Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หลักสูตรกลุ่มสาระฯภาษาต่างประเทศ 2564

หลักสูตรกลุ่มสาระฯภาษาต่างประเทศ 2564

Published by วันเพ็ญ แสนงาม, 2022-08-31 05:02:54

Description: หลักสูตรกลุ่มสาระฯภาษาต่างประเทศ 2564

Search

Read the Text Version

๑ ทำไมตอ้ งเรียนภาษาตา่ งประเทศ ในสังคมโลกปัจจุบัน การเรียนรู้ภาษาต่างประเทศมีความสำคัญและจำเป็นอย่างยิ่งในชีวิตประจำวัน เนื่องจากเป็นเคร่ืองมือสำคัญในการติดต่อส่ือสาร การศึกษา การแสวงหาความรู้ การประกอบอาชีพ การสร้าง ความเข้าใจเกี่ยวกับวัฒนธรรมและวิสัยทัศน์ของชุมชนโลก และตระหนักถึงความหลากหลายทางวัฒนธรรมและ มุมมองของสงั คมโลก นำมาซ่ึงมติ รไมตรแี ละความรว่ มมอื กับประเทศตา่ ง ๆ ช่วยพฒั นาผเู้ รยี นใหม้ ีความเข้าใจตนเอง และผู้อ่ืนดีขึ้น เรียนรู้และเข้าใจความแตกต่างของภาษาและวัฒนธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณี การคิด สังคม เศรษฐกิจ การเมอื ง การปกครอง มีเจตคติท่ีดีต่อการใช้ภาษาต่างประเทศ และใช้ภาษาต่างประเทศเพื่อการสอ่ื สาร ได้ รวมทง้ั เขา้ ถึงองคค์ วามรู้ตา่ ง ๆ ได้ง่ายและกวา้ งขน้ึ และมวี ิสัยทัศนใ์ นการดำเนนิ ชีวติ ภาษาต่างประเทศท่ีเป็นสาระการเรียนรู้พื้นฐาน ซึ่งกำหนดให้เรียนตลอดหลั กสูตรการศึกษา ขั้นพื้นฐาน คือ ภาษาอังกฤษ ส่วนภาษาต่างประเทศอ่ืน เช่น ภาษาฝรั่งเศส เยอรมัน จีน ญ่ีปุ่น อาหรับ บาลี และ ภาษากล่มุ ประเทศเพอื่ นบ้าน หรือภาษาอื่น ๆ ให้อยใู่ นดุลยพนิ จิ ของสถานศึกษาท่ีจะจัดทำรายวิชาและจดั การเรียนรู้ ตามความเหมาะสม เรยี นรอู้ ะไรในภาษาตา่ งประเทศ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ มุ่งหวังให้ผู้เรียนมีเจตคติที่ดีต่อภาษาต่างประเทศ สามารถใช้ ภาษาต่างประเทศ สื่อสารในสถานการณ์ต่าง ๆ แสวงหาความรู้ ประกอบอาชีพ และศึกษาต่อในระดับท่ีสูงขึ้น รวมท้ังมีความรู้ความเขา้ ใจในเร่ืองราวและวัฒนธรรมอันหลากหลายของประชาคมโลก และสามารถถ่ายทอดความคิด และวัฒนธรรมไทยไปยังสงั คมโลกได้อย่างสรา้ งสรรค์ ประกอบดว้ ยสาระสำคัญ ดังนี้ • ภาษาเพ่ือการส่ือสาร การใชภ้ าษาต่างประเทศในการฟัง-พูด-อ่าน-เขยี น แลกเปลี่ยนข้อมูล ขา่ วสาร แสดงความรู้สกึ และความคดิ เห็น ตีความ นำเสนอข้อมูล ความคดิ รวบยอดและความคิดเหน็ ในเร่ืองตา่ ง ๆ และสรา้ งความสัมพันธร์ ะหว่างบุคคลอยา่ งเหมาะสม • ภาษาและวัฒนธรรม การใช้ภาษาต่างประเทศตามวัฒนธรรมของเจ้าของภาษาความสัมพันธ์ ความเหมือนและความแตกต่างระหว่างภาษากับวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา ภาษาและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา กับวฒั นธรรมไทย และนำไปใชอ้ ยา่ งเหมาะสม • ภาษากับความสัมพันธ์กับกลุ่มสาระการเรียนรู้อ่ืน การใช้ภาษาต่างประเทศในการเช่ือมโยง ความรู้กับกล่มุ สาระการเรยี นร้อู ื่น เปน็ พื้นฐานในการพฒั นา แสวงหาความรู้ และเปดิ โลกทศั น์ของตน • ภาษากับความสัมพันธ์กับชุมชนและโลก การใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ทั้ง ในห้องเรียนและนอกห้องเรียน ชุมชน และสังคมโลก เป็นเครื่องมือพื้นฐานในการศึกษาต่อ ประกอบอาชีพ และ แลกเปล่ยี นเรียนรกู้ บั สงั คมโลก ลกั ษณะเฉพาะ / ธรรมชาติวชิ า การเรียนภาษาต่างประเทศแตกต่างจากการเรียนสาระการเรียนรู้อื่น เนื่องจากผู้เรียนไม่ได้เรียนรู้ภาษา เพื่อความรู้เก่ียวกับภาษาเท่านั้น แต่เรยี นภาษาเพื่อให้สามารถใชภ้ าษาเป็นเครื่องมือในการติดต่อสื่อสารกับผู้อ่ืนได้ ตามความต้องการในสถานการณ์ต่างๆ ทั้งในชีวิตประจำวัน และการงานอาชพี การท่ีผู้เรียนจะใช้ภาษาได้ถูกต้อง คล่องแคล่วและเหมาะสมน้ันขึ้นอยู่กับทักษะการใช้ภาษา ดังนั้นในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนท่ีดี ผู้เรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาตา่ งประเทศ โรงเรยี นชุมชนประชาธปิ ัตยว์ ิทยาคาร

๒ จะต้องมีโอกาสได้ฝึกทักษะการใช้ภาษาให้มากท่ีสุด ทั้งในห้องเรียนและนอกห้องเรียน การจัดกระบวนการเรียน การสอนต้องสอดคล้องกบั ธรรมชาติและลักษณะเฉพาะของภาษา การจัดการเรียนการสอนภาษาจึงควรจัดกิจกรรม ให้หลากหลาย ทั้งกิจกรรมการฝึกทักษะทางภาษา และกิจกรรมการฝึกผู้เรียนให้รู้วิธีการเรียนภาษาด้วยตนเอง ควบคู่กันไปด้วย อันจะนำสู่การเป็นผู้เรียนที่พ่ึงตนเองได้ (Learner - Independence) และสามารถเรียนรู้ได้ ตลอดชีวิต (Life Long Learning) ทั้งด้านภาษาต่างประเทศโดยใช้ภาษาต่างประเทศเป็นเคร่ืองมือในการค้นคว้า หาความรู้ในการเรียนรู้วิชาอื่น ๆ ในการศึกษาตอ่ รวมท้ังในการประกอบอาชีพ ซึ่งเปน็ จุดหมายสำคัญประการหน่ึง ของการปฏริ ปู การเรยี นรู้ วสิ ัยทัศน์ การจัดการเรียนการสอนภาษาต่างประเทศ ในหลักสูตรการศึกษาข้ันพ้ืนฐานมีความคาดหวังว่า เมื่อผู้เรียนเรียนภาษาต่างประเทศอย่างต่อเน่ืองต้ังแต่ชั้นประถมศึกษาถึงมัธยมศึกษา ผู้เรียนมีเจตคติที่ดีต่อ ภาษาต่างประเทศ สามารถใช้ภาษาต่างประเทศ ส่ือสารในสถานการณ์ต่าง ๆ แสวงหาความรู้ ประกอบอาชีพ หรือศึกษาต่อระดับสูงข้ึน รวมท้ังมีความรู้ความเข้าใจในเรื่องราวและวัฒนธรรมอันหลากหลายของประชาคมโลก สามารถถ่ายทอดความคดิ และวัฒนธรรมไทยไปยังสังคมโลกได้อย่างสรา้ งสรรค์ สมรรถนะสำคัญของผ้เู รยี น และคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ ในการพฒั นาผ้เู รียนตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขน้ั พ้นื ฐาน มงุ่ เนน้ พฒั นาผู้เรียนให้มีคณุ ภาพตาม มาตรฐานทีก่ ำหนด ซงึ่ จะชว่ ยใหผ้ ู้เรียนเกดิ สมรรถนะสำคัญและคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ ดังนี้ ➢ สมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น หลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน มงุ่ ให้ผเู้ รียนเกดิ สมรรถนะสำคัญ ๕ ประการ ดังนี้ ๑. ความสามารถในการส่อื สาร เปน็ ความสามารถในการรับและสง่ สาร มีวัฒนธรรมในการใชภ้ าษา ถา่ ยทอดความคดิ ความรู้ความเข้าใจ ความรสู้ กึ และทัศนะของตนเองเพื่อแลกเปล่ยี นข้อมลู ขา่ วสารและ ประสบการณ์อันจะเปน็ ประโยชนต์ อ่ การพฒั นาตนเองและสังคม รวมท้งั การเจรจาต่อรองเพื่อขจดั และลดปญั หา ความขดั แย้งต่าง ๆ การเลอื กรบั หรือไมร่ บั ขอ้ มูลขา่ วสารด้วยหลักเหตผุ ลและความถูกต้อง ตลอดจนการเลอื กใช้ วธิ ีการสอ่ื สาร ทีม่ ีประสิทธิภาพโดยคำนงึ ถงึ ผลกระทบท่มี ตี ่อตนเองและสังคม ๒. ความสามารถในการคิด เปน็ ความสามารถในการคิดวเิ คราะห์ การคิดสงั เคราะห์ การคิด อย่าง สร้างสรรค์ การคิดอย่างมีวจิ ารณญาณ และการคิดเป็นระบบ เพ่อื นำไปสู่การสรา้ งองค์ความรู้หรือสารสนเทศเพอ่ื การตดั สินใจเกี่ยวกบั ตนเองและสังคมได้อยา่ งเหมาะสม ๓. ความสามารถในการแกป้ ญั หา เปน็ ความสามารถในการแกป้ ญั หาและอุปสรรคต่าง ๆ ทเี่ ผชญิ ได้อย่าง ถกู ต้องเหมาะสมบนพืน้ ฐานของหลกั เหตุผล คุณธรรมและข้อมูลสารสนเทศ เข้าใจความสัมพันธแ์ ละการเปลีย่ นแปลง ของเหตกุ ารณต์ า่ ง ๆ ในสังคม แสวงหาความรู้ ประยกุ ตค์ วามรมู้ าใชใ้ นการป้องกนั และแกไ้ ขปัญหา และมีการ ตัดสินใจทม่ี ปี ระสทิ ธิภาพโดยคำนงึ ถึงผลกระทบท่ีเกดิ ขน้ึ ต่อตนเอง สงั คมและสงิ่ แวดล้อม กล่มุ สาระการเรยี นรู้ภาษาตา่ งประเทศ โรงเรียนชมุ ชนประชาธิปัตยว์ ิทยาคาร

๓ ๔. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ เป็นความสามารถในการนำกระบวนการต่างๆ ไปใช้ในการดำเนนิ ชวี ิตประจำวัน การเรียนร้ดู ว้ ยตนเอง การเรียนร้อู ยา่ งตอ่ เนื่อง การทำงาน และการอยู่ร่วมกนั ในสงั คมด้วยการสร้าง เสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างบุคคล การจดั การปัญหาและความขัดแย้งต่าง ๆ อย่างเหมาะสม การปรับตวั ใหท้ ันกบั การเปลีย่ นแปลงของสงั คมและสภาพแวดลอ้ ม และการรูจ้ กั หลกี เล่ียงพฤตกิ รรมไมพ่ ึงประสงค์ที่ส่งผลกระทบต่อตนเอง และผอู้ ่นื ๕. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี เปน็ ความสามารถในการเลอื ก และใช้ เทคโนโลยดี ้านต่าง ๆ และมี ทักษะกระบวนการทางเทคโนโลยเี พ่ือการพฒั นาตนเองและสงั คม ในด้านการเรียนรู้ การส่ือสาร การทำงาน การ แกป้ ญั หาอย่างสร้างสรรค์ ถกู ต้อง เหมาะสม และมีคณุ ธรรม ➢ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ หลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขั้นพ้ืนฐาน มุ่งพฒั นาผเู้ รยี นใหม้ คี ณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ เพ่อื ใหส้ ามารถอยู่ ร่วมกับผอู้ น่ื ในสังคมไดอ้ ยา่ งมคี วามสุข ในฐานะเป็นพลเมอื งไทยและพลโลก ดังนี้ ๑. รกั ชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ ๒. ซื่อสตั ย์สจุ รติ ๓. มีวินยั ๔. ใฝ่เรียนรู้ ๕. อยูอ่ ยา่ งพอเพยี ง ๖. มงุ่ ม่ันในการทำงาน ๗. รกั ความเปน็ ไทย ๘. มีจิตสาธารณะ นอกจากน้ี หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนชุมชนประชาธิปัตย์วิทยาคาร ยังได้กำหนดคุณลักษณะอันพึง ประสงค์เพมิ่ เตมิ ให้สอดคลอ้ งตามบรบิ ทและจุดเนน้ ของโรงเรยี นอีก ๑ ขอ้ คอื ความกตัญญู นยิ าม ตวั ชีว้ ัด พฤติกรรมบง่ ช้ี ขอ้ ที่ ๑ รักชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ นยิ าม รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ หมายถึง คุณลักษณะที่แสดงออกถึงการเป็นพลเมืองดีของชาติ ธำรงไว้ซึ่งความ เป็นชาตไิ ทย ศรทั ธายึดม่ันในศาสนาและเคารพเทิดทนู สถาบันพระมหากษัตริย์ ผู้ท่ีรักชาติศาสน์กษัตริย์ คือ ผู้ท่ีมีลักษณะซ่ึงแสดงออกถึงการเป็นพลเมืองดีของชาติ มีความสามัคคี ปรองดอง ภูมิใจเชิดชคู วามเป็นชาติไทยปฏิบัติตนตามหลักศาสนาที่ตนนับถือ และแสดงความจงรักภักดีตอ่ สถาบัน พระมหากษัตริย์ ตวั ช้วี ัด ๑.๑ เป็นพลเมืองดีของชาติ ๑.๒ ธำรงไวซ้ ่งึ ความเปน็ ชาติไทย ๑.๓ ศรทั ธา ยึดมน่ั และปฏบิ ตั ติ นตามหลกั ของศาสนา ๑.๔ เคารพเทดิ ทนู สถาบันพระมหากษัตรยิ ์ กลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ โรงเรยี นชมุ ชนประชาธปิ ตั ยว์ ิทยาคาร

๔ ตวั ชี้วดั และพฤติกรรมบง่ ชี้ ตวั ช้ีวัด พฤติกรรมบ่งชี้ ๑.๑ เปน็ พลเมืองดีของชาติ ๑.๑.๑ ยืนตรงเคารพธงชาติ ร้องเพลงชาติ และอธิบายความหมายของเพลง ชาตไิ ด้ถกู ต้อง ๑.๑.๒ ปฏบิ ัติตนตามสทิ ธแิ ละหนา้ ทพี่ ลเมืองดขี องชาติ ๑.๑.๓ มคี วามสามัคคีปรองดอง ๑.๒ ธำรงไวซ้ ่งึ ความเป็นชาติไทย ๑.๒.๑ เขา้ รว่ มสง่ เสรมิ สนบั สนุนกจิ กรรมทีส่ ร้างความสามัคคปี รองดองท่เี ปน็ ประโยชนต์ ่อโรงเรียน ชุมชน และสังคม ๑.๒.๒ หวงแหนปกปอ้ งยกย่องความเปน็ ชาตไิ ทย ๑.๓ ศรทั ธา ยดึ มั่น และปฏบิ ตั ิ ๑.๓.๑ เข้าร่วมกจิ กรรมทางศาสนาทตี่ นนับถือ ตนตามหลกั ของศาสนา ๑.๓.๒ ปฏบิ ตั ติ นตามหลักของศาสนาท่ตี นนบั ถอื ๑.๓.๓ เปน็ แบบอย่างทีด่ ีของศาสนิกชน ๑.๔ เคารพเทิดทนู สถาบนั ๑.๔.๑ เขา้ ร่วมและมีส่วนร่วมในการจดั กจิ กรรมท่เี ก่ยี วกับสถาบัพระมหา พระมหากษตั ริย์ กษัตริย์ ๑.๔.๒ แสดงความสำนกึ ในพระมหากรณุ าธคิ ุณของพระมหากษัตริย์ ๑.๔.๓ แสดงออกซึ่งความจงรักภกั ดตี ่อสถาบนั พระมหากษัตรยิ ์ ข้อที่ ๒ ซ่ือสัตย์ สุจริต นิยาม ซือ่ สัตย์ สุจริต หมายถึง คุณลักษณะที่แสดงออกถึงการยึดมั่นในความถูกต้อง ประพฤติตรงตามความเป็น จรงิ ตอ่ ตนเองและผ้อู ่นื ท้งั ทางกาย วาจา ใจ ผูท้ ี่มีความซ่ือสัตย์ สุจรติ คือ ผทู้ ี่ประพฤติตรงตามความเป็นจริง ท้ังทางกาย วาจา ใจ และยึดหลักความ จรงิ ความถกู ตอ้ งในการดำเนนิ ชีวิต มคี วามละอายและเกรงกลัวต่อการกระทำผดิ ตัวช้วี ัด ๑.๑ ประพฤติตรงตามความเป็นจริงต่อตนเองทงั้ ทางกาย วาจา ใจ ๑.๒ ประพฤติตรงตามความเปน็ จรงิ ตอ่ ผ้อู น่ื ทง้ั ทางกาย วาจา ใจ ตัวชว้ี ัดและพฤตกิ รรมบง่ ช้ี ตวั ชี้วัด พฤติกรรมบง่ ชี้ ๒.๑ ประพฤติตรงตามความเปน็ ๒.๑.๑ ใหข้ อ้ มูลทถี่ ูกตอ้ งและเป็นจรงิ ตอ่ ตนเองท้ังทางกายวาจา ใจ จริงตอ่ ตนเองทง้ั ทางกาย วาจา ใจ ๒.๑.๒ ปฏบิ ัตติ นโดยคำนงึ ถึงความถกู ต้อง ละอายและเกรงกลัวตอ่ การ กระทำผิด ๒.๑.๓ ปฏิบตั ิตามคำม่ันสัญญา ๒.๒ ประพฤติตรงตามความเปน็ ๒.๒.๑ ไมถ่ ือเอาสง่ิ ของหรอื ผลงานของผอู้ ืน่ มาเป็นของตนเองตอ่ ผอู้ ื่นทงั้ ทาง จรงิ ต่อผูอ้ นื่ ทั้งทางกาย วาจา ใจ กาย วาจา ใจ ๒.๒.๒ ปฏิบตั ติ นตอ่ ผอู้ ่ืนดว้ ยความซื่อตรง ๒.๒.๓ ไม่หาประโยชน์ในทางทไ่ี มถ่ กู ตอ้ ง กลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ โรงเรียนชุมชนประชาธปิ ตั ย์วทิ ยาคาร

๕ ขอ้ ท่ี ๓ มวี นิ ัย นยิ าม มีวินัย หมายถึง คุณลักษณะที่แสดงออกถึงการยึดมั่นในข้อตกลง กฎเกณฑ์ และระเบียบ ข้อบังคับ ของ ครอบครัว โรงเรยี นและสงั คม ผู้ที่มีวินัย คือ ผู้ท่ีปฏิบัติตนตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ข้อบังคับของครอบครัว โรงเรียนและสังคม เปน็ ปกตวิ สิ ัย ไมล่ ะเมดิ สทิ ธขิ องผูอ้ นื่ ตัวชว้ี ดั ปฏิบตั ิตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ข้อบงั คบั ของครอบครวั โรงเรียนและสังคม ตัวชีว้ ัดและพฤตกิ รรมบง่ ชี้ ตวั ชว้ี ัด พฤติกรรมบง่ ช้ี ๓.๑ ปฏิบัตติ ามข้อตกลง ๓.๑.๑ ปฏิบัตติ นตามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ข้อบงั คบั ของครอบครัว กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ขอ้ บงั คับของ โรงเรียนและสงั คม ไม่ละเมดิ สิทธขิ องผู้อ่ืน ครอบครัว โรงเรียนและสังคม ๓.๑.๒ ตรงตอ่ เวลาในการปฏิบัตกิ จิ กรรมต่าง ๆ ในชีวิตประจำวนั และ รับผิดชอบในการทำงาน ขอ้ ท่ี ๔ ใฝ่เรียนรู้ นิยาม ใฝ่เรียนรู้ หมายถึง คุณลักษณะท่ีแสดงออกถึงความตั้งใจ เพียรพยายามในการเรียน แสวงหาความรู้ จาก แหล่งเรยี นรทู้ ั้งภายในและภายนอกโรงเรยี น ผู้ที่ใฝ่เรียนรู้ คือ ผู้ที่มีคุณลักษณะที่แสดงออกถึงความต้ังใจ เพียรพยายามในการเรียน และเข้าร่วม กิจกรรมการเรียนรู้ แสวงหาความรู้ จากแหล่งเรียนร้ทู ั้งภายในและภายนอกโรงเรียนอยา่ งสม่ำเสมอ ดว้ ยการเลือกใช้ สือ่ อย่างเหมาะสม บันทึกความรู้ วิเคราะห์ สรุปเปน็ องค์ความรู้ แลกเปลี่ยนเรยี นรู้ ถ่ายทอด เผยแพร่ และนำไปใช้ใน ชวี ิตประจำวนั ได้ ตัวชีว้ ดั ๔.๑ ตั้งใจ เพยี รพยายามในการเรยี น และเขา้ รว่ มกิจกรรมการเรยี นรู้ ๔.๒ แสวงหาความรู้จากแหล่งเรียนรู้ต่าง ๆ ท้ังภายในและภายนอกโรงเรียน ด้วยการเลือกใช้ส่ืออย่าง เหมาะสม สรุปเป็นองคค์ วามรู้ และสามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวนั ได้ ตวั ชว้ี ัดและพฤตกิ รรมบง่ ชี้ ตวั ช้ีวัด พฤตกิ รรมบ่งชี้ ๔.๑ ต้งั ใจ เพียรพยายามในการ ๔.๑.๑ ตงั้ ใจเรยี น เรียน และเขา้ รว่ มกจิ กรรมการ ๔.๑.๒ เอาใจใส่และมคี วามเพยี รพยายามในการเรียนรู้ เรยี นรู้ ๔.๑.๓ สนใจเข้ารว่ มกิจกรรมการเรียนรตู้ า่ งๆ ๔.๒ แสวงหาความร้จู ากแหลง่ ๔.๒.๑ ศกึ ษาค้นคว้าหาความรู้จากหนงั สอื เอกสาร สงิ่ พมิ พ์ สื่อเทคโนโลยี เรียนรตู้ ่าง ๆ ท้ังภายในและ ตา่ ง ๆ แหลง่ เรยี นรู้ทง้ั ภายในและภายนอกโรงเรียน และเลอื กใช้สื่อ ภายนอกโรงเรียน ด้วยการเลอื กใช้ ได้อย่างเหมาะสม ส่ืออยา่ งเหมาะสม สรุปเปน็ องค์ ๔.๒.๒ บนั ทกึ ความรู้ วเิ คราะห์ขอ้ มูลจากสง่ิ ท่เี รยี นรู้ สรุปเปน็ องคค์ วามรู้ ความรู้ และสามารถนำไปใช้ใน ๔.๒.๓ แลกเปลย่ี นความรูด้ ว้ ยวธิ ีการต่าง ๆ และนำไปใช้ในชวี ติ ประจำวนั ชวี ติ ประจำวันได้ กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาต่างประเทศ โรงเรยี นชมุ ชนประชาธปิ ัตย์วิทยาคาร

๖ ขอ้ ท่ี ๕ อยู่อยา่ งพอเพยี ง นิยาม อยู่อย่างพอเพียง หมายถึง คุณลักษณะท่ีแสดงออกถึงการดำเนินชีวิตอย่างพอประมาณ มีเหตุผล รอบคอบ มีคุณธรรม มีภูมคิ ุม้ กันในตวั ท่ดี ี และปรับตวั เพอ่ื อยู่ในสังคมได้อยา่ งมีความสุข ผู้ท่ีอยู่อย่างพอเพียง คือ ผู้ท่ีดำเนินชีวิตอย่างประมาณตน มีเหตุผล รอบคอบ ระมัดระวัง อยู่ร่วมกับผู้อ่ืน ดว้ ยความรับผิดชอบ ไม่เบียดเบียนผอู้ ่ืน เห็นคณุ คา่ ของทรัพยากรต่างๆ มีการวางแผนปอ้ งกันความเส่ียง และพรอ้ ม รบั การเปลี่ยนแปลง ตวั ช้ีวัด ๕.๑ ดำเนนิ ชวี ิตอยา่ งพอประมาณ มเี หตุผล รอบคอบ มคี ุณธรรม ๕.๒ มีภูมิค้มุ กนั ในตวั ท่ีดี ปรับตวั เพ่ืออยู่ในสงั คมไดอ้ ยา่ งมคี วามสขุ ตัวช้ีวัดและพฤติกรรมบง่ ช้ี ตัวชว้ี ัด พฤติกรรมบ่งชี้ ๕.๑ ดำเนนิ ชีวติ อย่างพอประมาณ ๕.๑.๑ ใชท้ รัพยส์ ินของตนเอง เช่น เงนิ ส่ิงของ เคร่อื งใช้ ฯลฯ อย่างประหยดั มีเหตผุ ล รอบคอบ มีคุณธรรม คุ้มค่า และเกบ็ รักษาดแู ลอย่างดี รวมทงั้ การใชเ้ วลาอย่างเหมาะสม ๕.๑.๒ ใช้ทรัพยากรของส่วนรวมอย่างประหยัด คุม้ คา่ และเก็บรกั ษาดแู ล อยา่ งดี ๕.๑.๓ ปฏบิ ัตติ นและตดั สนิ ใจด้วยความรอบคอบ มีเหตุผล ๕.๑.๔ ไมเ่ อาเปรียบผ้อู ื่นและไม่ทำให้ผู้อื่นเดอื ดร้อน พรอ้ มให้อภยั เมอ่ื ผู้อนื่ กระทำผิดพลาด ๕.๒ มภี ูมิคุ้มกันในตวั ทดี่ ี ปรบั ตัว ๕.๒.๑ วางแผนการเรยี น การทำงาน และการใชช้ ีวิตประจำวันบนพ้นื ฐาน เพอ่ื อยูใ่ นสงั คมได้อย่างมคี วามสขุ ของความรู้ ข้อมูล ข่าวสาร ๕.๒.๒ รเู้ ทา่ ทนั การเปลี่ยนแปลงของสงั คมและสภาพแวดล้อม ยอมรบั และ ปรับตัวเพื่ออยู่รว่ มกับผู้อื่นได้อย่างมคี วามสุข ขอ้ ท่ี ๖ มงุ่ ม่นั ในการทำงาน นยิ าม มุ่งม่ันในการทำงาน หมายถึง คุณลักษณะท่ีแสดงออกถึงความต้ังใจและรับผิดชอบในการทำหน้าท่ีการ งานด้วยความเพียรพยายาม อดทน เพ่อื ใหง้ านสำเรจ็ ตามเป้าหมาย ผู้ที่มุ่งมั่นในการทำงาน คือ ผู้ท่ีมีลักษณะซึ่งแสดงออกถึงความต้ังใจปฏิบัติหน้าที่ท่ีได้รับมอบหมายด้วย ความเพียรพยายาม ทุ่มเทกำลงั กาย กำลังใจ ในการปฏิบัติกิจกรรมตา่ งๆ ให้สำเรจ็ ลลุ ่วงตามเปา้ หมายทกี่ ำหนดดว้ ย ความรบั ผิดชอบและมคี วามภาคภูมิใจในผลงาน ตวั ชี้วัด ๖.๑ ตง้ั ใจและรบั ผิดชอบในการปฏิบตั ิหน้าที่การงาน ๖.๒ ทำงานดว้ ยความเพียรพยายามและอดทนเพื่อให้งานสำเร็จตามเป้าหมาย กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาต่างประเทศ โรงเรียนชุมชนประชาธปิ ตั ย์วิทยาคาร

ตวั ชว้ี ัดและพฤติกรรมบง่ ชี้ ๗ ตัวชี้วัด พฤติกรรมบง่ ช้ี ๖.๑ ตงั้ ใจและรับผิดชอบในการ ๖.๑.๑ เอาใจใส่ต่อการปฏบิ ตั ิหนา้ ที่ท่ีไดร้ ับมอบหมาย ปฏบิ ัติหนา้ ทกี่ ารงาน ๖.๑.๒ ต้ังใจและรบั ผิดชอบในการทำงานให้สำเร็จ ๖.๑.๓ ปรับปรุงและพัฒนาการทำงานดว้ ยตนเอง ๖.๒ ทำงานดว้ ยความเพียร ๖.๒.๑ ทุ่มเททำงาน อดทน ไม่ย่อท้อต่อปญั หาและอุปสรรคในการทำงาน พยายามและอดทนเพ่ือใหง้ าน ๖.๒.๒ พยายามแก้ปัญหาและอุปสรรคในการทำงานให้สำเร็จตามเปา้ หมาย สำเร็จตามเปา้ หมาย ๖.๒.๓ ชื่นชมผลงานด้วยความภาคภมู ิใจ ข้อท่ี ๗ รักความเปน็ ไทย นยิ าม รักความเป็นไทย หมายถงึ คุณลกั ษณะท่ีแสดงออกถึงความภาคภมู ใิ จ เหน็ คณุ ค่า ร่วมอนุรกั ษ์ สบื ทอดภมู ิ ปัญญาไทย ขนบธรรมเนยี มประเพณี ศิลปะและวัฒนธรรม ใชภ้ าษาไทยในการสื่อสารไดอ้ ย่างถูกตอ้ ง และเหมาะสม ผู้ท่รี ักความเปน็ ไทย คอื ผทู้ ม่ี ีความภาคภูมิใจ เห็นคณุ คา่ ชืน่ ชม มีสว่ นร่วมในการอนรุ ักษ์สบื ทอดเผยแพร่ ภมู ิปญั ญาไทย ขนบธรรมเนยี มประเพณี ศลิ ปะ และวัฒนธรรมไทย มคี วามกตัญญกู ตเวที ใชภ้ าษาไทย ในการสอื่ สาร อยา่ งถกู ต้องเหมาะสม ตวั ช้ีวัด ๗.๑ ภาคภมู ิใจในขนบธรรมเนยี มประเพณี ศิลปะ วฒั นธรรมไทย และมีความกตญั ญูกตเวที ๗.๒ เห็นคุณคา่ และใช้ภาษาไทยในการส่ือสารไดอ้ ยา่ งถกู ต้องเหมาะสม ๗.๓ อนรุ ักษแ์ ละสืบทอดภมู ปิ ัญญาไทย ตวั ชวี้ ดั และพฤติกรรมบ่งช้ี ตัวช้วี ัด พฤติกรรมบ่งชี้ ๗.๑ ภาคภูมิใจในขนบธรรมเนียม ๗.๑.๑ แตง่ กายและมีมารยาทงดงามแบบไทย มีสัมมาคารวะ กตญั ญูกตเวที ประเพณี ศิลปะ วฒั นธรรมไทย ต่อผมู้ พี ระคุณ และมีความกตัญญกู ตเวที ๗.๑.๒ ร่วมกจิ กรรมที่เก่ยี วข้องกบั ประเพณี ศลิ ปะ และวฒั นธรรมไทย ๗.๑.๓ ชกั ชวน แนะนำให้ผู้อนื่ ปฏบิ ตั ติ ามขนบธรรมเนียมประเพณี ศลิ ปะ และวัฒนธรรมไทย ๗.๒ เห็นคณุ ค่าและใช้ภาษาไทยใน ๗.๒.๑ ใช้ภาษาไทยและเลขไทยในการสอื่ สารไดอ้ ยา่ งถูกต้องเหมาะสม การส่ือสารไดอ้ ย่างถูกต้อง ๗.๒.๒ ชักชวน แนะนำให้ผูอ้ นื่ เห็นคณุ คา่ ของการใช้ภาษาไทยที่ถกู ต้อง เหมาะสม ๗.๓ อนรุ กั ษแ์ ละสืบทอดภมู ิ ๗.๓.๑ นำภมู ิปญั ญาไทยมาใชใ้ หเ้ หมาะสมในวิถชี ีวติ ปญั ญาไทย ๗.๓.๒ รว่ มกิจกรรมที่เกีย่ วข้องกับภมู ิปญั ญาไทย ๗.๓.๓ แนะนำ มสี ่วนร่วมในการสบื ทอดภูมปิ ัญญาไทย ข้อท่ี ๘ มจี ติ สาธารณะ นยิ าม มีจิตสาธารณะ หมายถึง คณุ ลกั ษณะที่แสดงออกถึงการมสี ่วนรว่ มในกิจกรรมหรอื สถานการณ์ท่ีก่อให้เกิด ประโยชนแ์ ก่ผอู้ นื่ ชุมชน และสังคม ดว้ ยความเต็มใจ กระตือรือร้น โดยไมห่ วงั ผลตอบแทน กล่มุ สาระการเรียนรู้ภาษาตา่ งประเทศ โรงเรียนชุมชนประชาธิปัตยว์ ทิ ยาคาร

๘ ผ้ทู ม่ี ีจติ สาธารณะ คอื ผู้ท่ีมีลักษณะเป็นผูใ้ ห้และช่วยเหลือผู้อนื่ แบง่ ปันความสขุ สว่ นตนเพื่อทำประโยชน์ แก่ส่วนรวม เข้าใจ เห็นใจผู้ท่ีมีความเดอื ดรอ้ น อาสาช่วยเหลือสังคม อนุรักษ์ส่ิงแวดล้อม ด้วยแรงกายสตปิ ัญญา ลง มอื ปฏบิ ตั เิ พอื่ แก้ปัญหา หรือร่วมสรา้ งสรรค์สงิ่ ที่ดงี ามใหเ้ กิดในชุมชน โดยไมห่ วังสิ่งตอบแทน ตวั ชว้ี ัด ๘.๑ ชว่ ยเหลอื ผอู้ ่นื ด้วยความเตม็ ใจโดยไมห่ วงั ผลตอบแทน ๘.๒ เข้าร่วมกจิ กรรมท่เี ป็นประโยชน์ต่อโรงเรียน ชุมชน และสังคม ตวั ช้วี ัดและพฤติกรรมบง่ ช้ี ตัวช้ีวัด พฤตกิ รรมบ่งช้ี ๘.๑ ชว่ ยเหลือผู้อ่นื ด้วยความเต็ม ๘.๑.๑ ชว่ ยพ่อแม่ ผปู้ กครอง และครูทำงานดว้ ยความเตม็ ใจ ใจโดยไมห่ วังผลตอบแทน ๘.๑.๒ อาสาทำงานใหผ้ ู้อน่ื ด้วยกำลงั กาย กำลังใจ และกำลังสติปัญญาด้วย ความสมัครใจ ๘.๑.๓ แบง่ ปนั สงิ่ ของ ทรพั ย์สิน และอ่นื ๆ และช่วยแกป้ ญั หาหรือสร้าง ความสุขให้กับผู้อื่น ๘.๒ เข้ารว่ มกจิ กรรมท่ีเปน็ ๘.๒.๑ ดแู ลรักษาสาธารณสมบัติและสง่ิ แวดล้อมดว้ ยความเต็มใจ ประโยชน์ตอ่ โรงเรียน ชมุ ชน และ ๘.๒.๒ เขา้ ร่วมกิจกรรมทเ่ี ปน็ ประโยชนต์ ่อโรงเรยี น ชมุ ชน และสงั คม สังคม ๘.๒.๓ เข้าร่วมกิจกรรมเพื่อแกป้ ัญหาหรือร่วมสร้างสิ่งท่ีดีงามของสว่ นรวม ตามสถานการณ์ ทเ่ี กิดขนึ้ ดว้ ยความกระตือรอื รน้ กลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาตา่ งประเทศ โรงเรยี นชุมชนประชาธปิ ตั ยว์ ิทยาคาร

๙ สาระและมาตรฐานการเรยี นรู้ สาระท่ี ๑ ภาษาเพื่อการส่ือสาร มาตรฐาน ต ๑.๑ เข้าใจและตีความเร่อื งท่ีฟงั และอา่ นจากสอื่ ประเภทตา่ งๆ และแสดงความคิดเห็นอย่างมีเหตุผล มาตรฐาน ต ๑.๒ มีทักษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลี่ยนขอ้ มลู ขา่ วสาร แสดงความรู้สกึ และความคิดเหน็ อย่างมีประสิทธภิ าพ มาตรฐาน ต ๑.๓ นำเสนอขอ้ มูลข่าวสาร ความคดิ รวบยอด และความคิดเหน็ ในเรือ่ งต่างๆ โดยการพูดและการ เขียน สาระที่ ๒ ภาษาและวัฒนธรรม มาตรฐาน ต ๒.๑ เขา้ ใจความสมั พนั ธ์ระหว่างภาษากบั วัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และนำไปใช้ ได้อยา่ งเหมาะสม กับกาลเทศะ มาตรฐาน ต ๒.๒ เข้าใจความเหมอื นและความแตกต่างระหวา่ งภาษาและวฒั นธรรมของเจ้าของภาษา กบั ภาษาและวัฒนธรรมไทย และนำมาใช้อยา่ งถูกต้องและเหมาะสม สาระที่ ๓ ภาษากบั ความสัมพนั ธก์ บั กล่มุ สาระการเรียนรู้อน่ื มาตรฐาน ต ๓.๑ ใชภ้ าษาตา่ งประเทศในการเช่ือมโยงความรู้กบั กล่มุ สาระการเรียนร้อู ืน่ และเปน็ พืน้ ฐานในการ พัฒนา แสวงหาความรู้ และเปดิ โลกทศั น์ของตน สาระที่ ๔ ภาษากับความสัมพนั ธ์กับชมุ ชนและโลก มาตรฐาน ต ๔.๑ ใช้ภาษาตา่ งประเทศในสถานการณ์ต่างๆ ทัง้ ในสถานศึกษา ชมุ ชน และสังคม มาตรฐาน ต ๔.๒ ใช้ภาษาตา่ งประเทศเป็นเครอื่ งมอื พืน้ ฐานในการศึกษาตอ่ การประกอบอาชีพ และการ แลกเปล่ยี นเรยี นรกู้ บั สังคมโลก คณุ ภาพผเู้ รียน ➢ จบชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี ๓ • ปฏบิ ัตติ ามคำสั่ง คำขอรอ้ งท่ีฟัง อา่ นออกเสียงตวั อกั ษร คำ กลุ่มคำ ประโยคง่าย ๆ และบทพูดเข้าจงั หวะ งา่ ยๆ ถกู ต้องตามหลักการอ่าน บอกความหมายของคำและกลุ่มคำท่ีฟังตรงตามความหมาย ตอบคำถามจากการฟัง หรืออ่านประโยค บทสนทนาหรือนทิ านง่าย ๆ • พดู โตต้ อบด้วยคำสั้น ๆ ง่าย ๆ ในการสื่อสารระหว่างบุคคลตามแบบทฟ่ี ัง ใช้คำส่ังและคำขอร้องง่ายๆ บอกความต้องการงา่ ยๆ ของตนเอง พูดขอและให้ข้อมลู เกี่ยวกับตนเองและเพ่ือน บอกความรู้สกึ ของตนเองเกีย่ วกับ สิ่งตา่ ง ๆ ใกลต้ ัวหรอื กจิ กรรมต่างๆ ตามแบบท่ีฟงั • พดู ใหข้ ้อมูลเกี่ยวกับตนเองและเรอื่ งใกลต้ ัว จัดหมวดหมู่คำตามประเภทของบุคคล สัตว์ และสงิ่ ของตามที่ฟัง หรืออ่าน • พูดและทำท่าประกอบ ตามมารยาทสังคม/วัฒนธรรมของเจ้าของภาษา บอกชื่อและคำศัพท์ง่ายๆ เก่ียวกับเทศกาล/วันสำคัญ/งานฉลอง และชีวิตความเป็นอยู่ของเจ้าของภาษา เข้าร่วมกิจกรรมทางภาษาและ วัฒนธรรมท่ีเหมาะกับวยั • บอกความแตกต่างของเสยี งตัวอักษร คำ กลุ่มคำ และประโยคง่ายๆ ของภาษาตา่ งประเทศและภาษาไทย กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาตา่ งประเทศ โรงเรียนชุมชนประชาธปิ ัตยว์ ทิ ยาคาร

๑๐ • บอกคำศัพทท์ เ่ี ก่ยี วขอ้ งกบั กลุ่มสาระการเรยี นร้อู ่ืน • ฟงั /พูดในสถานการณ์งา่ ย ๆ ท่เี กิดขน้ึ ในหอ้ งเรยี น • ใช้ภาษาต่างประเทศ เพือ่ รวบรวมคำศัพท์ทเี่ กีย่ วข้องใกลต้ ัว • มีทักษะการใช้ภาษาต่างประเทศ (เน้นการฟัง-พูด) ส่ือสารตามหัวเร่ืองเกี่ยวกับตนเอง ครอบครัว โรงเรียน ส่ิงแวดล้อมใกล้ตวั อาหาร เครื่องดื่ม และเวลาว่างและนันทนาการ ภายในวงคำศัพทป์ ระมาณ ๓๐๐-๔๕๐ คำ (คำศพั ท์ที่เปน็ รปู ธรรม) • ใช้ประโยคคำเดียว (One Word Sentence) ประโยคเด่ียว (Simple Sentence) ในการสนทนาโต้ตอบ ตามสถานการณ์ในชวี ิตประจำวนั ➢ จบชัน้ ประถมศึกษาปีที่ ๖ • ปฏิบัติตามคำสงั่ คำขอร้อง และคำแนะนำที่ฟังและอ่าน อา่ นออกเสียงประโยค ข้อความ นิทาน และบท กลอนส้ัน ๆ ถูกต้องตามหลักการอ่าน เลือก/ระบุประโยคและข้อความตรงตามความหมายของสัญลักษณ์หรือ เคร่ืองหมายที่อ่าน บอกใจความสำคญั และตอบคำถามจากการฟังและอ่าน บทสนทนา นทิ านง่าย ๆ และเรอ่ื งเลา่ • พูด/เขียนโต้ตอบในการส่ือสารระหว่างบุคคล ใช้คำสั่ง คำขอร้อง และให้คำแนะนำ พูด/เขียนแสดง ความตอ้ งการ ขอความช่วยเหลอื ตอบรับและปฏิเสธการให้ความช่วยเหลือในสถานการณ์ง่าย ๆ พดู และเขียนเพื่อ ขอและให้ขอ้ มลู เกี่ยวกับตนเอง เพื่อน ครอบครัว และเร่ืองใกล้ตวั พดู /เขียนแสดงความรสู้ ึกเกยี่ วกับเรอื่ งต่าง ๆ ใกล้ ตัว กิจกรรมตา่ ง ๆ พรอ้ มท้ังใหเ้ หตผุ ลส้นั ๆ ประกอบ • พดู /เขียนให้ข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง เพ่ือน และสิ่งแวดลอ้ มใกลต้ ัว เขียนภาพ แผนผัง แผนภูมิ และตาราง แสดงข้อมูลตา่ ง ๆ ทฟี่ งั และอ่าน พดู /เขยี นแสดงความคดิ เหน็ เกย่ี วกบั เรอื่ งตา่ งๆ ใกล้ตัว • ใช้ถ้อยคำ น้ำเสยี ง และกริ ยิ าท่าทางอย่างสภุ าพ เหมาะสม ตามมารยาทสังคมและวฒั นธรรมของเจ้าของ ภาษา ใหข้ อ้ มูลเก่ียวกับเทศกาล/วันสำคญั /งานฉลอง/ชวี ติ ความเป็นอยขู่ องเจ้าของภาษา เข้าร่วมกจิ กรรมทางภาษา และวัฒนธรรมตามความสนใจ • บอกความเหมือน/ความแตกต่างระหว่างการออกเสยี งประโยคชนิดตา่ ง ๆ การใช้เครื่องหมายวรรคตอน และการลำดับคำ ตามโครงสร้างประโยคของภาษาต่างประเทศและภาษาไทย เปรียบเทียบความเหมือน/ความ แตกตา่ งระหวา่ งเทศกาล งานฉลองและประเพณีของเจ้าของภาษากบั ของไทย • คน้ คว้า รวบรวมคำศัพทท์ ี่เก่ยี วขอ้ งกับกล่มุ สาระการเรยี นรู้อน่ื จากแหล่งการเรยี นรู้ และนำเสนอดว้ ยการพดู / การเขยี น • ใช้ภาษาสือ่ สารในสถานการณ์ต่าง ๆ ทีเ่ กดิ ข้ึนในหอ้ งเรยี นและสถานศกึ ษา • ใชภ้ าษาตา่ งประเทศในการสืบคน้ และรวบรวมข้อมูลตา่ ง ๆ • มีทักษะการใช้ภาษาต่างประเทศ (เน้นการฟัง-พูด-อ่าน-เขียน) ส่ือสารตามหัวเร่ืองเกี่ยวกับตนเอง ครอบครัว โรงเรียน ส่ิงแวดล้อม อาหาร เคร่ืองด่ืม เวลาว่างและนนั ทนาการ สขุ ภาพและสวสั ดกิ าร การซ้ือ-ขาย และลม ฟา้ อากาศ ภายในวงคำศัพทป์ ระมาณ ๑,๐๕๐-๑,๒๐๐ คำ (คำศัพทท์ เี่ ปน็ รปู ธรรมและนามธรรม) • ใชป้ ระโยคเดยี่ วและประโยคผสม (Compound Sentences) สอื่ ความหมายตามบริบทต่าง ๆ กลุม่ สาระการเรียนรู้ภาษาตา่ งประเทศ โรงเรยี นชุมชนประชาธิปัตย์วทิ ยาคาร

๑๑ ➢ จบช้ันมธั ยมศึกษาปที ี่ ๓ • ปฏิบัติตามคำขอร้อง คำแนะนำ คำช้ีแจง และคำอธิบายท่ีฟังและอ่าน อ่านออกเสียงข้อความ ข่าว โฆษณา นิทาน และบทร้อยกรองส้ัน ๆ ถูกต้องตามหลักการอ่าน ระบุ/เขียนสื่อท่ีไม่ใช่ความเรียงรูปแบบต่าง ๆ สัมพันธ์กับประโยคและข้อความที่ฟังหรืออ่าน เลือก/ระบุหัวข้อเร่ือง ใจความสำคัญ รายละเอียดสนับสนุน และ แสดงความคดิ เหน็ เกยี่ วกับเรื่องที่ฟงั และอา่ นจากสื่อประเภทตา่ ง ๆ พร้อมทัง้ ให้เหตุผลและยกตัวอยา่ งประกอบ • สนทนาและเขียนโต้ตอบข้อมูลเก่ียวกับตนเองและเรื่องต่าง ๆ ใกล้ตัว สถานการณ์ ข่าว เร่ืองท่ีอยู่ในความสนใจของสังคมและสื่อสารอย่างต่อเนื่องและเหมาะสม ใช้คำขอร้อง คำชี้แจง และคำอธิบาย ให้ คำแนะนำอยา่ งเหมาะสม พูดและเขียนแสดงความตอ้ งการ เสนอและใหค้ วามชว่ ยเหลือ ตอบรับและปฏเิ สธการให้ ความช่วยเหลือ พูดและเขียนเพื่อขอและให้ข้อมูล บรรยาย อธบิ าย เปรียบเทียบ และแสดงความคิดเห็นเก่ียวกับ เร่ืองท่ีฟังหรืออ่านอย่างเหมาะสม พูดและเขียนบรรยายความรู้สกึ และความคิดเห็นของตนเองเกี่ยวกับเรื่องต่าง ๆ กิจกรรม ประสบการณ์ และข่าว/เหตุการณ์ พรอ้ มทง้ั ให้เหตุผลประกอบอย่างเหมาะสม • พดู และเขียนบรรยายเก่ยี วกบั ตนเอง ประสบการณ์ ข่าว/เหตุการณ์/เรอื่ ง/ประเดน็ ต่าง ๆ ท่ีอยู่ในความ สนใจของสังคม พูดและเขยี นสรุปใจความสำคัญ/แกน่ สาระ หัวข้อเรื่องทไี่ ด้จากการวิเคราะห์เร่ือง/ข่าว/เหตุการณ์/ สถานการณ์ท่ีอยู่ในความสนใจ พูดและเขียนแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับกิจกรรม ประสบการณ์ และเหตุการณ์ พรอ้ มใหเ้ หตุผลประกอบ • เลือกใช้ภาษา น้ำเสียง และกิริยาท่าทางเหมาะกับบุคคลและโอกาส ตามมารยาทสังคม และวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา อธิบายเกี่ยวกับชีวิตความเป็นอยู่ ขนบธรรมเนียมและประเพณีของเจ้าของภาษา เขา้ รว่ ม/จดั กจิ กรรมทางภาษาและวฒั นธรรมตามความสนใจ • เปรียบเทียบ และอธบิ ายความเหมือนและความแตกต่างระหว่างการออกเสียงประโยคชนิดต่าง ๆ และ การลำดับคำตามโครงสร้างประโยคของภาษาต่างประเทศและภาษาไทย เปรียบเทยี บและ อธบิ ายความเหมือนและ ความแตกต่างระหว่างชีวิตความเปน็ อยู่และวัฒนธรรมของเจ้าของภาษากับของไทย และนำไปใช้อยา่ งเหมาะสม • ค้นคว้า รวบรวม และสรุปข้อมูล/ข้อเท็จจริงที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่นจากแหล่งการเรียนรู้ และนำเสนอด้วยการพูดและการเขียน • ใช้ภาษาสอื่ สารในสถานการณจ์ ริง/สถานการณ์จำลองท่เี กิดขึ้นในห้องเรียน สถานศกึ ษา ชมุ ชน และสังคม • ใช้ภาษาต่างประเทศในการสืบค้น/ค้นคว้า รวบรวม และสรุปความรู้/ข้อมูลตา่ ง ๆ จากสื่อและแหลง่ การ เรียนรูต้ ่างๆ ในการศึกษาต่อและประกอบอาชีพ เผยแพร่/ประชาสัมพันธ์ข้อมูล ข่าวสารของโรงเรียน ชุมชน และ ทอ้ งถน่ิ เปน็ ภาษาตา่ งประเทศ • มีทักษะการใช้ภาษาต่างประเทศ (เน้นการฟัง-พูด-อ่าน-เขียน) ส่ือสารตามหัวเร่ืองเก่ียวกับตนเอง ครอบครัว โรงเรียน สิ่งแวดล้อม อาหาร เคร่อื งดม่ื เวลาว่างและนนั ทนาการ สุขภาพและสวัสดิการ การซ้ือ-ขาย ลม ฟ้าอากาศ การศึกษาและอาชีพ การเดินทางท่องเที่ยว การบริการ สถานท่ี ภาษา และวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ภายในวงคำศพั ทป์ ระมาณ ๒,๑๐๐-๒,๒๕๐ คำ (คำศัพทท์ ี่เป็นนามธรรมมากขึ้น) • ใช้ประโยคผสมและประโยคซับซ้อน (Complex Sentences) ส่ือความหมายตามบริบทต่างๆ ในการสนทนาทั้งที่เปน็ ทางการและไม่เป็นทางการ กลุม่ สาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ โรงเรยี นชุมชนประชาธิปตั ย์วทิ ยาคาร

๑๒ ➢ จบช้นั มธั ยมศึกษาปีท่ี ๖ • ปฏิบัติตามคำแนะนำในคู่มือการใช้งานต่าง ๆ คำช้ีแจง คำอธิบาย และคำบรรยายที่ฟังและอ่าน อ่าน ออกเสยี งขอ้ ความ ข่าว ประกาศ โฆษณา บทร้อยกรอง และบทละครส้ันถูกต้องตามหลักการอ่าน อธิบายและเขยี น ประโยคและข้อความสมั พันธ์กบั ส่ือทไี่ ม่ใช่ความเรียงรปู แบบต่าง ๆ ทอ่ี ่าน รวมท้ังระบแุ ละเขียนสื่อทไี่ มใ่ ช่ความเรียง รปู แบบต่างๆ สัมพันธ์กับประโยคและข้อความท่ีฟังหรืออ่าน จับใจความสำคัญ วิเคราะห์ความ สรุปความ ตีความ และแสดงความคิดเห็นจากการฟังและอ่านเร่ืองท่ีเป็นสารคดีและบันเทิงคดี พร้อมทั้งให้เหตุผลและยกตัวอย่าง ประกอบ • สนทนาและเขียนโตต้ อบข้อมลู เก่ียวกับตนเองและเรื่องต่าง ๆ ใกล้ตวั ประสบการณ์ สถานการณ์ ข่าว/ เหตุการณ์ ประเด็นที่อยู่ในความสนใจและสื่อสารอย่างต่อเนื่องและเหมาะสม เลือกและใช้คำขอร้อง คำช้ีแจง คำอธิบาย และให้คำแนะนำ พูดและเขียนแสดงความต้องการ เสนอและให้ความช่วยเหลอื ตอบรับและปฏิเสธการ ให้ความช่วยเหลือในสถานการณ์จำลองหรือสถานการณ์จริงอย่างเหมาะสม พูดและเขียนเพื่อขอและให้ข้อมูล บรรยาย อธิบาย เปรียบเทียบ และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเร่ือง/ประเด็น/ข่าว/เหตุการณ์ที่ฟังและอ่านอย่าง เหมาะสม พูดและเขียนบรรยายความรู้สึกและแสดงความคิดเห็นของตนเองเกี่ยวกับเรื่องต่าง ๆ กิจกรรม ประสบการณ์ และขา่ ว/เหตกุ ารณอ์ ย่างมเี หตุผล • พูดและเขียนนำเสนอข้อมลู เกี่ยวกับตนเอง/ประสบการณ์ ข่าว/เหตุการณ์ เรือ่ งและประเด็นต่างๆ ตาม ความสนใจ พูดและเขียนสรุปใจความสำคัญ แก่นสาระที่ได้จากการวิเคราะห์เร่ือง กิจกรรม ข่าว เหตุการณ์ และ สถานการณ์ตามความสนใจ พูดและเขียนแสดงความคิดเห็นเก่ียวกับกิจกรรม ประสบการณ์ และเหตุการณ์ ท้ังใน ทอ้ งถนิ่ สังคม และโลก พรอ้ มท้งั ให้เหตผุ ลและยกตวั อยา่ งประกอบ • เลือกใช้ภาษา น้ำเสียง และกิริยาท่าทางเหมาะกับระดับของบุคคล เวลา โอกาสและสถานท่ีตาม มารยาทสังคมและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา อธิบาย/อภิปรายวิถีชีวิต ความคิด ความเชื่อ และที่มาของ ขนบธรรมเนียมและประเพณีของเจ้าของภาษา เข้าร่วม แนะนำ และจัดกิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรมอย่าง เหมาะสม • อธิบาย/เปรียบเทยี บความแตกต่างระหว่างโครงสร้างประโยค ข้อความ สำนวน คำพังเพย สภุ าษิต และบท กลอนของภาษาต่างประเทศและภาษาไทย วิเคราะห/์ อภิปรายความเหมือนและความแตกต่างระหวา่ งวถิ ชี วี ิต ความเช่ือ และวฒั นธรรมของเจ้าของภาษากับของไทย และนำไปใช้อย่างมีเหตุผล • คน้ คว้า/สบื คน้ บันทึก สรุป และแสดงความคิดเห็นเกย่ี วกบั ข้อมูลท่ีเก่ยี วข้องกบั กลุ่มสาระการเรยี นร้อู ่ืน จากแหล่งเรยี นรตู้ ่าง ๆ และนำเสนอด้วยการพดู และการเขียน • ใช้ภาษาสื่อสารในสถานการณ์จริง/สถานการณ์จำลองที่เกิดขึ้นในห้องเรียน สถานศึกษา ชุมชน และ สังคม ใช้ภาษาต่างประเทศในการสบื ค้น/คน้ คว้า รวบรวม วเิ คราะห์ และสรปุ ความรู้/ข้อมูลต่างๆ จากสือ่ และแหล่ง การเรยี นรตู้ ่าง ๆ ในการศึกษาต่อและประกอบอาชพี เผยแพร/่ ประชาสัมพันธ์ ข้อมูล ข่าวสาร ของโรงเรยี น ชุมชน และทอ้ งถ่นิ /ประเทศชาติ เปน็ ภาษาต่างประเทศ • มีทักษะการใช้ภาษาต่างประเทศ (เน้นการฟัง-พูด-อ่าน-เขียน) ส่ือสารตามหัวเรื่องเกี่ยวกับตนเอง ครอบครัว โรงเรียน ส่ิงแวดล้อม อาหาร เครื่องด่ืม ความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล เวลาว่างและนันทนาการ สุขภาพ และสวัสดิการ การซื้อ-ขาย ลมฟ้าอากาศ การศึกษาและอาชีพ การเดินทางท่องเท่ียว การบริการ สถานที่ ภาษา กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาตา่ งประเทศ โรงเรยี นชมุ ชนประชาธิปตั ย์วทิ ยาคาร

๑๓ และวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ภายในวงคำศัพท์ประมาณ ๓,๖๐๐ - ๓,๗๕๐ คำ (คำศัพท์ที่มีระดบั การใช้แตกตา่ ง กนั ) • ใช้ประโยคผสมและประโยคซับซ้อนส่ือความหมายตามบริบทต่าง ๆ ในการสนทนา ท้ังที่เป็นทางการ และไมเ่ ป็นทางการ ตัวช้วี ดั ตัวช้ีวัดระบุสิ่งท่ีนักเรยี นพึงรู้และปฏิบัติได้ รวมทั้งคุณลักษณะของผู้เรียนในแต่ละระดับชั้น ซึ่งสะท้อนถึง มาตรฐานการเรยี นรู้ มีความเฉพาะเจาะจงและมีความเป็นรูปธรรม นำไปใช้ ในการกำหนดเนื้อหา จัดทำหน่วยการ เรียนรู้ จดั การเรยี นการสอน และเปน็ เกณฑส์ ำคญั สำหรับการวดั ประเมินผลเพอ่ื ตรวจสอบคณุ ภาพผเู้ รยี น ๑. ตัวชี้วัดชั้นปี เป็นเป้าหมายในการพัฒ นาผู้เรียนแต่ละชั้นปีในระดับการศึกษาภาคบังคับ (ประถมศึกษาปที ่ี ๑ – มธั ยมศึกษาปที ่ี ๓) ๒. ตวั ชีว้ ดั ชว่ งชั้น เปน็ เป้าหมายในการพัฒนาผู้เรียนในระดบั มัธยมศกึ ษาตอนปลาย(มัธยมศกึ ษาปีที่ ๔- ๖) หลกั สตู รไดม้ กี ารกำหนดรหสั กำกับมาตรฐานการเรียนรูแ้ ละตวั ช้วี ัด เพื่อความเข้าใจและใหส้ อ่ื สารตรงกนั ดังนี้ ต ๑.๑ ป. ๑/๒ ป.๑/๒ ตัวชี้วัดชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี ๑ ข้อที่ ๒ ๑.๑ สาระที่ ๑ มาตรฐานข้อที่ ๑ ต กล่มุ สาระการเรยี นรู้ภาษาต่างประเทศ ต ๒.๒ ม.๔-๖/ ๓ ตัวช้วี ัดช้ันมัธยมศึกษาตอนปลาย ข้อที่ ๓ ม.๔-๖/๓ สาระท่ี ๒ มาตรฐานขอ้ ท่ี ๒ ๒.๓ กลุ่มสาระการเรียนรูภ้ าษาต่างประเทศ ต กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาตา่ งประเทศ โรงเรยี นชมุ ชนประชาธิปตั ย์วิทยาคาร

สาระท่ี ๑ ภาษาเพื่อการสอ่ื สาร มาตรฐาน ต ๑.๑ เข้าใจและตีความเรอ่ื งทฟี่ งั และอา่ นจากส่ือประเภทตา่ งๆ และแ ตวั ชว้ี ัดชัน้ ปี ป.๑ ป.๒ ป.๓ ป.๔ ป.๕ ๑. ปฏบิ ัตติ าม ๑. ปฏิบัติตาม ๑. ปฏบิ ตั ติ าม ๑. ปฏบิ ตั ติ าม ๑. ปฏิบัตติ าม คำสง่ั งา่ ยๆ ท่ี คำสั่ง และ คำสง่ั และ คำส่ัง คำ คำสงั่ คำ ฟงั คำขอร้องง่ายๆ คำขอรอ้ งท่ฟี ัง ขอรอ้ ง และ ขอรอ้ ง และ ๒. ระบุ ท่ีฟัง หรืออา่ น คำแนะนำ คำแนะนำงา่ ยๆ ตวั อกั ษรและ ๒.ระบตุ ัวอกั ษร ๒. อา่ นออก (instructions) ท่ีฟงั และอ่าน เสยี ง อ่านออก และเสียง เสยี ง งา่ ยๆ ท่ีฟังหรอื ๒. อา่ นออก เสียงและสะกด อ่านออกเสยี ง คำ สะกดคำ อา่ น เสียงประโยค คำง่ายๆ คำ สะกดคำ อา่ นกลุ่มคำ ๒. อา่ นออก ข้อความ และ ถกู ต้องตาม และอา่ น ประโยค และ เสียงคำ สะกด บทกลอน หลกั การอา่ น ประโยคงา่ ยๆ บทพดู เข้า คำ อ่าน สน้ั ๆ ถกู ต้อง ๓. เลือกภาพ ถกู ตอ้ งตาม จงั หวะ (chant) กลุ่มคำประโยค ตาม หลกั การ ตรงตาม หลักการอา่ น งา่ ยๆ ถกู ต้อง ขอ้ ความง่ายๆ อา่ น ความหมาย ๓. เลอื กภาพ ตาม หลักการ และบทพดู ๓.ระบุ/วาด ของคำ และ ตรงตาม อา่ น เขา้ จงั หวะ ภาพสัญลกั ษณ์ กล่มุ คำ ความหมาย ๓. เลอื ก/ระบุ ถูกต้องตาม หรอื ทฟ่ี งั ของคำ ภาพ หรอื หลักการอา่ น เคร่ืองหมาย ๔. ตอบคำถาม กลุม่ คำ และ สัญลกั ษณ์ ๓. เลือก/ระบุ ตรงตาม จากการฟงั ประโยคทีฟ่ ัง ตรงตาม ภาพ หรือ ความหมาย เรอ่ื งใกลต้ ัว ๔. ตอบคำถาม ความหมาย สญั ลักษณ์ หรือ ของประโยค จากการฟัง ของ เคร่อื งหมาย และข้อความ ประโยค กลุ่มคำและ ตรงตาม ส้นั ๆ บทสนทนา ประโยคทฟ่ี งั ทีฟ่ งั หรืออา่ น

๑๐ แสดงความคิดเห็นอยา่ งมีเหตผุ ล ตวั ชี้วัดช่วงชนั้ ป.๖ ม.๑ ม.๒ ม.๓ ม.๔-๖ ๑. ปฏิบตั ิตาม ๑. ปฏิบัตติ าม ๑. ปฏบิ ัตติ าม ๑. ปฏิบตั ิตาม ๑. ปฏบิ ัตติ ามคำแนะนำ คำสงั่ คำ คำสัง่ คำ คำขอรอ้ ง คำขอร้อง ในคูม่ อื การใชง้ านตา่ งๆ ขอร้อง และ ขอรอ้ ง คำแนะนำ คำแนะนำ คำช้ีแจง คำอธบิ าย และ คำแนะนำ ท่ีฟงั คำแนะนำ และ คำช้แี จง และ คำช้ีแจง และ คำบรรยายท่ฟี งั และอา่ น และอา่ น คำชีแ้ จงง่ายๆ คำอธบิ ายงา่ ยๆ คำอธบิ ายที่ฟงั ๒. อา่ นออกเสียง ๒. อา่ นออก ทฟ่ี ังและอ่าน ทีฟ่ งั และอ่าน และอา่ น ข้อความ ข่าว ประกาศ เสยี งข้อความ ๒. อา่ นออก ๒. อ่านออก ๒. อา่ นออก โฆษณา นทิ านและ เสียงข้อความ เสียงข้อความ เสยี ง ขอ้ ความ บทรอ้ ยกรอง และ บทกลอนส้นั ๆ นิทาน และ ขา่ ว ประกาศ ขา่ ว โฆษณา บทละครส้นั (skit) ถูกต้องตาม บทร้อยกรอง และบทรอ้ ย- และบทรอ้ ย- ถูกต้องตามหลกั การอ่าน หลกั การอา่ น (poem) สน้ั ๆ กรองส้ันๆ กรองสัน้ ๆ ๓. อธิบายและเขยี น ๓. เลือก/ระบุ ถูกตอ้ งตาม ถกู ตอ้ งตาม ถูกตอ้ งตาม ประโยคและข้อความให้ ประโยคหรือ หลักการอ่าน หลักการอ่าน หลกั การอ่าน สมั พนั ธก์ ับสอ่ื ทไ่ี มใ่ ช่ ข้อความสนั้ ๆ ๓. เลอื ก/ระบุ ๓. ระบ/ุ เขียน ๓. ระบแุ ละ ความเรยี งรปู แบบต่างๆ ตรงตามภาพ ประโยคและ ประโยค และ เขยี นสอื่ ที่ ที่อ่าน รวมท้งั ระบุและ สัญลักษณ์หรือ ข้อความ ให้ ขอ้ ความ ให้ ไม่ใช่ความเรียง เขียนส่ือที่ไมใ่ ช่ความเรียง เครอื่ งหมาย สัมพนั ธก์ ับ สัมพันธก์ ับสือ่ ที่ รปู แบบตา่ งๆ ให้ รูปแบบต่างๆ ให้สัมพันธ์ ทอ่ี า่ น สือ่ ทไ่ี มใ่ ช่ ไม่ใช่ความเรียง สัมพันธ์กับ กับประโยค และข้อความ ๔. บอก ความเรยี ง รปู แบบตา่ งๆ ประโยค และ ทฟี่ งั หรืออา่ น ใจความสำคัญ (non-text ท่ีอา่ น ขอ้ ความทฟี่ ัง ๔. จบั ใจความสำคัญ information) หรอื อา่ น วิเคราะห์ความ สรุป ที่อ่าน ความ

ตวั ชว้ี ัดช้นั ปี ป.๑ ป.๒ ป.๓ ป.๔ ป.๕ หรอื นิทาน ๔. ตอบ ความหมาย ๔. บอก ง่ายๆ ท่มี ี คำถามจาก ของ ประโยค ใจความสำคญั ภาพประกอบ การฟงั หรอื และ ข้อความ และตอบ อา่ นประโยค สั้นๆ คำถาม จาก บทสนทนา ท่ีฟงั หรืออา่ น การฟงั และ หรอื นิทาน ๔. ตอบ อา่ นบท ง่ายๆ คำถาม สนทนา และ จากการฟัง นิทานง่ายๆ และอ่าน หรือเรื่องสัน้ ๆ ประโยค บทสนทนา และนทิ าน ง่ายๆ

๑๑ ตัวชีว้ ัดชว่ งช้นั ป.๖ ม.๑ ม.๒ ม.๓ ม.๔-๖ และตอบ ๔. ระบุหวั ข้อ ๔. เลือกหัวขอ้ ๔. เลอื ก/ระบุ ตคี วาม และแสดงความ คำถามจาก การฟังและ เร่อื ง (topic) เรอื่ ง ใจความ หัวขอ้ เร่อื ง คดิ เห็นจากการฟงั และ อ่าน บท สนทนา ใจความสำคญั สำคัญบอก ใจความ อ่านเรือ่ งทเ่ี ปน็ สารคดี นทิ านง่ายๆ และเร่ืองเล่า (main idea) รายละเอยี ด สำคญั และบนั เทิงคดี พรอ้ ม และ สนบั สนุน รายละเอียด ทงั้ ให้เหตุผลและ ตอบคำถาม (supporting สนับสนุน ยกตวั อย่าง ประกอบ จากการฟงั detail) และ และแสดง และอา่ นบท แสดง ความคดิ เหน็ สนทนา ความคิดเหน็ เกยี่ วกับเรอ่ื ง นทิ าน และ เกย่ี วกบั เร่ืองที่ ท่ีฟังและอา่ น เร่ืองสัน้ ฟังและอ่าน จากส่ือ พร้อมทัง้ ประเภทตา่ งๆ ให้เหตุผลและ พรอ้ มท้งั ยกตัวอยา่ ง ใหเ้ หตุผลและ งา่ ยๆ ยกตวั อยา่ ง ประกอบ ประกอบ กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาตา่ งประเทศ โรงเรยี นชมุ ชนประชาธปิ ตั ยว์ ทิ ยาคาร

สาระท่ี ๑ ภาษาเพ่ือการสอื่ สาร มาตรฐาน ต ๑.๒ มีทกั ษะการสอื่ สารทางภาษาในการแลกเปลีย่ นข้อมลู ข่าวสาร ตัวชี้วัดชนั้ ปี ป.๑ ป.๒ ป.๓ ป.๔ ป.๕ ๑. พูดโต้ตอบ ๑. พูดโตต้ อบ ๑. พูดโตต้ อบ ๑. พูด/เขียน ๑. พูด/เขยี น ดว้ ยคำส้ันๆ ดว้ ยคำสนั้ ๆ ด้วยคำสนั้ ๆ โตต้ อบในการ โต้ตอบในการ งา่ ยๆ ในการ งา่ ยๆ ในการ ง่ายๆ ในการ สื่อสารระหว่าง ส่อื สารระหวา่ ง สอ่ื สารระหว่าง ส่อื สารระหวา่ ง สื่อสารระหว่าง บคุ คล บคุ คล บคุ คลตามแบบ บุคคลตามแบบ บุคคลตามแบบ ๒. ใช้คำส่ัง ๒. ใชค้ ำส่งั ทฟ่ี งั ท่ฟี งั ที่ฟงั คำขอร้อง และ คำขอร้อง ๒. ใชค้ ำสงั่ งา่ ยๆ ๒.ใชค้ ำส่ังและ ๒. ใช้คำสั่งและ คำขออนญุ าต คำขออนุญาต ตามแบบ คำขอร้องงา่ ยๆ คำขอร้องง่ายๆ งา่ ยๆ และให้ ทฟี่ งั ตามแบบทฟ่ี ัง ตามแบบทฟ่ี ัง ๓. พูด/เขยี น คำแนะนำง่ายๆ ๓. บอกความ ๓. บอกความ ๓. บอกความ แสดงความ ๓. พูด/เขียน ตอ้ งการง่ายๆ ต้องการง่ายๆ ต้องการง่ายๆ ต้องการของ แสดงความ ของตนเอง ของตนเอง ของตนเอง ตนเอง และขอ ตอ้ งการ ขอ ตามแบบทฟ่ี งั ตามแบบท่ีฟงั ตามแบบทฟ่ี งั ความชว่ ยเหลือ ความช่วยเหลอื ๔. พูดขอและให้ ๔. พูดขอและให้ ๔. พูดขอและให้ ในสถานการณ์ ตอบรับและ ข้อมลู ง่ายๆ ขอ้ มูลงา่ ยๆ ข้อมูลงา่ ยๆ ง่ายๆ ปฏิเสธการให้ เกย่ี วกบั ตนเอง เกยี่ วกบั ตนเอง เก่ียวกบั ตนเอง ๔. พูด/เขียนเพ่อื ความชว่ ยเหลือ ตามแบบทฟ่ี งั ตามแบบทฟ่ี งั และเพื่อน ขอและให้ข้อมูล ในสถานการณ์ ตามแบบทฟี่ งั เก่ยี วกับตนเอง งา่ ยๆ ๕. บอกความ เพ่อื นและ ๔. พูด/เขยี นเพือ่ รสู้ ึกของตนเอง ครอบครวั ขอและใหข้ อ้ มลู

๑๒ แสดงความรูส้ ึกและความคิดเหน็ อยา่ งมีประสทิ ธิภาพ ตัวชีว้ ัดช่วงชนั้ ป.๖ ม.๑ ม.๒ ม.๓ ม.๔-๖ ๑. พูด/เขยี น ๑. สนทนา ๑. สนทนา ๑. สนทนาและเขียน ๑. สนทนาและเขียน โต้ตอบในการ แลกเปล่ยี น แลกเปล่ยี น โต้ตอบขอ้ มลู โต้ตอบขอ้ มูลเกีย่ วกบั สื่อสารระหวา่ ง ข้อมูลเก่ียวกับ ข้อมลู เก่ียวกบั เกย่ี วกบั ตนเอง ตนเองและเรื่องต่างๆ บคุ คล ตนเอง ตนเอง เรอ่ื งตา่ งๆ เรอ่ื งตา่ งๆ ใกล้ตัว ใกล้ตัว ประสบการณ์ ๒. ใช้คำสง่ั กจิ กรรม และ ใกล้ตวั และ สถานการณ์ ขา่ ว สถานการณ์ ขา่ ว/ คำขอร้อง และ สถานการณ์ สถานการณ์ต่างๆ เรื่องท่อี ย่ใู นความ เหตุการณ์ ประเดน็ ให้คำแนะนำ ตา่ งๆ ใน ในชวี ิตประจำวนั สนใจของสังคม และ ทีอ่ ยใู่ นความสนใจ ๓. พูด/เขียน ชวี ิตประจำวัน อยา่ งเหมาะสม ส่ือสารอย่างตอ่ เนื่อง ของสังคม และ แสดงความ ๒. ใชค้ ำขอร้อง ๒. ใชค้ ำขอร้อง และเหมาะสม สอ่ื สารอยา่ งต่อเนอื่ ง ต้องการ ขอ ใหค้ ำแนะนำ ให้คำแนะนำ ๒. ใชค้ ำขอร้อง ให้ และเหมาะสม ความชว่ ยเหลอื และคำช้ีแจง คำชี้แจงและ คำแนะนำ คำช้แี จง ๒. เลอื กและใช้ ตอบรับและ ตามสถานการณ์ คำอธบิ าย และคำอธิบาย คำขอรอ้ ง ให้ ปฏิเสธการให้ ๓. พูดและ ตามสถานการณ์ อยา่ งเหมาะสม คำแนะนำ คำช้แี จง ความชว่ ยเหลอื เขียนแสดง ๓. พูดและเขียน ๓. พูดและเขียน คำอธบิ ายอยา่ ง ในสถานการณ์ ความต้องการ แสดงความ แสดงความตอ้ งการ คลอ่ งแคล่ว งา่ ยๆ ขอความ ตอ้ งการ เสนอ เสนอและใหค้ วาม ๓. พูดและเขียน ๔. พูดและเขียน ช่วยเหลือ และใหค้ วาม ชว่ ยเหลือตอบรบั และ แสดงความต้องการ เพอื่ ขอและให้ ตอบรับและ ชว่ ยเหลือ ตอบรบั ปฏิเสธการให้ความ เสนอ ตอบรบั และ ข้อมลู เกีย่ วกับ ปฏเิ สธการให้ และปฏเิ สธการให้ ชว่ ยเหลือใน ปฏิเสธการใหค้ วาม ตนเอง เพ่ือน ความช่วยเหลือ สถานการณ์ตา่ งๆ ช่วยเหลอื ใน สถานการณ์จำลอง กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาตา่ งประเทศ โรงเรียนชมุ ชนประชาธปิ ัตยว์ ิทยาคาร

ตวั ชวี้ ัดชน้ั ปี ป.๑ ป.๒ ป.๓ ป.๔ ป.๕ เกย่ี วกบั สง่ิ ๕. พูดแสดง เกย่ี วกบั ตนเอง ต่างๆใกล้ตัว ความรู้สึกของ เพ่อื น หรอื กจิ กรรม ตนเองเก่ียวกบั ครอบครวั และ ต่างๆ ตามแบบ เร่ืองตา่ งๆ เรื่องใกล้ตวั ท่ีฟัง ใกล้ตวั และ ๕. พูด/เขียน กิจกรรมต่างๆ แสดงความรู้สึก ตามแบบท่ฟี ัง ของตนเอง เกีย่ วกับเรอื่ ง ตา่ งๆ ใกลต้ วั และกิจกรรม ตา่ งๆ พรอ้ ม ทงั้ ให้เหตุผล สัน้ ๆประกอบ

๑๓ ป.๖ ม.๑ ม.๒ ม.๓ ตวั ชวี้ ัดชว่ งชั้น ครอบครวั และ ความช่วยเหลอื ในสถานการณ์ อย่างเหมาะสม ม.๔-๖ เรอ่ื งใกล้ตวั ในสถานการณ์ ต่างๆ อยา่ ง ๔. พดู และเขียน ๕. พดู /เขียน ต่างๆ อยา่ ง เหมาะสม เพ่ือขอและให้ หรอื สถานการณจ์ ริง แสดงความรสู้ กึ เหมาะสม ๔. พดู และเขยี น ข้อมลู อธิบาย อย่างเหมาะสม ของตนเอง ๔. พูดและ เพอ่ื ขอและให้ เปรยี บเทยี บ ๔. พูดและเขยี นเพ่อื เกยี่ วกับเรอ่ื ง เขียนเพือ่ ขอ ข้อมูล บรรยาย และแสดงความ ขอและใหข้ ้อมลู ต่างๆ ใกล้ตัว และให้ขอ้ มูล และแสดงความ คดิ เหน็ เกีย่ วกับ บรรยาย อธบิ าย กิจกรรมตา่ งๆ และแสดงความ คิดเหน็ เก่ยี วกับ เร่อื งท่ฟี งั หรือ เปรียบเทียบ และ พร้อมท้ังให้ คิดเห็นเกี่ยวกับ เรือ่ งทฟ่ี ังหรือ อา่ น แสดงความคดิ เห็น เหตุผลส้นั ๆ เรอื่ งท่ฟี งั หรือ อ่าน อยา่ ง อย่างเหมาะสม เก่ยี วกับเรื่อง/ ประกอบ อา่ น อยา่ ง เหมาะสม ๕. พูดและเขียน ประเดน็ /ขา่ ว/ เหมาะสม ๕. พดู และเขียน บรรยาย เหตุการณท์ ฟ่ี ังและ ๕. พดู และ แสดงความรู้สกึ ความรสู้ กึ และ อ่านอยา่ งเหมาะสม เขียนแสดง และความ ความคดิ เห็นของ ๕. พูดและเขยี น ความรู้สึก และ คดิ เหน็ ของ ตนเองเก่ียวกับ บรรยายความรู้สกึ ความคิดเห็น ตนเองเก่ยี วกับ เรอ่ื งต่างๆ และแสดงความ ของตนเอง เรอื่ งตา่ งๆ กิจกรรม คิดเห็นของตนเอง เก่ยี วกบั เรอ่ื ง กจิ กรรม และ ประสบการณ์ เกยี่ วกบั เรอ่ื งต่างๆ ต่างๆ ใกล้ตัว ประสบการณ์ และข่าว/ กจิ กรรม กิจกรรมตา่ งๆ พรอ้ มท้ัง เหตุการณ์ ประสบการณ์ และ พร้อมท้งั ให้ ให้เหตผุ ล พร้อมทง้ั ให้ ข่าว/เหตกุ ารณ์อย่าง เหตุผลสัน้ ๆ ประกอบ เหตุผลประกอบ มเี หตผุ ล ประกอบ อย่างเหมาะสม อยา่ งเหมาะสม อย่างเหมาะสม กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาตา่ งประเทศ โรงเรยี นชุมชนประชาธปิ ตั ยว์ ทิ ยาคาร

สาระท่ี ๑ ภาษาเพ่ือการสือ่ สาร มาตรฐาน ต ๑.๓ นำเสนอขอ้ มลู ขา่ วสาร ความคดิ รวบยอด และความคดิ เหน็ ใน ตวั ชวี้ ัดชน้ั ปี ป.๑ ป.๒ ป.๓ ป.๔ ป.๕ ๑. พูดใหข้ อ้ มูล ๑. พูดให้ข้อมูล ๑. พูดให้ขอ้ มลู ๑. พูด/เขียน ๑. พูด/เขยี น เก่ียวกบั ตนเอง เก่ียวกับตนเอง เกีย่ วกบั ตนเอง ใหข้ ้อมูลเกีย่ วกับ ใหข้ อ้ มลู เกยี่ วกับ และเรื่องใกลต้ วั และเร่ืองใกลต้ วั และเรื่องใกลต้ ัว ตนเองและเรอ่ื ง ตนเองและเรอ่ื ง ๒. จัดหมวดหมู่ ใกล้ตวั ใกลต้ ัว คำ ตามประเภท ๒. พูด/วาด ๒. เขียนภาพ ของบุคคล สตั ว์ ภาพแสดงความ แผนผงั และ และสง่ิ ของ สัมพันธ์ของ แผนภมู แิ สดง ตามท่ฟี ังหรือ สิ่งต่างๆ ใกลต้ ัว ขอ้ มลู ต่างๆ อา่ น ตามท่ฟี งั หรือ ตามทฟ่ี ังหรอื อา่ น อ่าน ๓. พูดแสดง ๓. พูดแสดง ความคิดเห็น ความคิดเหน็ ง่ายๆ เกย่ี วกบั เกยี่ วกบั เร่ืองต่างๆ ใกลต้ ัว เรอ่ื งต่างๆ ใกล้ตัว

๑๔ นเรอ่ื งต่างๆ โดยการพดู และการเขียน ป.๖ ม.๑ ม.๒ ม.๓ ตัวชี้วัดชว่ งช้ัน ๑. พูด/เขียน ๑. พูดและเขียน ๑. พูดและ ๑. พูดและ ม.๔-๖ ให้ขอ้ มูล บรรยายเกย่ี วกบั เขียนบรรยาย เขยี นบรรยาย เก่ียวกับตนเอง ตนเอง กจิ วัตร เกย่ี วกบั ตนเอง เก่ยี วกับตนเอง ๑. พูดและเขียนนำเสนอ เพ่อื น และ ประจำวัน กจิ วัตร ประสบการณ์ ข้อมูลเกย่ี วกับตนเอง/ สิ่งแวดลอ้ ม ประสบการณ์ ประจำวนั ข่าว/ ประสบการณ์ ขา่ ว/ ใกล้ตัว และสิ่งแวดล้อม ประสบการณ์ เหตุการณ/์ เหตุการณ์ เรือ่ ง และ ๒. เขยี นภาพ ใกลต้ ัว และขา่ ว/ เร่ือง/ประเดน็ ประเดน็ ต่างๆ ตามความ แผนผัง แผนภูมิ ๒. พูด/เขยี น เหตุการณ์ ทอี่ ยู่ ต่างๆ ทอ่ี ยู่ใน สนใจของสงั คม และตาราง สรุปใจความ ในความสนใจ ความสนใจ ของ ๒. พูดและเขียนสรุป แสดงขอ้ มูล สำคัญ/แก่นสาระ ของสังคม สงั คม ใจความสำคัญ/ แกน่ สาระ ต่างๆ ตามท่ีฟัง (theme) ทีไ่ ด้ ๒. พูดและ ๒. พูดและ ที่ไดจ้ ากการวเิ คราะหเ์ ร่ือง หรอื อา่ น จากการ เขยี นสรุป เขยี นสรปุ กจิ กรรม ขา่ ว เหตกุ ารณ์ ๓. พูด/เขียน วิเคราะห์เร่ือง/ ใจความสำคัญ/ ใจความสำคัญ/ และสถานการณ์ตามความ แสดงความ เหตกุ ารณ์ทอ่ี ยู่ แก่นสาระ หัวข้อ แก่นสาระ หัวขอ้ สนใจ คิดเหน็ เก่ยี วกบั ในความสนใจ เรอื่ ง (topic) ท่ี เร่อื ง ๓. พูดและเขียนแสดง เรอ่ื งต่างๆ ใกล้ตัว ของสังคม ไดจ้ ากการ ทไ่ี ด้จากการ ความคดิ เหน็ เกี่ยวกับ ๓. พูด/เขียน วิเคราะหเ์ รอ่ื ง/ วเิ คราะห์เร่อื ง/ กจิ กรรม ประสบการณ์ แสดงความ ขา่ ว/เหตกุ ารณ์ ข่าว/ และเหตกุ ารณ์ ทงั้ ใน คดิ เห็นเก่ยี วกบั ทอ่ี ยูใ่ นความ เหตกุ ารณ/์ ทอ้ งถน่ิ สงั คม และโลก กิจกรรมหรอื สนใจของสังคม สถานการณ์ พรอ้ มทัง้ ใหเ้ หตผุ ลและ เรอ่ื งต่างๆ ใกลต้ ัว ท่ีอยใู่ นความ ยกตวั อย่างประกอบ สนใจของสงั คม กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาตา่ งประเทศ โรงเรียนชุมชนประชาธปิ ตั ย์วิทยาคาร

ตวั ชว้ี ัดช้นั ปี ป.๑ ป.๒ ป.๓ ป.๔ ป.๕

๑๕ ตวั ชี้วัดช่วงช้ัน ป.๖ ม.๑ ม.๒ ม.๓ ม.๔-๖ พรอ้ มท้งั ให้ ๓. พดู และ ๓. พูดและ เหตผุ ลสนั้ ๆ เขยี นแสดง เขียนแสดง ประกอบ ความคิดเหน็ ความคิดเห็น เกย่ี วกบั เก่ียวกบั กิจกรรม กิจกรรม เร่อื งต่างๆ ประสบการณ์ ใกลต้ วั และ และ ประสบการณ์ เหตุการณ์ พร้อมทั้ง พร้อมทง้ั ให้เหตุผล ใหเ้ หตุผล สั้นๆ ประกอบ ประกอบ กล่มุ สาระการเรยี นรู้ภาษาตา่ งประเทศ โรงเรียนชมุ ชนประชาธิปตั ย์วทิ ยาคาร

สาระที่ ๒ ภาษาและวฒั นธรรม มาตรฐาน ต ๒.๑ เข้าใจความสัมพนั ธร์ ะหวา่ งภาษากับวัฒนธรรมของเจ้าของภาษ ตวั ชวี้ ัดชัน้ ปี ป.๑ ป.๒ ป.๓ ป.๔ ป.๕ ๑. พูดและทำท่า ๑. พูดและทำท่า ๑. พูดและทำทา่ ๑. พูดและทำทา่ ๑. ใชถ้ อ้ ยคำ ประกอบ ตาม ประกอบ ตาม ประกอบ ตาม ประกอบ อย่าง นำ้ เสียงและ วัฒนธรรมของ วฒั นธรรมของ มารยาทสงั คม/ สภุ าพ ตาม กิรยิ าทา่ ทาง เจ้าของภาษา เจ้าของภาษา วัฒนธรรมของ มารยาทสังคม อยา่ งสุภาพ ตาม ๒. บอกชอ่ื และ ๒. บอกชือ่ และ เจา้ ของภาษา และวฒั นธรรม มารยาทสังคม คำศัพทเ์ กยี่ วกบั คำศัพทเ์ กยี่ วกับ ๒. บอกชอื่ และ ของเจ้าของ และวฒั นธรรม เทศกาลสำคัญ เทศกาลสำคัญ คำศัพท์งา่ ยๆ ภาษา ของเจา้ ของ ของเจา้ ของ ของเจา้ ของ เกย่ี วกบั ๒. ตอบคำถาม ภาษา ภาษา ภาษา เทศกาล/ เกี่ยวกบั ๒. ตอบคำถาม/ ๓. เขา้ รว่ ม ๓. เข้ารว่ ม วันสำคญั / เทศกาล/ บอกความสำคัญ กจิ กรรมทาง กิจกรรมทาง งานฉลองและ วันสำคัญ/ ของเทศกาล/ ภาษาและ ภาษาและ ชวี ิตความเป็นอยู่ งานฉลองและ วนั สำคญั / วฒั นธรรมท่ี วฒั นธรรมที่ ของเจา้ ของ ชีวิตความเป็นอยู่ งานฉลองและ เหมาะกับวัย เหมาะกับวัย ภาษา งา่ ยๆ ของ ชีวิตความเปน็ ๓. เขา้ ร่วม เจ้าของภาษา อยงู่ ่ายๆ ของ กิจกรรมทาง ๓. เขา้ ร่วม เจา้ ของภาษา ภาษาและ กิจกรรมทาง ๓. เข้ารว่ ม วฒั นธรรมท่ี ภาษาและ กิจกรรมทาง เหมาะกับวยั วัฒนธรรมที่ ภาษาและ เหมาะกบั วยั วัฒนธรรม ตามความสนใจ

๑๖ ษา และนำไปใชไ้ ด้อย่างเหมาะสมกบั กาลเทศะ ตัวชี้วัดช่วงชั้น ป.๖ ม.๑ ม.๒ ม.๓ ม.๔-๖ ๑. ใช้ถ้อยคำ ๑.ใชภ้ าษา ๑. ใช้ภาษา ๑.เลอื กใช้ภาษา ๑. เลือกใช้ภาษา น้ำเสียง และ นำ้ เสยี ง และ น้ำเสียง และ น้ำเสยี ง และ น้ำเสยี ง และกริ ยิ า กริ ิยาทา่ ทาง กิรยิ าท่าทาง กริ ิยาทา่ ทาง กริ ิยาทา่ ทาง ทา่ ทางเหมาะกบั ระดบั เหมาะกบั บุคคล ของบคุ คล โอกาส อย่างสภุ าพ สภุ าพ เหมาะสม เหมาะกับ ตามมารยาท บุคคลและโอกาส และโอกาส และสถานท่ี ตาม เหมาะสม ตามมารยาท สังคม และ ตามมารยาท ตามมารยาท มารยาทสงั คมและ สงั คม และ วฒั นธรรมของ สงั คม และ สงั คม และ วัฒนธรรมของเจ้าของ วัฒนธรรมของ เจา้ ของภาษา วัฒนธรรมของ วัฒนธรรม ของ ภาษา เจ้าของภาษา ๒. บรรยาย เจ้าของภาษา เจา้ ของภาษา ๒. อธิบาย/อภิปรายวิถี ๒. ให้ขอ้ มลู เกยี่ วกบั เทศกาล ๒. อธิบาย ๒. อธบิ าย ชีวติ ความคิด ความ วนั สำคัญ ชีวติ เกย่ี วกับเทศกาล เกยี่ วกบั ชีวติ เช่ือ และทม่ี าของ เกย่ี วกบั ความเปน็ อยู่ วนั สำคญั ชวี ติ ความเปน็ อยู่ ขนบธรรมเนียม และ เทศกาล/ วันสำคัญ/ และประเพณี ความเปน็ อยู่ ขนบธรรมเนียม ประเพณีของเจ้าของ งานฉลอง/ชีวติ ของเจา้ ของ และประเพณี และประเพณี ภาษา ของเจา้ ของภาษา ของเจ้าของ ๓. เข้ารว่ ม แนะนำ ความเป็นอยู่ ภาษา และจัดกจิ กรรมทาง ของเจ้าของภาษา ๓. เข้าร่วม/จัด ๓. เขา้ ร่วม/จัด ภาษา ๓. เขา้ ร่วม กิจกรรมทาง กจิ กรรมทาง ๓. เขา้ ร่วม/จดั ภาษาและวฒั นธรรม กิจกรรมทาง ภาษาและ ภาษาและ กิจกรรมทาง อย่างเหมาะสม ภาษาและ วฒั นธรรมตาม วฒั นธรรมตาม ภาษาและ วัฒนธรรม ความสนใจ ความสนใจ วัฒนธรรมตาม ตามความสนใจ ความสนใจ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาตา่ งประเทศ โรงเรียนชมุ ชนประชาธปิ ตั ยว์ ิทยาคาร

สาระท่ี ๒ ภาษาและวัฒนธรรม มาตรฐาน ต ๒.๒ เขา้ ใจความเหมือนและความแตกตา่ งระหว่างภาษาและวฒั นธร ตวั ช้ีวัดช้นั ปี ป.๑ ป.๒ ป.๓ ป.๔ ป.๕ ๑.ระบุตวั อกั ษร ๑.ระบตุ ัวอกั ษร ๑. บอกความ ๑. บอกความ ๑. บอกความ และเสียง และเสียง แตกตา่ งของ แตกตา่ งของของ เหมือน/ความ ตัวอกั ษรของ ตวั อักษรของ เสยี งตวั อักษร เสียงตวั อักษร แตกตา่ งระหว่าง ภาษาตา่ งประเท ภาษาตา่ งประเทศ คำ กลมุ่ คำ และ คำ กลมุ่ คำ การออกเสยี ง ศ และ และภาษาไทย ประโยคงา่ ยๆ ประโยค และ ประโยคชนดิ ภาษาไทย ของภาษา ขอ้ ความของ ต่างๆ การใช้ ตา่ งประเทศและ ภาษาต่างประเท เครอ่ื งหมาย ภาษาไทย ศและภาษาไทย วรรคตอน และ ๒. บอกความ การลำดับคำ เหมือน/ความ (order) ตาม แตกต่างระหวา่ ง โครงสร้าง เทศกาลและ ประโยค ของ งานฉลอง ตาม ภาษาตา่ งประเทศ วัฒนธรรมของ และภาษาไทย เจา้ ของภาษากับ ๒. บอกความ ของไทย เหมือน/ความ แตกตา่ งระหวา่ ง เทศกาลและ งานฉลองของ เจ้าของภาษากบั ของไทย

๑๗ รรมของเจ้าของภาษากบั ภาษาและวฒั นธรรมไทย และนำมาใช้อย่างถูกตอ้ งและเหมาะสม ตวั ช้วี ัดช่วงชนั้ ป.๖ ม.๑ ม.๒ ม.๓ ม.๔-๖ ๑. บอกความ ๑. บอกความ ๑. เปรียบเทียบ ๑. เปรียบเทยี บ ๑. อธบิ าย/ เหมอื น/ความ เหมอื นและ และอธิบาย และอธบิ าย เปรยี บเทียบความ แตกตา่ งระหวา่ ง ความแตกต่าง ความเหมือน ความเหมือน แตกต่างระหวา่ ง การออกเสยี ง ระหว่างการ และความ และความ โครงสร้างประโยค ประโยคชนิด ออกเสยี ง แตกตา่ งระหวา่ ง แตกต่างระหวา่ ง ขอ้ ความ สำนวน ต่างๆ การใช้ ประโยคชนดิ การออกเสียง การออกเสียง คำพังเพย สภุ าษติ และ เครอ่ื งหมาย ตา่ งๆ การใช้ ประโยคชนดิ ประโยคชนดิ บทกลอนของภาษา วรรคตอน และ เครอ่ื งหมาย ต่างๆ และ ตา่ งๆ และ ตา่ งประเทศและ การลำดับคำ วรรคตอน และ การลำดบั คำ การลำดับคำ ภาษาไทย ตามโครงสร้าง การลำดับคำ ตามโครงสรา้ ง ตามโครงสรา้ ง ๒. วิเคราะห์/อภิปราย ประโยค ของ ตามโครงสร้าง ประโยค ของ ประโยค ของ ความเหมอื นและความ ภาษาต่างประเทศ ประโยค ของ ภาษาต่างประเทศ ภาษาตา่ งประเทศ แตกตา่ งระหว่างวิถชี วี ิต และภาษาไทย ภาษาตา่ งประเทศ และภาษาไทย และภาษาไทย ความเชอ่ื และวัฒนธรรม ๒. เปรียบเทียบ และภาษาไทย ๒ เปรยี บเทียบ ๒. เปรยี บเทียบ ของเจา้ ของภาษากบั ความเหมือน/ ๒ เปรยี บเทียบ และอธบิ าย และอธบิ าย ของไทย และนำไปใช้ ความแตกตา่ ง ความเหมือนและ ความเหมือน ความเหมือนและ อย่างมเี หตุผล ระหวา่ งเทศกาล ความแตกต่าง และความ ความแตกต่าง งานฉลองและ ระหว่างเทศกาล แตกต่างระหว่าง ระหว่างชวี ิต ประเพณขี อง งานฉลอง ชีวติ ความเป็นอยู่ ความเป็นอยู่ เจา้ ของภาษากับ วันสำคญั และ และวฒั นธรรม ของไทย กลุม่ สาระการเรียนรู้ภาษาตา่ งประเทศ โรงเรียนชุมชนประชาธปิ ตั ย์วิทยาคาร

ตวั ชี้วดั ช้นั ปี ป.๑ ป.๒ ป.๓ ป.๔ ป.๕ สาระท่ี ๓ ภาษากบั ความสัมพันธก์ ับกล่มุ สาระการเรยี นรู้อน่ื มาตรฐาน ต ๓.๑ ใชภ้ าษาต่างประเทศในการเช่ือมโยงความรู้กบั กลมุ่ สาระการเรีย ตัวชว้ี ัดช้นั ปี ป.๑ ป.๒ ป.๓ ป.๔ ป.๕ ๑. บอก ๑. บอก ๑. บอก ๑. คน้ คว้า ๑. ค้นคว้า คำศพั ทท์ ี่ คำศัพทท์ ี่ คำศัพทท์ ี่ รวบรวม รวบรวม เกย่ี วข้องกบั เกีย่ วขอ้ งกับ เกี่ยวข้องกบั คำศพั ทท์ ี่ คำศพั ท์ท่ี กลุ่มสาระ กลุม่ สาระ กลมุ่ สาระ เกยี่ วขอ้ งกบั เก่ยี วข้องกบั การเรยี นรอู้ น่ื การเรยี นรอู้ นื่ การเรยี นรอู้ นื่ กลมุ่ สาระ กลุ่มสาระ การเรยี นรอู้ ่นื การเรยี นรอู้ น่ื และนำเสนอ และนำเสนอ ดว้ ยการพดู / ดว้ ยการพดู / การเขยี น การเขยี น

๑๘ ตวั ช้ีวดั ช่วงช้ัน ป.๖ ม.๑ ม.๒ ม.๓ ม.๔-๖ ชวี ติ ความเป็นอยู่ และวฒั นธรรม ของเจ้าของภาษา ของเจา้ ของภาษา ของเจ้าของภาษา กบั ของไทย และ กบั ของไทย กับของไทย นำไปใชอ้ ย่าง เหมาะสม ยนรู้อ่ืน และเปน็ พนื้ ฐานในการพัฒนา แสวงหาความรู้ และเปิดโลกทศั น์ของตน ตวั ช้วี ัดชว่ งช้นั ป.๖ ม.๑ ม.๒ ม.๓ ม.๔-๖ ๑. ค้นควา้ ๑. ค้นคว้า ๑. ค้นควา้ ๑. ค้นควา้ ๑. คน้ คว้า/สบื ค้น รวบรวมคำศพั ท์ รวบรวม และ รวบรวม และ รวบรวม และ บนั ทึก สรปุ และ ทเ่ี กย่ี วข้องกับ สรุปข้อมูล/ สรปุ ข้อมลู / สรุปข้อมูล/ แสดงความคิดเห็น กลุม่ สาระ ขอ้ เทจ็ จรงิ ข้อเทจ็ จริง ขอ้ เท็จจริง เก่ยี วกับข้อมูลท่ี การเรยี นร้อู ่ืน ทเ่ี กี่ยวขอ้ งกับ ท่ีเกี่ยวข้องกับ ทเ่ี กยี่ วขอ้ งกบั เก่ียวข้องกบั กล่มุ สาระ จากแหล่งเรยี นรู้ กลุ่มสาระ กลมุ่ สาระ กลุ่มสาระ การเรยี นรอู้ น่ื จาก และนำเสนอ การเรียนรู้อ่ืน การเรียนรู้อน่ื การเรียนรอู้ นื่ แหลง่ เรียนรตู้ ่างๆ และ ด้วยการพูด/ จากแหล่ง จากแหลง่ จากแหล่ง นำเสนอด้วยการพูด การเขยี น เรยี นรู้และ เรยี นรูแ้ ละ เรยี นรแู้ ละ และการเขยี น นำเสนอด้วย นำเสนอด้วย นำเสนอดว้ ย การพดู / การพดู / การพูดและการ การเขียน การเขยี น เขยี น กล่มุ สาระการเรยี นรู้ภาษาต่างประเทศ โรงเรียนชุมชนประชาธปิ ตั ย์วิทยาคาร

สาระที่ ๔ ภาษากบั ความสัมพันธก์ บั ชมุ ชนและโลก มาตรฐาน ต ๔.๑ ใชภ้ าษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่างๆ ทั้งในสถานศึกษา ชมุ ช ตัวชว้ี ัดช้ันปี ป.๑ ป.๒ ป.๓ ป.๔ ป.๕ ๑. ฟงั /พูด ๑. ฟัง/พดู ๑. ฟัง/พดู ๑. ฟงั และ ๑. ฟัง พูด ในสถานการณ์ ในสถานการณ์ ในสถานการณ์ พูด/อ่าน ใน และอ่าน/ งา่ ยๆ ท่ี ง่ายๆ ที่ ง่ายๆ ท่ี สถานการณ์ เขียน ใน เกิดข้นึ ใน เกิดข้ึนใน เกดิ ขนึ้ ใน ท่เี กดิ ขน้ึ ใน สถานการณ์ หอ้ งเรียน หอ้ งเรียน หอ้ งเรียน ห้องเรยี นและ ตา่ งๆ ที่ สถานศึกษา เกดิ ข้นึ ใน หอ้ งเรยี นและ สถานศึกษา

๑๙ ชน และสงั คม ป.๖ ม.๑ ม.๒ ม.๓ ตวั ชว้ี ัดชว่ งชนั้ ๑. ใช้ภาษา ๑. ใช้ภาษา ๑. ใช้ภาษา ๑. ใชภ้ าษา ม.๔-๖ สือ่ สาร ใน สอ่ื สาร ใน สื่อสารใน สอื่ สารใน สถานการณ์ สถานการณ์ สถานการณ์ สถานการณ์ ๑. ใชภ้ าษาส่อื สาร ตา่ งๆ ที่ จริง/ จรงิ / จริง/ ในสถานการณ์จรงิ / เกดิ ขนึ้ ใน สถานการณ์ สถานการณ์ สถานการณ์ สถานการณ์จำลอง หอ้ งเรียนและ จำลองท่ี จำลองท่ี จำลองที่เกดิ ขนึ้ ที่เกิดขึ้นในหอ้ งเรียน สถานศกึ ษา เกิดขน้ึ ใน เกดิ ขน้ึ ใน ในห้องเรยี น สถานศึกษา ชุมชน ห้องเรยี นและ ห้องเรยี น สถานศึกษา และสังคม สถานศกึ ษา สถานศึกษา ชมุ ชน และ และชมุ ชน สงั คม กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาต่างประเทศ โรงเรยี นชมุ ชนประชาธปิ ตั ย์วทิ ยาคาร

สาระที่ ๔ ภาษากบั ความสัมพันธก์ บั ชุมชนและโลก มาตรฐาน ต ๔.๒ ใชภ้ าษาต่างประเทศเป็นเคร่อื งมอื พ้นื ฐานในการศึกษาต่อ การป ตวั ช้วี ัดชนั้ ปี ป.๑ ป.๒ ป.๓ ป.๔ ป.๕ ๑. ใช้ภาษา ๑. ใช้ภาษา ๑. ใชภ้ าษา ๑. ใช้ภาษา ๑. ใชภ้ าษา ตา่ งประเทศ ตา่ งประเทศ ต่างประเทศ ต่างประเทศ ตา่ งประเทศ เพอื่ รวบรวม เพ่ือรวบรวม เพื่อรวบรวม ในการสืบค้น ในการสบื คน้ คำศพั ท์ คำศัพท์ คำศัพท์ และรวบรวม และรวบรวม ทเ่ี กี่ยวข้อง ทเ่ี กย่ี วขอ้ ง ทีเ่ กย่ี วขอ้ ง ข้อมูลต่างๆ ข้อมลู ตา่ งๆ ใกลต้ ัว ใกลต้ วั ใกลต้ ัว

๒๐ ประกอบอาชีพ และการแลกเปล่ียนเรยี นรู้กบั สงั คมโลก ตัวชว้ี ัดชว่ งช้นั ป.๖ ม.๑ ม.๒ ม.๓ ม.๔-๖ ๑. ใช้ภาษา ๑. ใชภ้ าษา ๑. ใชภ้ าษา ๑. ใชภ้ าษา ๑. ใช้ ต่างประเทศ ต่างประเทศ ต่างประเทศ ต่างประเทศ ภาษาต่างประเทศ ในการสืบค้น ในการสบื ค้น/ ในการสืบคน้ / ในการสืบค้น/ ในการสบื ค้น/คน้ ควา้ และรวบรวม คน้ ควา้ ความร/ู้ ค้นคว้า รวบรวม คน้ คว้า รวบรวม รวบรวม วเิ คราะห์ ข้อมลู ต่างๆ ข้อมูลต่างๆ จาก และสรปุ ความรู้/ และสรปุ ความร/ู้ และสรปุ ความร/ู้ ขอ้ มูล สื่อและแหล่ง ขอ้ มลู ต่างๆ จาก ข้อมลู ต่างๆ จาก ต่างๆ จากสื่อและ การเรียนรู้ต่างๆ สอ่ื และแหล่ง สื่อและแหลง่ การ แหล่ง ในการศึกษาตอ่ การเรียนรตู้ ่างๆ เรียนรูต้ ่างๆ ใน การเรยี นรู้ต่างๆ และ ประกอบ ในการศกึ ษาตอ่ การศกึ ษาตอ่ และ ในการศกึ ษาต่อและ อาชพี และประกอบ ประกอบอาชพี ประกอบอาชีพ อาชพี ๒. เผยแพร/่ ๒. เผยแพร่/ ๒. เผยแพร่/ ประชาสัมพันธ์ ประชาสัมพนั ธ์ ข้อมลู ประชาสัมพนั ธ์ ขอ้ มลู ข่าวสาร ข่าวสารของโรงเรยี น ข้อมลู ข่าวสาร ของโรงเรยี น ชมุ ชน และทอ้ งถน่ิ / ของโรงเรียนเป็น ชุมชน และ ประเทศชาติ เป็น ภาษาต่าง ท้องถ่ิน เปน็ ภาษาต่างประเทศ ประเทศ ภาษาตา่ ง ประเทศ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาต่างประเทศ โรงเรียนชมุ ชนประชาธิปตั ย์วทิ ยาคาร

๒๑ ตวั ชว้ี ดั และสาระการเรยี นรู้แกนกลาง และสาระการเรียนรูท้ อ้ งถ่นิ สาระท่ี ๑ ภาษาเพื่อการส่อื สาร มาตรฐาน ต ๑.๑ เขา้ ใจและตคี วามเรอื่ งท่ีฟงั และอ่านจากสื่อประเภทต่างๆ และแสดงความคิดเห็น อยา่ งมี เหตุผล ชั้น ตัวช้ีวัด สาระการเรยี นรแู้ กนกลางและสาระการเรยี นรู้ท้องถิน่ ป.๑ ๑. ปฏบิ ตั ติ ามคำสง่ั งา่ ยๆ ท่ฟี ัง คำส่ังทีใ่ ชใ้ นห้องเรียน เชน่ Stand up./Sit down./ Listen./ Repeat./Quiet!/ Stop! etc. ๒. ระบุตัวอักษรและเสยี ง อา่ น ตัวอักษร (letter names) เสียงตวั อกั ษรและสระ (letter sounds) ออกเสียงและสะกดคำงา่ ยๆ และการสะกดคำ ถูกตอ้ งตาม หลักการอ่านออกเสียง เช่น หลักการอ่าน - การออกเสียงพยัญชนะต้นคำและพยญั ชนะท้ายคำ - การออกเสยี งเนน้ หนกั -เบา (stress) ในคำและกลมุ่ คำ - การออกเสยี งตามระดบั เสียงสูง-ต่ำ (intonation) ในประโยค ๓. เลือกภาพตรงตาม คำ กลุ่มคำ และความหมาย เกยี่ วกบั ตนเอง ครอบครวั โรงเรยี น ความหมายของคำและกลุ่มคำ ส่งิ แวดล้อมใกล้ตวั อาหาร เครอื่ งด่ืม และนันทนาการ ภายในวง ทีฟ่ ัง คำศพั ท์ประมาณ ๑๕๐-๒๐๐ คำ (คำศัพท์ท่เี ป็นรูปธรรม) ๔. ตอบคำถามจากการฟัง บทอา่ นเกี่ยวกบั เรอ่ื งใกล้ตัว หรอื นทิ านทมี่ ภี าพประกอบ เร่ือง ใกล้ตัว ประโยคคำถามและคำตอบ - Yes/No Question เชน่ Is it a/an..? Yes, it is./No, it is not. etc. - Wh-Question เชน่ What is it? It is a/an... etc. ป.๒ ๑. ปฏิบตั ิตามคำสง่ั และคำ คำสงั่ และคำขอร้องทีใ่ ช้ในห้องเรยี น ขอร้องง่าย ๆ ท่ีฟัง - คำส่ัง เชน่ Show me a/an.../ Open your book. Don’t talk in class. etc. - คำขอร้อง เชน่ Please come here./ Come here, please. Don’t make a loud noise, please./ Please don’t make a loud noise. etc. กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาตา่ งประเทศ โรงเรียนชุมชนประชาธปิ ัตย์วทิ ยาคาร

๒๒ ชั้น ตวั ชวี้ ัด สาระการเรียนรแู้ กนกลางและสาระการเรยี นรู้ท้องถน่ิ ป.๒ ๒.ระบตุ ัวอักษรและเสียง อ่าน ตวั อักษร เสยี งตัวอกั ษรและสระ การสะกดคำ และประโยค ออกเสียงคำ สะกดคำ และ หลกั การอา่ นออกเสียง เชน่ อ่านประโยคงา่ ยๆ ถูกตอ้ งตาม - การออกเสียงพยญั ชนะต้นคำและพยญั ชนะทา้ ยคำ หลักการอ่าน - การออกเสยี งเน้นหนกั -เบา ในคำและกลมุ่ คำ - การออกเสยี งตามระดับเสียงสูง-ต่ำ ในประโยค ๓. เลือกภาพตรงตาม คำ กลุ่มคำ ประโยคเดี่ยว (simple sentence) และความหมาย ความหมายของคำ กลมุ่ คำ และ เกีย่ วกบั ตนเอง ครอบครัว โรงเรยี น สิ่งแวดล้อมใกลต้ ัว อาหาร ประโยคทฟี่ งั เคร่ืองด่มื และนันทนาการ เป็นวงคำศัพท์สะสมประมาณ ๒๕๐- ๓๐๐ คำ (คำศัพท์ทเ่ี ปน็ รปู ธรรม) ๔. ตอบคำถามจากการฟงั ประโยค บทสนทนา หรือนทิ านทีม่ ภี าพประกอบ ประโยค บทสนทนา หรือนิทานงา่ ยๆ ที่ ประโยคคำถามและคำตอบ มภี าพ ประกอบ - Yes/No Question เช่น Is this/that a/an..? Yes, it is./No, it isn’t. etc. - Wh-Question เชน่ What is this/that/it? This/that/It is a/an… How many…? There is/are… Where is the…? It is in/on/under… etc. ป.๓ ๑. ปฏบิ ตั ิตามคำสัง่ และคำ คำส่ังและคำขอรอ้ งทใี่ ช้ในหอ้ งเรียน ขอร้องท่ฟี ัง หรืออ่าน - คำสง่ั เช่น Give me a/an.../Draw and color the picture./ Put a/an…in/on/under a/an…/ Don’t eat in class. etc. - คำขอร้อง เช่น Please take a queue./ Take a queue, please./ Don’t make a loud noise, please./ Please don’t make a loud noise./ Can you help me, please? etc. ๒. อา่ นออกเสียงคำ สะกดคำ คำ กลมุ่ คำ ประโยคเด่ยี ว และบทพดู เข้าจงั หวะ และการสะกดคำ อา่ นกล่มุ คำ ประโยค และบท การใชพ้ จนานุกรม พูดเขา้ จงั หวะ (chant) ง่ายๆ หลกั การอ่านออกเสียง เชน่ ถกู ต้องตามหลักการอ่าน - การออกเสียงพยัญชนะต้นคำและพยัญชนะทา้ ยคำ - การออกเสียงเนน้ หนัก-เบา ในคำและกลุม่ คำ - การออกเสียงตามระดบั เสียงสงู -ต่ำ ในประโยค กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาตา่ งประเทศ โรงเรียนชุมชนประชาธปิ ัตย์วทิ ยาคาร

๒๓ ช้นั ตัวช้ีวัด สาระการเรียนร้แู กนกลางและสาระการเรยี นร้ทู ้องถิ่น ป.๓ ๓. เลอื ก/ระบุภาพ หรือ กล่มุ คำ ประโยคเดี่ยว สญั ลักษณ์ และความหมายเกีย่ วกับตนเอง สญั ลกั ษณ์ตรงตามความหมาย ครอบครัว โรงเรยี น ส่ิงแวดล้อมใกล้ตัว อาหาร เคร่อื งดมื่ และ ของกลมุ่ คำและประโยคทฟ่ี งั นนั ทนาการ เป็น วงคำศพั ท์สะสมประมาณ ๓๕๐-๔๕๐ คำ (คำศัพทท์ เ่ี ปน็ รปู ธรรม) ๔. ตอบคำถามจากการฟังหรือ ประโยค บทสนทนา หรอื นทิ านที่มีภาพประกอบ อา่ นประโยค บทสนทนา หรือ ประโยคคำถามและคำตอบ นทิ านง่ายๆ - Yes/No Question เชน่ Is/Are/Can…? Yes,…is/are/can./ No,…isn’t/aren’t/can’t. - Wh-Question เชน่ What is this/that/it? This/that/It is a/an… How many…? There is/are… Where is/are…? It is in/on/under… They are ป.๔ ๑. ปฏิบัติตามคำสั่ง คำขอร้อง คำส่งั และคำขอร้องที่ใช้ในห้องเรียน และคำแนะนำในการเล่นเกม และคำแนะนำ (instructions) การวาดภาพ หรอื การทำอาหารและเครอ่ื งดม่ื งา่ ยๆ ที่ฟังหรืออ่าน - คำสัง่ เช่น Look at the…/here/over there./ Say it again./ Read and draw./ Put a/an…in/on/under a/an…/ Don’t go over there. etc. - คำขอร้อง เชน่ Please take a queue./ Take a queue, please./ Can you help me, please? etc. - คำแนะนำ เชน่ You should read every day./Think before you speak./ คำศพั ท์ที่ใช้ในการเล่นเกม Start./ My turn./ Your turn./ Roll the dice./ Count the number./ Finish./ คำบอกลำดบั ขั้นตอน First,... Second,… Then,… Finally,... etc. ป.๔ ๒. อ่านออกเสียงคำ สะกดคำ คำ กลุ่มคำ ประโยค ข้อความ บทพดู เขา้ จงั หวะ และการสะกดคำ อา่ นกลุ่มคำ ประโยค การใช้พจนานุกรม ข้อความง่ายๆ หลักการอา่ นออกเสยี ง เช่น และบทพดู เข้าจงั หวะถกู ตอ้ ง - การออกเสยี งพยัญชนะต้นคำและพยัญชนะทา้ ยคำ ตาม - การออกเสยี งเนน้ หนัก-เบา ในคำและกล่มุ คำ หลกั การอ่าน - การออกเสียงตามระดับเสยี งสงู -ต่ำ ในประโยค กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาตา่ งประเทศ โรงเรยี นชุมชนประชาธิปตั ยว์ ิทยาคาร

๒๔ ช้ัน ตัวช้วี ัด สาระการเรียนร้แู กนกลางและสาระการเรียนรู้ท้องถนิ่ ป.4 ๓. เลอื ก/ระบภุ าพ หรอื กลุ่มคำ ประโยคเด่ียว สญั ลกั ษณ์ เครอ่ื งหมาย และความหมาย สญั ลักษณ์ หรือเคร่ืองหมายตรง เกีย่ วกบั ตนเอง ครอบครัว โรงเรยี น ส่ิงแวดลอ้ ม อาหาร เครื่องด่ืม ตามความหมายของประโยค เวลาวา่ งและนันทนาการ สุขภาพและสวสั ดิการ การซอื้ -ขาย และ และข้อความส้ันๆ ทฟ่ี ัง หรือ ลมฟ้าอากาศ และเปน็ วงคำศพั ทส์ ะสมประมาณ ๕๕๐-๗๐๐ คำ อ่าน (คำศัพทท์ เ่ี ปน็ รปู ธรรมและนามธรรม) ๔. ตอบคำถามจากการฟงั ประโยค บทสนทนา นิทานท่มี ภี าพประกอบ และอา่ นประโยค บทสนทนา คำถามเกยี่ วกับใจความสำคญั ของเรื่อง เชน่ ใคร และนิทานงา่ ยๆ ทำอะไร ทไี่ หน - Yes/No Question เช่น Is/Are/Can…? Yes,…is/are/can./ No,…isn’t/aren’t/can’t. Do/Does/Can/Is/Are...? Yes/No… etc. - Wh-Question เช่น Who is/are…? He/She is…/They are… What…?/Where…? It is …/They are… What...doing? …is/am/are… etc. - Or-Question เช่น Is this/it a/an...or a/an…? It is a/an… etc. ป.๕ ๑. ปฏิบัตติ ามคำสัง่ คำขอร้อง คำสง่ั และคำขอรอ้ งท่ีใช้ในห้องเรียน ภาษาท่าทาง และคำแนะนำใน และ คำแนะนำง่ายๆ ที่ฟงั และ การเล่นเกม การวาดภาพ หรอื การทำอาหารและเคร่ืองด่มื อา่ น - คำส่งั เช่น Look at the…/here/over there./ Say it again./ Read and draw./ Put a/an..in/on/under a/an…/ Don’t go over there. etc. ป.๕ - คำขอร้อง เช่น Please take a queue./ Take a queue, please./ Can/Could you help me, please? etc. - คำแนะนำ เช่น You should read every day./ Think before you speak./ คำศพั ท์ท่ีใช้ในการเล่นเกม Start./ My turn./ Your turn./ Roll the dice./ Count the number./ Finish./ คำบอกลำดับขน้ั ตอน First,… Second,… Next,… Then,… Finally,… etc. กล่มุ สาระการเรียนรู้ภาษาตา่ งประเทศ โรงเรียนชุมชนประชาธิปัตย์วทิ ยาคาร

๒๕ ช้ัน ตวั ชีว้ ัด สาระการเรียนรแู้ กนกลางและสาระการเรียนรู้ท้องถน่ิ ป.5 ๒. อา่ นออกเสยี งประโยค ประโยค ขอ้ ความ และบทกลอน การใชพ้ จนานกุ รม ข้อความ และบทกลอนสน้ั ๆ หลกั การอา่ นออกเสยี ง เชน่ ถกู ต้องตามหลักการอ่าน - การออกเสียงพยญั ชนะตน้ คำและพยัญชนะท้ายคำ - การออกเสียงเนน้ หนกั -เบา ในคำและกลมุ่ คำ - การออกเสียงตามระดบั เสียงสงู -ต่ำ ในประโยค - การออกเสยี งเช่อื มโยง (linking sound) ในขอ้ ความ - การออกเสียงบทกลอนตามจังหวะ ๓. ระบ/ุ วาดภาพ สัญลกั ษณ์ กลุ่มคำ ประโยคผสม ขอ้ ความ สญั ลกั ษณ์ เครื่องหมาย และ หรอื ความหมายเกยี่ วกับตนเอง ครอบครัว โรงเรียน สง่ิ แวดลอ้ ม อาหาร เครอ่ื งหมายตรงตามความหมาย เคร่อื งดืม่ เวลาวา่ งและนันทนาการ สุขภาพและสวัสดกิ าร การซื้อ- ของประโยคและข้อความสัน้ ๆ ขาย และลมฟ้าอากาศ และเปน็ วงคำศพั ท์สะสมประมาณ ๗๕๐- ที่ฟงั หรืออ่าน ๙๕๐ คำ (คำศัพทท์ ีเ่ ปน็ รูปธรรมและนามธรรม) ๔. บอกใจความสำคญั และ ประโยค บทสนทนา นทิ าน หรือเร่อื งสัน้ ๆ ตอบคำถามจากการฟงั และ คำถามเกีย่ วกบั ใจความสำคัญของเรือ่ ง เช่น ใคร อ่านบทสนทนา และนทิ าน ทำอะไร ท่ไี หน เมอ่ื ไร ง่ายๆ หรอื เรอ่ื งสัน้ ๆ - Yes/No Question เช่น Is/Are/Can…? Yes,…is/are/can./ No,…isn’t/aren’t/can’t. Do/Does/Can/Is/Are...? Yes/No… etc. ป.๕ - Wh-Question เช่น Who is/are…? He/She is…/They are… What…?/Where…? It is …/They are… What...doing? …is/am/are… etc. - Or-Question เช่น Is this/it a/an...or a/an…? It is a/an… etc. กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาต่างประเทศ โรงเรยี นชมุ ชนประชาธิปตั ยว์ ิทยาคาร

๒๖ ชั้น ตวั ช้วี ัด สาระการเรยี นรู้แกนกลางและสาระการเรียนรู้ท้องถิน่ ป.๖ ๑. ปฏบิ ัตติ ามคำสง่ั คำขอร้อง คำสั่ง คำขอรอ้ ง ภาษาทา่ ทาง และคำแนะนำในการเล่นเกม การ และ คำแนะนำท่ีฟังและอ่าน วาดภาพ การทำอาหารและเคร่อื งดม่ื และการประดิษฐ์ - คำสั่ง เชน่ Look at the…/here/over there./ Say it again./ Read and draw./ Put a/an…in/on/under a/an…/ Don’t go over there. etc. - คำขอร้อง เช่น Please look up the meaning in a dictionary./ Look up the meaning in a dictionary, please./ Can/Could you help me, please? etc. - คำแนะนำ เชน่ You should read every day./ Think before you speak./ คำศพั ท์ทีใ่ ช้ในการเล่นเกม Start./ My turn./ Your turn./ Roll the dice./ Count the number./ Finish./คำบอกลำดับขั้นตอน First,… Second,… Next,… Then,… Finally,… etc. ๒. อ่านออกเสยี งข้อความ ข้อความ นิทาน และบทกลอน การใชพ้ จนานกุ รม นิทานและ หลักการอา่ นออกเสยี ง เชน่ บทกลอนส้นั ๆ ถูกต้องตาม - การออกเสยี งพยัญชนะต้นคำและพยญั ชนะทา้ ยคำ หลกั การอา่ น - การออกเสียงเนน้ หนกั -เบา ในคำและกลุ่มคำ - การออกเสียงตามระดับเสียงสูง-ต่ำ ในประโยค - การออกเสียงเช่อื มโยง (linking sound) ในขอ้ ความ - การออกเสียงบทกลอนตามจงั หวะ ๓. เลอื ก/ระบปุ ระโยค หรอื ประโยค หรือข้อความ สญั ลักษณ์ เครื่องหมาย และความหมาย ขอ้ ความส้ันๆ ตรงตามภาพ เกีย่ วกับตนเอง ครอบครัว โรงเรยี น ส่งิ แวดล้อม อาหาร เคร่ืองดม่ื เวลาว่างและนนั ทนาการ สุขภาพและสวสั ดิการ การซื้อ-ขาย และ สัญลักษณ์ หรอื เครอื่ งหมายท่ี ลมฟา้ อากาศ และเป็นวงคำศัพท์สะสมประมาณ ๑,๐๕๐-๑,๒๐๐ คำ อา่ น (คำศัพทท์ ีเ่ ปน็ รูปธรรมและนามธรรม) ๔. บอกใจความสำคญั และ ประโยค บทสนทนา นิทาน หรือเรื่องเล่า ตอบคำถามจากการฟังและ คำถามเกี่ยวกบั ใจความสำคญั ของเรือ่ ง เชน่ ใคร อ่านบทสนทนา นทิ านงา่ ยๆ ทำอะไร ทไี่ หน เม่ือไร อยา่ งไร ทำไม และเร่ืองเล่า - Yes/No Question เชน่ Is/Are/Can…? Yes,…is/are/can./ No,…isn’t/aren’t/can’t. Do/Does/Can/Is/Are...? Yes/No… etc. - Wh-Question เชน่ Who is/are…? He/She is…/They are… What…?/Where…? It is …/They are… What...doing? …is/am/are… etc. - Or-Question เชน่ Is this/it a/an...or a/an…? It is a/an… Is/Are/Was/Were/Did…or…? etc. กล่มุ สาระการเรียนรู้ภาษาตา่ งประเทศ โรงเรียนชุมชนประชาธปิ ัตย์วทิ ยาคาร

๒๗ ช้นั ตวั ชว้ี ัด สาระการเรยี นรูแ้ กนกลางและสาระการเรียนรู้ท้องถน่ิ ม.๑ ๑. ปฏบิ ตั ติ ามคำส่งั คำขอร้อง คำส่งั คำขอรอ้ ง คำแนะนำ และคำชี้แจงในการทำอาหารและ คำแนะนำ และคำชแ้ี จงงา่ ยๆ เคร่ืองด่ืม การประดษิ ฐ์ การใช้ยา/ ทีฟ่ งั และอ่าน สลากยา การบอกทิศทาง ป้ายประกาศต่างๆ หรือ การใชอ้ ุปกรณ์ - คำสั่ง เช่น Look at the../here/over there./ Say it again/ Read and draw./ Put a/an…in/on/under a/an…/ Go to the window and open it./ Take out the book, open on page ๑๗ and read it./ Don’t go over there./ Don’t be late. etc. - คำขอรอ้ ง เชน่ Please look up the meaning in a dictionary./ Look up the meaning in a dictionary, please./ Can/Could you help me, please?/ Excuse me, could you …? etc. - คำแนะนำ เช่น You should read every day./ Think before you speak./ คำศพั ท์ท่ีใช้ในการเลน่ เกม Start./ My turn./ Your turn./ Roll the dice./ Count the number./ Finish. etc. - คำสนั ธาน (conjunction) เช่น and/but/or - ตวั เช่ือม (connective words) เช่น First,… Second,…Third,… Next,… Then,… Finally,… etc. ๒. อ่านออกเสียงขอ้ ความ ข้อความ นิทาน และบทร้อยกรอง นิทาน และบทรอ้ ยกรอง การใชพ้ จนานกุ รม (poem) สน้ั ๆ ถูกตอ้ งตาม หลกั การอ่านออกเสียง เช่น หลกั การอ่าน - การออกเสียงพยญั ชนะต้นคำและพยญั ชนะทา้ ยคำ - การออกเสียงเน้นหนัก-เบา ในคำและกลมุ่ คำ - การออกเสยี งตามระดบั เสยี งสงู -ตำ่ ในประโยค - การแบง่ วรรคตอนในการอา่ น - การอา่ นบทรอ้ ยกรองตามจังหวะ ๓. เลอื ก/ระบปุ ระโยคและ ประโยค หรือขอ้ ความ และความหมายเกี่ยวกบั ตนเอง ครอบครวั ขอ้ ความ โรงเรียน สิ่งแวดล้อม อาหาร เครื่องด่มื เวลาว่างและนันทนาการ ให้สมั พนั ธ์กบั สื่อที่ไมใ่ ช่ความ สขุ ภาพและสวัสดกิ าร การซอื้ -ขาย ลมฟ้าอากาศ การศกึ ษาและ เรียง อาชีพ การเดินทางทอ่ งเทีย่ ว การบริการ สถานท่ี ภาษา และ (non-text information) ท่ี วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี เป็น อา่ น วงคำศัพทส์ ะสมประมาณ ๑,๔๐๐-๑,๕๕๐ คำ (คำศพั ท์ท่ีเปน็ รปู ธรรมและนามธรรม) การตีความ/ถา่ ยโอนขอ้ มูลใหส้ มั พันธก์ ับสอ่ื ทีไ่ มใ่ ช่ความเรยี ง เช่น สัญลกั ษณ์ เคร่ืองหมาย กราฟ แผนภูมิ ตาราง ภาพสัตว์ สง่ิ ของ บุคคล สถานท่ตี า่ งๆ โดยใช้ Comparison of adjectives/ กลุม่ สาระการเรยี นรู้ภาษาตา่ งประเทศ โรงเรยี นชุมชนประชาธิปัตยว์ ิทยาคาร

๒๘ ช้นั ตวั ช้ีวัด สาระการเรียนรแู้ กนกลางและสาระการเรียนรู้ท้องถน่ิ ม.1 adverbs/ Contrast : but, although/ Quantity words เช่น many/ much/ a lot of/ lots of/ some/ any/ a few/ few/ a little/ little etc. ๔. ระบหุ ัวขอ้ เรื่อง (topic) บทสนทนา นทิ าน เร่อื งสนั้ และเรือ่ งจากสอ่ื ประเภท ใจความสำคัญ (main idea) และ ต่างๆ เช่น หนงั สอื พิมพ์ วารสาร วทิ ยุ โทรทัศน์ เวบ็ ตอบคำถามจากการฟังและอา่ น ไซด์ บทสนทนา นิทาน และเร่ืองส้ัน การจับใจความสำคัญ เช่น หวั ขอ้ เร่ือง ใจความสำคัญ รายละเอียดสนับสนุน คำถามเกี่ยวกบั ใจความสำคัญของเรื่อง เช่น ใคร ทำอะไร ทีไ่ หน เมือ่ ไร อย่างไร ทำไม ใชห่ รอื ไม่ - Yes/No Question - Wh-Question - Or-Question - Tenses : present simple/ present continuous/ past simple/ future simple etc. - Simple sentence/ Compound sentence ม.๒ ๑. ปฏบิ ัติตามคำขอร้อง คำแนะนำ คำขอร้อง คำแนะนำ คำชีแ้ จง และคำอธบิ าย เช่น คำช้แี จง และคำอธบิ ายงา่ ยๆ ทฟี่ งั และ การทำอาหารและเคร่อื งดื่ม การประดิษฐ์ อ่าน การใชย้ า/สลากยา การบอกทิศทาง การใชอ้ ุปกรณ์ - Passive Voice ทีใ่ ชใ้ นโครงสร้างประโยคง่ายๆ เช่น is/are + Past Participle - คำสันธาน (conjunction) เชน่ and/ but/ or/ before/ after etc. - ตวั เชอ่ื ม (connective words) เชน่ First,… Second,… Third,… Fourth,… Finally,… etc. ๒. อ่านออกเสียงขอ้ ความ ข่าว ขอ้ ความ ข่าว ประกาศ และบทรอ้ ยกรอง ประกาศ และบทร้อยกรองส้นั ๆ ถูกต้อง การใช้พจนานกุ รม หลักการอา่ นออกเสียง เช่น ตามหลกั การอ่าน - การออกเสยี งพยญั ชนะต้นคำและพยญั ชนะทา้ ยคำ - การออกเสยี งเนน้ หนัก-เบา ในคำและกลุ่มคำ - การออกเสียงตามระดับเสียงสูง-ตำ่ ในประโยค - การออกเสยี งเชอื่ มโยงในขอ้ ความ - การแบง่ วรรคตอนในการอ่าน - การอ่านบทรอ้ ยกรองตามจังหวะ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ โรงเรียนชมุ ชนประชาธิปัตยว์ ทิ ยาคาร

๒๙ ชนั้ ตัวชี้วัด สาระการเรยี นรู้แกนกลางและสาระการเรยี นรทู้ ้องถน่ิ ม.2 ๓. ระบ/ุ เขยี นประโยค และขอ้ ความ ประโยค หรอื ข้อความ และความหมายเกี่ยวกบั ตนเอง ให้สมั พนั ธ์กบั ส่ือท่ไี ม่ใช่ความเรียง ครอบครวั โรงเรียน ส่ิงแวดล้อม อาหาร เครอื่ งดื่ม เวลา รปู แบบ ตา่ งๆ ท่อี ่าน ว่างและนนั ทนาการ สขุ ภาพและสวัสดิการ การซ้อื - ขาย ลมฟ้าอากาศ การศึกษาและอาชีพ การเดนิ ทาง ท่องเทยี่ ว การบริการ สถานที่ ภาษา และวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี เป็นวงคำศพั ท์สะสมประมาณ ๑,๗๕๐- ๑,๙๐๐ คำ (คำศัพท์ทเ่ี ป็นรปู ธรรมและนามธรรม) การตีความ/ถา่ ยโอนขอ้ มูลใหส้ ัมพันธ์กบั ส่ือทไี่ มใ่ ช่ ความเรยี ง เช่น สญั ลักษณ์ เครื่องหมาย กราฟ แผนภูมิ แผนผงั ตาราง ภาพสตั ว์ สิ่งของ บคุ คล สถานท่ีต่างๆ โดยใช้ Comparison of adjectives/ adverbs/ Contrast: but, although/ Quantity words เชน่ many/ much/ a lot of/ lots of/ some/ any/ a few/ few/ a little/ little etc. ๔. เลอื กหวั ขอ้ เรือ่ ง ใจความสำคัญ - Yes/No Question บอกรายละเอียดสนบั สนุน - Wh-Question (supporting detail) และแสดงความ - Or-Question etc. ประโยคที่ใชใ้ นการแสดงความคิดเหน็ การให้เหตุผล คดิ เห็นเกีย่ วกบั เรอื่ งทฟี่ งั และอ่าน และการยกตวั อย่าง เช่น I think…/ I feel…/ I พรอ้ มท้งั ใหเ้ หตผุ ลและยกตัวอยา่ ง believe… ง่ายๆ ประกอบ - คำสันธาน (conjunctions) and/ but/ or/ because/ so/ before/after - ตัวเชอื่ ม (connective words) First,… Next,… After,… Then,… Finally,… etc. - Tenses: present simple/ present continuous/ present perfect/ past simple/ future tense - Simple sentence/Compound sentence กล่มุ สาระการเรียนรู้ภาษาตา่ งประเทศ โรงเรยี นชุมชนประชาธปิ ตั ย์วิทยาคาร

๓๐ ชั้น ตวั ชี้วัด สาระการเรยี นรแู้ กนกลางและสาระการเรยี นรทู้ ้องถ่นิ ม.๓ ๑. ปฏบิ ัตติ ามคำขอร้อง คำแนะนำ คำขอรอ้ ง คำแนะนำ คำชแี้ จง และคำอธบิ าย ในการ คำช้แี จง และคำอธบิ ายทีฟ่ ังและอา่ น ประดษิ ฐ์ การบอกทิศทาง ป้ายประกาศต่างๆ การใช้ อุปกรณ์ - Passive Voice ที่ใช้ในโครงสร้างประโยคง่ายๆ เช่น is/are + past partciple - คำสันธาน (conjunction) เช่น and/ but/ or/ before/ after/ because etc. - ตวั เช่ือม (connective words) เช่น First,… Second,…Third,… Fourth,… Next,… Then,… Finally,… etc. ๒. อ่านออกเสียงขอ้ ความ ข่าว โฆษณา ขอ้ ความ ข่าว โฆษณา และบทร้อยกรอง และบทรอ้ ยกรองส้นั ๆ ถูกต้องตาม การใชพ้ จนานกุ รม หลกั การอ่านออกเสยี ง เช่น หลกั การอ่าน - การออกเสียงพยัญชนะตน้ คำและพยัญชนะท้ายคำ สระเสียงสน้ั สระเสียงยาว สระประสม - การออกเสียงเน้นหนัก-เบา ในคำและกลุม่ คำ - การออกเสียงตามระดบั เสียงสงู -ต่ำ ในประโยค - การออกเสยี งเช่อื มโยงในข้อความ - การแบง่ วรรคตอนในการอา่ น - การอ่านบทรอ้ ยกรองตามจังหวะ ๓. ระบแุ ละเขยี นส่ือทไ่ี ม่ใช่ความเรียง ประโยค ขอ้ ความ และความหมายเกี่ยวกับตนเอง รปู แบบต่างๆ ให้สัมพนั ธ์กบั ประโยค และ ครอบครวั โรงเรยี น สิง่ แวดล้อม อาหาร เคร่ืองดื่ม เวลา ขอ้ ความท่ฟี ังหรอื อา่ น วา่ งและนนั ทนาการ สขุ ภาพและสวัสดิการ การซือ้ - ขาย ลมฟ้าอากาศ การศึกษาและอาชพี การเดินทาง ทอ่ งเท่ยี ว การบรกิ าร สถานท่ี ภาษา และวทิ ยาศาสตร์ และเทคโนโลยี เป็นวงคำศัพท์สะสมประมาณ ๑,๔๐๐- ๑,๕๕๐ คำ (คำศัพท์ที่เปน็ รปู ธรรมและนามธรรม) การตคี วาม/ถา่ ยโอนขอ้ มลู ใหส้ มั พันธก์ บั สอ่ื ทีไ่ มใ่ ช่ ความเรียง เชน่ สัญลักษณ์ เครือ่ งหมาย กราฟ แผนภูมิ ตาราง ภาพสัตว์ ส่งิ ของ บคุ คล สถานท่ีต่างๆ โดยใช้ Comparison of adjectives/ adverbs/ Contrast : but, although/ Quantity words เชน่ many/ much/ a lot of/ lots of/ some/ any /a few/ few/ a little/ little etc. กล่มุ สาระการเรยี นรู้ภาษาต่างประเทศ โรงเรยี นชมุ ชนประชาธปิ ตั ย์วทิ ยาคาร

๓๑ ชั้น ตวั ชว้ี ัด สาระการเรยี นร้แู กนกลางและสาระการเรียนรทู้ ้องถิ่น ม.3 ๔. เลอื ก/ระบุหวั ขอ้ เร่ือง ใจความสำคญั การจบั ใจความสำคญั เช่น หัวข้อเร่ือง ใจความสำคญั รายละเอยี ดสนบั สนนุ และแสดงความ รายละเอียดสนับสนุน จากส่ือสง่ิ พมิ พแ์ ละส่ือ คดิ เหน็ เก่ยี วกบั เรื่องทฟ่ี ังและอ่านจากสอื่ อเิ ล็กทรอนกิ ส์ เช่น หนังสือพิมพ์ วารสาร วทิ ยุ ประเภทต่างๆ พร้อมทั้งใหเ้ หตุผลและ โทรทศั น์ เว็บไซดบ์ นอินเทอรเ์ น็ต ยกตัวอย่างประกอบ คำถามเก่ยี วกับใจความสำคญั ของเร่อื ง เช่น ใคร ทำอะไร ทีไ่ หน เม่ือไร อยา่ งไร ทำไม ใช่หรือไม่ - Yes/No Question - Wh-Question - Or-Question etc. ประโยคทีใ่ ช้ในการแสดงความคิดเหน็ การให้เหตุผล และการยกตวั อยา่ ง เชน่ I think…/ I feel…/ I believe…/ I agree/disagree…/ I don’t believe…/ I have no idea… - if clauses - so…that/such…that - คำสันธาน (conjunctions) and/ but/ or/ because/ so/ before/ after etc. - Infinitive pronouns :some/ any/ someone/ anyone/ everyone/ one/ ones etc. - Tenses : present simple/ present continuous/ present perfect/ past simple/ future tense etc. - Simple sentence/ Compound sentence/ Complex sentence ม. ๔-๖ ๑. ปฏบิ ตั ิตามคำแนะนำในคมู่ อื การใช้ คำแนะนำ คำชีแ้ จง คำอธิบาย คำบรรยาย เช่น งานต่างๆ คำชแ้ี จง คำอธิบาย และคำ ประกาศเตอื นภัยต่างๆ ยาและการใชย้ า การใช้ บรรยายท่ฟี ังและอ่าน อปุ กรณแ์ ละสงิ่ ของ การสบื ค้นขอ้ มูลทางอินเทอร์เน็ต - Modal verb : should/ ought to/ need/ have to/ must+ verb ทีเ่ ปน็ infinitive without to เช่น You should have it after meal. (Active Voice)/The doses must be divided. (Passive Voice) - Direct/Indirect Speech - คำสนั ธาน (conjunction) and/ but/ or/ so/ not only…but also/ both…and/ as well as/ after/ because etc. - ตัวเช่อื ม (connective words) เชน่ First,… Second,… Third,… Fourth,… Next,… Then,… กลุม่ สาระการเรยี นรู้ภาษาต่างประเทศ โรงเรยี นชมุ ชนประชาธปิ ตั ยว์ ทิ ยาคาร

๓๒ ชัน้ ตวั ชว้ี ัด สาระการเรียนรแู้ กนกลางและสาระการเรียนรู้ท้องถน่ิ ม.4-6 ๒. อ่านออกเสยี งขอ้ ความ ขา่ ว ข้อความ ข่าว ประกาศ โฆษณา บทร้อยกรอง และ ประกาศ โฆษณา บทร้อยกรอง และบท บทละครสั้นการใชพ้ จนานกุ รม หลกั การอา่ นออกเสยี ง ละครสัน้ (skit) ถูกตอ้ งตามหลักการอา่ น เชน่ - การออกเสียงพยัญชนะตน้ คำและพยัญชนะท้ายคำ สระเสยี งส้ัน สระเสียงยาว สระประสม - การออกเสียงเนน้ หนัก-เบา ในคำและกล่มุ คำ - การออกเสยี งตามระดบั เสยี งสงู -ต่ำ ในประโยค - การออกเสยี งเชื่อมโยงในข้อความ - การแบง่ วรรคตอนในการอ่าน - การอา่ นบทร้อยกรองตามจังหวะ ๓. อธบิ ายและเขยี นประโยค ประโยคและข้อความ การตีความ/ถา่ ยโอนขอ้ มูลให้ และขอ้ ความให้สมั พันธก์ บั สอื่ ที่ไมใ่ ช่ สมั พันธก์ ับส่ือทไี่ ม่ใช่ความเรียง เชน่ ภาพ แผนผัง ความเรยี งรูปแบบต่างๆ ท่อี ่าน รวมทง้ั กราฟ แผนภมู ิ ตาราง อกั ษรย่อ จากกล่มุ สาระการ ระบุและเขียนสื่อที่ไมใ่ ช่ความเรียง เรยี นรู้อื่น ดว้ ยการพูดและการเขียนอธิบาย โดยใช้ รูปแบบตา่ งๆ ให้สัมพันธก์ ับประโยค Comparison of adjectives/ adverbs/ Contrast : และข้อความที่ฟงั หรืออ่าน but, although, however, in spite of…/ Logical connectives เช่น caused by/ followed by/ consist of. etc. ม. ๔-๖ ๔. จับใจความสำคัญ วิเคราะหค์ วาม เร่ืองท่ีเปน็ สารคดีและบันเทงิ คดี การจับใจความสำคญั สรุปความ ตคี วาม และแสดงความ การสรุปความ การวเิ คราะหค์ วามการตคี วาม คิดเห็นจากการฟังและอา่ นเร่ืองที่เป็น การใช้ skimming/scanning/guessing/context clue สารคดแี ละบนั เทงิ คดี พรอ้ มทงั้ ให้ ประโยคทใ่ี ช้ในการแสดงความคิดเห็น การให้เหตุผล เหตผุ ลและยกตัวอย่างประกอบ และการยกตวั อย่าง เช่น I believe…/ I agree with… but…/ Well, I must say…/ What do you think of /about…?/I think/don’t think…?/ What’s your opinion about…?/ In my opinion…/ - if clauses - so…that/such…that - too to…/enough to… - on the other hand,…- other (s)/another/the other (s) - คำสนั ธาน (conjunctions) because/and/so/but/ however/because of/due to/owing to กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ โรงเรียนชมุ ชนประชาธปิ ัตย์วิทยาคาร

๓๓ ชัน้ ตวั ชว้ี ัด สาระการเรยี นร้แู กนกลางและสาระการเรยี นรทู้ ้องถน่ิ ม.4-6 - Infinitive pronouns : some, any, someone, anyone, everyone, one, ones etc. - Tenses : present simple/present continuous/ present perfect/past simple/future tense etc. - Simple sentence/Compound sentence/Complex sentence สาระท่ี ๑ ภาษาเพ่อื การส่อื สาร มาตรฐาน ต ๑.๒ มีทักษะการสอ่ื สารทางภาษาในการแลกเปลย่ี นข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึก และความคดิ เหน็ อย่างมีประสทิ ธิภาพ ช้นั ตัวชวี้ ัด สาระการเรยี นรูแ้ กนกลางและสาระการเรียนร้ทู ้องถ่นิ ป.๑ ๑. พดู โตต้ อบด้วยคำส้นั ๆ งา่ ยๆ ในการ บทสนทนาที่ใช้ในการทักทาย กล่าวลา ขอบคุณ สื่อสารระหว่างบคุ คลตามแบบที่ฟงั ขอโทษ และประโยค/ข้อความทใี่ ชแ้ นะนำตนเอง เชน่ Hi/ Hello/ Good morning/ Good afternoon/ Good evening/ I am…/ Goodbye./ Bye./ Thank you./ I am sorry. etc. ๒. ใช้คำสง่ั ง่ายๆ ตามแบบที่ฟงั คำสัง่ ที่ใชใ้ นห้องเรียน ชั้น ตัวชว้ี ัด สาระการเรยี นรูแ้ กนกลางและสาระการเรยี นรทู้ ้องถิน่ ป.1 ๓. บอกความต้องการง่ายๆ ของตนเอง คำศัพท์ สำนวน และประโยคท่ีใช้บอกความต้องการ ตามแบบที่ฟัง เช่น I want…/Please,… etc. ๔. พดู ขอและใหข้ ้อมูลง่ายๆ เกย่ี วกบั คำศพั ท์ สำนวน และประโยคทใี่ ชข้ อและใหข้ ้อมูล ตนเองตามแบบท่ีฟงั เก่ยี วกบั ตนเอง เช่น What’s your name?/ My name is…/ I am…/ How are you?/ I am fine. etc. ป.๒ ๑. พดู โต้ตอบด้วยคำส้นั ๆ ง่ายๆ ในการ บทสนทนาท่ีใช้ในการทักทาย กลา่ วลา ขอบคุณ สื่อสารระหวา่ งบคุ คลตามแบบทีฟ่ ัง ขอโทษ และประโยค/ขอ้ ความท่ใี ชแ้ นะนำตนเอง เช่น Hi/ Hello/ Good morning/ Good afternoon/ Good evening/ How are you?/ I’m fine./ I am… / Goodbye./ Bye./ Thank you./ I am sorry. etc. ๒. ใช้คำสั่งและคำขอร้องง่ายๆ ตาม คำสัง่ และคำขอร้องทใี่ ช้ในหอ้ งเรยี น แบบท่ฟี งั ๓. บอกความต้องการง่ายๆ ของตนเอง คำศพั ท์ สำนวน และประโยคที่ใช้บอกความตอ้ งการ ตามแบบท่ีฟงั เช่น I want…/ Please,… etc. กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาตา่ งประเทศ โรงเรียนชมุ ชนประชาธิปัตย์วิทยาคาร

๓๔ ช้ัน ตวั ชว้ี ัด สาระการเรียนรู้แกนกลางและสาระการเรยี นรู้ท้องถ่ิน ๔. พดู ขอและใหข้ อ้ มูลง่ายๆ เก่ียวกบั คำศพั ท์ สำนวน และประโยคทีใ่ ช้ขอและใหข้ ้อมูล ตนเองตามแบบทฟ่ี งั เกย่ี วกับตนเอง เชน่ What’s your name?/ My name is…/ I am…/ How are you?/ I am fine. etc. ป.๓ ๑. พูดโต้ตอบด้วยคำส้นั ๆ ง่ายๆ ในการ บทสนทนาที่ใช้ในการทกั ทาย กลา่ วลา ขอบคณุ ส่ือสารระหว่างบุคคลตามแบบทีฟ่ งั ขอโทษ และประโยค/ข้อความท่ใี ช้แนะนำตนเอง เชน่ Hi/ Hello/ Good morning/ Good afternoon/ Good evening/ I am sorry./ How are you? I’m fine. Thank you. And you?/ Nice to see you./ Nice to see you too./ Goodbye./Bye./ See you soon/ later./ Thanks./ Thank you./ Thank you very much./ You’re welcome. etc. ๒ .ใชค้ ำสง่ั และคำขอรอ้ งง่ายๆ ตาม คำสั่งและคำขอร้องทใี่ ช้ในห้องเรยี น แบบท่ีฟงั ๓. บอกความตอ้ งการงา่ ยๆ ของตนเอง คำศัพท์ สำนวน และประโยคที่ใชบ้ อกความต้องการ เช่น Please,…/ May I go out?/ May I come in? etc. ตามแบบทฟ่ี งั ๔. พูดขอและใหข้ อ้ มูลง่ายๆ เก่ียวกับ คำศัพท์ สำนวน และประโยคทีใ่ ช้ขอและให้ขอ้ มูล ตนเอง และเพอ่ื นตามแบบทฟี่ ัง เกยี่ วกับตนเอง และเพื่อน เชน่ What’s your name? My name is… How are you? I am fine. What time is it? It is one o’clock. What is this It is a/an… How many…are there? There is a/an…/There are… Who is…? He/She is… etc. ๕. บอกความรู้สึกของตนเองเกีย่ วกับ คำและประโยคที่ใชแ้ สดงความรสู้ ึก เชน่ ดีใจ เสยี ใจ ส่ิงต่างๆ ใกล้ตัว หรอื กจิ กรรมต่างๆ ชอบไม่ชอบ เช่น Yeah!/ Great!/ Cool!/ I’m ตามแบบที่ฟัง happy./ I like cats./ I don’t like snakes. etc. กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ โรงเรยี นชุมชนประชาธิปัตย์วทิ ยาคาร

ชนั้ ตวั ชว้ี ัด ๓๕ ป.๔ ๑. พดู /เขียนโตต้ อบในการส่ือสาร สาระการเรยี นรู้แกนกลางและสาระการเรยี นร้ทู ้องถิน่ ระหว่างบุคคล บทสนทนาที่ใช้ในการทกั ทาย กล่าวลา ขอบคุณ ขอ โทษ การพูดแทรกอยา่ งสุภาพ ประโยค/ขอ้ ความทีใ่ ช้ แนะนำตนเอง เพ่ือน และบคุ คลใกล้ตวั และสำนวน การตอบรับ เช่น Hi/Hello/Good morning/Good afternoon/ Good evening./How are you?/I’m fine. Thank you. And you?/ Hello. I am… This is my sister. Her name is… Hello,…/Nice to see you. Nice to see you too./Goodbye./ Bye./See you soon. ป.๔ ๒ .ใช้คำสง่ั คำขอร้อง และคำขอ คำส่ัง คำขอร้อง และคำขออนญุ าตท่ีใช้ในห้องเรียน อนุญาตงา่ ยๆ ๓. พูด/เขยี นแสดงความต้องการ คำศัพท์ สำนวน และประโยคท่ีใช้แสดงความต้องการ ของตนเอง และขอความชว่ ยเหลือ และขอความชว่ ยเหลอื ในสถานการณ์ต่างๆ เช่น I ในสถานการณ์ง่ายๆ want …/ Please…/ May…?/ I need your help./ Please help me./ Help me! etc. ๔. พูด/เขยี นเพอ่ื ขอและให้ข้อมูล คำศัพท์ สำนวน และประโยคท่ใี ช้ขอและใหข้ อ้ มูล เก่ยี วกบั ตนเอง เพอื่ น และครอบครวั เก่ียวกับตนเอง ส่ิงใกล้ตัว เพือ่ น และครอบครวั เช่น What’s your name? My name is… What time is it? It is one o’clock. What is this? It is a/an… How many…are there? There is a/an…/There are… Where is the…? It is in/on/under… etc. กลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาตา่ งประเทศ โรงเรยี นชมุ ชนประชาธิปัตยว์ ทิ ยาคาร


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook