Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ประวัติศาสตร์ท้องถิ่นบ้านสวนจังหวัดสุโขทัย

ประวัติศาสตร์ท้องถิ่นบ้านสวนจังหวัดสุโขทัย

Published by PRASIT P., 2020-11-23 14:45:52

Description: โดย ดิเรก ด้วงลอย,
พระปลัดระพิน พุทฺธิสาโร,ผศ.ดร.
.............
ออกแบบโดย ประสิทธิ์ พุทธศาสน์ศรัทธา

Keywords: ประวัติศาสตร์, สุโขทัย

Search

Read the Text Version

และสืบเน่ืองด้วยวิถีทางความเช่ือ และศาสนา โดยมีวัดเป็น ศนู ยก์ ลางทางความเช่ือ อนั มผี ลต่อการสบื ตอ่ รกั ษาและปฏิบตั ติ าม หลักศาสนาด้วย และมสี ง่ิ ทีส่ ว่ นสนับสนุนความเชอื่ เป็นจดุ เชอ่ื ม ไม่ ว่าจะเป็นหลวงพ่อฤทธิ์ (วัดฤทธ์ิ) หลวงพ่อแป๊ะ (วัดคุ้งยางใหญ่) หลวงพ่อเจ๊ก (วัดหัวฝาย) ท่ีมีประวัติว่าสืบสายศิษย์เรียนพุทธมนต์ และเป็นศิษย์ในสานักสมเด็จพระพุฒาจารย์โต แห่งวัดระฆังโฆษติ า ราม กทม. หรือในชันต่อมาอยา่ งหลวงพ่อห้อม อมโร ที่มีหลักฐาน ว่าเป็นศิษย์หลวงพ่อฤทธ์ิ ร่วมกับหลวงพอ่ ซวง แห่งวัดชีปะขาว จ. สิงห์บุรี หลวงพอ่ เกียว โกวิโท (วัดคุ้งยางใหญ)่ หลวงพอ่ โพธ์ิ ภทฺท โก (วัดตาลเตีย) สืบลงมาจนถึงหลวงพ่อทองดี มหาวีโร (วัดคลอง ตะเคียน) ทังหมดสะทอ้ นเอกลักษณไ์ ทย เอกลักษณท์ อ้ งถน่ิ ในเรื่อง ความเชื่อที่เกี่ยวกับศาสนาวัดและชุมชน จึงนามาบันทึกไว้เป็น ขอ้ มูลชุมชนเพอื่ การศึกษากันต่อไป ประวตั ิศาสตรท องถิ่น 99 ประวัติศาสตร์ทอ้ งถิ่น จังหวัดสุโขทยั Local History of Bansuan Sukhothai Province

100 | ดิเรก ดว้ งลอย | พระปลดั ระพนิ พุทธฺ สิ าโร (ด้วงลอย)

(ส�ำ(สราวรจวจ))ววดั ดั เกก่า่าวดัวรัดา้ รงทา้ ่ีบงา้ทนี่บสา้วนสวน ตามข้อมูลท่ีปรากฏพระราชบัญญัติว่าด้วยโบราณสถาน ศิลปวัตถุ โบราณวัตถุและการพิพิธภัณฑ์แห่งชาติ พุทธศักราช ๒๔๗๗ ที่ประกาศใช้เมอื่ ๗ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๗๘ และมีการขนึ ทะเบยี นวดั ท่จี ัดเป็นโบราณสถานไว้ท่ัวประเทศจานวนมาก รวมทัง วัดร้างท่ยี งั ปรากฏซาก ฐานอิฐ ฐานเจดีย์ และหลกั ฐานทางเอกสาร อยู่ ได้ถึงบันทึกเป็นหลักฐานและขึนทะเบียนไว้ด้วย โดยวัดร้างท่ี บ้านสวน เปน็ วดั เก่าแก่ มปี ระวตั ิพอสมควรเกี่ยวกบั วดั ถามว่าทาไม วัดจึงมาอยู่ที่ บ้านสวน หากดูจากหลักฐานทางโบราณคดี และการ ขนึ ทะเบียนเกีย่ วกับวัด จะพบว่าวดั มีประวัตกิ ารก่อสรา้ งในช่วงสมยั สุโขทัย ตอนปลาย วัดจึงยังเป็นหลกั ฐานอยูค่ ู่กับชุมชนบ้านสวนมา แต่แต่ต้น วิธีการคือสืบค้นคือใช้เอกสารเก่าราชการ คือข้อมูลที่ ปรากฏในราชกิจจานุเบกษา ขึนทะเบียนประวัติวัดไว้ จากนันก็ไป สารวจสภาพในปจั จบุ นั ที่พบเหน็ เพือ่ เก็บไวเ้ ป็นหลกั ฐานกับทอ้ งถนิ่ ชุมชน ซ่ึงมีประวัติและพัฒนาการร่วมกับชุมชนมาแต่อดีต โดย ลักษณะทางกายภาพที่ปรากฏอยู่ในปัจจุบันมีความแปรเปลี่ยนไป โดยอาจมหี ลกั ฐานและขนึ ทะเบยี นไว้ แตด่ ว้ ยเหตผุ ลปจั จุบัน สังคม เปล่ียนไปวัดบางแห่งเหลือเฉพาะฐานและซากอิฐ ๆ เก่าไว้พอให้ สืบค้นกันได้ บางแห่งถูกดัดแปลงทางกายภาพไปเป็นไร่ เป็นนา ประวตั ิศาสตรทองถิ่น 101 ประวตั ศิ าสตร์ท้องถิน่ จังหวดั สโุ ขทยั Local History of Bansuan Sukhothai Province

เป็นถนน และถูกใช้พืนที่ เช่น วัดจันทร์ พืนท่ีหลักฐานถูกนาไป จัดสร้างโรงเรยี น แตก่ ม็ หี ลกั ฐานเป็นชื่อวัด หรอื วดั วดั นานอง ตังอยู่ ที่หมู่ ๓ ต. บ้านสวน เมือง สุโขทัย โฉนดเลขท่ี ๑๔๙๕๗ มีพืนที่ จานวน ๔-๐-๔๓ ไร่ ได้ถูกนาไปเป็นพืนท่ีเช่า โดยเป็นพืนท่ีตังของ เทศบาลตาบลบ้านสวน หรือบางแห่งถูกยกเป็นวัดทับในท่ีเดิมแต่ หลกั ฐานทางโบราณคดีประวตั ศิ าสตร์หายไปดว้ ยเช่น วดั ป่าละเมาะ (วัดป่าเรไร) หรือถูกแปรเปลี่ยนไปด้วยเหตุผลของช่วงเวลาและ สถานการณ์ เช่น วัดดงดีปลี วัดคุ เป็นต้น ซ่ึงเพื่อประโยชน์สาหรับ การรักษาและศึกษาเป็นสาคัญ จึงได้ทาการสารวจวัดในเขตบาง สวนท่พี อมีขอ้ มลู และหลักฐานยงั พอสืบค้นได้ ดงั นี ๑. วัดเหมืองข้ีเหล็ก (ติดโรงเรยี นวัดคุ้งยางใหญ่) ท่ีตังอยู่ ตรงบริเวณใกล้โรงเรียนวัดคุ้งยางใหญ่ สภาพปัจจุบันเป็นซาก โบราณสถานตามที่ขึนทะเบียน เป็นรูปทรงฐานของวัด ตังอยู่เป็น เกาะในอยทู่ ่ีดนิ เอกชน สภาพเป็นพืนนา หา่ งจากโรงเรยี นวัดค้งุ ยาง ใหญ่ (บ้านสวน) เล็กน้อย สันนิษฐานว่าเป็นวัดในช่วง ปลายกรุง สโุ ขทยั ประมาณ พ.ศ.๑๘๐๐ + ปจั จบุ ันเหลือสภาพฐานอฐิ คาดว่า นา่ จะเป็นฐานของเจดีย์ และทีด่ นิ เปน็ สัดสว่ นเหมือนโคก ซงึ่ เป็นวัด รา้ งท่ีถูกขนึ ทะเบยี น กรมศลิ ปากรได้ทาการสารวจ และประกาศขนึ ทะเบียนวัดร้างทั่วไปประเทศ ตามพระราชบัญญัติว่าด้วย โบราณสถาน ศิลปวัตถุ โบราณวัตถุและการพิพิธภัณฑ์แห่งชาติ พทุ ธศกั ราช ๒๔๗๗ ที่ประกาศใชเ้ มื่อ ๗ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๗๘ 102 | ดิเรก ดว้ งลอย | พระปลดั ระพนิ พุทธฺ ิสาโร (ด้วงลอย)

(ภาพ สภาพในปจั จุบนั อยใู่ นป่ารกทบึ เปน็ เกาะอยใู่ นนาข้าว หรอื ที่ดนิ ของ เอกชน,ภาพวัดรา้ ง : ๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๒ : ดิเรก ด้วงลอย) ประวัติศาสตรท อ งถน่ิ 103 ประวัตศิ าสตรท์ อ้ งถิน่ จงั หวดั สุโขทยั Local History of Bansuan Sukhothai Province

(ภาพ สภาพในปัจจุบัน อยู่ในปา่ รกทบึ เป็นเกาะอยใู่ นนาขา้ ว หรือท่ดี ินของ เอกชน ไมห่ ่างจากโรงเรยี นวัดค้งยางใหญ,่ ภาพวดั รา้ ง : ดเิ รก ดว้ งลอย เมอื่ ๕ กมุ ภาพนั ธ์ ๒๕๖๒) ๒.\"วัดตาดาว-วัดตะดาว\" วดั ตาผ้าขาว (ตรงขา้ มปา่ ชา้ จีน บ้านสวน) สถานท่ีตัง พิกัดตรงบริเวณตรงข้ามป่าช้าจีนบ้านสวน สภาพปัจจุบนั เปน็ ซากโบราณสถาน ทีถ่ ูกดดั แปลง ใหเ้ ป็นวดั เคยมี พระภิกษุอยู่จาพรรษาอยู่ช่วงหน่ึง สภาพอิฐเก่าถูกดัดแปลง ใหม่ แ่ ละเปลี่ยนชื่อตามภาษาเรียกว่า \"วัดตาผ้าขาว\" ในช่วงท่ีมี พระภิกษุมาอยู่จาพรรษา ตังอยู่ตรงข้ามป่าช้าจีนบ้านสวน (สุสาน จีนสุโขทัย-Sukhothai Chinese Cemetery) ห่างจากวัดป่าเรไร (Wat Pa Re Rai) ประมาณ ๕๐๐ เมตร แตเ่ ดมิ ตรงบริเวณดังกลา่ ว เป็นป่าช้าเผาศพไทย (ตรงข้ามที่ฝังศพจีน) แต่เดิมจะมีกองฟอน หรือฐานสาหรบั ท่เี ผาศพอยดู่ ้วย วัดมหี ลกั ฐานกอ่ สรา้ งในชว่ ง ปลาย กรุงสโุ ขทัย ประมาณ พ.ศ.๑๘๐๐ + เป็นวัดรา้ งที่ขึนทะเบยี น กรม ศิลปากรได้ทาการสารวจ และประกาศขึนทะเบียนวัดร้างท่ัว 104 | ดิเรก ด้วงลอย | พระปลดั ระพิน พุทธฺ ิสาโร (ดว้ งลอย)

ประเทศ ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยโบราณสถาน ศิลปวัตถุ โบราณวัตถุและการพิพิธภัณฑ์แห่งชาติ พุทธศักราช ๒๔๗๗ ท่ี ประกาศใช้เมอ่ื ๗ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๗๘ (ภาพถา่ ยวัดตาดาว โดย ดิเรก ด้วงลอย เมอ่ื ๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๒) ประวัตศิ าสตรทอ งถ่นิ 105 ประวัตศิ าสตรท์ อ้ งถิ่น จังหวัดสโุ ขทยั Local History of Bansuan Sukhothai Province

ภาพ ทต่ี งั ของวดั รา้ ง ท่สี ารวจพบ และยงั ปรากฏหลกั ฐานในปจั จุบัน อย่ใู น พิกัด ป่าช้าจีน วัดป่าเรไร (วดั ร้าง) วดั ตาดาว โดย ดเิ รก ดว้ งลอย เมื่อ ๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๒) 106 | ดเิ รก ด้วงลอย | พระปลดั ระพนิ พุทฺธสิ าโร (ด้วงลอย)

(วดั ร้าง) วัดตาดาว โดย ดิเรก ดว้ งลอย เม่อื ๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๒) ๓. วัดคุ มีการขึนทะเบียนวัดร้างท่ีสารวจพบในภายหลัง ตามประกาศของกรมศิลปากร เร่ืองขึนทะเบียนโบราณสถานและ กาหนดที่ดินโบราณสถาน ท่ีประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๑๔ ตอนพิเศษ ๘๗ ง หน้า ๒-๓ ลงวันที่ ๒๙ กันยายน ๒๕๔๐ โดยมีข้อมูลว่า โบราณสถานวัดคุ ตาบลบ้านสวน อาเภอเมือง จังหวัดสุโขทัย พืนที่โบราณสถานประมาณ ๓ ไร่ ๑ งาน ๔๗ ตาราง วา (ปัจจุบนั ได้มีความพยายามยกใหเ้ ป็นสานกั สงฆ์มพี ระภกิ ษอุ ยจู่ า พรรษา) ประวัตศิ าสตรท อ งถนิ่ 107 ประวัติศาสตร์ท้องถิน่ จังหวัดสุโขทัย Local History of Bansuan Sukhothai Province

(ภาพ วัดคุ โดยสุมิตรา จอ้ ยแก้ว เมอื่ ๑๐ มนี าคม ๒๕๖๓) ๔. วัดดงดีปลี ตาบลบ้านสวน อาเภอเมือง จังหวัดสุโขทัย พืนท่โี บราณสถานประมาณ ๓ ไร่ ๒๙ ตารางวา๒๒ (ปจั จบุ นั ได้ยกให้ เป็นสานักสงฆ์มีพระภิกษุอยู่จาพรรษา) วัดดงดีปลี ในปัจจุบัน ถูก ตังขึนมาบนฐานของวัดร้างทีม่ ีอยูเ่ ดมิ ๒๒ ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศกรมศิลปากร เรื่อง ขึนทะเบียน โบราณสถานและกาหนดเขตทดี่ ินโบราณสถาน เล่ม ๑๑๔, พเิ ศษ ๘๗ ง, ๒๙ กนั ยายน พ.ศ. ๒๕๔๐, หนา้ ๒. 108 | ดิเรก ดว้ งลอย | พระปลดั ระพิน พุทธฺ สิ าโร (ดว้ งลอย)

(ภาพ วัดดงดปี ลี โดย สุมติ รา จอ้ ยแก้ว เมื่อ ๑๐ มนี าคม ๒๕๖๓) ๕.วดั คลองไก่เตย้ี หมู่ ๙ (ใกลว้ ดั คลองตะเคยี นในปจั จบุ นั ) พบเศษฐานซากเจดีย์ เศษอิฐจานวนมาก มีหลักฐานสิทธิ์ในที่ดิน เป็น แบบ สค.๑ เลขที่ ๕๐ มีพืนท่ีจานวน ๑-๑-๒๘ ไร่ เป็นเหตใุ ห้ ประวัติศาสตรทองถิ่น 109 ประวัติศาสตรท์ ้องถิ่น จังหวดั สุโขทัย Local History of Bansuan Sukhothai Province

วัดคลองตะเคียน เคยถูกเรียกว่าวัดไก่เตีย ด้วยอาศัยหลักฐานของ วดั รา้ งในอดตี มาเปน็ ชือ่ เรยี ก (ภาพถา่ ยดาวเทยี ม วดั คลองแก่แจ้ ใกล้วดั คลองคะเตียนปจั จบุ ัน) ตังอยู่บริเวณเยืองๆ กับวัดคลองตะเคียน ท่ีในปัจจุบัน ลักษณะทางภายภาพของวัดท่ีถูกขึนทะเบืยน หลงเหลอื เพียงทีด่ นิ และเศษอิฐ เพราะท่ีดินดังกล่าวถูกขุดหน้าดิน ไปใช้ ทาให้สภาพ ทางภายภาพเหลอื เพยี งเศษอิฐ ท่แี ตกชารดุ และเป็นสระนา มตี ้นไม้ ปรกคลุมอยู่มองเห็นได้จากระยะใกล้ กับวัดคลองตะเคียนตาม สภาพท่ีตังในปัจจบุ ัน แต่ถูกขึนทะเบียน เป็นโบราณสถานแต่ไม่ได้ รบั ปรบั ปรุงและบูรณะใหเ้ ปน็ ส่วนสาคัญของชุมชน แต่เดิมการสร้าง วัดคลองตะเคียน ก็ฐานคติในเรื่องของวัดมาจากซากวัดร้างเดิม 110 | ดเิ รก ด้วงลอย | พระปลดั ระพิน พุทฺธิสาโร (ด้วงลอย)

และจากการสอบถามมีผู้เฒ่าผู้แก่ให้ข้อมูล ว่าแต่เดิมเคยมีเจดีย์ และทุกวัญเพ็ญ จะมีแสงวาบ ๆ เข้าเข้ายังเจดยี ์ ซ่ึงเป็นคาบอกเลา่ ของผูส้ ูงวัย ๘๐ ปี ให้ข้อมูลและเลา่ ใหฟ้ งั ไว้ (ภาพ วดั คลองไก่เตยี โดย สมุ ิตรา จอ้ ยแกว้ เม่ือ ๑๐ มนี าคม ๒๕๖๓) ๖.วัดดงม่วง เป็นอีก ๑ วัดร้างที่ขึนทะเบียนเป็น โบราณสถาน ในราชกิจจานเุ บกษา ให้ขอ้ มูลวา่ ลาดับท่ี ๑๑๓ วัดดง ม่วง อาเภอเมืองสุโขทัยธานี ตาบลบ้านสวน ซึ่งด้วยยังมีสภาพเป็น วัดร้างที่มีฐานอิฐ ฐานเจดีย์ปรากฏให้เห็นอยู่จนประทั่งปัจจุบัน ปจั จบุ ันอยู่ในทน่ี าของชาวบา้ น มีเพยี งหลักฐานเป็นซากวดั เกา่ ท่ีบง่ บอกถึงความเป็นมาในอดีต และป้ายท่ีทางกรมศิลปากร ขึน ประวัติศาสตรทอ งถ่นิ 111 ประวัติศาสตร์ทอ้ งถิ่น จงั หวดั สุโขทยั Local History of Bansuan Sukhothai Province

ทะเบียนเป็นวัดร้างและโบราณสถานไว้อยู่ ตังอยู่ไม่ไกลจากวัด คลองตะเคียนประมาณ ๑ กิโลเมตร โดยประมาณ (ภาพวัดดวงม่วง โดย สุมิตรา จอ้ ยแกว้ เมอ่ื ๑๐ มนี าคม ๒๕๖๓) 112 | ดเิ รก ดว้ งลอย | พระปลัดระพิน พทุ ธฺ สิ าโร (ด้วงลอย)

(ภาพถ่ายดาวเทยี ม วดั ดงมว่ ง ท่ีปัจจุบันเป็นโคกวดั รา้ ง อยู่ในที่เอกชน) ๗. วัดจันทร์ เป็นวัดร้างทเ่ี ดมิ เคยเปน็ เจดีย์และมฐี านของ เจดีย์ เมื่อท่ดี ินถกู ใช้ทด่ี ินเป็นท่ตี ังโรงเรียน / หนว่ ยราชการ ผเู้ ขยี น เคยไปสารวจพนื ที่ของโรงเรียนวัดจนั ทร์ พบเหน็ มเี ศษอิฐแดง ทีถ่ กู บดทับ แตก จากการขุดคลองชลประทาน และการทาถนน ท่ีถูก นามาเป็นส่วนหนึ่งของข้อมูลของชุมชน ปัจจุบันวัดไม่ปรากฏ หลักฐานทางกายภาพ แต่ยังคงหลงเหลือเป็นชื่อของวัด (ร้าง) ปรากฏอยใู่ นชือ่ โรงเรยี นวัดจันทร์ สถานศึกษาในชมุ ชนดงั กลา่ วดว้ ย ประวตั ิศาสตรท องถ่นิ 113 ประวตั ิศาสตรท์ ้องถิ่น จงั หวดั สโุ ขทยั Local History of Bansuan Sukhothai Province

(ภาพโรงเรยี นวัดจันทร์ อันเคยเปน็ ท่ีตงั ของวดั รา้ ง วัดจันทร์ ภาพโดย สมุ ิตรา จ้อยแก้ว เมื่อ ๑๐ มีนาคม ๒๕๖๓) วัดร้าง ที่เคยมีและถูกขึนทะเบียนตามหลักฐานในเอก ราชการ แต่ทังหมดท่ียกมาเป็นการสืบค้นตามหลักฐานที่มี เพ่ือ ยืนยันส่ิงท่ีเคยมีท่ีบ้านสวน และสะท้อนให้เห็นว่าเป็นความสาคญั และความจาเปน็ ตอ่ การช่วยกันบนั ทึกไวเ้ พ่อื เปน็ การจดจาและช่วย จาทาให้เกิดประวัติศาสตร์เช่ือมโยงท้องถิ่นกับสิ่งท่ีมีอยู่ในท้องถน่ิ บา้ นสวน ดังกรณีหลกั ฐานทางโบราณคดีประวัติศาสตร์วัดร้าง 114 | ดิเรก ดว้ งลอย | พระปลัดระพิน พทุ ธฺ สิ าโร (ดว้ งลอย)

ภาษาภถ่นิาสษโุ ขาไทถปยั ่ินบภสา้าษนโุ าขบสทา้ วนยัสนวกนภนั ไาปษบ“า้าเนมบสว้าา๊ นน”กสนั ว“เนม๊า” บทนา ภาษาเป็นวัฒนธรรมที่สาคัญที่สุดของมนุษยชาติ เป็น เอกลักษณ์ และเครอ่ื งผกู พนั ระหว่างมนุษยต์ ่อมนุษย์ ภาษาจึงเปน็ ศูนย์กลางของทุก ๆ คนในโลก ทุกเผ่าพันธุ์ ทุกภาษา นอกจากนี ภาษายังมีลักษณะของแต่ละถ่ินที่อาศัย โดยเฉพาะภาษาถ่ิน ที่มี รูปลักษณห์ ลากหลาย เป็นเอกลกั ษณเ์ ฉพาะถ่ิน หรอื สอื่ สารเฉพาะ ท้องถ่ินนนั ๆ จากบทความของพระมหาเทวประภาส วชริ ญาณเมธี ,ดร รองเจ้าอาวาสวัดคุ้งตะเภา และพระธรรมทตู สายต่างประเทศ เคยไปอยจู่ าพรรษา ณ ประเทศอังกฤษ เพอ่ื เก็บเกยี่ วประสบการณ์ และกลบั มาทางานชุมชน ได้จัดทาข้อมูลเรียบเรียงเกีย่ วกับภาษาถ่ิน สุโขทัย ซ่ึงเป็นพืนถ่ินบา้ นคุ้งตะเภา ในจังหวัดอุตรดิตถ์ ที่ใช้ภาษา ถิ่นสุโขทัยเป็นภาษาในวิถีชีวิต ได้สะท้อนข้อมูลไว้ว่า \"บ้านคุ้ง ตะเภา เป็นหมู่บ้านหน่ึงในจังหวัดอุตรดิตถ์ ซ่ึงมีภาษาถ่ินเป็น เอกลักษณ์ของตนเอง ที่ใช้สื่อสารระหว่างกันเป็นเวลานานนับ เนอื่ งมาตง้ั แตส่ มัยอาณาจักรสุโขทัยเจริญรงุ่ เรอื ง\" พร้อมไดเ้ ขยี น บอกเล่าต่อไปว่า “เปน็ มรดกอนั ลาค่า ทบ่ี รรพบรุ ษุ ของชาวบา้ นคุ้ง ตะเภาไดส้ ั่งสมไวใ้ ห้ แสดงให้เหน็ ถงึ รากเหง้าแหง่ วฒั นธรรมอันสงู สง่ ในอดีต ที่ชาวบ้านคุ้งตะเภายุคปัจจุบันควรภาคภูมใิ จ ในความโดด ประวัตศิ าสตรท องถิ่น 115 ประวตั ิศาสตร์ท้องถิ่น จงั หวัดสโุ ขทัย Local History of Bansuan Sukhothai Province

เด่นและเป็นหน่ึงเดยี ว ในฐานะ “เอกลักษณ์ภาษาถ่ิน” อัตลักษณ์ แห่งความเป็น \"คนคงุ้ ตะเภา\" ดงั นันในฐานะคนสาเนียงเดยี วกัน บ้านสวนถิน่ สโุ ขทัย จึง นาข้อมูลของหลวงพ่ีมหาเทวประภาส มาเทียบเคียงกับภาษาถิ่น สโุ ขทัย เพ่ือบันทึกย้อนเวลาไว้ให้เป็นส่วนหน่ึง ทงั เปน็ หลกั ฐานทาง ประวตั ศิ าสตร์ ผา่ นภาษาท่อี ยใู่ นคน เพราะเชอื่ ว่าโดยลกั ษณะทาง ภาษา จะมีความแตกต่างกนั ทังสาเนียง และการออกเสยี ง และคา เรียกในบางประการ จึงนาเอกสารข้อมูลนัน มาเทียบเคียงกลับ ภาษาถิ่นสุโขทัยบ้านสวน ซ่ึงคาดว่าว่ามีพืนที่เน่ืองด้วยจังหวัด สุโขทัย และพืนถิ่นอีกหลายแห่ง อาทิในจังหวัดสุโขทัย ส่วนใหญ่ เป็นพืนท่ีที่ยังใช้ภาษาถิ่นสโุ ขทัยอยู่ แม้คาศัพท์บางคา จะแตกต่าง กนั แตใ่ นภาพรวมสาเนยี งและการออกเสยี งจะคล้าย ๆ กนั ซงึ่ ในแต่ ละพืนถ่ินจะมีคาเรียกและคาศัพท์ท่ีแตกต่างกันไปบ้าง เป็น เอกลกั ษณ์และลักษณะเฉพาะของแตล่ ะพนื ถิ่น แตกตา่ งกนั ไป ภาษาถิ่นบ้านคุ้งตะเภา เป็นภาษาใช้ส่ือสารระหว่าง ท้องถ่ินนานมาแล้ว ตงั แตย่ ุคดงั เดิม ทบี่ รรพชนคนสุโขทยั โบราณ ได้ เข้ามาตังรกรากในพืนที่บ้านคุ้งตะเภาเมื่อหลายร้อยปีมาแล้ว กลุ่ม ชนท่ใี ชภ้ าษาพูดนนั นบั เปน็ ภาษาไทยถน่ิ กลาง (นกั ภาษาศาสตร์ได้ จาแนกภาษาไทยออกเป็น ๔ กลุ่ม คือ ภาษาไทยถ่ินเหนือ ภาษาไทยถ่ินกลาง ภาษาไทยถ่ินอิสาน และภาษาไทยถ่ินใต้) แต่ เป็นภาษาไทยถิ่นกลางท่ีมีเสียงและความหมายผิดเพียนไปบ้าง 116 | ดเิ รก ดว้ งลอย | พระปลดั ระพิน พทุ ธฺ สิ าโร (ดว้ งลอย)

เล็กน้อย เรียกกันว่า “เหนอ่ ” ศพั ท์ทางภาษาศาสตรเ์ รยี กวา่ “ภาษา ชนบท” นนั่ เอง สาเนียงในภาษาถ่ินสุโขทัย ซึ่งเป็นสาเนียงที่ไม่ตรงกับ สาเนียงพูดของชาวภาคกลางมาแต่โบราณ๒๓ โดยมีผู้สารวจพบว่า ภาษาถ่นิ สโุ ขทัยยงั ใชก้ ันอยา่ งแพรห่ ลายอาทิ ในจงั สโุ ขทยั พษิ ณุโลก อุตรดิตถ์ กาแพงเพชร ซ่ึงพบในบ้างพืนที่ อาทิ ในจังหวัดอุตรดติ ถ์ บ้านคุ้งตะเภาดังเดิม และคนบ้านทุ่งยัง, ท่าเสา, บ้านพระฝาง ยังคงใช้สาเนียงพูดแบบสโุ ขทัยอยู่ ซ่ึงเป็นชุมชนหน่ึงในไม่กี่แหง่ ใน จังหวัดอุตรดิตถ์ท่ียังใช้สาเนียงแบบสุโขทัยโบราณ ในจังหวัด กาแพงเพชร และพิษณุโลก ส่วนในจังหวัดสุโขทัย ยังพบไดเ้ กือบทุก อาเภอ ยกเว้นในบางพนื ที่ของศรีสัชนาลัย อาเภอทงุ่ เสลยี่ มในบ้าง พืนท่ี พิเศษ เจียจันทร์พงษ์ นักวิชาการด้านประวัติศาสตร์ และ ผเู้ ช่ียวชาญพิเศษ ประจากรมศิลปากร สนั นิษฐานวา่ สาเนยี งการพูด ของคนคุ้งตะเภานัน เป็นสาเนียงดังเดิมของคนไทยที่ตังถ่ินฐานมา ตังแตอ่ าณาจักรสโุ ขทยั โดยกลา่ วว่าคนบ้านคงุ้ ตะเภานัน๒๔ ๒๓ เคียง ชานิ, \"สาเนียงพูดคนสุโขทัย,\" ศิลปวัฒนธรรม, ๒๒,๑ (พฤศจกิ ายน ๒๕๔๓) : ๙๒-๙๔. ๒๔ พิเศษ เจียจนั ทรพ์ งษ์, วัฒนธรรม พฒั นาการทางประวตั ิศาสตร์ เอกลักษณ์และภูมปิ ัญญา จงั หวัดอตุ รดิตถ์, (กรงุ เทพฯ : กระทรวงมหาดไทย กระทรวงศึกษาธกิ าร กรมศิลปากร, ๒๕๔๓). หนา้ ๑๐๔. ประวัตศิ าสตรทองถ่นิ 117 ประวัตศิ าสตรท์ อ้ งถิ่น จังหวัดสโุ ขทัย Local History of Bansuan Sukhothai Province

\"มีสาเนียงพูดเหน่อ... แบบเดียวกับ สาเนยี ง ชาวบา้ นฝาง บา้ นทา่ อฐิ บ้านทงุ่ ยง้ั .. บา้ นทา่ เสา.. และหม่บู า้ นในเขตอาเภอพิชยั ท่ี อยู่ในเขตจังหวัดเดียวกัน และเหมือนกับ สาเนียงพ้ืนบ้านของชาวสุโขทัย พิษณุโลก พิจิตร อันเป็นกลุ่มหัวเมืองเหนือในสมัยอยุธยา หรือบ้านเมืองที่ เคยอยูใ่ นเขตแคว้นของสโุ ขทยั แต่เดมิ \" จากสาเนียงภาษาถ่ินของของชาวบา้ นคุ้งตะเภาน่ีเอง ทา ให้สันนิษฐานได้ว่าบริบทด้านชาติพันธุ์ พืนเพของคนคุ้งตะเภานัน เป็น \"คนไทยเหนือ\" ตามคาปากของคนในสมยั อยธุ ยา คือเป็นกลุม่ คนชาติพันธ์ไทยเดิม ท่ีอยู่แถบเมืองพิษณุโลก, พิจิตร และสุโขทัย ซึ่งก็คือกลุ่มคนที่ตังถ่ินฐานอยู่ปลายดนิ แดนหัวเมืองทางเหนือของ อาณาจักรอยุธยา อันเป็นรอยต่อระหว่างวัฒนธรรมภาคกลางและ วัฒนธรรมล้านนา โดยคนคุ้งตะเภาดังเดิมนันจะมีสาเนียงการพูด ภาษาถ่ินสุโขทัย คล้ายคนสุโขทัยเดิม และเมืองฝางสวางคบุรี ใน 118 | ดิเรก ด้วงลอย | พระปลดั ระพนิ พทุ ธฺ ิสาโร (ดว้ งลอย)

เร่ืองนี สมชาย เดือนเพ็ญ นักวัฒนธรรมผู้เช่ียวชาญภาษาถิ่น สโุ ขทัย ได้กล่าววา่ ๒๕ \" . . . ส า เ นี ย ง สุ โ ข ทั ย เ ก่ า หลงเหลืออยู่ในพื้นที่... นอกเขตจังหวัด สโุ ขทัย เชน่ ... บริเวณตาบลรอบ ๆ วดั พระ มหาธาตุพระฝาง เมืองสวางคบุรี (คือ ตาํ บลผาจุก, ตาํ บลคุ้งตะเภา-ผู้เรียบเรยี ง) คอื ข้าพระโยมสงฆ์ที่พระมหากษัตริย์สุโขทัย ถวายขาดไว้ในพุทธ ศาสนา คือไม่ต้องไปราชการทัพ ทาให้สาเนียงสโุ ขทัยหลงเหลือ อยใู่ นพนื้ ทีน่ อกจังหวัดสุโขทยั ดว้ ย...\" การถวายข้าพระโยมสงฆ์ในสมัยสุโขทัยนี ปรากฏในศิลาจารกึ สมยั สุโขทยั จานวนหลายหลกั ซึง่ ได้มีการพูดถึงการพระราชทานพระบรมราชูทิศเพ่ือ กัลปนาอุทิศคนให้เป็นขา้ วดั หรือขา้ พระ สาหรับคอย บารุงดแู ลรกั ษาศาสนสถานสาคญั ซ่งึ จะมีจานวนคน ครัวเรือน และหน้าที่แตกต่างกันออกไป ตัวอย่าง ๒๕ สมชาย เดือนเพญ็ นักวฒั นธรรมผเู้ ชีย่ วชาญภาษาถ่นิ สุโขทัย ใน \"เวทีประชาคมเพ่ือชุมชนเข้มแข็ง ภาษาสุโขทัยรากฐานแผ่นดิน\" http://youtu.be/t3DAjBKdc-s ประวตั ศิ าสตรทองถ่นิ 119 ประวัติศาสตร์ท้องถิ่น จังหวัดสโุ ขทัย Local History of Bansuan Sukhothai Province

หนึ่งในนันคือ การถวายคนไว้เพ่ือบรรเลงดนตรีประจาพระอาราม สาหรับกระทาบูชาพระพุทธรูปพระปฏิมากรภายในวัด ดังปรากฏ อยูใ่ นจารกึ วัดชา้ งล้อม เมืองเก่าสโุ ขทัย พ.ศ. ๑๙๒๗ วา่ \"...พาทย์คูห่ นง่ึ ใหข้ า้ สองเรือนตบี าเรอแกพ่ ระเจา้ ฆอ้ ง สองอนั กลองสามอนั แตร สงั ข์ เขาควาย แตง่ ให้ไว้แกพ่ ระเจ้า (พระพทุ ธรปู )...\" ที่ยกมาเป็นส่วนหนึ่งจากงานค้นคว้าของพระมหาเทวประ ภาส วชิรญาณเมธี,ดร. เมอ่ื ย้อนกลับมาทีภ่ าษาถนิ่ สุโขทัย บ้านสวน ภาษาถิ่นบ้านสวน หรือภาษาถิ่นสุโขทัยในปัจจุบัน ในยุค ข้อมูลข้าวสาร ออนไลน์ เข้าถึงทุกซอกมุม ได้มีการปะทะสังสรรค์ ทางภาษา กับภาษากลาง และภาษาถิ่นอ่ืน ๆ ที่ได้เข้ามามีอทิ ธพิ ล ในการพูดและใชง้ านในชมุ ชนมากขนึ ภายใตค้ วามเปลี่ยนแปลงแห่ง ยุคสมัย ภาษาถ่ินบ้านสวนสุโขทยั ดังเดิมอาจเลือนหายและไมม่ วี ัน หวนคืน แม้ผู้เขียนเองเคยไปถามหลานซึ่งมอี ายุ ๒๐ ปีกว่า ว่าคานี เรยี กอะไร หรอื คานเี ขายงั ใช้กันอยู่ใหม หลานจะบอกว่าเคยเห็นแต่ ไม่ร้เุ ขาเรยี กอะไร หรือไม่มอี ยแู่ ลว้ ดว้ ยวัฒนธรรมทางทีวี ทส่ี าเนยี ง อาจเป็นแบบเดิมแต่คาศัพทม์ ีความเป็นภาคกลางมากขนึ ดังนันจึง เป็นเร่ืองสาคัญท่ีผู้เขียนเห็นว่าควรบันทึกไว้ เพ่ือเป็นความทรงจา เป็นการเรียนรทู้ ่ีมาทไี่ ป เพื่อมีความเข้าใจ ภาคภูมิใจ และควรหวง 120 | ดเิ รก ดว้ งลอย | พระปลดั ระพนิ พทุ ธฺ สิ าโร (ด้วงลอย)

แหนรักษาไว้ใน \"ภาษาถ่ินสุโขทัย-บ้านสวน\" ให้ยืดเวลาออกไป ตามช่วงเวลาของการเปลย่ี นแปลงอย่างเหมาะสม สาเนียงเหมือนกับภาษาถ่ินสุโขทัยท่ัวไป โดยจะพูดเสียง เอกเป็นจัตวา และพูดเสียงจัตวาเป็นเสียงเอก ดังจะเห็นได้จาก แผนผงั ของเส้นเสยี งท่แี สดงดงั นี (เคยี ง ชํานิ, ๒๕๔๓ :๙๓) ๒๖ ภาษาถิ่นสุโขทัย มีสาเนียงพูดเป็นเอกลักษณ์ของตนเอง เหมือนกับท่ีล้านนาและล้านช้างมี โดยการออกเสียงสาเนียง จะ ค่อนข้างคล้ายภาษาไทยถ่ินเหนือ มีคาเมืองปนอยู่มาก มีหก วรรณยุกต์เหมือนกับภาษาไทยถ่ินเหนือ แต่การออกอักขระเสียง เหมือนกับสาเนียงอยุธยาแทบทุกอย่าง และเสียงจะห้วนกว่า สาเนียงอยุธยาและกรุงเทพ, “ร” และ “ล” จะเข้มงวดน้อยกว่า ๒๖ เคียง ชานิ, \"สาเนียงพูดคนสุโขทัย,\" ศิลปวัฒนธรรม, ๒๒,๑ (พฤศจกิ ายน ๒๕๔๓) : ๙๒-๙๔. ประวตั ศิ าสตรท อ งถ่ิน 121 ประวัติศาสตรทอ้ งถิน่ จังหวดั สุโขทัย Local History of Bansuan Sukhothai Province

สาเนียงอยุธยา แต่ไม่ถูกละทิงบ่อย ๆ แบบสาเนียงกรุงเทพ, ออก เสยี งพยญั ชนะตวั “ฉ” กับ “ช”, “ถ” กบั “ท”, “ผ” กบั “พ” และ “ฝ” กบั “ฟ” แยกออกจากกัน ภาษาถิ่นบ้านคุ้งตะเภา (ถ่ินสุโขทัย) มีคาท่ีแตกต่างจาก ภาษากลาง ทัง วรรณยุกต์ สระ พยัญชนะ เช่น ร เป็น ล ช เป็น ซ วรรณยกุ ตม์ ี ๖ เสยี ง เช่น เลา เหลา เลา่ เล้า เลา๊ เหลา่ เช่นคาว่า เลา เป็น ลักษณะนามของขลุย เหลา ลักษณะนามของดนิ สอ เลา่ ลกั ษณะการเล่าต่อกนั ฟัง เล้า คอื ที่อยู่สัตว์ เปด็ ไก่ เล๊า คือ คาถามเชิงแนะนา เหลา่ คอื พวกเหลา่ นัน ลูกเตา้ เหล่าใคร ซ่ึงภาษากลางมเี พยี งแค่ ๕ เสยี ง และทส่ี าคัญสาเนยี ง ภาษาถน่ิ บ้านคงุ้ ตะเภาไม่มี ร กลา 122 | ดิเรก ดว้ งลอย | พระปลดั ระพนิ พทุ ธฺ สิ าโร (ด้วงลอย)

สาเนยี งถิ่นบา้ นสวน (สโุ ขทัย) การหยิบยืมงานค้นคว้าของพระมหาเทวประภาส วชิรญาณ เมธี,ดร. รองเจ้าอาวาสวัดคุ้งตะเภา ท่ีได้ทาการเรียบเรียงไว้ เก่ียวกับ ภาษาถนิ่ สุโขทยั ที่ใช้กนั ในตาบลคุง้ ตะเภา จ.อตุ ดติ ถ์ ได้ทาการแจง้ และ ขออนญุ าตทา่ นว่าขอนาศพั ทม์ าเทียบเคียงกับภาษาถิน่ สโุ ขทัยบา้ นสวน เพื่อการเรียนรู้และอนุรักษ์จึงนาศัพท์ และนาศัพท์เหล่านันมา เทยี บเคียงกบั ผ้รู ้แู ละผู้สูงอายุอีกจานวนหลายท่าน (สุ่ม เกดิ ซา/ทองอยู่ เกิดซา/พระปลดั สงั วาล กิตติสทฺโท/ธีรพงษ์ ด้วงลอย) เพ่ือเทียบเคียง รวมทังเทยี บเคียงกนั รนุ่ ใหม่ว่ายังรู้จักศัพทแ์ บบนีไหม ? (สมบูรณ์ ด้วง ลอย/สมุ ติ รา จ้อยแก้ว/ปิยวรรณ จ้อยแกว้ /สจุ ิตรา ดว้ งลอย) เพ่ือยนื ยนั ศัพทแ์ ละการใช้ศพั ท์ ทวนสอบการใช้และไม่ใช้ เปน็ เบอื งตน้ สาเนียงภาษาถ่ินสุโขทัย เสียงวรรณยุกต์จะสลับกันกัน ภาษากลาง เชน่ ตก - ต๊ก หก - ห๊ก ไก่ - ไก๊ - ไก๋ หมู - หมู่ ประวัติศาสตรทองถิ่น 123 ประวัติศาสตร์ทอ้ งถิน่ จังหวัดสโุ ขทยั Local History of Bansuan Sukhothai Province

หมู่ - หมู ขม่ ขืน - ขมข่นื ขมขืน่ - ข่มขนื เส่อื - เสือ เสือ - เสอ่ื เขา - เข่า เขา่ - เขา ตัวอย่าง \"ข่อเชิญหมูไปกินหมู่\" = ขอเชิญหมู่ (ตารวจ) ไป กนิ หมู ตัวอย่าง \"เอาเสือมาปูนอน ให๊ระวังเส่ือ\" = เอาเส่ือมาปู นอน ใหร้ ะวงั เสอื หากมีวรรณยุกตเ์ อกใหเ้ อาออก เช่น หนงึ่ ออกเสียงเป็น หนึง สี ออกเสียงเปน็ สี่ เสอื่ ออกเสยี งเปน็ เสอื 124 | ดเิ รก ด้วงลอย | พระปลดั ระพิน พทุ ธฺ ิสาโร (ด้วงลอย)

หากเป็นอักษรสงู ในภาษากลางท่ีมีวรรณยุกต์ (ไม้เอก) ให้ตัดออก เช่น สอง ออกเสียงเป็น ส่อง สาม ออกเสียงเปน็ สา่ ม หมู่ ออกเสียงเป็น หมู หวย ออกเสียงเปน็ หว่ ย นอกจากนี ภาษาถน่ิ สุโขทยั (บา้ นสวน) ยงั มเี อกลักษณ์ คาลงท้ายประโยค (คาช่วยประโยค เชน่ ไก๊ เกย๊ ในแถบ จ.สุโขทัย พนื ถิน่ อ่นื ๆ ) เช่น - ม๊อ ตัวอย่าง ไปเท่ียวกันมอ๊ - เอ๊ง ตวั อย่าง ไปดว้ ยเอง๊ - เลา๊ ตวั อยา่ ง ไปไหนมาเล๊า - ฮิ๊ ตัวอย่าง เอามานี่ฮิ๊ (มักใช้ในประโยค คาส่งั ) วิธีการหน่ึงท่ีท่านพระมหาเทวประภาส วชิรญาณเมธี ใช้ใน การสืบค้นภาษาถิ่นสุโขทยั คือการเปิดประเด็น ประวัติชุมชน และ ประวัติศาสตรท อ งถน่ิ 125 ประวตั ิศาสตรท์ อ้ งถิน่ จังหวดั สโุ ขทยั Local History of Bansuan Sukhothai Province

ท่ีมาของภาษาถิ่น จนถึงการสอบทานภาษาถ่ินบ้านคุ้งตะเภากับ ภาษาสโุ ขทัยถ่ินอ่ืน การสนทนาเปดิ ประเด็นไปอย่างกว้างขวาง เพือ่ ผู้สมั ภาษณ์สามารถเกบ็ คาศพั ท์ท่ีพบระหวา่ งการสนทนากล่มุ โดยไม่ ตังใจ ผูส้ ัมภาษณ์ทาการบันทกึ คาศพั ท์ทพ่ี บ และสอบถามซาอกี ครงั กับผู้ให้ข้อมูลสาคัญทุกคน เพื่อมีมติยืนยันคาศัพท์ท่ีพบนัน ๆ ปรากฏผล ผู้ให้ข้อมูลสาคัญเล่าว่าสาเนียงการพูดคุ้งตะเภาดังเดิม คล้ายกับคนบ้านพระฝาง, ท่าเสา และพบคาศัพท์ภาษาถิ่นท่ีใช้ เฉพาะในท้องที่บา้ นคุ้งตะเภาดังเดิม จานวน ๓๑๘ ศัพท์ ส่วนนีคือ ข้อมูลของอุตรดิตถ์ แต่ในส่วนของผู้เขียน ได้นาข้อมูลเหล่านันมา เทียบเคยี ง เพมิ่ ผ่านประสบการณต์ รงของผู้เขียน และสอบถามคน บ้านสวนเช่น น้าสาวของผู้เขียน น้าทองอยู่ เกิดซา (อาจใหญ่,พ.ศ. ๒๔๙๘ อายุ ๖ ปี) น้าสุ่ม เกิดซา (พ.ศ.๒๕๐๔ อายุ ๕๙ ปี) ที่ทังคู่ อยู่กับบ้านสวนตลอดระยะเวลากว่า ๕๐ ปี ตามช่วงเวลาของอายุ เพื่อเทยี บเคียง และสอบถามจากพช่ี าย (ธีรพงษ์ ด้วงลอย/สมบูรณ์ ด้วงลอย) นอ้ งสาว (ปิยวรรณ จอ้ ยแก้ว/สมุ ิตร จอ้ ยแก้ว) หลานสาว (สุจิตรา ด้วงลอย) เพ่ือทวนศัพท์ว่ายังใช้กันอยู่หรือไม่ ผ่านความ ทรงจา ทวนสอบร่วมกับภาษาถ่ินของบ้านสวน สุโขทัย ด้วยว่า สาเนียงเหมือนกันแต่คาศัพท์ บางศัพทแ์ ตกต่างกัน จึงสงวนศัพท์ท่ี เหมือน หรือคล้ายไว้ ดัดแปลงใหส้ อดคลอ้ งกบั สภาพความเป็นจริง ท่ีใช้จริง และเพ่ิมศัพท์ที่ไม่มีเข้ามา และใช้เกณฑ์ดังท่ียกมา รวม 126 | ดิเรก ด้วงลอย | พระปลดั ระพนิ พทุ ธฺ สิ าโร (ด้วงลอย)

ทงั ตวั ผูเ้ ขยี นเองทีเ่ คยประสบและเคยใช้ในวยั เดก็ เปน็ การทวนยอ้ น ความทรงจาในวัยเยาว์ คาศพั ทถ์ น่ิ สุโขทัยบา้ นสวน ความหมาย [ภาษาถิ่นสุโขทัย ๑ กงแนว๋ [แปลว่า] ตรงไป บา้ นสวน] ๒ กงล้อ, กงรถ [แปลวา่ ] ลอ้ รถ [ภาษาถิ่นสุโขทัย บ้านสวน] [ภาษาถิ่นสุโขทัย ๓ กล๋าวโทษ [แปลว่า] โทษ บ้านสวน] ๔ ก้อนเซา่ [ภาษาถ่ินสุโขทัย [แปลวา่ ] ก้อนดินวางเป็นเส้า บา้ นสวน] ๓ ก้อนใชห้ งุ ข้าว [ภาษาถ่ินสุโขทัย ๕ ก๋อไฟ [แปลวา่ ] กอ่ กองไฟ บ้านสวน] ๖ กะ่ จ้อน [แปลว่า] กระแต [ภาษาถิ่นสุโขทัย บ้านสวน] ประวัติศาสตรท องถ่ิน 127 ประวตั ิศาสตรท้องถิ่น จังหวดั สโุ ขทัย Local History of Bansuan Sukhothai Province

[ภาษาถ่ินสุโขทัย กะ่ แตง [แปลว่า] ตระแกรง (สานจาก ไ ม้ ไ ผ่ ส า น ห่ า ง ๗บ้านสวน] ส า ห รั บ ต า ก ผึ่ ง แดด) [ภาษาถิ่นสุโขทัย กะ่ จอบ [แปลวา่ ] จอบ ๘บ้านสวน] [แปลว่า] ก.กระจาย [ภาษาถ่ินสุโขทัย ๙ กะ่ เจิง [แปลว่า] ก.สะดดุ บา้ นสวน] ๑๐ ก่ะดุ๊ด [แปลว่า] ก.คากิริยาเอาของ [ภาษาถ่ินสุโขทัย ๑๑ กะ่ เดียด บา้ นสวน] วางที่เอวแลว้ เดินไป [ภาษาถิ่นสุโขทัย บ้านสวน] [ภาษาถ่ินสุโขทัย ๑๒ กะ่ ได [แปลวา่ ] น.บันได บา้ นสวน] ๑๓ [ภาษาถิ่นสุโขทัย กะ่ ตอ๋ นกะ่ แตน๋ [แปลว่า] ไมเ่ ป็นชนิ เปน็ อัน บา้ นสวน] กะดอ๋ นกะแดน๋ ไมเ่ รียบรอ้ ย 128 | ดิเรก ด้วงลอย | พระปลัดระพิน พุทธฺ ิสาโร (ด้วงลอย)

[ภาษาถิ่นสุโขทัย ๑๔ กะ่ ต๋าย [แปลว่า] น. กระต่าย บา้ นสวน] ๑๕ ก่ะต้า [ภาษาถ่ินสุโขทัย ๑๖ ก่ะตุด [แปลวา่ ] น. ตระกรา้ บา้ นสวน] ๑๗ ก่ะเตก๊ [ภาษาถ่ินสุโขทัย [แปลวา่ ] น.ตะกรดุ บ้านสวน] [ภาษาถิ่นสุโขทัย [แปลวา่ ] ก.ใช้กับไก่ตัวเมีย บา้ นสวน] ตกใจรอ้ ง ๑๘[ภาษาถ่ินสุโขทัย ก่ะโต๊ก [แปลวา่ ] ก.ใชก้ ับไกต่ ัวผู้ตกใจ รอ้ ง บ้านสวน] [แปลว่า] ก.เล่ือน เคลื่อนท่ี ๑๙[ภาษาถ่ินสุโขทัย กะ่ ถ๋ด ก่ะเถิ๊ด [แปลว่า] ก.เล่ือน เคลื่อนที่ บา้ นสวน] การเคล่ือนตัวเข้า ออกโดยไมย่ กกน้ ๒๐[ภาษาถ่ินสุโขทัย [แปลว่า] ก.เลอ่ื น เคลือ่ นท่ี บา้ นสวน] ๒๑[ภาษาถิ่นสุโขทัย กะ่ เท๊ดิ บ้านสวน] [ภาษาถ่ินสุโขทัย ๒๒ ก่ะเทิ๊บ [แปลวา่ ] ก.เลอ่ื น เคลื่อนท่ี บา้ นสวน] ๒๓ ก่ะบก๊ ก๊ะจอบ [แปลว่า] น.จอบขดุ ดิน [ภาษาถิ่นสุโขทัย บา้ นสวน] ประวตั ิศาสตรทอ งถ่ิน 129 ประวตั ศิ าสตรท์ อ้ งถิน่ จังหวัดสโุ ขทัย Local History of Bansuan Sukhothai Province

[ภาษาถ่ินสุโขทัย ๒๔ กะ่ บวก [แปลว่า] น. หลุม บ้านสวน] ๒๕ ก๊ะบวย [ภาษาถ่ินสุโขทัย ๒๖ ก่ะบ๊ะ [แปลว่า] น. ที่ตกั นา บา้ นสวน] ๒๗ ก่ะปบี๊ [แปลวา่ ] น. ถาดใสข่ ้าว [ภาษาถิ่นสุโขทัย ๒๘ กะ่ พดั บา้ นสวน] ๒๙ กะ่ พือ [แปลวา่ ] น. ป๊ีบ (นามนั ) [ภาษาถิ่นสุโขทัย บา้ นสวน] [แปลวา่ ] น. กันไว,้ กกั ไว้ [ภาษาถิ่นสุโขทัย บ้านสวน] [แปลว่า] ก.อาการของการใช้ [ภาษาถ่ินสุโขทัย พัดไม้ไผ่พัดเพือ่ให้ บา้ นสวน] ได้ลม [ภาษาถิ่นสุโขทัย ๓๐ กะ่ มงั [แปลวา่ ] น.กะละมงั บา้ นสวน] ๓๑ ก่ะสยุ่ [แปลวา่ ] คาเรียกกิริยาแตะ [ภาษาถ่ินสุโขทัย บา้ นสวน] ดนิ จนฝุน่ ฟุง้ [แปลวา่ ] เสยี ม [ภาษาถ่ินสุโขทัย กะ่ เสยี๊ ม ๓๒บ้านสวน] 130 | ดิเรก ด้วงลอย | พระปลดั ระพนิ พุทธฺ สิ าโร (ด้วงลอย)

๓๓[ภาษาถิ่นสุโขทัย กะโหลกกะลา [แปลว่า] น.กะลามะพร้าว บา้ นสวน] [ภาษาถ่ินสุโขทัย ๓๔ กัง [แปลว่า] น.ตดิ อยู่ บา้ นสวน] ๓๕ กากหมู่ [ภาษาถิ่นสุโขทัย [แปลว่า] น . ห นั ง ห มู ท อ ด บา้ นสวน] กรอบ ๓๖[ภาษาถิ่นสุโขทัย อี๋เขง่ [แปลว่า] ของเล่นสาหรับเด็ก ท า จ า ก ไ ม้ ไ ผ่ มี ไ ม้ บา้ นสวน] ส า ห รั บ ก ร ะ ทุ้ ง เพื่อใหเ้ กิดเสียง [ภาษาถิ่นสุโขทัย ๓๗ กง้ิ กา๋ บา้ นสวน] ๓๘ กนิ จุ๊ [แปลว่า] กงิ กา่ [ภาษาถิ่นสุโขทัย ๓๙ กินเตบิ บ้านสวน] ๔๐ กุ๊กๆ [แปลวา่ ] ว.กนิ กับข้าวมาก [ภาษาถ่ินสุโขทัย ๔๑ เกรียน/ลอ้ บา้ นสวน] ๔๒ เกยี ม [แปลวา่ ] ว.กนิ ขา้ วไดม้ าก [ภาษาถิ่นสุโขทัย บา้ นสวน] [แปลว่า] ว.คาเรียกไก่ให้มา [ภาษาถิ่นสุโขทัย บ้านสวน] [แปลว่า] น.เกวียน [ภาษาถ่ินสุโขทัย บา้ นสวน] [แปลวา่ ] ก.เตรียม ประวตั ิศาสตรท องถิ่น 131 ประวัตศิ าสตร์ท้องถิน่ จังหวัดสโุ ขทัย Local History of Bansuan Sukhothai Province

[ภาษาถ่ินสุโขทัย ๔๓ เกอื ก [แปลวา่ ] น.รองเท้า บา้ นสวน] ๔๔ [ภาษาถิ่นสุโขทัย แกระ/กอ๊ กแกก๊ [แปลว่า] น.กระด่ิงแขวนคอ บ้านสวน] คว า ย เ รี ย ก ต า ม เสยี งท่ดี งั ออกมา [ภาษาถิ่นสุโขทัย แกวดไฟ [แปลวา่ ] ก . จุ ด ไ ฟ ส กั ด กั น ไมใ่ หล้ าม ๔๕บ้านสวน] [ภาษาถ่ินสุโขทัย ๔๖ โกรกไม้ [แปลวา่ ] ก.เลอ่ื ยแปรรูปไม้ บา้ นสวน] ๔๗ [ภาษาถิ่นสุโขทัย ๔๘ ไก๋ [แปลว่า] น.ไก่ บ้านสวน] [ภาษาถ่ินสุโขทัย ข๊วยติ๊งนง/ก๋ว [แปลว่า] ก.นง่ั ไขว่ห้าง บ้านสวน] ยตงิ หน๋ง [ภาษาถิ่นสุโขทัย ขะเบอื [แปลว่า] น.ข้าวสารแช่นาตา รวมกับพรกิ แกง ๔๙บ้านสวน] [แปลว่า] น.กระยาสารท [ภาษาถ่ินสุโขทัย ๕๐ กะยาสาด บา้ นสวน] ๕๑ ข้าวสา่ น [แปลว่า] น.ขา้ วสาร [ภาษาถ่ินสุโขทัย บ้านสวน] 132 | ดเิ รก ด้วงลอย | พระปลดั ระพิน พทุ ฺธสิ าโร (ด้วงลอย)

๕๒[ภาษาถ่ินสุโขทัย ขี้โก้ะ/ขตี้ ุ [แปลว่า] น.อาการของโรค ชั น ตุ ห รื อ หั ว ไ ม่ บ้านสวน] สะอาด ๕๓[ภาษาถ่ินสุโขทัย ขี้ตะเกด๊ [แปลว่า] น.เศษไม้ ทน่ี ามาทา เชือไฟ้/เพลิง บา้ นสวน] ๕๔[ภาษาถ่ินสุโขทัย ขเ้ี ทอ่ [แปลว่า] น.คนสมองไม่ดี – ขี้ปุน๋ มีดไมค่ ม บา้ นสวน] ขม้ี กู ราขี้ตากัง [แปลว่า] น.ฝร่ัง (ฝร่ังพันธุ์ ๕๕[ภาษาถิ่นสุโขทัย เล็ก) บ้านสวน] [แปลวา่ ] ว.สกปรก [ภาษาถิ่นสุโขทัย ๕๖ ขน้ึ กะ่ ปุ่มกะ่ ปม๋ิ [แปลวา่ ] ว.ขึนไมม่ าก บ้านสวน] ๕๗ [ภาษาถ่ินสุโขทัย ๕๘ เขย้ิบ [แปลว่า] ก.ขยับตัว บา้ นสวน] ๕๙ [ภาษาถิ่นสุโขทัย ขวันโยน [แปลว่า] น.ขยานด้ามยาว บ้านสวน] ใช้ผา่ ไม้ หรือถากไม้ [ภาษาถิ่นสุโขทัย บา้ นสวน] ประวัตศิ าสตรท อ งถนิ่ 133 ประวัติศาสตรท์ ้องถิ่น จงั หวัดสโุ ขทัย Local History of Bansuan Sukhothai Province

[ภาษาถิ่นสุโขทัย เขา้ แอก [แปลว่า] ก.เทยี มเกวยี น ๖๐บา้ นสวน] [ภาษาถิ่นสุโขทัย ควายฮดึ [แปลว่า] ก.ควายขวิด ๖๑บ้านสวน] [แปลว่า] น.เคร่ืองสางข้าว ทาจากไม้ไม้ หรือ [ภาษาถิ่นสุโขทัย คันฉาย เ ห ล็ ก ต ะ ข อ ต ร ง ปลาย ๖๒บา้ นสวน] [แปลว่า] ก.ล้มกลิงลงกับพืน [ภาษาถ่ินสุโขทัย ๖๓ คว่าขา้ วเมา่ [แปลว่า] น.ถัง ถงั นา บ้านสวน] ๖๔ คุ/กระปงั [ภาษาถ่ินสุโขทัย บา้ นสวน] [ภาษาถิ่นสุโขทัย คุโยน/คุโผง [แปลว่า] น.ภาชนะชนิดหนึ่ง ส า น ด้ ว ย ไ ม้ ไ ผ่ ย า ๖๕บ้านสวน] ด้วยขันนาใช้ตักนา จากบ่อขดุ 134 | ดิเรก ดว้ งลอย | พระปลดั ระพนิ พทุ ธฺ ิสาโร (ด้วงลอย)

๖๖[ภาษาถ่ินสุโขทัย งบน้าอ้อย [แปลวา่ ] น.นาอ้อยท่ีหยอด เปน็ แผน่ ทรงกลม บ้านสวน] [แปลว่า] ก.ครอบ,คลมุ [ภาษาถิ่นสุโขทัย ๖๗ งวม บา้ นสวน] ๖๘ งวั [แปลว่า] น.วัว [ภาษาถิ่นสุโขทัย ๖๙ เงิง บ้านสวน] [แปลวา่ ] ว . ทั บ กั น ไ ม่ ส นิ ท [ภาษาถ่ินสุโขทัย เชน่ ฟันเงงิ หรอื ฟัน บา้ นสวน] เหยิน ๗๐[ภาษาถิ่นสุโขทัย แงม้ ยาง [แปลวา่ ] น.หนังสติ๊ก บา้ นสวน] [ภาษาถิ่นสุโขทัย ๗๑ แงะ [แปลวา่ ] ก.เหลยี วหนา้ มาดู บา้ นสวน] ๗๒ แง๊ะ [ภาษาถิ่นสุโขทัย ๗๓ โงนเงน [แปลว่า] ก.งัด บ้านสวน] [ภาษาถิ่นสุโขทัย [แปลว่า] ก.จะล้มลง –ฐานไม่ บ้านสวน] แนน่ ๗๔[ภาษาถ่ินสุโขทัย จัง [แปลวา่ ] ก.ถกู เจอ ชน บา้ นสวน] ประวัตศิ าสตรท องถิน่ 135 ประวัติศาสตรท์ ้องถิ่น จงั หวัดสโุ ขทัย Local History of Bansuan Sukhothai Province

[ภาษาถิ่นสุโขทัย ไอก้ น้ [แปลวา่ ] น.จงิ เหลน/ สตั วเ์ ลอื ยคลานส่ขี า ๗๕บ้านสวน] ยาวประมาณสอง [ภาษาถิ่นสุโขทัย ๗๖ ฟุต อยู่ตาม บ้านสวน] ก้านมะพรา้ ว ก้าน ๗๗ กล้วย [ภาษาถ่ินสุโขทัย เจ้ด [แปลว่า] น.เจ็ด เลข ๗ บา้ นสวน] ๗๘ [ภาษาถิ่นสุโขทัย ๗๙ เจิ้งเวงิ้ [แปลว่า] ว.นามากเกินไป บา้ นสวน] ๘๐ [ภาษาถ่ินสุโขทัย ๘๑ เจิน่ [แปลว่า] ว.หลง บ้านสวน] แจ้ง [แปลว่า] น.สว่าง,เช้า [ภาษาถิ่นสุโขทัย ๘๒ ใช่ปา๋ ว [แปลวา่ ] ว.ใช่ไหม บ้านสวน] ซ๊กมก๊ [แปลวา่ ] ว.สกปรก [ภาษาถ่ินสุโขทัย ๘๓ บา้ นสวน] ๘๔ ซบิ เบด็ [แปลว่า] น.สบิ เอด็ เลข ๑๑ [ภาษาถ่ินสุโขทัย ๘๕ บ้านสวน] ซุหัว [แปลว่า] ก.สระผม [ภาษาถ่ินสุโขทัย ดวด (ไปดวด) [แปลวา่ ] ว.ม่ัว สบั สน บ้านสวน] ดงั้ กางเกง [แปลวา่ ] น.เป้ากางเกง [ภาษาถ่ินสุโขทัย บา้ นสวน] [ภาษาถิ่นสุโขทัย บา้ นสวน] 136 | ดเิ รก ด้วงลอย | พระปลดั ระพนิ พุทฺธิสาโร (ดว้ งลอย)

[ภาษาถ่ินสุโขทัย ๘๖ ดนุ้ (ฟนื ) [แปลว่า] น.ทอ่ น (ฟืน) บา้ นสวน] ๘๗ [ภาษาถ่ินสุโขทัย ๘๘ เด่น [แปลว่า] น.ลาน ที่กวา้ ง บา้ นสวน] [ภาษาถ่ินสุโขทัย เดนิ กะโดก [แปลวา่ ] ก.เดินไปเดินมาไม่ บา้ นสวน] กะเดก คล่องแคล่ว เดย๊ี ะ ๘๙[ภาษาถ่ินสุโขทัย [แปลว่า] ก . ดุ ใ ห้ ห ยุ ด ก า ร กระทา บ้านสวน] [แปลว่า] ว . ใ ช้ ป ร ะ ก อ บ ๙๐[ภาษาถ่ินสุโขทัย โด๋ คากริยาบางคาเพื่อ เน้นความหมายว่า บา้ นสวน] ตรงขึนไป หรือเด่น ตาตาอยู่ ๙๑[ภาษาถิ่นสุโขทัย โด๋น่ะ [แปลวา่ ] ว.ตรงโนน้ บ้านสวน] [แปลวา่ ] ว.ใกล้ [ภาษาถิ่นสุโขทัย ๙๒ โดน๋ ิ บา้ นสวน] ๙๓ ต๊กกะเด้ยี [แปลว่า] น.ลูกนา [ภาษาถ่ินสุโขทัย บ้านสวน] ๙๔[ภาษาถิ่นสุโขทัย ต๊กกะเดยี ม [แปลวา่ ] ว.จ๊กั กะจี บา้ นสวน] ประวัติศาสตรทองถิ่น 137 ประวตั ิศาสตร์ท้องถิน่ จงั หวัดสโุ ขทัย Local History of Bansuan Sukhothai Province

[ภาษาถิ่นสุโขทัย ๙๕ ต๊กใจ [แปลว่า] ก.ตกใจ บ้านสวน] ๙๖ ต่ะกิด [แปลวา่ ] ก.สะกดิ [ภาษาถ่ินสุโขทัย บ้านสวน] [ภาษาถ่ินสุโขทัย ตะ่ แก้ม แก้ม [แปลวา่ ] น.จงิ จก [แปลวา่ ] น.กรรไกร ๙๗บา้ นสวน] [ภาษาถิ่นสุโขทัย ตะไก ๙๘บ้านoสวน] [ภาษาถิ่นสุโขทัย ตะ่ คืน [แปลว่า] ว.เมื่อคนื นี ๙๙บา้ นสวน] [แปลว่า] ว.อาการครั่นเนือ [ภาษาถิ่นสุโขทัย ตะ่ คุ่นต่ะคิ๊น ครั่นตัวเหมือนจะ บ้านสวน] ๑๐๐ เป็นไข้ [ภาษาถ่ินสุโขทัย ๑๐๒ ตะ่ งึกหนา้ [แปลว่า] ก.พยกั หนา้ บ้านสวน] [แปลว่า] น.เครื่องเงินสาหรับ [ภาษาถิ่นสุโขทัย ๑๐๓ ต่ะปิ้ง ปิ ด อ วั ย ว ะ เ พ ศ บา้ นสวน] เด็กผ้หู ญงิ 138 | ดเิ รก ด้วงลอย | พระปลดั ระพิน พทุ ธฺ สิ าโร (ด้วงลอย)

[ภาษาถ่ินสุโขทัย ๑๐๔ ตะ่ พดั [แปลว่า] ก.กันไว,้ กกั ไว้ บ้านสวน] [แปลว่า] ว.คาเรียกควายว่ิง [ภาษาถิ่นสุโขทัย ตะ่ เลิด๊ บา้ นสวน] ๑๐๕ หนี หรือคนท่ีไม่อยู่ ในกรอบ [ภาษาถ่ินสุโขทัย ๑๐๖ ตะ่ วาน [แปลวา่ ] เมอื่ วาน บา้ นสวน] [แปลวา่ ] น.สะเอว [ภาษาถิ่นสุโขทัย ๑๐๗ สะ๊ เอว [แปลว่า] น.ลูกนา (ยงุ ) บา้ นสวน] [ภาษาถ่ินสุโขทัย ต๊กั กะเดี้ย [แปลว่า] ว.จักกะจี บา้ นสวน] ๑๐๘ [แปลวา่ ] น.ชนิ [ภาษาถ่ินสุโขทัย ๑๐๙ ต๊ักกะเดียม [แปลวา่ ] น.จงิ จก บา้ นสวน] [ภาษาถ่ินสุโขทัย ๑๑๐ ต่ิน บา้ นสวน] [ภาษาถ่ินสุโขทัย ตุก๊ แก้ม บา้ นสวน] ๑๑๑ [ภาษาถ่ินสุโขทัย ๑๑๒ เต๋า [แปลว่า] น.เต่า บ้านสวน] [แปลวา่ ] ว.แตกระแหง [ภาษาถิ่นสุโขทัย แตกขะ๊ แหนง บ้านสวน] ๑๑๓ ประวัตศิ าสตรท องถน่ิ 139 ประวัตศิ าสตรท้องถิน่ จงั หวัดสุโขทยั Local History of Bansuan Sukhothai Province

[ภาษาถิ่นสุโขทัย ๑๑๔ ถอ่ ยลงมา [แปลวา่ ] ก.เล่ือนของลงจาก บ้านสวน] ทสี่ ูง [ภาษาถิ่นสุโขทัย ๑๑๕ ถั๋วไก่ [แปลว่า] น.ถวั่ เขียว บ้านสวน] [ภาษาถิ่นสุโขทัย ถา๋ น [แปลวา่ ] น.ถ่าน บา้ นสวน] ๑๑๖ [แปลว่า] น.ถงุ พลาสตกิ [ภาษาถ่ินสุโขทัย ๑๑๗ ถงุ ยาง บ้านสวน] [ภาษาถิ่นสุโขทัย ๑๑๘ เทิน [แปลวา่ ] ก.วางซอ้ นกนั บ้านสวน] [แปลว่า] น.นกปรอดหวั จกุ [ภาษาถิ่นสุโขทัย ๑๑๙ นกอจี ุก บ้านสวน] [ภาษาถ่ินสุโขทัย ๑๒๐ นกกอ็ ด [แปลว่า] น.นกปรอด บ้านสวน] [ภาษาถิ่นสุโขทัย นอนไขวต๋ ิงนง [แปลวา่ ] ว.นอนยกเข่าขาทับ บ้านสวน] ๑๒๑ ซ้อนกนั 140 | ดเิ รก ด้วงลอย | พระปลดั ระพนิ พทุ ฺธสิ าโร (ดว้ งลอย)

[ภาษาถิ่นสุโขทัย ๑๒๒ นอนแบบ่าง [แปลวา่ ] ว.นอนหงายหมด บ้านสวน] อาลัย [ภาษาถิ่นสุโขทัย ๑๒๓ นอนแผ๋หลา๋ [แปลว่า] ก.นอนหงายหมด บ้านสวน] อาลัย [ภาษาถิ่นสุโขทัย ๑๒๔ นอนเอกขะเนก๊ [แปลว่า] ว.นอนหงายอย่าง บา้ นสวน] สบายใจ [ภาษาถิ่นสุโขทัย ๑๒๕ นอนแอง้ แม้ง [แปลวา่ ] น.คาเรียกท่านอน บ้านสวน] ตะแคง [ภาษาถ่ินสุโขทัย ๑๒๖ นน่ั เน๊า [แปลว่า] ว.ว่าแล้ว บา้ นสวน] [แปลวา่ ] น.พริกสด [ภาษาถิ่นสุโขทัย นา้ พริกสด๊ [แปลวา่ ] น.นอ้ ยหน่า บ้านสวน] ๑๒๗ [แปลว่า] ว.น่ี [แปลว่า] ส.หนู [ภาษาถิ่นสุโขทัย ๑๒๘ น้าหนา่ [แปลว่า] ว.นั่นไง บ้านสวน] [ภาษาถิ่นสุโขทัย ๑๒๙ นีห่ น่า บ้านสวน] [ภาษาถ่นิ สโุ ขทัย ๑๓๐ นู๋ บ้านสวน] [ภาษาถน่ิ สโุ ขทยั ๑๓๑ เนา๋ หนะ่ บ้านสวน] [ภาษาถิ่นสโุ ขทยั ๑๓๒ เนย๊ี ะ [แปลว่า] ว.ตรงนี บา้ นสวน] ประวตั ศิ าสตรทอ งถิน่ 141 ประวตั ิศาสตร์ท้องถิน่ จังหวัดสโุ ขทยั Local History of Bansuan Sukhothai Province

[ภาษาถ่นิ สโุ ขทยั ๑๓๓ โนน่ หน่า [แปลว่า] ว.โน่น บา้ นสวน] ๑๓๔ ไน่ [ภาษาถ่ินสโุ ขทยั [แปลว่า] ก.ยยุ่ , นาแข็ง บ้านสวน] ละลาย [ภาษาถิ่นสโุ ขทัย ๑๓๕ บวก,กะ๊ บวก [แปลว่า] น.หลมุ บา้ นสวน] ๑๓๖ บอ้ งหู [แปลว่า] น.ใบหู [ภาษาถ่ินสโุ ขทยั ๑๓๗ บ๋อน [แปลว่า] น.ทีอ่ ยู่ บ้านสวน] [ภาษาถน่ิ สโุ ขทยั [แปลว่า] ว.ใหญ่โต บา้ นสวน] [แปลว่า] น.ตะไบสาหรบั [ภาษาถน่ิ สโุ ขทัย ๑๓๘ บ่ะเลอ่ บะ่ ลา่ เครือ่ งมอื ไสกบไม้ บ้านสวน] ๑๓๙ บ้งุ ชนิดหนึ่ง [ภาษาถิน่ สโุ ขทยั [แปลว่า] น.พนื ดิน บ้านสวน] [แปลว่า] ก.ผ่า (ฟืน) [แปลว่า] ก.เดนิ ขาเป๋ [ภาษาถิ่นสโุ ขทยั ๑๔๐ บดุ๊ น๊ิ บา้ นสวน] ๑๔๑ โบ๊ะ (ฟืน) [แปลว่า] น.ปลาเค็ม [ภาษาถิ่นสโุ ขทัย ๑๔๒ ป๊ักกะเยก็ บา้ นสวน] [ภาษาถ่นิ สโุ ขทัย ๑๔๓ ปลาเกลอื บ้านสวน] [ภาษาถิน่ สโุ ขทยั บา้ นสวน] 142 | ดิเรก ดว้ งลอย | พระปลดั ระพิน พุทฺธิสาโร (ดว้ งลอย)

[ภาษาถน่ิ สโุ ขทยั ๑๔๔ ปลาตก๊ คลก่ั [แปลว่า] น.ปลาที่อยู่ในหนอง บา้ นสวน] นาใกลจ้ ะแห้ง [ภาษาถิ่นสโุ ขทยั ๑๔๕ ปลาผดุ๊ [แปลว่า] ว.ปลาขึนมาหายใจ บา้ นสวน] บนผิวนา [ภาษาถ่ินสโุ ขทัย ๑๔๖ ปลาเหด้ [แปลว่า] น.ทอดมัน บ้านสวน] [ภาษาถิน่ สโุ ขทยั ๑๔๗ ป๊ะจบเขา่ มา [แปลว่า] ก.อาศัยคนอื่นมา บา้ นสวน] ดว้ ย [ภาษาถ่ินสโุ ขทยั ๑๔๘ ปกู ้ามเค่ิม [แปลว่า] น.ปูตัวใหญ่ บา้ นสวน] [ภาษาถิ่นสโุ ขทัย ๑๔๙ ป้นู [แปลว่า] ก.หลดุ ,หนี บ้านสวน] [ภาษาถ่นิ สโุ ขทยั ๑๕๐ เปด้ (น.) [แปลว่า] น.เปด็ บ้านสวน] [ภาษาถน่ิ สโุ ขทยั ๑๕๑ เปรยี ว, เถื่อน [แปลว่า] ว.ไม่เช่อื ง บ้านสวน] [ภาษาถิ่นสโุ ขทยั ๑๕๒ ไปเวจ็ [แปลว่า] ก.ไปสว้ ม บา้ นสวน] ประวัติศาสตรทอ งถนิ่ 143 ประวัตศิ าสตรท์ อ้ งถิ่น จงั หวัดสุโขทยั Local History of Bansuan Sukhothai Province

[ภาษาถน่ิ สโุ ขทัย ๑๕๓ ผา้ ไกร [แปลว่า] น.ผา้ ไตร บา้ นสวน] ๑๕๔ ผา้ คะมา้ [แปลว่า] น.ผ้าขาวม้า [ภาษาถิ่นสโุ ขทัย บา้ นสวน] [ภาษาถน่ิ สโุ ขทัย ๑๕๕ ผ้าตอ้ ย [แปลว่า] น.ผา้ เช็ดหนา้ บ้านสวน] [ภาษาถน่ิ สโุ ขทัย ๑๕๖ โผเผ, สะโหล, [แปลว่า] ว.เหนือ่ ยล้าแทบ บา้ นสวน] สะเหล หมดแรง [ภาษาถิน่ สโุ ขทัย ๑๕๗ ฝนตกสอ่ สอ่ , [แปลว่า] ก.ฝนตกพราๆ บา้ นสวน] ๑๕๘ ฝนมดี [แปลว่า] ก.ลบั มีด [ภาษาถน่ิ สโุ ขทยั บา้ นสวน] [ภาษาถน่ิ สโุ ขทัย ๑๕๙ พร้าถาง มีดปะ [แปลว่า] น.มีดฟันหญา้ บา้ นสวน] ถาง 144 | ดเิ รก ด้วงลอย | พระปลดั ระพนิ พุทฺธิสาโร (ด้วงลอย)

[ภาษาถิ่นสโุ ขทยั ๑๖๐ พกั [แปลว่า] ก.ผลักให้ลม้ บา้ นสวน] ๑๖๑ พกั ไห๋ [แปลว่า] น.มะระขีนก [ภาษาถิ่นสโุ ขทัย บ้านสวน] [แปลว่า] น.ผหู้ ญิง [ภาษาถน่ิ สโุ ขทัย ๑๖๒ พุ๊หย่งิ [แปลว่า] น.มะเขือร่ืน บ้านสวน] [ภาษาถ่ินสโุ ขทัย ๑๖๓ มะเข๋ือพะมา่ บา้ นสวน] [ภาษาถนิ่ สโุ ขทยั ๑๖๔ มะเข๋ือส้ม [แปลว่า] น.มะเขอื เทศลกู เล็ก บา้ นสวน] เป็นพวง [ภาษาถ่ินสโุ ขทยั ๑๖๕ มง่ั ฮิ [แปลว่า] ว.มั่งสิ บา้ นสวน] ๑๖๖ มาฮิ [แปลว่า] ว.มาสิ [ภาษาถิ่นสโุ ขทยั ๑๖๗ มิ๊ด [แปลว่า] น.มดี บา้ นสวน] [ภาษาถน่ิ สโุ ขทัย ๑๖๘ มนุ่ ,มอด [แปลว่า] ก.ลอด มุด บ้านสวน] [ภาษาถิ่นสโุ ขทยั [แปลว่า] ว.เกบ็ กวาด, บ้านสวน] สะอาด [ภาษาถน่ิ สโุ ขทยั ๑๖๙ เอ่ียม บา้ นสวน] ประวัติศาสตรทอ งถิน่ 145 ประวตั ิศาสตรท์ ้องถิน่ จงั หวัดสโุ ขทัย Local History of Bansuan Sukhothai Province

[ภาษาถ่ินสโุ ขทัย ๑๗๐ แมง [แปลว่า] น.คาเรยี กรวมทัง บา้ นสวน] แมงและแมลง [ภาษาถิ่นสโุ ขทัย ๑๗๑ แมงกวาง [แปลว่า] น.ด้วงกวา่ งตวั ผู้ บ้านสวน] [แปลว่า] น.ผเี สือ [ภาษาถน่ิ สโุ ขทัย ๑๗๒ แมงกะบี้ บ้านสวน] [แปลว่า] น.แมลงทับ/แมลง ทอง [ภาษาถิ่นสโุ ขทัย ๑๗๓ แมงทบั /เต๋า บ้านสวน] ทอง [ภาษาถิ่นสโุ ขทัย ๑๗๔ แมงอห้ี นดี [แปลว่า] น.จิงหรีด บ้านสวน] [ภาษาถิน่ สโุ ขทัย ๑๗๕ แมงอีเหน่ยี ง [แปลว่า] น.แมลงเหนี่ยง บ้านสวน] [ภาษาถิ่นสโุ ขทัย ๑๗๖ แมลงวันไขข๊ ่าง [แปลว่า] ว.แมลงวันหยอดไข่ บา้ นสวน] [ภาษาถ่ินสโุ ขทัย ๑๗๗ โม๋ [แปลว่า] ก.โผลข่ นึ มา บา้ นสวน] 146 | ดเิ รก ดว้ งลอย | พระปลัดระพิน พุทฺธิสาโร (ดว้ งลอย)

[ภาษาถ่นิ สโุ ขทัย ๑๗๘ ไมข้ อ [แปลว่า] น.ไม้สอยผลไม้มี บา้ นสวน] เหล็กของอๆ [ภาษาถิน่ สโุ ขทัย ๑๗๙ ไม้เซา้ /ไมแ้ ง้ม [แปลว่า] น.ไมส้ อย บา้ นสวน] [ภาษาถิ่นสโุ ขทัย ๑๘๐ ยง้ั [แปลว่า] ก.หยดุ บ้านสวน] [ภาษาถน่ิ สโุ ขทัย ๑๘๑ ยางวง [แปลว่า] น.หนังยาง บ้านสวน] [ภาษาถิน่ สโุ ขทัย ๑๘๒ ย่ยุ [แปลว่า] ก.สลาย เปอื่ ย บา้ นสวน] [แปลว่า] ก.เขน็ ผลัก ดนั [แปลว่า] น.รถมอเตอรไ์ ซด์ [ภาษาถน่ิ สโุ ขทยั ๑๘๓ ยู้ [แปลว่า] น.พืนท่ตี ่า บ้านสวน] [ภาษาถนิ่ สโุ ขทัย ๑๘๔ รถเครอ่ื ง บา้ นสวน] [ภาษาถน่ิ สโุ ขทัย ๑๘๕ ล้อง บา้ นสวน] ประวัตศิ าสตรทอ งถ่ิน 147 ประวตั ศิ าสตรท์ ้องถิน่ จงั หวัดสุโขทัย Local History of Bansuan Sukhothai Province

[ภาษาถิ่นสโุ ขทยั ๑๘๖ ล้อ [แปลว่า] น.เกวียน บา้ นสวน] [ภาษาถน่ิ สโุ ขทยั ๑๘๗ ลากแตกลาก [แปลว่า] ก.อาเจยี น บา้ นสวน] แตน [ภาษาถิ่นสโุ ขทยั [แปลว่า] ก.โยนหรอื เหวยี่ ง บา้ นสวน] ๑๘๘ ลวิ [แปลว่า] น.ลกู หิน [ภาษาถ่ินสโุ ขทัย [แปลว่า] น.ลกู ดินเหนียวป้ัน บา้ นสวน] ๑๘๙ ลู๊กอิฐ๊ [ภาษาถน่ิ สโุ ขทัย ตาก/ลกู หนงั สต๊ิก บ้านสวน] ๑๙๐ ลู๊กคนั สนุ [แปลว่า] น.ลกู กระบอื ลูกวัว [ภาษาถ่ินสโุ ขทัย ๑๙๑ ลุกแอ บา้ นสวน] [ภาษาถน่ิ สโุ ขทัย ๑๙๒ เลา๊ [แปลว่า] ว.เลา่ (คาลงท้าย บ้านสวน] ประโยค) [ภาษาถิ่นสโุ ขทัย ๑๙๓ วด๊ิ หนอง [แปลว่า] ก.เรยี กการวดิ นาใน บ้านสวน] สระหรือนา [ภาษาถน่ิ สโุ ขทัย ๑๙๔ แว้ง [แปลว่า] ก.เลียวกลับ บา้ นสวน] ๑๙๕ สง่ ใส่ [ภาษาถน่ิ สโุ ขทยั [แปลว่า] ว.สงสยั บ้านสวน] 148 | ดิเรก ดว้ งลอย | พระปลดั ระพนิ พุทธฺ ิสาโร (ดว้ งลอย)


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook