เอกสารประกอบหลักสูตรสถานศกึ ษา หลักสูตรการศึกษานอกระบบระดบั การศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐาน พุทธศกั ราช 2551 (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ. 2554) สาระทักษะการเรียนรู้ ศูนยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั อำเภอบ้านแหลม สำนักงานสง่ เสริมการศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัยจังหวัดเพชรบุรี สำนักงานสง่ เสรมิ การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั สำนกั งานปลดั กระทรวงศึกษาธกิ าร กระทรวงศึกษาธิการ
คำนำ เอกสารประกอบหลักสูตรสถานศึกษา หลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษา ขั้นพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2554) สาระทักษะการเรียนรู้ ศูนย์การศึกษา นอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัยอำเภอบา้ นแหลม จดั ทำขึน้ เพือ่ ใหค้ รผู ู้สอนไดศ้ กึ ษารายละเอียด ของสาระน้ีและนำไปจัดการเรยี นรู้ให้กับผู้เรียนได้บรรลุมาตรฐานการเรียนรู้และส่งผลต่อการบรรลุ ต่อจดุ หมายของหลกั สูตร เอกสารประกอบหลักสูตรสถานศึกษา หลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษา ข้ันพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2554) สาระทักษะการเรียนรู้ ศูนย์การศึกษานอก ระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอบ้านแหลม ประกอบด้วย (1) คำช้ีแจงสาระทักษะการเรียนรู้ (2) สาระทักษะการเรียนรู้ (3) ผังมโนทัศน์ (4) มาตรฐานการเรียนรู้ระดับและผลการเรียนรู้ท่ีคาดหวัง (5) รายวิชาบังคับและรายวิชาเลือก (6) คำอธิบายรายวิชาบังคับและรายละเอียดคำอธิบายรายวิชา (7) คำอธบิ ายรายวิชาเลือกและรายละเอียดคำอธิบายรายวิชา (8) บรรณานกุ รม และ (9) ภาคผนวก เอกสารประกอบหลักสูตรสถานศึกษา หลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษา ข้ันพ้ืนฐาน พุทธศกั ราช 2551 (ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ. 2554) สาระทกั ษะการเรยี นรู้ ศูนย์การศึกษานอก ระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอบ้านแหลม สำเร็จลงได้ด้วยดีเนื่องจากไดร้ ับการสนับสนุนจาก นางรัชนุช สละโวหาร ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย จังหวัดเพชรบุรี นายสหรัฐ พูลนาค รองผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและ การศึกษาตามอัธยาศัยจังหวัดเพชรบุรี นางทองสุข รัตนประดิษฐ์ ศึกษานิเทศก์ชำนาญการพิเศษ นางสาวสุธิกานต์ แย้มนิล ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตาม อัธยาศัยอำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรขี ันธ์ คณะกรรมการสถานศึกษาศูนยก์ ารศึกษานอกระบบและ การศกึ ษาตามอัธยาศัยอำเภอบ้านแหลม ขา้ ราชการครูและบคุ ลากรทางการศึกษา ครูอาสาสมคั รการศึกษา นอกโรงเรียน ครู กศน.ตำบล และนักจัดการงานท่ัวไป สังกัดศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตาม อัธยาศัยอำเภอบ้านแหลม ตัวแทนผู้เรียนสงั กัดศนู ย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอ บ้านแหลม ตัวแทนชุมชน ตัวแทนภาคีเครือข่ายหน่วยงาน ได้แก่ ที่ว่าการอำเภอบ้านแหลม สาธารณสุข อำเภอบ้านแหลม พัฒนาชุมชนอำเภอบ้านแหลม เกษตรอำเภอบ้านแหลม เทศบาลตำบลบ้านแหลม องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านแหลม ภูมิปัญญาท้องถ่ิน/ปราชญ์ชาวบ้าน ผู้นำศาสนาอิสลาม ศนู ย์การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั อำเภอบา้ นแหลม ขอขอบพระคณุ ทุกทา่ น มา ณ ที่น้ีด้วย (นางวภิ ารัตน์ ชาแจ้ง) ผ้อู ำนวยการศนู ย์การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั อำเภอบา้ นแหลม
สารบญั หนา้ คำชแ้ี จงสาระทกั ษะการเรียนรู้ 2 สาระทกั ษะการเรียนรู้ 3 ผงั มโนทัศน์ 4 มาตรฐานการเรยี นรรู้ ะดบั และผลการเรียนรทู้ ีค่ าดหวัง 8 รายวชิ าบังคบั และรายวชิ าเลอื ก 19 คำอธิบายรายวชิ าบงั คบั และรายละเอยี ดคำอธิบายรายวิชาระดับประถมศึกษา 22 คำอธิบายรายวชิ าบังคับและรายละเอียดคำอธบิ ายรายวชิ าระดบั มัธยมศึกษาตอนต้น 36 คำอธิบายรายวชิ าบงั คับและรายละเอยี ดคำอธบิ ายรายวชิ าระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย 45 คำอธิบายรายวิชาเลือกและรายละเอียดคำอธิบายรายวชิ าระดบั ประถมศึกษา 55 159 มธั ยมศึกษาตอนต้น มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย 160 บรรณานุกรม 161 ภาคผนวก 162 164 ก. ประกาศท่ปี รึกษาและผรู้ ่วมปรบั ปรุงและพฒั นาหลักสตู ร 169 ข. คำสั่งแตง่ ตัง้ คณะกรรมการปรบั ปรงุ และพฒั นาหลกั สตู ร ค. นิยามศัพท์
2 คำชีแ้ จงสาระทกั ษะการเรียนรู้ 1. เอกสารประกอบหลกั สตู รสถานศกึ ษา หลักสูตรการศึกษานอกระบบระดบั การศึกษาขนั้ พน้ื ฐาน (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2554) สาระทักษะการเรียนรู้ ประกอบด้วยสาระทักษะการเรียนรู้ ผังมโนทัศน์ มาตรฐานการเรียนรรู้ ะดบั ผลการเรยี นร้ทู ค่ี าดหวงั คำอธิบายรายวิชา และรายละเอยี ดคำอธิบายรายวชิ า 2. ให้ครผู ู้สอนที่จัดการศึกษาตามหลักสูตรการศกึ ษานอกระบบระดับการศึกษาข้ันพน้ื ฐาน พุทธศกั ราช 2551 นำไปพจิ ารณาประกอบการจดั ทำแผนการจดั การเรยี นรู้ 3. นำไปใช้จัดกระบวนการการเรียนรใู้ ห้เป็นไปตามมาตรฐานการเรียนรู้ในแต่ละระดับการศกึ ษา และให้ผเู้ รียนได้คุณภาพตามทีก่ ำหนด 4. คำอธิบายรายวิชา จัดทำตามมาตรฐานการเรยี นรทู้ ี่กำหนด โดยให้ครูและผเู้ ก่ยี วข้องมคี วาม เข้าใจขอบข่ายของรายวิชานั้น ๆ ดังน้ันในแต่ละคำอธิบายรายวิชาจึงมีการกำหนดชื่อรายวิชา สาระ ระดับการศึกษา จำนวนชั่วโมง จำนวนหน่วยกิต การศึกษาภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ การจัด ประสบการณก์ ารเรยี นรู้ การวดั และประเมินผล 5. สาระทักษะการเรยี นรู้ ประกอบด้วย 5 มาตรฐานการเรยี นรู้ท่ีเน้นเก่ียวกบั การเรียนรดู้ ว้ ย ตนเอง การใช้แหลง่ เรยี นรู้ การจัดการความรู้ การคดิ เป็น และการวจิ ัยอยา่ งง่าย
3 สาระทักษะการเรียนรู้ สาระทักษะการเรียนรู้ เป็นสาระเก่ียวกับการพัฒนาทักษะการเรียนรู้ของผู้เรียนใน ดา้ นการเรียนรู้ด้วยตนเอง การใช้แหล่งเรียนรู้ การจัดการความรู้ การคิดเป็น และการวิจัยอย่างง่าย โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้เรียนสามารถกำหนดเป้าหมาย วางแผนการเรียนรดู้ ้วยตนเองเขา้ ถึงและ เลือกใช้แหล่งเรียนรู้ จัดการความรู้ กระบวนการแก้ปัญหา และตดั สินใจอย่างมีเหตผุ ล ที่สามารถใช้ เปน็ เครื่องมอื ในการชีน้ ำตนเองในการเรียนรู้ และการประกอบอาชีพใหส้ อดคล้องกบั หลกั การพืน้ ฐาน และการพัฒนา 5 ศักยภาพของพ้ืนที่ใน 5 กลุ่มอาชีพ คือ เกษตรกรรม อตุ สาหกรรม พาณิชยกรรม ความคิดสร้างสรรค์ การอำนวยการ (การบริหารจัดการและบริการ) ตามยุทธศาสตร์ กระทรวงศกึ ษาธกิ าร ไดอ้ ยา่ งต่อเนอื่ งตลอดชวี ติ
4 ผังมโนทัศน์
45 ผังมโนทัศน์ ระดบั ประถมศึกษา ศึกษาทาํ ความเขา้ ใจกบั ความเชื่อพื้นฐานทางการศึกษา ทักษะการเรยี นรู้ ผู้ใหญ่ การศกึ ษานอกระบบการเช่ือมโยงไปสูการเรียนรูเรอื่ ง เพือ่ พฒั นาศกั ยภาพ 5 ความหมายความสำคญั ของการคดิ เป็น และศักยภาพการ ประกอบอาชพี ในด้าน กลุม่ อาชพี ใหม่ - ศักยภาพของทรัพยากรมนุษยใ์ นแตล่ ะพ้ืนที่ - ศักยภาพของพน้ื ทีต่ ามสภาพภมู อิ ากาศ - ศักยภาพของภมู ปิ ระเทศและทาํ เลที่ตง้ั ของแตล่ ะพนื้ ที่ และศกั ยภาพการประกอบอาชีพโดยเนน้ - ศักยภาพของทรัพยากรธรรมชาตใิ นแต่ละพน้ื ที่ - ศักยภาพของศิลปะ วฒั นธรรม ประเพณี และวถิ ชี ีวติ ของ แต่ละพื้นท่ี
6 ผงั มโนทัศน์ ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนต้น ทกั ษะการเรียนรู้ - ความหมายความสำคญั ของการใชแ้ หลง่ เรียนรู้ประเภทตา่ ง ๆ เพือ่ พัฒนาศกั ยภาพ 5 - ศึกษา เรียนรกู้ ารใช้อินเทอร์เนต็ การเขา้ ถึงข้อมูลสารสนเทศ และ ศักยภาพการประกอบอาชพี โดยเนน้ กลุ่มอาชพี ใหม่ - ศกั ยภาพของทรพั ยากรธรรมชาติในแตล่ ะพ้ืนที่ - ศกั ยภาพของศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี และวิถชี ีวิตของแต่ละพื้นท่ี 6 ศกึ ษาทําความเขา้ ใจกบั ความเชอ่ื พื้นฐานทางการศกึ ษาผใู้ หญ่ ผังมโนทัศน์ การศึกษานอกระบบการเชอื่ มโยงไปสูการเรยี นรูเรื่อง ความหมายความสำคญั ของการคิดเป็น และศกั ยภาพการ ประกอบอาชพี ในด้าน - ศกั ยภาพของทรพั ยากรมนษุ ยใ์ นแตล่ ะพ้นื ท่ี - ศกั ยภาพของพ้ืนที่ตามสภาพภูมิอากาศ - ศกั ยภาพของภูมิประเทศและทาํ เลทต่ี ง้ั ของแตล่ ะพ้ืนท่ี
7 ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย ทกั ษะการเรยี นรู้ - ทบทวนความหมายความสำคญั ประเภทแหลง่ เรยี นรู้ เพือ่ พฒั นาศกั ยภาพ 5 - ทบทวนการใช้ห้องสมดุ การเขา้ ถงึ ข้อมูลสารสนเทศ - ศึกษา สำรวจแหลง่ เรยี นรภู้ ายในชุมชน จดั กลมุ่ ประเภทและ กลมุ่ อาชพี ใหม่ ความสำคัญ - ศกึ ษาเรยี นรกู้ ับภูมปิ ัญญา ปราชญ์ ผ้รู ูใ้ นทอ้ งถนิ่ และศกั ยภาพการ ศกึ ษาทําความเขา้ ใจกับความเช่อื พ้นื ฐานทางการศกึ ษาผใู้ หญ่ ประกอบอาชพี โดยเน้น การศกึ ษานอกระบบการเช่อื มโยงไปสูการเรยี นรูเร่ือง - ศกั ยภาพของทรพั ยากรธรรมชาตใิ นแตล่ ะพ้ืนท่ี ความหมายความสำคญั ของการคดิ เป็น และศักยภาพการ - ศกั ยภาพของศลิ ปะ วฒั นธรรม ประเพณี และวถิ ีชีวติ ของแต่ละพื้นที่ ประกอบอาชพี ในด้าน - ศกั ยภาพของทรัพยากรมนุษยใ์ นแต่ละพ้ืนท่ี 6 - ศักยภาพของพืน้ ทต่ี ามสภาพภมู อิ ากาศ - ศักยภาพของภมู ิประเทศและทาํ เลท่ีตงั้ ของแตล่ ะพน้ื ท่ี
8 มาตรฐานการเรียนรู้ระดบั และผลการเรยี นรทู้ ี่คาดหวัง
9 มาตรฐานที่ 1.1 มคี วามรูความเข้าใจ ทกั ษะ และเจตคตทิ ่ีดีต่อการเรยี นรดู ้วยตนเอง ระดับประถมศึกษา ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนตน้ ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย มาตรฐานการเรียนรู้ ผลการเรียนรู้ท่ีคาดหวัง มาตรฐานการเรยี นรู้ ผลการเรยี นรู้ที่คาดหวงั มาตรฐานการเรยี นรู้ ผลการเรยี นรู้ที่คาดหวัง ความสามารถใน 1. อธิบายความหมาย สามารถวเิ คราะห์ 1. สามารถวเิ คราะห์ สามารถประมวลความรู้ 1. ประมวลความรู้ และ เหน็ ความสำคัญ และ ความร้จู ากการอ่าน การ การแสวงหาความรู้ ของการเรียนรดู้ ้วย ปฏบิ ัตกิ ารแสวงหา ฟงั การสงั เกต และและ ทำงานบนฐานข้อมลู และมี สรปุ เปน็ สารสนเทศ ด้วยตนเอง ตนเองและวิธีการ ความรู้จากการอ่าน สรปุ ไดถ้ กู ตอ้ ง ความชำนาญในการอ่าน 2. ทำงานบนฐานข้อมลู ฟงั และสรปุ ได้ถกู ตอ้ ง 2. สามารถจดั ระบบการ แสวงหาความร้ดู ้วย ตามหลกั วิชาการ แสวงหาความรูใ้ หก้ บั ฟัง จดบันทกึ เป็น ดว้ ยการแสวงหาความรู้ ตนเอง ตนเอง สารสนเทศอยา่ ง จนเปน็ ลักษณะนสิ ยั 3. ปฏิบัติตามขั้นตอนใน 2. ปฏิบัตติ นตามข้ันตอน การแสวงหาความรู้ คล่องแคล่วรวดเร็ว 3. มคี วามชำนาญใน การแสวงหาความรู้ดว้ ย เก่ียวกับทกั ษะการอา่ น ทักษะการอ่าน ทกั ษะ ทักษะการฟงั และทกั ษะ ตนเอง การจดบันทกึ การฟงั และทกั ษะการจด 3. เหน็ คณุ ค่าของ 4. สามารถนำความรู้ บันทึกอยา่ งคล่องแคล่ว ความเขา้ ใจในเร่อื ง 5 กจิ กรรมการแสวงหา ศักยภาพของพ้ืนที่ และ รวดเรว็ ความรู้ หลักการพ้ืนฐานตาม 4. สามารถนำความรู้ ยทุ ธศาสตร์2555 4. สามารถบอกหรอื กระทรวงศกึ ษาธิการไป ความเข้าใจในเร่ือง 5 ยกตัวอยา่ งอาชพี ในกลุ่ม ศักยภาพของพืน้ ที่และ อาชพี ดา้ นการ หลกั การพ้ืนฐานตาม เกษตรกรรม ยทุ ธศาสตร์ตาม อุตสาหกรรม ก ร ะ ท ร ว ง ศึ ก ษ า ธิ ก า ร พาณิชยกรรม ความคิด 2555 ไ ป เ พิ่ ม ขี ด สร้างสรรค์ การบริหาร ความสามารถการ
10 ระดบั ประถมศึกษา ระดับมธั ยมศึกษาตอนตน้ ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนปลาย มาตรฐานการเรียนรู้ ผลการเรยี นรู้ท่ีคาดหวงั มาตรฐานการเรยี นรู้ ผลการเรยี นร้ทู ่คี าดหวัง มาตรฐานการเรยี นรู้ ผลการเรยี นรู้ทคี่ าดหวัง จัดการและการบริการ เพ่ิมขดี ความสามารถ ประกอบอาชพี โดยเนน้ ที่ ทส่ี อดคลอ้ งกับศักยภาพ ของพ้นื ทีท่ ี่ตนเองอาศัย การประกอบอาชพี โดย กลมุ่ อาชีพใหม่ ให้ อยไู่ ด้ เนน้ ที่ แข่งขนั ได้ในตลาดสากล กล่มุ อาชพี ใหม่ ให้ แขง่ ขันไดใ้ นระดบั ทอ้ งถิน่
11 มาตรฐานที่ 1.2 มคี วามรูความเขา้ ใจ ทกั ษะ และเจตคตทิ ่ีดตี ่อการใชแ้ หล่งเรียนรู้ ระดบั ประถมศกึ ษา ระดับมธั ยมศึกษาตอนตน้ ระดับมัธยมศกึ ษาตอนปลาย มาตรฐานการเรียนรู้ ผลการเรียนรูท้ ีค่ าดหวงั มาตรฐานการเรยี นรู้ ผลการเรียนรูท้ ี่คาดหวัง มาตรฐานการเรยี นรู้ ผลการเรยี นรทู้ ี่คาดหวงั รจู้ กั เหน็ คุณค่า และ 1. บอกประเภท สามารถจำแนก 1. จำแนกความแตกตา่ ง สามารถวางแผนและ 1. วางแผนการใช้ ใชแ้ หลง่ เรียนรถู้ กู ตอ้ ง คณุ ลักษณะของแหล่ง จดั ลำดับความสำคญั ของแหลง่ เรียนรู้ และ ใชแ้ หลง่ เรียนรู้ แหล่งเรียนร้ตู ามความ เรยี นรูใ้ นชมุ ชน และ และเลอื กใช้ ตัดสนิ ใจ เลือกใชแ้ หล่ง ได้อย่างคลอ่ งแคลว่ ตอ้ งการจำเปน็ ของแต่ เลือกใชแ้ หล่งเรยี นรไู้ ด้ แหลง่ เรียนรู้ เรยี นรู้ จนเป็นลักษณะนสิ ัย ละบุคคล ตามความเหมาะสม ไดอ้ ย่างเหมาะสม 2. เรียงลำดบั ความสำคญั 2. ใชแ้ หล่งเรยี นรจู้ าก 2. ใชแ้ หลง่ เรยี นรู้อย่าง ของแหลง่ เรียนรู้ และ เทคโนโลยีและ เห็นคุณคา่ จดั ทำระบบ ในการใช้ นวัตกรรมตามความ 3. ทำตามกฎ กติกา และ เรียนรูข้ องตนเอง ตอ้ งการจำเป็น ข้นั ตอนการใช้แหลง่ 3. สามารถปฏบิ ตั กิ ารใช้ 3. ใชแ้ หล่งเรียนรู้ เรียนรู้ แหล่งเรยี นรตู้ ามขั้นตอน อยา่ งแคลว่ คลอ่ งจน 4. สามารถบอกหรือ ไดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง เปน็ ลักษณะนิสัย ยกตัวอย่างแหลง่ เรยี นรู้ 4. สามารถเลือกใช้ แหลง่ 4. สามารถวางแผน เกีย่ วกบั เกษตรกรรม เรียนรดู้ า้ นเกษตรกรรม และเลือกใช้แหลง่ อุตสาหกรรม อตุ สาหกรรม เรยี นรู้เพือ่ พัฒนา พาณชิ ยกรรม ความคิด พาณิชยกรรม อาชพี ของตนเองและ สร้างสรรค์ การบริหาร ความคดิ สร้างสรรค์ ทอ้ งถ่ินได้อยา่ งรวดเรว็ จัดการและการบริการ การบรหิ ารจัดการและ เหมาะสมกับ ของพื้นท่ีท่ตี นเองอาศยั การบรกิ าร เกย่ี วกับ ความสามารถ
12 ระดบั ประถมศกึ ษา ระดับมธั ยมศึกษาตอนตน้ ระดับมธั ยมศึกษาตอนปลาย มาตรฐานการเรียนรู้ ผลการเรียนร้ทู ค่ี าดหวัง มาตรฐานการเรียนรู้ ผลการเรยี นรูท้ ีค่ าดหวงั มาตรฐานการเรยี นรู้ ผลการเรียนร้ทู ค่ี าดหวัง อยู่ได้ อาชพี ของพื้นท่ีท่ตี นเอง เชน่ การหาตำแหนง่ งาน อาศัยอย่ไู ดต้ ามต้องการ วา่ งจากอินเทอรเ์ น็ต ฯลฯ
13 มาตรฐานท่ี 1.3 มคี วามรู้ความเขา้ ใจ ทักษะ และเจตคตทิ ีด่ ตี ่อการจัดการความรู้ ระดับประถมศึกษา ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนต้น ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนปลาย มาตรฐานการเรียนรู้ ผลการเรยี นรทู้ ค่ี าดหวงั มาตรฐานการเรยี นรู้ ผลการเรยี นรู้ที่คาดหวงั มาตรฐานการเรียนรู้ ผลการเรยี นรทู้ คี่ าดหวงั เข้าใจความหมาย 1. อธิบายความหมาย สามารถจำแนก 1. วเิ คราะห์ผลทเ่ี กิดขน้ึ สามารถสรปุ 1. ออกแบบ กระบวนการชมุ ชน กระบวนการชุมชน ผลที่เกดิ ขึ้นจาก ของขอบเขตความรู้ องคค์ วามรใู้ หม่ ผลิตภัณฑ์ สรา้ ง ปฏบิ ตั ิการและ ปฏิบตั กิ าร กำหนด ขอบเขตความรู้ ตัดสนิ นำไปสร้างสรรค์ สตู ร สรุปองค์ ทำตามกระบวนการ ขอบเขตความรจู้ าก ตดั สนิ คณุ คา่ คณุ คา่ กำหนดแนวทาง สังคมอุดมปญั ญา ความรู้ใหมข่ อง จัดการความรู้ชุมชน ความสามารถหลักของ กำหนดแนวทาง พัฒนา ขอบเขตความรู้ ชมุ ชน และวธิ กี ารยกระดบั พัฒนา 2. เหน็ ความสัมพนั ธข์ อง 2. ประพฤตติ นเปน็ ขอบเขต กระบวนการจดั การ บคุ คลแหง่ การ ความรู้ใหส้ งู ขนึ้ ความรู้ เรียนรู้ 2. ร่วมกันแลกเปลย่ี น กับการนำไปใชใ้ นการ 3. สามารถจดั ทำ เรียนรู้ และสรปุ ผลการ พัฒนาชมุ ชน แผนที่ความคดิ เรยี นรูท้ ่บี ง่ ชี้ถึงคุณค่า 3. ปฏบิ ตั ติ าม เกย่ี วกบั อาชีพ ใน ของกระบวนการจดั การ กระบวนการ ด้านตา่ ง ๆ ของ ความรู้ การจัดการความรู้ไดอ้ ย่าง ชุมชน เชน่ เปน็ ระบบ เกษตรกรรม อุตสาหกรรม 3. สามารถสงั เกต และทำ 4. สามารถนำ พาณชิ ยกรรม ตามกระบวนการการ กระบวนการ ความคิดสรา้ งสรรค์ จดั การความรู้ชมุ ชน จัดการความรขู้ องชุมชน การบรหิ ารจัดการ
14 ระดบั ประถมศกึ ษา ระดับมัธยมศกึ ษาตอนต้น ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย มาตรฐานการเรียนรู้ ผลการเรยี นร้ทู ี่คาดหวงั มาตรฐานการเรยี นรู้ ผลการเรยี นรู้ทีค่ าดหวงั มาตรฐานการเรียนรู้ ผลการเรยี นรทู้ ่คี าดหวงั จำแนกอาชีพในด้านต่างๆ ได้อยา่ งถูกต้อง ของ ชุมชน คือ 4.สร้างสรรค์สงั คม 4. สามารถนำกระบวนการ เกษตรกรรม อุดมปัญญา จัดการความรู้ของชมุ ชนไป อุตสาหกรรม เลือกประกอบอาชีพท่ี พาณชิ ยกรรม เหมาะสมกับตนเองได้ ความคดิ สร้างสรรค์ การบรหิ ารจัดการได้ อยา่ งถูกต้อง
15 มาตรฐานท่ี 1.3 มีความรู้ความเข้าใจ ทักษะ และเจตคติทีด่ ตี ่อการจัดการความรู้ ระดับประถมศกึ ษา ระดบั มธั ยมศึกษาตอนตน้ ระดับมธั ยมศึกษาตอนปลาย มาตรฐานการเรยี นรู้ ผลการเรยี นรู้ทค่ี าดหวัง มาตรฐานการเรยี นรู้ ผลการเรียนรู้ท่ีคาดหวงั มาตรฐานการเรยี นรู้ ผลการเรียนรู้ที่คาดหวงั เขา้ ใจความหมาย 1. อธบิ ายความหมาย สามารถจำแนก 1. วิเคราะหผ์ ลทเ่ี กดิ ขนึ้ ของ สามารถสรปุ 1. ออกแบบผลิตภัณฑ์ กระบวนการชมุ ชน กระบวนการชุมชน ผลทีเ่ กิดขึ้นจาก ขอบเขตความรู้ ตัดสนิ คณุ คา่ องค์ความรู้ใหม่ สร้างสูตร สรุปองค์ความรู้ ปฏิบัตกิ ารและ ปฏบิ ัตกิ าร กำหนดขอบเขต ขอบเขตความรู้ กำหนดแนวทางพฒั นา นำไปสรา้ งสรรค์ ใหม่ของขอบเขตความรู้ ทำตามกระบวนการ ความร้จู ากความสามารถ ตดั สนิ คุณค่า 2. เหน็ ความสมั พันธข์ อง สงั คมอดุ มปญั ญา 2. ประพฤติตนเป็นบุคคล จดั การความรู้ชมุ ชน หลกั ของชมุ ชน และวิธกี าร กำหนดแนวทาง กระบวนการจัดการความรกู้ ับ แหง่ การเรยี นรู้ ยกระดบั ขอบเขตความรูใ้ ห้ พฒั นา การนำไปใช้ในการพฒั นา 3. สามารถจัดทำแผนที่ สูงขน้ึ ชมุ ชน ความคิดเก่ียวกบั อาชีพ ใน 2. ร่วมกันแลกเปลีย่ นเรยี นรู้ 3. ปฏิบตั ิตามกระบวนการ ด้านต่าง ๆ ของชุมชน เช่น และสรุปผลการเรียนรู้ทบ่ี ่งชี้ การจดั การความรูไ้ ด้อย่างเป็น เกษตรกรรมอตุ สาหกรรม ถึงคณุ ค่าของกระบวนการ ระบบ พาณชิ ยกรรมความคิด จดั การความรู้ 4. สามารถนำกระบวนการ สร้างสรรคก์ ารบรหิ าร 3. สามารถสังเกต และทำ จดั การความรขู้ องชุมชน จัดการไดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง ตามกระบวนการการจัดการ จำแนกอาชพี ในด้าน 4. สร้างสรรค์สังคม ความรชู้ มุ ชน ตา่ ง ๆ ของชุมชน คือ อดุ มปญั ญา เกษตรกรรม อตุ สาหกรรม 4. สามารถนำกระบวนการ พาณชิ ยกรรม ความคดิ จัดการความรู้ของชุมชนไป สร้างสรรค์ การบรหิ ารจดั การ เลือกประกอบอาชีพที่ ได้อยา่ งถกู ต้อง เหมาะสมกับตนเองได้
16 มาตรฐานท่ี 1.4 มคี วามรคู้ วามเข้าใจ ทกั ษะ และเจตคติท่ดี ตี อ่ การคิดเป็น ระดับประถมศกึ ษา ระดับมัธยมศึกษาตอนตน้ ระดับมัธยมศกึ ษาตอนปลาย มาตรฐานการเรียนรู้ ผลการเรียนรู้ทีค่ าดหวงั มาตรฐานการเรยี นรู้ ผลการเรยี นรู้ท่ีคาดหวงั มาตรฐานการเรียนรู้ ผลการเรียนรู้ที่คาดหวงั 1. อธิบาย และเช่อื มโยง ความสามารถใน 1. อธิบายหรือทบทวน ความสามารถในการ 1. อธิบายหรือทบทวน ความสามารถใน ความเช่ือพ้นื ฐานทาง การศกึ ษา เลอื กสรร ปรัชญาคดิ เปน็ และ ฝึกทกั ษะการคดิ เปน็ ท่ี ปรัชญาคิดเป็น และการ การอธบิ ายปรชั ญา การศกึ ษาผู้ใหญ/่ จดั เกบ็ และการ ลกั ษณะของขอ้ มลู ด้าน ซับซ้อนเชอ่ื มโยงกบั ใช้ระบบข้อมลู ทาง คิดเป็น และทกั ษะ การศึกษานอกระบบ สู่ วเิ คราะห์ สงั เคราะห์ วชิ าการ ตนเอง สังคม คณุ ธรรม จรยิ ธรรม วชิ าการ ตนเอง และสังคม ปรัชญาคดิ เปน็ ข้อมูลทงั้ สามประการ สงิ่ แวดล้อมทจ่ี ะนำมา ที่เก่ียวข้องกบั ปรชั ญา สง่ิ แวดลอ้ ม มาวเิ คราะห์ ในการใช้ 2. เข้าใจความหมายและ และการใชเ้ ทคนิคใน วิเคราะหแ์ ละสงั เคราะห์ คิดเปน็ และสามารถ สังเคราะห์ เพ่ือประกอบ กระบวนการคิดเปน็ ความสำคญั ของปรัชญา การฝกึ ทักษะการคิด เพือ่ ประกอบการคิด ระบุถึงปัญหาอปุ สรรค กระบวนการคิด การ ในการแกป้ ัญหา คิดเป็น สามารถอธบิ ายถงึ เป็นเพ่ือใช้ประกอบการ การตัดสนิ ใจแก้ปญั หา การพัฒนากระบวนการ ตดั สินใจ ในการแกป้ ัญหา ขน้ั ตอนและกระบวนการ ตัดสนิ ใจแกป้ ัญหา 2. จำแนก เปรียบเทียบ คิดเป็น และการแกไ้ ข 2. อธิบายและปฏบิ ตั ิการ แกป้ ัญหาของคนคิดเป็น 3. ตรวจสอบข้อมลู ด้าน ใชเ้ ทคนิควธิ กี ารฝกึ ทักษะ เข้าใจลกั ษณะของข้อมลู วิชาการ ตนเอง สังคม การคิดเปน็ ทซ่ี บั ซอ้ นและนำ ด้านวชิ าการ ตนเอง และ ส่งิ แวดล้อมทจี่ ัดเกบ็ และ คุณธรรม จรยิ ธรรม ท่ี สังคม สงิ่ แวดลอ้ ม และ ทักษะในการวเิ คราะห์ เกี่ยวข้องมาส่งเสริม สามารถเปรียบเทียบความ สังเคราะหข์ อ้ มลู ทง้ั กระบวนการคดิ เป็นให้ แตกตา่ งของข้อมลู สามดา้ น เพอ่ื ประกอบการ มากขึ้น ทัง้ สามดา้ น ตดั สินใจ แกป้ ญั หา 3. อภปิ ราย ถกแถลงถงึ ปญั หาและอุปสรรค 4. เขา้ ใจและบอกไดว้ า่ ในการใช้กระบวนการ หลักการ”คดิ เป็น” และ 3. ปฏิบัตติ ามเทคนิค คดิ เปน็ ประกอบการ ความเชือ่ พืน้ ฐานทาง กระบวนการคดิ เป็น แกป้ ญั หา
17 ระดับประถมศกึ ษา ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนต้น ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนปลาย มาตรฐานการเรยี นรู้ ผลการเรียนรู้ท่ีคาดหวัง มาตรฐานการเรยี นรู้ ผลการเรยี นรู้ทีค่ าดหวัง มาตรฐานการเรียนรู้ ผลการเรยี นรทู้ ่คี าดหวงั การศกึ ษาผใู้ หญเ่ ปน็ เรอื่ งที่ ประกอบการตัดสนิ ใจ 4. เชอ่ื มโยงปรัชญา สอดคลอ้ งกบั 5 ศักยภาพ ได้อยา่ งเป็นระบบ คดิ เปน็ กระบวนการ ของพื้นทีต่ ามยทุ ธศาสตร์ 4. สามารถนำความรู้ เรียนรู้ การศกึ ษานอก ของกระทรวงศกึ ษาธกิ าร ความเข้าใจในเร่ือง 5 ระบบ 2555ในการนำไปเพิ่มขีด ศกั ยภาพของพนื้ ที่ และ 5. บอกลักษณะของ ความสามารถการประกอบ หลกั การพนื้ ฐานตาม คนคิดเป็น ได้อย่างน้อย 8 อาชพี โดยเน้น 5 กลมุ่ ยุทธศาสตรต์ าม ประการ อาชีพใหม่ในระดบั ทอ้ งถ่ิน กระทรวงศกึ ษาธกิ าร 6. สามารถนำความรู้ 2555 ไปเพิม่ ขดี ความเขา้ ใจในเรอ่ื ง 5 ความสามารถการประกอบ ศักยภาพ ของพน้ื ท่ีและ อาชพี โดยเนน้ ทกี่ ลมุ่ อาชีพ หลักการพน้ื ฐานตาม ใหม่ ใหแ้ ข่งขนั ไดใ้ น ยทุ ธศาสตรต์ าม ระดบั ชาติ กระทรวงศกึ ษาธิการ 2555 ไปเพ่มิ ขดี ความสามารถการ ประกอบอาชีพโดยเนน้ ที่ กลุ่มอาชพี ใหม่ ใหแ้ ข่งขนั ไดใ้ นตลาดสากล
18 มาตรฐานที่1.5 มีความร้คู วามเข้าใจ ทกั ษะ และเจตคติทดี่ ีต่อการวจิ ัยอย่างง่าย ระดับประถมศึกษา ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนต้น ระดบั มัธยมศึกษาตอนปลาย มาตรฐานการเรยี นรู้ ผลการเรยี นรูท้ ่ีคาดหวัง มาตรฐานการเรียนรู้ ผลการเรียนร้ทู ่คี าดหวัง มาตรฐานการเรียนรู้ ผลการเรยี นรู้ทคี่ าดหวัง เขา้ ใจความหมาย 1. อธิบายความหมาย สามารถวิเคราะห์ 1. ระบุปญั หา ความจำเปน็ สามารถวางแผน 1. ออกแบบการวิจัย เห็นความสำคญั ความสำคญั และข้นั ตอน ปัญหาความจำเป็น วตั ถปุ ระสงค์ และประโยชนท์ ี่ การวิจัย ดำเนินการ เพื่อคน้ หาความรู้ ความ และปฏบิ ตั ิการ ในการทำวิจัยอย่างงา่ ย เหน็ ความสมั พันธ์ คาดว่าจะไดร้ บั จากการวิจยั ตามแบบแผน จริงทตี่ ้องการคำตอบ รวบรวมข้อมลู ค้นหาความรคู้ วามจรงิ ของกระบวนการวจิ ยั และสบื คน้ ขอ้ มลู เพื่อทำความ อยา่ งถกู ตอ้ ง 2. ดำเนนิ การตามแบบ วเิ คราะหข์ อ้ มูล และ 2. เหน็ ความสำคัญของ กับการนำไปใช้ใน กระจ่างในปญั หาการวจิ ยั แผนการวจิ ัย และ สรุปผลการหา การคน้ หาความรู้ ความ ชีวติ และดำเนนิ การ รวมทัง้ กำหนดวิธกี ารหา วิเคราะหข์ อ้ มูล สรุป ความรู้ ความจริง จริง วิจัยทดลองตาม ความรู้ความจรงิ สารสนเทศความรู้ 3. ปฏบิ ัติการเกบ็ รวบรวม ขั้นตอน 2. เหน็ ความสัมพันธข์ อง ความจริงทต่ี ้องการ ข้อมลู วิเคราะห์ขอ้ มลู กระบวนการวจิ ยั กบั การ คำตอบ และสรปุ ผลการหาความรู้ นำไปใชใ้ นชวี ติ 3. ใช้กระบวนการวจิ ัย ความจรงิ 3. ปฏิบัตกิ ารศกึ ษา ทดลอง อยา่ งงา่ ยเพ่ือเพ่ิม รวบรวม วเิ คราะหข์ อ้ มลู และ ศกั ยภาพและขีด สรปุ ความรู้ความจริงตาม ความสามารถในการ ขน้ั ตอนได้อย่างถูกตอ้ งชัดเจน ประกอบอาชีพสรา้ ง เช่น การวิเคราะหอ์ าชพี รายได้ทม่ี ัง่ ค่งั และ มนั่ คง
19 รายวิชาบังคบั และรายวชิ าเลือก รายวชิ าบังคบั สาระทกั ษะการเรยี นรู้ มาตรฐานท่ี ระดบั การศึกษา รหสั วชิ า รายวชิ า หนว่ ยกิต 5 1.1 ประถมศกึ ษา ทร11001 ทกั ษะการเรยี นรู้ 5 5 1.2 มัธยมศึกษาตอนตน้ ทร21001 ทักษะการเรยี นรู้ 1.3 1.4 มัธยมศกึ ษาตอนปลาย ทร31001 ทกั ษะการเรยี นรู้ 1.5 รายวิชาเลือก สาระทักษะการเรยี นรู้ มาตรฐานที่ ระดับการศกึ ษา รหสั วชิ า รายวิชา หน่วยกิต 1.1 ประถมศกึ ษา ทร02001 ข้อมูลนั้นสำคัญไฉน 1 1.1 มธั ยมศึกษาตอนตน้ ทร02002 เทคนิคการแกป้ ัญหา 1 1.1 มธั ยมศึกษาตอนปลาย ทร02003 ทักษะการตัดสนิ ใจ 1 1.1 ทร02004 ทักษะการคดิ 1 1.1 ทร02005 การรู้จักตนเอง 1 1.1 ทร02006 โครงงานเพื่อพัฒนาทักษะ 3 การเรียนรู้ 1.1 ทร02007 เทคนคิ การวิเคราะหง์ าน 1 1.1 ทร02008 เทคนคิ การจดบนั ทกึ 1 1.1 ทร02009 การอา่ นเพือ่ ความเขา้ ใจ 1 1.1 ทร02010 แผนพัฒนาความคิด 1 (Mind Map) 1.1 ทร02011 ทักษะการพูด 1 1.1 ทร02012 ทักษะการคิดหลายด้าน 1 1.1 ทร02013 การเรยี นรู้วิธกี าร 1 กระบวนการกลุม่ 1.1 ทร02014 ทักษะการจำ 1
20 มาตรฐานที่ ระดบั การศึกษา รหัสวิชา รายวิชา หน่วยกิต 1.1 ทร02015 แฟ้มสะสมงาน 1 1.1 ทร02016 1 1.2 ทร02017 การสรา้ งวนิ ัยตนเอง 1 1.2 ทร02018 Internet กบั การเรยี นรู้ 1 ไรพ้ รมแดน 1.2 ทร02019 มาเรียนร้กู บั ภูมิปญั ญา 1 กันเถอะ 1.2 ทร02020 เทคนคิ การใช้ 1 หอ้ งสมุดประชาชน 1.2 ทร02021 เรยี นรูก้ บั ปราชญ์/ผรู้ /ู้ 1 1.2 ทร02022 ภูมิปัญญาทอ้ งถิน่ 1 แหล่งเรยี นรู้ในชุมชน 1.2 ทร02023 1 การทำหนงั สอื ดว้ ย 1.3 ทร02024 สองมือเรา 1 1.3 ทร02025 เทคนิคการจัด 1 เวทชี าวบ้าน 1.3 ทร02026 ชุมชนนกั ปฏบิ ัติ 1 1.3 ทร02027 1 1.3 ทร02028 การจัดการความรใู้ น 1 1.4 ทร02029 การเรียนรดู้ ้วยตนเอง 1 ไดอาร่ีออนไลน์ 1.4 ทร02030 1 1.4 ทร02031 ตลาดความรู้ 1 1.4 ทร03032 1 1.4 ทร02033 การบริหารเวลา 1 1.4 ทร02034 1 1.5 ทร02035 คดิ เป็นกบั ปรัชญาเศรษฐกจิ 1 1.5 ทร02036 พอเพยี ง 1 1.5 ทร02037 ตอ่ ยอดงานอาชีพ 1 เปน็ คนคดิ เป็น คิดอยา่ งไรให้เปน็ สขุ ศาสนาพาใหค้ ิดเปน็ ปัญหาก่อใหเ้ กิดปญั ญา สถติ งิ ่าย ๆ เพอ่ื การวิจัย เคร่อื งมือการวิจยั การเขยี นโครงการวจิ ัยอย่าง ง่าย ๆ
21 มาตรฐานท่ี ระดบั การศกึ ษา รหัสวิชา รายวชิ า หนว่ ยกิต 1.5 ทร02038 วิจัยในอาชพี 1 1.5 ทร02039 1 1.5 ทร02040 วจิ ยั ในบ้าน 1 1.5 ทร02041 1 1.5 ทร02042 วจิ ยั ในชุมชน 1 1.2 ทร02043 วจิ ยั กบั IT 1 1.2 ทร02044 1 1.2 ทร02045 การนำเสนอและ 1 เผยแพรง่ านวิจยั 1.2 ทร02046 Microsoft Word 1 1.2 ทร02047 3 Adob Photoshop CS Web Create by Macromedia Dreamweaver Microsoft Excel การใชเ้ ทคโนโลยี คอมพิวเตอรเ์ พ่ือการ ปฏิบตั งิ าน
22 คำอธิบายรายวิชาบังคับ และรายละเอียดคำอธบิ ายรายวิชา ระดบั ประถมศึกษา
23 คำอธบิ ายรายวชิ า ทร11001 ทกั ษะการเรยี นรู จำนวน 5 หน่วยกิต ระดับประถมศึกษา มาตรฐานการเรยี นรูระดบั สาระทักษะการเรียนรู้ เป็นสาระเก่ียวกับการพัฒนาทักษะการเรียนรู้ของผู้เรียนในด้าน การเรียนรดู้ ว้ ยตนเอง การใช้แหล่งเรยี นรู้ การจดั การความรู้ การคดิ เปน็ และการวิจยั อยา่ งง่าย โดยมี วัตถุประสงค์เพ่ือให้ผ้เู รียนสามารถกำหนดเปา้ หมาย วางแผนการเรียนรู้ดว้ ยตนเองเข้าถงึ และเลอื กใช้ แหล่งเรียนรู้ จัดการความรู้ กระบวนการแก้ปัญหา และตัดสินใจอย่างมีเหตุผล ที่สามารถใช้เป็น เคร่ืองมือในการช้ีนำตนเองในการเรยี นรู้ และการประกอบอาชีพให้สอดคล้องกับหลักการพ้ืนฐาน และการพัฒนา 5 ศักยภาพหลักของพ้ืนที่ใน 5 กลุ่มอาชีพใหม่ คือ กลุ่มอาชีพด้านเกษตรกรรม อุตสาหกรรมพาณิชยกรรม ความคิดสรา้ งสรรค์การบริหารจัดการเป็นการบริการ ตามยุทธศาสตร์ 2555 กระทรวงศึกษาธิการ ได้อย่างต่อเน่ืองตลอดชีวิต ดังนั้นสาระทักษะการเรียนรู้ระดับ ประถมศึกษาจงึ มมี าตรฐานการเรยี นรูร้ ะดบั ดงั น้ี 1. ความสามารถในการแสวงหาความรู้ดว้ ยตนเอง 2. ร้จู ัก เหน็ คุณคา่ และใช้แหล่งเรียนร้ถู กู ตอ้ ง 3. เขา้ ใจ ความหมาย กระบวนการชมุ ชน และศกั ยภาพของชุมชนในการปฏิบตั ิการและทำ ตามกระบวนการจดั การความรู้ชมุ ชน ดา้ นอาชพี เพือ่ เพ่มิ ศักยภาพและขดี ความสามารถในการแขง่ ขัน ที่สามารถสรา้ งรายไดท้ ม่ี ่งั คงั่ และม่ันคง 4. ความสามารถในการอธบิ ายกระบวนการคิดเป็น และทกั ษะในการใช้กระบวนการคิดเปน็ ในการแก้ปญั หาการเรียนรู้และการประกอบอาชีพได้อย่างตอ่ เนื่องตลอดชีวติ 5. เข้าใจความหมาย เหน็ ความสำคัญ และปฏิบัติการรวบรวมขอ้ มลู วิเคราะห์ข้อมูล และ สรุปผลการหาความรู้ ความจรงิ ในการเรียนรู้และการประกอบอาชีพ 6. เขา้ ใจความหมาย และเหน็ ความสำคัญของศกั ยภาพของพน้ื ท่ีใน การเพิ่มขีดความสามารถ ของการประกอบอาชีพ 5 กลุ่มอาชีพใหม่ ศกึ ษาและฝึกทกั ษะเก่ียวกับเรือ่ งดังต่อไปน้ี 1. การเรียนรู้ด้วยตนเอง ความหมาย ความสำคัญของการเรียนรู้ด้วยตนเอง ฝึกทักษะ พ้นื ฐานทางการศึกษาหาความรู้ ทักษะการแก้ปัญหา และเทคนิคในการเรียนรู้ด้วยตนเอง ด้านการ อ่าน การฟัง การสังเกต การจำ และการจดบันทึก เจตคติ/ปัจจัย ท่ีทำให้การเรียนรู้ด้วยตนเอง ประสบความสำเร็จ การเปิดรับโอกาสการเรียนรู้ การคิดริเร่ิมและเรียนรู้ด้วยตนเอง การสร้ าง แรงจูงใจ การสร้างวนิ ัยในตนเอง การคิดเชิงบวก ความคดิ สร้างสรรค์ ความรักในการเรียน การใฝ่รู้ ใฝเ่ รียน และความรบั ผิดชอบ 2. การใช้แหล่งเรียนรู้ ศึกษาความหมาย ความสำคัญ ของแหล่งเรียนรู้ โดยท่ัวไป เช่น กลุ่มบริการข้อมูลกลุ่มศิลปวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ กลุ่มข้อมูลท้องถ่ิน กลุ่มสื่อ กลุ่มสันทนาการ ศกึ ษาสำรวจ แหล่งเรยี นร้ภู ายในชมุ ชน จัดกลมุ่ ประเภท และความสำคญั ศึกษาเรียนรู้กบั ภูมปิ ัญญา
24 ปราชญ์ ผู้รู้ในท้องถ่ิน การเข้าถึงและเลือกใช้แหล่งเรียนรู้ หอ้ งสมุดประชาชน สถานศึกษา และศูนย์ การเรียนชุมชน (ศรช.) ศึกษาบทบาทหน้าท่ีและการบริการของแหล่งเรียนรู้ด้านต่าง ๆ กฎ กติกา เง่ือนไขต่าง ๆ ในการไปขอใช้บริการ ฝึกทักษะการใช้ข้อมูลสารสนเทศจากห้องสมุดประชาชนให้ สอดคลอ้ งกบั ความตอ้ งการ ความจำเปน็ เพ่ือนำไปใช้ในการเรยี นรูข้ องตนเอง 3. การจัดการความรู้ ศึกษาความหมาย ความสำคัญ หลักการของการจัดการความรู้ กระบวนการจัดการความรู้ การรวมกลมุ่ เพอ่ื ต่อยอดความรู้ การพัฒนาขอบข่ายความรู้ของกลุม่ การ จัดทำสารสนเทศเผยแพรค่ วามรู้ ฝึกทักษะกระบวนการจดั การความรู้ดว้ ยตนเองและด้วยการรวมกล่มุ ปฏิบัติการ โดยการกำหนดเป้าหมายการเรียนรู้ ระบุความรู้ที่ต้องใช้ การแสวงหาความรู้ สรปุ องค์ ความรู้ ประยุกตใ์ ช้ความรู้ แลกเปล่ยี นความรู้ การรวมกลุม่ ปฏิบตั กิ ารเพอ่ื ตอ่ ยอดความรู้ การพัฒนา ขอบข่ายความรูข้ องกลุ่ม สรุปองค์ความรู้ของกลุ่ม จัดทำสารสนเทศองค์ความรู้ในการพัฒนาตนเอง ครอบครัว 4. การคดิ เป็น ศึกษาทำความเขา้ ใจกบั ความเช่ือพ้ืนฐานทางการศึกษาผู้ใหญ่/การศกึ ษานอก ระบบและเช่ือมโยงไปสู่การเรียนรู้เรื่องความหมายและความสำคัญของการคิดเป็น โดยใช้ข้อมูลด้าน วชิ าการ ตนเอง สงั คม ส่ิงแวดลอ้ มอยา่ งพอเพียง มาวเิ คราะห์และสังเคราะห์ เพอื่ กำหนดทางเลือกในการ คิด การตัดสินใจแก้ปัญหาท่ีเหมาะสมอย่างคนคิดเป็น ฝึกทักษะในการทำความเข้าใจในลักษณะของ ขอ้ มูลดา้ นวิชาการ ตนเอง และสังคม สงิ่ แวดลอ้ ม และฝึกการใช้ขอ้ มูลทั้ง 3 ดา้ น ในการประกอบการคิด และการตัดสนิ ใจแก้ปัญหาที่หลากหลายตามกระบวนการแก้ปญั หาอยา่ งคนคดิ เป็น 5. การวจิ ัยอย่างง่าย ศึกษา / ฝึกทักษะ ความหมาย ความสำคัญของ การวจิ ัยอยา่ งง่าย กระบวนการและขั้นตอนของการดำเนินงาน ได้แก่ การระบุ / กำหนดปัญหา ท่ีต้องการหาความรู้ ความจริง หรือส่ิงต้องการพัฒนา การแสวงหาความรู้จากการศึกษาเอกสาร ผู้ทรงคุณวุฒิ ภูมิปญั ญา ท้องถิ่น แหล่งความรู้ต่าง ๆ เพื่อกำหนดแนวคำตอบเบื้องต้น การเก็บรวบรวมข้อมูล โดยการ สอบถาม สำรวจ / สัมภาษณ์ / ทดลอง การนำข้อมูลที่ได้มาวเิ คราะห์หาคำตอบที่ต้องการ การเขยี น รายงานสรุปผล และการนำความรู้ไปปฏิบัติจรงิ 6. ทักษะการเรียนรู้ และศักยภาพหลกั ของพน้ื ทใ่ี นการพฒั นาอาชีพ ศึกษา วเิ คราะห์ และ ประยุกต์ใช้ทักษะการเรียนรู้ เพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการเพิ่มศักยภาพและขีดความสามารถในการ แข่งขันใน 5 กลุ่มอาชีพใหม่ คือ กลุ่มอาชีพด้านเกษตรกรรม อุตสาหกรรม พาณิชยกรรม ความคิด สร้างสรรค์ การบรหิ ารจัดการและการบริการ โดยคำนึงถงึ ศักยภาพหลักของพนื้ ที่ คือศักยภาพของ ทรพั ยากรธรรมชาติ ในแตล่ ะพ้นื ท่ี ศกั ยภาพของพื้นทตี่ ามลักษณะภูมอิ ากาศศกั ยภาพของภมู ปิ ระเทศ และทำเลที่ตง้ั ของแตล่ ะพ้นื ทีศ่ กั ยภาพของศลิ ปะ วฒั นธรรม ประเพณี และวถิ ชี ีวติ ของแตล่ ะพื้นท่แี ละ ศักยภาพของทรพั ยากรมนุษย์ในแต่ละพื้นท่ี การจดั ประสบการณก์ ารเรยี นรู้ 1. การเรยี นรู้ด้วยตนเอง ควรจดั ในลกั ษณะของการบรู ณาการทักษะต่าง ๆ ไปพร้อมกบั การสร้างสถานการณ์ใน การเรียนรู้อย่างสร้างสรรค์ เพื่อ (1) ฝึกให้ผู้เรียนได้กำหนดเป้าหมาย และวางแผนการเรียนรู้ (2) เพิ่มพูนให้มีทักษะพื้นฐานในการอ่าน ฟัง สังเกต จำ จดบันทึก และ (3) มีเจตคติที่ดีต่อการ เรียนรู้ด้วยตนเองที่ทำให้การเรียนรู้ด้วยตนเองประสบผลสำเร็จ และนำความรู้ไปใช้ในวิถีชีวิตให้
25 เหมาะสมกบั ตนเอง และชมุ ชน/สังคม 2. การใชแ้ หลง่ เรยี นรู้ ตอ้ งให้ผู้เรียนทุกคนไปศึกษาห้องสมุดประชาชนอำเภอ ทำความเข้าใจบทบาท หน้าท่ี กฎ กติกา เงื่อนไขการให้บริการ เพื่อใช้หอ้ งสมุดประชาชนใหส้ อดคล้องกบั ความตอ้ งการ ความจำเป็น ในการนำไปใช้ในการเรียนรู้ของตนเอง รวมทง้ั มอบหมายให้ผเู้ รยี นไปศึกษาจากแหล่งเรยี นรูอ้ ื่น ๆ เชน่ ภูมิปัญญาทอ้ งถิ่น แหล่งเรยี นรู้ชมุ ชน 3. การจัดการความรู้ ศกึ ษาค้นคว้าหลักการ และกระบวนการของการจัดการความรู้ การฝึกปฏิบตั ิจรงิ โดย การรวมกลุ่มปฏิบตั กิ าร/ชุมชนปฏิบัติการ (Community of practice = Cops) สรุปองคค์ วามรู้ของ กลุ่มและจดั ทำสารสนเทศเผยแพรค่ วามรู้ 4. การคิดเป็น ให้ผูเ้ รยี นไดศ้ ึกษาทำความเข้าใจกบั ความเชอ่ื พ้ืนฐานทางการศึกษาผู้ใหญ่/การศึกษา นอกระบบดว้ ยกระบวนการอภิปรายกล่มุ และร่วมสรุปสาระสำคญั ท่ีเชอ่ื มโยงไปสกู่ ารคดิ เปน็ ด้วยการ วเิ คราะห์ข้อมูลทั้งด้านวิชาการ ตนเอง สังคม และส่ิงแวดลอ้ ม และนำไปสู่การคิดและการแก้ปัญหา ตามกระบวนการคิดเป็นท่ีมีคุณธรรม จรยิ ธรรม และมีความสุข จากใบงานและใบความรู้ต่าง ๆ ที่มี การจัดเตรียมไวใ้ หผ้ เู้ รยี น มโี อกาสฝึกทกั ษะในการคิด การให้เหตผุ ลในการแก้ปญั หาหลากหลายชนิด ที่เสนอข้ึนมาเป็นกรณีตัวอย่าง และสรุปให้เห็นว่าการแก้ปัญหาตามกระบวนการคิดเป็นน้ันต้องใช้ ขอ้ มูลประกอบอย่างนอ้ ย 3 ประการดงั กล่าว 5. การวจิ ัยอย่างง่าย จดั ใหผ้ ูเ้ รียนได้ศึกษา คน้ ควา้ เอกสารทเี่ ก่ียวข้อง ฝกึ ทักษะการสงั เกตและคน้ หาปญั หา ท่ีพบในชีวิตประจำวัน / ในสาระท่ีเรียน การต้ังคำถาม การแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับเพื่อน / ผู้รู้ การคาดเดาคำตอบอยา่ งมีเหตุผล การฝึกปฏบิ ตั กิ ารเขยี นโครงการวจิ ยั ง่าย ๆ การเก็บรวบรวมขอ้ มูล การสรุปข้อมลู และเขยี นรายงานผลอยา่ งง่าย ๆ 6. ทักษะการเรยี นรูแ้ ละศกั ยภาพหลักของพน้ื ที่ในการพัฒนาอาชีพ จดั ใหผ้ ูเ้ รยี นท้งั รายบุคคล/กล่มุ ไดศ้ ึกษาประยุกต์ทักษะการเรียนรู้ โดยคำนึงถึงพนื้ ฐาน ศักยภาพแต่ละพื้นที่ ที่มีความแตกต่าง และมีความต้องการของท้องถ่ินไม่เหมือนกัน ในการเพิ่มขีด ความสามารถของการประกอบอาชีพ 5 กลุ่มอาชีพใหม่ คอื กลุม่ อาชพี ดา้ นเกษตรกรรม อุตสาหกรรม พาณิชยกรรม ความคิดสร้างสรรค์ การบริหารจัดการและการบริการ เพ่ือสร้างอาชีพ และรายได้ อย่างมั่นคง และยัง่ ยืนอยา่ งตอ่ เนอื่ ง การวดั และประเมนิ ผล 1. การเรยี นรู้ด้วยตนเอง ใช้การประเมินจากสภาพจรงิ ของผเู้ รยี นที่แสดงออกเกย่ี วกบั การกำหนดเป้าหมาย และ วางแผนการเรียนรู้ รวมทักษะพ้ืนฐานและเทคนิคในการเรียนรู้ต่าง ๆ ตลอดจนปัจจัยที่ทำให้การ เรียนรปู้ ระสบความสำเรจ็ 2. การใช้แหลง่ เรียนรู้ ขอ้ มูลจากการนำเสนอ ซงึ่ เป็นผลจากการศึกษาจากแหล่งเรยี นรใู้ นรูปแบบต่างๆ เช่น
26 การเขยี นรายงาน การรว่ มกนั อภปิ ราย การนำในการพบกลุ่ม เปน็ ตน้ 3. การจัดการความรู้ จากการสังเกต ความสนใจ การแสดงความคิดเหน็ การมีส่วนรว่ ม การใหค้ วามรว่ มมือ ในกลุ่มปฏิบัติการ ผลงาน/ชิ้นงานจากการรวมกลุ่มปฏิบัติการ ใช้วิธีการประเมินแบบมีส่วนร่วม ระหวา่ งครู ผเู้ รียนและผเู้ ก่ียวข้องรว่ มกันประเมนิ ตคี า่ ความสามารถ ความสำเร็จกับเปา้ หมายที่วางไว้ และระบุข้อบกพรอ่ งที่ต้องแก้ไข ส่วนทีท่ ำได้ดแี ล้วกพ็ ัฒนาใหด้ ียิ่งขนึ้ ตอ่ ไป 4. การคิดเป็น ประเมนิ จากการร่วมอภิปรายของผเู้ รยี น และจากการใช้ข้อมูลทางวิชาการ ตนเอง และ สงั คม สิ่งแวดล้อม มาประมวลใช้ประกอบการคิด การตัดสินใจแกป้ ญั หาอยา่ งเหมาะสมและพอเพยี ง ของผู้เรียน 5. การวิจัยอย่างง่าย จากการสังเกต ความสนใจ การมีส่วนร่วม ความร่วมมือ จากผลงาน / ชิ้นงานที่ มอบหมายใหฝ้ ึกปฏิบัติ ในระหว่างเรยี นและการสอบปลายภาคเรียน 6. ทักษะการเรียนรู้และศักยภาพหลกั ของพืน้ ที่ในการพัฒนาอาชีพ จากการสังเกต ความสนใจ การมีส่วนร่วม ความร่วมมือ จากผลงาน / ช้ินงานท่ี มอบหมายใหฝ้ กึ ปฏบิ ัติ ในระหว่างการเรยี น และการสอบปลายภาคเรยี น
27 รายละเอียดคำอธิบายรายวชิ า ทร11001 วิชาทักษะการเรียนรู้ สาระทกั ษะการเรยี นรู้ จำนวน 5 หน่วยกติ ระดบั ประถมศึกษา มาตรฐานการเรยี นรู้ระดับ 1. ความสามารถในการแสวงหาความรูด้ ้วยตนเอง 2. รู้จัก เห็นคุณคา่ และใชแ้ หล่งเรียนรู้ถกู ต้อง 3. เขา้ ใจ ความหมาย กระบวนการชมุ ชน และศกั ยภาพของชุมชนในการปฏิบัติการและทำ ตามกระบวนการจดั การความรู้ชมุ ชนเพ่อื เพม่ิ ขดี ความสามารถในการประกอบอาชพี 4. ความสามารถในการอธบิ ายกระบวนการคดิ เปน็ และทักษะในการใช้กระบวนการคดิ เปน็ ในการแก้ปัญหาการเรยี นรแู้ ละการประกอบอาชพี ได้อย่างต่อเนอ่ื งตลอดชีวิต 5. เขา้ ใจความหมาย เห็นความสำคัญ และปฏิบตั ิการรวบรวมข้อมูล วิเคราะห์ข้อมลู และ สรปุ ผลการหาความรู้ ความจริงในการเรียนรแู้ ละการประกอบอาชพี 6. เข้าใจความหมาย และเห็นความสำคัญของศักยภาพหลักของพ้ืนท่ีในการเพิ่มขีด ความสามารถของการประกอบอาชีพ 5 กลมุ่ อาชีพใหม่ ท่ี หัวเรอ่ื ง ตวั ช้วี ดั เนื้อหา จำนวน (ชั่วโมง) 1. การเรยี นรู้ 1. รู้ เข้าใจความหมาย 1. ความหมาย ความสำคัญ 3 ด้วยตนเอง ตระหนกั และเห็นความสำคญั ของการเรยี นรู้ดว้ ยตนเอ ของการเรียนรู้ดว้ ยตนเอง 2. การกำหนดเปา้ หมายและ 2. สามารถกำหนดเป้าหมาย วางแผ นก ารเรียน รู้ด้วย 8 และวางแผนการเรยี นรู้ ตนเอง ด้วยตนเอง 3. ทกั ษะพื้นฐานทาง 3. มที กั ษะพน้ื ฐานทาง การศึกษาหาความรู้ ทักษะ 15 การศึกษาหาความรู้ ทักษะ การแก้ปัญหา และเทคนิค การแก้ปัญหา และเทคนิคใน ในการเรียนรู้ด้วยตนเอง การเรียนรดู้ ้วยตนเอง (การอา่ น การฟัง การสังเกต 4. สามารถอธบิ ายปจั จยั ทีท่ ำ การจำ และการจดบนั ทกึ ) 8 ให้ ก ารเรีย น รู้ด้ วย ตน เอ ง 4. เจตคติ/ปัจจัย ทที่ ำให้ ประสบความสำเรจ็ การเรยี นรดู้ ้วยตนเอง ประสบความสำเรจ็ (การ เปดิ รบั โอกาสการเรยี นรู้ การคดิ รเิ ริ่มและเรียนรู้ดว้ ย ตนเอง การสรา้ งแรงจงู ใจ การสรา้ งวนิ ัยในตนเอง การ
28 ที่ หวั เร่ือง ตัวช้ีวัด เนื้อหา จำนวน 2. การใช้ (ชั่วโมง) คดิ เชิงบวกความคิด แหล่งเรียนรู้ 3 สร้างสรรค์ ความรักใน 10 3. การจัดการความรู้ 6 การเรียน การใฝ่รใู้ ฝ่เรยี น 3 12 และความรับผดิ ชอบ) 3 1. รู้ เข้าใจความหมาย 1. ความหมาย ความสำคัญ 3 ตระหนกั และเหน็ ความสำคญั ของแหล่งเรียนรู้โดยทั่วไป ของแหล่งเรยี นรู้โดยทั่วไป (กลมุ่ บรกิ ารขอ้ มูล 2. อธิบายถึงความสำคัญของ กลุ่มศิลปวัฒนธรรม การใช้แหล่งเรยี นรู้ ประวัติศาสตร์ กลุ่มข้อมูล 3. สามารถบอกและ ท้องถิ่น กลมุ่ ส่ือ ยกตัวอย่างประเภทของแหล่ง กลมุ่ สันทนาการ) เรียนรู้ 2. การเขา้ ถึงและเลือกใช้ 4. สามารถเลือกและบอก แหลง่ เรยี นรู้ (หอ้ งสมุด วิธีการเข้าถึงแหลง่ เรยี นรู้ ประชาชนอำเภอของ 5. ยกตัวอย่างการใช้แหล่ง สถานศกึ ษา และ ศรช.) เรยี นรูข้ องตนเอง 3. บทบาทหน้าท่ีและการ 6. สามารถอธิบายหรอื บริการของแหล่งเรียนรู้ด้าน ยกตวั อยา่ งการใช้ขอ้ มลู ตา่ ง ๆ สารสนเทศจากห้องสมดุ 4. กฎ กติกา เงื่อนไขต่าง ๆ ประชาชนท่สี อดคล้องกบั ในการไปขอใช้บริการแหล่ง ความต้องการ ความจำเปน็ เรยี นรู้ เพ่ือนำไปใช้ในการเรยี นรู้ของ 5 . ทั ก ษ ะ ก า ร ใช้ ข้ อ มู ล ตนเอง สารสนเทศจากห้องสมุด ประชาชนที่สอดคล้องกับ ความต้องการ ความจำเป็น เพ่ือนำไปใช้ในการเรียนรู้ ของตนเอง 1. รู้ เขา้ ใจ ความหมาย 1. ความหมาย ความสำคัญ ความสำคญั ประโยชน์ หลกั การของการจัดการ หลกั การของการจัดการ ความรู้ ความรู้ 2. กระบวนการจดั การ 2. รู้ เข้าใจกระบวนการ ความรู้ (กำหนดเปา้ หมาย จดั การความรู้ การเรยี นรู้/ระบุความรู/้ 3. สามารถใชก้ ารจดั การ กำหนดความรูท้ ต่ี ้องการใช้/
29 ท่ี หวั เร่อื ง ตัวชว้ี ดั เน้อื หา จำนวน (ชั่วโมง) ความรู้เปน็ เครื่องมือในการ การแสวงหาความรู้/ สรปุ เรียนรดู้ ว้ ยตนเอง องคค์ วามรู้ ปรบั ปรุง 4. สามารถจัดการความรโู้ ดย ดดั แปลงให้เหมาะสมตอ่ การ กระบวนการกล่มุ ใช้งาน/ ประยุกตใ์ ชค้ วามรู้ 5. สามารถสร้าง พฒั นา ในกิจการงานของตน/ ความรู้ (นวัตกรรม) แลกเปลี่ยนความร/ู้ 6. สามารถใชส้ ารสนเทศเปน็ รวมกลมุ่ ปฏบิ ัตกิ ารตอ่ ยอด เครือ่ งมือในการเผยแพร่ ความรู้ พัฒนาขอบขา่ ย องคค์ วามรู้ ความรู้ของกลมุ่ / สรุปองค์ ความรขู้ องกลุ่ม/จดั ทำ สารสนเทศ เผยแพรค่ วามรู้) 3. กระบวนการจดั การ 10 ความรู้ดว้ ยตนเอง (ระดับ ปจั เจก) 3.1 กำหนดความรหู้ ลกั ท่ี จำเป็นหรอื สำคัญตอ่ งาน หรอื กจิ กรรม 3.2 เสาะแสวงหาความรู้ 3.3 ประยุกต์ใช้ความรู้ 3.4 แลกเปลย่ี นความรู้ 3.5 พฒั นาความร/ู้ ยกระดับความร้/ู ต่อยอด ความรู้ 3.6 สรุปองคค์ วามรู้ 3.7 จดั ทำสารสนเทศองค์ ความรใู้ นการพฒั นาตนเอง กระบวนการจดั การความรู้ ดว้ ยการปฏิบัติการกลมุ่ (ชุมชนนกั ปฏบิ ัติหรือ ชมุ ชนแห่งการเรยี นรู้ :COPS) 1. รปู แบบของ COPS ที่ใช้ 10 ในการจดั การความรู้ 2. การทำ COPS เพอ่ื 3
30 ท่ี หัวเร่อื ง ตวั ช้ีวดั เนอ้ื หา จำนวน 4. การคิดเป็น (ช่ัวโมง) จดั การความรู้ 2.1 บนั ทกึ การเล่าเรอ่ื ง 2.2 บันทกึ ขมุ ความรู้ 2.3 บันทกึ แก่นความรู้ 3. บนั ทกึ จดั เกบ็ เป็นองค์ ความรขู้ องกลุ่ม เพื่อใช้ ประโยชน์ใหผ้ ูอ้ ่นื ได้เรยี นรู้ ต่อไป การสรา้ งองค์ความรู้ พัฒนา ต่อยอด ยกระดับ ความรู้ 1. การใชค้ วามร้แู ละ 5 ประสบการณใ์ นตวั บคุ คลให้ เกิดประโยชน์ต่อกลุ่ม/ หนว่ ยงาน/ชุมชน 2. การทำงานแบบตอ่ ยอด ความรู้ 3. วธิ ีปฏบิ ัติท่เี ป็นเลิศ (Best Practice) การจัดทำสารสนเทศ เผยแพร่ องคค์ วามรู้ 1. การถา่ ยทอดความรู้ รปู แบบ วธิ ีการ 2. การประสานความรู้ 3. การถอดองค์ความรู้ 4. การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ 5. การจัดเกบ็ ความรขู้ อง กลุ่ม/องค์กรการสรา้ งคลัง ความรู้ การประยกุ ตใ์ ช้ ICT 1. เข้าใจและเช่ือม่ันในความ 1. ความเช่ือพ้ืนฐานทาง 12 เช่ือพ้ืนฐานทางการศึกษา การศึกษาผู้ใหญ่/การศึกษา ผู้ใหญ่/การศกึ ษานอกระบบที่ นอกระบบ 5 ประการ เป็นพื้นฐานเบื้องต้นของการ 1.1 คนทกุ คนมคี วาม
31 ท่ี หัวเร่ือง ตัวช้วี ดั เนือ้ หา จำนวน (ชั่วโมง) เขา้ ถงึ ปรชั ญาคดิ เปน็ แตกต่างกัน แต่ทกุ คน 2. รู้และเข้าใจปรัชญา คดิ เป็น ตอ้ งการความสุข ความสขุ สามารถอธบิ าย ไดถ้ งึ ของแต่ละคนจงึ แตกตา่ งกัน ความหมายและความสำคัญ 1.2 ความ สุขขอ งคน จ ะ ของการคดิ เปน็ ทเี่ ช่ือมโยงจาก เกิดข้นึ กต็ อ่ เมื่อมกี ารปรบั ตัว ความเชอื่ พ้ืนฐานทาง เองและสง่ิ แวดลอ้ มใหเ้ ขา้ หา การศึกษาผูใ้ หญ่และ กันอย่างผสมกลมกลืนจน การศึกษานอกระบบ/ เกดิ ความพอดี การศึกษาตามอัธยาศยั 1.3 ส ภาวะแวดล้อม ใน 3. เขียนผังกระบวนการคิด สั ง ค ม เป ลี่ ย น แ ป ล งอ ยู่ แก้ปัญหา ตามแนวทางของ ตลอดเวลา จึงทำให้เกิด คนคดิ เปน็ ปญั หา เกิดความทุกข์ ความ 4. อธบิ ายเสนอแนวทางการ ไม่สบายกาย ไม่สบายใจอยู่ แกป้ ัญหาตามกระบวนการคดิ ตลอด เปน็ จากกรณตี วั อย่างท่ี 1.4 เม่อื เกิดปัญหาหรือเกิด กำหนดได้อย่างมขี ้อมลู ทุกข์กต็ ้องหาวิธแี กป้ ญั หา เพียงพอ ซง่ึ การแก้ปญั หาทเี่ หมาะสม 5. ทำแบบฝกึ หดั การ ตอ้ งมีขอ้ มลู ประกอบการคิด แก้ปัญหาดา้ นกระบวนการคิด การตดั สนิ ใจ อยา่ งนอ้ ย 3 เป็นทก่ี ำหนดใหไ้ ดค้ ลอ่ ง ประการ คอื ขอ้ มูลดา้ น วชิ าการ ขอ้ มูลดา้ นตนเอง ขอ้ มูลดา้ นสงั คม ส่ิงแวดลอ้ ม 1.5 เมอ่ื ได้ใช้วิธแี ก้ปัญหา ด้วยการวเิ คราะห์ขอ้ มลู และ ไตรต่ รองขอ้ มลู อย่าง รอบคอบ ทั้ง 3 ด้าน จนมี ความพอใจแล้วกพ็ รอ้ มที่จะ รบั ผดิ ชอบการตัดสนิ ใจท่ี เกิดความพอดี ความสมดลุ ระหว่างชีวิตกบั ธรรมชาติ อยา่ งสันตสิ ขุ 2. ปรัชญาคดิ เปน็ 6 2.1 ความหมาย
32 ท่ี หวั เร่อื ง ตัวชว้ี ดั เน้อื หา จำนวน (ชั่วโมง) 2.2 ความสำคัญ 2.3 คำท่เี ก่ียวข้อง 2.4 การเชื่อมโยงความ เชื่อพ้ืนฐานทางการศึกษา ผใู้ หญ่/การศึกษานอกระบบ กบั ปรชั ญาคิดเป็น 3. กระบวนการและขั้นตอน 10 ก า ร แ ก้ ปั ญ ห า อ ย่ า ง ค น คิ ด เป็น 3.1 ทกุ ข์/ปญั หาท่ีปรากฏ 3.2 ศึกษาสาเหตขุ องทกุ ข์ ปญั หา โดยการวเิ คราะห์ ข้อมูลทเ่ี ก่ยี วข้อง ท้งั ขอ้ มูล วชิ าการ ข้อมลู ตนเอง และ ข้อมลู ทางสงั คม สิ่งแวดลอ้ ม ให้รลู้ กั ษณะเบอื้ งตน้ ของ ข้อมลู ทงั้ 3 ประการ และ เปรียบเทียบความแตกตา่ ง ของขอ้ มลู ตา่ ง ๆ อยา่ ง งา่ ย ๆ ได้ 3.3 กำหนดทางเลือกใน การดับทุกข์/ปัญหา และ เลือกแนวทางทีเ่ หมาะสม 3.4 ดำเนินการแก้ปัญหา เพ่อื การดบั ทุกข์ 3.5 ประเมินผลการ ดำเนนิ งาน หากมผี ลเปน็ ที่ พอใจกจ็ ะเกดิ สันตสิ ุข ถ้ายัง ไมพ่ อใจกจ็ ะยอ้ นกลับไป พิจารณาสาเหตทุ ุกข์หรอื ปญั หาใหมแ่ ละแสวงหา ข้อมูลเพิม่ เตมิ อย่างพอเพยี ง จนพอใจกบั การตดั สินใจ
33 ที่ หวั เรื่อง ตวั ช้วี ัด เนอ้ื หา จำนวน 5. การวิจยั อยา่ งงา่ ย (ชวั่ โมง) ของตนเอง 4. กรณีตัวอย่างท่ี 10 หลากหลายเพื่อฝกึ ทกั ษะ การคิดเปน็ ด้วยกระบวนการ แกป้ ัญหาอย่างคนคิดเป็น 1. รู้เข้าใจความหมายและ 1. วิจัยคืออะไร ทำไมต้องรู้ 2 ตระหนักถึงความสำคัญของ เรื่องการวิจัย (ความหมาย การวิจัย และความสำคัญของการ 2. วิเคราะห์ แ ล ะก ำห น ด วิจัย) ปญั หาหรอื สง่ิ ทีอ่ ยากรู้/ 1.1 ความหมายของการ ตอ้ งการทราบคำตอบ วิจัย 3. รเู้ ข้าใจกระบวนการและ 1.2 ความ ส ำคั ญ แ ล ะ ขั้นตอนการวจิ ัย ประโยชน์ของการวิจยั 4. ฝึกปฏิบัตกิ ารสงั เกตปญั หา 2. ทำวิจยั อยา่ งไร 24 การระบุปญั หา การ (กระบวนการและข้ันตอน ตัง้ สมมติฐาน การเกบ็ รวบรวม การวจิ ัย) ขอ้ มลู การสรปุ ข้อมลู และการ 2.1 คำถามทต่ี อ้ งการ เขียนรายงานการวจิ ัยอย่าง คำตอบคอื อะไร ปญั หาที่ ง่าย ตอ้ งการทราบจากการวจิ ยั คอื อะไร (การระบปุ ญั หา การวิจยั ) 2.2 คาดเดาคำตอบว่า อย่างไร กำหนดแนวคำตอบ เบ้อื งตน้ (สมมติฐาน) 2.3 วิธีการหาคำตอบท่ี ต้ อ ง ก า ร รู้ / แ ห ล่ ง ค ำ ต อ บ / การรวบรวมคำตอบ (ก า ร เก็ บ ร ว บ ร ว ม ข้ อ มู ล / เครอ่ื งมือการวจิ ัย) 2.4 ตอบคำถามทสี่ งสัยว่า อย่ างไร (ก ารวิเคราะ ห์ ข้อมลู /สรปุ ผลการวจิ ัย) 3. เขียนอย่างไร ให้คนอ่าน 8 เข้าใจ (การเขียนรายงาน
34 ท่ี หวั เรือ่ ง ตัวชีว้ ัด เน้ือหา จำนวน (ชว่ั โมง) 6. ทักษะการ เรยี นรู้และ การวจิ ัยอย่างง่าย) ศกั ยภาพ หลักของ 3.1 ความเป็นมา/ พน้ื ทใ่ี นการ พัฒนา ความสำคัญของเรอ่ื งท่ี อาชพี ทำวจิ ัย 3.2 วตั ถปุ ระสงค์การวิจยั 3.3 ประโยชน์ที่ได้รบั จาก การวจิ ัย 3.4 เอกสารท่เี กยี่ วขอ้ ง 3.5 วธิ ดี ำเนนิ การวิจยั 3.6 การวิเคราะหข์ อ้ มูล 3.7 สรุปผลและ ขอ้ เสนอแนะ 3.8 เอกสารอา้ งองิ 1. ร้เู ขา้ ใจความหมาย 1. ความหมาย ความสำคญั 5 ตระหนัก และเหน็ ความสำคัญ ของศักยภาพหลกั ในการ ศักยภาพหลักของพ้นื ท่ี 5 พฒั นาอาชีพ ศกั ยภาพ 2. การวิเคราะหศ์ ักยภาพ 5 2. อธบิ ายถึง องค์ประกอบ หลักของพืน้ ทใี่ นการพฒั นา ของศักยภาพ 5 ศักยภาพ อาชีพ 3. ยกตวั อย่างการใช้ศกั ยภาพ 2. 1 ศักยภาพของ 5 ศักยภาพ โดยคำนงึ ถึง ทรัพยากรธรรมชาติ ในแต่ ศักยภาพและบริเวณรอบ ๆ ละพนื้ ที่ ตวั ผ้เู รยี น 2.2 ศกั ยภาพของพ้นื ที่ตาม ลกั ษณะ ภูมอิ ากาศ 2.3 ศกั ยภาพของภูมิ ประเทศ และทำเลท่ีตั้งของ แต่ละพ้ืนที่ 2.4 ศักยภาพของศิลปะ วฒั นธรรมประเพณี และวถิ ี ชีวิตของแต่ละพื้นท่ี 2.5 ศกั ยภาพของทรพั ยากร มนุษยใ์ นแตล่ ะพนื้ ที่ 3. ตวั อย่างอาชีพท่ี 20
35 ท่ี หวั เร่อื ง ตวั ช้วี ดั เนอื้ หา จำนวน (ช่ัวโมง) สอดคล้องกบั ศกั ยภาพหลัก ของพืน้ คอื 3.1 กลมุ่ อาชพี ดา้ นการ เกษตรกรรม 3.2 กลุ่มอาชพี ดา้ น อตุ สาหกรรม 3.3 กลมุ่ อาชีพด้านพาณชิ ยกรรม 3.4 กล่มุ อาชีพดา้ น ความคดิ สร้างสรรค์ 3.5 กลุ่มอาชีพด้าน บรหิ ารจัดการและการ บริการ
36 คำอธิบายรายวชิ าบังคับ และรายละเอยี ดคำอธบิ ายรายวิชา ระดบั มัธยมศึกษาตอนตน้
37 คำอธิบายรายวิชา ทร21001 ทักษะการเรยี นรู จำนวน 5 หน่วยกิต ระดบั มัธยมศึกษาตอนตน้ มาตรฐานการเรียนรูระดบั สาระทักษะการเรียนรู้ เป็นสาระเก่ียวกับการพัฒนาทักษะการเรียนรู้ของผู้เรียนในด้าน การเรียนรู้ด้วยตนเอง การใชแ้ หล่งเรยี นรู้ การจดั การความรู้ การคดิ เปน็ และการวจิ ัยอยา่ งงา่ ย โดยมี วตั ถุประสงคเ์ พ่อื ใหผ้ เู้ รยี นสามารถกำหนดเปา้ หมาย วางแผนการเรียนร้ดู ว้ ยตนเองเข้าถึงและเลอื กใช้ แหล่งเรียนรู้ จัดการความรู้ กระบวนการแก้ปัญหา และตัดสินใจอย่างมีเหตุผล ที่สามารถใช้เป็น เครื่องมือในการชี้นำตนเองในการเรยี นรู้ และการประกอบอาชีพให้สอดคล้องกับหลักการพ้ืนฐาน และการพัฒนา 5 ศักยภาพหลักของพ้ืนท่ีใน 5 กลุ่มอาชีพใหม่ คือ กลุ่มอาชีพด้านเกษตรกรรม อุตสาหกรรมพาณิชยกรรม ความคิดสรา้ งสรรค์การบริหารจัดการเป็นการบริการ ตามยุทธศาสตร์ 2555 กระทรวงศึกษาธิการ ได้อย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต ดังนั้นสาระทักษะการเรียนรู้ระดับ ประถมศกึ ษาจึงมีมาตรฐานการเรยี นรูร้ ะดบั ดังนี้ 1. ความสามารถในการแสวงหาความรู้ดว้ ยตนเอง 2. ร้จู ัก เหน็ คุณค่า และใช้แหล่งเรยี นรถู้ ูกต้อง 3. เขา้ ใจ ความหมาย กระบวนการชุมชน และศักยภาพของชุมชนในการปฏบิ ตั ิการและทำ ตามกระบวนการจัดการความรชู้ มุ ชน ด้านอาชีพเพื่อเพมิ่ ศักยภาพและขีดความสามารถในการแขง่ ขัน ทส่ี ามารถสร้างรายไดท้ ี่มั่งคัง่ และมนั่ คง 4. ความสามารถในการอธิบายกระบวนการคิดเป็น และทักษะในการใช้กระบวนการคิด เปน็ ในการแก้ปัญหาการเรียนร้แู ละการประกอบอาชีพได้อย่างตอ่ เนือ่ งตลอดชีวติ 5. เข้าใจความหมาย เห็นความสำคัญ และปฏิบัติการรวบรวมข้อมูล วิเคราะห์ข้อมลู และ สรุปผลการหาความรู้ ความจริงในการเรียนรู้และการประกอบอาชพี 6. เข้าใจความหมาย และเห็นความสำคัญของศักยภาพของพ้ืนที่ใน การเพิ่มขีด ความสามารถของการประกอบอาชพี 5 กลุม่ อาชพี ใหม่ ศกึ ษาและฝึกทกั ษะเก่ียวกบั เรื่องดังต่อไปนี้ 1. การเรียนรู้ด้วยตนเอง ทบทวน ความหมาย ความสำคัญ และกระบวนการของการ เรยี นรู้ด้วยตนเอง ทบทวนทักษะพน้ื ฐานทางการศึกษาหาความรู้ ทักษะการแกป้ ัญหาและเทคนิคใน การเรียนรดู้ ้วยตนเอง ด้านการอา่ น การฟงั การสังเกต การจำ และการจดบนั ทึก ฝึกทักษะการวาง แผนการเรยี นรู้ และการประเมนิ ผลการเรยี นรดู้ ้วยตนเอง ทกั ษะพนื้ ฐานและเทคนคิ ในการเรยี นรู้ด้วย ตนเองในเรอ่ื งการวางแผน การประเมินผลการเรียนรู้ด้วยตนเอง และการวิเคราะห์วิจารณ์ เจตคติ/ ปจั จยั ทที่ ำใหก้ ารเรยี นรู้ด้วยตนเองประสบความสำเรจ็ การเปิดรบั โอกาสการเรยี นรู้ การคิดริเรม่ิ และ เรียนรู้ด้วยตนเอง การสร้างแรงจูงใจ การสร้างวินัยในตนเอง การคิดเชิงบวก ความคิดสร้างสรรค์ การใฝ่รูใ้ ฝเ่ รียน และความรับผดิ ชอบ 2. การใช้แหล่งเรียนรู้ ทบทวนความหมาย ความสำคัญของการใช้แหล่งเรียนรู้ประเภท ต่าง ๆ ศึกษาแหล่งเรยี นรู้ หอสมุดแหง่ ชาติ หอสมุดวทิ ยาลัย/มหาวิทยาลยั ห้องสมุดเฉพาะ หอ้ งสมุด
38 โรงเรียน พิพิธภัณฑ์ อุทยานแห่งชาติ แหล่งเรียนรู้สำคัญอื่น ๆ ในประเทศ ศึกษา เรียนรู้ การใช้ อินเทอร์เน็ต การเขา้ ถึงขอ้ มลู สารสนเทศทีต่ ้องการและสนใจ 3. การจัดการความรู้ ศึกษาความหมาย ความสำคัญ หลักการของการจัดการความรู้ กระบวนการจัดการความรู้ การรวมกลุม่ เพื่อต่อยอดความรู้ การพัฒนาขอบข่ายความรู้ของกลุ่ม การ จัดทำสารสนเทศเผยแพรค่ วามรู้ ฝึกทักษะกระบวนการจดั การความรดู้ ว้ ยตนเองและด้วยการรวมกลมุ่ ปฏิบัติการโดยการกำหนดเป้าหมายการเรียนรู้ ระบุความรู้ที่ต้องใช้ การแสวงหาความรู้ สรุปองค์ ความรู้ ประยุกต์ใช้ความรู้ แลกเปล่ียนความรู้ การรวมกลุ่มปฏิบตั กิ ารเพอ่ื ต่อยอดความรู้ การพัฒนา ขอบข่ายความรู้ของกลุ่ม สรปุ องค์ความรู้ของกลุ่ม จดั ทำสารสนเทศองค์ความรู้ในการพัฒนาตนเอง ครอบครัว ชมุ ชน 4. การคิดเป็น ทบทวนทำความเข้าใจกบั ความเชอ่ื พ้ืนฐานทางการศึกษาผู้ใหญ/่ การศึกษา นอกระบบ และเช่อื มโยงไปส่กู ารเรียนรูเ้ รือ่ งความหมายและความสำคัญของการคิดเป็น โดยใชข้ อ้ มูล อย่างน้อย 3 ประการ คือ ข้อมูลด้านวิชาการ ตนเอง และสังคม สิ่งแวดล้อม อย่างพอเพียงมา วิเคราะห์และสังเคราะห์เพอ่ื กำหนดทางเลือกในการคดิ การตัดสนิ ใจแก้ปัญหาทเ่ี หมาะสมอยา่ งคนคิด เป็น ศกึ ษาทำความเข้าใจและฝึกทักษะในการพิจารณาข้อมลู ทัง้ ด้านดา้ นวิชาการ ตนเอง และสงั คม สิ่งแวดล้อม จนสามารถจำแนกและเปรียบเทียบลักษณะของข้อมูลทั้ง 3 ประการได้จากกรณีท่ี หลากหลาย เพอื่ นำไปใช้ในการเลอื กเกบ็ ขอ้ มูลดังกล่าวมาใชป้ ระกอบการคิดตดั สนิ ใจอย่างคน คิดเปน็ ฝึกปฏบิ ตั กิ ารคดิ การตัดสนิ ใจอยา่ งเปน็ ระบบในการแกป้ ัญหาอย่างคนคดิ เป็นจากกรณีตัวอย่าง 5. การวจิ ัยอย่างง่าย ทบทวนความหมาย ความสำคัญการวิจัยอย่างง่าย กระบวนการ และข้นั ตอนของการดำเนนิ งาน ศึกษา ฝึกทกั ษะ สถิติงา่ ย ๆ เพ่อื การวจิ ยั เคร่อื งมอื การวิจยั และการ เขยี นโครงการวจิ ัยอยา่ งง่าย ๆ 6. ทักษะการเรียนรู้ และศักยภาพหลักของพื้นท่ีในการพัฒนาอาชีพ ศึกษา วิเคราะห์ และจำแนกใช้ทักษะการเรียนรู้ และศักยภาพหลักของพื้นที่ในการเพ่ิมขีดความสามารถของการ ประกอบอาชีพใน 5 กลุ่มอาชีพใหม่ คือ กลุ่มอาชีพด้านเกษตรกรรม อุตสาหกรรม พาณิชยกรรม ความคิดสร้างสรรค์ การบริหารจัดการและการบริการ โดยคำนึงถึงศักยภาพหลักของพ้ืนที่ คือ ศักยภาพของทรัพยากรธรรมชาติ ในแต่ละพ้ืนที่ ศักยภาพของพ้ืนท่ีตามลักษณะภูมิอากาศศักยภาพ ของภูมิประเทศ และทำเลที่ตั้งของแต่ละพื้นท่ีศักยภาพของศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี และวิถชี ีวิต ของแต่ละพนื้ ที่ และศกั ยภาพของทรัพยากรมนษุ ย์ในแตล่ ะพืน้ ท่ี การจดั ประสบการณ์การเรียนรู้ 1. การเรียนรู้ด้วยตนเอง ควรจดั ในลักษณะของการบูรณาการทกั ษะต่าง ๆ ไปพรอ้ มกบั การ สร้างสถานการณ์ในการเรียนรู้ทหี่ ลากหลาย ซับซ้อน อย่างสร้างสรรค์ เพื่อ (1) ฝึกให้ผู้เรยี นได้กำหนด เปา้ หมาย และวางแผนการเรยี นรู้ (2) เพ่ิมพนู ให้มที กั ษะพน้ื ฐานในการการวางแผน การประเมินผลการ เรยี นรู้ดว้ ยตนเอง การวิเคราะห์วจิ ารณ์ และ (3) มเี จตคตทิ ่ีดีต่อการเรียนรู้ด้วยตนเองท่ีทำให้การเรยี นรู้ ด้วยตนเองประสบผลสำเรจ็ และนำความร้ไู ปใช้ในวิถชี ีวติ ใหเ้ หมาะสมกับตนเอง และชุมชน/สงั คม 2. การใชแ้ หล่งเรยี นรู้ ใหผ้ ู้เรียนศกึ ษาสารสนเทศ จากระดับชมุ ชนสู่ระดับจงั หวัด ประเทศ และโลก การเรียนร้กู ารใช้อินเตอร์เน็ต และแหล่งเรียนรไู้ ดส้ อดคลอ้ งกบั ความตอ้ งการ ความจำเปน็ ใน การนำไปใช้ในการแสวงหาขอ้ มลู เพ่ือการเรยี นรขู้ องตนเอง
39 3. การจัดการความรู้ ให้ผู้เรียนศึกษาค้นคว้าหลักการ และกระบวนการของการจัดการ ความรู้ การฝึกปฏิบตั ิจรงิ โดยการรวมกลมุ่ ปฏบิ ัติการ/ชุมชนปฏบิ ตั กิ าร (Community of practice = Cops) สรปุ องค์ความรขู้ องกลมุ่ แลกเปลยี่ นเรยี นรรู้ ะหว่างกลมุ่ ยกระดบั ความรู้ และจดั ทำสารสนเทศ เผยแพร่ความรู้ 4. การคดิ เปน็ ใหผ้ ูเ้ รียนทยี่ งั ไม่เคยเรยี นสาระน้มี าก่อนไดศ้ กึ ษาเล่าเรียน และฝกึ ทกั ษะการ คดิ การตัดสนิ ใจในรายละเอียด เชน่ เดียวกับในระดบั ประถมศึกษา สำหรบั ผเู้ รียนที่ได้เรียนสาระน้ีมา ก่อนแล้วควรจดั ให้ผู้เรียนได้ทบทวน ทำความเข้าใจกับการเช่ือมโยง ความเช่ือพน้ื ฐานทางการศึกษา ผใู้ หญ่/การศึกษานอกระบบมาส่กู ารคิดเปน็ คล้ายกระบวนการอภิปราย ถกแถลงอย่างกว้างขวาง ให้ ผู้เรียนได้ศึกษาทำความเข้าใจเกี่ยวกับลักษณะของข้อมูลทางด้านวิชาการ ตนเอง และสังคม ส่งิ แวดล้อม จากเอกสาร แหล่งความรู้ ใบความรู้ ฯลฯ และให้มีการฝึกอธิบายและยกตัวอย่าง เพื่อ เปรยี บเทียบใหเ้ ห็นความแตกตา่ งของลักษณะข้อมูลท้ัง 3 ประการ ควรให้มีการทำใบงานในการฝึก ปฏิบตั เิ พอ่ื เพิ่มประสบการณใ์ นการเรยี นรลู้ ักษณะของข้อมูลทง้ั 3 ด้าน ใหผ้ เู้ รยี นมีโอกาสฝึกปฏิบัตใิ น การทำแบบฝึกหัดในใบงาน และการอภิปรายถกแถลงถึงกระบวนการคิด แก้ปญั หาอยา่ งการคิดเป็นที่ ตอ้ งใช้ขอ้ มูล และกระบวนการคิด แกป้ ัญหาอย่างคนคดิ เปน็ จากกรณีตวั อย่างทีห่ ลากหลายยงิ่ ข้นึ 5. การวิจัยอย่างง่าย จัดให้ผู้เรียนได้ศึกษา ค้นคว้า เอกสารท่ีเกี่ยวข้อง ฝึกทักษะการ สงั เกตและคน้ หาปญั หา ทพ่ี บในชวี ิตประจำวัน / ในสาระทเ่ี รยี น การตงั้ คำถาม การแลกเปลย่ี นเรยี นรู้ กับเพื่อน / ผู้รู้การคาดเดาคำตอบอย่างมีเหตุผล / การตั้งสมมติฐาน การฝึกปฏิบัติการเขียน โครงการวิจยั ทม่ี ีความซบั ซอ้ นขึ้น การเก็บรวบรวมขอ้ มูล การสร้างเครือ่ งมือ การวิเคราะห์ข้อมลู โดย ใช้สถิตพิ ืน้ ฐาน การนำเสนอข้อมูล การสรุปข้อมูลและเขยี นรายงานผล การเผยแพรข่ ้อค้นพบ 6 ทักษะการเรียนรู้และศักยภาพหลักของพื้นท่ีในการพัฒนาอาชีพ จัดให้ผู้เรียนทั้ง รายบุคคล/กลมุ่ ได้ศึกษาประยุกตท์ กั ษะการเรียนรู้ โดยคำนึงถึงพื้นฐานศกั ยภาพแต่ละพื้นท่ี ที่มีความ แตกต่าง และมีความต้องการของท้องถ่นิ ไม่เหมอื นกัน ในการเพ่ิมขีดความสามารถของการประกอบ อาชีพ 5 กลุ่มอาชีพใหม่ คือ กลุ่มอาชีพด้านเกษตรกรรม อุตสาหกรรมพาณิชยกรรม ความคิด สรา้ งสรรค์ การบรหิ ารจดั การและการบริการ เพื่อสรา้ งอาชพี และรายได้ อยา่ งมนั่ คง และยั่งยืนอยา่ ง ตอ่ เนอื่ ง การวัดและประเมินผล 1. การเรยี นรูด้ ้วยตนเอง ใช้การประเมนิ จากผลงานของผู้เรียนที่แสดงออกเกี่ยวกบั การ กำหนดเป้าหมาย และวางแผนการเรียนรู้ รวมทักษะพ้ืนฐานและเทคนิคในการเรียนรู้ต่าง ๆ ตลอดจนปัจจยั ที่ทำใหก้ ารเรยี นร้ปู ระสบความสำเร็จ 2. การใช้แหล่งเรียนรู้ จากการสังเกต ความสนใจ การมีส่วนร่วมและ ผลงานท่ีได้ใช้ ประโยชน์จากแหลง่ เรยี นรู้ 3. การจัดการความรู้ จากการสังเกต ความสนใจ การแสดงความคิดเห็น การมีส่วนร่วม การให้ความรว่ มมือในกลุ่มปฏิบัติการ ผลงาน/ชิ้นงานจากการรวมกลุ่มปฏิบัติการ ใช้วิธีการประเมิน แบบมีสว่ นร่วมระหว่างครู ผู้เรยี นและผู้เกย่ี วข้องร่วมกนั ประเมนิ ตคี ่าความสามารถ ความสำเร็จกับ เปา้ หมายที่วางไว้ และระบุขอ้ บกพรอ่ งที่ต้องแกไ้ ข สว่ นท่ที ำไดด้ แี ล้วก็พฒั นาให้ดีย่งิ ขนึ้ ตอ่ ไป 4. การคดิ เป็น ประเมินจากการอภิปราย การทำแบบฝกึ หัด ทำใบงาน และการสังเกตจาก
40 การอภิปราย ถกแถลง การให้เหตุผล ความรอบคอบและละเอียดยิ่งข้ึน ความพอเพียง และความ เหมาะสมใน การแสวงหาขอ้ มลู ท้งั 3 ประการ ประกอบการคิด การตดั สินใจ 5. การวิจยั อย่างง่าย จากการสงั เกต ความสนใจ การมสี ่วนรว่ ม ความร่วมมือ จากผลงาน / ชิ้นงานที่มอบหมายใหฝ้ กึ ปฏิบตั ิ ในระหวา่ งเรียน และการสอบปลายภาคเรยี น 6. ทักษะการเรียนรู้และศักยภาพหลักของพ้ืนที่ในการพัฒนาอาชีพ จากการสังเกต ความสนใจ การมีส่วนร่วม ความร่วมมือ จากผลงาน / ช้ินงานที่มอบหมายให้ฝึกปฏิบัติ และ การประเมนิ แบบมีสว่ นร่วม
41 รายละเอียดคำอธบิ ายรายวิชา ทร21001 ทักษะการเรียนรู้ จำนวน 5 หนว่ ยกติ ระดบั มธั ยมศึกษาตอนตน้ มาตรฐานการเรยี นรู้ระดบั 1. สามารถวเิ คราะห์ เห็นความสำคัญ และปฏิบัติการแสวงหาความรูจ้ ากการอา่ น ฟัง และ สรปุ ไดถ้ กู ต้องตามหลักวิชาการ 2. สามารถจำแนก จดั ลำดบั ความสำคญั และเลอื กใช้แหลง่ เรียนรูไ้ ดอ้ ยา่ งเหมาะสม 3. สามารถจำแนกผลท่ีเกดิ ข้นึ จากขอบเขตความรู้ ตดั สนิ คณุ คา่ กำหนดแนวทางพฒั นา 4. ความสามารถในการศกึ ษา เลอื กสรร จัดเก็บ และการวเิ คราะห์ สังเคราะหข์ อ้ มูลทง้ั สาม ประการ และการใชเ้ ทคนิคในการฝกึ ทักษะ การคิดเป็น เพือ่ ใชป้ ระกอบการตดั สนิ ใจแกป้ ัญหา 5. สามารถวิเคราะห์ปัญหา ความจำเป็น เห็นความสัมพันธ์ของกระบวนการวิจัยกับการ นำไปใชใ้ นชวี ิต และดำเนินการวจิ ัยทดลองตามขั้นตอน 6. สามารถจำแนก และวิเคราะห์ทักษะการเรยี นรู้ และศักยภาพหลักของพื้นทใ่ี นการเพิ่ม ขดี ความสามารถของการประกอบอาชพี 5 กล่มุ อาชีพใหม่ ที่ หัวเรือ่ ง ตวั ชว้ี ดั เนือ้ หา จำนวน (ชั่วโมง) 1. การเรยี นรู้ ดว้ ยตนเอง 1. บอกความหมาย ตระหนัก 1. ความหมาย ความสำคัญ 3 และเห็นความสำคัญของการ ของการเรยี นรู้ดว้ ยตนเอง เรยี นร้ดู ้วยตนเอง 2. การกำหนดเปา้ หมายและ 3 2. มี ทั ก ษ ะ พื้ น ฐ า น ท า ง การวางแผนการเรยี นรดู้ ้วย การศึกษาหาความรู้ ทักษะ ตนเอง การแก้ปัญหา และเทคนิคใน 3. ทักษะพ้นื ฐานทาง 3 การเรยี นรู้ด้วยตนเอง การศกึ ษาหาความรู้ ทกั ษะ 3. อธิบายปัจจัยที่ทำให้การ การแกป้ ญั หา และเทคนิค เรียนรู้ด้วยตนเองป ระสบ ในการเรยี นรดู้ ้วยตนเอง ความสำเรจ็ 4. ปจั จัยทท่ี ำใหก้ ารเรยี นรู้ 4 4. สามารถวางแผนการเรยี นรู้ ด้วยตนเองประสบ และการประเมินผลการเรียนรู้ ความสำเรจ็ ด้วยตนเองได้ 5. การวางแผนการเรียนรู้ 6 และ การประเมินผลการ เรียนรดู้ ว้ ยตนเอง 6. การฝกึ ทกั ษะวางแผนการ 15 เรยี นร้แู ละการประเมนิ ผล
42 ท่ี หัวเร่ือง ตัวชวี้ ดั เน้อื หา จำนวน (ชวั่ โมง) การเรียนรู้ด้วยตนเอง การ วิจารณ์ 2. การใช้ 1.อธบิ ายความหมาย 1. ความหมาย ความสำคญั 3 แหล่งเรียนรู้ ความสำคญั ของการใช้ ของการใช้ห้องสมุดอำเภอ หอ้ งสมดุ อำเภอ 2. การเข้าถงึ สารสนเทศของ 3 2. อธิบายการเข้าถงึ หอ้ งสมุดประชาชน สารสนเทศของหอ้ งสมุด 3. แหลง่ เรยี นรู้ หอสมุด 14 ประชาชน แห่งชาติ หอสมุดวทิ ยาลยั / 3. อธิบายแหลง่ เรยี นรู้ มหาวทิ ยาลัย ห้องสมดุ หอสมดุ แห่งชาติ หอสมุด เฉพาะ หอ้ งสมุดโรงเรียน วทิ ยาลยั /มหาวิทยาลัย พพิ ธิ ภัณฑ์ อุทยานแห่งชาติ หอ้ งสมุดเฉพาะ หอ้ งสมดุ แหลง่ เรยี นรสู้ ำคัญ โรงเรียน พพิ ิธภณั ฑ์ อทุ ยาน อืน่ ๆ ในประเทศ แหง่ ชาติ แหลง่ เรยี นรสู้ ำคัญ 4. การใช้อินเทอรเ์ นต็ การ 14 อื่น ๆ ในประเทศ เขา้ ถึงขอ้ มูลสารสนเทศท่ี 4. อธิบายและปฏิบตั กิ ารใช้ ตอ้ งการและสนใจ อนิ เทอร์เน็ต และการเข้าถงึ ขอ้ มูลสารสนเทศท่ีต้องการ และสนใจ 3. การจดั การความรู้ 1. อธบิ ายความหมาย 1. ความหมาย ความสำคัญ 6 ความสำคัญ หลกั การ หลักการ กระบวนการ กระบวนการจดั การความรู้ จัดการความรู้ การรวมกลุ่ม การรวมกลมุ่ เพื่อตอ่ ยอด เพื่อตอ่ ยอดความรู้ การ ความรกู้ ารพฒั นาขอบข่าย พฒั นาขอบขา่ ยความร้ขู อง ความรขู้ องกล่มุ และการ กลุม่ และการจัดทำ จัดทำสารสนเทศเผยแพร่ สารสนเทศเผยแพรค่ วามรู้ ความรู้ 2. การฝกึ ทกั ษะ 18 2. ปฏิบตั ิการจดั การความรู้ใน กระบวนการจดั การความรู้ เน้ือหาทส่ี อดคล้องกบั ความ ดว้ ยตนเอง และ ต้องการของชุมชน กระบวนการจดั การความรู้ 3. จัดทำสารสนเทศและ ด้วยการรวมกลุ่มปฏิบตั กิ าร เผยแพร่ความรู้ 3. สรปุ องค์ความร้ขู องกลมุ่ 10 จัดทำสารสนเทศองคค์ วามรู้ ในการพัฒนาตนเอง
43 ท่ี หวั เร่อื ง ตัวชีว้ ัด เน้อื หา จำนวน 4. การคิดเป็น (ช่ัวโมง) 1. อธิบายไดถ้ งึ ความเชอ่ื 5. การวจิ ัย พนื้ ฐานทางการศกึ ษาผู้ใหญ่/ ครอบครวั อย่างง่าย การศกึ ษานอกระบบ และ เชอ่ื มโยงมาส่กู ระบวนการ 1. ความเช่อื พ้นื ฐานทาง 3 คิดเป็น และระบบคิด การ แก้ปัญหาอย่างคนคิดเป็น การศึกษาผใู้ หญ/่ การศึกษา 2. อธิบายลักษณะของข้อมลู วิชาการ ตนเอง และสงั คม นอกระบบ 5 ประการโดย สงิ่ แวดล้อม โดยเปรยี บเทยี บ ให้เหน็ ความแตกตา่ งของ สรปุ ขอ้ มลู ทงั้ 3 ประการ 3. อธิบายและฝกึ ปฏบิ ัติการ 2. ปรชั ญาการคิดเปน็ 3 คดิ เปน็ จากกรณีตัวอย่าง ต่าง ๆ ถึงกระบวนการ 2.1 ความหมาย/ แกป้ ญั หาอยา่ งคนคดิ เป็น ได้อยา่ งเป็นระบบ ความสำคัญ 1. อธบิ ายความหมาย 2.2 ศัพทเ์ ฉพาะ ความสำคัญการวิจัยอย่างง่าย กระบวนการและขัน้ ตอนของ 2.3 การเชอ่ื มโยงของ การดำเนินงาน ความเชือ่ พนื้ ฐานทาง การศกึ ษาผใู้ หญ่/กศน. สู่ ปรชั ญาคดิ เป็น 3. ลกั ษณะของข้อมลู 3 10 ด้าน ที่จะนำมาใช้ ประกอบการคดิ ในการ ตัดสนิ ใจ คอื ข้อมลู ทาง วิชาการ ตนเอง และสังคม สง่ิ แวดล้อม รวมถึงการ เปรียบเทียบเพื่อให้เห็น ความแตกตา่ งของขอ้ มลู ทงั้ 3 ประการดงั กลา่ ว 4. กระบวนการคิดการ 9 แกป้ ญั หาอย่างคนคดิ เปน็ ใน รายละเอยี ดพร้อมตัวอยา่ ง การนำไปปฏบิ ัตใิ นวิถกี าร ดำเนนิ ชีวติ จริง 5. กรณีตวั อย่างที่ 9 หลากหลายเพอ่ื การฝกึ ทักษะการปฏบิ ัติ 1. ความหมาย ความสำคญั 8 การวจิ ยั อย่างงา่ ย กระบวนการและขัน้ ตอนของ การดำเนินงาน
44 ท่ี หวั เรอื่ ง ตัวชีว้ ัด เน้ือหา จำนวน 6. ทกั ษะการเรียนรู้ (ชวั่ โมง) และศกั ยภาพ 2. มที กั ษะในการใช้สถิตงิ า่ ย ๆ 2.. ฝึกทกั ษะ สถติ ิงา่ ย ๆ เพือ่ 8 หลักของพน้ื ทีใ่ น การพัฒนาอาชีพ เพอื่ การวิจยั และจัดทำ การวิจยั เครอื่ งมอื การวิจัย เครอื่ งมอื ในการเกบ็ รวบรวม 3. ฝกึ ทกั ษะในการเขียน 18 ขอ้ มูล โครงการวจิ ยั อยา่ งง่าย ๆ 3. มีทกั ษะในการเขียน โครงการวจิ ัยอย่างง่าย ๆ 1. บอกความหมาย ตระหนัก 1. ความหมาย ความสำคัญ 2 และเห็นความสำคัญ ของ ของทักษะการเรียนรู้และ ทั ก ษ ะ ก า ร เรี ย น รู้ แ ล ะ ศกั ยภาพหลักของพื้นที่ ศกั ยภาพหลักของพนื้ ที่ 2. ทักษะการเรียนรู้พ้ืนฐาน 3 2. มีทักษะการเรียนรู้พ้ืนฐาน และเทคนคิ และเทคนิควิธใี นการแสวงหา วิธที างศกึ ษาหาความรู้ ความรู้ 3 . ก า ร เข้ า ถึ งแ ล ะ ก า ร 10 3. สามารถบอกอาชีพในกล่มุ เลอื กใชศ้ กั ยภาพ อาชพี ใหม่ ได้แก่ ก ลมุ่ อาชพี หลักของพ้ืนที่ ดา้ นเกษตรกรรม 4. ตัวอย่างอาชีพในกลุ่ม 15 อตุ สาหกรรมพาณิชยกรรม อาชพี ด้าน ความคิดสรา้ งสรรค์การ 4.1 การเกษตรกรรม บริหารจดั การและการบริการ 4.2 อุตสาหกรรม 4. สามารถบอกและ 4.2 พาณิชยกรรม ยกตวั อยา่ งทกั ษะการเรียนรู้ 4.3 ความคดิ สรา้ งสรรค์ เพ่อื พฒั นาศกั ยภาพ 5 กลมุ่ 4.4 บริหารจัดการ และ อาชีพใหม่ การบริการที่สอดคล้องกับ ศักยภาพหลกั ของพนื้ ท่ี
45 คำอธิบายรายวิชาบังคับ และรายละเอยี ดคำอธิบายรายวิชา ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย
46 คำอธิบายรายวชิ า ทร31001 ทกั ษะการเรยี นรู จำนวน 5 หน่วยกติ ระดับมัธยมศกึ ษาตอนปลาย มาตรฐานการเรยี นรูระดบั สาระทักษะการเรียนรู้ เป็นสาระเกี่ยวกับการพัฒนาทักษะการเรียนรู้ของผู้เรียนในด้าน การเรียนร้ดู ว้ ยตนเอง การใชแ้ หลง่ เรยี นรู้ การจดั การความรู้ การคิดเปน็ และการวจิ ัยอยา่ งงา่ ย โดยมี วัตถุประสงคเ์ พ่อื ใหผ้ ้เู รยี นสามารถกำหนดเปา้ หมาย วางแผนการเรยี นรู้ดว้ ยตนเองเข้าถึงและเลือกใช้ แหล่งเรียนรู้ จัดการความรู้ กระบวนการแก้ปัญหา และตัดสินใจอย่างมีเหตุผล ท่ีสามารถใช้เป็น เครื่องมือในการชี้นำตนเองในการเรียนรู้ และการประกอบอาชีพให้สอดคล้องกับหลักการพ้ืนฐาน และการพัฒนา 5 ศักยภาพหลักของพื้นท่ีใน 5 กลุ่มอาชีพใหม่ คือ กลุ่มอาชีพด้านเกษตรกรรม อุตสาหกรรมพาณิชยกรรม ความคิดสร้างสรรค์การบริหารจัดการเป็นการบริการ ตาม ยุทธศาสตร์ 2555 กระทรวงศึกษาธิการ ได้อย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต ดังนั้นสาระทักษะการเรียนรู้ระดับ ประถมศกึ ษาจงึ มีมาตรฐานการเรยี นรรู้ ะดับดังน้ี 1. ความสามารถในการแสวงหาความร้ดู ว้ ยตนเอง 2. รูจ้ กั เห็นคุณค่า และใช้แหลง่ เรียนรถู้ ูกตอ้ ง 3. เข้าใจ ความหมาย กระบวนการชมุ ชน และศักยภาพของชุมชนในการปฏิบัตกิ ารและทำตาม กระบวนการจัดการความรู้ชุมชน ด้านอาชีพเพื่อเพิ่มศักยภาพและขีดความสามารถในการแข่งขันที่ สามารถสรา้ งรายไดท้ มี่ ัง่ คั่ง และมั่นคง 4. ความสามารถในการอธิบายกระบวนการคิดเป็น และทักษะในการใช้กระบวนการคิด เปน็ ในการแก้ปญั หาการเรียนรูแ้ ละการประกอบอาชีพไดอ้ ยา่ งตอ่ เนอื่ งตลอดชีวิต 5. เข้าใจความหมาย เหน็ ความสำคัญ และปฏิบัติการรวบรวมข้อมูล วิเคราะห์ขอ้ มลู และ สรุปผลการหาความรู้ ความจรงิ ในการเรียนรแู้ ละการประกอบอาชพี 6. เข้าใจความหมาย และเห็นความสำคัญของศักยภาพของพื้นท่ีใน การเพิม่ ขีดความสามารถ ของการประกอบอาชพี 5 กล่มุ อาชพี ใหม่ ศึกษาและฝึกทกั ษะเกีย่ วกบั เร่อื งดงั ต่อไปนี้ 1. การเรียนรู้ด้วยตนเอง ทบทวน ความหมาย ความสำคัญ และกระบวนการของการ เรียนรู้ ฝึกทักษะพ้ืนฐานทางการศึกษาหาความรู้ ทักษะการแกป้ ัญหาและเทคนิคในการเรยี นรู้ด้วย ตนเอง ด้านการอ่าน การฟัง การสังเกต การจำ และการจดบันทึก ทบทวนการวางแผนการเรียนรู้ และการประเมินผลการเรียนรดู้ ้วยตนเอง มีทกั ษะพ้ืนฐานและเทคนิคในการเรยี นรู้ดว้ ยตนเองในเรอ่ื ง การวางแผน การประเมินผลการเรียนรู้ด้วยตนเอง การวิเคราะห์วิจารณ์ ฝึกทักษะความรู้ ทักษะการพูด และการทำแผนผังความคิด เจตคติ/ปัจจัย ท่ีทำให้การเรียนรู้ด้วยตนเองประสบ ความสำเร็จ การเปิดรับโอกาสการเรียนรู้ การคิดริเริ่มและเรียนรู้ด้วยตนเอง การสร้างแรงจูงใจ การสร้างวนิ ยั ในตนเอง การคดิ เชงิ บวก ความคดิ สรา้ งสรรค์ ความรักในการเรยี น การใฝ่รู้ใฝเ่ รยี น และ ความรบั ผดิ ชอบ
47 2. การใช้แหลง่ เรียนรู้ ทบทวน ความหมาย ความสำคัญ ประเภทแหล่งเรยี นรู้ ทบทวนการใช้ ห้องสมดุ ประชาชน การเข้าถึงสารสนเทศห้องสมุดประชาชน ห้องสมุดอืน่ ๆ แหล่งเรยี นรอู้ นื่ ๆ ท่ีสำคัญ เช่น ผู้รู้ในชุมชน พิพิธภัณฑ์ ศูนย์การเรียนรู้ สื่อมวลชน รวมทั้งการใช้อินเตอร์เน็ตเพื่อการเรียนรู้ของ ตนเอง ศึกษา สำรวจ แหล่งเรยี นรู้ภายในชุมชน จัดกลุ่ม ประเภท และความสำคัญ ศึกษาเรียนรกู้ ับภูมิ ปญั ญา ปราชญ์ ผู้รูใ้ นท้องถนิ่ 3. การจัดการความรู้ ทบทวนความหมาย ความสำคัญ หลักการของการจัดการความรู้ กระบวนการจัดการความรู้ การรวมกลมุ่ เพอ่ื ต่อยอดความรู้ การพฒั นาขอบข่ายความรู้ของกล่มุ การ จดั ทำสารสนเทศเผยแพรค่ วามรู้ ฝึกทกั ษะกระบวนการจดั การความรู้ด้วยตนเองและดว้ ยการรวมกลุ่ม ปฏิบัติการ โดยการกำหนดเป้าหมายการเรียนรู้ ระบุความรู้ที่ต้องใช้ การแสวงหาความรู้ สรุปองค์ ความรู้ ประยุกต์ใช้ความรู้ แลกเปลี่ยนความรู้ การรวมกลมุ่ ปฏิบตั ิการเพ่อื ต่อยอดความรู้ การพัฒนา ขอบข่ายความรู้ของกลุ่ม สรุปองคค์ วามรู้ของกลุ่ม จดั ทำสารสนเทศองค์ความรู้ใหม่และการนำไปใช้ ในการพฒั นาตนเอง ครอบครัว 4. การคิดเป็น ทบทวนความรู้ความเข้าใจ และความหมายของความเชื่อพ้ืนฐานทาง การศึกษา / การศึกษานอกระบบ และเช่ือมโยงมาสู่กระบวนการคิดเป็น ทบทวน ความหมาย ความสำคัญของการคดิ เป็น กระบวนการคิดการแก้ปญั หาอยา่ งเปน็ ระบบ กระบวนการคดิ เปน็ ศกึ ษา รายละเอียดที่หลากหลายในเชิงเปรียบเทียบของลักษณะขอ้ มูลทางด้านวิชาการ ตนเอง และสังคม ส่ิงแวดลอ้ มท่ีแตกตา่ งกนั ไปของชมุ ชน วัฒนธรรม จารีตประเพณี สถานภาพทางสงั คม เศรษฐกิจ และ บคุ คลเพ่ือนำมาขยายในการคิด การตัดสินใจอย่างคนคิดเป็น ศึกษาข้อมูลดา้ นคุณธรรม จริยธรรมท่ี เก่ียวข้องกับบุคคล ครอบครัวและชุมชนมาเสริมความหมายการคิดเป็นให้เกิดสันติสุขท่ียั่งยืน ฝึก ปฏบิ ัตกิ ารเก็บข้อมลู การวเิ คราะห์ สงั เคราะห์ขอ้ มูลในชมุ ชน เพื่อนำมาประกอบการคิดการตดั สินใจ ฝึกปฏิบัติการคิดการแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ การคิดเป็นทั้งจากกรณีตัวอย่างที่ซับซ้อน และ หลากหลายโดยนำข้อมูลด้านคุณธรรม จริยธรรม มาประกอบการคิดการพิจารณาด้วย ฝึกการสรุป กระบวนการแก้ปญั หาดว้ ยกระบวนการคิดเปน็ จากข้อมูลท่เี ก็บและวิเคราะหจ์ ากชุมชน 5. การวิจัยอย่างง่าย ทบทวนความหมาย ความสำคัญการวิจัยอย่างง่าย กระบวนการ และข้ันตอนของการดำเนินงาน สถิติง่าย ๆ เพ่ือการวิจัย เครื่องมือการวิจัย และการเขียน โครงการวิจัยอยา่ งงา่ ย ๆ ศึกษา ฝึกทักษะ การวิจัยในบ้าน การเขียนรายงานวิจัย การนำเสนอและ เผยแพรง่ านวิจัย 6 ทกั ษะการเรยี นรู้ และศักยภาพหลกั ของพ้นื ทใ่ี นการพัฒนาอาชีพ ทบทวน ประยุกตใ์ ช้ ทักษะการเรียนรู้ และศักยภาพหลักของพื้นที่ คือ ศักยภาพของทรัพยากรธรรมชาติ ในแต่ละพ้ืนท่ี ศักยภาพของพ้ืนท่ีตามลักษณะภูมิอากาศศักยภาพของภูมิประเทศ และทำเลท่ีตั้งของแต่ละพื้นที่ ศักยภาพของศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี และวิถีชีวิตของแต่ละพื้นที่ และศักยภาพของทรัพยากร มนษุ ยใ์ นแตล่ ะพ้ืนที่เพือ่ เป็นเครื่องมอื ในการเพ่ิมศักยภาพและขดี ความสามารถในการแข่งขันในกลุ่ม อาชพี ใหม่ เช่น กลุ่มอาชพี ดา้ นเกษตรกรรม อตุ สาหกรรม พาณิชยกรรม ความคดิ สร้างสรรค์ และการ บรหิ ารจดั การและการบริการ
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174