรับเงิน อาจจะตองรับผิดชดใชคาเสียหายแกทางราชการ ตามท่ีกําหนดไวในระเบียบความ รับผิดชอบทางละเมิดของเจาหนาที่ อนึ่งการโอนสิทธิเรียกรอง จะมีผลสมบูรณซง่ึ สถานศึกษามีหนาท่ี ตองชําระเงินราคาสินคาหรือคาจางกอสรางใหแกธนาคารผูรับโอนไดตองประกอบดวยเอกสารท้ังสอง รายการดงั ตอ ไปนี้ 1. หนังสือสัญญาโอนสิทธิเรียกรองการรับเงินระหวางบริษัทหางราน ผูขายหรือผูรับจาง กบั ธนาคาร (ผรู ับโอนสิทธิเรียกรอ ง) 2. หนังสือที่หางรานผูขายหรือผูรับจาง บอกกลาวมายังสวนราชการวาไดโอนสิทธิเรียกรอง ตามสัญญาใหแกผูรับโอนแลว ควรตรวจสอบวาการโอนสิทธิเรียกรองวามีผลสมบูรณตามกฎหมาย หรือไมจากหลักฐานดงั น้ี - 163 - 1. หนังสอื สญั ญาโอนสิทธเิ รียกรอง 1.1 ผูมีอํานาจลงนามในสัญญาฝายผูโอนสิทธิเรียกรอง (ผูขาย, ผูรับจาง) และฝายผูรับ โอนสิทธิเรียกรอง เปนผูมีอํานาจลงนามในสัญญาโอนสิทธิเรียกรองแทนคูสัญญาหรือไม โดยตรวจสอบจากหลักฐานหนงั สือรบั รองการจดทะเบยี นเปนนติ บิ ุคคลของคูส ัญญาทง้ั สองฝาย 1.2 กรณีการมอบอํานาจใหลงนามในสัญญาโอนสิทธิเรียกรอง ผูมอบอํานาจจะตอง เปน ผูมีอาํ นาจลงนามในสัญญาโอนสิทธิเรยี กรอ งดว ยจงึ มอบอํานาจใหบ ุคคลอืน่ ลงนามแทนได 1.3 คูสัญญามีขอจํากัดอํานาจของบุคคลผูเปนกรรมการผูจัดการ ผูจัดการ หรือผูมี อํานาจกระทําการแทนไวเปนพิเศษอยางอ่ืนดวยหรือไม เชน ตองมีกรรมการลงลายมือชื่อสองคนจึงมี ผลผูกพัน บางกรณีกําหนดไววาใหประทับตราของบริษัท หางราน นิติบุคคล กํากัดลายมือช่ือของ บุคคลผูเปนกรรมการผูจัดการ ผูจัดการดวยจึงมีผลสมบูรณ โดยตรวจสอบอํานาจดังกลาวจาก หลักฐานการจดทะเบยี นเปน นิติบุคคล 1.4 สัญญาโอนสิทธิเรียกรองไดโอนเงินราคาสินคาหรือคาจางกอสรางทั้งหมด หรือ เพียงบางสวน งวดใดงวดหนึ่งหรือคาจางทุกงวด เงินที่มีการโอนสิทธิเรียกรองจํานวนเทาใดตอง กําหนดไวใ หช ดั เจน
1.5 การโอนสิทธิเรียกรองกรณีมีการแบงชําระหน้ีหลายงวด คงมีผลผูกพันเฉพาะงวด ท่ีสวนราชการ มีหนาท่ีตองชําระแกผูขายหรือผูรับจาง ภายหลังท่ีไดรับหนังสือบอกกลาวจากผูโอนวา ไดโ อนสทิ ธเิ รียกรอ งใหแ กผูรบั โอนสทิ ธิเรียกรองแลว เทานั้น 2. หนงั สอื บอกกลา วการโอนสทิ ธเิ รยี กรอ ง 2.1 หนังสือท่ีบริษัท หาง ราน (ผูขายหรือผูรับจาง) บอกกลาวมายังสถานศึกษาผูมี อํานาจลงนามในหนังสือดังกลาวตองเปนบุคคลท่ีมีอํานาจลงนามแทนบริษัท หางราน ตามที่กําหนด ไวใ นขอ 1.1 - 1.3 ดวย 2.2 แมหนังสอื บอกกลา วเรอ่ื งการโอนสทิ ธิจะกําหนดไววาใหกรมตอบแจง ไมขัดของ เร่ืองการโอนสิทธิเรียกรองก็ตาม แตสถานศึกษาไมตองดําเนินการตอบรับทราบเร่ืองการโอนสิทธิไป ยังผูโอนหรือผูรับโอนอีก ทั้งนี้กระทรวงการคลัง ไดมีหนังสือที่ กค 0502/47729 ลงวันที่ 20 พฤศจิกายน 2524 แจงเรื่อง วิธีปฏิบัติเก่ียวกับการโอนสิทธิเรียกรองในเงินคาซ้ือทรัพยสินและจางทํา ของวา ขอ 1 เมือ่ สวนราชการไดร ับหนงั สือบอกกลาวการโอนสิทธิเรียกรองในเงินคาซ้ือทรัพยสินหรือ - 164 - คาจางทําของ ใหสวนราชการสงสําเนาหนังสือบอกกลาวการโอนสิทธิการรับเงินคาซื้อทรัพยสินหรือ คาจางทําของดังกลาวใหกรมสรรพากรหรือสํานักงานสรรพากรจังหวัด แลวแตกรณีเพ่ือทราบ (สว นราชการไมตองแจง ความยินยอมในการโอนสทิ ธเิ รียกรอ งใหผ ูรับโอนทราบ) การโอนสทิ ธิเรียกรอง ผูโอนหรือผรู บั โอนคนใดคนหนึ่งจะเปนผูทาํ หนงั สือบอกกลาว แจงการ โอนสิทธไิ ปยังลกู หนี้ได (ขอ หารือตามคาํ วนิ ิจฉยั กรมอยั การที่ 17/2530) การโอนสิทธเิ รยี กรอ งตามสัญญาจา งและสัญญาซื้อขาย ตอ งมหี ลักฐาน 1. สญั ญาโอนสทิ ธิเรียกรอ งระหวา งผโู อน (ผขู ายหรือผรู บั จาง) และผรู ับโอนสิทธเิ รียกรอ ง 2. มหี นังสือบอกกลา วการโอนมายังหนวยงาน หรอื สวนราชการแลว การปฏิบัติ 1. ไมต องมีหนงั สอื ตอบรบั ทราบเร่อื งการโอนสทิ ธิเรียกรอ ง 2. ชําระราคาหรอื คา จางแกผ รู ับโอนสทิ ธหิ รือผูร บั มอบอาํ นาจ 3. ผูร บั โอนสทิ ธิตามสัญญาออกใบเสร็จรบั เงนิ
- กรณีผูโอนมีหนังสือบอกกลาวการโอนมายังสถานศึกษาวาไดโอนสิทธิเรียกรองแลว และ ผูรับโอนไดมีหนังสือแจงวาไดโอนสิทธิแลว การโอนสิทธิไมสมบูรณเพราะไมมีสัญญาการโอนสิทธิ (ตามขอ 1) กรณีตัวอยาง ธนาคารทหารไทย จํากัด ขอใหกรมอาชีวศึกษาจายเงินจํานวน 250,000 บาท ใหแกธนาคาร เน่ืองจากหางหุนสวนจํากัด บ. ไดโอนสิทธิเรียกรองจํานวนเงินนี้ใหแกธนาคารแลว แตธนาคารไมสามารถติดตามหางหุนสวนจํากัด บ. มารับเงินและออกใบเสร็จรับเงินใหแกกรม อาชวี ศึกษาได ธนาคารจะขอรับเงินและออกใบเสร็จรบั เงนิ ใหแกทางราชการไวแทนหางหุนสวนจํากัด บ. ไดหรือไม ในเมื่อปรากฏตามหนังสือของหางหุนสวนจํากัด บ. เร่ืองการโอนสิทธิเรียกรองระบวุ า “ในการนี้หางหุนสวนจํากัด บ. จะเปนผูออกใบเสร็จรับเงินจํานวนดังกลาวตามระเบียบปฏิบัติของทาง ราชการทกุ ประการ กรมอัยการพิจารณาแลวเห็นวา สิทธิเรียกรองของหางหุนสวนจํากัด บ. ไดโอนไปยังธนาคาร ทหารไทย จํากัด เม่ือธนาคารไดรับจํานวนเงินตามสิทธิเรียกรองท่ีไดรับโอนมา ก็ชอบที่ธนาคารจะได ออกใบเสร็จรับเงินใหกรมอาชีวศึกษาไวเปนหลักฐานตามประมวลรัษฎากรมาตรา 105 พ.ร.บ. แกไข - 165 - เพ่ิมเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ 18) พ.ศ. 2504 มาตรา 10 แตขอความในใบเสร็จรับเงินนั้นจะตอง ปรากฏเรื่องการรับโอนสิทธิเรียกรองรายนี้ไว โดยระบุเลขท่ี วัน เดือน ป ของหนังสือเก่ียวกับการโอน และยนิ ยอมการโอนใหปรากฏไวด ว ย (ขอหารอื ตามคาํ วินจิ ฉัยกรมอยั การท่ี 44/2518) โอนสทิ ธิเรียกรอ งแลว แตจ า ยเงนิ แกผูโอนสทิ ธิเรียกรอ งจะมีผลอยา งไร กรณีตัวอยาง กระทรวงสาธารณสุข ทําสัญญาซื้อขายครุภัณฑกับบริษัท ท. ตอมาธนาคาร ก. ไดมีหนังสือแจงวาบริษัท ท. ไดโอนสิทธิเรียกรองการรับเงินตามสัญญาท้ังหมดใหแกธนาคาร ก. แลว กระทรวงสาธารณสุขไดมีหนังสือแจงไมขัดของใหธนาคาร ก. ทราบแลวตอมากระทรวงสาธารณสุข ไดรับมอบส่ิงของตามสัญญาแลว แตไมไดจายเงินใหกับธนาคาร ก. ตามท่ีมีการแจงโอนสิทธิไว โดย จา ยเงนิ ใหก ับบริษทั ท. ดังน้ีธนาคาร ก. จะเรยี กใหกระทรวงสาธารณสขุ ชาํ ระหนีต้ ามสญั ญาไดห รอื ไม กรมอัยการพิจารณาแลวมีความเห็นวา เม่ือการโอนหน้ีสมบูรณแลว ธนาคารผูรับโอนยอมเขา มาเปนเจาหนี้แทนผูโอน (บริษัท ท.) การที่ลูกหนี้ (กระทรวงสาธารณสุข) ชําระหนี้ใหแกผูโอน ซึ่ง หมดอํานาจรบั ชาํ ระหนไ้ี ปโดยธนาคารมไิ ดใหส ัตยาบัน การชาํ ระหน้ีน้ัน ยอมไมสมบูรณ ลูกหนี้ยังตอง
รับผิดชําระหนี้ใหแกธนาคารผูรับโอน แตกระทรวงสาธารณสุขอาจเรียกเงินคืนจากผูโอนในฐานเปน ลาภมิควรไดภายในกําหนดอายุความ ธนาคารผูรับโอนมีสิทธิเรียกใหกระทรวงสาธารณสุขชําระหนี้ ตามสัญญาซ้ือขายได (ขอ หารอื ตามคําวนิ จิ ฉัยกรมอยั การท่ี 104/2522) กรณีตัวอยาง หางผูรับจางไดแจงการโอนสิทธิเรียกรองในการรับเงินคาจางกอสราง ตามสัญญาใหกับธนาคาร ก. เมื่อกระทรวงสาธารณสุข ลูกหน้ีไดรับทราบการโอนหนี้และคําบอก กลาวการโอนหน้ี ซึ่งไดทําเปนหนังสือแลว ผูรับโอนยอมเปนเจาหน้ีโดยสมบูรณ แมกระทรวง สาธารณสุขจะไมไดยินยอมในการโอนหนี้ดวยก็ตาม ก็ไมทําใหการโอนหนี้น้ันไมสมบูรณอยางใด กระทรวงสาธารณสุข ตองชําระคาจางแกธนาคาร ก. ผูรับโอนหนี้โดยตรงตามประมวลกฎหมายแพง และพาณิชยมาตรา 315 จะชําระหน้ีใหแกหางผูรับจางหาไดไม (ขอหารือตามคําวินิจฉัยกรมอัยการ ที่ 142/2522) - 166 - ปญ หาโอนสทิ ธเิ รยี กรองกันแลว ตอมาผโู อน และผูรบั โอนไดม หี นงั สอื แจงยกเลกิ การโอนสิทธิดังนี้ จะมี ผลอยางไร กรณตี วั อยาง กรมทางหลวงไดทําสัญญาจางบริษทั ห. ทําการปรับปรุงทางหลวงราคางานจาง 5 ลา นบาท ตอมาบริษัทผูรับจางไดมีหนงั สอื แจง วา ไดโ อนสทิ ธิคา งานตามสัญญาใหแกธนาคาร ก. แลว โดยสงสําเนาสัญญาโอนสิทธมิ าให ตอมาภายหลังผูรับจางและธนาคาร ก. ตางมีหนังสือขอยกเลิกการ โอนสิทธิเรียกรองมายังกรมทางหลวง จึงมีปญหาวาการแจงยกเลิกการโอนสิทธิเรียกรองของบริษัท ห. และธนาคาร ก. จะมีผลตามกฎหมายอยา งไร กรมอัยการพิจารณาแลวเห็นวา หนังสือแจงการยกเลิกการโอนสิทธิเรียกรองของบริษัท ห. และธนาคาร ก. ไมมีผลตามกฎหมายในอันที่จะทําใหสิทธิเรียกรองท่ีไดโอนกันไปโดยสมบูรณแลว กลับไปเปนของบริษัท ห. อีก เพราะการท่ีจะโอนสิทธิเรยี กรองดังกลาวโอนกลับไปเปนของบริษัท ห. อีกนัน้ จะตองทําเปนหนังสือกนั ใหม จึงจะมีผลสมบรู ณและตอ งแจงการโอนสิทธิเรียกรองดังกลาวให ลูกหนี้ทราบ จึงจะใชยันลูกหน้ีหรือบุคคลภายนอกได ตามนัยมาตรา 306 แหงประมวลกฎหมายแพง และพาณชิ ย
หมายเหตุ การโอนสิทธิเรียกรองจะมีผลสมบูรณเม่ือไดทําเปนสัญญาโอนสิทธิเรียกรอง ระหวางผูโอนสิทธิและผูรับโอนสิทธิ เม่ือผูรับจางไดทําสัญญาโอนสิทธิเรียกรองใหธนาคารแลว หากธนาคารจะยกเลิกการโอนสทิ ธิรบั เงนิ ใหแกผ รู บั จางตามเดมิ ก็ตอ งทําเปนสัญญาโอนสิทธิเรียกรอง ระหวา งธนาคาร ผูโอนสิทธิ กับบริษัทผูรับโอนสิทธิอีกคร้ังหนึ่ง การมีหนังสือยกเลิกการโอนสิทธิไม มีผลสมบูรณตามกฎหมาย กรณีตัวอยา ง ธนาคาร ก. ไดมีหนังสอื แจง กรมทางหลวงวา หางหุนสวนจํากัด อ. ไดโอนสิทธิ เรียกรองการรับเงนิ คาสินคาจากกรมทางหลวงตามสัญญาซ้ือขายใหธนาคาร ก. แลว ขอใหกรมทาง หลวงตอบยืนยันการรับโอนสิทธิเรียกรองดังกลาว แตปรากฏตามสัญญาโอนสิทธิเรียกรองวา หางฯ มีหนาท่ีแจงใหกรมทางหลวงรับทราบและยินยอมดวยเปนลายลักษณอักษร แตหางยังมิไดมีหนังสือ บอกกลาวมายงั กรมทางหลวง คงมีแตธ นาคาร ก. เปน ผูบอกกลาวเทานั้น คงมีปญหาวาการที่ธนาคาร ก. บอกกลาวการโอนสิทธิเรียกรองตามสัญญาซื้อขายมายังกรมทางหลวงจะมีผลสมบูรณตามกฎหมาย หรอื ไม - 167 - กรมอยั การพิจารณาแลว มีความเหน็ วา 1. ประมวลกฎหมายแพงและพาณิชยมาตรา 306 มิไดบัญญัติวาใครมีหนาที่ตองบอกกลาว การโอนสิทธิเรียกรอง ดังน้ันท้ังผูโอน ผูรับโอน ซ่ึงเปนคูกรณีในการโอน จึงยอมมีสิทธิบอกกลาว การโอนสิทธิเรียกรองไดตามนัยคําพิพากษาศาลฎีกาท่ี 5/2479 แมหนังสือโอนสิทธิเรียกรองระหวาง หางกับธนาคาร จะกําหนดใหหางผูโอนมีหนาท่ีแจงใหกรมทางหลวงรับทราบก็หาตัดสิทธิธนาคารฯ ผรู บั โอนท่ีจะบอกกลา วการโอนมายงั กรมทางหลวงไม เพราะธนาคารผูรบั โอนมไิ ดสละสทิ ธิน้นั 2. การบอกกลาวการโอน แมสาขาธนาคารจะเปนผูบอกกลาวก็ถือไดแลววา เปนการบอก กลาวโดยธนาคาร ผูรับโอน เพราะสาขาก็เปนสวนหน่ึงของธนาคารน้ัน (ขอหารือตามคําวินิจฉัยกรม อยั การ ท่ี 20/2521) คําพพิ ากษาศาลปกครองสงู สุดท่ี อ. ๔๒๑/๒๕๒
ผฟู อ งคดี ไดท าํ สญั ญาเลขที่ ๑๗/๒๕๔๕ จา งหา งหุนสวนจํากัด หาดใหญประมวลกิจ ทํางาน กอสรางอาคารสํานักงานของผูถูกฟองคดีท่ี ๔ จํานวน๔ช้ันเปนเงินท้ังสิ้นจํานวน ๕๖,๐๓๐,๐๐๐ บาท และ ผูถูกฟองคดีที่ ๔ ไดทําสัญญาเลขที่ ๙/๒๕๔๗ จางหางหุนสวนจํากัด หาดใหญประมวลกิจ ทํางาน ตกแตงภายในอาคารดังกลา วพรอ มจัดหาครภุ ณั ฑป ระจําหองตางๆ เปนเงิน ๑๓,๔๔๗,๙๐๙ บาท ตอมา หางหุนสวนจํากัด หาดใหญประมวลกิจ ไดทําสัญญาฉบับลงวันที่ ๒๓ พฤษภาคม ๒๕๔๕ โอนสิทธิ เรียกรองในการรับชําระหน้ีคาจางกอสรางอาคาร จํานวน ๕๖,๐๓๐,๐๐๐ บาท ใหแกผูฟองคดี และทํา สัญญาฉบับลงวันที่ ๒๔ ตุลาคม ๒๕๔๖ โอนสิทธิเรียกรองในการรับชําระหนี้คาจางตกแตงอาคาร จํานวน ๑๓,๔๔๗,๙๐๙ บาท ใหแกผูฟองคดี ตอมา ผูฟองคดีไดมีหนังสือลงวันที่ ๒๓ พฤษภาคม ๒๕๔๕ และลงวันท่ี ๒๔ ตุลาคม ๒๕๔๖ แจงการโอนสิทธิเรียกรองตามสัญญาท้ังสองฉบับดังกลาวใหผูถูก ฟองคดีท่ี ๔ ทราบ ซึ่งผูถูกฟองคดีที่ ๔ ไดมีหนังสือแจงผูฟองคดีวาไดรับทราบการโอนสิทธิเรียกรอง การรับเงินดังกลาวแลว หลังจากน้ัน หางหุนสวนจํากัด หาดใหญประมวลกิจ ไดดําเนินการกอสราง และตกแตงอาคารตามสัญญาท้ังสองฉบับ และผูถูกฟองคดีที่ ๔ ไดชําระเงินคาจางตามสัญญาใหแกผู ฟองคดีตลอดมา ตอมาหางหุนสวนจํากัด หาดใหญประมวลกิจ ไดมีหนังสือลงวันท่ี ๑๗ กุมภาพันธ ๒๕๔๗ แจงไปยังผูถูกฟองคดีท่ี ๔ วาขอยกเลิกสัญญาโอนสิทธิเรียกรองการชําระหนี้คาจางกอสราง อาคารตาม - 168 - สัญญาโอนสิทธิเรียกรองฉบับลงวันที่ ๒๓ พฤษภาคม ๒๕๔๕ โดยขอใหผูถูกฟองคดีท่ี ๔ ชําระหนี้ คาจางกอสรางอาคารสวนท่ีเหลือใหแกหางหุนสวนจํากัด หาดใหญประมวลกิจ ผูถูกฟองคดีท่ี ๔ ไดชําระเงินคาจางกอสรางอาคารต้ังแตงวดท่ี ๑๔ ถึงงวดที่ ๑๖ ใหแกหางหุนสวนจํากัด หาดใหญ ประมวลกิจ เปนเงินรวม ๑๖,๔๐๗,๕๙๙.๕๕ บาท นอกจากนั้น หางหุนสวนจํากัด หาดใหญประมวล กิจ ไดมีหนังสอื ลงวันที่ ๑๖ มีนาคม ๒๕๔๗ แจง ผูถ ูกฟองคดีที่ ๔ วาขอยกเลิกสัญญาโอนสิทธิเรียกรอง การชําระหน้คี าจา งตกแตง อาคารตามสญั ญาโอนสิทธิเรียกรองฉบับลงวันที่ ๒๔ ตุลาคม ๒๕๔๖ ที่มีอยู กับผูฟองคดี โดยขอใหผูถูกฟองคดีที่ ๔ ชําระหนี้คาจางตกแตงอาคารสวนที่เหลือใหแกหางหุนสวน จํากัด หาดใหญประมวลกิจ หลังจากนั้น ผูถูกฟองคดีที่ ๔ ไดชําระหนี้คาจางตกแตงอาคารสวนที่เหลือ ใหแกห างหุน สว นจํากัด หาดใหญป ระมวลกิจ เม่ือวนั ที่ ๕ เมษายน ๒๕๔๗ เปนเงิน ๒,๒๔๘,๓๒๖.๐๖ บาท และเม่ือวันท่ี ๑๒ พฤษภาคม ๒๕๔๗ เปนเงิน ๓,๗๓๐,๒๒๓.๗๓ บาท รวมเปนเงิน
๕,๙๗๘,๕๔๙.๗๙ บาท ผูฟองคดีเห็นวาการกระทําของผูถูกฟองคดีท้ังเจ็ดทําใหผูฟองคดีไดรับความ เดอื ดรอ นเสียหาย จงึ นําคดีมาฟองตอ ศาล ศาลปกครองสูงสุดพิจารณาแลวเห็นวา แบบพิธีการโอนหนี้อันจะพึงตองชําระแก เจาหน้ีคนหน่ึงโดยเฉพาะเจาะจงตามมาตรา ๓๐๖ วรรคหนึ่ง แหงประมวลกฎหมายแพงและพาณิชย บัญญัติวา การโอนหนี้อันจะพึงตองชําระแกเจาหนี้คนหน่ึงโดยเฉพาะเจาะจงนั้น ถาไมทําเปนหนังสือ ท า น ว า ไ ม ส ม บู ร ณ อ นึ่ ง ก า ร โ อ น ห น้ี น้ั น ท า น ว า จ ะ ย ก ข้ึ น เ ป น ข อ ต อ สู ลู ก ห น้ี หรือบุคคลภายนอกได แตเมื่อไดบอกกลาวการโอนไปยังลูกหนี้หรือลูกหนี้จะไดยินยอมดวย ใ น ก า ร โ อ น น้ั น คํ า บ อ ก ก ล า ว ห รื อ ค ว า ม ยิ น ย อ ม เ ช น ว า นี้ ท า น ว า ต อ ง ทํ า เ ป น ห นั ง สื อ จากบทบัญญัติดังกลาวเห็นไดวา ประมวลกฎหมายแพงและพาณิชย มาตรา ๓๐๖ บัญญัติ แตเพียงวา การโอนสิทธิเรียกรองตองทําเปนหนังสือจึงจะสมบูรณ และการโอนนั้นจะยกข้ึน เปนขอตอสูลูกหนี้หรือบุคคลภายนอกได แตเม่ือไดบอกกลาวการโอนไปยังลูกหน้ีหรือ ลู ก ห นี้ ยิ น ย อ ม ด ว ย ใ น ก า ร โ อ น น้ั น โ ด ย ไ ด ทํ า คํ า บ อ ก ก ล า ว ห รื อ ค ว า ม ยิ น ย อ ม เ ป น ห นั ง สื อ มไิ ดบญั ญัติวาหนังสือโอนสิทธิเรียกรองน้ันจะตองลงลายมือช่ือของผูโอนกับผูรับโอน ดังนั้น การโอน สิ ท ธิ เ รี ย ก ร อ ง ที่ ไ ด ทํ า เ ป น ห นั ง สื อ ล ง ล า ย มื อ ช่ื อ ผู โ อ น ฝ า ย เ ดี ย ว จึ ง เ ป น ก า ร ส ม บู ร ณ หาจําตองลงลายมือช่ือผูรับโอนดวยไม เม่ือขอเท็จจริงปรากฏวา หางหุนสวนจํากัด หาดใหญประมวล - 169 - กจิ ไดทาํ สญั ญาโอนสิทธเิ รียกรองในการรบั เงินตาม สัญญาเลขท่ี ๙/๒๕๔๗ แกผ ูฟ อ งคดี โดยมีหุนสวน ผจู ดั การของหางหุนสวนจาํ กดั เปน ผลู งลายมือชื่อและประทับตราของหางในฐานะผูโอน และผูฟองคดี ไดมหี นังสือลงวันเดียวกันแจงการโอนสิทธิเรียกรองในการรับเงินดังกลาวตอผูถูกฟองคดีท่ี ๕ เพื่อทราบ และขอใหมีหนังสือยืนยันรับทราบการโอนสิทธิเรียกรองดังกลาว ซ่ึงตอมาวันที่ ๔ พฤศจิกายน ๒๕๔๖ ผู ถูกฟองคดีที่ ๔ ไดมีหนังสือถึงผูฟองคดีแจงวาไดรับทราบการโอนสิทธิเรียกรองการรับเงินดังกลา ว ดังน้ัน การโอนสิทธิเรียกรองตามหนังสือสัญญาลงวันที่ ๒๔ ตุลาคม ๒๕๔๖ ใหแกผูฟองคดีจึงมีผลสมบูรณ และมีผลผูกพันหางหุนสวนจํากัด หาดใหญประมวลกิจ ผูถูกฟองคดีที่ ๔ และผูฟองคดี ตามมาตรา ๓๐๖ วรรคหนึ่ง แหงประมวลกฎหมายแพงและพาณิชย แลว กรณีไมจําตองพิจารณาวาผูฟองคดีใน ฐานะผูรับโอนจะลงลายมือช่ือครบถวนถูกตองตามหนังสือรับรองการจดทะเบียนบริษัทหรือไม และเมื่อ สิทธิเรียกรองของหางหุนสวนจํากัด หาดใหญประมวลกิจ ในการรับเงินคาจางจากผูถูกฟองคดีท่ี ๔ ตก
เปนของผูฟองคดีตั้งแตน้ันแลว หางดังกลาวยอมหมดสิทธิที่จะรับเงินคาจางดังกลาวอีกตอไป ท้ัง ภายหลงั จากนัน้ หางดังกลาวหามสี ิทธิท่ีจะเพิกถอนการโอนสิทธิเรียกรองดังกลาวไดไม ดังน้ัน หนังสือขอ ยกเลิกการโอนสิทธิเรียกรอง ลงวันท่ี ๑๖ มีนาคม ๒๕๔๗ ที่หางดังกลาวแจงใหผูถูกฟองคดีที่ ๔ จายเงิน คาจางในนามหางดังกลาวโดยมิไดรับความยินยอมจากผูฟองคดีนั้นจึงหามีผลแตอยางใดไม ท่ีผูถูกฟองคดีที่ ๔ อุทธรณวา หนังสือสัญญาโอนสิทธิเรียกรองดังกลาวผูฟองคดีลงลายมือชื่อไมครบ ตามหนังสือรับรองบริษัททําใหสัญญาดังกลาวไมสมบูรณและไมมีผลผูกพันผูถูกฟองคดีท่ี ๔ น้ัน จึงฟง ไมขึ้น เม่ือ การโอนสิทธิเรียกรองในการรับเงินคาจางระหวางหางหุนสวนจํากัด หาดใหญ ประมวลกิจ กับผูฟองคดี ไดมีการปฏิบัติตามหลักเกณฑในการโอนสิทธิเรียกรองตามมาตรา ๓๐๖ วรรคหน่ึง แหงประมวลกฎหมายแพงและพาณิชย โดยไดมีการทําหนังสือสัญญาโอนสิทธิเรียกรอง รวมท้ังไดบอกกลาวการโอนสิทธิเรียกรองดังกลาวเปนหนังสือไปยังผูถูกฟองคดีท่ี ๔ และผูถูกฟองคดีที่ ๔ ไดร ับทราบการโอนสิทธิเรียกรองดังกลาวแลว การโอนสิทธิเรียกรองจึงมีผลสมบูรณตามกฎหมาย การที่ผูถูก ฟองคดที ่ี ๔ ชาํ ระเงินคา จา งบางสวนใหแกหา งดังกลาวจงึ เปนการกระทาํ ผิดสัญญาโอนสิทธิเรียกรองจึง ตองรบั ผิดชดใชคาเสียหายใหแกผ ูฟ องคดี - 170 - คาํ พพิ ากษาศาลปกครองสงู สุดที่ อ. ๔๒๐/๒๕๕๒ หางหุนสวนจํากัด หาดใหญประมวลกิจ ไดทําสัญญารับจางทํางานกอสรางลานคา ชุมชนเพ่ือการเกษตรและการประมง กับผูถูกฟองคดีที่ ๖ ตามสัญญาเลขท่ี ๑/๒๕๔๖ ลงวันท่ี ๒๔ มีนาคม ๒๕๔๖ เปนเงินท้ังสิ้นจํานวน ๒๔,๕๐๐,๐๐๐ บาท กําหนดการจายเงินเปนงวดๆ จํานวน ๖ งวด และในวันเดียวกัน หางหุนสวนจํากัด หาดใหญประมวลกิจ ไดทําสัญญาโอนสิทธิเรียกรองในเงินคาจาง กอสรางตามสัญญาดังกลาวใหแกผูฟองคดี และผูฟองคดีไดแจงใหผูถูกฟองคดีท่ี ๖ ทราบตามหนังสือลง วันท่ี ๒๔ มีนาคม ๒๕๔๖ ตอ มา เม่อื หา งหุนสวนจาํ กัด หาดใหญป ระมวลกิจ ไดส งมอบงานงวดท่ี ๑ -๔ ใหแ กผถู กู ฟองคดีท่ี ๖ แลว ผูถูกฟองคดีที่ ๖ ไดชําระเงินใหแกผูฟองคดีโดย ผูฟองคดีไดมอบอํานาจให นางวันดี พูลศิริ ซ่ึงเปนหุนสวนผูจัดการของหางหุนสวนจํากัด หาดใหญประมวลกิจ เปนผูรับเงิน ทุก
ครั้ง ตอมา หางหุนสวนจํากัด หาดใหญประมวลกิจ ไดมีหนังสือ ลงวันที่ ๒๖ มีนาคม ๒๕๔๗ ถึงผูถูก ฟองคดีที่ ๖ ในนามผูถูกฟองคดีท่ี ๗ ขอยกเลิกการโอนสิทธิเรียกรองที่มีกับผูฟองคดี และใหผูถูกฟอง คดีท่ี ๖ จายเงินในนามหางหุนสวนจํากัด หาดใหญประมวลกิจ เนื่องจากผูฟองคดีซ่ึงเปนผูรับโอนสิทธิ เรียกรองไดผิดสัญญากับหางหุนสวนจํากัด หาดใหญประมวลกิจ ผูโอนสิทธิเรียกรอง ตอมา เมื่อหาง หุนสวนจํากัด หาดใหญประมวลกิจ ไดสงมอบงานงวดที่ ๕ และงวดท่ี ๖ แลว ผูถูกฟองคดีที่ ๖ ไดชําระ เงินงวดที่ ๕ จํานวน ๒,๔๕๐,๐๐๐ บาท เม่ือวันที่ ๒ เมษายน ๒๕๔๗ และชําระเงินงวดสุดทาย จํานวน ๔,๙๐๐,๐๐๐ บาท เม่ือวันท่ี ๒๖ พฤษภาคม ๒๕๔๗ใหแกหางหุนสวนจํากัด หาดใหญประมวลกิจ ผูฟอง คดีเห็นวา การที่ผูถูกฟองคดีท่ี ๖ ชําระเงินงวดที่ ๕ และงวดสุดทายใหแกหางหุนสวนจํากัด หาดใหญ ประมวลกิจ โดยมไิ ดส อบถามขอ เทจ็ จริงจากผฟู อ งคดีในฐานะผรู ับโอนสิทธิเรียกรองดังกลาวกอน เปน การฝาฝนระเบียบกระทรวงมหาดไทย วาดวยการรับเงิน การเบิกจายเงิน การฝากเงิน การเก็บรักษาเงิน และการตรวจเงินขององคกรปกครองสวนทองถิ่น พ.ศ. ๒๕๔๗ และหนังสือกระทรวงมหาดไทย เร่ือง วธิ ปี ฏบิ ัตใิ นการจายเงนิ กรณีโอนสิทธิเรียกรองทําใหผูฟองคดีไดรับความเดือดรอนเสียหาย จึงนําคดีมา ฟอ งตอ ศาล ศาลปกครองสูงสุดพิจารณาแลวเห็นวา แบบพิธีการโอนหน้ีอันจะพึงตองชําระแก เจาหน้ีคนหนึ่งโดยเฉพาะเจาะจงตามมาตรา ๓๐๖ วรรคหนึ่ง แหงประมวลกฎหมายแพงและพาณิชย บัญญตั ิแตเ พียงวา การโอนสทิ ธิเรยี กรองตอ งทาํ เปนหนังสอื จงึ จะสมบรู ณ และการโอนน้ันจะยกข้ึนเปน ขอตอสูลูกหนี้หรือบุคคลภายนอกได แตเม่ือไดบอกกลาวการโอนไปยังลูกหน้ีหรือลูกหน้ียินยอมดวย - 171 - ในการโอนน้ัน โดยไดทําคําบอกกลาวหรือความยินยอมเปนหนังสือ มิไดบัญญัติวาหนังสือโอนสิทธิ เรียกรองน้ันจะตองลงลายมือชื่อของผูโอนกับผูรับโอน ดังน้ัน การโอนสิทธิเรียกรองท่ีไดทําเปน หนังสือลงลายมือช่ือผูโอนฝายเดียวจึงเปนการสมบูรณหาจําตองลงลายมือชื่อผูรับโอนดวยไม เมื่อ ขอเท็จจริงปรากฏวา หางหุนสวนจํากัด หาดใหญประมวลกิจไดทําสัญญาโอนสิทธิเรียกรองในการรับ เงินเปน หนังสือลงวันท่ี ๒๔ มีนาคม ๒๕๔๖ โอนสิทธเิ รยี กรอ งในเงนิ คาจา งตามสัญญาเลขที่ ๑/๒๕๔๖ ลงวันที่ ๒๔ มีนาคม ๒๕๔๖ แกผูฟองคดี เปนจํานวนเงิน ๒๔,๕๐๐,๐๐๐ บาท โดยมีนางวันดี พูลศิริ ซงึ่ เปนหนุ สวนผจู ดั การของหา งหุน สวนจาํ กัด หาดใหญป ระมวลกิจ เปนผูลงลายมือช่ือและประทับตรา ของหางในฐานะผูโอน ฝายผูฟองคดีมีนายพิชัย บุญสม ซ่ึงเปนกรรมการมีอํานาจลงลายมือชื่อแทนผูฟองคดี เปนผูลงลายมือชื่อเพียงคนเดียวและประทับตราของผูฟองคดีในฐานะผูรับโอนและผูฟองคดีไดมีหนังสือแจง การโอนสิทธิเรียกรองในการรับเงินดังกลาวตอผูถูกฟองคดีที่ ๖ เพื่อทราบและขอใหมีหนังสือยืนยันใน
การโอนสิทธเิ รียกรองดงั กลา ว ซึ่งเมือ่ ผูถกู ฟองคดีที่ ๖ ไดรบั หนังสือดังกลา วแลวในเวลาตอมาผูถูกฟอง คดที ่ี ๖ ก็ไดชาํ ระเงนิ ตามสัญญาในงวดที่ ๑ ถงึ งวดท่ี ๔ ใหแ กผูฟอ งคดตี ลอดมานั้น เห็นวา เมื่อการโอน สิทธิเรียกรองระหวางผูฟองคดีกับหางหุนสวนจํากัด หาดใหญประมวลกิจ ไดทําเปนหนังสือลงลายมือ ชื่อนางวนั ดี หนุ สว นผูจ ัดการของหา งดงั กลาวในฐานะผูโอนโดยถูกตองแลว ดังน้ัน การโอนสิทธิเรียกรอง ตามหนังสือสัญญา ลงวันที่ ๒๔ มีนาคม ๒๕๔๖ ใหแกผูฟองคดีจึงมีผลสมบูรณและมีผลผูกพันหาง หุนสวนจํากัด หาดใหญประมวลกิจ ผูถูกฟองคดีที่ ๖ และผูฟองคดีตามมาตรา ๓๐๖ วรรคหน่ึง แหง ประมวลกฎหมายแพงและพาณิชยแลว กรณีไมจําตองพิจารณาวาผูฟองคดีในฐานะผูรับโอนจะลง ลายมือช่ือครบถวนถูกตองหรือไม และเมื่อสิทธิเรียกรองของหางหุนสวนจํากัด หาดใหญประมวลกิจ ในการรับเงินคาจางกอสรางจากผูถูกฟองคดีที่ ๖ ตกเปนของผูฟองคดีต้ังแตน้ันแลว ห า ง ดั ง ก ล า ว ย อ ม ห ม ด สิ ท ธิ ท่ี จ ะ รั บ เ งิ น ค า จ า ง ดั ง ก ล า ว อี ก ต อ ไ ป ทั้ ง ภ า ย ห ลั ง จ า ก นั้ น หางดังกลาวหามีสิทธิท่ีจะเพิกถอนการโอนสิทธิเรียกรองดังกลาวไดไม ดังนั้น หนังสือขอยกเลิก การโอนสทิ ธเิ รียกรอง ลงวันที่ ๒๖ มีนาคม ๒๕๔๗ ที่หางดังกลาวแจงใหผูถูกฟองคดีที่ ๖ จายเงินคาจาง ในนามหางดังกลาวโดยมิไดรับความยินยอมจากผูฟองคดีน้ันจึงหามีผลแตอยางใดไม ท่ีผูถูกฟองคดีท่ี ๖ อุทธรณวา สัญญาโอนสิทธิเรียกรองดังกลาวผูฟองคดีลงลายมือชื่อไมครบตามหนังสือรับรองบริษัททํา ใหส ัญญาดังกลาวไมส มบูรณแ ละไมม ผี ลบังคบั นั้นจึงฟงไมข้นึ ดังนั้น เมื่อผูฟองคดีเปนผูมีสิทธิไดรับเงินคาจางกอสรางตามสัญญาโอนสิทธิเรียกรองทั้งหมด การที่ผูถูกฟองคดีที่ ๖ ชําระเงินคาจางกอสรางงวดที่ ๕ และงวดสุดทายใหแกหางดังกลาวจึงเปนการ - 172 - กระทําผิดสัญญาโอนสิทธิเรียกรองจึงตองรับผิดชดใชคาเสียหายใหแกผูฟองคดี การที่ศาลปกครองช้ันตน พิพากษาใหผูถูกฟองคดีท่ี ๖ ชําระเงินจํานวน ๗,๗๔๒,๖๗๑.๒๓ บาท และชําระดอกเบี้ยในอัตรารอยละ ๗.๕ ตอป ของตนเงินจํานวน ๗,๓๕๐,๐๐๐ บาท นับตั้งแตวันที่ ๓๐ มีนาคม ๒๕๔๘ ซ่ึงเปนวันถัดจาก วันฟอ งเปนตนไปจนกวา จะชาํ ระเสรจ็ แกผ ฟู อ งคดี การฟองคดีตามสัญญาซื้อขายและสัญญาจา ง การฟองคดีตามสัญญาซ้ือขายและสัญญาจางตามระเบียบสํานักนายกรัฐมนตรีวาดวยการพัสดุ พ.ศ.2535 และท่ีแกไขเพิ่มเติม เดิม การฟองคดีบังคับตามสัญญาเปนเร่ืองทางแพง ซ่ึงตองบังคับตาม ประมวลกฎหมายแพง และพาณิชย ตอ มาไดม กี ารประกาศใชพระราชบัญญัติ จัดตั้งศาลปกครองและวิธี
พิจารณาคดีปกครอง พ.ศ.2542 กฎหมายดังกลาวได บัญญัติคํานิยามคําวา สัญญาทางปกครอง ไววา หมายความรวมถึงสญั ญาทคี่ ูส ญั ญาอยา งนอ ยฝายใดฝายหนง่ึ เปน หนวยงานทางปกครอง หรือเปนบุคคล ซ่งึ กระทําการแทนรฐั และมลี กั ษณะเปนสัญญาสัมปทาน สัญญาที่ใหจ ดั ทาํ บรกิ ารสาธารณะ หรือจดั ให มสี ิง่ สาธารณปู โภค หรอื แสวงหาทรพั ยากรธรรมชาติ ที่ประชุมใหญตุลาการในศาลปกครองสูงสุด คร้ังท่ี 6/2544 เม่ือวันพุธท่ี 10 ตุลาคม 2544 ไดกําหนดคําอธิบายเกี่ยวกับสัญญาทางปกครองไววา “สัญญาใดจะเปนสัญญาทางปกครองตามท่ี บัญญัติไวในมาตรา 3 แหง พระราชบัญญัติจัดต้ังศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ.2542 ไดนน้ั ประการแรกคูสัญญาอยางนอยฝายใดฝายหนึ่งตองเปนหนวยงานทางปกครอง หรือเปนบุคคล ซ่งึ ไดรบั มอบหมายใหก ระทาํ การแทนรัฐ ประการที่สอง สัญญาน้ันมีลักษณะเปนสัญญาสัมปทาน สัญญาที่ใหจัดทําบริการสาธารณะ หรือจัดใหมีส่ิงสาธารณูปโภค หรือแสวงหาทรัพยากรธรรมชาติ หรือเปนสัญญาที่หนวยงานทาง ปกครอง หรือบุคคลซึ่งกระทําการแทนรัฐตกลงใหคูสัญญาอีกฝายหนึ่งเขาดําเนินการหรือเขารวม ดําเนินการบริการสาธารณะโดยตรงหรือเปนสัญญาที่มีขอกําหนดในสัญญาซ่ึงมีลักษณะพิเศษที่แสดง ถึงเอกสิทธ์ขิ องรฐั ทงั้ น้เี พื่อใหก ารใชอ ํานาจปกครองหรือการดาํ เนินการกิจการทางปกครองซึ่งก็คือการ บริการสาธารณะบรรลุผล ดังน้ันหากสัญญาใดเปนสัญญาที่หนวยงานทางปกครอง หรือบุคคลซึ่ง กระทําการแทนรัฐมุงผูกพันตนกับคูสัญญาอีกฝายหนึ่งดวยใจสมัครบนพ้ืนฐานแหงความเสมอภาค และมไิ ดม ลี ักษณะเชน ทีก่ ลาวมาแลวขางตน สญั ญานัน้ ยอ มเปน สัญญาทางแพง ” - 173 - คงมีปญหาวาสัญญาใดตามระเบียบสํานักนายกรัฐมนตรีวาดวยการพัสดุฯท่ีจัดเปนสัญญาทาง ปกครองตามกฎหมายดังกลาว และอยูในอํานาจการพิจารณาคดีของศาลปกครอง มีแนวคําวินิจฉัยของ ศาลปกครองไวดังน้ี 1. สัญญาซอื้ ขายทีเ่ ปน สญั ญาทางปกครอง สัญญาซ้ือขายและติดตั้งระบบคอมพิวเตอรและประมวลผลระหวางกระทรวงสาธารณสุขกับ เอกชน เปนการซื้อเครือ่ งมือสาํ คัญท่ีจาํ เปนตอ การจัดทําบรกิ ารสาธารณะดา นการแพทยใหบรรลุผลและ เปนประโยชนโดยตรงตอประชาชนท่ีมาขอใชบริการดานการแพทย (คําส่ังศาลปกครองสูงสุดท่ี 726/2547)
สัญญาซ้ือขายที่ดินเพื่อสรางถนนตามพระราชกฤษฎีกาเวนคืนเปนการใชอํานาจทางปกครอง บังคับซ้ือท่ีดินเพื่อใชในการกอสรางถนนเปนการจัดใหมีส่ิงสาธารณูปโภค (คําวินิจฉัยของ คณะกรรมการวินิจฉยั ช้ีขาดอํานาจหนาทรี่ ะหวา งศาลที่ 20/2547) สัญญาซ้ือขายเคร่ืองควบคุมความเร็วรอบและกําลังเคร่ืองยนตของรถจักรดีเซลไฟฟาของการ รถไฟแหงประเทศไทยเปนเคร่ืองมือหรืออุปกรณสําคัญท่ีจําเปนตอการจัดบริการสาธารณะดาน คมนาคมใหบรรลผุ ล (คาํ ส่ังศาลปกครองสงู สุดที่ 451/2550) สัญญาซื้อขายทไ่ี มเปน สัญญาทางปกครอง สัญญาซ้ือขายเคร่ืองคอมพิวเตอร และอุปกรณประมวลผล (คําสั่งศาลปกครองสูงสุด ที่ 132/2544) สัญญาซื้อขายผลิตภัณฑนมใหแกเด็กนักเรียน(คําวินิจฉัยของคณะกรรมการวินิจฉัยชี้ขาด อาํ นาจหนา ท่ีระหวา งศาลที่ 27/2549) สัญญาการจําหนายอาหาร และเคร่ืองด่ืมในสถานศึกษาของรัฐ(คําวินิจฉัยของ คณะกรรมการวนิ ิจฉัยชี้ขาดอาํ นาจหนาทรี่ ะหวา งศาลที่ 20/2546) สัญญาซ้ือขายเครื่องกําเนิดไฟฟาของโรงพยาบาล (คําสั่งศาลปกครองสูงสุด ท่ี 61/2545,94/2545 และ 101/2545) สญั ญาซ้ือขายเครอ่ื งบนั ทึกขอมลู ตรวจสวนหัวใจ (คาํ สัง่ ศาลปกครองสูงสดุ ที่ 82/2545) สัญญาซ้ือขายเครื่องสงวิทยุแฝงในแบตเตอร่ีโทรศัพทมือถือ (คําสั่งศาลปกครองสูงสุดท่ี 536/2545) สญั ญาซื้อขายนํา้ มันเชอื้ เพลิง (คาํ สงั่ ศาลปกครองสูงสุดที่ 67/2547) - 174 - สัญญาซื้อปุยของกองทนุ สงเคราะหก ารทําสวนยางเพือ่ นาํ ไปจา ยสงเคราะหใหแ กเ กษตร (คําวินจิ ฉยั ของคณะกรรมการวนิ จิ ฉัยชขี้ าดอาํ นาจหนา ทีร่ ะหวา งศาลที่ 17/2550) 2. สญั ญาจางทเ่ี ปนสญั ญาทางปกครอง สญั ญาจางใหวางทอประปา เปลี่ยนมาตรวัดน้ําใหราษฎรผูใชน้ําเปนสัญญาใหจัดทําบริการ สาธารณะ (คาํ ส่ังศาลปกครองสูงสดุ ที่ 199/2545) สัญญาจา งกอ สรางวางทอประธาน ทอจายน้ํา และงานที่เกี่ยวของในโครงการปรับปรุงถนน สรงประภา เปนสัญญาจัดใหม ีสงิ่ สาธารณปู โภค (คาํ ส่ังศาลปกครองสูงสดุ ท่ี 402/2546)
สัญญาจางเหมากอสรางปรับปรุงระบบประปาภายในและถนนลาดยาง มีลักษณะเปนการ จัดใหม สี ิ่งสาธารณูปโภค (คาํ สงั่ ศาลปกครองสูงสดุ ที่ 236/2547) สญั ญาจา งสรางเรือตรวจการณของกองทัพเรอื (คาํ สง่ั ศาลปกครองสงู สุดที่ 692/2546) สัญญาจางท่ีปรึกษาออกแบบและควบคุมงานกอสรางสาธารณูปโภค (คําวินิจฉัยของ คณะกรรมการวินิจฉัยชข้ี าดอํานาจหนาท่ีระหวา งศาลท่ี 47/2547) สัญญาจางกอสรางถนนคอนกรีตเสริมเหล็กเปนสัญญาใหมีส่ิงสาธารณูปโภค (คําส่ังศาล ปกครองสงู สุดที่ 697/2546) สัญญาจางปรับปรุงถนนเปนสัญญาใหมีส่ิงสาธารณูปโภค (คําสั่งศาลปกครองสูงสุด ท่ี 425/2546) สัญญาจางวาจางกอสรางผิวจราจร คันหินทางเทา วางทอระบายน้ํา บอพัก สะพานขาม คลอง (คาํ วินิจฉยั ของคณะกรรมการวนิ ิจฉยั ชี้ขาดอํานาจหนาท่ีระหวา งศาลที่ 13/2549) สัญญาจางกอสรางอาคารอนุรักษพลังงานตัวอยาง ของกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและ อนรุ กั ษพ ลังงาน(คาํ วินิจฉยั ของคณะกรรมการวนิ ิจฉัยช้ีขาดอาํ นาจหนา ท่รี ะหวา งศาลที่ 15/2550) สัญญาจางกอสรางอาคารอํานวยการ และอาคารฝกงาน ณ ศูนยการศึกษานอกโรงเรียน เปนสัญญาที่มีวัตถุประสงคเพ่ือการจัดทําบริการสาธารณะ (คําวินิจฉัยของคณะกรรมการวินิจฉัยช้ีขาด อํานาจหนา ทีร่ ะหวางศาลที่ 45/2547) สัญญาจางกอสรางอาคารเรียนและปฏิบัติการ และอาคารโรงฝกงานของวิทยาลัยการ อาชีพสอยดาวอันเปนสถานศึกษาของรัฐ เพ่ือใชในการศึกษาและฝกปฏิบัติในภาคการศึกษาของรัฐ - 175 - ซ่ึงการศึกษาเปนบริการสาธารณะของรัฐอยางหนึ่งของรัฐ อาคารสถานศึกษาของรัฐซึ่งเปนถาวรวัตถุ เปน องคป ระกอบและเครอ่ื งมอื สําคัญในการดาํ เนินบรกิ ารสาธารณะดงั กลา ว จึงเปนสิ่งสาธารณูปโภคท่ี ประชาชนเขา ใชประโยชนไ ดโ ดยตรง (คาํ สั่งศาลปกครองสงู สุดท่ี 62/2547) สัญญาจางกอสรางอาคารเรียนและปฏิบัติการของสถาบันเทคโนโลยีราชมงคล (คําสง่ั ศาลปกครองสงู สดุ ที่ 264/2547) สัญญาจางกอสรางตอเติมช้ันดาดฟาของสถาบันเทคโนโลยีราชมงคล (คําส่ัง ศาลปกครองสูงสุดท่ี 335/2547)
สัญญาจางกอสรางอาคารเรียนและส่ิงกอสรางตางๆ จํานวน 12 รายการของวิทยาลัยการ อาชีพหนองแค จังหวัดสระบุรี เปนสัญญาท่ีมอบหมายใหเอกชนเขาจัดทําบริการสาธารณะ เปนสญั ญาทางปกครอง (คาํ สัง่ ศาลปกครองสูงสุดที่ 493 /2551 ) สัญญาวาจางหางหุนสวนจํากัด เรือนทรัพย) กอสรางปรับปรุงอาคารโรงแรมเทศบาล (คลิฟโฮเต็ล) ที่ผูฟองคดี (เทศบาลตําบลนาสาร) เปนเจาของและเปนหนวยงานทางปกครองโดยสัญญา ดังกลาววาจางใหกอสรางปรับปรุงช้ันที่ ๒ ของอาคาร เพ่ือเปดเปนศูนยการเรียนรู(หองสมุดและศูนย คอมพิวเตอร) และศูนยฟตเนส (สถานที่ออกกําลังกาย) เพ่ือใหประชาชนท่ัวไปเขาใชบริการโดยไมเสีย คาใชจายใด ๆ อันเปนการจัดทําบริการสาธารณะตามอํานาจหนาท่ีของผูฟองคดีตาม พ.ร.บ. เทศบาล พ.ศ. ๒๔๙๖ แมขอ เท็จจริงจะปรากฏวา ช้ัน ๓ ของอาคารผูฟองคดียังคงใชในเชิงพาณิชย คือ เปด บริการใหเชาเปนหองพักอยูจํานวน ๑๘ หอง แตเมื่อสัญญาจางกอสรางปรับปรุงอาคารเปนสัญญาจาง เหมารวมในสัญญาฉบับเดียวกันท่ีไมอาจแบงออกเปนแตละสวนได จึงตองถือวาสัญญาจางกอสราง ปรับปรุงอาคารท้ังหมดเปนการจางเพ่ือจัดใหมีส่ิงสาธารณูปโภค อันเปนเคร่ืองมือในการจัดทําบริการ สาธารณะของผฟู อ งคดี และเปนสญั ญาทางปกครอง (คําสงั่ ศาลปกครองสูงสดุ ที่ ๔๙๔/๒๕๕๒) สัญญาจา งทีไ่ มเ ปนสัญญาทางปกครอง สัญญาจางท่ีปรึกษาออกแบบและควบคุมงานกอสรางอาคารเรียนภายในสนามกีฬาเฉลิม พระเกียรติฯ (คําสง่ั ศาลปกครองสงู สุดที่ 5/2545 และ 87/2545) สญั ญาจา งตดิ ต้ังปา ยโฆษณา (คาํ สง่ั ศาลปกครองสูงสดุ ที่ 11/2545) สัญญาจางตดิ ต้งั ปมุ สะทอนพืน้ ผวิ จราจร (คําสงั่ ศาลปกครองสงู สดุ ท่ี 252/2545) - 176 - สัญญาจางรักษาความปลอดภัยแกสถานที่และทรัพยสินของสวนราชการ (คําส่ังศาล ปกครองสูงสดุ ที่ 280/2550) สัญญาจางเหมาดูแลรักษาความปลอดภัยทรัพยสินของกรุงเทพมหานคร(คําวินิจฉัยของ คณะกรรมการวนิ ิจฉยั ชขี้ าดอํานาจหนาที่ระหวา งศาลท่ี 9/2550) สัญญาซื้อขายครุภัณฑ จํานวน ๖ รายการ ประกอบดวย ตูอเนกประสงคปรับเปนฉาก หนาเวทีได ตูเหล็กสองตอน แผงพารทิช่ัน ผามา นปรับแสง กระดานไวทบอรดพรอมรางดวงโคม และ
แผงติดแมเหล็ก ระหวางมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี กับผูฟองคดี สัญญาซ้ือขายครุภัณฑ ดงั กลาว จึงมิใชสัญญาทางปกครอง (คําสั่งศาลปกครองสงู สุดท่ี ๔๖๖/๒๕๕๒) สัญญาที่เทศบาลเมืองวาจางเอกชนใหกอสรางซุมเรือนไทยเพ่ือติดตั้งตามโรงเรียนในสังกัด การกอสรางซุมเรือนไทยเพ่ือติดต้ังตามโรงเรียนถือเปนหนาท่ีสวนหน่ึงของเทศบาลในการสงเสริม การศึกษาและสงเสริมการพัฒนาเด็กตามบทบัญญัติขางตนก็ตาม แตซุมเรือนไทยท่ีกอสรางเพื่อติดตั้ง ตามโรงเรียนนัน้ มใิ ชเปนอุปกรณสําคัญที่เทศบาลใชในการบริการสาธารณะ คงเปนเพียงเคร่ืองมือสวน หนึ่งในการใหบริการสาธารณะของเทศบาล สัญญาจางกอสรางซุมเรือนไทยขางตนจึงเปนเพียงสัญญา จัดหาพัสดุธรรมดาท่ีสนับสนุนการจัดทําบริการสาธารณะเทาน้ัน จึงเปนสัญญาทางแพง ไมใชสัญญา ทางปกครอง (คาํ สั่งศาลปกครองสูงสดุ ท่ี ๘๒/๒๕๕๑) 3.สญั ญาอื่นๆ สัญญาโอนสิทธิเรียกรองตามสัญญาทางปกครอง(คําวินิจฉัยของคณะกรรมการวินิจฉัย ชข้ี าดอํานาจหนาท่รี ะหวางศาลที่ 8/2548) คดีอนญุ าโตตุลาการสญั ญาทางปกครองอยใู นอาํ นาจศาลปกครอง อายคุ วามฟองคดตี ามสญั ญาซอื้ ขายและสญั ญาจาง 1. คดีพิพาทท่ีเก่ียวกับสัญญาทางปกครอง อยูในอํานาจการพิจารณาคดีของศาลปกครอง ตาม มาตรา 9(4) แหงพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ.2542 เดิมตองยื่น ฟองคดีภายในระยะเวลาหน่ึงป นับแตวันท่ีรูหรือควรรูเหตุแหงการฟองคดี ตามมาตรา 51 แหง พระราชบัญญัติจัดต้ังศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2542 ตอมาในป พ.ศ.2551 ไดมี การ - 177 - ประกาศใชพระราชจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง (ฉบับท่ี 5) พ.ศ. 2551 มีผลใชบังคับ ตั้งแตวันท่ี 28 กุมภาพันธ 2551 ใหยกเลิกความในมาตรา 51 เดิม และบัญญัติใหการฟองคดีพิพาท เกี่ยวกับสัญญาทางปกครอง ตองย่ืนฟองคดีภายในหาป นับแตวันท่ีรูหรือควรรูเหตุแหงการฟองคดี ดังน้ันการฟองใหรับผิดตามสัญญาซื้อขายหรือสัญญาจางท่ีเปนสัญญาทางปกครอง ตองยื่นฟองคดีตอ
ศาลปกครองบังคับใหรับผิดตามสัญญาภายในอายุความหาป นับแตวันที่รูหรือควรรูเหตุแหงการฟอง คดี คาํ ส่ังศาลปกครองสงู สดุ ท่ี ๘๓๔/๒๕๕๑ สัญญาจางกอ สรางอาคารเรียนระหวางสํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน กับผู ถูกฟองคดีท่ี ๑ มีคูสัญญาฝายผูฟองคดีเปนหนวยงานทางปกครองและมีวัตถุประสงคแหงสัญญาเพ่ือ กอสรางอาคารเรียนอันเปนการจัดใหมีขึ้นซึ่งส่ิงสาธารณูปโภคที่รัฐใชเปนเคร่ืองมือในการบริการ สาธารณะทางดานการศึกษาเพื่อประโยชนแกประชาชน สัญญาดังกลาวจึงมีลักษณะเปนสัญญาทาง ปกครอง เม่ือมีขอพิพาทเก่ียวกับสัญญาดังกลาวจึงเปนคดีพิพาทเก่ียวกับสัญญาทางปกครองซึ่งอยูใน อํานาจพจิ ารณาพิพากษาของศาลปกครองตามมาตรา ๙ วรรคหน่ึง (๔) แหง พระราชบัญญัตดิ ังกลา ว ระหวางท่ีศาลปกครองสูงสุดพิจารณาคดีนีไ้ ดมีการตรา พ.ร.บ. จัดตั้งศาลปกครองฯ (ฉบับที่ ๕) พ.ศ. ๒๕๕๑ ซึ่งมีผลใชบังคับต้ังแตวันที่ ๒๘ กุมภาพันธ ๒๕๕๑ บัญญัติใหการฟองคดีพิพาท เกี่ยวกับสัญญาทางปกครอง ตามมาตรา ๙ วรรคหน่ึง (๔) แหง พ.ร.บ. จัดต้ังศาลปกครองฯ ตองยื่นฟอง ภายในหาปนับแตวันท่ีรูหรือควรรูถึงเหตแุ หงการฟองคดี แตไมเกินสิบปนับแตวันที่มีเหตุแหงการฟอง คดี เม่ือผูฟองคดีมีหนังสือลงวันท่ี ๒๓ กรกฎาคม ๒๕๔๐ บอกเลิกสัญญาจางกับผูถูกฟองคดี จึงถือวา วันที่ผูฟองคดีมีหนังสือบอกเลิกสัญญาเปนวันท่ีผูฟองคดีรูหรือควรรูถึงเหตุแหงการฟองคดี เม่ือผูฟอง คดีนําคดีน้ีมาฟองตอศาลปกครองเมื่อวันที่ ๒๕ มิถุนายน ๒๕๕๐ จึงเปนการย่ืนฟองคดีที่พน กําหนดเวลาหา ปนับแตวันท่ีรูหรือควรรูถึงเหตุแหงการฟองคดีตามมาตรา ๕๑ แหง พ.ร.บ. จัดตั้งศาล ปกครองฯ ซงึ่ แกไ ขเพมิ่ เตมิ โดย พ.ร.บ. จดั ต้ังศาลปกครองฯ (ฉบบั ที่ ๕) พ.ศ.๒๕๕๑ สวนท่ีผูฟองคดีอางอายุความสิบปตามมาตรา ๑๙๓/๓๐ แหงประมวลกฎหมายแพงและ พาณชิ ย และอา งเหตหุ ากผูฟ องคดชี นะคดี เงินทไี่ ดรับชาํ ระหนจ้ี ากผถู กู ฟองคดีจะตกเปนรายไดแผนดิน คดีน้ีจึงเปนการฟองคดีเพ่ือประโยชนแกสวนรวมตามมาตรา ๕๒ วรรคสอง แหง พ.ร.บ.จัดตั้งศาล ปกครองฯ นั้น มาตรา ๑๙๓/๓๐ แหงประมวลกฎหมายแพงและพาณิชยเปนบทบัญญัติที่ใชบังคับกับคดี - 178 - แพง ในศาลยตุ ธิ รรม คดนี ้เี ปนคดพี พิ าทเกี่ยวกบั สัญญาทางปกครองท่ีอยูในอํานาจพิจารณาพิพากษาของ ศาลปกครองตามมาตรา ๙ วรรคหน่ึง (๔) แหง พ.ร.บ. จัดตั้งศาลปกครองฯ การฟองคดีนี้จึงถูกบังคับ ดวยกําหนดระยะเวลาการฟองคดีตามมาตรา ๕๑ แหงพระราชบัญญัติดังกลาว ซึ่งเปนบทบัญญัติแหง
กฎหมายเฉพาะที่ใชบังคบั แกกรณี และการท่ีผูฟองคดีจะนําเงินที่ไดร ับชําระหนี้จากผูถูกฟองคดีไปสง เปนรายไดของแผนดิน มิไดอยูในความหมายของคําวา “ประโยชนแกส วนรวม” ตามมาตรา ๓ แหง พ.ร.บ. จดั ตัง้ ศาลปกครองฯ ซง่ึ แกไ ขเพม่ิ เติมโดยมาตรา ๓ แหง พ.ร.บ. จัดตั้งศาลปกครองฯ (ฉบับที่ ๕) พ.ศ.๒๕๕๑ การฟองคดีนี้จึงไมเปนการฟองคดีเพ่ือประโยชนแกสวนรวม ตามมาตรา ๕๒ วรรคสอง แหง พ.ร.บ. จัดตง้ั ศาลปกครองฯ คําส่ังศาลปกครองสูงสุดที่ ๕๘/๒๕๕๒ ผูฟองคดีมีหนังสือเม่ือวันที่ ๑๒ พฤศจิกายน ๒๕๔๕ แจงบอกเลิกสัญญาตอ ผูถูกฟองคดี ท่ี ๑ ดงั น้ัน วันดังกลาวจึงเปนวันท่ีผูฟองคดีรูหรือควรรูถึงเหตุแหงการฟองคดีในการเรียกเงินคาจาง ลว งหนา ทต่ี อ งชดใชคืนจากผูถ กู ฟอ งคดีท่ี ๑ ผฟู องคดี จึงชอบที่จะใชสิทธิฟองคดีตอศาลใหผูถูกฟองคดี ท่ี ๑ และผูถูกฟองคดีที่ ๒ ในฐานะ ผูค้ําประกันการรับเงินคาจางลวงหนาใหรับผิดไดภายในหาปนับแต วันที่ผูฟองคดีบอกเลิกสัญญา การที่ผูฟองคดีนําคดีน้ีมาฟอ งตอศาลในวันที่ ๓๑ กรกฎาคม ๒๕๕๑ จึง เปนการฟองคดีเมื่อพนกาํ หนดเวลาหาปนับแตวันที่รูหรือควรรูถึงเหตุแหงการฟองคดี ตามมาตรา ๕๑ แหง พ.ร.บ.จัดต้ังศาลปกครองฯ ศาลจึงไมอาจรบั คาํ ฟอ งในสว นน้ีไวพิจารณาพิพากษาตอไปได สําหรับกรณีท่ีผูฟองคดีฟองเรียกรองคาใชจายที่เพิ่มข้ึนในการจางผูรับจางรายใหม นั้น เมื่อปรากฏวาผูฟองคดีไดทําสัญญาวาจางผูรับจางรายใหมใหทํางานแทนผูถูกฟองคดีท่ี ๑ เมื่อวันท่ี ๑๗ กันยายน ๒๕๔๖ ดังน้ัน วันดังกลาวจึงเปนวนั ท่ีผูฟองคดีรูหรือควรรูถึงเหตุแหงการฟองคดี การที่ผู ฟองคดียื่นฟองคดีนี้เมื่อวันท่ี ๓๑ กรกฎาคม ๒๕๕๑ จึงเปนการฟองคดีภายในกําหนดเวลาหาปนับแต วนั ทรี่ หู รอื ควรรถู ึงเหตุแหง การฟองคดตี ามมาตรา ๕๑ แหงพระราชบญั ญัติดังกลา ว ศาลจึงรับคาํ ฟองใน สวนน้ีไวพ จิ ารณา คําสัง่ ศาลปกครองสูงสุดท่ี ๔๕๐/๒๕๕๑ บริษัท ไปรษณยี ไ ทย จํากดั (ผูฟ อ งคด)ี ในขณะทมี่ ีสถานะเปนการสื่อสาร แหงประเทศไทยได ตรวจพบความชํารุดบกพรองของอาคารท่ีทําการไปรษณียซึ่งเปนอาคาร ที่ผูถูกฟองคดีเปนผูรับจางทํา - 179 - การกอสราง แตภายหลังจากท่ีผูฟองคดีมีหนังสือแจงใหผูถูกฟองคดีเขาดําเนินการแกไขความชํารุด บกพรองของอาคารดังกลาวแลว ผูถูกฟองคดีไมไดดําเนินการแกไขและไมยอมชําระคาใชจายท่ีผูฟอง คดีเสียไปในการวาจางบุคคลอื่นใหทําการซอมแซมอาคารแทน ผูถูกฟองคดีตามที่กําหนดไวในสัญญา
ผูฟองคดีจึงยื่นฟองคดีตอศาลจังหวัดเพื่อเรยี กใหผูถูกฟองคดีชําระเงินดังกลาว วันที่ผูฟองคดีรูหรือควร รูถึงเหตุแหงการฟองคดีในคดีพิพาทเกี่ยวกับการเรียกใหชดใชคาเสียหายอันเน่ืองมาจากการชํารุด บกพรองในงานท่ีจางตามสัญญาทางปกครอง ตองเร่ิมนับต้ังแตวันท่ีผูฟองคดีรูหรือควรรูถึงความชํารุด บกพรองหรืออยางชาในวันท่ีผูฟองคดีไดมีหนังสือแจงใหผูถูกฟองคดีดําเนินการซอมแซมอาคารท่ี ชาํ รุด ไมใ ชเ รมิ่ นบั ตง้ั แตวันทีผ่ ฟู อ งคดีลงนามในสัญญาจางผูรับจางรายอน่ื ใหซ อมแซมอาคารแทนผูถูก ฟอ งคดี หรือตง้ั แตว นั ทีศ่ าลจงั หวัดไดป ระทบั รบั ฟอง คําพพิ ากษาศาลปกครองสงู สุดที่ อ.๙๒/๒๕๕๒ กรมชลประทาน ไดทําสัญญาจางผูถูกฟองคดีที่ ๑ (บริษัท ต.) กอสรางงานขุดลอกหนองเชิง อวน ซ่ึงเปนหนองน้ําสาธารณะ สัญญาดังกลาวมีลักษณะเปนสัญญาทางปกครองตามมาตรา ๓ แหง พ.ร.บ. จัดตั้งศาลปกครองฯ ภายหลังจากที่ผูถูกฟองคดีที่ ๑ ไดสงมอบงานงวดสุดทายให ผูฟองคดี เจาหนาท่ีผูควบคุมงานของผูฟองคดีตรวจพบความชํารุดบกพรอง การทรุดตัวของคนั ดินของหนองน้ํา ในวันท่ี ๖ พฤษภาคม ๒๕๔๕ ผูฟองคดีจึงมีหนังสือลงวันที่ ๘ พฤษภาคม ๒๕๔๕ แจงใหผูถูกฟองคดี ที่ ๑ ทําการแกไขซอมแซมคันดินใหอยูในสภาพเรียบรอย แตผูถูกฟองคดีที่ ๑ เพิกเฉย ตอมาผูฟองคดี ไดมีหนังสือแจงใหผูถูกฟองคดีที่ ๑ ดําเนินการแกไขอีกสามคร้ัง แตผูถูกฟองคดีท่ี ๑ ก็ไมไดดําเนินการ เจาหนาท่ีของผูฟองคดีจึงไดคํานวณคาเสียหายที่จะตองซอมแซมเอง และรายงานความเสียหาย ตามลาํ ดับช้ัน โดยผฟู อ งคดไี ดรับทราบรายงานเม่ือวันท่ี ๒๕ กรกฎาคม ๒๕๔๖ และสั่งริบหลักประกัน แตย ังคงเหลือเงนิ ทผ่ี ูถกู ฟอ งคดีที่ ๑ ตองชาํ ระ จึงนําคดมี ายื่นฟองตอศาล กรณีเชนนี้วันที่ผูฟองคดีรูหรือ ควรรูถึงเหตุแหงการฟองคดีในคดีพิพาทเก่ียวกับความรับผิดในความชํารุดบกพรองในงานท่ีจาง ตาม สัญญาทางปกครองนั้น จะตองเริ่มนับแตวันที่เจาหนาท่ีผูมีอํานาจของผูฟองคดี รูถึงความชํารุด บกพรอ ง คือ วนั ท่ี ๘ พฤษภาคม ๒๕๔๕ ซ่งึ เปนวนั ทผี่ ูฟ องคดี มีหนังสือแจงใหผูถูกฟองคดีที่ ๑ ทําการ ซอมแซมคันดินที่ชํารุด ดังนั้น การที่ ผูฟองคดีนําคดีมาฟองในวันที่ ๒๙ เมษายน ๒๕๔๗ จึงเปนการ ฟองคดีเม่ือพนกําหนดระยะเวลา ตามมาตรา ๕๑ แหง พ.ร.บ. จัดต้ังศาลปกครองฯ อยางไรก็ตาม - 180 - ขณะคดีอยูในระหวางการพิจารณาพิพากษาของ ศาลปกครองสูงสุด ไดมีการตรา พ.ร.บ. จัดต้ังศาล ปกครองและวธิ ีพจิ ารณา คดปี กครอง (ฉบับท่ี ๕) พ.ศ. ๒๕๕๑ ขึ้นใชบ ังคบั ทําใหก ําหนดระยะเวลาการ ฟอ งคดพี ิพาทเกยี่ วกบั สัญญาทางปกครองตามมาตรา ๙ วรรคหนึ่ง (๔) แหง พ.ร.บ. จัดต้ังศาลปกครองฯ
ตองย่ืนฟองภายในหาปนับแตวันท่ีรูหรือควรรูถึงเหตุแหงการฟองคดี แตไมเกินสิบปนับแตวันท่ีมีเหตุ แหงการฟองคดี เมื่อขอเท็จจริงปรากฏวาผูฟองคดี รูหรือควรรูถึงเหตุแหงการฟองคดีพิพาทเกี่ยวกับ ความรับผิดในความชํารุดบกพรองในงานท่ีจางตามสัญญาเมื่อวันท่ี ๘ พฤษภาคม ๒๕๔๕ การท่ีผูฟอง คดีนําคดีมาฟองตอศาลเม่ือวันท่ี ๒๙ เมษายน ๒๕๔๗ จึงเปนการย่ืนฟองภายในกําหนดระยะเวลาการ ฟองคดีตามมาตรา ๕๑ แหง พ.ร.บ. จัดตั้งศาลปกครองฯ ซ่ึงแกไขเพิ่มเติม โดย พ.ร.บ. จัดตั้งศาล ปกครองและวิธพี ิจารณาคดปี กครอง (ฉบับที่ ๕ ) พ.ศ. ๒๕๕๑ คําพิพากษาศาลปกครองสงู สดุ ที่ อ. ๑๘๕/๒๕๕๒ สัญญาจาง ขอ ๔ กําหนดเรื่องคาจางและการจายเงินแบงออกเปน ๔ งวดงาน โดยงวดสุดทายผู ฟองคดี ตองทํางานใหแ ลว เสร็จภายในวันท่ี ๘ ตลุ าคม ๒๕๔๔ เมื่อผูฟอ งคดีไดท าํ การกอสรา งแลวเสร็จ จึงไดมีหนังสือลงวันที่ ๑๖ พฤศจิกายน ๒๕๔๔ ถึงประธานกรรมการตรวจการจาง ขอสงมอบงานงวด ที่หนึ่งถึงงวดสุดทายพรอมกัน ซ่ึงผูถูกฟองคดีไดรับหนังสือฉบับดังกลาวในวันเดียวกัน หลังจากนั้น ประธานกรรมการตรวจการจางมีคําส่งั ลงวนั ท่ี ๑๙ พฤศจิกายน ๒๕๔๔ ใหแจงคณะกรรมการตรวจการ จางและชางควบคุมงานตรวจรับในวันท่ี ๒๑ พฤศจิกายน ๒๕๔๔ เวลา ๑๔.๐๐ นาฬิกา และตอมา คณะกรรมการตรวจการจางไดทําการตรวจรับงานพรอมท้ังเห็นสมควรจายเงินคาจางเปนจํานวนเงิน ๒,๔๙๘,๗๓๙.๑๐ บาท ใหแกผูฟองคดี ตามใบตรวจรับการจางลงวันท่ี ๑๗ ธันวาคม ๒๕๔๔ เห็นวา แมคณะกรรมการตรวจการจางจะมิไดทาํ การตรวจรับงานท่ผี ูฟอ งคดสี งมอบภายใน ๓ วันทําการ นับแต วันที่ประธานกรรมการไดรับทราบการสงมอบงานก็ตาม แตเม่ือคณะกรรมการตรวจการจางไดทําการ ตรวจรับงานเปนที่ถูกตองตามหลักฐานใบตรวจรับการจางของผูถูกฟองคดีลงวันที่ ๑๗ ธันวาคม ๒๕๔๔ จึงตองถือวาผูฟองคดีสงมอบงานครบถวนตั้งแตวันที่ ๑๖ พฤศจิกายน ๒๕๔๔ ซ่ึงเปนวันท่ีผู ฟองคดีมีหนังสือสงมอบงานจางและผูถูกฟองคดีไดรับหนังสือดังกลาวในวันเดียวกันแลว กําหนด ระยะเวลา ๒ ป ที่ผูฟองคดีตองผูกพันรับผิดชอบในความชํารุดบกพรองของงานจางตามขอ ๖ ของ สัญญาจางดังกลาว จึงเร่ิมต้ังแตวันที่ ๑๗ พฤศจิกายน ๒๕๔๔ และครบกําหนดส้ินสุดในวันท่ี ๑๖ พฤศจิกายน ๒๕๔๖ - 181 - 2. คดพี ิพาททเี่ กี่ยวกับสัญญาทางแพง สําหรับคดีพพิ าทเกย่ี วกับสญั ญาซอื้ ขายหรือสัญญาจาง ทไี่ มเ ปนสัญญาทางปกครอง และเปนสัญญาทางแพง ตองย่นื ฟอ งคดตี อศาลยุติธรรมใหร บั ผดิ ตามสัญญา ภายในอายคุ วามตามประมวลกฎหมายแพงและพาณชิ ยด ังน้ี
(1.)การฟองผูขายใหรับผิดชําระคาปรับและคาเสียหายตามขอสัญญามีอายุความ 10 ป ตามประมวลกฎหมายแพงและพาณิชยมาตรา 193/30 ั อายุความน้ัน ถาประมวลกฎหมายนี้หรือ กฎหมายอื่นมไิ ดบ ัญญัตไิ วโดยเฉพาะใหม กี าํ หนดสิบป (2.) ผูขาย ฟองใหชําระราคาสินคามีกําหนดอายุความสองป ตามมาตรา 193/34 สิทธิเรียกรอง ดังตอไปนี้ใหมีกําหนดอายุความสองป(1) ผูประกอบการคาหรืออุตสาหกรรม ผูประกอบหัตถกรรม ผูประกอบศิลปอุตสาหกรรมหรือชางฝมือ เรียกเอาคาของที่ไดสงมอบ คาการงานท่ีไดทํา หรือคาดูแล กิจการของผอู นื่ รวมทัง้ เงนิ ท่ีไดออก ทดรองไป เวนแตเปนการทีไ่ ดท าํ เพือ่ กิจการของฝายลูกหน้ีน้ันเอง (3.) ผูซ้ือฟองผูขายใหรับผิดในความชํารุดบกพรองมีอายุความหน่ึงป ตามประมวลกฎหมาย แพงและพาณิชย ตามมาตรา 474 ในขอรับผิดเร่ืองความชาํ รุดบกพรองน้ัน ทานหามมิใหฟองคดีเม่ือ พนเวลาหน่ึงป นบั แตเวลาท่ไี ดพ บเหน็ ความชํารุดบกพรอ ง (4.) ผูวาจางฟองผูรับจางใหรับผิดในความชํารุดบกพรองมีอายุความหนึ่งป นับแตวันที่ความ ชาํ รดุ บกพรอ งไดป รากฏขน้ึ ตามประมวลกฎหมายแพงและพาณิชย ตามมาตรา 601
ภาคผนวก
- 183 - แบบสญั ญาซื้อขาย สญั ญาเลขท่ี............................................ สัญญาฉบับนที้ ําขน้ึ ณ .................................................................................................... ตาํ บล/แขวง......................................อําเภอ/เขต.............................จังหวัด.................................... เมอ่ื วนั ที่........เดอื น...........................พ.ศ..........ระหวา ง................................................................ โดย.............................................................................................................................................. .................................................................................................................................................... ซงึ่ ตอไปน้ีในสัญญาน้เี รียกวา “ผซู อ้ื ” ฝา ยหนึ่ง กบั ....................................................................... ซงึ่ จดทะเบยี นเปนนิติบคุ คล ณ .................................................................................................... มีสาํ นักงานใหญอ ยเู ลขท.่ี ..................ถนน..............................ตาํ บล/แขวง................................... อาํ เภอ/เขต............................................................จังหวดั ............................................................ โดย............................................................................................................................................. ................................................................................................................................................... ผูมอี าํ นาจลงนามผกู พนั นติ ิบุคคลปรากฏตามหนงั สือรบั รองของสํานกั งานทะเบียนหนุ สวนบริษทั .............................................................................................ลงวนั ท.ี่ ........................................... (และหนังสอื มอบอาํ นาจลงวนั ท่.ี .......................................) แนบทา ยสัญญาน้ี (ในกรณที ี่ผูขายเปน บคุ คลธรรมดาใหใ ชขอความวากับ.......................................................อยบู านเลขท่ี...................... ถนน..................................ตาํ บล/แขวง..........................................อําเภอ/เขต.............................. จงั หวัด...........................................................) ซึง่ ตอ ไปน้ีในสัญญาเรียกวา “ผขู าย” อีกฝา ยหน่ึง คสู ัญญาไดต กลงกันมขี อ ความดงั ตอ ไปน้ี ขอ 1. ขอตกลงซอ้ื ขาย ผซู อ้ื ตกลงซ้ือและผูขายตกลงขาย........................................................................ ................................................................................................................................................... จาํ นวน....................เปน ราคาทง้ั สน้ิ .......................บาท (...........................................................) ซ่งึ ไดรวมภาษมี ลู คาเพมิ่ จํานวน...............................................บาท ตลอดจนภาษอี ากรอ่นื ๆ และ คาใชจา ยท้ังปวงดว ยแลว
- 184 - ผูขายรับรองวาส่ิงของท่ีขายใหตามสัญญาน้ีเปนของแท ของใหม ไมเคยใชงาน มากอน ไมเปนของเกาเก็บ และมีคุณภาพและคุณสมบัติไมต่ํากวาท่ีกําหนดไวในเอกสารแนบทาย สัญญา ในกรณีท่ีเปนการซ้ือส่ิงของซึ่งจะตองมีการตรวจทดลอง ผูขายรับรองวา เมอ่ื ตรวจทดลองแลวตอ งมีคณุ ภาพและคุณสมบตั ไิ มตํ่ากวา ท่กี ําหนดไวด ว ย ขอ 2. เอกสารอันเปนสว นหนึง่ ของสญั ญา เอกสารแนบทายสญั ญาดังตอ ไปนีใ้ หถ อื เปน สวนหน่งึ ของสัญญาน้ี 2.1 ผนวก 1.............(รายการคณุ ลกั ษณะเฉพาะ) ............ จํานวน.............หนา 2.2 ผนวก 2.............(แคตตาล็อก) .................................. จาํ นวน.............หนา 2.3 ผนวก 3.............(รูปแบบ) ........................................ จํานวน.............หนา 2.4 ผนวก 4.............(ใบเสนอราคา) ................................ จํานวน.............หนา 2.5 ................................................................................................................ ความใดในเอกสารแนบทายสัญญา ท่ีขัดแยงกับขอความในสัญญาน้ีใหใช ขอ ความในสัญญานบี้ งั คบั และในกรณที เี่ อกสารแนบทา ยสัญญาขัดแยง กันเอง ผูขายจะตองปฏบิ ัติ ตามคําวินจิ ฉยั ของผูซ อื้ ขอ 3. การสงมอบ ผขู ายจะสงมอบสิ่งของทีซ่ ้ือขายตามสัญญาใหแ กผซู ้อื ณ ................................. .................................................... ภายในวันท่ี ........... เดอื น.............................. พ.ศ. ............ ใหถ ูกตองและครบถวนตามที่กําหนดไวใ นขอ 1 แหงสญั ญาน้ี พรอมทั้งหบี หอ หรือเครื่องรัด พนั ผกู โดยเรียบรอ ย การสงมอบสิง่ ของตามสัญญาน้ี ไมว า จะเปนการสง มอบเพยี งคร้ังเดียวหรอื สง มอบหลายคร้งั ผขู ายจะตองแจง กาํ หนดเวลาสงมอบแตล ะครัง้ โดยทาํ เปนหนงั สือนาํ ไปย่ืนตอ ผซู ือ้ ณ ................................................................................................................................... ในเวลาราชการ กอ นวันสง มอบไมน อ ยกวา .................................... วันทาํ การ ขอ 4. การใชเ รือไทย ถาสิ่งของที่จะตองสงมอบใหแกผูซื้อตามสัญญานี้ เปนส่ิงของท่ีผูขายจะตองสง หรือนําเขามาจากตางประเทศ และสิ่งของน้ันตองนําเขามาโดยทางเรือในเสนทางเดินเรือท่ีมีเรือ ไทยเดินอยู และสามารถใหบริการรับขนไดตามที่รัฐมนตรีวาการกระทรวงคมนาคมประกาศ
- 185 - กําหนด ผูขายตองจัดการใหสิ่งของดังกลาว บรรทุกโดยเรือไทยหรือเรือที่มีสิทธิเชนเดียวกับเรือ ไทยจากตางประเทศมายังประเทศไทย เวนแตจะไดรับอนุญาตจากสํานักงานคณะกรรมการ สงเสริมการพาณิชยนาวีกอนบรรทุกของน้ันลงเรืออ่ืนที่มิใชเรือไทย หรือเปนของที่ รฐั มนตรวี า การกระทรวงคมนาคม ประกาศยกเวนใหบรรทุกโดยเรืออื่นได ทั้งน้ีไมวาการสงหรือ ส่งั ซอ้ื ของดงั กลา วจากตา งประเทศจะเปน แบบ เอฟโอบี, ซีเอฟอาร, ซไี อเอฟ หรอื แบบอน่ื ใด ในการสงมอบส่ิงของตามสัญญาใหแกผูซ้ือ ถาสิ่งของนั้นเปนส่ิงของตาม วรรคหน่ึง ผูขายจะตองสงมอบใบตราสง (BILL OF LADING) หรือสําเนาใบตราสงสําหรับ ของนน้ั ซึ่งแสดงวาไดบ รรทกุ มาโดยเรอื ไทยหรือเรือทม่ี สี ิทธเิ ชน เดียวกบั เรือไทยใหแกผูซ้อื พรอม กบั การสง มอบส่งิ ของดว ย ในกรณีท่ีสิ่งของดังกลาว ไมไดบรรทุกจากตางประเทศมายังประเทศไทย โดยเรือไทยหรือเรือที่มีสิทธิเชนเดียวกับเรือไทย ผูขายตองสงมอบหลักฐาน ซ่ึงแสดงวาไดรับ อนุญาตจากสํานักงานคณะกรรมการสงเสริมการพาณิชยนาวี ใหบรรทุกของโดยเรืออ่ืนได หรือ หลักฐานซึ่งแสดงวาไดชําระคาธรรมเนียมพิเศษ เน่ืองจากการไมบรรทุกของโดยเรือไทย ตามกฎหมายวาดวยการสง เสริมการพาณิชยนาวีแลวอยางใดอยา งหนง่ึ แกผซู ้อื ดวย ในกรณีที่ผูขายไมสงมอบหลักฐานอยางหนึ่งอยางใดดังกลาว ในสองวรรค ขางตนใหแกผูซื้อ แตจะขอสงมอบส่ิงของดังกลาวใหผูซื้อกอน โดยยังไมรับชําระเงินคาส่ิงของผู ซ้ือมีสิทธิรับสิ่งของดังกลาวไวกอนและชําระเงินคาส่ิงของ เมื่อผูขายไดปฏิบัติถูกตองครบถวน ดังกลาวแลวได ขอ 5. การตรวจรบั เมอ่ื ผซู ้อื ไดตรวจรบั สิง่ ของท่สี ง มอบ และเหน็ วา ถูกตอ งครบถว นตามสัญญาแลว ผูซ้ือจะออกหลักฐานการรับมอบไวให เพ่ือผูขายนํามาเปนหลักฐานประกอบการขอรับเงินคา ส่ิงของนน้ั ถาผลของการตรวจรับปรากฏวาสิ่งของที่ผูขายสงมอบไมตรงตามสัญญา ขอ 1 ผูซื้อทรงไวซ่ึงสิทธิท่ีจะไมรับสิ่งของน้ัน ในกรณีเชนวานั้น ผูขายตองรีบนําสงของน้ันกลับคืน โดยเร็วที่สุดเทาท่ีจะทําไดและนําสิ่งของมาสงมอบใหใหม หรือตองทําการแกไขใหถูกตอง ตามสัญญาดวยคาใชจายของผูขายเอง และระยะเวลาที่เสียไปเพราะเหตุดังกลาว ผูขายจะนํามาอาง เปนเหตขุ อขยายเวลาทําการตามสญั ญาหรือของดหรือลดคาปรบั ไมได
- 186 - ในกรณีท่ีผูขายสงมอบสิ่งของถูกตองแตไมครบจํานวนหรือสงมอบครบจํานวน แตไมถูกตองท้ังหมด ผูซ้ือจะตรวจรับเฉพาะสวนท่ีถูกตอง โดยออกหลักฐานการตรวจรับเฉพาะ สวนน้ันก็ได (ความในวรรคสามนี้ จะไมกําหนดไวในกรณีท่ีผูซื้อตองการส่ิงของท้ังหมดในคราว เดียวกันหรือการซ้ือสิ่งของท่ีประกอบเปนชุดหรือหนวย ถาขาดสวนประกอบอยางหนึ่งอยางใด ไปแลว จะไมสามารถใชงานไดโ ดยสมบรู ณ) ขอ 6. การชาํ ระเงิน (ผูซื้อตกลงชําระเงินคาส่ิงของตามขอ 1 ใหแกผูขาย ผูซ้ือไดรับมอบส่ิงของตาม ขอ 5 ไวไดค รบถวนแลว) (ผูซ้อื ตกลงชาํ ระเงินคา สง่ิ ของตามขอ 1 ใหแ กผขู ายดังน้ี) 6.1 เงนิ ลวงหนา จาํ นวน................................บาท (......................................... ..............................................) จะจายใหภ ายใน............วนั นบั แตว ันทาํ สัญญาน้ี ท้งั นี้โดยผูขาย จะตองนาํ หลกั ฐานประกันเงนิ ลว งหนาเปน .............(หนงั สือค้าํ ประกนั ของธนาคารภายในประเทศ หรอื พนั ธบตั รรัฐบาลไทย)..........เต็มตามจํานวนเงนิ ลวงหนา ท่ีจะไดรับมามอบใหแกผซู ื้อเปน หลกั ประกนั การชาํ ระคนื เงินลว งหนา กอนการชําระเงนิ ลวงหนานน้ั 6.2 เงนิ ที่เหลอื จํานวน.............................บาท (............................................. ............................................) จะจา ยใหเ ม่ือผซู ้ือไดร ับมอบสิง่ ของตามขอ 5 ไวโ ดยครบถวนแลว ขอ 7. การรบั ประกันความชาํ รดุ บกพรอ ง ผูขายยอมรับประกันความชํารุดบกพรอง หรือขัดของของส่ิงของตามสัญญาน้ี เปนเวลา.........ป ...........เดือน นับแตวันท่ีผูซ้ือไดรับมอบ โดยภายในกําหนดเวลาดังกลาว หากส่ิงของตามสัญญานี้เกิดชํารุดบกพรองหรือขัดของอันเน่ืองจากการใชงานตามปกติ ผูขาย จะตองจัดการซอมแซม หรือแกไขใหอยูในสภาพท่ีใชการไดดีดังเดิม ภายใน.............วัน นับแต วันทไี่ ดร บั แจง จากผูซ ื้อโดยไมค ิดคาใชจ า ยใด ๆ ทัง้ สิ้น ขอ 8. หลกั ประกันการปฏบิ ตั ิตามสัญญา ในขณะทาํ สญั ญาน้ี ผขู ายไดนําหลักประกนั เปน ................................................ เปนจํานวนเงิน.........................บาท (.......................................................................................) ซง่ึ เทา กับรอ ยละ.......................(.......%) ของราคาท้งั หมดตามสัญญา มามอบใหแกผซู ือ้ เพื่อเปน หลกั ประกนั การปฏบิ ตั ิตามสญั ญานี้
- 187 - หลักประกันท่ีผูขายนํามามอบไวตามวรรคหน่ึง ผูซื้อจะคืนใหเม่ือผูขายพนจาก ขอผูกพันตามสัญญานี้แลว (สวนหลักประกันตามขอ 6.1 ผูซื้อจะคืนใหพรอมกับการจายเงินงวด สุดทา ยตามขอ 6.2) ขอ 9. การบอกเลิกสญั ญา เมื่อครบกําหนดสงมอบสิ่งของตามสัญญาน้ีแลว ถาผูขายไมสงมอบสิ่งของ ที่ตกลงขายใหแกผูซ้ือ หรือสงมอบไมถูกตอง หรือไมครบจํานวน ผูซื้อมีสิทธิบอกเลิกสัญญา ทั้งหมดหรอื บางสว นได ในกรณีที่ผูซ้ือใชสิทธิบอกเลิกสัญญา ผูมีสิทธิริบหลักประกันหรือเรียกรองจาก ธนาคารผูออกหนังสือคํ้าประกันตามสัญญา (ขอ 6 และ) ขอ 8 เปนจํานวนเงินทั้งหมดหรือแค บางสวนก็ได แลวแตผูซ้ือจะเห็นสมควร และถาผูซื้อจัดซื้อสิ่งของจากบุคคลอ่ืน เต็มจํานวนหรือ เฉพาะจํานวนท่ีขาดสง แลวแตกรณี ภายในกําหนด............เดือน นับแตวันบอกเลิกสัญญา ผูขาย จะตองชดใชราคาทีเ่ พิม่ ข้ึนจากราคาทกี่ ําหนดไวใ นสญั ญานดี้ ว ย ขอ 10. คา ปรบั ในกรณีที่ผูซ้ือมิไดใชสิทธิบอกเลิกสัญญาตามสัญญาขอ 9 ผูขายจะตองชําระ คาปรับใหผูซ้ือเปนรายวันในอัตรารอยละ.............(..........%) ของราคาส่ิงของท่ียังไมไดรับมอบ นับแตวันถัดจากวันครบกําหนดตามสัญญา จนถึงวันที่ผูขายไดนําส่ิงของมาสงมอบใหแกผูซื้อ จนถกู ตองครบถว น การคิดคาปรับในกรณีสิ่งของที่ตกลงซื้อขายประกอบกันเปนชุด แตผูขายสงมอบ เพียงบางสวนหรือขาดสวนประกอบสวนหน่ึงสวนใดไป ทําใหไมสามารถใชการไดโดยสมบูรณ ใหถอื วายงั ไมไ ดส ง มอบสงิ่ ของนั้นเลย และใหคดิ คาปรบั จากราคาสิง่ ของเตม็ ทงั้ ชุด ในระหวางท่ีผูซ้ือยังมิไดใชสิทธิบอกเลิกสัญญาน้ัน หากผูซ้ือเห็นวาผูขายไมอาจ ปฏิบัติตามสัญญาตอไปได ผูซ้ือจะใชสิทธิบอกเลิกสัญญา และริบหลักประกันหรือเรียกรองจาก ธนาคารผูออกหนังสือค้ําประกันตามสัญญา (ขอ 6 และ)ขอ 8 กับเรียกรองใหชดใชราคาที่เพ่ิมขึ้น ตามทก่ี าํ หนดไวในสญั ญาขอ 9 วรรคสองกไ็ ด และถาผซู ้อื ไดแ จง ขอเรียกรองใหชําระคาปรับไป ยังผูขาย เม่ือครบกําหนดสงมอบแลว ผูซ้ือมีสิทธิท่ีจะปรับผูขายจนถึงวันบอกเลิกสัญญา ไดอีกดวย
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214