Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore _หลักสูตรสถานศึกษา โรงเรียนบ้านทับกุมารทองฉบับปรับปรุง2563

_หลักสูตรสถานศึกษา โรงเรียนบ้านทับกุมารทองฉบับปรับปรุง2563

Published by arawan0101, 2021-01-22 08:35:02

Description: _หลักสูตรสถานศึกษา โรงเรียนบ้านทับกุมารทองฉบับปรับปรุง2563

Search

Read the Text Version

หลักสตู รสถานศึกษา โรงเรยี นบ้านทับกุมารทอง ฉบับปรับปรุงพทุ ธศักราช ๒๕๖๓ ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาข้ันพน้ื ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ สำนักงานเขตพน้ื ทีก่ ารศึกษาประถมศึกษาเชียงราย เขต ๓ สำนกั งานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน กระทรวงศึกษาธิการ

ก คำนำ กระทรวงศึกษาธิการได้มีคาสั่งให้ใชห้ ลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ ในโรงเรียนตน้ แบบและโรงเรียนที่มีความพร้อมการใชห้ ลกั สูตรในปี การศึกษา ๒๕๕๒ และใชใ้ นโรงเรียน ท่ัวไปในปี การศึกษา ๒๕๕๓ โรงเรียนบ้านทับกุมารทอง สานักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษาประถมศึกษา เชียงราย เขต ๓ ได้ดาเนินการพัฒนาหลักสูตรโรงเรียนบ้านทับกุมารทอง พุทธศักราช ๒๕๖๓ ตาม หลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ และตามหนงั สือท่ี ศธ ๐๔๐๑๐/ ว ๗๗๙ ลง วนั ที่ ๒๖ มิถุนายน ๒๕๕๗ และ หนงั สือท่ี ศธ ๐๔๐๑๐/ ว ๑๒๓๙ ลงวนั ท่ี ๑ กนั ยายน ๒๕๕๗ ให้ทาง สถานศึกษาจดั ทารายวิชาสาระเพ่ิมเติมหนา้ ที่พลเมือง ทุกระดบั ช้นั เรียน และให้ใชใ้ นภาคเรียนท่ี ๒ ของปี การศึกษา ๒๕๕๗ เป็ นตน้ ไป ดังน้ันทางโรงเรียนจึงไดท้ าการปรับปรุงหลกั สูตรโรงเรียนบา้ นทบั กุมาร ทอง คร้ังที่ ๑ พุทธศกั ราช ๒๕๕๗ ข้ึนเพือ่ ใหก้ ระบวนการนาหลกั สูตรไปสู่การปฏิบตั ิอยา่ งมีประสิทธิภาพ รวมท้งั ร่วมกนั รับผิดชอบ และทางานร่วมกนั อย่างเป็นระบบ มุ่งพฒั นาผเู้ รียนทุกคนใหม้ ีความสมดุลท้งั ดา้ น ร่างกาย ความรู้ คุณธรรม มีจิตสานึกในความเป็ น พลเมืองไทยและพลโลก ยึดมั่นในการปกครองตาม ระบอบประชาธิปไตยอนั มีพระมหากษตั ริยท์ รงเป็ นประมุข มีความรู้และทักษะพ้ืนฐาน รวมท้ังเจตคติท่ี จาเป็นต่อการศึกษาตอ่ การประกอบอาชีพและการศึกษาตลอดชีวติ มุ่งเนน้ ผูเ้ รียนเป็นสาคญั บนพ้ืนฐานความ เชื่อวา่ ทกุ คนสามารถเรียนรู้และพฒั นาตนเองไดเ้ ตม็ ตามศกั ยภาพ ขอขอบคุณผูอ้ ำนวยกำรสำนักงำนเขตพ้ืนท่ีกำรศึกษำประถมศึกษำเชียงรำย เขต ๓ ศึกษำนิเทศก์ ประจำกลุ่มเครือข่ำยพฒั นำกำรศึกษำท่ำขำ้ วเปลือก คณะกรรมกำรสถำนศึกษำข้นั พ้ืนฐำนโรงเรียนบำ้ นทบั กุมำรทอง คณะครู ผปู้ กครอง ชุมชนและผทู้ รงคุณวุฒิและหน่วยงำนท่ีใหค้ วำมร่วมมือในกำรดำเนินงำนใน คร้ังน้ี ตลอดท้งั อำนวยควำมสะดวกต่ำง ๆ อนั เป็ นประโยชน์ต่อกำรพฒั นำหลกั สูตรคร้ังน้ี โรงเรียนบำ้ น ทบั กุมำรทอง หวงั เป็นอย่ำงยง่ิ วำ่ หลกั สูตรโรงเรียนบา้ นทบั กุมารทองและเอกสำรประกอบหลกั สูตรที่จดั ทำ ข้ึน จะเป็ นประโยชน์สำหรับครูผูส้ อนและผทู้ ่ีเก่ียวขอ้ งให้สำมำรถนำหลกั สูตรไปใช้จดั กำรเรียนกำรสอน และดำเนินกำรวดั และประเมินผลไดอ้ ยำ่ งมีประสิทธิภำพ เกิดประโยชน์สูงสุดต่อการจดั การศึกษาของชาติ ต่อไป นายเอราวรรณ์ ขตั ติวงั ผอู้ านวยการโรงเรียนบา้ นทบั กุมารทอง

สำรบญั ข เร่ือง หน้ำ คำนำ ก สำรบัญ ข บทที่ ๑ ส่วนนำ ๑ ๑ - ควำมนำ ๒ - วสิ ัยทศั น์ ๓ - สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน ๔ - คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ๕ บทท่ี ๒ โครงสร้ำงหลกั สูตรสถำนศึกษำ ๕ - โครงสร้ำงหลกั สูตรโรงเรียนบำ้ นทบั กมุ ำรทอง ๗ - โครงสร้ำงและอตั รำเวลำกำรจดั กำรเรียนรู้ ๑๔ - รำยวิชำเพ่มิ เติมในหลกั สูตรโรงเรียนบำ้ นทบั กมุ ำรทอง ๑๕ บทท่ี ๓ คำอธิบำยรำยวิชำ ๑๖ - กล่มุ สำระกำรเรียนรู้ภำษำไทย ๒๕ - กลุ่มสำระกำรเรียนรู้คณิตศำสตร์ ๓๙ - กลมุ่ สำระกำรเรียนรู้วิทยำศำสตร์ ๔๗ - กลุ่มสำระกำรเรียนรู้สังคมศึกษำ ศำสนำ และวฒั นธรรม ๗๕ - กลมุ่ สำระกำรเรียนรู้สุขศึกษำและพลศึกษำ ๘๘ - กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ศิลปะ ๑๐๑ - กลมุ่ สำระกำรเรียนรู้กำรงำนอำชีพและเทคโนโลยี ๑๑๐ - กลมุ่ สำระกำรเรียนรู้ภำษำองั กฤษ ๑๑๖ บทท่ี ๔ กจิ กรรมพฒั นำผู้เรียน ๑๑๖ - ควำมหมำยและควำมสำคญั ของกิจกรรมพฒั นำผเู้ รียน ๑๑๖ - จุดมง่ หมำยของกิจกรรมพฒั นำผเู้ รียน ๑๑๗ - หลกั กำรจดั กิจกรรมพฒั นำผเู้ รียน ๑๑๘ - โครงสร้ำงและอตั รำเวลำจดั กิจกรรม

ค สำรบัญ ( ต่อ ) เรื่อง หน้ำ - กำรดำเนินกำรกิจกรรมพฒั นำผเู้ รียนโรงเรียนบำ้ นทบั กมุ ำรทอง ๑๑๘ - กิจกรรมพฒั นำผเู้ รียนโรงเรียนบำ้ นทบั กมุ ำรทอง ๑๑๘ ๑๒๔ บทท่ี ๕ เกณฑ์กำรจบกำรศึกษำ ๑๒๕ - กำรตดั สินกำรใหร้ ะดบั และกำรรำยงำนผลกำรเรียน ๑๒๙ - เกณฑก์ ำรจบกำรศึกษำ ๑๓๑ ๑๓๒ ภำคผนวก - คำส่งั โรงเรียนบำ้ นทบั กุมำรทอง ที่ ๖๖/๒๕๕๗ เรื่อง แต่งต้งั คณะทำงำนจดั ทำ ๑๓๔ หลกั สูตรโรงเรียนบำ้ นทบั กุมำรทอง พทุ ธศกั รำช ๒๕๕๗ (ฉบบั ปรับปรุง คร้ังท่ี ๑ พุทธศกั รำช ๒๕๕๗) - คำส่งั โรงเรียนบำ้ นทบั กุมำรทอง ท่ี ๖๗/๒๕๕๗ เร่ือง แต่งต้งั คณะกรรมกำร ตรวจสอบหลกั สูตรโรงเรียนบำ้ นทบั กมุ ำรทอง พทุ ธศกั รำช ๒๕๕๗ (ฉบบั ปรับปรุง คร้ังที่ ๑ พุทธศกั รำช ๒๕๕๗)



บทที่ ๑ ควำมนำ หลกั สูตรโรงเรียนบ้ำนทับกุมำรทอง พุทธศกั รำช ๒๕๕๓ ตำมหลักสูตรแกนกลำงกำรศึกษำ ข้ันพ้ืนฐำน พุทธศักรำช ๒๕๕๑ เป็ นแผน หรือแนวทำง หรือข้อกำหนดของกำรจัดกำรศึกษำของ โรงเรียนบำ้ นทบั กุมำรทอง ที่จะใชใ้ นกำรจดั กำรเรียนกำรสอนเพื่อพฒั นำผเู้ รียนใหม้ ีคุณภำพตำมมำตรฐำน ท่ีกำหนด มงุ่ พฒั นำผเู้ รียนใหเ้ ป็นคนดี มีปัญญำ มีควำมสุข มีศกั ยภำพในกำรศึกษำต่อ และประกอบอำชีพ โดยมุง่ หวงั ให้มีควำมสมบูรณ์ท้งั ดำ้ นร่ำงกำย จิตใจ และสติปัญญำ อีกท้งั มีควำมรู้และทกั ษะท่ีจำเป็นสำหรับ กำรดำรงชีวิต และมีคุณภำพได้มำตรฐำนสำกลเพ่ือกำรแข่งขนั ในยุคปัจจุบนั ดงั น้ันหลกั สูตรโรงเรียนบ้ำน ทบั กุมำรทองพุทธศกั รำช ๒๕๕๓ ตำมหลกั สูตรแกนกลำงกำรศึกษำข้นั พ้ืนฐำน พุทธศกั รำช ๒๕๕๑ จึง ประกอบด้วยสำระสำคัญของหลักสูตรแกนกลำง สำระควำมรู้ที่เก่ียวข้องกับชุมชนท้องถิ่น และ สำระสำคญั ที่สถำนศึกษำพฒั นำเพิ่มเติม โดยจดั เป็นสำระกำรเรียนรู้รำยวิชำพ้ืนฐำนตำมมำตรฐำนกำรเรียนรู้ และตวั ช้ีวดั และสำระกำรเรียนรู้รำยวิชำเพ่มิ เติมหนำ้ ที่พลเมือง จดั กิจกรรมพฒั นำผเู้ รียนเป็นรำยปี ในระดบั ประถมศึกษำ และกำหนดคุณลกั ษณะอนั พึงประสงคข์ องสถำนศึกษำตำมคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ของ หลกั สูตรแกนกำรศึกษำข้นั พ้ืนฐำน พุทธศกั รำช ๒๕๕๑ หลักสูตรโรงเรียนบ้ำนทับกุมำรทอง พุทธศกั รำช ๒๕๕๓ ตำมหลักสูตรแกนกลำงกำรศึกษำ ข้นั พ้ืนฐำน พุทธศกั รำช ๒๕๕๑ มีควำมสำคญั ในกำรพฒั นำผูเ้ รียนให้มีคุณภำพตำมมำตรฐำนกำรเรียนรู้ ตวั ช้ีวดั และคุณลกั ษณะอนั พึงประสงคต์ ำมที่กำหนดไวเ้ ป็ นแนวทำงให้ผบู้ ริหำรสถำนศึกษำ ครู ตลอดจน ผเู้ ก่ียวขอ้ งกบั กำรจดั กำรศึกษำของสถำนศึกษำ ในกำรจดั มวลประสบกำรณ์ใหแ้ ก่ผเู้รียนไดพ้ ฒั นำใหบ้ รรลุ ถึงคุณภำพตำมมำตรฐำนในกำรพฒั นำเยำวชนของชำติ นอกเหนือจำกกำรใช้เป็ นแนวทำง หรือข้อกำหนดใน กำรจดั กำรศึกษำของสถำนศึกษำให้บรรลุตำมจุดหมำยของกำรจดั กำรศึกษำแลว้ หลกั สูตรสถำนศึกษำ โรงเรียนบำ้ นทบั กุมำรทอง พทุ ธศกั รำช ๒๕๕๓ ตำมหลกั สูตรแกนกลำงกำรศึกษำข้นั พ้นื ฐำน พทุ ธศกั รำช ๒๕๕๑ ท่ีพฒั นำข้ึนยงั เป็นหลกั สูตรท่ีมีจุดมุ่งหมำยใหค้ รอบครัว ชุมชน องคก์ รในทอ้ งถ่ิน ท้งั ภำครัฐและ เอกชนเขำ้ ร่วมจดั กำรศึกษำของสถำนศึกษำ โดยมีแนวทำงสำคญั ที่สถำนศึกษำกำหนดไวใ้ นหลกั สูตร สถำนศึกษำ ดงั น้ี ๑. หลกั สูตรโรงเรียนบา้ นทับกุมารทอง พุทธศกั ราช ๒๕๕๓ ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษา ข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ มุ่งพฒั นำให้ผูเ้ รียนเกิดควำมสนุกสนำน และควำมเพลิดเพลินใน กำรเรียนรู้เปรียบเสมือนเป็ นวิธีสร้ำงกำลงั ใจ และเร้ำให้เกิดควำมกำ้ วหน้ำแก่ผูเ้ รียนให้มำกที่สุด มีควำมรู้ สูงสุด ผูเ้ รียนทุกคนมีควำมเขม้ แขง็ ควำมสนใจ มีประสบกำรณ์ และควำมมน่ั ใจ เรียนและทำงำนอยำ่ งเป็ น

อิสระและร่วมใจกัน มีทักษะในกำรอ่ำนออกเขียนได้ คิดเลขเป็ น รู้ขอ้ มูลสำรสนเทศ และเทคโนโลยี สื่อสำร ส่งเสริมจิตใจท่ีอยำกรู้อยำกเห็น และมีกระบวนกำรคดิ อยำ่ งมีเหตผุ ล ๒. หลกั สูตรโรงเรียนบำ้ นทบั กุมำรทอง พุทธศกั รำช ๒๕๕๓ ตำมหลกั สูตรแกนกลำงกำรศึกษำ ข้นั พ้ืนฐำน พุทธศกั รำช ๒๕๕๑ ส่งเสริมกำรพฒั นำดำ้ นจิตวิญญำณ จริยธรรม สังคม และวฒั นธรรม พฒั นำหลักกำรในกำรจำแนกระหว่ำงถูกและผิด เข้ำใจและศรัทธำในควำมเชื่อของตน ควำมเช่ือและ วฒั นธรรมท่ีแตกต่ำงกนั พฒั นำหลกั คุณธรรมและควำมอิสระของผเู้ รียน และช่วยใหเ้ ป็นพลเมืองที่มีควำม รับผิดชอบ สำมำรถช่วยพฒั นำสังคมให้เป็นธรรมข้ึน มีควำมเสมอภำค พฒั นำควำมตระหนกั เขำ้ ใจ และ ยอมรับสภำพแวดลอ้ มที่ตนดำรงชีวติ อยู่ ยดึ มนั่ ในขอ้ ตกลงร่วมกนั ตอ่ กำรพฒั นำท่ียง่ั ยืนท้งั ในระดบั ส่วนตน ระดบั ทอ้ งถ่ิน ระดบั ชำติ และระดบั โลก สร้ำงใหผ้ เู้ รียนมีควำมพร้อมในกำรเป็นผบู้ ริโภคที่ตดั สินใจแบบมี ขอ้ มูล เป็นอิสระ และมีควำมรับผิดชอบ วิสัยทัศน์ โรงเรียนบำ้ นทบั กุมำรทอง จดั กำรศึกษำใหเ้ นน้ คุณธรรม นำวิชำกำรประสำนวฒั นธรรมและชุมชน พฒั นำตนตำมแนวเศรษฐกิจพอเพียงฯ เป้ำหมำย ๑. ผเู้ รียนมีคณุ ภำพตำมเกณฑม์ ำตรฐำนกำรศึกษำ ๒. มีแหล่งเรียนท้งั ภำยใน ภำยนอก ที่สำมำรถส่งเสริมกำรงำนพ้ืนฐำนอำชีพและกำรเรียนต่อ ๓. ผเู้ รียนมีควำมรักภำคภมู ใจในทอ้ งถิ่น ไดเ้ ขำ้ ร่วมกิจกรรมชุมชนตำมโอกำสต่ำงๆ ๔. บุคลำกรมีควำมรู้ ควำมสำมำรถ จัดกำรเรียนกำรสอนได้อย่ำงสนองควำมต้องกำรของ หลกั สูตรอยำ่ งครูมืออำชีพ ๕. โรงเรียนมีระบบบริหำรจดั กำรท่ีมีคุณภำพและมำตรฐำนเป็นไปตำมหลกั ของกำรบริหำรแบบ กำรมีส่วนร่วม ๖. โรงเรียนได้รับรองคุณภำพตำมมำตรฐำนกำรศึกษำจำกสำนักงำนรับรองมำตรฐำนและ ประเมินคณุ ภำพกำรศึกษำ พนั ธกจิ 1. พฒั นำผเู้ รียนใหม้ ีคณุ ภำพตำมเกณฑม์ ำตรฐำนกำรศึกษำ 2. พฒั นำแหล่งเรียนรู้และระบบขอ้ มูลขำ่ วสำรเพ่ือกำรอำชีพและกำรเรียนตอ่ 3. เสริมสร้ำงใหผ้ ูเ้ รียนมีควำมตระหนกั ละภำคภูมิใจในทอ้ งถิ่น 4. พฒั นำศกั ยภำพบุคลำกรใหม้ ีควำมรู้ ควำมสำมำรถในกำรจดั กำรเรียน กำรสอน สู่กำรเป็นครูมือ อำชีพ

5. บริหำรกำรจดั กำรโดยเนน้ กำรมีส่วนร่วมของชุมชน ท้งั ภำครัฐ เอกชน ใหส้ ำมำรถจดั กำรศึกษำ ไดอ้ ยำ่ งมีประสิทธิภำพ สมรรถนะสำคญั ของผ้เู รียน และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ในการพฒั นาผเู้ รียนตามหลกั สูตรโรงเรียนบา้ นทบั กมุ ารทอง พุทธศกั ราช ๒๕๕๓ ตามหลกั สูตร แกนกลางการศึกษาข้นั พ้นื ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ มงุ่ เนน้ พฒั นาผเู้ รียนใหม้ ีคุณภาพตามมาตรฐานท่ี กาหนด ซ่ึงจะช่วยใหผ้ เู้ รียนเกิดสมรรถนะสาคญั และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ดงั น้ี สมรรถนะสำคัญของผ้เู รียน หลกั สูตรโรงเรียนบา้ นทบั กุมารทองพุทธศกั ราช ๒๕๕๓ ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้นื ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ ม่งุ ใหผ้ เู้ รียนเกิดสมรรถนะสาคญั ๕ ประการ ดงั น้ี ๑. ควำมสำมำรถในกำรส่ือสำร เป็ นความสามารถในการรับและส่งสาร มีวฒั นธรรมในการใช้ ภาษาถ่ายทอดความคิด ความรู้ความเขา้ ใจ ความรู้สึก และทศั นะของตนเองเพื่อแลกเปลี่ยนขอ้ มูลข่าวสาร และประสบการณ์อนั จะเป็นประโยชน์ต่อการพฒั นาตนเองและสังคม รวมท้งั การเจรจาต่อรองเพื่อขจดั และ ลดปัญหาความขัดแยง้ ต่าง ๆ การเลือกรับหรือไม่รับข้อมูลข่าวสารด้วยหลักเหตุผลและความถูกต้อง ตลอดจนการเลือกใชว้ ิธีการส่ือสาร ท่ีมีประสิทธิภาพโดยคานึงถึงผลกระทบท่ีมีต่อตนเองและสงั คม ๒. ควำมสำมำรถในกำรคิด เป็นความสามารถในการคิดวิเคราะห์ การคิดสังเคราะห์ การคิด อย่าง สร้างสรรค์ การคิดอย่างมีวิจารณญาณ และการคิดเป็ นระบบ เพื่อนาไปสู่การสร้างองค์ความรู้หรือ สารสนเทศเพือ่ การตดั สินใจเก่ียวกบั ตนเองและสงั คมไดอ้ ยา่ งเหมาะสม ๓. ควำมสำมำรถในกำรแก้ปัญหำ เป็นความสามารถในการแกป้ ัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ ท่ีเผชิญได้ อย่างถูกตอ้ งเหมาะสมบนพ้ืนฐานของหลกั เหตุผล คุณธรรมและขอ้ มูลสารสนเทศ เขา้ ใจความสัมพนั ธ์และ การเปลี่ยนแปลงของเหตุการณ์ต่าง ๆ ในสังคม แสวงหาความรู้ ประยุกต์ความรู้มาใช้ในการป้องกนั และ แกไ้ ขปัญหา และมีการตดั สินใจที่มีประสิทธิภาพโดยคานึงถึงผลกระทบที่เกิดข้ึนต่อตนเอง สังคมและ ส่ิงแวดลอ้ ม ๔. ควำมสำมำรถในกำรใช้ทักษะชีวิต เป็ นความสามารถในการนากระบวนการต่าง ๆ ไปใชใ้ นการ ดาเนินชีวิตประจาวนั การเรียนรู้ดว้ ยตนเอง การเรียนรู้อย่างต่อเน่ือง การทางาน และการอยรู่ ่วมกนั ในสังคม ดว้ ยการสร้างเสริมความสัมพนั ธ์อนั ดีระหวา่ งบุคคล การจดั การปัญหาและความขดั แยง้ ต่าง ๆ อยา่ งเหมาะสม การปรับตวั ให้ทนั กบั การเปล่ียนแปลงของสังคมและสภาพแวดลอ้ ม และการรู้จกั หลีกเลี่ยงพฤติกรรมไม่พึง ประสงคท์ ่ีส่งผลกระทบตอ่ ตนเองและผอู้ ื่น ๕. ควำมสำมำรถในกำรใช้เทคโนโลยี เป็ นความสามารถในการเลือก และใช้ เทคโนโลยีด้านต่าง ๆ และมีทกั ษะกระบวนการทางเทคโนโลยี เพื่อการพฒั นาตนเองและสังคม ในด้านการเรียนรู้ การสื่อสาร การ ทางาน การแกป้ ัญหาอยา่ งสร้างสรรค์ ถูกตอ้ ง เหมาะสม และมีคณุ ธรรม

คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ หลกั สูตรโรงเรียนบา้ นทบั กุมารทอง พุทธศกั ราช ๒๕๕๓ ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้นื ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ มุง่ พฒั นาผเู้ รียนใหม้ ีคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ เพือ่ ใหส้ ามารถอยรู่ ่วมกบั ผอู้ ่ืน ในสังคมไดอ้ ยา่ งมีความสุข ในฐานะเป็นพลเมืองไทยและพลโลก ดงั น้ี ๑. รักชำติ ศำสน์ กษัตริย์ หมายถึง การปฏิบัติตนเป็ นคนดีในสังคม มีความรักชาติ ศาสนา พระมหากษตั ริย์ ๒. ซ่ือสัตย์สุจริต หมายถึง ปฏิบตั ิตนอยา่ งตรงไปตรงมา ท้งั กาย วาจา ใจ ๓. มีวินัย หมายถึง ปฏิบตั ิตามกฎเกณฑข์ องโรงเรียน ครอบครัวชุมชน และกิจกรรมในห้องเรียน เช่น สมดุ งาน ชิ้นงาน สะอาดเรียบร้อยปฏิบตั ิตนอยใู่ นขอ้ ตกลงท่ีกาหนดใหร้ ่วมกนั ทุกคร้ัง ๔. ใฝ่ เรียนรู้ หมายถึง ลกั ษณะของบุคคลท่ีมีความกระตือรือร้นในการเรียน รู้จกั ใชเ้ วลาวา่ งใหเ้ ป็น ประโยชน์ แสวงหาความรู้จากแหล่งเรียนรู้ท่ีหลากหลาย และสามารถถ่ายทอดเผยแพร่ องค์ความรู้ให้กบั ผอู้ ื่น ๕. อย่อู ย่ำงพอเพยี ง หมายถึง มีความเป็นอยอู่ ยา่ งพอเพยี ง รู้จกั การดารงชีวติ ใหม้ ีคณุ ค่า ๖. ม่งุ มั่นในกำรทำงำน หมายถึง มงุ่ มน่ั ทางานอยา่ งรอบคอบ จนประสบผลสาเร็จ ๗. รักควำมเป็ นไทย หมายถึง มีความตระหนกั เห็นคุณค่าของความเป็นไทย และมีเจตคติท่ีดี รักษา เอกลกั ษณ์ ไทย และขนบธรรมเนียมประเพณี ๘. มีจิตสำธำรณะ หมายถึงมีความสานึกและมุ่งทาประโยชน์และสร้างส่ิงท่ีดีงามในสังคม และอยู่ ร่วมกนั ในสงั คมอยา่ งมีความสุข บทที่ ๒ โครงสร้ำงหลกั สูตรสถำนศึกษำ โครงสร้ำงหลกั สูตรโรงเรียนบ้ำนทบั กุมำรทอง หลกั สูตรโรงเรียนบา้ นทบั กมุ ารทอง พุทธศกั ราช ๒๕๕๓ ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้นื ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ ไดก้ าหนดโครงสร้างของหลกั สูตรโรงเรียนเพื่อใหผ้ สู้ อน และผทู้ ่ีเกี่ยวขอ้ งใน การจดั การเรียนรู้ตามหลกั สูตรของโรงเรียนมีแนวปฏิบตั ิ ดงั น้ี

๑. ระดบั กำรศึกษำ กำหนดหลกั สูตรเป็น ๑ ระดบั ตำมโครงสร้ำงของหลกั สูตรแกนกลาง การศึกษาข้นั พ้นื ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ และตำมภำรกิจหลกั ของกำรจดั กำรเรียนกำรสอนในระดบั ประถมศึกษำของโรงเรียน ดงั น้ี ๑.๑ ระดบั ประถมศึกษา (ช้นั ประถมศึกษาปี ที่ ๑ – ๖) การศึกษาระดบั น้ีเป็นช่วงแรกของ การศึกษาภาคบงั คบั มุ่งเนน้ ทกั ษะพ้ืนฐานดา้ นการอ่าน การเขยี น การคดิ คานวณ ทกั ษะการคิดพ้ืนฐาน การ ติดต่อสื่อสาร กระบวนการเรียนรู้ทางสังคม และพ้นื ฐานความเป็นมนุษย์ การพฒั นาคุณภาพชีวิตอยา่ ง สมบรู ณ์และสมดุลท้งั ในดา้ นร่างกาย สติปัญญา อารมณ์ สังคม และวฒั นธรรม โดยเนน้ จดั การเรียนรู้ แบบบรู ณาการ ๒. สำระกำรเรียนรู้ สำระกำรเรียนรู้ในหลกั สูตรโรงเรียนบา้ นทบั กุมารทองพุทธศกั ราช ๒๕๕๓ ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ ไดก้ ำหนดไวใ้ นหลกั สูตร ประกอบดว้ ย องคค์ วำมรู้ ทกั ษะหรือกระบวนกำรเรียนรู้ และคุณลกั ษณะหรือคำ่ นิยม คุณธรรม จริยธรรมของผเู้ รียน ๘ กลุ่ม คอื ๒.๑ ภำษำไทย ๒.๒ คณิตศำสตร์ ๒.๓ วิทยำศำสตร์ ๒.๔ สงั คมศึกษำ ศำสนำ และวฒั นธรรม ๒.๕ สุขศึกษำและพลศึกษำ ๒.๖ ศิลปะ ๒.๗ กำรงำนอำชีพและเทคโนโลยี ๒.๘ ภำษำองั กฤษ ๓. กิจกรรมพฒั นำผเู้ รียน กิจกรรมพฒั นาผเู้ รียน มุ่งใหผ้ เู้ รียนไดพ้ ฒั นาตนเองตามศกั ยภาพ พฒั นา อยา่ งรอบดา้ นเพ่ือความเป็นมนุษยท์ ี่สมบูรณ์ ท้งั ร่างกาย สติปัญญา อารมณ์ และสังคม เสริมสร้างใหเ้ ป็นผมู้ ี ศีลธรรม จริยธรรม มีระเบียบวนิ ยั ปลูกฝังและสร้างจิตสานึกของการทาประโยชน์เพ่อื สงั คม สามารถ จดั การตนเองได้ และอย่รู ่วมกบั ผอู้ ่ืนอยา่ งมีความสุข แบ่งเป็น ๓ ลกั ษณะ ดงั น้ี ๓.๑ กิจกรรมแนะแนว เป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมและพฒั นาผเู้ รียนให้รู้จกั ตนเอง รู้รักษส์ ิ่งแวดลอ้ ม สามารถคิดตดั สินใจ คิดแกป้ ัญหา กาหนดเป้าหมาย วางแผนชีวิตท้งั ดา้ นการเรียน และ อาชีพ สามารถปรับตนไดอ้ ย่างเหมาะสม นอกจากน้ียงั ช่วยใหค้ รูรู้จกั และเขา้ ใจผเู้ รียน ท้งั ยงั เป็นกิจกรรมท่ี ช่วยเหลือและใหค้ าปรึกษาแก่ผปู้ กครองในการมีส่วนร่วมพฒั นาผเู้ รียน

๓.๒ กิจกรรมนกั เรียน เป็นกิจกรรมที่มุ่งพฒั นาความมีระเบียบวินยั ความเป็นผนู้ าผตู้ ามท่ีดี ความรับผดิ ชอบ การทางานร่วมกนั การรู้จกั แกป้ ัญหา การตดั สินใจท่ีเหมาะสม ความมีเหตผุ ล การช่วยเหลือ แบ่งปันกนั เอ้ืออาทร และสมานฉันท์ โดยจดั ใหส้ อดคลอ้ งกบั ความสามารถ ความถนดั และความสนใจของ ผเู้ รียน ใหไ้ ดป้ ฏิบตั ิดว้ ยตนเองในทุกข้นั ตอน ไดแ้ ก่ การศึกษาวเิ คราะห์วางแผน ปฏิบตั ิตามแผน ประเมิน และปรับปรุงการทางาน เนน้ การทางานร่วมกนั เป็นกลมุ่ ตามความเหมาะสมและสอดคลอ้ งกบั วฒุ ิภาวะของ ผเู้ รียน บริบทของสถานศึกษาและทอ้ งถ่ิน กิจกรรมนกั เรียนในหลกั สูตรโรงเรียนบา้ นทบั กุมารทอง พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๓ ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ ประกอบดว้ ย ๓.๒.๑ กิจกรรมลกู เสือ - ยวุ กาชาด ๓.๒.๒ กิจกรรมชุมนุม ๓.๓ กิจกรรมเพื่อสงั คมและสาธารณประโยชน์ เป็นกิจกรรมท่ีส่งเสริมใหผ้ เู้ รียนบาเพญ็ ตนใหเ้ ป็นประโยชนต์ ่อสงั คม ชุมชน และทอ้ งถิ่นตามความสนใจในลกั ษณะอาสาสมคั ร เพอื่ แสดงถึงความ รับผิดชอบ ความดีงาม ความเสียสละต่อสังคม มีจิตสาธารณะ ๔. เวลาเรียน หลกั สูตรโรงเรียนบา้ นทบั กุมารทอง พุทธศกั ราช ๒๕๕๓ ตามหลกั สูตรแกนกลาง การศึกษาข้นั พ้นื ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ ไดก้ าหนดกรอบโครงสร้างเวลาเรียนข้นั ต่าสาหรับกลมุ่ สาระการ เรียนรู้ ๘ กลมุ่ และกิจกรรมพฒั นาผเู้ รียน ซ่ึงผสู้ อนสามารถเพิ่มเติมไดต้ ามความพร้อมและจุดเนน้ ของ สถานศึกษา โดยสามารถปรับใหเ้ หมาะสมตามบริบทของสถานศึกษาและสภาพของผเู้ รียน ดงั น้ี ๑. ช้นั ประถมศึกษาปี ที่ ๑ – ๖ ใหจ้ ดั เวลาเรียนเป็นรายปี โดยมีเวลาเรียนวนั ละ ไม่เกิน ๕ ชว่ั โมง โครงสร้ำงและอตั รำเวลำกำรจดั กำรเรียนรู้ หลกั สูตรโรงเรียนบ้ำนทบั กมุ ำรทอง พทุ ธศักรำช ๒๕๕๗ ( ฉบับปรับปรุง คร้ังท่ี ๒ พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๙ ) กล่มุ สำระกำรเรียนรู้/ เวลำเรียน กิจกรรม ระดับประถมศึกษำ ป. ๑ ป. ๒ ป. ๓ ป. ๔ ป. ๕ ป. ๖

กล่มุ สำระกำรเรียนรู้ ๒๐๐ ๒๐๐ ๒๐๐ ๑๖๐ ๑๖๐ ๑๖๐ ภำษำไทย ๒๐๐ ๒๐๐ ๒๐๐ ๑๖๐ ๑๖๐ ๑๖๐ คณติ ศำสตร์ ๘๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐ วิทยำศำสตร์ สังคมศึกษำ ศำสนำ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐ และวฒั นธรรม ประวัติศำสตร์ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ สุขศึกษำและพลศกึ ษำ ๒๐ ๒๐ ๒๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐ ศิลปะ ๒๐ ๒๐ ๒๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐ กำรงำนอำชีพและ เทคโนโลยี ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐ ภำษำต่ำงประเทศ รวมเวลำเรียน (พื้นฐำน) ๒๐๐ ๒๐๐ ๒๐๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐ กจิ กรรมพฒั นำผู้เรียน ๘๔๐ ๘๔๐ ๘๔๐ ๘๔๐ ๘๔๐ ๘๔๐ ๑. กจิ กรรมแนะแนว ๒. ลูกเสือ – ยวุ กำชำด ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๓. กจิ กรรมชมรม ๔. กจิ กรรมเพ่ือสังคม ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ และสำธำรณประโยชน์ ๓๐ ๓๐ ๓๐ ๓๐ ๓๐ ๓๐ รำยวชิ ำเพมิ่ เติม ๑. สังคมศึกษำ ฯ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ (หน้ำทพ่ี ลเมือง) ๑๐ ๑๐ ๑๐ ๑๐ ๑๐ ๑๐ กจิ กรรมเพมิ่ เวลำรู้ ๔๐ ชั่วโมง รวมเวลำเรียนท้งั หมด ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ บูรณาการ บูรณาการ บรู ณาการ บูรณาการ บูรณาการ บูรณาการ ๑,๐๐๐ ช่ัวโมง/ปี โครงสร้ำงหลกั สูตรโรงเรียนบ้ำนทบั กมุ ำรทอง ช้ันประถมศึกษำปี ท่ี ๑ รำยวิชำ/กจิ กรรม เวลำเรียน (ชม./ปี ) รำยวชิ ำพืน้ ฐำน ๘๔๐ ท ๑๑๑๐๑ ภาษาไทย ๒๐๐ ค ๑๑๑๐๑ คณิตศาสตร์ ๒๐๐ ว ๑๑๑๐๑ วทิ ยาศาสตร์ ๘๐

ส ๑๑๑๐๑ สังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม ๔๐ ส ๑๑๑๐๒ ประวตั ิศาสตร์ ๔๐ พ ๑๑๑๐๑ สุขศึกษาและ พลศึกษา ศ ๑๑๑๐๑ ศิลปะ ๒๐ ง ๑๑๑๐๑ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ๒๐ อ ๑๑๑๐๑ องั กฤษ ๔๐ ๒๐๐ รำยวชิ ำเพม่ิ เตมิ ๔๐ ส ๑๑๒๓๑ หนา้ ท่ีพลเมือง ๑ กจิ กรรมพฒั นำผ้เู รียน ๔๐ ก.๑๐๙๐๑ แนะแนว ๑๒๐ ก.๑๐๙๐๗ ลูกเสือ-ยวุ กาชาด ๔๐ ก.๑๐๙๑๓ กิจกรรมส่งเสริมจริยธรรม ๓๐ ก.๑๐๙๑๙ กิจกรรมเพือ่ สังคมและสาธารณะประโยชน์ ๔๐ ๑๐ *กจิ กรรมเพมิ่ เวลำรู้ บูรณาการ รวมเวลำเรียน ๑๐๐๐ *หมำยเหตุ ผเู้ รียนทากิจกรรมเพ่ือสังคมและสาธารณประโยชนใ์ นกิจกรรมลูกเสือ-ยวุ กาชาด โครงสร้ำงหลกั สูตรโรงเรียนบ้ำนทับกุมำรทอง ช้ันประถมศึกษำปี ท่ี ๒ รำยวชิ ำ/กจิ กรรม เวลำเรียน (ชม./ปี ) รำยวชิ ำพื้นฐำน ๘๔๐ ท ๑๒๑๐๑ ภาษาไทย ๒๐๐ ค ๑๒๑๐๑ คณิตศาสตร์ ๒๐๐ ว ๑๒๑๐๑ วทิ ยาศาสตร์ ๘๐

ส ๑๒๑๐๑ สังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม ๔๐ ส ๑๒๑๐๒ ประวตั ิศาสตร์ ๔๐ พ ๑๒๑๐๑ สุขศึกษาและ พลศึกษา ศ ๑๒๑๐๑ ศิลปะ ๒๐ ง ๑๒๑๐๑ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ๒๐ อ ๑๒๑๐๑ องั กฤษ ๔๐ ๒๐๐ รำยวชิ ำเพม่ิ เตมิ ๔๐ ส ๑๒๒๓๒ หนา้ ท่ีพลเมือง ๒ กจิ กรรมพฒั นำผ้เู รียน ๔๐ ก.๑๐๙๐๒ แนะแนว ๑๒๐ ก.๑๐๙๐๘ ลูกเสือ-ยวุ กาชาด ๔๐ ก.๑๐๙๑๔ กิจกรรมส่งเสริมจริยธรรม ๓๐ ก.๑๐๙๒๐ กิจกรรมเพอ่ื สังคมและสาธารณะประโยชน์ ๔๐ ๑๐ *กจิ กรรมเพมิ่ เวลำรู้ บรู ณาการ รวมเวลำเรียน ๑,๐๐๐ *หมำยเหตุ ผเู้ รียนทากิจกรรมเพ่ือสังคมและสาธารณประโยชน์ในกิจกรรมลกู เสือ-ยวุ กาชาด โครงสร้ำงหลกั สูตรโรงเรียนบ้ำนทับกุมำรทอง ช้ันประถมศึกษำปี ท่ี ๓ รำยวิชำ/กจิ กรรม เวลำเรียน (ชม./ปี ) รำยวิชำพื้นฐำน ๘๔๐ ท ๑๓๑๐๑ ภาษาไทย ๒๐๐ ค ๑๓๑๐๑ คณิตศาสตร์ ๒๐๐ ว ๑๓๑๐๑ วทิ ยาศาสตร์ ๘๐

ส ๑๓๑๐๑ สงั คมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม ๔๐ ส ๑๓๑๐๒ ประวตั ิศาสตร์ ๔๐ พ ๑๓๑๐๑ สุขศึกษาและ พลศึกษา ศ ๑๓๑๐๑ ศิลปะ ๒๐ ง ๑๓๑๐๑ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ๒๐ อ ๑๓๑๐๑ องั กฤษ ๔๐ ๒๐๐ รำยวชิ ำเพม่ิ เตมิ ๔๐ ส ๑๓๒๓๓ หนา้ ท่ีพลเมือง ๓ กจิ กรรมพฒั นำผู้เรียน ๔๐ ก.๑๐๙๐๓ แนะแนว ๑๒๐ ก.๑๐๙๐๙ ลูกเสือ-ยวุ กาชาด ๔๐ ก.๑๐๙๑๕ กิจกรรมส่งเสริมจริยธรรม ๓๐ ก.๑๐๙๒๑ กิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณะประโยชน์ ๔๐ ๑๐ *กจิ กรรมเพมิ่ เวลำรู้ บูรณาการ รวมเวลำเรียน ๑,๐๐๐ *หมำยเหตุ ผเู้ รียนทากิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชนใ์ นกิจกรรมลกู เสือ-ยวุ กาชาด โครงสร้ำงหลกั สูตรสถำนศึกษำ ระดับช้ันประถมศึกษำ ช้ันประถมศึกษำปี ที่ ๔ รำยวิชำ/กจิ กรรม เวลำเรียน (ชม./ปี ) ๘๔๐ รำยวชิ ำพืน้ ฐำน ท ๑๔๑๐๑ ภาษาไทย ๑๖๐ ค ๑๔๑๐๑ คณิตศาสตร์ ๑๖๐ ว ๑๔๑๐๑ วิทยาศาสตร์ ๘๐

ส ๑๔๑๐๑ สังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม ๘๐ ส ๑๔๑๐๒ ประวตั ิศาสตร์ ๔๐ พ ๑๔๑๐๑ สุขศึกษาและ พลศึกษา ๘๐ ศ ๑๔๑๐๑ ศิลปะ ๘๐ ง ๑๔๑๐๑ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ๘๐ อ ๑๔๑๐๑ องั กฤษ ๘๐ รำยวิชำเพม่ิ เตมิ ๔๐ ส ๑๔๒๓๔ หนา้ ท่ีพลเมือง ๔ ๔๐ กจิ กรรมพฒั นำผู้เรียน ๑๒๐ ก.๑๐๙๐๔ แนะแนว ๔๐ ก.๑๐๙๑๐ ลูกเสือ-ยวุ กาชาด ๓๐ ก.๑๐๙๑๖ กิจกรรมส่งเสริมจริยธรรม ๔๐ ก.๑๐๙๒๒ กิจกรรมเพ่ือสงั คมและสาธารณะประโยชน์ ๑๐ รวมเวลำเรียน ๑,๐๐๐ *หมำยเหตุ ผเู้ รียนทากิจกรรมเพือ่ สงั คมและสาธารณประโยชนใ์ นกิจกรรมลูกเสือ-ยวุ กาชาด โครงสร้ำงหลกั สูตรโรงเรียนบ้ำนทับกุมำรทอง ช้ันประถมศึกษำปี ที่ ๕ รำยวชิ ำ/กจิ กรรม เวลำเรียน (ชม./ปี ) ๘๔๐ รำยวิชำพืน้ ฐำน ท ๑๕๑๐๑ ภาษาไทย ๑๖๐ ค ๑๕๑๐๑ คณิตศาสตร์ ๑๖๐ ว ๑๕๑๐๑ วิทยาศาสตร์ ๘๐

ส ๑๕๑๐๑ สงั คมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม ๘๐ ส ๑๕๑๐๒ ประวตั ิศาสตร์ ๔๐ พ ๑๕๑๐๑ สุขศึกษาและพลศึกษา ๘๐ ศ ๑๕๑๐๑ ศิลปะ ๘๐ ง ๑๕๑๐๑ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ๘๐ อ ๑๕๑๐๑ องั กฤษ ๘๐ รำยวิชำเพม่ิ เตมิ ๔๐ ส ๑๕๒๓๕ หนา้ ที่พลเมือง ๕ ๔๐ กจิ กรรมพฒั นำผู้เรียน ๑๒๐ ก.๑๐๙๐๕ แนะแนว ๔๐ ก.๑๐๙๑๑ ลูกเสือ-ยวุ กาชาด ๓๐ ก.๑๐๙๑๗ กิจกรรมส่งเสริมจริยธรรม ๔๐ ก.๑๐๙๒๓ กิจกรรมเพ่ือสังคมและสาธารณะประโยชน์ ๑๐ รวมเวลำเรียน ๑,๐๐๐ *หมำยเหตุ ผเู้ รียนทากิจกรรมเพอ่ื สงั คมและสาธารณประโยชน์ในกิจกรรมลกู เสือ-ยวุ กาชาด โครงสร้ำงหลกั สูตรโรงเรียนบ้ำนทบั กุมำรทอง ช้ันประถมศึกษำปี ที่ ๖ รำยวิชำ/กจิ กรรม เวลำเรียน (ชม./ปี ) ๘๔๐ รำยวิชำพื้นฐำน ท ๑๖๑๐๑ ภาษาไทย ๑๖๐ ค ๑๖๑๐๑ คณิตศาสตร์ ๑๖๐ ว ๑๖๑๐๑ วทิ ยาศาสตร์ ๘๐

ส ๑๖๑๐๑ สังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม ๘๐ ส ๑๖๑๐๒ ประวตั ิศาสตร์ ๔๐ พ ๑๖๑๐๑ สุขศึกษาและ พลศึกษา ๘๐ ศ ๑๖๑๐๑ ศิลปะ ๘๐ ง ๑๖๑๐๑ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ๘๐ อ ๑๖๑๐๑ องั กฤษ ๘๐ รำยวิชำเพมิ่ เติม ๔๐ ส ๑๖๒๓๖ หนา้ ที่พลเมือง ๖ ๔๐ กจิ กรรมพฒั นำผ้เู รียน ๑๒๐ ก.๑๐๙๐๖ แนะแนว ๔๐ ก.๑๐๙๑๒ ลูกเสือ-ยวุ กาชาด ๓๐ ก.๑๐๙๑๘ กิจกรรมส่งเสริมจริยธรรม ๔๐ ก.๑๐๙๒๔ กิจกรรมเพ่ือสังคมและสาธารณะประโยชน์ ๑๐ รวมเวลำเรียน ๑,๐๐๐ *หมำยเหตุ ผเู้ รียนทากิจกรรมเพอ่ื สงั คมและสาธารณประโยชนใ์ นกิจกรรมลกู เสือ - ยวุ กาชาด รำยวชิ ำเพมิ่ เตมิ ในหลกั สูตร โรงเรียนบ้ำนทับกมุ ำรทอง พุทธศักรำช ๒๕๕๗ ช้ันประถมศึกษำปี ที่ ๑ เวลาเรียน ๔๐ ชวั่ โมง/ปี ส ๑๑๒๐๑ หนา้ ท่ีพลเมือง ๑ เวลาเรียน ๔๐ ชว่ั โมง/ปี ช้ันประถมศึกษำปี ท่ี ๒ ส ๑๒๒๐๑ หนา้ ที่พลเมือง ๒ ช้ันประถมศึกษำปี ที่ ๓

ส ๑๓๒๐๑ หนา้ ท่ีพลเมือง ๓ เวลาเรียน ๔๐ ชว่ั โมง/ปี เวลาเรียน ๔๐ ชวั่ โมง/ปี ช้ันประถมศึกษำปี ที่ ๔ เวลาเรียน ๔๐ ชวั่ โมง/ปี ส ๑๔๒๐๑ หนา้ ที่พลเมือง ๔ เวลาเรียน ๔๐ ชวั่ โมง/ปี ช้ันประถมศึกษำปี ท่ี ๕ ส ๑๕๒๐๑ หนา้ ที่พลเมือง ๕ ช้ันประถมศึกษำปี ท่ี ๖ ส ๑๖๒๐๑ หนา้ ที่พลเมือง ๖ บทที่ ๓ คำอธิบำยรำยวชิ ำ โครงสร้ำงรำยวชิ ำ รำยวิชำตำมโครงสร้ำงหลกั สูตรโรงเรียนบำ้ นทบั กมุ ำรทอง พุทธศกั รำช ๒๕๕๗ กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ภำษำไทย รำยวิชำภำษำไทยพืน้ ฐำน

ระดับช้ัน รหสั ช่ือรำยวชิ ำ เวลำเรียน( ชั่วโมง/ปี ) ช้นั ป. ๑ ท ๑๑๑๐๑ ภาษาไทย ๒๐๐ ช้นั ป. ๒ ท ๑๒๑๐๑ ภาษาไทย ๒๐๐ ช้นั ป. ๓ ท ๑๓๑๐๑ ภาษาไทย ๒๐๐ ช้นั ป. ๔ ท ๑๔๑๐๑ ภาษาไทย ๑๖๐ ช้นั ป. ๕ ท ๑๕๑๐๑ ภาษาไทย ๑๖๐ ช้นั ป. ๖ ท ๑๖๑๐๑ ภาษาไทย ๑๖๐ คำอธิบำยรำยวชิ ำพื้นฐำน ท ๑๑๑๐๑ ภำษำไทย กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ภำษำไทย ช้ันประถมศึกษำปี ท่ี ๑ เวลำ ๒๐๐ ช่ัวโมง อา่ นออกเสียงคา คาคลอ้ งจอง และขอ้ ความส้นั ๆ บอกความหมายของคาและขอ้ ความ ตอบ คาถาม เล่าเร่ืองยอ่ คาดคะเนเหตกุ ารณ์ เลือกอา่ นหนงั สือตามความสนใจอยา่ งสม่าเสมอ นาเสนอเร่ืองที่ อา่ น บอกความหมายของเครื่องหมายหรือสญั ลกั ษณ์สาคญั ที่มกั พบเห็นในชีวิตประจาวนั มีมารยาทในการ อ่าน ฝึกคดั ลายมือดว้ ยตวั บรรจงเต็มบรรทดั เขยี นสื่อสารดว้ ยคาและประโยคง่ายๆ มีมารยาท

การเขยี น ฝึกทกั ษะในการฟัง ฟังคาแนะนา คาสงั่ งา่ ยๆและปฏิบตั ิตาม ตอบคาถาม เล่าเรื่อง พดู แสดง ความคิดเห็นและความรู้สึกจากเร่ืองท่ีฟังและดู พูดส่ือสารไดต้ ามวตั ถปุ ระสงค์ เนน้ มารยาทในการฟัง การ ดูและการพูด ฝึกทกั ษะการเขียนพยญั ชนะ สระ วรรณยกุ ต์ และเลขไทย เขยี นสะกดคาและบอกความหมาย ของคา เรียบเรียงคาเป็นประโยคง่ายๆ ต่อคาคลอ้ งจองง่ายๆ บอกขอ้ คดิ ท่ีไดจ้ ากการอา่ นหรือการฟังวรรณกรรมร้อยแกว้ และร้อยกรองสาหรับเดก็ ฝึกท่องจาบท อาขยานตามท่ีกาหนดและบทร้อยกรองตามความสนใจ โดยใชก้ ระบวนการอ่าน กระบวนการเขียน กระบวนการแสวงหาความรู้ กระบวนการคดิ การฝึก ปฏิบตั ิ อธิบาย บนั ทึก การต้งั คาถาม ตอบคาถาม ใชท้ กั ษะการฟัง การดูและการพูด พดู แสดงความ คดิ เห็น กระบวนการสร้างความคดิ รวบยอด เพือ่ ใหเ้ กิดความรู้ ความคิด ความเขา้ ใจ สื่อสารไดถ้ ูกตอ้ ง รักการเรียนภาษาไทย เห็นคุณคา่ ของการอนุรักษภ์ าษาไทย และตวั เลขไทย สามารถนาความรู้ไปใชใ้ หเ้ กิด ประโยชนใ์ นชีวิตประจาวนั ไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ งเหมาะสม รหสั ตวั ชีว้ ัด ท ๑.๑ ป.๑/๑, ป.๑/๒, ป.๑/๓, ป.๑/๔, ป.๑/๕, ป.๑/๖, ป.๑/๗, ป.๑/๘ ท ๒.๑ ป.๑/๑, ป.๑/๒, ป.๑/๓ ท ๓.๑ ป.๑/๑, ป.๑/๒, ป.๑/๓, ป.๑/๔, ป.๑/๕ ท ๔.๑ ป.๑/๑, ป.๑/๒, ป.๑/๓, ป.๑/๔ ท ๕.๑ ป.๑/๑, ป.๑/๒ (รวม ๒๒ ตวั ชี้วัด) คำอธิบำยรำยวิชำพืน้ ฐำน ท ๑๒๑๐๑ ภำษำไทย กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ภำษำไทย ช้ันประถมศึกษำปี ท่ี ๒ เวลำ ๒๐๐ ช่ัวโมง อ่านออกเสียงคา คาคลอ้ งจอง ขอ้ ความ และบทร้อยกรองง่ายๆ อธิบายความหมายของคาและ ขอ้ ความที่อา่ น ต้งั คาถาม ตอบคาถาม ระบุใจความสาคญั และรายละเอียด แสดงความคดิ เห็นและคาดคะเน เหตุการณ์ เลือกอา่ นหนงั สือตามความสนใจอยา่ งสม่าเสมอและนาเสนอเร่ืองท่ีอ่าน อา่ นขอ้ เขียนเชิงอธิบาย และปฏิบตั ิตามคาส่ังหรือขอ้ แนะนา มีมารยาทในการอ่าน

ฝึกคดั ลายมือดว้ ยตวั บรรจงเต็มบรรทดั เขยี นเร่ืองส้นั ๆ เกี่ยวกบั ประสบการณ์ เขยี นเรื่องส้นั ๆ ตาม จินตนาการ มีมารยาทในการเขยี น ฝึกทกั ษะการฟัง ฟังคาแนะนา คาสั่งที่ซบั ซอ้ นและปฏิบตั ิตาม เล่าเรื่อง บอกสาระสาคญั ของเร่ือง ต้งั คาถาม ตอบคาถาม พดู แสดงความคิดเห็น ความรู้สึก พดู สื่อสารไดช้ ดั เจน ตรงตามวตั ถุประสงค์ มีมารยาทในการฟัง การดูและการพดู ฝึกทกั ษะการเขียนพยญั ชนะ สระ วรรณยกุ ต์ และเลขไทย เขียนสะกดคาและบอกความหมายของ คา เรียบเรียงคาเป็นประโยคไดต้ รงตามเจตนาของการสื่อสาร บอกลกั ษณะคาคลอ้ งจอง เลือกใชภ้ าษาไทย มาตรฐานและภาษาถ่ินไดเ้ หมาะสมกบั กาลเทศะ ฝึกจบั ใจความสาคญั จากเร่ือง ระบุขอ้ คดิ ที่ไดจ้ ากการอ่านหรือการฟังวรรณกรรมสาหรับเดก็ เพ่ือ นาไปใชใ้ นชีวิตประจาวนั ร้องบทร้องเลน่ สาหรับเด็กในทอ้ งถ่ิน ทอ่ งจาบทอาขยานตามท่ีกาหนดและบท ร้อยกรองท่ีมีคุณค่าตามความสนใจ โดยใชก้ ระบวนการอา่ น กระบวนการเขยี น กระบวนการแสวงหาความรู้ กระบวนการคดิ วิเคราะห์ กระบวนการสื่อความ กระบวนการแกป้ ัญหา การฝึกปฏิบตั ิ อธิบาย บนั ทึก การต้งั คาถาม ตอบคาถาม ใชท้ กั ษะการฟัง การดูและการพดู พูดแสดงความคิดเห็น กระบวนการสร้างความคิดรวบยอด เพ่ือใหเ้ กิด ความรู้ ความคดิ ความเขา้ ใจ ส่ือสารไดถ้ ูกตอ้ ง รักการเรียนภาษาไทย เห็นคณุ คา่ ของการอนุรักษภ์ าษาไทย และตวั เลขไทย สามารถนาความรู้ไปใชใ้ หเ้ กิดประโยชน์ในชีวิตประจาวนั ไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ งเหมาะสม รหัสตัวชีว้ ดั ท ๑.๑ ป.๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/๓, ป.๒/๔, ป.๒/๕, ป.๒/๖, ป.๒/๗, ป.๒/๘ ท ๒.๑ ป.๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/๓, ป.๒/๔ ท ๓.๑ ป.๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/๓, ป.๒/๔, ป.๒/๕, ป.๒/๖, ป.๒/๗ ท ๔.๑ ป.๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/๓, ป.๒/๔, ป.๒/๕ท ๕.๑ ป.๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/๓ (รวม ๒๗ ตัวชี้วัด) คำอธิบำยรำยวิชำพืน้ ฐำน ท ๑๓๑๐๑ ภำษำไทย กล่มุ สำระกำรเรียนรู้ภำษำไทย ช้ันประถมศึกษำปี ท่ี ๓ เวลำ ๒๐๐ ชั่วโมง อา่ นออกเสียงคา ขอ้ ความ เร่ืองส้นั ๆ และบทร้อยกรองง่ายๆ อธิบายความหมายของคาและ ขอ้ ความท่ีอ่าน ต้งั คาถาม ตอบคาถามเชิงเหตุผล ลาดบั เหตกุ ารณ์ คาดคะเนเหตกุ ารณ์ สรุปความรู้ ขอ้ คิด จากเร่ืองท่ีอา่ น เพ่ือนาไปใชใ้ นชีวติ ประจาวนั เลือกอ่านหนงั สือตามความสนใจอยา่ งสม่าเสมอและนาเสนอ เรื่องที่อา่ น อ่านขอ้ เขียนเชิงอธิบาย และปฏิบตั ิตามคาส่ังหรือขอ้ แนะนา อธิบายความหมายของขอ้ มลู จาก แผนภาพ แผนท่ี และแผนภูมิ มีมารยาทในการอ่าน

ฝึกคดั ลายมือดว้ ยตวั บรรจงเตม็ บรรทดั เขียนบรรยาย เขยี นบนั ทึกประจาวนั เขยี นเรื่องตาม จินตนาการ มีมารยาทในการเขยี น ฝึกทกั ษะการฟัง การดูและการพดู เล่ารายละเอียด บอกสาระสาคญั ต้งั คาถาม ตอบคาถาม พดู แสดงความคิดเห็น ความรู้สึก พูดส่ือสารไดช้ ดั เจนตรงตามวตั ถุประสงค์ มีมารยาทในการฟัง การดูและการพูด ฝึกเขียนตามหลกั การเขยี น เขียนสะกดคาและบอกความหมายของคา ระบุชนิด หนา้ ที่ของคา ใชพ้ จนานุกรมคน้ หาความหมายของคา แตง่ ประโยคงา่ ยๆ แตง่ คาคลอ้ งจองและคาขวญั เลือกใชภ้ าษาไทย มาตรฐานและภาษาถ่ินไดเ้ หมาะสมกบั กาลเทศะ ระบุขอ้ คดิ ที่ไดจ้ ากการอา่ นวรรณกรรม เพ่อื นาไปใชใ้ นชีวิตประจาวนั รู้จกั เพลงพ้ืนบา้ น เพลง กล่อมเดก็ เพ่ือปลูกฝังความช่ืนชมวฒั นธรรมทอ้ งถิ่น แสดงความคดิ เห็นเก่ียวกบั วรรณคดีท่ีอา่ น ท่องจาบท อาขยานตามท่ีกาหนดและบทร้อยกรองที่มีคณุ ค่าตามความสนใจ โดยใชก้ ระบวนการอ่าน กระบวนการเขยี น กระบวนการแสวงหาความรู้ กระบวนการคดิ วิเคราะห์ กระบวนการส่ือความ กระบวนการแกป้ ัญหา การฝึกปฏิบตั ิ อธิบาย บนั ทึก การต้งั คาถาม ตอบคาถาม ใชท้ กั ษะการฟัง การดูและการพูด พูดแสดงความคิดเห็น กระบวนการสร้างความคิดรวบยอด เพ่ือใหเ้ กิด ความรู้ ความคิด ความเขา้ ใจ สื่อสารไดถ้ กู ตอ้ ง รักการเรียนภาษาไทย เห็นคุณค่าของการอนุรักษภ์ าษาไทย และตวั เลขไทย สามารถนาความรู้ไปใชใ้ ห้เกิดประโยชนใ์ นชีวติ ประจาวนั ไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ งเหมาะสม รหสั ตวั ชีว้ ัด ท ๑.๑ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓, ป.๓/๔, ป.๓/๕, ป.๓/๖, ป.๓/๗, ป.๓/๘, ป.๓/๙ ท ๒.๑ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓, ป.๓/๔, ป.๓/๕, ป.๓/๖ ท ๓.๑ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓, ป.๓/๔, ป.๓/๕, ป.๓/๖ ท ๔.๑ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓, ป.๓/๔, ป.๓/๕, ป.๓/๖ ท ๕.๑ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓, ป.๓/๔ (รวม ๓๒ ตวั ชี้วดั ) คำอธิบำยรำยวชิ ำพืน้ ฐำน ท ๑๔๑๐๑ ภำษำไทย กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ภำษำไทย ช้ันประถมศึกษำปี ท่ี ๔ เวลำ ๑๖๐ ชั่วโมง อ่านออกเสียงบทร้อยแกว้ และบทร้อยกรอง อธิบายความหมายของคา ประโยคและสานวนจาก เรื่องท่ีอ่าน อ่านเร่ืองส้นั ๆ ตามเวลาที่กาหนดและตอบคาถามจากเรื่องท่ีอ่าน แยกขอ้ เท็จจริงและขอ้ คิดเห็น จากเร่ืองท่ีอา่ น คาดคะเนเหตกุ ารณ์จากเรื่องท่ีอ่าน โดยระบุเหตุผลประกอบ สรุปความรู้และขอ้ คดิ จากเร่ือง ท่ีอา่ น เพื่อนาไปใชใ้ นชีวิตประจาวนั เลือกอ่านหนงั สือท่ีมีคุณค่าตามความสนใจอยา่ งสม่าเสมอและแสดง ความคดิ เห็นเก่ียวกบั เร่ืองที่อา่ น มีมารยาทในการอ่าน

ฝึ กคดั ลายมือดว้ ยตวั บรรจงเต็มบรรทดั และคร่ึงบรรทดั เขียนส่ือสารโดยใชค้ าไดถ้ ูกตอ้ ง ชดั เจน และเหมาะสม เขียนแผนภาพโครงเรื่องและแผนภาพความคิดเพื่อใช้พฒั นางานเขียน เขียนย่อความจาก เร่ืองส้ัน ๆ เขยี นจดหมายถึงเพื่อนและมารดา เขยี นบนั ทึกและเขยี นรายงานจากการศึกษาคน้ ควา้ เขียนเรื่อง ตามจินตนาการ มีมารยาทในการเขียน ฝึ กทกั ษะการฟัง การดูและการพูด จาแนกขอ้ เท็จจริงและขอ้ คิดเห็นเรื่องที่ฟังและดู พูดสรุปจาก การฟังและดู พูดแสดงความรู้ ความคิดเห็นและความรู้สึกเก่ียวกบั เรื่องที่ฟังและดู ต้งั คาถามและตอบ คาถามเชิงเหตุผลจากเรื่องท่ีฟังและดู พูดรายงานเร่ืองหรือประเด็นท่ีศึกษาคน้ ควา้ จากการฟัง การดูและการ สนทนา มีมารยาทในการฟัง การดูและการพดู ฝึกเขยี นตามหลกั การเขยี น เขยี นสะกดคาและบอกความหมายของคาในบริบทตา่ ง ๆ ระบชุ นิดและ หน้าท่ีของคาในประโยค ใชพ้ จนานุกรมคน้ หาความหมายของคา แต่งประโยคไดถ้ ูกตอ้ งตามหลกั ภาษา แตง่ บทร้อยกรองและคาขวญั บอกความหมายของสานวน เปรียบเทียบภาษาไทยมาตรฐานและภาษาถ่ินได้ ระบุขอ้ คิดจากนิทานพ้ืนบา้ นหรือนิทานคติธรรม อธิบายขอ้ คิดจากการอ่านเพ่อื นาไปใชใ้ นชีวิตจริง ร้องเพลงพ้นื บา้ น ทอ่ งจาบทอาขยานตามท่ีกาหนดและบทร้อยกรองที่มีคุณคา่ ตามความสนใจ โดยใช้กระบวนการอ่าน กระบวนการเขียน กระบวนการแสวงหาความรู้ กระบวนการคิด วเิ คราะห์และสรุปความ กระบวนการคิดอยา่ งมีวิจารณญาณ กระบวนการส่ือความ กระบวนการแกป้ ัญหา การฝึ กปฏิบตั ิ อธิบาย บนั ทึก การต้งั คาถาม ตอบคาถาม ใชท้ กั ษะการฟัง การดูและการพูด พูดแสดง ความคิดเห็น กระบวนการสร้างความคิดรวบยอด เพื่อให้เกิดความรู้ ความคิด ความเขา้ ใจ ส่ือสารได้ ถกู ตอ้ ง รักการเรียนภาษาไทย เห็นคุณค่าของการอนุรักษภ์ าษาไทย และตวั เลขไทย สามารถนาความรู้ไป ใชใ้ หเ้ กิดประโยชนใ์ นชีวิตประจาวนั ไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ งเหมาะสม รหัสตวั ชี้วัด ท ๑.๑ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓, ป.๔/๔, ป.๔/๕, ป.๔/๖, ป.๔/๗, ป.๔/๘ ท ๒.๑ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓, ป.๔/๔, ป.๔/๕, ป.๔/๖, ป.๔/๗, ป.๔/๘ ท ๓.๑ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓, ป.๔/๔, ป.๔/๕, ป.๔/๖ ท ๔.๑ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓, ป.๔/๔, ป.๔/๕, ป.๔/๖, ป.๔/๗ ท ๕.๑ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓, ป.๔/๔ (รวม ๓๓ ตัวชี้วดั )

คำอธิบำยรำยวิชำพื้นฐำน ท ๑๕๑๐๑ ภำษำไทย กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ภำษำไทย ช้ันประถมศึกษำปี ท่ี ๕ เวลำ ๑๖๐ ชั่วโมง อ่านออกเสียงบทร้อยแกว้ และบทร้อยกรอง อธิบายความหมายของคา ประโยคและขอ้ ความที่เป็น การบรรยายและการพรรณนา อธิบายความหมายโดยนยั แยกขอ้ เทจ็ จริง ขอ้ คิดเห็น วิเคราะห์ แสดงความ คดิ เห็น อา่ นงานเขียนเชิงอธิบาย คาส่ัง ขอ้ แนะนา และปฏิบตั ิตาม เลือกอ่านหนงั สือที่มีคณุ ค่าตามความ สนใจ มีมารยาทในการอ่าน

ฝึ กคัดลายมือด้วยตัวบรรจงเต็มบรรทัดและคร่ึงบรรทดั เขียนสื่อสาร เขียนแผนภาพโครงเรื่อง แผนภาพความคิด เขียนย่อความ เขียนจดหมายถึงผูป้ กครองและญาติ เขียนแสดงความรู้สึกและความ คิดเห็น กรอกแบบรายการต่าง ๆ เขยี นเรื่องตามจินตนาการ มีมารยาทในการเขียน ฝึกทกั ษะการฟัง การดูและการพดู พูดแสดงความรู้ ความคดิ เห็นและความรู้สึก ต้งั คาถาม ตอบ คาถาม วิเคราะหค์ วาม พดู รายงาน มีมารยาทในการฟัง การดูและการพดู ระบุชนิดและหนา้ ท่ีของคาในประโยค จาแนกส่วนประกอบของประโยค เปรียบเทียบภาษาไทย มาตรฐานและภาษาถ่ิน ใชค้ าราชาศพั ท์ บอกคาภาษาต่างประเทศในภาษาไทย แตง่ บทร้อยกรอง ใชส้ านวนได้ ถูกตอ้ ง สรุปเร่ืองจากวรรณคดีหรือวรรณกรรมท่ีอา่ น ระบคุ วามรู้ ขอ้ คิดจากการอ่านวรรณคดีและ วรรณกรรมที่สามารถนาไปใชใ้ นชีวิตจริง อธิบายคณุ คา่ ของวรรณคดีและวรรณกรรม ทอ่ งจาบทอาขยาน ตามที่กาหนดและบทร้อยกรองที่มีคุณค่าตามความสนใจ โดยใชก้ ระบวนการอ่าน กระบวนการเขยี น กระบวนการแสวงหาความรู้ กระบวนการกลุ่ม กระบวนการคิดวเิ คราะหแ์ ละสรุปความ กระบวนการคิดอยา่ งมีวจิ ารณญาณ กระบวนการสื่อความ กระบวนการแกป้ ัญหา การฝึกปฏิบตั ิ อธิบาย บนั ทึก การต้งั คาถาม ตอบคาถาม ใชท้ กั ษะการฟัง การดู และการพูด พดู แสดงความคิดเห็น กระบวนการสร้างความคิดรวบยอด เพอื่ ใหเ้ กิดความรู้ ความคิด ความ เขา้ ใจ ส่ือสารไดถ้ ูกตอ้ ง รักการเรียนภาษาไทย เห็นคุณค่าของการอนุรักษภ์ าษาไทย และตวั เลขไทย สามารถนาความรู้ไปใชใ้ หเ้ กิดประโยชน์ในชีวติ ประจาวนั ไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ งเหมาะสม รหสั ตวั ชี้วัด ท ๑.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔, ป.๕/๕, ป.๕/๖, ป.๕/๗, ป.๕/๘ ท ๒.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔, ป.๕/๕, ป.๕/๖, ป.๕/๗, ป.๕/๘, ป.๕/๙ ท ๓.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔, ป.๕/๕ ท ๔.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔, ป.๕/๕, ป.๕/๖, ป.๕/๗ ท ๕.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔ (รวม ๓๓ ตัวชีว้ ดั ) คำอธิบำยรำยวิชำพืน้ ฐำน ท ๑๖๑๐๑ ภำษำไทย กล่มุ สำระกำรเรียนรู้ภำษำไทย ช้ันประถมศึกษำปี ที่ ๖ เวลำ ๑๖๐ ชั่วโมง อ่านออกเสียงบทร้อยแกว้ และบทร้อยกรอง อธิบายความหมายของคา ประโยคและขอ้ ความท่ีเป็น โวหาร อา่ นเรื่องส้นั ๆอยา่ งหลากหลาย แยกขอ้ เทจ็ จริงและขอ้ คดิ เห็นจากเรื่องที่อา่ น วิเคราะห์และแสดง ความคิดเห็นเก่ียวกบั เรื่องท่ีอ่านเพ่อื นาไปใชใ้ นการดาเนินชีวติ อา่ นงานเขยี นเชิงอธิบาย คาสั่ง ขอ้ แนะนา

และปฏิบตั ิตาม อธิบายความหมายของขอ้ มลู จากการอา่ นแผนผงั แผนที่ แผนภูมิและกราฟ เลือกอา่ น หนงั สือตามความสนใจและอธิบายคุณคา่ ท่ีไดร้ ับ มีมารยาทในการอา่ น ฝึกคดั ลายมือดว้ ยตวั บรรจงเต็มบรรทดั และคร่ึงบรรทดั เขียนส่ือสารโดยใชค้ าไดถ้ ูกตอ้ ง ชดั เจน และเหมาะสม เขียนแผนภาพโครงเร่ืองและแผนภาพความคดิ เพอื่ ใชพ้ ฒั นางานเขยี น เขียนเรียงความ เขยี น ยอ่ ความจากเร่ืองอ่าน เขยี นจดส่วนตวั กรอกแบบรายการตา่ ง ๆ เขียนเร่ืองตามจินตนาการและสร้างสรรค์ มีมารยาทในการเขยี น ฝึกทกั ษะการฟัง การดูและการพดู พดู แสดงความรู้ ความเขา้ ใจจุดประสงคข์ องเรื่องที่ฟังและดู ต้งั คาถามและตอบคาถามเชิงเหตุผลจากเรื่องที่ฟังและดู วิเคราะห์ความน่าเช่ือถือจากเร่ืองท่ีฟังและดูสื่อ โฆษณาอยา่ งมีเหตุผล พดู รายงานเร่ืองหรือประเด็นที่ศึกษาคน้ ควา้ จากการฟัง การดูและการสนทนา พดู โนม้ นา้ วอยา่ งมีเหตุผลและน่าเช่ือถือ มีมารยาทในการฟัง การดูและการพดู ฝึกวิเคราะห์ชนิดและหนา้ ท่ีของคาในประโยค ใชค้ าไดเ้ หมาะสมกบั กาลเทศะและบุคคล รวบรวม และบอกความหมายของคาภาษาต่างประเทศท่ีใชใ้ นภาษาไทย ระบลุ กั ษณะของประโยค แตง่ บทร้อยกรอง วิเคราะห์เปรียบเทียบสานวนท่ีเป็นคาพงั เพยและสุภาษติ ฝึกแสดงความคดิ เห็นจากวรรณคดีหรือวรรณกรรมท่ีอา่ น เล่านิทานพ้ืนบา้ นทอ้ งถ่ินตนเองและ นิทานพ้นื บา้ นของทอ้ งถ่ินอื่น อธิบายคณุ คา่ ของวรรณคดีและวรรณกรรมท่ีอา่ นและนาไปประยกุ ตใ์ ชใ้ น ชีวติ จริง ท่องจาบทอาขยานตามที่กาหนดและบทร้อย โดยใชก้ ระบวนการอ่าน กระบวนการเขียน กระบวนการแสวงหาความรู้ กระบวนการคิด วเิ คราะห์และสรุปความ กระบวนการคดิ อยา่ งมีวิจารณญาณ กระบวนการส่ือความ กระบวนการแกป้ ัญหา กระบวนการสังเกต กระบวนกรแยกขอ้ เทจ็ จริง กระบวนการคน้ ควา้ กระบวนการใชเ้ ทคโนโลยใี นการ สื่อสาร กระบวนการใชท้ กั ษะทางภาษา การฝึกปฏิบตั ิ อธิบาย บนั ทึก การต้งั คาถาม ตอบคาถาม ใช้ ทกั ษะการฟัง การดูและการพดู พดู แสดงความคดิ เห็น กระบวนการสร้างความคิดรวบยอด เพอ่ื ใหเ้ กิด ความรู้ ความคิด ความเขา้ ใจ สื่อสารไดถ้ กู ตอ้ ง รักการเรียนภาษาไทย เห็นคณุ ค่าของการอนุรักษภ์ าษาไทย และตวั เลขไทย สามารถนาความรู้ไปใชใ้ หเ้ กิดประโยชนใ์ นชีวิตประจาวนั ไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ งเหมาะสม รหสั ตวั ชี้วัด ท ๑.๑ ป. ๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๔, ป.๖/๕, ป.๖/๖, ป.๖/๗, ป.๖/๘, ป.๖/๙ ท ๒.๑ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๔, ป.๖/๕, ป.๖/๖, ป.๖/๗, ป.๖/๘, ป.๖/๙ ท ๓.๑ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๔, ป.๖/๕, ป.๖/๖ ท ๔.๑ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๔, ป.๖/๕, ป.๖/๖ ท ๕.๑ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๔

(รวม ๓๔ ตัวชี้วดั ) โครงสร้ำงรำยวชิ ำ รำยวิชำตำมโครงสร้ำงหลกั สูตรโรงเรียนบำ้ นทบั กมุ ำรทอง พทุ ธศกั รำช ๒๕๕๗ กล่มุ สำระกำรเรียนคณิตศำสตร์

รำยวิชำคณติ ศำสตร์พื้นฐำน ระดับช้ัน รหัส ช่ือรำยวชิ ำ เวลำเรียน(ช่ัวโมง/ปี ) ช้นั ป. ๑ ค ๑๑๑๐๑ คณิตศาสตร์ ๒๐๐ ช้นั ป. ๒ ค ๑๒๑๐๑ คณิตศาสตร์ ๒๐๐ ช้นั ป. ๓ ค ๑๓๑๐๑ คณิตศาสตร์ ๒๐๐ ช้นั ป. ๔ ค ๑๔๑๐๑ คณิตศาสตร์ ๑๖๐ ช้นั ป. ๕ ค ๑๕๑๐๑ คณิตศาสตร์ ๑๖๐ ช้นั ป. ๖ ค ๑๖๑๐๑ คณิตศาสตร์ ๑๖๐ ค ๑๑๑๐๑ คณติ ศำสตร์ คำอธิบำยรำยวชิ ำพื้นฐำน ช้ันประถมศึกษำปี ที่ ๑ กลุ่มสำระกำรเรียนรู้คณติ ศำสตร์ เวลำ ๒๐๐ ช่ัวโมง ศึกษา ฝึกทกั ษะการคิดคานวณ และฝึกการแกป้ ัญหาเก่ียวกบั ความรู้น้นั ไปประยกุ ตใ์ ชใ้ น

สาระการเรียนรู้ จำนวนนับ ๑ ถึง๑๐๐ และ ๐ การใช้จานวนบอกปริมาณ การเขียนการอ่านตวั เลขฮินดูอารบิก และ ตวั เลขไทยแสดงจานวน คา่ ประจาหลกั การเขียนในรูปกระจาย การเปรียบเทียบจานวน การใช้ เครื่องหมาย =  > < การเรียงลาดบั จานวน กำรบวก กำรลบ บวก ลบระคน และโจทย์ปัญหำ ความหมายของการบวก และการใชเ้ คร่ืองหมายบวก การบวกที่ไมม่ ีการทด ความหมายของการลบ และการใชเ้ คร่ืองหมายลบ การลบท่ีไม่มีกระจาย การบวก ลบ ระคน โจทยป์ ัญหา การบวก ลบ ระคน โจทยป์ ัญหา การบวก ลบ ระคน การสร้างโจทยป์ ัญหา การบวก ลบ แบบรูปและควำมสัมพันธ์ การสังเกตลาดบั ของจานวนการนบั เพิ่มทีละ ๑ และทีละ ๒ การนบั ลดทีละ ๑ ลาดบั ของรูปเรขาคณิตและ แบบรูปอื่น ๆ ท่ีสัมพนั ธก์ นั ในลกั ษณะของรูปร่าง ขนาด สี กำรวัดควำมยำวและระยะทาง การวดั ความยาว ความสูง และระยะทางโดยใชเ้ ครื่องมือที่มีหน่วยวดั ไม่ใช่หน่วยมาตรฐาน กำรช่ัง การชง่ั โดยใชเ้ ครื่องชง่ั ท่ีมีหน่วยไมใ่ ช่มาตรฐาน การแกป้ ัญหา กำรตวง การตวงโดยใชเ้ ครื่องตวงที่มีหน่วยไม่ใช่มาตรฐาน การแกป้ ัญหา เวลำ การแบง่ ช่วงเวลาในแต่ละวนั และจานวนวนั และชื่อวนั ในหน่ึงสปั ดาหก์ ารอ่านปฏิทิน กำรเตรียมควำมพร้อมทำงคณติ ศำสตร์ การจดั กลมุ่ เรขาคณิต โดยการจดั ประสบการณ์ให้นกั เรียนไดศ้ ึกษาคน้ ควา้ ปฏิบตั ิจริงทดลองสรุปรายงานพฒั นาทกั ษะและ กระบวนการในการคิดคานวณ การแก้ปัญหาการใช้เหตุผล การส่ือความหมายทางคณิตศาสตร์และนา ประสบการณ์ดา้ นความรู้ ความคิดทกั ษะ กระบวนการที่นาไปใชใ้ นการเรียนรู้ ส่ิงต่าง ๆ ในชีวิตประจาวนั อยา่ งสร้างสรรคร์ วมท้งั การเห็นคุณคา่ และมีเจตคติที่ดีตอ่ คณิตศาสตร์ สามารถทางานอยา่ งมีระบบ รอบคอบ มีความรับผดิ ชอบ มีวิจารณญาณและมีความเช่ือมนั่ ในตนเอง รหสั ตวั ชี้วัด ค ๑.๑ ป.๑/๑ , ป.๑/๒ , ค ๑.๒ ป.๑/๑ , ป.๑/๒ ค ๒.๑ ป.๑/๑ , ป.๑/๒ ค ๓.๑ ป.๑/๑ ค ๔.๑ ป.๑/๑ , ป.๑/๒ ค ๖.๑ ป.๑/๑ , ป.๑/๒, ป.๑/๓, ป.๑/๔, ป.๑/๕,ป.๑/๖ (รวม ๑๕ ตัวชีว้ ัด) คำอธิบำยรำยวชิ ำพืน้ ฐำน ค ๑๒๑๐๑ คณติ ศำสตร์ กล่มุ สำระกำรเรียนรู้คณิตศำสตร์ ช้ันประถมศึกษำปี ที่ ๒ เวลำ ๒๐๐ ชั่วโมง ศึกษา ฝึกทกั ษะการคิดคานวณ และฝึกการแกป้ ัญหาเก่ียวกบั ความรู้น้นั ไปประยกุ ตใ์ ชใ้ น

สาระการเรียนรู้ จำนวนนับ ๑ ถึง๑,๐๐๐ และ ๐ การใชต้ วั เลขแสดงจานวน การเขียนการอ่านตวั เลขฮินดูอารบิก และ ตวั เลขไทยแสดงจานวน ค่าประจาหลกั การเขียนในรูปกระจาย การเปรียบเทียบจานวน การใชเ้ คร่ืองหมาย =  > < การเรียงลาดบั จานวน การนบั เพ่ิมทีละ ๕ ท่ีละ ๑๐ และทีละ ๑๐๐ การนบั ลดทีละ ๒ ทีละ ๑๐ และทีละ ๑๐๐ กำรบวก กำรลบ กำรบวก ลบระคน และโจทย์ปัญหำ การบวก ลบ ความหมายของการคูณ และการใช้ เคร่ืองหมายคูณ การคูณจานวนหน่ึงหลกั กบั จานวนไม่เกินสองหลกั ความหมายของ การหารและการ ใชเ้ ครื่องหมายหาร การหารที่ตวั หารและผลหารมีหน่ึงหลกั การบวก ลบ คูณ หารระคน แบบรูปและควำมสัมพันธ์ แบบรูปของจานวนที่เพ่ิมทีละ ๕ ทีละ ๑๐ และทีละ ๑๐๐ แบบรูปของ จานวนที่ลดทีละ ๒ ท่ีละ ๑๐ และทีละ ๑๐๐ แบบรูปของรูปท่ีมีรูปร่าง ขนาด หรือสี ที่สัมพนั ธ์กนั อย่างใด อยา่ งหน่ึง รูปเรขำคณิต รูปเรขาคณิตสองมิติ การเขียนรูปเรขาคณิตสองมิติ รูปสามเหล่ียม รูปส่ีเหลี่ยม รูปวงกลม รูปวงรี โดยใช้แบบรูปเรขาคณิต(Template) รูปเรขาคณิตสามมิติ ทรงส่ีเหล่ียมมุมฉาก ทรงกลม ทรงกระบอก การจาแนกรูปเรขาคณิตสองมิติ กบั สามมิติ กำรวัดควำมยำวและระยะทำง การวดั ความยาว การเปรียบเทียบความยาว ( หน่วยเดียวกนั ) การชง่ั น้าหนัก การเปรียบเทียบน้าหนัก ( หน่วยเดียวกัน ) การตวง การเปรียบเทียบปริมาตร และความจุ การ แกป้ ัญหาเก่ียวกบั การวดั ความยาว โจทยป์ ัญหาเก่ียวกบั การชงั่ กำรอ่ำนและเขียนเวลำ บอกเวลาเป็นนาฬิกา ช่วงเวลา ๕ นาที การอา่ นปฏิทิน เดือน และอนั ดบั ที่ของ เดือน เงินลักษณะและค่ำของเงินเหรียญ ชนิดและค่าของเงินเหรียญ และธนบตั ร การเปรียบเทียบค่าของ เงินเหรียญ และธนบตั ร การบอกจานวนเงินท้งั หมด และโจทยป์ ัญหาเก่ียวกบั เงิน โดยการจดั ประสบการณ์ให้นกั เรียนไดศ้ ึกษาคน้ ควา้ ปฏิบตั ิจริงทดลองสรุปรายงานพฒั นาทกั ษะและ กระบวนการในการคิดคานวณ การแก้ปัญหาการใช้เหตุผล การสื่อความหมายทางคณิตศาสตร์และนา ประสบการณ์ดา้ นความรู้ ความคดิ ทกั ษะกระบวนการท่ีนาไปใชใ้ นการเรียนรู้ สิ่งต่าง ๆ ในชีวิตประจาวนั อย่างสร้างสรรคร์ วมท้งั การเห็นคุณค่าและมีเจตคติท่ีดีต่อคณิตศาสตร์ สามารถ ทางานอยา่ งมีระบบ รอบคอบมีความรับผิดชอบ มีวิจารณญาณและมีความเชื่อมนั่ ในตนเอง รหสั ตัวชี้วัด ค ๑.๑ ป.๒/๑, ป.๒/๒ ค ๑.๒ ป.๒/๑, ป. ๒/๒ ค ๒.๑ ป.๒/๑,ป.๒/๒,ป.๒/๓,ป.๒/๔,ป.๒/๕,ป.๒/๖ ค ๒.๒ ป.๒/๑

ค ๓.๑ ป.๒/๑,ป.๒/๒,ป.๒/๓ ค ๓.๒ ป.๒/๑ ค ๔.๑ ป.๒/๑,ป.๒/๒ ค ๖.๑ ป.๒/๑,ป.๒/๒,ป.๒/๓,ป.๒/๔,ป.๒/๕,ป.๒/๖ (รวม ๒๓ ตัวชีว้ ัด) คำอธิบำยรำยวชิ ำพื้นฐำน ค ๑๓๑๐๑ คณติ ศำสตร์ กล่มุ สำระกำรเรียนรู้คณิตศำสตร์ ช้ันประถมศึกษำปี ที่ ๓ เวลำ ๒๐๐ ชั่วโมง ศึกษา ฝึกทกั ษะการคิดคานวณ และฝึกการแกป้ ัญหาเกี่ยวกบั ความรู้น้นั ไปประยกุ ตใ์ ชใ้ น

สาระการเรียนรู้ จำนวนนับ ๑ ถึง๑๐๐,๐๐๐ และ ๐ การเขียนการอ่านตวั เลขฮินดูอารบิก ตวั เลขไทย และตวั หนังสือ แสดงจานวน ค่าประจาหลกั การเขียนตวั เลขแสดงจานวนในรูปกระจาย การเปรียบเทียบจานวน การใช้ เครื่องหมาย =  > < การเรียงลาดบั จานวน การบวก การลบ การบวก การลบระคน และโจทยป์ ัญหา การตระหนกั ถึงความสมเหตุสมผลของคาตอบที่ไดจ้ ากการคานวณ แบบรูปและควำมสัมพนั ธ์ การสังเกตลาดบั ของจานวน การนบั เพม่ิ ทีละ ๓ ทีละ๔ ทีละ ๒๕ และทีละ ๕๐ การนบั ลดทีละ ๓ ทีละ๔ ทีละ ๒๕ และทีละ ๕๐ ลาดบั ของรูปเรขาคณิตและ แบบรูปอื่น ๆ เรขำคณิต รูปเรขาคณิตสองมิติ การเขียนรูปเรขาคณิตสองมิติโดยใชแ้ บบรูปเรขาคณิต( template)รูป เรขาคณิตสามมิติ การจาแนกรูปเรขาคณิตสองมิติ สามมิติ รูปท่ีมีแกนสมมาตร จุด ส่วนของเส้นตรง รังสี เส้นตรง จุดตดั และมุม กำรวัดควำมยำวและระยะทำง การวดั ความยาว ความสูง และระยะทางโดยใช้เครื่องมือที่มีหน่วยวดั ท่ี เป็นหน่วยมาตรฐาน การเลือกเครื่องวดั และหน่วยวดั ความยาว ความสูง และระยะทาง การเปรียบเทียบความ ยาว ความสัมพนั ธข์ องหน่วยความยาว การคะเนความยาว ความสูงและระยะทาง การแกป้ ัญหา เกี่ยวกบั ความสูง และระยะทาง กำรช่ังและกำรหำปริมำตร การเลือกเครื่องชง่ั ท่ีเหมาะสม การเปรียบเทียบน้าหนัก การคะเนน้าหนัก และการนาไปใช้ การหาความจุ การเปรียบเทียบปริมาตรของสิ่งของ และความจุของภาชนะ การคาดคะเน ปริมาตรของส่ิงของ และความจุของภาชนะ การแกป้ ัญหาเกี่ยวกบั การวดั น้าหนกั และปริมาตร เวลำ การอ่านและเขียนเวลาเป็ นนาฬิกาและนาที การบันทึกเวลา การแก้ปัญหาเก่ียวกับเวลา ความสมั พนั ธข์ องหน่วยวดั เวลา เงนิ การอา่ นและการเขยี นจานวนเงินโดยใชจ้ ุด การอา่ น และเขยี นบนั ทึกรายรับรายจ่าย การแกโ้ จทยป์ ัญหาเกี่ยวกบั เงิน สถิติเบื้องต้นและกำรวิเครำะห์ข้อมูล การเก็บรวบรวมขอ้ มูล การจาแนกและการจดั ประเภทของ ส่ิงของตามลกั ษณะของขอ้ มลู การอา่ นแผนภมู ิรูปภาพและอภิปรายการอ่านแผนภูมิแทง่ โดยการจดั ประสบการณ์ให้นักเรียนไดศ้ ึกษาคน้ ควา้ ปฏิบตั ิจริงทดลองสรุปรายงานพฒั นาทกั ษะ และกระบวนการในการคิดคานวณ การแกป้ ัญหาการใชเ้ หตุผล การส่ือความหมายทางคณิตศาสตร์และนา ประสบการณ์ดา้ นความรู้ ความคิดทกั ษะกระบวนการที่นาไปใช้ในการเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ ในชีวิตประจาวนั อยา่ งสร้างสรรคร์ วมท้งั การเห็นคุณค่าและมีเจตคติที่ดีต่อคณิตศาสตร์ สามารถทางานอย่างมีระบบ รอบคอบ มีความรับผิดชอบ มีวิจารณญาณและมีความเชื่อมนั่ ในตนเอง รหสั ตวั ชีว้ ดั ค ๑.๑ ป.๓/๑,ป.๓/๒

ค ๑.๒ ป.๓/๑,ป.๓/๒ ค ๒.๑ ป.๓/๑,ป.๓/๒,ป.๓/๓,ป.๓/๔,ป.๓/๕,ป.๓/๖ ค ๒.๒ ป.๓/๑,ป.๓/๒ ค ๓.๑ ป.๓/๑,ป.๓/๒,ป.๓/๓ ค ๓.๒ ป.๓/๑,ป.๓/๒ ค ๔.๑ ป.๓/๑,ป.๓/๒ ค ๕.๑ ป.๓/๑,ป.๓/๒ ค ๖.๑ ป.๓/๑,ป.๓/๒,ป.๓/๓,ป.๓/๔,ป.๓/๕,ป.๓/๖ (รวม ๒๗ ตวั ชี้วัด) คำอธิบำยรำยวิชำพืน้ ฐำน ค ๑๔๑๐๑ คณิตศำสตร์ กล่มุ สำระกำรเรียนรู้คณติ ศำสตร์ ช้ันประถมศึกษำปี ที่ ๔ เวลำ ๑๖๐ ชั่วโมง

ศึกษา ฝึ กทกั ษะการคิดคานวณ และฝึ กการแกป้ ัญหาเกี่ยวกบั ความรู้น้นั ไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นสาระการ เรียนรู้ จำนวนนับที่มำกกว่ำ ๑๐๐,๐๐๐ การบอกจานวน การเขียนและการอ่านตวั เลขอินดูอารบิก ตวั เลขไทย และตวั หนังสือแสดงจานวนนับ หลกั และค่าของตวั เลขในแต่ละหลกั ของจานวนนับ การเขียนในรูป กระจาย การเปรียบเทียบจานวน การใช้เครื่องหมาย = ,  , > , < ในการเปรียบเทียบจานวนนับ และการ เรียงลาดบั จานวน กำรบวก กำรลบ กำรคูณ กำรหำรจำนวน และโจทย์ปัญหำ การบวก การลบท่ีมีหลายหลกั การคูณ จานวนท่ีมีหน่ึงหลกั กบั จานวนมากกว่าสี่ การคูณจานวนมากกวา่ หน่ึงหลกั กบั จานวนมากกวา่ สองหลกั การ หารท่ีตวั หารไมเ่ กินสามหลกั การบวก ลบ คณู หารระคน การเฉล่ีย โจทยป์ ัญหา เศษส่วนและกำรบวก กำรลบ เศษส่วน ความหมาย การอ่านและการเขียนเศษส่วน การเปรียบเทียบ เศษส่วนท่ีมีส่วนเทา่ กนั การใชเ้ ครื่องหมายแสดงการเปรียบเทียบ การบวก การลบเศษส่วนที่มีส่วนเท่ากนั ทศนิยม ความหมายของทศนิยม การอ่าน การเขียนทศนิยมหน่ึงตาแหน่ง การเปรียบเทียบ และการ เรียงลาดบั ทศนิยม การใชเ้ คร่ืองหมายแสดงการเปรียบเทียบ กำรวัดควำมยำว ความสัมพันธ์ของหน่วยความยาวท่ีมีหน่วยเป็ นกิโลเมตร เมตร เซนติเมตร มิลลิเมตรและวา การเลือกเครื่องมือในการวดั และหน่วยและหน่วยการวดั ความยาว การคะเน ความยาว ความสมั พนั ธ์ระหวา่ งหน่วยการวดั ความยาว มาตราส่วน โจทยป์ ัญหาและสถานการณ์ กำรหำพื้นท่ี จากการนับตาราง การหาพ้ืนที่โดยประมาณจากการนับตารางการหาพ้ืนท่ีของรูป ส่ีเหลี่ยมมุมฉาก การแกป้ ัญหาโจทยแ์ ละสถานการณ์ กำรชั่ง ความสัมพนั ธ์ของหน่วยการชัง่ วดั น้าหนักที่มีหน่วยเป็ นเมตริกตนั กิโลกรัม กรัม และขีด การเลือกเครื่องชั่งและหน่วยการชั่ง การคะเนน้าหนัก ความสัมพนั ธ์ระหว่างหน่วยการชงั่ การแก้โจทย์ ปัญหาและสถานการณ์ กำรตวง การวดั ปริมาตรที่มีหน่วยเป็ นลูกบาศก์เมตร ลูกบาศก์เซนติเมตร ลิตร ถงั การเลือกหน่วย การวดั และคาดคะเนปริมาตรหรือความจุ ความสัมพนั ธ์ระหว่างหน่วยการวดั ปริมาตร การแกป้ ัญหาและ สถานการณ์ เงิน การเขียนและการอ่านบนั ทึกกิจกรรมหรือเหตุการณ์ระบุเวลา การอ่านตารางเวลา การเขียน บนั ทึกรายรับรายจ่าย การแกโ้ จทยป์ ัญหาและสถานการณ์ เวลำ การบอกเวลา การอ่านและการเขียนบอกเวลาโดยใชจ้ ุดการบอกระยะเวลา การบนั ทึกและการ อ่านกิจกรรมเหตกุ ารณ์ต่างๆ ท่ีระบุเวลา ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งนาที ชว่ั โมง วนั สัปดาห์ เดือน และปี การแก้ โจทยป์ ัญหาและสถานการณ์ รูปเรขำคณิตและสมบัติบำงประกำรของรูปเรขำคณิต ส่วนประกอบของมุม การเขียนชื่อและ สญั ลกั ษณ์แทนมุม ชนิดของมุม ( มุมฉาก มุมแหลม มมุ ป้าน ) เส้นขนาน และสัญลกั ษณ์แสดงเสน้ ขนาน รูป

สี่เหล่ียมมุมฉาก รูปสี่เหลี่ยมจตั ุรัส และรูปส่ีเหล่ียมผืนผา้ เส้นทแยงมุม เส้นขนาน ส่วนประกอบของรูป วงกลม รูปท่ีมีแกนสมมาตร การประดิษฐ์ลวดลายโดยใชร้ ูปเรขาคณิต แบบรูปและควำมสัมพนั ธ์ แบบรูปของจานวนนบั ที่เพ่ิมข้ึนหรือลดลงคร้ังละเท่าๆ กนั แบบรูปของ รูปเรขาคณิตและแบบรูปอื่นๆ สถิติและควำมน่ำจะเป็ นเบื้องต้น การเก็บรวบรวมขอ้ มูล และการจาแนกขอ้ มูล การอ่านแผนภูมิ รูปภาพ แผนภมู ิแท่ง และตารางการรวบรวมขอ้ มลู การเขียนแผนภูมิรูปภาพ แผนภูมิแทง่ โดยการจดั ประสบการณ์ให้นกั เรียนไดศ้ ึกษาคน้ ควา้ ปฏิบตั ิจริง ทดลองสรุปรายงาน พฒั นาทกั ษะ และกระบวนการในการคิดคานวณ การแกป้ ัญหาการใชเ้ หตุผล การสื่อความหมายทางคณิตศาสตร์และนา ประสบการณ์ดา้ นความรู้ ความคิดทกั ษะกระบวนการท่ีนาไปใชใ้ นการเรียนรู้ ส่ิงต่างๆในชีวิตประจาวนั อยา่ งสร้างสรรค์ รวมท้งั การเห็นคุณค่าและมีเจตคติที่ดีตอ่ คณิตศาสตร์ สามารถทางานอย่างมีระบบ รอบคอบ มีความรับผดิ ชอบ มีวจิ ารณญาณและมีความเชื่อมนั่ ในตวั เอง รหัสตัวชี้วัด ค ๑.๑ ป.๔/๑ ,ป.๔/๒ ค ๑.๒ ป.๔/๑ ,ป.๔/๒, ป.๔/๓ ค ๒.๑ ป.๔/๑ ,ป.๔/๒ , ป.๔/๓ , ป.๔/๔ , ป.๔/๕,ป.๔/๖ , ค ๒.๒ป.๔/๑ ,ป.๔/๒ , ป.๔/๓ ค ๓.๑ ป.๔/๑ ,ป.๔/๒ , ป.๔/๓ , ป.๔/๔ , ป.๔/๕ ค ๓.๒ป.๔/๑ ค ๔.๑ ป.๔/๑ ,ป.๔/๒ ค ๕.๑ ป.๔/๑ ,ป.๔/๒ , ป.๔/๓ ค ๖.๑ ป.๔/๑ ,ป.๔/๒ , ป.๔/๓ , ป.๔/๔ , ป.๔/๕, ป.๔/๖ (รวม ๓๑ ตัวชี้วัด) คำอธิบำยรำยวิชำพืน้ ฐำน ค ๑๕๑๐๑ คณิตศำสตร์ กลุ่มสำระกำรเรียนรู้คณิตศำสตร์ ช้ันประถมศึกษำปี ท่ี ๕ เวลำ ๑๖๐ ช่ัวโมง ศึกษา ฝึกทกั ษะการคิดคานวณ และฝึกการแกป้ ัญหาเกี่ยวกบั ความรู้น้นั ไปประยกุ ตใ์ ชใ้ น สาระการเรียนรู้

จำนวนนับที่มำกกว่ำ ๑๐๐,๐๐๐ หลักและค่าของตวั เลขแต่ละหลกั การเขียนในรูปกระจาย การ เปรียบเทียบจานวน การใช้เครื่องหมาย = ,  , > , < ในการเปรียบเทียบจานวน การเรียงลาดับจานวน คา่ ประมาณเป็นจานวนเตม็ สิบ เตม็ ร้อย เตม็ พนั กำรบวก กำรลบ กำรคูณ กำรหำรจำนวน และโจทย์ปัญหำ การบวก การลบที่มีหลายหลกั การคูณ จานวนท่ีมีหน่ึงหลกั กบั จานวนท่ีมีหลายหลกั การหารจานวนไม่เกินสามหลกั การบวก ลบ คณู การหารและ การบวก ลบ คูณ หารระคนของจานวนนบั การสร้างโจทยป์ ัญหาการบวก ลบ คณู หาร และการบวก ลบ คูณ หารระคนของจานวนนบั เศษส่วนและกำรบวก กำรลบ เศษส่วน ความหมาย การอ่านและการเขียนเศษส่วนแท้ เศษเกิน จานวนคละ การเปรียบเทียบเศษส่วนท่ีมีส่วนเท่ากนั การใชเ้ ครื่องหมายแสดง การเปรียบเทียบ การบวก การลบเศษส่วนที่มีส่วนเท่ากนั เศษส่วนที่เทา่ กบั จานวนนบั เศษส่วนที่เท่ากนั การเขยี นเศษส่วนใน รูปจานวนคละ การเขยี นจานวนคละในรูปเศษเกิน การเปรียบเทียบและเรียงลาดบั เศษส่วนท่ีตวั ส่วนตวั หน่ึง เป็นพหุคูณของตวั ส่วนอีกตวั หน่ึง การบวก ลบเศษส่วนท่ี ตวั ส่วนตวั หน่ึงเป็นพหุคูณของตวั ส่วนอีก ตวั หน่ึง การคณู เศษส่วนกบั จานวนนบั การคูณเศษส่วนกบั จานวนนบั การหารเศษส่วนดว้ ยจานวนนบั การ หารจานวนนับดว้ ยเศษส่วน การหารเศษส่วนดว้ ยเศษส่วน การบวก ลบ คูณระคนของเศษส่วน โจทย์ ปัญหาการบวก ลบ คูณ หารเศษส่วน โจทยป์ ัญหาการบวก ลบ คณู ระคนของเศษส่วน ทศนิยม ความหมายของทศนิยม การอ่าน การเขียนทศนิยมไม่เกินสองตาแหน่ง การ เปรียบเทียบทศนิยมไม่เกินสองตาแหน่ง การบวก การลบทศนิยมไม่เกินสองตาแหน่ง การคณู ทศนิยมไมเ่ กิน สองตาแหน่งกบั จานวนนบั การคูณทศนิยมหน่ึงตาแหน่งกบั ทศนิยมหน่ึงตาแหน่ง และการบวก ลบ คูณ ระคนทศนิยม กำรวัดควำมยำว ท่ีมีหน่วยเป็ นกิโลเมตร เมตร เซนติเมตร มิลลิเมตรและวา การเลือกเคร่ืองมือใน การวดั และหน่วยและหน่วยการวดั ความยาว การคะเนความยาว ความสัมพนั ธ์ระหว่างหน่วยการวดั ความ ยาว มาตราส่วน ความยาวรอบรูปสี่เหล่ียมมมุ ฉาก และรูปสามเหล่ียม และโจทยป์ ัญหาเก่ียวกบั ความยาวรอบ รูปสี่เหล่ียมมมุ ฉาก และรูปสามเหลี่ยม กำรหำพื้นท่ี จากการนับตาราง การหาพ้ืนท่ีโดยประมาณจากการนับตาราง การหาพ้ืนท่ีของรูป สี่เหล่ียมมุมฉาก การหาพ้ืนที่รูปสามเหล่ียม การแกป้ ัญหาโจทยเ์ ก่ียวกบั การพ้ืนที่รูปสี่เหล่ียม มุมฉาก และการหาพ้ืนที่รูปสามเหลี่ยม กำรชั่ง การวดั น้าหนกั ที่มีหน่วยเป็นเมตริกตนั กิโลกรัม กรัม และขีด การเลือกเครื่องชง่ั และหน่วย การชงั่ การคะเนน้าหนกั ความสัมพนั ธร์ ะหวา่ งหน่วยการชงั่ การแกโ้ จทยป์ ัญหาและสถานการณ์ กำรตวง ความสัมพนั ธ์ของหน่วยการวดั ปริมาตรหรือความจุที่มีหน่วยเป็ นลูกบาศก์เมตรลูกบาศก์ เซนติเมตร การหาปริมาตรของลูกบาศก์หน่วย ลูกบาศก์เซนติเมตร ลูกบาศก์เมตร การหาปริมาตร หรือความจุของรูปทรงสี่เหลี่ยมมุมฉากโดยใชส้ ูตร และโจทยป์ ัญหา

รูปเรขำคณิตและสมบัติบำงประกำรของรูปเรขำคณิต จุด ส่วนของระนาบ ส่วนของเส้นตรง และ รังสี มุม การวดั ขนาดของมุมโดยใชไ้ มโ้ ปรแทรกเตอร์ การสร้างมุมโดยใช้ ไมโ้ ปรแทรกเตอร์ การหาขนาด ของมุมกลบั เส้นทแยงมุม เส้นขนาน บอกลกั ษณะและจาแนกรูปเรขาคณิตสามมิติ ทรงกลม ทรงกระบอก กรวย ปริซึม พรี ะมิด บอกลกั ษณะความสมั พนั ธ์และจาแนกรูปสี่เหลี่ยมจตั ุรัส รูปส่ีเหล่ียมผืนผา้ รูปส่ีเหลี่ยม ขนมเปี ยกปูน รูปสี่เหล่ียมดา้ นขนาน รูปส่ีเหล่ียมคางหมู รูปส่ีเหลี่ยมรูปว่าว บอกลกั ษณะส่วนประกอบ ความสัมพนั ธ์ และจาแนกรูปสามเหล่ียมแบ่งตามลกั ษณะของดา้ น แบ่งตามลกั ษณะของมุม ส่วนประกอบ ของรูปสามเหล่ียม มุมภายในของรูปสามเหล่ียม ชนิดของมุมส่วนประกอบของรูปวงกลม และสมบัติ พ้ืนฐานของรูปวงกลม รูปท่ีมีแกนสมมาตร การสร้างรูปส่ีเหล่ียมมุมฉาก การสร้างรูปสามเหล่ียม การสร้าง รูปวงกลม การสร้างเสน้ ขนาน การประดิษฐล์ วดลายโดยใชร้ ูปเรขาคณิต แบบรูปและควำมสัมพนั ธ์ แบบรูปของจานวนนบั ที่เพิ่มข้ึนหรือลดลงคร้ังละเทา่ ๆ กนั แบบรูปของ รูปเรขาคณิตและแบบรูปอ่ืนๆ ร้อยละ โจทยป์ ัญหาร้อยละในสถานการณ์ต่าง ๆ รวมถึงโจทยป์ ัญหาร้อยละเก่ียวกบั การหากาไร ขาดทนุ การลดราคา และการหาราคาขาย สถิติและควำมน่ำจะเป็ นเบื้องต้น การเก็บรวบรวมขอ้ มูล และการจาแนกขอ้ มูล การเขียนแผนภูมิ แท่งท่ีมีการยน่ ระยะของเสน้ แสดงจานวน และการอา่ นแผนภมู ิแทง่ เปรียบเทียบ โดยการจดั ประสบการณ์ให้นกั เรียนไดศ้ ึกษาคน้ ควา้ ปฏิบตั ิจริง ทดลองสรุปรายงาน พฒั นาทกั ษะ และกระบวนการในการคิดคานวณ การแกป้ ัญหาการใชเ้ หตุผล การส่ือความหมายทางคณิตศาสตร์และนา ประสบการณ์ดา้ นความรู้ ความคิดทกั ษะกระบวนการที่นาไปใชใ้ นการเรียนรู้ ส่ิงต่างๆ ในชีวติ ประจาวนั อยา่ งสร้างสรรค์ รวมท้งั การเห็นคุณคา่ และมีเจตคติที่ดีต่อคณิตศาสตร์ สามารถทางานอยา่ งมีระบบ รอบคอบ มีความรับผดิ ชอบ มีวิจารณญาณและมีความเช่ือมนั่ ในตวั เอง รหสั ตัวชีว้ ดั ค ๑.๑ ป.๕/๑ ,ป.๕/๒, ป.๕/๓ ค ๑.๒ ป.๕/๑ ,ป.๕/๒, ป.๕/๓, ค ๒.๑ ป.๕/๑ ,ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔, ป.๕/๕ , ค ๒.๒ ป.๕/๑ ค ๓.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒,ป.๕/๓ ค ๓.๒ ป.๕/๑, ป ๕/๒,ป.๕/๓ ค ๔.๑ ป.๕/๑ ค ๕.๑ ป.๕/๑,ป.๕/๒ ค ๕.๒ ป.๕/๑

ค ๖.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒,ป.๕/๓,ป.๕/๔,ป.๕/๕,ป.๕/๖ (รวม ๒๘ ตวั ชีว้ ัด) คำอธิบำยรำยวิชำพืน้ ฐำน ค ๑๖๑๐๑ คณิตศำสตร์ กล่มุ สำระกำรเรียนรู้คณติ ศำสตร์ ช้ันประถมศึกษำปี ที่ ๖ เวลำ ๑๖๐ ช่ัวโมง

ศึกษา ฝึ กทกั ษะการคิดคานวณ และฝึ กการแกป้ ัญหาเก่ียวกบั ความรู้น้นั ไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นสาระการ เรียนรู้ จำนวนนับ หลกั เลขและค่าประจาหลกั คา่ ของตวั เลขในแตล่ ะหลกั การเขียนในรูปกระจาย การเรียงลาดับจานวน การประมาณค่าใกลเ้ คียงเป็ นจานวนเต็มสิบ เต็มร้อย เต็มพนั เต็มหม่ืน เต็มแสน และเตม็ ลา้ น ตวั ประกอบ ตวั ประกอบเฉพาะ จานวนเฉพาะ การแยกตวั ประกอบ ห.ร.ม. และ ค.ร.น. เศษส่วน เศษส่วนท่ีเท่ากนั การเปรียบเทียบและการเรียงลาดบั เศษส่วน สมบตั ิการสลบั ท่ีของการ บวก สมบตั ิการเปลี่ยนกลุ่มของการบวก สมบตั ิการสลบั ที่ของการคูณ สมบตั ิการเปล่ียนหมูข่ องการคณู ทศนยิ ม การอา่ นและการเขียนทศนิยมสามตาแหน่ง หลกั เลขและค่าประจาหลกั ค่าของตวั เลขในแต่ ละหลกั การเขียนในรูปกระจาย การเปรียบเทียบและการเรียงลาดบั ทศนิยมไม่เกิน สามตาแหน่ง การเขียน ทศนิยมไม่เกินสามตาแหน่งในรูปเศษส่วน และการเขียนเศษส่วนท่ีมีตวั ส่วนเป็นตวั ประกอบของ ๑๐ , ๑๐๐ และ ๑,๐๐๐ ในรูปทศนิยม ความสัมพนั ธ์ระหวา่ งเศษส่วน ทศนิยม และร้อยละ การประมาณคา่ ใกลเ้ คียงเป็น ทศนิยมหน่ึงตาแหน่ง และสองตาแหน่ง สมบตั ิการสลบั ที่ของการบวก สมบัติการเปลี่ยนหมู่ของการบวก สมบตั ิการสลบั ที่ของการคูณ สมบตั ิการเปล่ียนหมู่ของการคูณ และสมบตั ิการแจกแจง กำรบวก กำรลบ กำรคูณ กำรหำร และโจทย์ปัญหำ การบวก การลบ การคูณ และการหารจานวนนบั การบวก ลบ คูณ หาร จานวนนบั ระคน การบวก การลบ การคูณ และการหารเศษส่วน การบวก การลบ การ คูณ และการหารจานวนคละ การบวก ลบ คูณ หารเศษส่วนระคน และจานวนคละ การบวก การลบ การคูณ และการหารท่ีผลลพั ธ์เป็ นทศนิยมไม่เกินสามตาแหน่ง การบวก การลบ การคูณ และการหารระคนของ ทศนิยมที่มีผลลพั ธ์เป็ นทศนิยมไม่เกินสามตาแหน่ง โจทยป์ ัญหาการบวก ลบ คูณ หาร และ การบวก ลบ คูณ หารระคนของจานวนนบั การสร้างโจทยป์ ัญหาการบวก ลบ คูณ หาร ระคนของจานวนนบั โจทยป์ ัญหา การบวก ลบ คูณ หาร และการบวก ลบ คูณ หารระคนของเศษส่วน โจทยป์ ัญหาการบวก ลบ คูณ หาร และ การบวก ลบ คูณ หารระคนของทศนิยม การสร้างโจทยป์ ัญหาการบวก ลบ คูณ หาร และการบวก ลบ คูณ หารระคนของทศนิยม โจทยป์ ัญหาร้อยละในสถานการณ์ต่างๆ รวมถึงโจทยป์ ัญหาร้อยละ เกี่ยวกบั การหา กาไร ขาดทนุ การลดราคา การหาราคาขาย การหาราคาทนุ และดอกเบ้ีย กำรหำควำมยำว รอบรูปวงกลม โจทยป์ ัญหาเก่ียวกบั ความยาวรอบรูปวงกลม รูปสี่เหลี่ยม กำรหำพื้นที่ การหาพ้ืนท่ีของรูปสี่เหล่ียมโดยใชค้ วามยาวของดา้ น และใชส้ มบตั ิของเส้นทแยงมุม และความยาวรอบรูปของรูปสี่เหลี่ยมการหาพ้ืนท่ีของรูปวงกลม การคาดคะเนพ้ืนที่ของรูปสี่เหลี่ยมเป็ น ตารางเมตร ตารางเซนติเมตร ตารางวา โจทยป์ ัญหาเกี่ยวกบั พ้ืนท่ีของรูปส่ีเหล่ียมและสถานการณ์ กำรหำปริมำตร การหาปริมาตร และความจุของทรงสี่เหล่ียมมุมฉาก โจทยป์ ัญหาเกี่ยวกบั ปริมาตร หรือความจุของรูปทรงส่ีเหลี่ยมมมุ ฉาก ทิศ แผนผัง แผนที่ การบอกชื่อและทิศทางของทิศท้งั แปดทิศ มาตราส่วน การอ่านแผนท่ี แผนผงั และการเขียนแผนผงั แสดงส่ิงตา่ ง ๆ การเขียนแผนผงั ในการเดินทาง และการเขยี นแผนผงั โดยสังเขป

รูปเรขำคณิตและสมบัติบำงประกำรของรูปเรขำคณิต ส่วนประกอบของรูปเรขาคณิต สามมิติ ทรงสี่เหล่ียมมุมฉาก ทรงกลม ทรงกระบอก กรวย ปริซึม พีระมิด สมบตั ิเส้นทแยงมุมของรูปสี่เหล่ียม การ พิจารณาเส้นขนานโดยอาศยั มุมแยง้ การพิจารณาเส้นขนานโดยอาศยั ผลบวกของขนาดของมุมภายในที่อยู่ บนขา้ งเดียวกนั ของเส้นตดั เป็ น ๑๘๐ องศา รูปคลี่ของรูปเรขาคณิตสามมิติ ทรงส่ีเหล่ียมมุมฉาก ทรงกลม ทรงกระบอก กรวย ปริซึม พีระมิด การประดิษฐ์รูปเรขาคณิตสามมิติ การสร้างรูปสี่เหล่ียม เมื่อกาหนด ความยาวของดา้ น และขนาดของมุม หรือเม่ือกาหนดความยาวของเสน้ ทแยงมมุ สมกำรและกำรแก้สมกำร สมการเชิงเสน้ ท่ีมีตวั ไม่ทราบค่า ๑ ตวั สมการที่เป็นจริง สมการที่เป็นเทจ็ คาตอบของสมการ การแกส้ มการโดยใช้สมบตั ิการเท่ากนั เกี่ยวกับการบวก การลบ การคูณ และการหาร และการแกโ้ จทยป์ ัญหา สถิติและควำมน่ำจะเป็ นเบื้องต้น การอ่านกราฟเส้น และแผนภูมิรูปวงกลม การเขียนแผนภูมิแท่ง เปรียบเทียบ และกราฟเส้น การเก็บรวบรวมข้อมูล ความหมายและการนาไปใช้ในชีวิตประจาวนั ของ เหตกุ ารณ์ท่ีเกิดข้ึนอยา่ งแน่นอน อาจจะเกิดข้ึนหรือไม่เกิดข้ึน และไม่เกิดข้ึนแน่นอน แบบรูปควำมสัมพนั ธ์ ปัญหาเกี่ยวกบั แบบรูป การจดั ประสบการณ์หรือสร้างสถานการณ์ ท่ีใกลต้ วั ให้ผูเ้ รียนได้ศึกษาคน้ ควา้ โดยปฏิบตั ิจริง ทดลอง สรุป รายงาน เพื่อพฒั นาทกั ษะ / กระบวนการในการคิด คานวณ การแกป้ ัญหา การให้กระบวนการที่ไดไ้ ปใช้ในการเรียนรู้สิ่งต่างๆ และใชใ้ นชีวิตประจาวนั อย่าง สร้างสรรค์ รวมท้ังเห็นคุณค่า และมีเจตคติท่ีดีต่อคณิตศาสตร์ สามารถทางานอย่างเป็ นระบบระเบียบ รอบคอบ มีความรับผดิ ชอบ มีวิจารณญาณและเช่ือมน่ั ในตนเอง รหสั ตัวชีว้ ดั ค ๑.๑ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓ ค ๑.๒ ป.๖/๑, ป.๖/๒ ค ๑.๓ ป.๖/๑, ป.๖ /๒ ค ๑.๔ ป.๖/๑, ป.๖/๒ ค ๒.๑ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป. ๖/๓ ค ๒.๒ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป. ๖/๓ ค ๓.๑ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓ ค ๓.๒ ป.๖/๑ ,ป.๖/๒ ค ๔.๑ ป.๖/๑ ค ๔.๒ ป.๖/๑ ค ๕.๑ ป.๖/๑ ,ป. ๖/๒ ค ๕.๒ ป.๖/๑

ค ๖.๑ ป.๖/๑ ,ป.๖/๒ , ป.๖/๓ , ป.๖/๔ , ป.๖/๕, ป.๖/๖ (รวม ๓๑ ตัวชีว้ ัด) โครงสร้ำงรำยวชิ ำ รำยวชิ ำตำมโครงสร้ำงหลกั สูตรโรงเรียนบำ้ นทบั กุมำรทอง พทุ ธศกั รำช ๒๕๕๗ กลุ่มสำระกำรเรียนรู้วทิ ยำศำสตร์

รำยวชิ ำวิทยำศำสตร์พืน้ ฐำน ระดบั ช้ัน รหัส ช่ือรำยวิชำ เวลำเรียน(ชั่วโมง/ปี ) ช้นั ป. ๑ ว ๑๑๑๐๑ วิทยาศาสตร์ ๘๐ ช้นั ป. ๒ ว ๑๒๑๐๑ วทิ ยาศาสตร์ ๘๐ ช้นั ป. ๓ ว ๑๓๑๐๑ วิทยาศาสตร์ ๘๐ ช้นั ป. ๔ ว ๑๔๑๐๑ วิทยาศาสตร์ ๘๐ ช้นั ป. ๕ ว ๑๕๑๐๑ วทิ ยาศาสตร์ ๘๐ ช้นั ป. ๖ ว ๑๖๑๐๑ วิทยาศาสตร์ ๘๐ คำอธิบำยรำยวชิ ำพืน้ ฐำน ว ๑๑๑๐๑ วิทยำศำสตร์ กลุ่มสำระกำรเรียนรู้วิทยำศำสตร์ ช้ันประถมศึกษำปี ท่ี ๑ เวลำ ๘๐ ชั่วโมง

เปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างส่ิงมีชีวิตกับส่ิงไม่มีชีวิต สังเกต อธิบายลักษณะหน้าท่ีของ โครงสร้างภายนอกของพืชและสัตว์ ลกั ษณะหนา้ ท่ีและความสาคญั ของอวยั วะภายนอกของมนุษยต์ ลอดจน การดูแลรักษาสุขภาพ ระบุลกั ษณะของสิ่งมีชีวิตในทอ้ งถิ่น และนามาจดั จาแนกโดยใชล้ กั ษณะภายนอกเป็น เกณฑ์ การจาแนกสิ่งมีชีวิตในทอ้ งถ่ิน และการนาไปใช้ประโยชน์ ลกั ษณะสมบตั ิของวสั ดุท่ีใชท้ าของเล่น ของใช้ในชีวิตประจาวนั ทดลอง อธิบายการดึง การผลักวตั ถุ องค์ประกอบและสมบัติของดิน การใช้ ประโยชน์จากดินในทอ้ งถ่ิน ระบุในทอ้ งฟ้ามีดวงอาทิตย์ ดวงจนั ทร์และดวงดาว โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ในการสืบเสาะหาความรู้ สารวจ ตรวจสอบการสืบคน้ ขอ้ มูล และอภิปราย เพื่อใหเ้ กิดความรู้ ความคิด ความเขา้ ใจ สามารถส่ือสารสิ่งที่เรียนรู้ มีความสามารถ ในการตดั สินใจ เห็นคุณค่าของการนาความรู้ไปใช้ในชีวิตประจาวนั มีจิตวิทยาศาสตร์ จริยธรรม คุณธรรมและค่านิยมท่ี เหมาะสม รหัสตัวชี้วดั ว ๑.๑ ป.๑/๑,ป.๑/๒,ป.๑/๓ ว ๑.๒ ป.๑/๑ ว ๓.๑ ป.๑/๑,ป.๑/๒ ว ๔.๑ ป.๑/๑ ว ๖.๑ ป.๑/๑ ว ๗.๑ ป.๑/๑ ว ๘.๑ ป๑/๑,ป๑/๒,ป.๑/๓,ป.๑/๔ ป.๑/๕,ป.๑/๖ ป.๑/๗ (รวม ๑๖ ตัวชีว้ ดั ) คำอธิบำยรำยวิชำพืน้ ฐำน ว ๑๒๑๐๑ วิทยำศำสตร์ กล่มุ สำระกำรเรียนรู้วิทยำศำสตร์ ช้ันประถมศึกษำปี ที่ ๒ เวลำ ๘๐ ชั่วโมง

ศึกษาวิเคราะห์ ปัจจยั ท่ีจาเป็นต่อการดารงชีวิตของพืชและปัจจยั ท่ีจาเป็นต่อการดารงชีวิตและการ เจริญเติบของพืชและสัตว์ การดูแลพืชและสัตว์ การตอบสนองต่อสิ่งเร้าของพืชและสัตว์ การตอบสนองต่อ ส่ิงเร้าของมนุษย์ ปัจจยั ท่ีสาคญั ต่อการดารงชีวิตและการเจริญเติบโตของมนุษย์ ประโยชน์ของพืชและสัตว์ ในทอ้ งถิ่นที่มีต่อมนุษย์ ชนิดและสมบตั ิของวสั ดุที่นามาทาเป็ นของเล่น ของใช้ในชีวิตประจาวนั การ เลือกใช้วสั ดุและสิ่งของต่าง ๆ อย่างเหมาะสมและปลอดภยั สมบตั ิของแม่เหลก็ และการนาแม่เหลก็ ไปใช้ ประโยชน์ การเกิดและสมบตั ิของแรงทางไฟฟ้า พลงั งานไฟฟ้าจากแบตเตอร์ร่ี การเปล่ียนแปลงพลงั งาน ไฟฟ้าเป็ นพลงั งานอ่ืน และการใชป้ ระโยชน์อย่างคุม้ ค่า สมบตั ิและประเภทของดิน การนาไปใชป้ ระโยชน์ ความสาคญั ของดวงอาทิตยท์ ี่เป็นแหล่งพลงั งานของโลก โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ สืบเสาะ หาความรู้ สารวจ ตรวจสอบ สืบค้นข้อมูลและ อภิปรายเพื่อให้เกิดความรู้ ความคิดความเขา้ ใจสามารถสื่อสารสิ่งท่ีเรียนรู้มีความสามารถในการตดั สินใจนาความรู้ ไปใชใ้ นชีวติ ประจาวนั มีจิตวิทยาศาสตร์ จริยธรรม คณุ ธรรม และค่านิยมท่ีเหมาะสม รหัสตวั ชีว้ ัด ว ๑.๑ ป.๒/๑,ป.๒/๒,ป.๒/๓ ,ป.๒/๔ ,ป.๒/๕ ว ๑.๒ ป.๒/๑ ว ๓.๑ ป.๒/๑,ป.๒/ ๒ ว ๔.๑ ป.๒/๑,ป.๒/๒ ,ป.๒/๓ ว ๕.๑ ป๒/๑,ป.๒/ ๒ ว ๖.๑ ป.๒/๑ ว ๗.๑ ป.๒/๑ ว ๘.๑ ป.๒/๑,ป.๒/๒,ป.๒/๓,ป.๒/๔,ป.๒/๕,ป.๒/๖,ป.๒/๗,ป.๒/๘ (รวม ๒๓ ตวั ชีว้ ัด) คำอธิบำยรำยวชิ ำพื้นฐำน ว ๑๓๑๐๑ วทิ ยำศำสตร์ กลุ่มสำระกำรเรียนรู้วิทยำศำสตร์ ช้ันประถมศึกษำปี ที่ ๓ เวลำ ๘๐ ช่ัวโมง

ศึกษาวิเคราะห์ ลกั ษณะของส่ิงมีชีวิตใกลต้ วั การถ่ายทอดลกั ษณะทางพนั ธุกรรม การดารงพนั ธุ์ของ ส่ิ งมีชีวิต ความสัมพันธ์ของสิ่ งมีชีวิตกับส่ิ งแวดล้อมต่าง ๆ ทรัพยากรธรรมชาติ และการใช้ ทรัพยากรธรรมชาติในท้องถ่ิน ชนิดสมบัติและประโยชน์ของวสั ดุที่เป็ นส่วนประกอบของเล่น ของใช้ การเปลี่ยนแปลงรูปร่าง ลกั ษณะของวสั ดุเมื่อถูกทาให้ร้อนข้ึนหรือเยน็ ลง ประโยชน์และอนั ตรายท่ีเกิดข้ึน จากการเปล่ียนแปลงของวสั ดุที่เป็นของเล่นของใช้ แรงมีผลต่อการเปล่ียนแปลง และการเคล่ือนที่ของวสั ดุ แรงโน้มถ่วงคือแรงดึงดูดของโลกที่กระทาต่อวตั ถุ แหล่งพลังงานไฟฟ้าในธรรมชาติ ความสาคญั ของ พลังงานไฟฟ้าในชีวิตประจาวนั แหล่งน้าและประโยชน์แหล่งน้าในทอ้ งถ่ิน สมบตั ิบางประการของน้า ความจาเป็นของน้าตอ่ ชีวติ ดวงอาทิตย์ โลก ดวงจนั ทร์ ดวงดาว ปรากฏการณ์ต่าง ๆ ท่ีเกิดข้ึน โดยใชก้ ระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสารวจตรวจสอบ การสืบคน้ ขอ้ มูล บนั ทึก จดั กล่มุ ขอ้ มูล และการอภิปรายเพื่อใหเ้ กิดความรู้ ความคิด ความเขา้ ใจ สามารถนาเสนอ สื่อสารสิ่งที่ เรียนรู้ มีความสามารถในการตดั สินใจ เห็นคุณค่าของการนาความรู้ไปใชป้ ระโยชน์ในชีวิตประจาวนั มีจิต วิทยาศาสตร์ จริยธรรม คุณธรรม และค่านิยมที่เหมาะสม รหัสตวั ชี้วัด ว ๑.๒ ป.๓/๑,ป.๓/๒,ป.๓/๓,ป.๓/๔ ว ๒.๑ ป.๓/๑ ว ๒.๒ป.๓/๑ป.๓/๒,ป.๓/๓ ว ๓.๑ ป๓/๑,ป.๓/๒ ว ๓.๒ ป๓/๑,ป.๓/๒ ว ๔.๑ ป.๓/๑,ป.๓/๒ ว ๕.๑ ป๓/๑,ป.๓/๒ ว ๖.๑ ป.๓/๑,ป.๓/๒ ,ป. ๓/๓ ว ๗.๑ ป.๑/๑ ว ๘.๑ ป.๓/๑,ป.๓/๒,ป.๓/๓,ป.๓/๔,ป.๓/๕,ป.๓/๖,ป.๓/๗,ป.๓/๘ (รวม ๒๘ ตัวชีว้ ัด) คำอธิบำยรำยวิชำพืน้ ฐำน ว ๑๔๑๐๑ วทิ ยำศำสตร์ กล่มุ สำระกำรเรียนรู้วทิ ยำศำสตร์ ช้ันประถมศึกษำปี ที่ ๔ เวลำ ๘๐ ชั่วโมง

ศึกษาวิเคราะห์ โครงสร้างและหนา้ ที่ของโครงสร้างส่วนต่าง ๆ ของพืช ปัจจยั บางประการท่ีจาเป็ นต่อ การเจริญเติบโตของพืช การตอบสนองของพืชต่อสภาพแวดล้อม พฤติกรรมของสัตว์ท่ีตอบสนองต่อ สภาพแวดลอ้ มและการพฒั นาอุตสาหกรรมเกษตร การเคลื่อนท่ีของแสง จากแหล่งกาเนิด การเคล่ือนที่ผ่าน ตวั กลาง การสะทอ้ ง การหกั เหของแสง การเปล่ียนแปลงพลงั งานแสงเป็ นพลงั งานไฟฟ้าของเซลสุริยะและการ นาความรู้ไปใชป้ ระโยชนก์ ารเกิดดินจากหินที่ผพุ งั ผสมซากพืชและสตั ว์ ชนิดและสมบตั ิของดินท่ีใชป้ ลูกพชื ใน ทอ้ งถ่ิน ลกั ษณะของระบบสุริยะ โดยใชก้ ระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสารวจตรวจสอบ การสืบคน้ ขอ้ มูล บนั ทึก จดั กลุ่มขอ้ มูล และการอภิปรายเพ่ือให้เกิดความรู้ ความคิด ความเขา้ ใจ สามารถ นาเสนอ สื่อสารสิ่งท่ีเรียนรู้ มีความสามารถในการตดั สินใจ เห็นคณุ คา่ ของการนาความรู้ไปใชป้ ระโยชนใ์ น ชีวิตประจาวนั มีจิตวทิ ยาศาสตร์ จริยธรรม คณุ ธรรม และคา่ นิยมท่ีเหมาะสม รหัสตัวชี้วดั ว ๑.๑ ป.๔/๑,ป.๔/๒,ป.๔/๓,ป.๔/๔ ว ๕.๑ ป.๔/๑,ป.๔/๒,ป.๔/๓,ป.๔/๔,ป.๔/๕,ป.๔/๖ ว ๖.๑ ป.๔/๑,ป.๔/๒ ว ๗.๑ ป.๔/๑ ว ๘.๑ ป.๔/๑,ป.๔/๒,ป.๔/๓,ป.๔/๔,ป.๔/๕,ป.๔/๖,ป.๔/๗,ป.๔/๘ (รวม ๒๑ ตวั ชีว้ ัด) คำอธิบำยรำยวชิ ำพืน้ ฐำน ว ๑๕๑๐๑ วิทยำศำสตร์ กล่มุ สำระกำรเรียนรู้วิทยำศำสตร์ ช้ันประถมศึกษำปี ที่ ๕ เวลำ ๘๐ ชั่วโมง

ศึกษาวเิ คราะห์ ดอก ส่วนประกอบของดอก หนา้ ท่ีท่ีเก่ียวขอ้ งกบั การสืบพนั ธุ์ การสืบพนั ธุ์และการ ขยายพนั ธุ์ของพืช วฎั จกั รชีวติ ของพืชดอก การสืบพนั ธุ์และการขยายพนั ธุ์ของสัตว์ วฎั จกั รชีวิตของสตั วแ์ ละ การนาไปใชป้ ระโยชน์ การถ่ายทอดลกั ษณะของสิ่งมีชีวิตในแต่ละกลุ่ม การจาแนกสิ่งมีชีวิตโดยใชล้ กั ษณะ ภายในและภายนอกในเกณฑท์ ่ีปรากฏที่มีรายละเอียดมากข้ึนเป็นเกณฑ์ สมบตั ิของวสั ดุ ความยดื หยนุ่ ความ แข็ง ความเหนียว การนาความร้อน การนาไฟฟ้า และความหนาแน่น การนาวสั ดุต่าง ๆ มาใชท้ าเครื่องใช้ ตามสมบตั ิของวสั ดุน้นั แรงลพั ธค์ วามดนั ของของเหลวทาใหว้ ตั ถุจมหรือลอย แรงเสียดทานเป็นแรงตา้ นการ เคลื่อนท่ีของวตั ถุ แรงเสียดทานจากสถานการณ์ในชีวิตประจาวนั เสียงสูง ต่า ที่เกิดข้ึนอยู่กบั ความถ่ีในการ สั่นของแหล่งกาเนิด เสียงดังมีพลงั งานมากกว่าเสียงเบา เสียงดังมาก ๆ และฟังเป็ นเวลานาน ๆ จะเป็ น อนั ตรายต่อหู ผลของปรากฏการณ์ การเกิดเมฆ หมอก น้าคา้ ง ฝน ลูกเห็บ วฎั จกั รน้า อุณหภูมิ ความช้ืน ความดนั ของบรรยากาศ การเกิดลม การใช้ประโยชน์จากพลงั งานลม ปราฎการณ์ข้ึนตกของดวงดาว ทิศ แผนท่ีดาว ทาใหม้ นุษยไ์ ดเ้ รียนรู้เกี่ยวกบั วตั ถุในทอ้ งฟ้า โดยใชก้ ระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสารวจตรวจสอบ การสืบคน้ ขอ้ มลู บนั ทึก จดั กลมุ่ ขอ้ มลู และการอภิปรายเพ่ือใหเ้ กิดความรู้ ความคดิ ความเขา้ ใจ สามารถนาเสนอ ส่ือสารสิ่งที่ เรียนรู้ มีความสามารถในการตดั สินใจ เห็นคุณค่าของการนาความรู้ ไปใชป้ ระโยชน์ในชีวติ ประจาวนั มีจิตวทิ ยาศาสตร์ จริยธรรม คณุ ธรรม และคา่ นิยมที่เหมาะสม รหสั ตัวชี้วัด ว ๑.๑ ป.๕/๑,๕/๒,ป.๕/๓,ป๕/๔,ป.๕/๕ ว ๑.๒ ป๕/๑,ป.๕/๒,ป.๕/๓,ป๕/๔,ป.๕/๕ ว ๓.๑ ป.๕/๑,ป.๕/๒ ว ๔.๑ ป.๕/๑,ป.๕/๒,ป.๕/๓,ป๕/๔ ว ๔.๒ ป.๕/๑ ว ๕.๑ ป.๕/๑,ป.๕/๒,ป.๕/๓,ป๕/๔ ว ๖.๑ ป.๕/๑,ป.๕/๒,ป.๕/๓,ป๕/๔ ว ๗.๑ ป.๕/๑ ว ๘.๑ ป.๕/๑,ป.๕/๒,ป.๕/๓,ป๕/๔,ป๕/๖,ป.๕/๗,ป.๕/๘ (รวม ๓๔ ตวั ชีว้ ดั ) คำอธิบำยรำยวิชำพื้นฐำน ว ๑๖๑๐๑ วทิ ยำศำสตร์ กลุ่มสำระกำรเรียนรู้วิทยำศำสตร์ ช้ันประถมศึกษำปี ท่ี ๖ เวลำ ๘๐ ช่ัวโมง

ศึกษาวิเคราะห์ การเจริญเติบโตของมนุษยจ์ ากวยั แรกเกิดถึงวยั ผใู้ หญ่ การทางานร่วมกนั ของระบบต่าง ๆ ของร่างกายมนุษย์ ความจาเป็ นท่ีร่างกายตอ้ งการสารอาหารท่ีไดส้ ัดส่วนเหมาะสมกบั เพศ และวยั ผลของการไดร้ ับสารอาหารบางชนิดท่ีมีผลต่อการทางานของระบบในร่างกาย ความสัมพนั ธ์ของ กลุ่มสิ่งมีชีวติ ในแหลง่ ที่อยตู่ า่ ง ๆ กบั สิ่งมีชีวิตในรูปแบบโซ่อาหาร และสายใยอาหาร ความสัมพนั ธร์ ะหวา่ ง สภาพแวดลอ้ มกบั การดารงชีวิต ทรัพยากรธรรมชาติในแต่ละทอ้ งถ่ิน ผลของการเพ่ิมของประชากรมนุษย์ ตอ่ การใชท้ รัพยากรธรรมชาติ และการเปลี่ยนแปลงสิ่งแวดลอ้ มโดยธรรมชาติและโดยมนุษย์ การดูแลรักษา ทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ มในทอ้ งถิ่น สมบตั ิของสาร การจาแนกสาร การแยกสารบางชนิดท่ีผสม กนั ออกจากกนั สารและการใชส้ ารในชีวิตประจาวนั สมบตั ิของสารและการเปล่ียนแปลงของสาร การต่อ วงจรไฟฟ้าอยา่ งง่าย ประกอบดว้ ย แหล่งกาเนิดไฟฟ้า อุปกรณ์ไฟฟ้า ตวั นาไฟฟ้าและฉนวนไฟฟ้า การต่อ วงจรไฟฟ้าแบบอนุกรม และแบบขนาน การนาความรู้ไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจาวนั แม่เหล็กไฟฟ้า อุณหภูมิและการวดั อุณหภูมิ การนาความร้อน การพาความร้อน การแผร่ ังสีความร้อนเป็นการถ่ายโอนความ ร้อน ประโยชน์ของการถ่ายโอนความร้อน สมบตั ิของการดูดกลืนและการคายความร้อนของวตั ถุ การนา ความรู้ไปใชป้ ระโยชน์ ความร้อนทาใหว้ ตั ถุขยายตวั การนาความรู้เร่ืองการขยายตวั ของวตั ถุเม่ือไดร้ ับความ ร้อนไปใชป้ ระโยชน์ การจาแนกประเภทของหิน การเปล่ียนแปลงของหินและธรณีพิบตั ิภยั ที่มีผลต่อมนุษย์ และสภาพแวดล้อมในท้องถ่ิน ฤดูกาล ข้างข้ึน ข้างแรม สุริยุปราคา จันทรุปราคา ความก้าวหน้าของ เทคโนโลยี อวกาศ การสารวจขอ้ มูลของวตั ถุทอ้ งฟ้า ทาให้เรียนรู้เก่ียวกบั ระบบสุริยะท้งั ในและนอกระบบ สุริยะเพิม่ ข้นึ อีกมากมาย โดยใชก้ ระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสารวจตรวจสอบ การสืบคน้ ขอ้ มูล บนั ทึก จดั กลมุ่ ขอ้ มูล และการอภิปรายเพ่ือใหเ้ กิดความรู้ ความคิด ความเขา้ ใจ สามารถนาเสนอ ส่ือสารสิ่งที่ เรียนรู้ มีความสามารถในการตดั สินใจ เห็นคุณค่าของการนาความรู้ไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจาวนั มี จิตวิทยาศาสตร์ จริยธรรม คณุ ธรรม และคา่ นิยมท่ีเหมาะสม รหสั ตัวชีว้ ดั ว ๑.๑ ป.๖/๑,ป.๖/๒,ป.๖/๓ ว ๒.๑ ป๖/๑,ป.๖/๒,ป.๖/๓ ว ๒.๒ป.๖/๑,ป.๖/๒,ป.๖/๓,ป.๖/๔,ป.๖/๕ ว ๓.๑ ป.๖/๑,ป.๖/๒,ป.๖/๓,ป.๖/๔,ป.๖/๕ ว ๓.๒ป.๖/๑,ป.๖/๒,ป.๖/๓

ว ๕.๑ ป.๖/๑,ป.๖/๒,ป.๖/๓,ป.๖/๔,ป.๖/๕ ว ๖.๑ ป.๖/๑,ป.๖/๒,ป.๖/๓ ว ๗.๑ ป.๖/๑ ว ๗.๒ป.๖/๑ ว ๘.๑ ป.๖/๑,ป.๖/๒,ป.๖/๓,ป.๖/๔,ป.๖/๕,ป.๖/๖,ป.๖/๗,ป.๖/๘ (รวม ๓๗ ตัวชี้วัด) โครงสร้ำงรำยวชิ ำ รำยวิชำตำมโครงสร้ำงหลกั สูตรโรงเรียนบำ้ นทบั กุมำรทอง พทุ ธศกั รำช ๒๕๕๗ กลมุ่ สำระกำรเรียนรู้สงั คมศึกษำ ศำสนำ และวฒั นธรรม รำยวชิ ำสังคมศึกษำ ศำสนำ และวัฒนธรรมพืน้ ฐำน