Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 2 คู่มือ ประถมศึกษา ช่องทางการเข้าสู่อาชีพ

2 คู่มือ ประถมศึกษา ช่องทางการเข้าสู่อาชีพ

Description: 2 คู่มือ ประถมศึกษา ช่องทางการเข้าสู่อาชีพ

Search

Read the Text Version

1 คู่มือพัฒนาระบบการเรยี นรูช้ ่วงสถานการณ์โควิด-19 ระดบั ประถมศกึ ษา ช่อื ................................สกุล...........................รหัสนกั ศกึ ษา.................... ศนู ย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั อาเภอกุดชุม สานกั งานสง่ เสรมิ การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั จังหวดั ยโสธร

2 คานา เนื่องด๎วยสถานการณ๑การแพรํระบาดของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนา 2019( COVID-19) กระทรวงศกึ ษาธกิ ารได๎ใหส๎ ถานศกึ ษาในสังกัดและในกํากับปิดเรียนด๎วยเหตุพิเศษนี้ พร๎อมทั้งให๎สํวน ราชการกําหนดแนวทางแก๎ปัญหาการจัดการเรียนการสอนที่ไมํสามารถเปิดเรียนได๎ตามปกติ เพ่ือ ความปลอดภัยของผู๎เรียน ผู๎ปกครอง และบุคลากรท่ีเก่ียวข๎อง กระทรวงศึกษาธิการจึงกําหนดเปิด เรียนที่2 ปีการศึกษา 2564 และกาํ หนดการจัดการเรียนร๎ู 5 รูปแบบ ไดแ๎ กํ 1. การเรียนแบบช้ันเรียน (ON - SITE) 2 .การเรียนผาํ นทีวี ผาํ นระบบดาวเทียม (ON - AIR) 3. การเรยี นออนไลน๑แบบเรียลไทม๑ ผํานอินเตอร๑เน็ต (ONLINE) 4. การเรียนย๎อนหลังผํานเวปไซต๑ ชํอง You Tube และแอปพลิเคช่ัน (ON DEMAND) 5. การเรียนทบี่ า๎ นด๎วยเอกสาร (ON HAND) ศูนย๑การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอําเภอกุดชุม จึงได๎จัดทําคํูมือพัฒนา ระบบการการเรียนร๎ูชํวงสถานการณ๑โควิด 19 ขึ้น เพ่ือเป็นส่ือประกอบการเรียนร๎ูและสํงเสริมให๎ ผ๎ูเรียนมีความร๎ู ความเข๎าใจ มีทักษะ ในการแสวงหาความรู๎ สามารถนําความร๎ูไปปรับใช๎ใน ชีวิตประจาํ วนั ได๎อยาํ งเหมาะสมและพฒั นาผูเ๎ รยี นให๎บรรลุตามจุดมุํงหมายของหลักสตู ร กศน.อําเภอกดุ ชุม พฤศจกิ ายน 2564

3 สารบัญ เนือ้ หา หน้า ผังการออกข้อสอบ รายวิชาชอํ งทางการเข๎าสํอู าชีพ (อช11001) รายวิชาภาษาองั กฤษพนื้ ฐาน (พต11001 รายวิชาเศรษฐกิจพอพยี ง (ทช11001) รายวชิ าศิลปศกึ ษา (ทช11003) รายวชิ าชอ่ งทางการเข้าสู่อาชีพ (อช11001) 1 แบบทดสอบกํอนเรยี น 2 เรื่องท่ี 1 การงานอาชพี 9 เรอ่ื งท่ี 2 ชอํ งทางการเข๎าสอูํ าชีพ 20 เรอ่ื งท่ี 3 การตดั สินใจเขา๎ สํอู าชีพ 23 แบบทดสอบหลังเรยี น 28 เฉลยแบบทดสอบก่อนเรยี น – หลังเรยี น 35 รายวิชาภาษาองั กฤษพ้นื ฐาน (พต11001) 36 แบบทดสอบกํอนเรียน 37 เรื่องท่ี 1 การทกั ทายและการตอบรบั คาํ ทกั ทาย(greeting) 40 เรอื่ งท่ี 2 การแนะนาํ ตนเองและการแนะนําผ๎อู น่ื ( Introducing oneself and others) 43 เร่ืองท่ี 3 การแนะนําบุคคลอนื่ ให๎ร๎ูจกั กัน 45 เรื่องท่ี 4 การกลําวลาและการตอบรับการกลําวลา (Leave Taking) 48 แบบทดสอบหลงั เรยี น 52 เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน – หลังเรยี น 55

4 รายวชิ าเศรษฐกิจพอพียง (ทช11001) 56 แบบทดสอบกอํ นเรียน 58 เรือ่ งที่ 1 ความพอเพยี ง 61 เรื่องท่ี 2 การบนั ทกึ รายรบั -รายจํายของตนเองและครอบครัว 67 เรือ่ งที่ 3 การวางแผนการใช๎จําย 69 เรอ่ื งท่ี 4 การลดรายจํายและเพมิ่ รายได๎ในครัวเรือน 70 เรอื่ งที่ 5 การออม 71 เรื่องท่ี 6 แนวทางการประกอบอาชพี ทส่ี งํ ผลตํอความสําเร็จ 77 แบบทดสอบหลังเรียน 83 เฉลยแบบทดสอบกอ่ นเรียน – หลงั เรยี น 86 87 รายวชิ าศลิ ปศึกษา (ทช11003) 88 แบบทดสอบกอํ นเรยี น 94 เรือ่ งที่ 1 ทศั นศิลปพ์ ืน้ บา๎ น 98 เรื่องที่ 2 ความสําคัญของวัฒนธรรมและประเพณี 99 เรื่องท่ี 3 ลักษณะของวัฒนธรรมและประเพณี 100 แบบทดสอบหลงั เรียน 105 เฉลยแบบทดสอบก่อนเรยี น – หลังเรียน คณะผจู้ ดั ทา

5 รายวิชา ช่องทางการเข้าสู่อาชีพ (อช11001) ระดบั ประถมศึกษา สาระความรู้พ้นื ฐาน มาตรฐานท่ี 3.2 มคี วามรู๎ ความเข๎าใจ และทกั ษะในอาชีพท่ีตดั สินใจเลือก สาระสาคญั การมอี าชีพเป็นความภูมิใจของคนทุกคน ซ่ึงเราสามารถเลือกประกอบอาชีพให๎เหมาะสมกับ ความถนัด ความชอบของตน และตรงกบั ความต๎องการของตลาด นอกจากน้ีควรเป็นอาชีพท่ีต๎องไมํมี ผลกระทบใด ๆ ตํอสิ่งแวดลอ๎ ม ดงั นน้ั การจะตัดสินใจเลือกอาชีพใดอาชีพหน่ึงจะต๎องศึกษา วิเคราะห๑ ข๎อมูลอาชพี อยํางถํองแท๎ เพ่ือท่จี ะตัดสนิ ใจเลอื กอาชพี ให๎มคี วามเสย่ี งน๎อยทส่ี ดุ ผลการเรียนรทู ค่ี าดหวงั 1. อธบิ ายความหมาย ความสําคญั วิเคราะห๑ลักษณะงาน ขอบขาํ ยการงานอาชีพใน ชมุ ชน สงั คม ประเทศ และภมู ภิ าค 5 ทวปี ไดแ๎ กํ ทวปี เอเชีย ทวีปออสเตรเลีย ทวีปอเมริกา ทวีป ยโุ รป และทวปี แอฟริกา เพ่อื การเข๎าสอํู าชีพได๎ 2. อธบิ ายเหตุปจั จยั ความจําเปน็ ในการตัดสนิ ใจเลอื กอาชพี ท่เี หมาะสมกบั ศกั ยภาพของตนได๎ 3. ยอมรบั และเห็นคณุ คําในอาชีพทตี่ ดั สนิ ใจเลอื ก 4. ปฏบิ ตั ิการวิเคราะห๑ตดั สนิ ใจเลอื กอาชีพได๎ ขอบขายเนื้อหา เรือ่ งท่ี 1 ความสําคัญและความจาํ เป็นในการประกอบอาชพี เร่ืองท่ี 2 อาชพี ในชมุ ชน เร่อื งท่ี 3 การประกอบอาชีพในภูมภิ าค 5 ทวปี แบบทดสอบก่อนเรียน จานวน 33 ข้อ ( 33 คะแนน)

6 รายวชิ า ช่องทางการเข้าสูอ่ าชีพ (อช11001) ระดบั ประถมศึกษา คาช้แี จง ใหน๎ ักศกึ ษาทําเครือ่ งหมายวงกลม ( ) หนา๎ คําตอบท่ีถกู ตอ๎ งที่สดุ เพียงขอ๎ เดียว 1. อาชีพ หมายถึงข๎อใด ก. การประกอบอาชีพทีม่ กี ารแลกเปลย่ี นระหวํางสินค๎ากบั เงิน ข. การประกอบอาชีพทีม่ ีรายไดต๎ อบแทนโดยใชแ๎ รงงาน ค. การประกอบอาชีพท่ีเราทําแล๎วเกดิ ผลกาํ ไรมรี ายได๎ ง. การประกอบอาชีพท่เี ราทําเป็นประจําทุกวัน 2. ขอ๎ ใดคือความสําคญั ของการประกอบอาชพี ก.ใช๎เวลาวํางให๎เปน็ ประโยชน๑ ข. มงี านทําทเี่ หมาะสมกบั ฐานะ ค. มีรายไดใ๎ ช๎จาํ ยในชวี ิตประจาํ วนั ง. สร๎างความนําเชอ่ื ถือจากคนในสงั คม 3. อาชพี ด้ังเดิมท่คี นไทยดําเนินชีวติ ตง้ั แตํอดีตจนถึงปัจจุบันคือขอ๎ ใด ก. ค๎าขาย ข. เล้ียงสัตว๑ ค. เกษตรกรรม ง. อตุ สาหกรรม 4. ในทวปี ยโุ รปควรปลูกพืชชนิดใดจงึ จะเหมาะสม ก. อ๎อย กลว๎ ย ข. กาแฟ โกโก๎ ค. ข๎าวโพด ขา๎ วฟุาง ง. ข๎าวสาลี ข๎าวโอ๏ต 5. ในทวปี อเมริกา ประชากรสวํ นใหญปํ ระกอบอาชีพประเภทใด ก. เกษตรกรรม

7 ข. อุตสาหกรรม ค. พาณิชยกรรม ง. ด๎านความคิดริเริ่มสรา๎ งสรรค๑ 6. การทอผ๎าจัดเปน็ อาชีพประเภทใด ก. ความคดิ ริเร่มิ สรา๎ งสรรค๑ ข. พาณิชยกรรม ค. อตุ สาหกรรม ง. เกษตรกรรม 7. อาชีพพอํ ค๎าคนกลางเป็นอาชพี ทีเ่ กิดจากข๎อใด ก. ตามบรรพบรุ ุษ ข. ชํองวํางระหวํางอาชีพ ค. ความตอ๎ งการของตลาด ง. ผลของการประกอบอาชีพ 8. กลมํุ อาชพี ดา๎ นความคดิ ริเรมิ่ สร๎างสรรคด๑ ๎องอาศยั ศกั ยภาพดา๎ นใดมากทส่ี ุด ก. ด๎านทรัพยากรธรรมชาติ ข. ดา๎ นทรัพยากรมนุษยใ๑ นพ้ืนท่ี ค. ด๎านพืน้ ทตี่ ามลกั ษณะภูมิอากาศ ง. ด๎านการลงทุน และการบรหิ ารจัดการ 9. ถา๎ นกั ศกึ ษาจบการศกึ ษาสาขาการเงนิ และบัญชคี วรทํางานสถานที่ใดเหมาะสมท่สี ุด ก. คลนิ กิ ข. ธนาคาร ค. โรงพยาบาล ง. สถานตี ํารวจ 10. ข๎อใดเป็นวธิ กี ารทดี่ ีท่ีสุดในการหาขอ๎ มลู ทางการตลาด ก. การวิจัยตลาด ข. การแนะนาํ สินค๎า

8 ค. การทดลองขายสินค๎า ง. การประเมินจากข๎อมูลเดมิ 11. ข๎อใดคือแผนการใชเ๎ งินทุนทมี่ ีประสทิ ธภิ าพ ก. ต๎นทุนต่ํา รายได๎สงู ข. ตน๎ ทนุ สงู รายได๎ตา่ํ ค. รายไดส๎ งู ตน๎ ทุนตาํ่ ง. รายได๎ตํา่ ต๎นทนุ ตา่ํ 12. กระบวนการจดั การการตลาดผผ๎ู ลิตตอ๎ งศกึ ษาขอ๎ มูลใดเป็นอนั ดับแรก ก. ราคา ข. คุณภาพ ค. ความสะดวกในการซื้อ ง. ความตอ๎ งการของผบ๎ู รโิ ภค 13. ผ๎ูประกอบธุรกจิ ควรมคี ุณธรรมในขอ๎ ใดมากท่สี ุด ก. ความมีน้ําใจ ข. ความซือ่ สตั ย๑ ค. ความรับผิดชอบ ง. ความมรี ะเบยี บ 14. สุดาเป็นพนักงานบริษัทแหํงหนงึ่ เป็นคนขยันตรงตอํ เวลารู๎จกั หน๎าท่ขี องตนเองพฤติกรรมของสุดา ตรงกบั ขอ๎ ใด ก. มีคณุ ธรรม ข. มีจรยิ ธรรม ค. มีความซ่อื สัตย๑ ง. มีความรับผิดชอบ 15. นายสวัสดิ์มอี าชพี ขายสํงมงั คดุ ตามส่ังในการบรรจุมังคุดเสียลงไปด๎วยทาํ นคดิ วํานายสวัสดิ์ ทาํ ถกู หรือไมํ เพราะเหตใุ ด ก. ถกู ตอ๎ ง เพราะลกู ค๎าไมํเห็น ข. ถกู ตอ๎ ง เพราะจะไดข๎ ายได๎จํานวนมากขึน้

9 ค. ไมํถกู ตอ๎ ง เพราะจะทาํ ให๎มังคุดผลอนื่ เสยี หายเพม่ิ ขนึ้ ง. ไมถํ ูกตอ๎ ง เพราะเปน็ การกระทําท่ีไมํซอ่ื สตั ย๑ 16. ขอ๎ ใดเป็นการอนุรักษ๑พลงั งานและส่งิ แวดลอ๎ มไมํถูกตอ๎ ง ก. แดง เลือกซ้ือต๎เู ยน็ ประหยัดไฟ ข. ขาว ซ้ือกระทะไฟฟาู มาทําอาหาร ค. ด า ปิดฝาถังขยะทุกครงั้ ทท่ี ้งิ ขยะ ง. เขียว นํานํ้าที่ซักผา๎ ทกุ คร้ังสุดท๎ายไปรดตน๎ ไม๎ 17. เราสามารถอนุรักษพ๑ ลังงานสิ่งแวดลอ๎ มในการทํางานอาชพี ไดอ๎ ยาํ งไร ก. ใชถ๎ ุงพลาสตกิ ทีค่ งทนถาวร ข. ใช๎กระดาษทชิ ชูแทนผ๎าลดการใช๎น้ํา ค. เผาทาํ ลายขยะเพื่อลดการเกิดโรค ง. ไมํปลํอยนํา้ เนาํ เสยี ลงในคลอง แมํนํ้า 18. ขอ๎ ใดเป็นการเลอื กประกอบอาชพี ไดเ๎ หมาะสมทสี่ ดุ ก. อรุณจี บแพทยป๑ ระกอบอาชีพค๎าขาย ข. อารยี จ๑ บวิศวะประกอบอาชพี เลขานกุ าร ค. อําไพจบพาณิชยการประกอบอาชพี ค๎าขาย ง. อุดรจบชาํ งไฟฟูาประกอบอาชพี เกษตรกร 19. สมชายเปิดรา๎ นขายเครอ่ื งเขยี นใกล๎กบั โรงเรียนสมชายคํานงึ ถึงส่งิ ใดในการประกอบอาชพี ก. เงนิ ทุน ข. แหลํงผลิต ค. ตลาดเปูาหมาย ง. มาตรฐานสินค๎า 20. ในการตดั สินเลือกอาชีพต๎องใชข๎ อ๎ มูลใดในการประกอบการตัดสนิ ใจ ก. ตนเอง สงั คม ชมุ ชน ข. ตนเอง วิชาการ สังคม ค. ตนเอง ชมุ ชน ครอบครัว ง. ตนเอง วิชาการ ชุมชน

10 21. ข๎อใดไมใํ ชํแนวทางการตัดสนิ ใจประกอบอาชีพจาการพจิ ารณาดา๎ นสังคมและสิง่ แวดลอ๎ ม ก. มีทนุ หรือไมํ ข. มตี ลาดรองรบั หรอื ไมํ ค. มที รพั ยากรเพยี งพอหรอื ไมํ ง. อาชีพน้นั มีคนทํามากหรือไมํ 22. เหตุใดในเขตเอเชยี ตะวนั ตกเฉียงใต๎นิยมเล้ียงสัตว๑เปน็ อาชพี ก. เพราะพ้นื ท่มี ฝี นตกตลอดปี ข. เพราะพ้นื ทไ่ี มํกว๎างดแู ลไดท๎ ั่วถึง ค. เพราะพนื้ ที่มีแหลํงอาหารทสี่ มบรู ณ๑ ง. เพราะพนื้ ท่ีเปน็ ทํุงหญ๎ากึ่งทะเลทราย 23. ขอ๎ ใดเป็นการตรวจสอบความเป็นไปได๎ในการเขา๎ สํูอาชีพ ก. รายได๎ ข. ผู๎บริโภค ค. การผลิต การตลาด ง. ครอบครัว สังคม ชมุ ชน ตลาด 24. การศกึ ษากระบวนการผลิตกระบวนการตลาดมีความจําเปน็ ตอํ การประกอบอาชพี อยํางไร ก. ศึกษาคํูแขํง ข. ศึกษาชอํ งทางการผลติ สินค๎า ค. ผลิตสนิ ค๎าเปน็ ทีต่ อ๎ งการของตลาด ง. ลดความเสย่ี งในการประกอบอาชพี ในอนาคตได๎ 25. สินคา๎ ชนิดใดต๎องใชว๎ สั ดุกนั กระแทกในการบรรจหุ บี หํอ ก. ผลไม๎ ข. เส้ือผ๎า ค. อาหารแห๎ง ง. อาหารทะเล 26. ป๋ยุ ชีวภาพ หมายถึงข๎อใด

11 ก. ปุ๋ยที่ไดจ๎ ากสารเคมี ข. ปุ๋ยอนนิ ทรียท๑ ใ่ี หธ๎ าตุอาหารพชื ค. ปยุ๋ ที่ไดจ๎ ากซากพืชซากสตั ว๑ ง. ปุ๋ยทีป่ ระกอบด๎วยจุลินทรยี ท๑ ีย่ งั มชี ีวติ อยูํ 27. หนดู จี ะย๎อมผา๎ ให๎เป็นสีเหลอื งโดยใช๎สีธรรมชาติตอ๎ งใช๎ส่งิ ใด ก. ขมนิ้ ข. มะไฟ ค. ใบหูกวาง ง. เปลอื กมังคดุ 28. นาเดยี ชอบคดิ และทําอาหารสูตรใหมๆํ ให๎ผ๎ูคนรอบข๎างรบั ประทานเสมอนาเดียควรเลอื ก ประกอบอาชีพอะไร ก. นกั วิจัย ข. แมํครวั ค. แมํบ๎าน ง. นกั เขียน 29. ขอ๎ ใดไมํใชขํ อ๎ มลู ในการตดั สินใจเลอื กอาชีพที่เหมาะสมกบั ตนเอง ก. ขอ๎ มลู สาธารณะสขุ ข. ขอ๎ มลู วชิ าการ ค. ข๎อมูลสังคม ง. ขอ๎ มลู ตนเอง 30. กลมํุ อาชีพใดที่ตอ๎ งคํานึงถึงทรพั ยากรธรรมชาติควบคํูกบั ลักษณะภมู อิ ากาศลกั ษณะภมู ปิ ระเทศ และทรัพยากรมนษุ ยม๑ ากทีสุด ก. เกษตรกรรม ข. อตุ สาหกรรม ค. พาณิชยกรรม ง. ศิลปกรรม 31. พน้ื ทร่ี าบลํุมควรปลูกพชื ชนดิ ใด ก. ข๎าว

12 ข. ขา๎ วโพด ค. มันสําปะหลัง ง. สบั ปะรดและอ๎อย 32. ภาคใตฝ๎ ั่งอันดามันเหมาะแกํการประกอบอาชพี อะไร ก. ร๎านขายของเกํา ข. ร๎ายขายของเลนํ ค. ร๎านขายของทร่ี ะลกึ ง. ร๎านขายอปุ กรณ๑เกษตร 33. อไุ รมีท่วี าํ งเปลาํ อยใํู จกลางเมอื งผู๎คนสวํ นใหญํนยิ มบริโภคอาหารนอกบ๎านอไุ รควรเลือก ประกอบธรุ กิจใด ก. ร๎านอาหาร ข. ร๎านของฝาก ค. ร๎านสะดวกซอื้ ง. ร๎านจาํ หนํายเคร่อื งดืม่ บทที่ 1 การงานอาชีพ เรือ่ งท่ี 1 ความสาคัญและความจาเปน็ ในการประกอบอาชพี อาชีพ หมายถึง การประกอบการท่ีมีรายได๎ตอบแทนโดยใช๎แรงงาน ความรู๎ ทักษะ อุปกรณ๑ เครื่องมือ สถานท่ี วิธีการ ต๎องเป็นอาชีพสุจริต และไมํมีผลเสียตํอชุมชน สังคม และประเทศชาติ มนุษย๑เราจําเป็นต๎องมีปัจจัยตําง ๆ เพ่ือต๎องการดํารงชีวิต เชํน มีท่ีอยํูอาศัย มีอาหารรับประทานมี

13 เครื่องนงํุ หมํ มียารักษาโรคตําง ๆ ซ่ึงท้ัง 4 อยํางน้ีจะเป็นพ้ืนฐานของการดํารงชีวิตท่ัวไป แตํบางคนก็ อาจมคี วามจําเปน็ อ่นื ๆ อีก เชํน รถยนต๑ โทรศพั ท๑มอื ถือ ขึน้ อยํูกับความจําเป็นในการประกอบอาชีพ หรือความจําเป็นตํอการดํารงชีวิตประจําวัน การจะมีปัจจัยตําง ๆ เหลําน้ีข้ึนอยํูกับฐานะทางการเงิน ซง่ึ ก็คอื ความสามารถในการหารายไดข๎ องแตํละบุคคล เรอื่ งที่ 2 อาชพี ในชุมชน การเปลี่ยนแปลงทางด๎านสังคมและสิ่งแวดล๎อม ความเจริญก๎าวหน๎าทางด๎านเทคโนโลยีมีผล ตํอชีวิตความเป็นอยูํ และโดยเฉพาะการประกอบอาชีพของคนในหมํูบ๎าน ได๎แกํ การเกิดอาชีพใหมํ หรอื การอนุรกั ษ๑อาชพี เดิมให๎อยใํู นทอ๎ งถ่ิน ดงั นี้ 1. การสร๎างอาชพี จากชํองวาํ งระหวาํ งอาชีพ โดยอาศยั ชอํ งวาํ งระหวํางอาชีพ 2 อาชีพ เชํน อาชพี ขยายลาํ ไมไ๎ ผํ โดยซื้อจากแหลงํ ปลูกไปขายให๎กบั แหลงํ ทาํ เคร่อื งจักสาน 2. การสร๎างอาชีพจากผลของการประกอบอาชีพ โดยอาศยั ผลพลอยได๎จากอาชพี เดิม เชนํ ทาํ ภาชนะใสขํ องจากทางมะพรา๎ ว จากตน๎ มะพร๎าวท่ปี ลูกเป็นอาชีพอยแํู ล๎ว 3. การสร๎างอาชีพจากทรัพยากรท๎องถิน่ เปน็ การสรา๎ งอาชีพใหมํ โดยการนําทรพั ยากรทม่ี อี ยํู ในทอ๎ งถน่ิ มาใช๎ให๎เป็นประโยชน๑ เชํน ทาํ อิฐจากดนิ เหนยี วท่ีมีอยํใู นทอ๎ งถิ่น 4. การสรา๎ งอาชพี จากความต๎องการของตลาด เปน็ การสร๎างอาชีพใหมํ โดยอาศัยขอ๎ มลู ทาง การตลาด เชํน เล้ยี งกบเพราะตลาดมคี วามตอ๎ งการมาก หรอื ปลูกผักปลอดสารพิษ 5. การสรา๎ งอาชีพท่ขี าดแคลนในท๎องถิน่ เป็นการสร๎างอาชพี ใหมํ โดยอาศัยขอ๎ มูลในท๎องถ่ิน เชํน อาชพี รบั ซอํ มมอเตอรไ๑ ซคเ๑ กดิ ข้ึนเพราะชาํ งในหมบูํ า๎ นขาดแคลน 6. ประกอบอาชพี ตามบรรพบุรษุ พํอแมํ ปูุยํา ตายาย ทําอาชีพอะไร รํุนลกู รนํุ หลาน กจ็ ะ ดาํ เนนิ การตอํ เชํน อาชพี ขายก๐วยเตีย๋ ว ถา๎ มีชือ่ เสียงก็จะขายจนกระทัง่ รนํุ ลกู รํุนหลาน 7. ประกอบอาชีพตามสภาพภูมิประเทศ ซึ่งในประเทศไทยประกอบด๎วยสภาพพ้ืนท่ี ที่เป็น ภูเขา ที่ราบลํุม ท่ีดอน ดังน้ันการเพาะปลูกข้ึนอยูํกับสภาพพื้นท่ีด๎วย เชํน ท่ีราบลํุมสามารถทํานาได๎ อยํใู กล๎ทะเลประกอบอาชีพด๎านประมง หรือบางทาํ เลสามารถจดั เปน็ แหลงํ ทํองเทยี่ วได๎ 8. ประกอบอาชพี ตามนโยบายของรัฐบาลหรือของผ๎ูประกอบการเอง ซึ่งในพ้ืนที่ไมํเคยทํามา กํอน เชํน นํายางพาราไปปลูกทางภาคอีสาน แตํเดิมยางพาราจะปลูกกันทางภาคใต๎เป็นสํวนใหญํ อาชพี ในโลกนม้ี หี ลากหลาย และคนเราตอ๎ งมีอาชีพ เพื่อให๎มีรายได๎เลี้ยงตนเอง ครอบครัวการมีอาชีพ

14 ของตนเองต๎องอาศัยปัจจัยหลายอยําง เชํน ความร๎ูความสามารถ เงินที่ใช๎ในการลงทุนมีสถานท่ี มี ตลาดรองรบั ตวั อยาํ ง งานบ๎าน งานผ๎าและเครอื่ งแตงํ กาย กลุม่ อาชีพใหม่ เพื่อใหก๎ ารประกอบอาชีพสอดคลอ๎ งกับศักยภาพหลักของพื้นท่ีและสามารถแขํงขันในเวทีโลก จึงได๎กําหนดกลุํมอาชีพใหมํ 5 กลุํมอาชีพ คือ กลุํมอาชีพใหมํด๎านการเกษตร กลํุมอาชีพใหมํด๎าน พาณชิ ยกรรมกลุํมอาชีพใหมดํ ๎านอุตสาหกรรม กลํุมอาชพี ใหมํดา๎ นความคิดสร๎างสรรค๑ และกลํุมอาชีพ ใหมํด๎านบรหิ ารจดั การและบรกิ าร 1. กลํมุ อาชพี ใหมํดา๎ นการเกษตร คือ การพัฒนาอาชีพในด๎านการเกษตรเกี่ยวกับการปลูกพืช เลี้ยงสัตว๑ การประมง โดยนําองค๑ความร๎ูใหมํ เทคโนโลยี/นวัตกรรม มาพัฒนาให๎สอดคล๎องกับ ศักยภาพหลักของพ้ืนท่ี คือ ศักยภาพของทรัพยากรธรรมชาติในแตํละพ้ืนที่ ตามลักษณะภูมิอากาศ ศักยภาพของภูมปิ ระเทศ และทําเลท่ตี ัง้ ของแตํละพ้นื ท่ี ศักยภาพของศลิ ปะ วฒั นธรรม ประเพณี และ วิถีของแตํละพื้นท่ีและศักยภาพของทรัพยากรมนุษย๑ในแตํละพ้ืนที่ อาชีพใหมํด๎านการเกษตร เชํน เกษตรอนิ ทรีย๑ เกษตรผสมผสาน เกษตรทฤษฎีใหมํ วนเกษตร ธุรกจิ การเกษตร เปน็ ตน๎ 2. กลํุมอาชีพใหมํด๎านพาณิชยกรรม คือ การพัฒนาหรือขยายขอบขํายอาชีพด๎านพาณิชย กรรม เชนํ ผ๎ใู ห๎บริการจําหนาํ ยสินค๎าท้ังแบบค๎าปลกี และค๎าสํงให๎แกํผู๎บริโภคท้ังมีหน๎าร๎านเป็นสถานที่ จัดจําหนาํ ย เชํน หา๎ งร๎าน ห๎างสรรพสินค๎า ซุปเปอร๑สโตร๑ ร๎านสะดวกซื้อ และการขายท่ีไมํมีหน๎าร๎าน เชนํ การขายผาํ นสอ่ื อิเล็กทรอนิกส๑ 3. กลํุมอาชีพใหมํด๎านอุตสาหกรรม คือ การพัฒนาอาชีพท่ีอาศัยองค๑ความร๎ู เทคโนโลยี/ นวัตกรรม อาชีพเกี่ยวกับงานชําง ซึ่งได๎แกํ ชํางไฟฟูา ชํางไม๎ ชํางยนต๑ ชํางประปา ชํางปูน และชําง เชือ่ มให๎สอดคล๎องกับความตอ๎ งการของตลาดในประเทศ และตาํ งประเทศและศักยภาพหลักของพ้ืนท่ี เชํนผ๎ูผลิตชิ้นสํวนอิเล็กทรอนิกส๑เคร่ืองใช๎ไฟฟูา หรืออุปกรณ๑อิเล็กทรอนิกส๑โดยทั่วไป เชํน IC PCB ผ๎ูประกอบรถยนต๑และยานยนต๑ประเภทตําง ๆ ผ๎ูผลิต ตัวแทนจําหนํายหรือผู๎ประกอบช้ินสํวนหรือ อะไหลรํ ถยนต๑ ผใ๎ู ห๎บรกิ ารซํอมบาํ รุงรถยนต๑ ผู๎จัดจําหนํายและศูนย๑จําหนํายรถยนต๑ทั้งมือหน่ึงมือสอง ผู๎ผลิตและจําหนํายเครื่องจักรและเคร่ืองมือทุกชนิด เชํน เคร่ืองจักรกลหนัก เคร่ืองจักรกลเบา ผลิต อุปกรณ๑หรือสวํ นประกอบพื้นฐานของเครื่องใชไ๎ ฟฟาู ตาํ ง ๆ เชนํ สายไฟ หลอดไฟ ฉนวนไฟฟูามอเตอร๑ ตําง ๆ การผลิตอลูมิเนียม ผลิตและตัวแทนจําหนํายผลิตภัณฑ๑เหล็ก สเตนเลส ผ๎ูผลิตจําหนํายวัสดุ กํอสรา๎ ง วสั ดตุ กแตงํ สขุ ภณั ฑ๑ การกอํ สรา๎ งอาคาร หรือที่อยอํู าศยั

15 4. กลุํมอาชีพใหมํด๎านความคิดสร๎างสรรค๑ ทํามกลางกระแสการแขํงขันของโลกธุรกิจที่ไร๎ พรมแดนและการพฒั นาอยาํ งกา๎ วกระโดดของเทคโนโลยีการส่ือสารและการคมนาคม การแลกเปล่ียน สินค๎าจากท่ีหนึ่งไปยังอีกสถานท่ี ที่อยูํหํางไกลน้ันเป็นเร่ืองงําย ในปัจจุบันเมื่อข๎อจํากัดของการข๎าม พรมแดนมใิ ชํอุปสรรคทางการค๎าตอํ ไปจงึ ทําให๎ผบู๎ ริโภค หรือผู๎ซื้อมีสิทธิเลือกสินค๎าใหมํได๎อยํางเสรีท้ัง ในด๎านคุณภาพและราคา ซึ่งการเรียนรู๎และพัฒนาสินค๎าและบริการตําง ๆ ท่ีมีอยํูในตลาดอยูํแล๎วใน ยุคโลกไร๎พรมแดนกระทําได๎งําย ประเทศที่มีต๎นทุนการผลิตต่ํา เชํน ประเทศจีน อินเดีย เวียดนาม และประเทศในกลุํมยุโรปตะวันออก จะมีความได๎เปรียบในการแขํงขันด๎านราคา ด๎วยเหตุน้ีประเทศ ผน๎ู ําทางเศรษฐกิจหลายประเทศ จึงหันมาสํงเสริมการดําเนินนโยบายเศรษฐกิจสร๎างสรรค๑เพื่อพัฒนา สินคา๎ และบรกิ ารใหมํ ๆ และหลีกเล่ยี งการผลิตสินค๎าที่ต๎องตํอส๎ูด๎านราคา โดยหลักการของเศรษฐกิจ สร๎างสรรค๑คือ แนวคิดหรือแนวปฏิบัติท่ีสร๎าง/เพ่ิมมูลคําของสินค๎าและบริการได๎โดยไมํต๎องใช๎ ทรพั ยากรมากนักแตํใช๎ความคดิ สติปญั ญา และความสรา๎ งสรรค๑ใหม๎ ากขนึ้ 5. กลุํมอาชีพใหมํด๎านบริหารจัดการและบริการ เชํน ธุรกิจบริการทํองเที่ยว ธุรกิจบริการ สขุ ภาพ ธุรกจิ บรกิ าร โลจิสตกิ ส๑ ธรุ กจิ ภาพยนตร๑ ธรุ กิจการจัดประชุมและแสดงนิทรรศการบริการที่ ปรึกษาด๎านอสังหาริมทรัพย๑ ท่ีปรึกษาทางธุรกิจงานอาชีพใหมํท้ัง 5 กลํุม ในอนาคตจะมีการเติบโต ทางธุรกิจมากขึน้ จึงมีความต๎องการเจ๎าหน๎าท่ี บุคคล พนักงาน เพ่ือควบคุมและปฏิบัติงานที่มีความรู๎ ความสามารถ และทกั ษะฝีมือเป็นจาํ นวนมาก เรอ่ื งท่ี 3 การประกอบอาชพี ในภูมิภาค 5 ทวปี ภมู ภิ าคของโลกประกอบดว๎ ย 5 ภมู ิภาค ไดแ๎ กํ เอเชยี อเมรกิ า ยโุ รป ออสเตรเลีย แอฟริกา ซ่ึง ในแตํละภูมิภาคจะมีลักษณะการประกอบอาชีพที่แตกตํางกัน เพราะมีความแตกตํางกันทางสภาพ บริบทของพื้นที่ ไดแ๎ กํทรัพยากรธรรมชาตแิ ละพ้ืนที่ ลักษณะภมู อิ ากาศ ภูมิประเทศ ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี วิถีชีวิต และการดํารงชีวิตของประชาชน ดังน้ันในการประกอบอาชีพ ผ๎ูประกอบการ จําเป็นต๎องเข๎าใจในความแตกตํางของสภาพบริบทของพื้นที่ดังกลําว เพราะในอนาคตการติดตํอทาง การค๎าจะสามารถเช่ือมโยงติดตํอซ้ือขายได๎อยํางไมํมีขอบเขตจํากัด ความแตกตํางของลักษณะงาน อาชีพในแตลํ ะภมู ภิ าค มรี ายละเอยี ดดงั น้ี ภูมิภาคเอเชีย สํวนใหญํของประเทศในภูมิภาคเอเชียประกอบอาชีพเกษตรกรรมเป็นหลัก ได๎แกํ การปลูกพืช การเล้ียงสัตว๑ การประมง ปุาไม๎ รวมถึงงานอาชีพทางด๎านเหมืองแรํ และ อตุ สาหกรรมดว๎ ยโดยในแตลํ ะอาชพี ทปี่ ระกอบการในภมู ิภาคเอเชยี มลี ักษณะการประกอบอาชีพ ดังน้ี

16 การปลูกพืช เป็นอาชีพเกษตรกรรมที่ประชาชนสํวนใหญํในแตํละประเทศของภูมิภาคเอเชีย ดาํ เนนิ การประกอบเปน็ อาชีพ แตํมีความแตกตํางกันไปตามลักษณะภูมิอากาศ ภูมิประเทศ และการ ดํารงชีวิตของประชากร โดยประเทศในเขตพื้นท่ีราบท่ีมีปริมาณฝนเพียงพอ และประชากรอาศัยอยํู อยํางหนาแนํน จะมีการดําเนินการประกอบอาชีพการปลูกพืชเพ่ือเลี้ยงตนเอง แตํในเขตพื้นที่ที่มี ภมู อิ ากาศแบบปาุ ดบิ ชืน้ มีประชากรอยูบํ างเบา จะประกอบอาชพี เกษตรกรรมปลูกพืชแบบเล่ือนลอย ทง้ั นีใ้ นพื้นท่ที ่ีเป็นทุงํ หญา๎ มีระบบชลประทาน สํวนใหญํจะประกอบอาชีพปลูกพืชพร๎อมการเลี้ยงสัตว๑ โดยพ้ืนที่ใดของประเทศท่ีอยํูในเขตอากาศหนาว เขตทะเลทราย และเขตภูเขา จะเป็นพ้ืนท่ีที่ไมํ สามารถประกอบอาชีพเกษตรกรรมปลูกพืชได๎สําหรับพืชเศรษฐกิจที่สําคัญนิยมปลูกในประเทศของ ภูมิภาคเอเชีย เชํน ข๎าวเจ๎าข๎าวโพด มะพร๎าว ปาล๑มน้ํามัน มะกอก ชา ฝูาย ปอ ปุาน ยางพารา เป็นตน๎ การเล้ียงสตั ว์ อาชพี เกษตรกรรม การเลี้ยงสัตว๑ เป็นอีกอาชีพหน่ึงท่ีประชาชนในประเทศตําง ๆ ของภูมิภาคเอเชียนิยมประกอบอาชีพ แตํมีความแตกตํางกันไปตามสภาพภูมิประเทศและ ภมู ิอากาศ โดยในประเทศทีม่ ีอากาศแหง๎ แล๎งแถบเอเชียตะวนั ตกเฉียงใต๎ และตอนกลางของภูมิภาคซึ่ง มลี กั ษณะพนื้ ท่ีเปน็ ทํุงหญ๎าก่งึ ทะเลทราย ประชากรในเขตดงั กลาํ วจึงนิยมเล้ยี งสตั ว๑แบบเรํรอํ น ไดแ๎ กํ อูฐ แพะ แกะ โค ม๎า และจามรี โดยการเลี้ยงสัตว๑ในลักษณะดังกลําว เป็นการประกอบอาชีพเพื่อ ต๎องการนมและเน้ือนํามาใช๎เป็นอาหาร สํวนในเขตอากาศร๎อนช้ืนและอบอุํน ประชากรจะนิยมเล้ียง สตั วเ๑ พือ่ การบรโิ ภคและการสํงเป็นสินค๎าออก ได๎แกํ สุกร ไกํ เป็ด ทั้งน้ีในเขตอากาศดังกลําว จะนิยม เลยี้ งโคกระบือ และมา๎ เชํนเดยี วกนั แตเํ ป็นการเล้ยี งไวเ๎ พ่ือใช๎งาน การประมง การประกอบอาชีพประมงของภูมิภาคเอเชีย มีการดําเนินการประกอบอาชีพ ประมงใน 2 ลักษณะ ได๎แกํ ประมงนํ้าจืด และประมงทางทะเล การประกอบอาชีพประมงนํ้าจืดสํวน ใหญํจะนิยมทาํ อาชพี ประมงควบคํูกบั การปลกู พชื โดยเฉพาะพชื ผกั สาํ หรับการประกอบอาชีพประมง ทางทะเล มีการประกอบอาชีพในเขตนํานนํ้าแถบชายฝั่งตะวันออกของภูมิภาคเอเชีย ต้ังแตํอําวไทย ไปจนถึงชํองแคบเบริง ท่ีกระแสนํ้าอุํนกุโรชิโว ไหลมาบรรจบกับกระแสนํ้าเย็นโอยาชิโวเพราะเป็น แหลํงทีม่ ีอาหารสมบรู ณ๑ ทําใหม๎ ีสัตว๑นาํ้ อยเํู ปน็ จาํ นวนมาก ประเทศญี่ปุนเป็นประเทศท่ีมีการประกอบ อาชีพประมงทางทะเลมากท่ีสุดในโลก นอกจากการประกอบอาชีพประมงจับสัตว๑น้ําทะเลแล๎ว ตาม แนวชายทะเล ยังมีการประกอบอาชีพการเลี้ยงหอยประเภทตําง ๆ รวมถึงสาหรํายทะเล ซ่ึงมีการ ประกอบอาชพี เชนํ น้ีกระจายโดยทัว่ ไปในประเทศทีม่ พี ื้นท่ีชายทะเล

17 ป่าไม้ อาชีพปุาไม๎ มีการดําเนินงานอาชีพใน 2 ลักษณะตามเขตภูมิอากาศ คือ ปุาไม๎ในเขต ร๎อน จะเป็นไม๎ประเภทไม๎เน้ือแข็ง ในเขตประเทศ ไทย พมํา ลาว กัมพูชา เวียดนาม อินเดีย และใน ประเทศกลุมํ หมํเู กาะ สํวนปาุ ไม๎ในเขตหนาวจะเป็นปุาต๎นสน โดยมีการนําไม๎สนมาใช๎ทําเป็นกระดาษ และลงั ไม๎ เหมืองแร่ ภูมิภาคเอเชีย เป็นภูมิภาคที่อุดมไปด๎วยแรํธาตุนานาชนิด เน่ืองจากมีสภาพ ภูมปิ ระเทศเป็นเทอื กเขาที่มอี ายุแตกตํางกัน แรธํ าตุท่ีสําคัญท่ีมีการขุดข้ึนมาใช๎ประโยชน๑ ได๎แกํ เหล็ก ถาํ นหิน ดีบุก นาํ้ มนั แมงกานสิ เพชร พลอย เปน็ ตน๎ อุตสาหกรรม ในภูมิภาคเอเชีย การประกอบอาชีพด๎านอุตสาหกรรม สํวนใหญํจะเป็น อุตสาหกรรมแบบหัตถกรรม หรืออุตสาหกรรมในครัวเรือน ในลักษณะงานฝีมือ ของท่ีระลึก เชํน ผ๎าทอเคร่ืองโลหะ เครื่องแกะสลัก เคร่ืองจักสาน เป็นต๎น สําหรับอุตสาหกรรมใหมํ ประเทศญี่ปุน เกาหลีไต๎หวนั และสิงคโปร๑ ถกู จดั ให๎เป็นประเทศในกลุํมอุตสาหกรรมใหมํ ลักษณะวธิ กี ารค้าในภมู ภิ าคเอเชีย การค๎าขายแตํเดิม ประเทศในภูมิภาคเอเชีย จะใช๎วิธีตําง คนตํางขาย ตั้งแตํปี พ.ศ. 2558 กลุํมประเทศในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต๎ ในนามของอาเซียน กําหนดทลายกาํ แพงทางภาษี และรวํ มคา๎ ขายกบั ประเทศในภูมิภาคอ่ืน เพ่ือให๎สามารถกระจายสินค๎า และสร๎างพลังการตํอลองราคาภูมิภาคอเมริกา เน่ืองจากภูมิภาคอเมริกา มีความแตกตํางกันในด๎าน ภูมปิ ระเทศภูมอิ ากาศและวถิ ีการดาํ รงชวี ติ คอํ นขา๎ งสงู ในเขตอเมรกิ าใต๎และอเมรกิ าเหนือการประกอบ อาชพี ของทง้ั 2 เขต จึงมคี วามแตกตํางกันไปดว๎ ย ภูมิภาคอเมริกา เนือ่ งจากภูมิภาคอเมริกา มีความแตกตาํ งกันในด๎านภมู ปิ ระเทศภูมิอากาศ และวิถีการดาํ รงชวี ิตคอํ นข๎างสูงในเขตอเมริกาใต๎และอเมริกาเหนอื การประกอบอาชีพของทง้ั 2 เขต การเล้ียงสตั ว๑ ในเขตอเมริกาใต๎และอเมริกาเหนือมีการเล้ียงสัตว๑ดังน้ีโคเนื้อ ในเขตอเมริกาใต๎ นยิ มเลยี้ งในประเทศบราซลิ อาร๑เจนตินําและอุรกุ วัยสวํ นในเขตอเมรกิ าเหนือนิยมเล้ยี งในแถบตะวันตก ของประเทศ และจะเล้ยี งเป็นฟาร๑มปศสุ ตั ว๑ขนาดใหญํ การเลีย้ งสตั ว์ ในเขตอเมรกิ าใตแ๎ ละอเมรกิ าเหนือมีการเลี้ยงสัตวด๑ ังน้ีโคเน้อื ในเขตอเมริกาใต๎ นิยมเล้ียงในประเทศบราซลิ อารเ๑ จนตินํา และอุรกุ วยั สํวนในเขตอเมริกาเหนอื นิยมเลี้ยงในแถบ ตะวันตกของประเทศ และจะเลยี้ งเปน็ ฟารม๑ ปศุสัตวข๑ นาดใหญํ อุตสาหกรรม ในเขตอเมริกาใต๎ จะเปน็ อตุ สาหกรรมเบา เชํน การผลิตน้ําตาล อาหารกระป๋อง ประเทศที่มีอุตสาหกรรมเจริญก๎าวหน๎าเป็นอุตสาหกรรมขนาดใหญํ ได๎แกํ ประเทศบราซิลและ

18 อาร๑เจนตินา เป็นการผลิตเหล็กกล๎า น้ํามัน และปิโตรเคมี สํวนอเมริกาเหนือ เป็นสํวนภูมิภาคที่ เจรญิ ก๎าวหน๎ามากทางอุตสาหกรรม โดยเฉพาะการผลติ ในอตุ สาหกรรมหลกั ภมู ภิ าคยุโรป การดําเนินงานอาชพี ของประเทศในภูมิภาคยุโรป มีลักษณะการประกอบอาชีพ ดังน้ี การปลูกพชื พื้นที่การปลูกพืชของภูมิภาคยุโรป สํวนใหญํปลูกในยุโรปตะวันออกและภาคใต๎ ของประเทศอังกฤษ ภาคเหนือและภาคตะวันตกของประเทศฝร่ังเศส รวมถึงตอนเหนือของประเทศ เยอรมัน พืชที่สําคัญและมีผลตํอเศรษฐกิจได๎แกํข๎าวสาลี ปลูกมาในประเทศยูเครน ฝรั่งเศส อิตาลี สเปน โรมาเนีย บัลกาเรียเยอรมัน ฮังการีข๎าวโอ๏ต ข๎าวบาร๑เลย๑ ถั่ว มันฝร่ัง ปลูกได๎โดยทั่วไปของ ประเทศตําง ๆ ในภูมิภาคยุโรปองุํน ส๎ม มะกอก มะนาว แอปเปิล ปลูกมากในประเทศท่ีมีลักษณะ อากาศแบบ เมดเิ ตอรเ๑ นยี น ได๎แกํ ประเทศอิตาลี ฝรั่งเศส สเปน กรีซ การเลย้ี งสัตว์ สัตว๑เศรษฐกิจท่ีนิยมเลี้ยง ได๎แกํ กวางเรนเดีย โคเน้ือ โคนม แพะ แกะม๎า และ สุกร โดยการเล้ียงสัตว๑เศรษฐกิจดังกลําว ข้ึนอยูํกับความเหมาะสมของลักษณะภูมิประเทศและ ภมู อิ ากาศ การประมง แหลํงทําการประมงท่ีสําคัญในภูมิภาคยุโรป ได๎แกํทะเลเหนือ โดยเฉพาะบริเวณ กระแสนํ้าอนุํ แอตแลนติกเหนือบรรจบกับกระแสนํ้าเย็นกรีนแลนด๑ตะวันออก ทําให๎มีอาหารสมบูรณ๑ ปลาชุกชุม ประเทศท่ีประกอบอาชีพประมงในเขตนี้ ได๎แกํ ประเทศนอร๑เวย๑ ไอร๑แลนด๑และสหราช อาณาจักรทะเลดํา ทะเลสาบแคสเปียน และแมํน้ําโวลกา มีการจับปลาสเตอร๑เจียน นํามาทําเป็นไขํ ปลาคารเ๑ วียร๑ ป่าไม้ อาชีพปุาไม๎ มีการประกอบอาชีพอยํางจริงจังในประเทศฟินแลนด๑ สวีเดนรัสเซีย นอร๑เวย๑ สํวนใหญเํ ปน็ ปาุ ไม๎ในเขตหนาว มีปุาต๎นสนจาํ นวนมาก โดยมกี ารนํามาใชท๎ าํ เป็นเยื่อกระดาษ เหมืองแร่ ภมู ภิ าคยโุ รปเป็นแหลํงแรํทีส่ าํ คญั จํานวนมาก ได๎แกํน้ํามันและก๏าซธรรมชาติ อยูํใน บริเวณทะเลเหนือ และรอบทะเลสาบแคสเปียนบอกไซด๑ นํามาถลุงเป็นอลูมิเนียม มีมากในประเทศ ฝร่งั เศส ยโู กสลาเวยี ฮงั การี และเทือกเขาคูราล ในประเทศรัสเซียโพแทช นํามาใช๎ในอุตสาหกรรมปุ๋ย และสบูํ มีมากในประเทศฝรง่ั เศสเยอรมนั สเปน และรสั เซยี อุตสาหกรรม ในภูมิภาคยุโรป ถือได๎วําเป็นภูมิภาคอุตสาหกรรม ประชากรสํวนใหญํจะ ประกอบอาชีพอยํูในภาคอุตสาหกรรม แหลํงอุตสาหกรรมในภูมิภาคยุโรป จะอยํูแถบยุโรปตะวันตก เชํน ประเทศฝรั่งเศส สหราชอาณาจักร เยอรมัน เนเธอร๑แลนด๑ รวมถึง ประเทศรัสเซีย ยูเครน เบลารสุ ในแถบยโุ รปตะวนั ออก

19 ภูมภิ าคออสเตรเลีย การประกอบอาชีพของภมู ิภาคออสเตรเลยี มลี ักษณะการประกอบอาชีพ ดงั นี้ การปลกู พชื เกษตรกรรมการปลกู พืช ถอื วําเป็นอาชีพหลักของภูมิภาคออสเตรเลีย โดยในการ ดาํ เนนิ การอาชีพเกษตรกรรมปลูกพชื เกษตรกรมีการนําเคร่ืองจักรกลเข๎ามาชํวยในการทําการเกษตร เน่ืองจากพื้นที่ของออสเตรเลียมีความแห๎งแล๎ง และใช๎ในการขุดนํ้าบาดาล พืชที่สําคัญและมีผลตํอ เศรษฐกจิ ได๎แกํ ขา๎ วสาลี เปน็ พืชเศรษฐกิจที่สําคัญทสี่ ดุ ของภูมภิ าคออสเตรเลยี การเลี้ยงสตั ว์ ในภูมภิ าคออสเตรเลียนิยมเลี้ยงสัตว๑ ได๎แกํ แกะ เป็นการเลี้ยงไว๎เพ่ือการใช๎ขน โคเน้ือ มกี ารเลย้ี งในบรเิ วณทุงํ หญ๎าสะวันนา และโคนม มกี ารเล้ยี งในบริเวณเขตอากาศอบอํนุ การประมง ภมู ภิ าคออสเตรเลีย โดยเฉพาะฝ่งั ตะวันออก เปน็ บริเวณที่มีปลาจํานวนมากได๎แกํ ปลาทูนาํ ปลาฉลาม ปลาแซนมอล ปลากระบอก รวมท้ังมีการเล้ียงหอยมุกที่เกาะเทอร๑สเตย๑ แตํงาน อาชีพดา๎ นประมง มีปญั หาไมํสามารถจบั ปลาที่มชี ุกชมุ ได๎มาก เพราะขาดแรงงาน ปา่ ไม้ อาชีพปาุ ไม๎ มีการประกอบอาชีพปุาไม๎ ประเภทปาุ ยูคาลปิ ตัส เพราะมจี ํานวนมาก ในแถบตะวันออกของภูมภิ าคออสเตรเลยี เหมืองแร่ ภูมิภาคออสเตรเลีย เป็นแหลํงแรํท่ีสําคัญจํานวนมาก ได๎แกํเหล็ก มีมากท่ีรัฐเวส เทริ น๑ ออสเตรเลียถาํ นหิน มีมากทซ่ี ดิ นยี ๑ นิวคาสเซลิ ทองคาํ มีมากท่ีเวสเทิร๑น ออสเตรเลียดีบุก มีมาก ท่ีรฐั ควนี สแลนด๑ อุตสาหกรรม ในภมู ภิ าคออสเตรเลีย มีการดําเนินงานอาชีพอุตสาหกรรมการเกษตรเป็นสํวน ใหญํ ได๎แกํ การผลิตส่ิงทอ น้ําตาล นม เนย อาหารกระป๋อง ด๎านอุตสาหกรรมอื่น มีการผลิต เคร่ืองใช๎ไฟฟูา การตํอเรือสํวนใหญํภาคอุตสาหกรรมจะประกอบการในแถบตะวันออกเฉียงใต๎ของ ภมู ิภาคออสเตรเลยี ภูมภิ าคแอฟรกิ า การประกอบอาชพี ของภมู ิภาคแอฟรกิ า มีลกั ษณะการประกอบอาชพี ดงั นี้ การปลูกพืช ภูมิภาคแอฟริกาสํวนใหญํ เป็นทะเลทราย ดินขาดความอุดมสมบูรณ๑ประชากรจะปลูก พืชได๎เฉพาะบริเวณท่ีราบดินตะกอนของปากแมํน้ําสายตําง ๆ ทําให๎ผลผลิตที่ได๎ไมํเพียงพอตํอการ บริโภคของประชาชนในภูมภิ าค ท้งั นี้ แหลงํ ปลูกและพืชที่สําคัญของภูมิภาคแอฟริกาได๎แกํแหลํงปลูก พชื เมอื งร๎อนในเขตร๎อนชื้น บริเวณลุํมนํ้าคองโก ชายฝั่งแอฟริกาตะวันออก และตะวันตก มีการปลูก โกโก๎มากท่ีสุด นอกจากนั้นมีการปลูกปาล๑มน้ํามัน กาแฟ ถ่ัวลิสงอ๎อย ยางพารา เผือก และมันลํุม แมํนาํ้ ไนล๑ เป็นพน้ื ทีอ่ ากาศรอ๎ น แห๎งแลง๎ สวํ นใหญํปลูก ฝูาย ชา อินทผาลัมข๎าวฟาุ ง

20 เขตเมดิเตอร๑เรเนียน บริเวณด๎านเหนือสุดและด๎านใต๎สุดของภูมิภาค มีการปลูกส๎มองํุน มะกอก และข๎าวสาลีเขตอบอํุนชน้ื บรเิ วณดา๎ นตะวันออกเฉยี งใตข๎ องภมู ิภาค มีการปลูกผลไม๎ข๎าวสาลี ขา๎ วโพด การเล้ียงสัตว์ ในภูมิภาคแอฟริกา มีการเลี้ยงสัตว๑และการลําสัตว๑ปุา ดังนี้โคเขายาว เลี้ยงไว๎ เพื่อใช๎แรงงาน ใช๎เนื้อเป็นอาหาร และเป็นการแสดงฐานะทางสังคม สํวนใหญํจะเล้ียงในเขตภาค ตะวันออก และภาคใต๎ของภูมิภาคโคเนื้อ และโคนมพันธ๑ุตํางประเทศ นิยมเลี้ยงในเขตที่มีภูมิอากาศ อบอํุนชื้นแพะ แกะ เป็นการเลี้ยงแบบเรํรํอน ในเขตทะเลทรายอูฐ เล้ียงไว๎เพื่อใช๎เป็นพาหนะ และ อาหาร นิยมเลี้ยงในเขตทะเลทรายการลําสัตว๑ปุาโดยชนพ้ืนเมือง สัตว๑ปุาท่ีเป็นท่ีนิยมในการลําเพ่ือ นาํ มาจาํ หนํายได๎แกํ งาช๎าง และนอแรด เหมืองแร่ ภูมภิ าคแอฟรกิ า เปน็ ภมู ิภาคทีม่ แี หลํงแรเํ ป็นจาํ นวนมาก โดยเฉพาะเพชรมีปริมาณ มากกวําทกุ ภมู ภิ าค โดยแรํธาตอุ ่นื ทส่ี ําคญั ได๎แกเํ หล็ก มีมากท่ีรัฐเวสเทิร๑น ออสเตรเลียถํานหิน มีมาก ทีส่ าธารณรัฐแอฟรกิ าใต๎ น้ามันปิโตรเลียม มีมากท่ีทะเลทรายสะฮารา ประเทศแอฟริกาเหนือ ลิเบียแอลจีเรีย อียิปต๑ ไนจีเรียก๏าซธรรมชาติ มีมากในที่ลุํมของแอฟริกาเหนือ และแอฟริกาตะวันตก โดยประเทศแอลจีเรีย มีปริมาณก๏าซธรรมชาติมากที่สุดแหํงหน่ึงของโลกทองคํา มีมากที่สาธารณรัฐแอฟริกาใต๎ทองแดง มี มากท่ีประเทศซาอีร๑ (คองโก) อุตสาหกรรม ในภมู ิภาคแอฟรกิ า มีการดาํ เนินงานอาชพี ด๎านอตุ สาหกรรม โดยเฉพาะท่ี สาธารณรฐั แอฟรกิ าใต๎ การจดั การตลาด ความหมายของการตลาดน้ันมผี ๎ูบญั ญัตไิ วห๎ ลายความหมายแตคํ วามหมายซง่ึ เป็นทีย่ อมรบั และร๎ูจกั กนั ดีนั้นมี 2 ความหมาย คือ ความหมายที่หนึ่ง คือ การตลาด (Marketing) เป็นกระบวนการทางสังคมซ่ึงแตํละคน/ แตลํ ะกลุํมไดร๎ ับการตอบสนองในสิง่ ทต่ี ๎องการ คือ สนิ คา๎ หรอื บรกิ ารโดยผํานระบบการแลกเปล่ียนส่ิง ที่มีคุณคําซึ่งกันและกันการแลกเปล่ียน (Exchange) เป็นวิธีหน่ึงในบรรดาหลายวิธี ซึ่งบุคคล สามารถได๎รับสินค๎าตามที่ต๎องการนอกเหนือจากการผลิตสินค๎าด๎วยตนเอง การแลกเปลี่ยนจัดเป็น แนวคิดเบ้ืองต๎นของการตลาดเพราะหมายถึงบุคคลจะได๎รับสินค๎า/บริการท่ีต๎องการโดยเสนอบางสิ่ง ตอบแทนกลบั ไป การแลกเปล่ียนจะต๎อง ประกอบดว๎ ยลักษณะทสี่ าํ คญั ดังตอํ ไปน้ี

21 1. ประกอบดว๎ ยอยํางนอ๎ ย 2 ฝาุ ย 2. แตลํ ะฝาุ ยมีบางสง่ิ บางอยาํ งท่ีมคี ณุ คําอีกฝุายหนงึ่ 3. แตํละฝุายสามารถสือ่ สารและนําเสนอคณุ คาํ ใหอ๎ กี ฝุายหน่ึงได๎ 4. แตํละฝาุ ยมอี สิ ระท่ีจะตอบรับหรอื ปฏเิ สธตํอการแลกเปลย่ี นนั้น ๆ 5. แตลํ ะฝาุ ยเชอ่ื วาํ ไดร๎ ับข๎อเสนอของการแลกเปลี่ยนส่งิ ท่ตี อ๎ งการอยาํ งเหมาะสม การแลกเปลี่ยนจัดวาํ เปน็ กระบวนการและเกิดขึ้นจากการที่ท้ังสองฝุายพอใจในข๎อตกลงและ เป็นกระบวนการท่ีสร๎างสรรค๑คุณคําซึ่งกันและกันในธุรกิจน้ันระบบการแลกเปล่ียน มิใชํเป็นการ แลกเปลีย่ นของสนิ คา๎ /บริการกับเงินตราระหวํางผู๎ซื้อกับผ๎ูขายเทํานั้น แตํยังหมายถึงการให๎บริการ กับการรับบริการ การเสนอราคาที่ยุติธรรมการสํงมอบท่ีตรงเวลา การบริการหลังการขายที่ดี การท่ีองค๑กรได๎รับคําชมเชยหรือพูดปากตํอปากในทางท่ีดีการได๎รับข๎อมูลขําวสารของผู๎บริโภค เป็นต๎น ความหมายท่ีสอง คือ การตลาดหรือการจัดการการตลาด (Marketing Management) เป็นกระบวนการการวางแผนการบรหิ าร แนวคดิ สินคา๎ การตง้ั ราคาการจัดจําหนําย และการสํงเสริม การตลาดสําหรับสินค๎าบริการท่ีสร๎างสรรค๑ให๎เกิดการแลกเปล่ียนและสนองความพอใจให๎ลูกค๎า ขณะเดยี วกันองค๑กรบรรจเุ ปูาหมายตามที่ต๎องการ องค์ประกอบหรอื ส่วนประสมทางการตลาด (Marketing Mix) สํวนประสมทางการตลาด หมายถึง ปัจจัยที่สําคัญท่ีชํวยให๎การดําเนินธุรกิจด๎านการตลาด บรรลตุ ามวัตถุประสงคห๑ รอื เปาู หมายขององคก๑ ร เปรียบเสมอื นอาหารทถี่ กู ปากต๎องอาศัยถูกปากต๎อง อาศยั สวํ นประสมของเคร่ืองปรงุ ตาํ ง ๆ ในสัดสํวนท่ีพอเหมาะซ่ึงกันและกันอยํางกลมกลืน ซึ่งอาจจะ ถูกปากและไมํถูกปากของแตํละคนตํางกันออกไป ฉะน้ันนักการตลาดจะบริหารงานการตลาดให๎ ประสบผลสําเร็จจึงควรใช๎ปัจจัยตําง ๆ ประกอบด๎วย 4 P's ซ่ึงเรียกวํา \"ปัจจัยท่ีควบคุมได๎\" หรือ \"ปัจจัยภายใน\" นอกจากนี้นักการตลาดยังต๎องพิจารณา \"ปัจจัยภายนอกองค๑การ\" ซึ่งไมํสาม ารถ ควบคมุ ไดป๎ ระกอบการพิจารณาบริหารงานด๎านการตลาดให๎ประสบผลสาํ เร็จ การอนุรกั ษพ์ ลงั งานและสง่ิ แวดล้อมในครอบครวั ทาได้ ดังนี้ 1. การเลือกซอ้ื เคร่อื งใชไ๎ ฟฟาู มาใชป๎ ระกอบอาหาร เชนํ กระทะไฟฟูา ควรเป็นเครื่องใชไ๎ ฟฟาู ที่ระบฉุ ลากประหยัดไฟ 2. เมือ่ เปดิ ก๏อกนาํ้ ประปาควรใช๎นํ้าในปรมิ าณพอเพยี ง แล๎วปิดก๏อกนา้ํ ทนั ที อยาํ ปลอํ ยใหน๎ ้าํ ไหลจนลน๎ ภาชนะ

22 3. นํา้ ใชแ๎ ลว๎ เชํน น้ําซาวข๎าว น้ําลา๎ งผกั ผลไม๎ น้าํ ซักผา๎ คร้ังสุดทา๎ ยกน็ าํ ไปรดตน๎ ไมไ๎ ด๎ 4. ถงุ ขยะในบา๎ นตอ๎ งมฝี าปดิ ใหม๎ ดิ ชิด เพราะเปน็ จดุ รวมของสตั วท๑ ่เี ป็นพาหะนาํ โรค เชํน หนู แมลงสาบ การอนรุ ักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อม 1. งานประดิษฐ๑ที่ผลิตโดยโรงงานท่ีเป็นระบบอุตสาหกรรม จะมีการใช๎พลังงานไฟฟูากับ เคร่ืองจักร ดังนั้นจึงควรดูแลใช๎ไฟฟูาภายในโรงงาน เชํน มีการติดประกาศวิธีการใช๎ไฟฟูาอยําง ประหยัด 2. งานประดิษฐ๑ที่เป็นระบบอุตสาหกรรมควรคํานึงถึงส่ิงแวดล๎อม เชํน การทิ้งของเสียท่ีเป็น สารเคมลี งสแูํ มํนํา้ ลําคลอง หรือปลํอยควนั พิษสูํบรรยากาศ โดยเฉพาะวัสดุท่ีทําเป็นสารพลาสติกหรือ ยางสังเคราะห๑ กิจกรรมท่ี 1 คําชีแ้ จง จงตอบคําถามตอํ ไปนใ้ี ห๎ถูกตอ๎ ง 1. อาชีพมคี วามหมายวําอยาํ งไร (10 คะแนน) ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2.การจดั การอาชีพมีความหมายวําอยําไร (10 คะแนน) ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………

23 บทท่ี 2 ช่องทางการเขา้ สอู่ าชพี เร่ืองที่ 1 ความจาเปน็ ในการมองเหน็ ช่องทางการประกอบอาชพี การมองเห็นชํองทางการประกอบอาชีพ เป็นการศึกษากระบวนการผลิต กระบวนการตลาด และอ่ืน ๆ ท่ีเก่ียวข๎อง และนํามาพิจารณาวําอาชีพนี้จะสามารถยึดมาเป็นอาชีพของตนเองได๎หรือไมํ ดังน้ันการมองเห็นชํองทางการประกอบอาชีพเทํากับการมีวิสัยทัศน๑กว๎างไกล จะทําให๎สามารถลด ความเสย่ี งในการประกอบอาชพี ในอนาคตได๎ เรอื่ งที่ 2 ความเป็นไปได้ในการเข้าสู่อาชีพ ความเป็นไปได๎ในการเขา๎ สอูํ าชพี ของบุคคลท่วั ไป ควรคาํ นงึ ถึงปัจจัยตํอไปนี้ 1. การจดั การการผลิต การจัดการการผลิต เป็นการเตรียมความพร๎อมในการผลิตสินค๎าหรือการบริการ โดยการ วางแผนเพื่อเตรียมความพร๎อมในกิจกรรมการผลิต เชํน การจัดหาวัตถุดิบ แผนการใช๎แรงงาน แผนการใช๎เงินทนุ เพอื่ ใหก๎ ารผลิตสินค๎า/บริการตาํ ง ๆ เป็นไปอยํางมีประสิทธิภาพ คือ ต๎นทุนตํ่าและ รายไดส๎ งู ไดส๎ นิ ค๎าที่มคี ุณภาพตรงตามความต๎องการของตลาดการจัดการการผลิตเน๎นไปท่ีการทําแผน ตําง ๆ แผนทด่ี ีนัน้ จะต๎องผํานการทดลองหรือ ผํานการปรับเพื่อให๎ได๎แผนท่ีดีท่ีสุด เม่ือได๎แผนแล๎วจึง นาํ ไปผลิตสนิ ค๎า/บริการแผนที่จําเป็น ตํอการผลิตสนิ คา๎ ได๎แกํ 1. แผนการเลอื กผลติ สินค๎าโดยศึกษารายละเอยี ดตาํ ง ๆ ท่ีเกย่ี วกบั สินค๎า ได๎แกํ ความต๎องการ ของผบ๎ู ริโภค จํานวนผู๎ขาย จํานวนผ๎ูผลิต เพ่ือนํามาใช๎เป็นข๎อมูล ในการผลิตสินค๎า ซึ่งเป็นส่ิงที่ผ๎ูผลิต

24 ตอ๎ งคาํ นงึ ถึง มิฉะน้ันสินค๎าที่ผลิตออกมาจะไมํเป็นไปตามความต๎องการของลูกค๎า จะทําให๎เกิดความ สูญเสียขนึ้ เมื่อสนิ คา๎ ถกู ผลิตขึน้ มาแลว๎ สนิ คา๎ บางชนดิ อาจมกี ารทดลอง แล๎วนําไปตรวจสอบกับลูกค๎า ให๎ทดลองใช๎หรือทดลองชิม เพอ่ื ดคู วามพอใจของลูกค๎า 2. แผนการเลือกทาเลท่ีตั้ง หมายถึง แหลํงท่ีต้ังที่จะประกอบอาชีพ การเลือกทําเล ควรให๎ เหมาะสมกับลกั ษณะของอาชีพ อาชพี บรกิ าร เชํน ร๎านขายอาหาร ร๎านเสริมสวย ต๎องเลือกทําเลท่ีอยํู ในแหลํงชุมชน โรงงาน อุตสาหกรรมนํ้าตาล ก็มักต้ังอยูํในแหลํงท่ีมีวัตถุดิบอยํางไรก็ตามการเลือก ทําเล ควรพจิ ารณาระบบการขนสํงด๎วย 3. แผนการใชแ้ รงงาน แรงงานในทีน่ ้ีหมายถงึ ทัง้ กําลงั คนและการใช๎เคร่ืองจักร เครื่องมือตําง ๆ โดยพิจารณาจากแผนการผลิต และจํานวนสินค๎าที่จะผลิต เพ่ือจะได๎จัดเตรียมแรงงานไว๎ให๎พร๎อม ในชํวงที่ต๎องการ เชํน ชํวงเกี่ยวข๎าว 100 ไรํ ในเดือนพฤศจิกายนของทุกปี จะต๎องใช๎ท้ังแรงงานคน และเครอ่ื งจกั รกต็ ๎องเตรยี ม แรงงานใหพ๎ รอ๎ มในชํวงเดอื นพฤศจกิ ายน 4. วางแผนการใช้ทุน ในการกําหนดจํานวนสินค๎าน้ันต๎องพิจารณาฐานะทางการเงินของ ผู๎ผลติ ดว๎ ย แม๎วาํ จะคาดคะเนความต๎องการของตลาดได๎ แตํถ๎าไมํมีเงินทุน ก็ไมํเกิดประโยชน๑อยํางใด อาจแกไ๎ ขได๎โดยไปกยู๎ ืมเงินท่ีตอ๎ งเสียดอกเบีย้ ซ่ึงจะต๎องเพ่ิมเปน็ ต๎นทุนของการผลิต หรือหาปัจจัยการ ผลติ ทดแทนปัจจัยทมี่ รี าคาแพง แตํตอ๎ งระวังในเร่อื งของคุณภาพของสินคา๎ ด๎วย 5. วางแผนกาหนดจานวนการผลิต เม่อื ทําแผนการผลิตเรียบร๎อยทุกด๎านแล๎ว ใหพ๎ จิ ารณาวํา จะผลิตสินค๎าจํานวนเทําใด แรกเร่ิมการผลิตอาจผลิตจํานวนน๎อย แล๎วคํอย ๆ ทยอยเพ่ิมจํานวน การผลิต โดยมีการปรับแผนการผลิตตลอดเวลา 6. ประมาณการผลตอบแทนทไ่ี ดจ้ ากการผลิตสินค้า เม่ือวางแผนการผลิตสินค๎า ตั้งแตํเลือก ทําเลทตี่ ั้ง การใชแ๎ รงงาน การใช๎ทุน การกําหนดจํานวนการผลิต เรียบร๎อยแล๎ว ลองทําแผนประมาณ ผลตอบแทนท่คี าดวําจะได๎จากการผลิตสนิ ค๎าในครั้งน้ี โดยอาจลองนําขอ๎ มลู ใสํในบัญชรี ายรบั -รายจาํ ย 2. การจัดการการตลาด การจัดการด๎านตลาด หมายถึง การวิเคราะห๑ การวางแผน การปฏิบัติงาน และการควบคุม การดําเนินงานการตลาดจากผ๎ูผลิตถึงผู๎บริโภค โดยมีผลประโยชน๑จากการแลกเปลี่ยนกับกลุํมผ๎ูซื้อ หน๎าที่การตลาด เป็นกิจกรรมการตลาดที่ทําให๎สินค๎าหรือบริการเคล่ือนย๎ายจากผ๎ูผลิตไปยังผู๎บริโภค โดยวธิ ตี ําง ๆ เชํน 1. การแลกเปลี่ยน โดยการซอ้ื -การขาย 2. การกระจายสนิ ค๎าเกี่ยวขอ๎ งกบั การขนสํง การเกบ็ รักษา

25 3. การอํานวยความสะดวกทางการตลาด เชํน ข๎อมูลทางการตลาด ข๎อมูลเกี่ยวกบั ผู๎บริโภค เร่อื งที่ 3 การลาดับอาชีพและเหตุผล เม่อื ผูเ๎ รยี นไดศ๎ ึกษาองคป๑ ระกอบและปัจจยั สาํ คญั ของความเปน็ ไปได๎ในการประกอบอาชีพของ ตนในชมุ ชน สังคม ทต่ี นอยํอู าศยั แลว๎ กอํ นการตัดสินใจเลือกประกอบอาชีพ ให๎พิจารณาความเป็นไป ได๎ของอาชพี แลว๎ ลําดับอาชพี ท่มี คี วามเปน็ ไปได๎ และเหมาะสมกับตนเองตามสภาพแวดล๎อมของสังคม ชุมชน ประกอบกับความร๎ูทางวิชาการ เป็นส่ิงจําเป็นที่ผู๎เรียน ควรคํานึงถึงและดําเนินการจัดลําดับ อาชีพ พร๎อมให๎เหตุผลประกอบ เพือ่ ชวํ ยในการตัดสินใจเลือกประกอบอาชีพตอํ ไป

26 บทที่ 3 การตดั สินใจเขา้ สู่อาชีพ เรอื่ งท่ี 1 ตดั สินใจเข้าส่อู าชีพดว้ ยปรชั ญาคดิ เปน็ ปรัชญา “คิดเป็น” เช่ือวํามนุษย๑ทุกคนมีพ้ืนฐานชีวิตแตกตํางกัน มีวิธีการดําเนินชีวิตที่ แตกตํางกันมคี วามตอ๎ งการทแ่ี ตกตํางกัน แตํทุกคนล๎วนมีความต๎องการท่ีจะมีความสุขเหมือนกัน เมื่อ ทุกคนต๎องการมีความสุขเหมือนกัน จึงต๎องมีกระบวนการเพ่ือให๎เกิดความสุข คือ กระบวนการ “คิดเป็น” โดยมีฐานข๎อมูลด๎านวิชาการ ด๎านสังคมและสิ่งแวดล๎อม และข๎อมูลของตนเอง มาเป็น ตวั การในการชํวยตัดสินใจได๎แลว๎ จึงเลอื กหนทางในการดําเนินชีวิต ก็จะเกิดความสุขจากการตัดสินใจ ถูกต๎อง เมื่อดําเนินการแล๎วและยังเกิดปัญหา หรือยังไมํเกิดความสุข จึงกลับมาย๎อนดูความผิดพลาด จากข๎อมลู วําวเิ คราะห๑ข๎อมลู ครบหรือยังแล๎วจึงตัดสินใจใหมํตามวัฏจักร “คิดเป็น” เพื่อการแก๎ปัญหา ที่ย่งั ยืนแลว๎ เกิดสขุ อยาํ งอตั ภาพ หลกั ของการคิดเป็น 1. “คิดเป็น” เชอ่ื วําสังคมเปลีย่ นแปลงอยตํู ลอดเวลา กอํ ให๎เกดิ ปญั หา ซงึ่ ปัญหานัน้ สามารถ แก๎ไขได๎ 2. คนเราจะแก๎ไขปญั หาตาํ ง ๆ ได๎อยํางเหมาะสมที่สดุ โดยใชข๎ อ๎ มูลมาประกอบการตัดสินใจ อยาํ งนอ๎ ย 3 ประการ คอื ข๎อมูลเก่ียวกับตนเอง สังคม และวิชาการ 3. เม่ือไดต๎ ัดสนิ ใจแกไ๎ ขปญั หาด๎วยการไตรตํ รองรอบคอบทง้ั 3 ดา๎ นแล๎ว ยํอมกํอใหเ๎ กิด ความพอใจในการตัดสนิ ใจ และควรรบั ผิดชอบตอํ การตดั สนิ ใจน้นั 4. แตํสังคมเปลย่ี นแปลงอยตูํ ลอดเวลา การคิดตัดสินใจอาจจะต๎องเปลยี่ นแปลง ปรับปรงุ ใหมใํ ห๎เหมาะสมกบั สภาพและสถานการณท๑ เ่ี ปล่ยี นไป ลกั ษณะของคนคิดเปน็ มี 8 ประการ 1. มคี วามเช่ือวําปัญหาทเ่ี กิดข้นึ เปน็ สงิ่ ธรรมดา สามารถแก๎ไขได๎

27 2. การคดิ ท่ีดตี ๎องใชข๎ อ๎ มูลหลาย ๆ ด๎าน (ตนเอง สังคม วิชาการ) 3. รวู๎ ําขอ๎ มูลเปลีย่ นแปลงอยูเํ สมอ 4. สนใจท่ีจะวิเคราะห๑ข๎อมลู อยํูเสมอ 5. รู๎วาํ การกระทําของตนมผี ลตอํ สังคม 6. ทําแลว๎ ตดั สินใจแล๎วสบายใจ และเต็มใจรับผดิ ชอบ 7. แกป๎ ัญหาชวี ติ ประจําวนั อยํางมรี ะบบ 8. รูจ๎ กั ชง่ั นาํ้ หนกั คณุ คํา สมรรถภาพของคน “คดิ เปน็ ” 1. เผชญิ ปัญหาในชวี ติ ประจาํ วนั อยํางมีระบบ 2. สามารถท่ีจะแสวงหาและใชข๎ ๎อมลู หลาย ๆ ดา๎ น ในการคิดแกไ๎ ขปญั หา 3. รจ๎ู ักชงั่ น้ําหนกั คณุ คาํ และตดั สนิ ใจหาทางเลอื กใหส๎ อดคล๎องกบั คํานยิ ม ความสามารถ และสถานการณ๑ หรอื เง่อื นไขสํวนตัวและระดับความเปน็ ไปไดข๎ องทางเลอื กตาํ ง ๆ แผนภูมิขน้ั ตอนกระบวนการแกป้ ัญหา “คดิ เป็น” 1. ข้ันสารวจปัญหา เมอื่ เกดิ ปญั หายํอมต๎องเกดิ กระบวนการคดิ แก๎ปัญหา 2. ขน้ั หาสาเหตุของปญั หา เป็นการหาขอ๎ มลู มาวเิ คราะห๑วาํ ปัญหาทีเ่ กดิ ขึ้นนั้น เกดิ ข้ึนได๎ อยาํ งไร มีอะไรเป็นองคป๑ ระกอบของปญั หาบา๎ ง - สาเหตุจากตนเอง พ้ืนฐานของชีวติ ครอบครัว อาชพี การปฏิบัติตน คุณธรรม ฯลฯ - สาเหตุจากสังคม บุคคลทีอ่ ยูแํ วดลอ๎ ม ตลอดจนความเชอ่ื ประเพณี ฯลฯ - สาเหตุจากขาดวิชาการความร๎ตู ําง ๆ ทีเ่ ก่ยี วข๎องกับปญั หา 3. ขั้นวิเคราะห์หาทางแกป้ ัญหา เป็นการวิเคราะห๑ทางเลือกในการแก๎ปัญหา โดยใช๎ข๎อมลู ดา๎ นตนเอง สังคม วชิ าการ มาประกอบในการวเิ คราะห๑ 4. ขั้นตัดสินใจ เมื่อไดท๎ างเลือกแล๎ว จึงตดั สินใจเลือกแกป๎ ัญหาในทางที่มีข๎อมลู ตาํ ง ๆ พร๎อม สมบรู ณท๑ ส่ี ดุ 5. ข้นั ตดั สนิ ใจไปสกู่ ารปฏิบัติ เมอ่ื ตดั สินใจเลอื กทางใดแล๎ว ตอ๎ งยอมรบั วาํ เปน็ ทางเลอื กท่ดี ี ท่สี ดุ ในขอ๎ มลู เทาํ ท่ีมีขณะนั้น 6. ขน้ั ปฏบิ ตั ใิ นการแกป้ ัญหา ในขัน้ นี้เปน็ การประเมนิ ผลพร๎อมกนั ไปด๎วยถา๎ เปน็ ผลท่ี - พอใจ กจ็ ะถือวาํ พบความสขุ เรียกวํา คิดเป็น

28 - ไม่พอใจ หรือผลออกมาไมํได๎เป็นไปตามทีค่ ดิ ไว๎ หรอื ข๎อมูลเปลี่ยน ตอ๎ งเร่มิ ตน๎ กระบวนการคดิ แกป๎ ญั หาใหมํ ข้อมลู ประกอบการตดั สินใจ มี 3 ด้าน 1. ขอ้ มลู ทเี่ กี่ยวกบั ตนเอง คือ ขอ๎ มลู ของสงิ่ ตาํ ง ๆ ท่เี ก่ียวขอ๎ งกับการประกอบอาชพี ท่ตี นเอง มีอยใํู นขณะนั้น อาจจะแบงํ เปน็ ดังน้ี 1.1 ปัจจัยการผลติ เชํน เงินทนุ ทด่ี นิ แรงงาน เคร่ืองมือ เครอ่ื งใช๎ วสั ดุ 1.2 ความถนัดของแต่ละบุคคล การที่จะประกอบอาชีพให๎ได๎ผลดีจะต๎องพิจารณาถึงความ ถนัดของตนเองด๎วยเสมอ เพราะความถนดั จะชํวยใหก๎ ารกระทาํ ในสิ่งท่ีตนถนัดน้ันเป็นไปอยํางสะดวก รวดเรว็ คลอํ งแคลํว และมองเห็นชํองทางท่ีจะพัฒนาอาชีพให๎รุดหน๎าได๎ดีกวําคนท่ีไมํมีความถนัด ใน อาชีพนน้ั ๆ แตํตอ๎ งตัดสินใจเลือกประกอบอาชีพนัน้ ๆ 1.3 ความรักและความจริงใจ เป็นองค๑ประกอบท่ีเกิดจากความรู๎สึกภายในของแตํละคนซึ่ง ความร๎สู ึกมกั จะเปน็ แรงผลกั ดนั ให๎เกดิ ความมานะ อดทน กลา๎ สู๎ กล๎าเสี่ยงซง่ึ ถือวําเป็นองค๑ประกอบใน การตัดสินใจที่สําคัญอยํางหน่ึง หากการพิจารณาตัดสินใจมิได๎คํานึงถึงส่ิงน้ีแล๎ว การที่จะประกอบ อาชีพอยํางเด็ดเดยี่ วปญั หาจะลดน๎อยลงได๎งํายในโอกาสตํอไป 2. ข๎อมูลเก่ียวกับส่ิงแวดล๎อมและสังคม คือ ข๎อมูลตําง ๆ ที่อยูํรอบ ๆ ตัวเรา หรือจะต๎องเข๎า มาเกย่ี วขอ๎ งทจ่ี ะสงํ ผลดี ผลเสยี ตอํ การประกอบอาชีพของตน เชํน ทาํ เลตลาด สํวนแบํงของตลาด ทรัพยากรทีเ่ ออื้ ในท๎องถ่ิน แหลํงความร๎ู ตลอดจนผลทจ่ี ะเกิดขึ้นตํอชมุ ชน หากเลอื กอาชีพน้นั ๆ 3. ขอ๎ มลู ทีเ่ กยี่ วกบั ความรพู๎ นื้ ฐานทางวชิ าการของอาชีพ คือ ข๎อมลู ความร๎ูและเทคนคิ ตําง ๆ สําหรับการประกอบอาชีพนั้น ๆ เชํน วิธีบังคับให๎เกิดผล ผลิตออกนอกฤดูกาล การคํานวณสูตรปุ๋ย เทคโนโลยใี นการผลติ เครอื่ งมือ เคร่อื งใชเ๎ อง เรื่องที่ 2 การตัดสนิ ใจเขา้ สู่อาชพี ดว้ ยการวิเคราะหศ์ ักยภาพ การตดั สนิ ใจท่ีจะดาํ เนินการสิ่งใดส่งิ หนงึ่ มีวธิ ีการหลากหลาย เชนํ ทาํ การวิจัย ทดลองทํากํอน ลงมือทาํ จริง การใช๎กระบวนการคิดเปน็ นอกจากนีย้ ังมีวิธีการวิเคราะห๑ศักยภาพตําง ๆ ท่ีเก่ียวข๎องวํา

29 สามารถดําเนินการประกอบอาชีพได๎หรือไมํ ซ่ึงเร่ืองนี้จะได๎ศึกษาตํอไป เพื่อใช๎เป็นแนวทางในการ ตัดสนิ ใจเข๎าสูํอาชีพโดยการวเิ คราะห๑ศักยภาพ 5 ดา๎ น ไดแ๎ กํ 1. ศกั ยภาพของทรัพยากรธรรมชาติในแต่ละพน้ื ท่ี ทรัพยากรธรรมชาติ หมายถึง สิ่งท่ีเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ซ่ึงมนุษย๑สามารถนําไปใช๎ให๎เกิด ประโยชน๑ตอํ ชวี ติ ประจาํ วัน และการประกอบอาชพี ทรัพยากรธรรมชาติ ได๎แกํ ปุาไม๎ แมํน้ํา ลําคลอง อากาศ แรํธาตุตําง ๆ ทรัพยากรธรรมชาติบางชนิดใช๎แล๎วหมดไป เชํน แรํธาตุตําง ๆ บางชนิดมนุษย๑ สามารถสรา๎ งทดแทนขน้ึ ใหมไํ ด๎ เชนํ ปาุ ไม๎ เมือ่ มนุษยต๑ ดั ไปใชป๎ ระโยชนแ๑ ล๎วก็สามารถปลูกทดแทนขึ้น ใหมไํ ด๎ ดงั นัน้ การประกอบอาชีพตอ๎ งพจิ ารณาวาํ ทรัพยากรท่ีจะต๎องนํามาใช๎ในการประกอบอาชีพใน พน้ื ทมี่ ีหรือไมมํ ี เพียงพอหรือไมํ ถ๎าไมํมีผูป๎ ระกอบการตอ๎ งพจิ ารณาใหมํวําจะประกอบอาชพี ทตี่ ัดสินใจ เลอื กไวห๎ รอื ไมํ หรอื พอจะจัดหาไดใ๎ นพื้นท่ีใกล๎เคยี ง ซึ่งผ๎ูประกอบการตอ๎ งเสยี คาํ ขนสํงจะค๎ุมคํากับการ ลงทุนหรือไมํ เชํน ตัดสินใจจะประกอบอาชีพจักสานตะกร๎าจากไม๎ไผํ แตํในพื้นที่ไมํมีต๎นไผํ ซึ่งต๎อง พิจารณาแลว๎ วําจะประกอบอาชพี นไี้ ดห๎ รอื ไมํ ถ๎าต๎องการประกอบอาชีพจริง ๆ เน่ืองจากตลาดมีความ ตอ๎ งการมาก กต็ อ๎ งคดิ ตํอไปวําจะค๎มุ คาํ กับคําขนสํงหรอื ไมํ 2. ศักยภาพของพื้นท่ีตามลักษณะภูมอิ ากาศ ในแตํละพื้นท่ีจะมีลักษณะภูมิอากาศแตกตํางกัน เชํน ประเทศไทยภาคกลางมีอากาศร๎อน ภาคใต๎มีฝนตกเป็นเวลานาน ภาคเหนือมีอากาศเย็น โดยเฉพาะอาชีพเกษตรกรรมขึ้นอยํูกับสภาพ ภูมิอากาศเป็นสํวนใหญํ เชํน การปลูกล้ินจี่ ลําไย ต๎องการอากาศเย็นจึงจะออกผลได๎ แก๎วมังกร ต๎องการอากาศร๎อน ทวีปอเมริกามีอากาศหนาวเย็นมากก็สามารถปลูกพืชเมืองหนาวได๎ เชํน เชอร๑รี แอปเปลิ ดังน้นั การปลกู พชื จําเป็นตอ๎ งพจิ ารณาสภาพภมู อิ ากาศด๎วยวําเหมาะสมกับชนิดของพืชนั้น ๆ หรือไมํ 3. ศักยภาพของภมู ิประเทศและทาเลท่ีตงั้ ของแต่ละพื้นที่ สภาพภูมปิ ระเทศและทาํ เลท่ีตั้งของแตลํ ะพน้ื ที่จะแตกตาํ งกัน เชนํ เปน็ ภูเขา เปน็ ทร่ี าบสูง ท่รี าบลํมุ แตํละพนื้ ท่มี ีผลตอํ การประกอบอาชีพตําง ๆ เชํน

30 - อาชีพเกษตรกรรม ข้ึนอยูํกับสภาพภูมิประเทศ เชํน อาชีพทํานา สามารถทํานาได๎ท้ังในที่ ราบลํุมท่ีเราเห็นกันอยํูทั่วไป แตํในท่ีราบสูงหรือบนภูเขาก็ทํานาได๎โดยไมํใช๎นํ้าข้ึนอยํูกับการใช๎พันธุ๑ ข๎าว - อาชีพอุตสาหกรรม ภูมิประเทศและทําเลที่ต้ังในการประกอบอาชีพอุตสาหกรรมก็มีผลดี ไดแ๎ กํ การอยใํู กลแ๎ หลงํ วัตถดุ บิ การคมนาคมสะดวกในการขนสํงสินค๎า ถ๎าเป็นอาชีพอุตสาหกรรมการ ทํองเท่ยี วต๎องมลี ักษณะภมู ปิ ระเทศที่ดงึ ดดู นกั ทอํ งเทยี่ วได๎ 4. ศักยภาพของศลิ ปะ วฒั นธรรม ประเพณแี ละวิถีชีวิตของแตล่ ะพน้ื ท่ี แตํละพ้ืนท่ีทั้งในประเทศไทยและตํางประเทศมีศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณีและวิถีชีวิตท่ี แตกตํางกัน ดงั นัน้ แตํละพนื้ ทสี่ ามารถนําเอาสงิ่ เหลํานี้มาใชเ๎ ปน็ อาชพี ได๎ เชํน เปน็ สถานทท่ี ํองเที่ยวเข๎า ชมศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณีพื้นบ๎าน หรือพาชมวิถีชีวิต ซ่ึงก็จะมีอาชีพอื่น ๆ เกิดตามมา เชํน การ ขายของที่ระลึก การนวดแผนไทย การขายอาหาร ผู๎ประกอบการต๎องพิจารณาวําศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณีและวิถีชวี ิตในพน้ื ทีม่ ีความโดนเดํน สามารถนาํ มาใชป๎ ระกอบอาชพี ได๎หรอื ไมํ 5. ศักยภาพของทรพั ยากรมนุษย์ในแต่ละพ้ืนที่ ทรัพยากรมนุษย๑ในแตํละพ้ืนท่ี หมายถึง ความรู๎ ความสามารถของมนุษย๑ท่ีเป็นภูมิปัญญาทั้ง ในอดีตจนถึงปจั จุบัน ด๎านการประกอบอาชีพตาํ ง ๆ ในพื้นที่น้ัน ๆ เชนํ จงั หวดั พระนครศรอี ยธุ ยามีภูมิ ปัญญาทาํ มดี อรญั ญิก ปลาตะเพียนจากใบลาน งานหลํอทองเหลือง ดังนั้น ทรัพยากรมนุษย๑ในแตํละ พื้นที่มผี ลตํอการประกอบอาชีพ ซึ่งต๎องนํามาพิจารณาวําอาชีพที่จะตัดสินใจเข๎าสํูอาชีพนั้นในพื้นท่ีมี ภมู ปิ ัญญาที่จะเรยี นรใู๎ ช๎เปน็ ความรห๎ู รือนําไปประยุกต๑ใช๎ในการประกอบอาชีพได๎หรือไมํการประกอบ อาชีพจะประสบความสําเร็จมากน๎อยเพียงใด สํวนหนึ่งขึ้นอยูํกับการวิเคราะห๑ศักยภาพด๎านตําง ๆ ท่ี เก่ยี วข๎องกับการประกอบอาชีพอยํางมีประสิทธิภาพ จะวิเคราะห๑ศักยภาพใดบ๎างนั้นข้ึนอยูํกับอาชีพ นัน้ ๆ เชํน - กลมุ่ อาชพี เกษตรกรรม ศักยภาพท่ีต๎องวเิ คราะห๑ ได๎แกํ ทรพั ยากรธรรมชาติ ลักษณะ ภมู ิอากาศ ลักษณะภมู ิประเทศ ทรัพยากรมนุษย๑ - กล่มุ อาชพี อุตสาหกรรม ศักยภาพที่ตอ๎ งวเิ คราะห๑ ไดแ๎ กํ ทรพั ยากรธรรมชาติ ทต่ี ๎องอยํูใกล๎ แหลํงวัตถุดิบ ลกั ษณะภมู ปิ ระเทศ เพื่อสะดวกในการขนสํง ถา๎ เปน็ แหลํงทํองเที่ยวต๎องคํานงึ ถึงสภาพ ภูมอิ ากาศ ศลิ ปะ วฒั นธรรม ประเพณี และวิถชี วี ิต - กลุม่ อาชพี พาณิชยกรรม ศกั ยภาพทตี่ ๎องวิเคราะห๑ ได๎แกํ ทรพั ยากรธรรมชาติ ภูมอิ ากาศภูมิ ประเทศ และทาํ เลทต่ี ั้ง

31 - กลุม่ อาชพี ความคิดสรา้ งสรรค์ ศักยภาพที่จาํ เป็นมาก ไดแ๎ กํ ศักยภาพของทรพั ยากรมนุษย๑ ที่ตอ๎ งใชค๎ วามคิดสร๎างสรรค๑ผลิตงานใหมํ ๆ - กล่มุ อาชพี อานวยการและอาชีพเฉพาะทาง ศกั ยภาพที่ต๎องวิเคราะห๑ ไดแ๎ กํ ทรัพยากรธรรมชาติ ลักษณะภมู ิอากาศ ภมู ปิ ระเทศ ศิลปะ วฒั นธรรม ประเพณีและวถิ ชี วี ติ และทรพั ยากรมนษุ ย๑_ แบบทดสอบหลังเรยี น จานวน 33 ขอ้ ( 33 คะแนน ) รายวชิ า ช่องทางการเขา้ สู่อาชีพ (อช11001) ระดับประถมศึกษา คาช้ีแจง ให๎นกั ศกึ ษาทําเคร่อื งหมายวงกลม ( ) หน๎าคําตอบท่ีถูกต๎องที่สดุ เพียงขอ๎ เดียว 1. อาชพี หมายถึงข๎อใด ก. การประกอบอาชพี ทีม่ ีการแลกเปลยี่ นระหวํางสนิ ค๎ากบั เงนิ ข. การประกอบอาชีพทมี่ รี ายได๎ตอบแทนโดยใชแ๎ รงงาน ค. การประกอบอาชพี ที่เราทําแล๎วเกิดผลกาํ ไรมรี ายได๎ ง. การประกอบอาชีพท่ีเราทําเปน็ ประจําทุกวัน 2. ข๎อใดคอื ความสาํ คญั ของการประกอบอาชพี ก.ใชเ๎ วลาวํางให๎เปน็ ประโยชน๑ ข. มงี านทาํ ท่ีเหมาะสมกบั ฐานะ ค. มรี ายไดใ๎ ช๎จาํ ยในชวี ิตประจําวนั ง. สร๎างความนําเชือ่ ถอื จากคนในสงั คม 3. อาชีพดงั้ เดมิ ท่คี นไทยดาํ เนนิ ชีวติ ต้งั แตอํ ดีตจนถึงปจั จุบนั คือขอ๎ ใด ก. คา๎ ขาย ข. เล้ียงสตั ว๑ ค. เกษตรกรรม ง. อตุ สาหกรรม 4. ในทวปี ยโุ รปควรปลกู พชื ชนดิ ใดจึงจะเหมาะสม ก. ออ๎ ย กล๎วย ข. กาแฟ โกโก๎

32 ค. ข๎าวโพด ขา๎ วฟาุ ง ง. ข๎าวสาลี ข๎าวโอ๏ต 5. ในทวีปอเมริกา ประชากรสวํ นใหญปํ ระกอบอาชพี ประเภทใด ก. เกษตรกรรม ข. อตุ สาหกรรม ค. พาณิชยกรรม ง. ด๎านความคดิ ริเริ่มสร๎างสรรค๑ 6. การทอผ๎าจดั เป็นอาชีพประเภทใด ก. ความคิดรเิ ริ่มสรา๎ งสรรค๑ ข. พาณิชยกรรม ค. อุตสาหกรรม ง. เกษตรกรรม 7. อาชพี พํอค๎าคนกลางเปน็ อาชพี ทเ่ี กิดจากข๎อใด ก. ตามบรรพบรุ ษุ ข. ชอํ งวํางระหวํางอาชีพ ค. ความต๎องการของตลาด ง. ผลของการประกอบอาชพี 8. กลมํุ อาชพี ดา๎ นความคิดริเร่มิ สรา๎ งสรรคด๑ ๎องอาศัยศักยภาพด๎านใดมากทีส่ ุด ก. ดา๎ นทรัพยากรธรรมชาติ ข. ด๎านทรพั ยากรมนุษย๑ในพนื้ ท่ี ค. ด๎านพืน้ ที่ตามลักษณะภูมอิ ากาศ ง. ด๎านการลงทนุ และการบริหารจัดการ 9. ถา๎ นกั ศึกษาจบการศกึ ษาสาขาการเงนิ และบญั ชีควรทาํ งานสถานที่ใดเหมาะสมท่สี ุด ก. คลินิก ข. ธนาคาร ค. โรงพยาบาล

33 ง. สถานีตาํ รวจ 10. ข๎อใดเปน็ วธิ กี ารทด่ี ีทสี่ ดุ ในการหาข๎อมูลทางการตลาด ก. การวิจัยตลาด ข. การแนะนาํ สนิ คา๎ ค. การทดลองขายสนิ ค๎า ง. การประเมินจากขอ๎ มลู เดิม 11. ข๎อใดคือแผนการใชเ๎ งนิ ทนุ ทีม่ ปี ระสิทธภิ าพ ก. ต๎นทนุ ตํ่า รายได๎สูง ข. ตน๎ ทุนสงู รายไดต๎ า่ํ ค. รายไดส๎ งู ต๎นทนุ ต่ํา ง. รายไดต๎ าํ่ ตน๎ ทุนตา่ํ 12. กระบวนการจัดการ การตลาด ผ๎ูผลติ ต๎องศึกษาข๎อมลู ใดเป็นอันดบั แรก ก. ราคา ข. คุณภาพ ค. ความสะดวกในการซ้อื ง. ความตอ๎ งการของผู๎บรโิ ภค 13. ผู๎ประกอบธุรกจิ ควรมคี ุณธรรมในข๎อใดมากที่สดุ ก. ความมีนํ้าใจ ข. ความซือ่ สตั ย๑ ค. ความรับผิดชอบ ง. ความมรี ะเบียบ 14. สุดาเปน็ พนกั งานบริษทั แหํงหนึง่ เปน็ คนขยนั ตรงตอํ เวลา ร๎จู ักหน๎าทข่ี องตนเอง พฤติกรรมของ สดุ าตรงกับขอ๎ ใด ก. มีคณุ ธรรม ข. มีจรยิ ธรรม ค. มีความซื่อสัตย๑

34 ง. มีความรบั ผิดชอบ 15. นายสวสั ดิ์มีอาชีพขายสํงมังคุดตามส่งั ในการบรรจุมงั คดุ เสยี ลงไปดว๎ ยทํานคดิ วํานายสวัสดิ์ ทาํ ถกู หรอื ไมํ เพราะเหตุใด ก. ถูกต๎อง เพราะลูกค๎าไมเํ ห็น ข. ถูกต๎อง เพราะจะไดข๎ ายไดจ๎ ํานวนมากข้ึน ค. ไมถํ กู ต๎อง เพราะจะทาํ ให๎มังคดุ ผลอน่ื เสียหายเพ่ิมขึ้น ง. ไมํถกู ตอ๎ ง เพราะเป็นการกระทาํ ท่ีไมซํ อ่ื สัตย๑ 16. ขอ๎ ใดเป็นการอนรุ ักษพ๑ ลังงานและสงิ่ แวดล๎อมไมํถกู ตอ๎ ง ก. แดง เลือกซอื้ ต๎เู ยน็ ประหยดั ไฟ ข. ขาว ซื้อกระทะไฟฟูามาทําอาหาร ค. ด า ปิดฝาถังขยะทุกครั้งท่ีท้ิงขยะ ง. เขียว นาํ นา้ํ ท่ซี กั ผา๎ ทุกคร้งั สดุ ท๎ายไปรดต๎นไม๎ 17. เราสามารถอนุรกั ษ๑พลังงานสิ่งแวดล๎อมในการท างานอาชีพไดอ๎ ยํางไร ก. ใช๎ถงุ พลาสตกิ ทคี่ งทนถาวร ข. ใชก๎ ระดาษทชิ ชูแทนผ๎าลดการใช๎นาํ้ ค. เผาทาํ ลายขยะเพื่อลดการเกิดโรค ง. ไมํปลอํ ยนํา้ เนาํ เสียลงในคลอง แมนํ ํ้า 18. ข๎อใดเปน็ การเลอื กประกอบอาชีพได๎เหมาะสมทีส่ ดุ ก. อรณุ ีจบแพทยป๑ ระกอบอาชพี คา๎ ขาย ข. อารยี ๑จบวิศวะประกอบอาชีพเลขานุการ ค. อาํ ไพจบพาณิชยการประกอบอาชพี ค๎าขาย ง. อุดรจบชํางไฟฟูาประกอบอาชีพเกษตรกร 19. สมชายเปดิ ร๎านขายเคร่ืองเขียนใกล๎กับโรงเรยี นสมชายคํานึงถึงส่งิ ใดในการประกอบอาชีพ ก. เงินทุน ข. แหลํงผลิต ค. ตลาดเปาู หมาย ง. มาตรฐานสนิ ค๎า

35 20. ในการตัดสนิ เลือกอาชีพ ตอ๎ งใช๎ข๎อมูลใดในการประกอบการตัดสนิ ใจ ก. ตนเอง สังคม ชุมชน ข. ตนเอง วิชาการ สังคม ค. ตนเอง ชมุ ชน ครอบครวั ง. ตนเอง วิชาการ ชุมชน 21. ขอ๎ ใดไมใํ ชํแนวทางการตัดสินใจประกอบอาชีพจาการพิจารณาดา๎ นสังคมและสง่ิ แวดล๎อม ก. มีทนุ หรือไมํ ข. มีตลาดรองรับหรอื ไมํ ค. มที รพั ยากรเพยี งพอหรอื ไมํ ง. อาชพี น้นั มีคนทาํ มากหรอื ไมํ 22. เหตุใดในเขตเอเชียตะวันตกเฉียงใต๎ นยิ มเลี้ยงสัตว๑เป็นอาชีพ ก. เพราะพน้ื ทีม่ ฝี นตกตลอดปี ข. เพราะพ้ืนท่ไี มกํ วา๎ งดูแลไดท๎ ั่วถึง ค. เพราะพืน้ ทม่ี ีแหลงํ อาหารทส่ี มบูรณ๑ ง. เพราะพ้ืนท่ีเป็นทุํงหญ๎ากึง่ ทะเลทราย 23. ขอ๎ ใดเปน็ การตรวจสอบความเป็นไปไดใ๎ นการเข๎าสอูํ าชีพ ก. รายได๎ ข. ผ๎บู ริโภค ค. การผลติ การตลาด ง. ครอบครวั สังคม ชมุ ชน ตลาด 24. การศึกษากระบวนการผลิต กระบวนการตลาดมีความจําเป็นตํอการประกอบอาชพี อยาํ งไร ก. ศกึ ษาคํแู ขํง ข. ศกึ ษาชํองทางการผลติ สนิ ค๎า ค. ผลิตสินค๎าเปน็ ท่ตี ๎องการของตลาด ง. ลดความเส่ียงในการประกอบอาชีพในอนาคตได๎

36 25. สินคา๎ ชนิดใดต๎องใชว๎ ัสดกุ นั กระแทกในการบรรจุหบี หอํ ก. ผลไม๎ ข. เสอื้ ผ๎า ค. อาหารแห๎ง ง. อาหารทะเล 26. ป๋ยุ ชีวภาพ หมายถึงขอ๎ ใด ก. ปุ๋ยทไี่ ด๎จากสารเคมี ข. ปยุ๋ อนินทรีย๑ทใ่ี ห๎ธาตอุ าหารพชื ค. ปุย๋ ท่ีได๎จากซากพชื ซากสตั ว๑ ง. ปุ๋ยท่ีประกอบด๎วยจุลินทรียท๑ ่ยี งั มชี ีวิตอยํู 27. หนูดีจะย๎อมผา๎ ให๎เป็นสเี หลือง โดยใช๎สีธรรมชาติ ตอ๎ งใช๎สิง่ ใด ก. ขมนิ้ ข. มะไฟ ค. ใบหูกวาง ง. เปลอื กมังคดุ 28. นาเดยี ชอบคดิ และทําอาหารสตู รใหมํๆให๎ผ๎ูคนรอบขา๎ งรับประทานเสมอ นาเดีย ควรเลือก ประกอบอาชีพอะไร ก. นกั วิจยั ข. แมํครัว ค. แมํบ๎าน ง. นักเขยี น 29. ข๎อใดไมใํ ชขํ อ๎ มลู ในการตัดสนิ ใจเลอื กอาชีพทเี่ หมาะสมกบั ตนเอง ก. ข๎อมูลสาธารณะสุข ข. ขอ๎ มลู วิชาการ ค. ข๎อมูลสงั คม ง. ขอ๎ มลู ตนเอง 30. กลุมํ อาชพี ใดทีต่ อ๎ งคํานงึ ถึงทรัพยากรธรรมชาติควบคูกํ ับลกั ษณะภมู อิ ากาศ ลักษณะภูมปิ ระเทศ และทรพั ยากรมนษุ ย๑มากทสี ดุ

37 ก. เกษตรกรรม ข. อตุ สาหกรรม ค. พาณิชยกรรม ง. ศลิ ปกรรม 31. พนื้ ท่ีราบลุํม ควรปลูกพืชชนดิ ใด ก. ขา๎ ว ข. ข๎าวโพด ค. มันสําปะหลัง ง. สบั ปะรดและออ๎ ย 32. ภาคใต๎ฝ่ังอนั ดามนั เหมาะแกํการประกอบอาชีพอะไร ก. รา๎ นขายของเกาํ ข. รา๎ ยขายของเลนํ ค. ร๎านขายของท่ีระลกึ ง. ร๎านขายอปุ กรณ๑เกษตร 33. อุไรมที ี่วํางเปลาํ อยใํู จกลางเมอื ง ผู๎คนสวํ นใหญนํ ยิ มบรโิ ภคอาหารนอกบ๎าน อไุ รควรเลอื ก ประกอบธรุ กจิ ใด ก. รา๎ นอาหาร ข. ร๎านของฝาก ค. ร๎านสะดวกซ้ือ ง. ร๎านจาํ หนํายเครื่องด่มื เฉลยแบบทดสอบกอ่ น - หลังเรยี น เฉลยแบบทดสอบ วิชาชอํ งทางเข๎าสอํู าชพี (อช11001)

38 1. ข 2.ค 3. ค 4. ง 5. ก 6.ค 7. ข 8.ค 9. ข 10.ก 11. ก 12.ง 13.ข 14.ง 15.ง 16.ข 17.ง 18.ค 19.ค 20.ข 21.ง 22.ค 23.ง 24.ง 25.ค 26.ค 27.ก 28.ข 29.ก 30.ก 31.ก 32.ค 33.ก รายวชิ าภาษาอังกฤษพืน้ ฐาน (พต11001) ระดับประถมศกึ ษา

39 สาระความรู้พน้ื ฐาน มาตรฐานที่ 2.1 มีความรู๎ ความเข๎าใจ และทักษะพื้นฐานเกีย่ วกบั ภาษาและการสอ่ื สาร สาระสาคัญ ภาษาองั กฤษพ้ืนฐานมีสาระสาํ คญั ที่จะเนน๎ ให๎ผูเ๎ รยี นมคี วามรู๎ ความเข๎าใจ มที ักษะ และ เจตคติ เกย่ี วกับการฟัง การดู การอํานการเขยี นภาษาองั กฤษเพอื่ การสือ่ สารในชวี ิตประจาํ วันได๎ ถกู ต๎องตาม หลักภาษาและวัฒนธรรมของเจ๎าของภาษา ผลการเรียนรทู ี่คาดหวัง 1. ฟังพดู อํานเขยี นภาษาองั กฤษเพอื่ การสื่อสารในชวี ติประจาํ วันได๎ 2. ยอมรบั และเหน็ คณุ คําภาษาอังกฤษเพือ่ การส่ือสารในชีวติ ประจาํ วนั 3. มที ักษะทถ่ี ูกตอ๎ งในการสอ่ื สารตามหลกั ภาษาและวฒั นธรรมของเจ๎าของภาษา ขอบขายเนือ้ หา เรือ่ งท่ี 1การทกั ทายและการตอบรบั คาํ ทกั ทาย เรื่องท่ี 2 การแนะนาํ ตนเองและการแนะนําผอ๎ู ืน่ เรอ่ื งท่ี 3 การกลําวลาและการตอบรบั การกลําวลา แบบทดสอบก่อนเรียน จานวน 10 ข้อ ( 10 คะแนน) รายวชิ าภาษาองั กฤษพ้ืนฐาน (พต11001) ระดับประถมศกึ ษา

40 คาช้ีแจง ใหน๎ ักศึกษาทําเครอ่ื งหมายวงกลม ( ) หน๎าคําตอบทถ่ี กู ตอ๎ งทส่ี ุดเพยี งขอ๎ เดยี ว 1. A: Thank you. B:_________________. a. You’re welcome b. I’m sorry c. O.K d. NO 2. A : Good morning. B : _______________________. a. Good afternoon b. Good morning c. Good night d. Good place best checkin 3. Bill. : Tom, this is Bob. Tom. : Nice to meet you. Bob. : _____________________. a. How do you do? b. Nice to meet you , too c. Nicetomeetingyou,too d.nice. 4. Rose: Hello, I am Rose Cherry:____________________. a.Hello, I am Cherry. b.What your name. c.Yes I am. d.No. not me.

41 5. John: Hi Judy. Judy: Hi john. John: Judy,this is Sandra. Judy: Hello Sandra, I’m pleased to meet you. Sandra:_________, I’m pleased to meet you too. a. What your name. b. Yes I am. c. No. not me. d. Hello Judy 6. Miss Suda : See you later. Mr.Tom : __________. a. See you b. Yes, thank you c. Yes. You’re welcome d. I see you 7. Mr. Ken : Thanks for the meal.. Miss Suda : ____________________. a.That’s all right b.I’m glad you liked it c. It’s nice of you to say so 8. Miss Carolyn: Hope to see you soon, bye. Mr. Dan: ______________________.

42 a. Yes, see you b. Yes, I hope so c. Yes, I will see you too. d. No, see you 9. Miss Aliz : I wish you luck. Mr.Bob : _____________,Good bye. a. You too b. You will c. You wish d. You don’t 10. A: What’s you job ? B: I am _____________ . a. a teacher b. a cat c. a man d. a nan เร่อื งท่ี 1 การทักทายและการตอบรบั คาทักทาย(greeting) การทักทายและตอบรับการทกั ทายเพื่อสรา๎ งความสัมพันธร๑ ะหวํางบุคคล ในการทักทายมีชํวงเวลา ดงั นี้ Good morning สวสั ดตี อนเช๎า (หลังเท่ยี งคนื ถึงเทีย่ งวัน) Good afternoon สวัสดีตอนบําย (หลังเทย่ี งวัน ถึงเวลา 18.00 น.) Good evening สวัสดีตอนเย็น/ค่ํา (หลัง 18.00 น. ถงึ เท่ยี งคืน)

43 Good night ราตรสี วัสด์ิ (เปน็ คําใช๎กลําวในตอนกลางคืน ไมใชํคําทกั ทาย หรือ ตอบรบั คํา ทกั ทาย การตอบรับคาํ ทกั ทาย Good morning ผก๎ู ลาํ วตอบใช๎ Good morning Good afternoon ผก๎ู ลําวตอบใช๎ Good afternoon Good night ผก๎ู ลําวตอบใช๎ Good night ตวั อยํางประโยค Mrs. Laura : Good morning, Mr. Smith. Mr.Smith : Good morning, Mrs. Laura การทักทายเมอื่ พบกนั ครง้ั แรก ในการทักทายเมอ่ื พบกนั ครั้งแรกกบั บุคคลทเ่ี ราไมํรูจ๎ กั ค๎นุ เคย จะใชป๎ ระโยค ดังนี้ How do you do? Nice to meet you. I’m glad to meet you. Nice to know you. How do you do? มกั ใชก๎ บั คนที่ร๎ูจกั กนั ครง้ั แรกหรือไมํคน๎ุ เคยกัน ประโยคน้มี ีความหมายเหมือนคํา วาํ สวัสดแี ตไํ มตํ ๎องการคาํ ตอบ ผ๎กู ลําวตอบจงึ ใช๎ประโยค How do you do ? ตอบกลับได๎ เชํนเดียวกัน ตัวอยา่ งประโยค Mr.Sam: Good morning, Mr. Jack. I’m glad to meet you. Mr. Jack : Good morning, Mr.Sam. I’m glad to meet you, too. ตัวอยา่ งประโยค Mr.Smith: Good afternoon, Mr. Joey. Nice to know you. Mr. Joey : Good afternoon, Mr. Smith. Nice to know you, too. การทักทายบุคคลทร่ี ู้จกั กันมาก่อน

44 การทักทายกับบุคคลทีเ่ รารู๎จกั คน๎ุ เคย ปกติเราจะใชค๎ ําพดู ไมํเหมอื นกนั โดยทัว่ ไปการ ทักทายมี 2 แบบ ดงั นี้ การทกั ทายแบบเปน็ ทางการ (Formal Greeting) การทักทายแบบไมเํ ปน็ ทางการ (Informal Greeting) การทกั ทายแบบเป็นทางการ (Formal Greeting) ใชก๎ ับบุคคลทอ่ี าวโุ สกวํา หรอื ในวงการธุรกิจ ราชการ ตวั อยํางประโยค Mr. Jack: Good morning Mr. Tee. Mr. Tee: Good morning Mr. Jack How are you today? Mr. Jack: Fine, thank you. And how are you? /And you? Mr. Tee: Fine, thank you. ตวั อยํางประโยค Susan: Good evening, Laura. How are you? Laura: Good evening, Susan. Not so well. I have a fever. Susan: Take care of yourself. You ought to see the doctor. Laura: Yes, I will. หรือหลงั คําทักทาย อาจเปน็ คําถามเกี่ยวกบั เรอ่ื งดิน ฟูา อากาศ ในขณะนั้น เชนํ It’s a lovely day, isn’t it. (วันน้ีอากาศดีนะ) It’s isn’t very nice today, is it? (วนั น้ีอากาศไมํดเี ลยนะ) It’s nice and warm, isn’t it? (วันน้ีอากาศดีและอบอํุนนะ) It isn’t a lovely day, is it? (วันนีอ้ ากาศไมดํ เี ลยนะ) การตอบรบั (Responding) Yes, it is. (คะํ วันน้อี ากาศด)ี Yes, it’s lovely. (คํะ วันน้ีอากาศดี)

45 Yes, it’s beautiful. (คะํ วนั นีอ้ ากาศด)ี No, it isn’t. (วันน้ีอากาศไมดํ เี ลย) No, it’s terrible. (วันนี้อากาศไมํดีเลย) การทกั ทายแบบไมเ่ ป็นทางการ (Informal Greeting) จะใชก๎ บั เพ่ือนสนทิ หรือคนท่ี เราค๎นุ เคย ซ่ึง จะใช๎ Hi หรอื Hello นาํ กอํ นช่อื เพื่อนหรือไมตํ ๎องมชี ่ือเพื่อนก็ได๎แลว๎ ตามดว๎ ยประโยคตอํ ไปน้ี Hi,Sam. / Hello Joe. (สวสั ด)ี Hi,Sam. How are things? (เปน็ อยํางไรบา๎ ง) Hello, Joe. How’re you doing? (เป็นอยาํ งไรบา๎ ง) Hello, Liz. How’s life? (เป็นไงบา๎ ง) Hi, How’s everything? (เป็นอยํางไรบา๎ ง) Hi,What’s new? (มอี ะไรใหมํ ๆ ไหม) What’s up? (ทํา อะไรอยํู) การตอบรับคาทกั ทาย (Responding) คาํ ตอบทัว่ ๆ ไปก็จะเป็น So so. (กเ็ รอื่ ย ๆ, กง็ ั้นๆ) All right,thank you. (สบายดี ขอบคณุ ) Very well,thank you. (สบายดีจรงิ ๆ ขอบคุณ) Not bad. (ไมเํ ดือดรอ๎ น, กไ็ มํเลว) Not much. (ไมมํ อี ะไรพเิ ศษ) Nothing special. (ไมมํ อี ะไรพเิ ศษ) ตัวอย่างประโยค Sam: Hello, Liz. How’s life? Liz : All right,thank you. What’s new? Sam: Nothing special. ตัวอยาํ งประโยค Jai: Hi! How are things? Porn: Very well indeed, How about you?

46 Jai: Not so bad. เรอื่ งท่ี 2 การแนะนาตนเองและการแนะนาผูอ้ ืน่ ( Introducing oneself and others) การแนะนาตนเองกบั ผู้อืน่ 4การแนะนาํ ตนเองอยํางเป็นทางการ (formal Introduction) เชนํ May I introduce myself? My name is Somporn Wansawang. (ขออนุญาตแนะนาํ ตัว ผมชอื่ สมพร วันสวําง) Can / Could I introduce myself? My name is Jack Smith. (ขออนญุ าตแนะนาํ ตวั ผมชือ่ แจค๏ สมธิ ) Let me introduce myself? I am Amporn Ploysang. (ขออนุญาตแนะนําตัว ดฉิ ันชื่ออมั พร พลอยแสงคะํ ) How do you do? Mr. Steven. My name is Marry. (สวัสดคี ํะคุณสตีเวน ดฉิ ันชือ่ แมร่คี ํะ) How do you do? Miss Suzie. I’m glad to meet you. (สวสั ดคี ุณซูซี่ยนิ ดีท่ไี ดร๎ จู๎ กั ) ขอ้ สงั เกต How do you do. เป็นสาํ นวนทใี่ ช๎ในการทกั ทายอยาํ งสุภาพ เมอื่ พบกนั ครั้งแรก การตอบรบั (Responding) ยินดีทีไ่ ด๎รจ๎ู ัก เชนํ I’m glad to meet you. Pleased to meet you. Nicetomeetyou.

47 Nice to know you. How do you do? ขอ้ สังเกต I’m glad to meet you, Pleased to meet you, Nice to meet you. (ควร สังเกตประโยคทเี่ ปน็ รูป infinitive with to ท่ีใชต๎ ามหลัง Adjective (คําคณุ ศพั ท๑) และสามารถใช๎ เป็นรปู gerund (V.ing) ก็ไดเ๎ ชนํ Nice meeting you. Glad meeting you. Nice knowing you. หลังจากแนะนาตนเองแล้วอาจบอกช่ือ ท่ีทางานหรืออาชพี เชนํ I come from Nakorn Pathom, Thailand. (ดิฉนั มาจากจงั หวดั นครปฐม ประเทศไทยคะํ ) I work at / in the post office near here. (ผมทาํ งานท่ที ท่ี ําการไปรษณียใ๑ กล๎ๆทีํนี่) I’m a student (ดฉิ ันเปน็ ผูเ๎ รียน) I’m a doctor. (ผมเปน็ หมอ) ตัวอยา่ งประโยค David : May I introduce myself? My name is David. William : How do you do? My name is William. David : Nice to know you. Where are you from? William : I’m from Australia. And you? David : I’m from America. ขอ้ สังเกต Verb to be ในประโยค ยอํ รปู ไดด๎ ังนี้ I am ยํอรปู เป็น I’m You are ยํอรูปเป็น You’re

48 It is ยํอรูปเปน็ It’s We are ยํอรูปเป็น We’re They are She is ยํอรูปเปน็ They’re He is ยํอรูปเป็น She’s ยํอรปู เปน็ He’s เรือ่ งท่ี 3 การแนะนาบุคคลอื่นให้รู้จกั กนั การแนะนาํ บุคคลอื่นใหีร๎ ู๎จกั กัน (Introducing Others) มี 2 แบบ คอื 1 การแนะนาบคุ คลอื่น แบบเป็นทางการ (Formal Introduction) เชน่ I’d like to introduce you to Mr. Dacha. I’d like you to meet Miss Suporn. John, may / can / could I introduce you to Miss Sopa Sangdeun. Let me introduce you to Miss Sopa Sangdeun. I’m pleased to introduce Miss Sangdeun. การตอบรับ (Responding) เช่น How do you do? Nice to meet you. Glad to meet you. Pleased to meet you. หรือถา๎ ผู๎แนะนาํ ไมแํ นํใจวําบุคคลท่จี ะแนะนาํ ให๎รูจ๎ ักกัน เคยร๎จู กั กันมากอํ นหรอื เปลาํ อาจใช๎ ประโยคนี้ By the way , have you meet Liza Barker? การตอบรบั (Responding) เชํน I’m afraid not. I don’t think so. 2.การแนะนาบคุ คลอ่ืนอยา่ งไม่เป็นทางการ (Informal Introduction) จะใช๎เพือ่ แนะนําเพื่อนสนิท หรอื เพ่อื นทค่ี ุ๎นเคยให๎รูจ๎ ักกนั ซ่ึงจะใช๎ Hi หรือ Hello นํากอํ นชอื่ เพอ่ื นหรือไมตํ ๎องมชี อื่ เพื่อนก็ได๎แลว๎ ตามดว๎ ยประโยคตอํ ไปนี้

49 ตวั อย่างประโยค Pen : Hi, Peter. This is Laura, she’s my cousin. Laura, this is Peter, my classmate. Peter : Hi, Laura. Pleased to meet you. Laura : Hi, Peter. Pleased to meet you, too. Exercise 1 Complete the following dialogue about Introducing. 1. A : How are you? B : ________________________ 2. A: Howdoyoudo? B : _______________________ 3. Anna : Lizzy, this is my friend, Tommy. Lizzy : _____________________________ Tommy: _____________________________.

50 4. Jack : Bob,__________________ to meet my friend, Clinton. Bob : How do you do? Clinton: _____________________. 5. Tom : Carolyn, this is _____________. Carolyn : Hi. I’m glad to meet you. Ken : ______________, too. เรื่องที่ 4 การกลา่ วลาและการตอบรับการกลา่ วลา (Leave Taking) การกลา่ วลาในโอกาสต่าง ๆ 1.1 การพูดกลําวลาหลังการพูดคยุ กันแลว๎ การกลําวลาเปน็ มารยาททางสังคม ดงั น้นั จึงควร เลือกใชใ๎ ห๎ถูกต๎องและเหมาะสม โดยทัว่ ไปการกลําวลานิยมใช๎สาํ นวนดงั ตอํ ไปน้ี สานวนท่ีใช้พดู กลา่ วลา การตอบรบั Goodbye. Goodbye. Bye. Bye. Take care. Yes, I will การพดู กลา่ วลาและคาดหวังวา่ จะพบกนั อีก See you. See you. See you later. Yes, See you later. See you soon. Yes, See you soon.