แผนพฒั นาการท่องเทีย่ วแห่งชาติ ฉบับท่ี 3 (พ.ศ. 2566 - 2570) คณะกรรมการนโยบายการทอ่ งเท่ียวแห่งชาติ
แผนพฒั นาการทอ่ งเท่ยี วแหง่ ชาติ ฉบับท่ี 3 (พ.ศ. 2566 – 2570) คำ� น�ำ การจัดท�ำแผนพัฒนาการท่องเที่ยวแห่งชาติ เปน็ ภารกจิ ของคณะกรรมการนโยบายการทอ่ งเทย่ี ว แห่งชาติ (ท.ท.ช.) ท่ีก�ำหนดไว้ในพระราชบัญญัติ นโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติ พ.ศ. 2551 และ ที่แก้ไขเพ่ิมเติม เพื่อก�ำหนดกรอบทิศทางในการ พฒั นาการทอ่ งเทย่ี วของไทยใหเ้ กดิ การพฒั นาอยา่ ง เป็นองค์รวม เพื่อเป็นเคร่ืองมือส�ำคัญในการ ขับเคล่ือนให้เกิดการบูรณาการการท�ำงานของ ทกุ ภาคสว่ นทเี่ กย่ี วขอ้ งในการผลกั ดนั ใหม้ กี ารบรหิ าร จัดการการท่องเท่ียว ซ่ึงท่ีผ่านมา ได้มีการจัดท�ำ แผนพัฒนาการท่องเที่ยวแห่งชาติ ฉบับที่ 1 (พ.ศ. 2555 – 2559) แผนพัฒนาการท่องเที่ยว แหง่ ชาติฉบับท่ี 2 (พ.ศ. 2560 – 2564) และแผน พฒั นาการท่องเทีย่ วแหง่ ชาติ (พ.ศ. 2564 – 2565) ดงั นน้ั เพอื่ ใหอ้ ตุ สาหกรรมการทอ่ งเทยี่ วมกี ารบรหิ าร จัดการและพัฒนาอย่างต่อเน่ือง จึงต้องจัดท�ำ แผนพัฒนาการท่องเท่ียวแห่งชาติ ฉบับที่ 3 (พ.ศ. 2566 – 2570) ขึ้น เพ่ือใช้เป็นกรอบการพัฒนา ในระยะ 5 ปีถัดไป 004
กระบวนการจัดท�ำแผนพัฒนาการท่องเท่ียว สาระสำ� คญั ของแผนพฒั นาการทอ่ งเทยี่ วแหง่ ชาติ แห่งชาติ ฉบับที่ 3 (พ.ศ. 2566 – 2570) ไดม้ ่งุ เนน้ ฉบบั ท่ี 3 (พ.ศ. 2566 – 2570) จะให้ความส�ำคญั กับ การมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน โดยเริ่มต้นต้ังแต่ การเตรียมความพร้อมต่อการเปลี่ยนแปลงและ การประเมินผลแผนพัฒนาการท่องเที่ยวแห่งชาติ ความเสี่ยงทุกรูปแบบ และพร้อมท่ีจะเติบโตอย่าง ฉบับท่ี 2 (พ.ศ. 2560 – 2564) การศกึ ษาสภาพ ย่งั ยนื ประกอบกับการสรา้ งความเขม้ แข็งจากภายใน แวดล้อมและบริบทการท่องเท่ียวภายในประเทศ มุ่งส่งเสริมการท่องเท่ียวภายในประเทศ พัฒนาการ และต่างประเทศ การทบทวนทิศทางการพัฒนา ท่องเที่ยวให้มีความทันสมัยผ่านการใช้เทคโนโลยี การท่องเที่ยวของประเทศต้นแบบรายส�ำคัญ ดิจิทัลและนวัตกรรม การยกระดับบุคลากรและ ก า ร ท บ ท ว น น โ ย บ า ย แ ล ะ แ ผ น ยุ ท ธ ศ า ส ต ร ์ ผู้ �ประกอบการในอุุตสาหกรรมท่่องเที่ �ยวให้้มีีคุุณภาพ ที่เกี่ยวข้องกับการท่องเท่ียว และการรับฟังและ เข้้าใจและสามารถปรัับตััวให้้เข้้ากัับบริิบทของ ระดมความคิดเห็นจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียใน การท่อ่ งเที่�ยววิถิ ีใี หม่่ (New Normal) โดยเฉพาะอย่า่ งยิ่�ง อุตสาหกรรมการทอ่ งเที่ยว ทง้ั ภาครฐั ภาคเอกชน การฟื้�้นตััวจากสถานการณ์์การแพร่่ระบาดของโรค ภาควชิ าการ และภาคประชาชน ผา่ นการสมั ภาษณ์ โควดิ – 19 ตลอดจนการใหค้ วามสำ� คญั กบั การบรู ณาการ เชิงลึก ผู้บริหาร ผู้ทรงคุณวุฒิ และผู้เชี่ยวชาญ ร่วมกันของทุกภาคส่วนท่ีเกี่ยวข้องทั้งในภาครัฐ ในอุตสาหกรรมการท่องเท่ียว การจัดประชุม ภาคเอกชน ภาคท้องถิ่น และภาคประชาชน โดยมี กลุ่มย่อยและการประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อรับฟัง คณะกรรมการนโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติ และ ความคดิ เหน็ ตอ่ รา่ งแผนฯ และการประชมุ เพอ่ื สรา้ ง เขตพัฒนาการท่องเท่ียวเป็นกลไกในการขับเคล่ือน ความรู้ความเข้าใจต่อแผนพัฒนาการท่องเท่ียว และพัฒนาการท่องเท่ียวของไทย เพ่ือให้สามารถใช้ แห่่งชาติิ ฉบัับที่่� 3 (พ.ศ. 2566 – 2570) เป็นกรอบการด�ำเนินงานในการพัฒนาการท่องเท่ียว สู่วสิ ยั ทศั นแ์ ละเปา้ หมายได้อย่างแท้จริง คณะกรรมการนโยบายการท่องเท่ยี วแห่งชาติ 005
แผนพฒั นาการท่องเทีย่ วแหง่ ชาติ ฉบบั ที่ 3 (พ.ศ. 2566 – 2570) สารบญั 012 บทสรุปผู้บรหิ าร 024 (Executive Summary) 030 สว่ นที่ 1 006 บทนำ� ส่วนที่ 2 สถานการณ์ แนวโน้ม และทิศทาง การพฒั นาการทอ่ งเทยี่ ว 1. สภาพแวดล้อมและบริบทการท่องเที่ยวของไทย และของโลก 2. ความสอดคล้องและเช่ือมโยงกับนโยบาย แผน และยทุ ธศาสตรร์ ะดับชาติ 3. ผลการด�ำเนินงานตามแผนพัฒนาการท่องเท่ียว แห่งชาติ ฉบบั ท่ี 2 (พ.ศ. 2560 – 2564) 4. ภมู ทิ ศั นข์ องอตุ สาหกรรมการทอ่ งเท่ยี วไทย
100 ส่วนที่ 3 แผนพฒั นาการท่องเท่ยี วแหง่ ชาติ ฉบบั ท่ี 3 (พ.ศ. 2566 - 2570) 1. วสิ ยั ทัศน์ 2. เป้าหมายของแผนพัฒนาการท่องเที่ยวแห่งชาติ ฉบบั ที่ 3 (พ.ศ. 2566 – 2570) 3. พันธกิจ 4. ตัวชีว้ ัดหลกั ระยะ 5 ปี (พ.ศ. 2566 – 2570) 5. ยทุ ธศาสตรก์ ารพฒั นา ยุทธศาสตร์ท่ี 1 เสริมสร้างความเข้มแข็งและภูมิคุ้มกัน ของอตุ สาหกรรมการทอ่ งเทยี่ วไทย (Resilient Tourism) ยุทธศาสตร์ที่ 2 พัฒนาปัจจัยพื้นฐานของอุตสาหกรรม การทอ่ งเท่ียวใหม้ ีคุณภาพสูง (Quality Tourism) ยุทธศาสตร์ที่ 3 ยกระดบั ประสบการณด์ ้านการท่องเทยี่ ว (Tourism Experience) ยุทธศาสตร์ที่ 4 ส่งเสริมการพัฒนาการท่องเที่ยว อย่างย่ังยืน (Sustainable Tourism) 6. ตัวอยา่ งโครงการภายใต้ยุทธศาสตร์ 6.1 ตัวอย่างโครงการภายใตย้ ุทธศาสตรท์ ี่ 1 เสริมสร้าง ความเข้มแข็งและภูมิคุ้มกันของอุตสาหกรรม การท่องเท่ยี วไทย (Resilient Tourism) 6.2 ตวั อยา่ งโครงการภายใตย้ ทุ ธศาสตรท์ ่ี 2 พฒั นาปจั จยั พื้ น ฐ า น ข อ ง อุ ต ส า ห ก ร ร ม ก า ร ท ่ อ ง เ ท่ี ย ว ใ ห ้ มี คุณภาพสงู (Quality Tourism) 6.3 ตัวอย่างโครงการภายใต้ยุทธศาสตร์ที่ 3 ยกระดับ ประสบการณ์ด้านการท่องเที่ยว (Tourism Experience) 6.4 ตัวอย่างโครงการภายใต้ยุทธศาสตร์ท่ี 4 ส่งเสริม การพัฒนาการท่องเท่ียวอย่างยั่งยืน (Sustainable Tourism) 007
แผนพัฒนาการทอ่ งเท่ยี วแห่งชาติ ฉบบั ท่ี 3 (พ.ศ. 2566 – 2570) 120 ส่วนที่ 4 133 การขบั เคลอื่ นแผนพฒั นาการทอ่ งเทยี่ ว สกู่ ารปฏบิ ตั แิ ละการตดิ ตามประเมนิ ผล 008 1. หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการขับเคล่ือนการพัฒนา การท่องเที่ยวของประเทศไทย ทั้งในระดับนโยบาย พืน้ ท่ี และชมุ ชน 2. กลไกการขับเคลื่อนแผนสู่การปฏิบัติ ภาคผนวก ภาคผนวก ก คําอธบิ ายตัวช้วี ัด ภาคผนวก ข คําอธิบายตัวชี้วัดหลักท่ี 3 จํานวนวันพักเฉล่ียและค่าใช้จ่าย โดยเฉลีย่ ของนกั ทอ่ งเท่ยี วชาวไทยและชาวต่างชาติ ภาคผนวก ค ตารางดััชนีี TTDI ของประเทศไทย ปีี 2564 ภาคผนวก ง อภธิ านศพั ท์
009
แผนพฒั นาการทอ่ งเท่ยี วแหง่ ชาติ ฉบับที่ 3 (พ.ศ. 2566 – 2570) สารบัญั รููปภาพ 017 รููปที่่� 0-1: กรอบการฟื้�้นฟููอุุตสาหกรรมการท่่องเที่�ยวไทยเพื่�ออนาคตที่่�ดีีกว่่า (Build Back Better Future Tourism) 034 035 รูปู ที่่� 2-1: การเติิบโตของผลิติ ภััณฑ์์มวลรวมด้า้ นการท่อ่ งเที่�ยวทั่�วโลก 036 รููปที่่� 2-2: ภาพรวมสถานการณ์ก์ ารท่่องเที่�ยวของโลกในปีี พ.ศ. 2562 037 รูปู ที่่� 2-3: อัันดัับประเทศที่�เป็็นจุุดหมายปลายทางของการท่่องเที่�ยวและสร้้างรายได้ส้ ูงู สุุด 041 รููปที่่� 2-4: ภาพรวมสถานการณ์์การท่่องเที่�ยวของโลกในปีี พ.ศ. 2562 042 รูปู ที่่� 2-5: สััดส่ว่ นรายได้้ด้้านการท่่องเที่�ยวของไทย 043 รูปู ที่่� 2-6: สถิิติกิ ารกระจายตัวั ของนัักท่อ่ งเที่�ยวภายในประเทศ 047 รููปที่่� 2-7: จํํานวนและรายได้้นัักท่อ่ งเที่�ยวต่า่ งชาติสิ ููงสุดุ 049 รููปที่่� 2-8: ห่ว่ งโซ่่คุณุ ค่า่ ของอุุตสาหกรรมการท่่องเที่�ยว 049 รููปที่่� 2-9: มูลู ค่า่ เพิ่�มของอุตุ สาหกรรมการท่อ่ งเที่�ยวและสัดั ส่ว่ นการใช้จ้ ่า่ ยต่อ่ มูลู ค่า่ ผลผลิติ ท่อ่ งเที่�ยว รููปที่่� 2-10: มูลู ค่า่ การลงทุนุ และสัดั ส่ว่ นมูลู ค่า่ การสะสมทุนุ ถาวรเพื่�อการท่อ่ งเที่�ยวต่อ่ มูลู ค่า่ การสะสม 050 052 ทุนุ ทั้�งหมด 053 รููปที่่� 2-11: การประเมินิ ส่่วนรั่�วไหลทางการท่อ่ งเที่�ยว 054 รูปู ที่่� 2-12: การจ้้างงานในอุุตสาหกรรมการท่อ่ งเที่�ยวประเทศไทย 055 รููปที่่� 2-13: ภาวะอุุปทานห้อ้ งพักั ล้้นเกิิน 1 057 รูปู ที่่� 2-14: ภาวะอุปุ ทานห้อ้ งพัักล้้นเกินิ 2 รูปู ที่่� 2-15: บัญั ชีีประชาชาติิด้า้ นการท่่องเที่�ยวที่�รวมต้้นทุุนด้้านสิ่�งแวดล้อ้ ม 063 รูปู ที่่� 2-16: อัันดัับขีีดความสามารถในการแข่่งขัันด้้านการเดิินทางและการท่่องเที่�ยว (TTCI) 070 ของประเทศไทย 073 รูปู ที่่� 2-17: แนวโน้้มการฟื้�้นตััวสถานการณ์์การท่่องเที่�ยวไทยจากสถานการณ์์การแพร่่ระบาดของ 077 084 โรคโควิดิ – 19 085 รููปที่่� 2-18: จํํานวนประชากรโลกแบ่ง่ ตามช่่วงอายุุ 095 รููปที่่� 2-19: รูปู แบบการตลาดที่�เปลี่�ยนแปลงไปตามโครงสร้้างประชากรที่�หลากหลาย รูปู ที่่� 2-20: อัตั ราการเติิบโตของการใช้จ้ ่่ายระหว่า่ งการท่อ่ งเที่�ยวเชิงิ ธุรุ กิิจทั่�วโลก 010 รูปู ที่่� 2-21: ตััวอย่า่ งการใช้้เทคโนโลยีีในการท่่องเที่�ยว รููปที่่� 2-22: สัดั ส่่วนบริิษััทในอุตุ สาหกรรมการขนส่่ง เดิินทาง และการท่่องเที่�ยวโลก รููปที่่� 2-23: ผลการดํําเนินิ งานรายยุุทธศาสตร์ข์ องแผนฉบับั ที่่� 2
097 รูปู ที่่� 2-24: ภููมิทิ ัศั น์์การพัฒั นาการท่่องเที่�ยวของประเทศไทย 1 098 รูปู ที่่� 2-25: ภูมู ิิทัศั น์์การพัฒั นาการท่่องเที่�ยวของประเทศไทย 2 104 รูปู ที่่� 3-1: การให้้คํํานิยิ ามของการท่อ่ งเที่�ยวเน้้นคุุณค่่าทั้�ง 3 มติิ�ิ 108 รููปที่่� 3-2: แผนพััฒนาการท่่องเที่�ยวแห่่งชาติิ ฉบับั ที่่� 3 (พ.ศ. 2566 – 2570) 123 รููปที่่� 4-1: หน่ว่ ยงานและบทบาทที่�เกี่�ยวข้อ้ งในการประสานแผนฯ สู่�การปฏิิบััติิ 127 รูปู ที่่� 4-2: แผนผัังความสััมพัันธ์์ระหว่่างหน่่วยงานที่่�มีีส่่วนในการขัับเคลื่�อนแผนพััฒนาการท่่องเที่�ยว แห่ง่ ชาติิ ฉบัับที่่� 3 131 รูปู ที่่� 4-3: กลไกการติิดตามและประเมิินผล สารบัญั ตาราง 044 ตารางที่่� 2-1: ประเทศที่่�มีจี ำำ�นวนนัักท่อ่ งเที่�ยวเดินิ ทางมาประเทศไทยมากที่่�สุุดในปีี พ.ศ. 2562 045 ตารางที่่� 2-2: ประเทศที่�สร้า้ งรายได้้ให้้ประเทศไทยสููงสุุดในปีี พ.ศ. 2562 064 ตารางที่่� 2-3: การคาดการณ์แ์ นวโน้้มการท่อ่ งเที่�ยวไทย กรณีีที่่�ดีีที่่�สุดุ (Best Case) 065 ตารางที่่� 2-4: การคาดการณ์์แนวโน้ม้ การท่อ่ งเที่�ยวไทย กรณีฐี าน (Base Case) 066 ตารางที่่� 2-5: การคาดการณ์แ์ นวโน้ม้ การท่่องเที่�ยวไทย กรณีเี ลวร้า้ ยที่่�สุดุ (Worst Case) 068 ตารางที่่� 2-6: ประเทศที่�สร้า้ งรายได้้ให้้ประเทศไทยสูงู สุดุ ปีี พ.ศ. 2562 068 ตารางที่่� 2-7: ประเทศที่่�นักั ท่อ่ งเที่�ยวเดินิ ทางมาประเทศไทยซ้ำำ��สูงู สุุด ปีี พ.ศ. 2562 069 ตารางที่่� 2-8: ระยะเวลาการฉีดี วัคั ซีนี ป้อ้ งกัันโรคโควิิด – 19 071 ตารางที่่� 2-9: พฤติกิ รรมการท่อ่ งเที่�ยวของประชากรในแต่ล่ ะช่ว่ งอายุุ 093 ตารางที่่� 2-10: ตารางแสดงตัวั ชี้้�วัดั หลักั ค่่าเป้้าหมาย และการประเมินิ ระยะครึ่�งแผนแรก 109 ตารางที่่� 3-1: ตัวั ชี้้�วััดรายยุทุ ธศาสตร์์ที่่� 1 112 ตารางที่่� 3-2: ตัวั ชี้้�วัดั รายยุทุ ธศาสตร์ท์ ี่่� 2 114 ตารางที่่� 3-3: ตััวชี้้�วััดรายยุุทธศาสตร์ท์ ี่่� 3 117 ตารางที่่� 3-4: ตัวั ชี้้�วััดรายยุุทธศาสตร์์ที่่� 4 011
แผนพฒั นาการทอ่ งเที่ยวแหง่ ชาติ ฉบบั ท่ี 3 (พ.ศ. 2566 – 2570) บทสรปุ ผูบ้ ริหาร Executive Summary 012
013
แผนพฒั นาการทอ่ งเทีย่ วแห่งชาติ ฉบับที่ 3 (พ.ศ. 2566 – 2570) บทสรปุ ผู้บรหิ าร Executive Summary อุตุ สาหกรรมการท่อ่ งเที่ย่� วไทยมีีบทบาทความสำ�ำ คัญั การบริิหารและพััฒนาการท่่องเที่่�ยวของประเทศไทย ต่อ่ ระบบเศรษฐกิจิ ของประเทศเป็น็ อย่า่ งมาก เนื่อ่� งจาก รวมทั้งจัดท�ำแผนพัฒนาการท่องเที่ยวแห่งชาติเสนอ อุุตสาหกรรมการท่่องเที่่�ยวก่่อให้้เกิิดประโยชน์์ทั้้�ง ต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาอนุมัติ ซึ่งผลการด�ำเนิน ทางตรงและทางอ้้อมต่่อเศรษฐกิิจ สัังคม สิ่่�งแวดล้้อม งานของแผนพัฒนาการท่องเที่ยวแห่งชาติ ฉบับที่ 2 และวััฒนธรรม โดยเฉพาะอย่่างยิ่�งเป็็นหนึ่�่งในแหล่่ง (พ.ศ. 2560 – 2564) ในระยะที่ผา่ นมาประสบความ รายไดส้ �ำคญั ที่น�ำมาซง่ึ เงนิ ตราตา่ งประเทศ กระแสเงนิ ตรา ส�ำเร็จในด้านการเพิ่มจ�ำนวนนักท่องเที่ยวและรายได้ ไหลเวีียนในประเทศ การสร้้างงาน และการกระจาย จากการท่องเที่ยว ประเทศไทยมีจ�ำนวนนักท่องเที่ยว ความเจริิญไปสู่่�ภููมิภิ าคต่า่ ง ๆ ของประเทศ อีีกทั้้ง� ยัังมีี มากเปน็ อนั ดบั ที่ 7 ของโลก โดยเฉพาะการขยายตวั ของ สว่ นส�ำคญั ที่ท�ำใหเ้ กดิ การพฒั นาระบบโครงสรา้ งพนื้ ฐาน นักท่องเที่ยวชาวไทยที่มีอัตราการขยายตัวอยู่ที่ร้อยละ ของการคมนาคมและขนส่ง่ รวมถึงึ การค้า้ และการลงทุนุ 3.92 ในปี พ.ศ. 2562 และสามารถสร้างรายได้จาก ที่่� ช่่ ว ย เ พิ่่� ม ก า ร ข ย า ย ตัั ว แ ล ะ เ ป็็ น ก ล ไ ก สำำ�คัั ญ ใ น นักท่องเที่ยวต่างชาติสูงถึงเกือบ 2 ล้านล้านบาท การขับั เคลื่อ่� นทางเศรษฐกิจิ ของประเทศไทย อ้า้ งอิงิ จาก ซึ่ง่� สููงเป็น็ อันั ดับั ที่่�4ของโลก อย่า่ งไรก็ต็ ามการดำ�ำ เนินิ งาน บัญั ชีีประชาชาติดิ ้า้ นการท่อ่ งเที่ย�่ ว (Tourism Satellite ตามแผนดัังกล่่าวยัังประสบอุุปสรรคและความท้้าทาย Account: TSA) ในปีี พ.ศ. 2562 อุุตสาหกรรม สำำ�คััญหลายประการ เมื่�่อประเมิินผลสำ�ำ เร็็จ การท่่องเที่่�ยวมีีผลิิตภััณฑ์์มวลรวมภายในประเทศด้้าน รายตััวชี้�วััด จะพบว่่ามีีตััวชี้�วััดที่่�มีีผลการดำำ�เนิินงานสููง การท่อ่ งเที่่ย� ว (Tourism Gross Domestic Product: กว่่าค่่าเป้า้ หมายเพีียง 1 ตัวั ชี้�วัดั จาก 10 ตััวชี้ว� ัดั หลััก TGDP) มากถึงึ 3,005,552 ล้า้ นบาท หรืือเท่า่ กับั สัดั ส่ว่ น โ ด ย ตัั ว ชี้� วัั ด ที่�่ มีี ผ ล ก า ร ดำ�ำ เ นิิ น ง า น ต่ำ�ำ� ก ว่่ า ค่่ า ร้้อยละ 17.79 ของผลิิตภััณฑ์์มวลรวมภายในประเทศ เป้้าหมายจำำ�นวน 8 ตััวชี้�วััด และมีีตััวชี้�วััดที่�่ยัังไม่่มีี (Gross Domestic Product: GDP) ดัังนั้้�น เพื่่�อให้้ การดำ�ำ เนิินงานจำำ�นวน 1 ตััวชี้�วััด โดยมีีข้้อสัังเกตว่่า อุุตสาหกรรมการท่่องเที่�่ยวมีีการพััฒนาและกระจาย แ น ว ท า ง ก า ร พัั ฒ น า ใ น แ ต่่ ล ะ ยุุ ท ธ ศ า ส ต ร์์ ยัั ง ข า ด ผลประโยชน์์ไปยังั ภาคส่่วนต่่าง ๆ ของประเทศได้อ้ ย่า่ ง ความเฉพาะเจาะจงประกอบกับั ความท้า้ ทายในการขับั เคลื่อ�่ น ต่่อเนื่่�องและกว้้างขวาง จึึงจำ�ำ เป็็นต้้องพััฒนาและจััดทำำ� แผนสู่่�การปฏิิบััติิจริิงและการบููรณาการระหว่่าง แผนพฒั นาการทอ่ งเที่ยวแหง่ ชาติ ฉบบั ที่ 3 (พ.ศ. 2566 – ผู้้�มีีส่่วนได้้ส่่วนเสีียที่�่รัับผิิดชอบขัับเคลื่�่อนแนวทาง 2570) ใหม้ คี วามสมบรู ณ์ ตอ่ เนื่อง และทนั ตอ่ เหตกุ ารณ์ การพััฒนา ตลอดจนความท้้าทายที่ม�่ าจากสถานการณ์์ คณะกรรมการนโยบายการท่่องเที่�่ยวแห่่งชาติิ การแพร่่ระบาดของโรคโควิิด – 19 จึึงส่่งผลให้้ (ท.ท.ช.) มีีอำ�ำ นาจและหน้้าที่�่หลัักในการส่่งเสริิม ไม่สามารถด�ำเนินการได้ตามแนวทางที่แนะน�ำในแผน 014
นอกจากนี้้� กระทรวงการท่่องเที่่�ยวและกีีฬาได้้ วิเิ คราะห์ส์ ถานการณ์แ์ ละทิศิ ทางการพัฒั นาการท่อ่ งเที่ย่� ว ดำำ�เนิินการจััดทำ�ำ แผนพััฒนาการท่่องเที่�่ยวแห่่งชาติิ เพื่่�อนำ�ำ ไปสู่�่การจััดทำ�ำ แผน จะมีีกรอบการดำ�ำ เนิินงาน พ.ศ. 2564 – 2565 (ฉบัับปรัับปรุุง) เพื่่�อปรัับปรุุงให้้ 6 ขั้้�นตอนหลััก ได้้แก่่ 1) การประเมิินผล สอดรัับกัับการเปลี่�่ยนแปลงของยุุทธศาสตร์์ชาติิ โดย การดำ�ำ เนิินงานตามแผนพััฒนาการท่่องเที่่�ยวแห่่งชาติิ ให้้ความสำำ�คััญกัับความเข้้มแข็็งจากภายใน การฟื้�้นตััว ฉบัับที่่� 2 (พ.ศ. 2560 – 2564) ระยะครึ่�่งแผนแรก อย่่างมีีความรัับผิิดชอบ และเป็็นจุุดเชื่�่อมโยง 2) การศึึกษาสถานการณ์์ปััจจุุบัันด้้านการท่่องเที่่�ยว การท่่องเที่ย�่ วของภููมิภิ าค ซึ่ง่� แผนพััฒนาการท่อ่ งเที่ย่� ว ของประเทศไทยและของโลก 3) การศึึกษาแนวโน้้ม ฉบบั ดงั กลา่ วสน้ิ สดุ ลงในปี พ.ศ. 2565 ทงั้ นี้ส ถานการณ์ การท่อ่ งเที่ย�่ วของประเทศไทยและของโลก 4) การศึึกษา การแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19 ที่ส่งผลกระทบ ทิิ ศ ท า ง ก า ร พัั ฒ น า ก า ร ท่่ อ ง เ ที่�่ ย ว ข อ ง ป ร ะ เ ท ศ ต่อการท่องเที่ยวท่ัวโลกในปัจจุบันนับเป็นโอกาส ต้้นแบบรายสำ�ำ คััญ 5) การทบทวนและวิิเคราะห์์ ส�ำคัญที่ประเทศไทยจะได้พลิกโฉมอุตสาหกรรม ความสอดคล้้องของนโยบาย แผน และยุุทธศาสตร์์ การท่องเที่ยวให้เกิดความเข้มแข็งจากภายในที่ย่ังยืน ระดับั ชาติทิ ี่เ่� กี่ย�่ วข้อ้ งกับั การท่อ่ งเที่ย่� ว และ 6) การรับั ฟังั เกดิ ความยืดหย่นุ คลอ่ งตวั และมกี ารเตบิ โตบนพืน้ ฐาน ความคิิดเห็็นจากผู้้�มีีส่่วนได้้ส่่วนเสีียที่�่เกี่�่ยวข้้องใน ของเศรษฐกิจ สงั คม และส่ิงแวดล้อม อุุตสาหกรรมการท่่องเที่่�ยวผ่่านการสััมภาษณ์์เชิิงลึึก การจััดทำำ�แผนพััฒนาการท่่องเที่่�ยวแห่่งชาติิ การประชุุมกลุ่�มย่่อย การประชุุมเชิิงปฏิิบััติิการ ฉบัับที่่� 3 (พ.ศ. 2566 – 2570) ได้้คำำ�นึึงถึึงบริิบท และการประชุมุ เพื่อ่� สร้า้ งความรู้�ความเข้า้ ใจต่อ่ แผนพัฒั นา ของอุุตสาหกรรมการท่่องเที่�่ยวไทย โดยการศึึกษาและ การท่อ่ งเที่่�ยวแห่่งชาติฉิ บับั ที่่� 3 (พ.ศ. 2566 – 2570) พลิกฟนื้ การทอ่ งเที่ยวไทย เพอื่ อนาคตทด่ี กี วา่ สำ� หรับทกุ คน (Building Forward a Better Tourism for All) 015
แผนพัฒนาการทอ่ งเที่ยวแห่งชาติ ฉบับที่ 3 (พ.ศ. 2566 – 2570) แผนพฒั นาการทอ่ งเที่ยวแหง่ ชาติ ฉบบั ที่ 3 (พ.ศ. 2566 – 2570) จงึ ไดเ้ ลง็ เหน็ ถึงความส�ำคญั แกก่ ารพลกิ ฟน้ื การทอ่ งเทยี่ วไทย เพื่อ�่ อนาคตที่�ดีกี ว่่าสำ�ำ หรับั ทุุกคน (Building Forward a Better Tourism for All) โดยคำำ�นึึงถึึงประโยชน์ข์ อง 3 กลุ่�มหลััก ดัังต่่อไปนี้้� ประชาชน 1) ประชาชน (People) : การทอ่ งเที่ยวไทยจะมุง่ เน้นไปที่ผลกระทบเชงิ บวก ต่่อสัังคม (Social Impact) ที่่�ประชาชนไทยและนัักท่่องเที่่�ยวจะได้้รัับ (People) ประโยชน์์ร่่วมกััน คืือ เรื่�่องความสะอาด ปลอดภััย และการได้้รัับมาตรฐาน การท่่องเที่�่ยว การพััฒนาโครงสร้้างพื้้�นฐานคมนาคมให้้มีีความเชื่่�อมโยงและ ยกระดบั สาธารณปู โภคใหม้ คี ณุ ภาพตลอดเสน้ ทาง การพฒั นาทรพั ยากรมนษุ ย์ ดา้ นการทอ่ งเที่ยวของประเทศไทย รวมไปถึงการใชข้ อ้ มลู ดา้ นการทอ่ งเที่ยวจาก ศนู ย์ขอ้ มลู ดา้ นการท่องเที่ยว (One – Stop Tourism Database) เพื่อน�ำไป พัฒนาการทอ่ งเที่ยวต่อไป รายได้ 2) รายได้ (Profits) : การท่องเที่ยวไทยยังคงมุ่งเน้นไปที่ผลกระทบทาง เศรษฐกิจ (Economic Impact) มุ่งเน้นไปที่การดึงดูดนักท่องเที่ยวคุณภาพ (Profits) สงู จากหลากหลายประเทศอยา่ งสมดลุ โดยพฒั นาการตลาด การทอ่ งเที่ยวไทย ให้มีความล�้ำสมัย ส่งเสริมรูปแบบการท่องเที่ยวที่หลากหลายและมีศักยภาพ ความย่ังยนื และสรา้ งประสบการณก์ ารทอ่ งเที่ยวของนกั ทอ่ งเที่ยวใหน้ า่ ประทบั ใจ มคี ณุ คา่ อีกทง้ั มงุ่ เนน้ ไปที่การลดการรัว่ ไหลของรายไดจ้ ากการทอ่ งเที่ยว และการกระจาย (Planet) ความเจริญจากการท่องเที่ยวไปยังทุกพื้นที่ท่ัวประเทศไทย รวมไปถึงการให้ ความส�ำคญั แกก่ ารฟื้นฟูและสง่ เสรมิ ภาคการผลติ ในอตุ สาหกรรมการทอ่ งเที่ยว ใหก้ ลบั มามขี ดี ความสามารถในการแข่งขนั ระดบั โลก 3) ความยั่�งยืืน (Planet) : การท่่องเที่่�ยวไทยจะมีีส่่วนช่่วยในการรัักษา ความอุุดมสมบููรณ์์ของสิ่ �งแวดล้้อมและการลดผลกระทบต่่อสิ่่�งแวดล้้อมและ วััฒนธรรม (Environmental and Cultural Impact) โดยการประยุุกต์์ ใช้้เทคโนโลยีีและนวััตกรรมในการบริิหารจััดการจำ�ำ นวนนัักท่่องเที่�่ยวอย่่าง มีีประสิิทธิิภาพและต่่อยอดทรััพย์์สิินทางวััฒนธรรมไทยและเอกลัักษณ์์ไทย ให้้เข้า้ กัับยุุคสมัยั อย่า่ งยั่�งยืืน 016
BUILDING FORWARD A BETTER TOURISM FOR ALL การประยุกตใ ชเทคโนโลยี การทองเท่ยี วไทยมคี วามปลอดภัย ในการบริหารการจดั การ สะอาด และไดร บั มาตรฐาน นักทอ งเท่ียวอยา งมปี ระสิทธิภาพ (กล 2.1) (กล 4.3) ประเทศไทยมีศนู ยขอ มูลการทอ งเทีย่ ว (กล 2.2) การตอยอดสนิ คา อตั ลกั ษณ ละaวcฒั tsน) ธรรม ผลกระทบต โครงสรา งพื้นฐาน และภูมิปญ ญาไทย anet) ประชา ดา นการเดนิ ทางมคี วามเช่อื มโยง ใหเขากับยุคสมยั ผลกระ(ทEบcoตnอo่ิสงmiแcวIดm ลpอมแ และสาธารณูปโภคท่มี คี ณุ ภาพ อยางยั่งยืน ความ ั่ยง ืยน (Pl ตลอดเสน ทาง (กล 4.2) (กล 2.3) cts) การลดผลกระทบ อ สงั คม (Social Impacts) บุคลากรในภาค ตอ ส่งิ แวดลอมและ ชน (People) การทองเที่ยว ผลก มศี ักยภาพ แหลง ทอ งเที่ยว (กล 2.4) ทางธรรมชาติ การใชข อมลู (กล 4.1) ดานเศรษฐกจิ การทองเที่ยวเพือ่ รายได (Profits) การกำหนดนโยบาย ระทบทางเศรษฐกิจ (Economic Impa และการวางแผน ดำเนินธรุ กจิ (กล 2.5) การทอ งเท่ียวไทยมคี วามสมดุล นกั ทองเทีย่ วไดรบั ประสบการณ ท้งั ดานอปุ สงคแ ละอปุ ทาน ท่ีนา ประทบั ใจ มคี ณุ คา (กล 1.3) (กล 3.1) รายไดจ ากการทองเท่ยี วหมนุ เวียน การสง เสริมรูปแบบการทองเที่ยว ภายในประเทศและกระจายตวั อยา งทั่วถงึ ศกั ยภาพสูงทีห่ ลากหลายและสรา งสรรค (กล 3.2) (กล 1.2) ภาคการผลติ พรอมรับการเปลีย่ นแปลง การตลาดการทองเทีย่ วไทยมีความล้ำสมัย และประยุกตใชเ ทคโนโลยี ตรงใจนกั ทองเทย่ี ว (กล 1.1) (กล 3.3) รูปที่ 0-1 : กรอบการฟื้นฟูอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยเพื่ออนาคตที่ดกี ว่า (Build Back Better Future Tourism) 017
แผนพฒั นาการทอ่ งเทย่ี วแหง่ ชาติ ฉบับท่ี 3 (พ.ศ. 2566 – 2570) ท้ังนี้ แผนพัฒนาการท่องเที่ยวแห่งชาติ ฉบับที่ 3 (พ.ศ. 2566 – 2570) มีวิสัยทัศน์ในการพัฒนาและขับเคลื่อน การท่่องเที่�ย่ วอย่า่ งครอบคลุุมและทั่่ว� ถึึง ภายในระยะเวลา 5 ปีี คืือ “การท่อ่ งเที่�ยวของประเทศไทยเป็็นอุุตสาหกรรมที่�เน้น้ คุณุ ค่่า มีคี วามสามารถในการปรับั ตัวั เติิบโตอย่า่ งยั่�งยืืนและมีสี ่ว่ นร่ว่ ม (Rebuilding High Value Tourism Industry with Resilience, Sustainability and Inclusive Growth)” โดยการพััฒนาการท่อ่ งเที่่ย� วของประเทศไทยในอนาคต นัับจากนี้้� จะมุ่�งเน้้นไปที่�่การดำ�ำ เนิินการ เพื่�่อพััฒนาและยกระดัับอุุตสาหกรรมการท่่องเที่่�ยวให้้มีีความเข้้มแข็็ง ต่่อยอด การพลิิกวิิกฤตให้เ้ ป็น็ โอกาส ในการเปลี่ย�่ นแปลงและพััฒนาอุตุ สาหกรรมให้้สอดรับั กับั ภาวะความปกติถิ ัดั ไป (Next Normal) เพื่่�อการเติิบโตอย่่างครอบคลุุม (Inclusive Growth) ด้้วยการพััฒนาแบบองค์์รวม (Holistic Approach) โดยจะเป็็น การพลิิกโฉมการท่อ่ งเที่่�ยวของไทยไปอย่า่ งสิ้น� เชิิง ซึ่ง่� มีีรายละเอีียด ดัังนี้้� เปา้ หมายของแผนพฒั นา พนั ธกิจ การท่องเท่ียวแห่งชาติ ฉบบั ที่ 3 (พ.ศ. 2566 – 2570) 1. เปา้ หมายหลกั 1) เสรมิ สรา้ งความเขม้ แขง็ ของภาคการผลติ (Supply-side) 1) การท่องเที่ยวไทยมีความเข้มแข็งและสมดุล ในอุุตสาหกรรมการท่่องเที่่�ยว ปรัับสมดุุลและกระจาย ความเจริิญอย่่างครอบคลุุม ลดการรั่�วไหลตลอดห่่วงโซ่่ (Resilience and Re-balancing Tourism) คุุณค่่า (Value Chain) เพื่่�อให้้พร้้อมรัับมืือกัับความ 2) การยกระดับความเชื่อมโยงและโครงสร้างพ้ืนฐาน เปลี่�่ยนแปลงทุกุ รููปแบบ ด้านการทอ่ งเที่ยว (Connectivity) 2) พัฒนาปัจจัยพื้นฐานของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว 3) การสร้างความเชื่อม่ันและมอบประสบการณ์ ในด้านมาตรฐานสถานประกอบการ แหล่งท่องเที่ยว และบุคลากร และความพร้อมของโครงสร้างพื้นฐาน ท่องเที่ยวคุณคา่ สูง (Entrusted Experience) คมนาคมขนส่ง สาธารณูปโภค สิ่งอ�ำนวยความสะดวก 4) การบริหารจัดการการท่องเที่ยวอย่างย่ังยืน และบุคลากรให้มีคณุ ภาพในระดับสากล (Sustainable Development) 3) พัฒนาและยกระดับประสบการณ์การท่องเที่ยวตลอด 2. เปา้ หมายรอง เส้นทางอย่างครบวงจร ด้วยรูปแบบการท่องเที่ยว 1) การพัฒนาปัจจัยสนับสนุนด้านการท่องเที่ยวให้มี ใหม่ที่หลากหลายและการสื่อสารการตลาดที่ตรงใจ โดยมงุ่ เนน้ นักทอ่ งเที่ยวเปน็ ศนู ย์กลาง คณุ ภาพสงู ส�ำหรับทกุ คน (Supporting Elements) 2) เทคโนโลยีดิจิทัลและโครงสร้างพื้นฐานด้านข้อมูล 4) ส่งเสริมความย่ังยืนของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว บนพ้ืนฐานความสมบูรณ์ของทรัพยากรธรรมชาติ พร้อมสง่ เสรมิ การทอ่ งเที่ยว (ICT Readiness) และสิ่งแวดล้อม อัตลักษณ์ของสังคมและชุมชน 3) ความพร้อมในการรับมือและจัดการกับความเส่ียง ศิลปวัฒนธรรม และการบริหารจัดการนักท่องเที่ยว อย่างมปี ระสิทธิภาพ ทุกรูปแบบอยู่เสมอ (Risk Readiness) 018
การท่อ่ งเที่่�ยวของประเทศไทยเป็น็ อุุตสาหกรรม ที่่�เน้้นคุุณค่่า มีคี วามสามารถในการปรับั ตัวั เติิบโตอย่า่ งยั่่�งยืืนและมีีส่่วนร่่วม (Rebuilding High Value Tourism Industry with Resilience, Sustainability and Inclusive Growth) ตวั ชี้วดั หลกั ระยะ 5 ปี (พ.ศ. 2566 – 2570) 1) สดั ส่วนผลติ ภณั ฑ์มวลรวมภายในประเทศดา้ นการท่องเที่ยวต่อผลิตภัณฑม์ วลรวมภายในประเทศ ไม่ต�่ำกวา่ รอ้ ยละ 25 2) จ�ำนวนธุรกิจบริการทอ่ งเที่ยวและแหลง่ ท่องเที่ยวไดร้ ับรองมาตรฐานการท่องเที่ยวไทย (Thailand Tourism Standard) และอาเซียน (Asean Standard) เพ่มิ ขน้ึ ปีละไม่ต�่ำกว่า 3,000 ราย 3) จ�ำนวนวนั พกั และค่าใช้จ่ายโดยเฉลีย่ ของนกั ทอ่ งเที่ยวชาวไทยและต่างชาติ • ระยะเวลาพ�ำนกั เฉลย่ี ของนกั ทอ่ งเที่ยวชาวตา่ งชาตไิ มต่ �่ำกว่า 10 วัน • คา่ ใชจ้ ่ายโดยเฉลยี่ ของนกั ท่องเที่ยวชาวต่างชาติเพ่ิมขึ้นรอ้ ยละ 5 ต่อปี • ระยะเวลาพ�ำนกั เฉล่ียของนกั ทอ่ งเที่ยวชาวไทยไมต่ �่ำกว่า 3 วัน • คา่ ใช้จา่ ยโดยเฉล่ยี ของนกั ท่องเที่ยวชาวไทยเพิ่มขึ้นรอ้ ยละ 7 ต่อปี 4) สัดสว่ นจ�ำนวนนกั ทอ่ งเที่ยวกลุ่มเดนิ ทางครัง้ แรก (First Visit) และกลมุ่ เดินทางซ�้ำ (Revisit) เปน็ 40 : 60 5) อนั ดบั ผลการด�ำเนินงานภาพรวมตามเปา้ หมายการพัฒนาอย่างยัง่ ยนื (SDGs) อยภู่ ายใน 35 อันดับแรก 6) อันดับการพฒั นาการเดินทางและการทอ่ งเที่ยวของประเทศไทย ดา้ นความย่งั ยนื ของส่งิ แวดลอ้ ม โดย TTDI อยู่ 1 ใน 67 019
แผนพฒั นาการทอ่ งเทย่ี วแหง่ ชาติ ฉบับที่ 3 (พ.ศ. 2566 – 2570) ยทุ ธศาสตร์การพัฒนา เพื่อใหบ้ รรลวุ ิสัยทศั น์ เปา้ ประสงค์ และพนั ธกจิ ของแผนพฒั นาการท่องเที่ยวแหง่ ชาติ ฉบบั ที่ 3 (พ.ศ. 2566 - 2570) จงึ ไดก้ �ำหนดยทุ ธศาสตร์การพัฒนาออกเปน็ 4 ยุทธศาสตร์ ดงั น้ี ยทุ ธศาสตรท์ ี่ ยุทธศาสตร์ท่ี 1 เสริมสร้างความเข้มแข็งและภูมิคุ้มกันของอุตสาหกรรม การทอ่ งเที่ยวไทย (Resilient Tourism) ประกอบด้วย 3 กลยุทธ์ ไดแ้ ก่ 1 • กลยุทธท์ ี่ 1.1 : สรา้ งความเขม้ แขง็ ใหก้ บั ภาคการผลติ และผลกั ดนั นวตั กรรม ยทุ ธศาสตรท์ ี่ เพื่อให้เกิดภูมิคุ้มกันพร้อมรับมือกับความเปลี่ยนแปลง ทุกรปู แบบ (Resilient Supply - Side) 2 • กลยุทธ์ที่ 1.2 : กระจายรายได้และความเจริญจากการท่องเที่ยวอย่าง ทว่ั ถึงทกุ พนื้ ที่ และลดการรว่ั ไหลในภาคการทอ่ งเที่ยวอยา่ ง เปน็ ธรรม (Equitable Tourism) • กลยุทธท์ ี่ 1.3 : ส่งเสริมการท่องเที่ยวคุณภาพที่มุ่งเน้นการสร้างสมดุล ให้แ้ ก่อ่ ุตุ สาหกรรมการท่อ่ งเที่ย่� วทั้้ง� ด้า้ นอุปุ สงค์แ์ ละอุปุ ทาน (Quality - Based Tourism) ยุทธศาสตร์ที่ 2 พัฒนาปัจจัยพ้ืนฐานของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวให้มี คณุ ภาพสูง (Quality Tourism) ประกอบด้วย 5 กลยทุ ธ์ ได้แก่ • กลยุทธท์ ี่ 2.1 : พัฒนาความปลอดภัย สุขอนามัย และมาตรฐาน การทอ่ งเที่ยวตลอดเสน้ ทางทอ่ งเที่ยว เพื่อสรา้ งความมน่ั ใจ แก่นกั ท่องเที่ยว (Global Standardization) • กลยุทธท์ ี่ 2.2 : ยกระดบั โครงสรา้ งพนื้ ฐานดา้ นดจิ ทิ ลั และขอ้ มลู สารสนเทศ (Digital and Data Infrastructure) • กลยุทธ์ที่ 2.3 : พฒั นาและเชื่อมโยงโครงสรา้ งพน้ื ฐานดา้ นการเดนิ ทาง และ สาธารณปู โภค เพื่อรองรบั นกั ทอ่ งเที่ยวทกุ กลมุ่ อยา่ งทว่ั ถึง (Connectivity and Universal Design) • กลยุทธ์ที่ 2.4 : พัฒนาศักยภาพของบุคลากรและผู้ประกอบการใน อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวให้มีคุณภาพและมีขีดความ สามารถในการแขง่ ขนั (Thai - Class Potential) • กลยุทธท์ ี่ 2.5 : สนบั สนนุ การใชข้ อ้ มลู ดา้ นเศรษฐกจิ การทอ่ งเที่ยว(Tourism Economy) เพื่อการก�ำหนดนโยบายการท่องเที่ยวระดับ ประเทศ และการวางแผนด�ำเนนิ ธุรกิจของผปู้ ระกอบการ 020
ยทุ ธศาสตรท์ ี่ ยุทธศาสตร์ที่ 3 ยกระดับประสบการณ์ด้านการท่องเที่ยว (Tourism Experience) ประกอบด้วย 3 กลยุทธ์ ไดแ้ ก่ 3 • กลยุทธ์ที่ 3.1 : สรา้ งประสบการณก์ ารทอ่ งเที่ยวอนั นา่ ประทบั ใจที่มคี ณุ คา่ ยุทธศาสตร์ท่ี เพื่อตอบสนองความต้องการของนักท่องเที่ยวเฉพาะกลุ่ม (Value - Based Tourism) 4 • กลยุทธ์ที่ 3.2 : ส่งเสริมรูปแบบการท่องเที่ยวศักยภาพสูงที่หลากหลาย และสรา้ งสรรคข์ องไทย (High - Potential and Creative Tourism) • กลยุทธท์ ี่ 3.3 : ส่งเสริมการตลาดเชิงรุก มุ่งเนน้ กล่มุ เป้าหมายเชิงคณุ ภาพ ดว้ ยเทคโนโลยแี ละนวตั กรรมที่ทนั สมยั และมปี ระสทิ ธภิ าพ (Quality - Based Marketing) ยุทธศาสตร์ท่ี 4 ส่งเสริมการพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างย่ังยืน (Sustainable Tourism) ประกอบดว้ ย 3 กลยทุ ธ์ ไดแ้ ก่ • กลยุทธท์ ี่ 4.1 : เสรมิ สรา้ งความสมบรู ณแ์ กส่ งิ่ แวดลอ้ มและแหลง่ ทอ่ งเที่ยว ธรรมชาติ (Enriched Environment) • กลยุทธท์ ี่ 4.2 : ส่งเสริมการอนุรักษ์และต่อยอดทรัพย์สินทางวัฒนธรรม และเอกลักษณ์ความเป็นไทย ด้วยการประยุกต์ให้เข้ากับ ยุคสมยั (Thai Cultures and Identities) • กลยุทธ์ที่ 4.3 : ส่งเสริมการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีในการบริหารจัดการ นักท่องเที่ยวอย่างมีประสิทธิภาพ (Effective Tourists Management) 021
แผนพฒั นาการทอ่ งเทีย่ วแห่งชาติ ฉบบั ท่ี 3 (พ.ศ. 2566 – 2570) การขบั เคลอื่ นแผนพฒั นาการทอ่ งเทย่ี วแหง่ ชาตสิ กู่ ารปฏบิ ตั แิ ละการตดิ ตาม ประเมินผล การขับเคลื่อนแผนพัฒนาการท่องเที่ยวแห่งชาติ ฉบับที่ 3 (พ.ศ. 2566 – 2570) ไปสู่การปฏิบัติอย่างมีประสิทธิภาพ จ�ำเป็นต้องมีการบูรณาการความร่วมมือจากทุกภาคส่วน โดยสามารถแบ่งหน่วยงานและบทบาทที่เก่ียวข้องในการประสาน แผนพัฒนาการท่องเที่ยวแห่งชาติฉบับน้ีสู่การปฏิบัติออกเป็น 3 ระดับ ได้แก่ 1) ระดับนโยบาย 2) ระดับพ้ืนที่ และ 3) ระดับชมุ ชน ดงั นี้ หนว่ ยงาน • หน่่วยงานระดัับนโยบาย ประกอบด้้วยคณะกรรมการนโยบายการท่่องเที่่�ยว แห่่งชาติิ (ท.ท.ช.) เป็็นหน่่วยงานหลัักในการพิิจารณาและกำำ�หนดนโยบาย ระดบั นโยบาย และยุุทธศาสตร์์การบริิหารและพััฒนาการท่่องเที่่�ยว รวมทั้้�งให้้ความเห็็น และกำำ�กับั ดููแลนโยบายที่เ่� กี่ย�่ วข้อ้ งกับั การพัฒั นาการท่อ่ งเที่ย่� วของประเทศไทย เพื่่อ� เสนอต่่อคณะรััฐมนตรีีเพื่่อ� พิิจารณา โดยกระทรวงการท่่องเที่่�ยวและกีีฬา ในฐานะเลขานุุการคณะกรรมการนโยบายการท่่องเที่�่ยวแห่่งชาติิทำ�ำ หน้้าที่่� ในการประสานนโยบายและข้อ้ สั่่ง� การในระดัับนโยบายไปยังั หน่่วยงานต่่าง ๆ ติิดตามและประเมิินผลการดำำ�เนิินงานตามแผนและนำ�ำ เสนอข้้อคิิดเห็็นและ ปัญั หาอุุปสรรคของหน่่วยงานต่า่ ง ๆ ต่อ่ คณะกรรมการนโยบายการท่อ่ งเที่ย�่ ว แห่ง่ ชาติิ นอกจากนั้้น� การขับั เคลื่อ่� นแผนพัฒั นาการท่อ่ งเที่ย่� วแห่ง่ ชาติฉิ บับั นี้้� ยังั จำ�ำ เป็น็ ต้อ้ งได้ร้ ับั ความร่ว่ มมืือจากหน่ว่ ยงานที่เ�่ กี่ย�่ วข้อ้ งต่า่ ง ๆ ในการขับั เคลื่อ่� น การดำ�ำ เนิินงานตามแนวทางการพััฒนาในแต่่ละยุุทธศาสตร์์อีีกด้้วย ทั้้�งนี้้� หน่่วยงานหลัักในแต่่ละยุุทธศาสตร์์จะทำ�ำ หน้้าที่่�ประสานความร่่วมมืือกัับ หน่่วยงานสนัับสนุนุ ต่า่ ง ๆ ในระดับั ปฏิบิ ััติกิ ารและเป็น็ ผู้�สนัับสนุนุ การพััฒนา ในระดัับพื้้�นที่่� โดยมีีการกำ�ำ หนดบทบาทในการพััฒนาและแนวทางขัับเคลื่่�อน แผนงาน/โครงการตามในแผนพัฒั นาการท่อ่ งเที่ย่� วแห่ง่ ชาติฉิ บับั นี้้� และเผยแพร่่ ผลการดำ�ำ เนินิ งานให้ส้ าธารณชนทราบเป็็นระยะ ๆ อย่่างสม่ำำ��เสมอ หนว่ ยงาน • หนว่ ยงานระดบั พนื้ ที่ ประกอบดว้ ยคณะกรรมการพฒั นาการทอ่ งเที่ยวประจ�ำ เขตพัฒนาการท่องเที่ยวแต่ละเขต คณะกรรมการบริหารงานจังหวัดแบบ ระดบั พน้ื ที่ บูรณาการ และคณะกรรมการบริหารงานกลุ่มจังหวัดแบบบูรณาการ รวมท้ังหน่วยงานที่เก่ียวข้องทั้งภาครัฐและภาคเอกชนที่มีภารกิจเก่ียวกับ การพัฒนาการท่องเที่ยว เช่น หน่วยงานภาครัฐ รัฐวิสาหกิจในแต่ละจังหวัด สภาอตุ สาหกรรมทอ่ งเที่ยวจงั หวดั สมาคมธรุ กจิ การทอ่ งเที่ยว สถาบนั การศกึ ษา องคก์ รระหว่างประเทศด้านการท่องเที่ยว รวมทง้ั องคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถ่ิน ทุกระดับจะมีหน้าที่เป็นผู้ขับเคลื่อนนโยบายจากคณะกรรมการนโยบาย การท่องเที่ยวแห่งชาติและคณะรัฐมนตรี หรือเป็นผู้ขับเคลื่อนนโยบายจาก คณะกรรมการนโยบายที่เก่ียวข้อง เช่น คณะกรรมการพัฒนาการท่องเที่ยว 022
การขับเคลอ่ื นแผนพัฒนาการท่องเที่ยวแหง่ ชาติ ฉบับน้ี ยงั จ�ำเปน็ ตอ้ งได้รบั ความรว่ มมือ จากหน่วยงานท่เี กยี่ วขอ้ ง หน่วยงาน ประจ�ำเขตพัฒนาการท่องเที่ยวแต่ละเขต เป็นต้น ไปสู่การปฏิบัติใน 3 ระดบั /สว่ น ไดแ้ ก่ 1) สว่ นภูมภิ าค 2) สว่ นทอ้ งถนิ่ และ 3) สว่ นการด�ำเนนิ งาน ระดบั ชมุ ชน ของภาคเอกชน • หน่วยงานระดับชุมชน หมายถึง กลุ่ม/องค์กร หรือเครือข่ายองคก์ ร เช่น กลุ่ม สหกรณห์ รือวสิ าหกจิ ชมุ ชน เป็นต้น ซึง่ ไดร้ บั การสนบั สนนุ ใหเ้ ขา้ มามสี ว่ นรว่ ม ในการพัฒนาการท่องเที่ยวของประเทศในบรบิ ทที่เหมาะสม 023
แผนพัฒนาการทอ่ งเทยี่ วแหง่ ชาติ ฉบับที่ 3 (พ.ศ. 2566 – 2570) สว่ นที่ 1 บทนำ� 024
025
แผนพฒั นาการท่องเทยี่ วแห่งชาติ ฉบบั ที่ 3 (พ.ศ. 2566 – 2570) อุุ ต ส า ห ก ร ร ม ก า ร ท่่อ ง เ ที่�่ ย ว ไ ท ย มีีบทบาทความสำำ�คััญต่่อระบบเศรษฐกิิจของ สว่ นท่ี 1 ประเทศเป็น็ อย่า่ งมาก เนื่อ�่ งจากอุตุ สาหกรรม การท่่องเที่่�ยวก่่อให้้เกิิดประโยชน์์ทั้้�งทางตรง บทน�ำ และทางอ้อ้ มต่อ่ เศรษฐกิิจ สังั คม สิ่่ง� แวดล้้อม และวััฒนธรรม โดยเฉพาะอย่่างยิ่�งเป็็นหนึ่่�ง ในปีี พ.ศ. 2562 ในแหล่่งรายได้้ที่่�สำำ�คััญที่่�นำำ�มาซึ่�่งเงิินตรา อุตุ สาหกรรม ต่่างประเทศ กระแสเงิินตราไหลเวีียน การท่อ่ งเที่่�ยว ในประเทศ การสร้้างงาน และการกระจาย มีผี ลิิตภััณฑ์์มวลรวม ความเจริิญไปสู่่�ภููมิิภาคต่่าง ๆ ของประเทศ ภายในประเทศด้้าน อีีกทั้้�งยัังมีีส่่วนสำ�ำ คััญที่่�ทำำ�ให้้เกิิดการพััฒนา ระบบโครงสร้้างพื้้�นฐานของการคมนาคม การทอ่ งเที่ยว และขนส่่ง รวมถึึงการค้้าและการลงทุุน 3,005,552 ที่่�ช่่วยเพิ่่�มการขยายตััวและเป็็นกลไกสำำ�คััญ ลา้ นบาท ในการขับั เคลื่อ�่ นทางเศรษฐกิจิ ของประเทศไทย อ้า้ งอิงิ จากบัญั ชีีประชาชาติดิ ้า้ นการท่อ่ งเที่ย�่ ว (Tourism Satellite Account : TSA) ในปีี พ.ศ. 2562 อุุตสาหกรรมการท่่องเที่ย่� ว มีีผลิิตภััณฑ์์มวลรวมภายในประเทศ ด้้านการท่่องเที่�่ยว (Tourism Gross Domestic Product : TGDP) มากถึึง 3,005,552 ล้้านบาท หรืือเท่่ากัับสััดส่่วน ร้อ้ ยละ 17.79 ของผลิิตภัณั ฑ์ม์ วลรวมภายใน ประเทศ (Gross Domestic Product : GDP) ดัังนั้้�น เพื่�่อให้้อุุตสาหกรรมการท่่องเที่่�ยว 026
มีีการพัฒั นาและกระจายผลประโยชน์ไ์ ปยังั ภาคส่ว่ นต่า่ ง ๆ ของประเทศได้้อย่่างต่่อเนื่อ�่ ง และกว้้างขวาง จึึงจำ�ำ เป็็น ต้อ้ งพัฒั นาและจัดั ทำ�ำ แผนพัฒั นาการท่อ่ งเที่ย่� วแห่ง่ ชาติิ ฉบัับที่�่ 3 (พ.ศ. 2566 – 2570) ให้้มีีความสมบููรณ์์ ต่อ่ เนื่อ�่ งและทัันต่อ่ เหตุุการณ์์ อย่่างไรก็็ตาม ถึึงแม้้ว่่าการดำ�ำ เนิินงานด้้าน การท่อ่ งเที่ย่� วในระยะที่ผ�่ ่า่ นมา ประเทศไทยในภาพรวม จะประสบผลสำ�ำ เร็จ็ ในด้า้ นการเพิ่่ม� ปริมิ าณนักั ท่อ่ งเที่ย�่ ว และรายได้้จากการท่่องเที่่�ยว แต่่จากการศึึกษา ค้้นคว้้าและวิิจััยที่ผ่� ่่านมา พบว่่า ปััจจุุบัันอุุตสาหกรรม การท่่องเที่่�ยวไทยยัังคงประสบปััญหา อุุปสรรค และความท้้าทายสำำ�คััญหลายประการ และเมื่�่อเกิิด สถานการณ์์การแพร่่ระบาดของโรคโควิดิ – 19 ในช่่วง ปลายปีี พ.ศ. 2562 จึึงทำ�ำ ให้้ปััญหาในอุุตสาหกรรม การท่อ่ งเที่ย่� วไทยเด่น่ ชัดั ยิ่ง� ขึ้น� อาทิิการพึ่ง่� พานักั ท่อ่ งเที่ย�่ ว ต่่างชาติิมากเกิินไป จำ�ำ นวนนัักท่่องเที่�่ยวและรายได้้ ยัังคงกระจุุกตััวอยู่�่ในเมืืองท่่องเที่�่ยวหลััก ภาพลัักษณ์์ การท่่องเที่�่ยวในแง่่ลบของประเทศไทย เช่่น การเป็็น จุุดหมายปลายทางราคาถููก ปััญหาด้้านอาชญากรรม เป็็นต้้น ทำำ�ให้้ไม่่สามารถสร้้างความเชื่่�อมั่่�นให้้กัับ นัักท่่องเที่่�ยวได้้อย่่างยั่�งยืืน ความเสื่่�อมโทรมของ ทรัพั ยากรธรรมชาติ ิ วัฒั นธรรม สังั คม และสิ่�งแวดล้อ้ ม การขาดการพัฒั นาแหล่ง่ ท่อ่ งเที่ย�่ วใหม่่ การทำำ�การตลาด ด้้านการท่่องเที่่�ยวที่่�ไม่่คำ�ำ นึึงถึึงความยั่�งยืืนและ ความสามารถในการรองรัับของแหล่่งท่่องเที่่�ยว ปััญหาด้้านโครงสร้้างพื้้�นฐานและสาธารณููปโภค ที่่�สนัับสนุุนการท่่องเที่�่ยว เช่่น ระบบการเดิินทางและ ขนส่่งมวลชนที่่�เข้้าถึึงแหล่่งท่่องเที่�่ยวและเชื่่�อมโยง ระหว่่างแหล่่งท่่องเที่่�ยวอย่่างไม่่ครอบคลุุม เป็็นต้้น ขีีดความสามารถในการรองรับั นักั ท่อ่ งเที่ย่� วของสถานที่่� ต่่าง ๆ ข้้อจำำ�กััดในการพััฒนาและยกระดัับบุุคลากร ด้้านการท่่องเที่�่ยว ความล้้าสมััยและความขััดแย้้งของ กฎหมายที่�่เกี่่�ยวข้้องกัับการท่่องเที่�่ยว การขาดข้้อมููล เชิงิ ลึึกเพื่อ่� การวิเิ คราะห์แ์ ละวางแผนพัฒั นาการท่อ่ งเที่ย่� ว ตลอดจนขาดการบููรณาการการทำำ�งานร่ว่ มกันั ของกลไก การบริิหารจััดการการท่่องเที่ย่� วทั้้ง� ระบบ 027
แผนพฒั นาการทอ่ งเทยี่ วแหง่ ชาติ ฉบบั ที่ 3 (พ.ศ. 2566 – 2570) อุุตสาหกรรมการท่่องเที่่�ยวเป็็นอุุตสาหกรรมที่�่มีีความหลากหลาย ซัับซ้้อน โดยจะต้้องคำ�ำ นึึงถึึงผู้้�มีีส่่วนได้้ส่่วนเสีียจากหลายภาคส่่วน ในอุตุ สาหกรรมและข้้ามอุุตสาหกรรม ทั้้�งหน่ว่ ยงานภาครัฐั ภาคเอกชน ภาควิิชาการ สมาคมที่่�เกี่ย�่ วกัับการท่อ่ งเที่ย่� วต่่าง ๆ และภาคประชาชน โดยแบ่่งเป็็น 1) ผู้้�ที่่�มีีส่่วนได้้ส่่วนเสีียทางตรง (Direct) และ 2) ผู้้�ที่�่มีี ส่่วนได้้ส่่วนเสีียทางอ้อ้ ม (Indirect) นอกจากนั้้น� สภาพแวดล้้อมและบริิบทต่า่ ง ๆ ที่ส�่ ่ง่ ผลกระทบต่่อ อุตุ สาหกรรมการท่อ่ งเที่ย�่ วมีีการเปลี่ย�่ นแปลงตลอดเวลา ทั้้ง� ที่เ�่ ป็น็ ปัจั จัยั ภายใน เช่่น สถานการณ์์การเมืืองของประเทศ นโยบายของภาครััฐ การปรัับตััวของภาคเอกชน ความร่่วมมืือของหน่่วยงานที่�่เกี่่�ยวข้้อง เป็็นต้้น และปััจจััยภายนอก เช่่น สภาวะการแข่่งขัันของอุุตสาหกรรม การท่อ่ งเที่ย�่ วการเปลี่ย่� นแปลงพฤติกิ รรมความต้อ้ งการและความคาดหวังั ของนัักท่่องเที่่�ยว การเปลี่่�ยนแปลงโครงสร้้างประชากรโลกที่่� ปััจจุุบัันมีีความหลากหลายของกลุ่�มประชากรมากขึ้�น และประชากร มีีแนวโน้ม้ เข้า้ สู่่�สังั คมสููงวัยั แนวโน้ม้ การพัฒั นาเทคโนโลยีีและนวัตั กรรม ที่่�ส่่งผลต่่ออุุตสาหกรรมการท่่องเที่�่ยว ความร่่วมมืือและความสััมพัันธ์์ ระหว่่างประเทศทั้้�งในระดัับภููมิิภาคและระดัับโลก รวมถึึงสถานการณ์์ การแพร่่ระบาดของโรคโควิิด – 19 ที่่�ยัังเร่่งรััดให้เ้ กิิดการเปลี่�่ยนแปลง พฤติกิ รรมทางเศรษฐกิจิ และสังั คมอย่า่ งรวดเร็ว็ ก่อ่ ให้เ้ กิดิ ปรากฏการณ์์ ทางสังั คมที่่�เรีียกว่่า “ความปกติิใหม่่” หรืือ New Normal ที่่�ส่ง่ ผลให้้ เกิิดการเปลี่�่ยนแปลงพฤติิกรรมและความต้้องการของนัักท่่องเที่�่ยว ที่น่� ัักท่อ่ งเที่�ย่ วคำ�ำ นึึงถึงึ มาตรฐานความปลอดภัยั และสุขุ อนามััยมากขึ้�น ด้้วยเหตุุนี้้� กระทรวงการท่่องเที่่�ยวและกีีฬา ในฐานะเลขานุุการ คณะกรรมการนโยบายการท่่องเที่�่ยวแห่่งชาติิและหน่่วยงานหลััก ในการส่่งเสริิมและสนัับสนุุนอุุตสาหกรรมการท่่องเที่่�ยวของไทยได้้จััด ทำำ�แผนพัฒั นาการท่อ่ งเที่�่ยวแห่ง่ ชาติิ ฉบัับที่่� 3 (พ.ศ. 2566 – 2570) ขึ้�นเพื่่�อกำ�ำ หนดกรอบทิิศทางในการพััฒนาการท่่องเที่�่ยวของไทยให้้เกิิด การพัฒั นาอย่า่ งเป็็นองค์ร์ วม และเกิดิ การบููรณาการการทำำ�งานของทุกุ ภาคส่่วนที่�่เกี่่�ยวข้้องในการผลัักดัันให้้มีีการบริิหารจััดการการท่อ่ งเที่�่ยว ให้ส้ อดคล้อ้ งกับั ความท้า้ ทายและสถานการณ์ก์ ารท่อ่ งเที่ย�่ วที่เ่� ปลี่ย�่ นไป 028
029
แผนพัฒนาการทอ่ งเที่ยวแหง่ ชาติ ฉบบั ท่ี 3 (พ.ศ. 2566 – 2570) ส่วนท่ี 2 สถานการณ์ แนวโนม้ และทศิ ทาง การพฒั นาการทอ่ งเที่ยว 030
031
แผนพฒั นาการท่องเท่ยี วแหง่ ชาติ ฉบับที่ 3 (พ.ศ. 2566 – 2570) ส่วนท่ี 2 สถานการณ์ แนวโน้ม และทศิ ทาง การพัฒนาการท่องเทยี่ ว 1 สภาพแวดล้อมและบรบิ ทการท่องเที่ยวของไทยและของโลก 1.1 สถานการณก์ ารทอ่ งเทยี่ วของโลก อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวมีบทบาทส�ำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลก และเป็นหน่ึงใน อตุ สาหกรรมหลกั ของโลก จากรายงาน UNWTO Tourism Highlights ขององคก์ ารการทอ่ งเที่ยวโลก ประจ�ำปี พ.ศ. 2563 พบวา่ การท่องเที่ยวระหวา่ งประเทศ (International Tourism) มีมูลค่า การสง่ ออกมากที่สดุ เปน็ อนั ดบั ที่ 3 ของโลก คดิ เปน็ มลู คา่ 1.7 ลา้ นลา้ นดอลลารส์ หรฐั หรือรอ้ ยละ 7 ของมูลค่าการส่งออกทั้งหมด นอกจากนี้ จ�ำนวนนักท่องเที่ยวและรายได้จากการใช้จ่ายของ นกั ทอ่ งเที่ยวทั่วโลกยังมีอตั ราการเตบิ โตอย่างต่อเนื่องทกุ ป ี ทงั้ นี้ ในช่วงปี พ.ศ. 2562 เป็นตน้ มา อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของโลกและประเทศไทย พบเจอกับการชะลอตัว อันเป็นผลกระทบ มาจากสภาพแวดล้อมและบริบทของโลก สภาวะเศรษฐกิจโลก การเปล่ียนแปลงของพฤติกรรม ผู้บรโิ ภค และความเปล่ียนแปลงทางดา้ นเทคโนโลยีดจิ ทิ ลั นอกจากนี้ อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวทั่วโลกยังเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบ อยา่ งรนุ แรงมากที่สดุ จากสถานการณแ์ พรร่ ะบาดของโรคโควดิ – 19 สง่ ผลใหก้ ารเดนิ ทางทง้ั ภายใน ประเทศและระหว่างประเทศเกิดการชะงักตัวต่อเนื่องเป็นเวลานาน องค์การการท่องเที่ยวโลก คาดการณว์ ่า การทอ่ งเที่ยวระหว่างประเทศจะลดลงกวา่ รอ้ ยละ 75 ในปี พ.ศ. 2563 ซึ่งกลบั ไป อยูใ่ นระดับเดียวกบั เมื่อ 30 ปี เทียบไดเ้ ป็นจ�ำนวนนกั ทอ่ งเที่ยวระหวา่ งประเทศที่ลดลงกวา่ 1 พัน ล้านคน และคาดวา่ จะก่อให้เกดิ ความเสยี หายประมาณ 1.1 ล้านลา้ นดอลลาร์สหรฐั ในปีี พ.ศ. 2563 การท่อ่ งเที่่�ยว ระหว่า่ งประเทศ มีมี ูลู ค่า่ การส่่งออก มากที่่�สุุดเป็็นอันั ดับั ที่่� 3 ของโลก 032
การเติบโตของรายไดจ้ ากการทอ่ งเท่ยี วทั่วโลก ผลการวเิ คราะห์ผลกระทบของการท่องเที่ยว (WTTC Global Economic Impact Trends) โดยสภาการเดนิ ทาง และการท่องเที่ยวโลก (World Travel and Tourism Council) ประจ�ำปี พ.ศ. 2563 ระบุว่าผลิตภัณฑ์มวลรวม ด้านการท่องเที่ยวท่ัวโลก อยู่ที่ 8.9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยคิดเป็นร้อยละ 10.3 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมท่ัวโลก มีอัตราการเติบโตอยู่ที่ร้อยละ 3.5 ซึ่งสูงกว่าอัตราการเติบโตผลิตภัณฑ์มวลรวมของทุกอุตสาหกรรมทั่วโลกที่มีอัตรา การเตบิ โตอยทู่ ี่รอ้ ยละ 2.5 อยา่ งไรกด็ ี ผลติ ภณั ฑม์ วลรวมดา้ นการทอ่ งเที่ยวทวั่ โลก มีอตั ราการเตบิ โตที่ลดลงอยา่ งตอ่ เนื่อง เมื่อเทียบกับการเติบโตในปี พ.ศ. 2558 ที่มีการขยายตัวสูงสุดมากกวา่ รอ้ ยละ 5 033
แผนพัฒนาการท่องเทยี่ วแห่งชาติ ฉบับท่ี 3 (พ.ศ. 2566 – 2570) การเปรยี บเทยี บระหวา่ งอัตราการเติบโตของผลติ ภัณฑ์มวลรวมด้านการทอ่ งเทยี่ วท่ัวโลกและอัตรา การเติบโตของผลิตภัณฑม์ วลรวมท่ัวโลก ต้ังแต่ปี พ.ศ. 2554 - 2562 หนวย : อัตราการเตบิ โต (%) การเติบโตของผลติ ภัณฑม วลรวมดา นการทองเที่ยวทั่วโลก การเตบิ โตของผลิตภณั ฑมวลรวมท่ัวโลก 6.0% 5.0% 2558 2559 2560 2561 2562 4.0% 3.0% 2.0% 1.0% 0.0% 2554 2555 2556 2557 รปู ที่ 2-1 : การเตบิ โตของผลติ ภณั ฑม์ วลรวมด้านการทอ่ งเที่ยวทั่วโลก ปี พ.ศ. 2562 การเตบิ โตของจ�ำนวนนกั ทอ่ งเที่ยวที่เดนิ ทางระหวา่ งประเทศ (International Tourist) และรายได้ จากการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยว (Tourism Receipts) มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 10 โดยการท่องเที่ยว ท่วั โลกมีอัตราการเติบโตระหว่างปี พ.ศ. 2552 – 2562 อย่ทู ี่ร้อยละ 54 ปี พ.ศ. 2562 จ�ำนวนนักท่องเที่ยวระหว่างประเทศท่ัวโลกอย่ทู ี่ 1,460 ลา้ นคน โดยคดิ เปน็ อตั ราการเตบิ โตเพม่ิ ข้นึ ที่รอ้ ยละ 4 ซึง่ เป็นการเติบโตที่ชะลอตัวจากปี พ.ศ. 2560 ในขณะที่รายไดจ้ ากการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวทั่วโลกพุ่งสงู ถึง 1.45 ลา้ นล้านดอลลาร์สหรฐั คิดเปน็ อตั ราการเตบิ โตเท่ากับร้อยละ 3 จากปีกอ่ นหนา้ และถือเป็นการเตบิ โตที่ชะลอ ตวั ลง จากปี พ.ศ. 2560 – 2561 ที่มีการขยายตัวอยทู่ ี่รอ้ ยละ 5 เมื่อ่� วิเิ คราะห์ภ์ าพรวมของการท่อ่ งเที่ย�่ วในแต่ล่ ะภููมิภิ าค ทั้้ง� จำำ�นวนนักั ท่อ่ งเที่ย�่ วระหว่า่ งประเทศและรายได้จ้ ากการ ใช้จ้ ่า่ ยของนักั ท่อ่ งเที่ย�่ วภายในภููมิภิ าคนั้้น� ๆ พบว่า่ ภููมิภิ าคตะวันั ออกกลางมีีการขยายตัวั ของอุตุ สาหกรรมการท่อ่ งเที่ย่� ว สููงที่ส่� ุุด และภููมิภิ าคยุโุ รปมีีจำ�ำ นวนนัักท่่องเที่ย่� วและรายได้้จากการท่อ่ งเที่่�ยวสููงที่�่สุุด 034
สถานการณ์ทอ่ งเทย่ี วของโลกในปี 2562 จมำีกนจมาวร�ำีกนเนาตนวริบนเกั ตโนทตบิ ักออโตทงยออ่เา ทยงงีย่ เตา่ ทวงอ ่ียต(เวลนอ่ าอื่(เนลนง้า่ือคทนงนุกคท)ปนกุแ )ลปแะี รลาะรยาไดยไจดาจ้ กากกากราทรอทงอ่ เงทเี่ยทวี่ยว(พ(พนั ลนั าลน้านดดออลลลลาราสรส์หหรรัฐัฐ) ) 1600 1,481 พนั ลานดอลลาร 1400 1,460 ลา นคน 1200 1000 800 600 400 จำนวนนักทอ งเท่ยี ว (ลา นคน) 200 รายได (พนั ลานดอลลารสหรฐั ) 0 1995 2000 2005 2010 2015 2016 2017 2018 2019 ภูมิภาคอเมริกา ภมู ิภาคยโุ รป ภูมภิ าคเอเชยี แปซิฟก นกั ทองเท่ียว 219 ลา นคน (+2%) นักทองเที่ยว 744 ลานคน (+4%) นักทอ งเทีย่ ว 362 ลานคน (+4%) รายได 342 พันลา นดอลลาร (+0%) รายได 576 พนั ลานดอลลาร (+4%) รายได 443 พันลานดอลลาร (+1%) ภมู ิภาคแอฟรกิ า ภมู ิภาคตะวนั ออกกลาง นักทองเที่ยว 70 ลานคน (+2%) นกั ทอ งเที่ยว 65 ลานคน (+8%) รายได 38 พันลา นดอลลาร (+1%) รายได 81 พันลานดอลลาร (+8%) รปู ที่ 2-2 : ภาพรวมสถานการณก์ ารทอ่ งเที่ยวของโลกในปี พ.ศ. 2562 035
แผนพัฒนาการท่องเที่ยวแหง่ ชาติ ฉบบั ที่ 3 (พ.ศ. 2566 – 2570) 10 อนั ดบั ประเทศทีเ่ ปน็ จดุ หมายปลายทางของการทอ่ งเทย่ี ว ประเทศที่มีจ�ำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ (International Arrivals) เดินทางเข้าไปท่องเที่ยวภายในประเทศ มากที่สุด 10 อันดับแรก สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวมากถึงร้อยละ 40 ของจ�ำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติทั่วโลก ในปี พ.ศ. 2562 คือ ประเทศฝร่ังเศส สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติได้มากที่สุดอยู่ที่ 89 ล้านคน และมีอัตรา การเตบิ โตสงู ขึน้ อยู่ที่รอ้ ยละ 1 รองลงมา คือ ประเทศสเปน และสหรัฐอเมริกาอย่ทู ี่อนั ดบั 3 ท้งั นี้ ประเทศไทยถูกจดั อยูท่ ี่อนั ดับ 7 สามารถดงึ ดูดนักทอ่ งเที่ยวต่างชาตไิ ดท้ ัง้ หมด 40 ล้านคน มีอตั ราการเตบิ โต สูงขึ้นเท่ากับรอ้ ยละ 4 10 อนั ดับประเทศท่ไี ดร้ บั รายได้จากการท่องเท่ียวสงู ทส่ี ุด ประเทศที่สร้างรายได้จากการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยว (International Tourism Receipts) และสร้างรายได้ จากบริการด้านการท่องเที่ยวมากที่สุด 10 อันดับแรก สามารถสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวได้มากถึงร้อยละ 50 ของรายได้้จากการท่่องเที่�่ยวทั่่�วโลก ในปีี พ.ศ. 2562 สหรััฐอเมริิกาได้้รัับรายได้้จากการท่่องเที่่�ยวมากที่่�สุุดอยู่่�ที่่� 214 พัันล้้านดอลลาร์์สหรััฐ รองลงมา คืือ ประเทศสเปน และประเทศฝรั่�งเศส ทั้้�งนี้้� ประเทศไทยถููกจััดอยู่่�ที่�่อัันดัับ 4 ซึ่ง่� สามารถสร้า้ งรายได้จ้ ากการท่อ่ งเที่ย่� วได้ท้ ั้้ง� หมด 61 พันั ล้า้ นดอลลาร์ส์ หรัฐั และมีีอัตั ราการเติบิ โตสููงขึ้น� เท่า่ กับั ร้อ้ ยละ 3 TOP จดุ หมายปลายทางการทองเท่ยี ว TOP ประเทศทไ่ี ดร บั รายได จากจำนวนนกั ทองเทย่ี ว จากการทอ งเท่ียวสงู สดุ 10 10 ประเทศทด่ี ึงดดู นกั ทอ งเทยี่ วตางชาติมากท่ีสดุ 10 10 ประเทศสรา งรายไดจ ากการทอ งเท่ยี วมากทสี่ ุด มจี ำนวนนกั ทองเที่ยวรวมเปน 40% ของจำนวน มีรายไดรวมคิดเปน 50% ของรายไดจากการทองเทย่ี ว นกั ทองเท่ยี วตา งชาติ (International arrivals) ทว่ั โลก (International Tourism Receipts) ทั่วโลก ฝรัง่ เศส อเมรกิ า สเปน +1% อเมริกา 89 +0% 214 +1% จนี 84 +3% อิตาลี 79 +2% สเปน -1% ตุรกี 66 +3% +4% เมก็ ซโิ ก 65 +10% 80 +5% ประเทศไทย 51 +6% +12% เยอรมนั 45 +8% ฝร่งั เศส +9% สหราชอาณาจักร 40 7 +9% +4% 40 +2% 64 +2% 39 หนวย : ลา นคน -3% +2% ประเทศไทย 4 61 สหราชอาณาจักร 53 อิตาลี 50 ญป่ี นุ 46 ออสเตรเลีย 46 เยอรมัน 42 มาเกา (จนี ) หนว ย : พนั ลานดอลลาร 41 รปู ที่ 2-3 : อันดับประเทศที่เป็นจดุ หมายปลายทางของการทอ่ งเที่ยวและสร้างรายไดส้ งู สดุ 036
สัดส่วนการทอ่ งเท่ยี วภายในประเทศและต่างประเทศ ในแต่่ละภููมิิภาคทั่่�วโลกจะมีีสััดส่่วนระหว่่างการเดิินทางการท่่องเที่�่ยวภายในประเทศ (Domestic Tourism) และการเดิินทางท่่องเที่�่ยวออกนอกประเทศ (Outbound Tourism) ที่่�แตกต่่างกัันออกไป ขึ้้�นอยู่�่ กัับปััจจััยทางเศรษฐกิิจ และสังั คมหลายประการ เช่น่ สภาวะเศรษฐกิจิ ของประชาชนในประเทศ สังั คมผู้�สูงอายุุ ความปลอดภัยั ของการเดินิ ทาง เป็น็ ต้น้ โดยเมื่่อ� วิิเคราะห์์สัดั ส่่วนการเดิินทางออกนอกประเทศ (Outbound Tourism) ในปีี พ.ศ. 2562 จำำ�แนกตามภููมิภิ าค พบว่่า นกั ท่องเที่ยวจากภูมิภาคยโุ รป คดิ เป็นรอ้ ยละ 48 ของการท่องเที่ยวออกนอกประเทศท่ัวโลก รองลงมา คือ นักทอ่ งเที่ยวจาก ภูมิภาคเอเชียแปซฟิ ิก ภูมิภาคอเมริกา ภูมิภาคตะวนั ออกกลาง และภูมิภาคแอฟริกา ตามล�ำดับ การเดินทางทอ่ งเท่ียวออกนอกประเทศ (Outbound Tourism) สัดสวนการเดนิ ทางออกนอกประเทศ (แบง ตามภูมิภาค) ยุโรป 48% เอเชียแปซฟิ ก 26% TOP ประเทศทีม่ กี ารใชจ า ย ดานการทอ งเทย่ี ว 10 นอกประเทศสูงท่สี ุด (INTERNATIONAL TOURISM SPENDING, 2019) จีน -4% อเมรกิ า 255 +5% 152 +3% เยอรมนั +6% หนวย : พนั ลา นดอลลาร +11% 93 +5% อเมริกา 17% +5% สหราชอาณาจักร ตะวนั ออกกลาง 3% +5% -8% 72 +6% ฝร่งั เศส ไมร ะบุ 3% 52 แอฟรกิ า 3% รสั เซยี 36 ออสเตรเลีย 36 4 ใน 5 แคนาดา ของนักทองเท่ยี วท่ีเดินทางออกนอกประเทศ 35 เลือกเท่ียวภายในภมู ิภาคของตนเอง เกาหลีใต 32 อิตาลี 30 รูปที่ 2-4 : ภาพรวมสถานการณก์ ารท่องเที่ยวของโลกในปี พ.ศ. 2562 037
แผนพฒั นาการทอ่ งเทย่ี วแหง่ ชาติ ฉบับท่ี 3 (พ.ศ. 2566 – 2570) ทง้ั นี้ผ ลส�ำรวจจากรายงานขององคก์ ารการทอ่ งเที่ยวโลก พบวา่ 4 ใน 5 ของนกั ทอ่ งเที่ยวที่เดนิ ทางออกนอกประเทศ หรือคิดเป็นประมาณร้อยละ 80 เป็นนักท่องเที่ยวที่เดินทางท่องเที่ยวภายในภูมิภาคของตน ด้วยปัจจัยทางด้านราคา ระยะเวลาในการเดินทาง และความคล้ายคลึงทางด้านภาษาและวัฒนธรรมระหว่างประเทศต้นทางและประเทศ ปลายทาง และเมื่อพิจารณาจากการใช้จ่ายด้านการท่องเที่ยวต่างประเทศ (International Tourism Spending) พบวา่ ในปี พ.ศ. 2562 ประเทศจนี เปน็ ประเทศที่มกี ารใชจ้ า่ ยดา้ นการทอ่ งเที่ยวในตา่ งประเทศสงู ที่สดุ อยทู่ ี่ 255 พนั ลา้ น ดอลลาร์สหรฐั ซง่ึ มีอตั ราลดลงร้อยละ 4 รองลงมา คือ สหรัฐอเมรกิ า และประเทศเยอรมนี เมื่อ่� พิจิ ารณาสัดั ส่ว่ นการพึ่ง่� พารายได้จ้ ากการใช้จ้ ่า่ ย ร้้อยละ 80 ของนักั ท่อ่ งเที่ย่� วภายในประเทศ (Domestic Spending) ของนัักท่่องเที่่�ยว และรายได้้จากการใช้้จ่่ายของนัักท่่องเที่�่ยวต่่างประเทศ เดิินทางภายใน (International Spending) ของประเทศในกลุ่�มประเทศ ภููมิภิ าคของตน มหาอำำ�นาจทางเศรษฐกิิจของโลกอย่่างกลุ่�ม G20 จาก ด้้วยปััจจัยั รายงาน WTTC Global Economic Impact Trends ทางด้า้ นราคา ประจำำ�ปีี พ.ศ. 2563 พบว่า่ ประเทศบราซิลิ มีีสัดั ส่ว่ นการ ระยะเวลา พึ่�่งพารายได้้จากนัักท่่องเที่่�ยวภายในประเทศมากที่�่สุุด ในการเดิินทาง สููงกว่่าร้อ้ ยละ 93 รองลงมา คืือ ประเทศจีีน ที่่�มีีสััดส่่วน การพึ่�่งพารายได้้จากนัักท่่องเที่่�ยวภายในประเทศ ประมาณร้้อยละ 87 โดยมีีเพีียง 3 ประเทศเท่่านั้้�นที่่�มีี สััดส่่วนการพึ่่�งพารายได้้จากนัักท่่องเที่่�ยวต่่างประเทศ มากกว่่านักั ท่อ่ งเที่�ย่ วภายในประเทศ คืือ ประเทศสเปน ประเทศตุุรกีี และประเทศซาอุุดีีอาระเบีีย ภาพรวม สถานการณ์์การท่่องเที่�่ยวทั่่�วโลก จากรายงานของ องค์ก์ ารการท่อ่ งเที่ย�่ วโลก (UNWTO) ช่ว่ งเดืือนมกราคม ถึงึ กัันยายน 2564 ยัังคงได้ร้ ับั ผลกระทบจากการระบาด ของโรคโควิดิ – 19 โดยมีีอัตั ราส่ว่ นจำำ�นวนนัักท่่องเที่�่ยว ต่่างชาติิลดลงทั่่�วโลกร้้อยละ 76 ในช่่วง 9 เดืือนของปีี 2564 เมื่�่อเปรีียบเทีียบกัับช่่วงเวลาเดีียวกัันในปีี 2562 อย่่างไรก็็ตาม จากข้้อมููลเดิิมการท่่องเที่่�ยวมีี การฟื้�้นตััวอย่่างค่่อยเป็็นค่่อยไป และยัังคงมีีความ เปราะบางสููง ประกอบกับั การระบาดของโรคโควิดิ – 19 สายพัันธุ์� Omicron อาจส่่งผลให้้เกิิดการระบาดใหม่่ ในช่่วงต้้นปีี 2565 โดยในเดืือนธัันวาคมพบการระบาด อย่่างรวดเร็็วในภููมิิภาคอเมริิกาเหนืือและยุุโรป ดัังนั้้�น ในระยะสั้�น อาจส่ง่ ผลต่อ่ ความสามารถในการฟื้้�นตััวของ ภาคการท่่องเที่�่ยว ในระยะยาวถ้้าอััตราผู้้�ป่่วยรุุนแรง ไม่เ่ พิ่่ม� ขึ้น� อย่า่ งมีีนัยั สำ�ำ คัญั การท่อ่ งเที่ย�่ วจะฟื้น�้ ตัวั ต่อ่ เนื่อ่� ง 038
ยิ่�งไปกว่่านั้้�น ข้้อมููลการฉีีดวััคซีีนโรคโควิิด – 19 และสถานการณ์์ดัังกล่่าวแสดงให้้เห็็นถึึงความพร้้อม ที่่�เพิ่่�มขึ้ �นอย่่างต่่อเนื่�่องทั่่�วโลก ส่่งผลดีีกัับการท่่องเที่่�ยว ในการกลัับมาเปิดิ รัับนัักท่่องเที่�่ยว ประกอบกัับนโยบาย ที่เ่� ริ่ม� ฟื้น�้ ตัวั จากการเริ่ม� เปิดิ ให้ม้ ีีการเดินิ ทางระหว่า่ งประเทศ ภายในกลุ่ �มประเทศอาเซีียนที่่�มุ่ �งเน้้นให้้นัักท่่องเที่่�ยว เพิ่่�มมากขึ้�นในช่่วงก่่อนการระบาดของโรคโควิิด – 19 เดินิ ทางระหว่า่ งประเทศสมาชิิกได้้คล่่องตัวั มากขึ้�น สายพัันธุ์� Omicron ซึ่่�งพบว่่ามีีเพีียงส่่วนน้้อยเท่่านั้้�น ที่�่ยัังไม่่เปิิดพรมแดนรัับนัักท่่องเที่่�ยว คิิดเป็็นร้้อยละ 21 การฉีีดวััคซีีน แต่่ในช่่วงหลัังการระบาดพบว่่า รััฐบาลหลายประเทศ เพิ่่�มขึ้้น� ปรับั เปลี่ย�่ นข้อ้ กำำ�หนดในการเดินิ ทางเข้า้ ประเทศส่ง่ ผลให้้ อย่า่ งต่่อเนื่่�อง นัักท่่องเที่�่ยวบางส่่วนชะลอการเดิินทางหรืือเดิินทางได้้ โดยมีีเป้้าหมาย อย่า่ งล่า่ ช้า้ เพื่อ�่ บรรลุเุ งื่อ� นไขการคัดั กรองทางสาธารณสุขุ นำำ�ไปสู่่� อย่่างไรก็็ตาม สืืบเนื่่�องจากปััญหาเงิินเฟ้้อโลกสููง การเปิดิ กิจิ กรรม และสถานการณ์์ความขััดแย้้งระหว่่างยููเครนและรััสเซีีย ทางเศรษฐกิิจ ที่่�ทวีีความรุุนแรงมากขึ้ �นอาจส่่งผลกระทบต่่อเศรษฐกิิจ และการเปิดิ ประเทศ ยุุโรป ทำ�ำ ให้้การฟื้�้นตััวทางเศรษฐกิิจมีีอุุปสรรคมากขึ้�น อย่า่ งเต็็มรูปู แบบ ภาคการท่่องเที่่�ยวอาจฟื้้�นตััวได้้ช้้ากว่่าที่�่คาดการณ์์ไว้้ เนื่่�องจากนัักท่่องเที่่�ยวยุุโรปจะเดิินทางท่่องเที่่�ยวลดลง 039 โดยเฉพาะนัักท่่องเที่�่ยวจากรััสเซีีย ซึ่�่งจากสถิิติิจำำ�นวน นัักท่่องเที่�่ยวที่่�เดิินทางเข้้ามายัังประเทศไทย พบว่่า ในเดืือนกุมุ ภาพันั ธ์์ 2565 มีีนัักท่่องเที่่�ยวรัสั เซีีย จำำ�นวน เฉลี่่ย� วันั ละ 629 คน และในระหว่า่ งวันั ที่่� 1-19 มีีนาคม 2565 มีีนัักท่่องเที่่�ยวรััสเซีีย จำำ�นวนเฉลี่่�ยวันั ละ 356 คน ถึงึ แม้ว้ ่า่ ในเดืือนพฤษภาคม 2565 การท่่องเที่ย�่ วระหว่า่ ง ประเทศโดยรวมจะปรับั ตัวั ดีีขึ้้น� แต่ส่ ถานการณ์เ์ ศรษฐกิจิ โลกกำำ�ลัังเผชิิญปััญหาภาวะเงิินเฟ้้อจากสถานการณ์์ ความขััดแย้้งระหว่่างยููเครนและรััสเซีีย นอกจากนี้้� ยังั ต้อ้ งจับั ตาการแพร่ร่ ะบาดของโรคฝีดี าษลิงิ อย่า่ งใกล้ช้ ิดิ อีีกด้ว้ ย นอกจากนี้้� จากการรวบรวมข้้อมููลขององค์์การ อนามัยั โลก (WHO) ในเดืือนกรกฎาคม 2565 พบจำ�ำ นวน ผู้้�ติดิ เชื้อ� โควิิด – 19 สะสมทั่่�วโลก 574.90 ล้้านคน แม้้ว่่า การระบาดยัังคงเกิิดขึ้�นอย่่างต่่อเนื่�่อง แต่่ข้้อมููลจำ�ำ นวน ผู้�เสีียชีีวิิตน้้อยกว่่าการระบาดที่�่ผ่่านมา แสดงให้้เห็็นถึึง ความรุุนแรงของโรคที่�่น้้อยกว่่าสายพัันธุ์์�ก่่อนหน้้านี้้� ขณะเดีียวกััน สถานการณ์์การฉีีดวััคซีีนมีีการเพิ่่�มขึ้�น อย่่างต่่อเนื่�่อง โดยมีีเป้้าหมายนำ�ำ ไปสู่่�การเปิิดกิิจกรรม ทางเศรษฐกิิจและการเปิิดประเทศอย่่างเต็็มรููปแบบ
แผนพฒั นาการทอ่ งเท่ียวแหง่ ชาติ ฉบบั ที่ 3 (พ.ศ. 2566 – 2570) 1.2 สถานการณก์ ารทอ่ งเท่ียวไทย พ.ศ. 2562 เศรษฐกิจของประเทศไทยมีสัดส่วนการพึ่งพาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวสูงถึงร้อยละ 17.79 โดย ผลติ ภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศด้านการทอ่ งเที่ยว (Tourism Gross Domestic Product : TGDP) จ�ำแนกออกเป็น 1) ผลติ ภณั ฑม์ วลรวมภายในประเทศดา้ นการทอ่ งเที่ยวทางตรง (Tourism Direct Gross Domestic Product : TDGDP) คดิ เปน็ สดั สว่ นรอ้ ยละ 7.25 ของผลติ ภณั ฑม์ วลรวมภายในประเทศ (Gross Domestic Product : GDP) และ 2) ผลติ ภณั ฑ์ มวลรวมภายในประเทศด้านการทอ่ งเที่ยวทางออ้ ม (Tourism Indirect Gross Domestic Product : TIGDP) คิดเปน็ สัดส่วนรอ้ ยละ 10.54 ของผลิตภัณฑม์ วลรวมภายในประเทศ (Gross Domestic Product : GDP) โดยเมื่อวิเคราะห์ข้อมูลสถิติจากบัญชีประชาชาติ ดา้ นการทอ่ งเที่ยว (Tourism Satellite Accounts – TSA) พบวา่ การเตบิ โตของมลู ค่าการใชจ้ า่ ยของผเู้ ยยี่ มเยือน ทั้งชาวไทยและต่างประเทศเร่ิมเข้าใกล้จุดอิ่มตัว โดยมีอัตราการขยายตัวที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง อีกทั้ง ยังมีสัดส่วนการพึ่งพารายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่สูงกว่านักท่องเที่ยวไทยประมาณ 2 เท่า โดยในปี พ.ศ. 2562 มีจ�ำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติประมาณ 40 ลา้ นคน ซึง่ เพิ่มข้นึ รอ้ ยละ 4.55 จากปี พ.ศ. 2561 แต่ในปี พ.ศ. 2563 จ�ำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ ลดลงถึงรอ้ ยละ 83.21 ดว้ ยจ�ำนวนนกั ทอ่ งเที่ยวตา่ งชาติ เพียงประมาณ 7 ล้านคน และระหว่างเดือนมกราคม ถึงมีนาคม ปี พ.ศ. 2564 ที่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติ เพีียง 20,174 คน เนื่อ�่ งจากสถานการณ์ก์ ารแพร่ร่ ะบาด ของโรคโควิดิ – 19 ในขณะที่จ�่ ำ�ำ นวนนักั ท่อ่ งเที่ย่� วไทย ในปี พ.ศ. 2563 ลดลงถึงรอ้ ยละ 46.37 จากประมาณ 230 ล้านคน/ครั้ง ในปี พ.ศ. 2562 ส่งผลให้มี นักท่องเที่ยวชาวไทยประมาณ 123 ล้านคน/คร้ัง และในปี พ.ศ. 2564 มีจ�ำนวนนักท่องเที่ยวไทยเพียง 26 ล้านคน/ครั้ง เป็นจ�ำนวนที่น้อยที่สุดในรอบ 4 ปี โดยเป็นผลมาจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค โควดิ – 19 และมาตรการการรกั ษาความปลอดภยั และ สขุ อนามยั ของคนไทย ซ่ึงสง่ ผลใหป้ ระชาชนกังวลเรื่อง การติดเชื้อและหลกี เลี่ยงการเดินทางออกไปท่องเที่ยว 040
ในป พ.ศ. 2562 เศรษฐกจิ ของ รายไดจากนักทองเที่ยวชาวตา งชาติสูงกวา ประเทศไทยพึ่งพาอุตสาหกรรม นักทอ งเท่ียวไทยประมาณ 2 เทา ทองเท่ยี วสงู ถงึ จำนวนนกั ทองเท่ียวไทย (คน/ครั้ง) รายไดน ักทองเทย่ี วไทย 17.79% จำนวนนักทอ งเที่ยวตา งชาติ รายไดน ักทอ งเทย่ี วตางชาติ GDP ทั้งหมด ลา นคน หม่ืนลานบาท ของประเทศ 250 0.87% 230 250 1.9% 10.54% 200 188 Tourism GDP ทางออ ม 200 228 -46.37% 193 7.25% 150 150 107 0.97% -82.63% Tourism GDP ทางตรง 100 108 -55.4% 100 -83.21% 123 50 4.55% 40 7 50 48 33 0 38 2563 0 2561 2562 2563 2561 2562 ป พ.ศ. 2562-2563 จํานวนนักทองเที่ยวไทย ป พ.ศ. 2562-2563 รายไดจ ากนกั ทองเทย่ี ว ลดลง -46.37% และจํานวนนกั ทอ งเทยี่ ว ไทยลดลง -55.40% และรายไดจากนักทองเที่ยว ตางชาติลดลง -83.21% ตางชาติลดลง -82.63% สงผลใหร ายได การทอ งเทยี่ วโดยรวมของประเทศไทยลดลง -73% รูปที่ 2-5 : สดั ส่วนรายได้ด้านการท่องเที่ยวของไทย นอกจากนี้ เมื่อศึกษาสถิติการกระจายตัวของ นักท่องเที่ยวจะพบว่า ประเทศไทยมีการกระจุกตัวของ จ�ำนวนนักท่องเที่ยวที่ลดลงส่งผลกระทบโดยตรง จ�ำนวนนกั ทอ่ งเที่ยวและรายไดจ้ ากการทอ่ งเที่ยวในเพยี ง ให้รายได้จากการทอ่ งเที่ยวลดลงไปด้วย โดยพบวา่ ในปี บางจงั หวดั ของประเทศไทย โดยในปี พ.ศ. 2562 รอ้ ยละ พ.ศ. 2562 ประเทศไทยมรี ายไดจ้ ากนกั ทอ่ งเที่ยวชาวไทย 53.22 ของนกั ท่องเที่ยวท้ังหมดในประเทศไทย เดนิ ทาง ประมาณ 1.08 ลา้ นล้านบาท เพม่ิ ขน้ึ รอ้ ยละ 0.97 จากปี ท่องเที่ยวอยู่ภายใน 10 จงั หวดั การท่องเที่ยวหลักของ พ.ศ. 2561 แต่จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค ไทยเท่านั้น โดยอันดับหน่ึงอยู่ในพ้ืนที่กรุงเทพมหานคร โควดิ – 19 ในปี พ.ศ. 2563 รายได้จากนักทอ่ งเที่ยวไทย ประมาณ 66 ล้านคน รองลงมา คือ จังหวัดชลบุรี เหลือเพยี งประมาณ 0.48 ลา้ นลา้ นบาท ลดลงจากปกี อ่ น ประมาณ 18 ล้านคน และจังหวัดภูเก็ตประมาณ ถึงรอ้ ยละ 55.4 ในสว่ นของรายไดน้ ักท่องเที่ยวต่างชาติ 14 ลา้ นคน ตามล�ำดบั และเมื่อพจิ ารณาการกระจายตวั แม้ว่าในปี พ.ศ. 2562 จะมีสูงถึง 1.91 ล้านล้านบาท ของนักท่องเที่ยวต่างชาติจะพบว่า ร้อยละ 86.27 ของ คดิ เปน็ การเตบิ โตรอ้ ยละ 1.9 จากปี พ.ศ. 2561 แตเ่ มื่อ นักท่องเที่ยวต่างชาติกระจุกตัวอยู่เพียง 10 จังหวัด เกิดมาตรการการป้องกันการแพร่ระบาดของโรค โดยเฉพาะกรุงเทพมหานคร ที่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติ โควิด – 19 โดยการปิดประเทศในปี พ.ศ. 2563 สงู ถึง 24 ลา้ นคน รองลงมา คือ จงั หวดั ภูเกต็ ประมาณ 10 ส่งผลให้รายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติในปีนั้น ลา้ นคน และจงั หวดั ชลบรุ ี ประมาณ 9 ลา้ นคนตามล�ำดบั เหลือเพียง 0.33 ล้านล้านบาท ลดลงจากปีก่อนหน้า ถึงร้อยละ 82.63 ส่งผลให้รายได้รวมจากการท่องเที่ยว 041 ของไทยลดลงไปถึงร้อยละ 73
แผนพัฒนาการทอ่ งเทยี่ วแหง่ ชาติ ฉบบั ท่ี 3 (พ.ศ. 2566 – 2570) ในขณะที่นกั ทอ่ งเที่ยวชาวไทยมีอตั ราการกระจกุ ตวั ที่นอ้ ยกว่านกั ทอ่ งเที่ยวชาวตา่ งชาตเิ ลก็ นอ้ ย โดยร้อยละ 48.16 ของ นกั ทอ่ งเที่ยวไทยกระจกุ ตวั อยใู่ น 10 จงั หวดั หลกั เชน่ กนั นกั ทอ่ งเที่ยวชาวไทยกวา่ 44 ลา้ นคนทอ่ งเที่ยวภายในกรงุ เทพมหานคร รองลงมา คือ จงั หวัดนครราชสมี าที่กวา่ 9 ลา้ นคน และจงั หวดั กาญจนบุรีที่กว่า 9 ล้านคน สถิตกิ ารกระจายตวั ของนักทอ งเที่ยวทั้งหมด สดั สว น จำนวน (คน) กรุงเทพมหานคร 21.80% 66,956,652 ชลบรุ ี 6.06% 18,602,920 ภูเก็ต 4.75% 14,576,466 11,165,860 เชียงใหม 3.64% นครราชสมี า 3.22% 9,898,428 9,618,052 กาญจนบรุ ี 3.13% 8,958,499 เพชรบุรี 2.92% 8,292,809 อยุธยา 2.70% 7,877,379 ระยอง 2.56% 7,503,461 สงขลา 2.44% ในป 2562 53.22% ของนักทอ งเทยี่ วทง้ั หมด ทองเท่ียวใน 10 จงั หวดั การทองเท่ียวหลักของไทย สถิติการกระจายตวั ของนักทองเท่ียวตางชาติ สถติ กิ ารกระจายตวั ของนักทองเทีย่ วชาวไทย สดั สว น จำนวน (คน) สดั สวน จำนวน (คน) กรุงเทพมหานคร 32.16% 24,892,715 กรงุ เทพมหานคร 32.16% 44,073,847 ภเู กต็ 13.69% 10,598,921 นครราชสมี า 13.69% 9,700,608 ชลบุรี 12.88% 9,966,574 กาญจนบุรี 12.88% 9,121,884 กระบ่ี 5.57% 4,312,608 ชลบรุ ี 5.57% 8,636,436 สุราษฎรธานี 4.64% 3,591,556 เพชรบรุ ี 4.64% 8,410,769 เชยี งใหม 4.49% 3,474,407 เชยี งใหม 4.49% 7,691,455 พงั งา 4.48% 3,470,414 ระยอง 4.48% 7,310,599 สงขลา 3.98% 3,082,903 อยุธยา 3.98% 6,183,177 อยุธยา 2.73% 2,109,632 ประจวบคีรขี ันธ 2.73% 6,023,393 สมทุ รปราการ 1.64% 1,270,631 ขอนแกน 1.64% 5,502,774 86.27% ของนักทอ งเที่ยวตา งชาตกิ ระจุกตวั อยูเพยี ง 10 จงั หวัด 48.16% ของนักทองเที่ยวไทยกระจกุ ตวั อยใู น 10 จังหวัดหลักเชน กัน โดยเฉพาะกรงุ เทพมหานคร รูปที่ 2-6 : สถิติการกระจายตัวของนักทอ่ งเที่ยวภายในประเทศ 042
จากการวิเคราะห์ข้อมูลจ�ำนวนและรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติเบื้องต้นของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาในปี พ.ศ. 2562 พบว่า 10 ประเทศที่มีจ�ำนวนนักทอ่ งเที่ยวเดินทางมาเที่ยวประเทศไทยมากที่สุดจากจ�ำนวนนักทอ่ งเที่ยวทัง้ หมด ประมาณ 40 ล้านคน ได้แก่ 1) สาธารณรัฐประชาชนจีน 2) ประเทศมาเลเซีย 3) ประเทศอินเดีย 4) สาธารณรัฐเกาหลี 5) สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว 6) ประเทศญี่ปุ่น 7) สหพันธรัฐรัสเซีย 8) ประเทศสิงคโปร์ 9) สหรัฐอเมริกา และ 10) เขตบรหิ ารพเิ ศษฮอ่ งกง ตามล�ำดบั โดยนกั ทอ่ งเที่ยวจนี มกี ารเดนิ ทางมาเที่ยวประเทศไทยมากที่สดุ มรี ายละเอียด ดงั นี้ 10 ประเทศท่มี จี ำนวนนกั ทองเทย่ี วสงู สุด 10 ประเทศท่สี รางรายไดใ หไ ทยสงู ทส่ี ุด ลานคน ลา นลานบาท 28% 12.00 อันดบั 1 จนี จำนวน 11 ลา นคน 0.60 อันดบั 1 จีน จำนวน 0.53 ลา นลา นบาท 10.00 28% จากทัง้ หมด 40 ลา นคน 28% (28%) จากทั้งหมด 1.9 ลา นลา นบาท 8.00 0.50 6.00 4.00 0.40 2.00 11% 0.30 - 5% 5% 5% 4% 4% 3% 3% 3% 0.20 0.10 6% 5% 5% 4% 4% 4% 4% 3% 3% - ม เาอิเกนลเาเ ีจดีีซหนยลยี ลาว สห ัรฐ ิสอ ฮเงรัอมสค ่ีญงเโิร ุปีซกปกรงนยา มารัเสลเเจีซีีซยนย สหรสาชหรัอฐาอเเณอิกามนเ่ญีาจัริปุดีหกกนลียาร ออสเตรเล ีลาวย ป พ.ศ. 2562 จำนวนนกั ทอ งเท่ยี วตางชาติทมี่ าเท่ยี วไทยมากทีส่ ุด ป พ.ศ. 2562 ประเทศไทยไดร ับรายไดการทอ งเทีย่ วสงู สดุ 10 ประเทศ โดยประเทศจนี เปน ประเทศที่มาเที่ยวไทยมากท่ีสุด 10 อันดับจากประเทศขา งตน โดยไดรายไดจ ากชาวจีนมากที่สุด เปนจำนวนประมาน 11 ลา นคน ซึ่งเปน รอยละ 28 ประมาณ 0.53 ลานลา นบาท ซง่ึ เปนรอยละ 28 ของรายไดจ าก จากจำนวนนกั ทอ งเท่ยี วทง้ั หมดประมาน 40 ลานคน นกั ทองเท่ียวตางชาตทิ ัง้ หมด ซ่งึ อยปู ระมาณ 1.9 ลา นลา นบาท 5 ประเทศคาใชจา ยตอ คนตอ วันสงู ทีส่ ุด ประเทศรัสเซยี สหรัฐอเมรกิ า และญี่ปนุ 1 สหราชอาณาจกั ร 8,249 บาท/คน/วนั เปน ประเทศที่ติด 1 ใน 10 อันดบั ประเทศที่ นักทอ งเที่ยวมาเทีย่ วไทยมากท่สี ุด 2 ออสเตรเลยี 7,752 บาท/คน/วนั และใชจ า ยในการทองเที่ยว 3 รัสเซีย 7,499 บาท/คน/วัน ที่ไทยมากที่สุด 4 สหรัฐอเมรกิ า 7,301 บาท/คน/วนั และเปนประเทศที่มีคา ใชจา ยตอคนตอ วนั สูง ตดิ อนั ดับ Top 5 5 ญ่ปี ุน 5,665 บาท/คน/วนั รปู ที่ 2-7 : จ�ำนวนและรายได้นกั ท่องเที่ยวตา่ งชาตสิ ูงสดุ 043
แผนพฒั นาการท่องเท่ียวแห่งชาติ ฉบบั ท่ี 3 (พ.ศ. 2566 – 2570) 10 ประเทศท่ีมจี ำ� นวนนักทอ่ งเที่ยวเดินทางมาประเทศไทยมากท่ีสุดในปี พ.ศ. 2562 10 ประเทศท่มี จี �ำนวนนักท่องเทยี่ วสูงสุด จำ� นวนนกั ทอ่ งเท่ียว (คน) สัดส่วนจากนักทอ่ งเทย่ี ว ท้งั หมดในปี พ.ศ. 2562 1. สาธารณรฐั ประชาชนจีน 11,138,658 รอ้ ยละ 28 2. ประเทศมาเลเซยี 4,274,458 ร้อยละ 11 3. ประเทศอนิ เดยี 1,961,069 รอ้ ยละ 5 4. สาธารณรฐั เกาหลี 1,880,465 รอ้ ยละ 5 5. สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว 1,856,762 รอ้ ยละ 5 6. ประเทศญีป่ ุน่ 1,787,185 ร้อยละ 4 7. สหพนั ธรัฐรสั เซีย 1,481,837 ร้อยละ 4 8. ประเทศสงิ คโปร์ 1,150,024 ร้อยละ 3 9. สหรัฐอเมริกา 1,136,210 รอ้ ยละ 3 10. เขตบริหารพิเศษฮอ่ งกง 1,090,121 รอ้ ยละ 3 ตารางที่ 2-1 : ประเทศที่มีจ�ำนวนนักท่องเที่ยวเดนิ ทางมาประเทศไทยมากที่สุดในปี พ.ศ. 2562 044
ในส่่วนของรายได้้จากนัักท่่องเที่่�ยวต่่างชาติิ พบว่่า ในปีี พ.ศ. 2562 นัักท่่องเที่่�ยวจากประเทศที่่�สร้้างรายได้้ให้้กัับ ประเทศไทยมากที่ส่� ุดุ 10 ประเทศ ได้แ้ ก่่ 1) สาธารณรัฐั ประชาชนจีีน 2) ประเทศมาเลเซีีย 3) สหพันั ธรัฐั รัสั เซีีย 4) ประเทศญี่ป่�ุ่�น 5) ประเทศอิินเดีีย 6) สหรััฐอเมริิกา 7) สาธารณรััฐเกาหลีี 8) สหราชอาณาจัักร 9) สาธารณรััฐประชาธิิปไตยประชาชนลาว 10) ประเทศออสเตรเลีีย ตามลำ�ำ ดับั โดยนักั ท่อ่ งเที่ย่� วจากประเทศจีีนสร้า้ งรายได้ใ้ ห้ก้ ับั ประเทศไทยมากที่ส่� ุดุ มีีรายละเอีียด ดังั นี้้� 10 ประเทศทส่ี รา้ งรายได้ให้กบั ประเทศไทยสูงที่สุดในปี พ.ศ. 2562 10 ประเทศท่ีสรา้ งรายได้ให้ประเทศไทยสูงสดุ รายได้ (ลา้ นบาท) สดั สว่ นรายได้จากต่างชาติ ท้ังหมดในปี พ.ศ. 2562 (%) 1. สาธารณรฐั ประชาชนจนี 531,576.65 ร้อยละ 28 2. ประเทศมาเลเซยี 107,457.97 รอ้ ยละ 6 3. สหพนั ธรัฐรสั เซยี 102,895.03 รอ้ ยละ 5 4. ประเทศญป่ี ุน่ 93,758.84 รอ้ ยละ 5 5. ประเทศอินเดีย 80,039.88 รอ้ ยละ 4 6. สหรฐั อเมรกิ า 76,819.24 รอ้ ยละ 4 7. สาธารณรฐั เกาหลี 75,435.78 ร้อยละ 4 8. สหราชอาณาจักร 72,318.73 รอ้ ยละ 4 9. สาธารณรฐั ประชาธปิ ไตยประชาชนลาว 58,035.54 รอ้ ยละ 3 10. ประเทศออสเตรเลีย 55,402.66 ร้อยละ 3 ตารางที่ 2-2 : ประเทศที่สรา้ งรายได้ใหป้ ระเทศไทยสูงสุดในปี พ.ศ. 2562 ถึงแม้ว่าชาวจีนจะเป็นนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาประเทศไทยมากที่สุด และสร้างรายได้โดยรวมให้กับประเทศไทย มากที่สดุ แต่เมื่อพจิ ารณาคา่ ใชจ้ า่ ยต่อคนตอ่ วนั ของนักทอ่ งเที่ยวต่างชาติแต่ละประเทศแล้ว พบว่า นักทอ่ งเที่ยวชาวจีน มีค่าใชจ้ ่ายเฉลย่ี ตอ่ คนต่อวนั ไมต่ ิดอันดบั 1 ใน 5 ของประเทศที่มคี า่ ใช้จา่ ยตอ่ คนตอ่ วนั สงู ที่สดุ คือ 1) สหราชอาณาจักร (8,249 บาทตอ่ คนตอ่ วนั ) 2) ประเทศออสเตรเลยี (7,752 บาทตอ่ คนตอ่ วนั ) 3) สหพนั ธรฐั รสั เซยี (7,499 บาทตอ่ คนตอ่ วนั ) 4) สหรัฐอเมริกา (7,301 บาทตอ่ คนต่อวนั ) และ 5) ประเทศญีป่ ุ่น (5,665 บาทต่อคนต่อวนั ) และเมื่อพิจารณาค่าใช้จ่าย เฉล่ียต่อคนต่อวันของทั้งนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติ พบว่า นักท่องเที่ยวต่างชาติใช้จ่ายมากกว่านักท่องเที่ยว ชาวไทยถึง 2 เทา่ 045
แผนพฒั นาการท่องเทีย่ วแห่งชาติ ฉบบั ท่ี 3 (พ.ศ. 2566 – 2570) ประเทศไทยมีีจำำ�นวนนัักท่่องเที่่�ยว ชาวต่่างชาติิสะสมตั้้�งแต่่เดือื นมกราคม - ธัันวาคม 2564 จำำ�นวน 427,869 คน ลดลงร้้อยละ 93.62 ส�ำหรบั ในปี 2564 ประเทศไทยมจี �ำนวนนกั ทอ่ งเที่ยว ควบคุุมการเดิินทางภายในประเทศ และกิิจกรรมทาง ชาวต่า่ งชาติิสะสมตั้�งแต่่เดืือนมกราคม - ธัันวาคม 2564 เศรษฐกิิจและสัังคมให้้สอดคล้้องกัับสถานการณ์์และ จำำ�นวน 427,869 คน ลดลงร้้อยละ 93.62 เปรีียบเทีียบ บริิบทในปัจั จุุบััน กับั ช่ว่ งเวลาเดีียวกันั ของปีที ี่ผ�่ ่า่ นมา ซึ่ง่� การระบาดของโรค อย่างไรก็ตาม ในช่วงเดือนกรกฎาคม 2565 โควิิด – 19 และมาตรการควบคุมุ การเดิินทางยังั คงเป็็น การทอ่ งเที่ยวของไทยปรบั ตวั ดขี นึ้ หลงั จากที่มกี ารยกเลกิ อุปสรรคตอ่ การเดินทางท่องเที่ยวระหวา่ งประเทศ ท้งั นี้ การลงทะเบียนผ่านระบบไทยแลนด์พาส (Thailand จากการรวบรวมข้้อมููลขององค์์การอนามััยโลก (WHO) Pass) โดยมปี จั จยั สนบั สนนุ จากอปุ สงคข์ องการทอ่ งเที่ยว พบจำ�ำ นวนผู้้�ติดิ โรคโควิดิ –19สะสมทั่่ว� โลก285.65 ล้า้ นคน ที่เพม่ิ ขนึ้ อยา่ งรวดเรว็ เนื่องจากนกั เดนิ ทางไมไ่ ดท้ อ่ งเที่ยว เพิ่มขน้ึ จากเดือนพฤศจิกายน 2564 ที่มจี �ำนวนผูต้ ิดเชื้อ ตา่ งประเทศมาเปน็ ระยะเวลานาน สง่ ผลใหน้ กั ทอ่ งเที่ยว สะสม 261.64 ลา้ นคน แสดงให้เหน็ ว่า การระบาดยงั คง ชาวตา่ งชาตเิ ดนิ ทางมาทอ่ งเที่ยวเพิม่ ขนึ้ เมื่อเปรยี บเทียบ เกดิ ขนึ้ อยา่ งตอ่ เนื่อง แตข่ อ้ มลู จ�ำนวนผเู้ สยี ชวี ติ นอ้ ยกวา่ กับปีที่ผ่านมา โดยมีจ�ำนวนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ การระบาดในอดตี แสดงใหเ้ ห็นวา่ ความรุนแรงของโรค สะสมต้ังแต่เดือนมกราคม - กรกฎาคม 2565 จ�ำนวน น้้อยกว่่าสายพัันธุ์์�ก่่อนหน้้านี้้� อย่า่ งไรก็ต็ าม สถานการณ์์ 3,204,177 คน ขยายตัวร้อยละ 5,376.94 และมี การฉีีดวััคซีีนที่�่เพิ่่�มขึ้ �นอย่่างต่่อเนื่่�องมีีผลต่่อการเปิิด จ�ำนวนนักท่องเที่ยวไทยเที่ยวไทยสะสมต้ังแต่เดือน กิิจกรรมทางเศรษฐกิิจและการเปิิดประเทศของประเทศ มกราคม – กรกฎาคม 2565 78.32 ลา้ นคน/ครงั้ ขยายตวั ต่่าง ๆ ทั่่�วโลก รอ้ ยละ 210.10 เมื่อเปรยี บเทียบกบั ชว่ งเวลาเดยี วกนั ของ ในขณะที่สถานการณ์การท่องเที่ยวภายในประเทศ ปที ี่ผ่านมา ตั้งแต่เดือนมกราคม - ธันวาคม 2564 มีจ�ำนวน นักท่องเที่ยวไทยเที่ยวไทยสะสม 53.03 ล้านคน/ครั้ง ลดลงรอ้ ยละ 41.44 มรี ายได้สะสม 2.16 แสนลา้ นบาท ลดลงร้อ้ ยละ 55.15 เมื่อ่� เปรีียบเทีียบกับั ช่ว่ งเวลาเดีียวกันั ของปีีที่�่ผ่่านมา โดยภาพรวมการท่่องเที่�่ยวไทยปรัับตััว ดีีขึ้้�นตามสถานการณ์์การระบาดของโรคโควิิด – 19 ประกอบกัับภาครััฐได้้ดำ�ำ เนิินการผ่่อนคลายมาตรการ 046
ห่วงโซ่คณุ ค่าและภาคการผลิตของอตุ สาหกรรมการทอ่ งเท่ียว (Supply - Side) อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวสามารถสร้างงานสร้างรายได้เป็น 1 ใน 10 ของงานท่ัวโลก หรือประมาณ 330 ล้านงาน และในปี พ.ศ. 2562 มีผลิตภัณฑ์มวลรวมด้านการท่องเที่ยวทั่วโลกคิดเป็นร้อยละ 10.3 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมจากท่ัวโลก อีกทั้งในปีเดียวกันผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศด้านการท่องเที่ยว (Tourism Gross Domestic Product : TGDP) ยงั มากถึงรอ้ ยละ17.79ของผลติ ภณั ฑม์ วลรวมภายในประเทศ(GrossDomesticProduct:GDP)ซง่ึ เปน็ ผลลพั ธจ์ ากการด�ำเนนิ งาน ของหลากหลายภาคส่่วนรวมกััน หากพิิจารณาถึึงห่่วงโซ่่คุุณค่่าของอุุตสาหกรรมการท่่องเที่�่ยวของประเทศไทย โดยอ้้างอิิง จากกรอบการวิิเคราะห์ห์ ่ว่ งโซ่ค่ ุณุ ค่่าอุุตสาหกรรมการท่่องเที่ย�่ วขององค์์การการท่่องเที่่ย� วโลก (UNWTO) จะประกอบไปด้้วย ผู้้�ที่เ� กี่ย�่ วข้อ้ งหลายภาคส่ว่ น ตั้้ง� แต่อ่ งค์ก์ รการท่่องเที่ย�่ วต่า่ ง ๆ ไปจนถึงึ การบริกิ ารสนับั สนุนุ การท่อ่ งเที่ย�่ วและโครงสร้า้ งพื้้น� ฐาน ซึ่�่งมีีรายละเอีียดดังั นี้้� หวงโซคุณคาทางอุตสาหกรรมการทองเที่ยว อตุ สาหกรรมการทอ งเทยี่ วสรางงาน สรา งรายไดเปน 1 ใน 10 ของงานทว่ั โลก หรือประมาณ 330 ลานงาน และในป พ.ศ. 2562 มรี ายไดประชาชาตขิ องการทองเท่ียวโลกเปน รอ ยละ 10.3 ของรายไดป ระชาชาตโิ ลก อกี ทัง้ ในป พ.ศ. 2562 รายไดประชาชาติการทองเทยี่ วไทยเปน รอ ยละ 18.39 ของรายไดประชาชาติ ทงั้ ประเทศไทย โดยเปน สัดสว นทางออมรอยละ 10.54 และทางตรงรอ ยละ 7.85 องคกรการ การคมนาคม การบริการ อาหารและ ของที่ระลึก สนิ ทรัพย ความบนั เทิง บรกิ าร ทองเทยี่ ว และขนสง ทพี่ ัก เครอ่ื งดม่ื และหตั ถกรรม การทองเท่ยี ว สนับสนนุ และการจองทริป ประเทศตน ทาง บริการเชารถ โรงแรม รานอาหาร รา ยขายของ สนิ ทรัพยทาง การแสดง ศนู ยข อมลู ที่เปลย่ี นผา น และบาร หตั ถกรรม วฒั นธรรม : โบราณคดี องคก ร รา นคา ตาง ๆ ศูนยบริการ อะพารต เมนต ไนทค ลบั ชางฝมอื มัคคุเทศก ขอมลู รถเมล ชมุ ชน รา นซักรดี กิจกรรม พิพธิ ภณั ฑ มคั คเุ ทศกอ ิสระ อินเทอรเนต็ บรษิ ัทรถแทก็ ซ่ี บานรบั รองแขก อาหารจานดว น หตั ถกรรม สถานทท่ี อ งเทย่ี ว ความปลอดภยั ธรุ กจิ นำเท่ียว สนิ ทรพั ยท่ี และธนาคาร จับตอ งไมไ ด อินเทอรเ น็ต คาเฟ ศนู ยขอมูล บรษิ ทั โฮสเทล รานอาหาร สินทรพั ยทาง ผนู ำทาง สายการบนิ เรอื สำราญ สำเรจ็ รปู ธรรมชาติ : หรือพ่เี ล้ียง ทะเลสาบ แมน ้ำ บริษัททวั ร ศูนยบ รกิ าร อาหารทรี่ ะลึก ภเู ขา ปาไม แพก็ เกจ นำเท่ยี ว ขอ มลู การเดนิ ทาง ดอกไมแ ละ ทอ งเท่ียว พชื พนั ธตุ า งๆ ตน ทาง ปลายทาง ตูบรกิ ารอาหาร สขุ ภาพ ปลายทาง อัตโนมัติ และสปา ของเสีย วสั ดุกอสราง พลงั งาน นำ้ การศกึ ษา การส่อื สาร ความปลอดภยั และสุขภาพสาธารณะ สนบั สนนุ โครงสรา งพื้นฐาน รูปที่ 2-8 : หว่ งโซ่คุณคา่ ของอตุ สาหกรรมการท่องเที่ยว 047
แผนพัฒนาการทอ่ งเทยี่ วแหง่ ชาติ ฉบบั ท่ี 3 (พ.ศ. 2566 – 2570) • องค์ก์ รการท่อ่ งเที่�ยวและหน่ว่ ยงานที่�เกี่�ยวข้อ้ งกับั การจองท่อ่ งเที่�ยว ซึ่ง่� จะแบ่ง่ ออกเป็น็ 1) องค์ก์ รที่เ่� กี่ย�่ วข้อ้ งจากประเทศ ต้น้ ทาง ได้แ้ ก่่ หน่ว่ ยงานด้า้ นอินิ เทอร์เ์ น็ต็ หน่ว่ ยงานให้บ้ ริกิ ารศููนย์ข์ ้อ้ มููล บริษิ ัทั ทัวั ร์น์ ำำ�เที่ย่� ว เป็น็ ต้น้ 2) องค์ก์ รที่เ�่ กี่ย�่ วข้อ้ ง ในประเทศเปลี่่�ยนผ่า่ น ได้แ้ ก่ ่ องค์ก์ รธุุรกิิจนำำ�เที่�ย่ ว สายการบิินต่่าง ๆ บริษิ ััทนำ�ำ เที่�ย่ ว เป็น็ ต้้น • หน่วยงานทางการคมนาคมและขนสง่ เช่น บริษทั ให้บริการเชา่ รถ หน่วยงานใหบ้ ริการศนู ยข์ อ้ มูลรถเดนิ ทางสาธารณะ บรษิ ทั บริการรถแท็กซี่ บริษัทบริการเรือส�ำราญ หน่วยงานให้บรกิ ารศนู ยข์ อ้ มูลการเดินทาง เปน็ ตน้ • หน่วยงานให้บริการท่พี ัก เช่น โรงแรม รสี อรต์ อพารต์ เมนต์ บา้ นรับรองแขก โฮสเทล เปน็ ตน้ • ร้านบริการอาหารและเครื่องดื่ม เช่น ร้านอาหารและบาร์ ไนท์คลับ ร้านอาหารจานด่วน ของที่ระลึกประเภทอาหาร ตูบ้ รกิ ารอาหารอัตโนมัติ เปน็ ต้น • ของที่ระลึกและงานหตั ถกรรม เช่น ร้านขายของหัตถกรรม ช่างฝีมือ กจิ กรรมหัตถกรรม เปน็ ต้น • สิินทรััพย์์ทางการท่่องเที่�ยว แบ่่งออกเป็็น 2 ประเภท คืือ 1) สิินทรััพย์์ทางวััฒนธรรม เช่่น โบราณคดีี ชุุมชนท้้องถิ่�น พิิพิธิ ภัณั ฑ์์ สถานที่�่ท่อ่ งเที่ย่� วทางประวัตั ิศิ าสตร์์ และสินิ ทรััพย์ท์ ี่จ่� ับั ต้อ้ งไม่่ได้้ 2) สินิ ทรัพั ย์ท์ างธรรมชาติิ เช่น่ ทะเลสาบ แม่น่ ้ำำ�� ภููเขา ป่า่ ไม้้ ดอกไม้้ และพัันธุ์�พืชต่่าง ๆ • ด้านความบันเทิง เช่น การแสดง บริษัทบริการมัคคุเทศก์ มัคคุเทศก์อิสระ ผู้น�ำทางหรือพ่ีเลี้ยง โปรแกรมท่องเที่ยว บรกิ ารสขุ ภาพและสปา เป็นต้น • การบริกิ ารสนับั สนุนุ เช่่น ศููนย์์บริกิ ารข้อ้ มููลต่่าง ๆ ร้า้ นค้้าต่า่ ง ๆ ร้า้ นซัักรีีด หน่่วยงานดููแลความปลอดภััยและธนาคาร ร้า้ นอินิ เทอร์์เน็ต็ และร้้านกาแฟ • การสนับสนุนโครงสร้างพ้ืนฐาน เช่น หน่วยงานจัดการของเสีย วัตถุก่อสร้าง บริษัทพลังงานและน�้ำ หน่วยงานด้าน การศกึ ษา หน่วยงานดา้ นการสื่อสาร และหนว่ ยงานดแู ลความปลอดภยั และสุขอนามัย กิิจกรรมด้า้ นศิลิ ปะ เมื่อวเิ คราะหส์ ถติ จิ ากบญั ชปี ระชาชาตดิ า้ นการทอ่ งเที่ยว และวัฒั นธรรมเป็น็ สาขา (Tourism Satellite Accounts - TSA) ในดา้ นสาขาการผลติ การผลิิตที่่�มีสี ััดส่่วนมูลู ค่่า ของอตุ สาหกรรมการทอ่ งเที่ยวทง้ั 12 สาขา จะพบวา่ ในปี พ.ศ. การใช้จ้ ่่ายท่่องเที่่�ยวต่อ่ 2562 ภาคการผลิตที่มมี ลู ค่าเพิ่มสงู ที่สุด 3 อนั ดับแรก ได้แก่ มููลค่่าผลผลิิตท่่องเที่่�ยว 1) การบริการอาหารและเครื่องด่ืม อย่ทู ี่ 532,981 ลา้ นบาท สูงู ที่่�สุุดในสาขาการผลิิต 2) การบริการโรงแรมและที่พกั อยู่ที่ 417,933 ลา้ นบาท และ ของอุตุ สาหกรรม 3) การขายสนิ ค้าเพื่อการทอ่ งเที่ยว อยทู่ ี่ 220,427 ล้านบาท ท่อ่ งเที่่�ยวทั้้�ง 12 สาขา ในขณะที่สัดส่วนค่าใช้จ่ายด้านการท่องเที่ยวต่อมูลค่า ผลผลิตในภาคการท่องเที่ยวของไทยที่มีสัดส่วนสูงที่สุด คือ กจิ กรรมดา้ นศลิ ปะและวฒั นธรรม อยา่ งไรกต็ าม อตุ สาหกรรม การท่องเที่ยวไทยกลับมีการลงทุนในด้านการขนส่งทางบก มากที่สุด แม้จะเป็นภาคการผลิตที่สามารถสร้างมูลค่าสูงสุด เพียงอันดับที่ 5 เท่านั้น ในขณะที่กิจกรรมด้านศิลปะและ วัฒนธรรมซ่ึงเป็นสาขาการผลิตที่มีสัดส่วนมูลค่าการใช้จ่าย ทอ่ งเที่ยวต่อมลู คา่ ผลผลิตทอ่ งเที่ยวสูงที่สดุ 048
มลู คาเพ่มิ และสดั สว น ลา นลา นบาท 3.5 มูลคา เพ่ิม สัดสวน (%) มูลคาเพมิ่ ของอุตสาหกรรม 0.6 การทองเทย่ี วตอมลู คาเพม่ิ 0.4 0.53 2.7 4 ท้ังหมด ณ ราคาพน้ื ฐาน 0.2 0.42 1.4 3 0 0.22 1 0.6 0.6 0.4 0.4 0.2 0.2 0.1 0 2 0.15 0.1 0.09 0.06 0.06 0.03 0.02 0.008 0.003 1 0 บอ ีกสิศิาริฬลนบหกขโขาขริาปาครนเนันขนรราวัษังเชสสสนนทททแาคงงฒงสทรออนรรื่ทอนงทนงำงมถอาเเเาารธา ี่ทยงงี่ท่่ีีททรกงถกไนาบพั่ืดรยยยา้นรวำกตศววมกฟม สดั สวนมลู คา การใชจาย รอยละ (%) 85.86 84.91 78.82 68.56 64.74 63.85 53.07 43.79 ทองเที่ยวตอมูลคา ผลผลติ 100 27.24 26.57 19.91 15.1 ทองเที่ยว (Tourism Ratio) 75 50 25 0 บอ ีกสิศิาิรฬลนบหกขโขาขริาปาครนเนันขนรารัวัษงเสชสสนนทททแาคงงฒงสทรออนรรื่ทอนงทนงงำมถอาเเเาารธา ีท่ยงง่ีทททีี่่รกงถกไนาับพร่ืดยยยา้นกฟกวำวมศวมตร มูลคา การลงทนุ และสัดสว น ลานลา นบาท 28 มูลคาเพมิ่ สดั สว น (%) มลู คา การสะสมทุนถาวร 25,000 30 เพ่ือการทองเที่ยวตอมูลคา 20,000 23,260 22.9 25 การสะสมทนุ ทงั้ หมด 15,000 19,000 20 10,000 12.7 5,000 15 0 10,583 10 5 9.8 9 0 8,152 7,458 4.6 3,798 4.2 2.5 1.7 1.7 1.5 1.4 3,460 2,067 1,440 1,395 1,243 1,155 บอกีสิิศาริฬลนบหกขโขาข ิราปาครนเนันขนรารัวษังเชสสสนนทททแาคงงฒงสทรออนรื่รทอนงทนำงงมถอาเเเาารธา ีท่ยงงีที่่่ทีทรกงถกไนาบัพ่ดืรยยยาน้ตรกวกำฟมววมศ อตุ สาหกรรมการทองเทยี่ ว รองลงมาคือการลงทนุ ในขณะทกี่ จิ กรรม ของประเทศไทยมีการลงทนุ ใน ในดานโรงแรม ทพ่ี ัก ดานศิลปะ และวัฒนธรรม ดา นการขนสง ทางบกมากที่สดุ และอาหารเคร่อื งดมื่ มมี ลู คา การลงทนุ ต่ำท่ีสดุ แมจะเปนภาคการผลิตทีส่ รา งมลู คาสูงสดุ แมจะเปน ภาคการผลิตท่มี ีสัดสว น เปนอันดบั ที่ 5 มลู คา การใชจ า ยทอ งเทย่ี วตอ มลู คา ผลผลิตทองเท่ียวสงู ท่สี ดุ รููปที่�่ 2-9 : มููลค่่าเพิ่่�มของอุุตสาหกรรมการท่อ่ งเที่�่ยว และสััดส่ว่ นการใช้จ้ ่่ายต่อ่ มููลค่่าผลผลิิตท่อ่ งเที่่�ยว รููปที่่� 2-10 : มููลค่า่ การลงทุนุ และสััดส่ว่ นมููลค่า่ การสะสมทุุนถาวรเพื่่อ� การท่่องเที่่�ยวต่อ่ มููลค่่าการสะสมทุนุ ทั้้ง� หมด 049
แผนพัฒนาการทอ่ งเที่ยวแห่งชาติ ฉบบั ท่ี 3 (พ.ศ. 2566 – 2570) การประเมินส่วนรวั่ ไหลทางการท่องเท่ียวเพอ่ื สรา้ งความสมดลุ ดา้ นการกระจายรายได้ รายได้จากการท่องเที่ยวส่วนหนึ่งจ�ำเป็นต้องสูญเสียไปกับการน�ำเข้าวัตถุดิบจากต่างประเทศ เช่น เนื้อสัตว์ สุรา เบียร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า รวมถึงค่าธรรมเนียมสถาบันการเงิน เป็นต้น เพื่อน�ำไปประกอบการด�ำเนินธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว เช่น โรงแรม ร้านอาหาร เป็นต้น ซึ่งในทางเศรษฐศาสตร์เรียกส่วนที่สูญเสียจากการน�ำเข้าวัตถุดิบเหล่านี้ว่า “ส่วนร่ัวไหล ทางการทอ่ งเที่ยว (Tourism Leakage)” โดยวดั ไดเ้ ปน็ รอ้ ยละของการน�ำเขา้ วตั ถดุ บิ จากตา่ งประเทศตอ่ การใชว้ ตั ถดุ บิ ทง้ั หมด การประเมินสว นร่ัวไหลทางการทอ งเที่ยวเพอื่ สรางสมดลุ ดา นการกระจายรายได สวนร่ัวไหลทางการทอ งเท่ียว (Tourism Leakage) แหลงขอ มลู วัดไดเปน รอ ยละของการนําเขาวตั ถุดบิ จากตางประเทศ ตารางปจจยั การผลติ และผลผลิตและการสอบถามสัดสว นการใชวตั ถุดิบ ตอ การใชวัตถดุ บิ ทง้ั หมด ท่ีนําเขา จากตา งประเทศของผูป ระกอบการในธุรกิจทีเ่ กีย่ วของกบั การทองเทยี่ ว จํานวน 1,284 ราย ใน 8 เขตพัฒนาการทองที่ยว (37 จังหวัด) อทิ ธิพลตอ ความแตกตางกนั ของสวนรั่วไหลทางการทองเทีย่ ว + ประเภทของธรุ กิจ สรางการทองเทยี่ วใหเ ขมแข็งมากขึน้ ผา นการจดั การหวงโซอ ุปทาน + ลักษณะของแหลงทองเทีย่ วในแตล ะเขต (Supply Chain) ใหมกี ระแสของการใชวตั ถุดิบจากในประเทศเปนสําคัญ เชน + สดั สวนการนําเขา ผลผลิต + การสนับสนุนใหม ีกิจกรรมทองเทย่ี วเชงิ วฒั นธรรม + โครงสรางการผลิต + การใชอาหารไทยเปน หลกั ในการชกั จงู นกั ทอ งเทยี่ ว + กลุม นักทอ งเท่ียวหลัก + การสรา งอตั ลกั ษณข องสินคาและบริการในแตละทีท่ องเท่ยี ว ลา นบาท 28.37% สวนร่ัวไหลและรายไดร ่วั ไหลทางการทองเท่ยี วของไทย 800,000 714,672.20 พบวาธรุ กจิ ท่ีเกี่ยวของกบั การทองเที่ยวมีสวนรั่วไหลทางการทองเท่ยี ว 700,000 รอยละ 28.37 กลาวคอื เมือ่ เกิดรายไดจากการทอ งเทยี่ ว 100 บาท 600,000 จะสูญเสียรายไดจากการนําเขา วัตถุดิบตางประเทศ 28.37 บาท 500,000 400,000 35.88% 20.34% 27.57% 300,000 184,803.30 134,377.20 200,000 65,569.40 100,000 1 2 3 0 ภาพรวมรายไดรวั่ ไหล อาหารและเครอื่ งดื่ม บริการทีพ่ ัก สินคา และบรกิ าร เนื้อสัตว การบริการ เน้ือสัตว การคา สง การบริการสถาบนั การเงนิ ยารักษาโรค สถาบนั การเงิน บรกิ ารธรุ กจิ บริการอ่นื ๆ สถาบันการเงิน เบยี ร ผลไม ผลิตภณั ฑท ําความสะอาด การคาปลกี การคาสง การคาสง บรกิ ารอ่ืน ๆ และการคาปลกี และบริการดา นธุรกิจ และเบยี ร และการคาปลีก รูปที่ 2-11 : การประเมนิ ส่วนรั่วไหลทางการทอ่ งเที่ยว 050
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160