กิจกรรมนันทนาการเพื่อพัฒนาคุณธรรมและจริยธรรมของเด็ก

ข้ันด�ำ เนนิ กจิ กรรม ๑. ผนู้ ำ�กิจกรรมแบง่ เดก็ ออกเป็น ๕ กลุ่ม ๒. ให้แต่ละกลุ่มนั่งล้อมวงเป็นวงกลม แล้วแจกเก้าอี้ ลิปสติก แป้งฝุ่น ผา้ กันเปอ้ื น กล่มุ ละ ๑ ชุด แจกผ้าปิดตเท่าจำ�นวนผเู้ ล่น ๓. ผ้นู ำ�กิจกรรมมอบหมายภารกิจให้แต่ละกล่มุ ช่วยกันแต่งหน้าห่นุ ของตน ใหส้ วยทส่ี ดุ ภายในเวลา ๕ นาที โดยจะตอ้ งมหี นุ่ ๑ คนทใ่ี สผ่ า้ กนั เปอ้ื นนง่ั บนเกา้ อ้ี ทเ่ี หลอื จะเปน็ ผแู้ ต่งหน้าให้หุ่น โดยใชแ้ ป้ง และลปิ สตกิ ที่แจกให้ ทัง้ นมี้ ีเงอ่ื นไขว่า ผูแ้ ต่งหน้าทุกคนตอ้ งปดิ ตาดว้ ยผ้าทแ่ี จกให้ทกุ คน ๔. ผูน้ �ำ กิจกรรมซักซ้อมความเขา้ ใจของเด็กในการทำ�กจิ กรรม ๕. เมื่อพร้อมแลว้ ผู้น�ำ กิจกรรมเปา่ นกหวีดเร่มิ กิจกรรม และจับเวลา ๖. เมอ่ื ครบตามเวลา ผนู้ �ำ กจิ กรรมเปา่ นกหวดี หยดุ กจิ กรรม และใหแ้ ตล่ ะกลมุ่ แสดงผลงานของกล่มุ ตนเอง ๗. ผนู้ ำ�กิจกรรมเชิญตวั แทนคนทแี่ ตง่ หนา้ เพือ่ น กลมุ่ ละ ๑ คน มาสัมภาษณ ์ ถงึ ความร้สู กึ หน้าห้อง ๘. ผนู้ �ำ กจิ กรรมเชญิ ผทู้ เ่ี ปน็ หนุ่ ของทกุ กลมุ่ มาสมั ภาษณถ์ งึ ความรสู้ กึ หนา้ หอ้ ง ขัน้ สรปุ ๑. ผนู้ �ำ กจิ กรรม ใหเ้ ดก็ ชว่ ยกนั สรปุ ความรสู้ กึ ของผทู้ แ่ี ตง่ หนา้ เพอ่ื น และผทู้ เ่ี ปน็ หนุ่ ๒. ผนู้ �ำ กจิ กรรม สรปุ ความรสู้ กึ ของผทู้ แ่ี ตง่ หนา้ เพอ่ื น และผทู้ เ่ี ปน็ หนุ่ อกี ครง้ั ๓. ผู้นำ�กิจกรรม สรุปให้เห็นความเสียสละของผู้ที่เป็นหุ่น ท่ียอมเสียสละ ความสขุ สว่ นตน ใหเ้ พอ่ื นไดแ้ ตง่ หนา้ ตนเอง ซง่ึ หากไมม่ ผี เู้ สยี สละน้ี ภารกจิ ทไ่ี ดร้ บั มอบหมายไปก็มิอาจสำ�เร็จลุล่วงไปได้ 101

การประเมนิ ผล ๑. สงั เกตจากการตอบค�ำ ถามในการแสดงพฤตกิ รรมการเสยี สละของเดก็ ในขน้ั น�ำ ๒. สงั เกตจากการท�ำ งานรว่ มกนั ในกลมุ่ ของเดก็ ตามทไ่ี ดร้ บั มอบหมายภารกจิ ๓. เหตุผลของผทู้ ีเ่ ป็นหุ่น ในการยอมเปน็ หนุ่ กิจกรรมนนั ทนาการท่ใี ช้ครั้งนี้ เปน็ ประเภทเกม กฬี า และประเภทศลิ ปหตั ถกรรม 102

ความเสียสละ (๓) กิจกรรม อุ้มชูสฝู่ ัน สาระส�ำ คัญ ความเจริญรุ่งเรอื งทางด้านวัตถใุ นปัจจุบัน เปน็ สาเหตทุ ่ีทำ�ใหส้ งั คม โดยท่ัวไปมีค่านิยมที่ให้ความสำ�คัญ ในการแสวงหาเงินทอง แสวงหาอำ�นาจ บารมมี ากกวา่ ทจ่ี ะใหค้ วามส�ำ คญั ทางดา้ นจติ ใจสงั คมในปจั จบุ นั จงึ กลบั เสอ่ื มโทรมลง อยา่ งเหน็ ไดช้ ดั เจนปญั หาตา่ ง ๆ ทม่ี มี ากมายดงั นน้ั การปลกู ฝงั ความส�ำ นกึ ใหก้ บั บคุ คล เพ่ือให้มีความรับผิดชอบต่อตนเองและสังคมจึงควรท่ีจะเกิดข้ึนในสังคมด้วยเหตุนี้ ในปัจจุบันจึงมีการกล่าวถึงคำ�ว่า “เสียสละ” เพื่อให้ผู้คนได้ตระหนัก ถงึ ความรบั ผดิ ชอบตอ่ สาธารณะมากกว่าตนเอง นนั่ หมายถงึ วา่ ทุกคนตอ้ งมีการให้ มากกว่า การรบั เพราะสิ่งเหลา่ น้ถี า้ สามารถปลกู ฝังใหเ้ ดก็ และเยาวชนไดต้ ระหนัก สงั คมยอ่ มไดร้ บั แตค่ วามสขุ อยา่ งแนน่ อนค�ำ วา่ “เสยี สละ” จงึ มคี วามส�ำ คญั ตอ่ ชวี ติ และความเป็นอยู่ของมนุษย์โดยส่วนรวมการปลูกจิตสำ�นึกให้เด็กรู้จักการเสียสละ การร่วมแรงร่วมใจร่วมมือในการทำ�ประโยชน์เพ่ือสังคมและส่วนรวม จะช่วย ลดปัญหาที่เกิดข้ึนกับตนเองและสังคม การช่วยกันพัฒนาคุณภาพชีวิต อนั จะเปน็ หลกั การในการด�ำ เนนิ ชวี ติ เป็นการแก้ปัญหาและสร้างสรรค์เพ่ือให้เกิด ประโยชนส์ ุขกบั สังคมอย่างไดผ้ ล วตั ถุประสงค์ ๑. เพื่อให้เด็กเกิดทักษะในการแก้ปัญหาเป็นหมู่คณะด้วยความเสียสละ ของแต่ละคนในกลุ่ม ๒. เพอ่ื ใหเ้ ดก็ ตระหนกั ในความส�ำ คญั ของการเสยี สละเพอ่ื ประโยชนข์ องสว่ นรวม เวลา จำ�นวน ๙๐ นาที 103

อุปกรณ์/สือ่ ๑. เน้อื เพลงศึกบางระจนั ๕. นาฬกิ าจบั เวลา ๒. เคร่ืองฉายภาพ ๖. นกหวดี ๓. เครอ่ื งดนตรปี ระกอบจังหวะ ๔. อปุ กรณเ์ กม ซง่ึ มลี กั ษณะเปน็ ก�ำ แพงใยแมงมมุ ๖ เหลย่ี ม ทข่ี งึ ดว้ ยเชอื กฟาง สงู ๑๘๐ เซนตเิ มตร ความกว้างแต่ละช่องต้องกวา้ งพอที่เด็กจะลอดไปได้ วธิ ดี �ำ เนนิ การ ขน้ั นำ� ๑. ผู้นำ�กิจกรรมทักทายเด็ก และสอนเพลงศึกบางระจันซึ่งมีเน้ือร้องดังนี้ “ศกึ บางระจนั จ�ำ ใหม้ ัน่ พีน่ ้องชาตไิ ทย เกยี รติประวตั ิสร้างไว้แดช่ นชาตไิ ทยรุน่ หลงั แมช้ วี ิตยอมอุทศิ คราชาติอัปปาง เลือดไทยต้องมาไหลหล่ังทาทว่ั ผืนแผ่นดนิ ทอง ไทยคงเป็นไทยมิใชช่ าตเิ ปน็ เชลย ไทยมิเคยถอยร่นชนชาติศัตรู บางระจนั แม้ส้ินอาวุธจะสู้ สองดาบฟาดฟนั ศตั รสู จู้ นชีพตนมลาย ตัวตายดีกว่าชาตติ าย เพยี งเลอื ดหยาดสดุ ทา้ ยขอให้ไทยคงอยู่ แดนทองของไทยมิใช่ศตั ร ู แม้ใครรุกรานต้องสเู้ พอ่ื กผู้ ืนถนิ่ ไทยงาม” ๒. ผู้น�ำ กจิ กรรมชวนใหเ้ ด็กอภิปรายถงึ เนื้อรอ้ งของเพลงทไ่ี ด้รอ้ งไป ๓. ผู้นำ�กิจกรรม ช้ีให้เห็นว่า การที่เราสามารถอยู่อย่างสุขสบายในปัจจุบัน เปน็ เพราะบรรพบรุ ษุ ไทยของเรา ไดเ้ สยี สละชวี ติ เลอื ดเนอ้ื รกั ษาชาตไิ ทยของเราไว้ ให้ คนรนุ่ หลงั เชน่ เราไดม้ ชี าตไิ ทยอาศยั หากบรรพบรุ ษุ ของเราไมเ่ สยี สละ แตก่ ลบั เหน็ แก่ตัวไมร่ กั ษาชาตไิ ว้ กค็ งไมม่ ีเราในวันน้เี ช่นกัน ข้ันดำ�เนินกจิ กรรม ๑. ผู้นำ�กจิ กรรมแบ่งเดก็ ออกเปน็ ๕ กลุ่ม กล่มุ ละ ๖ คน 104

๒. ผนู้ �ำ กจิ กรรมพาเดก็ ทล่ี ะกลมุ่ เขา้ ไปหอ้ งกจิ กรรม ทม่ี อี ปุ กรณเ์ กมจดั เตรยี มไว้ ๓. ผู้นำ�กิจกรรมมอบภารกิจให้เด็กแต่ละกลุ่ม โดยให้เด็กทุกคนลอดผ่าน กำ�แพงใยแมงมุมไปยังอีกฝ่ังหนึ่งให้ได้ภายในเวลา ๓ นาที ทั้งน้ีมีเง่ือนไขว่า ๑ ชอ่ ง สามารถใช้ไดเ้ พียงครั้งเดียว ไม่สามารถใชซ้ ำ้�อีกได้ ๔. ผนู้ �ำ กิจกรรม ซกั ซอ้ มความเข้าใจของเดก็ ก่อนทำ�กจิ กรรม ๕. เมอ่ื พร้อมแล้ว ผู้น�ำ กจิ กรรมเป่านกหวดี เริ่มทำ�กิจกรรม และจับเวลา ๖. เมื่อครบ ๓ นาที ผู้นำ�กิจกรรมเป่านกหวีดหยุดกิจกรรม และจดบันทึก จ�ำ นวนคนทส่ี ามารถลอดผา่ นกำ�แพงใยแมงมุมไปยงั อีกฝ่งั หนง่ึ ได้ ๗. ทำ�เชน่ นีท้ ลี ะกล่มุ จนครบทงั้ ๕ กล่มุ 105

ขนั้ สรปุ ๑. ผู้นำ�กิจกรรมประกาศผลความสำ�เร็จของแต่ละกลุ่มทกุ คนทราบ ๒. ผนู้ �ำ กจิ กรรมเชญิ ผแู้ ทนกลมุ่ ทป่ี ระสบความส�ำ เรจ็ สงู สดุ ๑ คน และผแู้ ทนกลมุ่ ท่ี ประสบความสำ�เร็จน้อยที่สุด ๑ คน มาหน้าห้อง เพื่อสัมภาษณ์ถึงวิธีการ ในการแก้ปัญหาภารกิจท่ไี ด้รบั ๓. ผู้นำ�กิจกรรมช้ีให้เห็นว่า การที่จะแก้ปัญหาของส่วนรวมให้สำ�เร็จได้น้ัน จ�ำ เปน็ จะตอ้ งมผี เู้ สยี สละทค่ี อยอมุ้ เพอ่ื น คอยรบั เพอ่ื นอกี ฝง่ั หนง่ึ และการเสยี สละ ไปในชอ่ งทม่ี คี วามสงู มาก ๆ เพอ่ื ใหเ้ พอ่ื นทค่ี อยอมุ้ สง่ นน้ั ไดล้ อดผา่ นชอ่ งทเ่ี ตย้ี ท่สี ุด เพราะเป็นคนสุดท้าย ไม่มีคนคอยอุ้มส่งให้ ซึ่งเป็นการเสียสละเฉพาะบุคคล และการเสียสละในภาพรวมของกลุ่มอยา่ งแทจ้ ริง การประเมินผล ๑. สังเกตจากความเข้าใจ และความซาบซงึ้ ในความเสียสละของเดก็ จาก การอภปิ รายของเดก็ ในขน้ั น�ำ ๒. สังเกตจากการแกป้ ญั หาในกลุ่มของเด็ก เมือ่ ได้รับภารกิจ ๓. จากแนวคิดของเด็กที่ให้การสัมภาษณ์ในขน้ั สรปุ กิจกรรมนันทนาการที่ใช้ครั้งน้ี เป็นประเภทการดนตรีและร้องเพลง ประเภทเกมและกีฬา และประเภทกลางแจ้ง 106

ความเสียสละ (๔) กจิ กรรม จติ สาธารณะ สาระสำ�คัญ จติ สาธารณะ หรือจติ สำ�นึกสาธารณะ เป็นความเสยี สละอยา่ งหนง่ึ ซึ่งเป็นสิ่งท่ีมีความจำ�เป็น อันจะเป็นประโยชน์ในทุกระดับของสังคม ถา้ หากไดม้ กี ารพฒั นาใหเ้ กดิ ขน้ึ ไดอ้ ยา่ งเขม้ แขง็ ตง้ั แตบ่ คุ คลในระดบั ครอบครวั ทว่ั โลก ย่อมส่งผลดีในระดับท่ีสูงข้ึนเป็นลำ�ดับและท่ีสำ�คัญท่ีสุดการสร้างและปลูกฝัง จติ ส�ำ นกึ ที่ดนี น้ั ตอ้ งสรา้ งกับเดก็ และเยาวชน เพราะเดก็ สามารถรบั รใู้ นสง่ิ ทด่ี ีงาม 107

จากพ่อแม่ท่ีบ้านรับรู้จากผู้หลักผู้ใหญ่ ผู้นำ�ชุมชน พระสงฆ์องค์เจ้าดูแลลูกหลาน ในระดับชุมชนและสังคมและสถาบันการศึกษาท่ีนอกจากจะอบรมส่ังสอน ทงั้ ดา้ นวิชาการ ยังจะตอ้ งอบรมคณุ ธรรมจรยิ ธรรม ปลูกฝงั ให้เดก็ และเยาวชนรู้จกั การเสยี สละ การให้มากกวา่ การรบั ซงึ่ จะทำ�ให้เด็กและเยาวชน พฒั นาจิตใจในการ ช่วยเหลือผู้อื่นมีความอ่อนน้อมถ่อมตน เตรียมเข้าสู่การพัฒนาจิตใจตนเอง สู่จิตสำ�นึกสาธารณะต่อไปในอนาคต วตั ถุประสงค์ ๑. เพ่ือให้เด็กเข้าใจ ความหมายของจิตสาธารณะ ซึ่งเป็นการเสียสละ เพอื่ บรกิ ารสงั คมอยา่ งหนึ่ง ๒. เพอ่ื ให้เดก็ เกิดจิตสำ�นึกในความเสยี สละดว้ ยการมีจิตสาธารณะตอ่ สังคม ๓. เพื่อใหเ้ ด็กสามารถน�ำ ไปใช้เปน็ แนวทางในการเสยี สละเพือ่ สว่ นรวม เวลา จ�ำ นวน ๙๐ นาที อุปกรณ/์ ส่ือ ๑. ใบความรู้ เรือ่ ง จิตสาธารณะ ๒. อุปกรณ์ทำ�ความสะอาด ได้แก่ ไม้กวาด ที่โกยผง ถังนำ้� ผ้าถูพ้ืน ไม้ปัดขนไก่ ถุงขยะ ๓. อุปกรณ์ทำ�สวน เช่น ช้อนปลกู ส้อมพรวน บวั รดน�ำ้ วิธีดำ�เนนิ การ ขน้ั นำ� ผู้นำ�กิจกรรมทักทายเด็ก และชวนเด็กพูดคุยถึงสภาพแวดล้อมของพ้ืนที่ ทใ่ี ชท้ �ำ กจิ กรรมรว่ มกนั โดยสอบถามวา่ มอี ะไรบา้ งทค่ี วรไดร้ บั การปรบั ปรงุ เพอื่ ใหเ้ ดก็ ทุกคนมคี วามสขุ สบาย น่าอยู่ น่าใช้มากขนึ้ ข้นั ดำ�เนนิ กจิ กรรม ๑. ผ้นู �ำ กิจกรรมแบง่ เด็กออกเป็น ๕ กลมุ่ 108

๒. แจกใบความรู้ เร่ือง จิตสาธารณะ ให้แต่ละกลุ่มอ่าน ทำ�ความเข้าใจ ประมาณ ๕ นาที ๓. ให้แต่ละกลุ่ม ร่วมกันเสนอกิจกรรมที่จะทำ�ร่วมกัน เพ่ือเป็นการปรับปรุง สภาพแวดล้อม ของสถานที่ที่ใช้ร่วมกันนี้ เช่น เก็บขยะ กวาดห้อง ตกแต่งสวน ล้างห้องน�้ำ ฯลฯ ท้ังน้ี ให้เด็กได้สามารถเลือกท�ำ ไดโ้ ดยอิสรเสรีแตต่ อ้ งไม่ซำ้�กัน ๔. ผู้น�ำ กจิ กรรมแจกอุปกรณ์ในการทำ�กิจกรรมตามทีเ่ ด็กร้องขอ ๕. เม่ือพร้อมแล้ว ให้เดก็ เรมิ่ ทำ�กิจกรรมตามทเี่ ด็กเสนอ ในเวลา ๔๕ นาที ๖. เมอื่ ถงึ เวลา ใหเ้ ดก็ น�ำ อปุ กรณม์ าคืน แล้วจดั เด็กนง่ั เป็นกลุ่มตามเดิม ขน้ั สรุป ๑. ผู้น�ำ กิจกรรมชักชวนเดก็ อภิปรายถงึ กจิ กรรมของแตล่ ะกลุ่มท่ีท�ำ ทีละกลมุ่ ๒. ผนู้ �ำ กจิ กรรมสอบถามเดก็ วา่ กจิ กรรมทแ่ี ตล่ ะกลมุ่ ท�ำ นน้ั เกดิ ประโยชนอ์ ยา่ งไร และถา้ เกดิ ประโยชน์จะขอบคณุ หรอื ชมเชยกลุ่มทท่ี �ำ นั้นอยา่ งไร ๓. ผู้นำ�กิจกรรม สรุปกิจกรรมที่แต่ละกลุ่มว่าเป็นกิจกรรมอาสาสมัครบริการ สงั คม ซง่ึ เป็นจุดเริม่ ตน้ ของความเสียสละอยา่ งงา่ ย ๆ หรือที่เรียกว่าจติ สาธารณะ เดก็ ทุกคนสามารถทำ�ได้งา่ ย ๆ ทุกที่ ทกุ เวลาไม่ว่าจะเป็นท่บี า้ น โรงเรยี น ชมุ ชน และในอนาคตอาจทำ�เพ่อื สาธารณะประโยชน์ของประเทศได้ การประเมนิ ผล ๑. สงั เกตจากความสนใจ ในการคดิ ตาม และตอบขอ้ ค�ำ ถามของผนู้ �ำ กจิ กรรม ทีส่ อบถามในข้ันนำ� ๒. เดก็ สามารถเลือกกจิ กรรมทีท่ �ำ เพอื่ ประโยชนข์ องส่วนรวมได้ ๓. เดก็ ซาบซ้ึงถึงผลของการเสียสละ หรือการมจี ิตสาธารณะเพือ่ ส่วนรวม กิจกรรมนันทนาการทีใ่ ช้คร้ังนี้ เป็นประเภทกิจกรรมบรกิ ารอาสาสมัคร 109

ใบความรู้ เร่ือง จติ สาธารณะ พจนานกุ รมไทยฉบบั ของราชบณั ฑติ ยสถาน (ฉบบั พมิ พค์ รงั้ ท่ี ๑๔ ปรับปรุง-เพ่ิมเติมใหม่) พ.ศ. ๒๕๓๗ ได้ให้ความหมาย ของจติ สาธารณะไว้ดังนี้ จิต (จดิ ) น. มีความหมายวา่ ใจ, ความรสู้ กึ นกึ คดิ สาธารณะ (สา-ทา-ระ-นะ) หรอื สาธารณะ มีความหมายว่า ทวั่ ไป, เปน็ ของกลางสำ�หรบั สว่ นรวม สำ�นักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ ได้ให้ความหมายของ จิตสาธารณะว่าการรู้จักเอาใจใส่เป็นธุระและเข้าร่วมในเรื่อง ของส่วนรวมท่ีเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติมีความสำ�นึก และยดึ มั่นในระบบคณุ ธรรม และจริยธรรมทดี่ งี าม ละอายต่อสงิ่ ผดิ เน้นความเรียบร้อยประหยัดและมีความสมดุลระหว่างมนุษย์ กับธรรมชาติ จากความหมายดงั กลา่ วพอสรปุ ไดว้ า่ “จติ สาธารณะ” หมายถงึ “ความรู้สกึ นึกคดิ ที่เปน็ ส่วนรวม” หรือพดู งา่ ย ๆ วา่ “การตระหนักรู้ และค�ำ นงึ ถงึ การมสี ว่ นรวมรว่ มกนั การตระหนกั รตู้ นทจ่ี ะท�ำ สง่ิ ใดสง่ิ หนง่ึ เพื่อเหน็ แกป่ ระโยชนส์ ่วนรวมหรอื การค�ำ นงึ ถึงผู้อ่ืนที่มีความสัมพนั ธ ์ ที่เป็นสังคมเดียวกันเป็นการแสดงออกเพื่อสังคมส่วนรวม การบริการชุมชน การทำ�ประโยชน์เพ่ือสังคมถ้าเป็นวัตถุหรือส่ิงของ ทกุ คนสามารถใช้ประโยชนร์ ว่ มกนั ได”้ ดังน้ันจิตสาธารณะจึงเปรียบได้กับความรู้สึกนึกคิด ถึงการเป็นเจ้าของในสิ่งที่เป็นสาธารณะร่วมกัน การใช้สิทธิ และหนา้ ท่ี ท่จี ะดูแลรวมทง้ั การบำ�รงุ รักษาส่งิ ของท่เี ปน็ ของสว่ นรวม 110

ร่วมกันเช่นการช่วยกันดูแลรักษาส่ิงแวดล้อมโดยไม่ทิ้งขยะลงท่ีพ้ืนท่ัวไป ต้องท้ิงขยะในที่จัดไว้ให้ ไม่ทิ้งขยะลงในแหล่งน้ำ� การดูแลรักษา สาธารณะสมบัติ เช่น โทรศัพท์สาธารณะหลอดไฟฟ้าที่ให้แสงสว่าง ตามถนนหนทางการใชน้ �ำ้ ธรรมชาตแิ ละน�้ำ ประปาอยา่ งประหยดั รว่ มกนั การใช้กระแสไฟฟ้าสาธารณะให้เกิดประโยชน์อย่างคุ้มค่า ตลอดจน ช่วยเหลือดูแลผู้ตกทุกข์ได้ยาก อันเป็นการให้โอกาสกับผู้ด้อยโอกาส ตามสมควรแต่ต้องไม่ทำ�ให้ตนเองและครอบครัวเดือดร้อน และการช่วยเหลือต้องไม่ขัดต่อกฎหมายบ้านเมือง อันเป็นประโยชน์ ของส่วนรวมหากคนในสังคมขาดจิตสาธารณะแล้วก็จะเกิดผลกระทบ มากมาย เช่น ทำ�ให้เกิดความเดือดร้อนแกต่ นเองและผอู้ น่ื ในครอบครวั มีความเป็นนำ้�หน่ึงใจเดียวกันน้อยลง แก่งแย่ง ทะเลาะเบาะแว้ง เกิดการแบ่งพรรคแบ่งพวก เห็นแก่ตัว ชิงดีชิงเด่น เบียดเบียนสมบัติ ขององค์กรเพอ่ื มาเปน็ สมบัติของตนเอง องค์กรไมก่ า้ วหนา้ ประสิทธิภาพ และคุณภาพของงานลดลง ทำ�ให้ชุมชนเกิดความอ่อนแอ เพราะต่างคนต่างอยู่ ไม่มีการพัฒนา ย่ิงปล่อยนานยิ่งทรุดโทรม เกดิ อาชญากรรมในชมุ ชน ขาดศนู ยร์ วมจติ ใจขาดผนู้ �ำ ทน่ี �ำ ไปสกู่ ารแกป้ ญั หา เพราะแต่ละคนมองเห็นเร่ืองของตนเองเป็นใหญ่เกิดวิกฤตการณ์ ภายในประเทศบ่อยคร้ังและแก้ปัญหาไม่ได้ เกิดการเบียดเบียน ทำ�ลายทรัพยากร และสมบัติของส่วนรวมประเทศชาติล้าหลัง ขาดพลังของคนในสังคมเม่อื นำ�มาตรการใดออกมาใช้ก็ไม่ได้ผลเน่อื งจาก ไมไ่ ดร้ บั ความรว่ มมอื เกดิ การแบง่ พรรคแบง่ พวก แกง่ แยง่ แขง่ ขนั ทจุ รติ คอรปั ชน่ั ท�ำ ใหเ้ กดิ การเอารดั เอาเปรยี บระหวา่ งประเทศ ท�ำ ใหเ้ กดิ ปญั หา เชน่ การสะสม อาวธุ การกล่นั แกลง้ แกง่ แยง่ หรือครอบงำ�ทางการคา้ ระหว่างประเทศ 111

ความซอื่ สตั ย์ (๑) กิจกรรม ความซอ่ื สัตย์เปน็ คณุ สมบัตขิ องคนดี สาระสำ�คัญ ความซื่อสัตย์เป็นคุณสมบัติพ้ืนฐานของคนดี ท่ีสังคมต้องการ การแสดงความซื่อสัตย์ สังเกตได้จากการแสดงพฤติกรรมด้วยการกระทำ� รวมถึง การไมพ่ ูดโกหก หรอื กลา่ วคำ�เทจ็ ทัง้ ต่อหนา้ และลบั หลงั ผูอ้ ่นื วัตถุประสงค์ ๑. เพอื่ ใหเ้ ดก็ มีความรู้และเกดิ ความตระหนกั ดา้ นความซ่ือสตั ย์ ๒. เพอ่ื ปลกู ฝงั ให้เด็กมคี วามซอื่ สัตย์ทง้ั ต่อตนเองและผอู้ นื่ ๓. เพ่อื มิใหเ้ ด็กเอาเปรียบผูอ้ ืน่ เวลา จ�ำ นวน ๙๐ นาที อุปกรณ์/ส่ือ ๑. บัตรค�ำ “สภุ าษติ /คำ�พงั เพยเกย่ี วกบั ความซอ่ื สตั ยจ์ �ำ นวน ๓ แผน่ ” ๒. เนอื้ เพลง ความซอ่ื สตั ย์ ๓. เคร่ืองดนตรีประกอบจงั หวะ ๔. เครอื่ งฉายภาพ วิธีดำ�เนนิ การ ข้ันน�ำ ผนู้ �ำ กจิ กรรมถามเดก็ วา่ หากแมค่ า้ ทอนเงนิ เกนิ ใหเ้ รา แลว้ น�ำ ไปคนื แตม่ คี นพดู วา่ เราเป็นคนโง่ เด็กคิดว่าอย่างไร ให้ช่วยกันแสดงความคิดเห็น เพื่อนำ�เข้าสู่เรื่อง ความซ่ือสตั ย์ ข้นั ด�ำ เนนิ กจิ กรรม ๑. ใหเ้ ดก็ แบง่ เปน็ ๓ กลมุ่ แตล่ ะกลมุ่ มารบั บตั รค�ำ เปน็ สภุ าษติ หรอื ค�ำ พังเพย เกีย่ วกบั ความซ่ือสตั ย์ ได้แก่ ฉอ้ ราษฎรบ์ ังหลวง, ซอ่ื กนิ ไมห่ มด คดกนิ ไมน่ าน และ มอื ถอื สาก ปากถอื ศลี แลว้ ใหค้ ดิ การแสดงให้สอดคล้องกับสุภาษิตหรือคำ�พังเพย 112

พรอ้ มแสดงกลมุ่ ละ ๓-๕ นาที ๒. ผนู้ ำ�กิจกรรมฉายเน้ือเพลงและสอนเดก็ รอ้ งเพลง ความซ่อื สัตย์ พรอ้ มทง้ั ปรบมอื ให้จังหวะ ซึ่งมเี นื้อร้องดงั น้ี ความซอื่ สัตย ์ เป็นสมบตั ขิ องคนดี หากวา่ ใครไม่มี ชาตินีเ้ อาดไี ม่ได้ มคี วามร้ทู ว่ มหวั เอาตัวไม่รอดถมไป คดโกงแล้วใคร จะรบั ไว้ร่วมการงาน 113

๓. ใหแ้ ตล่ ะกลุ่ม (๓ กลมุ่ เท่าเดมิ ) คดิ ทา่ ทางประกอบเพลงความซอ่ื สตั ย์ ๔. ทกุ คนชว่ ยกนั รอ้ งเพลง ความซอ่ื สตั ย์ และแตล่ ะกลมุ่ เตน้ ตามทา่ ทางประกอบ เพลงทค่ี ิดไว้ แขง่ ขนั กัน กลุ่มไหนทำ�พร้อมเพรียงกันเปน็ ผูช้ นะ ข้ันสรปุ ผนู้ �ำ กจิ กรรมและเดก็ ชว่ ยกนั สรปุ ความซอ่ื สตั ย์ เปน็ สมบตั ขิ องคนดอี ยา่ งไร ในทาง ตรงกันข้ามถ้าหากคนเราไม่มีความซื่อสัตย์จะเกิดอะไรขึ้น ทั้งต่อตนเอง และส่วน รวม การประเมินผล ๑. สังเกตจากการปฏิบตั งิ านตามทไ่ี ดม้ อบหมาย ๒. การมสี ว่ นร่วม ความสนใจ และความกระตอื รอื ร้น กิจกรรมนันทนาการที่ใช้ครั้งนี้ เป็นประเภทการละคร ประเภทดนตรี และการรอ้ งเพลง และประเภทการเตน้ รำ� 114

บัตรคำ� ฉอ้ ราษฎรบ์ งั หลวง ซื่อกินไมห่ มด คดกินไมน่ าน มอื ถือสาก ปากถอื ศีล 115

ความซือ่ สัตย์ (๒) กจิ กรรม เล่าสกู่ ันฟัง สาระสำ�คัญ ความซ่ือสัตย์แสดงออกได้ด้วยคำ�พูด เช่น การไม่พูดโกหก หลอกลวงท้ังต่อหน้าและลับหลัง และการไม่เอาของผู้อ่ืนมาเป็นของตนเอง ใหเ้ ดก็ เลา่ ประสบการณห์ รอื การเรยี นรเู้ รอื่ งความซอื่ สตั ยท์ เี่ คยประสบมาในชวี ติ จรงิ หรือจากการได้อ่านบทความ กลอน หนังสือ จากการได้ฟังจากสื่อต่าง ๆ เชน่ วทิ ยุ การเลา่ ขานจากบคุ คลอาจเปน็ พอ่ แม่ ญาติ ครู เพอ่ื น ซง่ึ เปน็ การแลกเปลย่ี น ประสบการณ์ซ่งึ กันและกนั และเกิดความภาคภูมใิ จในตนเอง วตั ถุประสงค์ ๑. เพอ่ื ฝึกให้เดก็ ไดเ้ ลา่ ประสบการณ์เรื่องความซ่ือสัตย์ ๒. เพ่ือใหเ้ ดก็ ไดแ้ ลกเปลี่ยนความรู้ และประสบการณ์ซง่ึ กนั และกนั ๓. เพื่อเปน็ ตัวอย่างหรือแนวทางนำ�ไปปฏบิ ตั ใิ นชวี ิตประจำ�วัน ๔. เพ่อื ยกยอ่ งบุคคลทมี่ คี วามซ่อื สัตยใ์ นสงั คม เวลา จ�ำ นวน ๙๐ นาที อุปกรณ/์ สื่อ ๑. นิทานเรื่องเทพารักษ์กับคนตัดไม้ (ออนไลน์) ๒. ฉลากหมายเลข ๑-๓๐ ๓. เครือ่ งฉายภาพ ๔. คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค วิธดี �ำ เนนิ การ ข้นั น�ำ ๑. ผนู้ ำ�กจิ กรรมเปิดสือ่ ออนไลน์ เรื่องคนตัดไม้กับเทพารกั ษ์ ใหเ้ ดก็ ดู ๒. ซักถามเด็กว่าเพราะเหตุใด เทพารักษ์จึงมอบขวานทองคำ� และขวานเงิน ใหค้ นตดั ไม้ คนแรก และท�ำ ไมคนตดั ไมค้ นทส่ี องจงึ ไมไ่ ดข้ วานของตนเองคนื 116

ขัน้ ด�ำ เนินกิจกรรม ๑. ผู้นำ�กิจกรรมให้เด็กระลึกถึงประสบการณ์ในชีวิตท่ีผ่านมาเด็กเกิดความ ประทับใจมากที่สุดเรื่องความซอื่ สัตย์ เพยี ง ๑ เร่อื ง หรืออาจจะทราบจากการได้ อา่ น ไดเ้ หน็ ได้ฟังก็ได้ ๒. ให้เด็กทุกคนออกมาเล่าประสบการณ์เร่ืองความซื่อสัตย์ภายในเวลา ๒ นาที โดยการจับฉลากล�ำ ดับก่อน-หลงั (หมายเลข ๑-๓๐) 117

ข้ันสรุป เม่ือทุกคนได้เล่าประสบการณ์เร่ืองความซื่อสัตย์ครบทุกคนแล้ว ผู้นำ�กิจกรรม และเด็กช่วยกันสรุปว่าความซื่อสัตย์เป็นคุณธรรมและจริยธรรมที่ส่งเสริมให้เด็ก เป็นคนดี ย่อมไม่คดโกง หลอกลวง หรือกล่าวคำ�เท็จกับบุคคลอื่น ดังคำ�สุภาษิต ทวี่ ่า “ซื่อกินไมห่ มด คดกินไมน่ าน” การประเมนิ ผล ๑. เดก็ สามารถเลือกเร่อื งไดต้ รงประเดน็ ๒. ความรว่ มมือจากการเลา่ ประสบการณ์เรื่องความซ่อื สัตย์ของเด็ก ๓. ความกระตอื รือร้น และความสนใจในการฟงั และการตอบคำ�ถาม กิจกรรมนันทนาการทใี่ ช้ครง้ั น้ี เปน็ ประเภทวรรณกรรม (อ่าน/เขียน/พดู ) 118

นทิ าน เร่ือง เทพารกั ษก์ บั คนตัดไม้ คนตดั ไมค้ นหนง่ึ นง่ั รอ้ งไหอ้ ยรู่ มิ ล�ำธาร เพราะท�ำขวานของตนเองตกลงไปนำ้� เทพารกั ษส์ งสารจงึ ปรากฏกายชว่ ยเหลอื โดยครงั้ แรกงมขวานทองค�ำ ใหแ้ ตค่ นตดั ไม้ บอกวา่ ไม่ใชข่ องคน ครั้งทส่ี องงมขวานเงนิ ขนึ้ มาให้ คนตัดไมป้ ฏิเสธวา่ ไมใ่ ชข่ วาน ของตน จนเทพารักษ์งมขวานเหล็กข้ึนมา เข้าจึงยอมรับ เทพารักษ์จึงตอบแทน ความซ่ือสัตย์ด้วยการมอบขวานทองค�ำและขวานเงินให้ด้วย ต่อมาเพ่ือนบ้าน คนทส่ี อง ทราบเรอ่ื งเกดิ ความอยากไดแ้ ละความละโมบ จงึ ไปทล่ี �ำธารและแกลง้ ท�ำ ขวานหลน่ แลว้ นงั่ รอ้ งไห้ เมอ่ื เทพารกั ษป์ รากฏกายใหค้ วามชว่ ยเหลอื โดยงมขวาน ทองค�ำและขวานเงนิ ขึ้นมา คนตดั ไม้คนที่ ๒ รบี บอกวา่ เป็นของตนเอง เทพารกั ษ์ จงึ บอกวา่ เจา้ ไมซ่ อ่ื สตั ย์ ขวานเหลา่ นีไ้ ม่ใช่ของเจา้ และไม่ให้ขวานเลย ท�ำให้เขาไม่ ไดข้ วานคืนแม้กระท่งั ขวานของตนเอง ทีม่ า : www.youtube.com/watch? V=PScrulfgvLA.

ความซือ่ สัตย์ (๓) กจิ กรรม จากการเล่นถงึ การเขียน สาระส�ำ คญั การตระหนกั ถงึ ความซอื่ สตั ยต์ อ่ ตนเอง และผอู้ น่ื สามารถแสดงออก ไดด้ ้วยคำ�พูด และการปฏิบัตดิ ว้ ยความถูกตอ้ ง วตั ถุประสงค์ ๑. เพื่อใหเ้ ด็กเกิดความตระหนกั ในความซ่ือสัตย์ต่อตนเองและผ้อู น่ื ๒. เพือ่ ไมใ่ หเ้ ดก็ กล่าวคำ�เท็จ เวลา จำ�นวน ๙๐ นาที อุปกรณ/์ สือ่ - วธิ ีด�ำ เนนิ การ ข้นั น�ำ ผนู้ �ำ กจิ กรรมถามเดก็ วา่ มสี ตั วเ์ ลย้ี งอะไรบา้ งทม่ี กั จะแสดงความซอ่ื สตั ยก์ บั เจา้ ของ ข้ันด�ำ เนนิ กิจกรรม ๑. ผ้นู �ำ กิจกรรมให้เด็กเล่นเกมความซื่อสตั ย์ ดงั นี้ ๑.๑ ให้เด็กจับคู่กัน สมมุติทุกคนเป็นทหาร ซ่ึงมียศตั้งแต่ พลทหาร นายร้อย นายพนั และนายพล ๑.๒ เรม่ิ ตน้ ทกุ คนจะเปน็ พลทหารใหอ้ อกเสยี ง พลทหารแลว้ เปา่ ยงิ ฉบุ กนั ใครชนะจะได้เป็นนายร้อย ใครแพ้ยงั คงเป็นพลทหาร ๑.๓ รอบต่อไปใหจ้ ับคบู่ คุ คลต�ำ แหน่งยศเดยี วกนั เชน่ ใครเปน็ พลทหาร ใหอ้ อกเสยี ง “พลทหาร” ใครทช่ี นะในรอบแรกใหเ้ ปน็ นายรอ้ ยออกเสยี ง “นายรอ้ ย” ๑.๔ รอบต่อไปเมื่อใครเป็นนายร้อย ให้เป่ายิงฉุบกับคนยศนายร้อย เหมอื นกนั ใครชนะได้เป็นนายพัน ๑.๕ ใครท่ีแพ้ก็ต้องปฏิบัติต่อไปเร่ือย ๆ โดยให้เป่ายิงฉุบกับทหารยศ เดียวกัน สำ�หรับผู้ที่ชนะจะได้เล่ือนเป็นนายทหารต่อไปเร่ือย ๆ โดยต้อง 120

ออกเสียงชื่อตำ�แหน่ง เพื่อเพื่อนจะได้ทราบว่าใครเป็นทหารตำ�แหน่งอะไร จนสุดทา้ ยใครท่ีเปน็ ผู้ชนะนายพลจะได้ไปนง่ั ๑.๖ สดุ ทา้ ยจะเหลอื ผแู้ พท้ เ่ี ปน็ ทหาร ๓ คน ไดแ้ ก่ พลทหาร นายรอ้ ย นายพนั ๑.๗ เมอ่ื จบเกมถามเดก็ วา่ เกมนใ้ี หแ้ นวคดิ และสง่ เสรมิ คณุ ธรรมจรยิ ธรรมอะไร ถ้าไม่เหลือทหาร ๓ ตำ�แหน่งแสดงว่ามีผู้เล่นท่ีไม่ซ่ือสัตย์ต่อตนเอง แอบไปน่ัง เพราะคิดว่าผู้เล่นมีจำ�นวนมาก ไม่มีใครทราบ ผู้นำ�กิจกรรมต้องถามเด็กว่า ผดิ อยา่ งไร ถา้ หากเกดิ กรณนี ้ี และถามความรสู้ กึ ของทหารท่ีเหลอื วา่ ทำ�ไมจึงไมแ่ อบ ไปนั่งก่อน 121

๒. กิจกรรมภาษาสรา้ งสรรค์ ๒.๑ แบง่ กล่มุ เดก็ เป็น ๓ กล่มุ ๒.๒ ใหแ้ ต่ละกลุม่ ช่วยกนั แต่งค�ำ ขวัญ เรือ่ งความซอ่ื สัตยใ์ น ๓ หวั ข้อดังน้ี โดยวธิ ีการจับฉลากหวั ขอ้ • การไม่กลา่ วค�ำเท็จ หรอื โกหก • การเกบ็ ของคืนเพือ่ น • การช�ำระเงินคา่ รถประจ�ำทางทกุ ครั้ง ๒.๓ ส่งผูแ้ ทนแตล่ ะกล่มุ นำ�เสนอคำ�ขวญั ข้นั สรปุ ผนู้ �ำ กจิ กรรมและเดก็ ชว่ ยกนั สรปุ เดก็ ทกุ คนควรตระหนกั และใหค้ วามส�ำ คญั เรอ่ื งความซอ่ื สตั ยท์ ง้ั ตอ่ ตนเองและผอู้ น่ื ไมว่ า่ จะเปน็ ค�ำ พดู หรอื พฤตกิ รรมการปฏบิ ตั ิ การประเมินผล ๑. สงั เกตจากการเขา้ รว่ มกจิ กรรม ไดแ้ กก่ ารปฏบิ ตั ติ ามค�ำ สง่ั และเปน็ ขน้ั ตอน ในการเล่นเกมความซ่อื สตั ย์ ๒. เดก็ ระดมสมองในกจิ กรรมภาษาสรา้ งสรรค์ การคดิ ค�ำ ขวญั เกย่ี วกบั ความซอ่ื สตั ย์ กิ จ ก ร ร ม นั น ท น า ก า ร ท่ี ใ ช้ ค ร้ั ง นี้ เ ป็ น ป ร ะ เ ภ ท เ ก ม แ ล ะ กี ฬ า และประเภทวรรณกรรม (อ่าน/เขียน/พูด) 122

ความซือ่ สัตย์ (๔) กจิ กรรม พนั ท้ายนรสงิ หผ์ ู้ซื่อสัตย์ สาระสำ�คัญ การปฏิบัติตนทางกาย วาจา จิตใจที่ตรงไปตรงมา ไม่แสดง ความคดโกง ไม่หลอกลวง ลั่นวาจาจะทำ�ส่ิงใด ก็ต้องทำ�ให้สำ�เร็จ ไม่กลับกลอก จนเป็นที่ไว้วางใจของทกุ คน วตั ถปุ ระสงค์ ๑. เพื่อเปน็ การยกยอ่ งพนั ท้ายนรสงิ ห์ผู้ซอื่ สัตย์ และเปน็ แบบอยา่ งท่ดี ี ๒. เพอ่ื สง่ เสรมิ ความกลา้ แสดงออก และสร้างความสนกุ สนาน เวลา จำ�นวน ๙๐ นาที อปุ กรณ/์ สื่อ ๑. ส่ือออนไลน์ เรือ่ งศาลพนั ท้ายนรสงิ ห์ สมทุ รสาคร ๒. กระดาษสำ�หรบั จดค�ำ ตอบ วิธีดำ�เนนิ การ ขัน้ นำ� ๑. ผู้นำ�กิจกรรมถามเด็กว่า ถ้าหากเราเจอโทรศัพท์มือถือรุ่นยอดนิยม เป็นรุ่นท่ีกำ�ลังอยากได้ แต่พ่อไม่ซ้ือให้ ในห้องนำ้�ท่ีโรงเรียนโดยไม่มีใครเห็น หรือทราบ เราจะทำ�อย่างไร โดยตอบตามความคิดของตนเอง ซึ่งไม่มี ใครทราบ บอกเหตุผลประกอบดว้ ย ๒. ให้เด็กเขียนในกระดาษท่ีแจกให้ โดยไม่ต้องเขียนช่ือตัวเอง แล้วม้วนส่ง ผนู้ ำ�กจิ กรรม ๓. ผนู้ �ำ กจิ กรรมอา่ นกระดาษค�ำ ตอบใหเ้ ดก็ ฟงั จนครบ ๓๐ คน แลว้ ใหเ้ ดก็ ชว่ ยกนั สรุปประเด็นใหญ่ ๆ มีอะไรบ้าง ผู้นำ�กิจกรรมต้องย้ำ�ถึงความซ่ือสัตย์ ไม่ควรนำ�ของผู้อ่ืนมาเป็นของเรา เพราะเจ้าของโทรศัพท์มือถือคงเสียใจมาก และเสียดาย 123

ขนั้ ดำ�เนนิ กจิ กรรม ๑. ใหเ้ ด็กแบง่ เป็น ๓ กลมุ่ ๒. ใหเ้ ดก็ ชมสอ่ื ออนไลนเ์ รอื่ งศาลพนั ทา้ ยนรสงิ ห์ สมทุ รสาคร และรว่ มกนั แสดง ความคดิ เห็นจากเรื่อง ๓. ให้แต่ละกลุ่มคิดการแสดงละครบทบาทสมมุติเรื่องเก่ียวกับความซื่อสัตย ์ โดยให้ทุกคนมีสว่ นรว่ มในการแสดงภายในเวลา ๕ นาที ๔. ใหแ้ ตล่ ะกลมุ่ จบั ฉลาก ลำ�ดบั การแสดงกอ่ น-หลงั ข้นั สรปุ ผู้นำ�กิจกรรมและเด็กช่วยกันสรุปข้อคิดของแต่ละเร่ืองและนำ�ไปปฏิบัติ ในชีวิตประจำ�วนั การประเมนิ ผล ๑. จากการสังเกตมีความสนใจ และให้ความร่วมมือในการท�ำ กิจกรรม ๒. การแสดงละคร ความซื่อสัตย์ ได้สาระและแนวคิดที่สามารถนำ�ไปปฏิบัติ ในชีวติ ประจำ�วนั กิจกรรมนันทนาการทใ่ี ชค้ รั้งน้ี เป็นประเภทกิจกรรมการละคร 124

เรอ่ื ง พนั ทา้ ยนรสงิ ห์ ผรู้ กั ษากฎระเบยี บ กฎมณเฑยี รบาล ยง่ิ กวา่ ชวี ติ ตน พันท้ายนรสิงห์ เป็นนายท้ายเรือพระท่ีน่ังเอกไชยอยู่ในรัชสมัย สมเดจ็ พระสรรเพชญ์ ท่ี ๘ (พระเจา้ เสอื ) ไดร้ บั ยกยอ่ งวา่ เปน็ ผมู้ คี วามซอ่ื สตั ยส์ จุ รติ จงรักภักดีและรกั ษาระเบียบวินัยยิ่งชวี ติ สมเดจ็ พระสรรเพชญ์ ท่ี ๘ ประพาสปากนำ้�สาครบรุ ี (ปจั จบุ นั คอื จังหวัด สมทุ รสาคร) เพ่อื ทรงเบ็ด ด้วยเรือพระทีน่ ่ังเอกไชย มีพันท้ายนรสงิ ห์เป็นนายทา้ ย พันทา้ ยนรสิงห์เปน็ ชาวบ้านนรสงิ ห์ แขวงเมอื งอ่างทอง การเสด็จประพาสปากน�้ำ สาครบุรีในครั้งน้ี เมื่อเรือพระที่นั่งไปถึงตำ�บลโคกขามคลองบริเวณดังกล่าว มีความคดเค้ียวมาก พันท้ายนรสิงห์พยายามคัดท้ายเรือพระที่น่ังอย่างระมัดระวัง แต่ไม่อาจหลบเลย่ี งอุบตั ิเหตุได้ หัวเรอื พระที่น่ังชนก่งิ ไมใ้ หญ่หกั ตกลงไปในนำ้� 125

พนั ทา้ ยนรสงิ หร์ โู้ ทษดวี า่ ความผดิ ครง้ั นถ้ี งึ ประหารชวี ติ ตามโบราณราชประเพณี ซงึ่ ก�ำ หนดวา่ ถา้ ผใู้ ดถอื ทา้ ยเรอื พระทน่ี งั่ ใหห้ วั เรอื พระทนี่ งั่ หกั ผนู้ น้ั ถงึ มรณะโทษให้ ตัดศีรษะเสียจึงกราบทูลพระกรุณาน้อมรับโทษตามพระราชประเพณี สมเด็จพระ สรรเพชญ์ท่ี ๘ ทรงพิจารณาเห็นว่าอุบัติเหตุครั้งนี้เป็นการสุดวิสัย มใิ ชค่ วามประมาท จงึ พระราชทานอภยั โทษให้ แตพ่ นั ทา้ ยนรสงิ หก์ ราบบงั คมยนื ยนั ขอใหต้ ดั ศรี ษะตน เพอ่ื รกั ษาขนบธรรมเนยี มในพระราชก�ำ หนดกฎหมาย เปน็ การปอ้ งกนั มิให้ผู้ใดครหาติเตียนพระเจ้าอยู่หัวได้ว่าทรงละเลยพระราชกำ�หนดของแผ่นดิน และเพื่อมิให้เป็นเยี่ยงอย่างสืบไป พระองค์ทรงโปรดให้ฝีพายท้ังปวงปั้นมูลดิน เป็นรูปพันท้ายนรสิงห์ แล้วให้ตัดศีรษะรูปดินนั้นเพื่อเป็นการทดแทนกัน แต่พันท้ายนรสิงห์ยังบังคมกราบทูลยืนยันขอให้ประหารตน แมส้ มเดจ็ พระสรรเพชญ์ ที่ ๘ จะทรงอาลัยรกั น�้ำ ใจพันทา้ ยนรสงิ ห์เพียงใด ก็ทรงจำ�พระทัยปฏิบัติตามพระราชกำ�หนด ดำ�รัสส่ังให้เพชฌฆาตประหาร พันท้ายนรสิงห์แล้วโปรดให้ต้ังศาลสูงประมาณเพียงตา นำ�ศีรษะพันท้ายนรสิงห์ กบั หัวเรอื พระทน่ี ่ังเอกไชยซ่ึงหักนัน้ ขึ้นพลีกรรมไวด้ ้วยกนั บนศาล ความจงรักภักดีของพันท้ายนรสิงห์ที่มีต่อเจ้าเหนือหัวและความซื่อสัตย์ ท่ีมีต่อกฎหมายบ้านเมือง ยอมตาย.....เพ่ือมิให้กฎหมายบ้านเมืองคลายความ ศกั ดส์ิ ทิ ธ์ิ ทม่ี า: www.youtube.com/watch? V=gepJ๗vLWeis 126

บทสรุป เม่ือนำ�แผนการจัดกิจกรรมนันทนาการ เพื่อพัฒนาคุณธรรมและจริยธรรมไปจัดกิจกรรม ใหแ้ ก่เด็ก นอกจากเดก็ จะได้รบั การพัฒนาคณุ ธรรม แ ล ะ จ ริ ย ธ ร ร ม ใ น ด้ า น ค ว า ม มี วิ นั ย ใ น ต น เ อ ง ด้ าน คว ามรับผิด ชอบ ด้านความเสียส ล ะ และด้านความซ่ือสัตย์แล้ว เด็กยังได้รับการพัฒนา ดา้ นอารมณ์ความสนกุ สนานสง่ เสรมิ ความคดิ สรา้ งสรรค์ การกลา้ แสดงออก และสามารถปรบั ตวั เขา้ กบั เพอื่ น รวมถงึ สง่ิ แวดลอ้ มไดง้ า่ ยข้ึน 127

บรรณานุกรม กัลยา ศรีปาน. (๒๕๔๒). ศึกษาคุณธรรม จริยธรรมของนักเรียนระดับ ประถมศึกษา โรงเรียนบุญเลิศอนุสรณ์ สำ�นักคณะกรรมการ การศึกษาเอกชน จังหวัดสงขลา.ปริญญานิพนธ์ กศ.ม. สงขลา: มหาวทิ ยาลัยทักษิณ. เกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักด์ิ. (๒๕๔๔). เลี้ยงลูกวัยเปรี้ยว ไม่ให้เล้ียวตกขอบ. ซคั เซสมเี ดีย : กรงุ เทพฯ. กรมพลศึกษา. (๒๕๕๖). แผนยุทธศาสตร์. สืบค้นเม่ือ ๒๕ มิถุนายน ๒๕๕๖, จาก http://www.dpe.go.th/๒๐๑๔/about/?content=vision. _______ . (๒ ๕ ๕๕). แผน พ ัฒ น าน ัน ท นาการแ ห่งชาติฉบับที่ ๒ (พ.ศ. ๒๕๕๕-๒๕๕๙). ไอเดีย สแคว.์ กรงุ เทพฯ. กรมศาสนา. (๒๕๔๑). รฐั ธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจกั รไทย. กรงุ เทพฯ : กรมศาสนา. คณิต เขียววิชัย. (๒๕๓๔). หลักนันทนาการ. นครปฐม : คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลยั ศิลปากร. คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน, สำ�นักงาน, กระทรวงศึกษาธิการ. (๒๕๕๐). คู่ มื อ ก า ร ป ร ะ เ มิ น นั ก เรี ย น เ พ่ื อ รั บ ร า ง วั ล พ ร ะ ร า ช ท า น ระดับการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน. กรุงเทพฯ : ชุมชนสหกรณ์การเกษตร แห่งประเทศไทย. คณะกรรมการส่งเสริมการพัฒนาเด็กและเยาวชนแห่งชาติ. (๒๕๕๕). แผนพัฒนาเด็กและเยาวชนแห่งชาติ (พ.ศ. ๒๕๕๕-๒๕๕๙). กรุงเทพฯ : สำ�นักงานส่งเสริมสวิสดิภาพและพิทักษ์เด็กเยาวชน ผู้ดอ้ ยโอกาสและผู้สงู อายุ. 128

คณะอนุกรรมการศึกษาแนวทางการพัฒนาคุณธรรม จริยธรรม. (๒๕๓๖). แนวทางการพัฒนาคุณธรรม จริยธรรม. ข่าวสารวิจัยการศึกษา. ๑๖(๖) : ๓-๒๐. จรินทร์ ธานีรัตน.์ (๒๕๒๘). นนั ทนาการชมุ ชน. กรุงเทพฯ: โอเดยี นสโตร.์ จรวยพร ธรณนิ ทร์. (๒๕๒๕). กายวิภาคและสรีระวทิ ยาของการออกกำ�ลงั การ. พมิ พ์ครั้งท่ี ๒. กรุงเทพฯ : ไทยวัฒนาพาณชิ ชัยณรงค์ ศรีสุข. (๒๕๔๕). คุณธรรม จริยธรรม และค่านิยมที่พึงประสงค์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ ในสังกัดสำ�นักงาน ก า ร ป ร ะ ถ ม ศึ ก ษ า อำ � เ ภ อ ท่ า บ่ อ จั ง ห วั ด ห น อ ง ค า ย . วิทยานพิ นธก์ ารศกึ ษามหาบณั ฑติ , มหาวิทยาลยั มหาสารคาม ณรงค์ ศิลารัตน์. (๒๕๔๔). ศึกษาพฤติกรรมเชิงจริยธรรมของนักเรียน โรงเรยี นมธั ยมศกึ ษา สงั กดั กรมสามญั ศกึ ษา จงั หวดั นครศรธี รรมราช. วทิ ยานพิ นธ์ (กศ.ม.) การบรหิ ารการศกึ ษา. สงขลา : มหาวทิ ยาลยั ทกั ษณิ . ดวงเดือน พันธุมนาวิน. (๒๕๒๔). พฤติกรรมศาสตร์เล่ม ๒ จิตวิทยาจริยธรรม และจิตวิทยาภาษา. กรงุ เทพฯ : ไทยวฒั นาพานิช. _______ . (๒๕๔๓). ทฤษฎีต้นไม้จริยธรรม : การวิจัยและการพัฒนาบุคคล. พมิ พค์ รัง้ ที่ ๓. กรุงเทพฯ : สำ�นักพมิ พแ์ ห่งจฬุ าลงกรณ์มหาวิทยาลยั ถนอมทรัพย์ มะลิซ้อน. (๒๕๔๔). รายงานการวิจัยการศึกษาเปรียบเทียบ ระดบั การใหเ้ หตผุ ลเชงิ จรยิ ธรรมของ นกั ศกึ ษาระดบั ประกาศนยี บตั ร วชิ าชีพช้ันปที ่ี ๓ และระดับประกาศนียบัตรวชิ าชพี ช้ันสูงช้ันปีท่ี ๒ วทิ ยาลยั อาชวี ศกึ ษามหาสารคาม. มหาสารคาม : วทิ ยาลยั อาชวี ศกึ ษา มหาสารคาม. 129

ทิศนา แขมมณี. (๒๕๔๗). ศาสตร์การสอน องค์ความรู้เพื่อการจัด กระบวนการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ. พิมพ์คร้ังที่ ๓. กรุงเทพฯ : โรงพมิ พจ์ ุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. ธรี นชุ สนุ ทร. (๒๕๔๙). คมู่ อื การพฒั นาความซอื่ สตั ยข์ องเดก็ ปฐมวยั . วทิ ยานพิ นธ ์ ปริญญาการศึกษามหาบัณฑิต, สาขาจิตวิทยาการแนะแนว, บณั ฑติ วิทยาลยั , มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ. นิทาน “ทำ�ดี ตามคำ�พ่อ” (๒๕๒๑). เมืองมีระเบียบ. ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนา พลงั แผ่นดินเชงิ คณุ ธรรม และ สบธ. ประภาศรี สีหอำ�ไพ. (๒๕๕๐). พ้ืนฐานการศึกษาทางศาสนาและจริยธรรม. พมิ พ์ครั้งท่ี ๔. กรุงเทพฯ : โรงพิมพแ์ ห่งจฬุ าลงกรณม์ หาวิทยาลัย ประเสริฐ เอ้ือนครินทร์. (๒๕๒๔). การทดลองใช้เทคนิคแม่แบบเพ่ือพัฒนา จริยธรรมด้านความซื่อสัตย์. ปริญญนิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต, มหาวทิ ยาลยั ศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมติ ร ปว๋ ย อ้ึงภากรณ์. (๒๕๔๕). ทัศนะว่าดว้ ยการศึกษา. กรงุ เทพฯ : ส�ำ นักพิมพ์มูลนธิ ิ โกมลคมี ทอง พภิ พ วชังเงิน. (๒๕๔๕). จริยธรรมวิชาชีพ Professional Ethics. กรุงเทพฯ : รวมสาสน์ (๑๙๗๗) จำ�กัด. พุทธทาสภกิ ข.ุ (๒๕๐๕). แนะแนวจรยิ ธรรม. กรุงเทพฯ : บรษิ ัทศิรพิ ัธต์. พระธรรมปิฎก (ป.อ. ปยุตฺโต). (๒๕๔๒). การศึกษาเพ่ือสร้างบัณฑิต หรอื การศกึ ษาเพอ่ื เพมิ่ ผลผลติ . กรงุ เทพฯ : โครงการต�ำ ราและเอกสาร ทางวิชาการ คณะศึกษาศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยเกษตรศาสตร์. พระพรหมคณุ าภรณ์ (ป.อ. ปยตุ โฺ ต). (๒๕๔๖). พฒั นาการแบบองคร์ วมของเดก็ ไทย. โครงการต�ำ ราสำ�นกั ทีป่ รกึ ษา กรมอนามยั :กระทรวงสาธารณสุข. 130

เพ็ญแจ ประจนปัจจนึก และคณะ. (๒๕๕๑). รายงานการวิจัย การยกระดบั คณุ ธรรม จรยิ ธรรมของสงั คมไทยเพอ่ื การปฏริ ปู สงั คม: แนวทางและการปฏบิ ตั .ิ กรงุ เทพฯ : ส�ำ นกั งานสภาทปี่ รกึ ษาเศรษฐกจิ และสังคมแหง่ ชาต.ิ ระดมพลบล็อค. (๒๕๕๖). แผนพัฒนาการศึกษาแห่งชาติ ฉบับที่ ๑๐ ฉบับ ปรบั ปรุง (พ.ศ. ๒๕๕๒-๒๕๕๙) สืบค้นเมอ่ื ๒๕ มิถุนายน ๒๕๕๐ รุจิร์ ภู่สาระ. (๒๕๔๑). แบบเรียนแนวหน้าชุดพัฒนากระบวนการสร้างเสริม ลักษณะนิสยั . พิมพ์ครงั้ ที่ ๕. กรงุ เทพฯ : โรงพิมพอ์ กั ษรเจริญทศั น์ ราชบัณฑติ ยสถาน. (๒๕๔๒). พจนานกุ รมฉบับราชบัณฑติ ยสถาน พ.ศ. ๒๕๔๒. กรุงเทพฯ : นานมีบ๊คุ พับลิเคชั่นส์. ลขิ ติ ธรี เวคนิ . (๒๕๔๘). คนไทยในอุดมคติ. กรุงเทพฯ:สำ�นักพิมพแ์ มค็ . วศิน อินทสระ. (๒๕๔๙). พุทธจริยศาสตร์. พิมพ์คร้ังที่ ๒. กรุงเทพฯ : โรงพมิ พ์เม็ดทราย. วัฒนากร เรืองจนิ ดา. (๒๕๔๘). คุณธรรมที่จะช่วยให้สังคมเขม้ แขง็ และก้าวหนา้ : ศึกษากรณีทัศนะของนักคิดในสังคมไทย. วิทยานิพน์ศึกษาศาสตร มหาบัณฑิต. (จริยศาสตรศ์ ึกษา). กรุงเทพฯ : มหาวทิ ยาลยั มหิดล. ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาพลังแผ่นดินเชิงคุณธรรม (ศูนย์คุณธรรม). (๒๕๕๑). สังคมมีคุณคา่ จากตน้ กลา้ คณุ ธรรม. กรุงเทพฯ : ศูนย์คุณธรรม. สงบ ลกั ษณะ. (๒๕๒๔). การศกึ ษาและการพฒั นาจรยิ ธรรม. การวดั ผลการศกึ ษา, ๒, ๒๙-๕๗. 131

สมบัติ กาญจนกิจ. (๒๕๓๕). นันทนาการชุมชนและโรงเรียน. กรุงเทพฯ : สำ�นักพมิ พแ์ หง่ จุฬาลงกรณ์ มหาวทิ ยาลยั . _______ . (๒๕๔๒). นนั ทนาการชมุ ชนและโรงเรยี น. (พมิ พค์ รง้ั ท่ี ๓). กรงุ เทพฯ : ส�ำ นกั พิมพ์ จฬุ าลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั . _______ . (๒๕๔๔). นันทนาการอุตสาหกรรมท่องเที่ยว. กรุงเทพฯ : สำ�นักพิมพแ์ หง่ จฬุ าลงกรณม์ หาวิทยาลัย. สมศรี ทองนชุ . (๒๕๔๒). การพฒั นาหลกั สตู รฝกึ อบรมเพอื่ เสรมิ สรา้ งคณุ ลกั ษณะ ความเป็นทันสมัยด้านจิตใจ สำ�หรับนักศึกษา สาขาครุศาสตร์ ของสถาบันราชภัฏ. วิทยานิพนธ์ปริญญาการศึกษาดุษฎีบัณฑิต (สาขาการอุดมศึกษา). กรุงเทพฯ: บัณฑติ วิทยาลยั มหาวทิ ยาลยั ศรีนครินทรวโิ รฒ. ส�ำ นกั งานพฒั นาการกฬี าและนนั ทนาการ. (๒๕๕๑). ชวี ติ หรรษาดว้ ยนนั ทนาการ. กรุงเทพฯ. โรงพิมพ์ชุมชนสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จำ�กัด. สำ�นักงานสภามหาวิทยาลัยราชภัฏ. (๒๕๔๐). การติดตามผลผู้สำ�เร็จการศึกษา จากมหาวิทยาลยั ราชภฏั ปกี ารศึกษา ๒๕๓๘-๒๕๓๙. กรงุ เทพฯ : ส�ำ นักงานสภามหาวิทยาลยั ราชภฏั . สำ�นักนโยบายและยุทธศาสตร์, วัฒนธรรม.กระทรวง. (๒๕๕๐). แผนแม่บท วฒั นธรรมแหง่ ชาติ (พ.ศ.๒๕๕๐-๒๕๕๙). กรงุ เทพฯ : ส�ำ นกั นโยบาย และยทุ ธศาสตร์ สำ�นักงานปลัดกระทรวงวัฒนธรรม. สำ�นกั ส่งเสรมิ และพทิ กั ษเ์ ยาวชน. (๒๕๕๖). แผนพฒั นาเดก็ และเยาวชนแหง่ ชาติ พ.ศ. ๒๕๕๕-๒๕๕๙. สืบค้นเมื่อ ๒๕ มิถุนายน ๒๕๕๖, จาก http://www.tinyzone.tv/demo/oppc_2011/images/raw/ filedwn/ 132

หมู่บ้านครู. (๒๕๕๖). สรุปสาระสำ�คัญเก่ียวกับ พรบ.การศึกษา. สบื คน้ เมือ่ ๒๕ มถิ นุ ายน ๒๕๕๖, จาก http://www.moobankru. com/knowledge1.html โอเคเนชน่ั . (๒๕๕๖). กรมพินจิ ฯ สถติ ชิ ้ีปีทแี่ ลว้ ทำ�ผดิ ซ้ำ�พงุ่ สูงสุดในรอบ ๔ ป.ี สบื คน้ เมอ่ื ๒๕ มถิ นุ ายน ๒๕๕๖, จาก http://www.oknation.net/ blog/LittleLee/2013/08/16/entry-1. Bammel, G. and L. L., Bammel. (1996). Leisure & Human Behavior. 3rd. Times Mirror Higher Education Group, Inc., Iowa. Butler, George D. (1959). Introduction to Community Recreation. New York: McGraw-Hill. Cordes, K. A. and H. M. Ibrahim. (1996). Applications in Recreation & Leisure for Today and the Future. New York : McGraw-Hill. Kelly, John R. (1996). Leisure. Third Edition. New Jersey : Prentice – Hall. Kraus, R. (2001). Recreation and Leisure in Modern Society Sixth Edition. Massachusetts : Jone and Batlett. Longman. Dictionary of Contemporary English, (London : Longman Group 1995). Smile Baby. นิทานอีสป ชายตัดไม้กับเทพารักษ์. (ออนไลน์). แหล่งที่มา : https://www.youtube.com/watch?v=PScrulfgvLA. สืบค้น ๒๕ มถิ ุนายน ๒๕๕๖. Stained Glass Mike. ศาลพันท้ายนรสงิ ห์ สมุทรสาคร. (ออนไลน์). แหลง่ ทม่ี า : https://www.youtube.com/watch?v=GEPJ7vLWcis. สืบค้น ๒๕ มิถนุ ายน ๒๕๕๖. 133

คณะผจู้ ัดท�ำ ที่ปรึกษา อธิบดกี รมพลศกึ ษา ดร.พัฒนาชาติ กฤดิบวร รองอธิบดกี รมพลศกึ ษา ดร.ชาญวทิ ย ์ ผลชวี ิน รองอธบิ ดีกรมพลศึกษา นายธวชั ถาวรสวสั ดิ ์ ผ้อู �ำ นวยการสำ�นักนนั ทนาการ ดร.กิตตพิ งษ์ โพธมิ ู ผู้เรียบเรยี ง และบรรณาธิการ นางร่งุ อรณุ เขยี วพุ่มพวง ผเู้ ชี่ยวชาญเฉพาะดา้ นสง่ เสริมและพฒั นานันทนาการ 134

แบบประเมนิ ผลความพงึ พอใจท่ีมีตอ่ หนังสอื “กจิ กรรมนนั ทนาการเพ่ือพฒั นาคุณธรรมและจริยธรรมของเดก็ ” ค�ำ ชแ้ี จง โปรดแสดงระดับความพึงพอใจท่ีมีต่อหนังสือ “กิจกรรมนันทนาการเพ่ือพัฒนาคุณธรรม และจริยธรรมของเดก็ ”เลม่ นี้ เพื่อนำ�ไปปรับปรุงและพัฒนาในโอกาสต่อไป (กรุณาใส่เคร่อื งหมาย √ ในกรอบ และเตมิ ขอ้ มูลในชอ่ งว่างเพื่อความสมบูรณข์ องแบบประเมินผล) ตอนที่ ๑ ขอ้ มูลเบอ้ื งตน้ ของผู้ตอบแบบประเมินผล ๑. สถานภาพ ชาย หญิง อายุ (โปรดระบุ) ...............................ปี ๒. ระดับการศกึ ษา ต�่ำกวา่ ปรญิ ญาตรี ปริญญาตรี สงู กวา่ ปรญิ ญาตรี ๓. สถานะ (๑) บคุ ลากรในหน่วยงานท่เี กี่ยวขอ้ ง สงั กัด ..................................... จงั หวัด ...................................... (๒) เจ้าหนา้ ที่ / ประชาชนท่ัวไป จงั หวดั ...................................... ตอนท่ี ๒ โปรดแสดงระดับความพึงพอใจที่มีต่อหนังสือ “กิจกรรมนันทนาการเพื่อพัฒนาคุณธรรม และจริยธรรมของเด็ก” โดยทำ�เครือ่ งหมาย √ ลงในช่องท่ีตรงกับระดับความพึงพอใจของท่าน ที่ รายการ ระดับความพึงพอใจ มาก ปานกลาง น้อย ๑. รปู เลม่ ภายนอก ขนาด เหมาะสม น่าอ่าน ๒. การจัดเรยี งหน้าสวยงาม และขนาดตัวอักษรเหมาะสม อ่านสะดวก ๓. ปกและภาพประกอบมคี วามคมชัด สวยงาม ๔. ภาพประกอบสามารถสอ่ื ความหมาย และมคี วามสมั พนั ธก์ บั เนอ้ื หา ๕. เนอ้ื หามคี วามถกู ตอ้ งเหมาะสม และสามารถใหค้ วามรเู้ รอ่ื งนนั ทนาการ ๖. เน้ือหามีความยาวเหมาะสม และสัมพันธก์ ับช่อื เรือ่ ง ๗. การเรียงลำ�ดับเนือ้ หา และการใช้ภาษาถูกตอ้ ง เขา้ ใจงา่ ย ๘. เนอ้ื หาของหนงั สอื ทนั สมัยทันตอ่ เหตกุ ารณ์ และตรงต่อความต้องการของทา่ น ๙. ความรูท้ ่ีได้เป็นประโยชนต์ ่อประชาชนหรือหน่วยงานที่เกย่ี วข้อง ๑๐. สามารถเผยแพรใ่ หเ้ กิดประโยชน์ตอ่ ชุมชนและสงั คมได้ ตอนท่ี ๓ ขอ้ เสนอแนะ .............................................................................................................................. ........................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................ ขอขอบคณุ ท่ีกรณุ ากรอกแบบประเมินผล สำ�นักนนั ทนาการ กรมพลศกึ ษา

ใบอ ุนญาตเลข ี่ท ปน. (ต)/4891 ปณศ. รองเ ืมอง บริการ ุธรกิจตอบรับ ้ถาฝาก ่สงในประเทศไม่ ้ตองผ ึนกตราไปรษณียากร ำส�นักนันทนาการ กรมพล ึศกษา เลข ่ีท 154 ถนนพระราม 1 แขวงวังให ่ม เขตปทุมวัน ก ุรงเทพฯ 10330 แบบตอบรบั หนงั สอื เร่อื ง ตอบรับหนงั สือและแบบประเมนิ ผล เรยี น ผอู้ ำ�นวยการสำ�นกั นนั ทนาการ ตามท่ี ส�ำ นักนนั ทนาการ กรมพลศึกษา ไดจ้ ัดสง่ หนังสอื “กจิ กรรมนันทนาการเพ่อื พฒั นาคณุ ธรรม และจรยิ ธรรมของเดก็ ” เพอ่ื เป็นสอ่ื การเรยี นรแู้ ละเผยแพรก่ จิ กรรมนนั ทนาการ จ�ำ นวน ๑ เล่ม น้ัน ขอเรียนว่าได้รับหนังสือดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว ด้วยความขอบคุณยิ่ง พร้อมน้ี ได้กรอกแบบ ประเมินผลความพงึ พอใจทีม่ ีต่อหนงั สือดงั กลา่ ว มาพร้อมน้ี จงึ เรียนมาเพ่อื โปรดทราบ ขอแสดงความนบั ถอื (ลงชอ่ื ) ................................................................... ( .............................................................. ) ตำ�แหน่ง ...................................................................