Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนพลิกโฉมสู่การเป็นมหาวิทยาลัย เพื่อพัฒนาชุมชนท้องถิ่น พ.ศ. 2566-2570

แผนพลิกโฉมสู่การเป็นมหาวิทยาลัย เพื่อพัฒนาชุมชนท้องถิ่น พ.ศ. 2566-2570

Published by gotonong, 2021-12-02 02:40:27

Description: แผนพลิกโฉมสู่การเป็นมหาวิทยาลัย
เพื่อพัฒนาชุมชนท้องถิ่น พ.ศ. 2566-2570
(Area-Based and Community Engagement University)

Keywords: แผนพลิกโฉม

Search

Read the Text Version

แผนพลิกโฉม สู่ ก า ร เ ป น ม ห า วิ ท ย า ลั ย เพือการพัฒนาท้องถิน พ.ศ. 2566 - 2570 (Area-Based and Community Engagement University) มหาวิทยาลยั ราชภัฏอตุ รดิตถ์

1 แผนพลกิ โฉมส่กู ารเป็นมหาวทิ ยาลัย เพ่ือพฒั นาชุมชนทอ้ งถ่นิ พ.ศ. 2566-2570 (Area-Based and Community Engagement University) มหาวทิ ยาลยั ราชภัฏอตุ รดิตถ์ Uttaradit Rajabhat University

2 สารบัญ หนา้ ส่วนท่ี 1 ขอ้ มูลทั่วไปของสถาบันอดุ มศกึ ษา 1 1.1 ยุทธศาสตร์ พนั ธกจิ วสิ ัยทศั น์ 1 1.2 ข้อมลู ทัว่ ไปของมหาวทิ ยาลยั ราชภัฏอุตรดิตถ์ 2 1.3 ผลการประเมนิ ตนเองและการกาหนดกลุ่มยุทธศาสตร์ 7 สว่ นท่ี 2 แผนการพลิกโฉมสถาบนั อุดมศึกษา 10 2.1 จดุ เน้น ทศิ ทาง และเปา้ หมายตามสาขาความเชย่ี วชาญ 10 2.1.1 สาขาความเช่ยี วชาญท่มี ุ่งเน้น 10 2.1.2 ความสอดคล้องกบั ยุทธศาสตร์ประเทศ 17 2.1.3 เปา้ หมายของการพลิกโฉมสถาบนั อุดมศึกษา 21 2.2 การปฏิรูประบบบริหารในมหาวทิ ยาลยั ราชภฏั อุตรดิตถ์ 22 2.2.1 ดา้ นการบรหิ ารบุคลากร 22 2.2.2 ด้านแผน ระบบการเงนิ และงบประมาณ 22 2.2.3 ดา้ นกฎ ระเบียบ ข้อบังคับ หลักเกณฑ์ 23 2.2.4 ด้านระบบธรรมาภิบาล 24 2.3 แผนพลิกโฉมสู่การเปน็ มหาวิทยาลัยเพอ่ื พัฒนาชุมชนท้องถิน่ 24 2.3.1 หลกั การและแนวคิด 24 2.3.2 การวเิ คราะห์ผลการประเมินตนเอง (Potential & Performance) 26 (ใหร้ ะบุศักยภาพทจ่ี ะนาไปสู่เป้าหมายทต่ี ง้ั ไว้) 2.3.3 การกาหนดเปา้ หมายใหส้ อดคลอ้ งกบั เปา้ ประสงค์ ยุทธศาสตร์ และแผนงาน ภายใตย้ ทุ ธศาสตร์ อววน.และกิจกรรมการพลิกโฉมมหาวิทยาลัย 32 2.3.4 การวเิ คราะห์โอกาสประสบความสาเร็จและความเส่ยี ง 43 2.3.5 แผนปฏิบัติการปงี บประมาณ พ.ศ. 2566-2570 48 2.3.6 แนวทางการติดตามและประเมินผล 49 ส่วนที่ 3 ผลที่คาดวา่ จะไดร้ บั 3.1 เปา้ หมายการดาเนินการในระยะ 5 ปี 51 3.2 ผลผลติ (Output) และผลลพั ธ์ (Outcome) รายปี 52 3.3 ผลกระทบ (Impact) 55 สว่ นท่ี 4 ภาคผนวก 56  แผนการผลติ และพฒั นากาลงั คน 57  มติการประชมุ สภามหาวิทยาลัยราชภฏั อตุ รดติ ถค์ ร้งั ที่ 9/2564 81

1 ส่วนท่ี 1 ข้อมูลท่วั ไปของสถาบันอุดมศกึ ษา 1.1 ยุทธศาสตร์ พันธกิจ วิสัยทศั น์ ของมหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์ปฏิบัติภารกิจตามพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยราชภัฏ พ.ศ. 2547 ในมาตรา 7 เป็นสถาบันอุดมศึกษาเพ่ือการพัฒนาท้องถ่ินท่ีเสริมสร้างพลังปัญญาของแผ่นดิน ฟ้ืนฟูพลังการเรียนรู้ เชิดชูภูมิปัญญาของท้องถ่ิน สร้างสรรค์ ศิลปวิทยา มุ่งตอบสนองนโยบายของรัฐบาล ในการปฏิรูปประเทศและปฏิรูปการศึกษา เพ่ือก้าวสู่ประเทศที่พัฒนาแล้ว มีความ มั่นคง ม่ังคั่งและย่ังยืน โดยนายุทธศาสตร์มหาวิทยาลัยราชภัฏเพ่ือการพัฒนาท้องถิ่น ระยะ 20 ปี มาเป็นกรอบในการจัดทาแผน ยุทธศาสตร์และกาหนดทิศทางการพัฒนามหาวิทยาลัยตามนโยบายของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ในการพลิกโฉมระบบการอุดมศึกษาของไทย ท่ีจะสามารถดาเนินงานท่ี ตอบสนองนโยบายของรัฐบาลตามศักยภาพ ความเชี่ยวชาญ และความพร้อมของมหาวิทยาลัยในกลุ่ม มหาวทิ ยาลยั เพือ่ การพัฒนาชุมชนเชงิ พื้นที่ โดยในชว่ งระยะเวลา 5 ปี พ.ศ. 2566-2570 ข้างหน้า มหาวิทยาลัยจะดาเนินงานภายใต้ปรัชญา การเป็น “มหาวิทยาลัยเพื่อการศึกษาและพัฒนาชุมชนท้องถิ่น” มีการดาเนินงานในรูปแบบบูรณาการ พันธกิจการเรียนการสอน การวิจัยและบริการวิชาการ ทางานแบบมีส่วนร่วมของภาคีเครือข่าย ชุมชน และภาควิชาการ นาประเด็นปัญหาและความต้องการของชุมชนท้องถ่ิน เป็นโจทย์ในการแก้ปัญหาหรือ พัฒนาร่วมกับการใช้องค์ความรู้ วิจัยสร้างนวัตกรรมและเทคโนโลยีโดยใช้บุคลากรท่ีเช่ียวชาญหลากหลาย สาขา และสามารถบูรณาการข้ามศาสตร์เพ่ือแก้ปัญหาท่ีซับซ้อนของชุมชนและสังคมได้ครอบคลุมทุกมิติ และเกิดประสบการณก์ ารเรยี นรูร้ ่วมกัน ทาใหช้ ุมชนเขม้ แขง็ และสามารถพฒั นาแบบพ่งึ ตนเองไดใ้ นทีส่ ุด ท้งั น้ีมหาวิทยาลัยได้กาหนด วิสัยทศั น์ “มหาวิทยาลัยพันธกิจสัมพันธ์ที่มีคุณภาพ สร้างคุณค่า เพ่ือพัฒนาท้องถน่ิ ” มียุทธศาสตร์ในการดาเนนิ งานเพ่อื ใหบ้ รรลตุ ามวิสยั ทศั น์ดงั ต่อไปน้ี ยทุ ธศาสตร์ที่ 1 ขับเคลื่อนการดาเนินงานตามแผนแมบ่ ท มเี ปา้ ประสงค์หลักคือการดาเนินการ พัฒนาท้องถ่นิ ในดา้ นเศรษฐกจิ สังคม สงิ่ แวดลอ้ ม และการศึกษา ยุทธศาสตร์ที่ 2 การพัฒนาพันธกิจหลักเพ่ือขับเคลื่อนสู่การเปน็ มหาวิทยาลัยพันธกิจสัมพันธ์ มเี ป้าประสงคห์ ลักคือ การผลิตบัณฑติ และการยกระดับคุณภาพการศึกษา การพฒั นาด้านหลักสูตรและการ จัดการศึกษา ด้านการพัฒนากาลังคนเพ่ือรองรับความเปล่ียนแปลงของประเทศ ด้านการพัฒนางานวิจัย เทคโนโลยีและนวัตกรรม ด้านการบริการวิชาการและ ศิลปวัฒนธรรม และโครงการอันเน่ืองมาจาก พระราชดาริ ยุทธศาสตร์ท่ี 3 การพัฒนาการบริหารจัดการสู่องค์กรท่ีมีสมรรถนะสูง มีเป้าประสงค์หลักคือ การพัฒนาระบบบริหารจดั การส่คู วามเปน็ เลศิ ด้านการพฒั นากายภาพ และดา้ นบคุ ลากร ยุทธศาสตร์ท่ี 4 การพลกิ โฉมมหาวิทยาลัยสู่ความเป็นเลศิ มเี ปา้ ประสงค์หลกั คอื การสนบั สนุน การจัดการศึกษาตลอดชีวิตและการพัฒนาทักษะเพ่ืออนาคตในรูปแบบ non-degree และ degree และ เพ่ิมทักษะด้านการประกอบอาชีพและการทางาน การพัฒนาคนและสถาบันความรู้ชุมชนเชิงพ้ืนท่ี มุ่งเน้น การสร้างและพฒั นาบคุ ลากรทมี่ ีทักษะสงู ตามความต้องการของท้องถิ่น

2 1.2 ข้อมูลท่ัวไปของมหาวิทยาลัยราชภฏั อุตรดติ ถ์ ความเป็นมาของมหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดติ ถ์เป็นมหาวิทยาลัยทกี่ อ่ ต้งั มาอยา่ งยาวนาน ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2479 จาก “โรงเรียนฝึกหัดครู”, “วิทยาลัยครู”, “สถาบันราชภัฏ” และตามพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยราชภัฏ พ.ศ. 2547 ไดป้ รับเปล่ียนเป็น “มหาวทิ ยาลัยราชภัฏอุตรดติ ถ์” จนถงึ ปัจจุบัน ต้ังอยเู่ ลขที่ 27 ถนนอิน ใจมี ตาบลท่าอิฐ อาเภอเมือง จังหวัดอุตรดิตถ์ มีหน้าที่จัดการศึกษาในเขตพื้นที่รับผิดชอบจังหวัด อุตรดิตถ์ จงั หวัดแพรแ่ ละจังหวัดน่าน โดยมีศนู ยว์ ทิ ยบรกิ ารจังหวัดแพร่ วิทยาลยั นา่ นเป็นหน่วยงานหลัก ในการดาเนินการในสองจังหวัด ในจังหวัดอุตรดิตถ์มพี ืน้ ท่หี ลักตาบลท่าอิฐ พืน้ ท่ีหมอนไม้จัดการศึกษาโดย คณะเกษตรศาสตร์ และพืน้ ท่ลี ารางทุ่งกะโลจ่ ดั การศึกษาโดยคณะวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี

3 พระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยราชภัฏ พ.ศ. 2547 มาตรา 7 กาหนดให้มหาวิทยาลัยราชภัฏเป็น สถาบันอุดมศึกษาเพือ่ การพัฒนาท้องถ่ิน มีวัตถุประสงค์ให้จัดการศึกษาวิชาการและวิชาชีพช้ันสูง ทาการ วจิ ัยให้บริการทางวิชาการแก่สังคม ปรับปรุงถ่ายทอดและพัฒนาเทคโนโลยี ทานุบารุงศิลปวัฒนธรรม ผลิต ครู และส่งเสรมิ วิทยฐานะครู โดยได้น้อมนาพระบรมราโชบายในพระบาทสมเดจ็ พระปรเมนทรรามาธิบดศี รี สินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ท่ีได้ทรงมอบให้มหาวิทยาลัยราชภัฏจัดการศึกษาที่มุ่งเน้น ให้ผู้เรียน “มีทัศนคติที่ถูกต้องต่อบ้านเมือง มีพ้ืนฐานชีวิตท่ีม่ันคง มีคุณธรรม มีงานทา มีอาชีพ และเป็น พลเมืองดี” โดยมหาวิทยาลัยราชภัฏท้ัง 38 แห่ง ร่วมกันกาหนดยุทธศาสตร์มหาวิทยาลัยราชภัฏเพ่ือการ พัฒนาท้องถ่ินระยะ 20 ปี (พ.ศ. 2560 – 2579) สร้างพลังของแผ่นดินโดยยกระดับคุณภาพชีวิตและ เศรษฐกิจชุมชน โดยยดึ หลัก “เข้าใจ เขา้ ถึงและพัฒนา” กาหนดวิสยั ทัศนข์ องมหาวิทยาลัยราชภัฏวา่ “เป็น สถาบนั ท่ผี ลิตบณั ฑติ ท่ีมีอตั ลักษณ์ มคี ณุ ภาพ และเปน็ สถาบันหลกั ทบ่ี ูรณาการองค์ความรู้ส่นู วตั กรรมในการ พัฒนาท้องถิ่น เพื่อสร้างความมั่นคงให้กับประเทศ” โดยมีพันธกิจ ดังนี้ (สานักงานที่ประชุมอธิการบดี มหาวิทยาลัยราชภัฏ, 2561) 1. ผลิตบัณฑิตให้มีคุณภาพ มีทัศนคติที่ดี เป็นพลเมืองดีในสังคมและมีสมรรถนะตามความ ต้องการของผใู้ ช้บณั ฑติ 2. วิจัยสร้างองค์ความรู้และนวัตกรรมที่มีคุณภาพและได้มาตรฐานเป็นท่ียอมรับ มุ่งเน้นการ บูรณาการเพื่อนาไปใช้ประโยชนไ์ ดอ้ ยา่ งเป็นรูปธรรม 3. พัฒนาท้องถ่ินตามศักยภาพ สภาพปัญหาและความต้องการท่ีแท้จริงของชุมชน โดยการ ถ่ายทอดองคค์ วามรู้ เทคโนโลยี และน้อมนาแนวพระราชดาริสู่การปฏิบตั ิ 4. สร้างเครือข่ายความร่วมมือกับทุกภาคส่วนเพื่อการพัฒนาท้องถ่ิน และเสริมสร้างความ เข้มแขง็ ของผู้นาชุมชนใหม้ คี ณุ ธรรมและความสามารถในการบริหารงานเพื่อประโยชน์ต่อส่วนรวม 5. บริหารจัดการทรัพยากรภายในมหาวิทยาลัยอย่างมีประสิทธิภาพด้วยหลักธรรมาภิบาล พร้อมรองรบั บริบทการเปลีย่ นแปลงเพ่ือให้เกิดการพัฒนาอยา่ งต่อเนื่องและยง่ั ยืน บริบทข้างตน้ เป็นปัจจัยสาคัญในการกาหนดทิศทางการบริหารมหาวิทยาลัย เพ่ือสร้างระบบและ กลไกการบรหิ ารภายในมหาวทิ ยาลยั สรา้ งระบบสนับสนุนการปฏิบตั ิภารกจิ ไดอ้ ย่างสมบรู ณ์ ปจั จยั ภายในมหาวทิ ยาลัย ปจั จุบนั มหาวทิ ยาลัยราชภฏั อตุ รดติ ถม์ ีท่ีต้งั ในกการจัดการเรียนการสอนไดแ้ ก่ 1) มหาวิทยาลัย ราชภัฏอุตรดิตถ์ (ท่าอฐิ ) 2) วิทยาลยั นา่ น 3) คณะเกษตรศาสตร์ (หมอนไม้) 4) คณะวิทยาศาสตรแ์ ละ เทคโนโลยี พน้ื ทลี่ ารางทุ่งกะโล่ และ5) ศนู ยว์ ทิ ยบริการจังหวัดแพร่

4 ข้อมลู จานวนหลักสตู ร นักศึกษา จาแนกตามคณะ/วทิ ยาลัย และจานวนนักเรียนโรงเรียนสาธิต มหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์ ระหวา่ งปี พ.ศ. 2559 – 2563 คณะ/วิทยาลัย จานวนหลกั สตู ร 2559 จานวนศกึ ษา/นักเรยี น 2560 2561 2562 2563 1) คณะครุศาสตร์ 17 (หลกั สูตร 5 ปี) 3,301 17 (หลักสูตร 4 ปี) 3,421 3,512 3,435 3,294 2) คณะมนุษยศาสตร์และสงั คมศาสตร์ 3) คณะวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี 15 2,015 1,847 1,532 1,167 932 4) คณะวทิ ยาการจดั การ 939 669 542 470 5) คณะเทคโนโลยอี ตุ สาหกรรม 9 1,076 1,780 1,453 1,190 997 6) คณะเกษตรศาสตร์ 613 588 532 529 7) วิทยาลยั นานาชาติ 9 1,893 142 129 90 98 8) วทิ ยาลยั นา่ น 184 129 90 98 9) บณั ฑิตวทิ ยาลัย 9 594 135 185 192 157 62 64 52 62 รวม 2 181 9,123 8,261 7,290 6,637 10) โรงเรยี นสาธติ มหาวทิ ยาลัย ราชภัฏอุตรดิตถ์ 2 219 1,683 1,789 1,914 2,018 2 58 5 59 9,396 บรบิ าล-ม.4 1,652 ที่มา : ขอ้ มลู นกั ศกึ ษาที่มอี ยูใ่ นชัน้ เรยี น กองบริการการศึกษา มหาวทิ ยาลัยราชภฏั อตุ รดิตถ์, โรงเรยี นสาธติ มหาวิทยาลยั ราชภฏั อุตรดติ ถ์

5 บคุ ลากร จานวนบุคลกรของมหาวิทยาลยั จาแนกตามคณะ/วทิ ยาลัย และหนว่ ยงาน ปงี บประมาณ พ.ศ. 2560 – 2564 คณะ/วิทยาลัย/หน่วยงาน 2560 จานวนบคุ ลากร (คน) 2564 2561 2562 2563 94 1) คณะครุศาสตร์ 87 97 94 94 104 105 103 104 108 2) คณะมนุษยศาสตร์และสงั คมศาสตร์ 103 108 107 108 72 77 74 72 70 3) คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 109 68 69 70 32 38 32 31 21 4) คณะวิทยาการจดั การ 77 24 21 21 31 36 32 31 5 5) คณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรม 70 93 555 8 6) คณะเกษตรศาสตร์ 34 100 100 100 247 10 8 8 40 7) วทิ ยาลยั นานาชาติ 25 215 240 235 28 45 45 40 7 8) วทิ ยาลัยน่าน 36 27 28 28 777 7 9) บณั ฑิตวิทยาลัย 5 666 8 10) โรงเรียนสาธติ 106 16 11 8 8 991 11) ศูนยว์ ทิ ยบรกิ ารจังหวดั แพร่ 10 16 16 16 995 995 984 12) สานกั งานอธกิ ารบดี 204 13) สานกั งานวิทยาเขตทุ่งกะโล่ 30 14) สานกั วิทยบรกิ ารและเทคโนโลยสี ารสนเทศ 30 15) สถาบันวจิ ัยและพัฒนา 7 16) สานักงานคณะกรรมการมาตรฐานคณุ 5 การศกึ ษาฯ 17) ศูนย์วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี 11 18) โครงการจดั หารายได้ 16 รวม 965 ท่ีมา : กองบริหารงานบคุ คล มหาวิทยาลัยราชภฏั อตุ รดติ ถ์

6 จานวนบคุ ลากรจาแนกตามประเภทของบุคลากรมหาวทิ ยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์ ปงี บประมาณ พ.ศ. 2560 - 2564 ประเภท จานวนบุคลากร (คน) 2560 2561 2562 2563 2564 1) ขา้ ราชการพลเรือนในสถาบันอดุ มศกึ ษา 83 76 73 72 65 2) ลูกจา้ งประจา 12 11 10 8 5 3) ลูกจา้ งชว่ั คราวชาวตา่ งชาติ 10 14 6 5 5 4) พนกั งานราชการ 21 22 22 22 25 5) พนักงานมหาวทิ ยาลัย (งบประมาณแผ่นดิน) 516 513 545 549 556 6) พนกั งานมหาวทิ ยาลัย (งบประมาณเงนิ รายได)้ 106 100 101 100 86 7) พนกั งานมหาวิทยาลัย (พ) / พนักงานชัว่ คราว (งบประมาณเงินรายได)้ 217 259 237 228 249 รวม 965 995 994 984 991 ท่มี า : กองบรหิ ารงานบคุ คล มหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดติ ถ์ จากข้อมูลข้างต้น พบว่า จานวนนักศึกษามีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเน่ือง เฉลี่ยลดลงร้อยละ 8.27 ทาให้ต้องมีการบริหารจัดการที่ดี ในด้านการพัฒนาหลักสูตร การจัดการเรียนการสอน การสร้าง แรงจูงใจกับคนทุกช่วงวัยในการเข้ามาศึกษาตลอดชีวิต และรูปแบบการจัดการศึกษาที่เปล่ียนแปลงจาก การดิสรัปต์ทางเทคโนโลยี การเข้าถึงการศึกษาได้ทุกท่ีทุกเวลาตามความต้องการของคนรุ่นใหม่ ควรมีการ ปรบั การจดั การศกึ ษาใหก้ ับคนทุกช่วงวัย ทั้งวัยทางาน ช่วงวัยเรียนและผ้สู ูงวยั ในระบบ non-degree และ degree งบประมาณแผน่ ดนิ มีแนวโน้มลดลงไปพร้อม ๆ กับเงินรายได้ที่ลดลง ในขณะทจ่ี านวนบุคลากรไม่ ลด จงึ ต้องวางแผนการจดั หารายได้เพ่มิ และปรบั ปรงุ ระบบการบรหิ ารทรพั ยากรทกุ ส่วนใหเ้ กิดประสิทธภิ าพ สงู สุด

7 1.3 ผลการประเมินตนเองและการกาหนดกล่มุ ยุทธศาสตร์ ตามที่กฎกระทรวงการจดั กลุ่มสถาบนั อุดมศึกษา พ.ศ. 2564 ประกาศในราชกิจจานุเบกษา และมีผลบังคับใช้ เม่ือวันท่ี 25 มีนาคม 2564 ส่งผลให้ทุกมหาวิทยาลัยจะต้องมีการการประเมินตนเอง ผ่านระบบการประเมินตนเองและการจัดกลุ่มสถาบันอุดมศึกษาเชิงยุทธศาสตร์ (Thai University Strategic Classification and Self-Assessment System - UCLAS) ในปี พ.ศ. 2563 เพ่ือรองรับการ ประเมินตนเองตามตัวชี้วัดกลุ่มยุทธศาสตร์ของสถาบันอุดมศึกษาน้ัน มหาวิทยาลัยได้ดาเนินการประเมิน ตนเองผ่านระบบ UCLAS แลว้ มผี ลการประเมนิ ดังตอ่ ไปน้ี แผนภูมทิ ่ี 1 แสดงผลการประเมนิ ตามกล่มุ เชิงยทุ ธศาสตร์จากระบบ UCLAS

8 จากแผนภูมิขา้ งต้นแสดงใหเ้ ห็นว่ามหาวทิ ยาลัยราชภฏั อุตรดิตถ์ เม่ือมหาวิทยาลัยทาการประเมิน ตนเองใน 4 กลุม่ มผี ลการประเมินดงั ตอ่ ไปนี้ กล่มุ ที่ 1 พัฒนาการวจิ ยั ระดับแนวหนา้ ของโลก (Global and Frontier Research) พบว่า มหาวทิ ยาลัยมีคา่ คะแนนของผลการประเมินอย่ใู นระดับต่า ทั้งในด้านศักยภาพของสถาบันอุดมศกึ ษา Potential และดา้ นผลการดาเนนิ งานของสถาบันอุดมศึกษา Performance (Low Potential Low Performance) กลมุ่ ที่ 2 พัฒนาเทคโนโลยีและส่งเสริมการสร้างวัตกรรม (Technology and Innovation) พบว่า มหาวิทยาลัยมคี า่ คะแนนของผลการประเมิน ในดา้ นศักยภาพของสถาบนั อดุ มศึกษา (Potential) อยใู่ นระดบั สงู แตด่ ้านผลการดาเนินงานของสถาบนั อุดมศึกษา (Performance) ประเมินอยูใ่ นระดบั ต่า (High Potential Low Performance) กลมุ่ ที่ 3 พัฒนาชุมชนทอ้ งถ่ินหรือชุมชนอน่ื (Area-Based and Community) พบว่า มหาวิทยาลัยมีค่าคะแนนของผลการประเมินอยใู่ นระดับสงู ท้ังในด้านศักยภาพของสถาบันอุดมศึกษา Potential และด้านผลการดาเนินงานของสถาบนั อุดมศึกษา Performance (High Potential High Performance) กลมุ่ ที่ 4 ผลติ และพฒั นาบคุ ลากรวิชาชพี หรือสาขาจาเพาะ (Development of Professionals and Specialists) พบวา่ มหาวิทยาลยั มีค่าคะแนนของผลการประเมนิ ในดา้ นศักยภาพ ของสถาบนั อดุ มศึกษา (Potential) อยูใ่ นระดับสงู แต่ด้านผลการดาเนนิ งานของสถาบนั อดุ มศึกษา (Performance) ประเมนิ อยใู่ นระดบั ต่า (High Potential Low Performance) ดังน้ันจากผลการประเมินตนเองในข้างต้น มหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์จึงกาหนดกลุ่ม ยทุ ธศาสตร์ เป็นกลุ่มท่ี 3 พัฒนาชุมชนทอ้ งถน่ิ หรือชมุ ชนอ่ืน (Area-Based and Community) เน่ืองจากมีผลการประเมินดีท่ีสุดมีความพร้อมทั้ง ในด้านศักยภาพของสถาบันอุดมศึกษา Potential เช่น ในด้านหลักสูตร ท่ีมีสัดส่วนจานวนหลักสูตรที่สอดคล้องกับความต้องการของสังคมและ ชุมชน มากถึง รอ้ ยละ 100 ของหลักสูตรท้ังหมด ด้านการวิจัยและบริการวิชาการเพ่อื การพฒั นาในพืน้ ที่ ที่ มีสัดส่วนของผลงานทางวิชาการรับใชส้ ังคมสามารถแก้ไขปัญหาของชุมชนและสังคมในพ้ืนที่ต่อผลงานทาง วิชาการมากถึงร้อยละ 100 ของผลงานทั้งหมด ด้านการมีส่วนร่วมของสังคมและชุมชนที่สัดส่วนจานวน หลักสูตรท่ีเปดิ โอกาสให้ชุมชน ปราชญช์ ุมชน ผใู้ ช้บัณฑิต องค์กร/หน่วยงานในพื้นที่ ไดม้ ีโอกาสการกาหนด ทิศทางการดาเนนิ งาน ในการสอน การบริหาร เป็นสิ่งที่แสดงให้เหน็ ถึงการมสี ่วนรว่ มของผ้มู ีสว่ นไดส้ ่วนเสีย ของสถาบันอุดมศึกษาในพ้ืนที่ภูมิภาคที่สามารถนาไปสู่การพัฒนาสังคมและชุมชนในพื้นที่ภูมิภาค มากถึง รอ้ ยละ 100 ของหลักสูตรท้ังหมด สัดส่วนจานวนเงินทุนจากภาครัฐและเอกชนเพ่ือพัฒนาชมุ ชนและสังคม ในพ้ืนที่ รวมถึงเงินที่มาจากการบริจาคของชุมชนในพ้ืนท่ีเป็นส่ิงท่ีแสดงให้เห็นว่าสถาบันอุดมศึกษาได้มุ่ง จัดสรรทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุดจากแหล่งสนับสนุนด้านงบประมาณเพ่ือนาไปสู่การพัฒนาชุมชน และสงั คมในพื้นที่ มากถงึ รอ้ ยละ 66.86 จากงบดาเนนิ การทง้ั หมดของมหาวิทยาลยั

9 และในด้านผลการดาเนนิ งานของสถาบันอุดมศกึ ษา (Performance) เช่น ในด้านการพัฒนาเชิง พื้นที่ ที่มีสัดส่วนจานวนโครงการบริการวิชาการหรือโครงการเพ่ือพัฒนาเชิงพื้นท่ีของสถาบันอุดมศึกษาใน การถ่ายทอดองค์ความรู้และเทคโนโลยี รวมถึงการอนุรักษ์และพัฒนาศิลปวัฒนธรรมและภูมิปัญญาของ ท้องถิ่น เพ่ือแก้ไข ลดปัญหาและสร้างความเข้มแข็งให้แก่ท้องถิ่นและภูมิภาค มากถึงร้อยละ 100 ของ กิจกรรม/โครงการทั้งหมด ในด้านการมีส่วนร่วมของบุคคลหรือหน่วยงานในชุมชน พ้ืนท่ี หรือภูมิภาคท่ีมี สดั สว่ นโครงการหรือกิจกรรมโดยการมสี ่วนรว่ มของบุคคล ชมุ ชน หรือหนว่ ยงานใน พนื้ ที่ สะท้อนการมีสว่ น ร่วมเพื่อแก้ไข/ลดปัญหา/ส่งเสริมการเรียนรู้ของชุมชน สังคม มากถึงร้อยละ 100 ของกิจกรรม/โครงการ ทั้งหมด ในด้านร้อยละการได้งานในพื้นที่หรือประกอบอาชีพหลังสาเร็จการศึกษาภายในระยะเวลา 1 ปี ในพื้นท่ีที่สถาบันอุดมศึกษาได้รับผิดชอบดูแล มีสัดส่วนเป็นร้อยละ 43.89 จากจานวนผู้สาเร็จการศึกษา ทั้งหมด

10 สว่ นที่ 2 แผนการพลิกโฉมสถาบันอดุ มศึกษา 2.1 จุดเน้น ทศิ ทาง และเป้าหมายตามสาขาความเชีย่ วชาญ 2.1.1 สาขาความเชยี่ วชาญท่มี ุ่งเนน้ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์ เป็นส่วนราชการตามพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยราชภัฏ พ.ศ. 2547 มีจุดเน้นทิศทางในการดาเนินงานตามบทบาทอานาจหน้าท่ีและความรับผิดชอบเกี่ยวกับงานด้าน การศึกษา ส่งเสริมวิชาการและวิชาชีพชั้นสูง ทาการสอน วิจัย ให้บริการทางวิชาการแก่สังคม ปรั บปรุง ถ่ายทอด และพัฒนาเทคโนโลยที านุบารงุ ศิลปะและวัฒนธรรม ผลิตครูและสง่ เสรมิ วิทยฐานะครู ตามมาตรา 7 และ 8 ของ พระราชบัญญตั มิ หาวิทยาลัยราชภฏั พ.ศ. 2547 โดยในมาตรา 7 กาหนดให้มหาวิทยาลัย เป็นสถาบันอุดมศึกษาเพื่อการพัฒนาท้องถ่ิน ท่ี เสริมสร้างพลังปัญญาของแผ่นดิน ฟื้นฟูพลังการเรียนรู้ เชิดชูภูมิปัญญาของท้องถ่ิน สร้างสรรค์ศิลปวิทยา เพ่ือความเจริญก้าวหน้าอย่างม่ันคงและย่ังยืนของปวงชน มีส่วนร่วมในการจัดการการบารุงรักษาการใช้ ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างสมดุลและยั่งยืน โดยมีวัตถุประสงค์ให้การศึกษา ส่งเสริมวิชาการและวิชาชีพช้ันสูง ทาการสอน วิจัย ให้บริการทางวิชาการแก่สังคม ปรับปรุงถ่ายทอด และ พฒั นาเทคโนโลยที ะนบุ ารงุ ศิลปะและวฒั นธรรม ผลติ ครูและส่งเสริมวิทยฐานะครู มาตรา 8 ในการดาเนินงานเพ่ือให้บรรลุวัตถุประสงค์ตาม มาตรา 7 ให้กาหนดภาระหน้าที่ ของ มหาวทิ ยาลยั ดังตอ่ ไปนี้ (1) แสวงหาความจริงเพอื่ ความเป็นเลิศทางวิชาการ บนพ้นื ฐานของภูมิปัญญาท้องถ่ิน ภูมปิ ัญญา ไทย และภมู ิปัญญาสากล (2) ผลิตบัณฑิตที่มีความรู้คู่คุณธรรม สานึกในความเป็นไทย มีความรักและผูกพันต่อท้องถิ่น อีก ทั้งส่งเสริมการเรยี นรู้ตลอดชีวิตในชุมชน เพ่ือช่วยใหค้ นในท้องถนิ่ รู้เท่าทันการเปล่ียนแปลงการผลติ บัณฑิต ดังกลา่ วจะตอ้ งให้มจี านวนและคณุ ภาพสอดคลอ้ งกบั แผนการผลติ บณั ฑิตของประเทศ (3) เสริมสร้างความรู้ความเข้าใจในคุณค่าความสานึกและความภูมิใจในวัฒนธรรมของท้องถ่ิน และของชาติ (4) เรียนรู้และเสริมสร้างความเข้มแข็งของผู้นาชุมชน ผู้นาศาสนาและนักการเมืองท้องถ่ินให้มี จิตสานึกประชาธิปไตยคุณธรรม จริยธรรม และความสามารถในการบริหารงานพัฒนาชุมชนและท้องถิ่น เพือ่ ประโยชน์ของสว่ นรวม (5) เสริมสร้างความเข็มแข็งของวิชาชีพครูผลิตและพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษาให้มี คณุ ภาพและมาตรฐานทีเ่ หมาะสมกับการเปน็ วชิ าชพี ช้ันสูง (6) ประสานความร่วมมือและช่วยเหลือเก้ือกูลกันระหว่างมหาวิทยาลัย ชุมชน องค์กรปกครอง สว่ นท้องถิ่นและองค์กรอ่ืนท้ังในและต่างประเทศเพื่อการพัฒนาท้องถน่ิ (7) ศึกษาและแสวงหาแนวทางพัฒนาเทคโนโลยีพ้ืนบ้านและเทคโนโลยีสมัยใหม่ให้เหมาะสมกับ การดารงชีวติ และการประกอบอาชีพของคนในท้องถ่ิน รวมถึงการแสวงหาแนวทางเพ่ือส่งเสรมิ ให้เกิดการ จัดการการบารงุ รกั ษาและการใชป้ ระโยชน์จากทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดลอ้ มอย่างสมดุลและยั่งยืน (8) ศึกษาวิจัย ส่งเสริมและสืบสานโครงการอันเน่ืองมาจากแนวพระราชดาริในการปฏิบัตภิ ารกิจ ของมหาวทิ ยาลัยเพ่อื การพฒั นาทอ้ งถ่นิ

11 ประกอบกับจากการวิเคราะห์ประเมินตนเอง ผ่านระบบการประเมินตนเองและการจัดกลุ่ม สถาบันอุดมศึกษาเชิงยุทธศาสตร์ (Thai University Strategic Classification and Self-Assessment System - UCLAS) เพ่ือรองรับการประเมินตนเองตามตัวชี้วัดกลุ่มยุทธศาสตร์ของสถาบันอุดมศึกษา ตาม กฎกระทรวงการจัดกลมุ่ สถาบันอดุ มศกึ ษา พ.ศ. 2564 ที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษา พบว่า มหาวทิ ยาลัย ราชภัฏอุตรดิตถ์ มีความพร้อมที่จะพัฒนาตนเองสู่การเป็นมหาวิทยาลัยใน กลุ่มที่ 3 พัฒนาชุมชนท้องถิ่น หรือชุมชนอื่น (Area-Based and Community) เน่ืองจากมีผลการประเมินดีท่ีสุดมีความพร้อมทั้ง ในด้าน ศักยภาพของสถาบันอุดมศึกษา (Potential) และในด้านผลการดาเนินงานของสถาบันอุดมศึกษา (Performance) การประเมินศกั ยภาพภายในองคก์ รท่สี าคญั ของมหาวิทยาลัยราชภฏั อุตรดิตถ์ 1. ด้านการเรยี นการสอน 1.1 คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์ ได้รับการยอมรับด้านคุณภาพในการ ผลติ บัณฑิตครจู ากโรงเรยี นในเขตบริการอุตรดิตถ์ แพร่ นา่ น สุโขทัย พษิ ณโุ ลก โดยดไู ด้จาก จานวนนักเรียน ท่ีสนใจสมคั รเข้าเรยี นในคณะครศุ าสตร์ท่ีมีจานวนมากเกนิ กว่าแผนการรบั นกั ศึกษาทุกปีการศึกษา 1.2 มีหลักสูตรและการจัดการเรียนการสอนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนการสอน เชิง บรู ณาการกับการทางาน (WIL) ท่ีเป็นหลักสูตรหน่งึ ของการเรยี นการสอนในระดับปรญิ ญาตรี เป็นระบบสห กิจศึกษา ซึ่งมีหลักสูตรที่ส่งนักศึกษาไปปฏิบัติงานสหกิจศึกษา จานวน 32 หลักสูตร และได้รับรางวัล ผลงานสหกิจศึกษาดเี ดน่ ระดับชาติ ประจาปี พ.ศ. 2562 จานวน 3 รางวลั ได้แก่ 1) สถานศกึ ษาดาเนนิ การ สหกิจศึกษาดีเด่นระดับชาติ 2) ผู้ปฏิบัติการสหกิจศึกษาในสถานศึกษาดีเด่นระดับชาติ 3) ท่ีปรึกษาการ ทางานในสถานประกอบการดีเด่นระดับชาติ 2. ดา้ นการวจิ ัยพนั ธกิจสัมพันธ์ และบริการวชิ าการ 2.1 ระบบการบริหารจัดการเพื่อการขับเคลื่อนพันธกิจของมหาวิทยาลัยที่มีการบูรณา การทุกพันธกิจหลักของมหาวิทยาลัยในการทางานเพ่ือสงั คมชมุ ชนทอ้ งถ่ิน เช่น เชื่อมโยงการจัดการงานวิจัยของ ทุกคณะกับงานพัฒนาตาบลโดยหน่วยจัดการงานวิจัยและทีมงานท่ีเชื่อมกับตาบลของแต่ละคณะจะเชื่อม ข้อมูล ส ถาน การณ์ปัญห าจากพื้น ที่เพื่อการวิจั ย และปฏิบัติพัน ธ กิจ แ บบบูร ณาการ อย่างมีส่ วน ร่ ว มกับ เครือข่ายองค์กรภาคีเพ่ือแก้ปัญหาและพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนตามโจทย์ปัญหาของชุมชน โดย ชุมชนมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหาต้ังแต่ต้นน้ากลางน้าและปลายน้าโดยความร่วมมือขององค์กรท้องถิ่นและ ภาคีเครือข่าย ทาให้นักศึกษาคณาจารย์ชุมชนหน่วยงานภาครัฐและเอกชนเกิดการเรียนรู้ ในการแก้ปัญหา ร่วมกันนาไปสู่ความเข้าใจเข้าถึงและพัฒนา โดยมหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์ ใช้ระบบ RICNK โดย มหาวิทยาลัยเน้นการพัฒนากาลังคนในมหาวิทยาลัยให้มีอุดมการณ์ มีความรู้และทักษะในการทางาน วิชาการเพื่อสังคม อย่างเป็นระบบและต่อเน่ือง โดยการออกแบบการทางานเพ่ือสร้างกลไกเชิงระบบท่ี เชื่อมงานประกันคุณภาพองค์กรกับการพัฒนาพ้ืนท่ีเพื่อให้มีการสานพลังจากทุกคณะร่วมกับองค์กรภาคี มี การยกระดับคุณภาพงานวิชาการเพ่ือรับใช้สังคม และเกิดการพัฒนาระบบการรับรองคุณภาพงาน วชิ าการเพือ่ สังคม เพ่อื ให้เกิดความก้าวหนา้ ในวชิ าชพี ของบุคลากรโดยการสนับสนุนบคุ ลากรในการขอ

12 ตาแหน่งทางวิชาการรับใช้สังคม ผลจากการดาเนินงานดังกล่าวช่วยให้มหาวทิ ยาลัยราชภัฏอตุ รดิตถเ์ ปน็ ที่ ยอมรับในระดับชาติและเป็นต้นแบบการบริหารพันธกิจแบบบูรณาการเพื่อชุมชนท้องถิ่นเข้มแข็งหรือที่ เรียกว่า “อุตรดติ ถ์โมเดล1” 2.2 นวัตกรรมการบริหารจัดการงานวิจัยแบบบูรณาการเพื่อพัฒนาพ้ืนที่ โดยมีสถาบันวิจัย และพัฒนา และหน่วยจัดการงานวิจัยระดับคณะ/หน่วยงาน ที่ทาหน้าท่ีเชื่อมข้อมูลสถานการณ์ปัญหาจาก พ้ืนท่ีเพื่อการวิจัยของบุคลากรในหน่วยงานโดยหน่วยจัดการงานวิจัยจะเป็นกลไกที่ช่ว ยเรื่องฐานข้อมูล งานวิจัยและงานบริการวิชาการ รวมทั้งเป็นกลไกในการพัฒนานักวิจัย ในการเป็นมหาวิทยาลัยพันธกิจ สมั พันธ์กับสังคม และร่วมออกแบบระบบกลไกของหน่วยงานร่วมกับมหาวิทยาลัยเพื่อให้เกิดการการบรู ณา การการเรียนการสอน งานบริการวิชาการ และงานวิจัยเข้าด้วยกัน และมหาวิทยาลัยฯ ได้มีการจัดสรร งบประมาณให้คณะสาหรับการบรหิ ารจดั การงานวิจัยเพื่อใหค้ ณะสร้างนวัตกรรมการบรหิ ารจดั การงานวจิ ัย ซึ่งจากการดาเนินงานที่ผ่านทาให้เกิดกลไกในการบริหารจัดการงานวิจัยในพื้นที่ คือ หน่วยจัดการความรู้ และวิจัยชุมชน (TRMU) ซึ่งเป็นหน่วยประสานงานระหว่างมหาวิทยาลัยฯ กับพื้นท่ี และในยุคปัจจุบันซ่ึง ก้าวส่ยู ุคของการสร้างกระบวนการ กลไก และระบบเพ่อื พฒั นาการเชอื่ มประสานการทางานรว่ มกันเพอ่ื การ พัฒนาพ้ืนท่ีของหน่วยจัดการงานวิจัยของมหาวิทยาลัย (RMU) และหน่วยจัดการความรู้และวจิ ัยชมุ ชน (TRMU) โดยให้สอดคล้องกับพันธกิจหลักของมหาวิทยาลัย คือ สอน วิจัย บริการวิชาการ และทานุบารุง ศลิ ปวฒั นธรรม สง่ ผลต่อการพฒั นาชุมชนใหเ้ กิดความเขม้ แข็งสามารถพึ่งตนเองได้อย่างย่งั ยืน 2.3 การมีภาคีเครอื ขา่ ยเปน็ กลไกการทางานเพ่อื สนบั สนุนข้อมลู โจทย์หรอื ประเด็นสาคัญของ พื้นที่ จากการขับเคลื่อนงานวิจัยและพัฒนาเชิงพ้ืนท่ีทาให้มีการเชื่อมโยงข้อมูลท่ีเก่ียวข้องเพ่ือใช้ประโยชน์ ร่วมกันระหว่างมหาวิทยาลยั กับองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน และองค์กรภาคีโดยมีองค์ปกครองสว่ นท้องถ่ิน ซึ่งมีหน่วยจัดการความรู้และวิจัยชุมชน (TRMU) เป็นแกนหลักในการส่งต่อข้อมูล โจทย์หรือประเด็น สาคัญในพ้ืนท่ีใหก้ ับหน่วยจดั การงานวิจัยของมหาวิทยาลยั ซึ่งองค์ประกอบสาคัญในการกาหนดยุทธศาสตร์ แผนงาน โครงการที่สนองต่อปัญหาความต้องการในชุมชนท้องถ่ินของตาบล เกิดเครือข่ายการทางานเชิง ประเด็นร่วมกับภาคประชาชน (NGOs) 7 เครือข่าย (เครือข่ายเกษตรทางเลือก เครือข่ายสวัสดิการชุมชน เครือขา่ ยการจัดการที่ดิน เครือข่ายท่องเทีย่ วสีเขยี วและวสิ าหกจิ ชุมชน เครือข่ายเดก็ และเยาวชน เครือข่าย ท้องถิ่น-ทอ้ งท่ี และเครือขา่ ยการเรียนรู้) และยงั มีเครอื ขา่ ยความรว่ มมอื กบั องค์กรภาคีสนับสนุนทง้ั ภายและ ภายนอก ได้แก่ ผู้ว่าราชการจงั หวัด สานักงานจังหวัด สานักงานท้องถิ่นจังหวัด สานกั งานพัฒนาสังคมและ ความมนั่ คงของมนุษย์จังหวัด สานักงานสาธารณสขุ จังหวดั องค์การบริหารส่วนจงั หวัด สานักงานเขตพ้ืนที่ การศึกษาประถมศึกษา สานักงานเขตพื้นท่ีการศึกษามัธยมศึกษา สภาเกษตรกรจังหวัด เกษตรจังหวัด เกษตรและสหกรณจ์ งั หวัด หอการค้า พาณิชยจ์ ังหวดั อสุ าหกรรมจังหวัด วฒั นธรรมจงั หวดั พลังงานจงั หวัด 1 มหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์ เป็นตัวแบบในการนาหลักการและแนวปฏิบัติของมหาวิทยาลัยพันธกิจเพ่ือสังคมมาใช้ในการเปล่ียนแปลง ระบบการบริหารจดั การของมหาวิทยาลัยในทุกองคาพยพ ให้สามารถบูรณาการพนั ธกิจหลักเพ่ือขับเคลื่อนการพัฒนาท้องถ่นิ ผ่านการเรียนรู้ และปรับตัวอย่างตอ่ เนอ่ื ง

13 การท่องเท่ียวและกีฬา และพัฒนาชุมชนจังหวัด ภาคสนับสนุนภายนอก ได้แก่ สานักงานหลักประกัน สุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) สานกั งานกองทุนสนับสนนุ การวิจัย (สกว.) และ สานักงานกองทุนการสร้างเสริม สุขภาพ (สสส.) เป็นตน้ 2.4 มีระบบเรียนรู้และพัฒนานวัตกรรมการเรียนรู้จากการประสบการณ์ร่วมกับภาคี เครือขา่ ยทยี่ กระดับคณุ ภาพต่อเนื่อง พรอ้ มคู่มือเครื่องมือเพอ่ื ต่อยอดขยายผล เช่น หลกั สูตรเสริมสมรรถนะ บุคลากรวิจัยเชิงพ้ืนที่ 4 หลักสูตร ได้แก่ หลักสูตรเสริมสมรรถนะนักจัดการข้อมูลเพื่อการวิจัยเชิงพื้นที่ หลักสูตรเสรมิ สมรรถนะนักวิจัยเชิงพื้นที่ หลักสูตรเสริมสมรรถนะนักบริหารงานวิจัยเชิงพน้ื ท่ี และหลักสูตร เสริมสมรรถนะท่ีปรึกษาวิชาการวิจัยเชิงพ้ืนท่ี และหลักสูตรเสริมสมรรถนะผู้นาบุคลากรวิจัยและพันธกิจ สัมพันธ์ หลักสูตรเสรมิ สมรรถนะแกนนาการสร้างเสริมสุขภาวะ 5+2 หลักสูตร เป็นต้น รวมถึงมีนวัตกรรม องค์ความรู้ ชุดความรู้เพ่ือการพัฒนาพื้นที่ที่พร้อมนาสู่การต่อยอดและขยายผล เช่น ประเด็นเศรษฐกิจ ชุมชน ประเด็นเกษตรและอาหารปลอดภัย ประเด็นการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม ประเด็นเด็กและเยาวชน และประเดน็ สุขภาพ เป็นตน้ 2.5 ผู้บริหารระดับสูงที่มีประสบการณ์ด้านการวิจัยบูรณาการเพื่อท้องถิ่น และมีผู้บริหาร งานวิจัยท่ีทางานต่อเนื่องในลักษณะของเครือข่ายความร่วมมือกับองค์กรภาคีท้ังภายในและภายนอก รวมถงึ บคุ ลากรของมหาวทิ ยาลยั ราชภัฏมคี วามสัมพนั ธใ์ กล้ชิดและทางานวิจยั รว่ มกบั องค์กรทอ้ งถิ่นตอ่ เนื่อง อาจารย์ บุคลากรที่ความผูกพันธ์กับท้องถ่ินและมีความรู้ความสามารถ มีความเช่ียวชาญเป็นท่ียอมรับของ ชมุ ชนและสังคม 2.6 มีเครือข่ายความร่วมมือกับหน่วยงาน ชุมชน ท้องถ่ินท้ังด้านการผลิตและพัฒนาครู การวิจัย การบริการวิชาการ และการทานุบารงุ ศิลปวฒั นธรรมที่เขม้ แข็ง อกี ท้ังชมุ ชนยงั ใหค้ วามรว่ มมือและ ยอมรับในการจดั กิจกรรมทาให้สามารถพฒั นาตอ่ ยอดองคค์ วามรู้เพ่ือการพัฒนาท้องถิ่นได้อย่างต่อเนอื่ งและ ย่งั ยืน อีกทั้งยังเป็นแหล่งบริการวิชาการมีองค์ความรู้อันเกิดจากการบูรณาการการจัดการเรียนการสอนกับ การวิจยั และการบริการวิชาการสามารถให้บริการวชิ าการท่หี่ ลากหลายแก่ผู้สนใจอยา่ งกว้างขวางและเปน็ ที่ ยอมรบั ในชุมชนท้องถ่นิ 2.7 มหาวิทยาลัยกาหนดนโยบายด้านการดาเนินเพ่ือพัฒนาชุมชนท้องถ่ินที่ชัดเจนจน นาไปสู่การเป็นต้นแบบชุมชนท้องถ่ินที่สามารถพัฒนาตนเองได้อย่างย่ังยืน รวมถึงการมีนโยบายส่งเสริม สนบั สนุนความร่วมมอื ทางวชิ าการกับหน่วยงานภายนอกทั้งภาครัฐ เอกชน ชุมชน ท้องถน่ิ ในการดาเนินงาน โครงการบริการวชิ าการแกส่ งั คม 2.8 นวัตกรรม องค์ความรู้เพ่ือการพัฒนาพื้นท่ีที่พร้อมต่อยอดและขยายผลสู่การใช้ ประโยชน์ เช่น องค์ความร้แู ละนวัตกรรมเกย่ี วกับระบบการจัดการสุขภาวะโดยชุมชน ประกอบด้วย ระบบ การจัดการสุขภาวะโดยชุมชนรายตาบล กลไกการจดั การ(แผน/ประชาคม) คู่มือ เครื่องมือ และแนวทางการ ดาเนินงานในชุมชน (เช่น บัญชีครัวเรือน แผนชุมชน) ชุดโจทย์วิจัยและพัฒนาชุดองค์ความรู้จากงานวิจัยและ พฒั นา องค์ความรู้จากรายงานผลการวิจัยจากทุกตาบลที่เป็นเครือข่าย ชุดความรู้เกี่ยวกับเกษตรทางเลือก การจดั สวสั ดิการชมุ ชน การจัดการที่ดิน การท่องเท่ยี วสีเขียวและวิสาหกจิ ชุมชน เครอื ข่ายเด็กและเยาวชน

14 เครือข่ายท้องถิ่น-ท้องที่ และเครือข่ายการเรียนรู้ องค์ความรู้เก่ียวกับรูปแบบการบริหารแบบบูรณาการเพื่อ ส่งเสรมิ ธุรกิจเกษตรข้าวอินทรีย์ การจัดการธุรกิจเกษตรข้าวอินทรีย์ของเครือข่ายทั้งภายในและภายนอก การจัดการเรียนรู้เพิ่มขีดความสามารถธุรกิจเกษตรอินทรีย์ของเกษตรกรและภาคี การใช้ข้อมูลและพัฒนา ฐานข้อมลู และการพัฒนานวัตกรรม องค์ความรู้และภูมปิ ัญญา และนอกจากนี้ยังมีนวัตกรรมทเ่ี ป็นเคร่ืองมอื ใน การลดตน้ ทุนการผลติ ขา้ วอินทรีย์ ได้แก่ เครื่องโรยดิน เครื่องหยอดเมล็ดข้าวนาโยน เป็นต้น ชุดความรู้และ นวัตกรรมในการปอ้ งกันและแก้ไขปัญหาการต้งั ครรภ์ในวัยรุ่น และรปู แบบการสร้างรายได้ดว้ ยเกษตรมูลค่า สูงจากระบบวนเกษตรบนทิวเขาผปี ันน้าตะวันออกในเขตจังหวัดอุตรดิตถ์บนวิถีการอนุรักษพ์ ้ืนทป่ี ่าไม้อย่าง ย่ังยืน ระบบฐานข้อมูลเพ่ือการแจ้งเตือนภัยพิบัติธรรมชาติจังหวัดอุตรดิตถ์ ระบบการจัดการคุณภาพ ผลผลิตตามมาตรฐานส่ิงบ่งช้ีทางภูมิศาสตร์ (GI) ทุเรียนหลงลับแล-หลินลับแล ระบบสารสนเทศเพ่ือใช้ใน การเฝ้าติดตามปัจจัยที่มีผลกระทบต่อการผลิตและภัยธรรมชาติแบบเรียลไทม์ในพื้นที่วนเกษตร จังหวัด อุตรดิตถ์ รูปแบบการบริหารจัดการดิน น้า ป่า ในระบบวนเกษตรจังหวัดอุตรดิตถ์ แนวทางการบริหาร จัดการมาตรฐานคุณภาพทุเรียนหลงลับแล-หลินลับแล จังหวัดอุตรดิตถ์ การพัฒนาขีดความสามารถของ นักวิจัยท่ีนาผลการวิจัยเชิงพ้ืนท่ี ไปสู่การตีพิมพ์เผยแพร่ การสร้างสินค้าอัตลักษณ์ (signature product) การพัฒนาลางสาดอนิ ทรีย์ (grade premium) เพ่อื จาหน่ายในตลาด niche market ฯลฯ เป็นต้น

15 ภาพที่ 3.1 จานวนงานวิจยั ของมหาวทิ ยาลัยที่ดาเนนิ การในช่วงปงี บประมาณ 2559 - 2564 ภาพท่ี 3.2 กรณีตัวอยา่ งนวัตกรรม องคค์ วามร้ทู ี่เชื่อมโยงกบั เปา้ หมาย วสิ ัยทศั ย์การพฒั นาของพนื้ ที่ กลมุ่ จังหวัดภาคเหนือ (อตุ รดติ ถ์ แพร่ นา่ น)

16 2.9 การมีกลไกท่ีชัดเจนในดาเนินงานพันธกิจสัมพันธ์กับสังคมเพื่อให้การบริหารจัดการ ตามพันธกิจของมหาวิทยาลัย มีระบบและกลไกการขับเคลื่อนงานท่ีมีความชัดเจน เหมาะสม และสามารถ นาไปสู่การปฏิบัติได้อย่างเป็นรูปธรรมตามยุทธศาสตร์การดาเนินงานพันธกิจสัมพันธ์มหาวิทยาลัยราชภัฏ อุตรดิตถ์กับสังคมโดยดาเนินงานแบบบูรณาการพันธกิจอย่างมีส่วนร่วมมีการใช้ทรัพยากรรว่ มกัน มีจุดเน้น ตามความเหมาะสมท้ังเชิงประเด็นและเชงิ พ้ืนท่ี มกี ารทางานเป็นประเด็นเชงิ ยุทธศาสตร์เฉพาะเปน็ ไปอย่าง มีประสิทธิภาพและเกิดผลดีต่อมหาวิทยาลัยฯ มหาวิทยาลัยฯ จึงได้จัดต้ังศูนย์ประสานงานเพ่ิมขึ้นมาอีก 5 ศนู ย์ เพ่ือดาเนินการในประเด็นต่าง ๆ ดังน้ี ศูนย์บูรณาพันธกิจสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์ ศูนย์ ประสานงานความหลากหลายทางชีวภาพ วัฒนธรรมและภูมิปัญญา ศูนย์ประสานงานโครงการส่งเสริม บคุ ลากรด้านวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและนวัตกรรม ศูนย์ประสานงานการพัฒนาศักยภาพพื้นท่ีชายแดนภูดู่ ไทย-สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เครอื ข่ายการวจิ ัยและพัฒนาชุมชนท้องถนิ่ นา่ อยู่ เปน็ ต้น 3. ด้านการทานบุ ารุงศิลปวัฒนธรรม หลักสูตรวิทยาศาสตร์การกีฬา คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มกี ารสบื สานศลิ ปะมวยไทยและดาบไทย ท่ีได้รบั ความสนใจจากนักศกึ ษาภายในมหาวทิ ยาลัยเข้าร่วมชมรมเป็นจานวนมาก และไดร้ บั เชิญไปทาการ แสดงในงานสาคัญต่าง ๆ ทงั้ ในจังหวัดและพน้ื ท่ีใกล้เคียง ดังน้ันทั้งจากบริบทท่ีกล่าวทั้งหมดในข้างต้น มหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์จึงได้มี จุดเน้น และ ความเช่ียวชาญในด้านการพัฒนาท้องถิ่นท่ีโดดเด่น ตามปรัชญาการเป็นมหาวิทยาลัยเพ่ือการศึกษาและ พัฒนาชุมชนท้องถ่ิน และเอกลักษณ์ “มหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์เป็นปัญญาของชุมชน (Wisdom of Community)” และในการพลกิ โฉมของมหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดติ ถ์ในครัง้ นี้ มหาวิทยาลยั ฯ จงึ ไดม้ ่งุ ผลิต บัณฑิตตามความเชี่ยวชาญในด้านการพัฒนาท้องถิ่นแบบบูรณาการศาสตร์โดยมี สาขาความเช่ียวชาญที่ มุ่งเน้นคือสาขา นวัตกรรมและการจัดการอุตสาหกรรมการเกษตร กาหนดอัตลักษณ์บัณฑิตของ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์ เป็น “บัณฑิตนักคิด นักจัดการ สร้างงานด้วยความรู้คู่คุณธรรม” มีการ จัดการเรียนการสอน ในรูปแบบบูรณาการพันธกิจการเรียนการสอน การวิจัยและบริการวิชาการ ทางาน แบบมีส่วนร่วมของภาคีเครือข่าย ชุมชนและภาควิชาการ นาประเด็นปัญหาและความต้องการของชุมชน ท้องถิ่นในด้านต่างๆ โดยเฉพาะในด้านเกษตรภายในท้องถ่ิน เป็นโจทย์ในการแก้ปัญหาหรือพัฒนาร่วมกับ การใช้องค์ความรู้ วิจัยสร้างนวัตกรรมและเทคโนโลยีโดยใช้บุคลากรที่เช่ียวชาญหลากหลายสาขา และ สามารถบูรณาการข้ามศาสตร์เพ่ือแก้ปัญหาที่ซับซ้อนของชุมชนและสังคมได้ครอบคลุมทุกมิติ และเกิด ประสบการณ์การเรยี นรรู้ ว่ มกัน ทาให้ชุมชนเขม้ แข็งและสามารถพัฒนาแบบพึ่งตนเองได้ในที่สดุ

17 2.1.2 ความสอดคล้องกับยุทธศาสตรป์ ระเทศ แผนปฏบิ ัติราชการระยะ 5 ปี (พ.ศ. 2566 - 2570) ของมหาวิทยาลยั ราชภัฏ และยุทธศาสตรก์ ารพัฒนาพ้นื ท่ีในระดบั จงั หวัดและ กลุ่มจงั หวดั การพลิกโฉมสู่การเป็นมหาวิทยาลัย เพ่ือพัฒนาชุมชนท้องถ่ิน พ.ศ. 2566-2570 (Area-Based and Community Engagement University) ของมหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์มีความสอดคล้องและ เชอ่ื มโยงกับยุทธศาสตร์ 20 ปี ในยทุ ธศาสตร์ชาติ 2 ด้านหลักไดแ้ ก่ ในยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาและเสริมสร้างทรัพยากรมนุษย์ เป้าหมายยุทธศาสตร์ชาติในเร่ือง คนไทยเป็นคนเก่งมีคุณภาพพร้อมสาหรับวิถีชีวิตในศตวรรษท่ี 21 ในประเด็นเร่ือง การพัฒนาศักยภาพคน ตลอดช่วงชีวิต การเสริมสร้างให้คนไทยมีสุขภาวะที่ดี การปฏิรูปกระบวนการเรียนรู้ที่ตอบสนองการ เปลี่ยนแปลงในศตวรรษท่ี 21 และในประเด็นแผนแม่บทการพฒั นาศกั ยภาพคนตลอดชว่ งชวี ิต และยุทธศาสตร์ด้านการสร้างโอกาสความเสมอภาคทางสังคม เป้าหมายยุทธศาสตร์ในเรื่อง เพิม่ ขดี ความสามารถของชุมชนทอ้ งถน่ิ ในการพัฒนาตนเองและการจัดการตนเองเพอื่ สรา้ งสังคมคุณภาพ ใน ประเด็นเรื่อง การสร้างเพิ่มขีดความสามารถของชุมชนท้องถิ่นในการพัฒนาตนเองและการจัดการตนเอง การเสริมสร้างศักยภาพของชุมชนในการพึงพาตนเองและพึงพากันเอง และในประเด็นแผนแม่บทพลังทาง สงั คม โดยจากกรอบเป้าหมายของยุทธศาสตร์ชาติทั้ง 2 ด้าน และประกอบกับมหาวิทยาลัยราชภัฏ อุตรดิตถ์จัดอยู่ในกลุ่มมหาวิทยาลัยเพ่ือการพัฒนาชุมชนเชิงพื้นที่ มุ่งเน้นการสร้างและพัฒนาบุคลากรท่ีมี ทักษะสูงตามความต้องการของท้องถิ่น และพัฒนาท้องถ่ินด้วยองค์ความรู้และนวัตกรรม โดยนโยบายของ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม คาดหวังผลลัพธ์ในการดาเนินงานของ มหาวิทยาลัยหลกั คือ 1. มีองคค์ วามรู้และนวตั กรรมท่สี ามารถนาไปพฒั นาพื้นทโ่ี ดยเนน้ การกระจายรายไดแ้ ละลดความ เหล่อื มล้าของประเทศ 2. สร้างบณั ฑติ ที่มที กั ษะสงู ตอบโจทยก์ ารพฒั นาพนื้ ทีห่ รือท้องถนิ่ 3. พฒั นาวิสาหกิจชุมชนใหม้ ที ักษะการบรหิ ารจัดการ การหาตลาด ตลอดจนการสร้างอาชีพอย่าง ยง่ั ยืน แผนปฏบิ ตั ิราชการระยะ 5 ปี (พ.ศ. 2566 - 2570) ของมหาวิทยาลยั ราชภฏั แผนปฏิบัติราชการระยะ 5 ปี (พ.ศ. 2566 – 2570) ของมหาวิทยาลัยราชภัฏ มีความสอดคล้อง กบั การขบั เคลอื่ นปจั จยั การพลิกโฉมของประเทศ โดยกาหนดแผนปฏิบัติการ 4 ดา้ น ได้แก่ แผนปฏิบัติราชการเรื่องท่ี 1 การพัฒนาท้องถ่ิน มีเป้าหมายเพ่ือพัฒนาและแก้ไขปัญหาของ ท้องถน่ิ โดยให้นักศึกษา อาจารย์ และบคุ ลากร เขา้ ไปมีส่วนร่วมในการบูรณาการศาสตร์ เพ่ือยกระดับด้าน เศรษฐกิจ ยกระดับด้านสังคม แก้ไขปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม และยกระดับคุณภาพด้านการศึกษา ให้แก่ ประชาชน ชุมชนทอ้ งถิน่ โรงเรยี น ในเขตพืน้ ท่ีทีม่ หาวทิ ยาลัยราชภฏั รบั ผดิ ชอบ

18 แผนปฏิบัติราชการเร่ืองที่ 2 การผลิตและพัฒนาครู โดยมีเป้าหมาย เพ่ือผลิตบัณฑิต ครมู หาวิทยาลยั ราชภัฏ ใหม้ อี ตั ลักษณ์ และสมรรถนะเป็นเลศิ เป็นทต่ี ้องการของผใู้ ช้บณั ฑิต สรา้ งบัณฑิตครู ของมหาวิทยาลัยราชภัฏสมบูรณ์ด้วยคุณลักษณะ 4 ประการ และถ่ายทอด/บ่มเพาะให้ศิษย์แต่ละช่วงวัย ส่งเสริมและสนับสนุนให้บัณฑิตครูมหาวิทยาลัยราชภัฏท่ีเข้าสู่วิชาชีพใด้รับการเสริมสมรรถนะเพ่ือรองรับ การเปลี่ยนแปลง แผนปฏิบัติราชการเรื่องท่ี 3 การยกระดับคุณภาพการศกึ ษา โดยมีเปา้ หมาย เพื่อให้มหาวิทยาลัย ราชภัฏ มีความเป็นเลิศ ในการพัฒนาและยกระดับสมรรถนะของบัณฑิตให้สอดรับความต้องการของ ประเทศ ยกระดับคุณภาพบัณฑิตให้เป็นท่ีต้องการของผู้ใช้บัณฑิต ด้วยอัตลักษณ์ด้านสมรรถะและ คุณลักษณะ 4 ประการ พร้อมรองรับบริบทที่เปลี่ยนแปลง รวมถึงส่งเสริมอาจารย์และบุคลากรทางการ ศึกษาทุกสาขาวชิ าเปน็ มอื อาชีพ มสี มรรถนะเปน็ ที่ยอมรับในระดับชาตแิ ละนานาชาติ แผนปฏิบัติราชการเรื่องที่ 4 การพัฒนาระบบบริหารจัดการ โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อให้ มหาวิทยาลัยราชภัฏได้รับการยอมรับระดับชาติ และนานาชาติด้านการเป็นสถาบันการศึกษาเพือ่ ท้องถ่ินที่ สร้างความม่ังคงให้กับประเทศ มีระบบบริหารที่มีประสิทธิภาพ และคล่องตวั มุ่งเน้นการสร้างธรรมาภิบาล ความพร้อมและความสามารถปรับตัวในการก้าวสู่การเปน็ มหาวิทยาลยั ในกากับของรัฐอย่างมีประสิทธิภาพ และประสิทธิผล ยุทธศาสตร์การพัฒนาพนื้ ทใี่ นระดับจังหวัด ยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัดอุตรดิตถ์เป้าหมายการพัฒนาจังหวัด “จังหวัดอุตรดิตถ เป็นเมือง ที่ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดี มีผลผลิตทางการเกษตรที่ปลอดภัย การทองเที่ยวมีการพัฒนา และการค้า ชายแดนมมี ลู คา่ สูงขน้ึ โดยมีเปา้ หมายคือ 1. เสริมสรา้ งบา้ นเมืองให้นา่ อยู่ สร้างชุมชนและครอบครวั เข้มแขง็ เพื่อใหม้ ีคุณภาพชีวิตทดี่ ี 2. พัฒนาทุนทางวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถ่ิน และทรัพยากรธรรมชาติเพื่อส่งเสริมและสนับสนุน การทอ่ งเทีย่ วอย่างย่งั ยนื 3. พัฒนาเกษตรกรรม ผลิตภัณฑ์ OTOP SMEs วิสาหกิจชุมชนอุตสาหกรรม ให้มีคุณภาพ ปลอดภัยไดม้ าตรฐาน มมี ลู คา่ เพมิ่ และมีการบรหิ ารจัดการด้านการตลาดสมยั ใหม่ 4. อนุรักษ์ ฟื้นฟู บริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมแหล่งน้าและส่งเสริมการใช้ พลงั งานทีเ่ ป็นมิตรต่อส่งิ แวดลอ้ ม 5. เพมิ่ ศักยภาพ การคา้ การลงทนุ Logistic และความสัมพันธ์กบั ประเทศเพ่ือนบา้ น

19 ยทุ ธศาสตร์การพฒั นามหาวทิ ยาลัยราชภฏั อตุ รดิตถ์ ( พ.ศ. 2565-2569) มหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์ได้กาหนด วิสัยทัศน์ “มหาวิทยาลัยพันธกิจสัมพันธ์ที่มีคุณภาพ สรา้ งคณุ คา่ เพ่ือพัฒนาทอ้ งถิน่ ” มียุทธศาสตรใ์ นการดาเนินงานเพื่อให้บรรลุตามวิสัยทัศน์ดงั ต่อไปนี้ ยุทธศาสตร์ท่ี 1 ขับเคลื่อนการดาเนินงานตามแผนแมบ่ ท มเี ปา้ ประสงค์หลักคือการดาเนินการ พัฒนาท้องถ่นิ ในด้านเศรษฐกจิ สังคม สง่ิ แวดลอ้ ม และการศึกษา ยุทธศาสตรท์ ี่ 2 การพัฒนาพันธกิจหลักเพ่ือขับเคล่ือนสู่การเปน็ มหาวิทยาลัยพันธกิจสัมพันธ์ มเี ป้าประสงคห์ ลกั คือ การผลติ บณั ฑติ และการยกระดบั คุณภาพการศึกษา การพฒั นาดา้ นหลกั สูตรและการ จัดการศึกษา ด้านการพัฒนากาลังคนเพ่ือรองรับความเปล่ียนแปลงของประเทศ ด้านการพัฒนางานวิจัย เทคโนโลยีและนวัตกรรม ด้านการบริการวิชาการและ ศิลปวัฒนธรรม และโครงการอันเน่ืองมาจาก พระราชดาริ ยุทธศาสตร์ท่ี 3 การพัฒนาการบริหารจัดการสู่องค์กรที่มีสมรรถนะสูง มีเป้าประสงค์หลักคือ การพฒั นาระบบบริหารจดั การสคู่ วามเป็นเลิศ ด้านการพฒั นากายภาพ และดา้ นบุคลากร ยุทธศาสตร์ที่ 4 การพลิกโฉมมหาวิทยาลัยสู่ความเป็นเลิศ มีเป้าประสงค์หลักคือ การสนับสนุน การจัดการศึกษาตลอดชีวิตและการพัฒนาทักษะเพื่ออนาคตในรูปแบบ non-degree และ degree และ เพ่ิมทักษะด้านการประกอบอาชีพและการทางาน การพัฒนาคนและสถาบันความรู้ชุมชนเชิงพื้นที่ มุ่งเน้น การสร้างและพัฒนาบคุ ลากรที่มีทกั ษะสูงตามความต้องการของท้องถ่นิ

20 ผงั แสดงความเช่ือมโยงระหว่างยุทธศาสตรช์ าติ ยุทธศาสตร์เพ่อื การพฒั นาการอุดมศึกษา ยทุ ธศาสตร์จังหวัด และทิศทางการขบั เคลอื่ นของมหาวิทยาลัย ยุทธศาสตรช์ าติ ด้านการพฒั นาและเสรมิ สรา้ ง ยทุ ธศาสตรช์ าตดิ ้านการสร้าง ยุทธศาสตรช์ าติดา้ นการสรา้ งโอกาส ยทุ ธศาสตร์เพ่ือ ศกั ยภาพทรพั ยากรมนษุ ย์ ความสามารถในการแข่งขนั และความเสมอภาคทางสงั คม การพฒั นาการ พัฒนาศกั ยภาพคน สง่ เสริมระบบนิเวศวจิ ยั อุดมศึกษา จัดระบบอดุ มศึกษาใหม่ อดุ มศกึ ษา (Capacity Building) (Research Ecosystem Building) (Higher Education Transformation) ยุทธศาสตร์ จงั หวดั อตุ รดิตถ์ เสริมสร้าง พัฒนาทุนทาง พัฒนาเกษตรกรรม อนุรกั ษ์ ฟ้นื ฟู เพม่ิ ศักยภาพ บ้านเมืองให้ วัฒนธรรม ภูมิ ผลิตภัณฑ์ OTOP บริหารจัดการ การคา้ การ น่าอยู่ สร้าง ปญั ญาทอ้ งถิ่น SMEs วสิ าหกจิ ทรพั ยากรธรรมชาติ ชมุ ชนและ ชมุ ชน อุตสาหกรรม และสงิ่ แวดล้อม ลงทนุ ครอบครัว และ แหลง่ นา้ และ Logistic และ ทรพั ยากรธรรมชา ใหม้ คี ุณภาพ ส่งเสริมการใช้ ความสมั พันธ์ เข้มแขง็ ติเพอื่ ส่งเสรมิ และ ปลอดภยั ได้ พลงั งานทเ่ี ป็นมติ ร กบั ประเทศ เพือ่ ใหม้ ี มาตรฐาน มี ตอ่ สิ่งแวดล้อม เพอื่ นบ้าน คณุ ภาพชีวติ สนับสนุนการ มูลคา่ เพม่ิ และมี ทอ่ งเทย่ี วอย่าง การบรหิ ารจัดการ ทีด่ ี ยง่ั ยนื เพอ่ื ให้มี ด้านการตลาด คุณภาพชีวติ ที่ดี สมัยใหม่ ทศิ ทางในการ วสิ ยั ทศั น์ “มหาวทิ ยาลยั พนั ธกิจสมั พันธ์ทีม่ คี ณุ ภาพ สร้างคณุ ค่าเพอ่ื พฒั นาท้องถิน่ ” พัฒนา ขบั เคลื่อนตาม การพัฒนาพันธกิจ การพฒั นาการ พลกิ โฉม มหาวิทยาลัย แผนแม่บท หลักเพอื่ ขบั เคลอื่ นสู่ บริหารจัดการสู่ มหาวิทยาลัยสู่การ ยุทธศาสตร์ การเป็นมหาวิทยาลัย เป็นมหาวิทยาลยั ราชภฏั เพ่อื การ องคก์ รที่มี เพ่ือพัฒนาชุมชน พฒั นาท้องถิ่น พนั ธกจิ สัมพันธ์ สมรรถนะสูง ท้องถ่นิ 45 (3)

21 2.1.3 เป้าหมายของการพลิกโฉมสถาบันอดุ มศึกษา การพลิกโฉมมหาวิทยาลัยสู่ความเป็นเลิศการเป็นมหาวิทยาลัยเพื่อพัฒนาชุมชนท้องถ่ิน พ.ศ. 2566-2570 (Area-Based and Community Engagement University) ของมหาวิทยาลัยราชภัฏ อุตรดิตถ์ ได้กาหนดวิสัยทัศน์ คือ “มหาวิทยาลัยพันธกิจสัมพันธ์ท่ีมีคุณภาพ สร้างคุณค่าเพื่อพัฒนา ทอ้ งถ่นิ ” โดยมีเป้าหมาย มุ่งสู่การพัฒนาชุมชนท้องถิ่น และชุมชนท่ีมีวัตถุประสงค์หรือประโยชน์ร่วมกัน การเป็นแหล่งเรียนรู้ถ่ายทอดความรู้และเทคโนโลยีเพื่อสร้างความเข้มแข็งให้แก่ชุมชน และการให้ ประชาชนมีโอกาสเรียนรู้ตลอดชีวิตอันจะนาไปสู่การพัฒนาท่ียั่งยืน โดยกาหนดเป้าหมายย่อย 5 ด้าน ดังตอ่ ไปนี้ (1) เน้นการพัฒนาชุมชนท้องถ่ินและการสร้างศักยภาพให้สถานศึกษา องค์กรใน ชุมชนและ ประชาชนมีความเข้มแข็งในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมในท้องถิ่น โดยการพัฒนา หลักสูตรเพื่อการสร้างทักษะอนาคตในรูปแบบ non-degree และ degree เพ่ือการจัด การศึกษาตลอดชวี ติ ส่กู ารพฒั นาบุคลากรท่มี ีทักษะสงู ตามความต้องการของท้องถ่ิน (2) ผลิตบัณฑิตและเป็นแหล่งพัฒนาศักยภาพบุคลากรในพ้ืนที่ให้มีจิตสานึกและ ความรู้ ความสามารถเพ่ือเปน็ หลกั ในการ ขับเคลอ่ื น พัฒนา และเปล่ียนแปลงในระดับพืน้ ที่ (3) ดาเนินการวจิ ัยและสร้างนวัตกรรมเพื่อ นาความรู้ทไี่ ด้ไปใชใ้ นการพัฒนาชุมชน (4) สืบสานและอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมและ ภูมิปัญญาท้องถิ่น ประยุ กต์และพัฒนา ศิลปวัฒนธรรมและภมู ปิ ญั ญาท้องถ่ินให้เข้า กบั ยคุ สมัยเพ่ือเพิม่ คณุ คา่ และมูลคา่ (5) ส่งเสริมการสืบทอดและพัฒนาความรู้ จากผู้มีภูมิปัญญาด้านศิลปวัฒนธรรมและภูมิ ปัญญา ของท้องถิน่

22 2.2 การปฏิรูประบบบริหารในมหาวทิ ยาลยั ราชภฏั อตุ รดิตถ์ ทั้งน้ีในการพลิกโฉมของมหาวิทยาลัยน้ัน จะต้องมีการปฏิรูประบบการบริหารงานใน 4 ด้าน เพอ่ื ใหม้ หาวทิ ยาลยั มีความคลอ่ งตวั ในการทางานเพื่อใหบ้ รรลุเปา้ หมาย ไดแ้ ก่ 2.2.1 ด้านการบริหารบุคลากร ระบบการบริหารงานบุคลากรของมหาวิทยาลัยจะต้อง เร่งส่งเสริมการพฒั นาอาจารย์ทเี่ นน้ ศกั ยภาพการสร้างผลงานวชิ าการรบั ใช้สังคม และการทางานในรูปแบบ บูรณาการพันธกจิ การเรียนการสอน การวิจยั และบริการวิชาการ ทางานแบบมีส่วนร่วมของภาคีเครือข่าย ชุมชนและภาควิชาการ นาประเด็นปัญหาและความต้องการของชุมชนท้องถิ่น เป็นโจทย์ในการแก้ปัญหา หรือพัฒนาร่วมกับการใช้องค์ความรู้ วจิ ัยสร้างนวัตกรรมและเทคโนโลยี โดยสนับสนนุ ทุนอุดหนุนการวิจัย รวมถึงส่งเสริมให้อาจารย์ได้มีการแลกเปลี่ยนประสบการณ์การทางาน ใน ลักษณะการสลับการทางาน (mobility) และทาวิจัยรว่ มกับภาครัฐ ภาคเอกซน และภาคอุตสาหกรรม การสร้างเกณฑก์ ารคิดภาระงาน ของบคุ ลากรใหส้ อดคล้องกับการปฏบิ ัติงานในเชงิ พืน้ ที่การเป็นมหาวทิ ยาลัยเพอ่ื พัฒนาชมุ ชนท้องถิน่ โดยมหาวิทยาลยั ไดก้ าหนดเป้าหมายในการปฏริ ปู ระบบการบรหิ ารบคุ ลากร ดังต่อไปน้ี 1) พัฒนานกั วจิ ยั เชิงพื้นทที่ ้ังนักวจิ ยั ของมหาวิทยาลัยและนักวิจยั ชมุ ชน โดยมีตัวชวี้ ัดคอื สดั ส่วน ของนักวิจัยเชงิ พ้นื ท่ี ท่ีมขี ดี ความสามารถปฏบิ ัติงานวิชาการรบั ใช้สงั คม (Socially Engaged Scholarship) , ตาแหนง่ วชิ าการรับใชส้ ังคมของอาจารย์ท่เี พิม่ ขน้ึ 2) ปรบั โครงสร้างและภาระงานของบุคลากรใหส้ อดคล้องกับเกณฑ์มาตรฐานของสถาบนั อุดมศึกษา โดยมีตวั ช้ีวัดคอื รอ้ ยละของหนว่ ยงานมกี ารจัดทาคมู่ ือลักษณะงาน หนา้ ทีร่ บั ผดิ ชอบ ขอบเขต งาน (job Description) อย่างชดั เจน , ร้อยละของหน่วยงานที่มีการจดั ทาระบบ/กลไก ในการ พัฒนางานและมีแนวปฏบิ ตั ทิ ่ีดใี นการปฏิบัติงาน , พัฒนาความเชือ่ มโยงระบบและกลไกการ ทางานของบคุ ลากรระหว่างหนว่ ยงาน , บุคลากรของมหาวิทยาลัยมคี วามก้าวหนา้ ในอาชีพไม่ นอ้ ยกวา่ รอ้ ยละ 3 ตอ่ ป,ี บุคลากรของมหาวิทยาลยั ไดร้ ับการ Upskill และ Reskill เพ่อื ปรบั เปล่ียนการทางานและพัฒนาทกั ษะพนักงานเพื่อให้เกิดความรู้ ความสามารถท่ีเท่าทนั กบั อนาคต , จานวนอาจารย์ทผี่ ่านการอบรม การจัดการเรียนการสอนแบบบรู ณาการกับการทางาน (Cooperative and Work Integrated Education: CWIE) 2.2.2 ด้านแผน ระบบการเงินและงบประมาณ จากสถานการณ์ด้านงบประมาณท้ังการ ได้รับจัดสรรงบประมาณจากรัฐ และงบประมาณเงินรายได้ ของมหาวิทยาลัยที่มีแนวโน้มลงลดตามจานวน นักศึกษาที่ลดลงอย่างต่อเน่ือง มหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์ จึงได้มีการทบทวนแผนกลยุทธ์ 5 ปี และ กาหนดกลยุทธ์สาคัญในการบริหารงานตามพันธกิจ โดยกาหนดให้มกี ลยุทธ์ที่จะพัฒนาระบบและกลไกการ จัดหารายได้ที่เป็นรูปธรรมเพื่อสร้างความมั่นคงทางการเงิน ของมหาวิทยาลัย โดยมีมาตรการท่ีเก่ียวข้อง ได้แก่ การจัดทาแผนพัฒนาเพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษาในลักษณะการ Reprofile อย่างเป็นรูปธรรม โดยกาหนดเปา้ หมายเซิงปริมาณและคุณภาพ รวมถึงเวลาในการ บรรลุเปา้ หมายไวอ้ ย่างซดั เจน โดยจดั ให้มี การวางแผนงบประมาณลว่ งหน้า 3 ปี และอนุมตั กิ รอบวงเงิน ล่วงหน้าเพ่อื ใหก้ ารดาเนนิ งานมคี วามตอ่ เนือ่ ง

23 รวมถึงการส่งเสริม การพัฒนาหลักสูตรระยะสั้นเพ่ือรองรับการ เรียนรู้ตลอดชีวิตของ Non-Age Group เพื่อเป็นการจัดหารายได้อีกทางหน่ึง และสนับสนุนการสร้างความ ร่วมมือในการทางานกับหน่วยงานอ่ืน เพอื่ แสวงหาแหลง่ ทุนในลักษณะการสมทบงบประมาณ (Matching Fund) โดยมหาวิทยาลัยได้กาหนดเป้าหมายในการปฏิรูปด้านแผน ระบบการเงินและงบประมาณ ดงั ต่อไปนี้ 1) มีระบบการบรหิ ารจดั การงบประมาณท่มี ปี ระสทิ ธภิ าพและมี ขอ้ บงั คบั ระเบยี บของมหาวทิ ยาลัยที่ ทนั ต่อการเปลย่ี นแปลง โดยมีตวั ช้ีวดั คือ มกี ารวิเคราะหค์ วามคมุ้ ค่า ประสิทธิภาพ และ ประสิทธผิ ลในการใช้จ่ายงบประมาณ , ปรบั ปรุงระบบการบรหิ ารความเส่ียงและการควบคมุ ภายใน จานวนข้อบังคับ ระเบยี บ ของมหาวิทยาลยั ทท่ี นั ต่อการเปล่ยี นแปลง 2) เพิม่ ช่องทางการจดั หารายได้ของมหาวทิ ยาลัย โดยมตี วั ช้ีวัดคอื ชอ่ งทางการจัดหารายได้ของ มหาวิทยาลัยทีเ่ พ่ิมขนึ้ , เครอื ขา่ ยในการบริการวชิ าการท่ีสรา้ งรายไดใ้ ห้กับมหาวทิ ยาลยั ,รายไดท้ ี่ เพิ่มข้ึนจากชอ่ งทางการจัดหารายไดข้ องมหาวิทยาลยั 3) พฒั นาระบบงานสนิ ทรัพย์ของมหาวิทยาลยั ใหป้ ระสิทธภิ าพ โปร่งใส และตรวจสอบได้ มีระบบ สารสนเทศของมหาวิทยาลยั ที่ปลอดภัยและเชื่อถือได้ โดยมีตัวชี้วดั คือ มีระบบฐานขอ้ มลู งาน สนิ ทรัพย์ของมหาวทิ ยาลยั ท่ีเป็นปจั จบุ นั ,ความพงึ พอใจของผใู้ ช้งานระบบฐานข้อมูลงานสินทรพั ย์ ของมหาวทิ ยาลัย ,พัฒนาระบบสารสนเทศเสรมิ จากระบบ Growfa MIS เพอ่ื ใช้ติดตามงานดา้ น งบประมาณ , ขอ้ มูลรายงานสารสนเทศทางการเงินของมหาวทิ ยาลยั มคี วามเช่ือถือได้ 2.2.3 ด้านกฎ ระเบียบ ข้อบังคับ หลักเกณฑ์ ตามท่ีมหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์จะทา การพลิกโฉม โดยเน้นเร่ืองการส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต ดังนั้น จึงมีความจาเป็นต้องปรับเปลี่ยนกฎ ระเบียบ ข้อบังคับ ต่าง ๆ ที่เก่ียวข้องให้มีความคล่องตัวมากข้ึน เพื่อให้การดาเนินงานไม่ติดขัด เซ่น ข้อบังคับเก่ียวกับแนวทางการดาเนินงานระบบคลังหน่วยกิตระดับ อุดมศึกษา การเทียบโอนรายวิชา/ ประสบการณ์ ระเบียบการเบิกจ่ายงบประมาณเงินรายได้จากการบริการ วิชาการ ทั้งน้ี กฎ ระเบียบ ขอ้ บงั คบั ต่าง ๆ ขา้ งต้น จะไม่ขัดหรอื แย้งกับระเบยี บกระทรวงการคลงั หรอื ระเบยี บอน่ื ๆ ท่เี กีย่ วข้อง โดยมหาวิทยาลัยได้กาหนดเป้าหมายในการปฏิรูป ด้านกฎ ระเบียบ ข้อบังคับ หลักเกณฑ์ ดังต่อไปน้ี 1) มหาวิทยาลัยมี ข้อบงั คบั ระเบียบของมหาวิทยาลัยทีท่ นั ต่อการเปลี่ยนแปลง โดยมี ตัวชวี้ ัดคือ จานวนข้อบังคบั ระเบยี บ ของมหาวทิ ยาลัยท่ที ันต่อการเปลย่ี นแปลง , ร้อยละ ของหน่วยงานที่มีการจัดทาระบบ/กลไก ในการพัฒนางานและมแี นวปฏิบตั ทิ ี่ดีในการ ปฏิบัติงาน ,พัฒนาความเชอื่ มโยงระบบและกลไกการทางานของบุคลากรระหว่าง หนว่ ยงาน

24 2.3.4 ระบบธรรมาภิบาล มหาวิทยาลัยราซภัฏอุตรดิตถ์ ตระหนักและให้ความสาคัญกับ การบริหารด้วยหลักธรรมาภิบาล เป็นที่ต้ัง โดยกาหนดเป็นประเด็นยุทธศาสตร์สาคัญ ได้แก่ “การพัฒนา ระบบบริหารจัดการมหาวิทยาลัยให้ทันสมัย ได้มาตรฐาน มีธรรมาภิบาล และเป็นองค์กรแห่ง นวัตกรรม” ซงึ่ มุ่งเน้นการบริหารตามหลกั ธรรมภิบาล 10 หลัก มีการกากบั ติดตามในทุกระดับ ท้ังระดับ หนว่ ยงานและ ระดับบุคคล นอกจากนี้จะส่งเสริมการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในหน่วยงานทุกระดับภายใน มหาวิทยาลัย โดยมหาวิทยาลยั ไดก้ าหนดเป้าหมายในการปฏิรูป ดา้ นระบบธรรมาภบิ าล ดงั ต่อไปนี้ 1) มหาวิทยาลัยอยู่เย็นเป็นสุข บริหารจัดการด้วยระบบธรรมาภิบาล โดยมีตัวช้ีวัดคือ 1) มหาวิทยาลัยได้คะแนนการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดาเนินงานของ หน่วยงานภาครัฐ (Integrity and Transparency Assessment: ITA) สูงขึ้น , มีการ ส่งเสริมและพัฒนาระบบบริหารจัดการองค์กรภายใต้หลักธรรมาภิบาลของหน่วยงาน ภายในทุกๆ ระดับ , มีการพัฒนาระบบกลไกของมหาวิทยาลัยในการปรับโครงสร้างของ องค์กรเพ่ือสร้างความสมดุลและเสริมสร้างศักยภาพในการพัฒนางานให้มีประสิทธิภาพ สูงข้ึน 2.3 แผนพลิกโฉมสู่การเปน็ มหาวิทยาลัยเพอ่ื พฒั นาชุมชนท้องถิ่น 2.3.1 หลักการและแนวคิดในการดาเนินการจัดทาแผนพลิกโฉมสู่การเป็น มหาวิทยาลยั เพอื่ พฒั นาชมุ ชนท้องถนิ่ การพลิกโฉมสถาบันอุดมศึกษา (Reinventing University) คือ การปฏิรูปสถาบันอุดมศึกษา ให้สามารถจัดการศึกษา วิจัย และผลิตบัณฑิตให้ตอบโจทย์ความต้องการของประเทศตามศักยภาพและ ความถนัด เพ่ือเป็นหัวจักรในการพัฒนาประเทศทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และส่ิงแวดล้อม อันนาไปสู่ ความย่ังยืน ส่ิงที่สถาบันอุดมศึกษาจาเป็นต้องทาคือการปฏิรูประบบการบริหาร ปรับเปล่ียนหลักสูตรและ การเรียนการสอนให้ทันสมัย ผลิตกาลังคนคุณภาพสูงทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีให้เป็นผู้มี ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ มีปัญญาและคุณธรรม ยกระดับการวิจัยและสร้างนวัตกรรมให้มีความเป็นเลิศ รวมท้ังเพ่ิมขีดความสามารถในการเป็นผู้ประกอบการของบัณฑิต (Entrepreneur) และเพ่ิมโอกาส “การ เรียนรตู้ ลอดชวี ิต” ของคนทุกช่วงวัย ท้ังนี้ สาหรับมหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์ จาเป็นต้องปฏิรูประบบการบริหารจัดการ มหาวิทยาลยั ให้มีประสิทธิภาพ ให้มีเป้าหมายท่ีชัดเจน ใช้หลักธรรมาภิบาล มีระบบประกนั คุณภาพการจัด การศึกษา การมีส่วนร่วมของบุคลากรและการทางานแบบร่วมมือกับหน่วยงานอื่นในการจัดการศึกษา ทลายกาแพงระหว่างสถาบันอุดมศึกษา เพื่อให้เกิดภาคีสถาบันอุดมศึกษา (University Consortium) ทั้ง การร่วมสร้างสรรค์ทางความคิด (Co-creation) และความร่วมมือ (Collaboration) ลดความซ้าซ้อนของ การใช้ทรัพยากรประเภทต่างๆ เพ่ิมกลไกการเรียนรู้ อย่างต่อเน่ืองท้ังทางตรงและทางอ้อม เปิดโอกาสใน

25 การเรียนรู้ของ Non-age group เพ่ือการ Reskill/Upskill ไม่ว่าจะด้วยกลไก Degree หรือ Non-degree Program การปรับการเรียนการสอนเพื่อรองรับการสร้างผู้ประกอบการ และการผลิตและพัฒนากาลังคน คุณภาพ รวมท้ังสร้างสรรค์งานวิจัยและนวัตกรรมท่ีมีคุณภาพสูงตามบริบทของสถาบันอุดมศึกษาให้ สอดคลอ้ งกบั ยุทธศาสตร์ของประเทศ โดยในปัจจุบัน มหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์ได้มีการปรับแผนยุทธศาสตร์การพัฒนามหาวิทยาลัย ราชภัฏอุตรดิตถ์ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2565-2569 และผ่านความเห็นชอบจากสภามหาวิทยาลัย ซึ่งเป็นแผน ปกติของมหาวทิ ยาลยั ซ่ึงกาหนดปรัชญาการ เป็น “มหาวิทยาลัยเพ่ือการศึกษาและพัฒนาชุมชนท้องถ่ิน” มี การดาเนินงานในรูปแบบบูรณาการพันธกิจการเรียนการสอน การวิจัยและบริการวิชาการ ทางานแบบมี ส่วนร่วมของภาคีเครือข่าย ชุมชนและภาควิชาการ นาประเด็นปัญหาและความต้องการของชุมชนท้องถิ่น เป็นโจทย์ในการแก้ปัญหาหรือพัฒนาร่วมกับการใช้องค์ความรู้ วิจัยสร้างนวัตกรรมและเทคโนโลยีโดยใช้ บุคลากรที่เช่ียวชาญหลากหลายสาขา และสามารถบูรณาการข้ามศาสตร์เพื่อแก้ปัญหาที่ซับซ้อนของชุมชน และสังคมได้ครอบคลุมทุกมิติ และเกิดประสบการณ์การเรียนรู้ร่วมกัน ทาให้ชุมชนเข้มแข็งและสามารถ พฒั นาแบบพง่ึ ตนเองไดใ้ นทส่ี ุด โดยกาหนด วิสัยทศั น์ ในชว่ งระยะเวลา พ.ศ. 2565-2569 เป็น “มหาวทิ ยาลัยพันธกจิ สัมพันธ์ ท่ีมีคุณภาพ สร้างคุณค่าเพื่อพัฒนาท้องถ่ิน” และมียุทธศาสตร์ในการดาเนินงานเพื่อให้บรรลุตาม วสิ ยั ทัศน์ จานวน 4 ยทุ ธศาสตร์ ดังได้แก่ ยทุ ธศาสตร์ที่ 1 ขับเคล่อื นการดาเนนิ งานตามแผนแมบ่ ท ยุทธศาสตรท์ ี่ 2 การพฒั นาพนั ธกิจหลักเพื่อขบั เคลือ่ นสู่การเป็นมหาวิทยาลยั พนั ธกิจสมั พนั ธ์ ยุทธศาสตรท์ ี่ 3 การพัฒนาการบริหารจัดการสอู่ งค์กรทีม่ ีสมรรถนะสูง ยุทธศาสตร์ที่ 4 การพลิกโฉมมหาวิทยาลยั สูค่ วามเปน็ เลศิ ซ่ึงจะเห็นได้ว่าแผนยุทธศาสตร์ปกติของมหาวิทยาลัยได้มีการกาหนด ยุทธศาสตร์ท่ีสอดคล้อง เป้าหมายการพลิกโฉมมหาวิทยาลยั สู่การเป็นสถาบนั อดุ มศึกษาทีเ่ ช่ียวชาญในการพัฒนาชมุ ชนท้องถ่ิน โดย สามารถต่อยอดการทางานภายใต้ยุทธศาสตร์ปกติ โดยมุ่งเน้นเป้าหมายให้เกิดประโยชน์ร่วมกัน ระหว่าง มหาวิทยาลัยและท้องถิ่น ร่วมกันเป็นแหล่งเรียนรู้ถ่ายทอดความรู้และเทคโนโลยีเพ่ือสร้างความเข้มแข็ง และสร้างโอกาสให้ประชาชนมีโอกาสเรียนรู้ตลอดชีวิตอันจะนาไปสู่การพัฒนาที่ย่ังยืนของท้องถ่ินโดยมี แนวทางในการดาเนนิ งานต่อยอดในแต่ละยุทธศาสตร์ ดงั ต่อไปนี้ ในยุทธศาสตร์ท่ี 1 ขับเคล่ือนการดาเนินงานตามแผนแม่บท มเี ปา้ ประสงคห์ ลกั คือการดาเนนิ การ พัฒนาท้องถ่ินในด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และการศึกษา มุ่งเน้นต่อยอดในการพัฒนาชุมชน ท้องถิ่นและการสร้างศักยภาพให้สถานศึกษา องค์กรในชุมชนและประชาชนมีความเข้มแข็งในการพัฒนา การศกึ ษา เศรษฐกิจและสังคมในชุมชน ในยุทธศาสตร์ท่ี 2 การพัฒนาพันธกิจหลักเพื่อขับเคล่ือนสู่การเป็นมหาวิทยาลัยพันธกิจสัมพันธ์ โดยพันธกิจหลักตามยุทธศาสตร์ของมหาวิทยาลัย คือการจัดการเรียนการสอน วิจัย บริการวิชาการ และ ทานุบารุงศิลปวัฒนธรรม มุ่งเน้นต่อยอด โดยพันธกิจด้านการจัดการเรียนการสอนมหาวิทยาลัยจะเน้น

26 ผลิตบัณฑิตและเป็นแหล่งพัฒนาศักยภาพบุคลากรในพ้ืนที่ให้มีจิตสานึกและความรู้ความสามารถเพื่อเป็น หลกั ในการขับเคลอ่ื น พฒั นา และเปล่ียนแปลงในระดับพ้ืนท่ี ในพนั ธกจิ ด้านวิจัย บริการวิชาการ และทานุ บารุงศิลปวัฒนธรรม มหาวทิ ยาลยั จะมงุ่ เนน้ การดาเนินการวจิ ัยและสร้างนวัตกรรมเพอื่ นาความร้ทู ีไ่ ด้ไปใช้ ในการพัฒนาชุมชน การสืบสานและอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่น ประยุกต์และพัฒนา ศิลปวัฒนธรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่นให้เข้ากับยุคสมัยเพ่ือเพิ่มคุณค่าและมูลค่า และส่งเสริมการสืบทอด และพฒั นาความรจู้ ากผมู้ ภี มู ปิ ัญญาดา้ นศลิ ปวัฒนธรรมและภมู ิปัญญาของทอ้ งถ่ิน ในยุทธศาสตร์ที่ 3 การพัฒนาการบริหารจัดการสู่องค์กรท่ีมีสมรรถนะสูง โดยการปฏิรูประบบ การบริหารงานใน 4 ด้าน ท้ังใน 1) ด้านการบริหารงานบุคคล 2) ด้านแผนระบบการเงินและงบประมาณ 3)ด้านกฎระเบียบ ข้อบังคับหลกั เกณฑ์ และ 4) ด้านระบบธรรมาภบิ าล เพ่ือให้มหาวิทยาลัยมคี วามคล่องตัว ในการทางาน สอดคล้องกับการทางานในเชิงพน้ื ที่ตามแผนพลิกโฉมสู่การเปน็ มหาวิทยาลัยเพื่อพัฒนาชมุ ชน ท้องถน่ิ ในยุทธศาสตร์ที่ 4 มุ่งเน้นการพลิกโฉมมหาวิทยาลัยสู่ความเป็นเลิศ มีเป้าประสงค์หลักคือ การ สนับสนุนการจัดการศึกษาตลอดชีวิตและการพัฒนาทักษะเพ่ืออนาคตในรูปแบบ non-degree และ degree และเพ่ิมทักษะด้านการประกอบอาชีพและการทางาน การพัฒนาคนและสถาบันความรู้ชุมชนเชิง พื้นที่ มุง่ เนน้ การสรา้ งและพัฒนาบคุ ลากรทีม่ ีทกั ษะสงู ตามความตอ้ งการของท้องถน่ิ 2.3.2 การวเิ คราะห์ผลการประเมนิ ตนเอง (Potential & Performance) มหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์ได้มีการวิเคราะห์และประเมินตนเอง เพื่อให้รับทราบถึงศักยภาพ ของสถาบันอุดมศึกษา Potential และผลการดาเนินงาน Performance ตามเป้าหมายการเป็น มหาวิทยาลัยเพ่ือพัฒนาชุมชนท้องถ่ิน ซึ่งพบว่า จากสภาพแวดล้อมภายในและภายนอกของมหาวิทยาลัย เมื่อนามาวิเคราะห์ พบว่ามหาวิทยาลัยมี Potential และ Performance ที่ส่งผลกระทบต่อการพัฒนา มหาวิทยาลัยไปสู่การเป็นมหาวิทยาลยั เพ่อื พัฒนาชมุ ชนท้องถน่ิ ดงั ตอ่ ไปน้ี ศกั ยภาพของสถาบนั อุดมศึกษา (Potential) ท่จี ะนาไปสเู่ ป้าหมายทต่ี ง้ั ไว้ 1. บุคลากรของมหาวิทยาลัยมีความเชี่ยวชาญที่หลากหลายโดยเฉพาะ มีประสบการณ์ การทางานแบบบูรณาการพันธกจิ และศาสตร์หลายสาขาเพ่ือการพัฒนาชุมชนท้องถิ่น แ ล ะ มี ก า ร พั ฒ น า ศั ก ย ภ า พ แ ล ะ ค ว า ม เ ชี่ ย ว ช า ญ ข อ ง อ า จ า ร ย์ แ ล ะ บุ ค ล า ก ร ใ น มหาวิทยาลัยด้านบูรณาการการจัดการเรียนการสอน การวิจัย การจัดการความรู้ ร่วมกับการทางาน การบริการวิชาการโดยออกแบบการจัดกิจกรรมของนักศึกษา ทางานรูปแบบโครงการจิตอาสาประชารฐั และการเป็นวิศวกรสังคม 2. มหาวิทยาลัยเป็น ต้นแบบการเป็น “มหาวิทยาลัยพันธกิจสัมพันธ์ที่มีคุณค่า บนฐาน คดิ การพัฒนาคนเชิงพื้นท่ี” ต่อประชาคมภายในและภายนอกมหาวิทยาลัย ร่วมกัน

27 จัดทาแผนยุทธศาสตร์ กลยุทธ์และแผนปฏิบตั ิการเพือ่ กาหนดเป้าหมาย ตวั ชว้ี ดั ทจ่ี ะ นาไปส่คู วามสาเร็จ 3. มหาวิทยาลัยมี ระบบและกลไกการบริหารจัดการเพ่ือให้เกิดการทางานแบบบูรณา การพันธกิจ การเรยี นการสอน การวิจัย ใชอ้ งค์ความรู้ เทคโนโลยีและนวัตกรรมสู่ การถ่ายทอดบริการวชิ าการรว่ มกับภาคีเครือข่ายภาครัฐ ภาคเอกชน องค์กรท้องถ่ิน และชุมชน ตามประเด็นปัญหาและความต้องการในการพัฒนากาลังคนในพื้นท่ี ยกระดับคุณภาพชีวิตและเศรษฐกิจชุมชน ด้านสังคมและการศึกษา เพ่ือให้เกิด เครือขา่ ยและการเรยี นรูร้ ่วมกนั ระหวา่ งอาจารย์ นักศึกษาและชุมชน 4. มหาวิทยาลัยมีการ กาหนดระบบบริหารด้านบุคลากรและงบประมาณเพ่ือสร้าง แรงจูงใจในการดาเนินงานในรูปแบบภาระงานและส่ิงสนับสนุน มีการติดตามเสริม พลงั บวกและประเมินผลลพั ธ์ ผลกระทบทเี่ กิดในทุกมิตแิ ละประเมิน Social Return ท่เี กิดกบั กล่มุ เปา้ หมายและสงั คม 5. มสี ถาบันวิจัยและพัฒนาเป็นหน่วยงานหลักในการประสานที่มีประสทิ ธิภาพ กาหนด บทบาทหน้าท่ีของศูนย์บูรณาการวิจัยและพันธกิจสัมพันธ์เชื่อมโยงยุทธศาสตร์การ พัฒนาท้องถิ่นกับกองนโยบายและแผน เพื่อออกแบบการใช้ประโยชน์ด้าน งบประมาณและใช้ทรัพยากรร่วมกันใหเ้ กดิ ประโยชนส์ ูงสดุ ผลการดาเนนิ งาน Performance ท่จี ะนาไปสูเ่ ปา้ หมายทต่ี ้งั ไว้ 1. มีสัดส่วนจานวนโครงการบริการวิชาการหรือโครงการเพ่ือพัฒนาเชิงพื้นท่ีของ สถาบันอุดมศึกษาในการถ่ายทอดองค์ความรู้และเทคโนโลยี รวมถึงการอนุรักษ์และ พฒั นาศิลปวัฒนธรรมและภูมิปัญญาของท้องถิ่น เพอ่ื แก้ไข ลดปัญหาและสร้างความ เข้มแขง็ ให้แก่ทอ้ งถ่ินและภูมภิ าค มากถงึ ร้อยละ 100 ของกจิ กรรม/โครงการทงั้ หมด (ข้อมลู จากผลการประเมินในระบบ UCLAS ปี พ.ศ. 2563) 2. การมีส่วนร่วมของบุคคลหรือหน่วยงานในชุมชน พ้ืนที่ หรือภูมิภาค ที่มีสัดส่วน โครงการหรือกิจกรรมโดยการมีส่วนร่วมของบุคคล ชุมชน หรือหน่วยงานใน พื้นที่ สะท้อนการมีส่วนร่วมเพ่ือแก้ไข/ลดปัญหา/ส่งเสริมการเรียนรู้ของชุมชน สังคม มาก ถึงร้อยละ 100 ของกิจกรรม/โครงการท้ังหมด (ข้อมูลจากผลการประเมินในระบบ UCLAS ปี พ.ศ. 2563) 3. การได้งานในพื้นท่ีหรือประกอบอาชีพหลังสาเร็จการศึกษาภายในระยะเวลา 1 ปี ใน พื้นท่ีท่ีสถาบันอุดมศึกษาได้รับผิดชอบดูแล มีสัดส่วนเป็นร้อยละ 43.89 จากจานวน ผสู้ าเร็จการศึกษาทัง้ หมด (ข้อมูลจากผลการประเมนิ ในระบบ UCLAS ปี พ.ศ. 2563) 4. มีระบบการบริหารจัดการเพื่อการขับเคล่ือนพันธกิจของมหาวิทยาลัยท่ีมีการบูรณา การทุกพันธกิจหลักของมหาวิทยาลัยในการทางานเพื่อสังคมชุมชนท้องถิ่น เน้นการ

28 ผนึกกาลังกันจากทุกภาคส่วนมีมหาวิทยาลัยกับอปท.และภาคีเป็น แกนเช่ือมท่ีเป็น กลไกเชิงระบบพัฒนาต่อเน่ือง มีการจัดทาคู่มือ เคร่ืองมือในการบริหารจัดการ งานวิจัย เพื่อท้องถิ่นทั้งของหน่วยจัดการงานวิจัยมหาวิทยาลัย (RMU: Research Management Unit) และหน่วยจัดการความรู้และวิจัยชุมชนขององค์กรปกครอง ส่วนท้องถ่ิน (TRMU: Tambon Research Management Unit) หรือท่ีเรียกว่า “อุตรดติ ถโ์ มเดล ” 5. มีนวัตกรรมการบริหารจัดการงานวิจัยแบบบูรณาการเพื่อพัฒนาพื้นที่ โดยมี สถาบันวิจัยและพัฒนา และหน่วยจัดการงานวิจัยระดับคณะ/หน่วยงาน ท่ีทาหน้าที่ เช่ือมข้อมูลสถานการณ์ปัญหาจากพ้ืนที่เพ่ือการวิจัยของบุคลากรในหน่วยงานโดย หน่วยจัดการงานวิจัยและพันธกิจสัมพันธ์เป็นกลไกหลักในการออกแบบการบริหาร จดั การงานวิจัยแบบบูรณาการเพื่อพัฒนาพื้นท่ีตัง้ แตต่ ้นทาง กลางทาง และปลายทาง ร่วมกับกับสถาบันวิจัยและพัฒนา และร่วมออกแบบระบบกลไกของหน่วยงาน ร่วมกับมหาวิทยาลัยเพ่ือให้เกิดการการบูรณาการการเรียนการสอน งานบริการ วิชาการ และงานวิจัยเข้าด้วยกัน และมหาวิทยาลัยฯ ได้มีการจัดสรรงบประมาณให้ คณะสาหรับการบริหารจัดการงานวิจยั และนวัตกรรมเพื่อให้คณะสร้างนวัตกรรมการ บริหารจัดการงานวิจัย ซ่ึงจากการดาเนินงานท่ีผ่านทาให้เกิดกลไกในการบริหาร จัดการงานวิจัยในพ้ืนที่ คือ หน่วยจัดการความรู้และวิจัยชุมชน (TRMU) ซึ่งเป็น หน่วยประสานงานระหวา่ งมหาวิทยาลัยฯ กับพ้ืนที่ และในยุคปัจจุบันซ่ึงก้าวสยู่ ุคของ การสร้างกระบวนการ กลไก และระบบเพ่ือพัฒนาการเช่ือมประสานการทางาน ร่วมกันเพื่อการพัฒนาพ้ืนท่ีของหน่วยจัดการงานวิจัยของมหาวิทยาลัย (RMU) และ หน่วยจัดการความรู้และวิจัยชุมชน (TRMU) โดยให้สอดคล้องกับพันธกิจหลักของ มหาวิทยาลัย คือ สอน วิจัย บริการวิชาการ และทานุบารุงศิลปวัฒนธรรม ส่งผลต่อ การพัฒนาชุมชนให้เกดิ ความเข้มแขง็ สามารถพง่ึ ตนเองได้อยา่ งย่ังยนื 6. มีภาคีเครือข่ายเป็นกลไกการทางานเพื่อสนับสนุนข้อมูล โจทย์หรือประเด็นสาคัญ ของพน้ื ที่ จากการขับเคล่ือนงานวิจัยและพัฒนาเชิงพ้ืนทท่ี าใหม้ ีการเช่ือมโยงขอ้ มูลที่ เกย่ี วข้องเพื่อใช้ประโยชน์ร่วมกนั ระหว่างมหาวทิ ยาลยั กับองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน และองค์กรภาคี โดยเฉพาะในช่วงปี 2561 -2563 มหาวิทยาลัยได้ดาเนินงานได้มี ดาเนินโครงการตามยุทธศาสตร์มหาวิทยาลัยราชภัฏเพื่อการพัฒนาท้องถ่ินอย่าง ยั่งยืน โดยในปี 2563 มหาวิทยาลัย มีจานวนโครงการภายใต้ยุทธศาสตร์ มหาวิทยาลัยเพ่ือการพัฒนาท้องถ่ิน ทั้งส้ิน 185 โครงการ ครอบคลุมพ้ืนที่ให้บริการ ของมหาวิทยาลยั ราชภัฏใน 3 จังหวดั (อุตรดิตถ์ แพร่ นา่ น) โดยดาเนนิ การในหมูบ่ า้ น เป้าหมายจานวน 950 หมู่บ้าน โรงเรียนเป้าหมายจานวน 213 โรงเรียน ภาคี เครือข่ายเป้าหมาย จานวน 52 ภาคีเครือข่าย วิสาหกิจชุมชน/ผู้ประกอบการใหม่ใน

29 พ้ืนบริการ จานวน 30 กลุ่ม และยังมีเครือข่ายความร่วมมือกับองค์กรภาคีสนับสนุน ท้ังภายและภายนอก ได้แก่ ผู้ว่าราชการจังหวัด สานักงานจังหวัด สานักงานท้องถ่ิน จังหวัด สานักงานพัฒนาสังคมและความม่ันคงของมนุษย์จังหวัด สานักงาน สาธารณสุขจังหวัด องค์การบริหารส่วนจังหวัด สานักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษา สานักงานเขตพ้ืนท่กี ารศกึ ษามัธยมศกึ ษา สภาเกษตรกรจังหวดั เกษตร จังหวัด เกษตรและสหกรณ์จังหวัด หอการค้า พาณิชย์จังหวัด อุสาหกรรมจังหวัด วัฒนธรรมจังหวัด พลังงานจังหวัด การท่องเท่ียวและกีฬา และพัฒนาชุมชนจังหวัด ภาคีสนับสนุนจากภายนอก ได้แก่ สานักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) สานักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกสว.) และ สานักงานกองทุนการสร้างเสริม สุขภาพ (สสส.) เปน็ ตน้ 7. องค์ความรู้ นวัตกรรมเพ่ือการพัฒนาพื้นท่ีมีผลงานโดดเด่นสอดคล้องกับ BCG ใน พน้ื ท่ี มดี งั น้ี 7.1 ด้านเกษตร แปรรูป และอาหาร ได้แก่ โครงการวิจยั และพัฒนานวตั กรรมรูปแบบ การสร้างรายได้ ด้วยเกษตรมูลค่าสูงจากระบบวนเกษตรฯ โครงการวิจัยและ พัฒนานวัตกรรมการผลิตทุเรียนหลงลับแลหลินลับแลในระบบวนเกษตรฯ โครงการศึกษาและพัฒนาระบบการจัดการธุรกิจเกษตรข้าวอินทรีย์ฯ และ โครงการจัดการนวัตกรรมเทคโนโลยีแบบมีส่วนร่วมของเครือข่ายกลุ่มวิสาหกิจ เม็ดมะม่วงหิมพานต์ตามหลักพันธ์กิจสัมพันธ์ การปรับปรุงบารุงดินด้วยถ่าน ชีวภาพร่วมกับสารชีวภัณฑ์ ในพ้ืนที่วนเกษตรไม้ผลจังหวัดอุตรดิตถ์ ด้วย กระบวนการวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวตั กรรม 7.2 ด้านท่องเที่ยวและเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ได้แก่ โครงการวิจัยเพ่ือการขับเคลื่อน เศรษฐกิจฐานรากด้วยผลิตภัณฑ์อัตลักษณ์ของ จ.อุตรดิตถ์ฯ (Signature ลางสาด และ สับปะรดห้วยมุ่น GI) และโครงการพัฒนาผลิตภัณฑช์ ุมชนท้องถ่ิน (อตุ รดิตถ์ แพร่ นา่ น) 7.3 ด้านพลังและวัสดุ ได้แก่ ระบบกาจัดก๊าซไฮโดรเจนซัลไฟด์ในก๊าซชีวภาพด้วย เทคโนโลยีสะอาด 7.4 ด้านการศึกษาและการจัดการเรียนรู้ ได้แก่ โครงการอ่านออกเขียนได้ฯ โดย คณะครุศาสตร์ การพัฒนาศักยภาพผู้นาขับเคล่ือนงานสร้างเสริมสุขภาวะของ ภาคีเครือข่ายภาคเหนือ การสนับสนุนด้านวิชาการของภาคีเครือข่ายสุขภาวะ ภาคเหนือฯ การบูรณาการเชิงพื้นท่ีเพ่ือการพัฒนาจังหวัดต้นแบบการป้องกัน และแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ไม่พร้อมในวัยรุ่น โครงการพัฒนาศักยภาพ บุคลากร ยกระดับคุณภาพการศกึ ษาและสมรรถนะการทางาน ระหว่างมรอ.กับ พัฒนาฝีมือแรงงานอุตรดิตถ์ โดยเฉพาะหลักสูตรและการจัดการเรียนการสอน

30 ด้วยรูปแบบการจัดการเรียนการสอนเชิงบูรณาการกับการทางาน (WIL) ของ มหาวิทยาลัยเป็นยอมรับในระดับภูมิภาคและประเทศ และจากการดาเนิน โครงการตามยุทธศาสตร์มหาวิทยาลัยราชภัฏเพื่อการพัฒนาท้องถ่ินอย่างยั่งยืน ในปี 2563 หลักสูตรของมหาวิทยาลัยได้ถูกปรับปรุงให้ทันสมัยและมีหลักสูตร ใหม่ในรูปแบบสหวิทยาการท่ีตอบสนองต่อการพัฒนาท้องถิน่ และสอดคล้องกับ การพัฒนาประเทศ จานวน 89 หลกั สตู ร 7.5 ด้านการบริหารจัดการ ได้แก่ การพัฒนาระบบบริหารจัดการงานวิจยั และพันธกิจ สัมพันธ์เพื่อท้องถิ่น การพัฒนาระบบฐานข้อมูลตาบลเพ่ือการพัฒนาท้องถิ่นฯ และการประเมินสถานภาพองค์ความรู้สู่การพัฒนาจังหวดั (อต. แพร่ นา่ น) การมีกลไกที่ชัดเจนในดาเนินงานพันธกจิ สัมพันธ์กบั สงั คมเพ่ือใชเ้ ป็นฐานในการ ขบั เคลอื่ นงานระบบเรียนรตู้ ลอดชวี ติ มหาวทิ ยาลัยราชภฏั อตุ รดิตถ์ ไดแ้ ก่ ศูนย์ วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี อุทยานวิทยาศาสตร์ภาคเหนือ มหาวทิ ยาลยั ราช ภฏั อตุ รดติ ถ์ สานักงานส่งเสริมบุคลากรดา้ นวทิ ยาศาสตร์ วิจยั เทคโนโลยีและ นวตั กรรม (Talent mobility) ศนู ยบ์ รู ณาการพันธกจิ สมั พันธ์ ศนู ยพ์ ัฒนา คณุ ภาพการศึกษาบูรณาการกับการทางาน หน่วยบม่ เพาะวิสาหกจิ (UBI) สวน พฤกษศาสตร์ในโรงเรยี น ศนู ย์ Social Innovation Academy (SIA) สานกั วทิ ยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ และหน่วยงานระดับคณะ 8. มีผลการดาเนินงานในการใช้แนวทางปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงสร้างภูมิคุ้มกัน สร้างความสาเรจ็ และการพฒั นาสู่ความย่งั ยืนของชุมชนทอ้ งถิน่ โดยกาหนดรายวิชา ศกึ ษาทั่วไป และปฏิบัตงิ านภาคสนามท่ีคณะเกษตรศาสตร์ (หมอนไม้) และพน้ื ทีท่ ุ่ง กะโล่ ร่วมกับการพัฒนาเกษตรกรรุ่นใหม่ (Young SMART Former) และเกษตร อินทรยี ์แบบครบวงจร 9. มกี ารพัฒนาพื้นที่เรียนรู้และปฏิบัติการในพ้ืนท่ีทุ่งกะโล่ให้กับนักศึกษา อาจารย์และ บุคลากรรวมท้ังประชาชนได้เข้ามาศึกษาตามอัธยาศัยและท่องเที่ยวเชิงเกษตรและ เชิงธรรมชาติ เพ่ือสร้างกิจกรรมจิตอาสาและนักศึกษาได้ใกล้ชิดกับชุมชนมากข้ึน เปน็ การสรา้ งภาพลักษณท์ ดี่ ีของมหาวิทยาลัย 10. มีเครือข่ายศิษย์เก่าท่ีเข้มแข็งโดยหลักพันธกิจสัมพันธ์ (Alumni Engagement) รวมทั้งการมีส่วนร่วมในการพัฒนามหาวิทยาลัยในทุกพันธกิจและเข้าร่วมพัฒนา ศักยภาพ ทักษะที่จาเป็นมนรูปแบบ Re-skill, Up-skill, New-skill เพื่อนาไป ประยกุ ตใ์ ช้ส่กู ารเป็นผู้ประกอบการท่ีประสบความสาเรจ็

31 11. มีจานวนผลงานวิชาการรับใช้สังคมจากผลการทางานพันธกิจสัมพันธ์กับสังคม โดย สร้างระบบและกลไก วางแผนแบบครบวงจร (PDCA) ให้เกิดบทความวิชาการ ตีพิมพ์เผยแพร่ในระบบฐานข้อมูลทั้งในประเทศและฐานข้อมูลสากลเพ่ือพัฒนาเข้าสู่ ตาแหน่งทางวิชาการที่สงู ขึ้นสายรบั ใช้สงั คม 12. มีเครือข่ายความร่วมมือระดับนานาชาติกับสถานบันการศึกษาโดยผ่านความร่วมมือ ของสมาคมพันธกิจสัมพันธ์แห่งประเทศไทย (Engagement Thailand) เพื่อ แลกเปลี่ยนประสบการณ์ด้านการวิจัย นักวิจัยและอาจารย์สนับสนุนการเข้าร่วม นาเสนอผลงานและเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสัมมนาด้านพันธกิจสัมพันธ์ท้ัง ระดบั ชาตแิ ละนานาชาติ 13. มีหลักสูตรท้ังระบบ Non-degree และ Degree หลักสูตร Modular ที่เกิดจาก ประสบการณ์และการเรียนรู้ การถอดบทเรียนการทางานพันธกิจสัมพันธ์ให้ สอดคล้องกับยทุ ธศาสตรแ์ ละความเชี่ยวชาญของอาจารยใ์ นมหาวิทยาลยั 14. มีหลักสูตรที่มีความหลากหลายและทันสมัยสอดคล้องกับความต้องการของผู้ใช้ บัณฑิต สอดคล้องกับความต้องการของสังคมและชุมชน ซ่ึงจัดการเรียนการสอน ระบบสหกิจเป็นท่ียอมรับระดับประเทศ และเป็นหลักสูตรท่ี เปิดโอกาสให้ชุมชน ปราชญ์ชุมชน ผู้ใช้บัณฑิต องค์กร/หน่วยงานในพ้ืนท่ี ได้มีโอกาสการกาหนดทิศ ทางการดาเนินงานในการสอน การบริหาร เป็นสงิ่ ที่แสดงใหเ้ ห็นถึงการมีสว่ นร่วมของ ผู้มสี ่วนได้ส่วนเสียของสถาบันอดุ มศกึ ษาในพืน้ ที่ 15. มีแพลทฟอร์มการทางานพันธกิจสัมพันธ์ของมหาวิทยาลัยเพ่ือการพัฒนาคนและ ชุมชนเชิงพ้ืนที่ให้เป็นเคร่ืองมือการทางานร่วมกันของบุคลากรในมหาวิทยาลัยและ ภาคีเครือข่ายภาครัฐ ภาคเอกชนและชุมชน ในการเพมิ่ ทักษะอาชีพ ทักษะเฉพาะ สาหรบั การทางานในรปู แบบ Re-skill, Up-skill และ New-skill

32 2.3.3 การกาหนดเป้าหมายให้สอดคลอ้ งกับเป้าประสงค์ ยทุ ธศาสตร์ และ แผนงานภายใต้ยุทธศาสตร์ อววน.และกจิ กรรมการพลิกโฉมมหาวิทยาลัย การจัดทาแผนแผนพลกิ โฉมส่กู ารเป็นมหาวทิ ยาลยั เพ่ือพัฒนาชมุ ชนท้องถ่ิน พ.ศ. 2566-2570 (Area-Based and Community Engagement University) ของมหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์ ได้มีการ วเิ คราะห์ ความสอดคลอ้ งกับ เป้าประสงค์ ยุทธศาสตร์ และแผนงานภายใตย้ ทุ ธศาสตร์ อววน.และกจิ กรรม การพลกิ โฉมมหาวทิ ยาลยั ดงั ตอ่ ไปนี้ สอดคล้องกับเป้าประสงค์ของแผนยทุ ธศาสตร์และแผนงานดา้ นการอุดมศึกษา วทิ ยาศาสตร์ วิจยั และนวัตกรรม พ.ศ. 2566 – 2570 ในดา้ น 1) คนไทยมีสมรรถนะและทักษะสูง เพียงพอในการพลิกโฉมประเทศให้ยกระดับความสามารถใน การแขง่ ขัน ทางเศรษฐกจิ และการพฒั นาสังคมอย่างย่งั ยนื 2) เศรษฐกิจไทยมีความสามารถในการแข่งขันด้วยเศรษฐกิจสร้างคุณค่าและเศรษฐกิจสร้างสรรค์ เพ่มิ ความมั่นคงของเศรษฐกิจฐานราก และพึง่ พาตนเองได้ ย่ังยนื พรอ้ มสู่อนาคต 3) สังคมไทย มีการพฒั นาอย่างยั่งยืนสามารถแกป้ ัญหาท้าทายของสังคมและสิ่งแวดล้อม ปรับตัว ไดท้ นั ตอ่ พลวัตการเปลยี่ นแปลงของโลก โดยสอดคลอ้ งกบั ยุทธศาสตร์ดงั ต่อไปนี้ ยุทธศาสตร์ที่ 1 : การพัฒนาเศรษฐกิจไทยด้วยเศรษฐกิจสร้างคุณค่าและเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ให้มี ความสามารถ ในการแขง่ ขัน และพ่ึงพาตนเองไดอ้ ยา่ งยั่งยนื พร้อมสอู่ นาคต แผนงานที่ 1.1 พฒั นาระบบเศรษฐกจิ ชีวภาพ-เศรษฐกิจหมุนเวยี น-เศรษฐกจิ สเี ขยี ว (Bio-Circular- Green Economy: BCG) ใน 4 ดา้ น ให้เป็นระบบเศรษฐกิจมูลค่าสูง มีความยั่งยืนและ เพมิ่ รายได้ ของประเทศ (ดา้ นเกษตรและอาหาร การแพทย์และสุขภาพ การท่องเที่ยว และพลงั งาน วัสดแุ ละเคมีชีวภาพ) แผนงานที่ 1.5 พฒั นาระบบเศรษฐกิจฐานรากและเศรษฐกิจฐานนวตั กรรม รวมถงึ SMEs และ IDEs เพ่อื ยกระดับรายได้ ความสามารถในการแขง่ ขัน และการพึง่ พาตนเอง ยุทธศาสตรท์ ี่ 2 : การยกระดับสงั คมและสิ่งแวดล้อม ให้มีการพฒั นาอย่างย่ังยนื สามารถแกไ้ ขปญั หาท้า ทายและปรบั ตวั ได้ทันตอ่ พลวตั การเปล่ยี นแปลงของโลก แผนงานท่ี 2.1 พัฒนาความพร้อมและโอกาสของคนทุกชว่ งวัย และพฒั นาระบบสาคญั ของสงั คมเพอื่ รองรับสังคมสูงวัย ยุทธศาสตร์ที่ 4 : การพัฒนากาลังคนสถาบันอุดมศึกษา และสถาบันวิจัยให้เป็นฐานการขับเคล่ือนการ พัฒนาเศรษฐกจิ และสงั คมของประเทศแบบกา้ วกระโดดและอยา่ งยั่งยืน แผนงานที่ 4.1 พลิกโฉมระบบการเรียนรู้ตลอดชีวิต เพ่ือให้ประเทศไทยมีกาลังคนสมรรถนะสูงเพียงพอตาม เป้าหมายยุทธศาสตร์และการพัฒนาแห่งอนาคต และสอดรับกับปรัชญาการอุดมศึกษา ไทยใหม่ แผนงานท่ี 4.2 พลิกโฉมมหาวิทยาลัยให้เป็นเลิศตามบทบาทการสร้างกาลังคน การสร้างองค์ความรู้ เทคโนโลยี นวัตกรรม และการพัฒนาพน้ื ทแ่ี ละประเทศ

33 โดยไดก้ าหนดกิจกรรมหลักในการดาเนนิ งานจานวน 5 กิจกรรมหลกั ในการดาเนินงานดงั ต่อไปนี้ กิจกรรมท่ี 1 : การพัฒนาคณุ ภาพการเรยี นการสอน มหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์ปฏิบัติพันธกิจท่ีสนองต่อปรัชญาของมหาวิทยาลัยราชภัฏเพ่ือท้องถ่ิน ตามพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยราชภัฏ พ.ศ. 2547 โดยมีวัตถุประสงค์การดาเนินการตามพันธกิจเพ่ือ ยกระดับคุณภาพสู่การเป็น “สถาบันที่ผลติ บณั ฑิตท่มี ีอัตลกั ษณ์ มีคณุ ภาพ มีสมรรถนะ และเปน็ สถาบันหลัก ท่ีบูรณาการองค์ความรู้สู่นวัตกรรมในการพัฒนาท้องถ่ินเพ่ือสร้างความมั่นคงให้กับประเทศ” โดยต่อ ยอดจากทุนเดิมและศักยภาพในเชิงนโยบาย ความหลากหลายและเช่ียวชาญของศาสตร์วิชา องค์ความรู้ และนวัตกรรมเพื่อการพัฒนาเชิงพื้นท่ี ร่วมกับเครือข่ายความร่วมมือกับภาคีทุกภาคส่วน มีระบบ กลไก และปัจจัยหนุนเสริมเพ่ือให้เกิดรูปธรรมผลงานท่ีปฏิบัติหน้าท่ีพันธกิจสัมพันธ์กับสังคมด้วยการบูรณ าการ พันธกิจโดยอาศัยความร่วมมือของทุกฝ่ายทุกภาคส่วน อันจะนาไปสู่การพัฒนาท่ีย่ังยืน และพร้อมเป็น ตน้ แบบขยายผลเพ่อื สร้างการเรียนรูอ้ ย่างตอ่ เน่อื ง ด้วยการพฒั นาแหล่งเรียนรู้ท่ีเอื้อต่อการเรยี นรู้ตลอดชวี ิต การพัฒนาศักยภาพอาจารย์ให้เป็นมืออาชีพในการจัดกระบวนการเรียนรู้ การพัฒนาระบบการจัดการ เรียนรู้ให้บัณฑิตเป็นคนดีมีความเช่ียวชาญในวิชาชีพ รวมถึงการพัฒนาหลักสูตรท่ีเอื้อต่อการเรียนรู้ตลอด ชีวิตและนาสู่การปฏิบตั ิได้จริงและมีศักยภาพรองรับความต้องการแรงงานของตลาดแรงงานในประเทศไทย ไดอ้ ย่างสอดคล้อง และเพ่ือให้เกิดการพฒั นาเทคโนโลยีและระบบแวดล้อมสาหรบั การเพิ่มคุณภาพการเรียน การสอนสมัยใหม่และเน้นประสิทธิภาพการเรียนรู้ในสถานการณ์โรคระบาดของ COVID-19 การพัฒนา หลักสูตรตามทิศทางของกลุ่มสถาบันอุดมศึกษา เช่น หลักสูตรท่ีมีมาตรฐานระดับนานาชาติ หลักสูตรการ พัฒนาบุคลากรในอุตสาหกรรม หรือหลักสูตรพัฒนาบุคลากรในท้องถ่ิน การ Upskill/Reskill คนในวัยทางาน โดยเน้นความเข้มแข็งของสถาบันอุดมศึกษาเป็นตัวตั้งและเสริมด้วยการทางานร่วมกับพันธมิตรท่ีเกี่ยวข้อง การพฒั นาวธิ กี ารเรียนรู้ของนสิ ติ นักศึกษา เชน่ Active learning และอ่นื ๆ ท่เี ก่ียวขอ้ ง ดังน้ัน มหาวิทยาลัยฯ จึงได้กาหนดแนวทางเพื่อการพัฒนาคุณภาพการเรียนการสอน เพื่อการ พลิกโฉมสู่การเป็นมหาวทิ ยาลยั ลยั เพอื่ การพัฒนาทอ้ งถน่ิ และชมุ ชนอื่นอยา่ งเตม็ รปู แบบ ดงั นี้ 1. พัฒนาระบบการจัดการศึกษาสมัยใหม่ด้วยสมรรถนะด้านการจัดการเรียนรู้การปฏิบัติงาน ในสถานศึกษา (School – Integrated Learning : SIL) และพัฒนาระบบฐานข้อมูลสนับสนุนการผลิต และพัฒนาครเู พ่อื ผลิตครทู มี่ อี ตั ลักษณ์ ได้มาตรฐานวชิ าชีพ และมสี มรรถนะเปน็ เลิศ 2. ยกระดบั ศกั ยภาพและสมรรถนะการผลิตและพัฒนาครมู ืออาชีพด้วยระบบโค้ชชงิ่ (Coaching) เมนเตอรร์ ่ิง (Mentoring) และ พแี อลซี (PLC) เพ่อื ให้บณั ฑติ เปน็ คนดมี คี วามเชี่ยวชาญในวิชาชพี 3. ส่งเสริมสนับสนุนการทางานวิจัยและนวัตกรรมเพื่อพัฒนาคุณภาพการจัดการเรียนรู้ใน ศตวรรษที่ 21 สู่การศึกษา 4.0 ในสภาวการณห์ ลงั โควดิ -19 4. ยกระดับการพัฒนาหลักสูตรและรูปแบบการจัดการศึกษาที่สามารถผลิตบัณฑิตท่ีมีอัตลักษณ์ องค์ความรู้ ทักษะ ท่ีตอบสนองต่อตลาดแรงงานและสามารถ Re-skill Up-skill และสร้าง New-skill ท่ี ตอบสนองการเรียนรูต้ ลอดชวี ิตของประชาชนในท้องถ่นิ ได้

34 5. ส่งเสริมพัฒนาบัณฑิตให้มีความรู้ ความเชี่ยวชาญ ทักษะในวิชาชีพที่สามารถบูรณาการข้าม ศาสตร์ รวมท้ังมีความเป็นพลเมืองท่ีมีเจตคติเหมาะสมในการดารงชีวิต โดยการปรับรูปแบบการจัดการ เรียนรูแ้ ละการพัฒนาทกั ษะรว่ มกบั การพัฒนาเครอื ข่ายแลกเปลีย่ นเรียนรรู้ ะหว่างสถาบัน 6. พัฒนาระบบ กลไกการจัดการนวัตกรรมและองค์ความรู้กับหน่วยงานคู่ความร่วมมือท่ีตอบ พันธกิจขององค์กรเพ่ือการพัฒนาคน พัฒนางาน และพัฒนาพ้ืนที่ที่เชื่อมกับยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัด เพ่ือการสนับสนนุ ด้านนโยบายในการส่งเสริมการเรียนรู้ของหน่วยงานต่างๆ ที่จะทาให้เกิดความยั่งยืน โดย การประสานการดาเนินงานของศูนย์เรยี นรตู้ ลอดชีวิตมหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์ 7. สรา้ งหลักสตู รท่ีตอบโจทย์พันธกิจหลกั ของหนว่ ยงานคู่ความร่วมมือและกลุ่มเป้าหมายทส่ี นอง ต่อการพัฒนาพ้ืนที่ โดยให้สามารถสะสมหน่วยกิตเพ่ือใช้เทียบโอนในระบบคลังหน่วยกิตได้ (Credit Bank) มงุ่ เน้นการสร้างทักษะและพัฒนาทักษะ (Up-Skill & Re-Skill) โดยใช้กระบวนการสร้างเรียนรู้หลากหลาย รปู แบบ 8. พัฒนาเครือข่ายโดยสร้างและใช้นวัตกรรม องค์ความรู้แบบคู่ความร่วมมือเพ่ือพัฒนาแหล่ง เรียนรู้และต่อยอดองค์ความรู้ใหม่ จัดการความรู้แหล่งเรียนรู้การเกษตรในชุมชน อุตาสาหกรรมในท้องถ่ิน และภาคบริการโดยทางานคคู่ วามร่วมมือกับชมุ ชน องค์กรปกครองสว่ นท้องถ่ิน วิสาหกจิ ขนาดกลาง ขนาด ยอ่ ม ผูป้ ระกอบการ ภาคการเกษตร 9. พฒั นาระบบบูรณาการงานวจิ ัยกบั งานบรกิ ารวชิ าการและการเรียนการสอน ท้งั ระดับปริญญา ตรี และระดับบัณฑิตศึกษา โดยนาข้อมูลสถานการณ์ปัญหาจริงในพ้ืนที่มาใช้ในกระบวนเรียนการสอนร่วม ปฏิบัติจริงในพื้นท่ี (Social Lab) เพื่อเกิดการเรียนรู้ร่วมกันของอาจารย์ นักศึกษา และชุมชนท้องถิ่นท่ี นาไปสู่การสร้างบัณฑิตทมี่ คี ุณภาพสอดคลอ้ งกับตามความต้องการของชุมชนท้องถิน่ กิจกรรมที่ 2 : การพัฒนาและแสวงหาบุคลากร ได้แก่ การพัฒนาทักษะ (Upskill/Reskill) อาจารย์ เพ่อื ตอบสนองตอ่ การเรยี นในศตวรรษที่ 21 การจ้างผู้เช่ียวชาญการวิจัยระดับโลก ท้ังแบบเต็มเวลา (Full-time) และไม่เต็มเวลา (Adjunct & Visiting Scholar) ทุนบัณฑิตศึกษาและนักวิจัยหลังปริญญาเอก (Postdoctoral Fellows) และอื่นๆ ทีเ่ ก่ยี วข้อง มหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์ เป็นต้นแบบในการนาหลักการและแนวปฏิบัติของมหาวิทยาลัย พันธกิจเพ่ือสังคมมาใช้ในการเปล่ียนแปลงระบบการบริหารจัดการของมหาวิทยาลัยในทุกองคาพยพ ให้ สามารถบูรณาการพันธกิจหลักเพ่ือขับเคล่ือนการพัฒนาท้องถ่ิน ผ่านการเรียนรู้และปรับตัวอย่างต่อเนื่อง โดยกาหนดยุทธศาสตร์ การบูรณาการพันธกิจสัมพันธ์อย่างมีส่วนร่วม ทั้งการผลิตบัณฑิต การวิจัยการ บริการวิชาการ โดยการสร้างความร่วมมือกับภาคีการพัฒนา โดยใช้แนวคิดพันธกิจมหาวิทยาลัยเพื่อสังคม (University Engagement) มุ่งเน้นการพัฒนา นวัตกรรมองค์ความรู้ และเทคโนโลยีที่เหมาะสม สนับสนุน กระบวนการเรียนรู้เพ่ือการพัฒนาและยกระดับ สนับสนุนเครือข่ายความร่วมมือ ตามบริบทของคณะ/ วิทยาลยั โดยใชห้ ลกั การการบริหารจัดการ 4 ด้าน ท่ีเรียกว่า RICN Model ประกอบด้วย

35 1. การสร้างองค์ความรูแ้ ละการจัดการความรู้ควบคู่กบั การทางาน (Research : R) 2. การบรู ณาการพันธกิจและศาสตร์ทกุ สาขาวิชากบั ปญั หาพืน้ ที่ (Integration : I) 3. ข้อมลู และการไหลเวยี นของขอ้ มูลเพื่อการส่ือสารทีท่ นั ต่อความเปลยี่ นแปลงเพื่อใช้ประโยชน์ (Communication : C) 4. เครอื ขา่ ยการเรียนรูแ้ ละการทางานท้ังภายในและภายนอกสู่การบรรลุเป้าหมายร่วมการพัฒนา (Networks : N) โดยมีสถาบันวิจัยและพัฒนาในการทาหน้าที่ประสานงาน เช่ือมโยงกลไกในมหาวิทยาลัย (คณะ/ สาขา หลักสูตร สานกั ศูนย์ฯ) และหนว่ ยงานภายนอก ในการขบั เคลื่อนสู่การเป็นมหาวิทยาลัยพันธกิจเพ่ือ สังคม ทาหน้าที่เป็นศูนย์กลางการจัดการความรู้ บ่มเพาะ สะสมและสานต่อองค์ความรู้ฐานข้อมูลเพ่ือใช้ ประโยชน์ โดยใช้เวทีการแลกเปล่ียนเรียนรู้ เชื่อมประสานทุกเครือข่ายสู่เป้าหมายร่วมการพัฒนา รวมทั้ง การบูรณาการพันธกิจของมหาวิทยาลัยกับชุมชนท้องถ่ิน ให้ทางานตามพันธกิจ ตอบโจทย์ การประกัน คุณภาพตามมาตรฐานตัวชี้วัดขององค์กร รวมท้ังการจัดกิจกรรมเสริมสมรรถนะการพัฒนาระบบและกลไก สนับสนุน การขับเคลื่อนงาน พันธกิจสัมพันธ์กับสังคมที่สอดคล้องกับศักยภาพ สถานการณ์ความต้องการ ของปัญหาและความต้องการของหน่วยงาน/องค์กร เพ่ือให้เกิดกลไกเชิงระบบ ในการขับเคลื่อนทุก องคาพยพของมหาวิทยาลัยในภาพรวม ทางานพัฒนาท้องถิ่นอย่างเป็นรูปธรรม รวมท้ังมีหลักสูตรการ พัฒนา นักวิจัย ผู้บริหารจัดการงานวิจัย และทีมวิทยากรท่ีสร้างขึ้นจาก ผู้ปฏิบัติ ในลักษณะ ของชุมชนนัก ปฏิบัติ (Community of Practice :CoP) มีการจัดการความรู้ (KM) อย่างเป็นระบบและต่อเน่ือง และจาก ประสบการณ์ในการทางานร่วมกับพื้นท่ีจนเกดิ ระบบกลไกการบริหารจัดการแบบ PDCA เชื่อมโยงกับระบบ บรหิ ารจัดการงานวิจยั และพันธกจิ สมั พันธ์ของมหาวทิ ยาลยั ราชภัฏอุตรดติ ถแ์ ละภาคี และกลไกสนับสนุนตั้ง แตตนทาง กลางทาง และปลายทาง เชื่อมโยงระหว่างมหาวิทยาลัยราชภัฏกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานภาคีเครือข่ายเพื่อการขับเคล่ือนการพัฒนาในระดับพ้ืนที่ (ตาบล อาเภอ จังหวัด) เกิดกลไก เชิงระบบที่เป็นภาพรวมการขับเคลื่อนงานท่ีมีความเป็นหนึ่งเดียวกันท้ังจังหวัดและเช่ือมโยงกันเป็น เครอื ข่ายในระดับกลมุ่ จังหวัด เป็นการสร้างตน้ แบบโดยการใช้กลไกของรัฐ เอกชน วิชาการ และชุมชนเข้า มามีส่วนร่วมในการพัฒนา จากศักยภาพและทุนเดิมดังกล่าว มหาวิทยาลัยฯ จึงได้กาหนดแนวทางเพื่อการพัฒนาและ แสวงหาบุคลากร เพื่อการพลิกโฉมสู่การเป็นมหาวิทยาลัยลัยเพื่อการพัฒนาท้องถิ่นและชุมชนอ่ืนอย่างเต็ม รูปแบบ ดังน้ี 1. สนับสนุนนักวิจัยในรูปแบบของแผนบูรณาการวิจัยหรือชุดโครงการวิจัยแบบมุ่งเป้าเพื่อการ แก้ปัญหาและพัฒนาแบบสหวิชา (สหสาขา) เพ่ือให้เกิดการวิจัยที่มีการบูรณาการศาสตร์ผ่านหน่วยงาน ระดับหลักสูตร ระดับคณะ ระหว่างมหาวิทยาลัย และเครือข่ายภูมิภาคโดยใช้พ้ืนท่ีเป็นตัวตั้งและมีระบบพ่ี เลี้ยงเพื่อสร้างการเรียนรู้ให้กับนักวิจัยรุ่นใหม่ นักศึกษา และภาคีเครือข่าย และให้มีกลไกประสานกลางท่ี สนับสนุนการดาเนินโครงการในเชิงยุทธศาสตร์และหนุนการขับเคล่ือนงานให้ภาคีเครือข่ายให้สามารถ ดาเนนิ งานได้บรรลวุ ตั ถปุ ระสงคแ์ ละเป้าหมายของโครงการ และเชือ่ มโยงกันเป็นเครือข่าย

36 2. พัฒนาศักยภาพและยกระดับคุณภาพบุคลากรของมหาวิทยาลัยและภาคีเครือข่ายคู่ความ รว่ มมอื ในการปฏบิ ตั ิงานเพื่อขบั เคลือ่ นงานวจิ ยั และพันธกจิ สมั พันธใ์ ห้เขม็ แข็ง 3. สนับสนนุ นกั จดั การงานวิจัย สังเคราะห์และถอดบทเรียนประสบการณ์ความสาเรจ็ เพื่อการต่อ ยอดขยายผลจากทุนเดิมเพ่ือสร้างนวัตกรรมเชิงรุกที่ทันต่อความเปลี่ยนแปลงโดยเฉพาะการพัฒนาระบบ และกลไกการสนับสนุนการทาหน้าที่พันธกิจสัมพันธ์เพื่อยกระดับคุณภาพการบริหารจัดการที่เป็นกลไก พัฒนาต่อเนื่อง และจัดทาแผนงานโครงการปฏิบัติการพันธกิจสัมพันธ์ท่ีสอดคล้องกับศักยภาพและความ เช่ียวเช่ียวของบุคลคลากรในหน่วยงานท่ีจะนาไปสู่การช้ีนาแก้ปัญหาพัฒนาท้องถ่ินและสร้างบัณฑิตท่ีมี คุณภาพสูช่ มุ ชนท้องถน่ิ ทต่ี รงตามอัตลกั ษณ์ของมหาวิทยาลยั 4. สนับสนุนบุคลากรการวิจัยเพื่อการพัฒนาระบบวิจัยและพันธกิจสัมพันธ์กับสังคมในรูปแบบ ของการวิจัยในงานปกติ (Routine to Research : R2R) เพอ่ื เพ่ิมคุณคา่ และมลู ค่าของงานโดยการสรา้ งองค์ ความรู้จากประสบการณ์การทางานที่นาไปสู่การช้ีนาเพื่อแก้ปัญหาพัฒนาท้องถ่ิน และสร้างบัณฑิตให้เป็น คนดี คนเกง่ เพื่อการพฒั นาท้องถ่นิ 5. พัฒนานักประเมินเสริมพลังการวิจัยและพันธกิจสัมพันธ์ระหว่างมหาวิทยาลัยราชภัฏกับภาคี เครือข่ายให้เป็นกลไกเชิงระบบต่อเนื่อง โดยพัฒนาตัวช้ีวัด เกณฑ์และรูปแบบการติดตามประเมินที่บูรณา การร่วมกับงานปกติ เพื่อใช้เป็นเครื่องมือประเมินตนเองและประเมินภายในให้ได้สารสนเทศไปใชป้ รับปรุง การทางานให้มีประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่องเป็นระบบต้ังแต่ต้นทาง กลางทาง และปลายทาง และสอดคล้อง กบั ความเปลย่ี นแปลงทีเ่ กิดขึ้น 6. พัฒนานักบริหารจัดการงบประมาณเพ่ือเพิ่มสมรรถนะการปฏิบัติงานของบุคลากรสู่การใช้ งบประมาณไดอ้ ยา่ งค้มุ ค่า

37 กิจกรรมที่ 3 : ความเป็นนานาชาติ ได้แก่ การสร้างเครือข่ายกับสถาบันอุดมศึกษาช้ันนาระดับ โลกในกลุ่มที่เก่ียวข้องที่เป็นรูปธรรมในลักษณะ strategic partner มีรายละเอียดความร่วมมือท่ีชัดเจน โดยสถาบันอุดมศึกษาควรระบุสถาบันอุดมศึกษาและกิจกรรมความร่วมมือท่ีสอดคล้องกับทิศทางแ ละ จุดเน้นของสถาบันอุดมศึกษาและประเทศ เช่น การวิจัยร่วม การแลกเปลี่ยนบุคลากร นักศึกษา หลักสูตร รว่ ม เป็นต้น ทุนการศกึ ษาใหป้ ระเทศในกลุ่มท่ีขาดแคลน เชน่ ASEAN เปน็ ต้น เพอื่ ดึงนิสติ นกั ศกึ ษาระดับ มันสมองจากท่ัวโลกมาเรียน และศึกษาวิจัยในประเทศไทย การจัดประชุมวิชาการระดับโลกท่ีสามารถดึง นกั วิจัยท่ีมีช่ือเสยี งระดบั โลกใหเ้ ข้ารว่ มได้ และอืน่ ๆ ทเ่ี กีย่ วขอ้ ง มหาวทิ ยาลยั ไดก้ าหนด แนวทางไดแ้ ก่ 1. สร้างเครือข่ายความร่วมมือระดับนานาชาติกับสถาบันการศึกษาโดยผ่านความร่วมมือของ สมาคมพันธกิจสัมพันธ์แห่งประเทศไทย (Engagement Thailand) เพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์ด้านการ วิจัย นักวิจัยและอาจารย์สนับสนุนการเข้าร่วมนาเสนอผลงานและเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสัมมนาด้าน พันธกิจสมั พนั ธ์ท้งั ระดบั ชาตแิ ละนานาชาติ 2. พัฒนางานวิจัยเพือ่ พัฒนาการเรยี นการสอน ตพี ิมพ์เผยแพร่ระดับชาติ นานาชาติ 3. พฒั นาหลักสตู รนานาชาติ (International Program) 4. สง่ เสริมการจัดกิจกรรมเพอ่ื เผยแพร่วัฒนธรรมท้องถ่ินท้ังในระดับภูมิภาค ระดบั ประเทศและ ระดบั นานาชาติ 5. สร้างเครือข่ายความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยท้ังในและต่างประเทศ ที่มีความเช่ียวชาญในด้าน นวตั กรรมและการจัดการอตุ สาหกรรมการเกษตร กิจกรรมท่ี 4 : การบรหิ ารงานวิจัยและนวัตกรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์ ได้ต่อยอดการดาเนินงานพันธกิจสัมพันธ์มหาวิทยาลัยราชภัฏคู่ ชุมชนท้องถิ่นให้มีการพัฒนาต่อเนื่องเกิดการยกระดับการทางานพันธกิจสัมพันธ์เพ่ือพัฒนาพื้นท่ีโดยให้ทุก ภาคส่วนมารว่ มกันออกแบบการทางานต้ังแต่การออกแบบฐานข้อมูล การใช้ขอ้ มูลในการขับเคลอื่ นงาน โดย การ บูรณาการเชิงยุทธศาสตร์ขององค์กรภาคี และเครือข่ายท่ีเก่ียวข้องท้ังภายในและภายนอกจังหวัด พัฒนา Data Center เพื่อการพัฒนาเชิงพ้ืนท่ีและเช่ือมโยงข้อมูลกับภาคีเครือข่ายเพ่ือใช้ประโยชน์ร่วมกัน และมีการปรับแก้ไขท่ีทันต่อความเปลี่ยนแปลงทุกปี ส่งเสริม สนับสนุน กาหนดมาตรการจูงใจทุกภาคส่วน มสี ่วนรว่ มในการขบั เคลื่อนงานแบบคู่ความรว่ มมือ พฒั นายุทธศาสตร์ แผน และชุดโครงการวิจัยและพฒั นา ร่วมกับภาคีเสนอหน่วยงานหรือแหลง่ ทนุ ทีเ่ ก่ยี วข้องเพื่อการดาเนินงานที่เป็นประโยชน์ต่อการพฒั นาจังหวัด กลุ่มจังหวัด และภาคีเครือข่าย จัดเวทีและร่วมกิจกรรมแลกเปล่ียนเรียนรู้ จัดการความรู้ สังเคราะห์ นวัตกรรม องค์ความรู้ชุดความรเู้ พื่อพฒั นาต่อเน่อื ง

38 ภาพกลไกการขับเคลื่อนระบบบรหิ ารจดั การนวัตกรรมและพนั ธกจิ สมั พนั ธ์ เพือ่ พฒั นาท้องถิ่นของมหาวิทยาลัยราชภฏั อุตรดิตถ์ ผลการดาเนินงานแบบคู่ความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์และองค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่นทาให้เกิดการพัฒนาระบบบริหารจัดการนวัตกรรมและพันธกิจสัมพันธ์เพื่อพัฒนาท้องถ่ิน โดยมหาวิทยาลัยมีการปรับเปล่ียนยุทธศาสตร์การวิจัย (Research Strategy) และระบบบริหารจัดการ งานวิจยั ท่ีมงุ่ เน้นการนาผลงานวิจยั ไปใช้ประโยชน์ในการพัฒนาพื้นที่ ในขณะท่อี งค์กรปกครองสว่ นท้องถิ่น มกี ารพัฒนาระบบบริหารจัดการองค์กรท่ีมีมหาวิทยาลัยเปน็ คู่ความร่วมมือนาไปสู่เปน็ ชุมชนเข้มแข็ง จดั การ ตนเองได้เป็นระบบต่อเนื่อง มีหน่วยสถาบันวิจัยและพัฒนาของมหาวิทยาลัยฯ เป็นกลไกที่เชื่อมกับองค์กร ปกครองส่วนท้องถ่ินและภาคีคู่ความร่วมมือทุกภาคส่วน ท้ังภายในภายนอกอย่างเป็นระบบในการพัฒนา ยุทธศาสตร์ แผนวิจัย และการขับเคล่ือนแบบบูรณาการอย่างมีส่วนร่วม มีการบริหารจัดการนวัตกรรม องค์ความรู้เพ่ือพัฒนา และการติดตามประเมินเสริมพลังที่เชื่อมโยงกับระบบสนับสนุนของมหาวิทยาลัยฯ ได้แก่ ระบบฐานข้อมูล ระบบเสรมิ สมรรถนะบุคลากร และระบบบริหารจัดการงานวิจยั และพันธกจิ สมั พันธ์ ของมหาวิทยาลัยราชภัฏและภาคี ท่ีหนุนเสริมการทางานของระบบบริหารจัดการนวัตกรรมและพันธกิจ สมั พันธเ์ พื่อพัฒนาท้องถ่ินให้มปี ระสิทธิภาพเพิ่มข้ึน มีกลไกขับเคลื่อนงานบริหารจัดการนวัตกรรมและพันธ กิจสัมพันธ์ในพ้ืนท่ี (ระดับตาบล อาเภอ และจังหวัด) อย่างเป็นระบบต่อเน่ือง มีผลงานท่ีช้ีชัดถึง ประสบการณ์ความสาเร็จ มีการเปลี่ยนแปลงท่ีเอื้อต่อการเสริมสร้างความเข้มแข็งของชุมชน และส่งเสริม การพัฒนาท้องถิ่นที่เป็นต้นแบบพร้อมต่อยอดและขยายผล มีระบบและกลไกการบริหารจัดการนวัตกรรม และพันธกิจสัมพันธ์เพื่อพัฒนาท้องถ่ิน เป็นนวัตกรรมเชิงกระบวนการที่ทาให้เกิดการเปลี่ยนแปลงด้าน กระบวนการบรหิ ารท่ีเหน็ เปน็ รูปธรรม

39 ดังน้ัน มหาวิทยาลัยฯ จึงได้กาหนดแนวทางเพื่อการบริหารงานวิจัยและนวัตกรรม เพ่ือการพลิก โฉมสูก่ ารเป็นมหาวทิ ยาลยั ลัยเพื่อการพัฒนาทอ้ งถิน่ และชุมชนอนื่ อย่างเต็มรปู แบบ ดังนี้ 1. พฒั นาระบบบริหารเครอื ข่ายจัดการนวัตกรรมและพนั ธกจิ สัมพันธ์เพือ่ การพัฒนาพ้ืนท่ี โดยใช้ อว.ส่วนหน้า เป็นจุดจัดการในการพัฒนากลไกในการดาเนินงานระหว่างมหาวิทยาลัยราชภัฏกับองค์กร ปกครองสว่ นท้องถิน่ และหน่วยงานภาคเี ครอื ขา่ ยเพ่ือการพัฒนาพ้ืนท่ีในทุกระดับ (ตาบล อาเภอ จังหวดั ) 2. กาหนดพื้นท่ีความรับผิดชอบและจัดทาแผนพัฒนาชุมชนเชิงพื้นทั้งระดับคณะ และ มหาวิทยาลัยโดยใช้หลักพันธกิจสัมพันธ์ เพื่อร่วมกาหนดประเด็นการพัฒนาพื้นที่ โดยใช้องค์ความรู้ วิจัย นวัตกรรม และเทคโนโลยี ในการพัฒนากลุ่มเป้าหมายเฉพาะด้วยงานพันธกิจสัมพันธ์เพ่ือยกระดับคุณภาพ ชีวิตด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และการศึกษาพร้อมทั้งจัดสรรงบประมาณสนับสนุนและสร้าง แรงจูงใจใหก้ บั บุคลากร 3. สนับสนุนการเผยแพร่และใช้ประโยชน์จากผลงานวิจัยที่เกิดจากการทางานในรูปแบบคู่ความ ร่วมมือเพ่ือใชเ้ ป็นฐานในการพัฒนาในทุกระดับ 4. พัฒนา ต่อยอด กลไกการจัดการผู้ประกอบการ ทั้งในเรื่องของระบบสารสนเทศ การพัฒนา ทรัพยากรพื้นท่ีถิ่นการพัฒนาผู้ประกอบการและเพิ่มช่องทางการตลาดเพ่ือยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน ส่งเสริมและพัฒนาวิสาหกิจชุมชน และสร้างผู้ประกอบการรายใหม่เพื่อยกระดับรายได้และเพ่ิมขีด ความสามารถในการแข่งขันด้วยหน่วยงานสนับสนุนของมหาวิทยาลัยฯ ได้แก่ อุทยานวิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยี ศูนย์วิทยาศาสตร์ Talent mobility ศูนย์บูรณาการพันธกิจสัมพันธ์ ศูนย์พัฒนาคุณภาพ การศึกษาบูรณาการกับการทางาน ศูนย์ Social Innovation Academy (SIA) สานักวิทยบริการ และ หนว่ ยงานระดับคณะ 5. พัฒนาระบบกลไกในการส่งเสริมและสนับสนุนการจดทะเบียนทรัพย์สินทางปัญญา โดยเช่ือม ข้อมูลของมหาวิทยาลัย (URU Digital University) เพื่อใช้ในการวางแผนการยกระดับงานวิจัย นวัตกรรม และเทคโนโลยี ของมหาวทิ ยาลัย กจิ กรรมท่ี 5 : การสร้างแพลทฟอร์มความร่วมมือ ได้แก่ การสร้างเครือข่ายกับหน่วยงาน/ เอกชน/ชุมชนตามกลุ่มยุทธศาสตร์และจุดเน้นสถาบันอุดมศึกษา ในลักษณะจตุรภาคี การรวมกลุ่ม สถาบนั อุดมศึกษาเพ่อื ขับเคล่ือนเป้าหมายหรอื ทิศทางของประเทศท้ังการสร้างความเป็นเลิศและกาลงั คนท่ี ร่วมกนั และอน่ื ๆ ท่ีเก่ยี วขอ้ ง การขับเคล่ือนงานวิจัยและพันธกิจสัมพันธ์ของมหาวิทยาลัยราชภัฏกับองค์กรปกครองส่วน ทอ้ งถนิ่ คูค่ วามร่วมมือทเ่ี ป็นนวตั กรรมกลไกเชิงระบบพฒั นาตอ่ เนื่องทผ่ี ่านมาทาให้มีการเช่อื มโยงการทางาน กันอย่างใกล้ชิดท้ังในส่วนงานภายในของมหาวิทยาลัยฯ และองค์กรปกครองส่วนทอ้ งถ่นิ กับภาคีท่ีเกี่ยวข้อง โดยมหาวิทยาลัยฯ เป็นศูนย์กลางในการเช่ือมต่อ สร้างเครือข่ายการเรียนรู้ทั้งภายในและภายนอก เชื่อมโยงกันเป็นเครือข่ายทั้งในระดับพื้นที่ ตาบล อาเภอ จังหวัดและภูมิภาค เกิดการต่อยอดการพัฒนา การแลกเปล่ียนเรียนรู้เป็นระบบต่อเน่ือง สามารถยกระดับมาตรฐานการทางานด้านบริหารจัดการงานวิจัย

40 และพันธกิจสมั พนั ธใ์ หเ้ กิดตน้ แบบทด่ี ีและขยายผลส่เู ครือข่ายการทางานอืน่ ๆ นาไปสู่การสรา้ งงาน สร้างคน สร้างการเรียนรู้ สร้างองค์ความความรู้เพ่ือการพัฒนาพ้ืนที่ และการจัดการนวัตกรรมและพันธกิจสัมพันธ์ ให้กับมหาวิทยาลัยและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นกับภาคีเครือข่ายอย่างเป็นระบบ โดยใช้งานวิจัยเป็น เครื่องมือและการออกแบบการดาเนินงานร่วมกันให้สอดคล้องกับพันธกิจหลักขององค์กรท้ังสองหน่วยงาน โดยมหาวิทยาลัยมีสถาบันวิจัยและพัฒนาเป็นหน่วยจัดการของสถาบันวิชาการและในพ้ื นที่มีหน่วยจัดการ ความรู้และวิจัยชุมชน (TRMU) ท่ีอยู่ในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นหน่วยจัดการในพ้ืนที่ ทาหน้าท่ี ประสานการทางานร่วมกัน และเชื่อมกับกลไกการบริหารจัดการงานวิจัยของมหาวิทยาลัยควบคู่กับการ เสริมสมรรถนะให้กับบุคลากรวิจัยทั้งในส่วนของมหาวิทยาลัยและคู่ความร่วมมือต้ังแต่ต้นทาง ระหว่างทาง ถึงปลายทาง ดังน้ี 1.1 กระบวนการต้นทาง เป็นการสร้างระบบและกลไกการสนับสนุนงานเชิงพ้ืนที่ที่สร้าง การเรียนรู้และนาใช้ข้อมูลร่วมกันระหว่างมหาวิทยาลัยและชุมชนท้องถิ่น เรียกว่ากระบวนการทาแผนท่ี ทิศทางวิจัย (Research Mapping) โดยมหาวิทยาลัยร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นร่วมวิเคราะห์ปัญหา และประเด็นปัญหาเร่งด่วน จัดลาดับความสาคัญและรว่ มกันพัฒนาข้อเสนอโครงการวิจัยเพ่ือการพัฒนาชุมชน ท้องถิน่ 1.2 กระบวนการระหว่างทาง เป็นการสร้างองค์ความรู้และนวัตกรรมที่เหมาะสมเพ่ือ การพัฒนาพ้ืนท่ี (Research Program/Research Project) โดยการสนับสนุนทุนวิจยั จากโจทย์ในพื้นท่ี ร่วมวิจัยเชิงปฏิบัติแบบมีส่วนร่วม (Participatory Action Research) โดยนักวิจัยของมหาวิทยาลัยกับ นกั วิจัยในพื้นท่ี ออกแบบการวิจยั ให้บูรณาการกับการเรียนการสอน การบริการวชิ าการ เกิดการแลกเปลี่ยน เรียนรู้ร่วมกันระหว่างนักศึกษา อาจารย์ ชุมชน และองค์กรภาคีสนับสนุนต่าง ๆ จนได้นวัตกรรมและองค์ ความรู้ท่ีเหมาะสมสาหรับพ้ืนท่ี พร้อมทั้งการติดตามประเมินแบบเสริมพลังเพื่อให้การขับเคล่ือนงานบรรลุ วตั ถปุ ระสงค์ 1.3 กระบวนการปลายทาง เป็นการสังเคราะห์ผลงานวจิ ัยเพื่อต่อยอดและผลักดันสู่การ ขับเคล่ือนนโยบายสาธารณะ (Public Policy) ผลการวิจัยได้ถูกใช้ประโยชน์เพ่ือแก้ไขปัญหาของชุมชน ท้องถิ่น และผลักดันสู่การขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะบนฐานนวัตกรรมองค์ความรู้พร้อมคู่มือ เคร่ืองมือที่ พร้อมใช้ ร่วมกับเครือข่ายองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอ่ืน ๆ และภาคีท่ีเกี่ยวข้อง ในประเด็นนโยบายที่เป็น ประเด็นร่วมของเครือข่าย ท่ีมีการทดลองปฏิบัติแล้วในระดับพ้ืนที่ และผลักดันสู่ระดับเครือข่าย ระดับ จังหวัด ระดบั ภูมภิ าคและระดับประเทศ

41 ภาพกลไกการขับเคล่ือนมหาวิทยาลยั คู่ความร่วมมือชุมชนท้องถ่ิน จากภาพกลไกขับเคล่ือนมหาวิทยาลัยคู่ความร่วมมือชุมชนท้องถิ่น จะเห็นว่ามหาวิทยาลัยกับ องค์กรปกครองสว่ นท้องถิน่ และภาคีเครือข่ายเกดิ การพฒั นากระบวนการทางานสเู่ ป้าหมายรว่ ม (Goal) คือ ชุมชนจัดการเรียนรู้บนฐานคู่ความร่วมมือของหน่วยจัดการความรู้และวิจัยชุมชน ขององค์กรปกครองส่วน ทอ้ งถน่ิ (TRMU - Tambon Research Management Unit) กบั หนว่ ยจัดการงานวิจัยและพันธกิจสัมพนั ธ์ ของมหาวิทยาลัย (RMU - Research Management Unit) โดยร่วมกันพัฒนานวัตกรรม องค์ความรู้สู่การ การพัฒนาสุขภาวะชุมชนหรือความอยู่ดีมีสุขของชุมชนอย่างต่อเน่ือง (Ultimate Goal) การส่งเสริม ระหว่างกันของมหาวทิ ยาลัยและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทาใหเ้ กิดการรวบรวมและส่ังสมองคค์ วามรู้ ชุด ความรู้ และนวัตกรรมภูมิปัญญาของแต่ละพื้นที่ จนสรุปเป็นทฤษฏีการพัฒนาและนาไปใช้ในการพัฒนาแต่ ละพ้ืนท่จี ากระดบั ทอ้ งถนิ่ สรู่ ะดบั สากล ทีม่ กี ารสานตอ่ อยา่ งไม่รจู้ บ ซึ่งการทางานดังกล่าวจาเป็นต้องมีกลไกการสร้างเครือข่ายความร่วมมือเพ่ือมุ่งเป้าหมายร่วมกัน ของชุมชนพ้ืนท่ี นอกจากน้ียังพบว่าบทบาทขององค์กรภาคีแต่ละกลุ่มมีส่วนหนุนเสริมซ่ึงกันและกัน จึง จาเป็นต้องกลไกเชิงระบบในการประสานความร่วมมือจากทุกฝ่ ายท่ีเกี่ยวข้องท้ังระดับนโยบายและ ปฏิบัติการเพ่ือให้เกิดการนานวัตกรรม องค์ความรู้จากงานวิจัยไปใช้ในขับเคล่ือนนโยบาย ยุทธศาสตร์และ แผนเพื่อพัฒนาชุมชนท้องถิ่นนอย่างเป็นรูปธรรมโดยเฉพาะในส่วนที่เก่ียวข้องกับระบบข้อมูลและ สารสนเทศเพื่อการใช้ประโยชน์และพัฒนาต่อเนื่อง การประสานความร่วมมือในการใช้ข้อมูลท้องถิ่นเพื่อ การวางแผนระดับจังหวัดและเชื่อมโยงกันเปน็ เครือข่ายในระดบั ภมู ิภาค และประเทศเพ่ือให้เกิดรูปธรรมท้ัง ระดับพื้นที่และระดบั ประเทศอยา่ งตอ่ เน่ือง

42 ดังน้ัน มหาวิทยาลัยฯ จึงได้กาหนดแนวทางเพื่อการการสร้างแพลทฟอร์มความร่วมมือ เพ่ือการ พลกิ โฉมสูก่ ารเป็นมหาวิทยาลยั ลัยเพ่ือการพัฒนาทอ้ งถ่ินและชุมชนอื่นอยา่ งเตม็ รปู แบบ ไวด้ ังน้ี 1. สนับสนุนการพัฒนากลไกการบริหารจัดการเครือข่ายวิจัยและพันธกิจสัมพันธ์ในระดับพื้นที่ ภูมภิ าค และระดบั ประเทศ โดย 1.1 พัฒนาระบบบริหารจัดการนวัตกรรมและพันธกิจสัมพันธ์เพ่ือพัฒนาพื้นที่จังหวัดโดย จัดให้มีศูนย์ประสานงานในการเช่ือมระบบเครือข่ายการขับเคล่ือนงานเพื่อการพัฒนาจังหวัด โดยจะทา หน้าท่ีเป็นศูนย์กลางการจัดการความรู้ การบ่มเพาะ สะสม สานต่อองค์ความรู้ ฐานข้อมูลเพื่อใช้ประโยชน์ โดยใช้เวทีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้เชื่อมประสานทุกเครือข่ายสู่เป้าหมายร่วมพัฒนาทั้งการบูรณาการพันธกิจ ของมหาวิทยาลัยกับชุมชนท้องถ่ินให้ทางานตามพันธกิจท่ีประกันคุณภาพตามมาตรฐานตัวช้ีวัดขององค์กร รว่ มท้ังจัดกิจกรรมเสรมิ สมรรถนะการพฒั นาระบบและกลไกสนับสนุนการขบั เคลื่อนงานพันธกิจสัมพันธ์กับ สังคมที่สอดคล้องกับศักยภาพ สถานการณ์ปัญหาและความต้องการของหน่วยงาน/องค์กรให้เพื่อให้เกิด กลไกเชิงระบบที่เป็นภาพรวมการขับเคล่ือนงานที่มีความเป็นหน่ึงเดียวกันท้ังจังหวัด และเชื่อมโยงกันเป็น เครือข่ายในระดับภูมภิ าคและประเทศ 1.2 สรา้ งกลไกคู่ความร่วมมือมหาวทิ ยาลัยกับชุมชนท้องถน่ิ ท่ีเปน็ ระบบกลไกเพอื่ การวจิ ัย และพฒั นาเชิงพ้ืนทใ่ี นทุกระดับโดยให้มีหน่วยจัดการความรู้และวิจยั ชุมชนทาหนา้ ท่ีเป็นแกนกลางเช่ือมโยง สถานการณ์ปัญหา ความต้องการของชุมชน และสร้างกระบวนการเรียนรู้ระหว่างมหาวิทยาลัยและภาคี อย่างเป็นระบบปฏิบัติงานเชิงรุกเพื่อเป็นต้นแบบในการต่อยอดขยายผลที่เป็นวัฒนธรรมองค์กร มีกลไก ขบั เคลอ่ื นตอ่ เนื่องและเชอื่ มโยงกันเป็นเครือขา่ ย 1.3 พัฒนาระบบฐานข้อมูลและสารสนเทศ เพื่อการวิจัยและพัฒนาเชิงพื้นท่ี (Data Center) เพื่อใช้ประโยชน์ร่วมกันทั้งในระดับพ้ืนที่ ระดับภูมิภาค และระดับประเทศโดยหน่วยงานระดับ จังหวัดกับมหาวิทยาลัยฯ เป็นเจ้าภาพหลักในการเชื่อมโยงข้อมูล เพ่ือการจัดทาแผนที่ทิศทางการวิจัย ยุทธศาสตร์การวิจัย แผนบูรณาการวิจัยเชิงพื้นท่ีท่ีสนองต่อยุทธศาสตร์การพัฒนาพื้นที่ทั้งระดับ มหาวิทยาลัย ระดบั จังหวัด ระดับกลุ่มจังหวัด ระดับภมู ิภาค และระดับประเทศโดยการประเมินสถานภาพ องค์ความรู้ในทุกระดับเพื่อสร้างเป็นแผนที่ทิศทางการวิจัย ยุทธศาสตร์การวจิ ัย และแผนบูรณาการวิจัยเชิง พน้ื ทโ่ี ดยการประสานร่วมมือกับหนว่ ยงานภาคเี ครือข่ายที่เกี่ยวข้องเพ่ือให้เกิดการบูรณาการงานกับพันธกิจ ขององคก์ รท่ีสนองตอ่ ยทุ ธศาสตรก์ ารพฒั นาของพืน้ ที่อยา่ งเปน็ ระบบ 2. ส่งเสริมและสนบั สนุนระบบกลไกในการบริหารจัดการการทางานแบบบูรณาการเครือขา่ ยเพ่ือ ทางานตามพนั ธกจิ และแลกเปลย่ี นทรัพยากรทางการศึกษารว่ มกนั 3. สร้างความร่วมมือกับผู้ประกอบการและสถาบัน อุดมศึกษาท่ีมีศักยภาพเฉพาะด้านและเน้น การฝกึ ปฏิบตั ิอยา่ งเข้มข้น

43 โดยในการดาเนินงานทั้ง 5 กิจกรรมพัฒนาจะขับเคลื่อนอยู่ภายใต้ประเด็นหลัก 5 ประเด็น ประกอบด้วย 1) การพัฒนาระบบรองรับสังคมสูงวัยเพื่อการยกระดับคุณภาพชีวิต 2) การพัฒนาพืช อัตลักษณ์เพื่อการยกระดับเศรษฐกิจฐานรากของชุมชน 3) การยกระดับผลิตภัณฑ์ชุมชนที่เป็นทรัพยากร พ้ืนถ่ินเพ่ือสืบสานภมู ปิ ัญญาและเศรษฐกิจฐานราก 4) การจัดการระบบการผลิตทางการเกษตร(ดิน น้า ปา่ ) เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน และ 5) สร้างการเรียนรู้ตลอดชีวิตสาหรับทุกช่วงวัยเพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจและ สังคม 2.3.4 การวเิ คราะห์โอกาสประสบความสาเร็จและความเสยี่ ง จากการวิเคราะห์และกาหนดกิจกรรมเพื่อพัฒนาตามยุทธศาสตร์ในการดาเนินงาน 5 กิจกรรม คือ การพฒั นาคุณภาพการเรียนการสอน การพัฒนาและแสวงหาบุคลากร ความเปน็ นานาชาติ การบริหาร งานวิจัยและนวัตกรรม และการสร้างแพลทฟอร์มความร่วมมือนั้น สามารถวิเคราะห์โอกาสประสบ ความสาเรจ็ และความเสี่ยงจากการดาเนนิ งาน ได้ดงั นี้ กิจกรรมท่ี 1 : การพัฒนาคุณภาพการเรียนการสอน ได้แก่ เทคโนโลยีและระบบแวดล้อม สาหรับการเพิ่มคุณภาพการเรียนการสอนสมัยใหม่และเน้นประสิทธิภาพการเรียนรู้ในสถานการณ์โรค ระบาดของ COVID-19 การพัฒนาหลักสูตรตามทิศทางของกลุ่มสถาบันอุดมศึกษา เช่น หลักสูตรที่มี มาตรฐานระดับนานาชาติ หลักสูตรการพัฒนาบุคลากรในอุตสาหกรรม หรือหลักสูตรพัฒนาบุคลากรในท้องถ่ิน การ Upskill/Reskill คนในวัยทางาน โดยเน้นความเข้มแข็งของสถาบันอุดมศึกษาเป็นตัวตั้งและเสริมด้วย การทางานร่วมกับพันธมิตรที่เก่ียวข้อง การพัฒนาวิธีการเรียนรู้ของนิสิต นักศึกษา เช่น active learning และอ่ืนๆ ทีเ่ กี่ยวขอ้ ง โอกาสประสบความสาเรจ็ - มหาวิทยาลัยมีระบบการจัดการศึกษาสมัยใหม่ด้วยสมรรถนะด้านการจัดการเรียนรู้การ ปฏบิ ตั ิงานในสถานศกึ ษา (School – Integrated Learning : SIL) ทมี่ ปี ระสทิ ธภิ าพ - มหาวิทยาลัยมีระบบฐานขอ้ มลู สนบั สนุนการผลติ และพัฒนาครูที่มีประสิทธภิ าพ สามารถผลิต ครทู มี่ อี ัตลักษณ์ ได้มาตรฐานวิชาชพี และมสี มรรถนะเปน็ เลิศ - มหาวิทยาลัยสามารถยกระดับศักยภาพและสมรรถนะการผลิตและพัฒนาครูมืออาชีพด้วย ระบบโค้ชชิ่ง (Coaching) เมนเตอร์ริ่ง (Mentoring) และ พีแอลซี (PLC) เพื่อให้บัณฑิตเป็นคนดีมีความ เชย่ี วชาญในวิชาชีพ และเปน็ ทย่ี อมรับของสังคม - มหาวิทยาลัยมีแนวทางการทางานวิจัยและนวัตกรรมเพ่ือพัฒนาคุณภาพการจัดการเรียนรู้ ในศตวรรษท่ี 21 สู่การศึกษา 4.0 ในสภาวการณ์หลังโควิด-19 ที่ชัดเจน บุคลากรสามารถนาแนวทางไป ปฏบิ ตั ไิ ด้อย่างถูกตอ้ ง - มหาวิทยาลัยมีหลักสูตรและรูปแบบการจัดการศึกษาที่มีคุณภาพ สามารถผลิตบัณฑิตท่ีมี อตั ลกั ษณ์ องค์ความรู้ ทกั ษะ ที่ตอบสนองตอ่ ตลาดแรงงานและสามารถ Re-skill Up-skill และสร้าง New- skill ท่ตี อบสนองการเรียนรตู้ ลอดชวี ติ ของประชาชนในท้องถิน่ ได้

44 - บัณฑิตที่สาเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยมีความรู้ ความเช่ียวชาญ ทักษะในวิชาชีพท่ี สามารถบรู ณาการข้ามศาสตร์ รวมทั้งมีความเป็นพลเมืองทมี่ ีเจตคตเิ หมาะสมในการดารงชีวติ โดยการปรับ รปู แบบการจดั การเรียนรู้และการพฒั นาทกั ษะร่วมกับการพัฒนาเครือข่ายแลกเปล่ียนเรยี นรูร้ ะหว่างสถาบัน ความเสีย่ ง - บุคลากรขาดประสบการณ์ ขาดความรู้ความเขา้ ใจในการใช้เทคโนโลยีในการสอนรูปแบบใหม่ - บุคลากรและนักศึกษาไม่พร้อมปรับตัวกับการเรียนการสอนในรูปแบบใหม่ เน่ืองจากภาวะ เศรษฐกิจ สังคม และส่ิงแวดล้อม - โรคระบาดของ COVID-19 ทาให้การดาเนินงานต่างๆ มีอุปสรรค ล่าช้า หรือไม่เป็นไปตาม เปา้ หมายทก่ี าหนดไว้ - เศรษฐกิจชะลอตัว ทาใหก้ ารจา้ งงานบัณฑิตทีจ่ บใหม่ลดนอ้ ยลง - งบประมาณในการพัฒนาคณุ ภาพการเรยี นการสอนมจี ากดั กิจกรรมที่ 2 : การพัฒนาและแสวงหาบุคลากร ได้แก่ การพัฒนาทักษะ (Upskill/Reskill) อาจารย์ เพอื่ ตอบสนองตอ่ การเรยี นในศตวรรษท่ี 21 การจา้ งผเู้ ช่ยี วชาญการวจิ ัยระดับโลก ทัง้ แบบเตม็ เวลา (Full-time) และไม่เต็มเวลา (Adjunct & Visiting Scholar) ทุนบัณฑิตศึกษาและนักวิจัยหลังปริญญาเอก (Postdoctoral Fellows) และอ่นื ๆ ทเี่ กี่ยวข้อง โอกาสประสบความสาเร็จ - มหาวิทยาลัยมีระบบบริหารจัดการผลงานวิจัยและนวัตกรรมสู่การใช้ประโยชน์ที่มีคุณภาพ เป็นทย่ี อมรบั ในระดับชาตแิ ละนานาชาติ - มหาวิทยาลัยมีหลักสูตรนักจัดการข้อมูลเชิงพื้นท่ี มีนักวิจัยเชิงพ้ืนที่ มีนักบริหารจัดการ งานวจิ ยั เชิงพืน้ ที่ และมที ่ีปรกึ ษาวิชาการเชิงพ้ืนที่ ท่มี ีคณุ ภาพและมจี านวนเพ่ิมข้ึนทุกๆ ปี - มหาวิทยาลัยมีระบบการบริหารจัดการงบประมาณที่มีประสิทธิภาพ สามารถเพ่ิมสมรรถนะ การปฏิบัติงานของบุคลากร การจัดทาแผน การกากับติดตาม และการสร้างมูลค่าเพิ่มจากทรัพยากรที่มีสู่ การใชง้ บประมาณได้อย่างค้มุ ค่า - บุคลากรของมหาวิทยาลยั มคี วามรู้ ทกั ษะ และความสามารถในการเป็นนกั วิจัยมืออาชพี ความเสย่ี ง - ภาระงานสอนของอาจารยม์ ีมาก ทาให้มีเวลาในการพฒั นาตนเองน้อยลง - บคุ ลากรขาดแรงจงู ใจในการพฒั นาตนเอง - โรคระบาดของ COVID-19 ทาให้การดาเนินงานต่างๆ มีอุปสรรค ล่าช้า หรือไม่เป็นไปตาม เป้าหมายท่ีกาหนดไว้ - งบประมาณในการพัฒนาบุคลากรมีจากดั

45 กิจกรรมท่ี 3 : ความเป็นนานาชาติ ได้แก่ การสร้างเครือข่ายกับสถาบันอุดมศึกษาชั้นนา ระดับโลก ในกลุ่มท่ีเกี่ยวข้องที่เป็นรูปธรรมในลักษณะ strategic partner มีรายละเอียดความร่วมมือท่ี ชัดเจนโดยสถาบันอุดมศึกษาควรระบุสถาบันอุดมศึกษาและกิจกรรมความร่วมมือที่สอดคล้องกับทิศทาง และจุดเน้นของสถาบันอุดมศึกษาและประเทศ เช่น การวิจัยร่วม การแลกเปลี่ยนบุคลากร นักศึกษา หลักสูตรร่วม เป็นต้น ทุนการศึกษาให้ประเทศในกลุ่มท่ีขาดแคลน เช่น ASEAN เป็นต้น เพื่อดึงนิสิต นกั ศึกษาระดับมันสมองจากทั่วโลกมาเรียน และศึกษาวิจยั ในประเทศไทย การจัดประชุมวชิ าการระดับโลก ทีส่ ามารถดึงนักวจิ ยั ทมี่ ชี อื่ เสยี งระดบั โลกใหเ้ ขา้ รว่ มได้ และอ่ืน ๆ ทเี่ ก่ยี วข้อง มหาวทิ ยาลยั ไดก้ าหนด แนวทางได้แก่ โอกาสประสบความสาเรจ็ - มหาวิทยาลัยได้เครือข่ายความร่วมมือระดับนานาชาติกับสถาบันการศึกษาโดยผ่านความ ร่วมมือของสมาคมพันธกิจสัมพันธ์แห่งประเทศไทย ( Engagement Thailand) เพ่ือแลกเปล่ียน ประสบการณ์ด้านการวิจัย นักวิจัยและอาจารย์สนับสนุนการเข้าร่วมนาเสนอผลงานและเป็นเจ้าภาพ จดั การประชุมสัมมนาดา้ นพันธกิจสัมพนั ธท์ ้งั ระดับชาตแิ ละนานาชาติ - มหาวิทยาลัยมีหลักสูตรนานาชาติ (International Program) ทมี่ ีคณุ ภาพ สามารถตอบสนอง ความตอ้ งการของคนทอ้ งถิน่ - มหาวิทยาลัยมโี อกาสเผยแพร่วัฒนธรรมท้องถ่ินท้งั ในระดับภูมิภาค ระดับประเทศ และระดับ นานาชาติ - อาจารย์ได้พัฒนางานวิจัยเพื่อพัฒนาการเรียนการสอน ตีพิมพ์เผยแพร่ระดับชาติ นานาชาติ เพ่ิมมากขึน้ - อาจารย์และนักศึกษามีโอกาสได้ร่วมทางานวิจัย แลกเปล่ียนการเรียนการสอนกับบุคลกร ระดับนานาชาตมิ ากข้ึน ความเสย่ี ง - หนว่ ยงานภายนอกอาจมคี วามเห็นต่างและไมใ่ หค้ วามร่วมมือ - อาจารย์และนกั ศึกษาขาดทกั ษะการสื่อสารด้านภาษา - โรคระบาดของ COVID-19 ทาให้การดาเนินงานต่างๆ มีอุปสรรค ล่าช้า หรือไม่เป็นไปตาม เป้าหมายท่ีกาหนดไว้ - งบประมาณด้านการสรา้ งความร่วมมือระดับนานาชาติมีจากัด

46 กิจกรรมที่ 4 : การบริหารงานวิจัยและนวัตกรรม ได้แก่ ระบบการบริหารและจัดการทรัพย์สิน ทางปัญญาเพ่ือขับเคลื่อนการนาผลงานวิจัยไปใช้ประโยชน์ การผลักดันศูนย์วิจัยให้สู่ระดับโลก เช่น การ ดึงดดู นักวจิ ยั ระดบั โลกมารว่ มงาน การส่งเสริมใหแ้ สวงหาทุนวิจัยระดบั นานาชาติ และกิจกรรมความร่วมมือ กับสถาบันวิจัยชั้นนาระดับโลก ระบบบริหารกลุ่มวิจัยภายในสถาบันอุดมศึกษาตามกลุ่มยุทธศาสตร์และ จุดเน้นสถาบันอุดมศึกษา โดยสอดคล้องกับระบบทุนวิจัยงบประมาณแผ่นดินที่จัดสรรเป็น block grant และอ่นื ๆ ทเ่ี กย่ี วข้อง โอกาสประสบความสาเรจ็ - มหาวิทยาลัยได้ประเด็นการพัฒนาพื้นที่ชัดเจน โดยใช้องค์ความรู้ วิจัย นวัตกรรม และ เทคโนโลยี ในการพัฒนากลุ่มเป้าหมายเฉพาะด้วยงานพันธกิจสัมพันธ์เพ่ือยกระดับคุณภาพชีวิต ดา้ นเศรษฐกิจ สังคม สงิ่ แวดล้อม และการศกึ ษา - มหาวิทยาลัยมีระบบและกลไกการจัดการประกอบการที่มีประสิทธิภาพ ทั้งในเร่ืองของระบบ สารสนเทศ การพัฒนาทรัพยากรพ้นื ที่ถิ่นการพฒั นาผู้ประกอบการและเพ่ิมช่องทางการตลาด เพ่ือยกระดับ คณุ ภาพชวี ิตประชาชน - มหาวิทยาลัยมีระบบกลไกในการส่งเสริมและสนับสนุนการจดทะเบียนทรัพย์สินทางปัญญาที่ มีประสิทธิภาพ โดยเช่ือมข้อมูลของมหาวิทยาลัย (URU Digital University) เพ่ือใช้ในการวางแผนการ ยกระดบั งาน ความเสย่ี ง - บุคลากรขาดความรู้ความเข้าใจในการพัฒนาระบบและกลไกการบริหารงานวิจัยและ นวตั กรรม - โรคระบาดของ COVID-19 ทาให้การดาเนินงานต่างๆ มีอุปสรรค ล่าช้า หรือไม่เป็นไปตาม เป้าหมายทกี่ าหนดไว้ - งบประมาณดา้ นการบรหิ ารงานวจิ ยั และนวัตกรรมมจี ากดั - กจิ กรรมที่ 5 : การสร้างแพลทฟอร์มความร่วมมือ ได้แก่ การสร้างเครือข่ายกับหน่วยงาน/ เอกชน/ชุมชนตามกลุ่มยุทธศาสตร์และจุดเน้นสถาบันอุดมศึกษา ในลักษณะจตุรภาคี การรวมกลุ่ม สถาบนั อุดมศึกษาเพอื่ ขับเคล่ือนเปา้ หมายหรอื ทิศทางของประเทศทั้งการสร้างความเปน็ เลิศและกาลังคนท่ี รว่ มกัน และอื่นๆ ที่เกย่ี วข้อง โอกาสประสบความสาเร็จ - มหาวิทยาลัยมีเครือข่ายสาหรบั การจดั หารายได้จากฐานงานพนั ธกิจสัมพันธข์ องมหาวทิ ยาลัย เพ่ือสง่ เสริมและยกระดับการจดั หารายไดใ้ ห้มปี ระสิทธภิ าพ - มหาวิทยาลัยมีระบบกลไกในการบริหารจัดการการทางานแบบบูรณาการเครือข่ายที่มี คุณภาพ เพอื่ ทางานตามพันธกจิ และแลกเปล่ยี นทรพั ยากรทางการศึกษาร่วมกนั

47 - มหาวิทยาลัยมแี พลทฟอร์มการทางานพันธกิจสัมพันธท์ ่ชี ัดเจนในด้านการพฒั นาคนและชุมชน เชิงพื้นท่ีให้เป็นเคร่ืองมือการทางานร่วมกันของบุคลากรในมหาวิทยาลัยและภาคีเครือข่ายภาครัฐ ภาคเอกชนและชุมชนในการเพ่ิมทักษะอาชีพ ทักษะเฉพาะสาหรับการทางานในรูปแบ Re-skill, Up-skill และ New-skill - มหาวิทยาลัยมีความร่วมมือกับผู้ประกอบการและสถาบันอุดมศึกษาที่มีศักยภาพเฉพาะด้าน และเน้นการฝึกปฏิบตั ิอย่างเข้มข้น ความเสีย่ ง - หน่วยงานภายนอกอาจมคี วามเหน็ ต่างและไมใ่ ห้ความร่วมมือ - โรคระบาดของ COVID-19 ทาให้การดาเนินงานต่างๆ มีอุปสรรค ล่าช้า หรือไม่เป็นไปตาม เป้าหมายท่กี าหนดไว้ - งบประมาณดา้ นสร้างแพลทฟอรม์ ความร่วมมือมีจากัด