Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore สาระทักษะการดำเนินชีวิต

สาระทักษะการดำเนินชีวิต

Published by Kik 119, 2021-05-18 05:27:58

Description: เอกสารประกอบหลักสูตรสถานศึกษา สาระทักษะการดำเนินชีวิต

Search

Read the Text Version

97 รายละเอียดคำอธบิ ายรายวชิ า ทช12001 เอกลักษณไ์ ทยกับนาฎศลิ ปพ์ ้นื เมือง สาระทักษะการดำเนินชีวติ ระดับประถมศึกษา จำนวน 1 หน่วยกิต มาตรฐานที่ 4.3 มีความรู้ ความเข้าใจ และมเี จตคติท่ดี เี ก่ยี วกบั ศลิ ปะและสนุ ทรียภาพ ที่ หวั เรือ่ ง ตัวช้ีวดั เน้อื หา จำนวน (ชัว่ โมง) 1 เอกลักษณ์ไทย 1. อธิบายความหมาย ความ 1. ความเปน็ มาของการแสดง 5 กั บ น าฎศิ ล ป์ เปน็ มาของการแสดงนาฏศิลป์ นาฏศลิ ป์พื้นเมืองประเภท พื้นเมือง พืน้ เมอื งประเภทต่าง ๆ ใน ตา่ ง ๆ ในแต่ละภาคของไทย แตล่ ะภาคของไทยได้ 2. อธบิ ายความหมายของ เนื้อ 2. ความหมายของเนอ้ื รอ้ ง 10 ร้อง ท่ารำ การแต่งกายของ การแสดง ทา่ รำ การแต่งกาย นาฏศิลปพ์ ืน้ เมอื งตามสภาพ คณุ ค่าทางดนตรีการถา่ ยทอด ของวฒั นธรรมของทอ้ งถ่ินใน มรดกทางวฒั นธรรมพืน้ เมือง แตล่ ะภาคของไทยได้ ในแตล่ ะทอ้ งถ่ินของแต่ละ ภาคของไทย 3. อธิบายรูปแบบการแสดง 3. รปู แบบการแสดงนาฏศลิ ป์ 5 นาฏศลิ ป์พน้ื เมืองของแตล่ ะ พนื้ เมืองของแต่ละภาคของไทย ภาค ของไทยได้ 4. อธิบายความสมั พนั ธร์ ะหว่าง 4. ภมู ปิ ญั ญาทอ้ งถิ่น นาฏศิลป์ 15 ดนตรี การแสดง ภาษา พ้นื เมือง ในแต่ละ ประวตั ิศาสตร์ วฒั นธรรม ภาคของไทย และมีความซาบซึ้ง เหน็ คุณค่า ส่งเสรมิ อนุรกั ษ์ ศลิ ปะ พน้ื เมือง ของแตล่ ะภาคของไทยได้ 5. วเิ คราะห์ วิพากษ์ วิจารณ์ 5. แนวคิด หลักการ ประโยชน์ ความมีสุนทรยี ภาพในความ ของการอนรุ กั ษน์ าฏศลิ ป์ เป็นไทย อนรุ กั ษ์และหวงแหน พน้ื เมอื งท่มี ผี ลต่อการดำเนิน มรดกนาฏศลิ ปพ์ ้นื เมืองให้ ชวี ิต วิถชี ีวติ ประจำวนั ของคนใน สงั คมเข้าใจได้ สังคมไทย

98 คำอธิบายรายวชิ า ทช12002 จติ รกรรมพื้นบ้าน สาระทักษะการดำเนินชีวิต ระดบั ประถมศึกษา จำนวน 1 หน่วยกิต มาตรฐานท่ี 4.3 มคี วามรู้ ความเขา้ ใจและเจตคตทิ ด่ี ีเก่ยี วกับศิลปะและสุนทรยี ภาพ ศกึ ษาและฝึกทักษะเก่ยี วกบั เรอื่ งต่อไปนี้ เรื่องของรปู รา่ ง รปู ทรงและทัศนธาตุของส่งิ ตา่ ง ๆ ในธรรมชาติ ตลอดจนสง่ิ แวดลอ้ มต่าง ๆ ของงานจิตรกรรมพ้ืนบ้าน การสื่อความคิด จนิ ตนาการความรู้สึก ความประทับใจของวัสดุอุปกรณ์ เทคนคิ วธิ ีการของานจิตรกรรมพื้นบ้าน เข้าใจความเชื่อทางวัฒนธรรมท่ีมีอิทธิพลตอ่ งานจิตรกรรม พ้ืนบ้าน เห็นความสำคัญของงานจิตรกรรมพ้ืนบ้านที่นำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน ตลอดจนมี ความซาบซง้ึ เหน็ คณุ ค่าในการสร้างสรรคง์ านจิตรกรรมพนื้ บา้ นท่สี ะทอ้ นวฒั นธรรมภมู ิปญั ญาของชาติ การจัดประสบการณก์ ารเรยี นรู้ ศึกษาจากเอกสาร สื่อทกุ ประเภท ส่อื บุคคล แหล่งความรู้เก่ยี วกบั พลงานทางดา้ นจติ รกรรม พ้นื บา้ น ตลอดจนฝกึ วิเคราะห์ ฝกึ ปฏิบัตสิ ร้างสรรค์ ทัศนศกึ ษา กจิ กรรมค่าย ฯลฯ ให้เห็นคณุ คา่ และ ช่นื ชมความงามของงานจิตรกรรมพื้นบา้ นและการอนุรกั ษภ์ ูมปิ ญั ญา วัฒนธรรม ประเพณสี ่งิ แวดลอ้ ม การวดั และประเมินผล ประเมินความรู้ ความเข้าใจ ความคิดเห็น ชิ้นงาน ผลงานโดยวิธีการทดสอบ สัมภาษณ์ สงั เกต

99 รายละเอียดคำอธิบายรายวิชา ทช12002 จิตรกรรมพ้นื บา้ น สาระทักษะการดำเนินชีวติ ระดับประถมศึกษา จำนวน 1 หน่วยกติ มาตรฐานท่ี 4.3 มีความรู้ ความเขา้ ใจและเจตคติท่ีดีเกย่ี วกบั ศิลปะและสุนทรียภาพ ท่ี หวั เรือ่ ง ตวั ช้วี ดั เนอ้ื หา จำนวน 1 จติ รกรรมพนื้ บ้าน (ช่ัวโมง) 1. อธบิ ายความเปน็ มาของ 1. ความเปน็ มาเกย่ี วกบั งานจติ กรรมพน้ื บ้าน 40 ประวัตขิ องงานจิตรกรรม พ้ืนบ้านจากอดตี ไดอ้ ย่าง ถกู ตอ้ ง 2. อธบิ ายเกย่ี วกับความเช่อื 2. ความเปน็ มาในเรือ่ งของ ทางดา้ นไสยศาสตรแ์ ละ ความงามของจติ รกรรม วฒั นธรรมในงานจิตรกรรม พน้ื บ้านทเี่ กีย่ วกบั ความเช่อื พ้ืนบ้านท่ีเกย่ี วกบั ทางด้านไสยศาสตรใ์ นอดตี - ความงาม ถึงปัจจบุ นั ได้ - การนำไปใช้ 3. อธบิ ายความแตกต่าง 3. ความ เห มื อ น ความ ระหว่างงานจิตรกรรม แตกตา่ งของงานจิตกรรม พ้นื บ้านในอดีตกับงาน พื้นบา้ นจากอดตี ถงึ ปัจจุบัน จติ รกรรมพน้ื บ้านยุค ปจั จบุ นั 4. วิเคราะห์ วพิ ากษ์ 4. ความเป็นมาในเรื่อง วจิ ารณ์เกย่ี วกบั งาน เทคนคิ กระบวนการพดู จิตรกรรมพน้ื บ้านในอดีต อธิบายใหก้ บั คนในสังคม ใหก้ ับสังคมไดร้ บั รแู้ ละ สนใจฟัง และเข้าใจตัง้ แต่ เขา้ ใจได้ ต้นจนจบ

100 คำอธิบายรายวชิ า ทช12003 ประตมิ ากรรมพ้ืนบา้ น สาระทักษะการดำเนินชีวิต ระดบั ประถมศึกษา จำนวน 1 หน่วยกติ มาตรฐานท่ี 4.3 มีความรู้ ความเข้าใจและเจตคติทดี่ เี กี่ยวกับศลิ ปะและสนุ ทรียภาพ ศึกษาและฝกึ ทักษะเก่ยี วกับเร่อื งตอ่ ไปน้ี เรื่องของรูปร่าง รูปทรงและทัศนธาตุของส่ิงต่าง ๆ ในธรรมชาติ ตลอดจนสงิ่ แวดลอ้ มต่าง ๆ ของงานประติมากรรมพื้นบ้าน การสื่อความคิด จินตนาการความรู้สึก ความประทับใจของวัสดุ อุปกรณ์เทคนคิ วธิ ีการของานประตมิ ากรรมพื้นบา้ น เขา้ ใจความเชือ่ ทางวฒั นธรรมทมี่ ีอทิ ธิพลตอ่ งาน ประติมากรรมพื้นบ้าน เห็นความสำคัญของงานประติมากรรมพ้ืนบ้านท่ีนำไปประยุกต์ใช้ใน ชวี ิตประจำวัน ตลอดจนมีความซาบซ้ึง เห็นคุณค่าในการสร้างสรรค์งานจิตรกรรมพื้นบ้านท่ีสะท้อน วฒั นธรรมภูมปิ ญั ญาของชาติ การจัดประสบการณ์การเรยี นรู้ ศึกษาจากเอกสาร สื่อทุกประเภท ส่ือบุคคล แหล่งความรู้เกี่ยวกับพลงานทางด้าน ประติมากรรม พ้นื บา้ น ตลอดจนฝึกวิเคราะห์ ฝกึ ปฏิบัตสิ ร้างสรรค์ ทศั นศกึ ษา กิจกรรมคา่ ย ฯลฯ ให้เห็นคุณค่าและ ช่ืนชมความงามของงานประติมากรรมพื้นบ้านและการอนุรักษ์ภูมิปัญญา วัฒนธรรม ประเพณี ส่ิงแวดล้อม การวดั และประเมินผล ประเมนิ ความรู้ ความเข้าใจ ความคดิ เหน็ ช้ินงาน ผลงานโดยวธิ กี ารทดสอบ สัมภาษณ์ สงั เกต

101 รายละเอยี ดคำอธิบายรายวชิ า ทช12003 ประติมากรรมพื้นบ้าน สาระทักษะการดำเนนิ ชีวติ ระดบั ประถมศึกษา จำนวน 1 หน่วยกิต มาตรฐานท่ี 4.3 มีความรู้ ความเข้าใจและเจตคตทิ ่ดี ีเกีย่ วกบั ศิลปะและสุนทรียภาพ ที่ หวั เรอ่ื ง ตัวชีว้ ัด เน้อื หา จำนวน (ชว่ั โมง) 2 งานประตมิ ากรรม พน้ื บา้ น 1. อธิบายความรู้ ความ 1. ความเปน็ มาเกี่ยวกับ 40 เข้าใจ ประวตั ิของประตมิ ากรรม ที่เก่ียวกับความเป็นมาของ พืน้ บา้ นในอดตี ได้อย่าง งานประติมากรรมพ้นื บา้ น ถูกตอ้ ง 2. อธิบ ายเรื่องเกี่ยวกับ 2. ความเป็นมาของความ ควา ม เชื่ อ ท า งด้ าน ไส ย งาม ศาสตร์และ ของประตมิ ากรรมพื้นบา้ น วั ฒ น ธ ร ร ม ใ น ง า น ท่ีเกี่ยวขอ้ งกบั ความเชอ่ื ประติมากรรมพน้ื บ้านที่ ทางไสยศาสตรใ์ นอดีตได้ เกย่ี วกบั ความงาม 3. อธิบายความแตกต่าง 3 . ค วาม เห มื อ น ค วา ม ระหว่างงานประติมากรรม แ ต ก ต่ า ง ข อ ง ง า น พนื้ บ้านในอดีตกับงาน ประติมากรรมพ้ืนบ้านใน ประติมากรรมในยคุ ปจั จุบัน อดตี กบั ปจั จบุ ัน 4. วเิ คราะห์ วิพากษ์ 4. ความเป็นมาในเรื่อง วิ จ า ร ณ์ เ ก่ี ย ว กั บ ง า น เทคนิค กระบวนการ พูด ประติมากรรมพน้ื บา้ นใน อธิบายให้กับคนในสังคม อดีตให้กบั สงั คมไดร้ ับรู้ สนใจฟงั และเข้าใจต้ังแตต่ น้ และเข้าใจได้ จนจบ

102 คำอธบิ ายรายวชิ า ทช12004 สถาปตั ยกรรมพ้ืนบา้ น สาระทักษะการดำเนินชวี ิต ระดับประถมศึกษา จำนวน 1 หน่วยกติ มาตรฐานท่ี 4.3 มีความรู้ ความเขา้ ใจและเจตคตทิ ่ีดเี ก่ยี วกบั ศลิ ปะและสนุ ทรียภาพ ศกึ ษาและฝกึ ทักษะเก่ียวกบั เรื่องตอ่ ไปนี้ เรือ่ งของรูปร่าง รูปทรงและทศั นธาตุของส่งิ ต่าง ๆ ในธรรมชาติ ตลอดจนสิ่งแวดล้อม ต่าง ๆ ของงานสสถาปัตยกรรมพ้ืนบ้าน การส่ือความคิด จินตนาการความร้สู ึก ความประทับใจของวัสดุอปุ กรณ์ เทคนิค วิธีการของานสถาปัตยกรรมพ้ืนบ้าน เข้าใจความเชื่อทางวัฒนธรรมท่ี มีอิทธิพลต่องาน สถาปัตยกรรมพ้ืนบา้ น เห็นความสำคัญของงานประติมากรรมพนื้ บ้านที่นำไปประยุกตใ์ ชใ้ นชีวิตประจำวนั ตลอดจนมีความซาบซงึ้ เหน็ คุณค่าในการสร้างสรรคง์ านสถาปัตยกรรมพ้ืนบ้านที่สะท้อนวัฒนธรรมภูมิ ปัญญาของชาติ การจัดประสบการณก์ ารเรยี นรู้ ศึกษาจากเอกสาร ส่ือทุกประเภท ส่ือบุคคล แหล่งความรู้เกี่ยวกับพลงานทางด้าน สถาปัตยกรรมพ้ืนบา้ น ตลอดจนฝกึ วเิ คราะห์ ฝกึ ปฏิบัตสิ รา้ งสรรค์ ทศั นศึกษา กจิ กรรมค่าย ฯลฯ ให้ เหน็ คณุ ค่าและ ช่ืนชมความงามของงานสถาปัตยกรรมพื้นบ้านและการอนุรักษ์ภูมิปัญญา วัฒนธรรม ประเพณี สง่ิ แวดล้อม การวดั และประเมนิ ผล ประเมินความรู้ ความเข้าใจ ความคิดเห็น ชิ้นงาน ผลงานโดยวิธีการทดสอบ สัมภาษณ์ สังเกต

103 รายละเอยี ดคำอธบิ ายรายวิชา ทช12004 สถาปัตยกรรมพ้นื บ้าน สาระทักษะการดำเนินชีวติ ระดบั ประถมศึกษา จำนวน 1 หน่วยกิต มาตรฐานที่ 4.3 มคี วามรู้ ความเขา้ ใจและเจตคตทิ ี่ดีเกย่ี วกับศลิ ปะและสนุ ทรยี ภาพ ที่ หัวเรือ่ ง ตวั ช้ีวัด เน้อื หา จำนวน (ช่ัวโมง) 3 สถาปัตยกรรม 1. อธบิ ายความแตกตา่ งและความ พ้ืนบา้ น คล้ายคลงึ กันของรปู แบบของงาน 1. ความแตกต่างและความ 40 สถาปตั ยกรรมพนื้ บ้าน และ สิ่งแวดล้อมโดยใช้ความรูด้ ้าน คล้ายคลึงกันของรูปแบบ ทศั นศิลป์ ข อ ง ง า น ส ถ า ปั ต ย ก ร ร ม พื้นบ้าน และสิ่งแวดล้อม โดยใช้ความรู้ดา้ นทัศนศิลป์ 2. อธิบายประวัตคิ วามเป็นมาของ 2. ความเป็นมาเกี่ยวกับ งานสถาปตั ยกรรมพ้ืนบ้านได้ ประวตั ขิ องงาน 3. อธบิ ายเทคนิคและการใช้ สถาปัตยกรรมพ้นื บ้าน วสั ดุอปุ กรณ์ในงานสถาปัตยกรรม 3. กระบวนการเทคนิคใน พื้นบ้านของศลิ ปินในการสร้างสรรค์ งานได้ การใช้วัสดุอุปกรณ์ในงาน สถาปัตยกรรมพื้นบ้านของ ศิลปนิ ในการสร้างสรรค์งาน 4. อธบิ ายวิธกี ารสร้างงาน 4. วิธีการสร้างงานด้าน ดา้ นสถาปัตยกรรมพนื้ บ้าน สถาปัตยกรรมพน้ื บา้ นและ และสามารถนำเสนอ สามารถนำเสนอตัวอย่างได้ ตัวอย่างได้

104 คำอธิบายรายวชิ า ทช12005 สุขภาพพลานามยั จำนวน 3 หน่วยกติ ระดับประถมศึกษา มาตรฐานการเรียนรรู้ ะดบั รู้ เขา้ ใจ มคี ณุ ธรรม จริยธรรม เจตคติที่ดี มที ักษะในการดแู ลและสร้างเสรมิ การมีพฤตกิ รรม สขุ ภาพทดี่ ปี ฏิบัตเิ ป็นกจิ นิสัยตลอดจนปอ้ งกันพฤตกิ รรมเสย่ี งต่อสขุ ภาพและดำรงชวี ิตของตนเองและ ครอบครัวอย่างมีความสุข ศกึ ษาและฝกึ ปฏบิ ัตเิ ก่ียวกับเรอื่ งต่อไปนี้ การพัฒนาการเบ้ืองต้นตามวัยของมนุษย์ การเปล่ียนแปลงและการเจริญเติบโตของมนุษย์ บทบาทหน้าทแี่ ละความสมั พันธ์ของสมาชิกในครอบครวั ทักษะทจ่ี ำเปน็ ต่อชวี ิต คา่ นิยมเกยี่ วกับชวี ิต ครอบครัวและพฤติกรรมทางเพศ การจัดการอารมณ์และความต้องการทางเพศ ความหมาย ความสำคัญหลกั การ รูปแบบของทกั ษะการเคลอ่ื นไหวแบบต่างๆ วธิ ีการเคลอ่ื นไหวทถ่ี ูกต้องตามหลกั วิทยาศาสตร์ แหล่งบริการข้อมลู ข่าวสารด้านการออกกำลังกายและกีฬา สภาพแวดล้อมกับการ ส่งเสริมสุขภาพ วิธีจัดสภาพแวดล้อมของครอบครวั ท่ีเอ้ือตอ่ สุขภาพ ความหมาย และสำคัญของการมี สุขภาพดี หลักการดแู ลสขุ ภาพเบอื้ งตน้ การป้องกัน การสง่ เสรมิ การรักษาพยาบาลเบ้อื งต้นและการฟน้ื ฟู สุขภาพ กลวธิ ีนำไปสกู่ ารมีพฤติกรรมที่สุภาพ การปอ้ งกนั หลกี เลี่ยงโรค อาการผดิ ปกติทางกาย ทางจิต สารเสพติด เอดส์ และโรคที่พบบ่อยในครอบครัวและชุมชน การเลือกใช้ภูมิปัญญาไทยและ สมุนไพรเพื่อสุขภาพ ข้อมูลข่าวสารผลิตภัณฑ์และบริการสุขภาพ สิทธิผู้บริโภคและกฎหมายที่ เก่ียวข้อง การวางแผนชีวิตเพื่อการมีสุขภาพท่ีดี การตรวจสอบและประเมินภาวะสุขภาพ การปรับ พฤตกิ รรมสุขภาพ ความหมาย และความสำคญั ของข้อมูลสารสนเทศ แหลง่ ข้อมลู สารสนเทศ วธิ ีแสวงหา และวิธีเลือกใช้ข้อมูลสารสนเทศ การเผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร ความหมาย ความสำคัญของสมรรถภาพทาง กาย หลกั การวิธีการทดสอบ และสร้างเสริมสมรรถภาพทางกายเพื่อสุขภาพเบื้องต้น ปัจจัยเส่ียงใน การดำรงชีวิต การป้องกันและหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยง การป้องกัน หลีกเลี่ยงและการให้ความ ช่วยเหลือเม่ือเกิดอบุ ตั ิเหตุ การเกิดอัคคีภยั มลพษิ และสารเคมี หลกั และวธิ กี ารปฐมพยาบาลเบือ้ งต้น การจัดประสบการณ์การเรยี นรู้ ศึกษาเอกสาร สือ่ ทุกประเภท วเิ คราะห์ อภิปรายแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ศึกษาจากสภาพจรงิ สาธิต ทดลองฝึกปฏิบัติ ค้นคว้า สรุป บันทึก ตรวจสอบ การประเมินตนเอง จัดทำช้ินงาน/ผลงาน จัด แสดงนิทรรศการ ศกึ ษาดูงาน กิจกรรมค่าย ฯลฯ การวดั และประเมนิ ผล ประเมนิ ความรู้ ความเขา้ ใจ ชิน้ งาน ผลงาน โดยวธิ ีการ ทดสอบ สังเกต สัมภาษณ์ ตรวจสอบ ประเมนิ การปฏบิ ัติจรงิ และประเมนิ สภาพจรงิ

105 รายละเอยี ดคำอธิบายรายวชิ า ทช12005 สขุ ภาพพลานามยั จำนวน 3 หน่วยกิต ระดับประถมศึกษา มาตรฐานการเรยี นรู้ระดับประถมศึกษา รู้ เขา้ ใจ มคี ุณธรรม จริยธรรม เจตคตทิ ด่ี ี มที กั ษะในการดแู ลและสรา้ งเสรมิ การมพี ฤติกรรม สุขภาพที่ดี ปฏิบตั ิเปน็ กจิ นสิ ยั ตลอดจนป้องกนั พฤติกรรมเสยี่ งต่อสุขภาพและดำรงชีวิตของตนเองและ ครอบครวั อยา่ งมคี วามสขุ ท่ี หัวเร่ือง ตัวชว้ี ดั เนอื้ หา จำนวน (ช่วั โมง) 1 การพฒั นาการตาม 1. อธบิ ายการ 1. พฒั นาการเบือ้ งตน้ ตามวยั ของ 5 วยั มนุษย์ และการ พฒั นาการของรา่ งกาย มนุษย์ เช่น พัฒนาการทาง เปล่ยี นแปลงและ สมองและจิตใจ ดา้ นรา่ งกาย สมองและจิตใจ การเจรญิ เตบิ โตของ 2. อธบิ ายการ 2. การเปลยี่ นแปลงและการ มนษุ ย์ เปลยี่ นแปลงด้าน เจริญเตบิ โตของมนุษย์ รา่ งกาย จติ ใจ อารมณ์ 2.1 ด้านร่างกาย สังคม สตปิ ญั ญาและจติ 2.2 ดา้ นจติ ใจ วิญญาณของคนทุกวยั 2.3 ดา้ นอารมณ์ 2.4 ดา้ นสังคม 2.5 ด้านสติปญั ญาและ จิต วิญญาณ 2 ชีวิตและครอบครัว อธิบายคณุ คา่ ของการ 1. บทบาทหน้าทแ่ี ละความสัมพนั ธ์ 10 ศึกษา มีชวี ิตครอบครัวท่ี ของสมาชกิ ในครอบครวั อบอนุ่ ตามวถิ ีชีวิตของ 2. ทักษะท่จี ำเป็นตอ่ ชวี ิต วัฒนธรรมไทยทม่ี ผี ล 2.1 การสรา้ งสมั พันธภาพและ ต่อสุขภาพ การรกั ษาสัมพนั ธภาพ 2.2 การตัดสินใจและ การ แก้ปัญหาชวี ติ 3. ค่านิยมเก่ยี วกับชีวิตครอบครวั และพฤตกิ รรมทางเพศ

106 ที่ หวั เรือ่ ง ตวั ชว้ี ัด เนื้อหา จำนวน (ช่ัวโมง) 3 การจัดการ สามารถตัดสนิ ใจและแกไ้ ขปญั หา การจดั การอารมณแ์ ละความ 10 อารมณ์และ ทางเพศไดอ้ ย่างเหมาะสม ต้องการทางเพศ ความต้องการ ทางเพศ 4 ทกั ษะการ สามารถแสดงทกั ษะการ ความหมาย ความสำคญั หลกั การ 10 เคลือ่ นไหวแบบ เคล่อื นไหวในลักษณะผสมผสานได้ รปู แบบของทักษะการเคลอ่ื นไหว ตา่ งๆ ตามลำดบั ท้ังแบบอยกู่ ับท่ี แบบต่างๆ แบบเคล่อื นที่ และแบบอุปกรณใ์ น การเข้าร่วมกจิ กรรมทางกายและ กฬี า 5 การเคลอ่ื นไหว สามารถจำแนกหลักการการ วิธีการเคล่อื นไหวที่ถกู ต้อง ตาม 5 ตามหลกั เคลอ่ื นไหวในเรือ่ งการรบั แรง การ หลกั วทิ ยาศาสตร์ วทิ ยาศาสตร์ ใชแ้ รงความสมดลุ และมีสว่ นรว่ ม ในกิจกรรมทางกายและเลน่ เกมได้ อย่างปลอดภยั และสนุกสนาน 6 สขุ ภาพกบั อธิบายความสัมพนั ธ์ระหว่าง 1. สภาพแวดลอ้ มกับ 5 สิ่งแวดล้อม พฤติกรรมสุขภาพ สงิ่ แวดลอ้ ม การสง่ เสรมิ สุขภาพ และชวี ิตความเปน็ อยทู่ ่ีดรี วมทงั้ 2. วธิ จี ดั สภาพแวดล้อมของ วิเคราะหผ์ ลการมพี ฤตกิ รรม ครอบครวั ทเี่ อือ้ ตอ่ สุขภาพ สุขภาพทดี่ ี 7 การดูแลสขุ ภาพ อธิบายความสำคญั ของการมี 1. ความหมาย และสำคญั ของ 10 ตนเองและผอู้ ่ืน พฤตกิ รรมสขุ ภาพท่ดี ี ตลอดจน การมสี ุขภาพดี ปฏบิ ตั ิจนเปน็ กจิ นสิ ยั 2. หลกั การดแู ลสขุ ภาพเบอื้ งต้น 3. การป้องกนั การสง่ เสริม การรกั ษาพยาบาลเบอื้ งต้น และการฟน้ื ฟสู ุขภาพ

107 คำอธิบายรายวิชา ทช12006 ศิลปศกึ ษา จำนวน 3 หน่วยกิต ระดับประถมศึกษา มาตรฐานการเรยี นรรู้ ะดบั รู้ เขา้ ใจ มคี ณุ ธรรม จริยธรรม ชื่นชม เหน็ คณุ ค่าความงาม ความไพเราะ ธรรมชาติ สิ่งแวดลอ้ ม ทางทัศนศลิ ป์ ดนตรี และนาฏศลิ ป์พืน้ บา้ น และสามารถวิเคราะหว์ ิพากษ์วจิ ารณไ์ ด้อยา่ ง เหมาะสม ศกึ ษา และฝกึ ปฏิบัติ ดงั น้ี คอื การสอื่ ความคิด จนิ ตนาการความรสู้ กึ และความประทบั ใจ ด้วยองค์ประกอบทัศนศิลป์ วธิ ีการทางศลิ ปะ การเลอื กใชว้ ัสดอุ ุปกรณใ์ นการทำกจิ กรรมทศั นศิลป์ การนำความร้แู ละวธิ ีการ ทัศนศิลป์ การสืบทอดงานศลิ ปะไปใช้ในหมวดวิชาอืน่ ๆ และในชีวิตประจำวัน ความแตกต่างของเสียง เครอื่ งดนตรชี นดิ ตา่ งๆ การใช้เสียงดนตรีในการสอ่ื ความรสู้ กึ การ บรรเลงเด่ยี วและบรรเลงเป็นวง การขับรอ้ งและบรรเลงดนตรี การใช้และการเก็บรักษาเครอื่ งดนตรี การนำความร้ขู องดนตรีไปใชใ้ นหมวดวิชาอนื่ ๆ และในชีวติ ประจำวนั การแสดงออกอยา่ งอสิ ระ หลกั การและการแสดงนาฏศลิ ปจ์ ากประสบการณ์ การฝึกฝน และ การสงั เกต การนำความรู้ ความเข้าใจเก่ียวกับละครสร้างสรรค์ และนาฏศลิ ป์ไปใชใ้ นหมวดวิชาอื่นๆ และในชีวิตประจำวนั การจดั ประสบการณก์ ารเรียนรู้ ศึกษาจากเอกสาร ผู้รู้ แลกเปล่ียนความรู้ซ่ึงกันและกัน ฝึกทักษะเกี่ยวกับทัศนศิลป์ ดนตรี นาฏศิลป์ จดบันทึกสรุปองค์ความรู้ และนำความรู้ที่ได้ไปประยุกต์ใช้เรยี นรู้ ในหมวดวิชาอื่นๆ และ นำไปใช้ในชวี ิตประจำวนั อย่างสร้างสรรค์ การวัดและประเมนิ ผล ประเมินความรู้ ความเข้าใจ ความคิดเห็น ชิ้นงาน ผลงาน โดยวิธีการทดสอบ สังเกต สมั ภาษณ์

108 รายละเอียดคำอธบิ ายรายวิชา ทช12006 ศลิ ปศึกษา จำนวน 3 หน่วยกติ ระดับประถมศึกษา มาตรฐานการเรียนรู้ระดับ รู้ เขา้ ใจ มคี ุณธรรม จริยธรรม ช่นื ชม เห็นคณุ คา่ ความงาม ความไพเราะ ธรรมชาติ ส่งิ แวดลอ้ ม ทางทศั นศิลป์ ดนตรี และนาฏศิลป์พืน้ บ้าน และสามารถวิเคราะห์วิพากษ์วิจารณไ์ ดอ้ ย่างเหมาะสม ที่ หวั เรือ่ ง ตวั ชว้ี ดั เนื้อหา จำนวน 1 ทัศนศลิ ป์ (ชวั่ โมง) ส่อื ความคิด จินตนาการ 1. การสอ่ื ความคดิ จินตนาการ ความรสู้ ึกและความประทบั ใจ ความรู้สึกและความ 5 ด้วยวชิ าการตา่ งๆ อย่างม่ันใจ ประทับใจด้วยองค์ประกอบ ทัศนศลิ ป์ 2. วธิ ีการทางศิลปะ เลือกใชว้ ัสดุ อุปกรณ์ในการ การเลอื กใชว้ สั ดุ อปุ กรณ์ 15 ทำกจิ กรรมทศั นศลิ ปไ์ ด้ ในการทำกจิ กรรมทศั นศิลป์ อย่างเหมาะสมปลอดภยั เกย่ี วกบั งานเขียน งานปน้ั และมคี วามรบั ผิดชอบ งานออกแบบ และงานประดิษฐ์ นำความรแู้ ละวธิ ีการทาง 1. การนำความรูแ้ ละวธิ ีการ 10 ทัศนศลิ ป์ไปใช้กบั หมวดวชิ า ทางทัศนศิลปไ์ ปใช้ในการ อ่นื ๆ และชวี ิตประจำวัน เรียนรกู้ บั หมวดวิชาอน่ื 2. การนำความรู้ และวธิ กี าร ทางทศั นศิลป์ไปใชใ้ น ชวี ิตประจำวนั 2 ดนตรี 1. อธิบายความแตกตา่ งของ 1. เสยี งของเครอ่ื งดนตรชี นิด 5 20 เสียงเครือ่ งดนตรชี นดิ ต่างๆ ตา่ งๆ ทั้งบรรเลงเดยี่ ว ทั้งบรรเลงเด่ียว และ และบรรเลงเป็นวง บรรเลงเป็นวง 2. อธิบายการใชเ้ สียงดนตรีใน 2. การใช้เสยี งดนตรีในการ การสอื่ ความรู้สกึ ส่อื ความรสู้ ึก ขบั รอ้ งและบรรเลงดนตรี 3. องค์ประกอบของดนตรี

109 ท่ี หวั เรื่อง ตวั ช้ีวดั เนื้อหา จำนวน 3 นาฏศลิ ป์ โดยใช้องคป์ ระกอบดนตรี (ชั่วโมง) และเทคนคิ เบ้อื งตน้ ใหไ้ ด้ผล และเทคนคิ เบอ้ื งต้น ตามความต้องการ 4. หลกั การขับรอ้ ง 5 5. การฝึกปฏบิ ัติการขบั รอ้ ง ใช้และการเกบ็ รักษาเครอ่ื ง 6. หลักการบรรเลงดนตรี ดนตรีได้อยา่ งถูกตอ้ งและ 7. การฝึกปฏิบตั ิการบรรเลง ปลอดภัย ดนตรี 1. วิธีใช้เคร่อื งดนตรี 2. การเกบ็ รักษาเครื่องดนตรี แสดงออกทางดนตรอี ยา่ ง การนำความรู้ของดนตรีไปใช้ 10 สรา้ งสรรค์ และนำความรู้ กบั วชิ าอน่ื และชีวิตประจำวัน 5 ทางดา้ นดนตรไี ปใช้กับวชิ า อืน่ ๆ และชวี ติ ประจำวนั 1. หลักการแสดงออกอย่าง 10 การแสดงออกอยา่ งอสิ ระตาม อิสระตามจนิ ตนาการ 20 จินตนาการ หรอื เร่อื งแต่ง เรือ่ งแต่ง หรอื ประสบการณ์ หรือประสบการณ์ชวี ติ ใน ชวี ติ ในรปู แบบของการแสดง รูปแบบตา่ งๆ ตา่ งๆ รำ เต้นเบอื้ งต้น และการ 2. การฝกึ แสดงออกอย่างอสิ ระ แสดงออกตามลกั ษณะ ตามจินตนาการ เรื่องแต่ง และรปู แบบ หรอื ประสบการณช์ ีวติ ใน รปู แบบต่างๆ แสดงนาฏศิลปจ์ าก ประสบการณ์ การฝึกฝน 1. ความรู้พ้นื ฐานเกย่ี วกับการ และการสงั เกต รำ และการเต้นเบือ้ งต้น 2. การแสดงออกตามลกั ษณะ และรปู แบบ 1. หลักการแสดงนาฏศิลปจ์ าก ประสบการณ์ การฝกึ ฝน และการสังเกต 2. การแสดงนาฏศลิ ป์จาก ประสบการณ์ การฝึกฝน และการสังเกต

110 ที่ หวั เร่อื ง ตวั ชี้วัด เนือ้ หา จำนวน (ชวั่ โมง) เชอ่ื มโยงความรู้ ความเขา้ ใจ 1. การนำความรู้ ความเข้าใจ 15 เกีย่ วกบั ละครสร้างสรรค์ และ เกย่ี วกับละครสร้างสรรค์ นาฏศลิ ป์ ไปใชใ้ นการเรยี นรู้ และนาฏศลิ ปไ์ ปใชใ้ นการ หมวดวิชาอืน่ ๆ และ เรียนรู้หมวดวชิ าอ่นื ชีวติ ประจำวนั 2. การนำความร้คู วามเข้าใจ เกี่ยวกับละครสรา้ งสรรค์ และนาฏศลิ ป์ไปใชใ้ น ชวี ติ ประจำวนั

111 คำอธิบายรายวิชา รหัสวชิ า ทช12012 การเขียนลายไทยพนื้ ฐาน จำนวน 2 หน่วยกิต ระดับประถมศึกษา มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐานท่ี 4.3 มีความรู้ ความเขา้ ใจ และเจตคตทิ ด่ี ี เกีย่ วกับศลิ ปะและสนุ ทรียภาพ มาตรฐานการเรียนรรู้ ะดบั รู้ เข้าใจ มีคุณธรรม จริยธรรม ชื่นชม เห็นคุณค่าความงาม ความไพเราะ ธรรมชาติ สิ่งแวดล้อมทางทัศนศิลป์ ดนตรี และนาฏศิลป์ไทย และสามารถวิเคราะห์ วพิ ากษ์วิจารณ์ ได้อย่าง เหมาะสม ศกึ ษาและฝึกทักษะเกี่ยวกบั เรอ่ื งต่อไปน้ี บอ่ กำเนิดของลายไทย แรงบนั ดาลใจของชา่ งศิลป์ไทย สุนทรยี ภาพของลายไทย ววิ ฒั นาการ ของลายไทย คุณค่าของลายไทย เครือ่ งมอื และวัสดุอปุ กรณ์ทใี่ ช้ในการเขยี นลายไทย การใชง้ านเครื่องมอื วสั ดอุ ุปกรณ์ที่ใช้ ในการเขยี นลายไทย วธิ กี ารดแู ล เก็บรักษาเครอื่ งมอื วัสดุอปุ กรณท์ ่ใี ชใ้ นการเขียนลายไทย รูปแบบการเขยี นภาพลวดลายไทยพ้นื ฐาน เสน้ ในงานจติ รกรรมไทย การเขียนลายประจำยาม การเขียนลายประจำยาม ดอกลอย การเขียนลายประจำยาม ก้ามปูการเขียนลายประจำยาม กา้ นแยง่ การเขยี นลายประจำยาม ลกู ฟกั การวดั และประเมินผล ประเมินจากการสังเกต การอภปิ ราย การสัมภาษณ์ ทักษะปฏิบตั ิ การมสี ่วนร่วมในกิจกรรม การเรยี นรู้ ผลงาน การทดสอบ การประเมนิ การนำไปใช้ในชวี ิตประจำวนั

112 รายละเอียดคำอธิบายรายวิชา รหัสวิชา ทช12012 การเขยี นลายไทยพ้นื ฐาน จำนวน 2 หน่วยกติ ระดบั ประถมศึกษา มาตรฐานการเรยี นรู้ระดบั รู้ เข้าใจ มีคุณธรรมจริยธรรม ช่ืนชม เห็นคุณค่าความงาม ความไพเร าะ ธรรมชาติ สิ่งแวดล้อมทางทัศนศิลป์ ดนตรี และนาฏศลิ ป์พื้นบา้ น และสามารถวเิ คราะห์ วพิ ากษว์ ิจารณ์ ได้อยา่ ง เหมาะสม ท่ี หวั เรื่อง ตัวช้ีวดั เนอ้ื หา จำนวน (ชม.) 1. บอ่ กำเนดิ ของลายไทย 1. อธบิ ายบอ่ กำเนิดของลายไทย 1. บอ่ กำเนิดของลายไทย แรงบนั ดาล 6 แรงบนั ดาลใจของชา่ งศิลป์ไทย ใจของชา่ งศิลป์ไทย 2. อธบิ ายสุนทรยี ภาพของลาย 2. สนุ ทรยี ภาพของลายไทย ไทย วิวัฒนาการของลวดลายไทย ววิ ัฒนาการของลวดลายไทย 3. อธิบายคุณคา่ ของลายไทย 3. คณุ ค่าของลายไทย 2. เคร่อื งมือ และวสั ดุ 1. อธบิ ายชนิดของเคร่อื งมือ วัสดุ 1. เครื่องมอื วสั ดุ อุปกรณท์ ่ีใช้ในงาน 6 อุปกรณท์ ่ใี ชใ้ นการ อุปกรณท์ ใี่ ช้ในงานการเขียน การเขียนลายไทย เขียนลายไทย ลายไทย 2. วธิ ีการใชง้ านเครื่องมอื วัสดุอุปกรณ์ 2. อธิบายการใชง้ านรวมถึง ทีใ่ ชใ้ นการเขยี นลายไทย วธิ กี ารเกบ็ รกั ษา เครอื่ งมอื วสั ดุ 3. วธิ กี ารดแู ล เก็บรกั ษาเครอ่ื งมอื อปุ กรณ์ ทใ่ี ช้ในการเขียนลายไทย วัสดุ อปุ กรณท์ ใี่ ชใ้ นการเขียนลายไทย 3. รูปแบบการเขียนภาพ 1. อธบิ ายหลกั การ ขัน้ ตอน 1. หลกั การ ข้ันตอนในการเขียนลาย 10 ลวดลายไทยพืน้ ฐาน ในการเขยี นลายไทยขน้ั พ้นื ฐาน ไทยข้ันพ้ืนฐาน 2. อธบิ ายถึงเส้นในภาพลายไทย 2. เสน้ ในภาพลายไทย 4. การเขียนลายประจำ 1. อธบิ ายหลักการ และข้นั ตอน 1. การเขยี นลายประจำยามดอกลอย 58 ยาม ในการเขียนลายประจำยาม 2. การเขียนลายประจำยามกา้ มปู 2.อธบิ ายลายประจำยามชนดิ 3. การเขยี นลายประจำยามกา้ นแยง่ ตา่ งๆ 4. การเขียนลายประจำยามลูกฟกั

113 คำอธบิ ายรายวิชา รหัสวิชา ทช12013 การวาดเส้นหนุ่ น่ิง จำนวน 2 หน่วยกติ ระดับประถมศึกษา มาตรฐานการเรยี นรู้ระดับ มาตรฐานที่ 4.3 มคี วามรู้ ความเข้าใจ และเจตคติทดี่ ี เกย่ี วกบั ศิลปะและสนุ ทรยี ภาพ มาตรฐานการเรียนรู้ระดับ รู้ เขา้ ใจ มีคณุ ธรรมจรยิ ธรรม ชื่นชม เหน็ คณุ ค่าความงาม ความไพเราะ ธรรมชาติ ส่ิงแวดลอ้ มทางทัศนศิลป์ ดนตรี และนาฏศิลปพ์ นื้ บา้ น และสามารถวเิ คราะห์ วพิ ากษ์วจิ ารณ์ ไดอ้ ย่าง เหมาะสม ศึกษาและฝกึ ทักษะเกี่ยวกับเร่ืองตอ่ ไปนี้ ความหมาย ประเภท และคณุ ค่าของงานวาดเสน้ เครอ่ื งมือและวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ในงานวาดเส้น วิธีการใช้งานวสั ดุอปุ กรณ์ วิธีการดูแล เก็บ รักษาวสั ดอุ ปุ กรณ์ทใี่ ช้ในงานวาดเส้น ลักษณะของเส้น ความหมายและความรสู้ ึกของเสน้ ความสำคัญของเส้น การวาดเส้นหุ่นนิ่ง การร่างภาพ วิธกี ารจับดินสอ การจัดองค์ประกอบของภาพ การแรเงา น้ำหนักหุ่นนง่ิ ลกั ษณะของแสงเงา เทคนคิ การลงแสงเงาให้แสดงความงามแบบเหมอื นจริง ฝึกปฏิบัติการวาดเส้นหุ่นน่ิงรปู ทรงเลขาคณิต ฝึกปฏิบัตกิ ารขีดเส้น วาดเส้นลกั ษณะต่างๆ ฝึกปฏบิ ตั ิการวาดเส้นหนุ่ นง่ิ รปู ทรงเลขาคณติ ฝกึ ปฏิบัติการวาดเส้นหุ่นนิ่งวัตถุต่างๆ ฝึกปฏบิ ัติการวาดเส้นหุ่นนง่ิ วัตถตุ ่างๆ แบบเอาท์ ไลน์ ฝกึ ปฏบิ ัตกิ ารวาดเส้นหุน่ น่งิ วัตถตุ า่ งๆ แบบลงนำ้ หนักแสงเงา การวัดและประเมินผล ประเมินจากการสังเกต การอภปิ ราย การสมั ภาษณ์ ทกั ษะปฏิบตั ิ การมสี ่วนร่วมในกิจกรรม การเรยี นรู้ ผลงาน การทดสอบ การประเมนิ การนำไปใชใ้ นชีวิตประจำวัน

114 รายละเอียดคำอธบิ ายรายวชิ า รหสั วิชา ทช12013 การวาดเส้นห่นุ นิ่ง จำนวน 2 หน่วยกติ ระดับประถมศึกษา มาตรฐานการเรียนร้รู ะดบั รู้ เข้าใจ มีคุณธรรมจริยธรรม ช่ืนชม เห็นคุณค่าความงาม ความไพเราะ ธรรมชาติ สิ่งแวดลอ้ มทางทัศนศลิ ป์ ดนตรี และนาฏศิลป์พน้ื บา้ น และสามารถวเิ คราะห์ วพิ ากษว์ ิจารณ์ ไดอ้ ย่าง เหมาะสม ที่ หัวเรื่อง ตวั ชว้ี ดั เนอ้ื หา จำนวน 1. ความหมาย ประเภท 1. อธิบายความหมาย ประเภท 1. ความหมายของงานจติ รกรรม (ชม.) และคุณค่าของงานวาดเสน้ 2. ประเภทของงานจิตรกรรม และคุณคา่ ของงาน 3. คณุ คา่ ของงานจติ รกรรม 3 วาดเส้น 1. อธบิ ายชนดิ ของเครอ่ื งมือและ 1. เครื่องมอื วสั ดอุ ปุ กรณ์ทีใ่ ชใ้ นงาน 3 2. เคร่ืองมือและวัสดุ วสั ดุอปุ กรณ์ท่ีใช้ในงานวาดเสน้ วาดเส้น อปุ กรณท์ ่ใี ช้ ในงาน 2. อธิบายการใช้งานเครอ่ื งมอื 2. วธิ ีการใชง้ านเครือ่ งมอื วัสดุ 4 วาดเสน้ และวัสดอุ ปุ กรณท์ ใ่ี ชใ้ นงานวาด อุปกรณท์ ใ่ี ช้ในงานวาดเสน้ 10 เสน้ 3. วิธกี ารดูแล เกบ็ รกั ษาเครอื่ งมอื 3. ลกั ษณะของเสน้ 3. อธิบายวธิ กี ารเก็บรักษา วัสดอุ ุปกรณท์ ่ีใช้ในงานวาดเส้น เคร่อื งมือและวัสดุอปุ กรณท์ ี่ใช้ใน 4. การวาดเส้นหุ่นน่งิ งานวาดเส้น 1. ลักษณะของเสน้ 1. อธบิ ายลักษณะของเส้น 2. ความหมายและความรสู้ กึ ของ ความหมายและความรสู้ ึกของ เสน้ เส้นความสำคญั ของเสน้ 3. ความสำคญั ของเสน้ 1. อธบิ ายการจัดภาพ รา่ งภาพ 1. การร่างภาพ วิธีการจบั ดินสอ โครงสรา้ ง สัดส่วนของหนุ่ น่งิ ตาม 2. การจัดองค์ประกอบของภาพ แบบได้ 3. การแรเงาน้ำหนกั ห่นุ นิง่ 2. อธบิ ายการแรเงานำ้ หนกั หนุ่ 4. ลกั ษณะของแสงเงา น่งิ ใหแ้ สดงความงามแบบเหมอื น 5. เทคนคิ การลงแสงเงาใหแ้ สดง จริง ความงามแบบเหมือนจริง

115 ท่ี หัวเรอื่ ง ตัวชว้ี ัด เน้อื หา จำนวน (ชม.) 5. ฝกึ ปฏิบัตกิ ารวาดเส้น 1. สามารถจดั ภาพ รา่ งภาพ 1. ฝึกปฏบิ ตั กิ ารเขียนเส้น วาดเสน้ 20 หุ่นน่ิงรปู ทรงเลขาคณติ โครงสร้าง สัดส่วนของหุน่ นิ่งตาม ลกั ษณะต่าง ๆ แบบรปู ทรงเลขาคณิตได้ 2. ฝกึ ปฏบิ ตั ิการวาดเสน้ หุ่นนิง่ 2. สามารถแรเงานำ้ หนกั หุ่นนงิ่ รูปทรงเลขาคณติ ให้แสดงความงามแบบเหมอื นจรงิ 6. ฝึกปฏบิ ัตกิ ารวาดเส้น 1. สามารถจัดภาพ รา่ งภาพ 1. ฝกึ ปฏิบัติการวาดเสน้ หนุ่ นิง่ วัตถุ 40 หนุ่ นิ่งวัตถุตา่ ง ๆ โครงสรา้ ง สัดสว่ นของหุ่นน่ิงตาม ตา่ ง ๆ แบบเอาทไ์ ลน์ แบบวตั ถุตา่ ง ๆ ได้ 2. ฝึกปฏบิ ัตกิ ารวาดเส้นหนุ่ นิ่งวตั ถุ 2. สามารถแรเงานำ้ หนักหุ่นนง่ิ ตา่ งๆ แบบลงนำ้ หนักแสงเงา ให้แสดงความงามแบบเหมือนจรงิ

116 คำอธบิ ายรายวชิ า ทช12014 การขับรอ้ งเบอ้ื งต้น จำนวน 2 หน่วยกิต ระดับประถมศึกษา มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐานท่ี 4.3 มีความรคู้ วามเข้าใจ และเจตนคตทิ ด่ี เี ก่ียวกับศลิ ปะและสนุ ทรียภาพ มาตรฐานการเรียนรรู้ ะดับ รู้ เข้าใจ มีคุณธรรม จริยธรรม ช่ืนชม เห็นคุณค่าความงาม ความไพเราะ ธรรมชาติ ส่งิ แวดล้อมทาง ทศั นศิลป์ ดนตรี และนาฏศิลป์ไทย และสามารถวเิ คราะห์ วพิ ากษ์ วิจารณ์ ได้อยา่ ง เหมาะสม ศึกษาและฝึกทักษะเกี่ยวกับเร่ืองตอ่ ไปนี้ การออกเสยี งในการขับร้องเพลงที่ถูกต้องชัดเจน การออกเสียงตามบันไดเสียงและตัวโน้ต การใชภ้ าษาไทยในการขบั รอ้ งเพลงได้ถูกต้องท้ังอกั ขระและคำควบกล้ำ การขับร้องเพลงพธิ ีการและ เพลงร่วมสมยั ร่วมกบั เคร่อื งดนตรหี รือวงดนตรี การจัดประสบการณก์ ารเรยี นรู้ การศึกษาตัวอย่างความสำเรจ็ ในอาชีพนักร้อง ศิลปินต้นแบบ จากส่ือวดี ีทศั น์ ฝึกปฏิบัติขับ ร้องเพลงกับโปรแกรมคาราโอเกะ เพลงหมแู่ ละเพลงประสานเสยี ง การวัดและประเมนิ ผล จากการสงั เกต การปฏิบตั ิ

117 รายละเอียดคำอธิบายรายวิชา ทช12014 การขับรอ้ งเบอ้ื งต้น จำนวน 2 หน่วยกิต ระดบั ประถมศึกษา มาตรฐานการเรียนรรู้ ะดบั รู้ เข้าใจ มีคุณธรรม จริยธรรม ชื่นชม เห็นคุณค่าความงาม ความไพเราะ ธรรมชาติ ส่ิงแวดล้อมทาง ทัศนศิลป์ ดนตรี และนาฏศิลป์ไทย และสามารถวิเคราะห์ วิพากษ์ วจิ ารณ์ ได้อย่าง เหมาะสม ท่ี หัวเร่อื ง ตัวช้วี ดั เนือ้ หา จำนวนช่ัวโมง ทฤษฎี ปฏบิ ตั ิ 1 ทกั ษะการออกเสียง 1.อธบิ ายหลกั การ 1.หลกั การออกเสียงการขับ ออกเสยี งได้ ร้อง 28 2.ออกเสยี งตามบันไดเสียงและ 1.1 การหายใจ ตัวโนต้ 1.2 ทา่ ทาง 4 1.3 การวอร์มเสยี ง 2 2.การออกเสยี งตามบันได เสยี งและตวั โน้ต 40 2 ทักษะการใช้ ออกเสยี งตามอกั ขระและตัว 1.การอา่ นเนอ้ื เพลงตวั อย่าง 20 ภาษาไทย ควบกล้ำได้ 2.การฝกึ เสียงควบกลำ้ 22 3 ประเภทของเพลง บอกประเภทของแนวเพลง ประเภทของเพลง ตา่ งๆ 1.เพลงพธิ กี าร 2.เพลงสมยั นิยม 4 การขบั ร้องเพลง ขับร้องเพลงทชี่ อบหรอื เพลง 1.การรอ้ งเพลงกับวงดนตรี เดยี่ ว สมัยนยิ มได้อยา่ งนอ้ ย 1 เพลง 2.การขับร้องเพลงกบั โปรแกรมคาราโอเกะ 5 การขบั รอ้ งเพลงหมู่ ผเู้ รยี นสามารถขบั ร้องเพลงหมู่ 1.การรอ้ งเพลงหมู่ และเพลงประสาน หรือเพลงประสานเสยี งไดอ้ ยา่ ง 2.การรอ้ งเพลงประสาน เสียง น้อย 1 เพลง เสียง 6 คณุ ลกั ษณะท่ดี ีของ ผู้เรยี นบอกคุณลักษณะทด่ี ีของ 1.บคุ ลิกทเี่ หมาะสม การยืน นักร้อง การเปน็ นกั ร้องไดถ้ กู ต้อง การแนะนำตวั การแนะนำ เพลง

118 คำอธบิ ายรายวิชา ทช22001 ระบำ รำ ฟอ้ น จำนวน 1 หน่วยกิต ระดับมัธยมศกึ ษาตอนต้น มาตรฐานที่ 4.3 มีความรู้ ความเข้าใจ และเจตคติท่ีดีเกย่ี วกบั ศิลปะและสนุ ทรียภาพ ศกึ ษาและฝึกทักษะเก่ียวกบั เร่ืองต่อไปน้ี ความหมาย ความเป็นมา ความสำคัญของ ระบำ รำ ฟ้อน เน้ือร้อง ท่ารำ การแต่งกาย รูปแบบการแสดงเนื่องในโอกาสต่าง ๆ ประเภทของการแสดงชดุ ต่าง ๆ สนุ ทรยี ภาพ การซาบซ้งึ เห็น คุณคา่ ความงดงามของศิลปะนาฏศิลป์ไทย การจดั ประสบการณ์การเรยี นรู้ ศกึ ษาจากส่ือต่าง ๆ เช่น เอกสาร ส่ือเทคโนโลยี ส่ือวีซีด/ี วีดีทัศน์ แหล่งเรียนรู้ ภูมิปัญญา องค์กรสถาบัน ศึกษากรณีตัวอย่าง สาธิต ฝึกปฏิบัติจริง วิพากษ์ วิจารณ์ แลกเปล่ียนเรียนรู้ เห็น คณุ ค่าความงดงามของศลิ ปะ นาฏศลิ ปไ์ ทย การวดั และประเมินผล ประเมินความรู้ ความเข้าใจ จากการทดสอบภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ การสังเกต การ สมั ภาษณป์ ระเมินการมสี ว่ นรว่ ม/ฝกึ ปฏบิ ตั ิกจิ กรรม ระบำ รำ ฟอ้ น ชนิ้ งาน/ผลงาน/รายงาน

119 คำอธิบายรายวิชา ทช22001 ระบำ รำ ฟอ้ น จำนวน 1 หน่วยกิต ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนต้น มาตรฐานที่ 4.3 มีความรู้ ความเขา้ ใจ และมเี จตคติท่ีดเี กี่ยวกับศิลปะและสุนทรียภาพ ท่ี หวั เร่อื ง ตัวชีว้ ดั เน้อื หา จำนวน 1 ระบำ รำ (ช่ัวโมง) 1. อธิบายความหมาย 1. ความหมายและประวัติ 5 ฟอ้ น ความเปน็ มาของนาฏศลิ ป์ไทย ความเป็นมาของระบำ ประเภทตา่ ง ๆ เกี่ยวกบั ระบำ รำ ฟอ้ น รำ ฟ้อน ได้ 2. อธบิ ายความหมายของ 2. ความหมายนาฎยศพั ท์ 10 นาฎยศพั ท์ เนอื้ ร้อง ท่ารำ เนือ้ ร้อง ท่ารำ การแสดง การแสดง การแตง่ กายของ การแตง่ กาย อุปกรณก์ าร ระบำ รำ ฟอ้ น ได้ แสดงของระบำ รำ ฟ้อน 3. อธบิ ายลกั ษณะรูปแบบ 3. ประเภทของรูปแบบการแสดง 20 วธิ กี ารแสดงระบำ รำ ฟ้อน ชุดตา่ ง ๆ ตลอดจนเปน็ ผถู้ ่ายทอด - ระบำ ได้แก่ ระบำดอกบัว ความรู้ในการแสวงหา/สร้าง ระบ ำกฤษดาภิ หาร ระบ ำชุด สุข โบราณคดตี ่าง ๆ ระบำสตั ว์ต่าง ๆ - รำ ได้แก่ รำแม่บท รำวง รำศรีนวล รำฉยุ ฉาย รำอาวุธ รำกลองยาว เป็นต้น - ฟ้อน ได้แก่ ฟอ้ นเลบ็ ฟ้อนภไู ท เป็นต้น 4. มีความซาบซึ้งและเห็ น 4. ความงดงาม ระบำ รำ ฟ้อน ที่ 5 คุณ ค่าในความงดงามของ มีคณุ คา่ ของการ ระบำ รำ ฟ้อนได้ แสดงท่ีเป็นนาฏศลิ ป์แมบ่ ท มีความเป็นมาตรฐาน

120 คำอธบิ ายรายวชิ า ทช22002 จิตรกรรมไทย จำนวน 1 หน่วยกติ ระดับมัธยมศกึ ษาตอนต้น มาตรฐานท่ี 4.1 มีความรู้ ความเข้าใจและเจตคตทิ ่ีดีเก่ียวกับศลิ ปะและสุนทรยี ภาพ ศึกษาและฝึกทักษะเกยี่ วกับเรอ่ื งตอ่ ไปนี้ เร่ืองของรปู ร่าง รปู ทรงและทัศนธาตุของสิ่งตา่ ง ๆ ในธรรมชาติ ตลอดจนส่งิ แวดลอ้ มต่าง ๆ ของงานจิตรกรรมไทย การส่ือความคิด จินตนาการ ความรู้สึก ความประทับใจของวัสดุ อุปกรณ์ เทคนคิ วิธกี ารของงานจิตรกรรมไทย เขา้ ใจความเชือ่ ทางวัฒนธรรมท่มี ีอิทธพิ ลต่องานจิตรกรรมไทย เห็นความสำคัญของงานจิตรกรรมไทยท่ีนำไปประยุกตใ์ ช้ในชีวิตประจำวนั ตลอดจนมีความซาบซ้ึง เห็นคณุ ค่าในการสร้างสรรค์งานจิตรกรรมไทยทีส่ ะทอ้ นวัฒนธรรมภูมปิ ัญญาของชาติ การจดั ประสบการณก์ ารเรยี นรู้ ศึกษาจากเอกสาร สื่อทกุ ประเภท ส่ือบคุ คล แหล่งความรเู้ กย่ี วกับโบราณวตั ถุ โบราณสถาน และธรรมชาติ ฝึกจินตนาการ วิเคราะห์ ฝึกปฏิบัติ สร้างสรรค์ ทัศนศึกษา กิจกรรมค่าย ๆ ฯลฯ ให้ เห็นคุณค่าและช่ืนชมความงามของจิตรกรรมไทยและการอนุรักษ์ ภูมิปัญญา วัฒนธรรม ประเพณี สงิ่ แวดลอ้ ม การวดั และประเมินผล ประเมินความรู้ ความเข้าใจ ความคิดเห็น ชิ้นงาน ผลงาน โดยวิธีการทดสอบ สัมภาษณ์ สังเกต

121 คำอธิบายรายวชิ า ทช22002 จติ รกรรมไทย จำนวน 1 หน่วยกติ ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนตน้ มาตรฐานท่ี 4.3 มคี วามรู้ ความเข้าใจและเจตคตทิ ีด่ เี ก่ียวกบั ศลิ ปะและสนุ ทรียภาพ ท่ี หัวเรอื่ ง ตัวชี้วัด เนื้อหา จำนวน (ชวั่ โมง) 1 งานจิตรกรรม ไทย 1. อธิบายความแตกต่างและ - ความแตกต่างและความ 3 ความคล้ายคลึงกันของงาน คล้ายคลงึ กันของทศั นธาตุ จติ รกรรมไทยและสิง่ แวดลอ้ มท่ี ในงานจิตรกรรมไทยและ เก่ียวกับทัศนธาตไุ ด้ สิ่งแวดลอ้ ม 2. อธิบายเกีย่ วกับความเหมอื น - ความเหมือนและความ 3 และความแตกตา่ งของรูปแบบ แตกต่างของรูปแบบ การใช้ 3 3 การใช้วัสดุ อุปกรณ์ในงาน วั ส ดุ อุ ป ก ร ณ์ ใ น ง า น จติ รกรรมไทยของศิลปินท่ี จิตรกรรมไทยของศิลปินที่ เลอื กมา เลือกมา 3. อธบิ ายเทคนคิ วธิ กี ารของ 3 . เท ค นิ ค วิ ธี ก า รข อ ง ศิลปินในการสร้างสรรค์งาน ศลิ ปนิ ในการสร้างสรรคง์ าน ดา้ นจิตรกรรมไทยได้ จติ รกรรมไทย 4. อธบิ ายวิธีการสรา้ งผลงาน 4. วธิ ีการสรา้ งงาน จิตรกรรมไทยและสามารถ จิตรกรรม ไท ยแล ะการ นำเสนอตัวอย่างประกอบได้ นำเสนอตัวอยา่ ง

122 ที่ หวั เร่อื ง ตวั ชว้ี ัด เนอื้ หา จำนวน (ช่วั โมง) 5. วิเคราะห์รูปแบบเน้ือหา - การวิเคราะห์ รูป แบ บ 3 และคุณค่าผลงานจิตรกรรม เนอ้ื หาและคณุ คา่ ในผลงาน ไทยของศิลปนิ ที่มคี ุณภาพ ได้ จติ รกรรมไทย 6. อธิบายอาชีพที่เก่ียวข้องกับ - การป ระกอบ อ าชีพ ที่ 19 งานจิตรกรรมไทยและมีทักษะ เก่ียวข้องกับงาน อาชีพท่ีจำเป็นในการประกอบ จติ รกรรมไทย อาชพี นั้น ๆ ได้ 7. เลือกผลงานจติ กรรมไทย - ก า ร จั ด นิ ท ร ร ศ ก า ร 6 โดยใช้เกณฑท์ ีก่ ำหนดข้ึน แสดงผลงานด้านจิตรกรรม อย่างเหมาะสมและนำไปจัด ไทย นทิ รรศการ

123 คำอธิบายรายวชิ า ทช22003 ประติมากรรมไทย จำนวน 1 หน่วยกิต ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนตน้ มาตรฐานท่ี 4.3 มคี วามรู้ ความเข้าใจและเจตคตทิ ด่ี ีเกยี่ วกบั ศลิ ปะและสุนทรียภาพ ศึกษาและฝึกทักษะเกี่ยวกบั เรอ่ื งต่อไปนี้ เร่ืองของรูปร่าง รูปทรงและทัศนธาตุของสิ่งต่าง ๆ ในธรรมชาติ ส่ิงแวดล้อมของงาน ประติมากรรมไทย ส่ือความคิด จินตนาการ ความรู้สึก ความประทับใจของวัสดุ อุปกรณ์ เทคนิค วธิ ีการของประติมากรรมไทย เข้าใจความเช่ือทางวฒั นธรรมท่ีมีอิทธิพลต่องานประติมากรรมไทย ความสำคัญของประติมากรรมไทยทน่ี ำไปประยกุ ต์ใช้ในชีวิตประจำวัน ตลอดจนมีความซาบซ้ึง เห็น คุณค่าในการสร้างสรรค์งานประตมิ ากรรมไทยที่สะทอ้ นวัฒนธรรมภมู ิปญั ญาไทยในทอ้ งถนิ่ และของชาติ การจดั ประสบการณก์ ารเรยี นรู้ ศึกษาจากเอกสาร สอ่ื ทกุ ประเภท สอ่ื บุคคล แหลง่ ความรเู้ ก่ียวกบั โบราณวตั ถุ โบราณสถาน และธรรมชาติ ฝึกจนิ ตนาการ วิเคราะห์ ฝึกปฏิบัติ สร้างสรรค์ ทัศนศึกษา กิจกรรมค่าย ๆ ฯลฯ ให้ เห็นคุณค่าและช่ืนชมความงามของจิตรกรรมไทยและการอนุรักษ์ ภูมิปัญญา วัฒนธรรม ประเพณี สิ่งแวดล้อม การวดั และประเมินผล ประเมินความรู้ ความเข้าใจ ความคิดเห็น ช้ินงาน ผลงาน โดยวิธีการทดสอบ สัมภาษณ์ สงั เกต

124 คำอธบิ ายรายวิชา ทช22003 ประติมากรรมไทย จำนวน 1 หน่วยกิต ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนต้น มาตรฐานที่ 4.3 มีความรู้ ความเข้าใจและเจตคติท่ดี ีเก่ียวกับศลิ ปะและสนุ ทรียภาพ ท่ี หัวเรอื่ ง ตัวชวี้ ดั เนอ้ื หา จำนวน (ช่ัวโมง) งานประติมากรรม 1. อธิบายความแตกต่างและ 1. ความแตกต่างและความ 3 ไทย ความคลา้ ยคลึงกันของ ค ล้ า ย ค ลึ ง กั น ข อ ง ง า น งานประติมากรรมไทยและ ประติมากรรมไท ยและ สิ่งแวดล้อมโดยใช้ความรู้เร่ือง ส่ิงแวดลอ้ ม ของทศั นศิลป์ได้ 2. อธิบายเกี่ยวกับความเหมือน 2. ความเหมือนและความ 3 และความแตกต่างของรูปแบบ แตกต่างของรูปแบบ การใช้ การใช้วสั ดุ อุปกรณ์ในงาน วั ส ดุ อุ ป ก ร ณ์ ใ น ง า น ประตมิ ากรรมไทยของศลิ ปินท่ี ประตมิ ากรรมไทยของ เลอื กมาได้ ศลิ ปินทเ่ี ลอื กมา 3. อธิบายเทคนิค วธิ ีการของ 3 . เท ค นิ ค วิ ธี ก า รข อ ง 3 ศิลปนิ ในการสรา้ งสรรค์งาน ศิลปินในการสร้างสรรค์งาน ประติมากรรมไทยได้ ประติมากรรมไทย 4. อธบิ ายวิธกี ารใช้งาน 4. วิธกี ารสร้างงาน 3 ประติมากรรมไทยและนำเสนอ ประตมิ ากรรมไทยและ ตวั อยา่ งประกอบได้ การนำเสนอตัวอย่าง 6. อธบิ ายอาชพี ที่เกีย่ วขอ้ ง 6. การประกอบอาชพี ทาง 19 กบั งานประตมิ ากรรมไทยและมี ด้านงานประตมิ ากรรมไทย ทั ก ษ ะ อ า ชี พ ท่ี จ ำ เ ป็ น ใ น ก า ร ประกอบอาชีพนัน้ ๆ 7. เลือกผลงานประติมากรรม 7. การจัดนิทรรศการแสดง 6 ไทย โดยใช้เกณฑ์ท่ีกำหนดข้ึน ผลงานด้านประติมากรรม อย่างเหมาะสมและนำไปจัด ไทย นทิ รรศการ

125 คำอธบิ ายรายวชิ า ทช22004 สถาปัตยกรรมไทย จำนวน 1 หน่วยกติ ระดับมัธยมศึกษาตอนตน้ มาตรฐานที่ 4.3 มีความรู้ ความเข้าใจและเจตคตทิ ดี่ เี กี่ยวกบั ศลิ ปะและสุนทรยี ภาพ ศึกษาและฝึกทักษะเก่ยี วกับเรอ่ื งตอ่ ไปนี้ เรื่องของรูปร่าง รูปทรงและทัศนธาตุของส่ิงต่าง ๆ ในธรรมชาติ สิ่งแวดล้อมของงาน สถาปัตยกรรมไทย ส่ือความคิด จินตนาการ ความรู้สึก ความประทับใจของวัสดุ อุปกรณ์ เทคนิค วธิ กี ารทางงานสถาปตั ยกรรมไทย เขา้ ใจความเช่ือทางวฒั นธรรมทม่ี ีอิทธพิ ลต่องานสถาปตั ยกรรมไทย ความสำคัญของงานสถาปัตยกรรมไทยที่นำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน ตลอดจนมีความซาบซึ้ง เห็นคุณคา่ ใน การสร้างสรรคง์ านสถาปัตยกรรมไทยที่สะท้อนวัฒนธรรมภูมิปัญญาไทยในทอ้ งถิ่นและ ของชาติ การจัดประสบการณก์ ารเรียนรู้ ศึกษาจากเอกสาร ส่ือทกุ ประเภท ส่ือบคุ คล แหล่งความรู้เก่ยี วกับโบราณวัตถุ โบราณสถาน และธรรมชาติ ฝึกจนิ ตนาการ วิเคราะห์ ฝึกปฏิบัติ สร้างสรรค์ ทัศนศึกษา กิจกรรมค่าย ๆ ฯลฯ ให้ เห็นคุณค่าและช่ืนชมความงามของสถาปัตยกรรมไทยและการอนุรักษ์ ภูมิปัญญา วัฒนธรรม ประเพณีสิง่ แวดลอ้ ม การวัดและประเมินผล ประเมินความรู้ ความเข้าใจ ความคิดเห็น ช้ินงาน ผลงาน โดยวิธีการทดสอบ สัมภาษณ์ สงั เกต

126 อธบิ ายรายวิชา ทช22004 สถาปตั ยกรรมไทย จำนวน 1 หน่วยกติ ระดบั มัธยมศึกษาตอนตน้ มาตรฐานท่ี 4.3 มีความรู้ ความเขา้ ใจและเจตคตทิ ่ดี เี กยี่ วกบั ศิลปะและสุนทรียภาพ ที่ หวั เร่ือง ตวั ชว้ี ดั เน้ือหา จำนวน (ชวั่ โมง) งานสถาปัตยกรรม 1. อธบิ ายความแตกต่างและ 1. ความแตกตา่ งและความ 3 ไทย ความคล้ายคลงึ กนั ของงาน คล้ายคลึงกันของงาน สถาปัตยกรรมไทยและ ทศั นศลิ ปด์ ้านสถาปัตยกรรม สิง่ แวดล้อมโดยใชค้ วามรู้ ไทยและสงิ่ แวดลอ้ ม ด้านทัศนศลิ ป์ได้ 2. อธิบายเกีย่ วกับความ 2. ความเหมือนและความ 3 เหมอื นและความแตกต่างของ แตกตา่ งของรปู แบบ การใช้ รปู แบบการใชว้ ัสดุ อปุ กรณ์ วัสดอุ ปุ กรณ์ในงาน ในงานสถาปตั ยกรรมไทยของ สถาปัตยกรรมไทยของศิลปิน ศิลปินทเี่ ลอื กมาได้ ท่ีเลอื กมา 3. อธบิ ายเทคนคิ วธิ ีการของ 3. เทคนคิ วธิ กี ารของศิลปนิ 3 ศิลปนิ ในการสรา้ งสรรค์งาน ในการสรา้ งสรรค์งาน ด้านสถาปตั ยกรรมไทยได้ สถาปัตยกรรมไทย 4. อธิบายวธิ สี รา้ งงานดา้ น 4.วิธสี รา้ งงานสถาปตั ยกรรม 3 สถาปตั ยกรรมไทยและเสนอ ไทย และการนำเสนอตวั อย่าง ตัวอย่างประกอบได้

127 ที่ หัวเรอื่ ง ตวั ช้ีวัด เนอื้ หา จำนวน (ชั่วโมง) 5. วเิ คราะห์และอภิปรายรูปแบบ 5. การวเิ คราะห์รปู แบบ 3 เนื้อหา และคุณคา่ ในงาน เนือ้ หาและคุณคา่ ในงาน สถาปตั ยกรรมไทยของศิลปนิ สถาปตั ยกรรมไทย ทีม่ ีคุณภาพได้ 6. อธบิ ายอาชีพทีเ่ ก่ียวข้อง 6. การประกอบอาชพี 25 กบั งานสถาปตั ยกรรมไทยและ ทางดา้ นสถาปัตยกรรมไทย มีทกั ษะอาชีพทจี่ ำเปน็ ในการ ประกอบอาชพี น้นั ๆ

128 คำอธิบายรายวชิ า ทช22005 การสร้างเสรมิ สุขภาพ และการออกกำลงั กาย จำนวน 3 หน่วยกิต ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนตน้ มาตรฐานการเรยี นร้รู ะดบั รู้ เข้าใจ มคี ณุ ธรรม จริยธรรม เจตคติที่ดี มที กั ษะในการดูแลและสรา้ งเสริมการมพี ฤตกิ รรม สุขภาพที่ดีปฏิบัติจนเป็นกิจนิสัย หลีกเล่ียงพฤติกรรมเสี่ยงต่อสุขภาพ ตลอดจนส่งเสริมสุขภาพ พลานามัยและสภาพแวดล้อมทดี่ ีในชุมชน ศกึ ษาและฝกึ ปฏิบัตเิ กี่ยวกบั เรื่องตอ่ ไปนี้ บทบาทหน้าท่ีและความสัมพันธ์ของสมาชิกในครอบครัว การวางแผนชีวิตและครอบครัว การต้ังครรภ์และการดูแลสุขภาพและโภชนาการ ทักษะที่จำเป็นต่อชีวิต ค่านิยมเก่ียวกับชีวิต ครอบครัวและพฤติกรรมทางเพศ พัฒนาการทางเพศและการปรับตัวที่เหมาะสมกับเพศและวัย การ สร้างสัมพันธภาพท่ีดีระหว่างเพศ ความสัมพันธ์ทางเพศ สุขอนามัยทางเพศ การจัดการกับอารมณ์ และความต้องการทางเพศ โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ได้แก่โรคเอดส์ ซิฟิลิส หนองในฯลฯ วิธี หลีกเลี่ยงและการป้องกันโรค สภาพแวดล้อมกับการส่งเสริม วิธีจัดสภาพแวดล้อมของครอบครัวที่เอ้ือต่อการพัฒนา พฤติกรรมสุขภาพ การป้องกันและหลกี เลี่ยงอาการผิดปกตทิ างกาย จติ สารเสพติด เอดส์ และโรคที่ พบบอ่ ยในครอบครัวและชมุ ชน อาหารท่ีเหมาะสมกับวัยกลุม่ บคุ คลตา่ งๆ อาหารเฉพาะโรค อาหาร กบั การออกกำลงั กาย โรคท่ีเกิดจากการบริโภคอาหารที่ไม่ถกู หลักโภชนาการและสุขาภิบาลอาหาร การเลอื กใช้ ภูมิปัญญาไทยเพื่อสุขภาพ ขอ้ มลู ขา่ วสารผลิตภัณฑ์ และบริการสุขภาพ สิทธิผู้บริโภค และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง การวางแผนชีวิตเพื่อการมีสขุ ภาพที่ดี การตรวจสอบและประเมินภาวะ สุขภาพ การปรับพฤติกรรมสุขภาพ ความรู้เร่ืองอารมณ์ และความเครียด ปัจจัยที่ทำให้เกิดการ เปลย่ี นแปลงทางอารมณ์และความเครยี ด วิธีการจัดการกับอารมณ์และความเครียด ความหมาย และ ความสำคญั ขอ้ มลู สารสนเทศ แหลง่ ขอ้ มลู สารสนเทศ วธิ ีแสวงหาและวิธเี ลือกใช้ขอ้ มลู สารสนเทศ การ สื่อสารเกี่ยวกับสุขภาพ ความปลอดภัย การออกกำลังกายและการเล่นกีฬา ความหมาย ความสำคัญ และประโยชน์ของการมีสติ การประเมินระดบั ของการมสี ติ รู้อารมณ์ เหตุผล วิธกี าร ฝกึ สตอิ ยา่ งง่าย หลกั และวธิ กี ารทดสอบและสรา้ งเสรมิ สมรรถภาพทางกายเพอ่ื สขุ ภาพตามมาตรฐาน หลกั การและการเสรมิ สรา้ งประสทิ ธิภาพของการเคลอื่ นไหวแบบตา่ งๆ ความสำคญั ของการออกกำลงั กาย หลักการและวิธีการสร้างเสริมสมรรถภาพทางกาย การออกกำลังกายและเล่นกีฬา เกณฑ์ มาตรฐานในการทดสอบสมรรถภาพ หลักการ รูปแบบการออกกำลังกาย ประเภทของกิจกรรม พล ศึกษา เกม และชนดิ กฬี าต่างๆ การเคลื่อนไหว การออกกำลงั กายและเล่นกฬี าตามหลักวทิ ยาศาสตร์ หลักการ ความสำคญั และประโยชน์ของการออกกำลังกายและเลน่ กีฬา กฎ กติกา และมารยาท ในการเล่นเกมและกีฬาประเภทต่างๆ กลวิธีการรุก การป้องกันและการตัดสนิ ใจในการแข่งขัน กฬี าบุคคลและกฬี าทมี การแขง่ ขันดว้ ยความมนี ำ้ ใจของนกั กฬี า

129 การจดั ประสบการณ์การเรยี นรู้ ศึกษาเอกสาร สื่อทุกประเภท วิเคราะห์ อภิปรายแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ศึกษาจากสภาพจริง สาธติ ทดลองฝกึ ปฏบิ ตั ิ ค้นควา้ สรุป บันทกึ ตรวจสอบ การประเมนิ ตนเอง จัดทำชนิ้ งาน/ผลงาน จัด แสดงนทิ รรศการ ศกึ ษาดูงาน กจิ กรรมค่าย ฯลฯ การวดั และประเมนิ ผล ประเมนิ ความรู้ ความเขา้ ใจ ชน้ิ งาน ผลงาน โดยวธิ ีการ ทดสอบ สงั เกต สัมภาษณ์ ตรวจสอบ ประเมินการปฏบิ ัติจรงิ และประเมนิ สภาพจรงิ

130 คำอธบิ ายรายวชิ า ทช22005 การสร้างเสริมสุขภาพ และการออกกำลังกาย จำนวน 3 หน่วยกิต ระดับมัธยมศกึ ษาตอนต้น มาตรฐานการเรยี นรรู้ ะดบั รู้ เข้าใจ มีคณุ ธรรม จริยธรรม เจตคตทิ ่ีดี มีทกั ษะในการดแู ลและสรา้ งเสรมิ การมีพฤติกรรม สขุ ภาพทดี่ ีปฏบิ ตั จิ นเป็นกจิ นสิ ยั หลีกเลีย่ งพฤตกิ รรมเสย่ี งตอ่ สขุ ภาพ ตลอดจนสง่ เสริมสุขภาพพลานามัย และสภาพแวดลอ้ มทด่ี ีในชมุ ชน ท่ี หวั เรอื่ ง ตวั ช้วี ัด เน้ือหา จำนวน 1 ชวี ิตและ (ชั่วโมง) อธบิ ายคุณคา่ ของสงั คมและ 1. บทบาทหน้าทแ่ี ละความสัมพนั ธ์ 8 ครอบครวั ศึกษา ครอบครัว ความเป็นเพื่อน ของสมาชิกในครอบครัว ความเสมอภาคทางเพศ 2. การวางแผนชีวิตและ 2 เพศศกึ ษา สามารถสร้างและรกั ษา ครอบครวั สัมพันธภาพกบั ผอู้ น่ื 3. การตงั้ ครรภแ์ ละการดูแล สขุ ภาพและโภชนาการ 4. ทกั ษะทจ่ี ำเป็นต่อชวี ติ 4.1 การสรา้ งสมั พนั ธภาพ และการรกั ษาสมั พันธภาพ 4.2 การตดั สนิ ใจ และ การแก้ปญั หาชีวิต 5. คา่ นยิ มเกี่ยวกบั ชวี ิตครอบครวั และพฤติกรรมทางเพศ 1. อธิบายการเปลยี่ นแปลงทาง 1. พัฒนาการทางเพศและการ 5 รา่ งกาย อารมณ์และพัฒนาการ ปรับตัวทเี่ หมาะสมกบั เพศ และ ทางเพศและสามารถปรบั ตวั วยั อย่างเหมาะสม 2. การสร้างสัมพนั ธภาพท่ีดี 2. อธบิ ายเร่ืองอนามยั การ ระหว่างเพศ เจรญิ พนั ธุ์และวธิ ีปฏิบัตติ นเพอ่ื 3. ความสมั พนั ธ์ทางเพศ สุขภาพดี 4. สุขอนามยั ทางเพศ 3. อธบิ ายทกั ษะในการจัดการ 5. การจดั การกบั อารมณ์ และ กับอารมณ์และความตอ้ งการ ความตอ้ งการทางเพศ ทางเพศ

131 ท่ี หวั เร่ือง ตวั ช้วี ดั เนือ้ หา จำนวน (ชวั่ โมง) 3 โรคตดิ ตอ่ ทาง อธิบายความเสย่ี งต่อการตดิ โรค โรคตดิ ตอ่ ทางเพศสมั พันธ์ 5 เพศสัมพันธ์ ทางเพศสัมพันธ์ทม่ี อี ันตรายถึง 1.โรคเอดส์ ซฟิ ลิ สิ หนองในฯลฯ ชวี ติ 2. วธิ ีหลกี เลย่ี งและการปอ้ งกนั โรค 4 สขุ ภาพกับ สามารถวเิ คราะห์ความสมั พนั ธ์ 1. สภาพแวดล้อมกับการสง่ เสรมิ 5 สงิ่ แวดลอ้ ม ระหวา่ งพฤตกิ รรมสขุ ภาพ การ พฤตกิ รรมสุขภาพ ปอ้ งกันโรค การดำรงสุขภาพ 2. วิธจี ดั สภาพแวดล้อมของ และมสี ว่ นรว่ มในการดูแล ครอบครัวทเี่ อ้อื ต่อการพฒั นา สขุ ภาพของชุมชนและ พฤตกิ รรมสุขภาพ ส่งิ แวดลอ้ ม 5 การปอ้ งกันและ บอกวิธกี ารป้องกนั และ การป้องกันและหลีกเลยี่ งอาการ 5 หลกี เล่ียงอาการ หลกี เลย่ี งอาการผิดปกติทาง ผิดปกตทิ างกาย จิต สารเสพติด ผิดปกตทิ างกาย จิต กาย จิต สารเสพตดิ เอดสแ์ ละ เอดส์ และโรค ที่พบบ่อยใน สารเสพติด เอดส์ โรคที่พบบ่อยในครอบครัวและ ครอบครวั และชมุ ชน และโรคที่พบบ่อยใน ชมุ ชน ครอบครวั และ ชุมชน 6 อาหารและ สามารถวางแผนและปฏิบตั ติ น 1. อาหารทเี่ หมาะสมกับวยั กลุ่ม 7 โภชนาการ ในการบรโิ ภคอาหารออกกำลัง บคุ คลตา่ งๆ เชน่ ผู้ป่วย คนชรา กาย การพักผอ่ น การสรา้ ง หญงิ มคี รรภ์ นกั กฬี า เป็นต้น และ เสรมิ สมรรถภาพทางกายได้ อาหารเฉพาะโรค อย่างเหมาะสม 2. อาหารกบั การออกกำลงั กาย 3. โรคทีเ่ กิดจากการบริโภคอาหาร ท่ไี มถ่ กู หลกั โภชนาการและสขุ าภิบาล อาหาร 7 สุขภาพผ้บู ริโภค สามารถวิเคราะหป์ ัญหาทีเ่ กดิ 1. การเลอื กใชภ้ มู ิปญั ญาไทยเพอื่ 10 จากภาวะโภชนาการทีม่ ี สขุ ภาพ ผลกระทบต่อสขุ ภาพ 1.1 การเลอื กใชส้ มุนไพร ใน ทอ้ งถ่นิ

132 ท่ี หัวเร่ือง ตวั ช้วี ดั เน้อื หา จำนวน (ชว่ั โมง) 1.2 การเลอื กใช้ยาสมนุ ไพร ในท้องถิ่น 1.3 ผลติ ภณั ฑจ์ ากสมุนไพร ในท้องถ่นิ 2. ขอ้ มลู ข่าวสารผลติ ภณั ฑ์ และบรกิ ารสขุ ภาพ 3. สทิ ธผิ ู้บริโภคและกฎหมาย ที่เก่ียวข้อง 8 การบรหิ ารจดั การ อภบิ ายคณุ คา่ และ การวางแผนชีวิตเพอ่ื การมี 8 ชีวิต เพื่อสขุ ภาพ ความสำคัญของภาวะสมดลุ สขุ ภาพท่ดี ี ระหวา่ งสขุ ภาพกาย 1. หลักโภชนาการ และสขุ ภาพจิต 2. การออกกำลงั กายใหเ้ หมาะสม กบั วัย และสภาพร่างกาย 9 การจัดการกบั มที ักษะการจัดการเกบ็ 1. ความรเู้ รือ่ งอารมณ์ และ 7 อารมณแ์ ละ อารมณ์ ความเครียด และ ความเครยี ด ความเครียด การฝกึ จิต 2. ปจั จยั ท่ีทำใหเ้ กดิ การ เปลีย่ นแปลงทางอารมณ์ และ ความเครียด 3. วธิ กี ารจดั การกบั อารมณ์ และความเครยี ด 10 ข้อมูล สารสนเทศ 1. สามารถเลอื กใช้ข้อมลู 1. ความหมาย และความสำคญั 5 และการสอื่ สารดา้ น ข่าวสาร และบรกิ ารสุขภาพได้ ข้อมลู สารสนเทศ สุขภาพ ความ อยา่ งเหมาะสม 2. แหลง่ ขอ้ มลู สารสนเทศ ปลอดภยั การออก 2. สามารถสอ่ื สารเกีย่ วกบั ดา้ นสุขภาพ ความปลอดภยั การ กำลงั กาย และการ สุขภาพ ความปลอดภัย ออกกำลงั กาย และการเล่นกีฬา เลน่ กฬี า การออกกำลงั กายและ 3. วิธีแสวงหาและวธิ เี ลอื กใช้ การเลน่ กฬี า ข้อมูลสารสนเทศดา้ นสขุ ภาพ ความปลอดภยั การออกกำลงั กาย และการเลน่ กฬี า

133 ที่ หัวเรอื่ ง ตวั ชวี้ ัด เน้ือหา จำนวน (ชว่ั โมง) 4. การสอ่ื สารเกี่ยวกบั สขุ ภาพ ความปลอดภยั การออกกำลงั กาย และการเลน่ กีฬา 11 การมสี ติ 1. อธิบายความหมาย 1. ความหมาย ความสำคัญ และ 8 ความสำคัญ และประโยชนข์ อง ประโยชน์ของการมีสติ การมสี ติ 7 2. สามารถประเมินระดับของ 2. การประเมินระดบั ของการ 10 การมสี ติ รอู้ ารมณ์ เหตผุ ล มสี ติ รอู้ ารมณ์ เหตผุ ล 3. สามารถฝกึ สติ 3. วธิ ีการฝกึ สติอย่างง่าย 12 การทดสอบและ สามารถทดสอบสมรรถภาพ หลกั และวิธกี ารทดสอบและสร้าง สร้างเสรมิ ทางกาย เพอ่ื สุขภาพและ เสริมสมรรถภาพทางกายเพอื่ สมรรถภาพ สมรรถภาพทางกลไก ทางกายเพอ่ื สุขภาพ สุขภาพตามมาตรฐาน 13 การเคลอื่ นไหว 1. สามารถแสดงการ 1. หลักการและการเสริมสรา้ ง การออกกำลงั กาย เคลื่อนไหวทใี่ ชท้ กั ษะกลไกเป็น ประสิทธิภาพของการเคลอื่ นไหว และเลน่ กฬี าตาม พ้ืนฐาน และนำไปสกู่ าร หลกั วทิ ยาศาสตร์ เคล่ือนไหวทมี่ ีรปู แบบเฉพาะใน แบบตา่ งๆ ทกั ษะการ กิจกรรมทางกาย เกม กฬี าไทย 1.1 กจิ กรรมเขา้ จงั หวะ เคลอ่ื นไหวแบบ และกีฬาสากล ต่างๆ 2. สามารถวิเคราะห์ 2. การเคลอ่ื นไหว การออกกำลงั ประสทิ ธิภาพของรูปแบบการ กายและเล่นกฬี าตามหลกั วิทยาศาสตร์ เคลื่อนไหวต่างๆ ในการเล่น กีฬาและการทำงานใน ชีวิตประจำวนั 3. บอกทักษะการเคลอื่ นไหว ท่ีมีรปู แบบเฉพาะในกจิ กรรม ทางกาย เกม กีฬาไทย และ กีฬาสากล

134 ท่ี หัวเร่อื ง ตวั ช้ีวดั เนอ้ื หา จำนวน (ชว่ั โมง) 14 การทดสอบและสรา้ ง บอกหลกั การทดสอบและสรา้ ง 1. หลกั การและวธิ ีการสร้างเสรมิ 10 เสรมิ สมรรถภาพ เสรมิ สมรรถภาพทางกาย เพอ่ื การ สมรรถภาพทางกาย การออก ทางกาย ออกกำลงั กายและเลน่ กฬี า กำลังกายและเล่นกฬี า 2. เกณฑม์ าตรฐานในการทดสอบ สมรรถภาพ 15 การออกกำลงั กาย 1. อธบิ ายหลักการ ความสำคัญ 1. หลกั การ ความสำคัญ และ 20 การเล่นเกม และกฬี า และประโยชนข์ องการออกกำลงั ประโยชนข์ องการออกกำลังกาย ประเภทบุคคลและทมี กายและการเลน่ กฬี า การเลม่ เกมและกีฬา 2. สามารถจำแนกและปฏิบัติ 2. ประเภทของกิจกรรม พลศึกษา ตามกฎ กติกา เพอื่ ความปลอดภยั เกม และชนดิ กีฬาตา่ งๆ และความสันตใิ นการเล่นและการ 2.1 ฟุตบอล แขง่ ขนั กีฬา 2.2 ตะกร้อ 3. สามารถประยกุ ตใ์ ช้กลวธิ ีการ 2.3 วอลเลยบ์ อล รกุ การป้องกัน และการใหค้ วาม 2.4 แชรบ์ อล รว่ มมือในการเลน่ การแข่งขนั กฬี า 2.5 เปตอง ฯลฯ และการทำงานเป็นกลุม่ ไดอ้ ยา่ ง 3. กฎ กตกิ า และมารยาทในการ เหมาะสม เล่นเกมและกฬี าประเภทตา่ งๆ 4. สามารถเลน่ และแขง่ ขันกฬี า 4. กลวธิ ีการรุกการป้องกันและ ด้วยความมีนำ้ ใจนกั กีฬา และเห็น การตดั สนิ ใจในการแขง่ ขันกฬี า ประโยชนข์ องการทำงานเปน็ กลมุ่ บุคคลและกีฬาทีม และใชเ้ ป็นแนวปฏบิ ตั ิในการ 5. การแขง่ ขนั ดว้ ยความมีนำ้ ใจ ดำเนนิ ชวี ิต ของนกั กีฬา

135 คำอธบิ ายรายวชิ า ทช22006 ศิลปศึกษา จำนวน 3 หน่วยกิต ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น มาตรฐานการเรยี นรรู้ ะดับ รู้ เข้าใจ มคี ณุ ธรรม จริยธรรม ชนื่ ชม เห็นคุณคา่ ความงาม ความไพเราะ ธรรมชาติสงิ่ แวดลอ้ ม ทางทศั นศิลป์ ดนตรี และนาฏศิลปไ์ ทย และสามารถวเิ คราะห์วพิ ากษ์ วจิ ารณ์ได้อยา่ งเหมาะสม ศกึ ษา และฝึกปฏบิ ัติ ดงั น้คี อื การสอ่ื ความคิด จินตนาการ ความร้สู กึ และความประทบั ใจ ความสร้างสรรคง์ านทัศนศิลป์ การ ใช้กระบวนการสรา้ งงานทศั นศลิ ป์ ความหมาย และการจำแนก ความแตกต่างของงานทัศนศลิ ป์ การนำ ความรู้เกย่ี วกับทศั นศิลปไ์ ปใชใ้ นหมวดวชิ าอ่ืนๆ และในชวี ติ ประจำวัน ความเชอื่ ทางวฒั นธรรมต่องาน ทัศนศิลป์ และการมสี ว่ นรว่ มในการสรา้ งงานทศั นศลิ ป์ เครื่องดนตรชี นดิ ตา่ งๆ การขบั รอ้ งและบรรเลงดนตรี การใชแ้ ละการเกบ็ รกั ษาเคร่ืองดนตรี ความ แตกต่างขององคป์ ระกอบ และความไพเราะของเครื่องดนตรี ความเชอ่ื ทางวัฒนธรรมทม่ี ีอทิ ธิพลตอ่ ดนตรี การจินตนาการในการแสดงออกสือ่ เร่อื งราว และความรสู้ กึ นาฏศลิ ป์ในรูปแบบต่างๆ การ เลือกและประยกุ ต์ใชอ้ งคป์ ระกอบของนาฏศลิ ปม์ าใชใ้ นการแสดง การวเิ คราะห์ วิจารณ์นาฏศิลป์ในเรอ่ื ง การสอื่ ความคดิ และคุณคา่ ความงาม การนำหลกั การทางละครและนาฏศิลป์ไปใชใ้ นการเรยี นรู้กับ หมวดวิชาอ่นื ๆ และในชวี ติ ประจำวันความเชือ่ ทางวัฒนธรรมทีม่ ีตอ่ นาฏศลิ ป์ การจดั ประสบการณ์การเรียนรู้ ศกึ ษาจากเอกสาร ผ้รู ู้ แลกเปลย่ี นความรซู้ ง่ึ กันและกัน ฝึกทกั ษะเกี่ยวกับทัศนศิลป์ จดบนั ทกึ สรุป องค์ความรู้ และนำความรู้ที่ได้รับไปประยุกต์ใช้เรียนรู้ ในหมวดวิชาอื่นๆ และนำไปใช้ในชีวิต ประจำวนั อยา่ งสร้างสรรค์ การวัดและประเมินผล ประเมินความรู้ ความเข้าใจ ความคิดเห็น ช้ินงาน ผลงาน โดยวิธีการทดสอบ สังเกต สมั ภาษณ์

136 รายละเอียดคำอธิบายรายวิชา ทช22006 ศิลปศกึ ษา จำนวน 3 หน่วยกิต ระดับมัธยมศกึ ษาตอนตน้ มาตรฐานการเรยี นรรู้ ะดับ รู้ เข้าใจ มีคณุ ธรรม จรยิ ธรรม ชนื่ ชม เห็นคุณค่าความงาม ความไพเราะ ธรรมชาติ ส่งิ แวดลอ้ ม ทางทัศนศลิ ป์ ดนตรี และนาฏศิลปไ์ ทย และสามารถวิเคราะหว์ พิ ากษ์ วิจารณ์ ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม ท่ี หัวเรอื่ ง ตัวชว้ี ดั เนือ้ หา จำนวน 1 ทศั นศลิ ป์ (ชัว่ โมง) 1. อธิบายการสอ่ื ความคดิ 1. การสอื่ ความคดิ 2 จินตนาการ ความรสู้ ึก ความ จนิ ตนาการ ความรสู้ กึ และ ประทบั ใจดว้ ยวัสดุ และ ความประทบั ใจในการ เทคนิควธิ ีการทางทัศนศลิ ป์ สรา้ งสรรคง์ านทัศนศลิ ป์ 2. ส่อื ความหมายใหผ้ ู้อนื่ รบั รู้ 2. วสั ดุอุปกรณใ์ นการสรา้ ง งานทศั นศลิ ป์ 3. การส่ือความหมายใหผ้ ู้อื่น รับรู้ มีความสร้างสรรค์งานทศั นศิลป์ 1. การคดิ รเิ ริ่มสร้างสรรคใ์ น 3 ดว้ ยการคิดริเริ่ม ดัดแปลงการ งานทศั นศลิ ป์ ใช้ทศั นธาตุ องคป์ ระกอบทาง 2. องค์ประกอบทางทัศนศลิ ป์ ทศั นศิลป์ เทคนคิ วิธีการ และ 3. เทคนิควธิ กี ารรูปแบบใหม่ๆ รปู แบบใหมๆ่ ตามความถนัด ในงานทัศนศลิ ป์ และความสนใจ ใชก้ ระบวนการสร้างงาน 1. กระบวนการสร้างงาน 17 ทศั นศิลป์ การประยุกต์ใช้ส่ือ ทศั นศิลป์ วัสดุ อปุ กรณ์ และเทคโนโลยีใน 2. การประยกุ ตใ์ ชส้ ื่อ อุปกรณ์ การสรา้ งงานทัศนศิลปไ์ ดอ้ ยา่ ง ทางศลิ ปะ การใช้ เหมาะสมและมีความรบั ผดิ ชอบ เทคโนโลยีในการสรา้ งสรรค์ งานทศั นศลิ ป์ แสดงความคดิ เห็นเก่ยี วกบั ความหมายของงานทัศนศลิ ป์ 2 ความหมาย และการจำแนก ความแตกต่างของงาน ความแตกตา่ งของงานทศั นศลิ ป์ ทัศนศิลปเ์ กี่ยวกับ ทศั นธาตุ เก่ียวกบั ทศั นธาตุ และความ และความงามของศิลปะ งามของศลิ ปะ

137 ที่ หวั เรอ่ื ง ตวั ชี้วดั เนื้อหา จำนวน 2 ดนตรี (ช่วั โมง) นำความรแู้ ละวิธีการ 1. การนำความรู้และวิธีการ 10 ประสบการณ์ทางทศั นศลิ ป์ที่ตน ประสบการณ์ทางทัศนศลิ ป์ ถนัด และสนใจไปใช้กบั วชิ า ทีต่ นถนัด และสนใจไปใช้ อ่ืนๆ และในชีวิตประจำวนั ได้ ในการเรียนรกู้ บั หมวดวิชา อย่างเหมาะสม อน่ื 2. การนำความรู้ และวิธีการ ทางทัศนศิลป์ไปใชใ้ น ชวี ติ ประจำวนั อธบิ ายความเชื่อทางวัฒนธรรม 1. ความเช่ือทางวฒั นธรรม 3 ท่มี ีอทิ ธพิ ลตอ่ การสร้างงาน 1.1 ศาสนา ทัศนศลิ ป์ 1.2 พธิ ีกรรม 1.3 ขนบธรรมเนียม ประเพณี 1.4 วถิ ีชีวิต 2. อิทธิพลความเช่อื ทมี่ ีตอ่ การ สรา้ งงานทัศนศิลป์ มีส่วนรว่ มในการสร้างงาน การมสี ว่ นร่วมในการสรา้ งงาน 3 ทศั นศลิ ป์ทส่ี ะทอ้ นวฒั นธรรม ทศั นศิลปท์ ส่ี ะท้อนวฒั นธรรม ภูมปิ ัญญาไทยและสากล และภูมปิ ญั ญาไทยและสากล เครือ่ งดนตรีชนดิ ตา่ งๆ ที่ใช้ 1. เคร่ืองดนตรีชนิดต่างๆ 2 ในการผสมวง และทำใหเ้ กดิ ทใี่ ช้ในการผสมวง 20 วงดนตรปี ระเภทต่างๆ ระบุ 5 ได้ว่าดนตรีมอี ทิ ธพิ ลตอ่ จิตใจ 2. ประเภทของวงดนตรี และความรสู้ ึกของบคุ คล 3. อทิ ธพิ ลของดนตรที ีม่ ตี ่อ ขบั ร้องและบรรเลงดนตรี จิตใจและความรู้สกึ ของ โดยเลือกและประยุกตใ์ ช้ บคุ คล องค์ประกอบและเทคนคิ 1. หลักการขับรอ้ ง ทางดนตรใี หไ้ ด้ผลตาม 2. การฝกึ ปฏบิ ัติขบั ร้อง ความตอ้ งการ 3. หลกั การบรรเลงดนตรี ใชแ้ ละเก็บรกั ษาเครอ่ื งดนตรี 4. การฝกึ ปฏบิ ตั บิ รรเลงดนตรี อยา่ งระมัดระวงั และมคี วาม รบั ผิดชอบ การใช้และการเกบ็ รกั ษา เครือ่ งดนตรี

138 ท่ี หวั เรอ่ื ง ตัวชี้วัด เน้อื หา จำนวน 3 นาฏศลิ ป์ (ชั่วโมง) แสดงความคิดเหน็ และจำแนก 1. ความแตกตา่ งเกย่ี วกบั 5 ความแตกต่างเรอ่ื งองค์ประกอบ องคป์ ระกอบและความ 5 และความไพเราะของดนตรีตาม ไพเราะของดนตรี 3 หลกั การทางดนตรี 2. การแสดงความคิดเห็น เก่ียวกับองคป์ ระกอบและ ความไพเราะของดนตรี สร้างสรรค์ทางดนตรแี ละ นำ 1. การสรา้ งสรรคท์ างดนตรี ความรทู้ างดนตรไี ปใช้ 2. การนำความร้ทู างดนตรไี ป กับหมวดวชิ าอนื่ ๆ และ ใช้ในการเรยี นรู้กับหมวด ในชีวติ ประจำวัน วิชาอื่นๆ และใน ชวี ติ ประจำวัน อธบิ ายความเชือ่ ทางวฒั นธรรม ความเชอ่ื ทางวฒั นธรรมทมี่ ี ทม่ี ีอิทธพิ ลตอ่ ดนตรี อทิ ธิพลตอ่ ดนตรี ใช้จินตนาการในการแสดงออก 1. การส่ือเร่อื งราวทอ่ี ยู่ใน 5 ส่อื เรอ่ื งราว ความคดิ และ ละครโดยใช้ทักษะพื้นฐาน 5 15 ความรูส้ ึก ทอี่ ยู่ในละคร ด้านการละคร โดยผา่ นทักษะระดบั พ้นื ฐาน 2. การสื่อความคดิ ทีอ่ ย่ใู น ด้านการละคร ละครโดยใชท้ ักษะพน้ื ฐาน ด้านการละคร 3. การสอื่ ความรู้สึกทมี่ อี ยใู่ น ละคร โดยใชท้ กั ษะพนื้ ฐาน ด้านการละคร แสดงออกทางนาฏศิลปร์ ปู แบบ 1. ความรพู้ ้นื ฐานเกย่ี วกบั การ ตา่ งๆบนพื้นฐาน ความงาม แสดงนาฏศลิ ปร์ ูปแบบ ต่างๆ 2. การฝึกปฏบิ ตั ทิ างด้าน นาฏศลิ ปบ์ นพนื้ ฐาน ความงาม เลือกและประยกุ ตใ์ ช้ 1. การเลอื กใชอ้ งค์ประกอบ องค์ประกอบของนาฏศลิ ป์ ของนาฏศิลป์มาใชใ้ นการ มาใชใ้ นการแสดง แสดง 2. การประยกุ ต์ใช้ องค์ประกอบของนาฏศิลป์

139 ที่ หวั เรอ่ื ง ตวั ชี้วดั เนอื้ หา จำนวน (ชั่วโมง) มาใชใ้ นการแสดง วิเคราะห์ วจิ ารณน์ าฏศิลป์ 1. การวเิ คราะห์ วจิ ารณ์ 5 ในเร่ืองการส่ือความคิด และ นาฏศิลปใ์ นเรอ่ื งการสอื่ คุณคา่ ความงาม ความคิด 2. การวเิ คราะห์ วิจารณ์ นาฏศลิ ป์เก่ียวกบั คุณคา่ ความงาม นำแนวคดิ หลักทางการละคร 1. การนำแนวคดิ หลักการ 5 และนาฏศลิ ป์ ไปใช้ในการ ทางละคร และนาฏศิลป์ เรยี นรู้กับหมวดวิชาอื่นๆ ไปใช้ในการเรียนรูก้ บั และชวี ติ ประจำวัน หมวดวชิ าอืน่ ๆ. 2. การนำแนวคดิ หลกั ทางการละคร และ นาฏศลิ ป์ ไปใชใ้ น ชวี ิตประจำวัน เขา้ ใจความเช่ือทางวฒั นธรรมที่ 1. ประวตั คิ วามเปน็ มาของ 5 มอี ทิ ธพิ ลตอ่ นาฏศลิ ป์ นาฏศลิ ป์ 2. ความเชื่อทางวฒั นธรรม ทม่ี อี ิทธพิ ลตอ่ นาฏศิลป์

140 คำอธบิ ายรายวชิ า รหัสวิชา ทช22008 การเขียนภาพจติ รกรรมไทย จำนวน 2 หน่วยกติ ระดับมธั ยมศึกษาตอนต้น มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐานที่ 4.3 มคี วามรู้ ความเขา้ ใจ และเจตคติท่ีดี เกย่ี วกับศลิ ปะและสุนทรยี ภาพ มาตรฐานการเรยี นรูร้ ะดบั รู้ เข้าใจ มีคุณธรรม จริยธรรม ช่ืนชม เห็นคุณค่าความงาม ความไพเราะ ธรรมชาติ สิ่งแวดล้อมทางทัศนศิลป์ ดนตรี และนาฏศิลป์ไทย และสามารถวิเคราะห์ วพิ ากษ์วิจารณ์ ได้อย่าง เหมาะสม ศกึ ษาและฝึกทกั ษะเก่ยี วกับเร่ืองต่อไปน้ี บอ่ กำเนดิ ของลายไทย แรงบันดาลใจของชา่ งศลิ ปไ์ ทย สนุ ทรยี ภาพของลายไทย ววิ ัฒนาการ ของลายไทย คณุ ค่าของลายไทย เครอ่ื งมอื และวสั ดุอุปกรณ์ทใ่ี ช้ในการเขียนลายไทย การใชง้ านเครื่องมอื วัสดอุ ุปกรณ์ที่ใช้ ในการเขียนลายไทย วธิ กี ารดูแล เกบ็ รกั ษาเครอื่ งมือ วัสดอุ ุปกรณ์ท่ีใชใ้ นการเขียนลายไทย การเขียนลายกนก การเขียนลายกนกสามตัว การเขียนลายกนกเปลว การเขยี น ลายช่อกนก การเขียนลายกระจัง การเขยี นลายกระจงั ฟันปลา การเขียนลายกระจังตาออ้ ย การเขียนลาย กระจงั ใบเทศ การเขยี นลายกระจังปฏญิ าณ การเขียนภาพจิตรกรรมไทย รปู การเขยี นภาพจติ รกรรมไทย หลักการข้นั ตอนในการเขียน ภาพจิตรกรรมไทย การเขยี นภาพจติ รกรรมไทยตามแมแ่ บบ การฝึกปฏบิ ัติเขียนภาพจิตรกรรมไทย ฝึกปฏิบัติการเขยี นภาพจติ กรรมไทยตามแม่แบบท่ี กำหนด การวดั และประเมินผล ประเมินจากการสังเกต การอภปิ ราย การสัมภาษณ์ ทกั ษะปฏิบตั ิ การมสี ่วนรว่ มในกิจกรรม การเรยี นรู้ ผลงาน การทดสอบ การประเมิน การนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน

141 คำอธบิ ายรายวชิ า รหัสวิชา ทช22008 การเขียนภาพจติ รกรรมไทย จำนวน 2 หน่วยกติ ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนตน้ มาตรฐานการเรยี นรรู้ ะดบั รู้ เข้าใจ มีคุณธรรมจริยธรรม ช่ืนชม เห็นคุณค่าความงาม ความไพเร าะ ธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม ทางทัศนศิลป์ ดนตรี และนาฏศิลป์พ้ืนบ้าน และสามารถวิเคราะห์ วิพากษ์วิจารณ์ ได้ อยา่ งเหมาะสม ท่ี หัวเรื่อง ตวั ช้วี ัด เน้อื หา จำนวน (ชม.) 1. บ่อกำเนดิ ของลายไทย 1. อธิบายบ่อกำเนิดของลายไทย 1. บ่อกำเนดิ ของลายไทย แรงบนั ดาล 3 แรงบนั ดาลใจของช่างศลิ ปไ์ ทย ใจของช่างศิลป์ไทย 2. อธบิ ายสุนทรียภาพของลายไทย 2. สนุ ทรยี ภาพของลายไทย ววิ ฒั นาการของลวดลายไทย วิวฒั นาการของลวดลายไทย 3. อธบิ ายคุณคา่ ของลายไทย 3. คุณค่าของลายไทย 2. เครื่องมือ และวสั ดุ 1. อธิบายชนดิ ของเครือ่ งมือ วัสดุ 1. เครอ่ื งมอื วสั ดุ อปุ กรณ์ทีใ่ ช้ในงาน 3 อุปกรณท์ ่ีใชใ้ นการ อุปกรณท์ ีใ่ ช้ในงานการเขยี นลายไทย การเขยี นลายไทย เขียนลายไทย 2. อธิบายการใช้งานรวมถงึ วธิ ีการ 2. วธิ กี ารใช้งานเคร่ืองมอื วัสดุ เก็บรกั ษา เคร่อื งมอื วสั ดอุ ปุ กรณ์ ท่ี อุปกรณท์ ี่ใชใ้ นการเขียนลายไทย ใชใ้ นการเขยี นลายไทย 3. วิธกี ารดูแล เกบ็ รักษาเครอื่ งมอื วสั ดุ อุปกรณท์ ่ใี ชใ้ นการเขียน ลาย ไทย รูปแบบการเขยี นภาพ 1. อธบิ ายหลกั การ ขน้ั ตอน ใน 1. หลักการ ขนั้ ตอนในการเขยี นลาย 3 3. ลวดลายไทยพน้ื ฐาน การเขยี นลายไทยขั้นพ้นื ฐาน ไทยขั้นพนื้ ฐาน 2. อธบิ ายถึงเสน้ ในภาพลายไทย 2. เสน้ ในภาพลายไทย 4. การเขยี นภาพ 1. อธบิ ายหลักการ และข้นั ตอนใน 1. รูปการเขียนภาพจติ รกรรมไทย 6 จติ รกรรมไทย การเขยี นภาพจิตรกรรมไทย 2. หลกั การข้ันตอนในการเขียนภาพ 65 2. สามารถเขยี นภาพจติ กรรมไทย จติ รกรรมไทย 5. ฝกึ ปฎบิ ตั กิ ารเขยี น ตามแมแ่ บบทีก่ ำหนด 3. การเขียนภาพจติ รกรรมไทยตาม ภาพจิตรกรรมไทย แมแ่ บบ 1. ฝกึ ปฏิบตั ิการเขยี นภาพจิตกรรม ไทยตามแม่แบบทีก่ ำหนด

142 คำอธบิ ายรายวชิ า รหัสวชิ า ทช22009 การเขยี นลายไทยเบื้องตน้ จำนวน 2 หน่วยกิต ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนต้น มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐานที่ 4.3 มคี วามรู้ ความเข้าใจ และเจตคติทีด่ ี เกีย่ วกับศิลปะและสุนทรียภาพ มาตรฐานการเรียนรู้ระดบั รู้ เข้าใจ มีคุณธรรม จริยธรรม ชื่นชม เห็นคุณค่าความงาม ความไพเราะ ธรรมชาติ สงิ่ แวดล้อมทางทัศนศิลป์ ดนตรี และนาฏศิลป์ไทย และสามารถวิเคราะห์ วพิ ากษ์วิจารณ์ ได้อย่าง เหมาะสม ศกึ ษาและฝกึ ทกั ษะเก่ยี วกับเร่ืองตอ่ ไปน้ี บอ่ กำเนดิ ของลายไทย แรงบนั ดาลใจของช่างศลิ ป์ไทย สนุ ทรียภาพของลายไทย ววิ ัฒนาการ ของลายไทย คณุ ค่าของลายไทย เคร่อื งมือและวัสดุอปุ กรณ์ทีใ่ ช้ในการเขียนลายไทย การใช้งานเครื่องมือ วสั ดอุ ุปกรณ์ทีใ่ ช้ ในการเขยี นลายไทย วธิ ีการดูแล เกบ็ รกั ษาเครอ่ื งมอื วสั ดอุ ุปกรณ์ที่ใชใ้ นการเขยี นลายไทย การเขยี นลายกนก การเขียนลายกนกสามตวั การเขียนลายกนกเปลว การเขียนลายชอ่ กนก ฝึกปฏิบัติการเขียนลายกนก ฝึกปฏิบัติการเขียนลายกนกสามตัว ฝึกปฏิบัติการเขียนลาย กนกเปลว ฝกึ ปฏิบัตกิ ารเขียนลายชอ่ กนก การเขียนลายกระจัง การเขยี นลายกระจงั ฟันปลา การเขียนลายกระจังตาออ้ ย การเขียนลาย กระจังใบเทศ การเขียนลายกระจงั ปฏญิ าณ ฝกึ ปฏิบัติการเขียนลายกระจัง ฝึกปฏิบัติการเขียนลายกระจังฟันปลา ฝึกปฏิบตั ิการเขียน ลายกระจงั ตาออ้ ย ฝึกปฏบิ ตั กิ ารเขียนลายกระจังใบเทศ ฝึกปฏิบัติการเขียนลายกระจงั ปฏิญาณ การเขียนลายพุ่มข้าวบิณฑ์ การเขียนลายพุ่มข้าวบิณฑ์ ดอกบัวตูม การเขียนลายพุ่มข้าว บิณฑส์ ิงห์ ฝึกปฏิบัติการเขียนลายพุ่มข้าวบิณฑ์ ฝึกปฏิบัติการเขียนลายพุ่มข้าวบิณฑ์ ดอกบัวตูม ฝกึ ปฏิบตั ิ การเขยี นลายพมุ่ ข้าวบิณฑส์ งิ ห์ การวดั และประเมินผล ประเมินจากการสังเกต การอภปิ ราย การสัมภาษณ์ ทกั ษะปฏิบัติ การมสี ่วนรว่ มในกิจกรรม การเรียนรู้ ผลงาน การทดสอบ การประเมิน การนำไปใช้ในชีวติ ประจำวัน

143 คำอธิบายรายวชิ า รหสั วชิ า ทช22009 การเขยี นลายไทยเบอื้ งตน้ จำนวน 2 หน่วยกติ ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนตน้ มาตรฐานการเรียนรรู้ ะดับ รู้ เข้าใจ มีคุณธรรมจริยธรรม ช่ืนชม เห็นคุณค่าความงาม ความไพเราะ ธรรมชาติ สิง่ แวดลอ้ มทางทัศนศลิ ป์ ดนตรี และนาฏศลิ ปพ์ นื้ บา้ น และสามารถวิเคราะห์ วิพากษ์วจิ ารณ์ ไดอ้ ยา่ ง เหมาะสม ที่ หัวเรอ่ื ง ตัวชวี้ ัด เน้ือหา จำนวน (ชม.) 1. บอ่ กำเนดิ ของลาย 1. อธิบายบอ่ กำเนดิ ของลายไทย 1. บอ่ กำเนิดของลายไทย แรงบนั ดาล 3 ไทย แรงบนั ดาลใจของช่างศิลป์ไทย ใจของช่างศิลปไ์ ทย 2. อธิบายสนุ ทรยี ภาพของลายไทย 2. สุนทรยี ภาพของลายไทย วิวัฒนาการของลวดลายไทย วิวัฒนาการของลวดลายไทย 3. อธิบายคุณค่าของลายไทย 3. คุณคา่ ของลายไทย 2. เคร่อื งมอื และวสั ดุ 1. อธิบายชนดิ ของเครื่องมอื วสั ดุ 1. เครือ่ งมอื วสั ดุ อุปกรณ์ทีใ่ ช้ในงาน 3 อปุ กรณท์ ี่ใชใ้ นการ อุปกรณท์ ่ใี ช้ในงานการเขียนลาย การเขยี นลายไทย เขยี นลายไทย ไทย 2. วิธีการใช้งานเครื่องมอื วัสดอุ ุปกรณ์ 2. อธิบายการใช้งานรวมถงึ วธิ ีการ ท่ใี ช้ในการเขียนลายไทย เกบ็ รกั ษา เครอื่ งมอื วัสดุอปุ กรณ์ 3. วธิ ีการดแู ล เกบ็ รักษาเครอ่ื งมอื ท่ีใชใ้ นการเขียนลายไทย วัสดุ อปุ กรณ์ท่ีใชใ้ นการเขียนลายไทย 3. รปู แบบการเขยี น 1. อธบิ ายหลกั การ ขนั้ ตอน ในการ 1. หลกั การ ข้นั ตอนในการเขยี นลาย 3 ภาพลวดลายไทย เขยี นลายไทยขัน้ พื้นฐาน ไทยข้นั พน้ื ฐาน พ้ืนฐาน 2. อธิบายถงึ เส้นในภาพลายไทย 2. เส้นในภาพลายไทย 4. การเขยี นลายกนก 1. รู้เข้าใจ อธบิ ายหลักการ และ 1. การเขียนลายกนกสามตัว 3 ข้นั ตอนในการเขยี นลายกนก 2. การเขียนลายกนกเปลว 3. การเขียนลายชอ่ กนก 5. ฝกึ ปฏบิ ัตกิ ารเขียน 1. สามารถเขียนลายกนกรูปแบบ 1. ฝกึ ปฏบิ ัตกิ ารเขยี นลายกนกสามตัว 32 ลายกนก ต่างๆได้ 2. ฝึกปฏบิ ัติการเขียนลายกนกเปลว 3. ฝกึ ปฏบิ ตั ิการเขียนลายชอ่ กนก

144 ที่ หวั เร่อื ง ตวั ช้วี ดั เนือ้ หา จำนวน (ชม.) 6. การเขียนลายกระจงั 1. รู้เข้าใจ อธิบายหลักการ และ 1. การเขยี นลายกระจังฟันปลา 3 ข้นั ตอนในการเขยี นลายกนก 2. การเขียนลายกระจงั ตาออ้ ย 3. การเขยี นลายกระจงั ใบเทศ 4. การเขยี นลายกระจงั ปฏญิ าณ 7. ฝึกปฏบิ ตั กิ ารเขียน 1.สามารถเขยี นลายกระจังชนดิ 1. ฝกึ ปฏิบัตกิ ารเขยี นลายกระจงั ฟนั 15 ลายกระจงั ตา่ งๆ ได้ ปลา 2. ฝึกปฏบิ ัติการเขยี นลายกระจงั ตา อ้อย 3. ฝกึ ปฏบิ ตั ิการเขียนลายกระจงั ใบ เทศ 4. ฝึกปฏิบัติการเขยี นลายกระจงั ปฏญิ าณ 8. การเขยี นลายพมุ่ ข้าว 1. อธบิ ายหลักการ และขั้นตอน 1. การเขยี นลายพมุ่ ขา้ วบิณฑ์ 3 บณิ ฑ์ ในการเขียนลายพ่มุ ข้าวบิณฑ์ ดอกบวั ตูม 2.สามารถเขยี นลายพมุ่ ขา้ วบณิ ฑ์ 2. การเขียนลายพมุ่ ขา้ วบณิ ฑ์สงิ ห์ ประเภทตา่ งๆได้ 9. ฝึกปฏบิ ัตกิ ารเขียน 1. สามารถเขยี นลายพ่มุ ขา้ วบณิ ฑ์ 1. ฝึกปฏบิ ตั ิการเขยี นลายพุ่มข้าว 15 ลายพุม่ ข้าวบณิ ฑ์ ประเภทต่างๆได้ บิณฑ์ดอกบัวตูม 2. ฝกึ ปฏบิ ัตกิ ารเขยี นลายพมุ่ ข้าว บณิ ฑส์ งิ ห์

145 คำอธิบายรายวชิ า รหสั วิชา ทช22011การวาดเส้นภาพเหมอื นคนและทิวทัศน์ จำนวน 2 หน่วยกิต ระดบั มัธยมศึกษาตอนตน้ มาตรฐานการเรียนรรู้ ะดับ มาตรฐานท่ี 4.3 มคี วามรู้ ความเขา้ ใจ และเจตคตทิ ่ดี ี เกีย่ วกบั ศิลปะและสนุ ทรยี ภาพ มาตรฐานการเรียนรู้ระดบั รู้ เข้าใจ มีคุณธรรมจริยธรรม ช่ืนชม เห็นคุณค่าความงาม ความไพเราะ ธรรมชาติ สง่ิ แวดลอ้ มทางทศั นศิลป์ ดนตรี และนาฏศิลปพ์ น้ื บ้าน และสามารถวิเคราะห์ วพิ ากษ์วิจารณ์ ไดอ้ ย่าง เหมาะสม ศึกษาและฝึกทักษะเกีย่ วกบั เร่อื งต่อไปน้ี ความหมาย ประเภท และคณุ คา่ ของงานวาดเสน้ เครอ่ื งมือและวัสดุอุปกรณ์ท่ีใช้ในงานวาดเสน้ วิธีการใช้งานวสั ดุอปุ กรณ์ วิธีการดูแล เก็บ รกั ษาวสั ดอุ ุปกรณ์ที่ใชใ้ นงานวาดเสน้ ลักษณะของเส้น ความหมายและความรู้สึกของเสน้ ความสำคญั ของเส้น การวาดเส้นภาพเหมือนคน สดั สว่ นของใบหน้าคน ตามหลักกายวภิ าคศาสตร์ สัดส่วนของ คนเตม็ ตัว การจัดภาพ รา่ งภาพ การแรเงาน้ำหนกั ภาพเหมอื นคน ฝึกปฏิบัติการวาดเส้นภาพเหมือนคน ฝึกปฏิบัติวาดเส้นภาพเหมือนคนผู้หญิง ฝึกปฏิบัติ วาดเสน้ ภาพเหมือนคนผ้ชู าย การวาดเสน้ ภาพทิวทัศน์ ภาพทวิ ทัศนท์ ิวทัศนป์ ระเภทตา่ งๆ การจัดองคป์ ระกอบของภาพ การร่างภาพทวิ ทศั นต์ ามหลกั ทศั นยี วิทยา เทคนคิ การลงแสงเงาให้แสดงความงามแบบเหมอื นจรงิ ฝึกปฏิบัติการวาดเส้นภาพทิวทัศน์ ฝึกปฎิบัติการวาดเส้นภาพทิวทัศน์ แลนด์สเคป ฝึก ปฎบิ ตั กิ ารวาดเสน้ ภาพทิวทศั น์ ซีสเคป ศึกษาและฝกึ ทักษะเก่ยี วกับเรอ่ื งตอ่ ไปนี้ ให้ผเู้ รยี น ศึกษา ค้นควา้ อธิบาย อภิปราย นำเสนอดว้ ยการจัดกระบวนการเรียนร้ดู ้วยการ พบกล่มุ การสอนเสริม การเรียนรดู้ ว้ ยตนเอง การศึกษาจากแหลง่ เรยี นรู้ ประสบการณ์ตรงโดย ใช้สถานการณ์จริง และประสบการณจ์ ากผู้เรยี น การวัดและประเมินผล ประเมินจากการสังเกต การอภิปราย การสมั ภาษณ์ ทักษะปฏิบตั ิ การมสี ่วนรว่ มใน กจิ กรรมการเรียนรู้ ผลงาน การทดสอบ การประเมิน การนำไปใช้ในชวี ิตประจำวัน

146 คำอธบิ ายรายวชิ า รหัสวิชา ทช22011การวาดเส้นภาพเหมอื นคนและทิวทัศน์ จำนวน 2 หน่วยกิต ระดบั มัธยมศึกษาตอนต้น มาตรฐานการเรียนรู้ระดบั รู้ เข้าใจ มีคุณธรรมจริยธรรม ชนื่ ชม เห็นคุณค่าความงาม ความไพเราะ ธรรมชาติ สงิ่ แวดล้อมทางทัศนศลิ ป์ ดนตรี และนาฏศลิ ป์พ้ืนบา้ น และสามารถวเิ คราะห์ วพิ ากษว์ ิจารณ์ ไดอ้ ยา่ ง เหมาะสม ที่ หัวเร่ือง ตัวช้วี ดั เนื้อหา จำนวน 1. ความหมาย ประเภท 1. อธบิ ายความหมาย ประเภท 1. ความหมายของงานวาดเส้น (ชม.) และคุณค่าของงานวาดเส้น 2. ประเภทของงานวาดเส้น และคุณคา่ ของงาน 3. คณุ ค่าของงานวาดเส้น 3 วาดเส้น 1. อธบิ ายชนดิ ของเครอ่ื งมือและ 1. เคร่อื งมอื วัสดอุ ปุ กรณ์ท่ีใชใ้ นงาน 3 2. เครอ่ื งมือและวสั ดุ วสั ดอุ ุปกรณท์ ใ่ี ช้ในงานวาดเสน้ วาดเส้น อปุ กรณท์ ใ่ี ช้ ในงาน 2. อธบิ ายการใชง้ านเครอ่ื งมอื 2. วธิ ีการใช้งานเครอื่ งมอื วสั ดุ 3 วาดเส้น และวัสดุอปุ กรณท์ ใี่ ชใ้ นงานวาด อปุ กรณท์ ใี่ ชใ้ นงานวาดเส้น 6 เสน้ 3. วิธกี ารดแู ล เก็บรักษาเครอ่ื งมอื 3. ลกั ษณะของเสน้ 3. อธิบายวธิ ีการเกบ็ รกั ษา วสั ดุอปุ กรณ์ท่ใี ชใ้ นงานวาดเสน้ 4. การวาดเส้น เครอื่ งมอื และวสั ดอุ ปุ กรณท์ ี่ใช้ใน งานวาดเส้น 1. ลักษณะของเส้น ภาพเหมอื นคน 1. อธบิ ายลกั ษณะของเส้น 2. ความหมายและความรสู้ ึกของ ความหมายและความรสู้ ึกของ เสน้ เส้น 3. ความสำคญั ของเส้น ความสำคญั ของเสน้ 1. สดั สว่ นของใบหนา้ คน ตามหลกั 1. อธิบายหลักการ กระบวนการ กายวภิ าคศาสตร์ วาดเส้นภาพเหมือนคน ขนั้ ตอน 2. สัดส่วนของคนเตม็ ตัว ในการวาดภาพเหมอื นคน 3. การจัดภาพ รา่ งภาพ ตามหลกั กายวภิ าคศาสตร์ 4. การแรเงานำ้ หนักภาพเหมือนคน 5. เทคนคิ การลงแสงเงาให้แสดง ความงามแบบเหมือนจริง


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook