Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ประวัติศาสตร์ท้องถิ่นบ้านสวนจังหวัดสุโขทัย

ประวัติศาสตร์ท้องถิ่นบ้านสวนจังหวัดสุโขทัย

Published by PRASIT P., 2020-11-23 14:45:52

Description: โดย ดิเรก ด้วงลอย,
พระปลัดระพิน พุทฺธิสาโร,ผศ.ดร.
.............
ออกแบบโดย ประสิทธิ์ พุทธศาสน์ศรัทธา

Keywords: ประวัติศาสตร์, สุโขทัย

Search

Read the Text Version

[ภาษาถนิ่ สโุ ขทัย ๑๙๖ สุขศาลา [แปลว่า] น.สถานีอนามยั บ้านสวน] ๑๙๗ สบู่ซุห่ัว [ภาษาถ่นิ สโุ ขทัย ๑๙๘ ส่อง [แปลว่า] น.ยาสระผม บา้ นสวน] ๑๙๙ สะเด๊ด [ภาษาถน่ิ สโุ ขทยั [แปลว่า] ก.สอง บ้านสวน] [ภาษาถน่ิ สโุ ขทยั [แปลว่า] ว.ซน เช่น ซน บ้านสวน] สะเดด๊ [ภาษาถน่ิ สโุ ขทยั ๒๐๐ สะนน้ั [แปลว่า] ว.อย่างทีเ่ หน็ ,เป็น บ้านสวน] อยา่ งนัน [ภาษาถ่นิ สโุ ขทัย ๒๐๑ สะนน้ั เลา๊ [แปลว่า] ว.อะไร บ้านสวน] ๒๐๒ สนั่ [แปลว่า] ส. ฉนั [ภาษาถิ่นสโุ ขทยั บ้านสวน] ๒๐๓ ส่าม [แปลว่า] น.สาม [ภาษาถน่ิ สโุ ขทัย ๒๐๔ ส๊ี [แปลว่า] น.ส่ี บ้านสวน] ๒๐๕ เส้นแกงร้อน [แปลว่า] น.ว้นุ เส้น [ภาษาถน่ิ สโุ ขทัย ๒๐๖ เสอื [แปลว่า] น.เสื่อปูนอน บ้านสวน] [ภาษาถิ่นสโุ ขทยั ๒๐๗ เสื่อ [แปลว่า] น.เสือ (สัตว์) บ้านสวน] [ภาษาถน่ิ สโุ ขทยั บา้ นสวน] [ภาษาถิ่นสโุ ขทัย บา้ นสวน] ประวัตศิ าสตรท อ งถ่นิ 149 ประวัติศาสตร์ท้องถิน่ จงั หวัดสุโขทยั Local History of Bansuan Sukhothai Province

[ภาษาถน่ิ สโุ ขทัย ๒๐๘ เสือต๊บตูด [แปลว่า] น.เครื่องดกั สตั ว์ บ้านสวน] จาพวกกระรอก กระแต [ภาษาถิ่นสโุ ขทัย ๒๐๙ หก๊ บา้ นสวน] [แปลว่า] น.หก [ภาษาถิน่ สโุ ขทยั ๒๑๐ หกคะมา่ ควา่ [แปลว่า] ว.ลม้ คว่า บ้านสวน] คะเมน [ภาษาถน่ิ สโุ ขทัย [แปลว่า] ส.ใช้เรียกคนแก่ บ้านสวน] ๒๑๑ หงอ๋ ม มาก ๆ (เรยี กรวม ปยู่ า่ ตายาย) [ภาษาถิ่นสโุ ขทยั ๒๑๓ หน๋อไม้ บา้ นสวน] [แปลว่า] น.หน่อไม้ไผ่ [ภาษาถน่ิ สโุ ขทยั ๒๑๔ หน๊งั ส๋ือ บ้านสวน] ๒๑๕ หนาหนา่ [แปลว่า] น.หนังสือ [ภาษาถนิ่ สโุ ขทยั [แปลว่า] น.นอ้ ยหนา่ บา้ นสวน] [ภาษาถน่ิ สโุ ขทยั ๒๑๖ หนงึ๋ [แปลว่า] น.หนึ่ง บ้านสวน] ๒๑๗ หม่า [แปลว่า] น.หมา [ภาษาถน่ิ สโุ ขทัย บ้านสวน] 150 | ดิเรก ด้วงลอย | พระปลดั ระพนิ พุทฺธิสาโร (ด้วงลอย)

[ภาษาถน่ิ สโุ ขทยั ๒๑๘ หมากเกบ้ [แปลว่า] น.หมากเก็บ บ้านสวน] (การละเล่นของ เดก็ ) [ภาษาถนิ่ สโุ ขทยั ๒๑๙ หม๋บู ้าน [แปลว่า] น.หมู่บ้าน บ้านสวน] [ภาษาถิ่นสโุ ขทยั ๒๒๐ หยู [แปลว่า] น. อยู่ บา้ นสวน] ๒๒๑ หล่าว [แปลว่า] ว.เล่า (คาลงทา้ ย [ภาษาถิ่นสโุ ขทัย บา้ นสวน] ประโยคทักทาย) [แปลว่า] ว.เหน่ือยหอบมาก [ภาษาถิ่นสโุ ขทยั ๒๒๒ หอบแฮก ๆ บ้านสวน] ๆ [แปลว่า] น. หอย [ภาษาถน่ิ สโุ ขทยั ๒๒๓ ห่อย [แปลว่า] ก.ขยับตวั บ้านสวน] ๒๒๔ เหย๊บิ [แปลว่า] ก.อาการคลน่ื ไส้ [ภาษาถนิ่ สโุ ขทยั ๒๒๕ เหยี นไส้ [แปลว่า] ก.เห่ยี ว บ้านสวน] ๒๒๖ หยูด [ภาษาถน่ิ สโุ ขทัย [แปลว่า] ว.ใหม่ บา้ นสวน] ๒๒๗ ไหม [ภาษาถิน่ สโุ ขทัย [แปลว่า] น.ล้อรถ บ้านสวน] ๒๒๘ โอ้งรถ [ภาษาถิ่นสโุ ขทยั บา้ นสวน] [ภาษาถิ่นสโุ ขทยั บ้านสวน] ประวตั ิศาสตรท องถนิ่ 151 ประวัติศาสตรท์ อ้ งถิน่ จังหวดั สโุ ขทัย Local History of Bansuan Sukhothai Province

[ภาษาถิ่นสโุ ขทัย ๒๒๙ อก๊ิ หน่ [แปลว่า] ว.อกี ครัง บ้านสวน] [แปลว่า] น.กระแตตัวเลก็ ๆ [ศพั ทถ์ ิน่ สุโขทยั ] ๒๓๐ กระจอ้ น [แปลว่า] น.ปลาซิว [ภาษาถนิ่ สโุ ขทัย ๒๓๑ อซี ิว [แปลว่า] น.ปลากระดี่ บา้ นสวน] [แปลว่า] น.ตัวบุ้งของผเี สือ [ภาษาถิ่นสโุ ขทยั ๒๓๒ อด้ี ี๋ บา้ นสวน] ๒๓๓ อบ้ี ุ้ง [ภาษาถิ่นสโุ ขทัย บา้ นสวน] [ภาษาถน่ิ สโุ ขทัย ๒๓๔ กะต้อวิดน้า [แปลว่า] น.อีโผง ชงโลง ทว่ี ดิ บา้ นสวน] นา [ภาษาถิ่นสโุ ขทยั ๒๓๕ อี้มั่วอ้ีตั้ว [แปลว่า] ว.ชลุ มนุ วุน่ วาย บ้านสวน] ๒๓๖ อ๊ีโปง่ [แปลว่า] น.โทงเทง ก็เรียก [ภาษาถิ่นสโุ ขทยั บา้ นสวน] 152 | ดิเรก ด้วงลอย | พระปลัดระพิน พุทธฺ สิ าโร (ดว้ งลอย)

[ภาษาถิ่นสโุ ขทยั ๒๓๗ อีมุย /ขวานตา [แปลว่า] น.ขวาน บ้านสวน] มยุ [ภาษาถน่ิ สโุ ขทัย ๒๓๘ อี้โรย [แปลว่า] น.กระบอกทาเส้น บา้ นสวน] ขนมจนี , เคร่ืองโรย ขนมจนี [ภาษาถิน่ สโุ ขทัย ๒๓๙ อี้หง [แปลว่า] น.เครือ่ งชอ้ นปลา บา้ นสวน] หรือสวิง [ภาษาถนิ่ สโุ ขทยั ๒๔๐ อีหนดี /อีดดี [แปลว่า] น.จงิ หรีด บา้ นสวน] [ภาษาถ่ินสโุ ขทยั ๒๔๑ อห๊ี นู่ [แปลว่า] ส.ลูกสาว เป็นคา บา้ นสวน] เรยี กเดก็ ผ้หู ญิง [ภาษาถน่ิ สโุ ขทยั ๒๔๒ อี้หมอ [แปลว่า] น.ปลาหมอ บ้านสวน] ประวตั ศิ าสตรท องถนิ่ 153 ประวัตศิ าสตร์ทอ้ งถิน่ จังหวดั สุโขทัย Local History of Bansuan Sukhothai Province

[ภาษาถ่ินสโุ ขทัย ๒๔๓ อี้ออดอแ้ี อด [แปลว่า] ว.การกระทา บา้ นสวน] บอ่ ยครัง เพยี งเลก็ ๆ น้อย ๆ [ภาษาถน่ิ สโุ ขทัย ๒๔๔ เอง บ้านสวน] [แปลว่า] ส. เธอ [ภาษาถน่ิ สโุ ขทยั ๒๔๕ เอาม๊อ บ้านสวน] ๒๔๖ เอ้ิน [แปลว่า] ว. เอามัย [ภาษาถิ่นสโุ ขทยั [แปลว่า] ก.เรยี ก บ้านสวน] [แปลว่า] ก.แอบมองดู [ภาษาถน่ิ สโุ ขทัย ๒๔๗ เอ้ียง [แปลว่า] น.จงิ จก บา้ นสวน] ๒๔๘ ไอ้แก้ม [แปลว่า] น. ลกู ชาย [ภาษาถิ่นสโุ ขทัย ๒๔๙ ไอ้หนู่ [แปลว่า] น.ตกุ๊ แก บา้ นสวน] ๒๕๐ ไอ้ตอ [แปลว่า] น.กิงก่า [ภาษาถ่นิ สโุ ขทยั ๒๕๑ ไอ้ขัง/บั้งขงั บ้านสวน] [ภาษาถ่นิ สโุ ขทยั บ้านสวน] [ภาษาถน่ิ สโุ ขทัย บา้ นสวน] [ภาษาถ่นิ สโุ ขทยั ๒๕๒ ฮหิ๊ ลา่ ว [แปลว่า] ว.ซเิ รา (คาลงท้าย บา้ นสวน] ประโยค) [ภาษาถน่ิ สโุ ขทยั ๒๕๓ เฮ๊อะ [แปลว่า] ว.เถอะ บา้ นสวน] 154 | ดิเรก ด้วงลอย | พระปลัดระพนิ พุทธฺ ิสาโร (ดว้ งลอย)

[ภาษาถ่นิ สโุ ขทยั ๒๕๔ เมือ่ น้ี [แปลว่า] ว.เมื่อเร็ว ๆ นี บ้านสวน] ๒๕๕ ป๊กั เบด๊ [ภาษาถ่นิ สโุ ขทยั ๒๕๖ เยาะเบด๊ [แปลว่า] ก.ปักเบ็ด บ้านสวน] [ภาษาถ่ินสโุ ขทยั [แปลว่า] ก.คาเรยี กกิรยิ าการ บา้ นสวน] ขยบั เบด็ ตกปลา [ภาษาถน่ิ สโุ ขทยั ๒๕๗ บอ่ โจน [แปลว่า] น.เรียกวิธกี ารดัก บ้านสวน] ปลา โดยการนาดนิ ทาท่ปี ากภาชนะจบั [ภาษาถน่ิ สโุ ขทัย ๒๕๘ ขเี้ ยอ่ื ปลาและให้ปลาดิน บ้านสวน] ๒๕๙ ตะเล๊นิ เขา้ สภู่ าชนะ [ภาษาถนิ่ สโุ ขทัย บ้านสวน] [แปลว่า] น.เศษขยะ [ภาษาถน่ิ สโุ ขทยั ๒๖๐ ฝนกมุ่ [แปลว่า] น.เรียกระดบั การ บ้านสวน] ๒๖๑ ไอ้กน้ ลดหลั่นของพนื ราบ [ภาษาถิ่นสโุ ขทยั บา้ นสวน] [แปลว่า] ว.ฝนตกชกุ [แปลว่า] น.จงิ เหลน ในภาษา ถ่ินบางกอก ประวตั ศิ าสตรท อ งถน่ิ 155 ประวตั ิศาสตรท้องถิ่น จังหวดั สโุ ขทยั Local History of Bansuan Sukhothai Province

[ภาษาถน่ิ สโุ ขทยั ๒๖๒ โม่ ๆ [แปลว่า] ว.คาเรยี กสนุ ขั บา้ นสวน] [แปลว่า] ว.ควายดีใจได้นาฝน [ภาษาถิ่นสโุ ขทัย ๒๖๓ ตะเกงิ , ควาย บ้านสวน] ตะเกิง [แปลว่า] ว.ควายแทงจอม [ภาษาถ่ินสโุ ขทยั ปลวก บา้ นสวน] ๒๖๔ ควายฮดึ , ฮึด เฝอื [แปลว่า] น.พิการเดนิ ไม่ได้ [ภาษาถน่ิ สโุ ขทยั ๒๖๕ เปีย้ [แปลว่า] ก.เรยี กสัตวห์ ลุด บา้ นสวน] ๒๖๖ ปนุ้ จากท่ีขงั (กริยา) [ภาษาถน่ิ สโุ ขทัย บ้านสวน] [แปลว่า] ว.ตาสวา่ ง [แปลว่า] ว.วางอยู่, ตังอยู่ [ภาษาถิ่นสโุ ขทยั ๒๖๗ ตาแจง้ บ้านสวน] ๒๖๘ คะโร่ [แปลว่า] น.อวัยวะเพศหญิง [ภาษาถิ่นสโุ ขทยั ๒๖๙ อโี มะ๊ บ้านสวน] ๒๗๐ รถไถนอ้ ย [แปลว่า] น.รถไถเดินตาม [ภาษาถิ่นสโุ ขทยั บา้ นสวน] [ภาษาถิ่นสโุ ขทยั บา้ นสวน] 156 | ดเิ รก ด้วงลอย | พระปลัดระพนิ พุทธฺ ิสาโร (ดว้ งลอย)

[ภาษาถน่ิ สโุ ขทัย ๒๗๑ วัวคลู่ ้ออัน [แปลว่า] น.เสอื่ ผนื หมอนใบ บ้านสวน] (สานวน) [ภาษาถ่ินสโุ ขทัย ๒๗๒ ครบรอบ [แปลว่า] ว. กริ ิยาหมายถงึ บ้านสวน] ครบ ๒๔ ชว่ั โมง [ภาษาถน่ิ สโุ ขทยั ๒๗๓ สังขะแหยง [แปลว่า] ว. อาการของความ บ้านสวน] รังเกยี จอย่างใด อยา่ งหนึ่ง เช่น ไม่ [ภาษาถิ่นสโุ ขทัย ๒๗๔ บ้งิ อยากกา้ วเทา้ บา้ นสวน] เหยยี บลงไปบน พืนดนิ เพราะรู้สกึ [ภาษาถิ่นสโุ ขทัย ๒๗๕ ละมวั รังเกียจหนามท่ีอาจ บ้านสวน] ตาเท้า [แปลว่า] น. แปลงผนื นา เช่น บงิ นา [แปลว่า] น.นมแมว หรอื บกั ผีผ่วนในภาคอสี าน ถนิ่ สโุ ขทยั มภี าษาถน่ิ เป็นของตัวเอง เปน็ เอกลกั ษณ์ จัดอยู่ ในตระกูลภาษาไทย ที่เอกลักษณ์ของพืนถ่ินสุโขทัย ด้วยลักษณะ ประวตั ิศาสตรท องถนิ่ 157 ประวัติศาสตรท์ ้องถิน่ จังหวัดสุโขทัย Local History of Bansuan Sukhothai Province

[ภาษาถ่นิ สโุ ขทัย ๒๗๖ รอ้ ยดงั [แปลว่า] น.สนตะพายววั / บา้ นสวน] ควาย หมายเหต : น. = นาม / ก. = กริยา/ว.=วิเศษณค์ ุณศพั ท/์ กริยา ส. สรรพนาม ภาษาท่ีห้วน แข็ง การเขียนตรงนเี พ่ือสะท้อนว่าภาษาถ่ินบ้านสวน มีเอกลักษณ์เป็นของพืนถ่ินตัวเอง เหมาะแก่การจดจาและนาไป บอกต่อเปน็ เรือ่ งราว เหมาะแกก่ ารทศั นา หรือนามาเลา่ กนั ในเรื่อง ที่เหมาะสม จากการสอบถามครูสุทิน เยโท้ ในฐานะท่ีเป็นครู รวมทังสอบถามจากข้อมูลอ่นื ๆ จากผู้ร้ทู ังจากงานวิจัยและมผี ู้รไู้ ด้ เรียบเรียงเอกสาร ตระกูลภาษาถ่ินไทยไวจ้ านวนมาก อาทิ ๑.ลักษณะภาษาบ้านสวน จะเป็นคาเดียวโดด และออก เสียงไม่ต้องกับวรรณยุกต์ จะมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง “เหน่อ- แข็ง-ห้วน” เป็นลักษณะของคา ไทยที่สามารถนิยามและนามาเปน็ เอกลกั ษณท์ างภาษาได้ ๒. ภาษาบ้านสวน จะเป็นภาษาที่สะทอ้ นถึงบุคลิกภาพ ท่ี อาจดดู ดุ ัน ถ้าคนไม่คุ้นชินจะมองว่าดดุ ัน ๓. ภาษาบ้านสวน (ภาษาถ่ินสุโขทัย) จะเป็นภาษาท่ียัง นิยมและใช้กันแพร่หลาย แต่ในเวลาเดียวก็ยังกลืนกลาย หายไป 158 | ดิเรก ดว้ งลอย | พระปลัดระพิน พุทฺธสิ าโร (ดว้ งลอย)

เป็นภาษาสมัยใหม่ ตามภาษาทีวี อันเป็นลักษณะพัฒนาการทาง ภาษาปกติท่วั ไปของภาษาทป่ี รากฏในโลกนี ภาษาถิ่นสุโขทัย (บ้านสวน) หรือภาษาบ้านสวน ยังอาจมี อีกหลายศัพท์ ท่ีต้องใช้การศึกษาค้นคว้าเทียบเคียงเพ่ิมเติม ซึ่งผู้ เรียบเรียงเห็นว่า น่าจะเป็นการอนุรักษ์ และเห็นว่าเป็นประโยชน์ จึงนามาเทยี บเคยี ง ถามจากคนเก่า ๆ ทอ่ี ยกู่ ับชุมชนมาตลอด สว่ น ผเู้ รียบเรียงเคยใช้ชีวติ ในชุมชนระยะสนั เมอื่ เทียบกับระยะทางของ ชีวิต อาจถูกตีความว่าเป็นคนนอกชุมชน ด้วยภาษามีพัฒนาการ ตามช่วงเวลาท่ีเหมาะสม และปรับเปลี่ยนไปตามสถานการณ์ โดยเฉพาะอย่างย่ิงในปจั จบุ นั ที่กระแส ของวฒั นธรรมทวี ี ระบบสื่อ ออนไลน์ และการเข้าถึงทาให้ภาษามีพัฒนาการเปล่ียนผ่านอย่าง รวดเร็ว ภาษาบา้ นสวนก็มีลักษณะแบบนันดว้ ย คือมีพัฒนาการและ การเปลย่ี นผ่าน จงึ นาหยบิ ยืมและนามาปรบั แต่ง บันทึก และบนั ทึก ไว้เป็นหลักฐานร่วมกันถึงสิ่งที่เคยมีและเป็นพัฒนาการของชุมชน ท้องถิ่นบ้านสวนเรา อาจตรง ใช่ ไม่ใช่เป็นอีกเรื่อง แต่ในชันนีเกิด จากประสบการณข์ องผู้เขยี นเปน็ หลกั ท่ใี ช้ขอ้ มลู ตังตน้ จากชุมชนวัด คุ้งตะเภา จ.อุตรดิตถ์ แล้วนามาปรับให้เป็นของบ้านสวน (คลอง ด่าน) ตามความทรงจาของผเู้ ขียน และเทยี บเคยี งบางส่วน ซ่ึงต้อง พัฒนาและส่งต่อไป ทวนย้อนเป็นความทรงจา หรือศึกษา ประวัติศาสตร์ชุมชนกันต่อไป ที่เป้าหมายเพื่อประโยชน์ใน การศึกษา ประวัตศิ าสตรทอ งถนิ่ 159 ประวัตศิ าสตรท์ อ้ งถิ่น จงั หวดั สุโขทยั Local History of Bansuan Sukhothai Province

ประวตั แิ ม่พลอย ด้วงลอย (๑๐ เมษายน พ.ศ.๒๔๘๓ ปมี ะโรง-๒๗ พฤศจกิ ายน ๒๕๖๑, อายุ ๗๘) แม่พลอย ด้วงลอย เป็นเป็นบุตรสาวของ ต า จ ว ง อ า จ ใ ห ญ่ (บุตรนายคอย อาจ ใหญ่ – นางจาง อาจ ใ ห ญ่ , เ กิ ด พ . ศ . ๒๔๕๕- เสียชีวิต ๑๗ พฤศจิกายน ๒๕๒๒, อายุ ๖๗ ปี) ยายไพร อาจใหญ่ (เป็นบุตร นายแถม-นางกล่อม เอ่ียมทองอินทร์, - เกิด พ.ศ.๒๔๕๗ - เ สี ย ชี วิ ต ๑ ๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๑๓,อายุ ๕๖ ปี) แม่พลอย ด้วงลอย เป็นบุตรสาว คนท่ี ๓ อนั ประกอบด้วยพนี่ อ้ ง ดังนี คือ 160 | ดิเรก ดว้ งลอย | พระปลัดระพิน พทุ ฺธิสาโร (ด้วงลอย)

[ตาจวง อาจใหญ่ พ.ศ.๒๔๕๕- เสียชีวติ ๑๗ พฤศจกิ ายน ๒๕๒๒,อายุ ๖๗ ปี ยายไพร อาจใหญ่ เกดิ พ.ศ.๒๔๕๗ - เสยี ชีวติ ๑๓ กุมภาพนั ธ์ ๒๕๑๓,อายุ ๕๖ ปี)] ๑.นางใจ ม่วงศรี (พ.ศ.๒๔๗๘) สมรสกับนายฉลอม มว่ งศรี (เสียชีวติ แล้ว) มีบุตรธดิ า จานวน ๖ คน อนั ประกอบด้วย (๑) นางสาวเหลีย่ ม ม่วงศรีๆ (๒) นายชลอ ม่วงศรี (เสยี ชีวติ แล้ว) (๓) นายดอกรกั ม่วงศรี นายดอกรัก ม่วงศรี (๒๕๐๖) สมรส กับนางจารีย์ ม่วงศรี (๒๕๐๖) มีบุตรธดิ า คือ นายจักราวธุ มว่ งศรี (๒๕๓๐) และนางสาว จิราภรณ์ ม่วงศรี (๒๕๓๔) (๔) นายณรงค์ มว่ งศรี (๒๕๐๙) (๕) นายจาลอง (น่อย) มว่ งศรี (๒๕๑๑) สมรสกับนางจรยิ า ม่วงศรี (หนิง) มีบุตรธิดา ๓ คน คือ นายจีรยุทธ ม่วงศรี นางสาว นภสรณ์ ม่วงศรี และเดก็ หญิงจิดาภา ม่วงศรี (๒๕๓๘) ประวัติศาสตรทอ งถ่นิ 161 ประวตั ศิ าสตรท์ ้องถิน่ จงั หวดั สโุ ขทัย Local History of Bansuan Sukhothai Province

(๖) นายสารวย ม่วงศรี (๒๕๑๓) สมรสกับนางเฉลา มว่ งศรี ๒.นางสาวสม้ จนี อาจใหญ่ (เสียชีวติ แลว้ ) ๓.นางพลอย ด้วงลอย (๑๐ เมษายน พ.ศ.๒๔๘๓ ปี มะโรง-๒๗ พฤศจิกายน ๒๕๖๑, อายุ ๗๘) สมรสกับนายใบ ด้วง ลอย (บุตรนายจาลอง นางตอม ด้วงลอย) มีบุตรจานวน ๗ คน อัน ได้แก่ นายธรี พงษ์ (พงษ์) ด้วงลอย (พ.ศ.๒๕๐๖) / นายพาน (ตา่ ย) ด้วงลอย (พ.ศ.๒๕๐๘) นายสมบัติ (พจน์) ด้วงลอย (๒๙ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๑๑ -๑๕ พฤษภาคม ๒๕๓๘) นายสมบูรณ์ (รุ่ง) ด้วงลอย พระระพิน ด้วงลอย นายดิเรก ด้วงลอย นายวัชรินทร์ (โลม-แสง) ดว้ งลอย 162 | ดิเรก ดว้ งลอย | พระปลัดระพนิ พุทฺธิสาโร (ดว้ งลอย)

๓. นายทองเพียร อาจใหญ่ สมรสกับนางจด (แก้วทิม) อาจใหญ่ มีบุตรธิดา รวม ๓ คน คือ นายพล อาจใหญ่ (เสียชีวิต แล้ว) นางยพุ า (ปือ้ ) สุขผึง (สกุลเดิมอาจใหญ)่ นาย พร อาจใหญ่ ๔. พระครูสุพัฒนพิธาน (ทองดี มหาวีโร/อาจใหญ่ / ๒๔๙๕-มรณะ ๒๒ เมษายน พ.ศ.๒๕๔๑) อดีตเจ้าอาวาสวัดคลอง ตะเคียน ตาบลบ้านสวน อาเภอเมือง จงั หวดั สโุ ขทัย มรณภาพด้วย อุบตั ิเหตทุ างรถยนต์ พร้อมกับคณะรว่ มเดินทาง รวมทังหมด ๙ คน ประวตั ิศาสตรทอ งถนิ่ 163 ประวตั ิศาสตรท์ อ้ งถิน่ จังหวดั สุโขทัย Local History of Bansuan Sukhothai Province

๕.นางแดง (อยู่) เกิดซ้า สกุลเดิม อาจใหญ่ (๑๐ กรกฎาคม ๒๔๙๘) สมรสกับนายสุ่ม เกิดซา (๒๖ สิงหาคม ๒๕๐๔) มีบุตรธิดา ๓ คน แต่เสียชีวิตในขณะวัยเยาว์ ๒ คน [ด.ญ. จตุพร (ส้ม) เกิดซา /๖ เมษายน ๒๕๒๙-เมษายน ๒๕๔๑/ ด.ญ. จนั ทิมา (เดือน) เกิดซา,๓๐ มีนาคม ๒๕๓๐-เมษายน ๒๕๔๑] และ บตุ รคนสดุ ท้อง นายรตั นศกั ด์ิ (ฮิม) เกดิ ซา (๒๙ เมษายน ๒๕๔๕) ๖.นางทองคา (จุก) จ้อยแก้ว สกุลเดิม อาจใหญ่ สมรส กับนายออน จ้อยแก้ว (เสียชีวิตแล้ว) มีบุตร ๔ คน คือ ปิยวรรณ (เงาะ) จ้อยแก้ว [เสียชีวิตแลว้ ] น.ส.สุมิตรา (หงุ่น) จ้อยแก้ว น.ส. ปราณี (เป้ิล) จอ้ ยแกว้ น.ส.จฑุ ามาศ (รส) จอ้ ยแกว้ (ภาพ : ปจู่ าลอง – ย่าตอม ดว้ งลอย ผูเ้ ป็นบิดามารดา ของพอ่ ใบ ด้วงลอย) 164 | ดิเรก ด้วงลอย | พระปลดั ระพิน พุทฺธิสาโร (ดว้ งลอย)

ต่อมาแม่พลอย อาจใหญ่ ได้สมรสกับนายใบ ด้วงลอย เป็นบุตรของปู่จาลอง ด้วงลอย (พ.ศ.๒๔๖๒-เสียชีวิตเมื่อ ๒๖ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๑๘ อายุ ๕๖ ปี ) [ปู่จาลอง เป็นบุตรของทวด สนิ ทวดเยน็ ด้วงลอย] ย่าตอม ด้วงลอย (พ.ศ.๒๔๗๐-เสียชีวติ เมอ่ื ๕ เมษายน ๒๕๑๕ อายุ ๔๕ ปี) [ย่าตอมเปน็ บุตรสาว ของทวดอัด ทวดไผ่] เม่ือแม่พลอย ด้วงลอยสมรสกับพ่อใบ ด้วงลอยแล้ว ได้ ร่วมกันประกอบอาชีพทางการเกษตร ท่ีบ้านคลองด่าน โดยพ่อใบ ดว้ งลอย มพี ่นี ้องร่วมกัน ๑.นายใบ ด้วงลอย เกดิ พ.ศ.๒๔๘๕ ถงึ แกม่ รณกรรมเมอื่ ๕ มกราคม ๒๕๒๗ ซึ่งมพี ีน่ อ้ งร่วมบิดามารดา คอื ๒ นางสุ่ม ดว้ งลอย สมรส กบั นายใบ วรนุช มบี ุตร ๔ คน (๑) นางสาวอบุ ล วรนุช (เสียชีวิตแล้ว) (๒) นางดอกไม้ (เบียบ) พฒุ หอมโพธิ์ (สมรสกับ นายชรนิ ทร์ พฒุ หอมโพธิ์ มีบุตรสาว ๒ คน คือ นางสาว วรรณนศิ า พฒุ หอมโพธ์ิ อายุ ๓๐ ปี นางสาววารี พฒุ หอม โพธ์ิ อายุ ๑๖ ป)ี (๓) นายสมศักดิ์ วรนุช (เสียชวี ติ แล้ว) (มบี ตุ รสาว ๒ คน คอื นางสาวสกุ ญั ญา วรนชุ อายุ ๒๓ ปี และเด็กหญงิ สุธิมนต์ วรนชุ อายุ ๗ ป)ี ประวัตศิ าสตรท อ งถนิ่ 165 ประวัตศิ าสตรท์ ้องถิ่น จงั หวัดสโุ ขทัย Local History of Bansuan Sukhothai Province

(๔) นายสมชาย วรนชุ (สมรสกบั นางนงนุช วรนุช มีบตุ รสาว ๒ คน คือ นางสาวศิรธิ ร วรนชุ อายุ ๒๒ ปี และ นางสาวชนาภา วรนุช อายุ ๑๕ ปี) ๓ นายอุบล (จ๊อก) ด้วงลอย สมรสกบั นางบญุ ยงั ด้วง ลอย มีบตุ รธดิ า ๓ คน นางสาวสมหมาย (คา) ดว้ งลอย นายอนชุ าติ (ปม๋ิ ) ด้วงลอย นางสาวนิภาพร (จอย) แกว้ คาแสน ๔ นางซมิ [ด้วงลอย] โตอ่อง สมรส กบั นายรนิ โตอ่อง มี บุตรธิดา ๒ คน คือ ๑. นายจรัญ (โรจน์) โตอ่อง ๒. นางสาวณัฐ กาญจน์ (ขวญั ) โตอ่อง ๕ นายสุบิน (รอด) ด้วงลอย สมรสกับนางเชา้ แยม้ แขนง มีบุตรธิดา ๓ คน ๑.นายวันชัย (กอบ) ด้วงลอย ๒.นางสาวภาวิณี (กงุ้ ) ด้วงลอย ๓.นางสาวสมบรู ณ์ (ฉมิ ม่นั ) ดว้ งลอย ๖ นางหนวิ ด้วงลอย (เสียชีวติ แลว้ ) มีลกู ๑ คน 166 | ดิเรก ดว้ งลอย | พระปลดั ระพนิ พทุ ฺธสิ าโร (ด้วงลอย)

๗. นายเลก็ (เม็ด) ด้วงลอย (๗ ธนั วาคม ๒๕๐๗-เสียชีวิต เม่ือ ๑๘ กรกฎาคม ๒๕๕๙, อายุ ๕๒ ปี) สมรสกบั นางประทุม (หย อง) เพ็งแจ้ง (เกิดวันท่ี ๑๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๐๙) มีธิดา ๒ คน คือ ๑ . น า ง ส า ว นิ ภ า รั ต น์ (หยก) ด้วงลอย (๓ กันยายน ๒๕๓๐) การศึกษาปริญญาตรี ค ณ ะ วิ ท ย า ก า ร จั ด ก า ร เ อ ก การตลาด มหาวิทยาลัยราชภัฏ เชียงใหม่ สมรสกับนายชัยณรงค์ (ล่ัน) หงษ์ผ้วย (เกิดวันท่ี ๑๑ เมษายน ๒๕๓๐) มีบุตรสาว ๑ คน คือ ด.ญ.อนุสรา (วาโย) หงษ์ ผ้วย (เกิดวันที่ ๒๐ มีนาคม ๒๕๕๖) ๒. นางสาวอินทรธ์ ิรา (มิน) ด้วงลอย (เกิดวันที่ ๒๘ กรฏา คม ๒๕๓๙) สาเร็จการศึกษาปริญญาตรีสาขารัฐประศาสนศาสตร์ จากมหาวทิ ยาลยั ราชภฎั พบิ ลู สงคราม ประวตั ศิ าสตรท องถน่ิ 167 ประวตั ศิ าสตรท์ อ้ งถิน่ จังหวดั สุโขทัย Local History of Bansuan Sukhothai Province

ภาพ ใบมรณบตั ร พอ่ ใบ ดว้ งลอย เมื่อ ๕ มกราคม ๒๕๒๗ อายุ ๔๑ ปี 168 | ดิเรก ดว้ งลอย | พระปลัดระพิน พุทฺธิสาโร (ดว้ งลอย)

(ภาพ ใบมรณบัตร ตาจวง อาจใหญ่ เมอ่ื ๑๗ พฤศจกิ ายน ๒๕๒๒ อายุ ๖๗ ปี) ประวตั ิศาสตรทอ งถิ่น 169 ประวตั ศิ าสตร์ท้องถิ่น จงั หวดั สุโขทัย Local History of Bansuan Sukhothai Province

(เอกสารใบมรณบัตร ย่าตอม ด้วงลอย เสยี ชีวติ เมอ่ื ๕ เมษายน ๒๕๑๕ อายุ ๔๕ ปี ยายไพร อาจใหญ่ เสยี ชวี ติ ๑๓ กุมภาพัน์ ๒๕๑๓ อายุ ๖๕ ป)ี การศึกษา 170 | ดิเรก ด้วงลอย | พระปลดั ระพิน พทุ ฺธสิ าโร (ด้วงลอย)

อายุ ๔๕ ปี ยายไพร อาจใหญ่ เสยี ชวี ิต ๑๓ กมุ ภาพัน์ ๒๕๑๓ อายุ ๖๕ ปี) การศึกษา โรงเรยี นวัดฤทธิ์ หรือวัดบา้ นสวน ในราชกจิ จานุเบกษา ใน วัยเยาว์แม่เข้ารับการศึกษาท่ีโรงเรียนวัดฤทธ์ิ จบประถมศึกษาปที ่ี ๔ เม่ือสาเร็จการศึกษา ได้ประกอบอาชีพช่วยพ่อแม่ (ตาจวง-ยาย ไพร อาจใหญ่) ซึ่งก็คืออาชีพทางการเกษตร จากนันจึงได้ออกครวั แตง่ งานตามวิถขี องสังคมเกษตร การสมรส แตง่ งาน แม่พลอย ด้วงลอย ได้แต่งงานกับพ่อใบ ด้วงลอย ตาม แบบแผนประเพณี ของคนไทย และใช้ ชี วิ ต คู่ ป ร ะ ก อ บ อ า ชี พ ท า ง เกษตรกรรม ประวัติศาสตรทองถน่ิ 171 ประวัตศิ าสตรท์ อ้ งถิน่ จงั หวัดสุโขทยั Local History of Bansuan Sukhothai Province

(ภาพ ใบสาคญั การสมรส พ่อใบ แม่พลอย ด้วงลอย ทจ่ี ดทะเบยี น กันตามกฎหมาย เมือ่ พ.ศ.๒๕๒๐ ในชว่ งหา่ งไกลว่าทก่ี ารอาเภอ) ชีวติ ครอบครัวและบุตร ชีวติ ครอบครัวของแมไ่ ด้สมรสกับนายใบ ดว้ งลอย และได้ ใหก้ าเนิดบุตรชายทงั หมด จานวน ๗ คน โดยบตุ รชาย คือ 172 | ดเิ รก ด้วงลอย | พระปลดั ระพนิ พุทธฺ สิ าโร (ดว้ งลอย)

(ภาพ : ลูกชายแม่พลอยทัง ๔ พงษ์ พาน พจน์ รุ่ง ประมาณ พ.ศ. ๒๕๑๔) ๑.นายธีรพงษ์ (พงษ์) ด้วงลอย (๖ เมษายน พ.ศ. ๒๕๐๖ ตรงกับวันเสาร์ ปีเถาะ ขึน ๑๕ ค่า เดือน ๕) ปริญญาตรี มหาวิทยาลัยราชภัฎจันทร์เกษม ปัจจุบันประกอบอาชีพเป็น พนักงานบริษัท GENERAL DRUNG HOUSE Limited (ผลิตและ จาหนา่ ยยา) กทม. และสมรส กบั นางประนอม [เท่ียงบญุ ] ด้วงลอย รบั ราชการ สานกั งานตรวจเงินแผน่ ดิน (สตง.) กระทรวงการคลงั ๒.นายพาน (ตา่ ย) ดว้ งลอย (๑๐ มิถนุ ายน พ.ศ.๒๕๐๘ วนั พฤหัส ขนึ ๑๑ ค่า เดือน ๗ ปีมะเส็ง) สมรสกบั นางเยาว์ ดว้ งลอย ประวัติศาสตรทองถิ่น 173 ประวตั ศิ าสตรท อ้ งถิน่ จงั หวัดสุโขทัย Local History of Bansuan Sukhothai Province

(สกุลเดิม น้อยนวล) ประกอบอาชีพกสิกรรม มีบุตรธิดาด้วยกัน จานวน ๓ คน คือ นางสาวกัลยา (ยุ้ย) ด้วงลอย นางสาวยุพาวดี (บี) ด้วงลอย เด็กชายพีรพฒั น์ (อิกคิว) ดว้ งลอย (ภาพงานศพพจน์ สมบตั ิ ด้วงลอย ลูกคนท่ี ๓ ของแม่ เสยี ชวี ติ ๑๕ พฤษภาคม ๒๕๓๘) ๓.นายสมบัติ (พจน์) ด้วงลอย (๒๙ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๑๑ วันศุกร์ ขึน ๑ คา่ เดือน ๕ ปวี อก- เสียชวี ิต๑๕ พฤษภาคม ๒๕๓๘) สมรสกับนางสมนึก (หง่าว) ทับทิม/ มีบุตรธิดาด้วยกัน จานวน ๒ คน นายวรรณกร ทับทิม (๑๔ ม.ค.๒๕๓๕) และ ปริญญาตรีทางด้านกฎหมาย มหาวิทยาลัยพะเยา นางสาวสุจิตรา ด้วงลอย (๑๔ ม.ค.๒๕๓๘) ต่อมานางสมนึก ได้สมรสกับนายดุสติ 174 | ดเิ รก ด้วงลอย | พระปลัดระพิน พทุ ฺธสิ าโร (ด้วงลอย)

(เกลียง) เกตเุ อยี่ ม มีบุตรชาย ๑ คน] นายนพดล [ก็อต] เกตเุ อ่ียม (พ.ศ.๒๕๔๕) ๔. นายสมบูรณ์ (รุ่ง) ด้วงลอย (๓๐ พ.ย. ๒๕๑๓ ตรงกบั วันจันทร์ ขึน ๒ ค่า เดือน ๑ ปีจอ) พนักงานบริษทั Emas Energy Service (Thailand) การปิโตรเลียมและเชือเพลงิ สมรสกับนางอร สา (สกลุ เดิม บ้านกลว้ ย) ดว้ งลอย ประกอบอาชีพค้าขาย มบี ุตรธิดา จานวน ๒ คน คือ เด็กหญิงอรนิช (การ์ตูน) ด้วงลอย ๑๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๙ เด็กชายเทวนพ (ออโต้) ด้วงลอย ๒๔ พฤษภาคม ๒๕๕๓ ๕. พระระพิน ด้วงลอย ปริญญาโท มหาวิทยาลยั ศรีนค รินทรวิโรฒ ปริญญาเอก มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราช วิทยาลัย ตาแหน่งอาจารย์ คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหา จุฬาลงกรณราชวทิ ยาลัย จ.พระนครศรอี ยุธยา ๖. นายดิเรก ด้วงลอย (๓๐ เมษายน พ.ศ. ๒๕๑๙ ปี มะโรง) ปริญญาโท มหาวิทยาลัยนเรศวร ปรญิ ญาเอก มหาวทิ ยาลยั มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย บุคลากรบัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตนครสวรรค์ สมรสกับ อาจารย์มัลลิกา ภูมะธน รับราชการ ตาแหน่งอาจารย์ คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฎนครสวรรค์ มีบุตร จานวน ๒ คน คือ เด็กชายภาณพุ งษ์ ดว้ งลอย เดก็ ชาย ภาณเุ ทพ ดว้ งลอย ประวัติศาสตรทอ งถิน่ 175 ประวตั ศิ าสตรท์ อ้ งถิน่ จงั หวดั สุโขทัย Local History of Bansuan Sukhothai Province

๗. นายวัชรินทร์ (โลม-แสง) ด้วงลอย (๕ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๒๑ ปีมะเมีย วันอาทิตย์ ขึน ๖ ค่า เดือน ๑๒) ศึกษา ปริญญาโทมหาวิทยาลัยปูเณ่ ประเทศอินเดีย ปัจจุบันเป็น พนักงานบริษัท MMSVS AN UZMA COMPANY ผลิตพลังงาน และปโิ ตรเลียม 176 | ดเิ รก ดว้ งลอย | พระปลัดระพิน พุทธฺ ิสาโร (ดว้ งลอย)

วชั รนิ ทร์ (แสง) ลูกคนท่ี ๗ ของแมใ่ นวยั เยาว์ ลูกคือผลิตผลของพ่อแม่ พ่ีน้องทัง ๖ อันเป็นลูกของแม่ พลอย ด้วงลอย ที่เติบใหญ่กันตามโอกาสทังในส่วนของการศึกษา อาชีพการงาน และครอบครวั ที่รับช่วงและสง่ ต่อตามครรลองของ ประวัตศิ าสตรท องถน่ิ 177 ประวตั ศิ าสตร์ทอ้ งถิ่น จงั หวัดสุโขทัย Local History of Bansuan Sukhothai Province

ดาเนินชีวิตในแบบมนษุ ย์จะพึงดาเนนิ และขับเคลอ่ื นใหเ้ ป็นและกา้ ว ตอ่ ไป บวชลูก การบวชนับเป็นความกา้ วหน้าและเป็นพัฒนการอย่างหนึ่ง ของลูกหลานแม่พลอย การที่แม่ได้บวชลกู ทัง ๖ คน นับเป็นเรื่อง ตามวิถีทางศาสนาถือว่าเป็นบุญ ตามคติการเป็นญาติกับ พระพุทธศาสนา การเป็นญาติธรรมในพระพุทธศาสนา การได้เปน็ ญาติกับพระศาสนา ได้เป็นญาติกับพระพุทธเจ้า เป็นคติของชาว ไทยพุทธ การได้บวชลกู ถือว่าเป็นมงคล และเปน็ เป้าหมายของคติ คนไทยแตโ่ บราณ แมพ่ ลอย มลี กู ชายทงั หมด ๗ คน และลูก ๖ คน ไดบ้ วชเป็นพระภกิ ษใุ นพระพุทธศาสนา บวชนาน น้อย แตกตา่ งกนั ไป แต่ได้บวชเปน็ พระภิกษุในพระพุทธศาสนเหมอื นกันทงั หมด ถ้า เป็นคติของคนพุทธคือได้เป็นญาติกับพระพุทธศาสนา ตายไม่ตก นรก ดังที่คาพระเทศน์ เราได้ยินกันบ่อย ๆ ในอานิสงค์แห่งการ บรรพชาในพระพุทธศาสนา 178 | ดิเรก ด้วงลอย | พระปลัดระพิน พทุ ธฺ ิสาโร (ด้วงลอย)

ลูกคนที่ ๑ ธีรพงษ์ (พงษ์) ด้วงลอย ลูกชายคนแรกที่ได้ บวช เปน็ พระภกิ ษใุ นพระพทุ ธศาสนาเม่ือ พ.ศ.๒๕๒๖ ลกู คนที่ ๔ สมบรู ณ์ (รุ่ง) ดว้ งลอย ไดบ้ วช เมอ่ื พ.ศ.๒๕๓๕ ประวัตศิ าสตรทอ งถิน่ 179 ประวตั ศิ าสตรท์ อ้ งถิน่ จงั หวดั สุโขทยั Local History of Bansuan Sukhothai Province

บวชลูกคนท่ี ๖ ดเิ รก ด้วงลอย ลูกคนท่ี ๓ สมบตั ิ (พจน)์ ดว้ งลอย ได้บวช เม่อื พ.ศ. ๒๕๓๒ ลกู คนที่ ๔ สมบูรณ์ (รุง่ ) ดว้ งลอย ได้บวช เมอ่ื พ.ศ.๒๕๓๕ ลูกคนที่ ๕ ระพนิ ด้วงลอย ได้บวช เม่ือ พ.ศ.๒๕๓๗ ลกู คนที่ ๖ ดิเรก ดว้ งลอย ไดบ้ วช เมือ่ พ.ศ.๒๕๓๙ 180 | ดเิ รก ดว้ งลอย | พระปลัดระพนิ พทุ ธฺ ิสาโร (ดว้ งลอย)

(ภาพ : ดิเรก ด้วงลอย เมือ่ ครงั เรยี นโรงเรียนบา้ นคลองด่าน ประมาณ พ.ศ.๒๕๓๒) ลกู คนที่ ๗ วชั รนิ ทร์ (แสง-โลม) ดว้ งลอย บวชเมือ่ พ.ศ. ๒๕๔๑ ทังหมดต้องการบอกว่า การบวชเป็นคติของคนไทยพุทธ แม่พลอย ด้วงลอย ที่ในความทรงจาของขา้ พเจา้ แม่จะเป็นคนชอบ ทาบุญใส่บาตรอยา่ งต่อเนอื่ งนับแต่ข้าพเจ้าเด็ก ๆ จนกระท่ังแมล่ ้ม ป่วยไม่สามารถ ได้เป็นญาติกับบวชพระพุทธศาสนา หากมองคติ เรื่องการบวช เป็นบุญ หรือการได้ฝากบุตรเป็นศาสนทายาทใน ประวัติศาสตรทอ งถนิ่ 181 ประวัตศิ าสตร์ทอ้ งถิน่ จงั หวัดสโุ ขทยั Local History of Bansuan Sukhothai Province

พระพุทธศาสนาเป็นบุญ ก็แปลว่าแม่พลอย ด้วงลอย เป็นผู้สะสม บุญกริยาวัตถุตามหลักพระพุทธศาสนาอย่างย่ิงอีกท่านหนึ่งด้วย เช่นกัน การดาเนนิ ชวี ิตของแม่ แม่พลอย ด้วงลอย เลยี งบตุ รชายล้วน ทัง ๗ คน มา ประหน่ึงวา่ เปน็ หัวหน้าครอบครวั ดว้ ยเหตุทส่ี ามีมี โรคประจาตวั เป็นโรคหวั ใจและเสียชีวิตก่อนวยั อันสมควร ในวยั ๔๐ ตน้ ขณะที่ ลูกคนเลก็ เพง่ิ จะ ๕ ขวบ ด้วยอาชีพทางการเกษตร จนกระท่ัง ลกู เต้าเจริญเตบิ เป็นฝ่งั ฝา สามารถดูแลตวั เองได้ จงึ ได้หยดุ อาชพี ทางการเกษตรและพกั อยู่ทบ่ี ้าน จนกระทง่ั ประกอบด้วยโรคทมี่ า พรอ้ มกับอายุ อาทิ เบาหวาน ความดัน ทีต่ ้องกินยา และพบหมอ เป็นประจา 182 | ดเิ รก ดว้ งลอย | พระปลัดระพนิ พุทฺธิสาโร (ด้วงลอย)

(ภาพ : แม่พลอย ดว้ งลอย รว่ มกจิ กรรมทางศาสนา โครงการ บรรพชาสามเณรภาคฤดูรอ้ น ปที ่ี ๑ จานวน ๑๔๐ รปู พ.ศ.๒๕๓๘ ณ วัดคลองตะเคยี น จ.สโุ ขทัย) บุคลิกของแม่ ในฐานะลกู จะมีความทรงจาเก่ียวกับแม่ นามาเลา่ เพือ่ เป็น เครือ่ งเตอื นความจาวา่ ดว้ ยความเปน็ ลูกจึงจดจาบคุ ลกิ ของแม่ วา่ แม่เป็นอยา่ งไร และอยากนามาเลา่ วา่ ความทรงจาของลูกที่มีต่อแม่ คื อ แม่ จ ะ มี บุคลิ กภาพ เอก ลัก ษณ์ ใน ความ เป็น แม่อ ย่ าง ต่อเ นื่อง จนกระทั่งปัจจบุ นั โดยแม่จะเป็นแบบอย่าง มีความเข้มแข็ม คาว่า “ยาก” คือความยากลาบาก ที่เป็นความทรงจาหรอื การดินรนต่อสู้ ประวัติศาสตรทอ งถนิ่ 183 ประวัติศาสตร์ท้องถิน่ จงั หวัดสุโขทัย Local History of Bansuan Sukhothai Province

ของแม่ ประหน่ึงแม่เป็นแบบอย่าง แม่เป็นคนท่ีต่อสู้เพ่ือให้ตัวเอง ดนิ รนตอ่ สูด้ ว้ ยความยากลาบาก แม่มีความมุ่งมั่นเด็ดเดี่ยว การที่แม่เป็นโสดตังแต่ยังสาว อายุไม่มากในวัย ๔๐ ตน้ นยั หนงึ่ แมค่ วรมสี ามีใหม่ หรือมีคนมาจีบ หรือเกี่ยวข้องกับแม่ แต่แม่ก็รักษาความเปน็ โสด เลียงดูลูกทงั หมด ตามฐานานุรูป จนกระทั่งเติบใหญ่เป็นหลักให้ลูก ๆ ได้อาศัย จนกระทง่ั เตบิ โต และพรอ้ มที่จะกา้ วไปเป็นครอบครัวใหม่ ท่ีกา้ วไป ข้างหนา้ ดว้ ยเช่นกนั แม่เป็นนักวางแผน การที่แม่มีที่ดินแล้วไม่เสียให้กับการ เช่าจานอง ให้เก็บนายทุน หรือเจ๊กในตลาด ย่อมเป็นเครอ่ื งการนั ตี ได้เป็นอย่างดี แม้แต่เงินทาศพ ท่ีแม่พูดอยู่เสมอว่า “กูตายจะไม่ 184 | ดเิ รก ดว้ งลอย | พระปลดั ระพิน พทุ ฺธสิ าโร (ดว้ งลอย)

ลาบาก” หมายถึง แม่เคยพูดและผู้เขียนจะได้ยินแต่ยังเด็ก เวลา ผ่านไปกว่าสามสบิ ปี แม่สามารถสะสมทุนในระบบสวัสดิการให้เป็น เงืนทาศพให้กับตัวเอง โดยไม่ลาบากหรือต้องพึ่งพาใคร เป็นการ วางแผนระยะยาวผ่านการออมและเป็นส่ิงที่เป็นเรื่องประจักษ์ จนกระท่งั ปจั จบุ นั แม่เป็นนักบริหาร การบริหารทรัพย์สนิ ที่น่าทงั หมด การ บริหารสินทรพั ย์หรือรายได้ ในวัยเด็กลูกทุกคนจะกิน อยู่โดยมีแม่ บริหารจดั การ ไม่เคยได้เงินไปโรงเรยี น แต่แม่กจ็ ะทาขนมใหล้ กู ได้ กินตามฤดูกาล ขนมจีน โม่แป้งเอง ขนมตาล ขนมแตง ขนมฟัก ขนมกล้วย สาระพัดท่ที าไดเ้ องทังหมด แม่จะให้ลกู โมแ่ ปง้ เปน็ งาน หลัก และแม่ก็หอ่ และเผื่อแผ่บ้านอา บ้านน้า ได้กันถ้วนหน้า เป็น วธิ ีการบริหารครอบครวั ในยุคที่ การเลียงววั นบั เป็นวิธกี ารหน่งึ ววั ฝูงเป็นวิธีการที่แม่ทา โดยลูกทุกคนจะสลับกันไปเลียงวัว แต่ ประโยชน์ที่เกิดขึน ในแต่ละปี จะมีวัวที่ตกลูกออกมาเป็นสนิ ทรัพย์ ของบ้านสลับกนั ไปในแต่ละปี และสามารถขายได้ในแต่ละปี โดยมี ทนุ เป็นกาลงั ของลกู นบั เปน็ ชอ่ งทางรายไดอ้ ีกแบบหนง่ึ มองดอู าจ เป็นเร่ืองเลก็ น้อย แต่ในสังคมเกษตรในยุคที่เงินทองหายาก แม่จะ ใช้วิธีการเพิ่มรายได้ การต้มเหล้าป่า แล้วนาไปส่งอีกหมู่บ้านหน่ึง หรือขายปลีกในหมู่บ้านเดียวกัน ก็นับเป็นวิธีการหาเงิน ในฐานะ แมม่ ่าย ลูก ๗ คน เวลาไปไหน จะมีลกู ขนาดตัวไม่ห่างกันมาก ประวัตศิ าสตรท องถิ่น 185 ประวัติศาสตรท์ ้องถิน่ จังหวัดสโุ ขทยั Local History of Bansuan Sukhothai Province

แม่เป็นคนมีน้าใจ ภาพจาอีกประการหน่ึงท่เี ป็นความทรง จา แม่เมื่อหน้า ผัก หน้ายา หน้า ป ล า แ ล ะ มี สง่ิ ของใด ๆ ภาพ จาของผู้เขียนแต่ เยาว์วัย แม่จะ พ า ไ ป บ้ า น ป้ า (ยายแจง) คือก็ ป้าของแม่ และ เป็นพสี่ าวของตา จวง อาจใหญ่ นาอาหารเป็นไป ให้ เป็นผัก สวนครัว ท่เี ก็บไดต้ ามฤดกู าล หาบไปให้ญาตผิ ู้ใหญ่ท่ีนบั ถือ รวมทังนาไปให้น้าชาย คือหลวงน้าทองดี ซ่ึงผู้เรียบเรียง บ่อยครังจะต้องนาไปให้นา้ ชายโดยการขึนรถสองแถว ซ่ึงเป็นรถไม้ จากท่าตลาดบ้านสวน ไปลงที่ตลาดอาจารย์มนัส (เดิม) ท่ีเป็นท่า จอดรถประจาทาง แล้วเดินทางตรงจุดนันผ่านไปยังวัดราชธานี เลาะแมน่ ายมไปยงั วัดคูหาสุวรรณ เพ่ือส่งผัก ผลไมต้ ามฤดกู าล หรอื อ่ืน ๆ ท่ีพักพายใส่ย่ามผ้าสะพายไปได้ ให้หลวงน้าทองดี มหาวีโร ซึ่งบวชเป็นพระภิกษุในช่วงแรกทว่ี ัดคูหาสุวรรณ ก่อนท่ีจะกลบั มา 186 | ดเิ รก ด้วงลอย | พระปลดั ระพนิ พทุ ธฺ สิ าโร (ดว้ งลอย)

เป็นเจ้าอาวาสที่วัดคลองตะเคียน บ้านเกิดในในช่วง พ.ศ.๒๕๒๙ จากนนั ผู้เขยี นกเ็ ดินทางกลบั เสน้ ทางเดมิ เป็นวงจรท่คี นุ ชนิ ในความ ทรงจาของข้าพเจ้า แม่เป็นผู้ให้ความอิสระ จากประสบการณ์ของความเป็น ลูก แม่จะชอบพูดอยู่เสมอว่า ชีวิตมึงเป็นของมึง ทาไรก็สุดแท้แต่ นัยหนึ่งเป็นเหมือนการกาหนดให้ลกู ทุกคนได้โตอย่างอสิ ระ อีกนัย หน่ึงเป็นการส่งเสริมให้ลูก ๆ ของตัวเองมีหลกั ชัยในการคิด ในการ วางแผน ครังหนึ่งผู้เขียนประสงค์จะกลับไปอยู่บ้านเรียนหนังสอื ที่ บ้าน คาว่า “สุดแท้แต่ ชีวิตตัวเอง อนาคตของตัวเอง” ทาให้ ผู้เขียนตอ้ งมุ่งหน้าเรยี นหนังสือในแบบเด็กวัด คนวัด เรียนหนงั สอื ท่ี วดั จนกระทงั่ ปจั จบุ ัน แม่เป็นความทรงจาของลูก ข้าพเจ้าผู้เรียบเรียงทรงจา เก่ียวกับแม่ และบุคลิกภาพของแม่ ผ่านการเลา่ เรือ่ ง ในความทรง จา แม่ทาให้ ครอบครัวเป็น ปึกแผน่ การที่ ลูกทังหมด ๗ คน เป็นผู้ชาย ทังบ้าน ไม่ถึง ขนาดเกเร จนกระท่ังเสยี ประวตั ศิ าสตรทองถ่ิน 187 ประวัติศาสตร์ท้องถิ่น จังหวดั สุโขทัย Local History of Bansuan Sukhothai Province

ผู้เสียคน ตดิ คุก ตดิ ตาราง ได้รับการบวช ได้รบั การศึกษา จนกระทง่ั สามารถดแู ลตัวเองได้ เปน็ ท่พี ง่ึ แก่ครอบครวั พ่ีนอ้ งรอบขา้ ง คนอื่น ไดบ้ า้ ง ยอ่ มเป็นเปน็ เร่ืองนา่ ประทบั ใจและเปน็ ความทรงจารว่ มได้ (ภาพ พงษ์ ลูกคนแรกรบั ปรญิ ญา มหาวทิ ยาลยั ราชภฎั จันทรเ์ กษม) (ภาพ ดเิ รก ลูกคนที่ ๖ รับปรญิ ญาโท มหาวทิ ยาลัยนเรศวร) 188 | ดิเรก ด้วงลอย | พระปลัดระพนิ พุทฺธิสาโร (ด้วงลอย)

(ภาพ พงษ์ ลกู คนแรกแตง่ งาน และรบั ปรญิ ญา มหาวิทยาลยั ราชภฎั จันทร์ เกษม กทม.) ความเจ็บป่วยของแม่ ความเจบ็ ป่วย ของแม่ จากข้อมลู ท่ีคลุกคลี แมเ่ จ็บด้วยดว้ ย มองไม่เห็น รุ่งลูกชายคนท่ี ๔ ได้พาไปผ่าตัดตาที่โรงพยาบาลพทุ ธ ชินราช จ.พิษณุโลก และไปพักฟื้นอยู่กับดิเรก ท่ีนครสวรรค์ ตายัง สามารถมองเหน็ ไดใ้ นเบอื งต้น แม่หูไม่ได้ยิน ใช้เครื่องช่วยฟัง แม่ก็ บอกเสียงมนั ดังว๊ดิ ๆ ตลอดเวลา เหมอื นราคาญ จงึ ทาให้ไม่สามารถ สื่อสารด้วยเสียงได้ จึงใช้การสื่อสารด้วยการเขียนผ่านตัวหนังสือ ตลอดเวลาช่วงที่แม่ป่วยเป็นผู้ป่วยติดบ้าน คือต้องอยู่แต่ในบ้าน จนกระทง่ั ร่างกายของแม่ทรุดตลอดเวลา ๕ ปีหลงั กลายเป็นผู้ปว่ ย ติดบ้าน ไปไหนไม่ได้ ต้องดูแลไกล้ชิด แต่ก็สามารถประคองชีวิต และใช้ชีวิตไดภ้ ายใตก้ ารดูแล ของลูก ๆ สลบั กันไป ประวตั ิศาสตรท อ งถนิ่ 189 ประวตั ิศาสตรท์ ้องถิน่ จงั หวัดสุโขทัย Local History of Bansuan Sukhothai Province

(ภาพ : แมพ่ ลอย ด้วงลอย งานบวชสมบรู ณ์ (รงุ่ ) งานรบั ปรญิ ญาโท ดิเรก และรบั ปรญิ ญาตรวี ัชรนิ ทร์-แสง) ในชว่ งเวลาที่แตกแตกตา่ ง กนั 190 | ดิเรก ด้วงลอย | พระปลัดระพิน พุทธฺ ิสาโร (ด้วงลอย)

ประวตั ิศาสตรท องถนิ่ 191 ประวตั ิศาสตรท์ ้องถิ่น จงั หวดั สโุ ขทัย Local History of Bansuan Sukhothai Province

(บวชหลานมอส วรรณกร ทบั ทมิ ลูกชายของพจน์ (สมบตั ิ ด้วงลอย) เปน็ หลานชายคนโตสดุ และไดบ้ วชคนแรก แมไ่ ดร้ ว่ มงานบวชหลาน คนแรก) 192 | ดิเรก ด้วงลอย | พระปลดั ระพนิ พุทธฺ ิสาโร (ด้วงลอย)

ประวตั ิศาสตรท องถนิ่ 193 ประวตั ิศาสตรท์ ้องถิ่น จงั หวดั สโุ ขทัย Local History of Bansuan Sukhothai Province

ช่วงท้ายของชวี ติ แม่ ในช่วงสุดทา้ ยของแม่ แมเ่ ปน็ ผปู้ ว่ ยติดบ้านที่ต้องดูแลอย่าง ใกล้ชิด จากลูกหลาน หากพิจารณาตามหลักคาสอน ช้า-เร็ว คนก็ จะต้องตายและเป็นส่วนหน่ึงที่ย้อนกลับไปส่ธู ุลีดิน กลับไปสูความ เป็นธรรมชาติ เป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ แต่คุณคา่ ของชีวิตเป็นส่ิง สาคญั และมีความจาเปน็ ในฐานะทม่ี นษุ ย์คนหน่งึ ๆ จะเดนิ ทางกา้ ว ไปจนถึงวาระสุดท้ายของการเดินชีวิต ใด ๆ ในโลกล้วนอนิจจัง พระพุทธศาสนาบอกไว้อย่างนัน และในความทรงจาเหล่านันได้ สะท้อนให้เห็นว่า เมื่อถึงที่สุด สรรพสิ่งเหล่านันได้กลายเป็นส่วน หน่ึงของการใช้ชีวิตในฐานะเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างชีวิตรว่ มกบั ชวี ิตอย่างทเี่ กดิ ขึนและทาให้เกิดเป็นปรากฏการณ์ของการใช้ชีวิติท่ี เกดิ ขึนจนกระทงั่ ปัจจุบัน แมค่ งหลบั ไปอยา่ งสงบ ดว้ ยความสงบ ที่ พวกเรา ๆ ลูก จะทาหน้าท่ีพึงกระทาได้ หรือไม่พึงกระทาได้ แตเ่ ป็น การสะท้อนให้เห็นว่าช่วงท้ายของชีวิตแม่ ด้วยปัญหาสุขภาพ 194 | ดเิ รก ดว้ งลอย | พระปลดั ระพนิ พทุ ธฺ สิ าโร (ดว้ งลอย)

ข้าพเจ้าเรียบเรยี งจากความจาบ้าง คาบอกเล่าบ้าง บันทึกคาบอก เลา่ บา้ ง ความรสู้ ึกทส่ี ่ังสมมาในฐานะแม่ ทีเ่ ลา่ ผา่ นเหตุการณต์ ่าง ๆ ทีเกิดขึนบ้าง ที่แม่อยากเล่า เราฟัง หรือลูก ๆ ฟัง แบ่งปัน โดยใช้ เวลาเป็นบันทึกจากความทรงจาอยู่หลายปี เพราะผู้บนั ทึกเอง ถ้า นับจริง ๆ ความทรงจาเกี่ยวกับบ้านค่อนข้างน้อย เพราะออกจาก บ้านแต่วัยเยาว์ ดังนันบันทึกนี นึกได้ก็เขียน คลับคล้ายคลับคลาก็ ถาม แต่ด้วยเจตนาเพ่อื บันทกึ ถงึ แม่ในมมุ ท่ีตัวเองจดจา แต่ในขณะ ท่ีบันทึกส่วนนีแม่ (๑๕ ธันวาคม ๒๕๕๕) แม่หูไม่ได้ยิน และอ่าน หนงั สอื ตอ้ งใช้วธิ ีการเขยี นตวั ใหญ่ ๆ เพื่อให้เหน็ ข้าพเจ้ามานอนพัก และเฝ้าแม่ สลับกันกับพ่ี ๆ น้อง ๆ คนอ่ืน ๆ เพ่ือดูแลอาการ เจ็บป่วยที่เกิดขึนในขณะนัน การบันทึกเล่าเพ่ือสะท้อนให้เห็นว่า เมื่อถึงที่สุดชีวิตของมนุษย์คนหนึ่ง ๆ จะจบลงด้วยความตาย การ เขียนหนังสือนีเพื่อ บอกว่าช้าเร็วแม่ต้องจากไป แต่ส่ิงหนึ่งที่จะทา ได้คือการบันทึกถึงแม่ในฐานะคนเล็ก ๆ ที่อยู่ชุมชน ไปจนถึงภาพ กว้างในระดบั ใหญ่ขนึ ของมนุษย์คนหน่ึง ๆ จะทาได้ วันนีแม่มีอาการดีขึน (บันทีกเมื่อ ๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖) กินได้ นอนได้ ร่างกายแม้โดยรวมก็เป็นไปตามสภาพของคนชรา ภาพ แม้อาจจะดูเร็วเกินไปกบั วัย ๗๒ ปี เม่ือเทยี บกับคนอน่ื ๆ แต่ ส่ิงหนึ่งที่สะท้อนให้เห็นก็คือ ความร่วงโรยของแม่ทาให้เราได้ ทา หน้าท่ีของลูก ระหว่าง ๆ พี่ ๆ น้อง ออกแรง ออกเงิน ร่วมกันดแู ล แม่ แม้ในความเป็นจริงสุขภาพของแม่ อาจไม่ได้คืนกลับตามเดิม ประวตั ิศาสตรท อ งถิ่น 195 ประวตั ศิ าสตร์ท้องถิน่ จังหวดั สุโขทัย Local History of Bansuan Sukhothai Province

แต่ก็ถือว่าได้ทาหน้าทข่ี องลกู ๆ จนถึงเวลาอันสมควร จนเวลาผา่ น ไปตามอายุสังขารของแม่ จนถงึ วนิ าทสี ดุ ท้าย เราผู้เป็นลูกจึงได้แวะเวียนผ่านกันมาดูแลตามสภาพตาม เวลา และตามสถานการณ์ท่ีจะเปน็ ไปได้ แม้จะเป็นการดูแลระยะ สุดท้าย แต่ด้วยเหตุท่ีว่าพวกเราอยากได้คนที่รู้จักแม่ รู้ใจ เหมือน ไมอ่ ยากขดั ใจในวาระสุดทา้ ย จึงไมไ่ ด้หาใครมาเปน็ คนดแู ล แตพ่ วก เราใช้วิธีการสลบั กันดูแล พาไปบ้านโน้นบา้ งบ้านนีบา้ งเพื่อที่จะให้ แม่ได้พบกับลูก กับหลานกันตามโอกาสอันสมควร และในเวลา เ ดี ย ว กั น ค ว า ม พ ร้ อ ม เ ห ล่ า นี ไ ด้ ท า ใ ห้ พ ว ก เ ร า ไ ด้ พ บ กั บ ค ว า ม เปลี่ยนแปลงและความแตกต่างในคราวและโอกาสท่ีแตกตา่ งกนั ไป ได้เพ่ิมความเข้าใจให้กับชีวิตว่าการเดินทางไกลของชีวิตเปลย่ี นไป ตามสถานการณ์ จนวาระสุดทา้ ยของชวี ติ แมเ่ สียชีวติ ไปด้วยความความชรา ภาพ และโรคสะสมที่ร่างกายไม่อาจฝืนทนกับความเจ็บป่วย และ เจ็บปวด ที่สั่งสมมาด้วยโรคตามอายุขัย และเสียชีวิตด้วยอาการ สงบ ณ บ้านเลขท่ี ๒๐๕/๑ หมู่ ๖ ต.บ้านสวน อ.เมือง จ.สุโขทัย บ้านที่แม่สร้างมาด้วยนาพักนาแรงของแม่ พร้อมเป็นบ้านหลัง สุดท้ายที่แม้ใช้พักผ่อนในวันเกษียณ หลังจากดูแลลูก เติบโต เติบ ใหญ่และดูแลตวั เองได้ แมเ่ ขา้ มาอยใุ่ นบา้ นในปีท่ีดิเรก ลกู ชายคนที่ ๕ บวช และหยุดอาชีพทางการเกษตร ประหน่ึงแม่เกษียณอาชพี ท่ี ทามาทังชีวิต พักที่บ้านอันเป็นที่เกิด และท่ีตายของแม่ อนุสรณ์ 196 | ดเิ รก ดว้ งลอย | พระปลัดระพิน พทุ ธฺ ิสาโร (ดว้ งลอย)

แห่งความตายของแม่ยืนยันได้อย่างหนึ่งว่า ช้าเร็วทุกคนต้องตาย และความตายกเ็ ป็นสว่ นหนึ่งของชวี ิต ท่ีคนจะต้องไดร้ บั และตายไป ในท่ีสดุ ประวัตศิ าสตรทอ งถิน่ 197 ประวัตศิ าสตร์ท้องถิน่ จังหวัดสโุ ขทัย Local History of Bansuan Sukhothai Province

198 | ดิเรก ดว้ งลอย | พระปลดั ระพนิ พุทธฺ สิ าโร (ด้วงลอย)


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook