Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore พระราชบัญญัติที่มีโทษทางอาญา

พระราชบัญญัติที่มีโทษทางอาญา

Published by phenix stock, 2021-03-29 11:15:08

Description: พระราชบัญญัติที่มีโทษทางอาญา

Search

Read the Text Version

วิชา กม. (LA) ๒๒๒๐๕ พระราชบญั ญตั ทิ ม่ี โี ทษทางอาญา

ตาํ ÃÒàÃÕ¹ ËÅÑ¡ÊÙμà ¹¡Ñ àÃÂÕ ¹¹ÒÂÊºÔ ตาํ ÃǨ ÇªÔ Ò ¡Á. (LA) òòòðõ ¾ÃÐÃÒªºÞÑ ÞÑμÔ·èÕÁÕâ·É·Ò§ÍÒÞÒ เอกสารนี้ “໚¹¤ÇÒÁÅºÑ ¢Í§·Ò§ÃÒª¡ÒÔ หา มมิใหผหู นึ่งผใู ดเผยแพร คดั ลอก ถอดความ หรอื แปลสว นหนงึ่ สว นใด หรอื ทง้ั หมดของเอกสารนเี้ พอื่ การอยา งอน่ื นอกจาก “à¾Íè× ¡ÒÃÈ¡Ö ÉÒͺÃÁ” ของขาราชการตํารวจเทานั้น การเปดเผยขอความแกบุคคลอื่นท่ีไมมีอํานาจหนาที่จะมีความผิดตาม ประมวลกฎหมายอาญา ¡Í§ºÞÑ ªÒ¡ÒÃÈ¡Ö ÉÒ สํา¹Ñ¡§Ò¹ตําÃǨá˧‹ ªÒμÔ ¾.È.òõöô

1

คํานํา หลักสูตรนักเรียนนายสิบตํารวจ (นสต.) เปนหลักสูตรการศึกษาอบรมท่ีมีเปาหมาย เพื่อเสริมสรางใหบุคคลภายนอกผูมีวุฒิประกาศนียบัตรมัธยมศึกษาตอนปลาย (ม.๖) หรือ ประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) หรือเทียบเทา ที่เขารับการฝกอบรมมีความรู ความสามารถ และ ทักษะวิชาชีพตาํ รวจ รวมถึงพัฒนาบุคลิกภาพรางกายใหเหมาะสมสําหรับการปฏิบัติงานตํารวจ ในกลุมสายงานปองกันปราบปราม ตลอดจนเตรียมความพรอมทางดานจิตใจและวุฒิภาวะใหมี จติ สํานกึ ในการใหบ ริการเพอ่ื บําบัดทกุ ขบ ํารุงสขุ ของประชาชนเปน สาํ คญั กองบัญชาการศึกษา ไดรวมกับ ครู อาจารย และครูฝก ในสังกัดกองบังคับการ ฝกอบรมตาํ รวจกลาง และกลมุ งานอาจารย กองบัญชาการศึกษา ศูนยฝกอบรมตํารวจภูธรภาค ๑ - ๙ และกองบัญชาการตาํ รวจตระเวนชายแดน ตลอดจนผูทรงคุณวุฒิจากภายนอก จัดทําตาํ ราเรียน หลกั สตู รนกั เรยี นนายสบิ ตาํ รวจชดุ นี้ ซงึ่ ประกอบดว ยองคค วามรตู า งๆ ทจ่ี ําเปน ตอ การพฒั นาศกั ยภาพ ของนกั เรยี นนายสบิ ตํารวจใหเ ปน ขา ราชการตาํ รวจทพี่ งึ ประสงคข องประชาชน เพอ่ื ใชส ําหรบั ประกอบ การเรียนการสอนนักเรียนนายสิบตํารวจใหมีความพรอมทั้งดานความรู ความสามารถ กําลังกาย และจติ ใจ จนสามารถเปน ขา ราชการตาํ รวจทป่ี ฏบิ ตั งิ านใหบ รกิ ารสงั คมและประชาชนไดอ ยา งตรงตาม ความตอ งการอยางแทจ รงิ และมคี วามพรอมในการเขาสปู ระชาคมอาเซยี น ขอขอบคุณครู อาจารย ครูฝก และผูทรงคุณวุฒิทุกทาน ที่ไดรวมกันระดมความคิด ใหคาํ ปรึกษา คาํ แนะนาํ ประสบการณที่เปนประโยชน รวมถึงการถายทอดองคความรู ที่เปนประโยชน จนทาํ ใหการจัดทําตาํ ราเรียนหลักสูตรนักเรียนนายสิบตาํ รวจสําเร็จลุลวงไดดวยดี ซ่ึงกองบัญชาการศึกษาหวังเปนอยางย่ิงวาตําราเรียนชุดน้ีคงเปนประโยชนตอการจัดการเรียน การสอนและการจัดการฝกอบรมของครู อาจารย และครูฝก รวมตลอดถึงใชเปนคูมือการปฏิบัติงาน ของขาราชการตํารวจ อันจะสงผลทาํ ใหสํานักงานตํารวจแหงชาติสามารถสรางความเชื่อมั่น ศรัทธา และความผาสุกใหแ กประชาชนไดอ ยา งแทจ ริง พลตํารวจโท ( อภิรตั นยิ มการ ) ผูบ ัญชาการศกึ ษา

1

ÊÒúÑÞ ÇÔªÒ ¾ÃÐÃÒªºÞÑ ÞÑμ·Ô èÕÁÕâ·É·Ò§ÍÒÞÒ Ë¹ŒÒ º··Õè ñ ¾ÃÐÃÒªºÑÞÞÑμ¡Ô Òþ¹¹Ñ ¾.È.òô÷ø ñ - ความรทู ่วั ไปเก่ียวกับพระราชบญั ญัติการพนัน พ.ศ.๒๔๗๘ ๒ - ความผิดตามพระราชบัญญตั กิ ารพนัน ๓ - บทกําหนดโทษ ๘ º··èÕ ò ¾ÃÐÃÒªºÑÞÞμÑ ÍÔ ÒÇØ¸»„¹ à¤ÃÍ×è §¡ÃÐÊØ¹»„¹ ÇÑμ¶ØÃÐàºÔ´ ñù ´Í¡äÁàŒ ¾ÅÔ§ ʧèÔ à·ÂÕ ÁÍÒÇØ¸»¹„ ¾.È.òôùð ๒๐ - ความรูทัว่ ไปเกี่ยวกบั พระราชบญั ญตั ิอาวธุ ปน เคร่ืองกระสนุ ปน ๒๗ วัตถรุ ะเบดิ ดอกไมเ พลงิ สง่ิ เทยี มอาวุธปน พ.ศ.๒๔๙๐ ๔๓ - ความผิดตามพระราชบัญญตั อิ าวุธปน เครอ่ื งกระสนุ ปน ôù วตั ถุระเบิด ดอกไมเพลงิ ส่งิ เทียมอาวุธปน พ.ศ.๒๔๙๐ ๕๐ - บทกาํ หนดโทษ ๕๑ ๕๑ º··Õè ó ¾ÃÐÃÒªºÞÑ ÞÑμÊÔ ¶Ò¹ºÃ¡Ô Òà ¾.È.òõðù ๕๒ - ความรูทวั่ ไปเกยี่ วกับพระราชบัญญตั สิ ถานบริการ พ.ศ.๒๕๐๙ ๕๒ - ฐานความผดิ ๕๒ - คณุ สมบัติ ๕๓ - สถานท่ี ๕๓ - ใบอนญุ าต ๕๕ - ใบอนุญาตชํารดุ ๕๖ - การปฏิบัตกิ ับพนักงาน ๕๙ - ขอปฏบิ ัติของสถานบรกิ าร - อํานาจของเจาพนกั งาน - โทษตาม พ.ร.บ.สถานบริการ - ความผดิ ตามพระราชบญั ญตั สิ ถานบรกิ าร พ.ศ.๒๕๐๙

˹ŒÒ º··Õè ô ¾ÃÐÃÒªºÑÞÞμÑ ¤Ô Ǻ¤ÁØ à¤ÃèÍ× §´è×ÁáÍÅ¡ÍÎÍŏ ¾.È.òõõñ öñ - ความรูท ว่ั ไปเก่ียวกบั พระราชบัญญตั ิควบคมุ เครือ่ งดม่ื แอลกอฮอล พ.ศ.๒๕๕๑ ๖๒ - การควบคมุ เครือ่ งดืม่ แอลกอฮอลตามพระราชบญั ญัติควบคมุ ๖๓ เครอื่ งดื่มแอลกอฮอล พ.ศ.๒๕๕๑ ๘๐ - ความผิดตามพระราชบญั ญตั คิ วบคุมเครื่องด่ืมแอลกอฮอล พ.ศ.๒๕๕๑ º··èÕ õ ¾ÃÐÃÒªºÞÑ ÞÑμÔ»‡Í§¡Ñ¹áÅлÃÒº»ÃÒÁ¡ÒäŒÒ»ÃÐàÇ³Õ ¾.È.òõóù øó - ความรทู วั่ ไปเกยี่ วกับพระราชบญั ญัตปิ อ งกันปราบปราม ๘๔ การคาประเวณี พ.ศ.๒๕๓๙ ๘๘ - นยิ าม ๘๘ - ฐานความผิด ๙๐ - มาตรการตามพระราชบัญญัตปิ อ งกันและปราบปราม ๙๒ การคาประเวณี พ.ศ.๒๕๓๙ ๙๔ - อํานาจหนา ทขี่ องพนกั งานเจาหนาที่ - ความผดิ ตามพระราชบัญญตั ปิ อ งกันและปราบปรามการคาประเวณี พ.ศ.๒๕๓๙ º··Õè ö ¾ÃÐÃÒªºÑÞÞμÑ ¤Ô ¹à¢ÒŒ àÁ×ͧ ¾.È.òõòò ùõ - ความรทู ว่ั ไปเกย่ี วกับพระราชบญั ญตั ิคนเขา เมอื ง พ.ศ.๒๕๒๒ ๙๖ - ความผดิ ตามพระราชบัญญตั ิตรวจคนเขา เมือง พ.ศ.๒๕๒๒ ๙๗ ท่มี กี ารจบั กุมดําเนินคดี º··Õè ÷ ¾ÃÐÃÒªºÞÑ ÞÑμÔ»Ò† äÁŒ ¾.È.òôøô ñðù - ความรูท่ัวไปเก่ียวกบั พระราชบัญญตั ิปา ไม พ.ศ.๒๔๘๔ ๑๑๑ - การทาํ ไมแ ละเก็บหาของปา ๑๑๒ - การทาํ ไมห วงหา ม ๑๑๔ - ไมท ่ีมใิ ชไ มห วงหา ม ๑๑๖ - ของปา หวงหา ม ๑๑๗ - ตราประทบั ไม ๑๑๘

- ไมและของปาระหวา งเคล่อื นที่ ˹Ҍ - การควบคมุ ไมในลาํ น้ํา ๑๑๘ - การควบคมุ การแปรรปู ไม ๑๒๐ - แผว ถางปา ๑๒๐ - เบ็ดเตลด็ ๑๒๒ - บทกาํ หนดโทษ ๑๒๓ - การรักษาการพระราชบญั ญตั ิ ๑๒๕ º··Õè ø ¾ÃÐÃÒªºÑÞÞÑμÀÔ Ò¾Â¹μÃᏠÅÐÇ´Õ ·Ô ÈÑ ¹ ¾.È.òõõð ๑๒๘ - ความรทู ั่วไปเก่ยี วกบั พระราชบัญญตั ภิ าพยนตรแ ละวดี ทิ ัศน พ.ศ.๒๕๕๐ ñòù - การประกอบกิจการภาพยนตร ๑๓๐ - คุณสมบัตขิ องผขู ออนุญาตโรงภาพยนตร ๑๓๑ - ใบอนญุ าตประกอบกจิ การโรงภาพยนตร ๑๓๕ - การประกอบกจิ การวีดทิ ัศน ๑๓๕ - คณุ สมบตั ิผขู ออนญุ าต ๑๓๖ - ใบอนุญาตประกอบกจิ การวีดิทศั น ๑๓๖ - อาํ นาจเจา พนักงาน ๑๓๗ - ความผดิ ตามพระราชบัญญตั ภิ าพยนตรแ ละวดี ิทศั น พ.ศ.๒๕๕๑ ๑๓๘ º··èÕ ù ¾ÃÐÃÒªºÑÞÞμÑ ¤Ô ÇÒÁ¼Ô´à¡ÕèÂÇ¡ºÑ ¤ÍÁ¾ÔÇàμÍÏ ¾.È.òõõð ๑๔๑ - ความรูท่วั ไปเก่ียวกับพระราชบัญญัติฯ ñôó - ความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร พ.ศ.๒๕๕๐ ๑๔๕ - พนกั งานเจาหนา ท่ี ๑๔๕ º··èÕ ñð ¡®ËÁÒ·èÕà¡ÂèÕ Ç¢ŒÍ§¡ºÑ ¡ÒäҌ Á¹ÉØ Â ๑๕๐ - ความรูทั่วไปเกย่ี วกบั กฎหมายทเ่ี กี่ยวขอ งกบั การคามนุษย ñõ÷ - บททัว่ ไป ๑๕๙ - ความผดิ ตามกฎหมายทีเ่ กยี่ วขอ งกบั การคามนษุ ย ๑๖๐ - อํานาจพนกั งานเจา หนา ท่ี ๑๖๖ - บทกําหนดโทษ ๑๖๘ ๑๖๙

º··Õè ññ ¡®ËÁÒ·àÕè ¡ÕèÂǢ͌ §¡ÑºÂÒàʾμÔ´ ˹Ҍ - ความรทู ่ัวไปเกี่ยวกบั กฎหมายท่ีเก่ยี วขอ งกบั ยาเสพติด ñ÷ó - ความผิดตามกฎหมายท่เี ก่ียวขอ งกบั ยาเสพตดิ ๑๗๕ ๑๗๗

๑ º··Õè ñ ¾ÃÐÃÒªºÞÑ ÞμÑ ¡Ô Òþ¹Ñ¹ ¾.È.òô÷ø ñ. ÇμÑ ¶Ø»ÃÐʧ¤¡ ÒÃàÃÂÕ ¹ÃŒ»Ù ÃШӺ· ๑.๑ เพ่อื ใหนกั เรยี นมีความรูและความเขาใจใน พ.ร.บ.การพนนั พ.ศ.๒๔๗๘ ๑.๒ เพ่ือใหนักเรียนสามารถอธิบายการวิเคราะหวาการกระทําใดมีความผิด หรือไมมี ความผิดตาม พ.ร.บ.การพนนั พ.ศ.๒๔๗๘ ๑.๓ เพื่อใหนักเรียนสามารถอธิบายวิธีการดําเนินการกับผูกระทําความผิดตาม พ.ร.บ.การพนัน พ.ศ.๒๔๗๘ ò. ÊÇ‹ ¹¹Ó การพนันนับเปนปญหาแกสังคมปญหาหน่ึงเพราะเปนการมอมเมาประชาชนและเปน บอเกิดของปญหาสังคม หรือปญหาอาชญากรรม ดังนั้น เพ่ือเปนการควบคุมมิใหการเลนการพนัน แพรหลายจนเกินไปจนสรางปญหาใหสังคมจึงมีการตรา พ.ร.บ.การพนัน พ.ศ.๒๔๗๘ เพ่ือควบคุม การเลนการพนนั ใหอยใู นกรอบไมกอ ใหเกิดปญ หาแกส งั คม ó. à¹éÍ× ËÒμÒÁËÇÑ ¢ŒÍ ๓.๑ ความรูทั่วไปเกยี่ วกับ พ.ร.บ.การพนนั ๓.๒ ความผดิ ตาม พ.ร.บ.การพนัน พ.ศ.๒๔๗๘ ๓.๓ บทกาํ หนดโทษ ô. ÊÇ‹ ¹ÊÃØ» พ.ร.บ.การพนัน พ.ศ.๒๔๗๘ เปนกฎหมายท่ีมีความสําคัญฉบับหน่ึง เพราะเปน กฎหมายท่ีคอยควบคุมดูแลไมใหประชาชนในสังคมถูกมอมเมาจากอบายมุข ซ่ึงถาผูบังคับใช กฎหมายไดมีการบังคับใชกฎหมายอยางเครงครัดก็จะทําใหปญหาสังคมไดรับการแกไข อันจะนําไปสู ความสงบสุขในสงั คมตอไป õ. ¡¨Ô ¡ÃÃÁá¹Ð¹Ó ใหนักเรียนคนหาการพนันที่มีการจับกุมในปจจุบันวามีลักษณะอยางไรและรวมกัน วเิ คราะหอ ภปิ รายในชนั้ เรียน

๒ การพนันเปนสิ่งท่ีพบเห็นกันอยูทั่วไปและเปนคดีความมาสูศาลมากที่สุดอยางหนึ่ง ซง่ึ เชอ่ื กนั วา มกี าํ เนดิ มาจากประเทศจนี ลกุ ลามแพรข ยายเขา ไปในนานาประเทศ รวมทงั้ ประเทศไทยดว ย เมอื่ ประชาชนมวั เมาอยกู บั การเลน การพนนั ยอ มไมค ดิ ทาํ มาหากนิ คอยแตเ ลน การพนนั เพราะไดเ สยี รวดเร็วทําใหมีผูหวังรวยทางลัดอยูตลอดเวลา แตย่ิงเลนก็ย่ิงยากจนทุกที การพนันจึงเปนเหตุ อยา งหนงึ่ ทก่ี อ ใหเ กดิ อาชญากรรมขนึ้ ในประเทศ ดงั นน้ั รฐั จงึ จาํ เปน ตอ งตราพระราชบญั ญตั กิ ารพนนั ขน้ึ อยา งไรก็ตาม ไมว าจะไดม ีการปราบปรามการเลน การพนันอยา งไร ก็ปรากฏวาการเลน การพนันยงั คงระบาดแพรห ลายอยตู ลอดเวลา ñ. ¤ÇÒÁÌٷèÇÑ ä»à¡èÕÂÇ¡ºÑ ¾ÃÐÃÒªºÞÑ ÞμÑ Ô¡Òþ¹Ñ¹ ¾Ø·¸ÈÑ¡ÃÒª òô÷ø แยกเปน ๒ ประการ คอื ๑.๑ ลกั ษณะของการพนนั ๑.๒ สาระสําคัญของพระราชบัญญัติการพนนั ñ.ñ ÅѡɳТͧ¡Òþ¹Ñ¹ พระราชบัญญัติการพนัน พุทธศักราช ๒๔๗๘ มิไดแยก วิเคราะหศัพท “การพนนั ” ไวโ ดยเฉพาะ คงมเี พยี งมาตรา ๔ ทวิ บญั ญัตขิ ยายความหมายของคําวา การเลน ในพระราชบญั ญตั กิ ารพนนั ใหห มายความรวมตลอดถงึ การเขา เลน เสย่ี งโชคซงึ่ ตอ งใชไ หวพรบิ และฝมือมาพนันเอาทรัพยสินกัน จะโดยชอบหรือมิชอบดวยกฎหมายก็ได เชน การเลนพนัน ไพป อก ไพผอ ง ไพนกกระจอก หรอื การท่บี คุ คล ๒ ฝายขน้ึ ไปถอื เอาเหตกุ ารณท ่ีจะเกดิ ขึ้นในอนาคต อันไมแนนอนมาเปนเกณฑตัดสินแพชนะวา ถาเหตุการณเกิด ฝายหน่ึงจะแพและอีกฝายหน่ึง จะชนะ ฝายแพจ ะตองเสียเงินใหฝา ยชนะตามท่ตี กลงกัน (โดยทง้ั ๒ ฝายไมม สี วนไดเสียแตอ ยางใด) เชน ใครจะเปน นายกรัฐมนตรคี นตอ ไป เปนตน ñ.ò ÊÒÃÐÊÓ¤ÞÑ ¢Í§¾ÃÐÃÒªºÞÑ ÞμÑ Ô¡Òþ¹¹Ñ ¾·Ø ¸ÈÑ¡ÃÒª òô÷ø การพนนั มี ๒ ประเภท คือ ประเภท ก. หมายถึง การพนันซึ่งเจาพนักงานตามพระราชบัญญัติฉบับน้ี จะอนุญาตใหผูใดเลน หรือจัดใหมีการเลน หรือการพนันในการเลนไมไดเลย เวนไวแตรัฐบาลจะ ออกกฎหมายอนญุ าตโดยเฉพาะ ประเภท ข. หมายถึง การเลนจะตองไดรับอนุญาตจากเจาพนักงานกอน มฉิ ะน้นั มคี วามผดิ ตามพระราชบัญญตั กิ ารพนนั การจัดใหมีรางวัลแถมพก หรือรางวัลดวยการเส่ียงโชคในการประกอบกิจการคา แมไ มใ ชการพนนั กต็ องขออนุญาตจากเจา พนกั งานตามพระราชบัญญตั ิการพนนั สลากกินแบง สลากกินรวบ และสวีป หรือการเลนอยางใดที่เสี่ยงโชค ตองขอ อนุญาตจากเจา พนักงานตามพระราชบัญญตั กิ ารพนนั เชนกัน

๓ การฝาฝนพระราชบัญญัติการพนัน มีโทษคือจําคุก ปรับและริบทรัพยสิน และ ผูนาํ จับตามพระราชบญั ญัติการพนนั มีสิทธิไดรับสนิ บนหรอื รางวลั นําจับตามกฎหมาย ò. ¤ÇÒÁ¼´Ô μÒÁ¾ÃÐÃÒªºÞÑ ÞμÑ ¡Ô Òþ¹Ñ¹ พระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ.๒๔๗๘ มีท้ังหมด ๑๗ มาตรา แตจะขอยกเพียงบาง มาตราที่สาํ คญั มาอธบิ าย ดงั น้ี ÁÒμÃÒ ô หา มมใิ หอ นญุ าตจดั ใหม หี รอื เขา เลน หรอื เขา พนนั ในการเลน อนั ระบไุ วใ นบญั ชี ก. ทายพระราชบัญญตั ินี้ หรือการเลนซง่ึ มีลกั ษณะคลา ยกนั หรอื การเลนอนั รา ยแรงอ่ืนใด ซึง่ รฐั มนตรี เจาหนาท่ีออกกฎกระทรวงระบุเพิ่มเติมหามไว แตเมื่อรัฐบาลพิจารณาเห็นวา ณ สถานท่ีใดสมควร จะอนญุ าตภายใตบังคับเง่อื นไขใดๆ ใหมกี ารเลนชนดิ ใด กอ็ นญุ าตไดโดยออกพระราชกฤษฎีกา การเลนอันระบุไวในบัญชี ข. ทายพระราชบัญญัตินี้หรือการเลนซ่ึงมีลักษณะคลายกัน หรือการเลนอ่ืนใดซึ่งรัฐมนตรีเจาหนาที่ไดออกกฎกระทรวงระบุเพิ่มเติมไวจะจัดใหมีขึ้นเพื่อเปนทาง นํามาซ่ึงผลประโยชนแกผูจัดโดยทางตรงหรือทางออมได ตอเม่ือรัฐมนตรีเจาหนาท่ีหรือเจาพนักงาน ผูออกใบอนุญาตเห็นสมควรและออกใบอนุญาตให หรือมีกฎกระทรวงใหจัดข้ึนไดโดยไมตองมี ใบอนญุ าต ในการเลนอันระบุไวในวรรค ๒ ขางตนน้ัน จะพนันกันไดเฉพาะเมื่อไดมีใบอนุญาตให จัดมีขนึ้ หรือมกี ฎกระทรวงอนุญาตใหจดั ขึน้ ไดโ ดยไมต องมีใบอนญุ าต การเลนหมายเลข ๕ ถึง ๑๕ ในบัญชี ข. หรือการเลนซ่ึงมีลักษณะคลายกัน หรือการเลนอ่ืนใดซ่ึงรัฐมนตรีเจาหนาท่ีไดออกกฎกระทรวงระบุเพิ่มเติมไวน้ัน จะใหรางวัลตีราคา เปนเงินไมได และหามมิใหผูใดรับรางวัลที่ใหไปแลวกลับคืนหรือรับซ้ือหรือแลกเปล่ียนรางวัลนั้น ในสถานงานหรือการเลน หรือบริเวณตอ เน่อื งในระหวางมงี าน หรอื การเลน ÁÒμÃÒ ô ·ÇÔ ในการเลน อ่ืนใดนอกจากทีก่ ลาวใน มาตรา ๔ จะพนันกันหรอื จะจัดใหม ี เพอ่ื ใหพ นนั กันไดเ ฉพาะการเลนทีร่ ะบชุ ื่อและเงือ่ นไขไวในกฎกระทรวง คาํ วา “การเลน” ในวรรคกอ น ใหหมายความรวมตลอดถึงการทายและการทาํ นายดวย ¤Ó͸ºÔ Ò การพนันที่ไมไดรับอนุญาตจากเจาพนักงานแบงออกเปน ๒ ประเภทคือ การพนัน ประเภทที่กฎหมายหามมิใหมีการเลนโดยเด็ดขาด และการพนันท่ีจะเลนไดตอเม่ือไดรับอนุญาตจาก เจาพนกั งาน ๑) การพนนั ประเภททกี่ ฎหมายหา มมใิ หม กี ารเลน โดยเดด็ ขาด เวน แตเ มอ่ื รฐั บาลเหน็ วา ณ ท่ีใดสมควรจะอนุญาตภายใตบังคับเงื่อนไขใดๆ ใหมีการเลนชนิดใด ซ่ึงการอนุญาตใหมีการเลน การพนนั ประเภทน้ีตองออกเปนพระราชกฤษฎกี า

๔ ๒) การพนันที่จะเลนไดตอเม่ือไดรับอนุญาตจากเจาพนักงาน เปนการพนันประเภท ที่หามมิใหมีการเลน จนกวาจะไดใบอนุญาตใหจัดมีข้ึน หรือมีกฎกระทรวงอนุญาตใหจัดขึ้น โดยไมตองมีใบอนุญาตคือ การเลนการพนันซึ่งระบุไวในบัญชี ข. ทายพระราชบัญญัติการพนัน พุทธศักราช ๒๔๗๘ หรือการเลน ซึ่งมลี กั ษณะคลา ยคลงึ กัน หรอื การเลน อืน่ ใด ซึ่งรัฐมนตรเี จา หนา ที่ ไดออกกฎกระทรวงระบุเพ่ิมเติมไว สําหรับการพนันประเภทนี้ยังมีเงื่อนไขเฉพาะตามกฎหมาย กลา วคือ ก. การเลน การพนันตามบัญชี ข. จะพนนั กันไดเ ฉพาะเม่อื ไดม ใี บอนุญาตใหม ขี ้นึ หรือมีกฎกระทรวงอนุญาตใหจัดขึ้นโดยไมตองมีใบอนุญาต จะเห็นไดวาการเลนตามบัญชี ข. นั้น กฎหมายมีวัตถุประสงคจะบังคับเฉพาะผูจัดใหมีข้ึน เพื่อเปนทางนํามาซ่ึงผลประโยชนแกผูจัดจะโดย ทางตรงหรือทางออมก็ตอเมื่อไดรับอนุญาตเทาน้ัน แมวาการเลนน้ันจะมีการพนันหรือไมไมสําคัญ ถาปรากฏขอเท็จจริงวาไดรับผลประโยชนก็จะตองไดรับอนุญาตกอนจึงจะเปดใหมีการพนันได ถาไมไดรับอนุญาตถือวาเปนความผิดแลว เวนแตการเลนที่มีกฎกระทรวงอนุญาตไวเปนการเฉพาะ วาไมต องขออนญุ าต เชน การเลน บริดจ วง่ิ ววั คน ข. การเลนตามบัญชี ข. หมายเลข ๕ ถึง ๑๕ ตามบัญชี ข. คือชี้รูป โยนหวง โยนสตางค ตกเบด็ จับสลาก ยงิ เปา ปาหนาคน เตาขา มดา น หมากแกว หมากหัวแดง บิงโก เหลานี้ จะใหร างวลั ตรี าคาเปน เงนิ ไมไ ดแ ละหา มมใิ หผ ใู ดรบั รางวลั ทใ่ี หไ ปแลว กลบั คนื หรอื รบั ซอ้ื หรอื แลกเปลย่ี น รางวลั นั้นในสถานงานหรอื การเลน หรอื บริเวณตอเน่อื งในระหวา งมงี านหรอื การเลน ÁÒμÃÒ ñó “ผใู ดฝาฝน บทบญั ญตั มิ าตรา ๔ อันวา ดว ยการรับกลับคนื หรอื รบั ซ้อื หรือ แลกเปลี่ยนรางวัลน้นั มคี วามผิดตอ งระวางโทษจําคกุ ไมเกนิ ๓ เดอื น หรอื ปรับไมเ กิน ๕๐๐ บาท หรอื ท้ังจําทัง้ ปรับ” ¤Ó͸ºÔ Ò ผูใดไมวาจะเปนผูจัดใหมีการเลน หรือบุคคลอื่นใดก็ตามจะรับรางวัลท่ีใหไปแลวกลับคืน หรือรับซื้อ หรือแลกเปล่ียนรางวัลท่ีไดจากการเลนตามบัญชี ข. (ดูการพนันประเภท ข. ในความผิด ตามมาตรา ๑๒) กลบั คนื ในสถานงานหรอื การเลน หรือบรเิ วณตอเน่ืองในระหวา งมงี าน หรือการเลน ไมได เชน ในงานปใหม งานกาชาด มีการออกรานเลนการพนันประเภท ข. มากมาย อาทิ การจับสลากพฤกษากาชาด การขายสลากกาชาดชิงรางวัลรถยนตญี่ปุน ปาเปา ยิงธนูเอารางวัล หากมกี ารรบั ซ้ือแลกเปลยี่ นรางวัลทีล่ กู คา ไดไ ปแลว คนื ยอมมีความผิดตามมาตราน้ี μÑÇÍ‹ҧ การหามรับซ้ือของซึ่งเลนไดจากการพนันในสถานท่ีเลนการพนันนั้น กฎหมายหาม ตลอดถงึ บุคคลท่วั ไปดวยหาไดหามเฉพาะเจาของรา นเทา นน้ั ไม (ฎ. ๑๐๘๐/๒๔๘๐) ÁÒμÃÒ õ ผูใดจัดใหมีการเลน ซ่ึงตามปกติยอมพนันเอาเงินหรือทรัพยสินอยางอ่ืน แกกัน ใหสันนิษฐานไวกอนวาผูน้ันจัดใหมีขึ้นเพ่ือนํามาซึ่งผลประโยชนแหงตน และผูใดเขาเลน อยดู ว ยก็ใหสันนิษฐานไวกอนวา ผูนั้นพนันเอาเงินหรอื ทรพั ยสนิ อยา งอนื่

๕ ÁÒμÃÒ ö ผูใดอยูในวงการเลนอันขัดตอบทแหงพระราชบัญญัติน้ี หรือขัดตอ ขอความในกฎกระทรวงหรือใบอนุญาตซึ่งออกตามพระราชบัญญัตินี้ ใหสันนิษฐานไวกอนวาผูน้ัน เลน ดว ย เวน แตผ ซู งึ่ เพยี งแตด กู ารเลน ในงานรนื่ เรงิ สาธารณะ หรอื งานนกั ขตั ฤกษห รอื ในทสี่ าธารณสถาน ¤Ó͸ԺÒ การเขาเลนหรือเขาพนันในการเลน หมายถึง การเขาเส่ียงภัยโดยมีสวนไดเสียนั่นเอง การพนันขันตอซ่ึงการเขาเลนหรือเขาพนันในการเลนน้ี แมผูนั้นจะมิไดเขาเลนดวย หากแตกระทํา การใดอันเขาขอสันนิษฐานของกฎหมายก็ใหถือวาเปนผูเลนดวย ผูนั้นยอมมีความผิดตามกฎหมาย บญั ญัติ เวน แตจ ะนําสืบใหเ หน็ เปนอยา งอน่ื ได ขอสันนิษฐานของกฎหมายตามพระราชบัญญัติการพนัน พระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ.๒๔๗๘ ไดว างขอ สนั นิษฐานไว ๒ มาตราคือ มาตรา ๕ และมาตรา ๖ ขางตน ขอ สนั นษิ ฐานของกฎหมาย ๒ มาตรานเี้ กดิ จากการทเี่ จา หนา ทตี่ าํ รวจซง่ึ มหี นา ทร่ี กั ษาการ ตามพระราชบัญญัติฉบับนี้และยังมีหนาที่รักษาการตามกฎหมายท่ีมีบทบัญญัติความผิดทางอาญา ทุกประเภท บางคร้ังแมจับตัวผูตองหาไดแตหาหลักฐานฟองรองคดีไมไดเพราะเร่ืองที่จะจับได ในขณะกระทําความผิดเปนไปไดยาก นักพนันสวนใหญจะเลนในหมูพวกตน เมื่อถูกจับก็ไมมีพยาน ฝายเจาหนาท่ี คงมีแตต ัวผตู อ งหา สว นของกลางก็เปนของซ่งึ ไมใ ชของทม่ี ีไวเ ปน ความผิด หากจบั มา ไดแลวขาดพยานหลักฐานกไ็ มอาจเอาผิดแกต ัวนกั การพนนั เหลา นนั้ ได ฉะนัน้ จึงจาํ ตองมีบทบญั ญตั ิ ท้ัง ๒ มาตราน้ีไว เพ่ือประโยชนในการปองกันและปราบปรามผูกระทําความผิด เมื่อกรณีเขา ขอสันนษิ ฐานของกฎหมายแลว ศาลยอ มลงโทษผนู นั้ ได μÇÑ ÍÂÒ‹ § ๑) ยนื อยูใ นวงการพนนั โดยยืนชิดหรือหันหนาเขาวงเลน เขา ขอ สันนิษฐานวาเลน ดว ย ๒) เพยี งแตอ ยใู นหองเลนการพนนั ไมเขา ขอสันนิษฐานวา เลนดวย ๓) สําหรับผูจัดใหมีการเลนพนัน จะลงโทษฐานเปนผูจัดใหมีการเลนไดจะตองได ความวาจาํ เลยเกย่ี วขอ งในการเลนพนนั นน้ั ในฐานะเปน ผจู ดั ใหม กี ารเลน ขึ้น และอยา งไรเปนความผิด ตามขอ น้ี โปรดพิจารณาจากตัวอยา งตอ ไปนี้ - ผดู ูตน ทางมฐี านะเปน ผูจัดใหมีการเลน ดว ย - จัดใหมีการเลนการพนันแลวไมมีความผิดฐานเปนผูสนับสนุนตามประมวล กฎหมายอาญา มาตรา ๘๖ อกี - การจัดใหมีการเลนการพนันหลายวงในสถานท่ีเดียวกันและวาระเดียวกัน เปนความผิดกรรมเดยี ว - เจาของบานรูเห็นเปนใจในการเลนการพนันโดยเรียกเก็บคาตง ผิดตาม มาตรา ๑๒ ดวย

๖ ÁÒμÃÒ ÷ ใบอนุญาตทุกฉบับตองกาํ หนด (๑) ลกั ษณะขอ จํากัดและเงอ่ื นไขของการเลนพนันโดยชดั แจง (๒) สถานท่ี วัน เดือน ป และกําหนดเวลาท่ีอนุญาตใหเลน ถาเปนใบอนุญาต สลากกนิ แบง สลากกนิ รวบ และสวปี ใหร ะบจุ าํ นวนสลากทจี่ ะขายกบั สถานที่ วนั และเวลาทจ่ี ะออกดว ย (๓) จาํ นวนบคุ คลผจู ะเขา เลน มกี าํ หนดหรอื ไมแ ละไมใ หบ คุ คลอายตุ าํ่ กวา ๒๐ ปบ รบิ รู ณ หรอื ไมบ รรลุนิตภิ าวะเขา เลน ดว ย เวน แตการเลน ตามบญั ชี ข. หมายเลข ๑๖ ÁÒμÃÒ ø การจัดใหมีการแถมพกหรือรางวัลดวยการเส่ียงโชคโดยวิธีใดๆ ในการ ประกอบกจิ การคาหรอื อาชีพ จะตอ งไดรับอนญุ าตจากเจาพนกั งานผูออกใบอนญุ าตกอนจงึ ทําได ÁÒμÃÒ ñô “ผูใดฝาฝนบทบัญญัติมาตรา ๘ มีความผิดตองระวางโทษจําคุกไมเกิน ๑ ป หรอื ปรับตั้งแต ๕๐ บาทข้ึนไปจนถงึ ๒,๐๐๐ บาท หรือทง้ั จําทัง้ ปรับ” ¤Ó͸ԺÒ การจัดแถมพกหรือรางวัลดวยการเสี่ยงโชคโดยวิธีการใดๆ ทางการคา ตองไดรับ อนุญาตจากเจาพนักงานกอนจึงจะทําได หากทําไปโดยไมไดรับอนุญาตยอมมีความผิดท่ีกฎหมาย บญั ญัติมาตรานข้ี ้นึ มจี ุดมงุ หมาย ๒ ประการ คอื ๑) การจัดใหมีการแถมพกหรือรางวัลดวยการเสี่ยงโชคดวยวิธีใดๆ ในการประกอบ กิจการคาหรืออาชีพนี้ ปกติผูเลนก็ซ้ือสินคาอยูแลว มีโอกาสไดเส่ียงโชคโดยไมตองเสียอะไรเพิ่มเติม อีกเลย ถาพิจารณาโดยเครงครัดก็ไมถือวาเปนการเลนการพนัน เปนทางออกของผูจัดใหมีการเลน อาจจะจัดใหมีการเลนเส่ยี งโชคทีก่ ฎหมายหา มเด็ดขาดคอื การเลนตามบญั ชี ก. ได ๒) เพ่ือเปดทางใหเจาหนาที่ควบคุมการจัดใหมีการเลนแถมพกหรือรางวัลดวยการ เส่ียงโชค โดยวิธีใดๆ น้ีจัดใหมีการเลนอยูในขอบเขตแหงความยุติธรรม ไมเปนการเอาเปรียบ หวังหลอกลวงประชาชนจนเกินไป และการจดั น้ีเจาหนา ทส่ี ามารถควบคมุ ไดดว ย อยางไรจึงจะถือวาเปนการจัดใหมีการแถมพกหรือรางวัลดวยการเสี่ยงโชคท่ีมีความผิด ซง่ึ ผูซ้ือ อาจไดหรอื ไมไ ดข องแถมหรอื รางวลั μÑÇÍÂÒ‹ § ๑) ขายของทสี่ อดธนบตั รไวข า งใน (บางหอ ) ในราคาสงู กวา ทอ งตลาด (ฎ. ๑๕๒/๒๔๙๓) ๒) ขายของโดยแถมรูปภาพ หากผูซื้อสะสมรูปภาพไดครบจํานวนท่ีกําหนดจะนําไป แลกของมีคา ได (ฎ. ๔๕๓/๒๔๘๓) ๓) ขายของโดยแถมบตั รสมนาคุณ ซึ่งมตี ัวเลขเหมอื นสลากกินแบงรฐั บาล หากใครได บัตรตรงกบั เลขรางวลั สลากกนิ แบงทอ่ี อกจะไดร างวัล (ฎ. ๗๓๓/๒๔๙๘) แตถาผูซื้อทุกคนมีสิทธิไดเหมือนกันหมดโดยไมตองเส่ียงโชค หรือเปนการใหเปลา โดยไมตองซื้อยอมไมเปนความผิด เชน แจกบัตรแกทุกคนท่ีเขารานสําหรับทายสลากกินแบง ผทู ายถกู จะไดรางวลั โดยไมจํากดั วาตอ งซ้ือสนิ คา หรือไมย อมไมมคี วามผดิ (ฎ. ๑๔๙๓/๒๔๗๙)

๗ ÁÒμÃÒ ù สลากกนิ แบง สลากกินรวบ และสวีป หรือการเลน อยา งใดทเ่ี สยี่ งโชคใหเ งนิ หรือประโยชนอยางอ่ืนแกผูเลนคนหน่ึงคนใดนั้น ตองสงสลากใหเจาพนักงานผูออกใบอนุญาต ประทบั ตราเสยี กอ น จงึ นําออกจําหนา ยได ถายังมิไดรับอนุญาตใหมีการเลนที่กลาวไวในวรรคกอน หามมิใหประกาศโฆษณา หรอื ชกั ชวน โดยทางตรงหรือทางออ มใหบุคคลใดๆ เขารวมในการเลนนัน้ ÁÒμÃÒ ù ·ÇÔ หา มมใิ หผ ใู ดเสนอขายหรอื ขายสลากกนิ แบง ทอี่ อกจาํ หนา ยตามมาตรา ๙ และท่ยี ังมิไดออกรางวลั เกนิ ราคาทก่ี าํ หนดในสลาก ÁÒμÃÒ ù μÃÕ ผใู ดฝาฝน มาตรา ๙ ทวิ ตองระวางโทษจําคกุ ไมเกิน ๑ เดอื น หรือปรับ ไมเ กนิ หนึ่งพนั บาท หรือทงั้ จาํ ทั้งปรับ ¤Ó͸ºÔ Ò การเสนอขายหรอื ขายสลากกนิ แบง ทอ่ี อกจาํ หนา ยตามมาตรา ๙ หมายถงึ การเสนอขาย สลากกินแบง สลากกินรวบและสวีป หรือการเลนอยางใดท่ีเส่ียงโชคดวยการใหเงินหรือประโยชน อยางอื่นแกผูเลน เชน สลากกาชาดของกรมอัยการหรือจังหวัด สลากคุมเกลา เปนตน การขาย สลากเหลาน้ีจะตองไดรับอนุญาตจากพนักงานเจาหนาที่กอน และการอนุญาตนั้น เจาพนักงาน จะประทับตราอนุญาตลงในสลากนั้นๆ หรือประทับตราอนุญาตลงที่ตนขั้วสลาก และถายังไมไดรับ อนุญาตดังกลาวกฎหมายหามมิใหมีการประกาศโฆษณาหรือชักชวนไมวาจะโดยทางตรง หรอื ทางออ มใหบคุ คลใดๆ เขารวมในการเลน ดวย สวนการขายสลากกินแบงเกินราคานั้น จะตองเปนกรณีท่ีสลากกินแบงน้ันยังมิไดออก รางวัลจะเปนความผิดฐานน้ี เชน ขายสลากกินแบงรัฐบาลที่ยังไมออกรางวัลใบละ ๒๐ บาท ไปใน ราคา ๒๒ บาท เปน ตน ถา สลากออกรางวลั แลว ไมว า จะถกู รางวลั หรอื ไม หากขายไปเกนิ ราคาทกี่ าํ หนด มากนอยเทาใดยอ มไมเ ปน ความผดิ อกี ÁÒμÃÒ ñð ทรัพยสินพนันกันซ่ึงจับไดในวงการเลนอันขัดตอบทแหงพระราชบัญญัตินี้ หรือขัดตอขอความในกฎกระทรวง หรือใบอนุญาตซ่ึงออกตามพระราชบัญญัติน้ีใหริบเสียท้ังส้ิน เวนแตทรพั ยสนิ ซ่ึงมไิ ดเอาออกพนัน เครอ่ื งมอื ท่ใี ชใ นการเลนน้นั ใหศาลมอี าํ นาจริบไดต ามกฎหมายลกั ษณะอาญา ¤Ó͸ºÔ Ò ทรพั ยส นิ ทจ่ี บั ไดใ นวงการเลน ซง่ึ เปน ความผดิ ตามพระราชบญั ญตั ฉิ บบั น้ี กฎหมายบงั คบั ไววาใหริบเสียทรพั ยสนิ ดังกลา ว แยกพจิ ารณาไดดงั นีค้ ือ ๑) ทรัพยสินพนัน หากจับไดในวงการเลนยอมเปนทรัพยสินที่ตองริบเสียท้ังสิ้น โดยเด็ดขาด เชน เงินทอง ขาวของที่ใชเปนทรัพยสินพนัน แตถาทรัพยสินน้ันมิไดเอาออกพนัน หากจับไดท ี่ตวั ผูตอ งหาในภายหลงั ยอมริบไมได

๘ ๒) เครอื่ งมอื ท่ีใชใ นการเลนพนนั อยูในดลุ พนิ จิ ของศาลทีจ่ ะริบหรอื ไม อาทเิ ชน - เส่ือและตะเกียงเปนของใชธรรมดา ไมมีสภาพเปนเคร่ืองมือเครื่องใชในการเลน จะรบิ ไมได - โทรทัศนที่ผูดูใชทาพนันผลการแขงขันชกมวยไมใชเครื่องมือเคร่ืองใชในการเลน พนันชกมวย จะริบไมไ ด - เสื่อที่ใชปูรองการเลนพนัน เปนเครื่องมือเครื่องใชในการกระทําผิดในการเลน การพนัน ถือไดวาเปนทรัพยที่ใชในการกระทําผิด ศาลริบไดในฐานะท่ีใชเปน เคร่ืองมอื ท่ีใชในการเลน - โตะบิลเลียดไฟฟา ริบเปนอุปกรณใชในการเลนพนัน สล็อตแมชชีนที่จับไดใน วงพนัน ศาลรบิ ได การกระทาํ ความผดิ ฐานน้แี มไมม เี จตนาก็เปนความผดิ ó. º·¡Ó˹´â·É การกระทาํ ความผดิ ฐานนต้ี อ งระวางโทษจาํ คกุ ไมเ กนิ ๑ เดอื น หรอื ปรบั ไมเ กนิ ๑,๐๐๐ บาท หรอื ท้ังจําท้งั ปรับ ÁÒμÃÒ ñò “ผูใดจัดใหมีการเลน หรือทําอุบายลอชวยประกาศโฆษณาหรือชักชวน โดยตรงหรือออมใหผูอ่ืนเขาเลนหรือเขาพนันในการเลนซ่ึงมิไดรับอนุญาตจากเจาพนักงาน หรือรับ อนุญาตแลวแตเลนพลิกแพลง หรือผูใดเขาเลนหรือเขาพนันในการเลนอันขัดตอบทแหงพระราช บญั ญัตินีห้ รอื กฎกระทรวง หรอื ขอ ความในใบอนุญาต ผนู น้ั มีความผดิ ดงั ตอ ไปนี้ ๑. ถาเปนความผดิ ในการเลน ตามบัญชี ก. หมายเลข ๑ ถึงหมายเลข ๑๖ หรอื การเลน ตามบัญชี ข. หมายเลข ๑๖ เฉพาะสลากกนิ รวบ หรอื การเลน ซ่งึ มีลกั ษณะคลายกันน้ี ตอ งระวางโทษ จาํ คุกต้งั แต ๓ เดอื นขน้ึ ไป จนถงึ ๓ ป และปรับต้ังแต ๕๐๐ บาทขนึ้ ไปจนถึง ๕,๐๐๐ บาท ดว ยอกี โสดหนงึ่ เวน แตผ เู ขา เลน หรอื เขา พนนั ทเ่ี รยี กวา ลกู คา ใหจ าํ คกุ ไมเ กนิ ๓ ป หรอื ปรบั ไมเ กนิ ๕,๐๐๐ บาท หรือทั้งจําทั้งปรับ ๒. ถาเปนความผิดในการเลนอื่นใดตามพระราชบัญญัตินี้ ตองระวางโทษจําคุกไมเกิน ๒ ป หรอื ปรบั ไมเ กิน ๒,๐๐๐ บาท หรือทั้งจําทั้งปรบั เวน แตค วามผดิ ตามมาตรา ๔ ทวิ ตอ งระวางโทษ จาํ คุกไมเกิน ๑ ป หรอื ปรบั ไมเกนิ ๑,๐๐๐ บาท หรอื ท้ังจําท้ังปรับ ¤Ó͸ºÔ Ò การจัดใหผูอื่นเขาเลนการพนัน หรือพนันในการเลน หมายถึง การเปนหัวหนาหรือ ผนู ําในการเลนทีเ่ รียกกันท่ัวๆ ไปวาหัวหนาบอ นการพนนั หรอื นายวงการพนัน หรอื เจา มือ การทําอุบายลอใหผูอ่ืนเขาเลนการพนันหรือพนันในการเลน ไดแก การใชอุบายดวย วิธีใดๆ ก็ไดเพ่ือชักชวนใหผูอ่ืนเขาเลนการพนันดวย พวกทําอุบายลอน้ีรูจักกันดี ในช่ือวา หนามา

๙ เชน ก. จัดใหมีการเลนการพนัน ข. ตองการชวย ก. หาลูกคาในการเลนการพนัน จึงทําอุบายเปน ลูกคาเลนการพนันกับ ก. เปนทํานองวาการเลนนั้นมีโอกาสจะไดมากกวาเสีย เพื่อใหนาย ค. กับ นาย ง. ซ่ึงผานไปมาเขาเลนดวย ที่พบเห็นกันทั่วไป เชน การเลนพนันไพสามใบบนรถประจําทาง มักจะมีหนามาทําอุบายชักชวนเสมอ และการเลนลูกเตา ไฮโล ก็มักจะมีผูกระทําตนเปนหนามา หรอื นกตอ แกลง ทําเปน ชนะการพนันโดยรกู ันกบั เจา มือเพื่อหลอกใหลูกคา หลงเชอื่ เขา พนนั ดว ย การชว ยประกาศโฆษณาหรอื ชกั ชวนโดยทางตรงทางออ ม กม็ ที าํ นองเดยี วกนั กบั ทาํ อบุ าย ดังกลาวมาแลว ÁÒμÃÒ ñõ นอกจากโทษทม่ี บี ญั ญตั ไิ วแ ลว ในพระราชบญั ญตั นิ ้ี ถา เปน กรณที ม่ี ผี นู าํ จบั ผูกระทําผิด ใหพนักงานอัยการรองขอตอศาลใหจายสินบนแกผูนําจับดวย และใหศาลส่ังไวใน คําพิพากษาใหผูกระทําผิดใชเงินสินบนแกผูนําจับก่ึงหน่ึงของจํานวนเงินคาปรับดวยอีกโสดหน่ึง ถา ผกู ระทาํ ผดิ ไมช าํ ระสนิ บนดงั กลา วใหจ า ยจากเงนิ ทไ่ี ดจ ากของกลางซงึ่ ศาลสง่ั รบิ เมอื่ คดถี งึ ทสี่ ดุ แลว หรือจายจากเงินคาปรบั ท่ไี ดชําระตอ ศาล ®¡Õ Ò·Õ蹋Òʹ㨠®¡Õ Ò·èÕ õõ/òõñð ในคดีท่ีเจาพนักงานตาํ รวจซึ่งเปนพยานโจทกเบิกความวา ผูประสงคเงินสินบนนาํ จับมาแจงวา ท่ีบานจาํ เลยลักลอบเลนการพนัน ไดระบุถึงผูเลนและเลนอยู ตรงสวนไหนของบาน ผูแจงบอกใหเขาทางหลังบาน เจาพนักงานตํารวจอีกผูหน่ึงก็ไดสอบถามผูมา แจงตามขอเท็จจริง เชนนี้ ถือไดวาผูท ่มี าแจง น้ันเปน ผูน ําจบั ตามความใน พ.ร.บ.การพนนั แลว ®¡Õ Ò·èÕ ó÷ø/òõñö ศาลช้ันตนพิพากษาลงโทษจําเลยฐานเปนผูจัดใหมีการเลนพนัน โดยเปนเจามอื จาํ คุก ๔ เดือน และปรับ ๖๐๐ บาท ศาลอุทธรณฟง วา จําเลยเปนผเู ขาเลนในฐานะ ลูกคาเทานั้น พิพากษาแก ลงโทษปรับสถานเดียว ๖๐๐ บาท ดังน้ี แมจะเปนการแกไขมากก็อยูใน บังคบั แหงมาตรา ๒๒๐ ประมวลกฎหมายวธิ ีพิจารณาความอาญา ฎกี าในปญหาขอเทจ็ จรงิ ไมไ ด ®Õ¡Ò·Õè ñòóø/òõñ÷ เส่ือ แมโดยสภาพจะใชรองนั่งนอนก็ดี แตเม่ือจาํ เลยไดใช ปูรองเลนการพนัน ก็เปนเครื่องมือท่ีใชในการกระทําผิดในวงเลนการพนัน ถือไดวาเปนทรัพยที่ไดใช เปนเคร่ืองมือประกอบในการกระทําผิด ศาลยอมมีอํานาจริบได ตาม พ.ร.บ.การพนัน ๒๔๗๘ มาตรา ๑๐ ประกอบกับ ป.อ.มาตรา ๓๓(๑) ®¡Õ Ò·èÕ òöôö/òõòñ การท่ีผูดูโทรทัศนทาพนันผลของการแขงขันชกมวย หาได ทําใหเคร่ืองรับโทรทัศนเปนเคร่ืองมือเคร่ืองใชในการเลนการพนันการชกมวยตามความหมายแหง พระราชบญั ญตั กิ ารพนนั โดยแทจ ริงไม จึงไมรบิ เคร่ืองรบั โทรทศั นข องกลาง ®Õ¡Ò·èÕ ñøõù/òõò÷ ผูรองเปนเจาของรานคา ในวันเสารวันอาทิตยจะยก เครื่องรับโทรทัศนของกลางจากชั้นบนลงมาเปดบริการลูกคาที่ชั้นลาง เพื่อใหลูกคาดูรายการมวย จะฟงวาเพื่อสนับสนุนใหจาํ เลยเลนการพนันกันหาไดไม ผูท่ีดูมวยโดยไมเลนการพนันมีอยูไมนอย โทรทศั นข องกลางจงึ ไมเ ปน เครอ่ื งมอื เครอื่ งใชใ นการทา พนนั ผลการแขง ขนั การชกมวย ตอ งคนื แกผ รู อ ง

๑๐ ®¡Õ Ò·èÕ òù/òõóñ เครื่องรับโทรทัศนซ่ึงใชในการถายทอดรายการมวยท่ีจาํ เลยที่ ๑ จัดใหจาํ เลยอื่นเลนการพนันนั้น มิใชอุปกรณที่มีสภาพหรือลักษณะที่ใชในการเลนการพนัน ดังน้ัน การท่ีมีผูตกลงใชรายการใดรายการหนึ่งในการเผยแพรภาพทางเคร่ืองรับโทรทัศนมาใชเสี่ยงทาย หรือเปนเงื่อนไขในการเลนการพนัน จึงไมทําใหเครื่องรับโทรทัศนเปนเครื่องมือเครื่องใชในการเลน การพนนั ไปดวย ®Õ¡Ò·èÕ ñðòø/òõóñ ขณะเลนการพนันบิลเลียดเพ่ือความร่ืนเริงในสมาคมท่ีสมาคม ผูรองซึ่งมีโตะบิลเลียดทั้งหมด ๕ โตะเรียกเก็บคาเกมตามสมควร ยอมอยูในบังคับของกฎกระทรวง ทใ่ี หจ ดั ขน้ึ ไดโ ดยไมต อ งมใี บอนญุ าตอนั สามารถเลน การพนนั กนั ได ตามบทบญั ญตั แิ หง พระราชบญั ญตั ิ การพนัน พ.ศ.๒๔๗๘ มาตรา ๔ วรรคสาม โตะบิลเลียด ลูกบิลเลียด และไมคิวของกลางท่ีผูรอง ขอคืน จึงไมเปนเคร่ืองมือที่ใชในการเลนการพนัน โดยขัดตอบทแหงพระราชบัญญัติดังกลาว ซ่งึ มาตรา ๑๐ วรรคสอง บญั ญตั ิใหศาลมีอาํ นาจรบิ ได ®¡Õ Ò·Õè øõò/òõóò จําเลยสั่งจายเช็คพิพาทใหโจทกเพื่อชําระหนี้การเลนพนัน สลากกนิ รวบเปน หนี้ท่ไี มส มบูรณ ฟอ งบงั คับไมไ ด ®Õ¡Ò·Õè ó÷ó÷/òõóò คาํ ฟองของโจทกท ่ีบรรยายวา จําเลยทั้งหมดกบั พวกไดร วมกัน เลนการพนันปอกแปดเกาหรือการเลนซ่ึงมีลักษณะคลายปอก มีวิธีการเลนซึ่งดัดแปลงมาจาก การเลนแปดเกา อนั ระบไุ วใ นบญั ชี ก. อันดบั ที่ ๕ และการเลนปอกอันระบไุ วใ นบญั ชี ก. อันดบั ที่ ๑๑ ยอมเปนที่เขาใจไดแลววา จําเลยทั้งหมดกับพวกเขาพนันในการเลนอยางเดียว โดยมีวิธีการเลน ทพ่ี ลกิ แพลงนาํ เอาการเลน แปดเกา กบั การเลน ปอ กเขา มารวมกนั แลว เรยี กชอ่ื ใหมว า ปอ กแปดเกา จาํ เลย ใหการรับสารภาพตลอดขอหา แสดงวาเขาใจในวิธีการเลนการพนันตามท่ีโจทกกลาวในฟองแลว เปนอยางดี คาํ ฟองของโจทกก ็ไมเ คลือบคลุม ®Õ¡Ò·èÕ ø÷ô/òõòò จาํ เลยท่ี ๑ เปนเจามือผูจัดใหมีการเลนการพนันสลากกินรวบ ซึ่งเปนการพนันที่มอมเมาประชาชน เปนอบายมุขที่กอใหเกิดความเสียหายแกเศรษฐกิจของชาติ บานเมือง ของกลางที่ยึดไดเปนเงินสด ๑,๖๕๐ บาท และใบโพย ๑๓ แผน คิดเปนจาํ นวนเงินถึง ๒๐,๐๐๐ บาทเศษ แสดงวา จาํ เลยท่ี ๑ เปน เจา มอื รายใหญ ศาลยอมไมร อการลงโทษจาํ เลย ®Õ¡Ò·Õè ñóù/òõóó ฟองวา จาํ เลยบังอาจจัดใหมีการเลนเคร่ืองเลนไฟฟาจักรกล (ว.ี ด.ี โอ.เกม) อนั เปน การพนนั ตามท่รี ะบุไวในบัญชี ข. ลาํ ดบั ท่ี ๒๘ ทา ย พ.ร.บ.การพนนั พ.ศ.๒๔๗๘ โดยจาํ เลยเกบ็ เงินจากผเู ขา เลน ในอตั ราชัว่ โมงละ ๑๐ บาท อนั เปนทางนาํ มาซ่ึงผลประโยชนแกจําเลย ผจู ดั โดยมไิ ดร บั อนญุ าตจากเจา พนกั งาน ดงั นฟี้ อ งของโจทกไ ดบ รรยายถงึ การกระทําทงั้ หลายทอี่ า งวา จาํ เลยไดกระทาํ ผิด อีกท้ังบุคคลและสิ่งของท่ีเก่ียวของพอสมควรท่ีจะใหจาํ เลยเขาใจขอหาไดดีแลว ฟอ งโจทกจ ึงสมบูรณชอบดวย ป.ว.ิ อ. มาตรา ๑๕๘(๕) แลว เม่ือจําเลยเปนผูจัดใหมีการเลนเครื่องเลนไฟฟาจักรกล (วี.ดี.โอ.เกม) อันเปนการพนัน ตามที่ระบุไวในบัญชี ข. ลําดับท่ี ๒๘ เพ่ือนํามาซ่ึงผลประโยชนแกจําเลยโดยไมไดรับอนุญาตจาก

๑๑ เจาพนักงานจําเลยยอมมีความผิดตามท่ีโจทกฟอง โดยไมจําตองบรรยายฟองใหปรากฏวาผูเลน จะไดเลนพนันเอาทรัพยสินกันหรือไม เพราะแมผูเลนจะไมไดเลนพนันเอาทรัพยสินกัน การกระทํา ของจําเลยกเ็ ปนความผดิ ®Õ¡Ò·èÕ òðôù/òõóó การพนันสลากกินรวบเปนส่ิงที่มอมเมาประชาชน และเปน อบายมุขที่กอใหเกิดความเสียหายแกเศรษฐกิจของชาติบานเมือง สมควรแกการกาํ ราบปราบปราม มิใหมีการเลนอีกตอไป เจาพนักงานจับจาํ เลยได พรอมดวยสมุดจดหมายเลขสลากกินรวบ ๒ เลม แตละเลมจดรายการเลนการพนันดังกลาวหลายรายการ ถือไมไดวาจาํ เลยเปนผูเลนรายยอย จึงยัง ไมสมควรที่จะรอการลงโทษจําคุกจาํ เลย เมื่อศาลไมไดลงโทษปรับจําเลย จึงไมอาจสั่งใหจาํ เลย จายสนิ บนนําจับได

๑๒ ºÞÑ ªÕ ¡. ๑. หวย ก. ข. ๑๗. การเลน ซงึ่ มกี ารทรมานสตั วเชน เอามอื หรอื ๒. โปปน หนามผูกหรือวางยาเบื่อยาเมาใหสัตวชน ๓. โปกํา หรือตอสูกัน หรือสุมไฟบนหลังเตาใหว่ิง ๔. ถั่ว แขงขันหรือการเลนอ่ืนๆ ซ่ึงเปนการ ๕. แปดเกา ทรมานสัตว อันมีลักษณะคลายกับท่ีวา ๖. จับยก่ี ี มานี้ ๗. ตอ แตม ๘. เบี้ยโบก หรอื คคู ี่ หรอื อโี จง ๑๘. บลิ เลยี ดรู ตีผี ๙. ไพส ามใบ ๑๙. โยนจม่ิ ๑๐. ไมส ามอัน ๒๐. สเ่ี หงาลัก ๑๑. ชางงา หรอื ปอ ก ๒๑. ขลุกขลกิ ๑๒. ไมด ํา ไมแ ดง หรอื ปลาดาํ ปลาแดง หรือ ๒๒. นํา้ เตาทุกๆ อยาง ๒๓. ไฮโล อีดาํ อีแดง ๒๔. อกี อย ๑๓. อโี ปงครอบ ๒๕. ปนแปะ ๑๔. กําตดั ๒๖. อโี ปงซดั ๑๕. ไมหมุน หรอื ลอหมุนทกุ ๆ อยา ง ๒๗. บาการา ๑๖. หวั โตทายภาพ ๒๘. สลอ็ ตแมชชีน

๑๓ ºÑÞªÕ ¢. ๑. การเลนตา งๆ ซ่งึ ใหสัตวตอ สูหรอื แขง ขัน ๑๗. โตแตไลเซเตอร สําหรับการเลนอยางใด เชน ชนโค ชนไก กัดปลา แขงมา ฯลฯ อยางหนง่ึ นอกจากท่กี ลา วไวใ นหมายเลข ๑๗ แหง บญั ชี ก. ๑๘. สวีป สาํ หรบั การเลนอยางใดอยา งหนึ่ง ๑๙. บกุ เมกงิ สาํ หรบั การเลน อยา งใดอยา งหนงึ่ ๒. วง่ิ วัวคน ๒๐. ขายสลากกินแบง สลากกินรวบหรือสวีป ๓. ชกมวย มวยปล้ํา ๔. แขง เรือพุง แขง เรือลอ ซ่ึงไมใชออกในประเทศไทย แตไดจัดใหมี ๕. ช้ีรูป ข้ึนโดยชอบดวยกฎหมายของประเทศที่ ๖. โยนหว ง จัดนนั้ ๗. โยนสตางคห รอื วัตถใุ ดๆ ลงในภาชนะ ๒๑. ไพนกกระจอก ไพตอ แตม ไพตางๆ ๒๒. ดวด ตางๆ ๒๓. บิลเลียด ๘. ตกเบ็ด ๒๔. ของออ ย ๙. จบั สลากโดยวิธใี ดๆ ๒๕. สะบา ทอย ๑๐. ยิงเปา ๒๖. สะบาชุด ๑๑. ปาหนาคน ปาสตั ว หรอื ส่ิงใดๆ ๒๗. ฟุตบอลโตะ ๑๒. เตา ขามดา น ๒๘. เครื่องเลนซ่ึงใชเคร่ืองกล พลังไฟฟา ๑๓. หมากแกว พลังแสงสวาง หรือพลังอ่ืนใดท่ีใชเลน ๑๔. หมากหัวแดง โดยวธิ สี มั ผสั เลอ่ื น กด ดดี ดงึ ดนั ยงิ โยน ๑๕. บงิ โก โยก หมุน หรือวิธีอ่ืนใดซ่ึงสามารถทําให ๑๖. สลากกนิ แบง สลากกนิ รวบ หรอื การเลน แพชนะกันได ไมวาจะโดยมีการนับแตม หรอื เครอ่ื งหมายใดๆ หรือไมก ็ตาม อยางใดท่ีเสี่ยงโชคใหเงินหรือประโยชน อยา งอื่น แกผ เู ลน คนใดคนหนึง่

๑๔ ¤Ó¢Í͹ØÞÒμ¨Ñ´ãËÁŒ Õ¡ÒÃàŹ‹ ¡Òþ¹Ñ¹ เขยี นท่ี.......................................... วันที.่ ............เดอื น...............................พ.ศ................. ขา พเจา ..............................................................อาย.ุ ...............ป สญั ชาต.ิ ...................... บา นเลขท.ี่ ..................หมทู .่ี ........ตาํ บล.......................อาํ เภอ........................จงั หวดั ......................... ย่ืนคาํ ขอตอ เจา พนกั งานผูออกใบอนุญาต....................................................................................... ดว ยขา พเจา มคี วามประสงคข อรบั ใบอนญุ าตจดั ใหม กี ารเลน การพนนั ............................ จาํ นวน...................มกี าํ หนด..................ณ ทหี่ รอื บา นเลขท.่ี ............................หมทู .ี่ ....................... ตาํ บล.......................................อาํ เภอ.......................................จงั หวัด......................................... ขาพเจาจะปฏิบัติตามกฎหมายวาดวยการพนันกับลักษณะขอจํากัด และเงื่อนไขของ การเลนการพนนั ดังระบุไวหลังใบอนญุ าต ลายมือช่อื .........................................ผูร องขอ ลายมือชื่อ.........................................ผเู ขียน

๑๕ รับคาํ ขอวันท่.ี ............/............../.............. ลายมือชื่อ........................................................ผูรบั คาํ ขอ ตําแหนง ................................................. คาํ ส่ัง.................................................... ลายมือช่ือ........................................................ชอ่ื เจา พนกั งานผอู อกใบอนญุ าต วันท.ี่ ............./............../.............. ตาํ แหนง.......................................... กรณีการอนญุ าตตอ งไดรับอนุมัติจากผูบ ัญชาการตํารวจนครบาล ผวู า ราชการจังหวดั หรือกระทรวงมหาดไทย ๑. เสนอ................................................................................................................. .......................................................................................................................... ......................................................................................................................................................... ลายมือชือ่ ........................................................เจา พนกั งานออกใบอนุญาต วันท่.ี ............./............../.............. ตาํ แหนง .......................................... ๒. เสนอ................................................................................................................ .......................................................................................................................... ......................................................................................................................................................... ลายมอื ชอ่ื ............................................ วนั ที่............../............../.............. ตําแหนง......................................... ๓. คาํ สงั่ .................................................................................................................. ...................................................................................................................................................... ลายมือช่อื ..............................................ผสู ั่ง วันท.ี่ ................/................./.................. ตาํ แหนง .................................................

¤ÇÒÁ¼´Ô μÒÁ¡®ËÁÒÂÇÒ‹ ´ÇŒ ¡Òþ¹¹Ñ ๑๖ ÅÓ´ºÑ ¢ŒÍËÒ/°Ò¹¤ÇÒÁ¼´Ô ͧ¤» ÃСͺ¤ÇÒÁ¼´Ô ÁÒμÃÒ ÍÑμÃÒâ·É ËÁÒÂàËμØ ๑. (๑) ผจู ดั ใหมกี ารเลน โดยไมไดรับอนญุ าต ๑.๑ บญั ชี ก. หมายเลข ๑-๑๖ มาตรา ๑๒(๑) - จําคุกตั้งแต ๓ เดือนข้ึนไป จนถึง (๒) ผูทําอุบายลอ ชวยประกาศโฆษณา หรือ บัญชี ข. หมายเลข ๑๖ ๓ ป และปรับต้ังแต ๕๐๐ บาท ชกั ชวนโดยตรง หรอื โดยออ มใหผ อู นื่ เขา เลน (เฉพาะสลากกนิ รวบ) ข้นึ ไป จนถึง ๕,๐๐๐ บาท หรือเขาพนันในการเลนทีไ่ มไดร ับอนุญาต หรอื การเลน ซง่ึ มลี กั ษณะคลา ยกนั (๓) ผูไดรบั อนญุ าตแลวแตเ ลน พลกิ แพลง ๑.๒ การเลนอ่นื ใดใน มาตรา ๑๒(๒) - จําคุกไมเกิน ๒ ป หรอื ปรับไมเกนิ บญั ชี ก. นอกจากหมายเลข ๑-๑๖ ๒,๐๐๐ บาท หรอื ทงั้ จาํ ทัง้ ปรบั บัญชี ข. นอกจากหมายเลข ๑๖ หรอื การเลน ซงึ่ มลี กั ษณะคลา ยกนั ยกเวน การเลนในขอ ๑.๓ ๑.๓ การเลนอื่นใดนอกจากการเลน มาตรา ๑๒(๒) - จาํ คกุ ไมเ กนิ ๑ ป หรือปรบั ไมเ กนิ ในบัญชี ๑,๐๐๐ บาท หรอื ทง้ั จาํ ทง้ั ปรบั ก. และบัญชี ข. ที่มิไดระบุช่ือ และเงอื่ นไขไวใ นกฎกระทรวง (มาตรา ๔ ทว)ิ ๒. ผเู ขาเลน หรอื เขาพนนั ทีเ่ รียกวา “ลกู คา ” บญั ชี ก. หมายเลข ๑-๑๖ มาตรา ๑๒(๑) - จาํ คกุ ไมเกิน ๓ ป หรอื ปรับไมเกิน บญั ชี ข. หมายเลข ๑๖ ๕,๐๐๐ บาท หรือทงั้ จําทั้งปรับ (เฉพาะสลากกินรวบ) หรอื การเลน ซงึ่ มลี กั ษณะคลา ยกนั

¤ÇÒÁ¼´Ô μÒÁ¡®ËÁÒÂNjҴnj ¡Òþ¹Ñ¹ ÅÓ´ºÑ ¢ŒÍËÒ/°Ò¹¤ÇÒÁ¼´Ô ͧ¤»ÃСͺ¤ÇÒÁ¼´Ô ÁÒμÃÒ ÍÑμÃÒâ·É ËÁÒÂàËμØ ๓. ผูเขาเลน หรอื เขา พนนั ในการเลน ทข่ี ัดตอ ๓.๑ การเลน อนื่ ใดใน มาตรา ๑๒(๒) - จําคกุ ไมเ กนิ ๒ ป หรอื ปรับไมเ กิน - บทบญั ญตั ิแหง พระราชบัญญตั ิน้ี หรือ บญั ชี ก. นอกจากหมายเลข ๑-๑๖ ๒,๐๐๐ บาท หรอื ทงั้ จาํ ท้งั ปรบั - กฎกระทรวง หรือ บัญชี ข. หมายเลข ๑๖ (เฉพาะ - ขอความในใบอนญุ าต สลากกินรวบ) หรือการเลนซ่ึงมี - จาํ คุกไมเ กิน ๒ ป หรอื ปรับไมเ กนิ ลกั ษณะคลา ยกัน ยกเวน การเลน ๑,๐๐๐ บาท หรอื ทัง้ จาํ ทง้ั ปรบั ในขอ ๓.๒ ๓.๒ การเลนอ่ืนใดนอกจากการเลน มาตรา ๑๒(๒) บัญชี ก. และบญั ชี ข. ทีม่ ไิ ดร ะบุ ชื่อและเงื่อนไขไวในกฎกระทรวง (มาตรา ๔ ทวิ) ๔. ผูฝา ฝน มาตรา ๔ วรรคสี่ โดย บญั ชี ข. หมายเลข ๕-๑๕ หรือการเลน มาตรา ๔ วรรคส่ี - จาํ คกุ ไมเ กนิ ๓เดอื นหรอื ปรบั ไมเ กนิ (๑) ใหร างวลั ตีราคาเปน เงิน หรือ ซง่ึ มลี กั ษณะคลา ยกนั หรอื การเลน อนื่ ใด และมาตรา ๑๓ ๕๐๐ บาท หรอื ท้ังจาํ ทงั้ ปรบั (๒) รับกลบั คนื รางวัล หรือ ซ่ึงรัฐมนตรีฯ ไดออกกฎกระทรวงระบุ (๓) รบั ซ้ือรางวัล หรอื เพมิ่ เตมิ ไว (๔) แลกเปลี่ยนรางวัล ในสถานงาน หรอื การเลน หรอื บรเิ วณตอ เนอื่ ง ในระหวางมีงาน หรอื การเลน ๕. ผเู สนอขาย หรอื ขายสลากกนิ แบง ทย่ี งั มไิ ดอ อก บัญชี ข. หมายเลข ๑๖ สลากกนิ แบง มาตรา ๙ ทวิ - จาํ คกุ ไมเ กนิ ๑เดอื นหรอื ปรบั ไมเ กนิ รางวัลเกินกวา ราคาทีก่ าํ หนดในสลาก และมาตรา ๙ ตรี ๑,๐๐๐ บาท หรือท้ังจําท้งั ปรบั ๑๗

¤ÇÒÁ¼´Ô μÒÁ¡®ËÁÒÂNjҴnj ¡Òþ¹Ñ¹ ๑๘ ÅÓ´ºÑ ¢ÍŒ ËÒ/°Ò¹¤ÇÒÁ¼´Ô ͧ¤» ÃСͺ¤ÇÒÁ¼Ô´ ÁÒμÃÒ ÍμÑ ÃÒâ·É ËÁÒÂàËμØ ๖. ผจู ดั ใหม กี ารแถมพก หรอื รางวลั ดว ยการเสย่ี งโชค แถมพก หรอื ใหร างวลั ดว ยการเสย่ี งโชค มาตรา ๘ และ - จําคุกไมเกิน ๑ ป หรือปรับต้ังแต โดยวธิ ใี ดๆในการประกอบกจิ การคา หรอื อาชพี โดยวธิ ใี ดๆ มาตรา ๑๔ ๕๐ บาท ถึง ๒,๐๐๐ บาท หรือ โดยไมไ ดร ับอนญุ าต ทง้ั จําท้งั ปรับ

๑๙ º··èÕ ò ¾ÃÐÃÒªºÑÞÞμÑ ÍÔ ÒÇØ¸»¹„ à¤ÃÍè× §¡ÃÐÊØ¹»¹„ ÇμÑ ¶ØÃÐàº´Ô ´Í¡äÁàŒ ¾ÅÔ§ ÊèÔ§à·ÂÕ ÁÍÒÇØ¸»¹„ ¾.È.òôùð ñ. ÇÑμ¶»Ø ÃÐʧ¤¡ÒÃàÃչ̻٠ÃШӺ· ๑.๑ เพ่ือใหนักเรียนมีความรูและความเขาใจใน พ.ร.บ.อาวุธปน เครื่องกระสุนปน วตั ถุระเบดิ ดอกไมเพลงิ สิง่ เทยี มอาวธุ ปน พ.ศ.๒๔๙๐ ๑.๒ เพ่ือใหนักเรียนสามารถอธิบายการวิเคราะหวาการกระทําใดมีความผิด หรือไมมี ความผดิ ตาม พ.ร.บ.อาวธุ ปน เครอ่ื งกระสนุ ปน วตั ถรุ ะเบดิ ดอกไมเ พลงิ สงิ่ เทยี มอาวธุ ปน พ.ศ.๒๔๙๐ ๑.๓ เพ่ือใหนักเรียนสามารถอธิบายวิธีการดําเนินการกับผูกระทําความผิดตาม พ.ร.บ.อาวธุ ปน เครือ่ งกระสุนปน วัตถรุ ะเบดิ ดอกไมเ พลิง ส่งิ เทียมอาวธุ ปน พ.ศ.๒๔๙๐ ò. ʋǹ¹Ó พ.ร.บ.อาวุธปน เครื่องกระสุนปน วัตถุระเบิด ดอกไมเพลิง สิ่งเทียมอาวุธปน พ.ศ.๒๔๙๐ เปนกฎหมายที่มีความสําคัญ เพราะเปนกฎหมายที่ควบคุม วัตถุท่ีใชประกอบ อาชญากรรมท่ีมีความรายแรง โดยการนําเอาสิ่งเหลาน้ันเขามาสูระบบเพื่อควบคุมผูท่ีมีสิทธิที่จะถือ อาวธุ หรอื ควบคมุ ความรา ยแรงของอาวธุ ซงึ่ จะทาํ ใหร ะดบั ความรนุ แรงของอาชญากรรมทเี่ กดิ ขนึ้ ลดลง ó. à¹é×ÍËÒμÒÁËÑÇ¢ŒÍ ๓.๑ ความรทู ว่ั ไปเกย่ี วกบั พ.ร.บ.อาวธุ ปน เครอ่ื งกระสนุ ปน วัตถรุ ะเบดิ ดอกไมเพลิง ส่ิงเทยี มอาวุธปน พ.ศ.๒๔๙๐ ๓.๒ ความผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปน เครื่องกระสุนปน วัตถุระเบิด ดอกไมเพลิง สิ่งเทียมอาวธุ ปน พ.ศ.๒๔๙๐ ๓.๓ บทกาํ หนดโทษ ô. ʋǹÊÃØ» เปนกฎหมายที่มีความสําคัญฉบับหนึ่ง เพราะเปนกฎหมายท่ีคอยควบคุมความรายแรง ของอาชญากรรม เพราะหากความรายแรงของอาวุธขางตนถูกนํามาใชในการประกอบอาชญากรรม กจ็ ะทาํ ใหเ กดิ ความสญู เสยี แกส งั คมอยา งมาก หากผบู งั คบั ใชก ฎหมายเขม งวดในการบงั คบั ใชก ฎหมายนี้ ก็เทากับไดควบคุมระดับความรุนแรงของสังคมไปในตัว ซ่ึงเปนหนาที่อันพึงปฏิบัติของพนักงาน ฝา ยปกครองหรือตํารวจ õ. ¡¨Ô ¡ÃÃÁá¹Ð¹Ó ใหนักเรียนคนหาการจับกุมตาม พ.ร.บ.อาวุธปนฯ และนําขอมูลมาวิเคราะหอภิปราย รวมกันในชนั้ เรยี น

๒๐ ¤ÇÒÁÃÙŒ·ÑèÇä»à¡ÂèÕ Ç¡Ñº ¾.Ã.º.ÍÒÇØ¸»¹„ Ï โดยท่ีความผิดเก่ียวกับ พ.ร.บ.อาวุธปน เคร่ืองกระสุนปน วัตถุระเบิด ดอกไมเพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปนเปนความผิดท่ีกระทบกระเทือนตอชีวิตและทรัพยสินตลอดจนความสงบ เรียบรอยของประชาชน รัฐบาลจึงใหความสนใจเปนพิเศษ จะเห็นไดจากการที่กระทรวงมหาดไทย ไดเนนถึงการปราบปรามเก่ียวกับอาวุธปน เครื่องกระสุนปน ฯลฯ ที่ใชในราชการสงครามตลอดถึง การปกปองอาชญากรรมในรูปแบบตางๆ ที่ไดใชอาวุธรายแรงเขาทําการประหัตประหารจนเกิด อันตรายตอ ชวี ติ และทรพั ยสินของประชาชน จงึ จาํ เปน ที่จะตองมกี ฎหมายดงั กลาวบัญญตั ิขนึ้ º·¹ÂÔ ÒÁ ÁÒμÃÒ ô (ñ) ÍÒÇ¸Ø »¹„ ËÁÒ¤ÇÒÁÃÇÁμÅÍ´¶§Ö ÍÒÇ¸Ø ·¡Ø ª¹´Ô «§èÖ ãªÊŒ §‹ à¤ÃÍ×è §¡ÃÐÊ¹Ø »¹„ â´ÂÇÔ¸ÕÃÐàºÔ´ËÃ×ÍกําÅѧ´Ñ¹¢Í§á¡ÊËÃ×ÍÍÑ´ÅÁËÃ×Íà¤Ã×èͧ¡Åä¡Í‹ҧ㴫èÖ§μŒÍ§ÍÒÈÑÂอํา¹Ò¨¢Í§ ¾Åѧ§Ò¹áÅÐʋǹ˹èÖ§ÊÇ‹ ¹ã´¢Í§ÍÒÇØ¸¹¹éÑ æ «èÖ§Ã°Ñ Á¹μÃàÕ Ë¹ç Ç‹Òสํา¤ÞÑ áÅÐä´ÃŒ кØänj㹡®¡ÃзÃǧ สวนของอาวุธปนท่ีใหถือวาเปนอาวุธปนน้ัน ไดแก สวนใดสวนหน่ึงของอาวุธปน ตามขอ ๑ แหงกฎกระทรวงมหาดไทย (ฉบับท่ี ๓) พ.ศ.๒๔๙๑ ดงั น้ี ก. ลาํ กลอ ง ข. เครอ่ื งลูกเล่ือน หรอื สวนประกอบสาํ คัญของเครือ่ งลกู เล่อื น ค. เคร่อื งล่นั ไกหรอื สวนประกอบสาํ คญั ของเคร่อื งลนั่ ไก และ ง. เคร่อื งสง กระสุน ซองกระสุนหรือสวนประกอบสําคญั ของส่งิ เหลาน้ี สวนใดสวนหนึ่งที่กําหนดไวในกฎกระทรวงน้ีเปนอํานาจของรัฐมนตรีวาการกระทรวง มหาดไทย ®Õ¡Ò·èÕ ñùðó/òõòð ปนท่ีไมอาจใชยิงทําอันตรายแกชีวิตและวัตถุไดก็เปนอาวุธปน ตาม พ.ร.บ.อาวธุ ปนฯ และเปนอาวธุ โดยสภาพ พาไปในเมืองเปน ความผิดตาม ม.๓๗๑ ®Õ¡Ò·èÕ ñôõù/òõòó อาวุธปนไมมีลูกโมและแกนลูกโม ไมสามารถใชยิงได เปนอาวุธโดยสภาพตาม ป.อ.ม.๑ (๕) จําเลยพาไปในทางสาธารณะโดยไมมีเหตุสมควร เปน ความผดิ ตาม ป.อ. ม.๓๗๑ และ พ.ร.บ.อาวธุ ปนฯ พ.ศ.๒๔๙๐ ม.๘ ทวิ แกไขโดย ป.ร. ฉบบั ที่ ๔๔ ลงวนั ที่ ๒๑ ตลุ าคม ๒๕๑๙ ขอ ๓ ซึ่งเปนบทมโี ทษหนกั ÁÒμÃÒ ô (ò) à¤ÃèÍ× §¡ÃÐÊ¹Ø »¹„ หมายความรวมตลอดถึง กระสนุ โดด กระสนุ ปราย กระสนุ แตก ลกู ระเบิด ตอรป โด ทุน ระเบดิ และจรวดท้งั ชนิดทม่ี หี รอื ไมมกี รด แกส เช้ือเพลิง เชื้อโรค ไอพิษ หมอกหรอื ควนั หรือกระสนุ ระเบดิ ตอรปโด ทนุ ระเบิดและจรวด ที่มคี ณุ สมบตั คิ ลา ยคลึงกัน หรือเครอื่ งหมายสง่ิ สําหรับอดั หรอื ใชป ระกอบเครื่องกระสนุ ปน à¤ÃèÍ× §¡ÃÐÊØ¹»¹„ ตามมาตรา ๔ (๒) หมายความดังนี้ (๑) เปนเครื่องหรือสิ่งสําหรับอัดหรือทําหรือใชประกอบเคร่ืองกระสุนปน อันไดแก ดินปนและลูกกระสุนปน และเคร่ืองจุดระเบิดของดินปน เปนสาระสําคัญของเคร่ืองกระสุนปน

๒๑ ดงั จะเหน็ ไดจ ากลกั ษณะของปน แกป ในยคุ แรกๆ จนกระทง่ั ไดพ ฒั นาเปน กระสนุ ลกู อดั เชน ขนาด .๓๘ หรอื ๑๑ มม. (๒) เครอ่ื งกระสนุ ปน ยงั หมายความรวมตลอดถงึ กระสนุ โดด กระสนุ ลกู ปราย กระสนุ แตก ลูกระเบิด ตอรปโด ทุนระเบิดและจรวด ซึ่งใชเปนเคร่ืองมือประหารหรือทําลายดวยแรงปะทะของ กระสนุ ปน (๓) เครือ่ งกระสุนปนดังกลา วในขอ (๒) ท่ีมกี รดแกส เชื้อเพลงิ เช้ือโรค ไอพษิ หมอก หรอื ควัน เชน ปนแกสนา้ํ ตา ปนเพลิง ทีใ่ ชใ นการปราบจลาจล หรือปนท่ีใชยิงหมอกควันหรือแกส พษิ สาํ หรบั ใชในการสงคราม เปน ตน (๔) กระสุนของลูกระเบิด ตอรปโด ทุนระเบิดและจรวดที่มีคุณสมบัติคลายคลึงกัน ซ่ึงตามขอนี้ไดแก กระสุนปนรถถังหรอื ตอรป โ ดท่ยี งิ ไปจากเรอื ดาํ นาํ้ หรือจรวดที่ยิงจากฐานบนพืน้ ดนิ หรอื จากเครอื่ งบนิ หรอื ทนุ ระเบดิ ทถี่ กู ยงิ จากเรอื รบไปปลอ ยไวใ นนา นนา้ํ ใดนา นนาํ้ หนงึ่ เพอื่ ดกั ทาํ ลาย ฝา ยขา ศกึ เหลา นเี้ ปน เครอ่ื งกระสนุ ปน ทยี่ งิ มาจากอาวธุ ปน แลว ไประเบดิ ดว ยตวั ของมนั เองอกี ชน้ั หนงึ่ ®Õ¡Ò·Õè òö÷/òõò ปลอกกระสุนปนตามสภาพอาจเปนเคร่ืองหรือส่ิงสาํ หรับอัด หรือทาํ หรือใชประกอบเครื่องกระสุนไดแตการมีอยูเพียง ๒ ปลอก และไดความวามีไวใชสวมปลอก ไมตะพด ปลอกกระสุนปนน้ันก็ไมมีสภาพเปนเครื่องหรือสิ่งสําหรับอัดหรือทําหรือใชประกอบ เครอ่ื งกระสุนปนเสยี แลว ®¡Õ Ò·èÕ óõõó/òõòù ลูกระเบิดของกลางอยูในสภาพท่ีใชทาํ การระเบิดไมได เพราะ ชนวนถกู ทําลายและวัตถุระเบดิ ท.ี เอ็น.ที ที่บรรจุอยูภายในลกู ถูกสํารอกออกหมดแลว และตวั เปลอื ก ถูกตัดออกเปนชองสเี่ หลย่ี มจงึ ไมเ ปนวตั ถุระเบดิ ยอมไมเปนเครอ่ื งกระสนุ ปน ดวย ÁÒμÃÒ ô (ó) ÇÑμ¶ØÃÐàºÔ´ คือ วัตถุที่สามารถสงกําลังดันอยางแรงตอสิ่งหอมลอม โดยฉับพลัน ในเมื่อระเบิดข้ึนโดยมีส่ิงเหมาะมาทําใหเกิดกําลังดัน หรือโดยการสลายตัวของ วัตถุระเบิดนั้น ทําใหมีแรงทําลายหรือแรงประหาร กับหมายความรวมตลอดถึงเช้ือปะทุตางๆ หรือ วัตถุอื่นใด อันมีสภาพคลายคลึงกันซ่ึงใชหรือทําขึ้นเพ่ือทําใหเกิดการระเบิด ซึ่งรัฐมนตรีไดประกาศ ระบุไวในราชกจิ จานุเบกษา วัตถุระเบดิ ตามมาตรา ๔ (๓) หมายความดังน้ี (๑) คือวัตถุท่ีสามารถสงกําลังดันอยางแรงตอสิ่งหอมลอมโดยฉับพลันในเมื่อเกิด ระเบดิ ขนึ้ โดยมสี งิ่ เหมาะมาทาํ ใหเ กดิ กาํ ลงั ดนั อนั เปน ระเบดิ ทที่ าํ ใหเ กดิ กาํ ลงั ดนั เชน เครอ่ื งระเบดิ หนิ ระเบดิ ตึกทีใ่ ชใ นการกอสรา ง เปนตน (๒) วัตถุระเบิดที่ทําใหมีแรงทําลายหรือแรงประหาร โดยการสลายตัวของวัตถุระเบิด นัน้ เอง เชน ลูกระเบิดมอื กบั ระเบิดหรอื ระเบิดเวลา เปน ตน (๓) วัตถุระเบิดดังกลาวในขอ (๑) และ (๒) น้ัน สวนมากเกิดระเบิดข้ึนจากการปะทุ ของดินระเบิดทํานองเดียวกับเคร่ืองกระสุนปน แตพระราชบัญญัตินี้ยังเห็นวาไมเพียงพอกับ ความกา วหนา ทางวทิ ยาศาสตรใ นปจ จบุ นั จงึ ไดก าํ หนดใหห มายความรวมตลอดถงึ เชอื้ ปะทตุ า งๆ หรอื

๒๒ วัตถุอื่นใดอันมีสภาพคลายคลึงกัน (กับเชื้อปะทุเหลาน้ัน) ซึ่งใชหรือทําขึ้นเพ่ือใหเกิดการระเบิด ซ่ึงรัฐมนตรีจะไดประกาศระบุไวในราชกิจจานุเบกษา ในขอน้ีเปนการบัญญัติเผ่ือไวเพราะอาจมี การคิดคนระเบิดแบบใหมๆ ขึ้นมา เมื่อรัฐมนตรีเห็นวาจําเปนตองควบคุมก็จะไดประกาศใน ราชกจิ จานเุ บกษาใหอ ยใู นบงั คบั ของพระราชบญั ญตั นิ ้ี เชน ลกู ระเบดิ ทเี่ กดิ จากนา้ํ มนั เชอื้ เพลงิ เปน ตน จากบทบัญญัติดังกลาววัตถุที่สลายตัวทําใหเกิดการระเบิดจะตองใหมีแรงทําลายหรือ แรงประหารเกดิ ข้ึนดว ย ดังนัน้ ในกรณีท่ไี มถ ึงขนาดแรงทําลายไดก ไ็ มใ ชวัตถุระเบดิ เชน แกป กระดาษ เปนเม็ดเล็กๆ ติดกับกระดาษโตขนาดหัวไมขีดไฟบาง เล็กกวาบาง อยูหางๆ กัน เม่ือมีจํานวน ไมมากพอจะทําใหมีแรงทําลายหรือแรงประหารขึ้นไดขณะระเบิดแลว ก็ยังไมถึงขนาดท่ีจะถือวาเปน วตั ถุระเบิดได (ฎีกาท่ี ๑๕๖๐/๒๕๐๕) ®¡Õ Ò·Õè ñôóõ-ñôóö/òõðö ดินดาํ ของกลางในคดีน้ีซ่ึงฟงไดเพียงวาเปนวัตถุท่ีมี สารเคมีผสมอยู คือ โปแตสเซียมไนเตรท กาํ มะถัน และถาน เทาน้ัน ไมปรากฏวามีอํานาจหรือ คณุ สมบตั ิตามที่กฎหมายกําหนดไวเ ก่ียวกับความหมายของวตั ถรุ ะเบิด จึงมใิ ชวัตถุระเบิด ®¡Õ Ò·èÕ õøø/òõòò ลกู ระเบดิ ของกลางมเี รอื นชนวนถกู ทําลาย ใชข วา งจะไมเ กดิ ระเบดิ ไมท าํ ใหม แี รงทําลายหรอื แรงประหาร จึงไมเปน วตั ถรุ ะเบดิ ´Í¡äÁŒà¾ÅÔ§ ตามมาตรา ๔(๔) ไดยกตัวอยางวาไดแก พลุ ประทัดไฟ ประทัดลม ซ่ึงมีใชกันอยูทั่วไป นอกจากนั้นยังใหหมายความรวมตลอดถึงวัตถุอื่นใดอันมีสภาพคลายคลึงกันกับ ทีก่ ลา วมานี้ เชน ลูกหนหู รอื ลกู รอกที่ใชจ ดุ เลน ตามงานวัด ก็เปน ดอกไมเพลงิ ตามนยั นี้ Êè§Ô à·ÕÂÁÍÒÇ¸Ø »„¹ ตามมาตรา ๔(๕) หมายความวาส่งิ ซึ่งมีรปู และลักษณะอนั นา จะทาํ ให “หลงเช่ือ” วาเปนอาวุธปน เชน ปนเด็กเลนที่มีขนาดและลักษณะเทาและเหมือนอาวุธปนจริงๆ ท่คี นรา ยใชในการจแ้ี ละปลน ทรัพย เปนตน ÁÒμÃÒ ô(ö) มหี มายความวา มกี รรมสทิ ธห์ิ รอื มไี วในครอบครอง แตไ มห มายความถึง การมอี าวธุ ปน เครอื่ งกระสนุ ปน วตั ถรุ ะเบดิ ทม่ี ไี วโ ดยชอบดว ยกฎหมาย และตกอยใู นความครอบครอง ของบคุ คลอน่ื ซง่ึ ไมต อ งหา มมาตรา ๑๓ แหง พระราชบญั ญตั นิ ้ี เทา ทจี่ าํ เปน เพอื่ รกั ษาสงิ่ ทวี่ า นม้ี ใิ หส ญู หาย ¡ÒÃÁäÕ ÇŒ ตามมาตรา ๔(๖) ใหหมายความวา (๑) มีกรรมสิทธห์ิ รือมีไวในครอบครอง (๒) การมีกรรมสิทธ์ิหรือมีไวในครอบครองตาม (๑) นั้น ใชบังคับเฉพาะอาวุธปน เครื่องกระสุนปน และวัตถุระเบิดเทานั้น (มาตรา ๗ และ ๓๘) ไมรวมถึงดอกไมเพลิงและสิ่งเทียม อาวธุ ปนดวย (มาตรา ๔๗ และ ๕๒) (๓) ขอยกเวน การมีกรรมสิทธ์ิหรือมีไวในครอบครองดังกลาวใน (๑) และ (๒) ไมหมายความรวมถึงการที่อาวุธปน เคร่ืองกระสุนปน วัตถุระเบิดท่ีมีไวโดยชอบดวยกฎหมาย และตกอยูในความครอบครองของบุคคลอื่นซึ่งไมตองหามตามมาตรา ๑๓ แหงพระราชบัญญัติน้ี เทา ที่จําเปน เพอ่ื รกั ษาส่งิ ท่ีวาน้มี ใิ หส ูญหาย

๒๓ บุคคลตามมาตรา ๑๓ คือบุคคลทต่ี อ งหามมิใหอ อกใบอนญุ าตใดๆ ตามพระราชบญั ญตั ิ อาวุธปน ฯ ตอนน้ีหมายความวา อาวุธปน เครอื่ งกระสนุ ปน หรอื วัตถรุ ะเบดิ ทีม่ ที ะเบียนหรือไดรบั อนุญาตใหบุคคลใดบุคคลหนึ่งมีไวแลว ตกไปอยูในความครอบครองของบุคคลท่ีไมตองหามตาม มาตรา ๑๓ และบุคคลน้ันไดครอบครองอาวุธปน เครื่องกระสุนปน หรือวัตถุระเบิดน้ันไวเทาที่ จําเปนเพื่อรักษาส่ิงที่วาน้ีไวมิใหสูญหาย เชน เก็บปนตกไดแลวถูกจับระหวางนําไปแจงตํารวจท่ี โรงพักอยา งนีไ้ มผดิ เปน ตน ¡Ã³μÕ ÍŒ §ËŒÒÁ แยกกลาวดงั นี้ º¤Ø ¤ÅμÍŒ §ËÒŒ ÁÁãÔ ËÍŒ Í¡ãºÍ¹ÞØ Òμ เกย่ี วกบั อาวธุ ปน และเครอื่ งกระสนุ ปน สว นบคุ คล คอื หามมิใหออกใบอนุญาตทํา ซ้ือ มี ใช สั่งหรือนําเขา ใบอนุญาตใหมีอาวุธปนติดตัว ใบอนุญาตให มีอาวุธปนไวเพื่อเก็บ (มาตรา ๑๑) ใบอนุญาตใหบุคคลอื่นมีและใชอาวุธปนหรือเครื่องกระสุนปน เพ่ือรักษาทรัพยสินของตน (มาตรา ๑๔) ไดแก บุคคลที่มีลักษณะและพฤติการณดังตอไปน้ี (มาตรา ๑๓) ๑. บุคคลซึ่งตอ งโทษจาํ คกุ สาํ หรบั ความผิดตามกฎหมายลักษณะอาญาดังตอ ไปนี้ (ก) มาตรา ๕๗ ถึงมาตรา ๑๑๑ มาตรา ๑๒๐ มาตรา ๑๗๗ ถึง มาตรา ๑๘๓ มาตรา ๒๔๙ มาตรา ๒๕๐ หรอื มาตรา ๒๙๓ ถงึ มาตรา ๓๐๓ (ข) มาตรา ๒๕๔ ถึงมาตรา ๒๕๗ และพน โทษ ยังไมเกนิ ๕ ป นับแตว นั พน โทษ ถึงวันย่ืนคําขอใบอนุญาต เวนแตในกรณีความผิดท่ีกระทําโดยความจําเปน หรือเพื่อปองกันหรือ โดยถูกย่วั โทสะ บทกฎหมายลักษณะอาญาดงั กลาว ตงั้ แตป  พ.ศ.๒๕๐๐ เปน ตน มา ไดเ ปล่ียนเปน ประมวลกฎหมายอาญาตามขอความท่ีเปนทํานองเดียวกัน กลาวคือในขอ (ก) ตรงกับประมวล กฎหมายอาญา มาตรา ๗๔-๑๑๑ ๑๓๘ ๒๐๙ ๒๑๕ ๒๘๘ ๒๘๙ ๓๓๕ ๓๔๐ ในขอ (ข) ตรงกบั ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๙๕-๒๙๘ ๒. บคุ คลซงึ่ ตอ งโทษจาํ คกุ สาํ หรบั ความผดิ อนั เปน การฝา ฝน ตอ พระราชบญั ญตั อิ าวธุ ปน เคร่ืองกระสุนปน วัตถุระเบิด และดอกไมเพลิง พุทธศักราช ๒๔๗๗ มาตรา ๑๑ มาตรา ๒๒ มาตรา ๒๙ หรือมาตรา ๓๓ หรือพระราชบัญญัตินี้ มาตรา ๗ มาตรา ๒๔ มาตรา ๓๓ หรือ มาตรา ๓๘ ๓. บุคคลซึ่งตองโทษจําคุกต้ังแตสองคร้ังข้ึนไป ในระหวางหาปนับยอนขึ้นไปจาก วนั ยน่ื คาํ ขอสําหรับความผดิ อยา งอน่ื นอกจากทีบ่ ญั ญัติไวใน (๑) และ (๒) เวนแตความผิดที่ไดกระทาํ โดยประมาทหรือความผดิ ลหุโทษ ๔. บุคคลซ่ึงยังไมบรรลุนิติภาวะ ตามประมวลกฎหมายแพงและพาณิชยตามปกติอายุ ย่สี บิ ปบรบิ รู ณ แตบ คุ คลอาจบรรลนุ ิตภิ าวะโดยสมรส หากชายอายุ ๑๗ ป หญิงอายุ ๑๗ ป

๒๔ ๕. บุคคลซึ่งไมสามารถจะใชอาวุธปนไดโดยกายพิการหรือทุพพลภาพ เวนแตจะมีไว เพ่ือเก็บตามมาตรา ๑๑ ๖. บุคคลซึ่งเปนคนไรความสามารถหรือเปนคนเสมือนไรความสามารถหรือปรากฏวา เปนคนวิกลจรติ หรอื จติ ฟนเฟอนไมสมประกอบ ๗. บคุ คลซ่ึงไมม อี าชพี และรายได ๘. บุคคลซง่ึ ไมม ที ่อี ยูเ ปน หลักแหลง ๙. บุคคลซ่ึงมีความประพฤติช่ัวอยางรายแรงอันอาจกระทบกระเทือนถึงความสงบ เรียบรอ ยของประชาชน ๑๐. สําหรับใบอนุญาตใหมีและใชอาวุธปน หามมิใหออกใหแกบุคคลซึ่งมีช่ือใน ทะเบียนบาน ตามกฎหมายวาดวยการทะเบียนราษฎร และมีถ่ินที่อยูประจําในทองท่ีที่บุคคลน้ัน ขออนุญาตนอยกวาหกเดือน หมายความวาจะตองมีชื่อในทะเบียนบานและอยูประจําในทองที่ ท่ขี อรบั ใบอนุญาตเกินกวา หกเดือน จึงจะออกใบอนุญาตใหมแี ละใชอาวุธปน ใหได จากคําวามี มาตรา ๔ (๖) น้ี กฎหมายเนนหนักการมีกรรมสิทธ์ิหรือมีไวในครอบครอง แตคาํ วา ครอบครอง เปนอยา งไรนั้นกฎหมายไมไ ดบัญญัติไว จงึ เปน เร่อื งท่ตี อ งอาศยั แนวคําพิพากษา ของศาลฎกี าเปนตวั อยา งในการพจิ ารณาปญหาดงั กลาว ซง่ึ ศาลฎกี าไดว ินจิ ฉัยไวว า เมื่อกฎหมายไมไดบัญญัติความหมายของการครอบครองไวเปนพิเศษ ตองถือวามี ความหมายทั่วไปคือตอ งมเี จตนายึดถือเพ่อื ตน ดงั นน้ั การยึดถือปน อยูขณะหนง่ึ ไมไดยดึ ถือเพือ่ ตน ไมเปน การครอบครอง (ฎกี าที่ ๗๑๑/๒๕๐๙, ๒๒๖๔/๒๕๒๑) μÑÇÍ‹ҧคาํ ¾Ô¾Ò¡ÉÒÈÒÅ®Õ¡Ò ®Õ¡Ò·èÕ ôðô/òôøù เก็บอาวุธปนได และต้ังใจจะสงแกเจาหนาที่ไมมีความผิด ตาม พ.ร.บ.อาวุธปน ฯลฯ ถือวาไมม ีความผดิ เพราะไมม ีเจตนา ®¡Õ Ò·Õè ñó÷ö/òôùó ผูไดรับอนุญาตใหคาอาวุธปน รับซื้อจากเจาของผูไดรับ อนุญาตใหมีไวโดยชอบดวยกฎหมายแลว เม่ือชําระเงินกันเสร็จแลว ก็รับปนที่ซื้อน้ันไวในราน แลวดําเนินการทําคํารองขออนุญาตโอนตอนายทะเบียน แตถูกเจาพนักงานจับปนรายน้ีเสียกอน ตอมาจึงไดร บั อนุมตั ิจากอธิบดีกรมตาํ รวจใหโ อนได ดงั นี้ ยอ มถือวา ผูรับซือ้ “ม”ี ปน ไวในครอบครอง โดยมไิ ดร บั อนญุ าตจากนายทะเบยี นทอ งทก่ี อ นมคี วามผดิ ตามพระราชบญั ญตั อิ าวธุ ปน ฯ พ.ศ.๒๔๙๐ มาตรา ๗, ๗๒ และมคี วามผิดฐานมปี น ไวน อกบญั ชตี ามท่กี ําหนดไวใ นกฎกระทรวง ตามมาตรา ๒๘, ๘๑ ดวย ®Õ¡Ò·Õè ñöòô/òôùô บิดาไดรับอนุญาตใหมีอาวุธปน ๑ กระบอก เม่ือบิดาตาย บุตรจึงไปแจงตอนายทะเบียนและขออนุญาตมีอาวุธปนกระบอกน้ัน แตนายทะเบียนไมอนุญาต กลับสัง่ ใหขายปนนั้นเสียภายใน ๖ เดือน แตบ ตุ รขายปน นัน้ ไมได นายทะเบียนกม็ ิไดเ รยี กเอาปนนนั้ ไปขายทอดตลาดเสียเอง และมิไดสั่งอยางไรอีก ปนน้ันจึงคงอยูกับบุตรอยางเดิม ดังนี้ จะวาบุตร มีอาวุธปน โดยไมรับอนญุ าต เปน การผดิ กฎหมายไมไ ด

๒๕ ®Õ¡Ò·èÕ ñõ÷ø/òôùõ ใชใหคนไปหยิบอาวุธปนและกระสุนปนมาจากบานใหนาํ มา สงใหแกตน ณ ท่ีแหงหนึ่งอันอยูหางกันประมาณ ๑๐ เสน เพ่ือมอบคืนใหแกเจาของผูมีไวโดยชอบ ดวยกฎหมาย เชนน้ี ยังถือไมไดวาคนท่ีไปหยิบอาวุธปนและกระสุนไดมีอาวุธและกระสุนปนน้ันไว ในความครอบครอง จึงยังไมเปนผิดฐานมีอาวุธปนและเคร่ืองกระสุนปนไวโดยไมไดรับอนุญาตตาม พระราชบญั ญัติอาวธุ ปนฯ และผูใ ชใหไ ปหยิบก็ไมม ีความผิดดวย ®Õ¡Ò·èÕ ùøù/òõòù ความผิดฐานมีอาวุธปนที่นายทะเบียนไมอาจออกใบอนุญาต ใหไดกับความผิดฐานมีเครื่องกระสุนปนท่ีนายทะเบียนไมอาจออกใบอนุญาตใหได เปนความผิด มาตราเดียวกันเปนวัตถุประเภทเดียวกัน การมีอาวุธปน และเครื่องกระสุนปนดังกลาวในขณะ เดียวกนั จงึ เปน ความผิดกรรมเดียว ÁÒμÃÒ ô (÷) ÊÑè§ หมายความวา ใหบุคคลใด สงหรือนาํ เขามาจากภายนอก ราชอาณาจกั ร (ø) นําà¢ŒÒ หมายความวา นาํ เขามาจากภายนอกราชอาณาจักรไมวา โดยวิธใี ดๆ (ù) Ã°Ñ Á¹μÃÕ หมายความวา รัฐมนตรีผูรกั ษาการตามพระราชบญั ญตั ิน้ี

๒๖ »ÃСÒÈ¡ÃзÃǧÁËÒ´ä·Âñ àÃ×Íè § áμ‹§μ§éÑ ¹Ò·ÐàºÂÕ ¹ à¨ÒŒ ¾¹¡Ñ §Ò¹áÅÐà¨ÒŒ ˹ŒÒ·èÕ μÒÁ¾ÃÐÃÒªºÑÞÞμÑ ÔÍÒÇ¸Ø »„¹ à¤Ãè×ͧ¡ÃÐÊØ¹»¹„ ÇÑμ¶ÃØ Ðàº´Ô ´Í¡äÁŒà¾ÅÔ§ áÅÐʧÔè à·ÂÕ ÁÍÒÇØ¸»¹„ ¾.È.òôùð อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๖ แหงพระราชบัญญัติอาวุธปน เครื่องกระสุนปน วตั ถรุ ะเบดิ ดอกไมเ พลงิ และสงิ่ เทยี มอาวธุ ปน พ.ศ.๒๔๙๐ ซงึ่ แกไ ขเพม่ิ เตมิ โดยพระราชบญั ญตั อิ าวธุ ปน เครื่องกระสุนปน วัตถุระเบิด ดอกไมเพลิงและสิ่งเทียมอาวุธปน ฉบับที่ ๗ (พ.ศ.๒๕๒๒) รัฐมนตรี วาการกระทรวงมหาดไทยออกประกาศกระทรวงมหาดไทยไว ดงั ตอไปนี้ ¢ÍŒ ñ ใหยกเลิกประกาศกระทรวงมหาดไทย เรอื่ ง แตง ต้ังนายทะเบียน เจา พนักงาน และเจา หนา ทอ่ี นื่ ตามพระราชบญั ญตั อิ าวธุ ปน เครอ่ื งกระสนุ ปน วตั ถรุ ะเบดิ ดอกไมเ พลงิ และสงิ่ เทยี ม อาวธุ ปน พ.ศ.๒๔๙๐ ลงวันที่ ๑๗ พฤศจิกายน ๒๕๓๔ ¢ŒÍ ò ใหแตง ตงั้ ผูด าํ รงตาํ แหนง ตอ ไปน้ี เปน นายทะเบียน (๑) อธิบดกี รมการปกครอง ในเขตกรุงเทพมหานคร (๒) ผวู า ราชการจังหวดั ในเขตจงั หวัดอ่ืน (๓) นายอาํ เภอ ในเขตอําเภอ (๔) ปลัดอําเภอผเู ปน หวั หนา ประจําก่ิงอาํ เภอ ในเขตก่งิ อาํ เภอ ¢ŒÍ ó ใหแตงต้ังผูดํารงตําแหนงตอไปนี้ เปนเจาพนักงานผูมีอํานาจอนุมัติการออก หนังสืออนุญาตพเิ ศษตามมาตรา ๑๔ (๑) ปลดั กระทรวงมหาดไทย ในเขตกรุงเทพมหานคร (๒) ผวู า ราชการจังหวดั ในเขตจงั หวดั อื่น ¢ÍŒ ô ใหแ ตง ตงั้ ผดู าํ รงตาํ แหนง ตอ ไปน้ี เปน เจา พนกั งานผมู อี าํ นาจออกหนงั สอื อนญุ าต ตามมาตรา ๗๐ (๑) ปลัดกระทรวงมหาดไทย ในเขตกรุงเทพมหานคร (๒) ผวู าราชการจงั หวดั ในเขตจงั หวัดอื่น ¢ÍŒ õ ใหผูดํารงตําแหนงตอไปนี้เปนเจาหนาที่ตรวจสอบ จํานวนอาวุธปน เคร่อื งกระสุนปน วัตถุระเบดิ ดอกไมเ พลิง และสิง่ เทียมอาวธุ ปน ในรา นคาและรา นประกอบซอม (๑) อธิบดีกรมการปกครอง หรือผูซึ่งอธิบดีกรมการปกครองแตงตั้ง ในเขต กรุงเทพมหานคร (๒) ผวู าราชการจังหวดั ในเขตจงั หวัดอน่ื (๓) นายอาํ เภอ หรอื ปลดั อาํ เภอผเู ปน หวั หนา ประจาํ กง่ิ อาํ เภอและปลดั อาํ เภอ แหง ทองที่ในเขตอําเภอ หรอื เขตก่ิงอาํ เภอ ๑ ประกาศ ณ วนั ท่ี ๔ มกราคม พ.ศ.๒๕๔๘ โภคนิ พลกลุ รัฐมนตรีวาการกระทรวงมหาดไทย

๒๗ ¤ÇÒÁ¼´Ô ·ÕèÁ¡Õ ÒèºÑ ¡ÁØ ดําà¹¹Ô ¤´Õ ñ. ทาํ «Íé× ÁÕ ãªŒ ʧèÑ ËÃÍ× นาํ à¢ÒŒ ÍÒÇ¸Ø »¹„ ËÃÍ× à¤ÃÍ×è §¡ÃÐÊ¹Ø »¹„ â´ÂäÁä‹ ´ÃŒ ºÑ Í¹ÞØ Òμ¨Ò¡¹Ò·ÐàºÂÕ ¹ ·ŒÍ§·èÕ ÁÒμÃÒ ÷ หามมใิ หผ ใู ดทาํ ซอื้ มี ใช สัง่ หรอื นําเขา ซง่ึ อาวธุ ปน หรอื เครอ่ื งกระสุนปน เวน แตจ ะไดรบั ใบอนญุ าตจากนายทะเบียนทอ งท่ี ÁÒμÃÒ ÷ò ÇÃäáá ผูใ ดฝาฝน มาตรา ๗ ตองระวางโทษจําคกุ ตงั้ แตหน่งึ ป ถงึ สิบป และปรับต้งั แตสองพนั บาทถึงสองหม่นื บาท ¼ÙŒã´ หมายถึง บุคคลใดก็ตาม จะทํา ซ้ือ มี ใช สั่งหรือนําเขาซ่ึงอาวุธปนหรือเครื่อง กระสุนปนจะตองไดรับอนุญาตจากนายทะเบียนทองท่ีเสียกอน หากผูใดฝาฝนผูนั้นมีความผิดและ ตอ งระวางโทษตามกฎหมาย สําหรับกรณีท่ีส่ิงของดังกลาว เปนเพียงสวนหน่ึงสวนใดของอาวุธปน หรือเคร่ือง กระสุนปนผูฝาฝนตองไดรับโทษนอยลง หรือกรณีเปนเพียงการมีอาวุธปนท่ีเปนของผูอื่นซ่ึงไดรับ อนุญาตใหมีและใชตามกฎหมายหรือเปนการทําเครื่องกระสุนปนที่ทําดวยดินปนสําหรับใชเอง โดยไมไ ดรับอนญุ าตจากนายทะเบยี นทอ งทีผ่ ูฝ า ฝนตองระวางโทษนอ ยลง ò. ÁàÕ ¤Ã×Íè §¡ÃÐÊ¹Ø ª¹´Ô ͹è× «§èÖ ÁãÔ ª‹สาํ ËÃѺ㪌¡ºÑ ÍÒÇØ¸»„¹·μèÕ ¹ä´ŒÃºÑ ͹ØÞÒμãËŒÁÕáÅÐ㪌 ÁÒμÃÒ ø หามมิใหผูใดมีเคร่ืองกระสุนปน ซึ่งมิใชสําหรับใชกับอาวุธปนที่ตนไดรับ ใบอนญุ าต ใหม แี ละใช หมายความวา ไดร บั อนญุ าตใหม แี ละใชอ าวธุ ปน ชนดิ ประเภทใด จะตอ งมเี ครอื่ งกระสนุ ปน ชนิดประเภทนั้นควบคูกันไป หากมีเครื่องกระสุนปนชนิดประเภทอ่ืน ดังน้ี ใบอนุญาตใหมีและ ใชอาวุธปน ไมคุมครอง เชน นาย ก. มีปนพกขนาด .๓๘ ไดรับใบอนุญาตใหมีและใชแลว แตกลบั มกี ระสนุ ปน ขนาด ๑๑ มม. ไวอกี ดวย ดังนี้ถือวา ผดิ มาตรา ๘ เปน ตน ÁÒμÃÒ õ ¾ÃÐÃÒªºÞÑ ÞμÑ Ô¹éÕ àǹŒ áμÁ‹ ÒμÃÒ ø ·ÇÔ ÁÔãˌ㪺Œ ѧ¤ºÑ á¡‹ (๑) อาวธุ ปน เครอื่ งกระสนุ ปน วัตถุระเบิด ดอกไมเพลิง และสง่ิ เทยี มอาวุธปน ของ (ก) ราชการทหารและตาํ รวจทม่ี หี รือใชใ นราชการ (ข) หนวยราชการที่มีหรือใชเพ่ือปองกันประเทศหรือรักษาความสงบเรียบรอย ของประชาชน (ค) หนวยราชการหรือรัฐวิสาหกิจท่ีมีและใชในการปองกันและรักษาทรัพยสิน อันสําคัญของประชาชน (ง) ราชการทหารและตํารวจตาม (ก) หรือหนวยราชการตาม (ข) ท่ีมอบให ประชาชนมแี ละใชเ พอื่ ชว ยเหลอื ราชการของทหารและตาํ รวจ หรือของหนว ยราชการแลวแตก รณี (๒) อาวธุ ปนและเคร่อื งกระสุนปน ประจาํ เรอื เดินทะเล รถไฟ และอากาศยานตามปกติ ซ่ึงไดแสดงและใหพ นักงานศลุ กากรตรวจตามกฎหมายแลว

๒๘ (๓) ดอกไมเ พลงิ สัญญาณประจําเรือเดินทะเล อากาศยาน และสนามบินตามปกติ หนวยราชการหรือรัฐวิสาหกิจตามวรรคหนึ่ง (๑) (ข) หรือ (ค) รวมท้ังชนิด ขนาดและ การกําหนดจํานวน ตลอดจนการมีและใช การเก็บรักษา การพาติดตัว การซอมแซมหรือเปล่ียน ลกั ษณะและการอยา งอื่นท่จี ําเปนเพ่ือการรกั ษาความปลอดภัยอันเกีย่ วกบั อาวุธปน เครือ่ งกระสนุ ปน วัตถุระเบิด ดอกไมเพลิง และส่ิงเทียมอาวุธปน ที่ใหหนวยราชการหรือรัฐวิสาหกิจดังกลาวมีและใช หรอื มอบใหป ระชาชนมีและใชเ พ่อื ชวยเหลอื ราชการน้นั ใหเ ปนไปตามทีก่ ําหนดในกฎกระทรวง ó. ¾ÒÍÒÇ¸Ø »¹„ ä»ã¹·Ò§ÊÒ¸ÒóÐâ´ÂäÁä‹ ´ŒÃºÑ Í¹ÞØ ÒμãËÁŒ ÕÍÒÇ¸Ø »„¹μÔ´μÇÑ áÅÐäÁ‹ÁàÕ ËμÍØ ѹ¤Çà ¡ÒÃÁÍÕ ÒÇ¸Ø »¹„ μ´Ô μÇÑ โดยขอ ๓ แหง คาํ สง่ั ของคณะปฏริ ปู การปกครองแผน ดนิ ฉบบั ที่ ๔๔ ลงวนั ที่ ๒๑ ตลุ าคม ๒๕๑๙ ใหเพิม่ มาตรา ๘ ทวิ ขึน้ ในพระราชบญั ญตั ิอาวธุ ปน พ.ศ.๒๔๙๐ ดังน้ี “ÁÒμÃÒ ø ·ÇÔ หามมิใหผูใดพาอาวุธปนติดตัวไปในเมือง หมูบานหรือทางสาธารณะ โดยไมไ ดร ับใบอนญุ าตใหม ีอาวุธปนติดตวั เวน แตเปน กรณีที่ตองมตี ิดตวั เมื่อมีเหตจุ าํ เปน และเรง ดว น ตามควรแกพ ฤตกิ ารณ ไมวากรณีใด หามมิใหพาอาวุธปนไปโดยเปดเผย หรือพาไปในชุมนุมชนท่ีไดจัดใหมีขึ้น เพือ่ นมัสการ การรน่ื เริง การมหรสพ หรือการอ่นื ใด” สวนความในวรรคสามของมาตรา ๘ ทวิ น้ีไดถูกยกเลิกและแกไขใหมโดยมาตรา ๕ แหง พระราชบญั ญตั ิอาวุธปน ฯ (ฉบบั ท่ี ๗) พ.ศ.๒๕๒๒ ดงั นี้ “ความในมาตราน้ี มใิ หใ ชบงั คับแก (๑) เจาพนักงานผูมีหนาท่ีรักษาความสงบเรียบรอยของประชาชน ทหารและตํารวจ ซึ่งอยใู นระหวา งปฏิบัตหิ นา ท่ี (๒) ขาราชการ พนักงานหรอื ลกู จา งของหนว ยราชการหรือรัฐวสิ าหกิจ ตามมาตรา ๕ วรรคหน่ึง (๑) (ข) หรือ (ค) ซ่ึงอยูในระหวางปฏิบัติหนาท่ีเพื่อปองกันประเทศ หรือรักษาความสงบ เรียบรอ ยของประชาชน หรือรักษาทรัพยส นิ อนั สําคญั ของรัฐ (๓) ประชาชนผูไดรับมอบใหมีและใชตามมาตรา ๕ วรรคหนึ่ง (๑) (ง) ซึ่งอยูใน ระหวา งการชวยเหลือราชการและมเี หตุจาํ เปนตอ งมีและใชอาวธุ ปนในการน้ัน” สวนผูมีอํานาจอนุญาตใหมีอาวุธปนติดตัว มีบัญญัติไวในมาตรา ๒๒ ซ่ึงแกไขเพ่ิมเติม โดยขอ ๕ แหง คาํ สงั่ ของคณะปฏิรปู การปกครองแผน ดนิ ฉบับท่ี ๔๔ ลงวันที่ ๒๑ ตุลาคม ๒๕๑๙ ดังน้ี “ÁÒμÃÒ òò ใหเจาพนักงานตอไปน้ี มีอํานาจออกใบอนุญาตใหแกบุคคลที่ไดรับ ใบอนญุ าตใหม แี ละใชอ าวธุ ปน มีอาวธุ ปนติดตัวไปไดตามความทบ่ี ญั ญตั ไิ วใ นพระราชบญั ญัตนิ ้ี (๑) อธิบดีกรมตาํ รวจ สําหรับในเขตกรงุ เทพมหานคร และท่ัวราชอาณาจกั ร (๒) ผูวาราชการจังหวัด เฉพาะภายในเขตจังหวัดของตน และเฉพาะผูที่มีถ่ินที่อยูใน เขตจังหวดั นัน้

๒๙ ËÅ¡Ñ สาํ ¤ÑޢͧÁÒμÃÒ ø ·ÇÔ ¤×Í (๑) การไดรับใบอนุญาตใหมีอาวุธปนติดตัวตามมาตรา ๘ ทวินั้น มิใชวาจะคุมครอง ผพู กพาไดใ นทกุ เวลาและสถานที่ กห็ าไม เพราะการพกพาอาวธุ ปน ตดิ ตวั ไปในปา หรอื โดยสารเครอ่ื งบนิ อาจไมตอ งรบั อนุญาตตามมาตรา ๘ ทวกิ ไ็ ด คําʧÑè ÍÑ¡ÒÃÊ§Ù ÊØ´ä´ªŒ ¢éÕ Ò´¤ÇÒÁàËç¹áÂŒ§·Õè öô/òõòô Ç‹Ò (μ´Ô μÑÇ) “การพาอาวธุ ปน ติดตวั ท่จี ะเปน ความผดิ ตาม พ.ร.บ.อาวุธปน ฯ นน้ั จะตองเปนการ กระทําทีผ่ ูต องหาน้นั อยูใ นวสิ ยั ทส่ี ามารถอาจใชอาวุธปนน้นั ไดใ นทันที หากตองการจะใชโดยไมต อง เสยี เวลาในการเตรยี มการเพอื่ การใชใ ดๆ อกี ดงั นน้ั การทผี่ ตู อ งหานําอาวธุ ปน ไป โดยเกบ็ ไวท เี่ กบ็ ทา ยรถ จงึ ไมใ ชเ ปน การพาอาวุธปนตดิ ตวั ไปตามความหมายของกฎหมาย” (๒) มาตรา ๘ ทวิ วรรคสอง ยังไดบัญญัติวา ไมวากรณีใด ซึ่งหมายความวาไมวา เปนกรณีไดรับใบอนุญาตใหมีอาวุธปนติดตัวหรือไมก็ตาม การพกอาวุธปนไปโดยเปดเผย โดยไมจํากัดวาเปนเวลาและสถานที่ใดก็ดี การพาไปในชุมชนท่ีไดจัดใหมีขึ้นเพ่ือนมัสการ การร่ืนเริง การมหรสพหรือการอ่ืนใดก็ดี ทั้งสองกรณีนี้ถือเปนการตองหามโดยเด็ดขาด แมผูไดรับใบอนุญาต ใหม ีอาวธุ ปนตดิ ตวั ก็จะพาอาวุธปนเขา ไปในชมุ ชนทจ่ี ดั ใหม เี พอื่ นมัสการ การรนื่ เรงิ การมหรสพ หรอื การอื่นใดมิได และนอกจากในสถานท่ีดังกลาวแลว ยังหามพาอาวุธปนไปโดยเปดเผยในสถานที่ใดๆ อีกดวย หมายความวาการพกพาอาวุธปนโดยเปดเผยหรือประเจิดประเจอในที่สาธารณะหรือ ในสภาพที่จะปรากฏแกสายตาของสาธารณะไดโดยงาย เปนการตองหามทั้งส้ิน ใบอนุญาตใหมี อาวุธปนตดิ ตวั ไมคุม ครองดวย (๓) ขอยกเวนตามมาตรา ๘ ทวิ มสี องประการคือ ๓.๑ ขอยกเวนใหมีอาวุธปนติดตัวได หากเปนกรณีที่ตองมีติดตัวเมื่อมีเหตุ จําเปนและเรงดวนตามสมควรแกพฤติการณ หมายความวาตองเปนกรณีท่ีจําเปนตองมีอาวุธปน ตดิ ตวั อยา งเรง ดว น คาํ วา จาํ เปน และเรง ดว นจะตอ งใชค วบคกู นั ไปในทกุ กรณี บางกรณมี แี ตค วามจาํ เปน แตไมถึงกับรีบดวน เชน นาย ก. ตองขับรถสิบลอบรรทุกสินคาไปสงตางจังหวัด อยางนี้อาจถือวา จําเปนตองมีอาวุธปนติดตัวไปได แตไมถือวาเปนกรณีเรงดวน เพราะการท่ีนาย ก. อางวา เพ่ือปองกันการปลนรถบรรทุกของตนซึ่งเปนการจําเปนน้ัน เปนกรณีท่ีจําเปนที่มีอยูตลอดไป กลาวคือการปลน รถบรรทุกสนิ คา อาจมหี รอื ไมมีเมื่อใดก็ได จึงไมถ อื เปน กรณเี รง ดวน บางกรณีเปนการเรงดวน แตไมจําเปน เชน นาย ก. ตองนําภรรยา ซ่ึงเจ็บทองจะคลอดลูกไปสงโรงพยาบาลในตอนดึก อยางน้ีเปนกรณีเรงดวน แตไมมีความจําเปน ถึงกับตองพกพาอาวุธปนไปดวย เพราะตามปกติไมมีเหตุผลใดที่จะอางไดวาจําเปนตองพกพาไป เพ่อื ปองกันตวั และทรัพยสินในกรณีเชนน้ี กรณที ี่จาํ เปนและเรงดว นตามความหมายของมาตรา ๘ ทวิ กเ็ ชน “นาย ก. เพ่ิงขายขาวไดเงินมาเกือบแสนบาท และจําเปนตองนําไปฝากธนาคารซึ่งอยูหางจากบานไปราว

๓๐ สิบกิโลเมตร ในวันนั้น เพ่ือความปลอดภัยจากโจรปลน ซึ่งในทองที่ของนาย ก. มีอยูบอยๆ ดังนั้น การท่ีนาย ก. นําปน ที่ไดรับใบอนญุ าตใหมีและใชแลว แตย งั มไิ ดรบั ใบอนุญาตใหพ กตดิ ตวั ติดตวั ไป พรอ มกับเงินท่ีจะตอ งนาํ ไปฝากธนาคารในวันนัน้ ดงั น้ีถือวา “จําเปน และเรงดว น” ได อยางไรก็ดี “กรณีจําเปนและเรงดวน” ในที่นี้ยังจะตองคํานึงอีกดวยวา เปนการสมควรแกพฤติการณแหงความจําเปนและเรงดวนน้ันดวยหรือไม กลาวคือจะตองคํานึงถึง พฤติการณเ ปน เรื่องๆ ไป อยางกรณี นาย ก. พาปนตดิ ตัวพรอมดวยเงนิ แสนเพ่อื นาํ ไปฝากธนาคาร ใหทันกอนธนาคารปดในวันน้ัน เพราะมีพฤติการณการจี้ปลนในทองท่ีนั้นอยูเปนประจํา ดังนี้ถือวา พฤตกิ ารณแหงการจ้ีปลน ในทอ งทีท่ มี่ เี ปนประจํา เปนพฤติการณทสี่ มควรสาํ หรับกรณขี องนาย ก. ๓.๒ ขอยกเวนเก่ียวกับเจาพนักงาน ลูกจาง หรือผูชวยเจาพนักงานเก่ียวกับ งานของรฐั ซ่ึงใหม ีสิทธพิ กพาอาวธุ ปนไดโดยมิตองมใี บอนญุ าตใหมีอาวธุ ปน ติดตวั ดงั น้ี (๑) เจาพนักงานผูมีหนาท่ีรักษาความสงบเรียบรอยของประชาชน ทหาร และตํารวจซึง่ อยใู นระหวา งการปฏิบัตหิ นาที่ (๒) ขาราชการ พนักงานหรือลูกจางของหนวยราชการหรือรัฐวิสาหกิจ ตามมาตรา ๕ วรรคหนึ่ง (๑) (ข) หรือ (ค) ซ่ึงอยูในระหวางการปฏิบัติหนาที่เพื่อการปองกัน ประเทศหรอื รักษาความสงบเรียบรอยของประชาชน หรอื รกั ษาทรัพยส ินอนั สาํ คัญของรัฐ บคุ คลตามมาตรา ๕ วรรคหนง่ึ (๑) (ข) หรือ (ค) ไดแกบ คุ คลทสี่ ังกดั ก. หนวยราชการที่มีหรือใชอาวุธปน เพ่ือปองกันประเทศหรือ รักษาความสงบเรยี บรอ ยของประชาชน ข. หนวยราชการหรือรัฐวิสาหกิจท่ีมีและใชอาวุธปน ปองกันและ รกั ษาทรพั ยสินอนั สําคญั ของรัฐ (๓) ประชาชนผูไดรับมอบหมายใหมีและใชตามมาตรา ๕ วรรคหนึ่ง (๑) (ง) ซ่งึ อยใู นระหวา งการชว ยเหลือราชการและมเี หตุจําเปนตองมแี ละใชอาวธุ ปนในการนัน้ ประชาชนตามขอ น้ี ไดแก บุคคลทที่ างราชการทหารและตํารวจ หรอื หนว ยราชการอน่ื ทมี่ หี นา ทป่ี อ งกนั ประเทศและรกั ษาความสงบเรยี บรอ ยของประชาชน มอบอาวธุ ปน ใหมีและใชเพื่อชว ยเหลือราชการของทหารและตาํ รวจ หรอื ของหนวยราชการน้ันๆ แลวแตกรณี การใหพกพาอาวุธปนโดยมิตองมีใบอนุญาตใหมีอาวุธปนติดตัว ในกรณีน้ีจํากัดเฉพาะกรณี “ซ่ึงอยูในระหวางการชวยเหลือราชการและมีเหตุจําเปนตองมีและใช อาวุธปนในการนั้น” เทานั้น หากไมอยูในระหวางชวยเหลือราชการก็ดี หรืออยูในระหวางชวยเหลือ ราชการแตย งั ไมมเี หตุจาํ เปน ตอ งมีและใชอ าวธุ ปน ก็ยังไมไดร ับการคมุ ครองตามนยั นี้ (๔) การออกใบอนญุ าตใหมอี าวธุ ปน ตดิ ตัวตามมาตรา ๒๒ มีขอจํากดั ดังนี้ ๔.๑ ออกใบอนุญาตใหมีอาวุธปนติดตัวไดเฉพาะแกบุคคลท่ีไดรับใบอนุญาต ใหม ีและใชอ าวุธปนจากนายทะเบยี นทอ งท่แี ลวเทานั้น

๓๑ ตามนัยน้ีทําใหเห็นไดวา “ใบอนุญาตใหมีและใชอาวุธปน” ไมคุมครองถึง การพาอาวุธปนติดตัวไปใน “เมอื ง หมบู านหรือทางสาธารณะ” หากผูรับใบอนุญาต “ใหมีและใชอาวุธปน” ตองการพาอาวุธปนติดตัวไป “ในเมือง หมูบานหรือทางสาธารณะ” ผูไดรับใบอนุญาตน้ันจะตองไดรับ “ใบอนุญาตใหมีอาวุธปน ติดตวั ” อีกช้นั หนึ่ง ในทางกลับกัน ผูมีอาวุธปนโดยไมไดรับอนุญาตพกพาอาวุธปนนั้นไปตาม มาตรา ๘ ทวิ ก็มคี วามผดิ ฐานพกพาดวย ๔.๒ ขอบเขตอาํ นาจการอนญุ าตของอธบิ ดกี รมตาํ รวจ มอี ยา งกวา งขวางในเขตพนื้ ท่ี คือ การขอใบอนุญาตใหมีอาวุธปนติดตัวในเขตกรุงเทพมหานครก็ดี หรือตองการมีอาวุธปนติดตัว ไปทั่วราชอาณาจักรก็ดี จะตองขอตออธิบดีกรมตํารวจแตผูเดียว ในกรณีน้ีทําใหเห็นไดวาหากผูใด ไดรับใบอนุญาตใหมีอาวุธปนติดตัวจากอธิบดีกรมตํารวจแลว บุคคลน้ันไมจําเปนตองขอรับ ใบอนุญาตใหมีอาวธุ ปน ติดตัวจากผวู า ราชการจังหวัดทตี่ นมีถิ่นทอ่ี ยูในจังหวดั นน้ั อีกช้นั หนงึ่ ๔.๓ ขอบเขตอํานาจของผูวาราชการจังหวัดมีเฉพาะออกใหไดภายในเขต จังหวัดของตนและออกใหไดแตเฉพาะแกบุคคลที่มีถิ่นท่ีอยูในเขตจังหวัดที่ตนเปนผูวาราชการจังหวัด น้ันเทา น้นั ®¡Õ Ò·Õè ñõøò/òõóñ (»ÃЪÁØ ãËÞ)‹ ความผดิ ฐานพาอาวธุ ปน ตดิ ตวั ไปในเมอื ง หมบู า น และทางสาธารณะโดยมไิ ดรบั อนญุ าตเปนความผดิ ท่ีรวมกระทาํ ดวยกนั ได จาํ เลยท่ี ๒ รว มกับคนรา ย ๗-๘ คน ไปปลนทรพั ยโดยมอี าวุธปนติดตัวไป ๖ กระบอก แมจะฟงไมไดวาจําเลยท่ี ๒ มีอาวุธปนติดตัวไปดวยก็ตาม แตการที่จําเลยท่ี ๒ รวมกับคนรายอื่น ไปปลน ทรพั ยแ ละพยายามฆา เจา ทรพั ยโ ดยใชป น ยงิ เสรจ็ แลว กห็ ลบหนไี ปดว ยกนั แสดงวา จาํ เลยที่ ๒ มเี จตนากบั คนรา ยอนื่ มอี าวธุ ปน และเครอ่ื งกระสนุ ปน ไวใ นครอบครอง และพาอาวธุ ปน ตดิ ตวั ไปในเมอื ง หมบู าน และทางสาธารณะโดยไมไดร บั อนญุ าตดวย ®Õ¡Ò·Õè ñøó÷/òõóñ จาํ เลยกบั ร. ขูบงั คบั ผเู สียหายใหยอมรวมประเวณี โดยจาํ เลย ใชอาวุธปนไมมีทะเบียนของจาํ เลยจ้ีผูเสียหาย เมื่อสามีผูเสียหายไปตามพลตํารวจ ส. มาจับกุม ส. เอาปนดังกลาวจากเอว ร. มาเก็บไวโดยถอดอาวุธปนออกหมดแลวจาํ เลยเขาแยงเอาปนคืนจาก ส. ยกขึ้นจองยิงท่ีหนาอก ส. ดังแชะสามครั้ง ดังนี้ พฤติกรรมที่จาํ เลยกับ ร. ผลัดกันใชอาวุธปน ของกลางเชนนี้ ถือวารวมกันมีอาวุธปนของกลางไวในครอบครอง และการกระทําของจําเลยเปน ความผิดฐานพยายามฆาเจาพนักงานซ่ึงกระทาํ การตามหนาที่โดยไมสามารถบรรลุผลอยางแนแท เพราะเหตปุ จ จัยทใ่ี ชในการกระทาํ ผิดอกี กระทงหนงึ่ ¢ŒÍÊѧà¡μ ในกรณีท่ีเปนอาวุธปนของทางราชการมอบใหครอบครอง กรณีน้ีไมเปน ความผิด เพราะมาตรา ๕ ไดบัญญัติยกเวนไว แตถาหากผูครอบครองไมมีอํานาจหนาที่ดังกลาว กเ็ ปน ความผดิ

๓๒ ®¡Õ Ò·èÕ ñùõø/òôùò จําเลยซึ่งรับราชการทหาร มีอาวุธปนของทางราชการทหาร เพ่ือนําไปปฏิบัติหนาที่สารวัตรน้ัน ถือวาจาํ เลยมีไวทางราชการทหาร ไมมีความผิดฐานมีอาวุธปน และเครอ่ื งกระสนุ ปน ไวใ นความครอบครองโดยมไิ ดร บั อนญุ าต แมจ ะเอาปน นน้ั ไปเพอื่ กอ การรา ยกต็ าม ®Õ¡Ò·èÕ ñõõñ/òõñö ของกลางซึ่งเปนอาวธุ ปน ท่ีใชเ ฉพาะในการสงครามเปน ของทาง ราชการทหาร แตไดหายไป จําเลยเปนทหารแตไมมีอาํ นาจหรือหนาท่ีครอบครองอาวุธปนของกลาง การครอบครองของจาํ เลยไมใ ชก ารครอบครองในราชการทหาร จาํ เลยจงึ มคี วามผดิ ตามพระราชบญั ญตั ิ อาวธุ ปน ฯ พ.ศ.๒๔๙๐ มาตรา ๕๕, ๗๘ ®¡Õ Ò·èÕ ñùöñ/òõòø จําเลยมีใบอนุญาตพกอาวุธปนของกรมตํารวจซ่ึงจําเลยมีสิทธิ พาอาวุธปนไดทั่วราชอาณาจักรเพื่อปฏิบัติราชการสืบสวน ไมอยูในบังคับแหง พ.ร.บ.อาวุธปนฯ มาตรา ๘ ทวิ จําเลยยอมไมมีความผิดตาม มาตรา ๗๒ ทวิ เม่ือปรากฏแกศาลฎีกาวาการกระทํา ของจําเลย ไมเ ปนความผดิ ศาลฎีกายอ มมอี าํ นาจยกฟอ งไดตาม ป.ว.อ.มาตรา ๑๘๕, ๒๑๕, ๒๒๕ ®Õ¡Ò·èÕ ñóöñ/òõóð จําเลยเปนสมาชิก อพป. มีหนาท่ีรักษาความสงบเรียบรอยใน หมูบานไดรับแจกอาวุธปนคารบินและกระสุนปนของกลาง ซ่ึงเปนของทางราชการไวใชประจาํ ตัว เพอื่ ปฏบิ ตั หิ นา ทร่ี กั ษาความสงบเรยี บรอ ยในหมบู า น จําเลยจงึ ไมม คี วามผดิ ฐานมอี าวธุ ปน กระสนุ ปน ที่นายทะเบียนไมสามารถออกใบอนุญาตไวในครอบครอง และไมมีความผิดฐานพาอาวุธปนไปใน หมูบา นและทางสาธารณะ ¤ÇÒÁ¼´Ô μÒÁ มาตรา ๑๒ ยงิ อาวธุ ปน ทไ่ี ดร บั อนญุ าตใหม ไี วเ พอ่ื เกบ็ และมเี ครอ่ื งกระสนุ ปน สาํ หรับอาวุธปน ท่ไี ดร ับอนุญาตใหม ไี วเ พื่อเกบ็ การมีอาวุธปนไวเพื่อเก็บ ตองไดรับอนุญาตจากนายทะเบียนทองที่ตามมาตรา ๗ ภายใตข อบงั คับตอ ไปนี้ (๑) ใบอนุญาตใหมีอาวุธปนไวเพ่ือเก็บ ใหออกไดสําหรับ (ก) อาวุธปนท่ี นายทะเบียนเห็นวาชํารุดจนใชยิงไมได หรือ (ข) อาวุธปนแบบพนสมัย หรือ (ค) อาวุธปนซึ่งไดรับ เปน รางวัลจากการแขง ขนั ยงิ ปนในทางราชการ (มาตรา ๑๑) (๒) อาวุธปนซ่ึงไดรับอนุญาตใหมีไวเพ่ือเก็บน้ันตอง (ก) หามมิใหยิง และ (ข) หา มมิใหมีเครอ่ื งกระสุนปนไวสําหรบั อาวธุ ปน นั้นดวย (มาตรา ๑๒) ô. äÁ‹á¨Œ§àËμ¼Ø ÅáÅÐʧ‹ ÁͺãºÍ¹ØÞÒμÍÒÇ¸Ø »¹„ ¶¡Ù ·Òí ÅÒ ËÃÍ× ÊÞÙ ËÒÂμÍ‹ ¹Ò·ÐàºÂÕ ¹ ÁÒμÃÒ òñ ถาอาวุธปนท่ีไดรับอนุญาตแลวถูกทาํ ลายหรือสูญหายโดยเหตุใดๆ ก็ดี ใหผ รู บั ใบอนญุ าตแจง เหตแุ ละผลสง มอบใบอนญุ าตตอ นายทะเบยี นทอ งทซ่ี ง่ึ ตนอยหู รอื ทเ่ี กดิ เหตภุ ายใน สิบหา วนั นบั แตว ันทราบเหตุ ÁÒμÃÒ øó ผูใดฝา ฝน มาตรา ๒๑ ตอ งระวางโทษปรบั ไมเกินหนงึ่ พนั บาท ¼ŒÙã´ หมายถึง บุคคลใดก็ตามท่ีอาวุธปนของตนที่ไดรับอนุญาตน้ันสูญหายหรือ ถูกทาํ ลายโดยเหตุใดๆ ก็ตาม ใหผูรับใบอนุญาตแจงเหตุและสงมอบใบอนุญาตตอนายทะเบียน

๓๓ ทองที่ภายใน ๑๕ วัน นับแตวันที่ทราบถึงเหตุการณ บุคคลใดฝาฝนตองมีความผิด และตอง ระวางโทษตามกฎหมาย õ. ทํา »ÃСͺ «Í‹ Áá«Á à»ÅÂÕè ¹Å¡Ñ É³Ð Ê§Ñè นําà¢ÒŒ ÁËÕ ÃÍ× จาํ ˹ҋ ÂÍÒÇ¸Ø »¹„ à¤ÃÍ×è §¡ÃÐÊ¹Ø »¹„ สาํ ËÃºÑ ¡ÒÃทําâ´ÂäÁä‹ ´ŒÃºÑ ͹ØÞÒμ¨Ò¡¹Ò·ÐàºÂÕ ¹ ÁÒμÃÒ òô หามมิใหผูใด ทาํ ประกอบ ซอมแซม เปลี่ยนลักษณะ สั่ง นาํ เขา มีหรือ จาํ หนายซ่ึงอาวุธปนหรือเคร่ืองกระสุนปนสําหรับการคา เวนแตจะไดรับใบอนุญาตจากนายทะเบียน ทอ งที่ ÁÒμÃÒ ÷ó ผูใดฝาฝน มาตรา ๒๔ ตองระวางโทษจําคุกตั้งแตสองปถึงยี่สิบป และปรับต้ังแตส พ่ี ันบาทถงึ สห่ี มื่นบาท ¼ÙŒã´ หมายถึง บุคคลใดก็ตามที่จะทาํ ประกอบ ซอม มี หรือจําหนายอาวุธปน เครื่องกระสุนปนเพ่ือการคาจะตองไดรับอนุญาตจากนายทะเบียนทองที่ หากบุคคลใดฝาฝน ไมปฏิบัติตามมีความผิดและตองระวางโทษตามกฎหมาย ใบอนุญาตใหทาํ ประกอบ ซอมแซม เปลี่ยนลักษณะ มี หรือจําหนายอาวุธปนหรือ เครอื่ งกระสนุ ปนสําหรบั การคานั้น เม่ือไดรับอนุมตั จิ ากรัฐมนตรแี ลว จงึ ใหน ายทะเบียนทองที่ออกให ใบอนญุ าตนี้ มีอายุ ๑ ป นบั แตว นั ออก ö. ÃÒŒ ¹¤ÒŒ ÍÒÇ¸Ø »¹„ จํา˹ҋ ÂÍÒÇ¸Ø »¹„ ËÃÍ× à¤ÃÍ×è §¡ÃÐÊ¹Ø »¹„ ãËጠ¡¼‹ ·ŒÙ äèÕ Áä‹ ´ÃŒ ºÑ ãºÍ¹ÞØ ÒμãË«Œ Íé× ËÃÍ× ÁÕ áÅÐ㪌 ÁÒμÃÒ óô หามมิใหจาํ หนายอาวุธปน หรือเครื่องกระสุนปนแกผูท่ีไมไดรับ ใบอนุญาตใหซอื้ หรอื มแี ละใชอาวุธปน และเครือ่ งกระสนุ ปน ÁÒμÃÒ ÷ó ·ÇÔ ผูใดฝาฝนมาตรา ๓๔ ตองระวางโทษจาํ คุกตั้งแตหกเดือนถึงสิบป และปรบั ต้ังแตห นงึ่ พนั บาทถงึ สองหม่นื บาท เจา ของรา นคา อาวธุ ปน หมายถงึ บคุ คลซงึ่ เปน เจา ของรา นคา อาวธุ ปน จะจําหนา ยอาวธุ ปน และกระสุนปนไดเฉพาะกับบุคคลท่ีไดรับใบอนุญาตใหซ้ือหรือมีและใชเทานั้น หากบุคคลซ่ึงเปน เจา ของรา นคา อาวุธปนฝา ฝน ตองถือวา บคุ คลนน้ั มคี วามผิดและตอ งระวางโทษตามกฎหมาย ÷. ทาํ «Íé× ÁÕ Ê§Ñè นาํ à¢ÒŒ ÁÒ¤ÒŒ ËÃÍ× จาํ ˹ҋ ÂÇμÑ ¶ÃØ Ðàº´Ô â´ÂäÁä‹ ´ÃŒ ºÑ Í¹ÞØ Òμ¨Ò¡¹Ò·ÐàºÂÕ ¹·ÍŒ §·èÕ ÁÒμÃÒ óø หามมิใหผูใด ทํา ซื้อ มี ใช สั่ง นาํ เขา คาหรือจาํ หนายดวยประการใด ซึ่งวตั ถรุ ะเบดิ เวน แตไ ดร บั ใบอนญุ าตจากนายทะเบยี นทอ งที่ ÁÒμÃÒ ÷ô ผูใดฝาฝนมาตรา ๓๘ ตองระวางโทษจําคุกตั้งแตหน่ึงปถึงยี่สิบป และ ปรบั ตง้ั แตสองพันบาทถึงสี่หมน่ื บาท ¼ŒÙã´ หมายถึง บุคคลใดก็ตาม ในการท่ีจะ ทาํ ซ้ือ มี ใช สั่ง นาํ เขามา หรือคาวัตถุ ระเบิดตองไดรับอนุญาตจากนายทะเบียนทองที่กอน ผูใดฝาฝนตองมีความผิดและตองรับโทษตาม กฎหมาย

๓๔ ø. ÂŒÒÂÇÑμ¶ÃØ ÐàºÔ´¨Ò¡·Õèá˧‹ ˹§èÖ ä»ÍÕ¡á˧‹ ˹֧è â´ÂÁäÔ ´ÃŒ ÑºÍ¹ÞØ Òμ ÁÒμÃÒ ôó หามมิใหยายวัตถุระเบิดจากที่แหงหนึ่ง เวนแตไดรับหนังสืออนุญาตจาก เจาพนกั งานซึ่งรัฐมนตรกี ําหนดให และในการยา ยตองปฏบิ ัตติ ามเงื่อนไขในหนงั สืออนญุ าตน้นั แลว ÁÒμÃÒ øð ผใู ดฝา ฝนมาตรา ๔๓ ตอ งระวางโทษปรบั ต้งั แตหา รอ ยบาทถึงหา พนั บาท ¼ÙŒã´ หมายถึง บุคคลใดก็ตาม ถาจะทําการยายวัตถุระเบิดจะตองขออนุญาตจาก เจาพนักงาน ซ่ึงรัฐมนตรีกําหนดไว ในกรณีท่ียายโดยไดรับอนุญาต จะตองปฏิบัติตามเง่ือนไขท่ี กําหนดไวในหนังสืออนุญาตนั้นดวย ซึ่งถาหากผูใดฝาฝน ถือวาบุคคลน้ันมีความผิด และตอง ระวางโทษตามทก่ี ฎหมายกําหนด ù. ทํา Êѧè นาํ ࢌÒËÃÍ× ¤ÒŒ ´Í¡äÁŒà¾Å§Ô â´ÂäÁä‹ ´ÃŒ ÑºÍ¹ÞØ Òμ¨Ò¡¹Ò·ÐàºÂÕ ¹·ÍŒ §·èÕ ÁÒμÃÒ ô÷ หา มมใิ หผ ใู ดทาํ สงั่ นาํ เขา หรอื คา ซงึ่ ดอกไมเ พลงิ เวน แตจ ะไดร บั ใบอนญุ าต จากนายทะเบียนทองที่ ÁÒμÃÒ ÷÷ ผูใดฝาฝนมาตรา ๔๗ ตองระวางโทษจาํ คุกไมเกินหนึ่งเดือน หรือ ปรับไมเ กินหนงึ่ พนั บาทหรือทัง้ จาํ ทัง้ ปรับ ¼ÙŒã´ หมายถึง บุคคลใดก็ตาม จะทํา สั่ง นําเขาหรือคาดอกไมเพลิง จะตองไดรับ อนญุ าตจากนายทะเบียนทอ งทเ่ี สยี กอน บคุ คลใดฝา ฝน บุคคลนน้ั ตอ งมคี วามผดิ และตองระวางโทษ ตามกฎหมายกาํ หนด ñð. ã˼Œ ͌٠è׹㪌ãºÍ¹ÞØ ÒμÍÒÇ¸Ø »„¹¢Í§μ¹ ÁÒμÃÒ õø ใบอนุญาตท่ีออกใหตามความในพระราชบัญญัตินี้ ใหใชไดเฉพาะตัวผูรับ ใบอนญุ าต ÁÒμÃÒ ÷ò ·ÇÔ ผูใ ดฝา ฝน มาตรา ๕๘ ตองระวางโทษจาํ คกุ ไมเ กินสบิ ปหรือปรับไมเกิน สองหม่นื บาทหรอื ทงั้ จําทง้ั ปรับ ¼ÙŒã´ หมายถึง บุคคลใดก็ตามท่ีมีใบอนุญาต ยินยอมใหผูอ่ืนนําใบอนุญาตอาวุธปน ของตนไปใชโดยเจตนา บคุ คลน้นั มคี วามผิดตอ งระวางโทษตามกฎหมาย ññ. â͹ÍÒÇØ¸»¹„ à¤Ã×Íè §¡ÃÐÊ¹Ø »„¹ ËÃÍ× ÇμÑ ¶ØÃÐàº´Ô ãˌ᡼‹ ŒÙ·èÕÁÔä´ÃŒ ºÑ ãºÍ¹ØÞÒμ ÁÒμÃÒ õù หามมิใหโอนอาวุธปน เคร่ืองกระสุนปน หรือวัตถุระเบิดใหแกผูท่ีมิไดรับ ใบอนญุ าต ÁÒμÃÒ ÷ò ·ÇÔ ผูใดฝาฝนมาตรา ๕๙ ตองระวางโทษจําคุกไมเกิน ๑๐ ป หรือ ปรับไมเกินสองหมืน่ บาทหรอื ทงั้ จาํ ท้งั ปรับ ¼ãÙŒ ´ หมายถึง บุคคลใดก็ตามท่ีจะโอนอาวุธปน เครื่องกระสนุ ปน หรือวตั ถุระเบิดใหกบั ผูใดน้ันผูรับโอนจะตองเปนบุคคลที่ไดรับใบอนุญาตเทาน้ัน ถาหากบุคคลใดโอนอาวุธปน เคร่ืองกระสุนปนหรือวัตถุระเบิดใหกับบุคคลท่ีไมมีใบอนุญาต การกระทําของผูนั้นถือวาเปน ความผดิ ตอ งระวางโทษตามกฎหมาย

๓๕ ñò. ¼·ŒÙ èÕä´ÃŒ ºÑ ãºÍ¹ØÞÒμãËÁŒ ÕáÅÐ㪌ÍÒÇØ¸»¹„ ŒҶèÔ¹·ÍÕè Âã‹Ù ˌᨧŒ ÂŒÒÂá¡‹¹Ò·ÐàºÂÕ ¹ ÁÒμÃÒ öò ผูที่ไดรับอนุญาตใหมีและใชอาวุธปนคนใดยายถิ่นที่อยูใหแจงการยายแก นายทะเบียนทองที่ ภายในสิบหาวันนับแตวันยาย และถายายไปอยูในตางทองที่ ใหแจงการยายแก นายทะเบียนทองทีใ่ หมใหท ราบภายในสิบหา วนั นับแตว ันที่ยายไปถงึ อกี ดวย ÁÒμÃÒ øó ผูใ ดฝาฝน ตองระวางโทษปรับไมเกนิ หนึ่งพันบาท ñó. äÁä‹ »Âè¹× ¤íÒ¢ÍÃºÑ ãºá·¹ãºÍ¹ÞØ Òμ·ÊÕè ÞÙ ËÒÂËÃ×ÍźàÅ×͹ÍÒ‹ ¹äÁÍ‹ Í¡μ‹Í¹Ò·ÐàºÂÕ ¹ ÁÒμÃÒ öù เมื่อใบอนุญาตสูญหาย เปนอันตราย หรือลบเลือนอานไมออก ใหผูรับ ใบอนญุ าตยนื่ คาํ ขอรบั ใบแทนใบอนญุ าตตอ นายทะเบยี นทอ งทภ่ี ายในสามสบิ วนั ทน่ี บั แตท ราบเหตนุ นั้ ถานายทะเบียนเห็นวามีเหตุผลเปนที่เชื่อถือไดใหออกใบแทนใหตามเงื่อนไขของใบอนุญาตเดิม แตถาใบอนุญาตท่ีสูญหายไดคืนในภายหลัง ก็ใหสงใบแทนน้ันแกนายทะเบียนทองที่ภายในกาํ หนด สิบหาวันนบั แตวนั ทีไ่ ดค นื ÁÒμÃÒ øó ผูใดฝาฝนมาตรา ๖๙ ตองระวางโทษปรับไมเกินหนงึ่ พันบาท ¼ÙŒã´ หมายถึง บุคคลใดก็ตาม เมื่อใบอนุญาตสูญหายหรือลบเลือนอานไมออกตอง ย่ืนขอใบแทนตอนายทะเบียนทองที่ภายใน ๓๐ วัน นับแตวันทราบเหตุ ถาหากไมยื่นขอรับใบแทน จนพนกําหนด ผนู น้ั มีความผิดตองระวางโทษตามกฎหมาย แตถาใบอนุญาตท่ีสูญหายแลวน้ันไดคืนภายหลัง ผูน้ันจะตองสงใบแทนท่ีเจาหนาท่ี ออกใหคืนแกนายทะเบียนทองที่ภายในกําหนด ๑๕ วัน นับแตวันไดคืน ผูใดละเลยมีความผิด และตอ งรบั โทษตามกฎหมาย

๓๖ ẺãºÍ¹ÞØ ÒμμÒ‹ §æ ¼¹Ç¡ ¡. Ẻ ».ñ เรอื่ ง....................................................................... เขยี นที.่ ................................................... วนั ที.่ .........เดือน..............................พ.ศ.................. ขาพเจา.......................................................................................อายุ......................ป เชอื้ ชาต.ิ ..........................สญั ชาต.ิ ..........................ภมู ลิ าํ เนาบา นเลขท.่ี ........................หมทู .่ี ............ ตาํ บล.......................................อาํ เภอ.......................................จงั หวดั ........................................... ยนื่ คาํ ขอตอ นายทะเบยี นทอ งทป่ี ระจาํ ............................................................................................... ดว ยขา พเจา มคี วามประสงค. ........................................................................................... ......................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................... (ลงชอื่ ).......................................................... ผขู ออนุญาต

๓๗ ¼¹Ç¡ ¢. Ẻ ». ò ãºÍ¹ÞØ ÒμãËŒÊѧè ËÃÍ× ¹Òí à¢ÒŒ «§èÖ ÍÒÇØ¸»¹„ à¤Ã×èͧ¡ÃÐÊØ¹»„¹ ÇμÑ ¶ØÃÐàºÔ´ ´Í¡äÁŒà¾Å§Ô ËÃ×ÍÊÔ§è à·ÕÂÁÍÒÇ¸Ø »¹„ ใบอนุญาตท่ี สถานท่อี อกใบอนุญาต วัน เดอื น ป ท่ีออก วนั เดือน ป ที่ส้ินอายุ ชอื่ อายุ ผูรับใบอนุญาต เช้ือชาติ สญั ชาติ ภมู ลิ าํ เนาบา นเลขท่ี หมูที่ ตําบล อําเภอ จังหวดั ชนดิ ขนาด จํานวน ทไี่ ดรับอนุญาต ใหส ่ัง หรือนําเขา ส่งั หรือนาํ เขาจาก คาธรรมเนยี ม ................................................................. นายทะเบียนทอ งท่ี ประทับตราประจําตาํ แหนง

๓๘ ¼¹Ç¡ ¤. Ẻ ». ó ãºÍ¹ØÞÒμãË«Œ Í×é ÍÒÇ¸Ø »¹„ ËÃ×Íà¤Ãè×ͧ¡ÃÐÊØ¹»¹„ ÊÇ‹ ¹ºØ¤¤Å ãËÁŒ ÍÕ ÒÇ¸Ø »„¹ ËÃÍ× à¤ÃÍè× §¡ÃÐÊ¹Ø »„¹ÊíÒËÃѺ¡ÒäŒÒ ใบอนญุ าตท่ี สถานที่ออกใบอนญุ าต วนั เดอื น ป ท่อี อก วัน เดอื น ป ท่สี ิน้ อายุ ช่อื อายุ ผรู ับใบอนญุ าต เชือ้ ชาติ สัญชาติ ภูมิลาํ เนาบา นเลขที่ หมทู ี่ ตําบล อาํ เภอ จังหวดั ชนิด ขนาด จํานวน ทีไ่ ดรบั อนญุ าต หรือมี จาก คาธรรมเนยี ม ................................................................. (แบบนม้ี ี ๓ ตอน) นายทะเบียนทองท่ี ประทับตราประจาํ ตําแหนง

๓๙ ¼¹Ç¡ §. Ẻ ». ô ãºÍ¹ØÞÒμãËŒÁáÕ ÅÐ㪌ÍÒÇØ¸»„¹ ãËÁŒ ÕÍÒÇØ¸»¹„ äÇàŒ ¾Í×è ࡺç ãËÁŒ áÕ ÅÐ㪌ÍÒÇ¸Ø »¹„ áÅÐà¤ÃÍ×è §¡ÃÐÊ¹Ø »„¹ ªÑèǤÃÒÇ ใบอนญุ าตที่ สถานทอ่ี อกใบอนุญาต วนั เดือน ป ทอี่ อก วนั เดือน ป ทีส่ ้ินอายุ ชือ่ อายุ ผรู ับใบอนุญาต เชอ้ื ชาติ สญั ชาติ ภูมลิ าํ เนาบา นเลขท่ี หมูท่ี ตําบล อําเภอ จังหวดั ชนิด ขนาด อาวุธปน เลขหมายประจาํ ปน และช่อื ผูทาํ ปน เคร่อื งหมายทะเบียน ไดมาโดยซือ้ สง่ั นาํ เขา หรือมี โดยซอื้ หรอื รับโอนจากใคร ทีใ่ ด คา ธรรมเนียม .................................................. นายทะเบียนทองท่ี ประทบั ตราประจําตาํ แหนง

๔๐ àºç´àμÅç´ *ÁÒμÃÒ õõ “ประเภท ชนดิ และขนาดของอาวธุ ปน เคร่อื งกระสนุ ปนหรือวัตถุระเบิดท่ี นายทะเบียนจะออกใบอนุญาตใหไดตามมาตรา ๗ มาตรา ๒๔ หรือ มาตรา ๓๘ ใหเปนไปตามท่ี กําหนดในกฎกระทรวง” ÁÒμÃÒ õö รฐั มนตรมี อี าํ นาจหา มมใิ หอ อกใบอนญุ าตอาวธุ ปน หรอื เครอ่ื งกระสนุ ปน เฉพาะบางชนิดในบางทองทีห่ รือทัว่ ราชอาณาจกั รตามที่กําหนดไวใ นกฎกระทรวง ÁÒμÃÒ õ÷ ในคราวมีเหตุฉุกเฉินหรือมีความจําเปนเพ่ือรักษาความสงบเรียบรอย ของประชาชน รัฐมนตรีมีอํานาจออกคําส่ังหามหรือจํากัดการออกใบอนุญาตทุกประเภท หรือ บางประเภทในช่ัวระยะเวลาที่กําหนดจะออกคําสั่งโดยประกาศ หรือแจงเปนหนังสือ ใหผูรับ ใบอนุญาตสงมอบอาวุธปน เครื่องกระสุนปน หรือวัตถุระเบิดแกเจาพนักงาน เพ่ือเก็บรักษาไวหรือ จะสั่งใหจําหนายเสียก็ได ในกรณีท่ีส่ังใหจําหนายใหนํามาตรา ๖๗ มาใชบังคับโดยอนุโลมและ ถาไมอ าจปฏิบัติตามทกี่ ลาวแลว จะส่งั ใหจ าํ หนา ยแกทางราชการในราคาอนั สมควรกไ็ ด คาํ สั่งนจ้ี ะกาํ หนดใหใ ชบ งั คบั ในบางทอ งท่ีหรอื ท่ัวราชอาณาจักรกไ็ ด ÁÒμÃÒ õø ใบอนุญาตที่ออกใหตามความในพระราชบัญญัติน้ี ใหใชเฉพาะตัวผูรับ ใบอนุญาต ÁÒμÃÒ õù หามมิใหโอนอาวุธปน เคร่ืองกระสุนปน หรือวัตถุระเบิดใหแกผูที่มิไดรับ ใบอนญุ าต ÁÒμÃÒ öð เมอื่ ผรู บั ใบอนญุ าตไดร บั อาวธุ ปน เครอ่ื งกระสนุ ปน วตั ถรุ ะเบดิ ดอกไมเ พลงิ หรือสิ่งเทียมอาวุธปน ซึ่งไดสงเขามาตามใบอนุญาตใหส่ัง ฉบับใดพนจากอารักขาของเจาพนักงาน ศุลกากรแลว แมวา ผูรับใบอนุญาตจะมิไดส ง่ั อาวุธปน เคร่ืองกระสนุ ปน วัตถรุ ะเบดิ ดอกไมเ พลิง หรือ สิ่งเทียมอาวุธปนเชนวาน้ีเขามาครบตามที่อนุญาตไวในใบอนุญาตก็ดี ใบอนุญาตฉบับนั้นเปนอัน ใชสง่ั ไมไ ดอีกตอไป ÁÒμÃÒ öñ อาวธุ ปน เครอ่ื งกระสนุ ปน วตั ถรุ ะเบดิ ดอกไมเ พลงิ หรอื สง่ิ เทยี มอาวธุ ปน ท่ีสั่งเขามาในราชอาณาจักรโดยไมมีผูรับใบอนุญาต ใหสั่งใหตกเปนของแผนดินแตถาภายในสี่เดือน นับแตวันท่ีของเขามาถึง ผูสั่งไดยื่นคํารองขอสงกลับออกนอกราชอาณาจักร รัฐมนตรีวาการ กระทรวงการคลงั จะสง่ั อนญุ าตก็ได เมือ่ เปน ที่พอใจวา ผสู ัง่ ไมม ีสวนในการกระทาํ ผิดกฎหมาย ÁÒμÃÒ öò ผูที่ไดรับอนุญาตใหมีและใชอาวุธปนคนใดยายถ่ินที่อยูใหแจงการยายแก นายทะเบียนทองที่ภายในสิบหาวันนับแตวันยาย และถายายไปอยูในตางทองที่ใหแจงการยายแก นายทะเบียนทอ งที่ใหมใ หท ราบภายในสบิ หา วนั นบั แตว ันทีย่ ายไปถึงอกี ดว ย *มาตรา ๕๕ น้ี แกไ ขหลงั สุดโดย พ.ร.บ.อาวธุ ปน (ฉบับที่ ๗) พ.ศ.๒๕๒๒ นัย ม.๖ สวนของอาวุธปน ซง่ึ ถอื วา เปน “อาวุธปน” ตาม ม.๕๖ ดกู ฎกระทรวง ฉ.๓ การแจง ยา ยถนิ่ ที่อยู ตาม ม.๖๒ ดกู ฎกระทรวง ฉ.๑ ขอ ๑๐

๔๑ ÁÒμÃÒ öó ถานายทะเบียนทองท่ีปฏิเสธการออกใบอนุญาตตามพระราชบัญญัตินี้ ผูย่ืนคําขออนุญาตอาจอุทธรณตอรัฐมนตรีภายในกําหนดสามสิบวัน นับแตวันท่ีไดรับแจง การปฏเิ สธเปน หนงั สอื คาํ อทุ ธรณใ หย น่ื ตอ นายทะเบยี นทอ งท่ี และใหน ายทะเบยี นเสนอคาํ อทุ ธรณน น้ั ตอ รฐั มนตรี โดยมิชักชา คาํ วินจิ ฉัยของรฐั มนตรีใหแจงเปนหนังสือไปยงั ผูย ่ืนคําขอใบอนุญาต ในกรณีท่ีมีการอุทธรณ ระยะเวลาที่กําหนดไวในพระราชบัญญัติน้ี เพื่อการปฏิบัติตาม คําสั่งของนายทะเบียนทองที่ใหสงกลับออกนอกราชอาณาจักร ซึ่งอาวุธปนหรือเคร่ืองกระสุนปน ตามมาตรา ๑๗ หรือใหจัดการจําหนายอาวุธปน เคร่ืองกระสุนปน หรือวัตถุระเบิดตามมาตรา ๖๔ ใหนับแตวันที่ผูยื่นคําขอใบอนุญาตไดรับหนังสือแจงคําวินิจฉัยของรัฐมนตรีและเมื่อไดยื่นอุทธรณตอ รฐั มนตรีแลว การปฏบิ ัติตามคําสัง่ ของนายทะเบยี นทอ งทนี่ น้ั ใหพ กั ไวจ นถึงวันท่ผี ูย ื่นคําขอใบอนุญาต ไดร บั หนังสือแจง คําวนิ จิ ฉยั ของรัฐมนตรี คําวนิ จิ ฉัยของรัฐมนตรใี หเ ปน ทสี่ ดุ ÁÒμÃÒ öô ถา ผไู ดร บั อนญุ าตตาย ใหผ ซู ง่ึ มอี าวธุ ปน เครอื่ งกระสนุ ปน หรอื วตั ถรุ ะเบดิ หรือใบอนุญาตของผูตายอยูในความครอบครอง แจงการตายตอนายทะเบียนทองท่ีซ่ึงตนอยู หรือ นายทะเบียนทองที่ท่ีออกใบอนุญาตหรือนายทะเบียนทองท่ีท่ีผูรับใบอนุญาตตายภายในกําหนด สามสบิ วนั นบั แตว ันท่ีทราบการตายของผูร ับใบอนญุ าต นายทะเบียนมีอํานาจส่ังใหเก็บรักษาอาวุธปน เคร่ืองกระสุนปน หรือวัตถุระเบิดของ ผรู ับใบอนุญาตที่ตายไวอ ยางไร และ ณ ท่ีใดก็ไดต ามควรแกกรณีและถามีขอ โตเ ถยี งถงึ เรอื่ งสิทธขิ อง ทายาท กใ็ หเก็บรักษาไวจนกวา ขอโตเ ถียงนน้ั ถึงทสี่ ดุ ภายในกําหนดหกเดือนนับแตวันที่ผูรับใบอนุญาตตาย หรือถามีขอโตเถียงถึงเร่ืองสิทธิ ของทายาทนับแตวันท่ีขอโตเถียงน้ันถึงท่ีสุด ผูจัดการมรดกหรือทายาทในกรณีที่ไมมีผูจัดการมรดก อาจขอใบอนญุ าตใหมไ ด เมอื่ นายทะเบยี นไดอ อกใบอนญุ าตใหแ ลว ใหม อบอาวธุ ปน เครอ่ื งกระสนุ ปน หรือวัตถุระเบิดนั้นแกผูรับใบอนุญาตใหม ถาไมออกใบอนุญาตใหใหม ก็ใหแจงความใหผูขอ ทราบและสั่งใหผูจัดการจําหนายส่ิงเหลานั้นภายในกําหนดหกเดือน นับแตวันรับคําส่ัง มิฉะน้ัน ใหนายทะเบียนทองท่ีมีอํานาจจัดการขายทอดตลาดสิ่งเหลาน้ัน ไดเงินจํานวนสุทธิเทาใดใหสงมอบ แกผ มู ีสทิ ธิ ÁÒμÃÒ öõ ผูรับใบอนุญาตคนใดตกเปนผูซึ่งจะออกใบอนุญาตใหไมไดตามความใน พระราชบญั ญตั นิ ้ี ใหแ จงพฤตกิ ารณน ัน้ และสง มอบอาวุธปน เคร่ืองกระสุนปน หรือวตั ถรุ ะเบิด และ ใบอนุญาตใหแกนายทะเบียนทองที่โดยไมชักชา และใหนายทะเบียนทองที่หรือรัฐมนตรีส่ังเพิกถอน ใบอนุญาตนนั้ เสยี ถา ผรู บั ใบอนุญาตเปนคนไรค วามสามารถ หรอื เปน คนเสมอื นไรค วามสามารถ หรือเปน คนวิกลจริต หรือจิตฟนเฟอนไมสมประกอบ ใหผูอนุญาต ผูพิทักษ หรือผูควบคุมดูแล แลวแตกรณี มหี นา ที่ตองปฏิบัติตามความในวรรคกอ น ÁÒμÃÒ öö ถาปรากฏวาผูที่ไดรับใบอนุญาตตามความในพระราชบัญญัติน้ีเปนผูซ่ึง จะออกใบอนญุ าตใหไ มไ ด ใหน ายทะเบยี นทอ งทห่ี รอื รฐั มนตรสี ง่ั เพกิ ถอนใบอนญุ าตนนั้ เสยี เมอื่ ไดร บั


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook